ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 14 บทที่ 393 โต้เถียงอีกครา

เล่มที่ 14 บทที่ 393 โต้เถียงอีกครา

หลังจาก​เจอ​เรื่อง​ตื่นตระหนก​เมื่อ​ช่วง​เช้า หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​เลือก​ที่จะ​รับประทาน​อาหาร​ใน​ห้องพัก​

รถม้า​จอด​อยู่​ใกล้​กับ​ประตู​โรงเตี๊ยม​ เสี่ยว​เอ้อร์​วาจา​ดี​มีมารยาท​เข้ามา​ต้อนรับขับสู้​

หลังจาก​หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าวลง​จาก​รถม้า​ นาง​พบ​ว่า​ตอนนี้​โรงเตี๊ยม​เต็มไปด้วย​ผู้คน​

ทว่า​คนใน​ตำบล​ล้วน​เป็น​พวก​พ่อค้า​ เรื่อง​นี้​มิใช่เรื่อง​แปลก​แต่อย่างใด​

หลิน​เมิ้งห​ยา​เคาะ​ศีรษะ​ของ​ตนเอง​เบา​ๆ บางที​นาง​อาจ​คิด​มากเกินไป​

“เชิญท่าน​ลูกค้า​ด้านใน​ขอรับ​”

เสี่ยว​เอ้อร์​สวม​ผ้า​หยาบ​สีเทา​เดิน​นำทาง​

โรงเตี๊ยม​แห่ง​นี้​ค่อนข้าง​เรียบง่าย​ ห้องโถง​มีโต๊ะ​สอง​สามแถว​ซึ่งมีคน​นั่ง​อยู่​เต็ม​พื้นที่​

กลิ่นหอม​ของ​อาหาร​ฟุ้งกระจาย​ไป​ทั่ว​ทั้ง​ห้องโถง​

คน​ที่​ได้​กิน​เพียง​หมั่นโถว​และ​ผัก​แกล้ม​อย่าง​หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​ล้วน​โหย​หาอาหาร​เลิศ​รส​

กระซิบกระซาบ​กัน​เพื่อ​ปรึกษา​ว่า​จะกิน​อะไร​ดี​

ท่าทาง​สนิท​ชิด​เชื้อ​ของ​ทั้งคู่​ดู​ราว​คู่สามีภรรยา​ที่รัก​กัน​มาก​

“ห้อง​ของ​ข้า​อยู่​ข้างๆ​ หาก​มีเรื่อง​อะไร​ก็​เรียก​ข้า​ได้​”

ชั้นสอง​คือ​ห้องพัก​ หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ชิวอ​วี้​อยู่​ห้อง​ข้าง​กัน​

คราวนี้​ชิวอ​วี้​มิได้​หา​ข้ออ้าง​ไร้ยางอาย​เพื่อ​ขอ​อยู่​ห้อง​เดียว​กับ​พวก​นาง​

มอง​ตามหลัง​ชิวอ​วี้​ที่​เดิน​เข้า​ห้อง​ของ​ตนเอง​ไป​ หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​สงสัย​เล็กน้อย​

นับตั้งแต่​ออกจาก​โรงเตี๊ยม​เมื่อเช้า​ เขา​มีท่าทาง​หงุดหงิด​ไม่แช่มชื่น​เหมือนก่อน​ อีก​ทั้ง​ยัง​พูด​กับ​พวก​นาง​เพียง​ไม่กี่​ประโยค​เท่านั้น​

หรือ​เขา​จะโกรธ​? แต่​ชิวอ​วี้​ไม่ได้​ดูเหมือน​คน​ขี้​น้อยใจ​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ส่ายหน้า​ ก่อน​จะเดินตาม​เสี่ยว​เอ้อร์​ไป​ยัง​ห้อง​ของ​ตนเอง​

ท่าน​กัว​เตรียมการ​เอาไว้​ล่วงหน้า​แล้ว​ บางที​เขา​อาจ​อยาก​ชดเชย​ให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ดังนั้น​เขา​จึงมอบ​ห้อง​ที่​ดี​ที่สุด​ให้​

ห้องหับ​สะอาดสะอ้าน​ หน้าต่าง​สามารถ​มองเห็น​ถนน​ เมื่อ​มอง​ลง​เบื้องล่าง​จะเห็น​ทิวทัศน์​ทั่ว​ทั้ง​ตำบล​อย่าง​ชัดเจน​

