บทที่ 1162 ความกังวลใจของชุยถงหลาน
บทที่ 1162 ความกังวลใจของชุยถงหลาน
ซูเสี่ยวเถียนตกใจมากตอนรู้ว่าหูเสี่ยวเหลียนเตรียมตัวเปิดร้านแทบจะในทันที
ไม่ต้องเลือกฤกษ์อะไรหน่อยหรือ?
คนในช่วงสองปีนี้คนเป็นกังวลเรื่องฤกษ์งามยามดีมาก
“พี่หูไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ค่ะ วันนี้เราใช้เวลาเยอะแล้วนะคะ ต้องรีบด้วยหรือคะ?”
เธอชักชวน
ทว่าอีกฝ่ายกลับส่ายหัวท่าเดียว “แค่นี้ก็พอแล้ว เดี๋ยวพี่กลับบ้านเลยจะได้ใช้รถเข็นมาขนของย้ายมาน่ะ”
น่าจะยากแฮะ
เพราะหูเสี่ยวเหลียนไม่คุ้นเคยพื้นที่ ไม่มีทางที่สามแม่ลูกจะเข็นมาได้หรอก
ช่างเถอะ ทำให้ถึงที่สุดไปเลยดีกว่า
หลังจากนั้นซูเสี่ยวเถียนก็ช่วยติดต่อหารถให้
สิ่งนี้จะช่วยพวกเธอเรื่องเดินทางด้วยก็เลยไม่มีอะไรให้ห่วง
แต่เธอไม่ได้ไปช่วย หลังจากแจกแจงอะไรเสร็จก็ตรงกลับบ้านทันที
พอมาถึงก็ต้องแปลกใจเมื่อพบกับชุยถงหลาน
“พี่ถงหลาน ลมหอบอะไรมาเนี่ย?”
เธอยิ้มทัก เราไม่ได้เจอกันมาหลายวันแล้ว พอได้เจอกันเลยดีใจมาก
แม้จะมีช่องว่างความต่างด้านอายุค่อนข้างมาก แต่ซูเสี่ยวเถียนชอบคนนิสัยแบบชุยถงหลานนัก
เพราะรู้จักกันมานาน ความสัมพันธ์จึงดีขึ้นเรื่อย ๆ แทบจะเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันแล้ว
ชุยถงหลานเองก็ชอบเด็กคนนี้ พอได้เจอกันถึงกับยิ้มออกมา
“พี่มีธุรแถวนี้น่ะ พองานเสร็จก็เลยแวะมาหาแต่เธอไม่อยู่น่ะซี่”
เธอตั้งใจมาหาเลย แม้รู้ว่าเด็กสาวไม่อยู่กลับไม่ได้ผิดหวังอะไร อีกทั้งยังให้ของขวัญกับคุณย่าซูเช่นกัน
จะกลับบ้านเลยก็เขิน ๆ เลยนั่งคุยกับท่านอยู่นาน
ในขณะที่กำลังจะบอกลาก็เห็นซูเสี่ยวเถียนกลับมาพอดี
“หนูเพิ่งพูดเองว่าจะไปหาพี่สักหน่อย ไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นฝ่ายมาหา” ซูเสี่ยวเถียนนึกเรื่องที่เจอกับกู้เฉิงเซวียนวันนั้นก่อนเอ่ยออกมา
วันนี้ชุยถงหลานไม่ถือว่าอารมณ์ดีเท่าไร แต่จะเป็นการถือโอกาสแวะมาหา แต่ใจหนึ่งก็อยากผ่อนคลายด้วยน่ะ
เมื่อได้ฟังคำของเด็กสาวก็พอเดาอะไร ๆ ได้
“มีเรื่องดี ๆ จะคุยกับพี่หรือ?”
ทีแรกหยอกเฉย ๆ แต่เด็กดันพยักหน้าจริงจังเนี่ยสิ!
“มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“หนูเห็นว่าเพื่อนเรียนหนูดูเหมาะสมกับพี่กู้ดีค่ะ ก็เลยอยากให้พวกเขามาเจอกัน”
สีหน้าชุยถงหลานเปลี่ยนไปทันที
รอยยิ้มยังจางหายไปด้วย
ซูเสี่ยวเถียนสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น
เพราะกู้เฉิงเซวียนอายุอานามไม่น้อยแล้ว ที่บ้านคงอยากให้หาคู่ครองโดยไวสินะ?
