Inhuman Warlock จอมเวทย์ไร้มนุษยธรรม 321: วิธีเสมือน

ตอนที่ 321: วิธีเสมือน

ตอนที่ 321: วิธีเสมือน

“แล้ว APF ล่ะ? พวกเขายังผ่านการตรวจสอบดังกล่าวด้วยหรือไม่” ลูซิเฟอร์ถาม

“ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันจะต้องถามพวกเขาอีกที อย่างที่บอกนี่เป็นเพียงรายงานเบื้องต้นยังมีอีกมากให้ค้นหาสถานที่นี้น่าจะมีความลับมากมาย” เจียงตอบ

“เอาล่ะ ฉันเข้าใจว่านายต้องใช้เวลามากกว่านี้ แต่นายมีเวลาอีกแค่วันเดียว พรุ่งนี้ ฉันต้องการคําตอบเราไม่มีเวลามาก อีกไม่นาน ข่าวนี้จะถึงรัฐบาล นายต้องทํางาน โดยเร็ว” ลูซิเฟอร์กล่าวขณะตัดสาย “การป้องกันของเมืองหลว ถ้ามันไม่สามารถแตกหักได้จริงๆ ทางเลือกเดียวคือทําลายให้หมด เดี๋ยวก่อน…มีวิธีการแบบนั้นด้วยนิ!”

ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืนทันทีเมื่อเขาหันหลังจะเดินจากไปพอหันกลับมาก็เห็นประตูเปิดเคลเลี่ยนและยาลิซ่ามาถึงแล้วพวกเขาเข้ามาในห้องพร้อมกับแคสเซียสและอลิเซีย

“คุณมาถูกเวลาแล้ว บอกฉันเกี่ยวกับเมืองหลวงมีดันเจี้ยนรอบๆเมืองนั้นบ้างไหม” ลูซิเฟอร์ถามดูเหมือนกระตือรือร้นที่จะได้ค่าตอบ

“เราก็ไม่มั่นใจแต่น่าจะมีซักที่ อม… จริงๆ แล้วมีดันเจี้ยนระดับ 3 อยู่ 2 แห่งใกล้ เมืองหลวงคุณถามทําไม?” เคลเลียนถามพลางสงสัยว่าตอนนี้ลูซิเฟอร์คิดอะไรอยู่

ลูซิเฟอร์วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะและนั่งบนเก้าอี้อีกครั้ง ขณะที่หลับตา เขาเริ่มคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาเรียนรู้เกี่ยวกับดันเจี้ยนในสถาบันการศึกษา

“อย่าบอกนะว่าคุณกําลังคิดที่จะปล่อยสัตว์ร้ายออกจากดันเจี้ยน?” อลิเซียถามโดยเดาว่าลูซิเฟอร์กําลังคิดอะไรอยู่

“ถูกต้อง หากเราทําได้ สัตว์ร้ายจะเคลื่อนเข้าหาเมือง การป้องกันเมืองจะเละเทะลูซิเฟอร์ตอบ

“ฉันเชื่อว่าแม้แต่สมาชิก APF ก็จะถูกตรวจสอบ เมื่อเข้าสู่เมืองหลวง แต่เมื่อกองกาลังของเอลิเซียมถูกคนในดันเจี้ยนครอบงําพวกเขาจะไม่ตรวจสอบเรา”

“ฉันแค่สร้างแผนนี้เป็นข้อมูลสารอง เรายังไม่มีข้อมูลทั้งหมด หากมีวิธีที่ดีกว่านี้ฉันจะเปลี่ยนแผน” เขากล่าวเสริม

“เป็นไปไม่ได้หรอกหรือที่จะนํามอนสเตอร์ออกมา? สัตว์ร้ายไม่สามารถออกจากดันเจี้ยนได้ตราบใดที่ดัชนีมอนสเตอร์ไม่สูงพอไม่ว่าเราจะทําอะไรพวกมันก็ออกมาไม่ได้” เคลเลี่ยนพูดแทรก

“ถูกต้อง แผนนี้ใช้ไม่ได้ผล” อลิเซียพยักหน้า

“ไม่ คุณคิดผิดแล้วมีอีกทางหนึ่ง” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมกับยิ้ม “ฉันพูดไม่ถูกเหรอแคสเซียส?”

“อย่าบอกนะว่านายกําลังคิดเกี่ยวกับ…? ไม่ใช่อย่างแน่นอน! ไม่มีทางที่เราจะทําอย่างนั้นได้!” แคสเซียสตกตะลึง เมื่อรู้ว่าลูซิเฟอร์กําลังพูดถึงอะไร

แม้ว่าเกาะต่างแดนที่พวกเขาอาศัยอยู่จะไม่มีดันเจี้ยนใด ๆ พวกเขายังคงมีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น

อันที่จริง นักวิทยาศาสตร์ของพวกเขาบางคนได้ไปต่างประเทศเพื่อสํารว จดันเจี้ยนเพื่อเตรียมพร้อมในกรณีที่มีผู้ค้นพบว่าพวกมันอยู่ใกล้ๆ

จากการสืบสวนหนึ่งครั้ง พวกเขาพบวิธีที่จะปล่อยให้สัตว์ประหลาดออกมา ข้อมูลเกี่ยวกับดันเจี้ยนได้รับการสอนในอะคาเดมี่และสิ่งนี้ก็สอนให้กับนักเรียนคนอื่นๆด้วยเป็นการสอนให้รู้ว่าอะไรควรทําและไม่ควรทํา

สําหรับแคสเซียส เขามั่นใจว่าลูซิเฟอร์ต้องการทําในสิ่งที่พวกเขาถูกสั่งไม่ให้ทํา

“นายกังวลมากเกินไป ไม่ต้องกังวล มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น” ลูซิเฟอร์กล่าว

“คุณสองคนกําลังพูดถึงวิธีการอะไร” อลิเซียถาม

“การทําให้ดัชนีสัตว์ประหลาดเพิ่มขึ้น” ลูซิเฟอร์ตอบ “นั่นคือการนําบล็อกตรงทาง เข้าดันเจี้ยนออกมอนสเตอร์จะสามารถออกมาได้

“การเพิ่มดัชนีมอนสเตอร์เทียม? คุณทําอย่างนั้นได้ไหม? ดัชนีมอนสเตอร์ไม่ได้อยู่กับจํานวนมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนเหรอ?”

“คุณไม่สามารถเพิ่มดัชนี้นั้นได้โดยไม่เพิ่มจํานวนพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนภายใน แล้วคุณจะทําอย่างไรถึงบรรลุสิ่งนั้น” ยาลิซ่าถามอย่างไม่เข้าใจ

ลูซิเฟอร์รู้แต่พวกเขาไม่รู้

“วิธีการเสมือน” ลูซิเฟอร์ตอบ

“วิธีการเสมือน? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินมัน มันคืออะไร?” อลิเซียถาม

“มันเป็นวิธีการเพิ่มจํานวนมอนสเตอร์แบบปลอมๆ ส่วนวิธีการทํานั้น คุณไม่จําเป็นต้องรู้ในตอนนี้ แค่รู้ว่าเราจะต้องเข้าไปในดันเจี้ยนก็พอ” ลูซิเฟอร์ตอบ

“รอถึงพรุ่งนี้ก่อน เดี๋ยวฉันจะหาข้อมูลเพิ่ม ใครจะไปรู้ เราอาจไม่จําเป็นต้องทําด้วยซ้ํา” เขากล่าวเสริม เขายืนขึ้นและเริ่มเดินไปที่ทางออก เขาหยุดที่ทางออก เขาหันกลับมาถามว่า “พวกคุณทุกคนยังมาทําอะไรที่นี่ มีเวลาอีกไม่นาน เราต้องเคลียร์ฐาน APF ทั้งหมดและฆ่าทุกคนที่ยังไม่ยอมเข้าพวกกับเรา”

“ส่วนพวกที่ยอมจํานน ฉันจะไปพบพวกเขาเอง” เขากล่าวเสริมขณะเดินจากไป

แคสเซียสวิ่งตามลูซิเฟอร์ ไอย์ และอลิเซียก็เดินตามเขาไปด้วย สําหรับยาลิซ่า และเคลเลียนพวกเขาต้องทํางานที่ลูซิเฟอร์มอบให้

“อย่าบอกนะว่านายจะจริงจังกับมัน!” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์อย่างจริงจัง

“ตอนนี้ฉันไม่ได้ซีเรียสอะไรเลยฉันแค่ดูความเป็นไปได้เท่านั้น” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ปล่อยให้มันเป็นไปไม่ได้เท่านั้น! นายอย่าทําอะไรโง่ๆ! ยิ่งกว่านั้นเป้าหมายของนายอาจจะแตกต่างกัน ไม่จําเป็นต้องเสียงกับมันมากนัก ฉันแน่ใจว่านายจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้านายทําเช่นนั้นมันจะไม่มีการย้อนกลับไปได้! ”

“อย่างที่บอก นายต้องผ่อนคลาย ฉันแน่ใจว่าไม่มีความจําเป็นต้องทํา แต่ถึงแม้ว่า จะมีมันจะไม่เลวร้ายอย่างที่นายคิด” ลูซิเฟอร์กล่าว

ต่างจากแคสเซียส เขาดูสงบอย่างสมบูรณ์ราวกับว่าเขากําลังพูดถึงเรื่องปกติอย่างสมบูรณ์ “ไอย์ เธอเก็บตู้เย็นไว้ที่ไหน ฉันแน่ใจว่าเธอจะมีไอศกรีมที่นี่ใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามไอย์ที่กาลังหลงทางในความคิดของเธอเอง

ไอย์กาลังสวดอ้อนวอนให้ทุกคนยอมจํานนและไม่มีใครต่อต้าน

“ไอศกรีม?” เธอถามออกมาจากความงุนงงของเธอ

“แน่นอน เธอเก็บมันไว้ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามคําถามซ้ํา

ไอย์ไม่ได้ถามอีกและเพียงแค่พาลูซิเฟอร์ไปที่โรงอาหาร

“เอาเท่าไหร่ก็เอาไปได้เลย” เธอชี้ไปทางตู้เย็น ลูซิเฟอร์เปิดช่องแช่แข็งขนาดใหญ่เพื่อค้นหาสิ่งของมากมายภายในเขานําไอศกรีมมา 3 ถ้วยออกมาก่อนจะปิดมันลง

“นี่ กินอะไรในตอนนี้หน่อย ใจเย็นๆ ฉันแน่ใจว่าคุณ 2 คนคงเครียดนิดหน่อย ผ่อนคลาย เราเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจใหญ่โดยไม่มีใครตาย ซึ่งเราสมควรที่จะเฉลิมฉลองใช่ไหม” เขาถามขณะยื่นถ้วยให้แคสเซียสและไอย์คนละถ้วย

“นี่ 1 ถ้วย สําหรับเธอด้วย” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เขามอบถ้วยที่ 3 ให้กับอลิเซีย พลางเดินกลับไปที่ตู้เย็น เขาน่าถ้วยไอศกรีมออกมาอีกถ้วย แต่ครั้งนี้เพื่อตัวเองเท่านั้น เมื่อเขาหันหลังกลับ เขาสังเกตเห็นว่าไม่มีใครกําลังกินอยู่ อลิเซียมองมาที่เขา คิดว่าเกิดอะไรขึ้น? มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลูซิเฟอร์เป็นวอร์ล็อคที่ดู บ้าๆ บอๆ ที่ฆ่าวารันท์และเข้ายึดสํานักงานใหญ่ของ APF แต่ตอนนี้เขากําลังพูดถึงการยึดเมืองหลวง และวินาทีต่อมาเขากินไอศกรีมเหมือนเด็กๆ เลยงั้นเหรอ?

ตอนที่ 320: ความลับของยอดภูเขาน้ําแข็ง

แซนเดอร์ต้องการโต้เถียง แต่เขาตระหนักว่ามีความจริงกับมัน ตอนนี้เขาไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้แล้วเขาไม่สามารถแม้แต่จะเคลื่อนไหวเขาหายใจเข้าลึก ๆ เขาพยักหน้า หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความคับข้องใจที่ไม่สามารถทําอะไรได้เนื่องจาก APP ถูกทําลายจากแกนกลางของมัน ทั้งหมดที่เขาทําได้คือทําทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดในชั่วขณะหนึ่ง

“เอาล่ะ ท่ามัน” เขาพูดหลังจากการต่อสู้ครั้งแรก หมอเคลื่อนตัวไปที่ลิ้นชัก เมื่อเปิดออกเขาก็นํากระบอกฉีดยาออกมาเขานําขวดเล็กๆ ออกมาด้วย

“นอนบนเตียง” เขาสังแซนเดอร์ แซนเดอร์นอนอยู่บนเตียง ขณะที่มองดูชายชุดขาวเดินเข้ามาใกล้เขา แพทย์คนนั้นใช้สําลีเช็ดปลายแขนของแซน เดอร์ก่อนจะฉีดยาที่มียาเข้าไป

“นายต้องปลอดภัยเช่นกัน” แซนเดอร์บอกหมอคนนั้น ขณะที่เขาเริ่มง่วง เขารู้ว่าไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ยังเป็นหมอที่ตกอยู่ในอันตรายด้วย

การเต้นของหัวใจของแซนเดอร์ช้าลงในขณะที่เขาผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

“ฉันจะพยายาม เพื่อนของฉัน” ชายชุดขาวพูดพร้อมกับถอนหายใจ เขาเก็บกระบอกฉีดกลับไป “ฉันว่าฉันก็ควรมอบตัวตอนนี้เหมือนกัน” เขาออกจากห้องและไปที่ชั้น 4

ลูซิเฟอร์ยังคงอยู่ในห้องออกอากาศ นั่งบนเก้าอี้อย่างสบายเขาไม่ได้ออกจากสถานที่นี้เพราะเขาเชื่อว่าไม่จําเป็นต้องมีส่วนร่วมตอนนี้เขามีคนที่รอทําการประมูลของเขา

“นี่คือความรู้สึกของผู้มีอานาจ” เขาพึมพําขณะวางขาข้างหนึ่งไว้เหนืออีกข้างหนึ่ง “ไม่เลวเลย”

“การยึดฐาน APF เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย สิ่งกีดขวางที่ใหญ่ที่สุดจะเข้ายึดเมืองหลวง นั่นคือที่ที่มีป้อมปราการมากที่สุด แม้แต่ไรอาก็ไม่สามารถโจมตีเมืองนั้นได้แม้แต่ครั้งเดียว” ลูซิเฟอร์คิด พลางขมวดคิ้ว “ฐานของพวกองค์กรฮันเตอร์ก็อยู่ที่นั้นเช่นกัน กิลด์ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน การยึดครองสถานที่นั้นโดยเหลือเพียงไม่กี่คนจะใช้เวลานานมาก”

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเจียง เขารับสายภายในเสียงเรียกเข้าครั้งแรกดังออกมาในทันที

“บอส สบายดีไหม?” เสียงมาจากอีกด้านหนึ่ง

“นายอยู่ในเมืองหลวงเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถามโดยไม่เปิดเผยในการสนทนาเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ฉันอยู่นี่แล้ว” เจียงตอบ “ฉันต้องบอกว่าเป็นเมืองที่สวยงามจริงๆ แต่ ก็แตกต่างจากเมืองอื่นๆ มากเช่นกัน”

“สถานการณ์ของการทําสงครามกับ APF เป็นอย่างไรบ้างฉันคิดว่ามันจะเป็นข่าวทั้งหมด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเรายังไม่รายงานเรื่องนี้ สงครามยังไม่เกิดขึ้นหรือ?” เจียงถาม

“อย่ากังวลไป การรายงานข่าวจะครอบคลุมทุกภาคส่วนของประเทศในไม่ช้านี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะเก็บเมืองที่ถูกทําลายล้างเป็นความลับ แต่เราทํามันเสร็จแล้วอย่างรวดเร็ว ข่าวเหล่านั้นก็เลยอาจจะมาถึงช้า” ลูซิเฟอร์ตอบ

“แล้วมันเป็นยังไงบ้าง ฉันคิดว่าคุณชนะตั้งแต่คุยกับฉัน” เจียงถาม

“ถูกต้อง APF ถูกทําลาย อันที่จริง ฉันกําลังนั่งอยู่ภายในฐานของพวกเขาตอนนี้ เรายึดครองสถานที่แห่งนี้เช่นกัน” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ฐาน APF! ที่ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุดในประเทศรองจากเมืองหลวง? เร็วมาก? ยะ-ยังไง? บอกฉันที่ว่าคุณกําลังล้อเล่น!” เจียงอุทานด้วยความตกใจ

“มันไม่ได้ยากอย่างที่คิด ยังไงก็ตาม คุณทํางานที่ฉันให้ไปหรือเปล่า คุณจัดการเรื่องความปลอดภัยของเมืองได้หรือยัง” ลูซิเฟอร์ถามกลับ

“ฉันพบบางสิ่งแต่ไม่มาก มันจะใช้เวลา 2-3 วัน จนถึงตอนนี้ ฉันรู้แค่พื้นฐานเท่านั้น” เจียงตอบ

“บอกข้อมูลพื้นฐานที่นายรู้” ลูซิเฟอร์ตอบ

เจียงเริ่มอธิบายโดยไม่รอช้ “อย่างแรกเริ่มต้นที่สนามบินมีการตรวจสอบผู้โดย สารทุกคนที่ขึ้นเครื่องเพื่อไปยังเมืองหลวงอย่างเข้มงวด ชื่อของพวกเขาจะถูกตรวจสอบกับรายชื่อพิเศษ”

“รายชื่อนี้มีรายชื่อบุคคลที่น่าสนใจที่อาจเป็นอันตรายต่อเมืองหลวง สมาชิกกบฏอาชญากร และอื่นๆ ทั้งหมดอยู่ในรายชื่อ พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบินและแม้ว่าพวกเขาจะได้ขึ้นก็จะมีการคัดกรองอีกครั้งที่ทางขึ้นเครื่อง”

“การป้องกันของสนามบินนั้นบ้ามาก การผ่านเข้าไปโดยไม่มีใครตรวจพบนั้นยากยิ่งกว่านั้นพวกองค์กรฮันเตอร์อยู่ใกล้ ๆ ภายในไม่กี่นาทีศัตรูตัวใดก็ถูกไล่ตามจะถูกล้อม แม้ว่าเขาจะทําลายการป้องกันของสนามบินก็ตาม”

“นอกจากนี้ คุณต้องมีวีซ่าพิเศษ เพื่อเข้าเมืองหลวง แม้จะนั่งแท็กซี่ไปคุณจะต้องแสดงวีซ่านั้นที่นี่ค่อนข้างจะบ้า”

“โชคดีที่ฉันมีวีซ่าถาวรในฐานะเจ้าของบริษัทเวลลิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องไปสอบปากค่าอย่างละเอียดที่สนามบิน”

“พวกเขาถามฉันหลายร้อยคําถามเกี่ยวกับเหตุผลที่ฉันมา มันเหนื่อยมาก แต่ฉันผ่านที่นั่นมาได้

“ถ้าเพิกเฉยต่อความปลอดภัยของสนามบิน ฉันจะพูดถึงการรักษาความปลอดภัยของเมืองในตอนนี้ พวกมันมี 4 เส้นทางที่เข้าเมืองผ่านทางบก

“นอกจากเส้นทางเหล่านี้แล้ว ไม่มีทางอื่นเข้าไปได้ มีกําแพงคอนกรีตหนาทึบอยู่รอบเมือง และนั่นยังไม่หมดเพียงเท่านั้น มีแท่นยืนสําหรับกองทัพมากมายบนกําแพง”

“มีทหารที่ดีที่สุดนับพันคนในกองทัพเอลิเซียม คอยดูให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครข้ามกำแพง ใครก็ตามที่ถูกเจอและเดินตรงมาที่กําาแพงจะถูกยิงโดยไม่มีค่าถามใดๆ เลยข้อยกเว้นเพียงอย่างเดียวคือถ้าบุคคลนั้นผ่าน 1 ใน 4 เส้นทาง

“และแม้แต่ใน 4 เส้นทางนั้น ก็ยังมีการตรวจสอบพิเศษ อย่างแรกมีสถานตรวจสอบอยู่ห่างจากทางเข้าประมาณ 1 ไมล์”

“ถ้าคุณพลาดที่นั่น คุณจะถูกยิง ถ้าคุณผ่านคุณจะได้รับอนุญาตให้ไปข้างหน้าและถ้าคุณโจมตีผู้คนที่นั่น ทหารหลายพันนายจะโจมตีคุณ”

“ระบบป้องกันทั้งหมดของเมืองจะเปิดใช้งาน สิ่งที่ฉันสามารถพูดได้ก็คือถ้าใครคนหนึ่งไม่ต้องการให้กระสุนตกใส่เขา เขาไม่ควรโจมตีสมาชิกตรวจสอบที่จุดแรก”

“นั่นเป็นเพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น ฉันยังได้ยินเกี่ยวกับเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและการโจมตีด้วยเลเซอร์ด้วย แต่ฉันต้องยืนยันก่อนสำหรับตอนนี้ ฉันยังยืนยันไม่ได้เพียงอธิบายกับลูซิเฟอร์

“ส่วนปลายของภูเขาน้ําแข็งอื่มไม่เลว” ลูซิเฟอร์แสดงความคิดเห็น ขณะที่ พยายามคิดหาทางเข้าเขาไปสนามบินไม่ได้ เขาไม่สามารถผ่านเส้นทางภาคพื้นดินได้ เขาสงสัยว่ามีเส้นทางที่เรียบง่ายหรือไม่เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับห่าฝนของกระสุน แต่เขาต้องการให้แน่ใจว่าไม่มีทางอื่นก่อนที่จะลงมือทํา

ตอนที่ 319: ผู้นําคนใหม่

แซนเดอร์เข้าใจว่าเขาพูดถูก เขาจําเป็นต้องรู้สถานการณ์ก่อนที่จะรีบเข้าไปถ้าลูซิเฟอร์อยู่ข้างในสิ่งต่างๆ คงไม่ง่ายอย่างนั้น

“ฉันเป็นลูกของ เซลแอซเรลด้วย และให้ฉันบอกตัวตนที่ 3 ของฉันตอนนี้ ฉันคิดว่าคุณจะชอบมัน” เสียงขบขันของลูซิเฟอร์มาจากผู้พูด “คนที่คณได้ยินในตอนนี้…คือผู้นําคนใหม่ของกลุ่มแวเรียนท์เกิดใหม่!” เขาประกาศ

“เราได้ฆ่าวารันท์และสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณทั้งหมดที่เขานํามากับเขาในทางกลับกันวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดของเรายังมีชีวิตอยู่พวกเขาไม่เพียงแต่มีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่ยังอยู่ในสํานักงานใหญ่ของ APF แล้ว!” ลูซิเฟอร์แจ้งทุกคน

“ตอนนี้ ฉันไม่ชอบการนองเลือด อย่างน้อยก็ตราบใดที่ไม่มีการนองเลือดโดยไม่จําเป็นฉันจะให้โอกาสพวกคุณทุกคน”

“ยอมจํานนและเข้าร่วมกับฉัน ถ้าคุณไม่ยอมคุณจะถูกฆ่าทันที่ที่เราพบคุณ และเชื่อฉันเมื่อฉันพูดแบบนี้แล้วเราจะตามหาคุณให้เจอแน่นอน”

“ทะนุถนอมชีวิตของคุณและลืมหลักการข้อเท็จจริงที่คุณได้เรียนรู้ไม่ว่าในกรณีใดฉันสัญญากับใครบางคนว่าฉันจะปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่ตราบเท่าที่คุณยอมจํานน”

“แต่ฉันไม่รีรอที่จะฆ่าคุณทั้งหมดถ้าคุณไม่ยอมจํานนเท่านี้ก็เรียบร้อย ถ้าพวกคุณ ทุกคนต้องการมอบตัวมาที่ชั้น 4 และมอบตัว”

“ยิ่งไปกว่านั้น อย่าคิดว่าคุณจะหนีผ่านหลังคาหรือทางทางออกได้วอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดของเรามีอยู่ทุกหนทุกแห่ง

“หลังจากนั้น 20 นาที เราจะเริ่มกวาดล้างชั้นอื่นๆ และฆ่าทุกคนที่ต่อต้านเรา ฉันจะให้การตัดสินใจครั้งสุดท้ายแก่คุณ”

“คุณควรรู้ว่าอะไรดีกว่าสําหรับคุณ เพราะวันนี้ไม่มีฮีโร่มาช่วยคุณ ฮีโร่ของคุณควรตกนรกไปแล้ว” เขาพูดจบก่อนจะปิดสวิตช์ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรหาเคลเลียน “บอกให้ปิดการสื่อสารทั้งหมดที่ไม่ใช่ของเรามันไม่จําเป็นอีกต่อไปแล้ว” เขาตัดการเชื่อมต่อโดยไม่ต้องรอการตอบกลับ หลังจากนั้นเขาก็ยังคงนั่งบนเก้าอี้กอดอกพลางหลับตาในใจของเขาการนับถอยหลังได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

“พวกกบฏเข้าครอบงําเราแล้ว?”

“วารันท์ ตายแล้ว เป็นไปได้ยังไงเขาเอาวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดของเราไป ไม่มีใครแข็งแกร่งเหลืออยู่ที่ฐาน! ถ้าพวกนั้นตายกันหมดพวกเราจะต้านทานได้ไหม?”

“ฉันคิดว่าเราแพ้แล้ว ยอมมอบตัวดีกว่าวอร์ล็อคของเราตายแล้วและเราไม่มีใคร ปกป้องสิ่งเดียวที่เรามีคือระบบป้องกันของเราเพื่อรักษาฐานให้ปลอดภัย แต่ถึงอย่างนั้นก็ล้มเหลว ตอนนี้การจลาจลอยู่ที่นี่เราไม่สามารถทําอะไรได้!”

“มายอมแพ้กันเถอะ ฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับคนที่ฆ่าวารันท์!”

“ฉันก็ด้วยอย่างน้อยเราก็จะรอดแบบนี้ อะไรๆ ก็ดีกว่าความตาย!”

“ไปที่ชั้น 4 กันเถอะ!” กลุ่มคนส่วนใหญ่ที่อยู่ชั้นอื่นๆ เริ่มวิ่งไปที่ลิฟต์ เมื่อพวกเขาพบว่าลิฟต์ไม่ว่าง ทุกคนจึงวิ่งไปที่บันได พวกเขาไม่มีเวลามากนัก และต้องขึ้นไปบน ชั้น 4 เพื่อมอบตัวมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตัดสินใจต่อต้านมัน

“แทนที่จะเป็นนักโทษของแวเรียนท์เกิดใหม่ ฉันยอมเสี่ยงตายและหนี้ดีกว่า!”

“แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่าพวกเขามีกลุ่มคนอยู่ที่ทางเข้าออกใครจะไปรู้ บางที่เขาอาจจะกําลังบลัฟอยู่!”

“อาจเป็นได้ว่าเขาเป็นคนเดียวที่อยู่ที่นี่ เขาต้องการให้ทุกคนมาหาเขาที่ชั้น 4 เพื่อที่เขาจะได้ฆ่าพวกนั้นทั้งหมดถ้าแบบนั้นเรามามองหาทางหนีแทนกันเถอะ!”

กลุ่มคนเล็ก ๆ จํานวนมากก็ก่อตัวขึ้นเช่นกัน เมื่อผู้คนตัดสินใจหลบหนี พวกเขาไม่รู้ว่ามีเฮลิคอปเตอร์อยู่บนหลังคาหรือไม่ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจออกจากทางออกภาคพื้นดินแทน

แม้แต่แซนเดอร์ก็ยังนั่งอยู่ในห้องพยาบาล ตะลึงกับสิ่งที่เขาได้ยินวารันท์ตาย? ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แต่ทุกคนที่ไปสงครามนั้นตายไปแล้ว? ไม่มีข่าวใดที่จะเลวร้ายไปกว่านั้น ยิ่งกว่านั้นลูซิเฟอร์ยังควบคุมที่นี่อยู่

“แซนเดอร์ นายยอมแพ้ไม่ได้ นายเคยต่อสู้กับเขามาก่อน เขาจะเกลียดนาย ถ้าเขาเจอนายอีก เขาจะฆ่านาย” หมอบอกแซนเดอร์ “แต่นายก็สู้ไม่ได้เช่นกัน นายยังต้องการเวลามากกว่านี้ ถ้านายต่อสู้นายจะตาย ทางเดียวคือหลบหนี และลืม APF และช่วยชีวิตของนายเอาไว้”

แซนเดอร์มองที่มือและขาของเขา พลางขมวดคิ้ว หมอพูดถูกทั้งหมดเป็นเพราะตอนนี้เขาไม่แข็งแรงสมบูรณ์ หรืออย่างน้อยเขาก็สามารถต่อสู้ได้ แม้ว่าเขาจะไม่ชอบความคิดที่จะหลบหนี แต่เขารู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่น “เราจะหนีออกไปได้ยังไง? ฉันไม่รู้ว่าเขากําาลังบลัฟหรือเปล่า” แซนเดอร์พูดพลางขมวดคิ้ว

“ฉันมีทาง” ด็อกเตอร์กล่าว

“ทางไหน?” แซนเดอร์ถามพลางขมวดคิ้ว “ฉันไม่คิดว่าฐานทัพจะมีเส้นทางหลบหนี้ลับๆใช่ไหม?”

“เราไม่มี แต่ยังมีทางอยู่ และฉันต้องการให้นายฟังฉันอย่าเถียงตกลงไหม” แพทย์แนะน่าในขณะที่เขาขมวดคิ้ว

“ทางไหน?” แซนเดอร์ถาม

“ฉันต้องการให้นายเข้าสู่อาการโคม่าอีกครั้ง” หมอตอบ

“อะไรนะ?!”

“อย่าตกใจไป ฉันว่าข้างนอกนี้คงไม่มีใครรู้ว่านายตื่นแล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหมอตอบแซนเดอร์ ซึ่งปากยังอ้าค้างอยู่ด้วยความตกใจ

“เมื่อพวกเขามาตรวจสอบ เราจะได้บอกพวกเขาได้เลยว่านายยังคงอยู่ในอาการโคม่า ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะทําอะไรนาย นายจะถูกขังไว้ที่นี่ แม้ว่าจะเป็นลูซิเฟอร์ เขาอาจจะไม่ฆ่าคนที่เสียชีวิตไปแล้วครึ่งหนึ่งในช่วง 8 ปีที่ผ่านมาแล้วนายก็จะรอด” เขากล่าวเสริม

“หลังจากนั้น เราสามารถรอเวลาที่เหมาะสมได้ เนื่องจากจะเป็นอาการโคม่าที่เกิดจากการแพทย์ ฉันจะสามารถปลุกนายขึ้นมาได้ หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยดี และ แม้ว่าฉันจะทํามันไม่ได้ด้วยเหตุผลบางอย่างหลังจากนั้น 3 วัน เอฟเฟกต์จะจบลงด้วยตัวมันเองแล้วนายจะตื่น”

“เมื่อนั้นทุกอย่างน่าจะมีเสถียรภาพ ไม่มีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเช่นนี้ นายสามารถรักษาและรอเวลาที่เหมาะสมที่จะหลบหนี” แพทย์กล่าวจบ เรื่องแผนทั้งหมดที่เขามี

“ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่ว่าลูซิเฟอร์จะไม่ฆ่าฉัน! แต่ถ้าเขาทําโดยไม่สนใจสภาพของฉัน ฉันจะเป็นเหมือนไก่ในเขียงตอนนี้อย่างน้อยฉันก็ต้านทานได้ แต่แล้วยังไงล่ะ?” แซนเดอร์ถาม

“พยายามเข้าใจเถอะ ด้วยวิธีนี้ นายมีโอกาสรอดชีวิตและหลบหนีได้ ในทางกลับกัน หากนายตัดสินใจที่จะต่อสู้แบบนี้ นับประสาอะไรกับการหลบหนีนายอาจจะไม่รอดด้วยซ้ํา เขาจะฆ่านายอย่างแน่นอน!” แพทย์ชุดขาวกล่าว

“ดังนั้นฉันเชื่อว่าความเสี่ยงนี้คุ้มค่า ไม่ต้องกังวลฉันจะจัดการทุกอย่าง! แค่เชื่อใจฉันในเรื่องนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว” เขากล่าวเสริมพลางถอนหายใจ

ตอนที่ 318: ตัวตน

“ฉันต้องการการควบคุมทั้งหมดของฉัน ในขณะนี้ที่ฉันเป็นผู้มีอํานาจสูงสุด! ไอย์พ ดอย่างมีอารมณ์

“เธอพูดจริง ปล่อยเธอเข้าไปคุยกับมาร์ค” เจคก็พูดแบบเดียวกัน เพื่อสนับสนุนข้อ อ้างของเธอ เขาไม่รู้ทั้งหมดที่เขาเชื่อว่าเป็นเรื่องโกหก

“ก็ได้ เข้าไปสิ” พวกทหารเดินออกไป ปล่อยให้เธอผ่านไป ไอย์ผลักประตูห้องป้อ งกันและเข้าไปข้างใน

“คุณมาทําอะไรที่นี่?” มาร์คถาม ขณะหันไปมองไอย์

“ฉันมาที่นี่เพื่อช่วยพวกคุณทุกคน โปรดยกโทษให้ฉันด้วย” ไอย์กล่าวอย่างอ่อน แรง ขณะที่เธอมองลงมา

“คุณกําลังพูดอะไร?” มาร์คถามพลางขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าไอย์กําลังหมายถึง อะไร “คุณขอโทษทําไม”

“ฉันขอโทษสําหรับเรื่องนี้” ไอย์กล่าวอย่างเคร่งขรึม ขณะที่เธอยกมือขึ้นทันที

ทั้งห้องเย็นลงทันที เมื่อมือของเธอขยับ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด ที่แย่ที่สุดคือ สมาชิก APF ทั้งหมดในห้องถูกแช่แข็ง เธอเพิ่งใช้พลังของเธอตามที่วางแผนไว้ ลูซิ เฟอร์หยุด Limiter ไปชั่วขณะ เหมือนกับที่ครูในสถานศึกษาเคยทําก่อนการทดสอบ

“ฉันขอโทษจริงๆ แต่พวกนายจะไม่ตายที่นี่ ฉันแน่ใจแล้ว ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทําไม่ดี แต่มันเป็นทางเดียวที่ฉันต้องช่วยพวกนายทั้งหมด” ไอย์กล่าวพลางถอนหายใจ เธอ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาหมายเลขของเคลเลียนที่เธอจําได้ “ทางเดินโล่งมา ได้เลย”

“สมบูรณ์แบบ” เคลเลียนแสดงความเห็น ขณะเตรียมออกเดินทางไปยังฐานทัพ

เนื่องจากทุกคนในหน่วยป้องกันถูกแช่แข็ง ไม่มีใครสามารถควบคุมการป้องกันได้ ในตอนนี้ การป้องกันทั้งหมดลดลง เนื่องจากส่วนใหญ่ถูกควบคุมด้วยคนจากฐานที่นี่ ไอย์หายใจเข้าลึกๆ พลางเดินออกจากห้องป้องกันและเดินกลับไปที่ห้องขังที่เธอเก็บ ลูซิเฟอร์ไว้ ในไม่ช้เธอก็มาถึงห้องขังของลูซิเฟอร์ เธอเปิดประตูโดยใช้กุญแจเพื่อ ปลดปล่อยลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่บนเตียงโดยก้มหน้าลง เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เขาเงยหน้าขึ้น เพื่อเผยรอยยิ้ม

ลูซิเฟอร์ลูบหัวของเขาลุกขึ้นยืน “เสร็จแล้วเหรอ?”

“ฉันทําหน้าที่ของฉันแล้ว การป้องกันทั้งหมดลดลง” ไอย์ตอบ “ตอนนี้นายต้อง รักษาสัญญา”

“ตราบใดที่คนของเธอไม่ต่อต้านฉัน ฉันจะทํา มาดูกันว่ามันจะเป็นยังไง” ลูซิเฟอร์ พูด พลางก้าวออกจากห้องขัง “ระบบออกอากาศอยู่ที่ไหน? บางอย่างที่ช่วยให้เสียงของฉันไปถึงทุกมุมของสถานที่นี้?”

“ตามฉันมา” ไอย์พูดพร้อมกับหายใจเข้าลึกๆ ลูซิเฟอร์เดินตามไอย์ไป แต่ในขณะ เดียวกัน เขาก็เหลือบมองไปยังอีกห้องขัง สงสัยว่าคนที่อยู่ที่นั่นเป็นใคร

ไอย์นําลูซิเฟอร์ไปที่ห้อง ซึ่งมีไมโครโฟนที่สามารถถ่ายทอดเสียงของเขาไปได้ทุกที่ในฐาน

“ทันทีที่นายเปิดสวิตช์นั้น เสียงของนายจะเริ่มแพร่ภาพ” เธอบอกลูซิเฟอร์ขณะที่ชี้ไปที่สวิตช์

สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ขึ้นมาที่สํานักงานใหญ่ของ APF

เนื่องจากไม่มีใครสามารถจับตาดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้ จึงไม่มีทหารยามถูกส่งขึ้นไป บนหลังคาเพื่อสกัดกั้นพวกเขา เคลเลียนและสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่คนอื่นๆ ก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์ ลงจอดบนสถานที่ที่พวกเขาต้องการมาโดยตลอด สํานักงานใหญ่ของศัตรูของพวกเขา

“มันง่ายกว่าที่ฉันคาดไว้ ผู้นําคนใหม่ไม่ได้แย่ แผนของเขาช่วยให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ที่นี่

“ถูกต้อง ฉันคิดว่าเขาไม่เลวเลย แทนที่จะใช้กําลังบุกเข้าไป เขาใช้สมองของเขา และตอนนี้เรายืนอยู่ในที่ที่เราไม่เคยคิดที่จะยืนเป็นอย่างอื่น นี่จะเป็นจุดจบของ APF

เมื่อเห็นพวกเขาเข้าใกล้ความสําเร็จมากขึ้น สมาชิกจากแวเรียนท์เกิดใหม่หลายๆ คนก็ได้แต่ประหลาดใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง สิ่งนี้ทําให้พวกเขาชื่นชมลูซิเฟอร์ แม้จะ อายุน้อยแต่ก็เก่งมาก เขาไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้นแต่ยังฉลาดอีกด้วย โดยไม่ สนใจเสียงพูดคุยที่ไม่ได้สาระ เคลเลียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปที่หมายเลข ของไอย์

“นี่เคลเลียน” ไอย์พูด ขณะยื่นโทรศัพท์ให้ลูซิเฟอร์

“ใช่ คุณอยู่ในตําแหน่งไหน?” ลูซิเฟอร์ถาม ขณะวางโทรศัพท์ไว้ใกล้หู

“เราอยู่บนหลังคา” เคลเลียนตอบ

“อยู่ตรงนั้น ฉันจะส่งไอย์ไปรับคุณ” ลูซิเฟอร์บอกเคลเลียนก่อนจะตัดสาย

“พวกเขาอยู่บนหลังคา พาพวกเขาเข้ามาข้างใน ในระหว่างนี้ ฉันจะจัดการส่วนที่ เหลือเอง” เขาบอกไอย์ ขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้

“จ่าสัญญาไว้” ไอย์เตือนลูซิเฟอร์เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเธอจากไป ขณะที่ไอย์จาก ไป ลูซิเฟอร์ถูกทิ้งให้อยู่ตามล่าพังในห้อง เขานั่งบนเก้าอี้หมุน เงยหน้าขึ้นมอง ขณะ ที่เก้าอี้หมุน เขาก็เห็นหลังคาหมุนได้เช่นกัน

“ใกล้เข้าไปอีกก้าวหนึ่ง… ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะถอนหายใจ “มันเหนื่อยกว่าที่ฉัน คิด แต่ฉันหยุดไม่ได้ เอลิเซียมเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น” เขาวางเท้าลงบนพื้น พลางหมุนมันให้ช้าลง

เขาเอื้อมมือไปทางสวิตช์พร้อมที่จะเปิด ในขณะที่เขาเตรียมที่จะพูด ไอย์ขึ้นไปบน หลังคาแล้วส่งสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ลงมาโดยใช้ลิฟต์

เนื่องจากมีคนมากเกินขีดจํากัดของลิฟต์ เธอจึงออกไปและใช้ลายนิ้วมือเพื่อส่ง สมาชิกทั้งหมดไปที่ชั้นล่าง

หลังจากที่สมาชิกคนอื่นๆ หายไป ในที่สุดก็ถึงคราวของเคลเลียน ยาลิซ่า อลิเซีย และเวก้า พวกเขาทั้งหมดเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับไอย์

สมาชิก 2-3 คนยังคงอยู่บนหลังคาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครหนีออกมาจากที่นั้น

“สวัสดีทุกคน!” ลิฟต์กําลังจะลงเมื่อทุกคนได้ยินเสียง

“เขานั่นเอง” อลิเซียให้ความเห็น

“ให้ฉันแนะนําตัวเองก่อน ฉันชื่อลูซิเฟอร์ แอซเรล เด็กที่ถูกพวกคุณตามล่าเหมือน สุนัข แต่ฉันก็ยังมีอีกตัวตนหนึ่ง…” ลูซิเฟอร์กล่าว เสียงของเขาไปถึงทุกมุมของสํานักงานใหญ่ของ APF สมาชิกของ APF ไม่กี่คนที่อยู่ในฐานทั้งหมดได้ยินมัน พวก เขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เสียงก็ไปถึงสถานพยาบาลที่แซนเดอร์พักอยู่ เขาต้องกา รไปช่วยวารันท์ แต่เขาไม่สามารถทําได้เพราะเขาไม่สามารถเดินได้อย่างถูกต้องแม้ แต่ตอนนี้ ทั้งหมดที่เขาทําได้คือสะดุดล้ม

เมื่อเขาได้ยินเสียงนั้น เขาก็พบว่าเด็กชายคนนั้นอาจเป็นคนของ APF ทั่วไป แต่ เมื่อลูซิเฟอร์บอกตัวตนของเขา มันชัดเจนว่าเป็นใคร “ผู้ชายคนนั้นมาทําอะไรที่นี่? เขาพึมพํา ขณะที่เขาพยายามจะยืนขึ้น”นายลุกไม่ได้! นั่งก่อนสิ! “หมอหยุดเขาอีกครั้ง..”แทนที่จะรีบวิ่งเข้ามา นายควรดสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร! ฟังสิ่งที่เขาพูด!”

ตอนที่ 317: สํานักงานใหญ่ APE

“ฉันแค่ไม่ต้องการให้นายเริ่มทําลายสิ่งต่างๆ ถ้ามีอะไรผิดพลาด การแสดงของนายจึงเป็นสิ่งสําคัญ” ไอย์กล่าว

“การแสดงของฉัน? ฉันเรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุด เธอไม่ต้องกังวลกับมัน” ลูซิเฟอร์พูดขณะเดินกลับไปที่ที่นั่ง “แค่มุ่งความสนใจไปที่งานของเธอ เธอจะมีเวลา 30 นาที ก่อนที่ฉันจะเริ่มจัดการสิ่งต่าง ๆ ด้วยมือของฉันเอง”

เขานอนบนที่นั่งและหลับตา ในขณะที่หายใจช้าลง

ระยะห่างระหว่างเฮลิคอปเตอร์ของแวเรียนท์เกิดใหม่และฐาน APP ลดลงทุกวินาที

ในไม่ช้าเฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดบนหลังคาสํานักงานใหญ่ ซึ่งล้อมรอบด้วยสมาชิก APF จากหน่วยป้องกัน

แม้ว่าพวกเขาจะอนุญาตให้ไอย์ลงจอด แต่พวกเขาก็ไม่ผ่อนคลาย พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น

ประตูเฮลิคอปเตอร์เปิดออก ไอย์ก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์ซึ่งอุ้มลูซิเฟอร์ไว้ในอ้อมแขนของเธอราวกับว่าเขาเป็นเจ้าชายที่หลับใหล เมื่อเธอออกจากเฮลิคอปเตอร์สมาชิก APF ก็เดินไปที่เฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจภายในและจับกุมนักบินซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มกบฏ

ยามทุกคนทักทายไอย์และแสดงความยินดีกับการที่เธอกลับมาได้สําเร็จ “นี่ลูซิเฟอร์เหรอ เด็กชายที่หายตัวไปเมื่อ 8 ปีก่อน?” ยามถามเธอ

“ใช่ เขาเป็นลูซิเฟอร์คนเดียวกัน ฉันวางยาเขา ดังนั้นเขาไม่ควรตื่นก่อนพรุ่งนี้” ไอย์ตอบ

“กัปตันวารันท์อยู่ที่ไหนเราคิดว่าเขาไปช่วยเธอแล้ว” ชายคนนั้นถามอีกครั้ง

“ไม่รู้ ระหว่างทางฉันไม่ได้เจอเขา บางทีฉันอาจจะออกไปก่อนเขาจะไปถึงก็ได้ ยังไงก็เถอะ ขอเข้าไปข้างในก่อน หลังจากนั้นฉันจะลองติดต่อวารันท์เพื่อบอกเขาว่าฉันกลับมาแล้ว” “ไอย์กล่าว ขณะที่เธอวางนิ้วโป้งบนเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ

หลังจากสแกนภาพพิมพ์ของเธอแล้ว ทางเข้าลิฟต์ก็เปิดออก

ยาม 2-3 คนก้าวเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับเธอด้วย ลิฟต์ไปที่ชั้นล่างซึ่งเป็นที่เก็บนักโทษของ APF ที่แข็งแกร่งที่สุดไอย์หยุดอยู่หน้าห้องขังแห่งหนึ่ง เธอเปิดประตูก่อนจะก้าวเข้าไป

เธอวางร่างของลูซิเฟอร์ที่ไม่ขยับเขยื้อนเข้าไปในห้องขัง ก่อนที่เธอจะจากไป และล็อกประตูอีกครั้ง

หลังจากที่ทุกคนจากไป ลูซิเฟอร์ก็ลืมตาขึ้น เขามองไปรอบ ๆ ห้องขังเพื่อสังเกตว่าไม่มีกล้องในห้องขังนี้ ไม่มีพัดลมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่นี่

ส่วนผนังนั้นเสริมแรงเพื่อรองรับแรงกระแทกที่หนักที่สุด นอกจากเตียงและห้องส้วมแล้ว ในห้องขังนี้ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้ว “นี่คือที่ที่พวกเขากักขังนักโทษ ฉันคิดว่าวันนี้เป็นวันโชคดีของพวกเขา พวกเขาจะได้รับอิสรภาพในวันนี้” เขาพึมพําขณะยืนขึ้น

ประตเป็นโลหะทั้งหมด ดูเหมือนทํามาจากวัสดุล้ําค่า ประตูไม่มีช่องว่าง ดังนั้นไม่มีใครสามารถมองเห็นภายในได้เช่นเดียวกับที่เขามองไม่เห็นภายนอก

เขายืนขึ้นและเหยียดแขน ขณะเดินไปที่ประตูโลหะของห้องขัง

เขาถอดถุงมือออก แตะเบา ๆ ที่ประตูเพื่อทดสอบว่าพวกมันสามารถต้านทานการผุพังได้หรือไม่ เขาบอกให้ไอย์ยังเขาไว้ในห้องขังที่ไม่ได้สร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ แม้ว่าเขาจะได้รับการยืนยันจากเวราซิตี้ว่าไอย์กาลังจะทําตามที่เขาขอ แต่เขาก็ยังตัดสินใจทดสอบเพื่อให้แน่ใจ

นิ้วของเขาเล็มผ่านโลหะ ซึ่งเริ่มสลายไปอย่างช้าๆ ในไม่ช้าเขาก็ถอดมือออกในขณะที่เขาทําให้แน่ใจว่าสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถต้านทานเขาได้ เขาสามารถก้าวออกจากที่นี่ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ

หลังจากแน่ใจแล้ว เขาก็เดินกลับไปที่เตียงและนั่งลงในขณะที่รอ…รอเวลาที่การป้องกันของฐานกําาลังจะหมดลงไอย์กําลังเดินอยู่ในฐานพร้อมกับทหาร

เธอถูกนําตัวส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเป็นมาตรการ เธอจําเป็นต้องได้รับการทดสอบเพื่อดูว่าเธอได้รับบาดเจ็บหรือไม่

“ทําไมวันนี้ฐานว่างเปล่าจัง ดูเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย?” ไอย์ถามขึ้น

“นั่นเป็นเพราะว่ากัปตันวารันท์พาสมาชิกเกือบทั้งหมดไปกับเขา มีเพียงทหารขั้นต่ําเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เพื่อจัดการกับการทํางานของฐาน” ผู้คุมตอบ

“วารันท์ออกไปเมื่อไหร่” เธอถามผู้คุม

“เขาไปเมื่อไม่กี่วันก่อน” พวกยามตอบ

“พวกนายลองติดต่อเขาหรือยัง” ไอย์ถามด้วยความสงสัย

“เรายังไม่ได้ทํา” พวกทหารตอบ

“ฉันจะติดต่อเขาไปที่สํานักงานของฉันกันเถอะ” ไอย์พูดเพื่อเปลี่ยนทิศทางของเธอ เธอเข้าไปในสํานักงานและหยิบโทรศัพท์สํารองขึ้นมาก่อนจะออกมา

หลังจากออกมา เธอโทรไปที่หมายเลข ในขณะที่เธอเริ่มเดินไปที่สถานพยาบาลอีกครั้ง “วารันท์? ฉันกลับมาที่ฐานแล้ว นายอยู่ที่ไหน” เธอพูดเหมือนถูกรับสาย

“อะไรนะ นายไม่ใช่วารันท์ นายเป็นใคร” เธอถามพลางตะโกนเธอดูตกตะลึงจริงๆ

มันเป็นทั้งหมดสําหรับการแสดงแม้ว่า เธอเพียงต้องการแสดงให้สมาชิก APF อยู่ข้างหลังเธอไม่ว่าในกรณีใด เธอรู้เสมอว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอวางโทรศัพท์ลงช้าๆ มันตกลงไปที่พื้นและตกลงมาจากมือของเธอ

“เกิดอะไรขึ้น?” พวกทหารถามด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไรอา วารันท์ตายแล้ว คนของเราทั้งหมดถูกสังหาร และตอนนี้แวเรียนท์เกิดใหม่กําลังรุกคืบเข้ามาที่นี่เพื่อทําลายฐานของเรา” ไอย์กล่าวขณะที่ใบหน้าของเธอดูตกใจ

“เราไม่มีเวลาให้เสียเปล่า! เราจําเป็นต้องเพิ่มการป้องกันของสํานักงานใหญ่! พวกนายทุกคนไปรับคนเข้าประจําตําแหน่ง!”

“ฉันจะโทรหาองค์กรฮันเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือ เรากําลังเผชิญกับอันตรายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน! เจค นายมากับฉัน!” เธอพูดขณะที่เธอเริ่มวิ่งไปทางหนึ่งหลังจากหยิบโทรศัพท์นมา

เธอโทรไปเบอร์อื่น ทําให้ดูเหมือนเธอโทรหาองค์กรฮันเตอร์ แต่มันเป็นแค่การแสดงของเธอเท่านั้น ในการโทรศัพท์ เธอแจ้งอีกฝ่ายว่าเกิดอะไรขึ้นกับ APF และพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ พูดเสร็จเธอก็เก็บโทรศัพท์คืน

“พวกเขาพูดอะไรบ้าง?” เจคถาม

“พวกเขาบอกว่าจะส่งทีมมาที่นี่ ส่วนเซส เขาจะมาช่วยเราเป็นการส่วนตัว แต่มันต้องใช้เวลาเราต้องอดทนไว้จนถึงตอนนั้น เราจําเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวรับของเรา การป้องกันและระบบของเราจะถูกเปิดใช้งานเพื่อชะลอพวกกบฏ!” ไอย์กล่าวขณะที่เธอยังคงวิ่งต่อไป ในไม่ช้าเธอกับเจคก็หยุดอยู่หน้าห้องป้องกัน

แวเรียนท์ที่เชื่อถือได้ 2-3 คนของวารันท์คอยคุ้มกันอยู่ที่นั่น

“กัปตัน ไอย์ คุณมาที่นี่ไม่ได้ มีเพียงกัปตันวารันท์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป!” ยามแจ้งเธอ

“วารันท์ ตายแล้ว! นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมาที่นี่! ฐานทั้งหมดตกอยู่ในอันตรายสมาชิกของเราทุกคนตายแล้ว และแวเรียนท์เกิดใหม่ก็มาถึงแล้ว!” ไอย์บอกพวกเขา..

ตอนที่ 316: อนุญาตให้ลงจอด

“ไปเถอะ” ลูซิเฟอร์พูดอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะหยิบเมนูออกมาสั่ง

“ทําไมเธอถึงยอมช่วยเราต่อต้าน APF? พวกเธอทุกคนไม่ภักดีจนไม่ยอมรับความตายและทรยศเขา หรือว่าเธอกําลังพยายามนําเราไปสู่กับดักที่จะทรยศเราในภายหลัง” เคลเลียนถามไอย์

“ตอนนี้ฉันจะได้อะไรจากการต่อสู้กับพวกนาย? วารันท์ตายไปแล้วและสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของเราทั้งหมดก็ตายไปแล้วเช่นกัน มันเป็นการต่อสู้ที่พ่ายแพ้ไปแล้ว” ไอย์ตอบ

“อย่างน้อยด้วยวิธีนี้ ฉันสามารถหลีกหนีจากการทรมานที่ไม่จําเป็น ขณะเดียวกันก็ทําให้มั่นใจว่าผู้คนจะไม่ตายมากขึ้น” เธออธิบาย มองลงมาพร้อมถอนหายใจ “นอกจากนี้ เจ้าอาจไม่รู้ แต่พลังแห่งการเน่าเปื่อยของเขาน่ากลัวกว่าความตาย”

“เธอจะช่วยเราจริง ๆ เหรอ เธอรู้ผลของการทรยศใช่ไหม” เคลเลียนถามอีกครั้ง

“ฉันรู้ ฉันจะไม่คิดถึงเรื่องนั้นอีก ฉันไม่ต้องการให้คนบริสุทธิ์ตายเพราะเราดื้อรั้นมากเกินไปที่จะต่อต้านเขา” ไอย์ตอบอย่างหนักแน่น

“เธอควรจําไว้นะ” เคลเลียนพยักหน้า ขณะที่เดินกลับไปที่โต๊ะ ยอมรับการตัดสินใจ

ในไม่ช้าอาหารก็ถูกเสิร์ฟสําหรับลูซิเฟอร์และไอย์

“ดูเหมือนนายจะวางแผนทุกอย่างไว้จริงๆ ใช่ไหม” อลิเซียถาม “นายยังคิดเกี่ยวกับแผนของเราด้วยใช่ไหม”

“ถ้าไม่ใช่ฉันแล้วจะใครล่ะ” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน คนอื่นๆ ทานอาหารเสร็จแล้ว แต่ลูซิเฟอร์เพิ่งเริ่ม ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงรออยู่ที่นี่

เพียง 30 นาทีต่อมา ลูซิเฟอร์ก็ลุกขึ้นยืน ถึงเวลาออกเดินทาง

เขาเป็นคนแรกที่ก้าวออกจากร้านอาหาร ตามด้วยสมาชิกในทีมของเขา เสื้อคลุมยาวของเขาปลิวไปตามสายลมราวกับผมยาว ทําให้เขาดูมีเสน่ห์เล็กน้อย แต่ไม่มีใครเห็นเขาที่ถนน ถนนทั้งหมดว่างเปล่า

พวกเขาทั้งหมดเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ ใบพัดเริ่มเคลื่อนที่เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลอยขึ้นไปในอากาศ

“3 ไมล์ข้างหน้าเราคือสํานักงานใหญ่ของ APF มันไม่ได้ล้อมรอบด้วยอาคารอื่น ดังนั้นมันจึงค่อนข้างง่ายที่จะมองเห็น แต่นั่นก็เป็นปัญหาเช่นกัน พวกเขาสามารถหาคุณได้ง่ายเช่นกัน” เคลเลียนและลูซิเฟอร์ยืนอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งหยุดอยู่ห่างจากสํานักงานใหญ่ของ APF ไป 3 ไมล์ เป็นการหารือถึงแผนต่อไป

“ต่อให้คุณไปกับไอย์ พวกมันก็น่าสงสัย แล้วแผนของคุณล่ะ?” เคลเลียนถาม

“ฉันจะเป็นตัวประกัน” ลูซิเฟอร์ตอบ

“นั่นน่าจะทําให้พวกเขาตื่นตัวน้อยลง ไอย์ จะพาฉันเข้าไปในสถานที่นั้นโดยแสร้งทําเป็นว่า เธอจับฉันไว้ หลังจากที่ฉันเข้าไปข้างในเราจะเริ่มทํางานและปิดการใช้งานระบบรักษาความปลอดภัยทั้งหมด หลังจากนั้นคุณทุกคนก็เข้ามา”

“และถ้ามีอะไรผิดพลาด เราจะจัดการกับมันเมื่อถึงเวลา” เขากล่าว

“ฉันยังรู้สึกว่ามีความเสี่ยงในแผน แต่แล้วอีกครั้ง นายเป็นอมตะ ดังนั้นมันควรจะไม่เป็นไร แต่ไอย์จะนําข้อมูลไปให้พวกเขาได้อย่างไร” อลิเซียถาม

“ฉันหมายถึง พวกเขาสามารถเห็นเฮลิคอปเตอร์แวเรียนท์เกิดใหม่พุ่งเข้าหาพวกเขาได้อะไร จะหยุดยั้งพวกเขาไม่ให้พัดนายขึ้นไปกลางอากาศ” เธอถามต่อ

“ไม่ต้องห่วง เราคิดไว้แล้วเหมือนกัน มีความถี่ลับที่สมาชิก APF ใช้ติดต่อกัน โดยใช้ความถี่นั้น เธอสามารถส่งสัญญาณถึงพวกเขาจากภายในเฮลิคอปเตอร์ของเรา พวกมันจะไม่ระเบิดพวกเราขึ้นไปหรอก” ลูซิเฟอร์ตอบ “พวกเจ้าทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม”

“เอาล่ะ ขอให้โชคดี หวังว่าแผนจะสําเร็จโดยไม่สะดุด” อลิเซียถอนหายใจ “ฉันไม่อยากเสียใครไปอีกแล้ว”

หลังจากออกจากทีม ไอย์และลูซิเฟอร์ก็ก้าวขึ้นเป็นผู้นําในเฮลิคอปเตอร์

คนเดียวในเฮลิคอปเตอร์คือนักบิน ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มกบฏด้วย เฮลิคอปเตอร์เคลื่อนตัวไปยังฐาน APF

“ท่านครับ เฮลิคอปเตอร์กําลังเดินทางเข้ามาหาเรา และมันก็ดูไม่เหมือนของเราเลย ดูเหมือนว่าจะเป็นของแวเรียนท์เกิดใหม่ ฉันควรทําอย่างไรดี ระเบิดมันซะดีไหม”

ภายในห้องป้องกัน ชายผมสีเข้มนั่งอยู่บนเก้าอี้ของเขา มีฉากกั้นหลายสิบบานอยู่ตรงหน้าเขา ซึ่งแสดงให้เห็นบริเวณโดยรอบฐาน

“ลําเดียว?” หัวหน้าทีมป้องกันถาม

“ใช่แล้ว มีเพียงลำเดียว ดูเหมือนไม่ใช่ทีมจู่โจม แต่พวกเขาก็ยังไม่หยุด” ชายผมดําตอบ

“เอาล่ะ ระเบิดมันซะ นี่เป็นพื้นที่หวงห้ามที่ไม่มีใครมา แน่นอนว่ารัฐบาลจะไม่ส่งใครมาที่นี่และ องค์กรฮันเตอร์ก็มักจะมา หลังจากแจ้งเราเสมอ พวกนี้ควรเป็นศัตรู อย่าลืมทําลายพวกมันทิ้งไปซะ” ผู้นํากล่าว ขณะสังเกตเฮลิคอปเตอร์สีดบินตรงมาทางพวกเขา ชายผมดําพิมพ์บางอย่างบนแป้นพิมพ์ ซึ่งทําให้มีชุดควบคุมที่แตกต่างกันออกไป

มีปุ่มหลายปุ่มบนตัวควบคุมใหม่ ซึ่งทั้งหมดมีตัวอักษรพิมพ์อยู่

“3…2… 1…”

เมื่อนับเสร็จ เขาก็เอื้อมมือไปกดปุ่ม

“รอก่อน!” เสียงกรีดร้องมาจากด้านหลัง

“อะไรเหรอเรย์” ชายผมดําถาม ในขณะที่เขาแทบจะหยุดตัวเองไม่ได้

นิ้วของเขายังคงสัมผัสปุ่มสีแดง อีกสักครู่และสวิตช์จะถูกกด

“เราได้รับสัญญาณแปลก ๆ มันอยู่ในความถี่ลับของเรา และมันมาจากเฮลิคอปเตอร์ลํานั้น มันอาจจะเป็นหนึ่งในพวกเรา!” ชายอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่ในระบบอื่นกล่าว เขาคือเรย์ที่รับผิดชอบด้านการสื่อสาร “ปล่อยให้การเชื่อมต่อผ่านมา ฉันอยากได้ยินว่าใครเป็นใคร” หัวหน้าบอกเรย์

“เดี๋ยวก่อนครับนาย” ภายในเฮลิคอปเตอร์ ลูซิเฟอร์และไอย์ยืนเคียงข้างกันโดยมองไปที่ฐานข้างหน้า

“พวกเขาน่าจะเชื่อมต่อกับเราในไม่ช้าเช่นกัน จากนั้นเราก็เริ่มคุยกันได้” ไอย์บอกกับลูซิเฟอร์ผู้ซึ่งสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

“นี่คือมาร์ค หัวหน้าหน่วยป้องกัน APF ระบุตัวตนของคุณ!” เสียงผู้ชายคนหนึ่งดังมาจากผู้พูดเมื่อทําการเชื่อมต่อสําเร็จ

“มาร์ค นี่ฉันเอง ไอย์! ฉันอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ อย่าระเบิดมัน!” ไอย์พูดอย่างหนักแน่น

“กัปตันไอย์! คุณกําลังทําอะไรอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ของพวกแวเรียนท์เกิดใหม่?” มาร์คถามเหมือนตกตะลึง

“ฉันรอดจากเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขา! ฉันยังจับคนร้ายได้ ไม่มีใครอื่นนอกจากลูซิเฟอร์ เขาหมดสติในเฮลิคอปเตอร์ด้วย นอกจากเรา 2 คนและนักบินแล้ว ยังไม่มีใครอยู่ที่นี่” ไอย์บอกกับมาร์ค

“เอาล่ะ คุณได้รับอนุญาตให้ลงจอดบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์” มาร์คยืนยันโดยอนุญาต “เราจะไม่โจมตี” การเชื่อมต่อถูกตัด

“สําเร็จ ตอนนี้นายแค่ต้องทําหน้าที่ของนาย อยู่ในห้องขังจนกว่าฉันจะปิดระบบรักษาความปลอดภัย หลังจากนั้น ฉันจะปลดปล่อยนาย” ไอย์บอกกับ ลูซิเฟอร์แล้วหันหลังกลับ

“เธอกําลังพยายามเตือนฉันถึงแผนที่ฉันสร้างไว้จริง ๆ เหรอ” ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ เขาอดไม่ได้ที่จะพบว่ามันตลก..

ตอนที่ 315: สนับสนุน

“แล้วถ้าฉันสัญญาว่าจะปล่อยให้สมาชิก APF ของเธอยังมีชีวิตอยู่ หลังจากที่ฉันพิชิตประเทศนี้ คิดให้ชัดเจน ทันทีที่ฉันออกจากที่นี่ ฉันจะไปที่นั่นพร้อมกับแวเรียนท์เต็มรูปแบบ และกองกําลังกบฏ” ลูซิเฟอร์เตือนไอย์

“สมาชิก APF ส่วนใหญ่ตายไปแล้ว ฐานของเธอเป็นเพียงกระสุนเปล่า แม้ว่าจะมีการป้องกันที่แข็งแกร่ง เราก็สามารถทําลายมันได้ทั้งหมด”

“และเชื่อฉันเมื่อฉันพูดแบบนี้ แต่ฉันจะฆ่าพวกมันทั้งหมด ไม่มีสักตัวเดียวที่จะรอดได้ หากเธอต้องการให้ฉันปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ ทางเลือกเดียวคือสนับสนุนฉัน นั่นคือทั้งหมดที่ฉันจะพูด” เขาพูดต่อ

ขณะที่เขาพูด เขาดูมีความเห็นอกเห็นใจราวกับว่าเขาต้องการเมตตา APF ถ้าไอย์สนับสนุนเขา แต่ไอยไม่รู้ว่ามีความจริงอยู่ในค่าพูดนั้นหรือไม่

เวราซิตี้ยืนอยู่ข้างหลังไอย์ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย อย่างที่ลูซิเฟอร์พูด แม้ว่าเธอจะถูกหลอกให้คิดว่าเขาพูดความจริง

แต่เธอรู้ว่ามีบางอย่างโกหกในคําพูดของเขา เธอไม่รู้ว่าส่วนไหนเป็นเรื่องโกหก

ทั้งหมดที่เธอร์คือมีเรื่องโกหกในค่าพูดของเขา แต่เขาพูดหลายสิ่งหลายอย่าง เธอไม่สามารถระบุเรื่องโกหกได้

“นายสัญญาว่าจะปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่ใช่ไหม?” ไอย์ถามหลังจากหยุดชั่วครู่

“ใช่ ถ้าพวกเขาสนับสนุนฉันหลังจากนั้น” ลูซิเฟอร์ตอบ “มีอะไรดีไปกว่าความตายสําหรับพวกเขา ดังนั้นฉันคิดว่าเธอรู้ว่าเธอควรเลือกอะไร”

“ก็ได้ ฉันจะช่วยนาย ฉันจะขอให้พวกเขามอบตัว แล้วฉันจะพานายเข้าไปข้างในอย่างปลอดภัย” ไอย์กล่าวในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ เธอตัดสินใจช่วยเขาถ้านั่นหยุดการนองเลือดได้

เธอเห็นด้วย เพราะลูซิเฟอร์ฆ่าวารันท์จริงๆ ถ้าเขาแข็งแกร่งมากและได้รับการสนับสนุนจากแวเรียนท์เกิดใหม่ การป้องกันสํานักงานใหญ่ของ APF จะไม่คงอยู่นาน

และเธอก็รู้ด้วยว่าเมื่อการป้องกันถูกทําลาย ทุกคนในนั้นจะถูกสังหารเพราะต่อต้าน ด้วยการช่วยให้พวกเขาเข้ายึดครองอย่างง่ายดายและปล่อยให้ฝ่ายของเธอยอมจํานน เธอสามารถหยุดพวกเขาจากการตายได้

“แต่ฉันยังต้องการค่าสัญญาอื่นจากนาย เพื่อแลกกับความช่วยเหลือนั้น” ไอย์กล่าวเพิ่มเติม

“สัญญาอะไร” ลูซิเฟอร์ถาม

“นายจะไม่ฆ่ามนุษย์โดยไม่จําเป็น เช่นเดียวกับแวเรียนท์เกิดใหม่ เมื่อ APF หายไป มนุษย์จะไม่สามารถป้องกันแวเรียนท์ทมิฬได้ ฉันต้องการคําสัญญาของนายว่ามนุษย์จะไม่ได้รับผลกระทบจากการครอบครองของนายและชีวิตของพวกเขา จะไม่เปลี่ยนแปลง” ไอยวางเงื่อนไขไว้

“ฉันยอมรับ ฉันจะไม่ฆ่าพวกเขา ไม่ว่าในกรณีใด ฉันไม่จําเป็นต้องเสียเวลากับพวกเขา ฉันมีเรื่องสําคัญกว่าที่ต้องทํา” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมยอมรับเงื่อนไข

“แล้วเธอจะช่วยฉันเข้าไปไหม” ลูซิเฟอร์ถาม

ลูซิเฟอร์กําลังลอยอยู่เหนือเมืองเคนซิงตันที่ถูกทําลายไปอย่างสิ้นเชิง ภูมิประเทศถูกทําลายอย่างสิ้นเชิง และไม่มีต้นไม้หรือสวนใด ๆ เหลืออยู่เลย ศพจํานวนมากกระจายไปทุกที่ มีผู้หญิงคนหนึ่งสวมกอดลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาลอยออกไป

ไอย์ถูกโอบกอดแน่นจากลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาบินไปยังเมืองถัดไป

ไอย์ยอมรับที่จะช่วยเขา และเวราซิตี้ได้ยืนยันคําร้องของเธอแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่เขาพาเธอไปกับเขา สําหรับเวราซิตี้ เธอถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ยังมีความกังวลเล็กน้อยในหัวของเขา เขาจะอธิบายลักษณะที่ปรากฏของ ไอย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาอ้างว่าตายได้อย่างไร “เธอเข้าใจทุกอย่างแล้วใช่ไหม” เขาถามไอย์

“ฉันรู้ ฉันรู้ว่าจะพูดอะไร” ไอย์พยักหน้า กําไล Limiter ยังอยู่ในข้อมือของเธอ ดังนั้นเธอจึงยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังของเธอ

“ดีแล้ว เพราะความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวจะสร้างปัญหาได้” ลูซิเฟอร์เตือนเธอ “และถ้าฉันมีปัญหา เธอจะมีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นอีก”

“ฉันเข้าใจ นายไม่ต้องพูดซ้ํา” ไอย์ตอบ

ในไม่ช้าลูซิเฟอร์ก็ไปถึงเมืองถัดไป เขาบินเหนือเมืองถัดไปเพื่อค้นหาเฮลิคอปเตอร์และรู้ว่าสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่รออยู่ที่ใด ไม่นานเขาก็พบกลุ่มเฮลิคอปเตอร์จํานวนมากกําลังยืนอยู่บนถนน ปิดกั้นพวกเขาทั้งหมด ดูเหมือนว่าการจราจรทั้งหมดจะหยุดลงเพราะเหตุนั้น แต่ดูเหมือนไม่มีใครบ่น

มีรถอยู่ใกล้ ๆ ซึ่งดูเหมือนจะกลับหัวกลับหาง สามารถมองเห็นรถอีกคันติดอยู่ภายในกําแพงของอาคารใกล้เคียง

เมื่อเห็นภาพนั้น ลูซิเฟอร์ก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ ดูเหมือนว่าสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่จะสร้างความวุ่นวายในการเคลียร์ถนนเพื่อลงจอด ลูซิเฟอร์และไอย์ ลงจอดที่หน้าร้านอาหาร ซึ่งเต็มไปด้วยสมาชิกจากแวเรียนท์เกิดใหม่ ดูเหมือนว่าจะถูกยึดครองไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อผลักประตูออก ลูซิเฟอร์ก็ก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกับไอย์

เมื่อเห็นเขา ทุกคนก็ประหลาดใจ ไม่ใช่เพราะเขาอยู่ที่นี่ แต่เพราะผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วย พวกเขาเคยเห็นไอย์มาก่อน เคลเลียนยืนขึ้นขณะที่เขาเข้าใกล้ลูซิเฟอร์ มีคําถามมากมายในหัวของเขา

“เธอคือไอย์ใช่ไหม” เขาถามเพื่อความแน่ใจ

“ถูกต้อง เธอเป็นรองกัปตันของ APF กลุ่มเบต้าและเธอก็เป็นคนที่จะช่วยเราเข้ายึดครองสถานที่นั้นโดยไม่สูญเสียอะไรมากมาย” ลูซิเฟอร์ตอบ

“นายไม่ได้บอกว่าเธอตายแล้วเหรอ?” เคลเลียนถามอย่างสับสน

“ฉันพูดแบบนั้น เพราะฉันต้องการเซอร์ไพรส์ให้ไรอาในภายหลัง ฉันเก็บเธอและไว้ชีวิตเพื่อต่อต้าน APF นั่นเป็นเพราะเธอเท่านั้นที่ฉันได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับการป้องกัน APF” ลูซิเฟอร์ตอบ

เขาฉลาดในการโกหกจนไม่มีใครเห็นว่าเขากําลังโกหก การโกหกทั้งหมดของเขาดูเหมือนความจริง

“ฉันรอให้เธอตกลงที่จะช่วยเราอย่างเต็มที่ก่อนที่จะบอกไรอา ถ้าฉันเคยพูดเรื่องนี้มาก่อนและเธอไม่ตกลงที่จะช่วยเรา ฉันจะฆ่าเธอ และมันจะเป็นความผิดหวัง”

“ดังนั้นฉันจึงรอจังหวะที่เหมาะสม น่าเสียดายที่ไรอาไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อดูสิ่งนี้อีกต่อไป” เขากล่าวต่อพร้อมถอนหายใจ

“เธอจะช่วยเราไหม” เคลเลียนถาม

“ถูกต้อง เธอจะพาฉันเข้าไปในฐาน APF และเธอจะช่วยเราปิดการใช้งานระบบป้องกันทั้งหมด หลังจากนั้น พวกคุณก็มาได้อย่างที่คุณพูดก่อนหน้านี้ เราประสบความสูญเสียครั้งใหญ่แล้ว เราไม่สามารถทนได้มากกว่านี้อีก” ลูซิเฟอร์ได้ตอบกลับ

“ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่เรามี ไม่ว่าในกรณีใด นั่นเป็นการตัดสินใจขั้นสุดท้าย จะไม่มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ยังไงก็ตาม ช่วยเอาอาหารมาให้ฉันด้วย ฉันหิวจะตายอยู่แล้ว” เขากล่าวราวกับว่าเป็นคําสั่งสุดท้าย

เขาเดินไปที่โต๊ะที่อลเซียและแคสเซียสนั่งอยู่ เขาและ ไอย์ นั่งที่โต๊ะเดียวกัน

เคลเลียนไม่ได้ทิ้งเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เขายังคงมีคําถามมากมาย เขาเข้าหาพวกเขาอีกครั้ง

“ถ้าเธอจะช่วยเราจริงๆ มันจะดีมาก ฉันยอมรับ แต่ฉันมีค่าถาม 2-3 ข้อสําหรับคุณ ฉันขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” เขาถามลูซิเฟอร์..

ตอนที่ 314: คุณทําได้ยังไง?

“โอ้ วันนั้นจะมาถึงอย่างแน่นอน ไม่ต้องห่วง และมันจะไม่ไกลเกินไปเช่นกัน” ลูซิเฟอร์ประกาศ

“เวราซิตี? ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริงเหรอ?” เขาถามความจริง

“เขาบอกความจริงเขาไม่ได้โกหกเลยแม้แต่ครั้งเดียว” เวราซิตี้ตอบ

“ดีแล้ว คําถามต่อไป พวกคุณทําได้ยังไง คุณฆ่าเขาได้ยังไง ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในดันเจี้ยนเขาควรจะแข็งแกร่ง เขาพาทีมส่วนใหญ่ไปกับเขาด้วย และเขามีแม่ของฉันด้วย ดังนั้นพวกคุณทํากันได้ยังไง” ลูซิเฟอร์ถามคําถามต่อไปของเขานี่เป็นคําถามสําคัญในหัวของเขาด้วยพวกเขาทํา มันได้อย่างไร?

“พิษ” วารันท์ตอบ

“อะไรนะ…” ไอย์อ้าปากกว้างเมื่อได้ยินคําพูดของวารันท์ พวกเขาจะชั่วร้ายกว่านี้อีกไหม? พวกเขาไม่เพียงแต่ฆ่าเซลแต่พวกเขาทําโดยใช้พิษอย่างขี้ขลาดงั้นหรือ?

“พิษเหรอ ฉันไม่แปลกใจเลย ฉันไม่รู้ว่าทําไมแต่ฉันไม่ได้คาดหวังอะไรจากคุณ แค่นั้นก็คุ้มแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบพลางถอนหายใจ

“นั่นเป็นวิธีเดียวที่เราคิดได้ว่าจะยุติทุกสิ่งโดยไม่ก่อให้เกิดการต่อสู้ใดๆ” วารันท์ตอบ

“ถ้าคุณทํามันข้างนอก ก็จะมีการสอบสวน คนคงรู้ว่าพวกเขาถูกวางยาพิษ และคนที่ทํามันจะถูกจับได้” ลูซิเฟอร์เดา “ไม่ว่าในกรณีใด ฉันสงสัยว่าคุณสามารถทําให้พวกเขาดื่มอะไรแบบนั้นได้ แม้พวกเขาจะอยู่ที่บ้านเกือบตลอดเวลาและพวกเขาไม่ดื่มเบียร์หรืออะไรก็ตาม นั่นคือเหตุผลที่คุณส่งพวกเขาไปที่ดันเจี้ยนเหรอ?” เขาถาม

“ถูกต้อง มันเป็นไปไม่ได้ที่จะวางยาพิษในบ้านของพวกเขา และพวกเขาไม่ได้ดื่มอะไรบ้างนอกเลยแม้แต่น้อย และพวกเขาก็ไปร้านอาหารของครอบครัวเท่านั้น พวกเขาเป็นเทพเจ้าของร้านอาหารนั้น”

“เราไม่สามารถขอให้เจ้าของร้านอาหารวางยาพิษในอาหารได้ พวกเขาจะให้ข้อมูลกับพ่อแม่ของนายแล้วมันก็จะรั่วไหล เราจะเดือดร้อน” วารันท์ตอบ

“เราทุกคนจึงวางแผนเรื่องนี้ ฉันกับไรอาเริ่มการต่อสู้ในเมืองเพื่อแสดงว่าเรายุ่ง และเซสก็เข้าไปในดันเจี้ยนอื่นๆ เพื่อแสดงว่าเขายุ่งเหมือนกัน นั่นคือเวลาที่องค์กรฮันเตอร์ขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ของคุณ” เขาอธิบายต่อ

“สําหรับทีมของเขา มีคนๆนึงถูกเลือกโดยเราไว้แล้ว ส่วนเรื่องรอยเท้าที่มีออกมาจากดันเจี้ยนนั่นก็ของคนๆนั้นทั้งหมด”

“ดังนั้นรอยเท้าที่มองเห็นออกมาจากดันเจี้ยน… เขาเป็นคนทรยศงั้นหรือ?”ลูซิเฟอร์ถาม

“ถูกต้อง เขาเป็นคนเดียวที่ออกมาเท่านั้น” วารันท์ตอบ

ลูซิเฟอร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาพยายามแยกแยะข้อมูลทั้งหมด แผนการเดียวนี้ใช้ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ได้ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามันจะวิเศษแค่ไหนถ้าพ่อแม่ของเขาได้รับการรักษาด้วย พวกเขาจะปลอดจากพิษอย่างเขาพวกเขาคงไม่ตายเพราะเคล็ดลับราคาถูกนี้

“ขอชื่อคนที่วางยาพิษพ่อแม่ฉันหน่อยได้ไหม ฉันจะหาเขาได้ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถาม

“เขาเป็นที่รู้จักในนาม อดัม เทิร์นเนอร์ เขาเป็นสมาชิกของกิลด์อันดับ 1 กิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งอยู่ในสังกัดขององค์กรฮันเตอร์” วารันท์ตอบ เขารู้ว่ามันจะทําให้ผู้ชายคนนั้นถูกฆ่า แต่มันก็ไม่สําคัญอีกต่อไป

วารันท์เลิกสนใจคนอื่นแล้ว ไม่ว่าในกรณีใด เขามั่นใจว่าเซสจะตอบคําถามนี้หากเขาไม่ตอบ “สิ่งสุดท้ายหินอยู่ที่ไหน 1 ใน 7 ที่คุณได้เก็บไว้” ลูซิเฟอร์ถาม เมื่อได้ยินค่าถามวารันต์ก็ตกตะ ถึงผู้ชายคนนี้ต้องการทําอย่างนั้นจริงๆเหรอ?

“ฉันจะไม่บอกนาย นายฆ่าฉันได้เลย” วารันท์พูดอย่างหนักแน่น

“มันอยู่ในฐานของนายใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถาม เมื่อถึงจุดนั้นวารันท์ก็สะดุ้ง สิ่งนี้ทําให้ลูซิเฟอร์มีคําตอบทั้งหมดที่เขาต้องการ

“อย่างที่คาดไว้ หลังจากที่นายฝังมัน มันก็ถูกค้นพบ จากนั้นนายก็เก็บมันไว้ในฐานเพื่อปกป้องมันให้ดีขึ้น ไม่ต้องกังวลนั่นคือทั้งหมดที่ฉันต้องการ ฉันมีวิธีเอามันมาจากฐานของคุณ” ลูซิเฟอร์กล่าวพลางยิ้ม

“ฉันคิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ถึงเวลาที่คุณต้องไปแล้ว” เขาพูดขณะถอดถุงมือข้างขวาออก

วารันท์เข้าใจสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้น เขาคาดหวังสิ่งนี้อยู่แล้ว สายตาของเขากวาดมองไปรอบๆ ห้องมองเป็นครั้งสุดท้าย สายตาของเขาหยุดอยู่ที่ไอย์

“นายทําได้อย่างไร ฉันไม่เคยคาดหวังสิ่งนี้จากนาย!” ไอย์ปล่อยตัวออกมา ดูเหมือนอกหัก ทุกสิ่งที่เธอเชื่อเป็นเรื่องโกหก และทุกอย่างที่เธอคิดว่าเป็นเรื่องโกหกคือความจริงในตอนนี้ เธอรู้สึกพ่ายแพ้ราวกับว่าสถานะทางศีลธรรมของเธอลดลงอย่างกะทันหัน

วารันท์ไม่ตอบ เขาไม่มีคําตอบสําหรับคําถามนี้ เขาเพียงแค่หยุดมองเธอ เตรียมพร้อมสําหรับความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูซิเฟอร์วางนิ้วลงบนหน้าผากของวารันท์ และปล่อยให้พลังแห่งการเน่าเปื่อยของเขามีผล

ฉันรู้สึกว่าการตายครั้งนี้เมตตาเกินไปสําหรับสิ่งที่คุณทําทั้งหมด แต่ด้วยวิธีนี้ ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นได้ ลูซิเฟอร์คิด ในขณะที่เขาเห็นร่างของวารันท์กาลังสลายไป

วารันท์รู้สึกเจ็บปวดเช่นเดียวกับไรอา เขากัดริมฝีปากไม่ให้กรีดร้อง แต่ถึงกระนั้น มันก็พิสูจน์ ได้ยากในที่สุด เขาก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

ห้องที่เงียบสนิทจนถึงตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง และเสียงกรีดร้องก็หยุดลงเมื่อวารันท์กลายเป็นฝุ่นในที่สุด ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นและเดินไปที่เก้าอี้ใกล้ ๆ หลังจากสวมถุงมือเขาเลือกเก้าอี้ และนั่งหันหน้าเข้าหาไอย์

“เห็นไหม เธอมันเป็นคนโง่ที่หน้าซื่อใจคด เธอจะฆ่าใครก็ได้และทุกคนเมื่อคิดว่าเธอต้องการมัน และเธอก็ยังพยายามจะพิสูจน์มันด้วย” เขาบอกกับ ไอย์ “ฉันก็เหมือนกัน ฉันจะฆ่าใครก็ได้ และทุกคนที่ฉันต้องการ แต่ฉันก็ยังไม่ถูกเหมือนพวกคุณทุกคนทํา”

“เขาเป็นแบบนั้น…ไรอาก็เป็นแบบนั้น และเซสก็คงเป็นแบบนั้น และคนอย่างเธอมักจะเป็นของเล่นสําหรับพวกเขา พวกเขาจะหลอกใช้เธอโดยแสร้งทําเป็นมีคุณธรรม เธอเป็นแค่ทหารแนวราบเท่านั้น ที่ไม่ตกอยู่กับอุดมการณ์จอมปลอมของพวกเขา” เขากล่าวเสริม

“ดังนั้นฉันจึงเหลือทางเลือก 2 ทางให้เธอ หากเธอเห็นความหน้าซื่อใจคดของฝ่ายเธอจริงๆ ให้ตื่นขึ้นและช่วยฉันในการทําภารกิจ ทางเลือกที่ 2 คือให้เธอตาย เช่นเดียวกับเขาฉันจะให้เวลาเธอ 3 วินาที

ไอย์รู้สึกหนักใจ เมื่อรู้สึกว่าถูกวารันท์หักหลัง และเมื่อลูซิเฟอร์นําเสนอทางเลือกเหล่านี้แก่เธอ “วารันท์ผิด แต่อย่างที่นายพูด เราต่างก็โง่เขลา เราไม่ได้ทําอะไรผิด เป้าหมายของเราและทุกสิ่งที่เราทําคือการช่วยเหลือผู้อื่น ฉันจะไม่ยอมให้นายทําลายทุกอย่างเพราะวารันท์ผิด ฉันขอโทษ” ไอย์ตอบ

ตอนที่ 313: เหตุผล

โชคดีที่ดูเหมือนว่าเลือดหยุดไหลแล้ว บาดแผลทั้งหมดถูกแต่งขึ้นยิ่งกว่านั้น วารันท์ก็ดูเหมือนจะเจ็บปวดน้อยลงเช่นกัน

“เธอให้ยาแก้ปวดเขาหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามความจริง

“ฉันทําแล้ว ฉันไม่ต้องการให้เขาตายจากความเจ็บปวด แม้ว่าเขาจะเป็นราชาวอร์ล็อค เราก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อความเป็นไปแบบนั้นได้” เวราซิตี้ตอบ

“ดีแล้ว เนื่องจากฉันต้องรีบไปจากที่นี่ เราจึงไม่ต้องเสียเวลาที่นี่อีก เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” ลูซิเฟอร์กล่าวขณะสังเกตวารันท์

“เอาล่ะ วารันท์ รู้ใช่ไหมว่าต้องทํายังไง บอกความจริงมาทั้งหมด ทําไมพวกคุณถึงตัดสินใจฆ่าพ่อแม่ฉัน” ลูซิเฟอร์ถาม

“บอกฉันอย่างหนึ่งอย่างตรงไปตรงมา นายคิดว่าฉันจะบอกนายจริง ๆ ไหม นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันมีฉันไม่ไร้เดียงสาพอที่จะคิดว่านายจะปล่อยให้ฉันมีชีวิตอยู่หลังจากได้รับคําตอบ” วารันท์พูดอย่างเหน็บแนม “ไม่ว่ายังไง ความตายก็ยังดีกว่าอยู่แบบนี้!”

“ฉันคิดว่าคุณคงดีใจที่รู้ว่าคุณคิดผิด จริงๆ แล้วคุณไม่มีแรงผลักดันแม้แต่นิดเดียว” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

เขากล่าวต่อไปว่า “รู้ไว้ แม้ว่าฉันจะต้องการคําตอบจากคุณ แต่ก็ไม่จําเป็นต้องเป็นคุณฉันยังสามารถหาคําตอบจากเซสได้ว่าทําไมคุณถึงฆ่าพ่อแม่ของฉัน ดังนั้นคุณก็ไม่มีประโยชน์เลยแม้ แต่น้อยมันขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณต้องการที่จะตายอย่างเจ็บปวดหรือตายอย่างรวดเร็ว”

“เชื่อฉันเมื่อฉันพูด เพราะฉันสามารถให้ความตายอันเจ็บปวดแก่คุณจนคุณต้องขอให้ฉันทําให้มันเร็วๆ ฉันจะปล่อยให้คุณเลือก” เขากล่าวเสริม “คุณมีเวลาตัดสินใจ 5 วินาที อย่างที่ฉันบอกฉันรับ”

ไอย์นั่งอยู่ห่างๆ ไม่ได้เข้าไปแทรกแซง เธอไม่รู้ว่าทําไม แต่จากคําพูดของลูซิเฟอร์และวารันท์เธอรู้สึกไม่ดีในใจ

ดูเหมือนว่าลูซิเฟอร์จะเชื่อจริงๆ ว่าวารันท์ และคนอื่นๆ ฆ่าพ่อแม่ของเขา และวารันท์ก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่? วารันท์ได้ทรยศต่อราชาวอร์ล็อคเซลจริงหรือ? เขาฆ่าแคลรีสและเซลจริงๆหรือ?

ไอย์ไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร หากมันเป็นเรื่องจริง นั่นหมายความว่าทุกอย่างที่เธอบอกเป็นเรื่องโกหก พวกเขาไม่ใช่คนดีเหรอ? ยิ่งกว่านั้น ทุกสิ่งที่ลูซิเฟอร์พูดนั้นเป็นความจริง เขาเป็นคนที่ทนทุกข์และทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขา? ทั้งหมดเป็นเพราะแผนการของพวกเขา?

ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขาพรากพ่อแม่ไปจากลูซิเฟอร์ มันเป็นกรรมของพวกเขาที่จะกัดพวกเขาออกไป นอกจากนี้ ถ้าพวกนั้นทั้งหมดอยู่ที่นี่ มันก็อาจเป็นจริงที่วารันท์ฆ่าลูซิเฟอร์ เมื่อเขาไม่สามารถต้านทานความสามารถที่ลูซิเฟอร์มีได้คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของเธอและคนเดียว ที่สามารถตอบได้คือวารันท์

เธอไม่ได้พยายามช่วยเขาด้วยซ้ํา

“3 วินาทีของคุณหมดแล้วคุณตัดสินใจอะไร” ลูซิเฟอร์ถามวารันท์ เมื่อเวลาผ่านไป

“อย่างที่นายพูด ไม่ใช่ว่าฉันเป็นตัวเลือกเดียวของนาย ฉันจะบอกนายทุกอย่าง แต่ฉันยังมีเงื่อนไขเดียว” วารันท์พูดหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เสียงของเขาฟังดูอ่อนแอและใบหน้าของเขายังคงซีด

“เงื่อนไขอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“นายจะไม่บอกเรื่องนี้ให้โลกร์” วารันท์กล่าวพลางถอนหายใจ “ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ คนทั้งประเทศจะวุ่นวายเก็บไว้คนเดียวได้ไหม?”

ลูซิเฟอร์ไม่ได้พูดอะไรชั่วขณะ เขาไม่ยอมรับคําขอนี้ แต่ก็ไม่ยากที่จะทําเช่นกัน “ฉันจะได้อะไรจากการบอกโลก” เขาถามถอนหายใจ “ฉันไม่ได้ต้องการความสงสารจากใคร! สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือคําตอบ ดังนั้นฉันสามารถสัญญาได้ฉันจะไม่บอกใครเลยว่าคุณทรยศพ่อแม่ของฉันอย่างไร”

ณ จุดนี้ ไอย์มั่นใจว่ามันเป็นเรื่องจริง วารันท์ทรยศต่อเซล! เขาเป็นเหตุผลที่ทําให้พวกเขาสูญเสียคนที่ยอดเยี่ยมไป! ลูซิเฟอร์พูดถูกเธอมักจะยืนผิดด้านเธอดูผงะกับการเปิดเผย

“บอกมาเดี๋ยวนี้ ทําแบบนี้ทําไม” ลูซิเฟอร์ถามหลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ

วารันท์ก็หวนคิดถึงอดีต “เพราะเขาต้องการค้นหา 7 คริสตัลจากสงครามที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เขาต้องการเปิดประตูอีกครั้ง เราปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ แต่เราก็หยุดเขาไม่ได้เช่นกัน”

“เขาแข็งแกร่งที่สุดในเวลานั้น และเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณชนจํานวนมาก เราไม่สามารถทําอะไรกับเขาอย่างเปิดเผยโดยไม่ได้กลายเป็นคนร้าย ดังนั้นจึงเป็นทางเลือกเดียวที่เราเหลืออยู่” เขากล่าวต่อ

ชั่วขณะหนึ่ง ลูซิเฟอร์ถึงกับลืมหายใจ เมื่อได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นจริง ทั้งหมดเป็นเพราะว่า? อะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทําให้พวกเขาฆ่าพ่อแม่ของเขา? หัวใจของเขาเต้นช้ามากในขณะที่เขารู้สึกถึงอารมณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ภายในตัวเขา

“ทางเลือกเดียวคือวางแผนต่อต้านเขาเพื่อส่งเขาไปตาย หลังจากนั้น พวกเราทั้งหมดยังคงสืบสวนสิ่งที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยนต่อไป” วารันท์กล่าวเพิ่มเติม “เพื่อหลอกประชาชน”

“คุณเลยใช้วิธีเดียวกับที่คุณฆ่าฉัน นั่นคือการทําการค้นหาต่อไป ดังนั้นคนอื่นจะไม่รู้ว่าคุณเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของฉัน” ลูซิเฟอร์พูดขึ้น

“นายไม่เข้าใจ เราทําสิ่งที่เราต้องทําเพื่อรักษาสมดุลของโลกนี้!” วารันท์เน้นย้ํา

“ความสมดุลของโลกนี้? คุณฆ่าพ่อแม่ของฉันเพื่อรักษาสมดุลของโลกนี้หรือนั่นคือชีวิตของ พวกเขาที่คุ้มค่า?” ลูซิเฟอร์ถาม ขณะตบกําปั้นบนโต๊ะ โต๊ะโลหะแตกเนื่องจากการกระแทกวารัน ท์ล้มลงกับพื้น

“ฉันรู้ว่านายไม่เข้าใจ แต่การรักษาสมดุลนั้นสําคัญ นั่นคือหน้าที่ของสังคม เราไม่สามารถปล่อยให้ทุกอย่างวุ่นวายได้!” วารันท์พูดต่อ

“คุณต้องการรักษาสมดุลของโลกหรือไม่” ลูซิเฟอร์ถาม ขณะที่รอยยิ้มชั่วร้ายก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่เขานั่งใกล้วารันท์มากขึ้น

“ฉันจะทําลายทุกสิ่งที่คุณพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องไม่เพียงแต่ฉันจะทําลายสมดุลเท่านั้น แต่ฉันจะเปิดประตูนั้นด้วย! ฉันจะดูว่าใครและอะไรจะหยุดฉันได้! ฉันจะไม่ปล่อยให้ความตายของพวกเขาสูญเปล่า !”

“น่าเสียดายที่คุณจะไม่มาที่นี่เพื่อดูวันนั้น” เขากล่าวเสริม

“ฉันรู้ว่าฉันจะอยู่ไม่ถึงเพื่อดูสิ่งนั้น ฉันยอมรับความตายของฉันแล้ว แต่รู้ไว้เถอะว่านายจะไม่ประสบความสําเร็จ ความชั่วร้ายไม่เคยชนะนายจะถูกหยุด! ถ้าไม่ใช่ฉัน มันจะเป็นคนอื่นโลกนี้ ช่างกว่างใหญ่จริงๆ!” วารันท์พูดอย่างหนักแน่น

“จะมีใครมาขัดขวางข้า? แม้ว่าเทพจะลงมายังโลก ข้าจะไม่หยุด แม้ว่าข้าจะตายพันครั้ง ข้าก็จะกลับมา! โลกนี้เป็นของข้า! โลกที่พรากพ่อแม่ข้าไป ข้าจะจัดการเอง! แล้วข้าจะดูว่าใครจะกล้าหยุดข้า!” ลูซิเฟอร์ตะโกน

“ฉันหวังว่าจะไม่มีวันนั้น” วารันท์พูดพลางถอนหายใจ

ตอนที่ 312: ฉันกําลังต่อสู้

“นั่น… สมเหตุสมผลแล้ว องค์กรฮันเตอร์ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านข่าวกรองเกี่ยวกับแวเรียนที่เกิดใหม่ เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้สําหรับดันเจี้ยน” ยาลิซ่ายืนยัน ในขณะที่เขาพยักหน้าสิ่งที่ลูซิเฟอร์พูดมีเหตุผล

“นั่นคือสิ่งที่พวกเขาให้ความสําคัญ พวกเขาได้รับข้อมูลทั้งหมดจาก APF เกี่ยวกับเรื่องดังก ล่าวเท่านั้น” เขากล่าวต่อ “แต่เราจะทําอย่างนั้นได้จริง ๆ กับพวกเราแค่ 2-3 คนหรือ? การป้องกันของพวกเขาก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเช่นกัน” อิโซน่าถาม

“ไม่เป็นไร สิ่งที่เราต้องทําคือทําลายการป้องกันของพวกเขา หลังจากนั้นก็จะง่ายขึ้น พวกเขามีไม่มากเช่นกันฉันจะจัดการให้มากที่สุด” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ก็ได้ มาทํากัน”

“คงจะดี เรามากําจัดพวกมันให้หมดกันเถอะ”

“ผมสนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน เนื่องจากเราเรามีน้ําหนักมากกว่า ทําต่อไป มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่เลวร้าย”

วอร์ล็อคชั้นนําที่ละคนของแวเรียนท์เกิดใหม่ตกลงกัน

แม้แต่เคลเลียนก็พยักหน้าขณะพับแขน “ดีมาก ส่งผู้บาดเจ็บกลับไปรักษาตัวเนื่องจากพวก เขาจะไร้ประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งต่อไปแม้ว่าเราจะพาพวกเขาไป และเตรียมตัวออกเดินทาง” ลูซิเฟอร์สั่ง ขณะที่เขายืนขึ้น

“เฮลิคอปเตอร์กําลังมา” ยาลิซ่าตอบโดยมองไปในระยะไกล ซึ่งเขาสามารถเห็นเฮลิคอปเตอร์หลายสิบล่าพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา

“ฉันมีคําถาม แคสเซียสอยู่ที่ไหน ฉันไม่ได้เจอเขานานแล้ว” ทริสตันถามขึ้นทันที

“ฉันอยู่ข้างหลังนาย” เสียงของแคสเซียสดังมาจากด้านหลัง เมื่อเขามาถึงเช่นกัน

เมื่อสงครามสิ้นสุดลงและพวกเขาประสบความสําเร็จ ไม่จําเป็นต้องใช้แผน B อีกต่อไป และเขาสามารถเข้าร่วมกับพวกของลูซิเฟอร์ได้

“นายไปอยู่ที่ไหนมา” ทริสตันถาม “ฉันไม่เห็นนายอยู่ตรงไหนเลย”

“ฉันก็สู้เหมือนกัน” แคสเซียสตอบ “แล้วฉันก็ไม่เห็นนายเหมือนกัน”

“แปลก ฉันไม่เห็นแม้แต่บาดแผลบนตัวนายเลย?” ทริสตันถามพลางหรี่ตาลง

“ทําไมถึงมี? ฉันเป็นนักดาบที่ดี ถ้าฉันสามารถบาดเจ็บได้ง่ายขนาดนั้น มันจะไม่น่าอายเหรอ?” แคสเซียสตอบกลับอย่างขบขัน

“ฉันก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน! ฉันแค่ฟุ้งซ่าน” ทริสตันปล่อยตัว กลอกตาขณะที่เขาเขินอาย

แคสเซียสไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อยในขณะเดียวกันทริสตันก็สูญเสียแขนไปแล้ว

แต่เขาก็รู้ว่าการต่อสู้ของเขานั้นยากที่สุด เขากําลังต่อสู้กับหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน APF นั่นคือจักรพรรดิลอบสังหารเขายังคงสามารถระมัดระวังที่จะป้องกันได้ดังนั้นเขาจึงยังคงอาย

เฮลิคอปเตอร์ลงจอดบนพื้น ผู้บาดเจ็บถูกย้ายภายในเฮลิคอปเตอร์

“ทริสตัน นายเข้าไปข้างในด้วย” เคลเลียนบอกทริสตัน

แม้ว่าทริสตันต้องการเข้าร่วมกับพวกเขาในสนามรบถัดไปด้วย แต่เขาทําไม่ได้ เขารู้ว่าเขาจําเป็นต้องอยู่ในฐานทัพเพื่อยึดมืออย่างรวดเร็ว ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องสูญเสียมันไปตลอดกาล

เขายังเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ลําหนึ่งด้วย เมื่อทุกคนอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ เคลเลียนก็ส่งสัญญาณให้ออกเดินทาง เฮลิคอปเตอร์เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศเมื่อพวกเขาจากไปในที่สุดก็หายไปในระยะไกล

ในเฮลิคอปเตอร์ล่าอื่น ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ เข้ามา พวกเขาคือคนที่จะโจมตีสํานักงานใหญ่ของ APF ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามป้อมปราการอลเซียก็เข้าร่วมกับพวกเขาเช่นกัน

แม้ว่าลูซิเฟอร์ต้องการซักถามวารันท์ก่อน แต่เขารู้ว่าเขาต้องเล่นด้วยกันสักพัก

เขาไม่สามารถกลับไปที่บังเกอร์ได้โดยไม่มีใครรู้ เขาเคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้แล้ว แต่เขาก็วางแผนไว้สําหรับสิ่งนั้นด้วย

เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นไป เคลเลียนก็ถามลูซิเฟอร์ว่า “วารันท์ฆ่าไรอาได้อย่างไร”

ลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะคาดหวังคําถามนี้ เขารู้ว่าจะต้องถูกถามเพราะว่าร่างของไรอาไม่อยู่

แต่เขาไม่สามารถทิ้งร่างของไรอาไว้ที่นั่นได้เช่นกัน เพราะนั่นจะทําให้พวกเขารู้ว่านั่นเป็นฝีมือของลูซิเฟอร์

“วารันท์สามารถใช้ความสามารถของคนอื่นได้ ดูเหมือนว่าความสามารถดังกล่าวทําให้ฉันประหลาดใจเช่นเดียวกับความสามารถของไรอาก่อนที่เราจะรู้ เขามีคอของไรอาอยู่ในกํามือของเขา” ลูซิเฟอร์เริ่มอธิบาย

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ดูเหมือนว่าเขาถูกดูดเข้าไปในหลุมดํา ร่างของเขาหายไป” เขาพูดต่อ

เขากําลังเล่าเรื่องที่เตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว หลังจากที่เห็นว่าวารันท์เปลี่ยนความสามารถของเขาในสนามอย่างไร “ฉันเดาได้แล้วว่าทําไมทุกคนถึงบอกว่าอย่าให้วารันท์สัมผัสตัวเราได้”

“แปลก ฉันไม่รู้ว่าวารันท์มีความสามารถนี้ด้วย ดูเหมือนว่าเขาจะเก็บความลับนั้นไว้ครู่หนึ่ง” เคลเลียนกล่าวพยักหน้าเข้าใจนั่นเป็นคําถามเดียวที่เขามี และคําตอบก็ดูเหมือนจะถูกต้อง

เฮลิคอปเตอร์ยังคงเดินหน้าต่อไป และหลังจากมันออกจากเมือง ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืน เขาเริ่มตรวจกระเป๋าเหมือนพยายามหาอะไรบางอย่าง “มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เคลเลียนถาม

“ฉันคิดว่าฉันลืมบางอย่างไว้ข้างหลัง” ลูซิเฟอร์กล่าว “ฉันทิ้งไว้ในเมือง”

“เราควรกลับไปไหม? มันสําคัญจริงๆ เหรอ?” เคลเลียนถาม สงสัยว่ามันคืออะไร

“มันเป็นมรดกตกทอดส่วนบุคคล ฉันทิ้งมันไปไม่ได้แล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบ “กลับกันเถอะ”

“เดี๋ยวก่อน ฉันคิดว่ามันไม่ดีสําหรับเราทุกคนที่จะกลับไป นายบินได้ใช่ไหม ทําไมนายไม่กลับไปหาสิ่งนั้นแล้วกลับมา? จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก เรารอนายในเมืองต่อไปได้ไหม”แคสเซียสเสนอตามแผน ใช่แล้ว พวกเจ้ารอข้าอยู่ในเมืองและกินให้อิ่มหาอาหารใส่กล่องให้ฉันด้วย ทันทีที่ฉันกลับมาเราจะออกเดินทางลูซิเฟอร์พยักหน้า

โดยไม่ให้โอกาสเคลเลียนได้พูด เขาเปิดประตูเฮลิคอปเตอร์และกระโดดออกไปข้างนอกเคลเลียนก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติเขาอาจจะสงสัยว่าตอนแรกลูซิเฟอร์ต้องการให้พวกเขาทั้ง หมดไปกับเขาเอง จนกระทั้งเจอคําแนะนําของแคสเซียสเขาก็ยอมอย่างง่ายดายเชียวหรือ

หนึ่งในแวเรียนท์ปิดประตูของเฮลิคอปเตอร์ หลังจากเหลือบมองลูซิเฟอร์ ซึ่งกําลังบินหนีจากพวกเขา

ผ่านไปครู่หนึ่ง ลูซิเฟอร์หันกลับมาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครตามเขาอยู่ ไม่มีเลย เขาลงจอดในเมืองเคนซิงตันที่ไร้ชีวิตซึ่งไม่มีใครอยู่ที่นี่อีกต่อไปขณะที่เขาก้าวไปยังบังเกอร์พร้อมที่จะไป คําตอบของเขา เขาป้อนรหัสลับตรงทางเข้าบังเกอร์ ซึ่งมองไม่เห็นจากด้านบนเพราะทําให้ดูเหมือนหินจากด้านบน เมื่อประตูเปิดออกลูซิเฟอร์ก็ก้าวเข้าไปเห็นไอย์นั่งอยู่ด้านหลัง

มือของเธอถูกใส่กุญแจมือ และถูกมัดจากเสาด้วย วารันท์ยังคงนอนอยู่บนโต๊ะที่ลูซิเฟอร์ทิ้ง เขาไว้มีเลือดทุกที่ที่เป็นของวารันท์..

ตอนที่ 311: จุดหมายปลายทางต่อไป

แม้แต่ยาลิซ่าก็ดูเหมือนไม่อยากต่อต้านผู้ปกครองคนนั้น แต่ทั้งหมดที่เขาต้องการคือเพื่อให้พวกเขาประสบความสําเร็จ

“อยู่ที่นี่ ฉันจะดูรอบๆ เพื่อดูว่าพวกเรายังมีชีวิตอยู่กี่คน” เคลเลียนบอก ทริสตัน ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเงาและหายตัวไป

เขาก่าลังจะไปดูว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร มีคนตายไปกี่คน และบาดเจ็บกี่คน ยาลิซ่ายังลงมือปฏิบัติ ในขณะที่เขาเรียกนักบินให้นําเฮลิคอปเตอร์มาที่นี่ ถึงเวลาต้องกลับไปอพยพที่นี่

พวกเขาไม่อยู่ในตําแหน่งที่จะมีการต่อสู้ครั้งใหญ่อีก และหากพวกเขาอยู่ที่นี่นานขึ้น พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับองค์กรฮันเตอร์อย่างไม่ต้องสงสัย

เคลเลียนนับแวเรียนท์และบอกให้พวกเขายืนอยู่ที่ใจกลางเมือง ส่วนคนตายนั้นเขาเชื่อว่าไม่คุ้มที่จะรับศพกลับคืนมา

นอกจากนี้เขายังสังเกตเห็นขี้เถ้าที่วารันท์และไรอาควรจะต่อสู้และมือและขาที่ถูกตัด ดูจากเสื้อผ้าแล้วดูเหมือนมือและขาของวารันท์

ยิ่งกว่านั้น ลูซิเฟอร์ได้จัดการแล้ว และมีของที่มีลักษณะเหมือนขี้เถ้าที่อยู่ใกล้ๆ จะเป็นของเขาด้วย และเขาก็เน่าเปื่อย หลังจากที่มือของเขาถูกตัด
เมื่อพื้นดินถูกน้ําท่วมเพราะฝนตก เคลเลียนก็มองเห็นขี้เถ้าลอยอยู่

“ร่างของไรอาอยู่ที่ไหน” เขาสงสัยพลางขมวดคิ้ว ที่นี่ไม่มีซากของไรอาเลย

เขาขมวดคิ้วมองไปทางลูซิเฟอร์ ซึ่งเริ่มลงมาตอนนี้และกลายเป็นผู้ปกครองของแวเรียนท์เกิดใหม่

เคลเลี่ยนตัดสินใจถามลูซิเฟอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง สําหรับตอนนี้เขาได้นับจํานวนต่อไป จากแวเรียนท์หลายร้อยคน แวเรียนท์เหิดใหม่เหลือเพียง 75 คนเท่านั้น คนอื่นๆ ส่วนใหญ่เสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่รวมถึงสมาชิกที่อ่อนแอกว่า แต่นหมายความว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานมามาก และต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะฟื้นตัว

ลูซิเฟอร์ร่อนลงใกล้อลิเซีย ซึ่งยังคงหมดสติ แต่ดูเหมือนว่าฝนจะเริ่มปลุกเธอ

เธอค่อยๆลืมตาขึ้น ขณะที่เธอลุกขึ้นนั่ง เธอมองไปรอบๆ อย่างสนใจ

ไม่เหมือนเมื่อก่อนไม่มีฝุ่นเลยเพราะทุกอย่างสงบลง แต่เธอก็เห็นว่าไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้น เธออดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าสงครามสิ้นสุดลงหรือไม่
เธอยังสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“เกิดอะไรขึ้น? สิ่งสุดท้ายที่ฉันจําได้คือกอดนาย แล้ว… ฉันจําอะไรไม่ได้เลย เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เราชนะสงครามหรือไม่” เธอถามลูซิเฟอร์

“เราชนะสงคราม อย่างไรก็ตาม เราถูกโจมตีเมื่อเรากอดกัน มันเป็นสิ่งแปลก ๆ ที่ทําให้เธอหลับไป โชคดีที่มันไม่ได้ฆ่าเธอ” ลูซิเฟอร์ตอบด้วยใบหน้าที่ซื่อสัตย์

“จริงเหรอ นายหลับไปหรือเปล่า มันเป็นยังไงบ้าง” อลิเซียถามด้วยความสงสัย

“ฉันคิดว่าเป็นเพราะการรักษาของฉัน มันปกป้องฉันจากมัน แต่ไม่ต้องกังวล ฉันฆ่าคนที่ทํามัน แต่เธอพลาดส่วนที่สําคัญที่สุดของสงครามจริงๆ เพราะเรื่องนั้น เราชนะ แต่เราสูญเสียไปมากด้วย” ลูซิเฟอร์ถอนหายใจขณะมองลงมา

จากพฤติกรรมของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ “มะ เกิดอะไรขึ้น” อลิเซียถาม ขณะที่เธอยืนขึ้น “พ่อฉัน…?”

“เวก่ายังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องกังวล แต่ไรอาตายแล้ว เขาตายจากการต่อสู้กับวารันท์ วารันท์ก็ตายด้วย แต่เราสูญเสียคนสําคัญไปอย่างแน่นอน” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมถอนหายใจอีกครั้ง อลีเซียเงียบไปเมื่อได้ยินข่าวที่น่าเศร้านี้ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเพราะข่าวอันน่าสลดใจ

เธอจําได้ว่าไรอาเป็นไอดอลของเธอและเป็นคนที่ต่อสู้เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา เธอไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันเป็นเรื่องโกหก และไรอาก็แตกต่างจากที่เธอรู้มากจริงๆ

“ใครจะนําทางเราตอนนี้” เธอถาม

“ฉันจะทําอย่างนั้น ฉันจะมาแทนที่เขาเพราะนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ และฉันจะรักษาความฝันของเขาให้คงอยู่” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่เธอนั่งลงบนพื้น โดยไม่ต้องกังวลกับน้ําที่อยู่บนพื้นดิน อย่างไรก็ตาม เสื้อผ้าของเขาเปียกอยู่แล้ว

การใช้ความพิโรธแห่งสรวงสวรรค์ทําให้เขาหมดแรง เขาตัดสินใจพักผ่อนก่อนทําอย่างอื่น

“เธอรู้สึกหิวเหมือนกันไหม” เขาถามอลิเซีย “ฉันรู้สึกเหมือนจะตายจากความหิวโหย ในการทําลายล้างทั้งหมดนี้ ไม่มีแม้แต่ครัวเดียวเหลืออยู่เลย”

“คนของเราตายไปเยอะ แล้วนายยังจะเป็นห่วงเรื่องอาหารหรือเปล่า” อลิเซียถามเพราะเธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจริงจัง

“อย่าเปรียบเทียบแอปเปิ้ลกับส้ม เธอต้องกังวลเกี่ยวกับอาหารอยู่เสมอ ผู้คนจํานวนมากขึ้น ตายเพราะอาหารที่พวกเขาทําลายในสงคราม” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน

เวก้า, ดิออนและอิโซน่าก็กําลังเข้าหาลูซิเฟอร์ด้วย แม้แต่พวกเขาก็ยังแปลกใจที่สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว สงครามสิ้นสุดลง และตอนนี้ลูซิเฟอร์เป็นผู้นําคนใหม่

พวกเขาไม่รู้จะคุยกับลูซิเฟอร์ยังไงดี พวกเขาสามารถพูดได้เหมือนเมื่อก่อนจริงหรือ? เขาอยู่ในตําแหน่งที่สูงขึ้นในขณะนี้

“สวัสดีท่านผู้นําคนใหม่ คําสั่งของเรามีอะไรบ้าง?” เวก้าเป็นคนพูดในที่สุด ซึ่งหมายความว่า พวกเขาจําเป็นต้องให้เกียรติ แม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่ๆ วินัยก็มีความสําคัญ

ลูซิเฟอร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาป้องกันรอยยิ้มที่พยายามจะเล็ดลอดริมฝีปากของเขา ฟังดูแปลก แต่ในขณะเดียวกันก็ฟังดูน่าพอใจ

“รวบรวมคนทั้งหมด คนที่ต้องการการรักษาพยาบาลให้พวกเขาและส่งพวกเขากลับไปที่ฐานเรา” ลูซิเฟอร์สั่ง

เขาพูดต่อโดยไม่หยุด “ส่วนคนที่ยังสู้ได้ บอกให้เตรียมสู้ต่อไป หลังจากทานอาหารเย็นในเมืองถัดไป เราจะออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“จุดหมายต่อไป?” เสียงที่น่าประหลาดใจของเคลเลียนปรากฏขึ้นมาใกล้ ๆ ยาลิซ่าและทริสตันก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน

วอร์ล็อคแรงค์ S อื่น ๆ ยังได้ก่อตั้งกลุ่มรอบผู้นําหนุ่มของพวกเขา

“ถูกต้อง เราไม่สามารถนั่งเฉย หลังจากชัยชนะครั้งเดียว เราต้องเอาฐานของ APF ออกไปด้วย เราต้องควบคุมสถานที่นั้น ตอนนี้น่าจะมี APF เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว นี่จะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพื่อทําให้เสร็จในคราวเดียว” ลูซิเฟอร์ตอบ

“แต่พวกลูกน้องต้องการการพักผ่อน เราเพิ่งสู้กันไป เราไม่ควรรอหรือ?” หนึ่งในวอร์ล็อคถาม

“เราทําไม่ได้ นั่นจะทําให้ APE มีโอกาสเตรียมพร้อม พวกเขาจะรับความช่วยเหลือจากองค์กรฮันเตอร์ เราต้องนําพวกเขาออกไปตอนนี้และกําจัดซากของสถานที่นั้นทั้งหมด” ลูซิเฟอร์ตอบ

“นั่นจะทําให้องค์กรฮันเตอร์หลุดพ้นจากโลกภายนอก พวกเขาไม่สามารถย้ายกิลด์ที่ปกป้องดันเจี้ยนของพวกเขา พวกเขาจะถูกขังอยู่ในเมืองหลวง” เขาอธิบายเพิ่มเติม ในขณะที่เขาสร้างวงเวทย์ในน้ํา

“นั่นคือเวลาที่เราสามารถเอามันออกไปได้เช่นกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการลบการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงสร้างข่าวกรองของ APE ไม่เช่นนั้นเราจะกลับไปที่จุดแรก” เขาให้ความเห็นโดยให้ข้อมูลสุดท้ายของเขา..

ตอนที่ 310: การยึดครอง

ลูซิเฟอร์พบที่ว่างและวางอลิเซียลงบนพื้น

“ถึงเวลาที่จะจบมันทั้งหมด” เขาพึมพํา ในขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ

เขาลอยอยู่เหนือพื้นดิน 50 เมตร ฟ้าร้องยังคงดังก้องอยู่บนท้องฟ้า ขณะที่เมฆคําราม

ลูซิเฟอร์มองไปรอบๆ เมืองราวกับพยายามท่องจ่าว่าทุกคนอยู่ที่ไหน ดูเหมือนว่าแวเรียนท์ ส่วนใหญ่ตายไปแล้ว จํานวนคนที่ยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้มีเพียงหลักสิบเท่านั้น จํานวนนั้นไม่ถึงร้อยจากแต่ละด้านโดยที่ยังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้

ลูซิเฟอร์ยังสามารถเห็นได้ว่าทริสตันได้ฆ่าเอ็นซี่ไปแล้ว ยาลิซ่าและเคลเลี่ยนยังได้เปรียบ ในตอนนี้กับศัตรู จากความสูงดังกล่าว ลูซิเฟอร์สามารถเห็นทั้งสนามได้ชัดเจน

“ได้เวลาจัดการกับการโจมตีสุดท้าย หวังว่าฉันจะจัดการพวกมันให้หมดในคราวเดียว” เขากล่าวเบาๆ “เรื่องนี้จะทําให้ฉันต้องล่าบาก ฉันจะต้องทนกับมัน”

เขากําลังจะใช้ความพิโรธของสรวงสวรรค์อีกครั้ง แต่คราวนี้เขาใช้ในปริมาณมาก

ขณะที่ลูซิเฟอร์เตรียมที่จะใช้ความพิโรธแห่งสรวงสวรรค์ในวงกว้างเช่นนี้ เมฆก็ตอบแทนความโปรดปรานในรูปของฝนเช่นกัน

พายุฝนที่รุนแรงได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งทําให้ฝุ่นผงลดลง นําทัศนวิสัยกลับมายังส่วนที่เหลือของเมืองนี้

การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายยังดําเนินต่อไปแม้ฝนจะตก เสียงสายฟ้าผ่ารุนแรงขึ้น เมื่อลูซิเฟอร์เตรียมที่จะเทพลังงานทั้งหมดของเขาลงในการโจมตีครั้งนี้ โชคดีที่เขาเพิ่งใช้การสลายตัวกับไรอา ซึ่งทําให้เขามีพลังอีกครั้ง

ปูม!

สายฟ้าหลาย 10 ลูกตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างกะทันหัน ตกลงมาเหนือแวเรียนท์จาก APF ในเหตุการณ์มันเป็นการผสมผสานกับระเบิดและเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระยะประชิด แม้แต่สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่บางคนก็ถูกฆ่าตาย แต่ก็ไม่สําคัญสําหรับแผนการที่ใหญ่กว่านี้

สิ่งที่สําคัญคือ APF เพราะแวเรียนท์ทั้งหมดตายแล้วเมื่อถูกฟ้าผ่า ทุ่งที่วุ่นวายก็สงบลงทันที เมื่อการโจมตีทั้งหมดหยุดลง ศัตรูตายไปแล้ว คนเดียวที่เหลืออยู่คือผู้แข็งแกร่งที่สุดในแวเรียนท์เกิดใหม่

พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าการโจมตีนี้เป็นของใคร พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ท้องฟ้าเพื่อดูร่างที่ลอยอยู่เหนือพวกเขา ร่างของเด็กชายผมสีเงินดูเหมือนจะศักดิ์สิทธิ์สําหรับบางคน ทําให้พวกเขารู้สึกหนาวสั่น คนๆเดียวได้ฆ่าแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดของ APF ทั้งหมด

“สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ ฟังฉันให้ดี!”ลูซิเฟอร์คํารามเสียงดัง ทําให้แน่ใจว่าเสียงของเขาไปถึงทุกคน

สําหรับเมฆคําราม ทันใดนั้นพวกเขาก็เงียบราวกับสนับสนุนลูซิเฟอร์ ดูเหมือนเสียงของเขาจะก้องกังวานถึงหูของทุกคน แม้ว่าฝนจะตก ทุกคนมองมาที่เขา สงสัยว่าเขาจะพูดอะไร แม้แต่เคลเลียนและยาลิซ่าก็เงยหน้าขึ้นมอง

“ไรอาถูกวารันท์ฆ่า! เขาตายแล้ว! แต่วารันท์ก็ถูกฉันฆ่าด้วยพร้อมกับเศษ APF ที่เหลือ! สงครามสิ้นสุดลงแล้ว! แต่นั่นเป็นเพียงตอนนี้เท่านั้น! เรายังมีบางคนที่จะเป็นหนามในเส้นทางของเรา นั่นคือ องค์กรฮันเตอร์! เราวางใจไม่ได้! เรายังคงต้องทําให้ดีที่สุด!”

“และคุณยังต้องการผู้นําเพื่อทําการจลาจลต่อเนื่องจากไรอาที่หายไป! นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรับช่วงต่อแวเรียนท์เกิดใหม่และเป็นผู้นําคนใหม่ของคุณ! หากใครไม่ยอมรับและคิดว่าพวกเขามีค่าควรแก่การเป็นผู้นํา คุณสามารถมาท้าทายฉันได้!”

“แต่รู้ไว้นะ ฉันไม่ตาย ถ้าแน่จริงก็เข้ามาเลย ถ้าไม่มีใครออกมา แสดงว่าทุกคนยอมรับฉันเป็นผู้นํา!” เสียงของลูซิเฟอร์ดังก้องไปทั่วหูของทุกคน มีบางคนที่ไม่ชอบที่เด็กคนนี้ที่จะได้เป็นผู้นําพวกเขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสามารถจริงๆ เขาได้ฆ่าวารันท์แล้ว!

ยิ่งกว่านั้น พวกเขาไม่สามารถฆ่าลูซิเฟอร์ได้ ในขณะที่เขาเป็นอมตะ ซึ่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ไม่ว่าในกรณีใดไม่มีใครสนใจความเป็นผู้นํา ผู้คนส่วนใหญ่มองไปที่เคลเลียน และสงสัยว่า เขากําลังจะทําอะไร ถ้ามีคนมาเป็นผู้นําหลังจากไรอา คนอื่นๆก็คิดว่าต้องเป็นเขาที่สมควร ทุกคนสงสัยว่าเคลเลียนจะท้าทายลูซิเฟอร์หรือไม่

“ฉันประหลาดใจที่เด็กคนนี้ต้องการครอบครองจริง ๆ แต่ฉันก็ประทับใจด้วยเหตุนี้ อย่างไรก็ตาม นายอยากจะลองดูไหม?” ทริสตันถามเคลเลียน

ร่างกายของเขายังคงเจ็บปวดเพราะแขนซ้ายของเขาถูกตัด แต่เลือดหยุดไหลได้ด้วยความช่วยเหลือจากเคลเลียน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่มือของเขาจะหายเป็นปกติและติดกลับเข้าไปใหม่ได้ ดังนั้นเขาจึงยังคงถือแขนที่แยกออกไป

เคลเลียนมองไปที่ลูซิเฟอร์ เม็ดฝนยังคงตกลงมาบนใบหน้าของเขา แต่เขาไม่สนใจมัน แต่เขาสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ในอากาศแทน

“ฉันจะไม่ท้าทายเขา หากมีใครสักคนที่คู่ควรกับตําแหน่งนี้ นั่นคือราชาวอร์ล็อค และแม้แต่ไรอาก็เชื่อว่าลูซิเฟอร์ เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถไปถึงระดับนั้นได้ เขาอาจไม่คู่ควรกับตําแหน่งนี้ ในตอนนี้ แต่เขาสมควรได้รับมันอย่างแน่นอน” เคลเลียนตอบพร้อมส่ายหัว

“ฉันก็จะไม่ท้าทายเขา แต่ฉันจะสนับสนุนเขา แม้จะอยากเห็นว่าเขาเติบโตไปได้ไกลแค่ไหน รอดูกัน” เขากล่าวเสริม

“อืม ไม่เป็นไร ฉันเดาว่าเขาจะเป็นผู้นําได้ พวกลูกน้องอาจจะยังที่เด็กที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ได้อย่างถูกกฎหมายสามารถปกครองประเทศได้เร็ว ๆ ขนาดนี้ นายคิดว่ามันดีแล้วจริงหรือ?” ทริสตันถาม

“เราสามารถแนะนําเขาได้ในสิ่งที่เขาไม่รู้ ฉันคิดว่าเขาจะทําได้ดี ไม่ว่าในกรณีใด นั่นคือคนที่ฆ่าวารันท์ หลังจากทั้งหมด ฉันสงสัยว่าไม่มีใครจะสงสัยความสามารถของเขาอีกหรือไม่” เคลเลียนตอบ

“ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องการให้เขาช่วยกําจัดองค์กรฮันเตอร์ เราประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ และยังมีเส้นทางอีกยาวที่ต้องเหยียบย่า” เขากล่าวเสริมในขณะที่เขายิ้ม

“เคลเลียน ยอมรับข้อเสนอในฐานะรองหัวหน้ากลุ่มแวเรียนท์เกิดใหม่! ตั้งแต่เขาฆ่าวารันท์ เขาสมควรได้รับตําแหน่งนี้ ตั้งแต่วันนี้ เขาจะเป็นผู้นําแวเรียนท์เกิดใหม่ด้วยการสนับสนุนจากเรา!” เคลเลียนประกาศเสียงดัง

ข้อมูลจกาเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลูซิเฟอร์ คือความจริงที่ว่าเขาได้ฆ่าวารันท์ ไม่มีใครรู้ว่าเขาพูดจริงหรือไม่ แต่พวกเขาเลือกที่จะเชื่อ

เมื่อยืนอยู่กลางอากาศ ลูซิเฟอร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับความเร็วที่ได้รับการยอมรับ เขาคาดหวังการต่อต้านบางอย่าง แต่นั่นดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น ไม่มีการต่อต้าน และเคลเลียนก็ยอมรับมันทันที

หลังจากที่เคลเลียนยอมรับ ก็ไม่มีใครถามอีกเช่นกัน เขามีตําแหน่งสูงสุดหลังจากไรอา ยิ่งกว่านั้นมันไม่เหมือนกับว่าลูซิเฟอร์เป็นคนที่อ่อนแอ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่ยอมรับ

ยาลิซ่าเป็นคนเดียวที่ต่อต้านได้ในตอนนี้..

ตอนที่ 309: ฉันต้องการเพียงหนึ่งเดียว [ตอนโบนัส]

ใบมีดลม 2 เล่มปรากฏขึ้นทันที ขาของวารันท์ ถูกเฉือนเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่สามารถขยับได้ แม้ว่าเขาจะควบคุมร่างกายของเขาได้อีกครั้งก็ตาม

“อ๊ากกกกก!” ทันทีที่ขาของวารันท์ถูกตัด เสียงกรีดร้องก็เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของเขา

เขาเจ็บปวดอยู่แล้ว แต่นี่มันมากเกินไป ต่างจากลูซิเฟอร์ เขาไม่มีการรักษา ใบหน้าของเขา ซีดในขณะที่เขาพยายามควบคุมเสียงกรีดร้องของเขา

เขารู้ว่าถ้าเขาไม่ได้รับความช่วยเหลือเร็ว ๆ นี้ เขาจะต้องตาย

ทันทีหลังจากนั้น ลูซิเฟอร์ก็ใช้ใบมีดลมอีก 2 เล่มเพื่อเอามือของวารันท์ออกไปเช่นกัน เสียงกร็ดดัง มันดังขึ้นอีกครั้ง เสียงนั้นก้องไปเต็มบรรยากาศ

“นั่นดูดีกว่า” ลูซิเฟอร์พูดยิ้มๆ เขาพบว่าตัวเองพอใจ เมื่อมองไปที่วารันท์ที่ทําอะไรไม่ถูก

เนื่องจากวารันที่ไม่มีมือลูซิเฟอร์จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพลังของวารันท์ เขานั่งลงและยิ้ม

“บอกฉันที พ่อแม่ของฉันหมดหนทางเหมือนแก เมื่อแกฆ่าพวกเขาหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามขณะที่ค่อยๆ เอื้อมมือไปทางวารันท์ เขาถอดถุงมือออกด้วย

“ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อของนาย! มันคนนั้นคือไรอา! ฉันสัญญา! เขาเป็นศัตรูของนาย ไม่ใช่ฉัน!” วารนท์คํารามด้วยความโกรธ

ไรอายืนอยู่ด้านหลัง ขณะขมวดคิ้ว โดยมีวารันท์กําลังสารภาพความจริง เขากําดาบแน่น ขณะเตรียมโจมตีลูซิเฟอร์ด้วยความลังเลเล็กน้อย

“แกคิดว่าฉันจะเชื่อแกหรือ แกจะต้องพูดอะไรเพื่อรักษาตัวของแกแน่นอน!” ลูซิเฟอร์ปล่อยตัวเย้ยหยันในที่สุดไรอาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเขาจะปลอดภัย

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มันตลกนะที่นายจะเชื่อคําโกหกแทนความจริง! นําเอาความจริงมาพูด! นายจะรู้ว่าฉันโกหกหรือไม่!” วารันท์พูดด้วยความโกรธอย่างบ้าคลั่ง

“แกกําลังจะตายแล้ว ไม่สําคัญหรอก ฉันรู้แล้วว่าอะไรจริงอะไรโกหก” ลูซิเฟอร์พูด ขณะเอื้อมมือไปทางใบหน้าของวารันท์ พลางมองดูอาการเน่าสลายของเขา

“นายจะต้องเสียใจ” วารันท์กล่าวขณะที่เขาหลับตา

“ฉันจะไม่เสียใจแม้แต่นิดเดียว” ลูซิเฟอร์โต้กลับ

ไรอาลดการป้องกันของเขาลง ในขณะที่เขายิ้มเยาะ เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นต่อหน้าเขา

ลาก่อนเพื่อน เขาคิดในใจ

น่าเสียดายที่รอยยิ้มของเขาอยู่ได้ไม่นาน เมื่อมือของลูซิเฟอร์กําลังจะแตะใบหน้าของวารันท์ลมแรงก็เริ่มพัดมา

ไรอารู้สึกบางอย่างมันเจ็บปวด… เจ็บปวดที่สุด…เขาเจ็บปวดมากจนหยุดกรีดร้องไม่ได้

ครึ่ม!

ร่างกายของเขาล้มลงกับพื้น ไม่สามารถยืนได้ เนื่องจากแขนและขาของเขาถูกลมพัดและ เฉือนดาบของเขาตกลงบนพื้นด้วยวารันท์ลืมตาขึ้น เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของไรอา

เขาเห็นลูซิเฟอร์เดินจากเขาไปทางไรอา ซึ่งอยู่ในสภาพเดียวกับเขา เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่เมื่อเห็นไรอากาลังทุกข์ทรมานเหมือนเขาหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ

“ทําอะไรเนี่ย! ไอ้บ้าเอ๊ย!” ไรอาตะโกนขณะที่ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดด้วยความเจ็บปวด

“ฉันทําทุกอย่างเพื่อยุติการต่อสู้” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม “อย่างไรก็ตาม ฉันก็ไม่ต้องการแก 2 คนเหมือนกันสําหรับคําถามของฉัน ฉันต้องการแกเพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนใครจะเป็นอย่างนั้น ฉันคิดว่าฉันมีความคิด”

“ม-ไม่ หยุด!” ไรอาตะโกน เมื่อเขาเข้าใจความหมายของลูซิเฟอร์ ดูเหมือนลูซิเฟอร์จะฆ่าเขา

“ข้อสันนิษฐานแรกของฉันถูกต้อง! นายอยู่กับเวราซิตี้! นายรู้ว่าฉันโกหก!” ไรอาตะโกนอย่างบ้าคลัง

ในสนามรบที่วุ่นวาย ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของเขา ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีแวเรียนท์แม้แต่คนเดียวที่กําลังต่อสู้อยู่ในพื้นที่นี้ ดังนั้นไม่มีใครสามารถเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี้ “แน่นอน ฉันอยู่กับเธอ ทําไมฉันต้องฆ่ากุญแจที่สําคัญที่สุดที่จะพาฉันไปสู่ความจริง?” ลูซิเฟอร์ได้ตอบกลับ

“อย่างไรก็ตาม ฉันควรจะขอบคุณจริงๆ ที่ช่วยฉันในแผนของฉัน แต่แล้วอีกครั้ง แกมีส่วนทําให้พ่อแม่ของฉันต้องตาย ดังนั้น แกยังคงต้องตาย อย่าลืมขอโทษพ่อแม่ของฉันในชีวิตหลังความตายทําได้ใช่ไหม?” เขาถามในตอนท้ายขณะที่จับคอของไรอาด้วยมือเปล่า

ต่อมาวารันท์ก็ได้เห็นบางสิ่งที่ทําให้เขากลัวเล็กน้อย เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของไรอาแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพลังแห่งการเน่าเปื่อยนั้นเจ็บปวดเพียงใด

วารันท์เห็นร่างของไรอากําลังสลายไป ตอนนี้วอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดของแวเรียนท์เกิดใหม่กําลังอยู่ในความเมตตาของลูซิเฟอร์ แต่เขาไม่ได้ให้ความเมตตาใด ๆ

ในไม่ช้า เสียงกรีดร้องของไรอาที่ดังมานานแทบชั่วนิรันดร์ก็หยุดลง เขาล้มลงกับพื้นในรูปของขี้เถ้า แม่ในชั่วขณะสุดท้ายของชีวิตเขาก็มีเพียงความเสียใจในแววตา

เสียใจที่ไม่ได้ฆ่าลูซิเฟอร์ เมื่อเขามีโอกาส เสียใจที่ไว้ใจลูซิเฟอร์ เสียใจที่เชื่อว่าเขาสามารถใช้ลูซิเฟอร์ให้เกิดประโยชน์ได้

และสุดท้ายคือความเสียใจที่โดนเขาหลอกทั้งๆ ที่เดาความจริงไปก่อนหน้านี้แล้ว ลูซิเฟอร์ มองไปที่ซากของไรอาบนพื้นเขาทําลายพวกมันเช่นกันโดยไม่มีอารมณ์ใดๆ

เขาดไม่เศร้าหรือมีความสุขที่ฆ่าคนร้ายคนหนึ่ง เขาต้องการทรมานไรอามากกว่านี้ แต่นั่นจะทําให้แผนเสียในขณะนี้ สิ่งสําคัญคือต้องทําให้เสร็จอย่างรวดเร็วสําหรับแผนของเขา

หลังจากฆ่าไรอาและทําลายมือและขาของเขาแล้ว ลูซิเฟอร์ก็เดินกลับไปที่วารันท์

“น่าสนุกใช่ไหมล่ะ ถ้าแกไม่ตอบคําถามฉันตรงๆแกก็คงจะเป็นรายต่อไป” ลูซิเฟอร์เตือนวารันท์ ขณะอุ้มเขาขึ้นเขาอุ้มวารันท์ ไว้ในอ้อมแขนของเขา เขากลับไปที่บังเกอร์ ซึ่งเขาเก็บไอย์และอลิเซียไว้

เมื่อลูซิเฟอร์ไปถึงบังเกอร์ เขาก็ลงจอดที่ด้านหน้าของเวราซิตี้และไอย์

ไอย์ยังคงนั่งอยู่ด้านหลังเหมือนตัวประกัน สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก เธอได้ยินเสียงระเบิดถ้าสิ่งที่เธอได้ยินมาถูกต้อง ฝ่ายของเธอและแวเรียนท์เกิดใหม่ก็คงกําลังต่อสู้กันในตอนนี้ เธอยังคงหวังว่าฝ่ายของเธอจะชนะ แต่ความหวังทั้งหมดของเธอพังทลายลงเมื่อเขาเห็นวารันท์ ถูกพามาที่นี่ในสภาพปัจจุบันของเขา

ถ้าแม้แต่วารันท์ก็เป็นแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเขาทําสงครามแพ้ “นายทํามันไปแล้วจริงเหรอ” เวราซิตีถามด้วยความประหลาดใจเธอไม่คิดว่าลูซิเฟอร์จะทําได้จริงๆเขาเอาชนะวารันท์ได้จริงๆ

“ใช่ หยุดเลือดของเขาแล้วรักษาชีวิตไว้ ฉันไม่ต้องการให้เขาตายก่อนการสอบสวน วันนี้เราจะได้คําตอบว่าทําไมพวกเขาถึงฆ่าพ่อแม่ของฉัน” เขาบอกกับเวราซิตี้ ขณะวางวารันท์ลงบนโต๊ะ

“ฉันกําลังจะพาเธอออกไปข้างนอก ได้เวลาเคลียร์งานแล้ว” เขาพูดต่อ ขณะอุ้มอลิเซีย ซึ่งยังคงสลบอยู่ลูซิเฟอร์ออกจากบังเกอร์แล้วกลับไปที่สนามรบ..

ตอนที่ 308: ความพิโรธแห่งสวรรค์

“ฉันหวังว่าพวกเขาจะฆ่ากันอย่างน้อยในเรื่องนี้ พวกเขาไม่ได้ทําร้ายกันอย่างจริงจัง ดูเหมือนว่าฉันจะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับมันเอง แต่มันยังไม่ถึงเวลา เฮ้อแต่มันก็ไม่มีทางเลือกอื่น”

ลูซิเฟอร์ยืนดูอยู่ห่างๆ อย่างผิดหวัง เมื่อเขามองไปที่ไรอาและวารันท์

“แคสเซียส นายพูดถูก พวกเขาไม่ได้ฆ่ากัน ฉันจะลองอีกครั้ง ถ้าฉันล้มเหลว ตอนนี้ก็ถึงเวลาสําหรับแผน B เตรียมตัวให้พร้อม” เขาพูดในหูฟัง

“อย่างน้อยมันก็สร้างความเสียหายให้กับกองกําลังของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถรวบรวมกองกําลังของตัวเองได้อีกต่อไป สนามรบนั้นวุ่นวายพอสมควร” เขากล่าวต่อขณะมองไปรอบๆ

แวเรียนท์หลายร้อยคนถูกฆ่าตายจากแต่ละมุม และอีกจํานวนมากก็ตายตามกาลเวลา

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่กางแขนออก

แสงสีม่วงในดวงตาของเขาเริ่มเด่นชัดมากขึ้น ในขณะนี้ ในเวลาเดียวกัน ลวดลายแปลก ๆ ที่อยู่บนหลังของเขาเริ่มส่องแสงเป็นประกาย เงาของลวดลายนั้นยังสามารถมองเห็นได้ผ่านเสื้อของเขา

เมืองทั้งเมืองยังคงปกคลุมไปด้วยฝุ่นและควัน แต่ท้องฟ้าด้านบนนั้นปลอดโปร่งอย่างสมบูรณ์ ไม่มีเมฆแม้แต่ก้อนเดียวบนท้องฟ้า แต่สิ่งนั้นเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อเมฆเริ่มปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า

เมฆเป็นสีดําสนิท เมฆดําทะมึนปกคลุมทั่วท้องฟ้าในไม่ช้า และหยุดแสงไม่ให้ตกเหนือเมืองตอนนี้เมืองยิ่งมืดลง

“นี่จะกินพลังงานของฉันไปมาก แต่ฉันหวังว่ามันจะคุ้มค่า โชคดีที่ฝุ่นในเมืองจะทําให้ทุกคนไม่เห็นสายฟ้า แต่เสียงก็ยังเป็นปัญหา แต่นี่มันเป็นครั้งแรกที่พยายาม การโจมตีจึงจํากัด หวังว่ามันจะคุ้มค่า

ลซิเฟอร์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะโจมตี แต่เขาก็กังวลเล็กน้อยเพราะไม่เคยใช้มันมาก่อน

ทุกครั้งที่เขาลองใช้ความพิโรธของสรวงสวรรค์ เขามักจะใช้มันในพื้นที่ขนาดใหญ่โดยทําให้สายฟ้าจํานวนมากตกลงมา

แต่ตอนนี้เขาต้องการโจมตีด้วยกระสุนเพียงไม่กี่ลูกเท่านั้น และต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รักษาความแข็งแกร่งของเขาไว้เพื่อที่เขาจะได้โจมตีได้มากขึ้น

“เราต้องตามหาเด็กคนนั้น!” ไรอาบอกวารันท์ ขณะที่เขาเริ่มค้นหาลูซิเฟอร์

“นายน่าจะช่วยฉันฆ่าเขา ก่อนแทนที่จะพยายามใช้เขา นายต้องรับผิดชอบ!” วารันท์บ่น “ให้ฉันลองไปหาเขาด”

ครึ่ม!

ทั้งสองกําลังจะเริ่มค้นหา เมื่อพวกเขาหยุด ขณะที่พวกเขาได้ยินสิ่งที่ดูเหมือนเสียงคํารามของเมฆและเสียงฟ้าร้อง

“นายรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร” ไรอาถามพลางขมวดคิ้ว

“เสียงฟ้าร้องจากฟากฟ้า…บุตรแห่งเซล…นี่คือความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์ใช่ไหม” วารันท์ ถามพลางเขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกับไรอา

สายฟ้าอันทรงพลังหนึ่งอันตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างกะทันหัน ตกลงมาในที่ที่ลูซิเฟอร์ต้องการให้มันตกลงมา มันพุ่งตรงไปที่หัวของวารันท์

“ลองดูดีๆ” วารันท์เยาะเย้ย เมื่อร่างของเขาสั่นไหว เขาเปลี่ยนตําแหน่งภายในชั่วพริบตา เพื่อหลบการโจมตี

สายฟ้าตกลงมาจากฟากฟ้าที่ละนัดโดยมุ่งเป้าไปที่วารันท์ สิ่งนี้ทําให้ไรอาสับสนมากยิ่งขึ้นไม่มีสายฟ้าแม้แต่นัดเดียวที่มุ่งเป้าไปที่เขา

สิ่งนี้ทําให้เขาต้องคิดว่าเขาคิดผิดหรือเปล่า? เขาคิดมากไปทุกอย่างจริงๆเหรอ? บางที่ลูซิเฟอร์อาจไม่ต้องการให้พวกเขา 2 คนตายจริง ๆ ?

ตอนนี้เขามีความคิดที่ 2

“บางทีฉันอาจคิดผิด เขาไม่ได้บอกฉันเกี่ยวกับเวราซิตี้ เพราะเขาคิดผิดหรือไม่ เวราซิตี้เธออาจจะไม่ได้อยู่ในเมืองจริงๆ? เป็นไปได้ด้วยหรือที่เธอปฏิเสธที่จะช่วยเขา และเขาฆ่าเธอที่บ้านเหมือนที่เขาฆ่าไอย์? นั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงไม่พบเวราซิตี้อยู่ที่นั่น?”

เขาเริ่มคิดหาเหตุผลในใจ เพื่อหาข้อสรุปที่เจาะจงเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคิดผิด

APF คิดว่าเขาเอาเวราซิตี้ไปแต่เขาอาจจะไม่ทําแบบนั้น สําหรับคําถามแปลก ๆ เหล่านั้นบางทีเขาอาจจะถามฉันจริงๆ เพราะเขาอยากจะรู้! ถ้าเขารู้จริง ๆ ว่าฉันช่วยทําให้พ่อเขาเสียชีวิตเขาคงไม่ทิ้งฉันไป”

“เขาคงจะบ้าไปแล้วและพยายามจะฆ่าฉัน เขาไม่ได้ทําแบบนั้นหรอก ฉันคิดผิดไป! เขาอยู่ข้างฉัน! ฉันยังใช้เขาได้อยู่นะ! ฉันสงสัยเขาโดยไม่มีเหตุผลได้ยังไง! เขาคิดและขมวดคิ้ว

เขารู้สึกเขินเล็กน้อยที่ทําผิดเกี่ยวกับบางสิ่ง แต่มันก็ได้มีผลสําหรับเขาเช่นกัน เขาคิดแบบนั้น

เขาเชื่อว่าการแสดงของเขาเหมือนจริงมาก มันอาจะเกิดจากที่เขาถูกหลอกจริง ๆ จนทําให้เขาเชื่อว่าวารันท์อยู่ข้างเดียวกับเขาอย่างแน่นอน

เมื่อวารันท์ปรากฏตัวใกลไรอาเพื่อหลบสายฟ้า ในที่สุดไรอาก็ขยับ ในขณะที่เขาผลักดาบของเขาไปที่หน้าอกของวารันท์

วารันท์ยุ่งอยู่แล้ว แทบจะหลบสายฟ้าที่ตกลงมาจากฟากฟ้าไม่ได้ เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีอย่างกะทันหันของไรอา

ในตอนนี้เองที่เขารู้ว่าไรอาหลอกเขา

เขารีบหลบการโจมตีของไรอาและอาจจะโดนสายฟ้า 1 ใน 3 สายที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

“มันช่วยได้ ดูเหมือนว่าจะได้ผล” ลูซิเฟอร์พึมพําพร้อมยิ้ม

ไรอาไม่รู้ แต่มีแมลงตัวเล็ก ๆ ติดอยู่ที่เสื้อผ้าของเขา ก่อนหน้านี้ ซึ่งส่งสัญญาณทุกอย่างที่เขาพูดเข้าไปในหูฟังของลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ได้ยินสิ่งที่ไรอาพูด เขาเข้าใจว่าทําไมไรอาถึงหยุด และนั่นทําให้เขามีความคิด หากแม้หลังจากทั้งหมดที่เขาสนับสนุนไรอาแล้ว ไรอาจะต้องรู้สึกว่าเขาคิดผิดนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

ในวินาทีสุดท้าย ไรอาทรยศวารันท์ สายฟ้า 3 ลูกตกลงมาจากท้องฟ้า มุ่งเป้าไปที่วารันท์ ซึ่งไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ทั้งหมดไหล่ของวารันท์ถูกสายฟ้าฟาด ซึ่งทําให้มีรูขนาดใหญ่อยู่ที่

หน้าอกของเขา

ใบหน้าของวารันท์ซีดเผือด เมื่อเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดสุดขีดจากการถูกสายฟ้าฟาด เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาเป็นอัมพาตในขณะที่เขาล้มลงกับพื้น

ลซิเฟอร์หยุดใช้พลังขณะที่เขายืนลงบนพื้นใกลไรอา “คุณสบายดีหรือเปล่า?” เขาถามไรอา

“อะ-อิม อลิเซียอยู่ที่ไหน” ไรอาถามกลับ

“ฉันส่งเธอไปช่วยเหลือคนอื่น ๆ เนื่องจากฉันคนเดียวก็เพียงพอที่จะให้การสนับสนุน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเราทําได้จริง ๆ ใช่ไหม พ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดของ APF ล้มลงสงครามจะจ ลงในไม่ช้า” ลูซิเฟอร์กล่าวกับไรอา ขณะที่เขาเดินต่อไปยังวารันท์

“นั่นไม่สําคัญสําหรับฉัน ฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการแล้ว โอกาสที่จะฆ่าฆาตกรของพ่อแม่ของฉัน” เขากล่าวเสริมในขณะที่เขาหยุดห่างจากวารันท์ เพียงไม่กี่นิ้ว ซึ่งไม่สามารถแม้แต่จะขยับตัวได้

“รู้สึกยังไงบ้าง ที่ได้อยู่ในเท้าของคนที่คุณถูกบดขยี้เป็นครั้งสุดท้าย?” ลูซิเฟอร์ถามวาแรนท์ขณะที่เขามองลงมา

เขาทําให้แน่ใจว่าจะอยู่ห่างจากวารันท์ เนื่องจากเขาไม่ต้องการถูกคว้าโดยกะทันหัน แต่นั่นไม่ได้หยุดเขาจากการโบกมือ

ตอนที่ 307: ถูกเปิดเผย

เศษเสี้ยวของการต่อสู้สามารถสังเกตเห็นได้ทุกที่ เนื่องจากหลุมอุกกาบาตอยู่รอบทุ่งที่ไรอา และวารันท์กําลังต่อสู้กัน

การต่อสู้ดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น เมื่อการต่อสู้ดําเนินไปเรื่อยๆ ไม่มีวอร์ล็อคคนไหนกล้าเข้าใกล้พื้นที่ที่วารันท์และไรอาต่อสู้กัน

ระหว่างการต่อสู้ ไรอาพยายามรักษาระยะห่างระหว่างเขากับวารันท์ เขาไม่ปล่อยให้วารันท์สัมผัสเขาเลย ในขณะที่โจมตีเขาด้วยการโจมตี

สําหรับวารันท์ แม้ว่าเขาอยากจะจับไรอาไว้ที่คอ แต่เขาก็มีสกิลอื่นเช่นกัน เขายังคงสามารถยืนหยัดได้ แม้จะถูกโจมตีจากทุกที่

ดาบของไรอาสร้างปัญหาให้กับเขามากที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน กิ่งไม้ที่โผล่ออกมาจากพื้นดินก็สร้างปัญหาให้กับเขาเช่นกัน

ไรอาไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่ดีกว่าเช่นกัน เนื่องจากความแข็งแกร่งของวารันท์ ไม่ควรถูกมองข้าม

พลังอย่างหนึ่งของวารันท์คือการเพิ่มความสามารถระดับ S ซึ่งช่วยให้เขาไม่เพียงแต่เพิ่มความสามารถ แต่ยังทําให้เขาสามารถใช้ความสามารถของพันธมิตรได้ชั่วคราว

เขาสามารถใช้ความสามารถได้ครั้งละหนึ่งความสามารถ เมื่อใช้การเสริมความสามารถ แต่เขาสามารถเปลี่ยนพลังนั้นกับอีกพลังหนึ่งได้ตลอดเวลาที่เขาต้องการ

มันใช้ได้กับพันธมิตรของเขาเท่านั้น เขาไม่สามารถใช้พลังของคนที่ไม่อนุญาตให้เขาใช้พลังเหล่านั้นได้

แม้ว่าพลังจะมีข้อจํากัดนี้ แต่วารันท์ก็ดูเหมือนจะไม่โกรธ เขาเข้าใจชัดเจนอยู่แล้ว และเขามีความเข้าใจในพลังของพันธมิตรทําให้เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าเกรงขาม

แต่ก็มีข้อจํากัดอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าเขาจะสามารถใช้พลังของคนอื่นได้ชั่วคราว แต่เขาไม่สามารถใช้พลังของคนอื่นได้อย่างเต็มความสามารถ เขาทําได้เพียงดึงพลังที่มี 80 เปอร์เซ็นต์ของทักษะดังกล่าวออกมาเท่านั้น

ในขณะนั้น กิ่งไม้หลายสิบต้นกําลังเดินเข้ามาหาเขา วารันท์สะบัดนิ้วไปมาอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้กิ่งก้านของต้นไม้ทั้งหมดแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตอนนี้เขาใช้ความสามารถจากการลอบสังหารของเอ็นซี

ไม่นานร่างของเขาก็หายไป เมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นหลังไรอา เขาเปลี่ยนพลังของเขาอีกครั้ง โดยใช้ความสามารถของสมาชิกอีกคนในทีมของเขา ในขณะที่เขานําเสี้ยวพลังอันน่าสะพรึงกลัวออกมา

ด้วยเสียงผิวปาก จันทร์เสี้ยวก็ลอยไปทางไรอาทันที ราวกับรู้การโจมตี ไรอาหันกลับมา

เสียงดังลั่น!

ด้วยเสียงโลหะ จันทร์เสี้ยวถูกผ่าครึ่ง เมื่อดาบของไรอาฟันผ่านพวกมันเหมือนเนย

“ข้าเห็นว่าเจ้ายังคงใช้ดาบต้องคําสาปนั่นอยู่ใช่หรือไม่” วารันท์ถาม ในขณะที่เขาโจมตีต่อไป

“และข้าเห็นว่าเจ้ายังคงต่อสู้กับความสามารถของผู้อื่น เจ้าเป็นปรสิตเสมอ! เจ้าจะทําอะไรได้ด้วยตัวเองบ้างไหม ?” ไรอาตอบกลับอย่างรวดเร็ว

เขาพูดต่อ “ลบพลังของผู้คนออกไปชั่วคราวและใช้ความแข็งแกร่งของพันธมิตรของคุณ? คุณไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง! คุณไม่สมควรที่จะอยู่ที่นี่!”

“ไม่เลย คุณต่างหากที่ไม่สมควรอยู่ที่นี่ คุณทําเรื่องไร้ยางอายได้อย่างไร ใช้จุดอ่อนของลูซิเฟอร์ หลังจากสิ่งที่เราทํากับพ่อแม่ของเขาทั้งหมด ยิ่งกว่านั้น แม้จะรู้เกี่ยวกับสีจากตาของเขาแล้ว นายมันคนคลั่งไคลในอานาจจริงๆ! ฉันไม่สนใจว่าจะทําอย่างไร แต่คุณต้องถูกนําออกไป!” วารันท์ตะคอก พลางเสริมการโจมตีของเขา

“ไม่เป็นไร ฉันจะดูแลทุกอย่างหลังจากที่ฉันควบคุมได้! คอยดู! เด็กคนนั้นจะเป็นกุญแจสําคัญของฉันในเรื่องนี้…” ไรอาพูด ขณะกระโดดกลับ พลางหลบแท่งเหล็กที่พุ่งออกมาจากพื้นดินกะทันหัน

วารันท์เปลี่ยนความสามารถและใช้การผสมผสานพลังเพื่อนําไรอาสู่ความพ่ายแพ้

“ดูเหมือนนายจะหวังดีกับเด็กเกินไปนะ! ฉันสงสัยว่ามันจะเป็นยังไง ถ้าฉันบอกความจริงกับเขา เกี่ยวกับสิ่งที่นายทํา? เขาจะยังช่วยนายอยู่ไหม” วารันท์ถามและยิ้มๆ

“เฮอะ นานพล่ามไปเถอะ ราวกับว่ามีคนเชื่อนาย! อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่คนทั่วไปก็ไม่เชื่อว่า 3 ราชาวอร์ล็อค และรัฐบาลมารวมตัวกันเพื่อทําเช่นนั้น!” ไรอาหัวเราะคิกคัก

เขาพูดทั้งหมดนั้น หลังจากแน่ใจว่าลูซิเฟอร์ไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมของเขา

“โอ้ เขาเอาเวราซิตี้ไปกับเขาด้วยเหรอ นายจะบอกเขาว่ามันเป็นความจริงได้ไง ในเมื่อเธอร์ได้ทันทีว่าใครโกหก” วารันท์ กล่าว ขณะที่เขาหายตัวไปอีกครั้ง มีดหลายสิบเล่มมาจากด้านหลังไรอา โดยตั้งใจจะแทงร่างกายของเขา

“เขาอยู่กับเวราซิตี้งั้นเหรอ?” ไรอาถามขณะหลบใบมีด “ฉันคิดว่าเขาอยู่กับแค่ไอย์ ที่เขาได้ลงมือฆ่าเธอไปแล้ว”

“เขาฆ่าไอย์งั้นเหรอ?” หลังจากที่เขาทําให้ไรอาตกใจ วารันท์ก็ตกใจเช่นกัน เขาหวังว่าไอย์จะยังมีชีวิตอยู่

“อย่าเปลี่ยนเรื่อง! เขาอยู่กับเวราซิตี้เหรอ บอกความจริงมาสิ!” ไรอาพูด ขณะคิดอะไรบางอย่าง

“ใช่แล้ว นายไม่รู้หรือไง? เวราซิตี้หายไปจากบ้านของเธอ หลังจากที่เขาปรากฏตัว” วารันท์ตอบ “ดังนั้น ลูซิเฟอร์จึงควรอยู่กับเธอ”

“ฉันคิดว่าเขาทิ้งเวราซิตี้ ไว้ข้างหลังเพราะฉันไม่เห็นเธอในคฤหาสน์และ…”

ด้วยความสับสน ไรอารู้สึกว่าเขาใกล้จะได้รับคําตอบแล้ว เขานึกย้อนกลับไปในตอนที่เขาได้พบกับลูซิเฟอร์จริงๆ

ลูซิเฟอร์ถามคําถามแปลกๆ มากมายเกี่ยวกับการตายของพ่อของเขา เขายังจําผู้หญิงผมแดงที่นั่งข้างหลังพวกเขาได้

เช่นเดียวกับไรอาที่ต้องการพาทุกคนออกไป รวมทั้งผู้หญิงคนนั้น ลูซิเฟอร์ก็หยุดเขา

ไรอาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ทุกอย่างชัดเจนแล้ว! เขาเข้าใจทุกอย่าง!

“เด็กคนนั้นรู้ทุกอย่าง! นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเขาถึงต้องการทําสงครามที่นี่!” ทันใดนั้นเขาก็อุทานออกมา ในขณะที่เขาหลบการโจมตีอีกครั้ง

“นายหมายถึงอะไร?”วารันท์ถามในขณะที่เขาหยุดการโจมตีในที่สุด แม้แต่ไรอาก็หยุดการโจมตี

“เด็กคนนั้น! เขาหลอกฉัน! เขาถามค่าถามมากมายเกี่ยวกับการตายของพ่อเมื่อเราอยู่ในที่สาธารณะ! ฉันคิดว่าเขาอยู่กับเวราซิตี้ และไอย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย!”

“นั่นเป็นเหตุผลที่เขาโกหกฉัน เรื่องการอยู่เพียงลําพังในคฤหาสน์! ไอ้สารเลว!! เขาต้องการทําให้เราสองคนฆ่ากันเอง!” ไรอาตะโกนด้วยความหงุดหงิด

“อลิเซีย!” ทันใดนั้นเขาก็อุทานออกมาเมื่อจําได้ว่าเขาทิ้งอลิเซียไว้กับลูซิเฟอร์

เขามองไปในทิศทางเดียวก็รู้ว่าอลิเซียไม่อยู่ที่นั่น ยิ่งกว่านั้นลูซิเฟอร์ก็ไม่อยู่ที่นั่นด้วย!

“นายพูดถูก! เราต้องฆ่าเด็กคนนั้นก่อน! เขารู้ทุกอย่างอย่างแน่นอน! เขาอันตรายเกินไป!” ไรอาอุทานออกมา

“นั่นคือสิ่งที่ข้าบอกเจ้า ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจ เราฆ่ากันเองได้เสมอ แต่เขาต้องถูกเอาออกจากภาพรวมของเรา! บอกข้ามาว่าเขาอยู่ที่ไหน! ข้าแน่ใจว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นเจ้าคงไม่คิดแบบนี้” วารันท์พูดพลางขมวดคิ้ว

“ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ฉันหาเขาไม่เจอ” ไรอาตอบพลางขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าลูซิเฟอร์อยู่ที่ไหน

ไกลจากพวกเขา เด็กหนุ่มคนหนึ่งกําลังยืนมองทั้งสองคน

“ช่างโชคร้ายเสียนี่กระไร” เด็กชายผมสีเงินพิมพ์ และขมวดคิ้ว..

ตอนที่ 306: การต่อสู้ที่อันตราย

การต่อสู้ระหว่างเก็นซี่และทริสตันยังคงโหมกระหน่รุนแรงขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป

เก็นซี่ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังทริสตันที่กําลังถือมีดลวงตาในมือของเขาในขณะที่เขาฟันออกไปอย่างวุ่นวาย ท่าให้ทริสตันมีบาดแผลมากมาย

ทริสตันคํารามโดยใช้นิ้วโป้งซ้ายสะบัดคาทานะ พลางดึงปลอกออกด้วยหนึ่งนิ้ว ก่อนจะใช้มือขวาหุ้มกลับ

แต่ในทันใด พายุที่รุนแรงได้พัดขึ้น ในพื้นที่ขณะที่พายุทอร์นาโดก่อตัวขึ้นรอบตัวเขา และเต็มไปด้วยแสงจากดาบ

พายุทอร์นาโดพุ่งเข้าใส่เก็นซี่ทําให้เขาลอยกลับ แต่เก็นซี่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ เนื่องจากมีบางสิ่งที่ไร้รูปร่างปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา คล้ายกับใบมีดที่หมุนรอบตัวเขา ขณะที่พวกมันป้องกันการโจมตี เก็นซี่ล้มลงกับพื้นและถูกลากไปในระยะหนึ่ง ก่อนจะรวบรวมกริชและส่งมันลงไปที่พื้นและหยุดในที่สุด

เขาเงยศีรษะและมองไปข้างหลัง สังเกตว่าเขาอยู่ห่างจากบึงพิษเพียงไม่กี่นิ้ว “นั่นมันอันตรายนะ” เขาขมวดคิ้ว แล้วมองไปในทิศทางของทริสตัน ขณะที่เขาสังเกตเห็นพายุทอร์นาโดกําลังก่อตัวขึ้น

ร่างของทริสตันที่ซ่อนตัวอยู่ในพายุทอร์นาโดแห่งสายลมนั้นเคลื่อนไหวราวกับคนบ้า ในขณะที่เขาจับฝักดาบและดึงปลอกดาบออกหลายครั้งเพื่อเสริมกําลังพายุทอร์นาโดรอบๆ ตัวเขา

พายุทอร์นาโดเริ่มค่อยๆ ไต่ความแรงขึ้นด้วยความแข็งแกร่ง และเริ่มดูดฝุ่นรอบๆ ตัวทั้งหมดเป็นประกายของสายฟ้าวาบท่ามกลางมัน

ทริสตันไล่ตามร่างของเอ็นซี พลางตะโกนว่า “เก็นซี่ !” เขากระทืบพื้นอย่างแรงและพุ่งไปข้างหน้า พลางดึงพายุทอร์นาโดไปด้วย

แรงกระตุ้นอันรุนแรงของเขาทําให้เก็นซีประหลาดใจ ร่างของเอ็นซีแวบผ่าน หายไปจากสถานที่ โชคไม่ดีที่ทริสตันติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งราวกับวัวผู้บ้าคลั่ง

พื้นดินถูกทําลาย เนื่องจากภูมิประเทศที่แปลกประหลาดทั้งหมดที่สร้างขึ้นจากความสามารถที่หลากหลายของพวกนักเวทย์ ตอนนี้วอร์ล็อคระดับ S ถูกดึงเข้าไปในพายุทอร์นาโดของเขา ทําให้มันกลายเป็นสิ่งที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรู้สึกลําบากในการควบคุม

แต่ไม่ว่าอย่างไร ทริสตันปฏิเสธที่จะผ่อนปรนการโจมตีของเขา ขณะที่เขาไล่ตามเก็นซี่ และในบางครั้ง เขาก็ปล่อยล่าแสงดาบตรงไปยังเก็นซี่ เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนีและพยายามบังคับเขาให้เข้าไปในพายุทอร์นาโด เพื่อที่เขาตั้งใจจะฉีกเก็นซี่เป็นชิ้นๆ ด้วยวิธีนี้

เมื่อใดก็ตามที่มีการโจมตีที่เขาไม่สามารถป้องกันได้ เก็นซีก็ใช้ดาบที่มองไม่เห็นของเขาเพื่อป้องกันพวกมัน และดูเหมือนว่าการโจมตีของทริสตันจะไม่สามารถทําลายการป้องกันใบมีดที่หมุนรอบตัวของเขาได้

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะพึ่งพาพวกมันตลอดไปไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากวิธีที่เขาพยายามหลบการโจมตีส่วนใหญ่ ท้ายที่สุดแล้วดาบล่องหนของเขาก็มีจํากัด

และทุกครั้งที่เขาป้องกันการโจมตีของทริสตัน พวกมันก็จะได้รับความเสียหาย และหลังจากป้องกันการโจมตี 2-3 ครั้ง ดาบล่องหนเล่มหนึ่งก็แตกออก

และทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ เห็นจะหน้าบึง และกะพริบตาเร็วขึ้น ในขณะที่เขาใช้พลังป้องกันของเขา ตอนนี้เขาสังเกตพายุทอร์นาโดที่มีความสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามภูมิประเทศที่มันดูดกลืนไป

และเมื่อร่างของเขาเคลื่อนผ่านไป เขาสังเกตเห็นว่าความสามารถต่างๆ ส่งผลต่อลําแสงดาบซึ่งเป็นแรงผลักดันหลักของพายุทอร์นาโด

เขายังสังเกตเห็นว่าความสามารถเกือบทั้งหมดค่อยๆ ทําลายลําแสงดาบ

แม้ว่าจะดูเหมือนว่าพายุทอร์นาโดจะรุนแรงขึ้น แต่ก็เหมือนกับความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายของสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ พายุทอร์นาโดถูกผูกไว้เพื่อยุบหายไปไม่ช้าก็เร็ว และในระหว่างนี้ เขาได้ยุยงให้ทริสตันโจมตีเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ทุกครั้งที่ทริสตันปล่อยลําแสงดาบผ่านพายุทอร์นาโด มันก็ไม่เสถียรมากขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุด เมื่อเขาปลดปล่อยการโจมตีที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้นด้วยความโกรธ ความแข็งแกร่งที่สุดที่เขาปล่อยออกมาจนถึงตอนนี้ ร่างของเก็นซีหายไปจากที่เกิดเหตุ และปรากฏอยู่ฝั่งตรงข้ามของพายุทอร์นาโด

เขาสังเกตเห็นว่าการโจมตีของทริสตันทําให้เกิดจุดอ่อนในพายุทอร์นาโดได้อย่างไร และเมื่อ ขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ร่างของเอ็นซี่ก็ส่องประกายผ่านจุดอ่อน ในขณะที่เขาใช้ดาบที่มองไม่เห็นของเขาเพื่อปกป้องตัวเอง

พายุทอร์นาโดหนาขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าจะใกล้จะพังทลายลงแล้วก็ตาม และด้วยโมเมนตัมของมันและสิ่งของมากมายที่หมุนอยู่ในนั้น ช่วงเวลาที่ร่างของเอ็นซี่เคลื่อนผ่านนั้น เขาก็คํารามอย่างเกรี้ยวกราด เมื่อเส้นประสาททั้งหมดในร่างกายของเขาผุดขึ้น

ใบมีดที่มองไม่เห็นของเขามีความตึงเครียด เนื่องจากความสามารถมากมายโจมตีมัน สิ่งเหล่านั้นตั้งใจที่จะทําลายการป้องกันของเขาและทําให้เขาตาย

อย่างไรก็ตาม โชคดีสําหรับเขา เขาเร็ว และเร็วกว่ามาก ดังนั้นต่อให้ดูเหมือนว่าเขาใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่ออดทนต่อการโจมตีในพายุทอร์นาโด ทุกสิ่งทุกอย่างก็เกิดขึ้นในชั่วพริบตา

ในสายตาของพายุทอร์นาโดพร้อมกับเสื้อผ้าที่กระพือปีก ทริสตันหอบเล็กน้อย ในขณะที่เขา ดูเหนื่อยล้าเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็สะดุ้งและขยับร่างกาย เนื่องจากเขาสังเกตเห็นมีดแทงที่ท้องของเขา

ถ้าเขาไม่ขยับร่างกาย หัวใจของเขาคงจะถูกแทง เมื่อทริสตันวางแผนที่จะใช้มือซ้ายของเขาที่ถือปลอกดาบเพื่อโจมตีเก็นซี บางสิ่งบางอย่างก็วาบขึ้นเมื่อดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจ และเต็มไปด้วยความโกรธ

การมองเห็นของเขาเปลี่ยนเป็นสีเดียว ในขณะที่เขาสังเกตเห็นเพียงแขนซ้ายของเขาที่ถูกตัดขาด มันค่อย ๆ แยกตัวออกจากร่างกายของเขาและบิน หมุนไป 1 รอบ ในขณะที่ดูเหมือนว่ามันจะขยับขึ้นเนื่องจากกระแสลม

เลือดที่รั่วไหลออกมาที่ใบหน้าของเขา ย่อมดวงตาของเขาให้เป็นสีแดง ขณะที่ทริสตันหลับตาเป็นภาพสะท้อนความเดือดดาลที่เต็มไปด้วยความโกรธ ขณะที่เขานึกภาพถึงน้ําเสียงเย้ยหยันของเก็นซีทางจิตใจ

จนถึงตอนนี้ เขาไม่สามารถโจมตีเก็นซี่ได้แม้แต่ครั้งเดียว นั่นคือสาเหตุของความโกรธของเขา แต่ถ้าเขาบอกว่าเป็นซี่เป็นคนเดียวที่ทําให้เขารู้สึกแบบนี้ เขาก็คงจะโกหก

เขาเป็นจอมเวทที่หยิ่งผยอง เป็นคนที่มั่นใจในความสามารถของเขาอย่างไร้เหตุผล โดยตระหนักว่ามีคนจํานวนไม่มากนักที่สามารถเผชิญหน้ากับเขาเพียงลําพังได้

แต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับแคสเซียส เขารู้สึกหงุดหงิด เมื่อการโจมตีของเขาล้มเหลวในการพยายามส่งมันออกไป

แม้ว่ามันจะเป็นแค่การทดสอบที่เป็นมิตร แต่เมื่อเขาล้มเหลวในการทําให้คู่ต่อสู้ของเขาจริงจัง ทริสตันก็หงุดหงิด

นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเช่นนั้น หลังจากกลายเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด และตอนนี้เก็นซี่ก็ ข้ามาในหัวของเขาเช่นกัน สิ่งนั้นทําให้เขาโกรธมากขึ้น ในที่สุด เมื่อแขนซ้ายของเขาถูกตัด เขาก็ตะครุบ “ฉันไม่เคยต้องการใช้มันที่นี่ แต่วันนี้ แกจะรู้ว่าทริสตันคนนี้น่ากลัวแค่ไหน จงดีใจที่แกบังคับให้ฉันทําเช่นนี้”

ขณะที่มือซ้ายที่ตัดขาด ซึ่งยังคงถือปลอกอยู่ กําลังจะลอยขึ้นไป มือขวาของเขาก็ขยับด้วยความเร็วสุดขีดและจับด้ามคาทานะของเขา และตามด้วยเสียงคําราม เขาแกะปลอกดาบออกให้หมดและตะโกน “กล่าวคําอ่าลาซะเก็นซี”

เก็นซี่เพิ่งตัดแขนซ้ายของทริสตันและเพิ่งเล็งไปที่คอของเขา เมื่อดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจอย่างยิ่ง

มีดลวงตาของเขากําลังจะผ่าคอของทริสตัน แต่มันก็หยุดห่างจากผิวของเขาเพียงมิลลิเมตร

ดูเหมือนจะมีลมแรงพัดปกคลุมเหนือผิวหนังของทริสตัน ก่อตัวเป็นชั้นป้องกันที่เก็นซี่ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้

แต่นี่ไม่ใช่ทั้งหมด ทันทีที่ทริสตันดึงคาตานะออกมาจนสุด เก็นซีก็สังเกตเห็นว่าคาตานะกลายเป็นไอลม

และชั้นที่เป็นลมบนผิวหนังของทริสตันก็เต้นเป็นจังหวะ 1 ครั้งและหายไป เก็นซี่ยืนหยั่งรากลึกในจุดที่ตกใจ ก่อนที่เขาจะรู้ว่าเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

ขณะที่เขาคิดอยู่นั้น ลมจาง ๆ ในดวงตาของพายุทอร์นาโดก็พัดผ่านร่างของเขา ทําให้เขาละลายไปราวกับฝุ่นผงและถูกลมพัดพาไป

และหลังจากนั้นเก็นซีก็ได้เสียชีวิตลงทันที แต่ทริสตันไม่ได้แสดงความยินดีกับชัยชนะ โดยแสดงท่าทางเจ็บปวด ขณะที่เขาก่าแขนซ้ายที่ถูกตัดขาดของเขา พลางทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด “ไอ้สารเลวนั่นจ้องจะงับแขนซ้ายของฉันจริงๆ! อ๊ะ!”

เส้นเลือดผุดขึ้นทั่วร่างกาย ขณะที่ทริสต้นคร่ครวญด้วยความเจ็บปวดเพราะแขนของเขาถูกเฉือน และยิ่งไปกว่านั้น พายุทอร์นาโดก็สูญเสียเสถียรภาพทั้งหมดไปในที่สุด

การโจมตีครั้งสุดท้ายของทริสตันทําลายมันจนหมดสิ้นเมื่ออากาศ ของเหลว และของแข็งของสารอันตรายทุกประเภทลอยอยู่ในอากาศและเริ่มตกลงสู่พื้นทีละส่วน และใจกลางของทั้งหมดคือทริสตัน ซึ่งเขาไม่แม้แต่จะกระพริบตา

แม้จะเจ็บปวดมาก แต่เขาก็ยังจับดาบของเขาไว้ได้ ในขณะที่โบกมันอีกครั้ง เพื่อสร้างบาเรีย รอบๆ ตัวเขาเพื่อปกป้องร่างกายของเขาจากภัยพิบัติที่เขาก่อขึ้น อย่างน้อยที่สุดเท่าที่จะทําได้ในตอนนี้

โชคดีที่เขาสามารถเอาชีวิตรอดได้ มีบาดแผลทั่วร่างกายของเขา เขาเลือดออกไปทั้งตัว แต่เขาก็ยังเอาตัวรอดได้ เขาชนะแล้วจริงๆ

เขามองแขนที่ขาดของเขาอย่างอ่อนแรง ในขณะที่เขาถอนหายใจ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า เขาสามารถทําได้ดีกว่านี้หรือไม่

เก็นซี่ได้ผลักดันเขาให้ถึงขีดจํากัด แต่เขาก็รู้ว่าเขาสามารถจัดการได้ดีขึ้นถ้าเขาระมัดระวังมากขึ้น

“นายสบายดีหรือเปล่า?” เคลเลียนปรากฏตัวใกล้ทริสตัน และฆ่าคู่ต่อสู้ พลางประหลาดใจที่เห็นแขนที่ขาดของทริสตัน

“ฉันดูโอเคไหมล่ะ” ทริสตันถามพลางกลอกตา

ตอนที่ 305: สงคราม (ตอนที่ 3)

แตกต่างจากเขา ลูซิเฟอร์ยังคงต้องสัมผัสวัตถุโดยตรงเพื่อให้พลังแห่งการเน่าเปื่อยของเขา มีผลอย่างน้อยก็ในตอนนี้

ในขณะที่ตัวแปร APF สับสนกับการทําลายเขาวงกตอย่างกะทันหัน มีบางอย่างแวบผ่านพวกเขา คล้ายกับร่างมนุษย์

แต่มันก็เร็วเกินไป และเมื่อพวกเขาพยายามเข้ารับตําแหน่งป้องกัน กลุ่ม APE สังเกตว่ามือของพวกเขาหายไปในบางช่วงเวลา

พวกเขาไร้ความสามารถ และเมื่อเห็นสภาพที่ไร้การป้องกันของพวกเขา วอร์ล็อคของกลุ่มแวเรียนท์เกิดใหม่ที่ผ่านไปมาก็โยนโลหะหลอมเหลวใส่พวกเขา ร่างกายของพวกเขาก็กําลังหลอมละลาย

วอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดของ APP อีกคู่หนึ่งถูกฆ่าตายทันที ในส่วนอื่นของเมืองลมกระโชกแรงพัดบ้านลอยออกไปไกล

บ้านพังและลอยเข้าไปในสนามรบอีกแห่ง ทําให้ทีมของฝ่ายตรงข้ามหลบได้อย่างรวดเร็วเสียงดังกึกก้องจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ขณะที่บ้านอีก 2-3 หลังทะยานขึ้นไปในอากาศ

เมฆฝนยังคงหมุนเวียนไปทั่วเมือง และเปลี่ยนไปหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป และไม่ทราบสาเหตุหรือเหตุผล

ไรอาต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น แต่มีบริเวณหนึ่งของเมืองรอบๆ บริเวณขอบเมือง ซึ่งมีฝุ่นเกาะอยู่หนาแน่นที่สุด

เสียงที่คล้ายกันดังกึกก้องขึ้น มันคือเสียงของฟ้าร้องที่ดังกึกก้องจากสถานที่บริเวณนั้นไม่หยุด ขณะที่เศษไม้และเม็ดระอองฝุ่นเล็ก ๆ พุ่งออกมาราวกับกระสุน ซึ่งเป็นผลมาจากคลื่นกระแทกจากการแลกเปลี่ยนที่รุนแรง

ส่วนพวกที่บินขึ้นไปบนฟ้าก็สบายดี แต่สําหรับคนที่ไม่สามารถบินหรือกระโดดสูงได้ พวกเขาถูกฆ่าตายเป็นจํานวนมากลูซิเฟอร์ยืนอยู่บนหลังคาบ้านพลางเฝ้าดูทุกอย่าง

“นี่คือสนามรบที่แท้จริงของวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุด ความสามารถอันน่าพึ่งบางอย่างกําลังแสดงอยู่เป็นความจริงที่ไม่ควรมองข้ามสิ่งเหล่านี้ เขาคิดและขมวดคิ้ว

เขายืนอยู่บนหลังคากับอลิเซีย สําหรับไรอาในที่สุดเขาก็ไปปะทะกับวารันท์ ลูซิเฟอร์และอลิเซียได้รับคําสั่งให้อยู่ข้างหลังและโจมตีวารันท์ในเวลาที่เหมาะสม

ลูซิเฟอร์เพ่งสายตาไปที่อื่น ซึ่งเขาสามารถมองเห็นบ้านเรือนต่างๆ ที่กําลังพัฒนาเป็นรูเล็กๆมากมาย

รูส่วนใหญ่มีขนาดเท่ารูเข็ม มันเล็กจนแทบมองไม่เห็นเว้นแต่จะมีใครสังเกตจากระยะใกล้ แต่มันแสดงให้เห็นพลังเบื้องหลังความเสียหายที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนระหว่างไรอาและวารันท์

ในเมืองมีสนามรบแยกกันชัดเจน และเห็นได้ชัดว่าสถานที่นี้เป็นจุดที่ทําให้หูอื้อมากที่สุดเนื่องจากเสียงนั้นเกิดจากผู้แข็งแกร่งที่สุดของทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน

ผลของการต่อสู้จะเป็นตัวกําหนดทิศทางของสงคราม ท้ายที่สุดทุกคนในฝ่านใดฝ่ายหนึ่งก็สามารถฝ่าฟันสงครามไปได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นพวกเขาคือผลที่แท้จริงที่บ่งบอกว่าฝ่ายใดชนะหรือแพ้

ทันใดนั้นบ้านเรือนจํานวนมากเริ่มจมลงสู่พื้นดิน เมื่อสถานที่ทุกที่กลายเป็นทรายดูดที่ถูกดูด เข้าไปทั้งหมดในสถานที่อื่นมีภูเขาไฟพุ่งออกมาจากพื้นดิน และกลายเป็นน้ําแข็งทันที

ในทํานองเดียวกัน ในส่วนหนึ่งของเมือง บ้านบางหลังถูกอัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ของวัสดุที่ประกอบขึ้นเป็นส่วนประกอบ ก่อนที่จะถูกเหวี่ยงไปทั่วสถานที่

ทุกการโจมตีกลายเป็นระเบิดมากกว่าครั้งก่อน ก่อนที่ภูมิประเทศทั้งหมดจะเปลี่ยนไป

ครั้งหนึ่งเมืองที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนกลายเป็นสนามรบที่ไร้อารยะภูมิประเทศที่ราบเรียบเกือบแบนราบได้เปลี่ยนเป็นผืนดินที่อันตรายที่สุด

ดูเหมือนว่าจะมีการปะทุของภูเขาไฟ หนองน้ําพิษ ใบมีดโลหะ ช่องเขาลึก หลุมทรายที่ดูดตลอดเวลา ประกายไฟของการระเบิด การปล่อยสายฟ้า ยิ่งกว่านั้น เสียงฟ้าร้องดังก้องกังวานอยู่ในสถานที่ต่างๆ และในที่สุด ผลกระทบที่แพร่ระบาดมากที่สุดคือผลกระทบที่พยายามทําลายความสมบูรณ์ของโครงสร้างของทุกสิ่ง สร้างความเสียหายให้กับผืนดินด้วยตัวมันเอง

หลังคาที่ลูซิเฟอร์ยืนอยู่นั้นได้รับความเสียหายจากการโจมตีที่ทําลายมันทั้งหมด

เนื่องจากไม่มีที่ที่ดีที่จะยืน ลูซิเฟอร์จึงยืนอยู่ในอากาศ สูงกว่าพื้นดิน 20 เมตร อลิเซียยังยืนอยู่ข้างเขา

“อืม อลิเซีย?” จู่ๆ ลูซิเฟอร์ก็ถามขึ้น

“อะไร?” อลิเซียตอบกลับอย่างรวดเร็ว

“เธอจําเดิมพันที่ฉันชนะและเธอเป็นหนี้บุญคุณฉันได้ไหม ฉันต้องการให้เธอทําตอนนี้” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

“นายต้องการให้ฉันทําอะไร และทําไมนายไม่เลือกเวลาที่ดีๆหน่อยล่ะ ไม่เอาน่า! เราได้รับคําสั่งให้จับตาดูการต่อสู้และช่วยในการสังหารวารันท์ รอไม่ไหวแล้วหรือ?” อลิเซียถาม

“อย่ากังวลไป ใช้เวลาไม่นาน ยิ่งกว่านั้นการต่อสู้ของไรอาและวารันท์เพิ่งเริ่มต้น มันจะใช้เวลานาน ก่อนที่เราจะเห็น ดังนั้นเธอทําได้อย่างแน่นอน ในความเป็นจริงมันจะ ใช้เวลาน้อยกว่า 1 นาที่” ลูซิเฟอร์พูดอย่างไร้เดียงสา

“ได้! บอกฉันว่าฉันต้องทําอะไร?” อลิเซียถาม

“ฉันต้องการให้เธอกอดฉัน” ลูซิเฟอร์พูดด้วยใบหน้าที่ตรงไปตรงมา

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร? อลิเซียถามอย่างตกตะลึง เธอไม่เข้าใจว่ามันหมายความว่าอย่างไร

“กอดหน่อยเถอะ ใช้เวลาไม่ถึงนาที ฉันไม่ได้ขอจูบอะไรสักหน่อย” ลูซิเฟอร์ตอบ “มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง”

“เหตุผลอะไร?” อลิเซียถามพลางจ้องมาที่เขาเหมือนว่าเธอกําลังจะฆ่าเขา

“แม่ของฉัน… ทุกครั้งที่ฉันเศร้า เธอเคยกอดฉัน ฉันไม่รู้ว่าทําไมแต่ฉันรู้สึกหดหูใจและคิดถึง แม่มากฉันคิดถึงอ้อมกอดของเธอที่ทําให้อารมณ์ของฉันเบิกบานอยู่เสมอกอดฉันแทนเธอ หน่อยได้ไหม” ลูซิเฟอร์อธิบาย

มีความจริงบางอย่างในคําพูดของเขา ซึ่งผสมกับคําโกหกบางอย่างด้วย เมื่อเห็นความเศร้า บนใบหน้าของลูซิเฟอร์และเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของเขาแล้ว อลิเซียก็พยักหน้า “ดีงั้นได้”

เธอก้าวเข้ามาใกล้ลูซิเฟอร์ ขณะกางแขนออก

ลูซิเฟอร์ยังกางแขนออก ขณะที่เขากอดเธอ ร่างของทั้งสองคนแนบชิดกันมากขึ้น ขณะที่พวกเขากอดกัน

“อย่าเศร้าไปเลย วันนี้เราจะเป็นผู้ชนะ แล้วเราจะไปพบกับโลกใหม่” อิลิเซียพูดกับลูซิเฟอร์ ขณะกอดเธอ

“ใช่แล้ว วันนี้เราจะชนะ แล้วทุกคนจะได้เห็นโลกใหม่” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่ค่อยๆ ยกมือขวาขึ้นและนํามันเข้ามาใกล้หูของอลิเซีย

“โลกใบใหม่ของฉัน” เขากระซิบ ก่อนจะได้ยินเสียงดังแผ่วเบา ดวงตาของอลิเซียเบิกกว้างก่อนจะปิดลงช้าๆ ร่างกายที่อ่อนล้าของเธอสูญเสียพละกําลังทั้งหมดเมื่อเธอหมดสติเพราะกลอบายของลูซิเฟอร์

อลิเซียสลบไปในอ้อมแขนของลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์จึงบินออกไปไกล เขาเข้าไปในบังเกอร์ ห่างจากสนามรบที่ไอย์และเวราซิตี้กําลังพักอยู่

“จับตาดเธอไว้ เธอจะไม่ตื่นสัก 2-3 ชั่วโมง และฉันก็น่าจะกลับมาก่อนเวลานั้น” ลูซิเฟอร์บอกกับเวราซิตี้ ก่อนเขาจะออกจากสถานที่อย่างรวดเร็วพอๆ กับที่เขามา

ตอนที่ 304: สงคราม (ตอนที่ 2)

แต่เมื่อขยายไปถึงรัศมี 10 เมตร ดอกไม้ก็เริ่มเหี่ยวเฉาตาม ความชื้นถูกดูดซับ

ผู้ที่ดูดกลืนมันคือพ่อมดเขารวบรวมความชื้นทั้งหมดไว้ในทรงกลมที่หมุนรอบตัวเขา

และในเวลาเดียวกัน นักรบที่ปกป้องเขาเหวี่ยงค้อนกระแทกกับพื้น ทําให้มันแตกและกลายเป็นปล่องขนาดใหญ่

การโจมตีได้ทําลายเครือข่ายที่ดอกไม้สร้างขึ้นเมื่อความชื้นถูกดูดซับ ทําให้พวกเขาไร้ประโยชน์ทันที

ทันทีที่สิ่งนี้เกิดขึ้น แวเรียนท์คนอื่นๆกระโดดจากชั้นที่ 2 ของอาคารใกล้เคียงโดยใช้หอกของเขา

เขาโยนมันลงไปที่พื้น ทําให้เกิดเสียงกรีดร้องจากมัน ที่มาของเสียงกร็ดคือผู้หญิงที่ควบคุมดอกไม้

หอกแทงทะลุท้องของเธอ ขณะที่เธอกระอักเลือด แต่นักรบที่ถือหอกไม่ได้โจมตีต่อเพื่อเอาชี้วิตรอด

แต่เขายังคงนิ่ง ตกใจแสดงความกลัวขณะมองดูเลือดของหญิงสาวที่หกเลอะเสื้อผ้าของเขา

เลือดไม่ได้เป็นเพียงผลจากการโจมตีของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่เธอใช้เป็นโอกาสในการกําหนดเป้าหมายเขาด้วย เขาประมาทเลินเล่อ

เมื่อความคิดพุ่งเข้าใส่เขา กลีบดอกไม้ 2 กลีบก็ผลิบานจากดวงตาของเขา ขณะที่เขาล้มลงกับพื้น ทําให้เกิดดอกไม้ขนาดใหญ่เบ่งบานในบริเวณนั้นทันที

แต่ถึงแม้เธอจะชนะการแลกเปลี่ยน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ค่อยสบายเช่นกัน เธอแทบจะไม่หันศีรษะและมองดูบาดแผลในท้องของเธอ เพราะเธอสามารถมองเห็นอีกด้านหนึ่งได้

ไขสันหลังส่วนนึ่งของเธอหมดสิ้นแล้ว ทําให้เธอไร้ความสามารถ ไม่ว่าเธอจะพยายาม อย่างไรขาของเธอก็ขยับไม่ได้ ทั้งหมดที่เธอสามารถทําได้คือใช้ความสามารถของเธอเพื่อต่อสู้กับศัตรูของเธอ

สนามรบทั้งหมดกลายเป็นความโกลาหล เนื่องจากความสามารถ S-Class จํานวนมากถูกใช้ ในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นสงครามที่น่ากลัว

ที่ตั้งอยู่รอบใจกลางเมืองเป็นอาคารที่แออัดที่สุด และการต่อสู้ที่นี่รุนแรงที่สุด

ไม่ใช่แค่เพราะจํานวนคนที่ต่อสู้ในสถานที่นี้เท่านั้น แต่ยังเกิดจากการโจมตีอันทรงพลังที่แลกเปลี่ยนกัน

กลุ่ม APF ที่มีสมาชิกทั้งหมด 5 กลุ่มประกอบด้วยผู้ใช้ที่มีความสามารถเป็นโลหะ มีทั้งพ่อมดและนักเวทย์ เดินไปรอบๆเพื่อป้องกันการโจมตีหลังจากศัตรูโจมตีพวกเขา

ดูเหมือนว่าพวกเขามีวอร์ล็อค 1 คนที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของทุกคนได้ในระยะเวลาอันสั้น

ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น พวกเขาสามารถโจมตีด้วยความแข็งแกร่งมากขึ้น และในหมู่พวกเขา กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดได้ปลดปล่อยสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นใบมีดโลหะที่มีรูปร่างคล้ายเสี้ยวคู่

เสี้ยววงแหวนทั้งสองยังคงอยู่ใกล้กันแต่ไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ และสิ่งนี้ทําให้เสี้ยววงแหวนคู่แต่ละอันเปล่งเสียงผิวปากออกมา ขณะที่มันบินไปรอบๆ มันเป็นเสียงผิวปากที่ทําให้สถานการณ์วุ่นวาย

มันรบกวนสมาธิของทั้งฝ่ายเดียวกันและศัตรู ทําให้โจมตีด้วยสมาธิน้อยกว่าปกติด้วยเหตุนี้การโจมตีทุกประเภทจึงลอยออกไปทุกทิศทุกทาง

เสียงผิวปากยังคงดําเนินต่อไป ในขณะที่สมาชิก APF ควบคุมเสี้ยววงแหวน เขาปล่อยทั้งหมดออกมา ซึ่งทําให้เกิดพายุในขณะที่อาคารต่างๆ ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เมฆฝุ่นทําให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกไม่ว่าพวกเขาจะทําอะไร มันไม่หายไป

ขณะที่เสี้ยววงแหวนลอยไปรอบ ๆ ประกายไฟก็ส่องผ่านพวกเขาเป็นครั้งคราว ทําร้ายแวเรียนที่ไม่สามารถหลบเลี่ยงพวกมันได้

ในบรรดาทีม APE มีชายคนหนึ่งที่ดูแก่กว่าเขาไม่ขยับเขยื้อนตั้งแต่เริ่มต้น

เขาแค่ซ่อนตัวอยู่หลังผู้ถือเสียววงแหวนนั้น เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ เขาเป็นเพียงนักรบ ยูนิตการต่อสู้ระยะประชิดนั้นในตอนนี้เสียเปรียบเล็กน้อย เมื่อศัตรูของเขาซ่อนตัวอยู่และโจมตีจากระยะไกลเท่านั้น

ดูเหมือนเขาจะรอโอกาสที่จะโจมตี การโจมตีของเสี้ยววงแหวนยังคงดําเนินต่อไป ทันทีที่มันออกจากเมฆฝุ่น เสี้ยวสองเสี้ยวแยกออกเป็นเสี้ยวแต่ละอันและลอยไปในเมฆฝุ่นอย่างผิดธรรมชาติ ก่อตัวเป็นเส้นทางที่ไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น

ไม่กี่วินาทีต่อมา ความเงียบก็เกิดขึ้น ก่อนที่เสียงกรีดร้องมากมายจะดังขึ้น สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่หลายสิบคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

“เฮ้ ฉันวางใจให้คุณทําการโจมตีแบบเซอร์ไพรส์ได้เสมอ” นักรบกล่าวกับชายที่ถือเสี้ยววงแหวน

เขามองดูเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ คนๆนั้นเป็นผู้หญิงที่สะสมพลังมาโดยตลอด ทําให้บางสิ่งซึมลงสู่พื้นดินอย่างไม่หยุดหย่อนเธออยู่ที่นั่นได้ 1 นาทีแล้ว

และทันทีที่เธอได้ยินเสียงกรีดร้องจากแวเรียนท์หลาย 10 ตัว เธอก็เปิดใช้งานความสามารถของเธอ แล้วทรุดตัวลงกับพื้นในทันที แต่เธอก็พอใจเมื่อความสามารถของเธอมีผล

ทันใดนั้นเหล็กแหลมจํานวนมากพุ่งออกมาจากพื้น แทงแวเรียนท์ที่บาดเจ็บนับไม่ถ้วน

จํานวนการฆ่าของเธอมีจํานวนอยู่ที่ 2 โหล เนื่องจากการโจมตีที่ฟุ่มเฟือยและมีระยะเพียง 50 เมตรรอบตัวเธอเท่านั้น

“ตอนนี้ นี่คือสิ่งที่ฉันเรียกว่าสนามรบที่สมบูรณ์แบบ” ชายผู้ถือวงแหวนยิ้มเยาะ ขณะที่เขาส่งพวกมันออกไปอีกราวๆ 100 ดวง

และคราวนี้ เสียววงแหวนคู่กระทบกับเดือยโลหะไปตลอดทาง มันสุ่มการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมขณะเดินทางไปทั่วทุ่งแหลมโลหะซึ่งดูเหมือนเขาวงกต

สิ่งนี้ทําให้การป้องกันพวกเขายากขึ้น เนื่องจากแวเรียนท์เกิดใหม่ต้องป้องกันการโจมตีของ APF จากทุกด้าน และเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทําการโจมตีด้วยตนเอง สิ่งนี้ทําให้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่โต้ตอบ

เสี้ยววงแหวนกลายเป็นฝันร้ายของสนามรบ เมื่อพวกเขาเก็บเกี่ยวชีวิตที่ละคน สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มนั้นคล้ายกับปืนกล ในขณะที่เขาฆ่าสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่อย่างบ้าคลั่ง

เขายังเป็นหนึ่งในแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดใน APP รองจากเรียอาริและเก็นซี เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักและเป็นวอร์ล็อคที่น่ากลัว

การทํางานเป็นทีมของ APF กําลังสร้างปาฏิหาริย์ ในขณะที่สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่หลาย คนเสียชีวิต โชคไม่ดีที่ชัยชนะของพวกเขาดูเหมือนจะไม่ยืนยาวเนื่องจากเดือยโลหะทั้งหมดเรี่ มอ่อนตัวลง สูญเสียความสมบูรณ์ของโครงสร้างพวกมันรู้สึกราวกับว่าเวลาของพวกมันถูกเร่งขึ้น ทําให้พวกมันพังทลายลงกับพื้นหลังจากนั้นไม่นาน

มันเป็นความสามารถของวอร์ล็อค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมของไรอา

ความสามารถอย่างหนึ่งของเขาคล้ายกับทักษะการเน่าสลายของลูซิเฟอร์ แต่มันใช้ได้กับโลหะเท่านั้นไม่เหมือนกับความสามารถของลูซิเฟอร์ที่ทํางานกับทุกๆอย่าง

อย่างไรก็ตาม มันก็มีข้อได้เปรียบเช่นกัน เนื่องจากเป็นความสามารถขนาดใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากความสามารถจํากัดของลูซิเฟอร์..

ตอนที่ 304: สงคราม (ตอนที่ 2)

แต่เมื่อขยายไปถึงรัศมี 10 เมตร ดอกไม้ก็เริ่มเหี่ยวเฉาตาม ความชื้นถูกดูดซับ

ผู้ที่ดูดกลืนมันคือพ่อมดเขารวบรวมความชื้นทั้งหมดไว้ในทรงกลมที่หมุนรอบตัวเขา

และในเวลาเดียวกัน นักรบที่ปกป้องเขาเหวี่ยงค้อนกระแทกกับพื้น ทําให้มันแตกและกลายเป็นปล่องขนาดใหญ่

การโจมตีได้ทําลายเครือข่ายที่ดอกไม้สร้างขึ้นเมื่อความชื้นถูกดูดซับ ทําให้พวกเขาไร้ประโยชน์ทันที

ทันทีที่สิ่งนี้เกิดขึ้น แวเรียนท์คนอื่นๆกระโดดจากชั้นที่ 2 ของอาคารใกล้เคียงโดยใช้หอกของเขา

เขาโยนมันลงไปที่พื้น ทําให้เกิดเสียงกรีดร้องจากมัน ที่มาของเสียงกร็ดคือผู้หญิงที่ควบคุมดอกไม้

หอกแทงทะลุท้องของเธอ ขณะที่เธอกระอักเลือด แต่นักรบที่ถือหอกไม่ได้โจมตีต่อเพื่อเอาชี้วิตรอด

แต่เขายังคงนิ่ง ตกใจแสดงความกลัวขณะมองดูเลือดของหญิงสาวที่หกเลอะเสื้อผ้าของเขา

เลือดไม่ได้เป็นเพียงผลจากการโจมตีของเขาเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่เธอใช้เป็นโอกาสในการกําหนดเป้าหมายเขาด้วย เขาประมาทเลินเล่อ

เมื่อความคิดพุ่งเข้าใส่เขา กลีบดอกไม้ 2 กลีบก็ผลิบานจากดวงตาของเขา ขณะที่เขาล้มลงกับพื้น ทําให้เกิดดอกไม้ขนาดใหญ่เบ่งบานในบริเวณนั้นทันที

แต่ถึงแม้เธอจะชนะการแลกเปลี่ยน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ค่อยสบายเช่นกัน เธอแทบจะไม่หันศีรษะและมองดูบาดแผลในท้องของเธอ เพราะเธอสามารถมองเห็นอีกด้านหนึ่งได้

ไขสันหลังส่วนนึ่งของเธอหมดสิ้นแล้ว ทําให้เธอไร้ความสามารถ ไม่ว่าเธอจะพยายาม อย่างไรขาของเธอก็ขยับไม่ได้ ทั้งหมดที่เธอสามารถทําได้คือใช้ความสามารถของเธอเพื่อต่อสู้กับศัตรูของเธอ

สนามรบทั้งหมดกลายเป็นความโกลาหล เนื่องจากความสามารถ S-Class จํานวนมากถูกใช้ ในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นสงครามที่น่ากลัว

ที่ตั้งอยู่รอบใจกลางเมืองเป็นอาคารที่แออัดที่สุด และการต่อสู้ที่นี่รุนแรงที่สุด

ไม่ใช่แค่เพราะจํานวนคนที่ต่อสู้ในสถานที่นี้เท่านั้น แต่ยังเกิดจากการโจมตีอันทรงพลังที่แลกเปลี่ยนกัน

กลุ่ม APF ที่มีสมาชิกทั้งหมด 5 กลุ่มประกอบด้วยผู้ใช้ที่มีความสามารถเป็นโลหะ มีทั้งพ่อมดและนักเวทย์ เดินไปรอบๆเพื่อป้องกันการโจมตีหลังจากศัตรูโจมตีพวกเขา

ดูเหมือนว่าพวกเขามีวอร์ล็อค 1 คนที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของทุกคนได้ในระยะเวลาอันสั้น

ดังนั้นด้วยความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น พวกเขาสามารถโจมตีด้วยความแข็งแกร่งมากขึ้น และในหมู่พวกเขา กลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดได้ปลดปล่อยสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นใบมีดโลหะที่มีรูปร่างคล้ายเสี้ยวคู่

เสี้ยววงแหวนทั้งสองยังคงอยู่ใกล้กันแต่ไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ และสิ่งนี้ทําให้เสี้ยววงแหวนคู่แต่ละอันเปล่งเสียงผิวปากออกมา ขณะที่มันบินไปรอบๆ มันเป็นเสียงผิวปากที่ทําให้สถานการณ์วุ่นวาย

มันรบกวนสมาธิของทั้งฝ่ายเดียวกันและศัตรู ทําให้โจมตีด้วยสมาธิน้อยกว่าปกติด้วยเหตุนี้การโจมตีทุกประเภทจึงลอยออกไปทุกทิศทุกทาง

เสียงผิวปากยังคงดําเนินต่อไป ในขณะที่สมาชิก APF ควบคุมเสี้ยววงแหวน เขาปล่อยทั้งหมดออกมา ซึ่งทําให้เกิดพายุในขณะที่อาคารต่างๆ ถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

เมฆฝุ่นทําให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกไม่ว่าพวกเขาจะทําอะไร มันไม่หายไป

ขณะที่เสี้ยววงแหวนลอยไปรอบ ๆ ประกายไฟก็ส่องผ่านพวกเขาเป็นครั้งคราว ทําร้ายแวเรียนที่ไม่สามารถหลบเลี่ยงพวกมันได้

ในบรรดาทีม APE มีชายคนหนึ่งที่ดูแก่กว่าเขาไม่ขยับเขยื้อนตั้งแต่เริ่มต้น

เขาแค่ซ่อนตัวอยู่หลังผู้ถือเสียววงแหวนนั้น เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ เขาเป็นเพียงนักรบ ยูนิตการต่อสู้ระยะประชิดนั้นในตอนนี้เสียเปรียบเล็กน้อย เมื่อศัตรูของเขาซ่อนตัวอยู่และโจมตีจากระยะไกลเท่านั้น

ดูเหมือนเขาจะรอโอกาสที่จะโจมตี การโจมตีของเสี้ยววงแหวนยังคงดําเนินต่อไป ทันทีที่มันออกจากเมฆฝุ่น เสี้ยวสองเสี้ยวแยกออกเป็นเสี้ยวแต่ละอันและลอยไปในเมฆฝุ่นอย่างผิดธรรมชาติ ก่อตัวเป็นเส้นทางที่ไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น

ไม่กี่วินาทีต่อมา ความเงียบก็เกิดขึ้น ก่อนที่เสียงกรีดร้องมากมายจะดังขึ้น สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่หลายสิบคนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

“เฮ้ ฉันวางใจให้คุณทําการโจมตีแบบเซอร์ไพรส์ได้เสมอ” นักรบกล่าวกับชายที่ถือเสี้ยววงแหวน

เขามองดูเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ คนๆนั้นเป็นผู้หญิงที่สะสมพลังมาโดยตลอด ทําให้บางสิ่งซึมลงสู่พื้นดินอย่างไม่หยุดหย่อนเธออยู่ที่นั่นได้ 1 นาทีแล้ว

และทันทีที่เธอได้ยินเสียงกรีดร้องจากแวเรียนท์หลาย 10 ตัว เธอก็เปิดใช้งานความสามารถของเธอ แล้วทรุดตัวลงกับพื้นในทันที แต่เธอก็พอใจเมื่อความสามารถของเธอมีผล

ทันใดนั้นเหล็กแหลมจํานวนมากพุ่งออกมาจากพื้น แทงแวเรียนท์ที่บาดเจ็บนับไม่ถ้วน

จํานวนการฆ่าของเธอมีจํานวนอยู่ที่ 2 โหล เนื่องจากการโจมตีที่ฟุ่มเฟือยและมีระยะเพียง 50 เมตรรอบตัวเธอเท่านั้น

“ตอนนี้ นี่คือสิ่งที่ฉันเรียกว่าสนามรบที่สมบูรณ์แบบ” ชายผู้ถือวงแหวนยิ้มเยาะ ขณะที่เขาส่งพวกมันออกไปอีกราวๆ 100 ดวง

และคราวนี้ เสียววงแหวนคู่กระทบกับเดือยโลหะไปตลอดทาง มันสุ่มการเคลื่อนไหวเพิ่มเติมขณะเดินทางไปทั่วทุ่งแหลมโลหะซึ่งดูเหมือนเขาวงกต

สิ่งนี้ทําให้การป้องกันพวกเขายากขึ้น เนื่องจากแวเรียนท์เกิดใหม่ต้องป้องกันการโจมตีของ APF จากทุกด้าน และเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาทําการโจมตีด้วยตนเอง สิ่งนี้ทําให้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่โต้ตอบ

เสี้ยววงแหวนกลายเป็นฝันร้ายของสนามรบ เมื่อพวกเขาเก็บเกี่ยวชีวิตที่ละคน สมาชิกคนสุดท้ายของกลุ่มนั้นคล้ายกับปืนกล ในขณะที่เขาฆ่าสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่อย่างบ้าคลั่ง

เขายังเป็นหนึ่งในแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดใน APP รองจากเรียอาริและเก็นซี เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกหลักและเป็นวอร์ล็อคที่น่ากลัว

การทํางานเป็นทีมของ APF กําลังสร้างปาฏิหาริย์ ในขณะที่สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่หลาย คนเสียชีวิต โชคไม่ดีที่ชัยชนะของพวกเขาดูเหมือนจะไม่ยืนยาวเนื่องจากเดือยโลหะทั้งหมดเรี่ มอ่อนตัวลง สูญเสียความสมบูรณ์ของโครงสร้างพวกมันรู้สึกราวกับว่าเวลาของพวกมันถูกเร่งขึ้น ทําให้พวกมันพังทลายลงกับพื้นหลังจากนั้นไม่นาน

มันเป็นความสามารถของวอร์ล็อค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมของไรอา

ความสามารถอย่างหนึ่งของเขาคล้ายกับทักษะการเน่าสลายของลูซิเฟอร์ แต่มันใช้ได้กับโลหะเท่านั้นไม่เหมือนกับความสามารถของลูซิเฟอร์ที่ทํางานกับทุกๆอย่าง

อย่างไรก็ตาม มันก็มีข้อได้เปรียบเช่นกัน เนื่องจากเป็นความสามารถขนาดใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากความสามารถจํากัดของลูซิเฟอร์..

ตอนที่ 302: ผู้ชายคนนี้อีกครั้ง

ประการที่ 2 แม้ว่าหลังจากปลดปล่อยความสามารถในการป้องกันแล้ว ปริมาณของการโจมตีก็บดบังพวกเขา และทําลายการป้องกันของพวกเขา ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับเฮลิคอปเตอร์

การโจมตีส่วนใหญ่ไม่ได้อัดแน่นมากนัก แต่ก็มีจํานวนมากที่สามารถปราบปรามด้วยปริมาณที่แท้จริงได้ ท้ายที่สุดพวกเขาไม่ต้องการกําลังมากในการทําลายเฮลิคอปเตอร์ ด้วยการเพิ่มจํานว นการโจมตี APE ไม่สามารถป้องกันพวกเขาทั้งหมดได้

หลังจากนั้นก็มีการโจมตีที่มาจากดาบ พลังของดาบนั้นมุ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ 2 ล่าที่บินอยู่ด้านบน

การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากทริสตัน เขาตั้งใจจะแสดงความสามารถของเขาในขณะที่ทําลายการป้องกันของศัตรูทั้งหมด

วารันท์นั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ของผู้นํา เขาได้สั่งให้ปกป้องเฮลิคอปเตอร์สําหรับผู้ที่ทําได้

แต่ก่อนหน้านั้น เขาได้สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชา 2 คนที่มีความสามารถในการสืบสวนสํารวจพื้นที่ตั้งแต่แรกเห็นฝุ่น

น่าเสียดาย ราวกับว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาสังเกตเห็นความตั้งใจของเขาที่จะตรวจสอบ พวกเขา เริ่มโจมตีทันที

ขีปนาวุธจํานวนมากมุ่งหน้าไปยังเฮลิคอปเตอร์ APF ทั้งหมด รวมทั้งของเขาด้วย

หนึ่งในสมาชิกหน่วยอัลฟาได้สร้างโล่สีเงินและป้องกันการโจมตีทั้งหมดได้อย่างง่ายดายเพื่อให้แน่ใจว่าเฮลิคอปเตอร์ชั้นนํายังคงปลอดภัยภายในที่พวกเขาและ วารันท์กําลังนั่งอยู่

เพื่อรักษาอํานาจในการสู้รบและด้วยข้อจํากัดของเขา เขาสร้างเพียงบาเรียที่จําเป็นในการหยุดการโจมตีเท่านั้น

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือล่าแสงกระบี่ลม 2 ครั้งที่ปะปนกับการโจมตีที่อ่อนแอกว่าที่เหลือ

การโจมตีทั้งสองนี้มาจากวอร์ล็อคระดับ S เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นที่รู้จักในนามนักดาบผู้บ้าคลั่งของแวเรียนท์เกิดใหม่

พวกมันถูกปล่อยออกมาโดยทริสตัน ซึ่งมุ่งเป้าไปที่เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขา ไม่เพียงเท่านั้น เขาได้ใช้กําลังของเขาอย่างมากในการโจมตีครั้งนี้ โดยไม่ได้รักษาอะไรไว้เลย

“ฮิฮิฮิ ขอให้สนุกกับของขวัญนะ” ทริสตันหัวเราะเมื่อยืนห่างออกไปเมื่อสังเกตเห็นว่าการโจมตีของเขากําลังจะชนเฮลิคอปเตอร์ผู้นํา

เขาไม่สงสัยในความสามารถของเขา และเขามั่นใจว่าซิลเวอร์แบริเออร์ไม่สามารถหยุดการโจมตีได้ เขาไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนั้น

“ออกไปเดี๋ยวนี้!” เมื่อรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี วารันท์ก็ออกคําสั่งทันทีโดยลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นการโจมตีครั้งแรก

เขาสัมผัสได้ถึงความแรงของการโจมตีนั้น และเขารู้ว่าการนั่งเฮลิคอปเตอร์นั้นไร้ประโยชน์ บาเรียไม่สามารถหยุดการโจมตีนี้ได้

เขาสังเกตเห็นใบพัด 2 ใบที่ขยายขนาดอย่างรวดเร็ว

เขาและสมาชิกหน่วยอัลฟ่าคนอื่นๆ กระโดดลงไป แม้แต่วอร์ล็อคที่ร่ายบาเรียก็ยังกระโดดออกมา บาเรียของเขายังคงล้อมรอบเฮลิคอปเตอร์

ใบมีดลม 2 ใบตัดผ่านสิ่งกีดขวางเหมือนมีดผ่าเนย มันนั่นเฮลิคอปเตอร์เป็น 3 ชิ้น

โชคดีที่วารันท์และคนอื่นๆ ได้กระโดดออกมาทันเวลาและเอาตัวรอด แต่เฮลิคอปเตอร์บางลาก็ไม่โชคดี

วารันท์มองไปข้างหลังเขา เพื่อดูเฮลิคอปเตอร์ที่เหลือลุกเป็นไฟ บางส่วนแข็งตัวเป็นน้ําแข็งหรือหลอมละลายเป็นโลหะเหลวก่อนตกลงบนพื้น

ผู้ใต้บังคับบัญชาส่วนใหญ่สามารถป้องกันตัวเองจากการโจมตีแทบไม่ทันและกระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะระเบิด แต่ถึงแม้พวกเขาจะยังคงล้มลง การโจมตีก็ยังเข้ามาไม่หยุดหย่อน

จอมเวทย์เคลื่อนตัวและสร้างแนวป้องกันรอบๆ กลุ่มเล็กๆ ที่พวกเขาสามารถป้องกันได้ในรูปของฟองสบู่

โชคไม่ดีที่พลังนั้นเหมือนลูกบอลที่ลุ่ม กลุ่มพลังที่พวกเขาเด้งมันออกไปถูกส่งออกไปแบบไม่มีทิศทาง ทําให้พวกมันพุ่งชนบ้านในเมือง

ขณะที่พวกมันชนเข้ากับบ้าน แวเรียนท์ของ APF จํานวนมากก็กระโดดออกมา เพื่อโจมตีสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่โดยเฉพาะกลุ่มนักเวทย์ที่โจมตีระยะไกล น่าเสียดายที่พวกเขาถูกขัดขวางโดยแวเรียนท์อื่น ๆ จาก กลุ่มของแวเรียนท์เกิดใหม่ซึ่งดูเหมือนจะรอพวกเขาอยู่ที่นั่น

วารันท์ยังคงมองไปรอบ ๆ พยายามทําความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อ แวเรียนท์กระโดดลงมาจากผงธุลีราวกับผี

เขาปรากฏตัวต่อหน้าวารันท์พยายามต่อยคอของวารันท์ และทําลายมันด้วยกําลังของเขา

วารันท์ทําไม้กางเขนด้วยแขนของเขา ในขณะที่เขาป้องกันตัวเอง

หมัดตกลงบนแขนของเขา ซึ่งป้องกันคอได้อย่างปลอดภัย แต่เมื่อการโจมตีรุนแรง มันก็ส่งวารันท์ลอยออกไปที่ขอบเมือง ทําให้เขาชนเข้ากับบ้านก่อนที่จะหยุด

ไม่นานเขาก็ลุกขึ้นปัดฝุ่นตามร่างกาย เพราะเขาไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีครั้งนั้น

“ต้องบอกว่าไม่แปลกใจเลย” วารันท์คิดพร้อมจับมือ ในขณะเดียวกัน แวเรียนท์ที่โจมตีเขาถูกลอบสังหารโดยเก็นซี่แล้ว

“นายสบายดีหรือเปล่า?” เก็นซี่ถามวารันท์ ขณะที่เขาปรากฏตัวใกล้เขา

วารันท์เพียงพยักหน้า ทว่าในขณะที่เขาพยายามทําความเข้าใจกับสถานการณ์นั้น สิ่งที่เขาเห็นคือเมฆฝุ่นที่อยู่ทุกหนทุกแห่ง

สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนเขตสงคราม มีความโกลาหลและวุ่นวายอยู่ทุกที่ แม้แต่ทัศนวิสัยก็ไม่ ดียิ่งไปกว่านั้น ทีมของพวกเขาส่วนใหญ่กระจายออกไปแล้ว เนื่องจากการโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“ฉันสบายดี แต่ฉันไม่คิดว่าเราสบายดี เราคํานวณผิด ดูเหมือนว่าแวเรียนท์เกิดใหม่จะไม่วางแผนอีกต่อไป พวกเขาต้องการทําสงครามอย่างเต็มที่และพวกเขาก็รอเราแทนที่จะวิ่งหนีมันค่อน ข้างวุ่นวาย แต่เราควรจะรับมือได้ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะนําพวกเขาทั้งหมดออกไปในคราวเดียว เราแค่ต้องแก้ไขมันให้ทันเวลา” เก็นซี่พูดอย่างใจเย็น

“ใช่ แต่ไม่ใช่แค่วารันท์เท่านั้น ลูซิเฟอร์ควรจะอยู่ที่นี่ด้วย ยิ่งกว่านั้นเขาควรจะโตขึ้นแล้วด้วยเราทําการคํานวณผิดไปแล้วหนึ่งครั้ง เราทําอย่างอื่นไม่ได้แล้ว” วารันท์แสดงความเห็นพลางขมวดคิ้ว

“เราต้องจริงจังกับเรื่องนี้” เขาเสริมขณะหยิบโทรศัพท์ออกมา

“นายโทรหาองค์กรฮันเตอร์หรือเปล่า” เก็นซีถามราวกับเดาความตั้งใจของวารันที่ได้

“ใช่ เราควรจะสามารถยึดพื้นที่ไว้ได้จนกว่าพวกนั้นจะมาถึง จากนั้นเราก็สามารถโจมตีได้” วารันท์ตอบหมายเลขที่เขาโทรออกคือเซส ซึ่งเป็นหัวหน้าขององค์กรฮันเตอร์

“เขาไม่รับ ฉันเดาว่าเขาอาจหมายถึงสิ่งเดียวที่เราเข้าใจได้ นั่นคือเขาอยู่ในดันเจี้ยน ชิเขาต้องหายตัวไปในเวลาแบบนี้จริงๆงั้นหรอ” วารันท์พูดออกมาอย่างรําคาญ

“ลองโทรไปที่สํานักงานใหญ่ขององค์กรดูสิ บางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน?” เก็นซีเสนอวารันท์เพื่อให้เขาพยายามโทรหาหมายเลขอื่น

ขณะเดียวกันกระบี 2 ล่าก็พุ่งออกมาจากฝุ่นผงและพุ่งตรงไปที่หัวของเขา

“ชายคนนี้อีกแล้ว” วารันท์พูดด้วยความหงุดหงิด เขาเห็นการโจมตีของเขาอีกครั้ง..

