บทที่ 1195 สูตรชานม
บทที่ 1195 สูตรชานม
ซูเสี่ยวเถียนถือเครื่องดื่มพลางครุ่นคิด ‘สูตรน้ำอัดลมใช้อะไรบ้างนะ?’
‘ไม่รู้ในระบบจะมีหนังสือแนะนำให้หรือเปล่า’
‘งั้นลองดูแล้วกัน’
หลายปีมานี้เธอได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง แต่ไม่ได้รู้ลึกซึ้งเท่าไร จึงไม่เชี่ยวชาญนัก ถือเป็นข้อเสียเปรียบครั้งใหญ่
เช่น จะทำอาหารแต่ดันลืมเครื่องดื่ม
เป็นเนื้อชิ้นโตเลยนะ ถ้าได้มันมาตระกูลซูจะก้าวไปอีกขั้นเลย
โดยเฉพาะในการแข่งขันที่แสนโหดร้าย เราถึงจะอยู่ยงคงกระพันได้อย่างแท้จริง
ซูเหล่าต้าและภรรยาไม่รู้ว่าหลานสาวคิดอะไร เพราะพวกเขาง่วนกับการทำอาหารให้เธออยู่
ซูเสี่ยวเถียนพักที่ฟาร์มหนึ่งคืน และทำความเข้าใจในสถานการณ์ของที่นี่
ถ้าพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน การพัฒนาจะถึงขีดจำกัดได้อีกแค่สิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
“ก่อนหน้านี้พ่อว่าจะเลี้ยงสัตว์เพิ่มเพื่อที่โรงงานจะได้สบายใจ แต่ไม่คิดว่าโรงงานหนูจะไปได้ไกลเกินกว่าจินตนาการไว้เสียอีก” ซูเหล่าต้าถอนหายใจ “พ่อกับแม่ใหญ่อายุมากขึ้นทุกวัน แรงทำไม่ไหวแล้วด้วย ต้องขอให้ฟาร์มอื่นมาร่วมมือกันช่วย”
ซูเหล่าต้ารู้สึกรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวถ่วง
ถ้าฟาร์มพัฒนาทันเท่าโรงงานคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้หรอก
“หนูว่าเราค่อย ๆ ทำดีกว่าค่ะ ฟาร์มไม่พอเราก็เพิ่มอีกเยอะ ๆ ได้นะ”
“แม่กับพ่อดูแลไม่ไหวหรอก ก่อนหน้านี้เป็นพะวงว่าถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวดูแลจัดการจะทำอย่างไร แต่พอเห็นว่ารองผู้อำนวยการเหลยทำไว้ดีก็เลยเปลี่ยนความคิดน่ะ”
ทีแรกนึกสงสัยว่าเหลยเกาเชาจะทุ่มเทให้โรงงานขนาดนั้นจริง ๆ หรือ
แต่ตอนนี้เหมือนจะไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว
เหลยเกาเชาบริหารโรงงานราวกับว่าเป็นกิจการตัวเองเสียอีก!
