จอมศาสตราพลิกดาราบทที่ 442 ผลทารก

บทที่ 442 ผลทารก

“เข้าไป​ดูก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​”

หมิง​เยวี่ย​อดรนทนไม่ไหว​

หยวน​โห่​ว​เดิน​เข้าไป​ผลัก​ประตู​

เขา​บำเพ็ญ​วิชา​ปา​จิ่ว​เสวียน​มา พูด​ได้​ว่า​มีพละกำลัง​แห่ง​เทพ​ สามารถ​ขยับ​ขุนเขา​เคลื่อนย้าย​หน้าผา​ได้​ มีพลัง​กาย​เนื้อ​รอง​ลงมา​จาก​หลี่​มู่เท่านั้น​ ทว่า​เมื่อ​สอง​มือ​ทาบ​บน​ห่วง​ประตู​ ไม่ว่า​จะออกแรง​สัก​เท่าใด​ บานประตู​กลับ​ไม่ขยับ​แม้แต่น้อย​ ใช้แรง​จาก​การ​ดื่ม​นม​จน​หมด​ ก็​ยัง​ไม่สามารถ​ผลัก​ประตู​ให้​เปิด​ออก​ได้​

“ไม่ไหว​ ประตู​บาน​นี้​มีวิชา​เต๋า​ปิดผนึก​ไว้​” หยวน​โห่​ว​สั่น​ศีรษะ​ เขา​เปิด​ไม่ออก​

“อ๋า​? พี่​วานร​ไหว​ไหม​เนี่ย​” หมิง​เยวี่ย​หัวเราะ​คิกคัก​เอ่ย​ต่อ​ “ให้​ข้า​ลองดู​หน่อย​”

มือ​เล็ก​ทาบ​ลง​บน​ประตู​

ก็​ไม่รู้​ว่า​ตาลาย​หรือ​อย่างไร​ ทุกคน​ล้วน​รู้สึก​ว่า​ขณะที่​มือ​ขาว​นุ่ม​เล็ก​บาง​ของ​หมิง​เยวี่ย​ทาบ​ลง​บน​บานประตู​ใหญ่​ของวัด​ห้า​แผ่นดิน​ เหมือนกับ​มีแสงกระแส​วน​เป็น​ชั้น​ขึ้น​รางๆ​ ส่องสว่าง​และ​หาย​ไป​ในทันที​

เอี๊ยด​!

ประตู​ใหญ่​เปิด​ออก​ด้วยตัวเอง​แล้ว​

“อะไร​กัน​?” หยวน​โห่​ว​ถลึงตา​จน​แทบจะ​ระเบิด​

ห​มิ่งเยวี่ย​ลิงโลด​ขึ้น​ทันที​ หันหน้า​กลับมา​อวด​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ “พี่​วานร​ พี่​ไม่ไหว​แล้ว​นา ข้า​แค่​ผลัก​เบา​ๆ ประตู​ก็​เปิด​ออก​แล้ว​เนี่ย​”

ชิงเฟิงราวกับ​ครุ่นคิด​อยู่​

ทั้ง​สี่คน​เข้าไป​ด้านใน​ประตู​ใหญ่​ ห้องหับ​เรือน​หน้า​ของ​อุทยาน​เรียง​เป็นระเบียบ​ ล้วน​สร้าง​จาก​อิฐ​และ​กระเบื้อง​ ค่อนข้าง​มีอายุ​ เมื่อ​เดิน​เข้าไป​ มีทั้ง​สวนผัก​ สวนผลไม้​ และ​ยังมี​พื้นที่เพาะปลูก​ เรียง​อย่าง​เป็นระเบียบ​ บ่อน้ำ​นับ​สิบ​วาง​อยู่​หัว​แป​ลงนา​ เต็มไปด้วย​กลิ่นอาย​แห่ง​ชีวิต​

“ที่นี่​เป็น​วัด​เต๋า​แห่ง​หนึ่ง​ และ​เคย​รุ่งเรือง​อย่าง​มาก​ใน​ช่วง​หนึ่ง​”

