จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)บทที่ 414 เตรียมพร้อม

บทที่ 414 เตรียมพร้อม

บท​ที่​ 414 เตรียมพร้อม​

บรรยากาศ​เคร่งเครียด​ ทุก​คนมีสี​หน้า​เศร้าหมอง​

จังหยวน​จื่อ​และ​ผู้อาวุโส​จาก​สำนัก​วัชระ​วางแผน​เอาไว้​เป็น​อย่าง​ดี​ พวก​มัน​อยาก​จะเข้ายึดครอง​ทุก​สำนัก​ที่อยู่​รอบ​ภูเขา​คุ​น​หลุน​ ไม่เว้น​แม้แต่​ตระกูล​ห​ยาน​กับ​หอ​กระจก​นิรันดร์​

อันที่จริง​ เนื่องจาก​ตระกูล​ห​ยาน​มีความสัมพันธ์​อัน​ดีงาม​กับ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ พวก​มัน​จึงไม่กล้า​กดดัน​ตระกูล​ห​ยาน​มากเกินไป​ จึงเลือก​ที่จะ​บุก​โจมตี​หอ​กระจก​นิรันดร์​และ​สำนัก​อื่นๆ​ ก่อน​ แล้ว​ค่อย​อาศัย​จังหวะ​ที​เผลอ​บุก​เข้า​โจมตี​ตระกูล​ห​ยาน​โดย​ไม่ทัน​ให้​ตั้งตัว​ เมื่อ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​รับทราบ​ข่าว​ ก็​สาย​เกินไป​ที่จะ​มาช่วย​ผู้คน​ได้​ทัน​แล้ว​

แต่​ไม่คาดคิด​เลย​ว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​กลับมา​ปรากฏตัว​รวดเร็ว​ถึงเพียงนี้​ ทำให้​แผนการ​ที่​พวก​มัน​วาง​เอาไว้​พังทลาย​ไม่เหลือ​ชิ้น​ดี​

จิน​เฉิงมีสีหน้า​สับสน​ มัน​มองหน้า​จังเฟิงห​ลิง​แล้ว​ถามว่า​ “คุณชาย​จาง ใน​เมื่อ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ฆ่าทุกคน​ แล้ว​ทำไม​มัน​ถึงปล่อย​คุณ​มาแบบนี้​ล่ะ​?”

จังหยวน​จื่อ​ชักสีหน้า​ไม่พอใจ​ ถลึงตา​จ้องมอง​จิน​เฉิงพร้อม​พูด​

“หมายความว่า​ยังไง​? หรือว่า​คุณ​อยาก​ให้​ลูกผม​โดน​จอม​มาร​ฆ่าตาย​?”

“นาย​ท่าน​จางเข้าใจผิด​ไป​แล้ว​ ใน​เมื่อ​จอม​มาร​ฆ่าทุกคน​ แต่กลับ​ละเว้น​คุณชาย​จางเอาไว้​ แบบนี้​มัน​ไม่ผิดปกติ​เกินไป​หน่อย​หรือ​?” จิน​เฉิงพูด​

จังหยวน​จื่อ​นิ่ง​คิด​ไป​เล็กน้อย​ ก็​หันมา​มองหน้า​จังเฟิงห​ลิง​ แล้ว​ถามว่า​ “เจ้าเล่า​เรื่องราว​ให้​พ่อ​ฟังเดี๋ยวนี้​ ห้าม​ปิดบัง​แม้แต่​เรื่อง​เดียว​”

จังเฟิงห​ลิง​บอกเล่า​เรื่องราว​ที่​เกิดขึ้น​อีกครั้ง​

“ให้​ตาย​เถอะ​ มัน​กล้า​ดูถูก​ตระกูล​จังถึงขนาด​นี้​เชียว​หรือ​ จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​โอหัง​มากเกินไป​แล้ว​” จังหยวน​จื่อ​มีดวงตา​ขุ่นมัว​ สีหน้า​เต็มไปด้วย​รังสี​อำมหิต​

“จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​เป็นตัว​อะไร​ กล้า​มาฆ่าคน​ของ​สำนัก​วัชระ​เหมือน​ฆ่าเป็ด​ฆ่าไก่​ตัว​หนึ่ง​ เท่ากับ​รนหาที่​ตาย​ชัด​ๆ” จิน​เว่ย​พูด​ ดวงตา​เป็นประกาย​ด้วย​ความโกรธแค้น​

