ทั่วทั้งเขตฮัวเซียเต็มไปด้วยความเร่าร้อน …มันเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับการสำเร็จภารกิจโซนพื้นที่พิเศษเลเวล 15 ได้เป็นเขตแรก!
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่ไปทั่วทั้งเขต ในฐานะของผู้นำทีมชื่อของเซียวเฟิงนั้นเป็นที่รู้จักไปทั่ว ทั้งยังเป็นที่จับตาของคนต่างๆ มากมาย
“หัวหน้าทีมที่ทำได้นี่น่าจะเป็นอันดับ 1 ของเขตสินะ?”
“ต้องใช่อยู่แล้ว! เขามีทั้งไอเทมและเลเวลที่เหนือกว่าผู้เล่นทั่วๆ ไป! แล้วก็น่าจะมีแค่เขาด้วยมั้งที่สามารถจบภารกิจโซนเลเวล 15 ได้ในเวลานี้!”
“ไม่แปลกใจเลยที่เขตของเราจะสามารถทำได้เป็นเขตแรก! นี่เป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่เลยนะเนี่ย! แต่ฉันสงสัยที่เขาปิดบังชื่อของตัวเองเนี่ยสิ? หรือเขาจะใช้ชื่อจริงเล่นเกมนะ?”
“ฉันว่าเป็นไปได้นะที่เขาจะเก่งที่สุดในเขตฮัวเซียแล้ว… ”
“แน่ใจนะ? ฉันคิดว่าเขาไม่น่าจะเก่งไปกว่าเบลดมาสเตอร์หรอก”
“ก็เราอยู่กันคนละยุคน่ะนะ ถึงเบลดมาสเตอร์จะเก่งจริงก็เถอะ แต่ยุคนี้ไม่ใช่ยุคของเขาอีกแล้วล่ะ แล้วอันที่จริงพวกผู้เล่นหอเกียรติยศส่วนหนึ่งก็ไม่มีตัวตนอยู่อีกแล้ว แล้วเขาคนนั้นก็เป็นที่รู้จักจากการฆ่าบอสตัวแรกของเกมด้วย…”
“ชื่อทีมของเขาประหลาดดีนะ เห็นบอกว่าเป็นตำแหน่งของร้านค้า? เขาบอกว่าจะเปิดที่เมืองเทียนหลง แต่ระบบแลกเปลี่ยนยังใช้ไม่ได้เลยนะ”
“ผู้เล่นคนนั้นให้ความช่วยเหลือในการโฆษณาร้านค้าสินะ ฉันมั่นใจแล้วว่าเขาน่าจะไม่ธรรมดาแน่ๆ!”
ในขณะเดียวกันเรื่องเกี่ยวกับร้านค้าในชื่อทีมก็ดึงดูดความสนใจได้อย่างกว้างขวาง ผู้เล่นหลายคนต่างสนใจมาที่เมืองเทียนหลงเพื่อเยี่ยมร้านค้าแห่งนี้
“ท่านฮีลเลอร์ นี่เป็นร้านขายของของท่านเหรอ?”
ทุกคนต่างมองมาทางเซียวเฟิงด้วยความสงสัย
“ใช่แล้ว ฉันอยู่กับเพื่อนฉันน่ะ รีบแบ่งของกันเถอะ เดี๋ยวฉันต้องรีบไปแล้ว” เซียวเฟิงเร่งคนอื่นๆ
“ฮ่าฮ่า ได้เลยๆ ดูท่าทางรีบน่าดู มีงานต้องทำสินะ? ความสามารถของนายตอนนี้เนี่ยเป็นผู้เล่นระดับโปรได้เลยนะเนี่ย!” เล่าสวีที่กำลังเดินมาเก็บถามอย่างสบายอารมณ์
แต่ก่อนที่เซียวเฟิงจะตอบคำถามนั้น… เขาก็ถูกขัดขึ้นมาซะก่อน
“เห้ย! ไข่สัตว์เลี้ยงไม่ใช่เหรอนั่น? บอสดรอปไข่สัตว์เลี้ยงด้วย!”
