123 – ช่วยเหลือคนของฮิลเลอร์(4)
“ฟ่ออออออ!!”
ตามมาด้วยเสียงขู่ อสรพิษลมระดับลอร์ดเลื้อยในป่าราวกับปลา แม้ว่าการควบแน่นธาตุลมจะส่งผลต่อพวกมันระดับหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในระดับเดียวกับอสรพิษลมทั่วไป ในทางตรงกันข้าม หลังจากที่พวกมันรับรู้ได้ถึงการควบแน่นธาตุลมรอบๆ อสรพิษลมระดับลอร์ดเริ่มโกรธเกรี้ยวและตวัดหางไปมา และคำรามออกมา ในพริบตา ต้นไม้ใหญ่มหาศาลถูกฉีกกระชากและลอยไปทางกลุ่มคนตรงหน้าพวกมัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ต้นไม้พวกนั้นจะลอยเข้าไปหากลุ่มคนตรงหน้า มังกรเพลิงบินลงมาจากฟ้าและบดขยี้ต้นไม้เหล่านั้นกลายเป็นผุยผง
ฮิลเลอร์ถือดาบยักษ์ขณะที่ยืนอยู่ด้านข้างโรดส์
“ผมควรทำอะไร?”
“มุ่งเป้าไปที่การโจมตี”
โรดส์ตอบคำถามโดยปราศจากความลังเลและส่งสัญญาณให้กับคนที่เหลืออย่างรวดเร็ว
คนแรกที่เคลื่อนไหวคือแอน
เธอพุ่งผ่านทหารรับจ้างคนอื่นๆราวกับชีต้าร์ การก้าวเท้าของเธอรวดเร็วมาก โล่สีทองขนาดใหญ่ที่ถืออยู่ในมือของเธอราวกับไม่มีตัวตน ต่อมา แอนได้ยืดโล่ออกเธอออก คมมีดได้ปรากฎออกมาและหมุนไปรอบๆ แต่ในครั้งนี้ เธอไม่ได้ขว้างมันออกไป กลับกัน เธอจับที่จับและดึงมันออก โล่สีทองของเธอที่หมุนอยู่แยกออกเป็นสองส่วน ราวกับดอกไม้ที่กำลังบานออกมาอย่างช้าๆ โล่หัวใจศิลาถูกฝังไว้ใจกลางของโล่ที่กางออกและหมุนอย่างรวดเร็ว เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น โล่ในมือของแอนได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นโล่ขนาดเท่าโต๊ะอาหารขนาดยักษ์ที่สามารถป้องกันแอนได้ถึง 2 คน
หลังจากนั้น แอนย่อตัวลงและเหวี่ยงโล่ออกไปด้วยแรงทั้งหมด
โล่ที่หมุนอยู่ลอยเข้าไปในป่ามืด ด้วยแสงสะท้อนที่เกิดขึ้น อสรพิษลมระดับลอร์ดสังเกตเห็นการโจมตี พวกมันหลบไปด้านข้างของคมมีดที่ออกมาจากโล่ซึ่งตัดผ่านใบไม้และกิ่งไม้นับไม่ถ้วน ทิ้งไว้เพียงร่องรอยพลังทำลายมหาศาล
อย่างไรก็ตาม โรดส์ได้เริ่มโจมตีไปแล้ว
พลังงานดาบถูกปล่อยออกมาจากสกิลดาบแห่งการทำลายล้างลอยขนานไปกับท้องฟ้าในยามค่ำคืน หลังจากที่โรดส์เลื่อนระดับ ดาบแห่งการทำลายล้างทรงพลังและรุนแรงมากขึ้น ถ้าเป็นดาบแห่งการทำลายล้างก่อนหน้านี้มันเหมือนกับแสงเลเซอร์ แต่ตอนนี้ลำแสงได้รวมตัวและหมุนวนราวกัยอุกกาบาตที่ส่องประกายในยาวค่ำคืน
ตามมาด้วยมาร์ลีนซึ่งเป็นอัจฉริยะด้านเวทมนตร์ แม้ว่าเธอจะมีประสบการณ์ที่ได้ภารกิจกับโรดส์มาได้ไม่นาน แต่ความสามารถของเธอราวกับคุ้นเคยกับโรดส์มาเป็นเวลาหลายปี หลังจากที่ร่ายเวทย์ด้วยภาษามังกร ทับทิมสีแดงที่ปลายคทาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวโปร่งใส อุณหภูมิรอบๆเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว คทาของเธอชี้ไปที่ท้องฟ้าและก่อให้เกิดหมอกสีขาวเข้าปกคลุม หลังจากที่หมอกได้เข้าปกคลุม แท่งน้ำแข็งหลายร้อยแท่งได้รวมตัวกันเป็นดาบยาวและลอยมาอยู่ข้างเธอ ในพริบตา มาร์ลีนกระโดดออกมา