ผู้อาวุโส​ประจำ​ตระกูล​จังก็​โกรธแค้น​เช่นกัน​ เท่าที่​ฟังเรื่องราว​จาก​จังเฟิงห​ลิง​ จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ไม่เห็น​ตระกูล​ของ​พวก​มัน​อยู่​ใน​สายตา​เลย​แม้แต่น้อย​

“มัน​บอก​ด้วย​นะ​ว่า​ให้​ผม​ระวังตัว​เอาไว้​ให้​ดี​ วันหนึ่ง​เกิด​มัน​คันไม้คันมือ​เมื่อไหร่​ จะเดินทาง​มาฆ่าพวกเรา​ให้​หมด​” จังเฟิงห​ลิง​สังเกต​สีหน้า​ของ​ทุกคน​ ก่อนที่จะ​พูด​ออก​ไป​อย่าง​ระมัดระวัง​

“จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ มัน​คิด​ว่า​ตระกูล​จังไร้​น้ำยา​งั้น​เหรอ​?” จังหยวน​จื่อ​มีน้ำเสียง​ที่​เย็นชา​เป็น​อย่างยิ่ง​

“มัน​บอก​ด้วย​นะ​ครับ​ว่า​เผ่าพันธุ์​มนุษย์​คิงคอง​ ก็​เป็น​แค่​ลิง​กลายพันธุ์​เท่านั้นเอง​ สักวัน​มัน​จะจับ​พวกคุณ​ไป​อยู่​ใน​สวนสัตว์​ คอย​ให้​คน​ไป​เยี่ยมชม​อยู่​ใน​กรงขัง​” จังเฟิงห​ลิง​พูด​ต่อ​

“เฮอะ​…” จิน​เฉิงคำราม​ใน​ลำคอ​ด้วย​ความ​เดือดดาล​ “จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ เรา​คง​อยู่ร่วม​โลก​กัน​ไม่ได้​แล้ว​ ฉัน​จะไป​ฆ่าแก​เอง​”

“จาก​กำลัง​พล​ที่​เรา​จะยก​ไป​โจมตี​ ยังไง​คืนนี้​พวกเรา​ก็​ต้อง​ทำลาย​หอ​กระจก​นิรันดร์​ได้​แน่นอน​ เอา​ให้​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​มัน​รู้​ไป​เลย​ว่า​ ที่​ภูเขา​คุ​น​หลุน​แห่ง​นี้​ ใคร​กัน​เป็น​ผู้ยิ่งใหญ่​” จังหยวน​จื่อ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​แข็งกร้าว​

“ช้าก่อน​” จิน​เฉิงพูด​บ้าง​ “ตอนนี้​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​น่าจะ​ยังคง​เฝ้าอยู่​ที่​หอ​กระจก​นิรันดร์​ไม่ไป​ไหน​”

“พี่​จิน​ โปรด​วางใจ​ จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​นับ​เป็นตัว​อะไร​กัน​? ผม​มีวิธี​รับมือ​กับ​มัน​อยู่แล้ว​” จังหยวน​จื่อ​พูด​ด้วย​ความมั่นใจ​

จิน​เฉิงมีสีหน้า​ประหลาดใจ​ไม่น้อย​ พอๆ กับ​ความ​สับสน​งงงวย​

“คืน​นี้แหละ​ ภูเขา​คุ​น​หลุน​จะต้อง​นอง​ไป​ด้วย​เลือด​”

ผู้อาวุโส​ระดับสูง​ประจำ​ตระกูล​จังมีสีหน้า​แปรเปลี่ยน​เล็กน้อย​ตอนที่​พูดว่า​ “หรือว่า​นาย​ท่าน​คิด​จะเชิญบรรพบุรุษ​ออกมา​ช่วยเหลือ​?”

