ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษเล่มที่ 13 บทที่ 389 มิอาจโป้ปด

เล่มที่ 13 บทที่ 389 มิอาจโป้ปด

ทว่า​ท่าน​กัว​กลับ​ส่ายหน้า​ ก่อน​จะยื่นมือ​เข้ามา​จับ​แขน​ของ​นาง​พลาง​กด​เสียงต่ำ​

“พวกเรา​กำลัง​โลดแล่น​อยู่​ใน​ยุทธ​จักร​ อย่า​ได้​ก่อ​ศัตรู​โดยไม่จำเป็น​ เชื่อ​ข้า​ นำ​เงิน​ให้​พวกเขา​ไป​เถิด​”

ท่าน​กัว​คิด​อยู่​เสมอ​ว่าการ​ทำ​ธุรกิจ​ควร​มีความ​สมัครสมาน​สามัคคี​กัน​

แม้ชายหนุ่ม​คน​นี้​จะมีวิธีการ​เฉลียวฉลาด​ แต่​เขา​ยัง​เด็ก​ ซ้ำยังมี​แรง​อาฆาต​อย่าง​แรงกล้า​

หาก​ยัง​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ เกรง​ว่า​สักวัน​คง​ต้อง​เสียเปรียบ​เป็นแน่​

“แต่​….”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ยัง​อยาก​เอ่ย​อะไร​อีก​เล็กน้อย​ ทว่า​ท่าน​กัว​กลับ​โบกมือ​ห้าม​

นาง​รู้จัก​พวก​อันธพาล​เหล่านี้​ดี​ หาก​ครั้งแรก​ทำสำเร็จ​ดั่ง​ใจ เช่นนั้น​จะต้อง​มีครั้ง​ที่สอง​อย่าง​แน่นอน​

นาง​สามารถ​สะบัดก้น​แล้ว​กลับ​ไป​เป็น​ชายา​อวี้​เหมือนก่อน​ แต่​คน​เหล่านี้​จะต้อง​เจอ​เรื่อง​ยุ่งยาก​

เหตุ​ที่​ท่าน​กัว​หักห้าม​นาง​เอาไว้​ นั่น​ก็​เพราะ​เขา​เป็น​ผู้นำ​ขบวน​พ่อค้า​ใน​คราวนี้​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงทำ​เพียง​เก็บ​ซ่อน​ความคิด​ของ​ตนเอง​เอาไว้​แล้ว​รอ​ดู​สถานการณ์​

เห็นได้ชัด​ว่า​ชาย​ร่าง​อ้วน​มั่นอกมั่นใจ​แล้ว​ว่า​นาง​จะต้อง​เป็น​ของ​เขา​อย่าง​แน่นอน​

สายตา​มอง​ขึ้น​ลง​หลาย​ครา​ ราวกับ​กำลัง​วัด​ขนาด​เหยื่อ​ของ​ตนเอง​

ความรังเกียจ​ขยะแขยง​ยิ่ง​ปะทุ​ขึ้น​ใน​หัวใจ​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​ ทว่า​ใบหน้า​ยังคง​นิ่งเฉย​ ใน​เมื่อ​ท่าน​กัว​เอ่ยปาก​ด้วย​ตนเอง​แล้ว​ นาง​มิควร​สร้าง​ความ​ลำบากใจ​ให้​กับ​เขา​

“เป็น​เช่นไร​? พวก​เจ้าเจรจา​กัน​ว่า​อย่างไรเล่า​?”

