มหากาพย์ดาบเทวะ! 81

ตอนที่ 81

ตอนที่ 81 กลุ่มดาบเทวะสวรรค์

จางเหวินหันไปมองหยางเย่ขณะที่เส้นเลือดบนหน้าผากยังปูดโปน ดวงตาของเขาราวกับจะลุกเป็นไฟ “อะไร?”

ทันทีที่กล่าวจบ พลังปราณล้ำลึกในร่างเขาแผ่ออกมาพร้อมจะโจมตี

หยางเย่ไม่สนอารมณ์โกรธของจางเหวินพร้อมกล่าวอย่างเย็นชา “ขอโทษชิงเสวียก่อน”

“หยางเย่ อย่าให้มันมากไปกว่านี้!” จางเหวินมองกลับไปยังหยางเย่พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว

ชิงเสวียต้องการจะกล่าวบางอย่าง แต่หยางเย่ส่ายหัวและหันไปมองจางเหวิน “หากไม่ขอโทษ เช่นนั้นข้าจะท้าประลองเจ้าที่ลานประลองเป็นตายบ้าง และสังหารเจ้าเสีย”

ทันทีที่เห็นชิงเสวีย ความคิดหนึ่งปรากฏในใจหยางเย่ เป็นความคิดที่ว่าเขาจะสร้างกองกำลังเป็นของตนเอง มีเพียงการสร้างกองกำลังและอิทธิพลใหญ่โตเท่านั้นที่จะต่อกรกับราชวังบุปผาได้ในอนาคต มิเช่นนั้นเขาก็ต้องพึ่งพาตนเอง อย่าว่าแต่เผชิญหน้ากับราชวังบุปผา แค่เอาชีวิตรอดจากการถูกไล่ล่าก็ไม่สามารถทำได้แล้ว

เหตุการณที่เกิดขึ้นตอนนี้ เป็นโอกาสที่เขาจะแสดงความแข็งแกร่งเพื่อดึงพวกเขามาอยู่ด้วย ถึงแม้ความแข็งแกร่งของบรรดาศิษย์นอกจะค่อนข้างอ่อนแอในตอนนี้ แต่ในอนาคตพวกเขาจะเป็นเสาหลักของสำนักได้แน่นอน ดังนั้นหากดึงพวกเขามาอยู่ข้างได้ เขาจะมีกองกำลังพอจะสู้กับราชวังบุปผาได้

บางทีมันอาจจะไม่เกิดขึ้นในอนาคต แต่หยางเย่ต้องคว้าไว้ทุกโอกาส ดังนั้นเขาจึงไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบโดยง่าย!

บรรดาศิษย์นอกตกตะลึงเมื่อพวกเขาได้ยินหยางเย่ เพราะหยางเย่มีความมั่นใจอย่างมาก หยางเย่ไม่ได้เป็นอมตะแม้จะผ่านไปถึงชั้นที่ยี่สิบสอง และจางเหวินก็อยู่ขั้นปราณสวรรค์ระดับสาม เขามั่นใจในความสามารถตนเองว่าจะสังหารจางเหวินได้งั้นหรือ?

หลังจากพวกเขาหายจากอาการตกตะลึง ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้นและยินดี โดยเฉพาะศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังชิงเสวีย พวกเขาถูกจางเหวินกดดันก่อนหน้านี้จนหายใจกันแทบไม่ออก ตอนนี้เมื่อเห็นจางเหวินถูกตบหน้าโดยหยางเย่ มันรู้สึกราวกับได้ดื่มน้ำเย็นในฤดูร้อนที่อบอ้าว

ในอีกด้านหนึ่ง บรรดาศิษย์ด้านหลังเจียงหยวนแสดงท่าทีชื่นชมผ่านสายตาไปที่หยางเย่ พวกเขาบางคนเหมือนจะครุ่นคิดบางอย่าง

เหตุใดศิษย์ใหม่ถึงก่อตั้งกลุ่มของตนเองงั้นหรือ? เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกระรานของพวกอื่น และเพื่อแสดงอำนาจของตนเอง ตอนนี้เมื่อพวกเขาเห็นหยางเย่ช่วยกลุ่มของชิงเสวีย บรรดาศิษย์ที่ยืนด้านหลังเจียงหยวนคิดว่า ถ้าถูกศิษย์รุ่นพี่มาระรานพวกเขา เจียงหยวนจะสามารถช่วยเหลือได้เช่นนี้หรือไม่?

