บทที่ 375 เริ่มเรียนหนังสือ
บทที่ 375 เริ่มเรียนหนังสือ
ทันทีที่ตู้จ้งเหว่ยได้ยินถังชุนหยานตอบกลับอย่างนั้น เขาหันมองเธออย่างประหลาดใจก่อนจะถามว่า “เธอรู้ได้ยังไง?”
“ก็ด้วยสองตาของฉันนี่แหละ”
สิ่งที่ถังชุนหยานพูดออกมาเป็นความจริง หลังจากเธอพูดกับตู้จ้งเหว่ย เธอรีบเชิญชวนให้เขาทานอาหารต่อ “เร็วเข้า รีบ ๆ กินซะ คราวหน้าอย่าฝืนยิ้มอะไรแบบนั้นอีกนะ มันไม่น่ามองหรอก”
ตู้จ้งเหว่ยมองถังชุนหยานด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อพร้อมกับทานอาหารต่อ
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว ถังชุนหยานว่าจะไปซื้อยาสักหน่อย เธอหันไปมองตู้จ้งเหว่ยก่อนจะถามว่า “พี่จะกลับบ้านเลยไหม? ฉันจะไปซื้อของสักหน่อยน่ะ ว่าจะแวะไปที่ร้านขายของ”
“ฉันยังไม่อยากกลับบ้าน งั้นฉันไปด้วยนะ”
“อื้ม ไปสิ งั้นไปกันเลย”
ถังชุนหยานพยักหน้าก่อนจะหันมองตู้จ้งเหว่ยด้วยความสงสัย “พี่ดูเหมือนจะไม่อยากกลับบ้านเลยนะ?”
ได้ยินอย่างนั้น ตู้จ้งเหว่ยหัวเราะออกมาทันที “อืม เข้าใจถูกแล้วล่ะ ฉันยังไม่อยากกลับบ้านจริง ๆ”
ถังชุนหยานคิดจะถามบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็เงียบ เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัวของเขา
แต่เป็นตู้จ้งเหว่ยที่พูดขึ้นเอง
“แม่ของฉันตายตั้งแต่ฉันยังเด็ก หลังจากนั้นพ่อก็แต่งงานใหม่และมีลูกชายด้วยกัน ฉันเลยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนนอกถึงจะอยู่ในบ้านเดียวกันก็เถอะ”
“หลังจากที่ฉันมีแม่เลี้ยง พ่อก็เริ่มทำตัวไม่ดีกับฉัน เขาเริ่มดุด่าฉันรุนแรง และตีฉันบ่อย แต่หลังจากฉันรู้จักกับถังซวง เขาต้องการเข้าใกล้ตระกูลจิงผ่านฉัน… อืม เขาต้องการใช้ฉันเป็นสะพานตลอดเวลา และมันทำให้ฉันไม่อยากจะกลับไปที่บ้านหลังนั้นเลย”
ถังชุนหยานมองตู้จ้งเหว่ยอย่างเห็นใจก่อนจะพูดว่า “ฉันเห็นใจพี่นะ”
ตู้จ้งเหว่ยหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะถามต่อว่า “ความจริงแล้วก็ไม่มีอะไรหรอก แล้วเธอล่ะ? ทำไมถึงมาเมืองหลวงนี่คนเดียว?”