ชิงเฟิงมอง​แล้ว​ ตัดสิน​พิจารณา​ขึ้น​ใน​ใจ

สิ่งปลูกสร้าง​ด้านใน​อุทยาน​ สอดคล้อง​กับ​ความ​เร้นลับ​แห่ง​ฮวงจุ้ย​ ต่อให้​เป็น​เพียง​บ่อ​น้ำหนึ่ง​บ่อ​ กระเบื้อง​หนึ่ง​แผ่น​ ล้วน​มีความหมาย​ใน​การ​คงอยู่​บน​พื้นที่​นั้น​ทั้งสิ้น​ ชิงเฟิงเพียงแค่​มอง​ ก็​รู้สึก​ว่า​ทั่ว​ทั้งตัว​ได้​ตก​เข้าไป​อยู่​ใน​พลังงาน​แห่ง​ความลี้ลับ​บางอย่าง​

“ทำไม​รู้สึก​เหมือนเคย​รู้จัก​ที่นี่​เลย​” หมิง​เยวี่ย​สังเกต​ส่วน​ใน​อุทยาน​นี้​อย่าง​แปลก​ๆ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “พี่​ชิงเฟิง พี่​รู้สึก​เหมือนกัน​ไหม​?”

ชิงเฟิงพยักหน้า​ “รู้สึก​เหมือนเคย​เห็น​ใน​ความฝัน​”

หมิง​เยวี่ย​เอ่ย​ขึ้น​อย่าง​ตกตะลึง​ “ใช่แล้ว​ใช่แล้ว​ ข้า​ก็​รู้สึก​ เหมือนกับ​เคย​ฝัน​เห็น​ฉาก​ใน​นี้​บางส่วน​ นี่​มัน​แปลกประหลาด​จริงๆ​”

หยวน​โห่​ว​ไม่พูด​อะไร​

แต่​ใน​ใจของ​เขา​ ก็​เหมือน​มีความใกล้ชิด​จางๆ เช่นกัน​ ลักษณะ​สิ่งปลูกสร้าง​ การ​จัดวาง​รอบ​ๆ ทำให้​เขา​รู้สึก​สบาย​เป็นอย่างมาก​

หวา​งซืออวี่​กลับ​ไม่ได้​รู้สึก​มากมาย​เช่นนั้น​

นาง​พยายาม​ทวน​ความจำ​เรื่อง​ที่​เกี่ยวกับ​วัด​ห้า​แผ่นดิน​ใน​ไซอิ๋ว​ฉบับ​เก่า​ที่​ตนเอง​เคย​ดู​มาอยู่​ตลอด​ใน​หัว​ หวัง​ว่า​จะสามารถ​ยืนยัน​กับ​อุทยาน​ที่​เห็น​อยู่​ตรงหน้า​นี้​ได้​ และ​หา​ตำแหน่งที่ตั้ง​ของ​ต้น​โสมมนุษย์​

ตลอด​การ​เดิน​มาของ​ทั้ง​สี่ภายใน​อุทยาน​ ได้​เห็น​ห้อง​สงบใจ​ ห้อง​ฝึก​ตัน​ ห้อง​ฝึก​ฌาน​เป็นต้น​ เรียง​กัน​สวย​และ​สงบเงียบ​ ไม่มีฝุ่น​แม้เพียง​น้อย​ และ​ไม่มีพวก​ห​ยาก​ใย่​แมงมุมอีกด้วย​ ราวกับว่า​ทุกวัน​มีคน​มาคอย​ทำความสะอาด​อุทยาน​แห่ง​นี้​

ทว่า​ตลอด​ที่​เดิน​มา ไม่พบ​กับ​ผู้ใด​เลย​

บน​ชั้น​หนังสือ​ของ​ห้อง​ฝึก​ตัน​ ห้อง​ฝึก​ฌาน​บางส่วน​ล้วน​ว่างเปล่า​

ทั่ว​ทั้ง​วัด​ห้า​แผ่นดิน​ล้วน​ว่างเปล่า​ ไม่พบ​คน​ ไม่พบ​สิ่งของ​ใดๆ​ มีเพียง​ห้อง​ว่าง​ๆ เท่านั้น​

ห้อง​เต๋า​เรียง​เป็นชั้นๆ​ กว่า​ร้อย​ห้อง​

วิหาร​เต๋า​ที่อยู่​ใน​กลาง​สุด​ใหญ่โตมโหฬาร​ แบ่ง​เป็น​เจ็ด​ชั้น​ บน​กำแพง​ด้านหน้า​ มีอักษร​ใหญ่​สอง​ตัวเขียน​ไว้​ว่า​ ‘ฟ้าดิน​’ ลายมือ​หม่น​ๆ มีไว้​เพื่อ​เซ่นไหว้​บูชา​เทพเจ้า​ แต่กลับ​ไม่มีเชื้อเพลิง​ใดๆ​ ด้านใน​กระถางธูป​ มีเขม่า​ธูป​อยู่​ครึ่ง​กระถาง​ กลิ่นหอม​จรุง​

ชิงเฟิงที่นั่ง​อยู่​บน​รถเข็น​พิจารณา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ใจสั่น​กึก​ บอก​กับ​หมิง​เยวี่ย​ว่า​ “กระถางธูป​นี้​ เจ้าติด​ไป​ด้วย​เถอะ​ เขม่า​ธูป​ด้านใน​ก็​ไม่ต้อง​เท​ทิ้ง​ รู้สึก​เหมือน​จะนำมา​ใช้ประโยชน์​ได้​”

หมิง​เยวี่ย​กระโดด​ออก​ไป​ หยิบ​เอา​กระถางธูป​มาพิจารณา​อย่าง​ละเอียด​

นี่​เป็น​กระถางธูป​สอง​หู​สามขา​ที่​ทำ​จาก​ทองเหลือง​ ผ่าน​กาลเวลา​ไป​นาน​แต่​ยัง​ดู​ใหม่เอี่ยม​ มีสีเหมือนกับ​ทองคำ​ ไม่มีคราบ​สันดาป​ใดๆ​ ตี​ออกมา​ใน​ลักษณะ​โบราณ​เรียบง่าย​สวยงาม​ ตัว​กระถาง​สลัก​อักษร​ไว้​ ไม่รู้​ที่มา​ที่​ไป​ น้ำหนัก​น่าจะ​หนัก​หลาย​ร้อยชั่ง​

“ไป​เถอะ​” ชิงเฟิงมองว่า​ใน​วิหาร​ไม่น่าจะ​มีสิ่งของ​อื่น​ใด​อีก​

หวา​งซืออวี่​จ้องมอง​ตัวอักษร​ ‘ฟ้าดิน​’ บน​กำแพง​อย่าง​มึนงง​ ใน​ใจอด​ตื่นเต้น​เอาไว้​ไม่ได้​ เพราะ​ใน​นิยาย​ไซอิ๋ว​เคย​เขียน​ไว้​ ว่า​ใน​วัด​ห้า​แผ่นดิน​ของ​เจิ้งหยวน​ สิ่งที่​กราบไหว้​บูชา​ก็​คือ​ฟ้าดิน​สอง​คำ​นี้​ เณร​น้อย​ใน​วัด​เคย​บอก​ไว้​ ว่า​สิ่งที่​นอกเหนือจาก​สอง​คำ​นี้​ อาจารย์​ของ​พวกเขา​ล้วน​ไม่กราบไหว้​

นางใน​ตอนนี้​ สามารถ​ยืนยัน​ได้​ ว่า​อุทยาน​แห่ง​นี้​ จะต้อง​เป็น​วัด​ห้า​แผ่นดิน​ของ​เจิ้งหยวน​ต้า​เซียน​แน่นอน​

เช่นนั้น​แล้ว​ ต้น​โสมมนุษย์​อยู่​ที่ใด​กัน​?

ทั้ง​สี่คน​เดิน​ออกจาก​วิหาร​ใหญ่​ เดิน​ตรง​ไป​ทาง​เรือน​หลัง​

ครู่​ต่อมา​ ก็ได้​มาถึงด้านนอก​ของ​สวนผลไม้​แห่ง​หนึ่ง​ กั้น​ไว้​ด้วย​กำแพง​ล้อม​ และ​รู้สึก​ได้​ถึงกลิ่นหอม​ประหลาด​บางอย่าง​ และ​มีพลัง​แห่ง​ชีวิต​ที่​เหมือนกับ​คลื่น​ดอกไม้​ไร้​รูปร่าง​ทะลุ​กำแพง​ล้อม​ สีเขียว​มรกต​เป็นชั้นๆ​

เปิด​ประตู​เข้าไป​

ต้นไม้​ยักษ์​สูงนับ​สิบ​จั้งต้น​หนึ่ง​ กิ่งก้าน​หนา​หนัก​ ต้น​หลัก​ขนาด​สิบ​คนโอบ​ แตกแยก​กิ่ง​ที่​ไม่เหมือนกัน​ออกมา​ เปลือกไม้​สีขาว​หยาบ​ให้​ความรู้สึก​มีอายุ​ จาก​พื้นดิน​ขึ้นไป​สูงราว​สามจั้ง มีเพียง​กิ่ง​แห้ง​ ไม่มีใบไม้​ เหนือ​สามจั้งขึ้นไป​ กิ่งก้าน​แน่นขนัด​ไป​ด้วย​ใบไม้​

ใบไม้​ทุก​ใบ​ ล้วน​มีขนาดใหญ่​เท่า​ฝ่ามือ​ ราวกับ​มรกต​ที่​เจียร​ไน​อย่าง​ดี​ที่สุด​บน​โลก​อย่างไร​อย่างนั้น​ แผ่​แสงสีมร​ตก​ ขึ้นๆ ลงๆ​ แสงไหล​เต็มไปด้วย​สีสัน​ สวยงาม​จับจิต​

ส่วน​ยอด​บนสุด​ของ​ต้นไม้​ มีผลไม้​สีท้อ​ชมพู​แดง​อยู่​สี่ลูก​

หมิง​เยวี่ย​เมื่อ​มอง​ ก็​รู้สึก​ตกตะลึง​ทันที​ กระโดด​เหยง​ถอย​มาหลาย​ก้าว​ เอ่ย​ขึ้น​ว่า​ “ให้​ตาย​สิ แย่​แล้ว​ ต้นไม้​ต้น​นี้​แขวน​เด็ก​เอาไว้​ตั้ง​หลาย​คน​ หรือว่า​ต้นไม้​นี้​จะเป็น​ต้นไม้​ปีศาจ​ที่​คอย​จับ​เด็ก​กินกัน​?”

หยวน​โห่​ว​ก็​รู้สึก​ตกตะลึง​เช่นกัน​ รีบร้อน​ลาก​รถเข็น​ถอย​ออกมา​หลาย​ก้าว​

เด็กน้อย​สีท้อ​แดง​เหล่านั้น​ ทั้งหมด​ล้วน​ดู​มีชีวิต​ ราวกับ​เป็น​ทารก​น้อย​แรกเกิด​อย่างไร​อย่างนั้น​ ใบหน้า​มีรอยยิ้ม​ ถูกราก​ไม้เสียบ​เข้า​มาจาก​ด้านหลัง​ สั่น​งกเงิ่น​อยู่​ที่​ปลาย​กิ่ง​ มองดู​แล้ว​เหมือนกับ​ถูกราก​ไม้แทง​จน​ทะลุ​แผ่น​หลัง​แขวน​เอาไว้​ที่​ปลาย​กิ่ง​

“ไม่ใช่ นั่น​เป็น​ผลไม้​ ไม่ใช่เด็ก​” ชิงเฟิงที่​ใจเย็น​ที่สุด​เอ่ย​ขึ้น​ “ออกผล​อยู่​บน​ต้นไม้​ แต่​นี่​มัน​แปลกประหลาด​มาก​ ทำไม​ผลไม้​พวก​นี้​จึงมีรูปร่าง​เหมือน​เด็กทารก​กัน​?”

ตอนนี้​เอง​ หวา​งซืออวี่​ได้​เดิน​เข้าใกล้​ต้นไม้​ยักษ์​ทีละ​ก้าว​ๆ

ใบหน้า​ของ​นาง​ มีรอยยิ้ม​ที่​ตกตะลึง​ ยินดี​และ​รู้สึก​เหมือน​ภาพ​ฝัน​ เคลิบเคลิ้ม​ล่องลอย​

“พี่สาว​ระวัง​ นี่​มัน​ต้นไม้​ปีศาจ​…” หมิง​เยวี่ย​รีบ​เตือน​ขึ้น​ คิด​จะเข้าไป​ดึง​นาง​กลับมา​

หวา​งซืออวี่​หัน​กลับมา​ หัวเราะ​ร่า​ขึ้น​ เอ่ย​ว่า​ “นี่​ไม่ใช่ต้นไม้​ปีศาจ​อะไร​หรอก​ นี่​คือ​ต้น​โสมมนุษย์​ สมบัติ​แห่ง​ฟ้าดิน​เลย​นะ​…ที่แท้​ตำนาน​ทั้งหมด​ก็​เป็น​เรื่องจริง​ ทั้งหมด​ใน​ไซอิ๋ว​ล้วน​เป็น​เรื่องจริง​”

น้ำเสียง​ของ​นาง​ สั่น​ระริก​เล็กน้อย​

“ต้น​โสมมนุษย์​? พี่สาว​รู้จัก​ที่มา​ของ​ต้นไม้​นี้​ด้วย​หรือ​” หมิง​เยวี่ย​ถามขึ้น​อย่าง​ตกตะลึง​