“ตำราสกิล! สกิลระดับหายากด้วย!”
ในตอนที่ทุกคนที่เห็นของทุกอย่างที่เล่าสวีเก็บมาได้นั้นต่างก็ตกใจกันเป็นแถว
ตอนแรกพวกเขาเห็นแค่ไอเทมคุณภาพทอง และเหรียญทองอีกนิดหน่อย ซึ่งมันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ แต่ของทั้ง 2 อย่างหลังกลับเป็นไข่สัตว์เลี้ยงและตำราสกิล …นั่นถือเป็นของล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
ไอเทมถึงดีแค่ไหนก็มีข้อจำกัดมากมาย แต่กับสัตว์เลี้ยงและตำราสกิลนั้นไม่ใช่ มันเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ และไม่มีทางหาได้ตามตลาดแน่นอน
ไข่สัตว์เลี้ยง (เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์)
คุณภาพ: เงิน
อธิบาย: หลังจากที่ฟักออกมาจะใช้เป็นสัตว์เลี้ยงได้
เพิ่มเติม: ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว มันจะหายไปในตอนที่ฟักออกมา
ตำราสกิลลาวาพิโรธ
คุณภาพ: น้ำเงิน
ความต้องการ: คลาสนักเวทย์
ความสามารถพิเศษ: เรียกวิญญาณแห่งลาวา สามารถยิงลูกไฟระเบิดออกไปสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับศัตรู 2 เป้าหมาย (ค่าพลังเวทย์ x 50% x เลเวลของสกิล) ศัตรูที่โดนโจมตีจะติดสถานะมึนงง 2 วินาที คูลดาวน์ 1 ชั่วโมง และจะยิงได้ทุกๆ 10 วินาที
สายตาทุกคู่จ้องไปที่ไข่ของสัตว์เลี้ยง มันต้องเป็นสัตว์ที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ของเขตได้อย่างแน่นอน!
นักเวทย์ทุกคนตรงนั้นต่างต้องการตำราสกิลกันทุกคน มันเป็นสกิลเดียวกันกับที่บอสใช้ใส่พวกเขา แต่เป็นรูปแบบที่อ่อนลงมาหน่อย ความเสียหายก็ไม่ใช่ 50% ของพลังชีวิต และยังยิงได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น แต่มันก็ยังเป็นสกิลที่ดีอยู่ดี!
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าของที่ดีที่สุดคือไข่สัตว์เลี้ยงนี่ล่ะ เอาล่ะใครจะได้ไปนะ?”
เล่าสวีว่า เขาก็แอบอยากได้สัตว์เลี้ยงเหมือนกัน แต่มันอยู่นอกเหนือข้อตกลง เพราะฉะนั้นเขาเลยถอดใจไปอย่างช่วยไม่ได้
“ฉันขอเริ่มก่อนเลย!” เซียวเฟิงเดินออกมาพร้อมถูมือไปด้วย ไข่สัตว์เลี้ยงนี่มีมูลค่ามากกว่าของชิ้นไหนๆ ทั้งนั้น
“ฉันจำได้ว่านายมีสัตว์เลี้ยงตัวเก่งเทพอยู่แล้วนี่ แล้วจะเอาสัตว์เลี้ยงตัวนี้ไปทำไมอีก?” จืออี้ก้าวออกมาข้างหน้าและแสดงความไม่พอใจ ส่วนผู้เล่นคนอื่นเองก็จ้องมองที่เซียวเฟิงอย่างแปลกประหลาด
“ฮ่าฮ่า! พอดีว่ามีเรื่องให้ต้องใช้เงินน่ะ แถมก็ไม่ได้ผิดจากข้อตกลงที่ทำไว้นี่”
เซียวเฟิงพูดอย่างคลุมเครือ คนอื่นๆ จึงได้แต่ยอมเขาอย่างไม่มีทางเลือก