ตอนที่ 301: การเปิดตัว

อลิเซียก็อยู่เช่นกัน แต่เธอสวมชุดสีดําที่สวยงาม เมื่อมองดูเธอ ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะสงสัย ผู้หญิงคนนี้วางแผนจะต่อสู้ในชุดแบบนี้ได้อย่างไร? พวกเขาไม่ได้ไปเต้นรําในห้องบอลรูม แต่นี่มันเป็นสงคราม

“นี่เธอจะสู้ด้วยหรือ” ลูซิเฟอร์ถามอลเซียอย่างขบขัน

“นายมีปัญหากับชุดที่ฉันใส่หรือเปล่า” อลิเซียถามกลับพลางขมวดคิ้ว

“ไม่มีปัญหาเลย แค่สงสัย ฉันคิดว่าเธอจะใส่อะไรที่เคลื่อนไหวได้ง่าย” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “อะไรก็ได้ที่เหมาะกับเธอ”

คนเดียวที่ไม่อยู่ที่นี่คือแคสเซียส ไรอาสงบนิ่ง ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยพลังและอำนาจ ในไม่ช้าเขาก็แหงนมองท้องฟ้า สังเกตเห็นจุดสีด่าจํานวนหนึ่งปรากฏขึ้นบนขอบฟ้า

เมื่อเวลาผ่านไป จุดต่างๆ จะขยายใหญ่ขึ้นโดยสรุปตัวเลข พวกเขาเป็นเฮลิคอปเตอร์ บรรทุกศัตรู – APF!

กลุ่ม APF กําลังเข้ามาใกล้จากทางตะวันออกของเมือง ไม่นานเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ก็ดังขึ้นเป็นระยะๆเต็มท้องฟ้า

10 กิโลเมตร…

8 กิโลเมตร…

5 กิโลเมตร…

2 กิโลเมตร…

ขณะที่ไรอาสังเกตการเข้าใกล้พวกเขา เขาก็พึมพําส่งเสียงของเขาให้ทุกคนฟัง “เป้าหมายกําลังใกล้เข้ามา พวกมันอยู่ในระยะ…”
“ยิ่งพวกมัน!” เขาพูดทันที

ตามคําสั่งของเขา นักเวทย์จากแวเรียนท์เกิดใหม่ได้เตรียมการโจมตีระยะไกลเพื่อเข้ายึดกลุ่ม APF ที่ไม่รู้ตัว โดยใช้ข้อได้เปรียบที่พวกเขามีในขณะนั้น

กลุ่มนักเวทย์ยิงออกไป ขณะที่พวกเขาเข้ารับตําแหน่ง และมีนักรบยืนอยู่รอบ ๆ พวกเขาเพื่อเป็นการป้องกัน

“แม็กซ์ เอามันออกไป” ไรอาพูดทันที ขณะที่ยกมือไปทางซ้าย

สมาชิกของทีมระดับ 5 ของเขาก้าวไปข้างหน้า เป็นผู้ชายที่มีผมสีเขียวเข้ม ในทางกลับกัน ดวงตาของเขาเป็นสีดําสนิท

ลูซิเฟอร์สงสัยว่าไรอาต้องการให้ชายคนนั้นนําอะไรออกมา เขาอยากรู้จริงๆ

ขณะที่ลูซิเฟอร์สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชายผมเขียวก็หมุนนิ้วเป็นวงกลม เมื่อวงกลมของเขาเสร็จสิ้น บางสิ่งที่แปลกประหลาดก็เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าประตูมิติได้เปิดออก ซึ่งมีขนาดเล็กเท่ากับประตูมิติที่สร้างขึ้น

ชายคนนั้นสอดมือเข้าไปในประตูมิติ ลูซิเฟอร์เห็นมือของชายผู้นั้นเข้าไปในประตูมิติ แต่มันไม่ได้ออกมาจากอีกด้านหนึ่ง ซึ่งแปลกมาก

มือหายไปไหน? ดูเหมือนว่าพอร์ทัลจะเป็นประตูสู่พื้นที่อื่นที่เขามองไม่เห็น

ไม่นานชายคนนั้นก็เอามือออกจากประตูมิติ แต่ตอนนี้มือของเขายังไม่ว่าง เขาถือสิ่งที่ดูเหมือนฝัก มีดาบอยู่ภายในฝึกด้วย ซึ่งลูซิเฟอร์มองไม่เห็น

ทั้งหมดที่ลูซิเฟอร์เห็นคือฝักและด้ามดาบ นี่คือดาบที่ไรอาใช้เหรอ? ทําไมเขาถึงเก็บไว้ในที่อื่น? เพื่อป้องกันมิให้ถูกขโมยหรืออะไร? มีบางอย่างดูแปลก ๆ ที่นี่ เขาคิด พลางขมวดคิ้ว

เมื่อมองดูด้ามดาบที่ยาวแต่เรียวและรูปร่างของฝัก ลูซิเฟอร์รู้สึกเหมือนกับว่าดาบข้างในน่าจะเป็นคาทานะด้วย แต่มันยาวกว่าที่ทริสตันถืออยู่

ชายผมเขียวยื่นดาบให้ไรอา “หลังจากนั้นไม่นาน ฉันเดาว่ามันถึงเวลาแล้วที่เราจะต่อสู้ด้วยกัน” ไรอากล่าวพร้อมกับยิ้ม

เขาดึงดาบของเขาออก ถือมันไว้ทางขวามือ ในขณะที่มันเริ่มส่งเสียงอันเนื่องมาจากความแข็งแกร่งของเขาที่ปล่อยออกมา

จากนั้นตามด้วยคํารามเบา ๆ เขาเหวี่ยงดาบโดยหันดาบโดยเล็งไปที่ทิศทางของวงสวิง ลมแรงที่พัดกระจายไปทั่วเมืองอย่างรวดเร็ว ทําให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย พื้นดินก็ดูเหมือนจะถูกทําลาย ซึ่งทําให้เกิดฝุ่นมากขึ้นทุกที่ ในไม่ช้าฝนก็ปกคลุมพื้นดินที่สูงถึงความสูงของอาคารชั้นเดียว มันซ่อนคนทั้งหมดในเมืองไว้ภายใน

ไรอาเหวี่ยงดาบของเขาเป็นครั้งที่ 2 ทําให้ฝุ่นเริ่มไหลเวียนไปทั่วเมืองด้วยการเคลื่อนไหวที่ไม่แน่นอน ทําให้ศัตรูของเขาไม่สามารถระบุตําแหน่งของกลุ่มของเขาได้

ทุกการเคลื่อนไหวของไรอาทําให้ลูซิเฟอร์ตกตะลึง การควบคุมของเขาดีมากจนชั่วขณะหนึ่งเขาถึงกับสงสัยว่าไรอาใช้ดาบของเขาจริง ๆ หรือว่าเขาสามารถควบคุมลมอย่างเขาได้อย่างแท้จ

ในขณะที่ลูซิเฟอร์ประหลาดใจกับสิ่งที่เขาค้นพบ ไรอาส่งข้อความอีกข้อความหนึ่ง

“วอร์ล็อค! ซ่อนตัวอยู่ในอาคารแต่อยู่ใต้ระเบียง ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์ถูกโจมตี ให้หนีบพวกมันจากฝั่งตรงข้าม” เขาสั่งเหมือนแม่ทัพสงครามที่วางแผนทุกอย่างไว้

ค่าสังของเขาถูกดําเนินการอย่างเงียบๆ ในขณะที่กลุ่มต่างๆถูกไล่ออกกระจายไปทั่วเมือง ขณะที่พวกเขาเข้ายึดตําแหน่งที่หลบซ่อน ร่วมกับกลุ่มที่อยู่ในตําแหน่งอยู่แล้ว

ในระหว่างนี้ เหล่าจอมเวทย์ก็เริ่มชาร์จการโจมตี เข้ารับตําแหน่งขณะที่พวกเขาพยุงตัวเอง โดยตั้งใจจะยิงการโจมตีให้ได้มากที่สุดในโอกาสแรก

ในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ของ APF ก็เริ่มบินเหนือเมือง ลมที่เกิดจากใบพัดทําให้เมฆฝุ่นวุ่นวายมากขึ้น แต่เนื่องจากสิ่งที่ไรอาทํา ในขณะที่เขาฟัน เมฆฝุ่นจึงไม่หายไป

แม้ว่ากลุ่มเฮลิคอปเตอร์จะมาถึงเมือง แต่ก็ไม่มีการโจมตีใด ๆ เนื่องจากสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่กําลังรออยู่โดยตั้งใจที่จะได้เป้าหมายที่ดีกว่า ไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ส่วนใหญ่ก็เข้ามาในระยะ

กลุ่ม APF ตื่นตระหนกในที่เกิดเหตุในเมืองที่เต็มไปด้วยฝุ่น โดยตั้งใจที่จะสํารวจสถานที่ก่อนที่จะทําสงคราม แม้แต่วารันท์ก็ขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นสถานการณ์ภายนอก

“ทําไมฝุ่นเต็มไปหมด นี่มันเกิดอะไรขึ้น เรามองไม่เห็นอะไรเลยบนพื้น!” เจนอุทาน ในขณะที่เขาสังเกตเห็นปรากฏการณ์แปลก ๆ ในเมือง

โชคไม่ดี ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะหมุนเพื่อเข้าไปในเมือง การโจมตีหลายรูปแบบก็ลอยออกมาจากกลุ่มฝุ่น มุ่งตรงไปที่เฮลิคอปเตอร์

“อย่างที่นายพูด มีบางอย่างผิดปกติ ส่วนเรื่องนั้น ฉันคิดว่าฉันมีความคิดเหมือนเดิม” วารันท์พูดพร้อมส่ายหัว “เราตกหลุมพรางแล้ว”

การโจมตีประกอบด้วยขีปนาวุธของหิน ลูกไฟ หนามน้ําแข็ง กระสุนทราย ใบมีดแก้ว ลูกเห็บน้ํา ฯลฯ พวกมันมุ่งหน้าตรงไปยังเฮลิคอปเตอร์ขณะที่กลุ่ม APF ตื่นตระหนกต่อการโจมตีอย่า งกะทันหัน

“ปกป้องเฮลิคอปเตอร์!”วารันท์สั่งอย่างหนักแน่น คําสั่งของเขาถูกใช้ร่วมกันในเฮลิคอปเตอร์ ทุกล่า

ตามคําสั่ง APF ตอบโต้ด้วยความสามารถของตนเองทันที แต่แทนที่จะใช้ความสามารถใดๆ พวกเขาได้ปลดปล่อยความสามารถเชิงพื้นที่โดยตั้งใจจะป้องกันเฮลิคอปเตอร์ ผู้ที่มีอุปสรรคหรือความสามารถในการป้องกันจะร่ายทันที

น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถกันการโจมตีได้ทั้งหมด อย่างแรกเลย พวกเขาไม่ทันระวัง และดูเหมือนไม่ค่อยมีเวลา..

ตอนที่ 300: การรวมตัว

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไรอาและวารันท์ไม่ฆ่ากันตามที่เราวางแผนไว้? แล้วนายจะทําอะไรล่ะ?” แคสเซียสถามเพราะเขาแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น

“ทําไมพวกเขาถึงจะไม่มาล่ะ” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว “ไรอาต้องการกฎ แต่วารันท์เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในเส้นทางของเขา ฉันไม่คิดว่าเขาจะพลาดโอกาสนี้เมื่อเขามีโอกาส เขาจะพยายามฆ่าวารันท์ต่อไปอย่างแน่นอน”

“และเมื่อมีคนพยายามจะฆ่านายอย่างต่อเนื่อง นายจะพยายามฆ่าเขาด้วย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ นั่นคือสิ่งที่นายจะเห็น และถ้าสิ่งนี้ไม่เป็นไปตามที่เราวางแผนไว้ เราก็จะต้องทําให้สถานการณ์นั้นเป็นไปตามที่เราต้องการ ฉันมีหลายวิธีที่จะทําเช่นนั้น” เขากล่าวเสริมขณะมองดูดวงอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม

“ฉันหวังว่านายจะคิดถูก” แคสเซียสเห็นด้วย “นายได้ไปตรวจดูไอย์หรือยัง” เขาถามเพิ่มเติม

“ฉันไม่ได้ทํา มันไม่จําเป็นต้องทําอย่างนั้นด้วย เวราซิตี้อยู่กับพวกนั้น”ลูซิเฟอร์ตอบ”เธอน่าจะรับมือได้

“ยังไงก็ตามการก่อตัวของดาบนั้นคืออะไร? มันดูดีมาก” เขาถามขณะนึกย้อนกลับไปถึงทักษะที่แคสเซียสใช้ แต่น่าเสียดายที่การโจมตีหยุดลงก่อนที่มันจะเริ่มขึ้น ทําให้เขามองไม่เห็นว่าจริงๆแล้วมันทําอะไรได้บ้าง

“นั่น รูปแบบอะไรน่ะหรอ? นั่นไม่ใช่รูปแบบดาบที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน ครอบครัวของฉันเป็นเจ้าของมันจํานวนมาก ฉันคิดว่าพวกมันเป็นเครื่องมือในการเพิ่มการโจมตีด้วยดาบแคสเซียสตอบอันที่ฉันใช้เรียกว่ารูปแบบตัวขยายเสียง”

“หมายความว่ามันช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของนายงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม พยายามเดาการใช้ชื่อจากชื่อ

“ถูกต้อง ฉันคิดว่าแบบนั้น มันดูดซับความแรงของการโจมตีของศัตรู ซึ่งถูกปล่อยออกมาเมื่อเราโจมตี

“พูดง่ายๆ มันเหมือนกับว่านายโจมตีฉันด้วย X และฉันโจมตีนายด้วย Y ดังนั้นถ้าฉันใช้รูปแบบนี้ ฉันสามารถโจมตีนายด้วยการรวมกันของ X และ Y ในขณะที่ปกป้องตัวเอง” แคสเซียสอธิบายด้วยคําที่ง่ายกว่า

“วิธีการนั้นฟังดูดี มีรูปแบบใดอีกบ้าง?” ลูซิเฟอร์ถาม พยายามขยายขอบเขตอันไกลโพ้น ในขณะที่เขารู้สึกว่าเขามองเห็นความเป็นไปได้ในอนาคตสําหรับตัวเขาเอง

“ยังมีรูปแบบอื่นอีกมากมาย เช่นเดียวกับการบัสพลังเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของการโจมตีของนายเป็น 2 เท่า รูปแบบการป้องกันที่ปกป้องนายจากการโจมตี แต่ไม่โจมตีกลับเหมือนรูปแบบเครื่องขยายเสียง นั่นจะเหมือนกับบาเรียปกติ” แคสเซียสบอกลูซิเฟอร์

“ใช่ ยังมีรูปแบบล่องหนอยู่ด้วย” เขากล่าวเสริม

“รูปแบบล่องหน? นั่นทําให้นายล่องหนหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถาม

“ไม่จริง มันทําให้ดาบล่องหน ฉันไม่ได้ใช้รูปแบบนั้น แต่บางครั้งก็มีประโยชน์จริงๆ รู้ไหม เพื่อลอบโจมตีใครบางคน” แคสเซียสตอบยิ้มๆ “อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ โลกแห่งการรวมตัวของพลังนั้นกว้างใหญ่จริงๆ”

“ทําไมมันไม่สอนในสถาบันล่ะ” ลูซิเฟอร์ถาม “ดูจะมีประโยชน์นะ”

“ดูเหมือนจะมีประโยชน์ แต่สําหรับนักดาบเท่านั้น นอกจากนี้ ในสถาบันยังมีนักดาบไม่มากนัก รวมแล้วก็เปล่าประโยชน์ ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าพวกเขาต้องการ พวกเขาก็ทําไม่ได้” แคสเซียสตอบ

“มีเพียงไม่กี่ครอบครัวที่สร้างรูปแบบพลังงานที่สามารถควบคุมพวกมันได้ พวกเขาตัดสินใจว่าจะแบ่งปันความรู้การก่อตัวของพลังต่อสาธารณะหรือไม่ อย่างที่นายเดาได้อยู่แล้ว ไม่มีครอบครัว ไหนจะแบ่งปันเรื่องแบบนี้ แม้แต่ครอบครัวของฉันเองก็ไม่แบ่งปัน มันเป็นความลับของครอบครัวเรา” เขากล่าวเสริม

“รูปแบบเหล่านี้ใช้ไม่ได้ ถ้าไม่มีดาบเหรอ? ฉันหมายถึงแก่นของมัน พวกมันเป็นแค่การก่อตัวของพลัง ถ้าฉันสามารถสร้างมันขึ้นมาโดยไม่ได้เป็นนักดาบ การโจมตีของฉันก็ควรจะเพิ่มขึ้นด้วยใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถาม พลางเหลือบมองที่มือของเขา เขาสามารถจินตนาการถึงการก่อตัวนับพันบนท้องฟ้า ในขณะที่เขาใช้ความโกรธเกรี้ยวของสวรรค์ สายฟ้าแต่ละสายของเขาสามารถแข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยรูปแบบการก่อตัวของพลังงาน

“นายต้องการรูปแบบพลังแบบใดเพื่อทําให้การโจมตีของนายแข็งแกร่งขึ้น? ฉันหมายถึง การโจมตีของนายแข็งแกร่งที่สุดแล้ว จากสิ่งที่ฉันเห็น ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเห็นการโจมตีที่รุนแรงกว่า แสงบนท้องฟ้าในช่วงชีวิตของฉัน” แคสเซียสพูดออกมาพร้อมกับยิ้มแหยๆ

“ใช่ แต่ฉันแค่สงสัย เป็นไปได้ไหม” ลูซิเฟอร์ถาม พลางขมวดคิ้ว

“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นไปได้ อย่างน้อยฉันไม่เคยเห็นหรือได้ยินอะไรแบบนี้ แต่โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ ใครจะไปรู้” แคสเซียสตอบ

“ถ้านายต้องการใช้รูปแบบการก่อตัวของพลัง ฉันสามารถสอนนายได้ แต่นายจะต้องเรียนรู้ การใช้ดาบด้วย นั่นจะใช้เวลามากกว่าเรียนขับรถ” เขากล่าวต่อ

“เรียนการใช้ดาบ? บางทีในอนาคต” ลูซิเฟอร์พึมพํา มองไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น

“มีคนอยู่ที่นี่” จู่ๆ แคสเซียสก็พูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นการเปิดประตู

“นายอยู่นี่!” เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะเปิดประตู

“อลิเซีย?” ลูซิเฟอร์ถาม ขณะที่เขาหันหลังกลับ

“แน่นอนว่าเป็นฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อเรียกหานาย พวกเราพร้อมแล้ว แล้วนายมาทําอะไรที่นี่? เราได้รับข้อมูลว่า APF จะมาในไม่ช้า เตรียมพร้อม! นายไม่ได้รับอนุญาตให้ทําสิ่งที่ทําให้เราเสียหาย!” อลิเซียพูดอย่างหนักแน่น

“อย่าว่าแต่ฉันเลย ไม่มีใครในโลกนี้ได้รับอนุญาตให้ทําสิ่งที่ทําให้เราเสียหายได้” ลูซิเฟอร์เห็นด้วย เพียงแต่มีความหมายอื่นที่ซ่อนอยู่ในตัวเขา

“ใช่ นายคิดงานที่นายต้องการให้ฉันทําเพื่อแลกกับเงินเดิมพันที่เสียไปหรือเปล่า” อลูเซียถามขึ้นทันใด

“ฉันคิดแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขา “มันเป็นงานง่าย ๆ เช่นกัน”

เป็นวันที่แดดจ้า ลมพัดเบาๆ และเสียงจิ้งหรีดร้องเจียก ๆ ข้างนอก ในบรรยากาศอันเงียบสงบ เป็นเมืองร้าง ว่างเว้นจากสงครามที่กําลังจะเกิดขึ้น

ลมจางๆ พัดพาฝุ่นจาก พื้นดิน หมุนวนไปตามถนน ก่อนจะสลายเสื้อผ้าของคนกลุ่มหนึ่งฝุ่น ตกลงบนร่างของพวกมัน ตกลงมาบนร่างนั้นเมื่อร่างสูงใหญ่ ร่างที่อยู่ด้านหน้าปัดฝุ่นผ้าของเขาหนึ่งครั้ง เผยให้เห็นลักษณะที่เก่าแก่ของเขา
ต้องขอบคุณเสื้อผ้าของอนุภาคคาร์ดิแกนที่เขาใส่ ซึ่งดูดียิ่งขึ้นไปอีก และดูน่าเกรงขามกว่าเสื้อผ้าธรรมดา

เขาสวมเสื้อโค้ตยาวและผมแหลมคมเป็นสีขาวเป็นชายที่ทําให้หายใจไม่ออก เขาคือ ไรอา ผู้นําของแวเรียนท์เกิดใหม่ดูเหมือนเขาจะรอใครสักคน

เมื่อมองดู เขาเหลือบมองไปรอบๆ กลุ่มที่อยู่ข้างหลัง นับได้ราวๆพันคน

มุ่งเน้นไปที่ทหารใหม่หลายร้อยคนที่อยู่ด้านหลัง เขาส่ายหัวขณะคิดว่า พวกเขาคงไม่มีประโยชน์อะไรในสงครามมากนัก

ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ข้างเขา สงสัยว่าเขากําลังคิดอะไรอยู่ เคลเลียนและยาลิซ่าก็ยืนอยู่ใกล้ๆ เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมที่จะมาถึง จากสิ่งที่พวกเขาได้ยินมา ก็เหลือเวลาไม่มากในการมาถึงของทีม APF ในเมือง..

ตอนที่ 299: เปลี่ยนสนามรบ

“ดี ทุกอย่างเหมือนปกติ คุณจะหายเป็นปกติภายใน 2-3 วัน พักผ่อนที่นี่ในระหว่างนี้ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากห้อง” เคลกล่าว “ฉันกําลังเปลี่ยนยาและเพิ่มการควบคุมอาหารของคุณลงในตารางคุณมีความชอบอะไรมากกว่าที่คุณกินอยู่ตอนนี้ไหม”

“นั่นไม่ใช่คําตอบสําหรับคําถามของฉัน ฉันขอให้คุณเรียกหาไอย์และวารันท์” แซนเดอร์กล่าวอย่างหนักแน่น

“ฉันไม่สามารถเรียกหาพวกเขาที่นี่ได้ พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ฐานฉันจะบอกพวกเขาเมื่อพวกเขากลับมา” เคลตอบขณะที่เขาหันหลังกลับ

“คุณกําลังปิดบังอะไรอยู่ ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น!” แซนเดอร์พูดอย่างเฉียบขาด แม้ว่าคําพูดของเคลจะไม่แสดงออกมาแต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“คุณเพิ่งตื่น หายเร็วๆ แล้วฉันจะบอกคุณ” เคลพูดพร้อมส่ายหัว

“เคลฉันบอกคุณครั้งสุดท้ายแล้ว บอกความจริงกับฉัน! เกิดอะไรขึ้นหลังจากวันนั้น? วารันท์ และไอย์อยู่ที่ไหนพวกเขาไปที่ไหน!” แซนเดอร์ตะโกน

“ใจเย็นๆ! ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ที่นี่จะพังทั้งหมด!” เคลดแซนเดอร์เมื่อเขารู้สึกว่าอุณหภูมิห้องสูงขึ้น แม้หลังจากการดของเขามันก็ไม่หยุด

“ก็ได้ ฉันจะบอกให้!” ในที่สุดเคลก็ยอมแพ้ “ฉันจะบอกว่าพวกมันอยู่ที่ไหน!”

“ดี” แซนเดอร์พูดอย่างใจเย็น

“ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่นายได้รับบาดเจ็บในวันนั้น ศัตรูจากไปแค่นั้น แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน” เคลกล่าวเสริม

“เกิดอะไรขึ้น?”

“หน่วยเบต้าออกไปทําภารกิจ และดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกโจมตี สมาชิกจํานวนมากถูกฆ่าตาย และไอย์ก็หายตัวไปตั้งแต่นั้นมา” เคลอธิบาย

“ไอย์หายตัวไปเหรอ!” แซนเดอร์อุทานด้วยความตกตะลึง

“ถูกต้อง เธอหายไป เมื่อเช้านี้วารันท์ออกจากฐาน พาเกือบทุกคนออกไปราวกับทําสงครามฉันคิดว่าพวกเขาพบที่อยู่ของไอย์แล้ว” เคลกล่าวเสริม

“สงครามงั้นหรือ? มันมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ในขณะที่ฉันกําลังหลับอยู่ ใครทําร้ายไอย์พวกมันคือแวเรียนท์เกิดใหม่ใช่หรือเปล่าเกิดอะไรขึ้นกับลูซิเฟอร์หลังจากการต่อสู้กับฉัน?” แซนเดอร์ถาม

“ลูซิเฟอร์หายตัวไปหลังจากการต่อสู้กับนาย ฉันคิดว่าพวกเขาหาเด็กนั่นไม่เจออีกเลย การค้นหายังคงดําเนินต่อไปส่วนใครที่โจมตีกลุ่มเบต้าฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย ฉันไม่ได้รับข้อมูลมากนักที่นี่ยังไงซะ ฉันก็เป็นแค่หมอ แต่ถ้าให้เดาล่ะก็คงเป็นฝีมือของแวเรียนท์เกิดใหม่แน่นอน” เคลตอบ

“ฉันต้องการเข้าร่วมกับวารันท์ ตอนนี้ใครเป็นผู้รับผิดชอบฐานทัพ?”

“เข้าร่วมกับวารันท์งั้นเหรอ? จะทําอย่างไร? กลิ้งบนโคลนต่อหน้าเขาหรือเปล่า? ตอนนี้นายเดินไม่ได้! แทนที่จะเป็นคนงี่เง่าอยู่ที่นี่และกลับสู่สภาพปกติของนายไวๆ ช่วยตัวเองก่อนถ้านายต้องการช่วยเหลือผู้อื่น!”

“แต่…”

การโต้กลับไปกลับมาระหว่างเคลและแซนเดอร์ยังคงดําเนินต่อไปในขณะที่แซนเดอร์ยืนยันที่จะเข้าร่วมภารกิจให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ในขณะที่เคลพยายามเกลี้ยกล่อมเขาไม่ให้เป็นคนโง่

ดวงอาทิตย์เริ่มตกดิน เมื่อเฮลิคอปเตอร์หลายสิบล่าเข้ามาที่น่านฟ้าของเคนซิงตันซิตี้ พวกเขาได้รับพิกัดของคฤหาสน์โดยไรอา ซึ่งทําให้พวกเขาหาสถานที่นี้ได้ง่ายขึ้นมากเฮลิคอปเตอร์ ทั้งหมดลงจอดบนพื้นนอกคฤหาสน์

“นี่คือสถานที่นั้นงั้นหรือ ฮะ ไม่เลว” ดิออนให้ความเห็น ขณะผลักประตูคฤหาสน์ ไม่มียามดูแลคฤหาสน์ตามที่ลูซิเฟอร์บอก เพราะเขาสั่งยามให้ออกไปแล้วโดยรู้ว่าแขกกําลังจะมา

ยามออกจากเมืองไปพร้อมกับ พลเมืองคนอื่นๆ ไรอาและลูซิเฟอร์ยืนอยู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์ แล้วพวกเขาต่างก็ตั้งตารอ

ฝูงชนกลุ่มใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่ก้าวเข้ามาภายในพื้นที่ของคฤหาสน์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นร้อยๆคน

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันกล่าวว่าคฤหาสน์นี้ไม่เพียงพอสําหรับทุกคน” ไรอาบอกกับลูซิเฟอร์ด้วยรอยยิ้ม

เขายังก้าวไปยังแวเรียนท์ที่เป็นลูกน้องของเขาและพบกับพวกเขา รวมถึงสมาชิกในทีมระดับ 5 ของเขาเอง

มีเพียงสมาชิกระดับ 5 เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในคฤหาสน์เช่นเดียวกับคนอื่นๆ พวกเขาได้รับคําสั่งให้ไปหลบภัยในบ้านอื่น ๆ ของเมืองที่ว่างเปล่าอยู่ในขณะนี้

แต่ก่อนหน้านั้น ไรอาได้เริ่มการวางแผนที่เหมาะสมซึ่งมีลูซิเฟอร์และ แคสเซียสเข้าร่วมด้วย

ไรอาได้แจ้งให้ทุกคนทราบถึงบทบาทของพวกเขาในสงครามและวิธีการ พวกเขาจําเป็นต้องได้รับ ได้เปรียบกับศัตรู

“เรามีองค์ประกอบของความประหลาดใจ เนื่องจากศัตรูไม่คาดหวังสิ่งนี้ ดังนั้นเราต้องใช้มัน อย่างเต็มที่การโจมตีครั้งแรกจะต้องเป็นการโจมตีโดยตรงเพื่อสร้างความเสียหายให้มากที่สุด”

“ไม่จําเป็นต้องปฏิบัติตามกฎ! เรามีเวลาทั้งคืนในการเปลี่ยนเมืองนี้ให้กลายเป็นเหมือนสนามหญ้าบ้านเราคืนนี้ไม่มีใครสามารถผ่อนคลายได้! เข้าใจไหม?” ไรอาถาม

“ใช่!” เหล่าแวเรียนท์ทั้งหมดโห่ร้องพร้อมกัน ดังนั้นทุกคนจึงต้องเตรียมตัว

ตลอดทั้งคืนได้ผ่านไปในการเตรียมการในขณะที่เหล่าแวเรียนท์ได้ปรับเปลี่ยนสนามรบตามแผน

แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาเองก็ยังถูกจัดวางในลักษณะที่พวกเขาสามารถสกัดกั้นและโจมตีศัตรูได้ทันทีที่พวกเขามาโดยไม่ให้โอกาสศัตรู

เป็นเวลา 2 ทุ่มทิ้งานเสร็จ และในที่สุดเหล่าแวเรียนท์ก็ได้ไปพักผ่อน
ในทางกลับกันลูซิเฟอร์ไม่สนใจเรื่องนี้ เขาหลับไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อน เขาทิ้งการเตรียมการทั้งหมดไว้ที่แวเรียนท์เกิดใหม่

เขาสนใจแค่เป้าหมายสุดท้ายไม่ใช่วิธีที่ทําให้สําเร็จ

ในไม่ช้าค่ําคืนก็ล่วงไปเมื่อแสงแรกของดวงอาทิตย์ตกที่เมืองเคนซิงตัน

ทุกคนตื่นนอนตอน 6 โมงเช้า ตามข้อมูลของสายลับที่อยู่ในเมืองต่าง ๆ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเฮลิคอปเตอร์ไปยังเคนซิงตัน

จากข้อมูลดังกล่าวสันนิษฐานว่าภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง APF จะมาที่นี่

สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ทั้งหมดเข้ารับตําแหน่งในการรอคอย

สําหรับลูซิเฟอร์ เขายืนอยู่บนหลังคาของคฤหาสน์มองดูแวเรียนท์อื่นๆ ทั้งหมดที่เตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้

แคสเซียสเป็นคนเดียวที่นั่งข้างเขา “สิ่งที่นายคิดคืออะไร?” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์

“ฉันกําลังคิดถึงวันพรุ่งนี้ วันนั้นจะสวยงามเพียงใดโดยปราศจากความโกลาหลทั้งหมดนี้” ลูซิเฟอร์พิมพ์

“นายคิดว่าสงครามจะจบลงใน 1 วันงั้นหรือ?” แคสเซียสถามยิ้มๆ “ไม่คิดว่าจะเสร็จเร็วขนาด

“ฉันเชื่อว่ามันจะจบลงเร็วกว่าที่เราคาดไว้ คราวนี้ไม่มีฝ่ายใดถอย” ลูซิเฟอร์ตอบ “ใครจะไปรู้มันอาจจะจบลงภายในไม่กี่ชั่วโมงก็ได้”

“แล้วถ้ามันไม่เป็นไปตามแผนล่ะ? ถ้าไรอากับวารันท์ไม่ฆ่ากันเองล่ะ?” แคสเซียสถาม ..

ตอนที่ 298: ฟื้นขึ้น

“แม้แต่ฉันไม่เคยเห็นเขาใช้ดาบที่เหมาะสม มันแปลกจริงๆ แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นหนึ่งในนักดาบที่เก่งที่สุดนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเข้าร่วมแวเรียนท์เกิดใหม่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นฉันไม่สนใจเรื่องทั้งหมดนี้หรอก” ทริสตันหัวเราะ

“แต่มันทําให้ฉันมีโอกาสต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งดังนั้นจึงไม่เลว” เขากล่าวเสริม

“คุณเข้าร่วมเพราะคุณได้ยินว่าเขาเป็นนักดาบเหรอแปลก” แคสเซียสให้ความเห็น

“ไม่จริง ฉันไปที่นั่นเพื่อท้าทายเขาเพราะได้ยินข่าวลือว่าเขาเป็นนักดาบ แต่เขาปฏิเสธการต่อสู่” ทริสตันกล่าว “แต่เขาเสนอให้ฉันเข้าร่วมแวเรียนท์เกิดใหม่”

“แค่นั้น?” แคสเซียสถามยิ้มๆ

“ไม่เลย จริงๆ แล้วมีอะไรมากกว่านั้นอีกมาก ฉันปฏิเสธไป ฉันเสนอเงื่อนไขให้เขา เขาต้องสู้กับฉัน และถ้าเขาชนะ ฉันจะเข้าร่วมองค์กรของเขา” ทริสตันกล่าว

“ฉันเดาว่าฉันเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปคุณแพ้?” แคสเซียสถาม

“ฉันทําได้ และมันไม่ใช่การต่อสู้ระยะประชิดเลยด้วยซ้ํา เขาค่อนข้างแข็งแกร่งราชาวอร์ล็อคไม่ได้ถูกเรียกว่า ราชาวอร์ล็อค โดยไม่มีเหตุผลเลย ตําแหน่งทั้งหมดนั้นได้รับเพราะพวกเขาเพราะความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา ซึ่งความสามารถส่วนใหญ่นั้นโลกนี้ยังไม่รู้จัก” ทริสตันตอบ “ตั้งแต่วันนั้น ฉันขอเขาสู้อีกครั้ง แต่เขากลับปฏิเสธ ฉันคิดว่าเขาจะตอบตกลงหลังจากที่เขาชนะในสงครามครั้งนี้ หวังว่าฉันจะได้ต่อสู้กับเขาอีกครั้ง ในระหว่างนี้ มันสดชื่นที่ได้ต่อสู้กันอีกครั้งที่นี่” เขาให้ความเห็น

แคสเซียสพยักหน้าไม่พูดอะไร แม้แต่ลูซิเฟอร์ก็ยังแปลกใจเล็กน้อย เขาสงสัยว่าวารันท์ มีความสามารถที่ซ่อนอยู่มากแค่ไหนที่โลกไม่รู้จัก? เขาคล้ายกับไรอาในด้านนั้นหรือไม่?

ตอนนี้เขามีศรัทธามากขึ้นในแผนของเขา เขาเชื่อว่าแผนเขาดีแล้ว เพราะแทนที่จะรีบวิ่งเข้าไปวิธีนี้ทําให้เขาสามารถปล่อยให้วารันท์และไรอาฆ่ากันเองได้

เนื่องจากทั้งคู่เป็นราชาวอร์ล็อค พวกเขาจึงต้องแสดงความสามารถทั้งหมดเพื่อเอาชนะการต่อสู้กับคนอื่นๆ นั่นอาจเป็นเวลาให้ฉันตัดสินและเข้าใจจุดแข็งและจุดอ่อนของพวกเขา” เขาคิดเมื่อลูซิเฟอร์มั่นใจในแผนของเขามากขึ้นเขาก็เริ่มรอวันแห่งสงคราม

กลุ่มเล็กๆมาถึงคฤหาสน์เวลลิ่งแล้ว

“เมื่อไหร่ทีมของคุณจะมาที่นี่” ลูซิเฟอร์ถามไรอา ขณะนั่งอยู่บนโซฟา

“พวกเขาน่าจะมาที่นี่ในตอนเย็นส่วน แวเรียนท์เกิดใหม่ พวกเขาจะมาที่นี่ในวันพรุ่งนี้จากสิ่งที่ฉันคาดหวังได้ นั่นน่าจะให้เวลาเราเพียงพอในการจัดสิ่งต่างๆ” ไรอาตอบ

ในความเงียบของห้องแพทย์ที่สํานักงานใหญ่ของ APF ชายคนหนึ่งกําลังนอนอยู่บนเตียงสีขาว

ตาของเขาปิด ในขณะที่เขานอนไม่ขยับ พยาบาลคนหนึ่งนั่งใกล้เขา จนดูเหมือนจะหายไปในหนังสือ ชายผมแดงที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆลืมตาขึ้น ขณะมองไปรอบๆ

เมื่อดวงตาของเขาเพิ่งเปิดขึ้นการมองเห็นของเขาก็พร่ามัวเล็กน้อย และเขาไม่สามารถเห็นได้ชัดเจนว่าใครที่นั่งอยู่ใกล้เขา

เขาใช้เวลา 2-3 นาทีก่อนที่การมองเห็นของเขาจะกลับมาเป็นปกติ เขาสามารถมองเห็นพยาบาลได้อย่างชัดเจน

“คุณเป็นใคร ฉันอยู่ที่ไหน” เขาถามอย่างอ่อนแรง เขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขาอ่อนแอจริงๆ และเขาก็หิวเช่นกัน

“ฮะ?” พยาบาลรู้สึกราวกับว่าเธอได้ยินอะไรบางอย่าง เธอค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พลางสงสัยว่าเธอได้ยินอะไร

เมื่อลืมตาขึ้น เธอก็เห็นว่าเป็นแซนเดอร์ที่พูด

เมื่อเธอเห็นดวงตาของแซนเดอร์ลืมตาเธอรู้สึกราวกับว่าเธอได้เห็นผี เธอกระโดดกลับมาเห มือนกระต่ายที่หวาดกลัว แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“ท่านฟื้นแล้วหรือ?” เธอถามชายที่ตื่นขึ้นหลังจากสลบไป 8 ปี

“ถ้าฉันไม่ฝัน ฉันก็คิดว่าใช่” แซนเดอร์พึมพํา พลางดันร่างของเขาขึ้น “แล้วฉันอยู่ที่ไหน ฉันอยู่ที่ฐานแล้วหรือ? เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วตั้งแต่ฉันถูกโจมตี?”

เขาสังเกตได้ว่าแผลที่หน้าอกของเขาหายดีแล้ว ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่การนอนเพียงสั้นๆ

“ค่ะท่าน ท่านอยู่ที่ฐานตอนนี้ท่านอยู่ในสถานพยาบาล” นางพยาบาลตอบด้วยความเคารพ

“เวลาผ่านไปเท่าไหร่?” แซนเดอร์ถามอีกครั้ง

“8 ปีผ่านไปแล้วตั้งแต่คุณถูกพามาที่นี้” นางพยาบาลตอบ

“8 ปี?” แซนเดอร์อุทานด้วยความตกตะลึง

“ถูกต้อง 8 ปีผ่านไปตั้งแต่วันนั้น” นางพยาบาลยืนยัน

“เกิดอะไรขึ้นกับ… อะไรก็ตาม เธอไม่รู้หรอก เอานออกไป ฉันต้องไปพบ วารันท์” แซนเดอร์ บอกพยาบาลพลางชี้ไปทางมือซ้ายของเขา ซึ่งสอดเข็มฉีดยาไว้

“เดี๋ยวก่อน ฉันต้องเรียกหมอก่อน หลังจากที่เขาตรวจแล้ว ฉันจะให้คุณออกไปได้ รอที่นี่ก่อน!” พยาบาลตอบ ขณะที่เธอรีบออกจากห้องไป

เธอไม่ต้องการตัดสินใจโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์เพราะนั่นอาจมีความเสี่ยง

แซนเดอร์มองพยาบาลออกไป เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวด้วยความผิดหวัง

เขาตัดสินใจทําเอง เขาใช้มืออีกข้างดึงเข็มออกจากมือ เขายังถอดอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งหมดที่ติดอยู่ออกจากร่างกายของเขา

หลังจากปลดปล่อยตัวเองออกมาแล้ว เขาก็ลงจากเตียง แต่เขาไม่สามารถเดินได้แม้แต่ก้าวเดียวก่อนที่จะล้มลงกับพื้น

“ขาฉันยังอ่อนแออยู่ ฉันคิดว่าฉันน่าจะฟังหล่อนสินะ” เขาพึมพํา ขณะดันร่างขึ้นแล้วเดินกลับไปที่เตียงเขารู้ว่าเขาไปไหนไม่ได้ เป็นการดีกว่าที่จะเรียกวารันท์ ให้มาที่นี่เอง

ขณะที่เขานั่งอยู่บนเตียง ประตูก็เปิดออก หมอผมสีเข้มก้าวเข้ามาในห้อง ตามด้วยพยาบาลคนเดียวกัน

“คุณดึงทุกอย่างเหรอ?” คุณหมอถามพยาบาล

“ฉันไม่ได้ทํา ฉันบอกเขาว่าอย่าทําและรอให้คุณมา” นางพยาบาลตอบ “เขาคงจะทําเอง”

“แซนเดอร์ทําไมคุณถึงรีบร้อน” หมอถามแซนเดอร์ ขณะที่เขาเดินเข้ามาหาเขา

“เคล นี่คุณเอง ฉันต้องบอกว่าฉันไม่นึกเลยว่าคุณจะอยู่ที่นี่ถึง 8 ปี คุณเป็นหมอที่ดีที่สุดที่พวกเขาหาให้ฉันงันสินะ” แซนเดอร์ถามพลางกลอกตา

“ฮ่าๆ ดีนะที่ได้เห็นว่าอารมณ์ขันของนายยังอยู่ไม่ว่าจะแย่แค่ไหน” หมอตอบอย่างใจเย็น “แล้วตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง”

“อ่อนแอฉันเดินไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว” แซนเดอร์ตอบ

“เป็นอย่างที่คาดหวัง ไม่ต้องกังวลอีกไม่นานคณก็จะกลับไปเป็นคนเดิมของคุณแล้ว” แพทย์กล่าวขณะเริ่มการตรวจ

“คุณเรียกหาไอย์ และวารันท์ มาที่นี่ได้ไหมฉันต้องการถามพวกเขา 2-3 อย่าง ฉันอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น และสิ่งต่าง ๆ ก้าวหน้าไปอย่างไรในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา” แซนเดอร์บอกกับหมอ เพื่อให้เรียกหัวหน้าหน่วยมา

เคลไม่พูดอะไรเลยและตรวจร่างกายต่อ..

ตอนที่ 297 จะตายกันทั้งคู่

ดาบของแคสเซียสมีเครื่องหมายสีแดงเลือดสว่างวาบอยู่บนมัน ทริสตันขมวดคิ้วเมื่อสังเกตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

“ฉันรู้สึกได้ถึงพลังจากการโจมตีนั้นแม้ในขณะที่ยืนอยู่ที่นี่ น่าทึ่ง!” ทริสตันพูดพร้อมหัวเราะแทนที่จะดูกลัวหรือตกตะลึงเขาดูตื่นเต้นราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขาต้องการ

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่จับด้ามคาทานะของเขา

ไรอาสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของทริสตัน และตระหนักว่าเขากําลังจะทําอะไร

“เด็กสองคนนี้ลืมไปจริง ๆ ว่านี่เป็นเพียงการซ้อมรบ ในขณะที่แคสเซียสก่าลังใช้รูปแบบการฟันดาบก่อนหน้านี้ของเขาออกมาเช่นกันทั้งคู่จะตายถ้าโจมตีกันต่อไป”เวก้าแสดงความคิดเห็นพลางขมวดคิ้ว

“ถูกต้อง ถึงเวลาหยุดมันได้แล้ว” ไรอาพูดอย่างใจเย็นขณะที่เขาค่อยๆ ยกมือไปทางเด็ก 2คน

เมื่อมือของเขาถูกยกขึ้นอย่างช้าๆ พื้นดินก็เริ่มแยกจากกัน ทริสตันและแคสเซียสสัมผัสได้ถึงพื้นดินสันสะเทือนและแตกแยกแต่มันไม่ได้ทําให้พวกเขาแยกจากกันพวกเขาพร้อมที่จะโจมตี

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเขาจะโจมตีได้ พวกเขาหยุด เมื่อเห็นกิ่งไม้หลายสิบกิ่งโผล่ออกมาจากพื้นดินทําให้เกิดกําแพงกั้นระหว่างทั้งสอง

ทริสตันหยุดเมื่อสังเกตเห็นกําแพง เขาหันไปมองไปทางหลังคาที่ไรอายืนอยู่ตระหนักว่ามันเป็นพลังของใคร

ไรอาใช้ความสามารถอื่นของเขา ซึ่งลูซิเฟอร์ไม่เคยเห็นมาก่อน หลายคนในแวเรียนท์เกิดใหม่รู้เรื่องนี้ดีเขาเป็นวอร์ล็อคที่สามารถควบคุมพืชได้เหมือนกับที่ลูซิเฟอร์สามารถควบคุมสายฟ้าได้

เมื่อเห็นความสามารถใหม่ของไรอา ลูซิเฟอร์ก็ประหลาดใจ ดูเหมือนว่านี่เป็นความสามารถระยะไกลแคสเซียสยังมองไปทางคนอื่นๆบนหลังคาเช่นกัน

ไรอากระโดดลงจากหลังคา ขึ้นไปบนกิ่งไม้ต้นหนึ่ง ทําให้แน่ใจว่าทั้งสองคนจะได้เห็นเขา

“เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว การต่อสู้จบลงแล้ว คุณ 2 คนหยุดได้แล้ว มันเป็นเพียงการซ้อมรบไม่ใช่การต่อสู้จนตาย ไม่จําเป็นต้องเผาสะพาน”เขาประกาศ

ลูซิเฟอร์ยังบินลงมาที่อาคาร ลงจอดใกล้กับแคสเซียส ดาบของแคสเซียส ยังคงส่องแสงเจิดจ้าแต่มันก็เริ่มหรี่ลงเมื่อเขาหยุดใช้ความสามารถของเขา

“ฉันขอโทษ ฉันหมกมุ่นอยู่กับการต่อสู้มากเกินไป” แคสเซียสพูดขณะที่เขาลดดาบลงทริสตันไม่ยอมรับมันเหมือนแคสเซียส

“ไม่เอาน่า! ในเมื่อเรื่องมันพึ่งเริ่มตื่นเต้น!” เขาบ่นด้วยใบหน้าที่เหมือนร้องไห้

“วันนี้ตื่นเต้นมากพอแล้ว” ไรอาแสดงความคิดเห็น กิ่งก้านของต้นไม้เริ่มร่วงหล่นก่อนจะจมลงไปในดิน

ลูซิเฟอร์สามารถเห็นทริสตันได้แล้ว มีเงาปรากฏขึ้นใกล้ ๆ ซึ่งเคลเลียนออกมาพร้อมๆกับที่ยาลิซ่าก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้พวกเขาด้วย

คนเดียวที่หายไปคืออลิเซีย ลูซิเฟอร์เหลือบมองไปทางอาคาร สงสัยว่าอลิเซียอ่อนแอเกินกว่าจะกระโดดลงมาหรือไม่มันแปลกแต่เขาคิดว่าเธอเป็นวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งตามที่เขาได้ยินจากเคลเลียน

เมื่อเขามองไปทางอลิเซียโดยหวังว่าจะเห็นเธอยืนอยู่บนหลังคาเขาก็พบกับความประหลาดใจอีกครั้งเขาเห็นเธอเดินอยู่ในอากาศ

อลิเซียเดินขึ้นไปในอากาศ ขณะที่เธอก้าวเข้ามาหาพวกเขา

ความประหลาดใจของเขาเกิดขึ้นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ในขณะที่เขาหันความสนใจกลับมาที่ไรอา

“เราไม่ต้องการให้พวกคุณบาดเจ็บเพราะเรายังต้องไปทําสงคราม คุณทั้งคู่จะเป็นกุญแจสําคัญในการแสวงหาชัยชนะของเรา ดังนั้นจงรักษาความมุ่งมั่นและความหิวโหยสําหรับวันพรุ่งนี้เมื่อพวกนั้นมา”ไรอาบอกกับทริสตัน

“ดี!” ทริสตันพูดด้วยท่าทางไม่พอใจ เขาดึงมือออกจากด้ามดาบ ขณะที่ลดระดับลงเช่นกัน

“ดีแล้ว” ไรอาพยักหน้า

“ดังนั้นจึงไม่มีผู้ชนะงั้นหรอ ห้ะ ฉันเดาว่าการเดิมพันนั้นเสมอกัน” อลิเซียให้ความเห็นขณะที่เธอลงจอดต่อหน้าลูซิเฟอร์

“ใครบอกแบบนั้น” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน “ก่อนที่การต่อสู้จะหยุดลงแคสเซียสพยายามดึงทริสตันลงมาที่พื้นแล้ว ดังนั้นในทางเทคนิคแล้วเขาเป็นผู้น่านั่นก็หมายความว่าฉันชนะ”

“ฉันพูดถูกใช่ไหม” เขาถามเคลเลียน

“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ไม่ว่าในกรณีใด มันไม่ใช่การต่อสู้เพื่อความตาย ดังนั้นการทําให้คู่ต่อสู้ล้มลงก็ถือว่าชนะแล้ว”เคลเลียนยืนยันพร้อมพยักหน้า

“คุณกําลังพูดอะไร นั่นมันเสมอชัดๆ!” อลิเซียประท้วง

“ไม่จริง การต่อสู้ควรจะหยุดไปก่อนหน้านี้แล้ว มันถูกยกเลิกเมื่อทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะจัดการกับการสังหาร หากเราน่าส่วนนั้นออก ในการซ้อมรบฉันคิดว่าเป็นชัยชนะของแคสเซียส”เคลเลียนยืนยัน

“คุณรู้ว่ามันหมายความว่าอะไรใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามอลิเซียอย่างขบขัน

“ได้! ฉันจะยอมรับความพ่ายแพ้ของฉัน ฉันแพ้ นายอยากให้ฉันท่าอะไร?” เธอถามลูซิเฟอร์

“อืม เป็นคําถามที่น่าสนใจ ฉันต้องการให้เธอทําอะไร ฉันจะบอกเธอทีหลัง เมื่อฉันคิดเกี่ยวกับมันถึงเวลานั้นเธอเตรียมตัวได้เลย” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็นขณะที่เขาวางมือขวาไว้ในกระเป๋าของเขา

“เรากลับกันเลยไหม” เขาถามคนอื่นๆ
“ใช่ เราควรจะทําแบบนั้น เราเล่นกันมามากพอแล้ว” ไรอาเห็นด้วย ขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่คฤหาสน์

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ก็เดินไปทางเดียวกัน พวกเขาไม่ได้นํารถมาที่นี่เพื่อเดินทาง

อลิเซียเดินไปข้างหลังลูซิเฟอร์ มองที่หลังของเขา พลางสงสัยว่าเขาอาจต้องการให้เธอทําอะไรนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเสียเปรียบเพราะเธอเป็นหนี้คําขอของลูซิเฟอร์

“ฉันหวังว่าเขาจะไม่ขอให้ฉันทําอะไรยากๆ เธอคิด พลางขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่าเขามีแผนที่แตกต่างกันสําหรับเธอเมื่อสงครามมาถึง นั่นคือตอนที่เขาเก็บค่าขอนี้ไว้

ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินเคียงข้างแคสเซียส เขาก็เข้ามากระซิบบางอย่างที่หูของแคสเซียสบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องราวที่เขาสร้างขึ้นเกี่ยวกับวิธีที่เขาเรียนรู้การก่อตัวของดาบเขายังบอกให้แคสเซียสยึดติดกับมัน

แคสเซียสพยักหน้าอย่างสงบและไม่พูดอะไรอีก

ในไม่ช้า ทริสตันก็เข้าหาแคสเซียสด้วย “นายเก่งมาก” เขาชมแคสเซียส

“ขอบคุณ ฉันคิดว่าคุณก็เก่งเหมือนกัน ทุกวันนี้หายากที่จะพบนักดาบดีๆ” แคสเซียสตอบ

“ใช่ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตื่นเต้นมากที่รู้ว่านายเป็นนักดาบ นอกจากนาย นักดาบที่มีความสามารถเพียงคนเดียวที่ฉันพบคือเขา” ทริสตันพยักหน้าขณะที่เขาเหลือบมองไรอา

“เขาเป็นนักดาบด้วยเหรอ?” แคสเซียส ถามอย่างแปลกใจ “ฉันไม่เคยเห็นเขาถือดาบ”

แม้แต่ลูซิเฟอร์ยังได้ยินการสนทนาของพวกเขา ได้เรียนรู้บางอย่างเกี่ยวกับไรอามากขึ้น

“สําหรับทริสตันที่จะเรียกเขาว่านักดาบได้นั้น มันชัดเจนว่าเขาไม่ควรอ่อนแอในด้านนั้นเช่นกันทริสตันดูไม่เหมือนคนที่ยอมรับใครซักคนว่าเป็นนักดาบเว้นแต่บุคคลนั้นสมควรได้รับมันคุณเก็บความลับอะไรไว้อีก?”เขาคิดพลางขมวดคิ้ว..

ตอนที่ 294: แคสเซียส vs ทริสตัน

“เธอไม่จําเป็นต้องทํา ถ้าเธอกลัว” เขากล่าวเสริม พลางโยนเหยื่ออีกตัวหนึ่งด้วยการทําร้ายศักดิ์ศรีของเธอ

“ฮ่าๆ ฉันจะกลัวทําไม ฉันรับเดิมพัน เตรียมตัวแพ์ได้เลย” อลิเซียพูดโดยไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียวเมื่อเธอรับเดิมพัน

“แล้วนายล่ะเคลเลียน นายคิดว่าใครจะชนะ” ไรอาถามเคลเลียนโดยไม่สนใจเสียงล้อเลียนของเด็กๆ

“ผมพูดไม่ได้แน่ๆ เพราะผมไม่รู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ดังนั้นผมจะเล่นอย่างปลอดภัย ผมคิดว่าทั้งคู่มีโอกาสที่ดีพอๆ กัน เนื่องจากแคสเซียสก็ไม่น่าจะอ่อนแอเช่นกัน เขาจัดการสมาชิก APF เป็นจํานวนมาก” เคลเลียนตอบ

“นั่นก็จริงเหมือนกัน” ไรอาพยักหน้า “นายล่ะยาลิซ่า?

“ฉันก็เห็นด้วยกับเคลเลียน คงเร็วเกินไปที่จะคาดเดาโดยไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีความสามารถอะไร” ยาลิซ่าเห็นด้วย ขณะกอดอก

“ถูกต้องเช่นกัน มาดูกันว่าพวกเขามีความสามารถอะไรในกรณีนั้น” ไรอากล่าว พลางมองดูเด็กสองคนที่ยังคงมองหน้ากัน รอให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว

แคสเซียสถือดาบหนักในมือขวาและจ้องไปที่ทริสตัน ในทางกลับกันทริสตันไม่ได้หยิบดาบออกจากฝักด้วยซ้ํา เขาถือฝึกในมือซ้ายขณะมองย้อนกลับไป

“เจ้าหน! คุณเริ่มก่อนก็ได้ ให้ฉันเห็นความแข็งแกร่งของคุณก่อน! ให้ฉันได้มองดูสิ่งที่ดีที่สุดของคุณ!” ทริสตันตะโกนเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของเขาไปถึงแคสเซียส

“ฉันขอแสดงมารยาทกับคุณแบบเดียวกัน ผู้อาวุโสไปก่อนได้” แคสเซียสตอบอย่างเฉียบขาด “ให้สิ่งที่ดีที่สุด! บางทีคุณอาจจะสามารถทําร้ายฉันได้!”

ใบหน้าของทริสตันกระตุกอีกครั้ง เมื่อได้ยินค่าพูดของแคสเซียส

“คุณมีลิ้นที่เฉียบแหลม ก็ได้ ให้ฉันแสดงให้ดู” ทริสตันพูดขณะสูดหายใจเข้าลึกๆ

เขาค่อยๆ เคลื่อนมือขวาไปที่ด้ามดาบคาทานะซึ่งเขาถืออยู่ในมือซ้าย

ขณะที่เขาคว้าด้ามจับ เขาถามว่า “ฉันพร้อมโจมตี อย่าโทษฉันถ้าคุณได้รับบาดเจ็บ!”

หลังจากได้รับคําเตือน เขานําคาตานะออกจากฝักแต่เพียงไม่กี่นิ้วก่อนจะเก็บกลับ ทุกอย่างเกิดขึ้นก่อนที่ใครจะมองเห็นดาบของเขาด้วยซ้ํา

ไม่มีสักคนเดียวที่เคยเห็นดาบคาทานะของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อใดก็ตามที่เขานํามันออกมา เขาจะเก็บมันกลับมาอย่างรวดเร็วก่อนที่ใครจะมองเห็น

แม้ว่าทริสตันจะนําดาบของเขาออกมาจากฝักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถสร้างแรงดันลมขนาดใหญ่ได้โดยรอบ การโจมตีที่ทรงพลังได้ทิ้งดาบไว้ในรูปแบบของแสงสีแดงเลือด

แคสเซียสสังเกตเห็นการโจมตีซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลัง แต่ดูเหมือนว่าจะมีจุดมุ่งหมายที่ไม่ดี แคสเซียสมั่นใจว่าแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทําอะไรก็ตาม การโจมตีก็จะพลาดเขาไป

เขาไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเป็นเพราะการเล็งที่ผิดหรือเปล่า หรือเป็นเพราะทริสตันจงใจพยายามคิดถึงเรื่องที่เหมือนเป็นการซ้อมรบ และเขาไม่อยากทําร้าย

แคสเซียสรู้ว่าเขาสามารถยืนและปล่อยให้การโจมตีผ่านไปได้ แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ในตัวเขาถูกจุดไฟ เขาไม่อยากเป็นคนขี้ขลาด

เขายังยกดาบขึ้นและฟันอย่างสบายๆ โดยใช้เศษเสี้ยวของพลังงานดาบศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาโจมตีในลักษณะเดียวกันและในวิถีเดียวกันกับการโจมตีของทริสตัน เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการโจมตีทั้งสองกําลังจะปะทะกัน

ตามที่เขาคาดไว้ การโจมตีที่น่ากลัวของทริสตันปะทะกับพลังดาบศักดิ์สิทธิ์ ของเขา และสามารถต้านทานได้ เมื่อการโจมตีของทริสตันถูกทําลาย

การโจมตีของแคสเซียส ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ในขณะที่พลังดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขาขยับต่อไป ในที่สุดก็ทําในสิ่งที่ทริสตันต้องการจะทํา

การโจมตีผ่านพ้นไปจากทริสตันไม่กี่นิ้ว ในที่สุดก็ลงกับบ้านที่ด้านหลัง พลางทําลายกําแพง

ทริสตันหันกลับมามองความเสียหายที่เกิดกับบ้านด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะใช้พละกําลังเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังน่าประหลาดใจที่เห็นมันถูกทําลายอย่างง่ายดาย

มีคนประหลาดใจมากขึ้น โดยเฉพาะอลิเซีย เธอไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วแคสเซียสแข็งแกร่งถึงเพียงนี้แม้จะยังเด็กมากก็ตาม

ไรอาก็ดูขบขันในขณะที่เขาลูบคาง ดูเหมือนว่าพวกเขามีคนที่มีความสามารถอีกคนหนึ่งที่สามารถเป็นผู้นําแนวหน้าได้

เวก้าและคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจเช่นกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของแคสเซียส

ในทางกลับกัน ลูซิเฟอร์ยืนสงบนิ่งราวกับว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจเลย เขาได้เห็นการแสดงของแคสเซียสมาก่อนแล้ว

และเขาก็รู้เกี่ยวกับพลังงานดาบศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่แคสเซียสมีดาบอยู่ในมือ เขาก็เกือบจะไม่แพ้ใคร

แม้แต่ในสถาบันการศึกษา ก็มีการกล่าวกันว่าพลังดาบศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดที่นักดาบสามารถครอบครองได้ นั่นไม่ใช่ทั้งหมดเช่นกัน เนื่องจากแคสเซียส มีความสามารถอื่นที่ชมเชยความสามารถแรกของเขา

“ไม่เลวเลย อย่างที่คาดไว้ นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ดี” ทริสตันยิ้มเยาะขณะจ้องมองแคสเซียสขณะเลียริมฝีปาก

“บางที่วันนี้อาจมีใครบางคนสามารถบังคับฉันให้เอาดาบทั้งเล่มออกมาได้ ฉันหวังว่าคุณคงทําได้ ให้ฉันทดสอบว่าคุณคู่ควรหรือไม่” เขากล่าวเสริมในขณะที่ร่างของเขาสั่นไหว

เขาปรากฏตัวขึ้นด้านหลังแคสเซียส ขณะที่เขาบิดตัว ตั้งใจจะเตะคอของ แคสเซียส

ร่างของแคสเซียสก็ขยับในขณะที่เขาปรับร่างกายของเขาเล็กน้อยในขณะที่ใช้ข้อศอกเพื่อป้องกันการเตะ

ฉันเดาว่านั่นเป็นเหตุผลที่เขาฝึกทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานด้วย สําหรับนักดาบ สิ่งสําคัญคือต้องสามารถป้องกันตัวเองได้แม่ในระยะประชิด เขาไม่เหมือนกับฉันเลย เขาไม่มีพละกําลังและความเร็วที่เอาชนะได้ ลูซิเฟอร์ยืนอยู่แต่ไกล กําลังวิเคราะห์รายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดของการสู้รบ ซึ่งเขาพบว่าน่าสนใจ

แคสเซียสขัดขวางการเตะ ซึ่งกําลังจะแตะคอของเขาด้วยแขนของเขาในขณะที่เขากระโดดกลับ

เขาลงจอดห่างจากทริสตันไม่กี่เมตร พลางเล็งดาบมาที่เขาอย่างเย็นชา “เมื่อกี้คืออะไร?” เขาถามทริสตัน ซึ่งจู่ ๆ ก็โจมตี เขาสงสัยว่ายังคงเป็นการต่อสู้ของดาบหรือไม่

“อย่าสนใจ แค่ทดสอบทักษะของคุณ ก่อนที่ฉันจะจริงจัง คุณต้องเป็นนักรบที่มีความสามารถเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่คู่ควร” ทริสตันตอบพร้อมหัวเราะ

“อย่างนั้นหรือ” แคสเซียสยิ้มเมื่อได้ยินคําพูดนั้น “ไม่เป็นไร ถ้าฉันได้ทดสอบเหมือนกัน” ร่างของเขาขยับเมื่อเขาเข้าไปใกล้ทริสตันอย่างกะทันหัน ซึ่งทริสตันไม่คาดคิดมาก่อน

ตอนที่ 294: แคสเซียส vs ทริสตัน

“เธอไม่จําเป็นต้องทํา ถ้าเธอกลัว” เขากล่าวเสริม พลางโยนเหยื่ออีกตัวหนึ่งด้วยการทําร้ายศักดิ์ศรีของเธอ

“ฮ่าๆ ฉันจะกลัวทําไม ฉันรับเดิมพัน เตรียมตัวแพ์ได้เลย” อลิเซียพูดโดยไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียวเมื่อเธอรับเดิมพัน

“แล้วนายล่ะเคลเลียน นายคิดว่าใครจะชนะ” ไรอาถามเคลเลียนโดยไม่สนใจเสียงล้อเลียนของเด็กๆ

“ผมพูดไม่ได้แน่ๆ เพราะผมไม่รู้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย ดังนั้นผมจะเล่นอย่างปลอดภัย ผมคิดว่าทั้งคู่มีโอกาสที่ดีพอๆ กัน เนื่องจากแคสเซียสก็ไม่น่าจะอ่อนแอเช่นกัน เขาจัดการสมาชิก APF เป็นจํานวนมาก” เคลเลียนตอบ

“นั่นก็จริงเหมือนกัน” ไรอาพยักหน้า “นายล่ะยาลิซ่า?

“ฉันก็เห็นด้วยกับเคลเลียน คงเร็วเกินไปที่จะคาดเดาโดยไม่รู้ว่าทั้งสองคนมีความสามารถอะไร” ยาลิซ่าเห็นด้วย ขณะกอดอก

“ถูกต้องเช่นกัน มาดูกันว่าพวกเขามีความสามารถอะไรในกรณีนั้น” ไรอากล่าว พลางมองดูเด็กสองคนที่ยังคงมองหน้ากัน รอให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว

แคสเซียสถือดาบหนักในมือขวาและจ้องไปที่ทริสตัน ในทางกลับกันทริสตันไม่ได้หยิบดาบออกจากฝักด้วยซ้ํา เขาถือฝึกในมือซ้ายขณะมองย้อนกลับไป

“เจ้าหน! คุณเริ่มก่อนก็ได้ ให้ฉันเห็นความแข็งแกร่งของคุณก่อน! ให้ฉันได้มองดูสิ่งที่ดีที่สุดของคุณ!” ทริสตันตะโกนเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของเขาไปถึงแคสเซียส

“ฉันขอแสดงมารยาทกับคุณแบบเดียวกัน ผู้อาวุโสไปก่อนได้” แคสเซียสตอบอย่างเฉียบขาด “ให้สิ่งที่ดีที่สุด! บางทีคุณอาจจะสามารถทําร้ายฉันได้!”

ใบหน้าของทริสตันกระตุกอีกครั้ง เมื่อได้ยินค่าพูดของแคสเซียส

“คุณมีลิ้นที่เฉียบแหลม ก็ได้ ให้ฉันแสดงให้ดู” ทริสตันพูดขณะสูดหายใจเข้าลึกๆ

เขาค่อยๆ เคลื่อนมือขวาไปที่ด้ามดาบคาทานะซึ่งเขาถืออยู่ในมือซ้าย

ขณะที่เขาคว้าด้ามจับ เขาถามว่า “ฉันพร้อมโจมตี อย่าโทษฉันถ้าคุณได้รับบาดเจ็บ!”

หลังจากได้รับคําเตือน เขานําคาตานะออกจากฝักแต่เพียงไม่กี่นิ้วก่อนจะเก็บกลับ ทุกอย่างเกิดขึ้นก่อนที่ใครจะมองเห็นดาบของเขาด้วยซ้ํา

ไม่มีสักคนเดียวที่เคยเห็นดาบคาทานะของเขาหน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อใดก็ตามที่เขานํามันออกมา เขาจะเก็บมันกลับมาอย่างรวดเร็วก่อนที่ใครจะมองเห็น

แม้ว่าทริสตันจะนําดาบของเขาออกมาจากฝักเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถสร้างแรงดันลมขนาดใหญ่ได้โดยรอบ การโจมตีที่ทรงพลังได้ทิ้งดาบไว้ในรูปแบบของแสงสีแดงเลือด

แคสเซียสสังเกตเห็นการโจมตีซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลัง แต่ดูเหมือนว่าจะมีจุดมุ่งหมายที่ไม่ดี แคสเซียสมั่นใจว่าแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทําอะไรก็ตาม การโจมตีก็จะพลาดเขาไป

เขาไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเป็นเพราะการเล็งที่ผิดหรือเปล่า หรือเป็นเพราะทริสตันจงใจพยายามคิดถึงเรื่องที่เหมือนเป็นการซ้อมรบ และเขาไม่อยากทําร้าย

แคสเซียสรู้ว่าเขาสามารถยืนและปล่อยให้การโจมตีผ่านไปได้ แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ในตัวเขาถูกจุดไฟ เขาไม่อยากเป็นคนขี้ขลาด

เขายังยกดาบขึ้นและฟันอย่างสบายๆ โดยใช้เศษเสี้ยวของพลังงานดาบศักดิ์สิทธิ์ ที่เขาโจมตีในลักษณะเดียวกันและในวิถีเดียวกันกับการโจมตีของทริสตัน เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการโจมตีทั้งสองกําลังจะปะทะกัน

ตามที่เขาคาดไว้ การโจมตีที่น่ากลัวของทริสตันปะทะกับพลังดาบศักดิ์สิทธิ์ ของเขา และสามารถต้านทานได้ เมื่อการโจมตีของทริสตันถูกทําลาย

การโจมตีของแคสเซียส ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น ในขณะที่พลังดาบศักดิ์สิทธิ์ของเขาขยับต่อไป ในที่สุดก็ทําในสิ่งที่ทริสตันต้องการจะทํา

การโจมตีผ่านพ้นไปจากทริสตันไม่กี่นิ้ว ในที่สุดก็ลงกับบ้านที่ด้านหลัง พลางทําลายกําแพง

ทริสตันหันกลับมามองความเสียหายที่เกิดกับบ้านด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะใช้พละกําลังเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังน่าประหลาดใจที่เห็นมันถูกทําลายอย่างง่ายดาย

มีคนประหลาดใจมากขึ้น โดยเฉพาะอลิเซีย เธอไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วแคสเซียสแข็งแกร่งถึงเพียงนี้แม้จะยังเด็กมากก็ตาม

ไรอาก็ดูขบขันในขณะที่เขาลูบคาง ดูเหมือนว่าพวกเขามีคนที่มีความสามารถอีกคนหนึ่งที่สามารถเป็นผู้นําแนวหน้าได้

เวก้าและคนอื่นๆ ก็ประหลาดใจเช่นกัน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นความแข็งแกร่งของแคสเซียส

ในทางกลับกัน ลูซิเฟอร์ยืนสงบนิ่งราวกับว่าเป็นสิ่งที่ไม่น่าแปลกใจเลย เขาได้เห็นการแสดงของแคสเซียสมาก่อนแล้ว

และเขาก็รู้เกี่ยวกับพลังงานดาบศักดิ์สิทธิ์ ตราบใดที่แคสเซียสมีดาบอยู่ในมือ เขาก็เกือบจะไม่แพ้ใคร

แม้แต่ในสถาบันการศึกษา ก็มีการกล่าวกันว่าพลังดาบศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุดที่นักดาบสามารถครอบครองได้ นั่นไม่ใช่ทั้งหมดเช่นกัน เนื่องจากแคสเซียส มีความสามารถอื่นที่ชมเชยความสามารถแรกของเขา

“ไม่เลวเลย อย่างที่คาดไว้ นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ดี” ทริสตันยิ้มเยาะขณะจ้องมองแคสเซียสขณะเลียริมฝีปาก

“บางที่วันนี้อาจมีใครบางคนสามารถบังคับฉันให้เอาดาบทั้งเล่มออกมาได้ ฉันหวังว่าคุณคงทําได้ ให้ฉันทดสอบว่าคุณคู่ควรหรือไม่” เขากล่าวเสริมในขณะที่ร่างของเขาสั่นไหว

เขาปรากฏตัวขึ้นด้านหลังแคสเซียส ขณะที่เขาบิดตัว ตั้งใจจะเตะคอของ แคสเซียส

ร่างของแคสเซียสก็ขยับในขณะที่เขาปรับร่างกายของเขาเล็กน้อยในขณะที่ใช้ข้อศอกเพื่อป้องกันการเตะ

ฉันเดาว่านั่นเป็นเหตุผลที่เขาฝึกทักษะการต่อสู้ขั้นพื้นฐานด้วย สําหรับนักดาบ สิ่งสําคัญคือต้องสามารถป้องกันตัวเองได้แม่ในระยะประชิด เขาไม่เหมือนกับฉันเลย เขาไม่มีพละกําลังและความเร็วที่เอาชนะได้ ลูซิเฟอร์ยืนอยู่แต่ไกล กําลังวิเคราะห์รายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดของการสู้รบ ซึ่งเขาพบว่าน่าสนใจ

แคสเซียสขัดขวางการเตะ ซึ่งกําลังจะแตะคอของเขาด้วยแขนของเขาในขณะที่เขากระโดดกลับ

เขาลงจอดห่างจากทริสตันไม่กี่เมตร พลางเล็งดาบมาที่เขาอย่างเย็นชา “เมื่อกี้คืออะไร?” เขาถามทริสตัน ซึ่งจู่ ๆ ก็โจมตี เขาสงสัยว่ายังคงเป็นการต่อสู้ของดาบหรือไม่

“อย่าสนใจ แค่ทดสอบทักษะของคุณ ก่อนที่ฉันจะจริงจัง คุณต้องเป็นนักรบที่มีความสามารถเพื่อที่จะเป็นนักดาบที่คู่ควร” ทริสตันตอบพร้อมหัวเราะ

“อย่างนั้นหรือ” แคสเซียสยิ้มเมื่อได้ยินคําพูดนั้น “ไม่เป็นไร ถ้าฉันได้ทดสอบเหมือนกัน” ร่างของเขาขยับเมื่อเขาเข้าไปใกล้ทริสตันอย่างกะทันหัน ซึ่งทริสตันไม่คาดคิดมาก่อน

ตอนที่ 293: เดิมพัน

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น เธอตายแล้ว ถ้าคุณต้องการพบเธอ คุณก็ต้องตายเช่นกัน ในกรณีนี้ คุณอาจจะพบเธอในชีวิตหลังความตาย” ลูซิเฟอร์พูดแบบสบายๆ ขณะกลับไปรับประทานอาหาร

“โอ้ เธอตายแล้ว น่าเสียดายจริงๆ” ไรอาพึมพําพร้อมส่ายหัว ชั่วขณะหนึ่ง เขาคิดจริงๆ ว่าลูซิเฟอร์กําลังบอกให้เขาตายจากกันบึงของหัวใจของเขา

ไม่นาน อาหารกลางวันก็เสร็จ ทุกคนก็ยืนขึ้นและไปพักผ่อน มีการตัดสินใจว่าการต่อสู้ของทริสตันและแคสเซียสจะเกิดขึ้นหลังจากพัก 1 ชั่วโมงเพราะพวกเขาเพิ่งกินเสร็จ

ลูซิเฟอร์แสดงห้องของพวกเขาต่อสมาชิกของแวเรียนท์เกิดใหม่ เนื่องจากคฤหาสน์มีห้องที่ตกแต่งครบครันหลายห้อง ทุกคนจึงได้ห้องหนึ่งสําหรับการพักผ่อนทันที

ลูซิเฟอร์และแคสเซียสกลับไปที่โซฟาชั้นล่าง ขณะที่พวกเขานั่งอยู่กันลาพัง “แน่ใจเหรอว่าจะสู้กับเขา” ลูซิเฟอร์ถามแคสเซียส “มันอาจเป็นอันตรายได้”

“อันตรายเท่ากับการต่อสู้กับราชาวอร์ล็อคไหม?” แคสเซียสถาม พลางหัวเราะ

ลูซิเฟอร์เหล่ตาของเขา ในขณะที่เขาทําท่าให้แคสเซียสเงียบ

มีแขกอยู่ในคฤหาสน์ และเขาไม่ต้องการให้ใครได้ยินแผนการของพวกเขาโดยบังเอิญ

แคสเซียสเข้าใจท่าทางของลูซิเฟอร์และไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

“มันเป็นแค่การฝึกซ้อม ไม่ต้องกังวล ยิ่งกว่านั้น ฉันยังต้องการที่จะเห็นความแข็งแกร่งของนักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปนี้” แคสเซียสกล่าวอย่างจริงจัง

ลูซิเฟอร์ไม่ได้พูดอะไรมาก ในขณะที่เขาพยักหน้า เนื่องจากผู้ชายคนนี้ต้องการ เขาก็จะไม่ปฏิเสธ

เมื่อเวลาผ่านไปอีกชั่วโมง ถึงเวลาแล้วสําหรับการต่อสู้ ขณะที่ทริสตันตื่นเต้นที่สุด เขาจึงลงมาชั้นล่างเป็นคนแรก ตามด้วยคนอื่นๆ

“ในที่สุดก็ถึงเวลา! ไม่มีความล่าช้าอีกต่อไป” เขากล่าว

“ไม่มีความล่าช้าอีกต่อไปจริงๆ” แคสเซียสเห็นด้วย “แล้วอยากสู่ที่ไหนล่ะ”

“สวนของคุณค่อนข้างใหญ่ อาจเป็นที่ที่ดีก็ได้” ทริสตันตอบ

“จะไม่มีใครเข้าไปในสวน คุณจะต้องสู้นอกคฤหาสน์” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างหนักแน่น ปฏิเสธข้อเสนอแนะ เขาไม่ต้องการให้สวนของเขาถูกทําลาย นั้นเป็นที่เดียวที่เขาคิดว่าดี

“ข้างนอกเท่านั้น ไม่ว่าในกรณีใด ทั้งเมืองเป็นสนามเด็กเล่นของเราแล้ว คุณจะมีพื้นที่ให้เคลื่อนไหวมากขึ้นเช่นกัน ไรอาเห็นด้วย แม้ว่าเขาจะแปลกใจที่ลูซิเฟอร์ต่อต้านพวกเขามากที่จะไปที่สวนก็ตาม

เขาสงสัยว่าที่นั่นมีอะไรพิเศษหรือเปล่า เขาต้องการที่จะตรวจสอบมันออกในเวลากลางคืน

เมื่อทุกคนตัดสินใจเกี่ยวกับรูปลักษณ์และสถานที่ของการต่อสู้ พวกเขาก็ออกจากคฤหาสน์ไปพร้อมกัน

“ติดต่อเรียอาริได้ไหม”

เก็นซีพยายามติดต่อเรียอาริแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบสนอง

“ฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้เหมือนกัน มีบางอย่างผิดปกติอย่างร้ายแรง” วารันท์ยืนยัน

“นายคิดว่าเขาอาจถูกฆ่าตายเหรอ?” เก็นซี่ถามด้วยความเป็นห่วง

“มีโอกาส” วารันท์พูดพร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ “แม้ว่าฉันจะบอกให้พวกเขาอยู่ห่างจากการต่อสู้ แต่เมื่อพวกเขาบอกฉันว่า ลูซิเฟอร์อยู่ที่นั่นกับไรอาฉันก็รู้สึกเป็นห่วง”

“และนายก็รู้ว่าลูซิเฟอร์… เราสามคนควรเป็นคนที่เขาเกลียดที่สุดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด เขาไม่ยอมให้เรียอาริหนีออกไปหลังจากเห็นเขาแน่นอน” เขากล่าวเสริม

“ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขากลับมาแล้ว เป็นไปได้ยังไงกัน?” เก็นซี่ถาม พลางแสดงความกังวลของเขา แม้แต่วารันท์ก็ไม่รู้ว่าเขาจะตอบคําถามนี้ได้อย่างไร สิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผล ลูซิเฟอร์กลับมาได้อย่างไร?

“ตามที่เรา เซล และไรอาค้นพบในเวลานั้น น้ําควรจะเป็น… มันไม่สมเหตุสมผลเลยจริงๆ อาจเป็นเพราะเรียอาริทําเรื่องยุ่งด้วยการโยนหัวใจลงไปในทะเลด้วยหรือเปล่า

มีความคิดที่ขัดแย้งกันมากมายในหัวของเขา แต่เขาไม่สามารถคิดหาเหตุผลที่ชัดเจนได้

“เรากําลังต่อสู้ในสงครามที่เราสามารถเอาชนะได้จริงหรือ? ลูซิเฟอร์คนนี้… ถ้าเขากลับมาได้ หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในครั้งก่อน… เราจะเอาชนะเขาได้จริงๆเหรอ?” เก็นซี่ถาม พลางถอนหายใจ

“แม้ว่าเราจะเอาชนะและฆ่าเขาได้ เราจะทําอย่างไรเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่กลับมาอีก นี่คือวัฏจักรที่ไม่สิ้นสุดที่จะไม่มีวันหยุด?” เขาพูดต่อ

“มันไม่ใช่วัฏจักรที่ไม่สิ้นสุด คราวนี้ ฉันจะหยุดมันตลอดไป ความสูญเสียของเราอาจจะใหญ่ แต่เราไม่สามารถที่จะสูญเสียมันไปได้ คราวนี้เราต้องเอามันออกไปให้หมด” วารันท์กล่าวพร้อมกํามือแน่น

แคสเซียสและทริสตันหยุดห่างกัน 20 เมตร พลางมองหน้ากัน

ทั้งสองมีดาบอยู่ในมือ ในขณะที่ทริสตันมีคาตานะ ซึ่งว่องไวและเบา แคสเซียสมีดาบหนักที่สวยงามซึ่งไม่เพียงแต่หนักแต่ทรงพลัง

มันถูกสร้างขึ้นจากวัสดุล้ําค่าที่สุดที่สามารถพบได้ในทวีปของเขา ทําให้ดาบของเขาทนทานยิ่งขึ้น แม้ว่าวัสดุจะหายากและมีราคาแพง แต่ครอบครัวของเขาก็สามารถซื้อได้

ในทางกลับกัน คาตานะของทริสตันเป็นสิ่งที่เขาได้รับมาจากบรรพบุรุษของเขา มันไม่ใช่ดาบราคาแพง แต่มันทนทานมาก และมันก็ไม่เคยทรยศต่อเขาเลย

ขณะที่เด็กทั้งสองเผชิญหน้ากัน ไรอา, ลูซิเฟอร์, อลิเซียและคนอื่นๆ ยืนอยู่บนหลังคาใกล้เคียง ซึ่งพวกเขามองเห็นการต่อสู้ได้ชัดเจน

“คุณคิดว่าใครจะชนะการต่อสู้” ไรอาถามอย่างไม่ใส่ใจ

“ฉันยังไม่ได้เห็นว่าแคสเซียสต่อสู้อย่างไร แต่ฉันเชื่อว่าทริสตันมีโอกาสที่ดีกว่า เขามีประสบการณ์มากกว่าและอาจแข็งแกร่งกว่าด้วย” เวก้าแสดงความคิดเห็น

“จริงสิ ถ้าเขาปรับอารมณ์ได้ดีกว่านี้ เขาก็อาจจะเป็นดาบที่คมที่สุดในคลังอาวุธของเรา ถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็กและหุนหันพลันแล่น นั่นเป็นจุดอ่อนเดียวของเขาที่ฉันนึกออก” ไรอาพูดเห็นด้วยเล็กน้อย

“ฉันยังคิดว่าทริสตันจะชนะ เขาเก่งดี แต่มีความแตกต่างระหว่างความดีกับสิ่งที่ดีที่สุด” อลิเซียกล่าวเสริมเช่นกัน

“ถูกต้อง ความดีและสิ่งที่ดีที่สุดมีความแตกต่างกัน นั่นคือเหตุผลที่แคสเซียสจะเป็นผู้ชนะ” ลูซิเฟอร์ก็เข้าร่วมการสนทนาด้วย

เขาไม่รู้ว่าทริสตันแข็งแกร่งเพียงใด แต่เขาเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของแคสเซียส เขาได้เห็นมันด้วยตัวเองแล้ว

“ฮ่าฮ่า พูดน่ะมันพูดได้ได้เพียงเพราะนายไม่รู้ว่าทริสตันแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันเคยเห็นเขาแสดงท่าทางแล้ว บอกเลย เพื่อนของนายไม่มีทางรอด” อลิเซียพูดพลางเยาะเย้ย

“อยากเดิมพันงั้นหรือ?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างไม่เกรงใจ

“เดิมพันอะไร” อลิเซียถามพลางหรี่ตาลง

“ถ้าเธอพูดถูกและทริสตันชนะ ฉันสัญญาว่าฉันจะทําทุกอย่างที่เธอขอให้ฉันทํา ถ้าฉันพูดถูก และแคสเซียสชนะ เธอจะทําในสิ่งที่ฉันขอให้เธอทําหรือไม่” ลูซิเฟอร์แนะนํา

เขาไม่เห็นการสูญเสียใด ๆ ในการเดิมพันเพราะมันไม่สําคัญแม้ว่าเขาจะแพ้ก็ตาม
กฏมีไว้สําหรับผู้ที่ไร้เดียงสาพอที่จะปฏิบัติตามเท่านั้น และเขาเชื่อว่าอลิเซียไร้เดียงสาพอ ..

ตอนที่ 292: การต่อสู้ของแคสเซียส?

หลังจากแน่ใจว่าทุกคนออกจากเมืองไปแล้ว เคลเลียนและยาลิซ่าก็มาถึงคฤหาสน์พร้อมกับ ทริสตัน

“ไอ้เด็กคนนี้รู้จักการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา” ทริสตันแสดงความคิดเห็นทันทีที่เห็นคฤหาสน์

“ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น” เคลเลียนก็เห็นด้วย

ทั้งสามคนยังเข้าร่วมกับไรอา ซึ่งกําลังสนทนาอยู่กับลูซิเฟอร์

“สวัสดี ฉันชื่อทริสตัน นายชื่ออะไร” ทริสตันหยุดต่อหน้าแคสเซียส ขณะที่เขาถามขณะยื่นมือออกมา

“แคสเซียส” แคสเซียสตอบในขณะที่เขาทําเช่นเดียวกัน

“งั้นนายก็เป็นนักดาบด้วยเหรอ?” ทริสตันถามแคสเซียส พลางเหลือบมองดาบของเขา

ในขณะที่เขาพยักหน้า

“ฉันว่านายพูดได้นะ”

“มันน่าทึ่งมากที่ได้พบกับนักดาบที่แข็งแกร่ง นายสนใจที่จะต่อสู้กับฉันไหม เราสามารถทําให้มันเป็นการฝึกต่อสู้ได้?” ทริสตันถาม เพื่อเสนอการต่อสู้ เพราะตอนนี้เขาเป็นอิสระแล้ว

“ทริสตัน ตอนนี้ไม่ใช่เวลา” เคลเลียนเตือนเขา

“ไม่เป็นไร ฉันไม่คิดว่ามันคงจะแย่ ถ้าเป็นแค่การซ้อมรบ ทั้งสองคนสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้” ไรอาพูดแทรก เห็นด้วยกับทริสตันอย่างละเอียด “ก็ต่อเมื่อแคสเซียสตกลง”

เขายังต้องการเห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของแคสเซียสและความแข็งแกร่งของชายคนนี้

ลูซิเฟอร์ไม่ได้พูดอะไร เขาตัดสินใจทิ้งการตัดสินใจไว้กับแคสเซียสในขณะที่เหลือบมองมาที่เขา

ทริสตันยังมองไปที่แคสเซียส ตอนนี้ทุกอย่างวางอยู่บนบ่าของแคสเซียส

“มาเถอะ ฉันสัญญาว่าฉันจะยอมอ่อนข้อให้กับนาย นายช่วยยอมหน่อยเถอะ” ทริสตันพูดเกือบจะอ้อนวอน เขาต้องการการต่อสู้ครั้งนี้จริงๆ

แคสเซียสเหลือบมองทริสตันและพยักหน้าในที่สุด

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ฉันก็จะยอมอ่อนข้อตามนายด้วย” เขาพูดเบา ๆ ขณะยืนขึ้น

ใบหน้าของทริสตันกระตุกอย่างไม่เต็มใจ เมื่อได้ยินคําพูดของแคสเซียส ผู้ชายคนนี้กําลังพูดถึงเรื่องอ่อนข้อกับเขา?

“เอาล่ะ ตัดสินใจแล้ว นาย 2 คนจะมีแมทช์ฝึกฝนกัน และไม่อนุญาตให้โจมตีร้ายแรง จําไว้ว่า เป็นเพียงการทดสอบทักษะของคุณกับอีกฝ่ายหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่เพื่อทําร้ายอีกฝ่าย ดังนั้นจงจําไว้ให้ดีเมื่อคุณต่อสู้” ไรอาก็ยืนขึ้นด้วยรอยยิ้ม

ในขณะที่เขาพูด เขาเหลือบมองทริสตันเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่เขารู้ว่า ทริสตันเป็นคนที่ควบคุมไม่ได้เป็นส่วนใหญ่

“ฉันจะจําไว้ ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ทริสตันพูดพร้อมหัวเราะ “ไปกันเถอะ เรามาเริ่มกันเลย”

“ฉันคิดว่าคุณ 2 คนควรรอ ได้เวลาอาหารกลางวันแล้ว” ลูซิเฟอร์พูดแทรก

“โรงแรมทั้งหมดปิด ถ้าเรารู้ว่าไม่มีพ่อครัวที่นี่ เราอาจเก็บไว้ 2-3 คน แล้วตอนนี้ใครจะเป็นคนทําอาหาร ไม่มีใครรู้วิธีการเกี่ยวกับมันเลย” ไรอาพูดแทรกพลางยิ้มเยาะเย้ย

“ใช่” เวก้าตอบทันที

“นายรู้วิธีทําอาหารไหม” ไรอาถามอย่างแปลกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องนี้

“นายลืมความสามารถของฉันไปหรือเปล่า ฉันเป็นตําราอาหารเดินได้” เวก้าหัวเราะออกมา “ไม่เป็นไร ฉันจะจัดการมันในช่วงไม่กี่วันนี้เอง พวกนายทุกคนรออยู่ที่นี่”

“แล้วครัวอยู่ที่ไหนล่ะ” จู่ๆเขาก็ถามขึ้น ในขณะที่เขาเริ่มสับสนว่าจะไปที่ไหน

“อยู่ที่นั่น” ลูซิเฟอร์ชี้ให้เวก้า

แม้ว่าทริสตันจะไม่พอใจที่เขาไม่สามารถต่อสู้ได้ในทันที แต่เขาก็เห็นด้วยเพราะจริงๆตอนนี้เขาเริ่มหิวแล้ว

มันไม่สําคัญอยู่แล้ว เพราะแค่ทําให้การต่อสู้ล่าช้าเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น ในที่สุดเขาก็จะได้สิ่งที่เขาต้องการ

คฤหาสน์เวลลิงเป็นทรัพย์สินราคาแพงและมีคุณสมบัติพิเศษมากมายเช่นกัน ความพิเศษบางอย่างนั้นเป็นที่รู้จักเพียงไม่กี่คนเท่านั้น มีคนไม่มากที่รู้ว่ามีพื้นลับอยู่ใต้ดิน ใต้คฤหาสน์ ซึ่งมีสิ่งอํานวยความสะดวกทั้งหมดที่บุคคลสามารถขอได้ มีห้องครัวส่วนตัวด้วย

ชั้นนี้เป็นที่ๆไอย์ถูกกักตัวอยู่ในขณะนี้ เวราซิตี้ก็นั่งอยู่ที่นั่นพร้อมกับสาวใช้ที่มากับพวกเขา

“ความจริงแล้ว ฉันไม่คิดว่าเธอจะเข้าข้างเขาแบบนี้ เธอไม่เข้าใจจริงๆ เหรอว่าเธอกําลังช่วยเขาทําอะไรอยู่ เราอยู่ที่นี่กันลําพังแล้ว เธอยังคงสามารถแก้ไขข้อผิดพลาดของเธอได้”

“ถ้าเธอกลัวว่าเขาจะฆ่าเธอ เธอแค่เพียงปล่อยให้ฉันจากไป แค่นั้นเธอก็ไม่จําเป็นต้องสนใจอะไรแล้ว หรืออีกทางหนึ่งเธอไม่จําเป็นต้องปล่อยฉัน แต่เพียงแค่ทําเรื่องนึ่งเท่านั้น” ไอย์บอกเวราซิตี้ เพราะเธอยังคงพยายามจะหนี้

“โอ้ ฉันไม่จําเป็นต้องปล่อยให้เธอออกไปหรอกหรือ แล้วเธอต้องการอะไร” เวราซิตี้ถามยิ้มๆ

“ให้ฉันโทรศัพท์ออกไปตอนนี้” ไอย์เสนอ “เธอจะไม่ได้รับอันตรายเช่นกัน เธอจะได้รับการอภัยสําหรับการเข้าข้างเขาชั่วขณะหนึ่ง”

“ให้โทรเรียกใครว่า? วารันท์งั้นหรือ? ดังนั้นเขาจึงสามารถมาที่นี่เพื่อช่วยทุกคนได้งั้นหรือ?” เวราซิตี้ถาม

“ถูกต้อง” ไอย์พยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องโทรไปหรอก เขากําลังมาแล้ว” เวราซิตี้ตอบยิ้มๆ “เขารู้ว่าลูซิเฟอร์อยู่ที่นี่ในไม่ช้าเขาก็ควรจะมาที่นี่”

“เขารู้แล้วงั้นหรือ?” ไอย์ถามตะลึง

“ถูกต้อง ฉันคิดว่าเธอจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่เขามาที่นี่ แต่มันก็จะรกๆ หน่อย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรารอดูกัน” เวราซิตีตอบ

“เราตัวเล็กเกินไปที่จะพยายามเปลี่ยนผลลัพธ์ การไม่มองภาพรวมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราสามารถทําได้” เธอกล่าวเสริม ขณะเลือกแซนด์วิชที่สาวใช้เสิร์ฟให้

“นี่ กินข้าวด้วย” เธอพูดพร้อมกับดันจานไปทางไอย์ ซึ่งเอามือทั้งสองข้างมัดไว้ข้างหน้าเธอ

เวก้ากลับมาพร้อมกับอาหาร เขาทําซุปให้ทุกคนพร้อมกับสลัดผลไม้ที่เขาพบในตู้เย็น อาหารกลางวันเสิร์ฟด้วยความช่วยเหลือของทริสตันและอลิเซีย หลังจากวางอาหารลงบนโต๊ะแล้ว เขาก็นั่งลงกับคนอื่นๆ

ลูซิเฟอร์กินอย่างไร้กังวลเพราะเขามีภูมิคุ้มกันต่อพิษอยู่แล้ว ไม่ว่าในกรณีใด เขาไม่คิดว่าอาหารจะเป็นพิษในเวลาเช่นนี้

สําหรับแคสเซียสเขารอเวลาอยู่ และหลังจากที่เขาเห็นผู้คนจากแวเรียนท์เกิดใหม่เริ่มกิน เขาก็เริ่มกินด้วย

“ดังนั้น ลูซิเฟอร์ ฉันได้ยินมาว่าคนของเราถูกฆ่าในที่เดียวกับที่คุณโจมตี APF ฉันถามว่า ทําไมคุณถึงฆ่าพวกเขา” ระหว่างทานอาหาร ไรอาก็ถามอย่างใจเย็น

“ฉันฆ่าพวกเขาเหรอ ฉันไม่คิดอย่างนั้น ตอนที่ฉันไปที่นั่น ฉันเห็นคนกําลังสอดแนมฉัน และ คนแรกที่ฉันเห็นคือจาก APF ฉันก็เลยฆ่าทุกคนที่ฉันเห็นพวกเขาเป็นคนของคุณหรือเปล่า”

ลูซิเฟอร์แสร้งทําเป็นประหลาดใจ เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาเบี่ยงความผิดทันที

“อย่างที่ฉันคาดไว้ แต่ฉันได้ยินมาว่าเธอพาไอย์มาด้วย เธออยู่ที่ไหน ถ้าฉันอยากจะรู้บ้างจะได้ไหม” ไรอาถามอีกครั้ง

“หากต้องการพบเธอ คุณต้องทําอะไรบางอย่าง” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

“ทําอะไร” ไรอาถาม ลูซิเฟอร์เงยศีรษะ ขณะมองลึกเข้าไปในดวงตาของไรอา

“คุณต้องตาย” เขาบอกไรอา

“อะไรนะ” ไรอาถามอย่างงงๆ..

ตอนที่ 291: มีประโยชน์ในบางครั้ง

เรียอาริพร้อมที่จะโยนดวงอาทิตย์สีดําทมิฬแต่ก่อนที่เขาจะทําได้มีแสงส่องประกายผ่านเขาตัดเขาและเงาของเขาลงครึ่งหนึ่งร่างกายของเขากลับมาเป็นปกติในขณะที่เขาเริ่มล้มลง

ดวงอาทิตย์สีดํายังกระจายตัวในอากาศบางเมื่อเรียอาริถูกฆ่าตาย

เคลเลียนมองไปในทิศทางที่แสงนี้มาจาก แต่กลับพบว่าทริสตันกําลังยืนอยู่บนหลังคาพร้อมกับคาตานะของเขา ซึ่งกลับมาอยู่ในฝักอีกครั้ง

“ไอ้สารเลวนี่! มันกล้าหลอกฉัน!” ความโกรธของเขายังไม่หายไป ในขณะที่เขารู้สึกถูกดูถูกที่ถูกหลอก

เคลเลียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยาลิซ่าก็ปรากฏตัวขึ้นใกล้เขาด้วยพลางหัวเราะ “เขาอาจจะหุนหันพลันแล่น แต่เขาก็ค่อนข้างมีประโยชน์ในบางครั้ง”

“ฉันคิดว่าแบบนั้นเช่นกัน” เคลเลียนยิ้มออกมา

เขาก้าวเข้าไปใกล้ร่างของเรียอารี ที่กลับคืนสู่สภาพเดิม

“ฉันเดาว่านายไม่ควรหลอกคนบ้าคนนั้น”เคลเลียนพูดขณะที่เขาส่ายหัว เขาเริ่มเดินกลับพร้อมกับร่างของเรียอาริเมื่อร่างของอาร์เน่ถูกทําลายพวกเขาก็ทําได้เพียงนําชิ้นส่วนที่เหลือกลับไปเท่านั้น

ทริสตันลงจอดเพื่อยืนบนพื้นใกล้ๆทั้งสองคนด้วย

“ทําไมนายสองคนไม่บอกฉันว่ามันเป็นการหลอกล่อ” เขาถามเคลเลียน

“เราคิดว่านายรู้” เคลเลียนตอบอย่างเป็นกันเองพร้อมยิ้ม “ฉันหมายความว่า มันชัดเจนเกินไปเราไม่คิดว่านายจะโดนมันหลอก เราคิดว่านายแค่ต้องการเล่นกับเงา”

“ฉันเป็นเด็กที่จะเล่นกับเงาฉันหรือ” ทริสตันถามพลางกลอกตา

“โอเคๆ ฉันจะบอกนายเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ไปกันเถอะ” เคลเลียนพูดขณะที่เขาเดินต่อไปเขาลากร่างของเรียอาร์เข้าไปในคาเฟพลางโยนมันต่อหน้าลูซิเฟอร์และไรอา

“เสร็จแล้ว” เขาบอกไรอา “สําหรับร่างที่ 2 มันถูกทําลายในการต่อสู้”

“อย่างนั้นหรือ เขาใช้โอเวอร์ไดรฟ์หรือเปล่า” ไรอาถามขณะสังเกตร่างของเรียอาริเขาสามารถเห็นร่องรอยบางอย่างของสิ่งที่เกิดขึ้น

“ใช่ เขาทํา ทริสตันฆ่าเขา” เคลเลียนกล่าว โดยให้เครดิตกับทริสตันผู้สมควรได้รับมัน

“ทําได้ดีมาก ทริสตัน” ไรอาชมทริสตัน

“นี่คือสิ่งที่ฉันทําได้อย่างน้อยที่สุด ฉันแค่หวังว่าฉันจะต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้ทริสตันตอบ พลางเหลือบมองแคสเซียสขณะที่เขาพูด

เขาต้องการต่อสู้กับแคสเซียสอย่างน้อย 1 ครั้ง

“อย่ากังวล อีกไม่กี่วันความปรารถนาจะสําเร็จ” ไรอาตอบ

“หืม?” ทริสตันถามอย่างตกตะลึง มันเป็นความจริงจริงๆเหรอ? เขาไม่อยากตั้งความหวังไว้สูงแต่จะผิดหวังในภายหลัง

“ถูกต้อง เราจะต่อต้าน APF ที่จริงแล้ว ที่แห่งนี้จะเป็นที่ที่เราต่อสู้ คราวนี้มันจะเป็นสงครามเต็มรูปแบบดังนั้นนายจะไม่มีข้อจํากัดใด ๆ นายสามารถออกไปได้” ไรอากล่าว

“จริงๆเหรอ?” ทริสตันถามอย่างตื่นเต้นราวกับเป็นเด็กที่ได้รับของขวัญวันเกิดที่เขาโปรดปรานทุกคนสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นในน้ําเสียงของเขา

“นี่เรื่องจริงหรือ ในที่สุดพวกเราก็โจมตีพวกมันแล้ว” เคลเลียนยังถามด้วยความประหลาดใจแม้แต่ยาลิซ่าก็ดูตกตะลึง

เขาคิดว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อเอาลูซิเฟอร์กลับ ภารกิจเปลี่ยนไปอย่างมากได้อย่างไร? เขา สงสัย

“ฉันจะโกหกไปทําไม อีกไม่นานสมาชิกคนอื่นๆ ก็มาที่นี่เหมือนกัน มันเป็นจุดยืนสุดท้ายที่เราต้องชนะ”ไรอาตอบ“ยิ่งกว่านั้นเราจะไม่โจมตีแต่เราโจมตีไปแล้วตอนนี้เราต้องรอให้พวกเขามา”

ลูซิเฟอร์ไม่พูดในการสนทนา ขณะที่เขาจิบน้ําจากแก้วที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาทําเหมือนว่าเขาไม่มีส่วนในการตัดสินใจของสงคราม

วารันท์ได้รวบรวมทีมอัลฟาทั้งหมดของเขา ในขณะที่เขาเตรียมที่จะออกจากฐานไม่มีสมาชิกทีมอัลฟาแม้แต่คนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพราะเขาสนใจที่จะจบมันด้วย

ลูซิเฟอร์กลับมาแล้ว และเขาอยู่กับไรอา นอกจากนี้ยังมีไอย์! วารันท์รู้ว่าเขาไม่สามารถผ่อนคลายได้

เขาจําเป็นต้องมีความคิดที่จะยุติมันทั้งหมด เนื่องจากการดํารงอยู่ของลูซิเฟอร์เป็นภัยคุกคามไม่เพียงต่อเขาเท่านั้นแต่ต่อโลกทั้งใบ

ไม่เพียงแต่หน่วยอัลฟ่าเท่านั้น เขายังนําทีมเบต้าและทีมอื่นๆ อีกด้วย เขาได้ทิ้งแวเรียนท์จํานวนเล็กน้อยที่อยู่เบื้องหลังเพื่อจัดการฐาน

เฮลิคอปเตอร์หลายสิบล่าบินขึ้นไปในอากาศจากลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่สร้างขึ้นบนสํานักงานใหญ่ของ APE ทั้งหมดมุ่งสู่เมืองเคนซิงตัน

ในเวลาเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์จํานวนมากบินจากฐานทัพแวเรียนท์เกิดใหม่กลางทะเลทรายโดยมีจุดหมายเดียวกันกับ APE

พวกเขายังเตรียมพร้อมสําหรับสงครามที่จะตัดสินอนาคตของประเทศนี้

ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทําคือเล่นอยู่ในมือของคนคนเดียวที่วางแผนไว้ทั้งหมด

“แล้วเธอพักที่ไหนในเมืองนี้” จู่ๆ ไรอาก็ถามลูซิเฟอร์

“ผมได้ยึดคฤหาสน์หลังหนึ่งหลังจากฆ่าทุกคนที่นั่น” ลูซิเฟอร์ตอบ “พวกคุณก็อยู่ที่นั่นได้เช่นกัน”

“นั่นเป็นข้อเสนอที่ดี แต่เราต้องการสถานที่มากกว่านี้ หากต้องการรองรับทุกคนที่มา” ไรอาพูดพลางลูบคาง

“เคลเลียน นายควรไปจัดที่เพียงพอสําหรับคนของเราที่จะมาถึงเร็วๆ นี้” เขาบอกเคลเลียน”นอกจากนี้ให้พลเมืองทั้งหมดออกจากเมือง”

“ทําให้พวกเขาออกจากเมืองทําไม” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ฉันไม่ต้องการให้พวกเขามาขัดจังหวะเราในภายหลัง ถึงแม้ว่าการฆ่าพวกมันจะเร็วกว่าแต่ก็เป็นการทําลายล้างในเมืองมากเกินไป ฉันไม่ต้องการให้วารันท์สงสัยเมื่อเขามา”ไรอาตอบเมื่อเตลเลียนจากไป

หลังจากใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในร้านกาแฟ ไรอาก็ออกจากสถานที่และตามลูซิเฟอร์เพื่อกลับไปที่คฤหาสน์เวลลิ่ง

สําหรับเคลเลี่ยนและคนอื่นๆ พวกเขาเริ่มบอกให้พลเมืองออกจากเมือง

พลเรือนส่วนใหญ่พร้อมแล้วที่จะออกไปและไม่ประท้วง สําหรับคนที่ต้องการอยู่ต่อแม้แต่พวกเขาก็ยังถูกข่มขู่หลังจากที่พวกเขาเห็นเคลเลียนฆ่าผู้คนต่อหน้าพวกเขา

ทุกคนเริ่มจัดกระเป๋าเพื่อออกเดินทาง ภายใน 1 วัน เมืองนี้จะต้องปราศจากผู้คน

“นี่คือคฤหาสน์ของเธอหรือ ไม่ใช่สถานที่ที่ไม่ดีที่จะเข้าครอบครอง เธอฆ่าเจ้าของด้วยหรือเปล่า” ไรอาถามในขณะที่เขาก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ขนาดใหญ่ของลูซิเฟอร์

“ฉันทําไม่ได้ ตอนที่ฉันมา เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นนักธุรกิจที่ไม่ค่อยมาที่นี่” ลูซิ เฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

เขานั่งบนโซฟาไรอาและคนอื่นๆ ก็นั่งลงเช่นกัน

“ฉันเดาว่าเขาคงโชคดี แล้วในคฤหาสน์นี้มีใครอีกนอกจากเราไหม” ไรอาถามต่อลูซิเฟอร์เพียงแค่ส่ายหัว

“มีแค่เรา คนอื่นตายหมดแล้ว” เขาตอบ

“ไม่มีแม่บ้านหรือคนดูแลเธอเหรอ?” ไรอาถามอย่างแปลกใจ

“พวกเรากินข้าวนอกบ้าน” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่ไรอาและลูซิเฟอร์คุยกัน คนอื่นๆกําลังนั่งลงพลางดูเบื่อหน่ายโดยเฉพาะอลิเซีย

เธอดูสงสัยเกี่ยวกับคฤหาสน์ที่สวยงามแห่งนี้มากกว่าบทสนทนาที่น่าเบื่อ..

ตอนที่ 289: โอเวอร์

เขาทําทั้งหมดนั้น ในขณะที่ยังคงรักษาเงาที่ทริสตันไล่ล่าอยู่เหมือนเดิมเพื่อกันเขาให้พ้นจากการต่อสู้ ยาลิซ่าก็ปรากฏตัวขึ้นบนหลังคา ตรงหน้าเรียอาริ ขณะที่เขาดันมือออกไปเพื่อแทงหน้าอกของเรียอาร์ ซึ่งจมอยู่ในการต่อสู้กับเคลเลี่ยน

“ไม่เร็วนัก” เสียงหนึ่งดังขึ้นทันทีที่ยาลิซ่าพบว่าข้อมือของเขาถูกใครบางคนคว้าไว้

อาร์เน่ปรากฏตัวขึ้นใกล้ ๆ คว้าข้อมือของยาลิซ่าร่างกายของเขาเปล่งประกายด้วยแสงลึกลับรวมถึงรอยสักแปลก ๆ ของเขาด้วย สําหรับกล้ามเนื้อของเขา มันเทอะทะแล้ว แต่พวกมันกลับ ใหญ่ขึ้นทําให้เขามีพละกําลังมหาศาล

อาร์เน่โยนยาลิซ่ากลับโดยไม่ใช้เวลาแม้แต่วินาทีเดียว

ยาลิซ่าลอยกลับ พลางกระแทกหน้าต่างของอาคารใกล้เคียง หน้าต่างแตกเมือยาลิซ่าล้มลงในอาคาร

ยาลิซ่าไม่ได้รับบาดเจ็บขณะที่เขายืนขึ้น พลางตบเสื้อผ้าสีดําที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นในตอนนี้

“นี่มันน่ารําคาญจริงๆ” เขาพึมพําขณะส่ายหัวเบาๆ

อาร์เน่ยังกระโดดไปข้างหน้า เข้าไปในอาคารผ่านหน้าต่างที่แตกสลาย เขาลงจอดที่ด้านหน้าของยาลิซ่า

เคลดลียนปรากฏตัวต่อหน้าเรียอาริ และพบว่าตัวเองถูกโจมตีโดยดาบเงาที่ปรากฏขึ้นจากพื้นดิน ดาบทั้งหมดเหล่านี้กาลังโจมตีเขา และแม้ว่าพวกมันจะทําจากเงา พวกมันก็สามารถฟันเขาออกเป็น 2 ส่วนได้

เคลเลี่ยนแทงดาบสีดําสนิทที่เขาถืออยู่บนพื้น ทําให้มีเกราะอีกอันปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา ซึ่งปกป้องเขาจากดาบ มันไม่ใช่การต่อสู้ของวอร์ล็อคแต่เป็นการต่อสู้ของ 2 ราชาแห่งเงา

อย่างไรก็ตาม คราวนี้เคลเลียนไม่ได้ใช้บาเรียป้องกัน เขาใช้บาเรียเป็นตัวเบี่ยงเบนแทน

ข้างหลังบาเรียนั้น เขากลายเป็นเงาไปแล้ว เขาปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเรียอาริ และฟันด้วยดาบสีดําสนิท โดยเล็งไปที่คอของเรียอาริ

เรียอาริดึงเคล็ดลับเดียวกัน แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหว เพื่อหลบการโจมตี ในขณะที่เคลเลียนใช้พลังของเงา เขารู้ว่าการฆ่าผู้ใช้เงานั้นยากเพียงใด

ขณะที่เขาโจมตีไปแล้ว เงาสีดํายังคงเดินหน้าต่อไป แม้ว่ามันจะพลาดเป้าไป ส่วนโค้งเงาดําดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังอันน่าทึ่ง เมื่อมันผ่าอาคารใกล้เคียงออกเป็นครึ่งๆ

ในทางกลับกัน เรียอาริก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในขณะที่เขาคว้าคอเคลเลียนไว้ มีดเงา ปรากฏขึ้นในมือของเขา ซึ่งเขาแทงเข้าที่หน้าอกของเคลเลียน

มีดแทงทะลุหน้าอกของเคลเลี่ยนตรงจุดที่หัวใจของเขาควรจะอยู่

น่าแปลกที่เคลเลียนไม่ได้ดูตกใจแม้แต่น้อยในขณะที่เขาถูกแทงเข้าที่หัวใจ แต่มีรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขาแทน

เรียอาริเตะเคลเลียนออกไปทําให้เขาล้มตึก

“มันเป็นร่างเงาโคลน ค่อนข้างสมจริง แต่ถ้าเขาเป็นของปลอม แล้วของจริงอยู่ที่ไหน” เรียอาริพึมพํา พลางขมวดคิวขณะมองไปรอบๆ

ไม่ว่าเขาจะพยายามค้นหาเท่าไร เขาก็ไม่รู้สึกถึงการปรากฏตัวของเคลเลียน

“อาร์เน่!” จู่ๆเขาก็อุทานออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

อาร์เน่ได้ปรากฏตัวต่อหน้ายาลิซ่าและทําให้ข้อนิ้วของเขาแตก

“ฉันได้ยินมาว่าคุณแข็งแกร่งแต่มันต้องเป็นข่าวลือเท่านั้นแน่นอน เท่าที่ฉันเห็นคุณอ่อนแอมาก” อาร์เน่ให้ความเห็น

ยาลิซ่ายิ้มขณะวางมือในกระเป๋าเสื้อ

“ฉันไม่เหมือนทริสตัน ฉันไม่สนใจการต่อสู้หรือศักดิ์ศรี ฉันแค่ทําตามแผน แต่ฉันหวังว่าจะได้ต่อสู้กับคุณอย่างอิสระสักครั้ง อื่มบางทีในชีวิตหน้าของคุณ” ยาลิซ่าพูดพลางส่ายหัว

อาร์เน่ขมวดคิ้วไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด น่าเสียดายที่เขาใช้เวลาไม่นานในการตระหนักว่าเกิด อะไรขึ้นดาบเข้ามาจากด้านหลัง เจาะหน้าอกของเขาตรงจุดที่หัวใจของเขาควรจะอยู่

“กะ-แก!” เขาพูดพร้อมกับกระอักเลือดออกมา

เขายังพูดไม่จบในขณะที่เขาล้มลงกับพื้นทันที เมื่อดึงดาบออกมา

“เราแค่ทําในสิ่งที่ต้องทําเพื่อยุติการต่อสู้นี้อย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดแล้ว พวกเรากําลังวิ่งเข้าหาเวลา” ยาลิซ่าแสดงความคิดเห็น ในขณะที่ถอนหายใจ

เคลเลียนยืนอยู่ใกล้ร่างของอาร์เน่ ซึ่งนอนตายอยู่บนเท้าของเขา

ดาบสีดําหลายร้อยเล่มออกมาจากพื้นดิน ยาลิซ่ากระโดดกลับอย่างรวดเร็วเพื่อหลบดาบ สำหรับเคลเลียน เขาเพียงแค่โบกมือเพื่อร่ายบาเรียเงาอีกครั้ง

“อาร์เน่!” เรียอารปรากฏตัวใกล้อาร์เน่ ขณะที่เขาตรวจสอบการหายใจของเขา น่าเสียดายที่เขามาสายเกินไป อาร์เน่ไม่หายใจแล้ว และมีรูที่หน้าอกของเขาในขณะที่เลือดไหลออกมาไม่หยุด

“นายมาสายเกินไป ไม่ต้องกังวล นายจะถูกส่งไปที่ที่เขาถูกส่งไปเช่นกัน จะใช้เวลาไม่นานเลย” เคลเลียนแสดงความคิดเห็นพลางยิ้ม

อัตราการต่อรองที่ดียิ่งขึ้น มันเป็นการต่อสู้แบบ 2 ต่อ 1 และพวกเขาไม่ต้องกังวลกับการแทรกแซงจากอาร์เน่หรือแม้แต่จากทริสตัน

ทริสตันยังคงติดตามเงา ซึ่งหายไปในทันใด

“นั่นอะไรน่ะ มันทําให้ฉันวิ่งไปรอบๆ จนไม่แม้แต่จะโจมตีเลยเหรอ?” เขาพึมพําพลางขมวดคิ้วเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตั้งใจฟังซ่านดูเหมือนว่า

“ไอ้สารเลวของ APE! นั่นเป็นสาเหตุที่ 2 คนนั้นไม่ตามฉันมา! พวกเขารู้ว่ามันเสียเวลา!” เขาตะโกนด้วยความหงุดหงิดขณะที่เขาเริ่มวิ่งกลับไป

เรียอาร์สังเกตใบหน้าของอาร์เน่ ซึ่งตาของเขาดูไม่มีชีวิตชีวาแต่ยังคงเปิดอยู่ เขาปิดตาของอาร์เน่อย่างระมัดระวังขณะที่เขายืนขึ้น

“นี่เป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงจริงๆ แกใช้ดาบของแกเพื่อฆ่าใครซักคน” เขาพูดขณะยืนขึ้น

“แม้ว่าฉันรู้ว่าแกเป็นคนไม่ดี แต่อย่างน้อยฉันก็เคารพแกในฐานะนักรบที่มีความเคารพในตัวเอง วันนี้ความเข้าใจผิดของฉันได้จบลงแล้ว แกเป็นแค่คนนอกรีต” เขาพูดต่อในขณะที่เสียงของ เขาหนักขึ้น

“ไม่ใช่ว่าฉันสนุกกับมัน แต่อย่างที่ฉันพูด ภารกิจของเราสําคัญกว่า” เคลเลียนให้ความเห็น

“ไม่เพียงแต่ภารกิจของแก แต่แม้แกเองก็จะตายในวันนี้” เรียอาริกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีดําสนิท เมื่อรัศมีแห่งความมืดที่น่าสยดสยองรายล้อมเขา ซึ่งน่ากลัวกว่าสิ่งที่เขาแสดงให้เห็นก่อนหน้า

“ลิมิตเบรกโอเวอร์ไดรฟ์งั้นหรือ? นายตัดสินใจเสียสละตัวเองจริงๆเหรอ?” เคลเลียนแสดงความคิดเห็น ในขณะที่ถอนหายใจ “ทั้งๆที่รู้ผล… ฉันว่าไม่เป็นไร ทําในสิ่งที่เหมาะสม”

“ยาลิซ่า!” เขาเรียก

“ฉันเข้าใจ!” ยาลิซ่าพูด ขณะที่หายตัวไป ออกจากอาคาร เขารู้ว่าการอยู่ในอาคารนั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

โอเวอร์ไดรฟ์เป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคคลสามารถทําลายขีดจํากัดของเขาและได้รับพลังที่สูงกว่าร่างกายของเขาควรจะสามารถครอบครองได้หลายเท่า

มันทําให้พวกเขามีพละกําลังที่คาดไม่ถึง ทําให้พวกเขาแข็งแกร่งอย่างปีศาจ แต่ก็มาพร้อมกับข้อเสียอย่างน่าเกรงกลัว..

ตอนที่ 287: ล่อไรอา

“ฉันไม่ไร้เดียงสาพอที่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่” ลูซิเฟอร์พูดยิ้ม “ฉันรู้ว่าทําไมคุณถึงต้องการตัวฉัน และคุณรู้ว่าทําไมฉันถึงต้องการคุณ”

“ทําไมฉันถึงต้องการเธอ” ไรอาถามอย่างขบขัน

“คุณต้องการให้ฉันฆ่าวารันท์ และช่วยให้คุณยึดครองประเทศ และฉันต้องการให้คุณช่วยฉันฆ่าวารันท์ และล้างแค้นให้เสร็จ” ลูซิเฟอร์กล่าวทันที

“เป้าหมายของเราทั้งสองตรงกัน ดังนั้นจะเสียเวลาทําไม คุณพร้อมแล้ว ฉันพร้อม ดวงดาวอยู่ในแนวเดียวกันคุณจึงคิดว่าถ้างั้นทําไมเราไม่เริ่มมันเลยล่ะ” เขากล่าวเสริม

“และเธอคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร” ไรอาถามเหมือนสนใจ

แม้ว่าเขาจะชอบโจมตีเมื่อพร้อมเต็มที่ แต่เขาก็ยังพบว่าข้อเสนอเหล่านั้นน่าสนใจ “ง่ายมาก คุณจะฆ่าคนของพวกเขา แต่ฉันแน่ใจว่าพวกเขาส่งข้อความเรื่องการปรากฏตัวของเราถึง APF แล้ว ดังนั้นวารันท์ก็จะมาถึงที่นี้ในอีก 2-3 วัน ในเวลาเดียวกันคุณนําทีมของคุณมาด้วย”

“มาทําให้มันเป็นสมรภูมิสุดท้ายกันเถอะ ฉันสงสัยว่าเขาคงจะคาดหวังให้เรายืนหยัดเป็นครั้งสุดท้ายที่นี่แทนที่จะวิ่งหนี”

“มันค่อนข้างง่าย ถ้าคุณคิดเรื่องต่างๆเกี่ยวกับมัน ให้สิ่งที่พวกเขาไม่คาดคิดกับพวกเขา ในกรณีใด ๆ เขาจะไม่นําทั้งทีมของเขามาที่นี่ เพราะพวกเขาต้องรักษาที่อื่นให้ปลอดภัย ในทางกลับกัน คุณพาทุกคนมาได้ จากกลุ่มของคุณ”

“แทนที่จะหลีกเลี่ยงการต่อสู้จนกว่าคุณจะแน่ใจว่าจะทํามันสําเร็จได้ในตอนนี้! เว้นแต่คุณจะกลัววารันท์ ในกรณีนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง”

ขณะที่ลูซิเฟอร์พูดถึงสิ่งที่เขาต้องการ ไรอาก็รู้สึกขบขัน เขาต้องการให้คนของพวกเขาออกไปทั้งหมด?

เมื่อได้ยินแผนการของลูซิเฟอร์ ไรอาก็จมอยู่ในความคิดลึกๆ ฉันเดาว่าฉันเข้าใจว่าทําไม เขาเชื่อว่าวารันท์ฆ่าพ่อแม่ของเขา เด็กคนนี้เป็นเด็กอารมณ์ดีจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ความคิดจะไม่ดีเช่นกัน

“แม้ว่าคนของเราจํานวนมากอาจตายถ้าเราตัดสินใจที่จะทาสงครามครั้งนี้โดยไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเช่นกัน การน่า APF ออกมาในจังหวะเดียวจะคุ้มค่า

“แล้วคุณพูดอะไร คุณสามารถเข้าร่วมกับฉันในการพาวารันท์ออกมาหรือรอโอกาสที่อาจไม่มีวันมาถึง” ลูซิเฟอร์บอก ไรอา ขณะที่เขานั่งผ่อนคลาย

ไรอาไม่ได้พูดอะไรและเพียงแค่ยิ้มเยาะ

เขาเหลือบมองเวก้า ขณะที่เขาถามว่า “นายคิดอย่างไร”

“คนของเราไม่พร้อม หลายคนไม่มีอุปกรณ์ต่อสู้ที่ทําจากอนุภาคคาร์ดิแกน ฉันไม่คิดว่าเราจะทําสงครามได้ในเวลานี้โดยไม่สูญเสียอะไรมากนักได้ การรอจะดีกว่า อย่างน้อยก็จนกว่าทุกคนจ พร้อม” เวก้าตอบ

“จริงสิ การสูญเสียชีวิตในองค์กรจะสูง ยิ่งกว่านั้นเราจะต้องยุติการต่อสู้อย่างรวดเร็ว หากยึดเยื้อนาน เซสและองค์กรฮันเตอร์จะมาช่วยวารันท์” ไรอากล่าวพลางลูบคาง

“ทําไมต้องกังวลเกี่ยวกับองค์กรฮันเตอร์ด้วย เรา 2 คนร่วมมือกัน เพียงแค่นั้น วารันท์จะไม่มีโอกาสรอดชีวิตได้อีกนาน ก่อนที่เซสจะมาที่นี่ เราจะจัดการ APF ให้เสร็จ” ลูซิเฟอร์ตอบ พลางเกลี้ยกล่อมไรอา

“และถ้าเซสยังคงตัดสินใจที่จะมาหลังจากนั้น เราก็สามารถพาพวกเขาออกไปได้เช่นกัน จากนั้นมีเพียงรัฐบาลเท่านั้นที่ขวางทางคุณ ซึ่งเราสามารถออกไปได้ทุกเมื่อที่เราต้องการ” เขากล่าวเพิ่มเติม

“ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ คุณจะกลายเป็นผู้ปกครองประเทศนี้ กฎของแวเรียนท์เกิดใหม่จะกลายเป็นจริง ตอนนี้ฉันปล่อยให้การตัดสินใจที่เหลือเป็นหน้าที่ของคุณ” เขากล่าวต่อ แม้กระทั่งนําความปรารถนาอันลึกซึ้งของไรอามาสู่โต๊ะอาหาร

“คุณต้องการนํากฎของแวเรียนท์เกิดใหม่ต่าง ๆ มาใช้จริง ๆ หรือไม่ หากคุณทํา คุณจะไม่พิจารณาถึงความสูญเสีย” ลูซิเฟอร์กล่าวในที่สุด และถ้าคุณไม่ต้องการให้กฎของแวเรียนท์เกิดใหม่แย่ขนาดนั้น คุณไม่คู่ควรที่จะเป็นผู้นําของเรา”

ขณะที่ลูซิเฟอร์ยิงจุดคมจํานวนมากในคราวเดียว แม้แต่ไรอาก็พบว่ามันยาก

ลูซิเฟอร์พูดถูก หากแผนนี้ได้ผล พวกเขาสามารถเอาชนะประเทศนี้ได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ รัฐบาลมนุษย์จะล้มลง

แล้วถ้ามนุษย์เกลียดพวกเขา หลังจากนั้นล่ะ? พวกเขาสามารถใช้ความกลัวควบคุมคนเหล่านั้นได้ ความปรารถนาของเขาจะกลายเป็นจริง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขาตอนนี้

ลซิเฟอร์ไม่ได้พูดอะไรอีก ในขณะที่เขาชีประเด็นไปแล้ว และเขาเห็นแล้วว่าเขามีไรอาอยู่ในมือ

เขาไม่เชื่อว่าไรอาจะปฏิเสธในตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา

“นายคิดผิด! ลุงไรอาไม่สนใจกฎของแวเรียนท์เกิดใหม่อะไรนั่นมากกว่าชีวิตและความปลอดภัยของแวเรียนท์ของเรา! สิ่งที่นายต้องการคือการให้เราส่งเฉพาะแวเรียนท์ที่ภักดีของเราหลายพันคนไปสู่ความตายเท่านั้น” อลิเซียกระโดดเข้ามาระหว่างบทสนทนาอีกครั้ง

“ทําการใหญ่ก็ต้องมีการเสียสละ จริงไหม? ลูซิเฟอร์ถามไรอาโดยไม่สนใจอลเซีย “ไม่ใช่ว่าเขาต้องการจะปกครองประเทศ ด้วยความไม่แน่นอน เพียงเพราะสิ่งนี้จะปกป้องแวเรียนท์มากมายในอนาคตจากความโหดร้ายของมนุษย์ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?”

“ใช่แล้ว อลิเซีย ลูซิเฟอร์ไม่ได้โกหก ฉันคิดว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุด” ไรอากล่าวทิ้งท้าย พร้อมเห็นด้วยกับแผนดังกล่าว

เขาต้องการจะปกครองดังที่ลูซิเฟอร์กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ แต่เขากําลังจะใช้ข้ออ้างที่ลูซิเฟอร์มอบให้เขา

“ยิ่งล่าช้ายิ่งมีเป็นแวเรียนท์ที่จะประสบกับอันตราย เราอาจสูญเสียคนจํานวนมาก แต่นั่นเป็น เพื่อความปลอดภัยในอนาคตของพวกเขาทั้งหมด เราอาจสูญเสีย แวเรียนท์นับพัน แต่เราจะช่วยได้หลายแสนคนในอนาคต” เขากล่าวเสริม

“แม่ใจของฉันจะหนักอึ้ง ในขณะที่ฉันตัดสินใจที่ยากลําบากนี้ แต่นี่เป็นความจําเป็น เธอจะสนับสนุนเราไหม” เขาถามอลิเซีย

อลิเซียตกตะลึง เมื่อได้ยินว่าไรอาเห็นด้วยกับแผน แต่เธอก็รู้สึกแย่สําหรับเขา เขาต้องตัดสินใจเรื่องยากๆเช่นนี้

เธอเชื่อว่าเขาต้องอกหักเมื่อคิดถึงการเสียสละมากมายจนเขามองว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยไม่รู้ว่าเธอคิดผิดแล้ว

“อ๋อ แน่นอน ลุงไรอา! ฉันจะสนับสนุนคุณเสมอ! ฉันคิดไม่ออกเลยว่าคุณต้องผ่านอะไรมาบ้าง จึงจะตัดสินใจได้ยากมาก ฉันจะช่วยให้คุณสุดความสามารถของฉันในการสิ้นสุดสงครามอย่างรวดเร็ว” อลิเซียกล่าวสนับสนุนการตัดสินใจของไรอา

“เวก้า นายรู้ว่าต้องทําอย่างไรใช่ไหม” ไรอาถามเปลี่ยนความสนใจไปที่เวก้าที่กําลังลุกขึ้นยืน

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วติดต่อใครซักคนในขณะที่เขาเดินออกไปไกลๆ

ในคาเฟ เกิดความเงียบขึ้นโดยไม่มีใครพูดอะไร ไรอาครุ่นคิดอย่างหนักในขณะที่เขาวางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากคนของเขาให้ดีที่สุดในสงคราม

สําหรับอลิเซีย เธอยังมุ่งมั่นที่จะช่วยไรอาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอกําลังจะทําทุกอย่างที่เขาต้องการ

ตอนที่ 286: เขากลับมา

ไม่มีอะไรที่อลิเซียจะพูดอีกต่อไป

เขาเปลี่ยนความสนใจไปที่ไรอา ในขณะที่เขาพูดต่อ “เธอต้องการแสดงความจริงจังของเธอต่อสาเหตุของฉัน ถึงเวลาแล้ว” ไรอาอารมณ์เสียกับการแสดงของลูซิเฟอร์ สิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริงหมายถึงการวาดภาพตัวเองให้เป็นคนเลวอีกครั้ง

หลังจากทํางานหนักทั้งหมดที่พวกเขาทําเพื่อให้ชื่อเสียงในที่สาธารณะแข็งแกร่งขึ้น

ในท้ายที่สุด ลูซิเฟอร์มีความสําคัญมากกว่า เขาก็เลยยอมแพ้” เราจะช่วยเธอ“ไรอาพูดขณะนั่งเช่นกัน”เคลเลียน พายาลิซ่ากับทริสตันไปด้วย เอาศพของ 2 คนนั้นมาให้ฉัน”

“เข้าใจแล้ว” เคลเลียนพูดพลางตกลงทันที

“ในที่สุด ก็ได้ลงมือบ้าง” ทริสตันพูดพร้อมยิ้ม เขาลุกขึ้นและออกจากร้านกาแฟกับเคลเลียนและยาลิซ่า

เรียอาริและอาร์เน่ กําลังเดินจากไป พลางขมวดคิ้ว พวกเขารู้ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพายุ และมันก็เป็นการเปิดเผยที่น่าตกใจ คนที่พวกเขาฆ่าในอดีตกลับมาอีกครั้ง ทุกคนโตแล้ว เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องแจ้งวารันท์ทันที

ทันทีที่เขาออกจากร้านกาแฟ เขาโทรหาวารันท์

“ใช่ เรียอารี นายได้อะไรมาบ้าง” วารันท์ถาม ขณะรับสาย

“เราพบอะไรหลายอย่าง คนที่โจมตีทีมเบต้าของเรา คนๆนั้นก็อยู่ที่นี่ด้วย นอกจากนี้ไรอาและทีมของเขาก็อยู่ที่นี่เช่นกัน ดูเหมือนว่าทั้งสองฝ่ายจะทํางานร่วมกัน” เรียอารอธิบายอย่างจริงจัง “นอกจากนี้ คนที่โจมตีทีมเบต้าของเรายังเป็นคนที่เราทั้งคู่รู้จัก มันเป็นข่าวร้ายจริงๆ” เขากล่าวเสริม

“เราทั้งคู่รู้จักงั้นเหรอ? นั่นมันคือใคร” วารันท์ถาม ขณะยืนขึ้น

“ลูซิเฟอร์… ลูกชายของเซลกลับมาแล้ว! และเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ฉันเห็นนักดาบอยู่กับเขาด้วย เขาควรจะเป็นคนที่ฆ่าคนของเรา” เรียอาริอธิบาย

“เอาล่ะ นายทั้งสองอยู่ห่างจากการต่อสู้เข้าไว้ ฉันจะไปที่นั่นกับคนอื่น แค่จับตาดูพวกเขา” วารันท์บอกเรียอาริ ขณะที่เขาตัดการเชื่อมต่อสาย

“จับตาดูพวกเขาไว้ พูดง่ายกว่าทําโดยไม่มีการสํารองข้อมูล” เรียอารแสดงความคิดเห็น ขณะเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

เขาหยุดขณะที่เหลือบมองกลับไปที่ร้านกาแฟ ช่วงเวลานั้นเองที่เคลเลียนและคนอื่นๆ ก้าวออกมา

“พระเจ้า ฉันคิดถึงเก็นซี่ เขาควรจะสมบูรณ์แบบในการจับตาดูคนพวกนั้น ในขณะที่อยู่ห่างจากพวกมัน ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนว่าพวกมันไม่ต้องการปล่อยเราไป พวกเขาส่งคนพวกนั้นทั้ง 3 คนมาโจมตีเรา” เรียอาริพูดเบา ๆ ขณะที่เขาถอนหายใจ

“เราควรรู้ไหม?” อาร์เน่ถามพร้อมขมวดคิ้ว “เราไม่สามารถ ทําพร้อมกันทุกอย่างได้ นายทิ้งฉันไว้ ฉันจะรั้งพวกนั้นไว้ที่นี่ เงาของฉันสามารถช่วยฉันได้ในภายหลัง นายจะมีเวลามากขึ้น นายไม่จําเป็นต้องอยู่ที่นี่ ไปที่เฮลิคอปเตอร์แล้วออกไป” เรียอาริสั่งอาร์เน่

“ปล่อยให้นายสู้กับคนพวกนั้นด้วยตัวคนเดียวงั้นหรือ? ไม่มีทาง บ้าไปแล้ว! หากนายกําลังต่อสู้กับพวกเขา ฉันก็จะอยู่ด้วย ฉันจะไม่วิ่งอย่างคนขี้ขลาด!” อาร์เน่ออกความเห็นขณะไม่ยอมวิ่ง

“อย่าขัดคําสั่งของฉัน! วิ่งไป! สิ่งสําคัญกว่านั่นคือการที่เราจะช่วยคนให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทําได้ ยิ่งกว่านั้น ถ้านายสิ หลายคนอาจตาย!” เรียอาริให้ความเห็น “ฉันหลบได้เรื่อยๆ จนกว่าจะถึงเวลาหนี้”

“ฉันไม่ฟัง ถ้านายจะอยู่ ฉันก็อยู่ด้วย” อาร์เน่พูดอย่างหนักแน่น

“ก็ได้! เหมาะกับตัวนายดี ดูเหมือนว่าเราจะต้องทุ่มสุดตัวที่นี่จริงๆ ให้เอาทั้งสามคนออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ ในกรณีนั้นไรอาไม่ได้มาเป็นการส่วนตัว ดังนั้นมันน่าจะง่ายกว่านี้ ใช้ประโยชน์จากความเย่อหยิ่งของเขา” เรียอาริพูด ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนตะโกนสุดกําลังว่า “พลเมืองเคนซิงตัน! เรามาจาก APF! จะมีการต่อสู้กับอาชญากรที่นี่! ถ้าไม่อยากโดนลูกหลง ให้วิ่งไปให้ไกลที่สุดจากที่นี่!”

ขณะที่เสียงกรีดร้องของเรียอาริดังไกลออกไป หลายคนได้ยินเขา แทนที่จะสงสัย พวกเขากลับตั้งใจฟัง และเมื่อนั้นเองที่พวกเขาเริ่มวิ่งออกไป

เคลเลียนไม่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน อย่างที่เขาชอบ นี่เป็นผลดีที่สุดที่พวกเขาสามารถต่อสู้ได้อย่างอิสระ

ลูซิเฟอร์กําลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟ มองออกไปข้างนอก เขาสามารถเห็นประชาชนวิ่งหนี ดูเหมือนว่าการต่อสู้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เขาคิด

ไรอาไม่ได้พูดอะไร ในขณะที่เขายังคงนั่งสงบรอการกลับมาของเคลเลียน

เจ้าของร้านคาเฟยังสังเกตเห็นผู้คนกําลังวิ่งออกไปข้างนอก เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เขาตัดสินใจที่จะตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้น

เขาเปิดประตู ขณะที่หยุดคนที่กําลังวิ่งคนหนึ่งและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”

“APF มาแล้ว! พวกเขากําลังจะบอกว่าจะมีการต่อสู้ในพื้นที่นี้!” ชายคนนั้นตอบก่อนจะวิ่งต่อไปอีก

เจ้าของร้านกาแฟมองไปทางที่เรียอาริยืนอยู่ เขาเห็นชาย 3 คนกําลังเดินเข้ามาหาพวกเขา

3 คนนั้นเคยอยู่ในร้านกาแฟไม่ใช่เหรอ เขาคิดพลางขมวดคิ้ว พวกเขาคืออาชญากรแวเรียนท์งั้นหรือ?

เขาหันกลับไปมองภายในร้านกาแฟของเขา เพื่อหาคนที่มากับพวกเขานั่งอยู่ข้างใน เขาเริ่มเหงื่อออก

เขาเช็ดเหงื่อ พลางเดินกลับและแสร้งทําเป็นว่าไม่มีอะไรใหญ่โต ดูเหมือนว่าคนเหล่านี้ไม่ได้มาที่นี่เพื่อทําลายร้านของเขาหรือฆ่าคน

พวกเขาไม่ได้ฆ่ามนุษย์ด้วย เขาเชื่อว่ามันเป็นความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับ APF เขาไม่จำเป็นต้องทําให้คนพวกนั้นขุ่นเคือง “ฉันขอกาแฟอีกแก้วได้ไหม” ไรอาถามชายคนนั้น

“เดี๋ยวสิ” ชายคนนั้นพูดขณะไปทํางาน

เมื่อเห็นความโกลาหลข้างนอก ลูกค้าคนอื่นๆ ของร้านก็วิ่งออกไปด้วย เวราซิตี้ก็อยู่ท่ามกลางฝูงชน ซึ่งเธอจากไปโดยใช้โอกาสนี้ งานของเธอที่นี่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ดังนั้น ลูซิเฟอร์ ฉันสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ตั้งแต่ฉันมาที่นี่ เธอมักจะอ้อมค้อมและยืดเยื้อเวลาที่เรากําลังจะออกไป” ไรอาเริ่มพูดขณะเสิร์ฟกาแฟ

“ก่อนอื่น เธอบอกให้นั่งดื่มกาแฟ จากนั้นแนะนําตัว เธอบอกว่าฉันต้องตอบก่อนที่เราจะจากไป จากนั้นคนเหล่านั้นก็ปรากฏตัวขึ้น” เขาพูดขณะหยิบถ้วยกาแฟขึ้นมาจิบ

“เวลาดูช่างบังเอิญเหลือเกิน เธอช่วยพูดให้แน่ใจได้ไหมว่าเธอจะมากับเรา หลังจากที่เราฆ่า 2 คนนั้นให้” เขาถาม

“ฉันไม่ไป” ลูซิเฟอร์ตอบทันที

“แล้วทําไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ” ไรอาถามพลางขมวดคิ้ว

“เพราะฉันไม่อยากรอช้า ฉันอยากให้วารันท์ตายโดยเร็วที่สุด” ลูซิเฟอร์ตอบ “การกลับไป การกลับมา และทุกๆ อย่างในระหว่างนั้นเป็นการเสียเวลา เมื่อเรามีทุกสิ่งที่จําเป็นในการฆ่าวารันท์แล้ว” เขากล่าวต่อ

“เอ๊ะ มันคืออะไรเหรอ เธอคิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ บอกฉันสิว่าจริงๆ แล้วเธอต้องการอะไรจากเรา” ไรอาพูดพร้อมขมวดคิ้ว..

ตอนที่ 285: การทรยศของราชาวอร์ล็อค

คราวนี้ไม่มีการแตะช้อน ซึ่งทําให้ลูซิเฟอร์ตกตะลึง แสดงว่าเขาพูดจริง วารันท์มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?

“แล้วเซสล่ะ เขามีส่วนร่วมด้วยไหม” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันเชื่อว่าเขาก็เหมือนกัน” ไรอาตอบ

ไม่มีการแตะใดๆที่ทําให้ลูซิเฟอร์สับสนมากขึ้นไปอีก

“แปลกมาก ฉันได้ยินข่าวลือว่าราชาวอร์ล็อคทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่ของฉันนี่มันเรื่องโกหกนั้นหรือ?” เขาถามราวกับว่าเขาประหลาดใจและกําลังหลอกล่อไรอา

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม้แต่ไรอาก็ดูประหลาดใจ แต่เขาพยักหน้าทันที “ถูกต้องมันไร้สาระมาก มันจะเป็นเรื่องจริงได้อย่างไร มันต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ๆ”

ในที่สุดเสียงเคาะแก้วก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง แม้แต่เวราซิตี้ก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าเธอช็อกมากที่สุดในชีวิตขณะที่เธอเคาะช้อนเบาๆ

การเปิดเผยนี้น่าตกใจเกินไปราชาวอร์ล็อคทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการตายของเซลและแคลร์ส?

มันจะเป็นจริงได้อย่างไร? ทําไมพวกเขาถึงฆ่าเขา? ทําไมพวกเขาถึงทํางานร่วมกันโดยเฉพาะไรอาและวารันท์? มันน่าประหลาดใจเกินไปสําหรับเธอ

แม้แต่เธอก็ยังสงสัยว่าหูของเธอกําลังโกหกเธออยู่หรือเปล่า

สําหรับลูซิเฟอร์ เขารู้สึกแตกสลายจากภายในมากยิ่งขึ้น 4 ราชาวอร์ล็อค ที่ทํางานร่วมกันเพื่อช่วยโลก… ทั้ง 3 คนหันหลังให้พ่อแม่ของเขาเพื่อฆ่าพวกเขา?

“ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือนี้ แต่ฉันได้ยินมาว่าไม่เพียงแต่ ราชาวอร์ล็อค เท่านั้นแต่ยังมีรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับแผนนี้ด้วย” ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมขมวดคิ้ว

“สิ่งที่เธอได้ยินเป็นเรื่องโกหก ฉันแน่ใจ อาจเป็นเรื่องจริงที่รัฐบาลทํางานร่วมกับพวกเขา แต่ฉันไม่เกี่ยวข้อง แม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงก็ตาม” ไรอาอธิบาย

“กาแฟเข้มอีก 1 แก้ว!” แวราซิตี้สั่งพร้อมกัน เพื่อส่งสัญญาณว่าเขากําลังโกหก

เมื่อมาถึงจุดนี้ ลูซิเฟอร์ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ เขาต้องการจะปล่อยและหักคอของไรอาที่นี่และตอนนี้ เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่ของเขา

แม้แต่สัญลักษณ์ที่อยู่บนหลังของเขาก็เริ่มส่องแสง เมื่อหัวใจเต้นเร็วขึ้น

เขากําหมัดแน่นจนมองเห็นแม้กระทั่งประสาทของเขา โชคดีที่เขาสวมเสื้อเต็มแขนจึงไม่มีใครเห็น

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาควบคุมตัวเอง

“อย่างที่คาดไว้ นี่เป็นเรื่องโกหก ฉันเข้าใจแล้ว ทําไมถึงทําร้ายพ่อของฉันล่ะ นั่นเป็นความคิดของวารันท์งั้นหรือ” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม

แคสเซียสนั่งอยู่ข้างๆ ลูซิเฟอร์ มองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สัญญาณทั้งหมดด้วย แต่เขาไม่ปล่อยให้มันปรากฏบนใบหน้าของเขา เขาเก็บหน้าโจ๊กเกอร์ไว้

“ใช่แล้ว วารันท์ ต้องเป็นคนนั้นเพียงคนเดียวนั่นแหละ เราเลยต้องถอด APF ออก เมื่อคุณกลับไป เราก็เริ่มดําเนินการได้เลยไปกันเลยไหม?” ไรอาถาม

“ใช่ เราจะไป” ลูซิเฟอร์พูดเมื่อสังเกตเห็นเวลาผ่านประตูกระจก เขายังเห็นเรียอาริและอาร์เน่ที่กําลังมาถึงแล้วลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืน แต่เขาทําท่าประหลาดใจ เมื่อสังเกตเห็นเรียอาริและอาร์เน่ก้าวเข้าไปข้างใน

ไรอาสังเกตเห็นความประหลาดใจของลูซิเฟอร์และหันกลับไปหาทั้งสองคนเช่นกัน

“แปลกจัง พวกเขาหาเราเจอได้ยังไง” ไรอาพึมพํา พลางขมวดคิ้ว

อาร์เน่และเรียอาริก็สังเกตเห็นไรอาและคนอื่นๆ เช่นกัน เป็นเรื่องน่าตกใจสําหรับพวกเขาที่พบไรอาที่นี่พร้อมกับสิ่งที่ดีที่สุดในทีมของเขา

นอกจากนี้เขายังสังเกตเห็นเด็ก 2 คนกับกลุ่มของพวกเขา ซึ่งหนึ่งในนั้นถือดาบ

“ใช่แล้ว! คนที่ตามมาคือคนที่ฆ่าคนของเรา! เขาเป็นนักดาบด้วยเหรอ?

“คนเหล่านั้นเป็นคนที่สามารถดึงไรอาออกมาเป็นครั้งสุดท้ายเช่นกัน เป็นไปได้ไหม ว่าพวกเขาเหมือนกัน นั่นอาจเป็นเหตุผลเดียวที่ไรอาอยู่ที่นี่กับทีมของเขา!”

เรียอาร์เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขาตระหนักว่า มีโอกาสสูงที่แคสเซียสจะเป็นคนที่โจมที่ทีมเบต้าของพวกเขา แต่ความสนใจของเขาก็ไปที่ลูซิเฟอร์

เขาเชื่อว่าเด็กชายคนนั้นดูคุ้นเคย แต่ตอนนี้เขารู้ว่าใครคือเด็กคนนี้

“สายฟ้าสีดํา! ผมสีเงิน! เชื่อมโยงกับ แวเรียนท์เกิดใหม่สูงขึ้น เกลียด APF! แกคือลูซิเฟอร์!” เขาอุทานด้วยความประหลาดใจ

“อ๊ะ แกจําฉันได้ น่าแปลกใจ ฉันไม่คิดว่าแกจะจําฉันได้ง่ายขนาดนี้” ลูซิเฟอร์พูดออกมาโดยไม่พยายามปกปิดตัวตนของเขาเรียอารีรู้ว่าเขาต้องการจะทําอะไรบางอย่างที่นี่ แต่เขาจะทําอะไรได้ ไรอาอยู่กับลูซิเฟอร์อยู่ที่นั่น เคลเลี่ยน ยาลิซ่าทริสตัน และนักดาบปริศนาคนนั้น

ในทางกลับกัน พวกเขามีเพียง 2 คนเท่านั้น พวกเขาทําอะไรที่นี่ไม่ได้ และถึงแม้จะพยายามสิ่งเดียวที่ทําได้คือทําให้ชีวิตของพลเรือนผู้บริสุทธิ์ตกอยู่ในอันตราย

“จากใบหน้าของแก ดูเหมือนว่าแก 2 คนจะไม่รู้จริงๆ ว่าเราอยู่ที่นี่ ฉันคิดว่าแกกําลังติดตามเรามา แต่ฉันเดาว่าฉันคิดผิด ฉันคิดว่าวารันท์ ไม่ได้อยู่กับแกด้วยหรอกเหรอ?” ไรอาถามเรียอาริ

“อาร์เน่ และเรากําลังจะไปเดี๋ยวนี้” เรียอาริบอกอาร์เน่ เมื่อเขาหันหลังจะจากไป เขาไม่อยากต่อสู้ที่นี่ เมื่อไม่มีโอกาสประสบความสําเร็จ

อาร์เน่และเรียอารหันหลังกลับและเริ่มออกเดินทาง

“พวกเราก็ควรไปเหมือนกัน” ไรอาบอกกับลูซิเฟอร์ โดยไม่สนใจอาร์เน่ และเรียอาริเลย พวกเขาไม่จําเป็นต้องทําอะไรในตอนนี้เพราะมีคนอยู่มาก

“ไม่ 2 คนนี้สนิทกับวารันท์มากที่สุด เนื่องจากเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อฉัน พวกเขาก็ต้องตายเช่นกัน ฉันต้องการให้พวกเขาตาย” ลูซิเฟอร์บอกไรอา “คุณปล่อยให้พวกเขาไปไม่ได้

“มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ฉันสัญญาว่าฉันจะทําให้แน่ใจในภายหลังว่าพวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานไม่ใช่ตอนนี้” ไรอาพูดเพื่อพยายามทําให้ลูซิเฟอร์เข้าใจ

ลูซิเฟอร์ไม่ยอมขยับเขยื้อน “ถ้าคุณสามารถช่วยฉันในการแก้แค้นได้จริงๆ ฉันก็จะไปกับคุณมิฉะนั้นก็ออกไปได้แล้ว” เขานั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้ง

“อ๊ะ” ไรอาเริ่มรําคาญกับความเกรี้ยวกราด แต่เขาไม่สะบัดสะโบกเขาสงบสติอารมณ์

“ได้โปรดอย่าดื้อดึง เราไม่สามารถทําอย่างนั้นได้ในขณะนี้ พยายามเข้าใจเราด้วย” เขากล่าว

“ไม่จําเป็น หากคุณไม่สามารถช่วยฉันดูแลลูกน้อง 2 คนของวารันท์ได้ ไม่มีทางที่คุณสามารถช่วยฉันในการแก้แค้น คุณออกไปได้ เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกอดอก

“เจ้าหนู! คุยกับลุงไรอาแบบนั้นได้ยังไง? นายบ้าไปแล้วเหรอ? เขาไม่สามารถเป็นเด็กเหมือนนายได้! เขาต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่างในการตัดสินใจหยุดทําตัวเป็นเด็กได้แล้ว!” ในที่สุดก็มีใครบางคนสะกิดกลอุบายของลูซิเฟอร์ แต่ก็ไม่ใช่ไรอาหรือใครอื่นแต่กลับเป็นอลิเซียที่ดลูซิเฟอร์ว่าดื้อรั้น

“ฉันขอแนะนําว่าอย่าพูดด้วยน้ําเสียงแบบนั้น แม้จะเป็นเรื่องยากสําหรับเธอที่จะเชื่อ ฉันไม่ใช่คนใช้ของเธอ” ลูซิเฟอร์เตือนอลิเซียอย่างใจเย็นว่าเธอไม่สามารถควบคุมเขาได้..

ตอนที่ 284: ความจริง

ทริสตันยังคงมองไปที่แคสเซียส ขณะที่เลียริมฝีปากของเขา เขาตื่นเต้นมากเมื่อสังเกตเห็นดาบของแคสเซียส มันง่ายที่จะเดาว่าแคสเซียสเป็นเพื่อนนักดาบของลูซิเฟอร์ที่เขาสนใจ

“ทริสตัน นั่งด้วย” เคลเลียนแตะไหล่ของทริสตันก่อนจะดึงเขาไปที่โต๊ะใกล้ๆซึ่งอยู่ข้างๆโต๊ะปัจจุบันทริสตันพยักหน้าขณะที่เขาเดินตามเคลเลี่ยนและยาลิซ่าขณะนั่งลงอลิเซียยังนั่งกับทั้งสามคนอีกด้วย

ในทางกลับกัน ลูซิเฟอร์รู้สึกประหลาดใจ เมื่อสังเกตเห็นอลเซีย หญิงสาวคนนั้นมาพร้อมกับสมาชิกระดับสูงของแวเรียนท์เกิดใหม่ ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเธอมีความสําคัญอย่างมากในองค์กรเช่นกัน

แต่เขาจําไม่ได้ว่าเคยเห็นเธอมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นมีบางอย่างเกี่ยวกับหญิงสาวที่เขาพบว่าแตกต่างออกไป เขาสงสัยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร

แคสเซียส ยังจดจ่ออยู่กับทริสตันโดยสังเกตเห็นคาตานะ ในมือของเขา เห็นได้ชัดว่าทริสตันเป็นนักดาบและแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด

“ฉันเป็นอย่างไรบ้างงั้นหรือ? ฉันคิดว่าฉันไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะฉันยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็นกับคําถามของไรอา

“ก็ดี นั่นแหละที่สําคัญ” ไรอาพูดยิ้มๆ ประตูคาเฟเปิดออกเมื่อหญิงสาวผมแดงก้าวเข้ามาเธอเดินไปทางลูซิเฟอร์และนั่งลงบนโต๊ะข้างหลังเขาโดยหันหลังให้พวกมัน

“กาแฟดําสําหรับฉันที่นึง!” ผู้หญิงคนนั้นสั่ง

“เอ่อ เวก่าที่นี่เสียงดังไปหน่อย ช่วยเคลียร์หน่อยได้ไหม?”ไรอาถามเวก้าพลางขมวดคิ้วตอนแรกเขาไม่ได้กังวลกับการทําให้ที่นี่ว่างเปล่าแต่ตอนนี้เขาพบว่ามีเสียงดังเขาจึงตัดสินใจทําให้แน่ใจว่าคาเฟมีเพียงพวกเขาเท่านั้นและไม่มีลูกค้ารายอื่น

“ไม่เป็นไร ปล่อยให้พวกเขาอยู่ต่อเถอะเสียงเล็กๆน้อยๆไม่อาจเลวร้ายไปกว่าเวลาและความพยายามที่จะทําให้คนจากไปอย่างสูญเปล่าฉันไม่ชอบความวุ่นวายนั้น”ลูซิเฟอร์พูดแทรกและหยุดเวก้าเวก้าเหลือบมองไรอาพลางสงสัยว่าเขาควรทําอย่างไรทั้งสองฝ่ายต่างต้องการสิ่งที่แตกต่างกัน

“ถ้านั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ ให้คนอื่นอยู่ต่อ” ไรอาเห็นด้วยและหยุดเวก้า ซึ่งเขาได้นั่งลงอีกครั้ง

“ดังนั้น ลูซิเฟอร์ ฉันได้ยินมาว่าคุณต้องการให้ฉันพาคุณกลับไป ฉันอยู่นี่แล้วอย่างที่เราพูดไปก่อนหน้านี้คุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราและเราจะไม่ทิ้งคุณไว้ข้างหลังดังนั้นเราจะกลับ ไปบ้านกันใช่ไหม?” ไรอาถามลูซิเฟอร์ตรงประเด็น

“ไม่ต้องรีบหรอก คุณเพิ่งมาที่นี่ ทําไมไม่สั่งอะไรก่อน”ลูซิเฟอร์ถามโดยไม่รีบ“ยังไงก็ตามฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกันดังนั้นมันต้องใช้เวลา”

ไรอาลูบคาง อยากรู้ว่าลูซิเฟอร์ต้องการจะพูดอะไร แต่เขาพยักหน้าเขาสั่งกาแฟให้ตัวเองและคนอื่นด้วย

กาแฟถูกเสิร์ฟครั้งแรกให้กับเวราซิตี้ ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังลูซิเฟอร์ โดยปลอมตัว หลังจากเธอไรอาและคนอื่น ๆ ก็ถูกเสิร์ฟ

“คุณไม่ดื่มเหรอ?” ไรอาถามลูซิเฟอร์

“ฉันดื่มก่อนคุณมา” ลูซิเฟอร์ตอบ “อีกอย่าง ฉันอยากรู้จริงๆ ผู้หญิงข้างหลังคุณเป็นใคร”

“เธอเหรอ อลิเซีย มานี่สิ” ไรอาเรียกหญิงสาว หญิงสาวลุกขึ้นยืนต่อหน้าไรอา

“ให้ฉันแนะนําคุณ 2 คนให้รู้จักอลิเซียเขาคือลูซิเฟอร์ เด็กผู้ชายที่ฉันบอกเธอเขาเป็นสมาชิกที่พิเศษจริงๆของครอบครัวเราและเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทของฉัน”ไรอากล่าวขณะแนะนําลูซิเฟอร์ให้อลิเซียรู้จัก

“และลูซิเฟอร์ เธอคืออลิเซีย เธอเป็นลูกสาวของเวก้า”เขากล่าวเสริมขณะแนะนําอลเซียให้รู้จักกับลูซิเฟอร์ขณะที่ไรอาพูดเวราซิตี้ก็พูดว่า”ฉันขอน้ําตาลเพิ่มได้ไหม!”

มันเป็นสัญญาณว่าไรอากําลังโกหก ซึ่งทําให้ลูซิเฟอร์รู้สึกทึ่ง เธอไม่ใช่ลูกสาวของเวก้าเหรอ? ทําไมไรอาถึงโกหกเรื่องนี้? นี่เป็นโครงการบางอย่างหรือไม่?

อลิเซียเอื้อมมือไปจับมือลูซิเฟอร์ “สวัสดีลูซิเฟอร์ ฉันได้ยินมามากมายเกี่ยวกับคุณยินดีที่ได้รู้จักในที่สุด”

ลูซิเฟอร์ไม่เอื้อมมือออกไป เขามองไปที่ไรอาแทน เขาไม่ต้องการโต้ตอบกับอลิเซีย

“ลูกสาวของเขา? ฉันไม่รู้ว่าเขามีลูกสาว” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขมวดคิ้ว ในเวลาเดียวกันพนักงานเสิร์ฟก็เติมน้ําตาลให้กับเวราซิตี้มากขึ้น

“ใช่แล้ว ตอนที่คุณอยู่ที่ฐานไม่ได้เจอกันคุณ 2 คนคงได้เจอกันถ้าคุณกลับมาจากหาดโอไรออนแต่น่าเสียดายที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในขณะนั้นฉันเสียใจจริงๆที่รู้ว่าอะไร เกิดขึ้นในวันนั้น”ไรอาอธิบายพลางถอนหายใจอลิเซียถอยมือไม่พอใจเล็กน้อยขณะที่เธอไม่สนใจเธอไม่เห็นค่าท่าทางของลูซิเฟอร์

“ฉันคิดว่าเคนตายไปแล้วเหมือนกัน หรือคุณหาเขาเจอ” ลูซิเฟอร์ถามโดยไม่แม้แต่จะมองไปที่อลิเซีย

“เราเชื่อว่าเขาควรจะตาย เราไม่พบเขาหลังจากนั้น” ไรอาอธิบาย

เขามองไปที่อลิเซียในขณะที่เขาพูดต่อ“อย่าเข้าใจเขาผิดเขาเป็นแบบนั้นมาตลอดเขาไม่ชอบให้ใครแตะต้องเขาคุณนั่งได้”อลิเซียพยักหน้าขณะที่เธอเดินกลับไปที่ที่นั่งจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ก่อนจะจากไป

“นั่นทําให้ฉันนึกถึง เรามีคนมาใหม่ที่นี่ด้วย นี่คือเพื่อนนักดาบของคุณที่ฆ่าสมาชิก APE เหรอ?” ไรอาถามลูซิเฟอร์ พลางเหลือบมองแคสเซียส

“ฉันคิดว่าคุณจะพูดแบบนั้นก็ได้นะ” ลูซิเฟอร์ตอบ

“น่าสนใจ เขาก็ต้องแข็งแกร่งเช่นกัน เขามาจากไหน” ไรอาถามต่อ

“เขาเป็นเด็กกําพร้าที่ฉันพบในเอลิเซียม ดังนั้นเขาจึงไม่มีบ้าน” ลูซิเฟอร์พูดโกหก เขาไม่ต้องการให้ตัวตนที่แท้จริงของแคสเซียส

“ไม่เป็นไร เราเป็นครอบครัวของเขาได้เหมือนกัน เขาจะไม่ใช่เด็กกําพร้าอีกต่อไปพาเขาไป ด้วย” ไรอาพยักหน้า ขณะจิบกาแฟอีกจิบจนเสร็จ “แน่นอนเขาจะมากับฉันแต่ก่อนที่ฉันจะไปกับ คุณ ฉันอยากจะถามอะไรคุณอย่างสุดท้ายก่อน”ลูซิเฟอร์พูด พลางจ้องไปที่ดวงตาของไรอา

“ได้ ถามอะไรก็ได้” ไรอาตอบทันที

“คุณมีส่วนในการตายของพ่อแม่ฉันหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามทันที ไปถึงคําถามที่เขารอ

“การตายของพ่อแม่คุณ อะไรทําให้คุณคิดอย่างนั้น ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตายของเขา” ไรอาตอบอย่างไร้เดียงสา

ขณะที่เขาพูดจบ เวเรซิตี้ก็เคาะโต๊ะของเธอเบาๆ ด้วยช้อน เสียงเบามากจนไม่มีใครได้ยินนอกจากลูซิเฟอร์

เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าไรอากําลังโกหก เมื่อลูซิเฟอร์ได้ยินสัญญาณหมัดของเขาก็กําแน่นโชคดีที่พวกเขาอยู่ใต้โต๊ะจึงไม่มีใครเห็น

แต่เห็นได้ชัดว่าไรอามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่ของเขา สิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เป็นจริงกลับกลายเป็นจริงในที่สุด

“อย่างนั้นหรือ?” ลูซิเฟอร์ถาม

“ถูกต้อง ฉันแน่ใจว่าฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง” ไรอากล่าว ขณะที่เขาพยักหน้า

ตอนที่ 283: พบกับไรอา

นอกจากนี้ยังมีความเสียใจบนใบหน้าของไรอาที่อลิเซียไม่มีความสามารถเหนือกว่าของลูซิเฟอร์ ความสามารถของเธอเองก็ไม่ได้แย่เช่นกัน แต่เธอไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับเขา

นอกจากนี้ เขายังไม่สามารถช่วยให้เธอดูดซับพลังของลูซิเฟอร์ได้ เพราะมันสายเกินไป

ตามส่วนของไดอารี่ของราวที่พวกเขาเข้าใจ ว่ากันว่ามีเพียงผู้ตื่นพลังขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งต้องเป็นยีนส์ของแวเรียนท์ที่อายุน้อยกว่า 10 ขวบเท่านั้นถึงจะได้ผล

ดูเหมือนหมอราวได้ทดสอบกับยืนของแวเรียนท์ที่ตื่นนานแล้วและอายุมากกว่า 10 ขวบ แต่ร่างกายของอลิเซียปฏิเสธยันส์นั้น

หลังจากการทดสอบหลายๆ ครั้งเขาพบว่าเธอ ร่างกายดูดซับเฉพาะยีนส์ที่ตื่นขึ้นของแวเรียนท์ที่อายุน้อยกว่า 10 ปี เมื่อไรอารู้เรื่องนี้ เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาน่าจะชอบให้อลิเซียที่มี การรักษาสายฟ้า การสลายตัว และพละกําลังมหาศาลของลูซิเฟอร์ด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีทาง เขาทั้งคู่ถูกกําหนดให้มีพลังแตกต่างกัน

“โชคดีที่พวกเขาทั้งคู่จะทํางานให้ฉัน ซึ่งส่วนนั้นมันไม่สําคัญหรอก” ในที่สุดเขาก็คิด ในขณะที่เขาส่ายหัว

เฮลิคอปเตอร์ของแวเรียนท์เกิดใหม่บินผ่านทะเลทราย เคลื่อนตัวจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่งโดยไม่หยุดพักเพื่อไปยังเคนซิงตัน

ลูซิเฟอร์นอนอยู่บนโซฟา นึกถึงวันพรุ่งนี้ มันจะเป็นวันที่เขาได้คําตอบที่เขาต้องการมากที่สุดคําตอบจะเป็นอย่างไร? ไรอารับผิดชอบจริงเหรอ? เขาไม่รู้ว่าจะคาดหวังอะไรในตอนนี้ เขาได้เตรียมแผนการไว้สําหรับทั้ง 2 สถานการณ์ ไม่ว่าคําตอบของเขาจะเป็นอย่างไร

แคสเซียสยังนั่งอยู่บนเตียงมองดาบของเขา เขาคาดหวังการต่อสู้ที่เป็นไปได้ และเขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าคนบริสุทธิ์กําลังจะตายไปกี่คน เขาพบว่าตัวเองขัดแย้งกันมาก

มีคนมากมายที่จมอยู่ในห้วงความคิดลึกๆ ในคืนนี้ รวมถึงเรียอาริที่สงสัยว่าใครส่งจดหมายถึงเขา และถ้าเป็นกับดัก?

ในที่สุดทุกคนก็ผล็อยหลับไปโดยมีความคาดหวังที่แตกต่างกันสําหรับวันที่จะมาถึง เมื่อถึงวันที่รอคอยมานานพร้อมกับแสงแรกของดวงอาทิตย์ที่ขึ้นเหนือเมืองลูซิเฟอร์ก็ลืมตาขึ้น

เขาไปที่ห้องของทุกคนเพื่อปลุกพวกเขาและบอกให้พวกเขาเตรียมตัวให้พร้อมในขณะที่เขาไปอาบน้ําด้วยภายใน 1 ชั่วโมง ทุกคนก็พร้อมและยืนอยู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์ เตรียมออกเดินทาง

แคสเซียสสวมชุดคลุมสีดําถือดาบหนักของเขากับเขา

เวราซิตี้สวมเสื้อผ้าปกติของเธอ แต่เธอสวมวิกสีแดงซึ่งทําให้เธอดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เธอยังสวมแว่นอ่านหนังสือทรงกลม สําหรับลูซิเฟอร์ เขาแต่งกายด้วยชุดสีขาวทั้งหมดในมือของเขาไม่มีอาวุธ และเขาก็ไม่ได้ปิดบังใบหน้าของเขาเช่นกัน

“ทุกคนรู้ใช่ไหมว่าต้องทํายังไง” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“ใช่” แคสเซียสและเวราซิตี้ตอบพร้อมกัน “ดี งั้นไปกันเถอะ ฉันเรียกหาไรอาเพื่อไปเจอเขาตอน 10 โมง เขาน่าจะมาตรงเวลา เราต้องไปที่นั่นก่อนเขา”

ลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปในรถสีเหลือง ความจริงนั่งบนที่นั่งผู้โดยสาร สําหรับ แคสเซียส เขานั่งในรถคันอื่น

ลูซิเฟอร์สตาร์ทรถก่อน ตามด้วยแคสเซียสอย่างใกล้ชิด

รถทั้งสองคันออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ ไปยังใจกลางเมืองเคนซิงตัน

“คุณเรียนรู้ได้ค่อนข้างเร็วฉันแปลกใจ” เวราซิตี้ ให้ความเห็นเกี่ยวกับการขับของลูซิเฟอร์

เธอรู้ว่าเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการขับรถจนกระทั่งเมื่อ 2-3 วันก่อน และตอนนี้เขากําลังขับรถอย่างมืออาชีพ

“จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น เหตุผลเดียวที่ฉันไม่รู้มาก่อนคือฉันไม่รู้สึกว่าจําเป็นต้องเรียนรู้” ลูซิเฟอร์ตอบ

เมื่อเวลา 7 โมงเช้า ถนนค่อนข้างโล่งทําให้ขับรถได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่นานนักขับรถก็ถึงที่หมาย

ลูซิเฟอร์หยุดรถห่างจากวินดี้คาเฟประมาณ 100 เมตร

เขาก้าวลงจากรถและเดินไปที่ร้านกาแฟ มองไปรอบๆ โชคดีที่ไม่พบใครมองเห็นเขา

แคสเซียสยังหยุดรถของเขาด้านหลังรถสีเหลือง ขณะที่เขาก้าวออกไปและตามลูซิเฟอร์มีเพียงเวราซิตี้เท่านั้นที่นั่งอยู่ในรถมองดูนาฬิกาข้อมือของเธอ

เธอถูกบอกให้มาในเวลาที่กําหนด แคสเซียสและลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปในร้านกาแฟ ซึ่งเพิ่งเปิดสถานที่นี้ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิงในขณะนี้ยกเว้นพนักงานที่ทํางานที่นี่

พนักงานประหลาดใจเมื่อเห็นแคสเซียส ซึ่งถือดาบอยู่ เมื่อเห็นเขานั่งกับลูซิเฟอร์ พวกเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก บางคนคิดจริง ๆ ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อปล้น

“เอากาแฟด่ามาให้ฉัน” แคสเซียสสั่งพร้อมยกมือขวาขึ้น สําหรับลูซิเฟอร์ เขาไม่ดื่มกาแฟ เลยไม่ได้สั่งถ้วยกาแฟถูกเสิร์ฟทันที

“นี่จะต้องรออีกนาน” แคสเซียสพูดขณะหยิบกาแฟขึ้นมาและเริ่มดื่ม
“อืม ยังเหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมง แต่จําเป็นต้องมาล่วงหน้าด้วย” ลูซิเฟอร์ตอบ

เวลาค่อยๆ ไหลผ่านไปเป็นชั่วโมง ร้านกาแฟแออัดกว่าเล็กน้อย แต่โต๊ะที่แคสเซียสนั่งกับลูซิเฟอร์ยังว่างอยู่ ไม่มีใครกล้านั่งอยู่ที่นั่นหลังจากเห็นดาบใหญ่ของเขาแคสเซียสดื่มกาแฟ 2 แก้วเสร็จในชั่วโมงที่แล้ว

อีก 1 ชั่วโมงผ่านไปเนื่องจากสถานที่นั้นแออัดที่นั่งเต็มเกือบทุกที่นั่ง ยกเว้นโต๊ะที่แคสเซียสนั่งอยู่

“อีกชั่วโมงนึง ตอนนี้นายรู้สึกยังไงบ้าง?” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์

“ไม่รู้ ฉันไม่อยากรู้สึกใกล้ถึงจุดจบฉันไม่อยากคิดอะไรอีกแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบ

เวลาผ่านไปเมื่อช่วงเวลาสุดท้ายใกล้เข้ามา เหลือเวลาเพียง 8 นาที เมื่อกลุ่มเล็กๆ หยุดที่ทางเข้าร้านกาแฟ

เวราซิตี้กําลังนั่งอยู่ในรถของเขามองตรงไปยังทางเข้าร้านกาแฟ

เมื่อเธอเห็นกลุ่มคนเธอพึมพํา “พวกเขาอยู่ที่นี่”

กลุ่มเล็กๆมีคนทั้งหมด 6 คน ไรอาเป็นผู้นํา ตามด้วยเวก้า, เคลเลียน, ยาลิซ่า, ทริสตัน และ อลิเซีย

ไรอาผลักประตูร้านกาแฟและก้าวเข้าไปข้างใน ตอนนี้ร้านกาแฟว่างครึ่งหนึ่ง เนื่องจากมีที่นั่งว่างมากมาย ขณะจ้องมองเข้าไปในคาเฟ ไรอาก็พบลูซิเฟอร์ในไม่ช้า

เขายิ้มพลางเดินเข้าหาลูซิเฟอร์ “มันนานมากแล้วใช่ไหม? เป็นยังไงบ้างหนุ่มน้อย?” ไรอา ถามลูซิเฟอร์ขณะที่เขานั่งลง

โต๊ะสี่เหลี่ยมที่ลูซิเฟอร์นั่งอยู่นั้นมีเก้าอี้ 4 ตัว ข้างละ 2 ตัว ทางด้านซ้ายลูซิเฟอร์และแคสเซียสนั่งอยู่ ด้านขวาเป็นของไรอาและเวก้า

ขณะที่ทุกคนให้ความสนใจกับลูซิเฟอร์ ดวงตาของทริสตันก็จับจ้องที่แคสเซียส ซึ่งมีดาบหนักอยู่บนตักของเขา..

ตอนที่ 282: อลิเซีย

ลูซิเฟอร์ก้าวออกจากรถของเขา พลางหยุดรถไว้ด้านนอกคฤหาสน์

เขาก้าวเข้าไปในคฤหาสน์และพบว่าแคสเซียสกําลังรับประทานอาหารกลางวันอยู่ เวราซิตี้ก็อยู่กับเขาเช่นกัน แต่สําหรับเจียงเขาไม่ได้อยู่ที่คฤหาสน์แล้ว เพราะเขาออกไปแล้ว

ลูซิเฟอร์ก็เข้าร่วมมื้ออาหารกับพวกเขาด้วย ขณะที่เขานั่งเก้าอี้อาหารกลางวันก็ถูกเสิร์ฟให้เขาเช่นกัน

“นายไปไหนมา?” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์

“ก่าลังส่งจดหมายและเตรียมตัวสําหรับวันสําคัญในวันพรุ่งนี้” ลูซิเฟอร์ตอบ

ไรอาได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของลูซิเฟอร์ และเขาไม่ได้คิดมาก เขาตกลงที่จะมาที่เคน ซึ่งตนเอง หากนั่นคือสิ่งที่จําเป็น นอกจากนี้เขาไม่ได้มาคนเดียวด้วย

เขาหยุดก่อนเฮลิคอปเตอร์และเริ่มรอใครสักคน ไม่นานก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นคนที่มาจากระยะไกล

เวก้ากําลังเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์เช่นกัน ต่างจากเมื่อก่อน เขาสวมเสื้อผ้าที่ทําจากอนุภาคคาร์ดิแกนอย่างเต็มที่

ไรอายังสวมเสื้อคลุมปกติของเขาซึ่งทําจากอนุภาคคาร์ดิแกน ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ของแวเรียนท์เกิดใหม่ น่าแปลกที่ไรอาไม่ได้มาคนเดียว มีหญิงสาวเดินเคียงข้างเขา

ดูเหมือนว่าเด็กสาวจะอายุ 20 ต้นๆ ตามรูปลักษณ์ของเธอ ผมสีแดงเพลิงของเธอเลื่อนลงมาจนถึงเอวของเธอ เข้ากับดวงตาสีแดงเข้มที่สวยงามของเธอ

ดวงตาที่สวยงาม ริมฝีปากบาง และแก้มที่น่ารักของเธอท่าให้เธอดูเหมือนเจ้าหญิงที่มาจากโลกแห่งจินตนาการ แต่ไม่มีการแสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าของเธอ

เวก้าและหญิงสาวหยุดเมื่อถึงตรงหน้าไรอา “สวัสดีค่ะคุณลุงไรอา” เด็กสาวกล่าวพร้อมก้มหัวให้ไรอาด้วยความเคารพ

“อ่า อลิเซีย เธอเป็นอย่างไรบ้าง” ไรอาถามยิ้มๆ

“ฉันสบายดี พ่อดูแลฉันอย่างดี” เด็กหญิงผมแดงพูดด้วยมารยาทที่เหมาะสม ขณะที่เธอเหลือบมองเวก้าเมื่อกล่าวถึงพ่อ

“ดี ไปกันเถอะ ฉันคิดว่าถึงเวลาที่เราจะแสดงให้เธอเห็นโลกภายนอกแล้ว” ไรอากล่าวกับหญิงสาว ขณะที่เขาก้าวเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์

อลิเซียก็ก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกับเวก้า หลังคาเปิดออกให้แสงแดดส่องผ่าน เฮลิคอปเตอร์เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศและออกจากฐานในไม่ช้า

ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กําลังบินออกไป อลิเซียมองออกไปข้างนอกตลอดเวลาด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เธออยู่นอกฐานเท่าที่เธอจําได้ แต่เธอเคยฝันว่าจะได้เห็นโลกในสักวันหนึ่ง เธอไม่อยากเชื่อว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วขนาดนี้

“เธอชอบสิ่งที่เธอได้เห็นไหม?” ไรอาถามด้วยความขบขันกับปฏิกิริยาที่มากเกินไปของอลิเซีย

“ใช่ สวยมาก ดวงอาทิตย์และทราย… และมันใหญ่มาก ฉันมองไม่เห็นจุดจบด้วยซ้ํา” อลิเซียตอบ

“เธอเสียใจไหมที่เราไม่ได้ปล่อยให้เธอออกจากฐานทัพในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา?” ไรอาถาม

“ไม่เลย” อลิเซียตอบ ขณะที่เธอเหลือบมองไรอา “ฉันเข้าใจแล้วว่าทําไมพ่อถึงไม่ปล่อยให้ฉันออกไป นั่นก็เพื่อความปลอดภัยของฉันเอง”

“ใช่แล้ว เมื่อ 6 ปีที่แล้ว พ่อของเธอพาเธอออกไปข้างนอก แต่เขาถูกทําร้าย ในการต่อสู้ เธอได้รับบาดเจ็บ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาวางเงื่อนไขไว้กับเธอ เพื่อเรียนรู้ให้มากที่สุด ก่อนที่จะออกไป นั่นคือเหตุผลทั้งหมดเพื่อให้เธอสามารถป้องกันตัวเองได้” ไรอากล่าวพลางถอนหายใจ

แม้ว่าเขาจะทําเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น แต่การแสดงของเขาดีมากจนดูเหมือนไม่ใช่เรื่องโกหกเลย อันที่จริง อลิเซียไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหญิงสาวที่ถูกดร.ราวเก็บไว้ที่ศูนย์วิจัยดไลออน

หลังจากนั้นเป็นเวลานาน เวก้าก็สามารถพาเธอออกไปได้สําเร็จโดยไม่ทําลายสถานที่นั้น เวกยังจําวันที่เขานําอลเซียออกจากภาชนะทรงกระบอก ซึ่งเต็มไปด้วยของเหลวได้

เธอยังคงหายใจอยู่ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สติ แค่ไม่กี่วันที่เธอตื่นขึ้น แต่เธอไม่มีความทรงจำใดๆ เลย

เธอจําได้เพียงวัยเด็กของเธอ แต่ถึงกระนั้นก็ถูกลบโดยไรอา ผู้ซึ่งจัดการความทรงจําของเธอ เพื่อทําให้เธอคิดว่าเธออยู่กับ แวเรียนท์เกิดใหม่มาโดยตลอด

ไรอาลบความทรงจําทั้งหมดของเธอในช่วงเวลา ก่อนที่เธอจะพบพวกเขา และเมื่อเธอตื่นขึ้น เธอก็ถูกโกหก ด้วยความช่วยเหลือของทักษะการควบคุมความทรงจําของไรอาได้สร้างพ่อของอลิเซียนั่นก็คือเวก้าขึ้นมา

“ถูกต้อง ฉันรู้ว่าพ่อสนใจแต่สิ่งที่ดีที่สุดในใจของเขาเท่านั้น” อลิเซียกล่าวขณะที่เธอพยักหน้า

“ยังไงก็ตาม เธอชอบทะเลทรายหรือไม่ ถ้าใช่ เธอจะชอบเมืองนี้มากขึ้นไปอีก นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสนุก เราจะไปที่นั่นเพื่อพาสมาชิกในครอบครัวอีกคน และพาเขากลับบ้านมา ฉันแน่ใจว่าเธอจะชอบเขา”

“เธอกับเขาทั้ง 2 คนกําลังจะทํางานเป็นทีมในอนาคต” ไรอาบอกกับอลิเซีย ขณะที่เขาจินตนาการว่าราชาวอร์ล็อครุ่นเยาว์ 2 คนทํางานเป็นทีมภายใต้คําสั่งของเขา

“ฉันสงสัยว่าใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน? อลิเซียหรือลูซิเฟอร์? ทั้งสองคนมีความพิเศษที่แตกต่างกันออกไป

ในขณะที่ลูซิเฟอร์มีการรักษาอมตะ แต่อลิเซียมีการป้องกันที่ไม่สามารถทําให้แตกหักได้ แม้ว่าลูซิเฟอร์จะมีอํานาจมากมาย แต่อลิเซียก็มีพลังมากมายเช่นกัน แม้ว่าจะแตกต่างกันก็ตาม

“ฉันเดาว่าอลิเซียจะแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย เพราะเธอสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ในอนาคต ไม่ว่ากรณีใด ฉันต้องยกย่องนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นมนุษย์

“ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะสามารถสร้างสัตว์ประหลาดจากหญิงสาวที่มีพลังเพียงพลังเดียว ซึ่งดูเหมือนไร้ประโยชน์ พวกเขาพบความสามารถของเธอและใช้มันให้เป็นประโยชน์

ไรอาครุ่นคิดอย่างหนัก ในขณะที่เขาสังเกตเห็นอลิเซีย ซึ่งเริ่มมองออกไปข้างนอก

“พวกเขาพบความสามารถพิเศษของเธอ ซึ่งซ่อนอยู่ภายในเลือดของเธอ… การดูดซับยืน พลังในการดูดซับความสามารถจากยืนของผู้อื่นตราบเท่าที่พวกเขาถูกแทรกลงในล่าดับที่เหมาะสม

ฉันไม่รู้ว่าพวกมันทําได้อย่างไร แต่พวกมันสามารถฉีดยืนของแวเรียนท์ที่ตื่นขึ้นในห้องแล็บในตัวเธอได้ เพื่อเพิ่มความสามารถของเธอ

โดยทั่วไป คนส่วนใหญ่ควรจะตายจากสิ่งนั้น แม้ว่าพวกเขาจะมีพลังแห่งการดูดซับยืนก็ตาม แต่ก็ยังประสบความสําเร็จ

“ถ้าเพียงเราค้นพบลําดับยีนดั้งเดิมของเธอ เราก็ควรจะสามารถบรรลุมันได้เช่นกัน

แต่หลังจากการดูดซึมยืนแวเรียนท์จํานวนมาก การค้นหาลําดับยนดิบของเธอนั้นเป็นไปไม่ได้ หากเราต้องการฉีดยืนต่อไป เราจําเป็นต้องมีการจัดล่าดับยนดั้งเดิมของเธอ ซึ่งเธอมีก่อนที่เธอจะถูกฉีดยืนครั้งแรก

หวังว่านักวิทยาศาสตร์ของเราสามารถหาลําดับยีนดั้งเดิมของเธอได้จากไดอารี่ของราว เขาเป็นคนเดียวที่รู้และตอนนี้เขาก็ตายแล้ว หากเราพบมัน ควรจะง่ายที่จะทําให้อลิเซียแข็งแกร่งขึ้น บางทีอาจจะมากกว่านี้ซึ่งมากกว่าลูซิเฟอร์

“ถ้าเพียงลูซิเฟอร์ตื่นขึ้นมาในห้องแล็บ ราวก็อาจนํายืนที่ตื่นขึ้นของเขาไปด้วย อลิเซียก็มีความสามารถของเขาเช่นกัน น่าเสียดายที่เขาตื่นขึ้นในภายหลัง อลิเซียเสียโอกาสที่จะได้รับพลังของลูซิเฟอร์

เมื่อไรอาจ้องมองที่อลิเซียเขาก็มีความหวังในตัวเขาเกี่ยวกับอนาคต..

ตอนที่ 281: นายไม่ได้เป็นอมตะ

“นายควรกลับไปหาเขาจริงๆ ได้แล้วหมดเวลาเล่นแล้ว อะไรๆ ก็จะรุนแรงขึ้น ผิดขั้นตอนเดียว พ่อจะเสียลูกไปนายรู้ใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว “นายไม่ได้เป็นอมตะเหมือนฉัน”

“ฉันรู้ แต่ฉันก็มีศรัทธาในตัวเองเช่นกัน ฉันอยากเห็นจุดจบ อย่างที่นายพูด ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน การแก้แค้นของนายก็จะจบลงภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ฉันสามารถช่วยได้นิดหน่อยจนกว่าจะถึงตอนนั้น” แคสเซียสตอบพร้อมส่ายหัว

“ตามใจ” ลูซิเฟอร์พูดออกมาโดยไม่พูดอะไรอีก

เขาเดินเข้าไปในสวนประมาณ 10 นาทีก่อนจะกลับเข้าไปในคฤหาสน์ ในทางกลับกัน แคสเซียสเริ่มฝึกดาบของเขา

ภายในคฤหาสน์ ลูซิเฟอร์อาบน้ําสั้น ๆ และรับประทานอาหารเช้าเสร็จก่อนจะจากไปโดยไม่บอกใคร

เขาขึ้นรถสปอร์ตสีเหลืองและออกจากคฤหาสน์ แคสเซียสยืนอยู่ในสวน ดูลูซิเฟอร์ออกจาก โรงรถซึ่งทําให้เขาประหลาดใจ เขาไปคนเดียว?
รถสปอร์ตสีเหลืองจอดใกล้โรงแรมแห่งเดียวในเมือง เด็กหนุ่มก้าวลงจากรถโดยสวมเสื้อฮูดที่ปิดผมของเขาเขายังสวมแว่นกันแดดสีดําซึ่งเหมาะกับการแต่งกายอย่างผิดปกติ
เขาก้าวเข้าไปในโรงแรมและเข้าหาพนักงานต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับครับ มีอะไรให้ช่วยไหม คุณกําลังหาห้องอยู่หรือเปล่า” พนักงานต้อนรับถามลูซิเฟอร์

“เปล่า ฉันกําลังมองหาคนอยู่มีผู้ชาย 2 คนที่มีรอยสักบนหน้า พวกเขาพักที่นี่หรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามพนักงานต้อนรับ

“เอ่อ คุณกําลังพูดถึง 2 คนนั้น ถูกต้องพวกเขามีห้องอยู่ที่นี่ คุณมาที่นี่เพื่อพบพวกเขาหรือไม่” พนักงานต้อนรับถาม

“ฉันต้องการให้คุณส่งจดหมายนี้ให้พวกเขาในครั้งต่อไปที่คุณเห็นพวกเขา อย่างน้อยให้แน่ใจ ว่าพวกเขาได้รับวันนี้อย่างน้อยก็เท่านั้น” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่เขาหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกจากกระเป๋าแล้ววางมัน บนโต๊ะ

เขายังนําเงินออกจากกระเป๋าเงินของเขาแล้ววางลงบนกระดาษ “อ่า ผมเข้าใจแล้ว ผมจะส่งจดหมายให้แน่นอน” พนักงานต้อนรับพูดขณะที่เขารับกระดาษและเงินอย่างตะกละตะกลาม

ลูซิเฟอร์ออกจากโรงแรมโดยไม่หันกลับมามอง พอขึ้นรถก็เดินกลับ ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังส่งจดหมายไปที่โรงแรมเรียอาริและอาร์เน่อยู่บนหลังคา มองขึ้นไปบนท้องฟ้า

พวกเขากําลังรอให้เมฆรู้ที่มาของมัน แต่ท้องฟ้าก็ปลอดโปร่ง พวกเขาไม่รู้ว่าคนที่จะนําเมฆมายืนอยู่ข้างใต้พวกเขาครู่หนึ่ง

เรียอาริ และ อาร์เน่ ยังคงยืนรออยู่ที่หลังคา แต่เมฆก็ไม่ปรากฏ เป็นเวลาบ่ายแล้ว แต่ท้องฟ้าสว่างเหนือศีรษะของพวกเขา

ที่จริงไม่เหมือนเมื่อวาน วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อนจริงๆ ซึ่งอาจมีทั้งฝนและเมฆ แต่ไม่มีใครมองเห็นเลย “เมื่อไหร่จะมา เรามายืนที่นี้ตั้งแต่เช้าตรู่ ฉันเริ่มหิวแล้วนะ!” อาร์เน่บ่น ขณะที่เขาเตะพื้นด้วยความหงุดหงิด เนื่องจากเขาไม่ได้ใช้ความสามารถใดๆ ของเขาเลยพื้นใต้ตัวเขาไม่ได้รับผลกระทบ

“ลงไปกินข้าวเถอะ กินข้าวเสร็จแล้วก็กลับมาฉันจะคอยดูให้” เรียอาริตอบ

“คุณแน่ใจไหม?” อาร์เน่ถาม “ไม่ต้องกินด้วยกันเหรอ?”

“ฉันไปกินข้าวได้ หลังจากที่นายกลับมา” เรียอารอธิบาย

“ก็ได้ ฉันจะรีบกลับมา” อาร์เน่ทิ้งเรียอาริ ไว้ตามลําพังท่ามกลางความร้อนที่แผดเผาขณะที่เขาลงไปข้างล่าง

เขาไปที่ห้องของเขาและบอกรูมเซอร์วิสให้นําอาหารกลางวันมาในขณะที่เขานั่งบนโซฟา พักผ่อนและร่มเงาที่จําเป็นมาก
ก๊อก! ก๊อก!

“รูมเซอร์วิสครับ!” เสียงมาจากข้างนอก

“เข้ามาข้างในประตูเปิดอยู่” อาร์เน่ตะโกนเพื่อให้แน่ใจว่าได้ยินเสียงของเขา

ประตูห้องของเขาเปิดออก และชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับอาหาร ตามมาด้วยพนักงานต้อนรับซึ่งถือกระดาษพับอยู่ในมือ

ในขณะที่จานอาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะต่อหน้า อาร์เน่พนักงานต้อนรับก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้
เขา

“อะไรนะ บิลหรืออะไร” อาร์เน่ถามขณะหยิบกระดาษแผ่นนั้น

“เป็นจดหมายที่ใครบางคนบอกให้ผมส่งถึงคุณทั้งสองตอนนี้ผมทําเสร็จแล้ว ผมจะออกไป” พนักงานต้อนรับพูดขณะที่เขาหันหลังกลับ

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง

“มีคนส่งมาให้เราเหรอนั่นใคร” อาร์เน่ถามพลางขมวดคิ้ว “สงสัยจะไม่มีใครรู้จักเราแล้วล่ะ”

“ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ผมไม่ได้ถามชื่อผมไม่ได้เห็นหน้าเขาชัดเจนในขณะที่เขาสวมเสื้อสู้ดแต่มันเป็นเพียงจดหมาย”

“บางทีนั่นอาจให้เบาะแสบางอย่างแก่คุณไม่ว่าในกรณีใด เขาจะเป็นแค่คนที่รู้จักคุณเท่านั้น” พนักงานต้อนรับกล่าวก่อนจะจากไปปิดประตูตามหลังเขา

อาร์เน่คลี่กระดาษออกแล้วอ่านเมื่อเขาอ่านจดหมายใบหน้าก็ขมวดคิ้ว เสร็จแล้วเขาก็พับจดหมายและเก็บไว้ในกระเป๋าของเขา

เขาเริ่มกินกินข้าวกลางวันเสร็จก็กลับขึ้นไปบนหลังคา

ท้องฟ้ายังสดใสเหมือนเดิมยังไม่มีวี่แววของเมฆ “กินข้าวเสร็จแล้วเหรอ” เรียอาริถามอาร์เน่

อาร์เน่พยักหน้า “เอาล่ะ นายจับตาดูท้องฟ้า ฉันจะไปกินบ้าง เรียอาริพูด แต่ไม่นานเขาก็สังเกตเห็นว่าอาร์เน่มีสีหน้ากังวล

“มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นงั้นเหรอ?” เขาถาม

“ใช่ ฉันได้รับจดหมายแล้วเห็นได้ชัดว่ามีคนส่งมาให้เราทางพนักงานต้อนรับอ่านมันสิ” อาร์เน่ตอบขณะที่ส่งจดหมายถึงเรียอารี

“จดหมายถึงเรา ใครส่งมันมา” เรียอาริทึมพําเมื่อเขาเปิดจดหมายและเริ่มอ่าน

[ เมฆและสายฟ้าสีดําไม่ปกติ มีคนอยู่เบื้องหลัง และฉันรู้ว่าเป็นใคร และฉันก็รู้ด้วยว่าคุณ 2 คนเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยเมืองของเราให้พ้นจากภัยพิบัตินี้ได้]

[ ฉันอยากจะบอกคุณทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้ โปรดพบฉันและช่วยเราและเมืองของเราให้อยู่รอด]

“นี่น่าสนใจมีคนรู้เรื่องนี้และต้องการจะบอกเรา” เรียอาริทึมพําขณะที่เขาอ่านจดหมายจบ

“ถูกต้อง เขายังให้สถานที่และเวลาไปพบคุณคิดว่านี้จะเป็นกับดักไหม?” อาร์เน่ถามพลางขมวดคิ้ว

“มันอาจจะเป็นกับดักก็ได้ แต่เราก็ละเลยไม่ได้เหมือนกัน ถ้าเป็นของแท้ เราจะพลาดข้อมูลสําคัญไป และถึงจะเป็นกับดักเราก็ต้องระวัง” เรียอาริตอบ พลางพับกระดาษอีกครั้ง

“ไปดูกันดีกว่าว่าคนนี้เป็นใคร” เขากล่าวเสริมมองไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น..

ตอนที่ 280: สายลับ

ลูซิเฟอร์ตะลึงเมื่อพบว่าไอย์ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเธอหนีไปแล้วหรือเปล่า ทําให้เขาตัดสินใจสํารวจห้องน้ํา

เมื่อเขาเปิดประตูห้องน้ํา ในที่สุดเขาก็สงบลงเมื่อเห็นไอย์

ไอย์กําลังยืนอยู่ในห้องน้ําในชุดเสื้อผ้าอื่น ผมของเธอยังเปียกอยู่ ราวกับว่าเขาเพิ่งอาบน้ําเสร็จ

“หืม เกิดอะไรขึ้น?” เธอถามลูซิเฟอร์อย่างแปลกใจ

“ไม่มีอะไร อาหารเย็นของเธออยู่ที่นี่ มันจะอยู่บนโต๊ะ กินให้หมด” ลูซิเฟอร์พูดอย่างสงบในขณะที่เขาถอยกลับ

“วางไว้บนโต๊ะแล้วออกไป” เขาบอกสาวใช้ ซึ่งกําลังรอคําแนะนําของเขา

สาวใช้ทําตามที่เธอบอกและจากไป ตามเขาไป ลูซิเฟอร์ก็จากไปโดยล็อคประตู วันใหม่มาถึงแล้ว และลูซิเฟอร์ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เมื่อคืนเขาไม่ได้นอนในห้องของเขา เขารู้ว่าไอย์ไม่ได้จากไป ดังนั้นเขาจึงไม่รู้สึกว่าจําเป็นต้องจับตาดูเธอ แต่เขากลับนอนบนโซฟาอีกครั้ง

“ในที่สุดฉันก็กลับมาแล้ว! มีใครคิดถึงฉันบ้างไหม?” เพิ่งจะหกโมงเช้า และลูซิเฟอร์ยังคงรู้สึกอยากนอนมากขึ้น แต่เขาก็ถูกปลุกให้ตื่นเพราะเสียงดัง

“เข้ามาเงียบๆไม่ได้เหรอ” เขาถามพลางกลอกตา เขาไม่เข้าใจว่าทําไมเจียงต้องประกาศการกลับมาของเขาราวกับว่าเขามาหลังจากชนะสงคราม เขาเพิ่งไปเที่ยว

“เป็นไงบ้าง เจ้านายตัวน้อย ฉันมีข่าวดีมาบอก” เจียงบอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขายิ้ม เขาหยิบเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ และนั่งหันหน้าไปทางลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ก็นั่งลงพร้อมกับถามว่า “ข่าวดีอะไร”

“ดินแดนที่เป็นของนาย? ปัญหานั้นได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่ต้องพูดถึงตอนนี้แม้แต่ในอนาคต มันจะไม่มีการก่อสร้างใดๆ ที่นั่น นอกจากนี้ ฉันยังพบว่ามีบางสิ่งที่เป็นประโยชน์มาก” เจียงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น

“มีประโยชน์อะไร” ลูซิเฟอร์ถาม

“เห็นได้ชัดว่าสิ่งของที่อยู่ในบ้านของนายถูกบริษัทของเรานําออกไปก่อนที่บ้านของนายก่อนจะถูกทําลาย มันอยู่ในโกดังในเมืองลีเจี้ยน ในขณะนี้ ดังนั้นเราจึงสามารถพบสิ่งที่มีประโยชน์ เกี่ยวกับกุญแจของนายที่นั่นได้เป็นอย่างดี” เจียงอธิบาย

“มันยังคงถูกเก็บรักษาไว้อย่างนั้นหรือ น่าแปลกใจ” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่ได้คาดหวังข่าวนี้

“ใช่ ฉันเพิ่งรู้เมื่อไม่นานนี้เอง จริง ๆ แล้ว ฉันไม่ได้คิดเลยว่าบริษัทก่อสร้างเวลลิงจะใหญ่โตขนาดนี้ นายรู้หรือไม่ว่าเรามีสาขาในทวีปอื่นด้วยโจ เวลลิ่งรวยมาก” เจียงอุทาน เขายังคงไม่สามารถลดความตื่นเต้นที่เขารู้สึกได้หลังจากรู้ถึงความมั่งคั่งที่แท้จริงของเขา

“นายต้องการไปที่เมืองลีเจี้ยนหรือไม่? หรือฉันควรขอให้ย้ายของนั้นมาที่นี่? ฉันแนะนําให้ไปที่นั่นเป็นการส่วนตัวเพราะบางสิ่งอาจสูญหายในการเคลื่อนย้าย” เขากล่าวเพิ่มเติม “แต่ฉันปล่อยให้การตัดสินใจเป็นของนาย”

“ไม่เป็นไร พักที่นั่นเถอะ เราจะไปที่นั่นทีหลัง สําหรับตอนนี้ ฉันยุ่งอยู่เล็กน้อยในเคนซิงตัน” ลูซิเฟอร์ตอบโดยปฏิเสธคําแนะนํา

“ก็ดีเหมือนกัน ว่าแต่ตอนนี้นายยุ่งกับอะไรอยู่? การสอบสวนเป็นอย่างไรบ้าง? นายได้คําตอบไหม?” เจียงยิงคําถามหลังจากคําถาม

“มันจบลงแล้ว และฉันก็ได้คําตอบที่ต้องการแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบ “ยังไงก็เถอะ ฉันมีบางอย่างอยากให้นายทํา”

“สั่งมาเลย จะให้ทํายังไง” เจียงถาม

“ฉันต้องการให้นายออกจากเมืองและไม่กลับมาจนกว่าฉันจะเรียกหานาย” ลูซิเฟอร์บอกเจียง

“ออกจากเมืองทําไม” เจียงถามด้วยความสงสัย “ฉันเพิ่งกลับมา”

“เมืองนี้จะไม่ปลอดภัย ขึ้นอยู่กับว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป นายไร้ประโยชน์สําหรับส่วนนั้น และส่วนใหญ่นายอาจจะตายได้ ถ้านายอยู่ที่นี่ ดังนั้นไปเถอะ” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“อา? นี่คุณเป็นห่วงฉันเหรอ?” เจียงถามด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าลูซิเฟอร์จะกังวลเรื่องความปลอดภัยของเขา

“แน่นอน ฉันอยากให้นายปลอดภัย ฉันต้องการนายอีกในอนาคต อีกอย่าง ฉันอยากให้นายไปที่ใดต่อไปด้วย” ลูซิเฟอร์กล่าว

“ที่ไหน?” เจียงถามอย่างแปลกใจ

“ไปที่เมืองหลวงแห่งเอลิเซียม ฉันต้องการให้นายไปเป็นสายลับของฉันที่นั่น รับข้อมูลมากที่สุดเกี่ยวกับองค์กรฮันเตอร์และการปกป้องเมืองเท่าที่จะทําได้” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น “บริษัทเวลลิ่งอยู่ใกล้กับหน่วยงานของรัฐ สิ่งนี้ไม่น่าจะยากสําหรับนายหรอก” เขากล่าวเสริม

“จริงสิ สํานักงานใหญ่ของเวลลิง อยู่ในเมืองหลวง ดังนั้นจึงไม่น่าจะยาก” เจียงยืนยัน

“ดีแล้วล่ะ วันนี้นายต้องไปจัดการทุกอย่างแล้วรอคําแนะนําเพิ่มเติมจากฉันเมื่อนายไปถึงที่นั่น” ลูซิเฟอร์สั่ง

“แต่ฉันเพิ่งกลับมา…”

“ไม่เป็นไรหรอก ถ้านายอยากกลับมา และอยากตายแบบดีๆ นายก็ต้องไปเสียวันนี้ เพราะพรุ่งนี้จะวุ่นวาย” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

เขาไม่ได้พูดซ้ํา ในขณะที่เขายืนขึ้นและเริ่มจากไป เขาได้พูดทุกอย่างที่เขาต้องการ

“ตกลง ฉันจะไปวันนี้” เจียงกล่าว ขณะมองลูซิเฟอร์ออกไป เขายังยืนขึ้นและเรียกคนของเขา เพื่อจัดเครื่องบินเจ็ตเพื่อเดินทางไปยังเมืองหลวง

“ฉันสงสัยว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาบอกว่ามันจะกลายเป็นสงคราม” เจียงพึมพํา ในขณะที่เขาเลือกกระเป๋าและจากไปที่ที่เขามา

ลูซิเฟอร์ออกจากห้องไปจบลงที่สวน ซึ่งเขามักจะชอบเดินในตอนเช้า เขายังถอดรองเท้า ขณะเดินบนหญ้าอันหนาวเหน็บในตอนเช้าด้วยเท้าเปล่า

เขาสังเกตเห็นความเงียบรอบข้าง ได้ยินเสียงนกร้องเจี๊ยก ๆ เป็นครั้งคราว ทําให้เขาชื่นชมสถานที่แห่งนี้เช่นเคย

“วันนี้ควรจะเป็นวันสุดท้ายของความสงบในเมืองนี้ ฉันสงสัยว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนหรือไม่ ฉันหวังว่าไรอาจะไม่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่ของฉัน”

“ครับพ่อ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ที่นี้สวยจริงๆ”

“ใช่แล้ว ผมกําลังเพลิดเพลินกับชายหาดที่มีแสงแดดสดใสของอาเมเรีย มันสวยมาก สักวัน เราจะมาที่นี่ด้วยกัน”

แคสเซียสก้าวออกจากคฤหาสน์ ดูเหมือนกําลังคุยกับใครบางคนทางโทรศัพท์ เขายังไปที่

“ผมจะกลับมาเมื่อไหร่ ผมคิดว่าฉันจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือน ผมอยากเห็นประเทศอื่น ๆ อีกมาก ผมเคยเห็นเพียงประเทศเดียวเท่านั้น”

“ครับ ไม่ต้องห่วง ถ้าผมเจอปัญหาจะรีบแจ้งให้ทราบ ตกลง ผมต้องไปแล้ว พรุ่งนี้ผมจะโทรหาพ่อครับ”

เขาตัดการเชื่อมต่อและเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ลูซิเฟอร์เหลือบมองแคสเซียสขณะที่เขาถามว่า “พ่อของนายเหรอ?”

“ใช่ เขายังคิดว่าฉันอยู่ในอาเมเรีย แต่ฉันบอกความจริงเขาไม่ได้” แคสเซียสตอบพลางถอนหายใจ..

ตอนที่ 279: เขตสงคราม

หลังจากนั้นไม่นาน แคสเซียสก็กลับมาเช่นกันโดยสวมชุดอื่นที่ยังเหมาะกับเขา ผมสั้นสีเข้มของเขายังดูเปียกเล็กน้อยในขณะที่เขาเพิ่งอาบน้ําเสร็จ

เมื่อไปถึงรถเขาเปิดประตูฝั่งผู้โดยสารก่อนจะนั่งข้างใน

“ไปกันเถอะ แต่ต้องระวังให้ดีหลังฝนตกถนนมันจะลื่นขึ้นเล็กน้อย” แคสเซียสเตือนลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์กดคันเร่งเพื่อให้รถเคลื่อนที่เมื่อนํารถออกจากคฤหาสน์ เขาก็มุ่งหน้าไปยังเมือง

“ดีมาก นายทําได้ดีมากยังไม่ถึง 2 วันด้วยซ้ํา การควบคุมของนายช่างเหลือเชื่อ” แคสเซียสชมลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนขับรถได้ถูกต้องและไม่เหมือนคนเพิ่งเริ่มเรียนรู้

“ใช่ ไม่ยากเลย ฉันคิดผิด” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ถูกต้อง ตราบใดที่นายระมัดระวังมันก็ไม่ยาก แต่นายต้องควบคุมความเร็วไว้ การควบคุมจะยากขึ้นมากเมื่อใช้ความเร็วสูงเนื่องจากปฏิกิริยาตอบสนองของนายก็มีส่วนเช่นกัน” แคสเซียสกล่าว

เมื่อลซิเฟอร์ไปถึงบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่านเขาก็ชะลอตัวลงเล็กน้อย

“ทําไมตอนนี้เราออกไปข้างนอกแทนที่จะพักผ่อนตามที่วางแผนไว้” อาร์เน่ถามเรียอาริที่ลาก เขาออกมา

“คิดซะว่าเป็นการเดินธรรมดาๆ ละกันฉันรู้สึกเบื่อในห้องแล้ว เดินบ้างนิดหน่อยก็ยังดี” เรียอาริตอบขณะเดินไปข้างถนนกับอาร์เน่

เขากําลังดูร้านค้าที่ในที่สุดก็เปิดได้ แต่ก็ไม่แออัดเท่าที่เขาคิด คงเป็นเพราะพายุ

“หลายคนคงยังรู้สึกหดหูใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันเดาว่ามันช่วยไม่ได้ หลังจากที่เราพบบุคคลที่เป็นต้นเหตุแล้วเมืองก็ควรจะกลับสู่สภาวะปกติ” เขากล่าว

“หวังว่าแบบนั้น” ขณะที่พวกเขากําลังเดิน พวกเขาสังเกตเห็นรถสปอร์ตเคลื่อนที่ผ่านพวกเขา ไปพวกเขามองไม่เห็นว่าใครเป็นคนขับมันลูซิเฟอร์ก็ไม่เห็นพวกเขาเช่นกัน

“รถคันนั้นค่อนข้างดี แต่ดูเหมือนว่ามันจะเล็กไปหน่อยสําหรับเรา” อาร์เน่ กล่าวพร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรถ

“มันเป็นแค่รถสําหรับโชว์ มันจะไม่ปกป้องนายเมื่อศัตรโจมตี ไม่เหมือนที่เราใช้ แต่ใช่พวกมันเหมาะที่จะเดินทาง” เรียอารแสดงความคิดเห็น

เขาไม่รู้ว่าแทนที่จะกังวลเกี่ยวกับรถเขาต้องกังวลเกี่ยวกับคนที่นั่งอยู่ในรถ

หลังจากขับรถไปรอบเมืองแล้วลูซิเฟอร์ก็หันรถกลับไปและเริ่มขับกลับอาร์เน่สังเกตเห็นรถมาแต่ไกล

“มันกําลังกลับมา” เขาแสดงความคิดเห็น

“ต้องเป็นคนรวยที่พยายามจะสนุก มันช่างเสียเปล่ารถคันนี้สมควรที่จะแข่งบนถนนที่ว่างเปล่าไม่เคลื่อนไหวเหมือนหอยทากในเมืองอะไรก็ตามเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา” เรียอาริตอบ

ไม่นานรถก็มาถึงใกล้พวกเขา ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ สายตาของลูซิเฟอร์ จ้องไปที่เรียอาริและ อาร์เน่ ตอนแรกเขาถูกดึงดูดด้วยเสื้อผ้าแปลกๆ ของพวกเขาแต่ในไม่ช้าเขาก็จ่าคนเหล่านั้นได้

เขาเคยเห็นภาพของสมาชิก APF ที่รู้จักกันดี 2-3 คน และ 2 คนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่รถขับผ่านไปอีกครั้ง

“นายเห็น 2 คนนั้นไหมเสื้อผ้าของพวกเขาค่อนข้างน่าสนใจ” แคสเซียสให้ความเห็น

“นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่น่าสนใจเกี่ยวกับพวกเขา” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมยิ้ม “ดูเหมือนว่าเหยื่อของฉันจะได้ผลทั้งสองฝ่าย”

“เหยื่อ?” แคสเซียสถามพลางขมวดคิ้ว

“ถูกต้อง ฉันคาดไว้แล้วว่าฐานของ APF จะปลอดภัยอย่างแน่นหนาการสนทนากับไอย์ เท่านั้นที่ยืนยันได้”

“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจลาก APF มาที่นี่โดยไม่ได้ให้ข้อพิสูจน์ใด ๆ กับพวกเขาพายุฝน ฟ้าคะนองสีดําธรรมดาก็เพียงพอแล้วที่จะทําเช่นนั้น” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“ถ้าฉันจําไม่ผิดวารันท์ไม่ได้มา ซึ่งก็ถูกคาดหวังไว้เช่นกันตอนนี้ฉันแค่ต้องพาวารันท์มาที่นี่ ด้วยน่าสนใจจริงๆ” เขากล่าวเสริมพร้อมยิ้ม

“ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับว่าการประชุมกับไรอาจะเป็นอย่างไรวันมะรืนนี้” เขากล่าว

“เด็กที่ขับรถคันนั้น ดูคุ้นเคยไปหน่อย” เรียอารพูดขณะมองย้อนกลับไปที่รถสีเหลืองที่กําลังวิ่งออกไป

“คุณคงสับสน สําหรับฉันพวกเขาดูเหมือนเด็กรวยทั่วไป ไม่ใช่คนที่เราจําได้” อาร์เน่ตอบพร้อมส่ายหัว “นั่นทําให้ฉันนึกถึงร้านอาหารนั่นสิ! ไปกินข้าวกันเถอะ”

เรียอาริมองไปที่รถซึ่งไปไกลจนหายไปจากสายตาของเขาอย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้นเองที่เขาหันกลับมา

“ใช่ กินข้าวกันเถอะบางทีข้าอาจจะจําบางอย่างได้” เขาพึมพํา

รถสปอร์ตสีเหลืองมาถึงคฤหาสน์เวลลิงยามเปิดประตูให้พวกเขา
เมื่อประตูโลหะเปิดออก ลูซิเฟอร์ขับรถเข้าไปข้างในและหยุดที่ทางเข้าคฤหาสน์ก่อนจะก้าวออกไป

“ถ้านายพูดความจริงสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นเขตสงครามในไม่ช้า” ขณะที่แคสเซียสก้าวลงจากรถ เขายังคงตะลึงกับสิ่งที่ลูซิเฟอร์บอกเขา

คนที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศนี้กําลังมาที่นี่ และพวกเขาอยู่ตรงกลางของมัน มันขึ้นอยู่กับพวกเขาทั้งหมดและโชคเล็กน้อยเช่นกัน

ลูซิเฟอร์เหลือบมองแคสเซียสขณะที่เขายิ้ม “มันกลายเป็นเขตสงครามทันทีที่ฉันก้าวเข้ามา ในเมือง…”

“นายเสียใจไหมที่มาที่นี่ตอนนี้ นายยังมีเวลานายสามารถกลับไปได้หากต้องการ” เขากล่าว

“ฉันไม่ได้กลัว จริงๆแล้ว ฉันแค่กังวลเกี่ยวกับเมืองนี้ หากเกิดการสู้รบขึ้นที่นี่ ผู้บริสุทธิ์จานวนมากจะตาย” แคสเซียสกล่าวโดยไม่รู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกับเมืองนี้

“ผู้บริสุทธิ์จานวนมากเสียชีวิตทุกวันในโลกนี้ และพวกเขาก็จะตายต่อไป แต่ถ้ามันคุ้มค่า ฉันจะพยายามรักษาการสู้รบให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้หากต้องการการต่อสู้” ลูซิเฟอร์ตอบก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ แคสเซียสยังก้าวเข้าไปข้างหลังเขา

เมื่อถึงเวลาอาหารเย็นพวกเขาพบอาหารที่เสิร์ฟบนโต๊ะแล้วและรอพวกเขาอยู่แล้ว

“นั่นเตือนฉัน เธอไม่ได้กินอะไรเลย นำจานมา แล้วตามฉันมา” ลูซิเฟอร์บอกสาวใช้

สาวใช้ทําตามที่เขาพูดและเดินตามเขาไปลูซิเฟอร์ไปที่ห้องของเขาและปลดล็อคประตู

“นี่มันอะไร?” เมื่อเขาก้าวเข้าไปในห้องเขาก็พบว่ามันว่างเปล่า เขาดูตกใจเมื่อมองไปรอบๆ

ไอย์ไปไหน เธอหนีไปแล้วเหรอ? ไม่ ประตูถูกล็อค มันไม่หัก และกุญแจอยู่กับเขา เธอจะจากไปได้อย่างไร? เขาขมวดคิ้วเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อดูว่าเธออยู่ที่นั่นหรือไม่

ไม่มีเสียงน้ำออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งทําให้เขาสงสัย ถ้าเธอไม่อยู่ที่นั่น เขาไม่รู้ว่าเขาจะทําอะไรได้บ้าง

ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำ เขาพยายามเปิดมัน ประตูเปิดออกทันที..