หวา​งซืออวี่​พยักหน้า​ ตอบ​ว่า​ “ต้น​โสมมนุษย์​ เป็น​ต้นไม้​เทพ​เจ้าที่​ล้ำค่า​ที่สุด​บน​ผืนดิน​ ถูก​เรียก​ว่า​ราก​วิญญาณ​แห่ง​ฟ้าดิน​ จำเป็น​ต้นไม้​ปีศาจ​ไป​ได้​อย่างไร​”

“ต้น​โสมมนุษย์​?” ชิงเฟิงตา​เป็นประกาย​ เอ่ย​ถามว่า​ “ท่านหญิง​รู้จัก​ที่มา​ของ​ต้นไม้​นี้​ด้วย​?” รู้จัก​กระทั่ง​ชื่อ​ ก็​เป็นไปได้​ว่า​จะต้อง​รู้จัก​ที่มา​

หวา​งซืออวี่​หัวเราะ​พยักหน้า​ ตอบ​ว่า​ “ใช่แล้ว​ วัด​ห้า​แผ่นดิน​แห่ง​นี้​ เคย​มีบุคคล​ที่​ยิ่งใหญ่​คน​หนึ่ง​อาศัย​อยู่​ ถูก​เรียก​ว่า​เป็น​บรรพบุรุษ​แห่ง​เซียน​ดิน​ที่​ชื่อว่า​เจิ้งหยวน​ต้า​เซียน​ ต้นไม้​นี้​เป็น​สมบัติ​ของ​เขา​ สามพันปี​ดอก​จะบาน​หนึ่ง​ครั้ง​ อีก​สามพันปี​จะออกผล​ ผ่าน​ไป​อีก​สามพันปี​ถึงจะสุก​ ภายใน​หนึ่ง​หมื่น​ปี​ จะออกผล​มาเพียง​สามสิบ​หก​ลูก​ เป็น​สมบัติ​ที่​มีเพียง​เซียน​ดิน​ เทพ​สวรรค์​เท่านั้น​จึงจะมีคุณสมบัติ​ลิ้ม​ชิมรส​ ผลไม้​ชนิด​นี้​ ยอดเยี่ยม​มหัศจรรย์​อย่าง​มาก​ ต่อให้​เป็น​คนธรรมดา​ เพียงแค่​ได้กลิ่น​ ก็​สามารถ​มีชีวิต​ไป​ได้​ถึงอายุ​สามร้อย​หกสิบ​ปี​ กิน​ไป​หนึ่ง​ผล​ สามารถ​อายุ​ยืนยาว​ถึงสี่หมื่น​เจ็ด​พันปี​ เจ้าว่า​ มัน​ล้ำค่า​หรือไม่​กัน​?”

สามคน​ที่​เหลือ​ ฟังจน​ตาค้าง​ลิ้นพัน​กัน​

พวกเขา​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่อง​ของ​ต้นไม้​กับ​ผลไม้​เทพ​นี้​เลย​

ระหว่าง​ฟ้าดิน​ มีสมบัติ​ล้ำค่า​เช่นนี้​อยู่​ด้วย​หรือ​?

แต่​ให้​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ขั้น​ทะลวง​สวรรค์​ ก็​ยัง​อายุ​ยืน​ไม่ถึงสี่หมื่น​เจ็ด​พันปี​เลย​นะ​

อายุ​ยิ่ง​ยืนยาว​ ใช้ชีวิต​ยิ่ง​ยาวนาน​ ก็​เท่ากับ​ว่า​มีความหวัง​อัน​ไร้ขีดจำกัด​ ไม่แก่​ไม่เฒ่า นับตั้งแต่​อดีต​จนถึง​ปัจจุบัน​ ล้วน​เป็น​ความใฝ่ฝัน​ของ​ผู้​แข็งแกร่ง​วิถี​ยุทธ์​ทุกคน​ รวมไปถึง​พวก​เทพ​มาร​ด้วย​ สี่หมื่น​เจ็ด​พันปี​ถือว่า​ใกล้เคียง​กับ​ไม่แก่​ไม่เฒ่าแล้ว​

หมิง​เยวี่ย​กลืนน้ำลาย​ เอ่ย​ต่อ​ “นี่​ ดู​แล้ว​น่าอร่อย​เหมือนกัน​นะ​”

“ท่านหญิง​ทำไม​จึงรู้​ถึงความลับ​ของ​มัน​?” ชิงเฟิงถามขึ้น​อย่าง​อยากรู้อยากเห็น​

