[ ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าคิดว่านายคงจะรู้ตัวแล้วสินะ ยู ว่าตระกูลเฮรีอ็อตและตระกูลชาเนฟของท่านพ่อท่านแม่ข้านั้นเกี่ยวดองกันมาหลายรุ่นแล้ว ข้าและคุออนคุงมีความสัมพันธ์กันตั้งแต่วัยเด็ก และนั้นคือเหตุผล เมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากการต่อสู้จบลง หลังจากที่ข้าท่องเที่ยวไปเรื่อยจนมาถึงที่ Be Io แห่งนี้ ข้าได้เล่าเรื่องราวของนายในตำนานผู้กล้าให้เขาฟัง เล่าถึงว่านายขับไล่พวกปีศาจไปได้อย่างไร และอีกครั้งที่นายปราบปรามพวกชั่วร้ายอย่างไร ชายที่ไม่เหมือนใคร ชายผู้ที่ไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน และนั้น คุออนได้รบเร้าข้า “ให้ข้าพบเขาที” ไม่ก็ “แนะนำข้าให้เขารู้จักที” …. ก็ มันก็ไม่เป็นอะไรสำหรับนายหรอกมั้ง ถ้าหากจะมีศิษย์เพิ่มอีกซักคน 2 คน นายก็ไม่มีอะไรจะเสียสักหน่อย จริงมั้ย ? ]
ตอนแรกกะว่าจะยกโทษให้จีนอยู่ตอนได้รับฟังคำอธิบายจากจีน แต่รู้สึกมันจะไม่จบแค่การยกโทษแล้วหละ
[ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แล้วไอ้เรื่อง เกี่ยวกับ “ชายผู้ไม่มีใครเหมือน” นั้นหละ ? ]
[ อ้อ อย่างที่นายคาดเอาไว้ ข้าไม่สามารถเล่าเรื่องราวของนายในฐานะ “ผู้กล้า”ได้หรอกนะ ขืนข้าทำแบบนั้น ข้าคงถูกฆ่าตายโดยนายเหนือหัวซิลเวียพอดี ]
แค่นี้ก็ถูกซิลเวียฆ่าแน่ๆแล้วหละ
เอาหละ สำหรับ คุออนคุง ( ถึงมันจะน่าอายนิดหน่อยที่เรียกเขาแบบนี้ แต่ในเมื่อเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ผมจะขอเปลี่ยนวิธีเรียกเขานะ ) ที่ดูเหมือนจะปราบปลื้มในตัวผมจากเรื่องราวตำนานของผู้กล้า เขาไม่ได้คิดที่จะต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายตั้งแต่เริ่มอยู่แล้ว ดูเหมือนว่าเขาแค่อยากจะรู้ว่าสิ่งที่จีนพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่
คุออนที่กล่าวออกมาเมื่อซักครู่ ตอนนี้กำลังจัดชุดฝึกที่ยุ่งเหยิงไปหมดให้กลับเข้าที่
[ เอ่อ ไอ้เรื่องศิษย์นั้นตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้สำหรับผมหรอกนะ ผมกำลังอยู่ในระหว่างการผจญภัยหนะ ? ]
[ นายกำลังจะมุ่งตรงไป Galarie สินะ ? ถ้าในกรณีนี้ มันก็ไม่มีปัญหา ยังไงซะ คุออนคุงก็จะต้องไปที่นั้นในฐานะผู้ชนะประจำเขตอยู่แล้ว ]
หลังจากเตะกวาดไปที่ขาจีน ผู้ที่กำลังยืนหัวเราะ *ฮ่า ฮ่า ฮ่า* อย่างสบายใจ จนล้มคว่ำลงไปกองที่พื้น ผมก็มองไปยังคุออนคุง
[ ลูกพี่ยาชิโระ ! ]
ผมรู้สึกมีความสุขจริงๆที่เขานั้นมองมาที่ผมด้วยสายตาเคารพ แต่ว่า …. ใครใช้ให้แกเรียกผมว่าลูกพี่กันห๊ะ !