ถึงเสี่ยวเถียนจะไม่ได้มาดูแลบ่อย แต่เขาก็ไม่มีเจตนาแอบแฝงสักนิด
“คนที่พึ่งพาแต่ตัวเองหาเงินมันไม่ได้ง่ายหรอกค่ะ ยิ่งหาเงินเยอะก็ยิ่งยาก คนที่เก่งใช้แรงคนอื่นต่างหากถึงจะหาเงินได้เยอะ”
“ว่ากันว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของคนรวยในโลกไม่ได้หาเงินด้วยตัวเองหรอกค่ะ และสาเหตุที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้นั่นก็เพราะรู้จักใช้คน หากเราอยากได้เงินเยอะ ๆ อย่าคิดจะหาด้วยตัวเองอย่างเดียวค่ะ ต้องเรียนรู้การใช้จุดแข็งของคนอื่นนะคะ”
ซูเหล่าต้าไม่ค่อยเข้าใจ แต่ฟังดูแล้วมีเหตุผลดี
เหมือนจะเป็นวิธีที่เสี่ยวเถียนทำมาตลอดเลยนะ
เริ่มจากลงทุนเรื่องสูตรอาหารก่อน ที่จริงก็ได้คนอื่นช่วยด้วยนั่นแหละ และหลังจากนั้นทั้งสองโรงงานก็รับคนงานมาเพิ่ม
หลายปีที่ผ่านมาโรงงานเลยพัฒนาได้ต่อเนื่อง
ซูเหล่าต้าเป็นคนฉลาด เมื่อได้หลานสาวไขข้อข้องใจ เขาก็กระจ่างในที่สุด
ที่ฟาร์มขยายต่อไปไม่ได้ล้วนมีปัญหาจากพวกเราจริง ๆ
เราไม่เชื่อใจคนอื่น ทำทุกอย่างด้วยตัวเองจึงไล่ตามการพัฒนาไม่ทัน
“พ่อขอเวลาคิดแล้วกันนะ”
ซูเสี่ยวเถียนยิ้ม แต่ไม่ได้พูดหรือบังคับอะไร
สำหรับซูเหล่าต้า เขามีทุกอย่างพอแล้ว
เดินทางออกจากชนบท มาก่อร่างสร้างตัวในเมืองหลวง มีกิจการเป็นของตัวเองแค่นี้ก็น่ายกย่องเป็นไหน ๆ
และถ้าพัฒนาตัวเองได้ไวเท่าวิธีการของเสี่ยวเถียน เขาก็ไม่รังเกียจที่จะได้เรียนรู้
ซูเสี่ยวเถียนกลับมาบ้านในเย็นวันที่สอง
เธอเริ่มค้นคว้าเรื่องน้ำอัดลม
ความนิยมและรสชาติของเครื่องดื่มขวดเขียวจะต้องเกี่ยวข้องกัน
เธออยากพัฒนาให้เป็นรสชาติที่เหมาะกับรสนิยมของคนในประเทศ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
เธอไม่ใช่พวกอยากจะประสบความสำเร็จไว เพราะเธอรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องยากลำบาก
ดังนั้นจึงตัดสินใจให้เวลาค้นคว้ากับตัวเองหนึ่งปี
ถ้าจะทำขาย เราจะทำแค่รสชาติเดียวไม่ได้
เธออยากวิจัยรสชาติออกมาเยอะ ๆ แล้วลองขายออกตลาดให้ผู้คนตัดสินใจ
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว อีกอย่างที่จะได้รับความนิยมในยุคหลังคือชานม
เทียบกันแล้วชานมทำง่ายกว่าเยอะ
คงเพราะเป็นเครื่องดื่มทั่วไป มันเลยทำง่ายกว่า ทั้งยังไม่มีข้อกำหนดสำหรับผู้ผลิตที่สูงด้วย
ขอแค่อ้างอิงตามสูตรที่มีอยู่ ไม่ว่าใครก็ทำอร่อยออกมาได้ทั้งนั้น
เธอตัดสินใจริเริ่มขายชานมที่เมืองอาหารว่าง
ถ้าจะโปรโมตก็ต้องทำเป็นแก้วที่สามารถกินในพื้นที่เฉพาะ เนื่องจากยุคนี้ยังไม่มีการผลิตแก้วกระดาษจึงไม่สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้
ถึงซื้อกลับไม่ได้แต่เธอมั่นใจว่าจะขายออกแน่นอน
ดูได้จากร้านน้ำหวาน
แต่เพราะเธอต้องทำงานในกระทรวงด้วย เลยไม่สามารถสละเวลาไปดูแลร้านเองได้
แต่จะยอมแพ้ไม่ได้เช่นกัน จึงตามหาคู่หูที่เยี่ยมที่สุดของเธอ นั่นคือซูเสี่ยวซื่อ
ช่วงนี้เขายุ่งมาก แต่พอได้ข่าวน้องจะปรึกษาเรื่องสำคัญจึงไม่รอช้า
น้องมีความคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ และมันมีประโยชน์ต่อเขาด้วย
การประชุมครั้งนี้ต่างไปจากที่ชายหนุ่มคิดไว้มาก
น้องสาวทำให้ประหลาดใจจริง ๆ
แววตาแทบเป็นประกายเมื่อได้ยินเรื่องชานม
“พี่ว่าเราทำได้ไหม?”
