ทะลุมิติทั้งครอบครัว 279 เหมา เหมียว เมา

ตอนที่ 279 เหมา เหมียว เมา

ซ่งฝูห​ลิง​สั่งสอน​ลูก​ม้าเสร็จ​ก็​กลับบ้าน​

นาง​ถือ​ตะเกียง​ไปดู​หมี่​โซ่ว​ที่​กำลัง​หลับสนิท​ก่อน​ ลูบตัว​น้องชาย​ที่อยู่​ใน​ผ้าห่ม​ว่า​อุ่น​หรือไม่​

จากนั้น​ก็​หัน​ตัว​เดิน​ไป​ที่​เตาไฟ​

หยิบ​กระบอก​เป่า​ลม​ของ​นาง​ออกมา​ เป่า​ให้​ไฟใน​เตา​แรง​ขึ้น​อีกหน่อย​

เพิ่ม​ไฟ ต้ม​น้ำร้อน​ อยาก​ล้างหน้า​ล้าง​เท้า​สระผม​ก่อน​ จากนั้น​ก็​หันกลับ​ไป​เติม​ฟืน​ใส่เตา​ให้​หนิ​วจั่งกุ้ย​กับ​ซื่อ​จ้วง​และ​ต้ม​น้ำ​ให้​พวกเขา​ด้วย​ กลับมา​จะได้​ล้างหน้าล้างตา​ให้​สดชื่น​

ทำ​นั่น​ทำ​นี่​ไม่หยุด​ ซ่งฝูห​ลิง​เอา​น้ำ​ที่เก็บ​ไว้​ใน​บ้าน​มาเท​ใส่หม้อ​ต้ม​เป็น​น้ำร้อน​จน​หมด​ นาง​เอง​ก็​ทั้ง​ล้าง​ทั้ง​ขัด​ ใช้ไป​มากกว่า​ครึ่ง​ จากนั้น​ถึงได้​เข้า​บ้าน​ไป​นั่ง​บน​เตียง​

คลำ​กระเป๋า​ท่ามกลาง​ความมืด​หา​วิตามิน​กับ​แคลเซียม​ออกมา​กิน​ ‘ยากิน​’ ของ​พ่อแม่​ก็​เอา​กระดาษ​ห่อ​ไว้​เรียบร้อย​วาง​บน​ขอบ​หน้าต่าง​ จากนั้น​ก็​ทา​ครีม​บำรุง​ผิว​

ทา​ครีม​บำรุง​ริมฝีปาก​ ทา​บาล์มขน​แกะ​ที่​เท้า​ ชโลม​น้ำมัน​กำจัด​เหา​ที่​เส้น​ผม​

อันที่จริง​เหา​บน​หัว​ซ่งฝูห​ลิง​หาย​ไป​หมด​นาน​แล้ว​ เฉียน​เพ่​ย​อิง​เคย​บอก​นาง​อย่าง​ชัดเจน​ แต่​นาง​คิด​ว่า​ อืม​ ขอ​ทา​ไป​อีก​สัก​สอง​วัน​ ใช้หวี​เสนียด​สางให้​ลื่น​ และ​ก็​คิด​เสีย​ว่า​ทำให้​เลือด​ลม​ไหลเวียน​

เอนตัว​ลง​บน​เตียง​ ซ่งฝูห​ลิง​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​

ถึงแม้เมื่อวาน​ตอนกลางวัน​จะนอน​เอาแรง​ไป​แล้ว​ แต่​เมื่อคืน​ไม่ได้​นอน​เพราะ​ทำ​ขนมเค้ก​ วันนี้​ตอนกลางวัน​เร่ง​เดินทาง​ กลับมา​ก็​ไม่ได้​พัก​ ในที่สุด​ก็​เสร็จ​งาน​สักที​

อยู่​ใน​ผ้าห่ม​อุ่น​มาก​ ไม่นาน​ซ่งฝูห​ลิง​ก็​หลับสนิท​

คน​ที่​กลับ​ถึงบ้าน​ก่อน​คน​แรก​คือ​หนิ​วจั่งกุ้ย​กับ​ซื่อ​จ้วง​

ทั้งสอง​คน​พอ​เห็น​น้ำ​ร้อนใน​หม้อ​ น้ำ​ใน​กระติก​หมด​แล้วจึง​พา​กันเอา​กระติก​เปล่า​ไป​ที่​บ่อน้ำ​

