EP.451 งานหนัก
ในช่วงบ่าย กองทัพเผ่าคนเถื่อนห้าพันคนค่อยๆ เดินออกจากหุบเขาผานหลง พวกเขาหิวโซจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและร่างกายผ่ายผอม นี่คือกองทัพหน้าที่จิ้งจอกเฒ่าส่งมาเพื่อทดสอบหลินมู่อวี่ แท้จริงแล้วกองทัพนี้จะเป็นผู้นำในการตั้งรกรากในป่านิรันดร์ แล้วเทพแห่งป่าเขาจะนำผู้คนที่เหลืออีกสองหมื่นคนตามไปทีหลัง แต่ก่อนอื่นหลินมู่อวี่จำเป็นต้องรับผิดชอบเรื่องเสบียงและเสื้อผ้าแก่นักรบป่าทุกคน
…
สายลมพัดผ่านป่าจนทำให้เสื้อคลุมสีขาวของจักรวรรดิปลิวไสว หลินมู่อวี่ควบม้าออกไปเคียงข้างถังเสี่ยวซี ขณะที่ซือตู่เซินนำทหารม้าหนักหนึ่งหมื่นนายคอยคุ้มกันเหล่านักรบทั้งห้าพันคนไปตั้งรกรากในป่านิรันดร์ จากนั้นหลินมู่อวี่ร่วมมือกับกองทัพเจิ้นกั๋วสังหารสัตว์วิญญาณและกวาดล้างป่าเพื่อทำให้เป็นพื้นที่เพาะปลูก หากเผ่าคนเถื่อนทำการก่อกบฏแม้แต่น้อย กองทัพเจิ้นกั๋วสามารถใช้กลยุทธ์คว่ำบาตรได้ทันที
การต่อสู้ครานี้ไม่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรม แต่เพียงพึ่งพากันและกันเท่านั้น ซึ่งหลินมู่อวี่และเทพแห่งป่าเขาค่อนข้างชัดเจนในเรื่องนี้
จากนั้นกองทัพในเมืองหน้าด่านส่งกระโจมและอาหารเล็กน้อยมาให้เพื่อสร้างที่อยู่ให้เหล่านักรบ
หลินมู่อวี่ขี่ม้าออกไปยังพื้นที่เปิดโล่งซึ่งมีร่มไม้ทุกหนแห่ง ทำให้สามารถเป็นที่กำบังลมและฝนได้ ไกลออกไปพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นโคลน และมีหินค่อนข้างน้อย จึงทำให้เหมาะกับการทำเกษตรกร
“ตั้งที่อยู่อาศัยในป่า แล้วเก็บมันฝรั่งชิ้นเล็กๆ เพิ่มเติม จากนั้นปลูกมันฝรั่งในพื้นที่เปิดด้านขวา พวกเราต้องช่วยเขาตั้งถิ่นฐานโดยเร็วเพื่อให้เพิ่มจำนวนประชากรได้ภายหลัง” หลินมู่อวี่กล่าวอย่างมั่นใจ
ซือตู่เซินยิ้มเล็กน้อย “ผู้บัญชาการ กองทัพแนวหน้าของเผ่าคนเถื่อนมีเพียงผู้ชาย คงเป็นไปไม่ได้ที่จะขยายเผ่าพันธุ์”
“ไม่เป็นไร เมื่อลงหลักปักฐานแล้ว เทพแห่งป่าเขาจะจัดกำลังคนย้ายมาอยู่ในพื้นที่ห่างไกลนี้ พวกเขาจะรวมตัวกันสร้างอาณาเขตของตน”
“ขอรับผู้บัญชาการ”
“หน่วยขนเสบียงของเสี่ยวถังมาถึงหรือยัง?”