“หัวไวมากเลยนะเสี่ยวเถียน คิดได้ยังไงเนี่ย?”
เขาดีใจจนเนื้อเต้น
ขนาดยังไม่เริ่มก็คาดเดาได้เลยว่า หากเปิดตัวขึ้นมามันจะกลายเป็นเครื่องจักรหาเงินแน่
“หนูไปเจอสูตรแล้วลองทำดูค่ะ รสชาติอร่อยดี เลยคิดว่าถ้าหนูชอบคนอื่นน่าจะชอบ”
เธอบอกไม่ได้อยู่แล้วว่าได้ความคิดมาจากไหน
อีกหลายสิบปีข้างหน้าทุกคนจะรู้จักกันหมด
ช่วงปี 90 ชานมจะปรากฏให้เห็นไปทั่วประเทศ
เธอเลยอยากลองขายก่อนจะได้รู้ว่าเข้าท่าไหม
ในอนาคตน้ำตาลจะเป็นของหาได้ทั่วไป ชานมรสหวานจะได้รับความนิยมด้วย ทว่ายุคนี้มันเป็นสิ่งที่หายาก เราเลยต้องทำขายออกมาเยอะ ๆ ไงละ
“เอาสูตรมา แล้วก็อิงตามกำไรสุทธิยี่สิบเปอร์เซ็นต์นะ!”
ซูเสี่ยวซื่อตอบรับอย่างรวดเร็ว
และข้อเสนอของเขาก็ตรงตามที่น้องสาวต้องการ
ถ้าไม่มีเวลาหาเงินก็ลงทุนเอาแล้วรอรับเงินพอ
“ตอนนี้ชานมทำได้แค่ซื้อกินที่ร้านเท่านั้น แต่ถ้าพี่สี่หาโรงงานผลิตแก้วพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งได้ ต้นทุนไม่สูงด้วยตลาดจะกว้างขึ้นค่ะ”
ชายหนุ่มไม่มีความคิดด้านนี้ แต่ถ้าน้องเสนอมาเขาก็แค่ลองทำ
“ไว้หาคนไปดู ต้องมีโรงงานผลิตบ้างแหละ”
เธอไม่ค่อยคาดหวังเท่าไร
ปัจจุบันมีการใช้พลาสติกเป็นจำนวนมหาศาล คงไม่มีใครยินดีเอามาผลิตแก้วหรอก
“ที่จริงมันมีอีกวิธีก็คือแก้วกระดาษค่ะ ประหยัดต้นทุนได้ด้วยนะ”
ซูเสี่ยวซื่อดีใจยิ่งกว่าเดิม
“ปะ เดี๋ยววันนี้พี่เลี้ยงข้าวเอง!”
ชายหนุ่มรู้สึกว่าเวลาแค่นี้ไม่พอให้เราคุยกัน
คุยระหว่างกินคงดีที่สุด
“วันนี้พี่ใหญ่ก็อยู่นะคะ ไปด้วยกันเลย!”
ซูเสี่ยวซื่อตอบตกลง
ยามซูโส่วเวินได้ยินแผนการอันยิ่งใหญ่ของน้อง ๆ ตนไม่รู้จะตอบสนองยังไงดี
เขารู้สึกไล่ตามยุคสมัยไม่ทันเสียแล้ว
เขาเข้าใจที่น้องคุยกันนะ ฟังออกด้วย แต่พอคุยด้วยกันแล้วดูฟังยากกว่าภาษาต่างประเทศล่ะเนี่ย?
