ตอนที่ 181 ชีวิตคือละคร
หลังจากที่สมุนไพรเหอโชวอายุกว่าร้อยปีถูกนําออกไปแล้ว ภายในตู้กระจกก็มีดีงูดําขนาดเท่าลูกเทนนิสมาวางโชว์แทน
แต่สิ่งที่ทําให้หลิวหยิงหยิงถึงกับต้องขมวดคิ้วนั้น กลับไม่ใช่ดีงูขนาดเท่าลูกเทนนิส มันคือจุดสีขาวหนาแน่นบนดีงูนั่นต่างหาก จุดสีขาวต่างๆนี้ ดูคล้ายกับรอยร้าวที่ปกคลุมไปทั่วถึง ทําให้หลิวหยิงหยิงอดคิดไม่ได้ว่า ดีงูนี้น่าจะมีสภาพที่ไม่สมบูรณ์นัก
“ดีงนี้จะเริ่มประมูลในราคาสามแสนหยวน ท่านใดอยากได้ไปไว้ในครอบครอง เชิญเสนอราคาได้เลยครับ เริ่ม!”
พิธีกรเพียงแค่บอกราคาเริ่มต้น แล้วให้แขกภายในงานเริ่มประมูลได้เลย โดยไม่มีการบอกรายละเอียด หรือสรรพคุณของดึงูนี้ก่อนเลยแม้แต่น้อย
“ดีงูนี้เป็นของดี.. ผมเสนอราคาให้สี่แสนหยวน!”
“ไม่ใช่แค่ของดี แต่เป็นของล้ําค่าเชียวล่ะ! ผมให้หกแสนหยวน!”
หลังจากที่พิธีกรประกาศให้เริ่มประมูลดังได้ ภายในห้องประมูลก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันที หลายคนที่ได้เห็นดีงูในตู้กระจก ต่างก็พากันยกป้ายในมือขึ้น พร้อมกับเสนอราคากันไม่หยุด
หลิวหยิงหยิงแอบเห็นว่า หมอถึงกับนั่งมองดีงูในตู้ตาไม่กระพริบ จึงได้แต่หันไปกระซิบถามหลินหนานด้วยความสงสัย
“หลินหนาน นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทําไมทุกคนถึงได้ดูกระตือรือร้นอยากจะได้ดีงูที่มีฝ้าปกคลุมแบบนั้นไปครอง?”
“ถึงแม้จะเป็นของที่มีราคาสูงในท้องตลาด แต่ราคาก็ไม่ควรเกินหกแสนหยวนไม่ใช่เหรอ? ที่สําคัญ ดีงูนั่นยังมีตําหนิอีกด้วย!”
หลินหนานได้แต่กระซิบตอบไปอย่างไม่รีบร้อน “นี่ไม่ใช่ดีงธรรมดา แต่เป็นดึงเนตรขาวที่หาได้ยากมากๆ จุดสีขาวที่ปกคลุมดีงูนั่น ก็ไม่ใช่ฝ้าหรือตําหนิอะไร แต่มันคือเนตรขาวที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี หรืออาจจะนับร้อยปี ถึงจะฟอร์มตัวขึ้นได้แบบนั้น”
ปกติถึงก็นับเป็นของล้ําค่าที่มีราคาสูงอยู่แล้ว แต่นี่ยังเป็นดีงูเนตรขาวที่หาได้ยาก นอกจากจะมีสรรพคุณในเรื่องของการเสริมพลังหยางแล้ว ยังทําให้คนที่ได้กินมีอายุยืนอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่ในงาน ต่างก็พากันแย่งประมูลดังนี้กันอย่างดุเดือด และสําหรับหมออย่างผู้เฒ่าคู่ ย่อมรู้ดีว่าดึงนี้จะช่วยบํารุงโลหิตและพลังชี่ในร่างกาย ประโยชน์ของมันนั้นแทบไม่ต่างจากยาวิเศษเลยทีเดียว!
เมื่อได้ฟังคําอธิบายของหลินหนาน และเห็นสีหน้าของท่านหมอภู่ หลิวหยิ่งหยิงจึงไม่รอช้า รีบยกป้ายประมูลในมือขึ้นทันที
ด้วยการแข่งขันที่ดุเดือด ทําให้ราคาของดึงในเวลานี้ พุ่งจากสามแสนเป็นหนึ่งล้านหยวนเลยทีเดียว
“หนึ่งล้านสามแสนค่ะ!”