[ อ่า~…. โทษทีนะ ไอ้เรื่องลูกศิษย์นี้ไว้ค่อยคุยกันทีหลังดีกว่า ]
[ ถ้านั้นคือสิ่งที่ลูกพี่ขอมา กระผมก็ไม่มีปัญหาครับ! ลูกพี่ต้องการจะพบตาแก่สินะ ? ]
พระเจ้าช่วย ผมเผลอคิดไปว่าเขาจะบอกว่าจะไม่ให้พวกเราเข้าพบกับโวแดนชิถ้าหากผมไม่รับเขาเป็นศิษย์เสียอีก
[ กระผมได้ยินเหตุผลว่าทำไมลูกพี่ต้องการอยากจะพบตาแก่แล้วจากจีน เดี่ยวจะไม่ทันการ ดังนั้นลูกพี่ครับ เชิญทางนี้ ! ]
เมื่อกล่าวมาเช่นนั้น คุออนก็เป็นคนเดินนำพวกเราไป…. เอ่อคือ เขาในตอนนี้ช่างแตกต่างจากที่ผมจินตนาการเอาไว้ในตอนที่เราพบกันครั้งแรก
ผมว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่งและเชื่อฟังดีนะ
[ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย คุออนนั้นมีนิสัยที่เหมือนกับเด็ก เขาจะยอมทำทุกอย่างอย่างมีความสุขถ้าหากสิ่งนั้นสามารถสนับสนุนคนที่เป็นฮีโร่ในดวงใจของเขาได้ ข้าคิดว่าสิ่งที่เขากำลังทำนั้นเป็นการอธิบายได้อย่างดี ]
[ ไม่ใช่ว่าที่มันกลายเป็นแบบนี้เพราะแกโอ้อวดเรื่องของผมไว้เกินจริงเรอะ ? ]
[ ก็จริงอยู่ แต่เพราะแบบนั้น มันทำให้เขารู้สึกสนุกและขอร้องข้าว่า “ผมอยากจะลองสู้กับเขาดูสักครั้งไม่ว่าอย่างไรก็ตาม” หนะ ขอโทษด้วยเรื่องนี้ ]
ทำให้พวกเราต้องปรากฎตัวในงานแสดงศิลปะการต่อสู้-เวทย์มนตร์ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีปัญหาอะไรถ้าหากพวกเราต่อสู้กันแบบคนธรรมดา เฮ้อ ผมเข้าใจดีว่าไอ้หมอนี้มักเป็นแบบนี้แหละ
[ ก็มันช่วยไม่ได้นี่ ? ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นนักดนตรี แต่ข้าก็เป็นนักแต่งเรื่องราวด้วยเหมือนกัน ]
จีนยืดอกออกมาอย่างภาคภูมิใจราวกับว่าสิ่งที่เขาพูดออกมามันเป็นเรื่องปกติ ไอ้หมอนี่ “เส้นทาง”การใช้ชีวิตของเขา ช่างเหมือนกับ โอลิเวียและพี่สาวคนโตของตาลุงกิลเล่เสียจริง
[ เห้อ , ช่วยไม่ได้งั้นเรอะ …… เบอร์นาเดส ? ]
หลังจากผมถอนหายใจออกมาให้กับข้ออ้างของจีน ผมเพิ่งจะรู้ว่าเบอร์นาเดสนั้นไม่ได้เดินมาพร้อมกับเรา
[…… ]
เบอร์นาเดสเธอยังยืนอยู่ที่เดิม สายตาของเธอมองลงต่ำ เกิดอะไรขึ้นงั้นรึ ?
[ นี่ๆ เบอร์นาเดสซางง~~ ]
「……」
[ เธอจะกวนประสาทผมด้วยการทำเป็นไม่สนใจผมเรอะ ยังบ๊องซิสเตอร์ ]
「……」
[….. ก็ได้ !! ท่าไม้ตาย ผ่ามือสังหารอปไป ! ]
*หมับ*
[ อิย๊าาา!? คะ , คุณทำอะไรเนี้ย ! ? ]
[ โอ้ว รู้ตัวสั– แอ๊ก !? ]
การรับรู้ของผมหมุนติ้วและแก้มของผมก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาในเวลาเดียวกัน และในขณะเดียวกัน ผมก็ล้มกลิ้งไปกองที่พื้น
ดูเหมือนว่าผมจะถูกตบเข้าที่หน้าแฮะ
[ คุณทำอะไรคะเนี้ย ไอ้บ้า !? ]
[ ไม่สิ เดี่ยวๆ ผมต้องเป็นคนพูดประโยคนั้นสิ !? ]
เบอร์นาเดสที่กำลังหน้าแดง เธอปกปิดหนองโพของเธอด้วย 2 มือ ฟูมุ, ก็ถือว่าเป็นการตอบสนองที่ปกติอยู่ ดูเหมือนว่าสติของเธอจะกลับคืนมาแล้วแฮะ
[ แล้ว ? เกิดอะไรขึ้นหรอ ? จู่ๆ เธอก็ดูซึมๆไปแบบนั้น ]
[ คะ , คือว่า … เอ่อ ]
ผมถามขึ้นในขณะที่ลุกขึ้นยืน แต่ดูเหมือนเบอร์นาเดสยังคงลังเลที่จะพูด อะไรกัน? เธอคิดอะไรอยู่ ? แล้วมันพูดออกมาไม่ได้งั้นรึ?
[ เอาเถอะไม่เป็นไร ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปพบโวแดนชินะ ]
「……」
แม้ว่าผมจะเร่งเธอ แต่เบอร์นาเดสก็ทำเพียงแค่หันสายตาหนีจากผมเท่านั้น
[ ยู เธออยู่ในช่วงที่ต้องคิดอะไรสักอย่างด้วยตัวของเธอเอง ปล่อยให้เธอได้ใช้เวลาอยู่คนเดียวสักพักเถอะ ]
จีกล่าวกับผมออกมาเบาๆ ผู้ที่เริ่มจะหงุดหงิดในท่าทีของเบอร์นาเดส ….. หือ? จีนเข้าใจอะไรบางอย่างงั้นรึ ?
[ เข้าใจแล้ว …. ถ้าหากเธอรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร กลับไปที่โรงแรมก่อนได้เลยนะ ? ]
[……ค่ะ ]
เบอร์นาเดสตอบตกลงออกมา และอีกครั้งที่เธอหันสายตาของตนต่ำลง
◇
หลังจากปล่อยเบอร์นาเดสทิ้งไว้ ด้วยการนำของคุออน พวกเราก็มาถึงยังห้องทำงานของท่านโวแดนชิ
และเมื่อพวกเรานั่งลงบนโซฟาหนังสีดำสุดหรูหรา ประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดขึ้น พร้อมกับ กลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนสวมสูทเดินเข้ามาก่อน และ ชายอีกคน เขาสวมอยู่ในชุดฮาโอริที่บนชุดกิโมโนะ ผู้ที่ผ่านชีวิตมาอย่างยาวนานและมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่บนใบหน้าได้เดินเข้ามา สิ่งที่ยื่นออกมานั้นคือหูของหมาป่าที่แสดงให้ผมรู้ว่าเขานั้นคือเผ่าหมาป่า
และนี่ คนๆนี้คือโวแดนชิ พร้อมกับแผลเป็นบนใบหน้าของเขา มันยิ่งทำให้เขาดูน่ากลัวโครตๆ
[ ข้าคือผู้นำตระกูลเฮรีอ็อต รุ่นที่ 6 [ โวแดน เฮรีอ็อต ] นายคือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากท่านผู้อำนวยการให้มามอบของขวัญแสดงความยินดีสินะ ]
[ ค,ค ครับ! ผม ยู ยาชิโระ ! ]
