ชาวบ้านได้แต่กลืนน้ําลาย ไม่มีใครหยุดสั่นหรือถอยหลังกลับไปได้
แสงอาทิตย์สะท้อนเข้ากับกระบีนิลโลหิต แม้ว่าจะปราศจากพลังลมปราณ แต่การเคลื่อนไหว ทุกอย่างก็ยังคงเฉียบคมและยังดูตรงไปตรงมา
เลือดหยกจากคมกระบี่
เหงื่อและเลือดปะปนไปทั่วแขนของยู่เฉิงไห่ ดูเหมือนว่าเขาจะคุ้นเคยกับการเข่นฆ่าดี
“ฆ่ามัน!” หมาป่าที่เหลือรีบโจมตียู่เฉิงไห่จากทางด้านข้าง
ในตอนนั้นเองยู่เฉิงไห้ก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว บรรยากาศรอบตัวของเขามันทําให้ยู่เฉิงไห่ดูราวกับยอดฝีมือ เขาหมุนตัวไปเล็กน้อยก่อนที่จะเหวี่ยงกระบีนิลโลหิตด้วยความโกรธ ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ยู่เฉิงไห่ไม่ได้ถอยหลัง เขาเลือกที่จะก้าวไปด้านหน้าแทน กระบี่นิลโลหิตเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แม่นย่า และไร้ความปรานี้ มันตัดผ่านหมาป่าที่เหลือไปอย่างง่ายดาย
เป็นเพราะความแม่นยําในการโจมตีจึงทําให้หมาป่าตายในทันที มันไม่มีแม้แต่โอกาสจะส่งเสียงร้อง
ชาวบ้านต่างก็ล่าถอย
ชาวบ้านที่แข็งแรงหลายคนเลือกที่จะวิ่งออกจากหมู่บ้านไป
หลายคนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่หลายคนเห็นมีเพียงยู่เฉิงไห้ในวัยหนุ่มที่เปื้อนไปด้วยเลือด ชาวบ้านที่เห็นแบบนั้นชี้มาทางยู่เฉิงไห่ “เจ้าหมูสกปรก! แกต้องการจะต่อต้านพวกเราสินะ?”
ชาวรั่วหรี่พุ่งมาหายู่เฉิงไห่ ในอดีตชายคนนี้มักจะตบตียู่เฉิงไห่อยู่เสมอ เมื่อลงโทษเสร็จเขาก็มักจะถ่มน้ําลายใส่ แต่ในวันนี้เขาไม่ได้ทําแบบนั้น เขาเลือกที่จะเหวี่ยงหมัดไปยู่เฉิงไห่แทน เห็นได้ชัดว่าการโจมตีครั้งนี้ไม่คิดที่จะยั้งมืออีก
กระบี่นิลโลหิตแทงไปที่หน้าอกของชายคนนั้นอย่างงดงาม มันเป็นการแทงตรงๆที่ทรงพลัง ไม่มีการเคลื่อนไหวที่ฉดฉาด มันเป็นท่าการสังหารที่ดั้งเดิมแต่ได้ผลมากที่สุด
ร่างกายของชายคนนั้นแข็งที่อ แค่ครูพริบตาเดียวชีวิตของเขาก็หลุดลอยไป
ยู่เฉิงไห่ยกมือซ้ายขึ้นก่อนที่จะผลักหัวชาวบ้านผู้โชคดี
พรึบ!
ชาวบ้านที่เหลือถอยหลังอีกครั้ง
ยู่เฉิงไห่ยังคงเดินต่อไป
ในที่สุดชาวบ้านทั้งหมดก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์อันเลวร้ายได้แล้ว ทาสของดินแดนหยานที่เคยอ่อนแอในอดีตอาไห่ไล่สังหารคนไปทั่ว!
“จับมันซะ!”
