สามีข้าคือขุนนางใหญ่บทที่ 691 การล้างแค้นของเซวียนหยวน!

บทที่ 691 การล้างแค้นของเซวียนหยวน!

บทที่ 691 การล้างแค้นของเซวียนหยวน!

“อาเซิ่ง เมื่อครู่นี้เจ้าฝึกอะไรหรือ”

“เป็นวิชาของตระกูลเซวียนหยวน พ่อข้าเป็นคนคิดค้นเอง มีทั้งหมดเจ็ดกระบวนท่า เจ้าอยากเรียนหรือไม่”

“มัน…ไม่ค่อยเหมาะกระมัง อย่างไรเสียก็เป็นเพลงทวนของตระกูลเซวียนหยวนของพวกเจ้า คนตระกูลหนานกงอย่างข้าจะแอบเรียนโดยพลการได้อย่างไร”

“ไม่เหมาะตรงไหนกัน ลงสนามรบสังหารศัตรู มีขุนศึกฝีมือการต่อสู้สูงส่งเพิ่มมาอีกคน ต้าเยี่ยนเราก็มีเกราะป้องกันเพิ่มมาอีกหนึ่งกำลัง”

เซวียนหยวนเซิ่งเคยถ่ายทอดเพลงทวนชุดนี้ให้เขาโดยไม่หวงแหนเลยแม้แต่น้อย เขาเห็นเป็นสิ่งล้ำค่า ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับอยู่หลายวัน จวบจนบัดนี้ยังจำกระบวนท่าที่ได้เซวียนหยวนเซิ่งชี้แนะให้ในตอนนั้นได้ดี ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางจำผิดแน่นอน

เด็กสาวผู้นี้ใช้เพลงทวนของตระกูลเซวียนหยวน!

แปลกประหลาดเกินไปแล้ว

เด็กสาวแคว้นระดับล่างคนหนึ่ง เหตุใดจึงใช้เพลงทวนของตระกูลเซวียนหยวนได้กันเล่า

หากบอกว่าเซียวลิ่วหลังใช้เป็น แม้เขาจะตกใจ แต่ดีร้ายอย่างไรก็มีร่องรอยให้สืบย้อนกลับไปบ้าง อย่างไรเสียเซียวลิ่วกับตระกูลเซวียนหยวนก็มีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่จริงๆ

ยามเซวียนหยวนออกโรง ร้อยภูติผีต้องยอมสยบ

นั่นแปลว่าแม้แต่ผีร้ายอาฆาตจากอเวจีก็ยังหวาดกลัวคนของตระกูลเซวียนหยวนเลย แล้วคนเป็นๆ จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้อย่างไรอย่างนั้นรึ

หนานกงลี่รู้ดีว่านางเป็นเพียงเด็กสาวที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ต่อให้นางใช้เพลงทวนของตระกูลเซวียนหยวนแล้วอย่างไร ไม่ใช่คนตระกูลเซวียน…เซวียนหยวนตัวจริงเสียหน่อย!

แต่ในใจหนานกงลี่ก็ยังเกิดความหวาดกลัวขึ้นตามสัญชาตญาณอยู่ดี เขาเสียสมาธิเสียแล้ว

และเมื่อเสียสมาธิขึ้นมา ‘ทวนยาว’ ก็แทงเข้าที่ต้นขาด้านขวาของเขาทันที!

อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ทวนยาวจริงๆ จึงแทงเขาไม่ทะลุ ทว่าถึงกระนั้น ต้นขาของเขาก็ยังชาดิกอย่างรุนแรง

สายตาเด็กสาวดุจดาบคม ไอสังหารดุจหมาป่า

ในชั่วพริบตา หนานกงลี่ก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตอันคุ้นเคย นั่นเป็นสายเลือดของตระกูลเซวียนหยวน!

หนานกงลี่เกือบลืมออกกระบวนท่าโต้คืนไป จนกระมั่งสติกลับคืนมา ความเจ็บแปลบบนต้นขาก็แล่นริ้วไปทั่ว ใช้กระบี่ปัด ‘ทวนยาว’ ของกู้เจียวออกไป!