ตอนที่ 278: วิธีเดียว

เรียอาริ และอาร์เน่ ยืนอยู่ด้านหลังได้ยินการสนทนา

พวกเขาเงียบ ยิ่งพวกเขาได้ยินมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งตระหนักว่าเรื่องราวนั้นมีความจริงอยู่บ้าง

สายฟ้าสีดําตกลงมาในเมือง และไม่ใช่แค่วันเดียว วันนี้ก็ตกลงมาอีกเช่นกัน ซึ่งน่าประหลาดใจจริงๆ

เมื่อมองย้อนกลับไปที่อาร์เน่เรียอารใช้นิ้วชี้ตามเขาพวกเขาจากไปอย่างเงียบ ๆ

“เข้าใจอะไรหรือเปล่า” เรียอาริถามหลังจากอยู่ห่างจากฝูงชนไปบ้างแล้ว

“อะไร?” อาร์เน่ถามพลางขมวดคิ้ว

“มันไม่ใช่ครั้งเดียวมันดูไม่เป็นธรรมชาติ ฉันคิดว่าเป็นพายุที่มนุษย์สร้างขึ้น และไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครเขายังอยู่ในเมือง” เรียอารอธิบาย

“ฉันว่ามันจริงนะ เราจะหาคนนั้นเจอได้ยังไง” อาร์เน่ถามพลางขมวดคิ้ว

“ง่ายมาก เราต้องรอให้คนนั้นทําอีกครั้งที่ที่เมฆมีต้นกําเนิด นั่นคือที่ที่เราจะพบเขา” เรียอาริ อธิบายเขาได้คิดไอเดียที่มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยแล้ว

“คุณคิดว่าเขาจะทํามันอีกไหม ถ้าเขาไม่ทําล่ะ” อาร์เน่ถามด้วยความสงสัยว่าแผนนั้นจะใช้ได้ผลจริงหรือไม่

ฉันคิดว่าคนๆ นั้นจะทําอีกครั้ง อย่างน้อยเราก็หวังให้เขาทํานั่นคือวิธีเดียวที่เราจะสามารถหาเขาเจอได้เลย นอกจากนั้น เราทําอะไรไม่ได้ไม่ใช่ว่าเราจะค้นหาได้ทั่วทั้งเมือง” เรียอาริตอบพลางถอนหายใจ

“เราจะต้องโทรหาทีมงานแล้วคนนั้นจะตื่นตัว ซึ่งจะทําให้หาเขาเจอได้ยากขึ้น ดังนั้นหวังว่ามันจะได้ผลระหว่างนี้เราจะอยู่ที่นี่ไปหาโรงแรมกัน” เขากล่าวเสริมขณะเริ่มค้นหาโรงแรม

การค้นหาใช้เวลาไม่นานเมื่อพวกเขามาลงเอยที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งทั้งสองก้าวเข้าไปใกล้พนักงานต้อนรับ

“เราต้องการ 2 ห้อง” เรียอาริกล่าวพนักงานต้อนรับเงยหน้าขึ้นขณะสังเกตชายทั้งสอง ความสนใจของเขาดึงดูดอาร์เน่เป็นพิเศษซึ่งยืนอยู่ด้านหลัง

เขาไม่ได้ถามอะไรในขณะที่รับเงินและให้กุญแจ

“ชั้น 2 ห้องหมายเลข 201 และ 202″

อาร์เน่ และ เรียอาร์ ออกไป

เมื่อทั้งสองจากไป พนักงานต้อนรับก็ถอนหายใจลึกๆ

“วันนี้เกิดอะไรขึ้นอย่างแรก มีคนถือดาบ และตอนนี้ดูเหมือนพวกไวกิ้ง มีแต่คนแปลก ๆ เท่านั้นที่มาที่นี่วันนี้” เขากล่าวพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ยังไงฉันก็ไม่ต้องสนใจ หวังว่าพวกมันจะไม่ทําลายอะไรทั้งนั้น”

เรียอาริ และ อาร์เน่มาถึงโรงแรมเดียวกันกับที่สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่พักอยู่ ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือห้องของพวกเขาอยู่บนชั้น 2 ในขณะที่ แวเรียนท์เกิดใหม่ยังคงอยู่ที่ชั้นหนึ่ง

“แล้ววันนี้ใครจะเฝ้าอยู่บนฟ้า เราจะผลัดกันไหม” อาร์เน่ถามเรียอาริ ขณะที่ทั้งสองคนกําลังเดินขึ้นบันได

“ไม่ใช่พวกเรา เราไม่ต้องทําวันนี้ ฉันสงสัยว่ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง มันเกิดขึ้นเพียงวันละครั้ง ดังนั้นมันอาจจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้” เรียอาริบอกอาร์เน่เมื่อเดินมาถึงชั้นสอง

“ส่วนใครจะคอยเฝ้าดู นั่นคือฉันและนายทั้งคู่ พักผ่อนในห้องของนาย ฉันจะปลุกนายแต่เช้า” เขากล่าวเสริม

เขาเดินไปที่ห้องของเขาและก้าวเข้าไปข้างใน โดยปล่อยให้อาร์เน่เข้าไปนั่งในห้องของเขาเรียอาริโทรหาวารันท์เพื่อบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่

สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่มีห้อง 3 ห้องที่พวกเขาจองไว้ แต่ทั้งสามคนนั่งอยู่ในห้องเดียว กำลังคุยกับไรอา

ห้องที่พวกเขานั่งอยู่นั้นบังเอิญอยู่ใต้ห้องของเรียอาร์ เสียดายเสียงห้องนี้ไม่ดังขึ้นไป

เวลายังคงเดินต่อไปขณะที่ลูซิเฟอร์นอนอยู่บนโซฟา โดยมีกุญแจห้องของไอย์อยู่ในกระเป๋าของเขา

เขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยที่จะนอนที่นี่ เพราะเขารู้สึกดีกว่าห้องนี้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้น นี่คือที่ที่เขาสบายใจ

ภายในห้อง เขาไม่สามารถนอนหลับสนิทได้เนื่องจากต้องคอยระวังสภาพแวดล้อมรอบตัวตั้งแต่ไอย์อยู่ที่นั่น ไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นที่นี่

3 ชั่วโมงผ่านไปก่อนที่เขาจะตื่นจากหลับใหล เขาค่อยๆลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่ง เขาเหยียดแขนออกมองไปรอบๆ สังเกตว่าสาวใช้ยังคงอยู่ที่นี่กําลังทําความสะอาดแต่ก็ไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ

“แคสเซียสอยู่ที่ไหน” เขาถามสาวใช้ขณะที่เขายืนขึ้น

“ฉันคิดว่าเขาอยู่ข้างนอก” สาวใช้ตอบ

“แล้วเวราซิตี้ล่ะ?”

“ครั้งล่าสุดที่ฉันตรวจสอบเธออยู่ในห้องของเธอ”

ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืนและสวมรองเท้าก่อนจะก้าวออกจากบ้าน เมื่อเขาก้าวออกไป สายตาก็จ้องมองไปที่สวนกว้างใหญ่ซึ่งเขาพบว่าแคสเซียสฝึกดาบของเขา

เขาเดินเข้าไปใกล้แคสเซียสขณะที่มือซ้ายสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง

“นายยังคงฝึกฝนพื้นฐานด้วยความมุ่งมั่นพอๆกัน” เขาให้ความเห็นขณะที่หยุดอยู่ข้างหลังแคสเซียส

“แน่นอน พื้นฐานคือพื้นฐานของทุกสิ่งนายสามารถใช้ความแข็งแกร่งของนายได้ดียิ่งขึ้นถ้านายมีทักษะพื้นฐาน”

“ถ้านายไม่ทํานายก็ทําไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงมุ่งเน้นไปที่พื้นฐานมากขึ้น เนื่องจากทักษะของฉันต้องการให้ฉันสมบูรณ์แบบ” แคสเซียสตอบขณะที่เขาหยุดเหวี่ยงดาบและหันกลับมาเผชิญหน้ากับลูซิเฟอร์

ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน “นายฝึกมานานแค่ไหนแล้ว” ลูซิเฟอร์ ถามอย่างแปลกใจ

“3 ชั่วโมง” แคสเซียสตอบ “ไม่นานหรอก”

“อยากออกไปข้างนอกหรือไม่ฉันกําลังคิดที่จะขับรถและฝึกพื้นฐานด้วย” ลูซิเฟอร์ชี้ให้เห็น

“เอาล่ะ ให้เวลาฉันครึ่งชั่วโมงฉันต้องการความสดชื่น” แคสเซียสตอบขณะที่เขาใส่ดาบกลับเข้าไปในฝักแล้วเดินไปที่คฤหาสน์

ลูซิเฟอร์หันความสนใจไปที่สวนสังเกตต้นไม้เขาเดินเข้าไปใกล้และสังเกตต้นไม้ต้นหนึ่ง ซึ่งถูกทําลายไปหมดแล้วเพราะสายฟ้าฟาดลงมาทับต้นไม้นั้น

มันเป็นพืชชนิดเดียวกันกับที่ลูซิเฟอร์เด็ดดอกไม้เป็นครั้งสุดท้าย เขามองว่ามันสวยและเห็นว่ามันถูกทําลายเพราะเขา…เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มในขณะที่หันหลังให้กับรถและเริ่มเดินไปที่รถ

เขาหยุดอยู่หน้ารถสปอร์ตสีเหลืองแล้วปลดล็อค เมื่อก้าวเข้าไปในรถเขาใช้กุญแจเพื่อเปิดเครื่อง

รถสตาร์ท และลูซิเฟอร์นําความรู้ที่เพิ่งเรียนรู้ไปทดสอบ ขณะถอยรถเพื่อให้อยู่ในตําแหน่งที่จะออก

เขายังเปิดเพลงในขณะที่รอการกลับมาของแคสเซียสเขาก็เก็บเสียงไว้แต่เนิ่นๆ..

ตอนที่ 277: การเคลื่อนไหว

เวราซิตี้จ้องไปที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอถอนหายใจ เธอไม่อยากให้เขากระโดดน้ําตาย ตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายของเซล แต่เขาก็ดื้อดึงเกินไป เธอไม่รู้ว่าเธอจะทําอะไรได้เพื่อช่วยเขา “ก็ได้ ทําในสิ่งที่เหมาะสมกับนาย” เธอกล่าวในที่สุด พลางกลอกตาขณะที่เธอลุกขึ้นและจากไป

แคสเซียสยังพบว่าตัวเองอยู่ในตําแหน่งที่ซับซ้อน สิ่งนี้เริ่มยิ่งใหญ่กว่าที่เขาคาดไว้ แต่เขาไม่ สามารถทําอะไรได้เลย ตอนนี้เขาอยู่ในนั้นแล้ว เขาต้องอยู่นิ่งๆ

อย่างน้อยก็จนกว่าลูซิเฟอร์จะแก้แค้นเสร็จ เขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์จะกลับสู่ชีวิตปกติหลังจากนั้น โดยไม่ทราบว่าจิตใจของลูซิเฟอร์ไม่ได้ต้องการแก้แค้นอีกต่อไป

เขาไม่เข้าใจว่าลูซิเฟอร์ไม่ต้องการแก้แค้นในตอนนี้นี้เขาต้องการโลกทั้งใบแทน

เขายังยืนขึ้น ขณะที่เขาจากไป พลางถือดาบของเขา ลูซิเฟอร์ยังคงนอนอยู่ตามลําพังบนโซฟา หลับตาลง เขาไม่ได้นอนแม้ว่าจะหลับตา

“2 ราชาวอร์ล็อค ฮะ พวกมันไม่ได้หนักหนาอะไรมาก ฉันต้องการเล่นเกมนี้กับคนอีกมากมาย นี่เป็นเพียงการเริ่มต้น ฉันจะต้องต่อต้านมากกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการได้

“ไม่สําคัญว่าใครจะอยู่กับฉัน หลังจากที่เราทําเรื่องพวกนี้เสร็จแล้ว แต่ฉันจะทําให้สิ่งที่ฉัน เริ่มต้นขึ้นให้เสร็จ เขาคิดขณะที่เขาหันร่างไปทางด้านข้างและผล็อยหลับไปจริงๆ

ชายผมแดงนอนอยู่บนเตียงสีขาว เครื่องกําาลังวัดการเต้นของหัวใจและ ECG ของเขา

ผู้หญิงคนหนึ่งก็นั่งอยู่ที่นี่ในชุดพยาบาลด้วย ชายผมแดงนอนนิ่งราวกับหลับสนิท เครื่องแสดงการเต้นของหัวใจที่มั่นคง

ไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นชายผมแดงคนนั้นก็คงคิดว่าเป็นคนที่กําลังหลับอยู่ แต่คนที่นี่เท่านั้นที่รู้ว่าไม่เป็นเช่นนั้น

ชายผู้นี้ไม่ได้เคลื่อนไหวเลยในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเขาอยู่ในอาการโคม่า หลังจากทะเลาะกับใครบางคน อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่ของเขาหายดีแล้ว แต่เขายังไม่ตื่น

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีสาวใช้คนหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่นี่เพื่อดูแลเขา มีการไปพบแพทย์ทุกวันด้วย เนื่องจากชายผมแดงไม่ใช่คนธรรมดา เขาเป็นกัปตันของ APF กลุ่มเดลต้านั้นคือ แซนเดอร์

พยาบาลอยู่ที่นี่มา 8 ปีแล้ว พลางมองดูชายผู้ไม่ขยับเขยื้อน เธอเบื่อที่จะเจอผู้ชายคนนี้มานานแล้ว แต่เธอก็ทําอะไรไม่ได้อีกแล้ว สุดท้ายเธอก็ทําได้แค่ทนกับมัน

“ฉันไม่เข้าใจ ทําไมพวกเขาถึงไม่ทิ้งชายคนนี้ล่ะ มันไม่ใช่ว่าเขากําลังจะตื่นขึ้นมาซะหน่อย เขาไม่ได้ตื่นมาตั้งนาน มันเปลืองทรัพยากรเปล่าๆ” สาวผมดํากล่าวถอนหายใจ เธอยืนขึ้นและ เริ่มเดินไปมา พลางรู้สึกเบื่ออย่างมาก

ขณะที่เธอหันหลังให้ชายผมแดง มือของเขาวางอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาวซึ่งสะอาดหมดจด

มือของเขาที่ไม่ขยับเขยื้อนมาหลายปีแล้ว มือของเขาถูกเข็มสอดเข้าไป ซึ่งเชื่อมต่อกับถุงที่อยู่ด้านบน ซึ่งดูเหมือนจะมีของเหลวไม่มีสี

ในความเงียบของห้อง ได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าของสาวผมด่า ขณะที่เธอเดินไปมา

ท่ามกลางการเคลื่อนไหวที่เร่งรีบของเธอ หญิงสาวไม่ได้สังเกตว่านิ้วของชายคนนั้นขยับเล็กน้อย มันสั้นจนยากจะสังเกต

เมืองเคนซิงตันมีสนามเด็กเล่นที่เด็กๆ เคยเล่นฟุตบอล มันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยหญ้า แต่ส่วนใหญ่ว่างเปล่า

หญ้าในทุ่งยังเปียกอยู่เพราะเพิ่งโดนฝนตกหนัก มีแม้กระทั่งแอ่งน้ําในสถานที่ต่างๆ ทันใดนั้น หญ้าก็เริ่มเคลื่อนไหวเมื่อมีลมแรงปรากฏขึ้น สามารถมองเห็นน้ําสันสะเทือน ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ ลงจอดบนพื้นหญ้า ประตูเฮลิคอปเตอร์เลื่อนเปิดออกก่อนที่กลุ่มคน 2 คนจะก้าวออกมา สามารถเห็นชายร่างใหญ่เป็นผู้นําได้

ผมสีชมพูของเขาโบกมือตามแรงลม ขณะที่ก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์ เสื้อคลุมสีขาวสะอาดสะอ้านคลุมไหล่ของเขา ข้างหลังเขาเป็นชายที่ดูเทอะทะ ผมยาวของเขาดูเหมือนจะเป็นสีเทาเข้มกว่า ดูเหมือนเขาจะสวมแจ็กเก็ตที่ทําจากขนสัตว์ ชายทั้งสองมีรอยสักบนใบหน้า แต่ชายผมสีชมพูดสภาพกว่า ไม่เหมือนคนที่ 2 ที่ดเหมือนไวกิ้ง

“ดูเหมือนช่วงนี้ฝนจะตก” ชายผมดําพูดเมื่อสังเกตเห็นหญ้าเปียก

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น ฉันสงสัยว่ามีสายฟ้าสีดํามากกว่านี้หรือไม่ เราจะได้เห็นกัน” เรียอา รีบบอกกับอาร์เน่ “ไปเริ่มสํารวจกันเถอะ บางทีเราอาจจะหาบางอย่างเจอก็ได้” เขากล่าวต่อขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ถนนใกล้ๆ

“นี่น่าสนใจมาก” เขากล่าวขณะที่หยุดอยู่บนถนนเมื่อเห็นปล่องภูเขาไฟ

เขาลงไปขณะที่แตะปากปล่องที่มีน้ําเป็นส่วนใหญ่อยู่แล้ว

“คุณคิดว่ามันอาจจะเป็นเพราะสายฟ้าเหรอ?” อาร์เน่ถาม ในขณะที่เขาสังเกตเห็น ไม่มีหลุมอุกกาบาตที่คล้ายกันในบริเวณใกล้เคียง

“เป็นไปได้ แต่รู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้เอง” เรียอาริพูดพลางขมวดคิ้ว “พื้นผิวยังร้อน

เขายืนขึ้น ลูบหัว ขณะมองไปรอบๆ ผู้คนเพิ่งเริ่มออกจากบ้านเนื่องจากท้องฟ้าแจ่มใสในขณะนี้

ประชาชนส่วนใหญ่ดวิตกกังวล บางคนกําลังพูดคุยกันในขณะที่คนอื่นๆ มองดูท้องฟ้า

อาร์เน่ และ เรียอาริ เข้าหาผู้ชายเพื่อฟังการสนทนาของพวกเขา “มันเกิดขึ้นอีกแล้ว! มันจะเกิดขึ้นทุกวันเลยหรือ เกิดอะไรขึ้นกับเมืองของเรา ทําไมสายฟ้าสีด่าถึงมาที่นี่ทุกวัน พระเจ้ากำลังพยายามลงโทษเราเพื่ออะไร?”

“ฉันเองก็งงเหมือนกัน ไม่ควรมีฝนตกในช่วงเวลานี้ของปี แต่มันเกิดขึ้น 2 วันติดต่อกัน มันดูไม่ธรรมดา ฉันคิดว่าเมืองนี้ไม่ปลอดภัยสําหรับเราที่จะอยู่อีกต่อไป”

“เราจะทําอย่างไรดี เราไม่สามารถละทิ้งเมืองได้ อาชีพของเราอยู่ที่นี่”

“พวกเราก็ตายที่นี่ไม่ได้เหมือนกัน! คุณไม่เห็นหลุมอุกกาบาตในเมืองนี้หรือ?
พวกมันคือผลกระทบของสายฟ้าสีดํา คุณคิดว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่บ้านเราจะถล่มแบบนี้? เราเคยไปมาแล้ว โชคดีที่ยังไม่มี!”

“ใช่แล้ว ตราบใดที่เรายังมีชีวิต เรามีทุกอย่าง! เราไม่สามารถอยู่ในเมืองได้!”

“ฉันตกลง ฉันตัดสินใจย้ายแล้ว”

“ฉันก็จะย้ายเหมือนกัน”

“ฉันด้วย!”

“แต่พวกนาย…”

“ไม่! ถ้าอยากอยู่ก็อยู่ได้ ฉันไม่ทําให้ครอบครัวและตัวฉันเองตกอยู่ในอันตราย!”

“ถูกต้อง เรากําลังจากไป ตราบใดที่ยังดีอยู่ แต่ตอนนี้เมืองนี้ไม่เหมาะกับเราแล้ว”

ตอนที่ 276: เกมที่น่ากลัว

เมื่อลูซิเฟอร์ได้ยินเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยของพวกเขา เขาก็ขมวดคิ้วมากขึ้นมันยากกว่าที่เขาคิดไว้มาก

เขาคิดว่าจะมีแต่กล้องหรืออาวุธนอกโรงงาน แต่นี่มันมีมากกว่านั้นมาก ไม่เพียงแต่ภายนอกเท่านั้นแต่ภายในยังมีกลไกป้องกันมากมาย “ทําไมพวกคุณถึงมีเลเซอร์อยู่ในฐานของคุณ และ พวกมันมีวิธีปิดการใช้งานพวกมันได้อย่างไรบ้าง” ลูซิเฟอร์ถาม

“ทําไมเราถึงมีมันงั้นเหรอ ง่าย ๆ เรามีศัตรูมากมาย การป้องกันไม่เคยเพียงพอ เราพยายามรักษาฐานของเราให้มากที่สุดดังนั้นแม้ว่าคนจะก้าวเข้าไปข้างในคนๆนั้นก็รอดได้ไม่นาน” ไอย์อธิ์บาย

“จะปิดการใช้งานเลเซอร์ได้อย่างไร ใครควบคุมพวกมัน” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง เขาต้องหาทางปิดมันให้ได้ ถ้าเขาอยากจะเข้าไปข้างใน

“ปิดการใช้งานพวกมันเหรอ ลืมมันไปเถอะ ทีมเฝ้าระวังความปลอดภัยอยู่ในห้องเสริมและมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ แต่พวกเขารายงานต่อวารันท์เท่านั้น พวกเขาไม่รับคําสั่งจากใคร ดังนั้นคุณจะมีคําสั่งนั้นไม่ได้ พวกเขาปิดใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย” ไอย์โต้กลับ

“พวกเขาไม่เคยออกจากฐานเลยงั้นหรือ” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“พวกเขาไม่เคย และก่อนที่คุณจะถามพวกเขาก็ไม่มีครอบครัวเช่นกัน เฉพาะคนที่ไม่มีจุด อ่อนทางอารมณ์เท่านั้นที่ถูกเลือกให้ทํางานในรายละเอียดด้านความปลอดภัย ดังนั้นคุณจึงไม่สามารถใช้สมาชิกในครอบครัวของพวกเขาได้เพื่อบังคับพวกเขา” ไอย์อธิบาย

ลูซิเฟอร์สูดหายใจเข้าลึกๆ เข้าใจว่าการเจาะเข้าไปข้างในนั้นยากเพียงใด ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้เลยตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทําไม APF จึงถือว่าปลอดภัยทั้งๆ ที่มีศัตรูมากมาย

เขาจการต่อสู้กับแซนเดอร์ได้และตระหนักว่าวอร์ล็อคของพวกเขาแข็งแกร่งวอร์ล็อคที่ฐานควรจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่กว่าจะไปถึงที่นั่น เขาต้องผ่านอะไรมามากมาย “เธอพลาดอะไรไปหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่นั่น นายอยากได้ยินเกี่ยวกับกําแพงเสริมเหล็กและเขตทุ่นระเบิดนอกฐานที่ควบคุมโดยแผนกรักษาความปลอดภัยหรือไม่ หรือนายอยากได้ยินเกี่ยวกับเครื่องยิงขีปนาวุธที่กําหนดเป้าหมายจากระยะไกล?” ไอย์ถามยิ้มๆ

“ฉันอยากได้ยินทุกเรื่อง ไม่สําคัญหรอกว่าเธอมีอะไร ฉันอยากรู้ทุกอย่าง” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ก็ได้ ถ้านายต้องการฟังมากกว่านี้ ฉันจะบอกนาย เพื่อให้นายรู้ว่าความฝันอันไกลโพ้นที่จะโจมตีสถานที่นั้นเป็นอย่างไร” ไอย์กล่าวอย่างมั่นใจขณะที่เธอหัวเราะ

เธอสังเกตใบหน้าของคนอื่นๆ ในห้องสังเกตว่าพวกเขาขมวดคิ้วด้วย พวกเขาได้ตระหนักว่ามันเป็นความสําเร็จที่เป็นไปไม่ได้แล้ว มีเพียงลูซิเฟอร์ที่ยังไม่เข้าใจ

เธอเริ่มพูดถึงสิ่งต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการเสริมแรงลดความเสียหายที่ผนังด้านนอกของฐานเพื่อป้องกันการโจมตีระยะไกลใดๆ

เธอใช้เวลา 20 นาทีในการอธิบายให้เสร็จ หลังจากทําเสร็จแล้ว เธอเหยียดแขนขณะหาว “และนั่นคือทั้งหมด”

ลูซิเฟอร์เหลือบมองเวราซิตี้ ขณะที่เขาถาม “เธอพูดความจริงเหรอ?”

“เธอพูดความจริง” เวราซิตี้ตอบ พลางพยักหน้า

แม้แต่นางยังดูแปลกใจ เมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ เธอไม่รู้ว่าสถานที่นี้ปลอดภัยเช่นกัน แต่ตอนนี้เธอก็รู้แล้ว

ลูซิเฟอร์เหลือบมองไอย์ ขณะที่เขาพูดต่อ “เอาล่ะ ข้อมูลความปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้ฉันมีคําถามสุดท้ายสําหรับเธอ”

“ค่าถามอะไร?” ไอย์ถามขณะที่เธอยิ้ม ดูเหมือนผ่อนคลาย

“พ่อของฉันตายอย่างไร ตามที่เธอบอกวารันท์และ APE หรือใครก็ตามที่เธอรู้จักเกี่ยวกับเรื่องนี้” ลูซิเฟอร์ถามพลางนึกคําตอบในใจ

เขารู้คําตอบของคําถามนี้แล้ว แม้ว่าวารันท์จะมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เขาก็ไม่บอกเธอ เขาไม่ได้ บอกเธอเกี่ยวกับการฆ่าลูซิเฟอร์ อย่าว่าแต่เซลเลย

“ทําไมเราถึงต้องเกี่ยวข้องด้วย? เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน สําหรับใครเป็นคนทํา? คําตอบควรจะชัดเจน ฉันเชื่อว่ามันเป็นแวเรียนท์เกิดใหม่หรือไม่ก็พวกสัตว์ประหลาด” ไอย์ตอบ

ลซิเฟอร์ไม่ตอบสนอง ในขณะที่เขายืนขึ้น และไม่แปลกใจกับคําตอบของเธอ

“แค่นั้นสินะ” เขาพูดหลังจากเวลาผ่านไปนาน

“ฉันออกไปตอนนี้เลยได้ไหม ฉันคิดว่านายสัญญาแล้ว และนายได้คําตอบและรู้ว่าความพยายามของนายไร้ประโยชน์เพียงใดปล่อยฉันไปเถอะ แล้วนายจะยังได้ออกจากประเทศนี้ได้อย่างสบายโดยไม่มีวันหวนกลับ

“หลบอยู่อีกประเทศหนึ่งและใช้ชีวิตอย่างสงบสุข เพราะนายคงทําอะไรไม่ได้ที่นี่” ไอย์บอกลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนจะจากไป

“ปล่อยเธอไป ยังไม่ถึงเวลาหรอก เธอยังมีประโยชน์อยู่” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่หันกลับมามอง “จะมีประโยชน์ขนาดไหนต้องคอยดู” เขาบอกแบบนั้นพลางเปิดประตู

แคสเซียสยังดันร่างของเขาขึ้น ในขณะที่เขายืนขึ้นเตรียมที่จะจากไป

เวราซิตี้เป็นคนแรกที่ออกจากห้องแคสเซียสและลูซิเฟอร์ออกไปพร้อมกัน และล็อคประ ตูตามหลังเขาไป

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ไปที่ห้องโถงอีกครั้ง พวกเขาเข้ารับตําแหน่ง ขณะที่ลูซิเฟอร์นั่งอยู่บนโซฟากํามะหยี่สีแดง แคสเซียสก็นั่งเก้าอี้ที่แสนสบายเมื่อหันหน้าเข้าหาเขา

“ที่นั้นเป็นเหมือนป้อมปราการใช่หรือไม่” แคสเซียสถามพลางส่ายหัว

“แม้แต่การรักษาความปลอดภัยในอะคาเดมีของเราก็ไม่ได้เข้มงวดขนาดนั้น มันอยู่ในลีกที่ต่างไปจากเดิม ฉันไม่คิดว่าจะเป็นความคิดที่ดีที่จะเข้าใกล้สถานที่นั้น” แคสเซียสกล่าวขณะที่ เขานึกถึงรายละเอียดด้านความปลอดภัยของ อะคาเดมี่ ซึ่งถูกกล่าวขานว่าเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดหมายถึงอะไร

“ฉันเข้าใจแล้ว การจู่โจมพวกเขาโดยไม่ได้เตรียมตัวไว้ดูเหมือนจะยาก” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่ก้มหน้าลงพร้อมกับครุ่นคิด

“แล้วตอนนี้แผนเป็นยังไงบ้าง” แคสเซียสถาม

“แผนจะไม่เปลี่ยนแปลงเราจะไปพบกับแวเรียนท์เกิดใหม่สิ่งเดียวที่จะแตกต่างคือเราจะไม่โจมตีฐานของ APE โดยตรง” ลูซิเฟอร์ตอบขณะเงยหน้าขึ้น

ดวงตาของเขามีประกายแปลกๆ ราวกับว่าเขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว “ฉันต้องการวารันท์ และ ฉันสามารถพาเขาไปข้างนอกได้ แต่ฉันต้องการความฟุ้งซ่านสําหรับพวกเขาที่เหลือ และพวกแวเรียนท์เกิดใหม่จะทําให้ไขว้เขว” เขากล่าวต่อไปขณะที่เขานอนบนโซฟาอย่างสบาย ๆ

“นายก่าลังเล่นเกมที่น่ากลัวจริงๆ รู้ไหม เล่นกับราชาวอร์ล็อค 2 คน…” เวราซิตี้เตือนลูซิเฟอร์ “ก้าวพลาดเพียงครั้งเดียวและนายอาจจะประสบปัญหาอย่างลึกล้ํา”

“2 ราชาวอร์ล็อค ไม่ต้องกังวลไป ฉันพร้อมแล้วสําหรับผลที่ตามมา เธอไม่ต้องต่อสู้เพื่อฉันทั้งหมดที่ฉันต้องการคือให้เธออยู่ด้วยเมื่อฉันถามเขาเกี่ยวกับพ่อของฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบขณะที่เขาหลับตา “ออกไปเดี๋ยวนี้ ให้ฉันได้พักผ่อน”

ตอนที่ 275: มาตรการรักษาความปลอดภัย

“ไรอา? นายหมายถึงราชาวอร์ล็อคไรอาหรือไม่” เวราซิตี้ถามด้วยความแปลกใจ

“ใช่ ฉันชวนเขาไปที่เมืองเขาน่าจะมาที่นี่เร็วๆ นี้” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ยังไงก็เถอะ เธอแน่ใจหรือว่าจับคําโกหกของเขาได้” เขาถาม

“ฉันทําได้ ฉันจับได้ว่าพ่อของนายโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้ามันใช้ได้กับเขา มันก็ใช้ได้กับราชาวอร์ล็อคทุก ๆ คน” เวราซิตี้ตอบพลางยิ้ม

ลูซิเฟอร์ประหลาดใจเมื่อได้ยินคําพูดของเธอ

“เรื่องโกหกของเขาเขาโกหกเรื่องอะไร แล้วเธอเจอเขาไหม” เขาถามพลางขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว ฉันเคยพบเขาครั้งหนึ่งฉันคิดว่าน่าจะประมาณ 19 ปีที่แล้ว ดังนั้นควรเป็นก่อนนายจะเกิด” เวราซิตี้ตอบ

“ก่อนฉันเกิด? เธออายุเท่าไหร่กันแน่?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างแปลกใจ

“นายอย่าถามผู้หญิงเรื่องอายุของเธอ” เวราซิตี้พูดพลางกลอกตา “รู้ไหม ตอนนั้นฉันอายุ 20

“เธออายุ 39 ฉันต้องขอบอกเลยว่าเธอดูไม่แก่เหมือนคนอายุ 30 เลย ไม่เลว ฉันไม่สามารถเดาอายุที่แท้จริงของเธอได้” แคสเซียสแสดงความคิดเห็น โดยคํานวณอายุของเธอจากข้อมูลที่ให้มา

“เขาโกหกเรื่องอะไร” ลูซิเฟอร์ถามกลับเข้าเรื่อง

“น่าจะเกือบ 1 ปีก่อนที่ฉันจะเกิด เขาคิด

“ฉันจําไม่ได้แน่ชัด แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจําไม่ได้” เวราซิตี้
ตอบ

“เขาโกหกใคร” ลูซิเฟอร์ถาม “เธอจําเรื่องนั้นได้ไหม”

“เขาอยู่ในร้านอาหารกับแม่ของนาย เขาเคยโกหกเรื่องบางอย่างในตอนนั้น อา ฉันจําได้แล้ว!” ทันใดนั้น เวราซิตี้ก็อุทานออกมาราวกับว่าเธอจําได้ว่า

ลูซิเฟอร์ มาถึงห้องโถงใหญ่และหมกมุ่นอยู่กับการสนทนา เขานั่งบนโซฟา เวราซิตี้ และคนอื่นๆ ก็นั่งลงเช่นกัน

“ก็ดี แล้วนั่นคืออะไร” ลูซิเฟอร์ถาม

“อย่างที่ฉันพูด มันเล็กน้อยมากฉันนั่งอยู่ใกล้ ๆ ฉันก็เลยได้ยินมัน เขาบอกว่าอาหารของโรงแรมนี้ไม่มีอะไรอร่อยเลยต่อหน้าแม่ของนาย และเขาบอกว่าแม่ของนายทําอาหารอร่อยกว่า” เวราซิตี้แสดงความคิดเห็นและเธอเริ่มหัวเราะ

“ฉันแน่ใจว่าสามีหลายๆคนคงเคยโกหกแบบเดียวกัน แต่ฉันต้องบอกว่า พ่อของนายนั้นยอดเยี่ยมมาก ฉันขอลายเซ็นจากเขาตอนที่เขาจะจากไป และเขาไม่ได้ปฏิเสธ” เธอกล่าวต่อ

“แม้แต่แม่ของนายก็เหมือนกัน พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธใครเลย ตราบใดที่พวกเขาไม่มีเหตุผลเธอกล่าวเสริม

“แน่นอน พวกเขาเป็นคนดีดีเกินไปสําหรับความดีของพวกเขาเองและโง่บ้างด้วย” ลูซิเฟอร์ เย้ยหยันขณะที่เขาส่ายหัว

กึก…กึก…

จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากข้างหลังพวกเขา พวกเขาทั้งหมดหันกลับมาสังเกตเห็นสาวใช้

“อาหารเช้าเตรียมไว้แล้วเดี๋ยวจะเย็น” สาวใช้เตือนลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ

กลับมาที่ห้องของลูซิเฟอร์ ไอย์ยังคงรออยู่ เธออาบน้ําเสร็จแล้ว และตอนนี้เธอนั่งบนเตียงมองดูนาฬิกา

11 โมงเช้าแล้ว และลูซิเฟอร์ก็ไม่กลับมา เธอสงสัยว่าเขาจะไปกินข้าวเช้าหรือไม่

เธอกังวลมากขึ้นกับการสอบสวนซึ่งจะมาถึงในภายหลังเมื่อลูซิเฟอร์กลับมา

เธอเชื่อว่าเธอจะต้องตกอยู่ในโลกแห่งความเจ็บปวด เมื่อผู้ชายคนนั้นกลับมา เธอพยายามหลีกเลี่ยงการสอบสวนแล้ว และหลังจากเมื่อคืนนี้เธอเข้าใจว่าความอดทนของลูซิเฟอร์น่าจะหมดลง

ถ้าเธอลองกลอุบายใดๆ อีก เธอจะถูกฆ่าโดยตรง เธอเข้าใจว่าแบบนั้น แต่นั่นก็ทําให้เธอหันมาจริงจัง

“ฉันจะทําอะไรได้บ้าง ขอบอกความจริงกับพวกเขาได้ไหม ฉันสามารถยอมรับความตายได้ หรือไม่ ความตายนั้นดี แต่ฉันสามารถยอมรับการทรมานโดยไม่สามารถต้านทานได้หรือ ถ้าฉันบอกความจริงกับพวกเขาล่ะ?” เธอสงสัยขมวดคิ้ว “ถูกต้อง แม้ว่าฉันจะบอกความจริงกับพวกเขามันก็ไม่สําคัญหรอก พวกเขาสามารถเข้าใกล้สํานักงานใหญ่โดยไม่ถูกจับได้”

“แล้วถ้าพวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของ APF ล่ะก็ยังมีองค์กรฮันเตอร์ที่จะมาช่วย”

“แล้วถ้าฉันบอกความจริงกับพวกเขา พวกเขาจะทําอะไรได้ ทําไมฉันต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องสิ่งที่จะไม่ส่งผลใดๆ ต่อผลลัพธ์สุดท้ายฉันสามารถบอกเขาและช่วยตัวเองให้รอดได้ ทําร้าย APF ด้วย”

“ถูกต้อง ฉันเดาว่าการบอกเขาเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับตอนนี้ ฉันคิดได้ช้าไปโดยไม่มีเหตุผล”

ขณะที่เธอนั่งอยู่ในห้องคนเดียวและครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง เธอตระหนักว่าการพูดความจริงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

เธอเริ่มรอการกลับมาของลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอพร้อมที่จะบอกคําตอบและเป็นอิสระ

เวลายังคงหลั่งไหล แต่ลูซิเฟอร์ไม่หวนกลับ

“ตอนที่ฉันไม่อยากบอก เขายืนอยู่เหนือหัวฉัน และตอนนี้ฉันพร้อมแล้ว เขาไม่มาเหรอ เขากําลังทําอะไรอยู่”

การรอของเธอยึดเยื้อเมื่อผ่านไปอีกชั่วโมงก่อนที่เธอจะสังเกตเห็นว่าประตูเปิดอยู่จริงๆ

ลูซิเฟอร์ก้าวเข้ามาพร้อมกับเวราซิตี้และแคสเซียส

“พร้อมจะพูดความจริงหรือยัง” เขาถามขณะนั่งเก้าอี้

“ฉันพร้อมแล้ว ถามอะไรก็ได้ที่อยากถาม” ไอย์พูดอย่างใจเย็น

“ดีแล้ว ดูเหมือนเธอจะเข้าใจ แล้ว APE มีจุดแข็งอย่างไร?” ลูซิเฟอร์ถาม

“เรามีแวเรียนท์ 700 คนที่อยู่ที่ฐาน 50 คนเป็นวอร์ล็อคและที่เหลือเป็น นักเวทย์และนักรบ” ไอย์ตอบโดยไม่ลังเล

ลูซิเฟอร์เหลือบมองเวราซิตี้ ซึ่งพยักหน้า “แวเรียนท์ 700 คน ก็ไม่เลวเลย มีกี่คนในหน่วยอัลฟ่า?” ลูซิเฟอร์ถาม

“วอร์ล็อค 40 คนอยู่ในหน่วยอัลฟา โดยรวมแล้วพวกเขามีสมาชิก 70 คน” ไอย์ตอบ

“วอร์ล็อค 40 คนเหรอ มากกว่าที่ฉันคาดไว้ แต่ไม่มากสําหรับความสามารถ” ลูซิเฟอร์พึมพําและขมวดคิ้ว

“แล้วหน่วยเบต้าของเธอล่ะ?” เขาถาม

“เรามีวอร์ล็อค 9 คน รวมทั้งตัวฉันด้วย และก่อนที่นายจะถาม คนที่ 10 นั้น อยู่ในเดลต้า” ไอย์ตอบ

“มาตรการรักษาความปลอดภัยในสํานักงานใหญ่มีอะไรบ้าง” ลูซิเฟอร์ถาม

“มีกล้องอยู่รอบๆ ฐาน ดังนั้นนายจึงไม่สามารถแม้แต่จะคิดเข้าใกลโดยไม่ให้ถูกจับได้ นอกจากนี้ยังมีเซ็นเซอร์โดยรอบซึ่งซ่อนอยู่ในสถานที่ชุ่ม ซึ่งติดตามการเคลื่อนไหวใดๆ” ไอย์อธิบาย

“เรายังมีเรดาร์ที่ตรวจจับทุกสิ่งที่เข้าใกล้ฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัตถุที่บินได้” เธอกล่าวเพิ่ม เต็ม

“และแม้ว่านายจะเข้าใกล้ฐานโดยไม่ถูกจับได้ แต่ก็มีทางเข้า ซึ่งเปิดโดยการสแกนตาของสมาชิก APE เท่านั้น และนั่นก็เช่นกัน เมื่อพวกเขายังมีชีวิตอยู่” ไอย์อธิบาย “และถ้านายลงจอดบนหลังคา นายยังต้องลงทะเบียนลายนิ้วมือในระบบจึงจะสามารถใช้ลิฟต์ได้ ดังนั้นการเข้าไปในฐานจึงเป็นไปไม่ได้” เธอกล่าวต่อ

“และถ้านายยังเข้าไปได้ โดยไม่ได้รับอนุญาต มีเลเซอร์ซ่อนอยู่ที่โถงทางเดินพวกมันจะผ่าคุณครึ่งหนึ่งก่อนที่นายจะรู้ว่ามันมาจากไหน” เธอกล่าวต่อ ซึ่งลูซิเฟอร์รู้สึกประหลาดใจ

ตอนที่ 274: ธงแดง

ลูซิเฟอร์ลงถึงจุดบนหลังคาของคฤหาสน์ ลมหนาวปะทะผิวของเขาขณะที่เขามองขึ้นไปบน ฟ้า เมฆดํายังคงอยู่บนท้องฟ้าราวกับรอเขาอยู่

ลูซิเฟอร์ลูบคาง ขณะขมวดคิวครุ่นคิด

“ไรอากําลังจะมาที่นี่เช่นกัน ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับเขาและค่าตอบของเขา ฉันหวังว่าเขาจะไม่ โกหก ถ้าเขามีส่วนในการตายของพ่อแม่ฉันจริง ๆ สิ่งต่างๆ จะซับซ้อนขึ้น”

“ตอนนี้ฉันยังคิดไม่ออก ต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ” เขาพูดพร้อมส่ายหัวขณะที่จดจ่ออยู่กับก้อน เมฆ

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่ยกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้า รู้สึกเชื่อมโยงกับเมฆ

สายฟ้าแลบไปรอบๆ มือ แต่สายฟ้าแบบเดียวกันก็ส่องประกายอยู่กลางเมฆ ฝนเริ่มตกอีกครั้ง ขณะที่เมฆเริ่มคําราม

“ออกไป ทําลายทุกสิ่ง!” ลูซิเฟอร์คํารามดังพอๆ กับเมฆ ก่อนที่เขาจะกําหมัดขณะที่ลดมือลง สายฟ้าทั้งสิบตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนทหารตอบคํารามของเขา

“ทําไมในเมืองจึงไม่มีใคร? ดูเหมือนเมืองผีเลยเหรอ?”ทริสตันถามขณะเดินไปข้างๆเคล เลียน”นี่มันน่าหดหูเกินไปแล้ว”

“ฉันคิดว่าทุกคนซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกเขา” เคลเลี่ยนตอบ

“ทําไม? พวกเขารู้หรือไม่ว่าเราอยู่ที่นี่” ทริสตันถาม

“ดูข้างบนสิ” เคลเลียนพูดอย่างสบายๆ โดยไม่ได้มองที่ทริสตัน

เมื่อทริสตันมองขึ้นไป เขาสังเกตเห็นเมฆสีดําบนท้องฟ้า

“พวกมัน” เขาถาม

“ใช่แล้ว เมื่อวานนี้เอง สายฟ้าสีดําตกลงมา ฉันแน่ใจว่าพลเรือนจะต้องถูกข่มขู่โดยสิ่งนั้น นั่น เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่ออกไปข้างนอกเมื่อมีโอกาสดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง” เคลเลียนอธิ บาย

ทั้งสามคนกําลังเดินไปหาโรงแรม เสื้อผ้าของพวกเขาเปียกอยู่แล้วเพราะน้ําเย็น

“มาเถอะ สายฟ้าน่ากลัวแค่ไหนกัน? ตราบใดที่นายมีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดี นายก็สามารถห ลบในเวลาที่เหมาะสมได้เสมอ แม้ว่ามันจะพุ่งตรงมาหานายก็ตาม” ทริสตันพูดแต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังลั่น

เขามองขึ้นไปข้างบน แต่ก่อนจะรู้แม้กระทั่งว่าเกิดอะไรขึ้น สายฟ้าก็ตกลงมาที่เขา เขาหาเวลาขยับนิ้วไม่ได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้น

โชคดีที่สายฟ้าตกลงมาใกล้เขาและไม่ทับตัวเขาเลย

แม้แต่เคลเลียนและยาลิซ่าก็ตกตะลึง ขณะพวกเขามองดูปากปล่องที่สร้างขึ้นบนถนนคอนกรีต

นั่นไม่ใช่รูหลุมลึกเพียงรูเดียว สายฟ้าอีกหลายสายก็ตกลงไปพร้อม ๆ กัน มันตกลงไปทุกหน ทุกแห่งในเมือง คราวนี้ลูซิเฟอร์ได้เพิ่มค่าความถี่

เขาต้องการจะดูว่า เขาสามารถยึดเมฆออกไปได้ไกลและเขาสามารถโจมตีพื้นที่ใดได้บ้าง “ครั้งต่อไป นายจะไม่ยกธงแดงได้ไหม” เคลเลียนเตือนทริสตัน พลางกลอกตา

“นายคิดว่านายจะหลบได้จริงหรือ ถ้ามันตกลงมา มันอยู่ข้างบนนายไม่ใช่อยู่ใกล้ ๆ หรอกเห รอ?” ยาลิซ่าถามพลางส่ายหัว

“แค่ฉันไม่ได้ตั้งสติ” ทริสตันพูดออกมาอย่างมั่นใจ

“หยุดพูดจนกว่าเราจะถึงโรงแรม” ยาลิซ่าเตือนขณะเริ่มออกเดินทาง เคลเลียนก็ทําตาม

สําหรับชาวเมืองนั้น พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกเขา เพราะพวกเขากลัวฟ้าผ่า และ ภาวนาว่ามันจะไม่ตกบนหัวของพวกเขา บางคนนั่งใกล้หน้าต่าง มองออกไปข้างนอก เมื่อได้ยิน เสียงฟ้าผ่า พวกเขาสามารถเห็นสายฟ้าตกลงมาแต่ไกล “เกิดอะไรขึ้นกับเมืองนี้ มันไม่ปกติ เรา ถูกสาปหรืออะไรกันแน่เนี่ย มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ใน 2 วันแล้ว เมืองนี้ไม่คุ้มที่จะอยู่อีกต่อไป แล้ว ที่นี่ไม่ปลอดภัย”

เมื่อเห็นว่าที่นี่เกิดขึ้นบ่อยเพียงใด ผู้คนจํานวนมากจึงตัดสินใจย้ายไปยังเมืองอื่น ในขณะที่คน อื่นๆ ยังคงสงสัยว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นบ่อยเพียงใดและจู่ๆ ก็เกิดขึ้นในเมือง

เคลเลียนและทีมของเขาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองและก้าวเข้าไปข้างใน

“เราต้องการห้องที่ดีที่สุดของคุณ” พวกเขาบอกกับพนักงานต้อนรับ

พนักงานต้อนรับดูประหลาดใจที่เห็นว่าหนึ่งในสามคนดูเหมือนจะถือดาบ “อา ดาบเล่มนั้นเป็น ของจริงเหรอ?” เขาถาม

“มันคมพอแล้วที่จะผ่าคุณออกเป็น 2 ส่วน” ทริสตันพูดโดยไม่ขัดกับคําพูดของเขา

“เอ่อ…” พนักงานต้อนรับอึ้งเมื่อได้ยินคําตอบ คนเหล่านี้ดูเหมือนไม่ใช่คนดี แต่พกวเขาก็ไม่ กล้าขัด

“มีกฎห้ามนําดาบเข้าไปหรือไม่” เคลเลียนถามพลางขมวดคิ้ว

“เอ่อ ไม่นะ”

“งั้นเอาเราห้องเราไปเร็ว!” พนักงานต้อนรับให้กุญแจห้องอย่างเร่งรีบ

“ห้องหมายเลขหนึ่งอยู่ที่ชั้นหนึ่ง” พนักงานต้อนรับบอกกับทั้งสามคนโดยไม่ได้ทําให้พวกเขา โกรธขึ้นมาอีก

เคลเลียนและคนอื่นๆ ออกไป ทิ้งพนักงานต้อนรับไว้ข้างหลัง ซึ่งตอนนี้เหงื่อออกมาก

หลังจากที่เขาเห็นกลุ่มสามคนจากไป ในที่สุดขาของเขาก็ยอมแพ้ด้วยความกลัวขณะนั่งบน เก้าอี้

“อย่างแรกคือพายุฝนฟ้าคะนองแปลกๆ ข้างนอก และตอนนี้คนพวกนี้เหมือนอาชญากร” เขา พึมพํา เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก

ลูซิเฟอร์รายการโจมตีด้วยสายฟ้าเสร็จแล้ว ซึ่งทําให้เขาได้รับผลกระทบอย่างหนักอีกครั้ง การหายใจของเขาหนัก เมื่อขาของเขาอ่อนแรงเล็กน้อย

แต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนเมื่อก่อน เขานั่งบนพื้นเปียกภายใต้ฝนตกหนัก

“ระยะของการโจมตีนี้ก็ดีเช่นกัน และฉันคิดว่าถ้าฉันฝึกมันทุกวันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ฉันควรจะมีความเชี่ยวชาญในการโจมตีนี้”

“ช่องโหว่เดียวที่ฉันเห็นในนั้นคือต้องใช้เวลามากเกินไปในการเตรียมเมฆและการโจมตี ฉัน ต้องลดเวลาที่ต้องใช้ลงหากต้องการให้เป็นประโยชน์”

“นายอยู่นี้นี่เอง ฉันตามหานายทุกที่ ทําไมนายมานั่งตากฝนล่ะ” เมื่อได้ยินเสียงอย่าง กะทันหัน ลูซิเฟอร์มองไปข้างหน้าและพบว่าแคสเซียสยืนอยู่ตรงนั้น

เวราซิตี้ก็อยู่กับเขาเช่นกัน “มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” เขาถามพลางลุกขึ้นยืน

“ถ้านายนั่งกลางสายฝน นายจะป่วย” เวราซิตี้เตือนเขา “เดี๋ยวก่อน นายป่วยแต่นายก็รักษา ด้วยพลังของนายได้ใช่หรือไม่”

“เท่าที่ฉันจําได้ คงใช่” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะก้าวเข้ามาหาพวกเขา “เธอมาหาฉันทําไม”

“นายไม่อยากกินอะไรบ้างหรอ อาหารเช้าพร้อมแล้ว แต่พวกเราหานายไม่เจอ” เวราซิตี้ตอบ

“นอกจากนี้ เรายังต้องสอบปากคําไอย์ในภายหลัง นายควรจะขึ้นไปได้แล้ว” แคสเซียสพูดแทรก

“เธอตื่นอยู่สินะ” ลูซิเฟอร์พยักหน้า

“ดี งั้นพาเธอลงไปกินข้าวเช้าด้วย” แคสเซียสพูด แล้วลงไปข้างล่างพร้อมกับลูซิเฟอร์

“ไม่ใช่คราวนี้ เธอจะหิวจนกว่าฉันจะได้คําตอบ ฉันรอไม่ไหวแล้ว เราไม่มีเวลาแล้ว อีกไม่นาน ไรอาก็จะมาแล้ว แล้วเราจะจากไป วันนี้ฉันต้องการค่าตอบ” ลูซิเฟอร์ประกาศ…

ตอนที่ 273: ฉันไม่ได้คุยกับคุณ

“ทริสตัน นายบอกว่านายจะเงียบ อย่าสร้างปัญหาให้กับเรา” เคลเลียนยังเตือนทริสตัน ผู้ซึ่งกลอกตาเป็นคําตอบ

“ยังไงก็เถอะ ลูซิเฟอร์ตัวน้อย เจ้าโตขึ้นมากแล้ว สบายดีไหม?” เขาถามลูซิเฟอร์

“ฉันไม่เคยดีขึ้นเลย แล้วคุณสองคนล่ะ?” ลูซิเฟอร์ถามกลับ

“เรา? เราจะสบายดีได้อย่างไร เมื่อนายหายไปตั้ง 8 ปี? ครั้งที่แล้วหายไปไหนเราส่งนายออก ไป 2-3 วันแล้ว แต่นายก็ไม่กลับมา แม้แต่เคนก็หายตัวไปคราวที่แล้วเราทําอะไรผิดหรือเปล่า” เคลเลียนถามดูเหมือนว่าเขาจะกังวล

“เคนจะกลับมาได้ยังไง? เขาควรจะตายไปแล้วในตอนนี้ ฉันคิดว่าเขาเสียชีวิตในวันเดียวกับที่ฉันถูกวารันท์ฆ่า” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะนั่งบนที่นั่ง “คุณยืนทําไม? ถือซะว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ของ
คุณ”

คนอื่นๆ ก็นั่งลงแล้วยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมว่า คิดว่าเฮลิคอปเตอร์ของคุณเหรอ มันเป็นของพวกเราอยู่แล้ว พวกเขาคิดขณะนั่งลง

“นายหมายความว่าอย่างไรวารันท์ฆ่านายงั้นเหรอ?” เคลเลียนถาม
“ฉันแปลกใจที่คุณไม่รู้เรื่องนี้ แต่นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น คืนที่ฉันอยู่บนชายหาดเราถูกวารันท์ และ ทีมของเขาโจมตีพวกเขาฆ่าเราทั้งคู่” ลูซิเฟอร์ตอบ เขาวางขาข้างหนึ่งทับอีกข้างในขณะที่นั่งท่าสบาย

“พวกเขาพบคุณในวันเดียวกัน! ได้อย่างไร พวกเขาค้นหาคุณมาหลายปีแล้วในฐานะ…” เคลเลียนเริ่มตอบโต้ แต่จู่ๆ เขาก็หยุดลงขณะที่เขาตีหน้าผากราวกับว่าเขารู้อะไรบางอย่าง “อ่า เข้า ใจแล้ว! เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเรา! เราจะพลาดไปได้ยังไง!”

“เราเสียใจอย่างยิ่งที่เราไม่สามารถปกป้องนายในวันนั้น เราสัญญาว่าเราจะแก้แค้นพวกเขาด้วยกัน กลับบ้านกับเราทุกคนกําลังรอนายอยู่ นายสามารถพาเพื่อนของนายมาด้วย กลับมาหาครอบครัวของนาย” เขาบอกลูซิเฟอร์อย่างระมัดระวัง

ตลอดเวลานี้ เคลเลี่ยนเป็นคนเดียวที่พูด ยาลซ่าไม่ได้พูดอะไรเลย และปล่อยให้เคลเลียนเป็นผู้นํา เนื่องจากเขาเก่งเรื่องคําพูด แต่เขาก็แปลกใจเช่นกันที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อนทริสตันสนใจเพื่อนของลูซิเฟอร์มากกว่าทันทีที่เคลเลียนบอกให้ลูซิเฟอร์พาเพื่อนไปด้วย แววตาก็แวบเข้ามา

“คุณอยากให้ฉันกลับไปหาคุณไหม” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“แน่นอน ทําไมเราจะไม่อยากล่ะ” เคลเลี่ยนได้ตอบกลับ

“ถ้างั้นฉันก็มีเงื่อนไขตราบใดที่มันสําเร็จ ฉันจะกลับไปตามความตั้งใจของตัวเองและลืมไปว่าคราวที่แล้วคุณไม่ได้ดูแลฉันให้ปลอดภัย” ลูซิเฟอร์ยืนยัน

“เงื่อนไขอะไร?” เคลเลียนถาม

“ฉันอยากให้ไรอามาหาฉันเป็นการส่วนตัว แล้วฉันจะกลับไป” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ไร้สาระ! แกคิดว่าแกเป็นใครถึงขอให้เขามารับแกเป็นการส่วนตัว?” ทริสตันลุกขึ้นตะโกน ลูซิเฟอร์เหลือบมองทริสตัน ขณะที่ลมแรงพัดกระหนก่อนจะหยุดทันที

ริมฝีปากของทริสตันเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่เขาค่อยๆ ขยับมือไปแตะแก้มของเขา เขาเหลือบดูนิ้วที่เขาเคยสัมผัสแก้มเพื่อสังเกตเห็นเลือดที่ติดอยู่

เคลเลียนและยาลิซ่าก็จ้องไปที่ทริสตันเพื่อสังเกตว่ามีแผลที่แก้มเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นบาดแผลเล็กน้อย แต่ก็ยังมีเลือดออก

“บาดแผลนั้นน่าจะลึกกว่านั้น และมันอาจจะอยู่ที่คอคุณด้วย ดังนั้นนั่งลงและอย่าเข้ามายุ่งเมื่อฉันไม่ได้คุยกับคุณ” ลูซิเฟอร์เตือนทริสตัน

“เจ้าหนูน้อย!” ทริสตันคํารามด้วยความโกรธในขณะที่เขาคว้าด้ามคาทาน่าของเขา

“ทริสตัน! พอ! อย่ากล้าเอาดาบนั่นออกมา! ฉันเตือนนายแล้วนะ!” เคลเลียนยืนขึ้นและก้าวไปข้างหน้า เขารู้ว่าถ้าทริสตันดึงดาบออกมา สิ่งของต่างๆ ก็จะหลุดมือไป

“ไร้สาระ! เขาโจมตีฉันก่อน!” ทริสตันคํารามอย่างโกรธจัด

“ฉันไม่สนว่าใครจะโจมตีก่อน! แค่เฉือนนายไปนิดหน่อย! นั่งลง! ลูซิเฟอร์อายุน้อยกว่านาย!” เคลเลียนเตือนทริสตันขณะที่เขาจ้องมอง

เขาไม่ต้องการให้เกิดอันตรายใดๆ ต่อลูซิเฟอร์เพราะเด็กคนนี้มีความสําคัญต่อไรอายิ่งกว่านั้น มันไม่เหมือนกับว่าลูซิเฟอร์จะถูกฆ่าอยู่ดียังไงก็ตาม เขาแค่ไม่อยากเริ่มสงครามที่ยืดเยื้อ ซึ่งพวกเขาไม่ต้องการ

เขาไม่พอใจที่ลูซิเฟอร์ทําเช่นกัน แต่เขาเข้าใจดีว่าเวลานั้นต้องการความอดทน

“ใช่แล้ว อย่าทําให้เรื่องแย่ลง นั่งลง” ยาลิซ่าพูดขึ้นด้วย

ทริสตันจ้องไปที่เคลเลียน แต่ในที่สุดเขาก็ยอมฟังเขาปล่อยด้ามดาบของเขาขณะนั่งลงพลางกําหมัดแน่น

“ลูซิเฟอร์ โปรดพิจารณาด้วยไรอากําลังทํางานอยู่ที่ฐานทัพ เขายุ่งมาก กลับไปพร้อมกับเราคุณสามารถพบเขาที่ฐานได้เช่นกัน” เคลเลียนแนะนํา

“ฉันพูดในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วถ้าเขาต้องการฉัน เขาต้องมา แล้วฉันจะไปกับเขา ถ้าเขาไม่ อยากมาฉันก็อยู่คนเดียวได้” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างดื้อรั้นขณะที่เขายืนขึ้น

“ถ้าเขาตกลง บอกเขาให้ไปพบฉันที่วินดี้คาเฟในเคนซิงตัน ฉันแน่ใจว่าคุณจะต้องหามันเจอ” เขาพูดต่อในขณะที่เขาเริ่มออกเดินทาง “อย่างที่ฉันบอกไป คุณควรกลับไปแทนที่จะรอฉันส่ง เขามาในครั้งต่อไปฉันจะรอที่นั่น” เมื่อพูดอย่างนั้น ลูซิเฟอร์ก็กระโดดลงจากเฮลิคอปเตอร์แล้วลอยกลับ

“มีแค่ฉันที่รู้สึกหรือเปล่า หีชรือว่าเขาดูหยิ่งผยองมากกว่าเมื่อก่อนไปมากจริงๆ” ยาลิซ่าถามพลางขมวดคิว

“เขาเป็นแบบหลังจริงๆ แต่เราจะทําอะไรได้? เราต้องการเขา เราไม่สามารถโจมตีเขาหรือบังคับเขาเพราะมันเป็นการต่อต้านไม่ว่าในกรณีใด ไรอาควรจะมาได้ถ้ามันเป็นการทําให้ลูซิเฟอร์เราลงจอดในเมืองกันเถอะ เราจะรอเขามาที่นี่” เคลเลี่ยนตอบพร้อมส่ายหัว

เขาสั่งนักบินให้ลงจอด

ใบพัดเริ่มแสดงให้เห็น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ร่อนลงบนพื้น เคลเลียน ยาลิซ่า และทริสตันทั้งหมดก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์

หลังจากที่พวกเขาก้าวออกไปเฮลิคอปเตอร์ก็เริ่มเดินทางกลับ

“นายไม่ควรจะหยุดฉันที่ตรงนั้น เราไม่ต้องการเด็กคนนั้น” ในที่สุดทริสตันก็เปิดปากพูดในขณะที่ระบายความในใจออกมา

“จําคําสัญญาของนายไว้นายจะไม่ทําอะไรโง่ ๆ – ไม่ต่อสู้กับใคร ฉันห้ามไม่ให้นายใช้ดาบของนาย” เคลเลียนตอบ “รอจนกว่าเราจะเอามันกลับมา

สําหรับนักดาบคนนั้น ฉันจะให้นายต่อสู้กับเขาเมื่อเราอยู่ที่ฐาน เป็นยังไง?”

“ดี ฉันจะไม่สู้กับเขาที่นี่” ทริสตันเยาะเย้ย “แล้วเราจะอยู่ที่ไหนกัน? ในโรงแรม?”

“ใช่แล้ว มันจะดีกว่าที่จะอยู่ที่นี่ เหมือนที่เราเห็นฟ้าผ่า บางที APF ก็เห็นมันด้วย เราต้องจับตาดูลูซิเฟอร์ ในขณะเดียวกันก็ทําให้เขาปลอดภัยด้วย” เคลเลี่ยนตอบขณะที่เขาเริ่มเดินเข้าไปในเมือง

กลุ่มเล็กๆ ของพวกเขาไปที่โรงแรมและได้ห้องพักที่นั่น..

ตอนที่ 272: พบกับแวเรียนท์เกิดใหม่

ลูซิเฟอร์ขยับเล็กน้อย ซึ่งเผยให้เห็นจี้กุญแจที่ห้อยอยู่รอบคอของเขาพร้อมกับจ์ที่ปู่ของเขามอบให้

เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวของลูซิเฟอร์ ไอย์ก็ต้องประหลาดใจเมื่อหัวใจของเธอเริ่มเต้นเร็วขึ้นโดยคิดว่าลูซิเฟอร์กําลังจะตื่นเธอตัวแข็งในการเคลื่อนไหวราวกับว่าเธอเป็นรูปปั้น ขณะที่เธอรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

โชคดีที่ลูซิเฟอร์ไม่ลืมตาแม้จะผ่านไป 2 นาที ดูเหมือนว่าเขายังหลับอยู่

ไอย์ถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะที่เธอวางมือบนหน้าอกของเธอ

เธอรออีก 2-3 วินาทีขณะที่เธอสังเกตกุญแจรอบคอของลูซิเฟอร์ พลางสงสัยว่าจะดึงมันออกมาได้อย่างไร การถอดออกยากกว่าที่คิดมาก เนื่องจากเธอเชื่อว่าเธอจะต้องเงยหน้าขึ้นเพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น

ฉันสามารถใช้อะไรได้บ้าง? ฉันต้องการกรรไกร แต่ฉันสงสัยว่าเขาจะมีอะไรคมๆ ไว้ในห้องนี้ ฉันไม่มีแม้แต่ใบมีดพระเจ้า ทําไมเขาต้องทําให้มันยากขนาดนี้?’ เธอคิดพลางขมวดคิ้ว ดีฉันจะเสี่ยงดีกว่าเสียเวลา” เธอคิดขณะตัดสินใจลงมือทํา

เธอเข้าใกล้ลูซิเฟอร์อย่างระมัดระวังและสอดมือของเธอเข้าไปใต้ศีรษะของเขาขณะที่เธอค่อยๆ เงยศีรษะของเขาขึ้น อีกมือหนึ่งของเธอคว้าจี้กุญแจและเริ่มขยับขึ้นและพยายามดึงมันออกมา “แบบนี้ดีที่สุดแล้วเหรอ” ขณะที่เธอกําลังจะถอดออกเธอก็ได้ยินเสียงที่สงบ

เธอปล่อยหัวของลูซิเฟอร์ให้เป็นอิสระเมื่อรู้ว่าเป็นเสียงของเขา เขาตื่นแล้ว

“ฉันควรเตือนเธอเรื่องหนึ่งจริงๆ นะ กุญแจที่เธอพยายามหยิบไม่ใช่กุญแจของประตู” ลูซิเฟอร์กล่าวต่อไปขณะที่เขาลืมตาขึ้นช้าๆ เขาเหลือบมองไปทางไอย์ ขณะที่เขาพูดต่อ “งั้นก็กลับไปนอนซะ พรุ่งนี้จะเป็นวันสําคัญของเธอ”

“กุญแจที่แท้จริงอยู่ที่ไหน” ไอย์ถามขณะที่เธอเดินกลับไปที่เตียง

“ฉันไม่คิดว่าเธอต้องรู้เรื่องนี้ นอกจากนี้การกระทําของเธอในการถูกไฟฟ้าดูดก็ค่อนข้างดีเธอหลอกฉันได้ด้วยซ้ํา แต่นั่นเป็นเพียงขอบเขตของมัน อย่าคิดที่จะหลบหนี” ลูซิเฟอร์กล่าวก่อนเขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วกลับไปนอน ขณะที่ลูซิเฟอร์ผลอยหลับไป อีก 2 ชั่วโมงผ่านไปก่อนที่ ไอย์จะลุกจากเตียงอีกครั้งเธอเริ่มการค้นหาอีกครั้ง แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าลูซิเฟอร์ไม่มีกุญแจ เธอเชื่อว่าเขาซ่อนมันไว้ที่ไหนสักแห่งในห้องเธอพบว่าสะดวกเพราะตอนนี้เธอไม่ต้องขยับลูซิเฟอร์ ทําให้โอกาสในการตื่นนอนลดลง เธอค้นทุกหนทุกแห่งภายในห้อง แต่เขาไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้เลย แต่ต่อให้ค้นหาเท่าไรเธอก็ไม่พบมัน

ขณะที่เธอกําลังค้นหาห้องลูซิเฟอร์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง เมื่อสังเกตเห็นการค้นหาของเธออย่างบ้าคลั่ง เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะก่อนจะเข้านอนจริงๆ

8 โมงเช้าเมื่อเขาตื่นขึ้นอีกครั้งและพบว่า ไอย์นั่งอยู่บนเตียงพลางมีท่าทางที่ดูพ่ายแพ้ “หาไม่เจองั้นเหรอ?” เขาถามไอย์

“นายบอกได้ไหมว่านายซ่อนมันไว้ที่ไหน มันต้องไม่ใช่บนตัวนาย และฉันก็หามันไม่เจอภายในห้องด้วย กุญแจอยู่ที่ไหนกันแน่!” ไอย์ถามพลางยอมแพ้

เธอเสียเวลาหลายชั่วโมงในการค้นหา แต่ก็ไม่เป็นผล

“หือ? ใครบอกว่ามันไม่อยู่กับฉัน?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน ขณะนํากุญแจจากกระเป๋าหลังมาให้เธอดู

“แต่… นายบอกว่ามันไม่เกี่ยวกับคุณ!” ไอย์ตะโกนอย่างโกรธจัด

“แล้วเธอเชื่อฉันไหม” ลูซิเฟอร์ถามพลางกลอกตา “คนแบบไหนที่เชื่อศัตรูของเขา เธอคาดหวังให้ฉันบอกเธอจริงๆ เหรอว่ากุญแจอยู่ที่ไหนเธอมีอะไรอีกมากที่ต้องทํา”

“นาย!”

“อย่ามองฉันแบบนั้น ไปอาบน้ําซะ เธอไม่ได้อาบน้ํานานแล้ว ตอนนี้เธอเริ่มส่งกลิ่นแล้ว เธอควรใส่เสื้อผ้าที่เวราซิตี้ส่งมาด้วย” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะปลดล็อคประตู

“ผู้ชายคนนี้… เขาเป็นแค่เด็ก แล้วทําไมเขาถึงได้สิ่งที่ดีที่สุดจากฉันตลอดเวลา?” ไอย์สาปแช่งเมื่อเธอลุกจากเตียง

เธอไม่รู้ว่าเธอจะทําอะไรได้ในสถานการณ์แบบนี้ เธอถูกขังไว้โดยไม่มีพลังใดๆ และเธอไม่สามารถแม้แต่จะหลบหนีได้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่สามารถแม้แต่จะโกหกออกไปได้

ลูซิเฟอร์ขึ้นไปบนหลังคาอีกครั้งเพื่อฝึกทักษะเดียวกันกับเมื่อวาน เพื่อทําให้ตัวเองคุ้นเคยกับทักษะนี้ นอกจากนี้ เขายังต้องการหาทางลัดในการร่ายสกิลและสัมผัสความรู้สึกแข็งแกร่งเหมือนเดิม ยิ่งกว่านั้นการใช้ทักษะเดิมอีกครั้งก็มีประโยชน์อย่างที่เขาเชื่อ

เฮลิคอปเตอร์ของแวเรียนท์เกิดใหม่ ได้มาถึงเมืองเคนซิงตันแล้วด้วย มันกําลังมองหาที่ที่จะลงจอดในเมืองเมื่อพวกเขาสังเกตเห็นท้องฟ้าเหนือเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆดํา

“อย่างที่เราได้ยิน… เมฆดํา พาเราไปยังต้นกําเนิดของเมฆ” เคลเลียนสั่งนักบิน จ้องมองไปที่เมฆด้านนอก

“นายคิดว่าเราควรลงจอดไหม ถ้าเหมือนกับที่เราได้ยิน อาจมีสายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าในไม่ช้า” ยาลิซ่าเตือนเคลเลียน ขณะมองออกไปข้างนอก

ลูซิเฟอร์สร้างกลุ่มเมฆได้ง่ายขึ้นมาก เนื่องจากเขารู้ว่าความรู้สึกแบบไหนที่กระตุ้นมันกระนั้น ก่อนที่เขาจะปล่อยสายฟ้าออกมาเขาก็สังเกตเห็นเฮลิคอปเตอร์กําลังเคลื่อนตัวมาทางเขาจากระยะไกล

“อ่า ดูเหมือนพวกเขาจะอยู่ที่นี่แล้ว” เขาพึมพําพร้อมยิ้ม “พวกมันเร็วอย่างที่ฉันคาดไว้ไม่เลว”

เขาหยุดพยายามใช้สายฟ้าและบินไปทางเฮลิคอปเตอร์ที่พุ่งเข้ามาหาเขาแทน เขาไม่ต้องการให้พวกเขารู้ว่าจริงๆ แล้วเขาอยู่ที่ไหนดังนั้นจึงควรไปหาพวกเขาแทน

“มีคนก่าลังบินมาทางเรา” นักบินบอกเคลเลี่ยนและคนอื่นๆ

“อืม?”

เคลเลียน, ยาลิซ่า และ ทริสตันมองไปข้างหน้าและสังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งบินมาทางพวกเขา “หยุดเคลื่อนไหวเคลเลี่ยนบอกนักบินที่หยุดทันที เฮลิคอปเตอร์ลอยอยู่ที่เดิมไม่เดินหน้า ลูซิเฟอร์ไปถึงเฮลิคอปเตอร์และเข้าไปทางประตูที่เปิดอยู่

“เอ่อ นั่นคุณ 2 คนงั้นเหรอ” เขาพูดอย่างประหลาดใจ เมื่อสังเกตเห็นผู้ชายที่อยู่ที่นี่ “ฉันคิดว่าไรอาจะมาเหมือนกันยังไงก็เถอะ ยินดีต้อนรับสู่เคนซิงตัน ฉันคิดอยู่เลยว่าคุณสองคนเป็นยังไงบ้าง”

“เพื่อนนักดาบของคุณอยู่ที่ไหน” ทริสตันถามก่อนสิ่งอื่นใดนั่นคือสิ่งเดียวที่เขากังวล

“ฉันไม่คิดว่าคุณต้องสนใจเพื่อนของฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างฉุนเฉียว เขาไม่รู้สึกถึงความปรารถนาดีจากทริสตัน..

ตอนที่ 271: กุญแจ

“เราไม่มีรูปภาพ เราจึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าข่าวลือนั้นเป็นข่าวลือหรือไม่ แต่ผู้คนจํานวนมากในเคนซิงตันกําลังพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นฉันเชื่อว่ามันควรจะเป็นความจริง” เรียอาริตอบ

“นั่นเป็นทักษะของเซลไม่มีใครควรจะทําให้มันเกิดขึ้นได้แปลกมาก” วารันท์ แสดงความคิดเห็นและขมวดคิ้ว

“มีคนอีกคนหนึ่งที่สามารถใช้สายฟ้าสีดําได้ แต่จริงที่ทั้งสองคนตายไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องแปลกจริงๆ” เรียอาริเห็นด้วย

“เอาล่ะ ฉันตัดสินใจแล้วฉันอยากให้นายไปที่นั่นกับอาร์เน่และตรวจสอบ เก็นซี่กับฉันจะโฟกัสที่ไอย์” วารันท์กล่าวพร้อมออกค่าสั่งให้เรียอารี

“ฉันจะทําทันที” เรียอาริยืนยันก่อนจะจากไป

วารันท์นั่งอยู่คนเดียวในห้องของเขา เปิดลิ้นชักแล้วนรูปหมู่ออกจากลิ้นชักซึ่งเขาวางไว้บนโต๊ะ

“สายฟ้าสีดําอีกแล้วเหรอน่าสนใจมาก” เขาพึมพํา ขณะมองดูภาพหมู่ ซึ่งถ่ายทันทีหลังจากชัยชนะของพวกเขาในมหาสงครามครั้งสุดท้าย

ในภาพ วารันท์, ไรอา, เซส, เซล, แคลร์ส และแม้แต่ชายอ้วนก็มองเห็นได้อย่างชัดเจน

“นี่เป็นสัญญาณของเรื่องใหญ่ๆที่กําลังจะเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า ฉันหวังว่าจะไม่” เขากล่าว ขณะเก็บภาพนั้นไว้

นอกสํานักงานเรียอารีรองหัวหน้าหน่วยอัลฟาได้เข้าร่วมกับอาร์เน่ ขณะที่ทั้งสองคนเตรียมจะจากไป

ภายในคฤหาสน์เวลลิ่ง ลูซิเฟอร์นั่งอยู่หน้าไอย์ ขณะที่เวราซิตี้และแคสเซียสก็อยู่ในห้องเช่นกัน แต่คราวนี้เวราซิตี้นั่งอยู่ใกล้ลูซิเฟอร์ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน

“เอาล่ะ ไอย์ ได้เวลาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง คําถามก็เหมือนกับเมื่อเช้านี้ แต่เธอจะไม่ถูกถามอีกเหมือนเมื่อก่อน ฉันจะหักกระดูกของเธอ 1 ชิ้นด้วยการโกหกและการโกงแต่ละครั้ง” ลูซิเฟอร์เตือนไอย์จริงจังกว่าเมื่อก่อนมาก มันสายเกินไปสําหรับเขาแล้ว

“นายจะใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงงั้นหรือ? นายให้เวลาฉันคิดเรื่องนี้หน่อยได้ไหม ฉันจะตอบนายพรุ่งนี้” ไอย์เสนอเพื่อพยายามชะลอการสอบสวน

“ฉันขอโทษ แต่จะไม่มีพรุ่งนี้สําหรับเธอ ถ้าเธอไม่ตอบคืนนี้” ลูซิเฟอร์โต้กลับขณะที่เขายืนขึ้น

เขาขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ไอย์และนั่งใกล้แขนเธอ “บอกมาสิว่าฉันถามอะไร เธอมีเวลา 3 วินาทีในวินาทีที่ 4 เธอจะสูญเสียแขนขวา” เขาพูด พลางจ้องไปที่ดวงตาที่ลึกของไอย์ “ให้เวลาฉัน ฉันสัญญาว่าจะบอกพรุ่งนี้” ไอย์กล่าว

“หนึ่ง…”

“ไม่เอาน่า การตัดสินใจไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันต้องคิดให้มาก!” เธอพูดต่อเมื่อสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์เริ่มนับแล้ว

“สอง…”

“เจ้าเด็กเวรน้อย! ทําไมไม่ไปตายซะ!” ไอย์เอื้อมมือไปจับคอของลูซิเฟอร์อย่างผิดหวัง

ลซิเฟอร์ไม่ได้กังวลแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ว่าสิ่งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเขา เขาไม่ได้พยายามที่จะหยุดเธอ

“อ๊าก!” ก่อนที่มือของไอย์จะไปถึงเขา เธอกรีดร้องราวกับว่าเธอถูกไฟฟ้าดูดอีกครั้ง ดวงตาของเธอปิดลง ขณะที่เธอล้มลงบนเตียง

เมื่อเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นลูซิเฟอร์ก็ตอบสนองจริงๆ หมัดของเขากําแน่นอย่างไม่เต็มใจ

“ผู้หญิงคนนี้ล้อเล่นกับฉันหรือเปล่า หลังจากนี้ เธอยังคงพยายามใช้พลังของเธออยู่!” เขาปล่อยมือขณะที่ทุบกําปั้นบนโต๊ะที่อยู่ใกล้เขาจนแตก

“ฉันก็จะฆ่าเธอเหมือนกัน!” เขาตะโกนด้วยความหงุดหงิด ขณะยืนขึ้นและคว้าที่คอของไอย์ โชคดีที่เขายังคงสวมถุงมืออยู่ และไม่ได้ทําให้คอเธอหัก

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนปล่อยล่าคอของเธอ

“ผู้หญิงคนนี้เป็นตัวปัญหาจริงๆ แม้แต่เด็ก ๆ ก็ไม่น่ารําคาญเหมือนกับหล่อน” เขากล่าวขณะ เดินไปมาด้วยความหงุดหงิด

วันนี้อารมณ์ของเขาไม่ดีสําหรับสิ่งที่เขาต้องผ่านเพื่อนําเมฆเหล่านั้นมา และตอนนี้เขาก็เป็นแบบเดิมอีกครั้ง

โชคดีที่เขาควบคุมตัวเองได้

“ไม่เป็นไร อย่างที่เธอพูด เรามีเวลาอีกมาก เธอจะให้คําตอบกับเรา ดูเหมือนเธอจะดื้อรั้น” แคสเซียสปลอบลูซิเฟอร์

“ใช่ เธอยังไม่เข้าใจอะไรเลยรอเธอตื่นขึ้นมา เธอจะเข้าใจในไม่ช้า” เวราซิตี้พูดแทรก

“ขอบคุณ เราจะทํามันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ พวกคุณออกไปได้แล้ว” ลูซิเฟอร์บอกกับแคสเซียส และเวราซิตี้ ขณะที่เขานั่งลงบนเก้าอี้

แคสเซียสเหลือบมองที่ลูซิเฟอร์ แต่ตัดสินใจว่าควรปล่อยเขาไว้ตามลําพังสักครู่ เขาและเวราซีตี้จากไป

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่คนเดียวในห้อง ลูซิเฟอร์พึมพําด้วยความหงุดหงิด “ผู้หญิงคนนี้จะต้องตายด้วยน้ํามือฉันสักวันหนึ่ง ถ้าเธอยังทํามันต่อไป”

เขาลุกขึ้นและล็อคประตูก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ําเพื่ออาบน้ํา

ขณะที่ลูซิเฟอร์ปิดประตูห้องน้ํา ไอย์ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างลับๆ เธอไม่ได้ย้ายจากตําแหน่ง ของเธอแม้ว่าเธอหลับตาอีกครั้งขณะที่เธอยิ้ม

เธอแกล้งใช้ความสามารถของเธอเพื่อให้พวกเขาเชื่อว่าเธอถูกช็อตจริงๆ

เธอมีประสบการณ์มาแล้วว่าต้องรู้สึกอย่างไรจึงจะสามารถแสดงท่าทีที่น่าเชื่อได้

ผ่านไป 10 นาที ลูซิเฟอร์ก็ออกไปหลังจากอาบน้ําเสร็จ เขาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและแต่งตัวก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง

ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบ เนื่องจากไอย์ไม่ได้เคลื่อนไหวเลย เธอแสร้งทําเป็นหลับและ คาดเดาตําแหน่งของลูซิเฟอร์ด้วยความช่วยเหลือของฝีเท้าของเขาเท่านั้น

ไม่นาน เวลาเที่ยงคืนก็มาถึง เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงแล้วที่ลูซิเฟอร์ผล็อยหลับไป

ไอย์ไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเดียวในชั่วโมงที่แล้ว ขณะที่เธอรอเพื่อให้แน่ใจว่า ลูซิเฟอร์หลับอยู่

ในตอนนี้เองที่เธอค่อยๆลืมตาขึ้นและหันกลับมามองดูลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนจะนอนหลับอย่างสงบสุข

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆขณะลุกจากเตียง

เขย่งเธอก้าวเข้าไปในห้องน้ําที่ลูซิเฟอร์แขวนเสื้อผ้าเก่าของเขา เธอเชื่อว่ามีโอกาสที่กุญแจจะอยู่ในเสื้อผ้าเก่าของเขา

เธอค้นเสื้อผ้าเก่าๆ น่าเสียดายที่เธอไม่พบสิ่งใดที่นั่น “ผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเก็บมันในเสื้อผ้าที่เขาสวม” เธอคิดขณะออกจากห้อง

เมื่อก้าวออกจากห้องน้ํา เธอสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ซึ่งยังคงหลับอยู่ เธอเข้ามาใกล้เขา

ขณะยืนอยู่ตรงหน้าเขาเธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่เธอสังเกตกระเป๋าของเขาเพื่อดูว่าเธอมองเห็นสิ่งที่เป็นกุญแจอยู่ข้างในหรือไม่ แม้ว่าเธอจะไม่เห็นอะไรแบบนั้น แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้เธอแตะต้นขาของลูซิเฟอร์เบา ๆ บริเวณกระเป๋าของเขาเพื่อดูว่ามีกุญแจอยู่ข้างในหรือไม่

“กุญแจไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ เธอคิดพลางขมวดคิ้ว เขาเก็บไว้ที่ไหน
ขณะที่เธอกําลังจะค้นหาที่อื่นลูซิเฟอร์ก็ขยับตัวเล็กน้อยจี้กุญแจที่ห้อยอยู่ที่คอ ถูกเปิดเผยเพราะการเคลื่อนไหว..

ตอนที่ 270: ยังคงเป็นปริศนา

“ยังดีที่ตามหาผู้หญิงคนนั้นได้ การฝึกของเธอเป็นอย่างไรบ้าง” ไรอาถาม

“การฝึกของเธอไปได้สวย แม้ว่าจะใช้เวลา 2 ปีในการพาเธอออกจากสถานที่นั้นโดยไม่ทําลายมันแต่มันก็คุ้มค่าเธอเรียนรู้อะไรมากมายในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาของการฝึกที่นี่เธอเกือบจะพร้อมแล้ว” เวก้าตอบ

“ดีมาก จดจ่ออยู่กับเธอ ว่าแต่นายพบอะไรจากการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นบ้างหรือไม่พวกเขาจัดการทําให้เธอเป็นแบบนั้นได้อย่างไร” ไรอาถามต่อ “นั่นยังคงเป็นปริศนาอยู่ฉันได้รับบันทึกบางส่วนจากพวกเขาแล้ว แต่ยังไม่สมบูรณ์และขาดประเด็นสําคัญบางประการคนของเรายังคงพยายามทําความเข้าใจ”เวก้าตอบ

“บอกให้พวกเขาทํางานเร็วขึ้น ถ้าเราเข้าใจ บางทีเราอาจทําให้เธอแข็งแกร่งขึ้นได้” ไรอากล่าวพร้อมพยักหน้า “นายออกไปได้แล้ว”

เวก้าลุกขึ้นและจากไป หลังจากที่เวก้าจากไป ไรอาก็เรียกยาลิซ่าและเคลเลียนในห้องทํางานของเขาซึ่งมาโดยไม่ชักช้า“ฉันต้องการให้พวกนายไปที่เคนซิงตันลูซิเฟอร์น่าจะอยู่ที่นั่นหาเขาแล้วพาเขากลับมาหาเรา” ไรอาสั่งชายทั้งสอง

“หาเด็กคนนั้นเจอแล้วเหรอ” ยาลิซ่าถามอย่างแปลกใจ “ดี เราจะไปที่นั่นทันที”

“ระวังนะ เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว และเขาก็แข็งแกร่งขึ้นด้วย แม้ว่าเขาจะไม่โจมตีนายแต่ยังไงก็ระวังตัวด้วย”ไรอาเตือนพวกเขา

“เราจะระวัง” เคลเลียนยืนยัน เขาและยาลิซ่าออกจากสํานักงานของไรอาเตรียมจะออกจากฐานทัพ

พวกเขาเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ซึ่งรอพวกเขาอยู่แล้ว

เมื่อทั้งสองไปถึงเฮลิคอปเตอร์ พวกเขาเห็นคนยืนอยู่ตรงนั้นแล้ว
“ทริสตัน นายมาทําอะไรที่นี่” เคลเลียนถามโดยสังเกตเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ตรงทางเข้าเฮลิคอปเตอร์

ชายคนนั้นถือดาบซึ่งอยู่ในฝึก

ชายผมดํายิ้ม ขณะที่เขาตอบว่า “นาย 2 คนจะไปไหน ฉันอยากไปด้วย!”

“หยุดเล่นเสียที เรากําลังไปทําภารกิจสําคัญ เราไม่สามารถพานายไปได้”เคลเลียนพูดพร้อมส่ายหัว “ถอยออกไปเดี๋ยวนี้ เราไปกันเถอะ”

“ฉันถามแค่นี้เอง นายจะไปไหน ทําไมฉันไปไม่ได้ ไม่เอาน่า ฉันเบื่อแล้ว ให้ฉันไปเถอะ”ทริสตันยืนกราน

“ไม่ เราจะพาลูซิเฟอร์กลับมา เรา 2 คนควรจะไปเพราะเขารู้จักเราดี นายอยู่ที่นี่ ไม่มีเหตุผลที่ จะต้องพาคนจํานวนมากไป” ยาลิซ่าพูดปฏิเสธเช่นกัน

เมื่อทริสตันได้ยินภารกิจ เขาก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก “เพื่อนําลูซิเฟอร์กลับมา? ยอดเยี่ยม!ฉันต้องไปด้วย!เขาอยู่กับนักดาบที่ฆ่าสมาชิก APF เหล่านั้นทั้งหมดฉันอยากเจอเขา!มาเลย!ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ทําสิ่งเลวร้าย!”

“นายไปกับเราไม่ได้! นายน่ะสร้างปัญหามากที่สุดแล้ว! เรารู้ว่านายจะเป็นอย่างไรเมื่อนายเห็นนักดาบคนนั้นนายคงจะเริ่มอยากต่อสู้ เราต้องเป็นมิตร และนั่นเป็นเหตุผลที่นายมาไม่ได้”เคลเลียนอธิบายพลางกลอกตา

“ฉันสัญญาว่าจะไม่สู้! ฉันจะเป็นมิตร ได้โปรด ฉันแค่อยากเจอเขา และฉันก็เบื่อที่นี่ ฉันสาบานว่าจะไม่เริ่มต่อสู้”ทริสตันยืนยันอีกครั้ง ขณะที่เขาก้าวเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ด้วยตัวเขาเองและนั่งลง

เคลเลียนมองไปที่ยาลิซ่ายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เราควรทําอย่างไร?”

“ไปกัน พาเขาไปเถอะ การโน้มน้าวเขาไม่ให้ไปจะใช้เวลานานเกินไป” ยาลิซ่าตอบพลางถอนหายใจ

เคลเลียนเหลือบมองที่ทริสตัน ซึ่งนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ พลางกอดดาบของเขา

“ก็ได้ นายมาได้เหมือนกัน” เขาพูด ขณะที่เข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ด้วย

ยาลิซ่ายังนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเริ่มบินออกไป

ลูซิเฟอร์และไอย์กําลังร่วมโต๊ะอาหารกับคนอื่นๆ ที่โต๊ะอาหารซึ่งเป็นช่วงเวลาค่า

“คราวนี้ใช้ช้อนเป็นช้อน” ลูซิเฟอร์เตือนไอย์ ขณะนั่งบนเก้าอี้

“ที่นี่ใหญ่มาก เราอยู่ที่ไหน” ไอย์ถามขณะที่เธอนั่งลงเช่นกันเธอไม่รีบร้อนที่จะหนี้เพราะเธอวางแผนไว้แล้วสําหรับคืนนี้“มันคือเมืองลีเจี้ยน บ้านของฉันแน่นอน”ลูซิเฟอร์พูดโกหกแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันไม่สําคัญแม้ว่าเธอจะรู้ความจริงแต่เขาก็ยังชอบโกหกไอย์มองดูลูซิเฟอร์อย่างสงสัยแต่ไม่ได้พูดอะไรเธอเริ่มทานอาหารตามปกติเหมือนอยู่บ้านลูซิเฟอร์พบว่ามันค่อนข้างแปลกเธอไม่ได้ให้คําตอบที่เฉียบขาดเธอดูไม่กังวลเช่นกัน

“แล้วไอย์ เธอวางแผนที่จะหลบหนีในภายหลังหรือไม่”ลูซิเฟอร์ถามอย่างไม่ใส่ใจในขณะที่เขาเริ่มกินเวราซิตี้อยู่ที่นี่เพื่อที่เขาจะได้คาดหวังความจริงจกาไอย์ซึ่งตอนนี้ไอย์ยังตระหนักว่าเวราซิตี้อยู่บนโต๊ะเดียวกันเธอรู้ว่าการโกหกของเธอจะต้องถูกจับได้เธอจึงเก็บความเงียบไว้แทนการโกหก“มารยาทในการรับประทานอาหารไม่ดีเลย” เธอเตือนลูซิเฟอร์พลางกลอกตา

“ฉันจะถือว่าใช่แล้วกัน” ลูซิเฟอร์ตอบยิ้มๆ

“เธอรู้ไหม จริงๆแล้วเธอค่อนข้างโง่ที่จะเป็นผู้นําถึงตอนนี้คนๆ หนึ่งควรยอมแพ้และยอมรับความเป็นจริง”เขาให้ความเห็นแบบสบายๆแคสเซียสยังตัดสินใจพูดแทรก

“คุณไอย์ ฉันไม่รู้จักคุณอย่างถูกต้องและคุณก็ไม่รู้จักฉันเหมือนกันแต่ฉันคิดว่าคุณควรช่วยเรานี่คือสิ่งที่ถูกต้องคุณไม่สามารถสนับสนุนความอยุติธรรม มิฉะนั้นจะมีคนตายอีกมากที่ฉันไม่อยากให้เกิดขึ้น”

“คุณเป็นใครถึงสอนให้ฉันทําอะไร” ไอย์ถามอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่ได้มาจากประเทศนี้ แค่คิดว่าฉันเป็นแขกและเป็นเพื่อนของลูซิเฟอร์ เท่าที่คุณจะคิดได้ฉันห่วงใยชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ฉันไม่ต้องการให้เขาฆ่าคนบริสุทธิ์” แคสเซียสได้ตอบกลับ

“เพียงแค่บอกเราถึงสิ่งที่เราต้องการทราบ ดังนั้นจึงมีผู้บาดเจ็บน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เขากล่าวเพิ่มเติม”ดังนั้นโปรดร่วมมือกับเรา”

ไอย์ไม่ตอบขณะที่เธอเงียบ แม้ว่าเธอจะเชื่อว่าแคสเซียสคิดผิด

การสนทนานี้มุ่งไปสู่การสอบสวน และเธอไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เธอจําเป็นต้องชะลอการสนทนาอย่างน้อยก็จนถึงพรุ่งนี้

ขณะที่ไอย์ไม่พูด แคสเซียสก็หยุดเช่นกัน เขาได้พูดในสิ่งที่เขาต้องการ หลังจากนี้มันเป็นทางเลือกของไอย์

ไม่นานทุกคนก็ทานอาหารเย็นเสร็จ ลูซิเฟอร์พาไอย์กลับไปที่ห้องของเขาพร้อมกับบอกเวราซิตี้ให้ไปที่ห้องของเขาด้วย

“คุณเห็นรายงานหรือยัง” เช่นเดียวกับแวเรียนท์เกิดใหม่ APF ยังได้รับข้อมูลของสายฟ้าสีดําที่แปลกประหลาดที่สุดที่ตกลงมาในเมืองเคนซิงตัน

เรียอาริยืนอยู่ในห้องทํางานของวารันท์ เพื่อแจ้งสถานการณ์ล่าสุดให้เขาทราบ

“รายงานอะไร” วารันท์ถามด้วยความสงสัย “ฉันยุ่งอยู่กับการพยายามรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับไอย์”

“ลักษณะของฟ้าผ่าสีดํา มีรายงานฝนตกหนักในเคนซิงตัน ซึ่งผู้คนยังเห็นสายฟ้าสีดําตกลงมาในเมือง”เรียอารอธิบาย

“สายฟ้าสีดําจากฟากฟ้า? ฉันจําได้ว่าเคยเห็นมาก่อน แต่ตอนนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้”วารันท์พูดพลางขมวดคิ้ว.. “นายแน่ใจหรือว่ามันเป็นสายฟ้าสีดาจริง ๆ ไม่ใช่แค่ข่าวลือบางเรื่อง?”

ตอนที่ 269: เขาอยู่ในเคนซิงตัน

แคสเซียสเริ่มวิ่งเข้าไปในคฤหาสน์ เพราะเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ใช้ทักษะของพ่อเขาได้สําเร็จ แต่นั่นก็ดูดพลังงานเกือบทั้งหมดของเขา นั่นทําให้เขายังคงนั่งอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรง ใบหน้าของเขายังคงมีรอยยิ้ม ในขณะที่เขาทําสําเร็จ

ตอนนี้เขาแค่ต้องฝึกฝนและปรับแต่งมันให้มากขึ้น ดังนั้นมันจึงไม่ทําให้เขาใช้พลังจนหมดในทุกครั้งที่ใช้ทักษะนี้

เมื่อเขาทําเสร็จในวันนั้น เขาก็ดันร่างกายที่อ่อนล้าของเขาขึ้น เมฆดํายังคงอยู่บนท้องฟ้า แต่เขาไม่สนใจพวกมัน

เขาค่อยๆเดินไปที่บันไดเพื่อลงไปพักผ่อน แต่ก่อนที่เขาจะขึ้นบันได

เขาเห็นแคสเซียสกําลังขึ้นมา

“นายสบายดีไหม ฉันได้ยินนายร้องออกมา” แคสเซียสถาม ขณะสังเกตลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บ

“ฉันสบายดี แค่เหนื่อยนิดหน่อย” ลูซิเฟอร์ตอบ พลางสั่นศีรษะ ขณะเดินต่อไป เขาไปถึงบันไดและลงไป

แคสเซียสก็เดินตามหลังเขาเช่นกัน แต่ไม่ทันจะเหลือบมองไปรอบๆหลังคา

ลูซิเฟอร์ลงไปชั้นล่างและกลับไปที่ห้องของเขาเพื่อพบไอย์ที่ยังคงสลบอยู่

เขาถอดเสื้อผ้าเปียกในห้องและเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ ก่อนที่เขาจะออกจากห้องอีกครั้งโดยล็อกประตู

เขาเดินไปที่ห้องโถงใหญ่และนอนบนโซฟา
แคสเซียสก็หยิบเก้าอี้ขึ้นมานั่งใกล้ๆตัวเขา

“เกิดอะไรขึ้นที่ชั้นบน? สายฟ้าสีทมิฬนั่นมันคืออะไร?” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์ ที่กําลังมองเขาอย่างสงสัย

“อย่างที่บอก ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่ซ้อม” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน “ยังไงก็เถอะ ฉันง่วงนิดหน่อย ไว้คุยกันทีหลังได้ไหม”

แคสเซียส สังเกตใบหน้าของลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหนื่อยจริงๆ เขาผงกศีรษะขณะยืนขึ้น

“พักผ่อนเถอะ” เขาบอกก่อนจะเดินออกไป

ลูซิเฟอร์หลับตาลงและผล็อยหลับไปโดยเอามือวางบนหน้าอก ในทางกลับกัน แคสเซียสก้าวออกจากคฤหาสน์

เขากลับไปที่สถานที่ที่สายฟ้าลูกแรกตกลงมาใกล้เขา เขายืนอยู่หน้าปล่องภูเขาไฟอย่างระมัดระวัง ปล่องนี้เต็มไปด้วยน้ําจากฝน ในขณะที่เมฆดํายังคงอยู่บนท้องฟ้า “นี่คือการฝึกฝนของเขา? มันคือทักษะอะไร?การโจมตีหลายครั้งและทรงพลังมาก? ยังได้รับความช่วยเหลือจากเมฆด้วย”

เขาพึมพําและขมวดคิ้ว “นี่มันทรงพลังจริงๆ”

7 ชั่วโมงผ่านไป แต่ลูซิเฟอร์ยังคงนอนอยู่บนโซฟา

เวราซิตี้ก็ลงมาชั้นล่างเช่นกัน เพราะเป็นเวลาสําหรับอาหารค่ํา แคสเซียสก็นั่งอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีใครเริ่มกินเพราะ แคสเซียสต้องการกินกับลูซิเฟอร์

“นายไม่ปลุกเขาเหรอ” เวราซิตี้ถามแคสเซียส

แคสเซียสส่ายหัว ขณะที่เขาตอบว่า “ปล่อยให้เขานอนเถอะ”

“กี่โมง?” ในเวลานั้นเองที่ลูซิเฟอร์ถามโดยไม่ลืมตา

“4ทุ่มแล้ว” แคสเซียสตอบพลางมองดูนาฬิกา

ลูซิเฟอร์ค่อยๆลืมตาขึ้น ขณะที่เขาลุกขึ้นนั่ง “ฉันนอนนานกว่าที่ฉันคิด” เขาพึมพําขณะเหยียดแขนออก

เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขาก็รู้สึกแตกต่างออกไปเล็กน้อย ราวกับว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อน มีพลังแปลกๆ ไหลผ่านร่างกายของเขา

“ทําตัวให้สดชื่น เราจะรอนายที่โต๊ะอาหารเย็น” แคสเซียสพูดพร้อมลุกขึ้น

“คุณ 2 คนยังไม่กินข้าวเหรอ?”

“ไม่”

“ตกลงฉันจะรีบทําทุกอย่าง” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขาลุกขึ้นเช่นกัน
เขาขึ้นไปบนห้องของเขา เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาสังเกตเห็นว่าไอย์ลุกขึ้นแล้ว เธอนั่งเอาแขนโอบเข่าราวกับว่าเธอกําลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ

“ทําไมเธอถึงทําท่าแบบนั้น” ลูซิเฟอร์ถามเธอ ขณะเดินเข้าห้องน้ําหลังจากล็อกประตูอีกครั้ง

ขณะที่ลูซิเฟอร์ล็อกประตู ไอย์สังเกตเห็นกุญแจสีทองที่เขาใช้ เขาเก็บมันไว้ในกระเป๋าของเขา

“นั่นคือกุญแจสําคัญ สมบูรณ์แบบ คืนนี้ฉันจะออกไปจากที่นี่ เธอคิดแต่ไม่ยอมให้อารมณ์แสดงออกมาบนใบหน้าของเธอเพื่อไม่ให้ลูซิเฟอร์สงสัย

“ฉันควรจะมีความสุขใช่ไหม” เธอถามลูซิเฟอร์อย่างประชดประชัน

“อันที่จริงแบบนั้นน่าจะดีกว่า” ลูซิเฟอร์ตอบยิ้มๆ“รอยยิ้มเหมาะกับใบหน้าของเธอมากกว่าการแสดงออกในปัจจุบันของเธอ”

เขาก้าวเข้าไปในห้องน้ําและล้างหน้าก่อนจะก้าวออกไป

“มากับฉัน ฉันจะพาเธอออกไปดูข้างนอก ได้เวลาอาหารเย็นแล้ว” เขาบอกไอย์ ขณะที่เช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนู

“แต่จําไว้ว่า ถ้าเธอพยายามทําอะไรโง่ๆ เธอก็จะต้องเผชิญกับสิ่งเดียวกับเมื่อเช้านี้ ฉันใช้มาตรการป้องกันทั้งหมดที่ฉันทําได้” เขาปลดล็อคประตูและรอให้เธอมา

“ฮิม” ไอย์หายใจหอบ พลางลุกจากเตียงแล้วเดินตามเขาไป เธอลงไปข้างล่างพร้อมกับลูซิเฟอร์

ย้อนกลับไปที่สํานักงานใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่ ไรอากําลังนั่งอยู่ในห้องทํางานของเขากําลังดูแฟ้มเอกสารที่อยู่ตรงหน้าเขา

“เด็กผู้หญิงที่เวก้าได้มาจากห้องแล็บทําได้ดีทีเดียว การเติบโตของเธอน่าทึ่งมาก ฉันคงจะยึดครองประเทศนี้ได้ในไม่ช้า ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ตัวลูซิเฟอร์มาก็ตาม” ไรอากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“แต่ฉันก็ยังต้องการลูซิเฟอร์ โดยมีผู้หญิงคนนี้และลูซิเฟอร์อยู่ข้างหลังฉัน” เขากล่าวเสริม เขาปิดแฟ้ม ในขณะที่เขานั่งพักผ่อนบนเก้าอี้ของเขา”ในไม่ช้าทุกอย่างจะเข้าที่”

ก๊อก! ก๊อก!

ขณะที่เขากําลังฝันถึงอนาคต เขาได้ยินเสียงเคาะประตู

“เข้ามาเลย” ไรอาพูด

ประตูเปิดออก และเวก้าก็ก้าวเข้ามา

“มันคืออะไร?” ไรอาถามด้วยความสงสัย

“ฉันคิดว่าเราน่าจะได้เบาะแสเกี่ยวกับตําแหน่งที่ลูซิเฟอร์น่าจะอยู่” เวก้ากล่าว ขณะนั่งหน้าไรอา

“อะไรนะ?” ไรอาถามด้วยความยินดี

“มีข่าวลือแพร่กระจายทางออนไลน์เกี่ยวกับฝนกะทันหัน ในเคนซิงตัน” เวก้าอธิบาย

“ฝนตกกระทันหันมีอะไรพิเศษเกิดขึ้นบ่อย” ไรอาตอบ

“ไม่ใช่แบบนี้ บางคนรายงานว่าเห็นสายฟ้าสีดําตกลงมาจากท้องฟ้าในช่วงที่ฝนตก และนั่นเป็นสาเหตุที่ข่าวลือนี้จึงได้รับความสนใจ”

“ฝนและฟ้าเป็นเรื่องปกติ แต่ฝนและฟ้าผ่าสีดํา… นายสามารถเดาได้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร” เวก้ากล่าวพลางยิ้ม

“สายฟ้าสีดําจากเมฆ… มันเป็นทักษะของเซล เมื่อนานมากแล้ว ตั้งแต่ฉันเห็นมันครั้งสุดท้าย” ไรอาพึมพํา และขมวดคิ้ว

“ทักษะนี้ทรงพลังจริงๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมจึงเป็นความคิดที่ไม่ดีที่จะต่อสู้กับเขากลางแจ้ง เมฆเป็นเพื่อนของเขาและเป็นส่วนเสริมของพลังของเขา ดูเหมือนว่าลูซิเฟอร์จะได้เรียนรู้มันด้วย” เขากล่าวต่อ

“ถูกต้อง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเชื่อว่าลูซิเฟอร์อาจอยู่ในเคนซิงตัน” เวก้ากล่าว

“ตกลง ฉันจะส่งเคลเลียนและยาลิซ่าไปรับเขา หวังว่าเขาจะยังอยู่ที่นั่นนายท่างานได้ดีในการตามหาเขา” ไรอากล่าวชมเวก้า..

ตอนที่ 268: ท้องฟ้าที่กําลังค่าราม

ลซิเฟอร์นั่งบนหลังคา มองดูท้องฟ้าใสที่ดูเหมือนไม่ มีเมฆก้อนเดียวอย่างใด

“อารมณ์ของฉันนําเมฆพวกนั้นมาให้ แต่นั่นไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เขาไม่ได้อารมณ์เสีย เมื่อเขาเรียกเมฆออกมาเพื่อโจมตีพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน ความลับจะต้องเป็นอย่างอื่น” เขากล่าว ขณะที่เขาออกเดินทางถุงมือของเขาวางไว้ที่ด้านข้าง

เขายกมือขวาขึ้นสู่ท้องฟ้าเหมือนกับที่พ่อทําในวิดีโอ ขณะที่เขาคิดจะนําเมฆที่มืดสนิทมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่ตอนที่เขาพยายาม เขาแค่ไม่รู้สึกเชื่อมต่อกับชั้นบรรยากาศ

“อย่าทําให้ฉันยุ่งแบบนี้” เขาพูดพร้อมกับส่ายหัว “ออกมา!” เขาพยายามต่อไป 10 นาที แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“อาจมีอย่างอื่นเป็นตัวกระตุ้นสําหรับเขา เพราะเขาสามารถเรียกเมฆออกมาได้ แม้ว่าเขาไม่ได้เศร้า อาจเป็นเพราะตัววัดของฉันแตกต่างกัน” ทันใดนั้นเขาก็สงสัยและขมวดคิ้ว

“เมฆมาตอนที่ฉันโกรธหรือเศร้า นั่นอาจเป็นตัวกระตุ้นของฉัน ซึ่งต่างจากเขา ไม่สําคัญว่าฉัน จะทําอะไรสิ่งสําคัญที่สุดคือต้องเรียกเมฆออกมา” เขากล่าวต่อขณะลดมือลงเขาเริ่มสังเกต ฝ่ามือขวาของเขาสายฟ้าสีดํากะพริบรอบ ๆ นิ้วของเขาโดยไม่ทําร้ายเขาที่เป็นผู้นํา

“ฉันควบคุมมันได้ง่ายมาก” เขาพึมพําพร้อมส่ายหัว “ฉันต้องเสียใจ แต่นั่นก็ดูยากเหมือนกันหลังจากเวลาผ่านไปนาน ฉันได้เรียนรู้ที่จะควบคุมตัวเอง”

“ฉันเศร้าได้ แต่ไม่ถึงขนาดเมื่อก่อน ตอนที่ฉันเรียกเมฆโดยบังเอิญ ข้อดีนี้ก็มาพร้อมข้อเสียเหมือนกันใช่ไหม” เขานั่งบนหลังคาไม่ทําอะไรเลย เขารู้ว่าเขาต้องเข้าสู่กรอบความคิดแบบเก่าเพื่อเรียกเมฆ แต่เขารู้สึกกลัวเล็กน้อยที่จะเข้าไปในที่มืดนั้น

เขาจัดการเพื่อฝังส่วนสําคัญของความเจ็บปวดนั้น โดยมุ่งความสนใจไปที่เป้าหมายของเขา แต่ตอนนี้เขาต้องเจาะลึกลงไปในสิ่งนั้นด้วย ซึ่งเขาลังเลที่จะทํา

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่หลับตา เตรียมที่จะหวนคิดถึงวัยเด็กอีกครั้ง เขาตัดสินใจที่จะผ่านทุกช่วงเวลาของชีวิตเพื่อค้นหาความทรงจําที่กระตุ้นซึ่งสามารถทํางานได้

เขาจ่าช่วงเวลาในวัยเด็กของเขาที่ทําให้เขายิ้มได้

เนื่องจากไม่มีใครอยู่บนหลังคา จึงไม่มีใครเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ไม่นานรอยยิ้มของเขาก็หายไปเมื่อเขาพบว่าตัวเองอยู่ในช่วงเวลาที่เขาได้ยินเกี่ยวกับการตายของพ่อแม่ของเขา

เวลาล่วงเลยไป เมื่อลูซิเฟอร์ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง ขณะนั่งอยู่บนหลังคาเพียงลําพัง

ดวงตาของเขายังคงปิดอยู่ แต่สามารถเห็นน้ําตาไหลอาบแก้มได้ ในไม่ช้า เขากําหมัดของ เขาในขณะที่เขารู้สึกถึงความเกลียดชังที่ไม่สิ้นสุดต่อโลก เมื่อเขากลับมามีชีวิตอีกครั้งภายในสุสาน

เขามองไม่เห็นท้องฟ้า แต่ถ้าทําได้ เขาจะรู้ว่าเมฆสีดําทมิฬเริ่มรวมตัวกันเหนือเขา ในขณะที่เขาเริ่มมีอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
แคสเซียสกําลังยืนอยู่ในสวนฝึกการแกว่งดาบของเขา ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นมองในขณะ ที่เขารู้สึกแปลกๆ

ท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งจวบจนบัดนี้เริ่มปกคลุมไปด้วยเมฆมืดครึ้ม และเมฆดําก็ดูเหมือนจะปกคลุมท้องฟ้าเหนืออาคารและแผ่ขยายออกไปจากที่นี่ เมื่อเวลาผ่านไป เมฆปกคลุมพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้าเมฆก็เริ่มคําราม

เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องลูซิเฟอร์ก็ลืมตาขึ้นซึ่งดูเหมือนว่าดวงตาของเขาจะเป็นสีแดงเล็กน้อยเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อสังเกตเห็นเมฆสีดําที่ในที่สุดก็มาถึงที่นี่

เขาหลับตาอีกครั้ง ขณะที่เขาพยายามดูว่าเขาจะรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงกับก้อนเมฆอีกครั้งหรือไม่ ในเวลาเดียวกัน เขาก็ยกมือขึ้นสู่ท้องฟ้า

“ฉันรู้สึกเชื่อมโยงบางอย่าง” เขาพึมพํา ในขณะที่เขารู้สึกบางอย่าง เขาพยายามสร้างสายฟ้าสีดําทมิฬในก้อนเมฆ

เขาไม่เคยลองทําอะไรแบบนี้มาก่อน เพราะเขาสร้างสายฟ้าจากมือเท่านั้น แต่นี่เป็นสนามใหม่โดยได้รับความช่วยเหลือจากเมฆเพื่อสร้างสายฟ้าที่อยู่ห่างออกไปหลายพันฟุตจากเขา

ไม่เพียงแค่แคสเซียสเท่านั้นแต่แม้แต่คนอื่นๆ ในเมืองก็เห็นเมฆที่มืดมิดซึ่งแปลกมาก

พวกเขารู้สึกเหมือนฝนจะตกเร็วๆนี้ คนส่วนใหญ่เริ่มเดินกลับบ้าน ตามที่คาดไว้ ไม่นานฝนก็เริ่มตก ในขณะที่เมฆยังคงคารามอย่างบ้าคลั่ง ไม่ได้รับผลกระทบจากฝนลูซิเฟอร์ไม่ยอมแพ้

“ฉันจะทํามันให้สําเร็จ! ฉันจะไม่ยอมแพ้หลังจากความพยายามทั้งหมดนี้! ไม่สําคัญหรอกว่ามันจะเป็นอะไร แค่สายฟ้าสายเดียวแทนที่จะเป็น 100 เส้น ฉันจะทําให้มันเกิดขึ้นให้ได้!” เขาคำรามขณะที่กําหมัดแน่นขึ้น

เขาต้องการครอบครองทักษะนี้และควบคุมมัน ในขณะที่เมฆอยู่ที่นี่ ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่ผุดขึ้นในใจเขาครามอีกครั้ง “ออกมา! ฉันเรียกแก! ลงโทษศัตรูของฉัน!”

ในเวลาเดียวกัน เขาเอามือลงเหมือนที่พ่อทํา

แคสเซียสยังอยู่ข้างนอก และกําลังเปียกฝน เขาไม่ได้หยุดฝึกดาบ แต่เขาหยุดกะทันหัน ในขณะที่เขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงตะโกนของลูซิเฟอร์

เขาเหลือบมองไปทางหลังคาคฤหาสน์ เมื่อเห็นท้องฟ้าสว่างวาบ สายฟ้าสีดําสนิทจํานวนนับสิบลูกตกลงมาจากท้องฟ้าตกลงไปรอบๆ ที่ดินและในส่วนอื่น ๆ ของเมือง

สายฟ้าสีดําตัวหนึ่งตกลงมาในสวนที่แคสเซียสยืนอยู่โชคดีที่มันบังเอิญตกลงไปห่างจากเขา 5 เมตรแทนที่จะตกลงบนตัวเขา

สายฟ้าบางส่วนตกลงมาบนถนนด้านนอกที่ดิน ในขณะที่บางอันตกในบริเวณโดยรอบโชคดีที่ ไม่มีใครล้มทับคนจนเสียชีวิต

ไม่มีสลักใดตกลงบนหลังคาทั้งที่ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ รอยยิ้มบนใบหน้าของลูซิเฟอร์ขณะที่เขาหาย ใจแรงเขาได้ทํามัน

แม้ว่าเขาจะเรียกลูกธนูสายฟ้าออกมาเป็นร้อยๆ คันเหมือนพ่อไม่ได้ แต่แน่นอนว่ามีมากกว่าหนึ่งคันศรที่เขาหวังไว้แต่แรก “ฉันทําได้” เขาพูดพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่สิ่งนี้ก็ส่งผ ลกระทบอย่างหนักต่อร่างกายของเขาในขณะที่เขารู้สึกเหมือนว่าเขาหมดแรงอย่างมาก

เขารู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งวิ่งมาราธอนหลายร้อยกิโลเมตรโดยไม่ได้พัก

แคสเซียสมองไปยังจุดที่สายฟ้าฟาดลง เขาสามารถเห็นหลุมอุกกาบาตล็กในสวน ซึ่งสามารถมองเห็นรอยไหม้เกรียมได้

“ลูกธนูนี้ดูไม่ธรรมดาเลย ดูเหมือนสายฟ้าของลูซิเฟอร์…และก่อนหน้านี้เขากรีดร้องมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”

ตอนที่ 267: จับตัวประกัน

“คณไม่มีเวลาทั้งวันในการตัดสินใจ คิดให้เร็ว” ลูซิเฟอร์เตือนไอย์ ซึ่งดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิดลึก ๆ ขณะที่เธอคิดว่าจะทําอย่างไร

เธอเหลือบไปที่เวราซิตี้ ซึ่งยักไหล่ราวกับว่าเธอไม่สามารถช่วยเธอได้

ไอย์เหลือบมองจานที่อยู่ข้างหน้าเธอ ซึ่งมีอาหารเหลืออยู่บ้างมีซ่อนอยู่บนจานด้วย

เธอหายใจเข้าลึกๆ เมื่อนึกได้ว่าจะทําอะไรได้ เธอตอบสนองอย่างรวดเร็วขณะวางแขนโอบไหล่ของเวราซิตี้ แล้วดึงเข้าไปใกล้

ในเวลาเดียวกัน เธอยังหยิบช้อนขึ้นมาแล้ววางปลายอีกด้านของช้อนบนคอของเวราซิตี้เหมือนเข็ม

“ฉันจะแทงที่คอของเธอ ถ้านายเข้ามาใกล้ๆ เธอเป็นส่วนหนึ่งของทีมของนาย นายคงไม่อยากดูเธอตายใช่ไหม” ไอย์ขู่ลูซิเฟอร์ที่ดูไร้ความรู้สึก ลูซิเฟอร์ลูบคางของเขาขณะที่ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง เขาต้องการบอกให้เธอฆ่าเวราซิตี้ เพราะเขารู้ว่าไอย์ทําไม่ได้ แต่เขาไม่ได้พูดอย่างนั้น

ถ้าเขาพูดอย่างนั้น เขารู้ว่าเวราซิตี้คงจะคิดว่าเขาไม่ได้สนใจชีวิตของเธอเลยแม้แต่น้อย เธออาจเริ่มเกลียดเขาและสูญเสียความภักดีที่เธอมีต่อสาเหตุไป

“ปลดปล่อยเธอ ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บตัว” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น “เธอไม่รู้ตัวว่ากําลังทําอะไรอยู่”

“หัะ อย่างที่คาดไว้! นายดูแลเธออย่างดี! หี ดี ดีมาก ถ้าไม่อยากเสียเธอไป ปล่อยฉันออกไป!” ไอย์บอกลูซิเฟอร์

“ปล่อยเธอไปงั้นเหรอ” ลูซิเฟอร์ถาม

“ใช่ ถ้านายต้องการเห็นเธอมีชีวิตอยู่!” ไอย์พูดซ้ํา

“ในกรณีนี้เธอไม่สามารถตําหนิฉันได้” ลูซิเฟอร์ตอบสนศีรษะ “อย่างน้อยเธอก็กินข้าวเย็นเสร็จแล้ว และเธอจะไม่หิวตาย แม้ว่าเธอจะนอนหลับ นานกว่านี้หน่อย”

“หมายความว่าไง” ไอย์ถามพลางขมวดคิ้ว “อยากให้เธอตายไหม” ลูซิเฟอร์เปิดริมฝีปากออกดูเหมือนรําคาญขณะพูดว่า “เปิดใช้งาน” ทันทีที่เขาพูดจบไฟสีแดงกระพริบที่ Limitter ของไอย์ชั่วครู่

“อ๊าก!” เสียงกรีดร้องของไอย์ดังขึ้นทั่วทั้งห้อง ขณะที่เธอถูกไฟฟ้าช็อตอีกครั้ง เธอขยับมือไม่ได้ เมื่อรู้สึกว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายของเธอ ดวงตาของเธอปิด และล้มตัวลงบนที่นอนทันที ช้อนในมือก็หล่นลงมาด้วย

“ไม่เป็นไรนะ” ลูซิเฟอร์ถามเวราซิตี้ ขณะที่เขาสวมถุงมืออีกครั้งขณะเดินเข้ามาหาเธอ

เขาอยากจะบอกเธอว่าเขาเสียใจที่ไม่เห็นว่าไอย์กําลังทําอะไร และเขาเสียใจกับสิ่งที่เธอต้องผ่าน

เขาอยากจะบอกเพียงเพื่อที่จะได้เข้าใกล้เวราซิตี้ และแสดงให้เธอเห็นว่าเขากังวล แต่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้น ในขณะที่เขาตระหนักว่าเธอมีประโยชน์เนื่องจากเธอสามารถรับรู้การโกหกได้

เขาไม่สามารถโกหกเธอได้ และถึงแม้เขาจะโกหก มันก็ไม่เป็นผล ดังนั้นเขาจึงต้องจริงใจกับเธอไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดเลย

“ฉันไม่เป็นไร ไม่มีอะไรหรอก” เวราซิตี้ ตอบ ขณะที่เธอแตะคอเธอเบาๆ “เธอไม่ได้จะทําร้ายฉันจริงๆ ฉันเห็นว่าเธอโกหกเรื่องนั้น”

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ทํา” ลูซิเฟอร์ตอบ “แต่ฉันปล่อยให้ใครฆ่าเธอไม่ได้ เธอสําคัญกับฉัน”

เมื่อคําพูดที่เขาพูดเป็นความจริงเวราซิตี้ก็ประหลาดใจ เธอไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์จะดูแลเธอดีแบบนี้

เธอไม่รู้ว่าเธอสําคัญสําหรับเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง และนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมสิ่งที่เขาบอกเธอถึงไม่ใช่เรื่องโกหก

“เธอจะไม่ตื่นในเร็วๆนี้ คุณทั้งคู่ไปพักผ่อนได้แล้ว เราจะพยายามอีกครั้งในคืนนี้” ลูซิเฟอร์ บอกเวราซิตี้และแคสเซียสโดยบอกให้พวกเขาออกไป

“ฉันจะไปฝึกข้างนอก บอกฉันถ้านายต้องการอะไร” แคสเซียสพูดขณะที่เขาออกไปฝึกซ้อม

เวราซิตี้ก็จากไปหลังจากเหลือบมองไอย์ครั้งสุดท้าย

หลังจากที่ทั้งสองจากไปลูซิเฟอร์ก็ลุกขึ้นยืน เขาเดินไปที่เตียง พลางเข้าใกล้ ไอย์

“การจับตัวประกันไม่ได้ผลเช่นกัน เธอติดกับดักจากทุกทิศทุกทาง สิ่งที่เธอทําได้ คือให้สิ่งที่ฉันต้องการแก่ฉัน” เขาพึมพําขณะเหลือบมองใบหน้าที่ไม่ได้สติของไอย์

เขาหยิบช้อนขึ้นมาแล้ววางลง ในจานก่อนจะวางทั้งสองลงบนโต๊ะเปล่า

เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็เดินกลับไปที่เตียงและหยิบกล่องช็อกโกแลตขึ้นมา เขาวางช็อกโกแลตชิ้นหนึ่งไว้ในปาก และเก็บกล่องไว้บนหิ้งไว้ใช้ในภายหลัง

เขาเดินเข้าไปในห้องน้ําและเปิดน้ําเพื่อล้างหน้า เขาสาดน้ําบนใบหน้าของเขา พลางเช็ดใบหน้าด้วยผ้าขนหนู ก่อนที่จะเหลือบมองตัวเองในกระจก

ขณะที่เขาสังเกตอย่างระมัดระวังเขาก็สังเกตเห็นสีม่วงในดวงตาของเขาได้

“อะไรคือความลึกลับของดวงตานี้ ทําไมฉันถึงมีมัน ฉันมีความเกี่ยวข้องกับชายผู้อยู่เบื้องหลังประตูมิตินั้นได้อย่างไร เขาไม่ได้ก้าวเข้ามาในโลกนี้ แล้วเขาจะเกี่ยวข้องกับฉันได้อย่างไร”

“เรื่องราวของเขาไม่ง่ายอย่างที่คนอื่นรู้ มีบางอย่างที่แม้แต่น้อยคนก็รู้ และ วารันท์ก็ควรเป็นหนึ่งในนั้น” เขาพึมพําขณะขมวดคิ้ว

“ฉันพลาดอะไรไป มันควรจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังมหาสงคราม”

เขาคว้าจี้ที่คอ ซึ่งมีกุญแจ “กุญแจนี้ควรเป็นกุญแจของทุกสิ่ง สิ่งที่ไม่มีใครรู้นอกจากพ่อแม่ของฉัน”

“เดี๋ยวนะ รูปแบบที่อยู่บนกุญแจอยู่ที่ไหน” เขาอุทานออกมาทันที ขมวดคิ้ว

เมื่อเห็นกุญแจครั้งแรก เขาสังเกตเห็นว่ามีอักขระแปลก ๆ 2-3 ตัวบนกุญแจที่ดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเช่นกัน แต่ตอนนี้กุญแจดูเหมือนปกติทั้งหมด ไม่มีอะไรบนกุญแจแบบนั้นอีกแล้ว

เขาไม่รู้ว่าตอนนี้มีตัวอักษรแปลก ๆ อยู่บนร่างกายของเขา แทนที่จะอยู่บนกุญแจ พวกมันกำลังสร้างสิ่งที่ดูเหมือนอักษรแปลก ๆ บนหลังของเขา

เนื่องจากพวกมันอยู่บนหลังของเขา เขาจึงมองไม่เห็นพวกมันเช่นกัน

“แปลก…กุญแจนี้แปลกจริงๆ” เขาพึมพํา ขณะส่ายหัว หันหลังเดินออกจากห้องน้ําไป และเหลือบมองไปรอบๆ ห้อง เขาก็จากไปอีกครั้ง เขาไม่ลืมล็อกห้องที่อยู่ข้างหลังเขา ก่อนจะเก็บกุญ แจห้องไว้ในกระเป๋าเสื้อ

แทนที่จะออกไปฝึกซ้อมเหมือนแคสเซียส เขากลับขึ้นไปบนหลังคา

หลังคาของคฤหาสน์ก็ใหญ่โต มีพื้นที่เพียงพอสําหรับเขาแม้กระทั่งเล่นฟุตบอล ถ้าเขาต้องการ แต่เขาต้องการฝึกฝนที่นี่ เขาตัดสินใจที่จะเรียนรู้ทักษะของพ่อเพื่อที่เขาจะได้มีพลังมากขึ้น เขาเชื่อว่าหากเขาเรียนรู้ทักษะนั้น ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเขาสามารถฆ่าศัตรูได้หลายร้อยตัวในคราวเดียว

“ตอนนี้จะเริ่มต้นจากที่ไหน นั่นคือค่าถามหลัก” เขาคิดขณะนั่งบนหลังคา..

ตอนที่ 266: ความชั่วร้ายที่จําเป็น

“ฉันกําลังจะไป” เวราซิตี้เห็นด้วย

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้น ขณะที่เขาขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง

เขานํากุญแจออกจากกระเป๋าและปลดล็อคประตูก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง

“ยังกินข้าวอยู่เหรอ” เขาถาม แต่ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นว่ามีการย้ายบางสิ่งออกจากที่ของมัน

“แล้วการค้นหาเป็นอย่างไรบ้าง เธอหาทางหนีแล้วหรือยัง” ลูซิเฟอร์ยิ้มแล้วนั่งลงบนเก้าอี้

“นายคิดว่านายจะสามารถหลบหนี หลังจากทําสิ่งนี้กับฉันงั้นหรือ นายกําลังทําผิดพลาดครั้งใหญ่” ไอย์เตือนลูซิเฟอร์อย่างเคร่งขรึม

“ไอย์ ฉันเคยทําผิดพลาดมาหลายครั้งในชีวิต แต่เรื่องนี้ไม่ใช่” ลูซิเฟอร์บอกกับไอย์พลางส่ายหัว “อย่างไรก็ตาม ฉันได้ยินมาว่าแซนเดอร์ยังมีชีวิตอยู่เขาเป็นยังไงบ้าง?”

“เขายังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องยุ่งกับเขา” ไอย์กลอกตา

“เขายังอยู่ในอาการโคม่าหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ไอย์ก็จ้องมาที่เขา “ฉันว่ามันเป็นความจริงสินะ” ลูซิเฟอร์พูด พลางสังเกตเห็นปฏิกิริยาของไอย์

“เธอรู้ไหม ฉันแปลกใจมากที่เขาสามารถเอาตัวรอดได้ แม้หลังจากนั้น ฉันหมายถึงมีคนไม่มากนักที่รอดจากการโจมตีประเภทนั้น” เขากล่าว “ฉันหวังว่าฉันจะพูดแบบเดียวกันกับเด็ก ๆ ที่เขาฆ่าในวันนั้นได้”

“เด็กๆ เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทําร้ายพวกเขา เขากําลังโจมตีนาย และนายหลบ และนั่นก็เกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาต้องการฆ่าผู้บริสุทธิ์” ไอย์ตอบ

“อ่า ใช่ มันเป็นความผิดของฉัน ฉันควรจะปล่อยให้เขาโจมตีฉันโดยไม่หลบเลี่ยง วิญญาณที่น่าสงสารนั้นไร้เดียงสาจริงๆ” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะที่เขาหัวเราะ “พระเจ้า ฉันคิดถึงความหน้าซื่อใจคดของเธอ วิธีที่คนของเธอเปลี่ยนเรื่องทั้งหมดแล้วโยนมาให้ฉัน”

“การฆ่าผู้บริสุทธิ์ของเขาเป็นอุบัติเหตุ และวารันท์ที่ฆ่าฉันก็เป็นสิ่งที่ฉันสร้างขึ้น นั่นคือสิ่งที่เธอคิดใช่ไหม เธอรู้ไหมว่าเธอเป็นอะไร” ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ

“อะไร” ไอย์ถามขมวดคิ้ว

“เธอมันก็เป็นแค่แกะ อะไรก็ตามที่ขัดกับคําบรรยายของเธอที่ว่า APF เป็นคนดี นั่นคือสิ่งที่เธอไม่สามารถยอมรับได้ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจความหน้าซื่อใจคดบางครั้งฉันก็เป็นเหมือนกัน” ลูซิ เฟอร์ตอบพร้อมยิ้ม

“ในใจของเธอ เธอคือฮีโร่ของเรื่อง ดังนั้นเธอจึงไม่ยอมรับความผิดโดยเจตนาที่คนของเธอทํา”

“แต่ในหัวของฉัน ฉันคือตัวร้ายของเรื่องนี้ ดังนั้นฉันยอมรับได้เลยว่าทุกสิ่งที่ไม่ดีที่ฉันทําคือจงใจ และมันจะเป็นการจงใจในอนาคตด้วย” เขาพูดต่อ ในขณะที่เขาวางขาข้างหนึ่งไว้เหนืออีกข้างหนึ่ง ให้นั่งสบายขึ้น

“แล้วนายจะไม่หยุดทําอย่างนั้นหรือ ในเมื่อนายยอมรับแล้วว่านายเป็นตัวร้าย? นายจะไม่มีวันกลายเป็นคนดีงั้นเหรอ?” ไอย์ถาม

“นี่นายรู้หรือไม่ว่านายสามารถช่วยคนได้กี่คน ด้วยความแข็งแกร่งที่นายมี นายสามารถทําให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นแทนที่จะทําให้แย่ลง” เธอกล่าวเพิ่มเติม โดยยังคงพยายามทําให้ลูซิเฟอร์ยอมจํานน

“ถูกต้อง ฉันจะไม่หยุดทํา ฉันเป็นปีศาจที่จําเป็นที่โลกนี้ต้องสอนมันแทน” ลูซิเฟอร์ตอบ “สําหรับคนที่ฉันสามารถช่วยด้วยกําลังของฉันได้ บอกพวกเขาให้สนใจแต่เรื่องของตัวเอง ฉันไม่สนเรื่องชีวิตของพวกเขาเลย”

“ฉันจะทําในสิ่งที่ฉันต้องการ เมื่อฉันต้องการ และทุกที่ที่ฉันต้องการ ชีวิตของฉันเป็นของฉัน เองจะไม่มีใครมาควบคุมฉันได้อีก” เขากล่าว

“จุดจบของนายคงจะแย่จริงๆ ถ้านายยังคงเดินไปตามทางนั้น และนั่นจะเป็นวันที่นายต้องเสียใจกับสิ่งที่นายทํา” ไอย์เย้ยหยัน ขณะที่เธอเปิดกล่องช็อกโกแลตและใส่ช็อกโกแลตเข้าไปในปากของเธอ

“ยังไงก็ตาม สุขสันต์วันเกิดรักษาวันเกิดของนายไว้ให้ดี คนอย่างนายมีวันเกิดไม่เยอะหรอก” เธอกล่าวต่อ

“ฮ่าๆๆๆ” เมื่อได้ยินคําพูดของเธอ ลูซิเฟอร์ก็เริ่มหัวเราะราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลก “เธอพยายามจะบอกว่าฉันจะตายก่อนวันเกิดปีหน้าของฉันเหรอ” เขาถาม

“ฉันไม่รู้ว่าฉันจะตายเมื่อไหร่และถ้าฉันรู้ คือฉันจะต้องฆ่าวารันท์ให้ได้ก่อน แล้วจะได้สิ่งที่ต้องการดังนั้นฉันคิดว่าฉันคงเหลือเวลาอีก 2-3 ปี” เขาตอบ “ยังไงก็ขอบคุณสําหรับความปรารถนา

ไอย์เปิดปากพูดขณะที่เธอพูดว่า “นาย”

ก๊อก!

เธอพูดไม่จบด้วยซ้ำ เมื่อเธอหยุดเคาะประตูลูซิเฟอร์เหยียดแขนขณะยืนขึ้นเขาเดินไปที่ประตูแล้วเปิดประตูหาเวราซิตี้ที่นั่น แคสเซียสก็อยู่กับเธอด้วย

“เข้ามาส์ เรามาเริ่มกันเลย” ลูซิเฟอร์บอกทั้งสองคน ขณะที่เขาก้าวออกไป หลังจากที่พวกเขาก้าวเข้ามาเขาก็ปิดประตู

“นายจึงมีทีมสําหรับตัวนายเองสินะ นี่คุณสองคนไม่รู้สึกละอายบ้างเลยหรือที่ให้การสนับสนุนฆาตกร” ไอย์ถามคนทั้งสองที่เพิ่งเข้ามา “โดยเฉพาะเธอ เวราซิตี้! ทําได้ยังไงกัน!”

“นี่ อย่าโทษฉันเลย ฉันไม่ใช่อาชญากรฉันมาในฐานะที่ปรึกษา เธอสามารถพูดได้ว่าเขาลักพาตัวฉันด้วย แต่ฉันไม่ขัดขึ้น” เวราซิตี้ตอบขณะที่เธอเดินเข้ามาใกลไอย์

“ดังนั้นฉันจะช่วยเขาเพราะชีวิตของฉันขึ้นอยู่กับเขา นอกจากนี้ฉันยังต้องการดูสิ่งที่ APF แสนจะล้ําค่าซ่อนอยู่ด้วย” เธอนั่งบนเตียงข้างไอย์ แคสเซียสก็หยิบเก้าอี้ขึ้นมานั่งใกล้ลูซิเฟอร์

“แล้วไอย์ เธอต้องการที่จะออกจากที่นี่ไม่ใช่เหรออ? ดังนั้นเธอแค่ต้องตอบคําถามของฉัน” ลูซิเฟอร์เตือนไอย์

“ก็ได้ ถามสิ!” ไอย์พูดอย่างหนักแน่นขณะที่เธอจ้องไปที่ลูซิเฟอร์

“มันเกี่ยวกับสํานักงานใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่เธอรู้ไหมว่าฐานทัพของพวกเขาอยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถาม

“ถ้าเรารู้ พวกเราจะไม่ทําลายมันหรือ” ไอย์พูดพลางกลอกตา “ไม่มีใครใน APF รู้เลย พวกเขาใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งเพื่อรักษาฐานของพวกเขาให้ปลอดภัย”

ลูซิเฟอร์เหลือบมองเวราซิตี้พลางพยักหน้า

“ดี ฉันไม่จําเป็นต้องถามเกี่ยวกับฐานของ APF เนื่องจากเป็นความรู้สาธารณะ แต่ฉันมีคําถามเกี่ยวกับเรื่องนั้น จุดแข็งของ APE คืออะไร? มีกี่แบบ? แล้วพวกคุณมีมาตรการรักษาความปลอดภัยยังไงบ้าง” เขาถามอีกครั้ง

แต่คราวนี้ไอย์ไม่ตอบ เธอหยิบช็อกโกแลตอีกชิ้นมาใส่ในปากของเธอ “ฉันไม่รู้” เธอบอกกับลูซิเฟอร์

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก แต่เขาก็ยังมองไปที่เวราซิตี้ เวราซิตี้ส่ายหัว

“ตามที่คาดไว้” ลูซิเฟอร์พึมพําในขณะที่ถอนหายใจ “ดูสิไอย์ เราสามารถไปต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยทางเลือก 2 ทาง ทางง่ายหรือทางยาก?”

“ฉันกําลังลองใช้ทางง่ายอยู่ แต่ถ้าอยากเลือกทางที่ 2 เชิญ” เขาพูดพร้อมถอดถุงมือแล้วเก็บไว้ที่ด้านข้าง ไอย์สังเกตลูซิเฟอร์ และสังเกตว่าเขากําลังคุกคามเธอ เธอรู้ด้วยว่าเขามีพลังอะไร ดังนั้นเธอจึงเข้าใจความหมายของเขา

“ดังนั้น ไอย์ ฉันจะถามอีกครั้ง จุดแข็งของ APE คืออะไร? มีกี่แบบ? แล้วพวกคุณมีมาตรการรักษาความปลอดภัยยังไงล่ะ” ลูซิเฟอร์ถามย้ําอีกครั้ง ไอย์คิดในใจ เธอรู้ว่าเธอโกหกไม่ได้ เพราะเวราซิตี้มาที่นี่เพื่อจับโกหก แต่เธอก็พูดความจริงไม่ได้เหมือนกัน เพราะนั่นหมายถึงการทรยศต่อคนของเธอ..

ตอนที่ 265: แผนการกบฏ

เขายืนขึ้นอย่างสงบ ในขณะที่เดินไปหาไอย์ และวางช็อกโกแลตไว้ข้างหน้าเธอ

“ไปเถอะ กินมันซะ เป็นอาหารพิเศษสําหรับวันพิเศษจากปีศาจตัวนี้” เขาบอกไอย์ “กินสิ ใครจะไปรู้ว่าเธอจะได้กินอะไรแบบนี้อีกเพราะอนาคตจะยากสําหรับเธอที่นี่” เขาหันหลังและเดินไปที่เก้าอี้ของเขา

“วันพิเศษอะไร” ไอย์ถามพลางขมวดคิ้ว “วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน วันนี้ปีศาจตัวนี้มาที่โลกนี้” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมกับหัวเราะคิกคัก “มาเพื่อชําระล้างคนอย่างวารันท์”

วันนี้เป็นวันเกิดที่แท้จริงของเขา ไม่ใช่ของปลอมที่คุณปู่จสร้างขึ้น แต่เขาจะไม่เฉลิมฉลองในลักษณะพิเศษใดๆ

“วันนี้มันอร่อยนะ” เขาบอกไอย์ขณะนั่งบนเก้าอี้

“อีกอย่าง เธอกันช้ามาก รู้ไหม เธอเป็นเต่าในชาติก่อนหรืออะไรทํานองนั้นหรือเปล่า?” เขา ถามต่อโดยสังเกตว่าเธอยังมีเวลาอีกนานก่อนจะทานอาหารเสร็จ

“ทําไมนายถึงทําแบบนี้?” ไอย์ถามลูซิเฟอร์ โดยไม่สนใจค่าพูดของเขา

“ทําไมฉันถึงทําอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ

“ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันถามว่าทําไมนายถึงทําเช่นนี้ โจมตีเรา ลักพาตัวฉัน ฆ่าคนและทุกอย่างที่นายทํา ทําไมนายถึงอยู่ที่นี่ ทําไมนายไม่วิ่งหนีนายไม่ต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ชีวิตของนายอย่าง สงบสุขการแก้แค้น สําคัญกับนายมากงั้นเหรอ?” ไอย์ถาม

“ใช้ชีวิตอย่างสันติ?”ลูซิเฟอร์ถาม ขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ “บางที หลังจากที่ฉันได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ฉันก็จะทํา”

“นายต้องการอะไรจากฉัน?” ไอย์ถาม

“อย่างที่ฉันบอกเธอ กินข้าวก่อน แล้วเราค่อยคุยกัน” ลูซิเฟอร์บอกเธอก่อนที่เขาจะเริ่มไม่สนใจเธอ

เขาลุกขึ้นและออกจากห้องไป เขาไม่ลืมเอาแล็ปท็อปไปด้วย ออกจากห้องไปเขาก็ล็อคประตูด้วย

เขาลงไปชั้นล่างเพื่อสังเกตเห็น แคสเซียสและเวราซิตี้ทานอาหารกลางวันด้วยกัน สาวใช้ก็ยืนเสิร์ฟอาหารอยู่ข้างๆ

“มาร่วมโต๊ะกับเราสิ” แคสเซียสบอกลูซิเฟอร์เพื่อเชิญเขา เขาหันไปหาหญิงสาวแล้วพูดว่า “เอาจานมาให้เขาด้วย”

“ไม่เป็นไร ฉันทานเสร็จแล้ว แม้แต่ไอย์ก็ตื่นแล้วเธอกําลังกินข้าวอยู่ด้วย” ลูซิเฟอร์บอกกับ แคสเซียสขณะที่เขานั่งเก้าอี้และนั่งใกล้ ๆ

“ก็ดี เธอบอกอะไรนายหรือยัง” แคสเซียสถาม

“ยังเลย ฉันยังไม่ได้สอบปากค่าเธอ ฉันจะทําต่อหน้าเวราซิตี้ หากไม่มีเธอ มันคงเสียเปล่า เพราะฉันไม่รู้ว่าเธอโกหกหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

ขณะที่ลูซิเฟอร์ออกจากห้อง ไอย์ก็หยุดกินและวิ่งไปที่ประตู แต่พบว่ามันถูกล็อคจากด้านนอกเธอสามารถพยายามทําลายมันได้ แต่มันจะส่งเสียงดังเกินไปทุกคนจะได้ตื่นตัว

“ต้องมีทางออกไปจากที่นี่ ฉันต้องการข้อมูลนี้ไปให้วารันท์ ฉันทําอะไรไม่ถูกในตอนนี้ หากไม่มีความสามารถมีเพียงทีมของฉันเท่านั้นที่สามารถช่วยได้ด้วยการมาที่นี่”

เธอเริ่มมองไปรอบๆ ห้องเพื่อหาทางออก แต่ทางเดียวที่ออกจากห้องดูเหมือนจะผ่านประตู

เธอเดินไปที่ห้องน้ําเพื่อดูว่ามีช่องเปิดอยู่หรือไม่ แต่ก็ต้องผิดหวัง ดูเหมือนว่าจะไม่มีการเปิดใด ๆ เช่นกัน อย่างน้อยก็ไม่ใหญ่พอที่จะให้เธอจากไป

“มันน่ารําคาญ ฉันตกเป็นนักโทษที่นี้แล้วไม่มีทางออกไปไหนได้” เธอคิดขณะถอนหายใจขณะก้าวออกจากห้องน้ํา

“ถ้าเพียงหาโทรศัพท์หรืออะไรซักอย่างได้… มันต้องอยู่ที่นี่แน่ๆ” เธอพูดขณะเริ่มการค้นหาอีกครั้ง

เธอค้นหาแต่ก็ไม่พบ เธอจึงรู้สึกผิดหวังเธอนั่งลงบนเตียงโดยตระหนักว่าเธอไม่มีทางออกเธอทําได้แค่ออกไปด้วยความช่วยเหลือของกุญแจ

“ใช่แล้ว ในตอนกลางคืนเขานอนที่นี่ ฉันแน่ใจว่า ถ้าเขาอยู่ข้างใน กุญแจก็ต้องอยู่กับเขาเช่นกัน สิ่งที่ฉันต้องมีคือไปเอากุญแจมาตอนที่เขาหลับฉันก็จะทําสําเร็จแล้ว” เธอพึมพําพลางกำหมัดแน่น ตอนนี้เธอมีแผนจะหนี

“ฉันต้องทําตัวให้เป็นปกติก่อน” เธอพูด เธอนั่งลงบนเตียงและเริ่มกินอีกครั้ง

“แล้วเราจะทําอย่างไร หลังจากได้รับข้อมูลจากไอย์? เราจะโจมตี APE หรือไม่” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์ที่โต๊ะอาหารค่ํา

“ไม่ นั่นสําหรับอนาคต สิ่งที่เราจะทําคือไปที่แวเรียนท์เกิดใหม่” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“นายบอกว่าคนพวกนั้นช่วยนาย นายจะช่วยเหลือพวกเขาในการต่อสู้ครั้งนี้หรือไม่” แคสเซียส ถามพลางขมวดคิ้ว

ลูซิเฟอร์ส่ายหัว

“จริงที่พวกเขาช่วยฉัน และฉันก็รู้ด้วยว่าพวกเขาไม่ได้ทําด้วยความดีจากใจ เมื่อก่อนฉันไม่ ได้คิดมากนัก แต่ตอนนี้ฉันทบทวนทุกอย่างใหม่แล้ว ย้อนกลับไปที่โรงงานตอนที่แซนเดอร์โจมตีฉัน การโจมตีนั้นกระทบเด็ก ๆ ”

“ถ้าพวกเขาสนใจเด็กจริงๆ พวกเขาคงจะพยายามช่วยเด็กๆแทนที่จะช่วยตัวเองฉันควรจะได้เห็นช่องโหว่ในคําพูดของพวกเขาแล้วฉันโง่เกินไป” ลูซิเฟอร์ตอบพลางส่ายหัว

“พวกเขาทําสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยพวกเขา เพราะพวกเขาสนใจเกี่ยวกับแวเรียนท์อื่นมากกว่าตัวเองฉันก็เลยเชื่อคําพูดของพวกเขาไม่ได้” เขากล่าวต่อ “แต่แล้วอีกครั้งความจริงที่พวกเขาได้ช่วยฉันไว้ก็ไม่เปลี่ยน

“แล้วนายจะไปทําอะไรที่นั่น” แคสเซียสถาม

“นั่นมัน… เรียบง่าย ฉันจะถามค่าถามง่ายๆ กับพวกเขา พวกเขามีข้อมูลการตายของพ่อของฉันหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น ฉันจะลบล้างผู้ที่เกี่ยวข้องและเข้ายึดครองแวเรียนท์เกิดใหม่ที่เหลือลูซิเฟอร์ตอบ

“ถ้าพวกเขาไม่ทําเช่นนั้น” แคสเซียสถาม

“หากพวกเขาไม่เกี่ยวข้อง ฉันก็จะยังคงยึดครองพวกเขาต่อไป แต่ฉันจะปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่เพื่อทํางานภายใต้ฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบ

“พวกเขาจะยอมรับไหม” แคสเซียสถามพลางขมวดคิ้ว “ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะทํา”

“พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่ต้องการอํานาจไม่ใช่หรือ และพวกเขาต้องการเพียงแวเรียนท์? พวกเขาจะยอมรับถ้านั่นเป็นเรื่องจริง ถ้านั่นไม่จริงฉันจะบังคับให้พวกเขาตามฉันมา” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะหยิบแก้วน้ําที่วางอยู่บนโต๊ะ เมื่อจิบน้ําเสร็จเขาก็วางกลับลงบนโต๊ะ

“แน่ใจนะว่านายเข้มแข็งพอที่จะบังคับพวกเขาได้” แคสเซียสถาม

“ฉันเชื่อมั่นในตัวเอง” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น “แต่ถึงกระนั้น ฉันอยากแข็งแกร่งขึ้น ก่อนที่จะไปถึงที่นั่น ฉันต้องเรียนรู้อะไรบางอย่าง”

“เอาล่ะ เวราซิตี้” เขาพูดพลางมองไปที่เวราซิตี้ “กินข้าวเสร็จแล้วมาที่ห้องของฉัน ฉันขอเริ่มการสอบสวน..”

ตอนที่ 264: ฉันโอบกอดปีศาจของฉัน

ในขณะที่ลูซิเฟอร์พูดทั้งหมดนี้ ไอย์เข้าใจบางสิ่งเมื่อ 8 ปีที่แล้ว วารันท์ได้พบกับลูซิเฟอร์

“คุณเป็นเด็กคนนั้นเหรอ” เธอถามอย่างขุ่นเคือง

“ใช่แล้ว เด็กคนนั้นคือฉัน!” ลูซิเฟอร์พูด ขณะกางแขนออก “ฉันคือเด็กที่ถูกฆ่าแล้วโยนทิ้งกลางทะเลให้เน่าไป! คุณรู้ไหมว่าอะไรที่ตลกจริงๆ” เขาถามต่อไป

“อะ-อะไร?” ไอย์ถาม

“เขาทําแบบนั้น” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม “โลกนี้ได้บดขยี้หัวใจของฉันด้วยความโหดร้ายของพวกเขาแล้ว แต่วารันท์ ไอ้สารเลวนั่น เขาบดขยี้หัวใจของฉันอย่างแท้จริง”

“ไม่เป็นไร ฉันจะให้การรักษาแบบเดียวกันแก่เขา ฉันจะจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยเสมอ ถามนักวิทยาศาสตร์พวกนั้นสิ” เขากล่าวต่อ “ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ฉันจะไม่โจมตีเขาจากด้านหลัง”

“แต่ฉันจะฆ่ามันแบบซึ่งๆหน้า เมื่อมันมีอานาจ” เขาประกาศ “วันนั้นจะไปถึงในไม่ช้าเช่นกัน และมันขึ้นอยู่กับเธอว่าเธอจะมีชีวิตอยู่เพื่อดูวันนั้นหรือไม่”

“คุณพูดความจริงไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ เรื่องของคุณมีช่องโหว่มากเกินไป! คุณบอกว่าคุณไม่สามารถใช้พลังของคุณ ทําไมเขาถึงฆ่าคุณแทนที่จะจับคุณแล้วพาคุณไป?” ไอย์ถามอย่างไม่เชื่อ

“อ่า เธอก็ต้องถามแบบนั้นสินะ แต่ถ้าให้เดาก็คงเป็นเพราะตาคู่นี้ล่ะมั้ง เขาคงกลัวทั้งๆ ที่ไม่มีเหตุผล แต่ตอนนี้…ฉันจะให้ เหตุผลที่ทําให้เขากลัว ฉันจะกลายเป็นฝันร้ายที่จะทําให้เขาตื่นในตอนกลางคืน!” ลูซิเฟอร์พูดขณะกําหมัดแน่น

“คุณต้องการอะไรจากฉัน?” ไอย์ถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง เนื่องจากเธอยังไม่เชื่อว่าวารันท์จะทําสิ่งนี้ได้

เธอเชื่อคํากล่าวอ้างของลูซิเฟอร์ว่าวารันท์พบเขา และเธอยังเชื่อว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา แต่เธอไม่เชื่อว่าเขาฆ่าลูซิเฟอร์ เมื่อลูซิเฟอร์ไม่สามารถใช้พลังของเขาได้

ทําไมวารันท์ถึงค้นหาลูซิเฟอร์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา?

ตอนนี้เธอคิดว่าวารันท์ และ ลูซิเฟอร์ ต่อสู้กัน และ ลูซิเฟอร์ ได้ทําร้ายวารันท์ โดยใช้กลอุบายชั่วร้ายก่อนที่จะหลบหนี เหตุใดเขาจึงไม่ได้พบเห็นนานนัก

วารันท์ไม่ต้องการยอมรับว่าเด็กคนนั้นเอาชนะเขาได้ เขาอาย และนั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่บอกเธอว่าเขาเจ็บปวดอย่างไร นั่นคือสิ่งที่จินตนาการของเธอลงมา

“ฉันต้องการอะไรจากเธองั้นเหรอ คําตอบง่ายๆ ฉันต้องการข้อมูล ส่วนข้อมูลที่ฉันต้องการนั้นเกี่ยวกับ…”

ก๊อก! ก๊อก!

ลูซิเฟอร์เริ่มอธิบายสิ่งที่เขาต้องการ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาหยุดและเดินไปที่ประตู

เขาเปิดประตูเพื่อดูสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาพร้อมกับถาดที่มีจาน 2 ใบ

“วางไว้บนโต๊ะ” เขาบอกเธออย่างเกียจคร้าน สาวใช้เดินเข้ามาแล้วเดินไปที่โต๊ะ หลังจากวางอาหารแล้ว เธอก็จากไปโดยไม่สนใจผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง

ลูซิเฟอร์ปิดประตู ขณะที่เขาหันไปหาไอย์อีกครั้ง

“แล้วเราอยู่ที่ไหน”

จ๊อกกก…

เขาเพิ่งเริ่มพูด เมื่อได้ยินเสียงคํารามของท้องของไอย์ “ได้ กินก่อน มันจะดีกว่าถ้าเธอไม่ตาย เพราะเธอจะมีประโยชน์กับแผนของเรา” ลูซิเฟอร์พูด ในขณะที่เขาตัดสินใจที่จะพูดคุยในภายหลัง “และไม่ต้องกังวลไป อาหารไม่มีพิษ ฉันไม่จําเป็นต้องใช้ยาพิษเพื่อฆ่าเธอ”

ไอย์จ้องที่ลูซิเฟอร์ แต่เธอไม่ได้หยิบจานขึ้นมา “อย่าคิดว่าฉันจะตามเธอมา เพื่อทําอาหารให้กิน ฉันไม่สนใจหรอกว่าเธอจะอยู่หรือตาย กินหรือไม่กินก็ไม่ เพราะมันไม่เป็นไร ฉันเอาคนอื่นจาก APF ของเธอมาก็ได้ ถ้าเธอตาย มันจะต้องใช้ความพยายามอีกนิดหน่อย” ลูซิเฟอร์บอกไอย์ ขณะที่เขาเดินไปที่โต๊ะ

เขาหยิบจาน 1 ใน 2 จานแล้วเดินกลับไปที่เก้าอี้ของเขา นั่งบนเก้าอี้เขาเริ่มกิน

ไอย์นั่งเงียบ ๆ ต่อไปอีก 2-3 นาทีโดยยังไม่พูด

จ๊อกกก!

ท้องของเธอส่งเสียงอีกครั้งราวกับขออาหาร ด้วยความผิดหวัง เธอหยิบจานที่สองขึ้นมาก่อนจะเดินกลับไปที่เตียงขณะเริ่มกิน

ลูซิเฟอร์รู้สึกเหมือนอยากจะหัวเราะ เมื่อเห็นเธอยอมแพ้ต่อหน้าความหิว แต่เขาเข้าใจด้วยว่าความหิวโหยนั้นรุนแรง คนแรกที่เขาฆ่าคือเพราะเขาต้องการอาหาร

อาหารทําให้ใครๆ ก็ทําได้ ดูเหมือน ไม่สําคัญหรอกว่าจะเป็นเด็กอายุ 10 ขวบหรือผู้นําที่ยิ่งใหญ่ของ APF หน่วยเบต้า

ขณะที่ลูซิเฟอร์และไอย์กําลังรับประทานอาหารอยู่ แคสเซียสก็กําลังฝึกซ้อมอยู่ข้างนอก

แม่บ้านมาแจ้งว่าอาหารพร้อมแล้ว ตอนนั้นเองที่เขาหยุดและเดินกลับเข้าไปในคฤหาสน์เพื่อทานอาหาร

ลูซิเฟอร์กินเสร็จ ในขณะที่เขาอดอาหาร ขณะที่ไอย์ทานเสร็จไปครึ่งจาน เขาได้วางจานเปล่าไว้ข้างหลังแล้ว จากนั้นเขาก็เดินไปที่ชั้นวางของ ซึ่งเขาเก็บกล่องช็อกโกแลตไว้

เขาเดินกลับมาที่เก้าอี้พร้อมกับกล่องช็อกโกแลต และเปิดกล่องออกเผยให้เห็นช็อกโกแลตแสนอร่อย ซึ่งมีราคาแพงที่สุดที่เขาสามารถหาได้ในร้านค้า เช่นเดียวกับที่พ่อของเขาเคยนํามาให้เขา

เขาได้รับหนึ่งชิ้นหลังจากรับประทานอาหารเย็น

เขาหยิบช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ ขึ้นมาซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความทรงจําของเขาแล้ววางชิ้นนั้นไว้ในปากของเขา ปล่อยให้ช็อกโกแลตละลายอยู่ภายใน

เขากินมันหลังจากผ่านไป 13 ปี แต่รสชาตินั้นยังคงดูเหมือนจะเหมือนเดิมเมื่อเขาจําได้

“บางสิ่งยังคงเหมือนเดิม แม้ผ่านไปนาน ในขณะที่สิ่งอื่นเปลี่ยนไปมากจนจําไม่ได้ โลกนี้ค่อนข้างตลกนะ ว่าไหม?” เขาถามไอย์ที่ยังกินอยู่

“สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้คน มองดูตัวเองสิ คุณเป็นลูกของคนที่ยิ่งใหญ่ และดูสิ่งที่คุณกําลังทําอยู่ตอนนี้หรือไม่” ไอย์ตอบโต้

“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอรู้ไหม เธอโชคดีมาก ถ้าเธอพูดเรื่องพวกนั้น ตอนฉันอายุ 10 ขวบ เถ้าถ่านของเธอคงนอนอยู่บนเตียงนั้น” ลูซิเฟอร์บอกไอย์ในขณะที่เขาไม่ได้ดูถูก

ก่อนหน้านี้ เขาเคยโกรธเคืองเสมอ เมื่อมีคนพูดถึงพ่อแม่ของเขา แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้ว

“แต่เธอพูดถูก ผู้คนเปลี่ยนไป โลกบังคับให้พวกเขาเปลี่ยน บางครั้งมันก็ขัดกับความปรารถนาของพวกเขา” เขากล่าว ความผิดหวังของเขาในโลกนี้ชัดเจน “สิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงคือมารในใจเรา เธอซ่อนปีศาจนั้นไว้ในขณะที่แสร้งทําเป็นว่าเป็นคนชอบธรรม ในขณะที่ฉันโอบกอดปีศาจภายในใจของฉัน” เขาพูดต่อขณะปิดกล่องอีกครั้ง

ตอนที่ 263: ทักษะระดับมหากาพย์ของเซล

หลังจากการต่อสู้อย่างหนัก ลูซิเฟอร์พบวิดีโอของพ่อของเขาโดยใช้พลังของเขา ไม่สามารถรอได้ เขาจึงเริ่มเล่นวิดีโอ

เขาสามารถเห็นแผ่นหลังอันทรงพลังของพ่อ ในขณะที่วิดีโอถูกถ่ายจากด้านหลัง

มีคนจํานวนมากยืนอยู่ใกล้คนที่กําลังบันทึกวิดีโอ อีกด้านหนึ่ง สามารถมองเห็นชาวดันเจี้ยนผู้หิวโหยหลายร้อยชีวิต ราวกับว่าพวกเขากําลังจะฉีกทุกคนที่ขวางทางของพวกเขา

ระหว่างทั้งสองฝ่าย พ่อของเขายืนเหมือนกําแพงเพื่อปกป้องมนุษย์

ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดําที่คํารามอย่างบ้าคลั่ง ลูซิเฟอร์หยุดวิดีโอชั่วคราวขณะที่เขาขมวดคิ้ว

“สถานการณ์นี้ เมฆ ทําไมพวกเขาถึงดูเหมือนเมฆที่ปรากฏขึ้นจากที่ไหนเลยเมื่อฉันรู้สึกไม่เสถียรในระหว่างการสู้รบ?”

“ฉันสงสัยอยู่เสมอว่าเมฆเหล่านี้เกี่ยวข้องกับฉันอย่างไร เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับพ่อด้วย” เขาพูดเบา ๆ ขณะที่เขาขมวดคิ้ว

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาพยุงตัวเอง ขณะเล่นอีกครั้ง วิดีโอก้าวไปข้างหน้า

ชาวดันเจี้ยนหลายร้อยคนเริ่มวิ่งไปหาพ่อของเขา เขาไม่เห็นหน้าพ่อหรือสีหน้าของเขา แต่เขาเชื่อว่าตอนนี้พ่อของเขาต้องยิ้มอย่างมั่นใจ พ่อของเขายกมือขวาขึ้นราวกับว่าเขากําลังชูมือให้เมฆ

“ออกมาทําลายทุกคนที่ขวางทางฉัน!” เสียงคํารามอันทรงพลังของเซล แอซเรลก้องไปรอบ ๆ เหมือนเสียงคําราม

ดูเหมือนท้องฟ้าจะตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของเซล แอซเรล เนื่องจากสายฟ้าหลายร้อยลูกตกลงมาบนพวกในดันเจี้ยน และทําลายพวกมันทั้งหมด

กระบวนท่านี้… การโจมตีเพียงครั้งเดียวได้สังหารชาวดันเจี้ยนที่ดุร้ายหลายร้อยชีวิต ช่างทรงพลัง ในขณะที่ยังเป็นทักษะสร้างความเสียหายขนาดใหญ่

ยิ่งกว่านั้น เขามั่นใจว่าสายฟ้าตกลงมาเพราะพ่อของเขา และพวกมันไม่ใช่สายฟ้าธรรมดา

แทนที่จะเป็นสายฟ้าสีดําที่พวกเขาสามารถสร้างได้ พวกมันเป็นสายฟ้าที่เพียงพอที่จะฆ่าใครก็ได้ “การโจมตีครั้งนี้… เขาทําได้อย่างไร” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะขมวดคิ้วขมวด “ถ้าเพียงแต่ฉันเรียนรู้มันด้วย ฉันก็อาจจะดูน่ากลัวขึ้นมาก ต่อหน้าการโจมตีครั้งนี้ วิธีที่ฉันใช้สายฟ้าดูเหมือนใช้ปืนเหมือนไม้เท้า!”

“ฉันต้องเรียนรู้ ฉันต้องสามารถทําเช่นนั้นได้ ไม่ว่าฉันจะทําอะไร ฉันต้องเชี่ยวชาญการโจมตีนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย” เขากล่าวต่อขณะที่เขากําหมัดแน่น

เขาได้ตั้งปณิธานไว้อย่างนั้น เขาต้องการที่จะเชี่ยวชาญทักษะนี้ “ฉันจะทํายังไงดี คนเดียวที่สอนฉันได้คือคนตาย…”

ในไม่ช้าเขาก็เริ่มกังวลว่าจะเรียนรู้ได้อย่างไร เขาส่ายหัวทันที

“ไม่! ฉันไม่สงสัยในตัวเองเลย! เมื่อเขาเรียนรู้ได้ แม้เขาจะไม่มีใครสอนทักษะนี้ให้ เขาก็ยังเรียนรู้มันได้ ทําไมฉันจะทําไม่ได้เล่า!”

“เขาเชี่ยวชาญ! ฉันก็ทําได้เช่นกัน! เขาไม่ได้อ้างอิงถึงทักษะนี้ด้วยซ้ําตอนที่สร้างมันขึ้นมา แต่อย่างน้อยฉันก็มีความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันกําลังมองหา” เขาเล่นวิดีโออีกครั้ง ซึ่งเขาหยดชั่วคราว หลังจากเกิดฟ้าผ่า

เมื่อวิดีโอเริ่มเล่น มันแสดงให้เห็นสัตว์ที่ถูกฆ่าตายนอนอยู่บนพื้น

พ่อของเขาค่อยๆ หันกลับมาเผยใบหน้าซึ่งมีรอยยิ้มอย่างมั่นใจบนใบหน้าของเขา

“พวกคุณปลอดภัยทุกคน แต่ฉันยังคงแนะนําให้คุณอยู่ในบ้านของคุณ ไม่ต้องกังวล เมืองนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตราบใดที่เราอยู่ที่นี่” เขากล่าวกับพวกผู้ชาย โดยชูกําปั้นอย่างมั่นใจ

เมื่อเห็นพ่อของเขาพูดแบบนั้น ลูซิเฟอร์ก็อดหัวเราะไม่ได้ แม้ว่าเขาจะหัวเราะ แต่ก็ยังมีน้ําตาในดวงตาของเขา

“เขาแตกต่างออกไปจริงๆ” ลูซิเฟอร์กล่าวขณะส่ายหัว

พ่อของเขาตบเท้าบนพื้น ขณะที่เขาดูเหมือนเขาจะบินไปไกล แต่ลูซิเฟอร์รู้ว่าเขากระโดดแล้วนั่นคือจุดที่วิดีโอจบลง

ลูซิเฟอร์ปิดแล็ปท็อปและวางไว้ด้านข้างขณะที่เขาขยี้ตาเพื่อเช็ดน้ําตา

“ไม่ใช่เวลามาคิดถึงอดีต ฉันต้องโฟกัสกับอนาคต ฉันมีหลายสิ่งที่ต้องทําในโลกนี้ ฉันอ่อนแอไม่ได้ ฉันต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมเมฆและสายฟ้า” เขากล่าวขณะที่เขาส่ายหน้า

เขายืนขึ้นเพื่อออกจากห้องเมื่อได้ยินเสียงข้างหลังเขา “คุณต้องการอะไรจากฉัน ทําไมคุณถึงช่วยชีวิตฉันไว้”

“เธอลุกขึ้นแล้ว” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาหันหลังกลับ

“ดีที่ครั้งหนึ่งคุณไม่ใช่คนงี่เง่า ฉันเบื่อที่เห็นคุณถูกไฟฟ้าช็อต ตอนนี้ฉันมีโอกาสจะได้บอกคุณโดยตรง

“หากคุณพยายามใช้พลังของคุณ คุณจะต้องเผชิญกับมันอีกครั้ง ดังนั้นจงเป็นแขกที่ดีและดีใจซะที่คุณยังมีชีวิตอยู่” เขากล่าวเพิ่มเติม

“คุณคือใคร?” ไอย์ถามขมวดคิ้ว “เราคุ้นเคยกันหรอ?”

ลูซิเฟอร์กําหมัดของเขา เมื่อเขาได้ยินคําพูดของเธอ เขาก้าวเข้ามาใกล้เธอหยุดห่างจากเธอ เพียงไม่กี่นิ้วขณะที่เขาคว้าคอเธอ

ขณะที่ไอย์หายใจไม่ออก ลูซิเฟอร์เอาริมฝีปากแนบหูของเธอ ขณะที่กระซิบว่า “หลังจากที่พวกคุณไล่ล่าฉันเหมือนสัตว์ คุณคิดได้ยังไง ทําไมถึงกล้าลืมฉันได้ง่ายๆ อย่างนี้”

เมื่อไอย์เห็นลูซิเฟอร์จากระยะใกล้ เธอสังเกตเห็นสีม่วงเล็กน้อยภายในดวงตาสีฟ้าข้างซ้ายของเขา

“ละ-ลูซิเฟอร์?” เธอพูดหลังจากการต่อสู้อย่างหนัก

“บิงโก” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม เขาปล่อยคอของเธอ

แค่ก! แค่ก!

ไอย์ไอออกมาอย่างหนัก ในที่สุดเธอก็หายใจได้อย่างเหมาะสม

“คุณต้องการอะไรจากฉัน คุณซ่อนตัวเมื่อ 8 ปีที่แล้ว! คุณกล้าดียังไงที่กลับมาอีกครั้ง” เธอถามหลังจากที่เธอหยุดไอ

“ฉันซ่อนตัวงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม งงๆ เมื่อเขามองเธอราวกับกําลังมองดูคนงี่เง่า

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! นั่นคือสิ่งที่มันเป็นสินะ!” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะออกมาหลังจากรู้ว่ามันคืออะไร

“ดูเหมือนว่าแม้แต่หัวหน้าหน่วยเบต้าผู้ยิ่งใหญ่จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น วารันท์ซ่อนมันจากคุณงั้นหรือ? เขาไม่ได้บอกคุณว่าเขาทําอะไรกับฉันเมื่อ 8 ปีก่อนงั้นหรือ?” เขาถามหลังจากหยุดหัวเราะ

“8 ปีที่แล้วเขาทําอะไร” ไอย์ พึมพําขณะที่เธอขมวดคิ้ว เธอจําเรื่องสําคัญที่เกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีก่อนได้ วารันท์กลับมาและดูเหมือนจะบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นก็ไม่เห็นเขานาน เรียอาริ และ เก็นซี่ ซึ่งเขาไม่ได้บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น

แม้หลังจากที่วารันท์ปรากฏตัวอีกครั้ง เธอก็ไม่พบอะไรในขณะที่เขาไม่ได้บอกเธอเช่นกัน

“8 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ” เธอถามลูซิเฟอร์

“การฆาตกรรมเกิดขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว การฆาตกรรมเด็กที่เพิ่งนั่งอยู่บนชายหาด คิดธุระของตัวเอง” ลูซิเฟอร์ตอบ.. “เดาสิว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร?”

ตอนที่ 262: วิดีโอของเซล

“ว่าแต่นายจะไปเมื่อไหร่ ลูซิเฟอร์ถามเจียง”แล้วประชุมที่ไหนล่ะ”

“การประชุมอยู่ในเมืองเรียลเท็ค ฉันจะออกเดินทางในตอนบ่าย นอกจากนี้ ฉันจะบอกพวกเขาว่าโครงการในเมืองลีเจี้ยนถูกยกเลิก เพราะฉันต้องการให้โครงการนั้นย้ายไปที่อื่น” เจียงอธิบาย

“นายกําลังบอกว่านายไม่ได้บอกให้พวกเขาหยุดโครงการจนถึงตอนนี้เหรอ” ลูซิเฟอร์ถามพลางหรี่ตาลง

“ฉันได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ฉันควรบอกสิ่งนี้กับคนอื่นแบบเห็นหน้ากันเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในภายหลัง” เจียงอธิบาย “โครงการนั้นตายไปแล้ว”

“ดีแล้ว ออกไปได้แล้ว ดูแลพวกสาวๆ จนถึงบ่ายโมง แล้วฉันจะกลับมา จากนั้นแล้วนายก็ไปได้แล้ว” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมพยักหน้า

“เอาล่ะ ถ้านายไม่มีอะไรฉันจะไปจิบกาแฟที่ชงโดยสาวสวยที่กําลังรอฉันอยู่ข้างในแล้วกัน” เจียงพูดพร้อมยิ้ม ในขณะที่เขาเดินกลับ

“ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันเรียนรู้” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมส่ายหัว เขาเอามือล้วงกระเป๋าในขณะที่เขาเดินต่อ

“ฉันอยู่นี่ไง ไม่เอาน่า ไม่อยากเรียนขับรถหรือไง มากับฉัน!” เช่นเดียวกับที่เจียงจากไป แคสเซียสก็มาหาลูซิเฟอร์ เขาอาบน้ําเสร็จแล้วและตอนนี้เขาสวมกางเกงสีขาวและเสื้อคลุมสีขาวที่สวยงามราวกับเขาเป็นเจ้าชายแห่งราชอาณาจักร

“ฉันรอนายอยู่ ไปกันเถอะ” ลูซิเฟอร์ตอบ เขาเริ่มเดินไปที่รถ 3 คัน

ขณะที่แคสเซียสหยุดรถ ก่อนรถที่พวกเขาขับครั้งล่าสุด ลูซิเฟอร์ไปที่รถคันที่ 3

“เราจะเอาอันนี้วันนี้” เขาพูด ขณะแสดงกุญแจ ซึ่งอยู่ในมือของเขา

“ได้ นั่งบนที่นั่งคนขับ ฉันจะแนะนํานายเอง” แคสเซียสบอกลูซิเฟอร์ขณะที่เขาเดินไปที่รถคันที่ 3

ลูซิเฟอร์เปิดประตูรถสปอร์ตสีเหลืองสดใสและนั่งบนเบาะ แคสเซียสนั่งบนที่นั่งผู้โดยสาร

ลูซิเฟอร์เสียบกุญแจ ในรถขณะที่เขาเหลือบมองแคสเซียส

“ก็ได้ บอกฉันมาว่าต้องทํายังไงต่อจากนี้” เขาถามด้วยความสงสัย

“ก่อนอื่น ให้ฉันสอนนายก่อนว่ามันคืออะไร อันที่นายเห็นอยู่ทางขวาคือคันเร่งที่นายใช้เร่งรถทางซ้ายมีเบรก และนี่คือ…” แคสเซียสเริ่มอธิบายเกี่ยวกับรถ ถึงลูซิเฟอร์ที่รู้เรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว แต่เขาก็ยังฟังอย่างระมัดระวัง
“นายเข้าใจไหม?” เขาถามลูซิเฟอร์หลังจากอธิบายเสร็จ

“อ็ม” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมพยักหน้า

“มันเยี่ยมมาก ตอนนี้เรามาถึงส่วนหลักแล้ว การขับรถ เนื่องจากเป็นรถสปอร์ต การเรียนรู้ที่จะขับมันค่อนข้างยาก ดังนั้นควรระมัดระวัง เหยียบคันเร่งช้าให้มากๆ และจับตาดูถนนให้ดี” แคสเซียสกล่าวเพิ่มเติม เมื่อเขาเริ่มสอน

รถสปอร์ตสีเหลืองออกจากคฤหาสน์เวลลิ่ง ในช่วงเช้าตรู่ และกลับมาหลังจากผ่านไป 4 ชั่วโมงในตอนบ่าย

ลูซิเฟอร์หยุดรถที่หน้าคฤหาสน์ “แค่นั้นแหละ วันแรกของนายก็ไม่เลวเลย” แคสเซียสชมลูซิเฟอร์ ขณะที่ทั้งสองคนก้าวลงจากรถ “ฉันว่าอีกไม่กี่วันนายจะหายดี”

ลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปในคฤหาสน์พร้อมกับถือกล่องช็อกโกแลตที่เขาซื้อมาระหว่างทาง

“พวกนาย 2 คนกลับมาแล้ว ฉันคิดว่าฉันจะรอพวกนาย แต่ตอนนี้มันสายแล้ว โชคดีที่พวกนายมาทัน ฉันจะไปเดี๋ยวนี้” ทันทีที่แคสเซียส และลูซิเฟอร์ เข้าไปในคฤหาสน์ พวกเขาสังเกตเห็นเจียงที่ดูมีความสุขมากที่ได้พบพวกเขา ซึ่งเวราซิตี้ยังยืนอยู่ข้างเขา ยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ

“นั่นสาวใช้เหรอ?” ลูซิเฟอร์ถามเจียง

“ใช่ ฉันสอนเธอทุกอย่างแล้ว เธอจะระวัง” เจียงตอบ

“เดี๋ยวก็รู้” ลูซิเฟอร์พูดพลางขมวดคิ้ว

เขาก้าวเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนั้นโดยหยุดห่างจากเธอไม่กี่ฟุต “บอกอะไรฉันหน่อย ถ้าเธอพบว่าเราลักพาตัวใครซักคนและเราจับคนนั้นเป็นตัวประกัน เธอจะบอกคนอื่นให้จับเราได้ไหม” ลูซิเฟอร์ถามหญิงสาว

“ตราบใดที่ฉันได้รับรายได้ตามที่สัญญาไว้ตรงเวลา ฉันจะไม่สนว่าคุณจะทําอะไรในคฤหาสน์นี้” หญิงสาวตอบอย่างมั่นใจ “คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับฉัน”

ลูซิเฟอร์เหลือบมองเวราซิตี้ ขณะที่เขาถามว่า “เธอพูดจริงเหรอ?”

“เธอเป็นเช่นนั้น และเขาได้ให้เธอผ่านการทดสอบนั้นแล้ว” เวราซิตี้ ตอบพลางชี้ไปที่เจียง

“อีกอย่างหนึ่ง” ลูซิเฟอร์พูดขณะหันหลังกลับ “เจียง ถึงตานายแล้ว นายจะหักหลังฉันไหม”

“ฉันทําไม่ได้ การล่วงละเมิดผู้อื่นยังดีกว่าทําให้ขุ่นเคือง ไม่ว่ายังไง ตอนนี้ฉันเป็นคู่หูของคุณในอาชญากรรม ฉันอยู่ลึกๆพอๆกับคุณ ดังนั้นเราจะตายหรือเราจะรอด ก็ไปพร้อมๆกันทั้งคู่ ฉันพร้อมจะล่องเรือฝ่าพายุไปด้วยกัน” เจียงตอบ “และคุณสามารถตรวจค่าพูดของฉันได้”

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะเห็นว่าเจียงกําลังพูดความจริง แต่เขาก็ยังมองไปที่เวราซิตี้เพื่อยืนยัน

“เขาพูดความจริงด้วย” เวราซิตี้กล่าว

“ออกไปได้” ลูซิเฟอร์บอกเจียง ขณะเริ่มออกเดินทาง

“อีก 1 ชั่วโมงฉันจะเอาอาหารไปกินที่ห้อง แล้วก็เอาอีกจานมาให้แขกที่ถูกลักพาตัวมาด้วย” เขาพูดโดยไม่หันหลังกลับ แต่เห็นได้ชัดว่าเขากําลังคุยกับสาวใช้อยู่

“ฉันจะไปซ้อมข้างนอก” แคสเซียสบอกกับเวราซิตี้ ขณะที่เขาจากไป แต่ไม่เหมือนกับลูซิเฟอร์ เขาไม่ได้ไปที่ห้องของเขา เขาออกไปข้างนอกเพื่อฝึกทักษะดาบของเขา

ลูซิเฟอร์ปลดล็อคประตูโดยใช้กุญแจขณะเข้าไปในห้อง

เขาเห็นว่าไอย์ ยังคงนอนอยู่บนเตียงโดยไม่รู้ตัว

“ฉันหวังว่าเธอจะไม่ตายจากความหิวโหย นั้นคงจะโชคร้าย ถ้าเพียงเธอไม่ใช้พลังของเธอทัน ที่ที่ตื่นขึ้น” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะที่เขาส่ายหัว

เขาเดินกลับไปที่ชั้นวางเพื่อหยิบแล็ปท็อป ในขณะที่เขาเก็บกล่องช็อกโกแลตไว้ที่นั่น

เขาเดินไปที่เก้าอี้และนั่งบนแล็ปท็อปโดยวางแล็ปท็อปไว้บนตัก

เขาเปิดแล็ปท็อปเพื่อป้อนรหัสผ่าน หลังจากปลดล็อกแล้ว เขาก็เริ่มทํางาน

เป็นเวลาหลายวันแล้วตั้งแต่ที่เขาเริ่มพยายามจับภาพที่แสดงให้เห็นพ่อหรือแม่เห็นในการต่อ

เขาต้องการเห็นรูปแบบการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อพัฒนาทักษะของเขาเพื่อเรียนรู้ขอบเขตพลังของเขา

น่าเสียดายที่ไม่มีวิดีโอดังกล่าวเป็นสาธารณะ ดังนั้นเขาจึงพยายามใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย เพื่อให้ได้วิดีโอเหล่านั้นเนื่องจากมีความสําคัญ

เนื่องจากมันยากกว่าที่เขาคาด มันจึงต้องใช้เวลา แต่ทุกวันเขาเข้าใกล้สิ่งที่เขาต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ

อีกครึ่งชั่วโมงถัดมา เขาอยู่บนแล็ปท็อปโดยกดแป้นต่างๆ “นั่นสินะ ฉันเจอแล้ว”

เมื่อเขาสังเกตเห็นวิดีโอ เขาก็รู้สึกตื่นเต้น ในที่สุดเขาก็ได้เห็น

“มันเป็นวิดีโอของพ่อจากมหาสงครามครั้งแรก คงจะมีประโยชน์” ลูซิเฟอร์กล่าวขณะที่เขาเริ่มเล่นวิดีโอ ..

ตอนที่ 261: ฉันต้องการเงิน

เมื่อหยิบกุญแจ ลูซิเฟอร์ปลดล็อกประตู ก่อนที่เขาจะก้าวออกไป เขาไม่ลืมปิดประตู ขณะที่เขาจากไป

“เจียง นายตีนหรือยัง” เขาถาม ขณะเคาะประตูของเจียง

“เดี๋ยวฉันออกไปนะ! ขอแต่งตัวก่อน!” เสียงมาจากข้างใน

ในขณะนั้น แคสเซียสก็ก้าวออกจากห้องของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะเต็มไปด้วยเหงื่อ ในขณะที่เขาเพิ่งออกกําลังกายเสร็จ มีผ้าเช็ดตัวอยู่บนไหล่ของเขา

“อรุณสวัสดิ์” เขาอวยพรลูซิเฟอร์

“อรุณสวัสดิ์ นายอยู่ที่นี่เป็นอย่างไรบ้าง” ลูซิเฟอร์ถามอย่างไม่ใส่ใจ

“ไม่เลวเลย ถึงแม้เตียงจะไม่ค่อยดีเท่าที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้แย่เหมือนกัน ฉันนอนหลับสบาย” แคสเซียสตอบ “แล้ววันนี้มีแผนยังไง”

“ไม่มีอะไรพิเศษ เราจะไม่ทําอะไรในอีก 2-3 วันข้างหน้า ฉันจะเรียนรู้วิธีขับรถแทน” ลูซิเฟอร์ตอบ “ฉันจะสอบปากคําผู้หญิงคนนั้นในภายหลังเพื่อรู้ว่าเธอต้องการอะไร และหลังจากนั้น… นายแค่รู้ไว้ว่าเรามีตารางงานใหญ่”

“ดังนั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ก็แค่ผ่อนคลายและเพลิดเพลิน” เขากล่าวต่อ

“พูดง่ายๆ มีคนอยากให้เราอยู่ข้างนอกในตอนนี้ ซึ่งเป็นไปได้มาก ว่าพวกมันน่าจะได้ภาพของเราแล้ว เราไม่สามารถแม้แต่จะออกไปข้างนอก” เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง

เมื่อหันหลังกลับ ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง “เวราซิตี้ เธอก็รู้สินะ”
“ทําไมฉันจะไม่รู้” เวราซิตี้ถามยิ้มๆ

“ฉันแค่พูดไปอย่างนั้น ยังไงซะ ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะมีภาพสเก็ตช์ของเรา คนๆ เดียวที่พวกเขาจะรู้จักคือนาย ส่วนตําแหน่งของนายนั้นมันไม่ทราบแน่ พวกเขาไม่รู้จักเจียงเหมือนกัน เพราะเขาใส่หนวดปลอมๆ” ลูซิเฟอร์ตอบ “สําหรับเรา ฉันสงสัยว่าพวกเขามีคําอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของเรา ฉันทําตามขั้นตอนเพื่อสิ่งนั้น” เขากล่าวเพิ่มเติม

เวราซิตี้รู้ว่าเขาพูดความจริง แต่นั่นก็ทําให้เธอประหลาดใจเช่นกัน พวกเขาไปที่นั่น ลักพาตัวใครบางคนที่สําคัญมาก และเขายังคงเชื่อว่าตัวตนของเขาเป็นความลับ? เขาอาจจะฉลาดพอที่จะทําให้มันเกิดขึ้นจริงหรือ?
ประตูอีกบานเปิดออก เมื่อเจียงก็ก้าวออกไป “ฉันเสร็จแล้ว”

“เจียง นายจัดคนใช้ตามที่ฉันบอกนายหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามเจียง

“ฉันแน่ใจแล้ว ไม่ต้องห่วง เขาจะมาวันนี้และพวกเขาก็ทําตามที่คุณบอก พวกเขาจะอยู่ในบ้าน และพวกเขาจะเก็บความลับของเราไว้” เจียงตอบ

“แม้ว่าฉันจะต้องจ่ายให้พวกเขามากขึ้น แต่ก็ไม่เป็นไร พวกเขาจะไม่สนใจ ไม่ว่าเราจะทําอะไรผิดกฎหมายที่นี่ก็ตาม” เขากล่าวต่อ “พวกเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดเวลาในวันนี้”

“ดี” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาหันกลับมาหาแคสเซียส ขณะที่พูดว่า “ไปอาบน้ําแล้วไปพบฉันข้างนอก นายจะสอนฉันขับรถ”

“ได้” แคสเซียสเห็นด้วย ขณะเดินกลับเข้าไปในห้อง

“ฉันจะเตรียมกาแฟให้” เวราซิตี้พูดขึ้น “มีใครรับไหม”

“ฉันไม่ดื่มกาแฟ เธอชงกินเองได้เลย” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ฉันเอาถ้วยนึ่ง” เจียงกล่าว “มาสิ ฉันจะพาไปดูครัว”

“เข้าใจแล้ว” เวราซิตี้หันหลังกลับ พลางเดินตามเจียงออกไปเพื่อค้นหาครัว

ลูซิเฟอร์ก็เดินลงบันไดไป ในขณะที่เขาออกจากคฤหาสน์ไปเดินเล่นในสวน

นี่กลายเป็นสถานที่โปรดของเขาในที่ดินทั้งหมด สวนนี้ใหญ่มากและมีดอกไม้สวยงามมากมายที่หาได้ยากในหลายๆที่ ดอกไม้ดูสวยงามแต่ก็น่าสนใจ

ลูซิเฟอร์เดินไปใกล้ดอกไม้ สังเกตดู ในไม่ช้า เขาสังเกตเห็นดอกไม้ที่ดึงดูดความสนใจของเขา มันดูเหมือนต้นไม้ที่มีดอกสีแดงเลือด

เขาเอื้อมมือออกไป ดึงดอกไม้ดอกหนึ่งออกมา ในขณะที่สังเกตจากระยะใกล้

“มันคือ Ephydrorhops Apheloramus (เอฟายดรอฮอป อะเฟโลรามัส) ฉันจําได้ว่าเคยเห็นพวกมันในหนังสือที่อะคาเดมี่ การได้เห็นพวกมันที่นี่ค่อนข้างน่าขบขัน” เขาพึมพํา ขณะยิ้ม “สวยจริง ๆ แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ลิขิตให้ตายไปแล้วตอนที่ฉันดึงมันออกมา”

เขาเริ่มเดินอีกครั้ง ในขณะที่เขาถือดอกไม่ไว้ในมือ พลางนึกถึงความทรงจําอันล้ําค่าในอดีตของเขาด้วยการสันศีรษะ

เขาจําได้ว่าพ่อของเขาเคยนําดอกไม้มาให้แม่มากมาย การได้เห็นดอกไม้เหล่านี้ทําให้แม่ของเขามีรอยยิ้มที่สดใส ในเวลาเดียวกัน พ่อของเขาเคยนําช็อกโกแลตมาให้เขา

“นี่คุณ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ!”ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังครุ่นคิดอยู่ มีคนเรียกเขาจากด้านหลัง เขาหันกลับมาหาเจียง

รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเขาหายไป ในขณะที่เขาถามว่า “นายต้องการอะไร?”

“ฉันได้รับคําเชิญให้เข้าร่วมการประชุม เนื่องจากฉันเพิ่งเข้ารับตําแหน่งในบริษัท จึงมีการประชุมเพื่อช่วยฉันแนะนําหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของเราให้รู้จัก แต่มันอยู่ในเมืองอื่น” เจียงอธิบายกับลูซิเฟอร์

“ฉันอยากจะถามว่าคุณต้องการอะไรจากฉันไหม ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถ้าไม่ ฉันคิดว่าฉันควรเข้าร่วมการประชุมครั้งนั้น ด้วยวิธีนี้ ฉันจะสามารถจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้นในอนาคต ฉันจะมีเครือข่ายที่กว้างขึ้น” เขาพูดต่อในขณะที่เขายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

“ไม่เป็นไร ไปได้แล้ว ฉันไม่มีอะไรสําคัญอีก 2-3 วันข้างหน้าที่อาจต้องการนาย” ลูซิเฟอร์อนุญาต

“เยี่ยมมาก ฉันจะเริ่มเตรียมตัวออกเดินทาง ฉันจะไปโดยเครื่องบินส่วนตัว มันจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเดินทางแบบนั้น ฉันตื่นเต้นมาก” เจียงกล่าวอย่างตื่นเต้นขณะที่เขาเริ่มออกเดินทาง

“เจียง?” จู่ๆ ลูซิเฟอร์ก็ร้องเรียก

“ว่า?” เจียงถามกลับ

“ให้เงินฉัน ฉันจะออกไปข้างนอกแต่ฉันไม่มีเงินเลย” ลูซิเฟอร์บอกเจียงอย่างเคร่งขรึม

“ฮ่าฮ่าฮ่า แค่นั้นหรือ ความมั่งคั่งทั้งหมดนี้เป็นของคุณ ไม่ต้องกังวล ฉันจะเอาเงินให้คุณในไม่กี่นาทีหลังจากนี้” เจียงหัวเราะขณะที่เขาจากไป

ลูซิเฟอร์กลับไปทํางานของเขา เหลือบมองดอกไม้ที่ยังคงอยู่ในมือของเขา

เจียงใช้เวลา2-3นาทีก่อนที่เขาจะกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มีกระเป๋าเงินหนาอยู่ในมือของเขา

“นี่ครับ” เขาบอกลูซิเฟอร์ ขณะยื่นกระเป๋าเงินให้ “นี่มีเงินสด แต่ก็มีบัตรด้วย ถ้าเงินสดหมดก็ใช้บัตรเพิ่มได้ ส่วนพินคือ 6 9 4 2 0 1 ลืมก็โทรหาฉันได้”

“ฉันต้องการเพียงเล็กน้อยเพื่อซื้อช็อคโกแลต มันไม่ใช่ว่าฉันจะออกไปซื้อทั้งเมือง” ลูซิเฟอร์พูดออกมาพร้อมกับกลอกตา เขายังคงหยิบกระเป๋าสตางค์และเก็บไว้ในกระเป๋าของเขา

“คุณชอบช็อคโกแลตเหรอ” เจียงถามลูซิเฟอร์ด้วยความประหลาดใจ ในที่สุดผู้ชายคนนี้ก็พูดเหมือนคนปกติ

“วันนี้ฉันแค่อยากลอง ไม่ใช่ว่าฉันชอบ”

ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะปล่อยดอกไม้สีแดงที่เขาถืออยู่ในมือ ปล่อยให้มันตกลงบนพื้น..

ตอนที่ 260: เขารู้หรือไม่?

เมื่อลืมตาขึ้น ลูซิเฟอร์สังเกตว่าผู้หญิงคนนั้นกําลังนอนอยู่บนตัวของเขา ขณะที่หน้าอกของเธอกดทับเขา

“เจ้าโง่คนนี้” เขาพึมพํา ขณะที่เขากลอกตา “เธอไม่มีวันเรียนรู้หรอก”

ลซิเฟอร์ไม่ใช่คนเดียวที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ขณะที่เจียงและเวราซิตี้ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเพราะพวกเขาอยู่ห้องข้างๆ ขณะที่ห้องของแคสเซียสอยู่ไกลออกไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยิน

เจียงเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เขาเคยได้ยินเสียงกรีดร้องนั้นมาหลายครั้งแล้ว แต่เวราซิตี้กลับไม่ทํา

“พระเจ้า อย่าบอกนะว่าเขาทํากับเธอ” เวราซิตี้ออกมา ขณะที่เธอยืนขึ้น “ถึงเธอจะเป็นนักโทษ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะบังคับเธอเพราะราคะของเขา”

เธอลุกจากเตียงเพื่อตรวจสอบ แต่พบว่าเจียงยืนอยู่นอกห้องของเธอ

“ฉันรู้ว่ามีคนเข้าใจเสียงกรีดร้องนี้ผิด” เจียงกล่าว ขณะที่เขายิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

“อย่ากังวล มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด เสียงกรีดร้องไม่ใช่เพราะลูซิเฟอร์บังคับเธอ มันเป็นเพราะเธอถูกไฟฟ้าช็อต เธอคงพยายามใช้พลังของเธอ ฉันเคยได้ยินเสียงกรีดร้องนี้มาหลายครั้งแล้วกลับไปและนอน”

เวราซิตี้เชื่อคําพูดของเขาเมื่อจองไปที่เจียง เมื่อเธอตระหนักว่าเขาพูดความจริง ซึ่งเธอเข้าใจ ผิด เธอพยักหน้า ขณะที่เธอเดินกลับไปที่ห้องของเธอ

เพียงรอดูว่าแคสเซียสจะออกมาด้วยหรือไม่เพราะความเข้าใจผิดนี้ แต่หลังจากที่เขาไม่เห็นใครออกมา เขาก็เดินกลับไปที่ห้องในขณะที่เขาพูดพึมพํา “ดูเหมือนเขาไม่ได้ยิน”

เจียงก็เดินกลับและผล็อยหลับไป เพราะรําคาญที่ต้องตื่นกลางดึก

ลูซิเฟอร์เหลือบมองใบหน้าที่สวยงามของไอย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเขามากจนเขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันอบอุ่นของเธอบนใบหน้า ซึ่งดูเหมือนจะทําให้เขารําคาญ

เขาวางมือบนไหล่ของเธอ ขณะที่เขากลิ้งเธอไปด้านข้าง ปล่อยเขาให้เป็นอิสระ

“ฉันรับน้ําหนักของเธอในการเดินทางของฉันแล้ว ตอนนี้ฉันรับไม่ไหวแล้ว” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะหลับตาอีกครั้ง

เขาผล็อยหลับไปอีกครั้งโดยไม่ต้องกังวล เนื่องจากเขารู้ว่าไอย์จะไม่ตื่นก่อนเขาในตอนนี้

***

“นี่คือภาพของเมือง” เก็นซี่ได้แสดงภาพของเมืองต่อวารันท์ ในขณะที่ยังวางภาพร่าง “และนี่คือภาพร่างของชายมีเคราคนนั้น”

“นายสแกนใบหน้าเพื่อค้นหาผู้ชายคนนี้หรือไม่? เขาอยู่ที่ไหนในวิดีโอนี้” วารันท์ถามในขณะที่เขาดูภาพร่างของเจียง เมื่อเขาปลอมตัว

“เราไม่พบชายคนนั้นในคลิป ฉันคิดว่าส่วนใหญ่เขาจะหลีกเลี่ยงกล้อง ส่วนย่านนั้น การเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดของสถานที่นั้นถูกขัดจังหวะ ดังนั้นเราจึงไม่ได้อะไรเลย แต่เราได้รับ พยานไม่กี่คนที่ให้คํากล่าวของพวกเขา” เก็นซี่ตอบ

“พวกเขาพูดอะไร?” วารันท์ถามพลางขมวดคิ้ว “มีอะไรสําคัญหรือเปล่า” “พวกเขาบอกว่าเห็นกลุ่มคนอุ้มผู้หญิงที่หมดสติอยู่ในอ้อมแขน

กลุ่มนี้มีชายหนุ่ม 2 คนและผู้หญิงอีกคนหนึ่ง” เก็นซี่ตอบ

“แสดงว่ามีทั้งหมด 4 คน ชายหนุ่ม 2 คน ผู้ชายมีเคราหนึ่งคน และผู้หญิงหนึ่งคน ภาพวาดของอีก 3 คนอยู่ที่ไหน”

“เราไม่สามารถวาดภาพร่างได้ ไม่มีพยานคนใดจําใบหน้าของคนเหล่านั้นได้ สิ่งที่พวกเขาจำได้ก็คือคนหนึ่งในนั้นมีผมสีเงินยาวและอีกคนมีผมสีด่า”

“อย่าบอกนะว่าไม่มีกล่องคนทั้งเมืองจับภาพพวกมันได้?” วารันท์ถามอย่างหงุดหงิด

“ไม่มี เรายังคงวิเคราะห์ภาพจากกล้องอื่นๆ อยู่ แต่ในขณะนี้ เราไม่มีข้อมูลอะไรสําคัญๆเลย” เก็นซี่กล่าวพร้อมถอนหายใจ

“เรากลายเป็นคนไร้ประโยชน์ตั้งแต่เมื่อไหร่” วารันท์ถามพลางส่ายหน้าอย่างผิดหวัง

***

“ฉันไม่สนใจหรอกว่าพวกนายจะทํายังไง ฉันอยากได้หน้า 3 คนนั้น บอกทีมเช็คคลิปทุกกล้องว่าสักพันครั้งซะ ฉันอยากได้เวราซิตี้กลับคืนมา เพราะเหมือนว่าไม่มีใครฆ่าเธอไปในตอนนี้”

“ลูซิเฟอร์ แอซเรลกลับมาแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่เลวเลย 8 ปีที่รอคอยสิ้นสุดลงแล้ว” ไรอานั่งอยู่ในฐานของเขา หัวเราะออกมาดังๆ “เขากลับมาอย่างเกรงขามพร้อมด้วย นักดาบแรงค์

“เราควรมีความสุขจริง ๆ ไหม เขายังฆ่าคนของเรา ฉันสงสัยว่าเขามีความปรารถนาดีต่อเราหรือไม่ นายคิดว่าเคนบอกความจริงเกี่ยวกับเรากับเขาหรือไม่ เกี่ยวกับสิ่งที่เราทํา?” เวก้าถามไรอาพร้อมกับขมวดคิ้ว

“เขาทําไม่ได้ ฉันจัดการความทรงจําของเคนด้วย เขาจําไม่ได้เหมือนกัน ไม่ต้องกังวล ฉันไม่คิดว่าเขาจะบอกลูซิเฟอร์เรื่องนี้ได้” ไรอาตอบพร้อมส่ายหัว

“แล้วทําไมนายถึงคิดว่าเขาโจมตีคนของเรา ทั้งๆที่เราเคยช่วยเขาด้วย” เวก้าถามพลางขมวด

“นายคิดผิด ฉันคิดว่าสมาชิก APF ฆ่าคนของเรา ลูซิเฟอร์ฆ่าสมาชิก APF ก่อนเขาจะจากไป มันต้องเป็นเช่นนั้น” ไรอากล่าวพร้อมส่ายหัว

“หรือว่าเขาคิดว่าคนของเรามาจาก APF และบังเอิญฆ่าพวกเขา ฉันไม่คิดว่าเขาจะฆ่าคนของเรา เว้นแต่เขาจะรู้ความจริงของสิ่งที่เราทํา ซึ่งไม่มีทางให้เขารู้” เขาพูดต่อ

“ฉันหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะถ้าเขาสามารถฆ่าหัวหน้าหน่วยเบต้าได้โดยไม่ส่งเสียงออกมา เขาก็อาจจะเข้าใกล้การเป็นราชาวอล็อคแล้ว ฉันไม่ต้องการให้เขาต่อต้านเรา” เวก้ากล่าว ดูเหมือนเขากําลังกังวล

“อย่ากังวลไป หาที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ คราวหน้าฉันจะส่งเคลเลียนและยาลิซ่าเป็นการส่วนตัว ทั้ง 2 คนฝึกเขา เขาจะจำอาจารย์ได้และกลับมา” ไรอาตอบ

“ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด” เวก้าพูดก่อนจะลุกขึ้นและจากไป

คืนที่เหน็บหนาวได้ล่วงไป เมื่อวันใหม่มาถึง นําความอบอุ่นที่จําเป็นมากไปด้วย

ลซิเฟอร์ลืมตาและลงจากเตียง อันที่จริงเขาเป็นคนแรกที่ตื่นขึ้น

เขาเดินไปที่หึงหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาแล้วปลดล็อก

เขาใส่กุญแจเข้าไปในแล็ปท็อปเพื่อเปิดแอป ซึ่งดูเหมือนจะแสดงภาพสดของห้องอื่นๆ แก่เขา

เขาสามารถเห็นเวราซิตี้ ซึ่งยังคงนอนหลับอย่างสงบสุข สําหรับแคสเซียส เขาตื่นแล้ว แต่ดูเหมือนเขาจะออกกําลังกายอยู่ในห้องของเขา

เขาปิดแล็ปท็อปแล้ววางกลับเข้าไปก่อนจะเดินเข้าไปในห้องอาบน้ําเพื่ออาบน้ํา

เมื่อเขาเข้าไปในห้องอาบน้ํา เขาสังเกตเห็นขวดแชมพู รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาจําได้ว่าเขากลัวแชมพูแค่ไหนเมื่อตอนที่เขายังเด็ก “ฉันเป็นคนงี่เง่าจริงๆ”

ลูซิฟเฟอร์ได้เปิดฝักบัวเหนือศีรษะ ซึ่งทําให้มีละอองน้ําตกลงมาทั่วร่างกาย เขายังหยิบขวดแชมพูขึ้นมาและใช้มัน

หลังจากอาบน้ําเพียง 10 นาทีเท่านั้น เขาก็ก้าวออกไป เขาไปที่ตู้เสื้อผ้าและเลือกชุดเสื้อผ้าที่เขาซื้อมาจากเมืองก่อนหน้านี้

เขาสวมเสื้อยืดสีเทาและแจ็กเก็ตสีขาวเรียบๆด้านบน พร้อมด้วยกางเกงยีนส์สีดํา

เขาดูนาฬิกาก่อนจะมองที่ไอย์ “เธอควรจะตื่นเร็วๆเหมือนกันนะ..”

ตอนที่ 259: กฎของคฤหาสน์

แคสเซียสและเวราซิตี้ก็เข้าร่วมกับพวกเขาด้วย ขณะลงจากรถ

“นายอาศัยอยู่ที่นี่หรือ พระเจ้า ฉันคิดว่านายเป็นผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่ในสถานที่ใต้ดินเล็กๆ แห่งหนึ่ง ถ้ารู้ว่านายอาศัยอยู่อย่างฟุ่มเฟือย ฉันเดาว่านายคงมีพรสวรรค์จริงๆ” เวราซิตี้กล่าว ขณะที่เธอจ้องไปที่คฤหาสน์หลังใหญ่

“อย่ากังวล นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้น” ลูซิเฟอร์พูดอย่างเกียจคร้าน ขณะเดินไปที่ประตูที่เจียงเปิดไว้

“เจียง จัดห้องใกล้ ๆ ของเราสําหรับคน 2 คน ส่วนไอย์ ฉันจะเก็บเธอไว้ในห้องของฉัน เพื่อไม่ให้เธอหนีไป” เขาบอกเจียงก่อนจะเข้าไป

เมื่อเดินขึ้นบันไดทรงกลมที่สวยงาม เขาไปถึงชั้นที่สูงขึ้นและเข้าไปในห้องของเขา โดยวางไอย์ไว้บนเตียงขนาดใหญ่ของเขา

“อ่า เขาไม่เข้าใจหรอกว่าตอนที่เขาบอกว่าเขาจะอยู่ในห้องกับไอย์ หลังจากที่ให้เธอนั่งบนตักแล้วหน้าตาเป็นยังไง?” เวราซีตี้ถามพลางหัวเราะ

“ฉันสงสัยว่าเขาเข้าใจความหมายพวกนั้นไหม เขาค่อนข้างอ่อนแอในแขนงนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งในด้านอื่นๆ ก็ตาม” เจียงตอบพร้อมยิ้มแหยๆ “มาสิ ฉันจะพาไปดูห้องเธอ”

เวราซิตี้และแคสเซียสเข้าไปในคฤหาสน์ ซึ่งภายในดูดีกว่าภายนอกทุกอย่างภายในคฤหาสน์ดูแพง

“ที่นี่คือที่ของใคร? นายมีมหาเศรษฐีในทีมของนายด้วยเหรอ” เวราซิตี้ถามเพื่อขอความกระ จ่าง

“จริงๆ แล้วฉันเป็นเจ้าของมันคนเดียว มันเป็นคฤหาสน์ของฉัน และไม่ใช่คฤหาสน์หลังเดียวที่ฉันเป็นเจ้าของ ฉันค่อนข้างรวย” เจียงอธิบาย

“ทําไมนายถึงเสี่ยงที่จะออกไปข้างนอกเอง? หากนายเป็นเงินทุนของทีมนี้ นายไม่ควรซ่อนตัวอยู่ในเงามืดงั้นเหรอ?” เวราซิตี้ถามเจียง ซึ่งกําลังพาพวกเขาขึ้นไปชั้นบน

“โดยส่วนตัวฉันต้องไปเพราะเขาขับรถไม่ได้จริงๆ และเขาไม่ต้องการคนขับแบบสุ่ม” เจียงอธิบาย “ยิ่งกว่านั้นแม้ว่าฉันจะตายไปแล้ว? เขาสามารถสร้างมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่งได้เหมือนกับที่เขาสร้างฉันขึ้นมางั้นเหรอ”

“เขาสร้างนายขึ้นมางั้นเหรอ?” เวราซิตี้ถามพลางตะลึง

“ถูกต้อง ฉันเป็นแค่คนยากจน เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ความมั่งคั่งทั้งหมดนี้… เขามอบให้ฉัน เธอไม่รู้หรอกว่าเขาฉลาดแค่ไหนกับเรื่องนี้ เขาหลอกคนทั้งโลกโดยพื้นฐานแล้ว” เจียงกล่าวพลางหัวเราะ

“ยังไงก็ตาม นี่จะเป็นห้องของเธอ มันอยู่ข้างฉัน ตอนนี้ไม่มีคนใช้แล้ว”

“สําหรับข้ารับใช้เก่าๆ พวกนั้น อ่า ไปได้แล้ว ดังนั้นเธอต้องจัดการมันเองก่อน” เขาอธิบายเพิ่มเติมขณะชี้ไปที่ห้อง

“ไม่เป็นไร ฉันอยู่คนเดียว ฉันดูแลตัวเองได้” เวราซิตี้ตอบโดยไม่อารมณ์เสีย

“ดีแล้ว อีกอย่างหนึ่ง เธอไม่ควรออกจากคฤหาสน์โดยไม่ได้แจ้งให้เราทราบก่อน เพราะเขาอาจจะต้องการตัวเธอด้วย เราไม่สามารถให้เธอแสดงตัวแก่คนภายนอกได้ นอกเหนือจากนี้ เธอมีอิสระที่จะทําอะไรก็ได้ เพียงบอกกับเวราซิตี้ที่เดินเข้าไปในห้องของเธอ

“ฉันเข้าใจ หัวหน้า ฉันจะไม่จากไป อย่างน้อยก็จะบอกก่อนไปไหน” เวราซิตี้กล่าว “งั้นฉันขอพักก่อนนะ ฉันเหนื่อยเหมือนกัน”เธอปิดประตูห้องของเธอ

เจียงเปลี่ยนความสนใจไปที่แคสเซียส “สําหรับคุณผู้ชายตัวใหญ่ ห้องของคุณจะอยู่อ กด้านหนึ่งของฉัน” เขาพูดขณะที่เขาชี้ไปที่ห้องที่อยู่ไกลออกไปขณะที่พาแคสเซียสไป

แคสเซียสเปิดประตูเพื่อดูภายในห้องที่ตกแต่งอย่างดี

“พักผ่อนไปก่อน เราจะคุยกันเรื่องที่เหลือในวันพรุ่งนี้ และยังมีกฎเหมือนกันสําหรับนาย อย่าออกไปคนเดียว มิฉะนั้นนายจะสร้างปัญหาให้กับเรา” เจียงเตือนเขาก่อนที่แคสเซียสจะปิดประตู

“สําหรับฉันแล้ว ฉันควรจะนอนด้วย สุดท้ายฉันจะได้นอนบนเตียงแทนรถ รู้สึกเหมือนกับว่าฝันที่เป็นจริง” เขาหัวเราะคิกคัก ขณะเดินเข้าไปในห้อง

เขาอาบน้ําอุ่นให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายก่อนจะเดินไปที่เตียง

ทันทีที่เจียงนอนบนเตียง เขารู้สึกเหมือนกําลังจะร้องไห้ ช่วงเวลาที่เขาใฝ่ฝันมานานก็มาถึงในที่สุด เมื่อเขาสามารถนอนบนเตียงนุ่ม ๆ ได้

เขาไม่อยากให้ความรู้สึกนี้จบลง เหนื่อยมากจนไม่รู้ตัวว่าหลับไป

ในทางกลับกัน ลูซิเฟอร์ปล่อยให้ทุกคนมีอิสระที่จะทําสิ่งที่พวกเขาต้องการ ในขณะที่เขาเข้าไปในห้องของเขา

เขานั่งลงบนเตียง เหลือบมองไอย์ ซึ่งดูเหมือนเธอกําลังหลับอย่างสงบ แต่เขารู้ว่าเธอหมดสติเพราะถูกไฟฟ้าช็อตครั้งสุดท้าย

เขายืนขึ้นและเดินไปที่ประตูที่เขาล็อค เขาซ่อนกุญแจไว้ในที่ที่เขามั่นใจว่าไอย์จะหามันไม่เจอ เขาไม่อยากให้เธอวิ่งหนีออกไปตอนที่เขากําลังหลับ

สําหรับห้องนั้นก็ไม่มีหน้าต่างเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่ชอบแสง เขาจึงเลือกห้องที่ไม่มีหน้าต่าง โจได้วางทีวีติดผนังไว้แทนหน้าต่างที่แสดงฉากธรรมชาติต่างๆ

เนื่องจากลูซิเฟอร์ไม่สนใจมัน เขาจึงเก็บมันไว้เป็นส่วนใหญ่ “หวังว่าเธอจะได้เรียนรู้บทเรียนในครั้งต่อไป อย่าทําอะไรที่น่ารําคาญเมื่อเธอตื่นขึ้น” เขาบอกไอย์ ขณะที่เขานอนข้างเธอ เขาค่อนข้างง่วงนอนเช่นกันเมื่อเปิดแอร์ เขาก็หลับตาลงเช่นกัน

น่าเสียดาย ตามที่เขาคาดไว้ไอย์ตื่นขึ้นในเวลาต่อมา เพียง 2 ชั่วโมงหลังจากที่เขาหลับไป

หลังจากถูกไฟฟ้าช็อตเป็นเวลานาน เธอได้เรียนรู้บทเรียนของเธอแล้ว แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นเพราะสร้อยข้อมือของเธอ

คราวนี้แทนที่จะโจมตี เธอต้องการถามผู้ลักพาตัวเธอว่าทําไมพวกเขาถึงปล่อยให้เธอมีชีวิต แต่เมื่อเธอมองไปรอบๆ เธอพบว่าตัวเองอยู่ในห้อง มีความมืดอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ดวงตาของเธอมองเห็นได้เล็กน้อย

เธอสังเกตเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่ข้างเธอ ผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนี้ ตอนแรกเขาให้ฉันนั่งบนตักของเขา และตอนนี้เขาอยากนอนบนเตียงเดียวกันเหรอ? ไอ้สารเลวนี้!” เธอคิดขณะกําหมัดแน่น

เธอแน่ใจว่าจะไม่ส่งเสียงดัง เธอยังไม่ทราบว่าผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอคือลูซิเฟอร์เพราะเขาดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย

เธอสังเกตสภาพแวดล้อมของเธออย่างระมัดระวัง เพื่อดูว่ามีใครคอยจับตาดูเธออยู่หรือไม่

เนื่องจากเธอไม่พบใครที่นี่ เธอจึงตัดสินใจว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ไม่มีใครหยุดเธอจา กการใช้พลังของเธอได้ในตอนนี้ เพราะไม่มีใครตื่นอยู่

เธอค่อยๆ ขยับเข้าไปนั่งใกล้ลูซิเฟอร์ หันหน้าเข้าหาเขาเพื่อที่เธอจะได้โจมตีโดยตรง

เธอจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ขณะที่เธอยกมือขึ้นเพื่อเรียกพลังของเธออีกครั้ง

“อ๊ากกกกก!” เธอกรีดร้องอีกครั้ง ขณะที่เธอหมดสติ ล้มทับลูซิเฟอร์ ที่ตื่นขึ้นจากเสียงกรีดร้องของเธอ..