คน​หนึ่ง​จับ​ อีก​คน​ตัก​น้ำ​

หนิ​วจั่งกุ้ย​กำชับ​ซื่อ​จ้วง​

“เดี๋ยว​กลับ​ไป​ พวกเรา​ก็​กลับ​ห้อง​ตัวเอง​ เจ้าเอง​ก็​ล้าง​เนื้อ​ล้าง​ตัว​ให้​สะอาด​ ล้าง​เท้า​ด้วย​ ข้า​รู้​ว่า​เจ้าไม่อยาก​ทำ​ แต่ว่า​นะ​ซื่อ​จ้วง​ มัน​ไม่ดี​จริงๆ​ เจ้าดู​คุณนาย​กับ​คุณหนู​ก็​น่าจะ​เข้าใจ​ รัก​ความสะอาด​จะตาย​…

…พวกเรา​เป็น​บ่าว​ จะสร้าง​ความยุ่งยาก​ให้​เขา​ไม่ได้​ เข้าใจ​ไห​ม…

…นาย​ท่าน​ทำ​กับ​พวกเรา​เหมือน​เป็น​คนรับใช้​ที่ไหน​กัน​ แต่​ยิ่ง​ครอบครัว​ของ​นาย​ท่าน​ไม่เห็น​พวกเรา​เป็น​คนนอก​ พวกเรา​ก็​ยิ่ง​ต้อง​ระวัง​ตัวเอง​ อย่า​ทำให้​พวกเขา​ลำบาก​”

ซื่อ​จ้วง​พยักหน้า​อย่าง​จริงจัง​

เขา​ไม่ชอบ​ทำความสะอาด​จริงๆ​ ครอบครัว​อื่น​ก็​ไม่ได้​ล้าง​กัน​ขนาด​นี้​ พอ​ทำงาน​เสร็จ​ก็​ล้ม​ตัว​นอน​กัน​ทันที​ คน​ที่​จัดเก็บ​นิดหน่อย​ก็​ถือว่า​เป็น​คนเจ้าระเบียบ​แล้ว​

ดังนั้น​บางครั้ง​ซื่อ​จ้วง​ก็​ไม่ได้​จงใจ แค่​ไม่ชิน​จึงลืม​ทำ​ไป​

สิบ​กว่า​ครอบครัว​เริ่ม​ทยอย​ดับไฟ​

คืนนี้​คน​ทำ​ขนมเค้ก​ต่าง​ก็​กลับกัน​เร็ว​

ทว่า​ซ่งฝูเซิงกับ​เฉียน​เพ่​ย​อิง​ที่อยู่​ใน​โรง​เพาะปลูก​พริก​ยัง​ไม่กลับบ้าน​

เวลานี้​ซ่งฝูเซิงนั่ง​อยู่​ข้าง​กำแพง​อุ่น​ กำลัง​ใช้กาว​กระเพาะปลา​ติด​ขา​โต๊ะ​

ซ่งฝูเซิงหา​ท่อนไม้​ที่​ขนาด​พอๆ กัน​มาสี่ท่อน​ทำเป็น​ขา​โต๊ะ​ ท่อนไม้​ทั้ง​สี่นี้​มีจุด​ที่​เหมือนกัน​นั่น​ก็​คือ​ ต่าง​เป็น​ท่อนไม้​ที่​ตอนนั้น​ไม่ได้​ถูก​ผ่า​ให้​เล็ก​เกินไป​ ยังคง​เป็น​ท่อน​กลม​ เขา​หา​ท่อน​ที่สูง​ต่ำ​เท่ากัน​ก็​เอา​มาใช้เป็น​ขา​โต๊ะ​

ส่วน​ด้านบน​ก็​คือ​แผ่น​ไม้กระดาน​ ทำ​มาจาก​บานประตู​เก่า​

ตอนที่​เพิ่ง​มาถึงที่นี่​ ประตู​หลาย​บาน​ใช้ไม่ได้​มิใช่หรือ​ จึงเปลี่ยนเป็น​บาน​ใหม่​หมด​