“ถูกต้อง​ ตอนนี้​มีแต่เพียง​ท่าน​บรรพบุรุษ​ของ​พวกเรา​เท่านั้น​ ถึงจะปราบ​เจ้าจอม​มาร​นั่น​ได้​” จังหยวน​จื่อ​ตอบ​

ผู้อาวุโส​ประจำ​ตระกูล​จังยิ้ม​ออกมา​อย่าง​มีความสุข​ หาก​บรรพบุรุษ​ตระกูล​จังออกมา​ช่วยเหลือ​ ใน​โลก​นี้​พวก​มัน​ก็​ไม่ต้อง​เกรงกลัว​ใคร​อีกแล้ว​

จิน​เว่ย​กับ​จิน​เฉิงก็​มีสีหน้า​ยินดี​เช่นกัน​ พวก​มัน​รู้​มานาน​แล้ว​ว่า​ตระกูล​จังมีบรรพบุรุษ​ประจำ​ตระกูล​ จึงไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​แม้แต่น้อย​ ว่า​กัน​ตาม​ความจริง​ ถ้าพวก​มัน​ไม่รู้​ว่า​ตระกูล​จังมีผู้​แข็งแกร่ง​ซ่อนตัว​อยู่​ สำนัก​วัชระ​ก็​คง​ไม่ทำดี​กับ​ตระกูล​จังเช่นนี้​หรอก​

จังเฟิงห​ลิง​ก้มหน้า​ต่ำ​ ดวงตา​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​ ที่​จริงจัง​หยวน​จื่อ​สั่งให้​มัน​ไป​ทำลาย​หอ​กระจก​นิรันดร์​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ส่วน​เรื่อง​การ​แต่งงาน​กับ​เหยา​ไป๋​เย​วี่ย​ เป็น​เจตนา​ส่วนตัว​ของ​มัน​เอง​ทั้งสิ้น​ และ​นั่น​ก็​ทำให้​คน​ของ​สกุล​จังกว่า​ 150 คน​ต้อง​ตก​ตาย​ไป​อย่าง​น่าอนาถ​ มัน​รู้สึก​สำนึกผิด​จน​ไม่กล้า​พูด​อะไร​มาก​

ยิ่งไปกว่านั้น​ เรื่อง​ที่​มัน​เคย​ส่งคน​แฝงตัว​เข้าไป​ใน​วัง​มังกร​เพลิง​ของ​ฉู่ชวิ๋น​เพื่อ​ทำร้าย​ผู้คน​ จังเฟิงห​ลิง​ก็​ไม่เคย​บอก​ใคร​ทั้งนั้น​

เรื่องราว​เหล่านี้​ล้วนแต่​เป็นเรื่อง​ที่​พูด​ออก​ไป​ไม่ได้​ ไม่เช่นนั้น​แล้ว​ นาย​น้อย​ประจำ​ตระกูล​จังคง​ถูกจับ​ถลก​หนัง​ทั้งเป็น​แน่นอน​

……

สุสาน​บรรพบุรุษ​ของ​ตระกูล​จังเป็น​อุโมงค์ใต้ดิน​ที่​มีเส้นทาง​วกวน​ราวกับ​เขาวงกต​ บน​กำแพง​จุด​เทียนไข​ให้​แสงสว่าง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ กลิ่น​ของ​การ​เผาไหม้​ลอย​ฟุ้งใน​อากาศ​ อุณหภูมิ​ใน​อุโมงค์​ค่อนข้าง​สูง แต่​ทุกคน​กลับ​รู้สึก​หนาวเย็น​ขึ้น​มาอย่าง​ประหลาด​…

จังหยวน​จื่อ​เดิน​นำ​กลุ่ม​ผู้อาวุโส​เข้าไป​ใน​อุโมงค์​ และ​เริ่มต้น​พิธีกรรม​คำนับ​บรรพบุรุษ​

เมื่อ​เสร็จสิ้น​พิธี​แล้ว​ จังหยวน​จื่อ​ก็​เดิน​ไป​ยัง​แท่น​หิน​ซึ่งเป็น​ฐาน​บูชา​วิญญาณ​บรรพบุรุษ​ สีหน้า​ของ​มัน​เต็มไปด้วย​ความเคารพ​อ่อนน้อม​ ค่อยๆ​ หัน​เชิงเทียน​ที่​ตั้งอยู่​บน​แท่นบูชา​ไป​ยัง​ด้าน​ข้าง​อย่าง​แช่มช้า

ครืด​!

