บทที่ 340 – พระเจ้า (1)
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ในขณะมองเจ้าหญิงน้อยสุดที่รักมิเชลก็ได้บ่นกับยูอิลฮาน… มีมังกรอยู่ในอ้อมแขนภรรยาที่งดงามของเขา ยูอิลฮานได้ตอบเขากลับมาด้วยคำถามแทน
“คุณสมิธสัน คุณเป็นเผ่าพันธ์อะไรล่ะ?”
“มังกรที่แท้จริง…”
“แล้วคุณนายสมิธสันล่ะ?”
“มังกรที่แท้จริง…”
“แล้วถ้างั้นมันก็ชัดเจนว่าลูกของพวกคุณจะต้องเป็น…”
“มังกร…”
มันไม่ได้มีปัญเลยสักนิด นี่มันปกติมากๆ เจ้าหญิงน้อยในอ้อมแขนคาริน่า มาเลเทสต้า ไม่สิ คาริน่า สมิธสันได้ยิ้มออกมาอย่างสดใส
“ยี้ฮ่าห์!”
“เธออาจจะเข้าใจสิ่งที่เรากำลังพูดอยู่ก็ได้ นายต้องระวังเรื่องการเรียนรู้ของเธอด้วยนะ”
เด็กนี่เข้าใจคำพูดได้ในทันทีที่คลอดออกมา! เมื่อคำนึงถึงพื้นฐานของเธอที่สูงมากๆเนื่องจากเธอเกิดมาเป็นลูกสองของมังกรที่แท้จริงทำให้พัฒนาการของเธอไม่ธรรมดาเลย คาริน่า สมิธสันได้คิดว่าเธอได้เลือกพ่อทูนหัวที่ดีและหันมาถามเรา
“พ่อทูนหัวช่วยดูแลเด็กคนนี้ด้วย คุณจะรับเธอเข้าดราก้อนเนสใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ ตราบใดที่เธอเติมเต็มคุณสมบัติน่ะนะ แล้วนี่เธอชื่อว่าอะไรล่ะ?”
“ยูนิ สมิธสัน”
ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมาในขณะที่ลูบหัวของเธอ รอยยิ้มของเด็กได้สดใสมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมซะอีก
“แต่ว่าเธอน่ารักมากๆเลย~ เธอจะต้องสวยเหมือนแม่แน่นอน”
“ก็จริงแหละ ฮ่าฮ่าฮ่า เธอดูเหมือนแม่เธอเลย”
เนื่องจากว่ามีชีวิตใหม่เกิดขึ้นมาทำให้แทบจะทุกๆคนได้มารวมตัวกันในที่แห่งนี้ นายูนาที่ก็ไม่ได้ชอบมิเชล สมิธสันมากนักก็ได้เข้ามาลูบหัวยูนิเช่นกัน มิเชลได้ที่ได้กลายมาเป็นคนเอาจริงเอาจังหลังจากเป็นพ่อคนก็หัวเราะออกมาเท่านั้น
เขาได้เปลื่ยนไปแล้วจริงๆ
“อิลฮาน”
เลียร่าที่กำลังมองยูนิในอ้อมแขนคาริน่า ได้ตาเป็นประกายออกมา
“มามีลูกกันเถอะ!”
“ฉันกำลังสงสัยอยู่เลยว่าทำไมเธอไม่พูดสักที แล้วก็คำตอบก็คือไม่”
“ทำไมล่ะ! ฉันอยากมีลูก! ฉันอยากมีลูกกกกกกกก!”
