ตอนที่ 527 สอน
ไป๋จื่อถามว่า “เขาได้บอกแผนการของพวกเขาหรือไม่เจ้าคะ”
อาอู่ตะลึงไปเล็กน้อย “แผนการ? แผนการอะไร” เมื่อครู่โจวกังไม่ได้พูดอะไรเลยสักอย่าง
เด็กสาวส่ายหน้า “ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ ช่างเถอะ ไปกินข้าวกันดีกว่า!”
หูเฟิงร้อนใจให้นางจากมาถึงเพียงนี้ เขาจะต้องมีแผนการเสี่ยงอันตรายอะไร ที่ไม่อยากให้นางเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเป็นแน่ เขาอยากปกป้องนาง นางกระจ่างแจ้งแก่ใจดี แต่เขาเชื่อในความสามารถของนางไม่ได้เลยหรือ มีนางอยู่ด้วย นางอาจจะช่วยทำให้แผนการของเขาสำเร็จมากยิ่งขึ้นก็ได้
นางมองทุกคนกินอาหารที่นางทำ ใบหน้าของนางในตอนนี้มีแต่ความดีใจและพอใจ ทว่าความกลัดกลุ้มในใจของนางกลับแผ่ขยายไปเรื่อยๆ มีวิธีแสดงคุณค่าของคนมากมายหลายวิธี หากวิธีนี้ใช้การไม่ได้ผล ก็ยังมีอีกวิธีการหนึ่งรออยู่ ในเมื่อตอนนี้หูเฟิงไม่ต้องการนางแล้ว ก็ย่อมมีคนที่เขาต้องการมากกว่านาง
อยู่ร่วมกับครอบครัวที่น่ารักเช่นนี้ ไม่ดีกว่าหรือ?
นางเข้าใจในทันที รู้สึกอยากอาหารขึ้นมาทีเดียว จึงกินข้าวไปรวดเดียวถึงสองถ้วย
…
เช้าวันต่อมา ไป๋จื่อและอาอู่บังคับรถม้าไปยังที่ดิน เก็บสมุนไพรสองมัดเข้าไปในเมือง มุ่งหน้าไปยังร้านสือเค่อ
ครั้นเถ้าแก่เฉินเห็นนาง หัวใจที่เอาแต่คอยเป็นห่วงนางก็สงบลงได้เสียที หลายวันมานี้เขาไปที่หมู่บ้านหวงถัวอยู่หลายครั้ง ทว่าไม่แม้แต่จะได้พบหน้านาง คนในบ้านนางต่างก็อ้ำๆ อึ้งๆ เขาจึงดูออกว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่นอน
“เจ้าไปที่ใดมา ข้าตามหาตัวเจ้าเสียให้วุ่น” เถ้าแก่เฉินบ่นนาง
ไป๋จื่อยิ้มจาง “ข้าไปเรียนหลอมยามาเจ้าค่ะ ไปขอวิชาความรู้จากหมออาวุโสที่ลึกซึ้งในวิชาแพทย์อย่างยิ่ง ข้าเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้เอง”
ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไร เหตุใดคนในบ้านของนางถึงไม่กล้าบอกความจริงกับเขากัน
เถ้าแก่เฉินรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ ทว่าไป๋จื่อตอบเขาเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่อยากซักไซ้ให้มากความอีก เข้าประเด็นสำคัญทันที “วันก่อนข้าไปที่บ้านของเจ้า ได้ยินมาว่าสมุนไพรในที่ดินโตเต็มที่แล้ว ทำอาหารเป็นยาได้แล้วใช่หรือไม่”
แตงดินในโกดังขายไปจนเกลี้ยงแล้ว เหล่าลูกค้าที่มาต่างก็เรียกร้องอยากชิมอาหารรายการใหม่ การค้าขายในช่วงนี้จึงนับได้ว่าดิ่งลงเหว
“แน่นอนเจ้าค่ะ ข้านำสมุนไพรมาด้วย พวกเราไปห้องครัวกันเลยเถอะ” ไป๋จื่อกล่าว
เถ้าแก่เฉินนำไป๋จื่อและอาอู่ไปที่ครัวด้านหลัง ขณะนี้ยังเช้าอยู่ ในครัวจึงกำลังเตรียมการทำงาน ยังไม่ได้เปิดเตา
พ่อครัวเห็นไป๋จื่อแล้ว ก็พากันกระตือรือร้นราวกับพบคนในครอบครัว พากันล้อมหน้าล้อมหลังเข้ามาทักทาย คึกคักยิ่งนัก