“ท่านฮีลเลอร์พูดถูกแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถเอามันไปได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเขาได้ไปล่ะก็ผมจะให้ยืมสัก 10,000 เหรียญเพื่อซื้อคืนแล้วกัน”
เล่าสวีพูดขึ้นมา และคนอื่นๆ ที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่มีใครว่าอะไรอีก ซึ่งการที่ชายวัยกลางคนสามารถจัดการเรื่องวุ่นวายได้ด้วยตัวเองแบบนี้ มันก็ทำให้เซียวเฟิงรู้สึกนับถือเขาอยู่ไม่น้อย
อันที่จริงด้วยผลงานของเซียวเฟิง เขาก็มีสิทธิ์ที่จะพูดแบบนั้นได้ รอบนี้ชายหนุ่มรับหน้าที่สำคัญในการจัดการกับบอส ดังนั้นคนอื่นๆ ก็เลยไม่ว่าอะไรอีก
“งั้นเริ่มกันเลย…” เล่าสวียังไม่ทันที่จะพูดจบเซียวเฟิงก็ทอยเต๋าออกไปแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้น โรสนั้นทอยเต๋าออกไปเร็วกว่าเขาซะอีก
ลูกเต๋านั่นหยุดอย่างรวดเร็ว เซียวเฟิงมองอย่างไม่ค่อยพอใจนักที่เขาโดนชิงลงมือก่อน แต่พอเห็นแต้มที่ออกมาเขาก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
100!
ตอนนี้ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น คนอื่นๆ ต่างจ้องแต้มที่ออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“นี่ ท่านฮีลเลอร์ ตาท่านแล้ว” เล่าสวีต้องเรียกอยู่หลายรอบกว่าที่ชายหนุ่มจะรู้ตัว เขาแสร้งปั้นหน้ายิ้มแล้วเก็บลูกเต๋ากลับไปเงียบๆ
“อ่ะฮ่าฮ่า ฉันพึ่งนึกได้… ในเมื่อมีสัตว์เลี้ยงเก่งเทพอยู่แล้ว งั้นเอาเป็นว่าสัตว์เลี้ยงอ่อนๆ ตัวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วล่ะมั้ง เอาให้คนอื่นๆ ไปก็แล้วกัน”
เธอได้แต้มสูงสุดไปแล้ว เขาจะเสียเวลาไปแข่งกับเธอทำไมกันเล่า ?!
คนรอบๆ ต่างจนใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปแบบกะทันหันของเซียวเฟิง
ประกายตาแห่งความพึงพอใจปรากฏบนหน้าของโรส
“ฉันก็ไม่เอาด้วยหรอก” คนอื่นๆ เองก็ยอมแพ้ไปด้วยเพราะไม่อยากมาเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ไข่ของสลาแมนเดอร์จึงตกเป็นของโรสอย่างง่ายดาย
โรสมองไปทางไนท์ คูนเนอร์ที่ทำท่าทางเหมือนคิดอะไรบางอย่าง ส่วนคนถูกมองอย่างงั้นก็เบือนสายตาไปทางอื่น ว่าแล้วโรสก็เตรียมการที่จะให้ไข่สัตว์เลี้ยงฟักในทันที
รายชื่อของสัตว์เลี้ยงมีการเปลี่ยนแปลงทันที ตอนนี้เจ้าแห่งสลาแมนเดอร์ได้ถูกเพิ่มไปยังอันดับ 2 ของรายชื่อ
ทำให้ชื่อของโรสปรากฏเข้ามาในรายชื่อ ส่วนชื่อของไนท์ คูนเนอร์ที่อยู่อันดับ 10 ตกตารางไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงได้เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาทันที นี่ก็เพื่อที่จะสร้างชื่อให้กิลด์นั่นเอง!