“ไม่”
เลียร่าได้เข้าไปเกาะแกะยูอิลฮาน แต่ว่าเขาก็ยังตอบกลับอย่างหนักแน่น และเหตุผลก็คือ
“ฉันไม่ชอบมันก็เพราะว่ามันรู้สึกเหมือนบทส่งท้ายใกล้จะมาถึงแล้ว”
“…”
เธออยากจะเถียงกลับไป แต่ว่าเธอก็ไม่รู้จะเถียงกลับไปยังไงทำให้เธอได้แต่เงียบ ยูอิลฮานได้แตะไหล่ของเธอและรับเอายูนิมาจากคาริน่า ในเมื่อเขาได้กลายมาเป็นพ่อทูนหัวแล้ว อย่างน้อยเขาจะต้องทำหน้าที่ของเขา
[ยูนิ เธอจะต้องงดงามและมีความสุข เธอจะกลายเป็นคนที่สามารถแบ่งปันความสุขและความทุกข์ร่วมกันคนอื่นๆได้ เธอจะต้องมีหัวใจที่อบอุ่นเฉกเช่นเดียวกับกรงเล็บที่แข็งและมีอารมณ์ความรู้สึกมากเท่ากับความฉลาดของเธอ เธอจะกลายเป็นคนที่ถูกรักและคนที่จะมอบความรัก]
ประกาศิตยูอิลฮานได้กลายเป็นความปรารถนาที่จริงใจห้อมล้อมยูนิเอาไว้ มันเป็นความปรารถนาที่จะมอบศักยภาพที่สดใสให้กับเธอ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สมบูรณ์แบบก็ตาม
“ว้าว ดูมานาทั้งหมดนั่นสิ น่าทึ่ง…”
“งดงาม มีแค่ขาเท่านั้นที่ใช้มานาได้งดงามแบบนี้…”
ยูนิจะรู้หรือไม่ว่าพรจากประกาศิตของยูอิลฮานมากขนาดไหน? ยูอิลฮานได้จับนิ้วยูนิก่อนที่จะส่งเธอกลับคืนไปให้ครอบครัวของเธอ
“ยินดีด้วยนะ ฉันยุ่งกับงานจนไม่รู้เลยว่าพวกเธอสองคนแต่งงานกัน”
“เดี๋ยวพวกเราจะจัดงานแต่งงานกัน …หลังจากทุกๆอย่างจบลง เมื่อโลกกลับมาเป็นปกติ พร้อมๆกันกับครอบครัวของเราทั้งสอง ช่วยมางานเราในตอนนั้นพร้อมทุกๆคนด้วยนะ”
“ฉันขอภาวนาให้อยู่รอดกันทุกคนนะ”
ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมา และพูดถึงสิ่งที่เขาต้องการออกมา
หากเขาบอกว่าภาพของพ่อไม่ได้โผล่เข้ามาในหัวของเขาก็คงจะเป็นการโกหก ไม่ว่าเขาจะแกร่งยังไง มันก็คงไร้ความหมายหากว่ากาเบรียลได้เผชิญกับเรื่องโชคร้ายไปก่อนแล้ว
‘…พ่อไม่น่าจะเป็นอะไร’
เขาได้ยืนยันกับตัวเองว่าพ่อเขาไม่เป็นอะไร ถึงกังวลไปก็ไม่มีอะไรเปลื่ยนแปลง เขาได้แต่ทำในสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้เหมือนอย่างที่เคยทำมา
“ถ้างั้นสมิธสันทั้งสองคนคงจะต้องยุ่งกับการเลี้ยงลูก…”
“แล้วเราก็จะไปทำลูกของเรากัน โอ้ย!”
“แล้วพวกเราจะไปฝึก”
หลังเขกหัวเลียร่าแล้ว ยูอิลฮานได้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เลียร่าได้ถามออกมาด้วยใบหน้าเศร้าๆ
“แล้วเราจะถ่ายทำบทส่งท้ายกันเมื่อไหรล่ะ?”
“เมื่อถึงเวลาฉันจะเป่านกหวีดล่ะกัน”
หลังจากนั้นเวลาก็ได้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยูอิลฮานได้ใช้เวลาไปกับการฝึกฝนพร้อมสมาชิกต่อสู้หลักคนอื่นๆ ส่วนคนธรรมดาก็ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกันอย่างมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ไม่มีภัยคุกคามจากมอนสเตอร์ และพวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่อารยธรรมและธรรมชาติได้รวมเป็นหนึ่ง นี่พูดได้เลยว่าพวกเาได้ใช้ชีวิตที่สงบสุขที่สุดแล้วนับตั้งแต่เกิดมหาภัยพิบัติขึ้นมา
แน่นอนยูอิลฮานก็ได้ทำในสิ่งที่เขาทำเพียงลำพังเช่นเดิมโดยไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ ถึงแม้ว่ายูอิลฮานจะได้เข้าสู่ก้าวแรกในฐานะผู้สร้างแล้ว แต่ว่าเส้นทางของเขายังอีกยาวไกล จนว่าเขาจะได้ไปถึงปลายทาง เขาจะไม่มีวันหยุดก้าวต่อ
***
เดิมทียูอิลฮานมีความสามารถที่มากอยู่แล้วในการละเลยการไหลของเวลา แต่ว่าเนื่องจากคนมีคนที่แสดงถึงการเปลื่ยนแปลงของเวลาที่ชัดเจนอยู่ทำให้เขาจะไม่รู้เรื่องการไหลของเวลาก็ไม่ได้
“คุณพ่อทูนหัวคะ!”