เห็นได้ชัด​ว่า​ชาย​ร่าง​ท้วม​ไม่เห็น​ท่าน​กัว​อยู่​ใน​สายตา​ หาก​มอง​จาก​ภายนอก​ ท่าน​กัว​ก็​เป็น​เพียง​ชาย​แก่​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​

แต่​แท้จริง​แล้ว​ภายใต้​ใบ​หน้าที่​มีรอย​เหี่ยวย่น​กลับ​แฝงไว้​ซึ่งเหลี่ยม​คม​ หลังจาก​ผ่าน​ร้อน​ผ่าน​หนาว​มามากมาย​ เขา​ย่อม​มิต่าง​อัน​ใด​จาก​ศิลา​ที่​ถูก​ขัดเกลา​

กฎ​เช่นนี้​ต่างหาก​ที่​เป็น​ทางเดิน​อัน​เหมาะสม​ ฉะนั้น​เขา​ย่อม​แตกต่าง​จาก​พวก​อันธพาล​หัวทึบ​เหล่านี้​

“น้องชาย​ท่าน​นี้​ทำร้าย​น้องชาย​ของ​เจ้า พวกเรา​ต้อง​ขออภัย​ยิ่งนัก​ เอา​แบบนี้​เป็น​อย่างไร​ พวกเรา​ยินยอม​จ่าย​เงิน​และ​เชิญหมอ​ไป​รักษา​อาการ​ของ​น้องชาย​ท่าน​ ขอให้​ท่าน​เห็นแก่หน้า​ข้า​สัก​ครา​”

ท่าน​กัว​เอ่ย​วาจา​ประนีประนอม​ทำให้​พวก​อันธพาล​เหล่านั้น​ลำพองใจ​

แต่​น่าเสียดาย​ที่​คน​บางคน​ไม่มีค่า​พอที่จะ​ไว้หน้า​

หัวหน้า​อันธพาล​คิด​ว่า​ท่าน​กัว​พยายาม​อดทน​เพราะ​กลัวเกรง​บารมี​ของ​พวกเขา​

ดังนั้น​พวกเขา​จึงละทิ้ง​ความเกรงใจ​ ก่อน​จะเอ่ย​วาจา​หยาบคาย​ไม่รื่นหู​ออกมา​

“ฮึ ไอ้​แก่​กัว​ ข้า​เสนอ​ให้​พวก​เจ้ามอบ​เงิน​สามพัน​ตำลึง​เพราะ​เห็นแก่หน้า​เจ้า เป็น​อะไร​ไป​เล่า​? ไอ้​แก่​ใน​ยุทธ​จักร​เช่น​เจ้าสายตา​ฟ้าฟางไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง​แล้ว​หรือ​อย่างไร​!”

คำพูด​ของ​ชาย​ร่าง​ท้วม​ทำให้​สายตา​ของ​ท่าน​กัว​เย็นเฉียบ​

การ​ออก​นอกเมือง​อยู่​เพียง​เอื้อมมือ​ ท่าน​กัว​จึงไม่อยาก​มีปัญหา​

แต่​คิดไม่ถึง​เลย​ว่า​พวก​ชายฉกรรจ์​เหล่านี้​จะทำตัว​ไม่รู้ความ​

ใบ​หน้าที่​เคย​หยัก​ยิ้ม​เป็นมิตร​พลัน​เปลี่ยนเป็น​เคร่งขรึม​

ท่าน​กัว​หา​ใช่คนอ่อนแอ​ที่จะ​ปล่อย​ให้​ผู้อื่น​รังแก​ง่ายๆ​

แต่​ชาย​ร่าง​ท้วม​เห็น​ว่า​ฝั่งตนเอง​มีพวก​เยอะ​กว่า​ ฉะนั้น​เขา​จึงไม่เห็น​ท่าน​กัว​อยู่​ใน​สายตา​

เรื่องราว​เริ่ม​บานปลาย​ ขณะที่​หลิน​เมิ้งห​ยา​ตระเตรียม​ยาพิษ​เรียบร้อย​ ร่าง​ขาว​ดั่ง​แสงจันทร์​พลัน​ปรากฏตัว​ต่อหน้า​ทุกคน​

“ตอนแรก​ข้า​ก็​คิด​ว่า​ใคร​? ที่แท้​ก็​เฉียนช่วนจื่อ​ที่​เพิ่งจะ​สามารถ​ลงมา​เดินเหิน​ได้​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​นี่เอง​ อะไร​กัน​ท่าน​เฉียน​ นี่​ท่าน​คิด​จะมาออกกำลังกาย​ยืดเส้นยืดสาย​อย่างนั้น​หรือ​? เช่นนั้น​ให้​ข้า​เป็น​คู่​ฝึกซ้อม​ให้​ท่าน​ดี​หรือไม่​?”

