บทที่ 1193 ใกล้จะเปิดตัวโครงการใหม่
บทที่ 1193 ใกล้จะเปิดตัวโครงการใหม่
หลี่อิงฟาทำตัวปกติมาก แม้จะรู้ว่าตัวเขากำลังทำผิดอยู่!
ขณะตอบ เขาก็จ้องไปที่รองอธิบดีลู่อย่างระมัดระวัง
ทุกคนรู้กันดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนช่างสังเกต เขาเลยมองเห็นอะไรแปลก ๆ จากท่าทางของหลี่อิงฟา
“สิ่งที่คุณพูดก็ดูสมเหตุสมผลนะ งั้นพาพยานเข้ามา ผมจะฟังด้วยตัวเอง”
ว่าจบ ลู่หงฟางก็คว้าเก้าอี้ออกมาทรุดตัวนั่ง
ในสวนเล็ก ๆ แห่งนี้มีสถานที่ร่มเยอะแยะ
ส่วนคนอื่น ๆ ยืนต่างตากแดด
หลี่อิงฟาเป็นคนอ้วน เขาย่อมทนร้อนไม่ไหวยืนได้แค่สองสามนาทีก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลมแล้ว
ทว่ารองอธิบดีลู่อยากได้พยาน เลยทำได้แค่รับคำสั่งมาเท่านั้น
หลังจากเตรียมการเสร็จ เขาเห็นลู่หงฟางยังนั่งนิ่งจึงเอ่ยด้วยความระมัดระวัง “ข้างนอกร้อนมากนะครับ เราเข้าไปนั่งดื่มชาสักหน่อยไหมครับ?”
“ผมไม่ร้อน รออยู่ข้างนอกนี่แหละ เข้าสถานีไปคนก็เยอะอากาศไม่ค่อยถ่ายเท!”
หลี่อิงฟาโกรธแทบตาย
คนเยอะเลยอากาศไม่ค่อยถ่ายเท?
ก็ไม่ต้องให้คนอื่นเข้าไปสิ
มีกันสองคนจะไปแย่ได้ยังไง
ทว่าเจ้าตัวก็ไม่ได้พูดออกไป และทำได้เพียงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าขมขื่น
ฉืออี้หย่วนยืนอยู่ไม่ไกล บรรยากาศที่ร่มรื่นทำให้เขาสบายใจไม่น้อย
ไม่นานก็เห็นตำรวจสองคน และผู้หญิงอีกสองคนเดินเข้ามา
เป็นเหยื่อคนเมื่อวานหรือ?
น่าผิดหวังจริง ๆ
ไม่แปลกใจที่เหยาอู่มันทำตัวมั่นใจได้ขนาดนั้น
ถึงจะไม่ได้เป็นนักกฎหมาย แต่คำให้การของพยานสองคนก็สำคัญมาก
เมื่อคืนเห็นว่าพวกเธอไม่เป็นไรเลยไม่ได้พามาเป็นพยาน
ถ้าแบบนั้นจะมีคนยินดีให้ความช่วยเหลือผู้อื่นหรือเปล่า
สองสาวเห็นฉืออี้หย่วนแล้ว
พวกเธอรู้ดีว่าชายหนุ่มคือคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้
ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือ ไม่รู้เรื่องว่าเมื่อคืนเรื่องราวจะดำเนินไปถึงไหน
ทว่าคนของเหยาอู่กับพบตัวเราเสียก่อน
ทั้งขู่ว่าถ้าไม่โกหกคำให้การ จะลงมือกับครอบครัวของพวกเธอ
สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นโลกกว้างย่อมรู้สึกว่าเป็นคำขู่ที่อันตรายอยู่แล้ว
ถึงจะไม่เต็มใจแต่มันทำอะไรไม่ได้
“พี่อิง เราจะทำยังไงกันดี?” คนอายุน้อยกว่าถาม
เธอไม่อยากทำร้ายใคร แล้วชายหนุ่มคนนั้นต้องโชคร้ายเพราะช่วยพวกเราเอาไว้ แล้วถ้าเราทำตามที่เหยาอู่ขอจะไม่กลายเป็นคนร้ายเอาหรือ?
เมื่อคืนได้ยินว่าเหยาอู่เหมือนจะชอบเด็กคนที่สวย ๆ นั่นด้วย เลยบอกให้พวกเราให้การเท็จ
หญิงสาวที่อายุมากกว่า “พูดความจริงกันเถอะ จะทำร้ายคนอื่นเพราะกลัวตัวเองโดนทำร้ายไม่ได้นะ!”
แววตาเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ถ้าเราไม่ทำตายก็คงเจ็บตัว แต่ถ้าทำตามสองคนนั้นคงซวยแน่
ฉืออี้หย่วนไม่ได้คาดหวังเท่าไร
มีโอกาสทั้งทีใคร ๆ ก็อยากหลีกเลี่ยงทั้งนั้น
เหยาอู่คงพยายามมากแน่ ๆ ที่ทำให้พวกเธอมาเป็นพยานสินะ
รองอธิบดีลู่มองสองสาวที่หน้าตาดูเป็นกังวล เลยยิ่งรู้ว่าเหตุผลที่มาเป็นพยานให้คงไม่ธรรมดาแน่ ๆ
“พวกคุณชื่ออะไรกันบ้าง?”
ไม่ทันให้หลี่อิงฟาเอ่ย รองอธิบดีลู่ก็ถามก่อน
เขาถามด้วยความจริงจัง แต่กลับทำให้สองสาวกลัว
ทว่ายังคงตอบด้วยความระมัดระวัง
“ฉันชื่อซวี่จื่ออิงค่ะ ส่วนคนนี้ชื่อหลี่ซิ่วเหอ เมื่อวานหลังจากเดินซื้อของเสร็จก็หาอะไรกินที่ตลาดนัดค่ะ…”
น้ำเสียงเธอติดสั่น แต่ซวี่จื่ออิงยังมีสติมากแล้วค่อย ๆ บอกเรื่องราว
หลี่อิงฟารู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ไอ้สารเลวเหยาอู่มันเชื่อไม่ได้จริง ๆ นี่คือเรื่องราวที่ตกลงกันไว้หรือ?
สองคนนี้ไม่ได้มาเพื่อช่วยเป็นพยานชัด ๆ แต่มาเพื่อกำจัดเขา!
ยามนึกถึงคนรักที่บ้าน เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยให้พูดต่อ
“พูดจาอะไรของพวกเธอ? ฉันขอแนะนำให้พูดดี ๆ นะ อย่าลืมว่าพ่อแม่อยากให้พวกเธอเป็นคนซื่อสัตย์!”
ความมั่นใจที่สร้างมาถล่มทลายในทันที
เธอดูสับสนและหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดต่อ
“หลี่อิงฟา เล่นตุกติกอะไรอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ!” รองอธิบดีลู่โกรธจัด
ขนาดอยู่ต่อหน้ายังกล้าข่มขู่พยานขนาดนี้ รู้เลยว่าสันดานเป็นยังไง
ฉืออี้หย่วนตกใจมาก
นึกว่าพวกเธอจะยอมจำนนต่อความเป็นจริงเสียอีก
ไม่นึกเลยว่าจะกล้าเผชิญหน้าเช่นนี้!
หลี่อิงฟาใช้ร่างอ้วน ๆ โค้งคำนับ แล้วยิ้มประจบ
“เข้าใจผมผิดแล้วครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะข่มขู่เสียหน่อย แค่เห็นว่ายังเด็กเลยอยากให้คำแนะนำน่ะ”
“หุบปาก ขืนยังพูดอีกอย่าหาว่าไม่เตือนนะ!”
ด้วยนิสัยรองอธิบดีลู่ เขาจะแข็งแกร่งแต่ไม่มีทางปฏิบัติต่อลูกน้องในทางที่ไม่ดีหรอก
แม้อีกฝ่ายจะไม่ใช่มนุษย์ก็ยังให้ความเคารพ
ส่วนหลี่อิงฟาเคยชินกับการทำตัวโอหัง คิดว่าลู่หงฟางจะเหมือนตัวเอง
พอได้ยินเช่นนั้นจึงตกใจกลัวขึ้นมา
แม้จะอยากเอาเหยาอู่ออกมา แต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องยอมแพ้
มีแค่การทำให้ตัวเองปลอดภัย เหยาอู่ถึงจะปลอดภัย
รองอธิบดีลู่ฟังสองสาวว่าต่อ
ยิ่งฟังสีหน้าลู่หงฟางก็ยิ่งเข้มขึ้น ในขณะที่หน้าผากหลี่อิงฟามีแต่เหงื่อผุดพราย
“ผมผิดไปแล้วครับรองอธิบดีลู่ ผมไม่สนิทกับเหยาอู่เลย แค่รู้จักเฉย ๆ ไม่รู้เลยว่าเขาจะทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้”
“ไม่สนิท?” ลู่หงฟางร้องเหอะ
รบทั้งทีไม่เตรียมตัวได้ยังไง เขาใช้เวลาสั้น ๆ ก็ทำความเข้าใจสถานการณ์แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างเหยาอู่และหลี่อิงฟาไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
หลายวันก่อน เขาเพิ่งได้ยินคนบอกว่าหลี่อิงฟาไปโวยวายที่บ้าน บีบบังคับภรรยาหลวงและลูกสาวให้ตาย เพราะลูกชายนอกสมรสของตัวเอง
เรื่องนั้นจัดการพร้อมกับเรื่องวันนี้เลยแล้วกัน
ขยะแบบนี้ไม่มีอยู่ในกองตำรวจหรอก!