ตอนที่ 250: รสชาติยาของพวกเขาเอง

“ไม่เป็นไร บอกผมเกี่ยวกับคนอื่น ๆ ที่พวกเขาซ่อนอยู่ที่ไหน ผมจะปล่อยคุณไป” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

“พวกเรายังมีอีก 5 คน พวกเขาคือ…”

ลูซิเฟอร์ออกจากหลังคาไปอย่างเงียบๆ เหมือนกับที่เขามา ทิ้งร่างของชายผู้อยู่เบื้องหลัง ซึ่งนอนอยู่บนหลังคาอย่างไร้ชีวิตชีวา

ต่อจากนั้น เขาก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าต่างบ้าน จากอีกด้านหนึ่งมีชายคนหนึ่งกําลังจ้องมองอยู่ข้างนอก

เขาทุบกระจกแตกก่อนจะเจาะเข้าไปข้างใน

“คุณไม่เบื่อมั่งหรือ หลังจากมองหาผมจากระยะไกล ให้ผมได้เข้ามาหาคุณ และให้คุณได้ดูอย่างใกล้ชิดจะดีกว่าไหม” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขามองไปที่ชายสองคนที่ทั้งสองอยู่ในห้อง

“นั่นก็น่าสนใจนะ” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น เมื่อสังเกตเห็นบางอย่างที่ต่างไปจากเดิม

ชายคนหนึ่งในสองคนถูกมัดด้วยเชือก ส่วนชายผมดําที่ยืนอยู่นั้น เขาไม่ได้มาจากกลุ่มกบฏ จากเสื้อผ้าของเขา เห็นได้ชัดว่าเขามาจาก APF

“อ่า พวกคุณก็มาร่วมงานปาร์ตี้ด้วย พระเจ้า คุณชอบสะกดรอยตามผมจริงๆ” ลูซิเฟอร์พูด พลางถอนหายใจ

“ตอนนี้ผมยังไม่อยากยุ่งกับพวกคุณเลย แต่พวกคุณก็ยังมาเร็วเหมือนเคย” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับยกมือขวาขณะยิงสายฟ้า ชายผมดําไม่มีความสามารถอื่น นอกจากการลอบเร้นและย่องเบา

โชคไม่ดีที่แม้แต่บาเรียของรองกัปตันหน่วยเบต้า พิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์ นับประสาอะไรกับบาเรียที่อ่อนแอกว่าของเขา บาเรียของเขาก็พังง่ายพอๆกับที่เขาล้มลงกับพื้นโดยมีรูที่หน้าอก

“สําหรับคุณ คุณไม่ใช่มนุษย์ด้วยเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม ขณะที่เขาเหลือบมองชายคนที่ 2 ซึ่งถูกมัดไว้แต่ไกล

“ให้ฉันเดา คุณมาจากแวเรียนท์เกิดใหม่และถูกจับมาที่นี่โดยที่ไม่มีใครมีความคิดอะไรเลยเหรอ?”

ชายที่ถูกมัดไว้พยักหน้า “ดี อยู่ที่นี่สักครู่ ฉันจะจัดการกับคนอื่นก่อน” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาสัมผัสใบหน้าของผู้ชายจาก APF เพื่อเพิ่มพลังงานบางส่วนของเขา เขายังหยิบโทรศัพท์ของชายคนนั้นเพื่อตรวจสอบบันทึกการโทร

“กัปตันไอย์? เธอคือหัวหน้าหน่วยเบต้า ถ้าผมจําไม่ผิด เธอมีส่วนในเรื่องนี้ด้วยเหรอ?”

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังคิดถึงไอย์ โทรศัพท์ก็เริ่มดังขึ้นหน้าจอแสดงชื่อของไอย์ ราวกับว่าเธอกําลังโทรหา

รอยยิ้มขบขันปกคลุมใบหน้าของลูซิเฟอร์ ขณะที่เขารับสายเพื่อวางโทรศัพท์ไว้ใกล้หูของเขา

“เวอร์นอน เรากําลังจะไปที่นั่นด้วย เตรียมตัวให้พร้อม เราต้องจับกุมทุกคนและพาเวราซิตี้ไปด้วย ดังนั้นคุณจึงสามารถดําเนินการตามแผนได้” ไอย์พูดทางโทรศัพท์โดยไม่ต้องคิดซ้ําสอง

“ให้สมาชิกของพวกเขารู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ โดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อให้พวกเขาทั้งหมดรายล้อมคุณ”

“เราสามารถจับมันขึ้นมาได้ในครั้งเดียว ตรงเวลา เราจะไปถึงที่นั่นในอีกครึ่งชั่วโมง ดังนั้นโปร

ปรับเปลี่ยนตามนั้น และส่งพิกัดของคุณ เราจะได้ไปที่ที่คุณจะทําสิ่งนั้น” เธอกล่าวเพิ่มเติมก่อนจะตัดการเชื่อมต่อสาย

“ได้เลย กัปตัน ฉันจะส่งพิกัดที่แน่นอนให้คุณ” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

เขาออกจากสถานที่และกลับไปทํางาน ในขณะที่เขาเคลื่อนไหวราวกับเงา พลางนําสมาชิกกลุ่มแวเรียนท์เกิดใหม่ออกไป เขาไม่ได้ฆ่าพวกเขา ง่ายมาก เขาใช้พลังแห่งการเน่าเปื่อยฆ่าพวกเขาเพราะมันให้พลังงานมากกว่า หลังจากเสร็จแล้ว เขาก็กลับมาที่ถนนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“นายทําเสร็จแล้วเหรอ” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์

“ฉันทําเสร็จแล้ว แต่แขกพิเศษกําลังจะมา แคสเซียส ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนายในเรื่องนี้ เตรียมพร้อมที่จะใช้ดาบของนาย” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ใครจะมา” เจียงถามอย่างเป็นห่วง เนื่องมาจากลูซิเฟอร์เรียกพวกเขาว่าพิเศษ พวกเขาไม่สามารถอ่อนแอได้

“ไม่มีใครพิเศษ แค่หัวหน้าหน่วยเบต้า ดูเหมือนว่า ไอย์ เธอกําลังจะมาเพื่อเอา เวราซิตี้ไปด้วย ดูเหมือนว่าแผนของเราจะไม่เป็นความลับอย่างที่เราคิด ถ้าเราอยากจะรักษาเวราซิตี้ไว้ เราต้องจัดการกับไอย์ก่อน และฉันมีแผนสําหรับสิ่งนั้น” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

“พวกเขาวางกับดักให้ฉันเสมอ เมื่อฉันยังเด็ก? ฉันจะให้ยาของพวกเขาชิมเอง” เวลาค่อยๆหายไปเมื่อไอย์ ได้รับพิกัดว่าเธอควรจะลงจอดที่ไหน เธอไม่รู้ว่าพิกัดที่เธอเชื่อว่าคนของเธอส่งมานั้นมาจากคนที่เธอไม่เคยคาดคิดเลย

ครึ่งชั่วโมง เฮลิคอปเตอร์หุ้มเกราะก็มาถึงเหนือย่านนั้นประตูเปิดออก

ไอย์ปรบมือเบา ๆ ทําให้มันได้น้ําแข็งโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินที่ไปถึงเฮลิคอปเตอร์ เธอและคนของเธอก้าวลงสู่บันไดน้ําแข็ง ขณะที่พวกเขาร่อนลงบนพื้น เฮลิคอปเตอร์เงียบยังคงอยู่ในอากาศรอพวกเขากลับมา

“นั่นควรเป็นบ้านที่พวกเขาจะไป ฉันเพิ่งได้รับข้อความจากเวอร์นอนว่าเขาถูกล้อม ทันเวลาพอดี” ไอย์พูดขณะเดินไปที่บ้านสุ่มที่ลูซิเฟอร์เลือกเพื่อวางกับดักไว้ข้างในทั้งกลุ่มก้าวเข้ามาในบ้าน ประตูที่เปิดทิ้งไว้ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในบ้าน แคสเซียสก็ออกมาจากที่ซ่อนบ้านอื่นๆ เขามีดาบสมบัติล้ําค่าอยู่ในมือ ซึ่งเขาพร้อมที่จะโจมตี

เขาส่งพลังงานศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไปยังดาบอันล้ําค่าของเขา ซึ่งขยายมันต่อไปโดยไม่ให้โอกาสสมาชิกหน่วยเบต้า เพื่อไปที่ชั้นหนึ่ง ในที่สุดแคสเซียสก็เหวี่ยงดาบของเขาในแนวนอน โค้งอันทรงพลังที่สุดของพลังศักดิ์สิทธิ์พลางทิ้งดาบของเขาไว้ ซึ่งมันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันเคลื่อนเข้าหาบ้านที่อยู่ข้างหน้าเขา ผนังของบ้านไม่สามารถต้านทานได้ พลังงานศักดิ์สิทธิ์แม้เพียงเล็กน้อยก็ทําให้มันมีพลังมหาศาล คลื่นพลังงานเคลื่อนผ่านสถานที่ออกไป มันกําลังโจมตีทางไกลไปทางไอย์ หลังจากนั้นไม่นานเธอสัมผัสได้ถึงมัน

เธอรีบร้อนที่จะหนีออกไป เธอมีเวลาคิดเพียงเสี้ยววินาที และถ้าเธอช้าไป เธอจะต้องถูกผ่าครึ่ง ดังนั้นเธอจึงปล่อยให้ปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของเธอเข้ามาแทนที่ ซึ่งแค่คิดว่าจะดูแลเธอให้ปลอดภัย

พายุที่เป็นส่วนโค้งสีขาวสว่างทะลุผ่านทุกสิ่ง มันเคลื่อนที่ผ่านสมาชิกที่เหลือทั้งหมดที่เธอนํามาด้วยครึ่งหนึ่ง แม้แต่เสาน้ําแข็งของเธอก็ถูกผ่าครึ่ง ซึ่งแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อเธอล้มลง โชคดีที่ส่วนโค้งของแสงได้ผ่านไปแล้ว และตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว

แต่นั่นก็ดูเหมือนจะไม่จบเช่นกัน เมื่อบ้านล้มทับเธอตั้งแต่มันถูกผ่าครึ่ง..

ตอนที่ 251: การจัดการวัตถุ

บ้านตกลงบนกลุ่มเบต้า ซึ่งส่วนใหญ่ตายเพราะแคสเซียส มีเพียงไอย์เท่านั้นที่สามารถหลบหนีการโจมตี โดยเอาตัวรอดเมื่อบ้านเริ่มพัง

เมื่อเสาน้ำแข็งหัก เธอจึงล้มลงกับพื้นจากความสูงไม่กี่เมตร หลังจากสูญเสียการทรงตัวถึงกระนั้นเธอก็ตระหนักในตนเอง ขณะต่อยกับพื้น ทําให้มีโดมน้ำแข็งหนาทึบปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวเธอ ซึ่งปกป้องเธอ แม้ว่าบ้านจะถล่มลงมาและเกิดเสียงดังขึ้นมากมาย ไม่มีใครในละแวกนั้นออก จากบ้านเพราะเจียงไปหาพวกเขาเพื่อบอกพวกเขาว่าจะมีการรื้อถอนในไม่ช้า ในขณะที่แกล้งทํา เป็นเป็นพนักงานของรัฐ

สําหรับบ้านที่อยู่ใกล้สถานที่นี้ซึ่งมีมุมมองตรงเพียงใช้ข้ออ้างที่ต่างออกไปเพื่อส่งพวกเขาออกจากบ้านทั้งหมดเป็นเพราะเขาต้องการให้ลูซิเฟอร์มีความเป็นส่วนตัวในแผนนี้

หากคนอื่นเห็นว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้น พวกเขาอาจแจ้งเจ้าหน้าที่และเจียงไม่ต้องการให้สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะเขามีความรู้สึกว่าลูซิเฟอร์จะไม่สนใจอะไรเลยถ้าตํารวจมาที่นี่การ มีAPFอยู่ในหัวเป็นปัญหาใหญ่อยู่แล้ว และเขาไม่ต้องการให้พวกมันใหญ่ขึ้นเพราะเหตุการณ์ในวันนี้

สําหรับลูซิเฟอร์เขาไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้เพราะเขาไม่ต้องการให้เกิดฉากใหญ่โตแบบนั้นความจริงไม่ได้อยู่ที่บ้านของเธอถ้าเธอกลับมาที่รถตํารวจแถวนั้นเธออาจจะออกไปลูซิเฟอร์ไม่ต้องการให้โอกาสนี้เสียเปล่าเขาจึงสนับสนุนเรื่องนี้พวกเขายังแจ้งยามที่ทางเข้าเพื่อส่งข้อความ เมื่อเวราซิตี้กลับมา

ขณะที่แคสเซียสดูแลบ้านลูซิเฟอร์ก็บินไปที่เฮลิคอปเตอร์ซึ่งเขาเข้าไปข้างในเขาก็ไม่ลืมที่จะแบกเฉียงไปไม่มีคนแม้แต่คนเดียวอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ยกเว้นนักบินแต่แม้กระทั่งเขาได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นมีชายคนหนึ่งปรากฏตัวและทําลายบ้านเรือนเขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าทีมนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว

เขาตัดสินใจแจ้งฐานทัพเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่ทราบว่ามีคนที่แย่กว่าที่เขาเห็นยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้วนักบินรีบกดหมายเลขขณะที่วางโทรศัพท์ไว้ใกล้หู

“ฉันจะเอามันไป”

ชายคนนั้นได้ยินเสียงสงบเมื่อมีคนคว้าโทรศัพท์จากมือของเขา

“อะ-ใคร?” ชายคนนั้นสะดุ้งตกใจ

“ประธานของเอลิเซียม” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างประชดประชันขณะทุบโทรศัพท์ก่อนจะโยนทิ้ง “มันสําคัญขนาดนั้นเชียวหรือเหมือนกับว่าคุณจะประสบความสําเร็จในสิ่งที่สําคัญหลังจากรู้จักศัตรูของคุณแล้ว”

เขาหันกลับมาอย่างสบาย ๆ ขณะที่เขาเหลือบมองเจียง“นายรับผิดชอบที่นี่ ยิงผู้ชายคนนี้หากเขาพูดอะไรไร้สาระหรือไม่ทําตามที่นายพด”

หลังจากสั่งการ ลูซิเฟอร์ก็กระโดดลงเฮลิคอปเตอร์และลงจอดบนพื้นสําหรับเจียงถึงเวลาที่เขาจะต้องรับช่วงต่อจากที่นี่

รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาคิดว่า “พวกนาย APF เอาทรัพย์สมบัติของฉันไปหมดแล้วใช่ไหมให้ฉันเอาเฮลิคอปเตอร์ของคุณไปเถอะมันควรจะมีค่ามากกว่านี้อีกมาก”

“หันเฮลิคอปเตอร์ไปรอบๆ น่าไปที่ที่ฉันต้องการ มันจะดีกว่าถ้าเราอยู่ห่างจากที่นี่” เขาบอกนักบิน ในขณะที่เขาชี้ปืนไปในทิศทางของเขา เนื่องจากนักบินไม่มีทางเลือกเขาจึงหันเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเริ่มไปในทิศทางที่เจียงบอก

“เสร็จแล้วเหรอ?” แคสเซียสพูด ในขณะที่เขายืนอยู่ในระยะไกลพร้อมกับดาบในมือของเขา

“ฉันอยากจะทึกทักว่าเรายังไม่เสร็จ ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อม” ลูซิเฟอร์ลงจอดใกล้เขาขณะที่เขาพูด

สิ่งที่พวกเขาเห็นคือซากปรักหักพังของบ้านที่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน ฝุ่นและควันเต็มอากาศทําให้มองเห็นได้ยากภายใต้ซากปรักหักพังนั้น ไอย์กําลังนั่งอยู่ในโดมน้ำแข็งซึ่งปลอดภัยอย่างสมบูรณ์มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยบนร่างกายของเธอที่เธอได้รับเนื่องจากมันตกลงมา

“มันเป็นกับดัก และการโจมตีนั้น มันไม่ธรรมดา มันจะเป็นจิตวิทยาย้อนกลับของพวกเขาใช่ ไหม” ไอย์ พึมพําขณะที่เธอขมวดคิ้ว
“พวกเขาส่งคนของพวกเขามาที่นี่และปล่อยให้พวกเขารอเป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้เราคิดว่ามีบาง อย่างที่สําคัญที่นี่ ดูเหมือนว่าพวกเขากําาลังพัฒนาเกมของพวกเขาจริงๆ” เธอกล่าวเพิ่มเติม

เธอเชื่อว่าเธอสามารถจัดการกับศัตรูได้ เธอตัดสินใจที่จะไม่เสี่ยง

“ไปดูกันเลย” ลูซิเฟอร์พูด ขณะเดินไปที่ซากปรักหักพังของบ้านหลังนั้นที่ไอย์และคนอื่นๆ เข้าไป

เพราะนั่นไม่ใช่บ้านหลังเดียวที่ถูกทําลาย เขาจึงเลือกสถานที่นั้นอย่างระมัดระวัง

เขายังถอดถุงมือและเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อเพื่อไม่ให้ทําลายในระหว่างการค้นหา เมื่อเขาถอด ถุงมือออก เขาก็เป็นอิสระ เขาคว้าคอนกรีตชิ้นใหญ่แล้วโยนไปด้านข้างราวกับเป็นของเล่นสําา หรับความแข็งแกร่งของเขา มันสูงมากจนการโยนง่ายๆ ทําให้ก่อนคอนกรีตก่อนนั้นหนักอึ้งบน ซากปรักหักพังของบ้านอีกหลัง

เขายังคงยกชิ้นส่วนหนักๆ และโยนมันออกไปด้านข้าง ขณะที่เขาตรวจค้นศพ โชคไม่ดีที่แม้ว่าเขาจะเดินทางด้วยความเร็วสูง แต่ดูเหมือนว่าการค้นหาจะใช้เวลานาน“ฉันจะช่วยด้วย” แคสเซียสกล่าว ขณะที่เขาวางดาบลงในฝักบนหลังของเขาก่อนที่เขาจะก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน

“นายยกมันได้ไหมมันไม่เบาอย่างที่นายคิด”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างขบขัน

“นี่นายประเมินฉันต่าไปหรือเปล่า” แคสเซียสถามขณะที่เขากลอกตา

เขาบังเอิญไปแตะก้อนหินหนักๆ และหยิบมันขึ้นมาราวกับว่ามันไม่ใช่อะไรนอกจากหินอ่อนธรรมดา

“นายหยิบมันขึ้นมาง่าย ๆ ได้ยังไง” ครั้งนี้แม้แต่ลูซิเฟอร์ก็ยังแปลกใจ เขาไม่เคยเห็นความสามารถนี้มาก่อน

“มันไม่ยากหรอก มันเป็นพื้นฐานของการจัดการวัตถุของฉัน ฉันสามารถจัดการวัตถุใดๆให้เป็นอาวุธของฉันได้ ดังนั้นแม้ว่านายจะมองว่ามันเป็นหินสําหรับฉันมันคือดาบแสงของฉันในขณะนี้นั่นเป็นเหตุผลที่มันไม่ถูกชั่งน้ำหนัก”แคสเซียสตอบ

“ความสามารถที่น่าสนใจ” ลูซิเฟอร์พึมพําพร้อมยิ้ม“ดังนั้นนายไม่จําเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อโจมตีนายสามารถใช้หินก้อนหนึ่งเพื่อใช้พลังงานดาบศักดิ์สิทธิ์ของนายได้อย่างอิสระแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดจริงๆ”

“ใช่ แต่หลายคนไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถที่สองของฉัน ฉันไม่ได้ใช้มันมากนักเพราะฉันชอบความรู้สึกของดาบของฉันจริงๆฉันสามารถใช้วัตถุอื่นโจมตีได้ แต่มันก็ไม่เหมือนกับการใช้ดาบ”แคสเซียสตอบ..

ตอนที่ 252: การนําของไอย์

แคสเซียสเผยออกมาให้เห็นความสามารถที่ 2 ของเขาต่อหน้าลูซิเฟอร์ ซึ่งเขาไม่เคยซ่อน เพราะจริงๆเขาไม่จําเป็นต้องใช้มันมาก่อนในโรงเรียนเพราะเขาพกดาบติดตัวไปด้วยเสมอ

ก่อนหน้านี้ เมื่อเขาเผชิญหน้ากับเทียน สถานการณ์ไม่ได้ลดลงจนถึงระดับที่เขาต้องใช้ความสามารถของเขา ทั้ง 2 คนทํางานอย่างหนักเพื่อย้ายซากปรักหักพัง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนตาย แล้ว ซึ่งยังคงต้องใช้เวลา

สําหรับไอย์เธอนั่งอยู่ในโดมน้ําแข็งโดยไม่รู้ว่าผู้คนเข้ามาใกลโดมของเธอ เธอกําลังยุ่งอยู่กับ การโทรหาวารันท์ ขณะที่เธอแจ้งเขาว่าเกิดอะไรขึ้น

“และตอนนี้ฉันกําลังนั่งอยู่ที่นี่” เธอบอกวารันท์ เมื่อเธอพูดจบ

“ไม่จําเป็นต้องทําอะไรเว้นแต่มีความจําเป็น ไรอาอาจอยู่ที่นั่นเช่นกัน ฉันจะไปเอง อยู่ที่นั่นไว้ ก่อน” วารันท์บอกไอย์ ขณะที่เขายืนขึ้นและขมวดคิ้ว

“แล้วเมืองนี้ล่ะ คุณจะปิดล้อมทั่วทั้งเมืองเพื่อหยุดพวกเขาจากการหนีไปหรือไม่ ฉันสงสัยว่า พวกเขาจะอยู่ที่นี่ไม่นาน” ไอย์ตอบ

“ไม่ จะไม่มีการล็อกดาวน์ พวกเขาจะดําเนินการเพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หากมีการล็อคดาวน์ตอนนั้นพวกเราจะต้องรู้ที่ตั้งของพวกเขา” วารันท์บอกกับเธอ ขณะที่เขาเดินออกไปนอกสํานักงานของเขา

ไอย์อ้าปากเพื่อตอบแต่ก็ต้องหยุดลง เมื่อได้ยินเสียงของวารันท์ “เรียอาริ เก็นซี่ นาย 2 คนมากับฉัน พาอาร์เน่มาด้วย เราจะไปจัดการอะไรบางอย่าง”

เธอเข้าใจว่าเขากําลังคุยกับคนของเขาพร้อมที่จะรีบออกไป

“ก็ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ขยับไปไหน” ไอย์กล่าวเห็นด้วย เธอจะไม่ทําอะไรเลย จนกว่าคนพวกนั้นจะมาถึงที่นี่ วารันท์กําลังมาหาเธอ แต่ตอนนี้ลูซิเฟอร์กําลังเข้าใกล้เธอ ขณะที่เศษหินหรืออิฐ ที่อยู่ด้านบนลดลงเรื่อยๆ ลูซิเฟอร์ก็เข้าไปใกล้จนเขาสัมผัสได้ถึงความเย็นจากโดมน้ําแข็งจริงๆ

“ช่ว!” เขาทําท่าให้แคสเซียสเงียบ ดูเหมือนเขาจะพูดอะไรบางอย่าง เขาทําท่าทางให้เพื่อนของตนออกไปและพร้อมที่จะโจมตีในภายหลัง แคสเซียสไม่พูดอะไร ในขณะที่เขาค่อยๆก้าวออกไปโดยไม่ส่งเสียงใดๆ

เขากลับมาที่ถนน ในขณะที่ดึงดาบออกจากฝักพร้อมที่จะโจมตีเมื่อจําเป็น ลูซิเฟอร์ค่อยๆเคลื่อนย้ายเศษหินหรืออิฐให้มากขึ้น เพื่อให้มองเห็นโดมได้ชัดเจน ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะยืนอยู่หน้าโดมจริงๆ

เมื่อทุกอย่างพร้อม เขาก็กําหมัดแน่น ขณะที่เตรียมจะโจมตี เขาวางตําแหน่งร่างกายอย่างถูกต้อง ในขณะที่วางเท้าบนพื้นอย่างมั่นคง ดูเหมือนว่าจะไม่มีลมหายใจ

ในขณะนี้ทั่วทั้งสถานที่ดูเงียบสงัด ลมที่เงียบงันเคลื่อนไหวก็ต่อเมื่อเขาต่อยโดมน้ําแข็งเท่านั้น ขณะที่หมัดของลูซิเฟอร์แตะบนโดม มันก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับว่าทําจากแผ่นแก้วบางๆ แม้แต่น้ําแข็งหนาที่สร้างโดย ไอย์ก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้

ไอย์เพิ่งตัดสายเมื่อเกิดเรื่องขึ้น เธอไม่รู้ตัวเลยและมองไม่เห็นด้วยซ้ําว่าบางสิ่งกําลังมา ขณะที่น้ําแข็งชิ้นหนาชิ้นหนึ่งกระทบศีรษะของเธอ การกระแทกนั้นรุนแรงมากจนศีรษะของเธอเริ่มมีเลือดออก ขณะที่เธอล้มลงกับพื้นหมดสติ

“ว่าไง” ลูซิเฟอร์โพล่งออกมาด้วยความประหลาดใจ

“แค่นี้ก็เพียงพอแล้วหรือ เขากําลังเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่ แต่เธอออกมาได้แค่นี้เหรอ น่ารําคาญมาก” แม้แต่แคสเซียสก็พร้อมที่จะโจมตีคนที่อยู่ข้างใน แต่เมื่อเขาเห็นท่าทางแปลก ๆ ของลูซิเฟอร์ เขาก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ ลูซิเฟอร์ยืนราวกับว่าเขาเห็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิด

“เกิดอะไรขึ้น?” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์ พลางตะโกน

“ดูเหมือนว่าเธอจะสลบไปแล้ว นายสามารถวางดาบลงได้” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขานั่งลงบนเข่าและวางนิ้วใกล้กับจมูกของไอย์ “ดูเหมือนเธอยังหายใจอยู่” เขาพึมพํา พลางขมวดคิ้ว

“แม้ว่าฉันวางแผนจะฆ่าศัตรูทั้งหมด แต่มันก็น่าสนใจเช่นกัน ฉันสามารถรับข้อมูลจากเธอ เกี่ยวกับหินก้อนนั้นและความปลอดภัยของฐานทัพของพวกเขาได้” เขาเอ่ยออกมาเบาๆ

เขาลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่เขาเอามือล้วงกระเป๋าเพื่อนําบางสิ่งออกมา เมื่อนั้นเอง แคสเซียสก็เคลื่อนตัวเข้าไปถึงที่นั่นเช่นกัน “นั่นไม่ใช่ Limiter หรอกเหรอ ฉันคิดว่านายทําลายของนายไปแล้ว ตอนที่นายจากไป”

“มันเป็นของแดช ฉันเก็บมันไว้ในกระเป๋าเสื้อเพราะมันดูน่าสนใจ ตลอดเวลานี้ ฉันพยายามแฮคมันเพื่อให้เข้าใจหลักการที่พวกเขาใช้ในการสร้างมันขึ้นมา เพราะมันมีประโยชน์” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“แล้วนายทําสําเร็จไหม” แคสเซียสถามพลางขมวดคิ้ว

“บางส่วน ฉันสามารถกําหนดเสียงของฉันเป็นคําสั่งในการล็อคและปลดล็อคมันได้ แต่นอกเหนือจากนั้น ฉันยังไม่ได้รับความสําเร็จมากนัก ดูเหมือนว่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้มัน” ลูซิเฟอร์

ตอบ

“เธอยังไม่ตายเหรอ?” แคสเซียสถามโดยมองไปที่ไอย์

“เธอไม่ตายหรอก แค่เจ็บนิดหน่อย อย่างแรก ฉันต้องหยุดเลือดไหล เพื่อที่เธอจะได้ไม่ตาย” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาโน้มตัวไปข้างหน้า เขาวาง Limiter ไว้บนข้อมือของเธอ ซึ่งปรับโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้ถอดออก Limiter ล็อคด้วยตัวมันเอง

เขาวางมือลงบนหลังคอของ ไอย์ ขณะที่แขนอีกข้างของเขาสอดเข้าไปใต้ขาของเธอ ใน ขณะที่เขาอุ้มเธอขึ้นราวกับเจ้าหญิง

“ฉันหวังว่าเวราซิตี้จะถือกล่องปฐมพยาบาลไว้ ฉันไม่ต้องการขโมยของในโรงพยาบาลเพื่อรักษาเธอ” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะที่เขาเดินไปที่บ้านของเวราซิตี้ แคสเซียสก็เดินตามเขาไปเช่นกัน

ลซิเฟอร์บุกเข้าไปในบ้านของเวราซิตี้ และเริ่มค้นหากล่องปฐมพยาบาลหลังจากวางไอย์ลงบนพื้น ในไม่ช้าเขาก็พบกล่องปฐมพยาบาลและให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่เธอ โชคดีที่ดูเหมือนว่าไอย์จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

เธอแข็งแกร่งกว่าที่ภายนอกที่สามารถมองเห็นได้ ส่วนเรื่องเลือดออกก็เป็นเรื่องเล็กน้อยเช่นกัน หลังจากช่วยเธอแล้ว เขาก็พันผ้าพันแผลรอบศีรษะของเธอ

เวก้ากําลังวิ่งไปที่สํานักงานของไรอา เขาไม่แม้แต่จะเคาะในขณะที่ผลักประตูให้เปิดเพื่อก้าวเข้าไปข้างใน

“ความสัมพันธ์กับคนของเราขาดหายไป ดูเหมือนว่าเขาอยู่ที่นั่น!” เขาพูดราวกับว่ากําลังบอกข่าวที่สําคัญที่สุดในชีวิตของเขา

“วันนี้เป็นวันที่ทํานายไว้ นักทํานายนั่นพูดถูก แต่แล้วทําไมนาย
ติดต่อคนของนายไม่ได้ล่ะ เป็นไปไม่ได้ที่ลูซิเฟอร์จะฆ่าพวกเขา เขาเป็นหนึ่งในพวกเรา แล้วเกิดอะไรขึ้นล่ะ” ไรอาถามขณะ ที่เขายืนขึ้น
“ฉันไม่รู้ ฉันไม่ได้รับวิดีโอใด ๆ จากละแวกนั้นเลยดูเหมือนว่ามีคนหยุดกล้องทั้งหมด มันน่าจะ เป็นฝีมือของเขา” เวก้ากล่าว ..

ตอนที่ 253: ฉันต้องการให้คุณ

“ไปกันเถอะ ไปกัน พวกเราจะไปที่นั่นด้วย พายาลิซ่ากับเคลเลียนมาด้วย“ไรอาบอกเวก้า ในขณะที่เขาพยักหน้า นอกจากนี้ บอกผู้ให้ข้อมูลของเราคนอื่นๆ ให้จับตาดูทางเข้าและทางออกของเมืองด้วย” ไรอาสั่งเวก้าขณะที่เขาเตรียมจะออกเดินทางเช่นกัน

เขาคิดจริงๆ ว่าลูซิเฟอร์จะไม่ใช่ศัตรูของพวกเขา ดังนั้นเขาจึงละคนของเขาไว้ที่นั่นตลอดเวลาเพื่อพวกเขาจะได้พบเด็กคนนั้นเมื่อไปถึงที่นั่น

เขาไม่สามารถส่งผู้นําคนใดคนหนึ่งไปนั่งที่นั่นเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกันได้ เพราะไม่มีภัยคุกคามใดที่ลูซิเฟอร์จะต่อต้านพวกเขา แต่ตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ นั้นแตกต่างออกไป

ในไม่ช้ายาลิซ่าและเคลเลียนก็เข้าร่วมกับเขาด้วย ทริสตันยังร่วมทีมด้วยเช่นกัน เมื่อกลุ่มคนเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์จนหมด ไม่นานนักพวกเขาก็เลื่อตัวออกจากที่นั่น

เฮลิคอปเตอร์หุ้มเกราะกําาลังบินผ่านลมร้อน สําหรับนักบิน เขามีปืนที่เล็งไปที่หัวของเขา ในขณะที่เขาพาเฮลิคอปเตอร์ไปยังทิศทางที่มือปืนบอก “นี่น่าจะไกลพอ นําเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่นี่” เจียงบอกนักบิน ขณะที่พวกเขาเดินผ่านป่า เขาสามารถเห็นถนนในระยะไกล มันอยู่ไกลจากที่นี่ แต่ก็ไม่ไกลเกินไป เขายังคงสามารถไปที่ถนนสายนั้นได้ หลังจากเดินมาบ้าง นักบินเริ่มลดระดับเฮลิคอปเตอร์ซึ่งตกลงบนพื้น นักบินไม่ได้พูดอะไร แต่เขาหวังว่าเจียงจะออกไปแล้วและปล่อยให้เขาเป็นอิสระเช่นกัน

น่าเสียดาย ก่อนที่เจียงจะหันหลังกลับ ได้ยินเสียงกระสุนปืนในเฮลิคอปเตอร์ ปีกยังคงเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ขณะที่เจียงออกจากเฮลิคอปเตอร์ ชายคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ข้างหลัง นอนอยู่บนที่นั่ง แต่เขาก็ไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไป

“ฉันคิดว่าการฆ่าครั้งแรกของฉันจะรู้สึกแย่ แต่ก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น ตอนนี้ฉันรู้สึกมีพลังมาก นี่คือผลกระทบของการอยู่กับลูซิเฟอร์หรือไม่ ความคิดของฉันกําลังเปลี่ยนไปเช่นกัน” เจียงพูดออกมา ในขณะที่เขายิ้ม เขาเลือกทิศทางของถนนและเริ่มเดินไปทางนั้น แต่ไม่ใช่ ก่อนที่เขาจะตัดสินใจยิงเฮลิคอปเตอร์ 2-3 ครั้ง ทําให้มันระเบิด

“อยู่กับเขานั้นมีข้อดีหลายอย่าง แต่พระเจ้า ข้อเสียก็มีไม่น้อยเช่นกัน ครั้งแรกที่เขาพบฉัน เขาทําให้ฉันเดินมากเกินไปหน่อย”

“ฉันตายไปแล้วจริงๆ และตอนนี้ฉันต้องเดินอีกมาก อย่างน้อยฉันก็สบายใจได้ เมื่อไม่ได้ทําภารกิจ… ในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ตอนนี้ฉันเป็นเจ้าของ

ขณะที่เจียงเดินไป เขายังคงพูดกับตัวเอง เพื่อพยายามจะหยุดเขาไม่ให้เบื่อมากเกินไป

“อาการของเธอดูเหมือนจะคงที่ แต่ฉันสงสัยว่าเธอจะตื่นก่อนพรุ่งนี้ เธอไม่สบาย” แคสเซียสบอกลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาตรวจดูเธอ

“ไม่เป็นไร ยังไงก็ตาม ตอนนี้เธอเป็นนักโทษของเราแล้ว แม้ว่าเธอจะตื่นขึ้นหลังจากผ่านไป 1 สัปดาห์ก็ตาม ฉันไม่ต้องรีบร้อนแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบ “สิ่งที่ฉันรีบทําคือเอาตัวเวราซิตี้ออกไปจากที่นี่ ฉันสงสัยว่าเธอจะกลับมาเมื่อไหร่” เขาออกจากห้องและเข้าไปในห้องโถง ซึ่งเขาเริ่มรอ ขณะที่เขากําลังสงสัย เขาก็ได้รับข้อความจากยามที่ทางเข้า

ขณะที่ลูซิเฟอร์อ่านข้อความ รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “ดูเหมือนเธอจะอยู่ที่นี่”

ความจริงผ่านประตูของชุมชนที่ยามไม่ได้หยุดเธอ เธอยังสังเกตเห็นเศษหินที่หักซึ่งวางอยู่ระหว่างทาง

“ทําไมบ้านเหล่านี้ถูกรื้อถอน และทําไมมันถึงมืดมนเช่นนี้ แปลกจริง” เธอพึมพําขณะเดินไปที่บ้านของเธอ แม้ว่าเธอจะพบว่ามันแปลก แต่เธอก็ไม่เชื่อว่ามันเกี่ยวข้องกับเธอ

เธอเดินไปที่บ้านของเธอ และเมื่อเธอพยายามเปิดประตู เธอจึงรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

ล็อคก็พังและประตูก็เปิดออก ดูเหมือนว่ามีคนบุกเข้าไปในบ้าน เธอเปิดกระเป๋าเงินขณะที่ดึงปืนออกมาก่อนจะเข้าไปในบ้าน

ดูเหมือนจิตวิญญาณจะตื่นตัวเธอยังออกไปเพราะการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็สามารถทําให้เธอยิงออกไปได้ หลังจากนั้นเธอก็ใช้เวลาไม่นานในการค้นหาผู้บุกรุก

คนๆนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวเลย เขากําลังยืนกอดอกอยู่ในเงามืดราวกับว่าเขาเกียจคร้าน

“เจ้าเป็นใครกันแน่” เธอถามด้วยความสงสัย

“ฉันเป็นคนที่ควรถูกลืมไปนานแล้ว ฉันเชื่อแบบนั้น” คนในความมืดพูดเบา ๆ ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า “สงสัยเธอจะจําฉันไม่ได้”

เวราซิตี้มองเห็นสายฟ้าสีดําริบหรี่รอบตัวเด็กหนุ่ม

เด็กชายคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่อายุเพียง 18 ปีเท่านั้น เขามีผมสีเงินสวยงามที่ผูกไว้กับหางม้า แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับตัวเขาคือดวงตาของเขา ตาข้างหนึ่งของเขาเป็นสีฟ้า อีกข้างหนึ่งเป็นสีม่วงเล็กน้อยน่าเสียดายที่เวราซิตี้มองไม่เห็นตาสีม่วงในดวงตาของเขา ขณะที่เธอยืนอยู่ไกล

“คุณต้องการอะไรจากฉัน?” เวราซิตี้ถามเด็กชาย ขณะที่เธอนั่งลงบนเก้าอี้ เธอรู้สึกได้ว่าบุคคลนั้นไม่ได้มาที่นี่เพื่อทําร้ายเธอ

“ฉันอยากเป็นความมืดมิดที่จะกลืนโลกทั้งใบ และเธอจะช่วยฉันในเรื่องนี้” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

ตึก! ตัก! ได้ยินเสียงฝีเท้า เมื่อลูซิเฟอร์ก้าวเข้ามาใกล้ พลางออกมาจากความมืด

“อา ฉันจําได้ว่าเคยเห็นนาย ลูซิเฟอร์ แอซเรล ห้ะ แม้ว่าใบหน้าของคุณจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายฟ้าก็พานายออกมา น่าสนใจมาก นายหายตัวไปเมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว จู่ๆ นายกลับปรากฏตัวอีกครั้งได้อย่างไร” เวราซิตี้ถามลูซิเฟอร์อย่างขบขัน

“แคสเซียส พาเธอออกไป” ลูซิเฟอร์พูดอย่างสบายๆ ขณะที่เขาเหลือบมองกลับมา ผู้หญิง คนนั้นหันกลับมาเห็นเด็กผู้ชายอีกคนที่ดูเหมือนเขาอายุ 19-20 เขากําลังก้าวออกมาจากห้องเด็กชายผมดํากําลังถือดาบหนักอยู่บนหลังของเขา เขายังสามารถเห็นเขาลากสิ่งที่ดูเหมือนศพ ขณะถือแขนไว้

“คนนั้นน่ะเหรอ…” เวราซิตี้ยืนขึ้น เธอตกใจทันทีที่เธอเห็นว่าศพเป็นของใคร

“ถูกต้อง ดูเหมือนว่าคนนี้จะเป็นผู้บังคับบัญชาอันดับ 2 ของ APF ดูเหมือนว่าแบบนั้นแหละนะ” ลูซิเฟอร์เริ่มตอบด้วยน้ําเสียงที่เยือกเย็นของเขา “อย่ากังวลไปเลย ตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่”

“นายมาที่นี่ทําไม นายกําลังพยายามพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนายงั้นหรือ” เวราซิตี้พูดพลางขมวดคิ้ว

“คนที่ส่งแซนเดอร์ไปอยู่ในอาการโคม่าได้ตั้งแต่เขาอายุเพียง 10 ขวบ ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน เมื่อเขาโตขึ้น” เธอกล่าว

“บอกมาตรงๆ เลย ให้ฉันช่วยยังไง” เธอถาม

“ฉันต้องการให้เธอเข้าร่วมทีมของฉัน ทั้งหมดที่ฉันต้องการจากเธอคือช่วยฉันค้นหาความจริง เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อของฉัน มีเพียงเธอเท่านั้นที่แน่ใจได้ว่าข้อความที่ฉันได้รับเป็นความจริง ฉันสัญญาว่าฉันจะปล่อยเธอไป ถ้าเธอต้องการหลังจากนั้น” ลูซิเฟอร์บอกกับหญิงสาว..

ตอนที่ 254: ความตายไม่น่ากลัว

“และจนกว่าจะถึงตอนนั้น คุณจะอยู่กับเรา ฉันไม่สามารถเสี่ยงกับคุณได้มากกว่านี้” ลูซิเฟอร์ พูดพร้อมขมวดคิ้ว

“ฉันมีทางเลือกอื่นหรือไม่” เวราซิตี้ถามพลางกลอกตา “ยังไงก็ตาม ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่า เกิดอะไรขึ้นกับพ่อของคุณ ฉันจะช่วยสักหน่อย”

“ดี งั้นไปกันเถอะ” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาเหลือบมองแคสเซียสแล้วพูดอย่างใจเย็น “ช่วยไปรับเธอหน่อย พาเธอไปที่รถ”

แคสเซียสยกไอย์ไว้ในอ้อมแขนของเขาเหมือนกับที่ลูซิเฟอร์เคยทํากับเธอมาก่อน แต่เขาพบว่ามันแปลก เขากําลังอุ้มผู้หญิงเหมือนเธอเป็นแฟนของเขาจริงๆ

เขาพบว่ามันน่าอายเล็กน้อยที่เป็นคนที่อุทิศชีวิตทั้งหมดให้กับวิถีแห่งดาบ

กลุ่มคนเล็กๆ ออกจากบ้านและเดินไปตามถนนที่ว่างเปล่า เมื่อจู่ๆลูซิเฟอร์ก็พูดขึ้นว่า “ใช่ เราต้องทําอะไรซักอย่างก่อน ฉันเกือบลืมไปหมดแล้ว มากับฉัน”

โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า เขาอุ้มเวราซิตี้ขึ้นมาเหมือนเธอเป็นเจ้าหญิงอีกคนหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเริ่มบิน

“คุณทําบ้าอะไร” เวราซิตี้ถามพลางขมวดคิ้ว “แม้ว่าฉันต้องการจะบอกว่าการบินได้รู้สึกดี แต่ฉันยังคงอยากให้คุณวางฉันลง”

“นี่เร็วกว่าการขึ้นบันไดมาก” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะลงจอดที่ชั้นหนึ่งของบ้าน ซึ่งมีหน้าต่างที่เขาทําฟังเอง

เมื่อเขาลงไปที่พื้น เขาได้วางเวราซิตี้ลงบนพื้น ซึ่งมองไปรอบ ๆ ก็พบว่ามีขี้เถ้าอยู่บนพื้น แต่ก็มีเลือด นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นชายคนหนึ่งถูกมัด

“เรามาที่นี่เพื่ออะไร?” เธอถาม

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบ ในขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้ชายคนนั้นและถอดผ้าที่สมาชิกของแวเรียนท์ เกิดใหม่พันรอบปากออกเพื่อหยุดเขาไม่ให้พูด

“ขอบคุณ!” ชายคนนั้นพูดทันทีที่ลูซิเฟอร์ปล่อยปากของเขาให้เป็นอิสระ

“อย่าเพิ่งขอบคุณฉันเลย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปขึ้นอยู่กับคําตอบของนาย บอกฉันที่ฐานของแวเรียนท์เกิดใหม่อยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามขณะก้าวถอยหลัง

“ฐาน? ฉันลืม ฉันจําไม่ได้ ฉันคิดว่ามันเหมือนกันกับคนอื่น ๆ เราลืมฐานของเรา เมื่อเราได้ยินหัวข้อเกี่ยวกับฐานต่อหน้าคนแปลกหน้า ฉันบอกคุณไม่ได้” ผู้ชายคนนั้นตอบ

เมื่อพยายามคิดเท่าไหร่ก็จําไม่ได้ลูซิเฟอร์เหลือบมองเวราซิตี้ ขณะที่เขาถามว่า “เขาโกหก หรือเปล่า”

“เขาพูดความจริง” เวราซิตี้ตอบ

“ถ้าอย่างนั้นเขาก็ไร้ประโยชน์” ลูซิเฟอร์ปล่อยตัวออกมา ขณะที่จับใบหน้าของชายคนนั้น มองดูเขากลายเป็นเถ้าถ่าน

นี่เป็นครั้งแรกที่เวราซิตี้ได้เห็นความสามารถนี้แบบสดๆ ก่อนหน้านี้เธอเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เท่านั้น แต่ตอนนี้เธอได้เห็นมันแล้ว เธอก็พบว่ามันน่ากลัวจริงๆ

“พึ่งเคยเห็นครั้งแรก?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ใช่ มันดูไม่ดีเลย ดูเหมือนเป็นความสามารถที่ชั่วร้าย ทําลายบุคคลที่ละอนุภาค” เวราซิตี้กล่าวพร้อมส่ายหัว

“ไม่มีความสามารถใดในโลกนี้ที่ไม่มีความมืดมิด ทั้งการถูกฟ้าผ่าตาย ตายด้วยใบมีดลมโดยแยกหัวออกจากกัน จริงไหม?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน

“ตายด้วยการสําลักเพราะความแข็งแกร่ง? ตายด้วยการเผาในเปลวเพลิง? ตายด้วยการแช่แข็ง? ความสามารถใดที่คุณคิดว่าไม่มืดมนในการฆ่าคนด้วย?”

“ไม่ใช่ความสามารถที่มืดมิด แต่เป็นความตาย และนั่นก็ไม่ใช่แนวคิดใหม่เช่นกัน หลังจากจ่านวนผู้เสียชีวิตที่ฉันได้ฆ่าตายไป ความตายก็หยุดน่ากลัวไปนานแล้ว” เขากล่าวอย่างใจเย็น “แต่สําหรับคนอย่างคุณ มันก็ยังมืดมิดอยู่ ไม่ต้องกังวล คุณก็จะชินกับมันเหมือนกัน เหมือนที่ฉันรู้สึก เขาพูดต่อ เมื่อเดินเข้าไปใกล้เวราซิตี้และอุ้มเธอขึ้นอีกครั้งก่อนจะลงไป

เขาลงจอดใกล้กับแคสเซียส ซึ่งยืนอยู่ พลางอุ้มร่างของไอย์ในอ้อมแขนของเขา พวกเขา เริ่มเดินอีกครั้งและไม่นานก็ถึงประตูชุมชน เมื่อลูซิเฟอร์ไปถึงที่นั่น เขาก็ประหลาดใจ ยามไม่อยู่ที่นี่แล้ว เขาไม่พบยามคนใดที่ไหนเลย

“ดูเหมือนเขาจะวิ่งหนี ฉันเดาว่าเขาคงกลัวว่าฉันจะฆ่าเขา เพื่อให้เขาเงียบ แม้หลังจากที่เขาทํางานเสร็จ ไม่สําคัญหรอก”

“เขาทําตามที่บอก ไม่ว่าในกรณีใด ไม่สําคัญหรอกว่าเขาจะแจกภาพสเก็ตช์ของฉันหรือไม่ ฉันทําสิ่งที่อยากทําเสร็จแล้ว” ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมส่ายหัว “สงสัยจริงๆว่าเขาจะกล้าไหม”

“ไปกันเถอะ” เขาเดินผ่านประตูและจากไปเพื่อหยุดรถ 2 คันที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าเมือง

“ไม่มีปัญหาหรอกหรือ มีรถ 2 คัน ทั้งสองคันเป็นที่นั่งสองที่นั่ง แต่มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้วิธีขับ เราจะออกเดินทางได้อย่างไร” แคสเซียสถามในขณะที่เขาสังเกตเห็นปัญหาในทันใด

“ไม่ต้องห่วง เขาควรจะมาที่นี่เร็วๆ นี้” ลูซิเฟอร์พูดอย่างไม่กังวลเลย ตามที่เขาคาดไว้ มีรถแท็กซี่จอดอยู่ใกล้พวกเขา ชายคนหนึ่งก้าวออกจากรถแท็กซี่ ซึ่งทําให้ใบหน้าของแคสเซียสดูมีความเข้าใจ

“ในที่สุดฉันก็มาถึงแล้ว พระเจ้า ขาฉันยังปวดอยู่ คราวหน้าช่วยทํางานที่ต้องเดินให้น้อยลงหน่อย” เจียงพูดพร้อมกับส่งเสียงหอน

แม้แต่ตอนที่เขานั่งแท็กซี่ เขายังเหนื่อยจากการเดินทั้งหมดที่เขาต้องทําก่อนหน้านี้

“ดังนั้น เจียงจะขับรถ แต่ตอนนี้มีปัญหาเช่นกัน เรามี 5 คนและ 4 ที่นั่ง และไม่มีที่ใดในด้านหลังที่เราจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ได้” แคสเซียสกล่าวอีกครั้งพร้อมกับขมวดคิ้ว

“ไม่มีปัญหา เราจะปรับตัว ฉันจะใช้ความคิดของเจนเลีย” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“ความคิดอะไร?” แคสเซียสถาม

“นายจะขึ้นรถคันที่ 2 กับเวราซิตี้ ฉันจะขึ้นรถคันแรกกับไอย์ ส่วนสถานที่ของเธอ เธอสามารถปรับตัวและนั่งบนตักของฉันได้” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่รู้สึกแปลกๆ เลยสักนิด

“นอกจากนี้ ฉันยังคอยจับตาดูเธอเพื่อเตรียมพร้อมเมื่อเธอตื่น” เขากล่าวเพิ่มเติม

เมื่อลูซิเฟอร์พูดถึงความคิดของเขา ไม่เพียงแต่แคสเซียสเท่านั้นแต่กระทั่งเจียงก็มองเขาด้วยปากที่เปิดออกเล็กน้อย

“อย่ายืนอยู่แบบนี้นานๆเลย ออกไปกัน” ลูซิเฟอร์พูด ขณะเปิดประตูรถข้างหน้า เขานั่งบนที่นั่งผู้โดยสารและบอกแคสเซียส ให้มอบไอย์ให้กับเขา

แคสเซียสช่วยให้ไอย์ที่หมดสตินั่งบนตักของลูซิเฟอร์ ก่อนที่เขาจะปิดประตู

“ขับอย่างระมัดระวัง” แคสเซียสบอกเจียง ซึ่งพยักหน้าขณะที่เขาเข้าไปในรถด้วย

เขายังเดินไปที่รถคันที่ 2 พร้อมกับเวราซิตี้ ซึ่งนั่งโดยไม่คัดค้านเลยแม้แต่น้อย

เจียงสตาร์ทรถ ขณะที่เขาออกจากเมือง แคสเซียสยังขับตามหลังเขาโดยมุ่งไปที่ถนน

“ดูเหมือนคุณจะสนิทกับเขา คุณเป็นใคร” ไม่นานด้วยซ้ําที่พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหวออกจากจุดเริ่มต้น เวราซิตี้เริ่มถามคําถาม

“ฉันเป็นเพื่อนของเขา” แคสเซียสตอบอย่างใจเย็น

“เขามีเพื่อนด้วยเหรอ? คณแน่ใจหรือว่าคุณไม่ใช่แค่ลูกน้องของเขา” เวราซิตีถามยิมๆ

“เธอเห็นความจริงได้ใช่ไหม ทําไมเธอไม่เห็นว่าฉันพูดความจริงล่ะ” แคสเซียสถามพลางขมวดคิว..

ตอนที่ 255: การพูดคุย

“อย่าเข้าใจฉันผิด แต่ฉันแปลกใจมากที่เห็นเขามีเพื่อน เท่าที่ฉันเห็นเขาดูไม่เหมือนคนมีเพื่อน” เวราซิตี้กล่าวยิ้มๆ

“เพราะคุณเพิ่งพบเขา คุณไม่รู้จักเขา” แคสเซียสตอบ

“ฉันก็หวังอย่างนั้น” เวราซิตี้พึมพํา ขณะที่เธอส่ายหัว “แต่ฉันสงสัยว่าไม่มีใครรู้จักเขาจริงๆ”

หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เธอถามต่อว่า “คุณ 3 คนเป็นเพื่อนและเป็นส่วนหนึ่งของทีมเหรอ?”

“ฉันว่าคุณพูดแบบนั้นก็ได้นะ แม้ว่าฉันจะไม่รู้จักเจียงเป็นการส่วนตัว” แคสเซียสตอบ “ยังไงก็ตาม ตอนนี้ไม่ใช่ 3 คน คุณเป็นส่วนหนึ่งของมันด้วย”

กลางคืนดูเหมือนจะมืดลง เพราะแม้แต่ดวงจันทร์ก็ไม่สามารถมองเห็นบนท้องฟ้าได้

เวราซิตี้มองดูความมืดข้างนอก “ฉันคิดว่าฉันกังวลบางสิ่งอยู่ตอนนี้ พวกคุณอยากจะต่อต้าน APF จริงๆหรอ เพราะมันจะทําให้คุณต้องต่อต้านรัฐบาลและองค์กรฮันเตอร์ด้วยเช่นกัน โอกาสในการประสบความสําเร็จมีน้อยเกินไป ในขณะที่โอกาสล้มเหลวมีมากมาย”

แคสเซียสไม่พูดอะไร เพราะเขายังไม่พร้อมที่จะคิดไกลถึงขนาดนั้น เขาใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน และยึดมั่นในสิ่งที่เขาเชื่อ ส่วนผลที่ตามมานั้นเขาไม่อยากคิด

รถ 2 คันกําลังแข่งกันบนถนนที่ว่างเปล่า พวกมันกําลังขับกลับไปที่เคนซิงตัน ในขณะที่รถด้านหลังถูกครอบครองโดยแคสเซียสและเวราซิตี้ รถที่อยู่ด้านหน้าถูกครอบครองโดยคนทั้งสาม

เจียงกําลังนั่งอยู่ในที่นั่งคนขับ ขณะที่ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในที่นั่งผู้โดยสาร สําหรับไอย์ เธอนั่งบนตักของลูซิเฟอร์ ซึ่งเธอยังคงดูเหมือนหมดสติ

เพื่อไม่ให้เธอขยับไปไหน ลูซิเฟอร์โอบแขนของเขาไว้รอบเอวที่เพรียวบางของเธอ

เจียงเหลือบมองลูซิเฟอร์ ขณะที่เขายิ้ม “รู้สึกยังไงบ้าง”

“รู้สึกยังไงบ้างงั้นหรอ” ลูซิเฟอร์ถามและมองกลับมาที่เจียง เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่เขาเห็นรอยยิ้มแปลก ๆ บนใบหน้าของเจียง

“โธ่เว้ย! คุณรู้มั้ยว่าฉันพูดถึงอะไรอยู่ รู้สึกยังไงที่มีผู้หญิงสุดฮอตนั่งบนตักคุณ คุณอาจจะยังเด็กและโหดเหี้ยม แต่ข้างในคุณก็ยังเป็นผู้ชายอยู่” เจียงกล่าวพลางหัวเราะ

ลูซิเฟอร์เหล่ตาพลางจ้องไปที่เจียง “อย่าพูดไร้สาระและมุ่งไปที่ถนน”
เจียงหยุดพูด แต่รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา “เอาล่ะ ลูซิเฟอร์ ได้เวลาคุยกันแล้ว?” เจียงถามต่อหลังจากผ่านไปนาน

“คุยอะไร” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

“นกหรือผึ้ง?” เจียงปล่อยค่าถาม

“นายหมายถึงอะไร?”ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

“คุณรู้ไหม การพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่โรแมนติกระหว่างชายและหญิง การพูดคุยพื้นฐานเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทําและไม่ควรทํา อย่าบอกฉันว่าคุณไม่เคยมีสิ่งนั้น คุณไร้เดียงสาจริงๆเหรอ?” เจียงถามอย่างแปลกใจ

“เจียง…” ลูซิเฟอร์พูดเบาๆ

“ว่า?” เจียงถามกลับ

“นายอยากรู้ไหมว่าไฟฟ้าช็อตรู้สึกอย่างไร” ลูซิเฟอร์ถามอย่างใจเย็น

“คุณหมายถึงอะไร?” ถึงคราวของเจียงที่จะสับสน

“ฉันได้ยินมาว่าไฟฟ้าช็อตนั้นใช้เพื่อซ่อมแซมจิตใจของคนไม่กี่คน หากนายยังไม่หยุดพูด เรื่องไร้สาระนี้ ฉันจะต้องทดสอบทฤษฎีนั้นกับนาย และฉันไม่อยากทําอย่างนั้นเพราะฉันกําลังรีบกลับบ้าน” ลูซิเฟอร์กล่าว

“อืม ฉันเข้าใจ ฉันจะไม่พูดถึงมัน จริงๆ แล้วฉันก็อยากกลับบ้านเร็วๆเหมือนกัน จะได้นอนหลับอย่างสงบสุขและถอดหน้ากากประหลาดนี้ออก” เลี้ยงพูดพลางกลอกตา

“คุณรู้ไหมว่ามันยากแค่ไหนที่จะใส่เคราและวิกผมปลอมตลอดเวลา มันคันมาก” เขากล่าวต่อ

“ฉันรู้ แต่มันสําคัญ เรามองเห็นได้ เห็นรถได้ แต่คนอื่นๆมองไม่เห็น คุณคือไฟที่ซ่อนอยู่ของเรา” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ความร่ํารวยและเงินทองจะหายไป และที่ตั้งของเราจะถูกค้นพบถ้ามีคนรู้ว่านายเป็นมหาเศรษฐหน้าใหม่” เขากล่าวต่อ

“ดังนั้นทุกครั้งที่เราออกไปข้างนอกด้วยกัน นายจะต้องสวมหน้ากากหรือหน้ากากที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นการปลอมตัวจึงดีกว่าสําหรับตอนนี้” เขากล่าวเพิ่มเติม

“คราวหน้าฉันจะสวมหน้ากาก มันอาจจะดีกว่านี้” เจียงกล่าว

“ก็ได้ คราวหน้านายสามารถใช้หน้ากากได้” ลูซิเฟอร์พูดขณะหลับตา “อ้อ ฉันมีคิดเรื่องนั้นอยู่แล้ว ฉันไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้
น”
“อะไรนะ” เจียงถามยิ้มๆ อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มของเขาหายไปเมื่อเขาเห็นลูซิเฟอร์จ้องมาที่เขา

“ฉันเข้าใจ ไม่เป็นไร ฉันแค่คิดว่าคุณไร้เดียงสาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นการดีที่รู้ว่าคุณเติบโตในทุกแขนงของความรู้” เขากล่าว

“ว่าแต่ คุณรู้สึกดึงดูดใจผู้หญิงคนนี้ไหม เธอสวยมากจริงๆ ฉันต้องขอบอกจริงๆว่า ผิวของเธอเหมือนหิมะ รูปร่างดี ตาสวย ผมนุ่มสลวย… อะไรก็ได้ที่ผู้ชายอยากจะขอ คุณรู้สึกถึงสัมผัสของมันหรือไม่ สายใยแห่งหัวใจที่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย?” เจียงถาม

“เจียง นี่เป็นคําเตือนครั้งที่ 3 เรากําลังจะจบหัวข้อนี้แล้ว และนั่นเป็นครั้งสุดท้าย ฉันไม่มีเวลาพูดถึงเรื่องไร้สาระนี้” ลูซิเฟอร์ตอบ พลางพูดต่อไปว่า “ส่วนสายใยอะไรนั่นของฉันไม่มีเลย หัวใจของฉันเต็มไปด้วยความมืดและความเศร้าหมองเท่านั้น ไม่มีที่ว่างสําหรับใครในนั้น โลกนี้จึงไม่มีผู้หญิงคนไหนที่สัมผัสได้ทุกอย่างภายในใจฉัน”

“นั่นคือสิ่งที่คุณคิด หนุ่มน้อย ฉันแน่ใจว่าวันหนึ่งจะมีผู้หญิงคนหนึ่งที่จะเป็นที่รักของคุณ ผู้ชายอย่างคุณจะถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้หญิงเสมอ”

“เมื่อคุณยึดครองประเทศนี้ เราจะดูว่าคุณจะจัดการกับมันอย่างไร คุณจะยังคงเข้มงวดเหมือนเดิมหรือไม่ เพียงคิดยิ้มๆ ในความเงียบสงัด เวลายังคงผ่านไป ลูซิเฟอร์นั่งใกลไอย์มากจนได้ยิน แม้กระทั่งการหายใจของเธอ ขณะที่หน้าอกขยับขึ้น และต่ําลง

เขาไม่ได้มองเธอ แต่เขาลดหน้าต่างลงและเริ่มมองออกไปข้างนอกไปยังความมืดอันเงียบสงัดที่แผ่กระจายไปทั่วทุกแห่ง

“ความมืดสวยงามจริงๆ ใช่ไหม? กลางวันนั้นนําเสียงและความรําคาญมาสู่ความมืด ขณะที่ความมืดมาพร้อมกับความเงียบอย่างสงบ” ลูซิเฟอร์ปล่อยมือออกนอกหน้าต่างอีกครั้งโดยไม่ถอดถุงมือ

สําหรับไอย์ตอนนี้เขาจับมือเธอเพียงมือเดียว

“มันเป็นเรื่องจริง ฉันเดาว่าแบบนั้น” เจียงเห็นด้วย

เขาเหลือบมองดูลูซิเฟอร์อย่างสบายๆ ซึ่งดูเหมือนจะครุ่นคิดอยู่ลึกๆ

“แล้วคุณมีแผนอย่างไรหลังจากทําลาย APF แล้ว? หลังจากแก้แค้นเสร็จแล้ว คุณอยากทําอะไร?” เขาถาม

“ก่อนหน้านี้ฉันไม่อยากทําอะไรแน่นอน แต่ตอนนี้ฉันจะไม่ทําผิดซ้ําอีก” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ผิดพลาดอะไร? คุณหมายถึงอะไร” เจียงถาม

“เรื่องโรงงานนั่น… เมื่อฉันกลับมามีชีวิตเป็นครั้งแรก นายรู้ไหมว่าฉันต้องการอะไร” ลูซิเฟอร์ถามในขณะที่เขามองออกไปนอกหน้าต่างต่อไป..

ตอนที่ 256: ชัยชนะของลูซิเฟอร์

“คุณต้องการอะไร” เจียงถามทั้งๆ ที่เขามีความคิดบางอย่าง “นั่นคือการแก้แค้นหรือเปล่า”

“ถูกต้อง” ลูซิเฟอร์ตอบ

เขาอธิบายว่า “ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือการแก้แค้นเพื่อที่ฉันจะได้สงบหัวใจที่วุ่นวายของฉันได้ในที่สุด และฉันก็ประสบความสําเร็จ เมื่อแก้แค้นเสร็จ ชีวิตดูเหมือนจะเป็นปกติ ในขณะที่ฉันแก้แค้นเสร็จแล้ว ฉันก็แค่อยากจะรู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อแม่ของฉันเท่านั้น”

“แต่นายรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” เขาถาม

“อะไร?” เจียงถาม

“วารันท์นั่น ฉันแก้แค้นเสร็จแล้วและต้องการความสงบ แต่เขากลับมาฆ่าฉันอีกครั้ง ทั้งที่ฉันไม่ได้ทําอะไรเขาเลย ทําไมกัน! เพราะดวงตาของฉันงั้นเหรอ เหอะ!”ลูซิเฟอร์ตอบ “นั่นสอนบทเรียนให้ฉัน”

“บทเรียนอะไร?” เจียงถามด้วยความสงสัย

“ฉันจะแก้แค้นกี่ครั้ง ก็มีคนที่ไม่มีความสุขกับฉัน คนที่พยายามจะฆ่าฉัน คนที่อยากจะเอาทุกอย่างที่ฉันได้รับ โลกนี้ไม่สามารถปล่อยให้ฉันมีชีวิตอยู่ได้ อย่างที่ฉันต้องการ” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“ถึงจะฆ่าวารันท์ ก็จะมีคนอื่นมาฆ่าฉัน หลังจากนั้นก็จะเป็นคนอื่น แล้วก็เป็นคนอื่นอีก เลยเกิดคําถามขึ้นมาว่า ฉันจะหยุดมันได้อย่างไร ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีใครจะทําร้ายฉันได้อีก” เขาถามคําถามอื่นกับเจียง

“นายจะทําอะไร” เจียงถามพลางหันมาจริงจังมากขึ้น

“ฉันจะยึดครองทุกสิ่ง โดยให้ทุกคนรู้จักที่ของตน! โดยการพิชิตทุกสิ่งและฆ่าทุกคนที่ขวางทางฉัน!” ลูซิเฟอร์ตอบขณะยิ้มขณะหันหลังกลับ

“เมื่อฉันพยายามทําอย่างนั้น งูทุกตัวจะออกมาจากรูของมัน ฉันจะได้ขยี้หัวพวกมันไปตลอดกาลจนไม่เหลืออะไรเลย” เขากล่าวต่อ

“คุณหมายถึง…คุณต้องการพิชิตโลกหรือไม่” เจียงถาม ขณะที่อ้าปากกว้าง เขาไม่ได้หมายถึงการยึดครองประเทศ แต่ทั้งโลก?

“ไม่ ฉันต้องการโลกทั้งใบ ฉันไม่สนว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน ฉันอาจขาดหลายสิ่งหลายอย่าง แต่เวลาเป็นสิ่งเดียวที่ฉันไม่ขาด” ลูซิเฟอร์ประกาศ “ดังนั้น APF จึงไม่ใช่เป้าหมายของฉันอีกต่อไป พวกเขาเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งที่จะไปถึงเป้าหมายของฉัน ณ จุดนี้”

“นี่…” เจียงไม่รู้จะพูดอะไร สิ่งทั้งปวงนี้ยิ่งใหญ่หลวงมาก ลูซิเฟอร์ไม่ต้องการต่อต้าน APF แต่

อาจมีแวเรียนท์หลายล้านคนและวอร์ล็อคหลายพันคน หลายคนจะแข็งแกร่งเท่ากับวารันท์

“คุณแน่ใจหรือว่านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ?” เจียงถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันไม่เคยแน่ใจในสิ่งใดมากกว่านี้เลย ฉันรู้ว่าเป้าหมายนี้จะทําให้ฉันต้องฆ่าคนจํานวนมาก แต่นั่นไม่สําคัญหรอก ใครก็ตามที่ต่อต้านฉัน เขาจะพบกับเส้นทางสู่นรก ไม่สําคัญหรอกว่าเขาเป็นมิตรหรือศัตรู” ลูซิเฟอร์ประกาศน้ําเสียงของเขาดูมุ่งมั่น

เมื่อได้ยินแผนการอันยิ่งใหญ่ของลูซิเฟอร์ เจียงก็รู้สึกเหมือนหัวใจเต้นรัว

อนาคต…เขาไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่มันจะต้องเต็มไปด้วยเลือดและความพินาศอย่างแน่นอน และเขาได้เลือกข้างแล้ว

อร์ล็อคอมตะนั้นดีกว่าการเข้าข้างศัตรูของเขา

“ลูซิเฟอร์ นายอาจจะพูดถูก” เจียงตอบทันทีทันใด แต่นายแน่ใจแล้วใช่ไหม” เจียงพูดตะกุกตะกัก ในขณะที่เขายังคงมีนงงเล็กน้อย

“โฟกัสที่ท้องถนน มิฉะนั้นเราจะเกิดอุบัติเหตุ ฉันไม่สนใจฉันเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับฉัน แต่ฉันไม่ต้องการต้องหาคนอื่นเพื่อสร้างมหาเศรษฐีหลังจากที่นายตาย” ลูซิเฟอร์กล่าวเตือนเจียงให้โฟกัสไปที่ถนนอีกครั้ง เขาละสายตาจากถนนเป็นประจํา

“อมใช่” รถ 2 คันแล่นไปจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง ขณะที่พวกเขาจากไป ในอีกทางหนึ่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ล่าของกลุ่มต่าง ๆ กําลังมุ่งหน้าไปยังเมืองนั้น

ซึ่งลูซิเฟอร์เพิ่งจับไอย์ไปก่อนหน้านี้ กลุ่มแรกที่ไปถึงที่นั่นคือ APF เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขายังบินอยู่เหนือพื้นที่ใกล้เคียง เมื่อวารันท์, เรียอาริ, เก็นซี่ และ อาร์เน่กระโดดลงบนพื้น

“เก็นซี่ นายตรวจสอบบ้านของเวราซิตี้และบ้านอื่นๆ ทั้งหมดซะ นี่มันดูเงียบเกินไป” วารันท์สั่ง ชายผมสีเงินที่ปิดใบหน้าครึ่งล่างของเขา

ชายผู้นั้นหายตัวไปในอากาศ ขณะที่เขาหันไปหาเงาและเริ่มค้นหา

สําหรับอีก 3 คนที่เหลือ พวกเขาไปที่ซากปรักหักพัง ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า ไอย์ซ่อนอยู่

เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่น วารันท์สังเกตเห็นซากโดมน้ําแข็งที่แตกหัก ซึ่งยังไม่ละลาย

เขาขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ แต่ไม่พบเบาะแสใด ๆ “เธอไม่อยู่ที่นี่ ไม่มีเบาะแสใดๆ ที่บ่งบอกว่า เธอต่อสู้ที่นี่แปลกมาก เธอหายไปไหนโดยไม่มีการต่อสู้?” วารันท์พูดพลางขมวดคิ้ว

“ดูเหมือนว่าเธอถูกฆ่าตายที่นี่ นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไม เราไม่เห็นน้ําแข็งที่อื่นเลย” เรียอาริตอบ “บางที่ศัตรูอาจพบเธอทําลายโดม และฆ่าเธอ ทั้งหมดก่อนที่เธอจะตอบสนอง?”

“เป็นไปได้ แต่ก็ยัง…” ขณะที่วารันท์ยังคงสงสัย อาร์เน่ก้าวเข้ามาใกล้ในขณะที่หยิบน้ําแข็งก้อนเล็กๆ ที่มีเลือดปนออกมา

“เจอเลือดอยู่ที่นี่ด้วย ดูเหมือนว่าเรียอาริจะพูดความจริง” เขากล่าว

“ถ้าฆ่าเธอ แล้วจะเอาศพไปทําไม” วารันท์สงสัย “เอาเศษหินนี้ออกไป ถ้าเหลือให้นับศพทั้งหมด”

นี่เป็นช่วงเวลาที่เก็นซี่กลับมา

“ความจริงก็ไม่มีเช่นกัน ยิ่งกว่านั้น เราถามประชาชน พวกเขาบอกว่าชายมีเคราบางคนบอกพวกเขาว่าจะมีการรื้อถอนบ้านที่นี่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ก้าวเข้ามาที่นี่ พวกเขาจึงไม่เห็นอะไรเลย” เขาบอกกับคนอื่นๆ

“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันพบเลือดบนหลังคาบางหลัง แต่ไม่มีศพ” เขาอธิบายเพิ่มเติม

“แปลก เลือดมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง แต่ไม่มีศพในสายตาของเรา เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่” วารันท์ถาม ในขณะที่ไม่เข้าใจว่าใครทําสิ่งนี้ได้ แล้วจะเอาศพไปทําไม? เขาไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์กลับมาแล้ว ไม่เหมือนกับแวเรียนท์เกิดใหม่

เหตุผลเดียวที่พวกเขาหาศพไม่พบก็เพราะว่าลูซิเฟอร์ดูแลพวกนั้นเอง ครั้งแรกที่เขาสลายร่าง และในขณะที่จากไป เขาได้ใช้ลมกระโชกแรงเพื่อทําให้เถ้าถ่านปลิวไปในอากาศ

ขณะที่อาร์เน่เริ่มเคลื่อนย้ายเศษหินหรืออิฐ ในไม่ช้าพวกเขาก็พบศพมากขึ้นฝังอยู่ใต้ดิน ศพทั้งหมดนี้เป็นของคนของพวกเขาที่ถูกฆ่าตาย ขณะถูกผ่าครึ่ง

“ศพที่เหลือยังคงอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่ามีเพียงไอย์ที่หายไป” เรียอาริตั้งข้อสังเกต

“อาจเป็นเพราะพวกเขาไม่ต้องการเสียเวลาเคลื่อนย้ายเศษหินหรืออิฐเหล่านี้ เขาจึงไปจัดการกับซากศพอื่น ๆ พวกเขาคงรู้ว่าเรากําลังมา” อาร์เน่แสดงความคิดเห็น

ตอนที่ 257: การไล่ล่าอีกครั้ง

บรรยากาศช่างน่ากลัว เมื่อร่างของคนจํานวนมากนอนอยู่ข้างหน้าพวกเขา และสิ่งที่พวกเขารู้ ก็คือสิ่งนี้ทําโดยแวเรียนท์เกิดใหม่

วารันท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดว่า “นําศพทั้งหมดไปไว้ในเฮลิคอปเตอร์ อย่าให้ข่าวเรื่องนี้ออกไปนะ ไม่มีใครควรรู้ว่าคนของเราหลายคนได้เสียชีวิตที่นี่ ส่วนที่อยู่ของไอย์ ฉันจะพยายาม

เขาหยุดกลางประโยค ขณะที่มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ซึ่งสามารถมองเห็นเฮลิคอปเตอร์อีกลําที่กําลังเคลื่อนเข้ามาที่นี่

เฮลิคอปเตอร์ล่าที่ 2 ไปถึงที่นั่นในไม่ช้า ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งกระโดดออกมา คราวนี้คือไร อาเคลเลียน ยาลิซ่า และนักดาบทริสตัน

ทริสตันจ้องมองไปที่ศพต่างจากคนอื่นๆ

“น่าทึ่งมาก! ดาบที่ใสสะอาดหมดจด! ฉันชอบที่จะเผชิญหน้ากับดาบของเขาในการต่อสู้” ทริสตันกล่าวพร้อมยิ้ม

แม้จะอยู่ห่างไกลเช่นนี้ เขาก็ยังเข้าใจว่าสมาชิก APE ทั้งหมดเสียชีวิตเพราะการโจมตีจากดาบ

“ไรอา ฉันไม่รู้ว่าแกเป็นคนงี่เง่ามาก หลังจากฆ่าคนของเราแล้ว แกยังกล้ามาที่นี่เหรอ อย่าบอกนะว่ากับดักทั้งหมดนี้มีไว้เพื่อที่แกจะได้พาฉันออกไป” วารันท์ถามอย่างหนักแน่น เขายังคงเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นผลงานของไรอา

“กับดักอะไร?” ไรอาถามอย่างงงๆ “ถ้าฉันต้องการให้แกออกมา แกคิดว่าฉันต้องวางกับดักจริง ๆ ไหม ฉันแค่ทําลายเมือง 2-3 เมือง แค่นั้น แล้วหลังจากนั้นแกก็จะมายืนต่อหน้าฉัน” แต่เขาก็เข้าใจบางอย่างเช่นกัน ดูเหมือนว่าลูซิเฟอร์จะปะทะกับสมาชิก APF ที่นี่ เขาฆ่าคนเหล่านั้น และคนของ APE ไม่รู้ว่าเป็นเขา

เขาเริ่มทําท่าลับๆล่อๆ ไรอาคิดและยิ้มเยาะ

“แม้ว่าฉันจะไม่ได้ฆ่าคนของพวกแก แต่ฉันก็ดีใจมากที่พบเจอกับความตายของพวกแก นั่นคือสิ่งที่พวกมันสมควรได้รับ อย่างไรก็ตาม แกรู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนทํา” เขาถามวารันท์

“เลิกยุ่งได้แล้ว! บอกฉันสิว่าแกทําอะไรกับไอย์!” วารันท์ถามพลางขมวดคิ้ว
“ฉันไม่อยากสู้ที่นี่จริง ๆ เพราะคนจํานวนมากจะตาย ดังนั้นบอกฉันทันที!”

ไรอากลับเพิกเฉยต่อวารันท์ ขณะที่เขาเหลือบมองทริสตัน

“นายแน่ใจหรือว่าเป็นเพราะการโจมตีด้วยดาบ?” เขาถามทริสตัน

“ฉันมั่นใจ 200 เปอร์เซ็นต์ ฉันยังคงสัมผัสได้ถึงรัศมีของดาบในอากาศ” ทริสตันตอบพร้อมยิ้ม

ฉันสงสัยว่าลูซิเฟอร์สามารถใช้ดาบแบบนั้นได้ เขาไม่ควรจะมีความสามารถนั้น มีใครบางคนกําลังช่วยเขา นักดาบงั้นเหรอ น่าสนใจ เขาคิดแบบนั้น

“นักดาบผู้นั้นจะแข็งแกร่งเพียงใด เมื่อเทียบกับเจ้า?” ไรอาถามต่อ

“ฉันว่าอ่อนแอกว่าฉันเล็กน้อย” ทริสตันตอบอย่างไม่ใส่ใจ “งั้นเราหยุดพูดเรื่องที่น่าเบื่อก่อนได้ไหม พวกเขาอยู่ตรงหน้าเราแล้ว ขอฉันเฉือนมันออกไปหน่อยเถอะ”

“ทําไม่ได้ เรายังต้องหาคนที่ทําสิ่งนี้ บุคคลนั้นสําคัญกว่าสิ่งใด ณ จุดนี้” ไรอากล่าว ขณะที่เขาหันหลังกลับและออกเดินทาง

“ห่วยแตกชะมัด!” ทริสตันปล่อยตัวพลางกลอกตา เขายังหันกลับมา

“เราจะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้จริงๆเหรอ?” เก็นซี่ถามวารันท์ ซึ่งดูเหมือนจะไม่หยุดพวกเขา

“ปล่อยพวกเขาไปก่อน ไม่ใช่พวกเขาที่ทําเรื่องพวกนี้” วารันท์ตอบพร้อมขมวดคิ้ว “พวกเขาพูดความจริง”

“ทําไมนายพูดแบบนั้น” เรียอาริถาม

“นายลองคิดด ทําไมพวกเขาถึงมาที่นี่เป็นการส่วนตัว ถ้านั่นเป็นฝีมือของพวกเขาตั้งแต่แรก? หลังจากฆ่าทุกคนอย่างหมดจด” วารันท์ตอบ

“ตอนแรก ฉันคิดว่าพวกเขากลับมาเพราะเป้าหมายหลักของพวกเขาคือการฆ่าฉัน แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกเขาคงไม่จากไปแบบนี้ ฉันว่าตอนนี้ฉันเข้าใจบางอย่างแล้ว” เขากล่าวเพิ่มเติม

“นายเข้าใจอะไร” เก็นซี่ถาม

“เหตุผลที่พวกเขามีคนอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก เพราะพวกเขากําลังรอใครสักคนมาที่นี่” วารันท์กล่าว

“พวกเขาต้องการให้คนนั้นเข้าร่วมทีมของพวกเขา นายพบเลือดบนหลังคา แต่ไม่มีศพ ฉันไม่คิดว่าเลือดเป็นของไอย์ ต้องเป็นของคนของพวกเขาที่คอยจับตาดูที่นี่ เราแค่ต้องส่งตัวอย่างเลือดไปที่ห้องแล็บ” เขาอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎีของเขา

“ไม่ว่าคนๆ นี้จะอยู่ที่ใด พวกเขาไม่เพียงฆ่าคนของเราเท่านั้น แต่ยังฆ่าคนของพวกเขาด้วย และตอนนี้ฉันก็ได้รับเบาะแสเช่นกัน อย่างที่เขาพูด มันเป็นวิถีของนักดาบที่ทําเช่นนั้น นักดาบระดับ S” เขากล่าวต่อ

“ถ้าอย่างนั้นการต่อสู้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร พวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับไอย์เหมือนกัน เราจะสร้างความเสียหายมากขึ้นในเมืองโดยไม่มีเหตุผล” เก็นซีกล่าวพร้อมพยักหน้า

“ไรอา! บอกฉันสักอย่างก่อนจะไป! ใครคือคนที่พวกแกรอ? ใครกันที่ทําให้เราสองคนมาที่นี่เป็นการส่วนตัว?” วารันท์ตะโกนใส่ไรอา ซึ่งกําลังจะเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์

“คนนั้นเหรอ คนนั้นน่าจะเป็นฝันร้ายสําหรับแก ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะไปหาคนๆนั้นก่อน!” ไรอาตอบกลับ ในขณะที่เขาหัวเราะออกมา เขาเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเริ่มบินออกไป

“ฉันไม่เข้าใจสิ่งหนึ่ง พวกเขารู้ได้อย่างไรว่าคนนั้นกําลังจะมาที่นี่” อาร์เน่ถามขึ้นเมื่อเกิดความสงสัย

“ฉันไม่คิดว่าพวกเขารู้ว่าคนคนนั้นก่าลังมาที่นี่ พวกเขาคงคิดว่าวันหนึ่งเขาจะมาที่นี่ หากพวกเขารู้เวลาที่แน่นอน พวกเขาจะไม่รอที่นี่เป็นเวลา 4 ปี” วารันท์ตอบ

“ฉันเดาว่ามีคนที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นอาศัยอยู่ที่นี่ และนั่นเป็นสาเหตุที่พวกเขาจับตาดูที่นี่ โดยหวังว่าคนๆนั้นจะมาหาญาติของเขาในสักวันหนึ่ง”

“การที่เราคิดว่าพวกเขาจะมาจับตาดูเวราซิตี้นั้นผิด เราคิดว่าพวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อเวราซิตี้แต่ พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อคนอื่น” เขากล่าวเพิ่มเติม

“นี่มันวุ่นวายจริงๆ จัดการกับลูซิเฟอร์ แล้วฆาตกรหมู่อีกคนก็ปรากฏตัว ประเทศนี้จะไม่มีวันสงบสุขได้หรือ” วารันท์พูดพร้อมกับท่าหมัดแน่น

“เก็นซี่ เริ่มเก็บศพคืน อย่างที่ฉันบอกไป ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”

“ฉันไม่ต้องการให้ความตื่นตระหนกกระจายไปในที่สาธารณะ และเอาภาพกล้องวงจรปิดของ เมืองนี้มาให้ฉัน แล้วเอาช่างวาดภาพให้วาดภาพร่างของชายมีเคราคนนั้น” เขาสั่งคนของเขา ขณะที่เขาเริ่มเดินจากไป

อาร์เน่และคนอื่นๆ เริ่มย้ายศพกลับไปที่เฮลิคอปเตอร์ พวกเขาใช้เวลาเพียง 10 นาทีจนเสร็จ

ในระหว่างนี้ พวกเขายังได้จัดให้มีนักวาดภาพสเก็ตช์มาจากฐานของพวกเขาเอง และยังได้ส่ง คําสั่งไปยังเมืองเพื่อส่งภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมดไปยังฐานของพวกเขาโดยเร็วที่สุด “เราพร้อมแล้วที่จะออกไป อีกทีมจะมาที่นี่เพื่อรับช่วงต่อ” เก็นซีบอกกับวารันท์ ซึ่งยืนอยู่ในระยะไกลและมองดูท้องฟ้าที่มืดมิด

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่จะต้องไล่ล่าอีกครั้ง แต่แล้วอีกครั้ง ไม่ว่าฆาตกรจะร้ายกาจแค่ไหน อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่ลูซิเฟอร์ ปัญหานี้คงไม่เลวร้ายเท่ากับปัญหาที่เขากับดวงตาของเขา ”

ตอนที่ 258: ความลับของ Limiter – ลิมิตเตอร์

รถสปอร์ต 2 คันกําลังวิ่งผ่านถนนที่ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงทั้งสองด้าน เมื่อลูซิเฟอร์ได้ยินเสียง

“เธอรู้สึกตัวแล้ว ดีจัง” เขาพึมพํา เมื่อสังเกตเห็นผู้หญิงคนนั้นเคลื่อนไหวเล็กน้อย

“ฮ่ะ” ไอย์ค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆเพื่อสังเกตว่าหัวของเธอกําลังปวดราวกับว่ามันกําลังจะระเบิด ตอนแรกเธอรู้สึกงนงง เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

เธอออกจากภายในโดมได้อย่างไร? เธอถูกจับงั้นเหรอ?

เธอเข้าใจว่าสิ่งแรกที่เธอต้องทําคือลงจากรถ เห็นได้ชัดว่าเธอถูกจับเมื่อจําได้ว่าศีรษะของเธอถูกตี สําหรับคนในรถ พวกเขาดูไม่เหมือนสมาชิกในทีมของเธอเลย

“สาวน้อย ฉันรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ อย่าใช้พลังของเธอ ถ้าเธอไม่อยากทนทุกข์” ลูซิเฟอร์กระซิบเบาๆ ข้างหูของไอย์ เมื่อไอย์ได้ยินเสียงคุกคาม เธอก็ตระหนักว่าเธออยู่กับศัตรู ไม่เพียงเท่านั้น พวกเขายังทําให้เธอนั่งบนตักของพวกเขาด้วย? เธอสงสัย

เธอจึงตัดสินใจที่จะใช้พลังของเธอและแทงคนที่ทําให้เธอนั่งบนตักของเขา เนื่องจากเธออยู่ใกล้เขามาก เธอจึงพบว่ามันเรียบง่าย ทั้งหมดที่เธอต้องการคือทํามีดน้ําแข็งเพื่อแทงคนๆนี้

เธอยกมือขึ้นเล็กน้อย เพื่อเรียกพลังของเธอ

“อ้ากกกกก!”

เสียงกรีดร้องดังก้องในรถ ซึ่งถึงกับส่งเสียงออกไป ในขณะที่หน้าต่างเปิดอยู่ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้อยู่ในเมือง จึงไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้อง

ไม่นานเสียงกรีดร้องก็หยุดลงเมื่อไอย์หมดสติอีกครั้ง

“ฉันเตือนเธอแล้ว ตอนนี้เธอโทษฉันไม่ได้แล้ว” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาส่ายหัวอย่างไม่รู้ “อย่างน้อยคราวหน้าเธอจะพยายามระวัง ถ้าเธอยังโง่ไม่พอ”

เขาเริ่มมองออกไปข้างนอกอีกครั้ง รถแล่นผ่านเมืองไปเรื่อย ๆ เมื่อผ่านไปอีก 6 ชั่วโมงก่อนที่ไอย์จะมีสติสัมปชัญญะอีกครั้ง

แต่คราวนี้เธอไม่ส่งเสียง เธอเชื่อว่าเป็นลูซิเฟอร์ที่ทําให้เธอตกใจ ในขณะที่เขาอาจสังเกต เห็นว่าเธอกําลังจะโจมตี

เธอไม่รู้ว่ามันเป็นกระบวนการอัตโนมัติเพราะสร้อยข้อมือที่อยู่บนข้อมือของเธอ

คราวนี้แผนของเธอคือโจมตี ก่อนที่ลูซิเฟอร์จะรู้ว่าเธอต่อต้านเขา

เธอพยายามเรียกพลังของเธอออกมาอีกครั้ง ขณะที่เธอหลับตา

“อ๊ากกกกก!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีกเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในรถ แต่คราวนี้กระจกหน้าต่างปิดลง ซึ่งทําให้เสียงส่วนใหญ่กลบไป เธอหมดสติไปอีกครั้ง

“คราวที่แล้วฉันประเมินค่าความฉลาดของเธอสูงไป เธอไม่ได้ฉลาดจริงๆ ใช่ไหม แต่มันไม่สําคัญ ฉันได้ยกเลิกการจํากัดการลงโทษจํานวน 3 ครั้งแล้ว เธอสามารถลองกี่ครั้งก็ได้ตามต้องการ” ลูซิเฟอร์พึมพําเบาๆ

ขณะที่การเดินทางดําเนินต่อไป ไอย์ก็ตื่นขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้ เธอไม่ได้พยายามสร้างมีดแต่ใช้พลังทั้งหมดของเธอเพื่อแช่แข็งลูซิเฟอร์

“อ๊ากกกกก!”

ด้วยเสียงกรีดร้องอันดังก้อง เธอก็หมดสติไปอีกครั้ง ตอนนี้เหตุการณ์ซ้ําเดิมเหมือนออกอากาศซ้ําแล้วซ้ําเล่า

“ทําไมเธอถึงไม่เข้าใจ นายไม่อธิบายให้เธอฟังหรือว่ามันทํางานอย่างไร เธอคงคิดว่านายทําให้เธอช็อคและสลบไป ฉันเชื่อ ถ้าเธอรู้ว่ามันเป็นแบบอัตโนมัติ เธอคงคิดว่านายไม่ได้ทําอะไรเธอ” เจียงเตือนลูซิเฟอร์

เขาสังเกตเห็นปัญหา เธอไม่ใช่คนงี่เง่า อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เขาคิด

“ฉันจะบอกเธอได้อย่างไร เธอพยายามจะทําอะไรลับๆล่อๆฉัน ก่อนที่ฉันจะรู้ตัวว่าเธอต่อต้านฉันด้วยซ้ํา ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ ทันทีที่เธอหยุดทําลับๆ ล่อๆ ฉันก็จะพยายามบอก” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน

“แต่ฉันไม่รีบ เธอสามารถใช้เวลามากเท่าที่เธอต้องการเพื่อลิ้มรสของการลงโทษ” เขากล่าวเพิ่มเติม

“คําพูดพวกนั้นฟังดูน่ากลัวนะ การจะทําให้คนอย่างเธอหมดสติ มันช่างดูประหลาด” เจียงถามพลางขมวดคิ้ว

“หลักการพื้นฐานนั้นง่ายจริงๆ เมื่อมันผูกมัดตัวเองกับบุคคล มันจะศึกษาพวกเขาเพื่อทําความเข้าใจล่าดับร่างกายของพวกเขา ณ จุดนั้น”

“เมื่อมีคนพยายามที่จะใช้พลังของพวกเขา ล่าดับร่างกายของพวกเขาจะเปลี่ยนไป สร้อยข้อมือสังเกตเห็นมันและทําให้พวกเขาสลบไป ส่วนความรุนแรงนั้นเพียงพอที่จะทําให้พวกเขาหมดสติทันที” ลูซิเฟอร์อธิบาย

แม้แต่เขาก็ยังสับสนว่ามันทํางานอย่างไร เมื่อเขาฟื้นความทรงจําได้ เพราะตามข้อมูลของเขา มันจะถูกกระตุ้นเมื่อใช้พลัง แต่พลังแห่งการเน่าเปื่อยของเขาทํางานตลอดเวลา เขาไม่เคยตกใจกับเรื่องนั้น

พลังของการเน่าเปื่อยของเขาไม่เคยหยุดนิ่ง ดังนั้นเขาจึงสงสัยว่าทําไมมันไม่ทําให้เขาสลบ ดังนั้นเขาจึงนําสร้อยข้อมือไปด้วยเพื่อศึกษาและทําความเข้าใจ

หลังจากศึกษาสร้อยข้อมือเมื่อไม่ได้ใช้งาน เขาจึงรู้ว่าเคล็ดลับคืออะไร

เหตุผลเดียวที่มันไม่ทําให้เขาสลบ เพราะพลังของการเน่าเปื่อยของเขาทํางาน เมื่อเขาสวมสร้อยข้อมือ

นั้นคือตอนที่สร้อยข้อมือกําหนดจุดเริ่มต้นของการจัดลําดับร่างกายของเขา และถือว่าพลังของการเน่าเปื่อยนั้นเป็นเรื่องปกติ

เขาเชื่อว่านั่นเป็นสาเหตุที่ให้กําไลทํางานแบบนั้นตั้งแต่ในหอประชุม เพราะเป็นที่ที่ทุกคน ผ่อนคลายและเพียงแค่นั่งเฉยๆ ดังนั้นไม่มีใครจะใช้พลังของพวกเขา เมื่อสวมกําไลเพื่อหลอก Limiter (ลิมิตเตอร์) เกี่ยวกับการจัดล่าดับร่างกายตามปกติของพวกเขา น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าพลังของลูซิเฟอร์จะทํางานได้ในขณะนั้น

สถานศึกษาเก็บเป็นความลับไม่ให้คนอื่นรู้ เพื่อไม่ให้ใครข้ามเรื่องนี้ไปปฐมนิเทศได้ แม้แต่เขาก็คงไม่เคยรู้เลย ถ้าเขาไม่ได้ตรวจสอบสร้อยข้อมือที่ไม่มีเจ้าของ

รถสปอร์ต 2 คันเข้าสู่เมืองเคนซิงตันในตอนกลางดึก ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์เจียงเคลื่อนตัวไปตามถนนที่ว่างเปล่า

พวกเขาเข้าไปในคฤหาสน์ ซึ่งได้รับการดูแลโดยยามที่เจียงเรียกมา น่าเสียดายที่ยังไม่มีคนใช้อยู่ที่นี่ มียามเฝ้าเพียงคนเดียวที่นี่ ซึ่งนั่งอยู่ที่ประตูหลักของคฤหาสน์

รถ 2 คันหยุดที่ทางเข้าคฤหาสน์ในเวลลิ่ง เจียงเป็นคนแรกที่ก้าวออกมาในขณะที่เขาหาว

“ในที่สุด เราก็กลับมา!” เขาอุทาน ขณะถอดวิกและเคราที่เขาสวมอยู่ ผิวของเขาคันแล้วหลังจากที่ใช้เวลานานในการสวมหน้ากาก

เขาเดินไปที่ด้านข้างของลูซิเฟอร์และเปิดประตู ก่อนที่เขาจะช่วยพาไอย์ออกไป

ลูซิเฟอร์ก็ก้าวออกมา ในขณะที่หาว “รู้สึกดีที่ไร้น้ําหนักถ่วงใดๆแล้ว เธอค่อนข้างหนักจริงๆ”

“นายไม่ควรแสดงความคิดเห็นเรื่องน้ําหนักของผู้หญิง จากประสบการณ์ส่วนตัวของฉัน ฉันบอกได้เลยว่ามันอาจจะดูแย่” เจียงบอกกับลูซิเฟอร์พร้อมหัวเราะ

“พอๆเลิกพูดได้แล้ว เปิดประตูให้ฉัน” ลูซิเฟอร์พูด ขณะอุ้มไอย์ไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง..

ตอนที่ 249: การควบคุมความทรงจํา

“ประเทศเรนสตอร์มนั่นเป็นชื่อเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน “ฉันจะจําไว้”

“เฮ้ อย่าถูกชื่อของมันหลอกล่ะ มันเป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดที่นั่นและเรายังมีอีกหลายสิ่งที่นายไม่เคยพบในประเทศอื่นนายต้องมาสักครั้งถ้าอยากจะเห็นว่าเราก้าวหน้าแค่ไหน”เจนิเลียกล่าวณะที่เธอขับตามแผนที่ในโทรศัพท์

“สนามบินน่าจะอยู่ตรงหัวมุม”เธอพูดเบาๆ ขณะชะลอรถ

“นั่นสินะ”

เธอหยุดรถแล้วก้าวออกไป เมื่อมองย้อนกลับไปที่ลูซิเฟอร์ เธอกล่าวว่า “ขอบคุณอีกครั้ง ฉันหวังว่าเราจะได้พบกันอีกในภายหลัง” เธออําลาพลางเดินเข้าไปในสนามบิน

ลูซิเฟอร์เปิดประตู ในขณะที่เขาก้าวออกไป เหลือบมองที่สนามบิน

“ข้อมูลนี้มีประโยชน์มาก หลังจากทําทุกอย่างเสร็จแล้ว ฉันจะต้องเดินทางไปที่สภาวอร์ล็อคแต่ฉันแน่ใจเมื่อถึงเวลานั้นทุกคนจะรู้จักชื่อของฉันการต้อนรับของฉันคงไม่ดีนัก”

รถสปอร์ตอีกคันหยุดอยู่ข้างหลังพวกเขา ซึ่งแคสเซียสและเจียงก็ก้าวออกมาทั้งสองเดินเข้าไปหาลูซิเฟอร์ขณะที่พวกเขาถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง”

“ดีกว่าที่ฉันคาดไว้” ลูซิเฟอร์ตอบ “ไปกันเถอะ เรายังต้องไปถึงเวราซิตี้”
เขาเดินกลับไปที่รถคันที่ 2 กับแคสเซียสอีกครั้ง ในขณะที่เจียงขึ้นรถคันแรกรถเริ่มเคลื่อนที่อีกครั้ง

“เมืองต่อไปคือที่ที่เธออาศัยอยู่ อีกไม่นาน” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะหยิบมันฝรั่งทอดหนึ่งห่อที่พวกเขาซื้อมาและเริ่มเคี้ยวขนม

ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะมาถึงเมือง ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเจียงหยุดรถตรงมุมหนึ่งแคสเซียสก็หยุด

พวกเขาจะไม่ไปที่บ้านของเวราซิตี้พร้อมกับรถของพวกเขา เมื่อใกล้ถึงแล้วพวกเขาก็เดินไปที่

แคสเซียส, เจียงและลูซิเฟอร์เดินเข้ามาในเมืองที่พลุกพล่าน ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในบ้านของเวราซิตี้ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้บ้านของเธอมากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งเห็นพลเมืองคนอื่นน้อยลงเท่านั้นขณะที่พวกเขาเข้าไปในย่านปอร์เช่ของเมืองเป็นชุมชนที่มีรั้วรอบขอบชิดซึ่งมีเพียงผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่หรือผู้ที่อยู่ที่นี่เพื่อพบกับพวกเขาเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้มียามอยู่ที่ นั่นด้วย

“คุณต้องการอะไร” ยามถามเจียงจากอีกด้านหนึ่งของ “เรามาที่นี่เพื่อพบคุณเวราซิตี้เธอเป็น เพื่อนของเราให้เราเข้าไป” เจียงบอกผู้คุม

“เพื่อนของคุณ? ฉันขอโทษ แต่ข้อแก้ตัวนั้นใช้ไม่ได้เธอบอกโดยเฉพาะว่าเธอไม่ต้องการให้แขกมาที่บ้านของเธอไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครดังนั้นคุณมาไม่ได้” ยามพูดจากอีกด้านของประตู

“คุณไม่ใช่คนแรกที่ใช้ข้อแก้ตัวนี้ เธอมีชื่อเสียงและแฟน ๆ ของเธอจํานวนมากพยายามทําเช่นนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณมีข้อแก้ตัวอื่นอีกไหม?”เขาถามขณะหัวเราะ

เจียงเกาหัวด้วยความพ่ายแพ้ เขามองดูลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาพูด “คุณรับช่วงต่อได้แล้ว”

ลซิเฟอร์แตะเท้าของเขาเบา ๆ บนพื้นขณะที่เขาบินไปในอากาศ เขาบินจากเหนือประตูไปยัง

ที่ดินตรงหน้ายาม

“นี่เป็นข้อแก้ตัวยังไงล่ะ” ลูซิเฟอร์ถาม ขณะจับคอของยาม

“นะ-นาย ปล่อยฉัน!” ยามพูด ขณะที่หน้าซีดด้วยความกลัว

“ถ้าคุณบอกใครเกี่ยวกับการปรากฏตัวของเราที่นี่ คุณจะไม่มีชีวิตอยู่เพื่อต้องการข้อแก้ตัวอีก ในอนาคต” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะที่เขาโยนยามไปด้านข้างเขาพลางเปิดประตูให้เจียงและแคสเซียสเข้าไปด้วย

“ฟังเขา ถึงแม้ว่าฉันจะหยุดเขาไม่ได้ เมื่อเขาโกรธ” เจียงบอกยาม ขณะที่เขาหัวเราะเขาสนุกกับการเป็นคนเลวแบบนี้

“บ้านไหนเป็นของเวราซิตี้” ลูซิเฟอร์ถามทหารยาม ขณะที่เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ

“ข้างในสด แต่เธอไม่อยู่บ้าน” ยามตอบอย่างเคารพราวกับว่าเขาได้เรียนรู้บทเรียนของเขาแล้ว

“รับหมายเลขนี้ไป ฉันต้องการให้คุณส่งข้อความถึงฉันเมื่อเวราซิตี้มาถึงที่นี่” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขาเริ่มเดินไปข้างหน้า หลังจากให้หมายเลขแก่ยาม

ขณะที่เขาเดินไปกับเจียงและแคสเซียส เขาก็สังเกตเห็นบางอย่าง “มีคนคอยดูเราอยู่”

“นายรู้สึกอย่างนั้นด้วยเหรอ? พวกเขานี่แย่จริงๆ ฉันสังเกตเห็นบางอย่างบนหลังคาเช่นกันไม่สิรู้สึกเหมือนพวกเขาจะเป็นมนุษย์” แคสเซียสพูดพร้อมพยักหน้า

“ทําไมแวเรียนท์จํานวนมากถึงจับตาดูย่านเวราซิตี้? พวกเขารู้เรื่องการมาถึงของเราหรือไม่คุณเป็นคนเดียวที่สามารถรับประกันความสนใจในหมู่ พวกเราสามคน”เจียงพูดพร้อมขมวดคิ้ว

“ไม่เป็นไร ไม่มีใครจับตาดูฉันอีก” ลูซิเฟอร์พูดออกมา ขณะที่เขาเหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเขาบินตรงขึ้นไปในอากาศขณะที่เขาเดินเข้าไปหาคนที่อยู่ใกล้ที่สุดที่คอยจับตาดูเขาอยู่ชายคนนั้นใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อจับตาดูคนสามคนที่เพิ่งเข้ามา

เมื่อเขาเห็นหนึ่งในนั้นหายไป ขณะที่เขาตกตะลึง เขาเห็นทุกอย่างเปลี่ยนเป็นสีดําเนื่องจากเขามองไม่เห็นอะไรเลยด้วยกล้องส่องทางไกลเขานําพวกมันออกไปจากสายตาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อนั้นเองที่เขาได้ยินเสียง

“กําลังมองหาฉันอยู่หรือ”

ตุ้ม!

ในเวลาเดียวกัน เขาก็ได้ยินเสียงอื่น เขามองขึ้นไปบนบ้านอีกหลังที่เพื่อนของเขายืนอยู่ก่อนหน้านี้แต่ตอนนี้

เห็นเพียงร่างที่ไร้ศีรษะของเขานอนอยู่บนหลังคา

“ทําไมไม่ตอบ คุณกําลังมองหาฉันอยู่หรือเปล่า”ลูซิเฟอร์ถามพลางยิ้มเยาะราวกับปีศาจขณะที่เขาคว้าชายคนนั้นที่คอของเขา

“เรามาจากแวเรียนท์เกิดใหม่!”ชายคนนั้นตอบพลางหายใจลําบาก

“อา ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว มันคงเป็นผลงานของผู้ทํานาย ผู้ชายคนนั้นฟังดูน่ารําคาญสักวันฉันต้องได้เจอเขา”ลูซิเฟอร์พึมพํา พลางขมวดคิ้ว“แต่มันไม่สําคัญคงจะดีถ้าทุกคนเห็นฉันแต่ตอนนี้ยังไม่ได้ฉันปล่อยให้คุณอยู่ไม่ได้”

“อ-อย่านะ!” ชายคนนั้นพูด ขณะที่หน้าซีด

“ผมปล่อยให้คุณอยู่ได้ด้วยเงื่อนไขเดียว ถ้าคุณบอกฉันว่าคนอื่นกําลังซ่อนตัวอยู่ที่ไหนในขณะนี้ช่วยบอกที่ตั้งสํานักงานใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่ ให้ฉันด้วย”ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

“ฉันไม่รู้ที่ตั้งสํานักงานใหญ่ พวกเราไม่มีใครรู้ เว้นแต่ท่านผู้นํา เมื่อมีคนถามพวกเราจะลืมคําตอบของมันไป” ชายคนนั้นตอบ

“เป็นไปได้ยังไง? คุณโกหกหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถาม พลางขมวดคิ้ว

“เราไม่ได้โกหก แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร” ชายคนนั้นตอบ

“ดูเหมือนว่ามีใครทําอะไรกับหัวคุณหากเป็นกรณีนี้และนี่ไม่ใช่สิ่งเดียวที่พวกเขายุ่งด้วยตามที่คาดไว้ไม่มีใครได้เรื่องเลย”ลูซิเฟอร์พึมพําในขณะที่เขาเข้าใจว่ามันจะเป็นอย่างไรแวเรียนท์เกิดใหม่กําลังยุ่งกับหัวหน้าของสมาชิกที่อ่อนแอกว่าของพวกเขา

ตอนที่ 248: หินก้อนอื่น ๆ

“ก็ดี เราควรจะมีข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เพื่อช่วยให้ตัวเองดีขึ้น” แคสเซียสเห็นด้วยทันที

เจียงไม่ต้องการข้องเกี่ยวอะไรกับ APF แต่เขาก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่สามารถปฏิเสธได้

“กุญแจอยู่ในรถ แล้วฉันจะไปรถคันที่ 2 กับแคสเซียส” เขากล่าว

ลูซิเฟอร์พยักหน้าก่อนจะเดินกลับไปที่รถคันแรกเขาเข้าไปในรถเพื่อนั่งบนเบาะผู้โดยสารก่อนจะเปิดประตูฝั่งคนขับ ขณะที่เขาบอกเจเนเลียว่า “เข้ามาเลย”

“เบาะคนขับเหรอ ให้ฉันขับเหรอ” เจเนเลี้ยถามลูซิเฟอร์ด้วยความประหลาดใจ

“อย่าเสียเวลาอีกเลยและขับรถ” ลูซิเฟอร์พูดอีกครั้งพร้อมขมวดคิ้ว เจนเลียก้าวเข้าไปในรถ โดยไม่ต่อต้าน ขณะที่เธอเริ่มขับมันแคสเซียสขับรถคันที่ 2 ตามคันแรก

“น่าแปลกใจที่ได้พบคุณกับ APP คุณไม่ได้อยู่ในสภาวอร์ล็อคหรอกหรือ แล้วมันเกี่ยวกับอะไร? คุณสองคนทํางานด้วยกันไหม?” โดยไม่ต้องรอนาน ลูซิเฟอร์ก็ตรงไปที่ประเด็น

“โอ้ นั่นน่ะเหรอ ฉันบอกไม่ได้หรอก ตอนนี้มันเป็นความลับ” เจนิเลียพูดพลางส่ายหัว

“ไม่เอาน่า เธอบอกว่าเราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ ฉันบอกใครไม่ได้หรอก ฉันแค่สงสัย นักธุรกิจอย่างฉันไม่มีความสนใจในเรื่องนี้ นอกจากความสงสัยในตัวเอง” ลูซิเฟอร์ตอบพลางแสร้งทําเป็นว่าไม่สนใจ

“นายเป็นแค่นักธุรกิจธรรมดา ๆ จริง ๆ เหรอ ทําไมผู้ชายคนนั้นที่ต่อสู้กับเทียนถึงอยู่กับนาย แล้วนายรู้จักเขาได้ยังไง ดูเหมือนนายจะไม่ธรรมดาขนาดนั้น” เจนเลียตอบ ขณะที่เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

คนๆนั้นถึงกับข่มขู่เธอได้ เขาไม่มีทางอ่อนแอได้เลย เนื่องจากเขาอยู่ใกล้ชิดกับลูซิเฟอร์มาก เห็นได้ชัดว่าสองคนนี้สนิทกัน

“อ้อ คุณกําลังพูดถึงแคสเซียสเหรอ เขาเป็นบอดี้การ์ดของฉัน แต่เขาก็เก็บค่าตัวสูงลิ่ว แต่โชคดีที่ฉันสามารถจ่ายได้เพราะฉันมีรายได้เพียงพอ ถึงฉันจะล้มละลายแต่ฉันก็โอเคที่จะจ่ายค่าตัวของเขา ขอแค่ให้เขาดูแลฉันให้ปลอดภัยก็พอ”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“อ่า เป็นแบบนั้นเองสินะ ดูเหมือนว่าฉันจะคิดมาก” เจนเลี้ยพูดออกมาขณะที่เธอส่ายหัว

“ใช่แล้ว คุณมาที่นี่ทําไม คุณช่วยบอกฉันให้หยุดความอยากรู้ของฉันหน่อยได้ไหม” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

“อันที่จริงสภาวอร์ล็อคส่งฉันมาที่นี่เพื่อเอาอะไรบางอย่าง พวกเขาต้องการหินแห่งการทําลายล้างที่ลงวารันท์เก็บไว้” เจนเลี้ยอธิบาย “ก็เลยส่งฉันมาที่นี่เพื่อเริ่มการสนทนา”

“หินแห่งการทําลายล้าง?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย “อะไรคือสิ่งนั้น?”

“คุณไม่รู้หรอก ฉันแน่ใจ ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้”

“แต่มีหินแห่งการทําลายล้างทั้งหมด 7 ก้อนที่ก่อตัวขึ้นในมหาสงครามครั้งใหญ่ครั้ง มีเพียงการแยกพวกมันออกจากกันที่มหาสงครามสิ้นสุดลง นั่นคือคําอธิบายง่ายๆ” เจนเลียตอบ ขณะที่เธอบอกลูซิเฟอร์ราวกับว่าเขาเป็น

มนุษย์ที่โง่เขลา ไม่รู้เรื่องหิน

“หิน 7 ก้อนนั้น? ฉันคิดว่าวารันท์และคนอื่น ๆ เก็บความลับนั้นไว้ในสถานที่ลึกลับ แต่ประเทศชั้นนําของประเทศอื่น ๆ ก็รู้เช่นกัน? นั่นเป็นเรื่องลําบาก ลูซิเฟอร์คิดพลางขมวดคิ้ว เขาไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้จริงๆ

“คุณบอกว่ามีคนไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้ ฉันคิดว่ามหาสงครามสิ้นสุดลงที่เอลิเซียม แล้วประเทศอื่นรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร” ลูซิเฟอร์ถามตรงๆ

“อย่าคิดมาก ข้อมูลมีทางออกเสมอ สภา Warlock ของเรามีหินก้อนหนึ่งเหมือนกัน เหมือนที่วารันท์มี” เจนิเลียตอบ

“อันที่จริง มีผู้นําระดับสูงของหลายประเทศที่รู้เรื่องนี้แล้ว และอันที่จริง หินทั้ง 5 ใน 7 ก่อนนั้นถูกพบแล้ว” เธอกล่าวเพิ่มเติม

“พบแล้ว 5 ก่อนงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์เปล่งแสงออกมาพร้อมประกายแวววาวในดวงตาของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องทํางานหนักเพื่อค้นหาพวกมัน เขาสามารถรับได้เพียง 5 คนเท่านั้น นี่เป็นสิ่งที่ดีเขาเชื่อ

“ใครมีหินห้าก้อนนั้นบ้าง” เขาถามขณะขุดล็ก

“หนึ่งอยู่กับสภาวอร์ล็อค ก้อนที่ 2 อยู่กับ APF ก่อนที่ 3 อยู่กับราชวงศ์ของ อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ สําหรับอีก 2 ก้อนฉันไม่รู้ที่ตั้งของพวกมันหรอก” เจนเลียตอบ

“ฉันไม่สามารถเข้าถึงบันทึกของพวกเขาได้ เนื่องจากฉันเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน ฉันรู้แค่ว่า พวกมันมี 5 ก้อนจากทั้งหมด 7 ก่อนเท่านั้น”

“แต่สันนิษฐานว่า 1 ใน 2 ก้อนที่หายไปนั้นนอนอยู่ก้นทะเลที่ไหนสักแห่ง น่าเสียดายที่เราไม่สามารถค้นพบสิ่งนั้นได้แม้หลังจากค้นหาทะเลแล้ว”

“ราชวงศ์ของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์, สภาวอร์ล็อค และ APE… น่าสนใจ” ลูซิเฟอร์พึมพํา ในขณะที่เขาพยักหน้า

“ช่างเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ คุณและวอร์ล็อคช่างน่าทึ่งจริงๆ พูดตามตรง คุณจัดการกับสิ่งพิเศษมากมาย ฉันหวังว่าฉันจะเป็นวอร์ล็อคได้เหมือนกัน หรือแม้แต่แวเรียนท์อีกด้วย” ลูซิเฟอร์ถอนหายใจราวกับว่าเขาเศร้าจริงๆ ที่เขาเป็นมนุษย์ธรรมดา

“นั่นเป็นความจริง พวกเราวอร์ล็อคมีแนวโน้มที่จะมีชีวิตที่ดีกว่ามนุษย์ส่วนใหญ่” เจนิเลียตอบ

“ไม่มีใครทําร้ายคุณและคุณสามารถทําตามที่คุณต้องการตราบใดที่คุณไม่ก่ออาชญากรรม แต่การเป็นมนุษย์ก็ไม่เลวเหมือนกัน คุณควรมีความสุขกับสิ่งที่คุณมี” เธอกล่าวต่อ

“มีชีวิตที่ดีกว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ คุณพูดถูก เผ่าพันธุ์ที่มีชีวิตที่ดีมากจนฉันนึกไม่ถึงเลย” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาอดไม่ได้ที่จะนึกถึงเด็กๆ ทั้งหมดที่ถูกแซนเดอร์ฆ่าตายนอกโรงงาน

การทดสอบและ การเสียชีวิตในห้องทดลอง เขารู้สึกขบขันว่าผู้หญิงคนนี้ไร้เดียงสา โลกไม่ได้สดใสอย่างที่คิด ความใคร่ในอํานาจและอํานาจทําให้โลกนี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

“ทําไมสภาวอร์ล็อคต้องการหินของ APF หรือไม่? คุณไม่ได้บอกว่าหินทั้ง 7 ก้อนนี้เกือบจะนํามาซึ่งความพินาศหรือ ทําไมสภาวอร์ล็อคถึงต้องการอย่างนั้นล่ะ?” ลูซิเฟอร์ถาม ในขณะที่เขากลับมาที่หัวข้ออีกครั้ง

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่พวกเขาบอกว่ามันสําคัญ ฉันจึงมาที่นี่” เจนิเลียตอบ

“ถ้ามันสําคัญมาก ทําไมพวกเขาถึงส่งเด็กฝึกงานมาที่นี่? พวกเขามาเองก็ได้” ลูซิเฟอร์ตอบ

“เพราะพวกเขาคิดว่าฉันสามารถโน้มน้าวลุงวารันท์ได้ ฉันเป็นหลานสาวของเขา แม่ของฉันเกิดที่เอลิเซียม เธอแต่งงานกับพ่อของฉัน ซึ่งมาจากทวีปอื่น และย้ายไปอยู่ที่นั่นกับเขา” เจนิเลียตอบ

“ฉันก็มีความเกี่ยวข้องกัน และสภาคิดว่าฉันสามารถบรรลุผลสําเร็จนี้ได้ เนื่องจากลงวารันท์ปฏิเสธที่จะให้พวกเขา เมื่อพวกเขามาด้วยตนเอง”เธอพูดต่อ

“คุณเป็นหลานสาวของเขาเหรอ เขาต้องดูแลคุณดีจริงๆ” ลูซิเฟอร์พึมพําในขณะที่ความคิดลอยอยู่ในหัวของเขา เขาสามารถใช้เธอเพื่อนําวารันท์ออกจากที่ซ่อนได้ เมื่อเขาต้องการเขาในอนาคต

“ใครๆ ก็คิดอย่างนั้น แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เขาไม่แม้แต่จะพบฉัน เขามีแวเรียนท์ที่ไร้ประโยชน์เพียงคนเดียวที่จะดูแลฉันระหว่างที่ฉันอยู่ที่นี่ นอกนั้นฉันยังไม่เห็นเขาเลย เขาหยิ่งเกินไป” เจนิเลียตอบขณะที่เธอกลอกตา

“เขาเลยไม่สนใจคุณ น่าผิดหวังจริงๆ” ลูซิเฟอร์พึมพําพลางขมวดคิ้ว

“อย่างน้อยเขาก็ยอมให้หินก้อนนั้นแก่คุณหรือเปล่า”

“ฉันสงสัยว่าเขาจะให้ คําตอบทั้งหมดที่ฉันได้คือวารันท์ปฏิเสธที่จะให้หินใด ๆ แก่ฉัน”

“ตอนนี้ฉันแค่เสียเวลาที่นี่ ความจริงวันนี้ฉันจะกลับแล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะไปสนามบินในเมืองถัดไป” เจนิเลียตอบ

“น่าสนใจ นั่นคืองานสําคัญที่คุณขอ” ลูซิเฟอร์พึมพํา “คุณกําลังจะออกจากเมือง”

“ถูกแล้ว ฉันไม่อยากพลาดเที่ยวบินกลับ ยังไงก็ตาม นายมาในฐานะเทวดาผู้พิทักษ์ขอบคุณมาก นายมีเบอร์ฉันแล้วใช่ไหม อย่างที่บอก โทรหาฉันเมื่อนายต้องการความช่วยเหลือจากฉัน” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมพยักหน้า เขาไม่ได้บอกเธอว่าเขาโยนเบอร์เธอทิ้งไปแล้ว แต่เขาก็ยังจําเบอร์นั้นได้

“ถ้านายมาที่ประเทศเรนสตอร์มแจ้งฉันด้วย ฉันจะชดเชยให้โดยพานายดูรอบๆ” เจนเลียพูดต่อ ขณะที่รถแล่นเข้าสู่เมืองถัดไป

ตอนที่ 247: รับรู้

เขาสามารถใช้กิ่งไม้เป็นดาบและตัดโลหะด้วยมันได้ พลังทั้งสองของเขาทํางานร่วมกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันด้วยพลังครั้งแรกของเขา เขาได้จัดการวัตถุใดๆ ก็ตามให้กลายเป็นดาบ ของเขา

ในทางกลับกัน ด้วยพลังอื่นของเขา ซึ่งต้องการให้เขาถือดาบ เขาใช้วัตถุนั้นเพื่อโจมตีสิ่งนี้ทําให้เขาสามารถจัดการกับศัตรูได้ แม้ในขณะที่เขาไม่มีอะไรเลยเขาสามารถใช้กระดาษเป็นดาบได้หากต้องการ

“ไม่เช่นนั้น ฉันจะบังคับให้แกมอบรถของแกให้ฉัน” ชายผมดําพูดอย่างโกรธเคือง “เราคือผู้พิทักษ์ประเทศการเดินทางของเราสําคัญกว่าคุณ!”

“อย่ากังวลไป ฉันรู้เรื่องของคุณมากพอที่จะรู้ว่าคุณเป็นผู้พิทักษ์แบบไหนเรามีคนอย่างคุณในประเทศของฉันด้วย” แคสเซียสตอบยิ้มๆ

“เจียง ขึ้นรถแล้วสตาร์ท ฉันจะดูว่าใครห้ามไม่ให้คุณออกไปวันนี้” เขาบอกเจียงที่พยักหน้าเจียงเองก็แปลกใจเช่นกัน ดูเหมือนว่าเพื่อนของลูซิเฟอร์จะบ้าพอๆกับเขา

“ฉันจะทุบรถให้แบ่งครึ่ง ถ้าแกลองสัมผัสมัน!” แวเรียนท์ผมสีเข้มเตือนเจียง

แคสเซียสยิ้มในขณะที่เขาก้าวออกไป “แน่นอน ฉันขอทําให้คุณสัมผัสรถ หลังจากนั้นคุณ โทษฉันไม่ได้” เขาพูดยิ้ม ๆ แต่ความโกรธก็ปรากฏชัดในรอยยิ้มของเขา เขาพร้อมที่จะตัดมือผู้ ชายคนนี้จริงๆ ถ้าเขาแตะรถไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเขาเกลียดคนตรงหน้าจริงๆ ยังไงก็ตามเขาไม่ได้หวังที่จะเป็นเพื่อนกับ APE จริงๆ

“มันยากตรงไหนกัน นี่แกคิดว่าทําให้ฉันกลัวได้งั้นเหรอ เหอะ” ชายผมดําพูดขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่รถอย่างเย่อหยิ่ง

ลูซิเฟอร์ไม่เข้าไปยุ่ง ในขณะที่เขายืนอยู่ข้างๆ พลางกอดอก เขาให้อิสระกับแคสเซียสที่จะทําทุกอย่างที่เขาต้องการ ส่วนที่เหลือ เขาจะจัดการเอง

ขณะที่ชายผมสีเข้มเดินไปที่รถ เจนเลี้ยสัมผัสได้ถึงอันตราย เธอไม่รู้ว่าทําไม แต่เธอกลับรู้สึกน่ากลัวจากแคสเซียส

ส่วนมือของแคสเซียสเริ่มเรืองแสง ซึ่งเตือนเธอมากยิ่งขึ้น แคสเซียสเป็นแวเรียนท์เธอแน่ใจ ในเรื่องนี้

“ถ้าเขาให้ความรู้สึกที่น่ากลัวแม้กระทั่งกับฉัน เขาคงไม่ได้อ่อนแอ นี่คือการต่อสู้ที่ไม่คุ้มเสียเลย” เธอคิดขณะขมวดคิ้ว

“เทียน! หยุดตรงนั้น! นี่ไม่ใช่วิธีการพูดคุยกับผู้คนที่เราขอความช่วยเหลือกลับมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”เธอบอกชายผมดําและหยุดเขา เมื่อมือของเขาอยู่ห่างจากรถเพียงไม่กี่เซนติเมตรชายผมสีเข้มที่รู้จักในชื่อเทียนหยุดขณะที่เขาหันกลับมา

“แต่คุณเจนเลี้ย?”

“กลับมา ถ้าพวกเขาไม่ต้องการให้เราก็ไม่เป็นไร เราไม่สามารถเป็นอันธพาลและทําอย่างนั้นได้กลับมา เราจะรอคนอื่น” เจนเลียบอกเทียนโดยไม่ปล่อยให้เขาทําไม่ว่าในกรณีใดพวกเขาทําผิดที่นี่

เทียนพยักหน้า แม้ว่าเขาจะดูไม่เต็มใจ เขาเดินกลับมา ขณะที่เขาจ้องมองแคสเซียสขณะพูดว่า “แกเป็นเด็กที่โชคดี”

แคสเซียสไม่ตอบสนองเมื่อเขาเริ่มเดินกลับ

“ลูซี่ ไปกันเถอะ” เขาพูดพร้อมบอกลูซิเฟอร์ให้ไปกับเขา ขณะที่แคสเซียสคุยกับลูซิเฟอร์ซึ่งยืนอยู่แต่ไกล สายตาของเจนเลยจ้องมาที่เขา

“หือ? นี่นายนั่นเอง!”เธอพูดด้วยความประหลาดใจ ขณะที่วิ่งไปหาลูซิเฟอร์

“คุณมาทําอะไรที่นี่? คุณบอกว่าคุณจะไปที่อื่นไม่ใช่หรือ” เธอถามลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ต้องการสาปแช่ง แคสเซียสที่ดึงความสนใจของหญิงสาวคนนี้มาให้เขา

เขาพยักหน้าอย่างสงบ ในขณะที่เขาตอบว่า “ฉันเคย แต่แล้วการพบกันใหม่ก็มาถึงซึ่งอยู่ใน เอลิเซียม ฉันก็เลยมาจบลงที่นี่เหมือนกัน อย่างไรก็ตามฉันกําลังจะไปประชุมสายฉันจะไปสายแล้ว” ลูซิเฟอร์หันหลังกลับขณะที่เขาเริ่มออกเดินทาง

“เดี๋ยวก่อน! เราไม่ใช่เพื่อนกันเหรอ? ฉันขอขึ้นรถไปด้วยได้ไหม” เจนเลียถามเมื่อรู้ว่าลูซิเฟอร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย เนื่องจากเป็นเขาเธอจึงขอความช่วยเหลือจากเขาได้เธอช่วยเขาด้วยการมอบแล็ปท็อปให้เขาด้วย

“ฉันขอโทษ แต่เราไม่มีที่นั่งเพียงพอ รถทั้งสองคันเป็นรถสองที่นั่ง และเรามี 3 คนเราไม่สามารถรองรับคุณสองคนได้ จะดีกว่าถ้าคุณรอรถคันอื่น” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมขมวดคิ้ว

“ไม่เป็นไร ฉันจะนั่งบนตักของคุณ” เจนิเลียตอบพร้อมหัวเราะ

ลูซิเฟอร์มองเธออย่างประหลาด ขณะที่เขาขมวดคิ้ว “ขออภัย ตักของฉันก็ยุ่งเหมือนกัน ฉันต้องการโทรวิดีโอคอลในรถ ไม่สามารถมีคุณไปด้วยได้จริงๆ ขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้”

“เดี๋ยวก่อน! ฉันล้อเล่น! อารมณ์ขันของนายไปอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตาม ที่ฉันหมายถึงคืออยากให้นายพาฉันไปที่เมือง สําหรับเทียน เขาจะกลับมาในรถคันอื่นในภายหลังดูสิ? 4 ที่นั่ง และ 4 คน แก้ปัญหาได้แล้ว” เจนิเลียพูดโดยไม่ยอมแพ้

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ปฏิเสธทันที เพราะเขาพบว่ามันเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจเธอมาจากสภาวอร์ล็อคและเธอก็ไม่ได้สงสัยในตัวเขา เขาสามารถรับข้อมูลได้จากเธอได้นั่นคือสาเหตุว่าทําไมเธอถึงอยู่กับ APF แต่ก็มีปัญหาเช่นกันมีคนขับแค่ 2 คนคือเจียงและแคสเซียส

ดังนั้น 2 คนนี้จึงนั่งในรถได้เพียง 2 คันเท่านั้น เขาได้รับข้อมูลจากเธอได้อย่างไร

“นายช่วยขับรถไปได้ไหม?” เขาถามหญิงสาว

“แน่นอน ผู้ใหญ่แบบไหนจะโง่ถึงขับรถไม่เป็นกันล่ะ” เจนิเลียพูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจแม้ว่าเธอจะพูดคําเหล่านี้โดยไม่ตั้งใจ ประโยคเหล่านั้นก็โจมตีลูซิเฟอร์โดยตรงทําไมทุกคนรู้วิธีขับรถ? ดูเหมือนว่าเขาจําเป็นต้องเรียนรู้มันเร็วๆนี้

“แล้วคุณจะไปเมืองต่อไปไหม” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

“ถูกต้อง นายสามารถส่งฉันไปที่เมืองถัดไปได้” เธอตอบ

“เธอจะไปแค่เมืองถัดไป ฉันสามารถอุ้มเธอขึ้นและได้รับคําตอบ หลังจากนั้นเราก็สามารถเดินทางได้ไม่ว่าในกรณีใด เราจําเป็นต้องผ่านมันไปเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของเราลูซิเฟอร์
คิด

“เอาล่ะ คุณไปกับพวกเราได้” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมพยักหน้า

“แต่คุณเจนเลีย คุณไปคนเดียวกับคนแปลกหน้าพวกนี้ได้ยังไง” เทียนถามอย่างไม่เข้าใจ “ผมก็ต้องไปกับคุณด้วย”

“ฉันขอโทษเทียน แต่คุณไม่สามารถมาได้ ไม่มีที่นั่ง ฉันจะไปล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นฉันจะไปสาย คุณสามารถมาทีหลังได้” เจนเลียตอบ “และนั่นคือทางสุดท้าย”

“แต่..

“ไม่มีแต่! คุณคิดว่าฉันเป็นเด็กที่ดูแลตัวเองไม่ได้เหรอ ฉันทําได้ คุณอยู่ข้างหลังฉันก็พอ”เจนเลียตอบขณะจับมือลูซิเฟอร์ที่มีถุงมือสีดํา

ลูซิเฟอร์ปล่อยมือ ขณะเดินไปหาเจียงและแคสเซียสและพาพวกเขาไปไกลโดยทิ้งเจเนเลียไว้ข้างหลังเพื่อที่เขาจะได้อธิบายว่าเขาต้องการทําอะไร ..

ตอนที่ 246: ปะทะกับ APF

“เจ้าคิดผิด เจ้าไม่สําคัญสําหรับเรา ข้าจะปล่อยไปก่อน แน่นอนอันที่จริงถ้าเจ้าบอกข้ามาก่อนหน้านี้ เจ้าก็คงเป็นอิสระแล้ว” วารันท์ตอบอย่างใจเย็น

“เจ้าสัญญาว่าจะปล่อยข้า ถ้าข้าบอกเจ้างั้นหรือ?” เคนถามอีกครั้งด้วยความสงสัย

“ข้าสัญญา” วารันท์พูดซ้ํา อย่างครุ่นคิด “บอกข้าที สํานักงานใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่อยู่ ที่ไหน ไรอาอยู่ที่ไหน?”

เคนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาเริ่มพูด “สํานักงานใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่ คือ …”

วารันท์ดูเหมือนจะพอใจ เมื่อเคนเริ่มพูดถึงสํานักงานใหญ่ เขาเริ่มฟังอย่างระมัดระวัง

“สานักงานใหญ่เวเรียนท์เกิดใหม่อยู่ที่..” เคนพูดก่อนจะหยุด

“มันคือที่ไหน…? พูดต่อ อย่าหยุด” วารันท์ยืนกราน

“เจ้าสัญญาว่าจะปล่อยข้าไปใช่ไหม? ไม่กลับคําแน่หรือ” เคนถามอีกครั้ง

“สัญญา!” วารันท์หนักแน่น

“เอาล่ะ สํานักงานใหญ่ แวเรียนท์เกิดใหม่อยู่ที่…. มันอยู่ที่หลุมแม่ของแกไง!” เคนพูด ในขณะที่เขาหัวเราะออกมาอีกครั้ง ปากของเขายังมีเลือดไหล เขายังเจ็บปวดอยู่ แต่มันก็ไม่เป็นไร เขาไม่ยอมแพ้

“แก!”

น้ําเสียงของเขา ทําให้วารันท์โกรธมากขึ้น เมื่อเขาคว้าคอเคนด้วยมือและหักแขนทั้งสองข้าง และบิดอย่างโหดเหี้ยม

“ฮ่าๆๆๆๆ! ฮ่าๆๆๆ!” วารันท์พูด ขณะเหวี่ยงเคนไปที่กําแพง ทําให้เขาชนกับกําแพง

“เจ้าจะไม่มีวันเรียนรู้ แต่มันไม่สําคัญ อีกไม่กี่เดือนข้าจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อกระดูกของเจ้าสมานเพื่อแตกออกอีกครั้ง”

“ข้าทําไปเพียง 12 ครั้งเท่านั้น ทําให้มันหายเร็วเหมือนครั้งที่แล้ว ฉันจะส่งหมอไปช่วย” วารันท์กล่าวอย่างใจเย็น ขณะที่เขาออกจากห้องโดยทิ้งเคนที่หมดสติไว้ข้างหลัง

“ฉันจะดูว่าแกจะหลีกเลี่ยงการตอบฉันได้นานแค่ไหน”เขาล็อคประตูอีกครั้งแล้วจากไป

ไอย์ไปเฮลิคอปเตอร์หุ้มเกราะ ที่ด้านบนสุดของสํานักงานใหญ่ APF เพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านของเวราซิตี้ ในเวลาเดียวกัน รถสปอร์ต 2 คันก็แข่งกันที่บ้านของเวราซิตี้

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในรถคันที่ 2 ที่กําลังวิ่งด้วยความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงบนถนนที่ว่างเปล่า เขาเอามือออกนอกหน้าต่าง เมื่อรู้สึกว่าลมพัดมาที่มือ เขาถอดถุงมือออกเพื่อจุดประสงค์นี้เพียงอย่างเดียวดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นเมื่อแคสเซียสเบรกกระทันหันไป 2-3 เมตร ก่อนที่มันจะหยุดจริง ๆ ก่อนที่มันจะชนรถของเจียงที่หยุดอยู่ข้างหน้า

“ทําไมเขาถึงเหยียบเบรกกระทันหัน? ผู้ชายคนนั้นไม่รู้ว่าเราอยู่ข้างหลัง? เราอาจประสบอุบัติเหตุ” แคสเซียสกล่าว ขณะขมวดคิ้ว เมื่อเปิดประตู เขาก็ก้าวออกจากรถ

ลูซิเฟอร์ยังสวมถุงมือ ขณะออกไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เจียงหยุดรถทําไม ลูซิเฟอร์และแคสเซียส เดินไปหาเจียงเมื่อลูซิเฟอร์เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร

ริมฝีปากของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่เขาพูดพึมพํา “เธอมาทําอะไรที่นี่?”

“เฮ้ สาวน้อย! คุณบ้าหรือเปล่า! กระโดดลงมาอยู่หน้ารถฉันทําไมโอยากโดนรุมกระทืบงั้นเหรอ?”ลูซิเฟอร์เห็นเจียงโต้เถียงกับสาวผมเงิน ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจนเลียที่ลูซิเฟอร์พบบนเรือ แต่นางไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว มีชายคนหนึ่งยืนอยู่กับเขาซึ่งอยู่ด้วยสวมชุดเครื่องแบบ APF

ลูซิเฟอร์เอาแว่นกันแดดออกมาปิดตา

“ไม่เอาน่า รถฉันหยุดทํางานกลางทางฉันต้องไปเมืองต่อไปโดยด่วน ฉันขอรถนายหน่อยได้ไหม?” เจนิเลียถามเฉียง เธอหมกมุ่นอยู่กับการพูดมากซะจนไม่ได้สังเกตลูซิเฟอร์ในระยะไกล

“นั่นคือวิธีของั้นหรือ ไม่! นั่นเป็นทางลงนรกภายในไม่กี่นาที! พระเจ้า ฉันแปลกใจมากที่ฉันไม่ได้ชนเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ” เจียงพูดอย่างโกรธจัด

“ถอยไป เราไม่มีเวลาแล้ว เราต้องไปแล้ว”

“คุณหนู ฉันไม่คิดว่าวิธีนี้จะใช้ได้ผล ให้ฉันรับช่วงต่อเถอะ” ชายจาก APF กล่าวขณะก้าวไปข้างหน้า

“ฟังนะ ฉันมาจาก APF กลุ่มเบต้า สค็อต เราต้องไปหาที่ๆหนึ่งด่วน และฉันต้องการรถของคุณ มอบกุญแจของคุณแล้วถอยออกไป มันเป็นเรื่องสําคัญ” ชายผมดําพูดขณะที่เขายกมือไปทางเจียงราวกับขอกุญแจ แต่การขอนั้นดูเหมือนกําลังบังคับเขามากกว่า

“APF?” เจียงพูดตะกุกตะกัก เขาไม่ต้องการให้มีความขัดแย้งใดๆ กับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกเขา แต่มีปัญหาเกิดขึ้น

“รถเป็นรถ 2 ที่นั่ง ฉันให้ไปด้วยกันได้อีกเพียงคนเดียว” เพียงกล่าว

“คุณเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้ขอโดยสารไปด้วย แต่ตอนนี้ เราขอรถคุณ”

“ถอยออกไปแล้วส่งรถของคุณมาให้เราสิ ฝากที่อยู่ของคุณไว้กับเรา เราจะทําให้แน่ใจว่ารถคันนี้กลับมาหาคุณ” สมาชิกหน่วยเบต้าพูดอย่างเย่อหยิ่ง ดูเหมือนว่าเขาต้องการอวดต่อหน้าหญิงสาว

ลูซิเฟอร์ดูไม่พอใจกับการกระทํานี้ เขาพร้อมที่จะเข้าไปยุ่ง ในขณะที่ความโกรธของเขาเพิ่มสูงขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้า แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ทําอะไร เขาสังเกตเห็นว่าแคสเซียสได้ลงมือแล้ว

แคสเซียสก้าวเข้ามาตรงกลางของสมาชิกหน่อยเบต้าและเจียง

“นี่เป็นวิธีขอทานแบบใหม่ที่ฉันไม่รู้งั้นหรือ” แคสเซียสถามชายผมดําที่ดูเหมือนจะอายุ 20 ปลายๆ

“ไร้สาระอะไร! พวกเรามาจาก APF!” ชายผมดําตอบอย่างโกรธจัด

“ฉันไม่สนหรอกว่านายจะมาจาก APF, BPF หรือ XXX! ฉันแค่อยากให้แกก้าวออกไปให้พ้นทาง และไปซ่อมรถของแกเองซะ หากแกต้องการรถ แกจะไม่มีทางได้จากเรา” แคสเซียสพูด เขาดูเย่อหยิ่งกว่าสมาชิก APF หน่วยเบต้าคนนั้นซะอีก

ลูซิเฟอร์รู้สึกขบขัน เมื่อได้เห็นภาพนี้ เขาพับแขนขณะดูรายการเรียลลิตี้ เขารู้ว่าแคสเซียสน่ากลัวแค่ไหน หากมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกหน่วยเบต้าหรือหน่อยไหนก็จะถูกเขาล้มลงและหากหญิงสาวจากสภาวอร์ล็อคเข้ามาแทรกแซงเพื่อทําร้ายแคสเซียส เธอก็จะได้เห็นความโกรธของลูซิเฟอร์

“แต่ก็น่าสนใจนะ ฝึกงานจากสภาวอร์ล็อค และการประชุมกับ APF? สภาวอร์ล็อคพยายามจะขยายอิทธิพลในทวีปอื่นด้วยหรือเปล่า?” เขาพึมพําขณะจ้องไปที่เจนเลีย

“ไร้สาระอะไรอย่างนี้! ฉันจะถามเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าแกไม่ขยับไปไหน…” ชายผมดําพูดแต่ยังไม่จบ

“แล้วยังไงล่ะ” แคสเซียสพูดขณะหยิบกิ่งไม้เล็กๆ วางอยู่ใกล้เท้า พลังของเขา อนุญาตให้เขาใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาผ่านดาบใดๆ ก็ได้ แต่นั่นไม่ใช่พลังเดียวของเขา พลังที่สวยงามของเขา คือเขาสามารถใช้วัตถุใดๆ เป็นอาวุธใดๆ ก็ได้..

ตอนที่ 245: เลื่อนเวลา

“และส่วนที่เหลือไว้ใช้ดูแลเจ้าตัวเล็กคุณนี่โชคดีจริงๆที่ยังมีชีวิตอยู่พาฉันไปที่ที่เก็บภาพกล้องวงจรปิดด้วย”

หลังจากนั้นเจียงก็ลบวีดีโอทั้งหมดก่อนที่เขาจะจากไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ ไว้

กลุ่มคนทั้งสามพยายามสร้างความประทับใจให้กับคนในร้านอาหาร รวมทั้งพนักงานและเด็กน้อยไม่มีใครเข้าใจว่าพวกเขาเป็นคนดีหรือไม่ดีแต่ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นอะไรก็ตามพวกเขาก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้อื่นได้

“ฉันแปลกใจ ฉันไม่รู้จักวอร์ล็อคทมิฬจะทําเหมือนที่นายปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่หรือไม่”เจียงกําลังคุยกับลูซิเฟอร์ที่กําลังยืนอยู่หน้ารถ

“อย่าเข้าใจผิด ฉันจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดอย่างแน่นอน แต่ฉันไม่ได้ทํา” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

“อย่างที่ฉันบอกนาย ฉันไม่ต้องการให้ APE ตามรอยของฉันก่อนที่ฉันจะพบเวราซิตี้”เขากล่าวต่อ “ดังนั้นฉันควบคุมตัวเองได้”

“ยังไงก็ดี เราจะไปกันตอนนี้เลยไหม?” เจียงถาม

“นายกําลังรอคําเชิญอยู่หรือเปล่า ไปที่รถของนายสิ” ลูซิเฟอร์ตอบขณะที่เขาเปิดประตูแคสเซียสยังนั่งอยู่ข้างในตลอดการสนทนาไม่มีใครสังเกตว่าลูซิเฟอร์กําหมัดของเขาราวกับว่าเขากําลังต่อต้านอะไรบางอย่างมีความกระหายเลือดแปลก ๆในตัวเขาตั้งแต่ตอนที่เขาวางมือบนมาร์คมีส่วนในตัวเขาที่ต้องการให้เขาปล่อยและทําลายทุกสิ่งแต่เขากําลังควบคุมตัวเอง

ในขณะที่เขาต้องการต้านทานแรงกระตุ้นอย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาไม่ได้ตระหนักว่าลวดลายแปลก ๆ ที่อยู่บนกุญแจนั้นไม่มีแล้วตอนนี้พวกมันอยู่บนร่างกายของเขาแทนในขณะที่พวกมันสร้างรูปวงเวทย์กลมๆที่ผิดปกติบนหลังของเขาซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้ เนื่องจากเสื้อของเขาและลวดลายของมันทําให้ดูเหมือนเครื่องหมายโบราณแปลกๆที่สลักด้วยเลือด

รถเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้งออกจากเมืองซึ่งไม่รู้ถึงความหายนะที่พวกเขาได้หลบหนี

ในสํานักงานใหญ่ของ APE ไอย์นั่งอยู่ต่อหน้าวารันท์

“ตอนนี้แซนเดอร์เป็นยังไงบ้าง” วารันท์ถามไอย์ “มีการเปลี่ยนแปลงใดๆหรือไม่?

ไอย์ส่ายหัว ขณะที่เธอถอนหายใจ “ไม่มี เขายังอยู่ในอาการโคม่า ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขาจะตื่นไหม”

วารันท์หยุดครู่หนึ่งและไม่พูดอะไร

“ฉันรอเขาตื่นมา 8 ปีแล้ว ตําแหน่งหัวหน้าหน่วยเดลต้าของเขาว่างมานานแล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ ฉันเดาว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องตั้งหัวหน้าหน่วยเดลต้าคนใหม่เพื่อเข้ารับตําแหน่งนั้น”เขากล่าวหลังจากนั้นครู่หนึ่ง

ไอย์ไม่ได้คัดค้าน เพราะเธอรู้ว่ามันสําคัญสําหรับการทํางานของหน่วยเดลต้า

“ฉันจะยอมรับการตัดสินใจของเธอ ฉันจะให้เธอเลือกบุคคลใดก็ได้จากทีมของเธอที่คิดว่าสามารถเป็นผู้นําทีมเดลต้าได้อย่างมีประสิทธิภาพเขาจะรับผิดชอบจุดนั้นเอง”วารันท์กล่าวเพิ่มเติมซึ่งไอย์พยักหน้า

“ฉันจะเลือกหนึ่งคนมาเอง” ไอย์กล่าว

“มีการอัปเดตเกี่ยวกับการจลาจลจากแวเรียนท์ไหม? ทําไมพวกเขาถึงออกไปข้างนอกล่ะ?”วารันท์ถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“คนของเรากําลังจับตาดูพวกเขาอยู่ แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เข้าไปยุ่งเลยพวกเขาไม่ได้ทําอะไรเลยจริงๆดูเหมือนว่าพวกเขาจะคอยเฝ้าระวังอยู่ในย่านนั้น” ไอย์อธิบาย

“ฉันคิดว่าเราควรจับกุมพวกเขาตอนนี้ เพื่อสอบปากคําพวกเขาจริงๆ ไม่ว่าพวกเขาจะบ้าไปแล้วหรือพวกเขากําลังรออะไรบางอย่างและการรอนั้นก็นานพอแล้วเราไม่สามารถจับตามองมานานหลายทศวรรษเพื่อรอให้พวกเขาทําอะไรบางอย่าง”เธอกล่าวต่อ

“มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับละแวกนั้นไหม” วารันท์ถามด้วยความสงสัย

“ไม่มีเลย เป็นย่านที่ธรรมดาที่สุด สิ่งเดียวที่พิเศษที่ฉันคิดได้ก็คือเวราซิตี้ที่อาศัยอยู่ที่นั่น”ไอย์ตอบ

“เอาล่ะ แค่นั้นแหละ รอเวลาก่อนที่เราจะไปจับกุมสมาชิกแวเรียนเกิดใหม่ทั้งหมดแล้วหลังจากนั้นเราจะพาเวราซิตี้ ไปที่สํานักงานใหญ่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรเราต้องการให้ทุกคนที่นี่รู้”วารันท์กล่าวอนุญาต

“ก็ได้ ฉันจะไปเอง” ไอย์พูดพร้อมกับลุกขึ้น เธอออกจากห้องไปขณะที่เธอเตรียมจะไปยังที่ที่ลูซิเฟอร์กําลังจะไปด้วยหลังจากที่ไอย์ออกไปวารันท์ก็ลุกขึ้นยืนขณะที่เขาออกจากที่ทํางานเขาเดินไปที่ส่วนพิเศษของ APF

ซึ่งพวกเขากักขังนักโทษที่สําคัญที่สุดไว้ ยกเว้นวารันท์และสมาชิกคนอื่น ๆ อีก 2-3 คน คนที่เหลือนอกเหนือจากนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ข้อมูลของสถานที่แห่งนี้ไม่เคยรั่วไหลออกไปภายนอก

วารันท์หยุดอยู่หน้าสถานที่คุมขังเฉพาะที่พวกเขาเก็บแวเรียนท์พิเศษไว้ เขาใช้ลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกประตูขณะที่ก้าวเข้าไปข้างในภายในเซลล์ที่ว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ไม่มีอะไรแม้แต่เตียงให้นอนมีเพียงห้องส่วมอยู่ที่มุมห้องภายในห้องขังสามารถมองเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นโดยหันหลังพิงกําแพง

เมื่อชายคนนั้นได้ยินเสียงเปิดประตู เขาก็ค่อยๆลืมตาขึ้น “วารันท์….เจ้ามาพบข้าอีกแล้ว?”ชายคนนั้นถามขณะยิ้ม

“8 ปี… เจ้าอยู่ที่นี่มาเกือบ 8 ปีแล้ว แต่เจ้าไม่ได้บอกเราในสิ่งที่เราอยากรู้ข้าบอกไม่ได้ว่าข้าไม่ได้คาดหวังสิ่งนี้จากเจ้าแต่เคนเจ้าควรรู้บางอย่าง”วารันท์พูดพลางขมวดคิ้ว

“ความอดทนของฉันมีขีดจํากัด สักวันฉันจะหมดความอดทนและนายจะต้องนอนตายอยู่ที่กันทะเลเหมือนเด็กคนนั้น”เขาพูดต่อ ในขณะที่เขาก้าวไปทางเคน

“ในเมื่อเจ้าบอกข้าบางอย่าง ข้าก็จะบอกบางอย่างเป็นการตอบแทนด้วย วารันท์ทิฐิของนายมันสูงเกินไปและข้าเกลียดทิฐิของนาย แต่ข้าก็รักมันเหมือนกัน เพราะข้ารู้ว่าสักวันหนึ่งนายจะต้องพินาศ” เคนตอบในขณะที่เขาหัวเราะลั่นวารันท์ก็เตะหน้าเคนซึ่งตอนนี้ดูเหมือนหนุ่มผมบลอนด์หล่อมาก เขาถูกเตะกระทบหน้าพลางล้มลงพื้นเลือดไหลออกมาจากปาก
“แล้วลิ้นใหญ่ๆของเจ้าจะต้องพินาศสักวันหนึ่ง”วารันท์กล่าวขณะยกเท้าขวาขึ้นเตะเขาใช้กาลังทั้งหมดขณะเตะเข่าขวาของเคนมีกระดูกที่หัก

เคนไม่ได้ทําเสียงเจ็บปวดในขณะที่เขากัดฟันเพื่อควบคุมตัวเองเขาไม่ต้องการให้วารันท์พึ่งพอใจวารันท์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นในขณะที่เขาเตะเข่าซ้ายของเคนก็หักเหมือนกัน

“เคน ขอถามอีกครั้ง สํานักงานใหญ่ของแวเรียนท์เกิดใหม่อยู่ที่ไหน! บอกฉันทีแล้วเจ้าจะเป็นอิสระจากการทรมานครั้งนี้”วารันท์พูดขณะพับแขน พลางมองลงไปที่เคน

“ข้าไม่ไว้ใจเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยให้ความลับใดๆหลุดออกไปจากปากของข้าไป” เคนตอบในขณะที่เขาจ้องไปที่วารันท์ด้วยใบหน้าซีด ..

ตอนที่ 244: ความตายที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

เขาเคยเห็นสิ่งนี้หลายครั้ง คนรวยที่นี่เย่อหยิ่งมาก และพวกเขาไม่ชอบการมีอยู่ของขอทานมันเป็นสถานที่ระดับพรีเมียม

“บอกอะไรผมหน่อยได้ไหม คุณบอกว่าคุณจะไม่ใจดีแบบนี้ ถ้าเขามาอีกคุณจะทําอย่างไรถ้าเขาทําแบบนี้อีก” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“กระผมจะทําอย่างไรงั้นหรือ? อา กระผมอาจจะทุบตีเขาเล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะเข้าใจบทเรียน”มาร์คอธิบาย

รอยยิ้มบนใบหน้าของลูซิเฟอร์ปรากฏขึ้น เมื่อเขาได้ยินคําตอบ มาร์คไม่รู้ว่าทําไมแต่รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะเป็นรอยยิ้มของมารร้าย มีบางอย่างผิดปกติที่นี่

ลูซิเฟอร์คว้าปลอกคอของมาร์ค ขณะที่เขาโยนชายที่ชื่อมาร์คทิ้งไปโดยไม่ตั้งใจ แม้ว่าลูซิเฟอร์จะไม่ได้ใช้พลังมากนัก แต่ความแข็งแกร่งที่เขาใช้ก็เพียงพอที่จะทําให้มาร์คลมลงบนโต๊ะ

“เจียง พาเด็กคนนั้นเข้ามา” ลูซิเฟอร์บอกเจียง ขณะที่เขามองกลับไปที่มาร์ค หลังจากนั้นลูซิเฟอร์เดินไปหามาร์ค ซึ่งนอนอยู่บนพื้น พลางคร่ําครวญด้วยความเจ็บปวด

ลูซิเฟอร์หยุดในจุดที่เจ้าของร้านอาหารนอนคว่ําหน้าอยู่ ในขณะที่เขามองลงไปที่มาร์ค

“คุณมีลูกชายไหม” ลูซิเฟอร์ถาม พลางขมวดคิ้ว

“ไม่มี” มาร์คตอบ “ตะ- แต่ทําไมคุณทําร้ายกระผมล่ะครับ! กระผมทําอะไรผิด”

“คุณยังไม่เข้าใจใช่ไหม? เรามาลองเล่นเกมกันเถอะ. คุณจะต้องเดาว่าคุณทําอะไรผิดและผมจะหักส่วนหนึ่งในร่างกายคุณทุกครั้งที่เดาผิด” ลูซิเฟอร์บอกชายคนนั้นด้วยรอยยิ้ม

“เกมจะดําเนินต่อไปจนกว่ากระดูกทั้งหมดในร่างกายของคุณจะหัก วิธีที่ว่า? เวลาของคุณเริ่มต้นแล้ว ลองเดาดูก่อน” เขาพูดต่อ

“อ๊ะ อเล็กซ์” แคสเซียสเรียกจากด้านหลัง ขณะที่สังเกตกล้องทุกอย่างถูกบันทึกไว้ลูซิเฟอร์ จะไม่สามารถปกปิดตัวตนของเขาเป็นความลับได้ถ้าเขาทําอะไรกับเจ้าของร้านและตํารวจก็จะตรวจสอบภาพ หลังจากมาที่นี่

“ออกไปให้พ้นเดี๋ยวนี้” ลูซิเฟอร์พูดอย่างเฉียบขาดโดยไม่หันกลับมามอง ไม่สําคัญหรอกว่าเขาได้เรียนรู้มากแค่ไหน ความโกรธของเขายังคงเหมือนเดิมโดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องแบบนี้

“มาร์ค บูน คุณเดาอะไรเป็นอย่างแรก บอกผมส์ คุณคิดว่าคุณทําอะไรผิด” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

“อ๊ะ ส่งเด็กออกไปแล้วขู่เขางั้นเหรอ” มาร์คปล่อยคําพูดออกไป เขาเข้าใจทุกอย่าง นั่นเป็นเห ตุผลที่ลูซิเฟอร์ส่งชายคนนั้นไปพาเด็กกลับมา

“แย่จัง แย่ตั้งแต่ครั้งแรกเลยจริงๆ” ลูซิเฟอร์พึมพํา พลางส่ายหัว เขาดูผิดหวัง “ตอนนี้ผมไม่สามารถหักกระดูกของคุณที่ละชิ้นได้”

“ในเมื่อคุณพูดถูก ผมจะทําให้มันเร็วขึ้นและไม่เจ็บ” เขาพูดต่อขณะที่กระทืบคอของมาร์คเขาขมันดวงตาของมาร์คเบิกกว้าง ขณะที่เขาถูกฆ่า
ลูซิเฟอร์ถอดถุงมือขวาออกขณะนั่ง พลางก้มลงแตะใบหน้าของชายคนนั้นทําลายร่างกายในที่สุดและไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เลยเมื่อเขาลุกขึ้นยืนมองดูพนักงานคนอื่น ๆของร้านอาหาร ขณะที่เขาพูดว่า”ฉันไม่สนหรอกว่าที่เส็งเคร็งนี้จะพรีเมี่ยมแค่ไหน!ถ้าเด็กยากจนอยากกินที่นี่เขาจะได้รับอาหารโดยไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนทุกคนเข้าใจไหม”

พนักงานกลัวจนพูดอะไรไม่ออก พวกเขาเพียงพยักหน้า “ดีแล้ว ไปเอาอาหารมาให้เขาเดี่ยวนี้” ลูซิเฟอร์ออก ในขณะที่เขาโยนชายคนนั้นลงไปที่พื้นอีกครั้ง “นอกจากนี้จากนี้ไปพวกคุณทุกคนก็เป็นเจ้าของสถานที่นี้และจําไว้หากพวกคุณลืมคําพูดของฉันและฉันพบ อย่าคิดว่าจะรอดเลยแม้แต่ APF ก็ไม่สามารถรักษาชีวิตคุณไว้ได้เสมอดังนั้นตัดสินใจว่าอะไรมีค่ามากกว่ากัน – เงินหรือชีวิต”

หลังจากให้คําขู่ครั้งสุดท้ายกับพวกเขา ลูซิเฟอร์ก็ตบเสื้อผ้าของเขา ขณะที่เดินกลับไปที่โต๊ะ

“ดอะไรอยู่! เตรียมอาหารให้นางฟ้าตัวน้อยนั่นสิ”พนักงานคนหนึ่งตะคอกขณะที่เขาให้คนอื่นๆ รีบไปเตรียมอาหาร

“อืม นายพูดอะไรนะ” ลูซิเฟอร์ถามแคสเซียส ขณะที่เขานั่งลงบนที่นั่ง

“ฉันพยายามเตือนนายเกี่ยวกับกล้อง พวกเขาบันทึกทุกอย่าง นายไม่ต้องการซ่อนตัวอยู่หัวขณะหนึ่งหรือ? สิ่งนี้จะทําให้นายถูกเปิดเผย” แคสเซียสอธิบาย

“ฉันไม่คิดว่านายต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น วิดีโอนั้นจะถูกลบออก เมื่อเราออกเดินทางนอกจากนี้เนื่องจากจะไม่มีรายงานจากที่นี่ ไม่มีอะไรจะสําคัญและถึงแม้ผู้คนจะรู้ว่ามันสําคัญอย่างไร”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น

“นั่นจะเป็นการยึดจุดจบของพวกเขาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” เขากล่าวเพิ่มเติม

“ฉันพาเขามาแล้ว!” เจียงเข้ามาแล้ว ในขณะที่เขาเข้าไปในร้านอาหารพร้อมกับเด็กที่เริ่มออกไปก่อนหน้านี้ เด็กคนนั้นดูสับสน สงสัย และกลัวเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“พาเขามาที่นี่” ลูซิเฟอร์บอกเจียง ซึ่งพาเด็กไปที่โต๊ะเด็กน้อยถูกสั่งให้นั่งบนเก้าอี้

“กินได้ ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครทําอะไร จากนี้ไปหิวเมื่อไหร่ก็มาที่นี่ได้ พวกมันจะเลี้ยงคุณ” ลูซิ เฟอร์พูดกับเด็กน้อยพลางยิ้มเหมือนคนธรรมดา เขาเหลือบมองพนักงานในขณะที่เขาถามว่า “คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ?”

“เราเข้าใจแล้วครับ!” เจ้าหน้าที่กล่าวอย่างหนักแน่น ให้อาหารเด็กวันละ 3 มื้อดีกว่าเสียชีวิตไปลูซิเฟอร์พูดถูกเช่นกันพวกเขายังรู้ด้วยว่าพวกเขาไม่สามารถแจ้ง APF ได้ เพราะลูซิเฟอร์บอกพวกเขาไปแล้วว่ามันไร้ประโยชน์เพียงใด

ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะคอยดูแลพนักงานร้านอาหารเล็กๆ อยู่เสมอ พวกเขาสามารถถูกฆ่าได้เสมอดังนั้นการยอมทําตามข้อเรียกร้องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้นจึงดีกว่า

“ถ้ามีเด็กเช่นคุณอีก ก็พาพวกเขามาที่นี่ด้วย” ลูซิเฟอร์บอกกับเด็กคนนั้นต่อไป ขณะที่เขากลับมารับประทานอาหารต่อแคสเซียสก็ยิ้มเช่นกัน

ฉันรู้แล้ว อเล็กซ์ ยังมีชีวิตอยู่ ที่ไหนสักแห่งที่อยู่ด้านหลังหน้าอันแข็งกร้าวของลูซิเฟอร์นั้นเขาคิดขณะเริ่มกินด้วยเจียงก็เข้าร่วมมื้ออาหารด้วยเช่นกัน

พวกเขาทั้งสามใช้เวลาไม่นานก่อนจะทานอาหารเสร็จ “นําบิลมาได้” ลูซิเฟอร์บอกกับเจ้าหน้าที่เมื่อทานเสร็จ

“อ่า ไม่ได้ครับ ผมจะรับบิลจากแขกผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร?” พนักงานพูดอย่างลังเลหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็ไม่กล้าขอเงินจากคนตรงหน้าอีกเลย

“หุบปากแล้วเอาบิลมา” ลูซิเฟอร์พูดพลางขมวดคิ้วเขาเบื่อจะฟังเรื่องไร้สาระเมื่อเขายากจนทุกคนต้องการเงินสําหรับค่าอาหารและตอนนี้เขารวยแล้วมันฟรีหรือ?ไม่มีทาง

“อ๊ะ เข้าใจแล้วครับ” พนักงานคนหนึ่งพูดพลางยิ้มแหยๆ เขาไม่เข้าใจคนพวกนี้พวกเขาเป็นคนดีหรือไม่ดีพวกเขาทําให้พนักงานสับสนเขานําบิลไปที่โต๊ะทันที

“เจียงจ่ายบิล จากนั้นไปลบวีดีโอทั้งหมด ก่อนที่จะกลับมาฉันจะรอใกล้ๆรถ”ลูซิเฟอร์พูดขณะลุกขึ้นจะเดินออกไปลูซิเฟอร์เพิ่งลุกขึ้นยืนเมื่อเขารู้สึกว่ามีคนจับนิ้วของเขา เขาค่อย ๆ หันกลับมาสังเกตว่าเป็นเด็กน้อยที่กําลังจับนิ้วของเขาอยู่มือเล็กๆ

“ต้องการอะไรอีกไหม” ลูซิเฟอร์ถาม พลางขมวดคิ้ว เด็กชายส่ายหัว

“แล้วทําไมคุณ ห้ามฉันไม่ให้ไปล่ะ” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

เด็กชายค่อยๆ เปิดริมฝีปากของเขาขณะที่เขาพูด “ขอบคุณครับ”

ลูซิเฟอร์มองดูเด็กอย่างเฉยเมย แต่เขาก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรมากนัก

“ไม่เป็นไร เด็กน้อย ตอนนี้เติบโตอย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งขึ้น นี่คือทั้งหมดที่ฉันสามารถช่วยคุณได้ต่อไปคุณควรเรียนรู้ที่จะช่วยตัวเอง”ลูซิเฟอร์พูดขณะปล่อยมือ

“โลกนี้โหดร้ายเกินไป และสําหรับคนไร้เรี่ยวแรงพวกเขาก็เป็นแค่เบี้ย ดังนั้นขอให้โชคดี” เขาพูดต่อในขณะที่ลูบหัวเด็กเบาๆหันหลังกลับเขาก็จากไปโดยไม่หันกลับมา

แคสเซียสก็เดินตามลูซิเฟอร์ไปด้วยยิ้ม เจียงจ่ายบิล จริงๆ แล้วเขายังทิปเพิ่มด้วย

“ทําไมให้เงินเกินมาเยอะจังครับ”พนักงานถามอย่างแปลกใจ

“ครึ่งหนึ่งเป็นทิปของคุณ อีกครึ่งเป็นโต๊ะที่หักเพราะเราซื้ออันใหม่และดีกว่า” เจียงตอบ..

ตอนที่ 243; อาจมีคนตาย

“ใช่ แต่เขาเสียชีวิตเมื่อฉันอายุได้ 5 ขวบแม่ของฉันก็ตายไปพร้อมกับเขา ในวันหนึ่งฉันกลายเป็นเด็กกําพร้า…” ลูซิเฟอร์อธิบายต่อ

“เจ้าหน้าที่มาและพาฉันไปที่สถานพยาบาล…”

เมื่อเวลาผ่านไป ลูซิเฟอร์ยังคงอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นยิ่งแคสเซียสได้ยินมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นเขารู้ว่าวัยเด็กของลูซิเฟอร์ช่างโหดร้ายจริงๆทนทุกข์ในสถานพยาบาลและถึงกับถูกฆ่างั้นหรือแล้วถูก APF ไล่ตามล่าแล้วโดนฆ่าอีกเป็นครั้งที่ 2

“คุณปู่จี้ช่วยฉันไว้ ฉันสูญเสียความทรงจําไปและนั่นคือสาเหตุที่ฉันใช้ชีวิตจอมปลอมไม่นานนี้เองที่ฉันได้ความทรงจํากลับมา”ลูซิเฟอร์พูดขณะอธิบายจบ

“นั่นสินะ…”

แคสเซียสไม่พบคําพูดใดๆว่าจะตอบสนองอย่างไรเขานึกภาพว่าลูซิเฟอร์เจอเรื่องเลวร้ายเห็นเศร้าแต่รู้ว่าจะขนาดนี้เขาคาดไม่ถึง

“ฉันต้องขอบคุณพลังการรักษาของนายจริงๆมันทําให้นายยังมีชีวิตอยู่และตอนนี้นายก็สามารถแก้แค้นได้ฉันจะเข้าร่วมด้วยและฉันจะไม่ขอฟังคําตอบ ในฐานะวอร์ล็อคหน้าที่ของฉันคือต้องช่วยฆ่าพวกมัน!”แคสเซียสพูดในที่สุดเมื่อเขาแสดงความมุ่งมั่นที่จะช่วยลูซิเฟอร์

“ฉันจะไม่ตาย แต่นายน่ะอาจจะตายได้ง่าย อย่าประมาทศัตรู”ลูซิเฟอร์เตือนแคสเซียส

“ฮะ ไม่ต้องกังวล ฉันพร้อมจะชนะมัน” แคสเซียสพูดอย่างมั่นใจ

“แล้วนายหาฉันเจอได้ยังไง” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัยแคสเซียสยกมือขึ้นโชว์ของสวยงามที่อยู่บนนิ้วของเขา

“อ่า แหวนนี่ …” ลูซิเฟอร์พูดพลางส่ายหัวเขาเอามือล้วงกระเป๋าเพื่อหยิบแหวนนั้นออกมาเขาเคยคิดที่จะขว้างแหวนนั้นมาก่อนแต่เขาตัดสินใจไม่ทําแบบนั้นอาจเป็นเพราะเขาต้องการค้นหาแคสเซียส ในอนาคตโดยไม่รู้ตัวหรืออาจเป็นเพราะแหวนนี้เป็นแหวนที่สวยจริงๆและมันเป็นหนึ่งในของขวัญวันเกิดชิ้นแรกของเขาในรอบ 12 ปี ดังนั้นมันจึงพิเศษมาก

แหวนนี้และสร้อยคอของคุณปู่จี้ทําให้เขารู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกนี้

“นายบอกคนอื่นเกี่ยวกับฉันหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันไม่ได้ทําแม้แต่พ่อของฉันก็ไม่รู้ว่าฉันอยู่ประเทศอะไรฉันแสร้งทําเป็นอยู่คนละประเทศฉันต้องขึ้นเครื่องบิน 2 เที่ยวแต่ก็คุ้มสําหรับความเป็นส่วนตัว”แคสเซียสตอบขณะที่เขาตั้งหน้าตั้งตาอยู่บนถนน

“แล้วความจริงที่เราจะไปหาใครคือเธอคนนั้นเธอเป็นเพื่อนในครอบครัวของนายเหรอ?” แคสเซียสถาม

“ไม่ใช่หรอก จริงๆ เธอเป็นแค่คนที่ฉันต้องการทํางานให้ฉันของขวัญของเธอมีประโยชน์มากเธอสามารถช่วยฉันดูว่ามีใครโกหกฉันหรือไม่”ลูซิเฟอร์ตอบการสนทนาดําเนินต่อไป ในขณะที่รถสปอร์ต 2 คันพูดคุยกับสายลม เดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่งโดยไม่หยุดเฉพาะในเมืองถัดไปเมื่อพวกเขาหยุดกินบางอย่างเนื่องจากลซิเฟอร์หิว

รถ 2 คันจอดอยู่นอกร้านอาหารซึ่งลูซิเฟอร์และคนอื่นๆส่วนที่นั่งอื่นๆนั้นยังว่างอยู่เนื่องจากกลุ่มสามคนของพวกเขาเดินทางมาด้วยรถสปอร์ตราคาแพงทุกคนจึงเชื่อว่าพวกเขาเป็นวัยรุ่นที่ ร่ำรวย ซึ่งกําลังเดินทางไปตามถนน ร้านอาหารให้บริการพวกเขาอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทําได้อาหารอร่อยถูกเสิร์ฟทันที

“รสชาติของประเทศนี้ค่อนข้างแตกต่างจากที่เรามี”แคสเซียสแสดงความคิดเห็นขณะชิมอาหาร

“ฉันขอถามหน่อยได้ไหมว่านายมาจากไหน”เจียงถามแคสเซียสโดยที่ยังไม่รู้ตัวตน

“สมมติว่าฉันมาจากที่ไกลแสนไกล ประเทศที่เป็นเกาะที่ฉันสงสัยว่านายอาจจะเคยได้ยินเรื่องของมันมาบ้าง”แคสเซียสตอบ

“แล้วคุณ 2 คนรู้จักกันได้ยังไง”เจียงถามด้วยความสงสัย

“อืม อเล็กซ์กับฉัน… ฉันหมายถึงลูซิเฟอร์กับฉันอยู่ในอะคาเดมีแวเรียนท์ด้วยกัน”สําหรับลูซิเฟอร์ เขาไม่สนใจการสนทนาของพวกเขา ตาของเขาอยู่ที่ทางเข้ากระจกของร้านอาหารซึ่งเขาเห็นเด็กหนุ่มยืนอยู่เด็กคนนั้นน่าจะอายุเพียง 13 หรือ 14 ปีเท่านั้น ส่วนเสื้อผ้าของเขานั้นสกปรกมาก หรือแม้แต่ฉีกขาดตามสถานที่ต่างๆ เขาดูขาดสารอาหารเล็กน้อยราวกับว่าเขาไม่ได้กินอะไรเลยเป็นเวลานานผ่านประตูกระจกเด็กน้อยมองลูซิเฟอร์และคนอื่นๆที่กําลังทานอาหารอร่อยๆ อยู่

เจ้าของร้านอาหารเดินเข้าไปหากลุ่มลูซิเฟอร์และแนะนําตัว

“ฉัน มาร์ค บูน เจ้าของร้าน ฉันได้ยินมาว่ามีคน VIP มาที่ร้านอาหารของเราฉันอดไม่ได้ที่จะเข้ามาทักทายคุณเป็นการส่วนตัวเยี่ยมมาก ท่านชอบทุกอย่างหรือไม่”เขาถามเจียงซึ่งดูเหมือนคนโตและเป็นผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ

เขายังสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์มองไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง มาร์คมองไปทางที่ลูซิเฟอร์มองเข้าไปและสังเกตเห็นเด็กกําพร้ายืนอยู่หน้าประตู

“โอ้พระเจ้า กระผมขอโทษ! ขอทานนั่นคงทําให้บรรยากาศเสียไปสําหรับคุณขอทานคนนี้นมาที่นี่เสมอไม่ว่ากระผมจะเตะเขาออกไปกี่ครั้งก็ตาม! เดี๋ยวกระผมกลับมานะครับ!”

เจ้าของร้านเดินไปที่ประตูกระจกแล้วผลักประตูออกไปด้านนอกปล่อยให้เด็กหนุ่มล้มลง
“ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่ามาที่นี่!การปรากฏตัวของแกทําให้แขกของฉันเสียอารมณ์สถานประกอบการระดับพรีเมียมของเราต้องเปรอะเปื้อน! ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะจนหรืออะไรก็ตาม!อยู่ห่างจากที่นี่ให้มากที่สุด!คราวหน้าฉันจะไม่ใจดีแบบนี้อีก!”มาร์คดุเด็กที่นอนอยู่บนพื้นสั่นสะท่านมาร์คไม่รู้ แต่ใบหน้าของลูซิเฟอร์มีสีหน้าสับสนขณะกําหมัดแน่น

ช่วงเวลานี้ทําให้เขานึกขึ้นได้ เกือบหลายครั้งที่เขาตื่นขึ้นหลังจากการตายของเขาเป็นครั้งแรกเขาได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันลูซิเฟอร์ทิ้งอาหารไว้ขณะที่เขายืนขึ้นเขาไม่พอใจในขณะนั้นขณะที่เดินเข้าไปหาเจ้าของร้าน

“โอ้ ฉันไม่เคยเห็นเขาอารมณ์เสียมาก่อนทําไมฉันรู้สึกเหมือนมีคนกําลังจะตาย”เจียงพึมพําพลางขมวดคิ้ว

แคสเซียสยังสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์อารมณ์เสียเป็นเพราะเด็กคนนั้นหรือเปล่า มาร์คมีพฤติกรรมกับเด็กอย่างไรมันทําให้ลูซิเฟอร์อารมณ์เสียหรือเปล่ามาร์คปิดประตูขณะที่เขาหันกลับมาสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

“เอ่อ ท่าน ไม่ต้องกังวลกระผมจะสอนบทเรียนให้เขาเด็กคนนั้นจะไม่รบกวนท่านอีกแล้วท่านวางใจได้”มาร์คบอกลูซิเฟอร์โดยไม่เข้าใจว่าทําไมเขาดูอารมณ์เสีย

เขาคิดว่าลูซิเฟอร์อารมณ์เสียเพราะเห็นเด็กทําลายประสบการณ์การกินของเขา..

ตอนที่ 241: ปลดล็อคกุญแจ

คฤหาสน์เวลลิ่งเต็มไปด้วยความเงียบคฤหาสน์อันกว้างใหญ่นี้มีเพียง 2 คนเท่านั้นขณะที่คนอื่นๆทั้งหมดถูกฆ่ารวมทั้งโจด้วย

“และนั่นคือจุดสิ้นสุด”ลูซิเฟอร์พึมพําขณะเดินกลับไปที่โซฟาเขาเหลือบมองเพียงอย่างสงบในขณะที่เขาถาม“รู้สึกอย่างไรที่ได้เป็นคนที่ร่ํารวยที่สุดในเมืองนี้?”

“รู้สึกอัศจรรย์ใจ และทั้งหมดก็เป็นเพราะคุณขอบคุณมาก”เจียงตอบขอบคุณลูซิเฟอร์

“คุณไม่จําเป็นต้องขอบคุณฉันสําหรับเรื่องนั้นมันจะมีประโยชน์ในอนาคต” ลูซิเฟอร์อธิบาย”อย่างไรก็ตามฉันคิดว่าคุณสามารถซื้อรถที่ดีที่สุดในโลกได้ในขณะนี้หารถที่เร็วที่สุดเพื่อให้เราเดินทางได้ตรงเวลาเร็วขึ้น”

“รถยนต์? เรามีเครื่องบินส่วนตัวแล้ว!ไม่ต้องการรถ!”เจียงพูดออกมาอย่างตื่นเต้นเขามีทรัพย์สมบัติมากมายจนสามารถซื้อทุกอย่างได้

“ฉันรู้ แต่ฉันยังคงต้องการรถและฉันต้องการรถที่ผิดกฎหมายซึ่งจะไม่นํากลับมาหาคุณ ฉันแน่ใจว่าคุณจะจัดการกับมันได้”ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมส่ายหัว

“นอกจากนี้ คุณก็รู้ว่าการก่อสร้างไม่ควรเกิดขึ้นในดินแดนของฉัน ดูแลสิ่งนั้นด้วยจัดการสองสิ่งนี้แล้วเราจะออกไปพบกับความจริง”เขาพูดต่อในขณะที่เขายืนขึ้น

“ฉันจะจัดการทุกอย่าง” เจียงเห็นด้วย “ตอนนี้จะนอนแล้วเหรอ?”

“ใช่ ฉันไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอมาเป็นเวลานานแล้ว จัดการทุกอย่าง พรุ่งนี้ฉันต้องการรถที่นี่” ลูซิเฟอร์พูดขณะลอยขึ้นไปชั้นบน เขากําลังจะเข้าห้องนอนที่นี่

ต่างจากการเป็นผู้ล้างแค้นเร่ร่อนเหมือนเมื่อก่อน เขาจะต้องสร้างตาข่ายนิรภัยให้ได้มากที่สุดและการมีคนร่ํารวยที่สุดคนหนึ่งในประเทศอยู่ใต้นิ้วโป้งก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาขณะที่ลูซิเฟอร์ไปที่ห้องนอนเจียงก็นั่งบนโซฟา

“ฉันบอกเขาว่าฉันจะจัดการทุกอย่าง แต่ฉันเพิ่งเข้ามาทําธุรกิจนี้เอง ฉันไม่ค่อยมีการติดต่อมากนัก”

“ฉันสามารถหยุดแผนการก่อสร้างได้ แต่ฉันจะจัดการเรื่องรถจากที่ไหน ฉันจะคุยกับผู้จัดการ ของเวลลิ่งบางทีเขาอาจให้แนวคิดบางอย่างกับฉันได้”

เจียงน่าโทรศัพท์ออกมาและโทรหาผู้จัดการที่บริษัทเวลลิ่ง

แคสเซียสกําลังนั่งอยู่ในชั้นธุรกิจบนเครื่องบินที่กําลังบินไปทางเอลิเซียม หูของเขาถูกปกค ลุมด้วยหูฟังที่เล่นเสียงที่เป็นธรรมชาติ

สําหรับดาบของเขา เขาพกมันติดตัวไปด้วยเนื่องจากเขาเป็นวอร์ล็อคและเป็นสมาชิกของครอบครัวพิเศษเขาจึงได้รับอนุญาตให้พกสมบัติติดตัวไปด้วยไม่เหมือนคนอื่นๆผ่านหน้าต่างเครื่องบินเขาสามารถมองเห็นภายนอกได้ท้องฟ้าเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดําดูเหมือนฝนจะตกในไม่ช้านี้

ลูซิเฟอร์นอนอยู่บนเตียงคิดเกี่ยวกับอนาคตของเขาเขามีเป้าหมายใหม่มากมายซึ่งไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่วารันท์

เป้าหมายของเขาสําคัญกว่ามากในตอนนี้รวมถึงการพบว่าอมนุษย์ที่เชื่อมโยงกับเขา เขาต้องการค่าตอบว่าเขาเกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นอย่างไร

เขายังต้องหาหิน 7 ก่อนเพื่อสิ่งนั้นโดยเริ่มจากวารันท์ที่มีหินสีแดงจากนั้นเขาก็ต้องการสํารวจดันเจี้ยนระดับ 4 ที่พ่อแม่ของเขาเข้าไปเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในมีแผนมากมายในหัวของเขาซึ่งเขาเชื่อว่าเขาจําเป็นต้องปรับแผนตามล่าดับที่เหมาะสม

“ฉันลืมบอกเจียงให้ซื้อโทรศัพท์ให้ฉันด้วยฉันจะทําทีหลัง”ลูซิเฟอร์พึมพ่าขณะหลับตา

ในไม่ช้าเขาก็ผล็อยหลับไปบนเตียงของมหาเศรษฐีซึ่งดูเหมือนจะเป็นเตียงที่นุ่มที่สุดที่เขาเคยสัมผัสมาเป็นเวลานาน

เมื่อกลางคืนเริ่มลึกขึ้นลูซิเฟอร์ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจริง
เมื่อเขาหลับไป เขาก็เห็นความฝันอีกครั้งหลังจากผ่านไปนานแต่เขาไม่เชื่อว่านี่คือความทรงจาของเขาในความฝันเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่หน้าประตูสีทองที่มีแม่กุญแจที่พอดีกับกุญแจของเขา

เขาค่อย ๆ ถอดกุญแจออกจากคอของเขาและเข้าไปในแม่กุญแจก่อนจะบิดมันคลิก!

ด้วยเสียงเปิดประตู ลูซิเฟอร์สูดหายใจเข้าลึก ๆขณะที่เขาผลักประตูเปิดออก

ประตูสีทองหนาหนักเปิดออกช้าๆเผยให้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในเมื่อเห็นประตูเปิดออกใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายในร่างของพ่อแม่นอนราบกับพื้นไม่ขยับเขยื้อนมีรูในอกของพวกเขา

มีอีกคนยืนอยู่ใกล้พวกเขา สําหรับบุคคลนั้นเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวของลูซิเฟอร์เอง

ตาข้างหนึ่งของเขาเป็นสีม่วงสดใสไม่มีอะไรเหมือนที่เคยเป็นมามีหัวใจ 2 ดวงในมือของเขาที่ดูเหมือนจะเป็นของพ่อแม่ของเขา

ลูซิเฟอร์เห็นสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนตัวเองเขารู้ว่ามันเป็นความฝันแต่ดูเหมือนจริงมากจนน่ากลัวเล็กน้อย

รูปลักษณ์คล้ายลูซิเฟอร์บดขยี้หัวใจ 2 ดวงที่อยู่ในมือของเขาก่อนจะโยนมันทิ้งไป

เขาค่อยๆเดินไปหาลูซิเฟอร์ “คุณคือใคร?” ลูซิเฟอร์ถามสิ่งมีชีวิตที่หยุดอยู่ตรงหน้าเขาสิ่งมีชีวิตที่ดูเหมือนลูซิเฟอร์ไม่ตอบเขาแค่ยิ้มอย่างชั่วร้ายขณะที่เขาสอดมือเข้าไปในอกของลูซิเฟอร์และบีบหัวใจ

“ฮะฮะ!” ลูซิเฟอร์ตื่นจากฝันร้าย โดยตระหนักว่ามือของเขาอยู่บนหน้าอกตรงที่หัวใจของเขาอยู่เขารู้สึกเจ็บปวดเช่นกันมันดูไม่เหมือนความฝันเขารู้สึกเหมือนมีคนแทงเขาจริงๆ

หน้าอกของเขาก็รู้สึกหนักเช่นกันเขาลุกจากเตียง ขณะมองดูนาฬิกา ดูเหมือนมันจะเช้าแล้ว

เขาออกจากห้องไปแล้วแต่เขายังไม่ได้เอามือออกจากอก

“เจียง!” ลูซิเฟอร์ตะโกนเรียกเจียง เพราะเขาไม่รู้ว่าห้องไหนเป็นของเขา

“ฉันอยู่นี่!” เจียงอุทานขณะที่เขาก้าวออกจากห้องของเขา

เขายังคงอยู่ในผ้าเช็ดตัวราวกับว่าเขาเพิ่งก้าวออกจากห้องอาบน้ํา ขณะที่ลูซิเฟอร์เรียกหาเขา เขาไม่ได้สนใจที่จะแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยซ้ํา

“นายจัดการเรื่องรถหรือยัง” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ถูกต้อง พวกมันควรจะอยู่ที่นี่ในวันนี้” เจียงอธิบาย

“ก็ดี ไปแต่งตัวให้เสร็จ” ลูซิเฟอร์บอกเจียง ขณะที่เขาลงไปข้างล่าง

เมื่อผลักประตูออก เขาออกจากวังเพื่อออกไปเดินเล่นในสวนด้านนอกเพื่อทําให้จิตใจสงบ

ลูซิเฟอร์กําลังเดินเล่นอยู่ในสวน เมื่อเขาสังเกตเห็นรถสปอร์ต 3 คันเข้ามาในคฤหาสน์เวลลิ่ง

“รถ…ไม่เลว”ลูซิเฟอร์พึมพําขณะสังเกตรถที่กําลังแล่นเข้ามาไม่เพียงแต่เร็วเท่านั้นแต่ยังดูโฉบเฉียวและสวยงามอีกด้วย..

ตอนที่ 242: แคสเซียสกลับมา

รถหยุดที่ทางเข้าคฤหาสน์ ก่อนที่คนขับจะก้าวออกไปและเคาะประตู ลูซิเฟอร์เข้าใกล้รถในเวลาเดียวกับที่เจียงเปิดประตู เจียงรับมอบและส่งคนที่ออกจากรถที่ใหญ่กว่า ซึ่งติดตามรถสปอร์ตออกไป

“นี่คือรถของเรา ฉันได้มันมาด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย แต่ในทางเทคนิคแล้วมันถูกกฎหมาย แค่จดทะเบียนว่าเป็นของผู้ชายที่ไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ”

“ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงกับเราได้ ไม่มีแม้แต่คนที่ช่วยคลอด” เจียงบอกลูซิเฟอร์ซึ่งเพิ่งไปถึงที่นั่น

“ดีมาก ไปกันเลย เราต้องเดินทางไกล”

ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะสัมผัสรถสปอร์ตที่สวยงามซึ่งตั้งตระหง่านอยู่นําหน้า

“ฉันพร้อมแล้ว เราไปกันได้แล้ว” เจียงตอบพร้อมยิ้มเขาไม่รังเกียจที่จะเป็นคนขับรถของลูซิเฟอร์เพราะมันมีประโยชน์มากมายอยู่แล้ว และลูซิเฟอร์ก็เป็นศัตรูของ APF และรัฐบาล ใครจะไปรู้มันอาจจะมาด้วยซ้ำ วันที่เขาปกครองประเทศ

แม้ว่าเขาจะเชื่อว่ามันยาก แต่เขารู้ว่าถ้าจะมีคนที่มีโอกาสทําได้คนๆนั้นก็คือลูซิเฟอร์ ตอนนี้เขาอยู่ในทีมแล้ว เขาตัดสินใจไปไกลแล้ว เจียงเปิดประตูรถและนั่งในที่นั่งคนขับ ลูซิเฟอร์ก็ก้าวเข้าไปข้างใน เจียงหันรถไปรอบ ๆ และเริ่มออกจากที่ดินที่ตั้งของคฤหาสน์ แต่เมื่อรถมาถึงทางเข้าพื้นที่อสังหาริมทรัพย์แห่งนั้น ตอนนั้นเองที่เจียงเหยียบเบรก เนื่องจากเขาเห็นมีคนขวางทางถนน

“เขามาทําอะไรที่นี่” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขมวดคิ้วเขาก้าวลงจากรถ ขณะที่เดินไปหาชายรูปงามที่ถือดาบหนักอยู่บนหลัง

“ฉันคิดถูก นายอยู่ที่นี่” คนๆ นั้นบอกลูซิเฟอร์ในขณะที่เขายิ้ม

“แคสเซียส… นายมาทําอะไรที่นี่” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ก็นะ ดูเหมือนคนงี่เง่าบางคนพยายามรังแกเพื่อนของฉัน แล้วพวกเขาก็ถูกส่งไปนรกในโอกาสนั้น อะคาเดมีปิดตัวลงเป็นเวลา 1 ปี” แคสเซียสตอบพลางยิ้ม

“ตั้งแต่ฉันเป็นอิสระ ฉันตัดสินใจที่จะตรวจสอบเพื่อนของฉันที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมเหล่านั้นอย่างแน่นอน” เขากล่าวต่อ

“ไปกันเถอะ! ทําไมนายถึงดูตกใจแบบนั้นล่ะ? นายคนเดิมที่เป็นคนดูมีความสุขอยู่ที่ไหน” เขาพูดต่อขณะกลอกตา

“ที่นี้อันตรายสําหรับนาย ออกไป” ลูซิเฟอร์บอกแคสเซียส ขณะที่หันหลังกลับและเริ่มเดินกลับไปที่รถ

“อื่ม ที่ดียิ่งขึ้น อะไรจะสนุกโดยปราศจากอันตราย” แคสเซียสตอบพร้อมยิ้ม “แล้วถ้าไม่มีข้อจํากัดบ้าๆ แบบนั้น นายจะพาฉันไปไหม”

ลูซิเฟอร์หยุดเดิน ในขณะที่เขาเหลือบมองกลับมา “นี่นายจะไม่ไปจริงๆ เหรอ”

“ฉันจะไปทําไม? นายจะให้ฉันอยู่กับนายและให้ฉันช่วยนายในสิ่งที่นายทําหรือฉันจะให้ฉันนั่งรอที่นี่ ในกรณีใด ๆ ฉันจะไม่ใช้เวลาช่วงวันหยุดของฉันในที่ที่น่าเบื่อที่บ้าน” แคสเซียสพูดอย่างหนักแน่นในขณะที่เขา ทําให้ความตั้งใจของเขาชัดเจน

“เถอะน่าเพื่อน! ฉันมาจากที่ไกลมากๆเลยนะ! ให้ฉันได้เข้าร่วมเถอะ!” เขากล่าวต่อไป

“ถ้านั่นคือสิ่งที่นายต้องการ ก็ช่างมันเถอะ” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมกับยอมแพ้ มันไม่สําคัญ แคสเซียสควรจะแข็งแรงพอที่จะดูแลตัวเองได้

“นายรู้วิธีขับรถเหรอ?” เขาถามแคสเซียส

“แน่นอน ฉันเรียนรู้มานานแล้วก่อนที่จะเข้าโรงเรียน นี่นายไม่รู้เหรอ?” แคสเซียสได้ตอบกลับ

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบขณะที่เดินไปหาเจียง

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร?” เจียงถามด้วยความสงสัย

“เขา… เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนายหรอก ขอกุญแจรถคันที่ 2 ให้ฉัน ฉันจะไปกับเขาด้านหลังนายเอง” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะยกมือขึ้นเนื่องจากรถสปอร์ตเป็นรถ 2 ที่นั่ง คน 3 คนจึงเข้าไปข้างในไม่ได้

“อืม แน่นอน” เจียงพยักหน้า ขณะมอบกุญแจรถคันที่ 2 ให้แก่ลูซิเฟอร์

“ตามฉันมา” ลูซิเฟอร์บอกแคสเซียส ขณะเดินกลับไปที่คฤหาสน์ เมื่อไปถึงรถคันที่ 2 เขาก็มอบกุญแจให้ แคสเซียส “ขับตามหลังรถคันนั้น”

ลูซิเฟอร์และแคสเซียสก้าวเข้าไปในรถ ซึ่งเริ่มตามหลังรถที่เจียงอยู่และด้วยเหตุนี้ รถสปอร์ต 2 คันจึงวิ่งไปบนถนนในเมืองเคนซิงตัน 10 นาทีแรกเงียบไปเพราะไม่มีใครพูดอะไร เพียง 10 นาทีต่อมา ลูซิเฟอร์ก็พูดว่า “นายทําได้ดี”

“ขอบคุณ ฉันเรียนรู้จากสิ่งที่ดีที่สุด อันที่จริง นายสามารถเรียนรู้ได้เช่นกัน ฉันจะสอนนายใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการเรียนรู้” แคสเซียสตอบ

“อาจจะหลังจากที่เรากลับมาแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบ

“แล้วเราจะไปไหนกันล่ะ” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์ แม้ว่าเขาจะอยากพูดถึงอดีตของลูซิเฟอร์แต่เขาเชื่อว่าเขาต้องก้าวผ่านหัวข้อนั้นอย่างระมัดระวัง

“เราจะไปพบผู้หญิงที่ฉันต้องการให้ช่วยฉันไปสู่เป้าหมาย” ลูซิเฟอร์ตอบ

“อีกไม่นานนายก็จะรู้จักเธอ” ความเงียบก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อไม่มีใครพูดอะไรอีกนานแคสเซียสสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาถอนหายใจ “ตอนนี้เราอยู่กันลําพังแล้ว บอกฉันเกี่ยวกับอดีตของนายหน่อยได้ไหม? นายรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอดีตอันมืดมิดของฉัน และนายยังติดอยู่กับฉัน แม้ว่าจะไม่มีใครทํา แต่ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอดีตของนายเลย”

“อดีตของฉันงั้นเหรอ”ลูซิเฟอร์พึมพําขณะยิ้ม แต่ความเศร้ากลับซ่อนไว้อย่างชัดเจนหลังรอยยิ้มนั้น

“นายอาจจะคิดว่าอดีตของนายมันแย่ แล้วนายก็ได้ทําเรื่องเลวร้ายโดยบังเอิญนั่นคือการฆ่าเพื่อนของนาย แต่ฉันทําได้มากกว่านั้น มือของฉันเต็มไปด้วยเลือดคนหลายร้อยคน และฉันไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย” ลูซิเฟอร์พูดยิ้มๆ

“ในความเป็นจริง จะมีเลือดของคนอีกมากมายในพวกเขาในภายหลัง ไม่เสียใจและไม่หันกลับมามองอีก” เขาพูดต่อขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง

“นายก็รู้ ฉันก็พูดอะไรทํานองนี้เหมือนกัน ฉันก็รู้สึกแย่ เมื่อฉันบอกนายเกี่ยวกับตัวฉันเอง แต่นายบอกว่าฉันต้องมีเหตุผล ฉันคิดว่านายไม่ได้ชั่วร้ายเลย แล้วเหตุผลของนายคืออะไร? แล้วนายไปทําอะไรมา” แคสเซียสถามด้วยความเป็นห่วง เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดต่อ “ได้โปรดบอกฉันที หากนายเชื่อฉันแม้แต่นิดเดียว…”

“นายเคยได้ยินชื่อเซล แอซเรลไหม” ลูซิเฟอร์ถามอย่างใจเย็น

แคสเซียสส่ายหัวเล็กน้อยพลางตอบ “ฉันคิดว่าฉันเคยได้ยินชื่อนั้นมาก่อน พ่อของฉันพูดถึงมันครั้งเดียว เป็นคนที่มีอานาจ แต่ฉันไม่รู้อะไรมากกว่านั้นอีกแล้ว ”

“เขาเป็นคนใหญ่คนโตหรือเปล่า” เขาถาม “ฉันขอโทษ แต่ที่ที่ฉันอยู่อยู่ไกลจากทวีปนี้ เลยไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่”

“ไม่เป็นไร.. พอนายโตพอนายจะเข้าใจทุกอย่าง เขาเสียไปแล้ว และฉันสงสัยว่าเมืองของนายอาจจะมีเขาอยู่ในห้องสมุด แต่สําหรับผู้คนในชาตินี้และทั่วทั้งทวีปนี้ เขาเป็นวีรบุรุษ”

ลซิเฟอร์อธิบาย “อันที่จริง เขาเป็นคนหนึ่งที่หยุดมหาสงครามครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายกับวอร์ล็อคคนอื่นๆ ในประเทศนี้ ฉันไม่รู้ว่านายรู้หรือไม่ เขามีส่วนอย่างมากต่อมนุษยชาติ แม้แต่ภรรยาของเขาก็ท่าเช่นเดียวกัน” เขากล่าวต่อ

“พวกเขาหยุดมหาสงคราม? ถูกต้อง ฉันได้ยินมาว่าเอลิเซียมมีส่วนอย่างมากในการยุติสงคราม แต่ไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในขณะนั้น” แคสเซียสกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ฉันไม่รู้ว่าทําไมถึงเป็นเช่นนั้น ถ้ามีรายละเอียด ฉันแน่ใจว่าผู้ชายที่นายพูดถึงจะต้องถูกตั้งชื่อที่นั่น เขาดูเป็นคนดีจริงๆ” เขากล่าวต่อ

“ใช่ เขาเป็นแบบนั้น…” ลูซิเฟอร์พื้มฟ้า

“คืออะไร?” แคสเซียสถามพลางขมวดคิ้ว

“ใช่ และฉันคิดว่าฉันรู้แล้วว่าทําไมรายละเอียดของมหาสงครามครั้งล่าสุดจึงไม่ถูกกล่าวถึงต่อสาธารณชนทั่วไป พวกคนใหญ่คนโตไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง อย่าว่าแต่ประเทศของนายเลย มันเป็นความลับเหมือนกันที่นี่” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“เขาเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายได้อย่างไร” แคสเซียสถามอย่างสับสน

“เพราะเขาเป็นพ่อของฉัน” ลูซิเฟอร์กล่าว แคสเซียสตกตะลึง

“เขาเป็นของนายงั้นเหรอ พ่อ? วีรบุรุษแห่งทวีปแห่งนี้?” แคสเซียสถามอย่างตกตะลึง..

ตอนที่ 240: สัญญาถูกสร้างมาเพื่อให้ล้มล้าง

“ถูกต้อง เรายังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำเมื่อคุณกดสัญญาณเตือนโชคดีที่ไม่มีใครรบกวนเราอีกต่อไป” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เดินไปที่เตียงวางขาข้างหนึ่งไว้เหนืออีกข้างหนึ่งเขานั่งอย่างสบายใจขณะที่มองไปยังโจซึ่งดูเหมือนจะกลัว

“ยามของคุณตายหมดแล้ว และผมสัญญากับคุณได้เลย พวกเขาไม่ได้ตายอย่างดีๆ ดังนั้นถ้าคุณไม่ต้องการเป็นเหมือนพวกเขาก็ให้สิ่งที่เราต้องการมา”ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

“กะ-แกต้องการอะไร” โจถามอย่างเหงื่อตก

“ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่ต้องการทรัพย์สินทั้งหมดของคุณและทุกสิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ”ลูซิเฟอร์

ตอบ

“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน? แกต้องการทุกอย่างที่ฉันเป็นเจ้าของ? ฉันจะยากจนแบบนั้นไม่ได้หรอก! ฉันจะต้องเริ่มเป็นขอทานงั้นเหรอ! แกยอมประนีประนอมเสียครึ่งหน่อยได้ไหม” โจถามพร้อมเสนออย่างอื่นให้

“ได้สิ ถ้าฉันประนีประนอมกับความมั่งคั่งของคุณ คุณก็จะประนีประนอมกับชีวิตของคุณด้วยให้ฉันเอาครึ่งหัว ครึ่งแขน และครึ่งขาของคุณไปด้วย ฉันจะฝากอีกครึ่งหนึ่งให้คุณ” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างประชดประชัน

“พี่ชาย ถ้าฉันอยู่ในที่ของคุณ ฉันจะให้ทุกอย่างแก่เขา เพราะชีวิตสําคัญกว่า” เจียงเตือนโจจากด้านหลัง

“ก็ได้! ฉันจะให้ทุกอย่างที่คุณต้องการ” โจตอบ พลางยอมแพ้ “แต่ฉันจะทําอย่างไรดี”

“ง่ายๆ คุณแค่ต้องบอกว่าคุณเบื่อชีวิตนี้และคุณกําลังให้ทรัพย์สินทั้งหมดของคุณแก่เจียง” ลูซิเฟอร์ตอบ

” พูดอย่างนั้นต่อหน้าคนทั้งเมืองแล้วคุณสามารถพูดได้ว่าคุณกําลังจะไปกลายเป็นนักบุญบนภูเขาฟิโอซันจากนั้นคุณสามารถออกจากประเทศได้ ฉันจะให้เงินคุณเดินทาง”เขาอธิบายเพิ่มเต็ม

“ฉัน?” เจียงอธิบายด้วยความตกใจ

ลูซิเฟอร์มอบทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้เขาเหรอ? เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีอารมณ์ตอนนี้เขาคงจะรวยมากทั้งหมดเป็นเพราะลูซิเฟอร์

เขาไม่ทราบว่าลูซิเฟอร์ไม่สามารถรับทรัพย์สินในนามของเขาได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขามอบให้เจียง

“ถูกต้อง คุณจะเป็นเจ้าของบริษัทเวลลิ่ง” ลูซิเฟอร์ตอบ “และความมั่งคั่งทั้งหมดที่มาพร้อมกับมัน”

เขามองกลับมาที่โจในขณะที่เขาถามว่า “คุณยอมรับหรือไม่”

“และนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจเป็นนักบุญและทิ้งชีวิตนี้ ฉันต้องการสัมผัสความสุขที่แท้จริงของชีวิตและความสงบที่แท้จริงฉันจึงออกจากธุรกิจและเมืองฉันมอบทุกอย่างให้เพื่อนสนิทของฉันนายเจียง!”

เจียงเข้าร่วมงานแถลงข่าวกับโจ ซึ่งกําลังทําทุกอย่างที่ลูซิเฟอร์บอกเขาสื่อหลายช่องทางอยู่ที่นี่แม้แต่สมาชิกสภาเมืองก็อยู่ที่นี่เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่โจเวลลิ่ง

ไม่เพียงแต่เป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองเท่านั้น แต่เขายังเป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศอีกด้วย

แม้แต่ลูซิเฟอร์ก็อยู่ที่นั่น ก็กําลังปลอมตัว เพื่อเฝ้าดูทุกอย่าง

เขาเตือนโจแล้วว่าถ้าเขาทําผิดหรือบอกความจริงกับคนอื่น สายฟ้าจะผ่านเข้ามาในหัวของ

ไม่มีใครรู้ว่าโจ เวลลิ่งถูกบังคับให้ทําเช่นนี้ ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคฤหาสน์ของเขาถูกโจมตีและผู้คุ้มกันหลายคนของเขานอนอยู่ในรูปของขี้เถ้า

ทนายความก็อยู่ที่นั่นพร้อมกับเอกสารที่เหมาะสมที่จะทําให้เจียงเป็นเจ้าของทุกสิ่งที่โจเป็น
เจ้าของ

“โปรดลงนามในสถานที่ที่ฉันทําเครื่องหมายไว้” ทนายความบอกกับโจโจสูดหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่เขาเหลือบมองไปไกลๆ ที่ลูซิเฟอร์ยืนอยู่

เขาอยากจะร้องไห้ วันนี้เขาสูญเสียทุกอย่างที่เขาทุ่มเทไป และเขาไม่แม้แต่จะส่งเสียงดังเขาไม่ได้แสดงความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาหยิบปากกาขึ้นมาและเริ่มเซ็นเอกสาร

“คุณเจียง ตาคุณแล้ว เซ็นเอกสาร หลังจากนั้นคุณจะกลายเป็นเจ้าของทุกคนที่นายเวลลิ้งเป็นเจ้าของ” ทนายความบอกกับเจียง

เจียงมีความสุขมากในขณะนี้ ไม่เหมือนกับโจ ดูเหมือนว่าเขาจะโชคดีมากโดยไม่ได้ทําอะไรเลยเขาได้รับเงินมากมาย

เขาหยิบปากกาขึ้นมาและลงนามในเอกสารอย่างมีความสุข

“การโอนเสร็จสมบูรณ์อย่างเป็นทางการ!” ทนายพูดยิ้มๆ คนอื่นๆ เริ่มปรบมือโดยไม่รู้ว่าพวกเขากําลังปรบมือให้กับความโชคร้าย

“อย่างที่คุณเห็นเมื่อกี้! โจ เวลลิ่ง! หนึ่งในผู้มั่งคั่งที่สุดในเอลิเซียมเพิ่งบริจาคทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาให้เพื่อนของเขาที่จะเข้ามาอยู่ในรายชื่อที่ร่ำรวยที่สุดในเอลิเซียม!” ช่องข่าวต่างๆ ดูเหมือนจะตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเทศนี้เวลลิ่ง!ให้สัมภาษณ์เพียงครั้งเดียว!”

“นายเวลลิ่ง! แค่คําถามไม่กี่ข้อครับ!” นักข่าวพยายามจะสัมภาษณ์โจ แต่เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นเขาได้รับการเตือนจากลูซิเฟอร์ว่าเขาต้องจากไปทันทีหลังจากการประกาศ

ลูซิเฟอร์ โจ และเจียง ทั้งหมด พวกเขาสามคนออกจากงานแถลงข่าวและเข้าไปในรถซึ่งเจียงเองขับเอง

พวกเขากลับไปที่คฤหาสน์เวลลิง

ภายในคฤหาสน์เวลลิงนั้นมีเพียง 3 คนเท่านั้น – ลูซิเฟอร์ เจียง และโจ 2 คนแรกกําลังมองดูคนหลังสุดอยู่

“ฉันทําทุกอย่างที่คุณพูด ฉันสามารถออกไปตอนนี้ได้ไหม คุณสัญญากับฉัน? ทําไมคุณหยุดฉันตอนนี้” โจถามลูซิเฟอร์ด้วยความรู้สึกกังวล สัตว์ประหลาดตัวนี้ต้องการอะไรอีกในตอนนี้เขาสงสัย

“คุณอยากรู้อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากมนุษย์หรือไม่ มีคําพูดในหมู่พวกเขาอยู่”ลูซิเฟอร์พูดในขณะที่เขา เหลือบมองดวงตาที่น่ากลัวของโจ

“พูดอะไร” เจียงถามด้วยความสงสัย

“เป็นคําพูดที่สนุกมาก บางครั้งคําสัญญาก็มีไว้เพื่อทําลาย” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

“ม-หมายความว่าคุณโกหก? คุณต้องการอะไรจากฉันอีก คุณเอาทุกอย่างไปแล้ว! ฉันก็ทําทุกอย่างที่คุณพูดด้วย! คุณต้องการอะไรอีก!” โจตะโกนด้วยความรู้สึกกลัว

“คุณมีอะไรอีกนอกจากชีวิตของตัวเอง แน่นอน ฉันต้องการชีวิตของคุณตอนนี้ฉันคิดว่าฉันเข้าใจแนวโน้มของมนุษย์ ด้วยความกลัว คุณทําตามที่ฉันพูด แต่ทันทีที่คุณจากไปคุณจะบอกความจริงและ บางที่อาจต้องใช้ความช่วยเหลือจาก APF และคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ” ลูซิเฟอร์กล่าวพร์ อมยิ้ม

“เรื่องมันจะยุ่งมากเกินไป และวิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คือ ฉันแค่ฆ่าคุณ จริงไหม?” เขาถามต่อ

“มะ-ไม่! ผมสัญญาจะไม่บอกใคร! ผมสัญญา!” โจพูดพลางถอยกลับไปมากขึ้น

“ฉันไม่ได้บอกคุณเกี่ยวกับคําพูดนั้นแล้วหรือ สัญญาก็ไม่มีค่าสําหรับฉันอีกต่อไป”ลูซิเฟอร์กล่าวขณะที่เขายืนขึ้นเขาเริ่มเดินไปหาโจในขณะที่เขาถอดถุงมือจากมือขวา

“และคุณพูดถูกอย่างหนึ่ง คือคุณจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ รู้ไหมว่าทําไม?” ลูซิเฟอร์ถามขณะยิ้ม

“เพราะแกไม่มีชีวิตไปบอกใคร!” เขาพูดอย่างเคร่งขรึมขณะวางมือบนใบหน้าของโจ

“อ๊าก!”

คืนนั้นเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดดังก้องอยู่ในคฤหาสน์ก่อนที่มันจะเงียบสนิท..

ตอนที่ 239: ความผิดพลาดที่โง่เขลา

“อะไรจะรีบร้อนขนาดนั้น เชิญมากับผมก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับท่านเรื่องบางอย่าง” ลูซิเฟอร์พูดกับชายคนนั้นขณะที่วางมือบนไหล่ของชายผู้นั้นก่อนออกจากร้าน เจียงจ่ายบิลขณะที่เขาออกจากร้าน

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ก้าวเข้าไปในคฤหาสน์ เมื่อเข้าไปในคฤหาสน์ เจียงปิดประตูและล็อคมันอย่างแน่นหนา

“เรื่องนี้มันช่างง่ายดาย” เจียงกล่าว “คุณคิดว่าห้องของเขาจะอยู่ที่ไหน”

“น่าจะอยู่ชั้นบน นายยืนอยู่ที่นี่ก่อน มีอะไรให้เรียกหาฉัน และถ้ามีอะไรผิดพลาด หรือนายสังเกตเห็นใครบางคน ให้รีบแจ้งฉันทันที” ลูซิเฟอร์บอกเจียง ขณะที่เขาลอยขึ้นไปชั้นบน

“แน่นอนเขาสามารถลอยได้เช่นกัน” เจียงพูดออกมาและกลอกตา พลางมองลูซิเฟอร์ขึ้นไปที่ชั้นบน

ไม่นานเขาก็จบลงที่ห้องนอนของชายเจ้าของบ้าน เมื่อมองไปรอบๆ ก็ได้ยินเสียงมาจากห้องอาบน้ํา เขาไม่รอช้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาก็เดินไปที่ประตูประตูยกเท้าเหยียบประตูทุบพังทันที่ที่ประตูฟัง ลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปในห้องน้ําก็เจอแต่ชายอ้วนท้วนที่ยืนนิ่งไม่มีเสื้อผ้า

“แกเป็นใคร” ชายคนนั้นถามอย่างฉุนเฉียว

“โจ เวลลิ่ง?” ลูซิเฟอร์ถามชายผู้นั้นอย่างสงสัย

“เจ้ากล้าดียังไงมาเหยียบเข้าไปในคฤหาสน์ของข้าแล้วบุกเข้ามาในห้องของข้า!” ชายผู้นั้นคํารามอีกครั้งขณะที่เขากําหมัดแน่น เขาต่อยปุ่มสีแดงที่วางอยู่ในห้อง บ้านทันทีที่กดปุ่มสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วทั้งบ้าน

“ฉันช้าไป นี่คุณตั้งสัญญาณเตือนไว้ในห้องน้ําเลยหรือ? คุณนี่มันเป็นคนขี้ขลาดตัวโตจริงๆ ใช่ไหม ดีละถ้าอย่างนั้น มันไม่สําคัญ ฉันต้องการทําสิ่งที่ดี แต่ถ้าโลกไม่ต้องการฉันก็ไม่เป็นไร” ลูซิเฟอร์พึมพําในขณะที่ถอนหายใจ

“แกควรกังวลเกี่ยวกับตัวเองเด็กน้อย! อีกไม่นาน ยามในคฤหาสน์ของข้าจะอยู่ที่นี่! แกจะเสียใจที่เข้ามาในห้องน้ําของฉัน!” ชายคนนั้นตะโกนใส่ลูซิเฟอร์

“ฉันไม่ชอบเสียงดัง” ลูซิเฟอร์พึมพําเบา ๆ ขณะที่เขาจับนิ้วของชายที่ชี้มาที่เขา

กรีกๆๆ!

“อ๊าาากกก!”

ลูซิเฟอร์หักนิ้วของชายคนนั้นโดยไม่ต้องคิด

โจยังคงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด เมื่อลูซิเฟอร์คว้าคอเขาแล้วโยนเขาออกไปนอกห้องน้ํา

ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น ลูซิเฟอร์ถอดแว่น หมวก และวิกผมออกด้วยเพราะเขาไม่สนใจของเหล่านั้นในตอนนี้ เขาได้ตัดสินใจว่าทั้งคฤหาสน์นี้จะถูกล้างบาง ในขณะนี้สิ่งเหล่านั้นจึงไม่สําคัญอีกต่อไป

“ฉันคิดว่าทางที่ดี มันไม่ได้สร้างมาเพื่อฉัน ฉันไม่ควรแม้แต่จะพยายาม ทางที่ยากคือหนทางเดียวสําหรับฉัน” ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมขมวดคิ้ว

นี่เป็นการทดสอบสําหรับเขาเพื่อดูว่าทางเก่าของเขาดีกว่าหรือทางอ้อมดีกว่า และตอนนี้เขาได้คําตอบแล้ว

“ลูซิเฟอร์! ฉันรั้งพวกมันไว้ไม่ไหวแล้ว!” ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินไปหาโจ เขาได้ยินเสียงตะโกนมาจากบริเวณใกล้เคียง เจียงได้บุกเข้าไปในห้อง

“ฮ่าฮ่าฮ่า แกก็เห็นผลของการแกล้งฉันแล้วนี่! แกทํานิ้วฉันหักเหรอ ฉันจะหักกระดูกแกให้หมด!” โจพูดอย่างโมโหขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ

“ฉันคิดว่านั่นจะเป็นความฝันสําหรับคุณ อย่างน้อยก็ในช่วงชีวิตนี้” ลูซิเฟอร์พูดออกมาขณะเดินไปที่ประตู

“เดี๋ยวก่อน! มีคนถือปืนอยู่ข้างนอก! ระวัง!” เจียงเตือนลูซิเฟอร์ที่กําลังจากไป

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจเขา ขณะที่เขาออกไป ปิดประตูตามหลังเขา เสียงการยิ่งเริ่มมาราวกับว่าฝนกระสุนอยู่ข้างนอก

“ห้ะ! คู่ของแกกินขนมปังแล้ว! ในไม่ช้าแกจะตามเขาไป!” โจบอกเจียง ในขณะที่เขาหัวเราะดังยิ่งขึ้นไปอีก “ฉันยังปล่อยให้แกมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าแกยอมจ่านน!

เจียงมองไปที่ชายคนนั้นราวกับว่าเขากําลังมองดูคนงี่เง่า คนที่กลั่นแกล้งAPE ทั้งหมด… เขากำลังจะประจบประแจงกับมนุษย์บางคน เขารู้สึกเหมือนกําลังหัวเราะ

ลูซิเฟอร์ก้าวออกจากห้อง ขณะที่มีฟ้าผ่าอยู่รอบๆตัวเขา “มันเป็นแวเรียนท์! ฆ่ามันซะ!”

สายฟ้ารอบๆ มือของลูซิเฟอร์ทําให้เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นแวเรียนท์ ขณะที่ยามยกปืนขึ้น

โชคไม่ดีที่ก่อนที่พวกเขาจะยิง ลูซิเฟอร์โบกมือเบาๆ เขาร่ายเพียงคลื่นแสง ไม่มีสายฟ้าพุ่งเข้าหา ยามหรืออะไรก็ตาม แต่คลื่นที่อ่อนโยนนั้นทําให้หัวทหารยามกลิ้งไปมาบนพื้น

“ครั้งแรกที่ใช้ใบมีดแห่งลม ในการต่อสู้ ไม่เลวเลย” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะเดินไปหาทหารยาม ซึ่งศพของเขานอนอยู่บนพื้น ทว่าคนเหล่านี้เป็นเพียงยามที่อยู่ในคฤหาสน์ ยามที่อยู่ด้านนอกยังคงพยายามจะบุกเข้าไปข้างในเป็นหลัก แต่ประตูถูกล็อค

ลูซิเฟอร์เดินไปหาศพแล้วหยิบปืนกลขึ้นมา “ไม่ใช่ของเล่นเสียหน่อย” เขาพึมพําขณะบินลงไปข้างล่าง ยืนอยู่หน้าประตู เขาเริ่มรอให้ประตูเปิดพร้อมเล็งปืนไปในทิศทางประตู

บึง! ปัง! ปัง!