จะว่าไปเมื่อครู่ก็โชคดีพอสมควร นึกว่าเด็กสาวไม่ได้ใช้เพลงทวนเซวียนหยวนที่แท้จริง เช่นนั้นยามนี้เขาก็แน่ใจเต็มเปี่ยมแล้ว

ทว่ากระนั้นก็ยิ่งน่าแปลกใจเข้าไปใหญ่น่ะสิ

คนของตระกูลเซวียนหยวนตายไปหมดแล้ว เด็กสาวผู้นี้ไปแอบเรียนเพลงทวนมาจากไหน

คงไม่ใช่ว่านางแอบแฝงตัวเข้าไปในจวนหนานกง แฝงตัวอยู่ข้างกายเขา แอบดูเขาฝึกยุทธ์หรอกกระมัง

ไม่สิ เขาไม่ได้ฝึกเพลงทวนตระกูลเซวียนหยวนมาตั้งหลายปีแล้ว

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากฝึก และไม่ใช่ว่าเพลงทวนตระกูลเซวียนหยวนไม่แข็งแกร่งพอ แต่เป็นเพราะว่ามันแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก ดังนั้นนอกจากคนตระกูลเซวียนหยวนแล้ว คนนอกน้อยคนนักที่จะเรียนแล้วใช้เป็น

เพลงทวนนี้ต้องใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งขั้นสูงสุด แต่กลับใช้กำลังภายในไม่มาก คนที่มีกำลังภายในแข็งแกร่งยามออกกระบวนท่าจะเผลอใช้กำลังภายในโดยไม่รู้ตัวเสมอ แต่เพลงทวนชุดนี้ที่เซวียนหยวนลี่คิดค้นขึ้นมาผู้ฝึกต้องรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดไว้ที่จุดตันเถียน

ระงับนั้นย่อมยากกว่าปลดปล่อยเสมอ

พอสมาธิหลุดก็จะบาดเจ็บที่จุดตันเถียนทันที

ความเจ็บปวดที่กำลังภายในพลุ่งพล่านที่จุดตันเถียนนั้น นอกจากพวกวิปริตตระกูลเซวียนหยวนแล้ว ก็ไม่มีคนปกติที่ไหนอดทนได้แล้ว

และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ว่าเหตุใดตอนนั้นเขาจึงได้ละทิ้งการฝึกเพลงทวนนี้ไป

เขาเคยสะทกสะท้อนใจว่าเซวียนหยวนเซิ่งนั้นจงใจ ที่สอนเพลงทวนชุดนี้ให้กับเขาอย่างใจกว้างก็เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็เรียนแล้วใช้มันไม่ได้อยู่ดี

แต่เพราะเหตุใดเด็กสาวคนหนึ่งจึงเรียนแล้วใช้มันได้กันเล่า

หนานกงลี่ความคิดสับสนวุ่นวาย เรื่องแล้วเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นในวันนี้ เกินความคาดหมายของเขาทั้งสิ้น

“กระบวนที่สอง!” กู้เจียวหมุนตัว ทวนยาวดุจดาบ แฝงพละกำลังดุจเทือกเขามหึมาฟาดฟันไปยังหนานกงลี่อย่างแรง!

หากนี่เป็นทวนยาวจริงๆ ละก็ หนานกงลี่คงโดนเด็กสาวผู้นี้ฟันขาดเป็นสองท่อนไปแล้วโดยไม่ต้องสงสัย!

“ช่างเป็นเด็กที่เหี้ยมโหดนัก!”

หนานกงลี่ฟาดฟันกระบี่ใส่ ‘คมทวน’ ของกู้เจียว!

อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ทวนพู่แดงของจริง เจ้าฟันไปท่อนหนึ่ง ข้ายังเหลืออีกท่อนใหญ่

ไม่มีคมทวน ดังนั้นทุกท่อนทุกตอนก็คือคมทวน

นอกจากนี้ หนานกงลี่ฟันเสร็จก็เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองติดกับเสียแล้ว

เมื่อครู่เด็กสาวผู้นี้ไม่ได้หมายจะเอาชีวิตตน นางจงใจเบนกิ่งไม้ออกไปหนึ่งนิ้ว ทำให้แม้เขาจะฟันกิ่งไม้นางออกไปส่วนหนึ่งแล้ว ปลายมันก็ยังแหลมอยู่ดี

แต่เขาดันมาเหลาปลายทวนให้นางเสียนี่!

กู้เจียวมอง ‘อาวุธ’ ของตัวเองด้วยความพออกพอใจ มุมปากหยักยกขึ้น เอ่ย “ทีนี้ก็ไม่ทู่แล้วล่ะ”

หนานกงลี่สะอึกอย่างแรง “เจ้า!”

เพลงทวนของตระกูลเซวียนหยวนมีไว้ให้เจ้าเอาใช้เช่นนี้ที่ไหนกัน!

เพลงทวนอันน่าเกรงขามที่ภูตผีปีศาจเทพสังหารเทพต่างหวาดกลัว เหตุใดมาถูกเจ้าใช้เสียพิเรนทร์เช่นนี้!

เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ดูท่าต้องรีบจบศึกเสียแล้ว

เด็กสาวผู้นี้สร้างความตื่นตะลึงให้เขามากพอแล้ว ต่อจากนี้เขาจะทุ่มสุดตัวรับศึกแล้ว

หนานกงลี่แค่นเสียงเย็น “ครั้งล่าสุดที่ข้าทุ่มสุดตัวรับศึกนั้น เป็นตอนที่ประมือกันกับเซวียนหยวนเซิ่ง แม่หนู…”

กู้เจียวเอ่ยขัดเขา “เจ้าเหลวไหล ตอนที่เจ้าวิ่งหนีฉังจิ่งหัวซุกหัวซุนนั่นเล่า มีคราไหนบ้างที่ไม่ได้ทุ่มสุดตัว ไม่ทุ่มสุดตัวแล้วเจ้าจะหนีรอดรึ”

หนานกงลี่ซวนเซจนแทบล้ม!

นางเด็กนี่!

ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้โว้ย!

ข้าขายขี้หน้านะโว้ย!

ไม่สิ ทุ่มสุดตัวหนีตายกับทุ่มสุดตัวโจมตีสังหารมันคนละเรื่องกัน ฉังจิ่งตัดแขนเขาไปข้างหนึ่งเป็นเขาที่ประมาทศัตรู เมื่อขึ้นสู่สังเวียนอย่างแท้จริงต่างหากที่เขาจะไม่มีทางแพ้ให้ฉังจิ่ง!

จากนั้นเขาก็ได้รับบาดเจ็บ และไม่อาจประมือกันกับฉังจิ่งตรงๆ ได้แล้ว

“ตายเสียเถอะ! ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร และเหตุใดจึงได้เพลงทวนนี้มา วันนี้เจ้าต้องตายภายใต้คมกระบี่ของข้าเท่านั้น!”

หนานกงลี่แผ่ไอสังหารน่าหวาดกลัวออกมาทั่วร่าง ไม่ได้มีแค่เด็กสาวผู้นี้คนเดียวที่เป็นวิชาตระกูลเซวียนหยวนเสียหน่อย เขาก็เป็นเหมือนกัน!

สิ่งที่เขาเรียนคือกำลังภายในและเพลงกระบี่ของตระกูลเซวียนหยวน เดี๋ยวจะให้เด็กนี่ได้รู้ซึ้งเสียหน่อยว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงคืออะไร!

กำลังภายในของหนานกงลี่เหมือนก้นหอยขนาดยักษ์ที่มองไม่เห็น ดินทรายใบไม้ใบหญ้าบนพื้นถูกม้วนตลบขึ้นมา เขาเคลื่อนกำลังภายในมาที่มือซ้าย ชี้กระบี่ขึ้นนภา ปราณกระบี่ดุจสายรุ้ง ฟาดฟันจากนภากาศใส่กู้เจียว

ฉึก

เสียงคมกระบี่แทงเข้าเนื้อ

มุมปากหนานกงลี่หยักยกอย่างลำพอง

ทว่าเพิ่งจะหยักยกได้เพียงครึ่ง รอยยิ้มเขาก็พลันแข็งค้าง

กระบี่ของเขาแทงทะลุกู้เจียวจริง แต่ทะลุแค่อาภรณ์นางเท่านั้น เสียงเมื่อครู่นี้เป็นเสียง ‘ทวนยาว’ ของนางที่แทงทะลุร่างเขาต่างหาก!