เพราะตอนที่เสนอเพื่อนให้ อย่างน้อยก็ไม่ควรมีสีหน้าตอบรับแบบนั้นสิ
เป็นนักศึกษาของจิ่งเฉิง อย่าว่าแต่ภูมิหลังครอบครัวเลย แค่นี้ก็โดดเด่นแล้ว
จากนั้นก็ได้ยินอีกฝ่ายถอนหายใจยืดยาว
“มีเรื่องอะไรหรือคะ? หรือพี่กู้มีคนที่ชอบแล้ว?”
ถ้างั้นสองคนนี้ก็คงไม่ได้ถูกโชคชะตากำหนดไว้แล้วละ
ชุยถงหลานส่ายหัว
“ไม่มีหรอก แต่ว่า เฮ้อ!”
ปกติชุยถงหลานเป็นคนสดใส ไม่เคยถอนหายใจแบบนี้มาก่อน
“บอกมาเถอะค่ะ ไปเจออะไรมา?”
เมื่อวานกู้เฉิงเซวียนยังดี ๆ อยู่เลยนี่ แล้วมีเรื่องอะไรถึงทำให้พี่ถงหลานถอนหายใจได้ขนาดนี้?
“น้องสาวฝั่งบ้านพี่มาหาน่ะ ที่บ้านฝากบอกมาว่าหวังจะให้เขากับเฉิงเซวียนได้อยู่ด้วยกัน”
“พี่อยู่ตระกูลกู้มาตั้งนาน ทำไมจะไม่รู้จักนิสัยเฉิงเซวียนมัน ถึงญาติพี่จะรูปร่างหน้าตาดีแต่ไม่ใช่แบบที่เฉิงเซวียนชอบแน่นอน”
ว่าง่าย ๆ คือ ชุยถงหลานหวังว่าญาติเธอกลับบ้านไปจะดีกว่า ไปหาสามีดี ๆ แต่งงานสักคนแล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
ทว่าญาติผู้น้องที่ไม่เต็มใจจะมาเมืองหลวงกลับตกหลุมรักกู้เฉิงเซวียนตั้งแต่แรกพบ แล้วตอนนี้ก็ยังไม่กลับไปเลย
เพราะญาติตนยังอยู่ กู้เฉิงเซวียนเลยไม่ยอมกลับเสียที
เป็นว่านาน ๆ กลับมาที แล้วก็กลับดึกด้วย
แต่ญาติผู้น้องดันไม่ยอมฟังอะไร ไม่คิดสักนิดว่าอีกฝ่ายไม่ชอบแต่มาว่าที่ตนไม่ช่วยจับคู่สามีให้ แถมยังบอกอีกว่าถ้าช่วยกันอย่างน้อยก็ยังราบรื่นกว่านี้หรือเปล่า
ไม่เห็นรู้เลยว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดจารุนแรงออกมาได้
จะได้ราบรื่น?
เพื่อส่งตัวเองไปอยู่ในอ้อมแขนผู้ชายน่ะนะ?
อย่าแต่แต่งไม่สำเร็จเลย ถึงแต่งได้เขาก็ไม่ชอบอยู่ดี
“ตลกเหลือเกิน แล้วยังมีการมาบอกด้วยนะว่าที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้พี่ได้คิดพิจารณา บอกว่าชีวิตแต่งงานพี่มันคือรักทางไกล ถ้าไม่ได้ที่บ้านช่วยป่านนี้ลำบากไปแล้ว”
“พี่ว่าถ้าญาติคนนั้นยังอยู่ต่อ พี่ต้องเกลียดเขาแน่เลย”
น้ำเสียงชุยถงหลานมีแค่ความกรุ่นโกรธ
ตระกูลกู้ถือเป็นครอบครัวที่ดี แม้จะเคยว่าตนเรื่องที่มีลูกไม่ได้ก็ตาม
ทว่าญาติผู้น้องที่มาอยู่เมืองหลวงตอนนี้ แย่ทั้งในและนอกเลย