ลูกเขยยอดนักฆ่า 130

ตอนที่ 130

ตอนที่ 130 ผมลาออก!

หลินหนานไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็น แต่พฤติกรรมของฉินเสี่ยวยู่ในวันนี้ดูผิดปกติไปจากเดิมมาก หลินหนานจึงคิดที่จะตามไปดูให้รู้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับหญิงสาวกันแน่?

หลินหนานมองผ่านกระจกหน้าต่างบริษัทที่อยู่ชั้นแรก และพบว่าฉินเสี่ยวยู่กําลังตั้งหน้าตั้งตาเดินตรงไปที่รถ BMW X5 คันหนึ่งซึ่งจอดอยู่ในที่ลานจอดรถ

ผ่านไปครู่หนึ่ง คนขับรถรูปร่างอ้วนท้วนก็เปิดประตูรถเดินออกมาหาฉินเสี่ยวยู่ ชายหนุ่มผู้มีหน้าตาฉุนเฉียวนี้ สวมใส่เสื้อผ้าชนิดที่ราวกับเอาแฟชั่นในนิตยสารทั้งหมด ประโคมใส่ร่างทุกอย่าง

สภาพของชายหนุ่มดูไม่ต่างจากการจับหมูมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแฟนซีเลยแม้แต่น้อย!

หลินหนานสังเกตเห็นว่า สีหน้าของฉินเสี่ยวยู่นั้นดูไม่เต็มใจนัก และพยายามที่จะปัดมือสกปรกของชายหนุ่มที่ยื่นออกมา

“มิน่าล่ะ! วันนี้เธอถึงได้นั่งเหม่อลอย ที่แท้แฟนก็มาหาถึงบริษัท!”

หลินหนานพึมพํายิ้มๆ และเตรียมตัวที่จะหันหลังเดินกลับไป เพราะอย่างน้อยทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนร่วมงานในแผนกเดียวกัน อีกทั้งยังต้องทํางานคู่กันด้วย ฉะนั้น เขาจึงไม่ควรมาแอบดูเธอแบบนี้

แต่ในระหว่างที่หลินหนานหันหลัง และกําลังจะก้าวเดินออกไปนั้น เสียงของใครบางคนก็ทําให้เขาถึงกับต้องชะงัก

“หลินหนาน นี่นายกําลังจะไปไหน?”

หลินหนานหันหลังกลับไป และยิ้มให้กับเจ้าของเสียงนั้นทันที..

แน่นอนว่า ใบหน้างดงาม และรูปร่างสมส่วนไร้ที่ติของหญิงสาวที่กําลังยืนอยู่ตรงหน้าเขานั้นจะเป็นใครได้อีกเล่าหากไม่ใช่เย่จิงเฉิง!

หลินหนานตอบกลับทันที “ผมก็แค่รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ก็เลยออกมาข้างล่างหาอากาศหายใจ นี่คุณก็ออกมาสูดอากาศหายใจเหมือนกันเหรอ? บังเอิญจัง…”

หลังจากได้ยินคําตอบของหลินหนาน คิ้วของเย่จิงเฉิงถึงกับขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

ออกมาสูดอากาศงั้นหรอ?! ดูจากสีหน้ากับท่าทางลับๆล่อๆของนาย ดูท่าคงจะออกมาทําเรื่องอะไรไม่ดีแน่!

“อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันที่นี่! นี่เป็นเวลาทํางาน ทําไมนายถึงลงมาข้างล่าง? ทําไมไม่อยู่ในแผนกของตัวเอง? ไม่กลัวถูกไล่ออกหรือยังไง?”

“ไม่กลัว.. เพราะภรรยาของผมเป็นเจ้าของบริษัทนี้ ภรรยาของผม ได้ยินมั้ย?” หลินหนานยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว

ทันทีที่ได้ยินคําว่า “ภรรยา” ร่างกายของเย่จิงเฉิงก็ถึงกับสั่นสะท้านราวกับถูกไฟฟ้าช็อต ใบหน้าที่เย็นชาอยู่แล้ว ยิ่งเย็นยะเยือกมากขึ้นไปอีก และเวลานี้ใบหน้าของเธอก็ดูราวกับเคลือบน้ำแข็งไว้หนึ่งชั้น และสายตาของเธอนั้นก็บ่งบอกชัดเจนว่าพร้อมที่จะฆ่าเขาได้ทุกเมื่อ

เย่จิงเฉิงกํามือแน่นจนซีดขาว พร้อมกับกระซิบบอกหลินหนานด้วยน้ำเสียงที่ทุ่มและดุดัน “ฉันขอเตือนนายอีกครั้ง อยู่ที่บริษัทนายจะต้องเรียกฉันว่า ประธานเย่ หรือคุณเย่” เท่านั้น ห้ามเรียกอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้ ไม่อย่างนั้น”

“ทําไม?! คุณจะทําอะไรผมไม่ทราบ?”

