“แย่แล้ว!” จู่ๆราชันดาบน้อยก็เปลี่ยนสีหน้า “ร่างของเจียหมิงยังอยู่กับหลิงฮัน!”
“ดอกวิญญาณอมตะ!” ฉือชิ่วเหรินเองก็อุทานออกมาพร้อมๆกัน
“มีเพียงแค่การถือดอกวิญญาณอมตะถึงจะสามารถเข้าไปยังชั้นที่สี่”
“หากไม่มีดอกวิญญาณอมตะก็ไม่สามารถไปนำเขี้ยวของมังกรมาได้!”
“เพื่อเขี้ยวมังกรที่แท้จริง ไม่ว่าต้องทำยังไงก็ต้องนำดอกวิญญาณอมตะกลับมา”
“บัดซบ ทำไมเจียหมิงถึงต้องเป็นคนเก็บดอกวิญญาณอมตะเอาไว้ด้วย!”
รุ่นเยาว์ทั้งสี่คนกัดฟันแค้น ถ้าพวกเขาทำภารกิจครั้งนี้ไม่สำเร็จ เมื่อกลับนิกายไปแม้จะด้วยสถานะของพวกเขาก็ต้องได้รับโทษอยู่ดี ถึงแม้พวกเขาจะเป็นผู้นำรุ่นเยาว์แห่งยุคของทวีปฮงเทียน แต่ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนจะไม่มีรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์เช่นพวกเขา?
ถ้าต้องการขึ้นไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่ายังไงพวกเขาก็ต้องได้รับทรัพยากรบ่มเพาะจากนิกาย ถ้าหากถูกนิกายทอดทิ้ง พวกเขาก็จะถูกลบล้างไปพร้อมกับโลกใบนี้
“มุ่งหน้าไปยังชั้นสี่กันก่อน ถ้าหากหลิงฮันต้องการครอบครองเขี้ยวมังกรที่แท้จริง เขาจะไปมุ่งหน้าไปที่นั่นแน่!” พวกเขาลงความเห็นกันอย่างรวดเร็วและรีบมุ่งหน้าไปยังส่วนลึกของชั้นสอง
หลังจากพวกเขาจากไป ร่างของพวกหลิงฮันสามคนก็ปรากฏตัว
“โอ้ ที่แท้เจียหมิงก็ถือครอบสมบัติเช่นนั้นอยู่นี่เอง” หลิงฮันพูดกล่าว ในมือของเขาถือดอกไม้ที่มีใบสีขาวราวกับหิมะเอาไว้ ตรงแกนกลางของดอกไม้นั้นเป็นสีดำสลัว ใบของมันนั้นเมื่อผ่านไปสักพักมันจะสลับไปมาเป็นสีม่วง
“ดอกวิญญาณอมตะ! ข้าไม่นึกเลยว่าจะมีดอกไม้เช่นนี้อยู่จริงๆ!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนอุทานออกมา
“หืม เจ้าเคยได้ยินเกี่ยวกับดอกไม้นี่มาก่อน?” หลิงฮันถาม
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนพยักหน้า “ตามตำนาน ดอกไม้วิเศษนี้คือสิ่งที่มาจากโลกแห่งความตาย จากที่ได้ยินมามันมีสรรพคุณช่วยให้วิญญาณของมนุษย์นั้นราวกับมีเก้าชีวิต มันคือดอกไม้ที่ฝืนลิขิตความเป็นและความตาย ในชั้นที่สี่ของถ้ำมังกรผีนั้นจะมีคลื่นพลังที่ส่งผลของจิตวิญญาณ แม้จะเป็นตัวตนระดับทลายมิติก็ไม่สามารถต่อต้านคลื่นพลังเช่นนั้นได้”
“แล้วดอกวิญญาณอมตะสามารถแก้ปัญหานั้นได้?” หลิงฮันถาม
“ย่อมเป็นเช่นนั้น ดอกวิญญาณอมตะจะช่วยห่อหุ้มจิตวิญญาณทำให้วิญญาณของคนผู้นั้นไม่ได้รับผลกระทบ” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกล่าว
หลิงฮันเก็บดอกวิญญาณอมตะกลับไปและยิ้ม “งั้นพวกเราก็เข้าใกล้เขี้ยวมังกรที่แท้จริงมากขึ้นแล้ว”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ถ้าหากนางสามารถได้เขี้ยวมังกรที่แท้จริงมาครอบครองและหลอมมันได้สำเร็จ ความบริสุทธิ์ของโลหิตของบุตรนางจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัวแน่
ทำไมชิ้นส่วนอื่นๆของเผ่ามังกรถึงแหลกสลายและมีเพียงเขี้ยวมังกรที่ยังคงสภาพอยู่ได่น่ะ? นั่นเพราะเขี้ยวมังกรได้พัฒนาจนกลายเป็นสมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง มันคือเขี้ยวของมังกรที่แท้จริง!
“แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสี่คนนั่นคอยเฝ้าอยู่ที่ชั้นสี่อยู่ดี พวกเราอาจจะไม่สามารถบุกผ่านการป้องกันของพวกเขาไปได้!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนขมวดคิ้ว “ถ้ำมังกรผีมีเวลาเปิดที่จำกัด หากพวกเรามัวแต่สนใจเขี้ยวมังกรและไม่สามารถกลับออกไปจากที่นี่ได้พวกเราจะถูกขังไปอีกห้าร้อยปี ถึงแม้เจ้าจะมีหอคอยทมิฬที่พวกเราสามารถเข้าไปอยู่ได้ในช่วงเวลานั้นก็ตาม แต่ข้าเกรงว่าเมื่อถึงตอนนี้ทวีปฮงเทียนคงกลายเป็นเถ้าถ่านและเปลี่ยนเป็นอีกยุคสมัยแล้ว”
อีกห้าร้อยปีต่อมา ไม่ว่าหม่าตั้วเปาจะปิดสวรรค์สำเร็จหรือโลกนี้จะถูกหลอมเป็นเม็ดยา เมื่อตอนนั้นครอบครัวของเขาก็กลายเป็นโครงกระดูกไปแล้ว หลิงฮันไม่มีทางยอมรับเรื่องเช่นนั้นได้แน่นอน
“เมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกนั้น ข้าจะจัดการเอง” หลิงฮันกล่าว เขามีทั้งดาบสังการและพรศักดิ์สิทธิ์จากหอคอยทมิฬ เมื่อใช้ทั้งสองด้วยกันพลังต่อสู้และความเร็วของเขาจะเทียบเท่าจอมยุทธระดับทลายมิติทันที
“หนิวจะช่วยเอง!” ฮูหนิวตบหน้าอกตัวเอง
หลิงฮันยิ้มและลูบหัวฮูหนิว “หากฮูหนิวช่วย พวกเราจะต้องทำได้สำเร็จแน่นอน!”
“ฮี่ๆ!” ฮูหนิวยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
ทั้งสามคนออกเดินทางอีกครั้งและหลิงฮันก็เริ่มครุ่นคิด “ดอกวิญญาณอมตะคือสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งความตายหรือก็คือดินแดนใต้พิภพ? ห้านิกายโบราณไม่สามารถไปยังดินแดนใต้พิภพได้แน่ๆ ถ้าเช่นนั้นแล้วพวกเขามีดอกวิญญาณอมตะได้อย่างไร?”
ดวงตาของเขาหรี่ลง “นิกายพันศพ!”
รากฐานของนิกายพันศพไม่ใช่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แต่เป็นดินแดนใต้พิภพ เพราะงั้นหากห้านิกายโบราณได้ทำข้อตกลงบางอย่างกับนิกายพันศพก็ใช่ว่าจะไม่สามารถครอบครองดอกวิญญาณอมตะได้
“ดูเหมือนการร่วมมือกันของพวกเขาจะลึกว่าที่ข้าคาดเอาไว้เสียแล้ว!” หลิงฮันพึมพำ
หลังจากทั้งสามคนเดินไปสักพัก พวกเขาก็เห็นเซียนหยู่ช่ายกำลังยืนรออยู่ เมื่อนางเห็นพวกเขาคุณหนูผู้แสนเอาแต่ใจก็แสยะยิ้มด้วยท่าทียิ่งยโสและกล่าว “เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก!”
ช่างน่าปวดหัวยิ่งนัก!
หลิงฮันมองไปยังเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนและยิ้ม “พวกเราสังหารนางได้รึไม่?”
“เอาเลยๆ หนิวอยากกินเนื้อมังกรต้ม!” ฮูหนิวนำลายสอและมองไปยังเซียนหยู่ช่ายด้วยสีหน้าโหดเหี้ยม
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนส่ายหัว “ลืมเรื่องนั้นไปเลย จะอย่างไรนางก็เป็นคนของตระกูลเซียนหยู่ ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่ในเงื่อนไขรวมกองกำลังกัน หากสังหารนางคงไม่ก่อให้เกิดผลดี”
เซียนหยู่ช่ายถอนหายใจโล่งอก นางรู้ว่าไม่ว่าจะเป็นหลิงฮันหรือเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนก็มีพลังต่อสู้ที่สามารถสังหารนางได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของหลิงฮันเมื่อครู่นางจึงรู้สึกหวาดกลัวจนใจสั่น
“แต่ในถ้ำมังกรผีแห่งนี้ แม้เราจะสังหารใครคนอื่นก็ไม่มีทางรับรู้”
เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมองไปยังเซียนหยู่ช่ายและหัวเราะ “เจ้ากำลังทำให้นางกลัวอยู่นะ”
หลิงฮันชำเลืองมองและกล่าว “อย่าตามพวกเรามาอีก ไม่เช่นนั้นคนที่จะเสียใจก็คือเจ้า!”
ใจของเซียนหยู่ช่ายสั่นสะท้าน “สังหารข้า? เจ้ากล้าสังหารข้างั้นรึ?” ? ที่นี่คือชั้นสองของถ้ำซึ่งผู้คนสามารถเดินผ่านมาได้ไม่ยากเย็น นางไม่เชื่อว่าหลิงฮันจะกล้าสังหารนาง
“ช่างไร้เดียงสา!” หลิงฮันส่ายหัว คุณหนูผู้นี้ถูกตามใจเกินไปจนมีนิสัยเอาแต่ใจ โชคดีที่คนที่นางมีปัญหาด้วยคือเขา ไม่เช่นนั้นนางจะสูญเสียชีวิตของนางไปแล้ว
พวกเขาเดินทางต่อ สภาพแวดล้อมของชั้นสองแตกต่างกับชั้นแรก พื้นที่โดยรอบนั้นเต็มไปด้วยป่าไม้สีแดงเพลิงที่ต้นไม้แต่ละต้นสูงเกินกว่าร้อยฟุต ต้นไม้ทุกต้นตั้งเป็นเสาค้ำฟ้าราวกับยักษ์ขนาดมหึมา
“ต้นไม้เหล่านี้คือต้นไม้โลหิตที่เกิดขึ้นจากโลหิตและเลือดเนื้อของจอมยุทธเผ่ามังกร ต้นไม้โลหิตบางต้นสามารถบ่มเพาะพลังและเคลื่อนที่เพื่อสังหารผู้คนได้ ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่าต้นไม้อสูรโลหิต!” เฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนกล่าว
แต่ในขณะเดียวต้นไม้อสูรโลหิตก็นับว่าเป็นสมบัติอย่างหนึ่ง พวกมันมีแก่นพงไพรที่เกิดจากการควบแน่นของพลังงานแห่งมังกร ผลลัพธ์ของแก่นพงไพรนั้นเหมือนกับหญ้ามังกรโลหิต ดังนั้นเมื่อพบกับสมบัติเช่นนี้ถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าอสูรต้นไม้โลหิตอันตราย พวกเขาก็ยังเลือกที่จะเดินผ่านป่าไม้เพื่อล่อให้อสูรต้นไม้โลหิตโจมตีและสังหารมันเพื่อแย่งชิงแก่นพงไพร
นั่นคือสิ่งที่หลิงฮันจะทำเช่นกัน เพราะอย่างไรทั้งสามคนก็เป็นพวกบ้าลุย สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีเพียงการระมัดระวังไม่ให้ไปพบเจอกับราชันต้นไม้อสูรโลหิตเท่านั้น หากเป็นเพียงต้นไม้อสูรโลหิตทั่วไปย่อมไม่เป็นอันตรายกับพวกเขา