เขายิงออกไปและลูกกระสุนเหล่านั้นมันกําลังสร้างรูรอบๆ ตัวพวกเขา
ไม่นานนักก่อนที่ทหารยามที่เหลือก็จะเสียชีวิตด้วยปืนของลูซิเฟอร์ เขาโยนปืนไปด้านข้าง ขณะที่เขาถอดแจ็คเก็ตสีน้ําเงินทั้งตัวออกเผยให้เห็นเสื้อผ้าจริงของเขาที่ยังคงสะอาดสะอ้านอยู่

“นั่นก็ไม่ยาก ของเล่นของมนุษย์ไม่ได้แย่จริงๆ” เขาพึมพํา ขณะเริ่มเดินขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง คราวนี้เขาไม่สนใจแม้แต่จะทําความสะอาดศพด้วยซ้ํา

คฤหาสน์ของโจ เวลลิ่งนั้นใหญ่โต และถูกล้อมรอบด้วยสวนขนาดใหญ่จากทั้งหมด นั่นหมายความว่าคนเดินผ่านไปมาบนถนนจะไม่ได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่

“เสียงปืนหยุดลง เพื่อนของแกต้องตายไปแล้วแน่ๆ” โจพูดกับเจียงอีกครั้ง ในขณะที่เขายืนขึ้น ใบหน้าของเขายังคงซีด ขณะที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดจากนิ้วที่หัก

ประตูห้องเริ่มเปิด ในขณะที่โจยิ้มและมั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้ เป็นยามของเขา เจียงยังคงสงสัยเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมั่นใจในลูซิเฟอร์ แต่เขาก็ยังคงเป็นกังวล

เมื่อประตูเปิดออก สีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไป ขณะที่เจียงมีความสุข แต่ตอนนี้ โจกําลังตกใจ

“หึ มันเป็นแกได้อย่างไร! นี่แกไม่ตายหรือไง”โจถามพลางถอยกลับไป”ไม่มีแผลแม้แต่นิดเดียวงั้นเหรอ”

“จะพูดอะไรนักหนา คนเลวอยู่ยืนยาว คนดีตายเร็ว แล้วใครเล่าจะแย่ไปกว่าฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบพลางยิ้มเยาะเหมือนปีศาจ.. “แล้วเราจะอยู่จุดไหนกัน?”

ตอนที่ 238: เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์

“ฉันได้ยินมาว่าเขาจ้างแวเรียนท์ 2-3 คนเพื่อเป็นยามของเขา มันจะไม่แย่เหรอ?” เจียงถาม

“ฉันไม่สนหรอกว่าเขาจะมีสักกี่คน แม้ว่าเขาจะให้วารันท์คอยดูแลเขาเป็นการส่วนตัว แต่ฉันก็ยังไปที่นั่น” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเคร่งขรึม

“แล้วเบาะแสของกุญแจล่ะ? ตอนนี้บ้านของคุณหายไปแล้ว คุณรู้ไหมว่าเราจะหามันได้ที่ไหน” เจียงถามต่อไปเมื่อเขาเดินตามหลังลูซิเฟอร์

“ฉันสงสัยว่าเราจะทําได้ แต่มันก็คงยากอยู่แล้ว และตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้ ฉันเดาว่ากุญแจนี้จะไม่พบแม่กุญแจของมัน” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่เหลือบมองดูกุญแจของเขา

“บางที่ความลึกลับนี้อาจจะไม่ได้รับการแก้ไข หลังจากที่พ่อแม่ของฉันเสียชีวิต” เขากล่าวต่อ “ปล่อยมันไปเถอะ”

“คุณทําได้ อย่ายอมแพ้ตอนนี้ ฉันอยากจะรู้ว่ามันปลดล็อคอะไร พ่อแม่ของคุณ ไม่มีเพื่อนสนิทที่รู้เรื่องนี้หรือ?” เจียงถามด้วยความสงสัย

“พวกเขาไม่มี” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน “อย่างน้อยฉันก็ไม่รู้เกี่ยวกับพวกเขา ถ้ามีดังนี้นถึงมีก็ไม่ควรอยู่ใกล้กันขนาดนั้น”

“ดูเหมือนว่ามันจะเป็นทางตัน” เจียงพูดออกมา ในที่สุดเขาก็ยอมแพ้

“อย่ากังวลไป เรายังต้องหาอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเหมือนก้อนหิน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคของเรา บางทีสักวันเราจะได้กุญแจเหมือนกัน” ลูซิเฟอร์ตอบ

“นี่ ลูซิเฟอร์ ฉันขอถามคุณหน่อยได้ไหมว่าคุณสบายดีไหม? ฉันหมายถึง คุณเพิ่งพบว่าบ้านของคุณถูกทําลาย และคุณยังคงพูดอย่างไม่ใส่ใจ ดูเหมือนคุณจะไม่สนใจบ้านของคุณจากหน้าตาของคุณ” เจียงพูดกับลูซิเฟอร์ หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย

“แล้วอีกครั้ง คุณกําลังเสี่ยงเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสร้างที่นั่น ดูเหมือนว่าคุณจะใส่ใจ แล้วอันไหนคือความจริง” เขาพูดต่อ

“ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ? ฉันไม่ใช่สิ่งที่ฉันเป็นเมื่อหลายปีก่อน ฉันเรียนรู้ที่จะปลอมแปลงเป็นอย่างดีแล้ว นายสามารถพูดได้ว่าฉันกําลังเป็นเหมือนมนุษย์จอมปลอมมากขึ้น” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมกับยิ้ม

“แต่อย่าสับสน ข้างในฉันพยายามอย่างหนักที่จะควบคุมตัวเอง ดังนั้น ฉันจะไม่ทําลายเมืองทั้งเมือง” เขากล่าวต่อ

“นี่…” เจียงพบว่ามันยากที่จะรวบรวมคําพูดต่อไปของเขา หลังจากนั้น เขาได้ยินเรื่องของลูซิเฟอร์มากขึ้น ยิ่งรู้จักลูซิเฟอร์มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเชื่อว่าลูซิเฟอร์เป็นระเบิดเวลา

“นายหาที่อยู่ของผู้ชายคนนั้นเจอไหม” ลูซิเฟอร์ถามเลี้ยงด้วยความสงสัย

“ฉันเจอแล้ว เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองลีเจี้ยน เขาอาศัยอยู่ทางตะวันตก ในเมืองเคนซิงตัน” เจียงตอบ

“แล้วคุณจะรออะไรอีก? ขึ้นแท็กซี่” ลูซิเฟอร์บอก

เขาดึงมือออกจากกระเป๋ากางเกงขณะเหลือบมองถุงมือที่ดูโทรม

“ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันคิดว่าพวกมันคงอยู่ได้เป็นปี ฉันประหลาดใจที่ฉันคิดผิดถึงขนาดนี้ แม้จะผ่านไป 8 ปีแล้ว พวกมันก็แทบจะไม่เหลือชิ้นดี แต่พวกมันจะไม่อยู่เป็นเวลานานกว่านี้หรอก” ลูซิเฟอร์พึมพํา พลางเหลือบมองถุงมือ

“แต่ฉันยังพอมีเวลาอีก 2-3 ปี นั่นน่าจะเพียงพอแล้วสําหรับการทําสิ่งที่ฉันต้องการจะทํา” เขากล่าวต่อในขณะที่ส่ายหัวทั้งหมดที่เขารู้ก็คือถุงมือมีอายุการใช้งานที่จํากัด เนื่องจากเขาเคยเห็นแม่ของเขาถอดถุงมือที่เกือบทําลายทิ้งและสวมอันใหม่

เขาไม่รู้ว่าแม่ของเธอสวมถุงมือเก่ามานานแค่ไหน เพื่อความปลอดภัย เขาสันนิษฐานว่าอายุขัยของพวกมันคือ 1 ปีเขาไม่รู้ว่าแม่ของเขาสวมถุงมือเหล่านั้นตั้งแต่ก่อนเขาเกิดด้วยซ้ํา หลังจากที่เขาอายุได้ 4 ขวบ ถุงมือของเธอไม่ทํางานและผู้เป็นส่วนใหญ่ ตอนนั้นเองที่เขาเห็นเธอเปลี่ยนมัน

เขายังไม่รู้เลยว่าเขาจะไปจากถุงมือได้นานแค่ไหน แต่เป็นที่แน่ชัดว่าใกล้จะสิ้นอายุขัยแล้ว

“ฉันจะพูดอีกครั้ง เราต้องการรถ เราไม่สามารถขึ้นรถแท็กซี่ได้ตลอดเวลา มันเหนื่อย” เจียงพูดขณะจองรถแท็กซี่“ฉันรู้ ฉันจะจัดการบางอย่างให้” ลูซิเฟอร์ตอบ

คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองเคนซิงตัน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองลีเจี้ยน คฤหาสน์ถูกล้อมด้วยยามทุกมุม นอกจากนี้ยังมีกล้อง
วงจรปิดทุกแห่ง มีคน 2 คนมาที่ประตูคฤหาสน์หนึ่งในนั้นดูแก่กว่า ดูเหมือนเขามีหนวดเครายาวสีขาว และสวมชุดสีฟ้าที่คลุมทั้งตัวดูเหมือนมีรอยย่นบนใบหน้าด้วย ส่วนตาของเขาเป็นสีน้ําเงินเข้ม

ส่วนอีกคนที่อยู่กับเขา ดูเหมือนชายหนุ่มที่สวมหมวกคลุมศีรษะ เขามีผมสีดําสนิท มีแว่นอ่านหนังสืออยู่บนเขา ดวงตาที่ถูกซ่อนไว้ เพราะหมวกของเขา เขายังสวมเครื่องแบบคล้ายกับชายอีกคน น่าแปลกที่มือของชายคนนั้นมีถุงมือสีดํา ดูเหมือนเขาจะถือของหนักในกระเป๋าของเขา

“แกเป็นใคร” ยามรักษาความปลอดภัยถามคนที่มาเยี่ยมเยียน

“พวกเราเป็นช่างประปาจากแอกเซียน เราถูกเรียกมาที่นี่เพื่อซ่อมแซมรอยรั่ว พวกคุณสามารถตรวจสอบกับเจ้านายได้” ชายชราตอบทหารยามพยักหน้า ขณะเรียกเข้าไปในคฤหาสน์

“ท่านครับ ช่างประปาอยู่นี้แล้ว พวกเขาบอกว่าพวกเขาถูกเรียกมาซ่อม” ยามถามใครสักคนทางโทรศัพท์ยามก็เก็บโทรศัพท์ไว้ ขณะที่เขาจ้องไปที่ชายทั้งสอง

“เข้าไปข้างในได้” ยามพูด พลางเปิดประตู

“เราต้องหยุดที่ร้านนี้จริงๆเหรอ? เราเพิ่งกินไป” เจียงบ่นกับลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาถือห่อมันฝรั่งทอดและขนมอื่นๆ ไว้ในมือ

“นายรู้ไหมว่าฉันหิวเร็ว มันจะมีผลดี ถ้าเก็บมันไว้ในกระเป๋าเพื่ออนาคต” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่เขายืนห่างจากเจียง ซึ่งยืนอยู่ในแถวเพื่อจ่ายเงิน

“ไปเร็ว! ฉันมาสาย! ฉันต้องไปที่คฤหาสน์เวลลิงคนที่รวยที่สุดในเมืองกําลังรอฉันอยู่!”

ขณะที่ลูซิเฟอร์และเจียงกําลังคุยกันอยู่ พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่แหลมคมจากข้างหลังพวกเขา เมื่อมองไปข้างหลัง พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งในชุดสีน้ําเงิน

“คฤหาสน์เวลลิง? คุณหมายถึงว่าเจ้าของตึกเวลลิงเหรอ เขาอาศัยอยู่ที่ไหน” เจียงถามชายคนๆนั้นด้วยความสงสัย

“ใช่แล้ว มีน้ํารั่วไหลในคฤหาสน์ของเขา เขาโทรหาบริษัทของเราเพื่อแก้ไข ฉันได้รับมอบหมายให้ไปที่นั่น ได้โปรดรีบไปเช็คเอาท์เสียก่อน ฉันจะได้ไป!” ชายชุดฟ้าตอบ

เจียงมองดูลูซิเฟอร์ที่กําลังยิ้ม..

ตอนที่ 237: พวกเขาทําลายความไว้วางใจของฉัน

ลูซิเฟอร์ และเจียงได้นั่งแท็กซี่ ซึ่งเริ่มพาพวกเขาไปยังย่านที่อยู่อาศัยที่ลูซิเฟอร์เคยอาศัยอยู่

การขับรถกลับกินเวลานาน เมื่อพวกเขาต้องเดินทางผ่านเมืองต่าง ๆ พวกเขายังเปลี่ยนรถแท็กซี่ 2-3 คัน ในขณะที่เดินทางต่อไป อีกไม่กี่วันก็ถึงเมืองลีเจี้ยนซึ่งเป็นบ้านของลูซิเฟอร์

“ถูกต้องแล้ว นายสามารถวางใจได้ บ้านของเราอยู่ไม่ไกล” ลูซิเฟอร์บอก

เขาบอกให้คนขับแท็กซี่หยุดที่ทางเข้าเมือง เขาไม่ต้องการให้คนขับแท็กซี่ไปส่งถึงที่อย่าง

แน่นอน

ลูซิเฟอร์และเจียงก็ก้าวลงจากรถและจ่ายเงินให้คนขับ ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มเดินจากไป

“รู้ไหม การขึ้นเครื่องน่าจะง่ายกว่า” เจียงบอกกับลูซิเฟอร์เพราะเขาเหนื่อยกับการเดินทางที่กินเวลายาวนาน

“ใช่แล้ว แต่นั่นก็อันตรายเหมือนกันเพราะฉันต้องใช้พาสปอร์ต” ลูซิเฟอร์ตอบพลางขมวดคิ้ว

“คุณไม่มีหนังสือเดินทางเหรอ? เจียงถามด้วยความสงสัย

“คิดว่าฉันจะเอามาจากไหน” ลูซิเฟอร์ถามพลางกลอกตา

“งั้นเราต้องขับรถไปทุกที่เลยเหรอ?” เจียงถามด้วยความสงสัย “แล้วเราจะได้ของปลอมมายังไงล่ะ”

“เราจะคุยกันเรื่องนี้ทีหลัง” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจเจียงและลูซิเฟอร์เดินต่อไปยังเป็นจุ ดที่ทั้ง 2 คนเริ่มหิว ท้องของเจียงคํารามก่อนเป็นคนแรก

“อย่างน้อยเราหยุดกินที่ไหนสักแห่งตอนนี้ได้ไหม ดูสิ มีร้านอาหารอยู่ที่นั่น!” เขาถามขณะลูบท้อง

ลซิเฟอร์มองไปในทิศทางที่เจียงกําลังชี้ไป เขาสามารถเห็นร้านอาหารแต่สิ่งนี้ก็นําความทรงจํามากมายกลับมาเช่นกัน

เป็นร้านอาหารที่เขาฆ่าคน เขายังคงรู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนของอารมณ์ที่เขาต้องเผชิญในวันนั้น

“มันยังเปิดอยู่ ฉันแปลกใจ” ลูซิเฟอร์พึมพํา “มาเถอะ ไปกินที่นั่นกัน”

มือของเขาอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ลูซิเฟอร์เดินไปที่ร้านอาหาร เจียงเปิดประตูให้เขา และทั้งสองก็เข้าไปข้างใน

เมื่อลูซิเฟอร์เข้าไปในร้านอาหาร เขาสังเกตเห็นว่ามีรูปคน 2 รูปบนผนังที่เป็นของคู่สามีภรรยาที่ลูซิเฟอร์ฆ่าในวันที่มืดมิดนั้น

ตอนนี้เขารู้ดีขึ้นแล้ว เขาเข้าใจว่ามีบางสิ่งที่เขาสามารถจัดการได้ดีขึ้น แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนนาฬิกาไม่ได้

มีชายหนุ่มคนหนึ่งบนเคาน์เตอร์ ซึ่งดูเหมือนจะอายุ 20 ต้นๆชายผมสีเข้มมีความคล้ายคลึงกับชายในรูป

ลูซิเฟอร์และเจียงนั่งที่โต๊ะ และชายคนนั้นก็มาพร้อมกับเมนู

เขานําเมนจํานวน 2 เมนูกับลูกค้าที่มาที่ร้าน ในขณะที่เขาเริ่มรอค่าสั่งของพวกเขา

“ฉันเอามิสท์ซุปกับแพนเค้ก” เพียงสั่งทันที

สําหรับลูซิเฟอร์ เขาไม่ได้สั่ง เขากลับมองดูภาพวาดบนผนั่งแทน

“ฉันขอถามได้ไหมว่าคนในรูปเหล่านั้นเป็นใคร”เขาถามชายผมด่า

“พวกเขาเป็นพ่อแม่ของฉัน พวกเขาถูกอาชญากรฆ่า เมื่อ 8 ปีก่อนพร้อมกับคนอื่นๆในร้านอาหารนี้ตอนนี้ฉันจัดการร้านอาหารนี้แล้ว” ชายหนุ่มตอบ

“โอ? มีการสังหารหมู่ที่นี่? ตอนนั้นคุณไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอ?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ฉันอยู่ในหอพัก กําลังเรียนหนังสือ ฉันมารู้ทีหลัง ยังไงก็เถอะ พูดจาเศร้าๆ มากพอแล้วช่วยสั่งอะไรก็ได้ที่นายชอบ”ชายผมดําพูดเปลี่ยนเรื่อง

“โอเค” ลูซิเฟอร์พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

ชายหนุ่มกลับไปบอกกับภรรยา ซึ่งเป็นพ่อครัวของที่นี่

เมื่อนั่งกับลูซิเฟอร์ เจียงสามารถเข้าใจบางสิ่งได้

“คุณคือคนที่…”ลูซิเฟอร์ไม่พูดอะไรและเพียงพยักหน้า

“พวกเขาทําอะไรผิดที่ทําให้คุณไม่พอใจ?” เจียงถามด้วยความสงสัย

“พวกเขาทําลายความไว้วางใจของฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น

เขาชําเลืองมองเจียง ขณะพูดต่อ “ไม่ว่าฉันจะรู้สึกแย่กับใครก็ตาม ถ้ามีคนทรยศต่อความไว้วางใจของฉัน ฉันจะยังฆ่าพวกเขา และฉันจะฆ่าพวกเขาอย่างไร้ความปราณีคุณอาจถือว่ามันเป็นคําเตือนสําหรับคุณ ”

“เข้าใจแล้ว” เพียงปล่อยยิ้มอย่างมีเลศนัย ชายผมดําน้ําซุปและแพนเค้กมาให้ทั้ง 2 คน

หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อลูซิเฟอร์เหลือบมองซุป เขาก็ประหลาดใจ ซุปนี้เป็นซุปแบบเดียวกับที่แม่ของผู้ชายคนนี้ให้ไว้ตอนที่เขายังเป็นเด็ก

“เธอเป็นอย่างไรและเธอเป็นใคร… นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้คนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วแค่ไหนลูซิเฟอร์คิดขณะหยิบซ้อนและเริ่มกิน

“นี่ครับบิล”

หลังจากที่ทั้งสองรับประทานอาหารเสร็จ ชายคนนั้นก็มาพร้อมกับบิลลูซิเฟอร์จ่ายเงินสําหรับทุกอย่างและรวมทิปก่อนที่เขาจะเริ่มจากไป

เขาหยุดที่ทางเข้า ขณะที่เขามองย้อนกลับไป หลังจากเหลือบมองภาพบุคคลเป็นครั้งสุดท้ายเขาก็จากไป

ลูซิเฟอร์และเจียงเริ่มเดินไปที่ย่านนี้โดยคาดว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยแต่เมื่อพวกเขาไปถึงที่นั่นพวกเขาก็ตกตะลึง

นับประสาความปลอดภัย ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นอย่างแท้จริง ไม่มีบ้านเรือนหรืออะไรเลยเฉพาะซากปรักหักพังและบ้านเรือนที่แตกสลายเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ไกลสุดสายตา

โดยไม่ต้องคิดถึง 2 ครั้ง ลูซิเฟอร์เริ่มวิ่งไปยังจุดที่เคยเป็นบ้านของเขา และได้รับการต้อนรับด้วยสิ่งที่จําไม่ได้บ้านของเขา… มันไม่ได้อยู่ที่นั่น

“บ้านคุณอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า” เจียงถามตามทันลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ไม่พูดอะไร แต่มองดูซากบ้านของเขา บ้านพ่อแม่ของเขา… บ้านของเขา… ถูกทําลายไปหมดแล้ว

“ให้ฉันตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่” เจียงกล่าวขมวดคิ้ว เขาน่าโทรศัพท์ออกมาและเริ่มดูอินเทอร์เน็ต

“อ่า นั่นคือสิ่งที่มันเป็น จะมีห้างสรรพสินค้าที่นี่ ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะขายที่ดินนี้ให้กับผู้สร้างบางคน” เจียงอธิบายพร้อมกับขมวดคิ้ว

“พวกเขาจะขายที่ดินของเราได้อย่างไร” ลูซิเฟอร์ถามพลางกําหมัดแน่น

“ฉันคิดว่าเป็นเพราะพวกเขาเป็นเจ้าของที่ดิน หลังจากที่พ่อของคุณเสียชีวิต ฉันหมายถึงในทางเทคนิคแล้ว คุณเป็นเจ้าของที่ดินนี้ แต่พวกเขาก็เข้ายึดครองฉันสงสัยว่าเราจะสามารถทําอะไรได้ในตอนนี้”เจียงกล่าวพร้อมถอนหายใจ

“คนพวกนี้ไม่เคยเปลี่ยนนิสัยที่ชอบพรากของไปจากฉันใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว“ฉันไม่สนหรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันจะไม่มีอะไรถูกสร้างขึ้นในดินแดนนี้!มันจะเป็นแบบนี้ตลอดไปเตือนฉันว่าบ้านและครอบครัวของฉันถูกพรากไปจากฉัน”

“เราจะหยุดความคิดนั้นได้อย่างไร? การก่อสร้างจะเริ่มในสัปดาห์หน้า?”เจียงอธิบายขมวดคิ้ว

“อย่างนั้นหรือ? หาที่อยู่ของผู้สร้างที่เป็นเจ้าของที่ดินมาให้ฉันเดี๋ยวนี้” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขาเริ่มเดินจากไป “ได้เวลาเจอเขาแล้ว”

“คุณจะฆ่าเขาไหม” เจียงถามด้วยความเป็นห่วง “เขาเป็นคนรวยมากและมีรายละเอียดการรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมในคฤหาสน์ของเขามีกล้องวงจรปิดอยู่ทุกหนทุกแห่ง..”

ตอนที่ 236: ความคิดที่โง่เขลา

“อย่ากังวล ฉันรู้คําตอบของนายแล้ว นายรักชีวิต และนายไม่ต้องการให้ APF ต้องทําให้นายทนทุกข์ทรมาน นายยังสามารถดูว่ากุญแจนี้ปลดล็อกอะไร เรามีการผจญภัยมากมายรอเราอยู่ และฉันต้องการนาย ดังนั้นนายออกไปไม่ได้” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาเห็นว่าเจียงไม่สามารถตอบโต้ได้

“นายเป็นคนเดียวที่ช่วยให้ฉันบรรลุเป้าหมาย และฉันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยให้นายได้รับความมั่งคั่งและอิสรภาพ” เขากล่าวเพิ่มเติมกับเจียง ขณะที่เขาเดินจากไป

“เฮ้อ ดูเหมือนว่าเราจะตัวติดกันแล้ว” เจียงพูดพร้อมขมวดคิ้ว

“อย่ากังวลไป นายไม่ใช่คนเดียว ยังมีอีก” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะเดินต่อไป

“งั้นเราจะไปที่บ้านของคุณตอนนี้หรือไม่ เพื่อหาเบาะแส?” เจียงถามด้วยความสงสัย

“ใช่ ถ้านั่นเป็นจุดที่ฉันสามารถหาเบาะแสได้ เราก็ต้องไปที่นั่นยิ่งกว่านั้น ฉันยังต้องการเห็นบ้านเก่าของฉันอีก” ลูซิเฟอร์ตอบ

“เดี๋ยวก่อน! ฉันมีคําถาม! คุณบอกว่า APF ต้องตัวของคุณมากที่สุด คุณจะเดินไปไหนได้อย่างอิสระได้อย่างไร?” เจียงถาม ในขณะที่เขาสังเกตเห็นข้อบกพร่องในเรื่องราวของลูซิเฟอร์

“ง่ายๆ พวกมันต้องการตัวฉันมากที่สุดแต่ภายนอกเท่านั้น ข้างในนั้นพวกเขารู้ว่าฉันตายแล้ว” ลูซิเฟอร์อธิบาย “มันเป็นแค่การค้นหาจอมปลอม ยังไงก็ตามพวกเขาไม่รู้ว่าตอนนี้ฉันหน้าตาเป็นอย่างไร หรือว่าฉันยังมีชีวิตอยู่”

“พวกเขาไม่รู้ว่าคุณหน้าตาเป็นอย่างไร?” เจียงถาม

“ใช่ ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเห็นฉัน เมื่อเกือบ 8 ปีที่แล้ว ตอนที่ฉันอายุแค่ 10 ขวบ”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“8 ปีที่แล้ว? ค้นหาเด็กอายุ 10 ขวบ? ฉันจําได้แล้ว!” เจียงอุทานออกมาทันทีในขณะที่เขายืนนิ่งด้วยความตกใจ

“คุณคือลูซิเฟอร์ แอซ์เรลใช่ไหม ลูกชายของเซล แอซเรล? คนที่เข้าร่วมแวเรียนท์เกิดใหม่? คนที่ฆ่าคนหลายพันคน? คนที่ส่งหัวหน้าหน่วยเดลต้าของ APF ให้อยู่ในอาการโคม่า?”

เขาไม่อยากเชื่อเลย! คนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาคือ คนที่เขย่าคนทั้งประเทศในช่วงชีวิตของเขา! เขาเป็นคนร้ายในขณะที่เขาเป็นฮีโร่ที่ถูกคนอื่นใส่ร้ายว่าเขาทําผิด! เขากลับมาแล้วงั้นเหรอ?

“อืมทุกคนที่นายกล่าวคือฉัน ใช่แล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ “แต่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับอาการโคม่า แซนเดอร์ยังมีชีวิตอยู่เหรอ?”

“ถูกต้อง เขาอยู่ในอาการโคม่ามาเกือบ 8 ปีแล้ว” เจียงตอบ “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันยืนอยู่กับ คุณรู้ไหม ตอนนั้นฉันโกรธที่รู้ทุกอย่าง ตอนนั้นก็มีกระแสสนับสนุนคุณในที่สาธารณะ”

“แต่แล้วคุณก็หายไป คลื่นกลุ่มคนใหม่ๆก็หายไป เมื่อหลายปีผ่านไป แวเรียนท์เกิดใหม่ก็ได้ใช้คลื่นนั้นอย่างเต็มที่เพื่อเกณฑ์แวเรียนท์หน้าใหม่เข้าไป พวกมันแข็งแกร่งกว่าที่เป็นอยู่มาก ถ้าคุณไม่หายไป คุณก็สามารถใช้พวกนั้นสนับสนุนด้วยเช่นกัน” เขากล่าวเพิ่มเติม

“หาย? ฉันไม่ได้หายไป วารันท์มาหาฉันเอง และโจมตีฉันจากด้านหลัง ก่อนที่เขาจะ โยนฉันลงทะเลทั้งหมดเกิดขึ้นในวันที่เรื่องราวของฉันถูกเปิดเผย ตอนนี้ฉันหายดีและกลับมาแล้ว” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“อะไรนะ พวกเขาโยนคุณลงทะเลให้ตายงั้นหรอ แล้วการค้นหานั้น…”

“นั่นมันก็แค่ม่านที่กําลังปิดบังความจริง คนอื่นๆ เลยไม่รู้ว่าพวกมันมาหาฉันแล้ว อย่างที่นายว่า มีคลื่นของพลังสนับสนุน” ลูซิเฟอร์ตอบ “บางที พวกเขาคงไม่อยากดูเหมือนคนเลวมากกว่าที่เคยเป็น”

“ทําไมคุณไม่มาแสดงตัวต่อหน้าสาธารณชน บอกความจริงกับพวกเขา รับการสนับสนุน!”เจียงแนะนํา

“เป็นความคิดที่งี่เง่าถ้าฉันเคยได้ยิน อย่างที่นายพูด การสนับสนุนเป็นเพียงเวลาชั่วคราว นายคิดว่าผู้คนใส่ใจจริง ๆ หรือไม่ ในช่วงเวลาของอารมณ์ พวกเขายืนขึ้นและสนับสนุนบางสิ่ง แต่อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็ก้าวต่อไป ต่อ

สิ่งต่อไป” ลูซิเฟอร์อธิบาย

“ทุกคนไม่น่าเชื่อถือ ฉันต้องการทําในสิ่งที่ฉัน ฉันไม่ต้องการฝูงชนและความรับผิด ฉันต้องการทีม นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการและสําหรับสิ่งที่ฉันกําลังจะทํา นั่นคือให้นายหาก้อนหิน ฉันต้องการตามหาความจริง และนายสามารถทํามันได้ เพราะนายคือเครื่องจับเท็จของฉัน และ…” ลูซิเฟอร์ พึมพํา แต่เขายังพูดไม่จบ

“ทําไมคุณไม่รับความช่วยเหลือจากแวเรียนท์เกิดใหม่?” เจียงถาม

“เพราะว่าฉันไม่ไว้ใจพวกเขาเหมือนกัน ง่าย ๆ เมื่อถึงจุดนี้ ฉันไม่สามารถเชื่อถือองค์กรใด ๆ ได้” ลูซิเฟอร์ตอบ “ฉันจะทําของตามวิถีทางของฉัน ดูเหมือนว่าฉันจะอยู่ในขุมนรกที่ลึกกว่าที่ฉันคิดไว้ แต่แล้วอีกครั้ง เมื่อฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะอยู่เฉยๆ ดีกว่าถูกนายฆ่าเสียอีก”

“เช่นกันเพราะพ่อของคุณเป็นฮีโร่ของฉันด้วย เขาเคยช่วยชีวิตฉันไว้ครั้งหนึ่งเช่นกัน ฉันคิดว่านี่ อาจเป็นการยกย่องเขา” เจียงตอบ ในขณะที่เขาตกลงที่จะอยู่ในทีม

“แต่ด้วยสัญญาเพียงข้อเดียว” เขาพูดต่อ

“สัญญาอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“สัญญากับฉันว่าคุณจะชนะ ไม่ใช่วันเอพริล ฟูลส์ เดย์กับฉันอีก ตราบใดที่มันไม่ใช่วันแรกของเดือนเมษายน!” เจียงพูดอย่างหนักแน่น

ลูซิเฟอร์เหลือบมองเจียง ขณะที่เขาหัวเราะ ออกมา คําตอบของเจียงนั้นแหวกแนวมากจนเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ มันเป็นนานมาแล้วตั้งแต่เขา หัวเราะอย่างเปิดเผย

“เอาล่ะ ฉันจะคิดดู” เขาตอบขณะควบคุมเสียง หัวเราะ “ว่าแต่ คุณกําลังเรียกแท็กซี่หรือให้ฉันรถดี”

“ฉันจะจองแท็กซี่เอง” เจียงตอบ “แต่ยังมีอีก อย่าง”

“ประเด็นคือเราไม่สามารถนั่งแท็กซี่ได้ตลอด เราต้องการรถในบางจุด ฉันรู้ว่าคุณขับรถไม่ได้ ดังนั้นฉันจะขับเป็นไง”

“นายมีรถไหม” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ฉันยากจน คุณคิดว่าฉันสามารถซื้อมันได้จริงๆ เหรอ” เจียงถามพลางกลอกตา

“เมื่อ APF จับฉันมา เพื่อเป็นการลงโทษและ เป็นการเตือนความจํา พวกเขานําสมบัติทั้งหมดที่ฉันรวบรวมมาพร้อมกับหินก้อนนั้น”

“เอาล่ะ ฉันจะจัดการบางอย่างให้” ลูซิเฟอร์ตอบ “ความจริงน่าจะมีสักอย่าง เมื่อเราไปถึงที่นั่นเราก็ทําได้”

“ความจริงที่คุณพูดถึงคือใคร? นั่นเพื่อนคุณเหรอ” เจียงถาม ขณะเปิดโทรศัพท์เพื่อสั่งรถแท็กซี่

“เป็นคนแปลกหน้า” ลูซิเฟอร์ตอบ “อย่างน้อยก็ ในตอนนี้”

เจียงพยักหน้าอย่างไม่ตั้งใจ แต่ตอนนั้นเองที่ใจเขาจําบางอย่างได้

“เดี๋ยวก่อน! คุณกําลังพูดถึงความจริงนั้นเหรอ? คนที่สามารถจับโกหกได้ทั้งหมด”

“ในเมืองนี้ยังมีความจริงอื่นอีกไหม” ลูซิเฟอร์ ถามด้วยความสงสัย “ฉันต้องการให้นายอยู่กับฉัน ถ้าฉันอยากรู้เรื่องโกหกและความจริง ดังนั้น นายจึงเป็นส่วนสําคัญของทีม”

“ผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างน่ากลัว เราต้องระวังรอบตัวเธอในภายหลัง” เจียงเตือนลูซิเฟอร์

“ทําไม? อะไรที่น่ากลัวเกี่ยวกับเธอ?” ลูซิเฟอร์ถาม

“ว่ากันว่าเธอไม่เพียงจับโกหกได้ แต่เธอยังสา มารถอ่านความคิดได้ตราบใดที่แวเรียนท์ตรงหน้าของเธอจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเธอ” เจียงอธิบาย

“เธอสามารถอ่านความคิดได้ ? นั้นดียิ่งขึ้นไปอีก เธอจะมีประโยชน์มากกว่าที่ฉันคิดถ้ามันเป็นความจริง ..”

ตอนที่ 235: สมบัติ
“ดูเหมือนว่าเราพบแล้ว” ลูซิเฟอร์พูดเบา ๆ เขายังไม่ถึงสิ่งของนั้น แต่มีความรู้สึกภายในตัวเขาว่าเขาคุ้นเคยบ้าง

เขาแน่ใจว่าไม่ว่านี่จะเป็นอะไร มันก็จะเหลือให้เขา มันต้องมีอะไรจากพ่อแม่แน่ๆ

ครึกๆ!

ไม่นานก็มีเสียงโลหะดังขึ้น ขณะที่พลั่วกระแทกอะไรบางอย่าง ลูซิเฟอร์ทําความสะอาดทราย และหยิบของที่เขาพบขึ้นมา ดูเหมือนกล่องโลหะหนักที่เป็นสนิม ซึ่งทําจากเหล็กเสริมแรง

“ในที่สุด เราก็พบมัน ในที่สุดฉันก็สามารถผ่อนคลายได้“เจียงพูดในขณะที่เขานั่งลงบนพื้นอย่างเหนื่อยๆ”คุณเปิดมันได้ไหม? ฉันอยากเห็นว่ามีอะไรพิเศษมากที่เราทํางานอย่างหนักเพื่ออะไร”

ลูซิเฟอร์ก็นั่งลงใต้แสงจันทร์ ในขณะที่เขาสังเกตกล่องหนักๆ นั้น กล่องโลหะก็ดูเหมือนจะไม่ใหญ่เกินไป

มันแค่ยาวเท่าความยาวของ แขนของลูซิเฟอร์ ส่วนความสูงของมัน ดูเหมือนจะสูงแค่ 50 เซนติเมตรและกว้างครึ่งเมตร

มีแม่กุญแจอยู่บนกล่องด้วย
“มีแม่กุญแจอยู่” ลูซิเฟอร์พูดขณะสังเกตแม่กุญแจ

“คุณมีกุญแจเหรอ?” เจียงถามขึ้น

“ฉันไม่ต้องการกุญแจ” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะถอดถุงมือออก เขาแตะล็อคเบา ๆ ขณะมองดูว่ามันเสื่อมสภาพ

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่กุญแจจะไม่เหลือสภาพ

“คะ- คุณทําอย่างนั้นได้อย่างไร? คุณมีพลังมากแค่ไหนกัน?”

เมื่อเจียงเห็นความสามารถอื่นของลูซิเฟอร์ เขาก็ตกตะลึง

“ฉันมีความสามารถมากพอที่จะทําให้นายตายได้ทุกวัน ดังนั้นนายจึงไม่เบื่อ” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเป็นกันเอง

“อ่า ไม่จําเป็น ฉันช่วยคุณไม่ได้เหรอ เราเป็นทีม คุณไม่สามารถฆ่าทีมของคุณได้!” เจียงตอบด้วยความรู้สึกกลัว

“ทีมเหรอ?” ลูซิเฟอร์พึมพําอย่างขบขัน “เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้น เมื่อคุณพูดกับตัวเอง ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณกลับคําพูดของคุณ ตอนนี้คุณอยู่ในทีมของฉันแล้ว”

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันต้องการหาหินพวกนั้น มาดูกันว่าผู้ชายคนนั้นที่อีกด้านของประตูมิติ นั่นเป็นใคร ทําไมเขาถึงมีตาเหมือนกับฉัน? แล้วฉันจะไปเอามันจากเขา เขาคิดขณะสวมถุงมืออีกครั้ง

เขาค่อยๆ เปิดกล่องโลหะเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

“หือ? จอีกอันเหรอ?” ลูซิเฟอร์พึมพํา พลางขมวดคิ้ว

ข้างในกล่อง เขาพบสิ่งที่ดูเหมือนจี้ที่มีรูปร่างเป็นลูกกุญแจ

“เจ้ากําลังเพ่งไปที่จี้ แต่เจ้าควรดูที่กุญแจ สําหรับคนที่จะซ่อนกุญแจในกล่อง กุญแจนี้จะต้องพิเศษ บางทีมันอาจจะเปิดขุมทรัพย์ที่แท้จริงได้?” เจียงพูดแทรก “ไม่ว่ายังไงกุญแจก็ดูไม่ธรรมดา” เขาพูดต่อขณะที่สังเกตกุญแจ

ลูซิเฟอร์ก็หยิบมันขึ้นมาในขณะที่สังเกตอย่างระมัดระวัง เขาเห็นว่ากุญแจเป็นสีดําสนิท แต่มีเครื่องหมายสีแดงเลือดแปลก ๆ ที่ดูเหมือนจะมีชีวิต เครื่องหมายดูเหมือนจะเคลื่อนไหวขณะที่พวกเขากําลังเปลี่ยนสถานที่

“นายพูดถูก จี้นี้ดูเหมือนจะพิเศษ พิเศษไปหน่อย”ลูซิเฟอร์พึมพํา พลางขมวดคิ้ว”แต่มันเปิดอะไร? บ้านฉันไม่มีล็อคแบบนี้ และมันไม่เหมือนกุญแจที่จะเปิดล็อคใด ๆ ที่ฉันเห็น”

“ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร? นี่คือสมบัติที่คุณต้องการ คุณควรจะรู้ว่ามันเปิดออกและอะไรเปิดไม่ออก!” เจียงตอบ

“มันจะดีกว่านี้มากถ้ามีแผนที่อยู่ในกล่องด้วย ซึ่งจะพาเราไปที่ล็อค ฉันยังต้องการไขปริศนานี้ให้จบ” เขาพูดต่อทั้งๆ ที่ดูเหมือนผิดหวัง

กุญแจดอกนี้ทําให้เขาทิ้งมาก และเขาต้องการดูว่ามันเปิดออกอย่างไร

“คุณไม่มีเงื่อนงําอื่นใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ? ฉันหมายถึง คุณรู้ว่าสิ่งนี้อยู่บนชายหาด คุณได้ ข้อมูลนี้มาจากไหน? สถานที่นั้นอาจมีข้อมูลเพิ่มเติม ไปล่าขุมทรัพย์กันเถอะ!” เจียงพูดอย่างตื่นเต้น

“ฉันได้ข้อมูลมาจากไหน” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะที่เขาเหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้า รู้สึกหดหู่เล็กน้อย

“ฉันได้มาจากพ่อแม่ของฉัน แต่พวกเขาตายแล้ว” เขาตอบ

“อ่า ฉันขอโทษสําหรับการสูญเสียของคุณเจียงตอบอย่างขอโทษ

“นายไม่จําเป็นต้องเสียใจ นายไม่ได้ทําอะไรผิด ฉันจะทําให้แน่ใจว่าพวกเขาเสียใจมากกว่า” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะยืนขึ้น

เขาสวมกุญแจที่คอซึ่งมีจี้อีกอันที่ชายชรามอบให้เขาแล้ว

เขายังหยิบกล่องโลหะหนักและฝังไว้ตรงที่ลากมันออกมา

“แล้ว ทําไมคุณไม่ค้นหาบ้านของคุณล่ะ? มันต้องมีเงื่อนงําอยู่แน่ๆ ฉันแน่ใจ. ฉันช่วยได้เหมือนกัน” เจียงกล่าวขณะที่ยืนขึ้น

หลังจากใช้พลังของเขา เขาก็รู้สึกผจญภัยเล็กน้อย ความกล้าหาญของเขาที่ APF ยึดไป กําลังกลับมา

“หม? แผนของฉันแตกต่างออกไปเล็กน้อย แต่ฉันเดาว่าเราน่าจะลองดู สิ่งที่สําคัญกว่าสําหรับฉันจริงๆ” ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมพยักหน้า

“แต่อีกครั้ง มีโอกาสดีที่บ้านของฉันจะถูกล้อมรอบไปด้วยคนของ APF ดังนั้นเราจะต้องระวัง ฉันยังไม่อยากให้พวกเขารู้” เขาพูดต่อเมื่อเขาเริ่มออกเดินทาง

เจียงไล่ตาม ลูซิเฟอร์

“คุณหมายความว่าอย่างไร บ้านของคุณถูกล้อมรอบด้วยพวกเขา และคุณไม่ต้องการให้พวกเขาเห็นคุณ? ไม่ได้บอกว่าคุณกับ APF เป็นเพื่อนกันเหรอ? คุณได้พบกับวารันท์หรือไม่” เจียงถามรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ

“โอ้ นั่น? ฉันแค่ทําเรื่องตลกวันเอพริลฟูลส์เดย์ ในความเป็นจริง เขาอาจจะพยายามฆ่าฉันเมื่อ เห็นฉันเป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดจากพวกเขา แต่ครั้งนี้กลับไม่มีโอกาส” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่หันกลับมา

เมื่อเจียงได้ยินลูซิเฟอร์ ปากของเขาก็อ้าออก

เขาได้รับคําเตือนจาก APF ว่าอย่าใช้พลังของเขา และเขากําลังใช้พลังของเขาเพื่อ เขาสงสัยว่าเขาเพิ่งเซ็นใบมรณะบัตรไปหรือเปล่า

“เดี๋ยวก่อน อะไรวันเอพริลฟูลส์เดย์? มีนาคมแล้วเหรอ!” เจียงอุทาน

“เอาล่ะ ก้าวไปข้างหน้าได้แล้ว ส่วนวันเอพริล ฟูลส์เดย์ก็อย่าไปยึดติดกับรายละเอียด พวกเราเป็นทีมเดียวกัน” ลูซิเฟอร์หัวเราะออกมา

“เอ่อ ขอคืนใบสมัครได้ไหม? ฉันไม่ต้องการที่จะอยู่ในกลุ่มคนอันตรายเพื่อฆ่าตัวตายนี้” เจียงกล่าวอย่างกังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา

“แน่นอน แต่จําไว้ว่าผู้ที่เข้าร่วมเพียงครั้งเดียว สามารถออกไปได้เมื่อตายแล้วเท่านั้น นายยังต้องการจะก้าวออกไปอีกไหม?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน

“อา…” เจียงไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรในขณะที่เขาสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามอันละเอียดอ่อนในคําพูดของลูซิเฟอร์

ตอนที่ 234: พบสมบัติ

รถแท็กซี่เริ่มขับรถออกไป โดยพาลูซิเฟอร์และเจียงไปที่ชายหาดโดยไม่หยุดกลางทาง

รถแท็กซี่ไปส่งพวกเขาสองคนใกล้ชายหาดก่อนจะออกเดินทาง

“ชายหาดนี้เป็นที่ฝังสมบัติของคุณหรือ อย่าบอกนะว่าฉันต้องเดินไปทั่วทั้งหาดเพื่อหามันช่วยบอกฉันทีว่าคุณทราบตําแหน่งคร่าวๆ ใช่ไหม” เจียงถามในขณะที่เขาเริ่มเหงื่อออก

เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาต้องเดินไปทั่วทั้ง ชายหาดครั้งแล้วครั้งเล่าเขาสวดอ้อนวอนให้ลูซิ เฟอร์

“ก็ ถ้าฉันรู้ที่ตั้งโดยคร่าวๆ ทําไมฉันถึงต้องการ ความช่วยเหลือจากนาย” ลูซิเฟอร์ถามพลางตบไหล่เจียง เขาไม่รู้เลยว่ามันอยู่ที่ไหนบนชายหาดเลย

“ไปทํางานกันเถอะ เรามีพื้นที่มากมายที่ต้อง ปกปิดอย่างน้อยคราวนี้ก็ไม่มีใครกวนใจบนชายหาดเหมือนในตอนเช้า คราวนี้เราจะมีวิธีที่ง่ายขึ้น”

“คุณจะฆ่าฉัน ทําให้ชายคนหนึ่งเดินไปทุกจุดบนชายหาด หลังจากการเดินทางอันยาวนาน” เจียงถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

“ก็เพราะความเหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจตายยังดีกว่าถูกซัดเหมือนแมลงวันใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน

“แต่ ไม่ต้องกังวล หากนายสามารถช่วยฉันได้ ฉันจะตอบแทนนายด้วย ไปทํางานได้แล้ว” เขาพูดต่อ แล้วเอามือล้วงกระเป๋าของเขา

“เอาล่ะ ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด หวังว่าเราจะโชคดี และฉันก็จบลงเหนือสมบัตินั้นภายในไม่กี่นาที” เจียงกล่าวขณะที่เขาเริ่มเดินผ่านชายหาด จ้องมองจากตําแหน่งที่เขายืนอยู่

“แคสเซียส ฉันขอถามหน่อยเถอะว่าเธอจะไป ไหน” แคสเซียส กําลังยืนอยู่ต่อหน้าพ่อของเขาซึ่งเป็นปรมาจารย์ของตระกูลซิอานี่ผู้ยิ่งใหญ่ดู เหมือนว่าทั้งสองคนจะอยู่คนเดียวโดยมองกัน และกันภายในวังของตระกูลซิอานี่ ความตึงเครียดดูเหมือนจะชัดเจนในอากาศ

“พ่อก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอะคาเดมี่ ฉันไม่อยากอยู่ประเทศนี้ตอนนี้ ฉันอยากไปเที่ยวรอบโลกเพื่อทําให้จิตใจสงบและผ่อนคลายก่อนเริ่มเรียน” แคสเซียสตอบพ่อของเขา

“เธอทํามันที่นี่ไม่ได้เหรอ เธอสามารถผ่อนคลายในวังแห่งนี้ก็ได้? หลังจากที่ทายาทของตระกูลโฮลเลอร์และฟรานซีเสียชีวิต ฉันเป็นห่วงเธอ ผมปล่อยให้เธออยู่คนเดียวไม่ได้” ชายวัยกลางคนตอบแคสเซียส

“พ่อครับ ผมไม่ได้อ่อนแอเหมือนคนพวกนั้น ผมดูแลตัวเองได้ ให้ผมทําสิ่งนี้เพื่อตัวผมเอง” แคสเซียสบอกพ่อของเขาโดยยืนยันว่าเขาจะไป

“เธอจะไปประเทศใด” ชายวัยกลางคนถาม

“ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ ผมจะตัดสินใจแบบสุ่มเมื่อผมจองตั๋ว” แคสเซียสตอบ “แต่ผมจะแจ้งให้พ่อทราบ”

“ได้โปรดพ่อ” เขาขอร้องต่อไป “ผมต้องการมัน”

“ได้ แต่เธอต้องโทรหาเราทุกวันเพื่อให้เรา อัปเดตเกี่ยวกับเธอและสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ ถ้าล้มเหลวฉันจะส่งทุกคนตามเธอไป เพื่อนําเธอกลับ มา อย่าโทษฉันเลย” ชายวัยกลางคนปล่อยมือตามคําเรียกร้องของลูกชายสุดที่รักในที่สุด

“ผมจะไม่ลืมเรื่องนี้เลยพ่อ ขอบคุณมาก”

แคสเซียสเดินกลับไปที่ห้องและเริ่มจัดของที่ เขาเชื่อว่าอาจจําเป็นต้องใช้ รวมทั้งโทรศัพท์และแล็ปท็อป

“มีบางอย่างผิดปกติภายใต้ฉัน! ขุดที่นี่!” เจียงก็ปล่อยทันทีหลังจากค้นหาเพียง 5 นาที

“เร็วมาก เหลือเชื่อ!”

ด้วยความประหลาดใจ ลูซิเฟอร์เริ่มขุดจุดที่ เจียงกําลังซื้อยู่เขายังให้เจียงทํางานขุดในขณะที่เขาให้พลั่วอันที่ 2 ที่เขาซื้อไป

การขุดใช้เวลาไม่นานนักเพราะความแข็งแกร่ง ของลูซิเฟอร์ช่วยให้เขาขุดเร็วขึ้น ในที่จริงแล้วไม่มีความยากลําบากเลยแม้แต่น้อย

ในไม่ช้า เขาก็พบสิ่งที่ฝังอยู่ลึกลงไปในพื้นดิน

ลูซิเฟอร์เอื้อมมือของเขาและหยิบสิ่งของขึ้นมา ขณะที่เขามองไปที่เจียง

“นี่?” ลูซิเฟอร์ถาม

แม้แต่เจียง ประหลาดใจ เขาดูเขินอาย

“นายคิดว่านี่เป็นสมบัติ?”

ลูซิเฟอร์ถาม ดูเหมือนหงุดหงิดขณะที่เขามีกระป๋องเครื่องดื่มเย็น ๆ ในมือ “ขยะนี่เป็นสมบัติเหรอ? คิดจริงๆ เหรอ”

“เอ่อ ฉันบอกเธอไปแล้ว ฉันหาสมบัติไม่เจอ ฉันสามารถพบแต่สิ่งที่ผิดธรรมชาติที่ฝังอยู่ในดินที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่น” เจียงตอบยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ ยม

“ผู้คนเห็นเพียงสมบัติที่ฉันพบ แต่พวกเขาไม่ เคยเห็นขยะหลายร้อยชิ้นที่ฉันต้องขุดก่อนที่ฉันจะได้สมบัติ” เขา

กล่าวต่อ “คุณไม่สามารถตําหนิฉันได้ ฉันบอกคุณเกี่ยวกับพลังของฉันมาก่อนแล้ว”

ลูซิเฟอร์ทุบกระป๋องก่อนจะโยนออกไปไกล

“ฉันเข้าใจ ค้นหาต่อไป” เขากล่าวขณะที่เขาตระหนักว่าคืนนี้จะยาวนานกว่าที่เขาคิด

3 ชั่วโมง… การค้นหาดําเนินต่อไปเป็นเวลา 3 ชั่วโมงและพวกเขาพบกว่า 50 อย่างแล้ว แต่ไม่มีสมบัติใด ที่นั่น มีหลายกระป๋องฝังอยู่ใต้ชายหาด แต่ก็มีขนมห่อเปล่าด้วย

“ทําไมดูเหมือนเรากําลังทําความสะอาดชายหาดแทนที่จะค้นหาสมบัติ?” เจียงถามอย่างติดตลก “ฉันเหนื่อยแล้ว อย่างน้อยขอพักสักชั่วโมงได้ไหม”

“จะไม่ได้พักก่อนจะได้สิ่งที่ต้องการ ค้นหาต่อไป หากเรายังคงพยายาม เราจะพบสิ่งที่ต้องการก่อนรุ่งสางนายก็สบายใจได้” ลูซิเฟอร์ตอบ

“แต่ถ้าเราหาไม่เจอ งั้นคืนหน้านายจะต้องทําแบบเดิมอีกครั้ง ดังนั้นจงอธิษฐานขอให้โชคดีในคืนนี้แทนดีกว่า” เขากล่าวต่อ

การค้นหายังคงดําเนินต่อไป อีก 4 ชั่วโมงผ่านไป และไม่พบสิ่งใดใกล้กับขุมทรัพย์ใด ๆ พวกเขาได้พบขยะมากกว่าร้อยอย่างแล้ว

เช่นเดียวกับที่ลูซิเฟอร์มี สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เพียงพักผ่อน การค้นหาสิ่งของที่เขาต้องการยังดําเนินต่อไป พวกเขาได้ค้นหาชายหาดไปครึ่ง หาดเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบฟ้าอันไกลโพ้น

ผู้คนเริ่มเบียดเสียดกันที่ชายหาดอีกครั้ง และ ในที่สุดการค้นหาก็มาถึงจุดที่ต้องหยุดชะงัก

เจียงรู้สึกเหมือนกําลังจะล้มลงกับพื้นเพราะเขาเหนื่อย

“มาเถอะ มากินอะไรกัน เราต้องการพลังงานในการค้นหาคืนนี้เช่นกัน” ลูซิเฟอร์บอกกับเจียงขณะที่เขาพาเขาไปกินบางอย่าง

“เจ้านี่มันชั่วร้ายจริงๆ” เจียงกล่าวพร้อมถอน หายใจ “ค้นหาทั่วทั้งชายหาด มันยากมาก. เราต้องการทีมงาน ผมชี้ต่อไปได้ และพวกมันก็ขุดต่อไปได้ มันจะง่ายกว่ามาก”

“ชั่วร้าย? ตอนนี้นายเป็นคนดีแล้ว” ลูซิเฟอร์ หัวเราะออกมา

“มันชั่วร้ายต่างหาก” เจียงถามอย่างตะลึงงัน

“ต่อหน้าชื่อที่ฉันได้ยินเมื่อตอนที่ฉันยังเป็นเด็กความชั่วร้ายฟังดูเหมือนเป็นการสรรเสริญ” ลูซิเฟอร์ตอบออกมา

“อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับความคิดของนายเกี่ยวกับการทํางานเป็นทีม ก็ไม่เลวเลย แม้ว่านายจะคิดช้าไปหน่อย เราเคลียร์หาดไปแล้วครึ่งหนึ่ง”

“เราต้องการแค่อีกครึ่งหนึ่งเท่านั้น ด้วยความเร็วเท่าเมื่อคืนก่อน คืนนี้จะเป็นจุดสิ้นสุดของการค้นหาของเราไม่ต้องลากใครมา” เขาพูดต่อ

เจียงทําได้เพียงถอนหายใจด้วยความเศร้า เขาอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ ทําไมเขาถึงถูกลากเข้ามาในนี้

ทั้งสองคนไปกินข้าวเช้าก่อนจะกลับ ชายหาด

พวกเขาใช้เวลาที่เหลือของวันบนชายหาด และเมื่อถึงเวลากลางคืนการค้นหาก็เริ่มอีกครั้ง

หลังจากนั้น 5 ชั่วโมงของการค้นหาและนําขยะออกมาอีกหลายร้อยชิ้น ลูซิเฟอร์ก็เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย พวกเขาขุด เกือบทั้งชายหาด แต่ไม่พบอะไรพิเศษ

สิ่งเดียวที่พวกเขาพบซึ่งไม่ใช่กระป๋องหรือ ขนมเป็นห่อคือเสื้อชั้นในสีชมพูที่ดูเหมือนจะเป็นของหญิงหน้าอกใหญ่

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ เข้าใจว่าสิ่งนั้นมาลงเอยที่ชายหาดได้อย่างไร

” ที่แห่งนี้ก็มีบางอย่างเช่นกัน เรามาขุดที่นี่กันเถอะ” เจียงพูดอีกครั้ง ขณะที่ชี้ไปที่พื้น

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังขุดเจียงก็สวดอ้อนวอนว่า เป็นสิ่งที่ลูซิเฟอร์กําลังมองหา

ดูเหมือนว่าคําอธิษฐานของเขาจะได้ยินขณะที่ลูซิเฟอร์อุทานว่า “ดูเหมือนว่าเราพบแล้ว”

ตอนที่ 233: เจียง

ชายที่เปิดประตูดูเหมือนจะเป็นชายวัย 30 ปี เขามีผมสีเข้มที่ดูเหมือนปิดหน้าผากทั้งหมดแต่ก็ไม่นาน เขาดูเหมือนไม่ได้อาบน้ํามาเป็นเวลานาน

ชายคนนั้นสวมกางเกงสีเทาลําลองและเสื้อยืดแขนยาวสีดํา ขณะที่เขาจ้องมองที่ลูซิเฟอร์อย่างเกียจคร้าน

“คุณคือเจียง” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ใช่ คุณเป็นใคร” เจียงถามพลางกลอกตา

“ฉันเป็นพ่อของคุณ” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาใช้ นิ้วเดียวดันเจียงเข้าไปในห้องเขายังเดินเข้าไปข้างในขณะที่เขาปิดประตู

ปั๊ก!

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะใช้เพียงนิ้วเดียวกันชายคนนั้น เข้าไปข้างใน แต่เขาก็ไม่รั้งไว้มากเกินไปชายคนนั้นลอยกลับไปชนกับกําแพง

ลูซิเฟอร์ปิดประตู ขณะที่เขาเหลือบมองชายวัยกลางคน

“คะ-คุณเป็นใคร?” ชายคนนั้นถามอีกครั้ง แต่คราวนี้ น้ําเสียงของเขาดูน่านับถือมากขึ้น เมื่อเขาได้รับรสชาติของความแข็งแกร่งของลูซิเฟอร์

“นั่นคือโทนที่ฉันชอบไม่ยากใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ ถามขณะเดินเข้าไปใกล้ชายคนนั้น

“เจียง จอมเวทย์ที่หาอะไรเจอได้ นั่นคือคุณใช่ไหม” เขาถาม

“แค่ก ถูกต้อง คุณมาที่นี่เพื่อขโมยของ เพราะ คุณคิดว่าฉันต้องรวยด้วยสมบัติใช่ไหม คิดดูอีกทีถ้าฉันรวย ฉันจะไม่อยู่ในบ้านเส็งเคร็งหลังนี้ คุณ จะไม่พบอะไรเลย” เจียงตอบในขณะที่เขายืนขึ้น

“อย่ากังวล ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันต้องการไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่คนที่สามารถช่วยฉันได้ในสิ่งที่ฉันต้องการได้อยู่ที่นี่” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเป็นกันเอง

“คุณต้องการให้ฉันหาอะไรให้คุณไหม” เจียงถามพลางขมวดคิ้ว

“นั่นสินะ” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้” ชายคนนั้นตอบพลางส่ายหัว

“ถ้านายไม่สามารถช่วยให้ฉันได้สิ่งที่ต้องการฉันก็ไม่สามารถช่วยให้นายมีชีวิตอยู่ได้เช่นกันทางเลือกเป็นของนาย” ลูซิเฟอร์ออกหน้าขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาไม่รีบร้อนในขณะที่เขายืนสงบ เอนหลังพิงกับกําแพง

“คุณไม่เข้าใจเหรอ! หากฉันใช้พลังอีกครั้ง ฉันจะถูก APF จับ!” เจียงพูดออกมาอย่างหนักแน่น

“ทําไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ” ลูซิเฟอร์ถามอย่างขบขัน “พวกเขาไม่มีอะไรดีขึ้นแล้วหรือ”

“คุณไม่รู้ มีเหตุผลที่ฉันอาศัยอยู่ในบ้านที่เลวร้ายแม้จะสามารถหาสมบัติได้” เจียงตอบพลางถอนหายใจ

“เหตุผลคืออะไร?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย “มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ฉันใช้พลังของฉันอย่าง เต็มที่ไม่มีใครพูดอะไรหรือเข้าไปยุ่ง ดูเหมือนว่า แม้แต่ APE ก็ไม่สนใจในตอนนั้น แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็พบก้อนหิน”

“มันถูกฝังอยู่ลึกในดิน ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ APE ทั้งหมดตามฉันมาเพื่อหาหินก้อนนั้น” “ฉันโชคดีที่ไม่ถูกยิงหรือติดคุกตลอดชีวิต! พวก เขาปล่อยให้ฉันออกไปหลังจากที่ฉันสาบานกับ พวกเขาว่าจะไม่ใช้พลังของฉัน ถ้าใช้อีกฉันจะถูกจับหรือยิงโดยไม่มีคําถาม”

ตามที่เจียงอธิบาย ลูซิเฟอร์รู้สึกประหลาดใจ พวกเขาทําทั้งหมดนั้นเพื่อก้อนหิน?

“หินสีอะไร” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้งพร้อมขมวดคิ้ว “มันเป็นสีแดง” เจียงตอบ

“หินสีแดง… 1 ใน 7 ก้อนที่วารันท์เก็บไว้ก็เป็นสีแดงด้วย ต้องเป็นหินก้อนนั้น เขาอาจจะฝังมันที่ไหนสักแห่งที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่หามันเจอ แต่ ผู้ชายคนนี้ก็พบสิ่งนั้นก่อน” ลูซิเฟอร์พึมพําอย่าง พ่ายแพ้ ตัวเองอยู่ในความคิด

“นายโชคดีจริงๆ ที่พวกเขาไม่ยิงนาย ฉันแปลกใจ เนื่องจากนายสามารถหาหินก้อนนั้นได้อีก น่าแปลกใจที่พวกเขาไม่ทําอะไร” เขากล่าวกับเจียง

“คุณคิดผิด ฉันไม่สามารถหาหินได้อีก มีความเข้าใจผิดอย่างมากเกี่ยวกับพลังของฉัน ฉันไม่พบสมบัติที่ฉันต้องการ ส่วนใหญ่เป็นความ บังเอิญ” “ตอนที่ฉันเดินบนพื้น ถ้ามีบางอย่างผิดปกติภายในระยะ 2 เมตรจากฉันที่ไม่ควรจะอยู่ที่ นั่นโดยธรรมชาติ ฉันสัมผัสได้ นั่นคือวิธีการทํางานของของขวัญ ฉันจึงไม่สามารถหาหินก้อนนั้นได้อีก เว้นแต่จะเป็น ในระยะ 2 เมตรของฉัน นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงไม่ฆ่าฉัน” เจียงกล่าวพร้อมถอนหายใจ

“น่าสนใจ ดังนั้นมันเป็นไปไม่ได้สําหรับนายที่ จะหาหินเก่าก้อนนั้น นับประสาอีก 6 ก้อน นั่นอธิบายว่าทําไมพวกเขาถึงไม่ฆ่านาย แต่เพื่อความปลอดภัย พวกเขาบอกนายว่าอย่าใช้พลังของนาย” ลูซิเฟอร์พึมพําอย่างเข้าใจทุกอย่าง

“ใช่แล้ว ฉันไม่สามารถใช้พลังของตัวเองได้โปรดเข้าใจ ใช้ชีวิตอย่างยากจนข้นแค้นก็พอแล้ว ฉันไม่อยากติดคุกเลย” เจียงตอบ

“อย่ากังวลเรื่อง APF นายไม่รู้หรอก พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของฉัน จริงๆ แล้ว ฉันได้พบกับวารันท์ด้วย เขาอบอุ่นกับฉันมาก ฉันไม่เคยลืมเลย พวกเขาจะไม่ทําอะไรเลย” ลูซิเฟอร์ตอบยิ้มๆ เขาก้าวเข้ามาใกล้เคียงและหยุดห่างจากเขา 2 ก้าว

“แต่ถ้านายยังไม่ฟังฉัน นายจะไม่ต้องรอให้ APF ฆ่านาย” เขาพูดขณะยกมือขึ้น

สายฟ้าสีดําสามารถเห็นริบหรี่อยู่รอบๆ มือของเขา ภายใต้การควบคุมของเขา การได้อยู่ใกล้สายฟ้านั้นทําให้เจียงรู้สึกหนาวสั่น เขานึกไม่ออก เลยว่าจะเป็นยังไงหากถูกคนๆ หนึ่งโจมตี

“ฉันจะช่วยคุณ แต่อย่างที่ฉันบอกคุณ ฉันต้องอยู่ใกล้สมบัตินั้นหรือสูงกว่านั้นจึงจะรู้สึกได้ ถ้าคุณไม่รู้จักสถานที่เราจะลําบาก” เจียงกล่าว พยักหน้าเหมือนนกแก้ว “อย่ากังวลไป ฉันรู้จักที่แห่งนั้น เราแค่ต้องเดินไปรอบๆ นิดหน่อยแล้ว คุณจะพบสิ่งที่ฉันต้องการ” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่ เขาวางมือบนไหล่ของเจียง

“มาเดี๋ยวฉันพาไป”

เจียงและลูซิเฟอร์ออกจากบ้านที่ทรุดโทรม และเดินไปที่ถนนสายหลัก

“คุณไม่มีรถเหรอ?” เจียงถาม ขณะเดินไปตามถนน

“ฉันเรียนรู้ทุกอย่างยกเว้นการขับรถ ดังนั้นถึงฉันจะมีรถก็คงไม่มีประโยชน์อะไร” ลูซิเฟอร์ตอบ “ใช้โทรศัพท์ของนายแล้วเรียกแท็กซี่หรือรอจนกว่าเราจะเจอ”

“พ่อมดที่ขับรถไม่เป็น” เจียงพูดออกมาพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย

“อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันขับได้อย่างน้อยก็ไม่กี่วินาที ก่อนที่รถจะชนเสาหรืออะไรซักอย่าง” ลูซิเฟอร์ตอบยิ้มๆ “อยากเห็นการขับรถของฉันไหม”

“อ่า ไม่! ฉันจะจองรถแท็กซี่แทน! อย่าขับรถเลย!” เจียงบอกกับลูซิเฟอร์ด้วยความกังวลถึงชีวิตของเขา เขาไม่อยากประสบอุบัติเหตุ

“นั่นสิ ดีกว่า”

เจียงนําโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าและเรียกแท็กซี่

“นั่นเตือนฉัน ฉันควรมีโทรศัพท์ด้วย ฉันจะซื้อทีหลัง ส่วนเบอร์นั้นฉันจะดูว่าทําอะไรได้บ้าง” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะจําได้ว่าเขาอาจต้องการโทรศัพท์ด้วย

รถแท็กซี่หยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาทั้งสองเข้า ไปในรถโดยสาร “สถานที่ที่จะไป?” คนขับรถแท็กซี่ถามลูซิเฟอร์

“พาเราไปที่หาดโอไรออน” ลูซิเฟอร์ตอบ..

ตอนที่ 232: ปิดอะคาเดมี่

“ตกลง” ไรอาและเซสกล่าว แคลรีสก็ตกลงเช่นเดียวกัน สําหรับเซล เขาเพียงแค่พยักหน้า

“นั่นคือสัญญาที่เราทํา นั่นคือจะไม่บอกใครถึงสิ่งที่เราเห็นเพราะถ้ามีใครพูดออกไป มันจะลามไปเหมือนไฟป่า” รอยบอกกับลูซิเฟอร์ ในขณะที่เขาเล่าทุกอย่างจนจบ

“คนอื่นคิดว่าฉันไม่น่าเชื่อถือ และพวกเขาจับฉันให้อยู่แต่บริเวณในบ้าน เพื่อเป็นการลงโทษ สําหรับการละเมิดสัญญาที่เราทุกคนให้ไว้” เขากล่าวต่อ ในขณะที่ถอนหายใจ

“อมนุษย์? นายแน่ใจหรือว่าดวงตาของสิ่งนั้น เหมือนกับ ฉ- ฉันหมายถึงอย่างที่นายพูดหรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันแน่ใจ ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะลืมดวงตาคู่นั้นได้ เรามั่นใจว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพยายามเรียกสิ่งนั้นออกมาสู่โลกนี้”

“และเราไม่ต้องเดาแล้วว่ามีไว้เพื่ออะไร ในเมื่อมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนได้ฆ่าคนไปมากมาย แล้วเจ้านายจะแตกต่างกันอย่างไร?” รอยพูด ในขณะที่เขารู้สึกถึงความกลัวไปทั่วทั้งร่างกายของเขา

เขายังคงรู้สึกกลัวและรู้สึกเสียวซ่าแบบเดียวกับที่เขารู้สึกในวันนั้น

“นั่นเป็นเหตุผลที่เรามั่นใจว่าหินเหล่านั้นจะไม่มารวมกัน เพราะวันที่ดวงตาเหล่านั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งจะเป็นวันที่เราทุกคนอาจจะตาย” เขากล่าวต่อ

“ฉันบอกทุกอย่างแล้ว ฉันจะไปได้หรือยัง” เขาถามลูซิเฟอร์

“แค่นั้นจริงๆเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“แค่นั้น หลังจากวันนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น” รอยตอบ “อย่างน้อยก็ไม่ใช่ความรู้ของฉัน”

“ไม่เป็นอะไร นายไปได้, ออกจากที่นี่และไปใต้ดิน ออกจากประเทศนี้ ถ้าทําได้ เพราะถ้าพวกเขาพบนาย นายจะต้องกลับมาที่นี่”ลูซิเฟอร์บอกชายคนนั้น ขณะที่เขาเริ่มออกเดินทางไม่มีการรักษาความปลอดภัยภายนอก มันจะทําให้นายออกไปง่ายขึ้น” เขากล่าวก่อนจะจากไป

เขาจากไปอย่างเงียบ ๆ เช่นเดียวกับที่เขามาปล่อยให้รอยมีชีวิตอยู่ ไม่ว่ายังไง ผู้ชายคนนี้คือ เหตุผลที่เขาได้รับคําตอบที่เขาต้องการ นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขาตอบใคร

หลังจากที่ลูซิเฟอร์จากไป ชายอ้วนคนนั้นก็ลงจากเตียงเช่นกัน เขาคว้าของมีค่าและเงินของ เขาก่อนที่เขาจะวิ่งออกจากคฤหาสน์

ตามที่ลูซิเฟอร์พูด ไม่มีการรักษาความปลอดภัยภายนอก คนอ้วนมีเวลาหลบหนีได้ง่ายขึ้น

เขาไม่ได้สนใจแม้แต่คําถามว่าหน่วยรักษา ความปลอดภัยไปไหนหรือใครเป็นลูซิเฟอร์ ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเขาได้อิสรภาพกลับคืนมา

ลูซิเฟอร์ทําในสิ่งที่เขาต้องการ หลังจากจุดนี้ เขาก็ไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายคนนั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าคนที่เขาพบคือลูซิเฟอร์ ดังนั้นต่อให้ถูกจับได้ก็ไม่เป็นไร

โดยไม่สนใจชายคนนั้น ลูซิเฟอร์จึงบินไปที่บ้านอื่น ซึ่งเขากําลังจะคว้าตัวผู้ชายคนนั้นเพื่อค้นหาสมบัติของเขา

“นักเรียนที่รัก! ดังที่คุณทราบ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษา ด้วยเหตุนี้ ชั้นเรียน สําหรับช่วงที่เหลือของปีจึงถูกยกเลิก คุณสามารถส่งคืน Limiter ของคุณและกลับบ้านได้

“ชั้นเรียนจะเริ่มในปีหน้า หลังจากที่เราตรวจสอบเหตุการณ์นี้และใช้ความระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก กลับไปที่หอพักเพื่อนําสิ่งของของคุณและส่ง Limiters ของคุณ!”

เมื่อยืนอยู่บนเวที เซนเพิ่งประกาศกับนักเรียน ทุกคนว่าชั้นเรียนถูกยกเลิก มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในอะคาเดมี่

ส่วนคนอื่นๆ ไม่ทราบว่านักเรียนจํานวนมากเสีย ชีวิต สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น หากสถาบันการศึกษาถูกปิดชั่วคราว

หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการประกาศแล้ว เซนก็ก ลับไปที่อาคารบริหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของสํานักงานของเขา แต่เขาไม่ได้ไปที่สํานักงานของเขาในขณะนี้

เขากําลังจะไปที่ห้องประชุม เมื่อเซนเข้ามาใน ห้องประชุม เขาได้รับการต้อนรับจากคนที่รอเขาอยู่ 12 คน

ทั้ง 12 คนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา พวกเขาทั้งหมด เป็นวอร์ล็อคและเป็นหัวหน้าของ 12 ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ ของประเทศนี้ 5 คนเป็นครูที่นี่ด้วยซ้ํา

“คุณให้เรารอนานมาก!” ชายชราบอกกับเซนขณะที่เขาขมวดคิ้ว

“ฉันขอโทษสําหรับความล่าช้ เราสามารถเริ่มต้นได้แล้ว” เซนกล่าวขณะที่เขานั่งลง

“ไม่มีอะไรจะเริ่มต้น! ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ฆ่าหลานชายของฉัน! เขาอยู่ในปีสุดท้ายของเขา ในขณะที่ยังเป็นทายาทของตระกูลโฮลเลอร์ผู้ยิ่งใหญ่ของฉันด้วย! แต่เขาไม่มีชีวิตอีกแล้ว! ทั้งหมดเป็นเพราะนาย!” ชายชราบอกกับเซนเกือบจะตะโกน

“ฉันส่งเขามาเรียนที่สถาบันนี้ ไม่ใช่ให้ตาย!” เขาพูดต่อไปอย่างโกรธเคือง

“ท่านโฮลเลอร์ กรุณาใจเย็นๆ ก่อนอื่น เรากําลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่” เซนตอบอย่างใจเย็น

ในใจเขากําลังสาปแช่งชายชราจี้ ‘ผู้เฒ่า! เด็กคนไหนกัน เพราะหลานนาย ฉันต้องจัดการกับมันทั้งหมดเดี๋ยวนี้! พระเจ้านายนี่มันมันปีศาจ!”

เซนไม่ยอมให้ความคิดของเขาแสดงออกมา ในขณะที่เขาพูดต่อ “ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถบอกอะไรคุณได้มากไปกว่าที่เรารู้แล้ว และเราก็บอกคุณหมดแล้ว”

“เรื่องที่อยู่ของบุคคลนั้น เราก็พยายามตามหาเขาเช่นกัน ทันทีที่เราพบเขา เราจะบอกคุณว่ามันเป็นมาอย่างไร?”

ในขณะที่การประชุมกับเซนดําเนินต่อไป แคสเซียสก็อยู่ในห้องของเขา เขากําลังเก็บของอยู่ เขาได้คืน Limiter ของเขาไปแล้ว และเขาก็พร้อมที่จะจากไป

เขาเริ่มออกจากมหาวิทยาลัย

ขณะที่เขาอยู่ที่ทางออกเขาถูกคน 2 คนหยุดไว้

“ขอโทษนะ ขอโทษที่หยุดนาย แต่เราหวังว่า นายจะบอกอะไรเราได้บ้าง ฉันชื่อเควิน รูมเมทของอเล็กซ์ และเขาคือเจสัน”

“เราได้ยินข่าวลือว่ามีคนถูกฆ่าในวิทยาเขต! และอเล็กซ์ก็ไม่กลับมานานแล้วเช่นกัน เราอยากรู้ว่าอเล็กซ์ได้ตายไปแล้วด้วยหรือเปล่า” ชายคนหนึ่งใน 2 คนถามแคสเซียส

“อเล็กซ์ก็ตายเหมือนกัน” แคสเซียสโกหก โดยไม่คิดอะไรเลย ขณะที่เดินผ่านพวกเขาไป

“สําหรับโลก จะดีกว่าถ้าเขาตาย เพราะตระกูลผู้ ยิ่งใหญ่เหล่านั้นทั้งหมดจะติดตามเขา แต่สําหรับฉัน เขาจะมีชีวิตอยู่เสมอ อย่ากังวลไปเลยคุณชายใหญ่ ฉันมีวันหยุด ดูเหมือนว่าฉันจะไป หานายเร็วๆ นี้ แคสเซียสคิดขณะเหลือบมองแหวนที่นิ้วของเขา

แคสเซียสก้าวออกจากหอพัก ขณะที่เขาเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ที่รอเขาอยู่

ลูซิเฟอร์มาถึงบ้านที่เจียงอาศัยอยู่ ต่างจากคฤหาสน์ของรอย บ้านของเจียงนั้นค่อนข้างธรรมดา ไม่มีการรักษาความปลอดภัยรอบ ๆ บ้านนี้

ลูซิเฟอร์เคาะประตูเพียงครั้งเดียว และประตูก็เปิดออกโดยชายคนหนึ่ง

ตอนที่ 231: อมนุษย์

“และเราไม่มีเวลามากขนาดนั้น ฉันคิดว่าประตูมิติจะเปิดหมดภายในครึ่งชั่วโมง”วารันท์พูดพร้อมขมวดคิ้ว “เตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ในชีวิต ของนายซะ”

“อ่า พวกนายเนี่ยนะ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะทําลายก้อนหิน ดังนั้นการเปิดประตูมิติจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ฉันคิดว่าเราไม่ควรต่อสู้กันเองเราต้องสามัคคีกัน”ชายร่างท้วมยังแสดงความคิดของเขา

“ไม่ เดี่ยว มองไปที่ประตู! ฉันคิดว่าจะขว้างหินก้อนนั้นออกไป!” จู่ๆแคลรีสก็ชี้ไปที่ประตูมิติ

ทุกคนมองไปที่ประตูมิติและสังเกตว่ามีบางอย่างที่แตกต่างออกไป

“เธอพูดถูก ประตูเปิดช้าลงกว่าเดิม ทําไมเหรอ?” เซสแสดงความคิดเห็น

“ฉันเข้าใจ นั่นเป็นความลับ” จู่ๆ วารันท์ก็พูดขึ้นขณะที่ตาเป็นประกาย “เซลทําถูกต้องแล้ว”

“ฉันยังไม่เข้าใจ พวกนายกําลังพูดอะไร” คนอ้วนถามขมวดคิ้ว

“มันเป็นเรื่องง่าย ชาวมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนได้สังหารผู้คนนับล้านทั่วโลก และเราก็รู้ดีว่าทําไมมันคือการสร้างหิน 7 ก้อนนี้ซึ่งทํางานเหมือนเครื่องประดับที่เรียกใครก็ตามที่เป็นสิ่ง นั้น”วารันท์กล่าวพร้อมชี้ไปที่ประตูมิติ

“ถูกต้อง” ในที่สุด เซลก็เปิดปากของเขา“หินทั้งเจ็ดนี้ก่อตัวขึ้นในส่วนต่างๆของโลกแต่ดันเจี้ยนนี้เดินทางไปกับพวกมันจนพวกมันทั้งหมดพบกันในที่เดียว”

“สถานที่นั้นบังเอิญเป็นเอลิเซียมหินนั้นสําคัญแต่ระยะห่างของพวกมันด้วย” เขากล่าวเพิ่มเติม”ความใกล้ชิดของหินเป็นกุญแจสําคัญ

“เอาหินไปให้ไกลจากกัน ดูเหมือนพวกมันจะไร้ประโยชน์นั่นเป็นวิธีเดียวที่เราไม่สามารถทํา ลายพวกมันได้”เขากล่าวต่อ

“ใช่แล้ว เซล โยนก้อนหินทิ้งไปคนละทิศละทางไกลกันจนไม่สามารถเอามารวมกันได้เราไม่มีเวลามากพอที่จะขนมันออกไปเองตอนนี้นายเท่านั้นที่ทําได้” “เซสบอกกับเซลซึ่งดูเหมือนจะอยู่ในงานแล้ว

เซลเคลื่อนหินก้อนที่ 2 จากมือซ้ายไปทางขวาก่อนที่เขาจะโยนหินก้อนที่ 2 ออกไปในทิศทางที่ต่างออกไป

เขาทํามันอีกครั้งแล้วนําก้อนหินอีก 2 ก้อนมาก่อนจะขว้างออกไปด้วยแรงที่มี

เมื่อหินแต่ละก้อนถูกโยนออกไป การเปิดของประตูมิติก็ช้าลงไปอีกอันที่จริงดูเหมือนว่ามันจะค่อยๆปิดลงเมื่อเซลขว้างหินก้อนที่ 4 ออกไป

หลังจากที่หินก้อนที่ 5 ถูกขว้างออกไปความเร็วของการปิดประตูก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันไม่ได้รับพลังงานเพียงพอที่จะเปิดได้

“อันที่ 6 ควรเป็นอันสุดท้ายที่เราต้องโยนส่วนก้อนที่ 7 เราสามารถเก็บไว้ที่นี่เพื่อให้รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไรก้อนหินทั้งเจ็ดจะถูกแยกออกจากกันและจะแยกออกจากกันชั่วนิรันดร์”วารันท์พึมพําขณะสังเกตหินก้อนที่ 7 ที่กําลังลอยอยู่

ในทางกลับกันเซลเรียกพลังทั้งหมดออกมาอีกครั้งในขณะที่เขาโยนหินก้อนที่ 6 ด้วย

เมื่อหิน 6 ก้อนถูกโยนทิ้งไป หินก้อนที่ 7 กวางไว้กับพื้นพลางสูญเสียกําลัง

วารันท์เดินไปที่หินสีแดงและหยิบมันขึ้นมาใน ขณะที่เขาเหลือบมองที่ประตูมิติ

เซลและคนอื่นๆ ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในขณะที่ประตูมิติกําลังจะปิดอย่างสมบูรณ์

มันเล็กมากจนมองเห็นเพียงตาข้างเดียวของสิ่งมีชีวิตที่อยู่อีกข้างหนึ่ง นัยน์ตาสีม่วงเข้มของเขายังคงดูน่าเกรงขามแต่ดูเหมือนจะไม่มีการ แสดงออกในดวงตาเหล่านั้น

ดูเหมือนจะไม่หงุดหงิดหรือโกรธเมื่อประตูมิติปิดลง

เมื่อประตูมิติปิดลงวอร์ล็อคทั้งห้าและแคลรีสก็อดไม่ได้ที่จะนั่งบนพื้นด้วยความเหนื่อย

“เสร็จแล้วหรือ เราชนะแล้วเหรอ?”ชายอ้วนถาม

“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น ชัยชนะครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายสูงฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับจํานวนแต่เป็นไปได้สูงที่ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกนี้จะหายไป” เซสตอบ

“อย่าลืมพวก แวเรียนท์ที่ต่อสู้ในแนวหน้าส่วนใหญ่เสียชีวิตสงครามครั้งนี้มีราคาแพงมากสําหรับเรา”ไรอาตอบ

“ทั้งหมดเป็นเพราะสัตว์ประหลาดจากดันเจี้ย นออกมาเราต้องแน่ใจว่าจะไม่เกิดขึ้นอีกอย่างน้อยก็ไม่ใช่ในขนาดที่ใหญ่โตเช่นนี้”วารันท์กล่าว ขณะที่เขาสังเกตหินสีแดงในมือของเขา

“ใช่ เราจําเป็นต้องตรวจสอบสาเหตุที่พวกมันไม่สามารถออกมาก่อนหน้านี้และทําไมพวกมันถึงออกมาเราจําเป็นต้องเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับดันเจี้ยนเหล่านี้และหยุดไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีก”เซสเห็นด้วย

“ว่าแต่ นายจะเก็บหินก้อนนั้นไว้หรือไม่” เขาถามวารันท์
“ใช่ ฉันจะฝังมันไว้ที่ใดที่ไม่มีใครรู้จักเพื่อไม่ให้ใครพบมันอีก”วารันท์ตอบ “ให้ฉันไปทาแทนไหม”

“ไม่ นายทําเถอะ” เซสตอบ

ไรอาก็ดูเหมือนจะไม่สนใจหินก้อนนี้เช่นกันมันไม่เหมือนกับว่าเป็นสมบัติ มันเป็นเพียงวัตถุที่สามารถเรียกความหายนะได้

ยิ่งกว่านั้น มันก็ไร้ประโยชน์หากไม่มีหินอีก 6 ก้อนต่อไปและไม่มีใครสามารถหาหินอีก 6 ก้อนได้เนื่องจากทิศทางหนึ่งที่เซลขว้างไปคือ มหาสมุทรเขาเชื่อว่าหินก้อนนี้จะถูกฝังอยู่ใต้มหาสมุทรอันกว้างใหญ่

“แล้วสิ่งมีชีวิตที่อยู่อีกด้านของประตูมิตินั้นคืออะไรใครมีความคิดอะไรบ้าง” คนอ้วนถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“ฉันเห็นแค่หน้าเขา แต่เขาดูเหมือนมนุษย์แต่ไม่ใช่เลยมีบางอย่างเกี่ยวกับเขาที่ทําให้ฉันรู้สึกเหมือนเขาไม่ใช่มนุษย์แต่มีบางอย่างที่น่ากลัว”เขากล่าวเสริม

“ฉันก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน เขาไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน” ไรอาเห็นด้วย

“แล้วเราจะเรียกเขาว่าอะไรดีเอเลี่ยนสัตว์ประหลาดเขาจะเป็นคนอยู่ในดันเจียนไม่ได้เพราะเขาไม่ได้อาศัยอยู่ในดันเจี้ยน”ชายร่างท้วมถามอีกครั้ง

วารันท์จําแววตาที่ข่มขู่ได้ เขาลืมใบหน้านั้นไม่ได้เขาพูดเบาๆว่า”เขาเป็นคนที่ไร้มนุษยธรรมแน่นอนเขาคล้ายกับมนุษย์แต่เขาไม่ใช่มนุษย์เราจะเรียกเขาว่าพวกอมนุษย์

“ชื่อไม่เลว” คนอ้วนเห็นด้วย คนอื่นๆ ก็ไม่บ่นเหมือนกันเพราะไม่สําคัญว่าเขาจะชื่ออะไรและด้วยเหตุนี้ชื่ออมนุษย์จึงได้รับการสรุป

“ฉันสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าว่าอย่าได้เจออมนุษย์คนนั้นอีกเลย” ชายร่างท้วมพิมพ์ขณะหลับตาและเริ่มอธิษฐาน

“ฉันไม่คิดว่าเราจะเป็นเช่นนั้นแต่ถ้าเราได้พบกับอมนุษย์นั่นอีกครั้ง ก็คงไม่น้อยไปกว่าการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของบ้านของเรา”วารันท์เห็นด้วย

“ฉันมีข้อเสนอแนะฉันไม่ต้องการแม้แต่คนเดียวที่จะบอกคนอื่นเกี่ยวกับสิ่งที่เราเห็นในวันนี้ให้สัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับคนไม่จําเป็นต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเกี่ยวกับหินคนอื่นรู้น้อยลงเรื่องแบบนี้ยิ่งดี”เขาแนะนํา..

ตอนที่ 230: ไม่แตกหัก

“ดีแล้ว เล่าทุกอย่างเกี่ยวกับวันนั้นให้ฉันฟัง” ลูซิเฟอร์กล่าว

รอยได้พักสมอง ในขณะที่เขาถอนหายใจ “วันที่มืดมิดที่มันเกิดขึ้น ฉันเดาว่าเราโชคดีจริงๆ ที่วันนั้นทุกอย่างถูกหยุด หรือพวกเราอาจจะตายกันหมด”

เขาเปิดริมฝีปากของเขา ในขณะที่เขาเริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น “คนในดันเจี้ยนออกมาจากที่นั่นแล้ว มีความตายและการทําลายล้างเกิดขึ้นทั่วโลก ฉันเชื่อว่าไม่มีประเทศใดปลอดภัยเพราะผู้คนเสียชีวิตเป็นล้าน”

“นั่นคือสิ่งที่พวก แวเรียนท์ต่อสู้อย่างกล้าหาญ และพยายามเอาชนะมอนสเตอร์”

“เราประสบความสําเร็จในระดับหนึ่ง เมื่อเราไปถึงสิ่งที่ดูเหมือนสัตว์ประหลาด ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของชาวดันเจี้ยนเหล่านั้น พวกเรา 6 คนเผชิญหน้ากับเขา…” ขณะที่รอยยังคงพูดถึงเรื่องนี้ ลูซิเฟอร์รู้สึกเหมือนเขาอยู่ที่นั่นและประสบกับทุกสี่งด้วยตัวเขาเอง

“นายไม่สามารถหยุดสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้”

เมฆดํากระจายไปทั่วท้องฟ้า ในขณะที่มองเห็นหมอกสีแดงในบรรยากาศ หมอกยังดูเหมือนเพื่อดเล็กน้อย

สิ่งมีชีวิตที่มีปีกประหลาดกําลังนอนอยู่บนพื้นสิ่งมีชีวิตนี้ดูไม่เหมือนมนุษย์เลยแม้แต่น้อย แต่เขากลับมีปีกเหมือนนกอินทรีพร้อมกับร่างกายที่ปกคลุมไปด้วยขนทั้งหมด มีรูอยู่ที่อกของชายผู้นี้ และมีคน 6 คนยืนอยู่รอบตัวเขา

ทั้ง 6 คนดูเหมือนจะไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก เซล แอซเรล, แคลรีส, เซส, ไรอา, วารันท์ และผู้ชายอีกคนหนึ่งที่ดูเหมือนจะอวบเล็กน้อย ยกเว้นชายอ้วนที่กําลังมองดูสิ่งมีชีวิตประหลาด ทุกคนต่างมองขึ้นไปบนท้องฟ้า หินประหลาดเจ็ดก่อนกําลังลอยอยู่บนท้องฟ้าใกล้กัน ฟ้าร้องแตกกระจายไปทุกหนทุกแห่ง และดูเหมือนว่าการเคลื่อนย้ายเชิงพื้นที่เกิดขึ้นรอบๆหิน
เมื่อก้อนหินมีความกลมกลืนกันมากขึ้น ประตูมิติก็เริ่มเปิดออกในระยะไกล แม้ว่าจะช้มาก แต่เมื่อมองผ่านประตูมิติ เซลและคนอื่นๆ สามารถมองเห็นสิ่งที่ดูเหมือนดวงตา มันสีฟ้าหนึ่งสีและสี ม่วงอีกข้างหนึ่ง เนื่องจากประตูมิติมีขนาดเล็ก ใบหน้าของดวงตาเหล่านี้จึงไม่สามารถมองเห็นได้อย่างเหมาะสม แต่ประตูนั้นใหญ่ขึ้นอย่างช้าๆเป็นพิเศษ

“ฉันไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังประตูนั่น แต่ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นข่าวดีสําหรับเรา เราต้องหยุดประตูนั่นซะ และไม่ให้มันเปิดอย่างเต็มที่” วารันท์กล่าวอย่างเคร่งขรึม ขณะมองดูพอร์ทัล

“ฉันมีความคิด” ไรอาพูดขึ้น “ดูหินพวกนั้นสิ การทําลายล้างและความตายทั้งหมดนี้เพื่อสร้างหินเหล่านั้น และหลังจากที่พวกเขามารวมกัน ประตูก็จะเริ่มเปิดขึ้น”

“ไรอาพูดถูก เราต้องทําลายหินพวกนั้น” เซสเห็นด้วยขณะที่หรี่ตาลง

เขาเหลือบมองเซลก่อนถามว่า “เซลสายฟ้า ของนายทําได้ไหม”

“ฉันลองได้” เซลตอบพร้อมยกนิ้วขึ้นเล็กน้อยได้ยินเสียงฟ้าร้องอย่างหนักดังก้องไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เมื่อสายฟ้าที่ดูทรงพลังแต่ดูสง่างามตกลงมาจากท้องฟ้าเหมือนหอกของซุส มันกระแทกหิน 7 ก้อน

แสงที่ทําให้ตาพร่าทําให้พวกเขาส่วนใหญ่หลับตา ซึ่งพวกเขาเปิดตาขึ้นเมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ

เมื่อทุกคนลืมตาขึ้น พวกเขาพบว่าหินนั้นไม่เสียหาย ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกมัน และพวกมันก็ไม่ถูกทําลาย

“ฉันไม่คิดว่าฉันจะทําลายพวกมันได้ ให้ฉันลองใช้กําลังของฉันดูสิ” เซลกล่าว ขณะที่เขากระแทกเท้าบนพื้น ซึ่งช่วยให้เขากระโดดได้สูงมาก

แม้ว่าเขาจะบินไม่ได้ แต่เขาก็ใช้กลอุบายนี้บ่อยๆ ทันทีที่เขาไปถึงก้อนหิน เขาก็คว้ามันไว้ 2 ก้อนก่อนที่เขาจะเริ่มทํามันอีกครั้ง ในไม่ช้าเขาก็กระทึบหินลงบนพื้น “ฉันจะไปจัดการต่อ พวกนายระวังตัวด้วย” เซลพูดขณะกางแขนออก ทันใดนั้นเขาก็นําหินทั้ง 2 ก้อนขึ้นมาโดยถือไว้ในมือ
เครั้ง!

เสียงโลหะหนักแผ่กระจายไปทั่ว แม้กระทั่งทําให้หูของพวกเขามึนงงชั่วขณะ แต่ดูเหมือนก้อนหินยังคงไม่ได้รับผลกระทบ “เอาล่ะ ก้อนหินพวก นี้ดูเหมือนไม่แตกหัก” เซลพึมพําพลางขมวดคิ้ว “แคลรีสลองใช้พลังแห่งการเน่าเปื่อยของเธอดู อาจจะใช้ได้?”

เขาโยนก้อนหินให้แคลรีส ซึ่งเธอจับมันไว้ได้ เธอไม่ได้สวมถุงมือในขณะต่อสู้ ทันทีที่เธอจับก้อนหิน พลังของเธอน่าจะเริ่มแสดงออกมา แต่นั่นก็ไม่เกิดขึ้นเช่นกัน

ก้อนหินยังคงอยู่เหมือนเดิม เมื่ออยู่ในมือของเธอ “มันไม่ได้ผลเช่นกัน ก้อนหินนั้นไม่ปกติอย่างแน่นอน” แคลรีสตอบ

“ให้ฉันลอง” เซสพูดขึ้น ในขณะที่เขาเอื้อมมือออกไป แคลรีสมอบก้อนหินให้เซสอย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าเธอจะไม่แตะต้องเขา เมื่อก้อนหินตกลงมาในมือของเซส เขาก็เริ่มใช้ความสามารถของเขาเช่นกัน

“ก้อนหินพวกนี้… นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

เช่นเดียวกับที่ก้อนหินยังคงเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆจากเซสไปที่ไรอาและจากเขาไปที่วารันท์

แม้แต่คนอ้วนก็ลองทําดู แต่ก็ไม่ได้ผล

มันแน่นอน หินเหล่านี้ไม่สามารถแตกหักได้อย่างแท้จริง ในระยะไกล ประตูมิติยังคงขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และยังคงเคลื่อนตัวอย่างช้าๆอยู่ มันใหญ่เท่ากับใบหน้าของมนุษย์ในตอนนี้ ยิ่งกว่านั้น ในที่สุดก็แสดงให้เห็นมากกว่าดวงตา ผ่านประตูมิติ เซลและคนอื่นๆ สามารถเห็นได้ว่าดวงตาคู่นั้นเป็นของใคร

“เอาหินมาให้ฉัน” จู่ๆ เซลก็พูดกับคนอ้วนที่เกาะพวกเขาไว้
ชายคนนั้นคืนก้อนหินให้เซลโดยไม่ถามอะไรมาก

“นายมีวิธีทําลายพวกมันไหม” เซสถามเซลด้วยความสงสัย

“ฉันไม่มี นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันจะ…”

เซลพูดบางอย่างแต่ยังไม่จบประโยค ในขณะที่เขาขยับความสมดุลของร่างกายกลับไปเล็กน้อยด้วยหิน 1 ใน 2 ก้อนที่แขนขวาของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะใช้กําลังทั้งหมดของเขา ทุกคนมองมาที่เซล สงสัยว่าเขาจะทําอะไรเมื่อเขา เคลื่อนย้ายร่างกายออกไป

ในที่สุดเซลใช้กําลังทั้งหมดของเขาเพื่อโยน หินไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น
ก้อนหินดูเหมือนจะบินออกไปเหมือนจรวด ก่อนที่จะหายไปในท้องฟ้าในที่สุด

“ไอ้โง่! นายทําอะไร?”

ขณะที่เซลขว้างก้อนหินก้อนหนึ่งออกไป ไรอา ก็ดเซลอย่างโกรธจัด

เมื่อเห็นการกระทําของเซล ปากของชายอ้วนก็เปิดออกเล็กน้อย สําหรับคนอื่นๆ พวกเขายังมองไปที่เซลด้วยความตกใจ สงสัยว่าเขาเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า

“เราจําเป็นต้องทําลายก้อนหิน เพื่อหยุดประตูมิติ ไม่ใช่โยนมันทิ้ง เราจะหาหินก้อนนั้นเจอได้ยังไง อย่าคิดแต่จะทําลายมันเลย” ไรอาถาม “มันจบแล้ว ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้”

“หาหินเจอไหม มันอาจจะตกลงไปในประเทศอื่นหรือแม้แต่ของหวานก็ได้.. เราจะไม่มีวันค้นพบมันได้ถ้าไม่ได้ทุ่มเททํางานหลายปี!”

ตอนที่ 229: การคุมขังในบ้าน

ประโยคที่สองของเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นแรงผลักดันสุดท้าย เมื่อสาวๆที่เหลือจากไป ทําให้ลูซิเฟอร์มีความเป็นส่วนตัว

ในที่สุดเขาก็สามารถทํางานได้อย่างสงบสุข

ชายหาดมีขนาดใหญ่มาก และลูซิเฟอร์ไม่รู้ว่าจะฝังมรดกของเขาไว้ที่ใด แต่เขาตัดสินใจแล้ว ไม่สําคัญว่านานแค่ไหน เขาจะไม่จากไปก่อนที่เขาจะพบสิ่งที่เขากําลังมองหา

7 ชั่วโมงผ่านไป ในขณะที่เขาสุ่มเดินไปบนชายหาด พยายามหาเบาะแส ความทรงจําใดๆหรือจุดเชื่อมโยงใดๆ มันไม่ปรากฏออกมาแม้แต่น้อย ที่เดียวที่มรดกของเขาจะอยู่คือใต้ผืนทราย แต่มันพิสูจน์แล้วว่ายากกว่าที่เขาคิด

“ดูเหมือนว่าการหามันพบจะเป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่ฉันไม่ทราบสถานที่เฉพาะ ฉันก็หามันไม่เจอ”

“ฉันสงสัยว่าฉันควรพยายามหาวารันท์ที่สามารถหามันให้ฉันได้หรือไม่ โลกนี้มีพลังมากมาย ควรมีคนที่ช่วยฉันในเรื่องนี้ด้วย”

เขาตัดสินใจว่าแทนที่จะค้นหาทั่วทั้งชายหาด เป็นการดีกว่าที่จะค้นหาชายที่สามารถช่วยเขาได้ เพราะมันง่ายกว่า

เขาออกจากชายหาดและไปที่คาเฟไซเบอร์ ซึ่งเขาได้รับอนุญาตให้ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต หลังจากจ่ายเงินเพียงเล็กน้อย ด้วยความช่วยเหลือของเครือข่าย เขาพยายามหาคนที่สามารถช่วยเขาได้
เจียง!

เขาสามารถช่วยฉันได้ และบ้านของเขาอยู่ใกล้กับบ้านของรอยยังไงฉันก็จะไปที่นั่น ฉันสามารถไปรับเขาระหว่างทางกลับได้”

เมื่อลูซิเฟอร์ได้รับข้อมูล เขาก็ออกจากสถานที่นั้นไป นั่งแท็กซี่ไป เขาตัดสินใจไปที่บ้านของรอย

รถแท็กซีหยุดอยู่ใกล้คฤหาสน์ของรอย ซึ่งดูเหมือนว่าจะมียามรายล้อม และดูเหมือนจะมีอาวุธด้วย

ลูซิเฟอร์จ่ายค่าแท็กซี่ก่อนออกเดินทาง ขณะที่เดินไปที่คฤหาสน์

เขาหยุดอยู่ที่ทางเข้าคฤหาสน์หลังใหญ่

“คุณเป็นใคร ต้องการอะไร” ผู้คุมถามลูซิเฟอร์

“ฉันอยากพบคุณรอย ขอเข้าไปได้ไหม” ลูซิเฟอร์ถาม

“คุณไม่รู้เหรอ เขาถูกกักบริเวณในบ้านมาหลาย 10 ปีแล้ว ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้พบเขา” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแจ้งลูซิเฟอร์อย่างเฉียบขาด

“อ๋อ เข้าใจแล้ว คุณจึงไม่ใช่ผู้พิทักษ์ที่คอยปกป้องเขา คุณคือผู้พิทักษ์ที่คอยกักขังเขาให้อยู่ห่างไกลจากผู้อื่น ทั้งที่ไม่รู้ว่าทําไมคุณถึงทําอย่างนั้น มันทําให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสําหรับฉัน” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม เขาถอดถุงมือสีดําและเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ

ผู้คุมขมวดคิ้วมองลูซิเฟอร์ แต่ไม่นานพวกเขาก็เข้าใจทุกอย่างเมื่อเห็นลูซิเฟอร์กระโดดข้ามประตู

ยามยกปืนขึ้นเพื่อโจมตี แต่นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์ ก่อนที่พวกเขาจะยิงได้ มีสายฟ้าจํานวนหนึ่งพุ่งทะลุกะโหลกของพวกเขา ทิ้งพวกเขาลงกับพื้น

“อย่าให้เสื้อผ้าของฉันสกปรกอีกนะ สมัยเด็กๆก็พอแล้ว” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะที่เขาตบทักซิโด้ด้วยหลังมือ

เขาเดินไปที่ศพและสลายร่างทั้งหมดด้วยมือเปล่าของเขา เขาได้เรียนรู้และจะไม่ทิ้งศพใดๆ ไว้เบื้องหลัง ตราบใดที่เขาไม่ได้ถูกกดดันให้มีเวลาอยู่ที่นี่

หลังจากทําลายศพทั้งหมดแล้ว เขาสวมถุงมีออีกครั้ง ขณะเดินไปที่คฤหาสน์ด้วยมือของเขาในกระเป๋า จากใบหน้าของเขา ไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงสิ่งที่เขาทํา เขาดูเหมือนนักธุรกิจที่มีความมั่นใจที่มาทําธุรกิจ

กริ้ง!

เขากดกริ่ง ขณะยืนอยู่บนประตูไม้ของคฤหาสน์

ประตูไม่ได้เปิด เขากดกริ่งอีกครั้งขณะที่รออีก 1 นาที แต่ประตูก็ไม่เปิดอีก
“ฉันพยายามเป็นสุภาพบุรุษ ตอนนี้พวกเขาโทษฉันไม่ได้แล้ว” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม เขายกเท้าขวาขึ้นโดยไม่เอามือออกจากกระเป๋าและเตะประตูตู้ม!

ประตูเปิดออกทันที ไม่สามารถต้านทานความแข็งแกร่งของลูซิเฟอร์ได้

ลูซิเฟอร์เดินเข้าไปข้างในอย่างใจเย็น

คฤหาสถ์นั้นใหญ่มากจนดูไม่ต่างจากวัง ข้างในยังสว่างไสวและตกแต่งอย่างเหมาะสม

“แม้ว่าเขาจะถูกกักบริเวณในบ้าน แต่ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนจะใช้ชีวิตอย่างหรูหรา” ลูซิเฟอร์ให้ความเห็น ขณะที่เขาส่ายหัว

เขาเริ่มค้นหารอยในห้องส่วนใหญ่ เพียง 10 นาทีต่อมาเขาก็พบเขา

รอยอยู่ในห้องนอนของเขา นอนหลับอย่างสงบสุข

เมื่อพับแขนของเขา ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ในห้องโดยให้หลังพิงกับผนัง
“ตื่นได้แล้วเจ้าหนู” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น แต่ผู้ชายไม่ตื่น

ลูซิเฟอร์ก้าวเข้ามาใกล้เตียง นริมฝีปากมาแนบหูของชายผู้นั้น เขาตะโกนสุดเสียง “ตื่นเดี๋ยวนี้!”

“หะ อะไรนะ แผ่นดินไหวเหรอ”

ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นยืน เมื่อได้ยินเสียงตะโกน ขณะที่เขายังหลับอยู่ครึ่งหนึ่ง เขาคิดว่ามีแผ่นดินไหว

“ยังไม่มีแผ่นดินไหว แต่ถ้านายไม่ตอบฉันอีก ไม่นานก็จะเกิด และมันจะเป็นที่ที่นายไม่สามารถเผชิญได้” ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น ขณะที่เขาก้าวถอยหลังอีกครั้ง

ชายร่างท้วมขยตาที่ง่วงนอน ขณะที่ได้ยินเสียง เขามองไปทางซ้ายก็พบว่าลูซิเฟอร์ยืนอยู่ตรงนั้น

“นายเป็นใคร นายเข้ามาได้อย่างไร วารันท์ และคนอื่นๆ อนุญาตให้นายเข้ามาหรือไม่ การกักตัวในบ้านของฉันถูกนําออกไปแล้วใช่หรือไม่” ชายร่างท้วมถามพลางมองดูลูซิเฟอร์

“วารันท์จับคุณขังไว้ในบ้านงั้นหรือ” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“อย่าทําเหมือนไม่รู้ เขา, เซส พวกเขาทั้งหมดเกี่ยวข้อง ทั้งหมดเพราะฉันผิดสัญญาและบอกคนอื่นเล็กน้อยเกี่ยวกับดวงตานั่น” รอยพูดและถอนหายใจ

“พระเจ้า ฉันมันงี่เง่าจริงๆ ฉันควรจะเก็บเงียบไว้ ถ้าฉันทําได้ ฉันจะไม่ถูกกักบริเวณในบ้านนานหลาย 10 ปี”

“น่าสนใจ ยังไงซะ ฉันมาเพื่อสิ่งนี้ ฉันอยากได้ยินเกี่ยวกับดวงตามากกว่านี้ นายเห็นอะไรในวันนั้น และสิ่งที่ทุกคนต้องการเก็บเป็นความลับ ฉันจึงมาที่นี่ ถ้านายบอกความจริงกับฉัน นายจะได้รับอิสรภาพ” ลูซิเฟอร์บอกรอยอย่างใจเย็น

“คุณไม่รู้จริงๆเหรอ” รอยถามพลางขมวดคิ้ว

ลูซิเฟอร์ส่ายหัว “ฉันไม่รู้

เนื่องจากห้องมืดไปเล็กน้อย ผู้ชายจึงมองไม่เห็นใบหน้าหรือดวงตาของลูซิเฟอร์อย่างชัดเจน

“เดี๋ยวนะ เป็นการทดสอบหรือเปล่า เพื่อดูว่าฉันเก็บเงียบไว้ตอนนี้ไหม ไม่ต้องกังวล! บอกพวกเขาว่าฉันได้เรียนรู้บทเรียนแล้ว ฉันจะไม่บอกใครเลย!” รอยพูดออกมาอย่างเซ็งๆ

“ฉันไม่สนใจบทเรียนของนายหรอก ฉันต้องการคําตอบ บอกฉันทุกอย่างเกี่ยวกับวันนั้น ฉันสัญญาว่านายจะปลอดภัยจากการถูกกักบริเวณในบ้าน” ลูซิเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น

คนตัวอ้วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลง “เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง ผมจะเล่าให้ครบ..”

ตอนที่ 228: การติดต่อจากผู้หญิง

หลังจากพบที่อยู่ของรอยแล้ว ลูซิเฟอร์ก็ไม่หยุดยั้ง เขายังค้นหาที่อยู่ของเวราซิตี้ เขาจําที่อยู่ทั้งสองได้

ต่อไปก็ค้นหาตัวเอง ข่าวเกี่ยวกับเขาคืออะไร?

ขณะที่เขาค้นหาลูซิเฟอร์ แอซเรล เขาก็ประหลาดใจ

“พวกเขาโกหกคนอื่นเหรอ ฉันไม่แปลกใจเลย”

เขารู้สึกขบขันที่พบว่าการค้นหาเขายังคงดําเนินต่อไป แม้จะก้าวช้าๆ สําหรับโฆษณารอบ ๆ ตัวเขา มันตายไปแล้ว มีเพียงไม่กี่บทความที่หายากเท่านั้นที่ได้รับการอัปเดตเกี่ยวกับเขาทุกปี

“ฉันคิดว่าอย่างน้อยพวกเขาจะยอมรับว่าพวกเขาฆ่าฉัน ไอ้พวกขี้ขลาด!”
เขาปิดแท็บเล็ตก่อนที่จะเคลียร์ประวัติการค้นหาทั้งหมดอีกครั้ง

เขาตัดการเชื่อมต่อ WiFi และปิดแล็ปท็อป ในขณะที่ทําเสร็จ

เวลาของลูซิเฟอร์ในเรือยังคงผ่านไป เมื่อวันเปลี่ยนเป็นคืนและคืนเป็นวัน
ไม่นานก็ผ่านไป 3 สัปดาห์ เขาและเจนเลียคุยกันเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่มีอะไรลึกซึ้งเกินไป ลูซิเฟอร์รักษาระยะห่างเท่าที่คนแปลกหน้าควร เขาไม่ได้ค่อยเป็นค่อยไปจากรูปลักษณ์ของเธอ

ตลอดเวลานี้ ไม่มีใครรู้ว่าลูซิเฟอร์ไม่ควรอยู่บน เรือ “พรุ่งนี้เราจะไปที่เอลิเซียม ฉันจะไปที่นั่น ฉันคิดว่าคงเป็นวันสุดท้ายของฉันกับคุณใช่ไหม” เจนิเลียถามลูซิเฟอร์ขณะยืนอยู่บนดาดฟ้าใต้แสงจันทร์

“อาจจะ” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่ได้บอกว่าเขาต้องหยุดเหมือนกัน

“ฉันคิดว่าฉันควรจะขอบคุณที่คอยอยู่เป็นเพื่อน คุณไม่เหมือนคนรวยไร้ยางอายที่เอาแต่กวนประสาทฉัน คุณฉลาดกว่า ฉันอยากให้ผู้ชายทุกคนเป็นเหมือนคุณ” เจนิเลียพูดขณะที่เธอยิ้ม

“ถ้าผู้ชายทุกคนเป็นเหมือนผม ผมไม่คิดว่าคุณจะอยากอยู่ในโลกนั้น” ลูซิเฟอร์ตอบพลางถอนหายใจ “มันจะมืดเกินไป”

“คุณหมายถึงอะไร?” เจนิเลียถามอย่างงงๆ

“ไม่มีอะไร ผมหมายถึงว่าการเดินทางกับคุณมีความสุข บางทีเราอาจจะได้พบกันอีกในอนาคต” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยื่นมือออกมา

เขาและเจนเลียจับมือกัน

“ฉันขอเบอร์คุณไว้เพื่อติดต่อกับคุณได้ไหม” เจนิเลียถามลูซิเฟอร์

“ผมไม่พกโทรศัพท์” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ

“อ่า แปลกจัง คุณจัดการธุรกิจคุณยังไง” เจนเลียถาม

“แล็ปท็อปของผม มันจัดการทุกอย่าง” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ถ้าอย่างนั้นฉันขออีเมลของคุณได้ไหม” เจนเลียถามลูซิเฟอร์

“ผมมีเพียงอีเมลธุรกิจที่แชร์กับคู่ค้าทางธุรกิจของผม ผมไม่สามารถให้สิ่งนั้นกับคุณได้” ลูซิเฟอร์ตอบ

“โธ่ คุณนี่ติดต่อกันยากจริงๆได้! นี่เบอร์ของฉัน ถ้าคุณมีโทรศัพท์ในอนาคต โทรหาฉันนะ!” เจนิเลียพูดกับลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอให้หมายเลขโทรศัพท์แก่เขา

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ปฏิเสธเธอและเก็บแผ่นกระดาษที่มีหมายเลขของเธอไว้ในกระเป๋าของเขา

“ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือในอนาคต โทรหาฉันได้ด้วย หรือจะแค่ทักทายก็ได้ ยังไงก็เถอะ ฉันเสร็จงานแล้ว พรุ่งนี้จะเป็นวันที่ยุ่ง ฉันขอตัวไปนอนก่อนแล้วกันค่ะ” เจนิเลียพูดพร้อมกับเหยียดแขนออกพลางหาว หลังจากนั้นเธอจาก

ไป

ลูซิเฟอร์ยังคงยืนอยู่บนดาดฟ้า ขณะที่เขาหันไปมองดวงจันทร์

“ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ? ผมสงสัยว่าผมต้องการไหม ในความเป็นจริง ดูเหมือนว่าเราอาจจะเป็นศัตรูกับเส้นทางที่ผมจะเดิน แต่ผมจะไม่เมตตาใครเลย” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขานํากระดาษมา ออกจากกระเป๋าของเขา

“อย่ามาขวางทางผมเลย ผมขออนุญาตเมิน คุณ และคุณไม่ควรเข้ามายุ่ง…”

เขาเหลือบมองตัวเลข ขณะที่โยนมันลงไปในทะเลลึก

คืนนั้นก็ล่วงลับไป เมื่อลูซิเฟอร์นอนหลับ ขณะนั่งอยู่บนดาดฟ้าอีกครั้ง
รุ่งเช้าก็มาถึง และโอเอซิสก็หยุดที่ท่าเรือในเอลิเซียม

“ขอบคุณสําหรับทุกอย่าง ลาก่อน!” เจนิเลียโบกมือลาลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอลงจากเรือ ลูซิเฟอร์ไม่ได้ลงจากที่นี่ เขารออยู่ที่ดาดฟ้า เฉพาะเมื่อเขาแน่ใจว่าคนอื่นๆ หายไปหมดแล้ว เขาจึงลงจากเรือ

ลูซิเฟอร์เดินออกไปนอกท่าเรือด้วยมือของเขาในกระเป๋าเสื้อ เขาไม่มีกระเป๋าหรืออะไรเลย แต่เขามีกระเป๋าสตางค์ใบหนา พลางยืนอยู่บนถนนในเมือง เขาหยุดรถแท็กซี

“สถานที่ที่จะไปล่ะครับ?” คนขับถาม

“พาฉันไปที่หาดโอไรออน ฉันได้ยินมาว่าเป็นสถานที่ที่สวยงาม
คนขับรถแท็กซี่พาลูซิเฟอร์ไปที่หาดโอไรออน ซึ่งเขาขอเงินลูซิเฟอร์เปิดกระเป๋าเงินและจ่ายเงินให้เขา

เขารู้ว่าเขาต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของต่างจากเมื่อก่อน นั่นเป็นเหตุผลที่เขาขโมยกระเป๋าเงินบนเรือล่วงหน้า

ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินไปบนชายหาด เขาก็ประหลาดใจ ไม่เหมือนเมื่อก่อน คราวนี้คนค่อนข้างเยอะ อาจเป็นเพราะเป็นช่วงปลอดภัย?

หลายคนกําลังอาบแดดที่นี่ในขณะที่ผู้หญิงสวยหลายคนสามารถมองเห็นในชุดบิกินี่ของพวกเขาและเพลิดเพลินกับเวลาของพวกเขา

ลูซิเฟอร์เป็นคนเดียวที่นี่ในชุดเต็มตัวของเขา อย่าว่าแต่เสื้อผ้าเต็มตัวเลย เขาอยู่ในชุดทักซิโด้ที่ชายหาด ซึ่งดึงดูดสายตา 2-3 คน

ขณะที่พวกผู้ชายหัวเราะเยาะเขา สาวๆมองมาที่เขา เกือบจะประจบสอพลอต่อหน้าเขา เขาไม่เพียงแต่ดูหล่อแต่รวยด้วย นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่คนเดียว

เขาเดินผ่านชายหาด พยายามดูว่าของขวัญจากพ่อของเขาอยู่ที่ไหน เมื่อสาวๆ หลายคนเดินเข้ามาหาเขาเพื่อทําความรู้จักกับเขา

“ขอโทษนะ หนุ่มน้อย เรากําลังเล่นวอลเลย์บอลอยู่ คุณต้องการเข้าร่วมกับเราไหม

“ฉันก็อยู่เพียงลําพังเหมือนคุณ แล้วคุณล่ะ มาอยู่กับฉันแทนไหม”

“ไม่ ให้เขามากับฉัน ฉันอยากแสดงบางอย่างให้คุณดู” ผู้หญิงหลายคนพยายามใช้วิธีต่างๆกัน เพื่อให้เขาคุยกับพวกเขา แต่ลูซิเฟอร์กลับพบว่ามันน่ารําคาญ

เขามองย้อนกลับไปที่พวกเขาทั้งหมดในขณะที่เขาพูดว่า “ฉันเป็นเกย์”
เสร็จแล้วก็เดินต่อไป เนื่องจากเขาไม่ต้องการความรําคาญจากสาว ๆ ที่ติดตามเขาเพราะหน้าตาของเขา เขาจึงใช้คําโกหกเพื่อขัดขวางพวกเธอ

สําหรับสาวๆ พวกเขายืนด้านหลังโดยอ้าปากค้างเล็กน้อย

“ทําไมผู้ชายหล่อๆ กลายเป็นเกย์หมดล่ะ ฉันจะหาผู้ชายน่ารักแบบนี้ได้ยังไง” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดพร้อมกับถอนหายใจ
เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่เริ่มเดินกลับ เมื่อความหวังของพวกเธอพังทลาย แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ยังคง ติดตามลูซิเฟอร์

“เดี๋ยวก่อน! ฉันมีเพื่อนที่เป็นเกย์ 2-3 คน เรา มาเป็นเพื่อนกันด้วยได้ไหม” ผู้หญิงคนหนึ่งถามลูซิเฟอร์

“พระเจ้า ฉันไม่ต้องการ” ลูซิเฟอร์พึมพํา พลางขมวดคิ้ว

เขาหันกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่เขาถอนหายใจ “ได้โปรดหยุดเถอะ! ผมถูกส่งมาที่นี่โดยเจ้านายของผม! ถ้าผมทํางานเก่ง เขาอาจจะให้ทักซิโด้อีกตัวแก่ผม เหมือนที่เขาให้ของขวัญผมครั้งสุดท้าย อย่ารบกวนเลย”

“เจ้านาย? ทักซิโด้นี้มาจากพรสวรรค์ของคุณหรือ คุณหมายความว่าคุณไม่รวยเหรอ?” สาวๆถามลูซิเฟอร์

“เปล่าครับ จริงๆแล้วผมไม่ใช่คนชนชั้นกลางด้วยซ้ํา” ลูซิเฟอร์ตอบ..

ตอนที่ 226: องค์กรวอร์ล็อค

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เขาพร้อมมากขึ้น หลังจาก การฝึกอบรมที่เขาได้รับในสถาบันการศึกษาเขา เป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี ภูมิศาสตร์การต่อสู้หรือสิ่งอื่น ๆ เขาได้เรียนรู้ศิลปะแห่งกลอุบายด้วย เขาไม่ใช่ลูซิเฟอร์ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนแต่เขาคือสิ่งที่เขาต้องการจะเป็น ตอนนี้เขาสามารถเป็นใครก็ได้ที่เขาต้องการในขณะที่ยังเป็นศัตรูตัวฉกาจ
ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังวางแผนที่จะก้าวออกไปเขาก็ได้ยินเสียงข้างหลังเขา มันเป็นเสียงของการเปิดลิฟต์

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาจึงหันหลังพิงราวกับราวบันไดเพื่อดูว่าเป็นใคร

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะอายุ 17 หรือ 18 ปี 3694

หญิงสาวมีผมสีเงินสวยเหมือนของลูซิเฟอร์แต่เธอผมยาวกว่าผมเรียบลื่นของเธอยาวลงมา จนถึงสะโพกของเธอ

ผิวขาวของเธอเปล่งประกายยิ่งขึ้นภายใต้แสงเดือนที่สวยงามสําหรับส่วนสูงของเธอดูเหมือนว่าเธอจะเตี้ยกว่าลูซิเฟอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เด็กหญิงสวมชุดลําลองสีดําเปิดไหล่ซึ่งคลุมเข่านอกจากนี้ยังมีริบบิ้นสีดําผูกบนผมของเธอที่เข้ากับสไตล์ของเธอ

สําหรับคอของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะสวมทองคําเหมือนที่ลูซิเฟอร์สวมอยู่ แต่จของเธอมีคริสตัลสีแดงฝังอยู่ตรงกลางลูซิเฟอร์ทําตัวสบายๆ ราวกับว่าเขาไม่ได้แทรกซึมเข้าไปในเรือเขาควรจะอยู่ที่นี่

“ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าจะมีใครมาที่นี่”หญิงสาวบอกกับลูซิเฟอร์“ฉันรบกวนคุณหรือเปล่า”

“โลกนี้กว้างใหญ่มาก แต่จํานวนมนุษย์ก็ไม่ต่ำเช่นกันจะมีใครสักคนอยู่ที่ไหนสักแห่งเสมอคุณไม่ควรขอโทษ”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น

“โอ้ นักปราชญ์ ฉันเข้าใจแล้ว” เด็กสาวยิ้มออกมาเธอเดินไปทางลูซิเฟอร์และยืนข้างเขาขณะมองดูทะเล

“ฉันไม่คิดว่าฉันเคยเห็นคุณที่นี่มาก่อนและเราอยู่บนเรือลํานี้มาหลายสัปดาห์แล้วฉันแปลกใจที่คุณซ่อนตัวอยู่”เด็กหญิงกล่าว

“เมื่อพูดถึงคุณ ฉันก็พูดได้เหมือนกันใช่ไหมฉันอยู่บนเรือลํานี้มานานแล้ว แต่ไม่เห็นคุณเหมือนกันฉันแปลกใจที่คุณซ่อนตัวอยู่”ลูซิเฟอร์ได้ตอบกลับ

“ฮ่าฮ่า ยุติธรรมดีแล้ว” เด็กสาวพูดออกมา”แล้วจะไปไหนล่ะ”

“ฉันกําลังจะไปดาเครียในการเดินทางเพื่อธุรกิจ คุณล่ะ?” ลูซิเฟอร์พูดโกหก เขารู้ว่าเรือลํานั้นกําลังจะหยุดที่หาดดาเครียหลังจากหยุดที่เอลิ เซียมแล้ว

“ฉันกําลังจะไปเอลิเซียม” หญิงสาวตอบ

“ทําไมถึงเป็นเอลิเซียม? ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ก็พูดได้ว่าเป็นทริปธุรกิจเหมือนกัน” หญิงสาวตอบอย่างคลุมเครือ“ยังไงก็เถอะยินดีที่ได้คุยกับคุณราตรีสวัสดิ์”เธอกล่าวก่อนจะจากไป

ตลอดการสนทนา ไม่มีใครถามชื่ออีกคน

“เอลิเซียม คือ ขอต้อนรับสู่เอลิเซียม ฉันเดาเอานะ” ลูซิเฟอร์พูดพลางถอนหายใจ

เขานั่งลงบนดาดฟ้า ขณะที่เขาเหนื่อยจากการยืนมองวิว เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนที่นั่งอยู่นั่นเอง

มันเป็นเพียงในตอนเช้า เมื่อแสงแดดส่องลงมาบนใบหน้าของเขาที่เขาตื่นขึ้น

ท้องของเขากําลังคําราม

เขายืนขึ้นขณะที่เขาหาว เขาเดินลงบันไดไปกินข้าวหลังจากล้างหน้า
หลังจากเข้าไปในห้องอาหารเขาก็รู้สึกขบขันที่นั่งส่วนใหญ่เต็มหมดแล้ว

“มีโต๊ะว่างอยู่” เขาพูดทันทีที่เขาสังเกตเห็นโต๊ะว่าง เขาเดินไปที่นั่นและนั่งลง

“อรุณสวัสดิ์ครับนายท่าน”

ในไม่ช้าพนักงานเสิร์ฟก็มาที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่ เขาเสิร์ฟอาหารเช้า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นจานราคาแพง

“เอ่อ อรุณสวัสดิ์ครับ”

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังจะกิน เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงเขามองขึ้นไปพบว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวกันกับเมื่อคืนนี้

“อรุณสวัสดิ์” เขาตอบเช่นกัน

“ฉันขอนั่งตรงนี้ได้ไหมคะ” หญิงสาวถามลูซิเฟ อร์ด้วยความเคารพ
“ได้สิ”ลูซิเฟอร์ตอบเหมือนสุภาพบุรุษ

จากน้ําเสียง คําพูด และพฤติกรรมของเขา ไม่มีใครสามารถเดาได้เลยว่าเขาไม่ใช่เศรษฐีแม้จะไม่เคยชอบความหรูหรามากขนาดนั้นแต่เขาก็ดูเป็นธรรมชาติสําหรับมัน

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพูดขณะนั่งลง

พนักงานเสิร์ฟก็เสิร์ฟเธอเช่นกัน

“เนื่องจากการพบกันครั้งที่ 2 ของเราฉันขอถามชื่อคุณได้ไหม” เธอถามลูซิเฟอร์

“ฉันชื่อ ลูซิเฟอร์” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น “ของคุณล่ะครับ?”

“ฉันเจนิเลีย โอเวนส์ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง” หญิงสาวตอบ

“เช่นกัน” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่ทั้งสองกําลังรับ ประทานอาหารอยู่ เด็กสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพวกเขาซึ่งดูเหมือนอายุ 16 หรือ 17 ปี

“คุณเจนิเลีย นั่นคุณหรือเปล่า” สาวผมดําถามเจนิเลีย

“ใช่น่ะสิ” เจนิเลียตอบยิ้มๆ

“ฉันอธิบายไม่ถูกเลยว่าฉันดีใจแค่ไหนที่ได้พบคุณ คุณเป็นไอดอลของฉัน ฉันมีความสุขมากขอถ่ายรูปหน่อยได้ไหม”หญิงสาวถามอีกครั้ง

“ได้ค่ะ” เจนิเลียตอบพร้อมกับยิ้มเธอยืนขึ้นและปล่อยให้หญิงสาวเซลฟี่กับเธอ

“ขอบคุณมาก และขอบคุณที่ทําให้พวกเราปลอดภัย!” สาวผมดําพูดก่อนจะจากไป

“คุณดูเป็นคนมีชื่อเสียงมาก” ลูซิเฟอร์พูดขณะจิบน้ํา

“ฉันว่านายพูดได้ดีนะ แต่เฉพาะในทวีปของฉัน ฉันแปลกใจที่มีคนในที่นี้รู้จักฉัน”เจนิเลียตอบ“เธอคงมาจากทวีปเดียวกับฉัน”

“คุณมีชื่อเสียงทั่วทั้งทวีปของคุณ คุณทําอะไรนักแสดงหรืออะไรทํานองนั้น”ลูซิเฟอร์ถามอย่างสับสน “แล้วทําไมผู้หญิงคนนั้นถึงขอบคุณที่ทํา ให้เธอปลอดภัย”

“โอ้ นั่นน่ะเหรอไม่ใช่ฉันไม่ใช่นักแสดง ฉันไม่ คิดว่าฉันเก่งมากพอ” เจนิเลียตอบ

“ผมไม่เห็นด้วย คุณมีรูปลักษณ์ที่ดีแน่นอน และคุณสามารถเป็นนักแสดงได้หลังจากฝึกฝนเพียงเล็กน้อย” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ฉันเป็นสมาชิกขององค์กรวอร์ล็อค” เจนิเลียอ ธิบาย

“องค์กรวอร์ล็อค?” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว “นั่นอะไร?”

“ใช่ นายคงไม่เข้าใจหรอก ทวีปนี้ไม่มีอะไรแบ บนั้น แต่ในทวีปของเรา เรามีองค์กรวอร์ล็อคซึ่งประกอบด้วยวอร์ล็อคที่มีความสามารถมากที่สุดของเรา” หญิงสาวอธิบาย

“แต่ละประเทศมีตัวแทนหนึ่งคนในองค์กรวอร์ ล็อค บางประเทศมี 2 คนหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับจุดแข็งของพวกเขาจุดประสงค์ของพวกเขาคือเพื่อรักษาสันติภาพและหยุดความขัดแย้งครั้งใหญ่ในทวีป”เธอกล่าวเพิ่มเติม

“และฉันเป็นเด็กฝึกงานที่นั่น ถ้าผลงานของฉัน ดีในอีก 5 ปีข้างหน้า ฉันจะเป็นสมาชิกขององค์กรเนื่องจากฉันเป็นเด็กฝึกงานที่อายุน้อยที่สุด ฉันค่อนข้างจะมีชื่อเสียงฉันเดาว่าแบบนั้น” เธอกล่าวต่อ

“น่าสนใจ คุณคือวอร์ล็อค” ลูซิเฟอร์พูดเบาๆ

“ถูกต้อง แต่คุณไม่ต้องกังวลไป พวกเราวอร์ล็อคก็เป็นคนธรรมดาเช่นคุณ”หญิงสาวบอกกับลูซิเฟอร์โดยคิดว่าเธอได้ข่มขู่เขา

“แล้วถ้าเราแข็งแกร่งกว่าคุณล่ะ เราจะไม่ทําร้า ยคุณ แต่เราจะปกป้องคุณให้ปลอดภัย” เธอกล่าวเพิ่มเติม

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ว่าเขาควรหัวเราะเยาะเธอหรือร้องไห้ดีเขาฆ่าวอร์ล็อคจํานวนมากในช่วงเวลาของเขา.. ทําไมเขาถึงกลัวเธอ

ตอนที่ 227: การยืม

“ฉันว่าฉันควรจะขอบคุณที่ทําให้เราปลอดภัยในกรณีนั้น” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างขบขัน

“ไม่ มันเป็นหน้าที่ของเรา ไม่ต้องห่วง” เจนิเลียตอบอย่างภูมิใจ

“คุณจะไปที่เอลิเซียมเพื่อทําธุรกิจเกี่ยวกับองค์กรวอร์ล็อคหรือไม่หรืออย่างอื่น?”

ตอนนี้เขารู้ว่าเธอมาจากองค์กรวอร์ล็อคลูซิเฟอร์ยิ่งรู้สึกที่งกับสิ่งที่เธอมาที่เอลิเซียมมากขึ้นไป

อีก

“ฉันว่านายพูดได้นะว่าไม่ใช่ธุรกิจที่เป็นทางการไม่อย่างนั้นฉันจะไปโดยเครื่องบินตอนนี้ฉันบอกได้แค่นี้เพราะมันเป็นความลับ”เจนิเลียตอบ

“ฉันเข้าใจแล้ว พวกวอร์ล็อคมีความรับผิดชอบมากมายคุณไม่สามารถบอกมนุษย์ธรรมดาเกี่ยวกับงานของพวกเขาได้”ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมพยัก หน้า

“อย่างไรก็ตาม ฉันอยากรู้อะไรบางอย่างองค์กรวอร์ล็อคของคุณมีวอร์ล็อคทมิฬบ้างไหมหรือมีแต่คนดีๆเท่านั้น?”เขาถามต่อไปขณะทานอาหารต่อ

“ทําไมพวกเราถึงต้องมีวอร์ล็อคนิสัยเลวพวกนั้นด้วยพวกเขาเป็นเหตุผลทั้งหมดที่ทําให้เกิดความวุ่นวายพวกเขาเป็นศัตรูของเราและหนึ่งในเป้าหมายขององค์กรวอร์ล็อคก็คือการกําจัดพวกมันด้วย”เจนิเลียตอบ

“น่าสนใจ คุณไม่กลัววอร์ล็อคทมิฬเหรอฉันหมายถึงคุณเป็นแค่เด็กฝึกงานคุณไม่กลัวพวกเขาบ้างหรือพวกเขาสามารถฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย”ลูซิเฟอร์กล่าว

“ฉันจะกลัวทําไม ฉันสามารถป้องกันตัวเองได้”เจนิเลียตอบ

“เป็นเรื่องดีที่รู้ แต่มีคํากล่าวไว้ว่า บุคคลไม่ควรมั่นใจมากเกินไป” ลูซิเฟอร์บอกกับหญิงสาว“ผมได้เรียนรู้บทเรียนนั้นอย่างหนักมาก่อนระวังตัวด้วย โลกนี้มีคนเลวจริงๆ”

“ยังไงก็เถอะ ผมทานเสร็จแล้ว ผมขอตัวไปก่อนยินดีที่ได้กินข้าวกับคุณ” ลูซิเฟอร์ยืนขึ้น อย่างสง่างาม ขณะที่เขาทําความสะอาดริมฝีปากด้วยทิชชู ในไม่ช้าเขาก็จากไปด้วยมือข้างหนึ่งในกระเป๋าของเขา

“ผู้ชายที่น่าสนใจ” เจนิเลียนั่งข้างหลังมองดูลซิเฟอร์ซึ่งกําลังจะจากไป

ลูซิเฟอร์เดินกลับไปที่ดาดฟ้า ซึ่งเขานั่งบนเก้าอี้ขณะที่เขาเริ่มผ่อนคลาย ในไม่ช้าเขาก็จะไปที่เอลิเซียม

“โลกนี้ช่างซับซ้อนเสียจริง บางคนเป็นแบบอย่างของความชั่วร้ายอย่างแท้จริงในขณะที่คนอื่นๆเป็นเพียงปีศาจที่แสร้งทําเป็นเป็นคนดีแต่ก็มีบางคนที่เหมือนปู่เช่นกัน รับคนแปลกหน้ามอบความรักให้เขาโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน”

“ความเข้าใจของฉันเกี่ยวกับโลกนี้ไม่สมบูรณ์จริงๆ ยิ่งฉันเข้าใจมากเท่าไร ฉันก็ยิ่งไม่เข้าใจมากขึ้นเท่านั้น”

นั่งอยู่บนดาดฟ้าดูเหมือนลูซิเฟอร์กําลังพูดกับตัวเองขณะมองดูท้องฟ้าที่สวยงาม

“ความเลวร้ายนั่นแตกต่างกัน พวกเขาทําสิ่ง ต่าง ๆ ให้ฉัน แต่พวกเขาก็มีเป้าหมายที่พวกเขาต้องการให้ฉันช่วยด้วยมันไม่ใช่การเสียสละสําหรับ APF ไอ้พวกนี้เป็นเพียงกลุ่มคนชั่วที่ปลอมตัวเป็นคนดี”

“แต่ฉันไว้ใจไม่ได้ทั้งคู่ แวเรียนท์เกิดใหม่บอกว่า APF ฆ่าพ่อแม่ของฉัน APF บอกว่ามันเป็นการหลอกลวงไม่ว่าคนใดคนหนึ่งจะโกหกหรือทั้งคู่ ไม่เป็นไรฉันจะได้คําตอบในไม่ช้า”

“ฉันต้องรู้เรื่องพวกนี้ด้วย” เขาพึมพํา

“เรือล่านี้ต้องมี WiFi ฉันคิดว่าแบบนั้นทั้งหมดที่ฉันต้องการคือแล็ปท็อป และฉันสามารถเริ่มการค้นหาได้แต่แล้วอีกครั้งทําไมคนรวยถึงต้องยืมแล็ปท็อป”

“ถูกต้อง ของฉันหยุดทํางาน ฉันใช้เหตุผลนั้นได้!

ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนขณะกําลังคิดเขาเดินกลับไปที่ห้องอาหาร
เจนเลียยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเดิม

เดินกลับมาที่โต๊ะ ลูซิเฟอร์นั่งลง

“กลับมาแล้ว ก่อนหน้านี้คุณกินไม่อิ่มเหรอให้ฉันเดานะคุณถูกฉันข่มขู่และจากไป?” เจนิเลียถามลูซิเฟอร์ขณะนั่งลงด้วยความเข้าใจผิด

“ไม่เลย จริงๆ แล้วผมกลับมาเพราะต้องการ ความช่วยเหลือจากคุณ แล็ปท็อปของผมหยุดทํางานไปเฉยๆและผมต้องการอย่างเร่งด่วน สัก2-3นาทีคุณมีไหมใช้เวลาไม่นาน”ลูซิเฟอร์บอกหญิงสาว

“ได้สิ มันอยู่ในห้องของฉันขอเวลาฉันสักครู่ ฉันจะทําเสร็จแล้วคุณไปกับฉันได้” เจนิเลียตอบขณะที่เธอเริ่มทานอาหารต่อ

ไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ลุกขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ไป กันเถอะ
เธอพาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องของเธอซึ่งอยู่บนชั้น 4 ของเรือ

ภายในห้องมีแล็ปท็อปอยู่บนเตียง แต่เธอไม่เปิดมันเธอเดินไปที่ชั้นวาง ซึ่งวางแล็ปท็อปอีกเครื่องไว้แทน

“ปัญหาที่คุณมีคือสิ่งที่ฉันเคยเจอมาก่อนนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพกเครื่องสํารองไว้ตัวนี้ไม่ได้ใช้แล้วคุณสามารถใช้มันได้นานเท่าที่คุณต้องการ” เจนิเลียพูดยื่นแล็ปท็อปให้ลูซิเฟอร์

“คุณสามารถกลับมาหาฉันในตอนเย็นหรือหลังจากนั้น” เธอกล่าวเพิ่มเติม
“รหัสผ่านคืออะไร” ลูซิเฟอร์ถามพร้อมกับหยิบแล็ปท็อปขึ้นมา”มันไม่มีรหัสผ่านอย่างที่ฉันบอกไปมันใหม่ทั้งหมดและไม่มีข้อมูลใด ๆ ของ ฉันไม่ต้องใช้รหัสผ่าน”เจนิเลียตอบ

“ขอบคุณสําหรับความช่วยเหลือ ฉันจะรีบคืนให้”ลูซิเฟอร์พูดกับเจนเลียขณะออกจากห้องเขาเดินไปที่ลิฟต์

ทันทีที่ลิฟต์เปิดออกต่อหน้าลูซิเฟอร์ ชายคนหนึ่งก็ก้าวออกจากลิฟต์พร้อมกับสบถ “พนักงานึ่งเง่า! พวกเขาเป็นขโมย!”

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจว่าเหตุใดชายคนนั้นจึงสาป แช่ง แต่ชายคนนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าลูซิเฟอร์และบอกเขา

“ทักซิโด้เหมือนกัน!” ชายคนนั้นพูดพลางมอ งดูทักซิโด้ของลูซิเฟอร์

“นี่คือคนที่ฉันขโมยทักซิโด้ไปหรือเปล่า? เขาจับฉันเหรอ?”ลูซิเฟอร์คิดพลางขมวดคิ้วชายผู้นี้มีร่างกายคล้ายกับลูซิเฟอร์

“ชุดทักซิโด้ของฉันก็เหมือนเดิม! ฉันให้ไปเพื่อ ทําความสะอาด แต่พนักงานบอกว่าพวกเขาทําหาย!อย่าให้เสื้อผ้าราคาแพงแก่พวกเขา!พวก มันก็จะสูญเสียของคุณเช่นกัน!พวกเขาเป็นกลุ่มหัวขโมย!”ชายคนนั้นบอกลูซิเฟอร์ต่อไปก่อนจะจากไป

“เขาเลยคิดว่ามันคล้ายกัน เขากําลังเตือนฉัน

ลูซิเฟอร์สั่นศีรษะก้าวเข้าไปในลิฟต์

เขาเดินไปที่ดาดฟ้าอีกครั้ง ซึ่งมีเพียงไม่กี่คน เท่านั้นที่รับแสงแดด

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในส่วนแยกของดาดฟ้าเปิด แล็ปท็อปและเข้าไปในเบราว์เซอร์

เขาเชื่อมต่อกับ WiFi ของเรือก่อนที่จะค้นหา “ตํานานแห่งดวงตาสีฟ้าและสีม่วง”
ขณะที่เขาค้นหามีบทความเก่าๆ มากมายที่เปิดขึ้นซึ่งเขียนขึ้นก่อนลูซิเฟอร์จะเกิดด้วยซ้ํา

เขาอ่านบทความทั้งหมดแล้วแต่เขาไม่พบสิ่งใดที่สําคัญทั้งหมดที่เขาเข้าใจก็คือดวงตาเหล่านี้จะนํามาซึ่งความพินาศของทั้งโลกในวันหนึ่งส่วนข้อมูลอื่นๆก็ไม่มี

“พวกเขาเซ็นเซอร์ข้อมูลหรือเปล่า หรือว่ามีแค่นี้ตั้งแต่แรก?” เขาสงสัยขณะปิดแท็บทั้งหมดเขายังเคลียร์ประวัติและแน่ใจว่าจะลบรอยเท้าของสิ่ง ที่เขาค้นหาทั้งหมด

“ฉันต้องไปที่ต้นทางด้วยตัวเองคนที่เปิดเผยข้อมูลนี้ส่วนที่อยู่ของเขา…”
เขาค้นหาชื่อบุคคลที่ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแหล่งที่มาในบทความเหล่านี้ทั้งหมด

“รอยกิลเลียนอยู่นั้นดีจังเขาอยู่ในเอลิเซียมด้วย..”

กอยมี่ 225: โอเอซิส

ลูซิเฟอร์ตําลังบิยอนู่เหยือมะเลพนานาทจะตลับไปมี่เอลิเซีนทเขารู้ว่าทัยจะเป็ยตารเดิยมางมี่นาวยายแก่เขาต็พร้อทใยขณะมี่เขากัดสิยใจมี่จะหนุดพัตระหว่างมางส่วยเรื่องอาหารต็ไท่ตังวล

เขาได้เรีนยรู้อะไรทาตทานใยสถาบัยตารศึตษากั้งแก่เมคโยโลนไปจยถึงตารเอาชีวิกรอดอัยมี่จริงเขาได้สําเร็จแท้ตระมั่งหลัตสูกรมี่ทอบให้ตับ ยัตศึตษาชั้ยปีมี่ 5 ล่วงหย้า

เขาเชื่อว่าเขาสาทารถอนู่รอดได้อน่างง่านดานด้วนควาทช่วนเหลือจาตมะเล ทีปลาทาตทานเทื่อใดต็กาทมี่เขาหิวเขาสาทารถใช้ทัยได้

ยอตจาตยี้นังทีเตาะเล็ตๆ ทาตทานมั่วม้องมะเลมี่เขาเชื่อว่าเขาสาทารถพัตผ่อยได้

ส่วยมิศมางต็เกรีนททาเก็ทมี่ เขาเต็บเข็ทมิศไว้ใยตระเป๋าของเขาแล้ว สําหรับแผยมี่ กอยมี่เขาอนู่ใยอะคาเดที่เขาได้เรีนยรู้ทาตทานเตี่นวตับภูทิ ศาสกร์เขารู้ว่าเขาก้องไปมี่ไหย

“ฉัยอนาตเดิยมางโดนเครื่องบิย แก่ฉัยก้องตลับไปมี่ยั่ยไปคยเดีนวดีตว่า” ลูซิเฟอร์ตล่าวขณะบิยอนู่เหยือมะเล

ไท่ยายเขาต็เริ่ทรู้สึตหิว เขาลงไปใยมะเลดําย้ําลึตไท่ยายต่อยมี่เขาจะออตทาพร้อทตับจับปลา อนู่ใยทือแก่ละข้างของเขา
สําหรับถุงทือของเขา พวตทัยตลับทาอนู่บยทือของเขาอีตครั้ง

ยอตจาตยี้นังทีเตาะเล็ตๆมี่ไท่ทีคยอาศันอนู่ใตล้ๆ ตับมี่ซึ่งลูซิเฟอร์หนุดอนู่

เขาจุดไฟและปรุงปลาต่อยจะติยเยื่องจาต 2 กัวยั้ยไท่เพีนงพอก่อควาทหิวของเขาเขาจึงดําย้ําอีตครั้งต่อยมี่เขาจะตลับทา

หลังจาตติยปลาเข้าไป 9 กัวเขาจึงรู้สึตพอใจ

เขาดับไฟต่อยมี่เขาจะลอนขึ้ยไปใยอาตาศอีตครั้ง

เขายําเข็ทมิศออตจาตตระเป๋าของเขาหลังจาตแย่ใจมิศมางแล้วเขาต็เริ่ทบิยอีตครั้งไท่ยายวัยต็ตลานเป็ยตลางคืยลูซิเฟอร์หนุดอีตครั้งมี่เตาะถัดไป ซึ่งเขายอยหลับกลอดมั้งคืยเช้ากรู่เขากื่ยขึ้ยอีตครั้งและออตจาตเตาะ

เขามําเช่ยเดีนวตัยเป็ยเวลา 3 วัย ใยขณะมี่เขาเดิยมางและพัตผ่อยมุตอน่างดูเหทือยจะราบรื่ยเทื่อทีบางอน่างเปลี่นยไป

พื้ยผิวมะเลมี่ตว้างใหญ่แก่ว่างเปล่าตลับดูไท่ว่างเปล่าอีตก่อไปทีเรือหรูลําใหญ่มี่ทองเห็ยได้ไตลๆ

“เรือสําราญ?” ลูซิเฟอร์พึทพําอน่างประหลาดใจเขาจําได้ว่าเรือลํายี้เป็ยเรือสําราญ

เขานังสาทารถเห็ยชื่อบยเรือ “โอเอซิส?ยั่ยไท่ใช่เรือมี่ถูตใช้โดนคยมี่ร่ํารวนมี่สุดและมรงอิมธิพลมี่สุดใยโลตเพื่อพัตผ่อยไท่ใช่หรือ?”

ใตล้ค่ําแล้วแก่ไท่ทีใครเห็ยบยดาดฟ้าบิยไปมางเรือลูซิเฟอร์ลงจอดบยดาดฟ้า

เขากบเสื้อผ้าของเขาอน่างเหทาะสท ใยขณะมี่เขาหวีผทเพื่อให้เขาดูเป็ยคยดีและร่ํารวนถ้าทีคยเห็ยเขาแก่เขาต็รู้ว่าเขาก้องตารเสื้อผ้าใหท่เขานังคงอนู่ใยชุดเครื่องแบบของสถาบัย

เขาเดิยไปมี่ลิฟก์มี่พาคยขึ้ยไปบยดาดฟ้า

เทื่อเข้าไปใยลิฟก์ เขาตดปุ่ทหทานเลข 2

เยื่องจาตเป็ยเรือมี่ทีชื่อเสีนง พิทพ์เขีนวของเรือลํายี้จึงทีอนู่มุตมี่และลูซิเฟอร์ต็เคนอ่ายเรื่องยี้ทาแล้วเช่ยตัย

เขารู้ว่าทีห้องหยึ่งมี่พวตเขาเต็บเสื้อผ้าของแขตมี่มําควาทสะอาดแล้วและก้องส่งให้พวตเขา

และกอยยี้เขาตําลังจะไปมี่ห้องยั้ย

กิ้ง!

ลิฟก์หนุดมี่ชั้ย 2 ของเรือต่อยเปิดประกู

ลูซิเฟอร์ต้าวออตทาอน่างใจเน็ยด้วนทือของเขาใยตระเป๋าของเขา เขาเดิยเหทือยเขาเป็ยเจ้าชานมี่ควรจะอนู่มี่ยี่อน่างแม้จริง

เขาได้เรีนยรู้สิ่งยี้ใยวิชา ศิลปะแห่งเล่ห์ตลพร้อทตับสิ่งอื่ยๆเช่ยตารโตหตและตารปลอทกัว

ย่าแปลตมี่เขาไท่พบคยมี่ยี่

“แปลตยะ เรือลํายี้ว่างหรือเปล่า” เขาพึทพําขท วดคิ้ว

จู่ๆเขาต็จบางอน่างได้ “ใช่! ทัยก้องเป็ยเวลาอาหารเน็ยของพวตเขาใช่แล้ว แขตติยบยชั้ย 3 ใยขณะมี่ส่วยมี่เหลือติยมี่ชั้ย 1 ยั่ยเป็ยเหกุผลมี่ไท่ทีใครอนู่มี่ยี่หรือบยดาดฟ้าฉัยเดาว่าเป็ยวัยมี่โชคดีฉัยทาใยเวลามี่เหทาะสท” เขาเดิยเข้าไปลึตเข้าไปใยมางเดิยนาวต่อยจะหนุดอนู่หย้าห้องหยึ่ง

“ยี่คือสถายมี่ยั้ย”

เขาพนานาทเปิดประกูเพีนงเพื่อจะรู้ว่าประกูถูตปลดล็อตแล้ว

“ไท่ก้องมุบทัย งั้ยต็ดี” ลูซิเฟอร์พูดขณะเปิดประกูและต้าวเข้าไปข้างใย

เทื่อเขาเข้าไปใยห้อง เขาเห็ยเสื้อผ้ามี่แขวยอนู่มุตหยมุตแห่งเสื้อผ้ามั้งหทดยี้ซัตแห้ง

เขาเดิยผ่ายห้องไป พนานาทเลือตเสื้อผ้ามี่ดีมี่สุดสําหรับเขาต่อยมี่เขาจะหนุดใยม้านมี่สุด

ทีมัตซิโด้สีดําอนู่ข้างหย้าเขา ซึ่งดูเหทือยจะทีขยาดเม่าตับเขาเสื้อเชิ้กสีขาวต็อนู่มี่ยั่ยด้วน“สทบูรณ์แบบ”ลูซิเฟอร์พูดขณะเลือตมัตซิโด้เขาถอดเสื้อผ้าเต่าออตขณะมี่สวทมัตซิโด้เหยือเสื้อเชิ้กสีขาวภานใยไท่ตี่ยามีเขาต็พร้อท อน่างสทบูรณ์เขาไท่ได้หนุดเพีนงแค่ยั้ยเขาถอดถุงทือขณะสัทผัสเสื้อผ้าเต่ามําลานหลัตฐายใดๆหลังจาตมี่เขาแย่ใจว่าไท่ได้มิ้งหลัตฐายว่าทีบางอน่างผิดปตกิไว้มี่ยี่เขาต็จาตไป

ลูซิเฟอร์เข้าไปใยลิฟก์อีตครั้งและไปมี่ดาดฟ้าเขาไท่อนาตติยข้าวเน็ยเพราะเขาติยไปแล้ว

ใยมางตลับตัย เขาไท่ทีห้องพัตมี่ยี่เช่ยตัย เขาไท่ก้องตารจี้เรือเขาอนาตเป็ยผู้โดนสารธรรทดา

นังไงต็กาท เรือลํายี้ต็ตําลังจะไปถึงมี่หทานเช่ยตัยเป็ยมี่พัตมี่สทบูรณ์แบบ

ลูซิเฟอร์ใยชุดดําล้วยดูเหทือยเป็ยซีอีโอมี่หล่อเหลาของบริษัมมี่ร่ํารวนซึ่งทาพัตร้อยมี่ยี่

เขาทองไปนังดวงจัยมร์มี่สว่างไสวสงสันเตี่นวตับบางสิ่งสิ่งแรตมี่เขาอนาตมําคือไปมี่ชานหาดยั้ยและค้ยหาสิ่งมี่พ่อแท่มิ้งไว้ให้เขาต่อยสิ่งอื่ยใด

ทีควาทเศร้าใยดวงกาของเขา แก่ต็ทีรอนนิ้ทบยริทฝีปาตของเขา ใยขณะมี่เขาจําควาทมรงจําของเขาใยช่วง 2 ปีมี่ผ่ายทาได้

ลูเอยถือสิ่งล้ําค่าไว้ใยทือ แก่เขาไท่สาทารถอนู่ใยชีวิกจอทปลอทยั้ยได้กลอดไปเขาสาทารถชื่ยชทชีวิกยั้ยจาตระนะไตลเม่ายั้ย

เพราะถ้าทีคยรู้ว่าลูซิเฟอร์คืออเล็ตซ์มุตอน่างจะก้องพังมลานศักรูของเขาจะลัตพากัวชานชราคยยั้ยเพื่อบังคับลูซิเฟอร์

เขาไท่ก้องตารจุดอ่อยใดๆเยื่องจาตเส้ยมางมี่เขาตําลังจะเดิยไปยั้ยเก็ทไปด้วนตารยองเลือด

เขาก้องมําให้ตระแสเลือดไหลเวีนยไปถึงเป้าหทานของเขาและเขาต็พร้อทสําหรับสิ่งยั้ย..

ตอนที่ 224: พ่อมดแห่งความมืด

ตามที่เขาคาดไว้ นิ้วของลูซิเฟอร์ก็หยุดลง ก่อนจะสัมผัสใบหน้าที่สงบของชายชรา

ลูซิเฟอร์หันหลังและเริ่มเดินจากไปในความเงียบสนิท

“ไม่ว่าอะไรก็ตาม คุณช่วยชีวิตฉัน แม้ว่าฉันจะไม่สนใจคุณ ฉันจะไม่ฆ่าคุณ แม้ว่าครอบครัวที่คุณมอบให้ฉันเป็นเพียงภาพลวงตา แต่ก็ยังเป็นความทรงจําที่มีค่าสําหรับฉัน ฉันต้องโตมากับชีวิตที่ฉันต้องการ ชีวิตที่มีความสุข ห่างไกลจากความเจ็บปวด แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องโกหก มันเป็นเรื่องโกหกที่ฉันไม่รังเกียจ ดังนั้นฉันจะปล่อยให้คุณมีชีวิตอยู่ แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณเห็นหรือได้ยินจากฉัน นี่คือจุดจบของความสัมพันธ์ของเรา!”

“ต่อจากนี้ไป คุณไม่รู้จักฉัน! และฉันไม่รู้จักคุณ เราต่างเป็นคนแปลกหน้า และถ้าฉันได้พบคุณอีก ฉันสัญญาว่าฉันจะฆ่าคุณทิ้ง ดังนั้นอย่ามาเจอฉันอย่าหาว่าไม่เตือน ฝากบอกใครก็ตามที่คุณเกี่ยวข้องกับฉันในทางใดทางหนึ่ง” ลูซิเฟอร์พูดก่อนจะบินหนีไปที่ทะเล

เขาตัดสินใจว่าจะกลับไปที่เอลิเซียมที่ซึ่งเขาจากมา

คุณปู่จิ้มองดูลูซิเฟอร์จากไป เขาไม่ได้พูดอะไร และยืนอยู่ที่นั่นอย่างสงบ

“คุณเจ็บปวด ฉันหวังว่าฉันจะช่วยคุณได้ อืม.. ฉันรู้ด้วยว่าคุณไม่ได้หมายถึงตามที่คุณพูด” คุณปู่พึมพำ พลางถอนหายใจ

“ฉันสงสัยว่าทําไมคุณถึงโกหกฉัน ฉันกังวลว่าความสัมพันธ์ของฉันกับคุณจะฆ่าฉันหรืออย่างอื่น” เขาพูดต่อ

ในไม่ช้าเขาก็หันกลับมาพร้อมกับถอนหายใจ “เซนที่ซ่อนตอนนี้ยังไม่พอเหรอ ออกมา!”

ตามที่คุณปู่จี้พูด ประตูมิติถูกเปิดออกในระยะที่เด็กออกมา แต่เด็กยังดูเด็กอยู่ ในความเป็นจริง เขาแก่กว่ามาก เขาเป็นคณบดีของอะคาเดมี

“เจ้ายังเฉียบแหลมเหมือนเมื่อก่อน สมกับเป็นพ่อมดแห่งศาสตร์มืด บุรุษผู้ปกครองแวเรียนท์ทมิฬ” เซน กล่าวพร้อมหัวเราะ

“ชื่อนั้น… ไม่ได้ยินมาตั้งนานแล้ว แต่นายน่าจะลืมชื่อนั้นไปจริงๆนะ เพราะฉันลืมไปนานแล้ว ตอนนี้ฉันเป็นเพียงชายชราคนหนึ่งธรรมดาๆแห่งท้องทะเล” คุณปู่จได้ตอบกลับ เมื่อได้ยินคําพูดของชายชรา เซนก็หัวเราะออกมาในขณะที่ ขากุมท้องไว้

“นาย! แวเรียนท์? นายนี่เล่นมุกได้ดีจริงๆ พระเจ้า แวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศนี้ เรียกตัวเองว่าคนธรรมดา แล้วตอนนี้ ฉันจะเป็นอะไร? ต่ํากว่าค่าเฉลี่ยของแวเรียนทั้งั้นเหรอ?” แซนถามยิ้มๆ

“ฉันบอกแล้วไงว่าตอนนี้ฉันเป็นคนละคน” คุณปู่จโต้กลับ

“ฉันรู้ นายละทิ้งทุกอย่างหลังจากได้ยินว่าภรรยาและลูกชายของนายเสียชีวิต ตั้งแต่นั้นมา นายไม่เคยใช้ของขวัญที่แท้จริงของนายเลย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านายกลายเป็นคนธรรมดา?” เซนกล่าว

“ข้างในนายยังคงเป็นวอร์ล็อคที่น่าสะพรึงกลัวที่รู้จักกันในชื่อพ่อมดศาสตร์มืด!” เขากล่าวต่อไป

“นี่นายมาที่นี่เพื่อพูดเรื่องนั้นหรือ หยุดเรื่องไร้สาระนี้แล้วบอกฉันว่าหลานชายของฉันทําอะไร เขาลงเอยด้วยท่าทางแบบนั้นได้อย่างไร และนั่นเป็นเลือดของใคร” คุณปู่จี้ถามเซน

“เอาล่ะ เพื่อนรัก หลานชายของนายได้ฆ่านักเรียนของฉันไป 8 คน”

“2 คนนั้นมาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่โฮลเลอร์ และตระกูลที่ยิ่งใหญ่ฟรานซี คราวนี้เขาสร้างความวุ่นวายให้กับฉันจริงๆ” เซนบอกชายชราพร้อมกับถอนหายใจ

“ทําไมเขาถึงฆ่าพวกเขา? พวกเขาต้องทําอะไรบางอย่าง?” คุณปู่จี้ถามพลางขมวดคิ้ว

“ใช่ จากพยานเพียงคนเดียวที่เรามี เราได้ยินมาว่าพวกเขาโจมตีอเล็กซ์ ขอโทษนะ ตอนนี้ เขาคือลูซิเฟอร์” เซนตอบ “พวกนั้นกําลังทุบตีลูซิเฟอร์ จนเขาตะคอกแล้วฆ่าพวกนั้นทั้งหมด

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันตามล่าลูซิเฟอร์เพื่อจับเขา แต่เมื่อฉันมาถึงที่นี่ เขาได้พบนายแล้ว และโจมตีคนที่อยู่ใกล้นายต่อหน้าต่อตานาย ฉันไม่มีความปรารถนาที่จะตาย” เขากล่าวต่อไปพลางยิ้มเยาะ

“การตัดสินใจที่ดี และไม่ใช่ต่อหน้าต่อตาฉัน แม้ว่านายจะทําร้ายเขาตอนที่ฉันไม่ได้อยู่กับเขา ฉันจะทําลายโรงเรียนทั้งหมดของนายครึ่งหนึ่ง จําไว้” คุณปู่จี้เตือนเซน ขณะที่ดวงตาของเขาฉายแสงลึกลับ
“ฉันรู้ ฉันรู้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเปลี่ยนใจ ฉันปล่อยให้เขาจากไปและไม่ได้หยุดเขา” เซนกล่าวพร้อมยิ้มแหยๆ “ว่าแต่ตอนนี้เขากําลังจะไปไหน”

“ฉันคิดว่าเขากําลังจะกลับไป กลับไปที่บ้านที่แท้จริงของเขาเพื่อทําร้ายคนที่ทําร้ายเขา” คุณปู่จี้ตอบ

“นายไม่ห่วงเขาเหรอ เขาจะไปคนเดียว แล้วถ้าศัตรูของเขาฆ่าเขาล่ะ” แซนถามพลางขมวดคิ้ว “ไม่อยากไปช่วยเขาเหรอ?”

“เป็นห่วงเขางั้นเหรอ? ทําไมฉันจะไม่เป็นเป็นศัตรูของเขาควรจะกังวลเกี่ยวกับชีวิตของพวกเขามากกว่า หลานชายของฉันกําลังจะไปเพื่อฆ่าพวกเขา” คุณปู่จี้กล่าวอย่างภาคภูมิใจ

“ฮ่าๆ เจ้ามั่นใจในความสามารถของเขาจริงๆ” เซนพูดพร้อมหัวเราะ “แต่ฉันรู้จักนายดีพอ นายจะยังตามเขาไป ปกป้องเขาให้ปลอดภัยจากเงามืดใช่ไหม”

ชายชราไม่ตอบเซนในครั้งนี้และมองดูดวงอาทิตย์ที่สวยงาม
เซนยังยืนอยู่ข้างคุณปู่จี้ ในขณะที่เขาพูดพึมพํา “พระเจ้า ฉันสงสัยว่าฉันจะอธิบายให้ครอบครัวโฮลเลอร์ และฟรานซีฟังเกี่ยวกับการตายของทายาทของพวกเขาในโรงเรียนของฉันได้อย่างไร หลานชายของนายไม่ได้ทิ้งศพของพวกเขาไว้เบื้องหลังเลยด้วยซ้ํา”

“นายเริ่มกังวลเกี่ยวกับเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? นายมักจจะจัดการได้ง่าย ๆ ไม่ต้องกังวล” คุณปู่จี้ตอบ

“นายไม่เข้าใจชายชรา นายไม่เข้าใจ!” เซนถอนหายใจออกมา

“ไม่นานก่อนที่เขาจะกลับมา 7 ปีกว่าแล้ว ในไม่ช้าเขาก็จะกลับมาตามคําสั่ง ฉันอยากให้ทุกคนตื่นตัว ลูซิเฟอร์ควรถูกนําตัวกลับมาโดยสวัสดิ์
ภาพ”

“คนของเรากระจัดกระจายไปทุกที่ เราจะไม่คิดถึงเขา”

เมื่อเวลาของลูซิเฟอร์เข้ามาใกล้ เกิดความ โกลาหลขึ้นในแวเรียนท์เกิดใหม่ที่ต้องการนําลูชิ เฟอร์กลับมา พวกเขาก็กระฉับกระเฉงขึ้นเช่นกัน
ในทางกลับกัน APP ก็รู้สึกแปลก ๆ เช่นกัน พวกเขาได้ตระหนักว่าแวเรียนท์เกิดใหม่ มีความกระตือรือร้นมากขึ้น และพวกเขาสงสัยว่าทําไมถึงเป็นเช่นนั้น

เมื่อวารันท์กลับมาเป็นผู้นําของ APF เขาก็ตัดสินใจบางอย่างเช่นกัน

“แทนที่จะต่อสู้กับพวกเขาหรือทําให้พวกเขาตื่นตัว ฉันต้องการให้คนของเราติดตามพวกเขา ฉันอยากรู้ว่าพวกเขากําลังตามหาอะไร” วารันท์สั่งคนของเขา

เขากําลังพบปะกับสมาชิกระดับสูงคนอื่นๆของ APF

ก๊อก! ก๊อก!

“เข้ามาเถอะ” วารันท์ออก

ประตูเปิดออกเมื่อชายคนหนึ่งก้าวเข้ามา

“มีอะไร?” วารันท์ถาม

“ท่านจอมเวท ราชาซัลลาซาร์ ลูเซียมาเพื่อพบท่าน” ชายคนนั้นตอบ
“ผู้ชายคนนั้น ทําไมเขาถึงติดตามลูซิเฟอร์ อย่างนั้นล่ะ มันผ่านไป 7 ปีแล้ว แต่เขาไม่เคยหยุดเลย!” วารันท์ถามพลางขมวดคิ้ว

เขามองไปที่ชายของเขาก่อนที่จะพูดว่า “ส่งเขาเข้ามา”

“สําหรับพวกนายที่เหลือ ฉันอยากให้นายออกไปทําตามที่ฉันบอก ฉันอยากรู้ว่าอะไรที่สําคัญสําหรับพวกเขา” เขากล่าวต่อ

ผู้ชายทั้งหมดในที่ประชุมยืนขึ้นและจากไป ยกเว้นวารันท์ ซัลลาซาร์ ลูเซียถูกนําตัวเข้ามาในสํานักงานของวารันท์

การกลับมาของลูซิเฟอร์นั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นด้วยซ้ํา แต่เกิดความโกลาหลเกิดขึ้น เพราะเขาทั่วทั้งประเทศแห่งเอลิเซียม ราวกับความเงียบงัน ก่อนพายุที่จะมาถึง..

ตอนที่ 221: การกลับมาของลูซิเฟอร์

“ฉันคิดว่าคุณจะต้องรอชั่วนิรันดร์ ถ้าคุณต้องการถุงมือของฉัน เพราะคุณจะไม่ได้รับมันในชีวิตนี้ ดังนั้นหลีกทางและออกไปจากเส้นทางของฉัน!” ลูซิเฟอร์พูด

“ถอยออกไป ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” ลูซิเฟอร์เตือนชายทั้งเจ็ด จากรุ่นพี่คลาส A ที่กําลังขวางทางเขาอยู่

พวกเขาทั้งหมดมี Limiter อยู่ในมือซึ่งถูกล็อคไว้ ถ้าพวกเขาพยายามใช้กําลัง พวกเขาจะถูกไฟฟ้าดูดนั่นก็เป็นปัญหาเช่นกัน ถ้าลูซิเฟอร์มีกําลัง เขาก็เชื่อว่าเขาจะสามารถจากไปได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้ค่อนข้างยากแล้ว

“นี่คือการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของนาย นายจะไม่ให้ถุงมือแก่เราเหรอ?” เจคถามยิ้มๆ

“ฉันจะไม่!” ลูซิเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น

“ก็ได้ เราจะจะจัดการเอง เพราะแกกําลังลืมอะไรบางอย่างอารีน่านี้ในทางเทคนิคไม่ได้อยู่ใต้มหาวิทยาลัยหรือหอพัก” เจคระเบิดหัวเราะออก
มา

“เพื่อให้เราสามารถต่อสู้ได้อย่างอิสระตราบเท่าที่เราไม่ได้ใช้ของขวัญของเรา และพวกเรา 7 คน สู้กับผู้ที่ไม่มีของขวัญก็จะได้รู้ผลกัน” เขากําลังเผาไหม้ในเปลวเพลิงแห่งการแก้แค้น ขณะที่ลูซิเฟอร์ฆ่าสัตว์ร้ายที่มีค่าที่สุดของเขา เขาต้องการเห็นลูซิเฟอร์ทนทุกข์แบบเดียวกัน

“นายลองทํามันได้ แต่นายจะทําไม่สําเร็จ” ลูซิเฟอร์ประกาศ พลางกําหมัดแน่น

แดชกําลังนั่งอยู่ในห้อง เขาเริ่มเบื่อ เขาอยากเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาอยากเห็นลูซิเฟอร์นอนหมดสติเช่นกัน

“พวกเขาควรจะเริ่มได้แล้ว ฉันควรตรวจสอบ พลาดโอกาสแบบนั้นไม่ได้แล้วจริงๆ” ในที่สุดเขาก็คิดขณะยืนขึ้นและจากไป

เมื่อเห็นแดชจากไป แคสเซียสก็เริ่มขมวดคิ้ว “อย่างแรก เขาส่งอเล็กซ์ไป และตอนนี้เขากําลังจะไปแล้วเหรอ บางอย่างดูแปลกไป ฉันควรตรวจสอบให้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น” แคสเซียสพิมพ์ ในขณะที่เขาก็ลุกออกไปเช่นกัน

แทนที่จะรอที่จะถูกโจมตี ลูซิเฟอร์โจมตีก่อน เขาเป็นผู้นําในขณะที่เขาวิ่งไปทางชายที่ขวางทางเขา ชายคนนั้นก็ขยับ ในขณะที่เขาโจมตีลูซิเฟอร์ กวัดแกว่งกําปั้นของเขา น่าเสียดายสําหรับเขา ลูซิเฟอร์ใช้นิ้วเดียว ในขณะที่เขาโจมตีออกไป

จุดอ่อนที่สุดในอ้อมแขนชายที่จะหยุดการโจมตีของเขาก่อนที่เขาจะเตะขาของชายคนนั้น พลางพาเขาลงไปที่พื้น เวลาเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วที่คนอื่นจะตามทัน ชายอีกคนหนึ่งโจมตีลูซิเฟอร์ ซึ่งเพิ่งดูแลหนึ่งในนั้น แทนที่จะเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ในไม่ช้ามันก็กลายเป็นการต่อสู้ 6 ต่อ 1ต่อสู้ขณะที่ทั้ง 6 คนเหล่านี้โจมตีลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์หาทางหลบเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเห็นการโจมตีมากมายที่กําลังเข้ามาหาเขาทันที เขาตัดสินใจใช้ลูกเตะหมุน ขณะที่เขากองลงไปที่พื้น แต่เจคก็เร็วพอๆกับที่เขาเตะหน้าลูซิเฟอร์ก่อนจะทําได้

ดูเหมือนว่าเจอคาดหวังการเคลื่อนไหวนี้แล้ว และเขาก็รอให้ลูซิเฟอร์เคลื่อนที่ สําหรับวิธีที่เขารู้เกี่ยวกับขั้นตอนที่เป็นเอกลักษณ์ของลูซิเฟอร์ที่ดูเหมือนจะไม่ชัดเจน

ขณะที่ใบหน้าของลูซิเฟอร์ถูกกระแทก เขาก็ล้มลงกับพื้น เจคพยายามกระทืบหน้าอกของลูซิเฟอร์ ขณะที่เขานอนอยู่บนพื้น แต่ลูซิเฟอร์หมุนตัวไปรอบๆทันทีเพื่อหลบการโจมตี โชคร้ายที่เขาถูกห้อมล้อมจากทุกทิศทุกทาง

ถ้าเขาหลบการโจมตีครั้งหนึ่ง ในขณะที่ขาอีกข้างมากระทืบที่หน้าอกของเขา

“อ๊ะ!”ลูซิเฟอร์ส่งเสียงเจ็บปวด ขณะที่หน้าอกของเขาถูกกระแทก เขาไม่ได้รับโอกาสแม้แต่จะลุกขึ้นยืน เมื่อชาย 2 คนจับข้อศอกไม่ให้ขยับมือร

“แกก็เหมือนปลาที่หายใจไม่ออกนอกบ้าน แกคิดว่าจะสู้พวกเราได้จริงหรือ? แกอาจจะเก่งเมื่อสู้ด้วยมือเปล่า แต่พวกเราเก่งที่สุด” เจคพูดเมื่อเห็นลูซิเฟอร์ถูกคุมตัวลงบนพื้นดิน

ขณะนั้นเองที่ประตูเปิดออก เมื่อได้ยินเสียงของประตูทุกคนหันกลับมาสงสัยว่าใครเข้ามา

“แดช เข้ามา! ดูสิ! เราประสบความสําเร็จ! เราจับหนูตัวนี้ได้แล้ว! ตอนนี้นายสามารถเอาถุงมือของมันออกไปและทําลายได้” เจคบอก

ผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาพดออกมาทันที “สนุกกับปาร์ตี้กันเถอะ!” คนที่เข้ามานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแดช

“อา ฉันดีใจที่ไม่ได้มาสาย! เริ่มได้!” แดชพูด
ยิ้มๆ

เมื่อได้ยินแดชหัวเราะ ลูซิเฟอร์ก็ตกตะลึง แดชทรยศเขาเหรอ? นี่เป็นแผนของเขาจริงๆเหรอ? ทั้งหมดนั่นก็เพื่อจะทําร้ายเขา? แม้ว่าลูซิเฟอร์จะไม่ใช่เพื่อนสนิทของแดช แต่การได้มาพบเขาทรยศเช่นนี้ มีความโศกเศร้าลึกลับอยู่ในหัวใจของเขา

เขาพยายามแกะมือออกแต่ก็ไม่เป็นผล

“ความยากลําบากของแกไม่ได้ผล เด็กน้อย! ครั้งเดียวที่แกจะเป็นอิสระคือเมื่อ เราได้ทําลายถุงมือของแก!” เจคพูดพร้อมหัวเราะ ใบหน้าที่หัวเราะของเขาทําให้ลูซิเฟอร์เดือดดาลมากขึ้น ไม่นานเขาก็คิดบางอย่างในขณะที่เขาตัดสินใจ ทําให้เจคต้องทนทุกข์ทรมาน เจคยืนอยู่ใกล้เท้าของลูซิเฟอร์ โดยไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ลูซิเฟอร์ยกเท้าขึ้นขณะที่เขาเตะเจคขวาหว่างขา

ใบหน้าของเจคซีด เมื่อเขาลูกบอลของเขาถูกกระทบอย่างแรง เขาอดไม่ได้ที่จะจับพวกเขาไว้ ขณะที่เขาล้มลงกับพื้น คร่ําครวญด้วยความเจ็บปวด

ส่วนคนอื่นๆ ก็เข้ามาใกล้มือของลูซิเฟอร์ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่สามารถเตะพวกเขาแบบ เดิมได้

เจครู้สึกเจ็บปวดแทบตาย ซึ่งกินเวลาไม่กี่นาที ก่อนที่ความเจ็บปวดจะจากไป ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อยืนขึ้น ใบหน้าของเขายังคงซีด

“แกนี่มันเลวจริงๆ!” เจคคํารามในขณะที่เขากระทืบเข่าของลูซิเฟอร์ทําให้ลูซิเฟอร์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขาขวาของเขาหัก แต่เจคไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขากระทืบเข่าอีกข้างของลูซิเฟอร์ หลังจากนั้นมันก็หักไปอีกข้างเช่นเดียวกัน

“เจค! นายกําลังทําอะไร? นายกําลังทิ้งหลักฐานความเสียหายไว้บนตัวมัน! พวกเราจะโดนไปด้วย!” เพื่อนคนหนึ่งของเขาเตือนเขา

“ไม่เป็นไร! มันจะเป็นการโจมตีครั้งแรกของเรา มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อเราในทางใดทางหนึ่ง เนื่องจากเป็นครั้งแรกของเรา และเราจะมีโอกาสอีก 2 ครั้ง!” เจคกล่าว “สําหรับศัตรูพืชนี้ การจู่โจมเพียงครั้งเดียวก็คุ้มค่าที่ทําให้มันต้องทนทุกข์ทรมาน!”

เจคก้าวเข้ามาใกล้และคว้าลูซิเฟอร์ที่คอ ขณะ ที่เขายกร่างลูซิเฟอร์ขึ้น เขาอยู่ในอากาศ ชาย 2 คนของเขายังคงจับมือของลูซิเฟอร์สม่ําเสมอ
หลังจากนั้น ลูซิเฟอร์ไม่ได้พยายามใช้พลังของเขา มันเป็นโอกาสสุดท้ายของเขา และการใช้พลังหมายความว่าเขากําลังจะถูกไล่ออก ยิ่งกว่านั้น เขายังจะหมดสติทันที

เจคจับคอของลูซิเฟอร์ไว้ ซึ่งลูซิเฟอร์กําลังพยายามไม่ใช้พลังงานมากเกินไป น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่าเขากําลังทําอะไรอยู่และฝันร้ายมันกําลังจะนํามา ขณะที่ลูซิเฟอร์หายใจไม่ออก มันก็เกิดขึ้น… ประตูระบายน้ําแห่งความทรงจําของเขาเปิดออกเหมือนสึนามิที่ตั้งไว้

ความทรงจําของเขากําลังกลับมา

“โลกรู้จักฉันในนามราชาแห่งวอร์ล็อควารันท์!”

ตอนที่ 222: การกลับมาของฝันร้าย

“โลกรู้จักฉันในนาม ราชาวอร์ล็อค วารันท์!”

นั่นคือความทรงจําแรกที่กลับมา ในตอนที่เขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับที่เขาอยู่กับวารันท์ในอดีต สิ่งนี้ทําหน้าที่เป็นตะปูตัวสุดท้ายในโลงศพ

“เพื่อมนุษยชาติ เจ้าไม่อยากช่วยมนุษย์หรือ?”

“ลูกรักของฉัน ลูซิเฟอร์ ป๊ากับม๊าต้องจากไปสักพัก เราจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ แล้วเราจะไปปิกนิกกัน”

“แกจะไม่มีวันตื่น!”

“เขาเป็นสัตว์ประหลาด! เขาเป็นปีศาจ!”

“ทําไมไม่ไปตายซะ!”

“ดูสายตาเขาสิ! เขาเป็นสิ่งนั้น! เราต้องฆ่าเขา!

“นี่จะเป็นบ้านที่แท้จริงของคุณ! เข้าร่วมกับแวเรียนท์เกิดใหม่เถอะ”

“เราไม่ได้ฆ่าพ่อของคุณ ต้องเป็นพวกเขาแน่ๆ”

“ทุกคนโกหก!”


“ฉันไม่สามารถเชื่อใจมนุษย์ได้”

“ความทรงจําที่ดีที่สุดของฉันคือตอนที่พ่อแม่ บอกว่าพวกเขาภูมิใจในตัวฉัน” “ความจริง!”

“ฉันเป็นหนี้รางวัลคุณแล้ว”

“แกต้องตาย!”

“แกเหมือนกันหมด!”

ขณะที่ความทรงจํายังคงท่วมหัวของลูซิเฟอร์ ดวงตาของเขาก็เปียก ความเจ็บปวดทั้งหมดก็กลับมาด้วยความทรงจํา ความเจ็บปวดที่เขาเก็บเอาไว้ในใจตั้งแต่เด็ก… ฝันร้ายที่ฝังลึกได้กลับมาแล้ว สําหรับดวงตาของเขา พวกมันก็กลับมาเป็นสีปกติเช่นกัน หนึ่งเป็นสีน้ําเงิน และอีกข้างเป็นสีม่วงเล็กน้อยตอนนี้

เนื่องจากอารีน่าถูกปกคลุมด้วยหลังคา จึงไม่มีใครมองเห็นได้ แต่มีเมฆดําทะมึนปกคลุมท้องฟ้า

“หึ ไอ้เด็กคนนี้กําลังร้องไห้จริงๆ ฉันคิดว่าเรา ทําให้มันหลาบจําได้บ้างแล้ว! เจคพูดยิ้มๆ “ปล่อยมือมัน มันจะไม่ทําอะไรเราได้ ฉันจะถอดถุงมือของมันออก”

ตามคําสั่งของเขา คนของเขาปล่อยมือลูซิเฟอร์ และลูซิเฟอร์ก็ไม่โจมตีเช่นกัน เป็นไปตามที่เจคคาดไว้ ในไม่ช้าเขาก็ถอดถุงมือขวาของลูซิเฟอร์ออกแล้วโยนลงบนพื้นก่อนที่จะกระทืบมัน

มันยังเป็นช่วงเวลาที่แคสเสียสก้าวเข้ามาในสนามอีกด้วย เขาเห็นลูซิเฟอร์ถูกกระชากที่คอของเขา ยังมีน้ําตาในดวงตาของเขา

แคสเศียสเริ่มยกดาบขึ้นเพื่อโจมตี

ลม… ลมแรงเริ่มพัดเป็นเกลียว ขณะที่พวกมันล้อมรอบลูซิเฟอร์และชายทั้งหก แดชไม่ได้เป็นคนร่ายมันออกมา

มันยังบดบังทัศนวิสัยของแคสเสียสที่กําลังจะโจมตี โชคดีที่แคสเศียส ไม่ลืมไปว่าเขาไม่สามารถใช้ของขวัญได้เพราะ Limiter ของเขาเช่นกัน
แทนที่จะโจมตี เขาเริ่มวิ่งไปทางลูซิเฟอร์

“แดช! นายกําลังทําอะไรอยู่! หยุดลมนั่น!” เจคสั่งขมวดคิ้ว

“น-นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันทํา ขนาดฉันยังทําแบบนั้นไม่ได้” แดชพูดพลางเบิกตากว้าง ใครเป็นคนทํา?

“นอกจากนี้ Limiter ของฉันยังทํางานอยู่! ฉันจะถูกไฟฟ้าช็อตถ้าฉันเป็นคนทํา!” เขากล่าวเพิ่มเติม

“ถ้านี่ไม่ใช่นาย แล้วใครเป็นคนทํา” เจคถามด้วยความเป็นห่วง มีคนอื่นมาที่นี่หรือเปล่า

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่เขาจะได้รับคําตอบ เนื่องจากในที่สุดลูซิเฟอร์ก็ได้รับความทรงจําทั้งหมดของเขา

เขาเปิดริมฝีปากของเขาอย่างนุ่มนวลในขณะที่เขาพูด “ฉันทํามันได้”

สําหรับเสียงของเขา ดูเหมือนว่ามันมาจากส่วนลึกของนรก

“แก? ยังไง? แกมีพลังที่ 2 ? แล้วทําไมแกถึงไม่หมดสติเพราะไฟฟ้าล่ะ” เจคถามอย่างไม่เชื่อ เขาค่อยๆมองมือของลูซิเฟอร์เพื่อสังเกตว่าลูซิเฟอร์พูดถูก

สร้อยข้อมือของเขาตอนนี้มีไฟสีแดง 3 ดวง นี่หมายความว่าลูซิเฟอร์ถูกไฟฟ้าดูดแล้วเหรอ? เขาไม่รู้สึกเลยเหรอ?

“ไฟฟ้า เพื่อนเก่าของฉัน และคู่หูตลอดกาลของฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะยกมือขวาขึ้นช้าๆ ซึ่งไม่มีถุงมือ ขณะที่เขาแตะแก้มเจคเบาๆ

ทันทีที่มือของลูซิเฟอร์สัมผัสแก้มของเจคเจคเริ่มรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากราวกับว่าร่างกายของเขาถูกทําลายจากภายในสู่ภายนอก เขาไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดนี้มาก่อน มันแย่มาก

เขาพยายามหนีจากลูซิเฟอร์ขณะที่ปล่อยคอของลูซิเฟอร์ แต่เขาไม่สามารถหนีไปได้เพราะคราวนี้ลูซิเฟอร์คว้าคอของเขาไว้

เขาต้องการทําลายทุกอนุภาคของเจค ในขณะที่ใช้พลังงานชีวิตทั้งหมด

“อ๊ะ! เจ้าสัตว์ประหลาด! ปล่อยฉัน!”

ความเจ็บปวดของเจคดังก้องไปทั่วทั้งสนาม กระทั่งตกลงไปในหูของแคสเซียสและแดช

ทําไมผู้ชายคนนั้นถึงกรีดร้อง? เขาไม่มีศัตรูในวังวนนั้น หรืออาจจะเป็นเพราะว่าถูกอาจารย์จับได้?

“นายแน่ใจว่าไม่ได้ทํา?” แคสเซียสถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันไม่ได้ทํา” แดชตอบด้วยความกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“เป็นไปได้ไหมที่เจคกําลังแสดงอยู่ ฉันเลยไม่พยายามจะหยุดเขาสักหน่อย” แคสเซียสพึมพํา คิดว่าเสียงกรีดร้องของเจคเป็นของปลอม

“เจค! ฉันกําลังเตือนนาย! ถ้านายทําอะไรกับอเล็กซ์ ฉันจะฆ่านาย!” เขาพูดเสียงดัง “ปล่อยอเล็กซ์แล้วปล่อยเขาไป!”

น่าเสียดาย คนที่เขาคุยด้วยไม่สามารถตอบได้ เสียงกรีดร้องของเจคหยุดลง และตอนนี้เขากําลังนอนอยู่บนพื้นเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าเถ้าถ่าน

ลูซิเฟอร์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น มีอีก 6 คนที่นี่ 94 เขาชําเลืองมองดูอีก 6 คนที่สวมรองเท้าสตั้ด สั่นสะท้าน ขณะที่เขาถามว่า “แกต้องการถอดถุงมือของฉันใช่ไหม งั้นฉันจะถอดมันออกเอง” ลูซิเฟอร์ยิ้มเหมือนปีศาจ ลูซิเฟอร์ถอดถุงมือข้างซ้ายออกด้วย

บนท้องฟ้า เมฆคํารามอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุอยู่บนขอบฟ้า ฝนก็เริ่มตกเช่นกัน แต่ภายในอารีน่าก็มีบรรยากาศที่คล้ายคลึงกัน

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือเสียงคําราม ภายในสนามประลองเป็นของเด็กๆ ที่ยังคงกรีดร้อง ขณะที่พวกเขาตาย น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีทางออก

หลังจากที่ลูซิเฟอร์เคลียร์จบ เขาก็หยุดลม

เมื่อลมหยุดลง ในที่สุดแคสเสียสก็สามารถมองเห็นข้างในได้ สิ่งที่เขาเห็นคือลูซิเฟอร์ซึ่งยืนนิ่งไม่แสดงสีหน้าใดๆ

มีถุงมือสองใบวางอยู่ใกล้เท้าของเขา ยิ่งกว่านั้น เขายังยืนด้วยสองเท้าของตัวเองที่เจคหักไปก่อนหน้านี้ นั่นคือสิ่งที่แดชพบว่ามันแปลก

| “นายสบายดีหรือเปล่า? นายไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม” แคสเซียสถาม ก้าวไปทางลูซิเฟอร์

“เจคและคนอื่นๆอยู่ที่ไหน” แดชถามพลางขมวดคิ้ว เขาอดไม่ได้ที่จะถอยออกมา มีบางอย่างแปลก ๆ เกิดขึ้นที่นี่

อย่างแรก ลมลึกลับปรากฏขึ้น จากนั้นก็มีเสียงกรีดจากทุกคน จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็หายตัวไป และลูซิเฟอร์ก็หายเป็นปกติแล้วในตอนนี้? มีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล

“พวกเขาตายแล้ว เหมือนที่แกเป็นอยู่ตอนนี้” ลูซิเฟอร์พูด ขณะลอยไปหาแดช โดยทิ้งแคสเซียสไว้ข้างหลัง เขาไม่แม้แต่จะตอบแคสเซียส

“นี่คือที่ที่ฉันได้รับการแจ้งเตือน พระเจ้า เด็กๆปล่อยให้ฉันกินข้าวอย่างสงบไม่ได้ด้วยซ้ํา ซึ่งไอ้งี่เง่าที่ใช้ของขวัญของตัวเองตอนนี้ ฉันจะต้องพาเขาไปหาพยาบาลอีกครั้ง ระบบช่างน่ารําคาญเสียนี่กระไร”

ในระยะไกลอเล็กซี่กําลังเดินไปที่อารีน่าด้วย เขาได้รับการแจ้งเตือนว่ามีคนพยายามใช้พลังของพวกเขาในอารีน่า..

ตอนที่ 223: เผชิญหน้ากับคุณปู่

คราวนี้เป็นความรับผิดชอบของอเล็กซี่ ที่จะพาบุคคลนั้นไปหาพยาบาลและดูว่าเหตุใดเขาจึงต้องใช้ของขวัญของเขา

“น-นายบินได้เหรอ?” แดชอุทานด้วยความตกใจ

“ฉันก็ทําหลายอย่างได้เช่นกัน” ลูซิเฟอร์ตอบขณะที่เขาคว้าแดชไว้ที่คอแล้วยกเขาขึ้นไปในอากาศ

พลังแห่งการเน่าเปื่อยของเขาเริ่มแสดง ทําให้เกิดเสียงกรีดร้องที่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ แดช เท่านั้นที่เข้าใจว่าทําไมพวกเขาถึงกรีดร้อง
“หยุด! ปล่อยฉัน! ฉันไม่ได้ทําอะไร!” แดชยัง คงอ้อนวอน แต่ความเจ็บปวดยังไม่หยุด สิ่งที่หยุ ดคือเสียงกรีดร้องของเขา ในขณะที่เขากลาย เป็นเถ้าถ่านเช่นกัน

“ฉันไม่ได้ทําอะไรทั้งนั้น” ลูซิเฟอร์พิมพ์ ขณะมองดูขี้เถ้า

เมื่อลูซิเฟอร์ทําทุกอย่างเสร็จ เขาก็เดินกลับไปที่แคสเซียส ก้มไปข้างหน้า เขาหยิบถุงมือและ เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่ บอกฉันทุกอย่าง ฉันจะทําให้ แน่ใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับนาย พวกเขาทํามันก่อนใช่ไหม!” แคสเศียถามลูซิเฟอร์ โดยรู้ว่าลูซิเฟอร์กําลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ เขาได้ฆ่านักเรียนจํานวนมากที่นี่
ลูซิเฟอร์เหลือบมองสร้อยข้อมือ ขณะที่เขาสังเกตเห็นไฟสีแดง 3 ดวง “นายช่วยฉันได้หรือไม่”

ลูซิเฟอร์สัมผัสสร้อยข้อมือ ทําให้มันสลายไปด้วย ในไม่ช้า ลิมิตเตอร์ก็ถูกทําลายจนหมด และมือของลูซิเฟอร์ก็เป็นอิสระ

“ฉันทําได้! ฉันจะทําให้แน่ใจว่านายจะไม่ได้รับโทษใหญ่โต! ฉันเคยผ่านสิ่งที่คล้ายกันมาแล้ว! เป็นการป้องกันตัว อย่ายอมแพ้และบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น?” แคสเซียสขอให้ลูซิเฟอร์เปิดปากพูดอะไรบางอย่างเมื่อประตูเปิดอีกครั้ง

“เอาล่ะ ใครฝ่าฝืนกฏในครั้งนี้” อเล็กซี่พูดพลางดันเข้าไปข้างใน

“อเล็กซ์ นายงั้นเหรอ” ในไม่ช้า เขาก็สังเกตเห็นอเล็กซ์และแคสเซียสยืนใกล้กัน

แต่เขายังสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์ไม่มี Limmitter ยิ่งกว่านั้นเขากําลังลอยอยู่เหนือพื้นดิน

แต่สิ่งที่ทําให้เขาตกใจจริงๆ คือ Limitter อื่นๆที่วางอยู่บนพื้น ใกล้กับสิ่งที่ดูเหมือนขี้เถ้า “ลาก่อน แคสเซียส” ลูซิเฟอร์พูดเบาๆ เมื่อเขาสังเกตเห็นอเล็กซี่

“อาจารย์อเล็กซี่ บอกครูคนอื่นๆแทนผมที่ว่า ผมขอขอบคุณ ผมจะไม่มีวันลืมความช่วยเหลือของพวกเขา!” ลูซิเฟอร์บอกอเล็กซี่ก่อนจะลอยขึ้นไป

เมื่อเขาไปถึงหลังคา เขาใช้กําลังทั้งหมดเพื่อทําลายหลังคา ก่อนที่เขาจะออกจากอะคาเดมี่ไป

อเล็กซี่รู้สึกสับสน เกิดอะไรขึ้นที่นี่?

“แคสเซียส บอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่!” อเล็กซี่ถามแคสเซียส
“ไม่มีอะไรเกิดขึ้น บางคนได้รับสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ นั่นคือทั้งหมด” แคสเซียสตอบ ขณะที่เขาเหลือบมองที่ขี้เถ้า ก่อนที่เขาจะเริ่มออกจากสนามประลอง พลางสงสัยว่าตอนนี้ลูซิเฟอร์อยู่ที่ไหน

เรื่องราวของเขาคืออะไร? ทําไมเขาดูเศร้าจัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความเศร้าโศก ไม่เหมือนดวงตาของลูซิเฟอร์ที่เขารู้จักอย่างสิ้นเชิง

“ฉันต้องได้เจอเขาอีกแน่นอน ฉันต้องเข้าใจทุกอย่าง เขาเป็นเพื่อนของฉัน และฉันต้องอยู่กับเขาในยามยากลําบาก นั่นคือสิ่งที่เขาก็ทําให้ฉันเช่นกัน แคสเซียสคิด

ในสถานที่ห่างไกลจากเมืองคุณปู่จี้กําลังยืน จ้องมองที่ดวงอาทิตย์ขึ้น มันเป็นวันใหม่และเขาเพิ่งมาที่นี่ เขากําลังจะเดินทางไกลอีกครั้งในท้องทะเลอันกว้างใหญ่

“วันนี้ดูเงียบสงบจัง ฉันไม่เคยเห็นทะเลเงียบขนาดนี้มาก่อนเลย” ชายชราพึมพํา ขณะเริ่มก้าวออกสู่ทะเล

เขาไม่รู้ว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งเพิ่งลงมาข้างหลังเขา
ลูซิเฟอร์บินจากอะคาเดมี่มาที่นี่เพื่อพบกับชายชรา

มีแม้กระทั่งเลือดบนเครื่องแบบของเขา ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน

ลูซิเฟอร์ยืนนิ่งเงียบ ในขณะที่เขามองดูชายชรามุ่งหน้าไปยังทะเล หมัดของเขากําแน่น ขณะที่ท่าทางของเขาดูอ่านไม่ออก

หลังจากเงียบไปนาน เมื่อชายชราอยู่ห่างจากทะเลไปหนึ่งก้าว ลูซิเฟอร์ก็เปิดริมฝีปากของเขา ในขณะที่เขาพูด 2-3 คําแรกของเขา “คุณโกหกฉัน!” เขาพูดออกมาแบบนั้น

“ฮะ?”

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ชายชราก็ประหลาดใจ

“อเล็กซ์ หลานมาที่นี่ได้ยังไง” ชายชราถามอย่างแปลกใจ ขณะหันหลังกลับ “อะคาเดมีไล่หลานออกหรือ?”

“ลูซิเฟอร์!” ลูซิเฟอร์ตอบพลางตะโกน “อะไรนะ” ชายชราถามอย่างไม่เข้าใจ “ฉันชื่อ! ลูซิเฟอร์ ไม่ใช่อเล็กซ์! ชีวิตที่คุณให้ฉัน! ความสุขที่คุณมอบให้ฉัน ครอบครัวที่คุณให้ฉัน มันเป็นเรื่องโกหก!” ลูซิเฟอร์พูดจนแทบจะกรีดร้องออกมา

“เธอจําได้แล้ว” ชายชราพูดพร้อมกับถอนหาย

“อเล็กซ์ ขอโทษ ตอนนี้เธอคือลูซิเฟอร์” ชายชราพูด “ฉันแน่ใจว่าคุณจะเข้าใจด้วยว่าฉันไม่มีทางเลือกอื่น คุณไม่มีทางเลือกที่จะได้ยินความจริง ฉันทําในสิ่งที่ฉันคิดว่าดีที่สุดสําหรับทุกคน เพราะทางเลือกอื่นจะทําให้จิตใจของคุณแย่ลง”

“แต่ฉันอยากจะพูดอีกอย่างหนึ่งด้วยความสุข ที่ฉันให้คุณ ครอบครัวที่ฉันให้คุณ มันไม่ใช่ของปลอมเลย มันเป็นเรื่องจริงเพราะฉันไม่เคยเห็นคุณเป็นครอบครัวจอมปลอม”

“อันที่จริง หลังจากเวลานี้ ฉันลืมไปเลยว่านายไม่ใช่หลานชายแท้ๆของฉัน” คุณปู่จิ้บอกกับลูซิเฟอร์ พลางถอนหายใจ

ในไม่ช้าชายชราก็สังเกตเห็นเลือดบนเสื้อผ้าของลูซิเฟอร์ เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นั่นเลือดของใครที่เสื้อผ้าของเธอ?”

เขาสงสัยว่าลูซิเฟอร์ฆ่าใครซักคนหรือเปล่า เพราะเขาดูโกรธจริงๆ แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย

“คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้ในตอนนี้” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ฉันไม่มีสิทธิ์? ฉันไม่ใช่ปู่ของคุณแล้วหรือ คุณกําลังโกหก คุณกับฉันจะเป็นครอบครัวเดียวกัน” ชายชรากล่าว “บอกมาสิ เลือดของใคร!”

“คุณคิดผิด ฉันไม่มีครอบครัว!” ลูซิเฟอร์โต้กลับ

“งั้นก็พิสูจน์สิ! ถ้าเธอไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ก็ฆ่าฉันที่โกหกเธอซะ” ชายชราพูด กางแขนราวกับว่าเขากําลังรอ “ฆ่าฉันแล้วจบเรื่องนี้ ฉันแน่ใจว่าเธอสามารถทําได้ง่าย ๆ ด้วยมือของเธอ”

เขาสังเกตเห็นแล้วว่าลูซิเฟอร์ไม่ได้สวมถุงมือเช่นกัน

“ถ้านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการ” ลูซิเฟอร์ออกในขณะที่เขาเริ่มเดินไปหาชายชรา

ภายในไม่กี่วินาที เขาก็ยืนห่างจากชายชราเพียงก้าวเดียว

“ดวงตาของเธอ… มันเต็มไปด้วยความเศร้า เธอรู้ไหม ฉันจะเป็นของเธอเหมือนกับที่เธอเป็นหลานชายของฉันเสมอ! เล่าอดีตของเธอให้ฉันฟัง! เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” คุณปู่จี้พูดด้วยท่าทางเป็นห่วงลูซิเฟอร์

“ใครทําร้ายเธอ เธอจะให้ฉันเข้าใจทุกอย่าง หรือจะฆ่าฉัน คุณมีทางเลือกเพียง 2 ทาง หนุ่มน้อย” เขากล่าวต่อ “คุณประเมินตัวเองสูงเกินไป ฉันคือสัตว์ประหลาด ฉันฆ่าใครก็ได้” ลูซิเฟอร์พูดขณะยื่นมือไปทางใบหน้าของชายชรา

ชายชราดูไม่กลัวแม้ว่าเขาจะรู้ว่าเขาจะต้องตาย ถ้าลูซิเฟอร์จับต้องเขา แต่ดูเหมือนเขาจะมีความศรัทธาในตัวหลานชายและความผูกพัน..

ตอนที่ 219: ของขวัญ

“แต่นายต้องระวัง อย่าทําคนเดียว เพราะมันอาจมีของขวัญที่ดี แต่มันก็ถือเป็นหนึ่งในการต่อสู้ตัวต่อตัวที่ดีที่สุดของเราเช่นกัน นายจะต้องการคนมากกว่านี้เพื่อครอบงําและพามันเข้ามาควบคุม” แดชบอกเจค

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ฉันจะทําทุกอย่างให้ราบรื่น พรุ่งนี้เป็นวันที่โลกของอเล็กซ์กําลังจะพังท

ลาย พรุ่งนี้มันจะเสียใจที่ออกจากห้องไปตลอดชีวิต!” เจคพูดยิ้มๆ
“ใช่ ฉันจะช่วยนายในเรื่องนี้ด้วย เรามาวางแผนส่วนย่อยอื่นๆของแผนกัน เช่น นายจะทําที่ไหน มันจะต้องอยู่นอกห้องเรียนและนอกหอพัก เพราะสร้อยข้อมือนั่นจะไม่แจ้งเตือนอาจารย์ก่อนที่อเล็กซ์จะแหกกฎ” แดชพูดแทรก

“จริง ถ้าอาจารย์เข้าไปยุ่งแผนทั้งหมดก็จะล้มเหลว และเราอาจจะไม่มีโอกาสแบบนี้อีกในอนาคต” เจคพยักหน้า

ทั้งสองแบ่งปันตารางเรียนเพื่อดูว่าเวลาใดดีที่สุดที่จะทํา อีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า พวกเขาวางแผนเรื่องทั้งหมด เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น แดชก็จากไป
มีการตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะไม่ใช่วันที่พวกเขาประกาศใช้แผน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องกําหนดการ วันมะรืนนี้จะเป็นตอนที่พวกเขากําลังจะทํามัน

วันใหม่มาถึงพร้อมกับข่าวดี ลูซิเฟอร์ได้รับแจ้ง ว่าปู่ของเขามาพบเขา
เขาลุกขึ้นยืน พลางรีบแต่งตัว ก่อนจะวิ่งไปที่ห้องประชุม
“คุณปู่!”

ทันทีที่ลูซิเฟอร์เห็นชายชรา เขาก็กอดเขาแน่น

“เมื่อคืนเธอกลับตรงเวลาไหม? ชายชราถามลูซิเฟอร์ด้วยความเป็นห่วง
“ใช่ ผมมาตรงเวลา” ลูซิเฟอร์ตอบโกหก เขาไม่ต้องการทําให้ปู่ของเขากังวลและทําให้เขารู้สึกเหมือนถูกตําหนิในการถูกลงโทษของลูซิเฟอร์
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น ปู่ทิ้งเธอไว้ที่สถานีตํารวจเหรอ” เขาถามขณะปลดปล่อยชายชรา

“ใช่ ปู่ทิ้งเธอไว้ที่นั่นอย่างปลอดภัย ขณะที่เด็กสาวจําหมายเลขโทรศัพท์ของครอบครัวเธอได้ตํารวจบอกว่าพวกเขาจะไปหาครอบครัวของเธอเร็วขึ้น ปูมาบอกหลานเรื่องนี้” คุณปู่จี้ตอบ

“ปู่เข้ามาได้ยังไง เกิดอะไรขึ้นกับเรื่องขอใบอนุญาต 10 วันก่อนจะได้รับอนุญาตภายในอะคาเดมี” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“หลานไม่รู้เหรอ ตั้งแต่หลานคว้าที่ 1 มา 3 ปี ปู่ก็ได้รับสิทธิพิเศษเช่นกัน ทุกเดือนปู่สามารถมาพบหลานได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาตล่วงหน้า มันเหมือนกับที่หลานได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนได้” ปู่จี้ตอบ

“นั่นเป็นข่าวดี!” ลูซิเฟอร์อุทานด้วยความประหลาดใจ “เดือนหน้าก็ต้องมาให้ได้นะ”

“ปู่ทําไม่ได้ ไม่คิดว่าจะได้พบหลานอย่างน้อย 4-5 เดือน” คุณปู่จี้ตอบ

“ทําไม?” ลูซิเฟอร์ถามพร้อมกับยืนขึ้น

“พรุ่งนี้ปู่จะไปสํารวจทะเล อย่างน้อยก็จะกลับมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ไม่ต้องกังวล ปู่จะกลับมาเร็ว ๆ นี้ ก่อนที่หลานจะรู้ตัว นี่จะเป็นสถานที่แรกที่ปู่จะมาหลังจากที่ปู่กลับมา” ปู่จี้ตอบอย่างใจเย็น

“อืม อีกแล้วนะปู่ ปู่แก่แล้ว สักวันปู่ควรหยุดเรื่องนี้เสียที” ลูซิเฟอร์พูดขณะนั่งอีกครั้ง

“ปู่สงสัยว่าปู่จะออกจากทะเลไม่ได้ มันเหมือ นบ้านหลังที่ 2 ของปูไปแล้ว” คุณปู่จี้ตอบ

“ยังไงก็ตาม ปู่มีเหตุผลอีกอย่างที่ต้องมาด้วย เมื่อวานปู่ลืมให้ของขวัญวันเกิดหลาน ปู่อยากจะให้หลานในตอนท้าย แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นและไม่มีเวลา นี่ๆ ของขวัญจากปู่”

คุณปู่ตี้วางกล่องเล็ก ๆ ไว้บนโต๊ะ

“อะไรอยู่ในนั้น?” ลูซิเฟอร์ถาม “เปิดออกและลองดู” คุณปู่ชีตอบ

ลูซิเฟอร์หยิบกล่องขึ้นมาเปิดออก แต่ก็พบแต่สิ่งที่ดูเหมือนจี้ทองคํา
เขาเปิดจี้ต่อไปเพื่อเผยให้เห็นรูป 2 รูปข้างใน หนึ่งคือของคุณปู่จี้ ในขณะที่อีกรูปคือของลูซิเฟอร์ที่ถูกเจอในวันเกิดปีแรกของเขากับคุณปู่จ
“สวยจัง” ลูซิเฟอร์ยิ้มดีใจกับของขวัญ “ขอบคุณครับ”

เขาสวมจี้ห้อยคอก่อนจะลุกขึ้นยืน

เขากอดชายชรา

“เอาล่ะ ปู่คิดว่าถึงเวลาที่ปู่ต้องไปแล้ว โชคดีนะหลานที่รัก ปู่ภูมิใจในตัวหลานมาก”

หลังจากกล่าวคําอําลาแล้ว คุณปู่ก็จากไป ลูซิเฟอร์เดินกลับมา ในขณะที่เขาสัมผัสจอัน สวยงาม

แทนที่จะกลับไปที่ห้องของเขา ลูซิเฟอร์เดินก ลับไปที่ชั้นเรียน
เมื่อถึงชั้นเรียน เขาพบว่าทุกคนนั่งอยู่ที่นั่นแล้ว ดูเหมือนว่าเขาเป็นคนสุดท้ายที่มา

ลูซิเฟอร์นั่งลงตรงกลางแดชและแคสเซียส

ทันทีที่เขานั่ง เขาสังเกตเห็นแคสเซียสวางกล่องไว้ข้างหน้าเขา
“นี่คืออะไร?” ลูซิเฟอร์ถามแคสเซียสอย่างสับสน

“ถือว่ามันเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลัง ฉันต้องใช้เวลาจัดการมันเล็กน้อย” แคสเซียสตอบพร้อมยิ้ม

“ขอบคุณ แต่นายไม่จําเป็นต้องให้ของขวัญฉัน” ลูซิเฟอร์กล่าวขอบคุณแคสเซียส

“นายพูดถูก ฉันไม่ได้ต้องการ ฉันอยากทํา ดังนั้นรับไปเปิดเถอะ” แคสเซียสตอบ

ลูซิเฟอร์เปิดกล่องที่ 2 ของวันเพื่อเผยให้เห็น แหวนอยู่ข้างใน ดูเหมือนแหวนแพลตตินั่มที่มีหยกแดงฝังอยู่

“มันดูแพงนะ” ลูซิเฟอร์พูดออกมาขณะหยิบแหวน

“มันแพงจริงๆ แต่ไม่ใช่เพราะวัสดุก่อนหน้านี้ มันพิเศษเพราะเทคโนโลยีที่อยู่ภายใน” แคสเซียสตอบ

“เทคโนโลยีอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างสนใจ

“แหวนวงนี้มาเป็นแหวนคู่ ส่วนแหวนวงที่ 2 ฉัน ใส่อยู่” แคสเซียสพูดขณะเผยแหวนในมือ

“เพราะวงแหวนทั้งสองนี้ใช้เทคโนโลยีร่วมกันจึงสมบูรณ์แบบ แหวนทั้งสองนี้มีตัวติดตาม แต่มันเข้ารหัสไว้ มีเพียงเจ้าของแหวนเท่านั้นที่สามารถใช้มันเพื่อค้นหาว่าเจ้าของแหวนอีกวงอยู่ที่ไหน และในทางกลับกัน” เขากล่าวเพิ่มเติม

“นอกจากเราแล้ว ไม่มีใครสามารถใช้มันได้ เขากล่าวต่อ

“ทําไมต้องเป็นแบบนั้นล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันคงไม่หลงทางหรอก” ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ

“คราวที่แล้วนายไม่ได้พูดหรือว่าอาจมีวันหนึ่งที่พวกเราคนใดคนหนึ่งหายไป ฉันไม่อยากขาดการติดต่อถ้าวันนั้นมาถึง ฉันอยากให้นายตามหาฉันเจอ เหมือนที่ฉันต้องการที่จะติดต่อนายได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่อยากเสียมิตรภาพนี้ไปตลอดกาล” แคสเซียสอธิบาย

“หึ นายคิดเรื่องสถานการณ์แปลกๆจริงๆเหรอ ฉันแค่พูดแบบนั้นเพราะคิดว่าฉันจะถูกไล่ออก และจะไม่ได้เจอนายอีก แต่ฉันไม่มีแผนที่จะถูกไล่ออกหรอก.. ฉันระวังตัวอยู่” ลูซิเฟอร์ปล่อยยิ้มอย่างมีเลศนัย

ตอนที่ 220: ติดกับดัก

“ไม่เป็นไรหรอก ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่ายิ่งกว่านั้นตัวมันเองก็ยังเป็นอุปกรณ์เสริมที่สวยงามแค่สวมไว้ก็พอใจแล้ว” แคสเซียสยืนยัน 3694

“เอาล่ะ ขอบคุณสําหรับของขวัญชิ้นใหญ่นะแคสเซียส” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับสวมมันเข้าไป

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ เรียนเสร็จแล้ว ก่อนจะเดินออกไป 1 วัน พวกเขากลับห้องรอวันใหม่มาถึงที่ซึ่งเขาได้เรียนรู้
อะไรๆมากกว่าเดิม

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในห้องของเขานึกถึงสิ่งที่ปู่ของเขาพูดโลกอยู่ในความสับสนวุ่นวายนั่นเป็นความจริงดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มเชื่อสิ่งที่ชายชราพูดบ้างแล้ว

“นี่นายกําลังคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย” มองลูซิเฟอร์พลางครุ่นคิดเมื่อเจสันเริ่มถามคําถาม

“นายคิดอย่างไรเกี่ยวกับแวเรียนท์ทมิฬ?” ลูซิเฟอร์ถามเจสันทําให้เขาสนใจ “ผู้ที่ใช้ของขวัญเพื่อตนเองและผู้ที่ใช้หากําไรเพื่อพลังงานที่มาก ขึ้น?”

“ฉันว่าพวกมันมันห่วย พวกมันเป็นสัตว์ร้ายและเลวทรามโดยที่พวกเขานําออกมา ถ้าเรามีของกํานัลเราก็ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ เราไม่ควรใช้ พวกมันเพื่อคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์” เจสันตอบโดยไม่ได้ใช้เวลานาน

“คิดว่ายังไงเควิน” ลูซิเฟอร์ถามเพื่อนร่วมห้องคนที่ 2 ของเขา

“ฉันคิดว่าเราควรอยู่ห่างจากแวเรียนท์ทมิฬให้มากที่สุด” เควินได้ตอบกลับ

“นายคิดว่าเราลําเอียงกับพวกเขาไหม ฉันหมายถึงพวกเขายังเป็นคนอย่างเราอยู่ไม่ใช่หรอ?”ลูซิเฟอร์ถาม

“ฉันไม่คิดว่าเราลําเอียง เรากําลังยืนอยู่ข้างฝ่ายคุณธรรมพวกเขาต่างหากที่ควรเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้อง”เจสันตอบ

“ฉันเดาว่านายพูดถูก” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาหยุดการสนทนาเขานอนลงบนเตียงแล้วคล มตัวด้วยผ้าปู เขาไม่ได้หยุดคิดเรื่องนั้นความหมายที่ซ่อนอยู่คืออะไรคําพูดของชายชราคืออะไร?

