บทที่ 557 เค้าโครงห้าดินแดนใหญ่
บทที่ 557 เค้าโครงห้าดินแดนใหญ่
ลู่หยวนขมวดคิ้วหลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ
คราวนี้มันเกิดอะไรขึ้น?
สองคนนี้นับว่าเป็นทัณฑ์จากวิถีสวรรค์ด้วยหรือ?!
ทว่าลู่หยวนไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม ต่อให้ทราบเหตุผลของเรื่องนี้หรือไม่มันก็ไม่มีอะไรแตกต่างอยู่ดี
กู้ชิงหรันเคลื่อนลงมาอยู่ข้างกายลู่หยวนขณะเอ่ยช้า ๆ “สองคนนี้ล้วนเป็นร่างจำแลงจากแดนเซียน”
ทันทีที่สิ้นคำ ลู่หยวนก็เข้าใจความหมายของกู้ชิงหรัน
มันเป็นธรรมดาที่จะมีการเชื่อมโยงพิเศษระหว่างร่างหลักกับร่างจำแลง
ร่างหลักจะเข้าใจทุกสิ่งที่ร่างจำแลงประสบ
แม้น้อยคนนักในแผ่นดินหยวนหงที่จะฝึกฝนร่างจำแลง แต่ลู่หยวนก็ยังคงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ร่างจำแลงนับเป็นทุนการบ่มเพาะที่มีอยู่ในร่างหลัก หากการบ่มเพาะร่างจำแลงไปถึงระดับหนึ่งแล้วกลับคืนสู่ร่างหลัก มันจะเป็นเสริมแกร่งให้อีกชั้น
แต่ถ้าร่างจำแลงตายก็จะส่งผลกระทบต่อร่างหลักเช่นกัน
ขณะมองร่างจำแลงทั้งสองที่เพิ่งตายไป พวกนางล้วนเป็นตัวตนที่การบ่มเพาะไม่ตื้นเขิน ซึ่งมันอาจจะส่งผลต่อร่างหลักค่อนข้างมาก
ร่างหลักทั้งสองนี้อาจจะเคียดแค้นต่อลู่หยวนก็เป็นได้
ลู่หยวนยิ้มบาง “หากข้าเจอพวกนางในแดนเซียนอีก ข้าก็จะถือกล่องกระบี่นี้อีกครั้ง ถึงตอนนั้นพวกนางจะต้องเข้ามาหมอบคลานเป็นแน่!”
กู้ชิงหรันนึกถึงรูปลักษณ์น่าสมเพชของทั้งสองเมื่อครู่ก่อนมุมปากจะยกยิ้มเล็กน้อย
ลู่หยวนมอบกล่องกระบี่ให้กู้ชิงหรัน จากนั้นก็เอ่ย “ในที่สุดเรื่องบนเขาบูรพาก็จบลงเสียที หลังจากไปแดนมัชฌิมกับข้าแล้ว พวกเราค่อยกลับไปที่แดนเหนือ เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”
กู้ชิงหรันเก็บกล่องกระบี่ก่อนจะตอบตกลง
ลู่หยวนพากู้ชิงหรันกับซวี่รั่วหลิงมุ่งหน้าไปทางแดนมัชฌิมทันที!
ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนก่อนหน้า
…
ซ่งชิงกลับมาที่ตำหนักประตูสวรรค์เพียงลำพัง โดยทุกคนภายในตระกูลต่างเข้ามาทักทายด้วยความเคารพ
สีหน้าของเขาหมองหม่นจนเผยให้เห็นความหดหู่อย่างชัดเจน
ทุกคนทราบดีว่าซ่งชิงในตอนนี้อารมณ์ไม่ดี ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าพูดจาเหลวไหลขณะยืนเคียงข้างกันทีละคน
ซ่งชิงกลับตำหนักตัวเอง ทันทีที่ประตูปิด ผู้คนทั้งหลายซึ่งยืนอยู่ข้างในต่างเป็นคนสนิทของเขา
ซ่งชิงหันหลังให้ทุกคนด้วยสีหน้าย่ำแย่ ไม่ทราบได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
คนที่เหลือมองหน้ากันโดยไม่กล้าส่งเสียง พวกเขาทำได้เพียงคาดเดาอยู่ในใจ
แม้ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จ้าวเยี่ยนกับฉือเซ่าผู้ติดตามซ่งชิงก็ไม่กลับมา นั่นแสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ร้ายแรงมากแค่ไหน!
