สตรีแกร่งตระกูลไป๋ 1205 ต้องตาย

ตอนที่ 1205 ต้องตาย

ตอนที่ 1205 ต้องตาย

“ขอบพระคุณท่านแม่ทัพมากขอรับ!”

“ขอบพระคุณท่านแม่ทัพมากเจ้าค่ะ!”

หลิ่วผิงเกากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “เดิมทีข้าบอกไว้ว่าหากพวกเจ้าออกจากเมืองเจียงจือไปแล้วจะไม่ได้กลับเข้ามาในเมืองอีก ทว่า ข้าเห็นแก่ที่พวกเจ้าคือชาวบ้านของต้าโจวจึงตัดสินใจรับพวกเจ้าเข้ามาในเมืองอีกครั้งโดยพลการ พวกเจ้าจงจำไว้ให้ดีว่าเรื่องดีๆ เช่นนี้ไม่ได้มีทุกครั้ง”

“ตอนนี้พวกเจ้าน่าจะรู้แล้วว่าในสายตาของคนซีเหลียงพวกเจ้ากลายเป็นชาวบ้านของต้าโจวแล้ว พวกเจ้าน่าจะรู้นิสัยของทหารซีเหลียงดี หากพวกเขายึดเมืองได้พวกเขาจะสังหารชาวบ้านในเมืองทิ้ง!” หลิ่วผิงเกากวาดสายตามองชาวบ้านทุกคน จากนั้นกล่าวเสียงดังลั่น “ดังนั้นหากทุกคนอยากมีชีวิตรอดก็จงให้ความร่วมมือกับทหารต้าโจว ช่วยกันปกป้องเมืองเจียงจือให้ดี!”

“ส่วนพวกเจ้า!” หลิ่วผิงเกามองไปทางชาวบ้านที่เพิ่งได้กลับเข้ามาในเมืองที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น “ข้าจะจำเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ไว้ก่อน หากพวกเจ้าสร้างความดีความชอบได้ในสงครามครั้งนี้ก็ดีไป หากไม่…”

น้ำเสียงของหลิ่วผิงเกาหยุดลงชั่วขณะ “หากปล่อยให้ทหารซีเหลียงบุกเข้ามาในเมืองได้สำเร็จพวกเจ้าต้องตายจริงๆ แน่”

หลิ่วผิงเกากล่าวจบจึงหมุนตัวจากไปทันที

บัดนี้ชาวบ้านทุกคนเชื่อแล้วว่าหากปล่อยให้ทหารซีเหลียงบุกเข้ามาในเมืองพวกเขาต้องตายอย่างแน่นอน

มนุษย์ทุกคนต่างปรารถนาที่จะมีชีวิตรอด ผู้ใดไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปบ้าง

ดังนั้นชาวบ้านต่างช่วยทหารต้าโจวขนของที่สามารถต้านทานศัตรูได้ขึ้นไปบนกำแพงเมืองอย่างขยันขันแข็งมากกว่าเดิม

หลิ่วผิงเกากลับไปรายงานให้ไป๋ชิงเหยียนฟังอย่างอารมณ์ดีว่าชาวบ้านโมโหกองทัพซีเหลียงเช่นไรบ้าง ซีเหลียงสงสัยชาวบ้านเหล่านี้เช่นไรบ้างอย่างละเอียด

“เจ้าจัดการเรื่องนี้ได้ดีมาก!” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ชาวบ้านทุกคนในเมืองร่วมแรงร่วมใจกันแล้ว ต่อให้กองทัพซีเหลียงบุกมาโจมตีเมือง พวกเขาก็ไม่มีทางยึดเมืองได้ในระยะเวลาสั้นๆ แน่นอน”

“ฝ่าบาทตรัสถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ”

“คืนนี้จัดทหารกองทัพหนึ่งออกไปจากเมือง ให้พวกเขาไปจุดไฟเผาค่ายทหารซีเหลียงสักสองสามตำแหน่งเพื่อสร้างความวุ่นวายให้แก่ซีเหลียงแล้วรีบกลับมา!” เป้าหมายของไป๋ชิงเหยียนคือไม่ต้องการให้กองทัพซีเหลียงมีเวลาพักผ่อน

“พ่ะย่ะค่ะ” หลิ่วผิงเการับคำ

ข่าวกองทัพหลักของซีเหลียงล้อมเมืองเจียงจือถูกส่งไปถึงด่านเย่เฉิง หยางอู่เช่อได้ยินจึงรีบส่งสายลับไปสืบสถานการณ์ทันที สายลับกลับมารายงานว่าซีเหลียงล้อมเมืองเจียงจือที่ไป๋ชิงเหยียนอยู่จริงๆ ทว่า เขาสอบถามตามเมืองใกล้เคียงแล้วพบว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ได้จุดควันส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