คนอื่นๆก็ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวเช่นกัน กลุ่มทหารรับจ้างเบิร์นนิ่งเบลดก็เริ่มเดินหน้าอย่างรวดเร็ว เรนเจอร์ได้ยกธนูขึ้นและเล็งไปที่ดวงตาของอสรพิษลมระดับลอร์ด เหล่าโจรเริ่มใช้สกิลพิษไปที่มีดบินและส่งมีดบินไปยังเป้าหมาย เหล่านักดาบวิ่งเป้าไปหสจุดอ่อนและมาถึงลำตัวของมอนสเตอร์และเริ่มโจมตี พวกเขาอีกส่วนเริ่มเข้าไปขวางอสรพิษลมที่กำลังพุ่งเข้ามาอีกตัว
กลุ่มทหารรับจ้างเบิร์นนิ่งเบลดนั้นได้แสดงความแข็งแกร่งของพวกเขาออกมาในฐานะกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งอันดับหนึ่ง แม้ว่าหัวหน้าของพวกเขาจะไม่ได้มอบคำสั่งอย่างชัดเจน แต่พวกเขายังสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างชัดเจนโดยไม่มีความลังเล
อสรพิษลมได้หลบการการโจมตีโล่บินของแอนมาได้ มันคิดไม่ถึงว่าการโจมตีถัดมาจะรุนแรงมาก อุกกาบาตที่ส่องสว่างทะลวงผ่านปีกเล็กๆของมันและฉีกปีกของมันเป็นชิ้นๆอย่างง่ายดาย ทำให้เลือดไหลออกมาจากบาดแผลของมัน
ลอร์ดอสรพิษลมที่ได้รับบาดเจ็บล้มฟาดพื้นในทันที เดิมที มันพึ่งพาปีกของมันในการพยุงตัวเมื่อไม่มีการสนับสนุนจากธาตุลมรอบๆ แต่ทว่าเมื่อปีกของมันได้รับบาดเจ็บ มันจึงเหมือนกับเครื่องบินที่ได้รับความเสียหาย เนื่องจากไม่มีทางที่จะลงจอดได้ ทางเดียวที่ทำได้คือร่วงลงไป
อสรพิษลมระดับลอร์ดได้พยายามตะเกียกตะกายเงยหัวขึ้นมา ก่อนที่มันจะได้แสดงความโกรธออกมา คมดาบนับร้อยที่ลอยอยู่กลางอากาศพุ่งเข้ามาหามันจากสามทิศทาง ในพริบตา ดาบน้ำแข็งมากมายได้เสียบทะลุร่างของอสรพิษลมระดับลอร์ดจนพรุน
สำหรับสิ่งมีชีวิตธาตุ ระดับพลังป้องกันของลอร์ดอสรพิษลมนั้นไม่ได้ต่ำ แต่เป็นเพราะความได้เปรียบเรื่องธาตุ ถ้ามาร์ลีนใช้ธาตุลม สถานการณ์คงจะวุ่นวายมากขึ้น สำหรับจอมเวทย์โดยธรรมชาติ มาร์ลีนรู้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตธาตุคืออะไร แม้ว่าคมดาบน้ำแข็งจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดในการจัดการกับลอร์ดอสรพิษลม แต่นั่นก็เพียงพอที่จะยับยั้งการเคลื่อนไหวของมัน
อย่างที่คิด อสรพิษลมระดับลอร์ดไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ในขณะนี้และการระเบิดอย่างต่อเนื่องพอที่จะทำให้มันซวนเซไปบ้าง เนื่องจากมันมีความสามารถในการต้านทานเวทมนตร์ คมดาบของมาร์ลีนจึงเปรียบได้กับยุงกัด แต่ก็ไม่มีใครสามารถยืนให้ฝูงยุงนับร้อยกัดได้ในเวลาเดียวกัน
ในขณะนั้น ฮิลเลอร์วิ่งเข้ามาและยกดาบเพลิงในมือของเขาขึ้นสูง เปลวไฟปะทุขึ้นมาจากตัวดาบรุนแรงมากขึ้น ราวกับมีดวงอาทิตย์ขนาดย่อมอยู่ตรงหน้า จากนั้นเขาเหวี่ยงดาบลง
“—-!!”