จากนั้น​ประตู​เก่า​ที่​ถูก​รื้อ​ออกมา​ก็​เสียดาย​ทิ้ง​ไม่ลง​ ซาก​ไม้ที่​แผ่น​ยาว​หน่อย​เอา​มาต่อกัน​ทำเป็น​ประตู​ห้องใต้ดิน​ ส่วน​ชิ้นเล็กชิ้นน้อย​ที่​เหลือ​ก็​ทิ้ง​ไม่ลง​เหมือนกัน​ เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​จึงเลือก​เอา​มาทำเป็น​ไม้กระดาน​ของ​โต๊ะ​

ซ่งฝูเซิงอยาก​ทำเป็น​โต๊ะ​เตี้ย​

เพราะ​เมื่อ​ตอนเย็น​เห็น​บุตรสาว​ดีใจ​ที่​ได้​หนังสือ​ รู้​ว่า​นาง​ร้อนใจ​อยาก​ฝึก​เขียน​อ่าน​ อยาก​ใช้พู่กัน​เริ่ม​เขียน​อย่าง​จริงจัง​

ย่อม​ไม่อาจ​ปล่อย​ให้​บุตรสาว​นอน​เขียน​บน​เตียง​ ทำ​โต๊ะ​เตี้ย​ให้​นั่ง​เขียน​บน​เตียง​ดีกว่า​ อุ่นๆ​ ไม่หนาว​ ทั้ง​ยัง​เอาไว้​ใช้กินข้าว​ได้​ด้วย​

นอกจากนี้​ซ่งฝูเซิงก็​ไม่อยาก​รบกวน​คนอื่น​ ถึงได้​ลงมือทำ​ด้วยตัวเอง​

งาน​ของ​คน​งานบ้าน​เขา​เยอะ​มาก​พอแล้ว​

ไม่ต้อง​เอาเรื่อง​ไกล​ตัว​ เอา​แค่​ถังนม​ ถังน้ำ​เล็ก​ใหญ่​แต่ละ​ขนาด​ใน​บ้าน​ของ​เขา​ กับ​กะละมัง​ไม้สำหรับ​นวดแป้ง​ทำ​ขนมเค้ก​ แค่นี้​ก็​ทำ​เสียเวลา​งานหลัก​ของ​บ้าน​ไป​ไม่น้อย​แล้ว​

“อักษร​ตัว​นี้​อ่าน​ว่า​อะไร​” เฉียน​เพ่​ย​อิง​ถือ​หนังสือ​พลาง​ถาม หนังสือ​เล่ม​นั้น​ก็​คือ​หนังสือ​หัด​เรียน​ที่​ลู่​พั่นยก​ให้​เด็ก​ๆ

“เหมา​ ตัว​เหมา​ของ​คำ​ว่า​เหมา​ตุ้น​ หอ​ มอ​ อี​ เอา​ เหมา​”

หอ​ มอ​ เฉียน​เพ่​ย​อิง​เขียน​ไว้​ด้านหลัง​อักษร​นี้​ว่า​ ‘เหมียว​’

เขียน​เสร็จ​นาง​ก็​มอง​ รู้สึก​แปลก​ๆ พอ​คิดได้​เฉียน​เพ่​ย​อิง​ก็​หันไป​ถลึงตา​ใส่ซ่งฝูเซิง “ข้า​ถาม ท่าน​ค่อย​ตอบ​ อะไร​ที่​ไม่ได้​ถามก็​ไม่ต้อง​พูด​ หอ​ มอ​ อี​ เอา​ อะไร​กัน​ หอ​ มอ​ อี​ เอา​ นั่น​มัน​เหมียว​มิใช่รึ​ เมีย​ว​ เหมียว​ เหมี่ยว​ เมี่ยว​ ข้า​ไม่ได้​อยาก​หาเรื่อง​ท่าน​หรอก​นะ​”

ซ่งฝูเซิงไม่ยอม​ เขา​ติด​ขา​โต๊ะ​พลาง​เถียง​ เขา​พูดว่า​หอ​ มอ​ อี​ เอา​ คือ​ เหมา​ เหมียว​มัน​ หอ​ มอ​ เอีย​ วอ​เหมียว​

เฉียน​เพ่​ย​อิง​แก้​ให้​ถูก​ “มอ​เอา​ รวมกัน​เป็น​เมา มอ​ เอา​ เมา ซึ่งก็​คือ​เหมา​ที่​ท่าน​บอก​ มอ​เอา​ถูก​”

