นั่นย่อมปกติ!
เพราะร่างกายไม่ได้ทำจากเหล็กกล้า ได้รับบาดเจ็บหนักและเสียเลือดมากขนาดนั้น ทุกคนต่างฝืนทนไม่ไหว
ซินเอ๋อร์คิดในใจ ก่อนก้าวออกจากถังอาบน้ำอย่างรวดเร็ว หลังสวมเสื้อผ้าเสร็จอย่างเร่งรีบ เดินไปข้างกายชายหนุ่ม ก่อนยื่นมือผลักตัวชายหนุ่มอย่างเบามือ พร้อมเอ่ยเรียก
“นี่ ท่านฟื้นสิ ฟื้นสิ”
ซินเอ๋อร์เอ่ยเรียกเสียงเบา
น่าเสียดายชายหนุ่มเวลานี้หมดสติไปแล้ว จึงไร้หนทางจะตอบกลับคำพูดของเธอ
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้นคิ้วเข้มขมวดมุ่น พร้อมกัดริมฝีปากล่างแน่นอยู่ชั่วขณะ ไม่รู้ควรทำเช่นไรดี
สุดท้ายเหลียวดูซ้ายขวาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนคิดย้ายตัวชายหนุ่มไปบนเตียง เพราะแม้จะเป็นต้นฤดูใบไม้ผลิ แต่พื้นเย็นเฉียบ ชายหนุ่มได้รับบาดเจ็บหนักเช่นนี้ หากปล่อยให้เขานอนอยู่บนพื้น ต้องเจ็บหนักขึ้นเป็นแน่
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พลันดึงแขนชายหนุ่มขึ้นคิดลากชายหนุ่มไป
แต่ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ส่วนสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร
รวมทั้งแม้เขาจะดูผอมเพรียว แต่น้ำหนักกลับไม่น้อย
ไม่ว่าซินเอ๋อร์จะพยายามอย่างสุดกำลัง ล้วนดึงเขาขึ้นมาไม่ได้
โชคดีสุดท้ายอาจเพราะรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มที่พึ่งได้สติจึงเลิกดวงตาหงส์เรียวยาวนั้นออกเล็กน้อย ก่อนชายตามองซินเอ๋อร์แวบหนึ่ง คิ้วงามน่ามองคู่นั้นพลันขมวดเล็กน้อย คล้ายสงสัยบางอย่าง
ซินเอ๋อร์เห็นชายหนุ่มได้สติ รู้สึกโล่งใจไปพร้อมกัน บนใบหน้าปรากฎความยินดี ก่อนเอ่ยขึ้น
“ในที่สุดท่านฟื้นแล้ว ลุกขึ้นยืนได้หรือไม่ ข้าต้องการพาท่านไปพักผ่อนบนเตียง บาดแผลบนกายท่านจำเป็นต้องจัดการ มิใช่หรือ”
เมื่อได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ภายในแววตาชายหนุ่มปรากฎความแปลกใจขึ้นมา
อาจเพราะไม่คิดว่าซินเอ๋อร์จะคิดจัดการบาดแผลให้แก่เขา เพราะสำหรับเธอเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าไม่รู้สถานะและที่มาที่ไปเท่านั้น
ชายหนุ่มแม้จะคิดเช่นนี้ แต่สุดท้ายเขายังฝืนลุกยืนขึ้น ทว่าเพราะไร้เรี่ยวแรง เมื่อยืนขึ้นพลันโอนเอนครู่หนึ่งท่าทางจะล้มลง
ซินเอ๋อร์ พลันประคองเอวของเขาเพื่อให้ร่างกายเขามั่นคง
ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้น ดวงตาหงส์คู่งามนั้นเป็นประกายครู่หนึ่ง เม้มริมฝีปากแดงชั่วขณะ ทว่ากลับไม่เอ่ยปากออกมา