กำแพง​หิน​ที่อยู่​ด้านหลัง​แท่นบูชา​แยกตัว​ออก​จากกัน​อย่าง​เชื่องช้า​ กลายเป็น​ประตู​ที่​เปิด​โล่ง​บาน​หนึ่ง​

จังหยวน​จื่อ​เดิน​นำ​ทุกคน​ผ่าน​ประตู​หิน​เข้าไป​ เสียง​ฝีเท้า​ของ​พวก​มัน​กึกก้อง​ไป​ทั่ว​อุโมงค์​ทางเดิน​อัน​ว่างเปล่า​ ไม่ว่า​มอง​ไป​ทาง​ไหน​ก็​เจอ​แต่​กำแพง​หิน​ทั้งสิ้น​ ใน​อุโมงค์​นี้​มีเส้นทาง​วกวน​ สุดท้าย​ก็​พา​กัน​เดิน​ออก​มายัง​พื้น​ที่โล่ง​กว้าง​ บน​พื้น​มีแต่​ใบไม้​แห้ง​กอง​ทับถม​กัน​อยู่​เป็น​จำนวนมาก​

สายลม​ยาม​ราตรี​พัด​มาปะทะ​ผิวกาย​ ใบไม้​แห้ง​ปลิว​ว่อน​ บรรยากาศ​ชวน​ขนลุก​

จังหยวน​จื่อ​เดิน​นำ​ผู้คน​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ ก่อน​จะหยุด​เท้า​อยู่​บริเวณ​กลาง​ลาน​โล่ง​ แล้ว​สั่งให้​ทุกคน​คุกเข่า​ลง​

“จังหยวน​จื่อ​ ขอ​เข้าพบ​บรรพบุรุษ​ขอรับ​!”

เสียง​ของ​มัน​ก้องกังวาน​ไป​ทั่ว​หุบเขา​อัน​เงียบสงัด​

ผู้อาวุโส​ตระกูล​จังไม่มีใคร​กล้า​เงยหน้า​มอง​เลย​สัก​คน​

เสียงกังวาน​เงียบ​ไป​แล้ว​ ยังคง​ไม่มีใคร​ตอบ​คำ​ใด​กลับมา​

เวลา​ผ่าน​ไป​อย่าง​เชื่องช้า​ บรรพบุรุษ​ประจำ​ตระกูล​ก็​ยังคง​ไม่ปรากฏตัว​

“ท่าน​บรรพบุรุษ​ขอรับ​ ตอนนี้​ตระกูล​จังกำลัง​มีปัญหา​ ต้องการ​ความช่วยเหลือ​จาก​บรรพบุรุษ​อย่าง​เร่งด่วน​” จังหยวน​จื่อ​พูด​ออกมา​อีกครั้ง​

เสียง​ของ​มัน​ดัง​ก้องกังวาน​ไป​ทั่ว​บริเวณ​อีกครั้ง​

คราวนี้​มีเสียง​ตอบรับ​กลับมา​เป็น​เสียง​ถอนหายใจ​ยาว​แรง​ แต่​ก็​ทำให้​ทุกคน​ขนลุก​เกรียว​ รู้สึก​หนาวสั่น​ไป​ทั้ง​กาย​

“พวก​เจ้าดู​สบาย​ดีกัน​ทุกคน​ แล้ว​ตระกูล​จังจะพบ​เจอ​ปัญหา​ได้​อย่างไร​?” เสียงพูด​นั้น​เหมือน​จะดัง​กังวาน​มาจาก​ทุก​ทิศ​ทุก​ทาง​ ไม่สามารถ​จับได้​เลย​ว่า​ต้น​เสียงดัง​มาจาก​ทาง​ไหน​ รู้​เพียง​อย่าง​เดียว​ว่า​คนพูด​มีความหงุดหงิด​อยู่​ไม่น้อย​

จังหยวน​จื่อ​และ​ผู้อาวุโส​ทั้งหลาย​ถึงกับ​ตัวสั่น​แล้ว​

“ท่าน​บรรพบุรุษ​ได้​โปรด​ใจเย็น​ก่อน​ ขณะนี้​มีคน​จาก​โลก​ภายนอก​ชื่อว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ มัน​เป็น​คน​ที่​โหดร้าย​อำมหิต​อย่าง​ที่สุด​ วันนี้​มัน​ถึงกับ​ฆ่าคน​ตระกูล​จังไป​ 150 คน​ ผู้น้อย​ละอายใจ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ผู้น้อย​ไม่ใช่คู่ต่อสู้​ของ​มัน​ ได้​โปรด​บรรพบุรุษ​ช่วยเหลือ​ด้วย​”

“จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​อย่างนั้น​หรือ​?” เสียง​ลึกลับ​ตอบ​กลับมา​ด้วย​ความ​มึนงง​

“เรียน​ท่าน​บรรพบุรุษ​ มัน​ผู้​นี้​เริ่ม​มีชื่อเสียง​ขึ้น​มาเมื่อ​ 20 กว่า​ปีก่อน​ มัน​กวาดล้าง​สำนัก​ใน​ยุทธ​ภพ​ไป​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ มือ​ของ​มัน​เต็มไปด้วย​เลือด​ผู้บริสุทธิ์​ บัดนี้​มัน​มาเหยียดหยาม​ตระกูล​จังหลาย​ต่อ​หลายครั้ง​ ซ้ำยัง​ฆ่าคน​ของ​เรา​ไป​อีก​ไม่น้อย​”

“มีชื่อเสียง​เมื่อ​ 20 กว่า​ปีก่อน​? แล้ว​ตอนนี้​มัน​อายุ​เท่าไหร่​?”

“น่าจะ​ 40 กว่า​ปี​ได้​แล้ว​ครับ​” จังหยวน​จื่อ​ตอบ​อย่าง​ไม่มั่นใจ​

“ใช้ไม่ได้​!” บรรพบุรุษ​ตระกูล​จังคำราม​ออกมา​ด้วย​ความโกรธแค้น​ “จังหยวน​จื่อ​ เจ้ามีอายุ​อา​นาม​เท่าไหร่​แล้ว​ แต่กลับ​ไม่สามารถ​รับมือ​คนหนุ่ม​อายุ​ 40 กว่า​ปี​ได้​เลย​หรือ​?”

“เรียน​ท่าน​บรรพบุรุษ​ มีข่าวลือ​ว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​มัน​ได้​ครอบครอง​คัมภีร์​ความลับ​ฟ้า จึงมีฝีมือ​ทัดเทียม​สวรรค์​ ไม่มีใคร​สามารถ​ต่อกร​กับ​มัน​ได้​เลย​ขอรับ​”

“คัมภีร์​ความลับ​ฟ้า? มีของ​แบบ​นั้น​อยู่​ด้วย​หรือ​?” บรรพบุรุษ​ตระกูล​จังกระซิบกระซาบ​ หลังจากนั้น​ก็​พูด​ออกมา​ “ตกลง​ ข้า​จะช่วย​เจ้า”

จังหยวน​จื่อ​ลิงโลด​เป็น​อย่างยิ่ง​ แต่​พยายาม​ไม่แสดง​สีหน้า​ออกมา​ มัน​รู้ดี​อยู่แล้ว​ว่า​ต้อง​ทำ​อย่างไร​ บรรพบุรุษ​ประจำ​ตระกูล​ถึงจะยอม​ออก​ไป​สู้กับ​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​

“ฉู่ชวิ๋น​ คราวนี้​แก​ไม่รอด​แน่​” จังหยวน​จื่อ​ก้มหน้า​ต่ำ​ แอบ​ยิ้ม​ออกมา​โดย​ไม่มีใคร​เห็น​

……

ดึกสงัด​ ดวงจันทร์​สีเงิน​ลอย​อยู่​บน​ฟ้า ดวง​ดารา​ปกคลุม​ทั่ว​ท้อง​นภา​

ฉู่ชวิ๋น​ที่​กำลัง​นั่ง​ทำสมาธิ​พลัน​ลืมตา​ขึ้น​มา ก่อนที่จะ​มุด​ออก​ไปนอก​เต็นท์​ และ​กวาดสายตา​มอง​รอบ​บริเวณ​

ภายใต้​แสงจันทร์​ส่องสว่าง​ คน​กลุ่ม​หนึ่ง​เคลื่อนตัว​เหมือน​เมฆดำ​ มุ่งหน้า​มายัง​หอ​กระจก​นิรันดร์​

ตอนนั้น​เอง​ คน​อีก​สอง​คน​ก็​มุด​ออก​มาจาก​เต็นท์​และ​มายืน​อยู่​ด้านหลัง​ฉู่ชวิ๋น​ ที่แท้​ก็​เป็น​หลง​อี้​กับ​หลง​เอ้อร์​นั่นเอง​