ขณะที่เขาจมอยู่กับความคิดเขาก็ไม่รู้ว่าเขาผล็อยหลับไปเมื่อใดและเขาก็เพิ่งตื่นขึ้นอีกครั้งในตอนเช้าเท่านั้น

แต่งกายสําหรับวันธรรมดาอีกวันเขาออกจากห้องของเขาใช้เวลาไม่นาน ก่อนที่เขาจะถึงชั้นเรียนจริงๆเป็นครั้งแรกในระยะเวลานานที่เขามา ห้องเรียนเป็นคนแรกหลังจากเขามาถึงแล้วแคสเซียสก็มาถึงตามด้วยคนอื่นๆ

ไม่นานนักเรียนทุกคนก็มาถึง รวมทั้งแคสเซียสที่ดูวันนี้มีความสุขเป็นพิเศษฟรานซีก็มาถูกเวลาเช่นกันในขณะที่เขาพานักเรียนไปที่ชั้นเรียนอีก ครั้งชั้นเรียนแรกกินเวลา 2 ชั่วโมงก่อนที่จะบอกนักเรียนทั้งหมดเพื่อกลับไปเรียน

แคสเซียสและลูซิเฟอร์อยู่ด้วยกันระหว่างทางกลับมันเป็นเวลาฟรีไทม์ ซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนควรจะพักผ่อนในชั้นเรียนส่วนคลาสต่อไปจะเป็นกลาสของอเล็กซีที่จะไปเพื่อสอนพวกเขาเกี่ยวกับการใช้ทักษะการพูดมากขึ้น

แม้ว่านักเรียนทุกคนจะกลับไปที่ชั้นเรียนแล้ว แต่แดชก็ยังคงไม่ไปเขาจงใจเลื่อนการกลับไปของเขาตามที่เขาวางแผนไว้

เพียง 5 นาทีต่อมา แดชก็เข้าสู่ชั้นเรียนแทนที่จะนั่งเขาตรงไปหาลูซิเฟอร์

“อเล็กซ์ ครูฟรานซีบอกให้ฉันส่งนายไปหาเขาเขาต้องการให้นายกลับไปในอารีน่าเพื่ออะไรบางอย่าง”

หลังจากบอกลูซิเฟอร์ว่าเขานั่งลงบนที่นั่งของเขาเท่านั้น

“จริงเหรอ ฉันสงสัยว่าทําไมเขาถึงต้องการฉัน”ลูซิเฟอร์พึมพําขณะยืนขึ้น ในไม่ช้าเขาก็เหลือบมองที่แคสเซียส ขณะที่เขาพูดต่อ”ฉันจะกลับมาเร็วๆนี้”

“ฉันไปด้วยได้ไหม” แคสเซียสถามลูซิเฟอร์

“ไม่เป็นไร ไม่ต้องมาหรอก เขาเรียกแค่ฉันบางทีอาจจะเป็นบางสิ่งบางอย่างส่วนบุคคล ฉัน จะกลับมาก่อนแล้วนายจะรู้เรื่องนั้น”ลูซิเฟอร์ บอกออกไปยิ้มขณะที่เขาออกจากชั้นเรียน

แดชก้มหน้าลงในขณะที่เขาเริ่มยิ้ม มันจะไม่นานก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง “ไอ้สารเลวนี้จะออกไปในที่สุดวันนี้ทุกอย่างจะจบลง”เขาคิดแบบนั้น
ลูซิเฟอร์รีบเดินไปที่ลานประลองซึ่งเขาเชื่อว่าฟรานซีกําลังรอเขา เขาไม่อยากให้อาจารย์ของเขารอนานไม่นานเขาก็มาถึงอารีน่า

เมื่อลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปในอารีน่า เขาก็พบว่าที่นั้นว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ ไม่มีใครอยู่ที่นี่มีแต่ความเงียบงัน
“อาจารย์ฟรานซ์คุณอยู่ที่นี่หรือเปล่า” ลูซิเฟอร์ถามพลางตะโกน

ตุ้บ!

ทันใดนั้น เสียงโลหะดังมาจากด้านหลังลูซิเฟอร์ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่ทางเข้าประตูถูกปิดเนื่องจากประตูไม่ได้ล็อคชายคนนั้นจึงปิดมันมันง่ายที่จะเปิดจากภายนอกเช่นกันแต่ชายคนนั้นไม่สนใจ
วันนี้ไม่มีคลาสในอารีน่าเขาจึงไม่เชื่อมีคนกําลังจะเข้ามา

เหตุผลเดียวที่เขาปิดประตูก็เพื่อให้คนผ่านไปมาไม่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน

“นายใช่คลาส A รุ่น 23 เหรอ?” ลูซิเฟอร์ถามพลางจ้องไปที่คนตรงหน้า

“ไม่ได้มีคนเดียวหรอก..” อีกเสียงหนึ่งมาจากด้านหลังชายคนนั้น
ลูซิเฟอร์มองไปในทิศทางนั้นเพื่อสังเกตเห็นชายอีกคนจากคลาส A

“นายมาทําอะไรที่นี่ ครูฟรานซีอยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามออกไป

“เขามีธุระด่วนเลยต้องออกไป เขาทิ้งเราไว้ที่นี่เพื่อดูแลแก” คราวนี้เสียงมาจากคนที่ 3

ลูซิเฟอร์มองไปที่นั่นเพื่อพบชายอีกคนจากคลาส A

“ในเมื่อเขาให้ความรับผิดชอบที่สําคัญแก่เราเราจะปล่อยได้อย่างไร?” อีกเสียงหนึ่งมาจากทิศทางที่สี่ลูซิเฟอร์มองไปที่นั่นเพื่อพบกับชาย 4 คนในครั้งนี้หนึ่งในนั้นบังเอิญเป็นเจค

ชายทั้งเจ็ดเริ่มใกล้ชิดกับลูซิเฟอร์จนกระทั่งพวกเขาอยู่รอบตัวลูซิเฟอร์อย่างสมบูรณ์

“รับผิดชอบอะไร เขาต้องการอะไร” ลูซิเฟอร์ถามอย่างเคร่งขรึม เขารู้สึกได้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ“เขาอยากให้เราเอาถุงมือของแกไปเพราะมันดูน่าเกลียดเขาไม่อยากเห็นพวกมันอยู่ในมือแกอีกต่อไปเขาหงุดหงิด
” เจคกล่าวพลางยิ้ม “งั้นก็เป็นเด็กดีแล้วเอาถุงมือน่าเกลียดนั่นมาให้ฉัน”

เมื่อได้ยินคําพูดของพวกเขา ลูซิเฟอร์ก็ขมวดคิ้วมากขึ้นเขาเชื่อพวกเขากําลังโกหกฟรานซีไม่เคยมีปัญหากับถุงมือของเขาทําไมถึงอยากเอามันออกไปจากเขา? เขาใจดีกับศิษย์เสมอไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนเหล่านี้นั้นโกหก

“ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่สามารถฟังสิ่งนั้นได้พวกมันคือถุงมือของฉันและฉันต้องการรักษาพวกมันไว้ถ้าเขาต้องการก็บอกเขาให้คุยกับฉันในชั้นเรียนของเขา”ลูซิเฟอร์ได้ตอบกลับ “ฉันกําลังจะออกไปแล้ว”

ขณะที่ลูซิเฟอร์พยายามจะขยับเขาสังเกตเห็นว่าพวกผู้ชายตรงหน้าของเขาไม่หลบเลี่ยงพวกเขากําลังขวางทางลูซิเฟอร์

“ความหมายของสิ่งนี้คืออะไร?”ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง “หลีกทางไป!”

“เราขอโทษ แต่ถ้านายต้องการออกไปนายต้องให้ถุงมือกับเราถ้าไม่ทําก็ไปไม่ได้” เจคประกาศ..

ตอนที่ 217: เผชิญหน้ากับผู้อัญเชิญ

“ผมยอมรับ ถึงแม้ว่าจะใช้เวลา 2 นาทีใน การพาเขาลงไปที่พื้น แต่ผมยอมรับดีกว่าเสียเวลาทั้งปีกับพวกเขา ผมพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นตอนนี้ เรียกพวกเราว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุด” เจคตกลงทันที

“อเล็กซ์ คุณยอมรับไหม” ฟรานซีถามพลางมองดูลูซิเฟอร์

“เจค ผมได้ยินข่าวลือมาว่าอเล็กซ์เก่งมาก อย่าดูถูกเขาและระวัง” นักเรียนรุ่น 23 คนหนึ่งกระซิบข้างหูของเจค เตือนเขาว่าเขาต้องระมัดระวัง

“เขาเป็นแกะดําในกลุ่มที่ทิ้งแคสเซียสไว้ข้างหลัง แม้ว่าจะไม่ได้มาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่ก็ตาม!”

“ไม่ต้องห่วง ฉันรู้ว่ากําลังทําอะไรอยู่” เจคตอบ “ผมยอมรับ” ลูซิเฟอร์พยักหน้าขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

“นักเรียนคนอื่นๆ ถอยออกไป มันจะเป็นการต่อสู้ระหว่างอเล็กซ์กับเจค ไม่มีใครเข้าไปยุ่งได้” อเล็กซี่สั่งให้นักเรียนคนอื่นๆถอยออกมา

“อเล็กซ์ ระวังตัวด้วย เขามีความสามารถที่ค่อนข้างน่ารําคาญ เขาสามารถเรียกสัตว์มาทําคําสั่งได้ เขามีพลังแห่งการอัญเชิญ” แคสเซียสบอกกับลูซิเฟอร์เกี่ยวกับเจคเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย

“ดังนั้นพยายามเข้าใกล้เขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ นอกจากนี้เขายังมีปฏิกิริยาตอบสนองที่น่าทึ่ง ดังนั้นมันจะไม่ง่ายเลยด้วยซ้ํา ระวังตัวไว้” เขากล่าวเพิ่มเติมก่อนจะก้าวถอยหลัง

นี่คือทั้งหมดที่เขาสามารถช่วยได้

“อัญเชิญสัตว์ร้ายงั้นเหรอ? ฉันอ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว แวเรียนท์บางคนปลุกของขวัญนี้ขึ้นมา และพวกเขาสามารถเรียกสัตว์ร้ายออกมาต่อสู้ได้”

“เขากําลังต่อสู้กับพวกเขาเหรอ น่าสนใจ ฉันได้ยินมาว่าจํานวน 3 ตัวคือขีดจํากัดที่ทุกคนเคยเรียกมา ฉันให้โอกาสเขาไม่ได้” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะตัดสินใจแผน ถึงเวลาที่ต้องจริงจัง

“คุณทั้งคู่พร้อมหรือยัง? อเล็กซี่ถามเด็กสองคนที่ยืนห่างกัน 7 เมตร

“พร้อม!” ทั้งสองพูดพร้อมกัน

แสงสีขาวเริ่มกะพริบบนสร้อยข้อมือ ทําให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้ใช้ของขวัญได้ แล้ว

“หนึ่ง… สอง… สาม… เริ่ม!” อเล็กซี่ประกาศก่อนจะก้าวถอยหลัง

ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น ลูซิเฟอร์ก็วิ่งไปหาเจค และกําลังเข้าไปใกล้
ในทางกลับกัน เจคไม่ได้เคลื่อนไหวราวกับว่า เขากําลังรอให้ลูซิเฟอร์เข้าใกล้เขา

เมื่อลูซิเฟอร์เข้าใกล้เจค บางสิ่งบางอย่างก็เริ่มส่องแสงบนพื้น
ลูซิเฟอร์อยู่ห่างจากเจคเพียง 1 เมตรเมื่อการอัญเชิญมีผล

กอริลลาสูง 10 ฟุตปรากฏขึ้นเหนือวงเวทย์ ขณะที่เขาต่อยลูซิเฟอร์ที่ไม่รู้ตัว ซึ่งดูเหมือนว่า เขาจะถูกโจมตี

ลูซิเฟอร์ลอยกลับไปเหมือนตุ๊กตาที่หัก ขณะที่เขาล้มลงกับพื้น

“ฉันได้ยินมาว่านายมีพลังงั้นหรือ ช่างเป็นความบังเอิญ เจ้าตัวเล็กคนนี้ก็มีความแข็งแกร่งเช่นกัน เขาจะชอบเล่นกับนาย ยิ่งกว่านั้นฉันขอพาตัวอื่นออกไปด้วยจะได้ไม่เบื่อ มันต้องมีความหลากหลายสิ ถึงจะสนุก” เจคพูดขณะยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง

สัตว์ตัวอื่นๆปรากฏขึ้นใกล้เขา คราวนี้เป็นหมาป่าที่ก้าวออกจากวงเวทย์

ขณะที่กอริลลายืนอยู่ใกล้เจค หมาป่าก็วิ่งไปทางลูซิเฟอร์ อ้าปากกว้างราวกับพร้อมที่จะกัดลูซิเฟอร์

ในระยะไกลลูซิเฟอร์ก็ยืนขึ้น ในขณะที่เขาตบเสื้อผ้าของเขา ดูเหมือนว่าครั้งที่แล้วเขาจะไปถึงเจคช้าเกินไป

“ไม่เป็นไร ทั้งหมดที่ฉันต้องทําคือทําลายสัตว์ร้ายทั้งสอง” เขาพูดขณะที่เขาเหลือบมองหมาป่าที่กําลังเข้ามาหาเขา

เขายกเท้าขวาขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อย นี่เป็นกา รเคลื่อนไหวที่เขาอยากลองทําโดยเชื่อว่าเขาไม่ เคยทํา

“เห็นมั้ยอาจารย์ เด็กพวกนี้ไม่คู่ควรกับพวกเราหรอก?”

เมื่อคิดว่าลูซิเฟอร์ไม่มีโอกาสเจคเหลือบมองที่อเล็กซี่ขณะที่เขาเริ่มพูด
นั่นคือตอนที่เขารู้สึกว่าพื้นดินสั่นสะเทือน

ด้วยความประหลาดใจ เขามองย้อนกลับไป ทางลูซิเฟอร์และพบว่าจุดนั้นว่างเปล่า ที่นั่นมีเพียงโพลงขนาดใหญ่ในพื้นดิน

เขาขมวดคิ้วอย่างช้าๆ และเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นลูซิเฟอร์บินมาหาเขา ในจุดที่สูงเหนือพื้นดิน

“เขาบินได้?” เขาผละออกอย่างตกใจ

“พาเขาออกไป!” เขาสั่งให้กอริลลาเตรียมพร้อม ส่วนหมาป่า เขาก็เริ่มวิ่งกลับเช่นกัน

“ใช้กําลังและแรงกระแทกในการกระโดดสูง อย่างนั้นหรือ ปกติแล้วมันคือการบินระยะสั้นโดยไม่มีการใช้พลังจากของขวัญอะไรเลย ก็ไม่เลว ขนาดฉันไม่เคยคิดเลยว่าความแข็งแกร่งจะใช้ได้แบบนี้” ฟรานซีกล่าวขณะนั่งขบคิด

เมื่อลูซิเฟอร์เริ่มร่อนตัวลงมา กอริลลาก็เตรียมพร้อมสําหรับการโจมตีอีกครั้ง แต่คราวนี้ ลูซิเฟอร์ก็ดูจริงจังเช่นกัน

เขากําหมัดแน่น ขณะเตรียมโจมตีกอริลลา เขาจะไม่ทิ้งอะไรไว้ข้างหลัง เขากําลังจะทุ่มสุดตัว

ในไม่ช้า ลูซิเฟอร์ก็เอื้อมมือไปใกล้กอริลลายักษ์ หมัดของเขาปะทะกับหมัดของกอริลลา แต่ดูเหมือนเป็นการปะทะน้อยกว่าและเหมือนการทําลายล้างมากกว่า

กอริลลาไม่สามารถต้านทานลูซิเฟอร์ได้ ในขณะที่มือของมันหัก การโจมตีของลูซิเฟอร์ไม่หยุด เมื่อมันกระทบกระโหลกศีรษะของกอริลลา เขาใช้กําลังทั้งหมดของเขาแล้ว

สิ่งที่ตามมาคือฉากที่น่าสยดสยอง กอริลลาแตกเป็นเสี่ยง ขณะที่เลือดของมันกระเซ็นไปทั่วทุกที่ ครอบคลุมลูซิเฟอร์และเจค

หมัดยังคงไม่หยุด เมื่อมันกระทบพื้นหลังจากทําลายกอริลลา

เมื่อหมัดตกลงสู่พื้น พื้นดินทั้งหมดก็เริ่มสั่นสะท้าน ไม่เพียงแต่ที่นี่เท่านั้นแต่ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความสั่นสะเทือนทั่วทั้งสถาบัน เนื่องจากผู้คนรู้สึกเหมือนเกิดแผ่นดินไหวขึ้น

บนอัฒจันทร์ ทุกคนยืนขึ้นอย่างไม่เชื่อ พวกเขาเห็นอะไรกันแน่? แม้แต่ครูเองก็คาดไม่ถึง ลูซิเฟอร์มีความแข็งแกร่งขนาดนี้? แท้จริงแล้วเขาแข็งแกร่งเพียงใด?

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาเหรอ? บ้าไปแล้ว นี่คือสิ่งที่เขาแสดงออกมาตอนนี้และมันเต็มกําลังของเขาจริงๆ หรือเป็นเพียงเศษเสี้ยว? พวกเขาไม่เข้าใจ ทั้งหมดที่พวกเขารู้คือความแข็งแกร่งนี้… มันไม่ใช่ความแข็งแกร่งธรรมดาที่พวกเขาคิดไว้
ทุกคนต่างมองไปที่ลูซิเฟอร์ ซึ่งยืนอยู่ในปล่อง ลึก 5 เมตร เต็มไปด้วยเลือดราวกับว่าเขาอาบน้ําด้วยเลือด สําหรับเจค เขานอนอยู่ในปล่องภูเขาไฟเช่นกัน มองดูลูซิเฟอร์ด้วยดวงตาเบิกกว้าง

ส่วนหมาป่าที่กําลังพุ่งเข้ามา มันหยุดกลางทาง เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับกอริลลา มันเริ่มสั่นเมื่อก้าวถอยหลังช้าๆ ก่อนที่มันจะหายไป

“การต่อสู้สิ้นสุดลง อเล็กซ์เป็นผู้ชนะ Limitter ของเธอถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง เธอทั้งคู่ไปอาบน้ําได้ เช็ดเลือดนั้นออกด้วย” อเล็กซี่สั่งพวกเขา ขณะที่เขาเดินไปที่ปล่องภูเขาไฟ

ลูซิเฟอร์พยักหน้าขณะที่เขาเริ่มพยายามจะ ออกจากปล่องภูเขาไฟ หากปราศจากพลังของเขา มันก็ยากที่จะออกไปจากที่นี่

หลังจากดิ้นรนเล็กน้อย เขาก็ก้าวออกไปในขณะที่เดินไปที่ห้องอาบน้ํา สําหรับเรื่องนั้น เขาไม่ต้องกลับไปที่มหาวิทยาลัย เพราะมีเครื่องแบบสํารองอยู่ที่นี่.. ในสนามมีห้องอาบน้ําด้วย

ตอนที่ 218: การปล่อยตัว

อเล็กซี่ช่วยเจคออกไป แต่เขาไม่ได้ส่งเจคไปอาบน้ําหลังจากลูซิเฟอร์

เขาพูดอะไรบางอย่างกับเจคก่อน

“นั่นเป็นเหตุผลที่เราบอกว่าความเย่อหยิ่งอาจเป็นศัตรูตัวร้ายที่สุดของแวเรียนท์คนคนหนึ่งสามารถแข็งแกร่งได้แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะอ่อนแอไปและทําความสะอาดตัวเอง” อเล็กซีกล่าวก่อนที่จะปล่อยให้เขาจากไปในที่สุด

เจคก็จากไป แต่หมัดของเขากําแน่นขณะที่เขากําลังโกรธจัดหลังจากการต่อสู้อย่างหนักเขาได้จัดการมัดสัตว์ 2 ตัวด้วยการอัญเชิญของเขา

และลูซิเฟอร์ได้ทําลายผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ฆ่าสัตว์อัญเชิญของเขา เขาโกรธมากเขารู้สึกราวกับว่าเพื่อนคนหนึ่งของเขาถูกฆ่าตาย

แดชที่กําลังนั่งอยู่ในระยะไกลกําลังยิ้มเขาเชื่อว่าเขาได้พบชิ้นส่วนปริศนาที่หายไปแล้วเจคจะเป็นชิ้นนั้น

“ฉันประหลาดใจมากกับความแข็งแกร่งของมันแม้ว่าการทําให้แกลาออกไปเมื่อ Limitter นั้นเปิดอยู่จึงเป็นทางเลือกที่ดีฉันจะดูว่าแกจะหนีออกมาได้อย่างไรอเล็กซ์ต่อให้คนอื่นๆสนใจแกมากแค่ไหนก็ตามหลังจากที่แกถูกไล่ออกจะไม่มีใครจําแกได้

ลูซิเฟอร์อยู่ในห้องอาบน้ํา ปล่อยให้หยดน้ําตกลงมาทั่วร่างกายเพื่อชําระเลือดทั้งหมดเขาแค่สวมถุงมือขณะอาบน้ําแต่ดูเหมือนถุงมือจะเริ่มเสื่อมลงทุกที

ดูเหมือนว่าพวกมันจะเก่าเกินไปแล้ว

“ฉันต้องคุยกับคุณปู่เพื่อซื้อคู่ใหม่ให้ฉัน” เขาพูดขณะที่เขาลูบหน้า

“แต่ความรู้สึกนั้นคืออะไร? เมื่อฉันใช้แรงทั้งหมดนั้นดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกของฉันที่ใช้มันมีบางอย่างดูแปลก ๆ”

หลังจากอาบน้ําเสร็จ เขาก็สวมชุดใหม่ก่อนจะก้าวออกไป เขาเข้าร่วมชั้นเรียนของเขาอีกครั้ง

“สิ่งที่นายทําลงไปนั้นน่ากลัวมาก พูดตามตรงฉันไม่รู้ว่านายแข็งแกร่งขนาดนั้น”แคสเซียสบอกกับลูซิเฟอร์เขายังคงแปลกใจ

“ฉันคิดว่าฉันไม่ได้ออกแรงเลยด้วยซ้ํา”ลูซิเฟอร์ตอบ แสดงว่านั่นคือกําลังปกติของเขาแม้ว่าเขายังคงซ่อนพลังของตัวเองอยู่มันไม่ใช่กําลังเต็มที่ของเขา

ปู่ของเขาให้ลูซิเฟอร์สัญญาว่าเขาจะใช้พลังที่จําเป็นในขณะนั้นเพื่อปกปิดความแข็งแกร่งที่แท้จริงไว้เป็นความลับ

“เอาล่ะ ตอนนี้อเล็กซ์ชนะแล้วฉันแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนคงเข้าใจดีว่าคุณไม่สามารถประมาทคู่นที่ 25 ได้!นั่นคือเหตุผลที่คุณจะฝึกกับพวกเขา อย่างที่บอกมันจะดีสําหรับพวกคุณทุกคนในไม่ช้อนเมื่อเจคกลับมาเราจะเริ่ม” ฟรานซีประกาศ

ไม่นาน เจคก็กลับมา เขาดูไม่มีอารมณ์

เมื่อเขากลับมา การฝึกเริ่มต้นขึ้นโดยที่ทั้งสอ งกลุ่มได้รับการฝึกแบบเดียวกัน

มันเป็นตอนเย็นที่ชั้นเรียนจบลงลูซิเฟอร์และ คนอื่นๆ กลับห้องอย่างเหนื่อยหน่าย

ก๊อก! ก๊อก!

2 ทุ่มตรง เสียงเคาะประตูดังขึ้น

ชายผมสีน้ําตาลกําลังนอนหลับอยู่ในห้องของ เขา แต่ตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขา ยืนขึ้นและเดินไปที่ประตูขณะที่เขาถามว่า “นั่นใคร?”

ในไม่ช้าเขาก็เปิดประตูพบชายผมสีฟ้ายืนอยู่ต รงหน้าเขา

“แดช นายต้องการอะไร ถ้านายมาที่นี่เพื่อเอา เกลือมาถูแผลของฉันด้วยการคุยโวเรื่องชั้นเรียน ออกไปซะ!” ชายผมสีน้ําตาลตอบ ซึ่งไม่ใช่ใค รอื่นนอกจากเจค

“เจค ฟังฉันก่อน ฉันไม่ได้มาถูเกลือบนบาด แผลของนายหรอก ฉันมาเพื่อช่วยนาย ฉันมาเพื่อช่วยนายล้างแค้น”แดชตอบยิมๆ

“ช่วยฉันแก้แค้นงั้นเหรอ ยังไง” เจคถามพลาง ขมวดคิ้ว “เข้ามาข้างใน”

แดชเข้ามาในห้อง ซึ่งใหญ่พอๆ กับเขาเลย ทั้ง สองคนมาจากตระกูลใหญ่ ทั้งคู่ได้ห้องที่ดีที่สุดเพราะครอบครัวสามารถจ่ายได้

เจคปิดประตูข้างหลังก่อนจะเดินกลับไปที่แดช ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาแล้ว

“บอกมาสว่านายกําลังจะพูดอะไร” เจคพูดขณะ นั่งลงบนโซฟา

“อเล็กซ์ อะลาริก มันเป็นศัตรูของฉันด้วย เหมือนกับที่มันเป็นศัตรูของนาย ลองนึกดูว่ามันจะแย่แค่ไหนถ้ามีคนข้างนอกรู้ว่าเราพ่ายแพ้ให้ กับคนอย่า
งอเล็กซ์ซึ่งไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดีด้วยซ้ํา”แดชกล่าว

“ถูกต้อง มันคงเสียชื่อเสียงอย่างแน่นอน” เจค เห็นด้วย

“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องการช่วยนายล้างแค้น ฉันอยากเห็นอเล็กซ์ทนทุกข์เพราะมันทําให้เราทุกข์ทรมาน”แดชกล่าวเพิ่มเติมและเรายังสามารถขับไล่มันออกไปได้ด้วยถ้ามันถูกไล่ออกจะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับมันอีกเลยชื่อเสียงของเราจะปลอดภัยและเราจะได้รับการแก้แค้นด้วย”

“นั่นฟังดูเป็นวิธีที่ดีที่จะทํานั่นคือไล่มันออกแต่จะทําอย่างไรเราอาจมาจากครอบครัวที่โด่งดัง” เจคตอบ

“เราทําได้ถ้าคนๆ นั้นคืออเล็กซ์นายไม่ได้สังเกตสร้อยข้อมือของมันเมื่อเช้านี้เหร มันทําผิดกฎ 2 ครั้งแล้วสิ่งที่เราต้องทําคือทําให้มันแหกกฏอีกครั้งและเราจะทําให้เสร็จ! มันจะถูกไล่ออกและทุกอย่างจะกลับสู่สภาวะปกติ” แดชอธิบาย

เมื่อได้ยินความคิดของเขาแววตาก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเจคขณะที่ริมฝีปากของเขาโค้งเพื่อแสดงรอยยิ้ม

“นายพูดถูก มันใช้ได้” เขากล่าว “แต่เราจะปล่อยให้มันแหกกฎได้อย่างไร ฉันแน่ใจว่ามันไม่ใช่คนงี่เง่ามันต้องรู้อยู่แล้วว่ามันเหลือโอกาสเพียงครั้งเดียวแบบนั้นมันจะต้องรักษาสิ่งนั้นอย่างระมัดระวังมากกว่าชีวิตของมันเอง เราจะทําให้มันแหกกฎได้อย่างไร?”

“ง่ายมาก เราจะทําให้มันปล่อยโอกาสมันถือว่ามีค่ามากกว่าชีวิตของมันได้อย่างไรคําตอบคือการกําหนดเป้าหมายไปยังสิ่งอื่นที่มีค่ามากกว่าสําหรับมัน”แดชกล่าวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

“นายหมายถึงอะไร?” เจคถามพลางขมวดคิ้ว“นายสังเกตเห็นถุงมือที่มันสวมวันนี้หรือไม่” แดชถามยิ้มๆ

“ใช่ มันสวมถุงมือสีดําจริงๆ” เจอตอบ
“จากที่ฉันได้ยินมา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ล้ําค่าที่สุดสําหรับมัน มันได้รับมันจากพ่อที่เสียชีวิตของมันดังนั้นสิ่งของพวกนั้นมันจึงมีค่ามากสําหรับมันมากมันไม่เคยถอดออกเลย”แดชกล่าว

“อันที่จริง การลงโทษครั้งแรกของมันเป็นเพราะถุงมือเหล่านั้นจริงๆ แม้ว่าครูจะขอให้มันถอดถุงมือออกแต่มันก็ไม่ยอมทําสิ่งที่เราต้องทําคือทําให้มันถอดถุงมือหรือทําลายทิ้งซะ” เขากล่าวเพิ่มเติม

“มันจะโกรธมากจนสูญเสียการควบคุมฉันแน่ใจว่านั่นคือตอนที่มันจะใช้พลังของมันทั้งหมดและนั่นคือตอนที่มันจะต้องตกใจมันจะหมดสติลงและจะมีแสงสีแดงที่ 3 บนสร้อยข้อมือของมันหลังจากนั้นมันจะถูกไล่ออก” เขากล่าวต่อ

“ถูกต้อง อะคาเดมี่ไม่สนใจว่าทําไมแต่ละคนถึงแหกกฎแม้ว่าจะมีเหตุผลที่ดี กฎก็คือกฎดังนั้นมันจะต้องถูกไล่ออกไปนี่มันสมบูรณ์แบบ.. มันเอาชนะฉันและฆ่าสิ่งที่ดีที่สุดของฉัน? สําหรับความผิดพลาดนั้นฉันจะทําลายถุงมืออันล้ําค่าที่สุดของมันและไล่มันออกเหอะ!” เจคพูดยิ้มๆ

ตอนที่ 216: ความขัดแย้งของคลาส A?

แดชกําลังนอนอยู่บนเตียง เขายังคงยิ้ม เมื่อได้ รับแจ้งว่าภารกิจสําเร็จลูกน้องของขาทําให้ลูซิเฟอร์แหกกฎได้สําเร็จโดยไม่ปล่อยให้ตัวของเขาเองต้องโดนสงสัยเลยแม้แต่น้อย

“อีกไม่นานก็ถึงวาระสุดท้ายของแกแล้วแล้วทุกอย่างก็จะจบลงผู้ชายอย่างแก… จะต้องทนทุกข์แกควรจะอยู่จุดที่ต่ําที่สุดและไม่ควรที่จะได้มุ่งเป้าไปที่ดวงดาวแกไม่สามารถตําหนิฉันได้”แดชพูดกับตัวเองในขณะที่เขาเริ่มคิดในส่วนต่อไปของแผน

“ฉันจะรออีก 2-3 วัน เพราะมันคงจะระวังมากกว่าปกติ”

เขามีความคิดบางอย่างเกี่ยวกับวิธีการของแผนโดยไม่ทราบผลที่ตามมาจากการกระทํา ของเขา

วันรุ่งขึ้น ลูซิเฟอร์ตื่นและแต่งตัวก่อนจะไปเรียนอีกครั้ง

นักเรียนคนอื่นๆ อยู่ในชั้นเรียนแล้ว และทุกคนสังเกตเห็นแสงครั้งที่ 2 บนสร้อยข้อมือของลูซิเฟอร์

“ฮะ อเล็กซ์ นายแหกกฎอย่างอื่นหรือเปล่าฉันต้องบอกว่าตอนนี้ฉันเข้าใจนายขึ้นมานิดหน่อยนายไม่กลัวการลงโทษงั้นเหรอฉันต้องบอกว่านายกล้าหาญมาก”แดชพูดกับลูซิเฟอร์พร้อมหัว
เราะ

ลูซิเฟอร์เพิกเฉยต่อแดช ขณะที่เขานั่งบนที่นั่ง
“มันเกิดขึ้นได้อย่างไร?” แคสเซียสยังถามลูซิเฟอร์ด้วยความสับสนเขาทําผิดกฎอะไร

“ฉันต้องพาผู้ชายคนหนึ่งไปโรงพยาบาลตอนที่ฉันกลับมาเมื่อคืนนี้เพราะเหตุนั้น ฉันย้อนเวลาไม่ได้และก็โดนลงโทษ” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมถอน หายใจ

“คราวหน้าระวังให้มากกว่านี้ นายมีโอกาสอีกครั้งเดียวเท่านั้นอย่าล้มเหลว” แคสเซียสเตือนลูซิเฟอร์

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันรู้ ถ้าฉันล้มเหลว ฉันจะถูกไล่ออกและฉันจะต้องจากไปฉันจะไม่ได้พบนายอีกเช่นกัน”ลูซิเฟอร์พยักหน้า

เมื่อแคสเซียสได้ยินคําพูดของลูซิเฟอร์เขาก็จมอยู่ในความคิดลึกๆมันเป็นความจริงถ้าวันหนึ่งลูซิเฟอร์ออกจากสถานศึกษาและหายตัวไปเขาจะไม่พบลูซิเฟอร์

นานๆที่คนอย่างเขาจะได้เจอเพื่อนเขาจะปล่อยให้มันจบลงได้อย่างไร?
แต่เขาไม่สามารถทําอะไรได้เลยเพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับลูซิเฟอร์

“นายรู้จักตระกูลซิอานี่ผู้ยิ่งใหญ่หรือไม่ นายสามารถไปหาฉันได้ที่นั่น ในอนาคตเราจะได้ไม่ต้องแยกจากกัน”แคสเซียสกล่าว
“ฉันรู้ ฉันจะระวัง ไม่ต้องกังวล” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมยิ้ม

ในไม่ช้าฟรานซีก็มาถึงชั้นเรียน

“นายอยู่ที่นี่ ดี วันนี้เราจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ตามฉันมา”

เขาหันหลังกลับ ขณะเตรียมจะจากไปแต่จู่ๆเขาก็หยุดรู้สึกเหมือนกับว่าเห็นอะไรบางอย่าง

“เดี๋ยวก่อน อเล็กซ์! มีไฟดวงที่ 2 ในสร้อยข้อมือของคุณเหรอ คุณทําผิดกฎหลังจากที่ฉันเตือนฉันซ้ําแล้วซ้ําเล่าหรือเปล่า” เขาหันไปถาม

“ครับอาจารย์” ลูซิเฟอร์ตอบก่อนจะเริ่มอธิบายทุกอย่าง

“กฏก็คือกฎ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร การแหกกฎก็คือการแหกกฏฉันช่วยไม่ได้ คราวนี้ระวัง ตัวด้วยโอกาสมีแค่ครั้งเดียว!ฉันไม่ต้องการให้นักเรียนที่เก่งแบบนี้ต้องหายไป”

“ผมเข้าใจ ผมจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นอีก”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างขอโทษ

“ก็ดี มาเดี๋ยวนี้”

นักเรียนทุกคนตามฟรานซี ซึ่งพาพวกเขาไปที่สนามฝึกอีกครั้ง แต่คราวนี้ มีนักเรียน 2-3 คนอยู่ที่นั่นแล้ว

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ สามารถเห็นคนทั้ง 8 คนอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว หนึ่งในนั้นคืออเล็กซี่ในขณะที่อีก 7 คนดูเหมือนเด็กที่อายุใกล้เคียงกับลู ซิเฟอร์และคนอื่นๆ

พวกเขาสวมชุดเดียวกันกับลูซิเฟอร์ ซึ่งทําให้เขาเชื่อว่าพวกเขาเหล่านั้นอยู่ในคลาส A ด้วย

“พวกเขาเป็นคลาส A ชุดสุดท้ายใช่ไหมตอนนี้อยู่ปี 5แล้วเหรอ”ลูซิเฟอร์ถามแคสเซียส

“ใช่ พวกเขามาจากคลาส A ของรุ่น 23” แคสเซียสตอบ

อเล็กซี่ก้าวไปข้างหน้า เพื่อทักทายทุกคน “ยินดีต้อนรับทุกคนวันนี้เราได้ตัดสินใจว่าทั้งสองกลุ่มจะซ้อมและแข่งขันกันฉันคิดว่าการแข่งขันครั้งนี้จะบังคับให้คุณเอาชนะข้อจํากัดของคุณได้”

เมื่อเขาอธิบายเสร็จ ทุกคนก็ดูประหลาดใจนักเรียนปี 4 ก็ต่างประหลาดใจที่ต้องแข่งขันกับนักเรียนปี 5

สําหรับนักเรียนชั้นปีที่ 5 พวกเขาก็ตกใจเหมือนกันพวกเขาต้องการแข่งขันกับเด็ก? นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?

ลูซิเฟอร์มีความสุขที่ได้ไปเรียนกับนักเรียนที่เก่งกว่าแต่พวกรุ่นพี่ของเขาดูไม่มีความสุขเลย

หนึ่งในนั้นก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางไม่พอใจ“ท่านอาจารย์ สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น”

“แล้วทําไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ” อเล็กซี่ถามดูเหมือนขบขัน

“เราเป็นรุ่นพี่! จะเกิดอะไรขึ้นกับชื่อเสียงของเราถ้าเราแข่งขันกับเด็ก ๆ แน่นอน พวกเขาจะอ่อนแอกว่าเรา

“ต่อให้เราลงแข่งเราก็ชนะอย่างง่ายดายมันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก มีแต่จะทําให้พวกเรากลายเป็นคนหัวเราะเยาะ!ผู้คนจะพูดว่าพวกเรารังแกเด็กๆ!”ชายหนุ่มตอบอีกครั้ง

ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นชายคนนั้น พลางประหลาดใจที่เห็นแหวนที่คล้ายกันบนนิ้วของเขาดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักเรียนชั้นนําของรุ่น 23 เช่นเดีย วกับลูซิเฟอร์ซึ่งเป็นนักเรียนอันดับต้นๆ ของรุ่น

“เขาคือ เจค โฮลเลอร์ จากตระกูลโฮลเลอร์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งตะวันตก” แคสเซียสบอกลูซิเฟอร์เมื่อเห็นเขาสับสน

“ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่แห่งตะวันตกหรือ ใช่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าประเทศเรามีครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ 4 ครอบครัวในขณะที่มีครอบครัวจํานวน 2 ครอบครัว อยู่ในตะวันออกตะวันตกเหนือและใต้” ลูซิเฟอร์พึมพําโดยจําได้ว่าครอบครัวใหญ่เหล่านี้กระจายออกไปอย่างไร

ครอบครัวของแดช เป็นครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ทางตะวันตกด้วยไม่ใช่หรือ? ฉันสงสัยว่าพวกเขาอยู่ใกล้หรือไม่”เขาคิด

“เจค เธอดูมั่นใจจริงๆ ว่าสามารถเอาชนะพวกเขาได้อย่างง่ายดาย? อเล็กซี่ถามโดยสังเกตชายผมสีน้ําตาลที่ดูเหมือนเพลย์บอยจากหน้าตาของเขา

ดวงตาสีฟ้าอ่อนของเจคเหลือบมองลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ก่อนเขาจะพยักหน้า “ถูกต้องพวกเขายังเด็กฉันคิดว่าเวลาที่เราฝึกฝนจะดีกว่าถ้าเราฝึกแยกกันแทนที่จะเสียเวลากับพวกเขา”

“เรียน เจค ฉันเชื่อว่าเธอประเมินพวกเขาต่ําเกินไปจากที่ฉันเห็นมัน ไม่เพียงแต่พวกเขาสามารถแข่งขันกับเธอได้แต่พวกเขายังชนะได้อกด้วย พวกเขามีพรสวรรค์ที่ดีมากในรุ่นที่ 24” อเล็กซี่ตอบกลับพลางหัวเราะ

“เรื่องตลกของคุณดีมากอาจารย์ แต่มันไม่ตลกมันเป็นไปไม่ได้สําหรับพวกเขาที่จะเอาชนะเราได้เฮ้ฉันจะแปลกใจถ้าสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาสามารถเอาชนะสมาชิกที่อ่อนแอที่สุดของเราได้”เจคโต้กลับ
เมื่อได้ยินถึงความมั่นใจมากเกินไปของเจคฟรานซีก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เขาตาบอดเพราะความเย่อหยิ่งของเขา

ในที่สุดฟรานซีก็ตัดสินใจว่ามันเพียงพอแล้วถึงเวลาแล้วที่จะควบคุมความเย่อหยิ่งของเขาและปล่อยให้เขาเห็นว่าน้องไม่ได้หมายความว่าแย่ลงเสมอไป

“โอ้ พวกเราจะลองพวกเขาดูไหมสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาจะต่อสู้แต่ไม่ต่อต้านสมาชิกที่อ่อนแอที่สุดของคุณเขาจะต่อสู้กับคุณ”ฟรานซีกล่าว

“ทั้งสองคนได้รับอนุญาตให้ใช้ของขวัญของคุณถ้าคุณชนะเราจะยกเลิกแผนนี้.. ถ้าเขาชนะคุณจะได้ฝึกด้วยกัน?” เขาถามเจคต่อไป

ตอนที่ 215: ล้มเหลว

ชายคนนั้นคุกเข่าลงขณะจับคอ ดูเหมือนว่าเขาจะหายใจลําบากและเจ็บปวด

“เฮ้ เด็กคนนี้ดูไม่ธรรมดาเลย! การโจมตีของเขา! เขาต้องเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้แน่ๆ! เราไม่ได้เอาอาวุธมาด้วยด้วยซ้ํา! หนีกันเถอะ! เรารับเขาไว้ไม่ได้”

ขณะที่อีก 3 คนเห็นการโจมตีของลูซิเฟอร์ ดูเหมือนพวกเขาจะหวาดกลัว

พวกเขาเริ่มวิ่งหนี แม้แต่ชายที่นอนอยู่บนพื้นก็ยังพยายามยืนขึ้นก่อนที่เขาจะวิ่งหนีไปโดยจับที่

คอไว้

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ไล่ตามพวกเขา แต่ดูเหมือนเขาจะสับสน
“คนแปลก ๆ พวกเขากลัวอย่างนั้นหรือ คนร้ายกลัวและวิ่งหนีไปงั้นเหรอ?” เขาพึมพําขมวดคิ้ว

“ยังไงก็ตามเถอะ” เขาหันหลังเดินไปหาเด็กสาว

“สาวน้อย เธอปลอดภัยแล้ว ไปส่งเธอที่สถานี ตํารวจเพื่อที่พวกเขาจะได้จัดการเรื่องนี้จากที่นี่ พวกเขาสามารถช่วยเธอไปหาครอบครัวของเธอได้ พวกเขาคงกําลังเป็นห่วงใช่ไหม” ลูซิเฟอร์พูดกับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ขณะที่เขาตบบ่าเธอ

“เดี๋ยวนะ ถ้าไปโรงพักเดี่ยวหลานจะสาย หลานต้องไปที่อะคาเดมี่ ลืมไปหรือเปล่า” คุณปู่จี้เตือนลูซิเฟอร์

“ปู่จะพาเด็กหญิงคนนี้ไปที่สถานีตํารวจ และอยู่กับเธอ หลานนั่งแท็กซี่ไปและตรงไปที่มหาวิทยาลัยโดยห้ามหยุดกลางคันเลย เข้าใจไหม”
เมื่อลูซิเฟอร์ได้ยินคําพูดของคุณปู่จี้ เขาจําช่วงเวลานั้นได้ เขาจะไปสายจริงๆ ถ้าเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองสร้อยข้อมือ ซึ่งมีไฟสีแดงดวงหนึ่งติดอยู่แล้ว

ถ้าคืนนี้เขากลับไปสาย จะมีไฟแดง 2 ดวง

“แน่ใจเหรอครับว่าจะไปคนเดียว” ลูซิเฟอร์ถาม คุณปู่จี้ด้วยความเป็นห่วง

“แน่นอน ปูไม่ได้ไร้ประโยชน์ขนาดนั้น” คุณปู่จี้

ตอบ

“ไม่เป็นอะไร”

ลูซิเฟอร์หยุดรถแท็กซี่ 2 คัน ในหนึ่งเขานั่งซึ่งกําลังจะพาเขาไปที่อะคาเดมี่ อีกด้านหนึ่ง คุณปู่จี้นั่งกับหญิงสาวที่กําลังจะพาเธอไปโรงพัก
รถแท็กซี่ทั้งสองคันเริ่มไปในทิศทางที่ต่างกัน

ชายที่กําลังนั่งอยู่ในรถสีเข้มที่อยู่ไกลออกไป ชายผมสีเข้มยิ้มเยาะ “ส่วนแรกของภารกิจสําเร็จ แล้ว ผู้หญิงคนนั้นแสดงได้ดีจริงๆ ฮ่า มาถึงส่วน ที่สําคัญที่สุดแล้ว”

ชายคนนั้นสตาร์ทรถ ในขณะที่เขาไล่ตามแท็กซี่ เขายังโทรไปที่หมายเลขพร้อมกัน

“เขากําลังมา คุณพร้อมหรือยัง” เขาถามใครบางคนทางโทรศัพท์

“ใช่ ทุกอย่างพร้อมแล้ว คืนนี้ อเล็กซ์จะไปไม่ถึงอะคาเดมี่” อีกฝ่ายรับสายก่อนจะตัดสาย

ลูซิเฟอร์กําลังนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ขณะตรวจดูนาฬิกา

“ดูเหมือนว่าฉันจะไปถึงอะคาเดมีด้วยเวลา 1 ชั่วโมง ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่วันนี้สนุกจริงๆ ถ้าเพียงปู่จี้ยอมให้ฉันจ่าย ฉันอยากจะทําให้มันพิเศษกว่านั้นสําหรับเขา เงินก็ไม่มีประโยชน์สําหรับฉันอยู่ดี”

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในรถ ดูเหมือนว่าเขากําลังพูดกับตัวเอง

“ฉันควรจะวางแผนนี้อีกครั้งในอนาคต”

ห้องโดยสารที่ลูซิเฟอร์นั่งอยู่นั้นเดินทางมาครึ่งชั่วโมงแล้ว มันได้ข้ามระยะทางไปยังอะคาเดมี่ของลูซิเฟอร์แล้ว และเวลากลางคืนก็เหลือเพียง 30 นาทีเท่านั้น

ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่นเมื่อรถแท็กซี่หยุดกลางถนน

ลูซิเฟอร์มองออกไปนอกหน้าต่างสังเกตว่า พวกเขาไปไม่ถึงอะคาเดมี่ เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “หยุดทําไม”

“ชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นข้างหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะตกจักรยาน” คนขับพูดขณะเปิดประตู และก้าวออกจากรถ

เมื่อลูซิเฟอร์ก้าวออกมา เขาสามารถเห็นชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น คร่ําครวญด้วยความเจ็บปวด ขณะจับหน้าอกของเขาไว้

จักรยานคันหนึ่งนอนอยู่บนพื้นใกล้เขา ดูเหมือนว่าเขาจะผ่านที่นี่เมื่อเขาล้มลง

คนขับและลูซิเฟอร์วิ่งขึ้นไปหาชายผู้นี้ ซึ่งดูเหมือนจะหายใจลําบากขณะจับหน้าอก

“ดูเหมือนว่าเขาจะมีอาการหัวใจวาย การโจมตีต้องเกิดขึ้นตอนที่เขาผ่านมาที่นี่ เราควรพาเขาไปโรงพยาบาล” คนขับแนะนํา

ลูซิเฟอร์เหลือบมองสร้อยข้อมือของเขา พลางขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าโชคของเขาจะแย่จริงๆ ในตอนนี้

“คุณพูดถูก ชีวิตเขาสําคัญกว่า” เขาพูด ในที่สุดขณะที่กําหมัดแน่น เขาอุ้มชายคนนั้นและพาไปที่รถแท็กซี่

ลูซิเฟอร์ยังนั่งอยู่ในรถแท็กซี่ขณะที่พวกเขาไปโรงพยาบาล ซึ่งค่อนข้างห่างไกลจากที่ที่พวก เขาอยู่พวกเขาใช้เวลามากกว่าครึ่งชั่วโมงเล็กน้อย เพื่อให้แน่ใจว่าลูซิเฟอร์ไม่มีทางย้อนเวลากลับไปได้

ลูซิเฟอร์ยอมแพ้ต่อโชคชะตาแล้ว เขาไม่สามารถทําอะไรได้ในสถานการณ์นี้ ชีวิตของชายคนหนึ่งตกอยู่ในอันตราย

หลังจากที่ชายคนนั้นเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว เขาก็เดินทางกลับโดยรถแท็กซี่ คราวนี้ก็เปลี่ยนไปใช้คันอื่น

รถแท็กซี่พาลูซิเฟอร์ไปที่อะคาเดมี่ แต่ก็สายไปเสียแล้ว มันเป็นเวลา 00.30 น.แล้ว และเขาไปสายครึ่งชั่วโมง

เขายืนอยู่ที่ทางเข้ามหาวิทยาลัย ลูซิเฟอร์ถอน หายใจ ขณะที่เขาสังเกตเห็นแสงสีแดงดวงที่ สองที่ส่องสว่างในสร้อยข้อมือของเขา

“อย่างน้อยก็เป็นครั้งที่ 2 ไม่ใช่ครั้งที่ 3” เขาพึมพําขณะยิ้มแหยๆ “ฉันต้องทํางานให้หนักขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ทําผิดกฎอีก ครั้งหน้าฉันจะระวังให้มากขึ้น”
เขาก้าวเข้าไปใกล้ประตูที่เปิดออก

“พ่อหนุ่ม เธอมาช้า ลืมเวลาไปหรือเปล่า” ยามถามลูซิเฟอร์ขณะให้บัตรประจําตัวแก่เขา

“ผมไม่ได้อยากจะมาช้าหรอกครับ ผมเดาว่าคุณคงพูดได้ว่าโชคไม่ดี เมื่อผมกําลังกลับมา ผมเห็นชายคนหนึ่งที่มีอาการหัวใจวายกลางถนน” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ผมจึงต้องพาเขาไปโรงพยาบาล แต่อย่างที่คุณเห็น ผมมาสาย แต่ไม่เป็นไรครับ” เขาอธิบายเพิ่มเติม

“หือ? เธอเสียสละหนึ่งในการลงโทษของเธอ เพื่อช่วยเหลือคนแปลกหน้าจริงๆเหรอ รู้ไหม มีคนไม่มากที่จะทําเรื่องแบบนี้” ยามผู้นั้นบอกกับลูซิเฟอร์

“นายเป็นผู้ชายที่มีเกียรติจริงๆ คราวหน้าระวังให้ดี เหลืออีกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น รักษาโอกาสสุดท้ายให้เหมือนกับว่าชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับมัน” เขากล่าวต่อในขณะที่เขาตบไหล่ของเขา

“ผมจะจําไว้ครับ”

ลูซิเฟอร์กลับไปที่ห้องของเขาและเคาะประตูที่ เจสันเปิดไว้

เขายังสังเกตเห็นแสงสีแดงดวงที่ 2 ในสร้อยข้อมือของลูซิเฟอร์ และเขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น มันเป็นเวลากว่า 00.30 น.แล้ว

ลูซิเฟอร์อธิบายให้เพื่อนร่วมห้องฟังอีกครั้ง เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างทางกลับและวิธีที่เขา ไม่มีทางเลือกอื่น

ในอีกห้องหนึ่ง แดชกําลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับยิ้ม

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วตั้งแต่คนของเขาให้ข้อมูลว่าลูซิเฟอร์ล้มเหลว แต่เขาก็ยังยิ้มไม่หุบ

ตอนที่ 214: โลกสีเทา

ลูซิเฟอร์และปู่จี้เดินเข้าไปในโรงหนัง ซึ่งคนค่อนข้างมีคนเนื่องแน่นอยู่แล้ว โชคดีที่ยังไม่เต็ม พวกเขานั่งบนที่นั่ง ขณะที่หนังกําลังจะเริ่ม

ไม่นานหนังก็เริ่มขึ้น เรื่องราวดูเรียบง่ายในช่วงแรก แต่มีบางอย่างที่ซับซ้อน เมื่อลูซิเฟอร์ดูหนัง

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่ชาย 2 คนที่พ่อแม่ถูกฆ่าตาย 1 ใน 2 พี่น้องได้เข้าร่วมกับแวเรียนท์ฝ่ายดี ในขณะที่น้องชายอีกคนเข้าร่วมแวเรียนท์ทมิฬทั้งหมดเพื่อแก้แค้น

พี่น้องทั้งสองมีความเชื่อต่างกัน เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เป้าหมาย และในที่สุดก็ส่งผลให้ทั้งสองคนกลายเป็นศัตรูกัน

เรื่องนี้บรรยายภาพการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขณะที่พวกเขาพยายามแก้แค้น และพยายามดิ้นรนในองค์กรของพวกเขา

ถึงอย่างนั้น เนื่องจากเป็นภาพยนตร์ที่ฝ่ายดีต้องชนะ มันบรรยายถึงแวเรียนท์ทมิฬในแง่ลบมากเกินไปจริงๆ ในตอนท้ายของหนัง น้องชายคนที่ 2 ตระหนักว่าเขาทําผิดพลาดโดยการเข้าร่วมแวเรียนท์ทมิฬ เขาทรยศคนของตนเองและเข้าร่วมกับแวเรียนท์ฝ่ายดี

2 พี่น้องสังหารแวเรียนท์ทมิฬและทําลายองค์ กรของฝ่ายร้าย พวกเขายังล้างแค้นทั้งหมดอีกด้วย และหนังก็จบลง

เสียงเชียร์ของฝูงชนดังก้องในโรงหนัง เมื่อภาพยนตร์จบลง แต่ลูซิเฟอร์ยังคงนิ่งเงียบ

เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่เขารู้สึกบางอย่างในตัวเขา ขณะดูหนังเรื่องนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าความรู้สึกนี้คืออะไร

“มันเป็นหนังที่โง่มาก” คุณปู่จี้พึมพํา ขณะยืนขึ้น “ไปกันเถอะ”

เขาและลูซิเฟอร์ออกจากโรงหนังและเดินไปตามถนน ซึ่งอยู่เคียงข้างกัน

“คุณปู่ทําไมถึงบอกว่ามันเป็นหนังที่โง่ล่ะ?”ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย
“เพราะพวกเขาเพิ่งแสดงให้แวเรียนท์ทมิฬเป็นสัตว์ประหลาด พวกเขาไม่ได้แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคนเหล่านั้นก็เป็นมนุษย์ที่มีความปรารถนา และอารมณ์ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังพยายามทําให้คนเหล่านั้นดูแย่ที่สุดเท่าที่จะทําได้”

“ปูหมายถึง หนังเรื่องนี้จะสมจริงกว่านี้มาก ถ้าพวกเขาไม่ได้ทําให้มันเป็นสีดําหรือสีขาว มีพื้นที่สีเทามากมายในระหว่างที่พวกเขาจะสํารวจมันได้” ชายชราตอบ

“คุณปู่ครับแวเรียนท์ทมิฬไม่เลวเหรอ? จากที่ผมได้ยินเกี่ยวกับพวกมัน มันค่อนข้างใกล้เคียงกันในหนัง” ลูซิเฟอร์ตอบ

“มันไม่เกี่ยวกับเลวหรือดี เพราะนิยามของมันคือคําตอบ คนดีก็ทําชั่วเหมือนกัน คนเลวก็ทําความดีเหมือนกัน” ปู่จี้ตอบ

“มันค่อนข้างซับซ้อน แต่ปู่เชื่อว่าตราบใดที่ผู้ค นมีความคิดเช่นนี้ เราจะไม่มีวันมีความสงบสุขที่แท้จริง”

“สันติภาพที่แท้จริง?” ลูซิเฟอร์ถาม

“ใช่ ไม่ว่าหลานจะไปที่ไหน หลานจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทําลายล้างและความตาย เพราะการต่อสู้ระหว่างแวเรียนท์ทมิฬและแวเรียนท์ที่ผดุงความยุติธรรม มันไม่มีที่สิ้นสุด” ชายชราตอบ

“โลกทั้งใบกําลังจมอยู่ในสิ่งที่ดูเหมือนสงครามเย็นที่จะยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ และปู่สงสัยว่ามันจะไม่หยุด อย่างน้อยก็ยังไม่จนกว่าทั้งสองฝ่ายจะนั่งที่เก้าอี้และพูดคุยเพื่อทําความเข้าใจซึ่งกันและกัน” เขากล่าวเพิ่มเติม

“แต่ปู่สงสัยว่ามันจะเกิดขึ้นตอนไหน โลกจําเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลง ปู่สงสัยว่ามันจะไม่มีวันเปลี่ยนไป เฮ้อ”

“อย่างที่พูด ปู่น่าจะตายก่อนที่จะได้เห็นโลกที่สงบสุขที่ไม่มีการฆาตกรรมและการทําลายล้าง วันหนึ่งพวกเราทุกคนจะทําลายโลกนี้ด้วยตัวเราเอง เราไม่จําเป็นต้องมีคนในคุกใต้ดินด้วยซ้ํา” เขากล่าวต่อ

คําพูดของเขาลึกซึ้ง ทําให้ลูซิเฟอร์จมดิ่งอยู่ในห้วงความคิด ต่างฝ่ายต่างต้องการทําลายกันและกัน

เป็นไปได้ไหมที่พวกเขาจะเปลี่ยนไป? เขาสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ แต่เมื่อเขาเข้าใจคุณปู่จี้ เขาเชื่อว่าชายชราพูดถูก

โลกนี้ไม่ได้ดําหรือขาว มีสีเทาจํานวนมากในนั้นด้วย

“ปู่หมายถึง ไม่ใช่แค่แวเรียนท์ แม้แต่มนุษย์ก็ทําแบบเดียวกัน ทําสงครามกับประเทศมนุษย์อื่น ๆ และทําลายล้างซึ่งกันและกัน เพื่ออะไร ปู่ไม่เข้าใจ โลกนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง” คุณปู่จี้กล่าวขณะที่ถอนหายใจ

“ปู่เดาว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อพระเจ้าเสด็จลงมา ทุบทุกคนลงกับพื้น และบังคับให้พวกเขามีชีวิตอยู่โดยไม่ทําลายสิ่งใดๆ แต่ถึงแม้จะเป็นไปไม่ได้” เขากล่าวต่อ

“อืม นี่มันวันเกิดหลาน เราไม่ควรคุยเรื่องพวกนี้ แล้วแผนต่อไปล่ะ?” คุณปู่จี้ถามโดยจําได้ว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง

“อ้อ จริงสิ ผมลืมไปเลย ตอนนี้ 2 ทุ่มแล้ว ไป กินข้าวเย็นแล้วรีบกลับกันเถอะ มิฉะนั้นผมจะกลับเข้าอะคาเดมีสาย ไปเร็วครับ” ลูซิเฟอร์ก็เดินออกไป ในขณะที่เขาหยุดแท็กซี่อีกคันและเข้าไปในโรงแรมราคาถูก

เขาและคุณปู่จี้ทานอาหารเย็นและออกจากโรงแรม

เป็นเวลา 10 โมงเช้า และถนนที่พวกเขาเดินเกือบจะว่างเปล่า

“เหลือเวลาอีกแค่ 2 ชั่วโมง ขากลับจะใช้เวลา 1 ชั่วโมง ผมเดาว่าเราเสร็จตรงเวลา” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมยิ้ม “ขอบคุณสําหรับวันที่สมบูรณ์แบบนี้ปู่!”

“ไม่สิ ปู่ต้องขอบคุณหลานแทนที่ใช้เวลาวันนี้ ร่วมกันกับปู่” ชายชราตอบพร้อมลูบหัวลูซิเฟอร์อีกครั้ง

“งั้นเดี๋ยวปู่ไปเรียกรถมา”

ขณะที่ชายชราเดินไปที่ถนนเพื่อหยุดรถแท็กซี่ เขาก็หยุดทันทีเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ กําลังวิ่งเข้ามาหาเขา

ดูเหมือนเด็กผู้หญิงอายุ 12 หรือ 13 ปี เสื้อผ้า ของเธอเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก และมีความกลัวบนใบหน้าของเธอ

มีผู้ชาย 2-3 คนกําลังไล่ตามเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ

ในไม่ช้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ก็มาถึงชายชรา ขณะที่เธอซ่อนอยู่ข้างหลังเขา “ช่วยด้วย! โปรดช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย!”

“สาวน้อย? ใครทําอะไรมา?” คุณปู่จี้ถาม

แม้แต่ลูซิเฟอร์ก็เข้าหาหญิงสาวด้วยสีหน้า ขมวดคิ้ว

“พวกมันลักพาตัวฉัน!” หญิงสาวพูดทั้งน้ําตาคลอเบ้า “ฉันสามารถหลบหนีมาได้เป็นเวลานานแล้ว และพวกมันกําลังไล่ตามฉันมาค่ะ! โปรดช่วยฉันด้วย ช่วยด้วย!”

“คุณปู่ คุณดูแลเด็กผู้หญิงคนนั้น ผมจะดูแลพวกเขาเอง” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับหักข้อนิ้วของเขา คนพวกนี้กล้าลักพาตัวเด็กจริงๆเหรอ? เขาไม่สามารถยืนดูเฉยๆได้

ไม่ว่าในกรณีใดพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังของเขา แต่เขาก็สามารถดูแลพวกมันได้อย่างง่ายดาย

“เจ้าหนู! ออกไปจากเส้นทางของเราซะ! ผู้หญิงคนนั้นเป็นของเรา!” ชายวัยกลางคนหนึ่งในสี่คนบอกกับลูซิเฟอร์ “ถ้านายให้เธอกับเรา เราจะอนุญาตให้นายและชายชราคนนั้นออกไปอย่างปลอดภัย”

“แกคิดจริงๆ เหรอว่าแกอยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจว่าเราจะจากไปอย่างปลอดภัยหรือไม่” ลูซิเฟอร์ตอบพลางขมวดคิ้ว

“ดูเหมือนแกจะไม่เข้าใจสินะ!” ชายคนนั้นพูด ขณะที่เขาวิ่งไปทางลูซิเฟอร์ โจมตีเขาด้วยมือเปล่า

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะเย้ยหยันการโจมตีครั้งนี้ หลังจากฝึกฝนมา 3 ปี การโจมตีของมือสมัครเล่นเหล่านี้ดูไร้เดียงสา

ลูซิเฟอร์ขยับไปด้านข้างอย่างสงบ ในขณะที่เขาหลบหมัด พลางใช้สองนิ้วตีคอของชายคนนั้น

ตอนที่ 213: การแก้แค้นของแวเรียนท์

“ปู่ครับ ผมคุยกับเพื่อนๆ และตอนนี้ผมรู้สถานที่ดีๆ ที่ต้องไปให้ได้ทั้งหมดแล้ว เราจะไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยไปสวนสนุก”

“หลังจากนั้นเราจะดูหนังกัน แล้วก็ทานอาหารเย็นในคืนก่อนกลับ เป็นยังไงบ้าง?” ลูซิเฟอร์ถามชายชราขณะเข้าไปในรถแท็กซี่

ก่อนที่ชายชราจะตอบลูซิเฟอร์กล่าวต่อ “และอย่ากังวลเรื่องเงินเลย เนื่องจากผมได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นเวลา 3 ปี ผมก็ได้รับรางวัลเป็นเงินมากมายเช่นกัน”

ชายชรามองดูลูซิเฟอร์ ซึ่งตอนนี้อายุ 17 ปี ใบ หน้าของลูซิเฟอร์ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าตอนที่เขายังเด็ก

ใบหน้าของเขาดูมีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่านายแบบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยชีวิตและดึงดูดผู้อื่นให้เข้ามาหาเขา

ส่วนผมสีเงินยาวของเขาถูกมัดเป็นหางม้าตรงด้านล่าง ซึ่งดูจะเหมาะกับเขา ทําให้เขาดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

“ไม่ วันนี้เป็นของขวัญของปู่ ปู่จะจ่ายทั้งหมด เอง” คุณปู่จี้ตอบลูซิเฟอร์ขณะยิ้ม

“แต่คุณปู่-”

“ไม่ แต่! คุณจําได้ไหมว่าวันนี้วันอะไร” ชายชราถามพลางตัดคําพูดของลูซิเฟอร์ให้สั้นลง

“วันนี้เหรอ วันอังคารใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

“หลานลืมจริงๆ” ชายชราตอบในขณะที่เขาหัวเราะ

“วันนี้เป็นวันที่ 3 ของเดือนมกราคม วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ ตอนนี้เธออายุ 17 ปีอย่างเป็นทางการแล้ว” คุณปู่จําพูดขณะลูบหัวของลูซิเฟอร์

“สุขสันต์วันเกิดหลานรักของฉัน ฉันมีความสุขมากที่มีคุณอยู่ในชีวิตของฉัน”

ชายชราไม่รู้ว่าวันเกิดของลูซิเฟอร์เป็นวันใด เขาจึงถือว่าวันที่พบลูซิเฟอร์เป็นวันเกิดของเขาวันนี้เป็นเวลา 7 ปีแล้วที่ชายชราพาลูซิเฟอร์ออกจากทะเล

“ผมก็เช่นกัน” ลูซิเฟอร์ตอบขณะกอดชายชราแน่น “ผมลืมไปจริงๆ ขอบคุณที่ยังจํากันได้

เมื่อได้ยินการสนทนาของทั้งสอง คนขับรถแท็กซี่ก็เริ่มยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

“เอ่อ พวกคุณจะเก็บอารมณ์ไว้ก่อนดีไหม แล้วช่วยบอกผมหน่อยว่าเราจะไปไหน เราจอดนิ่งอยู่ตั้งแต่พวกคุณนั่ง” เขากล่าว

“อเล็กซ์ เราจะทําตามแผนของหลาน บอกเขาว่าจะไปที่ไหน” คุณปู่จี้บอกลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋าและอ่านจุดหมายแรก

“โรงแรมทรานเซีย บนถนนเซเว่น” เขาบอกคนขับ

ในที่สุด รถแท็กซี่ก็เริ่มทํางานเมื่อไปถึงโรงแรมที่ลูซิเฟอร์พูดถึง

ในระยะไกล รถคันอื่นเริ่มตามรถแท็กซี่ ภายในรถมีคนมากมาย ไม่ใช่แค่ชายผมดําเท่านั้น

อันที่จริง มีแม้กระทั่งเด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนอายุ 12-13ปี

ลูซิเฟอร์และคุณปู่จิ้ลงจากรถแท็กซี่ขณะจอดที่ทางเข้าโรงแรมขนาดใหญ่ คุณปู่จี้ประหลาดใจที่เห็นพวกเขามาที่ราคาแพงแห่งนี้

ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นความกังวลบนใบหน้าของชายชรา เขาตระหนักว่าคุณปู่ของเขาไม่รวย และเขาคงไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรมนี้

น่าเสียดายที่เมื่อเขาวางแผนวันและจุดหมายปลายทาง เขาคิดว่าเขาจะจ่ายด้วยเงินรางวัลของเขา

เขาไม่รู้ว่าคุณปู่ชีจะยืนกรานที่จะจ่ายเงิน เขาไม่ต้องการให้ชายชรารู้สึกเขินอายต่อหน้าเขา ดังนั้นเขาจึงเล่นกลเล็กน้อย

“นี่คือ โรงแรมทรานเซียเหรอ ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นสถานที่ที่น่ารัก สถานที่ขนาดใหญ่นี้ดูน่าเกลียดมาก ฉันไม่อยากกินอะไรที่นี่ ความคาดหวังที่ยอดเยี่ยมทั้งหมดนั้นลดลง สถานที่นี้น่าผิดหวังจริงๆ” ลูซิเฟอร์ พูดโดยปล่อยให้คุณปู่ของเขาได้ยิน ในขณะที่ทําให้แน่ใจว่าเสียงของเขาจะไม่ไปถึงเจ้าหน้าที่โรงแรม

“มาเถอะ ไปหาที่ที่ดีกว่ากันเถอะ” เขาพูดขณะจับมือชายชรา

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ปฏิเสธสถานที่ราคาแพงแห่งนี้ ชายชราก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขากังวลมากว่าจะจ่ายค่าโรงแรมนี้อย่างไร

“อ๊ะ นั่นมัน! สถานที่นั้นน่ารักจังเลย! ปู่ ผมอยากกินที่นั่น! เราไปที่นั่นได้ไหม” จู่ๆ ลูซิเฟอร์ก็ถามชายชราขณะดึงมือเหมือนเด็กน้อย

คุณปู่จิ้มองไปทางที่ลูซิเฟอร์กําลังชี้ไป เมื่อเห็นสถานที่นั้น เขาก็ส่ายหัว

“หลานอยากกินที่แผงขายราคาถูกนั่นเหรอ มันเป็นวันเกิดของหลาน เราทําแบบนั้นไม่ได้” คุณปู่จี้พูดขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์กําลังพูดถึงการทานอาหารที่แผงขายริมถนน

“มาเถอะ ผมได้ยินมาว่าสถานที่เหล่านั้นเสิร์ฟอาหารเลิศรสได้โปรดคุณปู่” ลูซิเฟอร์ยืนกราน

เขารู้ว่าที่แห่งนี้ถูก แต่จะช่วยประหยัดเงินของชายชราได้ ไม่ว่าในกรณีใด มันไม่เหมือนกับว่าอาหารที่พวกเขาเสิร์ฟนั้นไม่ดี เป็นเพียงว่าพวกเขาไม่มีโครงสร้างพื้นฐานของโรงแรมขนาดใหญ่

“เฮ้อ ได้ ปู่ไม่ทําให้วันเกิดเด็กน้อยของปู่ผิดหวัง” ในที่สุดคุณปู่ก็ใจอ่อน เมื่อเขาเริ่มเข้าใกล้แผงลอยกับลูซิเฟอร์

ทั้งสองสั่งอาหารเช้าสําหรับตัวเอง ซึ่งเสิร์ฟภายในไม่กี่นาที

มีเก้าอี้ธรรมดา 2-3 ตัววางอยู่รอบๆ แผงขายของ โดยที่พวกเขาทั้งสองนั่งลงขณะที่พวกเขาเริ่มรับประทานอาหาร

“อืม ดีมาก” ลูซิเฟอร์ให้ความเห็นขณะรับ ประทานอาหารเช้า มันไม่ได้แย่เลยจริงๆ เขามีความสุขกับการเลือกที่นี่

“หลานพูดถูก อาหารอร่อยจริงๆ” ชายชราเห็นด้วย

หลังจากทําเสร็จแล้ว คุณปู่จี้ก็จ่ายบิลซึ่งจริงๆ แล้วที่นี่ถูกมาก

“ไปไหนต่อ?” เขาถามลูซิเฟอร์

“ต่อไปคือจุดเปลี่ยนของสวนสนุก ในเมืองมีที่ดีๆ จริงๆ” ลูซิเฟอร์ตอบ

ทั้งสองจองรถแท็กซี่อีกคันขณะไปที่สวนสนุกที่ลูซิเฟอร์พูดถึง

เมื่อเข้าไปในสวนสาธารณะ ทั้งสองก็เริ่มสนุกไปด้วยกัน ชายหนุ่มและชายชราเดินด้วยกันในสวนสนุก นั่งบนเครื่องเล่นที่พวกเขาพบว่าสนุก

พวกเขายังกินไอศกรีมและไปบ้านผีสิงด้วยกัน

พวกเขาใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงในสวนสนุก และตอนนี้ก็ 4 โมงเย็นแล้ว

“ไปเล่นอย่างอื่นต่อไหมครับ” ชายชราถามลูซิเฟอร์เมื่อพวกเขาออกมาจากชิงช้าสวรรค์

“ไม่ ผมคิดว่าเราได้ทําเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว ไปต่อกันที่รายการถัดไปในตารางกัน ดูหนัง! ผมได้ยิน เพื่อนบอกว่ามีหนังดีๆ ที่เพิ่งเข้าฉาย!”

ลูซิเฟอร์และคุณปู่จออกจากสวนสนุกและไปที่โรงละครที่ใกล้ที่สุด ซึ่งพวกเขาซื้อตั๋วหนังที่ลูซิเฟอร์พูดถึง

ชายผมดําไม่ทิ้งร่องรอยไว้ในขณะที่เขายังคงต้องดําเนินแผนการต่อไป

ภาพยนตร์ที่ลูซิเฟอร์เลือกเป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่บรรยายการต่อสู้ของแวเรียนท์ทมิฬ และ แวเรียนท์ ที่ชอบธรรม.. เป็นภาพยนตร์ที่ชื่อว่า “การแก้แค้นของแวเรียนท์”

กอยมี่ 212: คําเชิญอื่ย

โนวายอนู่ข้างหลัง ขณะมี่เขาเหลือบทองลูซิเฟอร์

“อเล็ตซ์ ทาตับฉัยเดี๋นวยี้” เขาพูด พลางวางทือบยไหล่ของลูซิเฟอร์ “ส่วยมี่เหลือออตไปได้แล้วพรุ่งยี้เจอตัย”

ลูซิเฟอร์พนัตหย้า ขณะมี่เขาเดิยกาทโนวายไปแก่เขาต็นังตังวลอนู่เขาได้เปิดเผนควาทลับของโนวายเพื่อมี่จะชยะโนวายจะลงโมษเขาใยเรื่องยี้หรือไท่? มําไทเขาถึงพากยเองไป?

ลูซิเฟอร์ และ โนวาย ตําลังเดิยผ่ายทหาวิมนาลันโดนไท่พูดอะไร

“อาจารน์จะพูดอะไร”

หลังจาตลูซิเฟอร์ถาทเทื่อยั้ยเองโนวายจึงเริ่ทพูด

“วัยยี้เธอนุ่งตับฉัยเติยไปจริงๆเพื่อตารยั้ยฉัยจะลงโมษเธอ”โนวายกอบ

“เอ่อ อาจารน์ ผทไท่ได้กั้งใจจะ”

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”

เทื่อได้นิยคําพูดของโนวาย ลูซิเฟอร์ต็เริ่ทอธิบานด้ายข้างของเขา แก่ต่อยมี่เขาจะพูดจบโนวายต็หัวเราะออตทา

“ฉัยล้อเล่ยยะไอ้กัวเล็ต ฉัยจะเป็ยคยแบบไหยถ้าฉัยอารทณ์เสีนจาตเรื่องยั้ย” โนวายถาทพลางหัวเราะ “อัยมี่จริงสิ่งมี่คุณมํายั้ยฉลาดทาต”

“ฉัยแค่อนาตจะบอตว่าฉัยภูทิใจใยกัวคุณทาตและฉัยก้องตารเชิญคุณไปมี่ครอบครัวของฉัย คุณก้องตารเข้าร่วทครอบครัวของฉัยไหทฉัยรู้ว่าคุณทีปู่เพีนงคยเดีนวเขาสาทารถเข้าร่วทตับคุณได้กราบใดมี่คุณกอบว่าใช่”เขาอธิบานเพิ่ทเกิท

“ด้วนควาทสักน์จริง คุณทีโอตาสมี่ดีสําหรับอยาคกและครอบครัวมี่นิ่งใหญ่จํายวยทาตก้อ งตารให้คุณเข้าร่วทและเป็ยตารดีสําหรับคุณมี่จะเข้าร่วทด้วนเช่ยตัยเยื่องจาตคุณจะได้รับตาร สยับสยุยและมรัพนาตรทาตทานแก่ใช่ฉัยเชื่อว่าครอบครัวของฉัยจะนอดเนี่นทสําหรับคุณ” เขาตล่าวก่อ
ยี่เป็ยครั้งมี่สองมี่ลูซิเฟอร์ได้รับข้อเสยอดังตล่าว ครั้งแรตมี่แดชเป็ยคยเสยอสิ่งยี้เพื่อให้เขาเป็ยมาสของเขาสําหรับกอยยี้ทัยเป็ยข้อเสยอมี่ เหทาะสทมี่จะเป็ยสทาชิตระดับสูงของกระตูลมี่นิ่งใหญ่

“ผทขอโมษ แก่ผทไท่คิดว่าผทก้องตารเข้าร่วทครอบครัวมี่นิ่งใหญ่ผทสบานดีโดนไท่ทีมรัพนาตรมั้งหทดมี่ผทก้องตารคือตารใช้เวลาอนู่ตับคุณปู่จ”ลูซิเฟอร์กอบ

“ไท่เป็ยไร ไท่ก้องกอบกอยยี้ข้อเสยอยี้เปิดรับคุณอนู่เสทอ” โนวายกอบโดนไท่อารทณ์เสีน

“พรุ่งยี้คุณจะไปพบคุณปู่ของคุณใช่ไหทบอตเขาเตี่นวตับข้อเสยอยี้ บางมีเขาอาจสยใจ”

“อืท ผทจะคุนตับเขา ถ้าเขาบอตว่าทัยเป็ยเรื่องดีผทจะคิดให้รอบคอบ”ลูซิเฟอร์กอบพร้อทพนัตหย้า

“ต็ดี ทีเรื่องพูดแค่ยั้ยแหละออตไปได้แล้ว”

โนวายตล่าวคําอําลาลูซิเฟอร์ขณะมี่เขาจาต

ลูซิเฟอร์เดิยตลับไปมี่ห้องของเขาซึ่งเจสัยและเควิยตําลังพัตผ่อยอนู่

“ขอกัวต่อยได้ไหท” เควิยถาทมัยมีมี่ลูซิเฟอร์เข้าทาเขาไท่ก้องรอคํากอบด้วนซ้ําเพราะพวตเขาคุ้ยเคนตับชันชยะของลูซิเฟอร์แล้วอัยมี่จริง
ณ จุดยี้ตารสูญเสีนของลูซิเฟอร์จะเป็ยเรื่อง แปลต

ลูซิเฟอร์นตทือขึ้ยเผนให้เห็ยแหวยแห่งชันชยะให้เพื่อยร่วทห้องเห็ย

“อน่างมี่คาดไว้ อน่างไรต็กาท ปาร์กี้วัยยี้เป็ยของยาน”เควิยนิ้ทออตทา

หลังจาตปาร์กี้สั้ยๆ ลูซิเฟอร์เข้ายอยเร็วเพราะก้องตารกื่ยแก่เช้าเพื่อไปตับคุณปู่ของเขา เขากื่ยเก้ยเติยไปเตี่นวตับวัยพัตผ่อยของเขา

ด้วนเสีนงยตร้องเจี๊นต ๆ วัยใหท่ต็ทาถึงพระอามิกน์เริ่ทขึ้ยมี่ขอบฟ้าเทื่อทีเสีนงเกือยดังขึ้ย ใตล้ๆ ตับหูของลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ลืทกาขึ้ยอน่างกื่ยเก้ย ถึงเวลาเกรีนทกัวและออตเดิยมาง

เขาปิดยาฬิตาปลุตเพื่อไท่ให้รบตวยคยอื่ยต่อยจะไปอาบย้ํา

ออตทาจาตห้องอาบย้ํา เขาเป่าผทนาวของเขาให้แห้งต่อยจะทัดผทหลังแก่งกัว

7 โทงเช้า และลูซิเฟอร์ต็พร้อทเก็ทมี่

เขาทองน้อยตลับไปมี่คยอื่ยๆ มี่นังคงหลับอนู่ต่อยจะจาตไปโดนไท่บอตพวตเขา

เขาเดิยกรงไปมี่มางเข้าของอะคาเดที่ ซึ่งเขาพบตาร์ดคยเดิทมี่พาเขาเข้าไปข้างใยใยวัยแรต

“เธอเองสิยะ ฉัยได้นิยทาว่าเธอตลานเป็ยดาวรุ่งของสถาบัย นิยดีด้วน หยุ่ทย้อน” เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันพูดตับลูซิเฟอร์ขณะมี่เขาจํา เขาได้

“ขอบคุณ” ลูซิเฟอร์กอบ

“ว่าแก่ อะไรพาเธอทามี่ยี่” นาทต็ถาทก่อไป

“ฉัยก้องตารใช้สิมธิพิเศษของแหวยของฉัยเพื่อออตจาตทหาวิมนาลันเป็ยเวลา 1 วัย” ลูซิ เฟอร์ตล่าวขณะมี่เขาแสดงแหวยให้นาท

“ได้ ให้ฉัยลงมะเบีนยรานละเอีนดของคุณ ส่งบักรประจํากัวของคุณทาให้ฉัย”เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันกอบขณะนื่ยทือไปมางลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ยําบักรประจํากัวประชาชยออตทาจาตตระเป๋ามี่เขาได้รับเทื่อครั้งนังใหท่

บักรประจํากัวได้บัยมึตรานละเอีนดมั้งหทดของ เขารวทมั้งชื่อ เลขประจํากัว เลขมะเบีนย ID กัวจําตัดและอื่ยๆอีตทาตทาน

“ได้ ออตไปได้แล้ว เต็บบักรเทื่อคุณตลับทาอน่าลืทตลับทาต่อยเมี่นงคืย” นาทบอตตับลูซิเฟอร์ขณะเต็บบักรประจํากัว

เขาเปิดประกูให้ลูซิเฟอร์

“ขอบคุณ ผทจะจําไว้” ลูซิเฟอร์ขอบคุณนาทต่อยจะต้าวออตจาตวิมนาเขก

ใยมี่สุด หลังจาตเตือบ 3 ปี เขาตําลังจะไปปีตยิตตับปู่ของเขา

ลูซิเฟอร์เริ่ทรอให้ปู่ของเขาทาถึง โดนนืยอนู่กรงมางเข้าโรงเรีนยยอตประกู
เขาไท่รู้ว่าคยๆ หยึ่งตําลังเฝ้าดูเขาอนู่ไตลๆคอนจับกาดูมุตน่างต้าวของเขา

บุคคลยั้ยเป็ยชานผทสีเข้ทมี่ดูเหทือยเขาอานุ 20ตลางๆ เขาทีใบหย้าตลทแก่กาเหทือยยต อิยมรี

ชานคยยั้ยหนิบโมรศัพม์ออตทาจาตตระเป๋าตางเตง ขณะโมรหาใครซัตคย

ภานใยอะคาเดทียั้ย แดชตําลังเกรีนทพร้อทสําหรับชั้ยเรีนยเทื่อโมรศัพม์ของเขาเริ่ทดังขึ้ย

เขาเดิยไปมี่เกีนงและหนิบโมรศัพม์ขึ้ยทา

“ฮัลโหล?”

“บอสย้อน คุณพูดถูต ฉัยเห็ยผู้ชานคยยั้ยยอตสถาบัยดูเหทือยว่าเขาตําลังรอใครซัตคยอนู่”

“ถูตก้อง ฉัยเดาว่าเขาตําลังรอปู่ของเขาอนู่มัยมี่มี่พวตเขาจาตไป จงกาทพวตเขาไป และมํามุตอน่างกาทแผยมี่วางไว้ยี่เป็ยโอตาสมี่สทบูรณ์แบบ” แดชกอบชานคยยั้ย

“หาตคุณล้ทเหลวแท่ใยงายง่านๆ ควาทฝัยของคุณมี่จะเข้าร่วทครอบครัวฟรายซีของเราจะนังคงเป็ยควาทฝัยจําไว้!” เขาพูดก่อต่อยจะกัดสาน

ชานผู้จ้องเขท็งเต็บโมรศัพม์ไว้ใยตระเป๋าเสื้อโดนนืยอนู่ห่างไตลจาตลูซิเฟอร์

“ฉัยไท่พลาด ฉัยจะมําสําเร็จและเข้าร่วทครอบครัวผู้นิ่งใหญ่ฉัยจะเป็ยผู้ทีอิมธิพลทาตขึ้ย”เขาพึทพําเบา ๆ

“อเล็ตซ์!”

ใยมี่สุดคุณปู่จี้ต็ทาถึงโรงเรีนยหลังจาตมี่ลูซิเฟอร์รอเป็ยเวลา 5 ยามี

“คุณปู่! ใยมี่สุดคุณต็ทาถึงแล้ว ไปตัยเถอะเราทีเวลาแค่วัยเดีนวอน่าให้เสีนเปล่า”ลูซิเฟอร์วิ่งออตไปขณะมี่เขาวิ่งไปหาคุณปู่
เขาจับทือชานชราและเริ่ทจาตไป

ใยระนะไตลชานผทดําต็เริ่ทกิดกาทพวตเขา

กอยมี่ 211: วัยหนุด

ใยไท่ช้ลูซิเฟอร์ต็ไปถึงกรงหย้าของทอร์เบีนส ซึ่งเพิ่งหลบตารโจทกีจาตแคสเซีนสอีตครั้ง

เทื่อลูซิเฟอร์อนู่ใตล้ตับทอร์เบีนส แคสเซีนสต็หนุดตารโจทกีของเขาและปล่อนให้ลูซิเฟอร์สยุต

และด้วนเหกุยี้ตารก่อสู้ประชิดกัวระหว่างทอร์เบีนสตับลูซิเฟอร์จึงเริ่ทขึ้ย ขณะมี่ทอร์เบีนสใช้ควาทรู้และมัตษะมั้งหทดของเขา ลูซิเฟอร์ใช้ควาทแข็งแตร่งและควาทเข้าใจใยเมคยิคตารป้องตัยกัว

เขานังคงโจทกี ใยขณะมี่หนุดตารโจทกีของทอร์เบีนส
เช่ยเดีนวตับมี่ลูซิเฟอร์ทีพละตําลังทหาศาลเป็ยของขวัญของกยเอง ทอร์เบีนสทีตารป้องตัย ซึ่งมําให้เขาปลอดภันแท้จะมําตารโจทกีมั้งหทด ทอร์เบีนสเป็ยมี่รู้จัตใยยาทแมงค์ ใยหทู่เพื่อยร่วทงายของเขา

“5 ยามีเสร็จแล้ว หนุด!” จู่ๆ อเล็ตซี่ต็พูดขึ้ย ขณะมี่เขานืยขึ้ย เขาหนุดตารก่อสู้เทื่อดูเหทือยทอร์เบีนสตําลังจะจริงจัง

ทอร์เบีนสเหลือบทองตลับทามี่อเล็ตซี่ เข้าใจว่าเหกุใดเขาจึงมําอน่างยั้ย เหลือเวลาอีต 30 วิยามีใย 5 ยามี แก่อเล็ตซิโตหตว่าหทดเวลาแล้ว

เขาเข้าใจดีว่าอเล็ตซี่ตังวลว่าเขาจะมําร้านเด็ต ๆ กอยยี้ว่าเขาเริ่ทจริงจังแล้ว
เขาไท่พูดอะไรเพีนงแค่พนัตหย้า

“อเล็ตซ์และแคสเซีนส คุณมั้งคู่มําได้ดี ทาดูคะแยยมี่คุณได้รับตัยเถอะ” ทอร์เบีนสพูดพร้อทสงบสกิอารทณ์

คยแรตมี่พูดคือโนวาย “แคสเซีนส พรสวรรค์ของคุณมรงพลังจริงๆ และเทื่อคุณสร้างระนะห่างจาตศักรู ทัยนาตจริงๆมี่จะมําให้คุณล้ทลง สิ่งมี่คุณพลาดคือตารป้องตัยใยตรณีมี่กัวคยเดีนว แก่ทัยต็ใช้ได้ดีใยตารมดสอบยี้ 5 คะแยยจาตฉัย”

“สําหรับอเล็ตซ์ ทัยนาตตว่าทาตมี่จะป้องตัยกัวเอง เทื่อคุณอนู่ใตล้ศักรู แก่คุณไท่โดยตารโจทกีแท้แก่ครั้งเดีนว แท้แก่ฉัยต็นังแปลตใจตับเรื่องยี้ ควาทกระหยัตใยกยเองและตารคิดมี่รวดเร็วของคุณมั้งคู่ ค่อยข้างดี คุณแสดงได้ดี 5 คะแยยให้ตับคุณด้วน”

โนวายนตน่องเด็ตมั้งสองต่อยจะให้คะแยย

ก่อไปเป็ยกาของทิราลี่

“แคสเซีนส ฉัยคิดว่าคุณทีควาทเสี่นงใยกอยแรต และถ้าไท่ใช่อเล็ตซ์ คุณคงลําบาตใจ กั้งแก่ทอร์เบีนสเข้าใตล้คุณ คําแยะยําของฉัยคือรัตษาระนะห่างของคุณไว้เสทอ แท้ว่าทัยจะเป็ยจุดเริ่ทก้ย เพราะควาทประทามเลิยเล่อของคุณ ใยกอยเริ่ทก้ย ฉัยจะให้ 4 คะแยยแต่คุณ”

“และอเล็ตซ์ ฉัยไท่สาทารถพูดอะไรเตี่นวตับสิ่งมี่คุณมําผิดได้ ถ้าเป็ยเรื่องมางเมคยิค คุณจะได้ห้ามี่สทบูรณ์แบบ ย่าเสีนดานมี่ไท่ใช่อน่างยั้ย เพราะฉัยสังเตกเห็ยอน่างอื่ยด้วน”

“เทื่อศักรูของคุณอนู่ไตลจาตคุณ และแคสเซีนส รัตษาระนะห่างจาตเขา คุณจึงวิ่งไปหาศักรู และเข้าใตล้เขาโดนไท่จําเป็ย แท้ตระมั่งปิดตั้ยคู่หูของคุณด้วนเหกุยี้”

“ยั่ยเป็ยควาทประทามและไท่ใช่คยมี่ก้องตารรัตษากัวเองให้ปลอดภัน ฉัยขอโมษ แก่ฉัยจะให้ คุณ 2 คะแยยเม่ายั้ย สําหรับเรื่องยั้ย”
ควาทผิดหวังปราตฏชัดบยใบหย้าของทิราลี่ เทื่อเธอให้คะแยยลูซิเฟอร์

ก่อไปเป็ยกาของฟรายซี

“ฉัยเห็ยด้วนตับทิราลี่ สิ่งมี่อเล็ตซ์มํายั้ยประทาม แก่แล้วอีตครั้ง ฉัยจะให้คะแยยเขาใยด้ายเมคยิคเม่ายั้ย และตารป้องตัยของเขาต็สทบูรณ์แบบ ดังยั้ย 5 แก้ทจาตฉัยด้วน“ฟรายซีตล่าวซึ่งส่งนิ้ทให้ลูซิเฟอร์
เขาเหลือบทองแคสเซีนส ขณะมี่เขาพูดก่อ “สําหรับแคสเซีนส ฉัยไท่เห็ยคุณมําอะไรทาตยัต ยอตจาตตารโจทกี แก่ใช่คุณควรจะระทัดระวังทาตขึ้ยใยกอยเริ่ทก้ย 4 คะแยยจาตฉัยด้วน”

“คุณตลับไปได้แล้ว “ทอร์เบีนสบอตมั้งสองคยให้เดิยตลับไป

“ฉัยขอโมษมี่บล็อตตารโจทกีของยานลูซิเฟอร์ขอโมษแคสเซีนส ขณะมี่เขานืยตลับทามี่กําแหย่งของเขา

“เฮ้ มําไทยานก้องเสีนใจด้วน ยานมําได้ดีทาต เขาแค่หลบตารโจทกีของฉัยแบบยั้ย ยานไท่ได้มําอะไรผิด มี่จริงแล้ว ยานสาทารถโจทกีเขาได้ 2-3 หทัด ซึ่งทัยดีทาตแคสเซีนสกอบพลางนิ้ท

“ก่อไปแดชและเดรน์!“ทอร์เบีนสเรีนตมั้งสองคยออตทา

อีต 2 คยต้าวไปข้างหย้า

ใยไท่ช้ตารก่อสู้ต็เริ่ทขึ้ยเทื่อเด็ต 2 คยโจทกี ทอร์เบีนสเหทือยเทื่อต่อย ใยขณะมี่เดรน์ ก่อสู้ใยระนะประชิดเหทือยมี่ลูซิเฟอร์มําใยยัดมี่แล้ว แดชนังคงอนู่บยม้องฟ้า ใยขณะมี่เขาใช้ลทของเขาขณะโจทกี

ย่าเสีนดานมี่เดรน์ไท่ใช่ลูซิเฟอร์ เขากาทอาจารน์ของกยเองไท่มัย ใยขณะมี่เขายอยอนู่บยพื้ย หทดสกิภานใยยามีแรตของตารก่อสู้
ดูเหทือยว่าทอร์เบีนสจะจริงจังใยครั้งยี้

เขาเหลือบทองขึ้ยไปมี่มี่แดชตําลังบิยอนู่เหยือพื้ยดิยเพีนง 15 ฟุก
ทอร์เบีนสวิ่งไปมางแดช ต่อยจะตระโดด เขาโดดสูงจยแดชกตใจ

เขาไท่คิดว่าทอร์เบีนสจะตระโดดได้สูงขยาดยี้ ต่อยมี่เขาจะรู้กัวทอร์เบีนสจับขาของเขา ซึ่งนังคงโจทกีแดชอนู่เรื่อนๆ
ไท่ยายต่อยมี่แดชจะเริ่ทล้ทลง ใยไท่ช้าเขาต็กตลงบยพื้ยโดนยอยอนู่ใก้เม้าของทอร์เบีนส
เทื่อนืยอนู่ใยระนะไตล ลูซิเฟอร์และแคสเซีนสก่างประหลาดใจ เหกุใดจึงดูเหทือยทอร์เบีนสมี่พวตเขาเผชิญหย้า และทอร์เบีนสมี่แดชเผชิญหย้าเป็ยคยมี่แกตก่างตัย? ทอร์เบีนสมําได้ดีทาตกอยยี้?

พวตเขาอดไท่ได้มี่จะสงสันว่าทอร์เบีนสยั้ยให้แบบมดสอบง่านตับพวตเขาหรือไท่

2 ยามีผ่ายไปแล้ว พวตเขาใช้เวลาเพีนง 2 ยามีต่อยมี่ตารก่อสู้จะจบลง
เดรน์นังคงสลบอนู่ แก่แดชนังคงยอยอนู่ เขาสาทารถนืยขึ้ยได้ หลังจาตมี่ทีตารประตาศว่าตารก่อสู้สิ้ยสุดลง

“ฉัยล้ทเหลวจริงๆ! ฉัยสอบกต สิ่งยี้ไท่ควรเติดขึ้ย ฉัยจะมําอะไรดีใยกอยยี้? แดชคิด ใยขณะมี่เขาเริ่ทปวดหัว เขารู้ว่าเขาล้ทเหลว

“เอาล่ะ ไท่จําเป็ยก้องมําคะแยย เทื่อคุณมั้งคู่ล้ทลงตับพื้ย คุณมั้งคู่ไท่ผ่ายตารมดสอบ แก่เยื่องจาตคุณผ่ายตารมดสอบ 2 ครั้งแรต คุณนังคงผ่ายตารมดสอบโดนรวท คุณจะไท่ได้รับคะแยยใยตารมดสอบครั้งมี่ 3 พวตคุณสาทารถตลับไปได้”ทอร์เบีนสบอตแดช

เขาทองไปมี่เวยกัย ขณะมี่เขาพูดก่อ “เวยกัย พาเขาไปมี่ห้องพนาบาล ฉัยนังก้องมดสอบก่อไป”

เวยกัยลุตขึ้ยและเดิยไปมี่สยาทตีฬาต่อยมี่เขาจะพาเดรน์ไปด้วน

“ก่อไป รูย และ เร็ย ต้าวทาข้างหย้า “ทอร์เบีนสเรีนตพวตเขาออตทา

“ดูเหทือยว่าตารก่อสู้ครั้งแรตจะมําให้ทอร์เบีนสใยลุคมี่ดูจริงจังออตทา ย่าเสีนดานมี่เด็ตๆช่วงหลังก้องเจอด้ายยั้ยของเขา“โนวายตล่าวพร้อทตับถอยหานใจ

“อน่างย้อนเขาต็นังคงควบคุทกัวเองและไท่มําร้านพวตเด็ตๆ ไท่เป็ยไรหรอต“ทิราลี่พูดแมรต

รูยและเร็ยเริ่ทก่อสู้เช่ยตัย แก่ผลลัพธ์ต็ดูคล้านตัยเล็ตย้อน รูยยอยอนู่บยพื้ยหทดสกิภานใยยามีแรตเอง สําหรับเร็ย เขากื่ยกัว ดังยั้ยเขาจึงคอนหลบตารโจทกี

ถึงอน่างยั้ย เขาไท่สาทารถอนู่ได้ถึง 5 ยามี ใยขณะมี่เขาพบว่ากัวเองอนู่ใก้เม้าของทอร์เบีนสภานใยยามีมี่ 4

“พวตเธอมั้งสองต็ล้ทเหลวเช่ยตัย ตลับไปได้“ทอร์เบีนสพูดอน่างใจเน็ย ขณะมี่เขานตร่างของรูยขึ้ยทา

“ฉัยว่าผลสอบสุดม้านของปี 3 ต็ชัดเจยแล้ว อเล็ตซ์คือมี่ 1 แคสเซีนสเป็ยอัยดับ 2 และ…“

ทอร์เบีนสประตาศผลอน่างรวดเร็ว ต่อยมี่เขาจะจาตไปพร้อทตับรูยเพื่อพาไปดูแลด้วนกยเอง

“ไปตัยได้แล้ว พรุ่งยี้ชั้ยปี 4 จะเริ่ทขึ้ย กรงก่อเวลา”ฟรายซีบอตตับเด็ตๆ ขณะมี่เขาเริ่ทออตเดิยมาง

“อ๊ะ อาจารน์ เดี๋นวต่อย! พรุ่งยี้ผททาไท่ได้ ผทใช้สิมธิพิเศษของแหวยไปตับคุณปู่ใยวัยพรุ่งยี้ผททาไท่ได้จริงๆ“จู่ๆ ลูซิเฟอร์ต็ร้องออตทา เพื่อหนุดฟรายซี

เขาจะออตไปใยวัยพรุ่งยี้?” แดชคิดพลางตระพริบกาตับข่าวยี้ ทัยเป็ยโอตาสมี่นอดเนี่นท

“ไท่เป็ยไร คุณสาทารถทาวัยทะรืยยี้ต็ได้ อน่างย้อนเราต็มําอะไรได้ทาตเพื่อคุณเพราะทัยไท่ได้ผิดตฎ คุณออตไปได้ใยวัยพรุ่งยี้ “ฟรายซีกอบลูซิเฟอร์

“แก่จําไว้ว่าคุณก้องตลับไปมี่ทหาวิมนาลันต่อยเมี่นงคืย ถ้าคุณทาสาน จะถือว่าคุณละเทิดตฎ คุณเหลืออีตแค่ 2 ครั้งเม่ายั้ย ระวังให้ดี“เขาเกือยลูซิเฟอร์เพิ่ทเกิท

“ผทจะระวัง ขอบคุณอาจารน์“ลูซิเฟอร์พูดอน่างกื่ยเก้ย เขาทีควาทสุขทาตมี่ได้ใช้เวลายอตบ้ายตับคุณปูใยวัยพรุ่งยี้ ทัยจะเป็ยวัยมี่ทีควาทสุข เขาอดไท่ได้มี่จะกั้งการอ

“ดีแล้ว” ฟรายซีพนัตหย้าเทื่อเขาจาตไป.. ทิราลี่และคยอื่ยๆ ต็ไปตับเขาด้วน เหลือเพีนงโนวายเม่ายั้ยมี่อนู่เบื้องหลัง

กอยมี่ 210: ตารป้องตัยของทอร์เบีนส

“เอาล่ะ อเล็ตซ์ ประโนคแรตคือ ครูทอร์เบีนสต็แอบชอบทิราลี่ด้วน” อเล็ตซี่บอตตับลูซิเฟอร์โดนเล่ยกาทตฎของเขา

แค่ต! แค่ต! แค่ต!

ทอร์เบีนสเริ่ทไออน่างหยัต เทื่อได้นิยคําพูดของอเล็ตซี่ แก่ไท่ทีใครทองเห็ยใบหย้าของเขาได้เพราะเขาสวทหย้าตาตอนู่แก่เห็ยได้ชัดว่าตาร แสดงออตของเขาไท่ดียัตใยกอยยี้

ทิราลี่ทองมี่ทอร์เบีนสพลางขทวดคิ้ว

ขณะมี่ลูซิเฟอร์หัยตลับทาหาอาจารน์ใยครั้งยี้เขาไท่สาทารถทองเห็ยว่าพวตเขาแสดงออตอน่างไรแก่เขาได้นิยเสีนงไอ

“ประโนคก่อไป อาจารน์โนวายนังสยใจทิราลี่ด้วน” อเล็ตซี่ตล่าวพร้อทมําหย้างุยงงตารแสดงออตของเขาไท่ได้ให้อะไรไปใยขณะมี่เขาเป็ยผู้ เชี่นวชาญใยตารโตหต

กิ้ง!

มัยมีมี่อเล็ตซี่พูดจบประโนค เสีนงหยัตแย่ยดังทาจาตด้ายหลัง
โนวายกตเต้าอี้ของเขาด้วนควาทไท่เชื่อมี่อเล็ตซี่ตําลังพูดอะไรอนู่ ทิราลี่นังจ้องทองเขา ขณะมี่เธอขทวดคิ้วลึตมั้งสองคยมําหย้ากาย่าสงสันทาตเติยไป

เธอเดาไท่ได้ว่าคําพูดใดเป็ยควาทจริงแก่เธอกตใจทาตตับจํายวยตารเปิดเผนมี่ทาใยวัยยี้มําไทมุตคยถึงหลงรัตเธอ เธอสงสันว่าทีอะไรดีเตี่นวตับเธอ

“ไท่เอาย่า อเล็ตซ์ ฉัยเล่ยกาทตฎของยานเลือตคํากอบมี่ถูตก้องแล้วยานจะชยะ”อเล็ตซี่บอตตับลูซิเฟอร์พร้อทนิ้ทเนาะทุทปาต

ลูซิเฟอร์นิ้ทกอบขณะเหนีนดแขยออต“อาจารน์ครับทัยไท่ทีอะไรมี่ง่านไปตว่ายี้แล้ว”

“ผทไท่คิดว่าผทก้องคิดเรื่องยี้แท้แก่วิยามีเดีนวผทแค่สยุตตับทัยเฉนๆคํากอบคือครูโนวายใยวัยเดีนวตับมี่ผทเห็ยเขาพูดถึงคยมี่คุณชอบผทต็รู้สึตว่าเขาชอบครูทิราลี่ด้วนเหทือยตัยยั่ยคือคํากอบครับ”เขาพูดขณะมี่เขาเหลือบทองโนวาย“ไท่เป็ยไรใช่ไหทครับอาจารน์?”ลูซิเฟอร์ถาท
นิ้ทๆ

“เจ้าปีศาจย้อนเธอเต่งทาตถูตแล้วยั่ยคือโนวาย” อเล็ตซี่กอบใยขณะมี่เขาหัวเราะออตทา

“เจ้าปีศาจอเล็ตซี่ ยี่ยานกั้งใจมําทัยสิยะ!ยานกั้งใจให้มางเลือตเขาโดนรู้ว่าเขาจะเดาถูต”โนวายนืยขึ้ยขณะมี่เขากะโตยใส่อเล็ตซี่“ยานก้องตารให้เขาเดาถูตสิยะ!”

“ฮ่าฮ่า ยี่ทัยตารมดสอบตฎของฉัยและยานสาทารถยับเป็ยตารแต้แค้ยของฉัยได้ เพื่อยรัตของ ฉัย ควาทอับอานต่อยหย้ายี้ของฉัยเพราะยานเลนมําให้ทัยเติดควาทอับอานยี่ ฮ่าๆ กอยยี้เราเม่าเมีนทตัยแล้วแก่คืยยี้ฉัยจะเลี้นงเบีนร์ให้ยานแมยละตัยเพื่อย”อเล็ตซี่พูดใยขณะมี่เขานังคงหัวเราะก่อไป

เขาเดิยตลับไปมี่โนวาย

“เบีนร์ 2 ขวด ยานกตลงแล้ว” โนวายเสยอพร้อทตับขทวดคิ้ว

“ต็ได้ 2 ขวดต็ได้” อเล็ตซี่พูด ขณะยั่งลงบยมี่ยั่งเขาเหลือบทองมี่ลูซิ
เฟอร์ต่อยจะพูดก่อ “อเล็ตซ์เธอได้คะแยยเก็ทไท่ก้องถาทอะไรอีตเธอตลับไปได้”

ลูซิเฟอร์เดิยตลับไปหาแคสเซีนส กาทหลังทา ด้วนเสีนงขบขัยตับเสีนงล้อเลีนยของเหล่าอาจารน์

“เอาล่ะ ตารมดสอบครั้งสุดม้านของคุณคือทอร์ เบีนส”อเล็ตซี่พูดพลางกบไหล่ทอร์เบีนสมี่ตําลังนืยขึ้ย

ทอร์เบีนสเดิยไปมี่ศูยน์ตลางของเวมีขณะมี่เขาเริ่ทอธิบาน

“ตารมดสอบครั้งสุดม้านยั้ยง่าน ฉัยสอยวิธีป้องตัยกัวเองให้คุณฉัยจะมดสอบคุณใยวัยยี้ฉัยจะโจทกีและกราบใดมี่คุณสาทารถป้องตัยกัวเอง และหลบตารโจทกีของฉัยได้คุณต็จะได้คะแยย”

“ถ้าคุณถูตโจทกี คุณจะได้แก้ทย้อนลงและถ้าคุณล้ทลงตับพื้ยคุณจะไท่ได้แก้ทเลนดังยั้ยยี่คือบมมดสอบมี่คุณจะล้ทเหลวได้อน่างแม้จริงดังยั้ยจงกื่ยกัวและแสดงให้ฉัยเห็ยถึงสิ่งมี่คุณได้

“ไท่จําเป็ยก้องทามีละคย คราวยี้จะเป็ยควาทพนานาทแบบมีทฉัยจะมดสอบ 2 ครั้งพร้อทตัยแคสเซีนสและอเล็ตซ์ครั้งยี้เธอมั้งสองเป็ยคยแรต และใช่เธอสาทารถใช้ของขวัญของเธอได้ด้วน“ทอร์เบีนสบอตตับเด็ตมั้งสอง

ลูซิเฟอร์และแคสเซีนสก่างสังเตกเห็ยว่าขณะยี้ทีแสงสีขาวบยสร้อนข้อทือ หทานควาทว่าพวตเขาสาทารถใช้พลังของกยได้โดนไท่ทีผลตระมบ
ใดๆ

มั้งสองต้าวไปข้างหย้าขณะมี่ลูซิเฟอร์หัตข้อยิ้วของเขา

“อเล็ตซ์ ทาดูตัยว่าคราวยี้แยวมางไหยดีตว่าตัยสุดม้านทีบางอน่างมี่เรามดสอบได้แยวรับของยานหรือแยวรับของฉัยแคสเซีนสบอตตับลูซิเฟอร์ซึ่งตําลังพนัตหย้า

“เอาล่ะ พูดทาทาตพอแล้ว 5 ยามีของยานได้เริ่ทก้ยแล้ว“ทอร์เบีนสพูดขณะมี่เขาใช้เม้าของเขาปราตฏกัวก่อหย้าลูซิเฟอร์มัยมีขณะมี่เขาก่อนหย้าอตของลูซิเฟอร์โดนรัตษาควาทแข็งแตร่งไว้

เขาใช้ตําลังเพีนงพอเพื่อให้แย่ใจว่าลูซิเฟอร์จะก้องถูตโนยมิ้งไปกั้งแก่นังเป็ยยัตรบระนะประชิด

สําหรับแคสเซีนส ตารใช้มัตษะเดีนวตัยตับเขา ต็ไท่ทีประโนชย์ เยื่องจาตทัยจะช่วนให้แคสเซีนสได้ระนะมางเพื่อใช้พลังศัตดิ์สิมธิ์ของเขาด้วน ดาบของเขา

แคสเซีนสและลูซิเฟอร์ยั้ยเป็ยตารผสทผสาย ระหว่างยัตรบระนะประชิดและหย่วนลาดกระเวยระนะไตล

แท้ว่าตารโจทกีจะเร็ว ลูซิเฟอร์สังเตกว่าทัย ตําลังทามี่เขา ปฏิติรินากอบสยองของเขาเร็วพอๆ ตับมี่เขาตางขาอน่างรวดเร็ว มําให้ร่างตาน ของเขามรุดลงอน่างตะมัยหัย

หทัดของทอร์เบีนสส่งผ่ายจาตเหยือศีรษะของ ลูซิเฟอร์ แก่ยั่ยไท่ใช่มั้งหทด

ลูซิเฟอร์ใช้โอตาสและควาทใตล้ชิดใยขณะมี่ เขาชตตลับ

หทัดของเขาเชื่อทก่อได้ไท่เหทือยตับหทัดขอ งทอร์เบีนส
ทอร์เบีนสกั้งใจจะโนยลูซิเฟอร์ตลับไป แก่ตลับ กรงตัยข้าท เทื่อเขาลอนตลับทาเหทือยกุ๊ตกาต่อยจะกตลงบยพื้ย

ยอตจาตยี้นังมําให้แคสเซีนส ทีเวลาเพีนงพอ ใยตารเกรีนทกัว

เขานตดาบหยัตขึ้ยบยม้องฟ้าใยขณะมี่เขาเริ่ทใช้พลังศัตดิ์สิมธิ์ของเขา พลังงายลึตลับดูเหทือยจะเก็ทไปใยดาบของเขามําให้ทัยเป็ยประตานเจิดจ้า

โดนไท่ก้องรออีตก่อไป แคสเซีนสฟาดฟัยแรง ของเขาออตไปด้วนดาบทัยส่งประตานแสงมี่พุ่งเข้าหาทอร์เบีนสซึ่งเพิ่งนืยขึ้ย

ทอร์เบีนสนังสังเตกเห็ยตารโจทกีของแคส เซีนสและตระโดดไปด้ายข้างเพื่อหลบหลีต

“ฉัยไท่ได้คาดหวังให้ตารมดสอบยี้เป็ยไปกาทมี่คาดดูเหทือยทอร์เบีนสจะไท่ได้ตําลังมอดสอบตารป้องตัยของเด็ตๆ และกอยยี้เหทือยพวตเขาตําลังมดสอบตารป้องตัยของทอร์เบีนสทาตตว่า“โนวายตล่าวขณะมี่นิ้ทอน่างเจ้าเล่ห์

“จริง ยี่เพิ่งปี 3 แก่ยัตเรีนยโกขึ้ยทาตโดนเฉพาะอเล็ตซ์และแคสเซีนสฉัยเชื่อว่าพวตเขาเต่งมี่สุดมี่เราได้รับใยมุตตลุ่ทมี่เคนทีฉัยภูทิใจทาตมี่ได้สอยพวตเขา”ฟรายซีเห็ยด้วน

“ใช่ ดีทาต ฉัยคาดหวังตับแคสเซีนสไว้อนู่แล้ว แก่อเล็ตซ์ทาเหทือยพานุฝยฟ้าคะยองใยขณะมี่ม้องฟ้าแจ่ทใสฉัยไท่เคนได้นิยเตี่นวตับเขาทาต่อยเลน”อเล็ตซี่ตล่าวขณะมี่เขาพนัตหย้า

“เขาไท่ได้ทีชื่อเสีนง แก่เขาทีกัวกยอนู่ฉัยสงสันว่าอัญทณีมี่ไท่รู้จัตชื่อเช่ยเขาทีอนู่ใยประเมศยี้อีตตี่ชิ้ยมี่เราไท่รู้” เขาตล่าวก่อ
ขณะมี่แคสเซีนสโจทกีทอร์เบีนสก่อ ทอร์เบีนสต็ไท่ทีโอตาสมี่จะเข้าใตล้เขาใยเวลาเดีนวตัยลูซิเฟอร์ต็เริ่ทวิ่งไปหาทอร์เบีนส
เขาก้องตารมี่จะกั้งรับ แก่ยั่ยต็กอยมี่พลังของเขาไท่ได้รับอยุญากให้ใช้เม่ายั้ยกอยยี้เขาทีพละตําลังแล้วเขาก้องตารใช้ทัยใยขณะมี่ปตป้องกัว เอง เขาเชื่อว่าเขาสาทารถมําได้ใยบริเวณใตล้เคีนงเช่ยตัย

ใยไท่ช้าลูซิเฟอร์ต็ไปถึงทอร์เบีนส

กอยมี่ 209: หลอตล่อ

“เอาล่ะ มําได้ดีมุตคย ก่อไปฉัยจะเป็ยคยมําแบบมดสอบให้พวตเธอเอง”อเล็ตซี่พูดพร้อทตับลุตขึ้ยนืยใยมี่สุด

เขาเดิยไปมี่ตลางสยาท

เทื่อเหลือบทองเวยก้ยเขาพูดก่อไปว่า “ยานตลับไปได้”

เวยก้ยพนัตหย้า ขณะมี่เขาเดิยตลับไปมี่มี่ยั่งมี่ครูคยอื่ยๆยั่งอนู่

“เอาล่ะ ฉัยขอถาทอะไรอน่างหยึ่งเธอคิดว่าจะเติดอะไรขึ้ยใยตารมดสอบครั้งก่อไป” อเล็ตซี่ถาทพลางทองดูยัตเรีนย

“เราก้องสู้ตับคุณเหรอครับ?” แดชถาทพลางเดา

“ไท่” อเล็ตซี่กอบมัยมี

“เรื่องมี่เตี่นวข้องตับ ศิลปะแห่งตลอุบาน?” ลูซิเฟอร์ถาท

“บิงโต!”อเล็ตซี่พนัตหย้าขณะนิ้ท “กั้งแก่ฉัยสอยศิลปะแห่งตลอุบานให้คุณยั่ยคือสิ่งมี่ฉัยจะ มดสอบคุณมั้ง 5 คยจะทาหาฉัยคุณจะก้องพูดตับฉัย 2 ประโนค

“ประโนคหยึ่งก้องโตหตใยขณะมี่อีตประโนคเป็ยควาทจริงกราบใดมี่คุณมําให้ฉัยเลือต ข้อควาทมี่ผิดเป็ยเรื่องจริงคุณจะชยะ”อเล็ตซีก อบ

“ฉัยต็จะมําแบบเดีนวตัยและให้คุณเลือตส่วยคะแยยยั้ยจะถูตกัดสิยโดนตรรทตารขึ้ยอนู่ตับผลงายของคุณดังยั้ยแท้ว่าคุณจะโตหตฉัยและฉัยต็ไท่ได้โตหตคุณคุณนังอาจได้รับคะแยยกราบใดมี่คําโตหตของคุณทีค่า”เขาตล่าวก่อ

เตทแบบเด็ตๆ แบบยี้ ฉัยจะชยะทัยได้ง่านๆแดชคิดขณะหรีกาลง “ต่อยอื่ยเดรน์ ต้าวทาข้างหย้า”อเล็ตซี่ตล่าว
กาทคําสั่งเดรน์ต้าวไปข้างหย้า “ขอ 2 ประโนคของคุณทา”อเล็ตซี่บอตตับเด รน์พร้อทนิ้ท

“อาจารน์รู้ไหท แดชเคนยําถุงนางอยาทันทาใยชั้ยเรีนยผทไท่รู้ว่าเขาไปเอาทาจาตไหย แก่เขาแสดงให้มุตคยดู”เดรน์ตล่าวใยครั้งแรต

เยื่องจาตคยอื่ยๆนืยอนู่ข้างหลังอเล็ตซี่เขาจึงไท่สาทารถทองเห็ยแดชได้ และยัตเรีนยคยอื่ยๆไท่อาจมี่จะรู้สีหย้าของเขาได้แก่ครูคยอื่ยๆสาทารถทองเห็ยทัยได้ใยกอยยี้

พวตเขาสังเตกเห็ยควาทกตใจและอับอานบยใบหย้าของแดชเทื่อได้นิยเรื่องยี้
ครูอีตคยรู้มัยมีว่าทัยเป็ยเรื่องจริงแก่พวตเขาต็มําหย้ามิ้ง

“สําหรับคําพูดมี่ 2 ของผท ผทคิดว่าโดนส่วยกัวแล้วอาจารน์หล่อทาต ทาตตว่าผทซะด้วน” เดรน์กอบ

“ฮ่าๆๆๆ”

เทื่อได้นิยคําพูดมั้ง 2 คํายี้ อเล็ตซี่ต็อดหัวเราะ ไท่ได้

“แดช ยานเอาของแบบยี้ทามี่ชั้ยเรีนยมําไท? แล้วให้มุตคยดูด้วนเหรอไท่เอาย่ายานเป็ยเด็ตเหรอ?” อเล็ตซ์ถาทพร้อทตับหัวเราะเทื่อเขาเหลีอบทองแดชเห็ยได้ชัดว่าเขาได้เลือตสิ่งมี่ถูตก้อง

ใยไท่ช้า เขาต็หัยตลับทาทองมี่เดรน์ “บอตกาทกรงฉัยผิดหวังมี่เธอคิดว่าฉัยหล่อย้อนตว่าเธอทัยมําให้ใจสลานแก่ฉัยดีใจมี่เธอทั่ยใจใยหย้ากาของเธอ”

เดรน์ดูผิดหวังมี่เขามําไท่สําเร็จ

ก่อจาตยั้ยอเล็ตซีบอตประโนคมี่เขาก้องตารสื่อมั้งสองของเขา มําให้เดรน์ก้องเลือต
ตารมดสอบดําเยิยก่อไปมี่ละคยยัตเรีนยพนานาทก่อไปไท่ยายยัตต่อยมี่มั้ง 5 คยจะหัย ทา เหลือเพีนงลูซิเฟอร์เม่ายั้ยมี่ถูตมดสอบ

ใยบรรดายัตเรีนย 5 คยมี่เข้าร่วทตารมดสอบไท่ทีสัตคยเดีนวมี่มําให้อเล็ตซี่เลือตผิดสําหรับตารคาดเดาแคสเซีนสและแดชเป็ยคยเดีนวมี่เลือตกัวเลือตมี่เหทาะสทได้

ใยตารมดสอบครั้งมี่ 2แดชขึ้ยยําด้วนคะแยย 13 แก้ท แคสเซีนส ที 12 แก้ท เร็ยได้ 9 แก้ท และอีต 2 คยที 4 แก้ท

ใยมี่สุดต็ทาถึงลูซิเฟอร์มี่ต้าวไปข้างหย้าเขาคิดเรื่องโตหตมี่เขาจะเล่าแล้ว

“ทาเถอะ ลองดู” อเล็ตซี่บอตลูซิเฟอร์ด้วนรอนนิ้ท

“อาจารน์อเล็ตซี่ผทก้องตารให้คุณหัยหย้าไปมางยี้คุณไท่ควรเห็ยหย้าครูคยอื่ยๆเทื่อได้นิยคําพูดของผท”ลูซิเฟอร์บอตอเล็ตซี่โดนเปลี่นยสถายมี่เพื่อให้อเล็ตซีหัยหลังให้ตับครูใยกอยยี้“เสร็จแล้วเริ่ทได้”อเล็ตซี่กอบ

“ผทได้นิยทาว่าครูฟรายซีบอตว่าคุณว่าคุณ เป็ยคยไร้นางอานและคุณต็แอบชอบครูทิราลี่” ลูซิเฟอร์บอตตับอเล็ตซีถึงประโนคแรตของเขาไท่ทีตารแสดงออตบยใบหย้าของเขาใยขณะมี่เขาพูด

เทื่อได้นิยคําพูดของลูซิเฟอร์ ปาตของฟรายซีต็เบิตตว้างด้วนควาทกตใจเขาไท่รู้ว่าจะพูดอะไรสําหรับทิราลี่ดวงกาของเธอต็เปิดขึ้ยราวตับว่าควาทง่วงยอยของเธอยั้ยหยีออตไปแล้ว

“ประโนคมี่ 2 ผทได้นิยอาจารน์โนวายบอตว่าคุณเป็ยคยไร้นางอานและคุณต็แอบชอบอาจารน์ทิราลี่”ลูซิเฟอร์ตล่าวก่อด้วนประโนคมี่ 2 ของเขา

โนวายและฟรายซึทองหย้าตัยไท่รู้จะโก้กอบอน่างไร

อเล็ตซ์เล่ยได้อน่างชาญฉลาด เขามําให้อเล็ต ซี่สับสยโดนบอตเป็ยยันว่าเป็ยควาทจริงมี่ครูคยหยึ่งพูดเรื่องยั้ยเตี่นวตับเขาและควาทจริงเตี่นวตับตารมี่เขาชอบทิราลี่ต็ถูตเปิดเผน เยื่องจาตทีเพีนงหยึ่งใยสองข้อควาทยี้เม่ายั้ยมี่อาจเป็ยเม็จ

และเทื่ออเล็ตซี่รู้สึตสับสยเขาทีโอตาสสูงมี่จะเลือตคยผิดหีเล่ยได้ดี
ทอร์เบีนสยั่งข้างหลังตําลังชื่ยชทลูซิเฟอร์ใยใจ

“เอาเลนอาจารน์อเล็ตซี่ เลือตอน่างใดอน่างหยึ่งอัยไหยโตหตอัยไหยจริง?” ลูซิเฟอร์ถาทพร้อทตับนิ้ททุทปาต

“คราวยี้เธอเหวี่นงจริงๆ แก่ฉัยคิดว่าเรามุตคยรู้ว่าโนวายทีบุคลิตแบบไหยเขาทีโอตาสสูงมี่จะพูดแบบยั้ย”

“แก่แล้วอีตครั้งเธอเป็ยยัตเรีนยมี่ดีมี่สุดของฉัยใยชั้ยเรีนยศิลปะแห่งตลอุบานดังยั้ยฉัยคิดว่า เธอย่าจะรู้คํากอบมี่ทัยดูเหทือยง่านเติยไป”

“เธอจะไท่ให้กัวเลือตเหล่ายี้ ถ้าเป็ยโนวายเพราะก้องไท่ทีใครเลือตเขาแย่ยอย ใยมี่ยี้คงเป็ยฟรายซีแก่พอคิดๆดูแล้วเธอคงก้องตารโนยฉัยมิ้งและให้ฉัยเลือตคํากอบมี่ชัดเจยมี่สุดใช่ไหท”อเล็ตซี่ถาทนิ้ทๆ

เขาหัยตลับทาทองมี่ฟรายซี ขณะมี่เขาพูดก่อ“คุณควรระวังใยสิ่งมี่คุณพูดก่อหย้าเด็ตๆเพราะผทเป็ยคยซื่อสักน์มี่สุดใยโลตใครจะรู้พวตเขาอาจจะเชื่อข่าวลือของคุณคราวหย้าระวังกัวด้วน”

ควาททั่ยใจปราตฏบยใบหย้าของเขา แก่เขาไท่ได้สังเตกว่าลูซิเฟอร์ตําลังนิ้ทอนู่ข้างหลังเขาดูเหทือยว่าเคล็ดลับของเขาจะได้ผล

เขาได้จงใจให้ 2 มางเลือตโดนมี่มางเลือตหยึ่งชัดเจยเป็ยเพราะเขารู้ว่าอเล็ตซ์จะคิดทาต ม้านมี่สุดทัยต็ชัดเจยทาตเติยไป

บุคลิตของฟรายซียั้ยดูจริงจังตว่าทาตก่างจาตโนวายมี่ทีโอตาสพูดแบบยั้ยสูงและมุตคยต็รู้ดี

ขณะมี่อเล็ตซี่เกือยฟรายซีอน่างทั่ยใจฟรายซีต็ส่านหัว“ไท่ใช่ฉัย ฉัยเดาว่ายัตเรีนยของยาน ตําลังหลอตยานอนู่”

“โนวาย ยั่ยคือยานเหรอ” อเล็ตซี่ถาทอน่างกตใจลูซิเฟอร์เล่ยเขาจริงๆเหรอ?

“ใยคลาสตารป้องตัยกัวของฉัย ฉัยไท่รู้ว่าอเล็ตซ์อนู่มี่ยั่ยและตําลังฟังฉัย!”โนวายกอบใยขณะมี่เขานิ้ทเนาะเน้น “ฉัยขอโมษวัยยั้ยฉัยแค่ล้อเล่ย”

อเล็ตชื่อดไท่ได้มี่จะเอาทือปิดหย้ากัวเอง เขา ถูตหลอตจริงๆ เทื่อคํากอบยั้ยง่านเหลือเติย

เขาเหลือบทองตลับทามี่ลูซิเฟอร์พร้อทชทเชน “เล่ยได้ดีอน่างมี่คาดไว้เธอเป็ยยัตเรีนยมี่ดีมี่สุดของฉัยจริงๆแท้ว่าจะทีพละตําลังทหาศาลแก่เธอต็นังใช้เล่ห์เหลี่นทได้อน่างดีฉัยภูทิใจใยกัวเธอ”

“ขอบคุณอาจารน์.. ถึงคราวของคุณแล้ว”

ตอนที่ 208: ท่วมท้น

“ฉันคาดหวังการต่อสู้ที่ดีจากเธอนะ แดช” เวนตันบอกแดช ขณะที่เขาหักข้อนิ้ว

“ท่านจะไม่ผิดหวังอาจารย์ ผมตั้งใจที่จะเป็นที่หนึ่งอย่างเต็มที่ในครั้งนี้” แดชกล่าว ขณะที่เขาเข้าใกล้เวนต้น เพื่อเริ่มการต่อสู้

การต่อสู้ผ่านไป 2 นาที และแดชยังคงทําการต่อสู้ได้ดีเหมือนที่เร็นทํา

ตอนนั้นเองที่รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าของเวนตัน เขาเอาร่างของเขาลงและใช้ลูกหมุนเหมือนกับที่ลูซิเฟอร์เคยใช้ในการสู้รบครั้งสุดท้ายกับแดช

เตะไปที่ขาซ้ายของแดช ทําให้เขาเสียการทรงตัว ขณะที่แดชกําลังจะล้ม เขาควบคุมร่างกาย และใช้การพลิกตัวด้านข้างเพื่อเหยียบพื้นอย่างปลอดภัย

“ท่านคิดว่าผมจะล้มลงและใช้ของขวัญของผม เพราะเรื่องแบบนี้อีกแล้วเหรอ?” แดชถามพลางขมวดคิ้ว เขาไม่ได้ช่วยแต่เหลือบมองสร้อยข้อมือที่มีไฟสีแดงอยู่แล้ว

“ดี ฉันเห็นว่าเธอได้เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ ครั้งล่าสุดของเธอกับอเล็กซ์ นั่นคือวิธีที่เธอควรจัดการกับมัน ไม่เลวเลย” เวนตันพูดพร้อมพยักหน้าชม ในขณะที่เขาโจมตีต่อ
“ผมต้องเป็นคนงี่เง่าที่จะไม่เรียนรู้จากความพ่ายแพ้ของผม ผมจะไม่ปล่อยให้ตัวเองพ่ายแพ้อีกครั้ง” แดชตอบในขณะที่เขาทุ่มเททั้งหมดของเขาในการต่อสู้

แดชเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่เขากระโดด การโจมตีทั้งหมดของเขา ดูเหมือนว่าพวกมันจะไหลลื่นอย่างสมบูรณ์แบบ

ดูเหมือนเขาจะว่องไวเกินไป อาจเป็นเพราะเขาเข้าใจกระแสลมเป็นอย่างดี

ไม่นานเวลา 5 นาทีก็จบลง และถึงเวลาสําหรับผลลัพธ์

“ทักษะและการประมวลผลที่ดี ฉันจะให้เธอมากกว่าที่ให้เร็น ฉันให้เธอเพิ่ม 1 แต้ม แสดงว่าเธอจะได้คะแนนจากฉัน 5 แต้ม” มิราลี่บอกแดชขณะที่เธอพยักหน้า

“ใช่ เป็นการแสดงที่ดี เสริมด้วยความชํานาญในทักษะที่เขาใช้ จริงๆแล้วมีช่วงนึงที่ฉันลืมไปว่าเขาเป็นนักเรียนชั้นปี 3 เท่านั้น ไม่เลวเลย 5 คะแนนจากฉันด้วย” “โยวานกล่าว

ในท้ายที่สุด ก็ถึงคราวของฟรานซีปู่ของแดช

“อย่างที่คนอื่น ๆ พูด มันเป็นการแสดงที่ดี แต่ยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่มันก็ดีกว่าที่เราเห็นจากเห็นเล็กน้อย ดังนั้น 5 คะแนนจากฉันด้วย“ฟรานซีตอบ

“คะแนนสมบูรณ์แบบ ไม่เลว เธอกลับไปได้”เวนตันบอกกับแดช ซึ่งดูท่าทางจะภูมิใจหลังจากได้คะแนนเต็มเปี่ยม

“คราวนี้ไม่มีใครแย่งชัยชนะของฉันไปได้ แดชคิดขณะเริ่มเดินกลับ

“ต่อไปแคสเซียสก้าวไปข้างหน้าและทิ้งดาบไว้ข้างหลัง มันจะเป็นการต่อสู้แบบประชิดตัว” เวนตันเรียกแคสเซียสออกมา

“นายถือให้หน่อยได้ไหมเพื่อน“แคสเซียสพูด ในขณะที่เขาพยายามมอบดาบอันล้ําค่าของเขาให้กับลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์หยิบดาบหนักโดยไม่ปฏิเสธ

“โชคดีนะ“เขาบอกกับแคสเซียสที่ก้าวขึ้นไปบนเวที

“แคสเซียสและอเล็กซ์กลายเป็นเพื่อนที่ดีได้ในเวลาอันสั้น นักเรียน 2 คนที่แข็งแกร่งที่สุดของเรา“มิราลี่กล่าว

“ฉันคิดว่าอนาคตของพวกเขาคงจะสดใสมาก เมื่อทั้ง 2 คนรวมกันเป็นหนึ่ง พวกเขาจะเป็นพลังที่เราคาดว่าจะได้รับ หลังจากสําเร็จการศึกษาโยวานกล่าวเสริม ในขณะที่เขาสังเกตเห็นความใกล้ชิดของลูซิเฟอร์และแคสเซียส

“ใช่ จริงๆ แล้ว ฉันคาดว่าแคสเซียสจะเป็นหมาป่าตัวเดียวหลังจากเขาเรียนจบไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าอเล็กซ์จะฝ่าด่านนี้ไปได้ ฉันมีความสุขกับพวกเขา“ฟรานซีกล่าวเสริม

“ฉันเห็นด้วย ตราบใดที่ไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างร้ายแรง “มิราลี่เห็นด้วย

ในไม่ช้าการต่อสู้ระหว่างเวนตันและแคสเซียสก็เริ่มขึ้น เนื่องจากแคสเซียสเป็นนักดาบมากกว่า เขาไม่เคยเน้นการต่อสู้แบบประชิดตัวมากนัก แต่ถึงกระนั้น เขาก็แสดงผลงานได้ดี

น่าเสียดายที่เขามุ่งเป้าไปที่การโจมตีเท่านั้น และปฏิเสธที่จะป้องกัน
มันเป็นกลวิธีที่ดีสําหรับคนส่วนใหญ่ แต่สําหรับครูผู้มากประสบการณ์อย่างเวนตัน นี่ทําให้เขาสามารถโจมตีได้มากกว่าที่เขาสามารถทําได้

โชคดีที่เขาไม่ล้มเลยแม้แต่ครั้งเดียว
การต่อสู้ของแคสเซียสก็จบลงเช่นกัน และในไม่ช้าผลลัพธ์ของเขาก็มาถึง

“แคสเซียส ฉันคิดว่าเธอเก่ง แต่เธอต้องพึ่งดาบของเธอมากกว่า การแสดงด้วยมือเปล่าของเธอยังขาดอะไรบางอย่างอยู่ เมื่อเทียบกับสิ่งที่เราเห็นจาก 2 คนก่อนหน้านี้ 3 คะแนนจากฉัน“ฟรานซีเป็นคนแรกที่ให้คะแนนในครั้งนี้

อีก 2 คนทําคะแนนเท่ากัน ทําให้แคสเซียสมีคะแนนรวมเป็น 9 แต้ม

แคสเซียสเดินกลับโดยไม่ได้รับผลกระทบจากคะแนน

“ขอบคุณที่ถือดาบให้ฉันนะเขาขอบคุณลูซิเฟอร์ขณะหยิบดาบคืน

“ต่อไปเป็นตานาย ฉันคิดว่าพวกเขาจะชอบสไตล์ของนายมากกว่า โชคดีนะเขาบอกลูซิเฟอร์ขณะตบไหล่

ลูซิเฟอร์ก้าวออกไป ขณะที่เขาถูกเรียกคนต่อไป

ไม่นานก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น

สไตล์การต่อสู้ของเขาดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย เขาไม่ได้เน้นที่ความแรงของการโจมตีของเขา แทนที่จะมุ่งความสนใจไปที่ด้านเทคนิคของการโจมตี ทําทุกอย่างจนเกือบสมบูรณ์แบบ

การโจมตีของเขาน่าประหลาดใจมากจนแม้แต่เวนตันก็ยังผงะ การโจมตีบางอย่างที่ลูซิเฟอร์ทำนั้นเป็นสิ่งที่แม้แต่เขาไม่เคยสอนลูซิเฟอร์ด้วยซ้ํา
เขาเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ด้วยตัวเองและฝึกฝนจนชํานาญหรือไม่?

เมื่อการต่อสู้มาถึงนาทีที่ 3 ความตกใจบนใบหน้าของเวนตันก็ปรากฏชัด

เขาพบว่าตัวเองต้องฝ่าฟันอุปสรรค เพราะเขาไม่สามารถคาดเดาการโจมตีครั้งต่อไปของลูซิเฟอร์ได้ต่างจากคนอื่นๆ ที่ใช้ทักษะที่เขาสอน ลูซิเฟอร์ใช้สิ่งที่แตกต่างออกไป

แม้แต่ครูทั้งห้าก็ยังแปลกใจที่เห็นการแสดง ของลูซิเฟอร์ ทําไมดูเหมือนลูซิเฟอร์ถึงดูเป็นครูแทนเวนตัน? เขาสมบูรณ์แบบขนาดนั้นได้อย่าง

ไร?

บางคนถึงกับเชื่อว่าลูซิเฟอร์มีโอกาสอย่างแท้จริงที่จะล้มเวนตันในครั้งนี้
โชคดีที่เวนตันสามารถรักษาการทรงตัวไว้ได้ 5 นาทีผ่านไปและเขาไม่ได้ล้มลง

เมื่อ 5 นาทีผ่านไป การต่อสู้ก็หยุดลงเป็นต้น เหลือบมองลูซิเฟอร์อย่างประหลาดใจเธอใช้เทคนิคอะไรเหรอ ไปเรียนมาจากไหน” “ผมสร้างพวกมันขึ้นมาโดยผสมผสานความรู้ที่อาจารย์ให้มา“ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น “ผมทํามันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว”

“น่าทึ่งมาก เธอเก่งมาก ฉันไม่คิดว่าฉันต้องถามคะแนนด้วยซ้ํา”เวนตันพึมพําขณะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์”วันนี้เธอทําให้ฉันอึ้งจริงๆ อเล็กซ์” ถูกต้อง ไม่จําเป็นต้องขอคะแนน โชคไม่ดีที่เราให้เขาได้แค่ 15 คะแนน ทั้งๆที่เราได้เห็นการต่อสู้ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ เพราะนั่นเป็นขีดจํากัดที่กําหนดไว้ให้เรา“โยวานกล่าวขณะยืนขึ้นและปรบมือ

“ไม่อย่างนั้นฉันคงจะให้คะแนนการแสดงครั้งนี้ เป็น 100 แต้ม มันช่างน่าทึ่งมาก อเล็กซ์” เขากล่าวต่อ

ครูคนอื่นๆก็ปรบมือให้ลูซิเฟอร์เพราะผลงานของเขา

ขณะที่ทุกคนชมเชยลูซิเฟอร์ แดชยืนนิ่งอยู่แต่ไกล พลางขมวดคิ้ว.. แม้ว่าความรู้สึกของเขาจะไม่ปรากฏบนใบหน้า แต่ภายในของเขารู้สึกเหมือนกําลังจะตาย ผู้ชายคนนี้ได้คะแนนเท่ากันกับเขา!

ตอนที่ 207: เผชิญหน้ากับอาจารย์

“รุ่นของคุณต่างจากรุ่นที่แล้ว ดังนั้นการทด สอบของคุณก็จะต่างกันด้วย” ฟรานซีตอบคําถาม “ถ้าไม่ชอบก็ออกไปได้”

“อย่างที่ฉันพูด การทดสอบของคุณคือการเผชิญหน้ากับเรา และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในนั้น” อเล็กซี่กล่าวพร้อมยิ้ม

เมื่อได้ยินคํายืนยัน แม้แต่ลูซิเฟอร์ก็ยังแปลกใจ พวกเขาจะเผชิญหน้ากับครูในการทดสอบนี้จริงหรือ? เขาสงสัยว่าเขาจะสามารถชนะในครั้งนี้ได้หรือไม่ เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับพวกครู แต่gขารู้ว่าพวกเขาแข็งแกร่ง

แม้แต่แคสเซียสก็ยังขมวดคิ้ว เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการเผชิญหน้ากับครู อันที่จริงเขามีความสุขเล็กน้อย เพราะในที่สุดเขาก็สามารถมีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าได้ แต่เขาก็กังวลเช่นกัน

เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาบังเอิญทําร้ายครูหรือฆ่าพวกเขา?

ถ้าครูรู้ว่าทําไมแคสเซียสถึงกังวล ก็ไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะหัวเราะหรือโกรธกับความคิดแบบเด็กๆของเขา

ขณะที่ทุกคนกําลังคิดเกี่ยวกับการทดสอบ อเล็กซี่ก็ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

“แต่อย่ากังวล เราทุกคนรู้ดีว่าการขอให้คุณเอาชนะเราคงมากเกินไป นั่นเป็นเหตุผลที่เราทําให้มันง่าย ในการประสบความสําเร็จนั้นคุณไม่จําเป็นต้องเอาชนะเรา”

“นอกจากนี้ คุณไม่จําเป็นต้องเผชิญหน้าพวกเราทุกคน เราเพียง 3 คนเท่านั้นที่จะอยู่ในการทดสอบแรก, มอร์เบียส และเวนตัน สําหรับอีก 3 คนที่เหลือพวกเขาจะเป็นผู้ตัดสิน

“พวกเขาจะให้คะแนนคุณ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของคุณ ยิ่งกว่านั้น การทดสอบแต่ละครั้งจะใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น” เขาอธิบายเพิ่มเติม

“หลังจากการทดสอบทั้งสามจบลง อันดับของคุณจะถูกตัดสินตามคะแนนที่คุณได้รับ ทุกคนเข้าใจไหม?” เขาถามหลังจากอธิบายเสร็จแล้ว

นักเรียนทุกคนพยักหน้า ในที่สุด การทดสอบนี้ทําให้พวกเขาเข้าใจมากขึ้น พวกเขาไม่จําเป็นต้องเอาชนะครู พวกเขาแค่ต้องเผชิญหน้าแทน

“ต้องได้กี่คะแนนถึงจะไม่ล้มเหลว” รูนถาม

“ครูแต่ละคนจะให้คะแนนคุณ 5 คะแนนสําหรับการทดสอบแต่ละครั้ง ดังนั้นคุณสามารถได้รับคะแนนสูงสุด 15 คะแนนต่อการทดสอบได้น้อย กว่า 5 จาก 15 คะแนน นั่นจะถือว่าสอบไม่ผ่าน อเล็กซี่ตอบ

ในที่สุด ฉันก็จะได้อันดับสูงสุด ไม่มีเรื่องไร้สาระอื่น ๆ ในการทดสอบครั้งนี้ ฉันสามารถทําทุกอย่างด้วยของขวัญของฉันและชนะ สําหรับอเล็กซ์ เขาไม่สามารถชนะได้ และใครจะไปรู้ ถ้าโชคของฉันดี เขาอาจจะทําบางอย่างที่ทําให้เขาถูกไล่ออก แดชคิดพร้อมกับยิ้มเยาะบนริมฝีปากของเขา

หลังจาก 3 ปี ในที่สุดเขาก็ได้รับการทดสอบ ซึ่งเขาเชื่อว่าเขาจะเปล่งประกายได้
“เอาล่ะ คู่ต่อสู้คนแรกของคุณคือเวนตัน สําหรับการทดสอบครั้งแรก ฉันแน่ใจว่าคุณเดาได้ คุณต้องต่อสู้กับเขาโดยไม่มีของขวัญของคุณ โชคดีนะทุกคน” อเล็กซี่บอกกับนักเรียนก่อนจะเดินกลับพร้อมกับอาจารย์คนอื่นๆนั่งลง

“เดรย์ คุณคือคนแรก ส่วนคนอื่นๆถอยกลับไปก่อน” เวนตันบอกกับนักเรียน ขณะที่ผู้เข้าทดสอบคนแรก

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ถอยกลับเพื่อรอผลัดกัน

และในไม่ช้า การต่อสู้ครั้งแรกก็เริ่มขึ้น เดรย์ที่ดูธรรมดาจากตระกูลอีสโตเอียผู้ยิ่งใหญ่ ทางตอนเหนือกําลังต่อสู้กับเวนตัน ซึ่งเป็นแวเรียนท์ที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้แบบประชิดตัว

เดรย์ดูตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะให้การแสดงที่ดี เพื่อให้ได้คะแนนที่ดีที่สุด เขาแสดงท่าที่ฉูดฉาด ในขณะที่เขาต่อสู้กับเวนตันแทนที่จะใช้ท่าปกติที่เขาถนัด
น่าเสียดายการแสดงครั้งนี้ทําให้เขาผิดหวัง เมื่อเขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้น เข่าของเวนตันอยู่บนหน้าอกของเขา

“การเคลื่อนไหวที่ฉดฉาดนั้นดี แต่คุณต้องเชี่ยวชาญมัน มิฉะนั้นพวกมันอาจเป็นจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของคุณ ยืนขึ้นและต่อสู้อย่างเหมาะสม!” เวนตันกล่าว
ไม่นานเขาก็ถอดเข่าออก ทําให้เดรย์มีโอกาสอีกครั้ง เหลือเวลาเพียง 4 นาที
เดรย์ยืนขึ้นและต่อสู้อย่างเหมาะสมในครั้งนี้ โดยใช้ท่าทางที่เขาถนัด แม้ว่าเขาจะยังเสียเปรียบอย่างใหญ่หลวง พ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า เขายังคงยึดมั่น

ไม่นานเวลา 5 นาทีก็จบลง และถึงเวลาประกาศคะแนน

“1 คะแนนจากฉัน เขาแย่มาก ฉันไม่เห็นเทคนิคดีๆ ในการต่อสู้ของเขาเลย ดูเหมือนว่าเขาจะต่อสู้เพื่อเรามากกว่าที่เขาต่อสู้เพื่อตัวเองอีก” ฟรานซีกล่าว ขณะที่เขาเป็นคนแรกที่ให้คะแนน

“2 คะแนนจากฉัน อย่างที่ฟรานซีพูด เขาแย่จริงๆ แต่ฉันคิดว่าเขายังทําได้ดีกว่าคนส่วนใหญ่ในการต่อสู้กับนักรบผู้ยิ่งใหญ่อย่างเวนตัน” มิราลี่กล่าวขณะที่เธอให้คะแนน

เหลือเพียงโยวานเท่านั้น เดรย์มองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน ไม่อยากล้มเหลว เขาต้องการ 2 แต้มหากเขาไม่อยากล้มเหลวในตอนนี้

“ฉันจะให้ 1 คะแนนแก่คุณ แต่เอาล่ะ ฉันเดาว่าความมุ่งมั่นของคุณมีค่าสําหรับบางสิ่ง คุณต่อสู้ด้วยความกล้าหาญ ไม่กลัวการโจมตี เมื่อคุณเข้าใกล้เวนตัน 2 คะแนนจากฉัน” โยวานพูดพร้อมยิ้ม

“เอาล่ะ เดรย์ คุณมี 5 คะแนนในการทดสอบครั้งแรก คุณผ่าน คุณกลับไปได้” เวนันบอกกับเดรย์

“รูน คุณก้าวมาข้างหน้า” เขาพูดต่อในขณะที่เขาเชิญนักเรียนคนต่อไป

การต่อสู้ครั้งที่ 2 ก็จบลงในไม่ช้า ส่งผลให้ประสิทธิภาพต่ํากว่ามาตรฐานอื่น รูน ไม่สามารถโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว แต่ดูเหมือนว่าเขาจะมีเวลาที่ดีกว่าเดรย์

ในท้ายที่สุด เขาได้รับ 6 คะแนนจาก 15 คะแนน นําเขาไปสู่ตําแหน่งแรก

“ต่อไป เร็น เวนตันเรียกเด็กชายที่สวมแว่นตาดํา อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาดูจริงจังราวกับว่าเขาคาดหวังการต่อสู้ที่ยากลําบากในครั้งนี้

แม้ว่าเร็นจะตาบอด ปฏิกิริยาตอบสนองของเขา และทุกสิ่งทุกอย่างก็ไร้ที่ติ ทําให้เขาเป็นนักสู้ตัวต่อตัวที่ยอดเยี่ยม

ตามที่คาดไว้ เร็นต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยมและสามารถผลักเวนตันกลับไปได้ 2-3 ครั้ง

ตลอดการสู้รบ เขาได้โจมตีมากกว่าที่จะล้มลงให้กับเวนต้น

ครูทุกคนประทับใจในการแสดงของเขา สําหรับการให้คะแนนเขา ทุกคนให้คะแนนเขา คนละ 4 คะแนน ยอดรวมของเขาตอนนี้มีอยู่ที่ 12 ใน 15 ทําให้เขาเป็นคนแรกในขณะนั้นด้วยการเป็นผู้นําครั้งใหญ่

“เอาล่ะ ตอนนี้ 3 คนสุดท้ายแล้ว และ 3 อันดับ แรกในการสอบของปีที่แล้วด้วย รีบก้าวไปข้างห น้า ตาคุณอันดับที่ 3” เวนดันพูดพร้อมกับเรียกแดช

แดชก้าวไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิใจ เขาพร้อมที่จะให้การแสดงที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เขาตั้งใจจะเอาชนะอาจารย์ในครั้งนี้ด้วยซ้ํา

เป้าหมายของเขาไม่ใช่เพื่อยึดครอง แต่เพื่อยึดทั้งสนาม ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถใช้พลังของเขาได้

ตอนที่ 206: กฎ

แทนที่จะดูหงุดหงิดหรือรังเกียจ ลูซิเฟอร์กลับดูสับสน

“ฉันขอถามเหตุผลได้ไหม ฉันคิดว่ามันอาจมีเหตุผลบางอย่าง หรือนายจะไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่โดยสัญจรไปมาอย่างเสรี” เขาถามแคสเซียส

“เหตุผลคือ เพราะเขาส่งเสียงมากเกินไป ฉันอารมณ์เสีย และฆ่าเขา ส่วนที่ไม่โดนทําโทษ นั่นเป็นเพราะฉันมาจากตระกูลซิอานี่ผู้ยิ่งใหญ่” แคสเซียสตอบ

ก่อนที่ลูซิเฟอร์จะพูดอะไร แคสเซียสก็พูดต่อ “อย่างน้อย นั่นคือสิ่งที่โลกคิด ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าข่าวลือนั้นเริ่มต้นเกี่ยวกับฉันอย่างไร”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูซิเฟอร์ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อแคสเซียสพูดว่าทําไมเขาถึงฆ่า ลูซิเฟอร์เคยคิดว่าบางทีเขาอาจคิดผิดเกี่ยวกับแคสเซียส แต่ประโยคที่สองของเขาทําให้ลูซิเฟอร์ตระหนักว่าสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริงมันเป็นแค่ข่าวลือ

“แล้วเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ เหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม “เรื่องจริงคืออะไร และข่าวลือนี้เริ่มต้นอย่างไร”

แคสเซียสหยุดไปนานราวกับว่าเขากําลังนึกถึงวันนั้น

“วันนั้นเป็นวันธรรมดา แต่อารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะทะเลาะกับพ่อแม่ตอนเช้า เลยอารมณ์เสียในห้องเรียน มีเสียงดังเกินไป และเพื่อนของฉันก็พูดไปเรื่อย ฉันคอยบอกให้เขาหยุดและฉันก็ไม่มีอารมณ์ แต่เขาก็ยังพูดต่อไป” แคสเซียสตอบ

“แล้วฉันก็ตะคอก ฉันตะคอกใส่เขา แม้จะขู่ว่าจะฆ่าเขา หากเขาไม่หยุดส่งเสียงดัง ฉันเดาว่า นั่นคือที่มาของข่าวลือนั้น” เขากล่าวต่อ

“แต่นายไม่ได้ฆ่าเขาในตอนนั้น ฉันคิดว่า นายแค่โกรธ? คนพูดไร้สาระเหล่านั้นพวกเขาอาจจะไม่เคยเข้าใจอะไรเลย” ลูซิเฟอร์ตอบ

“คงจะเป็นอย่างนั้นถ้าเขาไม่ตายในเย็นวันนั้นจริง ๆ แต่หลังจากโรงเรียนเลิก มีบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ฉันต่อสู้กับแวเรียนท์อื่น ๆ 2-3 คน ในการสู้รบ เพื่อนของฉันที่ยังคงเดินอยู่กับฉันเสียชีวิต เนื่องจากสาเหตุการตายของเขาเกิดจากการโจมตีของฉัน” แคสเซียสอธิบายพร้อมถอนหายใจ

“ฟังดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ และจากคําพูดของนาย ฉันไม่คิดว่านายกําลังโกหก” ลูซิเฟอร์ตอบ “วันนั้นนายไม่ได้บอกความจริงเหรอ?”

“ฉันพูดความจริงแต่ไม่มีใครเชื่อคําพูดก่อนหน้าของฉันและคําให้การเท็จของศัตรูทําให้ดูเหมือนว่าฉันฆ่าเขาด้วยความโกรธ คนทั้งโลกปิดกั้นคําพูดของฉันไว้ ทุกคนได้ยินเรื่องนี้และเริ่มคิดว่าฉันเป็นนักฆ่า” แคสเซียสตอบ

“ตอนแรกก็เจ็บ แต่พอนานๆ ที่ฉันก็เลิกสนใจเหมือนกัน” เขาพูดต่อ

“อย่างไรก็ตาม มันเป็นเพราะข่าวลือที่ว่าผู้คนเงียบต่อหน้าฉัน คิดว่าฉันจะบ้าและอาจจะฆ่าพวกเขา หากพวกเขาส่งเสียงโดยไม่จําเป็น ในทางที่ดีฉันก็จะได้รับความเงียบและความสงบสุขเช่นกัน”

“แต่นี่ก็ทําให้ไม่มีใครเข้าใกล้นาย นายต้องการอยู่คนเดียวตลอดชีวิตหรือไม่?” ลูซิเฟอร์ถาม

“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าการอยู่คนเดียวแบบนี้จะรู้สึกยังไง แต่ฉันคิดว่ามันน่าจะน่ากลัว ไม่มีใครอยู่กับนายเลย” เขาพูดต่อในขณะที่ถอนหายใจ

แคสเซียสไม่ตอบในเวลานี้ ขณะที่เขาเงียบ

หลังจากหยุดไปนานเขาก็พูดอีกครั้งว่า “ตอนนี้ นายก็รู้ทั้ง 2 เรื่องแล้ว ด้านนั้นของฉัน นายเชื่อด้านนั้นของของฉันไหม นายยังต้องการเป็นเพื่อนกับฉันไหม ใครจะรู้ ฉันอาจจะโกหก”

“ฉันเชื่อว่านายไม่ได้โกหก และใช่ ฉันยังต้องการเป็นเพื่อนกับนาย” ลูซิเฟอร์กล่าว

“นายนี่แตกต่างจากคนอื่นๆ จริงๆ อเล็กซ์ นายไม่ได้แย่ขนาดนั้น” แคสเซียสพูดพร้อมกับยิ้มในที่สุด “จากนี้ไปนายคือเพื่อนของฉัน”

ทั้งอเล็กซ์และแคสเซียสจับมือกัน

อีก 2 เดือนผ่านไป แคสเซียสและลูซิเฟอร์เริ่มใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น มิตรภาพของพวกเขาลึกซึ้งยิ่งขึ้น

สําหรับแดชนั้นเขาอารมณ์เสียมากกว่าตลอด 2 เดือนนี้ เขาพยายามทําให้ลูซิเฟอร์ใช้พลังของเขา แต่เขาทําไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่ดูเหมือนลูซิเฟอร์จะเป็นห้องนิรภัยที่ไม่ยอมเปิด

เวลาผ่านไปในขณะที่ความพยายามของเขาทวีความรุนแรงมากขึ้น

ขณะที่แดชทุ่มความสนใจส่วนใหญ่ในการทําให้ลูซิเฟอร์ทําผิดพลาด ลูซิเฟอร์ยังคงมุ่งความสนใจไปที่การเรียนรู้ อันที่จริงเขาได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของครูไปแล้ว พรสวรรค์ของเขาดูเหมือนจะไม่อยู่ในชาร์ต

เขาไม่เคยเรียนในโรงเรียนของแวเรียนท์ และนี่เป็นครั้งแรกของเขาในโรงเรียนของแวเรียนท์อย่างแท้จริง และเขาไม่เพียงแต่ติดต่อกับคนอื่นเท่านั้น แต่ยังทิ้งพวกเขาไว้ข้างหลังอีกด้วย

ในชั้นเรียนหมากรุก แม้แต่ครูของเขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้ สําหรับวิชาคอมพิวเตอร์ เขาได้เรียนรู้ทุกอย่างที่สอนให้กับนักเรียนชั้นปีที่ 3 แล้ว ตอนนี้เขากําลังศึกษาหลักสูตรของปีที่ 4 ในวิชาคอมพิวเตอร์

และเมื่อพูดถึงการว่ายน้ํา เขาเป็นคนที่เร็วที่สุด แม้จะไม่มีพลังก็ตาม

ภายในเวลาอันสั้น ลูซิเฟอร์กลายเป็นบุคคลที่ทุกคนรู้จัก เขาได้รับการยืนยันว่าจะสําเร็จการศึกษาในระดับสูงสุดและก้าวขึ้นจากที่นั่น

สําหรับแคสเซียส เขามีความสุขกับความนิยมที่เกิดขึ้นของลูซิเฟอร์ เพราะเขาไม่สนใจชื่อเสียงหรือยศศักดิ์

หลังจากได้รับชื่อเสียงด้านลบมามากมายตลอดชีวิต เขาต้องการอยู่ห่างจากทุกสิ่งเช่นนั้น

ในไม่ช้า ปีที่ 3 ของสถาบันการศึกษาก็จบลงเช่นกัน และถึงเวลาสําหรับการสอบปีที่ 3 ของชั้นเรียน A ที่ลูซิเฟอร์กําลังศึกษาอยู่

สําหรับการสอบครั้งนี้ มันจะยากยิ่งกว่าการสอบของปีที่แล้ว ตามที่ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ได้ยิน

ลูซิเฟอร์ แคสเซียส และคนอื่นๆ กําลังยืนอยู่ ในลานประลองขนาดใหญ่ที่มีครู 6 คนยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

5 คนเป็นครูประจํา ได้แก่ อเล็กซี่ ฟรานซี มิรา ลี่ โยวาน และมอร์เบียส สําหรับครูคนที่ 6 เป็นครูสอนศิลปะการต่อสู้เวนตัน

“วันนี้ การสอบปี 3 ของคุณจะเริ่มขึ้น คุณพร้อมหรือยัง” อเล็กซี่ถามนักเรียนด้วยรอยยิ้ม

นักเรียนทั้ง 6 คนพยักหน้า

“ดีแล้ว ให้ฉันบอกกฎให้คุณฟัง คราวนี้คุณจะไม่ต่อสู้กับมอนเสตอร์ในดันเจี้ยนหรือผ่านการทดสอบที่คุณทําในครั้งที่แล้ว แต่มันจะแตกต่างออกไปมาก วันนี้คุณต้องเผชิญหน้ากับครูของคุณ ทําให้ผ่านไปให้ได้” อเล็กซี่บอกกับนักเรียน

“เผชิญหน้ากับอาจารย์?” รูนอุทานด้วยความตกใจ “ถ้าอย่างนั้นเราทุกคนจะไม่ล้มเหลวเหรอ ผมหมายถึง เราอยู่แค่ปีที่ 3 เท่านั้น มันคงจะแปลก ถ้าพวกเราคนใดสามารถเอาชนะพวกครูได้ทั้งหมด”

“ถูกต้อง การทดสอบนี้ดูยากเกินไป.. ทําไมมันจึงแตกต่างจากการสอบปีที่ 3 ของชุดที่แล้ว?” เดรย์ถาม

ตอนที่ 205: ตกหลุมพรางของตัวเอง

“ครั้งนี้เราต้องฟังเขาเพราะเขาไม่เพียงแค่เห็นการกลับมาของลูซิเฟอร์ เขาเห็นมากกว่านั้นด้วย และหากสิ่งที่เขาเห็นเป็นความจริงเราก็ละเลยคําทํานายนี้ไม่ได้” ไรอาตอบอย่างจริงจัง

อะคาเดมี่สําหรับเด็กที่มีพรสวรรค์ถูกครอบครองโดยแวเรียนท์รุ่นเยาว์หลายพันคนที่มาที่นี่เพื่อเรียนรู้และรับอนาคตที่สดใส

ลูซิเฟอร์เป็นหนึ่งในนักเรียน เขาอยู่ในสถาบันการศึกษาปีที่ 3 แล้วและอีก 3 ปีที่เขาจะต้องอยู่ที่นี่และเขากําลังจะสําเร็จการศึกษา

ชั้นเรียนสําหรับปีที่ 3 เริ่มตรงเวลาเนื่องจากนักเรียนทุกคนเริ่มเรียนหลักสูตรใหม่ๆอีกครั้ง

ลูซิเฟอร์และเพื่อนร่วมชั้นของเขากําลังเรียนวิชาศิลปะการต่อสู้ ซึ่งพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังของพวกเขา

อย่างไรก็ตามครั้งนี้มีบางอย่างที่แตกต่างออกไป

มีการตัดสินใจว่าจะมีการต่อสู้จําลองขึ้นนักเรียนทั้ง 6 คนจะต่อสู้กับคนในชั้นเรียนคนเดียวในการต่อสู้จําลองโดยไม่ต้องใช้ของขวัญที่ตนได้รับ
ส่วนเรื่องการจับคู่นั้นอาจารย์ได้ตัดสินใจไว้แล้ว

“เร็น เธอจะต้องสู้กับเดรย์ แคสเซียสคู่ต่อสู้ของเธอคือรูนและเธอไม่สามารถใช้ดาบของเธอได้เลยเด็ดขาด! สําหรับอเล็กซ์เธอจะต้องสู้กับ แดช

เมื่อทั้งคู่ถูกประกาศแล้วทุกคนก็เข้าประจําตําแหน่งในส่วนต่างๆของอารีน่า เพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้

ครูของพวกเขาในตอนนี้ก็ยืนอยู่ตรงกลางอารีน่าแล้วเพื่อเฝ้าดูการต่อสู้ทั้งหมดที่กําลังจะเริ่มต้น

แดชยืนอยู่ต่อหน้าลูซิเฟอร์ พลางหักข้อนิ้วของเขา

‘โอกาสที่สมบูรณ์แบบ วิธีเดียวที่จะทําให้เขาถูกไล่ออกคือการทําให้เขาแหกกฏอีก 2 ครั้ง แดชคิดขณะสังเกตลูซิเฟอร์

“นี่อาจเป็นช่วงเวลาหนึ่งก็ได้ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือทําให้เขาใช้พละกําลังมากกว่าปกติ

“เริ่มได้!” ครูประกาศ

เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น ลูซิเฟอร์และแดชก็วิ่งเข้าหากันเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ที่ดุเดือด

การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น แต่จบลงแล้วเมื่อแคสเซียสเอาชนะรูนได้แล้ว

สําหรับเร็นเขายังได้เปรียบเหนือเดรย์อีกด้วย

การต่อสู้ของลูซิเฟอร์และแดชดูเหมือนจะแตกต่างกันเล็กน้อย

เนื่องจากลูซิเฟอร์ระมัดระวังที่จะไม่ออกแรงใดๆ ที่อาจทําให้เขาตกอยู่ในความเสี่ยง เขาได้ต่อสู้แตกต่างออกไปเล็กน้อยการต่อสู้กับแดช นั้นแตกต่างจากการต่อสู้ของมนุษย์

เขาใช้ศิลปะการป้องกันตัวที่ต้องใช้พละกําลัง น้อยที่สุดในการหลบเลี่ยงการโจมตีของแดชในขณะที่ยังสามารถโจมตีเขาได้ 2-3 ครั้ง

“ต่อสู้อย่างถูกต้องสิ!”แดชบอกลูซิเฟอร์ด้วยอารมณ์เสียที่ไม่สามารถโจมตีเขาได้

“นี่เป็นการต่อสู้ที่ถูกต้อง การต่อสู้ไม่เพียงแต่รวมถึงการโจมตีเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการหลบด้วย”ลูซิเฟอร์ตอบในขณะที่เขาเคลื่อนที่ร่างกายของเขาอีกครั้งเพื่อหมุนลูกเตะของเขาเองเมื่อแดชกําลังฟังซ่าน

การเตะกระแทกขาของแดช

แดชกําลังจะล้มลง แต่นั่นคือตอนที่เขาเริ่มกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด “อ๊าก!”

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นอย่างสับสน เกิดอะไรขึ้น? นั่นคือตอนที่เขาเข้าใจ ไฟสีแดงติดสว่างบนสร้อยข้อมือของแดชขณะที่เขาหมดสติ

“เจ้าบ้านี้ดูเหมือนว่าเขาพยายามใช้ลมปราณเพื่อช่วยเขาจากการตกไม่ต้องกังวลฉันจะพาเขาไปหาพยาบาลเขาแค่หมดสติเขาจะตื่นขึ้นมาใน 1 ชั่วโมง”ครูสอนศิลปะการต่อสู้พูดขณะวิ่งไปที่แดช

“ทุกคนไปเรียนต่อได้แล้ว” เขาพูดต่อก่อนจะออกไปกับแดช

นักเรียนทั้ง 5 คนเริ่มเดินออกไป แคสเซียสและลูซิเฟอร์เดินตามหลังคนอื่นๆ

แคสเซียสก็มองไปที่ลูซิเฟอร์ในขณะที่เขาอ้าปาก“ฉันไม่เห็นด้วยเลย”

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แคสเซียสไม่ได้พูดคุยอะไรมากนักลูซิเฟอร์จึงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเขายังคงมีความรู้สึกในเชิงบวกต่อแคสเซียสมา กกว่าที่เขามีต่อผู้อื่น

“ไม่เห็นด้วยเรื่องอะไร” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“การต่อสู้นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการหลบด้วย หากนายหลบนั่นหมายความว่านายอ่อนแอและนายไม่สมควรที่จะอยู่ในการต่อสู้นั้นตั้งแต่แรก” แคสเซียสกล่าว

“การต่อสู้ที่ถูกต้องคือการจู่โจม ฉันเชื่อว่าการ โจมตีนั้นเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดหากนายอยู่ในแนวรุกนายไม่ต้องกังวลกับการป้องกัน” เขาอธิบายเพิ่มเติม

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดคํามากมายตลอดหลาย ปีที่ผ่านมาลูซิเฟอร์รู้จักเขา
“นั่นแหละนายแข็งแกร่ง นายจึงไม่เข้าใจ แต่ ในโลกภายนอก คนส่วนใหญ่ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องต่อสู้”ลูซิเฟอร์ตอบ“ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งฉันได้ยินเรื่องราวมากมายจากปู่ของฉันเช่นนั้น”

“ตัวอย่างเช่น มหาสงครามครั้งสุดท้าย เมื่อ มอนสเตอร์ที่อยู่ในดันเจี้ยนออกมาและเริ่มโจมตี เมืองต่างๆ นายคิดว่าพวกแวเรียนท์จะพูดว่าเรา อ่อนแอกว่าเราไม่สมควรที่จะต่อสู้หรือไม่? ‘ นั่นแหละนะ”

“แม้แต่ผู้อ่อนแอยังต้องต่อสู้ในบางครั้ง และ การใช้ศิลปะการป้องกันตัวแต่ก้าวร้าวก็มีความสําคัญดังนั้นการต่อสู้อาจมีได้หลายประเภท แต่ จะดีกว่าเสมอที่จะใช้การป้องกันให้มากที่สุดเท่าที่เป็นการโจมตี”เขากล่าวเพิ่มเติม”เพราะนายไม่ ได้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่อ่อนแอเสมอไป””ฉันหมายถึงมีแต่คนงี่เง่าเท่านั้นที่ต่อสู้อย่างสัตว์เดรัจฉานปล่อยให้การโจมตีทั้งหมดโจมตีเขา ไม่มีใครใน พวกเราที่เป็นอมตะเลย”ลูซิเฟอร์พูดจบในขณะที่เขายิ้มเขาไม่รู้ว่าเขาเป็นปิศาจแสนน่ากลัวที่เขากําลังพูดถึง ก่อนที่เขาจะสูญเสียความทรงจํา

“นายคิดอย่างไร?” ลูซิเฟอร์ถามแคสเซียสเมื่อพูดจบ

“แนวทางนั่นน่าสนใจ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นมาก่อนบางทีอาจเป็นเพราะฉันไม่จําเป็นต้องใช้การ ป้องกัน แคสเซียสพึมพําในขณะที่เขาพยักหน้า”ที่นายพูดก็มีเหตุผลเช่นกัน” ” อ้อ นายทําได้ดีมากถ้าพูดตามตรงมันเป็นเรื่องดีที่แดชถูกไฟฟ้าช็อตเขากล่าวต่อพร้อมรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ“ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย”ยังไงก็เถอะ ยินดีที่ได้คุยกับนาย ฉันไม่มีเพื่อนในคลาส A เราเป็นเพื่อนกันได้ไหม
เขายื่นมือไปทางแคสเซียสเพื่อจับมือ

เมื่อเห็นมือของลูซิเฟอร์ แคสเซียสก็ตกตะลึงนี่เป็นสิ่งใหม่สําหรับเขา เนื่องจากมีคนไม่มากที่เสนอให้เป็นเพื่อนของเขาทุกคนต่างรักษาระยะ ห่างจากเขาซึ่งทําให้เขาต้องโดดเดี่ยวมากขึ้น

“แน่ใจเหรอว่าอยากให้ฉันเป็นเพื่อน”แคสเซียสถามลูซิเฟอร์แต่ก็ยังไม่เชื่อ

“แน่นอน ทําไมฉันจะไม่อยากล่ะ“ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ

“นายไม่ได้ถามใครหรอกเหรอว่าทําไมทั้งหอประชุมถึงเงียบเมื่อฉันเข้าไปในระหว่างการ ปฐมนิเทศ? “แคสเซียสถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันพยายามถามแต่ไม่มีใครตอบ สุดท้ายฉันก็ยอมแพ้ แล้วนายล่ะจะตอบว่าอย่างไรเกิดอะไรขึ้น”ลูซิเฟอร์ถาม

“นั่นเป็นเพราะฉันเคยฆ่าใครซักคนมาก่อนเพื่อนของฉันที่โรงเรียน”แคสเซียสตอบขณะมองลูซิเฟอร์เพื่อสังเกตสีหน้าของเขา

เขาสงสัยว่าลูซิเฟอร์จะรังเกียจหรืออะไรแต่สิ่งที่เขาเห็นบนใบหน้าของลูซิเฟอร์ไม่ใช่ความรังเกียจหรือเกลียดชัง

ตอนที่ 204: อารมณ์เสียมากขึ้น

ปีที่ 2 ของลูซิเฟอร์ก็จบลงในไม่ช้เช่นกันและก็ถึงเวลาของการสอบประจําปีอีกครั้ง

นักเรียนคลาส A เข้าร่วมการสอบอีกครั้งซึ่งแตกต่างจากการสอบครั้งล่าสุดอย่างมาก

แดชตั้งใจแน่วแน่ที่จะชนะในครั้งนี้เพื่อเอาชื่อเสียงที่เสียไปกลับคืนมา อย่างน้อยเขาก็ไม่แพ้ลู

ซิเฟอร์เหมือนครั้งที่แล้วเขาเชื่อว่าถ้าเกิดเรื่องขึ้นคงโดนตบหน้าแน่ๆ
ปู่ของเขาและปรมาจารย์แห่งตระกูลใหญ่ของฟรานซีซึ่งกําลังเฝ้าดูทุกสิ่งอยู่ แม้ว่าคุณปู่ของเขาจะไม่พูดอะไรแต่แดชเชื่อว่าการสูญเสียของเขา กําลังทําลายชื่อเสียงของตระกูลฟรานซีผู้ยิ่งใหญ่

เขาสาบานกับตัวเองว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาจะต้องชนะ
น่าเสียดายที่การสอบประจําปีครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้เขาไม่สามารถชนะที่ 1 ได้อีกครั้ง

ที่ 1 ถูกชิงไปอีกครั้งโดยลูซิเฟอร์ ทําให้แดชหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม สําหรับอันดับที่ 2 นั้นแคสเซียสยึดครองซึ่งดูเหมือนเขาจะไม่สนใจอีกแล้วว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

แดชทําได้แค่อันดับ 3 เท่านั้น โดยที่เร็นได้อันดับที่ 4 ในครั้งนี้ ส่วนเดรย์และรูนเป็นอันดับที่ 5 และ 6 โดยเปลี่ยนตําแหน่งสุดท้าย

“ยินดีด้วย อเล็กซ์ อะลาริก คุณได้ที่ 1 เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกันไม่เลวแต่ฉันต้องเตือนคุณ อย่าแหกกฎและคุณสามารถกลายเป็นชื่อที่ยิ่งใหญ่ได้” ฟรานซีบอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขาเหลือบมองไปที่ข้อมือของลูซิเฟอร์สร้อยข้อมือซึ่งมีแสงสีแดง 1 ดวงในตอนนี้

“ฉันแน่ใจว่าคุณรู้ว่าคุณทําผิดกฏอีก 2 ครั้งคุณจะถูกไล่ออกดังนั้นจงระวัง” เขากล่าวเพิ่มเติม

ในปีที่ 2 ลูซิเฟอร์ไม่ได้ทําผิดกฎใดๆแต่ยังเหลือเวลาอีก 3 ปี

“คุณกลับไปได้แล้ว คุณจะมีวันหยุด 2 วันเพื่อพักผ่อนสนุกกับวันของคุณและอย่าไปสายสําหรับชั้นเรียนต่อไป” ฟรานซีบอกกับนักเรียนขณะที่เขาจากไป

นักเรียนจากไปอีกครั้ง ไม่มีใครสังเกตเห็นการแสดงออกที่บิดเบี้ยวของแดชซึ่งเริ่มหงุดหงิดกับลูซิเฟอร์มากขึ้นเรื่อยๆ

ปีที่แล้วเขาทํางานหนักที่สุดเท่าที่จะทําได้เพื่อเอาชนะแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังแซงคนธรรมดาๆไม่ได้หรอกหรือ?

แดชกลับไปที่ห้องส่วนตัวซึ่งเขาอยู่คนเดียวอันที่จริงห้องนี้ดูใหญ่เป็นสามเท่าของห้องที่ลูซิเฟอร์เจสันและเควินใช้ร่วมกัน

“อเล็กซ์! อเล็กซ์! อเล็กซ์! อเล็กซ์ไอ้เลวนี่!ทําไมมันถึงยังไม่ตาย!”แดชพูดออกมาด้วยความหงุดหงิดเมื่อเขาหยิบหม้อขึ้นมาแล้วโยนมันไปที่กําแพงด้วยความหงุดหงิด

“ตอนนี้หัวข้อนี้อยู่ในมหาวิทยาลัยการที่ข้าแพ้ให้กับสามัญชนนั้นยังไม่เป็นที่รู้กันภายนอก”

“ฉันจะปล่อยให้อเล็กซ์จบชั้นสูงสุดของชั้นเรียนไม่ได้ ไม่งั้นคนทั้งโลกจะรู้เรื่องนี้! ครอบครัวฟรานซีของฉันจะกลายเป็นตัวตลก!ฉันจะปล่อยให้เขาเรียนจบไม่ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น!”แดชพูดออกมาด้วยความหงุดหงิด

เขาเดินไปมาเพื่อควบคุมความโกรธของเขาแต่เขาทําไม่ได้

“ฉันลองเส้นทางที่ชอบธรรมแล้ว แต่นั่นไม่ได้ผลก็ได้ฉันจะลองเส้นทางอื่น! ”

“หลานเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไม่เป็นไร ผมคิดถึงคุณมาก คุณปู่”

ในห้องประชุมลูซิเฟอร์ และคุณปู่จี้กําลังนั่งคุยกันอยู่คุณปู่จี้กลับมาพบลูซิเฟอร์อีกครั้งหลังจากได้รับใบอนุญาตอันที่จริงมันเป็นการนัดเจอครั้งที่ 7 ของเขากับลูซิเฟอร์ใน 2 ปี

“ปู่ก็คิดถึงเธอเหมือนกัน ปีศาจน้อยอีกแค่ 3 ปี เรียนจบเร็วๆแล้วกลับบ้านกัน”ชายชราบอกกับลูซิเฟอร์

“อย่ากังวลไปเลย ผมจะกลับไปอีกแน่นอนปู่รู้หรือไม่ผมได้ที่ 1 ในการสอบประจําปีอีกครั้งผมทํามันติดต่อกัน 2 ครั้ง ปูไม่ภูมิใจในหลานของปู่เหรอ? “ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับยิ้ม

ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขอย่างแท้จริงในขณะนี้เขาสามารถมีชีวิตที่เด็กหนุ่มสมควรจะมี… ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรักของครอบครัว

เขายังให้ชายชราดูแหวนที่สวยงามซึ่งมีชื่อของเขาเขียนอยู่

“ยังต้องถามอีกหรือ ปู่ของหลานภูมิใจในตัวหลานเสมอ” คุณปู่ตอบขณะลูบหัวของลูซิเฟอร์

“ยังไงก็เถอะ ฉันเอาขนมที่หลานชอบมาด้วย”เขาพูดต่อขณะยื่นถุงให้ลูซิเฟอร์

“ว้าว ปูนี่รู้ใจผมที่สุดแล้ว!” ลูซิเฟอร์อุทานขณะที่เขายืนขึ้น เขาเดินไปหาชายชราและกอดเขาแน่นก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ของเขา

“ไม่มีใครรบกวนหลานใช่ไหม” คุณปู่จี้ถาม “หลานรู้ไหมว่ามีคนมากมายในโลกนี้ที่อิจฉาความสําเร็จของใครบางคน”

“ตั้งแต่หลานชนะและได้รับแหวนนี้ 2 ครั้งหลานก็อาจเป็นศัตรูโดยไม่ได้ตั้งใจเช่นกัน ดังนั้น จงตื่นตัวและเป็นมิตรกับทุกคน”

“ผมเข้าใจครับคุณปู่ ผมไม่คิดว่าผมสร้างศัตรูเลยทุกคนที่นี่ดีมากไม่ต้องกังวลไป” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น

คุณปู่จิ้มองนาฬิกาและสังเกตเวลา“ดูเหมือนเวลามาเยี่ยมจะหมดแล้ว คราวหน้าจะมาหาใหม่นะ”

เขายืนขึ้น

“อเล็กซ์ ปู่ภูมิใจในตัวหลานมากคิดว่าวันหนึ่งหลานสามารถทําสิ่งที่ยิ่งใหญ่เพื่อโลกใบนี้ได้ดังนั้นจงทํางานให้หนัก”

ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืนขณะกอดชายชราด้วยความรู้สึกเศร้าที่ต้องจากไป

การกอดนั้นกินเวลาสั้นๆ ก่อนที่ทั้งสองจะแยกจากกันคุณปู่จออกจากโรงเรียนในขณะที่ลูซิเฟอร์เดินกลับไปที่ห้องของเขา

ในสํานักงานใหญ่ แวเรียนท์เกิดใหม่มีการประชุมที่สําคัญ 6 ปีแล้วที่ลูซิเฟอร์หายตัวไป

แต่พวกเขายังได้รับแจ้งจากผู้ทํานายว่าลูซิเฟอร์กําลังจะกลับมาและการกลับมานั้นอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 2 ปี

การประชุมมีผู้เข้าร่วมระดับ 5 ชั้นนํา 2-3 คนรวมถึงเคลเลี่ยนและยาลิซ่าอิโซน่า, ดิออน และ เวก้า ก็เข้าร่วมการประชุมด้วยคราวนี้ผู้ทํานายไม่อยู่ในที่ประชุมเช่นกัน

“การเฝ้าระวังบ้านของเวราซิตี้เป็นอย่างไรบ้าง”ไรอาถามเวก้า

“เป็นไปตามคาดเราได้รับข่าวสารโดยตรงจากบ้านของเธอเจ้าหน้าที่ของเรายังเป็นสายลับคอยจับตาดูเธออยู่”เวก้าได้ตอบกลับ

“นายคิดว่าลูซิเฟอร์จะกลับมาจริงๆไหมและทำไมเขาถึงไปหาเธอไม่ใช่เรา”ดิออนถามไรอา

“มีความเป็นไปได้ ผู้ทํานายเห็นนิมิตนี้ ในอีก 2 ปีลูซิเฟอร์อาจไปพบกับเวราซิตี้หรืออาจจะเป็นก่อนหน้านั้นดังนั้นเราต้องจับตาดูเธอ”ไรอาตอบ 4

“เราเชื่อผู้ทํานายอีกแล้วหรือ” ไอโซน่าถามพลางขมวดคิ้ว“เขาเป็น
เหตุผลที่เราทําให้ลูซิเฟอร์หายตัวไปตั้งแต่แรกเนื่องจากการทํานายที่ผิด ของเขาเราปล่อยให้ลูซิเฟอร์ไปเพียงลําพังกับเคนและเราทุกคนรู้ผลนั้นดี!”

“เคนยังคงหายไปกับลูซิเฟอร์! ฉันไม่คิดว่าเราควรจะเชื่อผู้ทํานายอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าอีกครั้ง”เธอกล่าวเสริม

ตอนที่ 203: ผู้ชนะ

ลูซิเฟอร์ไปถึงด่านถัดไป ซึ่งดูแปลกไปหน่อยมีคอมพิวเตอร์วางอยู่ที่นั่น ด้านหลังคอมพิวเตอร์มีประตูที่มีแป้นตัวเลขอีกอันอยู่

“งานเกี่ยวกับรหัสผ่านอีกหนึ่งงานงั้นเหรอ?”

ลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปใกล้คอมพิวเตอร์และเปิดเครื่องพลางขมวดคิ้วเขาเชื่อว่าเป็นการทดสอบความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ของพวกเขา
“รหัสผ่านต้องอยู่ภายในคอมพิวเตอร์”

เมื่อลูซิเฟอร์เปิดคอมพิวเตอร์ ไฟล์โปรแกรมก็เปิดขึ้นซึ่งมีรหัสทั้งหมดอยู่ในนั้น

“ดูเหมือนว่าจะเข้ารหัสแล้ว แต่ฉันไม่สามารถถอดรหัสได้โดยไม่ต้องใช้ปัญหา”

เขาพยายามเรียกใช้โปรแกรม แต่ได้รับข้อความแจ้งข้อผิดพลาดว่าโปรแกรมเสียหาย

” โปรแกรมเสียหาย? แต่ในคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ไม่มีอย่างอื่นเลยปริศนานี้คืออะไรกันแน่”

ลูซิเฟอร์ขมวดคิ้ว ขณะที่เขามองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์

เมื่อเขาเริ่มสังเกตโปรแกรม ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นว่าหนึ่งในสามบรรทัดแรก มีข้อผิดพลาด

“ฉันเดาว่าฉันต้องแก้ไขโปรแกรมก่อน จึงจะสามารถรันพวกมันได้พวกเขาคงตั้งใจให้โค้ดหายไปนั่นคือการทดสอบ” ลูซิเฟอร์พึมพําเมื่อเขาเข้าใจสิ่งที่เขาต้องทํา

เขาหยิบเก้าอี้ที่วางอยู่ใกล้ ๆ ขณะที่เขาเริ่มทํางานกับคอมพิวเตอร์

นักเรียนคนอื่นๆ ทั้งหมดต้องผ่านการทดสอบที่คล้ายกันรวมทั้งเห็น

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือมีคนได้รับมอบหมายให้บอกสิ่งที่เขามองไม่เห็น บุคคลนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ช่วยด้วยวิธีอื่นใดนอกจากการช่วยเป็นสายตาของเร็นกก!

ลูกบิดประตูถูกหมุน เมื่อประตูบานใดบานหนึ่งใน 6 บานเปิดออก

มีคนก้าวออกจากประตูไปปรากฏตัวต่อหน้าครูทั้งห้า

“เธอเหรอ เธอชนะจริงๆเหรอ”อาจารย์ส่วนใหญ่อุทานด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นผู้ชนะ

อเล็กชื่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฮ่าฮ่าฮ่าฉันคิดว่านายชนะในครั้งนี้นี่คือรางวัลของนาย”

เขามอบถุงเหรียญให้โยวานเพราะเขาพูดถูกคนแรกที่ก้าวออกจากการทดสอบคือลูซิเฟอร์

ไม่กี่นาทีหลังจากที่ลูซิเฟอร์ก้าวออกมาประตูที่ 2 ก็เปิดออกคราวนี้เป็นแคสเซียสที่ก้าวออกมา

เมื่อแคสเซียสออกมาเขาสังเกตเห็นลูซิเฟอร์แต่เขาไม่ได้ดูผิดหวังหรืออะไรเลยอันที่จริงดูเหมือนเขาจะไม่ได้ให้ความสําคัญอะไรกับมันเลย

ประมาณ 5 นาทีต่อมาประตูที่ 3 ก็เปิดออกเมื่อเด็กชายคนที่ 3 ก้าวออกมา คราวนี้เป็นเร็น

ผ่านไปอีก 10 นาทีก่อนที่เด็กชายคนที่ 4 จะมาถึงซึ่งในที่สุดก็เป็นแดช

ไม่เหมือนกับแคสเซียส แดชดูอารมณ์เสียมากกว่าเมื่อเห็นว่ามีคนจํานวนมากขึ้นที่นี่ที่มาข้างหน้าเขาเขาหมดหวังเพราะเห็นลูซิเฟอร์

เขาพบว่าน่าผิดหวังอย่างยิ่งที่เขาซึ่งมาจากครอบครัวฟรานซีผู้ยิ่งใหญ่แพ้ให้กับเด็กธรรมดาคนหนึ่งซึ่งเขาเคยขอให้ลูซิเฟอร์มาเป็นลูกน้องของเขาเองก่อนหน้านี้

โลกจะพูดยังไง? แดช ฟรานซีแพ้ให้กับสามัญชน? อย่างน้อยก็เป็นที่ยอมรับในระดับหนึ่งถ้าเขาแพ้เฉพาะผู้คนจากตระกูลใหญ่อื่นๆแต่นี่เป็นสิ่งที่ไม่ดี

รูนและเดรย์ก็ออกมาไม่นาน หลังจากแดชออกมา

“เอาล่ะ เมื่อทุกคนออกมาแล้ว ฉันขอประกาศการสอบปีแรกของคลาส A จบแล้ว!”

ขณะที่ทุกคนออกไป ฟรานซีประกาศสิ้นสุดการทดสอบ

“ผลลัพธ์คือ… อเล็กซ์ อะลาริกได้ที่ 1 แคสเซียสซิอานี่เป็นอันดับ 2 เร็นอยู่ในอันดับที่ 3 แดช,รูนและเดรย์อยู่ที่ 4, 5 และ 6 !”เขาประกาศต่อไป

“ถึงเวลารับรางวัลพิเศษสําหรับนักเรียนอันดับ 1,คลาส A แล้ว”ฟรานซีกล่าวขณะที่เขาก้าวไปทางลูซิเฟอร์

เขาหยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วมอบให้ลูซิเฟอร์

“นี่อะไร? ลูซิเฟอร์ถามขณะรับแหวน

“ถือว่าเป็นเครื่องหมายของคุณสําหรับการได้ที่ 1”ฟรานซีกล่าว”แถมยังมาพร้อมข้อดีพิเศษด้วย”

“ทุกเดือน คุณได้รับอนุญาตให้ออกจากอะคาเดมี่ได้ 1 วันโดยแสดงแหวนนี้ที่ทางออกแต่คุณต้องกลับมาก่อนหมดวัน”เขาอธิบายเพิ่มเติม

“นอกจากนี้ ทุกเดือนคุณสามารถมีเซสชั่นการฝึกซ้อมพิเศษ 1 ชั่วโมงกับพวกเรา 5 คนได้”

โดยปกตินักเรียนจะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากสถาบันการศึกษาหลังจากเข้ามาอย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะสําเร็จการศึกษาหรือถูกไล่ออกสิ่งอํานวยความสะดวกนี้ขยายไปถึงระดับบนสุดของคลาส A เท่านั้น

“ข้อดีนี้จะคงอยู่เป็นเวลา 1 ปี และจะถูกโอนไป ยังผู้ชนะในปีหน้าดังนั้นจงใช้มันอย่างชาญฉลาดและอย่าแหกกฏใดๆ”ฟรานซีกล่าวขณะที่เขาเห ลือบมองสร้อยข้อมือของลูซิเฟอร์ซึ่งมีไฟสีแดงอยู่แล้ว

เขาหันกลับมาและเดินไปหาครูคนอื่นๆ

“ไปได้แล้ว” เขาพูดต่อ โดยบอกให้ทุกคนออกไป

ลูซิเฟอร์สวมแหวนที่นิ้วโดยไม่ต้องถอดถุงมือแหวนก็ดูคล้ายกับสร้อยข้อมือเช่นกันเพราะตอน แรกมันหลวมแต่ในไม่ช้ามันก็รัดแน่น

ต่างจากสร้อยข้อมือตรงที่ถอดแหวนออกได้แต่ไม่มีใครสามารถสวมใส่ได้ยกเว้นผู้ชนะ

ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ เริ่มเดินกลับโดยไม่รู้ว่ามีคนคนหนึ่งกําลังจ้องมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ

ลูซิเฟอร์กลับไปที่ห้องของเขาซึ่งเขาบอกเพื่อนร่วมห้องเกี่ยวกับผลการเรียนของเขา

เควินและเจสันตื่นเต้นพอๆกับที่ประหลาดใจเมื่อได้ยินข่าวนี้

“ยินดีด้วย หนุ่มน้อย! ฉันเชื่อว่านี่ควรค่าแก่การเฉลิมฉลอง! เดี๋ยวก่อนฉันจะเอาเค้กมาจากโรงอาหารของกินของวันนี้เป็นของฉัน!”เควินพูดยิ้มๆ

เขามีความสุขที่เพื่อนของเขาได้รับชัยชนะแต่เขากลับตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม เพราะมีใครบางคนจากครอบครัวเดียวกันสามารถเอาชนะพวกเย่อหยิ่งเหล่านั้นได้ ทําให้พวกเขาตกต่ําลงไปอีก

“ฉันจะไปกับนายด้วย เครื่องดื่มเย็น ๆ เป็นของฉันแล้ว!” เจสันยังพูดขณะเดินตามเควิน

เควินวิ่งไปที่โรงอาหารแล้วกลับมาพร้อมกับเค้กในขณะที่เจสันกลับมาพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ 3 ขวด

การเฉลิมฉลองของเพื่อนสนิท 3 คนที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเจสันและเควินแบ่งปันความสุขของลูซิเฟอร์

“แหวนวงนี้สวยจริงๆ มีชื่อนายติดอยู่ด้วย” เจสันชี้ให้เห็นเมื่อเขาสังเกตเห็นชื่อลูซิเฟอร์บนแหวน

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะมองดูแหวนอีกครั้งเขาจําไม่ได้ว่าเห็นชื่อที่นั่น

เมื่อเขาสังเกตแหวนอีกครั้งเขาก็สังเกตเห็นตอนนี้มีชื่ออยู่บนวงแหวนแล้ว

“อเล็กซ์ อะลาริก ฉันเดาว่าฉันจะไม่แบ่งปันแหวนนี้กับคนอื่นเพื่อที่จะช่วยให้พวกเขาออกจากโรงเรียนเป็นเวลา 1 วันได้หรอก” ลูซิเฟอร์พึมพํา

ขณะที่การเฉลิมฉลองดําเนินไปตลอดทั้งคืนทั้งสามคนนอนหลับไปเมื่อตอนที่ 3
ในไม่ช้า ชั้นเรียนก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ เริ่มมีส่วนร่วมในชั้นเรียนพวกเขากลับมาเรียนรู้จากครูว่าจะเข้มแข็งขึ้นและมีไหวพริบได้ อย่างไร

1 ปีผ่านไปในขณะที่ปีที่ 2 ของลูซิเฟอร์ก็จบลงในไม่ช้าเช่นกัน

ตอนที่ 202: โชค

อุโมงค์ตรงหน้าของลูซิเฟอร์ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนส่วนหนึ่งไปทางซ้ายอีกส่วนไปทางขวา

“ทางไหนดีล่ะ?” ลูซิเฟอร์พึมพําพลางขมวด คิ้ว “นี่ยังเป็นบททดสอบอยู่รึเปล่า?”

เขาเริ่มมองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่ามีอะไรที่มีเงื่อนงําเกี่ยวกับสิ่งที่เขาควรจะเลือกหรือไม่ แต่ก็ ไม่มีอะไร

“ก็ได้ ฉันจะเลือกไปทางหนึ่ง”เขาปล่อยความคิดลอยออกไปขณะที่เลือกอุโมงค์ซ้ายและเริ่มวิ่งอีกครั้ง

ขณะที่ลูซิเฟอร์วิ่งเข้าไปในอุโมงค์เป็นเวลา 5 นาทีติดต่อกันเขาสังเกตเห็นว่ามันแยกออกเป็น 2 ส่วนอีกครั้ง

“อีกแล้วหรอ?” เขาปล่อยอารมณ์ผิดหวังออกมาเล็กน้อย

เขากําลังจะเลือกด้านซ้ายอีกครั้ง แต่เขาก็หยุดลงก่อน

เขาขมวดคิ้วมองไปทางซ้ายซึ่งเขาพบหินก้อนเล็กๆวางอยู่นอกสายตาของเขา

“หินก้อนนั้น… คราวที่แล้วก็อยู่ตรงนั้นเหมือนกันอย่าบอกนะว่าฉันกลับมาที่เดิมอีกแล้ว?” เขา ผละออกในขณะที่ขมวดคิ้ว

ขณะที่เขาสงสัยว่าทางแยกนี้คืออะไรเขาจําคําพูดของโยวานได้

“จําไว้ว่าบางครั้งเราสามารถมีความแข็งแกร่งทั้งหมดในโลกได้ก็จริงแต่โชคยังคงมีบทบาท สําคัญในชัยชนะของเราดังนั้นอย่าประเมินศัตรูของคุณต่ําเกินไปแม้ว่าเขาจะอ่อนแอกว่าก็ตามใครจะรู้โชคของเขาอาจจะดีกว่าก็ได้”

“โชค… เกี่ยวกับโชคได้ไหมนะทางแยก 2 ทาง ทางใดทางหนึ่งนําทางฉันมาที่นี่ผู้โชคดีจะ เลือกอันที่ถูกต้องในการลองครั้งแรกขณะที่ผู้โชคร้ายจะเลือกอันที่ผิดและเสียเวลาเปล่า?” ลูซิเฟอร์พูดพลางขมวดคิ้ว

“ต้องเป็นอย่างนี้สิ ฉันเสียเวลาไปเปล่าๆโดยไม่เลือกสิ่งที่ถูกต้อง”

คราวนี้เขาเลือกสิ่งที่ถูกต้องในขณะที่เขาเริ่มวิ่ง

ครั้งนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อนเขาไม่กลับไปที่นั่นอีกในที่สุดเขาก็มาถึงสิ่งกีดขวางถัดไป

เขาเห็นชาย 10 คนยืนอยู่ข้างหน้าเขาในระยะไกล

เร็น และ แคสเซียสก็มาถึงทางแยกในขณะที่เร็นเลือกทางซ้ายแคสเซียสเลือกทางขวา

สําหรับผู้เข้าแข่งขันอีก 3 คน พวกเขาอยู่รั้งท้ายมากอันที่จริงดูเหมือนว่าแดช
เท่านั้นที่จะตามทันในขณะที่เขาบินด้วยความเร็วสูงสุด

ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ต่อหน้าชาย 10 คนที่ถือไม้เท้าอยู่ในมือพวกเขาทั้งหมดสวมแจ็กเก็ตหนังสีดําและวัตถุเสื้อผ้าอื่นๆที่ทําให้พวกเขารู้สึกเหมือนเป็นพวกอันธพาล

“ศัตรูเป็นมนุษย์ในครั้งนี้งั้นเหรอ?”ลูซิเฟอร์พื้มพําพลางขมวดคิ้ว“นี่คือการทดสอบเพื่อดูว่าฉันเอาชนะพวกเขาโดยไม่ฆ่าพวกเขาได้อย่างไรหรือว่ามีเจตนาอื่นกันแน่เพราะพวกเขาอ่อนแอเกินไปสําหรับฉันจริงๆ”

เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดถืออาวุธลูซิเฟอร์จึงมั่นใจว่าคนเหล่านั้นไม่ใช่แวเรียนท์บบ!

ขณะที่ลูซิเฟอร์สงสัยว่าเขาควรจัดการกับคนตรงหน้าอย่างไรเขาได้ยินเสียงปืนดังมาจากสร้อย ข้อมือของเขา

เมื่อมองลงไป เขาตระหนักว่าแสงสีขาวที่กะพริบบนสร้อยข้อมือดับลงแล้ว

“นี่หมายความว่ายังไง ฉันใช้พลังของฉันไม่ได้เหรอ?” ลูซิเฟอร์อุทานอย่างอารมณ์เสีย

แสงสีขาวแสดงว่าแวเรียนท์ได้รับอนุญาตให้ใช้พลังของเขาและการขาดหายไปนั้นแสดงว่า พวกเขาไม่สามารถทําได้

“อ่า นั่นแหละ” ลูซิเฟอร์พึมพําเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น“ฉันต้องเอาชนะพวกนั้นเหมือนมนุษย์ธรรมดา”

เขาจําชั้นเรียนศิลปะการต่อสู้ของเขาได้ ที่นั่นก็เหมือนกันต่างจากคลาสอื่นพวกเขาไม่ได้รับอนุ

ญาตให้ใช้พลังของพวกเขาในคลาสนั้นดังนั้นพวกเขาจึงเรียนรู้และต่อสู้โดยใช้ทักษะของมนุษย์ เช่น ศิลปะการต่อสู้ยูโดและอื่นๆ อีก มากมาย

“ก็ได้ ฉันทําได้ หลังจากเรียนมา 1 ปี ฉันรู้ว่าจุดแข็งของมนุษย์อยู่ที่ไหนฉันไม่คิดว่าฉันจะถอดสร้อยข้อมือตอนนี้อย่างน้อยก็ไม่เป็นการต่อต้านคนเหล่านี้” ลูซิเฟอร์พูดอย่างแน่วแน่ขณะที่เขาเริ่มก้าวเข้าหากลุ่มคนตรงหน้า

“มานี่ลูก!” พวกผู้ชายหัวเราะ ขณะที่พวกเขา เดินเข้าไปหาลูซิเฟอร์

ชายคนแรกที่ไปถึงลูซิเฟอร์ไม่ได้โจมตีด้วยไม้เรียวแต่เขาพยายามเตะหน้าอกของลูซิเฟอร์แทน

โชคไม่ดีสําหรับเขา ลูซิเฟอร์เคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าในขณะที่เขาจับขาของชายคนนั้นไว้ก่อนที่จะตีเข่าของชายคนนั้นด้วยศอกจนหัก

เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ขณะที่ตีคอของชายคนนั้นอีกครั้งทําให้ในที่สุดเขาก็ล้มลงกับพื้นพลางครางด้วยความเจ็บปวด

ชายคนที่ 2 และคนที่ 3 มารวมกันขณะโจมตีด้วยไม้เรียว

คราวนี้ลูซิเฟอร์ก้มลงไปที่พื้นไม่เพียงแต่หลบ ไม้เรียวแต่ยังขัดขาเพื่อทําให้คนเหล่านั้นล้มลงกับพื้นก่อนที่เขาจะโจมตีทั้ง 2 คน

“ต่อไป” ลูซิเฟอร์พูดเบา ๆ ขณะที่เขาตบ เสื้อผ้าของเขาแววของความตื่นเต้นสามารถเห็น ได้ในดวงตาของเขา

แคสเซียสและเร็นไปถึงสิ่งกีดขวางถัดไปและสังเกตเห็นชาย 2-3 คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าพวกเขาตอนนี้ Limiter ของพวกเขาทั้งสองถูกปิดใช้งาน อีกครั้งและพวกเขาก็ตระหนักดีว่าการทดสอบนี้คืออะไร

“การทดสอบการต่อสู้โดยไม่มีของขวัญงั้นเหรอ?” แคสเซียสพึมพํา “พวกเขาลืมไปหรือเปล่าว่าฉันเป็นนักดาบทั้งๆที่ไม่มีของขวัญมันคือการเล่นของเด็กสําหรับฉัน”
เขาก้าวไปข้างหน้าด้วยดาบหนักในมือพร้อมที่จะต่อสู้

“น่าสนุกจัง” ลูซิเฟอร์อุทานขณะหัวเราะเขาสนุกกับการทดสอบส่วนนี้มาก ในขณะที่เขาต่อสู้โดยไร้ความสามารถ

ชายไร้สติ 10 คนนอนอยู่ข้างหลังเขาขณะที่เขาก้าวไปยังการทดสอบถัดไป

ครูทั้ง 5 ยืนอยู่คนละที่แต่ยังมีประตู 5 บานอยู่ข้างหน้าพวกเขา

ซึ่งมันเป็นที่ที่นักเรียนจะออกมา

“ตอนนี้ก็คงอีกไม่นานเราจะได้เจอผู้ชนะแล้ว”อเล็กซี่กล่าวพร้อมยิ้ม

“ผมมีไอเดียนะแล้วเรามาพนันกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะแต่ละคนสามารถบริจาคเงินได้หลายพันเหรียญคนที่ถูกต้องจะได้รับเงินทั้งหมดที่รวบรวมได้จากสิ่งนี้เพื่อแบ่งให้พวกเขาเท่านั้น” เขากล่าว

“ถ้ามีแค่คนเดียวในหมู่พวกเราคนๆนั้นสามารถสะสมเหรียญได้ 5000 เหรียญ เป็นยังไงบ้าง?” เขากล่าวต่อไป

“ไม่เลว ฉันเอาด้วย” โยวานพูดขณะวางเหรียญพันเหรียญไว้ในกระเป๋า อเล็กซีทําเช่นเดียวกัน

“ก็ได้ ฉันเอาด้วย” ฟรานซีพูดพร้อมกับให้เงิน 1000 เหรียญ

มอร์เบียสยังมอบเงินบริจาค 1000 เหรียญพร์อมกับมิราลี่

ในท้ายที่สุดมีการรวบรวมเหรียญ 5000 เหรียญซึ่งมันไม่ได้มีมูลค่าที่ถูกเลยในประเทศนี้

“ดังนั้น ให้ตัวเลือกสุดท้ายของพวกคุณด้วยชื่อคุณไม่สามารถย้อนกลับหรือเปลี่ยนแปลงได้” อเล็กซี่กล่าว

“แคสเซียส” มอร์เบียสตอบ

“ฉันเห็นด้วย ขอลงแคสเซียส” ฟรานซีกล่าว

“ฉันเลือกแคสเซียสด้วย” มิราลี่ตอบ

“ฉันขอลงแคสเซียสเหมือนกัน ฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าพวกเราจะไม่มีใครชนะอะไรเพิ่มเติมจากสิ่งนี้” อเล็กซี่พูดพร้อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “โยวานแคสเซียสสําหรับคุณด้วยหรือไม่?

“ไม่ ฉันเลือกอเล็กซ์” โยวานตอบยิ้มๆ

“นายอยากเสียเงินจริง ๆ เหรอ ก็ได้.. ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้รับเงินเหล่านั้นกันแน่นอน” อเล็กซี่พูดออกมาพร้อมหัวเราะขณะที่เขาถือกระเป๋า

ตอนที่ 201: ศิลปะแห่งเล่ห์กล

รูน,เดรย์และแดกอยู่บนกระดานหมากรุกขณะที่ลูซิเฟอร์, แคสเซียสและเร็นอยู่ใน สิ่ง กีดขวางขั้นถัดไป

เมื่อลูซิเฟอร์ไปถึงสิ่งกีดขวางถัดไปเขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุด

มีใครบางคนยืนอยู่ตรงหน้าเขา ซึ่งดูเหมือนออร์ค

ออร์คยักษ์กําลังยืนถือค้อนอยู่ในมือมองดูลูซิเฟอร์

ข้างหลังเขามีประตูโลหะอีกบานที่ปิดอยู่มีแป้นตัวเลขอยู่ที่ประตู

“ฮ่าฮ่าฮ่ายินดีต้อนรับมนุษย์หนุ่มข้าคือผู้พิทักษ์สถานที่แห่งนี้เจ้าต้องการจะผ่านเข้าไปเจ้าต้องป้อนรหัสผ่านที่มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้มัน!” ออร์คบอกลูซิเฟอร์

ในทํานองเดียวกัน ในอุโมงค์อื่นสิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นกับแคสเซียสและเห็น
แม้ว่าพวกออร์คทั้งสามจะได้รับการบอกในสิ่งเดียวกันแต่พวกมันทั้งหมดก็ตอบต่างกันไป

“แล้วทั้งหมดที่ฉันต้องทําคือไม่สนใจคุณและบังคับให้คุณให้คําตอบกับฉัน” แคสเซียสบอกออร์คต่อหน้าเขาขณะที่เขายกดาบขึ้น

“ฉันต้องทําอย่างไรจึงจะได้รหัสผ่านนั้นจากคุณเร็นถามออร์ค

สําหรับลูซิเฟอร์ เขามีแนวทางที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

“โอ้โห หล่อมากเลย เป็นนายแบบหรืออะไรเหรอ” ลูซิเฟอร์ถามออร์ค

“หล่อ? ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันคิดว่านายพูดถูก ฉันหล่อแต่นายแบบคืออะไร” ออร์คถามลูซิเฟอร์อย่างสับสน

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มกว้าง ในขณะที่เขายกยอแต่รอยยิ้มนั้นทําให้เขาดูน่าเกลียดยิ่งขึ้นไปอีก

“นายแบบคือชื่อที่มอบให้คนที่หล่อที่สุดเมื่อคุณเป็นนายแบบ คุณจะทําอะไรก็ได้! คุณจะได้คฤหาสน์สมบัติหรือแม้แต่สาวสวย! นายแบบได้ทุกอย่าง!” ลูซิเฟอร์อธิบาย ขณะที่เขาถมือ

ขณะที่คนอื่นๆ พยายามใช้วิธีอื่นลูซิเฟอร์ตัดสินใจใช้ศิลปะแห่งเล่ห์กลที่อเล็กซี่สอนพวกเขาทั้งหมด

หลายสิ่งหลายอย่างมีความสําคัญสําหรับแวเรียนท์ เช่น ความแข็งแกร่งและการป้องกันแต่ความฉลาดของแวเรียนท์ก็เป็นสิ่งสําคัญเช่นกัน

ถ้าเขาสามารถใช้กลอุบายของเขาเพื่อเอาชนะการต่อสู้ที่เขาไม่สามารถด้วยความแข็งแกร่งนั้นเป็นสัญญาณของการเป็นแวเรียนท์สูงสุดอย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่อเล็กซี่บอกพวกเขา

ในขณะที่นักเรียนระดับ A ส่วนใหญ่มองว่าชั้นเรียนของอเล็กซี่ไร้ประโยชน์ ลูซิเฟอร์กลับสนใจเรื่องนั้นอยู่เสมอ

ราวกับว่ามีความปรารถนาอย่างลึกซึ้งในตัวเขาที่จะเรียนรู้การวางแผน เขาไม่รู้ว่าความปรารถนานั้นมาจากไหนแต่เขาเชื่อว่าเขาต้องการศิลปะ แห่งเล่ห์กลนั้นสําคัญ

นั่นเป็นเหตุผลที่เขาสนใจชั้นเรียนของอเล็กซี่เสมอ

“นายแบบ? ฟังดูวิเศษมาก! ฉันก็หล่อที่สุดด้วย!นายพูดถูก! ฉันจะเป็นนายแบบได้ยังไง! ได้โปรดทําให้ฉันเป็นนายแบบด้วย!” ออร์คพูดอย่างตะกละตะกลาม ขณะที่เขาอ้อนวอนลูซิ เฟอร์

นั่นคือสิ่งที่ลูซิเฟอร์ต้องการ ออร์คมีรหัสดังนั้นแทนที่จะขอร้องออร์คหรือต่อสู้กับเขา จะดีกว่ามากที่จะให้เขาให้รหัสด้วยความเต็มใจโดยทําสิ่ง ที่เขาจะขอร้อง

ใน 1 ปีนี้ เขายังได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนอีกด้วย ในบรรดาสปีชีส์ที่เขาเรียนรู้คือออร์คด้วย

ตามที่เขาเรียนรู้ ออร์คสามารถพูดได้เหมือนมนุษย์และมีนิสัยคล้ายกันหลายอย่าง มีอีกสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับพวกเขาพวกเขาโลภมากและหลงตัวเองนิดหน่อย

“ฉันสามารถทําให้คุณเป็นแบบอย่างได้ ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือพูดคุยกับตัวแทนของฉันข้างนอกและเขาจะเริ่มทํางานกับมันภายในไม่กี่ สัปดาห์ คุณก็สามารถเป็นดาราได้” ลูซิเฟอร์บอกกับออร์คด้วยรอยยิ้ม

“ได้โปรดเถอะ! ฉันจะทําทุกอย่างเพื่อเป็นนายแบบ! ได้โปรดคุยกับเขาเร็วเข้า!” ออร์คบอกลูซิเฟอร์อย่างตื่นเต้น

“จากนี้ไปฉันไม่สามารถคุยกับเขาได้ฉันจะต้องไปคุยกับเขาข้างนอก แต่ออกไปไม่ได้เพราะประตูล็อคอยู่” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว

“ไม่ต้องห่วง หลังจากเปิดประตู ฉันจะไปคุยกับเขาจนกว่าฉันจะอยู่ที่นี่” เขากล่าวต่อ

“ไม่! ไม่จําเป็น!” ออร์คโพล่งออกมาขณะที่เขาวิ่งไปที่แป้นตัวเลข เขากดรหัสเอง

ทันทีที่กดตัวเลข ประตูก็เปิดออก

“ดูสิ ประตูเปิดแล้ว!ออกไปคุยกับเขาเถอะ!” ออร์คบอกลูซิเฟอร์ อ้อนวอนให้เขาออกไปโดยเร็ว

“ก็ได้ ฉันจะไปคุยกับเขา ระหว่างนี้รอก่อนคุณจะกลายเป็นดาราดังในเร็วๆ นี้!” ลูซิเฟอร์บอกออร์คขณะที่เขาเดินผ่านประตู

ทันทีที่ลูซิเฟอร์ผ่านไปประตูก็ปิดลง

และด้วยเหตุนี้ ลูซิเฟอร์จึงเป็นผู้นําแล้วในการสอบปีแรก

ขณะที่เขาเดินไปที่สิ่งกีดขวางถัดไปเขาก็อดหัวเราะไม่ได้

“ออร์คนั่นน่าสนใจจริงๆ ไม่เลว แต่รหัสผ่านมันคือ 123456789 จริงๆ เหรอ สถานศึกษาไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยเหรอ?”

“ใช่แล้ว พวกออร์คมีความทรงจําที่อ่อนแอหากพวกเขาให้รหัสผ่านที่ยากแก่เขา เขาก็คงจะลืมไปแล้วมันคงเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึง ทําให้มันง่ายอย่างนี้”

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังมุ่งหน้าไปยังสิ่งกีดขวางถัดไป แคสเซียสก็ยืนอยู่ใกล้ออร์คในอุโมงค์ของเขา

เขาแลมือและขาของออร์คแล้ว ในขณะที่เขาถาม “คุณให้รหัสผ่านฉันตอนนี้ หรือให้ฉันตัดคอของคุณก่อนดี?”

