บทที่ 1203 จับได้แล้วหนึ่งคน
บทที่ 1203 จับได้แล้วหนึ่งคน
ซูเสี่ยวเถียนได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนนั้นเองที่ได้ทราบ
เนื่องด้วยบริเวณที่เธออยู่ไม่ค่อยมีคนนัก แต่รอบ ๆ มีแต่สินค้าหรูหรามากมาย
อยู่ดีไม่ว่าดีกลับเจอเข้ากับเหตุการณ์ปล้นเสียได้
ได้ยินมาว่าระบบรักษาความปลอดภัยในต่างประเทศไม่ดีเท่าจีน แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอต่อหน้าต่อตาแบบนี้ แถมยังบุกปล้นเคาน์เตอร์แบรนด์อีก
ไม่รู้ฉลาดหรือโง่
ร้านจำหน่ายสินค้าหรูมีราคาล้วนตั้งอยู่ชั้นสาม และพวกเขาก็มาปล้นที่ชั้นสาม ตำรวจคงมาถึงในเร็ว ๆ นี้ หากปิดบันไดหนีไฟไว้ พวกมันต้องหนีไม่พ้นแน่
ขณะที่จิตใจกำลังปั่นป่วน โจรพวกนั้นก็รีบไปยังเคาน์เตอร์นาฬิกาข้อมือ
“เอานาฬิกาออกมาใส่ถุงให้หมด!” ฝ่ายโจรถือปืนพกไว้ในมือ
เด็กสาวใจสั่นยามเห็นปืนชี้ไปยังผู้หญิงที่เคาน์เตอร์
ประเทศเราปลอดภัยกว่าเยอะ จึงไม่มีทางเจอเรื่องแบบนี้
ต่อให้มีการปล้น แต่ในมือก็ถือแค่มีด
แต่จู่ ๆ ฝ่ายโจรก็ชักปืนออกมา ก็น่ากลัวไม่น้อย
เด็กสาวกวาดมองหาทางหนีทีไล่
นาฬิกาก็ไม่ได้ซื้อ แถมยังเจอเรื่องแบบนี้อีก รู้แบบนี้กลับโรงแรมไปนอนสงบใจยังดีกว่า
ทว่าตอนนี้ทุกอย่างกำลังชุลมุน
ฝ่ายโจรเองก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น แต่เพราะลูกค้าที่แต่งตัวดูดีกับเหล่าพนักงานหัวสูงกำลังตกอกตกใจ เลยพยายามรีบวิ่งหนีจนเบียดเสียดไปหมด
ถ้าออกไปด้วยคงไม่มีทางให้แทรกตัวแน่ ๆ
เผลอ ๆ อาจชนจนล้มอีก
ช่างเถอะ หาที่ไกล ๆ เฝ้าดูสถานการณ์ไปก่อนแล้วกัน!
เสี่ยวเถียนเชื่อมั่นในความสามารถตัวเอง และอดมองไปยังผู้หญิงที่ดูถูกเธอเมื่อครู่
เมื่อเผชิญหน้ากับปากกระบอกสีดำ ร่างกายของหล่อนก็สั่นอย่างรุนแรงราวกับกำลังชัก
อย่าว่าแต่ทำตามที่โจรบอก แค่ขยับตัวยังยากเลย
คนแบบนี้ เสี่ยวเถียนไม่คิดจะช่วยหรอก
สมควรได้รับบทเรียน!
ฝ่ายโจรก็ดูจะทราบเรื่องนี้เช่นกัน คงคาดหวังให้เอานาฬิกาใส่ถุงไม่ได้แล้วสินะ
แต่ตัวมันก็ทำไม่ได้เพราะต้องถือปืนไว้ตลอด
“แก ชาวตะวันออก มาช่วยฉันเอานาฬิกาใส่ซะ”
ชายคนนั้นมองไปรอบ ๆ ก่อนจะเห็นว่าซูเสี่ยวเถียนเป็นคนที่สงบที่สุด เลยเอ่ยกับเธอ
เด็กสาวตกใจ
สถานการณ์อะไรกันเนี่ย?
นี่คือเหตุการณ์โคตรซวยที่เขาว่ากันหรือ?
ยืนอยู่เฉย ๆ ดันต้องเข้าไปเอี่ยวด้วยเนี่ยนะ?
ดีจริง ๆ ไปไหนก็ไม่ได้แล้วยังต้องช่วยโจรอีก?
ถ้าเธอทำแบบนั้น คงลำบากในภายหน้าแน่
และคณะผู้แทนที่เดินทางมาด้วยจะต้องอับอาย
ไม่ได้หรอก!
ชายคนนั้นหันมองเด็กสาวที่เอาแต่นิ่งเงียบ ทว่าไม่มีความกลัวใด ๆ จึงพูดย้ำอีก “ให้มันไว ๆ อย่าให้ฉันต้องยิงแกนะ!”
ซูเสี่ยวเถียนไม่ขยับ ทำทีว่าหวาดกลัวเฉย ๆ
จากนั้นสายตาก็กวาดมองไปรอบ ๆ
‘รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง’ คือคำพูดของบรรพบุรุษเรา
ต้องดูก่อนว่ารอบ ๆ ตัวมีใครที่ตกอยู่ในอันตรายมากกว่าไหม
โชคดีที่ทุกอย่างกำลังวุ่นวาย ส่วนพรรคพวกของโจรอยู่ที่เคาน์เตอร์แบรนด์อื่น ๆ เลยทำให้เด็กสาวมีเวลาและโอกาสที่มากพอ
ฝ่ายโจรเห็นความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของเด็กสาวก็สับสนไปครู่หนึ่ง ยัยนี่ตอบสนองช้าไปหรือเปล่า?
แต่หลังจากนั้นก็เห็นแล้วว่า ‘ความว่องไวแบบชาวตะวันออก’ คืออะไร
ซูเสี่ยวเถียนสูดลมหายใจแล้วก้าวตวัดขาใส่ พร้อมหวดหมัดในการเคลื่อนไหวเดียว เตะมันจนล้มไปกับพื้นแล้วแย่งปืนมา
ในตอนที่กำลังยินดีกับความสำเร็จของตัวเอง จู่ ๆ ก็เห็นแสงแวบหนึ่งเข้ามาแต่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทุกอย่างก็วุ่นวายจนไม่สามารถหาที่มาของแสงนั่นได้อีก
พวกโจรไม่คิดว่าสาวตะวันออกที่ดูอ่อนแอจะแข็งแกร่งขนาดนี้
“มันคือกังฟูตะวันออก กังฟูตะวันออก!” โจรพึมพำ แต่เพราะคนกำลังพลุกพล่านเลยไม่ค่อยมีใครได้ยิน
เด็กสาวไม่หวังให้โจรโต้ตอบ รีบฉีกเสื้อของมันแล้วมัดมือเอาไว้
ทั้งยังมัดปากไว้ได้
ถ้าทำแบบนี้ อีกฝ่ายจะไม่สามารถสื่อสารให้คนอื่นได้ทราบถึงความเคลื่อนไหว และจำนวนคนที่ลดลง
จัดการได้คนหนึ่งแล้ว ช่วยคนอื่น ๆ ด้วยดีไหมนะ?
ถ้าเจ้าพวกนี้รู้ว่าเธอจัดการไปแล้วคนหนึ่งคงไม่ปล่อยเราไว้แน่
ที่นี่มีแต่ชาวต่างชาติ หน้าตาแบบเธอปิดยังไงก็ไม่มิด
ไม่รู้ตำรวจจะรีบมาหรือรอให้ทุกอย่างคลี่คลายก่อน
หลังจากขบคิดอยู่นาน เด็กสาวก็ตัดสินใจทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ต้องหลักแหลมกว่านี้ และอย่าให้คนอื่นพบตัวก่อนก็พอ
และในเวลานี้ก็มีคนโง่ปรากฏออกมาแล้ว
“ธะ… เธอ… เธอ…” ผู้หญิงที่เคาน์เตอร์พูดจาตะกุกตะกัก ทั้งยังชี้มาหาอีก
“ถ้าไม่อยากให้โจรคนอื่นทุบตีตัวเองจนตายก็นอนหมอบกับพื้นซะ!”
ซูเสี่ยวเถียนไม่มีเวลาสนใจอีกฝ่ายแล้ว
โง่จริง ๆ
คนแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะงั้นนอนหมอบไปซะ!
ทำตัวโอหังแต่สุดท้ายก็เป็นแค่คนอ่อนแอ
อีกฝ่ายได้ยินก็หน้าซีด แล้วหมอบลงทันที
รวมถึงประสานมือไว้ที่หัวด้วย
ท่าทางหวาดกลัวนี้ทำให้เสี่ยวเถียนพึงพอใจไม่น้อย
จากนั้นก็มองไปที่โจรคนอื่น ๆ
มีอยู่หกคน ตอนนี้เหลือห้าแล้ว
ซึ่งทั้งห้าคนก็อยู่ต่างที่ทั้งนั้น
เหมือนจะสนใจแต่ปล้นของอยู่ เลยไม่ได้สนใจทางฝั่งนี้นัก