แต่ละวันของฉันเริ่มต้นจากการตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า
ล้างหน้าล้างตาให้ตื่น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดที่เหมือนกับชุดสูทไซส์เด็กที่ท่านโนอะหามาให้
ดูเหมือนจะเป็นที่ความชอบของท่านโนอะนะ ท่อนล่างถึงได้เป็นมินิสเกิร์ต แต่มันก็ทั้งเบาทั้งสบายจนน่าตกใจเลยล่ะ
หลังจากดื่มน้ำแก้วนึง ฉันก็ตรงไปที่ห้องครัวต่อ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณนีน่า”
“อาระ คุโระจัง อรุณสวัสดิ์นะ มื้อเช้าของคุณหนูใช่มั้ย?”
“ใช่ค่ะ ขอฝากด้วยนะคะ”
“โอเค”
คุณนีน่า เมดที่ฉันค่อนข้างสนิทด้วย เตรียมมื้อเช้าของท่านโนอะวันนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว
เพิ่มเติมไว้หน่อยแล้วกัน เธอเตรียมส่วนของฉันเอาไว้ด้วยนะ ถึงจะไม่ได้ของหรูหราขนาดท่านโนอะ แต่อาหารที่ฉันได้ก็ยังเป็นชิ้นเป็นอันอยู่ดี
“นี่จ้า ระวังอย่าทำหกนะ”
“ขอบคุณมากค่ะ ขอโทษนะคะ ต้องรบกวนทุกเช้าเลย”
“ไม่เป็นไรเลย เหนื่อยหน่อยนะ ต้องให้ช่วยดูแลคุณหนูแบบนี้น่ะ”
“อะ อะฮะฮะ…”
หลังจากที่เอาอาหารของพวกเราใส่รถเข็นเรียบร้อย ฉันก็เดินเข็นมันไปตามโถงทางเดิน
“โอ๊ะ คุโระจัง หวัดดียามเช้านะ”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตอนนี้ต้องไปทำสวนแล้วเหรอคะ?”
“อื้อ ถ้าไม่ทำทุกวันแล้วมันรู้สึกไม่สบายใจน่ะสิ”
“พยายามเข้านะคะ”
ระหว่างทาง ฉันก็เดินผ่าน แล้วก็ทักทายกับอีกหลายๆ คน
ตอนแรกที่ฉันมาถึงที่นี่ ฉันถูกมองเหยียดใส่ด้วยซ้ำ แต่เหมือนตอนนี้ พวกเขาจะคุ้นเคยกับฉันมากขึ้นแล้วนะ
ไม่สิ ฉันคิดว่าถ้าคุณหนูคนนั้นเป็นเหมือนลูกคุณหนูตระกูลขุนนางทั่วๆ ไป ฉันก็คงยังโดนเหม็นขี้หน้า โดนหันหลังใส่ในฐานะตัวซวยที่มีผมสีดำอยู่ดีนั่นแหละ
แต่ก็ ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายนะ ที่คุณหนูคนนี้ไม่ใช่คุณหนูธรรมดาๆ น่ะสิ
“คุโระ! ดูสิ! ฤดูฝนแบบนี้มีกบเยอะเลยล่ะ!”
“กรี๊ดดดดดด! เอามันกลับไปไว้ที่เดิมเดี๋ยวนี้เลยนะคะ!”
“คุโระ ห้องครัวบ้านนี้มันมีอะไรแปลกๆ ด้วยนะ ทั้งๆ ที่ฉันยังไม่ได้ทำอะไร มันก็ระเบิดเองเอาซะดื้อๆ เลย”
“ถ้าไม่ทำอะไรเลยแล้วมันจะระเบิดได้ยังไงล่ะคะ… นี่ท่านเคยเห็นใครเขาเอามันหวานเข้าไปอุ่นในเตาไฟตรงๆ เลยด้วยหรือไงกันคะ!? ใช้เครื่องครัวด้วยสิ แล้วถ้าท่านอยากทานล่ะก็ บอกฉันก็พอแล้วนะคะ!”
