Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 411 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 411 ตอนที่ 411 Posted by , ? Views, Released on January 2, 2021 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest [ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร ] บทที่ 411: ไฉเจี๋วย! “ไปหาข้าวเช้ากินกันดีกว่า!” หลิงหยุน หนิงหลิงยู่ เสี่ยวเม่ยหนิง ถังเม่ง ทั้งสี่คนต่างก็แยกย้ายไปขึ้นรถของตัวเอง และขับออกจากอพาร์ทเมนท์ เมื่อขึ้นไปบนรถ หนิงหลิงยู่เพิ่งจะสังเกตุเห็นว่าเสื้อของหลิงหยุนตรงไหล่นั้นเปียกไปด้วยน้ำตาของเธอ เธอจึงรู้สึกเก้อเขินและกระอักกระอ่วนอย่างมาก หลิงหยุนลูบไหล่ของหนิงหลิงยู่เบาๆพร้อมกับพูดปลอบใจ “ไม่เป็นไร.. วันนี้พี่ใหญ่จะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้านะ!” จะว่าไปแล้ว ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น หลิงหยุนค่อนข้างยุ่งมาก และไม่มีเวลาได้อยู่กับหนิงหลิงยู่เลย เขาจึงค่อนข้างรู้สึกผิด และต้องการที่จะชดเชยให้กับเธอ “หลิงยู่.. เธออยากรู้ใช่ไม๊ว่าวันๆพี่ใหญ่หายไปทำอะไรบ้าง? วันนี้พี่จะพาเธอไปกับพี่ทั้งวัน เธอจะได้รู้ว่าพี่ทำอะไรยังไงบ้าง?” หนิงหลิงยู่ได้ฟังก็ตาเป็นประกายพร้อมกับพยักหน้าอย่างตื่นเต้น.. ระหว่างที่ทานอาหารเช้าอยู่นั้น หลิงหยุนก็ได้โทรหาตี้เสี่ยวอู๋สั่งให้เขาเขาขับรถแลนด์โรเวอร์มาที่นี่ หลังจากที่ทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็ยิ้มและพูดกับเสี่ยวเม่ยหนิงว่า “หนิงน้อย.. วันนี้เป็นวันจันทร์ เธอควรจะกลับไปเรียนนะ” เสี่ยวเม่ยหนิงที่กลัวอยู่แล้วว่าหลิงหยุนจะไล่เธอกลับไปที่โรงเรียน จึงรีบแย้งขึ้นมาทันที “อะไรกัน?! พี่กับพี่หลิงยู่ แล้วก็ถังเมิ่งกับตี้เสี่ยวอู๋ยังโดดเรียนกันได้เลย แล้วทำไมถึงให้ฉันกลับไปเรียนอยู่คนเดียว? ฉันไม่ไปหรอก ฉันจะไปกับพวกพี่!” หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมกับอธิบายว่า “หนิงน้อย.. อาทิตย์ที่แล้วเธอก็ขาดเรียนไปตั้งสองสามวัน แล้วก็ไม่ได้ส่งการบ้านอีกตั้งหลายชิ้น มัธยมต้นกับมัธยมปลายไม่เหมือนกันนะ มัธยมปลายก็แค่ทบทวนบทเรียน แต่มัธยมต้นครูจะสอนเรื่องใหม่ๆ เอาล่ะ.. เชื่อฟังผม แล้วกลับไปเรียนซะ!” หนิงหลิงยู่รู้ดีว่าเสี่ยวเม่ยหนิงไม่อยากไปโรงเรียน เธอจึงยิ้มและอธิบายว่า “หนิงน้อย ที่พี่ใหญ่พูดก็ถูกนะ! ถึงแม้เธอจะเป็นเด็กเฉลียวฉลาดอยู่แล้ว แต่การเรียนให้จบมัธยมก็เป็นเรื่องสำคัญ อีกอย่างถ้าเธอไม่ขยันเรียนตอนนี้ จะต้องไปเรียนหนักในช่วงปิดเทอมแทนนะ” หนิงหลิงยู่เป็นนักเรียนระดับหัวกะทิของโรงเรียนมัธยมจิงฉู และสอบได้ที่หนึ่งมาตลอด เธอจึงพูดออกมาจากประสบการณ์ของตัวเธอเอง เสี่ยวเม่ยหนิงไม่มีทางเลือกจึงได้แต่เลิกต่อต้าน และพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจนัก “พี่หลิงหยุน.. พี่ต้องเปิดมือถือไว้ตลอดล่ะ ฉันคิดถึงพี่เมื่อไหร่จะได้โทรหาได้!” หลิงหยุนพยักหน้าและให้สัญญาก่อนจะส่งเสี่ยวเม่ยหนิงกลับไป “พวกเราไปหาเตาฉีกัน.. ตี้เสี่ยวอู๋ นายโทรบอกเตาหยงด้วยว่าพวกเรากำลังจะไปพบเขา!” “พี่ใหญ่คะ.. เตาฉีเป็นใครกัน?” หนิงหลิงยู่ถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น “เขาก็คือคนที่มีแผลเป็นบนใบหน้า แล้วก็เป็นคนที่พาลูกน้องไปถล่มคลีนิคของแม่ครั้งนั้นไงล่ะ!” “คนนั้นเองเหรอ..” หนิงหลิงยู่ยังจำได้ว่าตอนนั้นเตาฉีเอาแต่หัวเราะ และอันธพาลหลายคนก็รุมล้อมหลิงหยุนไว้ แต่หลิงหยุนกลับพูดด้วยท่าทางสบายๆ “หลิงยู่ ไม่ต้องตกใจไป! อะไรที่เธอเคยพบเคยเห็น อย่าได้เก็บมันไว้ในใจ แล้วคืนนี้พี่ใหญ่จะอธิบายเรื่องที่เธอยังไม่เข้าใจให้ฟัง!” หนิงหลิงยู่เอนหัวลงซบไหล่ของหลิงหยุนพร้อมกับหัวเราะคิกคักก่อนจะตอบไปว่า “ค่ะพี่ใหญ่..” เมื่อใดก็ตามที่มีพี่ใหญ่ของเธออยู่ด้วย หนิงหลิงยู่จะรู้สึกอบอุ่น และมีความสุขอย่างมากทุกครั้ง และในช่วงเวลานั้น.. อะไรๆ ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป! ………… สี่สิบนาทีต่อมา.. รถของหลิงหยุนก็มาจอดอยู่หน้าบ้านของเตาฉีซึ่งตั้งอยู่บนถนนหลินเจียง เตาฉีพร้อมด้วยลูกน้องทั้งสี่คน ได้ออกมายืนเตรียมรอต้อนรับหลิงหยุนอยู่ด้านนอกแล้ว และทันทีที่หลิงหยุนและหนิงหลิงยู่เดินลงมาจากรถแลนด์โรเวอร์ พวกเขาก็เดินเข้าไปหาด้วยท่าทางที่เคารพนบนอบพร้อมกับเอ่ยทักทาย “นายน้อยหลิง!” ลูกน้องทั้งสี่คนของเตาฉีได้เห็นกับตาตัวเองว่า หลิงหยุนเพียงคนเดียวแต่กลับสามารถทุบบ้านหลังใหญ่โตของเถียนป๋อเตาสองหลัง และสำนักงานของกู่เหลียงซันจนพังราบเป็นหน้ากองได้ อีกทั้งท่ามกลางตำรวจหลายร้อยนายที่เล็งปืนเข้าใส่เขานั้น ไม่เพียงหลิงหยุนจะมีท่าทีที่สงบนิ่งเยือกเย็น แต่ยังสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาสร้างความอับอายให้กับหัวหน้ารักษาความมั่นคงแทนได้ เช่นนี้แล้ว.. ยังจะไม่มีเหตุผลเพียงพอให้คนทั้งห้าออกมายืนรอต้อนรับหลิงหยุนด้วยตัวเองหรืออย่างไร? หลังจากที่มังกรได้มารายงานเตาฉีว่าหลิงหยุนจะมาพบเขาด้วยตัวเองนั้น เขาก็ตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัว และได้พาลูกน้องทั้งสี่ออกมายืนต้อนรับด้วยตัวเอง ในความคิดของเตาฉีนั้น แม้แต่หลัวจ้งซึ่งเป็นถึงผู้อำนวยการของสำนักงานรักษาความมั่นคง ยังถูกหลิงหยุนสร้างความอัปยศให้ได้ถึงเพียงนั้น อีกทั้งหัวลูกสาวของหัวหน้าแก๊งมังกรเขียวยังออกหน้าจัดการเรื่องข้อกฏหมายให้กับหลิงหยุนด้วยตัวเอง เช่นนี้แล้วจะหมายความว่าอย่างไรได้? ทุกอย่างแสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า