ถังชุนหยานไม่คิดปิดบังอะไร เธอเล่าเรื่องของตัวเองออกมาด้วยใบหน้าสดใส “ฉันตั้งใจทำงานอย่างหนักเพื่อจะหาเงิน แล้วซื้อบ้านหลังเล็ก ๆ ให้ตัวเองตั้งรกรากในเมืองหลวง ทุกคนในครอบครัวของฉันล้วนแต่เก่งกาจ แต่ฉันก็ไม่เชื่อหรอกว่าอย่างฉันจะแพ้พี่ชายไร้ประโยชน์คนนั้นจนไม่สามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้”
เห็นความมุ่งมั่นของถังชุนหยาน ตู้จ้งเหว่ยอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงก่อนจะยกยิ้มแล้วให้กำลังใจ “อย่างนั้น เธอก็ตั้งใจให้มากนะ”
เขาไม่ได้คิดมาก่อนว่าถังชุนหยานจะพบเจอความยากลำบากหนักหนาขนาดนี้ ถ้าเธอไม่หนีออกมา ครอบครัวของเธอคงจะต้องรีบจับเธอแต่งงานเพราะต้องการเงินสินสอดไปแล้ว
“อื้ม… ฉันจะตั้งใจ”
ถังชุนหยานเขย่งเท้าพร้อมกับตบบ่าของตู้จ้งเหว่ยแล้วพูดว่า “อย่างนั้นพี่ก็ควรพยายามด้วยเหมือนกัน และหลังจากเรียนจบ มีงานดี ๆ ทำ พี่ก็จะยืนหยัดด้วยตัวเองได้ จะมีบ้านหลังเล็ก ๆ ด้วยเหมือนกัน ถึงวันนั้นก็แยกตัวออกจากบ้านเดิมแล้วไปใช้ชีวิตของตัวเอง ไม่ต้องทนฝืนกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีก”
ตู้จ้งเหว่ยมองมือเรียวเล็กบนบ่าของตน ก่อนจะหัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “อื้ม ฉันจะตั้งใจเหมือนกัน”
หลังจากนั้นตู้จ้งเหว่ยเดินไปกับถังชุนหยานเพื่อซื้อวัสดุทำยาต่าง ๆ ก่อนจะกลับมาที่บ้านตระกูลจิง
“กลับก่อนนะ”
“อื้ม ลาก่อน”
ทั้งสองโบกมือลา ถังชุนหยานยกยิ้มก่อนจะเดินเข้าประตูไปพร้อมกับถุงยา และเห็นว่าถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนกำลังยืนจับมือกันอยู่ตรงหน้า
“พี่สาวซวง พี่กำลังจะออกไปข้างนอกหรือ?”
ถังซวงพยักหน้า “ใช่ ฉันกับพี่โม่จะออกไปข้างนอกสักหน่อย” จู่ ๆ เธอนึกถึงตู้จ้งเหว่ยจึงถามขึ้น “แล้วตู้จ้งเหว่ยล่ะ? เขากลับบ้านไปแล้ว?”
“ค่ะ เขากลับบ้านไปหลังจากมาส่งฉัน”
ถังซวงเลิกคิ้วหลังได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะเวลานี้เธอกับโม่เจ๋อหยวนจะไปที่ร้านหนังสือ
แต่ถังซวงก็ต้องผิดหวังเพราะไม่เจอหนังสือที่ตัวเองต้องการ
“ไม่เป็นไรหรอกซวงเอ๋อร์ ถึงจะไม่มีหนังสือเล่มนั้น เราอ่านเล่มอื่นก็ได้ ฉันเชื่อว่าเราสองคนจะสอบผ่านแน่นอน”
ถังซวงเองก็คิดอย่างนั้น เธอพยักหน้ารับก่อนจะตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ค่ะ เราไปอ่านเองดีกว่า”
“ซวงเอ๋อร์ อย่างนั้นเราไม่ต้องซื้อหนังสือแล้วล่ะ”
“ค่ะ ไม่ซื้อแล้ว”
โม่เจ๋อหยวนจับมือเธอพร้อมพูดว่า “อย่างนั้นเราไปซื้ออย่างอื่นกันเถอะ”
“ซื้ออะไรหรือ?”
เธอไม่เคยได้ยินโม่เจ๋อหยวนพูดถึงความต้องการของตัวเองมาก่อน ถังซวงจึงไม่รู้จริง ๆ ว่าเขาอยากซื้ออะไร
“ไปซื้อของใช้ในบ้านกัน”
โม่เจ๋อหยวนกล่าวต่อด้วยสีหน้าสดใส “เรากำลังจะหมั้นกันแล้ว เราน่าจะจัดสวนในบ้านหลังน้อยของเราให้ดี แต่ถ้าได้ทำด้วยกันมันน่าจะมีความสุขมากไม่ใช่หรือ?” ตอนนี้การตกแต่งต่าง ๆ ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว แต่เขาก็ยังต้องการให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของถังซวง
ถังซวงยิ้มกว้างหลังได้ยิน
“งั้นไปกันเถอะ”
ทั้งสองเดินจับมือกันไป
พอเห็นจานชามสวยงามตรงหน้า เธอซื้อมันอย่างไม่ลังเล และเดินต่อไปสักพักก็เจอพรมที่ชอบ เธอก็ซื้อมันอีก เวลานี้ถังซวงซื้อทุกอย่างที่เธอรู้สึกว่ามันสวย
“ซวงเอ๋อร์ เราเอาของพวกนี้ไปวางไว้ก่อนดีกว่า แล้วค่อยขนมันเข้าบ้านใหม่ด้วยกัน”
“ค่า”
ถังซวงและโม่เจ๋อหยวนซื้อของมากมายเข้าบ้านหลังใหม่ ถังซวงเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง พอเห็นลานบ้านสะอาดตาและเป็นระเบียบ ก็อดไม่ได้ที่จะหันมองโม่เจ๋อหยวน “พี่จ้างคนมาทำความสะอาดบ้านหรือ?”
โม่เจ๋อหยวนส่ายศีรษะก่อนจะตอบกลับ “ไม่ได้จ้างหรอก ฉันแค่มาทำความสะอาดมันบ่อย ๆ น่ะ”
ถังซวงไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน เธอเหลือบมองเขาย่างประหลาดใจก่อนจะยกยิ้มกว้าง “คราวหน้าฉันจะมาช่วยทำความสะอาดนะ”
แววตาของโม่เจ๋อหยวนเป็นประกาย รีบตอบทันที “ครับ”
ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองเริ่มเก็บข้าวของที่ซื้อใหม่ด้วยกัน
บ้านหลังนี้ได้รับการออกแบบจากหลินหมิงซู่ ลุงของโม่เจ๋อหยวน หลินหมิงซู่ไปที่เมืองก่างเฉิงและได้รับแรงบันดาลใจกลับมามากมาย ทำให้สไตล์การออกแบบของเขาเปลี่ยนไป มันทั้งแปลกตาและดูทันสมัยยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งการตกแต่งภายในบ้านก็ยังดูเรียบง่ายแต่สวยงามมาก
ถังซวงชอบบ้านหลังนี้มาก เธอปูพรมที่ซื้อมาไว้ในห้องนอน เอาชามสวย ๆ วางไว้ในตู้ เอาเครื่องอาบน้ำต่าง ๆ วางในห้องน้ำ และจัดข้าวของทุกอย่างให้เป็นหมวดหมู่
กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จก็ถึงเย็น
หลังจากโม่เจ๋อหยวนไปส่งถังซวงกลับบ้านตระกูลจิง เขารับประทานอาหารที่นั่นแล้วกลับบ้าน
วันต่อมา ถังซวงกับโม่เจ๋อหยวนอ่านหนังสือเพื่อทบทวน ซึ่งถังเซวี่ยก็อยู่กับทั้งสองคนด้วยเช่นกัน
วันหยุดที่เงียบสงบผ่านพ้นไปแล้ว ถังซวงและถังเซวี่ยต้องกลับไปที่โรงเรียนอีกครั้ง
“พี่คะ ในที่สุดเราสองคนก็ได้ไปโรงเรียนด้วยกันแล้ว”
เห็นสีหน้าตื่นเต้นของถังเซวี่ย ถังซวงอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้างก่อนจะพูดว่า “เสี่ยวเซวี่ย ยินดีด้วยนะที่เธอได้เป็นนักเรียนมัธยมปลายแล้ว เอาล่ะ เดี๋ยวเราไปทานมื้อเช้าก่อนแล้วค่อยไปโรงเรียนพร้อมกัน”
“ค่า”
ถังเซวี่ยพยักหน้ารับอย่างตื่นเต้น หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว สองพี่น้องออกเดินทางไปโรงเรียนพร้อมกัน