สิ่งที่มาพร้อมกับเสียงที่เย็นเฉียบ มันคือดวงตาของโวแดนชิที่จ้องเขม่งมาทางผม ผมพลับลุกขึ้นตัวตรงจากโซฟาทันที เพราะใบหน้านั้นมันยิ่งกว่า ตาลุงกิลเล่เสียอีก
ขณะที่ผมส่งกล่องที่บรรจุกระดิ่งไว้จากภายในกระเป๋าของผมอย่างประหม่า โวแดนชิก็เปิดมันออก และเผยรอยยิ้มออกมา
[ อืม ข้าขอขอบคุณอย่างสุดหัวใจสำหรับของขวัญจากท่านผู้อำนวยการจริงๆ …. ดูสิ คุออน นี่คือกระดิ่งของเจ้า ]
ขณะที่ผมกำลังประหม่าและตัวสั่นเพราะกลัวอยู่ น้ำเสียงของโวแดนจู่ๆก็ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากเสียบที่ทุ่มต่ำเย็นเฉียบกลายเป็นเสียงมุ้งมิ้ง
จากบรรยากาศอันโครตโหดที่เขาปล่อยออกมาบัดนี้กับถูกระเบิดหายไปเหลือเพียงใบหน้าที่ยิ้มกว้าง
[ คะ , ใครมันจะไปอยากไส่ไอ้กระดิ่งนี้กันฟร่ะ !! ]
[ ตะ, แต่ว่า ลูกอายุ 16 ปีแล้วนะ …. ]
[ ถึงจะ อายุ 16 ปี แต่ข้าก็ไม่อยากใส่ไอ้ของน่าอายนั้นหรอก !!! ]
ด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋ นายหูจิ้งจอกยังยืนกรานจนจบ อาจเพราะจิตตกจากการโดนคุออนปฎิเสธ หูของโวแดนชิถึงกับลูบลง
….. นี่มันบ้าอะไรกัน ?
[ ภรรยาของโวแดนชินั้นได้เสียชีวิตลงตั้งแต่คุออนยังเด็ก และคุออนเองก็มีความเหมือนกับภรรยาของเขามากนัก มันยิ่งทำให้โวแดนหลงลูกของเขาสุดๆ ]
[ อืม ผมเข้าใจหละ แต่ที่ผมยังไม่เข้าใจคือตาผมกำลังดูอะไรอยู่เนี้ย ]
ในขณะที่ผมกำลังตะลึงอยู่ จีนจึงได้อธิบายออกมาเบาๆแก่ผม และนั้น ผมจึงเข้าใจได้ทันที โวแดนชินั้น เขาก็เหมือนกับพ่อแม่ทั่วๆไป นั้นเป็นเรื่องที่ช็อกสุดๆสำหรับผม
[ ใช่แล้ว เข้าเรื่องสำคัญเถอะ ! พวกเรามาพูดถึงเรื่องของ ลูกพี่ยาชิโระกันดีกว่า ]
คุออน ผู้ที่ตะกี้ยังปฎิเสธเสียงแข็งเรื่องกระดิ่ง จู่ๆก็เปลี่ยนหัวข้อเรื่องและ มีชื่อของผมถูกพูดขึ้นมา
[ ลูกพี่ยาชิโระนั้น ตอนนี้เขาไม่สามารถหาทางไปต่อได้เกี่ยวกับเหตุการณ์ลักพาตัวซึ่งตอนนี้ก็เป็นปัญหาในเมืองของเราเช่นกัน เพื่อไม่ให้เป็นการชักช้าเสียเวลา ในการหาทางแก้ไข ! ถ้าหากพวกเรายังนั่งดูดนิ้วเฉยๆไม่ทำอะไร มันคงจะเป็นความอับอายของทางตระกูลเฮรีอ็อตแน่ๆ ใช่มั้ย ท่านพ่อ ให้ความช่วยเหลือลูกพี่ด้วย !! ]
คุออนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นหน่อยๆ แต่ว่า โวแดนชิกับทำเพียงแค่หยิบไปร์ในปากของเขาออกและคำรามออกมา
หลังจาก 2 – 3 วิผ่านไป หลังจากที่คุออนกล่าวออกมา โซแดนชิก็หันสายตามาทางผม พร้อมกับเปิดปากขึ้นอย่างช้าๆ
[ ยาชิโระ สินะ ? …. ต้องขอโทษด้วย แต่ข้านั้นไม่สามารถเรียกรวมพลในตระกูลได้ในเวลานี้ …… นั้นคือเหตุผลที่ข้าไม่สามารถช่วยเจ้าได้ ]
ด้วยดวงตาที่เฉียบคมของเขาที่จ้องมองมา ถึงแม้มันจะเล็กมากๆ แต่ผมก็เห็นถึงความรู้สึกละลายใจในแววตาคู่นั้นเช่นกัน