ชาวบ้านทุกคนต่างก็เห็นตรงกัน มีเพียงรวมพลังกันเท่านั้นที่จะมีโอกาสชนะ และเพราะแบบนั้นจึงทําให้ทุกคนกล้าหาญมากขึ้น
ยู่เฉิงไห้ไม่ได้แต่กลัวแต่อย่างใด เขากวัดแกว่งกระบี่ในมือก่อนจะพุ่งเข้าหาฝูงชน กระบีนิลโลหิตถูกฟันไปทางซ้ายและขวา ทุกๆครั้งที่มีการเหวี่ยงกระบี่มักจะมีคนตาย แม้จะโจมตีไปด้วย แต่ยู่เฉิงไห่ก็สามารถหลบการโจมตีของชาวบ้านได้ทั้งหมด
ยู่เฉิงไห่ดูคล้ายกับคนเสียสติ การเคลื่อนไหวของเขาเกรี้ยวกราด บ้าคลั่ง และยังเต็มไปด้วยความสับสน กระบี่นิลโลหิตถูกเหวี่ยงไปมาอย่างไม่หยุดพัก
ทั้งหัว แขน ขาที่ถูกฟันต่างก็กระจัดกระจายไปทั่ว
ผู้ฝึกยุทธเกาหลงพูดไม่ออก เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในเวลาสั้นๆ คนธรรมดาจะมีพลังการต่อสู้เพิ่มถึงเพียงนี้ เขาไม่คิดมาก่อนว่าจะมีอัจฉริยะแบบนี้อยู่ ชายหนุ่มคนนี้เชี่ยวชาญในการฆ่าในเวลาอันสั้นได้ยังไงกัน?
กระบี่ที่ไม่มีใครต้านทานได้ผ่านลงบนหิมะ คมกระบี่ของมันแหลมคมจนเชือดเฉือนอากาศได้
เมื่อเหวี่ยงกระบี่แต่ละครั้ง ชีวิตหนึ่งก็จะถูกพรากไป
ชาวบ้านกู่ลั่วตกอยู่ในความโกลาหล
เสียงครวญครางโหยหวนดังต่อเนื่องหลายชั่วโมงและในที่สุดมันก็เงียบหายไป
ชาวบ้านที่เหลือต่างก็ตกตะลึง อาไร่ทาสคนนั้นจัดการทุกคนที่ขวางทางโดยที่ไร้บาดแผลใดๆที่กระบี่ของเขาอาบไปด้วยเลือด
ชาวรั่วหรี่รอบตัวของยู่เฉิงไห่ล้มลงทีละคน
ยู่เฉิงไห่เป็นเพียงคนเดียวที่ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางซากศพ เขาก้าวไปด้านหน้าด้วยสายตาอันแน่วแน่ บางทีอาจจะเป็นเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการเหวี่ยงกระบี่ทําให้เขาเดินโซเซก่อนที่จะแทงกระบี่ลงบนพื้นเพื่อทรงตัว ที่ตัวของยู่เฉิงไห่เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
ในตอนนั้นเอง…
“พอได้แล้ว!” เกาหลงกระทืบเท้า มันเป็นการปล่อยพลังลมปราณออกมาเพื่อใช้พลังฝ่ามือ
เมื่อเห็นแบบนั้นชาวบ้านที่เหลือรอดก็เริ่มมีหวัง
พลังฝ่ามือพุ่งเข้าหายู่เฉิงไห่ ยู่เฉิงไห่ใช้สัญชาตญาณชักกระบออกมาเพื่อป้องกันมัน
ตุ้ม!
กระบี่ถูกจับไว้แน่นในขณะที่เขาถอยกลับไป แม้จะถอยกลับแต่ยู่เฉิงไห่ก็ไม่ได้ล้มลง เขามองไปที่เกาหลงที่กําลังลอยอยู่ในอากาศ
ยู่เฉิงไห่หายใจเข้าลึกๆ เขาต้องการที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นอาจารย์ แต่เป็นเพราะสาเหตุที่ไม่อาจทราบได้คําว่า “ช่วยด้วย” ได้แต่ติดอยู่ในล่าคอของเขา
เกาหลงบินลงมา!
ยู่เฉิงไห่ที่เห็นแบบนั้นได้ท่องอะไรบางอย่างที่คุ้นเคยอยู่ภายในใจ สายลมอันเงียบงัน พลังก็เป็นดั่งสายน้ํา แสงที่ไร้เงากระบี่ที่ไร้ร่องรอย…
เกาหลงใช้พลังฝ่ามืออีกครั้ง! “คนธรรมดาก็คือคนธรรมดา ตายซะ!”
ยู่เฉิงไห่ยกดาบขึ้นก่อนที่จะต่อสู้อย่างกล้าหาญ “สายนํานับร้อยหวนคืนสู่ท้องทะเล!”