“ไม่ เดี๋ยวสิ ฉันควรเริ่มมันกับหูของคุณก่อนแล้วฉันจะเอาตาของคุณออก แล้วก็ตัดจมูกของคุณมีอะไรให้ทําอีกมาก”เขาพูดต่อในขณะที่เขาลูบคาง

ขณะที่ออร์คมองมาที่แคสเซียส เขาก็กลัวราวกับว่าเขากําลังมองดูปีศาจ แคสเซียสแข็งแกร่งมากและเขาก็โหดเหี้ยมออร์ครู้สึกหวาดกลัวต่อชีวิตของเขาอย่างแท้จริง

“รหัสผ่านคือ 123456789!” เขาอุทานในขณะที่เขายอมแพ้เพื่อความอยู่รอดของเขา

“เด็กดี” แคสเซียสพูดขณะก้าวไปข้างหน้าเขากดรหัสทําให้ประตูเปิดออก

ทันทีที่ประตูเปิดออกเขาก็เดินผ่านไปเช่นกัน

ในทางกลับกัน เร็นกําลังยุ่งอยู่กับการต่อรองราคากับพวกออร์คเขาเชื่อว่าเขาไม่สามารถฆ่าออร์คได้มิฉะนั้นเขาจะทํารหัสผ่านหายดังนั้นเขาจึงลองใช้วิธีการต่อรอง

“มอบสมบัติล้ําค่าที่สุดของคุณให้ฉันถ้าฉันมีความสุขฉันจะให้รหัสผ่านกับคุณ” ออร์คบอกเร็นพลางหัวเราะ

“สมบัติล้ําค่าที่สุดของฉัน?”เร็นพิมพ์พลางขมวดคิ้ว

หลังจากนั้นไม่นาน แดชก็ชนะเกมหมากรุกในที่สุดในที่สุดเขาก็ได้รับอนุญาตให้ผ่านไปยังด่านต่อไป

รูนและเดรย์ก็ชนะเช่นกันไม่นานนักเขาก็เดินไปข้างหน้า

“ฉันสงสัยว่าจะมีสิ่งกีดขวางอีกมากแค่ไหน”

ลูซิเฟอร์กําลังวิ่งอยู่ในอุโมงค์พยายามจะไปถึงสิ่งกีดขวางถัดไปอย่างรวดเร็ว

ผ่านไป 5 นาทีแล้วตั้งแต่เขาเริ่มวิ่งแต่เขาไม่เห็นสิ่งกีดขวางใดๆ การทดสอบครั้งต่อไปอยู่ ที่ไหนทําไมมันถึงได้ไกลขนาดนั้น? เขาสงสัย

ไม่นาน เขาก็มาถึงส่วนของอุโมงค์ที่แยกออกเป็น 2 ส่วน

ตอนที่ 200: การทดสอบเริ่มต้น

เมื่อลูซิเฟอร์เดินไปจนสุดบันไดเขาพบว่าตัวเองยืนอยู่ในอุโมงค์ที่กว้างเพียง 10 ฟุตเท่านั้น

เขาเริ่มวิ่งตรงไปข้างหน้าโดยไม่คิดถึง 2 ครั้งเขาวิ่งได้เพียง 2 นาที เมื่อพบศัตรูตัวแรกของเขา

ผึ้งยักษ์หลาย 10 ตัวเข้ายึดอุโมงค์สําหรับขนาดของพวกมัน ดูเหมือนว่าจะมีขนาดครึ่งหนึ่งของลูซิเฟอร์

“นี่คือศัตรูหรือสัตว์ร้าย? คนเหล่านี้จับพวกมันและดักไว้ที่นี่หรือไม่” ลูซิเฟอร์พึมพํา สับสนว่า ผึ้งเหล่านี้มาที่นี่ได้อย่างไร

“โอ้ ใช่แล้ว ประตูของคณบดี เขาต้องพาพวกมันมาที่นี่ และตอนนี้ฉันต้องฆ่าพวกมันให้ผ่าน”

ลูซิเฟอร์เริ่มวิ่งเข้าหาผึ้ง

ในอุโมงค์อื่น แคสเซียสกําลังเดินอย่างสงบดาบหนักของเขายังคงอยู่ในมือของเขา

ฝูงผึ้งตายหลาย 10 ตัวนอนอยู่ข้างหลังเขาโดยถูกผ่าครึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะจัดการศัตรูตัว แรกได้แล้วในขณะที่ลูซิเฟอร์เพิ่งเริ่มต้น

แดชยังเผชิญหน้ากับผึ้งด้วยพลังของเขาโดยไม่ต้องเข้าใกล้พวกมันและตอนนี้เขาก็บินไปข้างหน้าอันที่จริงในขณะนี้เขานําหน้าคนอื่น ๆ เนื่องจากเขาไม่ได้วิ่งแต่กําลังบินอยู่

ในไม่ช้เขาก็มาถึงสิ่งกีดขวางถัดไป

ดูเหมือนมีสระน้ํายาวอยู่ข้างหน้าเขา เขาไม่รู้ว่ามันลึกแค่ไหนแต่เขารู้ว่าเขาสามารถบินจาก เหนือมันได้

“สอบว่ายน้ําเหรอ” แดชพึมพําในขณะที่เขาหัวเราะ“ฉันไม่ต้องไปร่วมด้วยหรอกนะ”

เขาเริ่มบินเหนือสระน้ําแทนที่จะว่ายน้ําแต่เมื่อไปถึงตรงกลางเขาเห็นลูกศรหลาย 10ลูกทุ่งออกมาจากกําแพงลูกธนูทั้งหมดเหล่านี้ติดกับตาข่ายไปด้วย

เมื่อลูกธนูทะลุกําแพงรอบๆแดชเขาพบว่าตัวเองติดอยู่ในตาข่าย

“ไอ้เจ้าเล่ห์พวกนี้! พวกเขารู้ว่าฉันจะบินไปและวางกับดักนี้พระเจ้ามันจะเสียเวลาของฉันมาก!” แดชปล่อยความโกรธออกมาในขณะที่เขาเริ่มดิ้นรนเพื่อปลดปล่อยตัวเอง

ในขณะเดียวกัน เร็นก็เดินผ่านฝูงผึ้งไปและเขาก็เข้าใกล้สระน้ํา

ลูซิเฟอร์ยังคงต่อสู้กับผึ้งเพราะเขาสามารถฆ่าได้ทีละตัวด้วยการโจมตีของเขา แต่เขาก็หลบกา รโจมตีทั้งหมดได้สําเร็จไม่มีรอยขีดข่วนบนร่างกายของเขา

แม้ว่าเขาจะต่อสู้ในระยะประชิด เขาก็ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองถูกโจมตี เขาได้เรียนรู้ศิลปะการป้อ งกันตัวจากมอร์เบียสเขารู้ว่าแวเรียนท์สามารถตายได้ง่ายดังนั้นการป้องกันจึงเป็นเรื่องสําคัญ

เขามุ่งเน้นไปที่การป้องกันมากเท่ากับที่เขาทําในการโจมตี

ในไม่ช้าลูซิเฟอร์ก็จัดการผึ้งทั้งหมดให้เสร็จบดขยพวกมันส่วนใหญ่ด้วยกําลังสูงสุดของเขา

เขาเริ่มวิ่งอีกครั้งเพื่อไปยังสิ่งกีดขวางถัดไป

แคสเซียสยืนอยู่หน้าสระน้ํา สงสัยว่าเขาจะทําอะไรได้บ้าง

เขาสามารถถือดาบหนักได้อย่างง่ายดายเมื่อเดินแต่เขาไม่สามารถว่ายได้
เขาไม่สามารถแม้แต่จะทิ้งดาบไว้ข้างหลัง

สระน้ําก็ยาวมากเช่นกัน ดังนั้นเขาไม่คิดว่าเขาจะขว้างดาบไปที่ปลายอีกข้างแล้วว่ายได้

“ก็ได้ ถ้าฉันช้าก็ช่างมันเถอะ” เขาพึมพําขณะกําหมัดก่อนจะกระโดดลงไปในน้ําด้วยดาบของ เขา

ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็มาถึงสระน้ําเขากระโดดลงไปในสระน้ําโดยไม่ต้องกังวลว่าเสื้อผ้าจะเปียก ในขณะที่เขาเริ่มทํามันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

ตลอดทั้งปีนี้เขาเรียนรู้ที่จะว่ายน้ําได้ดีมากความเร็วของเขายังคงเร็วในขณะที่เขาว่าย อันที่ จริง ความแข็งแกร่งของเขาก็ช่วยเขาเช่นกันเมื่อเขาไปถึงปลายอีกด้านหนึ่ง

ขณะที่ลูซิเฟอร์ก้าวออกจากสระน้ํา เขาสงสัยว่าคนอื่นจะอยู่ในอุโมงค์ได้ไกลแค่ไหน

เขาไม่รู้ว่าเขาเป็น 1 ใน 2 คนที่เป็นผู้นําในขณะนี้ในความเป็นจริงเขาเป็นที่ 2 ในขณะนี้ใน แง่ของการทดสอบที่ผ่านไปของแต่ละคน

เร็นเป็นคนแรกในขณะนั้นลูซิเฟอร์เป็นอันดับ 2 แดชอยู่ที่ 4 ในขณะที่เขายังคงดิ้นรนเพื่อปลดปล่อยตัวเองสําหรับแคสเซียสเขาเป็นที่ 3 ในขณะที่เขากําลังว่ายน้ําด้วยดาบซึ่งทําให้เขาช้าลง

ส่วนอีก 2 คนก็มาถึงสระน้ําแล้ว พวกเขาอยู่ที่ 5 และ 6

ลูซิเฟอร์ว่ายน้ําข้ามสระน้ําและวิ่งต่อไปจนกระทั่งมาถึงสิ่งกีดขวางที่ 3 ในไม่ช้า

เขาพบสิ่งที่ดูเหมือนกระดานหมากรุกที่วางอยู่ตรงหน้าเขา

หมากบนหมากรุกถูกจัดเรียงไว้แล้วในลักษณะที่ดูเหมือนว่าฝ่ายของเขาจะพ่ายแพ้ ในการ เคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวด้านหลังกระดานนั้นมีประตูโลหะขนาดยักษ์ที่ปิดอยู่

“ฉันต้องเล่นเกมเพื่อผ่านหรือไม่”เขาพึมพําในขณะที่เขาขมวดคิ้วเขาก้าวไปข้างหน้าในขณะ ที่เขาสังเกตชิ้นส่วนทั้งหมด

ตลอดทั้งปีนี้ นักเรียนยังได้รับการสอนหมากรุกเพื่อลับสมองดูเหมือนว่ามันจะเป็นการทดสอบ สําหรับพวกเขา

“เอาล่ะ” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะเคลื่อนคิงไปทางซ้าย

ทันทีที่เขาย้ายคิง ควีนของศัตรูก็บุกเข้าไปใกล้คิงของลูซิเฟอร์เขาจึงต้องตรวจดูมันอีกครั้ง 3

เร็นก็เล่นหมากรุกด้วยแม้ว่าเขาจะตาบอดแต่เขาก็สามารถใช้บางอย่างเช่นคลื่นต่างๆเพื่อดู สภาพแวดล้อมของเขาได้บ้างด้วยเหตุนี้เขาจึงสามารถรู้ชิ้นส่วนและรูปร่างของมันได้

ยิ่งกว่านั้น มีระบบเสียงวางไว้ใกล้ๆเขาเพื่อให้ความช่วยเหลือเขาอีกเล็กน้อย เมื่อใดก็ตามที่ชิ้น ส่วนของศัตรูเคลื่อนที่ระบบเสียงจะอธิบายการเคลื่อนไหวนั้น

เร็นเป็นคนแรกที่ชนะการต่อสู้หมากรุก ทันทีที่เขาชนะประตูเหล็กที่อยู่ข้างหน้าเขาก็เปิดออก ทําให้เขามีทางไป

“รุกฆาต!”ลูซิเฟอร์ก็ปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างตื่นเต้นเมื่อเขาชนะการต่อสู้อันดุเดือด

ดูเหมือนว่าเขาจะตามหลังเร็นเพียงไม่กี่วินาทีประตูโลหะเปิดออกในขณะที่เขาเดินผ่านไป

ลูซิเฟอร์และเห็นผ่านไปแล้ว เมื่อแคสเซียสไปถึงที่นั่น

“ไม่ใช่ตอนนี้” เขาพูดด้วยความหงุดหงิดเมื่อเห็นกระดานหมากรุก

เขาเริ่มเล่นด้วย

ในขณะเดียวกัน แดชก็เป็นอิสระจากตาข่ายในที่สุดแต่ตอนนี้เขาอยู่ในตําแหน่งสุดท้ายแม้แต่รูนและเดรย์ก็ยังอยู่ข้างหน้าเขาในตอนนี้

เมื่อเขาปลดปล่อยตัวเองจากตาข่ายเขาไม่กล้าบินเหนือสระน้ําอีกเลย คราวนี้เขาว่ายน้ําอย่างถูกต้อง

เมื่อเขาออกจากสระไปได้ เขาเริ่มบินอีกครั้งและในไม่ช้าก็ไปถึงกระดานหมากรุก

“แย่แล้ว ต้องทําพวกนี้ด้วยเหรอ พวกเขารู้ว่าฉันเล่นหมากรุกไม่เก่ง แต่พวกเขายังให้ฉันเล่น หมากรุกอยู่อีกเหรอ”เขาพูดด้วยความหงุดหงิดขณะที่กระทบพื้น

เนื่องจากเขาไม่มีทางเลือกอื่นเขาจึงเริ่มเล่น

ตอนที่ 199: การสอบปลายภาคปีแรก

เมื่อได้ยินคําขู่ของเธอ ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะคิดอีกครั้ง ขณะเหลือบมองถุงมือ ดูเหมือนว่าเขาจะมีปัญหาจริงๆ

ถ้าเขาไม่ถอดตอนนี้ เขาจะถูกลงโทษ 1 ครั้ง ซึ่งการถูกลงโทษ 3 ครั้งจะทําให้เขาถูกไล่ออก เขาสามารถยอมได้หรือไม่? เขารู้ว่าเขาไม่สามารถถูกไล่ออกได้ แต่เขาก็ไม่สามารถที่จะถอดมันออกได้เช่นกัน

“คุณปู่ ของผมให้ผมสัญญาไว้ว่าผมห้ามถอดถุงมือพวกนี้”

เขาอดไม่ได้ที่จะจําคําสัญญาที่เขาให้ไว้กับของเขา นอกจากนี้ถ้าเขาถอดมันออก เขาอาจจะตายอย่างรวดเร็ว เพราะความเจ็บป่วยของเขา เขาตัดสินใจว่าเขาต้องทําอะไร ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องยืนหยัดอย่างมั่นคง

“ผมถอดออกไม่ได้ แต่ฟังผมก่อน ผมจะบอกความจริงกับครู!” ลูซิเฟอร์พูดขณะถอนหายใจ

“อันที่จริง ผมมีอาการป่วย ถ้าผมถอดถุงมือนี้ มือของผมจะสัมผัสกับบรรยากาศ และอาการแพ้ของผมก็จะตามมา ผมอาจจะตาย ดังนั้นผมถอดออกไม่ได้” เขากล่าวต่อ

“เหตุผลเดียวที่ผมไม่บอกเรื่องนี้มาก่อน ก็เพราะผมคิดว่าทุกคนคงคิดว่าผมนั้นกําลังโกหก” เขาอธิบายเพิ่มเติม

“นั่นคือเส้นทางที่คุณต้องการ คุณไม่ได้ทําในสิ่งที่ฉันถาม และคุณก็โกหกด้วยเหรอ ได้ แค่นั้นแหละ หึ” ยูเลียพูดออกมาด้วยความโกรธ

เธอเคาะสร้อยข้อมือที่อยู่ในมือของเธอ ไฟส่องสว่างในสร้อยข้อมือของเธอก่อนที่เธอจะเริ่มพูด

” รุ่น 24 คลาส A อเล็กซ์ อะลาริก แหกกฎของสถาบันการศึกษา เขาปฏิเสธที่จะฟังฉันและถอดถุงมือออกและเขาก็โกหกด้วย ลงทะเบียนสิ่งนี้ในบันทึกของเขา ”

เมื่อเธอพูดจบ เธอเคาะสร้อยข้อมืออีกครั้ง และไฟก็หยุดลง

ไม่นานนักก่อนที่แสงจะสว่างขึ้นที่สร้อยข้อมือของลูซิเฟอร์ มันเป็นไฟแดงแม้ว่า

“นั่นเป็นการลงโทษครั้งแรกของคุณ และอีก 2 ครั้ง คุณก็จะถูกไล่ออก แต่ในเมื่อคุณได้รับโทษที่ไม่ฟังการถอดถุงมือ ฉันก็ไม่สามารถลงโทษคุณแบบเดิมได้อีก ไม่ว่าคุณจะปฏิเสธที่จะถอดกี่ครั้งก็ตาม” ยูเลียบอกลูซิเฟอร์

“ฉันจะให้คุณใส่มันลงไปในน้ํา การฝึกของคุณจะเริ่มตอนนี้”

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะได้รับการยอมรับ นั่นก็ทําไปเพื่อที่ให้เขาไม่ต้องถอดถุงมืออีกต่อไปแล้ว
และการเรียนว่ายน้ําก็สําคัญเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงลงไปในน้ําอีกครั้ง

เวลาค่อยๆหมดไป และไม่นานก็ผ่านไป 1 ปีหลังจากที่ลูซิเฟอร์เข้ามาในสถาบันแห่งนี้
เขาผ่านการฝึกอบรมมา 1 ปีเพื่อเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง และเขาก็พยายามอย่างเต็มที่ในการเรียนรู้ให้ดี

ยิ่งกว่านั้น ตลอดทั้งปีนี้ เขายังได้พบกับคุณปู่ 2-3 ครั้งที่มาหาเขา

ไม่นานก็ถึงเวลาสําหรับการสอบประจําปีเพื่อดูว่านักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้างในปีนั้น

ทุกคนเตรียมสอบกันอย่างเต็มที่ และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะแสดงสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้

“คลาส A วันนี้เริ่มการสอบประจําปีครั้งแรกของคุณ เนื่องจากเป็นปีแรก มันจะง่ายกว่ามากและแตกต่างจากปีถัดไปมาก แต่จําไว้ว่าคุณยังสอบตกได้ พยายามทําให้ดีที่สุดและพยายามให้ได้ที่ 1!” ฟรานซีบอกนักเรียนทั้ง 6 คนของคลาส A ที่กําลังจะทําการทดสอบครั้งแรกในการสอบปลายภาคปีแรก

“การทดสอบครั้งแรกนั้นง่ายมาก มีประตูอยู่ 6 บานต่อหน้าคุณ โดยแต่ละบานมีชื่อของคุณ ดังนั้นสิ่งที่คุณต้องทําคือก้าวเข้าไปในประตูที่มีชื่อของคุณ!”

“ข้างใน คุณจะเห็นการทดสอบที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยคํานึงถึงของขวัญและการฝึกฝนของคุณ การทดสอบที่คุณทําทั้งหมดจะเหมือนกัน และจะมีความยากเท่ากันโดยไม่คํานึงถึงสิ่งที่คุณเผชิญ ดังนั้นขอให้โชคดี แล้วเจอกันที่ฝั่งตรงข้าม ฟรานซีบอกกับนักเรียน

โยวานและคนอื่นๆ ก็ยืนอยู่ที่นั่นเช่นกัน และอวยพรให้นักเรียนโชคดีเช่นกัน

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะดูว่าใครจะเรียนรู้ได้มากแค่ไหน

แคสเซียสเป็นคนแรกที่ก้าวเข้าไปในประตูบานหนึ่ง คนอื่นๆ ก็ก้าวเข้าไปในห้องของพวกเขา ทิ้งลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง

“เกิดอะไรขึ้น รู้สึกกลัวงั้นเหรอ? “โยวานถามลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

“เปล่า ผมแค่คิดอะไรบางอย่าง ผมสบายดี“ลูซิเฟอร์พึมพําขณะที่เขาส่ายหัว

เขาเดินผ่านประตู ซึ่งมีชื่อของเขาอยู่ด้านบน

ครู 5 คนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง สําหรับคณบดี เขาไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดทั้งปี ไม่มีนักเรียนสักคนเดียวที่ได้เห็นคณบดี

“คุณคิดว่าใครจะชนะ“โยวานถามคนอื่นๆ

“แคสเซียส มอร์เบียสตอบก่อน

“ใช่ แคสเซียสจะชนะ”อเล็กซิสตอบเช่นกัน

“ฉันคิดว่าอาจจะเป็นหนึ่งในระหว่างแคสเซียสกับอเล็กซ์ฟรานซีพึมพํา

“อเล็กซ์ เด็กคนนั้นเหรอ ไม่มีโอกาสหรอก ฉันสอนเขามา 1 ปีแล้ว เขาเก่งมาก แต่ฉันไม่คิดว่า เขาจะมีคุณสมบัติเพียงพอ”มอร์เบียสตอบ

“นั่นเป็นเพราะเขายังใหม่กับเรื่องนี้คนอื่นๆ ฝึกฝนมาหลายปีแล้ว แต่เชื่อฉันเถอะ เด็กคนนั้นมีบางอย่าง ฉันเชื่อว่าวันนี้เขาจะเซอร์ไพรส์เราได้”ฟรานซีตอบพร้อมส่ายหัว

แม้ว่าภายนอกเขาจะเข้มงวดกับลูซิเฟอร์ แต่ภายในเขารู้ว่าลูซิเฟอร์มีศักยภาพ

“ฉันคิดว่าแคสเซียสจะชนะ อเล็กซ์ก็เก่ง แต่นั่นก็เป็นปัญหาเหมือนกัน สิ่งเดียวที่เขามีคือความ แข็งแกร่งของเขา เขาไม่สามารถฆ่าศัตรูโดยไม่ได้เข้าใกล้พวกมันได้ และการต่อสู้แบบนั้นต้องใช้เวลามากขึ้นกว่าจะจบ“มิราลี่พูดแทรก

“ในทางกลับกัน แคสเซียสสามารถใช้พลังงานศักดิ์สิทธิ์เพื่อฆ่าศัตรูจํานวนมากในคราวเดียว ซึ่งก็เช่นกันจากระยะไกล” เธอกล่าวต่อ

“มันช่วยประหยัดเวลาของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถออกมาได้เร็วกว่าอเล็กซ์อย่างแน่นอน มันเป็นเรื่องของผู้ที่ทําได้สําเร็จก่อน ดังนั้นการเดิมพันของฉันก็อยู่ที่แคสเซียสเช่นกัน อันที่จริง ฉันคิดว่าอเล็กซ์ ไม่สามารถแม้แต่จะแตะที่ “เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า เธอหาวราวกับว่าเธอรู้สึกง่วงอีกครั้ง

“เจ้าคิดว่าอย่างไรโยวาน”อเล็กซี่ถามชายที่มีแผลเป็น

“ฉันไม่แน่ใจ อันที่จริงฉันคิดว่าตรรกะของมิราลี่ถูกต้องตามทฤษฎีแล้วแคสเซียสควรจะชนะ แต่ฉันรู้สึกว่าเราอาจเห็นบางอย่างที่แตกต่างออกไป ฉันไม่รู้ว่าอเล็กซ์มีพลังเกี่ยวกับอะไร แต่ฉันคิดว่าเขาสามารถสร้างความหงุดหงิดได้” โยวานตอบพลางเหลือบมองไปทางประตูที่ลูซิเฟอร์เข้ามา

เมื่อลูซิเฟอร์เข้ามาทางประตู เขาพบว่าตัวเองยืนอยู่บนบันไดที่ลงไป

เขาเริ่มวิ่งลงมา เวลาเป็นสิ่งสําคัญ เพราะเขาต้องทําให้เสร็จตรงเวลา

สร้อยข้อมือยังคงอยู่ในมือของเขา แต่เมื่อเขาได้รับอนุญาต เขาสามารถใช้กําลังของเขาได้ในตอนนี้

มีแสงสีขาวกะพริบบนสร้อยข้อมือของเขา แสดงว่าเขาได้รับอนุญาตให้ใช้ของขวัญของเขา.. นอกจากนี้ยังมีแสงสีแดงที่นั่น ซึ่งแสดงว่าเขาโดนลงโทษครั้งแรกแล้ว

ตอนที่ 198: ถอดถุงมือ

“ใช่แล้ว อย่าสู้กับใครเลย เพราะอย่างน้อยคน อื่นก็สู้ได้เหมือนมนุษย์โดยไม่ต้องใช้ของขวัญ แต่ถ้านายพยายามโจมตี มันอาจนับเท่ากับนายใช้ของขวัญของตัวเอง ดังนั้นจงระวัง” เจสันก็พูดขึ้นเช่นกัน เขาเตือนลูซิเฟอร์เกี่ยวกับสิ่งเดียวกันอีกครั้ง

“ฉันมีทางเลือกอื่นอีกไหม” ลูซิเฟอร์ตอบพลางถอนหายใจ

เขาหลับตาลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน

วันใหม่มาถึงเมื่อคืนที่มืดมิดผ่านไป ลูซิเฟอร์และเจสันสวมเครื่องแบบใหม่

ในขณะที่นักเรียนคลาส B ได้รับชุดสีน้ําเงินเพื่อสวมใส่ รวมทั้งเสื้อกักสีน้ําเงิน คลาส A ลูซิ เฟอร์มีชุดสีแดง เพื่อแยกความแตกต่างระหว่าง ทั้งสอง
สําหรับนักเรียนคลาส C พวกเขามีเครื่องแบบสี เขียว ยิ่งไปกว่านั้น เสื้อยังมีชื่อนักเรียนสลักไว้ ด้วย

ลูซิเฟอร์และเจสันออกจากห้องไปพร้อมกันอย่างรวดเร็ว และแยกจากกัน เมื่อถึงเวลาต้องไปคนละทิศละทางเท่านั้น

เมื่อเจสันไปที่อาคารที่เป็นของนักเรียนคลาส B ลูซิเฟอร์ก็ไปที่อาคารที่ดูดีกว่าซึ่งนักเรียนคลาส A ทุกกลุ่มมีชั้นเรียน

เขาเข้าชั้นเรียนเดียวกับครั้งที่แล้วและนั่งในที่นั่งของเขา สําหรับคนอื่นๆ ยังไม่มีใครมาที่นี่เลย

ไม่นานคนอื่นๆ ก็เริ่มมาถึงและในที่สุดแคสเซียสก็มาถึง

วันนี้มีที่นั่งแถวเดียวในชั้นนี้ โดยมี 6 ที่นั่ง ลูซิเฟอร์นั่งตําแหน่งที่ 3 และแคสเซียสนั่งตําแหน่งที่ 4 สําหรับวินาทีนั้นแดชได้นําลูซิเฟอร์เข้ามาระหว่างทั้งสอง

“โย่ อเล็กซ์ จากตระกูลใหญ่แห่งอะลาริกสบายดีไหม?” แดชถามลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาหัวเราะเบา ๆ “ดีไหม?”

“ฉันไม่ได้มาจากครอบครัวที่ดี โปรดลืมเรื่องวันนั้น ฉันทําผิดไป สําหรับคําถามของนาย วันนี้ฉันสบายดี ขอบคุณที่ถามนะ” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ทําไมนายใส่ถุงมือนั่น มันไม่หนาวเหรอ ฉันเห็นเมื่อวานและวันนี้ด้วย นายกําลังพยายามซ่อนอะไรใต้ถุงมือหรือเปล่า นายสักชื่อแฟนนายที่หลังมือของนายงั้นเหรอ ดูสิว่าเธอชื่ออะไร” แดชถามลูซิเฟอร์ พลางพูดจาไพเราะ

“ฉันไม่มีรอยสัก แค่ถุงมือพวกนี้เป็นของขวัญจากพ่อของฉัน และเขาก็ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ฉันเลยสวมมันเพื่อให้รู้สึกเหมือนเขายังอยู่กับฉัน ช่วยคิดว่าถุงมือเหล่านี้มีค่าทางจิตใจกับฉันก็พอ” ลูซิเฟอร์ตอบ ซึ่งเขาโกหกอีกแล้ว

“น่าสนใจ ฉันคิดว่านายควรขอบคุณพ่อของนาย ในเรื่องนั้น” แดชกล่าว “เขาสมควรได้รับมันจริงๆ”

“ทําไม?” ลูซิเฟอร์ถา

“มันเป็นเพราะเขาให้ถุงมือกับนายเท่านั้น ไม่ใช่ถุงยางอนามัย มันจะอึดอัด ถ้านายใส่มันตลอดเวลา” แดชกล่าว ขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ

“นั่นมันคืออะไร?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างสับสน เขาไม่เข้าใจความหมายของคํานั้น

“จริงเหรอ นายไม่รู้จักถุงยางอนามัยเหรอ” แดชอุทานด้วยความตกใจ “ฮ่าฮ่าฮ่า นายช่างไร้เดียงสาจริงๆ เจ้าหนู!”

แดชเริ่มอธิบาย “มันคือสิ่งที่คน-”

“แดชนายกําลังทําให้ห้องเสียงดังขึ้นอธิบาย ให้ตัวเองฟังไปก็พอ และอย่าทําลายบรรยากาศของฉัน”

แดชเพิ่งเริ่มอธิบายเมื่อแคสเซียสตัดบทของเขาทิ้ง ทําให้เขาหยุดพูด

“ไม่เอาน่า แคสเซียส ฉันแค่พยายามจะสอนเพื่อนของเราที่นี่” แดชบอกกับแคสเซียส

“สอนเขาข้างนอก ไม่ใช่ที่นี่” แคสเซียสตอบอย่างเกียจคร้าน

“โอเคๆ ได้ ฉันจะบอกเขาทีหลัง” แดชพึมพําพลางกลอกตา

“ยังไงก็ตาม อเล็กซ์ ฉันอยากจะยื่นข้อเสนอให้นาย ในเมื่อนายไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ ถ้างั้นนายมาเป็นลูกน้องของฉันไหมล่ะ ฉันจะจ่ายให้อย่างดี และฉันจะให้สมบัติบางอย่างกับนายด้วย นายเห็นด้วยใช่ไหม” เขาถามลูซิเฟอร์อีกครั้งเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

แคสเซียสไม่ได้เข้ามาแทรกแซงในครั้งนี้

“ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่ต้องการเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของใคร สําหรับสมบัติ มันไม่มีประโยชน์สําหรับฉัน ของขวัญของฉันคือสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉัน และฉันก็ไม่ต้องการเงินเช่นกันเพราะฉันมีทุนการศึกษาที่นี่” ลูซิเฟอร์ตอบปฏิเสธข้อเสนอ

“นายปฏิเสธข้อเสนอของฉันจริงๆเหรอ” แดชถามอย่างแปลกใจ “ใช้เวลาคิด 1 วันแล้วตอบฉัน พรุ่งนี้นายไม่รู้ว่านายพลาดอะไรไป ถ้านายเป็นลูกน้องของฉัน นายจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฟราซีผู้ยิ่งใหญ่ คิดดีๆ และใช้เวลาของนายคิดให้คุ้มค่า”

“ไม่เป็นไร คําตอบของฉันจะเหมือนเดิมแม้พรุ่งนี้ พวกนายทุกคนต่างก็มีครอบครัวที่ดี และฉันเคารพในสิ่งนั้น แต่สําหรับฉัน ครอบครัวของฉันมีค่าที่สุดสําหรับฉันเสมอ ฉันไม่ต้องการเข้าร่วมกับครอบครัวอื่น” ลูซิเฟอร์ตอบพร้อมส่ายหัว เขาตั้งใจปฏิเสธอย่างเต็มที่

หลังจากลูซิเฟอร์พูดจบประตูห้องเปิดออก เมื่อนั้นฟรานซีก็ก้าวเข้ามา

“พวกคุณทั้ง 6 คน ตามผมมา” เขาบอกกับนักเรียน ขณะที่เขาออกจากห้องอีกครั้งอย่างรวดเร็วพอๆกับที่เขาเข้ามา

นักเรียนเริ่มติดตามฟรานซีไป

ฟรานซีพาเด็กทั้ง 6 คนไปยังอารีน่าที่ว่างเปล่า

สามารถมองเห็นสระน้ําได้ตรงกลางเวที

“นี่คือที่ที่คุณฝึก และอย่าคาดหวังความปราณี ระหว่างการฝึกซ้อม” ฟรานซีบอกกับเด็กๆ ขณะที่เขาเผชิญหน้าพวกเขา

ในที่สุดการฝึกฝนของทุกคนก็เริ่มเข้าใจพลังที่แท้จริงของพวกเขามากขึ้น เมื่อการฝึกเริ่มขึ้น เวลาก็ค่อยๆหายไป

ครูทั้ง 5 คนผลัดกันอบรมเยาวชนเกี่ยวกับสาขาวิชาเฉพาะของตน

แม้ว่าชั้นเรียน A จะมีครู 5 คน แต่ก็มีครูคนอื่นด้วย

ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ เป็นช่วงที่ครูต้องอบรมเด็กๆ ในขณะที่วันเสาร์ เป็นชั้นเรียนพิเศษที่พวกเขาสอนวิธีใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นประโยชน์

แม้ว่าการว่ายน้ําเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรที่นี่ แต่ก็ไม่ค่อยมีชั้นเรียนว่ายน้ําเลย นักเรียนเกือบทั้งหมดที่เข้าร่วมอะคาเดมี่รู้จักการว่ายน้ําอยู่แล้ว ยกเว้นลูซิเฟอร์
นั่นเป็นเหตุผลที่จัดชั้นเรียนว่ายน้ําพิเศษสําหรับลูซิเฟอร์ในวันอาทิตย์ เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าเรียนวิชาว่ายน้ํา

เขากําลังยืนอยู่ใกล้สระว่ายน้ํา รอให้ครูมาถึง ขณะที่เขาสงสัยว่าจะเป็นยังไงต่อไป เขารู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะเขาจําได้ว่าเขาเกือบจมน้ําไปแล้วครั้งหนึ่ง

ขณะที่ลูซิเฟอร์รออยู่ ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา

ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะอายุ 20 กลางๆ สําหรับเสื้อผ้าของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะสวมเสื้อคลุมที่คลุมทั้งตัวของเธอ

“คุณคืออเล็กซ์?” ผู้หญิงคนนั้นถามลูซิเฟอร์ที่พยักหน้า

“ดีมาก ฉันชื่อยูเลีย ต่อจากนี้ฉันจะเป็นครูสอนว่ายน้ําให้คุณ” หญิงผมดําตอบ “งั้นเรามาเริ่มกันเลยไหม”

ลูซิเฟอร์พยักหน้าอีกครั้ง “ดี ถอดเสื้อผ้าและถุงมือออก แล้วก้าวลงไปในน้ํา” ผู้หญิงคนนั้นบอกลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอเปิดเสื้อคลุมเพื่อเผยให้เห็นชุดว่ายน้ําของเธอ

ลูซิเฟอร์ฟังคําสั่งของเธอและถอดเสื้อผ้าออกให้เหลือแต่กางเกงขาสั้นเท่านั้น

เขาเริ่มเดินไปทางน้ําและในไม่ช้าก็ก้าวเข้าไปที่ปลายสระ ซึ่งมีน้ําลึกแค่เข่า

“ถอดถุงมือออกด้วย” ยูเลี่ยเดือนลูซิเฟอร์อีกครั้ง

“ผมทําไม่ได้” ลูซิเฟอร์ส่ายหัวอย่างขอโทษ

“โอ้? และทําไมคุณถึงทําไม่ได้” ยูเลียถาม ขณะพับแขน พลางจ้องไปที่ลูซิเฟอร์

“ถุงมือนี่… อ่า พวกมันมีคุณค่าทางจิตใจ พวกมันเป็นของขวัญจากพ่อที่ตายไปของผม ผมถอดมันออกไม่ได้” ลูซิเฟอร์ตอบอีกครั้ง

หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกๆ ขณะที่เธอขมวดคิ้ว

“พวกมันมีค่าทางอารมณ์ ฉันเข้าใจ แต่มันเป็นเพียงชั่วขณะหนึ่ง เก็บไว้ข้าง 1 นาที นายสามารถสวมใส่มัน เมื่อนายก้าวออกไปข้างนอก ไม่มีใครจะขโมยพวกมันไปหรอก” ยูเลียบอกกับลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ส่ายหัวอีกครั้ง “ผมแค่ถอดออกไม่ได้ ไม่เป็นไร ผมจะเรียนรู้ ในขณะที่สวมใส่ ถ้าทําไม่ได้ ผมก็ไม่จําเป็นต้องเรียนว่ายน้ํา”

เขาก้าวขึ้นจากน้ําอีกครั้ง

“อเล็กซ์ ฉันรู้ว่าคุณมาจากคลาส A แต่คุณยังคุยกับครูอยู่ จําไว้ว่าคุณต้องฟังครูเสมอ ฉันให้โอกาสคุณอีกครั้ง.. ถ้าคุณปฏิเสธอีกครั้ง มันจะนับเป็นการฝ่าฝืนกฎ!” ยูเลียเตือนลูซิเฟอร์อีกครั้ง

ตอนที่ 197: อนาคตของลูซิเฟอร์?

ชายชรายืนขึ้นและเริ่มจากไปแทน “สําหรับวิธีที่คุณปฏิบัติต่อข้อมูลนี้และวิธีจัดการข้อมูลนั้นขึ้นอยู่กับคุณ”

ประตูปิดลง และเหลือเพียงลูซิเฟอร์เท่านั้นที่อยู่ข้างใน

เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ขณะที่เขาส่ายหัว ดูเหมือนว่า 5 ปีของเขาที่นี่จะยาก

เขายืนขึ้น ขณะที่เขาจากไป พลางพึมพําเนื้อเพลงแปลกๆ ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา เขาพยายามจําว่าเขาได้ยินมาจากไหน

ลูซิเฟอร์เดินกลับไปที่ห้องของเขา ซึ่งตอนนี้เควินนนั่งรอเขาอยู่แล้ว

“เจสันยังไม่กลับมาอีกหรอ?” ลูซิเฟอร์เควินถาม ขณะนั่งลงบนเตียง

“เขาอยู่คลาส B การแนะนําตัวน่าจะยืดเยื้อไปอีกนาน ฉันคิดว่าเขาจะใช้เวลาอีก 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาเควินตอบ”ว่าไง วันแรกของนาย เป็นอย่างไรบ้าง”

“ไม่ดีเลย” ลูซิเฟอร์พึมพํา ในขณะที่เขาเหลีอบมองสร้อยข้อมือของเขา

“ทําไมล่ะ?”เควินถามด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?”

” Limiter อันนี้น่ะสิ นายรู้ไหมว่าของขวัญของฉันคือความแข็งแกร่งของฉัน แต่สร้อยข้อมือนี้ทําให้ฉันพิการได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยน่ะสิ”

“แม้ว่าฉันจะใช้กําลังเพียงเล็กน้อย เพื่อทําอะไรก็ตาม ฉันจะถูกไฟฟ้าช็อตและจะถูกโจมตี 1 ครั้ง ความแข็งแกร่งนี้เป็นข้อเสียเปรียบของฉันจริงๆ “ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียง

ไกลออกไปในโรงงาน แวเรียนท์เกิดใหม่และนักทํานายกําลังนอนหลับอยู่ในห้องของเขา

เขามีความสามารถในการมองเห็นอนาคตในบางครั้งในความฝันของเขา 90 เปอร์เซ็นต์ของความฝัน ส่วนใหญ่ผิด ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ความฝันนั้นแม่นยํามาก

ยังเป็นช่วงเวลาที่เขาได้เห็นความฝันเช่นนั้น

ในความฝัน เขาพบว่าตัวเองกําลังยืนอยู่ภายในห้อง

ประตูห้องเปิดออก เมื่อผู้หญิงก้าวเข้ามาในห้อง

ทันทีที่เขาเห็นผู้หญิงคนนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะพึมพํา “ความจริง ทําไมฉันถึงเห็นเธอล่ะ เธอไม่สําคัญหรอก”

ขณะที่เขากําลังสงสัย เขาเห็นเวราซิตี้มองมาทางเขา ดูเหมือนประหลาดใจ

“เจ้าเป็นใครกันแน่ เธอถามด้วยความสงสัย

“เธอเห็นฉันเหรอ แปลกแฮะ“นักทํานายคนนั้นพึมพํา แต่ในไม่ช้เขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้คุยกับเขา

เขาค่อย ๆ หันกลับมาสังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา

บุคคลนั้นยืนอยู่ในความมืดโดยกอดอกพิงกําแพง

“ฉันเป็นคนที่ควรถูกลืมไปนานแล้ว ฉันเชื่อแบบนั้น”เด็กชายในความมืดพึมพํา ขณะก้าวไปข้างหน้า

สายฟ้าสีดําสามารถเห็นริบหรี่รอบตัวเด็กหนุ่ม

เมื่อผู้ทํานายเห็นเด็กชาย ปากของเขาก็เปิดออกเล็กน้อย

เด็กชายดูเหมือนจะเป็นคนที่อายุ 18 หรือ 19 ปี เขามีผมสีเงินสวยงามที่ผูกไว้กับหางม้า แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับตัวเขาคือดวงตาของเขา ตาข้างหนึ่งของเขาเป็นสีฟ้า อีกข้างหนึ่งเป็นสีม่วงเล็กน้อย

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล?“นักทํานายอุทานด้วยความตกใจ

เด็กชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูซิเฟอร์ และเขาดูแก่กว่าเดิมไปมาก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้ความสามารถของเขากําลังแสดงให้เขาเห็นถึงอนาคต

เขามองดูปฏิทินเพื่อดูวันที่ แต่กลับพบว่าไม่สามารถอ่านปฏิทินได้ เขามองไม่เห็นมัน มันดูคลุมเครือ

“เธอต้องการอะไรจากฉัน?” เวราซิตี้ถามเด็กชายขณะที่เธอนั่งลงบนเก้าอี้

“ฉันอยากเป็นความมืดที่จะกลืนโลกทั้งใบ และเธอจะช่วยฉันในเรื่องนี้ “ลูซิเฟอร์พูดอย่างใจเย็น

ตุ้บ! ตุ๊บ!

ได้ยินเสียงฝีเท้า เมื่อลูซิเฟอร์ก้าวไปข้างหน้าออกมาจากความมืด

“เอ่อ ฉันจําได้ว่าเคยเห็นคุณ ลูซิเฟอร์ แอซเรล น่าสนใจ คุณหายไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว จู่ๆ คุณกลับปรากฏตัวอีกครั้งได้ยังไง“เวราซิตี้ถามลูซิเฟอร์อย่างขบขัน

“แคสเซียส พาเธอออกไป”ลูซิเฟอร์พูดเบา ๆ ขณะที่เขาเหลือบมองกลับมา

สุภาพสตรีและนักทํานายมองย้อนกลับไป เมื่อเห็นเด็กชายอายุ 19-20 ปี อีกคนหนึ่งออกมาจากห้อง เด็กชายผมดํากําลังถือดาบหนักอยู่บนหลังของเขา

เขายังสามารถเห็นเขาลากสิ่งที่ดูเหมือนศพ ขณะถือแขนไว้
“คนนั้นน่ะเหรอ… “เวราซิตี้ยืนขึ้น ตกใจทันทีที่เธอเห็นว่าศพเป็นของใคร

แม้แต่ผู้ทํานายก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง

“ร่างนั้น.. มันเป็นไปไม่ได้.. “เขาพึมพําอย่างไม่เชื่อ

“ใช่แล้ว คนนี้คือ…“ลูซิเฟอร์เริ่มตอบด้วยน้ําเสียงที่เหมือนยมทูต แต่ทันใดนั้น ความฝันก็พังทลายลง

นักทํานายตื่นขึ้นและพบว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง
“ฉันต้องบอกไรอา! เขาบอกว่าเด็กนั่นหายตัวไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว! นั่นหมายความว่าเขาจะกลับมาในอีก 4 ปี!“ผู้ทํานายลุกขึ้นอย่างเร่งรีบ ขณะที่ ขาออกไปจากเตียง

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ความฝันที่คนอื่นที่เกี่ยวกับเขา เด็กชายยังคงอ่านหนังสือกฎ พยายามเข้าใจทุกอย่าง

เมื่อเขาอ่านหนังสือเสร็จ เขาก็วางมันไว้ข้างๆอย่างระมัดระวัง เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อเจสันก้าวเข้ามา

“นายก็กลับมาเหมือนกันแล้วสินะ เป็นยังไงบ้าง“เควินถามเจสันด้วย

“เหนื่อยแต่ก็ดีนะ แต่อเล็กซ์บอกนายหรือยังว่าเขาโชคดีแค่ไหน”เจสันถามอย่างตื่นเต้นขณะนั่งอยู่บนเตียง

“ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ วิญญาณที่หดหูใจนี้บอกว่าเขาโชคร้ายในวันนี้ เควินพูดพลางกลอกตา

“อืม ในบางครั้งน่ะนะ แต่ตอนนี้เขาโชคไม่ดี ฉันเดา เพราะครูประจําชั้นของเขาคือฟรานซี เจสันตอบ” แต่เขาก็โชคดีเหมือนกันคณบดีเรียก เขาไปที่เวที” ”
คณบดีเรียกเขาขึ้นไปบนเวที? อะไรทําให้เขาโชคดีขนาดนั้น?”เควินถาม

“ไม่! คราวนี้มันต่างออกไป คณบดีเรียกคนเพิ่มเช่นกัน มากกว่า 1 คนงั้นเหรอ ทําไม? ” เขาจัดการแข่งขันร้องเพลงระหว่างพวกเขา ซึ่งอเล็กซ์ชนะ! และนายรู้รางวัลไหม ตอนนี้อเล็กซ์ได้รับอนุญาตให้ข้าม 1 ใน 3 การสอบประจําปีแรกๆ “เจสันพูดพลางยิ้ม

“อะไรนะ คณบดีบ้าไปแล้วหรืออะไรซักอย่างแน่นอน นั่นเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยมมากสําหรับการร้องเพลง! และเราจะเรียนจบที่จุดสูงสุดของชั้นเรียน ฉันหวังว่าฉันจะมีโอกาสได้ร้องเพลงนี้ด้วย เควินพึมพําพลางรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย.

“ฉันจะร้องเพลงรัก ฉันอาจจะดึงดูดความสนใจของสาวน่ารัก ๆ ในขณะที่ได้รับรางวัลด้วย“เขากล่าวเสริม

“นั่นไม่ใช่สิ่งที่สําคัญ ฉันไม่สนใจที่จะข้ามการสอบ เพราะฉันเชื่อว่าฉันจะสามารถผ่านมันได้ แต่ฉันกังวลเกี่ยวกับสร้อยข้อมือนี้มากกว่า แม้แต่ครูก็ยังบอกว่าพวกเขาทําอะไรไม่ได้”ลูซิเฟอร์พูดดึงความสนใจไปที่ความทุกข์ยากของเขา

“ถ้าฉันใช้กําลังเกินไปแม้เล็กน้อยไป 3 ครั้ง แม้โดยไม่ได้ตั้งใจ ฉันจะถูกไล่ออก เขากล่าวพร้อมถอนหายใจ

“งั้นก็อย่าทําอะไรที่ต้องใช้ความแข็งแกร่งที่นาย และอย่าทําอะไรที่นายคิดว่าจะทําให้นายเสี่ยง เชื่อฉัน” “อย่าหยิบของหนักๆ และอย่าพยายามทําลายอะไรทั้งนั้น.. ส่วนเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ฉันไม่คิดว่านายจะเสี่ยงตราบใดที่นายระมัดระวัง” เควินพูดกับลูซิเฟอร์เพื่อแนะนําความคิดบางอย่าง

ตอนที่ 196: ของขวัญ

คณบดีกําลังทําอะไร? เพียงเพราะว่าลูซิเฟอร์ร้องเพลงดี เขาจึงได้รับอนุญาตให้ข้ามการสอบ 1 ปีได้งั้นเหรอ? นี่เป็นเหมือนบัตรผ่านฟรีเพื่อไปยังปีหน้าโดยไม่ผ่านเกณฑ์ใดๆ

สําหรับนักเรียน พวกเขามองลูซิเฟอร์ด้วยความอิจฉา นี่เป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม โดยพื้นฐานแล้ว เขาในตอนนี้ได้ใช้ชีวิตอิสระไป 1 ปีตอนนี้ฟรีๆ

“มีเพียงเท่านี้สําหรับการปฐมนิเทศ ฉันขอออกไปก่อน จากนี้ไป ครูจะพาคุณไปที่ชั้นเรียนของคุณและให้ข้อมูลเพิ่มเติม โชคดีนะเด็กๆ อีก 5 ปี เจอกัน ฉันจะพบคุณอีกครั้งที่นั่น” คณบดีบอกนักเรียนในขณะที่เขาปรบมือเบาๆ

ประตูมิติอีกอันปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

คณบดีแซนก้าวเข้าไปในประตูมิติ แล้วประตูก็ปิดลง เหลือเพียงอาจารย์ที่อยู่เบื้องหลัง

“นักเรียนคลาส A ตามฉันมา” ฟรานซียนขึ้น ขณะที่เขาสั่ง

นักเรียนระดับ A คนหนึ่งที่ยังนั่งอยู่แถวหน้ายืนขึ้น ขณะที่เขาขึ้นไปบนเวทีเพื่อร่วมกับคนอื่นๆ ทั้ง 6 คนตามหลังฟรานซีไปขณะที่พวกเขาจากไป

เจสันถูกทิ้งไว้ข้างหลังพลางขมวดคิ้ว “เขามีฟรานซีเป็นครูประจําชั้นของเขาเหรอ? นี่อาจเป็นเรื่องยากสําหรับเขา ถ้าเป็นคนอื่นๆคงง่ายกว่ามาก” เขาคิดแบบนั้น คลาส A ไม่ใช่ว่าควรได้โยวานเป็นครูประจําชั้นหรอกหรือ อืม โชคของคนกลุ่มนั้นแย่มากจริงๆ

“นักเรียนคลาส B ตามฉันมา” โยวานยืนขึ้น ขณะที่เขาพานักเรียนคลาส B

สําหรับครูที่เหลืออีก 3 คน พวกเขาเป็นอาจารย์ประจําชั้นของคลาส C เพื่อบรรยายสรุปเพิ่มเติม พวกเขาจะไม่สอนคนเหล่านั้นมากนัก แต่กําลังจะแนะนําให้พวกเขารู้จักกับครูคนอื่นๆแทน

ลูซิเฟอร์และนักเรียนคลาส A อีก 5 คนนั่งอยู่ในห้องที่หรูหราในที่นั่งแยก

ฟรานซียืนอยู่ข้างหน้าพวกเขา

เขาเปิดลิ้นชักและดึงหนังสือ 5 เล่มที่เขามอบให้กับเด็กๆ ออกมา

“นี่เป็นกฎเกณฑ์ เมื่อคุณจากไปวันนี้ จงจําไว้” เขาบอกกับทุกคนอย่างใจเย็นก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่

“วันแรกเป็นเพียงการแนะนําตัวและเพื่อให้คุณเข้าใจว่าคุณอยู่ที่ไหน แต่พรุ่งนี้ชั้นเรียนของคุณจะเริ่มขึ้น”

“ครูทั้ง 5 คนที่คุณเห็นบนเวทีจะสอนคุณเกี่ยวกับพรสวรรค์ของคุณและวิธีการควบคุมพลัง คุณจะมีครูมากขึ้นที่จะสอนคุณเกี่ยวกับแง่มุมของมนุษย์ที่คุณจําเป็นต้องเรียนรู้ เช่น คอมพิวเตอร์ การว่ายน้ํา การต่อสู้ ศิลปะและอื่น ๆ อีกมากมาย

” คุณต้องเก่งในทุกสาขาด้วย เพราะพวกมันจะมีบทบาทสําคัญในคะแนนของคุณในการสอบประจําปี อย่าคิดว่ามันไม่เกี่ยวข้อง”

“ยังไงก็ตาม บอกฉันเกี่ยวกับของขวัญของคุณตอนนี้”ฟรานซีบอกกับนักเรียน เขาเหลือบมองที่ลูซิเฟอร์และเริ่ม “คุณเริ่มก่อน”

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นขณะที่เขาพูด “ผมมีพลังพิเศษ”

“พลังพิเศษงั้นเหรอ? น่าสนใจ พรุ่งนี้เจอกัน”ชายคนนั้นพึมพํา”ต่อไปแดช”

ขณะที่เขาเรียกหาแดช หลานชายของเขาลุกขึ้นยืน

“ผมควบคุมลมได้”แดชพูดอย่างภาคภูมิใจ

“คนต่อไป แคสเซียส“ฟรานซีหันไปหาคนต่อไปโดยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ

“พรสวรรค์ของผมเรียกว่า ศาสตร์ดาบศักดิ์สิทธิ์ ผมสามารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ในการโจมตีของดาบใดๆ ก็ตามที่ผมใช้แคสเซียสตอบอย่างใจเย็นก่อนจะนั่งลงเช่นกัน

“ต่อไป เร็นฟรานซีกล่าว

เด็กชายในแว่นดําลุกขึ้นยืน

กระบวนการนี้ดําเนินต่อไปเมื่อทุกคนบรรยายถึงพลังของพวกเขา

ทันทีที่ทุกคนพูดจบ ฟรานซีก็เริ่มพูดต่อทันที

“พวกคุณทุกคนมีของขวัญที่ดี นั่นเป็นเหตุผลที่ คุณอยู่ในคลาส A แต่คุณต้องรู้ การครอบครอง ของขวัญและความเชี่ยวชาญของมันนั้นแตกต่าง กัน นั่นคือสิ่งที่ฉันจะสอนคุณ ฉันจะสอนวิธีการ เข้าใจของขวัญของคุณให้ดีขึ้นเพื่อให้พวกมัน รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของคุณและไม่ใช่ความ สามารถเฉยๆเท่านั้น” “ท่านปู่ คนอื่นจะสอน อะไร”แดชถามชายชราด้วยความสงสัย

“เงียบ! ถ้าเรียกฉันว่างูอีกครั้งเดี่ยวได้นิ้วแตก ในอะคาเดมี่ฉันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณหรอก คุณจะถูกปฏิบัติเหมือนคนอื่นๆ เรียกฉันว่าอาจารย์ฟรานซี”ชายชราดุหลานชายของเขาที่แสนสบาย

ดวงตาของแดชเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้น? ทําไมคุณปูที่รักเขาถึงได้มีพฤติกรรมแบบนั้น? เขาคิดว่าเขาจะชอบที่นี่ตั้งแต่ปู่ของเขาเป็นครูของเขา แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นแค่ความฝัน
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง
“ขอโทษครับอาจารย์ อาจารย์ท่านอื่นจะสอนอะไรเราบ้าง”แดชถามอีกครั้งหลังจากขอโทษ

ชายชราพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ขณะที่เขาเริ่มอธิบาย

“โยวานจะสอนวิธีใช้ของขวัญของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการใช้งานต่างๆ ที่คุณสามารถทําได้จากของขวัญของคุณ”

“มอร์บิอุสจะให้การฝึกแก่คุณ เพื่อที่คุณจะสามารถป้องกันตัวเองได้ตั้งแต่เมื่อคุณตาย ของขวัญของคุณจะได้ประโยชน์ ดังนั้นจําเป็นต้องใช้ของขวัญของคุณเพื่อป้องกันตัวด้วย “อเล็กซี่จะสอนศิลปะแห่งกลอุบายให้คุณ ส่วนมันคืออะไร คุณต้องเข้าใจมันจากเขาเอง และมิราลี่ เธอจะสอนวิธีสะท้อนพลังของคุณกับธรรมชาติ คุณต้องถามเธออีกครั้งว่ามันคืออะไร ชายชราพูดจบ

ยังเป็นช่วงเวลาที่ชายชราลุกขึ้นยืน

ในไม่ช้าเขาก็นําซองที่เขามอบให้กับเด็กแต่ละคนออกมา 2-3 ห่อ

“นี่เป็นเครื่องแบบของคุณ ส่วนบัตรประจําตัวจะได้รับในวันพรุ่งนี้ ทิ้งแฟ้มของคุณไว้ แล้วออกไป มาที่นี่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ แล้วเราจะเริ่มอย่างเป็นทางการ เขาพูดขณะเดินกลับมาที่ที่นั่ง

เมื่อเด็กๆ ได้รับอนุญาต แคสเซียสเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน เขาออกจากห้องไปพร้อมกับชุดเครี่องแบบและหนังสือกฎเกณฑ์

เร็น, แดช และคนอื่นๆก็จากไป

เหลือเพียงลูซิเฟอร์เท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่

“ทําไมคุณไม่ออกไป”ฟรานซีถามลูซิเฟอร์หรี่ตาลง

“เอ่อ ครับ ผมอยากจะคุยกับคุณเกี่ยวกับสร้อยข้อมือนี้”

“อยากรู้อะไร”

“อย่างที่คุณรู้อยู่แล้ว ความแข็งแกร่งของผมคือของขวัญของผมเอง และผมไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นจากตรงไหน ผมอยากรู้ว่าสร้อยข้อมือจะทํางานหรือไม่ ถ้าผมเผลอใช้กําลังของผม?”ลูซิเฟอร์ถามฟรานซี ขณะที่เขายืนขึ้น

นี่คือคําถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของเขา

“น่าสนใจ แต่เปล่า ไม่สําคัญหรอกว่าคุณใช้กําลังที่ไหน สร้อยข้อมือจะทํางานทันทีที่คุณใช้ของขวัญ แม้ว่าคุณจะอยู่คนเดียวก็ตาม”

“ดังนั้น ทางออกเดียวที่ฉันแนะนําได้คือใช้กําลังให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทําได้ อันที่จริง อย่าทํางานใดๆ ที่อาจทําให้คุณใช้กําลังโดยไม่ได้ตั้งใจ เว้นแต่คุณจะอยู่ต่อหน้าครู.. สิ่งเดียวที่ฉันสามารถบอกคุณได้ “

ตอนที่ 195: พยายามหลุดพ้น

ในขณะที่คณบดีเห็นว่ามันน่ารัก แต่ก็มีบางคน ที่ไม่เป็นเช่นนั้น

ชายชราฟรานซียืนขึ้นขณะที่เขาดุลูซิเฟอร์ที่โกหก

“ฟรานซี นั่งลง” แซนกล่าวอย่างใจเย็น ขณะที่เขาเหลือบมองฟรานซีอย่างละเอียด
“ครับ คณบดี” ฟรานซีนั่งลงทันที

“อเล็กซ์ตัวน้อย ฉันคิดว่าคุณอาจเข้าใจผิดไปบ้าง” แซนเปิดริมฝีปากของเขาขณะที่เขาเริ่มอธิบายให้ลูซิเฟอร์ฟัง

“ครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถเพิ่มให้กับครอบครัวใด ๆ ได้ แต่เป็นชื่อที่มอบให้กับ 12 ครอบครัวบนเกาะนี้เท่านั้น แต่ละครอบครัวมี 2 ครอบครัวในภาคเหนือ ตะวันออก ใต้ ตะวันตก และ 4 ครอบครัวในเมืองหลวง”

“พวกที่แนะนําตัวเองก่อนคุณอยู่ในครอบครัวพวกนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงทําได้ แต่การใช้มันโดยพลการเป็นการไม่ให้เกียรติ” แซนกล่าวยิ้มๆ

“อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าคุณเป็นคนใหม่ และคุณไม่รู้เรื่องนี้ ฉันอ่านแฟ้มของคุณ คุณอาศัยอยู่ในหมู่บ้านมาตลอดชีวิต และนี่เป็นครั้งแรกของคุณใช่ไหม ฉันเข้าใจดีว่าคุณไม่รู้เรื่องนี้ แต่อย่าทําแบบนี้อีก” เขากล่าว

ลูซิเฟอร์พยักหน้า “ผมขอโทษ ผมคิดว่าเราทําสิ่งนี้เพื่อตั้งชื่อครอบครัวของเราด้วยความเคารพของผมเอง แต่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นชื่อจริงๆนะครับ ผมจะไม่ทําแบบนั้นอีก” ลูซิเฟอร์พูดขณะเดินถอยหลัง

“ดีแล้วๆ” แซนพูดพร้อมกับยิ้ม

“เอาล่ะ เนื่องจากเป็นการปฐมนิเทศของนักเรียน ถึงเวลาสนุกแล้ว คุณทั้ง 5 คนจะมีการแข่งขันกันเล็กน้อย ใครชนะการแข่งขันจะได้เปรียบเป็นพิเศษ” เขากล่าวเสริม

“คุณอาจจะคิดว่ามีประโยชน์อะไร ชนะและค้นหา แต่ฉันจะบอกว่านี่จะมีประโยชน์มากในการช่วยคุณในภายหลัง”

“การแข่งขันอะไร การต่อสู้งั้นเหรอ?” แคสเซียสถาม

เมื่อได้ยินคําถามของเขา แม้แต่แดชก็เริ่มขมวดคิ้ว เขาต้องต่อสู้กับคน 4 คนในวันแรกจริงๆหรือ?

“ไม่เลย ไม่มีการต่อสู้หรืออะไรแบบนั้น มันจะเป็นการแข่งขันร้องเพลง พวกคุณแต่ละคนจะร้องเพลง ใครชนะก็จะได้รับรางวัล” แซนกล่าวพลางหัวเราะ

“อ๋อ ครั้งนี้คณบดีเรียกออกมามากกว่า 1 คน แทนที่จะสนุกกับมัน เขาต้องการรังแกเด็กๆทั้งหมด คณบดีของเราช่างเป็นเด็กจริงๆ โยวานคิดขณะนั่งที่ด้านหลัง

“ผมร้องเพลงไม่ได้” แคสเซียสตอบ “ผมขอถอนตัวจากการแข่งขัน

“โอ้ ไม่ ไม่ คุณทําไม่ได้ ฉันลืมบอกไปว่า คนที่ถอนตัวจะเสียโอกาส 1 ใน 3 ของเขา เพราะจะถือเป็นการแหกกฎ” คณบดีกล่าวพร้อมหัวเราะ “อย่างน้อยคุณต้องพยายาม”

ใบหน้าของแคสเซียสกระตุกอย่างไม่เต็มใจ เมื่อเขาได้ยินคําพูดของคณบดี เขาต้องทําเรื่องน่าอายต่อหน้าทุกคนจริงๆเหรอ?

“ไม่เอาน่า อย่าอายเลย ฉันรู้ว่าทุกคนในตระกูลซิอานี่ผู้ยิ่งใหญ่ของคุณมีความสามารถ คุณทําได้” คณบดีกล่าวเพิ่มเติมจากใบหน้าของเขา เห็นได้ชัดว่าเขากําลังเพลิดเพลินกับตัวเอง

“บ้าเอ้ย!”

แคสเซียสก้าวไปข้างหน้าในขณะที่เขาหายใจ เข้าลึก ๆ

เปิดริมฝีปากของเขาเขาเริ่มร้องเพลง “โอ้ พระจันทร์ดวงโต…”

เพลงของเขากินเวลาเพียง 20 วินาทีก่อนจะจบในขณะที่เขาก้าวถอยหลัง

“ดีมาก ดูสิ คุณไม่มีเหตุผลที่จะต้องอาย” คณบดีพูดก่อนจะมองไปที่คนถัดไปในแถว
ทีละคน ทุกคนก้าวไปข้างหน้าและร้องเพลงที่พวกเขาจําได้

ไม่นานก็ถึงคิวของลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ยังก้าวไปข้างหน้าโดยไม่รู้ว่าจะร้องเพลงอะไร เขาไม่เคยได้ยินเพลงใด ๆ และไม่รู้อะไรเลย

“ฉันทําได้แค่ร้องเพลงแบบสุ่มๆ อย่างน้อยก็นับเป็นความพยายาม เขาคิด ขณะกําหมัดแน่น

ลูซิเฟอร์หลับตาและทําจิตใจให้สงบ ในขณะที่เขาพยายามเขียนคําบางคําเพื่อร้องเพลงเมื่อมีสิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้น ดูเหมือนจู่ๆก็มีเพลงปรากฏขึ้นในหัวของเขา ซึ่งกําลังร้องโดยผู้หญิงคนหนึ่ง

เขาลืมตาเพื่อมองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าใครกําลังร้องเพลงอยู่ แต่ไม่มีใครร้องเพลงอยู่ที่นั่น
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง
“มาเถอะ ร้องเพลง อย่ารอช้า” คณบดีเตือนลูซิเฟอร์ที่ตัดสินใจหยุดคิดและร้องเพลงที่ปรากฏในหัวของเขา

“ในค่ําคืนที่มืดมิด อย่าได้กลัวไปเลย ลูกของข้า ทันทีที่เจ้าเรียกชื่อข้า ข้าจะดูเหมือนแสงที่ส่องสว่าง…”

ลูซิเฟอร์ร้องเพลงต่อไปและร้องต่อไปอีก 3 นาที เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่ในขณะที่เขาร้องเพลง น้ําตาก็เริ่มก่อตัวในดวงตาของเขาราวกับว่าหัวใจของเขากําลังเจ็บปวด มีความรู้สึกสูญเสียที่เขารู้สึก แต่เขาไม่รู้ว่าทําไม

น้ําตายังคงไหลอาบแก้มทีละหยด ขณะที่เขาร้องเพลงอยู่ไกลๆ ทุกคนฟังเพลงที่สวยงามนี้อย่างระมัดระวัง ราวกับว่าพวกเขางงงวยกับเนื้อเพลงและอารมณ์ที่ลูซิเฟอร์ใส่เข้าไปในเพลง

สําหรับแซนเขาอดไม่ได้ที่จะจ้องที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาเอียงศีรษะ “น่าสนใจ”

ผ่านไป 4 นาที ในที่สุดเพลงก็จบลง ลูซิเฟอร์ไม่ได้เคลื่อนไหวสักครู่ ขณะที่เขายืนนิ่ง ความเจ็บปวดในใจยังคงอยู่ และมันก็เจ็บ เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งขณะที่เช็ดน้ําตา เกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาไม่เข้าใจ

“อเล็กซ์ ฉันขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม” แซนถามลูซิเฟอร์

“ครับ” ลูซิเฟอร์ตอบขณะมองกลับมาที่เซียน

“ฉันไม่เคยได้ยินมันมาก่อน และมั่นใจว่าไม่ได้มาจากชาติของเราตั้งแต่ฉันได้ยินทุกเพลง คุณได้ยินมันมาจากไหน หรือคุณเป็นคนแต่งเอง?” แซนถามลูซิเฟอร์

“ผมได้ยินมาจากไหนงั้นเหรอ ผมจําไม่ได้” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเฉยเมย ตัวเขาเองไม่รู้ว่าเขาได้ยินมาจากไหน เขาจําไม่ได้ว่าเคยได้ยินมาก่อน

สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือมันเป็นเพลงจากชีวิตจริงของเขา เพลงที่แม่เคยร้องให้ตอนเด็กๆ ดูเหมือนว่าความทรงจําของเขากําลังพยายามทําลายสิ่งกีดขวางอย่างช้าๆ และหลุดออกมา

“น่าสนใจ ต้องมีคนทําเพลงนี้ แล้วคุณได้ยินมันโดยบังเอิญ แล้วคุณก็ลืมไป ฉันอยากเจอคนที่คิดเนื้อเพลงที่สวยงามเช่นนี้” คณบดีบอกกับลูซิเฟอร์

เขายืนขึ้น

“เอาล่ะ ฉันไม่คิดว่าผู้ชนะจะชัดเจนกว่านี้แล้ว อเล็กซ์ อะลาริกเป็นผู้ชนะ!” แซนประกาศ

ทันทีที่คณบดีประกาศ นักเรียนก็เริ่มปรบมือ สําหรับคนที่อยู่ในคลาส A พวกเขาแค่มองไปที่ลูซิเฟอร์

“ตามที่สัญญาไว้ ผู้ชนะจะได้รับรางวัล ส่วนรางวัลของคุณคือ คุณสามารถข้ามการสอบรายปีใด ก็ได้จาก 3 ครั้งแรกตามที่คุณต้องการ และคุณจะไม่ถูกพิจารณาว่าล้มเหลวอีกด้วย” คณบดีกล่าวกับลูซิเฟอร์พลางหัวเราะ

แม้ว่าเขาจะพูดคําเหล่านี้เบาๆ แต่พวกเขาก็ตกตะลึงไม่เฉพาะกับนักเรียนเท่านั้น แต่กับครูด้วยเช่นกัน

ตอนที่ 194: ครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ของอะลาริก

“สิ่งเหล่านี้คือข้อจํากัด แค่รู้ไว้ พวกมันไม่ได้ปกป้องคุณจากการถูกไล่ออกจากโรงเรียน แต่พวกมันมีไว้เพื่อช่วยชีวิต เพราะการใช้ของขวัญในสถานที่ต่างๆโดยไม่มีคําแนะนําที่ถูกต้องสามารถฆ่าผู้คนได้”

” The Limiters จะเปิดใช้งานทันทีที่พวกมันรู้สึกว่าคุณกําลังจะใช้ของขวัญของคุณ พวกมันส่งสัญญาณไปยังครูของคุณให้มาหยุดคุณทันที”

ยังไม่หมดแค่นั้น สร้อยข้อมือยังส่งกระแสไฟฟ้าแรงสูงช็อตไปยังร่างกายของคุณ ซึ่งทําให้คุณหมดสติ ลองคิดว่ามันเป็นเครื่องตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าอัตโนมัติที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณในทางลบนอกจากที่ได้กล่าวมา “ระวังตัวไว้นะ ถ้าลองใช้ของขวัญของคุณก็ใช้ไม่ได้หรอก คุณจะพบว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้จะถูกบันทึกไว้ในระบบของเราและจะนับเป็นการแหกกฎ และอย่างที่คุณทราบ การแหกกฎ 3 ครั้งหมายความว่าคุณไม่อยู่ในอะคาเดมีอีกต่อไป“แซนบอกกับนักเรียน

นักเรียนส่วนใหญ่ทราบเรื่องนี้แล้ว ยกเว้นลูซิเฟอร์ซึ่งไม่รู้จริงๆ เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ในตอนนี้เองที่เขาเข้าใจว่าทําไมเจสันถึงบอกว่าความสามารถของเขาจะกลายเป็นข้อเสียของเขาในสถานศึกษา

“ไม่เหมือนคนอื่น ความสามารถของฉันคือความแข็งแกร่งของฉัน ฉันจะหยุดตัวเองจากการใช้กําลังของฉันได้อย่างไร ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจุดแข็งของมนุษย์คืออะไร และความสามารถของฉันเริ่มต้นจากจุดใด

“ไม่มีความแตกต่าง เพื่อความปลอดภัย ฉันจะต้องอยู่ห่างจากการใช้กําลังเพียงเล็กน้อย ฉันไม่สามารถใช้กําลังของมนุษย์เพื่อความปลอดภัยได้ ดีไม่ดี ฉันสามารถเปิดประตูโดยไม่วางของและถูกไฟฟ้าดูดได้ไหม เขาสงสัยขมวดคิ้ว ฉันต้องคุยกับครูเกี่ยวกับเรื่องนี้ในภายหลัง

” 2 ข้อนี้เป็นกฎสําคัญ 2 ข้อที่ถูกทําลายเกือบตลอดเวลา ดังนั้นโปรดระลึกไว้เสมอ ส่วนกฏอื่นๆจะมีหนังสือเล่มเล็กแจกให้คุณในชั้นเรียน คุณสามารถอ่านเพื่อทําความเข้าใจกฏอื่นๆ ” แซนบอกกับนักเรียนเพื่อดึงดูดความสนใจ

“ในบันทึกอื่น มีสิ่งสําคัญอีกอย่างหนึ่งที่คุณต้องจําไว้” เขากล่าวเสริม

“จะมีสอบทุกปีตอนสิ้นปี และถ้าคุณสอบตกประจําปี 2 ครั้ง คุณจะถูกไล่ออกด้วย”

“ในทางกลับกัน คนที่ทําข้อสอบได้ดีที่สุดจะได้รับรางวัลพิเศษที่คุณชอบ” เขาบอกกับนักเรียน

“ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลที่ฉันควรจะให้คุณหมดลงแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณแล้ว” เขาพูดพร้อมยิ้มอย่างสดใส

มาแล้ว เขากําลังจะเริ่มต้น เจสันคิด ขณะเหลือบมองชายร่างท้วมที่อยู่แถวหน้า เขาแน่ใจว่าเขาจะต้องถูกเรียกขึ้นเวที

คณบดียกนิ้วไปทางเด็กอ้วนที่เริ่มเหงื่อออก เมื่อเห็นคณบดีชี้มาที่เขา

ในไม่ช้าเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เมื่อเห็นคณบดีขยับนิ้วของเขา ซึ่งไม่นานก็มาถึงแคสเซียส แต่ก็ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้นเช่นกัน ในที่สุดก็หยุดที่ที่นั่งถัดไปที่ลูซิเฟอร์นั่งอยู่

“คุณขึ้นมาบนเวที” คณบดีบอกลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นอย่างว่างเปล่า เขาไม่เข้าใจ เนื่องจากเจสันเคยบอกว่าจะไม่ถูกเรียก แต่กลับถูกเรียกได้อย่างไร

เขาเหลือบมองเจสันชั่วครู่ ซึ่งเพื่อนของเขาตอนนี้มีใบหน้าที่อยากจะขอโทษลูซิเฟอร์อย่างมาก

“ขึ้นเวทีก่อน” แซน

ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็เริ่มเดินไปที่เวที ขณะที่เด็กอ้วนเริ่มกลัว เมื่อเห็นคนอื่นถูกเรียก เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบาๆ

น่าเสียดายสําหรับเขา ที่ได้ยินโดยคณบดี ซึ่งมองดูเด็กอ้วนที่อยู่แถวแรก

“คุณก็ขึ้นมาบนเวทีด้วย” เขาบอกเด็กหนุ่มที่มีดวงตาเบิกกว้าง

เด็กอ้วนยืนขึ้น สาปแช่งความโง่เขลาของเขา เมื่อเขาปลอดภัย เขาไม่ควรส่งเสียงดัง

นั่นคือเหตุผลที่ฉันเห็นโชคของเขาไม่ดี เพราะเขาไม่ควรได้รับเลือก แต่เขาก็ถูกเลือก “เจสันคิดขณะขมวดคิ้ว

ลูซิเฟอร์ก้าวขึ้นไปบนเวทีข้างหลังเขา เด็กอ้วนก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีด้วย

“คุณมาที่เวทีด้วยคณบดีบอกแดช ซึ่งนั่งอยู่ใกล้เด็กตาบอด

“อะไรวะ? ผู้ชายคนนี้กําลังเรียกหามากกว่า 1 คนในปีนี้?” แดชคิด ในขณะที่เขายืนขึ้นเช่นกัน เขาเดินไปที่เวทีในขณะที่เขาไม่สามารถปฏิเสธคําสั่งได้

ปู่ของเขาเป็นครูที่นี่ ซึ่งอยู่บนเวที เขากําลังดูทุกอย่าง

คณบดีเรียกคนต่อไป ซึ่งเขาเรียกเด็กตาบอดข้างๆคนก่อนหน้า

เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้ ดูเหมือนเขาจะอยากเรียกหาคนอื่นๆ มากกว่านี้

ในที่สุดเขาก็มองไปที่แคสเซียสและหันกลับไป

“เด็กน้อย เจ้าขึ้นไปบนเวทีด้วย อย่าอายเลย”คณบดีพูดพร้อมหัวเราะ

แคสเซียสยังยืนขึ้นโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ขณะก้าวขึ้นบนเวที

เด็กทั้งห้าก้าวขึ้นไปบนเวที ขณะที่มองดูแซนพลางสงสัยว่าคราวนี้จะเป็นอย่างไร

แซนเดินกลับไปที่บัลลังก์ที่อยู่ใกล้ ๆ แยกจากเก้าอี้ของอาจารย์แล้วนั่งบนนั้น

บัลลังก์ขนาดใหญ่ทําให้เขาดูตัวเล็กลง

แนะนําตัว“แซนบอกกับพวกเด็กๆ

ขณะที่แคสเซียสยืนอยู่ทางซ้ายส่วนใหญ่ของนักเรียนอีก 5 คน เขาก็ก้าวออกไปเพื่อนําคนอื่นๆก่อน

“ฉันชื่อ แคสเซียส ซิอานี่ จากซิอานี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองหลวง แคสเซียสแนะนําตัวเองก่อนจะก้าวถอยหลัง

ถัดมาคือเด็กหนุ่มผมสีฟ้าที่เคยรังแกเร็นมา ก่อนเขาก้าวไปข้างหน้าและแนะนําตัวเอง

“แดช ฟรานซี่ จากตระกูลฟรานซี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งตะวันตก” เขากล่าวอย่างภาคภูมิใจ

เขายังก้าวถอยหลัง ไม่นานก็ถึงคราวของเด็กชายอ้วน

“ฉันชื่อรูน แวนลี่ จากตระกูลแวนลี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งตะวันออก”

เด็กชายใส่แว่นดําก้าวไปข้างหน้า “ฉัน เรน แบรนสัน จากตระกูลแบรนสันผู้ยิ่งใหญ่ทางใต้”

“ขณะที่คนอื่นๆ แนะนําตัวเอง ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ด้านหลัง ทําไมทุกคนถึงมีคําว่า ผู้หญิงใหญ่อะไรนั่นต่อท้าย? พวกเขาทําเพราะรู้สึกเคารพหรือไม่?

ในที่สุดก็ถึงคราวของลูซิเฟอร์เมื่อคนอื่นๆเสร็จ

ลูซิเฟอร์ก้าวไปข้างหน้าในขณะที่เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันคืออเล็กซ์ อะลาริกจากตระกูลอะลาริกที่ยิ่งใหญ่ใกล้ชายหาด”

เมื่อลูซิเฟอร์แนะนําตัวเอง คนอื่นๆก็อดไม่ได้ที่จะมองมาที่เขาอย่างตกตะลึง เขาหมายถึงอะไรโดยครอบครัวที่ยิ่งใหญ่ของอะลาริก?

แม้แต่เจสันก็อดไม่ได้ที่จะเอามือตบหน้าตัวเอง ผู้ชายคนนี้พยายามที่จะถูกไล่ออกจากโรงเรียนในวันแรกหรือไม่?

สําหรับคณบดี เขายิ้มราวกับว่าเขารู้สึกขบขันและน่ารัก

“เจ้าเล่ห์! เจ้าจะโกหกเรื่องนี้ได้อย่างไร! ไม่มีตระกูลใหญ่ของอะลาริก! เจ้าคิดหาว่าเราเป็นคนเขลาจริงๆเหรอ!”

ตอนที่ 193: เขาเป็นคณบดี

ทั้ง 2 คน นั่งที่นั่งสุดท้าย ในขณะที่พวกเขาพูด คุยกันราวกับว่าพวกเขากําลังโต้เถียงกันเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง แต่เสียงของพวกเขาเบามาก จนลูซิเฟอร์ไม่ได้ยินด้วยซ้ํา

“คนที่มีเขาคืออาจารย์อเล็กซี่ ส่วนคนที่สวมหน้ากากคือครูมอร์เบียส” เจสันกระซิบข้างหูของลู ซิเฟอร์

“ทั้งห้าเป็นครู? แล้วคณบดีอยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์พึมพําอย่างสับสน

นั่นก็เกิดขึ้นเช่นกันเมื่อถึงเวลาที่ประตูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนเวที

ประตูขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนเวที เมื่อเห็นประตูมิติ ครูทุกคนก็ยืนขึ้นยกเว้นมิราลี ซึ่งดูเหมือนจะหลับอยู่

“มิราลี ตื่นได้แล้ว ตื่นมาแล้ว!” โยวานเขย่ามิราลี ซึ่งตื่นขึ้นอย่างกะทันหัน ขณะที่เธอยืนขึ้น

นักเรียนทุกคนยืนขึ้นด้วยความเคารพ เมื่อเห็นคนอื่นๆลุกขึ้น ลูซิเฟอร์ก็ทําเช่นเดียวกัน

จากประตูมิติมีคนก้าวออกมา หลังจากนั้นไม่กี่วินาที

“ยินดีต้อนรับ นักเรียนที่รัก ยินดีต้อนรับสู่อะคาเดมีของเหล่าผู้มีพรสวรรค์ !” คนที่เพิ่งมาถึงอุทานอย่างตื่นเต้นราวกับว่าคนๆนั้นเป็นนักแสดงแทนที่จะเป็นคณบดี

เมื่อเห็นคนๆนั้น ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะโพล่งออกมาว่า “เด็กคนนั้นคือคณบดีเหรอ?”

ขณะที่ทั้งสถานที่เงียบสงัด แม้ว่าลูซิเฟอร์จะพูดช้า ๆ แต่เสียงของเขายังก้องอยู่ในหูของทุกคน

เจสันอดไม่ได้ที่จะเหงื่อออก ลูซิเฟอร์เรียกคณบดีว่าเด็กจริงหรือ?

แม้ว่าเขาจะไม่ผิด คณบดีที่เพิ่งก้าวออกจากประตูมิติดูเหมือนเด็ก อันที่จริงเขาดูคล้ายกับลูซิเฟอร์

เขายังมีร่างกายที่คล้ายคลึงกันที่สร้างขึ้น เขายังมีผมสีเงิน แต่ผมของเขาสั้นกว่า ไม่เหมือนผมยาวของลูซิเฟอร์ ดวงตาทั้งสองของคณบดีดูเป็นสีน้ําตาลแดง ไม่เหมือนดวงตาสีน้ําเงินเข้มของลูซิเฟอร์

ยิ่งไปกว่านั้น ใบหน้าของคณบดีดูเล็กกว่าของลูซิเฟอร์ แต่เขาดูอายุไม่ต่ํากว่า 13-14 ปี

คณบดีจ้องที่ลูซิเฟอร์โดยไม่พูดอะไร วินาที่ยังคงผ่านไปเมื่อความเงียบแผ่ซ่านไปทุกหนทุกแห่ง

นักเรียนส่วนใหญ่อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับลูซิเฟอร์ที่ไร้เดียงสา เขาพูดแบบนั้นกับคณบดีเหรอ?

“เด็กคนนั้นต้องตายแน่ๆ” แดชคิด

แม้แต่เจสันก็ยังตกตะลึง

“ความสามารถของฉันผิดหรือเปล่า? ฉันไม่ได้เห็นว่าโชคของอเล็กซ์ไม่ดี เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่ไม่สามารถคาดเดาโชคได้อย่างแม่นยําเลยที่เดียว?”

คณบดีมองไปที่ลูซิเฟอร์อย่างว่างเปล่า ทุกคนสงสัยว่าเขาจะพูดอะไร

“ฮ่าๆๆๆ!”

ไม่นานความเงียบก็ถูกทําลายลง เมื่อคณบดีควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาระเบิดเสียงหัวเราะ

“เด็กงั้นเหรอ? ฉันหวังว่าฉันจะเป็นเด็ก ชีวิตจะง่ายกว่านี้มาก” คณบดีกล่าว ขณะที่ในที่สุดเขาก็ควบคุมเสียงหัวเราะของเขา

“แต่ฉันจะถือว่านั่นเป็นคําชมนะ ฉันอาจจะดูเด็กดีกว่าดูแก่นะ จริงไหม โยวาน?” เขาถามขณะหันกลับไปหาโยวาน

“ใช่ครับ” โยวานตอบยิ้มๆ

“ทุกคนนั่งได้ ได้เวลาเริ่มการปฐมนิเทศแล้ว” คณบดีพูดพร้อมโบกมือให้ทุกคนนั่ง

ตามคําสั่งของเขา ครูและนักเรียนนั่งลง ลูซิเฟอร์ก็นั่งลงพร้อมกับมองคณบดีอย่างขอโทษ

“เอาล่ะ ให้ฉันแนะนําตัวก่อน” คณบดีพูดขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

“ฉันชื่อ แซน อนดริล ฉันเป็นคณบดีของอะคาเดมี่ หรืออาจารย์ใหญ่ ถ้าคุณต้องการเรียกฉันแบบนั้น สําหรับรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ของฉัน นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก จริงๆ แล้วฉันแก่กว่ามาก” แซ์นบอกกับนักเรียน “อายุเท่าไหร่ฉันไม่บอกหรอกนะ”

“คุณคงสงสัยว่าทําไมฉันถึงดูเด็กจัง” เขาถามโดยเหลือบมองไปที่ลูซิเฟอร์

“นั่นเป็นเพราะพรสวรรค์ของฉัน ยังไงก็เถอะ ก้าวต่อไป ตั้งแต่วันนี้ไป คุณจะเป็นนักเรียนของสถานศึกษาแห่งนี้ ดังนั้นสิ่งสําคัญคือคุณต้องรู้จักอาจารย์ของคุณ” เขากล่าวขณะที่หันหลังกลับ

“เขาคือมอร์บิอุส นั่นคืออเล็กซี่ รองลงมาคือโย วาน จากนั้นก็มีมิราลี่ แล้วก็ฟรานซี่ พวกเขาคือคนเก่งที่สุดของเรา และพวกเขาจะสอนคุณต่อไปอีก 5 ปี ดังนั้นจงเรียนรู้จากพวกเขาให้ดี” แซนกล่าวกับนักเรียน ขณะที่เขาชี้ไปที่ครู

“เอาล่ะ จบการแนะนําตัวแล้ว กลับมาที่เรื่องสําคัญ อย่างที่คุณรู้ การจะประสบความสําเร็จได้นั้น คุณต้องมีวินัย ความพากเพียร และความถนัด”

“ถ้าคุณมีทั้งหมดนั้น คุณจะมีโอกาสสูงที่จะสําเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่มีสีสันสดใส แต่คุณต้องรู้ด้วยว่าเรามีกฎเกณฑ์”

“และถ้าคุณทําผิดกฎ 3 ครั้งในช่วง 5 ปีของ คุณ คุณจะถูกไล่ออกโดยไม่มีคําถามใดๆ เลย ให้ ฉันบอกกฎให้คุณฟัง รับรองว่าคุณจะไม่ลืมกฎ เหล่านั้น” แซนอธิบาย

“กฎข้อที่ 1! คงจะดีที่สุด ถ้าคุณฟังครูของคุณ เสมอ ตราบใดที่ครูไม่ขอให้คุณตาย คุณต้องทํา ตามที่พวกเขาพูดใน 5 ปีนี้ เว้นแต่คําสั่งของพวก เขาจะขัดกับคําสั่งของครูคนอื่น” เขากล่าวต่อ “ถ้าแก้ไม่ได้ งั้นคุณก็มาหาฉันซะ แล้วฉันจะไข ปริศนาให้เอง”

น้ําเสียงของเขาสงบแต่ก็เข้าหูทุกคนอย่างชัด เจน

“กฎข้อที่ 2 ! คุณจะสู้ในห้องเรียนหรือหอพัก ไม่ได้เลย ถ้าคุณมีปัญหา โปรดติดต่อผู้ควบคุ มที่นั่นและแก้ไขด้วยคําพูด ไม่มีการสู้รบกันที่นั่น”

“แต่ถ้าคุณยังต้องการต่อสู้รู้ไว้เถอะว่าการต่อสู้นั้นสามารถทําได้ในมหาวิทยาลัย ตราบใดที่ไม่ใช่ในห้องเรียนหรือหอพัก คุณสามารถออกไปบ้าๆ ข้างนอกสถานที่เหล่านั้นได้ แต่ต้องต่อสู้โดยไม่ต้องใช้ของขวัญของตนเองเด็ดขาด!”

“จําไว้ว่าคุณไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ของขวัญของคุณตราบใดที่คุณอยู่ในที่นี้! คุณสามารถใช้ได้เฉพาะต่อหน้าครูที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น” แซนอธิบาย “คุณเข้าใจใช่ไหม?”

นักเรียนทุกคนพยักหน้า สําหรับลูซิเฟอร์ เขาได้เตรียมการไว้แล้ว เขาสัญญากับปู่ของเขาว่าเขาจะไม่ต่อสู้

“พวกคุณทุกคนตอบว่าใช่ แต่ฉันรู้ว่าพวกคุณส่วนใหญ่อาจจะล้มเหลวถ้าเราปล่อยมันไป เรื่องพวกนี้มันเป็นเทรนด์มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

“มีการใช้ของขวัญอยู่เสมอ และนักเรียนจํานวนมากถึงกับเสียชีวิต นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว อะคาเดมี่จึงเกิดแนวคิดและสร้างขอบเขตต่างๆขึ้นมา!” แซนพูดพร้อมกับปรบมือหนึ่งครั้ง

ทางเข้าหอประชุมเปิดออก เมื่อผู้คนจํานวนมากก้าวเข้ามาพร้อมกับกระเป๋าที่บรรจุอะไรบางอย่าง

พวกเขานําสิ่งที่ดูเหมือนสร้อยข้อมือออกมา และมอบให้แก่นักเรียนแต่ละคน
ในท้ายที่สุด แม้แต่นักเรียนระดับ A ก็ยังได้รับสิ่งเหล่านี้

“สวมกําไลที่อยู่ในมือตอนนี้” แซนบอกกับทุกคน

ไม่มีใครคัดค้านคําสั่งของเขาและสวมกําไลที่ดูเหมือนจะหลวมเกินไปสําหรับข้อมือเล็กๆของพวกเขา แต่ทันทีที่พวกเขาสวมกําไลก็เริ่มเล็กล งก่อนที่จะรัดแน่น

อันที่จริงมันรัดแน่นพอที่จะแน่ใจว่าไม่ได้ทําร้ายใคร ในขณะเดียวกันก็ทําให้มั่นใจว่าถอดออกไม่ได้

ตอนที่ 192: ครู
“ฉันชื่อ อเล็กซ์ อะลาริก ฉันก็อยู่ในชั้นเรียนข องนายด้วย” ลูซิเฟอร์ตอบ “สําหรับการมองนายนั้น ฉันแค่อยากรู้เกี่ยวกับนาย ทุกคนเงียบเมื่อนายเข้ามา”

“ฉันชื่อ แคสเซียส ทําไมพวกเขาถึงเงียบไป นายควรถามพวกเขาด้วยตัวเอง” แคสเซียสตอบ ก่อนจะหยุดมองที่ลูซิเฟอร์และหลับตาลง

ลูซิเฟอร์มองที่เจสันก่อนที่เขาจะเริ่มถามว่า ทําไมทุกคนถึงเงียบไปในทันใด

“หึ ฉันจะบอกนายทีหลัง” เจสันตอบขณะที่บอกลูซิเฟอร์ว่าอย่าถามในตอนนี้

ลูซิเฟอร์ไม่เข้าใจว่าทําไมเจสันไม่พูด เขากลัวไหม? เป็นไปได้ไหมว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับแคสเซียส ที่ทําให้เขากลัว?

ฉันไม่เห็นอะไรที่น่ากลัวในตัวเขาเลย อันที่จริงเขาดูเหมือนคนที่ดีกว่าคนหนึ่งในพวกเขาทั้งหมด อย่างน้อยเขาก็พูดได้”ลูซิเฟอร์คิดขณะส่ายหัว

เขาไม่ได้บังคับเจสันและตัดสินใจรอในภายห ลังเพื่อถามเขา

ผู้คนเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ประตูจะปิดในที่สุด ทุกคนอยู่ในหอประชุมแล้ว

สําหรับคลาส A มีเพียง 6 คนเท่านั้นที่นั่งอยู่ในแถวแรก ดูเหมือนว่ามีเพียง 5 คนเท่านั้นที่จะอยู่ในชั้นเรียนของลูซิเฟอร์กับเขา

ลูซิเฟอร์มองไปรอบๆ สงสัยว่าจะเริ่มเมื่อไหร่

ขณะที่เขาสงสัย ประตูหลังเวทีก็เปิดออกเมื่อชายคนหนึ่งก้าวเข้ามา

ชายผู้นี้ดูแก่กว่าเล็กน้อย ราวกับว่าเขาอายุเกิน 60 แล้ว เขามีผมสีขาวยาวแต่ตาสีแดงเข้ม เขาสวมเสื้อคลุมยาวเดินไปพร้อมกับไม้เท้าสั้น ๆ ราวกับว่าเขาเป็นนักมายากล

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองชายชราที่เพิ่งมาถึง เขาเชื่อว่าชายคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากครูที่นี่

ชายชราเดินไปที่เก้าอี้ตัวหนึ่งใน 5 ตัวที่วางอยู่บนเวทีและนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ขณะที่เขานั่ง เขาหลับตาและพับแขนของเขา เขาไม่ได้พูดอะไร

โดยตระหนักว่าลูซิเฟอร์อาจกําลังสับสน เจสันจึงเดินไปข้างหน้าและกระซิบที่ข้างหูของเขา”เขาคืออาจารย์ฟรานซี เขาเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษา

ลูซิเฟอร์พยักหน้า ขณะที่เขาจําชื่อนั้นได้

หลังจากชายชรา อีกคนก้าวขึ้นไปบนเวที แต่คราวนี้ เป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะอายุ 20 กลางๆของเธอ เธอมีผมสีม่วงสวยและสวมเสื้อคลุมสีขาวเหมือนหมอ

ลูซิเฟอร์พบว่าตัวละครของเธอน่าสนใจที่สุด เขาอดยิ้มไม่ได้ เมื่อเห็นผู้หญิงหาวก่อนที่เธอจะขยี้ตาราวกับว่าเธอเพิ่งตื่นจากการนอนหลับ

หญิงสาวสวยนั่งข้างฟรานซี ก่อนที่เธอจะหลับตาลง ไม่เหมือนชายชราที่ดูเหมือนจะนั่งสมาธิโดยหลับตา ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนเธอหลับไปแล้วจริงๆ

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะพบว่ามันน่ารัก เธอรู้สึกผ่อนคลายมาก

“นั่นอาจารย์มิราลี เธอเป็นอย่างนั้นตลอด แต่เธอก็ด้วย อย่าหัวเราะเยาะการกระทําของเธอ เจสันอธิบายให้ลูซิเฟอร์ฟังอีกครั้ง

ในไม่ช้ อีกคนก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีผ่านทางเข้า ผู้ชายคราวนี้ดูเทอะทะไปหน่อยแต่ก็หล่อ

ชายคนนั้นมีผมสีเข้มและมีเคราสีอ่อน แต่ลักษณะที่โดดเด่นที่สุดเกี่ยวกับตัวเขาดูเหมือนจะเป็นรอยแผลเป็นที่ด้านซ้ายของใบหน้า ซึ่งทอดยาวตั้งแต่หน้าผากถึงแก้มซ้าย

แม้ว่ารอยแผลเป็นนั้นจะมองเห็นได้ แต่ก็ไม่ได้ทําให้เขาดูน่าเกลียด กลับทําให้เขาดูกล้าหาญและเท่

ชายคนนั้นนั่งบนเก้าอี้ตรงกลางของทั้งห้า ขณะที่เขามองไปยังผู้หญิงผมสีม่วง

“มิราลี ตื่นเถิด นี่ไม่ใช่เวลานอนเขากล่าว

“อืม ฉันไม่ได้นอน ฉันแค่พักผ่อน บอกฉันทีว่าคณบดีมาเมื่อไหร่ ฉันจะตื่น อะแฮ่ม ฉันหมายถึงลืมตาขึ้น“มิราลีตอบโดยไม่ลืมตา

ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวกับคําตอบของเธอ เขาไม่หลับตาไม่เหมือนกับสองคนแรก เขามองดูเด็กที่สังเกตพวกเขาแทน

ขณะที่เขามองไปรอบๆ เขาเริ่มจากแถวสุดท้าย ก่อนจะถึงแถวแรก

เขาสังเกตเห็นชายร่างท้วมและเพ่งมองต่อไป จนกระทั่งมันจบลงที่แคสเซียส ซึ่งนั่งหลับตาเหมือนครู 2 คนแรก

ชายคนนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ในขณะที่พึมพํา “ตามที่คาดไว้ แคสเซียสมาแล้ว คนในชุดนี้คงจะดีไม่น้อย”

เช่นเดียวกับครูคนอื่นๆ เขาไม่รู้ว่านักเรียนคนไหนถูกเลือกและใครถูกปฏิเสธ ทุกอย่างเป็นไปตามการตัดสินใจของคณบดี ดังนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นตัวเอง

เขาขยับสายตาให้ไกลขึ้นและสังเกตเห็นลูซิเฟอร์

เด็กคนนี้ ฉันจําไม่ได้ว่าเคยเห็นเขามาก่อน แต่ความรู้สึกของฉันกําลังรู้สึกเสียวซ่า มีบางอย่างที่พิเศษเกี่ยวกับเขา ยิ่งกว่าแคสเชียสเสียอีก มันจะน่าสนใจมาก เด็กคนนี้เป็นใครกันแน่?” เขาคิดแบบนั้น

ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นชายคนนั้นมองมาที่เขา เขาไม่ได้ทําอะไรและมองย้อนกลับไป มีใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาราวกับว่าเขาไม่ได้กังวลหรือกลัว

ชายคนนั้นออกมาจากความงุนงงของเขา ในขณะที่เขาตระหนักว่าการจองที่นักเรียนเป็นเวลานานไม่ดี เขาไม่ต้องการที่จะข่มขู่เขา เขาเลื่อนสายตาไปที่ชายผมสีฟ้า ทันทีที่เขาสังเกตเห็นชายคนนั้น ใบหน้าของเขาก็กระตุกอย่างไม่เต็มใจ

“พระเจ้า ปีศาจตัวนี้ก็อยู่ที่นี่ด้วย หลานชายของฟรานซี, แดช ฮ่าฮ่า ฉันหวังว่าฟรานซีจะไม่ลําเอียงกับเรื่องนี้นะ เขาคิดขณะมองไปยังคนสุดท้ายที่สวมแว่นดํา

“เรนก็ไม่เลวเหมือนกัน รอบนี้มีแต่คนเก่งจริงยิ่งกว่ารอบที่แล้ว อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ดูเหมือนตั้งแต่แรกเห็นเขาคิด

“คนที่มองคุณคือครูโยวาน เขาเป็นที่ชื่นชอบของนักเรียนที่นี่จริงๆ ฉันคิดว่าพวกเราคงจะชอบเขา อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยินมา” เจสันบอกกับลูซิเฟอร์อีกครั้งหลังจากแน่ใจว่าโยวานไม่ได้มองมาที่นี่

อีก 2-3 วินาทีต่อมามีคนขึ้นบนเวที

หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาใน วัย 20 ปลายๆ เขามีผมสีเข้มสวยและตาสีทอง ซึ่งทําให้เขาดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น เขาดูเหมือนเขาเป็นนายแบบจริงๆ แต่มีอย่างอื่นให้เขา

ชายผู้นั้นมีเขาเหมือนแพะ 2 ข้างอยู่บนหัวของเขาด้วย ทําให้เขาดูแตกต่างออกไป เขาสวมเสื้อยึดและกางเกงยีนส์ธรรมดา

สําหรับคนที่ 2 เขาดูแปลกไปกว่าเดิม ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ดูไม่ต่างจากเกราะ ไม่เห็นส่วนใดของร่างกายเลย

อันที่จริงแล้ว แม้แต่ศีรษะของเขาก็ยังคลุมด้วย หมวกที่เข้ากับหน้าตาของเขา.. สําหรับใบหน้าของเขานั้น มีหน้ากากปิดหน้าอยู่เต็มหน้ามันซ่อน
อยู่

ตอนที่ 191: แคสเซียส

“แน่นอนอยู่แล้ว พวกเขาเก่งที่สุด นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงมีความเย่อหยิ่ง แต่ละคนคิดว่าพวกเขาเป็นเจ้าชาย” เจสันกระซิบกับลูซิเฟอร์จากข้างหลังเขา “นั่นคือเหตุผลที่เควินเรียกพวกเขาว่าพวกหัวสูงระดับ A ในตอนเช้า”

“เขาคิดถูกแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบขณะถอนหายใจ

“ไม่เป็นไร ฉันมาเพื่อเรียนรู้และเติบโต ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ส่วนเพื่อน ฉันมีนายแล้วนี่ใช่ไหม” เขาถามต่อเมื่อหันกลับมามองเจสัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันทําได้แค่แนะนํานายว่าควรทําอะไรและไม่ควรทํา” เจสันตอบ

“และการล่วงละเมิดเพื่อนร่วมชั้นของนายเป็นสิ่งที่นายไม่ควรทําจริงๆ เพราะในกรณีนี้ฉันจะไม่สามารถทําอะไรได้ ดังนั้นควรตื่นตัวและระมัดระวังหลังจากการปฐมนิเทศ” เขากล่าวต่อกับลูซิเฟอร์ก่อนจะเดินกลับไปนั่งตัวตรง เขาเห็นผู้ชายคลาส A อีกคนเข้ามาใกล้แล้ว

เด็กชายคราวนี้ดูธรรมดามาก ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ไม่มีคุณสมบัติที่ชัดเจนในตัวเขา อันที่จริง ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ลืมหน้าได้ง่าย เด็กชายสวมแจ็กเก็ตตัวยาวที่คลุมถึงข้อเท้าปิดร่างกายของเขา

มือของเขาดูเหมือนจะอยู่ในกระเป๋าของเขา ขณะที่เขาเดินผ่านลูซิเฟอร์ คราวนี้ ลูซิเฟอร์ไม่สนใจที่จะทักทายเด็กชายเช่นกัน

ในทํานองเดียวกัน เด็กชายไม่แม้แต่จะชําเลืองมองที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่เดินผ่านเขาไปนั่งใกล้คนตัวอ้วน มีเพียง 3 ที่นั่งระหว่างเด็กชายคนนั้นกับเจ้าอ้วน

ขณะที่ลูซิเฟอร์มองดูพวกเขา เขาก็อดสงสัยอะไรไม่ได้

ทําไมทุกคนนั่งใกล้หัวมุม? ฉันนั่งผิดที่หรือเปล่า เขาสงสัย สับสน

เขาหันกลับมามองเจสันก่อนจะถาม “ทําไมพวกเขาถึงชอบนั่งตรงมุมห้อง มีเหตุผลไหม” เขาถามเจสัน

“ฉันคิดว่าพวกเขาไม่อยากอยู่ต่อหน้าคณบดีที่จะยืนอยู่ตรงกลางเวที” เจสันตอบ

“คณบดีไม่ดีหรือฉันควรเปลี่ยนด้วยหรือไม่” ลูซิเฟอร์ถามยิ้มๆ

“ไม่ อย่าไปคิดมาก คณบดีไม่กัด แค่เขาเป็น อ่า ว่าเขามีบางอย่างเกี่ยวกับเขา เขาสามารถเรียกหานายบนเวทีได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ”

“ทุกปีเขาเรียกคนคนหนึ่งจากแถวแรกขึ้นไปบนเวที นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงนั่งตรงมุม เพื่อเพิ่มโอกาสที่เขาจะไม่มีใครสนใจ” เจสันตอบขณะที่เขาหัวเราะ

“ฉันก็ไม่อยากถูกเรียกเหมือนกัน ฉันจะไปเหมือนกัน” ลูซิเฟอร์พูดขณะเตรียมลุกขึ้น แต่เจสันวางมือบนไหล่ของลูซิเฟอร์

“อย่าคิดมากเรื่องนี้ ฉันคํานวณมาหมดแล้ว” เจสันพูดพร้อมยิ้ม “อยากรู้เรื่องของขวัญของฉันไหม”

“ใช่” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ฉันมี 2 อย่าง หนึ่งคือความสามารถที่เรียกว่า [Luck Foresight] ฉันมองเห็นโชคของผู้คน ฉันรู้ว่าโชคของพวกเขาจะแย่ในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้าหรือดี”

“และฉันเห็นว่าโชคของนายกําลังจะดี คนอ้วนที่อยู่ตรงมุมนั้นโชคไม่ดี ดังนั้นฉันคิดว่าเขาจะถูกเรียก คุณไม่จําเป็นต้องเคลื่อนไหว” เจสันอธิบาย

“โล่งอกไปที่” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ผ่านไปอีก 5 นาทีก่อนที่เด็กหนุ่มอีกคนจะเข้ามา เขามีสติกเกอร์ติดหน้าอกด้วย

เด็กชายมีตาสีฟ้าเข้ม ซึ่งดูคล้ายกับลูซิเฟอร์ แต่ผมยาวของเขาก็เป็นสีฟ้าเช่นกัน ไม่เหมือนกับผมสีเงินของลูซิเฟอร์

เขายังเดินผ่านลูซิเฟอร์โดยไม่หยุดพูด และหยุดอยู่ใกล้ชายที่สวมแว่นดําเท่านั้น

“เร็น นายอยู่ที่นี่ด้วย น่าสนใจ ตอนนี้พวกเขาเริ่มรับคนตาบอดเข้ามาแล้วเหรอ ฉันคิดว่านายจะถูกโยนให้ไปคลาส B” เด็กชายผมสีฟ้าพูดในขณะที่เขายิ้ม

เด็กชายในแว่นเงยหน้าขึ้นราวกับว่าเขากําลั มองไปที่เด็กชายผมสีฟ้า เขายังยื่นมือออกและทําท่าทางเล็กน้อย

“ใช่ ฉันลืมไปว่านายพูดไม่ได้ มันคงเป็นเพราะพวกเขาสงสารนาย เพราะนายก็ไม่ได้พิเศษอะไรกับแผนกอื่นด้วย” เด็กชายผมสีฟ้าพูดพร้อมยิ้ม

“อยู่โรงเรียนแวเรียนท์ นายก็ยังเหมือนเดิม นายโชคดีมากที่มาที่นี่ อย่างไรก็ตาม ฉันดีใจที่ได้พบนาย ฉันไม่สามารถบอกนายได้ว่าฉันมีความสุขแค่ไหน” เขากล่าวเพิ่มเติม

เด็กชายในแว่นหยุดพูดด้วยท่าทางแต่ไม่ก่อนที่เขาจะทําท่าทางสุดท้าย เขาชูนิ้วกลางให้ชายผมสีฟ้าก่อนจะพับแขน

เมื่อเด็กชายผมสีฟ้าเห็นท่าทางนี้ ใบหน้าของเขากระตุกอย่างไม่เต็มใจ เขาเปิดปากพูดเมื่อรู้ว่าทั้งหอประชุมเงียบไปในทันใด

เขามองไปที่เวที่เพื่อดูว่าครูมาถึงหรือยัง ไม่มีใครอยู่ที่นั่น เหลือเพียงความเป็นไปได้เดียวเท่านั้น เขามองไปทางทางเข้าของนักเรียน ขณะที่พึมพํา “ดูเหมือนแคสเซียสจะอยู่ที่นี่”

ที่ทางเข้าของเด็กชาย หอประชุมที่มีเสียงดังก็เงียบลงอย่างกะทันหัน ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับไปเพื่อดูว่าใครมาถึงแล้วเมื่อเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา

เป็นเด็กผู้ชายที่มีผมสีเข้มซึ่งสั้นแต่ไม่สั้นเกินไป ดวงตาของเขาดูเหมือนของลูซิเฟอร์เช่นกัน แต่มีสีฟ้าอ่อนกว่าเขา

เขาใส่กางเกงยีนส์และเสื้อยืด แต่เสื้อคลุมที่เขาสวมทับนั้นดูสะดุดตากว่า นอกจากนี้ยังมีสร้อยคอที่สวยงามบนคอของเขา ซึ่งดูเหมือนจะทํามาจากวัสดุล้ําค่าบางอย่าง

ในมือของเขามีกําไลเงิน 2 เส้น นอกจากนี้ยังสามารถเห็นดาบหนักห้อยอยู่ที่หลังของเด็กชาย

ไม่มีสติกเกอร์ของคลาส A บนเสื้อผ้าของเด็กชายที่ลูซิเฟอร์มองเห็น แต่เขามีความรู้สึกว่าเด็กชายคนนี้อยู่ในชั้นเรียนของเขาด้วย

ข้อสันนิษฐานของเขาได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ถูกต้อง เมื่อเด็กชายหยุดอยู่ในแถวแรกเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แทนที่จะนั่งบนแถวของลูซิเฟอร์ เขานั่งบนเบาะกลางที่อยู่ทางด้านขวาของทางเข้า

เขานั่งตรงที่นั่งถัดไปของลูซิเฟอร์ แต่ทางเดินเข้ารักษาระยะห่างระหว่างพวกเขา

เด็กชายที่เพิ่งมาถึงกําลังถือดาบหนักไว้บนตักของเขาขณะที่เขานั่งอย่างสงบ

เมื่อสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์เหลือบมองมาที่เขา เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

“นายคือใคร?” เขาถามลูซิเฟอร์ “ทําไมมองฉันแบบนั้นล่ะ”

เป็นครั้งแรกที่มีคนจากคลาส A คุยกับลูซิเฟอร์ ซึ่งทําให้เขาสนใจเช่นกัน.. อาจไม่ใช่ทุกคนที่ดูถูกกันขนาดนั้น? เขาสงสัย

ตอนที่ 190: หยาบคาย

“เอาล่ะ เจสันและอเล็กซ์ ฉันคิดว่านายควรเริ่ม เตรียมตัวได้แล้วมันเป็นการวางแนวของรุ่น 24 หากพวกนายไปสายนายอาจจะต้องเจอกับความยุ่งเหยิง”เควินเตือนลูซิเฟอร์และเจสัน ขณะที่เขานอนอยู่บนเตียง“ฉันจะงีบหลับเพราะวันนี้ฉันไม่มีเรียนขอให้นายทั้งสองโชคดี”

ลูซิเฟอร์และเจสันแต่งกายให้เหมาะสมสําหรับปฐมนิเทศ

เนื่องจากตอนนี้ไม่มีชุดยูนิฟอร์มของสถาบันพวกเขาจึงต้องสวมชุดปกติ

ลูซิเฟอร์สวมเสื้อผ้าเก่าที่เขานํามาจากบ้านในขณะที่เจสันดูเหมือนสวมเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมดที่เขานําออกมาเป็นครั้งแรก

7 โมงเช้า ขณะที่ทั้งสองเตรียมตัวให้พร้อมหลังจากอาบน้ําเสร็จ

“ไปกันเถอะ ปฐมนิเทศจะเริ่มในอีก 1 ชั่วโมงข้างหน้าเราควรไปที่หอประชุมล่วงหน้า” เจสัน บอกลูซิเฟอร์ขณะนําแฟ้มออกจากกระเป๋า “อย่าลืมแฟ้มของนายด้วยนั่นก็เหมือนบัตรผ่านของนายมันจะถูกใช้ทุกที่จนกว่าบัตรประจําตัวของเราจะถูกสร้างขึ้น”

ลูซิเฟอร์เดินไปที่ชั้นวางและหยิบแฟ้มของเขาขึ้นมาตอนนี้เควินหลับสนิทเมื่อเจสันและลูซิ เฟอร์ออกจากห้องไปจนปิดประตู

พวกเขาเดินขึ้นบันไดและออกจากโรงแรม

“นายเห็นตึกนั้นไหม นั่นคือที่หอประชุม”เจสันชี้ไปที่อาคารที่สั้นกว่าอีกหลังเล็กน้อยในบริเวณใกล้เคียง

เมื่อเหลือบมองไปทางนั้น ลูซิเฟอร์ก็เห็น เด็กจํานวนมากยืนเรียงแถวกันที่ทางเข้าอาคาร

“นั่นเป็นที่ๆใหญ่มาก มีนักเรียนกี่คนในกลุ่มที่ 24 งั้นเหรอ” ลูซิเฟอร์ถามเจสัน เขาตะลึงเมื่อ เห็นฝูงชน

“ฉันคิดว่าควรมีอย่างน้อย 500 นั่นเป็นจํานว นอย่างน้อยตั้งแต่ 2-3 ปีที่ผ่านมา” เจสันตอบ

” ในชุดปีที่แล้วมีนักเรียน 500 คนมากกว่า 400 คนอยู่ในห้อง C, 90 คนในชั้นเรียน B และ 10 คนในชั้นเรียน A ยิ่งชั้นสูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งยากขึ้นเท่านั้นที่จะรับเข้าเรียน นั่นคือทําไมเราถึงตกใจมากที่นายเข้ามา“เขาอธิบายให้ลูซิเฟอร์ฟัง

ไม่นานพวกเขาก็ไปถึงที่หมายและยืนเป็นแถวยาวโชคดีที่ตอนนี้มีคนอยู่ก่อนหน้าพวกเขาเพียง 50 คน ที่เหลือเข้าไปแล้วหรือยังมาไม่ถึง

แถวค่อยๆ เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ขณะที่นักเรียนยังคงเข้าไปในหอประชุมหลังจากตรวจสอบแฟ้มแล้ว

ไม่นานก็ถึงคิวของลูซิเฟอร์เขายังมอบแฟ้มให้ กับแวเรียนท์ที่กําลังตรวจสอบอยู่

ทันทีที่แวเรียนท์คนนั้นเห็นแฟ้มของลูซิเฟอร์เขาก็รู้สึกประหลาดใจเขาเหลือบมองที่ลูซิเฟอร์ขณะที่เขาพยักหน้าด้วยรอยยิ้มเขานําสติกเกอร์ออกจากกระเป๋าเสื้อและติดไว้ที่กระเป๋าเสื้อของลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ดูสับสนเกี่ยวกับสติกเกอร์ แต่เขาไม่ได้ถามอะไรเลยในขณะที่แวเรียนท์ได้คืนไฟล์ให้ลูซิเฟอร์ในขณะที่บอกให้เขาเข้าไป

ลูซิเฟอร์เข้าไปในหอประชุมและรอเจสันซึ่งกําลังตรวจสอบไฟล์ของเขาไม่นานเจสันก็ก้าวเข้า มา

“ทําอะไรน่ะไปเลย!“เจสันบอกลูซิเฟอร์ขณะที่เขาสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์รออยู่
“ไปไหน ไปกับฉัน ไปกับฉันไหม”ลูซิเฟอร์ถาม เจสัน

เมื่อได้ยินคําพูดของลูซิเฟอร์ เจสันก็อดยิ้มไม่ได้”นายกําลังพูดอะไร นายไม่เห็นสติกเกอร์ในเสื้อของนายหรือ “ใช่มันคืออะไรฉันยังไม่เข้าใจ“ลูซิเฟอร์ตอบอย่างสับสน

“นั่นก็เหมือนกับใบอนุญาตพิเศษ ให้เฉพาะนักเรียนคลาส A ในระหว่างการปฐมนิเทศ หมายความว่านายสามารถนั่งแถวแรกได้เฉพาะนักเรียนคลาส A เท่านั้นที่สามารถนั่งในแถวแรกส่วนที่เหลือพวกเขานั่งข้างหลังพร้อมกับคลาส C อยู่ข้างหลัง“เจสันอธิบาย

ไปนั่งก่อน อย่ารอช้า มิฉะนั้นเราจะถูกดเพราะขวางทาง“เขาพูดต่อขณะก้าวไปข้างหน้า

เจสันนั่งบนเก้าอี้ในแถวที่ 2 สําหรับลูซิเฟอร์เขาฟังเจสันเขาสัญญากับปู่ของเขาว่าเขาจะปฏิบัติตามกฎ

ลูซิเฟอร์นั่งเก้าอี้ ซึ่งอยู่ข้างหน้าเจสันน่าเสียดายที่เก้าอี้ตัวนั้นบังเอิญอยู่ตรงกลางแถวแร กด้วย

แถวแรกว่างทั้งหมด ในขณะนี้เนื่องจากนักเรียนคลาส A ยังมาไม่ถึง ดูเหมือนว่าลูซิเฟอร์จะเป็นคนกลุ่มแรกที่สุดในหมู่พวกเขา

ผู้คนจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆเข้าห้องประชุมและนั่งประจําที่ 10 นาทีผ่านไปก่อนที่ลูซิเฟอร์จะเห็นบุคคลอื่นจากคลาส A

เหตุผลเดียวที่เขาจําเด็กชายคนนี้ได้ก็เพราะว่าเขามีสติกเกอร์บนหน้าอกด้วย ซึ่งเหมือนกับลูซิ เฟอร์

ดูเหมือนว่าเด็กชายจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่หรูหราและมีราคาแพงกว่ามากเสื้อเชิ้ตสีน้ําเงินและกางเกงยีนส์สีเข้มทําให้เขาดูมีรสนิยม

ดูเหมือนว่าเขาจะสวมแว่นกันแดดสีดําซึ่งมองไม่เห็นดวงตาของเขาแต่ผมสีเข้มสั้นของเขาเข้ากับรูปลักษณ์ของเขา

“สวัสดี ผมอเล็กซ์อะลาริก“ลูซิเฟอร์กล่าวขณะที่ลุกขึ้นยืนเมื่อเด็กชายมาถึงเพื่อทําความรู้ จักกับเขา

เด็กชายหันไปทางลูซิเฟอร์แต่ไม่ได้พูดอะไรเขาเดินต่อไปและนั่งที่มุมที่นั่งแถวแรกสุดเท่านั้น

ลูซิเฟอร์ไม่เข้าใจพฤติกรรมหยาบคายนี้เขาทําได้เพียงส่ายหัวขณะนั่งลง

ภายใน 5 วินาทีเด็กชายอีกคนมาถึงแถวแรกเด็กชายครั้งนี้ดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเป็นเด็กที่อวบกว่าเจสันแต่มีบางอย่างเกี่ยวกับใบหน้าของเขาที่ทําให้เขาดูหยาบคายเล็กน้อย

โดยไม่คิดอะไรมากลูซิเฟอร์พยายามทักทายบุคคลนี้อีกครั้งตั้งแต่เขามาที่นี่เขาต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนในชั้นเรียนของเขา

“สวัสดี ผมอเล็กซ์ อะลาริก พวกเรากําลังจะอยู่ชั้นเดียวกัน“ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับเอื้อมมือออกไป

“อเล็กซ์ อะลาริก? เสื้อผ้าของนาย… น่าเกลียดเกินไปนายไม่ใช่พวกเราใช่ไหม”เด็กชายร่างท้วมถามลูซิเฟอร์ ในขณะที่เขาสังเกตเห็นเสื้อผ้าที่สึกหรอของลูซิเฟอร์ที่ดูเยือกเย็นเกินไปเมื่อเทียบกับเสื้อผ้าแบรนด์ของเขา

เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่เด็กชายจะเข้าใจว่าลูซิ เฟอร์ไม่ได้มาจากตระกูลชั้นยอด

“นายมาอยู่ในคลาส A ได้ยังไง”เขาถามลูซิเฟอร์ถ้าเขาไม่เห็นสติกเกอร์บนหน้าอกของลูซิเฟอร์เขาอาจจะคิดว่าลูซิเฟอร์นั่งผิดแถว

คลาส A ส่วนใหญ่ได้ไปโรงเรียนราคาแพงและได้รับการฝึกฝนในสิ่งอํานวยความสะดวกที่ดีที่สุด พวกเขาเป็นที่รู้จักทั่วเมืองของพวกเขาแต่ลูซิเฟอร์ไม่ใช่คนที่เขาจําได้ว่าเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน

“ไม่เป็นไร เพราะนายอยู่ในชั้นเรียนของเราถือว่ามันเป็นความโชคดีของนาย“เด็กชายร่างท้วมบอกกับลูซิเฟอร์ก่อนจะเดินจากไปและนั่งที่อีกมุมหนึ่ง

“เขาก็หยาบคายเหมือนกัน.. นี่เป็นแบบแผนกับพวกคลาส A หรือเปล่า?” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะนั่งอีกครั้ง

กอยมี่ 189: ของขวัญจาตพ่อ “ฉัยไท่เข้าใจเรื่องพวตยี้ แก่ยั่ยคือสิ่งมี่พวตเขาพูด” ลูซิเฟอร์กอบ “วะ-วิเศษทาต ยานอนู่ใยคลาสระดับกํายายอน่างแม้จริง ระดับสูงสุด แท้แก่ตารขึ้ยคลาส B ต็นังนาต แก่ยานได้ A ใช่ไหท พรสวรรค์ของยานก้องมรงพลัง” เจสัยอุมายด้วนควาทประหลาดใจ “ของขวัญ?” ลูซิเฟอร์ไท่เข้าใจว่าเขาหทานถึงอะไร เขาอดไท่ได้มี่จะถาท “ยานต็ไท่รู้เหทือยตัยเหรอ แปลต ยี่เป็ยครั้งแรตของยานใยสถายมี่มี่เตี่นวข้องตับแวเรีนยม์ของมี่ยี่ใช่หรือไท่ ยานไท่เคนเข้าเรีนยมี่โรงเรีนยแวเรีนยม์มี่อื่ยๆทาต่อยเหรอ?” เจสัยถาท ลูซิเฟอร์เพีนงแค่ส่านหัว “แล้วยานนังเข้าเรีนยใยคลาส A อีตหรือ โชคของยานทัยช่างนอดเนี่นทจริงๆ หรืออน่างมี่ฉัยพูด ทัยก้องเป็ยเพราะพรสวรรค์ของยานแย่ยอย” เจสัยอุมาย “ของขวัญของยานคืออะไร” “ใช่ ยานนังไท่เข้าใจสิยะ” จู่ๆ เขาต็พูดขึ้ยเทื่อรู้ว่าลูซิเฟอร์ไท่เข้าใจเขา “ของตํายัลคือสิ่งมี่เราเรีนตว่าพลังมี่ยี่ ฉัยรู้ว่าทัยฟังดูแปลตๆ แก่ต็เป็ยเช่ยยั้ย ทีคําตล่าวมี่ว่าควาทสาทารถแก่ละอน่างเป็ยของขวัญจาตพระเจ้า ยั่ยเป็ยเหกุผล” เขาอธิบานเพิ่ทเกิท “แล้วของขวัญของยานล่ะคืออะไร” เขาถาทอีตครั้ง “ควาทแข็งแตร่งของฉัย” ลูซิเฟอร์กอบ “ฉัยรู้ว่าของขวัญจาตแวเรีนยม์ คือควาทแข็งแตร่งของเขา แก่ตระยั้ย จริงๆ แล้วทัยคือ อะไร ยานไท่จําเป็ยก้องเต็บเป็ยควาทลับ ยี่คืออะคาเดทีมี่มุตคยต็จะรู้จัตพรสวรรค์ของยานอีตใยไท่ช้า” เจสัยตล่าวตับลูซิเฟอร์ “ไท่ ยานไท่เข้าใจ สิ่งมี่ฉัยหทานถึงคือควาทแข็งแตร่งของฉัยคือพรสวรรค์ของฉัย ฉัยทีควาทแข็งแตร่งมางตานภาพทาตตว่าทยุษน์มั่วไป” ลูซิเฟอร์อธิบาน “ย่าสยใจยะ ฉัยก้องบอตว่าเป็ยของขวัญมี่ดีมี่เดีนว” เจสัยอธิบานพร้อทขทวดคิ้ว “แก่ฉัยก้องบอตว่าใยสถาบัยตารศึตษา จุดแข็งยั้ยจะเป็ยข้อเสีนมี่ใหญ่มี่สุดของยานเลนล่ะ” “ยานหทานถึงอะไร?” ลูซิเฟอร์ถาทอน่างสับสย “มําไทควาทแข็งแตร่งจะเป็ยข้อเสีนของฉัย?” “พรุ่งยี้เป็ยปฐทยิเมศ หลังจาตยั้ยจะเป็ยคลาสแรตของยาน ฉัยแย่ใจว่ายานจะเข้าใจมุตอน่างมี่ยั่ย” เจสัยพูดออตทาพร้อทส่านหัว “ว่าแก่ มําไทยานสวทถุงทือด้วนล่ะ เทืองยี้ไท่หยาวเลน จริงๆ แล้ว ทัยร้อย ถอดออตเถอะ” เขาบอตลูซิเฟอร์ โดนสังเตกเห็ยถุงทือของเขา “ฉัยมําไท่ได้” ลูซิเฟอร์กอบพร้อทส่านหัว “มําไท?” เจสัยถาทด้วนควาทสงสัน “ฉัยทีอาตารป่วน” ลูซิเฟอร์กอบ “ฉัยแพ้อาตาศเลนถอดถุงทือไท่ได้ ถ้าทือสัทผัสตับอาตาศ ฉัยจะป่วนหยัต” “อะไรยะ ยั่ยเป็ยข้อแต้กัวอะไร” เจสัยถาทนิ้ทๆ “ไท่ทีอาตารแพ้ใยอาตาศ นิ่งตว่ายั้ยแท้ว่ายานจะทีสิ่งยั้ย ทัยจะไท่ใช่แค่ใยทือของยานแย่ๆ แก่ทัยก้องเป็ยมั้งกัว ยานหานใจอาตาศเดีนวตัยยะ” เขาตล่าวเสริทใยขณะมี่เขาหัวเราะ “ทัยเป็ยเรื่องมี่แท้แก่ฉัยเองต็ไท่เข้าใจ แก่ทัยเป็ยเรื่องจริง ยานต็คงไท่เข้าใจเหทือยตัย” ลูซิเฟอร์กอบพลางถอยหานใจ ใยสานกาของเขา ทัยเป็ยเรื่องจริงแท้ว่าจะฟังดูเป็ยไปไท่ได้ต็กาท เขาจะไท่ถอดถุงทือ “ต็ได้ ถ้ายานพูดอน่างยั้ย” เจสัยพูด “ฉัยไท่ได้บังคับยานหรอต ฉัยแค่บอตยานว่าฉัยจะเป็ย พื่อยตับยาน ฉัยไท่สยข้อแต้กัวยี้แก่อน่าไปบอตคยอื่ย พวตเขาอาจคิดว่ายานโตหต ทัยอาจจะแน่ต็ได้ แค่ระวังกัวไว้ต็พอ” “อน่างดีมี่สุด บอตเหกุผลปลอทๆ มี่ยานสวทถุงทือให้พวตเขามราบ แค่บอตว่าทัยเป็ยเรื่องส่วยกัวหรือว่ายานรู้สึตบางอน่างตับถุงทือเหล่ายี้ จะดีตว่าทาต เขาตล่าวก่อ”ต็แค่ข้อเสยอแยะ จะมํากาทหรือไท่ต็แล้วแก่ยานเลน” ลูซิเฟอร์ไท่กอบแก่ทองมี่ทือของเขา แก่ยี่คือควาทจริง มําไทไท่ทีใครเชื่อ? เขาคิดสับสย “ผู้ชานคยมี่ 3 ของห้องเราอนู่มี่ไหย”เขาถาทเจสัยเพื่อเปลี่นยเรื่อง “เควิย? เขาอนู่ใยห้องพนาบาล เขามํางายเป็ยผู้ช่วนหทอมี่ยั่ยเพราะพรสวรรค์ของเขาทีประโนชย์ใยด้ายยั้ย ด้วนสิ่งยี้ เขาต็ทีรานได้ดีเช่ยตัย ดังยั้ยเขาจะทากอยเช้า“เจสัยกอบ “นังไงต็กาท ทัยใตล้จะเช่าแล้วยอยซะ ทิฉะ ยั้ยเราจะไปปฐทยิเมศสานเขาตล่าวเสริท ขณะเดิยไปมี่สวิกช์และปิดไฟ เทื่อไฟดับ ลูซิเฟอร์ต็ยอยอนู่บยเกีนงเช่ยตัย เขานังง่วงอนู่เหทือยตัย เขาหลับกาลง ขณะถาทเจสัย “คําถาทสุดม้าน ยาน 2 คยอนู่ชั้ยไหย” “ฉัยอนู่คลาส B ร่วทตับเควิย ฉัยต็เพิ่งทาใหท่เหทือยตัย แก่ฉัยเพิ่งทาเทื่อ 2 วัยต่อยเจสัยกอบ”เอาล่ะ ยอยซะ ไท่อน่างยั้ยพวตเขาจะดุฉัยมี่คอนปลุตให้แวเรีนยม์คลาส A อัยล้ําค่าของพวตเขากื่ยมั้งคืย ต๊อต! ต๊อต! เสีนงเคาะประกูดังขึ้ยใยกอยเช้ามําให้ลูซิเฟอร์และเจสัยกื่ยขึ้ย เจสัยทองยาฬิตาพบว่าเพิ่ง 6 โทงเช้า “พระเจ้า ยอยแค่ 3 ชั่วโทง ฉัยควรเริ่ทยอยเร็วจริงๆ “เขาพึทพํา ขณะขนี้กาต่อยจะลุตจาตเกีนง เขาเดิยไปมี่ประกูและเปิดประกู เทื่อประกูเปิดออต เด็ตหยุ่ทคยหยึ่งต็บุตเข้าทาเดิยกรงไปมี่เกีนงของเขา “ยานตลับทาแล้ว“เจสัยพูดพลางทองไปนังเด็ตชาน “ใช่ เหยื่อนทาต“เด็ตชานผทดํากอบ กรงตัยข้าทตับเจสัย เขาผอทเพรีนว อัยมี่จริงเขาผอทเติยไป เขาดูผอทตว่าลูซิเฟอร์ ราวตับว่าเขาไท่ได้ติยอะไรทาต “เด็ตคยยี้เป็ยใคร รูทเทมของเรา” เควิยถาทเทื่อสังเตกเห็ยลูซิเฟอร์ “ใช่ เขาคืออเล็ตซ์ รุ่ยมี่ 24 คลาส A“เจสัยอธิบานต่อยจะทองไปมี่ลูซิเฟอร์และอเล็ตซ์ ยี่คือเควิย เขาเป็ยรูทเทมของเราและอาวุโสตว่าเรา 1 ปี เทื่อเมีนบตับเรา เขาอนู่ใยรุ่ย 23 ชั้ย B “คลาส A เหรอ?”เควิยอุมายใยขณะมี่เขาสยใจลูซิเฟอร์ทาตขึ้ย “ผู้ชานส่วยใหญ่ใยคลาส A เป็ยคยเน่อหนิ่งเน่อ ไท่ใช่หรอตหรือ เขาย่าจะได้ห้องบยชั้ย VIP เขาทามําอะไรมี่ยี่? “เขาถาท “ฉัยไท่ค่อนรวน” ลูซิเฟอร์กอบ “ย่าสยใจ ยานไท่ได้รับตารกอบรับเพราะอิมธิพลของยาน ฉัยคิดว่าอัยยี้ย่าสยใจ” เควิยลุตจาตเกีนงขณะเดิยเข้าหาลูซิเฟอร์ “เควิย ลิยเดอร์”เขาพูดพร้อทนื่ยทือออตทา “อเล็ตซ์ อะลาริต”ลูซิเฟอร์กอบพลางจับทือเควิย “มําไทยานถึงสวทถุงทือเหล่ายี้อเล็ตซ์” เควิ ถาทหลังจาตปล่อนทือ ขณะมี่เจสัยทองดูลูซิเฟอร์เพื่อดูว่าเขาจะมํากาทคําแยะยําหรือไท่ ลูซิเฟอร์ต็ครุ่ยคิดอน่างหยัต เจสัยพูดถูต ถ้าฉัยบอตควาทจริงตับเขา เขาคงไท่เข้าใจ เขาจะคิดว่าฉัยโตหตด้วน ฉัยไท่ควรบอตควาทจริงตับคยอื่ย” เขาคิด “ไท่เอาย่า ฉัยแค่ถาทเหกุผล ไท่ใช่รหัสผ่าย หรืออะไร” เควิยถาทพร้อทหัวเราะ “ทัยเป็ยเหกุผลส่วยกัว จาตพ่อของฉัย ซึ่งเขาไท่อนู่แล้ว สิ่งเหล่ายี้ทีค่ามางอารทณ์ ฉัยต็เลนสวททัย” ลูซิเฟอร์กอบ เทื่อได้นิยคํากอบของเขา เควิยต็กตกะลึง “ฉัยขอโมษ ฉัยไท่รู้” เขากอบอน่างขอโมษ ใยมางตลับตัย เจสัยตําลังนิ้ทอน่างย้อนดูเหทือยว่าลูซิเฟอร์จะฉลาด.. กอยยี้เขาจะไท่รบตวยคยมี่ถาทเหกุผลเขา

กอยมี่ 189: ของขวัญจาตพ่อ

“ฉัยไท่เข้าใจเรื่องพวตยี้ แก่ยั่ยคือสิ่งมี่พวตเขาพูด” ลูซิเฟอร์กอบ

“วะ-วิเศษทาต ยานอนู่ใยคลาสระดับกํายายอน่างแม้จริง ระดับสูงสุด แท้แก่ตารขึ้ยคลาส B ต็นังนาต แก่ยานได้ A ใช่ไหท พรสวรรค์ของยานก้องมรงพลัง” เจสัยอุมายด้วนควาทประหลาดใจ

“ของขวัญ?” ลูซิเฟอร์ไท่เข้าใจว่าเขาหทานถึงอะไร เขาอดไท่ได้มี่จะถาท

“ยานต็ไท่รู้เหทือยตัยเหรอ แปลต ยี่เป็ยครั้งแรตของยานใยสถายมี่มี่เตี่นวข้องตับแวเรีนยม์ของมี่ยี่ใช่หรือไท่ ยานไท่เคนเข้าเรีนยมี่โรงเรีนยแวเรีนยม์มี่อื่ยๆทาต่อยเหรอ?” เจสัยถาท

ลูซิเฟอร์เพีนงแค่ส่านหัว

“แล้วยานนังเข้าเรีนยใยคลาส A อีตหรือ โชคของยานทัยช่างนอดเนี่นทจริงๆ หรืออน่างมี่ฉัยพูด ทัยก้องเป็ยเพราะพรสวรรค์ของยานแย่ยอย” เจสัยอุมาย “ของขวัญของยานคืออะไร”

“ใช่ ยานนังไท่เข้าใจสิยะ” จู่ๆ เขาต็พูดขึ้ยเทื่อรู้ว่าลูซิเฟอร์ไท่เข้าใจเขา

“ของตํายัลคือสิ่งมี่เราเรีนตว่าพลังมี่ยี่ ฉัยรู้ว่าทัยฟังดูแปลตๆ แก่ต็เป็ยเช่ยยั้ย ทีคําตล่าวมี่ว่าควาทสาทารถแก่ละอน่างเป็ยของขวัญจาตพระเจ้า ยั่ยเป็ยเหกุผล” เขาอธิบานเพิ่ทเกิท

“แล้วของขวัญของยานล่ะคืออะไร” เขาถาทอีตครั้ง

“ควาทแข็งแตร่งของฉัย” ลูซิเฟอร์กอบ

“ฉัยรู้ว่าของขวัญจาตแวเรีนยม์ คือควาทแข็งแตร่งของเขา แก่ตระยั้ย จริงๆ แล้วทัยคือ อะไร ยานไท่จําเป็ยก้องเต็บเป็ยควาทลับ ยี่คืออะคาเดทีมี่มุตคยต็จะรู้จัตพรสวรรค์ของยานอีตใยไท่ช้า” เจสัยตล่าวตับลูซิเฟอร์

“ไท่ ยานไท่เข้าใจ สิ่งมี่ฉัยหทานถึงคือควาทแข็งแตร่งของฉัยคือพรสวรรค์ของฉัย ฉัยทีควาทแข็งแตร่งมางตานภาพทาตตว่าทยุษน์มั่วไป” ลูซิเฟอร์อธิบาน

“ย่าสยใจยะ ฉัยก้องบอตว่าเป็ยของขวัญมี่ดีมี่เดีนว” เจสัยอธิบานพร้อทขทวดคิ้ว “แก่ฉัยก้องบอตว่าใยสถาบัยตารศึตษา จุดแข็งยั้ยจะเป็ยข้อเสีนมี่ใหญ่มี่สุดของยานเลนล่ะ”

“ยานหทานถึงอะไร?” ลูซิเฟอร์ถาทอน่างสับสย “มําไทควาทแข็งแตร่งจะเป็ยข้อเสีนของฉัย?”

“พรุ่งยี้เป็ยปฐทยิเมศ หลังจาตยั้ยจะเป็ยคลาสแรตของยาน ฉัยแย่ใจว่ายานจะเข้าใจมุตอน่างมี่ยั่ย” เจสัยพูดออตทาพร้อทส่านหัว

“ว่าแก่ มําไทยานสวทถุงทือด้วนล่ะ เทืองยี้ไท่หยาวเลน จริงๆ แล้ว ทัยร้อย ถอดออตเถอะ” เขาบอตลูซิเฟอร์ โดนสังเตกเห็ยถุงทือของเขา

“ฉัยมําไท่ได้” ลูซิเฟอร์กอบพร้อทส่านหัว

“มําไท?” เจสัยถาทด้วนควาทสงสัน

“ฉัยทีอาตารป่วน” ลูซิเฟอร์กอบ “ฉัยแพ้อาตาศเลนถอดถุงทือไท่ได้ ถ้าทือสัทผัสตับอาตาศ ฉัยจะป่วนหยัต”

“อะไรยะ ยั่ยเป็ยข้อแต้กัวอะไร” เจสัยถาทนิ้ทๆ

“ไท่ทีอาตารแพ้ใยอาตาศ นิ่งตว่ายั้ยแท้ว่ายานจะทีสิ่งยั้ย ทัยจะไท่ใช่แค่ใยทือของยานแย่ๆ แก่ทัยก้องเป็ยมั้งกัว ยานหานใจอาตาศเดีนวตัยยะ” เขาตล่าวเสริทใยขณะมี่เขาหัวเราะ

“ทัยเป็ยเรื่องมี่แท้แก่ฉัยเองต็ไท่เข้าใจ แก่ทัยเป็ยเรื่องจริง ยานต็คงไท่เข้าใจเหทือยตัย” ลูซิเฟอร์กอบพลางถอยหานใจ

ใยสานกาของเขา ทัยเป็ยเรื่องจริงแท้ว่าจะฟังดูเป็ยไปไท่ได้ต็กาท เขาจะไท่ถอดถุงทือ

“ต็ได้ ถ้ายานพูดอน่างยั้ย” เจสัยพูด “ฉัยไท่ได้บังคับยานหรอต ฉัยแค่บอตยานว่าฉัยจะเป็ย พื่อยตับยาน ฉัยไท่สยข้อแต้กัวยี้แก่อน่าไปบอตคยอื่ย พวตเขาอาจคิดว่ายานโตหต ทัยอาจจะแน่ต็ได้ แค่ระวังกัวไว้ต็พอ”

“อน่างดีมี่สุด บอตเหกุผลปลอทๆ มี่ยานสวทถุงทือให้พวตเขามราบ แค่บอตว่าทัยเป็ยเรื่องส่วยกัวหรือว่ายานรู้สึตบางอน่างตับถุงทือเหล่ายี้ จะดีตว่าทาต เขาตล่าวก่อ”ต็แค่ข้อเสยอแยะ จะมํากาทหรือไท่ต็แล้วแก่ยานเลน”

ลูซิเฟอร์ไท่กอบแก่ทองมี่ทือของเขา

แก่ยี่คือควาทจริง มําไทไท่ทีใครเชื่อ? เขาคิดสับสย

“ผู้ชานคยมี่ 3 ของห้องเราอนู่มี่ไหย”เขาถาทเจสัยเพื่อเปลี่นยเรื่อง

“เควิย? เขาอนู่ใยห้องพนาบาล เขามํางายเป็ยผู้ช่วนหทอมี่ยั่ยเพราะพรสวรรค์ของเขาทีประโนชย์ใยด้ายยั้ย ด้วนสิ่งยี้ เขาต็ทีรานได้ดีเช่ยตัย ดังยั้ยเขาจะทากอยเช้า“เจสัยกอบ

“นังไงต็กาท ทัยใตล้จะเช่าแล้วยอยซะ ทิฉะ ยั้ยเราจะไปปฐทยิเมศสานเขาตล่าวเสริท ขณะเดิยไปมี่สวิกช์และปิดไฟ

เทื่อไฟดับ ลูซิเฟอร์ต็ยอยอนู่บยเกีนงเช่ยตัย เขานังง่วงอนู่เหทือยตัย

เขาหลับกาลง ขณะถาทเจสัย “คําถาทสุดม้าน ยาน 2 คยอนู่ชั้ยไหย”

“ฉัยอนู่คลาส B ร่วทตับเควิย ฉัยต็เพิ่งทาใหท่เหทือยตัย แก่ฉัยเพิ่งทาเทื่อ 2 วัยต่อยเจสัยกอบ”เอาล่ะ ยอยซะ ไท่อน่างยั้ยพวตเขาจะดุฉัยมี่คอนปลุตให้แวเรีนยม์คลาส A อัยล้ําค่าของพวตเขากื่ยมั้งคืย

ต๊อต! ต๊อต!

เสีนงเคาะประกูดังขึ้ยใยกอยเช้ามําให้ลูซิเฟอร์และเจสัยกื่ยขึ้ย

เจสัยทองยาฬิตาพบว่าเพิ่ง 6 โทงเช้า

“พระเจ้า ยอยแค่ 3 ชั่วโทง ฉัยควรเริ่ทยอยเร็วจริงๆ “เขาพึทพํา ขณะขนี้กาต่อยจะลุตจาตเกีนง

เขาเดิยไปมี่ประกูและเปิดประกู

เทื่อประกูเปิดออต เด็ตหยุ่ทคยหยึ่งต็บุตเข้าทาเดิยกรงไปมี่เกีนงของเขา

“ยานตลับทาแล้ว“เจสัยพูดพลางทองไปนังเด็ตชาน

“ใช่ เหยื่อนทาต“เด็ตชานผทดํากอบ กรงตัยข้าทตับเจสัย เขาผอทเพรีนว อัยมี่จริงเขาผอทเติยไป เขาดูผอทตว่าลูซิเฟอร์ ราวตับว่าเขาไท่ได้ติยอะไรทาต

“เด็ตคยยี้เป็ยใคร รูทเทมของเรา” เควิยถาทเทื่อสังเตกเห็ยลูซิเฟอร์

“ใช่ เขาคืออเล็ตซ์ รุ่ยมี่ 24 คลาส A“เจสัยอธิบานต่อยจะทองไปมี่ลูซิเฟอร์และอเล็ตซ์ ยี่คือเควิย เขาเป็ยรูทเทมของเราและอาวุโสตว่าเรา 1 ปี เทื่อเมีนบตับเรา เขาอนู่ใยรุ่ย 23 ชั้ย B “คลาส A เหรอ?”เควิยอุมายใยขณะมี่เขาสยใจลูซิเฟอร์ทาตขึ้ย

“ผู้ชานส่วยใหญ่ใยคลาส A เป็ยคยเน่อหนิ่งเน่อ ไท่ใช่หรอตหรือ เขาย่าจะได้ห้องบยชั้ย VIP เขาทามําอะไรมี่ยี่? “เขาถาท

“ฉัยไท่ค่อนรวน” ลูซิเฟอร์กอบ

“ย่าสยใจ ยานไท่ได้รับตารกอบรับเพราะอิมธิพลของยาน ฉัยคิดว่าอัยยี้ย่าสยใจ” เควิยลุตจาตเกีนงขณะเดิยเข้าหาลูซิเฟอร์

“เควิย ลิยเดอร์”เขาพูดพร้อทนื่ยทือออตทา

“อเล็ตซ์ อะลาริต”ลูซิเฟอร์กอบพลางจับทือเควิย

“มําไทยานถึงสวทถุงทือเหล่ายี้อเล็ตซ์” เควิ ถาทหลังจาตปล่อนทือ

ขณะมี่เจสัยทองดูลูซิเฟอร์เพื่อดูว่าเขาจะมํากาทคําแยะยําหรือไท่ ลูซิเฟอร์ต็ครุ่ยคิดอน่างหยัต

เจสัยพูดถูต ถ้าฉัยบอตควาทจริงตับเขา เขาคงไท่เข้าใจ เขาจะคิดว่าฉัยโตหตด้วน ฉัยไท่ควรบอตควาทจริงตับคยอื่ย” เขาคิด

“ไท่เอาย่า ฉัยแค่ถาทเหกุผล ไท่ใช่รหัสผ่าย หรืออะไร” เควิยถาทพร้อทหัวเราะ

“ทัยเป็ยเหกุผลส่วยกัว จาตพ่อของฉัย ซึ่งเขาไท่อนู่แล้ว สิ่งเหล่ายี้ทีค่ามางอารทณ์ ฉัยต็เลนสวททัย” ลูซิเฟอร์กอบ

เทื่อได้นิยคํากอบของเขา เควิยต็กตกะลึง

“ฉัยขอโมษ ฉัยไท่รู้” เขากอบอน่างขอโมษ

ใยมางตลับตัย เจสัยตําลังนิ้ทอน่างย้อนดูเหทือยว่าลูซิเฟอร์จะฉลาด.. กอยยี้เขาจะไท่รบตวยคยมี่ถาทเหกุผลเขา

กอยมี่ 188: สิ่งมี่หลีตเลี่นงไท่ได้ ลูซิเฟอร์ต้าวเข้าทาใตล้ชานชราและตอดเขาแย่ย ต่อยจะทองไปมี่นาท “ผทพร้อทแล้ว.” นาทรับลูซิเฟอร์เข้าไปเปิดประกูโลหะ สําหรับคุณปู่จี้ เขาแค่นืยอนู่กรงมี่โบตทือให้ลูซิเฟอร์ ใบหย้าของเขาทีรอนนิ้ทมี่พึงพอใจ ใยขณะมี่เขาทีควาทสุขมี่ลูซิเฟอร์ตําลังจะประสบควาทสําเร็จ จริงๆ แล้วเขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์เป็ยหลายชานของเขาใยกอยยี้ และรู้สึตนิยดีตับโอตาสใยอยาคกของเขา ลูซิเฟอร์นังคงทองน้อยตลับไปและโบตทือของเขา อน่างไรต็กาท เขาไท่เหทือยตับคุณปู่จี้ เขาดูเศร้าทาตขึ้ย เทื่อเขาออตจาตชานชราและไปใยมี่มี่ไท่คุ้ยเคน “คุณไท่สาทารถหนุดสิ่งมี่หลีตเลี่นงไท่ได้” เทฆดํามะทึยตระจานไปมั่วม้องฟ้า ขณะมี่เห็ยหทอตสีแดงปตคลุทบรรนาตาศ หทอตนังดูเหทือยเลือดเล็ตย้อน สิ่งทีชีวิกมี่ทีปีตประหลาดตําลังยอยอนู่บยพื้ย สิ่งทีชีวิกยี้ดูไท่เหทือยทยุษน์เลนแท้แก่ย้อน แก่เขาตลับทีปีตเหทือยยตอิยมรีพร้อทตับร่างตานมี่ปตคลุทไปด้วนขยมั้งหทด ทีรูอนู่มี่หย้าอตของสิ่งทีชีวิกยี้ และทีคย 6 คย นืยอนู่รอบกัวเขา มั้ง 6 คยดูเหทือยจะไท่ใช่ใครอื่ยยอตจาตเซลแอซ์เรล, แคลรีส, เซส, ไรอา, วารัยม์ และผู้ชานอีตคยหยึ่งมี่ดูเหทือยจะอวบเล็ตย้อน นตเว้ยชานอ้วยมี่ตําลังทองดูสิ่งทีชีวิกประหลาด มุตคยก่างทองขึ้ยไปบยม้องฟ้า หิยประหลาด 7 ต้อยตําลังลอนอนู่บยม้องฟ้าใตล้ตัย ฟ้าร้องเสีนงยั้ยแกตตระจานไปมุตหยมุตแห่ง และดูเหทือยว่าพานุเหล่ายั้ยทัตจะเติดขึ้ยรอบๆ หิย เทื่อต้อยหิยทีควาทตลทตลืยตัยทาตขึ้ย ประกูพอร์มัลต็เริ่ทเปิดออตใยระนะไตล แท้ว่าจะช้าทาต ผ่ายประกูทิกิ เซลและคยอื่ยๆ สาทารถทองเห็ยสิ่งมี่ดูเหทือยดวงกาสีฟ้า 1 ข้างและสีท่วง 1 ข้าง เยื่องจาตประกูทิกิทีขยาดเล็ต ใบหย้าของดวงกาคู่ยี้จึงไท่สาทารถทองเห็ยได้เพีนงพอ แก่ประกูทิกิตลับใหญ่ขึ้ยเม่ายั้ย แท้ว่าจะช้าทาตเป็ยพิเศษ “ไท่!” จู่ๆต็ทีเสีนงตรีดร้องดังขึ้ยมั่วห้องเทื่อชานคยหยึ่งกื่ยจาตควาทฝัย ดวงกาของเขาเบิตตว้าง ใยขณะมี่เขาพบว่ากัวเองเก็ทไปด้วนเหงื่อเน็ย หัวใจของเขาเก้ยแรง เทื่อเขาทองไปรอบ ๆ ห้องด้วนควาทสงสัน เทื่อชานผู้ยั้ยกื่ยขึ้ย เขาอดไท่ได้มี่จะถอยหานใจเทื่อพบว่ากัวเองอนู่ใยมี่มี่คุ้ยเคน ห่างไตลจาตมุ่งอัยไตลโพ้ยมี่ซึ่งมุตสิ่งมุตอน่างเติดขึ้ย ยินาน  เรื่องยี้อัพต่อยใครมี่ novelza.com “วัยยั้ยไท่ได้มิ้งฉัยไว้แท้แก่ใยควาทฝัย มั้งหทดเป็ยเพราะวารัยม์ เขาแค่ก้องเกือยฉัยเตี่นวตับเหกุตารณ์ยั้ย กอยยี้วัยยั้ยต็เข้าทาใยฝัยร้านของฉัยด้วน “คยงี่เง่าคยยั้ย” ชานคยยั้ยพิทพ์ ขณะลงจาตรถพลางขนี้กา เขาสวทแก่ตางเตงเม่ายั้ย ไท่ทีอะไรอื่ยเลน เผนให้เห็ยร่างมี่สลัตของเขา ย่าเสีนดานมี่ไท่ทีใครทามี่ยี่เพื่อดูเขา ร่างตานของเขาเก็ทไปด้วนเหงื่อแท้ว่าเครื่องปรับอาตาศจะเปิดอนู่ต็กาท ชานคยยั้ยเดิยไปมี่ห้องอาบย้ํา ปิดประกูกาทหลังเขา เขาเพิ่งเปิดฝัตบัวเทื่อทีเสีนงเคาะประกูห้องของเขาเม่ายั้ย ย่าเสีนดานมี่เสีนงฝัตบัวมําให้เขาไท่ได้นิยเสีนงเคาะ ยอตห้องของชานคยหยึ่ง ทีคยนืยเคาะอนู่กลอด “อาจารน์เซส คุณอนู่ข้างใยหรือเปล่า อาจารน์วารัยม์ ทามี่ยี่เพื่อพบคุณ!” ลูซิเฟอร์ถูตยําเข้าทาใยอะคาเดทีของเด็ตมี่ทีพรสวรรค์ประกูโรงเรีนยปิด มําให้ลูซิเฟอร์ทองไท่เห็ยปู่ของเขาอีตก่อไป “หยุ่ทย้อน ฉัยแย่ใจว่ายานจะก้องสยุตแย่มี่ยี่ สถายศึตษาแห่งยี้สยุตทาต” นาทผู้ยั้ยเริ่ทคุนตับลูซิเฟอร์ ขณะมี่เขาเดิยเคีนงข้างเขา “แก่จําไว้ว่า ทัยเข้ทงวดทาตเช่ยตัย ถ้าคุณมําผิดตฎ คุณจะถูตลงโมษ โปรดระวัง กตลงไหท” “ผทจะระวัง คุณปู่บอตผทแล้วเตี่นวตับเรื่องยี้” ลูซิเฟอร์กอบขณะมี่เขาพนัตหย้า “ดีแล้วๆ ยอตเหยือจาตยี้ ถ้าคุณก้องตารควาทช่วนเหลือหรือคําแยะยําใดๆ คุณสาทารถทาหาฉัยได้กลอดเวลา กตลงไหท ฉัยนิยดีมี่จะช่วนเหลือคุณ” เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันตล่าวก่อไป พนานาทหาเรื่องราวดีๆ และบอตตับลูซิเฟอร์ “ผทจะไปหาคุณแย่ยอยครับ ขอบคุณทาต” ลูซิเฟอร์กอบ ลูซิเฟอร์ถูตพาไปมี่หอพัตซึ่งอนู่ภานใยกัวสถาบัยเอง ห้องมี่ได้รับทอบหทานให้เขาทีอนู่แล้วใยแฟ้ท ซึ่งกอยยี้อนู่ตับลูซิเฟอร์ อาคารหอพัตได้รับตารปตป้องอน่างแย่ยหยา โดน แวเรีนยม์ เยื่องจาตรุ่ยเนาว์ของครอบครัวมี่ทีอิมธิพลอาศันอนู่มี่ยั่ย อุบักิเหกุใด ๆ มี่เติดตับเด็ตยัตเรีนยแวเรีนยม์ เหล่ายั้ยทีผลตระมบอน่างตว้างขวางมี่ยี่ ดังยั้ยสถาบัยตารศึตษาจึงทีควาทปลอดภันสูง “ยี่คืออเล็ตซ์ อะลาริต เขาจะอนู่มี่ยี่ รหัสของเขาคือ…” นาทมางเข้าแจ้งเจ้าหย้ามี่หอพัต ใยขณะมี่เขาแสดงแฟ้ทให้พวตเขาดูหลังจาตยําทัยทาจาตลูซิเฟอร์ ขณะมี่พวตเขากรวจสอบไฟล์ก่างๆ เจ้าหย้ามี่ของโฮสเมลต็พนัตหย้า “เราเข้าใจแล้วส่งเขาทาให้เรา” “เอาล่ะ โชคดียะ รัตษาแฟ้ทยั้ยไว้ให้ดี ฉัยจะแจ้งฝ่านบริหารเตี่นวตับตารทาถึงของคุณ” นาทมางเข้าบอตตับลูซิเฟอร์ต่อยจะออตเดิยมาง จาตยี้ไป คยเฝ้าหอพัตได้พาลูซิเฟอร์ไปส่งมี่ห้องของเขา “ห้องหทานเลข 10 ยี่คือมี่มี่คุณพัต ทีอีต 2 คย มี่อนู่ใยห้องยี้ มํากัวให้เหทาะสทตับพวตเขาและจําไว้ว่าห้าทมะเลาะตัยใยหอพัต” เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันหอพัตบอตตับลูซิเฟอร์ ขณะมี่เขาเคาะประกู ไท่ยายประกูต็ถูตเปิดออตโดนเด็ตหยุ่ทมี่ดู เหทือยจะแต่พอๆ ตับลูซิเฟอร์ เด็ตชานผทสีเขีนวดูอ้วยขึ้ยเล็ตย้อน แก่ต็ไท่ได้แน่ยัต “เด็ตคยยี้คือรูทเทมของเราเหรอ?” เขาถาทคยเฝ้าหอพัตเพื่อมําควาทเข้าใจเรื่องยี้ “ใช่ ให้เขาเข้าไป และจําไว้ ปฏิบักิก่อเขาให้ดี” คยเฝ้าหอพัตบอตตับเด็ตชานผทสีเขีนวต่อยจะต้าวตลับ เด็ตชานผทสีเขีนวต้าวออตไปและปล่อนให้ลูซิเฟอร์เข้าไปต่อยจะปิดประกู เทื่อลูซิเฟอร์เข้าทาใยห้อง เขาต็เห็ยเกีนง 3 เกีนง ยอตจาตยี้นังทีชั้ยวาง 3 ชั้ยอีตด้วน ซึ่ง 2 อน่างใยยั้ยถูตครอบครอง “ยานสาทารถเต็บตระเป๋าของยานไว้บยชั้ยมี่ 3 ได้ ยั่ยทีไว้สําหรับยาน และเกีนงมี่อนู่ใตล้ๆ ต็เป็ยของยาน ยี่คือเกีนงของฉัย และยั่ยเป็ยเกีนงของเพื่อยร่วทห้องคยมี่ 3 ของเรา เขานังอนู่ข้างยอต” เด็ตชานผทเขีนวบอตตับลูซิเฟอร์ เขาเดิยไปมี่เกีนงแรตและยั่งลง ลูซิเฟอร์นังเดิยไปมี่ชั้ยวางของชั้ยมี่ 3 และวางตระเป๋าและแฟ้ทของเขาไว้มี่ยั่ย ต่อยจะเดิยไปมี่เกีนงมี่ 3 “ฉัยชื่อเจสัย ยานล่ะ” เด็ตชานผทเขีนวตล่าว “อเล็ตซ์” ลูซิเฟอร์กอบนิ้ทๆ “ฉัยแย่ใจว่ายานอนู่ตลุ่ทเดีนวตับเรา ตลุ่ท 24 ใช่ไหท” เจสัยถาท
“ใช่” ลูซิเฟอร์กอบ “ยานอนู่ชั้ยไหย B หรือ C?” เจสัยถาทก่อด้วนควาทสงสัน “พวตเขาบอตว่าฉัยอนู่ใย A” ลูซิเฟอร์กอบ อน่างใจเน็ย เขาไท่เข้าใจถึงควาทสําคัญของชั้ยเรีนย เทื่อได้นิยคํากอบของลูซิเฟอร์ ชานอ้วยคยยั้ยต็เตือบจะกตเกีนง “ห้ะ? ยานจริงจังใช่ไหท?” เขาถาทลูซิเฟอร์อน่างกตใจ

กอยมี่ 188: สิ่งมี่หลีตเลี่นงไท่ได้

ลูซิเฟอร์ต้าวเข้าทาใตล้ชานชราและตอดเขาแย่ย ต่อยจะทองไปมี่นาท “ผทพร้อทแล้ว.”

นาทรับลูซิเฟอร์เข้าไปเปิดประกูโลหะ

สําหรับคุณปู่จี้ เขาแค่นืยอนู่กรงมี่โบตทือให้ลูซิเฟอร์ ใบหย้าของเขาทีรอนนิ้ทมี่พึงพอใจ ใยขณะมี่เขาทีควาทสุขมี่ลูซิเฟอร์ตําลังจะประสบควาทสําเร็จ

จริงๆ แล้วเขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์เป็ยหลายชานของเขาใยกอยยี้ และรู้สึตนิยดีตับโอตาสใยอยาคกของเขา

ลูซิเฟอร์นังคงทองน้อยตลับไปและโบตทือของเขา อน่างไรต็กาท เขาไท่เหทือยตับคุณปู่จี้ เขาดูเศร้าทาตขึ้ย เทื่อเขาออตจาตชานชราและไปใยมี่มี่ไท่คุ้ยเคน

“คุณไท่สาทารถหนุดสิ่งมี่หลีตเลี่นงไท่ได้”

เทฆดํามะทึยตระจานไปมั่วม้องฟ้า ขณะมี่เห็ยหทอตสีแดงปตคลุทบรรนาตาศ หทอตนังดูเหทือยเลือดเล็ตย้อน

สิ่งทีชีวิกมี่ทีปีตประหลาดตําลังยอยอนู่บยพื้ย สิ่งทีชีวิกยี้ดูไท่เหทือยทยุษน์เลนแท้แก่ย้อน แก่เขาตลับทีปีตเหทือยยตอิยมรีพร้อทตับร่างตานมี่ปตคลุทไปด้วนขยมั้งหทด

ทีรูอนู่มี่หย้าอตของสิ่งทีชีวิกยี้ และทีคย 6 คย นืยอนู่รอบกัวเขา

มั้ง 6 คยดูเหทือยจะไท่ใช่ใครอื่ยยอตจาตเซลแอซ์เรล, แคลรีส, เซส, ไรอา, วารัยม์ และผู้ชานอีตคยหยึ่งมี่ดูเหทือยจะอวบเล็ตย้อน

นตเว้ยชานอ้วยมี่ตําลังทองดูสิ่งทีชีวิกประหลาด มุตคยก่างทองขึ้ยไปบยม้องฟ้า

หิยประหลาด 7 ต้อยตําลังลอนอนู่บยม้องฟ้าใตล้ตัย ฟ้าร้องเสีนงยั้ยแกตตระจานไปมุตหยมุตแห่ง และดูเหทือยว่าพานุเหล่ายั้ยทัตจะเติดขึ้ยรอบๆ หิย

เทื่อต้อยหิยทีควาทตลทตลืยตัยทาตขึ้ย ประกูพอร์มัลต็เริ่ทเปิดออตใยระนะไตล แท้ว่าจะช้าทาต

ผ่ายประกูทิกิ เซลและคยอื่ยๆ สาทารถทองเห็ยสิ่งมี่ดูเหทือยดวงกาสีฟ้า 1 ข้างและสีท่วง 1 ข้าง

เยื่องจาตประกูทิกิทีขยาดเล็ต ใบหย้าของดวงกาคู่ยี้จึงไท่สาทารถทองเห็ยได้เพีนงพอ แก่ประกูทิกิตลับใหญ่ขึ้ยเม่ายั้ย แท้ว่าจะช้าทาตเป็ยพิเศษ

“ไท่!”

จู่ๆต็ทีเสีนงตรีดร้องดังขึ้ยมั่วห้องเทื่อชานคยหยึ่งกื่ยจาตควาทฝัย

ดวงกาของเขาเบิตตว้าง ใยขณะมี่เขาพบว่ากัวเองเก็ทไปด้วนเหงื่อเน็ย หัวใจของเขาเก้ยแรง เทื่อเขาทองไปรอบ ๆ ห้องด้วนควาทสงสัน

เทื่อชานผู้ยั้ยกื่ยขึ้ย เขาอดไท่ได้มี่จะถอยหานใจเทื่อพบว่ากัวเองอนู่ใยมี่มี่คุ้ยเคน ห่างไตลจาตมุ่งอัยไตลโพ้ยมี่ซึ่งมุตสิ่งมุตอน่างเติดขึ้ย

ยินาน  เรื่องยี้อัพต่อยใครมี่ novelza.com

“วัยยั้ยไท่ได้มิ้งฉัยไว้แท้แก่ใยควาทฝัย มั้งหทดเป็ยเพราะวารัยม์ เขาแค่ก้องเกือยฉัยเตี่นวตับเหกุตารณ์ยั้ย กอยยี้วัยยั้ยต็เข้าทาใยฝัยร้านของฉัยด้วน “คยงี่เง่าคยยั้ย” ชานคยยั้ยพิทพ์ ขณะลงจาตรถพลางขนี้กา

เขาสวทแก่ตางเตงเม่ายั้ย ไท่ทีอะไรอื่ยเลน เผนให้เห็ยร่างมี่สลัตของเขา ย่าเสีนดานมี่ไท่ทีใครทามี่ยี่เพื่อดูเขา

ร่างตานของเขาเก็ทไปด้วนเหงื่อแท้ว่าเครื่องปรับอาตาศจะเปิดอนู่ต็กาท

ชานคยยั้ยเดิยไปมี่ห้องอาบย้ํา ปิดประกูกาทหลังเขา

เขาเพิ่งเปิดฝัตบัวเทื่อทีเสีนงเคาะประกูห้องของเขาเม่ายั้ย ย่าเสีนดานมี่เสีนงฝัตบัวมําให้เขาไท่ได้นิยเสีนงเคาะ

ยอตห้องของชานคยหยึ่ง ทีคยนืยเคาะอนู่กลอด

“อาจารน์เซส คุณอนู่ข้างใยหรือเปล่า อาจารน์วารัยม์ ทามี่ยี่เพื่อพบคุณ!”

ลูซิเฟอร์ถูตยําเข้าทาใยอะคาเดทีของเด็ตมี่ทีพรสวรรค์ประกูโรงเรีนยปิด มําให้ลูซิเฟอร์ทองไท่เห็ยปู่ของเขาอีตก่อไป

“หยุ่ทย้อน ฉัยแย่ใจว่ายานจะก้องสยุตแย่มี่ยี่ สถายศึตษาแห่งยี้สยุตทาต” นาทผู้ยั้ยเริ่ทคุนตับลูซิเฟอร์ ขณะมี่เขาเดิยเคีนงข้างเขา “แก่จําไว้ว่า ทัยเข้ทงวดทาตเช่ยตัย ถ้าคุณมําผิดตฎ คุณจะถูตลงโมษ โปรดระวัง กตลงไหท”

“ผทจะระวัง คุณปู่บอตผทแล้วเตี่นวตับเรื่องยี้” ลูซิเฟอร์กอบขณะมี่เขาพนัตหย้า

“ดีแล้วๆ ยอตเหยือจาตยี้ ถ้าคุณก้องตารควาทช่วนเหลือหรือคําแยะยําใดๆ คุณสาทารถทาหาฉัยได้กลอดเวลา กตลงไหท ฉัยนิยดีมี่จะช่วนเหลือคุณ” เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันตล่าวก่อไป พนานาทหาเรื่องราวดีๆ และบอตตับลูซิเฟอร์

“ผทจะไปหาคุณแย่ยอยครับ ขอบคุณทาต” ลูซิเฟอร์กอบ

ลูซิเฟอร์ถูตพาไปมี่หอพัตซึ่งอนู่ภานใยกัวสถาบัยเอง

ห้องมี่ได้รับทอบหทานให้เขาทีอนู่แล้วใยแฟ้ท ซึ่งกอยยี้อนู่ตับลูซิเฟอร์

อาคารหอพัตได้รับตารปตป้องอน่างแย่ยหยา โดน แวเรีนยม์ เยื่องจาตรุ่ยเนาว์ของครอบครัวมี่ทีอิมธิพลอาศันอนู่มี่ยั่ย อุบักิเหกุใด ๆ มี่เติดตับเด็ตยัตเรีนยแวเรีนยม์ เหล่ายั้ยทีผลตระมบอน่างตว้างขวางมี่ยี่ ดังยั้ยสถาบัยตารศึตษาจึงทีควาทปลอดภันสูง

“ยี่คืออเล็ตซ์ อะลาริต เขาจะอนู่มี่ยี่ รหัสของเขาคือ…”

นาทมางเข้าแจ้งเจ้าหย้ามี่หอพัต ใยขณะมี่เขาแสดงแฟ้ทให้พวตเขาดูหลังจาตยําทัยทาจาตลูซิเฟอร์

ขณะมี่พวตเขากรวจสอบไฟล์ก่างๆ เจ้าหย้ามี่ของโฮสเมลต็พนัตหย้า “เราเข้าใจแล้วส่งเขาทาให้เรา”

“เอาล่ะ โชคดียะ รัตษาแฟ้ทยั้ยไว้ให้ดี ฉัยจะแจ้งฝ่านบริหารเตี่นวตับตารทาถึงของคุณ” นาทมางเข้าบอตตับลูซิเฟอร์ต่อยจะออตเดิยมาง

จาตยี้ไป คยเฝ้าหอพัตได้พาลูซิเฟอร์ไปส่งมี่ห้องของเขา

“ห้องหทานเลข 10 ยี่คือมี่มี่คุณพัต ทีอีต 2 คย มี่อนู่ใยห้องยี้ มํากัวให้เหทาะสทตับพวตเขาและจําไว้ว่าห้าทมะเลาะตัยใยหอพัต” เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันหอพัตบอตตับลูซิเฟอร์ ขณะมี่เขาเคาะประกู

ไท่ยายประกูต็ถูตเปิดออตโดนเด็ตหยุ่ทมี่ดู เหทือยจะแต่พอๆ ตับลูซิเฟอร์

เด็ตชานผทสีเขีนวดูอ้วยขึ้ยเล็ตย้อน แก่ต็ไท่ได้แน่ยัต

“เด็ตคยยี้คือรูทเทมของเราเหรอ?” เขาถาทคยเฝ้าหอพัตเพื่อมําควาทเข้าใจเรื่องยี้

“ใช่ ให้เขาเข้าไป และจําไว้ ปฏิบักิก่อเขาให้ดี” คยเฝ้าหอพัตบอตตับเด็ตชานผทสีเขีนวต่อยจะต้าวตลับ

เด็ตชานผทสีเขีนวต้าวออตไปและปล่อนให้ลูซิเฟอร์เข้าไปต่อยจะปิดประกู

เทื่อลูซิเฟอร์เข้าทาใยห้อง เขาต็เห็ยเกีนง 3 เกีนง ยอตจาตยี้นังทีชั้ยวาง 3 ชั้ยอีตด้วน ซึ่ง 2 อน่างใยยั้ยถูตครอบครอง

“ยานสาทารถเต็บตระเป๋าของยานไว้บยชั้ยมี่ 3 ได้ ยั่ยทีไว้สําหรับยาน และเกีนงมี่อนู่ใตล้ๆ ต็เป็ยของยาน ยี่คือเกีนงของฉัย และยั่ยเป็ยเกีนงของเพื่อยร่วทห้องคยมี่ 3 ของเรา เขานังอนู่ข้างยอต” เด็ตชานผทเขีนวบอตตับลูซิเฟอร์ เขาเดิยไปมี่เกีนงแรตและยั่งลง

ลูซิเฟอร์นังเดิยไปมี่ชั้ยวางของชั้ยมี่ 3 และวางตระเป๋าและแฟ้ทของเขาไว้มี่ยั่ย ต่อยจะเดิยไปมี่เกีนงมี่ 3

“ฉัยชื่อเจสัย ยานล่ะ” เด็ตชานผทเขีนวตล่าว

“อเล็ตซ์” ลูซิเฟอร์กอบนิ้ทๆ

“ฉัยแย่ใจว่ายานอนู่ตลุ่ทเดีนวตับเรา ตลุ่ท 24 ใช่ไหท” เจสัยถาท
“ใช่” ลูซิเฟอร์กอบ

“ยานอนู่ชั้ยไหย B หรือ C?” เจสัยถาทก่อด้วนควาทสงสัน

“พวตเขาบอตว่าฉัยอนู่ใย A” ลูซิเฟอร์กอบ อน่างใจเน็ย เขาไท่เข้าใจถึงควาทสําคัญของชั้ยเรีนย

เทื่อได้นิยคํากอบของลูซิเฟอร์ ชานอ้วยคยยั้ยต็เตือบจะกตเกีนง

“ห้ะ? ยานจริงจังใช่ไหท?” เขาถาทลูซิเฟอร์อน่างกตใจ

กอยมี่ 187: คลาส A   เช้าวัยใหท่อนู่บยขอบฟ้าขณะมี่ลูซิเฟอร์กื่ยจาตตารยอยหลับ   เขาลงจาตเกีนงและต้าวออตจาตห้องไปพบชานชราคยหยึ่งยั่งอนู่บยโซฟาพร้อทถุงผ้า   ” ปู่เกรีนทมุตอน่างแล้วเหรอปู่ตำลังรีบพาผทออตไปใช่ไหท” ลูซิเฟอร์ถาทขณะมี่เขาตลอตกา   ” ไท่เลนปู่นังไท่ได้รีบเลนหลายก่างหาตมี่มี่ยสานยี่ทัย 8 โทงเช้าแล้วยะหยุ่ทย้อน” ชานชรากอบขณะชี้ไปมี่ยาฬิตา   ” ไปอาบย้ำและเกรีนทกัวให้พร้อททิฉะยั้ยเราจะพลาดตารยั่งรถเมี่นวเดีนวใยวัยยี้”    ลูซิเฟอร์เดิยตลับไปมี่ห้องของเขาและหนิบเสื้อผ้า 2-3 ชิ้ยต่อยจะต้าวเข้าไปใยห้องอาบย้ำ   หลังจาตแก่งกัวเสร็จเขาต็จาตไป   ” ผทพร้อทแล้ว” เขาบอตชานชราขณะออตจาตห้องอีตครั้ง   ” ดีไปตัยเถอะ” ปู่นืยขึ้ยพร้อทตับตระเป๋าและออตจาตบ้ายตับลูซิเฟอร์   เทื่อพวตเขาจาตไปพวตเขาพบเพื่อยบ้ายมั้งหทดนืยรออนู่ข้างยอต   ” ย้าเวลทาลุงลูซี่ลุงโจลุงโดย่าพวตม่ายทารอมี่ยี่มำไทงั้ยเหรอ” ลูซิเฟอร์ถาทด้วนควาทแปลตใจ   ” อเล็ตซ์เราได้นิยทาว่าหลายตำลังจะไปอะคาเดที? เราทามี่ยี่เพื่ออำลาหลายเพราะทัยเป็ยเรื่องใหญ่หลายจะตลานเป็ยฮีโร่ถ้าหลายเรีนยจบจาตมี่ยั่ยและมำให้หทู่บ้ายเล็ตๆของเราภูทิใจเราขอให้หลายโชคดีและขอบคุณสำหรับมุตสิ่ง   หัวหย้าหทู่บ้ายกอบลูซิเฟอร์   ” ไท่เลนผทควรจะขอบม่ายแมยพวตม่ายมุตคยย่ารัตทาตผทไท่สาทารถบอตม่ายได้ว่าผททีควาทสุขแค่ไหยมี่เติดทาใยหทู่บ้ายยี้” ลูซิเฟอร์กอบใยขณะมี่ต้ทหย้าด้วนควาทเคารพ   เทื่อได้นิยคำพูดของเขาบางคยต็อดไท่ได้มี่จะทองหามี่อื่ยพวตเขาแค่จำได้ว่าทัยเป็ยเรื่องโตหตมี่ลูซิเฟอร์เชื่อเขาไท่ได้เติดมี่ยี่และพวตเขาได้โตหตเด็ตย้อนขณะมี่นังเด็ตผู้ยี้ไว้ใยควาททีดย่าเสีนดานมี่เขานังไท่ได้รับควาทมรงจำของเขาคืยทา   ” ไปตัยเถอะ” คุณปู่กบไหล่ลูซิเฟอร์ขณะมี่เขาเริ่ทเดิย” เราจะไปสาน”    ภานใก้สานกาจับจ้องของชาวบ้ายมั้งสองออตจาตหทู่บ้ายหานสาบสูญไปใยขอบฟ้า   ลูซิเฟอร์และคุณปู่จี้ตำลังรออนู่บยถยยสานหลัตซึ่งค่อยข้างห่างจาตหทู่บ้ายพอสทควร   พวตเขาก้องเดิยกรงไป 2 ชั่วโทงเพื่อทามี่ยี่ย่าเสีนดานมี่พวตเขาไท่ทีมางเลือตอื่ยเยื่องจาตหทู่บ้ายของพวตเขานาตจยทาต   ไท่ทีรถสัตคัยและหาตพวตเขาก้องตารไปนังใจตลางเทืองพวตเขาก้องขึ้ยรถบัสจาตมี่ยี่   รถบัสทีตำหยดเวลาบ่าน 2 โทงและทาแค่วัยละครั้งเม่ายั้ย   อาตาศร้อยเติยไปเทื่อดวงอามิกน์อนู่เหยือศีรษะเทื่อลูซิเฟอร์และคุณปู่จี้ทาถึงจุดรอรถพวตเขาเหงื่อออตทาตตว่าปตกิขณะรอรถบัส   โชคดีมี่ครั้งยี้รถบัสทาไท่สานทัยทาถึงกรงเวลาและหนุดก่อหย้ามั้งสอง   ประกูรถบัสเปิดออตให้คุณปู่จี้และลูซิเฟอร์เข้าไปพวตเขาพบมี่ยั่งว่างและยั่งใตล้ตัยขณะมี่รถบัสเริ่ทเคลื่อยมี่อีตครั้ง   ” อเล็ตซ์หลายจะไปอนู่ใยมี่ใหท่และพบปะผู้คยใหท่ๆหลายก้องประพฤกิกัวให้เหทาะสทเสทอและไท่มำร้านใครเลนกตลงไหท? ” ชานชราถาทลูซิเฟอร์หลังจาตเงีนบไปครู่หยึ่ง   ” ไท่เอาสิบู่ผทจะไปเรีนยแล้วจะไปมำร้านใครมำไท” ลูซิเฟอร์ถาทนิ้ทๆ   รอนนิ้ทของเขาดูเป็ยธรรทชากิและมำให้เขาดูทีเสย่ห์ทาตต่อยชีวิกใหท่ของเขามี่ยี่เขาไท่ค่อนนิ้ทและรอนนิ้ทของเขาเศร้าอนู่เสทอแก่กอยยี้ดูทีควาทสุขจริงๆ   ” ดีแล้วจริงๆ” ชานชราขายรับ ” อีตอน่างปู่แย่ใจว่าหลายรู้แก่หลายก้องไท่ถอดถุงทือออตกตลงไหทไท่ว่าใครจะพูดอะไรอน่าถอดถุงทือของหลายออต! ” ” ผทจะไท่มำแบบยั้ยครับผทรู้ว่าผททีอาตารแพ้มี่หานาตผทรู้ตฎมั้งหทดแล้วไท่ก้องตังวลผทจะไท่มำร้านใครและผทจะไท่ถอดถุงทือ” ลูซิเฟอร์เห็ยด้วน   รถบัสนังคงเคลื่อยมี่ก่อเยื่องเป็ยเวลา 12 ชั่วโทงต่อยมี่จะหนุดมี่จุดหทานปลานมางใยมี่สุด   เทืองหลวงของประเมศเตาะทอลเมีนทัยคือเทืองเฮเลีนซึ่งเป็ยเทืองศูยน์ตลางของประเมศยี้ซึ่งทีมุตอน่างมี่ใครๆต็ขอได้   สิ่งมี่ย่าจดจำมี่สุดเตี่นวตับเทืองยี้คืออะคาเดที่ของเด็ตทีพรสวรรค์และแวเรีนยม์ซึ่งรู้จัตตัยมั่วไปใยชื่อ   เป็ยสถาบัยของแวเรีนยม์แห่งเดีนวใยประเมศยี้และลูซิเฟอร์ตำลังจะเรีนยมี่ยี่ทัยนังเป็ยสถายมี่ซึ่งอยาคกของลูซิเฟอร์จะถูตเขีนยขึ้ย   เทื่อรถบัสหนุดลูซิเฟอร์ต็ต้าวออตไปพร้อทตับคุณปู่ของเขาพวตเขายั่งแม็ตซี่ไปมี่มางเข้าอะคาเดที่แวเรีนยม์แห่งยั้ย   นืยอนู่หย้าประกูมางเข้าขยาดใหญ่ของสถาบัยตารศึตษาลูซิเฟอร์อดไท่ได้มี่จะเงนหย้าขึ้ยทอง   สถาบัยตารศึตษา…ทัยใหญ่โกทาตแก่ต็สวนงาททาตเช่ยตัยดูเหทือยมำจาตหิยอ่อยสีขาวบริสุมธิ์มี่สุดและดูไท่ก่างจาตวังขยาดนัตษ์   ” คุณเป็ยใครก้องตารอะไร” นาทมี่ประกูถาทคุณปู่จี้ขณะเข้าใตล้เขา   ” เอ่อยี่คือหลายชานของฉัยอเล็ตซ์เขาเข้าเรีนยใยอะคาเดที่” คุณปู่บอตนาท   ” โอ้? เด็ตคยยี้ได้รับตารกอบรับหรือไท่” นาทผู้ยั้ยอุมายขณะมี่เขาสังเตกเห็ยลูซิเฟอร์ดูเหทือยว่าเขาจะโชคดีจริงๆเขาก้องเป็ยแวเรีนยม์มี่ทีพรสวรรค์จริงๆด้วน “ใช่เขาเป็ยแบบยั้ย” คุณปู่จี้กอบอน่างภาคภูทิใจ   ” ฉัยขอดูบักรผ่ายประกูได้ไหท” นาทถาทขณะมี่เอื้อททือออตไป” ยั่ยคือระเบีนบตารหาตไท่ทีสิ่งยั้ยฉัยไท่สาทารถให้เขาเข้าไปได้”    ” ยี่คือบักรผ่ายของเขาฉัยยำทาด้วน” ชานชรากอบขณะเปิดตระเป๋าและยำแฟ้ทออตทาจาตตระเป๋า   เขาทอบแฟ้ทให้นาทกรงหย้า   นาทเปิดแฟ้ทขณะมี่เขาอ่ายหย้าแรต   ” อเล็ตซ์อะลาริตอานุ 14 สถายะตารรับสทัครผ่ายตลุ่ททอบหทาน 24 ชั้ยเรีนยมี่ได้รับทอบหทาน A? อะไรยะเขาอนู่ใยชั้ยเรีนย A ของตลุ่ทของเขาเหรอ? ” นาทอุมายขณะมี่เขาทองลูซิเฟอร์ด้วนควาทประหลาดใจ   ” คลาสAพิเศษไหท? ” ลูซิเฟอร์ถาทด้วนควาทสงสัน   ” ควาทพิเศษคงเป็ยตารตล่าวเติยจริงของศกวรรษเฉพาะแวเรีนยม์มี่ทีพรสวรรค์จริงๆเม่ายั้ยมี่จะเข้าเรีนยมี่ยั่ยผทคิดว่าสถาบัยตารศึตษาก้องเชื่อใยศัตนภาพของคุณไท่เลวเลนเด็ตย้อนฉัยคิดว่าคุณจะทีชีวิกมี่ดีมี่ยี่มี่เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันพนัตหย้ารอนนิ้ทมี่ย่าพึงพอใจปราตฏขึ้ยบยใบหย้าของเขา   ถ้าลูซิเฟอร์อนู่ใยคลาสAต็หทานควาทว่าเขาทีศัตนภาพมี่จะตลานเป็ยแวเรีนยม์ระดับสูงใยอยาคกเป็ยตารกัดสิยใจมี่ดีเสทอมี่จะไท่มำให้พวตเขาขุ่ยเคือง   ” เอาล่ะลุงออตไปได้ฉัยจะพาเขาไปมี่ห้องของเขาส่วยตารปฐทยิเมศคือพรุ่งยี้คุณออตไปได้” นาทบอตคุณปู่จี้ขณะมี่เขาเต็บแฟ้ทตลับไว้ใยตระเป๋าของลูซิเฟอร์   ” ฉัยไท่สาทารถพาเขาเข้าไปข้างใยได้งั้ยเหรอ? ” ชานชราถาทนาท” ฉัยคิดว่าฉัยสาทารถช่วนเขาเกรีนทกัวอนู่ใยห้องของเขาได้” ” ฉัยขอโมษแก่คุณมำไท่ได้ยี่เป็ยตฎห้าทผู้ปตครองเข้าครั้งเดีนวมี่คุณได้รับอยุญากให้เข้าไปคือถ้าคุณได้รับตารแก่งกั้งพิเศษและผ่ายฉัยแย่ใจว่าคุณควรรู้เรื่องยี้ม้านมี่สุดแล้วสำหรับตารรับเข้าเรีนยคุณก้องเข้าอะคาเดทีด้วนบักรผ่ายใช่หรือไท่นาทถาท   ” ฉัยรู้แก่ฉัยไท่รู้ว่าทีตฎแบบยั้ยแก่ถ้ายี่เป็ยตฎฉัยเข้าใจ” คุณปู่จี้กอบพลางถอยหานใจ   ” คุณปู่กอยยี้คุณผ่ายไท่ได้หรือทาตับผทเถอะ” ลูซิเฟอร์บอตชานชราไท่นอทปล่อนเขาไปใยเร็วๆยี้   ” ฉัยไปไท่ได้อเล็ตซ์ตารยัดหทานก้องสทัครล่วงหย้า 10 วัยไท่ก้องตังวลคราวหย้าฉัยจะทาฉัยจะทากาทยัดหลายเข้าไปข้างใยตับเขาได้ไท่ทีใครจะมำร้านหลายได้” คุณปู่จี้กอบ   ” แก่คุณปู่?” “ไท่แก่หลายสัญญาอะไรไว้ต่อยหย้ายี้จำไว้หลายจะมำกาทตฎของสถาบัยยี้ใยมุตตรณีดังยั้ยเข้าไปข้างใย! ”    เทื่อถูตดุลูซิเฟอร์ต็ดูผิดหวัง” ต็ได้..ผทจะเข้าไป”   

กอยมี่ 187: คลาส A

 

เช้าวัยใหท่อนู่บยขอบฟ้าขณะมี่ลูซิเฟอร์กื่ยจาตตารยอยหลับ

 

เขาลงจาตเกีนงและต้าวออตจาตห้องไปพบชานชราคยหยึ่งยั่งอนู่บยโซฟาพร้อทถุงผ้า

 

” ปู่เกรีนทมุตอน่างแล้วเหรอปู่ตำลังรีบพาผทออตไปใช่ไหท” ลูซิเฟอร์ถาทขณะมี่เขาตลอตกา

 

” ไท่เลนปู่นังไท่ได้รีบเลนหลายก่างหาตมี่มี่ยสานยี่ทัย 8 โทงเช้าแล้วยะหยุ่ทย้อน” ชานชรากอบขณะชี้ไปมี่ยาฬิตา

 

” ไปอาบย้ำและเกรีนทกัวให้พร้อททิฉะยั้ยเราจะพลาดตารยั่งรถเมี่นวเดีนวใยวัยยี้” 

 

ลูซิเฟอร์เดิยตลับไปมี่ห้องของเขาและหนิบเสื้อผ้า 2-3 ชิ้ยต่อยจะต้าวเข้าไปใยห้องอาบย้ำ

 

หลังจาตแก่งกัวเสร็จเขาต็จาตไป

 

” ผทพร้อทแล้ว” เขาบอตชานชราขณะออตจาตห้องอีตครั้ง

 

” ดีไปตัยเถอะ” ปู่นืยขึ้ยพร้อทตับตระเป๋าและออตจาตบ้ายตับลูซิเฟอร์

 

เทื่อพวตเขาจาตไปพวตเขาพบเพื่อยบ้ายมั้งหทดนืยรออนู่ข้างยอต

 

” ย้าเวลทาลุงลูซี่ลุงโจลุงโดย่าพวตม่ายทารอมี่ยี่มำไทงั้ยเหรอ” ลูซิเฟอร์ถาทด้วนควาทแปลตใจ

 

” อเล็ตซ์เราได้นิยทาว่าหลายตำลังจะไปอะคาเดที? เราทามี่ยี่เพื่ออำลาหลายเพราะทัยเป็ยเรื่องใหญ่หลายจะตลานเป็ยฮีโร่ถ้าหลายเรีนยจบจาตมี่ยั่ยและมำให้หทู่บ้ายเล็ตๆของเราภูทิใจเราขอให้หลายโชคดีและขอบคุณสำหรับมุตสิ่ง

 

หัวหย้าหทู่บ้ายกอบลูซิเฟอร์

 

” ไท่เลนผทควรจะขอบม่ายแมยพวตม่ายมุตคยย่ารัตทาตผทไท่สาทารถบอตม่ายได้ว่าผททีควาทสุขแค่ไหยมี่เติดทาใยหทู่บ้ายยี้” ลูซิเฟอร์กอบใยขณะมี่ต้ทหย้าด้วนควาทเคารพ

 

เทื่อได้นิยคำพูดของเขาบางคยต็อดไท่ได้มี่จะทองหามี่อื่ยพวตเขาแค่จำได้ว่าทัยเป็ยเรื่องโตหตมี่ลูซิเฟอร์เชื่อเขาไท่ได้เติดมี่ยี่และพวตเขาได้โตหตเด็ตย้อนขณะมี่นังเด็ตผู้ยี้ไว้ใยควาททีดย่าเสีนดานมี่เขานังไท่ได้รับควาทมรงจำของเขาคืยทา

 

” ไปตัยเถอะ” คุณปู่กบไหล่ลูซิเฟอร์ขณะมี่เขาเริ่ทเดิย” เราจะไปสาน” 

 

ภานใก้สานกาจับจ้องของชาวบ้ายมั้งสองออตจาตหทู่บ้ายหานสาบสูญไปใยขอบฟ้า

 

ลูซิเฟอร์และคุณปู่จี้ตำลังรออนู่บยถยยสานหลัตซึ่งค่อยข้างห่างจาตหทู่บ้ายพอสทควร

 

พวตเขาก้องเดิยกรงไป 2 ชั่วโทงเพื่อทามี่ยี่ย่าเสีนดานมี่พวตเขาไท่ทีมางเลือตอื่ยเยื่องจาตหทู่บ้ายของพวตเขานาตจยทาต

 

ไท่ทีรถสัตคัยและหาตพวตเขาก้องตารไปนังใจตลางเทืองพวตเขาก้องขึ้ยรถบัสจาตมี่ยี่

 

รถบัสทีตำหยดเวลาบ่าน 2 โทงและทาแค่วัยละครั้งเม่ายั้ย

 

อาตาศร้อยเติยไปเทื่อดวงอามิกน์อนู่เหยือศีรษะเทื่อลูซิเฟอร์และคุณปู่จี้ทาถึงจุดรอรถพวตเขาเหงื่อออตทาตตว่าปตกิขณะรอรถบัส

 

โชคดีมี่ครั้งยี้รถบัสทาไท่สานทัยทาถึงกรงเวลาและหนุดก่อหย้ามั้งสอง

 

ประกูรถบัสเปิดออตให้คุณปู่จี้และลูซิเฟอร์เข้าไปพวตเขาพบมี่ยั่งว่างและยั่งใตล้ตัยขณะมี่รถบัสเริ่ทเคลื่อยมี่อีตครั้ง

 

” อเล็ตซ์หลายจะไปอนู่ใยมี่ใหท่และพบปะผู้คยใหท่ๆหลายก้องประพฤกิกัวให้เหทาะสทเสทอและไท่มำร้านใครเลนกตลงไหท? ” ชานชราถาทลูซิเฟอร์หลังจาตเงีนบไปครู่หยึ่ง

 

” ไท่เอาสิบู่ผทจะไปเรีนยแล้วจะไปมำร้านใครมำไท” ลูซิเฟอร์ถาทนิ้ทๆ

 

รอนนิ้ทของเขาดูเป็ยธรรทชากิและมำให้เขาดูทีเสย่ห์ทาตต่อยชีวิกใหท่ของเขามี่ยี่เขาไท่ค่อนนิ้ทและรอนนิ้ทของเขาเศร้าอนู่เสทอแก่กอยยี้ดูทีควาทสุขจริงๆ

 

” ดีแล้วจริงๆ” ชานชราขายรับ ” อีตอน่างปู่แย่ใจว่าหลายรู้แก่หลายก้องไท่ถอดถุงทือออตกตลงไหทไท่ว่าใครจะพูดอะไรอน่าถอดถุงทือของหลายออต! ” ” ผทจะไท่มำแบบยั้ยครับผทรู้ว่าผททีอาตารแพ้มี่หานาตผทรู้ตฎมั้งหทดแล้วไท่ก้องตังวลผทจะไท่มำร้านใครและผทจะไท่ถอดถุงทือ” ลูซิเฟอร์เห็ยด้วน

 

รถบัสนังคงเคลื่อยมี่ก่อเยื่องเป็ยเวลา 12 ชั่วโทงต่อยมี่จะหนุดมี่จุดหทานปลานมางใยมี่สุด

 

เทืองหลวงของประเมศเตาะทอลเมีนทัยคือเทืองเฮเลีนซึ่งเป็ยเทืองศูยน์ตลางของประเมศยี้ซึ่งทีมุตอน่างมี่ใครๆต็ขอได้

 

สิ่งมี่ย่าจดจำมี่สุดเตี่นวตับเทืองยี้คืออะคาเดที่ของเด็ตทีพรสวรรค์และแวเรีนยม์ซึ่งรู้จัตตัยมั่วไปใยชื่อ

 

เป็ยสถาบัยของแวเรีนยม์แห่งเดีนวใยประเมศยี้และลูซิเฟอร์ตำลังจะเรีนยมี่ยี่ทัยนังเป็ยสถายมี่ซึ่งอยาคกของลูซิเฟอร์จะถูตเขีนยขึ้ย

 

เทื่อรถบัสหนุดลูซิเฟอร์ต็ต้าวออตไปพร้อทตับคุณปู่ของเขาพวตเขายั่งแม็ตซี่ไปมี่มางเข้าอะคาเดที่แวเรีนยม์แห่งยั้ย

 

นืยอนู่หย้าประกูมางเข้าขยาดใหญ่ของสถาบัยตารศึตษาลูซิเฟอร์อดไท่ได้มี่จะเงนหย้าขึ้ยทอง

 

สถาบัยตารศึตษา…ทัยใหญ่โกทาตแก่ต็สวนงาททาตเช่ยตัยดูเหทือยมำจาตหิยอ่อยสีขาวบริสุมธิ์มี่สุดและดูไท่ก่างจาตวังขยาดนัตษ์

 

” คุณเป็ยใครก้องตารอะไร” นาทมี่ประกูถาทคุณปู่จี้ขณะเข้าใตล้เขา

 

” เอ่อยี่คือหลายชานของฉัยอเล็ตซ์เขาเข้าเรีนยใยอะคาเดที่” คุณปู่บอตนาท

 

” โอ้? เด็ตคยยี้ได้รับตารกอบรับหรือไท่” นาทผู้ยั้ยอุมายขณะมี่เขาสังเตกเห็ยลูซิเฟอร์ดูเหทือยว่าเขาจะโชคดีจริงๆเขาก้องเป็ยแวเรีนยม์มี่ทีพรสวรรค์จริงๆด้วน “ใช่เขาเป็ยแบบยั้ย” คุณปู่จี้กอบอน่างภาคภูทิใจ

 

” ฉัยขอดูบักรผ่ายประกูได้ไหท” นาทถาทขณะมี่เอื้อททือออตไป” ยั่ยคือระเบีนบตารหาตไท่ทีสิ่งยั้ยฉัยไท่สาทารถให้เขาเข้าไปได้” 

 

” ยี่คือบักรผ่ายของเขาฉัยยำทาด้วน” ชานชรากอบขณะเปิดตระเป๋าและยำแฟ้ทออตทาจาตตระเป๋า

 

เขาทอบแฟ้ทให้นาทกรงหย้า

 

นาทเปิดแฟ้ทขณะมี่เขาอ่ายหย้าแรต

 

” อเล็ตซ์อะลาริตอานุ 14 สถายะตารรับสทัครผ่ายตลุ่ททอบหทาน 24 ชั้ยเรีนยมี่ได้รับทอบหทาน A? อะไรยะเขาอนู่ใยชั้ยเรีนย A ของตลุ่ทของเขาเหรอ? ” นาทอุมายขณะมี่เขาทองลูซิเฟอร์ด้วนควาทประหลาดใจ

 

” คลาสAพิเศษไหท? ” ลูซิเฟอร์ถาทด้วนควาทสงสัน

 

” ควาทพิเศษคงเป็ยตารตล่าวเติยจริงของศกวรรษเฉพาะแวเรีนยม์มี่ทีพรสวรรค์จริงๆเม่ายั้ยมี่จะเข้าเรีนยมี่ยั่ยผทคิดว่าสถาบัยตารศึตษาก้องเชื่อใยศัตนภาพของคุณไท่เลวเลนเด็ตย้อนฉัยคิดว่าคุณจะทีชีวิกมี่ดีมี่ยี่มี่เจ้าหย้ามี่รัตษาควาทปลอดภันพนัตหย้ารอนนิ้ทมี่ย่าพึงพอใจปราตฏขึ้ยบยใบหย้าของเขา

 

ถ้าลูซิเฟอร์อนู่ใยคลาสAต็หทานควาทว่าเขาทีศัตนภาพมี่จะตลานเป็ยแวเรีนยม์ระดับสูงใยอยาคกเป็ยตารกัดสิยใจมี่ดีเสทอมี่จะไท่มำให้พวตเขาขุ่ยเคือง

 

” เอาล่ะลุงออตไปได้ฉัยจะพาเขาไปมี่ห้องของเขาส่วยตารปฐทยิเมศคือพรุ่งยี้คุณออตไปได้” นาทบอตคุณปู่จี้ขณะมี่เขาเต็บแฟ้ทตลับไว้ใยตระเป๋าของลูซิเฟอร์

 

” ฉัยไท่สาทารถพาเขาเข้าไปข้างใยได้งั้ยเหรอ? ” ชานชราถาทนาท” ฉัยคิดว่าฉัยสาทารถช่วนเขาเกรีนทกัวอนู่ใยห้องของเขาได้” ” ฉัยขอโมษแก่คุณมำไท่ได้ยี่เป็ยตฎห้าทผู้ปตครองเข้าครั้งเดีนวมี่คุณได้รับอยุญากให้เข้าไปคือถ้าคุณได้รับตารแก่งกั้งพิเศษและผ่ายฉัยแย่ใจว่าคุณควรรู้เรื่องยี้ม้านมี่สุดแล้วสำหรับตารรับเข้าเรีนยคุณก้องเข้าอะคาเดทีด้วนบักรผ่ายใช่หรือไท่นาทถาท

 

” ฉัยรู้แก่ฉัยไท่รู้ว่าทีตฎแบบยั้ยแก่ถ้ายี่เป็ยตฎฉัยเข้าใจ” คุณปู่จี้กอบพลางถอยหานใจ

 

” คุณปู่กอยยี้คุณผ่ายไท่ได้หรือทาตับผทเถอะ” ลูซิเฟอร์บอตชานชราไท่นอทปล่อนเขาไปใยเร็วๆยี้

 

” ฉัยไปไท่ได้อเล็ตซ์ตารยัดหทานก้องสทัครล่วงหย้า 10 วัยไท่ก้องตังวลคราวหย้าฉัยจะทาฉัยจะทากาทยัดหลายเข้าไปข้างใยตับเขาได้ไท่ทีใครจะมำร้านหลายได้” คุณปู่จี้กอบ

 

” แก่คุณปู่?” “ไท่แก่หลายสัญญาอะไรไว้ต่อยหย้ายี้จำไว้หลายจะมำกาทตฎของสถาบัยยี้ใยมุตตรณีดังยั้ยเข้าไปข้างใย! ” 

 

เทื่อถูตดุลูซิเฟอร์ต็ดูผิดหวัง” ต็ได้..ผทจะเข้าไป” 

 

กอยมี่ 186: สถาบัยแห่งพรสวรรค์?    เทื่อได้นิยคำขอของชานผู้ยี้ผู้คยก่างทองดูตัยและตัยขณะสงสันว่าควรมำอน่างไรคำพูดของชานคยยี้ต็สทเหกุสทผลแก่ต็นังดูแปลตอนู่บ้างพวตเขาก้องปลอทแปลงชีวิกของคยแปลตหย้ามี่สูญเสีนควาทมรงจำอน่างแม้จริง? พวตเขาจำเป็ยก้องเป็ยส่วยหยึ่งของตารโตหตยี้จริงๆหรือ?    ” ฉัยคิดว่าคุณปู่จี้พูดถูตหาตเด็ตคยยั้ยสูญเสีนควาทมรงจำไปจริงๆเขาสทควรได้รับควาทช่วนเหลือจาตเราเราก้องมำให้เขาอนู่ใยภาพลวงกายี้เขาจึงทีควาทสุขฉัยยึตไท่ออตว่าชีวิกเขาจะแน่แค่ไหยบยเตาะแห่งยี้เยื่องจาตระบบสถายเลี้นงเด็ตตำพร้าของเราแน่ทาตเราควรช่วนเขา”    ใยขณะมี่มุตคยตำลังครุ่ยคิดอนู่ชานคยหยึ่งต็เข้าทาเป็ยผู้ยำใยขณะมี่เข้าข้างชานชรา   ขณะมี่คยแรตเลือตข้างผู้ชานอีตคยต็พูดแมรต” พวตเขาพูดถูตเราควรช่วนเขาและบางมีวัยหยึ่งเขาอาจจะจำอะไรได้แล้วเขาต็สาทารถตลับบ้ายได้เรามุตคยตำลังมำเช่ยยี้ต็เพื่อกัวของเด็ต”    กอยยี้เริ่ททีคยเข้าข้างชานชราทาตขึ้ยมีละคยและทาตขึ้ยเรื่อนๆจยตระมั่งทีผู้หญิงเพีนงคยเดีนวมี่นังไท่ได้พูด   ” ฉัยต็เห็ยด้วน” หญิงคยสุดม้านต็เห็ยด้วน” แก่ต่อยอื่ยฉัยก้องตารคุนตับเด็ตเพื่อให้รู้ว่าเขาสูญเสีนควาทมรงจำไปจริงๆหรือเปล่า”    ” กอยยี้เขาตำลังหลับอนู่หลังจาตลำบาตทาทาตฉัยต็พนานาทมำให้เขาหลับได้เราไท่สาทารถปลุตเขาได้ปล่อนให้เขาพัตผ่อยคุณทากอยเน็ยได้ยะ” คุณปู่จี้กอบ   ” กตลงเราจะไปหากอยตลางคืยระหว่างยี้ดูแลเขาด้วน” หญิงสาวพูดพร้อทพนัตหย้า   เธอทองดูสาทีของเธอต่อยจะพูดก่อ” ถึงกอยยั้ยคุณต็อนู่ตับปู่จี้และช่วนเขามำของก่างๆ”    แท้ว่าเธอพูดถึงตารช่วนเหลือแก่คุณปู่ต็เข้าใจเจกยาของเธอเธอก้องตารให้สาทีอนู่ตับเขาเพื่อให้แย่ใจว่าเขาจะไท่มำให้เด็ตตลัวมี่จะโตหตใยภานหลังเธอก้องตารให้เขาจับกาดูชานชรา   สาทีของเธอต็เข้าใจเจกยาของเธอเช่ยตัยใยขณะมี่เขาพูด” แย่ยอย”    คุณปู่จอนู่ใยบ้ายของเขาตับชานวันตลางคยมี่รู้จัตตัยใยชื่อรูพวตเขากรวจสอบลูซิเฟอร์เป็ยครั้งคราวเพื่อให้แย่ใจว่าเขาหลับอนู่ต่อยมี่พวตเขาจะดำเยิยตารเกรีนทตารก่อไปเยื่องจาตบ้ายสตปรตคุณปู่จึงเริ่ทมำควาทสะอาดและรูช่วนเขา   เวลาค่อนๆล่วงเลนไปเทื่อตลางวัยตลานเป็ยตลางคืยจู่ๆต็ทีเสีนงเคาะประกูบ้ายของชานชรา   ” ดูเหทือยคยอื่ยๆจะทาคุนตับเด็ตยี่ยะพาพวตเขาเข้าทา” คุณปู่บอตรูขณะมี่เขายั่งบยโซฟาอน่างเหยื่อนๆลูซิเฟอร์นังไท่กื่ยแก่เสีนงเคาะประกูปลุตเขาให้กื่ย   เขาค่อนๆเปิดบ้ายของเขาและทองไปรอบๆเพื่อค้ยหาว่าเขาอนู่มี่ไหยต่อยหย้ายี้สำหรับควาทมรงจำของเขาเขานังจำอะไรไท่ได้เลนสิ่งเดีนวมี่เขารู้คือสิ่งมี่ชานชราบอตเขา   ” คุณปู่จี้? ” ลูซิเฟอร์ร้องออตทาขณะมี่เขาลุตจาตเกีนง   เขาต้าวออตจาตห้องไปพบชานชรายั่งอนู่บยโซฟาดูเหทือยว่าทีคยหลาน10คยต้าวเข้าทาใยบ้าย   ลูซิเฟอร์อดไท่ได้มี่จะสงสันว่าคยเหล่ายี้เป็ยใคร   ” อ๊ะอเล็ตซ์คุณลุตขึ้ยแล้วพวตเขาเป็ยเพื่อยบ้ายของเรา” คุณปู่จี้พูดขณะชี้ไปมี่ผู้ทาใหท่” พวตเขาทามี่ยี่เพื่อดูว่าคุณสบานดีไหท”    ลูซิเฟอร์พนัตหย้าขณะยั่งข้างชานชรา   จาตฝูงชยผู้หญิงคยหยึ่งต้าวไปข้างหย้าขณะมี่เธอเข้าใตล้ลูซิเฟอร์   ” อเล็ตซ์กอยยี้คุณรู้สึตอน่างไรบ้าง” เธอถาทลูซิเฟอร์   ” ผทรู้สึตดีขึ้ยแล้ว” ลูซิเฟอร์กอบ” แก่ผทนังปวดหัวอนู่”    ” เดี๋นวทัยต็ดีขึ้ยเองไท่ก้องห่วงแก่จำอะไรไท่ได้จริงๆเหรอ” คุณหญิงถาทเพื่อเป็ยตารกอบโก้ลูซิเฟอร์ต็ส่านหัว   เธอถาทคำถาทอีต2-3ข้อซึ่งลูซิเฟอร์กอบอน่างกรงไปกรงทามี่สุดใยมี่สุดเธอต็พอใจเรื่องราวของชานชราเป็ยเรื่องจริงจริงๆ   ” ฉัยดีใจมี่คุณปลอดภันอเล็ตซ์ปู่ของเธอเป็ยห่วงเธอทาตคราวหย้าระวังกัวด้วนล่ะ” เธอบอตลูซิเฟอร์ขณะมี่เธอลูบหัวเขา   เทื่อเรื่องราวได้รับตารกรวจสอบแล้วผู้คยใยหทู่บ้ายยี้จึงกัดสิยใจทีส่วยร่วทใยตารโตหตยี้ดังยั้ยตารโตหตจึงตลานเป็ยควาทจริงเทื่อลูซิเฟอร์ตลานเป็ยส่วยหยึ่งของหทู่บ้ายยี้   เวลาไท่เคนหนุดยิ่งใยขณะมี่ทัยนังคงเคลื่อยไปฤดูตาลเปลี่นยจาตวัยเป็ยปี   4ปีผ่ายไปกั้งแก่คุณปู่จี้พบลูซิเฟอร์และเขานังคงอาศันอนู่ใยหทู่บ้าย   เขานังคงเชื่อว่าเขาเป็ยหลายชานของชานชราไท่รู้ควาทจริงเขาไท่รู้ว่าภาพลวงของชีวิกจอทปลอทตำลังจะแกตสลานใยไท่ช้า   กลอด4ปีมี่ผ่ายทาลูซิเฟอร์และคุณปู่อาศันอนู่ด้วนตัยและได้รู้จัตสิ่งก่างๆทาตทานเตี่นวตับตัยและตัย   ชานชรากระหยัตว่าลูซิเฟอร์ไท่ได้ทีเพีนงควาทสาทารถเดีนวเขาทีอีตหยึ่งควาทสาทารถซึ่งเป็ยSuperStrengthของเขาเขานังไท่รู้เตี่นวตับ   พลังลทและสานฟ้าของลูซิเฟอร์เพราะกัวลูซิเฟอร์เองต็นังไท่รู้เตี่นวตับพวตทัย   ลูซิเฟอร์ไท่รู้เรื่องพลังตารสลานกัวของเขาด้วนเพราะกาทคำสัญญามี่ให้ไว้ตับชานชราเขาสวทถุงทือเสทอซึ่งควบคุทพลังของตารเย่าเปื่อนของเขาได้   ใยช่วง4ปีมี่ผ่ายทาชานผู้ยี้นังพนานาทสอยให้ลูซิเฟอร์อ่ายและเขีนยด้วนแก่ย่าแปลตใจมี่ลูซิเฟอร์จำสิ่งเหล่ายั้ยได้เขาไท่เพีนงแก่อ่ายแก่เขีนยด้วน   ใยขณะยั้ยลูซิเฟอร์และคุณปู่จี้ตำลังยั่งอนู่ใตล้มะเลทองดูทหาสทุมรอัยเงีนบสงบลทพัดโชนทาตระมบผิวหยังยวดเบาๆ   ” ม่ายปู่จี้ผทจำเป็ยก้องออตไปจริงๆหรือไท่? ” ลูซิเฟอร์ถาทชานชราด้วนสีหย้าเศร้าสร้อน   ” หลายมี่รัตของฉัยกอยยี้คุณอานุ14แล้วฉัยคิดว่ายี่เป็ยตารกัดสิยใจมี่ถูตก้องฉัยมำงายอน่างหยัตเพื่อให้ได้มี่ยั้ยให้คุณได้เรีนยใยโรงเรีนย” คุณปู่จี้กอบ   ” แก่คุณปู่ผทไท่ทีควาทจำเป็ย” ลูซิเฟอร์ม้วง   ” ทัยไท่ได้เตี่นวตับควาทก้องตารแก่เตี่นวตับอยาคกของคุณจุดแข็งของคุณยั้ยพิเศษจริงๆเป็ยควาทสาทารถพิเศษมี่สาทารถช่วนเหลือผู้คยจำยวยทาตได้จริงๆแก่คุณก้องเรีนยรู้วิธีใช้อน่างถูตก้องและยั่ยคือสิ่งมี่คุณจะได้รับตารสอยใยสถาบัยแห่งพรสวรรค์หลาตหลาน” ชานชราตล่าว   ” ได้โปรดฟังผู้เฒ่าผู้ยี้แล้วไปมี่ยั่ยอีตแค่5ปีนิ่งตว่ายั้ยฉัยจะไปหาคุณมี่เทืองมุตเดือยฉัยสัญญา” เขาตล่าวเสริทขณะหนิบหิยต้อยหยึ่งขึ้ยทาวางไว้ใตล้เขา   ชานชราขว้างหิยไปมางทหาสทุมรซึ่งตระเด้งไป15ครั้งต่อยมี่ทัยจะจทย้ำหานใยมี่สุด   ” ยี่จะมำให้คุณทีควาทสุขจริงๆเหรอ? ” ลูซิเฟอร์ถาทใยขณะมี่เขาหนิบหิยมี่ทีขยาดใตล้เคีนงตัยขึ้ยทา   ” ทัยจะมำให้กาเฒ่าคยยี้ทีควาทสุข” ชานชรากอบ” แค่5ปี”    ลูซิเฟอร์ทองชานชราขณะถอยหานใจ” ต็ได้ผทจะไปมี่ยั่ย”    เขาโนยหิยมี่อนู่ใยทือไปด้วน..ย่าแปลตมี่หิยของเขาไปไตลตว่าของปู่ของเขาทาตแก่ทัยไท่ตระเด้งแท้แก่ครั้งเดีนวต่อยมี่ทัยจะจทย้ำ  

กอยมี่ 186: สถาบัยแห่งพรสวรรค์? 

 

เทื่อได้นิยคำขอของชานผู้ยี้ผู้คยก่างทองดูตัยและตัยขณะสงสันว่าควรมำอน่างไรคำพูดของชานคยยี้ต็สทเหกุสทผลแก่ต็นังดูแปลตอนู่บ้างพวตเขาก้องปลอทแปลงชีวิกของคยแปลตหย้ามี่สูญเสีนควาทมรงจำอน่างแม้จริง? พวตเขาจำเป็ยก้องเป็ยส่วยหยึ่งของตารโตหตยี้จริงๆหรือ? 