เถ้าแก่เฉินให้พวกเขาหลีกไปก่อน พลางหัวเราะร่วน “ดูพวกเขจ้าเข้าสิ แสดงท่าทีชัดเจนเกินไปแล้ว กลัวอาจื่อไม่สอนพวกเจ้าทำอาหารหรือไรกัน”
ไป๋จื่อก็หัวเราะเช่นกัน “พวกท่านอย่าได้รีบร้อนเลยเจ้าค่ะ วันนี้ข้ามาเพื่อสอนทำอาหารรายการใหม่ให้พวกท่านอยู่แล้ว”
อาอู่วางสมุนไพรสองมัดลง สมุนไพรที่ใช้ได้ในที่ดินตอนนี้มีแค่สองชนิดนี้เท่านั้น
“นี่คือต้นเฟิงหลานม่วงที่ออกดอกแล้ว และต้นเฉียวเขียวที่ลำต้นหนาแต่ใบเล็ก ข้าจะสอนพวกท่านว่าต้องทำความสะอาดอย่างไร…”
“การล้างและหั่นสำคัญมากนะเจ้าคะ เพราะหากลางไม่ดี ไม่เพียงแต่จะทำลายรูปลักษณ์ภายนอกของพืช ยังทำลายโภชนาการและระดับความกรอบในพืชไปด้วย ทว่าวิธีการปรุงน้ำแกงข้นเฟิงหลานม่วงจำเป็นต้องใช้เวลาพักหนึ่ง ดังนั้นใส่ดอกเฟิงหลานม่วง คนอย่างรวดเร็วสักสองรอบก่อนยกขึ้นจากเตาเท่านั้น กลิ่นหอมของดอกเฟิงหลานม่วงจะแทรกซึมเข้าไปในน้ำแกงข้น ตัวดอกก็ไม่ถึงขั้นถูกต้มจนเปื่อย ดอกไม้แต่ละดอกฝังอยู่ในน้ำแกงข้น ราวกับสระบัวที่มีดอกบัวบานสะพรั่งในฤดูร้อน ไม่เพียงแต่มีกลิ่นหอม ยังน่ามองด้วยเจ้าค่ะ”
“แค่ฟังก็อยากชิมจะแย่แล้ว” พ่อครัวร่างอวบอ้วนคนหนึ่งเอ่ยชม
เถ้าแก่เฉินก็อยากกินมานานแล้ว ได้กลิ่นหอมๆ แล้วไหนเลยจะทนไหว รีบปรี่เข้าไปหาน้ำแกงข้นที่อยู่บนเตา “เจ้าไม่กิน ข้ากินเอง”
……….
ตอนที่ 528 อะไรคือสามสูง
พ่อครัวคนนั้นคิดแย่งกลับไป ทว่าก็ไม่กล้า ได้แต่หดมือที่ยื่นออกกลับไป ต่อว่าตนเองปากมากอยู่ในใจ ก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ว่า “เหลือไว้ให้ข้าสักสองคำนะขอรับ ข้าอยากรู้ว่ารสชาติของมันเป็นเช่นไร!”
เถ้าแก่เฉินตอบรับไปอย่างนั้น เพราะเมื่อได้กินน้ำแกงข้นเข้าไปแล้ว เขาก็วางถ้วยไม่ลงโดยสิ้นเชิง เอาแต่ตักเข้าปากคำแล้วคำเล่า ไม่นานนักเขาก็กินจนเกลี้ยงถ้วย คำสัตย์ที่ว่าจะเหลือให้พ่อครัวลอยละลิ่วไปถึงสวรรค์เก้าชั้นฟ้าแล้ว
“ดีเยี่ยม ดียิ่งนัก แล้วกินอาหารชนิดนี้แล้วมีประโยชน์ใดต่อร่างกายบ้าง” เถ้าแก่เฉินวางถ้วยลง ก่อนจะมองไปในหม้อด้วยความอาลัยอาวรณ์ ในนั้นเหลือน้ำแกงข้นเพียงสองคำเท่านั้น
“ต้นเฟิงหลานม่วงมีสรรพคุณบำรุงเลือดลมที่ยอดเยี่ยมมาก คนที่ร่างกายอ่อนแอได้กินสามครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกันหนึ่งเดือนก็เห็นผลแล้วเจ้าค่ะ” ไป๋จื่อกล่าว
หมอเฉินถามอีกว่า “เห็นผลเช่นไร จะมีอะไรที่แตกต่างจากเดิมหรือ”
“แน่นอนว่ามีความแตกต่างเจ้าค่ะ คนที่ใบหน้าซีดขาว ได้กินน้ำแกงข้นนี้ติดสัปดาห์ละสามครั้งติดต่อกันถึงสองเดือน สีหน้าจะเปล่งปลั่ง มีเลือดฝาด ดูมีชีวิตชีวา ส่วนคนที่ลมหายใจถี่กระชั้นและร่างกายไม่แข็งแรงจะยิ่งเห็นผลดีกว่า หากอยากเห็นผลชัดแจ้งแก่สายตา คนที่เป็นคนกินเองจะเข้าใจดีที่สุดเจ้าค่ะ” ไป๋จื่อว่า
