256 ปราสาทหลวงมาเวเลีย ณ ค่ำคืนปลายฤดูร้อน
“พวกเจ้า ขอบคุณสำหรับการทำงานอย่างหนักจนดึกน้อ”
“เอ๊ะ――ฝะっ!? ฝะ ฝ่า……!”
หัวหน้าโรงงานที่ติดกับพระราชวังหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง――แล้วต้องประหลาดใจจนหัวใจแทบจะหยุดเต้น
ชายชราร่างใหญ่อ่อนโยน ผู้มีหนวดเครายาวสวยงาม
ผู้นำสูงสุดของประเทศนี้ เขามักจะมายิ่นดูเหล่าทหารจักรกลในยามที่ต้องส่งไปยังป้อมปราการด้านตะวันออก และในงานเทศกาลเสมอ
――นี่คือ ฮาซาร์・ซิลค์・มาเวเลีย ราชาองค์ปัจจุบันของอาณาจักรมาเวเลีย
“ทะ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้พะยะค่ะ……!”
“เราแค่กำลังจะไปพบกับลูกชายของเราเท่านั้นเองน้อ เขาน่าจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้ล่ะน๊า ดังนั้นแล้วคืนนี้ช่วยเลิกกันเร็วหน่อยได้หรือไม่?”
こんなところに単身来るようなことは滅多にないだけにหัวหน้าโรงงานยังคงสับสน เนื่องจากไม่คาดคิดว่าคนระดับนี้จะมาที่สถานที่แบบนี้เพียงลำพัง แต่ฮาซาร์ไม่สนใจ「โฮร๊า」และยื่นกระเป๋าหนังที่ค่อนข้างหนักให้
“เป็นความคิดที่ดีที่จะพาลูกน้องไปเพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มน้อ”
หัวหน้าโรงงานคนนี้เป็นเพียงสามัญชนที่ได้รับตำแหน่งนี้มาด้วยทักษะและความรู้ของเขาเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่มีความรู้เข้าใจคำพูดและการกระทำของขุนนาง
แต่ ที่เขาเข้าใจตอนนี้คือ ฮาซาร์กำลังจ่ายเงินให้
“ขะ เข้าใจแล้วพะยะค่ะ! ขอตัวก่อนพะยะค่ะ! ――โอ๊ーย! วันนี้ไปจัดกันเถอะ!”
สักพักก็ได้ยินเสียงโลหะและอุปกรณ์หล่นลงมา มันมีชีวิตชีวา โดยมีคนพูดประมาณว่า「ขออีกหน่อย」ไม่ก็「มาดูเด็กคนนี้ก่อน」เสียงมากมายบอกว่าพวกเขาต้องการที่จะอยู่ต่อ
แต่ไม่นานก็กลายเป็นร้านตีเหล็กที่ไม่มีไฟ
“……”
ฮาซาร์ค่อย ๆ ก้าวเข้าไปในโรงงาน
ทหารจักรกลเรียงแถวตลอดแนวกำแพงทั้งสองด้าน
เมื่อดูเผิน ๆ ก็เห็นชัดเจนว่าเครื่องเสียหาย โดยบางส่วนถูกทิ้งร้างระหว่างการบำรุงรักษา บางส่วนไม่มีเกราะด้านหน้า และชิ้นส่วนภายในถูกเปิดเผย แขนหายไป และขาถูกถอดออก
――ไม่สิ ในช่วงเวลานี้ของปีที่แล้ว มีทหารจักรกลที่เสียหายเข้ามากันเป็นแถว
แม้ว่าจะแปลกใจที่ได้ยินว่าเด็กที่มาเรียนต่อจากต่างประเทศเป็นผู้ที่ทำลายล้างแมลงลงจนหมด เขาก็ยิ่งต้องประหลาดใจมากขึ้นเมื่อยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องโกหก และได้เห็นทหารจักรกลที่พังเรียงกันเป็นแถว
ฮาซาร์จำได้ชัดเจนว่าอยู่คนเดียวที่นี่และรู้สึกกลัว
“……ข้ากลายเป็นคนขี้ขลาดไปเสียแล้ว”
ราชวงศ์ของมาเวเลีย เป็นราชวงศ์ที่ผ่านการต่อสู้มามากมาย
พวกเขาต้องเป็นผู้นำในการทำสงครามกับแมลงที่มีมาแต่โบราณกาล และเพื่อปกป้องผู้คนด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ฮาซาร์เองก็เช่นเดียกัน
แม้ว่าตอนนี้หลังของเขาจะโค้งงอจนดูราวกับตัวเล็กลง แต่ถ้ามองใกล้ ๆ เขาก็ยังค่อนข้างใหญ่
ครั้งหนึ่งเขาเองก็เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการของภาคีนักรบจักรกลสุนัขปีศาจ――แต่ก็อย่างที่คิด เวลาผ่านไปนานแล้วนับตั้งแต่เขาเกษียณ และไม่มีร่องรอยของเขาในฐานะนักบินอีกต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนนั้น เขาเข้าสู่การต่อสู้ด้วยความกระตือรือร้น ราวกับสับสนระหว่างความกล้าหาญกับความประมาท
เมื่อคิดย้อนกลับไป ก็ช่างน่ากลัวเหลือเกิน
――หลายคนต้องตาย เพียงเพราะคำสั่งหรือการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวของเขา
นับตั้งแต่เขาออกจากการเป็นทหารจักรกล และหยั่งรากลงในโลกแห่งการเมือง เขาก็ยิ่งประสบเรื่องเช่นนี้หลายครั้งจนหลีกเลี่ยงที่จะตัดสินใจ
นี่ไม่ใช่สนามรบที่ทุกวินาทีมีค่า
ถ้าเป็นเช่นนั้นเราไม่ควรใช้เวลาหาทางเลือกที่ดีที่สุดหรือทางเลือกที่จะสร้างความเสียหายให้น้อยลงหรอกหรือ
นับตั้งแต่ที่ได้ข้อสรุปกับตัวเองเช่นนั้น เขาก็เริ่มมีนิสัยชอบคิดนาน และลึก ――พูดสั้น ๆ ก็คือ เขากลายเป็นคนขี้ขลาด
“……นี่นานมากแล้วสิน้อ เรดแลนด์เอ๋ย”
เครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องอื่น ๆ เล็กน้อยยืนอยู่ด้านหลังสุดของโรงงาน
เครื่องของผู้บัญชาการที่มีหน้าที่ออกคำสั่งจะถูกทาด้วยเส้นสีแดงเพื่อให้ใคร ๆ ก็สามารถเห็นได้อย่างรวดเร็ว
เป็นเครื่องที่ฮาซาร์เคยขับ
แน่นอนว่า เทคโนโลยีทหารจักรกลก็ก้าวหน้าไปทุกวันเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่เหมือนกันซะทีเดียว สำหรับเครื่องลำนี้ ทั้งเกราะและกลไกภายในจะได้รับชิ้นส่วนใหม่ล่าสุดและใช้งานได้ดีที่สุดเสมอ
ในอดีตฮาซาร์เองก็มีส่วนร่วมในการบำรุงรักษา และปรับแต่ง「สุนัขปีศาจเรดแลนด์」ด้วยตัวเอง――ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเครื่องใหม่ล่าสุดในปัจจุบันอีกต่อไป
ทว่า ถึงอย่างงั้นนี่ก็ยังคงเป็นคู่หูของเขาที่วิ่งในสนามรบมาด้วยกัน
ฮาซาร์ได้รับมรดกมาจากพ่อของเขา และปัจจุบันก็สืบทอดไปอยู่ในมือของลูกชายของฮาซาร์
เป็นดาบและโล่ของราชวงศ์มาโดยตลอด และวิ่งข้ามสนามรบเหมือนสุนัขล่าเนื้อ
――และ ดาบสีแดงเข้มขนาดใหญ่ถูกยึดอยู่บนแท่งที่อยู่ข้างเครื่อง รูปร่างที่บิดเบี้ยวและไม่สม่ำเสมอนั้นคล้ายกับหินที่ถูกขุดออกมา แต่ความแวววาวและความโปร่งใสของมันนั้นคล้ายคลึงกับทับทิมเนื้อหยาบ
ดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจออเดอร์
นี่คือสิ่งที่เหล่านักบิน「สุนัข」ตัวตนที่ทำให้สุนัขปีศาจเป็นสุนัขปีศาจ
ดาบศักดิ์สิทธิ์เติบโตขึ้นเพื่อปกป้องประเทศมาหลายชั่วอายุคน สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นในมาเวเลีย มันใหญ่ขึ้นกว่าเล็กน้อย เมื่อเทียบกับสมัยที่ฮาซาร์เคยถือมันอยู่ในสนามรบ
“――เสด็จพ่อ ขออภัยที่ทำให้รอครับ”
ขณะที่เขากำลังคิดถึงอดีตพร้อมมองดูสุนัขปีศาจเรดแลนด์ และดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจออเดอร์ คนที่รอคอยก็มาถึงแล้ว
ลิวิเซล
สมกับใกล้ที่เป็นเวลาเลิกงานดังนั้นเขาจึงไม่ได้สวมชุดทหารตามปกติ แต่เป็นชุดลำลองแบบสบาย ๆ ที่ประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตมีจีบและกางเกงหนัง
“ขอโทษด้วยน้อ ที่เรียกเจ้ามาทั้ง ๆ ที่พึ่งจะกลับมา และคงรู้สึกเหนื่อยไม่น้อย”
ผู้บัญชาการของภาคีนักรบจักรกลสุนัขปีศาจคนปัจจุบันที่ใช้เวลาช่วงฤดูร้อนในป้อมปราการทางตะวันออกเมื่อแมลงเริ่มเคลื่อนไหวมากขึ้น และพึ่งจะกลับมาถึงปราสาทวันนี้
“ไม่หรอกครับ ต้องขอบคุณเหล้าสมุนไพรผสมน้ำผึ้งที่ได้รับจากแคนที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยน้อยลง”
และยังพูดต่อ เนื่องจากมันทำให้เหงื่อออกมาก เขาจึงดื่มมันก่อนอาบน้ำ
แช่ตัวในอ่างอาบน้ำ ขณะที่เหงื่อออกมาก และเบียร์เย็น ๆ ก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจต้านทานได้ต่อร่างกายที่แดงระเรื่อหลังจากอาบน้ำ
เขากลับมาเหนื่อย ๆ แต่ด้วยสิ่งเหล่านี้ เขาจึงรู้สึกเบาขึ้นมากทั้งจิตใจและร่างกาย
หากไม่ต้องกังวล และไม่มีแผนที่ทำให้ต้องตื่นในเช้าวันรุ่งขึ้น เพียงแค่ปล่อยให้ความอยากนอนเป็นตัวกำหนดและนอนหลับฝันดีทั้งคืน เท่านี้ก็จะได้คลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางช่วงฤดูร้อนได้อย่างสมบูรณ์
“โอ้สิ่งนั้นสินะ ข้าเองก็ได้เช่นกันน้อ รู้สึกเหมือนอายุน้อยลงเหลือสามขวบทุกครั้งที่ดื่มเลยล่ะนะ “
“จริง ๆ แล้วดูอ่อนกว่าวัยนิดหน่อยด้วยสินะครับ……?”