เฉียนช่วนจื่อ?​ หลิน​เมิ้งห​ยา​หันไป​มอง​ชาย​ร่าง​ท้วม​ด้วย​แววตา​ประหลาดใจ​

ล้อเล่น​หรือ​อย่างไร​? เรียก​เขา​ว่า​เจ้าขี้​วัว​ยัง​จะเหมือน​เสีย​กว่า​ เขา​มิได้​มีรูปร่าง​ผอม​เพรียว​ดั่ง​ทอง​เหมือน​ความหมาย​ของ​ชื่อ​สักนิด​

ร่าง​สีขาว​ราว​แสงจันทร์​ยืน​บัง​ร่าง​ของ​นาง​เอาไว้​จน​มิด​

ยิ่ง​ได้​เห็น​แผ่น​หลัง​ของ​เขา​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​คุ้นตา​ยิ่งนัก​ จนกระทั่ง​ภาพ​เลือนราง​ใน​สมอง​เริ่ม​ปะติดปะต่อ​กัน​เป็น​ภาพ​ใหญ่​ หลิน​เมิ้งห​ยา​จึงส่งเสียงร้อง​ใน​ใจด้วย​อา​การตื่น​ตะลึง​

เหตุใด​จึงเป็น​เขา​ได้​เล่า​?

“อึก​ อึก​” ชาย​ร่าง​ท้วม​นาม​เฉียนช่วนจื่อ​กลืนน้ำลาย​ลงคอ​อึก​ใหญ่​

สายตา​ระแวดระวัง​ ทว่า​ใบหน้า​กลับ​ฉีก​ยิ้ม​กว้าง​ปาน​ดอกไม้​ผลิบาน​

“มิกล้า​ ที่แท้​ก็​ท่าน​นี่เอง​ ข้า​แค่​พา​สหาย​ออกมา​เดินเล่น​แต่เพียง​เท่านั้น​ มิทราบ​ว่า​ท่าน​มาที่นี่​ด้วย​เหตุ​อัน​ใด​หรือ​?”

ชาย​คน​นั้น​หา​ได้​สนใจ​เฉียนช่วนจื่อ​ไม่ เขา​หมุนตัว​กลับมา​ส่งยิ้ม​อ่อนโยน​ให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​

“เขา​คือ​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​ข้า​เอง​ ป้า​ของ​ข้า​ไม่วางใจ​ก็​เลย​ส่งข้า​มาดู​เขา​ เกิด​อะไร​ขึ้น​? น้องชาย​ของ​ข้า​ไป​หาเรื่อง​ท่าน​อย่างนั้น​หรือ​?”

มอง​ใบหน้า​เปื้อน​ยิ้ม​ของ​ชิวอ​วี้​ หลิน​เมิ้งห​ยา​รู้สึก​งุนงง​

หัวใจ​สับสน​อล​ม่าน​ เขา​ควรจะ​อยู่​ใน​วัง​มิใช่หรือ​?

เหตุใด​จึงมาปรากฏตัว​อยู่​ที่นี่​ได้​เล่า​? แล้ว​ไหนจะ​บทสนทนา​ระหว่าง​เขา​กับ​เฉียนช่วนจื่อ​ก่อนหน้านี้​เอง​ ตกลง​นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​แน่​?

