ตอนที่ 693 มาคุยกับเธอ
หลินเยียนคิดมาตลอดว่าบนโลกนี้สิ่งที่ทนรับการทดสอบไม่ได้มากที่สุดก็คือนิสัยคน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับเบี้ยต่อรองอย่างหลิงเย่ว์ คนนอกอย่างหลินเยียนยังรู้สึกได้เลยว่าผู้หญิงที่ชื่อหลิงเย่ว์คนนั้นมีความสำคัญต่อซิงเฉินมากแต่ไหน
บางทีครั้งสองครั้งซิงเฉินอาจจะต้านทานการยั่วยวนได้ แต่หากสามครั้งห้าครั้ง สิบครั้งร้อยครั้งล่ะ?
ซิงเฉินทำให้เผยอวี้เฉิงไม่พอใจเพราะผู้หญิงที่ชื่อหลิงเย่ว์คนนี้ไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้งแล้ว จะเห็นได้ว่า หลิงเย่ว์มีความสำคัญต่อซิงเฉินมากจริงๆ
แน่นอนว่าหลินเยียนก็นับถือซิงเฉินมากเช่นกัน
ถ้าหากมีคนใช้คนที่มีความสำคัญมากสำหรับเธอมาข่มขู่เธอ บางทีอาจมีสักครั้งที่หลินเยียนจะทรยศ การเปลี่ยนเจ้านาย มันจะอะไรนักหนากันเชียว…
อย่างเช่นหากมีคนนำความปลอดภัยของเผยอวี้เฉิงมาข่มขู่หลินเยียน ให้หลินเยียนทรยศเถ้าแก่บริษัทเกมของเธอคนนั้น เกรงว่าหลินเยียนคงหักหลังได้ภายในชั่วพริบตา
ตอนนี้หลินเยียนรู้สึกหัวสมองพองโตอย่างน่าประหลาด บังเอิญได้ยินบทสนทนาทางโทรศัพท์นี้ของซิงเฉิน แล้วเธอจะทำเป็นไม่ได้ยินได้อย่างไร?
อันที่จริงหากทำตามที่หลินเยียนคิดเอาไว้ นั่นคือทำเหมือนไม่เคยเกิดเรื่องอะไรมาก่อน ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับเธอมากที่สุดแล้ว มิหนำซ้ำซิงเฉินไม่ได้บอกว่าจะทรยศเผยอวี้เฉิงสักหน่อย
และในทางกลับกัน ในฐานะที่เป็นแฟนสาว เหมือนว่าเธอควรนำเรื่องนี้ไปบอกเผยอวี้เฉิงทุกอย่างเช่นเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้เผยอวี้เฉิงได้เตรียมใจไว้บ้าง
แต่ถ้าหากเผยอวี้เฉิงรู้แล้ว เขาจะลงโทษอะไรกับซิงเฉินบ้าง…
หลินเยียนรู้สึกลำบากใจไปชั่วขณะจริงๆ
บางทีเธอควรรู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่องนี้ให้ชัดเจนก่อน จากนั้นค่อยตัดสินใจอีกที
หลินเยียนโทรหาเผยอวี่ถังทันที
“มีอะไรเหรอครับ?” เสียงของเผยอวี่ถังแว่วมาหลังจากรับสาย
“เธออยู่บ้านหรือเปล่า” หลินเยียนถาม
“อยู่ครับ ดูคลิปแข่งรถอยู่น่ะ ทำไมเหรอครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”
พอรู้ว่าเผยอวี่ถังอยู่บ้าน หลินเยียนก็วางสาย แล้วไปที่ห้องเผยอวี่ถังทันที
“คุณพ่อ ทำไมรีบร้อนขนาดนี้ล่ะ เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นงั้นเหรอครับ?” เผยอวี่ถังจ้องมองหลินเยียนที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้วมาคุยกับเธอไม่ได้รึไง” หลินเยียนย้อนถาม
พอได้ยินเผยอวี่ถังก็อึ้งเล็กน้อย จากนั้นก็ผงกศีรษะทันที “ได้สิครับ ได้แน่นอน…ผมกำลังคิดถึงคุณพ่ออยู่พอดีเลย คุณพ่ออยากจะเปลี่ยนทีมรถแข่งรึเปล่า มาอยู่ทีมบลาสท์ของผมดีไหม!”