เหล่าพ่อครัวพากันตื่นเต้น น้ำแกงข้นที่หน้าตาสะสวยและอร่อยเช่นนี้ ไม่คิดเลยว่าจะมีประโยชน์มากมายนัก หากวางขายแล้วยังต้องกลัวกิจการของร้านสือเค่อไม่ดีขึ้นอีกหรือไร
ไป๋จื่อกล่าวกับเถ้าแก่เฉินว่า “ทว่าข้าขอเตือนท่านสักคำนะเจ้าคะ คนอ้วนกินน้อยหน่อยย่อมดีที่สุด โดยเฉพาะพี่ใหญ่เฉิน ท่านจะกินปริมาณมากๆ ในคราวเดียวไม่ได้ ต้องใส่ใจร่างกายของตนเองด้วย ต้นเฟิงหลานม่วงนี้ไม่เหมาะให้ท่านกิน ทว่าต้นเฉียวเขียวกลับเหมาะกว่า ลดสามสูง กินมากยังลดน้ำหนักได้ด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว”
เถ้าแก่เฉินมีสีหน้าฉงน “อะไรคือสามสูง”
เด็กสาวลอบแลบลิ้น “สามสูงก็คือดัชนีบางอย่างในร่างกายของท่านสูงเกินไป สูงกว่าคนทั่วไป ปกติแล้วแบ่งได้สามชนิด จึงเรียกกันว่าสามสูงเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นเถ้าแก่เฉินจะถามต่ออีก นางก็รีบตัดบทเขา “ท่านไม่ต้องถามเรื่องพวกนั้นเยอะหรอกเจ้าค่ะ จำคำพูดของข้าไว้ก็พอ กินต้นเฟิงหลานม่วงให้น้อย กินต้นเฉียวเขียวให้มาก รวมถึงกินเนื้อสัตว์และสุราให้น้อยๆ ด้วย กินผักและดื่มชามากหน่อยดีกว่าเจ้าค่ะ”
แม้จะพูดแล้วนางก็ยังไม่สบายใจ จึงยื่นมือไปจับข้อมือของเถ้าแก่เฉินเอาไว้ นางหาชีพจรของเขาจากมืออ้วนๆ นี้แทบไม่เจอแล้ว
“ไม่เจอกันไม่เท่าไร ข้าว่าท่านคล้ายกับอ้วนขึ้นอีกแล้วนะเจ้าคะ”
เถ้าแก่เฉินหัวเราะแหะๆ สองเสียง “ช่วงนี้เงินเดือนมาก จึงกินมากหน่อย ไม่เป็นไรหรอก ข้าชินกับร่างอ้วนๆ ของข้าแล้ว”
ไป๋จื่อชักมือกลับ ก่อนจะถอนใจเสียงหนึ่ง “ชีพจรของท่านไม่ค่อยดีแล้ว ฟังคำข้าหน่อยเถอะเจ้าค่ะ กินเนื้อสัตว์น้อยลง สุราก็อย่าได้ดื่มอีกเลย”
ครั้นเห็นเขาคล้ายกับจะไม่ใส่ใจ นางจึงกล่าวกับข้ารับใช้ข้างกายเขา “หากนายท่านของเจ้าเป็นอะไรขึ้นมา เจ้าไว้ว่าต้องมาหาข้าที่หมู่บ้านหวงถัว ยามเขาดื่มสุราก็บอกให้เขาดื่มน้อยๆ หน่อย ร่างกายนี้ของเขา หากดื่มต่อไปอีกจะต้องเป็นเรื่องแน่”
เถ้าแก่เฉินโบกมือ “ดื่มเหล้านิดหน่อยจะเป็นอะไรไปได้ ข้าดื่มมาหลายสิบปีแล้ว”
เขาไม่เคยเห็นคนเป็นลมชักเพราะดื่มสุราพวกนั้นมาก่อนสินะ…
ไป๋จื่อก็ไม่พูดมากความอีก เพราะพูดไปก็ไร้ประโยชน์ คนไม่เคยป่วยไข้ไม่มีวันคาดคิดได้ ว่าตอนที่โรคร้ายมาเยือนจะเป็นหายนะเช่นไร
เมื่อจัดการธุระที่ร้านสือเค่อเสร็จสิ้น ไป๋จื่อและอาอู่ก็ไปเดินเล่นบนถนนสักพัก ซื้ออาหารและผ้าอีกจำนวนหนึ่ง ตั้งใจว่าจะทำปลอกหมอนใหม่สักหลายใบ ส่วนที่เหลือก็ทำตุ๊กตาให้หรูเอ๋อร์ ถือว่าเป็นของขวัญให้นาง
ในอดีตตอนที่นางอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า บางครั้งก็ได้รับของบริจาคเป็นของเครื่องเขียนและของเล่นอยู่บ้าง ในบ้านเด็กกำพร้ามีเด็กอยู่หลายคน ของเล่นจึงไม่เคยเพียงพอ คุณน้าผู้ดูแลพวกเขาทนเห็นพวกเด็กๆ ผิดหวังเสียใจไม่ได้ จึงใช้เศษผ้าเล็กน้อยในบ้านเด็กกำพร้ามาทำตุ๊กตาให้พวกเขา