โรสได้เรียกสัตว์เลี้ยงออกมาทันทีที่มันฟักออกมา มันยังมีเลเวล 1 อยู่ โรสอุ้มมันเอาไว้ในอ้อมแขน ตัวมันเล็กมากและดูน่ารักต่างจากเจ้าตัวที่พวกเขาสู้ด้วยอย่างสิ้นเชิง
หญิงสาวไม่ได้เปิดเผยความสามารถใดๆ ของสัตว์เลี้ยงให้คนอื่นรู้ พวกเขาเลยเลิกที่จะจ้องสลาแมนเดอร์ตัวนั้นแล้วไปสนใจของอย่างอื่นที่ตกอยู่บนพื้นแทน
“ตำราสกิลนั้นเป็นของนักเวทย์ ส่วนดาบมือเดียวใช้ได้ทั้งนักรบและพาลาดิน ใครที่เข้าเงื่อนไขทอยเต๋าได้เลย”
ทั้ง 3 ชิ้นนั้นเป็นของที่ดีที่สุดที่ดรอปมาได้ 2 ชิ้นนั้นเซียวเฟิงไม่สามารถแย่งได้ เขาเลยให้ความสำคัญกับการแย่งไข่สัตว์เลี้ยงมาก
นักบวชเปลี่ยนคลาสได้ 2 แบบ คือพาลาดินกับผู้ประกอบพิธีกรรม โดยพาลาดินจะใช้โล่และดาบ ส่วนคลาสของเซียวเฟิงนั้นใช้ไม้เท้าสองมือ เพราะฉะนั้นตามข้อตกลงเซียวเฟิงจึงไม่มีส่วนร่วม
แล้วดาบมือเดียวก็ตกไปอยู่ในมือของฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา ส่วนตำราสกิลก็อยู่ในมือของนักเวทย์จากกิลด์อื่น
“ต้องขออภัยด้วยท่านฮีลเลอร์ ของที่เหลือนี้เป็นของท่านแล้วกัน” เล่าสวีมองไปทางเซียวเฟิงด้วยความลำบากใจ
เซียวเฟิงถือเป็นกำลังหลักในการสู้ครั้งนี้ แต่ค่าตอบแทนของเขานั้นดูไม่คุ้มเท่าไหร่เลย คนอื่นๆ ก็เห็นด้วยกับเล่าสวีจึงยกของที่เหลือที่พอจะมีค่าบ้างให้เซียวเฟิงไปทั้งหมด
และเพราะเซียวเฟิงต้องการเงิน เขาเลยรับไอเทมคุณภาพเงินที่เหลือทั้งหมดไปโดยไม่ได้ว่าอะไร ส่วนของคุณภาพน้ำเงินคนอื่นๆ ก็ต่างเอาไปแบ่งกัน
“ไปกันต่อเถอะตอนนี้ฉันกำลังรีบ” เซียวเฟิงเร่งอีกครั้ง พวกเขาจึงรีบออกจากโซนพื้นที่พิเศษโดยไม่รีรอ
“คุณสำเร็จภารกิจโซนพื้นที่พิเศษเลเวล 15 [รังของสลาแมนเดอร์] ได้รับค่าประสบการณ์ 150,000 หน่วย”
ทั้ง 20 คนได้ค่าประสบการณ์เท่าๆ กัน แต่นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับเซียวเฟิงที่ต้องการทั้งหมด 4,000,000 เพื่ออัพเลเวล เขาน่าจะได้ค่าประสบการณ์เยอะกว่านี้ถ้าทำภารกิจด้วยตัวคนเดียว แต่เขาก็ไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น
ชายหนุ่มรีบออกมาจากเกมทันทีหลังจากที่กล่าวอำลาคนอื่นๆ โดยไม่ได้กลับไปที่เมืองหลักด้วยซ้ำ