“ฉันไม่สนใจทีมของเธอ” หลินเยียนตอบเรียบๆ
“อย่าสิครับคุณพ่อ ผมจะให้ค่าตัวพี่สูงมากเลยนะ!” เผยอวี่ถังรีบพูดขึ้นมา
พอเผยอวี่ถังพูดจบ หลินเยียนก็ลูบจมูก “เท่าไหร่…”
“ตอนนี้ผมยังไม่มีเงิน ค่าใช้จ่ายในการบริหารทีมรถแข่งมันสูงมาก แถมยังไม่มีสปอนเซอร์กับเงินสนับสนุนอีก เพียงแต่ไม่เป็นไรครับ ผมให้หุ้น หรือไม่ก็เซ็นหลักฐานการยืมเงินก็ได้!” เมื่อเผยอวี่ถังเห็นว่ามีหวังจึงรีบพูดขึ้นมาทันที
หลินเยียน “…”
ถึงแม้หลินเยียนจะสนใจเงินที่อยู่ตรงหน้ามาก แต่เธอไม่สนใจหลักฐานการยืมเงินหรือหุ้นอะไรสักหน่อย จะเอาหุ้นของทีมบลาสท์ไปทำอะไร ดีไม่ดีอาจจะขาดทุนก็ได้ เธอไม่เอาหรอกน่า
“ฉันขอถามนายเรื่องหนึ่ง” หลินเยียนจ้องเผยอวี่ถัง “เธอรู้จักเดมอนหรือเปล่า?”
“เดมอน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเยียน เผยอวี่ถังก็มีท่าทางครุ่นคิด หลังจากเงียบงันอยู่ครู่หนึ่งก็ช้อนดวงตาขึ้นจ้องมองหลินเยียน “ไม่รู้จักครับ”
ไม่รอให้หลินเยียนเอ่ยปาก เผยอวี่ถังพูดต่อไปว่า “เอ่อ เหมือนจะเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนนะ แต่นึกไม่ออกกะทันหัน ไม่ได้มีความทรงจำอะไรเป็นพิเศษ”
“อ้อ” หลินเยียนพยักหน้า “บ๊ายบาย”
เมื่อเห็นว่าหลินเยียนหมุนตัวกำลังจะจากไป เผยอวี่ถังจึงรีบพูดขึ้นมาว่า “เฮ้ คุณพ่อ คุณพ่อมาคุยกับผมไม่ใช่เหรอครับ พวกเรามาคุยเรื่องทีมรถแข่งกัน!”
ตอนที่ 694 ฝัน
เดิมทีหลินเยียนคิดจะหลอกถามออกมาจากปากเผยอวี่ถัง ดูสิว่าพอจะได้ข่าวสารที่มีประโยชน์บ้างหรือเปล่า กลายเป็นพอถามเผยอวี่ถังก็ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
เรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ หลินเยียนไม่สะดวกที่จะไปถามคนอื่น ไม่อย่างนั้นหากไปเข้าหูเผยอวี้เฉิงหรือซิงเฉิน เกรงว่าคงต้องเกิดการเข้าใจผิดอะไรขึ้นแน่
เรื่องที่หลินเยียนบังเอิญได้ยินซิงเฉินคุยโทรศัพท์ เมื่อลองคิดให้ถ้วนถี่ คงไปคุยกับเผยอวี้เฉิงตามตรงไม่ได้แน่
นอกจากนี้เธอไม่ค่อยสะดวกที่จะคุยเรื่องนี้กับซิงเฉิน
หลินเยียนเค้นหัวสมอง สุดท้ายก็คิดหาวิธีที่ถือว่าพอใช้ได้มาวิธีหนึ่ง ไม่เพียงทำให้เผยอวี้เฉิงปราศจากเรื่องต้องกังวล ทั้งยังทำให้ซิงเฉินได้คลายปมภายในใจ ไม่ถูกคนอื่นจูงจมูกอีกด้วย
เนื้อหาทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้ถือว่าแจ่มชัดเช่นเดียวกัน อีกฝ่ายคงใช้หลิงเย่ว์เป็นเบี้ยต่อรองมาล็อบบี้ซิงเฉินไม่หยุดแน่
แต่หากเผยอวี้เฉิงปล่อยตัวหลิงเย่ว์ อย่างนั้นอีกฝ่ายก็คงจะสูญเสียเบี้ยต่อรองนี้ไป
แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นรูปธรรมจะเป็นเช่นไร หลินเยียนไม่กล้ามั่นใจเช่นเดียวกัน อย่างเช่นอีกฝ่ายยังมีเบี้ยต่อรองอื่นนอกจากหลิงเย่ว์บ้างหรือเปล่า
แต่อย่างน้อยสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้ก็มีแค่นี้
หลินเยียนยังค่อนข้างเชื่อใจซิงเฉิน ไม่อย่างนั้นเมื่อครู่ซิงเฉินคงไม่ได้มีท่าทีแบบนั้น และยังมองออกว่า ซิงเฉินค่อนข้างจงรักภักดีต่อเผยอวี้เฉิงจริงๆ