เปลวเพลิงที่ร้อนรุ่มสามารถเฉือนผ่านเกล็ดที่ภาคภูมิใจของอสรพิษลมระดับลอร์ดได้อย่างง่ายดาย เลือดของมันสาดกระจายและอสรพิษลมกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันเงยหน้าขึ้นมาและอ้าปากในทันที ก่อนจะพุ่งกระโจนออกมา นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดเท่าที่มันทำได้ มันยังสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วโดยใช้กล้ามเนื้อของมัน หลายคนละเลยส่วนนี้ หลังจากที่เกือบสังหารอสรพิษลมได้และได้กลายเป็นอาหารมื้อค่ำของมันซะเอง
แน่นอน มันเป็นไปไม่ได้ที่ฮิลเลอร์จะละเลยเรื่องแบบนี้
สิ่งที่เขาทำนั้นเร็วมากเช่นกัน หลังจากที่ดาบของเขาฟันลงไปที่อสรพิษลมระดับลอร์ด ฮิลเลอร์กระโดดกลับในทันทีและป้องกันการโจมตีด้วยดาบของเขา แต่แม้ว่าเขาจะคำนวนการเคลื่อนไหวไว้หมดแล้ว แต่คมเขี้ยวของอสรพิษลมก็ยังเจาะลึกเข้ามาที่ดาบยักษ์ของเขา เปลวเพลิงสีแดงเริ่มเผาผลาญและตามมาด้วยกลิ่นเหม็นไหม้
ร่างของฮิลเลอร์สั่นเล็กน้อย ในขณะที่คมเขี้ยวของมันปะทะกับดาบของเขา จากนั้นอสรพิษลมพ่นพิษออกมา โชคดีที่ดาบเพลิงของเขาได้เผาพิษของมันทันเวลา แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ
หมอกสีดำประหลาดห่อหุ้มร่างของฮิลเลอร์จากภายใน แก๊สที่ปรากฎออกมานั้นน่าสะอิดสะเอียนและมันสามารถฆ่าคนอ่อนแอให้ตายได้ ในเวลานั้นอสรพิษลมได้ทำการโจมตีซ้ำ เนื่องจากการโจมตีก่อนหน้านี้ของมันประสบความสำเร็จ มันหดคอลงและโจมตีอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น อสรพิษลมระดับลอร์ดได้ยืดหัวออกมาอย่างรวดเร็ว แรงของมันทำให้กิ่งไม้รอบๆแตกกระจายออก แต่มันไม่ได้สนใจเรื่องนั้น กลับกันมันหันกลับมามองด้วยสายตาโกรธแค้นแทน
โรดส์ที่ไม่รู้ว่ามาอยู่ด้านข้างของอสรพิษลมตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาตวัดดาบอย่างรวดเร็ว การโจมตีนี้ที่เกือบจะตัดปีกของอสรพิษลมได้และทิ้งบาดแผลกว้างไว้ อสรพิษลมจ้องมองมาที่เขาอย่างโกรธเกรี้ยว ไม่นานอากาศรอบๆตัวอสรพิษลมเริ่มหมุนวนและเปลี่ยนกลายเป็นคมดาบโจมตีไปยังโรดส์ ขณะที่โรดส์กระโดดหลบการโจมตีของมัน อสรพิษลมได้หดคอของมันลงอีกครั้งและจ้องมอง ราวกับมันกำลังจะฉีกกระชากเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ
มันดูไม่เหมือนว่าโรดส์กำลังกระโดด เขาขว้างบางสิ่งออกมาจากมือขวา มันเห็นเพียงประกายแสงปรากฎขึ้นตรงหน้าเขา
ตามสัญชาตญาณ อสรพิษลมงับไปที่ร่างนั้นอย่างรวดเร็วและความรู้สึกของเลือดและเนื้อที่ถูกขบเคี้ยวในปากทำให้มันรู้สึกพึงพอใจ
แต่ความสุขของมันหายไปในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงระเบิดออกมาจากปากของมัน คลื่นอัดอากาศฉีกกระชากปากและลิ้นของมัน ตอนนี้ฟันของมันแตกละเอียด และเมื่อมันอ้าปากออกมา อสรพิษลมระดับลอร์ดไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนเดิมอีกต่อไป หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มันเริ่มที่จะถอยออกมาและพยายามหลบหนีจากสถานที่แห่งนี้ ราวกับมีพลังล่องหนมาปกคลุมร่างของมันไว้ สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดของมันเริ่มเตือนมันทันที
อสรพิษลมระดับลอร์ดเริ่มถอยโดยใช้พลังธรรมชาติในการสร้างบาเรียลม สิ่งเดียวที่มันต้องการในตอนนี้คือการออกไปจากสถานที่แห่งนี้ มันลืมแต่กระทั่งเสียงที่ดังสะท้อนในหัวของมัน