หลินหนานย้อนถามด้วยสีหน้ายียวนกวนประสาท ก่อนจะทําสีหน้าคล้ายเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้แล้วยกมือขึ้นกอดอกพร้อมกับเอ่ยถามเย่จิงเฉิงกลับไปว่า

“โอ้ นี่ผมคิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ไปได้! นี่คุณ คุณกําลังคิดจะทําเรื่องอย่างว่ากับผมสินะ!”

“นี่นาย!”

เย่จิงเฉิงได้ยินหลินหนานพูดจาสองแง่สองง่ามแบบนั้น ก็แทบอยากหนีๆไปให้พ้นจากบริเวณนั้น

คนอะไร.. ทําไมไร้ยางอายได้ขนาดนี้?!

หลินหนาน, นี่นายไม่รู้จักคําว่าละอายใจบ้างหรือยังไง?

แต่เย่จิงเฉิงก็สามารถระงับความโกรธไว้ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมตอบหลินหนานกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเคย

“เป็นความคิดของพ่อที่ต้องการให้นายมาทํางานที่นี่ เพราะฉะนั้น ฉันหวังว่านายจะปฏิบัติตามกฏของบริษัท และปฏิบัติตัวเหมือนกับพนักงานคนอื่นๆด้วย!”

“ท่านประธานใหญ่คงจะไม่ได้จริงจังอะไรนักหรอกมั้ง ว่าผมจะทํางานที่นี่ หรือไม่ทํางานที่นี่?” หลินหนานตอบกลับไปพร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแส

ในระหว่างนั้น ก็ไม่ลืมที่จะเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างด้วย และหลินหนานก็พบว่า รถ BMW X5 คันนั้นได้หายไปแล้ว

ฉินเสี่ยวยู่เองก็ยังไม่ได้กลับเข้ามาในบริษัท แสดงว่าเธอน่าจะต้องไปกับชายร่างอ้วนคนนั้น!

เย่จิงเฉิงตอบกลับหลินหนานเสียงเย็น “ฉันไม่ต้องการขัดแย้งและทะเลาะกับพ่อ เพราะฉะนั้นนายกลับไปทํางานได้แล้ว!”

“ก็ได้ๆๆๆ หลินหนานนะหลินหนาน คิดไม่ถึงจริงๆว่า ท้ายที่สุดแกจะต้องกลายมาเป็นสามีของผู้หญิง ที่ชอบบังคับข่มขู่สามีแบบนี้!” หลินหนานบ่นพึมพําพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

แต่เมื่อเห็นว่าเย่จิงเฉิงกําลังจะระเบิดอารมณ์ออกมา เขาก็รีบวิ่งหนีขึ้นลิฟท์ไปทันที!

หลินหนานเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทํางานของตนในฝ่ายขายตามเดิม..

แม้ว่าเขาเพิ่งจะได้รู้จักกับฉินเสี่ยวยู่ แต่จากที่ได้สัมผัสกับเธอมานั้น หลินหนานมั่นใจว่า อุปนิสัยของฉินเสี่ยวยู่นั้นไม่ได้เลวร้าย หรือเป็นผู้หญิงที่คบคนมั่วไปหมด

อีกอย่าง ผู้ชายร่างอ้วนนั่นก็ไม่ใช่สเปคของเธออย่างแน่นอน แต่เพราะอะไรฉินเสี่ยวยู่ถึงได้ยอมออกไปกับผู้ชายคนนั้น?

หลินหนานเชื่อว่า.. ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ปกติซ่อนอยู่!

แต่ถึงอย่างนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉินเสี่ยวยู่ในเวลานี้ ก็ยังไม่ได้สนิทสนมกันถึงขั้นที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่ายได้

“หลินหนาน.. กลับมาทํางานได้แล้วเหรอ? นายต้องทํางานห้าวันต่อสัปดาห์ แต่นี่กลับหยุดงานไปแล้วตั้งสามวัน อยากถูกไล่ออกมาหรือยังไง?”

ในระหว่างที่หลินหนานกําลังครุ่นคิดเรื่องของฉินเสี่ยวยู่อยู่นั้น น้ำเสียงดุดันไม่เป็นมิตรก็ถึงเขาให้หลุดจากห้วงมโน และกลับสู่โลกแห่งความจริง

หลินหนานเหลือบมอง และพบว่าหลิวเฉียนซึ่งเป็นผู้จัดการแผนกกําลังยืนอยู่ตรงหน้า เขาจึงแกล้งทําเป็นร้องถามออกมาเสียงดังด้วยความประหลาดใจ

“ผู้จัดการหลิว.. คุณเองก็มาทํางานสาย! นี่กี่โมงแล้วคุณเพิ่งจะถึงบริษัท ต่อให้คุณเป็นผู้จัดการ ก็ใช่ว่าจะมีสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นนี่นา?”

หลิวเฉียนที่เตรียมจะเล่นงานหลินหนาน ถึงกับหน้าเสียเมื่อถูกหลินหนานย้อนเช่นนี้

สายพ่อแกน่ะสิ.. เจ้างั่ง!

ฉันมาถึงบริษัทคนแรกทุกวัน! ระหว่างแกกับฉันใครที่ตั้งใจทํางานมากกว่ากัน?

หึ! แกคิดจะหาทางเบี่ยงประเด็นสินะ?

“นายไม่จําเป็นต้องยุ่งเรื่องของฉัน! ตามกฏของบริษัท ถ้านายขาดงานมากกว่าสองวันภายในหนึ่งเดือน บริษัทจะถือว่านายไม่ได้มาทํางานทั้งเดือน และนายจะไม่ได้รับเงินเดือนเดือนนั้นทั้งเดือน!”

หลิวเฉียนตอบโต้หลินหนานกลับไปด้วยน้ำเสียงดุดัน และได้แต่คิดในใจว่า

นายยังอ่อนหัดนักที่คิดจะมางัดข้อกับฉัน!

ต่อให้นายจะเจ้าเล่ห์ยอกย้อนขนาดไหน ฉันก็มีวิธีที่จะจัดการกับนายให้อยู่หมัดอยู่ดี!

แต่หลิวเฉียนก็ถึงกับประหลาดใจ ที่สีหน้าของหลินหนานกับเรียบเฉย และไม่มีท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ได้ยินคําขู่ของเขา มิหนําซ้ำยังโบกมือพร้อมกับพูดขึ้นอย่างไม่แยแสด้วย

“ผมไม่สน! ผมได้โบนัสมาเป็นแสน คุณจะหักเงินกี่เดือนกี่วันก็เชิญ!”

“นี่นาย” หลิวเฉียนถึงกับอึ้งพูดไม่ออก

นี่ฉันทําอะไรพลาดไป!

หากเป็นพนักงานคนอื่นได้ยินหลิวเฉียนขู่เช่นนี้ แน่นอนว่าท่าทางของพวกเขาคงจะต้องแตกต่างจากหลินหนานในเวลานี้แน่ แต่คําขู่ของเขากลับไม่มีผลต่อหลินหนานที่มีโบนัสก้อนโตอยู่ในมือ

เขาต้องการที่จะข่มเหงรังแกหลินหนาน แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ตนเองจะไม่สามารถทําอะไรหลินหนานได้เลยแม้แต่น้อย!

หลิวเฉียนรู้สึกโมโหอย่างมาก แต่ก็ไม่สามารถระบายความโกรธออกไปได้ จึงได้แต่กัดฟันกรอด และกําหมัดแน่น

หลินหนานยังคงทําท่าทางไม่แยแสเพื่อยั่วโมโหหลิวเฉียนต่อไป และเวลานี้ภายในหัวของเขาก็กําลังคิดว่า เที่ยงนี้จะกินอะไรดี..

กริ๊ง..กริ๊ง..

แต่แล้วจู่ๆ โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของหลินหนานก็ดังขึ้น ปลุกเขาให้ตื่นจากฝันกลางวัน

“ใครกัน.. บังอาจโทรมากวนคนกําลังฝันดี?”

หลินหนานบ่นพึมพํา พร้อมกับล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เต็มใจนัก และปรากฏว่าเป็นสายเรียกเขาจากฉินเสี่ยวยู่

หลินหนานกดรับสายทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไร ปลายสายก็มีเสียงสะอึกสะอื้นของฉินเสี่ยวยู่ดังขึ้นมา

หลินหนานร้องถามออกไปด้วยความตกใจ “เสี่ยวยู่ เกิดอะไรขึ้นกับคุณ? มีเรื่องอะไรกันแน่?”

“หลินหนาน.. นายมาหาฉันหน่อยได้มั้ย? ตอนนี้ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลตี้อี้เหยิน แม่..แม่ของฉันประสบอุบัติเหตุ”

แม้จะเป็นการคุยกันผ่านโทรศัพท์ แต่หลินหนานก็สัมผัสได้ว่า น้ำเสียงของฉินเสี่ยวยู่นั้นมีอาการตื่นตระหนก แล้วก็ตกใจอย่างมาก!

“คุณทําใจให้สบาย ไม่ต้องห่วง ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้! ตอนนี้อย่างเพิ่งทําอะไรเด็ดขาด รอจนกว่าผมจะไปถึง!”

หลังจากวางสายไปแล้ว หลินหนานก็เก็บโต๊ะทํางาน และวิ่งตรงไปที่หน้าประตูทันที

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ! นั่นนายจะไปไหน ยังไม่พักเที่ยงเลย?”

เท้าของใครบางคนที่นั่งอยู่ใกล้ประตูทางออกของแผนก ยื่นออกมาขวางทางหลินหนานไว้ในขณะที่หลิวเฉียนนั้นยังคงยืนยิ้มกว้าง

หลินหนานทําให้เขาอารมณ์เสียตั้งแต่เช้า นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้กลั่นแกล้งหลินหนาน ด้วยการไม่อนุญาตให้เขาออกจากบริษัท

“เฮ้อ.. วุ่นวายชะมัด!”

หลินหนานหันกลับไปหาหลิวเฉียน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ผู้จัดการหลิว ผมมีธุระจําเป็นส่วนตัวต้องรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้ ผมขอลางานหนึ่งวัน…”

“ธุระส่วนตัว? ธุระอะไร?” หลิวเฉียนทําท่าแคะเล็บนิ้วมือ พร้อมกับถามเสียงเนิบ

“ผมก็บอกแล้วว่าเป็นธุระส่วนตัว ธุระส่วนตัวก็คือธุระส่วนตัวสิ! ผมไม่จําเป็นต้องบอกว่าเรื่องอะไร..” หลินหนานตอบโต้พร้อมกับยักไหล่อย่างไม่แยแส

“งั้นเหรอ? ฉันไม่อนุญาตให้นายลา เว้นแต่ว่าในครอบครัวของนายจะมีใครตาย!” และเวลานี้หลิวเฉียนก็ได้เดินไปยืนขวางหน้าประตูไว้เอง

“แล้วถ้าผมจะไปให้ได้ล่ะ?” หลินนานเอ่ยถามยิ้มๆ

“ถ้านายยืนยันจะไปให้ได้จริงๆ ก็จัดการเก็บข้าวของส่วนตัว แล้วก็ออกจากบริษัทไปเลย!”

หลิวเฉียนยื่นคําขาด และเวลานี้สีหน้าของเขาก็บ่งบอกว่า ตนเองกําลังเป็นฝ่ายกุมชะตาชีวิตของหลินหนานไว้

แต่ดูเหมือนหลินหนานจะไม่ใส่ใจกับคําขู่ของหลิวเฉียนเลยแม้แต่น้อย เขายังคงก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ยี่หระ และเมื่อไปถึงหน้าประตู ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจ หรือความบังเอิญ ที่จู่ๆ ส้นเท้าของหลินหนานก็ไปเตะเข้ากับขาของผู้จัดการหลิว จนล้มก้นกระแทก

“อุ๊บ..”

“หลินหนาน หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ถ้านายกล้าไป ฉันจะไล่นายออกซะ!” หลิวเฉียนร้องตะโกนออกไปด้วยความโมโห

“ไม่ต้องไล่.. ผมขอลาออก!”

ลูกเขยยอดนักฆ่า

ลูกเขยยอดนักฆ่า

Score 10
Status: Completed
เขาคือนักฆ่าอันดับหนึ่งในโลกของวงการทหารรับจ้าง ฉายาของเขาคือ ‘นักฆ่าอาซูร่า’ ศัตรูได้ยินเพียงแค่ชื่อของเขา ก็ถึงกับหวาดกลัวจนหัวหด!! เขามีทักษะทางด้านการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชา ‘เก้าเข็มเปิดนภา’ ทักษะทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศอย่างไร้ที่ติของเขานี้ ได้ช่วยชีวิตของผู้คนในสนามต่อสู้ไว้ได้มากมายอย่างนับไม่ถ้วน และด้วยความบังเอิญ เขาได้กลายมาเป็นลูกเขยของตระกูลที่มั่งคั่งตระกูลหนึ่ง.. หลายคนอาจคิดว่าการเป็นลูกเขยในตระกูลที่ร่ำรวยมั่งคั่งเช่นนี้ คงจะต้องทนอยู่อย่างอัปยศอดสู และถูกเหยียดหยามสินะ? แต่มิใช่หลินหนาน!! เขาคือลูกเขยที่พ่อตารักยิ่ง และกลายเป็นลูกเขยผู้ยิ่งใหญ่ของเมืองนี้!

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options

not work with dark mode
Reset