เด็กสาวตัวน้อยน่ารักที่ผมสีทองถูกมัดเป็นหางม้าได้ตะโกนออกมาพร้อมๆกับรอยยิ้มกว้าง เธอได้วิ่งเข้ามาในพื้นที่ฝึกซ้อมภายในป้อมปราการลอยฟ้า ยูอิลฮานได้โบกมือด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“เป็นเธอนี่เองยูนิ”
“เย้! หนูเข้ามาได้ใช่ไหมคะ?”
ลูกสาวทูนหัวของยูอิลฮาน ยูนิได้เติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วสมแล้วกับที่เป็นลูกสาวของมังกรที่แท้จริงทั้งสอง เนื่องจากว่ามีผู้เชี่ยวชาญในทุกๆด้านอยู่รอบตัวเธอทำให้เธอได้มีโอกาสมากมายในการเรียนรู้เทคนิคพวกนี้ และเธอก็เป็นเหมือนอย่างมังกรที่มีความกระหายในความรู้มากๆ เธอได้พยายามเรียนรู้ทุกๆอย่างที่เป็นไปได้ในเวลาอันสั้น
ในมุมมองยูอิลฮานแล้วนี่คือพรสวรรค์ที่สูงมาก! มังกรยอดเยี่ยมที่สุด!
“พ่อทูนหัว ช่วยมาประลองกับหนูด้วย!”
“อีกแล้วหรอ?”
และคนที่ยูนิให้การยอมรับมากที่สุดก็คือยูอิลฮานที่เป็นคนดูแลโลกใบนี้ นี่ก็เหมือนกับมังกรตนอื่นๆ เขาคือคนที่แกร่งที่สุดแล้ว
ในตอนแรกที่เธอสามารถจะหยิบอาวุธได้ด้วยสองมือของเธอ เธอก็ได้เลือกหยิบหอกขึ้นมาอย่างรื่นไหลเป็นธรรมชาติ และในตอนนี้ภายนอกเธอูมีอายุประมาณเด็กสาวสิบสี่สิบหาขวบ เธอได้พัฒนาเทคนิคของเธอขึ้นมาสูงมากๆ
“หนูคิดว่าถ้าหนูได้สู้กับคุณพ่อทูนหัว หนูจะต้องพัฒนาขึ้นแน่ นะคะ? นะคะ?”
“…ก็ได้ๆ ถ้างั้นก็เข้ามา”
“เย้! ย๊ากกกกกกกกก! แอ๊ก!”
แน่นอนว่าเธอสู้กับยูอิลฮานได้ไม่ถึงสามวินาทีเลยด้วยซ้ำไป ยูอิลฮานคือชายที่ไม่ปราณีต่อใครไม่ว่าจะเป็นอายุหรือเพศก็ตาม เหตุผลที่เธอสามารถสู้ได้อย่างน้อยสามวินาทีในตอนแรกก็เพราะเขาไม่ได้เอาจริงกับเธอ! ยูนิได้ล้มลงไปกองบนพื้นเหมือนกับกบตายไปแล้ว เธอได้พึมพัมออกมาพร้อมๆกับลูบจมูกที่แดงขึ้นมาของเธอ
“ให้ตายสิ หนูคิดว่าหนูจะสู้ได้นานกว่านี้ซะอีกในเมื่อตอนนี้หนูได้คลาส 4 มาแล้ว!”
“หืม!”
นี่เธออได้คลาส 4 มาแล้วจริงๆ! ยูอิลฮานได้ถามเธออย่างตกตะลึง
“ยูนิ นี่เธออายุเท่าไหร่แล้วนะ?”
“หืม? วันพรุ่งนี้จะเป็นวันเกิดครั้งที่เก้าของหนูค่ะ!”