ในเมื่อไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ส่งสัญญาณควันแสดงว่าหญิงสาวไม่อยากให้เขายกทัพไปช่วยเหลือ นางคงมีแผนการในใจแล้ว

หยางอู่เช่อคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นตัดสินใจส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวของเมืองเจียงจือไว้ หากเมืองเจียงจือมีสิ่งผิดปกติใดๆ ให้รีบมารายงานเขาทันที

แม้เป็นเช่นนี้หยางอู่เช่อก็ยังไม่วางใจ เขาส่งกองทัพเล็กไปอีกหนึ่งกองทัพ ให้พวกเขาส่งข่าวมารายงานเขาทุกๆ ครึ่งวัน

แม่ทัพชราชุยซานจงรู้ว่าในที่สุดคนจากด่านเย่เฉิงส่งคนมาสืบสถานการณ์แล้ว เขาเริ่มหวั่นใจขึ้นมาทันที กลัวว่าด่านเย่เฉิงจะไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

หยางอู่เช่อส่งคนมาสืบข่าว ทว่า ไม่ได้นำทัพมาช่วยเหลือ แม่ทัพชราชุยซานจงจึงจำต้องสั่งให้กองทัพซีเหลียงอยู่ในความสงบก่อน

ต่อมากองทัพทหารประมาณห้าสิบนายเดินทางมาจากด่านเย่เฉิง พวกเขามีจำนวนน้อยจนไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของกองทัพซีเหลียงได้ หากปะทะกันขึ้นมาจริงๆ อาจทำให้ด่านเย่เฉิงยิ่งระวังตัวมากขึ้นได้

วันนี้ด่านเย่เฉิงส่งทหารมาอีกหนึ่งร้อยนาย พวกเขาส่งข่าวกลับไปรายงานที่ด่านเย่เฉิงอย่างสม่ำเสมอ

สายลับซีเหลียงในด่านเย่เฉิงส่งข่าวมาบอกกองทัพซีเหลียงว่าตอนนี้หยางอู่เช่อเรียกรวมพลกองทัพใหญ่แล้ว ดูเหมือนเขาเตรียมยกทัพมาช่วยเหลือจักรพรรดินีแห่งต้าโจวของเขาแล้ว

“ส่งคนจับตาดูความเคลื่อนไหวของด่านเย่เฉิงให้ดี ไม่ต้องห้ามสายลับส่งข่าวของพวกเขา ท่านแม่ทัพ พรุ่งนี้พวกเราบุกโจมตีเมืองเจียงจือเถิดขอรับ ให้สายลับกลับไปรายงานแม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิง ข้าไม่เชื่อว่าถึงขั้นนี้แล้วพวกมันจะยังไม่ยกทัพมาช่วยเหลือฝ่าบาทของพวกมันอีก” ลูกน้องของแม่ทัพชราชุยซานจงเสนอความเห็นเสียงดัง “ขอเพียงพวกนั้นยกทัพมา พวกเราจะทำลายกองทัพทั้งหมดของด่านเย่เฉิงโดยที่พวกเราสูญเสียน้อยที่สุดให้ได้ขอรับ! จากนั้นพวกเราค่อยย้อนกลับไปยึดด่านเย่เฉิง ตัดขาดแหล่งเสบียงอาหารของต้าโจวที่จะส่งไปให้กองทัพหลักของต้าโจวของพวกมันขอรับ”

แม่ทัพชราชุยซานจงนิ่งคิด ตอนนี้เสบียงอาหารของซีเหลียงเหลือน้อยเต็มที

เดิมทีพวกเขาวางแผนล้อมเมืองอีกสักระยะเพื่อรอปล้นเสบียงของต้าโจวให้ได้ก่อน ต่อมาค่อยใช้เรื่องที่จักรพรรดินีแห่งต้าโจวถูกล้อมอยู่ในเมืองเจียงจือล่อให้กองทัพจากด่านเย่เฉิงยกทัพมาช่วยเหลือ จากนั้นกองทัพซีเหลียงจะดักซุ่มโจมตีกองทัพของด่านเย่เฉิงให้สิ้นซาก

ทว่า ตอนนี้กองทัพซีเหลียงเหนื่อยล้าเต็มทีเพราะการก่อกวนของกองทัพต้าโจวบนกำแพงเมือง

กองทัพต้าโจวเอาแต่เปิดปิดประตูเมือง ไม่ก็ทำอาหารก่อนเวลาที่กำหนด ไม่ก็ส่งทหารออกมาจุดไฟเผาค่ายทหารของซีเหลียง เมื่อทหารซีเหลียงไล่ตามไปพวกเขาก็กลับเข้าไปในเมืองแล้ว