ใครกันแน่ที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองจิงฉูตัวจริง! หลิงหยุนบอกว่าจะมาหาเขาด้วยตัวเอง นี่เท่ากับว่าเป็นการให้หน้าเตาฉีอย่างมาก! เช่นนี้แล้วเขาจะไม่รู้สึกยินดีได้อย่างไร?! และก่อนที่หลิงหยุนจะมาถึงนั้น เตาฉีและลูกน้องทั้งสี่คนก็ได้นั่งคุยกันว่าควรจะเรียกหลิงหยุนว่าอย่างไรดี! เพราะหากจะเรียกชื่อหลิงหยุนเพียงอย่างเดียวก็คงจะไม่ดีและไม่เหมาะสมนัก แต่หากจะให้เรียกว่าพี่ใหญ่ก็ดูไม่เข้าท่า ทั้งห้าคนนั่งปรึกษากัน และสุดท้ายต่างก็ลงความเห็นว่าควรจะเรียกหลิงหยุนว่า ‘นายน้อยหลิง’ ทันทีที่ได้ยินเตาฉีและคนอื่นๆทักทายเขาว่า ‘นายน้อยหลิง’ ความรู้สึกแปลกใจวูบขึ้นมาในแววตาของเขาเล็กน้อย แต่หลิงหยุนก็เพียงแค่พยักหน้ายิ้มๆ “เข้าไปคุยข้างในจะดีกว่า!” เตาฉีตื่นเต้นจนไม่รู้ว่าจะวางไม้วางมือไว้ที่ใหน เขารีบเชื้อเชิญหลิงหยุนและคนอื่นๆเข้าไปในบ้านด้วยท่าทางที่เคารพนบนอบ และถึงกับรินน้ำชาให้หลิงหยุนด้วยตัวเอง จากนั้นก็โบกมือให้ลูกน้องทั้งสี่คนออกไปข้างนอกก่อน หลิงหยุนยกมือห้ามไว้พร้อมกับสั่งว่า “ไม่ต้อง.. ทุกคนถือว่าเป็นคนกันเองแล้ว ให้พวกเขาอยู่ที่นี่ได้!” “คนกันเอง?! นี่หมายความว่า..” เมื่อเตาฉีและลูกน้องทั้งสี่ได้ยิน ต่างคนต่างก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และงุนงง ดูเหมือนทุกคนกำลังอึ้งและเต็มไปด้วยความสงสัย หลิงหยุนหัวเราะหึหึก่อนจะพูดต่อว่า “พวกเจ้าคงจะรู้จักตี้เสี่ยวอู๋กับถังเมิ่งแล้ว..” จากนั้นก็ผายมือไปทางหนิงหลิงยู่ที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับแนะนำว่า “ส่วนนี่คือน้องสาวของข้าเอง – หนิงหลิงยู่” หนิงหลิงยู่สวยงามราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย เธอดูสวยงามชวนฝันและชวนเคลิบเคลิ้ม เตาฉีได้แต่พยักหน้า แต่ก็ไม่กล้ามองหนิงหลิงยู่ ตอนนี้ทั้งเตาฉีและลูกน้องทั้งสี่ต่างก็ดูสงบเสงี่ยมราวกับกำลังอยู่ต่อหน้าหลวงจีนอายุมาก หลังจากที่แนะนำหนิงหลิงยู่แล้ว หลิงหยุนก็ไม่อ้อมค้อมอะไรอีก และพูดเข้าประเด็นทันที “ที่ข้ามาวันนี้ ก็ตั้งใจจะมาถามความสมัครใจของทุกคนว่า พวกเจ้าจะยินดีติดตามน้องชายของข้าทั้งสองคนหรือไม่?” เตาฉีและลูกน้องทั้งสี่คนต่างก็ฟังด้วยความยินดี เตาฉีรับพยักหน้าและตอบกลับไปอย่างตื่นเต้นดีใจ “ข้ายินดี..! เร็วเข้าพวกเจ้ายังจะยืนซื่อบื้ออะไรกันอยู่อีก ยังไม่รีบมาทักทายลูกพี่อีก!” หลิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมกับส่ายหน้า “ไม่ใช่ข้า.. จากนี้ไปตี้เสี่ยวอู๋จะเป็นลูกพี่ของพวกเจ้า ทุกคนต้องฟังคำสั่งของเขา ข้าไม่สนใจว่าจากนี้ไปพวกเจ้าจะหาเงินด้วยวิธีใหน แต่ต้องไม่ใช่การรังแกข่มเหงผู้คน!” โอกาสดีๆแบบนี้ ถังเมิ่งรู้สึกว่าหลิงหยุนคงจะลืมเขาไป จึงรีบร้องเตือนหลิงหยุนว่า “พี่หยุน.. แล้วฉันล่ะ?” หลิงหยุนกรอกตาก่อนจะเหลือบมองถังเมิ่ง “เมื่อเช้านายบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าต้องการทำธุรกิจ..” ตี้เสี่ยวอู๋เคยอยู่กับแก๊งมังกรเขียวมาก่อน เขาจึงรู้กฎเกณฑ์ของแก๊งต่างๆดี จึงเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นหัวหน้าเตาฉี ถังเมิ่งเป็นเด็กหนุ่มเจ้าสำราญ หลิงหยุนไม่ต้องการให้เขาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเส้นทางนี้มากนัก และวันนี้หลิงหยุนก็ได้จัดการแบ่งหน้าที่ให้ทั้งสองคนอย่างชัดเจนแล้ว! คนหนึ่งอยู่ในเส้นทางดำ ส่วนอีกคนอยู่บนเส้นทางสีเขา เช่นนี้แล้วทุกอย่างก็จะราบรื่น! หลังจากที่ได้รับชัยชนะในเมืองจิงฉูครั้งนี้ หลิงหยุนได้ตั้งใจแล้วว่า เขาจะต้องสร้างอำนาจอิทธิพลและเครือข่ายของตัวเองขึ้นมา ในการจะสร้างอำนาจและอิทธิพลได้นั้น จำเป็นที่จะต้องมีลูกน้อง และเตาฉีเองก็มีลูกน้องหลากหลายอยู่ในมือราวสองร้อยคน หลิงหยุนดูแล้วเห็นว่าตี้เสี่ยวอู๋น่าจะเอาอยู่ “จากนี้ไปกลุ่มของพวกเราจะใช้ชื่อว่า – ไฉเจี๋วย” หลังจากที่หลิงหยุนพูดจบ เขาก็กวักมือเรียกเตาฉีให้เข้ามาหา “เจ้ามานี่!” เตาฉีรีบเดินเข้าไปยืนตรงหน้าหลิงหยุน หลิงหยุนจัดการคลายจุดที่เหลือให้กับเตาฉีอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงยิ้มให้เขาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ.. ข้าจัดการคลายจุดทั้งหมดที่เหลือให้เจ้าแล้ว! ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันที่ 8 มิถุนายนแล้ว!” เตาฉีพยักหน้าอย่างตื่นเต้นพร้อมกับโค้งหัวทำความเคารพหลิงหยุนพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณท่านมาก.. นายน้อยหลิง!” หลิงหยุนหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นยืนและสั่งเตาฉีว่า “เจ้าเงยหน้าขึ้นซิ!” เตาฉียืดตัวตรงพร้อมกับเงยหน้าขึ้นตามคำสั่ง หลิงหยุนจัดการวางยันต์บำบัดลงบนใบหน้าของเตาฉีพร้อมกับตะโกนสั่งยันต์ให้ทำงาน ยันต์บำบัดระดับหนึ่งของหลิงหยุนชุดนี้ ดีกว่าชุดที่ปลุกเสกก่อนหน้านี้ เพราะให้ผลในการรักษาที่รวดเร็วกว่าหลายเท่า และแล้วปาฏิหาริย์ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน ทั้งมังกร เสือ และคนอื่นๆต่างก็ถึงกับอึ้งไปเมื่อเห็นแผลเป็นบนใบหน้าของเตาฉีหายไปต่อหน้าต่อตา ใบหน้าของเตาฉีในตอนนี้ ไม่ได้น่ากลัวและสยดสยองเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว “โอ้ว.. นี่มัน..” “ห๊ะ.. ลูกพี่..” ลูกน้องทั้งสี่คนของเตาฉีถึงกับตกใจ และตื่นเต้นเมื่อได้เห็นทุกอย่างด้วยตาตัวเอง! “พี่ใหญ่..” หนิงหลิงยู่เห็นทุกอย่างได้ชัดเจนที่สุด เพราะเธอนั่งอยู่บนโซฟาข้างหลิงหยุน และทันทีที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เธอถึงกับลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ! “เกิดอะไรขึ้น..?!” เตาหยงมองอากัปกิริยาที่ตกอกตกใจของทุกคน