ไม่นาน​ต่อมา​ ห​ยาน​กุย​ล๋าย​กับ​ผู้อาวุโส​ประจำ​ตระกูล​ก็​รู้สึกตัว​ และ​เดิน​ออกมา​สมทบ​กับ​พวกเขา​

“แม้แต่​ไอ้​จังหยวน​จื่อ​หัวหน้า​ตระกูล​จังมัน​ก็​มาด้วย​แฮะ” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ประหลาดใจ​ไม่น้อย​เมื่อ​เห็น​ผู้นำ​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​

“หรือ​มัน​ไม่รู้​ว่า​จอม​มาร​ฉู่ชวิ๋น​ยังอยู่​ที่นี่​? เหตุ​ไฉน​มัน​ถึงกล้า​โผล่​หัว​มาอย่างนี้​?” ผู้อาวุโส​ประจำ​ตระกูล​ห​ยาน​รำพึง​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​หันไป​มองหน้า​คนพูด​ แล้ว​กล่าว​ด้วย​น้ำเสียง​ภูมิใจใน​ตัวเอง​ว่า​ “แค่​ได้ยิน​ว่า​จอม​มาร​อยู่​ที่นี่​พวก​มัน​ไม่เกรงกลัว​หรอก​ ถ้าพวก​มัน​ได้ยิน​ว่า​ตระกูล​ห​ยาน​อยู่​ที่นี่​ด้วย​เมื่อไหร่​ มีหวัง​ได้​หวาดกลัว​จน​อุจจาระ​ปัสสาวะ​พรั่งพรู​แน่นอน​”

ผู้อาวุโส​ประจำ​ตระกูล​ห​ยาน​หันหน้า​ไป​ทาง​อื่น​ มีสีหน้า​ประหลาด​พิกล​ พวกเขา​ไม่เคย​คิด​มาก่อน​เลย​ว่า​ผู้​เป็น​หัวหน้า​ตระกูล​จะหลงตัวเอง​ขนาด​นี้​

คน​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​ก็​รู้ตัว​แล้ว​ว่า​ตระกูล​จังกลับมา​แล้ว​ เนื่องจาก​พวก​ตระกูล​จังไม่ได้​ปิดบัง​การ​มาถึงของ​พวก​มัน​เลย​

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​เดิน​ออกมา​พร้อมด้วย​กลุ่ม​ผู้อาวุโส​ เฝ้ามอง​คน​ตระกูล​จังขี่ม้า​ใกล้​เข้ามา​เรื่อยๆ​ ตอนแรก​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​เคร่งเครียด​ แต่​เมื่อ​เห็น​พวก​ของ​ฉู่ชวิ๋น​กับ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ยืน​อยู่​ใน​ที่​ไกลๆ​ สีหน้า​ของ​นาง​ก็​ผ่อนคลาย​ขึ้น​มาบ้าง​

“เจ้าสำนัก​ปี๋​ ไม่เจอกัน​เสีย​นาน​ ยัง​สวย​เหมือนเดิม​เลย​นะ​” จังหยวน​จื่อ​นำ​ขบวน​ของ​ตัวเอง​มาหยุด​ห่าง​ออก​ไป​ประมาณ​ 100 เมตร​ และ​เริ่มต้น​กล่าว​ทักทาย​เสียงดัง​

ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ตอบกลับ​ไป​อย่าง​เย้ยหยัน​ว่า​ “ไม่ได้​เจอ​หัวหน้า​ตระกูล​จังเสีย​นาน​ แต่​ดูเหมือน​เจ้าจะชั่วร้าย​มากกว่า​เดิม​เสียแล้ว​ พา​คน​มาที่​หอ​กระจก​นิรันดร์​ดึกดื่น​เยี่ยง​นี้​ มีจุดประสงค์​ใด​กัน​แน่​?”