เพียงถ่ายเทน้ำหนักส่วนใหญ่บนกายไปที่ร่างบอบบางของหญิงสาว เพราะเขาไร้เรี่ยวแรงจริงๆ
และซินเอ๋อร์รูปร่างเล็ก เมื่อต้องประคองคนที่ไม่ว่าส่วนสูงหรือน้ำหนักมากกว่าเธอขนาดนั้น ถือเป็นเรื่องยากลำบากอย่างไม่ต้องสัย
ทว่าเธอยังพยายามสุดชีวิต ประคองตัวชายหนุ่มไปที่เตียงตนทีละก้าวอย่างยากลำบาก
ไม่ง่ายกว่าที่จะพาชายหนุ่มนอนลงบนเตียง ซินเอ๋อร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกไปพร้อมกัน รู้สึกเพียงภูเขาลูกใหญ่ที่กดทับบนกายตนถูกเคลื่อนออกไป
แต่ซินเอ๋อร์พักเหนื่อยเพียงชั่วขณะ ก่อนจะยืนขึ้นอย่างวุ่นวายอีกครั้ง
เพราะบนกายชายหนุ่มยังมีบาดแผลมากมาย ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือช่วยทำแผลให้แก่ชายหนุ่ม
โชคดีภายในห้องเธอมียาประเภทรักษาบาดแผลจากของมีคมไม่น้อย
เพราะครั้งก่อนไม่ระวังเท้าแพลง เหลิ่งอวี้เซวียนจึงเป็นห่วงเธออย่างมาก รีบให้คนจัดเตรียมยาสูงค่ามากมาย
ขณะนั้นเธอใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน บาดแผลที่เท้าก็หายเป็นปกติ ดังนั้นจึงเก็บยาไว้ ตอนนี้จึงได้ใช้งานพอดี
ซินเอ๋อร์คิดในใจ ก่อนพลันล้วงพวกยาทำแผล ผ้าพันแผล และกรรไกรออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง
สำหรับการพันแผลและจัดการบาดแผลอย่างเรียบง่ายพวกนี้ ซินเอ๋อร์ยังมีความรู้
เพราะเธอมีศักดิ์เป็นพี่สาว หลังมารดาเสียชีวิต เธอเป็นทั้งพี่สาวและมารดาคอยดูแลน้องชายตนอยู่ตลอดเวลา
น้องชายที่ดื้อรั้นหัวแข็ง ทุกวันมักจะมีบาดแผลใหญ่เล็กไม่หยุดหย่อน ดังนั้นเธอจึงจัดเตรียมพวกผ้าพันแผลและยาไว้บนเรือน เพื่อป้องกันไว้ล่วงหน้า
เวลานี้หลังจากซินเอ๋อร์จัดเตรียมทุกสิ่งเสร็จ ดวงตาคู่งามกวาดมองเห็นชายหนุ่มตาปิดสนิท สองมือกำหมัดแน่น ท่าทางคล้ายอดทนกับบางสิ่ง
ทว่าอาจเพราะรู้สึกถึงสายตาของซินเอ๋อร์ ดวงตาหงส์ที่ปิดสนิทของชายหนุ่มเลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจ้องมองตรงไปที่ซินเอ๋อร์
ต้องเอ่ยว่าชายหนุ่มหน้าตางดงามยิ่งนัก!
แม้ในยามบาดเจ็บเหนื่อยล้าเช่นนี้ บนกายชายหนุ่มต่างมีกลิ่นอายสูงศักดิ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด
คิ้วแม้จะขมวดแน่น อดทนต่อความเจ็บปวด ทว่ากลับเห็นชัดว่าเขาไม่ได้แสดงความดื้อรั้นและหยิ่งผยองออกมา!
ชายผู้นี้ ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่
เพราะหากเป็นคนธรรมดา จะน่าเกรงขามหยิ่งยโสเช่นนี้ได้อย่างไร!