หลี่อิงฟาไม่ได้รู้เลยว่ากำลังจะโดนจัดการ เขายังคิดหาทางพาเหยาอู่ออกจากห้องขังหลังตัวเองพ้นอันตรายและข่าวซาลง
ทว่าไม่ต้องรอถึงวัน
เรื่องผิดกฎหมายที่ตัวเขาได้กระทำไว้ รวมถึงเรื่องที่เหยาอู่เรียกว่าพี่เขยถูกเปิดโปงจนหมด
รวมถึงเรื่องที่หลี่อิงฟามีชู้พร้อมให้กำเนิดลูกชายอีกคน แล้วก็เรื่องซื้อบ้านให้เธอล้วนโดนเปิดเผยจนหมด
ไม่ใช่แค่นี้นะ เวลารองอธิบดีลู่จะลงมือจัดการอะไร เขาจะขุดคุ้ยมันจนหมด รวมถึงคนที่หนุนหลังหลี่อิงฟาด้วย
เฉินจื่ออันได้เตรียมการเป็นพิเศษเพื่อปกป้องคนจากความชั่วร้ายพวกนี้ หากสืบเจอใครก็จะจัดการจนสิ้น
มีคนแนะนำเขาว่าอย่าเข้าไปยุ่ง ไม่อย่างนั้นอาจโดนแว้งกัด
แต่เฉินจื่ออันเป็นคนแข็งแกร่ง และเพราะตัวลู่หงฟางเองก็กำลังจะโยกย้ายตำแหน่ง จึงหมายจะถอนรากถอนโคนอำนาจมืด ทำให้สังคมในลี่เฉิงมีแต่ความสงบสุข
เขาไม่อยากให้ประชาชนตำหนิตามหลังเมื่อย้ายไปแล้ว
เพราะงั้นจึงสร้างคุณประโยชน์เอาไว้
ฉืออี้หย่วนไม่ได้สนใจเรื่องนั้นอีก เขาในตอนนี้สนใจแต่เรื่องซูเสี่ยวเถียนที่กำลังจะกลับเมืองหลวง
เมื่อจะแยกทางพวกเขาดูลังเล
อีกคนหนึ่งที่ไม่อยากให้พี่สาวกลับคือเฉินซิ่วหย่วน
เด็กชายชอบพี่สาวคนนี้มาตั้งแต่เด็ก และเชื่อฟังมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อก่อนยังได้เจอกัน แต่หลัง ๆ มานี้มีโอกาสเจอกันน้อยลงมาก
ซูหม่านซิ่วไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกชายถึงชื่นชอบเสี่ยวเถียนขนาดนั้น
“ซิ่วหย่วนต้องเชื่อฟังนะ ไว้วันหยุดค่อยมาหาพี่ที่เมืองหลวงเข้าใจไหม? พอถึงตอนนั้นพี่จะพาไปซื้อของเล่น และไปกินของอร่อย ๆ เอง”
เสี่ยวเถียนทำได้เพียงโน้มน้าวเขาเท่านั้น
เด็กชายรู้ดีว่า ไม่ว่าจะรั้งแค่ไหนยังไงพี่เขาก็ต้องกลับ
โชคดีที่แม่บอกว่าเราจะได้ไปเมืองหลวงแล้ว จึงมีโอกาสได้พบกันอีก
การทำงานในครั้งนี้ซูเสี่ยวเถียนทำหน้าที่ได้ดีมาก เธออำนวยความสะดวกระหว่างฝ่ายคณะผู้แทนและลี่เฉิงอย่างดี
ผู้นำมีความสุขมากจนมอบรางวัลให้กับพวกเสี่ยวเถียนเป็นการพักผ่อนสามวัน
เด็กสาวพักอยู่วันหนึ่ง หลังจากนั้นก็เดินทางไปโรงงาน
ตอนนี้สาขาที่เมืองหลวงไม่ไช่โรงงานขนาดเล็กอีกต่อไป
เรามีการขยายอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งมีไลน์ผลิตทั้งหมดแปดสายแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังผลิตสินค้าไม่ทันอยู่ดี
เพราะเราสามารถส่งออกขายต่างประเทศได้ คนในประเทศจึงสนใจมากขึ้น
แล้วรสชาติของหลู่เซียงเซียงก็อร่อยมาก
ช่วงนี้เหลยเกาเชารายงานให้เธอฟังว่า เขาจะเพิ่มไลน์ผลิตอีกสองสายเพื่อผลิตแฮมแท่งเป็นพิเศษ
ซูเสี่ยวเถียนมองว่าเป็นความคิดที่ดีเลยให้คำแนะนำ ก่อนปล่อยเขาไปศึกษาต่อ
ไส้กรอกแฮมเป็นผลิตภัณฑ์ที่อยู่ยงคงกระพันหลายสิบปี และได้รับความนิยมอยู่เสมอ
มันมีหลายประเภทเลย ไม่ได้มีแค่ไส้กรอกหมูด้วย
หลังจากเดินเข้าโรงงานก็ได้ยินว่าแผนกวิจัยพัฒนาไส้กรอกแฮมสำเร็จรูปได้สำเร็จแล้ว
เหลยเกาเชามีความสุขมาก เขาเตรียมโทรหาเจ้านาย แต่เห็นเธอเดินทางมาเสียก่อน
“เจ้านายทราบว่าจะมีข่าวดีใช่ไหมครับเลยเดินทางมาฉลองถึงที่เลย?”
เขาตื่นเต้นมาก
“ถ้าอย่างนั้นคงต้องขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ” ซูเสี่ยวเถียนยิ้ม
เหลยเกาเชาเอ่ย “ผมสิครับที่ต้องเป็นฝ่ายแสดงความยินดี”
“เรื่องนี้ค่อยว่ากันค่ะ ไปดูสินค้าก่อนดีว่า ถ้าไม่มีปัญหาจะได้ขายออกตลาดได้”
เมื่อนึกย้อนกลับไปในความทรงจำของชีวิตครั้งที่แล้ว เหมือนว่าช่วงนี้จะยังไม่มีจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ ส่วนชิ้นแรกน่าจะปรากฏที่เสิ่นเฉิง
หากหลู่เซียงเซียงคว้าโอกาสนี้ไว้ได้ พวกเขาคงสร้างรายได้ได้มหาศาล
“จากข้อมูลวิจัยไม่มีปัญหาด้านการผลิตในจำนวนเยอะครับ ตอนนี้เรามีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่เพิ่งออกมาด้วยครับ เจ้านายลองชิมและติชมได้เลยครับ!”
ระหว่างนั้นก็ส่งคนไปจัดเตรียมมา
ชีวิตนั้นเธอจนมาก กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและไส้กรอกแฮม
ส่วนชิ้นนี้คือชิ้นแรกของชีวิตครั้งใหม่
เป็นของจริงแท้แน่นอน
สัมผัสของเนื้อเด่นชัด เคี้ยวหนึบ อร่อย สอดคล้องกับคำขวัญของหลู่เซียงเซียงที่ว่าคุณภาพต้องมาก่อน
“ดีมาก อร่อยมากเลยค่ะ ติดอยู่นิดเดียวคือถ้าเพิ่มรสชาติเข้าไปอีกจะได้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดมากขึ้นนะคะ”
ส่วนการเตรียมการสำหรับโรงงานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสร็จสิ้นแล้ว และจะเริ่มการผลิตในเดือนหน้า
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอกแฮม กับไข่ต้มตุ๋นล้วนแต่เป็นเมนูที่ต้องมีติดบ้าน!
ซูเสี่ยวเถียนคิดไปถึงเรื่องที่ว่าการประชาสัมพันธ์ควรเน้นไปในทางไหนดี
ถึงสินค้าจะดีแต่คนบริโภคมีน้อย เราก็ต้องทำการสำรวจตลาดต่อไป
ในช่วงสองปีที่ผ่านมามาตรฐานค่าครองชีพของประชาชนดีขึ้นเยอะ เธอเชื่อว่าหลาย ๆ คนยินดีจ่ายเงินเพื่อพัฒนาชีวิตตนเองแน่นอน
ถ้าได้คนกลุ่มนี้มา แทบจินตนาการไม่ออกเลยว่าการพัฒนาในอนาคตจะรุ่งเรืองได้ขนาดไหน!