นั่นมันหมายความว่าบาเรียใกล้จะหายไปแล้ว! ยูอิลฮานได้ตกตะลึงมาและก็สิ้นหวัง
“ฉันยังไม่เชี่ยวชาญวิถีไร้ขอบเขตเลย”
“เลเวลเท่าไหร่แล้วหรอคะ?”
“99…”
“ว้าว!”
พอมาคิดดูแล้วนี่เขาน่าจะไปลงโทษนายูนาที่ทำให้เด็กติดนิสัยเสียไม่น่าพอใจของเธอมา ยูอิลฮานได้รับเอาหอกที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ากลับมา
เมื่อเขาได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาก็เห็นนาฬิกาทรายที่อีกไม่นานทรายก็ถมจนเต็มแล้ว
“ดูเหมือนฉันจะไม่ว่างไปซักพักแล้ว”
“มีการต่อสู้หรอคะ?”
“น่าเสียดายนะ ที่การต่อสู้นี้ไม่มีที่สำหรับเธอยูนิ”
“แต่อยู่อยากจะช่วยด้วยนี่นา”
“ไว้ฉันจะคิดดูอีกครั้งหลังเธอกลายเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงนะ”
โลกคงจะเป็นที่ที่สวยงามหากว่าทุกๆคนเป็นเหมือนกันเธอ – ยูอิลฮานได้ถอนหายใจออกมาและลูบหัวของยูนิ ยูนิได้บอกว่ามันจั๊กจี้และหัวเราะออกมาอย่างไร้เดียงสา
“ดีล่ะ ถ้างั้นฉันคงต้องไปแล้ว เราจะกลับมาอย่างปลอดภัยในงานวันเกิดของเธอนะยูนิ”
“เป็นคำพูดที่เท่จังเลย!”
“แน่นอนสิ ฉันได้เตรียมคำพูดนี้เอาไว้ตั้งแต่ที่เธอเกิดแล้ว”
ยูอิลฮานได้ตอบกลับมาเท่ๆและรับหอกกลับมาพร้อมออกไปจากที่ฝึกซ้อม
พรรคพวกคนอื่นๆกำลังรอเขาอยู่ราวกับอ่านใจเขาออก
“ใกล้แล้วนะอิลฮาน เหลืออีกไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำไป”
“ที่รัก มันจะจบลงในสามชั่วโมงจริงๆน่ะหรอ?”
“มันอาจจะนานกว่านั้นเล็กน้อย หากไม่มีบอสลับสุดท้ายก็คงจะเป็น 5 นาที แต่ถ้ามีก็ 20 นาที แล้วก็ถ้ายังมีอีกหลังจากเราเอาชนะไปแล้วหนึ่งก็คงเป็นชั่วโมงหนึ่ง แล้วก็จะเพิ่มอีกสามสิบนาทีหากมีโผล่มาหลังจากนั้นอีกหนึ่ง”
“…”
ไพ่ตายของเขามีจนนับไม่ถ้วน! ยูอิลฮานได้ออกมาจากป้อมปราการลอยฟ้าโดยปล่อยคนที่พูดไม่ออกเอาไว้
บางทีทุกๆคนก็น่าจะรู้แล้วทำให้ทุกๆคนที่ไม่ใช่สมาชิกต่อสู้ไปลงไปบนพื้นโลกและคนที่ต้องต่อสู้ก็ได้เข้าสู่เมืองลอยฟ้า
[ยินดีต้อนรับหัวหน้า]
ยูเรียลที่มีแปดปีกได้ต้อนรับยูอิลฮานมา เธอคือคลาส 8 นอกเหนือจากมิสทิค และเป็นลูกน้องที่มีมานามากที่สุด เธอคือหนึ่งในสองคนที่มีแรงจูงใจมากที่สุดในเรื่่องทีกำลังจะเกิดขึ้น
“รู้แล้วน่า เธออยากจะช่วยพ่อใช่ไหมล่ะ?”