“เรา​ก็​แค่​อยาก​มาเด็ด​ดอกไม้​งามเท่านั้นเอง​” ผู้อาวุโส​ตระกูล​จังตะโกน​ตอบ​

คำตอบ​ของ​มัน​ทำให้​พวก​เดียวกัน​ระเบิด​เสียงหัวเราะ​ดังลั่น​

คน​ของ​หอ​กระจก​นิรันดร์​โกรธแค้น​ พวก​เธอ​ทั้ง​โกรธแค้น​และ​อับอาย​

“ตระกูล​จังคงอยู่​คู่​ยุทธ​ภพ​มานาน​หลาย​พันปี​ แต่​เพียงแค่​เปิดปาก​ออก​ก็​พ่น​ถ้อยคำ​หยาบคาย​ออกมา​แล้ว​ นับ​ได้​ว่า​สันดาน​ต่ำช้า​ยาก​ที่จะ​แก้ไข​ได้​จริงๆ​” ปี๋​เค่อ​หยุ​น​ตัวสั่น​ด้วย​ความ​บัน​ดาลโทสะ​

จังหยวน​จื่อ​ขยับ​มาข้างหน้า​และ​พูดว่า​ “เจ้าสำนัก​ปี๋​ เรา​ไม่ได้​ตั้ง​ใจมาสู้กับ​คุณ​ วันนี้​คน​ของ​ตระกูล​จัง 150 คนตาย​ภายใน​หอ​กระจก​นิรันดร์​ เรา​มาคุย​เรื่อง​นี้​กัน​ดีกว่า​”

“จังหยวน​จื่อ​ ใน​เมื่อ​ได้​ขึ้น​เป็น​ถึงหัวหน้า​ตระกูล​แล้ว​ ทำไม​ถึงได้​ทำตัว​ไร้ยางอาย​อยู่​เช่น​เดิม​อีก​ ตระกูล​จังส่งคน​มาโจมตี​หอ​กระจก​นิรันดร์​ พวก​ข้า​เพียงแค่​ป้องกัน​ตัวเอง​ ยัง​จะมีหน้า​มาพูด​ดี​อีก​รึ​”

จังหยวน​จื่อ​มีแววตา​แข็งกระด้าง​มากขึ้น​ หัวเราะเยาะ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ “เจ้าสำนัก​ปี๋​ ฉัน​จะไม่พูดจา​เยิ่นเย้อ​ ถ้าหอ​กระจก​นิรันดร์​ยอ​มสิโร​ราบ​ต่อ​ตระกูล​จัง เรื่อง​ที่​คน​ของ​ฉัน​ถูก​ฆ่าตาย​ไป​จะถือว่า​เลิกแล้วต่อกัน​ ไม่อย่างนั้น​ ใน​ค่ำ​คืนนี้​ก็​จะไม่มีหอ​กระจก​นิรันดร์​อยู่​อีกต่อไป​”

“ไอ้​หมอ​นี่​มัน​เก่ง​แต่​กับ​ผู้หญิง​จริงๆ​ วุ้ย​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​พึมพำ​ออกมา​ ก่อน​ส่งเสียง​ตะโกน​ “หัวหน้า​ตระกูล​จัง พา​พรรคพวก​มาซะเยอะแยะ​เชียว​นะ​ เพียงแค่​จะมาทำร้าย​ผู้หญิง​ตอนกลางคืน​ ต้อง​พา​คน​มาเยอะ​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​? นี่​เป็น​สิ่งที่​คน​ดี ๆ​ ควร​ทำ​กัน​หรือไง​ รู้ตัว​บ้าง​ไหม​ว่า​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่​?”

ดวงตา​ของ​จังหยวน​จื่อ​ลุกโชน​ด้วย​ไฟโทสะ​ แต่​ก็​แกล้ง​ทำเป็น​ประหลาดใจ​ เหมือนกับ​เพิ่งจะ​เห็น​การ​มีตัวตน​อยู่​ของ​ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ พูดว่า​ “อ้าว​ หัวหน้า​ตระกูล​ห​ยาน​ก็​มาอยู่​ที่นี่​ด้วย​เหมือนกัน​หรือ​นี่​ จะมัว​หลบ​ซ่อนตัว​อยู่​ทำไม​เล่า​? เล่น​มุดหัว​อยู่​ใน​รู​แบบ​นั้น​ ผู้ใด​จะไป​มองเห็น​ได้​”

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​ใบหน้า​กระตุก​ จ้องมอง​จังหยวน​จื่อ​ คำราม​ลั่น​

“ซ่อนตัว​น่ะ​สิดีแล้ว​ พวกเรา​กำลัง​ออกมา​ล่าสัตว์​ ตอนที่​พวก​นาย​มาถึง ฉัน​คิด​ว่า​เป็น​พวก​ฝูงสุนัข​เร่ร่อน​ด้วยซ้ำ​ไป​ ต้อง​ขออภัย​ด้วย​ที่​ไม่ได้​ทักทาย​ตั้งแต่แรก​”