คำตอบคือไม่! ถึงแม้เจียงหยวนจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งแรกระหว่างการทดสอบสำนักนอก มันก็เห็นได้ชัดจากทัศนคติเจียงหยวนต่อจางเหวิน เมื่อนึกได้เช่นนั้น บรรดาศิษย์ด้านหลังเจียงหยวนได้เกิดความลังเลขึ้นมา

หัวใจเจียงหยวนหล่นวูบในทันทีที่เห็นท่าทีของทุกคน เขาทราบดีว่ากลุ่มนี้เพิ่งสร้างขึ้นมาเช่นกัน และก็อาจยุบได้อย่างรวดเร็ว

หยางเย่สังเกตเห็นท่าทีของพวกเขาเช่นกัน และมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ!

เขาหันไปมองจางเหวิน เวลานี้ท่าทีของจางเหวินดูโกรธอย่างมากพร้อมกำหมัดแน่น เขามองไปที่หยางเย่ด้วยสายตาที่เคียดแค้นนัก

ไฟแห่งความโกรธปะทุขึ้นในใจจางเหวินจนไกลถึงขีดสุด ตอนนี้เขาต้องการจะทำลายวรยุทธ์หยางเย่และสังหารเขาเสีย เพราะหยางเย่ล้ำเส้นมากเกินไป แต่ก็ยังมีเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ทำเช่นนั้น โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นกับต้วนจวินในวันนั้น ไม่ใช่ว่าเขาทำไม่ได้ แต่เขาไม่กล้าที่จะทำ

เมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทีเหยียดหยามจากบรรดาศิษย์นอก จางเหวินก็ยิ่งเพิ่มไฟโกรธขึ้นทุกที เขาเป็นศิษย์บนเทียบอันดับสำนักนอก และไม่อาจจะเสียหน้าเช่นนี้ได้ หากขอโทษภายใต้การบีบบังคับ เช่นนั้นเขาจะต้องกลายเป็นตัวตลกของสำนักนอกแน่นอน

ขณะที่จางเหวินกำลังจะแสดงท่าทีไม่พอใจ กลุ่มศิษย์นอกอีกกลุ่มได้เดินเข้ามา

เมื่อพวกเขาเห็นกลุ่มนี้ ท่าทีของศิษย์ด้านหลังชิงเสวียดูเคร่งเครียดและหวาดกลัว เพราะพวกเขาไม่ทราบว่ากลุ่มนี้เป็นใคร ดังนั้นมันอาจเป็นกลุ่มรุ่นพี่ของพวกเขาก็ได้

จางเหวินถอนหายใจโล่งอกเมื่อเห็นคนกลุ่มนี้ เพราะเขาไม่ต้องการรับคำท้าหยางเย่ แม้เขาไม่เคยสู้กับหยางเย่มาก่อน แต่ก็ทราบดีถึงความน่าสะพรึงของสตรีปีศาจ แต่สตรีปีศาจผู้นั้นก็ไม่สามารถไปถึงชั้นยี่สิบสองเหมือนหยางเย่ได้ ดังนั้นก็เห็นได้ชัดว่าหยางเย่แข็งแกร่งกว่า

จางเหวินไม่สนใจหยางเย่อีก เขารีบเดินไปทักทายกลุ่มศิษย์นอกที่เพิ่งมาถึงอย่างสุภาพ “คารวะศิษย์พี่ฉินเฟิง!”

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำความเคารพชายผู้นี้ เพราะคนที่ชื่อฉินเฟิงอยู่อันดับสองของเทียบอันดับสวรรค์ ปัจจุบันนอกจากสตรีปีศาจ ฉินเฟิงคือคนที่แกร่งสุดในบรรดาศิษย์นอก

ฉินเฟิงมองอย่างเย็นชาไปยังจางเหวินก่อนจะหันไปหาหยางเย่ “ข้าได้ยินว่าเจ้ากลับมาจึงตั้งใจมาหาที่นี่ เจ้ามีเวลาสักครู่หรือไม่?”