ในโรงงานที่มืดเล็กน้อย และมีแสงไฟสลัวเล็กน้อย สำหรับลิวิเซลแล้ว ใบหน้าของฮาซาร์ พ่อของเขาดูสดใสอย่างน่าประหลาด
“รู้ด้วยรึ? ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าผิวกระชับ และเงางามขึ้นจริงล่ะน้อ? ต้องขอบคุณเรื่องนั้น เหล่าหญิงสาวในปราสาทถึงได้มองมาด้วยสายตาอิจฉาเลยล่ะน้อ?”
แม้จะพูดอย่างภาคภูมิใจก็ตาม สำหรับลูกชาย ก็มีสิ่งเดียวที่สามารถตอบได้คือ「ก็ดีเลยนะครับ」
“ดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจเป็นเช่นไรบ้าง?”
“แน่ใจว่าเสด็จพ่อได้อ่านรายงานแล้ว แต่แมลงที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่ไม่ใช่แมลง แมงมุมนั้นยิ่งอันตรายเป็นพิเศษ”
ฝูงแมงมุมยักษ์ที่อาศัยอยู่ในป่าทางตะวันออกของป้อม
หากมีทหารจักรกลที่กำลังสำรวจน้อยกว่าห้าเครื่องในเวลานั้น เขาคิดว่าทุกคนคงถูกกำจัดออกไปแล้ว
สำหรับมด เรารู้ถึงภัยคุกคามของความรุนแรงมาจากจำนวน แต่เพียงเพิ่มเครื่องมือที่เรียกว่าใยเข้าไป สถานการณ์ในการรบก็เลวร้ายอย่างสิ้นหวัง
ที่แย่กว่านั้นคือป่าเป็นสถานที่ที่ไม่ดีเอาซะเลย
เนื่องจากขนาดของทหารจักรกลจึงทำให้ไม่สามารถหมุนได้เร็วนัก ทั้งยังมีสิ่งกีดขวางมากเกินไปและไม่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นคง
สิ่งเดียวที่ช่วยเอาไว้คือ แมงมุมจะไม่ออกมาจากป่า
ไม่มีใครเคยเห็นพวกมันเข้ามาใกล้กับป้อมปราการทางตะวันออกมาหลายร้อยปีแล้ว ดังนั้นเว้นแต่จะมีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ เขาไม่คิดว่ามันจะมาที่เมืองหลวงของมาเวเลีย
“กะแล้วว่าต้องมีอย่างอื่นนอกจากแมลงน้อ”
“ครับ เป็นสัตว์กินแมลงเป็นอาหาร”
จากมุมมองของมาเวเลียที่ต่อสู้กับแมลงที่แท้จริงเป็นผู้ถูกล่าเหมือนกันมาหลายร้อยปีแล้ว นี่เป็นข้อมูลใหม่ที่อาจนำไปสู่ความสิ้นหวังได้
ในดินแดนตะวันออกมีสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าแมลง ทั้งยังกินแมลงเป็นอาหาร
เมื่อคิดว่าศัตรูที่มีมายาวนานถูกสยบลงแล้ว ศัตรูอีกหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
“อาจเป็นการพูดที่หยาบคาย――แต่ตอนนี้ผมรู้สึกสบายใจมากกว่าตอนที่ต้องเฝ้าป้อมปราการครับ ต้องมาคอยแมลงที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร ในขณะที่จิตวิญญาณกำลังถูกกัดกร่อนไป”
การสำรวจดินแดนที่ยังไม่ได้สำรวจ
ไม่เหมือนเมื่อก่อน สถานะบุกโจมตีเข้าสู่หัวใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสามารถตัดสินใจวันและเวลาและการกระทำด้วยตนเองง่ายกว่า แทนที่จะ「รอศัตรูที่ไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อใด」
“งั้นรึ เช่นนั้นแล้ว――เจ้าแข็งแกร่างกว่าทหารจักรกลแล้วรึยัง?”
ด้วยฐานะของฮาซาร์แล้ว นี่เป็นคำถามที่ค่อนข้างบ้า
ทั้งทหารจักรกลที่ทำจากโลหะ ทั้งครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นทหารจักรกล เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับความแข็งแรง พลัง และความแข็งแกร่งของทหารจักรกล
ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางที่จะคิดว่าสามารถเอาชนะได้ด้วยคนจริง ๆ
“――หากเป็นด้านพลัง”
ทว่า คำถามบ้า ๆ นั้น ตอนนี้ก็เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้
แม้ฮาซาร์จะยังไม่เคยเห็นด้วยตาของตัวเอง ――แต่ก็มีรายงานและพยานมากมาย
“หากเปรียบเทียบพลังกับโมเดลรุ่นผลิตจำนวนมากโดยตรง ตอนนี้ผมคิดว่าสามารถทำได้ในระดับเดียวกันครับ”
มีมนุษย์ที่แข็งแกร่งกว่าทหารจักรกล
ลูกชายและลูกสาวของเขากำลังจะก้าวเข้าสู่อาณาเขตนั้น
――พวกเขากำลังเข้าสู่โลกที่ฮาซาร์และคนแก่หัวโบราณคนอื่น ๆ ไม่สามารถเข้าใจได้อีกต่อไป
“เช่นนั้น เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องมีทหารจักรกลอีกต่อไป”
“……เสด็จพ่อ?”
“มาเวเลียแห่งนี้ คิดว่าถึงเวลาที่ต้องเข้าสู่ยุคสมัยใหม่แล้วน้อ ถึงเวลาของเจ้าแล้ว”
ลิวิเซลพูดอะไรไม่ออก
เขาพยายามไม่คิดมากเรื่องนี้นัก แต่ฮาซาร์ พ่อของเขามีอายุมากแล้ว สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเตรียมจิตใจให้พร้อม โดยรู้ว่าอะไร ๆ ก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ทว่า เมื่อเขาได้รับแจ้งถึงเรื่องการสละบัลลังก์ เขาก็รู้สึกประหลาดใจจริง ๆ
เขาไม่เคยคิดเลยว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก ไม่มีการเสแสร้ง และไม่มีการเปลี่ยนแปลงท่าที
“เทศกาลฤดูหนาวครั้งต่อไป จงนำสุนัขปีศาจ เรดแลนด์และดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจออเดอร์ เข้าต่อสู้กับเนีย・ลิสตันซะ”
“กับเนีย……?”
“――นั่นจะทำให้มาเวเลียก้าวข้ามทหารจักรกลไปได้น้อ แม้แต่ตัวข้าที่เกษียณจากทหารจักรกลมาเนิ่นนานจนแก่เฒ่าก็ยังยึดติด ประชาชนก็ด้วย”
เขาก้าวไปยืนหน้าเรดแลนด์
ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้ฮาซาร์กำลังแสดงสีหน้าแบบไหน
น้ำเสียงของเขายังคงเหมือนเดิม แต่แน่ใจว่าสภาพจิตใจไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“นา ลิวี่เอ๋ย จงแสดงความเป็นจริงให้ข้าเห็นเสีย
ความจริงที่ว่ามีมนุษย์ที่แข็งแกร่างกว่าทหารจักรกล และความแข็งแกร่งที่แท้จริงของทหารจักรกล จงแสดงเจตจำนงของประเทศนี้ซึ่งได้รับการปกป้องโดยดาบศักดิ์สิทธิ์ รูจออเดอร์ มายาวนาน ประวัติศาสตร์การต่อสู้อันต่อเนื่อง
พวกข้าชาวมาเวเลียยึดติดกับทหารจักรกลมากจนเกินไปแล้ว
พวกเราไม่เคยคิดเลยว่าจะมีมนุษย์ที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าทหารจักรกลอยู่ที่โลกภายนอกมาก่อน
คนแก่ที่ไม่รู้ก็เป็นแค่ตัวน่ารำคาญจริงไหมน้อ? จากนี้ข้าจะขอฝากไว้กับคนหนุ่มสาวเช่นพวกเจ้าแทนน้อ”
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