ช่างเถอะ นั่งกินเงียบ ๆ ดีกว่า
ในไม่ช้าคนทั้งสองก็สรุปผลออกมาได้ในที่สุด
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูเตรียมรสชาติของชา ส่วนเรื่องดูผลตอบรับในตลาดก็ฝากพี่ด้วยนะ”
“มา ๆ ดื่มฉลองให้กับความสำเร็จในอนาคต!”
ชายหนุ่มถือแก้วน้ำอัดลม รอยยิ้มบนใบหน้าเรียกได้ว่ากรุ้มกริ่มสุด ๆ!
“ไม่น่าแปลกใจที่คนชอบพูดว่า ‘ไม่มีพ่อค้าคนไหนไม่ขี้โกง’!” ซูโส่วเวินส่ายหัว
น้องสี่เป็นคนที่คอยแสวงหาผลประโยชน์ตลอด
โชคดีที่น้องเล็กไม่ได้เป็นแบบนั้น!
ถ้าซูเสี่ยวซื่อได้ล่วงรู้ความคิดนี้ต้องเห็นแย้งแน่ ๆ
น้องเล็กยิ่งกว่านี้อีก ไม่เคยเห็นน้องหาเงินเก่งกว่าเขาหรือ?
หลังจากกินข้าวเสร็จทั้งสามก็แยกย้ายทำงาน
ซูเสี่ยวเถียนเริ่มใช้เวลาพักเตรียมสูตรชานม
ในเมื่อจะทำธุรกิจเราต้องมีชานมสูตรดั้งเดิมก่อน
พวกชานมที่เป็นต้นตำรับ ต้องมีเบสชาของชานมในทุก ๆ รสชาติ
สูตรของมันง่ายมาก ใช้ชาดำ น้ำ นม แค่นี้เอง
วิธีการง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง หากผสมได้เราก็จะมีชานมรสชาตินุ่ม ๆ ให้กินกัน
เมื่อมีเบสชานมแล้ว ต่อไปก็คือรสชาติ มีชานมคาราเมล ชานมบัวลอย ชานมถั่วแดง ชานมเผือก ชานมกุหลาบ และอีกหลายรสชาติ
เมื่อเทียบกับชานมทั่ว ๆ ไป ชานมคาราเมลต้องควบคุมความร้อน ไม่อย่างนั้นจะส่งผลต่อรสชาติของชามาก
เราอาจได้ชารสฝาดมาแทน
ส่วนชาชนิดอื่นดูซับซ้อน แต่โดยรวมไม่ได้ยาก
ส่วนชานมเฉาก๊วย ชานมข้าวโอ๊ตหมัก และอื่น ๆ เธอตัดสินใจว่าจะเลื่อนไปก่อน
หลังจากใช้เวลาเขียนสูตรให้พี่สี่เสร็จ ก็นั่งรอ
ซูเสี่ยวซื่ออ่านมันด้วยความไม่เข้าใจ
เขาไม่เข้าใจคำศัพท์เฉพาะเลย อย่างความร้อน ปริมาณที่เหมาะสม เดาว่าถ้าทำเองน่าจะพังก่อน ย่าก็อยู่ไม่ใช่หรือไง?