ผ่านไปครู่หนึ่งหลินเยียนปล่อยเจ้าแมวส้มน้อยกับเจ้าแร็กดอลล์น้อยกลับเข้าไปในห้องตนเอง จากนั้นก็ส่งข้อความหาเผยอวี้เฉิง
[ยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ พอจะมีเวลาว่างหรือเปล่า]
อย่างไรก็ตามหลินเยียนกลับไม่ได้รับคำตอบจากเผยอวี้เฉิง
หลินเยียนเดินไปจนถึงนอกประตูห้องหนังสือของเผยอวี้เฉิง จากนั้นก็เคาะประตู เหมือนจะไม่มีการตอบกลับมาเช่นเดียวกัน
ประตูไม่ได้ล็อก หลินเยียนจึงผลักประตูห้องหนังสือเบาๆ
หลินเยียนเห็นเผยอวี้เฉิงนั่งพิงเก้าอี้ เหมือนว่ากำลังหลับอยู่
หลินเยียนเดินถึงข้างกายเผยอวี้เฉิง พร้อมทอดสายตามองเขา
ไม่พูดไม่ได้จริงๆ ว่าความน่ากลัวที่ทำให้คนขาดอากาศหายใจของเผยอวี้เฉิงตอนหลับนั้นหายไปมากเลยทีเดียว และเมื่อมองจากมุมมองของหลินเยียน ใบหน้าของเผยอวี้เฉิงงดงามล้ำเลิศจนถึงขั้นล่มเมืองแล้วจริงๆ!
หลินเยียนแน่ใจมากยิ่งขึ้น เผยอวี้เฉิงตอนนอนหลับนั้นน่าลุ่มหลงมากที่สุดอยู่ดี ส่วนเผยอวี้เฉิงตอนตื่นนั้นคือพญายมชัดๆ
ไม่ได้คิดอะไรให้มากความ หลินเยียนเดินอย่างนุ่มนวลไปหยิบผ้าห่มมาผืนหนึ่ง จากนั้นก็ห่มลงบนร่างกายเผยอวี้เฉิงเบาๆ
อย่างไรก็ตาม ผ้าห่มยังไม่ทันจะได้ห่มลงบนร่างเผยอวี้เฉิง เผยอวี้เฉิงซึ่งเดิมทียังอยู่ในสภาวะหลับใหลก็เบิกตาซึ่งเต็มไปด้วยเส้นเลือดทั้งสองข้างขึ้นมาทันที ไอแห่งความโหดเหี้ยมอันน่าตื่นตระหนกแผ่ขยายอย่างรวดเร็ว คว้าข้อมือหลินเยียนอย่างรุนแรง
ตอนนี้หลินเยียนยืนอึ้งอยู่กับที่โดยไม่ทันตั้งตัว คิดไม่ถึงเลยว่าเผยอวี้เฉิงจะตื่นขึ้นมากะทันหัน แถมยัง…น่ากลัวเหลือเกิน!
“ใครใช้ให้เธอเข้ามา” เสียงเย็นเยียบเสียดแทงกระดูกของเผยอวี้เฉิงประหนึ่งส่งผ่านออกมาจากส่วนลึกของร่างกาย
“ฉัน…”
หลินเยียนจ้องมองดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของเผยอวี้เฉิง ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรไปชั่วขณะ
หลินเยียนยังไม่ทันจะได้เอ่ยปากพูดต่อไป เผยอวี้เฉิงก็กระชากมือขวาเบาๆ หลินเยียนซวนเซ เสียสมดุลภายในชั่วพริบตา ล้มลงสู่อ้อมอกเผยอวี้เฉิง
“คุณเผย…คุณ ไม่เป็นไรนะคะ?” หลินเยียนขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม
เผยอวี้เฉิงโอบหลินเยียน มองดูหลินเยียนที่อยู่ในอ้อมอก ตอบด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “ฝัน”
“หา?” หลินเยียนอึ้ง “ฝันอะไร ฝันเห็นอะไรคะ”
“เธอ” เผยอวี้เฉิงตอบเรียบๆ
หลินเยียน “…” อะไรกันเนี่ย
“เธอขัดความฝันฉัน หรือว่าจะไม่ชดเชยเลยหรือไง” เผยอวี้เฉิงพูดต่อ
หลินเยียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทว่าริมฝีปากทั้งสองกลับถูกชายหนุ่มปิดผนึกเอาไว้ ราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ กระทั่งว่าหลินเยียนยังรับรู้ความร้อนระอุที่ส่งมาจากเผยอวี้เฉิงได้อย่างชัดเจน
หลินเยียนสมองขาวโพลนภายในชั่วพริบตา