ทันทีที่ทั้งสองปะทะกัน ยู่เฉิงไห่ก็กระเด็นกลับไป แขนของเขาที่ปะทะชาจากแรงกระแทก
เกาหลงเองก็กระเด็นกลับ พลังฝ่ามือของเขาสลายไป หลังจากกระเด็นถอยมาได้ครึ่งเมตร เขาก็หยุดนิ่ง นี่มันเป็นไปได้ยังไง? เกาหลงตกใจ “อาวุธระดับสรวงสวรรค์?”
เกาหลงไม่ยอมแพ้ เขากระทืบเท้าก่อนจะพุ่งตรงไป เกาหลงยังคงใช้พลังฝ่ามือจู่โจม
พลังฝ่ามือจํานวนหนึ่งถาโถมใส่ยู่เฉิงไห่
ยู่เฉิงไห่ที่เห็นแบบนั้นตกอยู่ในสภาพที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เขากํากระบีนิลโลหิตเอาไว้แน่น
หรืออ!
กระบี่นิลโลหิตกําลังสั่น
ยู่เฉิงไห่รู้สึกตกตะลึง แต่ถึงแบบนั้นก็ไม่มีเวลาจะมาคิดหาเหตุผล เขารับเหวี่ยงกระบี่เพื่อป้องกันการโจมตี
“ผสานเป็นหนึ่ง!”
กระบีนิลโลหิตปลดปล่อยเงาออกมา มันพุ่งชนเข้ากับพลังฝ่ามือของเกาหลง
ตุ้ม! ตุ้ม! ตุ้ม!
การโจมตีของยู่เฉิงไห่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!
เมื่อชาวบ้านเห็นแบบนั้นทุกคนก็มองหน้ากัน โอกาสตรงหน้าคือโอกาสที่ดีที่สุดแล้วที่จะจัดการยู่เฉิงไห่ ทุกคนหยิบจอบขึ้นมาก่อนจะพุ่งใส่ยู่เฉิงไห่อย่างพร้อมเพรียงกัน
“ฆ่ามัน!”
“ถ้าหากมันรอด พวกเราจะต้องตาย! ฆ่ามันซะ!”
ชาวบ้านที่หยิบอาวุธขึ้นมาเหยียบย่าซากศพด้วยดวงตาสีแดง ทุกคนพุ่งเข้าหายู่เฉิงไห่อย่างไม่ลังเล
ยิ่งยู่เฉิงไห่เหวี่ยงกระบี่นิลโลหิตไปมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนกับตัวเองกลายเป็ นส่วนหนึ่งของกระบี่ ดูเหมือนว่าศักยภาพของยู่เฉิงไห่จะถูกปลดปล่อยออกมามากยิ่งขึ้น
การโจมตีของเกาหลงโหมกระหน่ําใส่ราวกับพายุทําลายล้าง!
ในตอนที่ยู่เฉิงไห่เหวี่ยงกระบอีกครั้ง กระบี่นิลโลหิตก็ถูกปล่อยออกจากมือก่อนจะลอยตัวขึ้น
ทุกอย่างดูเหมือนช้าลง…
ทันทีที่กระบี่นิลโลหิตถูกปล่อยออกจากมือ เกาหลงที่เห็นแบบนั้นก็ทําสีหน้าเย้ยหยัน ถึงเวลาจบการต่อสู้แล้วสินะ!”
กระบี่นิลโลหิตหมุนไปในอากาศ มันหมุนไปได้พักหนึ่งก่อนที่จะส่งเสียงออกมา ในที่สุดกระบี่นิลโลหิตก็ปลดปล่อยกระบี่พลังงานออกมา…
กระบี่พลังงานขนาดเล็กจัดการกับชาวรั่วหรี่ที่วิ่งเข้าหา
ตุ้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตุ้ม!
“อนุสรณ์สรวงสวรรค์แห่งความมืด!”
ชาวรั่วหรี่แทบทุกคนล้มลงในทันที
ซากศพของพวกเขานอนซ้อนทับกัน
ตุ้ม!