กลุ่มคน​ตระกูล​จังกัดฟัน​กรอด​ด้วย​ความ​เดือดดาล​

“ต้อง​ขอโทษ​จริง ๆ​ หัวหน้า​ตระกูล​จัง ตอนนี้​มัน​มืด​เกินไป​แล้ว​ จาก​จุด​ที่​พวก​ฉัน​อยู่​ตรงนี้​ ยิ่ง​มอง​พวก​นาย​มัน​ยิ่ง​เหมือน​ฝูงหมา​เร​ร่อน​ไม่มีผิด​ พวก​ฉัน​เกือบจะ​ตัก​น้ำ​ไป​ให้​กิน​ด้วย​ความเวทนา​เลย​นะเนี่ย​ ไม่คิด​ว่า​จะเป็น​นาย​ไป​เสียได้​ น่า​ผิดหวัง​เหลือเกิน​” ห​ยาน​กุย​ล๋าย​กล่าว​ต่อ​

เมื่อ​ถูก​เรียกขาน​ว่า​เป็น​สุนัข​เร่ร่อน​ซ้ำ ๆ ก็​ไม่มีใคร​สามารถ​ทน​ไหว​อีกแล้ว​ อย่า​ว่าแต่​คืนนี้​ตระกูล​จังเตรียมตัว​มาเป็น​อย่าง​ดี​ หัวจิตหัวใจ​จึงรู้สึก​ฮึกเหิม​เป็น​ทุนเดิม​อยู่แล้ว​

“หัวหน้า​ตระกูล​ห​ยาน​ นิสัย​แอบ​ดอด​เข้าหา​ผู้หญิง​ที​เผลอ​ของ​นาย​นี่​ไม่เปลี่ยน​เลย​นะ​ อุตส่าห์​ได้​ขึ้น​เป็น​ถึงหัวหน้า​ตระกูล​ทั้งที​ ทำไม​ถึงไม่เลิก​นิสัยเสีย​แบบนี้​อีก​เล่า​?” จังหยวน​จื่อ​ตอบ​กลับมา​

ห​ยาน​กุย​ล๋าย​เหยียด​ยิ้ม​อย่าง​ขบขัน​ พูดว่า​ “หัวหน้า​ตระกูล​จังพูด​ถูก​แล้ว​ ฉัน​มัน​เป็น​พวก​นิสัยเสีย​แก้​ไม่หาย​ โดย​เฉพาะเรื่อง​การ​ฆ่าเศษสวะ​ยุทธ​ภพ​ ยิ่ง​เมื่อ​กลางวัน​นะ​ พวก​ฉัน​ฆ่าทิ้ง​ไป​ 150 กว่า​คน​ พูด​แล้ว​ยัง​สะใจไม่หาย​!”

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

Score 10
Status: Completed

เรื่องย่อ จักรพรรดิ์เซียนหวนคืน

เมื่อความแค้นทำให้เขาต้องกลับมา.. ฉู่ชวิ๋น เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อถูกจับเข้าคุกในข้อหาที่เขาเองก็ยังสงสัยมามันคืออะไร อีกทั้งชีวิตในคุกของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนกระทั้งเขาถูกกระทืบตาย หลังจากที่เขาตายแล้ววิญญาญได้ข้ามไปยังโลกแห่งผู้ฝึกตน คนอื่นใช้เวลาหมื่นปีเป็นจักรพรรดิ์เซียน แต่สำหรับเขานั้น ใช่เวลาเพียง 3000 ปีก็อยู่บนจุดสูงสุดของจักพรรดิ์เซียน แต่ในเวลานั้นจิตใจของเขายังคงสับสนเพราะต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในภพชาติก่อน เขาจึงใช้พลังเซียนทั้งหมดเพื่อเปิดประตูมิติ ส่งวิญญาณของเขากลับมาที่ร่างเก่าที่อยู่ในคุก ก่อนวันที่เขาจะตายเพียงหนึ่งวัน……….. นี้คือการกลับมาล้างแค้นและค้นหาความจริงแต่เขานั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาคือ จักรพรรดิเซียน!

Options

not work with dark mode
Reset