หลิวหยิงหยิงเสนอราคาให้สูงถึงหนึ่งล้านสามแสนหยวนในคราวเดียว ทําให้ผู้ประมูลรายอื่นเริ่มลังเล และในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะไม่ประมูลแข่ง เพราะถึงแม้ดีงูจะเป็นของล้ําค่า แต่ราคาในตลาดมืดของเมืองเจียงไฮว ก็อยู่ที่หนึ่งล้านนิดๆเท่านั้น ขึ้นพวกเขาประมูลแข่ง ก็เท่ากับได้ของมาในราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง
ด้วยเหตุนี้ เมื่อเห็นว่าหลิวหยิงหยิงให้ราคาที่สูงมากจนเกินไป พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ประมูลแข่ง
ในขณะที่ท่านหมอกนั้น หยุดประมูลไปตั้งแต่ราคาของมันเริ่มแตะหนึ่งล้านหยวนแล้ว เพราะจากประสบการณ์ของเขานั้น แม้ดีงูจะนับเป็นของล้ําค่า แต่ราคาก็ไม่ควรที่จะสูงเกินกว่าหนึ่งล้านหยวน ในความเห็นของเขา หากราคาของมันสูงเกินกว่านั้น สู้เก็บเงินไปประมูลของล้ําค่าอย่างอื่นจะคุ้มค่ากว่า
“ผู้ประมูลหมายเลข 2 ให้ราคาหนึ่งล้านสามแสนหยวน ไม่ทราบว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่านี้หรือไม่ครับ? ถ้าไม่มี.. ดึงนี้จะตกเป็นของคุณสุภาพสตรีคนสวยไปนะครับ!”
“นับหนึ่ง..”
“นับสอง..”
พิธีกรประกาศด้วยน้ําเสียงตื่นเต้นดีใจอย่างที่ไม่สามารถปกปิดได้ เพราะของประมูลทุกชิ้นบนเวทีนี้ เขาจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากราคาประมูลด้วย อย่างเช่น.. หากมีผู้ประมูลไปในราคาสองล้านหยวน พิธีกรก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเป็นเงินหนึ่งแสนหยวน แล้วจะไม่ให้เขาตื่นเต้นดีใจได้อย่างไรกัน!
แต่ในขณะที่พิธีการกําลังจะนับสาม และเคาะประมูลให้กับหลิวหยิ่งหยิงนั้น จู่ๆเสียงของใครบางคนก็ร้องตะโกนแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เดียวก่อน! ผมให้สองล้านหยวน!”
จากนั้น ป้ายประมูลในมือของคนผู้นั้นก็ถูกชูขึ้นอย่างช้าๆ แล้วชายคนนั้นก็ลุกขึ้นยืน..
เขาก็คือถังจินซ่งนั่นเอง!
หลังจากที่เห็นเช่นนั้น หลิวหยิงหยิงเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน เธอชูป้ายประมูลในมือขึ้น พร้อมกับร้องตะโกนออกไปด้วยน้ําเสียงเย็นชา
“ฉันให้สองล้านสองแสน!”
ถังจินซ่งชูป้ายในมือขึ้น พร้อมกับประมูลแข่งโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาคิด “จะมัวเสียเวลาประมูลแข่งที่ละ แสนสองแสนทําไมกัน? ผมให้สองล้านห้าแสนเลย! ถ้าคิดว่ามีความสามารถจะประมูลแข่งกับผม ก็เชิญเลย! แล้วมาดูว่าใครจะเป็นผู้ชนะประมูลในครั้งนี้?”
ถังจินซ่งทําสีหน้ายั่วยุหลิวหยิงหยิงอย่างเปิดเผย แต่ในขณะที่หลิวหยิงหยิงกําลังจะยกป้ายประมูลในมือขึ้น เพื่อเสนอราคาแข่งกับชายหนุ่มนั้น หลินหนานก็เอื้อมมือมาสะกิด ท่อนแขนเรียวงามของหลิวหยิงหยิงจึงค่อยๆลดลง
หลิวหยิงหยิงก้มหน้าลงจ้องมองฝ่ามือของหลินหนาน ที่วางอยู่บนตักของตนเอง คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันแน่น พร้อมกับกระซิบถามเสียงเบา
“คุณชายหลิน หมายความว่ายังไง?”
“ดีงูนั้นไม่ได้มีราคาสูงขนาดนั้น ถ้าเขาอยากจะทําผิดพลาดครั้งใหญ่ ก็ปล่อยให้เขาทําไป ส่วนเราก็นั่งดูอะไรสนุกๆไปจะไม่ดีกว่าเหรอ?” หลินหนานกระซิบตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย
หลังจากที่ได้สัมผัสไออุ่นจากฝ่ามือของหลินหนาน อารมณ์เดือดดาลที่กําลังพุ่งพล่านอยู่นั้นก็ค่อยๆสงบลง เธอหันหน้าไปมองถังจินซ่งพร้อมกับพูดขึ้นว่า
“ในเมื่อคุณชายซงอยากจะได้ดึงนี่มาก ฉันก็จะยอมถอย เพื่อให้คุณชายซ่งได้เป็นเจ้าของ!”
เมื่อเห็นหลิวหยิงหยิงยอมแพ้ ถังจินซ่งก็ถึงกับแสยะยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน
“หึ! นี่เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะเถ้าแก่หลิว! วันนี้ไม่ว่าคุณจะประมูลอะไร อย่าได้หวังว่าจะได้ของที่ต้องการกลับไปแม้แต่ชิ้นเดียวเลย!”
“อ่อ.. เพียงแค่ต้องการเอาชนะฉัน คุณชายถังถึงกับยอมเสียเงินถึงสองล้านห้าแสนหยวนเชียวเหรอคะ? แหม.. ช่างกล้าหาญสมกับเป็นคุณชายตระกูลถังจริงๆ!” หลิวหยิงหยิงตอบโต้กลับไปเช่นกัน
ถังจินซ่งเองก็ตอบโต้อย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน “อะไรกัน?! นี่พวกคุณสองคนเห็นผมใช้เงินแค่สองล้านห้าแสนหยวน ก็ถึงกับกลัวจนตัวสั่นเลยเหรอ? ผมจะบอกให้เอาบุญ พวกคุณสองคนไม่มีทางชนะผมในเรื่องนี้แน่ๆ!”
“โอ้โหคุณชายถึง! คิดไม่ถึงว่านายจะเฉลียวฉลาด และกล้าใช้เงินสองล้านห้าแสนหยวนซื้อหน้าตาให้กับตัวเอง! ครั้งนี้นับว่าแผนของนายไม่เลวเลยทีเดียว นอกจากจะไม่เสียเงินฟรีแล้ว ยังได้ทั้งของ แล้วก็ได้ทั้งหน้าด้วย..” หลินหนานถึงกับเบะปากหลังจากพูดจบ
“มันแน่นอนอยู่แล้ว!” ถังจินซ่งตอบกลับด้วยสีหน้าท่าทางหยิ่งผยอง
“เฮ้อ.. แต่ก็น่าเสียดายเงินแย่!” หลินหนานแสร้งทําเป็นส่ายหน้า พร้อมกับถอนหายใจ
“เรื่องของฉัน! นี่มันเงินของฉัน ฉันจะใช้ยังไง? ใช้มากเท่าไหร่? มันก็เรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับแก!” ถังจินซ่งตอบกลับเสียงเย็น ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตามเดิม
หลังจากที่ได้รับคําสั่งจากหลี่เฉวียนยู่ก่อนหน้านี้ ถังจินซ่งเองก็ไม่คิดที่จะเอาชนะหลินหนานด้วยกําลังอีก เพราะเขามีวิธีอื่นที่จะเอาชนะหลินหนานได้อยู่แล้ว!
“คุณชายหลิน ดูเหมือนว่าตอนนี้คุณจะมีศัตรูไปทั่วทั้งเมืองเจียงไฮวแล้วสินะ? ฉันหวังว่าจะไม่ต้องเปิดหนังสือพิมพ์ออกมาเจอข่าวร้ายของคุณหรอกนะ?” หลิวหยิ่งหยิ่งหยอกเย้าหลินหนาน พร้อมกับหัวเราะคิกคัด
หลินหนานยักไหล่พร้อมตอบกลับไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “นี่.. อย่าล้อผมเล่นดีกว่าน่า! ไม่รู้ว่าคนพวกนี้กําลังวางแผนคิดร้ายอะไรกับผมบ้าง? ทางที่ดีคุณควรต้องคอยปกป้องคุ้มครองผมถึงจะถูก..”
“เชอะ! คุณต่างหากที่ล้อฉันเล่น! คุณเป็นถึงระดับปรมาจารย์ ยังต้องให้ผู้หญิงอ่อนแออย่างฉันปกป้องด้วยเหรอ?” หลิวหยิ่งหยิงปรายตามองหลินหนาน พร้อมกับยิ้มเย้ายวนอย่างมีเสน่ห์ให้กับเขา
หลินหนานได้เห็นรอยยิ้มเย้ายวนของหลิวหยิ่งหยิง ก็อดที่จะเคลิบเคลิ้มตามไม่ได้ และได้แต่คิดในใจว่า หญิงสาวผู้นี้มีเสน่ห์ราวกับปีศาจจิ้งจอกกลับชาติมาเกิดจริงๆ ไม่ว่าจะทําอะไรก็ดูน่ามองน่าหลงไหลไปเสียหมด
นับว่าชายที่เคยเป็นเจ้าของโกลเดนท์พาเลซ และเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากในเมืองเจียงไฮว ตาแหลมมากจริงๆ!
เพราะถึงแม้เธอจะเป็นหญิงสาวที่บอบบาง และดูอ่อนแอ แต่ก็สามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางเสือสิงห์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!
ชีวิต.. ไม่ต่างจากละคร!
สาวงามเหล่านี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นหนึ่งในตัวละครเท่านั้น..