“เจ้า…”

ขณะที่​หลิน​เมิ้งห​ยา​คิด​จะเอ่ย​ถาม อีก​ฝ่าย​กลับ​ดัน​ตัวนาง​ไป​ยัง​หน้า​รถม้า​พร้อม​รอยยิ้ม​มีเลศนัย​

ออก​แรงผลัก​เล็ก​น้อยกว่า​จะส่งหลิน​เมิ้งห​ยา​ขึ้น​รถม้า​ไป​ได้​ จากนั้น​จึงกระพริบตา​ถี่ๆ เพื่อ​ส่งสัญญาณให้​นาง​แล้ว​หมุนตัว​เดิน​ไปหา​พวก​เฉียนช่วนจื่อ​

เพียง​ได้ยิน​ว่า​เนื้อ​รส​เลิศ​ซึ่งกำลังจะ​ตก​ถึงท้อง​เป็น​ญาติ​ผู้​น้อง​ของ​บุรุษ​ตรงหน้า​

สีหน้า​ของ​เฉียนช่วนจื่อ​พลัน​เลิ่กลั่ก​

ทว่า​เรื่อง​นี้​ยัง​ไม่จบ​ลง​ง่ายๆ​ ชิวอ​วี้​เดิน​เข้าไป​หยุด​อยู่​ตรงหน้า​เฉียนช่วนจื่อ​ด้วย​ท่วงท่า​สง่างามเหมือน​คุณชาย​ตระกูล​สูงศักดิ์​

“น้องชาย​ของ​ข้า​ดี​หมด​ทุกอย่าง​ แต่กลับ​มีนิสัย​ซุกซน​ไป​สัก​เล็กน้อย​ ไม่ว่า​น้องชาย​ของ​ข้า​สร้าง​ความไม่พึงพอใจ​อะไร​ให้​ท่าน​ ข้า​ผู้​มีศักดิ์​เป็น​พี่​ย่อม​ต้อง​รับผิดชอบ​ เช่นนั้น​ท่าน​ลอง​บอก​มาเถิด​ว่า​น้องชาย​ของ​ข้า​ล่วงเกิน​อัน​ใด​ท่าน​?”

แม้คำพูด​จะเหมือน​กำลัง​ถามไถ่ แต่​ท่าทาง​อมทุกข์​ของ​เฉียนช่วนจื่อ​เสมือน​กำลัง​คิดถึง​เรื่อง​ไม่น่ารื่นรมย์​บางอย่าง​อยู่​

มอง​ชิวอ​วี้​ซึ่งขยับตัว​เข้ามา​ใกล้​ ใบหน้า​ของ​เขา​ขาวซีด​ มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ปัด​ป่าย​ไปมา​

ในที่สุด​ชิวอ​วี้​ก็​อยู่​ห่าง​เขา​เพียง​ครึ่ง​ศอก​ เฉียนช่วนจื่อ​แสดง​สีหน้า​ร้องขอ​ความเมตตา​

ท่ามกลาง​สายตา​ทุก​คู่​ซึ่งกำลัง​จับจ้อง​ เขา​หมุนตัว​ออก​วิ่ง​โดย​ไม่คิด​จะหันหน้า​กลับมา​มอง​อีก​

“พี่ใหญ่​! พี่ใหญ่​!”

ชาย​ร่าง​กำยำ​ที่​เหลือ​ถูก​เฉียนช่วนจื่อ​ทิ้ง​ไป​โดยปริยาย​

หลังจาก​เห็น​ว่า​พี่ใหญ่​วิ่งหนี​ไม่เหลียวหลัง​ไป​ไกล​แล้ว​ พวกเขา​จึงตัดสินใจ​วิ่ง​ตาม​ไป​

ชิวอ​วี้​ที่​ได้​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​พึงพอใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ มือสอง​ข้าง​ยกขึ้น​ปรบ​เสียงดัง​ จากนั้น​จึงหันมา​ทักทาย​คนคุ้นเคย​อย่าง​ท่าน​กัว​

สุดท้าย​เขา​จึงเข้าไป​นั่ง​ไป​รถม้า​ของ​หลิน​เมิ้งห​ยา​

ยก​ยิ้ม​มีเลศนัย​ขณะ​นั่งลง​ด้านหลัง​สุด​ เขา​แสร้ง​เมิน​สายตา​ประหลาดใจ​คู่​นั้น​

“ตกลง​เมื่อ​ครู่​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​?”