หนานกงลี่เบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ

เมื่อครู่นี้มันเกิดอะไรขึ้น เด็กนี่ทำได้อย่างไร

กู้เจียวถีบยอดอกเขาไปทีหนึ่ง ร่างกายเขาลอยหลุดออกจาก ‘ทวนยาว’ กระเด็นออกไปอย่างแรง

กู้เจียวนวดข้อมือไปมา พลางเอ่ยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก “ใช้เพลงทวนนี้ฆ่าคนเป็นครั้งแรก ไม่ค่อยถนัดมือเท่าใดนัก แทงไปตั้งหลายทีเพิ่งจะโดน”

หนานกงลี่ล้มลงกับพื้น กระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง

บาดเจ็บไม่เท่าไร เขาเจ็บใจมากกว่า

สามกระบวน…นึกไม่ถึงว่าเขาจะยืนหยัดใต้เพลงทวนของเด็กนี่ได้แค่สามกระบวนเท่านั้น

ซ้ำเด็กนี่ยังไม่พอใจอีกด้วย!

โลหิตสีสดไหลทะลัก ใต้ร่างเขาเจิ่งนองด้วยกองเลือด ไม่รู้เพราะเหตุใด ภาพนี้ทำให้กู้เจียวรู้สึกคุ้นตานัก

ราวกับว่ามีใครล้มจมกองเลือดอยู่ในห้วงฝันสักห้วงหนึ่งเช่นกัน

กู้เจียวโคลงศีรษะอย่างประหลาดใจ พยายามนึกถึงภาพที่แวบเข้ามาในหัว

นางเดินไปหาหนานกงลี่ทีละก้าว

ลมหายใจของหนานกงลี่ใกล้หมดลงเต็มที สติเริ่มเลือนราง ในระหว่างสะลึมสะลือ เขาคล้ายเห็นเซวียนหยวนเซิ่งที่ในมือถือทวนพู่แดงสีหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งเดินมาหาเขา

“หนานกงลี่ ข้าไว้ใจเจ้าถึงเพียงนี้ เจ้ากลับแทงข้างหลังข้าได้ เจ้าก็มีวันที่กรรมคืนสนองเหมือนกันรึ”

“นี่ หนานกงลี่ ข้าไม่ชอบจิ่งซื่อจื่อ ไม่อยากให้เขามาเป็นน้องเขยข้าเลย เจ้าสู่ขอน้องสาวข้าแทนดีหรือไม่”

“โธ่ เหตุใดเจ้าจึงแพ้อีกแล้ว ชายชาตรีอย่างเจ้าสู้น้องสาวข้าไม่ได้เลย!”

“หนานกงลี่เจ้าอดทนไว้! ใกล้จะถึงโรงหมอแล้ว! ใครให้เมื่อครู่นี้เจ้าโผเข้ามาล่ะ! ข้าหลบเองได้น่า!”

“เฮ่าเอ๋อร์ มานี่สิ ต่อไปนี้เขาจะเป็นเพื่อนเล่นของเจ้า เขามีนามว่าหนานกงลี่”

“เขาทนไม้ทนมือหรือไม่ หากไม่ ข้าไม่เอาหรอกนะ”

หนานกงลี่ค่อยๆ ปิดเปลือกตาที่เต็มไปด้วยโลหิตเคล้าน้ำตาลงช้าๆ

ได้ยินว่าคนเราก่อนตายจะเห็นคนที่เราให้ความสำคัญที่สุด และนึกถึงเรื่องที่เราให้ความสำคัญที่สุดตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

เขารู้จักกับเซวียนหยวนเซิ่งตอนอายุสามขวบ นึกไม่ถึงว่ายามใกล้ตายก็ยังไม่หลุดพ้นจากเขา

เซวียนหยวนเซิ่ง…เจ้าช่างเป็นหนามยอกอกข้าจริงๆ !

กู้เจียวนั่งยองลง สีหน้างุนงงพิศมองหนานกงลี่ที่กำลังพร่ำเพ้อกับตัวเอง

ใบหน้าหนานกงลี่ซีดขาวมองไปยังเงาเลือนรางเบื้องหน้า ร่างตรงหน้ากับในสมองค่อยๆ ทับซ้อนกัน กลายเป็นเซวียนหยวนเซิ่งวัยหนุ่ม

เขากระอักเลือดพลางหัวเราะออกมาจนตัวสั่นไปทั้งร่าง “เซวียนหยวนเฮ่า”

เขาใช้ชื่อวัยเด็กของเซวียนหยวนเซิ่ง บางทีอาจเพราะตอนเด็กๆ เป็นช่วงที่จริงใจและบริสุทธิ์ที่สุด

“ข้ามันสมควรตายจริงๆ ข้าหักหลังเจ้า หักหลังตระกูลเซวียนหยวน ข้าตายไม่เสียดายชีวิต…เจ้ามาล้างแค้นข้า…ข้าไม่แปลกใจ…และไม่มีอะไรที่…ต้องรู้สึกไม่เป็นธรรม…แต่เจ้า…คิดจริงๆ หรือว่าเรื่องราวตอนนั้นล้วนเป็นฝีมือตระกูลหนานกงทั้งหมด เจ้าผิดแล้ว…ฮ่า ฮ่า ฮ่า…เจ้าผิดมหันต์เลยล่ะ…ตระกูลหนานกง…แม้แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดยังนับไม่ได้เลย! เป็นเพียงหมาที่อยากกัดได้เนื้อชิ้นโตสักคำเท่านั้นเอง…”

เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายหมดแล้ว ร่างโก่งโค้งขึ้น มือเปื้อนเลือดคว้าเสื้อส่วนหน้าของกู้เจียวไว้แน่น “คนที่ทำร้ายตระกูลเซวียนหยวนของพวกเจ้าตัวจริงน่ะ…คือ…คือ…”

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

Score 10
Status: Completed
นิยายแปลไทยเรื่อง : สามีข้าคือขุนนางใหญ่ ชื่อภาษาอังกฤษ : The Grand Secretary's Pampered Wife ผู้เขียน : เพียนฟางฟาง(偏方方) ในอนาคตเขาจะได้เป็น 'ขุนนางใหญ่' อย่างนั้น 'เจ้' คนนี้จะประคอง 'สามี' คนนี้ ให้ไปถึงฝั่งฝันนั้นเอง! รายละเอียด นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ ผู้เขียนเดียวกับเรื่องหมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม! จากสายลับสาวสวยแห่งยุคปัจจุบันต้องทะลุมิติมาอยู่ในร่างของ กู้จียว หญิงอัปลักษณ์สติไม่สมประกอบแห่งหมู่บ้านชนบทห่างไกล แม้สติไม่สมประกอบแต่ชอบคนหน้าตาดี กรรมเลยไปตกที่ เชียวลิ่วหลัง ที่เจ้าของร่างช่วยเหลือเอาไว้โดยบังเอิญ เพราะบุญคุณเชียวลิ่วหลังจึงต้องแต่งเข้าอย่างไม่เต็มใจและยังรังเกียจเจ้าของร่างเดิมสุดใจ แต่พราะ "ฝันบอกเหตุ' ที่ร่างเดิมมีทำให้ กู้เจียวคนหม่ได้รู้ว่าเขี้ยวลิ่วหลังสามีของนางคนนี้ ในนาคตจะได้กลายเป็นขุนนางใหญ่ของราชสำนัก เพราะงั้นนางจะปกป้องเขาจากภัยร้ยทั้งหลายเพื่อประคองเขาชื้นสู่ตำแหน่งอย่างราบรื่นเอง!

Options

not work with dark mode
Reset