หวา​งซืออวี่​ที่​ไม่สามารถ​ฝึก​บำเพ็ญ​ได้​ ไม่รู้​วรยุทธ์​ ควรจะ​มอง​ไม่ออก​ถึงความมหัศจรรย์​ของ​ต้นไม้​นี้​ ต่อให้​ใน​ตำรา​ลับ​ทั่ว​ทั้ง​ราชวงศ์​ซ่งเหนือ​ ก็​ไม่ควรจะ​มีบันทึก​ถึงสิ่งเหล่านี้​อยู่​

“ถ้าหาก​พี่​มู่อยู่​ที่นี่​ เขา​ก็​จะมองออก​เช่นกัน​” หวา​งซืออวี่​ไม่ได้​อธิบาย​อะไร​ละเอียด​นัก​ เอ่ย​ต่อว่า​ “พวก​เจ้าดู​ บน​ต้นไม้​นั่น​ มีผล​ทารก​อยู่​สี่ผล​ สีสัน​มันวาว​ชุ่มชื้น​ แผ่​กลิ่นหอม​ประหลาด​ นี่​อธิบาย​ได้​ว่า​ผลไม้​สุก​แล้ว​ พวกเรา​วันนี้​มาที่นี่​กัน​สี่คน​ ก็​อธิบาย​ได้​ว่า​นี่​คือ​โอกาส​พรหมลิขิต​ของ​พวกเรา​ทั้ง​สี่”

ความฝัน​แห่ง​การ​อายุ​ยืน​ ห่าง​อยู่​เพียง​แค่นี้​

“เสียดาย​ที่​คุณชาย​ไม่อยู่​ที่นี่​” หมิง​เยวี่ย​งึมงำ

ชิงเฟิงหัวเราะ​เอ่ย​ต่อ​ “ของ​ข้า​ลูก​นั้น​ เก็บ​ไว้​ให้​คุณชาย​ก็แล้วกัน​”

ลูกกระเดือก​ของ​หยวน​โห่​ว​ขยับ​ กลืนน้ำลาย​เอื๊อก​ ปาก​ลิ้น​แห้งผาก​ ทว่า​ก็​ยัง​เอ่ย​มาว่า​ “ลูก​นั้น​ของ​ข้าน้อย​เก็บ​ไว้​ให้​เจ้านาย​เถอะ​”

หมิง​เยวี่ย​เอ่ย​ตาม​ “พวก​เจ้าสอง​คน​ ผลไม้​ยัง​ไม่ทัน​จะเด็ด​ลงมา​ ก็​แบ่ง​กัน​แล้ว​หรือ​ ไม่ต้อง​ละ​ ของ​ข้า​ลูก​นั้น​เก็บ​ไว้​ให้​คุณชาย​เถอะ​ ถึงอย่างไร​ตอนนี้​ข้า​ก็​แข็งแกร่ง​มาก​แล้ว​ คิกๆ​…”

หวา​งซืออวี่​รู้สึก​เกินคาด​

เผชิญหน้า​กับ​ความยั่วยวน​นี้​ เด็กน้อย​สอง​คน​นี้​กับ​วานร​อีก​ตัว​หนึ่ง​ กลับ​สามารถ​เอาชนะ​ความละโมบ​ใน​ใจได้​ เรื่อง​นี้​ทำเอา​นาง​รู้สึก​ซาบซึ้ง​จน​แสดง​ออกมา​บน​ใบหน้า​เลย​ทีเดียว​

หยวน​โห่​ว​ใช้ท่า​ร่าง​ กระโดด​ขึ้นไป​ยัง​ยอด​ต้นไม้​ ยก​มือขึ้น​เด็ด​ผล​ลงมา​

ทว่า​สิ่งประหลาด​ได้​บัง​เกิดขึ้น​

ฝ่ามือ​ของ​หยวน​โห่​ว​ เห็นชัด​ๆ ว่า​คว้า​ผล​ทารก​ไว้​แล้ว​ ทว่า​กลับ​จับ​ไม่ได้​ ราวกับ​ผลไม้​นี้​เป็น​เพียง​เงา ไม่ใช่ของจริง​ หยวน​โห่​ว​พยายาม​ติดต่อ​นับ​สิบ​รอบ​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​เด็ด​ผลไม้​ลงมา​ได้​

“เกิด​อะไร​ขึ้น​? หรือว่า​นี่​เป็น​ค่าย​กล​ลวงตา​” หยวน​โห่​วก​ระ​โดด​ลง​มาจาก​ยอด​ ใน​ใจรู้สึก​แปลกประหลาด​อย่าง​มาก​