ด้วยสัญชาติญาณ.. เขาจึงรีบยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตนเอง และก็ต้องอึ้งไปทันที! เขาพบว่าแผลเป็นบนใบหน้าของตัวเองนั้นได้หายไปแล้ว! หลังจากช็อคไปนาน เตาฉีถึงกับทรุดลงกับพื้น พร้อมกับโค้งหัวลงคำนับหลิงหยุนครั้งแล้วครั้งเล่า.. “นายน้อยหลิง.. ขอบคุณท่านมาก ขอบคุณท่านมาก! จากนี้ไปไม่ว่านายน้อยหลิงจะสั่งอะไร ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ข้า-เตาฉีก็ยินดีทำตามคำสั่งทุกอย่าง!” หลิงหยุนยอมรับการแสดงความเคารพของเตาฉี พร้อมกับพูดเสียงเรียบ “นี่เป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ หากข้าเดาไม่ผิด.. เจ้าคงลำบากใจมากที่ต้องตัดสินใจเมื่อวานนี้ แต่นับว่าเจ้าตัดสินใจได้ถูกต้อง!” เตาฉีดีใจอย่างมาก และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีก.. “เอาล่ะ.. ลุกขึ้นได้แล้ว มีเรื่องต้องไปสะสางนิดหน่อย!” หลิงหยุนสั่งให้เตาฉีลุกขึ้นพร้อมกับหันไปลูบไหล่ของหนิงหลิงยู่เพื่อให้เธอนั่งลง เขายกน้ำชาขึ้นจิบก่อนจะพูดว่า “บริษัทชิงหยุนโปรดักชั่นติดหนี้ข้าจำนวนหนึ่ง นี่เป็นเอกสารกู้ยืม.. วันนี้พวกเจ้าตามข้าไปทวงหนี้กับพวกมัน ถ้าพวกมันไม่จ่าย จัดาการพังบริษัทของพวกมันได้เลย!” เมื่อได้ยินว่าลูกพี่คนใหม่ของเขาจะไปทวงหนี้ เตาฉีและลูกน้องทั้งสี่คนต่างก็ตื่นเต้น และกระตือรือร้นอย่างมาก หลิงหยุนส่งเอาสารกู้ยืมให้กับตี้เสี่ยวอู๋พร้อมกับพูดยิ้มๆ “เอาล่ะ.. ตอนนี้พวกเราก็กลับเข้าเมืองไปที่บริษัทชิงหยุนกันได้แล้ว!” วันที่ 14 เมษายน เป็นวันที่หลิงหยุนสร้างเครืองข่ายของตนเองขึ้นมาในเมืองจิงฉูชื่อว่า – ไฉเจี๋วย เวลาเก้าโมงเช้า หลิงหยุนและหนิงหลิงยู่นั่งอยู่บนรถแลนด์โรเวอร์กับถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋ ส่วนเตาฉีและลูกน้องขับรถฮัมเมอร์ตามมา.. Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series ลาก่อน คุณสามี Ch. 205 หากไม่อธิบายนั่นแสดงว่ายอมรับ 10 ลาก่อน คุณสามี ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ Ch. เล่มที่ 15 บทที่ 432 ความอันตรายบังเกิด 10 ข้ามเวลานางพญาแพทย์พิษ ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่หนึ่ง Ch. 96 ใบไม้เขียวหนา บุปผาแดงโรย ยามออกจากเมืองฟ่ง 10 ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่หนึ่ง The Lord’s Empire Ch. 860-866 10 The Lord’s Empire ยอดวิถีแห่งปีศาจ Ch. บทที่ 945 สภาพการณ์ (1) 10 ยอดวิถีแห่งปีศาจ
ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่หนึ่ง Ch. 96 ใบไม้เขียวหนา บุปผาแดงโรย ยามออกจากเมืองฟ่ง 10 ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่หนึ่ง