เพราะแบบนั้น อสรพิษลมจึงไม่ได้สังเกตเห็นรอยนูนๆบนพื้นที่พุ่งทะลวงผ่านบาเรียลมของมันไปได้อย่างง่ายดายและตรงไปที่ร่างของมัน
เมื่อมันสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆบนพื้น มันก็สายเกินไปแล้ว
ก้อนหินแหลมคมพุ่งทะลวงผ่านร่างของอสรพิษลมระดับลอร์ดราวกับไม้เสียบลูกชิ้น การโจมตีด้วยธาตุตรงข้ามทำให้มันถึงขีดจำกัด การดิ้นรนและกรีดร้องของมันไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงชะตาของมันแม้แต่น้อย มันกวาดหางของมันไปรอบๆและทำลายต้นไม้รอบๆทุกต้น เลือดมากมายไหลทะลักออกมาจากบาดแผลของมัน ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงของอสรพิษลมทำให้เกิดควันสีขาวเล็กน้อยบนพื้น ไม่นานร่างของอสรพิษลมระดับลอร์ดที่เหนื่อยล้าก็หยุดลง ร่างที่ถูกแทงของมันไม่มีลมหายใจอีกต่อไป
“เฮ้ออออ…”
มาร์ลีนถอนหายใจออกมา เธอลดไม้คทาลงและหันไปมองด้านอื่นในทันที
การต่อสู้ระหว่างอสรพิษลมง่ายกว่าที่พวกเขาคิด เพราะว่าการร่วมมือกันระหว่างโรดส์และฮิลเลอร์ทำให้พวกเขาชดเชยจุดอ่อนของกันและกัน กลุ่มทหารรับจ้างสตาร์ไลท์ของโรดส์แข็งแกร่งกว่าในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มทหารรับจ้างเบิร์นนิ่งเบลดของฮิลเลอร์นั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าในบรรดาพวกเขาจะไม่มีใครที่มีความสามารถโดดเด่นกในการต่อสู้แบบเดียวกับฮิลเลอร์ แต่พวกเขากลับสามารถรับมือกับอสรพิษลมทั้งสองตัวในเวลาเดียวกันได้ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก โรดส์กังวลเกี่ยวกับจำนวนศัตรูที่พวกเขาต้องรับมือเพราะพวกเขามีเพียงไม่กี่คน และฮิลเลอร์ก็กังวลเกี่ยวกับการจัดการศัตรูเพราะว่ากลุ่มของเขามีความแข็งแกร่งไม่มากพอ
แต่ตอนนี้ การผสานงานระหว่างกลุ่มทหารรับจ้างสตาร์ไลท์และเบิร์นนิ่งเบลดทำให้พวกเขาชดเชยจุดอ่อนซึ่งกันและกัน เมื่อแอน มาร์ลีนและโรดส์เข้าร่วมด้วย ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพียงพอที่จะสังหารลอร์ดอสรพิษลมระดับ 25 ลงได้ ในขณะเดียวกันการเพิ่มขึ้นมาของจำนวนทหารรับจ้างทำให้เวทย์รักษาหมู่ของไลซ์มีประโยชน์มากขึ้น ขณะที่โรดส์มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายของเขา ไลซ์ยังคงร่ายเวทย์รักษาของเธอให้กับเหล่าทหารรับจ้างที่กำลังเผชิญหน้ากับอสรพิษลมตัวอื่น เมื่อโรดส์เข้ามารวมกลุ่มกับทหารรับจ้างคนอื่นๆ ผลลัพธ์ของการต่อสู้จึงเป็นไปตามที่คิด
จอมเวทย์ชุดดำลืมตาขึ้นมา
เขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สำหรับจอมเวทย์ วินาทีที่พันธะวิญญาณขาดลง มันไม่ต่างอะไรไปจากการเห็นแฟนคนแรกของเขาเข้าไปโอบกอดเศรษฐีอ้วนโดยไม่มีความลังเล ซึ่งมันเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่สามารถจินตนาการได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับจอมเวทย์ที่ทรงพลัง เขาสงบจิตใจลงและลูบหัวอสรพิษลมระดับลอร์ดอย่างไร้อารมณ์
เขารู้เหตุผลแล้วว่าทำไมอสรพิษลมที่เขาส่งไปถึงหายไป ด้วยสภาพเแวดล้อมที่เกิดจากการควบแน่นธาตุลม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออสรพิษลมอย่างมาก ตอนนี้เขาต้องรอ
เขาเชื่อว่าเวลาที่เหมาะสมจะต้องมาถึง