หมิง​เยวี่ย​และ​ชิงเฟิงก็​ไม่เข้าใจ​เช่นกัน​

“อ๊า​ ข้า​รู้​แล้ว​ พวก​เจ้ารอ​ข้า​ก่อน​” หยาง​ซืออวี่​จู่ๆ ได้​เข้าใจ​ขึ้น​มา หันหลัง​วิ่ง​ออกจาก​สวนผลไม้​ไป​ ราวกับ​ไปหา​อะไร​บางอย่าง​

ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ นาง​ก็​วิ่ง​กลับมา​อย่าง​ลิงโลด​

“ใช้เจ้านี่​ ถึงจะสามารถ​เด็ด​ผลไม้​ลงมา​ได้​” มือ​ของ​นาง​มีกระบอง​เล็ก​ทอง​บริสุทธิ์​อยู่​เล่ม​หนึ่ง​ ยาว​ราว​สอง​ชุ่น​ หัว​ด้าน​หนึ่ง​เหมือน​หัว​กะ​เทียม​ตะปุ่มตะป่ำ​ อีก​ด้าน​หนึ่ง​เป็น​ตา​เล็ก​ๆ ผูก​เอาไว้​ด้วย​เชือก​สีแดง​เส้น​หนึ่ง​ และ​เอ่ย​ต่อว่า​ “ผล​ทารก​เมื่อ​ถูก​ดิน​จะเหี่ยวเฉา​ ถูก​น้ำ​จะละลาย​ ถูก​ไฟจะไหม้​เกรียม​ ถูก​ดิน​จะซึมหาย​ ถูก​ทอง​จะร่วงหล่น​ ต้อง​ใช้ ‘กระบอง​ทอง​’ เล่ม​นี้​ ถึงจะสามารถ​ตี​มัน​จน​หลุด​ร่วง​ได้​”

กระบอง​ทอง​?

พวก​ของ​ชิงเฟิงตอนนี้​ถึงได้​เข้าใจ​ ว่า​เมื่อ​ครู่​หวา​งซืออวี่​วิ่ง​ไปหา​ ‘กระบอง​ทอง​’ มานี่เอง​

แต่ว่า​ นาง​รู้​เยอะ​ขนาด​นี้​ได้​อย่างไร​?

หยวน​โห่​ว​รับ​กระบอง​ทอง​มา กระโดด​ขึ้น​ต้นไม้​ ใช้ ‘กระบอง​ทอง​’ เคาะ​เบา​ๆ ผล​ทารก​ก็​ราวกับ​สุก​จน​ได้ที่​ หลุด​ร่วง​ลงมา​ หมิง​เยวี่ย​ที่อยู่​ด้านล่าง​รีบ​ดึง​ชายผ้า​มารับ​เอาไว้​

เพียง​ไม่นาน​ ผล​ทารก​ทั้ง​สี่ ก็​ถูก​เด็ด​ลงมา​จน​หมด​

“ผล​ทารก​นี้​ไม่สามารถ​เก็บ​ไว้​ได้​นาน​ จะต้อง​รีบ​กิน​ลง​ไป​ทันที​ มิเช่นนั้น​ มัน​จะละลาย​หาย​ไป​ระหว่าง​ฟ้ากับ​ดิน​ จะเสีย​พร​จาก​สวรรค์​นี้​ไป​” หวา​งซืออวี่​บอกต่อ​

“เอ๋​?” ทั้ง​สามคน​รู้สึก​มึนงง​

ถ้าเป็น​เช่นนี้​ ก็​เก็บ​ไป​ให้​ห​ลี่​มู่ไม่ได้​แล้ว​สิ?

หวา​งซืออวี่​เอ่ย​ต่อ​อีก​ “เข้ามา​ใน​สุสาน​เทพ​ ต่าง​คน​ล้วน​มีพรหมลิขิต​ของ​ตนเอง​ พี่​มู่อาจจะ​ได้รับ​โอกาส​พรหมลิขิต​ที่​ดีกว่า​นี้​ก็​เป็นได้​ เรื่อง​เหล่านี้​ ไม่สามารถ​บีบบังคับ​กัน​ได้​”

