ตอนที่ 151 รังสีสังหาร
จบกัน!
ต่อให้ไปบอกหลินหนานตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว!
โม่ออี้ชิงสูดลมหายใจเข้าลึก และพยายามข่มจิตใจของตนเองให้สงบนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “พี่หลินหนานไม่ได้อยู่ในห้อง เขาพาซิงเย่วกลับไปแล้ว ถ้านายจะเอาเรื่อง ก็เอาเรื่องฉันคนเดียวก็แล้วกัน ฉันยินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง!”
โม่ออี้ชิงยืนขวางหน้าประตูไว้ และทําราวกับว่า เธอคนเดียวจะสามารถจัดการ และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดในเวลานี้ได้
“นี่แม่สาวน้อย! นี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะสามารถรับผิดชอบคนเดียวไหวหรอกนะ!” หวัง เซียนหย่งตอบกลับด้วยน้ําเสียงดุดัน และรังสีอํามหิตของเขาก็แผ่ซ่านออกมาอย่างน่ากลัว
โม่อ ชิงรวบรวมความกล้า ก่อนจะตอบกลับไปว่า “ลุงหวังคะ เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเองหากจะตําหนิใครสักคน คุณลุงได้โปรดตําหนิฉันเถิดนะคะ!”
“นี่เธอรู้จักฉันด้วยเหรอแม่สาวน้อย?!”
เมื่อได้ยินไม่ออี้ชิงเรียกขานตนเองได้อย่างถูกต้อง หวังเซียนหย่งก็ถึงกับประหลาดใจจนต้องเอ่ยถามออกมา
“พ่อครับ เธอชื่อโม่ออี้ชิง เป็นลูกสาวตระกูลโม่ที่เปิดโรงเรียนสอนเพลงมวยและศิลปะการต่อสู้เธอถือว่าตัวเองฝึกหมัดมวยมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยมีนิสัยเกเรชอบรังแกเพื่อนนักเรียนด้วยกันทั้งผู้หญิงผู้ชายล้วนถูกเธอข่มเหงรังแกหมด แล้วเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็เป็นแผนการของเธอด้วย..” หวังเฉิงหยวนรีบพูดใส่ความโม่อ ชิงให้คนเป็นพ่อฟังทันที
“นายต่างหากที่เป็นคนวางแผนจัดงานปาร์ตี้คืนนี้ขึ้นมา ยังจะกล้าใส่ความคนอื่นอีกเหรอ?!”
โม่ออี้ชิงกัดฟันกรอด เมื่อได้ยินหวังเฉิงหยวนพูดจาปลิ้นปล้อนกลับผิดเป็นถูกต่อหน้าหวังเซียนหย่งแบบนี้ และหากไม่ใช่เพราะอยู่หน้าหวังเซียนหย่งแล้วล่ะก็ เธอคงไม่สามารถอดทนไม่ระเบิดอารมณ์โมโหออกไปได้แน่
“โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ตระกูลโม่งั้นเหรอ?! ถ้าอย่างนั้นเธอคงจะเป็นลูกสาวของโมเส้นจ้านสินะ? ที่แท้ก็คนรู้จักกันนี่เอง!” หวังเซียนหย่งปรายตามองหวังเฉิงหยวนลูกชายพร้อมกับพูดเสียงเนิบ
โม่อชิงได้ยินเช่นนั้น ภายในใจพลันเกิดความหวังขึ้นมาทันที
ราชันแห่งขุมนรก ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลอย่างที่คนร่ําลือกันสินะ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ โม่อชิงก็รีบยกมือขึ้นประสานกัน พร้อมกับโน้มศรีษะลงอย่างนอบน้อมและตอบกลับไปว่า
“ในเมื่อลุงหวังรู้จักกับพ่อ ขอลุงหวังได้โปรดเห็นแก่หน้าพ่อของฉัน ปล่อยเพื่อนของฉันไปจะได้มั้ยคะ?”