หรือว่าจ้าวเยี่ยนกับฉือเซ่าผนึกกำลังกันเพื่อช่วยให้คุณชายกลับมาได้?!
แม้ทุกคนจะพากันคาดเดา แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป ซ่งชิงค่อยเงยหน้าขึ้นขณะมองบัลลังก์หยกตรงหน้า เขาย่างก้าวไปทีละขั้นก่อนจะหันหลังแล้วนั่งลง
ทุกคนเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบว่าซ่งชิงขจัดอารมณ์หดหู่ทั้งหลายออกไปสิ้น ราวกับว่าเขากลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง!
“คุณชาย!”
ทุกคนคุกเข่าเพื่อทำความเคารพซ่งชิง!
ซ่งชิงหลุบตา “ตอนนี้กองกำลังที่ประจำในดินแดนทั้งหลายบนแผ่นดินใหญ่เป็นอย่างไรบ้าง?”
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ซ่งชิงเริ่มส่งกองกำลังตัวเองไปตามห้าดินแดนใหญ่ของแผ่นดินหยวนหง
กองกำลังเหล่านี้อาศัยรากฐานที่เกิดจากซ่งชิงเพื่อรักษาซึ่งกันและกัน ในระยะเวลาอันสั้น พวกเขาต่างยึดครองตำแหน่งสำคัญในห้าดินแดนใหญ่ได้!
ตอนนี้ทะเลใต้กับอาณาจักรประจิมอยู่ภายใต้การควบคุมของซ่งชิงเป็นส่วนใหญ่!
ชายผู้ค่อนข้างมีจิตใจดีก็ยืนขึ้นท่ามกลางฝูงชน แม้เขาจะดูธรรมดา แต่พลังที่รวบรวมอยู่ทั่วร่างกลับพลุ่งพล่านด้วยความโอ่อ่าจนทำให้ผู้คนยอมจำนน!
เขาคือบุคคลอันดับหนึ่งผู้อยู่ใต้อาณัติซ่งชิง… กวนผิงซื่อ!
“คุณชาย เค้าโครงของเขาบูรพายังไม่คืบหน้ามากนัก ผู้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเราเป็นเผ่าขนาดเล็กที่ไม่สามารถสร้างผลกระทบอะไรได้ในตอนนี้”
“แม้แดนเหนือกับแดนมัชฌิมจะมีกองกำลังแทรกซึมเข้าไปเป็นจำนวนมาก แต่การกำราบจักรพรรดินีแดนมัชฌิมกับตระกูลลู่ยากเกินไป ถึงตระกูลเหล่านี้จะมีสิทธิ์มีเสียง แต่ก็พูดได้เพียงน้อยนิด ยิ่งกว่านั้นตระกูลในแดนเหนือกับแดนมัชฌิมคล้ายกับหวั่นเกรงต่อลู่หยวนตามสัญชาตญาณ ข้าเกรงว่าหากไปขัดผลประโยชน์ของลู่หยวนขึ้นมา พวกเขาก็จะพากันถอดใจ!”
“ส่วนอาณาจักรประจิมกับทะเลใต้ การตระเตรียมเสร็จสิ้นเรียบร้อย ตระกูล สำนัก และราชวงซ์ขนาดใหญ่เริ่มอยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเราแล้ว”
กวนผิงซื่ออธิบายเค้าโครงโดยสังเขป ในตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจความคิดของซ่งชิงขึ้นมา
ในการต่อสู้ครั้งนี้ คุณชายจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน แม้แต่ฉือเซ่ากับจ้าวเยี่ยนก็ไม่กลับมา นั่นแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายสูญเสียไปมากแค่ไหน
และทันทีที่กลับมา สิ่งแรกที่คุณชายถามคือเค้าโครงอำนาจ นั่นเป็นการบ่งบอกว่าเขาอาจจะกำลังเปรียบเทียบกับลู่หยวน!