“งั้น​เหรอ​” ซ่งฝูเซิงเกา​หัว​

เฉียน​เพ่​ย​อิง​ขี้เกียจ​จะสนใจ​เขา​

นาง​ใช้ยางลบ​ที่อยู่​ท้าย​ดินสอ​ลบ​คำ​ที่​เขียน​ผิด​ พลาง​คิด​

สมัย​ประถม​เขา​เรียน​มายังไง​กัน​แน่​ มิน่า​ตอน​คุย​วี​แชท​ถึงชอบ​ส่งเป็น​เสียง​มา เมื่อ​ก่อนเวลา​ส่งข้อความ​ก็​ชอบ​พิมพ์​ผิด​

อีก​ทั้ง​ใน​ใจก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ เหลวไหล​เกินไป​จริงๆ​

ใน​บ้าน​ คน​ที่​เรียน​ไม่ได้เรื่อง​ที่สุด​ พอ​มาอยู่​ใน​สมัยโบราณ​กลับ​กลายเป็น​คน​ที่​มีความรู้​ที่สุด​

แต่​นาง​กับ​ลูกสาว​กลับ​ลำบาก​ ไม่มีความทรงจำ​ของ​ร่าง​เดิม​

อักษร​ของ​สมัยโบราณ​กับ​สมัยปัจจุบัน​ไม่เหมือนกัน​

โดยเฉพาะ​อักษร​ของ​ยุค​ราชวงศ์​นี้​ แปลกประหลาด​มาก​ เท่ากับ​ว่า​ต้อง​เรียนรู้​ใหม่​ตั้ง​แต่ต้น​

มิน่า​ลูกสาว​นาง​ถึงได้​รีบร้อน​อยาก​เรียนหนังสือ​ กลัว​ว่า​ถ้าเด็ก​ๆ ได้​หนังสือ​จะรีบร้อน​เรียน​ยิ่งกว่า​ กลัว​ถูก​จับได้​ว่า​อ่านไม่ออก​แบบ​นั้น​จะยิ่ง​โมโห​ ก็​จริง​ ให้​คน​ที่​เมื่อก่อน​อ่าน​ออก​เขียน​ได้​ถือ​ดินสอ​ไป​ขอ​คำ​ชี้แนะ​ว่า​อักษร​ตัว​นี้​เขียน​อย่างไร​ ลูกสาว​ของ​นาง​จะไม่รู้สึก​แย่​ได้​รึ​

เฉียน​เพ่​ย​อิง​คิด​แค่​ว่า​ หลังจากที่​นาง​ถามเสียงอ่าน​ของ​แต่ละ​อักษร​จาก​ซ่งฝูเซิงเสร็จ​ ก็​จะใช้ดินสอ​เขียน​พินอิน​กำกับ​ไว้​ใน​หนังสือ​ เหมือน​อย่าง​อักษร​เหมา​ของ​คำ​ว่า​เหมา​ตุ้น​เมื่อ​ครู่​ จากนั้น​ก็​ประกอบ​เป็น​คำ​ เขียน​คำ​ว่า​เหมา​ตุ้น​ แบบนี้​ลูกสาว​ของ​นาง​ก็​จะจำได้​เร็ว​ขึ้น​

และ​นาง​ก็​จะได้​ถือโอกาส​ฝึก​จำอักษร​ไป​ด้วย​ตอน​เขียน​พินอิน​

เป็น​คน​ไม่รู้หนังสือ​ ตอน​ไม่เป็น​ไม่รู้สึก​อะไร​ พอ​ไม่รู้หนังสือ​จริงๆ​ ถึงตระหนัก​ได้​ว่า​ความรู้สึก​นั้น​มัน​ช่างแย่​เหลือเกิน​

“ท่าน​ดู​สิ อักษร​ตัว​นี้​อ่าน​ว่า​อะไร​”

ซ่งฝูเซิงเหลือบมอง​ “เซ่อ​ ตัว​เซ่อ​ของ​คำ​ว่า​ ต้า​เซ่อ​เทียน​ซย่า​”

