Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 418 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 418 ตอนที่ 418 Posted by , ? Views, Released on January 9, 2021 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest [ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ] บทที่ 418: จูบจากนางฟ้า! หลิงหยุนกดลิฟท์ลงมาชั้นล่างของโรงแรม เมื่อขึ้นรถได้ก็ขับมุ่งหน้าไปยังบ้านเลขที่-1 ในทะเลสาบจิงฉูทันที เมื่อไปถึง เขาก็พบว่าทุกคนทั้งเหล่ากุ่ย ตู้กู่โม่ ตี้เสี่ยวอู๋ และเจ้าขาวปุยต่างก็รวมตัวกันอยู่ในบ้านหลังนี้ ทันทีที่หลิงหยุนก้าวลงจากรถ เงาสีขาวของเจ้าขาวปุยก็พุ่งออกมา และเพียงแว้บเดียวก็มุดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุน รูปร่างและสีหน้าท่าทางของมันทำให้หลิงหยุนถึงกับตกใจ “เจ้าอย่าดูดซับพลังชีวิตเข้าไปมากจนเกินไป หลังจากนี้อีกห้าวันข้าจะพาเจ้าไปหาที่เพื่อกลายร่าง” หลิงหยุนลูบขนสีขาวที่นุ่มลื่นราวกับผ้าซาตินของเจ้าขาววปุยพร้อมกับกระซิบบอก ใบหน้าเล็กๆของเจ้าขาวปุยผงกขึ้นลงเป็นการรับบรู้ ดวงตาสีดำขลับเป็นประกายระยิบบระยับของมัน จ้องมองหลิงหยุนอย่างประจบสอพลอ ในเวลาเดียวกันนั้น เหล่ากุ่ย ตู้กู่โม่ และตี้เสี่ยวอู๋ ต่างก็เดินออกมาจากบ้านเพื่อทักทายหลิงหยุน หลิงหยุนเองก็ยิ้มทักทายพวกเขาทั้งสามคนเช่นกัน จากนั้นก็เชื้อเชิญเหล่ากุ่ยเข้าไปในบ้าน “เหล่ากุ่ย.. วันนี้ข้ายุ่งทั้งวันจึงไม่มีเวลาได้มาดูแลต้อนรับท่าน อภัยให้ข้าด้วย..” หลิงหยุนเอ่ยขอโทษเหล่ากุ่ยอย่างสุภาพระหว่างที่เดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน เหล่ากุ่ยตอบยิ้มๆ “เรื่องเล็กน่า.. เจ้ามีญาติมาเยี่ยมเยียน ยังไงก็ต้องไปต้อนรับขับสู้ถึงจะถูก เรื่องของข้าเจ้าอย่าได้กังวลไปเลย..” เหล่ากุ่ยได้แต่คิดในใจว่า.. นี่ยังไม่เรียกว่ายุ่งได้หรอก รอให้นายน้อยของเขาได้เจอกับท่านปู่ก่อนเถิด รับรองว่าจะมีงานให้ทำไม่หยุดไม่หย่อนเลยเชียวล่ะ! หลังจากออกมาจากบ้านเฉิงเทียนเมื่อคืนนี้ เหล่ากุ่ยจึงฉวยโอกาสติดต่อกลับไปหาหลิงลี่ทันที หลังจากที่ได้เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้หลิงลี่ฟังแล้ว หลิงลี่เองก็ถึงกับตกใจ และอึ้งไปพักใหญ่ และเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่น่าทึ่งของหลานชายที่ชื่อหลิงหยุนแล้ว มีหรือที่หลิงลี่จะยังนิ่งเฉยอยู่ที่บ้านได้อีก? เขาแทบจะอดทนรอไม่ได้ หากมีปีกเขาคงจะบินไปที่เมืองจิงฉูในทันที เพื่อไปดูหลานชายที่เขาเองก็ไม่เคยได้พบหน้ามาก่อน แต่หลิงลี่ไม่ได้ปริปากบอกเรื่องนี้กับใครเลยสักคน แม้แต่หลิงเสี่ยวซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของหลิงหยุน เพราะเกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะเป็นผลร้ายกับตระกูลหลิง และตัวของหลิงหยุนเอง หลังจากที่วางสายจากเหล่ากุ่ยไปแล้ว หลิงลี่ก็ได้จัดการสั่งการทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาจะเดินทางไปเมืองจิงฉูอย่างลับๆ เพื่อให้หลานชายของเขาได้พบเจอกับบรรพบุรุษของตัวเองเสียที! หลิงหยุนที่ยังคงไม่รู้เรื่องนี้ ได้พูดกับเหล่ากุ่ยต่อว่า “เหล่ากุ่ย.. ข้าได้สั่งตี้เสี่ยวอู๋ไว้เรียบร้อยแล้ว ให้เขาคอยดูแลท่าน หากต้องใช้เงินก็บอกเขาได้เลย” เหล่ากุ่ยหัวเราะอย่างมีความสุข “ตี้เสี่ยวอู๋รึ? เด็กคนนี้หน่วยก้านใช้ได้ ข้าชอบเขา..” ทั้งสองคนเดินคุยกันไปจนถึงห้องที่สำหรับใช้ทำการรักษาอาการบาดเจ็บ เหล่ากุ่ยยกมือขึ้นและหันไปพูดกับหลิงหยุน “พ่อหนุ่ม.. เวลานี้คนแก่อย่างข้ายังหาที่อยู่ไม่ได้ คงต้องขออาศัยอยู่กับเจ้าที่นี่ไปก่อน ไม่ทราบว่าเจ้าจะรังเกียจหรือไม่?” หลิงหยุนยิ้ม “เหล่ากุ่ยทำไมถึงได้พูดแบบนั้นล่ะ? ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ ท่านก็ต้องอยู่ที่นี่กับข้าด้วยสิ! หากท่านต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็บบอกตี้เสี่ยวอู๋ได้เลย!” ทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันอีกสองสามคำ หลิงหยุนก็หยุดพูดและเริ่มลงมือฝังเก้าเข็มปลุกชีพให้เหล่ากุ่ยอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อช่วยรักษาอาการบบาดเจ็บภายในที่ยังไม่หายดีให้กับเขา หลังจากการรักษาครั้งแรก อาการบาดเจ็บภายในของเหล่ากุ่ยก็ดีขึ้นถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้หลิงหยุนเองก็มีประสบการณ์จากการรักษาเหล่ากุ่ยมากขึ้น และเหล่ากุ่ยเองก็คุ้นเคยกับวิธีการรักษา จึงทำให้การรักษาของหลิงหยุนยิ่งง่ายขึ้นอย่างมาก หลิงหยุนทำการฝังเข็มอย่างรวดเร็ว เขาต้องเร่งมือเพราะมีสาวสวยกำลังรอเขาไปเข้าห้องหออยู่.. ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลิงหยุนก็ดึงเข็มทองออกจากร่างกายของเหล่ากุ่ย จากนั้นก็พูดกับเหล่ากุ่ยสองสามคำ ก่อนจะรีบพุ่งออกไปจากบ้านทันที “นี่หลิงหยุน.. แล้วนี่เจ้าจะไปใหน?! คืนนี้ดูเจ้ารีบร้อนนัก จะรีบไปเข้าห้องหอหรือยังไง?” ตู้กู่โม่เห็นหลิงหยุนรีบร้อนราวกับถูกไฟรนก้น จึงได้แต่ร้องตะโกนถามออกไปด้วยความสงสัย หลิงหยุนคิดในใจว่า ตู้กู่โม่ช่างเดาได้ถูกต้องแม่นยำนัก เขาจึงหันหลับกลับไปหาตู้กู่โม่พร้อมกับยกนิ้วกลางให้ และเมื่อเห็นตู้กู่โม่เห็น เขาก็ร้องโวยวายด้วยความโมโห หลิงหยุนได้แต่หัวเราะแล้วขับบรถหายไปทันที ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว และหลิงหยุนก็ค่อนข้างรีบร้อน เขาจึงเหยีบคันเร่งรถแลนด์โรเวอร์แทบมิดเพราะไม่ต้องการล่าช้า แต่ยิ่งเขาไม่อยากจะล่าช้ามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบเจอปัญหามากเท่านั้น เพราะระหว่างที่จดจ่ออยู่กับการขับบรถนั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “เหยาลู่คงจะอาบน้ำเสร็จแล้วเลยโทรมาเร่งให้ข้ากลับไปสินะ! ฮ่า.. ฮ่า.. งั้นต้องเหยียบให้เร็วกว่านี้!” หลิงหยุนมั่นใจมากว่าต้องเป็นเหยาลู่ เขาจึงเร่งเครื่องให้เร็วกว่าเดิม แต่เสียงเรียกเข้าก็ยังคงดังต่อเนื่อง หลิงหยุนได้แต่ขมวดคิ้วและเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะเหยาลู่ไม่เคยเร่งรัดเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไร เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็ถึงกับอึ้งไปเมื่อเหลือบเห็นชื่อที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์! ปรากฏว่าเป็นสายจากหลินเมิ่งหาน! “ยังไงกัน? นี่หลินเมิ่งหานยังไม่ได้ออกจากจิงฉูงั้นรึ? หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนางอีก?” ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น หลิงหยุนก็รีบกดรับโทรศัพท์ทันที และเสียงของหลินเมิ่งหานก็ดังขึ้นที่ปลายสายทันที “หลิงหยุน.. มารับฉันที่แองเจลบาร์หน่อย!” เสียงของหลินเมิ่งหานดังแผ่วอยู่ปลายสาย “แองเจลบาร์.. อยู่ที่ใหนล่ะ? แล้วตอนนี้คุณยังอยู่ในเมืองจิงฉูหรือเปล่า?!” หลิงหยุนไม่รู้จัก เพราะแม้แต่โรงแรมแชงกรีล่าเขาเองก็เพิ่งจะเคยไปที่นั่นวันนี้เป็นครั้งแรก หลิงหยุนเหยียบเบรคทันที “เจ้างั่งเอ๊ย! ถ้าฉันไม่อยู่จิงฉู จะโทรหานายทำไมกันเล่า? นายมันคนเลว นายมันคนชั่ว นายมันโง่!” หลินเมิ่งหานรำพึงรำพันอยู่ปลายสาย หลิงหยุนถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบเธอ น่าจะเมามากกว่า! “สุดยอด.. คุณนี่มันสุดยอดจริงๆ! เอาล่ะ.. อย่าไปใหนล่ะ? รอผมอยู่ที่นั่น ผมจะรีบไปรับ!” พูดจบหลิงหยุนก็วางสายไป แล้วรีบโทรหาตี้เสี่ยวอู๋เพื่อให้เขาบอกเส้นทางไปแองเจลบาร์ นับว่าหลิงหยุนโชคดีไม่น้อยที่ตี้เสี่ยวอู๋เองก็รู้จักที่นั่น และหลังจากวางสายไป ตี้เสี่ยวอู๋ยังนึกแปลกใจว่าดึกดื่นป่านนี้ หลิงหยุนยังจะออกไปดื่มอีกหรือ? หลังจากวางสายจากตี้เสี่ยวอู๋ หลิงหยุนก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปที่แองเจลบาร์ทันที! หลินเมิ่งหานเป็นลูกทหาร จึงน่าจะมีการระมัดระวังตัวดีกว่าคนธรรมดา แต่ภายในบาร์ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกัน หลิงหยุนจึงอดกังวลไม่ได้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ หลินเมิ่งหานเป็นผู้หญิงคนแรกที่หลิงหยุนพบเมื่อตกลงมาบนโลกใบนี้! หลินเมิ่งหานจึงค่อนข้างมีความหมายพิเศษสำหรับเขา.. เธอเป็นตำรวจหญิงที่สวยงามราวกับบนางฟ้า หลิงหยุนช่วยชีวิตเธอ ดุด่าเธอ อีกทั้งยังขับไล่เธออย่างไม่ใยดี แต่ก่อนจจะจากไป หลินเมิ่งหานกลับยอมรับข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลของเขา ตอนนั้นด้วยความโมโหอย่างมาก หลิงหยุนจึงเรียกร้องเงินจากเธอจำนวนห้าล้านหยวน แต่หลินเมิ่งหานกลับให้เขาถึงสิบล้าน อีกทั้งยังตั้งรหัสบัตรเป็นเลข 9 หกตัว หลิงหยุนเองก็เคยแปลกใจว่า เหตุใดจึงคล้ายกับเบอร์มือถือที่เสี่ยวเม่ยหนิงเลือกให้กับเขา แต่ตอนนี้หลิงหยุนเข้าใจความหมายของตัวเลขเหล่านั้นแล้ว.. หญิงสาวคนนี้ช่างบริสุทธิ์ สดใส แล้วก็น่ารักมาก! “นี่นางยังไม่ได้ออกไปจากจิงฉูงั้นรึ? หรือว่าออกไปแล้ว.. แต่ทำไมถึงยังกลับมาอีก? หรือนางกลับมาเพราะคิดถึงข้า!? ฮ่า.. ฮ่า.. ข้านี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลย!” ที่แองเจลบาร์แสงไฟเป็นประกายระยิบระยับ เสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงไฟสีแดงทำให้บรรยากาศภายในบบาร์ดูค่อนข้างมืดคลึ้ม บาร์แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนที่มีชื่อเสียงในเมืองจิงฉู และอยู่ห่างจาก SOS ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร หลิงหยุนรีบเดินเข้าไปข้างใน จากนั้นก็สอดส่ายสายตาหาหลินเมิ่งหาน และแล้วหลิงหยุนก็พบหญิงสาวสวมเดรสสีขาว กำลังนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะในมุมมืด นอกจากหลินเมิ่งหานแล้ว ยังมีเด็กวัยรุ่นสี่ห้าคนกำลังยืนชนแก้วกับหลินเมิ่งหานอยู่ และดูเหมือนจะไม่มีเจตนาที่ไม่ดีนัก หลิงหยุนได้ยินชัดเจนว่าเด็กหนุ่มเหล่านั้นถามหลินเมิ่งหานว่าต้องการไปต่อข้างนอกหรือไม่? หลิงหยุนรู้สึกไม่พอใจ และรีบเดินเข้าไปหาหลินเมิ่งหานพร้อมกับยกมือขึ้นผลักคนที่อยู่ข้างโต๊ะกระเด็นออกไปพร้อมกับตะโกนว่า “ออกไปให้พ้น!” หัวหน้าของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ย้อมผมสีแดง ถูกหลิงหยุนผลักจนล้มก้นกระแทกพื้น และเมื่อเห็นหลิงหยุนทำตัวเป็นพระเอกมาช่วยนางเอกคนสวยก็ไม่พอใจ จึงได้ตะโกนถามหลิงหยุนว่า “แกเป็นใคร? อย่างได้มากร่างที่นี่ แหกตาดูซะก่อนว่าที่นี่ถิ่นใคร?” “จัดการมัน!” เด็กผู้ชายหัวแดงดิ้นขลุกขลักพยายามจะลุกขึ้นยืน ร้องสั่งพร้อมกับปาขวดเบียร์ในมือใส่หลิงหยุน หลิงหยุนยิ้มหยัน และเพียงแค่ยกขาขึ้นก็สามารถเตะเด็กหนุ่มอีกสี่ห้าคนลงไปกองกับพื้นพร้อมๆกัน แล้วจึงหันไปพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันไม่สนใจว่าจะถิ่นใคร? แล้วฉันก็จะต่อยหน้าแก อยากจะโดนกันอีกไม๊ล่ะ?” อันธพาลสองสามคนต่างก็หันไปมองหน้ากัน เขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าหลิงหยุนยกขาขึ้นเตะตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อล้มไปนอนกองกับพื้น จึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาได้เจอของแข็งเข้าแล้ว “พี่ครับ.. พวกผมมีตาหามีแวว.. ยกโทษให้พวกผมด้วย..” อันธพาลสองสามคนเห็นหลิงหยุนก็ไม่กล้ามีเรื่องกับเขาอีก และได้ต้องยอมรับว่าเป็นความโชคร้ายของพวกเขาเอง อีกทั้งไม่กล้าที่จจะวอแวกับหลินเมิ่งหานคนสวยด้วย “หลิงหยุน.. มาแล้วเหรอ? นั่งลงแล้วดื่มกับฉันหน่อย..” หลินเมิ่งหานยกแก้วขึ้นพร้อมกับยิ้มให้หลิงหยุน แววตาของเธอมึนเมา และพยายามที่จะลุกขึ้นยืน “ยังจะดื่มบ้าบออะไรอีก! ไม่เห็นรึไงว่าตัวเองเมามากแล้ว? ยังไม่เข็ดอีกหรือไงกับเหตุการณ์เมื่อครั้งที่แล้ว?” ใบหน้าของหลิงหยุนโกรธเกรี้ยว เขาคว้าแก้วออกจากมือหลินเมิ่งหานพร้อมกับวางกระแทกลงไปบนโต๊ะ.. “ไปกับผม!” หลิงหยุนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่จับมือหลินเมิ่งหานไว้ และพยายามพาตัวเธอออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อเห็นรูปร่างที่เซ็กซี่เย้ายวนของหลินเมิ่งหาน เขาก็ได้แต่กระอักระอ่วน แต่หากเขาไม่ประคองเธอไว้ หลินเมิ่งหานก็คงจะต้องล้มลงไปบนพื้นอย่างแน่นอน “นี่คุณผู้หญิงครับ.. จะให้ผมทำยังไงกับคุณดี?!” หลิงหยุนถอนหายใจพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบกอดร่างของหลินเมิ่งหานไว้เพื่อจะพาตัวเธอออกไปข้างนอก มือเรียวงามสีชมพูของหลินเมิ่งหานกอดคอหลิงหยุนไว้แน่น พร้อมกับดวงตาที่มึนเมาก็จ้องมองใบหน้าหลิงหยุนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสายตาของผู้คน มือของหลินเมิ่งหานจับใบหน้าของหลิงหยุนไว้แน่น พร้อมกับแนบริมฝีปากเล็กๆแต่เย้ายวนของตนเองลงบนริมฝีปากของหลิงหยุน! ดูเหมือนหลินเมิ่งหานจะดูเร่าร้อนมากในวันนี้ เธอแนบริมฝีปากอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะแทรกซอนลิ้นผ่านริมฝีปากสีแดงสดของตนเอง เข้าไปในริมฝีปากของหลิงหยุนที่เผยอรออยู่ด้วยความตื่นเต้น หลิงหยุนรู้สึกว่าสมองของเขากำลังร่ำร้อง! “หลิงหยุน.. นายต้องการฉันไม๊?” หลิงเมิ่งหานที่ไม่เคยดุดันและเร่าร้อนเช่นนี้มาก่อน กระซิบถามในขณะที่ริมฝีปากยังคงแนบอยู่กับปากของหลิงหยุน หลิงหยุนโอบบร่างบอบบางของหลินเมิ่งหาน และรับรู้ได้ถึงยอดอกที่เบียดเสียดอยู่บนหน้าอกของตนเอง และสัมผัสได้ว่าร่างกายของหลินเมิ่งหานในตอนนี้ร้อนไปทั้งตัว! Favorite [ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ] บทที่ 418: จูบจากนางฟ้า! หลิงหยุนกดลิฟท์ลงมาชั้นล่างของโรงแรม เมื่อขึ้นรถได้ก็ขับมุ่งหน้าไปยังบ้านเลขที่-1 ในทะเลสาบจิงฉูทันที เมื่อไปถึง เขาก็พบว่าทุกคนทั้งเหล่ากุ่ย ตู้กู่โม่ ตี้เสี่ยวอู๋ และเจ้าขาวปุยต่างก็รวมตัวกันอยู่ในบ้านหลังนี้ ทันทีที่หลิงหยุนก้าวลงจากรถ เงาสีขาวของเจ้าขาวปุยก็พุ่งออกมา และเพียงแว้บเดียวก็มุดเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของหลิงหยุน รูปร่างและสีหน้าท่าทางของมันทำให้หลิงหยุนถึงกับตกใจ “เจ้าอย่าดูดซับพลังชีวิตเข้าไปมากจนเกินไป หลังจากนี้อีกห้าวันข้าจะพาเจ้าไปหาที่เพื่อกลายร่าง” หลิงหยุนลูบขนสีขาวที่นุ่มลื่นราวกับผ้าซาตินของเจ้าขาววปุยพร้อมกับกระซิบบอก ใบหน้าเล็กๆของเจ้าขาวปุยผงกขึ้นลงเป็นการรับบรู้ ดวงตาสีดำขลับเป็นประกายระยิบบระยับของมัน จ้องมองหลิงหยุนอย่างประจบสอพลอ ในเวลาเดียวกันนั้น เหล่ากุ่ย ตู้กู่โม่ และตี้เสี่ยวอู๋ ต่างก็เดินออกมาจากบ้านเพื่อทักทายหลิงหยุน หลิงหยุนเองก็ยิ้มทักทายพวกเขาทั้งสามคนเช่นกัน จากนั้นก็เชื้อเชิญเหล่ากุ่ยเข้าไปในบ้าน “เหล่ากุ่ย.. วันนี้ข้ายุ่งทั้งวันจึงไม่มีเวลาได้มาดูแลต้อนรับท่าน อภัยให้ข้าด้วย..” หลิงหยุนเอ่ยขอโทษเหล่ากุ่ยอย่างสุภาพระหว่างที่เดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน เหล่ากุ่ยตอบยิ้มๆ “เรื่องเล็กน่า.. เจ้ามีญาติมาเยี่ยมเยียน ยังไงก็ต้องไปต้อนรับขับสู้ถึงจะถูก เรื่องของข้าเจ้าอย่าได้กังวลไปเลย..” เหล่ากุ่ยได้แต่คิดในใจว่า.. นี่ยังไม่เรียกว่ายุ่งได้หรอก รอให้นายน้อยของเขาได้เจอกับท่านปู่ก่อนเถิด รับรองว่าจะมีงานให้ทำไม่หยุดไม่หย่อนเลยเชียวล่ะ! หลังจากออกมาจากบ้านเฉิงเทียนเมื่อคืนนี้ เหล่ากุ่ยจึงฉวยโอกาสติดต่อกลับไปหาหลิงลี่ทันที หลังจากที่ได้เล่าเหตุการณ์ทุกอย่างให้หลิงลี่ฟังแล้ว หลิงลี่เองก็ถึงกับตกใจ และอึ้งไปพักใหญ่ และเมื่อได้ฟังเรื่องราวที่น่าทึ่งของหลานชายที่ชื่อหลิงหยุนแล้ว มีหรือที่หลิงลี่จะยังนิ่งเฉยอยู่ที่บ้านได้อีก? เขาแทบจะอดทนรอไม่ได้ หากมีปีกเขาคงจะบินไปที่เมืองจิงฉูในทันที เพื่อไปดูหลานชายที่เขาเองก็ไม่เคยได้พบหน้ามาก่อน แต่หลิงลี่ไม่ได้ปริปากบอกเรื่องนี้กับใครเลยสักคน แม้แต่หลิงเสี่ยวซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของหลิงหยุน เพราะเกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะเป็นผลร้ายกับตระกูลหลิง และตัวของหลิงหยุนเอง หลังจากที่วางสายจากเหล่ากุ่ยไปแล้ว หลิงลี่ก็ได้จัดการสั่งการทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาจะเดินทางไปเมืองจิงฉูอย่างลับๆ เพื่อให้หลานชายของเขาได้พบเจอกับบรรพบุรุษของตัวเองเสียที! หลิงหยุนที่ยังคงไม่รู้เรื่องนี้ ได้พูดกับเหล่ากุ่ยต่อว่า “เหล่ากุ่ย.. ข้าได้สั่งตี้เสี่ยวอู๋ไว้เรียบร้อยแล้ว ให้เขาคอยดูแลท่าน หากต้องใช้เงินก็บอกเขาได้เลย” เหล่ากุ่ยหัวเราะอย่างมีความสุข “ตี้เสี่ยวอู๋รึ? เด็กคนนี้หน่วยก้านใช้ได้ ข้าชอบเขา..” ทั้งสองคนเดินคุยกันไปจนถึงห้องที่สำหรับใช้ทำการรักษาอาการบาดเจ็บ เหล่ากุ่ยยกมือขึ้นและหันไปพูดกับหลิงหยุน “พ่อหนุ่ม.. เวลานี้คนแก่อย่างข้ายังหาที่อยู่ไม่ได้ คงต้องขออาศัยอยู่กับเจ้าที่นี่ไปก่อน ไม่ทราบว่าเจ้าจะรังเกียจหรือไม่?” หลิงหยุนยิ้ม “เหล่ากุ่ยทำไมถึงได้พูดแบบนั้นล่ะ? ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ ท่านก็ต้องอยู่ที่นี่กับข้าด้วยสิ! หากท่านต้องการอะไรเพิ่มเติม ก็บบอกตี้เสี่ยวอู๋ได้เลย!” ทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันอีกสองสามคำ หลิงหยุนก็หยุดพูดและเริ่มลงมือฝังเก้าเข็มปลุกชีพให้เหล่ากุ่ยอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อช่วยรักษาอาการบบาดเจ็บภายในที่ยังไม่หายดีให้กับเขา หลังจากการรักษาครั้งแรก อาการบาดเจ็บภายในของเหล่ากุ่ยก็ดีขึ้นถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้หลิงหยุนเองก็มีประสบการณ์จากการรักษาเหล่ากุ่ยมากขึ้น และเหล่ากุ่ยเองก็คุ้นเคยกับวิธีการรักษา จึงทำให้การรักษาของหลิงหยุนยิ่งง่ายขึ้นอย่างมาก หลิงหยุนทำการฝังเข็มอย่างรวดเร็ว เขาต้องเร่งมือเพราะมีสาวสวยกำลังรอเขาไปเข้าห้องหออยู่.. ครึ่งชั่วโมงต่อมา หลิงหยุนก็ดึงเข็มทองออกจากร่างกายของเหล่ากุ่ย จากนั้นก็พูดกับเหล่ากุ่ยสองสามคำ ก่อนจะรีบพุ่งออกไปจากบ้านทันที “นี่หลิงหยุน.. แล้วนี่เจ้าจะไปใหน?! คืนนี้ดูเจ้ารีบร้อนนัก จะรีบไปเข้าห้องหอหรือยังไง?” ตู้กู่โม่เห็นหลิงหยุนรีบร้อนราวกับถูกไฟรนก้น จึงได้แต่ร้องตะโกนถามออกไปด้วยความสงสัย หลิงหยุนคิดในใจว่า ตู้กู่โม่ช่างเดาได้ถูกต้องแม่นยำนัก เขาจึงหันหลับกลับไปหาตู้กู่โม่พร้อมกับยกนิ้วกลางให้ และเมื่อเห็นตู้กู่โม่เห็น เขาก็ร้องโวยวายด้วยความโมโห หลิงหยุนได้แต่หัวเราะแล้วขับบรถหายไปทันที ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว และหลิงหยุนก็ค่อนข้างรีบร้อน เขาจึงเหยีบคันเร่งรถแลนด์โรเวอร์แทบมิดเพราะไม่ต้องการล่าช้า แต่ยิ่งเขาไม่อยากจะล่าช้ามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งพบเจอปัญหามากเท่านั้น เพราะระหว่างที่จดจ่ออยู่กับการขับบรถนั้น โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น “เหยาลู่คงจะอาบน้ำเสร็จแล้วเลยโทรมาเร่งให้ข้ากลับไปสินะ! ฮ่า.. ฮ่า.. งั้นต้องเหยียบให้เร็วกว่านี้!” หลิงหยุนมั่นใจมากว่าต้องเป็นเหยาลู่ เขาจึงเร่งเครื่องให้เร็วกว่าเดิม แต่เสียงเรียกเข้าก็ยังคงดังต่อเนื่อง หลิงหยุนได้แต่ขมวดคิ้วและเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะเหยาลู่ไม่เคยเร่งรัดเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไร เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วก็ถึงกับอึ้งไปเมื่อเหลือบเห็นชื่อที่อยู่บนหน้าจอโทรศัพท์! ปรากฏว่าเป็นสายจากหลินเมิ่งหาน! “ยังไงกัน? นี่หลินเมิ่งหานยังไม่ได้ออกจากจิงฉูงั้นรึ? หรือจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนางอีก?” ทันทีที่คิดได้เช่นนั้น หลิงหยุนก็รีบกดรับโทรศัพท์ทันที และเสียงของหลินเมิ่งหานก็ดังขึ้นที่ปลายสายทันที “หลิงหยุน.. มารับฉันที่แองเจลบาร์หน่อย!” เสียงของหลินเมิ่งหานดังแผ่วอยู่ปลายสาย “แองเจลบาร์.. อยู่ที่ใหนล่ะ? แล้วตอนนี้คุณยังอยู่ในเมืองจิงฉูหรือเปล่า?!” หลิงหยุนไม่รู้จัก เพราะแม้แต่โรงแรมแชงกรีล่าเขาเองก็เพิ่งจะเคยไปที่นั่นวันนี้เป็นครั้งแรก หลิงหยุนเหยียบเบรคทันที “เจ้างั่งเอ๊ย! ถ้าฉันไม่อยู่จิงฉู จะโทรหานายทำไมกันเล่า? นายมันคนเลว นายมันคนชั่ว นายมันโง่!” หลินเมิ่งหานรำพึงรำพันอยู่ปลายสาย