กระบีพลังงานสุดท้ายแทงทะลุหัวใจของเกาหลงไป
เมื่อสิ้นสุดการโจมตึกระบี่นิลโลหิตก็บินกลับไปหายู่เฉิงไห่ ความเหน็บหนาวของมันรวมไปถึงความสง่างามที่มีเพิ่มมากขึ้น
การต่อสู้สิ้นสุดลง
เกาหลงมองไปที่ยู่เฉิงไห่ในขณะที่อ้าปากค้าง เมื่อมองไปที่เด็กหนุ่มตรงหน้าปากของเขาก็เริ่มขยับ “เป็นไปไม่ได้…นี่มันเป็นไปไม่ได้…”
ในที่สุดเกาหลงก็ล้มลง แม้จะล้มลงไปแล้วเขาก็ยังพึมพ์คําว่าเป็นไปไม่ได้ออกมา ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ตายไปทั้งแบบนั้น
ยู่เฉิงไห่นั่งลงไปกับพื้น ที่อ้อมอกของเขามีกระบี่นิลโลหิตถูกกอดเอาไว้ ใบหน้าของยู่เฉิงไห่เต็มไปด้วยความตกใจ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เห็น “ข้าเป็นคนทําอย่างงั้นเหรอ?
เสื้อผ้าของเขาขาดก็เพราะพลังฝ่ามือของเกาหลง แสงอาทิตย์ได้เผยให้เห็นรอยแผลทั้งหมดที่อยู่ทั่วร่างกายของยู่เฉิงไห่
สาวกของศาลาปีศาจลอยฟ้าตกตะลึง ไม่มีใครคิดสงสัยในความสามารถของเขา
ทั้งบุคลิก ประสบการณ์ …ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนถูกขัดเกลามาดี
“อัจฉริยะ! เขาจะต้องเป็นอัจฉริยะที่เหนือไปกว่าหอยสังข์แน่! ไม่แปลกเลยที่ท่านปรมาจารย์อยากรับเขาเป็นศิษย์” ฝานซึ่งเป็นผู้ทําลายความเงียบคนแรก แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทําอะไรเลยก็ตาม แต่ตัวฝานซงเองกลับรู้สึกตื่นเต้นราวกับกําลังได้ต่อสู้เอง
“ท่านปรมาจารย์มีสายตาที่เฉียบคมมองเห็นคนมีพรสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีคนแบบนี้อยู่”
ลู่โจวมองไปที่ยู่เฉิงไห่อย่างพึงพอใจ
ในตอนนั้นเองมีใครบางคนปรากฏตัวออกมาจากหมู่บ้าน
“กล้าดียังไงมาฆ่าศิษย์ข้า? ข้าจะฆ่าเจ้า!”
ชายคนนั้นเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว พลังวรยุทธที่ชายคนนั้นมีเหนือไปกว่าเกาหลงอย่างเห็นได้ชัด!
แบบนี้แย่แน่! ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะมียอดฝีมือเช่นนี้อยู่
สุดยอดเคล็ดวิชา?
ชายคนนั้นบินมาพร้อมกับพลังฝ่ามือ พลังฝ่ามือที่ถูกปลดปล่อยมาทรงพลังเหมือนกับจะสามารถทําลายหมู่บ้านได้…
ตุ้ม!
ยู่เฉิงไห่หมดแรงไปแล้ว เขาทําได้เพียงหลับตารับการโจมตี
ในตอนนั้นเองก็มีเสียงปะทะดังขึ้น
ยู่เฉิงไห่คิดว่าตัวเองต้องตายแล้วแน่ แต่เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งตัวเขาก็ยังไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไร ยู่เฉิงไหลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เขามองเห็นชายชราคนหนึ่งกําลังยืนอยู่ต่อหน้า ชายชราคนนั้นดูสูงส่งราวกับภูเขาที่สูงที่สุด
ฝ่ามือที่โจมตีมาไม่ได้ถูกตัวยู่เฉิงไห่ มันถูกตัวของชายชราตรงหน้า
เมื่อเห็นแบบนั้นยู่เฉิงไห้ก็สิ้นหวัง เขารีบมองขึ้นไป ลู่โจวที่รับการโจมตียังคงลบเคราอย่าง
สบายๆ
“ข้าน่ะเกลียดเจ้าพวกที่ชอบลอบโจมตีมากที่สุด ไสหัวไปซะ!” พลังอันมหาศาลไหลออกมาจากตัวของลู่โจว!
คลื่นเสียงนั้นเปรียบเหมือนพลังฝ่ามืออันยิ่งใหญ่ มันกระทบเข้ากับชายปริศนา และก็เพราะแบบนั้นอวัยวะภายในของเขาจึงได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าของชายคนนั้นบิดเบี้ยวไปเพราะความเจ็บปวด
ทุกอย่างจบลงด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว!