245 การเคลื่อนไหวของราชามาเวเลีย
ฉันคิดว่าก็ไม่เลวเลยที่จะรอดูไปทั้ง ๆ แบบนี้
ฉันแน่ใจว่าราชาได้ข้อสรุปแล้วอย่างแน่นอน
นี่ไม่ใช่คำพูดที่สุกงอมจากการคิดมาอย่างยาวนานที่มีไว้เพื่อโชว์เท่านั้น
เช่นเดียวกันกับราชาแห่งอาร์ตัวร์กำลังวางแผน「การรุกรานด้วยข้อมูลที่ไร้การหลั่งเลือด」คน ๆ นี้เองก็ต่อสู้เพื่อปกป้องมาเวเลียไว้เช่นกัน
――ฉันโกรธนิดหน่อย แต่ฉันก็อยากจะได้ข้อสรุปให้เร็วที่สุด
“เน๋ พวกคุณจะจัดการเรื่องภายในที่ซับซ้อนในภายหลังได้ไหม?”
บางทำคำพูดของราชาอาจแทงเข้าไปกลางใจจนอธิบดีกรมการทหารเอ็นเดเวอร์เอาแต่นิ่งเงียบ ฉันเลยอยากตัดเขาออกไปให้เร็วที่สุด
“ขอแค่ได้การพัฒนาทั้งหมดกลับมาฉันก็ไม่สนอย่างอื่นหรอกนะ ทหารจักรกล? อนาคตของมาเวเลีย? ทำตามที่ชอบเถอะ?”
“ว่ายังไงนะ”
ฉันมองย้อนกลับไปที่อธิบดีกรมการทหารเอ็นเดเวอร์ซึ่งกำลังจ้องมาที่ฉันอย่างแข็งกร้าว
“ถ้าประเทศมันจะล่มสลายเพียงเพราะ เทคโนโลยีทหารจักรกลรั่วไหลออกไป งั้นก็ปล่อยให้มันล่มสลายไปเถอะ หากประเทศเปราะบางขนาดนั้น ต่อให้มีหรือไม่มีทหารจักรกล มันก็จะล่มสลายในที่สุด”
“คนอย่างแกมันจะไปรู้อะไร! มีนักบินตั้งเท่าไหร่ที่ได้สละชะขณะขับทหารจักรกลเพื่อ――”
“ฉันก็ต้องบอกว่าไม่รู้จริงไหม! นี่คือผลจากการที่พวกคุณไม่รู้จักร้องขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น และพยายามทำกันเองจริงไหม! พวกตาแก่ที่คิดแต่จะปิดประเทศอย่างเห็นแก่ตัวมีแต่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ แย่ลง และทำให้ผู้คนต้องล้มตายอย่างไร้ค่า! จากนี้ก็ทำสิ่งที่ปรารถนาไปเถอะ! แต่อย่ามารบกวนฉัน!”
ดีล่ะ ฉันพูดไปแล้ว
รู้สึกโล่งขึ้นนิดหน่อย
ใช่แล้ว จนถึงตอนนี้ฉันได้พูดคุยมากมายกับชาวมาเวเลียหลายคน ต่สุดท้ายแล้ว ผู้คนที่ฉันอยากจะพูดด้วยมากที่สุดก็คือ ผู้นำระดับสูงของประเทศนี้
ทั้งราชา และอธิบดีกรมการทหารที่คุยกันอยู่ที่นี่ เหล่าผู้อาวุโสที่สร้างและปกป้องประเทศนี้
――ซ้า ฉันปูโต๊ะให้แล้ว คุณจะอยากทำให้เป็นแบบไหนกันดีล่ะ?
เมื่อฉันมองไปที่ราชา เขาก็หัวเราะ
“ฟุๆๆๆๆ……ช่างเป็นเด็กที่ฉลาดมากจังน้อ มากจนข้าไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นเพียงแค่เด็กเลยน้อ”
นั่นก็ถูกแล้วล่ะ ฉันอาจจะมีร่างกายของเด็ก แต่ภายในนั้นไม่ใช่
“อธิบดี เจ้าน่าจะเคยได้ยินรายงานมาบ้างแล้วจริงไหม? เด็กคนนี้、ซิล、ลิวิซิล แม้แต่แคนแต่ก็พยายามที่จะแข็งแกร่งให้มากกว่าทหารจักรกลด้วยร่างกายของตน แถมยังพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาแล้วด้วยน้อ”
ข้อพิสูจน์น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นสองวันก่อนเทศกาลฤดูหนาว
ม๊า ถึงอาจจะแตกต่างไปบ้างสำหรับของฉัน
“เนีย・ลิสตันพูดถูกแล้วน้อ ทหารจักรกลไม่ใช่สิ่งที่สมบูรณ์แบบอีกต่อไปแล้ว ยามที่เราได้ปิดประเทศเพื่อกันชาวต่างชาติออกไป พวกเขาก็ได้แซงหน้าพวกเราไปเรียบร้อยแล้ว
นี่ไม่ได้หมายความว่าภัยคุกคามจากแมลงจะหายไป อย่างไรก็ตามขณะนี้เราไม่สามารถเพิกเฉยต่อต่างประเทศได้อีกต่อไปแล้ว หากเรื่องนี้จะเกิดขึ้น เราก็ย่อมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับต่างประเทศที่เรายังสามารถพูดคุยด้วยได้ หาใช่แมลงที่เราไม่สามารถพูดคุยด้วยได้
――เหนือสิ่งอื่นใด ข้าก็กลัวเกินกว่าที่จะคาดเดาว่า ราชาแห่งอาร์ตัวร์นั้นสามารถอ่านเรื่องราวจนสามารถคาดการณ์ได้ไกลถึงอนาคต จึงได้ทำการส่งเนีย・ลิสตันผู้นี้มา ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของเรา ข้ายังคิดว่าประเทศอาจล่มสลายด้วยเหตุผลหลายประการที่นึกคิดไม่ถึงด้วยซ้ำ ข้ารู้สึกเหมือนได้เรียนรู้แล้วว่าสถานการณ์ปัจจุบันนั้นอันตรายเพียงใด”
…………
ราชาแห่งอาร์ตัวร์คิดได้ไกลมากขนาดนั้นก่อนที่จะส่งฉันมาเลยเหรอ……?
ไม่ล่ะ คงไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น
ทว่า ยังไงก็ตามเมื่อคิดว่าประเทศนี้ก็ค่อนข้างโดดเดี่ยวจริง ฉันคิดว่าการส่งฉันมาที่มาเวเลียก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นพวกเขา
“……ราชาแห่งอาร์ตัวร์ กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่พะยะค่ะ?”
เมื่ออธิบดีกรมการทหารถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ราชาก็พูดอย่างใจเย็น
“――การกำจัดศัตรูของชาวเรา จากนั้นการเปิดประเทศมาเวเลีย นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่าเขาจะเร่งให้มีการเปิดตัวสิ่งที่เรียกว่า『เมจิกวิชั่น』อันเป็นนโยบายที่ประเทศของเขาส่งเสริมด้วยล่ะน้อ”
อืม
ฉันมีความคิดเห็นแบบเดียวกันจนถึงจุดนั้น
“นอกจากนี้ ข้าเดาว่าเขาน่าจะรู้ว่าเนีย・ลิสตันจะสามารถกำจัดแมลงได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และโชคดีที่ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเช่นนั้นจริง ๆ น้อ
แม้ว่าข้าจะแอบคิดว่าดีแล้วรึที่จะขอให้เด็กคนนี้ช่วยกำจัดแมลงให้ในเวลาเช่นนี้ ถึงกระนั้นจริง ๆ แล้ว ข้าก็คิดว่าการสละความภาคภูมิใจ และตักตวงใช้ประโยชน์เช่นนี้ คงจะดีกว่าที่จะปล่อยให้ชาวมาเวเลีย และเหล่านักบินต้องสละชีวิจ
ทว่า เมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงของประเทศแล้ว ข้าแน่ใจว่าลิวิซิลจะต้องไม่พอใจเช่นนั้น และแน่นอนข้าในฐานะราชาด้วยเช่นกัน
ดังนั้นถึงตาของเจ้าแล้ว คงจะดีกว่าหากเจ้าย่อมร่วมมือเช่นกันน้อ”
“ร่วมมือ……?”
“――แค่เดิมพันกับเนีย・ลิสตันก็พอแล้ว หากเจ้าพ่ายแพ้ก็เพียงแค่รับผิดชอบและเกษียณ สร้างพื้นที่ว่างให้คนรุ่นต่อไป
นา อธิบดีเอ่ย เราควรมอบความฝันที่ไม่อาจบรรลุผลให้กับคนรุ่นใหม่ต่อไปเช่นนั้นหรือ?
เราหมกมุ่นอยู่กับความสงบแห่งการประนีประนอมมากเกินไป หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มาเวเลียไร้ซึ่งความมั่นคงและการเปลี่ยนแปลง สุดท้ายก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังของยุคสมัยล่ะน้อ”
ฉันแน่ใจว่าถึงถ้อยคำจะแตกต่างจากที่ตั้งใจไว้ เพราะเหตุจำเป็นเร่งรีบ แต่ราชาคงมีความตั้งใจที่จะให้บทสรุปเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว
เขาต้องการเล่นเกมบางอย่างกับฉัน รับผิดชอบผลด้วยการปลดเกษียณตัวเอง ส่งไม้ให้คนรุ่นใหม่……บัลลังก์จะถูกส่งมอบให้กับลิวิซิล
ด้วยการทำเช่นนี้ เขาจะสร้างองค์ประกอบของสถานการณ์「มาเวเลียสะดุดล้มครั้งใหญ่เพราะความผิดพลาดของราชา แต่ด้วยนโยบายที่กล้าหาญของลิวิซิลจึงทำให้มาเวเลียสามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง」ก็ถือว่าสะดวกสำหรับฉัน เพราะนี่จะเป็นโอกาสของการเปิดประเทศ
ม๊า นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากรู้อยู่ดี
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมันตรงกับจุดประสงค์ของฉัน จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่คว้ามันไว้
――แต่เป้าหมายแรกของฉันตอนนี้ก็ยังคงเป็นม้าจักรกล ต่อไปคือการเปิดประเทศมาเวเลีย หลังจากนั้นถึงค่อยเป็นเมจิกวิชั่น
หากแค่กำจัดคนแก่จนเปิดประเทศได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธข้อเสนอของราชา
แต่ก่อนอื่นเลย
“ราชา หม่อมฉันยินดีที่จะพิจารณาหัวข้อนั้นในเชิงบวกเพคะ ทว่าก่อนอื่นเลย หม่อมฉันต้องการให้ทำการคืนม้าจักรกลมาก่อน หม่อมฉันไม่สนใจทหารจักรกล แต่ก็คิดว่านั้นเป็นการพัฒนาที่มาเวเลียควรภาคภูมิใจเพคะ”
หากว่าเทคโนโลยีของทหารจักรกลถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ในแง่นั้นฉันคิดว่าก็อาจเป็นความคิดที่ดีที่จะพิจารณาทหารจักรกลใหม่อีกครั้ง
ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่แหวกแนว
ท้ายที่สุด แม้แต่ผู้ที่มีพลังเวทมนตร์ต่ำก็ยังสามารถใช้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงได้ และยังสามารถใช้เป็นกำลังแรงงานได้อย่างดี ไปไหนมาไหนได้ง่ายกว่าเรือเดี่ยว และประหยัดเชื้อเพลิงกว่า
ทั้งความอเนกประสงค์และใช้งานได้จริง ฉันแน่ใจว่ามันจะแพร่กระจายไปทั่วโลก
“โห๊ว ม้าจักรกลสิน้อ อธิบดีจงคืนไปเสียเถิด”
“มะ ไม่พะยะค่ะ! ไม่ได้เด็ดขาด! ……กระหม่อมเข้าใจสิ่งที่ฝ่าบาททรงตรัส และแน่นอนว่าก็อยากจะเสวนาด้วยให้มากกว่านี้……เพราะเช่นนั้นกระหม่อมถึงไม่สามารถคือมันได้ในตอนนี้! มันยังไม่ถึงเวลาที่จะเผยแพร่ออกไป!”
เห็นได้ชัดว่าอธิบดีกรมการทหารกำลังลังเลใจ ฉันเดาว่าเขาก็ยังสามารถคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ได้ระดับหนึ่ง
เพียงเพราะฉันเข้าใจ ไม่ได้หมายความว่าฉันจะประนีประนอม
“จ๊า งั้นฉันจะไม่ขายมันก็ได้ ของใกล้จะเสร็จแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์ดี ดังนั้นฉันจะไม่แพร่กระจายให้โลกรู้จนกว่าเรื่องข้อตกลงของราชาจะคลี่คลาย
ทว่า ยังไงก็ตามฉันจะพัฒนาต่อ เพราะอย่างงั้นส่งมันกลับมา นั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการ”
“ถูกแล้วน้อ เจ้ารู้สึกถึงความเร่งเร้าอย่างรุนแรงนั้นใช่ไหม? รีบส่งคืนเนีย・ลิสตันก่อนที่จะทำเธอโกรธเสียจะดีกว่า
ข้าอาจกลัวราชาแห่งอาร์ตัวร์ แต่ข้าก็กลัวการทำให้เด็กคนนี้โกรธเช่นกัน อย่าปล่อยให้ความพยายามของซิลและซิโนบาซที่ทำให้เธอยังสงบต้องสูญเปล่าจะดีกว่าน้อ”
ฉันรู้สึกเหมือนได้คุยเรื่องอะไรไปมากมาย แต่ตอนนี้ฉันได้ออกจากปราสาทแล้ว
“……เรื่องราวดำเนินไปในทิศทางที่ฉันคาดไม่ถึงจริง ๆ น๊า”
ม๊า การเคลื่อนไหวของราชาถือเป็นเรื่องใหญ่ บางทีซิลเลนก็อาจมีเรื่องต้องคิดเช่นกัน
“สำหรับฉันตราบใดที่ได้ม้าจักรกลก็ไม่มีปัญหา”
อธิบดีกรมการทหารสัญญาว่าจะส่งคืนให้ในวันพรุ่งนี้ หากเขาไม่ได้รับการปกป้อง ฉันจะสังหารเขาในครั้งหน้า……ม๊า ฉันแน่ใจว่าเขาจะคืนมันแน่นอนถ้าเขารู้ว่าจะเป็นเช่นนั้น
“แล้ว……เนียเข้าใจใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้?”