หลิน​เมิ้งห​ยา​เอ่ย​ถามอย่าง​ไม่เต็มใจ​นัก​

ชิวอ​วี้​กลับ​ไม่ตอบ​ เขา​ทำ​เพียง​ยิ้ม​โดย​ไม่พูด​อะไร​

“คุย​กัน​แล้ว​มิใช่หรือว่า​เจ้าจะอยู่​ดูแล​ฮ่องเต้​ใน​วัง​ ส่วน​ข้า​จะออก​ไปหา​ยา​ หาก​เกิด​อันตราย​กับ​ฮ่องเต้​ขึ้น​มาจะทำ​เช่นไร​?”

ชิวอ​วี้​หา​ใช่คน​ที่จะ​ทน​เห็น​คนตาย​ต่อ​หน้าเฉย​ๆ ได้​

แม้หลิน​เมิ้งห​ยา​จะมีโทสะ​เป็นอย่างมาก​ แต่​ชิวอ​วี้​กลับ​มีท่าที​ผ่อนคลาย​ สุดท้าย​อดรนทนไม่ไหว​จึงยื่นมือ​เข้าไป​บิด​เอว​เขา​เต็มแรง​

ชิวอ​วี้​ที่​เคย​มีท่าทาง​สงบนิ่ง​น้ำตาไหล​พราก​

เขา​ไม่กล้า​ส่งเสียงร้อง​จึงทำได้​เพียง​อดกลั้น​

หลังจาก​หลิน​เมิ้งห​ยา​พอใจ​แล้ว​ ชิวอ​วี้​จึงแสดงท่าทาง​ประหนึ่ง​หญิงสาว​ถูก​ลวนลาม​ สายตา​ชำเลือง​มอง​นาง​เสมือน​กำลัง​น้อยอกน้อยใจ​ ซ้ำน้ำตา​ยัง​คลอ​เบ้า​

“จะพูด​หรือไม่​พูด​?”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ถนัด​เรื่อง​ทรมาน​คน​เพื่อ​เค้น​เอา​คำตอบ​ยิ่งนัก​

ป๋า​ย​ซ่าว​หันหน้า​มอง​นอก​หน้าต่าง​อย่าง​รู้งาน​ ท่าทาง​เสมือน​คน​ไม่รู้ไม่เห็น​อะไร​เลย​แม้แต่น้อย​

ชิวอ​วี้​ทำท่า​เบะ​ปาก​ร้องไห้​ เพื่อ​มิให้​หลิน​เมิ้งห​ยา​ทรมาน​ตนเอง​อีก​ เขา​จึงรีบ​ก้มหน้า​แล้ว​อธิบาย​

“ตอนนี้​ฮ่องเต้​ฟื้น​แล้ว​ แต่​ยัง​ต้อง​พักผ่อน​เพื่อ​ฟื้นฟู​ร่างกาย​ โชคดี​ที่​คน​ของ​ข้า​ล้วน​รู้งาน​เป็น​อย่าง​ดี​ ข้า​ทิ้ง​ยา​เอาไว้​ให้​พวกเขา​แล้ว​ อีก​ทั้ง​ฮ่องเต้​ยัง​สามารถ​ดูแลตัวเอง​ได้​มิต้อง​กังวล​”

ดี​ คำตอบ​น่าพึงพอใจ​ยิ่งนัก​

หลิน​เมิ้งห​ยา​พยักหน้า​ลง​ ก่อน​จะยื่นมือ​ไป​หยิก​ชิวอ​วี้​อีกครั้ง​

“ฮือ​….” ชิวอ​วี้​ส่งเสียง​สั่นเครือ​แล้ว​รีบ​อธิบาย​ต่อ​

“เฉียนช่วนจื่อคน​นั้น​เคย​รังแก​หญิงสาว​คนอื่น​มาก่อน​ บังเอิญ​ข้า​ไป​พบ​เข้า​ ฉะนั้น​ข้า​จึงจัดการ​เขา​ด้วย​ตนเอง​”

พูด​จบ​ ชิวอ​วี้​จึงยิ้ม​ใสซื่อ​ไร้เดียงสา​ ก่อน​จะนั่ง​สงบเสงี่ยม​ว่านอนสอนง่าย​

แต่​หลิน​เมิ้งห​ยา​หา​ใช่คน​ที่จะ​ปล่อย​ผ่าน​อะไร​ไป​ง่ายๆ​ นาง​แสยะ​ยิ้ม​เย็นชา​ให้​อีก​ฝ่าย​ ก่อน​จะเค้น​ถามเสียง​อำมหิต​

“เช่นนั้น​หรือ​? เจ้ารู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ข้า​อยู่​ใน​ขบวน​พ่อค้า​นี้​ อีก​อย่าง​เจ้ากับ​ท่าน​กัว​ดูจะ​รู้จักมักคุ้น​กัน​เป็น​อย่าง​ดี​ จงอธิบาย​มาเดี๋ยวนี้​!”

ชิวอ​วี้​หยัก​ยิ้ม​แข็งทื่อ​

เขา​รู้​อยู่แล้ว​ว่า​หลิน​เมิ้งห​ยา​จะต้อง​เค้น​ถามจนถึงที่สุด​ ไม่มีเรื่อง​ใด​ที่​สามารถ​ปกปิด​นาง​ได้​

ถอนหายใจ​สอง​สามครั้ง​ ก่อน​จะอธิบาย​

“อันที่จริง​ข้า​ไม่รู้​หรอ​กว่า​เจ้าอยู่​ใน​ขบวน​พ่อค้า​ขบวน​ไหน​ แต่​ท่าน​กัว​เป็น​คนรู้จัก​ของ​ข้า​ เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ตอนที่​ข้า​มาหา​เขา​ ข้า​ได้ยิน​เขา​เล่า​ว่า​มีสามีภรรยา​คู่​หนึ่ง​ต้องการ​เดินทาง​ไป​ท่องเที่ยว​ที่​เมือง​หลิน​เทียน​ ฉะนั้น​ข้า​….”

หลิน​เมิ้งห​ยา​ถลึงตา​ใส่เขา​ นาง​จะปล่อย​เขา​ไป​ชั่วคราว​

ชิวอ​วี้​เป็น​คน​ฉลาด​ ดังนั้น​เขา​จึงเดา​ออ​กว่า​คู่สามีภรรยา​จะต้อง​เป็น​นาง​

แต่​เพราะเหตุใด​จึงมาถึงยาม​นี้​นั้น​เขา​ยังคง​ไม่อธิบาย​ เหตุ​เพราะ​นี่​มิใช่เรื่องสำคัญ​ ทว่า​หาก​ระหว่างทาง​มีชิวอ​วี้​คอย​ดูแล​ เช่นนั้น​นาง​ก็​พอ​จะมีที่พึ่ง​อยู่​บ้าง​

หลังจาก​ผ่าน​เส้นทาง​คดเคี้ยว​ ในที่สุด​ขบวน​พ่อค้า​ก็​เดินทางออก​นอก​เมืองหลวง​

หันกลับ​ไป​มอง​กำแพงเมือง​สูงตระหง่าน​ หัวใจ​อด​ที่จะ​รู้สึก​เบิกบาน​มิได้​

เหตุ​เพราะ​มีฐานะ​เป็น​พระชายา​ ดังนั้น​นาง​จึงทำได้​เพียง​แอบ​พราง​ตัว​ออกจาก​เมือง​ นี่​นับ​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ที่​ได้​ออกจาก​เมืองหลวง​อย่าง​ผ่าเผย​

ส่วน​ครั้งแรก​คือ​ตอนที่​หลง​เทียน​อวี้​พา​นาง​ไป​ที่​ค่ายทหาร​ของ​ท่าน​พี่​

หาก​หลง​เทียน​อวี้​รู้​ว่า​นาง​แอบหนี​ออกมา​เขา​จะโกรธ​หรือไม่​?