“หึๆ​ๆ ไอ๊ห​ยา​ ท่าน​พี่​ น่าทึ่ง​จริงๆ​ ท่าน​เขียน​อักษร​โบราณ​เป็น​ เขียน​อักษร​เซ่อ​ของ​ยุคปัจจุบัน​เป็น​หรือเปล่า​ ข้า​ชัก​สงสัย​แล้ว​ว่า​ท่าน​แยก​อักษร​เซ่อ​กับ​ห่า​ว​ไม่ออก​”

ซ่งฝูเซิงทำ​เสียง​จึ๊ ทำไม​ยัง​แฝงไป​ด้วย​การ​ดูถูก​อยู่​อีก​ “ตัวหนังสือ​ของ​สมัยปัจจุบัน​ข้า​ไม่ไหว​ แต่​ของ​ยุค​สมัยนี้​ข้า​ไหว​นี่​ ข้า​สามารถ​พูด​ออกมา​ได้​อย่าง​น่ายกย่อง​ ที่รัก​ แบบนี้​เรียก​อะไร​รู้​ไหม​ เขา​เรียก​ว่า​ดวงดี​”

ทั้งสอง​คน​ทำงาน​พลาง​เรียนรู้​อักษร​ หยอกล้อ​โต้เถียง​กัน​ไป​

สุดท้าย​ทั้งสอง​คน​ คน​หนึ่ง​เอา​หนังสือ​หนีบ​ไว้​ใต้​รักแร้​ ล็อค​ประตู​ อีก​คน​อุ้ม​โต๊ะ​เตี้ย​ยืน​รอ​ภรรยา​อยู่​ข้างๆ​ พวกเขา​กลับบ้าน​พร้อมกัน​ ล้างหน้า​ล้าง​เท้า​ท่ามกลาง​ความมืด​ คลำ​ทางขึ้น​เตียง​ ดื่ม​น้ำ​ กิน​แคลเซียม​ด้วยกัน​

ใน​ผ้าห่ม​ ซ่งฝูเซิงเอา​เท้า​เขี่ย​ภรรยา​ ไม่อยาก​ให้​นาง​นอน​หันหลัง​ให้​เขา​

ในขณะเดียวกัน​ มีคู่สามีภรรยา​ใน​เมือง​เฟิ่งเทียน​ที่​ความสัมพันธ์​ดี​ยิ่งกว่า​ซ่งฝูเซิงกับ​เฉียน​เพ่​ย​อิง​กำลัง​คุย​กัน​กลางดึก​

แสดงให้เห็น​ว่า​ ปัจจัย​ที่​ใช้ตัดสิน​ความสัมพันธ์​ของ​สามีภรรยา​ อาจ​ไม่ใช่ว่า​ความรัก​ของ​คนโบราณ​สมัย​ศักดินา​ไม่ดี​ ยุค​สมัยปัจจุบัน​ที่​คน​เท่าเทียมกัน​ถึงจะดี​

ณ จวน​ฉี

ฉีตง​หมิง​ถาม “คน​บ้าน​เจ้าสามปากมาก​อีกแล้ว​รึ​ ข้า​รู้สึก​ว่า​เจ้าสามชัก​ขาด​การ​สั่งสอน​ แม้แต่​สตรี​คนเดียว​ก็​คุม​ไม่ได้​ คน​บ้าน​เจ้าสามก็​เหมือนกัน​ เรื่อง​วุ่นวาย​ใน​เรือน​ตัวเอง​มีอยู่​ไม่น้อย​ ยัง​จะมือ​ยาว​มายุ่ง​เรื่อง​ชาวบ้าน​”

ฉีตง​หมิง​ พี่เขย​คน​ที่สาม​ของ​ลู่​พั่น​ ตำแหน่ง​ใน​ตอนนี้​คือ​ หัวหน้า​ทหาร​ที่​มีหน้าที่​ตรวจค้น​บ้าน​ ขุนนาง​ใหญ่​คน​ไหน​ต่าง​ก็​ไม่ยินดี​ให้​เขา​มาปรากฏตัว​ที่​บ้าน​ทั้งนั้น​