“ไม่เลย”
ฉันไม่รู้ว่าราชาต้องการอะไร ฉันไม่เข้าใจเรื่องอะไรที่ยาก ๆ มาแต่แรกแล้ว
ทว่าที่มาที่ไปของเรื่อง แน่ใจว่าเป็นทหารจักรกล
ดังนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้น ฉันแน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับทหารจักรกลแน่นอน
――จนถึงตอนนี้ นับเป็นเรื่องธรรมดาที่จะพึ่งพาทหารจักรกล แต่จากนี้ไปจะไม่มีทางที่จะสามารถพึ่งพาเพียงทหารจักรกลได้อีกต่อไป
สงสัยจังว่าพวกเขาจะนำทางประเทศไปในทิศทางไหนกัน
“ฉันสงสัยจังว่าปีนี้พวกเราต้องทำกันอีกครั้งไหม? อะไรที่เหมือนกับที่พวกเราต่อสู้กับทหารจักรกลก่อนเทศกาลฤดูหนาวน่ะ”
“……อ้า เข้าใจแล้ว เนียชนะ ท่านพ่อเกษียณ เป็นโอกาสในการเปิดประเทศ ……เราเดาว่าเช่นนั้น”
ฉันไม่ได้รู้ถึงขนาดนั้น
ม๊า ยังไงก็ช่วยเปิดประเทศก่อนแล้วกัน ฉันจะให้ความร่วมมือเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น ฉันได้รับการเรียกจากโรงงานไฟรซ์
ดูเหมือนว่าม้าจักรกลเครื่องต้นแบบ รถม้าสามล้อเครื่องต้นแบบ และพิมพ์เขียว ฯลฯ ได้ถูกส่งคืนมาทั้งหมดแล้ว
ตอนนี้ ในที่สุดฉันก็สามารถทำตามแผนช่วงฤดูร้อนของฉันได้โดยไม่ต้องพะวงใจแล้ว
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
คนแปลขออนุญาตเปิดโดเนทหน่อยนะงับ
{ไทยพาณิชย์} {880-222211-5} {เสฏฐวุฒิ}
ขอบคุณ คุณนิรนาม กสิกรไทย X-3086 มาก ๆ ครับ
ขอบพระคุณทุกท่านที่สนับสนุนเป็นกำลังใจเข้ามาด้วยนะครับ
ขอบคุณงับ
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
บ่นๆๆ
วันนี้มีทีมเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาเปลี่ยนมิเตอร์ให้เป็นดิจิตอลรุ่นใหม่ ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าไม่ว่า พวกแม้งมาถึงไม่พูดไม่จาไม่เรียกกันสักนิดว่าจะถอดมิเตอร์ไฟ
เล่นถอดทันทีจนไฟในบ้านดับไม่ทันตั้งตัว นั่งแปลนิยายอยู่ คอมดับแม้งหายสิ ดีกดเซฟบ่อยกับมีออโต้เซฟถึงล่าสุดไว้อยู่
ออกไปดู ถึงเห็นว่ากำลังเปลี่ยน พอลองไปถามอะไรก็เงียบหุบปากสนิทไว้เหมือนรู้ตัวว่าทำผิด พลาดไปแล้ว ทำเสร็จโดดขึ้นรถไปทำบ้านต่อไปทันทีแบบไม่พูดสักคำ
ไม่รู้ไม่ขอโทษก็เรื่องนึง แต่มันต้องแจ้งเจ้าบ้านที่ยืนเด่นตรงนั้นว่าเปลี่ยนมิเตอร์เรียบร้อยแล้วรึเปล่าว๊า ห๊าาาาาาา ถ้าคอมพังคงหัวร้อนกว่านี้ เอ้อ