ดวงตาของซ่งชิงจับจ้องกวนผิงซื่อขณะเน้นย้ำทีละคำ “ถ่ายทอดคำสั่งให้กองกำลังทั้งหมดทำการผลัดเปลี่ยนให้เสร็จภายในสามวัน! ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาคือกองกำลังระดับสูงทั้งหมดที่ไว้ใจได้!”
สิ้นคำ ทุกคนก็ตกตะลึง
กวนผิงซื่อคาดเอาไว้อยู่แล้ว แต่ภายในสามวันมันออกจะเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดไปบ้าง
การเปลี่ยนแปลงอำนาจครั้งนี้ล้วนเกี่ยวกับการรักษาความลับ
อาณาจักรประจิมกับทะเลใต้ล้วนเป็นเช่นนี้ ตระกูลและราชวงศ์ทั้งหลายย่อมไม่เต็มใจที่จะตกอยู่ภายใต้อาณัติของตำหนักประตูสวรรค์กับซ่งชิง
แต่สาเหตุที่ยอมแปรพักตร์ก็เพื่อใช้นามของตำหนักประตูสวรรค์ข่มขวัญ โดยแลกกับการทำงานหรือไม่ก็อยากฉวยโอกาสเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง เพราะงั้นพวกเขาจึงไม่อยากสร้างความขุ่นเคืองให้กับซ่งชิงและตำหนักประตูสวรรค์
ไม่ว่าจะเป็นจุดประสงค์อะไร คนเหล่านี้ก็ไม่สามารถระดมพลได้ในช่วงวิกฤต
สิ่งนี้ทำให้ผู้คนในตำแหน่งสำคัญที่สุดจะต้องจงรักภักดีต่อซ่งชิง
หากมองจากจุดเริ่มต้นของเค้าโครง ตำแหน่งสำคัญล้วนถูกเปลี่ยนมือท่ามกลางกองกำลังที่ถูกควบคุม
กองกำลังที่ซ่งชิงเลือกจะต้องมีภูมิหลังไม่ธรรมดาและต้องแทรกซึมอยู่ในนั้นมากพอ
ท่ามกลางคนจำนวนมากก็มักมีใครบางคนที่จงรักภักดีต่อซ่งชิงเสมอ
ต่อให้ไม่จงรักภักดี มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซ่งชิง
ซ่งชิงเพียงต้องหาผู้สืบทอดมากความสามารถท่ามกลางกองกำลังเหล่านี้ จากนั้นก็ใช้ระบบเพื่อทำให้จงรักภักดีก็เท่านั้น
ทว่าการคัดเลือกผู้สืบทอดไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงอย่างไรหากเกิดการผลัดเปลี่ยนอำนาจเร็วเกินไปคงเป็นเรื่องยากที่จะไร้ผู้คนสนใจ ถึงตอนนั้น หากไม่ระวังให้ดีก็จะเกิดความขัดแย้งภายในหรือตกเป็นเป้าจากโลกภายนอกได้ ซึ่งต้องใช้ความพยายามสุดกำลังเพื่อแก้ไขปัญหานี้
ประกอบกับซ่งชิงไม่รีบร้อน ดังนั้นเขาจึงปล่อยให้กองกำลังเหล่านี้มองหาจุดสังเกตก่อนจะเริ่มเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญ
แต่ตอนนี้ซ่งชิงไม่คิดจะอดทนรออีกต่อไป
เขาอยากรีบให้คนของตัวเองควบคุมกองกำลังเหล่านี้ทั้งหมด!
มีเพียงการทำแบบนี้เท่านั้น ระบบจึงจะยอมรับว่าพวกเขาเป็นกองกำลังของซ่งชิง แล้วค่าโชคชะตาของกองกำลังเหล่านี้ก็จะสามารถนำมาใช้งานได้!
ซ่งชิงทราบดีว่าการต่อสู้กับลู่หยวนเป็นการต่อสู้กับระบบขนาดใหญ่ หากใครมีค่าโชคชะตามากกว่าก็จะได้รับชัยชนะ!