ลู่​จือ​หว่าน​นั่ง​ยืดตัว​ “เรือน​ของ​พวกเรา​ใหญ่​ถึงเพียงนี้​ ย่อม​มีข่าว​เล็ดลอด​ออก​ไป​บ้าง​ ข้า​ไป​เจอ​คนคุม​งาน​ของ​สวนเกษตร​กับ​ร้านค้า​พวก​นั้น​มา พวก​นาง​รู้​ว่า​ข้า​ชดใช้​เงิน​ไป​อีกแล้ว​ และ​ก็​น่าจะ​ไป​พูด​บางอย่าง​กับ​ท่าน​แม่ ท่าน​พี่​ หรือ​ข้า​จะไม่ถนัด​ดูแล​กิจการ​จริงๆ​”

“เหลวไหล​ เวลา​ของ​เจ้ายัง​มาไม่ถึงต่างหาก​ ยัง​ไม่ถึงเวลา​ให้​เจ้าได้​แสดง​ฝีมือ​ อีก​อย่าง​ชดใช้​เงิน​แล้ว​อย่างไร​ พวกเรา​พอใจ​ ไม่ได้​เอา​เงิน​พวกเขา​มาชดใช้​เสียหน่อย​”

ลู่​จือ​หว่าน​พูด​ “ท่าน​เข้าใจ​เพียง​ส่วน​เดียว​ ไม่ใช่เพราะ​เรื่อง​เงิน​จริงๆ​ ท่าน​พี่​ไม่เข้าใจ​ส่วน​อื่น​ ที่​ข้า​ทนไม่ไหว​ก็​คือ​ มัน​เสียหน้า​น่ะ​เสียหน้า​”

มัน​คล้าย​กับ​ว่า​นาง​ไม่ถนัด​ดูแล​กิจการ​ อีก​ทั้ง​นาง​ยัง​เป็น​สะใภ้ใหญ่​ เหมือนว่า​อีกหน่อย​นาง​ได้​เป็น​ฮูหยิน​ดูแล​ทั้ง​ครอบครัว​ จะทำให้​จวน​ฉีเละเทะ​เสีย​อย่างนั้น​

ดังนั้น​เรื่อง​เงิน​น่ะ​ไม่มีปัญหา​หรอก​ แต่​ถูก​คน​หัวเราะเยาะ​ลับหลัง​เรื่อง​นี้​ ทำ​อะไร​ก็​ขาดทุน​ ใน​ใจรู้สึก​ไม่ยอม​จริงๆ​

แม้แต่​ปี้​เถาที่อยู่​ข้าง​กาย​ยัง​พูดว่า​ “คุณหนู​เจ้าคะ​ ปล่อย​เช่าร้าน​เถอะ​เจ้าค่ะ​ อย่า​ทำการค้า​เอง​เลย​ ทำ​สิ่งไหน​ก็​ขาดทุน​สิ่งนั้น​ เก็บ​ค่าเช่า​เอา​ดีกว่า​เยอะ​เจ้าค่ะ​”

หาก​ปล่อย​เช่าตั้งแต่​ตอนแรก​ก็​คง​จบ​แค่นั้น​แล้ว​

ทว่า​บัดนี้​ นาง​ขน​สินค้า​ทางทะเล​ แต่​เรือ​ก็​อัป​ปาง​ ขน​เครื่องกระเบื้อง​ แจกัน​กระเบื้อง​กับ​ถ้วยชาม​สวย​ๆ ทั้งนั้น​ เหตุใด​ถึงไม่มีคนซื้อ​ นาง​ไม่เชื่อ​อาถรรพ์​อะไร​พวก​นั้น​หรอก​

ทะลุมิติทั้งครอบครัว

ทะลุมิติทั้งครอบครัว

Score 10
Status: Completed

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งกลับพบว่าตนเองอยู่ในยุคสมัยที่ไม่เคยคุ้น

สิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง กระทั่งอายุของร่างที่อาศัยอยู่ยังอ่อนเยาว์กว่าตัวจริงหลายปี

ยังไม่ทันได้เตรียมใจไฟสงครามก็ลุกโหม สิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อมาถึงยุคโบราณที่ไม่มีจริงในประวัติศาสตร์โลกก็คือ…การลี้ภัย!

แต่ไม่เป็นไร ไม่ว่ามีปัญหาจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ไม่หวั่น เพราะคนอื่นทะลุมิติมาแค่คนเดียว แต่เราทะลุมากันทั้งครอบครัว!

Options

not work with dark mode
Reset