“คุโระ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์นี่น่ากลัวจริงๆ เลยนะ ฉันได้พิสูจน์เรื่องนี้ผ่านประสบการณ์ของตัวเองเลยล่ะว่าการกระทำที่ขาดความคิดไตร่ตรองสามารถนำไปสู่ผลสืบเนื่องอันใหญ่หลวงได้ขนาดไหน”
“นั่นคือคำแก้ตัวของท่านสินะคะ? ไม่ใช่ว่าฉันบอกท่านเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วเหรอคะว่าอย่ายิงเวทแสงสว่างเข้าไปในสวนแบบสุ่มสี่สุ่มห้าน่ะ? ฉันยังอธิบายไว้ด้วยว่าเวทมนตร์โจมตีสายแสงสว่างสามารถสร้างความร้อนสูงได้ ถึงได้เตือนไว้ว่าการยิงมันเข้าไปในสวนจะสามารถทำให้หญ้าติดไฟและเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมาได้ ทำไมท่านไม่ฟังบ้างเลยล่ะคะ!?”
“ม่า―ยอา―ว―! งานเข้าสังคมของพวกขุนนางน่ะเหรอ มันก็แค่พวกผู้ชายไร้สาระ มารวมตัวกันกินแต่อาหารไร้สาระ คุยกันแต่เรื่องไร้สาระ เต้นไปเต้นมากับเพลงไร้สาระ ทุกอย่างมีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น! มันก็แค่นั้นแหละ!?”
“เลิกดื้อแล้วก็ไปได้แล้วค่ะ ทำไมท่านถึงได้ทำตัวขี้เกียจใส่สิ่งที่ไม่ท่านไม่สนใจทุกทีแบบนี้ล่ะคะ!? มันมีทั้งความสัมพันธ์ระหว่างขุนนาง แล้วก็อะไรต่อมิอะไรอีกมากมาย เพราะงั้น รีบลุกจากเตียงได้แล้วค่ะ!”
ท่านโนอะเป็นคนที่แค่อยู่ตรงนั้น ก็สามารถดึงดูดผู้คนให้ตราตรึงใจได้แล้ว เป็นคนที่เปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์เลย
แต่ว่า พอปอกเปลือกนอกนี้ออก ท่านโนอะก็เป็นคนทั้งเห็นกว่าตัวทั้งโลภมาก โดยเฉพาะเรื่องขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ถูกปักป้ายไว้เลยว่า [อย่าทำ] นอกนั้น ท่านก็เป็นแค่คนขี้เกียจและชอบสร้างปัญหาอย่างไม่ลดละเท่านั้นเอง
ที่แย่กว่านั้นคือ ท่านโนอะขาดทักษะในการใช้ชีวิตอย่างมาก ขนาดที่ว่าถ้าฉันไม่ทำความสะอาดห้องของท่านอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งล่ะก็ ทุกอย่างมันก็จะเละเทะจนเป็นปัญหาเลย
ต้องทำงานภายใต้คำสั่งของเจ้านายแบบนั้น ฉันที่สามารถแสดงความเห็นต่อบุตรีขุนนางอย่างท่านโนอะได้ก็โผล่มา
ถึงฉันจะมีผมสีดำก็ตาม แต่การที่ฉันชี้ให้ท่านโนอะเห็นถึงการกระทำแต่ละอย่างของตัวเอง จะถูกมองว่าฉันเป็นคนที่มีเหตุมีผลหนักแน่นก็คงไม่แปลกอะไรหรอก
ทุกวันนี้ ฉันก็เริ่มทำให้เห็นกันว่าฉันเป็นเด็กสาวที่มีเหตุมีผลและขยันทำงานหนัก ที่ได้รับความเมตตาของคุณหนูเป็นครั้งคราว โดยที่มีข้อยกเว้นอยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ
ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันควรจะดีใจดีมั้ย แต่ยังไงตอนนี้ ถูกชอบก็ดีกว่าโดนเกลียดล่ะนะ ฉันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรหรอก
“ท่านโนอะคะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ ขอเข้าไปนะคะ”
พอมาถึงหน้าห้องของท่านโนอะแล้ว ฉันก็เคาะประตู ก่อนจะเปิดเข้าไป
ข้างในนั้น ทั้งหนังสือทั้งเสื้อผ้าต่างกระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งๆ ที่ฉันเพิ่งจะจัดระเบียบทำความสะอาดไปเมื่อวานนี้เอง
ด้านหลังห้องนั่น ท่านโนอะก็กำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้านวมห่มตัวอยู่
พอเดินเข้าไปใกล้ ฉันก็เห็นใบหน้าหายากที่ได้สัดส่วนเป็นอย่างดีได้เลย
(จริงๆ เลย ถ้าหลับอย่างสงบเงียบแบบนี้ ก็เป็นเด็กสาวสวยแล้วแท้ๆ…)
ถึงจะรู้อยู่แล้วก็เถอะ แต่ดูจากภายนอกแบบนี้แล้ว ก็ไม่อยากจะเชื่ออยู่ดีนะว่าท่านจะเป็นราชันแห่งจอมเวทย์หายาก [แม่มดทมิฬ] ฮารุ ที่ครั้งหนึ่งเคยเกือบจะครองโลกใบนี้ทั้งใบด้วยเวทมนตร์สายความมืดมาแล้วน่ะ
“ท่านโนอะค่ะ ตื่นเถอะค่ะ เช้าแล้วนะคะ”
“อืม~”
“อย่า อืม สิคะ ตื่นเถอะนะคะ เดี๋ยวอาหารเช้าจะเย็นซะก่อนนะ”
“งือ~”
“งือ ก็ไม่ได้ค่ะ ช่วยรีบตื่นด้วยเถอะนะคะ วันนี้มีตารางงานที่ต้องทำแน่นตั้งแต่เช้าเลย”
“ฟี้~”
“จะแกล้งทำเป็นหลับก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะคะ ฉันรู้ค่ะว่าท่านตื่นแล้ว”
“……ชิ”
ท่านโนอะลุกขึ้นจากเตียงอย่างอิดออด ก่อนจะไหลตัวออกมาจากผ้านวมอย่างสะลึมสะลือ
“ปัดโธ่ ท่านทำผมยุ่งอีกแล้วเหรอคะ นี่ท่านอาบน้ำเสร็จแล้วก็เข้านอนเลยทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เช็ดผมให้แห้งดีใช่มั้ยคะ?”
“ก็ ฉันง่วงนี่…”
“เดี๋ยวฉันจัดการแก้ให้เอง ระหว่างนี้ ทานมื้อเช้าก่อนเถอะนะคะ”
“หา~ว”
ถึงจะยังหาวไปขยี้ตาไป แต่ท่านโนอะก็เริ่มลงมือกินมื้อเช้าอย่างช้าๆ แล้ว
ฉันเดินอ้อมไปข้างหลัง แล้วก็ใช้หวีจัดระเบียบทรงผมให้ท่านโนอะไปด้วย
“วันนี้ ฉันฝันแปลกๆ ด้วยนะ”
“โห ฝันว่ายังไงเหรอคะ?”
“ยังไงไม่รู้นะ แต่มีกลุ่มคนมหาศาลเลยพากันวิ่งพุ่งเข้ามาหาฉัน แต่คุโระ เธอยืนขวางทางเจ้าพวกนั้นไว้ แล้วก็จัดการเชือดเจ้าพวกนั้นเหี้ยนหมดเลย”
“แล้วฝันนั้นมันแปลกยังไงเหรอคะ?”
แปลกจัง
เพื่อท่านโนอะ ฉันทำให้ท่านถึงขั้นนั้นได้อยู่แล้วล่ะ
“เปล่า จุดที่แปลกน่ะคือ ไม่ใช่คุโระน่ะ คนที่อยู่กับฉันยังมีอยู่อีก 4 คน”
“โอ้โห”
“ฉันจำหน้าหรือเพศของใครไม่ได้เลย แต่รู้สึกได้เลยว่าพวกนั้นมีอะไรบางอย่างที่น่าจดจำตราตรึงอยู่ในใจน่ะ”
“อาจจะเป็นฝันทำนายก็ได้นะคะ อาจจะเป็นสัญญาณว่าเราเจอใครบางคนที่มีเส้นผมหายากในอีกไม่นานก็ได้”
“แบบนั้นก็ดีนะ แต่ฉันไม่เชื่อเรื่องฝันทำนายเท่าไหร่หรอก”
“โห ทำไมล่ะคะ?”