“เห็นแก่หน้าพ่อของเธอน่ะเหรอ? ฉันเกรงว่าพ่อของเธอคงจะมีคุณสมบัติไม่พอ ที่จะทําให้ฉันต้องเกรงใจได้น่ะสิ!”
หวังเซียนหย่งตอบกลับด้วยน้ําเสียง และแววตาเย้ยหยัน เป็นการบ่งบอกว่า เขาไม่เคยเห็นพ่อของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆนี้อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ฟังคําพูดเหยียดหยามของหวังเซียนหย่ง โม่อชิงก็ถึงกับหน้าแดงคล้ําด้วยความโกรธแต่มันก็คือความจริง.. โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ตระกูลโม่ เป็นเพียงแค่สานักเล็กๆคนมีอํานาจอิทธิพลอย่างหวังเซียนหย่ง จะต้องสนใจใยดีไปทําไม?
“แม่หนู.. ถ้าเธอคิดจะใช้เส้นสายช่วยเพื่อน ก็ควรต้องดูคํานึงถึงความแข็งแกร่งของตัวเองด้วยตระกูลโม่ของเธอไม่ได้ใหญ่โตอะไรในเมืองเจียงไฮวเลยนะ…”
แม้แต่ผู้เฒ่าหยานที่ยืนห่างออกไป ยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยเตือนโม่ออี้ชิงเป็นนัยๆเช่นกัน
“เชอะ! เด็กสาวที่เก่งกาจแข็งแกร่งจนนักเรียนในโรงเรียนพากันเกรงกลัว พอเจอของจริงถึงกับยืนก้มหน้าสงบเสงี่ยมเชียวนะ! ไม่ทําตัวเก่งเหมือนตอนอยู่โรงเรียนล่ะ!”
เฉินเผิงและเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ เมื่อได้เห็นโม่ออี้ชิงยืนตัวสั่นเป็นลูกนกแบบนั้น ต่างก็ตาพากันเย้ยหยันแววตาของทุกคนต่างก็เป็นประกายด้วยความยินดีจนไม่อาจปกปิดไว้ได้
“คงไม่ใช่เรื่องง่ายสินะที่จะเปิดสํานักสอนหมัดมวยให้กับผู้คน? แต่สําหรับตระกูลหวังของเราสํานักของเธอไม่ได้อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย!” หวังเฉิงหยวนเองก็ช่วยเหยียบย่ําโม่อวีชิงเช่นกัน
ปัง!
หลังจากที่หวังเฉิงหยวนพูดจบ หวังเซียนหย่งก็ยกเท้าขึ้นถีบประตูห้องทันที แต่เมื่อประตูเปิดออกเขากลับไม่รีบร้อนที่จะเข้าไปด้านในนัก
เขาเป็นถึงคนใหญ่คนโตและมีอํานาจอิทธิพลในเมืองเจียงไฮว ไม่ใช่นักเลงกระจอกๆ ที่จะต้องรีบมีเรื่องกับกุ้ยข้างถนนนัก!
ต่อให้อยากจะข่มเหงรังแกคนที่เด็กกว่าอย่างไร อย่างน้อยก็ต้องให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสแก้ตัวบ้าง..
หวังเซียนหย่งยืนเอามือไขว้หลังอยู่ที่หน้าประตู พร้อมกับจ้องมองร่างผอมบางที่นั่งซุกอยู่ในมุมมืดก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ําเสียงเย็นชา
“ฉันไม่สนใจว่าแกจะเป็นใคร รีบลุกขึ้น แล้วมาคุกเข่าขอโทษลูกชายของฉันเดี๋ยวนี้!”
แต่แล้วทุกคนาต่งก็ต้องประหลาดใจ เพราะหลังจากที่คําพูดของหวังเซียนหย่งจบลง น้ําเสียงเย็นชาก็ดังสวนออกมาจากห้องที่มืดมิดทันที
“แน่ใจเหรอว่าพวกแกมีคุณสมบัติพอ!”
ช่างเป็นการตอบโต้ที่อวดดี และยะโสโอหังยิ่งนัก! ทําให้คนที่ได้ยินถึงกับต้องส่งเสียงฮือฮาออกมา..
“ไอ้ก็ย. นี่แกคงเสียสติไปแล้วสินะ ถึงได้กล้าพูดจาไร้มารยาทกับลุงหวังแบบนี้!”
“หึ! ไอ้คนไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ํา อย่าคิดว่าแกสามารถทําให้พี่อีกาดํายอมเสียศักดิ์ศรีได้แล้วจะคิดว่าไม่มีใครสามารถจัดการกับแกได้อีก!”
“คอยดูต่อไปก็แล้วกัน! พ่อของฉันมีวิธีจัดการกับไอ้หมอนี่แน่”
หวังเฉิงหยวนร้องตะโกนออกมาด้วยความลิงโลด เขาเกรงแต่ว่าหลินหนานจะรีบขอโทษจนทําให้เรื่องราวไม่ตื่นเต้น และน่าเบื่อมากกว่า
ไอ้หมอนี่นอกจากจะไม่กลัวอะไรแล้ว ยังโง่มากซะด้วย!
และครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ความแค้นระหว่างเขากับหลินหนาน แต่ยังเพิ่มความขัดแย้งระหว่างหลินหนานกับพ่อของเขาขึ้นมาอีกด้วย
โม่ออี้ชิงที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับใจหล่นไปถึงตาตุ่ม เมื่อได้ยินคําตอบโต้ของหลินหนานหวังเซียนหย่งได้ฉายาราชันแห่งขุมนรก หลินหนานกล้าพูดจาอวดดีกับเขาแบบนี้คงยากที่จะมีชีวิตอยู่โดยไม่พบเจอกับหายนะได้
“น้ําเสียงนี้ รู้สึกคุ้นหูฉันมาก!”
ผู้เฒ่าหยานพึมพําออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้พูดออกไป และพยายามครุ่นคิดว่า เคยได้ยินเสียงแบบนี้จากที่ไหนกันแน่
“ฮ่าๆๆ นี่เป็นเรื่องตลกที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมาเลยทีเดียว! วันนี้ฉันหวังเซียงหย่ง จะต้องสั่งสอนแกให้หลาบจํา ฉันจะทําให้แกได้รู้ว่า การมีชีวิตอยู่ที่ไม่ต่างกับตกนรกนั้นเป็นยังไง? ไม่อย่างนั้นคงเสียชื่อฉายาราชันแห่งขุมนรกแน่!”
หวังเซียนหย่งเดินหัวเราะหึๆเข้าไปในห้องที่ปิดไฟมืดทันที
ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็รีบตามเข้าไป ทุกคนต่างก็ต้องการเห็นหลินหนานถูกสั่งสอน ผู้จัดการจ้าวที่เดินตามหลังมา ได้เอื้อมมือออกไปเปิดสวิทช์ไฟในห้อง เพื่อให้หวังเซียนหย่งสามารถมองเห็นร่างผอมบางในเงามืดนั้นได้อย่างชัดเจน
“คะ.. คุณชายหลิน เป็นคุณได้ยังไง?”
ทันทีที่ไฟในห้องสว่างขึ้น หวังเซียนหย่งจึงได้เห็นร่างบอบบางที่นั่งอยู่นั้นได้ชัดเจน สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตกตะลึง ระคนตกใจสุดขีด!
นั่นเพราะชายร่างผอมที่นั่งอยู่ภายในห้องนั้น จะเป็นใครอื่นไปได้นอกจากหลินหนาน!
หลินหนานยังคงนั่งนิ่ง พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย และตอบกลับไปว่า “แล้วทําไมถึงจะเป็นฉันไม่ได้ล่ะ? หรือจะเป็นเพื่อนโม่ออี้ชิง ฉันต้องขออนุญาติเจ้าเด็กหวังเฉิงหยวนนั่นด้วยรึ?”
หลังจากได้ยินคําพูดของหลินหนาน หวังเซียนหย่งถึงกับเหงื่อแตกพลั่กด้วยความตกใจกลัวเพราะนี่นับเป็นตลกร้ายของเขาเลยทีเดียว!
หากเขารู้ว่าคนที่ลูกชายมีเรื่องด้วยเป็นหลินหนานแล้วล่ะก็ ต่อให้ลูกชายของเขาถูกฆ่าตายเขาก็จะไม่มีวันมาที่จินชาคลับอย่างเด็ดขาด!
แต่เขาก็รีบตอบหลินหนานกลับไปอย่างรวดเร็ว “เอ่อ.. คุณชายหลินเข้าใจผิดแล้ว ผม.. ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น!”
“พ่อครับ. นี่พ่อถูกผีเข้าหรือยังไง? พ่อไปเรียกหมอนั่นว่าคุณชายทําไมกัน? มันก็แค่กู้ยจนๆที่ไม่มีปัญญาอยู่ในเมืองเท่านั้นเอง!”
เมื่อได้เห็นหวังเซียนหย่งที่ปกติมีนิสัยดุดันยะโสโอหัง พลันเปลี่ยนเป็นมีมารยาทนอบน้อมมาเช่นนี้ หวังเฉิงหยวนจึงอดไม่ได้ที่จะร้องถามผู้เป็นพ่อด้วยความงุนงง
เพียะ!!
แต่เขากลับถูกหวังเซียนหย่งตบหน้าแทนคําตอบ และนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา ที่เขาถูกผู้เป็นพ่อตบหน้าแบบนี้
เพื่อนนักเรียนของหวังเฉิงหยวนที่ตามเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นเหตุการณ์กลับตาลปัตรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ พวกเขาต่างก็ทําสีหน้าไม่ถูก และกําลังงุนงงกับสิ่ง ที่เกิดขึ้น
แม้กระทั่งไม่ออี้ชิงที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ยังถึงกับยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง! แต่หลังจากที่หายตกใจ เธอก็หันไปมองหลินหนานแน่นิ่ง ปากก็พึมพําออกมาเบาๆ
“เพื่อนบ้านของซิงเย่วคนนี้เป็นใครกันนะ? เขาต้องปกปิดฐานะที่แท้จริงไว้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นใครๆที่เห็นเขาทําไมถึงได้ตกอกตกใจ และมีท่าที่แปลกประหลาดกันไปหมด…”
คนแรกก็อีกาดํา ต่อมาก็หวังเซียนหย่ง แต่ละคนที่หวังเฉิงหยวนเรียกมานั้น ใช่ว่าคนธรรมดาทั่วไปจะกล้ามีเรื่องด้วย
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
คนพวกนี้เมื่อได้เห็นหน้าหลินหนาน ต่างก็เปลี่ยนจากเสือเป็นแมวเชื่องๆทันที! นี่มันนิยายน้ําเน่าชัดๆ!
พี่หลินหนานต้องมีความลับอะไรปิดบังอยู่แน่!
“หุบปากของแกได้แล้ว! จากนี้ไป แกเองก็ต้องเรียกคุณชายหลิน!”
หวังเซียนหย่งหันไปก่นด่าหวังเฉิงหยวนลูกชายเสียงดัง แล้วจึงหันไปพูดกับหลินหนานด้วยน้ําเสียงและท่าทางนอบน้อม
“คุณชายหลิน ได้โปรดอย่าถือสาลูกโง่ๆของผมเลยนะครับ เขาก็แค่เด็กผู้ชายไม่เอาไหนคนหนึ่งเท่านั้นเอง!”
“เด็กผู้ชายไม่เอาไหนงั้นเหรอ? ตอนนี้น้องสาวของผมถูกลูกชายของคุณวางยา จนป่านนี้ยังไม่ ตื่นเลย..”
หลินหนานตอบกลับด้วยน้ําเสียงเย้ยหยัน แต่แววตานั้นแฝงไว้ด้วยรังสีสังหารชัดเจน จนทําให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้นถึงกับตัวแข็ง และเย็นยะเยือกไปทั้งร่าง