แม่ทัพซีเหลียงไม่รู้จะจัดการกับกองทัพต้าโจวเหล่านี้เช่นไร พวกเขารู้สึกหงุดหงิดมาก เหล่าทหารซีเหลียงไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ทว่า ทำได้เพียงโมโหกองทัพต้าโจวที่ทำตัวขี้ขลาดเหล่านี้เท่านั้น

หากเรื่องนี้ทำให้ทหารซีเหลียงพักผ่อนไม่เพียงพอเท่านั้นก็ยังไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ แม่ทัพชราชุยซานจงแค่กลัวว่าทหารซีเหลียงจะเคยชินกับเรื่องเหล่านี้จนดูถูกต้าโจว หากต้าโจวยกทัพมาโจมตีค่ายทหารจริงๆ พวกเขาได้จบเห่แน่

แม่ทัพชราชุยซานจงคำนวณเวลา ตอนนี้ต้าโจวคงกำลังส่งเสบียงมาให้กองทัพต้าโจวที่รบอยู่ที่ด่านหน้าแล้ว

เมื่อคิดได้ดังนี้แม่ทัพชราชุยซานจงจึงหันไปปรึกษากับรองแม่ทัพ “เรื่องที่ข้าสั่งให้เจ้าส่งคนไปโยกย้ายกองทัพในเมืองที่ยังไม่ได้ถูกต้าโจวยึดครองเป็นอย่างไรบ้าง”

“เรียนท่านแม่ทัพ พวกนั้นได้ยินว่าท่านแม่ทัพนำทัพออกรบด้วยตัวเองจึงยินดีติดตามท่านแม่ทัพออกรบขอรับ ตอนนี้พวกเขาออกเดินทางมาที่นี่แล้ว พวกเขารับปากกับข้าว่าจะพยายามนำเสบียงมาให้พวกเราให้ได้มากที่สุดขอรับ พวกเขาเร่งเดินทางตั้งแต่ที่พวกเรายังมาไม่ถึงเมืองเจียงจือ แม้พวกเขาจะยังมาไม่ถึง ทว่า เขาให้คนส่งข่าวมารายงานข้าทุกวัน พวกเขาน่าจะมาถึงประมาณยามเว่ยของวันพรุ่งนี้ขอรับ” รองแม่ทัพรายงาน

ได้ยินดังนี้แม่ทัพชราชุยซานจงจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ส่งแม่ทัพหลิ่วออกไปรวมตัวกับกองทัพเสริม จากนั้นพากองทัพเสริมอ้อมไปดักซุ่มโจมตีกองทัพส่งเสบียงอาหารของต้าโจว ให้ทหารที่ล้อมเมืองอยู่กินให้อิ่ม นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้…เราจะบุกโจมตีเมือง! บีบให้แม่ทัพคุ้มกันด่านเย่เฉิงยกทัพมาช่วยจักรพรรดินีแห่งต้าโจวให้ได้”

เมื่อคิดได้ว่าหลายวันมานี้ซีเหลียงจุดไฟหุงอาหารเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แม่ทัพชราชุยซานจงจึงกล่าวเสริม “ตอนทำอาหารช่วงกลางวันให้พ่อครัวทำอาหารแห้งเตรียมไว้ด้วย กลางคืนให้พวกทหารกินอาหารแห้ง อย่าจุดไฟทำอาหารอีก มิเช่นนั้นหากต้าโจวเห็นอาจเริ่มเตรียมป้องกันตัวได้ จงพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด”

“ขอรับ”

เมื่อได้ยินว่าในที่สุดจะได้บุกโจมตีเมืองแล้วรองแม่ทัพรู้สึกตื่นเต้นมาก

หลายวันมานี้ไป๋ชิงเหยียนส่งองครักษ์ลับไป๋ที่ถนัดเรื่องการสังเกตความเคลื่อนไหวของศัตรูออกไปสังเกตพฤติกรรมของทหารซีเหลียงทั้งหมด

กองทัพไป๋เห็นทหารซีเหลียงที่อยู่อย่างสงบมาหลายวันเริ่มมีความเคลื่อนไหว…ทหารส่งสารออกจากค่ายทหารของแม่ทัพชราชุยซานจงที่อยู่ทางทิศใต้ของเมืองเจียงจือไปส่งสารที่ประตูเมืองทิศตะวันออก ทิศเหนือและทิศตะวันตก เมื่อทหารทุกคนได้รับคำสั่งจึงเริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังจะทำสิ่งใดบางอย่าง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สตรีแกร่งตระกูลไป ผู้เขียน : เขียนฮว่าจิ้นลั่ว(干件尽落) แม้ไร้ที่พึ่งพิงแต่สตรีตระกูลไปหาใช่คนที่จะมารังแกกันได้ง่ายๆ! รายละเอียด นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ! เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรม ชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุด สตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้! และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ 'เขา' ไวกว่าชาติก่อน เขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหน ชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน "แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?" "คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ" "ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?" “…”

Options

not work with dark mode
Reset