ตอนที่ 11 ความเจ็บปวดของบรรดาผู้อาวุโส 1
เมื่อนางเห็นท่าทีของบรรดาศิษย์ เปาเอ๋อหรี่ตาเล็กลง “อะไรกัน? พวกเจ้าตั้งใจจะไม่จ่ายเพราะเห็นข้าเป็นเด็กหรือ?”
เปลือกตาเจียงชิวสุ่ยกระตุก ดวงตาเขาสั่นไหวยามมองไปยังเปาเอ๋อ จากนั้นเขายิ้มออกมาพร้อมเอ่ย “พวกเราหรือจะกล้าทำ? แม่นางเองก็ตระหนักได้ดีว่าตอนนี้พวกเราไม่มีหินพลังปราณมากมายเพียงนั้น เหตุใดจึงไม่กลับไปรับพวกมันกับเรา? แม่นางคิดเห็นเช่นไร?”
หลังจากได้ยิน บรรดาศิษย์ข้างหลังเจียงชิวสุ่ยสบสายตากัน ทั้งยังส่อประกายน่ากลัวและเย็นเยือก พวกเขาพยักหน้าเล็กน้อยแสดงท่าทีเห็นด้วยกับเจียงชิวสุ่ย
ความจริงแล้วพวกเขาหาได้มีหินพลังปราณมากมายเพียงนั้นไม่ และถึงมีก็ไม่มีทางส่งมอบออกไป ในเมื่อไม่อาจหาพวกมันมาได้ ดังนั้นวิธีการจึงมีเพียงหนึ่ง ก็คือกำจัดเด็กน้อยตรงหน้าผู้นี้เสีย!
แม้ทราบว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ธรรมดา ทว่าทางเลือกไม่มีแล้ว เพราะแม้กระทั่งผู้อาวุโสนอกสำนักยังไม่อาจหาหินพลังปราณนับหมื่นได้!
ยามนี้ พวกเขาเห็นพ้องต้องกันไปโดยปริยาย
ครั้งได้ยินเจียงชิวสุ่ยกล่าว สายตาเปาเอ๋อมองไปที่บรรดาศิษย์นอกสำนักทุกคน เมื่อไม่เห็นผู้ใดคัดค้าน นางชี้ไปยังออกไปและหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เยี่ยม เยี่ยมมาก พวกเจ้าคิดว่าเปาเอ๋อโง่งั้นหรือ? พวกศิษย์นอกสำนักได้รับแค่ยี่สิบหินพลังปราณต่อเดือน แม้แต่ศิษย์อันดับสูงยังได้แค่หนึ่งร้อยหินพลังปราณต่อเดือน ดังนั้นพวกเจ้าจะครอบครองหินพลังปราณมากมายขนาดนั้นได้ยังไง? พวกเจ้าคิดจะพาเปาเอ๋อไปยังสถานที่ที่ลับตาคนและสังหารเปาเอ๋อใช่หรือไม่?”
รอยยิ้มบนหน้าเจียงชิวสุ่ยแข็งทื่อเมื่อได้ยิน เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะฉลาดอย่างยิ่ง จากนั้นจึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว “พวกข้าเป็นถึงศิษย์นอกสำนัก จะกล้าสังหารผู้อื่นได้ยังไง? ข้ากล่าวความจริง หากเจ้ามาด้วยกับพวกเราก็จะมอบหินพลังปราณให้ แต่หากไม่ตามมาข้าก็ไร้หนทาง ที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริงใช่หรือไม่!?” ขณะกล่าวก็มองไปยังบรรดาศิษย์ข้างหลัง
“ถูกแล้วแม่นาง หากเจ้าไม่มากับพวกข้า พวกข้าเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี…”
“พวกเราเป็นศิษย์นอกสำนักจะกล้าหลอกลวงเจ้าได้อย่างไรกัน?”
“ใช่แล้วแม่นาง มาด้วยกัน พวกเราจะจ่ายหินพลังปราณให้ ดูสิ พวกข้าเหมือนคนหลอกลวงหรือไง?”