หลิงหยุนถอนหายใจอย่างโล่งอกพร้อมกับคิดว่าไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับบเธอ น่าจะเมามากกว่า! “สุดยอด.. คุณนี่มันสุดยอดจริงๆ! เอาล่ะ.. อย่าไปใหนล่ะ? รอผมอยู่ที่นั่น ผมจะรีบไปรับ!” พูดจบหลิงหยุนก็วางสายไป แล้วรีบโทรหาตี้เสี่ยวอู๋เพื่อให้เขาบอกเส้นทางไปแองเจลบาร์ นับว่าหลิงหยุนโชคดีไม่น้อยที่ตี้เสี่ยวอู๋เองก็รู้จักที่นั่น และหลังจากวางสายไป ตี้เสี่ยวอู๋ยังนึกแปลกใจว่าดึกดื่นป่านนี้ หลิงหยุนยังจะออกไปดื่มอีกหรือ? หลังจากวางสายจากตี้เสี่ยวอู๋ หลิงหยุนก็รีบขับรถมุ่งหน้าไปที่แองเจลบาร์ทันที! หลินเมิ่งหานเป็นลูกทหาร จึงน่าจะมีการระมัดระวังตัวดีกว่าคนธรรมดา แต่ภายในบาร์ย่อมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกัน หลิงหยุนจึงอดกังวลไม่ได้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเธอ หลินเมิ่งหานเป็นผู้หญิงคนแรกที่หลิงหยุนพบเมื่อตกลงมาบนโลกใบนี้! หลินเมิ่งหานจึงค่อนข้างมีความหมายพิเศษสำหรับเขา.. เธอเป็นตำรวจหญิงที่สวยงามราวกับบนางฟ้า หลิงหยุนช่วยชีวิตเธอ ดุด่าเธอ อีกทั้งยังขับไล่เธออย่างไม่ใยดี แต่ก่อนจจะจากไป หลินเมิ่งหานกลับยอมรับข้อเรียกร้องที่ไร้เหตุผลของเขา ตอนนั้นด้วยความโมโหอย่างมาก หลิงหยุนจึงเรียกร้องเงินจากเธอจำนวนห้าล้านหยวน แต่หลินเมิ่งหานกลับให้เขาถึงสิบล้าน อีกทั้งยังตั้งรหัสบัตรเป็นเลข 9 หกตัว หลิงหยุนเองก็เคยแปลกใจว่า เหตุใดจึงคล้ายกับเบอร์มือถือที่เสี่ยวเม่ยหนิงเลือกให้กับเขา แต่ตอนนี้หลิงหยุนเข้าใจความหมายของตัวเลขเหล่านั้นแล้ว.. หญิงสาวคนนี้ช่างบริสุทธิ์ สดใส แล้วก็น่ารักมาก! “นี่นางยังไม่ได้ออกไปจากจิงฉูงั้นรึ? หรือว่าออกไปแล้ว.. แต่ทำไมถึงยังกลับมาอีก? หรือนางกลับมาเพราะคิดถึงข้า!? ฮ่า.. ฮ่า.. ข้านี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลย!” ที่แองเจลบาร์แสงไฟเป็นประกายระยิบระยับ เสียงเพลงดังกระหึ่ม แสงไฟสีแดงทำให้บรรยากาศภายในบบาร์ดูค่อนข้างมืดคลึ้ม บาร์แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนที่มีชื่อเสียงในเมืองจิงฉู และอยู่ห่างจาก SOS ไม่ถึงหนึ่งกิโลเมตร หลิงหยุนรีบเดินเข้าไปข้างใน จากนั้นก็สอดส่ายสายตาหาหลินเมิ่งหาน และแล้วหลิงหยุนก็พบหญิงสาวสวมเดรสสีขาว กำลังนั่งดื่มอยู่ที่โต๊ะในมุมมืด นอกจากหลินเมิ่งหานแล้ว ยังมีเด็กวัยรุ่นสี่ห้าคนกำลังยืนชนแก้วกับหลินเมิ่งหานอยู่ และดูเหมือนจะไม่มีเจตนาที่ไม่ดีนัก หลิงหยุนได้ยินชัดเจนว่าเด็กหนุ่มเหล่านั้นถามหลินเมิ่งหานว่าต้องการไปต่อข้างนอกหรือไม่? หลิงหยุนรู้สึกไม่พอใจ และรีบเดินเข้าไปหาหลินเมิ่งหานพร้อมกับยกมือขึ้นผลักคนที่อยู่ข้างโต๊ะกระเด็นออกไปพร้อมกับตะโกนว่า “ออกไปให้พ้น!” หัวหน้าของเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ย้อมผมสีแดง ถูกหลิงหยุนผลักจนล้มก้นกระแทกพื้น และเมื่อเห็นหลิงหยุนทำตัวเป็นพระเอกมาช่วยนางเอกคนสวยก็ไม่พอใจ จึงได้ตะโกนถามหลิงหยุนว่า “แกเป็นใคร? อย่างได้มากร่างที่นี่ แหกตาดูซะก่อนว่าที่นี่ถิ่นใคร?” “จัดการมัน!” เด็กผู้ชายหัวแดงดิ้นขลุกขลักพยายามจะลุกขึ้นยืน ร้องสั่งพร้อมกับปาขวดเบียร์ในมือใส่หลิงหยุน หลิงหยุนยิ้มหยัน และเพียงแค่ยกขาขึ้นก็สามารถเตะเด็กหนุ่มอีกสี่ห้าคนลงไปกองกับพื้นพร้อมๆกัน แล้วจึงหันไปพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันไม่สนใจว่าจะถิ่นใคร? แล้วฉันก็จะต่อยหน้าแก