ช่างเถิด​ นาง​ไม่กลัว​หรอก​!

ขบวน​รถม้า​เดินทาง​ไม่เร็ว​เกินไป​ เหตุ​เพราะ​มีสัมภาระ​ค่อน​ข้างมาก​ ดังนั้น​ทุกคน​จึงสามารถ​ปรับตัว​ได้​หลังจาก​เวลา​ผ่าน​ไป​ครึ่ง​วัน​

ภายใน​อาณาจักร​ต้า​จิ้น​ แม้ทาง​ราชสำนัก​จะมิได้​สนับสนุน​การ​ทำการค้า​ แต่​เพื่อ​การพัฒนา​และ​ความรุ่งเรือง​ของ​แคว้น​ จึงมีการ​เรียก​เก็บภาษี​ทางน้ำ​ค่อนข้าง​สูง

ยิ่งไปกว่านั้น​ รายได้​จาก​การค้าขาย​ขน​แกะ​หรือ​ทองคำ​ก็​มาก​เพียง​พอที่จะ​เจือจุน​กองทัพ​ของ​ต้า​จิ้น​แล้ว​ ดังนั้น​ทาง​ราชสำนัก​จึงมีนโยบาย​เพื่อ​เอื้อประโยชน์​แก่​พ่อค้า​

อย่างเช่น​โรงเตี๊ยม​บน​ทางสัญจร​ที่​มีอยู่​ทุก​ช่วง​ของ​การหยุดพัก​ใน​การ​เดินทาง​ สิ่งเหล่านี้​สร้าง​ขึ้น​เพื่อ​เป็น​ที่พำนัก​ รวมถึง​บริการ​อาหาร​และ​น้ำดื่ม​แก่​พวก​พ่อค้า​ยาม​เหนื่อยล้า​

ขบวน​พ่อค้า​เดินทาง​กัน​มาตลอดวัน​ เมื่อ​ถึงยาม​พลบค่ำ​ พวกเขา​จึงเข้าใกล้​โรงเตี๊ยม​ซึ่งใกล้​เมืองหลวง​ที่สุด​แห่ง​หนึ่ง​

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ

Score 10
Status: Completed

ชีวิตแรกของ “ซูซิงเกอ” จบลงในห้องทดลองที่เธอรัก..

เมื่อตื่นมาอีกครั้ง ซูซิงเกอจึงได้ชีวิตใหม่ในร่างของ “หลินเมิ้งหยา”คุณหนูสมองพิการ

ที่มีผู้ปองร้ายเป็นแม่เลี้ยงและน้องสาวของตนเอง!

มิหนำซ้ำนางกำลังจะถูกส่งตัวไปแต่งงานกับ “หลงเทียนอวี้” ท่านอ๋องแสนเย็นชา

ที่ต้องแต่งงานทางการเมืองกับนาง โดยที่เขาก็ไม่ได้เต็มใจ

ช่างเป็นการเกิดใหม่ ที่แสนวิเศษจริงๆ! เอาละ! จะปล่อยให้เป็นไปแบบนี้ไม่ได้

นางหาใช่คนที่จะปล่อยให้ชะตาชีวิตเป็นไปตามลิขิตอย่างหลินเมิ้งหยาเสียเมื่อไหร่

เพราะนางคือ..วายร้ายจอมแก้แค้นซูซิงเกอ

นางจะใช้ความรู้สารพัดพิษที่มี จัดการพวกมันเอง

เริ่มจากยัยน้องสาวตัวดีก่อนละกัน!

Options

not work with dark mode
Reset