นางมองพวกเขาที่แสดงท่าทีไร้ยางอาย เปาเอ๋อโกรธจนถึงขีดสุดพร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ นางชี้ไปยังพวกเขาพร้อมกล่าว “วิเศษ! วิเศษนัก! หาได้เคยมีผู้ใดกล้ารังแกเปาเอ๋อไม่ พวกเจ้าจงรอรับชม! จงรอ!” กล่าวคำจบ เปาเอ๋อจึงวิ่งไปยังลานประลองเป็นตาย
เมื่อเห็นเปาเอ๋อโกรธถึงขนาดไปจาก บรรดาศิษย์นอกสำนักต่างถอนหายใจโล่งอก พวกเขาคิดอยากรับชมว่านางคิดทำอะไร
ยามเมื่อเห็นเปาเอ๋อวิ่งขึ้นไปบนลานประลองเป็นตาย ผู้อาวุโสนอกสำนักด้านล่างจึงขมวดคิ้ว พวกเขาตระหนักได้ถึงคำ “ยันต์” บนอกเสื้อของเปาเอ๋อ คิ้วยามนี้ต้องขมวดมุ่น คำกล่าวออกอย่างเบาค่อย “เหตุใดนางมารน้อยจึงมาที่นี่?”
เมื่อเห็นเปาเอ๋อวิ่งมายังลานประลองเป็นตาย หยางเย่ผู้ซึ่งดูดซับพลังปราณพลันเบิกตาขึ้น กล่าวทักทายเปาเอ๋อ แต่ยามนี้เองที่เปาเอ๋อชี้ไปยังบรรดาศิษย์นอกสำนักที่อยู่ไกลห่าง คำตะโกนดังออก “ข้า เปาเอ๋อขอประกาศว่านับแต่วันนี้ ยอดเขายันต์จะหยุดส่งยันต์ทั้งหมดแก่ศิษย์นอกสำนัก และยอดเขายันต์จะไม่รับคำขอสลักหรือซ่อมแซมสมบัติจาบรรดาผู้อาวุโสนอกสำนัก กล่าวโดยสรุป ทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับสำนักนอก ยอดเขายันต์จะปฏิเสธให้ความช่วยเหลือทุกสิ่งอย่าง!”
เมื่อได้ยินเปาเอ๋อกล่าวเช่นนั้น พวกเขาชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงหัวเราะลั่นออกมา แม้กระทั่งเจียงชิวสุ่ยและศิษย์คนอื่นต่างก็หัวเราะด้วย
“นางคิดว่าตนเองเป็นใครกัน? เจ้าสำนักงั้นหรือ? ข้าหัวเราะแทบตายแน่ะ…”
“ยกเลิกทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับศิษย์นอกสำนัก? นางโมโหจนเป็นบ้าไปแล้วหรือ?”
“นี่เป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิตข้าาตั้งแต่อยู่ในสำนักดาบราชันมา ฮ่าฮ่าฮ่า…”
เมื่อได้ยินเปาเอ๋อกล่าว ท่าทีผู้อาวุโสเฉาหัวที่ยืนอยู่ข้างลานประลองเป็นตายเปลี่ยนไปทันที เขามองไปยังบรรดาศิษย์นอกสำนักที่กำลังตะโกนและหัวเราะกัน “หุบปาก!” น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยพลังปราณล้ำลึกและรุนแรงราวกับสายฟ้าพุ่งเข้าหูศิษย์ทุกคน
ท่าทีบรรดาศิษย์เปลี่ยนไปทันที พวกเขามองไปยังผู้อาวุโสที่โกรธเกรี้ยวพร้อมสงสัยว่าเหตุใดจึงตะคอกออกมา
เฉาหัวไม่สนใจบรรดาศิษย์นอกสำนัก ร่างเขาทะยานขึ้นบนลานประลองเป็นตาย เมื่อมองไปยังเปาเอ๋อที่โกรธจัดอยู่ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนหน้าที่เคร่งขรึม “แม่นางเปาเอ๋อไฉนวันนี้จึงมาเล่นที่นี่กัน!?”
เมื่อเห็นภาพนั้น บรรดาศิษย์นอกสำนักใจกระตุกแรง เพราะพวกเขาทราบแล้วว่ามันอาจไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย
ทันทีที่เห็นผู้อาวุโสปรากฏตัวบนลานประลอง หยางเย่แสดงท่าทีอึดอัดพร้อมกล่าวในใจ “ปราณราชัน”
หลังจากระดับเก้าของปราณมนุษย์ จะเป็นปราณสวรรค์ขั้นแรก จากนั้นจึงเป็นปราณราชัน ชายชราผู้นี้สามารถบินได้โดยปราศจากแรงส่งภายนอก มันเป็นพลังที่มีเพียงผู้บรรลุปราณราชันเท่านั้นสามารถทำได้ แม้แต่ยอดฝีมือขั้นปราณราชันยังแสดงความเคารพต่อเด็กน้อยอย่างเปาเอ๋อ มันทำให้หยางเย่สงสัยในตัวตนของเปาเอ๋อมากยิ่งขึ้น