หมิง​เยวี่ย​ก้มลง​มอง​ผล​ทารก​ทั้ง​สี่ผล​ใน​ชาย​เสื้อ​ ก็​พบ​ว่า​ ตัว​ผลไม้​เริ่ม​ที่จะ​แดง​ขึ้น​ ราวกับ​สุกงอม​เต็มที่​ หาก​ผ่าน​ไป​อีก​ครู่​ คงจะ​สุก​จน​เน่า​แน่​

ทั้ง​สี่คน​หารือ​กัน​ ท้ายสุด​จึงไม่มีทางเลือก​ ทำได้​เพียง​แบ่ง​กัน​ไป​คนละ​ผล​

หมิง​เย​วี่ย​ ชิงเฟิง และ​หยวน​โห่​ว​ ล้วน​มีสีหน้า​ตื่นเต้น​ ผลไม้​เทพ​เช่นนี้​ เป็น​ถึงสมบัติ​แห่ง​ฟ้าดิน​เลย​นะ​ กิน​หนึ่ง​ผล​สามารถ​ไม่แก่​ไม่เฒ่าได้​ นี่​มัน​เป็น​โอกาส​พรหมลิขิต​แบบ​ไหน​กัน​ ไม่ตื่นเต้น​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​

ใน​มือ​หวา​งซืออวี่​ประคอง​ผล​ทารก​ลูก​หนึ่ง​ไว้​ ใน​ใจตื่นเต้น​เหลือ​ค​นา​ ราวกับว่า​ฝัน​ไป​อย่างไร​อย่างนั้น​ จาก​ตำนาน​สู่ความเป็นจริง​ ตอน​เด็ก​ๆ นั่ง​ดู​ละคร​ไซอิ๋ว​มอง​เห็นผล​ทารก​อยู่​ทุกวัน​ ไม่คิด​เลย​ว่า​ ตนเอง​จะสามารถ​มีโอกาส​ได้มา​กิน​ผล​ทารก​เช่นนี้​

หาก​กิน​ผลไม้​นี้​ลง​ไป​ ตนเอง​จะสามารถ​ตี​แตก​พันธนาการ​ แล้ว​เริ่ม​ฝึก​บำเพ็ญ​ได้​แล้ว​สินะ​? สามารถ​ยืนหยัด​เคียงข้าง​พี่​มู่ สามารถ​จับมือ​ร่วมกัน​ โลดแล่น​ใน​ใต้​หล้า​ได้​แล้ว​สินะ​ ไม่ต้อง​เป็น​ภาระ​เขา​อีกต่อไป​

นาง​กอด​เอา​ความปรารถนา​อัน​สวยงาม​และ​บริสุทธิ์​ไว้​ อ้า​ปาก​กัด​ลง​ไป​ที่​ผล​ทาร​ก.​..

แต่​ใน​ตอนนี้​เอง​ สิ่งประหลาด​ก็​บัง​เกิดขึ้น​

ผล​ทารก​ใน​มือ​นาง​จู่ๆ ราวกับ​มีชีวิต​ มือ​เท้า​ดิ้นรน​ไปมา​ ใช้เท้า​ถีบ​เข้าไป​ที่​ข้อมือ​ของ​หวา​งซืออวี่​ จากนั้น​จึงดิ้น​หลุด​ออกมา​…

จอมศาสตราพลิกดารา

จอมศาสตราพลิกดารา

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 105 อ่านนิยาย

สำนักฝึกวิชายุทธ์ชั้นสูงบนกลุ่มดาวจื่อเวยได้สร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายมวลสารขนาดใหญ่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เพื่อให้สะดวกต่อการบุกเบิกดาราจักรทางใต้ของทางช้างเผือก

ชีพจรพลังเซียนของค่ายกลต้องตัดผ่านโลกมนุษย์พอดี หลังจากนี้อีกราว 20 ปี…โลกจะถูกทำลาย

หลี่มู่ เด็กหนุ่มกำพร้าผู้ปราดเปรื่อง

อาศัยอยู่กับซินแสเฒ่าสติไม่ดีที่วันๆ พร่ำเพ้อแต่การฝึกวิชา ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับโลกปัจจุบันนี้สักนิด

แต่แล้ววันหนึ่ง เขากลับถูกส่งไปยังโลกที่เต็มไปด้วยเคล็ดวิชาและยอดฝีมือ

กลายเป็นขุนนางเมืองบนดาวดวงนี้ ออกแรงแค่เล็กน้อยก็ส่งผลร้ายแรงมหาศาล

ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด เขาจำต้องสวมบทบาทผู้นำ พร้อมหาวิถีทางกอบกู้โลกให้ทันกาล…

Options

not work with dark mode
Reset