ซินเอ๋อร์คิดในใจ ก่อนเห็นชายหนุ่มลืมตามองเธอ ดังนั้นจึงหยิบผ้าพันแผลและกรรไกร ก่อนเอ่ยปากบอกกล่าว
“ตอนนี้ข้าจะช่วยพันแผลให้แก่ท่าน”
หลังได้ยินคำพูดของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มไม่พูดจา เพียงส่งเสียง ‘อืม’ อย่างแผ่วเบาออกมาแสดงถึงความยินยอม
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น พลันวางสิ่งของในมือลง ก่อนยื่นมือเล็กขาวผ่องดุจหยกออกไปหมายถอดเสื้อผ้าบนกายชายหนุ่มออก
เพราะบนกายชายหนุ่มมีบาดแผลมากมาย เสื้อผ้าชุดนี้ก็ขาดรุ่งริ่ง ด้านในยังมีเลือดไหลออกมาไม่น้อย ดังนั้นการช่วยพันแผลให้แก่เขา เธอจึงจำเป็นต้องช่วยชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าบนกายลง
ทว่าเมื่อเห็นท่าทางชายหนุ่มเวลานี้ ไม่ได้หมดสติไปถือว่าเขามีความอดทนมากพอทีเดียว แต่เรื่องการถอดเสื้อผ้านี้ เกรงว่าเขาคงไร้เรี่ยวแรงในการจัดการ
ดังนั้นเรื่องนี้ ย่อมตกเป็นหน้าที่ของซินเอ๋อร์
แม้เรื่องช่วยคนถอดเสื้อผ้านี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ซินเอ๋อร์ลงมือ แต่เมื่อเผชิญกับชายแปลกหน้าผู้หนึ่ง ยังทำให้ซินเอ๋อร์รู้สึกลังเล
ทว่าต่อมาซินเอ๋อร์กัดฟันแน่น ไม่คิดมากเรื่องการที่ชายหญิงไม่ควรใกล้ชิดพวกนั้น
เพราะตอนนี้ชายหนุ่มบาดเจ็บอย่างหนัก และไม่ใช่เวลาที่เธอควรคิดเรื่องเหล่านั้น
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์พยายามรวบรวมความกล้า ก่อนถอดเสื้อผ้าบนกายชายหนุ่มออก
อาจเพราะเธอไม่ระวังจึงโดนเข้ากับบาดแผลของชายหนุ่ม จึงได้ยินเพียงชายหนุ่มเปล่งเสียงอู้อี้คำหนึ่ง แม้เขาจะอดทนจนถึงขีดสุดแล้ว แต่ซินเอ๋อร์ยังตกใจ ก่อนรีบเอ่ยขอโทษ
“ขออภัย ขออภัย”
สำหรับคำพูดของซินเอ๋อร์ ชายหนุ่มเพียงกัดริมฝีปากแน่นไม่พูดจา
และไม่รู้ว่าเขาไม่แยแส หรือความจริงเพราะเขาเจ็บปวดจนพูดไม่ออก
สุดท้ายเมื่อซินเอ๋อร์ถอดเสื้อผ้าบนกายชายหนุ่มออกอย่างไม่ง่ายดาย ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มแดงก่ำขึ้น ราวกับหยดเลือดจะไหลออกมา
รวมทั้งเวลานี้เส้นผมที่เปียกชื้นของเธอทั้งหมดสยายอยู่ทางด้านหลัง ผมหน้าม้ายุ่งเหยิงหลายเส้นแนบติดกับข้างใบหน้าของเธอ แม้จะดูยุ่งเหยิง ทว่ากลับทำให้เธอดูงดงามและมีเสน่ห์ดังที่ควรมีขึ้นมาหลายส่วน
ชายหนุ่มเห็นเช่นนั้น ดวงตาหงส์เปล่งประกายชั่วขณะ ทว่ากลับไม่พูดจา เพียงจับจ้องอยู่บนกายซินเอ๋อร์อย่างไม่ละสายตา
ตรงข้ามกับชายหนุ่มที่นิ่งเงียบ ซินเอ๋อร์ที่กำลังถอดเสื้อผ้าชายหนุ่ม หลังเห็นบาดแผลบนกายเขาพลันอดสูดหายใจอย่างหวาดเสียวไม่ได้
ใบหน้าเรียวเล็กแดงก่ำเพราะเขินอายนั้นพลันซีดเซียว
“สวรรค์ ท่านบาดเจ็บรุนแรงยิ่งนัก!”