“เมื่อชาติก่อนตอนที่ฉันเป็นฮารุ ฉันฝันถึงการครองโลกนี้ และทำให้ทุกสรรพสิ่งต้องคุกเข่าศิโรราบต่อหน้าฉัน แล้ววันรุ่งขึ้น รูชก็เปิดฉากโจมตีเลย”
“ไม่หรอกค่ะ ฉันว่านั่นน่าจะเป็นฝันที่แสดงความต้องการของท่านโนอะเองมากกว่านะคะ”
หลังจากจัดแจงทรงผมของท่านเรียบร้อย ฉันก็กินข้าวเช้าของตัวเอง แล้วก็เอาทุกอย่างเก็บกลับรถเข็น จากนั้น ฉันก็ไปแต่งตัวให้ท่านโนอะต่อ
คนคนนี้เนี่ย แค่แต่งตัวดีๆ ยังทำเองไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ละสายตาจากท่านไม่ได้เลยเนี่ย
“นี่ อย่าขยับสิคะ”
“อูว อึดอัดชะมัดเลย ฉันบอกไปหลายครั้งแล้วนะว่าฉันไม่ชอบอะไรก็ตามที่มาจำกัดการเคลื่อนไหวของฉันแบบนี้น่ะ”
“ตราบใดที่ยังจำเป็น ฉันก็จะยังพูดซ้ำตามเดิมอีกค่ะ โปรดอดทนเอาไว้ด้วยนะคะ ตอนนี้ท่านเป็นขุนนาง และยิ่งกว่านั้น ยังเป็นบุตรีของเจ้าผู้ครอบที่อีกด้วย ท่านต้องคงรูปลักษณ์ที่สง่างามตามเหมาะสมเอาไว้ค่ะ”
“คุโระ นายเหนือหัวของเธอคือใคร?”
“ท่านโนอะค่ะ”
“แล้วทั้งที่นายเหนือหัวของเธอบอกว่าไม่ชอบ เธอก็ยังจะให้ฉันทำอีกงั้นเหรอ?”
“เด็กๆ นั้นเป็นคนเพียงกลุ่มวัยเดียวที่จำเป็นต้องเชื่อฟังและว่านอนสอนง่ายค่ะ พยายามใช้คำพูดในการหลบเลี่ยงแบบนั้น ไม่ได้ผลกับฉันหรอกนะคะ”
“เธอไม่ใช่เด็กหรือไงเนี่ย”
“…ยังไงก็ตาม ได้โปรดอย่าทำตัวเห็นแก่ตัวเลยค่ะ เพราะงั้น โปรดยอมรับในจุดนี้ด้วย”
“เอ๋—”
ท่านโนอะที่ไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้กลับชาติมาเกิดจากต่างโลกพยายามจะใช้คำพูดอันสมเหตุสมผลอย่างสมบูรณ์กับฉันแล้ว ฉันก็เบี่ยงตัวหลบมันได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะแต่งองค์ทรงเครื่องท่านโนอะจนงดงามเรียบร้อย
“เอาล่ะ เท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว ไปกันเถอะค่ะ”
“นี่ คุโระ วันนี้ฉันขี้เกียจจัง ไปห้องสมุดใหญ่ด้วยกันดีมั้ย?”
“ไม่ได้ค่ะ โปรดทนเอาไว้จนกว่าจะถึงตอนเย็นด้วย”
ฉันเปิดประตูห้อง พาท่านโนอะที่สีหน้าบอกบุญไม่รับออกมาด้วย
เอาล่ะ มาเริ่มต้นอีกวันนึงกันเถอะ
TN: เก่งมากจ้า คุโระจัง เจอขนาดนี้แล้วยังไม่ประสาทกินเนี่ย 555
มีแค่เวทแสง เวทมืด แถมทั้งคู่ก็ยังเป็นเด็ก 5 ขวบอยู่เลย คงต้องหาใครซักคนมาร่วมกันในปาร์ตี้แม่มดคิดครองโลกนี้ซะแล้วสิ
ใบ้ว่า ใครจำได้ว่าคนไหนผมสีฟ้าก็นั่นแหละครับ ^^