อยากจะโดนกันอีกไม๊ล่ะ?” อันธพาลสองสามคนต่างก็หันไปมองหน้ากัน เขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าหลิงหยุนยกขาขึ้นเตะตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เมื่อล้มไปนอนกองกับพื้น จึงได้รู้ตัวว่าพวกเขาได้เจอของแข็งเข้าแล้ว “พี่ครับ.. พวกผมมีตาหามีแวว.. ยกโทษให้พวกผมด้วย..” อันธพาลสองสามคนเห็นหลิงหยุนก็ไม่กล้ามีเรื่องกับเขาอีก และได้ต้องยอมรับว่าเป็นความโชคร้ายของพวกเขาเอง อีกทั้งไม่กล้าที่จจะวอแวกับหลินเมิ่งหานคนสวยด้วย “หลิงหยุน.. มาแล้วเหรอ? นั่งลงแล้วดื่มกับฉันหน่อย..” หลินเมิ่งหานยกแก้วขึ้นพร้อมกับยิ้มให้หลิงหยุน แววตาของเธอมึนเมา และพยายามที่จะลุกขึ้นยืน “ยังจะดื่มบ้าบออะไรอีก! ไม่เห็นรึไงว่าตัวเองเมามากแล้ว? ยังไม่เข็ดอีกหรือไงกับเหตุการณ์เมื่อครั้งที่แล้ว?” ใบหน้าของหลิงหยุนโกรธเกรี้ยว เขาคว้าแก้วออกจากมือหลินเมิ่งหานพร้อมกับวางกระแทกลงไปบนโต๊ะ.. “ไปกับผม!” หลิงหยุนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่จับมือหลินเมิ่งหานไว้ และพยายามพาตัวเธอออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อเห็นรูปร่างที่เซ็กซี่เย้ายวนของหลินเมิ่งหาน เขาก็ได้แต่กระอักระอ่วน แต่หากเขาไม่ประคองเธอไว้ หลินเมิ่งหานก็คงจะต้องล้มลงไปบนพื้นอย่างแน่นอน “นี่คุณผู้หญิงครับ.. จะให้ผมทำยังไงกับคุณดี?!” หลิงหยุนถอนหายใจพร้อมกับเอื้อมมือไปโอบกอดร่างของหลินเมิ่งหานไว้เพื่อจะพาตัวเธอออกไปข้างนอก มือเรียวงามสีชมพูของหลินเมิ่งหานกอดคอหลิงหยุนไว้แน่น พร้อมกับดวงตาที่มึนเมาก็จ้องมองใบหน้าหลิงหยุนอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางสายตาของผู้คน มือของหลินเมิ่งหานจับใบหน้าของหลิงหยุนไว้แน่น พร้อมกับแนบริมฝีปากเล็กๆแต่เย้ายวนของตนเองลงบนริมฝีปากของหลิงหยุน! ดูเหมือนหลินเมิ่งหานจะดูเร่าร้อนมากในวันนี้ เธอแนบริมฝีปากอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง ก่อนจะแทรกซอนลิ้นผ่านริมฝีปากสีแดงสดของตนเอง เข้าไปในริมฝีปากของหลิงหยุนที่เผยอรออยู่ด้วยความตื่นเต้น หลิงหยุนรู้สึกว่าสมองของเขากำลังร่ำร้อง! “หลิงหยุน.. นายต้องการฉันไม๊?” หลิงเมิ่งหานที่ไม่เคยดุดันและเร่าร้อนเช่นนี้มาก่อน กระซิบถามในขณะที่ริมฝีปากยังคงแนบอยู่กับปากของหลิงหยุน หลิงหยุนโอบบร่างบอบบางของหลินเมิ่งหาน และรับรู้ได้ถึงยอดอกที่เบียดเสียดอยู่บนหน้าอกของตนเอง และสัมผัสได้ว่าร่างกายของหลินเมิ่งหานในตอนนี้ร้อนไปทั้งตัว! Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series ยอดนางร้ายมืออาชีพ 最佳女配 Ch. เล่ม 3 10 ยอดนางร้ายมืออาชีพ 最佳女配 องค์หญิงหมอเทวะ Ch. 90 กินอิม 10 องค์หญิงหมอเทวะ The First Order ปฐมภาคีมวลมนุษย์ Ch. 27 โยนภาระ 10 The First Order ปฐมภาคีมวลมนุษย์ มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years Ch. 124 เวลาที่ต้องหมอบคลาน (4) จบเล่ม 5 10 มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม Ch. 501-596 10 My House of Horrors คฤหาสน์สยองขวัญของผม
มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years Ch. 124 เวลาที่ต้องหมอบคลาน (4) จบเล่ม 5 10 มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years