ซินเอ๋อร์ร้องตกใจ ดวงตาคู่งามเบิกกว้างเพราะไม่เชื่อสายตา
เห็นเพียงบนกายชายหนุ่มมีบาดแผลจากกระบี่เจ็ดแผล บนแขนห้าแผล แผ่นหลังอีกหนึ่งแผล ทว่าพวกนี้ต่างเป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อย หนักที่สุดคือรอยแผลบนหน้าท้องของชายหนุ่ม
ลากยาวจากหน้าอกฝั่งซ้ายลงไปจนถึงหน้าท้อง
และบาดแผลลึกนั้น คล้ายมีรอยเลือดสีแดงไหลรินออกมาจากบาดแผลไม่หยุด
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ตกใจอย่างหนัก
เพราะเธอเกิดมาอายุเท่านี้ ยังไม่เคยเห็นคนบาดเจ็บหนักหนาเช่นนี้มาก่อน
แม้เธอจะสามารถพันแผลทำความสะอาดบาดแผลได้ แต่นั่นเป็นเพียงการจัดการบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น ตอนนี้ชายหนุ่มบาดเจ็บหนักเช่นนี้ และเธอไม่ใช่หมอ หากเขาเสียชีวิตลงเพราะบาดเจ็บรุนแรงจะทำเช่นไร!
พอคิดถึงตรงนี้ ซินเอ๋อร์ตกใจในใจ ทันใดนั้นพลันลุกจากเก้าอี้ ร้องอย่างตกใจ
“ไม่ได้ ท่านบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ข้าต้องไปตามหมอมาช่วยรักษาท่าน!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยจบ พลันหมุนกายหมายจากไป
แต่เธอยังไม่ทันได้ก้าวแม้แต่ก้าวเดียว ข้อมือพลันแน่นขึ้น
“…”
“ห้ามทำให้ผู้ใดแตกตื่น”
ชายหนุ่มเอ่ยปาก ด้วยน้ำเสียงแฝงความอ่อนแรงเจ็ดส่วน หนักแน่นสามส่วน
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์ขมวดคิ้วเข้มมุ่น ก่อนเอ่ยปาก
“แต่ท่านบาดเจ็บหนัก หากไม่ให้หมอดูอาการ ท่านอาจเสียชีวิต!”
ซินเอ๋อร์เอ่ยปาก ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
และชายหนุ่มก็ฟังออกถึงความห่วงใยที่มีต่อเขาจากน้ำเสียงของซินเอ๋อร์ ใบหน้างดงามนั้นจึงพลันตะลึงงัน
เพราะแม้เขาจะเกิดในตระกูลสูงศักดิ์ มีเกียรติบารมีที่คนทั่วไปไม่มี แต่หลังจากเสด็จแม่ของตนจากไป กลับไม่มีคนแม้แต่ผู้เดียวห่วงใยเขาอย่างจริงใจ แต่สาวน้อยตรงหน้านี้กลับห่วงใยเขา
พอคิดถึงตรงนี้ ดวงตาหงส์ของชายหนุ่มอดเปล่งประกายชั่วขณะไม่ได้ ใจพรั่งพรูความซาบซึ้งออกมาเพราะความห่วงใยของสาวน้อย
ไม่นานชายหนุ่มจึงได้สติ หลังดวงตาหงส์เหลือบมองเห็นพวกยาสมานแผลพวกนั้น จึงเผยอริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนเอ่ยอย่างแผ่วเบา
“ข้าจะตายไม่ได้ รีบช่วยทำแผลให้ข้าเถิด มิฉะนั้นข้าคงตายไปจริงๆ!”