[นะ นั่นมันก็จริง แต่ไม่ใบ่แค่นั้นหรอกนะ นะ นั่น อ่า… คือกาเบรียลนั่นแหละ]
“ไม่เป็นไรหรอก นั่นก็เหมือนฉันนั่นแหละ”
บางครั้งคนเราก็จะต้องทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ แต่ว่าสิ่งที่อยู่ต่อหน้ายูอิลฮานทั้งหมดคือสิ่งที่เป็นไปได้ทั้งนั้น
ยูอิลฮานได้ปลอบใจยูเรียลที่แสดงสีหน้าเป็นห่วงกาเบรียล
“ไม่ต้องห่วงขนาดนั้นหรอกน่า ทุกๆอย่างจะเป็นไปตามที่ฉันวางแผนเอาไว้”
[หัวหน้าได้มาถึงจุดที่น่าทึ่งแล้วที่ทำให้ฉันยอมรับด้วยแค่คำพูดได้ แต่ว่า… เข้าใจแล้ว ฉันเชื่อในตัวหัวหน้า ไปช่วยกาเบรียลกัน ไปหยุดพระเจ้ากัน ไปน้ำความสิ้นสุดบาปกรรมกับกองทัพปีศาจวิบัติกัน ไปสอบถามซาตานว่าเขากำลังทำอะไรกัน… ไปนำสันติสุขกลับมากันเถอะ]
หลังจากพูดแบบนี้ยูเรียลได้เงยหน้าขึ้นมา ข้างหลังของเธอคือสมาชิกอย่างเป็นทางการของดราก้อนเนสทั้งหมดที่เรียงแถวกันอยู่ พวกเขาต่างก็ถูกติดอาวุธด้วยอาวุธที่ยูอิลฮานสร้างขึ้นและพร้อมสู้รบกับศัตรูทุกๆคนแล้ว
“ทุกๆคนน่าจะรู้อยู่แล้วนะ แต่ว่า”
คำพูดของยูอิลฮานที่ดังออกมาไม่ดังและไม่เบา แต่ว่าเสียงของเขาได้ดังเข้าถึงทุกๆคนโดยไม่ต้องใช้ประกาศิตเลย
“กองกำลังศัตรูมีเหลืออีกไม่มากแล้ว ในขณะที่พวกนั้นกำลังตีกันอย่างงี่เง่าอยู่ พวกเราก็ได้สร้างโลกขึ้นมาและขยายช่องว่างขึ้นไปอีก เพราะงั้นชัยชนะในครั้งนี้เป็นของเราแน่นอน”
“ว้าว!”
“ฉันจะรับมือกับพวกหัวหน้าเอง เพราะงั้นฉันขอฝากให้พวกนายจัดการพวกที่เหลือด้วย พูดตามตรงนะหากว่าใส่อุปกรณ์ของฉันไปต่อสู้แล้วมีบาดแผลขึ้นมา พวกนายก็ไม่มีคุณสมบัติเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงกันแล้ว ถ้ามันเกิดขึ้นฉันจะริบคุณสมบัติคืนทันที”
“นี่เขากำลังทำให้ทุกๆคนมีกำลังใจกันจริงๆแน่นะ?”
ยูอิลฮานได้พูดต่ออย่างรวดเร็วจนจบโดยไม่สนใจเสียงพูดของคนอื่นๆเลย
“ในทันทีที่บาเรียหายไปพวกเราจะบุกรุกไปในโลกหลักของศัตรูทันที… โอ้แล้วก็ก่อนหน้านั้นใครก็ได้ช่วยส่งยูนิกลับไปที่โลกด้วย”
“อ่า ยูนิ เด็กคนนี้กล้ามากนะที่แอบมาที่นี่!”
“หนูด้วยสิ หนูก็อยากจะสู้ด้วยน้าาาาาาาา!”
หลังจากยูนิได้ถูกคนอื่นๆไล่ลงไปบนพื้นแล้ว ยูอิลฮานก็ยืนยันว่าสมาชิกทุกคนที่มาที่นี่พร้อมสำหรับการต่อสู้แล้วก่อนที่จะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ถ้าพวกนายพร้อมกันแล้ว ถ้างั้นฉันจะทำการข้ามมิติในทันทีที่บาเรียหายไป”
“เดี๋ยวก่อนนะที่รัก”
เฮเรียน่าได้ถามออกมา
“ฉันรู้นะว่าเรากำลังจะบุกไปในโลกล่ะของศัตรู… แต่ว่าเราจะบุกไปที่กองกำลังไหนก่อนกันล่ะ?”
“แน่นอนสิว่าเราจะต้องไปปล้นบ้านที่ว่างเปล่าก่อน”
ยูอิลฮานได้ขยิบตาและพูดออกมา
“โลกเบื้องล่าง”