เขาต้องการจะเห็นความแข็งแกร่งของหยางเย่ผู้ที่ทำลายสถิติของสตรีปีศาจ

หยางเย่มองยังจางเหวินพร้อมกล่าว “ท่านอยู่ข้างเขางั้นหรือ?”

ฉินเฟิงส่ายหัวพร้อมกล่าว “ข้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา ข้ามาเพื่อสนทนากับเจ้าเท่านั้น!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหยางเย่ไม่ลังเลที่จะพยักหน้าพร้อมกล่าว “ตกลง!”

ฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินหยางเย่เห็นด้วย “มาหาข้าเมื่อเจ้าบรรลุขั้นปราณสวรรค์ระดับแรก!”

ทันทีที่กล่าวจบเขามองไปที่จางเหวิน “เจ้าทำให้ชื่อเสียงของศิษย์นอกบนเทียบอันดับสำนักเสื่อมเสีย!”

ศิษย์นอกคนอื่นก็มองจางเหวินด้วยสายตาเหยียดหยามเช่นกัน พวกเขาไม่คาดคิดว่าจางเหวินจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของศิษย์ใหม่ ตามกฎของสำนัก เมื่อมีศิษย์ใหม่ก่อตั้งกลุ่ม ศิษย์รุ่นพี่จะต้องไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวของพวกเขา

มันเป็นกฎที่สืบทอดกันมาในสำนักดาบราชัน เมื่อพวกเขาเข้าเป็นศิษย์ใหม่ที่นี่ รุ่นพี่พวกเขาก็ทำเช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้น หลังจากศิษย์ใหม่เริ่มเข้ามา การทดสอบเข้าเป็นศิษย์ในก็จะเริ่มขึ้นในอีกสองเดือน ดังนั้นเมื่อต้องยุ่งอยู่กับการฝึกฝน พวกเขาจะเอาเวลาไหนไปยุ่งกับศิษย์ใหม่กัน?

แต่จางเหวินกับไม่ใช่ ไม่เพียงแค่จะมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องกลุ่มแล้ว เขายังกลั่นแกล้งคนที่อ่อนแอกว่า ยิ่งกว่านั้นยังไม่กล้าพอจะรับคำท้าประลอง!

ฉินเฟิงมองอย่างเย็นชาไปที่จางเหวินที่แสดงท่าทีน่ารังเกียจ จากนั้นจึงได้พาศิษย์คนอื่นจากไป หากหยางเย่เป็นคนไประรานคนที่อ่อนแอกว่า เช่นนั้นฉินเฟิงคงสั่งสอนไปแล้ว แต่ปัญหาคือจางเหวินเองที่คนกระทำ ดังนั้นหากเขาอยู่ข้างจางเหวิน ไม่ว่าแพ้หรือชนะก็จะต้องเสียหน้าอยู่ดี

ชิงเสวียและศิษย์คนอื่นต่างพากันถอนหายใจเมื่อเห็นฉินเฟิงจากไป โชคดีที่ศิษย์นอกคนอื่นไม่ได้ไร้ยางอายแบบจางเหวิน มิเช่นนั้นพวกเขาคงไม่มีโอกาสรอดแน่

หยางเย่มองไปยังจางเหวินพร้อมกล่าว “ขอโทษได้หรือยัง?”

“ขอโทษเดียวนี้! ขอโทษเสีย…”

“บัดซบ! อย่าคิดว่าจะรอดไปได้หากเจ้าไม่ขอโทษพี่ศิษย์พี่ชิงเสวีย!”

“ขอโทษเดียวนี้! ขอโทษศิษย์พี่ชิงเสวีย!”

เวลานี้ศิษย์นอกด้านหลังชิงเสวียเริ่มเข้าไปล้อมจางเหวิน พวกเขาบอกให้จางเหวินกล่าวคำขอโทษ

ประกายแห่งความสุขปรากฏผ่านดวงตาชิงเสวียเมื่อนางเห็นคนในกลุ่มเริ่มร่วมมือกัน ในตอนแรกพวกเขาขาดความสามัคคีกัน นางตั้งใจจะให้พวกเขากลมเกลียวกันอย่างช้า ๆ จากการไปขุนเขาไม่สิ้นสุดเพื่อฝึกฝน แต่นางไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นได้รวดเร็วจากคำของหยางเย่