“กำลังมาขอรับ และจะถึงก่อนเวลาพลบค่ำ”
“ดี”
หลินมู่อวี่รู้สึกเป็นกังวล ปัญหาใหญ่ที่สุดตั้งแต่มาเยือนป่านิรันดร์คืออาหาร ภายในหัวของเขาเต็มไปด้วยคำว่าอาหารจนทำให้แทบคลั่ง กระทรวงกลาโหมกับสำนักทหารและพลเรือนสามารถส่งเสบียงอาหารสองแสนกิโลกรัมต่อวัน กระนั้นยังคงไม่เพียงพอสำหรับเลี้ยงกองทัพสองแสนนาย โดยเฉพาะหลังจากเผ่าคนเถื่อนยอมจำนน ความต้องการทางอาหารของพวกเขามีมากกว่าทหารจักรวรรดิถึงสามเท่า ดังนั้นหลินมู่อวี่จึงต้องพิจารณาแบ่งอาหารให้พวกเขาด้วย ปันส่วนอาหารจึงเพิ่มเป็นสำหรับสามแสนนาย รวมทั้งพลเรือนที่สูญเสียแหล่งอาหาร ด้วยเหตุนี้ทำให้จำเป็นต้องใช้เสบียงอาหารทั้งหมดเจ็ดแสนกิโลกรัมต่อวัน…
พอถึงเวลาค่ำ เว่ยโฉวเข้ามาหาพร้อมสารฉบับหนึ่ง “ท่านเสี่ยวถังส่งสารขนนกมาบอกว่า หน่วยขนเสบียงจากเมืองหลันเยี่ยนอยู่ห่างจากเราเพียงสิบไมล์เท่านั้น”
“อืม เจ้ามากับข้า”
“ขอรับ”
ป่านิรันดร์ค่อนข้างอันตราย แม้ว่าถังเสี่ยวซีจะเป็นราชินีแห่งเผ่าพันธุ์อสูร แต่ไม่ได้หมายความว่าอสูรทุกตนจะปฏิบัติตามคำสั่งของนาง ดังนั้นอสูรครึ่งอสรพิษและครึ่งกิ้งก่าบางตัวโจมตีหน่วยขนเสบียงของกองทัพมนุษย์บ่อยครั้ง
หลินมู่อวี่นำทหารม้าหนักออกไปไม่กี่ไมล์ ก็เห็นขบวนเกวียนบนถนนคดเคี้ยวพร้อมธงดอกจื่อยินแห่งจักรวรรดิที่โบกสะบัด ขณะที่ทหารวิหารศักดิ์สิทธิ์ราวห้าสิบนายกำลังถือธงของร้านค้าจื่อยิน หนึ่งในนั้นเป็นผู้ที่เขาคุ้นเคย นั่นก็คือโจวเย่า หนึ่งในใต้เท้าวิหารศักดิ์สิทธิ์
โจวเย่าก้าวออกมาพร้อมประสานหมัดอย่างเคารพ “ท่านผู้นำวิหารศักดิ์สิทธิ์ ข้าน้อยมาส่งเสบียงอาหารขอรับ”
หลินมู่อวี่ดีใจ “ขอบคุณใต้เท้าโจวเย่า ครานี้…ท่านนำเสบียงมาเท่าใด?”
“เราใช้เกวียนทั้งหมดสามร้อยเล่มในการขนส่ง แต่ละเกวียนมีเสบียงหนักสองพันกิโลกรัม รวมทั้งสิ้นหกแสนกิโลกรัม ท่านเสี่ยวถังแทบจะต้องยกเลิกการขายทั้งหมดเพื่อนำมาส่งเสบียง แต่หากมันสามารถช่วยท่านผู้นำได้ เช่นนั้นมันก็ไม่ไร้ประโยชน์”
โจวเย่ากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ท่านผู้นำวิหาร ผู้คนในเมืองหลันเยี่ยนไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายนัก เราไม่สามารถหาอาหารเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ ท่านเสี่ยวถังกล่าวว่าเสบียงชุดแรกวันนี้สามารถส่งได้หกแสนกิโลกรัม และในภายภาคหน้า…มันไม่ใช่ปัญหาที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ได้สองแสนกิโลกรัมในทุกๆ วันแม้จะใช้กำลังคนจำนวนมากก็ตาม”
หลินมู่อวี่ตบไหล่โจวเย่าพร้อมกล่าวว่า “ขอบคุณที่พวกท่านทำงานกันอย่างหนัก ไปกันเถิด ส่งอาหารไปยังค่ายและแจกจ่ายให้ทุกคน”
เว่ยโฉวพยักหน้าอย่างยินดี
ซือตู่เซินขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ผู้บัญชาการยกโทษให้ข้าน้อยด้วย แต่อาหารเท่านี้ยังไม่เพียงพอ”
“ข้ารู้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอาหารที่แจกจ่ายจะถูกลดลงครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามสงครามในป่านิรันดร์ได้สิ้นสุดลงแล้ว เช่นนั้นลดการฝึกฝนลงครึ่งหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนกินน้อยลง”
ซือตู่เซินประสานหมัดกล่าว “ผู้บัญชาการ แท้จริงแล้ว…ยังมีอีกทางหนึ่งที่จะจัดการปัญหานี้ได้”
“โอ้ สิ่งใดหรือ?” หลินมู่อวี่เอ่ยถาม
มุมปากของซือตู่เซินยกขึ้นก่อนกล่าวว่า “วิธีนี้ค่อนข้างรุนแรง และอาจละเมิดกฎทหารแห่งจักรวรรดิด้วย”
“ไม่เป็นไร พูดมา”
“ข้าน้อยมีหน่วยสอดแนมมากมายในเมืองหลันเยี่ยน และข้าได้รับข้อมูลมาว่ามีโจรจำนวนมากซ่อนตัวอยู่ในภูเขารอบเมืองหน้าด่านอสูร หึ! เจ้าพวกหนูสกปรกเหล่านั้นคงเก็บเกี่ยวพืชผลไว้มากมาย ถึงเวลาจะต้องถูกกำจัดแล้ว ตราบใดที่ผู้บัญชาการสั่ง ข้าน้อยจะพาเหล่าพี่น้องขึ้นไปบนภูเขาเพื่อกำจัดกลุ่มโจรทันที จากนั้นจะนำอาหารที่พวกมันเก็บไว้กลับมา อีกทั้งภายในกระท่อมของพวกมันคงมีเหรียญทองสะสมไว้มากมาย ด้วยเงินเหล่านั้นเราสามารถนำไปซื้ออาหารในหมู่บ้านและเมืองต่างๆ เพื่อแบ่งเบาสถานการณ์ปัจจุบัน”
ซือตู่เซินมองไปยังหลินมู่อวี่อย่างระมัดระวังพร้อมกล่าวว่า “ข้าน้อยรู้ดีว่าผู้บัญชาการเป็นพระราชบุตรบุญธรรมของจักรพรรดิพระองค์แรก และเป็นพระเชษฐาขององค์จักรพรรดินี บางทีท่านคงดูถูกข้าน้อยที่คิดสิ่งเลวร้ายเหล่านี้”
“ไม่ มันไม่ใช่เรื่องผิด”
หลินมู่อวี่ตบไหล่ซือตู่เซินอย่างตื่นเต้น “แม่ทัพเซิน หากสามารถทำสิ่งนี้ได้จริง ท่านจะได้รับคุณความดีมากมาย แล้วข้าจะแนะนำท่านให้เข้าร่วมองครักษ์อวี้หลินเป็นการส่วนตัว”
ซือตู่เซินดีใจมาก “จริงหรือ? ผู้บัญชาการไม่ได้โกหกข้าใช่หรือไม่?”
“ข้าเคยโกหกหรือ? แต่เราต้องพยายามให้ดีที่สุดเพื่อลดความเสียหายของทหารเมื่อเผชิญหน้ากับพวกโจร”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ แต่หวังว่าข้าจะได้รับเหรียญตราแม่ทัพ เช่นนั้นจะสามารถระดมกองทัพได้”
“อืม”
หลินมู่อวี่หยิบตราพยัคฆ์สีทองแดงจากมือรองผู้บัญชาการเว่ยโฉว และมอบให้ซือตู่เซินพร้อมกล่าวว่า “เจ้าสามารถระดมกองทัพได้หนึ่งหมื่นนาย ไปเถิด แล้วข้าจะรอฟังข่าวดี…”
“วางใจเถิดขอรับ ซือตู่เซินจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง!”
…
ห้าวันผ่านไปในพริบตา ป่านิรันดร์ยังคงเงียบสงบ เสียงนกน้อยและดอกไม้บานสะพรั่งทั่วทุกหนแห่ง สัตว์ร้ายที่ซ่อนตัวในถ้ำเพื่อจำศีลตื่นขึ้นมารับชีวิตใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์กินพืชบางชนิดที่เพิ่มชีวิตชีวาให้กับป่าแห่งนี้
เสบียงอาหารจากสำนักทหารและพลเรือนถูกส่งมาอย่างต่อเนื่องทุกวัน ในขณะที่เสบียงอาหารจากจินเสี่ยวถังถูกส่งมาทุกสองวัน การขุดมันฝรั่งจำนวนมากในหุบเขาผีเสื้อไม่เพียงพอสำหรับทหารสามแสนนายอีกต่อไป สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการรอเก็บเกี่ยวมันฝรั่งที่กองทัพมังกรผงาดปลูกในถิ่นทุรกันดาร
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เสียงเว่ยโฉวกล่าวด้วยความเคารพนอกกระโจมหลัก “ผู้บัญชาการ ท่านหวงซีต้องการเข้าพบขอรับ”
“ให้เขาเข้ามา”
“ขอรับ”
เว่ยโฉวเปิดม่าน ก่อนจะเดินเข้ามาพร้อมหวงซีแห่งเผ่าคนเถื่อน เดิมทีหวงซีค่อนข้างดูถูกมนุษย์ แต่ขณะนี้เขากลับต้องประหลาดใจกับพลังยุทธ์ของทหารแห่งจักรวรรดิ อีกทั้งหลังจากได้เห็นความสามารถของหลินมู่อวี่ ทำให้เขาเข้าใจว่าพลังยุทธ์นั้นทรงพลังมาก ซึ่งพลังของพวกเขาไม่อาจเทียบเทียมได้เลย
หลินมู่อวี่กำลังโคจรพลังกลยุทธ์ดวงดาราทำให้มีพลังของดวงดาวสีฟ้าลอยวนอยู่รอบกาย เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นซึ่งเต็มไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านหวงซีมีสิ่งใดหรือ?”
หวงซีพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ท่านหลิน เหตุใดมันฝรั่งชุดแรกที่เราปลูกมาหลายวันจึงไม่แตกหน่อ?”
หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “อย่าใจร้อน เพียงทำให้พื้นดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ มันฝรั่งชนิดนี้สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปียกเว้นฤดูหนาว อดทนหน่อยเถิด มันโตเร็วกว่าที่ท่านคิดมาก”
“อืม”
หวงซีพยักหน้ารับและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านหลิน ท่านพ่อจะนำพี่น้องที่เหลือของเผ่าไปตั้งรกรากในวันพรุ่งนี้ กระโจมและกระท่อมไม้ไม่ได้ถูกเตรียมไว้อย่างเพียงพอ หากเป็นไปได้…ข้าอยากขอกระโจมผ้าจากท่านเพิ่มเติมเพื่อป้องกันพวกเราจากลมและฝน ท่านรู้หรือไม่…แม้เผ่าของเราจะกล้าหาญ แต่กลับไม่เก่งเรื่องการทอผ้าแม้แต่น้อย”
“ข้ารู้ จริงสิหวงซี…”
“แม่ทัพหลินมีสิ่งใดหรือ?”
“ตามข้อตกลงระหว่างข้าและเทพแห่งป่าเขา เราช่วยให้พวกท่านอยู่รอดในป่านิรันดร์ จากนั้นท่านต้องส่งกองกำลังห้าพันคนให้ข้า ข้าต้องการนักรบที่แข็งแกร่งและกล้าหาญมากที่สุดในเผ่า หวังว่าท่านจะช่วยคัดสรรได้ หากท่านต้องการ…ข้าสามารถแต่งตั้งให้ท่านเป็นแม่ทัพ”
“หือ?” หวงซีดีใจมากพร้อมกล่าวว่า “ท่านหลิน…ต้องการให้ข้าเป็นผู้นำเหล่านักรบเป็นการส่วนตัวหรือ?”
“แต่ท่านจำเป็นต้องเลือกผู้ที่แข็งแกร่งห้าพันคนให้ข้า”
“ท่านหลินไม่ต้องกังวล หวงซีจะ…” หวงซีพยายามเรียนรู้วัฒนธรรมของกองทัพมนุษย์ เขาพลันประสานหมัดและโบกมือ ซึ่งทำให้เว่ยโฉวหัวเราะ
“เจ้าหัวเราะสิ่งใด?” หวงซีจ้องมองไปยังเว่ยโฉวทันที
เว่ยโฉวโบกมือและพยายามกลั้นยิ้ม “เปล่าขอรับ หากไม่มีสิ่งใดแล้ว ท่านสามารถกลับออกไปได้”
“ฮึ่ม!”
หวงซีหันกลับไปโบกมือให้หลินมู่อวี่อีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากประตูด้วยท่าทางสง่าผ่าเผย
…
“มีข่าวเกี่ยวกับมณฑลชางหนานหรือไม่?” หลินมู่อวี่เอ่ยถามขณะที่เฝ้ามองหวงซีเดินออกไป
เว่ยโฉวกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ขอรับ เฉียนเฟิงใช้กลยุทธ์ในการถมกระสอบทรายลงแม่น้ำโดยตั้งใจจะสร้างเขื่อนเพื่อข้ามแม่น้ำต้าวเจียงและเข้าโจมตีกำแพงเหล็ก”
“อะไรนะ?!”
หลินมู่อวี่ตะลึงงันพร้อมขมวดคิ้วแน่น แต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อ