ให้ย่าทำไม่น่ามีปัญหานะ
เขาแค่จัดการเรื่องวัตถุดิบก็พอ
เมื่อเห็นรายการว่าต้องใช้นมในปริมาณมาก เขาก็เริ่มคิดแล้วว่าจะหาทางซื้อยังไงดี
มีแค่ร่วมมือกับคนผลิตถึงจะลดต้นทุนได้
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ปัญหา
เขาติดต่อไปยังฟาร์มโคนมเขตชานเมืองของเมืองหลวง แล้วสั่งในราคาโรงงาน
ถั่วแดงมีแล้ว ชาดำมีแล้ว เราสามารถซื้อในปริมาณเยอะ ๆ ได้
แต่พวกบัวลอย ไข่มุก และเผือกที่ไม่ได้ผลิตในเมืองหลวงอาจจะลำบากหน่อย
โชคดีที่เส้นทางการจัดซื้อของชายหนุ่มมีทั่วประเทศ เขาจึงซื้อวัตถุดิบเหล่านี้มาได้อย่างรวดเร็ว
สัปดาห์ที่สามเด็กสาวกลับบ้านมาอีกครั้ง แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าพี่ชายทำรสชาติชานมออกมาได้เหมือนมาก
ถึงพี่สี่จะไม่มีความสามารถด้านนั้น แต่เรายังมีคุณย่าซูอยู่
ท่านอยู่บ้าน เวลาว่าง ๆ จะทำอาหารใหม่ ๆ ออกมา
ชานมก็เป็นของใหม่เช่นกัน หญิงชราจึงสนใจมาก
ท่านศึกษาชาทุกรสชาติและยังทำชานมกึ่งสำเร็จที่แทบจะเหมือนกับสูตรที่หลานให้ไว้เป๊ะ
ถ้ามีส่วนผสมกึ่งสำเร็จรูปตัวนี้ แค่เราผสมง่าย ๆ ก็จะได้ชานมกลิ่นหอมเข้มข้นหนึ่งแก้วแล้ว
ซูเสี่ยวเถียนเห็นแล้วตกใจมาก
“คุณย่าคิดได้ยังไงคะ?”
ท่านทำให้ประหลาดใจได้เสมอเลย
เข้าใกล้การทำชานมผงแล้ว
มีชานมกึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคหลัง หน้าหนาวแบบนี้ใครจะไม่อยากถือแก้วอุ่น ๆ ไว้ในมือล่ะ?
คุณย่าซูยิ้มก่อนยื่นชานมถั่วแดงให้ “ลองดู ๆ อร่อยไม่อร่อย”
ซูเสี่ยวเถียนจิบ
สัมผัสนุ่ม กลิ่นหอมนมอบอวลในปาก เมื่อกินถั่วแดงที่ปรุงสุกเข้าไปจะมีสัมผัสกรุบ ๆ กลิ่นชาเข้มข้นก็น่าทึ่งมาก
ชานมสูตรต้นตำรับชนิดนี้ไม่เหมือนชาที่ทำในยุคหลัง ๆ นะ เพราะมันใช้วัตถุดิบแท้ ทำให้คนกินแล้วหยุดไม่ได้
“อร่อยมากเลยค่ะ!” แววตาเด็กสาวแทบเป็นประกาย
ราคาน่าจะสูงกว่าปกติ แต่รสชาติดีขนาดนี้ย่อมดึงดูดลูกค้าได้อยู่แล้ว!
“ถ้าคนจุกจิกเรื่องกินแบบหนูว่าอร่อยแบบนี้ เราต้องขายออกแน่นอน”
คุณย่าซูมั่นใจมาก
เมื่อเสี่ยวเถียนได้ยินแบบนั้นก็เงียบไป “…”
เธอไม่ได้จุกจิกสักหน่อย!
“แต่ย่าไม่ต้องลงแรงทำนะคะ เพราะถ้ามีตัวชานมเป็นพื้นฐานอยู่แล้วก็แค่หาคนมาเรียนรู้วิธีการทำก็พอค่ะ!”
เธอดื่มเสร็จก็ว่าต่อ
“ทำไมไม่ระวังแบบนี้ล่ะ? ถ้าคนอื่นเอาสูตรไปได้จะไม่เป็นการขโมยกิจการเอาหรือ?” หญิงชรามองด้วยสายตาโกรธ
หลานสาวเหมือนจะฉลาด แต่ใจกล้าจนไม่คิดจริงจังอะไรเลย
โชคดีที่ราชามังกรท่านเอ็นดู ก็เลยเป็นคนโชคดี ไม่อย่างนั้นคงโดนหลอกจนหัวหมุนแล้ว!