ท่าทีเจียงหยวนดูไม่บิดเบี้ยวเมื่อเห็นกลุ่มของชิงเสวียสามัคคีกัน เขามองไปที่หยางเย่ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

เมื่อหยางเย่อยู่ที่นี่ มันก็หาได้มีหนทางใดจะเอาชนะกลุ่มของชิงเสวียได้อีก ยิ่งกว่านั้นกลุ่มของชิงเสวียยังสามัคคีกันขณะที่กลุ่มของเขามีแต่คนคิดจะออก ดังนั้นเขาจะสู้ได้อย่างไร? เจียงหยวนจึงตัดสินใจออกไปตอนนี้ เพราะหากไม่ทำเช่นนั้น คนในกลุ่มเขาจะต้องไปเข้าร่วมกลุ่มของชิงเสวียแน่นอน

สำหรับจางเหวิน เขาลืมไปนานแล้วว่ามีเจียงหยวนอยู่

เวลานี้จางเหวินหาได้มีความรู้สึกชิงชังหรือโกรธไม่ มันกลายเป็นความหวาดกลัวแทน เขาไม่คาดคิดว่าบรรดาศิษย์ใหม่จะสามัคคีกันถึงเพียงนี้ เขารู้ตัวดีว่าหากไปกล่าวคำขอโทษ บรรดาศิษย์ใหม่จะต้องจัดการเขาแน่นอน ถึงแม้กฎของสำนักดาบราชันจะห้ามให้ผู้อื่นต่อสู้กันนอกจากลานประลองเป็นตาย แต่ด้วยเงื่อนไขอย่างอื่นเขาก็ไม่กล้าเสี่ยงไปมากกว่านี้

จางเหวินสูดหายใจลึกก่อนจะมองไปที่ชิงเสวียพร้อมเอ่ย “ข้าขอโทษ!”

ทันทีที่กล่าวจบเขาหันไปมองหยางเย่ด้วยแววตาขุ่นเคืองก่อนจะหันหลังจากไป!

พวกเขาทุกคนต่างพากันโห่ร้องเมื่อจางเหวินยอมขอโทษ เหตุการณนี้ทำให้พวกเขาสามัคคีกัน เช่นนั้นศิษย์จากเทียบอันดับสำนักก็ไม่กล้ามาระรานพวกเขาอีก แน่นอนว่าพวกเขาทราบดีว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นได้เพราะหยางเย่

เมื่อนึกได้เช่นนั้น สายตาทุกคู่มองไปยังหยางเย่ด้วยสายตาแห่งความนับถือ

ชิงเสวียยิ้มขณะมองดูบรรดาศิษย์ที่ตื่นเต้นอยู่ “พี่หยาง กลุ่มพวกเรายังขาดชื่อเรียก เหตุใดท่านจึงไม่ตั้งมันให้พวกเราล่ะ?”

เมื่อสังเกตเห็นสายตายทุกคู่มองมา หยางเย่จึงไม่คิดจะปฏิเสธ เขาคิดอยู่ชั่วขณะก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเบา “พวกเราเป็นศิษย์ของสำนักดาบราชัน และพวกเราทุกคนต่างใช้ดาบ ข้าคิดว่า ‘กลุ่มดาบเทวะสวรรค์’

“ดาบเทวะสวรรค์?” ชิงเสวียครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหันไปมองผู้อื่น “พวกเจ้าคิดเห็นว่ายังไง?”

ศิษย์ทุกคนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าตาม

ชิงเสวียเผยรอยยิ้มเมื่อเห็นเช่นนั้น ไม่นานนางได้กล่าวด้วยเสียงดังก้อง “เอาล่ะ จากนี้ไปพวกเราคือกลุ่มดาบเทวะสวรรค์!”

มหากาพย์ดาบเทวะ!

มหากาพย์ดาบเทวะ!

Score 10
Status: Completed
ครอบครัวหยางเย่เชื่อมั่นในตัวเขา ขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนจะไปได้ด้วยดี โชคร้ายกลับซัดกระหน่ำเข้ามาแทบไม่หยุดยั้ง เขาจะลุกขึ้นเผชิญความลำบากนี้เพื่อปกป้องคนที่เขารักได้ยังไง?

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options

not work with dark mode
Reset