แน่นอน​ว่า​โต๊ะ​ เตียง​หรือ​แม้กระทั่ง​โคมไฟ​ย่อม​ครบครัน​ ซ้ำยังมี​แจกัน​ดอกไม้​อีก​สอง​สามใบ​

แม้จะมิสวยงาม​เช่น​ร้าน​หรู​อี้​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​สะอาด​และ​สะดวกสบาย​เป็น​อย่างยิ่ง​

หลิน​เมิ้งห​ยา​สั่งอาหาร​ก่อน​จะปิดประตู​ลง​และ​เดิน​ไป​ตรวจสอบ​บริเวณ​รอบ​ๆ กับ​ป๋า​ย​ซ่าว​

โชคดี​ที่​ไม่พบ​สิ่งใด​ผิดปกติ​ เมื่อ​ออก​นอกบ้าน​ นาง​จำต้อง​ระมัดระวัง​เป็นพิเศษ​

“นาย​หญิง​ ท่าน​คิด​ว่า​ใต้เท้า​ชิว​โกรธ​ข้า​หรือไม่​?”

ป๋า​ย​ซ่าว​ริน​ชาให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ก่อน​จะเอ่ย​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​

แม้ฝีปาก​ของ​นาง​จะจัดจ้าน​ไป​บ้าง​ แต่​ชิวอ​วี้​ขี้​น้อยใจ​เกินไป​หรือไม่​ ทั้งที่​ตำหนิ​เขา​ไป​เพียง​ครึ่ง​คำ​ แต่​เขา​กลับ​ขุ่นเคือง​ตลอด​ทั้งวัน​

หลิน​เมิ้งห​ยา​กลับ​หัวเราะ​พลาง​ส่ายหน้า​ จากนั้น​กระซิบ​เสียง​แผ่ว​

“เขา​มิได้​โกรธ​เจ้า ข้า​คิด​ว่า​เขา​แสร้งทำ​ท่าทาง​เช่นนี้​ให้​คนอื่น​ดู​”

ระหว่าง​การ​เดินทาง​ หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ชิวอ​วี้​แสร้ง​ส่งเสียง​ทะเลาะเบาะแว้ง​กัน​ตลอดทาง​

เหตุ​เพราะ​หลิน​เมิ้งห​ยา​สังเกตเห็น​อะไร​บางอย่าง​ที่​ท้าย​ขบวน​

แม้จะไม่รู้​ว่า​พวกเขา​พุ่ง​เป้า​มาที่​นาง​หรือไม่​ แต่​ช่วง​เวลาพักผ่อน​ตอนกลางวัน​ ชิวอ​วี้​แอบ​หาย​ออก​ไป​พักใหญ่​

หลิน​เมิ้งห​ยา​สัมผัส​ได้​ถึงความไม่ชอบมาพากล​บางอย่าง​ นับตั้งแต่​ตอนที่​ชิวอ​วี้​กลับมา​ นาง​ได้กลิ่น​คาวเลือด​จาก​ร่างกาย​ของ​เขา​

เดา​ว่า​ชิวอ​วี้คง​ไป​จัดการ​เก็บกวาด​คน​เหล่านั้น​

หาก​ดู​จาก​นิสัยใจคอ​ของ​ชิวอ​วี้​ เขา​คง​มิได้​ทำร้าย​หมาย​เอาชีวิต​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​คง​ทำ​เพื่อ​เค้น​ถามเอา​ข้อมูล​ที่​เป็นประโยชน์​

เพียงแต่​ตอนนี้​คง​มิใช่เวลา​เหมาะ​สมใน​การอธิบาย​ให้​นาง​ฟัง

ป๋า​ย​ซ่าว​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ทันที​

นับตั้งแต่​วันที่​เข้ามา​ทำงาน​ใน​จวน​จน​ผ่าน​มาค่อน​ปี​ นาง​ผ่าน​เรื่อง​เลวร้าย​กับ​หลิน​เมิ้งห​ยามา​มาก​

ผงกศีรษะ​ลง​และ​ไม่ได้​ถามสิ่งใด​อีก​

“อาหาร​มาถึงแล้ว​ขอรับ​ ไม่ทราบ​ว่า​สะดวก​ให้​นำ​เข้าไป​ส่งหรือไม่​?”

ด้านนอก​ เสี่ยว​เอ้อร์​เคาะ​ประตู​เบา​ๆ ก่อน​จะตะโกน​ถาม

หลิน​เมิ้งห​ยา​จัด​แต่ง​เสื้อผ้า​ให้​เรียบร้อย​ เมื่อ​มั่นใจ​แล้ว​ว่า​ไม่มีทาง​เผย​ข้อบกพร่อง​ใดๆ​นาง​จึงเอ่ย​อนุญาต​

กลิ่น​กับข้าว​หอม​ฟุ้งเตะจมูก​ แม้ที่นี่​จะไม่ได้​ใช้ผักสด​ทำ​ก็ตาม​

โชคดี​ที่​พ่อครัว​ค่อนข้าง​มีฝีมือ​ ดังนั้น​เขา​จึงสามารถ​นำ​ผัก​และ​เต้าหู้​มาประกอบอาหาร​ชวน​น้ำลายสอ​เช่นนี้​ได้​

เมื่อ​วาง​ลง​บน​ข้าวสวย​ร้อน​ๆ นิ้วมือ​ของ​คน​รอ​ก็​พร้อม​จะขยับ​ทันที​

หลิน​เมิ้งห​ยา​และ​ป๋า​ย​ซ่าว​ลงมือ​กิน​อาหาร​ทันที​ ด้านหน้า​ประตู​มีคน​เดินผ่าน​ไปมา​ไม่ขาดสาย​

มองดู​บรรยากาศ​คึกคัก​ด้านนอก​ คาด​ว่า​คง​มีขบวน​พ่อค้า​จาก​ที่อื่น​มาพัก​ที่​โรงเตี๊ยม​แห่ง​นี้​ด้วย​เช่นเดียวกัน​

คิ้ว​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ขมวด​เข้าหา​กัน​แน่น​ คน​ยิ่ง​เยอะ​ก็​ยิ่ง​วุ่นวาย​ ยิ่งไปกว่านั้น​พวก​คน​เหล่านั้น​จะต้อง​ไม่ยอม​ตัดใจ​ง่ายๆ​ อย่าง​แน่นอน​

ดูเหมือน​แผน​การออกไป​เดินเล่น​ตอนกลางคืน​คง​ต้อง​พัก​ไว้​ชั่วคราว​

หลังจาก​รับประทาน​อาหาร​เสร็จ​ ท่าน​กัว​ส่งคน​มาเชิญนาง​ลง​ไป​

นาง​กำชับ​ป๋า​ย​ซ่าว​ให้​ลงกลอน​อย่าง​แน่นหนา​ หาก​นาง​ไม่มาเรียก​ด้วย​ตนเอง​ ห้าม​มิให้​เปิด​ประตู​เป็นอันขาด​

หลิน​เมิ้งห​ยา​เปลี่ยน​ชุด​เรียบร้อย​ก่อน​จะเดิน​จาก​ชั้นสอง​ลง​สู่ชั้นล่าง​

หลิน​เมิ้งห​ยากิน​อิ่ม​และ​ล้างหน้าล้างตา​จน​สะอาดสะอ้าน​แล้ว​ เมื่อ​เทียบ​กับ​คน​ที่​ใช้ชีวิต​อยู่​กับ​การ​เดินทาง​มาตลอด​หลาย​ปี​ ใบหน้า​ของ​คุณชาย​หยวน​จึงงดงาม​ดั่ง​หยก​ เขา​ไม่เหมือน​คนใน​ขบวน​การค้า​เลย​แม้แต่น้อย​

ภายใน​ห้องโถง​มิได้​มีเพียง​ขบวน​พ่อค้า​ของ​ท่าน​กัว​เท่านั้น​

หลิน​เมิ้งห​ยา​ชำเลือง​มอง​ขบวน​พ่อค้า​ซึ่งสวมใส่​ชุด​แปลกตา​

ทว่า​ไม่ว่า​ชาย​หรือ​หญิง​ พวกเขา​ล้วน​ปิดบัง​หน้าตา​เอาไว้​ด้วย​ผ้าคลุม​หน้า​และ​เผย​เพียง​ดวงตา​สีดำ​ ขณะเดียวกัน​ สายตา​ของ​พวกเขา​ล้วน​จับจ้อง​มาที่​นาง​

แย้มยิ้ม​เป็นมิตร​ หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้ดี​ว่า​ตนเอง​แตกต่าง​จาก​ผู้อื่น​

ทว่า​นาง​ไม่คิด​อย่าง​เก็บเนื้อเก็บตัว​เสมือน​เต่า​หดหัว​อยู่​ใน​กระดอง​

ยก​มือขึ้น​เล็กน้อย​ พัด​ด้าม​ไม้ไผ่​ใน​มือ​โบกสะบัด​เข้าหา​ตัวเบา​ๆ รอบกาย​นาง​มีบุรุษ​ทุก​รูปแบบ​

บุรุษ​ผู้​สง่างาม? ไม่หรอก​ ธรรมดา​เป็นอย่างมาก​

“ท่าน​กัว​ พี่ชาย​ทั้งสอง​”

หลิน​เมิ้งหยาม​อง​ข้าม​สายตา​เหล่านั้น​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ทาง​โต๊ะ​ของ​ท่าน​กัว​พร้อมทั้ง​ยก​มือขึ้น​ประกบ​กัน​เพื่อ​คารวะ​ น้ำเสียง​ไม่อ่อนหวาน​หรือ​แข็งกระด้าง​

ขณะเดียวกัน​ สายตา​เหนียมอาย​ระคน​เร่าร้อน​จ้องมอง​มาทาง​นาง​หลาย​คู่​

หลิน​เมิ้งห​ยา​อด​ที่จะ​รู้สึก​ภาคภูมิใจ​มิได้​

ดูเถิด​ นาง​เอง​ก็​มีเสน่ห์​ไม่เบา​!

หวน​นึกถึง​พี่ชาย​ของ​ตนเอง​ แม้จะมีคู่หมั้นคู่หมาย​ที่​ผู้ใหญ่​ทั้งสองฝ่าย​เป็น​คน​เลือก​ แต่​คาด​ว่า​กลับ​ไป​คราวนี้​นาง​ต้อง​สั่งสอน​เขา​ดู​สัก​ตั้ง​

ท่าน​กัว​ยังคง​สูบ​ยาสูบ​เช่นเคย​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กับ​เมื่อวาน​แล้ว​ วันนี้​ใบหน้า​ของ​เขา​ยิ้มแย้ม​และ​ใจดีกว่า​เดิม​

เห​วิน​สือ​และ​จ้าว​เฟย​ยังคง​เหมือนเดิม​ หลังจาก​ได้​ทำความรู้จัก​กัน​มาสอง​วัน​ ดูท่า​พวกเขา​จะชื่นชอบ​ความ​ไม่ยึดติด​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​

“มานั่ง​เถิด​ พวกเขา​ล้วน​เป็น​หัวหน้า​ขบวน​การค้า​มีชื่อ​ หาก​ต้องการ​เดินทาง​ค้าขาย​ เช่นนั้น​จะต้อง​ได้​พบกัน​อีก​หลาย​ครา​ หยวน​หลิน​ เจ้ารีบ​คารวะ​พวกเขา​เสีย​สิ”

ท่าน​กัว​อ้างว่า​นาง​เป็น​ลูกชาย​ของ​สหาย​เก่า​ เหตุ​เพราะ​ความ​สนิทสนม​ ดังนั้น​จึงต้อง​ดูแล​นาง​มาก​เป็นพิเศษ​

อีก​ทั้ง​ยัง​อยาก​ให้​พวก​หัวหน้า​ขบวน​พ่อค้า​รู้จัก​นาง​เอาไว้​ คราวหน้า​หาก​ได้​พบกัน​ พวกเขา​จะได้​ไว้หน้า​นาง​บ้าง​

หลิน​เมิ้งห​ยา​รีบ​ค้อมตัว​คารวะ​ พวก​หัวหน้า​ขบวน​การค้า​ผงกศีรษะ​ลง​ด้วย​ความพึงพอใจ​ จากนั้น​จึงเริ่ม​แนะนำตัว​

แม้โรงเตี๊ยม​จะกว้างขวาง​ แต่​เพราะ​อยู่​ใจกลาง​ตำบล​ ฉะนั้น​ห้องโถง​จึงมีเพียง​สี่โต๊ะ​เท่านั้น​

ท่าน​กัว​นั่ง​อยู่​ทาง​ฝั่งทิศตะวันออก​ ส่วน​คน​ที่นั่ง​อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​คือ​กลุ่ม​พ่อค้า​ซึ่งมุ่งหน้า​ไป​ยัง​เมือง​ตง​เซี่ย​ หัวหน้า​ขบวน​พ่อค้า​อายุ​รูปร่าง​ท่าทาง​ไม่ต่าง​จาก​ท่าน​กัว​นัก​

แม้จะไม่ได้​มีคุณธรรม​เถรตรง​อย่าง​ท่าน​กัว​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​เป็น​คน​ฉลาดเฉลียว​ ชาย​ที่นั่ง​ข้าง​เขา​มีท่าทาง​อบอุ่น​สง่างาม

แต่​เพราะ​เขา​สวม​ใส่หน้ากาก​สีเงิน​ ดังนั้น​จึงไม่มีใคร​มองออก​ว่า​เขา​กำลัง​รู้สึก​เช่นไร​ เสื้อ​สีขาว​สว่าง​ชั้นใน​รับ​กับ​ผ้า​หยาบ​สีเทา​ด้านนอก​เป็น​อย่าง​ดี​

ครุ่นคิด​ ก่อนที่​หลิน​เมิ้งห​ยา​จะปรากฏตัว​ออกมา​ เขา​จะต้อง​ตกเป็น​เป้าสายตา​จาก​ทุกคน​อย่าง​แน่นอน​

“ท่าน​นี้​คือ​ท่าน​หม่า​ลิ่ว​ที่​ต้องการ​เดินทาง​ไป​ยัง​เมือง​ตง​เซี่ย​ พอ​พูด​ถึงชีวิต​การ​เดินทาง​ ผู้เฒ่า​คน​นี้​ใช้ชีวิต​บน​ถนนหนทาง​มากกว่า​ข้า​เสีย​อีก​ ผู้เฒ่า​ ร่างกาย​ของ​เจ้าเป็น​อย่างไรบ้าง​เล่า​? คิด​จะไป​รายงานตัว​กับ​เหยียน​หวัง​ [1] เมื่อใด​?”

หลิน​เมิ้งห​ยา​รีบ​ก้มตัว​คารวะ​ เพราะเหตุนี้​เขา​จึงนั่ง​ข้าง​ท่าน​กัว​ เพียง​ได้ยิน​บทสนทนา​ของ​พวกเขา​ก็​รับรู้​ได้​ทันที​ว่า​ทั้งสอง​คือ​สหาย​เก่า​

ท่าน​หม่า​ลิ่ว​มีอุปนิสัย​ขี้เล่น​ เขา​กระตุก​ยิ้ม​หัวเราะ​ฮึฮึ ก่อน​จะตอบโต้​ท่าน​กัว​กลับ​อย่าง​ไม่เพลี่ยงพล้ำ​

“ขนาด​ผู้เฒ่า​เช่น​เจ้ายัง​มีชีวิต​อยู่​ เหยียน​หวัง​จะมาพราก​ชีวิต​ข้า​ไป​ได้​อย่างไร​ ชีวิต​ตอนนี้​นับว่า​ไม่เลว​ ร่างกาย​ซูบผอม​ลง​เล็กน้อย​ หาก​ได้​ร่ำเรียน​วิทยา​ยุทธ์​จาก​ผู้เฒ่า​กัว​ คาด​ว่า​คง​มีกำลังวังชา​มากขึ้น​ แม้พวกเรา​เหล่า​พ่อค้า​จะไม่อาจ​เทียบ​กับ​ผู้คุ้มกัน​ได้​ แต่​ถึงกระนั้น​ก็​ผ่าน​ร้อน​ผ่าน​หนาว​มาไม่น้อย​ หาก​ไม่ระวัง​ก็​อาจจะ​หลง​เข้าไป​อยู่ในเส้นทาง​ที่​ไม่มีทางออก​”

ทันทีที่​ท่าน​หม่า​ลิ่ว​พูด​จบ​ ชายหนุ่ม​ตรงหน้า​เขา​ระงับ​โทสะ​ไม่อยู่​

“ปัง​” เสียงดัง​ขึ้น​ มือ​หนา​ฟาด​ลง​บน​โต๊ะ​

ชาย​ผู้​มีรูปร่าง​กำยำ​ใบหน้า​โหดเหี้ยม​ยิ่งกว่า​เห​วิน​สือ​และ​จ้าว​เฟย​จ้อง​เขา​อย่าง​มีโทสะ​

“ไอ้​แก่​ใกล้​ลง​โลง​เช่น​เจ้าอย่า​ได้​พูดจา​เลอะเทอะ​อีก​ มิเช่นนั้น​ข้า​เฮย​ฮู่จะฉีก​ปาก​เจ้า!”

ท่าน​หม่า​ลิ่ว​กลับ​ไม่แสดงท่าทาง​ไม่พอใจ​ ทว่า​เขา​เหลือบมอง​ชาย​นาม​ว่า​เฮย​ฮู่ด้วย​สายตา​เหยียดหยาม​

“พี่ชาย​ เหตุใด​ต้อง​มีอารมณ์​ด้วย​เล่า​? ท่าน​หม่า​ลิ่ว​มีชื่อเสียง​เรื่อง​การ​พูด​เปรียบเปรย​ ยิ่งไปกว่านั้น​เขา​ยัง​มิได้​เอ่ยถึง​สกุล​ท่าน​แต่อย่างใด​ ใย​ท่าน​จึงต้อง​กินปูนร้อนท้อง​”

ผู้พูด​คือ​ชายหนุ่ม​ใบหน้า​ขาวสะอาด​ข้างๆ​ เฮย​ฮู่

หลิน​เมิ้งหยาม​อง​ออก​ เฮย​ฮู่เป็น​เพียง​มือสังหาร​ แต่​คน​ที่​ควบคุม​ทุกอย่าง​คือ​ชายหนุ่ม​ที่​มีท่าทาง​อ่อนแอ​ยิ่งกว่า​นาง​คน​นั้น​

ชายหนุ่ม​คน​นั้น​สวมใส่​ชุด​ผ้าไหม​สีฟ้า แม้ใบหน้า​จะเหมือน​คุณชาย​สูงศักดิ์​คน​หนึ่ง​ แต่​สายตา​และ​กลิ่นอาย​แห่ง​ความ​เจ้าเล่ห์​แผ่ออก​มาจาก​ตัว​เขา​

หลังจาก​หลิน​เมิ้งห​ยา​สบตา​เขา​เพียง​ครั้ง​เดียว​ นาง​ก็​รู้​ได้​ทันที​ว่า​เขา​เป็น​คน​รับมือ​ด้วย​ยาก​คน​หนึ่ง​

แต่​หาก​กำลัง​พูด​เรื่อง​ประสบการณ์​ชีวิต​ เช่นนั้น​เหตุใด​ท่าน​หม่า​ลิ่ว​จึงเจาะจงพูดถึง​เขา​เล่า​?

“ท่าน​หม่า​ลิ่ว​หา​ได้​พูดจา​เลื่อนเปื้อน​ไม่ ป๋า​ย​หลง​ แม้ข้า​จะไม่อาจ​ทำ​อัน​ใด​กับ​การค้าขาย​มนุษย์​ของ​เจ้าได้​ แต่​พวกเรา​คนเมือง​เลี่ย​หยุ​น​จะไม่มีวัน​ยอม​ปล่อย​ให้​เจ้ารังแก​ได้​ง่ายๆ​ จงปล่อย​คน​ของ​พวกเรา​ออกมา​เสีย​ มิเช่นนั้น​อย่า​หาว่า​ข้า​ไม่เกรงใจ​!”

เสียง​เคร่งขรึม​ดัง​ขึ้น​จาก​โต๊ะ​ของ​คน​ที่​สวมใส่​ชุด​แปลกตา​

แม้เสี่ย​วอ​วี้​และ​ป๋า​ย​ซูจะเป็น​คนเมือง​เลี่ย​หยุ​น​ แต่​พวก​ท่าน​เหยียนเลี่ย​สวมใส่​ชุด​ธรรมดา​ของ​ต้า​จิ้น​

ดังนั้น​นาง​จึงมอง​ทาง​คนเมือง​เลี่ย​หยุ​น​ด้วย​สายตา​ประหลาดใจ​

————————–

หมายเหตุ​

[1] เหยียน​หวัง​ คือ​พญา​ยม​

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

Score 10
Status: Completed

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก..

เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ

ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง!

มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา

ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ

ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้

นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่

เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ

นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง

เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Options

not work with dark mode
Reset