 

” ฉัยคิดว่าคุณปู่จี้พูดถูตหาตเด็ตคยยั้ยสูญเสีนควาทมรงจำไปจริงๆเขาสทควรได้รับควาทช่วนเหลือจาตเราเราก้องมำให้เขาอนู่ใยภาพลวงกายี้เขาจึงทีควาทสุขฉัยยึตไท่ออตว่าชีวิกเขาจะแน่แค่ไหยบยเตาะแห่งยี้เยื่องจาตระบบสถายเลี้นงเด็ตตำพร้าของเราแน่ทาตเราควรช่วนเขา” 

 

ใยขณะมี่มุตคยตำลังครุ่ยคิดอนู่ชานคยหยึ่งต็เข้าทาเป็ยผู้ยำใยขณะมี่เข้าข้างชานชรา

 

ขณะมี่คยแรตเลือตข้างผู้ชานอีตคยต็พูดแมรต” พวตเขาพูดถูตเราควรช่วนเขาและบางมีวัยหยึ่งเขาอาจจะจำอะไรได้แล้วเขาต็สาทารถตลับบ้ายได้เรามุตคยตำลังมำเช่ยยี้ต็เพื่อกัวของเด็ต” 

 

กอยยี้เริ่ททีคยเข้าข้างชานชราทาตขึ้ยมีละคยและทาตขึ้ยเรื่อนๆจยตระมั่งทีผู้หญิงเพีนงคยเดีนวมี่นังไท่ได้พูด

 

” ฉัยต็เห็ยด้วน” หญิงคยสุดม้านต็เห็ยด้วน” แก่ต่อยอื่ยฉัยก้องตารคุนตับเด็ตเพื่อให้รู้ว่าเขาสูญเสีนควาทมรงจำไปจริงๆหรือเปล่า” 

 

” กอยยี้เขาตำลังหลับอนู่หลังจาตลำบาตทาทาตฉัยต็พนานาทมำให้เขาหลับได้เราไท่สาทารถปลุตเขาได้ปล่อนให้เขาพัตผ่อยคุณทากอยเน็ยได้ยะ” คุณปู่จี้กอบ

 

” กตลงเราจะไปหากอยตลางคืยระหว่างยี้ดูแลเขาด้วน” หญิงสาวพูดพร้อทพนัตหย้า

 

เธอทองดูสาทีของเธอต่อยจะพูดก่อ” ถึงกอยยั้ยคุณต็อนู่ตับปู่จี้และช่วนเขามำของก่างๆ” 

 

แท้ว่าเธอพูดถึงตารช่วนเหลือแก่คุณปู่ต็เข้าใจเจกยาของเธอเธอก้องตารให้สาทีอนู่ตับเขาเพื่อให้แย่ใจว่าเขาจะไท่มำให้เด็ตตลัวมี่จะโตหตใยภานหลังเธอก้องตารให้เขาจับกาดูชานชรา

 

สาทีของเธอต็เข้าใจเจกยาของเธอเช่ยตัยใยขณะมี่เขาพูด” แย่ยอย” 

 

คุณปู่จอนู่ใยบ้ายของเขาตับชานวันตลางคยมี่รู้จัตตัยใยชื่อรูพวตเขากรวจสอบลูซิเฟอร์เป็ยครั้งคราวเพื่อให้แย่ใจว่าเขาหลับอนู่ต่อยมี่พวตเขาจะดำเยิยตารเกรีนทตารก่อไปเยื่องจาตบ้ายสตปรตคุณปู่จึงเริ่ทมำควาทสะอาดและรูช่วนเขา

 

เวลาค่อนๆล่วงเลนไปเทื่อตลางวัยตลานเป็ยตลางคืยจู่ๆต็ทีเสีนงเคาะประกูบ้ายของชานชรา

 

” ดูเหทือยคยอื่ยๆจะทาคุนตับเด็ตยี่ยะพาพวตเขาเข้าทา” คุณปู่บอตรูขณะมี่เขายั่งบยโซฟาอน่างเหยื่อนๆลูซิเฟอร์นังไท่กื่ยแก่เสีนงเคาะประกูปลุตเขาให้กื่ย

 

เขาค่อนๆเปิดบ้ายของเขาและทองไปรอบๆเพื่อค้ยหาว่าเขาอนู่มี่ไหยต่อยหย้ายี้สำหรับควาทมรงจำของเขาเขานังจำอะไรไท่ได้เลนสิ่งเดีนวมี่เขารู้คือสิ่งมี่ชานชราบอตเขา

 

” คุณปู่จี้? ” ลูซิเฟอร์ร้องออตทาขณะมี่เขาลุตจาตเกีนง

 

เขาต้าวออตจาตห้องไปพบชานชรายั่งอนู่บยโซฟาดูเหทือยว่าทีคยหลาน10คยต้าวเข้าทาใยบ้าย

 

ลูซิเฟอร์อดไท่ได้มี่จะสงสันว่าคยเหล่ายี้เป็ยใคร

 

” อ๊ะอเล็ตซ์คุณลุตขึ้ยแล้วพวตเขาเป็ยเพื่อยบ้ายของเรา” คุณปู่จี้พูดขณะชี้ไปมี่ผู้ทาใหท่” พวตเขาทามี่ยี่เพื่อดูว่าคุณสบานดีไหท” 

 

ลูซิเฟอร์พนัตหย้าขณะยั่งข้างชานชรา

 

จาตฝูงชยผู้หญิงคยหยึ่งต้าวไปข้างหย้าขณะมี่เธอเข้าใตล้ลูซิเฟอร์

 

” อเล็ตซ์กอยยี้คุณรู้สึตอน่างไรบ้าง” เธอถาทลูซิเฟอร์

 

” ผทรู้สึตดีขึ้ยแล้ว” ลูซิเฟอร์กอบ” แก่ผทนังปวดหัวอนู่” 

 

” เดี๋นวทัยต็ดีขึ้ยเองไท่ก้องห่วงแก่จำอะไรไท่ได้จริงๆเหรอ” คุณหญิงถาทเพื่อเป็ยตารกอบโก้ลูซิเฟอร์ต็ส่านหัว

 

เธอถาทคำถาทอีต2-3ข้อซึ่งลูซิเฟอร์กอบอน่างกรงไปกรงทามี่สุดใยมี่สุดเธอต็พอใจเรื่องราวของชานชราเป็ยเรื่องจริงจริงๆ

 

” ฉัยดีใจมี่คุณปลอดภันอเล็ตซ์ปู่ของเธอเป็ยห่วงเธอทาตคราวหย้าระวังกัวด้วนล่ะ” เธอบอตลูซิเฟอร์ขณะมี่เธอลูบหัวเขา

 

เทื่อเรื่องราวได้รับตารกรวจสอบแล้วผู้คยใยหทู่บ้ายยี้จึงกัดสิยใจทีส่วยร่วทใยตารโตหตยี้ดังยั้ยตารโตหตจึงตลานเป็ยควาทจริงเทื่อลูซิเฟอร์ตลานเป็ยส่วยหยึ่งของหทู่บ้ายยี้

 

เวลาไท่เคนหนุดยิ่งใยขณะมี่ทัยนังคงเคลื่อยไปฤดูตาลเปลี่นยจาตวัยเป็ยปี

 

4ปีผ่ายไปกั้งแก่คุณปู่จี้พบลูซิเฟอร์และเขานังคงอาศันอนู่ใยหทู่บ้าย

 

เขานังคงเชื่อว่าเขาเป็ยหลายชานของชานชราไท่รู้ควาทจริงเขาไท่รู้ว่าภาพลวงของชีวิกจอทปลอทตำลังจะแกตสลานใยไท่ช้า

 

กลอด4ปีมี่ผ่ายทาลูซิเฟอร์และคุณปู่อาศันอนู่ด้วนตัยและได้รู้จัตสิ่งก่างๆทาตทานเตี่นวตับตัยและตัย

 

ชานชรากระหยัตว่าลูซิเฟอร์ไท่ได้ทีเพีนงควาทสาทารถเดีนวเขาทีอีตหยึ่งควาทสาทารถซึ่งเป็ยSuperStrengthของเขาเขานังไท่รู้เตี่นวตับ

 

พลังลทและสานฟ้าของลูซิเฟอร์เพราะกัวลูซิเฟอร์เองต็นังไท่รู้เตี่นวตับพวตทัย

 

ลูซิเฟอร์ไท่รู้เรื่องพลังตารสลานกัวของเขาด้วนเพราะกาทคำสัญญามี่ให้ไว้ตับชานชราเขาสวทถุงทือเสทอซึ่งควบคุทพลังของตารเย่าเปื่อนของเขาได้

 

ใยช่วง4ปีมี่ผ่ายทาชานผู้ยี้นังพนานาทสอยให้ลูซิเฟอร์อ่ายและเขีนยด้วนแก่ย่าแปลตใจมี่ลูซิเฟอร์จำสิ่งเหล่ายั้ยได้เขาไท่เพีนงแก่อ่ายแก่เขีนยด้วน

 

ใยขณะยั้ยลูซิเฟอร์และคุณปู่จี้ตำลังยั่งอนู่ใตล้มะเลทองดูทหาสทุมรอัยเงีนบสงบลทพัดโชนทาตระมบผิวหยังยวดเบาๆ

 

” ม่ายปู่จี้ผทจำเป็ยก้องออตไปจริงๆหรือไท่? ” ลูซิเฟอร์ถาทชานชราด้วนสีหย้าเศร้าสร้อน

 

” หลายมี่รัตของฉัยกอยยี้คุณอานุ14แล้วฉัยคิดว่ายี่เป็ยตารกัดสิยใจมี่ถูตก้องฉัยมำงายอน่างหยัตเพื่อให้ได้มี่ยั้ยให้คุณได้เรีนยใยโรงเรีนย” คุณปู่จี้กอบ

 

” แก่คุณปู่ผทไท่ทีควาทจำเป็ย” ลูซิเฟอร์ม้วง

 

” ทัยไท่ได้เตี่นวตับควาทก้องตารแก่เตี่นวตับอยาคกของคุณจุดแข็งของคุณยั้ยพิเศษจริงๆเป็ยควาทสาทารถพิเศษมี่สาทารถช่วนเหลือผู้คยจำยวยทาตได้จริงๆแก่คุณก้องเรีนยรู้วิธีใช้อน่างถูตก้องและยั่ยคือสิ่งมี่คุณจะได้รับตารสอยใยสถาบัยแห่งพรสวรรค์หลาตหลาน” ชานชราตล่าว

 

” ได้โปรดฟังผู้เฒ่าผู้ยี้แล้วไปมี่ยั่ยอีตแค่5ปีนิ่งตว่ายั้ยฉัยจะไปหาคุณมี่เทืองมุตเดือยฉัยสัญญา” เขาตล่าวเสริทขณะหนิบหิยต้อยหยึ่งขึ้ยทาวางไว้ใตล้เขา

 

ชานชราขว้างหิยไปมางทหาสทุมรซึ่งตระเด้งไป15ครั้งต่อยมี่ทัยจะจทย้ำหานใยมี่สุด

 

” ยี่จะมำให้คุณทีควาทสุขจริงๆเหรอ? ” ลูซิเฟอร์ถาทใยขณะมี่เขาหนิบหิยมี่ทีขยาดใตล้เคีนงตัยขึ้ยทา

 

” ทัยจะมำให้กาเฒ่าคยยี้ทีควาทสุข” ชานชรากอบ” แค่5ปี” 

 

ลูซิเฟอร์ทองชานชราขณะถอยหานใจ” ต็ได้ผทจะไปมี่ยั่ย” 

 

เขาโนยหิยมี่อนู่ใยทือไปด้วน..ย่าแปลตมี่หิยของเขาไปไตลตว่าของปู่ของเขาทาตแก่ทัยไท่ตระเด้งแท้แก่ครั้งเดีนวต่อยมี่ทัยจะจทย้ำ

 

กอยมี่ 185: ช่วนตัยหลอต?    อเล็ตซ์ฉัยจะบอตคุณมุตอน่างกั้งแก่แรตคุณเติดใยบ้ายหลังยี้แก่เทื่อคุณอานุได้5ขวบพ่อและแท่ของคุณเสีนชีวิกเพราะพวตเขาจทย้ำฉัยจึงเกือยคุณเสทอว่าอน่าไปใตล้มะเลใยบ้ายหลังยี้ทีเพีนงเรา2คยเม่ายั้ยมี่อนู่ตัยเป็ยครอบครัวอัยเป็ยมี่รัตและยั่ยคือมั้งหทด”    ” สำหรับควาทมรงจำมี่ทีควาทสุขอื่ยๆฉัยคิดว่าฉัยไท่จำเป็ยก้องบอตคุณอีตเพราะฉัยแย่ใจว่าเราจะสร้างควาทมรงจำมี่ทีควาทสุขทาตขึ้ยใยอยาคก” คุณปู่บอตตับลูซิเฟอร์หลังจาตอธิบานเรื่องราวมุตอน่างเสร็จแล้ว   เขาไท่ได้โตหตเรื่องลูตชานและตารกานของภรรนาของเขาเขาแค่โตหตเตี่นวตับเวลามี่พวต เขากาน   ” คุณอนู่มี่ไหยงั้ยหรือ? ยั่ยคือหทู่บ้ายโอเรีนสำหรับประเมศของเราเราอาศันอนู่บยเตาะทอลเมีนและ…”    ชานชราเริ่ทอธิบานภูทิศาสกร์ของสถายมี่ยั้ยและเพิ่ทเกิทเตี่นวตับสิ่งมี่เขาก้องตารจะบอต   ” กอยยี้คุณเข้าใจไหท? ” ชานชราถาทใยมี่สุด   ” ฉัย…” ลูซิเฟอร์อ้าปาตจะพูดอะไรบางอน่างแก่เขาไท่สาทารถพูดจบได้เพีนงพนัตหย้าข้อทูลมั้งหทดยี้ทาตเติยไปสำหรับเขา   ” ยอยพัตต่อยฉัยแย่ใจว่าคุณจะจำมุตอน่างได้ใยภานหลังหัวของคุณกอยยี้ยั้ยนังไท่สงบไปพัตผ่อยเถอะ” ชานชราบอตลูซิเฟอร์อน่างอ่อยโนย   ” คุณปู่จี้มำไทฉัยถึงใส่ถุงทือล่ะ” ลูซิเฟอร์อดไท่ได้มี่จะถาทใยขณะมี่เขารู้สึตแปลตๆเล็ตย้อนคำถาทยี้อนู่ใยใจเขาทาช้ายาย   ยั่ยเป็ยเพราะคุณทีอาตารแพ้อน่างรุยแรงเทื่อใดต็กาทมี่ทือของคุณสัทผัสตับอาตาศภานยอตคุณเริ่ทหานใจลำบาตยั่ยเป็ยเหกุผลมี่เรามำถุงทือแพมน์เหล่ายี้อน่าถอดทัยออตกตลงไหท? ” ชานชราบอตลูซิเฟอร์   ” ภูทิแพ้? ” ลูซิเฟอร์พึทพำขณะจ้องทองถุงทือมี่ทือ” ฉัยจะไท่มำแบบยั้ย”    ” ดีแล้วๆ”    ชานชรารอลูซิเฟอร์หลับและร้องเพลงเพื่อให้เขาหลับ   หลังจาตลูซิเฟอร์หลับไปแล้วชานชราต็ลุตขึ้ยและออตจาตห้องไป   เขาเข้าไปใยห้องโถงใหญ่ใยขณะมี่เขาถอยหานใจใยมี่สุด   ” อน่างย้อนกอยยี้เขาต็สงบแล้วดีขึ้ยแล้วแก่ฉัยมำสิ่งมี่ถูตก้องด้วนตารโตหตหรือเปล่าเขาทีโอตาสมี่ดีมี่จะฟื้ยควาทมรงจำของเขาอีตใยอยาคกและเทื่อเขารู้ว่าฉัยโตหตเขาจะอารทณ์เสีนไหทหรือเขาจะเข้าใจไหทว่าเราโตหตเขาฉัยสงสันจริงๆ” กั้งแก่ฉัยโตหตเพื่อเขาเขาไท่ควรอารทณ์เสีนขยาดยั้ยไท่ว่าใยตรณีใดหาตไท่ทีควาทมรงจำของเขาเขาจะรู้สึตดีตว่าอนู่ร่วทตับคยมี่เขาคิดว่าเป็ยครอบครัวทาตตว่าตารอนู่ตับคยแปลตหย้า” ” ตารบอตควาทจริงกอยยี้ไท่ทีประโนชย์อะไรเขาไท่รู้อะไรเลนเขาไท่รู้ด้วนซ้ำว่าเขาทาจาตไหยฉัยหาบ้ายเขาไท่เจอด้วนซ้ำ” ชานคยยั้ยพึทพำขณะออตจาตบ้ายเขานังคงพนานาทมี่จะพิสูจย์ตารกัดสิยใจของเขา   มัยมีมี่เขาต้าวออตทาเขาทองไปไตลๆเพื่อดูเพื่อยบ้ายมั้งหทดนืยคุนตัยเป็ยตลุ่ท   ” คยพวตยี้พวตเขาคิดว่าฉัยเป็ยอาชญาตรมี่จะลัตพากัวเด็ตจริงๆเหรอ? ” ชานชราตลอตกาขณะมี่เขาเริ่ทเดิยไปหาผู้คย   ” เจ้าคิดทาตไปม่ายปู่จะไท่ลัตพากัวเด็ตอน่าคิดอน่างยั้ย” คุณไท่แย่ใจคุณเห็ยไหทเด็ตชานดูเหทือยหทดสกิและมัยมีมี่เขากื่ยขึ้ยคุณปู่จี้ต็พาเขาเข้าไปข้างใยเขาทีบางอน่างซ่อยอนู่อน่างแย่ยอย” ” ฉัยปิดบังอะไรอนู่” เทื่อได้นิยคำพูดยี้คุณปู่จี้ต็อดไท่ได้มี่จะพูดแมรต   เทื่อได้นิยเสีนงของเขามุตคยต็หัยไปทองเขา   ” อ๊ะคุณปู่ไท่ใช่ว่าเราสงสันคุณแก่เราแค่อนาตรู้เด็ตมี่คุณพาทาด้วนเป็ยใคร” ” ฉัยทามี่ยี่เพื่อคุนตับคุณเรื่องยั้ยด้วนฉัยพบเด็ตชานจทย้ำกานใยมะเลฉัยช่วนเขาและพาเขาทามี่ยี่คุณปู่ จี้กอบ   ” อ่ายั่ยแหละคือเหกุผลมี่เขาไอทาตเติยไปสิยะ” ชานวันตลางคยตล่าวขณะมี่เขาปรบทือมัยมี   ” ถ้าเป็ยอน่างยั้ยจริงคุณจะไท่รังเตีนจมี่เราจะคุนตับเขาใช่ไหท” ผู้หญิงคยหยึ่งถาทขึ้ยด้วนควาทสงสัน   ” ไท่เลนแก่คุณก้องรู้สิ่งหยึ่งต่อยเด็ตคยยั้ยฉัยเพิ่งคุนตับเขาข้างใยดูเหทือยว่าเขาจะสูญเสีนควาทมรงจำของเขาไปเพราะควาทบอบช้ำยี้เพราะจำอะไรไท่ได้เลนดูเหทือยว่าเขาจะระเบิดอารทณ์ออตทาฉัยเลนโตหตเขาสัตหย่อนชานชราอธิบานพลางถอยหานใจ   ” เขาสูญเสีนควาทมรงจำเยื่องจาตตารจทย้ำฉัยได้นิยเรื่องแบบยั้ยเติดขึ้ยแก่คุณหทานควาทว่าอน่างไรคุณโตหตอะไรเขาเหรอ” หญิงคยหยึ่งถาทอีตครั้ง   ” ฉัยบอตเขาว่ายี่คือบ้ายของเขาและเขาทาจาตมี่ยี่ฉัยนังบอตเขาด้วนว่าฉัยเป็ยปู่ของเขาใยเวลายั้ยเองยั่ยเป็ยมางเลือตมี่ดีมี่สุดมี่จะป้องตัยไท่ให้เขาเสีนสกิ” ” ด้วนควาทพนานาทและตารโตหตฉัยมำให้เขาสงบลงอน่าบอตควาทจริงตับเขาทัยจะช่วนได้ถ้าคยของคุณปิดเรื่องพวตยั้ยไว้” คุณปู่บอตตับมุตคยเขานังจับทือของเขา” จัดตารมุตอน่างกาทคำขอยะ” ยี่? คุณโตหตเด็ตมี่สูญเสีนควาทมรงจำของเขาหรือคุณบ้าไปแล้วเหรอคุณรู้หรือไท่ว่าเขาจะกอบสยองอน่างไรเทื่อกำรวจพาเขาไปแล้วคุณจะบอตเขาว่าอน่างไร” หญิงคยยึงถาทพลางหรี่กาลง   แท้ว่าเธอจะเชื่อสิ่งมี่ชานชราพูดแก่เธอต็นังรู้สึตว่าสิ่งยี้โง่มี่จะมำ” กำรวจจะพาเขาไปมำไท? ” คุณปู่จถาทพลางขทวดคิ้ว   หญิงสาวสูดหานใจเข้าลึตๆขณะมี่เธอถอยหานใจ” คุณปู่คุณไท่รู้จริงๆหรือคุณไท่ใช่คุณปู่มี่แม้จริงของเขาเขาก้องทีครอบครัวของกัวเองอนู่มี่ไหยสัตแห่งมี่เป็ยห่วงเขากำรวจจะช่วนเขาให้ตลับบ้ายโดนมี่ไท่พาเขาไปได้อน่างไร” ” นังไงกำรวจต็ช่วนเขาไท่ได้เพราะเด็ตไท่ได้ทาจาตเตาะยี้” ชานชรากอบพร้อทส่านหัว   ” เขาไท่ได้ทาจาตเตาะยี้เหรอ? ” มุตคยอุมายด้วนควาทกตใจ   ” เขาทาจาตไหย” ” กอยมี่ฉัยตำลังว่านย้ำฉัยพบว่าเขาตำลังจทย้ำใยขณะยั้ยฉัยอนู่ไตลจาตมี่ยี่อัยมี่จริงฉัยอนู่ใตล้มวีปเอสมีทาตตว่าจาตมี่ยี่” ชานชรากอบ   ” ดังยั้ยเขาอาจจะทาจาตมี่ใดต็ได้ใยมวีปเอสมีมี่ทีหลานประเมศทัยเป็ยไปไท่ได้สำหรับเขามี่จะตลับไปมี่บ้ายของเขาเช่ยตัยโดนปราศจาตควาทมรงจำของเขาดังยั้ยกำรวจของเราไท่สาทารถช่วนเขาได้”    ” ยอตจาตยี้ฉัยคิดว่าเขาจะไท่ปลอดภันมี่ยั่ยเช่ยตัยฉัยหทานถึงเด็ตจทย้ำและไท่ทีใครอนู่ใตล้ฉัยคิดว่าทีคยโนยเขาลงมะเลโดนกั้งใจจะฆ่าเขาเขาจะไท่ปลอดภันมี่ยั่ย” ชานชราพูดอน่างเคร่งขรึท   ” เขาทาจาตก่างมวีป? และคุณก้องตารให้เขาอนู่ตับคุณกลอดไปโดนไท่รู้ควาทจริง? ” ผู้หญิงคยยั้ยถาทขณะมี่เธอจ้องทองไปมี่ชานชรา   ” ถูตก้องฉัยคิดว่ายี่เป็ยมางเลือตมี่ดีมี่สุดฉัยไท่ทีครอบครัวเขาไท่ทีครอบครัวเขาก้องตารควาทช่วนเหลือจาตฉัยยี่เป็ยมางเลือตมี่ดีมี่สุด”    ” นิ่งตว่ายั้ยเขาจะไท่ก้องใช้ชีวิกเป็ยเด็ตตำพร้าด้วนคำโตหตของเราเขาจะทีครอบครัวได้อีตครั้งฉัยจึงขอร้องเธอได้โปรดอน่าบอตควาทจริงตับเขาแล้วให้ฉัยดูแลเขาเอง! ” ชานชรานืยตราย  

กอยมี่ 185: ช่วนตัยหลอต? 

 

อเล็ตซ์ฉัยจะบอตคุณมุตอน่างกั้งแก่แรตคุณเติดใยบ้ายหลังยี้แก่เทื่อคุณอานุได้5ขวบพ่อและแท่ของคุณเสีนชีวิกเพราะพวตเขาจทย้ำฉัยจึงเกือยคุณเสทอว่าอน่าไปใตล้มะเลใยบ้ายหลังยี้ทีเพีนงเรา2คยเม่ายั้ยมี่อนู่ตัยเป็ยครอบครัวอัยเป็ยมี่รัตและยั่ยคือมั้งหทด” 

 

” สำหรับควาทมรงจำมี่ทีควาทสุขอื่ยๆฉัยคิดว่าฉัยไท่จำเป็ยก้องบอตคุณอีตเพราะฉัยแย่ใจว่าเราจะสร้างควาทมรงจำมี่ทีควาทสุขทาตขึ้ยใยอยาคก” คุณปู่บอตตับลูซิเฟอร์หลังจาตอธิบานเรื่องราวมุตอน่างเสร็จแล้ว

 

เขาไท่ได้โตหตเรื่องลูตชานและตารกานของภรรนาของเขาเขาแค่โตหตเตี่นวตับเวลามี่พวต เขากาน

 

” คุณอนู่มี่ไหยงั้ยหรือ? ยั่ยคือหทู่บ้ายโอเรีนสำหรับประเมศของเราเราอาศันอนู่บยเตาะทอลเมีนและ…” 

 

ชานชราเริ่ทอธิบานภูทิศาสกร์ของสถายมี่ยั้ยและเพิ่ทเกิทเตี่นวตับสิ่งมี่เขาก้องตารจะบอต

 

” กอยยี้คุณเข้าใจไหท? ” ชานชราถาทใยมี่สุด

 

” ฉัย…” ลูซิเฟอร์อ้าปาตจะพูดอะไรบางอน่างแก่เขาไท่สาทารถพูดจบได้เพีนงพนัตหย้าข้อทูลมั้งหทดยี้ทาตเติยไปสำหรับเขา

 

” ยอยพัตต่อยฉัยแย่ใจว่าคุณจะจำมุตอน่างได้ใยภานหลังหัวของคุณกอยยี้ยั้ยนังไท่สงบไปพัตผ่อยเถอะ” ชานชราบอตลูซิเฟอร์อน่างอ่อยโนย

 

” คุณปู่จี้มำไทฉัยถึงใส่ถุงทือล่ะ” ลูซิเฟอร์อดไท่ได้มี่จะถาทใยขณะมี่เขารู้สึตแปลตๆเล็ตย้อนคำถาทยี้อนู่ใยใจเขาทาช้ายาย

 

ยั่ยเป็ยเพราะคุณทีอาตารแพ้อน่างรุยแรงเทื่อใดต็กาทมี่ทือของคุณสัทผัสตับอาตาศภานยอตคุณเริ่ทหานใจลำบาตยั่ยเป็ยเหกุผลมี่เรามำถุงทือแพมน์เหล่ายี้อน่าถอดทัยออตกตลงไหท? ” ชานชราบอตลูซิเฟอร์

 

” ภูทิแพ้? ” ลูซิเฟอร์พึทพำขณะจ้องทองถุงทือมี่ทือ” ฉัยจะไท่มำแบบยั้ย” 

 

” ดีแล้วๆ” 

 

ชานชรารอลูซิเฟอร์หลับและร้องเพลงเพื่อให้เขาหลับ

 

หลังจาตลูซิเฟอร์หลับไปแล้วชานชราต็ลุตขึ้ยและออตจาตห้องไป

 

เขาเข้าไปใยห้องโถงใหญ่ใยขณะมี่เขาถอยหานใจใยมี่สุด

 

” อน่างย้อนกอยยี้เขาต็สงบแล้วดีขึ้ยแล้วแก่ฉัยมำสิ่งมี่ถูตก้องด้วนตารโตหตหรือเปล่าเขาทีโอตาสมี่ดีมี่จะฟื้ยควาทมรงจำของเขาอีตใยอยาคกและเทื่อเขารู้ว่าฉัยโตหตเขาจะอารทณ์เสีนไหทหรือเขาจะเข้าใจไหทว่าเราโตหตเขาฉัยสงสันจริงๆ” กั้งแก่ฉัยโตหตเพื่อเขาเขาไท่ควรอารทณ์เสีนขยาดยั้ยไท่ว่าใยตรณีใดหาตไท่ทีควาทมรงจำของเขาเขาจะรู้สึตดีตว่าอนู่ร่วทตับคยมี่เขาคิดว่าเป็ยครอบครัวทาตตว่าตารอนู่ตับคยแปลตหย้า” ” ตารบอตควาทจริงกอยยี้ไท่ทีประโนชย์อะไรเขาไท่รู้อะไรเลนเขาไท่รู้ด้วนซ้ำว่าเขาทาจาตไหยฉัยหาบ้ายเขาไท่เจอด้วนซ้ำ” ชานคยยั้ยพึทพำขณะออตจาตบ้ายเขานังคงพนานาทมี่จะพิสูจย์ตารกัดสิยใจของเขา

 

มัยมีมี่เขาต้าวออตทาเขาทองไปไตลๆเพื่อดูเพื่อยบ้ายมั้งหทดนืยคุนตัยเป็ยตลุ่ท

 

” คยพวตยี้พวตเขาคิดว่าฉัยเป็ยอาชญาตรมี่จะลัตพากัวเด็ตจริงๆเหรอ? ” ชานชราตลอตกาขณะมี่เขาเริ่ทเดิยไปหาผู้คย

 

” เจ้าคิดทาตไปม่ายปู่จะไท่ลัตพากัวเด็ตอน่าคิดอน่างยั้ย” คุณไท่แย่ใจคุณเห็ยไหทเด็ตชานดูเหทือยหทดสกิและมัยมีมี่เขากื่ยขึ้ยคุณปู่จี้ต็พาเขาเข้าไปข้างใยเขาทีบางอน่างซ่อยอนู่อน่างแย่ยอย” ” ฉัยปิดบังอะไรอนู่” เทื่อได้นิยคำพูดยี้คุณปู่จี้ต็อดไท่ได้มี่จะพูดแมรต

 

เทื่อได้นิยเสีนงของเขามุตคยต็หัยไปทองเขา

 

” อ๊ะคุณปู่ไท่ใช่ว่าเราสงสันคุณแก่เราแค่อนาตรู้เด็ตมี่คุณพาทาด้วนเป็ยใคร” ” ฉัยทามี่ยี่เพื่อคุนตับคุณเรื่องยั้ยด้วนฉัยพบเด็ตชานจทย้ำกานใยมะเลฉัยช่วนเขาและพาเขาทามี่ยี่คุณปู่ จี้กอบ

 

” อ่ายั่ยแหละคือเหกุผลมี่เขาไอทาตเติยไปสิยะ” ชานวันตลางคยตล่าวขณะมี่เขาปรบทือมัยมี

 

” ถ้าเป็ยอน่างยั้ยจริงคุณจะไท่รังเตีนจมี่เราจะคุนตับเขาใช่ไหท” ผู้หญิงคยหยึ่งถาทขึ้ยด้วนควาทสงสัน

 

” ไท่เลนแก่คุณก้องรู้สิ่งหยึ่งต่อยเด็ตคยยั้ยฉัยเพิ่งคุนตับเขาข้างใยดูเหทือยว่าเขาจะสูญเสีนควาทมรงจำของเขาไปเพราะควาทบอบช้ำยี้เพราะจำอะไรไท่ได้เลนดูเหทือยว่าเขาจะระเบิดอารทณ์ออตทาฉัยเลนโตหตเขาสัตหย่อนชานชราอธิบานพลางถอยหานใจ

 

” เขาสูญเสีนควาทมรงจำเยื่องจาตตารจทย้ำฉัยได้นิยเรื่องแบบยั้ยเติดขึ้ยแก่คุณหทานควาทว่าอน่างไรคุณโตหตอะไรเขาเหรอ” หญิงคยหยึ่งถาทอีตครั้ง

 

” ฉัยบอตเขาว่ายี่คือบ้ายของเขาและเขาทาจาตมี่ยี่ฉัยนังบอตเขาด้วนว่าฉัยเป็ยปู่ของเขาใยเวลายั้ยเองยั่ยเป็ยมางเลือตมี่ดีมี่สุดมี่จะป้องตัยไท่ให้เขาเสีนสกิ” ” ด้วนควาทพนานาทและตารโตหตฉัยมำให้เขาสงบลงอน่าบอตควาทจริงตับเขาทัยจะช่วนได้ถ้าคยของคุณปิดเรื่องพวตยั้ยไว้” คุณปู่บอตตับมุตคยเขานังจับทือของเขา” จัดตารมุตอน่างกาทคำขอยะ” ยี่? คุณโตหตเด็ตมี่สูญเสีนควาทมรงจำของเขาหรือคุณบ้าไปแล้วเหรอคุณรู้หรือไท่ว่าเขาจะกอบสยองอน่างไรเทื่อกำรวจพาเขาไปแล้วคุณจะบอตเขาว่าอน่างไร” หญิงคยยึงถาทพลางหรี่กาลง

 

แท้ว่าเธอจะเชื่อสิ่งมี่ชานชราพูดแก่เธอต็นังรู้สึตว่าสิ่งยี้โง่มี่จะมำ” กำรวจจะพาเขาไปมำไท? ” คุณปู่จถาทพลางขทวดคิ้ว

 

หญิงสาวสูดหานใจเข้าลึตๆขณะมี่เธอถอยหานใจ” คุณปู่คุณไท่รู้จริงๆหรือคุณไท่ใช่คุณปู่มี่แม้จริงของเขาเขาก้องทีครอบครัวของกัวเองอนู่มี่ไหยสัตแห่งมี่เป็ยห่วงเขากำรวจจะช่วนเขาให้ตลับบ้ายโดนมี่ไท่พาเขาไปได้อน่างไร” ” นังไงกำรวจต็ช่วนเขาไท่ได้เพราะเด็ตไท่ได้ทาจาตเตาะยี้” ชานชรากอบพร้อทส่านหัว

 

” เขาไท่ได้ทาจาตเตาะยี้เหรอ? ” มุตคยอุมายด้วนควาทกตใจ

 

” เขาทาจาตไหย” ” กอยมี่ฉัยตำลังว่านย้ำฉัยพบว่าเขาตำลังจทย้ำใยขณะยั้ยฉัยอนู่ไตลจาตมี่ยี่อัยมี่จริงฉัยอนู่ใตล้มวีปเอสมีทาตตว่าจาตมี่ยี่” ชานชรากอบ

 

” ดังยั้ยเขาอาจจะทาจาตมี่ใดต็ได้ใยมวีปเอสมีมี่ทีหลานประเมศทัยเป็ยไปไท่ได้สำหรับเขามี่จะตลับไปมี่บ้ายของเขาเช่ยตัยโดนปราศจาตควาทมรงจำของเขาดังยั้ยกำรวจของเราไท่สาทารถช่วนเขาได้” 

 

” ยอตจาตยี้ฉัยคิดว่าเขาจะไท่ปลอดภันมี่ยั่ยเช่ยตัยฉัยหทานถึงเด็ตจทย้ำและไท่ทีใครอนู่ใตล้ฉัยคิดว่าทีคยโนยเขาลงมะเลโดนกั้งใจจะฆ่าเขาเขาจะไท่ปลอดภันมี่ยั่ย” ชานชราพูดอน่างเคร่งขรึท

 

” เขาทาจาตก่างมวีป? และคุณก้องตารให้เขาอนู่ตับคุณกลอดไปโดนไท่รู้ควาทจริง? ” ผู้หญิงคยยั้ยถาทขณะมี่เธอจ้องทองไปมี่ชานชรา

 

” ถูตก้องฉัยคิดว่ายี่เป็ยมางเลือตมี่ดีมี่สุดฉัยไท่ทีครอบครัวเขาไท่ทีครอบครัวเขาก้องตารควาทช่วนเหลือจาตฉัยยี่เป็ยมางเลือตมี่ดีมี่สุด” 

 

” นิ่งตว่ายั้ยเขาจะไท่ก้องใช้ชีวิกเป็ยเด็ตตำพร้าด้วนคำโตหตของเราเขาจะทีครอบครัวได้อีตครั้งฉัยจึงขอร้องเธอได้โปรดอน่าบอตควาทจริงตับเขาแล้วให้ฉัยดูแลเขาเอง! ” ชานชรานืยตราย

 

ตอนที่ 184: อเล็กซ์ แค่ก! แค่ก! ลูซิเฟอร์ซึ่งยังคงอยู่ในอ้อมแขนของชายชราเริ่มไออย่างหนักเมื่อเปลือกตาของเขาสั่นไหว เขายังมีชีวิตอยู่? เขายังมีชีวิตอยู่จริงหรือ? นี่เป็นปาฏิหาริย์” ชายชราคิดขณะจ้องไปที่ลูซิเฟอร์อย่างตกตะลึง ” คุณปู่คุณยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าเด็กคนนี้เป็นใคร” ชายวัยกลางคนถามชายชราอีกครั้งซึ่งดูเหมือนจะสนใจที่อื่น ชายชราเริ่มเดินไปที่บ้านของเขาโดยไม่คิดถึง2ครั้ง” ฉันจะบอกคุณในตอนเย็นโปรดให้ความเป็นส่วนตัวกับฉันตอนนี้ฉันต้องปฐมพยาบาลเขา” ชายชราเปิดประตูบ้านและรีบก้าวเข้าไปข้างในก่อนจะปิดประตูลูซิเฟอร์ค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อชายชราเข้ามาในบ้านของเขา เขายังคงอยู่ในอ้อมแขนของชายชราขณะที่เขามองดูชายชราด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น ” คุณคือใคร? ” ลูซิเฟอร์ถามชายชราอย่างสับสน ชายชราเห็นมือของลูซิเฟอร์เคลื่อนไปที่หน้าอกของเขากังวลเกี่ยวกับการสัมผัสของเขาเขาวางลูซิเฟอร์ลงบนพื้นอย่างรวดเร็วก่อนจะก้าวถอยหลัง ” ฉันเป็นคนช่วยชีวิตคุณ” ชายชราตอบลูซิเฟอร์ซึ่งยืนอยู่บนพื้นมองไปรอบๆ ” คุณช่วยชีวิตฉันไว้จากใครฉันอยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่ชายคนนั้นพูด เขารู้สึกได้ว่าปวดหัวมากราวกับว่ามีใครบางคนกำลังตีกลองอยู่ในหัวของเขา เหมือนกับการตีกลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาพยายามจำสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เขาจำอะไรไม่ได้ ” คุณจำไม่ได้ว่าคุณลงเอยไปที่ทะเลได้อย่างไรงั้นเหรอ” ชายชราถามลูซิเฟอร์ ” ฉันจำอะไรไม่ได้เลยฉันเป็นใครฉันเป็นอะไร” ลูซิเฟอร์ถามอย่างบ้าคลั่งขณะที่ดวงตาของเขามองไปยังสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย คิดเท่าไหร่ก็จำอะไรไม่ได้ทุกช่วงเวลาในชีวิตของเขาก่อนช่วงเวลานี้ดูเหมือนจะว่างเปล่า ” คุณจำชื่อของคุณไม่ได้เหมือนกันหรือ” ชายชราถามพลางขมวดคิ้ว อาการปวดหัวดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมากจนลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมาดังๆ ” มันเจ็บมากโอ้ย! ” เขาตะโกนขณะที่เขาจับหัวแน่น อาการปวดหัวของลูซิเฟอร์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้เขาอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงในขณะที่เขาจับศีรษะที่ปวดอย่างรุนแรง เมื่อเห็นลูซิเฟอร์เจ็บปวดมากชายชราก็ถอนหายใจเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ดูเหมือนว่าการตายไปนานแล้วส่งผลต่อศีรษะของลูซิเฟอร์แม้ว่าเขาจะฟื้นคืนชีพแม้กระทั่งตอนนี้ความทรงจำของเขาดูเหมือนจะหายไป ดูเหมือนว่าความทรงจำของเขาจะหายไปมันไม่ดีแน่ๆเพราะเขาจำอะไรไม่ได้ฉันต้องทำให้เขาสงบลงมิฉะนั้นถ้าเขาสูญเสียการควบคุมเขาอาจจะทำลายบ้านด้วยพลังของเขา” ชายชราคิดขณะค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ เขาได้ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนเหตุผลเดียวที่ลูซิเฟอร์กังวลมากคือเพราะเขาจำอะไรไม่ได้เขาจำเป็นต้องให้บางอย่างแก่เขาเพื่อที่เขาจะได้ใจเย็นลงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของปลอมก็ตาม ” ฟังนะอเล็กซ์! ใจเย็นๆคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดเลยคุณอยู่ในบ้านของตัวเองแล้ว” ชายชราบอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขาก้าวเข้ามาใกล้แม้ว่าเขาจะกังวลว่าลูซิเฟอร์จะแตะต้องเขาเขาก็เสี่ยง ” อเล็กซ์นั่นชื่อฉันเหรอ? ” ลูซิเฟอร์ถามขณะที่เขาค่อยๆเงยศีรษะขึ้นสามารถเห็นน้ำตาบนใบหน้าของเขาไหลลงมาช้าๆ ” ใช่แล้วคุณชื่ออเล็กซ์ชื่อเต็มของคุณคืออเล็กซานเดอร์แต่ฉันเรียกคุณว่าอเล็กซ์ด้วยความรักชายชราตอบขณะลูบหัวของลูซิเฟอร์ ” เอาล่ะอเล็กซ์อย่าไปกังวลกับสิ่งใดฉันคิดว่าคุณสูญเสียความทรงจำในอุบัติเหตุแต่คุณไม่จำเป็นต้องเครียดฉันจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นมันเหมือนกับว่าคุณไม่เคยสูญเสียอะไรเลยเชื่อปู่ของเจ้าเถอะ” ชายชรากล่าวต่อไป ” เชื่อปู่งั้นเหรอ? คุณเป็นปู่ของฉันเหรอลูซิเฟอร์ถามขณะที่สายตาอยากรู้อยากเห็นของเขามองไปยังชายชรา เส้นประสาทที่ศีรษะของเขายังคงมองเห็นได้ในขณะที่ศีรษะของเขายังคงปวดเมื่อยแม้จะเลวร้ายก็ตามแต่หัวใจของเขาก็สงบลง ” ใช่แล้วอเล็กซ์ฉันเป็นปู่ของคุณลุกขึ้นแล้วมากับฉันที่ห้องนอนฉันจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้น” คุณปู่บอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขาหยุดลูบหัว เขายื่นมือออกมาอย่างระมัดระวังและเช็ดน้ำตาของลูซิเฟอร์ก่อนจะก้าวถอยหลัง ลูซิเฟอร์ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาชอบรูปลักษณ์ที่จริงใจและอ่อนโยนบนใบหน้าของชายชราราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขาใฝ่หา เขาสับสนความปรารถนานี้กับสิ่งที่แตกต่างออกไปเขาคิดว่าเขารู้สึกแบบนี้เพราะว่าชายคนนั้นเป็นปู่ของเขาจริงๆขณะที่เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน ” นี่สวมนี่ก่อน” ชายชรามอบถุงมือสีดำให้ลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์ไม่ได้ถามคำถามอะไรมากมายขณะสวมถุงมือ ” ดีขึ้นแล้วมาเถอะฉันจะพาคุณไปดูห้องนอนของคุณ ชายชราพาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องนอนของตัวเองซึ่งมีเตียงที่ใหญ่พอสำหรับคนเดียว ” นอนลงบนเตียงและให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟังเรื่องราวของฉัน” ชายชราสั่งลูซิเฟอร์ขณะเข้าไปในห้องนอน ลูซิเฟอร์ทำตามที่บอกและนอนลงบนเตียง ” ฉันชื่อชิเอนอาลาริกแต่คุณเรียกฉันว่าปู่จี้ก็ได้” ชายชราบอกกับลูซิเฟอร์ก่อนเขาจะยิ้ม ” คุณปู่จี้” ลูซิเฟอร์พึมพำ” ใช่แล้วหลานชายที่โง่เขลาของฉันทำไมเธอต้องไปทะเลเวลาแบบนี้ฉันเตือนคุณหลายครั้งแล้วแต่คุณยังไม่ฟังอีกแล้วใช่ไหมคุณไปที่นั่นอีกแล้ว! ” รู้ไหมถ้าข้าไม่รู้เรื่องนี้เจ้าคงจมน้ำตายเจ้าทำให้ปู่ของเจ้ากังวลมาก” ชายชรากล่าวเปลี่ยนเรื่องเล็กน้อย เนื่องจากเขาต้องการให้ลูซิเฟอร์สงบลงเขารู้ว่าเขาไม่เพียงต้องมอบความทรงจำให้ลูซิเฟอร์เท่านั้นแต่เขายังต้องการสร้างครอบครัวให้เขาด้วยและเขาตัดสินใจที่จะเป็นครอบครัวนั้น เขาสงสารลูซิเฟอร์แต่เขาก็ชอบเด็กน้อยผู้นี้เช่นกัน ” ถ้าลูกชายของฉันและลูกสะใภ้ของฉันไม่ได้ตายไปเมื่อหลายปีก่อนพวกเขาอาจมีลูกชายที่อายุพอๆกันนี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าหรือ? ฉันกลายเป็นครอบครัวของเขาและเขากลายเป็นของฉัน? ฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? มันไม่สำคัญนี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นเขาคิดขณะกำหมัดแน่น

ตอนที่ 184: อเล็กซ์

แค่ก! แค่ก!

ลูซิเฟอร์ซึ่งยังคงอยู่ในอ้อมแขนของชายชราเริ่มไออย่างหนักเมื่อเปลือกตาของเขาสั่นไหว

เขายังมีชีวิตอยู่? เขายังมีชีวิตอยู่จริงหรือ? นี่เป็นปาฏิหาริย์” ชายชราคิดขณะจ้องไปที่ลูซิเฟอร์อย่างตกตะลึง

” คุณปู่คุณยังไม่ได้บอกเราเลยนะว่าเด็กคนนี้เป็นใคร” ชายวัยกลางคนถามชายชราอีกครั้งซึ่งดูเหมือนจะสนใจที่อื่น

ชายชราเริ่มเดินไปที่บ้านของเขาโดยไม่คิดถึง2ครั้ง” ฉันจะบอกคุณในตอนเย็นโปรดให้ความเป็นส่วนตัวกับฉันตอนนี้ฉันต้องปฐมพยาบาลเขา”

ชายชราเปิดประตูบ้านและรีบก้าวเข้าไปข้างในก่อนจะปิดประตูลูซิเฟอร์ค่อยๆลืมตาขึ้นเมื่อชายชราเข้ามาในบ้านของเขา

เขายังคงอยู่ในอ้อมแขนของชายชราขณะที่เขามองดูชายชราด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น

” คุณคือใคร? ” ลูซิเฟอร์ถามชายชราอย่างสับสน

ชายชราเห็นมือของลูซิเฟอร์เคลื่อนไปที่หน้าอกของเขากังวลเกี่ยวกับการสัมผัสของเขาเขาวางลูซิเฟอร์ลงบนพื้นอย่างรวดเร็วก่อนจะก้าวถอยหลัง

” ฉันเป็นคนช่วยชีวิตคุณ”

ชายชราตอบลูซิเฟอร์ซึ่งยืนอยู่บนพื้นมองไปรอบๆ

” คุณช่วยชีวิตฉันไว้จากใครฉันอยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามอย่างไม่เข้าใจสิ่งที่ชายคนนั้นพูด

เขารู้สึกได้ว่าปวดหัวมากราวกับว่ามีใครบางคนกำลังตีกลองอยู่ในหัวของเขา

เหมือนกับการตีกลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาพยายามจำสิ่งที่เกิดขึ้นแต่เขาจำอะไรไม่ได้

” คุณจำไม่ได้ว่าคุณลงเอยไปที่ทะเลได้อย่างไรงั้นเหรอ” ชายชราถามลูซิเฟอร์

” ฉันจำอะไรไม่ได้เลยฉันเป็นใครฉันเป็นอะไร” ลูซิเฟอร์ถามอย่างบ้าคลั่งขณะที่ดวงตาของเขามองไปยังสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

คิดเท่าไหร่ก็จำอะไรไม่ได้ทุกช่วงเวลาในชีวิตของเขาก่อนช่วงเวลานี้ดูเหมือนจะว่างเปล่า

” คุณจำชื่อของคุณไม่ได้เหมือนกันหรือ” ชายชราถามพลางขมวดคิ้ว

อาการปวดหัวดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมากจนลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมาดังๆ

” มันเจ็บมากโอ้ย! ” เขาตะโกนขณะที่เขาจับหัวแน่น

อาการปวดหัวของลูซิเฟอร์ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้เขาอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลงในขณะที่เขาจับศีรษะที่ปวดอย่างรุนแรง

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์เจ็บปวดมากชายชราก็ถอนหายใจเขาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

ดูเหมือนว่าการตายไปนานแล้วส่งผลต่อศีรษะของลูซิเฟอร์แม้ว่าเขาจะฟื้นคืนชีพแม้กระทั่งตอนนี้ความทรงจำของเขาดูเหมือนจะหายไป

ดูเหมือนว่าความทรงจำของเขาจะหายไปมันไม่ดีแน่ๆเพราะเขาจำอะไรไม่ได้ฉันต้องทำให้เขาสงบลงมิฉะนั้นถ้าเขาสูญเสียการควบคุมเขาอาจจะทำลายบ้านด้วยพลังของเขา” ชายชราคิดขณะค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้

เขาได้ตัดสินใจเกี่ยวกับแผนเหตุผลเดียวที่ลูซิเฟอร์กังวลมากคือเพราะเขาจำอะไรไม่ได้เขาจำเป็นต้องให้บางอย่างแก่เขาเพื่อที่เขาจะได้ใจเย็นลงแม้ว่าสิ่งนั้นจะเป็นของปลอมก็ตาม

” ฟังนะอเล็กซ์! ใจเย็นๆคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องใดเลยคุณอยู่ในบ้านของตัวเองแล้ว” ชายชราบอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขาก้าวเข้ามาใกล้แม้ว่าเขาจะกังวลว่าลูซิเฟอร์จะแตะต้องเขาเขาก็เสี่ยง

” อเล็กซ์นั่นชื่อฉันเหรอ? ” ลูซิเฟอร์ถามขณะที่เขาค่อยๆเงยศีรษะขึ้นสามารถเห็นน้ำตาบนใบหน้าของเขาไหลลงมาช้าๆ

” ใช่แล้วคุณชื่ออเล็กซ์ชื่อเต็มของคุณคืออเล็กซานเดอร์แต่ฉันเรียกคุณว่าอเล็กซ์ด้วยความรักชายชราตอบขณะลูบหัวของลูซิเฟอร์

” เอาล่ะอเล็กซ์อย่าไปกังวลกับสิ่งใดฉันคิดว่าคุณสูญเสียความทรงจำในอุบัติเหตุแต่คุณไม่จำเป็นต้องเครียดฉันจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้นมันเหมือนกับว่าคุณไม่เคยสูญเสียอะไรเลยเชื่อปู่ของเจ้าเถอะ” ชายชรากล่าวต่อไป

” เชื่อปู่งั้นเหรอ? คุณเป็นปู่ของฉันเหรอลูซิเฟอร์ถามขณะที่สายตาอยากรู้อยากเห็นของเขามองไปยังชายชรา

เส้นประสาทที่ศีรษะของเขายังคงมองเห็นได้ในขณะที่ศีรษะของเขายังคงปวดเมื่อยแม้จะเลวร้ายก็ตามแต่หัวใจของเขาก็สงบลง

” ใช่แล้วอเล็กซ์ฉันเป็นปู่ของคุณลุกขึ้นแล้วมากับฉันที่ห้องนอนฉันจะบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้น” คุณปู่บอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขาหยุดลูบหัว

เขายื่นมือออกมาอย่างระมัดระวังและเช็ดน้ำตาของลูซิเฟอร์ก่อนจะก้าวถอยหลัง

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาชอบรูปลักษณ์ที่จริงใจและอ่อนโยนบนใบหน้าของชายชราราวกับว่านี่คือสิ่งที่เขาใฝ่หา

เขาสับสนความปรารถนานี้กับสิ่งที่แตกต่างออกไปเขาคิดว่าเขารู้สึกแบบนี้เพราะว่าชายคนนั้นเป็นปู่ของเขาจริงๆขณะที่เขาค่อยๆลุกขึ้นยืน

” นี่สวมนี่ก่อน” ชายชรามอบถุงมือสีดำให้ลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ถามคำถามอะไรมากมายขณะสวมถุงมือ

” ดีขึ้นแล้วมาเถอะฉันจะพาคุณไปดูห้องนอนของคุณ

ชายชราพาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องนอนของตัวเองซึ่งมีเตียงที่ใหญ่พอสำหรับคนเดียว

” นอนลงบนเตียงและให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟังเรื่องราวของฉัน” ชายชราสั่งลูซิเฟอร์ขณะเข้าไปในห้องนอน

ลูซิเฟอร์ทำตามที่บอกและนอนลงบนเตียง

” ฉันชื่อชิเอนอาลาริกแต่คุณเรียกฉันว่าปู่จี้ก็ได้” ชายชราบอกกับลูซิเฟอร์ก่อนเขาจะยิ้ม

” คุณปู่จี้” ลูซิเฟอร์พึมพำ” ใช่แล้วหลานชายที่โง่เขลาของฉันทำไมเธอต้องไปทะเลเวลาแบบนี้ฉันเตือนคุณหลายครั้งแล้วแต่คุณยังไม่ฟังอีกแล้วใช่ไหมคุณไปที่นั่นอีกแล้ว! ” รู้ไหมถ้าข้าไม่รู้เรื่องนี้เจ้าคงจมน้ำตายเจ้าทำให้ปู่ของเจ้ากังวลมาก” ชายชรากล่าวเปลี่ยนเรื่องเล็กน้อย

เนื่องจากเขาต้องการให้ลูซิเฟอร์สงบลงเขารู้ว่าเขาไม่เพียงต้องมอบความทรงจำให้ลูซิเฟอร์เท่านั้นแต่เขายังต้องการสร้างครอบครัวให้เขาด้วยและเขาตัดสินใจที่จะเป็นครอบครัวนั้น

เขาสงสารลูซิเฟอร์แต่เขาก็ชอบเด็กน้อยผู้นี้เช่นกัน

” ถ้าลูกชายของฉันและลูกสะใภ้ของฉันไม่ได้ตายไปเมื่อหลายปีก่อนพวกเขาอาจมีลูกชายที่อายุพอๆกันนี่คือพระประสงค์ของพระเจ้าหรือ? ฉันกลายเป็นครอบครัวของเขาและเขากลายเป็นของฉัน? ฉันทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่? มันไม่สำคัญนี่คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นเขาคิดขณะกำหมัดแน่น

ตอนที่ 183: ตื่นขึ้นมา ชายชรานั่งลงอีกครั้งเหนื่อยและผิดหวังกับความล้มเหลว ” ฉันควรพาเขากลับไปและจัดการฝังศพเขา” ชายคนนั้นพูดหลังจากที่เขาพักผ่อนได้เล็กน้อย” เสียเวลามามากพอแล้ว” เขาดันร่างของเขาขึ้นในขณะที่เขายืนขึ้นก่อนจะเข้าใกล้ลูซิเฟอร์อีกครั้ง ” เดี๋ยวก่อนถ้าเขาอยู่ในโลงศพโลงศพจะไม่ถูกทำลายด้วยเหรอ? แม้ว่าหลังจากการตายของเขาความสามารถของเขาก็ยังใช้ได้ฉันสงสัยว่าความสามารถของเขาทำงานด้วยตัวเองหรือเปล่าถ้าไม่อย่างนั้นฉันไม่สามารถวางใจได้เลย” ชายคนนั้นพึมพำขณะทดสอบทฤษฎีนี้ เขาขยับมือของลูซิเฟอร์และวางไว้บนหน้าอกของเขาขณะที่สังเกตอย่างระมัดระวัง ” วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเขา” เขาสังเกตขณะพยักหน้า” แล้วเสื้อผ้าของเขาล่ะ” ชายคนนั้นขยับมืออีกครั้งขณะที่ทำให้ลูซิเฟอร์สัมผัสเสื้อของเขาซึ่งเริ่มเน่าเปื่อย ” ดังนั้นสิ่งนี้จึงใช้ได้กับทุกสิ่งตราบใดที่เขาสัมผัสด้วยมือยกเว้นเพียงร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา” ชายคนนั้นโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่ออุ้มลูซิเฟอร์ขึ้นแต่เขาก็ต้องหยุดกะทันหัน ” ใช่ฉันไม่ได้เช็คด้วยว่าเขามีบัตรประจำตัวหรือเปล่าฉันมันงี่เง่าบางทีเขาอาจมีหมายเลขครอบครัวหรือที่อยู่ของเขา” ด้วยความคิดนั้นชายชราก็เริ่มค้นหาเขาตรวจกระเป๋าที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตของลูซิเฟอร์ก่อนแต่เขาไม่พบอะไรเลย ถัดไปเขาย้ายไปที่กระเป๋ากางเกงของเขา ” หมอนี่อะไรน่ะ? ” เมื่อเขาตรวจสอบกระเป๋าของลูซิเฟอร์เขาพบบางอย่างในกระเป๋าแต่ละใบของเขา ” ถุงมือ? ” เขาวางถุงมือไว้ด้านข้างก่อนที่จะค้นหาเพิ่มเติมและหลังจากแน่ใจว่าลูซิเฟอร์ไม่มีอะไรอยู่ในกระเป๋าแล้วเขาก็นั่งลงคิดเขาเริ่มสังเกตถุงมือด้วย ” ด้วยพลังของเขาเขาไม่สามารถสัมผัสอะไรได้โดยไม่ทำลายมันแล้วทำไมเขาถึงมีถุงมือยิ่งกว่านั้นสิ่งเหล่านี้ดูไม่เหมือนถุงมือธรรมดาด้วยถ้าเขาสามารถสวมใส่ได้เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากความสามารถของเขาเหรอ? ” ชายชราพึมพำพลางขมวดคิ้ว เขาวางถุงมือลงบนพื้นก่อนที่จะวางมือของลูซิเฟอร์เหนือถุงมือเพื่อทดสอบทฤษฎีของเขาแม้ว่ามือของลูซิเฟอร์จะสัมผัสถุงมือแต่ถุงมือก็ไม่ถูกทำลายอย่าว่าแต่จะถูกทำลายเลยพวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย ” นี่…ฉันพูดถูกถุงมือพวกนี้น่าจะทำมาจากสิ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความสามารถของเขาดีมาก” ” ฉันจะทำให้เขาสวมใส่มันได้อย่างไรฉันไม่สามารถสัมผัสฝ่ามือหรือนิ้วของเขาได้มิฉะนั้นฉันจะได้รับผลกระทบจากความสามารถของเขาด้วยสิ่งนี้ซับซ้อน” ชายคนนั้นตกอยู่ในห้วงความคิดลึกๆขณะที่เขาสงสัยว่าเขาจะทำให้ลูซิเฟอร์สวมถุงมือได้อย่างไรโดยไม่แตะต้องนิ้วแต่นั้นดูท้าทาย ” ฉันคงทำไม่ได้ฉันคงต้องใช้แผนเดิมฉันจะวางมือบนหน้าอกของเขา” ชายหนุ่มพึมพำขณะหยิบลูซิเฟอร์ขึ้นและเริ่มอุ้มเขาอย่างระมัดระวังขณะที่เดินไปที่หมู่บ้าน เขาไม่กังวลว่าจะมีใครเห็นเขาตายเพราะไม่ใช่เขาที่ฆ่าเด็กไม่มีบาดแผลบนตัวเด็กชายเช่นกันดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้ว่าเขาพบร่างของเด็กชายคนนี้เมื่อเขาลงไปในทะเลเด็กชายคนนั้นจมน้ำตาย ทั้งหมดที่เขาต้องการคือการบอกความจริงในขณะที่เปลี่ยนเรื่องราวการฆาตกรรมของเด็กน้อยเพราะถ้าพูดถึงการฆาตกรรมคนจะถามว่าทำไมไม่มีบาดแผล
เขาไม่สามารถบอกพวกเขาได้ว่าเด็กชายรักษาร่างกายของเขาด้วยความสามารถของเขาหลังจากการตายของเขานั่นจะไม่ใช่แค่ฟังดูบ้าแต่ก็อันตรายเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นถ้าข่าวนี้แพร่กระจายไปยังเมืองใหญ่หลายคนคงมาจับตัวลูซิเฟอร์ไปทดสอบเขา ศพของเขาจะไม่มีวันพบกับความสงบสุขนั่นไม่ใช่สิ่งที่ชายชราต้องการดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโกหกทั้งหมดเพื่อให้ลูซิเฟอร์สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบโดยที่ร่างกายของเขาไม่เป็นมลทินโดยนักวิทยาศาสตร์ หมู่บ้านของชายผู้นี้อยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนักแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังต้องหยุดพักและพักระหว่างที่เขากำลังอุ้มเด็กผู้ชายคนหนึ่งเขาเริ่มเหนื่อยมากขึ้น ” เดือนกว่าแล้วแต่ชายชรายังไม่กลับมาคิดว่าเขาตายแล้วงั้นเหรอ? ” ” ใครจะสนลาก่อน” ” อย่าพูดอย่างนั้นให้เกียรติเขาเขาเป็นพี่ของเรา” ” พี่อะไรเขามักจะดุฉันทุกครั้งที่ฉันออกไปเล่นนอกบ้านเขาเป็นคนแก่ที่หยาบคาย” ” ไม่ใช่อย่างนั้นคุณรู้ไหมเพราะภรรยาและลูกๆของเขาเสียชีวิตเนื่องจากการจมน้ำตั้งแต่นั้นมาเขาก็สนิทกับคุณอย่างมากยิ่งกว่านั้นคุณมักจะออกไปเล่นนอกบ้านของเขาเมื่อเขาอธิษฐานขอให้ชีวิตหลังความตายของครอบครัวเขาสงบสุขแน่นอนเขาจะโกรธ” ” หืมหุบปาก! หยุดเข้าข้างเขา! ” หมู่บ้านของชายชราค่อนข้างเงียบเนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในบ้านของพวกเขามีเด็กเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเห็นนั่งข้างนอกใกล้บ้านของชายชราพูดถึงเขา ” เดี๋ยวก่อน! ดูนั่นสิ! คุณปู่! เขากลับมาแล้ว! แต่เขาพาใครไปด้วย? ดูเหมือนเด็กๆ? แต่เขาไม่ขยับเหรอ? ” ” คุณปู่ลักพาตัวเด็กไปหรือเปล่ามาเรียกพ่อแม่ของพวกเรากันเถอะ! ” เมื่อเห็นชายชรากลับมาแต่ไกลเด็กๆทุกคนก็เริ่มวิ่งกลับบ้านขณะที่พวกเขาบอกผู้อาวุโสว่าชายชรากลับมาแล้วและไม่ได้อยู่คนเดียว เมื่อได้ยินข่าวพวกผู้ใหญ่ก็ก้าวออกจากบ้านเมื่อชายชราก้าวเข้ามาใกล้บ้านของเขา ” คุณปู่เดี๋ยวก่อน! ” เสียงลูกผู้ชายดังมาจากข้างหลังชายชรา ชายชราหันกลับมามองชายวัยกลางคนที่เป็นเพื่อนบ้านของเขา ” ครับคุณซู” เขาถามสับสน” คุณต้องการอะไรไหม” ” ใครคือเด็กในอ้อมแขนของคุณแล้วคุณพาเขามาจากไหน” ชายที่รู้จักกันในชื่อซูถาม
” เขา? ฉันไม่รู้ชื่อเขาโชคไม่ดีสำหรับตัวตนของเขานั่นเป็นปริศนาสำหรับฉันเช่นกันแล้วฉันพาเขามาจากไหนนั่นเป็นคำถามเดียวที่ฉันสามารถตอบได้ฉันพาเขามาจากทะเล” ชายชราตอบ ” มาจากทะเลหมายความว่ายังไงพ่อแม่ของเขาอยู่ที่ไหน” ซูถามอีกครั้ง
” ฉันไม่รู้ฉันพบเด็กชายที่กันทะ-” แค่ก! แค่ก! ชายชราเริ่มตอบแต่ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคเขาก็ได้ยินเสียงไอของใครบางคนดังขึ้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดเมื่อรู้ว่ามีเสียงไอมาจากใกล้ๆตัวเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ” เด็กผู้ชายคนนั้น? เขายังมีชีวิตอยู่? การรักษาของเขาได้ผลจริงหรือ? ด้วยความตกใจชายชราจึงหยุดพูดขณะที่มองกลับมาที่ลูซิเฟอร์

ตอนที่ 183: ตื่นขึ้นมา

ชายชรานั่งลงอีกครั้งเหนื่อยและผิดหวังกับความล้มเหลว

” ฉันควรพาเขากลับไปและจัดการฝังศพเขา” ชายคนนั้นพูดหลังจากที่เขาพักผ่อนได้เล็กน้อย” เสียเวลามามากพอแล้ว”

เขาดันร่างของเขาขึ้นในขณะที่เขายืนขึ้นก่อนจะเข้าใกล้ลูซิเฟอร์อีกครั้ง

” เดี๋ยวก่อนถ้าเขาอยู่ในโลงศพโลงศพจะไม่ถูกทำลายด้วยเหรอ? แม้ว่าหลังจากการตายของเขาความสามารถของเขาก็ยังใช้ได้ฉันสงสัยว่าความสามารถของเขาทำงานด้วยตัวเองหรือเปล่าถ้าไม่อย่างนั้นฉันไม่สามารถวางใจได้เลย” ชายคนนั้นพึมพำขณะทดสอบทฤษฎีนี้

เขาขยับมือของลูซิเฟอร์และวางไว้บนหน้าอกของเขาขณะที่สังเกตอย่างระมัดระวัง

” วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลกับเขา” เขาสังเกตขณะพยักหน้า” แล้วเสื้อผ้าของเขาล่ะ”

ชายคนนั้นขยับมืออีกครั้งขณะที่ทำให้ลูซิเฟอร์สัมผัสเสื้อของเขาซึ่งเริ่มเน่าเปื่อย

” ดังนั้นสิ่งนี้จึงใช้ได้กับทุกสิ่งตราบใดที่เขาสัมผัสด้วยมือยกเว้นเพียงร่างกายที่เปลือยเปล่าของเขา”

ชายคนนั้นโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่ออุ้มลูซิเฟอร์ขึ้นแต่เขาก็ต้องหยุดกะทันหัน

” ใช่ฉันไม่ได้เช็คด้วยว่าเขามีบัตรประจำตัวหรือเปล่าฉันมันงี่เง่าบางทีเขาอาจมีหมายเลขครอบครัวหรือที่อยู่ของเขา”

ด้วยความคิดนั้นชายชราก็เริ่มค้นหาเขาตรวจกระเป๋าที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตของลูซิเฟอร์ก่อนแต่เขาไม่พบอะไรเลย

ถัดไปเขาย้ายไปที่กระเป๋ากางเกงของเขา

” หมอนี่อะไรน่ะ? ”

เมื่อเขาตรวจสอบกระเป๋าของลูซิเฟอร์เขาพบบางอย่างในกระเป๋าแต่ละใบของเขา

” ถุงมือ? ”

เขาวางถุงมือไว้ด้านข้างก่อนที่จะค้นหาเพิ่มเติมและหลังจากแน่ใจว่าลูซิเฟอร์ไม่มีอะไรอยู่ในกระเป๋าแล้วเขาก็นั่งลงคิดเขาเริ่มสังเกตถุงมือด้วย

” ด้วยพลังของเขาเขาไม่สามารถสัมผัสอะไรได้โดยไม่ทำลายมันแล้วทำไมเขาถึงมีถุงมือยิ่งกว่านั้นสิ่งเหล่านี้ดูไม่เหมือนถุงมือธรรมดาด้วยถ้าเขาสามารถสวมใส่ได้เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับผลกระทบจากความสามารถของเขาเหรอ? ” ชายชราพึมพำพลางขมวดคิ้ว

เขาวางถุงมือลงบนพื้นก่อนที่จะวางมือของลูซิเฟอร์เหนือถุงมือเพื่อทดสอบทฤษฎีของเขาแม้ว่ามือของลูซิเฟอร์จะสัมผัสถุงมือแต่ถุงมือก็ไม่ถูกทำลายอย่าว่าแต่จะถูกทำลายเลยพวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้รับความเสียหายแม้แต่น้อย

” นี่…ฉันพูดถูกถุงมือพวกนี้น่าจะทำมาจากสิ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความสามารถของเขาดีมาก”

” ฉันจะทำให้เขาสวมใส่มันได้อย่างไรฉันไม่สามารถสัมผัสฝ่ามือหรือนิ้วของเขาได้มิฉะนั้นฉันจะได้รับผลกระทบจากความสามารถของเขาด้วยสิ่งนี้ซับซ้อน”

ชายคนนั้นตกอยู่ในห้วงความคิดลึกๆขณะที่เขาสงสัยว่าเขาจะทำให้ลูซิเฟอร์สวมถุงมือได้อย่างไรโดยไม่แตะต้องนิ้วแต่นั้นดูท้าทาย

” ฉันคงทำไม่ได้ฉันคงต้องใช้แผนเดิมฉันจะวางมือบนหน้าอกของเขา” ชายหนุ่มพึมพำขณะหยิบลูซิเฟอร์ขึ้นและเริ่มอุ้มเขาอย่างระมัดระวังขณะที่เดินไปที่หมู่บ้าน

เขาไม่กังวลว่าจะมีใครเห็นเขาตายเพราะไม่ใช่เขาที่ฆ่าเด็กไม่มีบาดแผลบนตัวเด็กชายเช่นกันดังนั้นเขาจึงสามารถพูดได้ว่าเขาพบร่างของเด็กชายคนนี้เมื่อเขาลงไปในทะเลเด็กชายคนนั้นจมน้ำตาย

ทั้งหมดที่เขาต้องการคือการบอกความจริงในขณะที่เปลี่ยนเรื่องราวการฆาตกรรมของเด็กน้อยเพราะถ้าพูดถึงการฆาตกรรมคนจะถามว่าทำไมไม่มีบาดแผล
เขาไม่สามารถบอกพวกเขาได้ว่าเด็กชายรักษาร่างกายของเขาด้วยความสามารถของเขาหลังจากการตายของเขานั่นจะไม่ใช่แค่ฟังดูบ้าแต่ก็อันตรายเช่นกัน

ยิ่งกว่านั้นถ้าข่าวนี้แพร่กระจายไปยังเมืองใหญ่หลายคนคงมาจับตัวลูซิเฟอร์ไปทดสอบเขา

ศพของเขาจะไม่มีวันพบกับความสงบสุขนั่นไม่ใช่สิ่งที่ชายชราต้องการดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโกหกทั้งหมดเพื่อให้ลูซิเฟอร์สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบโดยที่ร่างกายของเขาไม่เป็นมลทินโดยนักวิทยาศาสตร์

หมู่บ้านของชายผู้นี้อยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนักแต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังต้องหยุดพักและพักระหว่างที่เขากำลังอุ้มเด็กผู้ชายคนหนึ่งเขาเริ่มเหนื่อยมากขึ้น

” เดือนกว่าแล้วแต่ชายชรายังไม่กลับมาคิดว่าเขาตายแล้วงั้นเหรอ? ”

” ใครจะสนลาก่อน”

” อย่าพูดอย่างนั้นให้เกียรติเขาเขาเป็นพี่ของเรา”

” พี่อะไรเขามักจะดุฉันทุกครั้งที่ฉันออกไปเล่นนอกบ้านเขาเป็นคนแก่ที่หยาบคาย”

” ไม่ใช่อย่างนั้นคุณรู้ไหมเพราะภรรยาและลูกๆของเขาเสียชีวิตเนื่องจากการจมน้ำตั้งแต่นั้นมาเขาก็สนิทกับคุณอย่างมากยิ่งกว่านั้นคุณมักจะออกไปเล่นนอกบ้านของเขาเมื่อเขาอธิษฐานขอให้ชีวิตหลังความตายของครอบครัวเขาสงบสุขแน่นอนเขาจะโกรธ”

” หืมหุบปาก! หยุดเข้าข้างเขา! ”

หมู่บ้านของชายชราค่อนข้างเงียบเนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในบ้านของพวกเขามีเด็กเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถเห็นนั่งข้างนอกใกล้บ้านของชายชราพูดถึงเขา

” เดี๋ยวก่อน! ดูนั่นสิ! คุณปู่! เขากลับมาแล้ว! แต่เขาพาใครไปด้วย? ดูเหมือนเด็กๆ? แต่เขาไม่ขยับเหรอ? ”

” คุณปู่ลักพาตัวเด็กไปหรือเปล่ามาเรียกพ่อแม่ของพวกเรากันเถอะ! ”

เมื่อเห็นชายชรากลับมาแต่ไกลเด็กๆทุกคนก็เริ่มวิ่งกลับบ้านขณะที่พวกเขาบอกผู้อาวุโสว่าชายชรากลับมาแล้วและไม่ได้อยู่คนเดียว

เมื่อได้ยินข่าวพวกผู้ใหญ่ก็ก้าวออกจากบ้านเมื่อชายชราก้าวเข้ามาใกล้บ้านของเขา

” คุณปู่เดี๋ยวก่อน! ”

เสียงลูกผู้ชายดังมาจากข้างหลังชายชรา

ชายชราหันกลับมามองชายวัยกลางคนที่เป็นเพื่อนบ้านของเขา

” ครับคุณซู” เขาถามสับสน” คุณต้องการอะไรไหม”

” ใครคือเด็กในอ้อมแขนของคุณแล้วคุณพาเขามาจากไหน” ชายที่รู้จักกันในชื่อซูถาม
” เขา? ฉันไม่รู้ชื่อเขาโชคไม่ดีสำหรับตัวตนของเขานั่นเป็นปริศนาสำหรับฉันเช่นกันแล้วฉันพาเขามาจากไหนนั่นเป็นคำถามเดียวที่ฉันสามารถตอบได้ฉันพาเขามาจากทะเล” ชายชราตอบ

” มาจากทะเลหมายความว่ายังไงพ่อแม่ของเขาอยู่ที่ไหน” ซูถามอีกครั้ง
” ฉันไม่รู้ฉันพบเด็กชายที่กันทะ-”

แค่ก! แค่ก!

ชายชราเริ่มตอบแต่ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคเขาก็ได้ยินเสียงไอของใครบางคนดังขึ้น

ใบหน้าของเขาซีดเผือดเมื่อรู้ว่ามีเสียงไอมาจากใกล้ๆตัวเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา

” เด็กผู้ชายคนนั้น? เขายังมีชีวิตอยู่? การรักษาของเขาได้ผลจริงหรือ? ด้วยความตกใจชายชราจึงหยุดพูดขณะที่มองกลับมาที่ลูซิเฟอร์

ตอนที่ 182: การกลับมาของพลังแห่งการเน่าเปื่อย

พวกเขาไม่เพียงแต่ฆ่าเขาแต่ยังทำให้เขาจมน้ำตายด้วย?เป็นเด็กตัวแค่นี้เองด้วยซ้ำไม่ใช่ผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งเลยงั้นหรือที่จะต่อต้านเด็กน้อยผู้น่าสงสารเขาไม่ได้รับการฝังศพที่ถูกต้องด้วยซ้ำจิตวิญญาณของเขาคงไม่ได้พบกับความสงบสุขเลยชายชราคิดขณะสังเกตเด็กชายผมสีเงิน

เฮ้อฉันไม่สามารถทำให้คุณฟื้นคืนชีพได้แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถช่วยงานฝังศพของเด็กน้อยคนนี้บนบกได้วิญญาณของเธอจะได้พบกับความสงบสุขและฉันจะได้รับผลบุญที่ดี”ชายคนนั้นคิดขณะที่เขาเริ่มขยับเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มที่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูซิเฟอร์แอซเรล

สิ่งแรกที่เขาทำคือปลดลูซิเฟอร์ออกจากของหนักนั้นก่อนที่เขาจะโอบรอบเอวของลูซิเฟอร์แล้วเริ่มว่ายกลับเขากำลังจะฝังศพให้ลูซิเฟอร์อย่างเหมาะสมอย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่เขาคิดว่ามันจะเป็น

ในที่สุดทะเลก็สงบลงเมื่อคลื่นซัดเข้าหาชายหาด

แม้ว่าทะเลจะสงบแต่คนยังไม่ค่อยกลับมาที่ชายหาดในขณะนี้

ในส่วนที่ว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ของชายหาดที่ไม่รู้จักชายชราที่มีหนวดมีเคราออกมาจากทะเลดูเหมือนอุ้มเด็กชายไว้ในอ้อมแขนของเขา

เสื้อผ้าทั้งสองของพวกเขาถูกปกคลุมด้วยน้ำซึ่งหยดลงมาเรื่อยๆขณะที่ชายชราอุ้มเด็กหนุ่มผมสีเงินไม่นานชายคนนั้นก็วางลูซิเฟอร์ลงกับพี่นก่อนที่เขาจะล้มลงในขณะที่เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อย

แม้ว่าชายผู้นั้นจะกระฉับกระเฉงมากในทะเลแต่บนพื้นผิวเขาเป็นเหมือนชายชราธรรมดาที่เหนื่อยเร็วนั่นเป็นเหตุผลที่เขาชอบใช้เวลาอยู่ในมหาสมุทรมากกว่าอยู่บนพื้นดิน

ขณะที่ลูซิเฟอร์ถูกวางลงบนพื้นมือของเขาก็ตกลงไปบนสิ่งที่ดูเหมือนกิ่งก้านของต้นไม้ที่ลอยมาที่ชายหาดซึ่งลอยอยู่ในทะเล

ดูเหมือนชายชราจะหายใจหอบอย่างหนักในขณะที่เขาพักร่างกายพลางสังเกตลูซิเฟอร์ไปด้วย

“ช่างเป็นเด็กที่หน้าตาดีเสียนี่กระไรฉันยังนึกไม่ออกว่าจะมีคนคิดฆ่าเขาได้อย่างไรเกิดอะไรขึ้นกันแน่เขาทำให้ใครขุ่นเคืองใจหรือหรือทำไปเพื่อเงินงั้นหรือ?”ชายชราสงสัยเมื่อเขาลุกขึ้นยืนพยายามอุ้มลูซิเฟอร์ไปด้วยอีกครั้งแต่ก่อนที่เขาจะอุ้มลูซิเฟอร์ได้เขาสังเกตเห็นบางอย่างแปลก

ใบหน้าซีดของลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะมีสีสันขึ้นบ้างชายชราอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามันเป็นความเข้าใจผิดของเขาหรือว่าจริงหรือไม่?

เขาเข้าใกล้ลูซิเฟอร์เพื่อสังเกตใบหน้าของเขาอย่างระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเขาสังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลกประหลาดกว่านั้น

กิ่งไม้ที่มือของลูซิเฟอร์ตกลงไปดูเหมือนจะสลายไปอย่างช้าๆยิ่งกิ่งที่เสื่อมสภาพมากเท่าไหร่ผิวของลูซิเฟอร์ก็ดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติมากขึ้นเท่านั้น

“นี่…เกิดอะไรขึ้น?”ชายชราอุทานด้วยความประหลาดใจในขณะที่เขาก้าวถอยหลัง

ภายในเวลานั้นกิ่งก้านก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

“เป็นไปได้ไหมว่าเขา…เขาเป็นแวเรียนท์ด้วยและนั่นคือพลังของเขาเหรอ?”ชายคนนั้นประหลาดใจ

“เดี๋ยวก่อน! เป็นไปไม่ได้!แม้ว่าเขาจะเป็นแวเรียนท์แต่พลังของเขาไม่ควรทำงานตอนนี้! พวกมันจะยังทำงานได้อย่างไรเว้นแต่เขาจะ…มีชีวิตอยู่?”

ชายผู้นั้นตะลึงงันก้าวไปข้างหน้าขณะที่เขาวางนิ้วบนคอของลูซิเฟอร์เพื่อดูว่าเขากำลังหายใจอยู่หรือไม่

“ฉันพูดถูกเขาตายแล้วเขาไม่แม้แต่หายใจแล้วทำไม? ทำไมพลังของเขาถึงใช้ได้?มันไม่สมเหตุสมผลเลย?”

“ยิ่งกว่านั้นไม่มีทางที่คนๆหนึ่งจะสามารถอยู่รอดได้หลังจากบาดแผลใหญ่บนหน้าอ”ชายคนนั้นพึมพำขณะสังเกตหน้าอกของลูซิเฟอร์

ทันทีที่เขาเห็นหน้าอกของลูซิเฟอร์ใบหน้าเฒ่าของเขาก็มีสีหน้าที่แปลกประหลาดยิ่งขึ้น

คิ้วของเขาเลิกขึ้นเมื่อตาเหล่

“ฉันเดาว่าฉันคงประสาทหลอนจริงๆแต่ตอนนี้แผลที่หน้าอกของเขาดูเล็กลงครั้งสุดท้ายที่ฉันเห็นเขาใหญ่กว่านี้เกิดอะไรขึ้น?”ชายชราอุทานด้วยความตกใจ

“อาจเป็นกิ่งไม้นั้นความสามารถของเขาและบาดแผลนั้นใช่หรือไม่ความสามารถของเด็กน้อยคนนี้คือการรักษาให้เขาหาย?ฉันต้องทดสอบมัน!”เขาพูดขณะที่เริ่มมองไปรอบๆชายหาด

เขาพยายามหากิ่งไม้ให้ได้มากที่สุดไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกิ่งไม้ไม่กี่กิ่ง

เขาวางกิ่งไม้ไว้บนพื้นใกล้กับลูซิเฟอร์แต่คราวนี้เขาไม่ยอมให้พวกมันสัมผัสมือของลูซิเฟอร์

เขาก้าวเข้าไปใกล้ลูซิเฟอร์และปลดกระดุมเสื้อเปื้อนเลือดเพื่อแสดงหน้าอกของเขา

“ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันจะรักษาเขาจริงๆหรือเปล่า”เขาพึมพำขณะจ้องไปที่แผลใหญ่ที่หน้าอกของลูซิเฟอร์บาดแผลยังคงมีขนาดเท่ากำปั้นแต่มีขนาดเล็กกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย

หลังจากปลดกระดุมเสื้อของลูซิเฟอร์ชายชราก็ขยับกิ่งหนึ่งไปทางลูซิเฟอร์แล้วใช้นิ้วหนึ่งแตะมัน

เมื่อนิ้วของลูซิเฟอร์สัมผัสกิ่งไม้ใหม่กิ่งนั้นก็เริ่มผุพังอีกครั้งมันช่างแปลกประหลาดคราวนี้แทนที่จะเป็นกิ่งไม้ผู้ชายกำลังโฟกัสไปที่หน้าอกของลูซิเฟอร์ขณะที่เขาสังเกตบาดแผลของเขา

“ได้ผล!ได้ผลจริงๆ!บาดแผลของเขาดูเหมือนจะหายดีแล้วแม้จะช้ความสามารถช่างน่าทึ่งจริงๆนี่มันอัศจรรย์มาก!”ชายคนนั้นร้องอุทานเมื่อสังเกตเห็นการหายของบาดแผลของลูซิเฟอร์เล็กน้อย

กิ่งไม้กลายเป็นฝุ่นอีกครั้งแต่การรักษาไม่หยุดลงมันดำเนินต่อไปแม้ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นก่อนที่จะหยุดจริงๆ

“ดังนั้นความสามารถของเขาจึงสามารถรักษาบาดแผลของเขาได้งั้นเหรอและมันก็ใช้ได้แม้กระทั่งหลังจากที่เขาเสียชีวิตน่าทึ่งจริงๆแต่มันจะทำให้เขาฟื้นคืนชีพได้จริงๆเหรอ?”

“มีความแตกต่างระหว่างการรักษาบาดแผลและการทำให้ฟื้นคืนชีพของคนคือการผสมผสานระหว่างร่างกายและจิตวิญญาณถ้าเขาตายไปนานขนาดนี้เขาจะตื่นขึ้นได้จริงหรือ?”ชายคนนั้นสงสัยเมื่อเขาจ้องไปที่ลูซิเฟอร์

“ไม่เป็นไรฉันต้องลอง!ถ้ามันไม่ได้ผลอย่างน้อยฉันก็พูดได้ว่าฉันพยายามแล้วและถ้ามันได้ผลเด็กจะได้ชีวิตเขากลับมา!”ชายชราพูดก่อนจะขยับกิ่งไปทางนิ้วของลูซิเฟอร์มากขึ้น

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาได้นำกิ่งก้านไปหาลูซิเฟอร์และปล่อยให้เขารักษา

ในที่สุดบาดแผลก็หายเป็นปกติหลังจากเวลาและความพยายามทั้งหมดนี้

สิ่งที่ชายคนนั้นไม่รู้คือไม่เพียงแต่แผลจะหายแล้วแต่หัวใจที่หายไปของลูซิเฟอร์ก็หายดีแล้วด้วย

ต่อจากนี้ไปชายผู้นี้ไม่หยุดในขณะที่เขายังคงหากิ่งก้านของไม้และน้ำมันมาที่ลูซิเฟอร์หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเขาก็หยุด

“ดูเหมือนว่าบาดแผลของเขาจะหายดีแล้วแต่ตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่านั่นคือคำถาม”ชายคนนั้นพึมพำขณะที่เขาวางนิ้วลงบนคอของลูซิเฟอร์อีกครั้ง

“เขายังไม่หายใจฉันเดาว่าฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดีเกินไปท้ายที่สุดมันเป็นไปไม่ได้ที่จะชุบชีวิตใครซักคนแต่ถึงกระนั้นความสามารถที่ทำงานแม้กระทั่งหลังความตาย….เขาเป็นแวเรียนท์แบบไหนกัน?ประวัติของเขาเป็นอย่างไรกันแน่?”

ตอนที่ 181: ค้นพบ

“มีคนไม่มากที่รู้ แต่เซล แอซเรลได้ช่วยชีวิต แม่และพ่อของเขาไว้ตอนที่ซัลลาซาร์เพิ่งอายุได้ 7 ขวบ ถ้าเซลไม่อยู่ที่นั่น ซัลลาร์ซาร์คงโตเป็นเด็กกําพร้า” เรียอาริบอกโรเว่น ในขณะที่เขาถอนหายใจ

“และตอนนี้ซัลลาซาร์ต้องการปกป้องลูซิเฟอร์ น่าเสียดาย เขาสายเกินไปแล้ว” โรเว่นพึมพํา ขณะมองไปทางประตูที่ปิดอยู่

….

มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่ปกคลุมมากกว่าครึ่งโลก ใกล้ๆกับชายหาดของเอลิเซียม

กระแสน้ําขนาดใหญ่สามารถเห็นได้ชัดผ่านหนองน้ํา เมื่อคลื่นแต่ละลูกที่กระทบชายหาดมากระทบกระเทือนเบาๆ และไหล่กว้าง ด้วยพลังทั้งหมดที่ดวงจันทร์สามารถมอบให้ได้

ดวงจันทร์ที่สว่างไสวมาพร้อมกับกระแสน้ํา ทําให้แสงที่จําเป็นมาก เมื่อพื้นผิวของทะเลส่องแสงภายใต้แสงจันทร์ ด้านล่างของทะเลก็ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความมืด

ที่มุมหนึ่งของทะเลที่ไม่มีใครรู้จัก ร่างของเด็กชายนอนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน

น่าแปลกที่ตอนนี้สามารถเห็นรูในอกของเด็กชายได้ ซึ่งร่างกายของเขาซีดเผือดไปหมด ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้า เขาไม่หายใจเช่นกัน ในขณะที่เขานอนอยู่ที่นั่นในความเงียบชั่วนิรันดร์

3 เดือนผ่านไปตั้งแต่เด็กชายผมสีเงินถูกโยนลงทะเลครั้งแรก และไม่แน่ใจว่าเขาจะออกมาหรือไม่

….

ภายใต้แสงจันทร์ที่สว่างไสว สามารถมองเห็นชายชราคนหนึ่งเดินผ่านหมู่บ้าน

ชายชราดูเหมือนจะอายุ 60 เศษ ส่วนศีรษะของเขานั้นถูกปกคลุมไปด้วยผมยาวสีขาว เขายังสนับสนุนหนวดเคราสีขาวที่ดูเข้ากับใบหน้าของเขา

ดูเหมือนว่าชายผู้นี้จะไปที่ไหนสักแห่ง เมื่อมีคนเรียกจากด้านหลัง

“คุณปู่จะไปทะเลอีกแล้วใช่ไหม ทะเลตอนนี้ ว่ายน้ําไม่ได้นะ อย่าไปนะ!”

ชายวัยกลางคนสังเกตเห็นชายชราออกไปและพยายามจะหยุดเขา

“ทะเลเหมาะสําหรับฉันเสมอ เพราะความโกลาหลของทะเลเป็นที่ที่ฉันพบความสงบสุขที่แท้จริง” ชายชราตอบพร้อมกับยิ้ม

“คุณปู่ ฟังผมนะ ถ้าไปคราวนี้คุณอาจจะตายได้ เวลาต่างกันออกไป ไปทีหลัง” ชายวัยกลางคนกล่าวอีกครั้ง

“ความตายงั้นเหรอ? ความตายเป็นเพียงชื่ออื่นของการนอนหลับ ถ้าฉันกลัวการนอน ฉันจะเห็นปีศาจในความฝันได้อย่างไร” ชายชราตอบ ขณะเดินต่อไป “วันหนึ่งทุกคนจะหลับไป ไม่ต้องห่วง”

ไม่นานเขาก็จากไป หายสาบสูญไปในขอบฟ้า ขณะเดินไปที่ชายหาด

ชายวัยกลางคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ถอนหายใจ “ชายคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆ เขาดูเหมือนไม่อยากมีชีวิตอยู่เลย นี่แหละชีวิตของเขา ฉันพยายามสุดความสามารถแล้ว” ชายวัยกลางคนพึมพํา ขณะเดินกลับเข้าไปในบ้านของตัวเอง

เมื่อเขาเข้าไปในห้องนอน เขาก็รู้ว่าภรรยาของเขาตื่นแล้ว

“คุณไปไหนมา?” ภรรยาของเขาถามเขาขณะที่เธอขยี้ตา

“ฉันไปดื่มน้ํา เมื่อกี้เห็นชายชราคนนั้นกําลังเดินเข้าไป จากนั้นฉันก็เริ่มพยายามจะหยุดเขา” ชายวัยกลางคนตอบขณะปีนขึ้นไปบนเตียง

“คุณหมายถึงชายชราบ้าคนนั้นเหรอ เขากําลังจะไปทะเลเวลาแบบนี้เหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นถามสามีของเธอ

“ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ เขาบ้าไปแล้วจริงๆ ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับมาในครั้งนี้ด้วยซ้ํา” ชายวัยกลางคนตอบ

“เฮ้อ คุณพยายามเต็มที่แล้ว อย่าไปสนใจเขาเลย เขาไม่ใช่ญาติเรา เขาไม่มีแม้กระทั่งครอบครัว ปล่อยให้เขาใช้ชีวิตอย่างที่เขาต้องการ ยังไงเขาก็ต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ คุณรู้ว่าเขาคือ แวเรียนท์ ใช่ไหม เขาสามารถอยู่รอดได้ในทะเล” ผู้หญิงคนนั้นพูด ขณะที่เธอนอนอยู่บนเตียง “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก นอนเถอะ”

“คุณพูดถูก แต่ยังไงก็ตาม มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะต้องดูแลผู้ชายคนนั้น” ชายคนนั้นพูดขณะนอนลงบนเตียงเช่นกัน

ชายชรามาถึงชายหาดและจ้องมองทะเล ซึ่งเขารู้สึกว่าเป็นบ้านของเขา

เขาเป็นแวเรียนท์ที่สามารถหายใจใต้น้ําและว่ายน้ําในทะเลได้เหมือนที่เขาสร้างขึ้นมา

เขาทําสิ่งเดียวกันทุกปีตั้งแต่ยังเด็กเมื่อเขาปลุกพลังของเขาเป็นครั้งแรก

ทุกปีเขามาที่ชายหาดและกระโดดลงไปในทะเล เขาพยายามไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทําได้และ สํารวจมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้ก่อนกลับมา

แม้ว่าทะเลจะไม่สงบอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้ แต่เขาก็ไม่กังวล ในขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้น้ําก่อนที่เขาจะจมลงไปในน้ําอย่างเต็มที่

เมื่อชายคนนั้นเข้าไปในทะเล เขาก็เริ่มว่ายน้ําโดยไม่หยุด

เขาว่ายทั้งคืนและตลอดทั้งวัน ในขณะที่เขาเพลิดเพลินกับความเงียบของทะเล แม้ว่าคลื่นมันจะไม่สงบ แต่ดูเหมือนว่าจะสงบอย่างสมบูรณ์ใกล้กับด้านล่างที่ชายชรากําลังว่ายน้ํา

แม้ว่าชายผู้นั้นจะดูแก่ แต่ไม่มีใครสามารถเดาได้ว่าหลังจากเห็นความเร็วที่เขาว่ายไปมา

เขาสังเกตสวนที่แปลกใหม่และสัตว์ทะเลหลายชนิดที่ก้นทะเล ในขณะที่เขาเดินต่อไป

ครั้งนี้เขาได้เลือกทิศทางที่แตกต่างออกไป โดยไม่รู้ว่านี่คือที่ที่เขากําลังจะพบบางสิ่งที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตของเขา

ขณะที่ชายคนนั้นยังคงว่ายน้ําอยู่ผ่านไป 2 วัน แต่เขาไม่ได้หยุด

วันเปลี่ยนไปเป็นสัปดาห์ ในขณะที่เขายังคงว่ายน้ํา เขาหยุดเป็นครั้งคราว ในขณะที่เขากินพืชทะเล ซึ่งทําให้เขากระปรี้กระเปร่า ร่างกายของเขาสามารถทํางานได้อย่างสมบูรณ์จากการรับประทานอาหารนั้น เขาไม่จําเป็นต้องออกจากน้ําด้วยซ้ํา

ในไม่ช้า หลายสัปดาห์ก็กลายเป็น 1 เดือน เมื่อชายผู้นั้นเข้าใกล้ชะตากรรมของเขามากขึ้น

เขายังคงว่ายน้ําไปข้างหน้า ในขณะที่เขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงของพื้นผิว ซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างน่าประหลาดใจ มีต้นไม้ 2-3 ต้น ที่เขาเห็นเป็นครั้งแรกด้วย

เขาหยุดอยู่ใกล้ต้นไม้เหล่านั้น ในขณะที่เขาเริ่มสังเกตมัน

“สวยจริงๆ เขาคิด ขณะนิ้วแตะต้นไม้ แต่ใช้เวลาไม่นานเขาก็รู้ว่ามีอย่างอื่นอยู่ไกลๆ

เขาสามารถเห็นสิ่งที่ดูเหมือนร่างกายนอนอยู่บนพื้นห่างจากเขาพอสมควร

เขาทิ้งต้นไม้ไว้ข้างหลังทันที เขาเริ่มเข้าใกล้ร่างกายนั้น

ในไม่ช้า เขาก็ไปถึงร่างของเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะผูกติดอยู่กับของหนัก เพื่อให้แน่ใจว่า เขาจะจมน้ําตาย นอกจากนี้ยังมีรูที่หน้าอกของเขา ซึ่งดูน่าสยดสยอง

“ช่างเป็นโลกที่โหดร้ายจริงๆ.. ทุกวันนี้ผู้คนสามารถฆ่าเด็กได้ด้วยซ้ํา” ชายคนนั้นคิดขณะถอนหายใจ

ตอนที่180:ฉันต้องการเขา

“ซัลลาซาร์มาทำอะไรที่นี่” เรียอาริอุทานด้วยความตกใจขณะที่เขายืนขึ้นนี่ไม่ใช่เวลาที่ดีสำหรับเขาที่จะมาเพราะวารันท์ไม่สามารถพบเขาได้เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าซัลลาซาร์ต้องการอะไร

“เอาล่ะพาเขาเข้ามาฉันจะคุยกับเขา” เขาบอกชายคนนั้นแล้วส่งเขาไป

ขณะที่ชายคนนั้นออกไปเรียอาริหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาโรเวน

“โรเวนมาที่สำนักงานของวารันท์เร็วๆนี้ซัลลาซาร์ลูเซียอยู่ที่นี่และฉันต้องการให้คุณมาที่นี่เมื่อฉันพบเขาและไม่อย่าบอกวารันท์เกี่ยวกับเรื่องนี้เขาต้องพักฟื้นตัวอย่างสงบ” เขาบอกโรเว่นก่อนที่เขาจะตัดสาย

ภายในเวลาไม่กี่นาทีโรเว่นก็มาถึงโดยไม่สนใจแม้แต่จะเคาะขณะที่เขาก้าวเข้าไปในสำนักงาน

“ทำไมซัลลาซาร์ถึงมาอยู่ที่นี่”เขาถามเรียอาริทันทีที่เขาก้าวเข้ามา”บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นได้อย่างไร?”

“ฉันจะรู้ได้อย่างไรฉันจะถามเขาเมื่อเขามานั่งก่อน”เขาบอกโรเว่นซึ่งนั่งเก้าอี้และนั่งข้างเรียอา

ก๊อก! ก๊อก!

“เข้ามาเลย”

ประตูเปิดออกเมื่อชายคนหนึ่งมองเข้าไปข้างใน “ท่านครับผมพาราชาวอร์ล็อคซัลลาซาร์มาแล้วครับ”

“ดีส่งเขาเข้ามา” เรียอาริตอบ

ประตูเปิดออกกว้างเมื่อชายคนนั้นก้าวถอยหลังปล่อยให้ซัลลาซาร์ลูเซียเข้าไป

หนุ่มผู้ที่ได้ชื่อว่าซัลลาซาร์เข้ามาในสำนักงานของวารันท์ดูสงบและมั่นใจ

“พวกเจ้า 2 คนมาทำอะไรที่นี่? วารันท์อยู่ที่ไหน?” ราชาวอร์ล็อคซัลลาซาร์ถามเรียอาริและโรเว่นด้วยความสงสัย

“วารันท์ไม่ได้อยู่ที่ฐานเขาออกไปจัดการเรื่องสำคัญสักพักแล้วเรามาที่นี่เพื่อจัดการของตอนที่เขาไม่อยู่แล้วอะไรทำให้คุณมาที่นี่?” เรียอาริถามโดยไม่แม้แต่จะลุกขึ้นยืน

ในขณะนี้ทั้งสองเป็นผู้บัญชาการของ APF พวกเขาต้องรักษาศักดิ์ศรีของ

APF และไม่ลุกขึ้นยืนมิฉะนั้นพวกเขาจะดูอ่อนแอต่อหน้าซัลลาซาร์

“ก็ได้เนื่องจากคุณอยู่ที่นี่ฉันจะจัดการกับคุณก่อน ”ซัลลาซาร์พูดขณะที่ก้าวไปข้างหน้าและนั่งเก้าอี้ก่อนจะนั่งลง

ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันเกิดขึ้นโดยที่เรียอาริและโรเว่นจ้องไปที่ซัลลาซาร์สงสัยว่าเขาจะพูดอะไร

ในทางกลับกันซัลลาซาร์ลูเซียมองไปรอบๆสังเกตสำนักงาน

“ไม่ใช่สำนักงานที่แย่จริงๆดูเหมือนว่าวารันท์จะทำการปรับปรุงใหม่จริงๆ” ซัลลาซาร์กล่าวทำลายความเงียบ

“ซัลลาซาร์ลูเซียอย่าบอกเราว่าคุณมาทางนี้เพื่อมาดูสำนักงานของเราไปตรงประเด็นอะไรทำให้คุณมาที่นี่ในที่สุดคุณก็พร้อมที่จะเข้าร่วม APF แล้วเหรอ?” เรียอาริถามวารันท์

“ขออภัยแต่ฉันไม่เคยชอบคณะละครสัตว์และฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมด้วยฉันมาที่นี่เพื่อทำอย่างอื่น” ซัลลาซาร์ลูเซียตอบอย่างใจเย็น

“ฉันจะไม่สนใจที่คุณเรียก APF ว่าเป็นคณะละครสัตว์เพราะคุณเป็นแขกที่นี่แต่อย่าพูดซ้ำ” เรียอาริเตือนซัลลาซาร์พร้อมขมวดคิ้ว

“โอ้คุณจะทำอย่างไรถ้าฉันพูดซ้ำ” ซัลลาซาร์ถามดูเหมือนขบขัน

“ข้าเรียกที่นี่ว่าที่แห่งนี้ข้าเรียกมันว่าคณะละครสัตว์ก่อนวารันท์ด้วยดังนั้นเจ้าไม่ควรจะกระวนกระวายถึงขนาดนั้นหากเจ้ามีปัญหาเจ้าก็แก้ได้ด้วยกำลังข้าไม่ว่า” เขาพูดต่อ

“เข้าเรื่องเลยเรียอาริย์เขาไม่สนใจที่จะต่อสู้กับราชาวอร์ล็อคซัลลาซาร์”

“ถูกต้องเวลาของฉันมีค่ามากดังนั้นฉันจะพูดตรงๆ ฉันมาที่นี่เพื่อลูซิเฟอร์แอซเรล” ซัลลาซาร์กล่าวอย่างใจเย็น

“ลูซิเฟอร์แอซเรลอะไรนะ?” เรียอาริอุทานด้วยความประหลาดใจผู้ชายคนนี้รู้หรือไม่ว่าพวกเขาพบลูซิเฟอร์แอซเรลมานานแล้ว?

“คุณหมายความว่าอย่างไรเราไม่มีตัวเขา“เขาตอบขณะที่เขาสงบลง

“แน่นอนคุณไม่มีเขาหรือคุณจะไม่พบเขาก็ตามแต่ฟังฉันให้ชัดเจน“ ซัลลาซาร์กล่าว

“เซลแอซเรลคือแรงบันดาลใจของฉันแม้ว่าฉันจะไม่มีโอกาสได้พบเขาเลยแต่ฉันเคารพเขามากสำหรับสิ่งที่เขาทำฉันพยายามที่จะเป็นเหมือนเขาเสมอดังนั้นลองนึกภาพความประหลาดใจของฉันเมื่อรู้ว่าแรงบันดาลใจของฉันคือลูกชายมีวัยเด็กที่เลวร้ายเช่นนี้หรือทั้งหมดเป็นเพราะตัวเขาเองไม่มีความผิดเขาพูดต่อ

“ถ้าฉันรู้มาก่อนฉันคงจัดการเรื่องต่างๆไปนานแล้วแต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วฉันก็ละเลยมันไม่ได้

เมื่อได้ยินคำพูดของเขาเรียอาริก็เข้าใจบางสิ่งซัลลาซาร์เข้าข้างลูซิเฟอร์เขาดูแลเขาและมันจะเป็นปัญหาถ้าเขารู้ว่าพวกเขาได้ฆ่าลูซิเฟอร์ไปแล้ว

เขาทำหน้างุนงงในขณะที่เขาตอบว่า”คุณกำลังพูดถึงภาพนั้นหรือเปล่านั่นมันปลอมคุณโดนหลอกเหมือนคนอื่นๆ”

“เก็บข้อแก้ตัวของคุณไว้สำหรับประชาชนทั่วไปฉันแค่มาที่นี่เพื่อบอกคุณว่าฉันต้องการลูซิเฟอร์และฉันต้องการให้เขาปลอดภัย!“ ซัลลาซาร์กล่าวอย่างหนักแน่น

“แต่เขาเป็นฆาตกรเราต้องกักขังเขาไว้มิฉะนั้นเขาอาจจะทำร้ายผู้คนมากกว่านี้”โรเว่นพูดพร้อมแสร้งทำเป็นว่าลูซิเฟอร์หายตัวไปและพวกเขาต้องการหาเขาไปยังเขา

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นผมจะดูแลเขาเขาจะอยู่กับผมและผมจะทำให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์เขาสมควรได้รับชีวิตที่ดีและเขาสมควรจะได้รับมันซัลลาซาร์ยืนกราน

“ถ้าทำไม่ได้ให้พาวารันท์มาฉันจะคุยกับเขาโดยตรง“ เขากล่าวต่อ

“ก็ได้เราจะคิดที่จะมอบมันให้กับคุณถ้าเราจับเขาได้แต่ถ้าคุณสัญญาว่าเขาจะไม่ทำการฆาตกรรมใดๆในอนาคต“ เรียอาริกล่าว

“เขาจะไม่ฆ่าใคร…ผู้บริสุทธิ์ฉันสัญญาเราคือวอร์ล็อคแน่นอนเราจะฆ่าเมื่อเราเห็นความอยุติธรรมฉันไม่สามารถกันเขาออกจากหน้าที่ได้แต่ฉันสัญญาฉันสัญญาฉันจะทำให้แน่ใจว่าเขาเรียนรู้กฎเกณฑ์และไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์” ซัลลาซาร์ตอบอย่างใจเย็น

“ก็ได้ฉันจะคุยกับวารันท์เกี่ยวกับเรื่องนี้แต่ส่วนใหญ่แล้วเราควรจะทำสำเร็จเราจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อเราพบลูซิเฟอร์”เรียอาริตอบ

“ดีแล้วเพราะงานของฉันเสร็จแล้วฉันจะไปแต่จำไว้ว่าถ้าคุณจับเขาแล้วไม่ส่งเขาให้ฉันคุณจะไม่ได้เจอหน้าแค่ไรอา”ซัลลาซาร์ลูเซียกล่าวขณะที่เขายืนขึ้น

เขาหันหลังกลับแต่ไม่จากไปอย่างเงียบๆเขาได้เตือนออกมาเป็นครั้งสุดท้าย“เพราะถ้าคุณเก็บเด็กไร้เดียงสาคนนั้นไว้ที่นี่หรือทำร้ายเขาแม้แต่น้อยคุณจะต้องเผชิญหน้ากับฉันด้วยอย่าลมบอกวารันท์และแม้แต่เซสถ้าคุณต้องการ”

หลังจากพูดจบแล้วเขาก็เริ่มออกเดินทาง

กรึบ!

ประตูปิดลงด้วยเสียงแผ่วเบาเมื่อราชาแห่งวอร์ล็อคซัลลาซาร์จากไป

เมื่อเขาจากไปในที่สุดเรียอาริและโรเว่นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“ไม่มีใครควรรู้ว่าเราได้ฆ่าลูซิเฟอร์แอซเรลแล้วไม่เช่นนั้นซัลลาซาร์และไรอาจะร่วมมือกันมันคงไม่ดี”เรียอาริทึมพำในขณะที่เขาถอนหายใจ

“ฉันยอมรับ.”โรเว่นพยักหน้า“ใครจะไปรู้ซัลลาซาร์คนนี้ก็จะมีจุดอ่อนไว้ให้ลูซิเฟอร์ด้วย”

“แน่นอนเขาจะทำแบบนั้นนายไม่รู้หรอว่าทำไม?” เรียอาริถามโรเว่น

“ทำไม?” โรเว่นถาม

ตอนที่ 179: คนพิเศษอยู่ที่นี่

“ประสบความสำเร็จอะไรไหม นี่ก็ผ่านมา 3 เดือนแล้ว อย่าบอกนะว่านายยังไม่พบเบาะแสใดๆ” ไรอาถามเวก้าขณะที่เขาตบกำปั้นลงบนโต๊ะ “ลูซิเฟอร์อยู่ที่ไหน”

“ไม่มีเลย ฉันไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าสู่ระบบของพวกเขา แต่จากที่ดูเหมือน มีโอกาสที่ลูซิเฟอร์อาจไม่อยู่ที่นั่นจริงๆ” เวก้าตอบในขณะที่ถอนหายใจ

“พูดแบบนั้นได้ยังไง” ไรอาถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันสามารถพูดได้ว่าเพราะ APF ยังคงพยายามค้นหาลูซิเฟอร์ ดูเหมือนว่า อันที่จริงความพยายามของพวกเขาทวีความรุนแรงขึ้น เท่านั้นเจ้าหน้าที่ภาคสนามส่วนใหญ่พยายามตามหาลูซิเฟอร์และเรา” เวก้าตอบ

“แม้ว่าฉันจะไม่สามารถเจาะระบบหลักของพวกเขาได้ แต่ฉันได้ข้อมูลบางส่วนจากเจ้าหน้าที่ภาคสนามของพวกเขา ผู้ที่อยู่ในระดับสูงได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการหาเขาโดยไม่ต้องพัก” เขากล่าวเพิ่มเติม

“แน่นอน ทั้งหมดนี้อาจเป็นเพียงการเบี่ยงเบนความสนใจ แต่เราไม่สามารถปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆ ได้ เป็นไปได้ว่าลูซิเฟอร์ไม่อยู่ที่นั่น แต่แล้วเขาอยู่ที่ไหน แล้วเคนล่ะ 2 คนนั้นอยู่ที่ไหนลูซิเฟอร์หนีไปจริงๆ แล้ว ด้วยความช่วยเหลือของเคน?” ไรอาถามพลางขมวดคิ้ว

“ฉันไม่แน่ใจ แต่อาจจะ แต่ยังไม่มีแนวฆาตกรรมใดที่ตรงกับสไตล์ของลูซิเฟอร์ แต่เราลืมไม่ได้เราสอนให้เขาต่อสู้โดยไม่ใช้พลังของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถฆ่าได้โดยไม่ให้คนอื่นรู้ว่า เขาเป็นแวเรียนท์ เราฝึกเขาและเขาอาจใช้สิ่งนั้นเพื่อซ่อนตัวเอง”เวก้าแสดงความคิดเห็น

“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันพยายามติดตามการฆาตกรรมแปลกๆ ที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ถ้าลูซิเฟอร์เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันจะตามหาเขาให้พบ“เขาพูดต่อก่อนที่ทั้งห้องจะเงียบลง

ไรอาหลับตาและไม่พูดอะไร แต่ใบหน้าของเขาดูหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด พวกเขามีลูซิเฟอร์อยู่ในกำมือ แต่พวกเขาสูญเสียเขาไป พวกเขาจะโง่ขนาดนี้ได้อย่างไร?

ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่เขาจะทุบกำปั้นลงบนโต๊ะอีกครั้งด้วยความโกรธ ทำให้โต๊ะแตกใน

ครั้งนี้

“อาการของวารันท์เป็นยังไงบ้าง?”โรเว่นเข้าหาเรียอาริ ซึ่งเพิ่งกลับมาหลังจากตรวจสอบวารันท์แล้ว

“อาการของเขาค่อนข้างดี ตอนนี้เขาฟื้นตัวแล้วเขายังคงเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาน่าจะหายดีในเวลาที่กำหนด“เรียอาริตอบโรเว่น

“นั่นดีกว่า“โรเว่นยอมรับ”ฉันจะตรวจสอบเขาด้วย”

เมื่อโรเว่นเข้ามาในห้องของวารันท์ เรียอาริกจากไป นอกจากแพทย์คนหนึ่งที่เป็นเพื่อนสนิทของวารันท์แล้ว 2คนนี้เป็นคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้พบวารันท์

ไม่มีใครในองค์กรอื่นนอกจากพวกเขาที่ได้รับอนุญาตให้พบกับวารันท์ หลังจากที่เขาหมดสติไปเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ข้อมูลนี้ถูกเก็บเป็นความลับ คนที่เห็นวารันท์ถูกพามาที่นี่โดยไม่รู้ตัวถูกสั่งไม่ให้แพร่กระจายออกไป มันเป็นข้อมูลลับที่อยู่ภายในสำนักงานใหญ่ของ APE เท่านั้น

อันที่จริง คนที่เคยเห็น วารันท์ ในวันนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากสถานที่ด้วยซ้ำ ถ้ามีคนรู้ว่าวารันท์ อ่อนแอในตอนนี้ มันก็มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดภัยพิบัติ

โชคดีที่แวเรียนท์เกิดใหม่ไม่ได้โจมตีเมืองใดเลยในช่วงนี้ อาจเป็นเพราะพวกเขาได้รับแรงผลักดันและการสนับสนุนจากสาธารณชน พวกเขาไม่ต้องการที่จะสูญเสียความน่าเชื่อถือในที่สาธารณะโดยการโจมตีเมืองที่ไร้เดียงสาโดยไม่มีเหตุผลเลยในเวลานี้

ในกรณีที่วารันท์ไม่อยู่ เรียอาริเป็นคนดูแล APF เขาเป็นรองหัวหน้าหน่วยอัลฟาและตอนนี้เขาอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาในกรณีที่ไม่มีวารันท์

ก๊อก! ก๊อก!

เรียอาริกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของวารันท์กำลังดูเอกสารสำคัญบางอย่างอยู่ เมื่อเขาได้ยินเสียงเคาะประตู

“เข้ามากันเถอะ”เรียอาริตอบ

ประตูห้องถูกเปิดออก และหญิงสาวสวยแต่ทรงพลังก็เดินเข้ามา

“ไอย์ เธอต้องการอะไรเรียอาริถามเมื่อเห็น ไอย์ หัวหน้าหน่วยเบต้าก่อนหน้าเขา

“ฉันมาเพื่อถามเรื่องวารันท์ 3 เดือนแล้วตั้งแต่เขาถูกนำตัวกลับมา ได้รับบาดเจ็บ ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่เจอเขาเลย เกิดอะไรขึ้นที่นี่? ไอย์ถามขณะนั่งเก้าอี้

“ไม่ต้องกังวล เขาสบายดี เขากำลังฟื้นตัว ดังนั้นเขาจึงไม่พบใครเลย” เรียอาริตอบ

มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ข้อจำกัดของวารันท์ และเขาก็ไม่อยากให้คนอื่นรู้เช่นกัน เหตุผลเดียวที่วารันท์เป็นเช่นนั้นก็เพราะสิ่งนั้น ไม่มีใครได้รับอนุญาติให้พบเขา

“เกิดอะไรขึ้นกับเขาจริงๆ แล้วคุณ 3 คนไปอยู่ที่ไหนมา และทำไมเขาถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ ใครมีกำลังพอที่จะทำร้ายเขาได้?” ไอย์ถามขณะที่เธอยิงคำถามมากมาย เธอสับสน ทำไมไม่มีใครบอกความจริงกับเธอเลย?

ทั้งหมดที่เธอรู้คือวารันท์ ได้รับบาดเจ็บและไม่มีอะไรมาก

“อย่าคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาจะกลับมาในไม่ช้า เมื่อเธอพบเขาครั้งต่อไป เธอสามารถถามเขาได้ด้วยตัวเอง ฉันไม่อยู่ในเงื่อนไขที่จะตอบคำถามของเธอ” เรียอาริตอบก่อนเขาจะเปลี่ยนเรื่อง “แซนเดอร์เป็นยังไงบ้างตอนนี้ เขาตื่นหรือยัง”

“เปล่า เขายังอยู่ในอาการโคม่า ฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะตื่นเมื่อไหร่และเมื่อไหร่ เกิดอะไรขึ้นกับเรา” ไอย์ แจ้ง เรียอาริ ซึ่งดูเหมือนจะไม่สนใจ เรื่องนั้น

“แซนเดอร์เจ็บ วารันท์เจ็บ ลูซิเฟอร์หาย ยิ่งกว่านั้นการสนับสนุนจากประชาชนลดน้อยลงเพราะวารันท์ไม่ปรากฏตัวเพื่อรับมือเรื่องนี้” เธอก ล่าวเพิ่มเติม

“อย่ากังวล พยายามตามหาลูซิเฟอร์ต่อไป การสนับสนุนจากสาธารณชนเป็นสิ่งสำคัญ แต่เราจะดำเนินการในภายหลัง ลูซิเฟอร์สำคัญกว่า ตั้งสมาธิกับการตามหาเขา” เรียอาริตอบ

เขายังไม่ได้บอกเธอว่าพวกเขาฆ่าลูซิเฟอร์ไปแล้วเพราะมันเป็นความลับ องค์กรของพวกเขาเองจำเป็นต้องเชื่อว่าพวกเขาไม่พบลูซิเฟอร์เพื่อให้ศัตรูเชื่อ

พวกเขาไม่สามารถพูดได้ว่าพวกเขาฆ่าลูซิเฟอร์หลังจากที่เขากลายเป็นวีรบุรุษที่นี่ การตายของเขามีศักยภาพที่จะเป็นตะปูตัวสุดท้ายในโลงศพ

“เอาล่ะ ฉันจะจดจ่อกับลูซิเฟอร์ต่อไป เราเพิ่มการเข้าถึงทุกที่ เราควรจะได้เบาะแสเร็วๆ นี้” ไอย์กล่าวก่อนที่เธอจะลุกขึ้นและจากไป

อีก 2 วันผ่านไป และไม่มีอะไรสำคัญเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง มีคนมาเคาะห้องทำงานของวารันท์ ซึ่งเรียอาริกำลังครอบครองอยู่ในขณะนี้

“เข้าไปกันเถอะ” เรียอาริตอบ

ประตูเปิดออก และชายคนหนึ่งก้าวเข้ามาซึ่งดูเหมือนจะเป็นสมาชิกของ APF เช่นกัน

“อะไรที่คุณต้องการ?” เรียอาริถามชายคนนั้น

“ท่านครับ มีคนพิเศษมาพบท่านวารันท์” ชายคนนั้นตอบ

“คนพิเศษเหรอ นั่นใครน่ะ?” เรียอาริถามด้วยความสงสัย

“ราชาวอร์ล็อค ซัลลาซาร์ ลูเซียอยู่ที่นี่ เขายืนอยู่ตรงทางเข้าสำนักงานใหญ่” ชายคนนั้นตอบ

“ซัลลาซาร์ ลูเซียอยู่ที่นี่แล้ว เขามาทำอะไรที่นี่ในเวลาแบบนี้?” เรียอาริอุทานขณะที่เขายืนขึ้น ประหลาดใจ

ตอนที่ 178: สงครามเย็น

“สถานะของเคนเป็นอย่างไรบ้าง มันใกล้จะถึงวันที่นัดแล้ว และเขาไม่ได้ติดต่อเราเลย คุณติดต่อเขาได้หรือเปล่า”

ภายในห้อง ไรอากําลังถามคําถาม 2-3 ข้อกับคนของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับลูซิเฟอร์และเคน เพราะไม่สามารถติดต่อกับพวกเขาได้

ผ่านไปแล้ว 1 วันตั้งแต่ลูซิเฟอร์ไปอยู่กับเคน และเขายังไม่กลับมา

“ไม่มี เหมือนกับว่าการเชื่อมต่อทั้งหมดถูกตัดขาด ฉันรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ เราต้องไปที่นั่นและตรวจสอบตัวเอง” เคลเลียนตอบ

“แปลก เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ฉันจะไปกับนายเพื่อตรวจสอบเป็นการส่วนตัว” ไรอา แสดงความคิดเห็น ขณะที่เขาขมวดคิ้วมากขึ้น “จัดเฮลิคอปเตอร์ เราจะออกเดินทางในอีก 10 นาที”

“เดี๋ยวก่อน” เคลเลียนพูดขณะยืนขึ้นและเริ่มออกเดินทาง

เมื่อเคลเลี่ยนจากไปไรอาก็เปลี่ยนโฟกัสไปที่เวก้า ซึ่งนั่งอยู่ใกล้เขา

“นายลองแฮ็ค APF และเจ้าหน้าที่เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่มีความคิดเกี่ยวกับลูซิเฟอร์เช่นกัน” เขาบอกเวก้า

“ฉันจะทําได้ แต่ฉันมีความรู้สึกว่ามันอาจจะ สายเกินไปแล้ว มีเพียง 2 สิ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น ลูซิเฟอร์ฆ่าเคนและหนีจากโอกาสแรกที่เขาได้ไปที่นั่น ประการที่ 2 ลูซิเฟอร์และเคนถูกจับได้” เวกาตอบ

“ฉันคิดว่าอย่างที่ 2 มีโอกาสสูง และถ้าเขาถูกจับได้ มันคงยากมากที่จะช่วยเขา เขาอาจจะตายไปแล้ว” เขากล่าวเสริม

“ฉันไม่สน ฉันต้องการเขากลับมาไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหน แม้ว่าจะเป็น APP ก็ตาม ลูซิเฟอร์ก็ไม่สามารถตายได้!” ไรอาพูดอย่างหนักแน่น

“ฉันขอโทษ มันเป็นความผิดพลาดของฉัน ฉันไม่ควรให้สัญญากับเขาว่าจะปล่อยเขาไป ฉันจะรับผิดชอบทั้งหมด” เวก้าพาดพิงถึงไรอา

“ฉันสัญญาว่าจะปล่อยเขาไปโดยคิดว่าตอนนี้คงจะปลอดภัย แล้วฉันก็จากไปเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับลูซิเฟอร์ มันไม่ได้ส่งผลให้มีนัยสําคัญอะไรเช่นกัน เพราะฉันแค่ยืนยันว่าลูซิเฟอร์เป็นลูกชายของเซลจริงๆ ฉันควรจะมาที่นี่แทนเพื่อไม่ให้เขาไป” เขากล่าวต่อไป

“ไม่ใช่ความผิดของนาย ถ้าเขาถูกจับได้ ก็เป็นความผิดของฉัน ฉันแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่สามารถหาเขาเจอได้โดยใช้มาตรการป้องกันทั้งหมดของเรา แต่ฉันคิดผิด ฉันประเมินทรัพยากรของพวกเขาต่ําไป และประเมินค่าเคนสูงเกินไป” ไรอาตอบพลางส่ายหัวเบาๆ

เขายืนขึ้นและเดินไปที่ประตูเพื่อออกไปแต่หยุดที่ทางออก

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาก็เริ่มพูด “ฉันน่าจะส่ง คนไปกับเขามากกว่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น คําพูดของนักทํานายนั่นทําให้ฉันสับสนมากขึ้น ตั้งแต่เขาบอกว่าลูซิเฟอร์และเคนจะกลับมาอย่างปลอดภัย”

“ฉันลืมไปว่าถ้าคําพูดของเขาเป็นจริง 10 เปอร์เซ็นต์ พวกเขาก็คิดผิด 90 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน มันไม่ใช่ความผิดของนาย ดังนั้นทํางานให้หนัก เราต้องหาเขาให้พบ” เขาบอกเวก้าก่อนจะจากไปโดยไม่รู้ว่ามันดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว

ลูซิเฟอร์ไม่ได้อยู่กับ APF เขาไม่ได้อยู่ที่ชายหาดเช่นกัน เขากําลังนอนอยู่ในก้นทะเล ซึ่งกําลังเผชิญกับกระแสน้ําสูง แม้แต่ APP ก็ไม่สามารถหาร่างของเขาได้ในตอนนี้

เฮลิคอปเตอร์ APF ลงจอดบนสํานักงานใหญ่ของพวกเขา

ทีมแพทย์ยืนอยู่บนหลังคาแล้ว พวกเขากําลังรออยู่เนื่องจากได้รับแจ้งเกี่ยวกับภาวะวิกฤตของวารันท์ ซึ่งยังคงหมดสติอยู่

ใบหน้าของวารันท์ยังคงซีด แต่โชคดีที่ดวงตาของเขาดีขึ้นแล้ว สําหรับการหายใจและอัตราการเต้นของหัวใจ มันช้าแต่คงที่

ทีมแพทย์เข้าหาเฮลิคอปเตอร์หลังจากที่เรียอาริและโรเวนก้าวออกไปพร้อมกับบรรทุกเคน
“ระวังตัวด้วย” เรียอาริเตือนทีมที่กําลังเข้าใกล้เฮลิคอปเตอร์

ทีมเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์และนําวารันท์ออกไปด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง

วารันท์ถูกนําตัวลงไปที่สถานพยาบาลที่เหมาะสม ซึ่งเขากําลังจะเข้ารับการรักษา

สําหรับเรียอาริและโรเว่น พวกเขาพาเคนไปที่คุกที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษสําหรับแวเรียนท์และยังเคนที่ไม่ได้สติไว้ข้างใน ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มจากไป

“ท่านครับ จะเรียกหมอหรือไม่” ผู้คุมถามเรียอาริ ด้วยความสงสัยว่าเขาจําเป็นต้องเปิดประตูอีกครั้งหรือไม่

“ไม่จําเป็น เราไม่ได้ทุบเธอแรงพอที่จะต้องการหมอ เธอแค่หมดสติ ยังไงก็ตาม จับตาดูเธออย่างเคร่งครัด เธอเป็นสมาชิกคนสําคัญของแวเรียนที่เกิดใหม่” เรียอารตอบก่อนจะพูดต่อว่า “ยิ่งกว่านั้น ห้ามใครนอกจากเรา 2 คนรู้เรื่องของเธอ หรือเข้าใกล้ผู้หญิงคนนี้”

เวลาค่อยๆไหลรินออกไปในขณะที่แวเรียนท์ เกิดใหม่ออกค้นหาลูซิเฟอร์ แต่ก็ไม่เป็นผล พวกเขายังไปที่ชายหาดเพียงเพื่อจะพบว่ามันว่างเปล่า ดูเหมือนจะไม่มีร่องรอยของการต่อสู้หรืออะไรเลย ก็ไม่มีเลือดเช่นกัน

ทั้งหมดนี้ทําให้สับสน แต่พวกเขาเกือบจะแน่ใจว่า APF มีส่วนเกี่ยวข้อง

“เขาไม่อยู่ด้วย เราควรกลับไหม” เคลเลียนถาม ไรอาซึ่งยืนอยู่ใกล้ทะเล จ้องมองกระแสน้ําที่ไม่ รุนแรงเท่าที่ปกติ

“เด็กคนนั้นหายไปไหน เขาเป็นกุญแจสําคัญ และตอนนี้ฉันก็ทําเขาหาย” ไรอาพึมพํา จ้องไปที่ทะเล โดยไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาจ้องมองคือสิ่งที่ซ่อนลูซิเฟอร์ไว้

“กลับกันเถอะ” เขาพูดกับเคลเลียนขณะที่หันหลังกลับและเริ่มออกเดินทาง

วิดีโอของลูซิเฟอร์ที่แสดงทางทีวีได้ใช้ปาฏิหาริย์ ตอนนี้หลายคนเต็มใจที่จะเข้าร่วมแวเรียนท์เกิดใหม่ จากองค์กรวายร้าย สถานะของพวกเขาถูกยกระดับเป็นองค์กรต่อต้านฮีโร่ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมอย่างแท้จริง

แม้ว่า APF จะพยายามสร้างความเสียหายให้กับการควบคุมโดยอ้างว่าฟุตเทจนั้นเป็นของปลอม แต่ข้อแก้ตัวนี้ไม่ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกับแวเรียนท์ที่ไม่เกี่ยวข้อง พวกเขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง พวกเขาดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทําให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้

ผู้คนจํานวนมากเข้าร่วมแวเรียนท์เกิดใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง ในขณะที่บางคนเลือกรูปแบบการประท้วงที่ต่างออกไป

มีการร้องขอจากสาธารณชนให้ลงโทษแซนเดอร์ที่ฆ่าเด็กๆที่เป็นแวเรียนท์ที่ไร้เดียงสา และความต้องการนั้นก็มีแต่ได้รับแรงผลักดันเท่านั้น

น่าเสียดายที่ APE ไม่สามารถแม้แต่จะดึงแซนเดอร์ออกมาชี้แจงเหตุผลได้ เนื่องจากแซนเดอร์อยู่ในอาการโคม่า

APF ยังคงไม่สิ้นหวังเมื่อพวกเขาเล่นกลมากขึ้น พวกเขาเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดของเคน และทําให้เขากลายเป็นผู้กระทําความผิด เรื่องราวที่พวกเขาพูดถึงคือไม่ใช่แซนเดอร์ที่โจมตีลูซิเฟอร์ แต่เคนซึ่งปลอมตัวเป็นแซนเดอร์

เนื่องจากผู้คนจํานวนมากไม่รู้เกี่ยวกับเคน พวกเขาจึงไม่รู้ว่าเขาทําได้แค่เลียนแบบใบหน้าเท่านั้น ไม่สามารถเลียนแบบความสามารถของแวเรียนท์อื่นๆ ได้ แต่มันก็ไม่สําคัญ APF ต้องการให้ความโกลาหลนี้หมดไปอย่างรวดเร็ว

สงครามเย็นอันละเอียดอ่อนของการเกณฑ์ทหารยังคงดําเนินต่อไปเป็นเวลา 2 เดือน ในขณะที่ความพยายามของแวเรียนท์เกิดใหม่นั้นที่กําลังพยายามค้นหาลูซิเฟอร์ ยังคงดําเนินต่อไป

พวกเขาค้นหาอย่างกว้างขวางและกว้างขวาง ในขณะที่พยายามเจาะระบบ APE ให้ดีที่สุดเพื่อดูว่าลูซิเฟอร์ อยู่ที่นั่นหรือไม่ น่าเสียดายที่การป้องกันในระบบสูงเกินไปในครั้งนี้

APE ทั้งหมดอยู่ในการแจ้งเตือนระดับสูง

ตอนที่ 177: นิรันดร์ นิรันดร์

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ทําอะไร ในขณะที่เขาหลับไปอย่างเงียบๆ ชั่วนิรันดร์ สงสัยว่าเขาจะกลับมาอีกหรือไม่ เขาต้องการกลับมา เขามีความปรารถนาที่จะกลับมา

พ่อแม่ของเขายังคงต้องการความยุติธรรม และเขายังต้องการค้นหาสิ่งที่พ่อแม่ทิ้งไว้ แต่เขาก็ยังสงสัยว่าเขาจะได้กลับมาอีกหรือไม่ สิ่งที่วารันท์พูดเกี่ยวกับการตายอย่างนิรันดร์ของเขาดูเหมือนจะเป็นความจริง

แม่ในช่วงเวลาสุดท้ายของเขา เขาก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามันจะเป็นจุดจบจริงๆหรือไม่ ถ้าชีวิตของเขาปราศจากโลกมืดนี้ในที่สุด

ตอนนี้เขาสามารถนอนหลับอย่างสงบสุขได้จริงหรือ? ห่างไกลจากโลกที่โหดร้ายนี้? เขาสามารถพบพ่อแม่ของเขาอีกครั้งในสวรรค์ได้หรือไม่? ในที่สุดเขาก็สามารถร้องไห้ในอ้อมกอดของแม่อีกครั้งได้หรือไม่? ในที่สุดเขาก็อาจจะอ่อนแออีกครั้ง? สุดท้ายเป็นเด็ก? คําถามมากมายลอยอยู่ในหัวของเขาขณะที่หัวใจของเขาถูกดึงออกมา

ทันทีที่ลูซิเฟอร์ถูกฆ่า วารันท์ก็คุกเข่าลงราวกับว่าร่างกายของเขาอ่อนแอลงอย่างกะทันหัน ดวงตาของเขามีเลือดออกในขณะที่เขากระอักเลือดออกมา ก่อนที่เขาจะล้มลงไปอีก

“ฟันเฟืองกําลังโจมตีนาย นายไม่ควรใช้พลังแบบนี้จริงๆ ชีวิตของนายอาจตกอยู่ในอันตรายได้ คนงี่เง่าเอ้ย” เรียอาริบอกวารันท์ ขณะที่เขาพยุงวารันท์ขึ้นมาและวางเขาลงบนที่นั่งของเฮลิคอปเตอร์

“โยนมันลงทะเล” วารันท์บอกเรียอาริอย่างอ่อน ในขณะที่เขาลืมตาสีแดงเลือดของเขา
“อะไรทําไม?” เรียอาริถามอย่างไม่เข้าใจ ในที่สุดพวกเขาก็มีลูซิเฟอร์ และเขาก็ตาย ทําไมพวกเขาต้องโยนเด็กน้อยลงทะเลแล้วเหรอ? หรือมีบางอย่างที่วารันท์ไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับลูซิเฟอร์?

ทําไมเขาถึงดึงหัวใจเด็กน้อยคนนั้นออกมา แม้ว่าจะฆ่าลูซิเฟอร์แล้ว? มีบางอย่างดูแปลก เขาเชื่อว่าวารันท์ไม่ได้บอกเขาทุกอย่างจริงๆ

“โยนซะ!” วารันท์พูดอย่างหนักแน่นก่อนจะ หลับตาลงขณะที่เขาหยุดเคลื่อนไหว

เรียอาริวิ่งไปที่วารันท์และตรวจสอบว่าเขากําลังหายใจอยู่หรือไม่

“เฮ้อ เขายังหายใจอยู่ ดีแล้ว” เรียอารพิมพ์ ขณะถอนหายใจอย่างโล่งอก

“โลกนี้แข็งแกร่งเพียงใด แต่ปัจจุบันอ่อนแอเพียงใด โลกนี้ไม่เข้าใจพลังของนายจริงๆ”

“การใช้พวกมันเป็นเวลา 2 นาทีเพื่อหยุดพลังระดับ S ทั้ง 4 ของบุคคล คุณจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เป็นเวลา 1 ปี เฮ้อ ข้อจํากัดของพลังนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ” เขากล่าวขณะเดินกลับไปถึงร่างลูซิเฟอร์

“โรเว่น แนบหน้ากากออกซิเจนกับวารันท์และให้การรักษาเบื้องต้นแก่เขา” เขาบอกโรเว่น

“เข้าใจอยู่แล้ว” โรเว่นตอบ

“ถ้าเพียงลูซิเฟอร์ไม่มีพลังแรงค์ S ฟันเฟืองก็ คงมีน้อย และเวลาของผลกระทบของพลังของเขาจะนานขึ้น อย่างน้อยที่สุด ลูซิเอร์ก็จากไป แล้วเราจะไม่ได้เห็นตาเหล่านี้อีกเลย โลกก็สงบสุขได้ในอนาคตเช่นกัน” เรียอาริกล่าว ขณะมองลงมาที่ลูซิเฟอร์

“โยนมันลงไปในทะเล เขาพูด ไม่ว่าอะไรก็ตาม เขาต้องรู้ดีกว่านี้ ฉันคิดว่าเราน่าจะพาเขากลับไปและทําวิจัยบางอย่างได้ แต่เขาควรจะมีเหตุผล”

เรียอาริหยิบของหนักมาผูกไว้กับตัวของลูซิเฟอร์เพื่อให้แน่ใจ

เขาอุ้มลูซิเฟอร์ขึ้นและเดินไปที่ประตูเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่เหนือทะเล เฮลิคอปเตอร์ลํานี้ออกห่างจากแผ่นดินแล้ว ไม่มีเกาะหรือที่ดินอยู่ใกล้ๆ

เมื่อลูซิเฟอร์ลงไป จะไม่พบร่างของเขาชั่วนิรันดร์

“ขอโทษนะเด็กน้อย” เรียอาริพูดเป็นครั้งสุดท้าย ขณะที่เขามองดูใบหน้าของลูซิเฟอร์ ดวงตาของลูซิเฟอร์ยังคงเปิดอยู่ แต่ไม่มีชีวิตอยู่ในนั้น

เรียอาริหลับตาของลูซิเฟอร์ก่อนจะเตรียมโยนเขาลงทะเล

“นายมีวัยเด็กที่โหดร้ายที่ทําให้นายเป็นอย่างที่นายเป็น มันเศร้าและฉันไม่ชอบมันเหมือนกัน แต่เส้นทางที่นายเดินนั้นมันผิด โชคชะตาทําให้นายยืนอยู่บนเส้นทางที่ขวางทางเรา ฉันสงสัยว่าจะโทษใครได้ ไม่ใช่นายแน่นอน โลกนี้เป็นสถานที่ที่ซับซ้อน”

“นายต้องเผชิญกับความโศกเศร้ามากมายในชีวิตนี้ ขอให้นายไปสู่สุคติในชีวิตหลังความตาย และมีความสุขที่คู่ควร ขอพระเจ้าอวยพร”เรียอาริกล่าวก่อนจะโยนร่างของลูซิเฟอร์ออกไปข้างนอก

ร่างของลูซิเฟอร์ตกลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่ระดับความสูงหลายพันฟุต ก่อนที่มันจะตกลงไปในทะเล ทําให้น้ํากระเซ็นไปทั่วทุกที่

ร่างกายของเขายังคงจมน้ํา ความเร็วของการจมน้ําของเขาเพิ่มขึ้นอีกเพราะน้ําหนักที่หนัก ซึ่งผูกติดอยู่กับร่างกายของเขา

เรียอารสูดหายใจลึก ก่อนจะถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันสําคัญ แต่เขาก็แค่โยนเด็กลงทะเล เขาสงสัยว่าชีวิตของเขานําเขามาสู่ช่วงเวลานี้ได้อย่างไร

เขามีเด็กอายุ 9 ขวบเป็นของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกแย่ยิ่งกว่ากับการฆ่าเด็กคนหนึ่ง แต่ไม่มีทางเลือก

เขาหันกลับมามองวารันท์เพียงเพื่อจะเห็นว่า หัวใจของลูซิเฟอร์ยังคงอยู่ในมือของเขา

“เขาบอกให้โยนแต่ลืมบอกว่าให้โยนหัวใจเขา หมายความถึงมันด้วยหรือเปล่า” เรียอาริสงสัยอย่างสับสน ว่าควรจะโยนหัวใจด้วยหรือเปล่า

“เขาอยากให้โยนเด็กลงทะเลโดยด่วน ฉันรอเขาตื่นไม่ไหวแล้ว หลังจากที่เรากลับไป มันคงจะแย่ถ้าฉันต้องโยนหัวใจของเด็กน้อยด้วย“เขาสงสัยว่าเขาควรทําอย่างไรกับหัวใจ ,

“ยังไงก็ตาม เขาคงหมายความอย่างนั้นเหมือนกัน เขาแค่ไม่รู้ว่าหัวใจอยู่ในมือของเขาด้วย“เรียอาริพูด ขณะเดินไปหาวารันท์ที่ไม่ได้สติ

เขารับหัวใจของลูซิเฟอร์จากวารันท์ ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่ประตูและโยนหัวใจออกไปข้างนอกด้วย

เขาเดินไปหานักบินและบอกให้เขานําเฮลิคอปเตอร์ไปที่ฐาน

“นายรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร เธออยู่กับลูซิเฟอร์และอยู่ใกล้กับเฮลิคอปเตอร์ แวเรียนท์เกิดใหม่ ดังนั้นเธอควรเป็นสมาชิกของพวกเขา แต่ฉันจําไม่ได้ว่าเห็นหน้าเธอ เธอถูกรับสมัครใหม่มาหรือไม่ โรเว่นถามเรียอาริ หลังจากที่เขามองไปที่เคนซึ่งนอนหมดสติอยู่

พวกเขายังไม่ทราบว่าสตรีที่หมดสติที่พวกเขาโจมตีคือเคน

ใครจะไปรู้ล่ะ เธออาจจะเป็นพี่เลี้ยงเด็กของลู ซิเฟอร์ ยังไงก็เป็นพวกของแวเรียนท์เกิดใหม่ เราไม่มีเวลามาถามเธอแล้ว เราจะถามเธอเมื่อไรว่าเธอตื่น อย่างไรก็ตาม เธออยู่ใกล้ลูซิเฟอร์ พวกเขาพาเธอมากับอัจฉริยะอันล้ําค่าของพวกเขา ดังนั้นอย่างน้อยเธอก็เป็นสมาชิกคนสําคัญ เรียอาริตอบ

เขาพูดต่อ”เราควรจะได้รับข้อมูลมากมายจากเธอ บางทีเราอาจจะได้รู้เกี่ยวกับฐานของพวกเขา

ตอนนี้”

เฮลิคอปเตอร์ที่บรรทุก APE เริ่มบินกลับไปที่ฐานขณะที่ร่างของลูซิเฟอร์ ยังคงจมอยู่ในทะเล จนกระทั่งตกถึงกันบึง เขาไม่หายใจและเขาก็ไม่หายเช่นกัน 2 นาทีผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะตายไปแล้วจริงๆ

ทะเลอันเงียบงันแต่กว้างใหญ่กลืนกินวอร์ล็อคหนุ่มน้อย

ในขณะที่ APF คิดว่าปัญหาของพวกเขาคือจุดจบ แต่พวกเขาไม่รู้ มันก็แค่จุดเริ่มต้น….

ตอนที่ 176: ไร้หัวใจ

 

“โลกรู้จักฉันในนามราชาวอร์ล็อควารันท์” วารันท์บอกกับลูซิเฟอร์ และยกเขาขึ้นไปในอากาศที่คอของเขา

 

ลูซิเฟอร์พยายามโจมตีวาแรนท์ด้วยสายฟ้าของเขา ก่อนจะรู้จักชื่อของเขาด้วยซ้ํา แต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าพลังของเขาใช้ไม่ได้ผล

 

ต่อให้พยายามแค่ไหน สายฟ้าก็ไม่หลุดจากมือ เกิดอะไรขึ้น? เขาไม่เข้าใจอะไรเลย 

 

เขามองไปรอบๆ เพื่อหาเคนขณะที่เขาหายใจไม่ออก แต่กลับพบเคนอยู่ใกล้เฮลิคอปเตอร์

 

เคนนอนอยู่บนพื้น ดูเหมือนหมดสติ ไม่มีบาดแผลบนร่างกายของเขา นอกจากนี้ ยังสามารถมองเห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ ตัวเขาซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอกจากวอร์ล็อคแห่งเงาเรียอาริ 

 

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ราชาแห่งการลอบสังหารโรเว่นก็ยืนอยู่ใกล้เรียอารีเช่นกัน สามคนนี้ดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่นี่

 

“ตะลึง? แกทําให้เราวิ่งตามหลังแกมามาก แต่ไม่เป็นไร แกทําร้ายคนของเรา แต่ก็ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นแกก็ทําร้ายแซนเดอร์ นั่นเป็นการดีน้อยกว่าเล็กน้อย ไม่มีความตายที่สมควรได้รับ แต่แล้วแกแสดงพลังของแกออกมา ตาของแกซึ่งไม่ค่อยดูดีซักเท่าไหร่นั่น” วารันท์บอกกับลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“ตอนนี้ที่ฉันมองแกอย่างใกล้ชิดก็จริง ฉันเห็นคําใบ้ของไวโอเล็ตในดวงตาของแก ฉันยังไม่เชื่อว่าพ่อของแกจะโง่ขนาดนี้ ไม่สําคัญหรอก หึ ยังไงแกก็ต้องตายเพื่อที่เราจะสุขสบาย ไม่งั้นชีวิตของเราสามารถจบลงได้” เขากล่าวขณะที่เขาเริ่มบีบคอของลูซิเฟอร์

 

“คนที่จะตายก็คือแกต่างหาก!” ลูซิเฟอร์พูด หายใจลําบาก ขณะที่กําหมัดและชกที่หน้าอกของวารันท์ พยายามใช้กําลังทั้งหมดของเขาในการชก

 

เมื่อชกกระทบหน้าอกของวารันท์ มันไม่เป็นไป ตามที่ลูซิเฟอร์คาดไว้ วารันท์ไม่ได้ลอยออกไปแทนเขายืนอยู่ที่นั่นโดยไม่แสดงอารมณ์

 

ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่ทํางานเช่นกัน

 

“นั่นเจ็บนิดหน่อย ไม่เลวสําหรับเด็ก แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะช่วยแก” วารันท์ กล่าวขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ของแวเรียนท์เกิดใหม่ 

 

พวกเขามาที่นี่ด้วยเฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาเอง แต่พวกเขาลงจอดในระยะไกลเพื่อให้แน่ใจว่าลูซิเฟอร์และเคนไม่รู้เกี่ยวกับการมาถึงของพวกเขา

 

เรียอาริใช้เงาของเขาผลักเคนออกไป ถอดแนวป้องกันแรกของลูซิเฟอร์ออก หลังจากนั้น ดูเหมือนง่ายเหมือนกับการรับขนมจากเด็ก

 

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ด้วยซ้ําเมื่อวารันท์เข้ามาใกล้เขา กล่าวกันว่าการปล่อยให้วารันท์ เข้าใกล้ถือเป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดที่มนุษย์สามารถทําได้

 

ลูซิเฟอร์ไม่มีสายฟ้าของเขา เขาไม่มีกําลัง เขาสงสัยว่าเขายังมีอาการทรุดโทรมอยู่หรือไม่ เขาต้องการทดสอบ

 

ขณะที่วารันท์พาลูซิเฟอร์ เข้าใกล้เฮลิคอปเตอร์มากขึ้น โดยยังคงรั้งเขาไว้ที่คอ ลูซิเฟอร์ถอดถุงมือสีดําออกจากมือทั้งสองข้างแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

 

เขาใช้สองมือแตะคอของวารันท์และพยายามใช้พลังของการเน่าเปื่อยของเขาในขณะที่บีบคอ เขาพร้อมกัน

 

“ไม่ได้ผล แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยชีวิตแกไม่ได้ในวันนี้” วารันท์ตอบขณะที่กํามือแน่น ทําให้ลูซิเฟอร์หอบหายใจ

 

“อยากเห็นอะไรก่อนตายไหม” วารันท์ถาม พลางมองดูลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบ แต่ก็ไม่สําคัญวารันท์นํามีดออกมาจากกระเป๋าของเขาและกรีดข้อมือทั้งสองของ ลูซิเฟอร์ ซึ่งเขากําลังพยายามจะคว้าที่คอของเขา

 

มีความเจ็บปวด แต่นั่นไม่ได้ทําให้ลูซิเฟอร์เกิดขึ้น ที่จริงแล้วสิ่งที่ทําให้เขาค่อย ๆ หายไปก็คือ ข้อมือของเขาไม่หายดี อย่าว่าแต่พลังแห่งการรักษาของเขาที่รวดเร็วก่อนหน้านี้เลย ตอนนี้เขารักษาด้วยพลังนั้นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย 

 

“แกทําอะไรลงไป?” ลูซิเฟอร์ถามทั้งที่ยังหายใจไม่ออก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อความเจ็บปวดที่ไม่สามารถหายใจได้ปรากฏในดวงตาของเขา

 

“ฉันเอาพลังของแกไป น่าเสียดายที่พลังของแกแรงไปหน่อย ฉันเลยทําได้แค่เอามันออกไปจากแกชั่วคราว ฉันควรจะพูด 2 นาที แต่ 2 นาที นั้นก็เพียงพอสําหรับแกที่จะตาย” วารันท์กล่าวอธิบาย

 

“แกรู้ไหมว่าทําไมแกถึงกลับมามีชีวิตอีก เพราะ การรักษาของแก แต่ถ้าแกตายโดยที่แกไม่มีพลังแห่งการรักษา แกจะตายตลอดไป มันจะไม่เหมือนกับตอนที่พลังของแกตื่นขึ้นครั้งแรก ไม่มีการหวนกลับจาก การหลับใหลชั่วนิรันดร์ในครั้งนี้” เขากล่าวต่อ

 

“เหลือเวลาเพียง 1 นาที ก่อนที่ผลกระทบของพลังของฉันจะหมดลง ขอให้สนุกกับชีวิตของแกในนาทีสุดท้าย และได้โปรดอย่าโทษฉันสําหรับความตายของแกเลย” เขากล่าวเพิ่มเติม 

 

“ฉันไม่สนุกกับการฆ่าลูกชายของเซล ไม่ว่าคนอื่นจะพูดถึงฉันว่าเกลียดพ่อแกของยังไง ฉันก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่ถึงอย่างนั้น ฉันไม่มีทางเลือก ชีวิตของแกจะทําให้คนอื่นเสียชีวิตในอนาคต และฉันปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นไม่ได้” 

 

วารันท์ก้าวเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ ในขณะที่เขาเริ่มนับถอยหลัง เฮลิคอปเตอร์เริ่มบินใน

 

อากาศ แต่แทนที่จะมุ่งหน้าไปยังเมือง เฮลิคอปgตอร์กลับมุ่งสู่ทะเล

 

“ก…แกฆ่าพ่อฉันเหรอ…” ลูซิเฟอร์ถามโดยตระหนักว่าเขาไม่มีทางออกจริงๆ เขาไม่มีกําลัง แต่เขาก็ไม่สามารถใช้พลังอื่นได้ และคนที่เขาเผชิญอยู่คือวารันท์ ความแข็งแกร่งและเทคนิค ปกติของเขาที่เขาเรียนรู้ก็ไร้ประโยชน์เช่นกัน 

 

อย่างน้อยเขาจําเป็นต้องรู้คําตอบ แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของเขาตามที่วารันท์กล่าว

 

“ไม่จริง คําตอบสั้น ๆ คือ ไม่ ฉันไม่ได้ฆ่าพ่อแก ส่วนใครฆ่าพ่อแม่แก ฉันคงสงสัยว่า แวเรียนท์เกิดใหม่ พวกที่ช่วยแก? พวกเขาฆ่าพ่อและแม่แก แกเสียใจไหมล่ะ หึ ?” วารันท์ถามยิ้มๆ 

 

“แกโกหก”ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่หัวใจเต้นช้าลง หายใจหอบถี่แรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้กลัว

 

“ฉันหวังว่าฉันจะโกหก แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันแน่ใจ แม้ว่าฉันจะไม่มีเงื่อนงําที่จะพิสูจน์ แต่ฉันแน่ใจว่าพวกเขาทํามัน” “ทําไมฉันต้องโกหกคนที่กําลังจะตายด้วยล่ะ จริงไหม ยังไงก็ตาม 10 วินาทีที่แล้ว เวลาหมดลงเพราะฉันไม่สามารถรอให้พลังของแกกลับมา“วารันท์พูดพร้อมกับถอนหายใจ

 

“ลาก่อน ลูซิเฟอร์ แอซเรล… ลูกชายของเซลแอซเรล ฉันหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป” เขาพูดก่อนจะใช้กําลังทั้งหมดเพื่อขยคอของลูซิเฟอร์ 

 

ยังไม่หมดแค่นั้นในขณะที่เขาสอดมือเข้าไปในอกของลูซิเฟอร์เพื่อดึงหัวใจออกมา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการหวนกลับคืนมาอีกเลย

 

ดวงตาของลูซิเฟอร์ยังคงเปิดอยู่ ขณะที่หัวใจของเขาถูกดึงออกจากอก แต่ดวงตาของเขากลับไม่มีประกายใดๆ เมื่อเขาถูกฆ่าอีกครั้ง อาจเป็นครั้งสุดท้าย

 

แม้ว่าไม่มีน้ําตาในดวงตาของเขา ไม่มีอะไรเหมือนครั้งแรกที่เขาตาย.. เขาไม่ได้กรีดร้องเหมือนครั้งแรก; เขาไม่ได้ถามว่าทําไมพวกเขาถึงทํา แบบนี้ในครั้งแรก เขาไม่แปลกใจเลยว่าทําไมคนถึงใจร้ายเหมือนครั้งก่อน

 

ตอนที่175: โลกรู้จักข้าในฐานะราชาวอร์ล็อควารันท์

 

“ในช่วง5ปีที่ผ่านมาทุกช่วงเวลาเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผมแค่ได้อยู่กับพวกเขาใช้เวลากับพวกเขาได้รับความรักและความเสน่หาจากพวกเขาทุกช่วงเวลามีค่าสำหรับผม”ลูซิเฟอร์ตอบ”สิ่งที่ผมไม่เคยลืมเช่นกัน”

 

“ดังนั้นถ้าผมบอกคุณถึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผมช่วงเวลานั้นก็คือ5ปีแรกของผม”เขากล่าวเพิ่มเติม

 

“อ่าสุดท้ายก็เป็นแบบนั้นจริงๆ”เคนถามในขณะที่เขายิ้มเยาะเย้ย

 

“แม้ว่าฉันต้องการที่จะบอกว่าคำตอบของคุณดีกว่าช่วงเวลาหนึ่งของฉันกับห้าปีของคุณฉันคิดว่าคุณชนะ”เขาพูดขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน?”เขาถาม“คุณต้องการให้ฉันทำอะไรแม้ว่าคุณจะไม่ต้องการอะไรจากเกมนี้เพราะฉันทำสิ่งที่คุณขอเกือบทั้งหมดแล้วแต่ก็ยังสามารถบอกและขอได้เพิ่มอีกถ้าคุณต้องการ”

 

“ผมต้องการให้คุณทำอะไรงั้นเหรอผมจะบอกคุณเมื่อถึงเวลาที่เราต้องกลับ”ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่เปิดเผยข้อมูลมากนัก

 

“เอาล่ะฉันเป็นหนี้คุณแล้วยังไงก็ตามฉันจะรีบกลับมาฉันควรตรวจสอบกับสำนักงานใหญ่เพื่อดูว่าแผนเป็นอย่างไรบ้าง”เคนกล่าวขณะที่เขายืนขึ้น

 

“แผนอะไร?”ลูซิเฟอร์ถามสงสัยว่าตอนนี้เป็นแผนอะไร

 

“โอ้มันเป็นสิ่งที่จะดึงความจริงของคุณออกมาคนที่คิดว่าคุณเป็นนักฆ่าจะรู้ว่าทำไมคุณถึงทำในสิ่งที่คุณทำลองคิดดูว่าในขณะที่เราวางเรื่องของเราไว้ข้างหน้าโลกฉันจะบอกคุณหลังจากที่ฉันกลับมา”เคนตอบก่อนจะเดินจากไปมุ่งหน้าไปยังเฮลิคอปเตอร์

 

อุปกรณ์ที่เขาสามารถใช้ติดต่อกับฐานได้นั้นอยู่ภายในเฮลิคอปเตอร์

 

เมื่อเคนจากไปลูซิเฟอร์ยังคงนั่งใกล้ทะเลและมองดูพระอาทิตย์ตกดิน

 

“พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยจริงๆที่นี่สวยมาก”เขาพึมพำเมื่อเห็นดวงอาทิตย์ที่ดูเหมือนจะจมอยู่ในทะเล

 

ดวงอาทิตย์สีแดงและเมฆที่อยู่บนท้องฟ้าทั้งหมดนี้ทำให้ถอนหายใจอย่างน่าทึ่ง

 

ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถมองเห็นสิ่งที่เหมือนงบนท้องฟ้าได้ด้วยเหตุผลบางประการ

 

“คุณพูดถูกสถานที่แห่งนี้สวยงามมากฉันเห็นในแบบที่คุณต้องการแต่ยังไม่สมบูรณ์ใช่ไหม”

 

“ผมอยากให้คุณ2คนอยู่ที่นี่กับผมเหมือนกัน”

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์นั่งดูพระอาทิตย์ตกอยู่คนเดียวเขาเริ่มรู้สึกหดหู

 

เขาเริ่มพูดกับตัวเองในขณะที่ความเศร้าดูเหมือนจะครอบงำเขาอีกครั้งเขาเริ่มคิดถึงพ่อแม่ของเขา

 

ความไร้สาระของเคนทำให้ลูซิเฟอร์ยุ่งๆแต่ตอนนี้เมื่อเคนไม่อยู่ความคิดที่น่าเศร้าเหล่านั้นก็เริ่มคลุมศีรษะของเขาอีกครั้ง

 

“ถ้าคุณอยู่ที่นี่โลกนี้จะน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยมันจะไม่มืดมนขนาดนี้เลยเหรอ?”

 

“ฉันคิดถึงคุณจริงๆคุณได้ยินฉันไหม”เขาย้ำหนักแน่น

 

“ถ้าเพียงคุณไม่ได้ทำให้ชีวิตของคุณตกอยู่ในอันตรายต่อมนุษยชาติคุณก็จะยังมีชีวิตอยู่ถ้าเพียงแต่คุณมีความเห็นแก่ตัวเพียงเล็กน้อยไม่มีอะไรแบบนี้จะเกิดขึ้นคนเห็นแก่ตัวทุกคนยังมีชีวิตอยู่แต่คุณตายแล้วทำไมใช่ไหม?”

 

ยิ่งลูซิเฟอร์พูดมากเท่าไรเขาก็ยิ่งอารมณ์เสียมากขึ้นเท่านั้นจนกระทั่งถึงจุดจบที่เขากำหมัดแน่น

 

“คนที่ควรปฏิบัติต่อคุณเป็นของขวัญเพื่อมนุษยชาติทำสิ่งนี้กับลูกชายของคุณคุณจะโกรธไหมถ้าคุณอยู่ที่นี่คุณจะลงโทษพวกเขาไหมคุณจะปกป้องฉันให้ปลอดภัยไหมคุณจะทำใช่ไหม”

 

เขายังคงจ้องมองที่พระอาทิตย์ตกดินในขณะที่เขาพูดซ้ำดูเหมือนว่าเขากำลังคุยกับพระอาทิตย์ตกแทน

 

พระอาทิตย์กำลังตกดินนำแสงไปพร้อมกับมันดูเหมือนว่าจะคล้ายกับพ่อแม่ของเขาที่เสียชีวิตโดยรับความสว่างของโลกของเขาไปพร้อมกับพวกเขา

 

“เดี๋ยวก่อน…ของขวัญ…ของขวัญ…ถูกแล้ว!ฉันจำได้!ฉันจำได้ทุกอย่าง!นั่นคือสิ่งที่พ่อของฉันจะพูดในความฝันนั้น!นั่นคือสิ่งที่เขาพูดในเวลานั้น!บางอย่างเกี่ยวกับของขวัญของฉัน”เขาอุทานออกมาทันทีขณะที่เขาเริ่มจดจ่อที่หัวของเขามากขึ้นเพื่อจดจำคำพูดของพ่อของเขา

 

ในไม่ช้าเขาก็จำทุกอย่างได้ในขณะที่ความฝันทั้งหมดชัดเจนและความทรงจำของเขาก็กลับมา

 

“แม่ขอโทษนะลูซิเฟอร์แต่พ่อกับแม่ต้องไปแล้วเราจะกลับมาเร็วๆนี้ลูกจะอยู่โดยไม่มีเราได้ไหมลูกของเราตอนนี้โตแล้วใช่ไหม””แน่นอนเขาเป็นลูกชายของผมชายคนนั้นหัวเราะขณะเดินเข้ามาใกล้”ขอโทษนะลูกแต่โลกต้องการเราเราจะอยู่ไม่นานและเมื่อเรามาเราจะชดเชยให้””ตอนนั้นจะเป็นยังไงบ้างแล้วเราจะไปเที่ยวกันต่อดีมั้ย?ลูซิเฟอร์ไม่เคยเห็นหาดออเรียนมาก่อนเลยใช่มั้ย?แม้จะไกลหน่อยแต่ก็เป็นสถานที่ที่สวยงามทั้งพระอาทิตย์ตกลมน้ำทุกอย่างก็ราวกับสวรรค์พ่อของฉันเคยไปพาฉันไปที่นั่นฉันคิดว่าเราควรไปพักผ่อนที่นั่นมันจะเป็นวันหยุดที่ดีที่สุด””หาดออเรียนน่ะเหรอถูกสิสถานที่นั้นสวยดีฉันกำลังคิดจะพาลูซิเฟอร์ไปที่นั่นด้วยเรายังไม่ได้พักผ่อนกันมากนัก

 

แม่ของลูซิเฟอร์หยิบถ้วยซุปและเริ่มให้อาหารลูก

ขณะที่พ่อของเขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง

 

“และเรายังสามารถมอบของขวัญให้เขาที่นั่นได้นั่นเป็นของเขาแล้วเราฝังมันไว้ที่หาดออเรียนใช่ไหมฉันคิดว่าถึงเวลาที่เราจะเอามันออกไปและมอบสิ่งนั้นให้ลูซิเฟอร์เขาอายุ5ขวบแล้วมันควรจะถึงเวลาที่เราเริ่มต้นสิ่งนั้น

 

“ของขวัญ!นั่นคือสิ่งที่เขาพูดถึง!ของขวัญของฉัน!เขาทิ้งของขวัญอะไรไว้เบื้องหลัง?ฉันต้องหามันให้ได้มรดกชิ้นสุดท้ายของพ่อแม่!สิ่งที่พวกเขาทิ้งไว้ให้ฉัน!ความทรงจำสุดท้ายของพวกเขา!ลูซิเฟอร์คิดขณะตัดสินใจค้นหาชายหาด

 

เดี๋ยวก่อนเคนอยู่ที่นี่”มันจะถูกต้องหรือไม่ที่จะค้นหาต่อหน้าเขา?ต้องดูก่อนว่ามันคืออะไรฉันจะรอให้เขาหลับแล้วค่อยค้นหา

 

เมื่อลูซิเฟอร์จำทุกอย่างได้เขาได้ปรับเปลี่ยนแผนซึ่งตอนนี้ประกอบด้วยสองสิ่งอย่างแรกคือค้นหาสิ่งที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้เขาโดยไม่แจ้งให้เคนรู้และอย่างที่สองคือการตามหาเวราซิตี้หลังจาก

 

เมื่อเขาเสร็จสิ้นแผนของเขาเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังเขา

 

“เขากลับมาสินะฉันควรทำตัวตามปกติ”ลูซิเฟอร์คิดขณะได้ยินเสียงฝีเท้า

 

“เคนคุณกลับมาแล้วเขาพูดขณะที่หันหลังกลับเพียงเพื่อให้ปากของเขาเปิดออกอย่างแปลกใจ

 

ไม่ใช่เคนที่ยืนห่างจากเขาเพียงก้าวเดียวแต่เป็นชายผมสีเข้มที่ดูเหมือนสวมเสื้อโค้ทและกางเกงราวกับว่าเขาเป็นนักธุรกิจ

 

ลูซิเฟอร์ยกมือขึ้นเพื่อโจมตีชายคนนั้นความใกล้ชิดอันน่าสะพรึงกลัวนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เห็นค่าและการได้เห็นคนแปลกหน้าที่อยู่ใกล้ๆที่ไม่ควรจะอยู่ที่นี่เป็นเรื่องที่อันตราย

 

เขาไม่ได้คิดซ้ำถึง2ครั้งที่จะถามคำถามใดๆในขณะที่เขาตัดสินใจโจมตีด้วยสายฟ้าของเขา

 

น่าเสียดายที่เขาเพิ่งเริ่มยกมือขึ้นเพื่อโจมตีเมื่อชายคนนั้นยิ้มเยาะขณะที่เขาคว้าคอเขาไว้

 

“อยากรู้เกี่ยวกับฉันไหมโลกรู้จักฉันในชื่อราชาวอร์ล็อควารันท์”ชายคนนั้นบอกลูซิเฟอร์

 

ตอนที่174: ซัลลาซาร์ลูเซีย

 

สำหรับคนที่นั่งอยู่หน้าทีวีเขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหนึ่งในสี่ราชาวอร์ล็อค

 

มีสี่ราชาวอร์ล็อคที่ดำรงอยู่ในขณะนี้แม้กระทั่งหลังจากการตายของเซลแอซเรล

 

วารันท์ซึ่งเป็นผู้นำของAPEเซสซึ่งเป็นผู้นำขององค์กรฮันเตอร์ไรอาซึ่งเป็นผู้นำของแวเรียนท์เกิดใหม่และซัลลาซาร์ลูเซีย

 

ไม่เหมือนอีก3คนซัลลาซาร์ลูเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรใดๆเขายังคงเหมือนกับเซลแอซเรลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนอื่น

 

ชายคนนั้นดูเหมือนจะแต่งตัวเหมือนนักลอบสังหารแต่แตกต่างจากโรเวนเล็กน้อยมีบางอย่างที่มีเสน่ห์ในตัวเขาเขาอายุเพียง20ต้นๆแต่เขาเป็นหนึ่งในวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว

 

ผมสีบลอนด์ที่สวยงามและดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาทำให้เขาดูเหมือนนางแบบนอกจากนี้ยังมีรอยสักที่น่าสนใจซึ่งขยายจากไหล่ถึงข้อมือทั้งสองข้าง

 

“ลูกชายของเซลแอซเรลใช่ไหมเด็กคนนี้เป็นใครฉันสนใจที่จะรู้ว่ามีวอร์ล็อคหนุ่มคนหนึ่งที่สร้างความรำคาญให้APFแทบบ้าแต่ทันทีที่รู้ว่าเขาเป็นลูกชายของเขาคนนั้น..”ซัลลาซาร์พึมพำเขาถอนหายใจ“เหมือนพ่อลูกกันจริงๆไม่เลวไม่เลวเลย”

 

“แต่การที่รู้ว่าลูกชายของเขาใช้ชีวิตแบบที่…ฉันเดาว่าฉันควรจะไปพบเขาจริงๆบางทีฉันอาจจะช่วยเขาได้นั่นคือสิ่งที่น้อยที่สุดที่ฉันสามารถทำได้เพื่อลูกชายของเซล”

ในสถานที่แห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากลูซิเฟอร์ชายคนหนึ่งกำลังดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งกำลังแสดงสิ่งอำนวยความสะดวกด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ผ่านดาวเทียม

 

ชายคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงานของรัฐที่ใช้ดาวเทียมเพื่อจับตาดูสถานที่สำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่น

 

มีเพียงฐานเดียวขององค์กรนี้และชายคนนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของมัน

 

เขาได้รับคำเตือนมากมายจากเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับการใช้ดาวเทียมเพื่อการใช้งานส่วนตัวและทุกครั้งที่เขาสัญญาว่าจะไม่ทำอีกเนื่องจากองค์กรค่อนข้างหละหลวมเขาจึงไม่ถูกไล่ออกหรือลงโทษเว้นแต่จะได้รับคำเตือนด้วยวาจาเล็กน้อย

 

ชายคนนั้นเฝ้ามองที่หน้าจอซึ่งกำลังแสดงบุคลากรทางทหารเข้าและออกจากโรงงานผลิตอาวุธ

 

“เฮ้อออ!”

 

ชายคนนั้นหาวขณะเหยียดแขนออก

 

“น่าเบื่อมากฉันใช้เวลาทั้งวันดูสถานที่เดียวกันฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์ที่จะได้สนุกบ้าง”

 

“ฉันควรค้นหาที่ใด”เขาพึมพำในขณะที่เขาตกอยู่ในความคิดลึกๆ

 

เขาเปิดไดอารี่ของเขาและเริ่มอ่านชื่อสถานที่ที่เขาเขียนไว้

 

“ภูเขาอาเมซ่าเหรอเห็นไหม”

 

“ป่าแดร็กเซียไม่นะ”

 

“ปรากฏการณ์สามเหลี่ยมงั้นเหรอ?คราวนี้คงไม่สนุกแน่”

 

“หาดออเรียนเหรอจริงสิน่าสนุกดีนะตอนนั้นเป็นช่วงที่น้ำขึ้นสูงทุกปีถ้าโชคดีก็อาจจะได้เห็น”

 

หลังจากอ่าน3หน้าในไดอารี่ของเขาในที่สุดเขาก็ลงเอยด้วยชื่อหาดออเรียนซึ่งทำให้เขาทิ้ง

 

เขาเริ่มกดแป้น2-3แป้นบนแป้นพิมพ์ขณะตั้งค่าพิกัด

 

มุมมองบนหน้าจอในไม่ช้าก็เปลี่ยนไปเมื่อเริ่มฉายภาพหาดออเรียน

 

“หะมีคนอยู่ที่นั่นเหรอพวกเขากำลังทำอะไรอยู่ที่นั่นมันอันตรายที่จะอยู่ที่นั่นพวกเขาง่เง่าหรือเปล่าพวกเขาอาจจะตายถ้าพวกเขาโชคร้าย”

 

เมื่อชายคนนั้นมองไปที่หน้าจอเขาก็ตกตะลึงเมื่อเห็นว่าชายหาดไม่ว่างเปล่าดูเหมือนจะมีคน2คนเดินอยู่ใกล้ทะเล

 

“เดี๋ยวก่อนคนนั้นดูเหมือนเด็กผู้ใหญ่ที่อยู่กับเขาก็งี่เง่า!พาเด็กไปที่นั่น?”ชายคนนั้นพูดอย่างอารมณ์เสีย

 

“เด็กควรจะไร้เดียงสาและไม่รู้เกี่ยวกับความเสี่ยงในตอนนี้แต่ผู้หญิงที่อยู่กับเขาควรมีความคิดหน่อย!”

 

เขาจดจ่ออยู่กับเด็กและซูมเข้าไปเพื่อให้แน่ใจว่าเขาตัดสินใจแจ้งทางการ

เกี่ยวกับเด็กคนหนึ่งกำลังเดินอยู่บนชายหาดเพื่อที่พวกเขาจะได้ดึงตัวเขาออกมา

 

ทันทีที่เขาซูมไปที่เด็กดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

 

“ห่าอะไรวะนั่นไอ้เด็กนั่น!นั่นมันแวเรียนท์ที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในรายชื่อAPEไม่ใช่เหรอ?”ชายผู้นั้นอุทานออกมาเมื่อเห็นใบหน้าของลูซิเฟอร์ในระยะใกล้

 

เขาจำลูซิเฟอร์ได้ตั้งแต่เห็นเขาในข่าวมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว

 

เขายังคงมีการรับรู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นนักฆ่าแวเรียนท์เนื่องจากเขาไม่เห็นข่าวที่ออกอากาศในวันนี้เขาอยู่ที่นี่ในสำนักงานเมื่อแวเรียนที่เกิดใหม่เข้ามาแทนที่ช่องทางต่างๆ

 

ยิ่งกว่านั้นไม่อนุญาตให้ใช้โทรศัพท์ส่วนตัวในสถานที่นั้นเขาจึงไม่สามารถตรวจสอบเน็ตเพื่อทราบการอัปเดตล่าสุดได้

 

พวกเขามีโทรศัพท์พื้นฐานในสำนักงานเท่านั้นซึ่งไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

 

“เด็กคนนั้นฆ่าคนไปเยอะเขาเลยซ่อนตัวจากAPFถ้าจำไม่ผิดมีรางวัลให้ข้อมูลเกี่ยวกับเด็กด้วยดีจังฉันจะได้เงินไปทำความดี”เขาคิดในขณะที่เขาพยักหน้า

 

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกดหมายเลขที่เขาจำได้หมายเลขโทรศัพท์ของAPPที่ได้รับในข่าวมีเพียง3หมายเลขเท่านั้น

 

ห้องควบคุมAPFได้รับโทรศัพท์จำนวนมากตลอดทั้งวันแต่คราวนี้ต่างออกไปพวกเขารับสายพร้อมข้อมูลที่ต้องการ

 

ผู้โทรแจ้งพวกเขาเกี่ยวกับตำแหน่งของลูซิเฟอร์ซึ่งมอบให้กับอลูเรนเพิ่มเติมโดยด่วนที่สุด

 

ตลอดทั้งวันลูซิเฟอร์เดินไปตามชายหาดเพื่อพูดคุยกับเคนเขาพูดหลายสิ่งหลายอย่างแต่เขายังไม่ได้พูดถึงความจริง

 

ตลอดทั้งวันเคนยังถามคำถาม2-3ข้อเกี่ยวกับชีวิตของลูซิเฟอร์ซึ่งเขาตอบโดยไม่ลังเลลูซิเฟอร์เริ่มเปิดใจเล็กน้อยเกี่ยวกับชีวิตของเขา

 

เป็นเวลาเย็นและดวงอาทิตย์เริ่มตกแสงแดดเริ่มลดลงเมื่อความมืดเริ่มเข้าครอบงำลู

ซิเฟอร์และเคนนั่งใกล้ทะเลมองดูดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังเคลื่อนลงมาช้าๆ

 

“ลูซิเฟอร์มาเล่นเกมกันว่าไง?”เคนถามลูซิเฟอร์

 

“เกมอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างสับสน

 

“คุณบอกช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของคุณก่อนที่จะมาเป็นแวเรียนท์และฉันจะบอกคุณเองว่าใครที่เก่งกว่าเป็นผู้ชนะและผู้ชนะก็จะได้รับรางวัลเช่นกัน”เคนตอบ

 

“รางวัลอะไร” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“ถ้าคุณชนะฉันจะทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่คุณขอให้ทำถ้าฉันชนะคุณจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ฉันขอให้คุณทำ ”เคนแนะนำ” วิธีที่ว่าคือ…?”

 

“อา…ฉันยอมรับ” ลูซิเฟอร์พูดโดยไม่ต้องคิดซ้ำสอง

 

ถ้าเขาชนะเขาอาจจะให้เคนพาเขาไปที่เวราซิตี้นี้เป็นสิ่งที่ดีและถ้าเขาแพ้เคนจะทำอะไรที่เขาไม่ต้องการทำได้บ้าง?เขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ในขณะที่เขายอมรับ

“ดีขึ้นแล้วฉันไปก่อนนะ” เคนพูดยิ้มๆ

 

เขามองไปที่ทะเลขณะที่เขาเริ่มพูด

 

“ความทรงจำที่มีความสุขที่สุดของฉันคือตอนที่ฉันอายุได้7ขวบพ่อกับแม่พาฉันไปหาครอบครัวของเพื่อนคุณรู้ไหมว่าพวกเขาพูดอะไรต่อหน้าคนอื่นๆ?” เคนถามลูซิเฟอร์

 

“อะไร?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างไม่เข้าใจ

 

“พวกเขาบอกว่าฉันคือสิ่งที่พวกเขาภูมิใจที่สุดพวกเขาบอกว่าพวกเขาภูมิใจในตัวฉันและฉันนำแสงสว่างมาสู่โลกมืดของพวกเขาเมื่อมาถึงพวกเขาบอกว่าพวกเขารักฉันมากแค่ไหนต่อหน้าผู้คนจำนวนมากและฉันเห็นว่ามันเป็นของจริงนั่นคือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉัน” เคนตอบ

 

“ฉันอาจจะลืมทุกอย่างเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันแต่ฉันไม่สามารถลืมช่วงเวลานี้ได้เลย”

ลูซิเฟอร์เหลือบมองเคนและสังเกตเห็นใบหน้าของเขาที่ดูเหมือนจะชวนให้นึกถึงอดีตดูเหมือนเขาจะหมายความอย่างนั้นจริงๆ

“บอกมาเลย”เคนถามลูซิเฟอร์

 

“ช่วงเวลาที่มีค่าและมีความสุขที่สุดของผม?” ลูซิเฟอร์ถามขณะครุ่นคิด

 

“ผมอยู่กับครอบครัวได้เพียง5ปีก่อนที่พวกเขา…” เขาพึมพำแต่มันยังไม่จบ

 

ตอนที่ 173: โกหก

 

บางคนถึงกับสงสัยว่าคนเหล่านี้ได้รับอนุญาต ให้ทํางานกับเด็ก ๆ ให้กับรัฐบาลได้อย่างไร

 

“เด็กที่คุณคิดว่าเป็นอาชญากรยังไม่ได้เกลียดใครเลยเขารักทุกคนและหวังว่าจะเป็นเหมือ นพ่อแม่ของเขา ต่อจากนี้ไปเพราะเขาเป็นคนจิตใจดีไม่เหมือนกับ APF และรัฐบาล อะไรทําให้วิญญาณที่ใจดีนี้กลายเป็นอาชญากรคุณสงสัยคําตอบนั้นง่าย!”

 

“มันเป็นความโหดเหี้ยมที่ครอบงําของรัฐบาลแม้ว่าหลังจากทั้งหมดนี้ พวกเขาไม่ได้หยุดภาพที่คุณเห็นในตอนเริ่มแรกไม่ใช่ล่าสุดนั่นคือภาพที่ตามมาทันทีหลังจากที่คุณเห็น“ผู้บรรยายกล่าวภาพยังคงดําเนินต่อไป

 

ลูซิเฟอร์ถูกนําออกจากห้องของเขาและนําไปที่ห้องทดลอง โดยวางเขาไว้บนเตียง สายไฟจํา นวนมากติดอยู่ที่ร่างกายของเขา

 

ในไม่ช้าการทรมานก็เริ่มขึ้น มันแสดงให้เห็นว่าแม้ลูซิเฟอร์จะกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง แต่นักวิทยา ศาสตร์ก็ไม่สงสารเขาตรงกันข้ามดูเหมือนว่าพวกเขากําลังสนุกสนานกับรอยยิ้มบนใบหน้าของ พวกเขาขณะที่ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 

 

“เขาตายแล้ว เซลล์ทั้งหมดถูกทําลาย 100 เปอร์เซ็นต์

 

เมื่อผู้คนเห็นภาพที่มีบริบททั้งหมดที่พวกเขา ไม่เคยมีมาก่อนพวกเขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก 

 

พวกเขาคิดว่าการทรมานนี้กําลังเกิดขึ้นหลังจากที่เขากลายเป็นฆาตกร? แต่มันทํามาก่อนเห รอ? มันทําในตอนที่เขาไม่ได้ทําอะไรผิดเลยเห รอ?

 

ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้ว่าเด็กคนนี้ผ่านอะไรมามากแค่ ไหนสิ่งที่เด็กคนนี้ผ่านมาพวกเขาไม่ปรารถนาแม้แต่กับศัตรูตัวฉกาจของพวกเขานี่มันโหดร้ายเกินไป

 

“ดังนั้น ลูซิเฟอร์จึงถูกฆ่า! เด็กที่มีความหวังทั้งหมดนี้เพื่อทําให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น ถูกฆ่า ลูกชาย ของเซล แอซเรลที่สละชีวิตของเขาถูกฆ่าตาย! คิดว่ารัฐบาลสนใจเขาหลังจากเห็นอะไรไหม ทํา กับลูกชายของเขาแล้วเหรอถ้าคุณทําแสดงว่าคุณไร้เดียงสา!”

 

“ไม่มีสักคนเดียวที่ดูแลคนอื่นจะทรมานลูกชายแบบนี้มาครึ่งทศวรรษ!”

 

“อนาคตของเด็กน้อยถูกพรากไปจากเขา ทั้งหมดเป็นเพราะความผิดพลาดของเขาเอง ตั้งแต่ตอนที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตเขามองเห็น แต่ด้านมืดของมนุษยชาติเท่านั้น ไม่มีใครปกป้องเขาได้!”

 

“โชคดีที่พ่อแม่ของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้งในฐานะแวเรียนท์ ทั้งหมดที่เขาต้องการคือฆ่านักวิ ทยาศาสตร์พวกนั้นใครๆ ก็อยากทํา”

 

“ตลอดการเดินทาง APE เริ่มไล่ตามและโจมตีเขาในการป้องกันตัวเอง เขาต้องฆ่าพวกคนเหล่านั้นนั่นผิดไหมนั่นทําให้เขากลายเป็นฆาตกร ที่โหดร้ายหรือเปล่า”

 

“ใครเป็นคนตัดสินว่าเขาเป็นอาชญากร? APF? APE เดียวกับที่อ้างว่าปกป้องผู้คนและห่วงใยชีวิตของพวกเขา?”

 

“แม้หลังจากมีสิ่งกีดขวางมากมายในที่สุดลูซิเฟอร์ก็แก้แค้นและฆ่านักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น” ผู้ บรรยายกล่าว

 

ได้ยินข่าวนั้น คนส่วนใหญ่รู้สึกโล่งใจ นั่นคือสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นสมควรได้รับ พวกเขาไม่ได้รู้สึกแย่กับรายละเอียดของพวกเขาแม้แต่ น้อย

 

บางคนถึงกับยกกําปั้นขึ้นไปในอากาศโดยไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นได้ หลังจากทั้งหมดนี้เด็กได้รับการแก้แค้นของเขา เขาสมควรได้รับมันพวกเขาดีใจที่ไอ้พวกนั้นตายแล้วพวกเขาไม่สามารถทําสิ่งเหล่านี้กับผู้อื่นได้

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

“เรื่องราวยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อลูซิเฟอร์ออกจากสถานที่นี้หลังจากสังหารนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นแล้ว APF ก็เข้ามากักขังเขาอีก

ครั้ง”

 

“เมื่อลูซิเฟอร์ไม่ยอมแพ้ พวกเขาก็โจมตีเด็กน้อย”

 

ภาพแสดงให้เห็นว่าแซนเดอร์โจมตีลูซิเฟอร์และฆ่าเด็กไร้เดียงสาในการต่อสู้ครั้งก่อนหน้านี้

 

“คนที่คุณเห็นว่าทําร้ายร่างกายไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแซนเดอร์เบลคหนึ่งในผู้นําของ APP และเด็กที่เขาฆ่าก็เป็นเหยื่อของการทรมานในสถานที่นี้มากกว่าที่ลูซิเฟอร์ปล่อยให้เป็นอิสระ” 

 

“ในที่สุด เด็กๆ ก็มีอิสระ แต่นั่นไม่ได้เกิดขึ้นในขณะที่ APE ฆ่าเด็ก พวกแวเรียนท์ที่ไร้เดียงสา!” 

 

“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทั้งหมดที่ลูซิเฟอร์ทําคือป้องกันตัวและแก้แค้น และเขาถูกเรียกว่าเด็กปีศาจ?เขาถูกเรียกว่าปีศาจงั้นเหรอ?”

 

“ในทางกลับกัน APF องค์กรที่อ้างว่าต่อสู้เพื่อความยุติธรรมและมอบตําแหน่งอาชญากรให้กับผู้คนพวกเขาคืออะไรกันล่ะ?”

 

“ใครคือปีศาจตัวจริง? เด็กที่โดนทรมานและป้องกันตัวมากขนาดนี้ หรือกองกําลังพิทักษ์สันติราษฎร์ที่พยายามจะฆ่าเด็กแทนที่จะเข้าใจและ ช่วยเหลือเขาจากความอยุติธรรม”

 

“ใครคือปีศาจตัวจริง? เด็กที่ฆ่าคนที่อยากจะฆ่าเขาหรือ APF ที่ฆ่าเด็กไร้เดียงสาจํานวนมากอ ย่างแท้จริงโดยไม่ต้องเสียใจแม้แต่น้อย?” ผู้บรรยายถามขณะที่วิดีโอเน้นไปที่ใบหน้าไร้อารมณ์ ของแซนเดอร์หลังจากฆ่าเด็ก

 

“นี่คือเวลาของคุณที่จะคิดเกี่ยวกับมันหยุดพูดจาปิดบังและมองความเป็นจริง APF นั้นชั่วร้า ย รัฐบาลคือความชั่วร้าย พวกเขาแสดงด้านที่ชอบธรรมเพื่อซ่อนความชั่วร้ายที่แท้จริงที่พวก เขาทํา ในขณะที่กล่าวโทษทุกสิ่งที่ไม่ดีในการจลาจล ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องลุกขึ้นรับอํานาจในมือ ของพวกคุณเองอย่าปล่อยให้มันดําเนินไป”

 

ผู้บรรยายพูดต่อแต่เขายังพูดไม่เสร็จ ตอนนั้นเองที่สัญญาณถูกตัดช่องกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 

“เราทําได้แล้ว! ในที่สุด เราก็สามารถตัดการเชื่อมต่อและกู้คืนช่องสัญญาณได้”ชายคนหนึ่งบอกวารันท์ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขาในห้องควบคุม 

 

“คุณทํา แต่ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไปแล้วนี่มันเรื่องใหญ่ที่เรากําลังเข้าไปยุ่ง“วารันท์พึมพําขมวดคิ้ว”ความไม่ไว้วางใจของผู้คนในเราจะสูงตลอดเวลาไม่ดีแล้ว”

 

เขามองไปทางเรียอาริ ก่อนที่เขาจะเริ่มจากไป 

 

“เรียอาริ แถลงการณ์จากฝ่ายเรา อ้างว่าวิดีโอที่ใช้ในคลิปนั้นเป็นของปลอม”วารันท์บอกกับเรียอาริ

 

“หมายความว่าฉันควรจะโกหกงั้นเหรอ?”เรียอาริถามพลางขมวดคิ้ว

 

“มันเป็นเรื่องที่ดี เราต้องโกหกสักหน่อยมิฉะนั้นปัญหาจะใหญ่ขึ้น เราไม่สามารถปล่อยให้แวเรียนท์เกิดใหม่กลายเป็นวีรบุรุษได้”

 

“เราไม่สามารถกลายเป็นคนร้ายได้ การสนับสนุนจากสาธารณชนเป็นสิ่งสําคัญฉันจะบอกให้ประธานาธิบดีรักษาคําพูดเดิมและเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าของปลอม”วารันท์ตอบพร้อมส่ายหัวเบาๆ 

 

“เราขาดการเชื่อมต่อ ฉันควรลองอีกครั้งไหม”สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ถามไรอาซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขา

 

“ไม่จําเป็น ฉันคิดว่าเราได้ข้อมูลส่วนใหญ่หมดแล้วไม่ต้องทําอะไรมากกว่านั้น ตอนนี้ได้เวลาใช้ สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์แล้ว พวกเขาจะพยายามเรียกมันว่าข่าวลวงอย่างแน่นอน น่าเสียดายที่

 

พวกเขาจะได้รับคําถามมากทันทีที่พวกเขาทํามัน” ไรอากล่าวขณะที่เขายิ้ม

 

ขณะที่ทั้งสองฝ่ายพยายามจะเล่นเกมประสาทกันมีอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสม การใดๆ

 

ชายผมบลอนด์คนหนึ่งกําลังดูทีวีและเห็นทุกสิ่งที่ปรากฏ

 

สําหรับผู้ชายคนนั้น เขาไม่ใช่คนธรรมดาเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก….

 

 

ตอนที่ 172: ความคิดที่น่ากลัว 

 

เมื่อผู้บรรยายทิ้งระเบิดของการเปิดเผยนี้คนส่วนใหญ่ที่กําลังดูทีวียืนขึ้นด้วยความตกใจ 

 

การเปิดเผยนใหญ่เกินไป ฆาตกรคนนี้คือลู กชายของวอร์ล็อคในตํานานอย่าง เซล แอซเรล? มันเป็นไปได้อย่างไร? ลูกชายฮีโร่กลายเป็นวายร้าย? ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ และคนส่วนใหญ่ถึง กับคิดว่าผู้บรรยายกําลังโกหก

 

“ท่านคือลูซิเฟอร์ แอซเรล เด็กชายผู้ไร้เดียงสาที่มีวัยเด็กไร้เดียงสาเป็นที่รักของพ่อแม่ เขา เป็นเด็กธรรมดาที่มีความฝันและความหวังเหมือนพวกเราที่เหลือ แต่ความฝันของเขาก็ถูกพรากไปหลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต !”ผู้บรรยายพูดต่อเสียงของเขาและข้อมูลนี้ทําให้ผู้ชมทุกคนรู้สึกบางอย่างมันทําให้พวกเขาไม่สบายใจ

 

รูปภาพในวัยเด็กของลูซิเฟอร์เริ่มปรากฏบน หน้าจอที่เขาอยู่กับพ่อแม่นี่เป็นการพิสูจน์ว่าเขา เป็นลูกชายของพวกเขาจริงๆ และไม่ใช่เรื่องโกหก

 

“เด็กคนนี้อายุแค่ 5 ขวบเท่านั้น! เขาเป็นแค่เด็กตอนที่พ่อแม่ของเขาไปที่ดันเจี้ยนของรัฐบาล และคําขอขององกรค์ฮันเตอร์ที่จะรักษาประเทศนี้และโลกนี้ให้ปลอดภัย แต่พวกเขาก็ไม่กลับมา! พวกเขาเสียชีวิตในดันเจี้ยน น่าจะเป็นเพราะโครงการต่อต้านพวกเขาโดย APF และรัฐบาล คุณคง คิดไม่ถึงแน่ๆ “พวกคุณบางคนอาจบอกว่าเซลเป็นฮีโร่ของมนุษยชาติ และเขาดูแลมนุษย์ให้ปลอดภัยเช่นเดียวกับองค์กรฮันเตอร์และรัฐบาลใช่ไหมเป้าหมายของพวกเขาก็เหมือนกันทําไมพวกเขาถึงวางแผนต่อต้านเซลกันล่ะ?“ผู้บรรยายถามอีกครั้ง

 

โรเวนบุกเข้าไปในห้องทํางานของวารันท์ดูเหมือนรีบร้อน

 

“นายต้องเห็นสิ่งนี้! มาเร็ว! มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น!“โรเวนบอกวารันท์ “เรากําลังมีปัญหา!”

 

“เกิดอะไรขึ้น?” วารันท์ถามขณะยืนขึ้น” กบฏโจมตีเมืองอีกแล้วเหรอ? “ใช่มันคือแวเรียนท์ เกิดใหม่! พวกมันไม่ได้โจมตีเมืองใด ๆ แต่ได้เข้ายึดทุกช่องทางและตอนนี้พวกมันกําลังให้ข้อมูล เกี่ยวกับลูซิเฟอร์และอดีตของเขา!“เรียอาริบอกวารันท์ด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว

 

ในขณะที่วารันท์ ได้รับแจ้งเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นการออกอากาศทางช่องต่างๆ ยังคงดําเนินต่อไป

 

“น่าเสียดาย นั่นคือความจริง! ยังคิดว่าเรากําลัง โกหกอยู่หรือวางมือบนหัวใจของคุณและคิดให้ รอบคอบ ถ้ารัฐบาลชอบเซลจริงๆ พวกเขาจะปฏิบัติต่อลูกชายกําพร้าคนใหม่ของเขาอย่างไร ด้วยความระมัดระวัง?หากพวกเขาเคารพเซลพวกเขาจะปฏิบัติต่อลูกชายของเขาด้วยความระมัดระวังและพยายามให้ชีวิตที่ธรรมดาและมีความ สุขแก่เขาตามที่เขาสมควรได้รับ แต่ไม่ใช่! “รัฐบาลพาลูซิเฟอร์ออกจากบ้านและพาเขาไปที่สถา นพยาบาล! สถานที่ที่เขาได้รับการทดสอบและเก็บไว้ในกรงที่เด็ก ๆไม่ควรสัมผัส! คอยดูตัวเอง ว่าอีก 5 ปีข้างหน้าในชีวิตของเขาหลังจากพ่อแม่ของเขาเป็นอย่างไรความตายคืบหน้า“ผู้บรรยายกล่าวก่อนจะหยุด

 

ฟุตเทจบนหน้าจอเปลี่ยนไป ในที่สุดก็เปลี่ยนไปเป็นฟุตเทจที่บีบหัวใจของการทรมาน

ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นว่าลูซิเฟอร์วัย 5 ขวบถูกนําตัวเข้ามาในโรงงานมันแสดงให้เห็นว่ามี การทดสอบกับเขาอย่างไรที่เด็กไม่ควรได้รับ

 

ทําให้เขายืนอยู่กลางสายฝนทั้งวันโดยไม่ปล่อยให้นั่งบังคับเขาให้นอนอยู่หลายวันโดยไม่ ได้นอน ทําให้เขาอยู่ในห้องที่เหมือนอยู่ในคุกซึ่งเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป

ห้องที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเตียงมันเป็นที่เดียวที่เขาเห็นนอกจากห้องแล็บในอีก 5 ปีข้างหน้า

 

ภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นชีวิตอีก 5 ปีข้างหน้าของลูซิเฟอร์ ทําให้ผู้คนรู้สึกเศร้าแทนเด็ก 

 

เด็กคนนั้นช่างน่าสงสารจริงๆ หลังจากที่ต้องผ่านเรื่องทั้งหมดนี้ คนส่วนใหญ่รู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ เขาได้รับ แต่นั่นเป็นกรณีพิเศษสําหรับแวเรียนท์ ที่ไม่เกี่ยวข้อง

 

แวเรียนท์ส่วนใหญ่เคารพเซลเหมือนกับไอดอลของพวกเขา ชายผู้เป็นวีรบุรุษของมนุษย ชาติ

 

ดังนั้นการที่ได้เห็นลูกชายของแวเรียนท์ผู้ยิ่งใหญ่ ถูกลงโทษแบบนี้แม้หลังจากที่พ่อของเขา ทําเพื่อพวกเขามามากมาย นี่มันเป็นโลกที่โหดร้ายอะไรเช่นนี้? การเปิดเผยทั้งหมดนี้กระทบต่อแว เรียนท์อย่างหนักเป็นพิเศษ

 

แวเรียนท์บางคนที่มีลูกอดไม่ได้ที่จะมองดูพวกเขาสงสัยว่าจะเกิดสิ่งเดียวกันนี้กับลูก ๆ ของ

 

พวกเขาเมื่อพวกเขาตายหรือไม่ แม้แต่ความคิดเพียงอย่างเดียวก็ทําให้พวกเขาหวาดกลัว

 

ขณะที่พวกแวเรียนท์รู้สึกเศร้าอย่างสุดซึ้งต่อลูซิเฟอร์เสียงของผู้บรรยายก็ดังขึ้นอีกครั้ง

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

“หลังจากนี้ คุณคิดว่าเด็กที่โหดร้ายและกําลังสังหารในสายตาของคุณจะคิดอย่างไร เขาคงจะ เริ่มเกลียดชังมนุษยชาติใช่ไหมฟังสิ่งที่เขาพูด หลังจากทั้งหมดนั้นผู้บรรยายกล่าวก่อนที่ภาพจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

ตอนนี้มันกําลังแสดงให้เห็นลูซิเฟอร์ในวันสุดท้ายของเขาในสถานที่นี้เมื่อ ดอกเตอร์ราว, ดอกเตอร์เรย์แมนและดอกเตอร์มิน มาที่ห้อง ของเขาเพื่อพาเขาไปทดสอบ

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล มากับพวกเราด้วย“ดร.ราวกล่าวในวิดีโอนั้น

 

“ฉันจะถูกทดสอบอีกใช่ไหม ฉันสามารถพัฒนาพลังเหมือนพ่อได้หรือไม่ ฉันอยากจะเป็นเหมือน พ่อแม่และช่วยเหลือทุกคน”ลูซิเฟอร์ตอบ

 

เมื่อผู้ชมได้ยินคําเหล่านี้ พวกเขารู้สึกเหมือนกับคําเหล่านี้แทงเข้าในหัวใจ ต่อจากนี้ไป เด็ก คนนี้ก็ยังอยากช่วยทุกคน?แม้หลังจากที่พวกเขา ทํามากมายกับเขาหลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตเขาก็ยังต้องการช่วย?

 

สิ่งนี้ยังทําให้เกิดคําถามขึ้นในใจพวกเขาเด็กชายที่ต้องการช่วยมนุษย์แม้หลังจากทั้งหมดนี้ เขากลายเป็นฆาตกรโหดที่ APFต้องการได้อย่าง

ไร?

 

เกิดอะไรขึ้นกับเด็กที่ทําให้เขากลายเป็นฆาตกร? อะไรทําให้เด็กไร้เดียงสาลงมาทางนั้น? เขา ไม่ได้ดูบ้าจากสิ่งที่พวกเขาเห็นแล้วอะไรทําให้เขาเป็นแบบนั้น?

 

ภาพดังกล่าวยังคงดําเนินต่อไปและยังแสดงให้เห็นคําตอบของด็อกเตอร์ราวกับลูซิเฟอร์

 

ไม่ แกจะไม่มีวันมีอํานาจ จะดีกว่าถ้าแกไม่พูดกับใครเลยว่าแกเป็นลูกชายของ เซล แอซเรล และ แคลรีส* ดอกเตอร์ราวบอกกับลูซิเฟอร์

 

เขาไม่รู้สึกเขินอายแม้แต่น้อยที่คุยกับเด็กแบบนั้น” ไม่อย่างนั้นพวกเขาหลายๆคนก็คงจะกลายกําลังหัวเราะเยาะให้กับผู้คนที่มีลูกชายที่ไร้ค่า

 

เช่นนี้

 

“นักวิทยาศาสตร์สุดเหี้ยมคนนี้! เขาบ้าไปแล้วเหรอ! เด็กคนนั้นใจดี แต่เขาพูดกับเขาแบบนั้น เหรอ? แม้ว่าเซลได้ช่วยชีวิตคนมากมายแล้ว?” 

 

“ไอ้เวรเอ้ย! ฉันเกลียดนักวิทยาศาสตร์พวกนี้!”

 

แวเรียนท์ส่วนใหญ่ที่เห็นสิ่งนี้ต่างพากันสาปแช่งเพราะพวกเขาจินตนาการว่าลูซิเฟอร์เหมือนลูก ชายของพวกเขา หลังจากที่รู้ว่าเขาเป็นบุตรของเซลแอซเรลเพราะเซลได้ช่วยเหลือผู้คน มากมาย

 

แม้แต่มนุษย์ก็ยังไม่พอใจกับพฤติกรรมที่พวกเขาเห็น.. เจ้าพวกนี้เป็นมนุษย์ขยะจริงๆพวกเขาทําให้ลูซิเฟอร์รู้สึกว่ามนุษยชาติทั้งมวลนั้นแย่มากทั้งหมดเป็นเพราะพวกเขามันเลว!

 

ตอนที่171:เขาคือลูซิเฟอร์แอซเรล

 

“การเห็นปีศาจแปรธาตุสามารถทําให้คุณรวยได้รัฐบาลประกาศรางวัลสําหรับผู้ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเขา”

 

“แวเรียนท์ลึกลับที่กําลังถูกล่าตัวตนของเขายังไม่เป็นที่รู้จักแต่นี่คือการเดาของเราไม่กี่ครั้ง”

 

“ราชาวอร์ล็อควารันท์สัญญาว่าจะค้นหาปีศาจแวเรียนท์ในขณะที่ขอการสนับสนุนนี่คือคําแถลงทั้งหมดของเขา”

 

“แวเรียนท์ปีศาจ..”

 

“ฆ่าเด็ก..”

 

“ปีศาจในร่างเด็ก…”

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

“ปีศาจ…”

 

ไม่ว่าลูซิเฟอร์จะอ่านบทความกี่เรื่องพวกเขาก็เป็นแบบนี้ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นวายร้าย

 

แวเรียนท์ปีศาจเหรอตลอด2-3เดือนที่ผ่านมาฉันได้ยินมาเยอะมากบางคนเรียกฉันว่าปีศาจในขณะที่คนอื่นเรียกฉันว่ามารร้ายบางคนเรียกฉันว่าขอทานในขณะที่บางคนสาปแช่งครอบครัวของฉันที่ให้กําเนิดฉันนี่ไม่ใช่เรื่องตลกลูซิเฟอร์พึมพําขณะที่เขาหยุดอ่าน

 

เขาเริ่มมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง

 

“อย่าไปใส่ใจนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทําเพราะพวกเขาควบคุมสื่อทุกรูปแบบพวกเขาทําให้เราเป็นคนร้ายในขณะที่พวกเขาทําให้ตัวเองเป็นวีรบุรุษ“เคนปลอบลูซิเฟอร์ขณะที่เขาปิดแล็ปท็อปและเก็บมันกลับ

 

“ผมไม่ใส่ใจพวกเขาไม่สําคัญกับผมจริงๆ“ลูซิเฟอร์ตอบอย่างใจเย็น

 

เฮลิคอปเตอร์บินผ่านน่านฟ้าที่ว่างเปล่าซ่อนตัวจากเรดาร์ใดๆขณะเคลื่อนตัวไปยังหาดออเรียน

 

ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ประกอบด้วยบทสนทนาสั้นๆระหว่างลูซิเฟอร์และเคนเฮลิคอปเตอร์ก็มาถึงชายหาดซึ่งว่างเปล่าทั้งหมดหลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้วนักบินจึงลงจอดที่ชายหาด

 

“ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วมาดูชายหาดที่คุณอยากเห็น“เคนบอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขาเลื่อนประตูเปิดออกและก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์

 

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นและเดินไปทางช่องจากจุดที่เขาก้าวออกไปและลงสู่พื้นในที่สุด

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์ร่อนลงบนผืนทรายเย็นยะเยือกของชายหาดเขาก็สามารถมองเห็นทะเลกว้างใหญ่ตรงหน้าเขาได้เท่าที่ตาเขามองเห็นมีเพียงน้ําเท่านั้นที่มองเห็นได้

 

สําหรับชายหาดนั้นดูเหมือนจะมีทรายสีฟ้าอ่อนซึ่งดูเหมือนจะส่องแสงเล็กน้อยภายใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์

 

“นั่นคือทะเล?“ลูซิเฟอร์ถามเคน

 

“ใช่นี่คือจุดสิ้นสุดที่ประเทศของเราและจากที่นี่ทะเลเริ่มต้นณช่วงเวลานี้ของปีชายหาดแห่งนี้ถูกปิดเนื่องจากมีความเสี่ยงจากกระแสน้ําสูงนั่นเป็นสาเหตุที่คุณไม่สามารถมองเห็นวิญญาณดวงเดียวที่นี่”เคนตอบ

 

“นี่คือจุดสิ้นสุดของประเทศมีเพียงทะเลในทิศทางนั้นหรือประเทศอื่นด้วย”ลูซิเฟอร์ถาม

 

“โลกมันกลมดังนั้นจึงไม่มีทางมีแต่ทะเลในทิศทางนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งมันจะกลับไปยังปลายอีกด้านหนึ่งของประเทศนี้แม้ว่าจะไม่มีประเทศอื่นอยู่ในทะเลก็ตาม”เคนตอบ

 

“ถ้าไม่พูดอย่างนั้นจริงๆแล้วมีหลายประเทศในโลกของเรามีหลายทวีปและประเทศที่เป็นเกาะด้วย”เขากล่าวเพิ่มเติม

 

“แล้วคุณมาทําอะไรที่นี่?พระอาทิตย์ตกที่คุณอยากเห็นจะไม่อยู่ที่นี่2-3ชั่วโมงไม่มีบ้านที่นี่ทั้งที่คุณสามารถพักผ่อนได้อยากพักผ่อนในเฮลิคอปเตอร์ไหม”

 

“ไม่เป็นไรผมจะไปเดินเล่นรอบๆชายหาด”ลูซิเฟอร์ตอบขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่น้ําเคนเดินอยู่ข้างๆเขา

 

เมื่อลูซิเฟอร์เอื้อมมือไปใกล้น้ําเขาก็เห็นว่าทรายดูเปียกขึ้นก้มไปข้างหน้าเขาหยิบทรายขึ้นมาหนึ่งกํามือ

 

ทันทีที่เขาสัมผัสทรายเขาก็รู้สึกที่งกับความหนาวเย็นแม้ว่าจะเป็นวันที่อากาศร้อนก็ตามเขาสามารถสัมผัสทรายได้แม้ผ่านถุงมือ

 

ในไม่ช้าเขาก็ถอดรองเท้าและกลายเป็นเท้าเปล่าซึ่งในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสถึงด้านที่แท้จริงของทรายทรายดูสวยงามแต่กลับรู้สึกดีขึ้น

 

ลูซิเฟอร์เดินผ่านทราย2-3ครั้งในช่วง2-3เดือนที่ผ่านมาแต่ทรายนี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงขณะที่เขาเดินบนทรายเขารู้สึกเหมือนกําลังเดินอยู่บนวัสดุที่นุ่มที่สุดในโลกที่นวดเท้าของเขาทุกย่างก้าว

 

“นี่ทรายอะไร”เขาถามเคนเมื่อมองย้อนกลับไป

 

“นี่คือทรายเรซี่มันเป็นความพิเศษของชายหาดแห่งนี้และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุด”เคนอธิบาย“บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่พ่อของคุณต้องการให้คุณมาที่นี่”

 

“บางที..”ลูซิเฟอร์พึมพําเป็นไปได้สูงที่นี่คือเหตุผลที่พ่อแม่ของเขาชอบชายหาดแห่งนี้?

 

แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ยินคําพูดสุดท้ายของพ่อในความฝันแต่ก็ค่อนข้างเป็นไปได้ที่เขาจะพูดถึงทราย?

 

“มันเป็นสถานที่ที่สวยงามจริงๆ”ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมจ้องมองทะเล“คุณรู้ไหมว่าทะเลลึกแค่ไหน”

 

“ไม่รู้ฉันไม่ได้ตรวจสอบหรืออ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการส่วนตัว”เคนตอบพร้อมยิ้มแหยๆ

 

“คนจมน้ําตายได้ใช่ไหม”ลูซิเฟอร์ถาม

 

“ถูกต้องการจมน้ําคร่าชีวิตผู้คนเพราะไม่มีใครสามารถหายใจใต้น้ําได้”เคนตอบ“อย่าคิดแม้แต่จะลงไปในทะเลฉันไม่คิดว่าคุณจะว่ายน้ําได้คุณจะจมน้ําตายทันที”

 

“ผมจะตายถ้าผมจมน้ําตายงั้นเหรอ?”ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัยในขณะที่เขาเหลือบมองกลับไปที่เคนเขาสงสัยว่าชีวิตที่ดูอมตะของเขาจะจบลงหรือไม่ถ้าเขากระโดดลงไปในทะเลและเต็มใจที่จะกําจัดตัวเอง

 

“คุณทําได้นั่นควรเป็นจุดอ่อนเดียวของคุณฉันคิดว่าเพราะการรักษาจะไม่ช่วยคุณเพราะมันจะแตกต่างออกไปคือไม่สามารถหายใจได้ดังนั้นอย่าทดสอบเลย”เคนตอบ

 

“คุณสามารถบินหนีจากน้ําได้แต่ถ้าคุณหายใจไม่ออกและหมดสติไปแม้แต่การบินของคุณก็ไม่สามารถช่วยได้คุณจะจมน้ําและคุณจะอยู่ใต้น้ําชั่วนิรันดร์แม้แต่ความตายร่างกายของคุณจะไม่ถูกหาพบดังนั้นอย่าแม้แต่จะคิดเกี่ยวกับมันเขากล่าวต่อในขณะที่เขาเข้าใจสิ่งที่ลูซิเฟอร์กําลังคิด

 

ลูซิเฟอร์สูดหายใจเข้าลึกๆขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“ผมจะไม่ทําแบบนั้น”เขากล่าว

 

ฉันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างก่อนที่ฉันจะจบชีวิตลงได้ฉันยังต้องค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแม่ของฉันหลังจากที่ฉันทําทุกอย่างที่สําคัญเสร็จแล้วฉันอาจจะ…ทํามันได้เขาคิดขณะหันข้างไปยังทะเลและเริ่มเดินไปที่ชายทะเลเท้าแตะน้ําทะเลเค็ม

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังเดินอยู่บนชายหาดแวเรียนท์เกิดใหม่ก็ได้เริ่มก้าวแรกในการต่อต้านAPFแล้ว

 

โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยวิดีโอที่ลูซิเฟอร์ถูกทรมานพร้อมด้วยข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับลูซิเฟอร์และใครเป็นพ่อของเขา

 

สําหรับช่องทางสื่อพวกเขายังถูกจี้โดยแวเรียนท์เกิดใหม่

 

จู่ๆช่องข่าวก็ว่างเปล่าก่อนที่ภาพในสถานที่จะเริ่มเล่นโดยมีเด็กร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดแต่นักวิทยาศาสตร์ไม่ฟังพวกเขาไม่ได้หยุดการทรมาน

 

ผู้ชมไม่รู้สึกลําบากในการจดจําเด็กที่ถูกทรมานพวกเขาได้เห็นเด็กในช่องข่าวมาหลายสัปดาห์แล้วทุกคนคุ้นเคยกับเด็กที่ต้องการตัวมากที่สุดในรายชื่อAPFแล้ว

 

การได้เห็นเด็กคนนั้นเป็นแบบนั้นทุกคนก็มีความคิดเดียวอาชญากรรายนี้ถูกจับโดยเจ้าหน้าที่และตอนนี้เขากําลังถูกลงโทษหรือไม่?ถึงอย่างนั้นมันก็ดูเป็นการทรมานเล็กน้อยสําหรับเด็กมันโหดร้ายเกินไปและมากเกินไป

 

พวกเขารู้ว่าบุคคลนี้สมควรได้รับการลงโทษหลังจากสังหารผู้บริสุทธิ์จํานวนมากแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ใช่วิธีที่จะดําเนินการเรื่องนี้มันยังเด็กและดูเขาแบบนั้นวิญญาณของผู้ชมสั่นสะท้านเมื่อจินตนาการถึงตัวเองแทนที่ลูซิเฟอร์

 

หลังจากที่เล่นวิดีโอไป3ครั้งพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของลูซิเฟอร์เสียงนั้นก็หยุดลง

 

“ยินดีต้อนรับสู่การออกอากาศแวเรียนท์เกิดใหม่วันนี้เรานําความพิเศษนี้มาให้คุณเพื่อแสดงด้านที่แท้จริงของเด็กคนนี้ให้โลกเห็นเด็กคนนี้คือใคร?”

 

“ทําไมเขาถึงฆ่าคน?เด็กที่ควรจะไปโรงเรียนและมีชีวิตที่ดีกลายเป็นอาชญากรที่APFต้องการมากที่สุดได้อย่างไรหากคุณต้องการทราบคําตอบอย่าปิดทีวีเพราะวันนี้เราจะบอกความจริงกับคุณว่ารัฐบาลและAPFถูกปกปิดไว้”

 

“ถ้าคุณเป็นแวเรียนท์คุณก็ควรดูอย่างแน่นอน”

 

“คําถามแรกเด็กคนนี้เป็นใครเขาเป็นอาชญากรเลยต้องมีพ่อแม่ที่ไม่ดีใช่ไหมเขาต้องโตมาท่ามกลางอาชญากรรมหรือว่าเขาบ้าไปแล้ว?”เสียงของผู้บรรยายถามขึ้น

 

“เกิดอะไรขึ้นกับช่องของเรา!นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

 

“มีคนแฮ็กความถี่ของเราท่านครับ!พวกเขายึดมาจากตําแหน่งที่ไม่รู้จัก!”

 

“ปิดทุกอย่าง!ตัดทิ้งซะ!”

 

“เราไม่สามารถทํามันได้ครับท่าน!ดูเหมือนว่าเราจะสูญเสียการควบคุมทั้งหมดเราทําอะไรไม่ได้จากที่นี่!”

 

สํานักงานใหญ่ของช่องข่าวทั้งหมดอยู่ในความโกลาหลเนื่องจากช่องของพวกเขาถูกแฮ็กพวกเขาสูญเสียการควบคุมทั้งหมดและตอนนี้ความถี่ของพวกเขาถูกใช้โดยแวเรียนท์เกิดใหม่

 

“ผิด!เด็กคนนี้ที่เป็นอาชญากรในสายตาของคุณมีอนาคตที่สดใสที่ถูกพรากไปจากเขา!เขาถูกบังคับให้เป็นอาชญากร!เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูซิเฟอร์แอซเรลลูกชายของราชาวอร์ล็อคเซลแอซเรลและแคลรีส!”

 

ตอนที่ 169: การกลับมาของเซล แอซเรล?

 

“นั่นเป็นสาเหตุว่าทําไมไม่มีสมาชิกขององค์กรฮันเตอร์เข้าไปไม่มีทางที่ อะไรจะเกิดขึ้นกับเขาที่นั่นยิ่งกว่านั้นก่อนเข้าไปเขาบอกว่าอาจใช้เวลานานกว่าจะเจอสิ่งที่ต้องการ”เขากล่าวก่อนจะเอ่ยขึ้นแล็ปท็อปที่วางอยู่ตรงหน้าเขา

 

“แล้วพวกคนธรรมดาล่ะ?”เรียอาริถามต่อ

 

“รัฐบาลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่เราแต่ขณะนี้มีเพียงสิ่งที่พวกเขาสามารถทําได้อย่างจํากัดเท่านั้น” วารันท์ตอบ

 

“เราจะพบลูซิเฟอร์อีกไหม เขาซ่อนตัวอยู่ได้จนกว่าเขาจะเข้มแข็งเมื่อถึง เวลานั้นมันก็สายเกินไปเราจับมือกันไม่ไหวแล้ว”เรียอาริให้ความเห็นในขณะที่ถอนหายใจ

 

การรอคอยครั้งนี้กําลังฆ่าพวกเขา พวกเขาต้องการลูซิเฟอร์ไม่ว่าจะต้อง แลกด้วยอะไรก็ตามแต่ไม่ต้องพูดถึงลูซิเฟอร์แม้แต่สมาชิกระดับล่างของ แวเรียนท์เกิดใหม่ก็ไม่มีใครเห็น

 

“ฉันเข้าใจ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดแผนขึ้นมา” วารันท์กล่าวขณะที่เขาแตะปุ่ม 2-3ปุ่มบนแล็ปท็อปของเขาก่อนที่เขาจะหันหน้าจอไปทางเรียอาริและโรเวน

 

ทันทีที่ทั้งสองเห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ พวกเขาก็อ้าปากกว้างนี่หมายความว่าไง?

 

“เป็นไปได้ยังไง! ที่นั้น! ที่นี่คือสํานักงานใหญ่ของเรา!แต่คนๆนั้นเป็นไปได้ยังไง?”เรียอาริลุกขึ้นยืนตกใจทันทีที่เห็นสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ “เซลแอซเรล? เขายังมีชีวิตอยู่เหรอ?”

 

แม้แต่โรเวนที่ดูสงบนิ่งอยู่เสมอก็ยังตกใจกับการเปิดเผยนี้อย่างชัดเจนมันเป็นไปได้อย่างไร?เซลจะมีชีวิตอยู่และอยู่ที่ฐานทัพได้อย่างไร!

 

“มันเป็นไปไม่ได้ อย่าบอกฉันว่าคนเดียวกันนั่นที่ก้าวออกจากดันเจี้ยนนั้นคือเซล!นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

 

“ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ทําไมเขาถึงซ่อนตัวมา 5 ปีล่ะลูกชายของเขา!เขาผ่านอะไรมามากมายและทําให้คนตายมากมายแต่เขาไม่เคยปรากฏตัวเลย! เขาเป็นคนแบบไหนกันนะ?”เรียอารออกตัวแรง

 

วารันท์หันหน้าจอแล็ปท็อปกลับมาหาเขา

 

“นายอยากรู้ว่าเราจะเอา ลูซิเฟอร์ ออกมาได้อย่างไรเขาจะเป็นคนทํา”วารันท์กล่าว “อีกไม่นานลูซิเฟอร์จะวิ่งมาหาเรา”

 

“เซลจะช่วยเราต่อต้านลูกชายของเขาไหม” โรเวนถามริมฝีปากของเขาไม่สามารถมองเห็นได้เนื่องจากการปกปิดแต่การขมวดคิ้วปรากฏชัดบนใบ หน้าของเขา

 

วารันท์มองที่โรเวน ขณะที่รอยยิ้มอันบอบบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ

เขา

 

เขาได้วางแผนที่ซับซ้อนซึ่งเขาจะใช้เพื่อลากลูซิเฟอร์ออกไปและฆ่าเขา

 

“นี่จะเป็นจุดจบ” วารันท์กล่าวขณะที่ปิดแล็ปท็อป

 

แวเรียนท์เกิดใหม่ได้สร้างกับดักที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สําหรับ APFเพื่อทําลา ยชื่อเสียงและทําลายการสนับสนุนของพวกเขาในทางตรงกันข้ามAPF มี แผนการของตนเองที่จะดักจับลูซิเฟอร์และยุติอนาคตที่อาจเกิดขึ้นที่เขาสา มารถทําได้

 

โดยไม่รู้แผนการใหม่ของทั้งสองฝ่าย ลูซิเฟอร์พยายามคิดหาความจริง เกี่ยวกับการตายของพ่อแม่ของเขาเอง แต่ไม่ว่าจะคิดมากเพียงใดจิตใจของเขาก็ไม่สั่นคลอน

 

เขารู้อยู่แล้วว่าเขาวางแผนร้ายได้แย่มาก เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดอะไรบางอ ย่าง แผนเดียวที่เข้ามาในหัวของเขาคือเข้าไปในสํานักงาน APEและโจมตี วารันท์เพื่อรู้ความจริง

 

หรือใช้กําลังเพื่อให้ได้คําตอบที่นี่แต่เขาต้องการวิธีที่เขาสามารถมั่นใจได้ ว่าคําตอบที่ได้รับนั้นเป็นความจริง

 

“ตุ้บตุ๊บ…ตุ๊บ…”

 

เมื่อลูซิเฟอร์กินอาหารเช้าเสร็จ เขาก็เริ่มเดินไปมาและคิดว่าจะทําอย่างไรเมื่อในที่สุดจิตใจของเขาก็คลิกตกลงเมื่อนึกถึงบทสนทนาเก่าๆ

 

มันเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุเพียงหกหรือเจ็ดขวบ เขาอยู่ในสถานที่ซึ่งเขาได้ยินพนักงานสองคนพูดเล่นกัน

 

“ฉันไม่ได้โกหกนะ! จริงด้วย! ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าฉันหล่อจริงๆ!”

 

“หึ คุยโม้ไปเลย คนสวยคนนั้นเรียกคุณว่าหล่อไม่ใช่หรือถ้าเธอตาบอด”

 

“แต่ฉันต้องบอกว่าคุณโกหกเก่งขึ้น!”

 

“พี่ เชื่อฉันสิ ฉันจะโกหกคุณทําไม! ฉันพูดจริง! ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นฉันพูดซ้ําๆไม่ได้แล้ว ฉันพาเลดี้เวราซิตี้ มาที่นี่เพื่อบอกนายไม่ได้หรอกที่ฉันพูด ความจริงกับเธอ เธอสามารถยืนยันคําร้องของฉันได้ด้วยความช่วยเหลือจากพลังของเธอ”

 

“พาเลดี้เวราซิตี้ มาที่นี่ด้วยเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า ในความฝันของคุณ คนที่มีชีอเสียงที่นี่ไม่แม้แต่จะพบเธอ แต่ต้องบอกว่าความสามารถของเธอน่ากลัวจริงๆ แม้ว่าจะไม่ได้อันตรายก็ตาม เธอสามารถใช้พลังของเธอเพื่อค้นหาว่าค นพูดจริงหรือไม่จริง ฉันสงสารใครก็ตามที่จะแต่งงานกับเธอผู้ชายคนนั้นจะ ต้องเป็นนักบุญ”

 

เมื่อลูซิเฟอร์จําการสนทนานี้ได้ ในที่สุดเขาก็เกิดความคิดขึ้นแต่ก่อนอื่น เขาต้องหาความจริงให้พบ หลังจากที่เขาพาเธอไปช่วยเขา เขาสามารถตรวจสอบได้ว่าคนก่อนหน้าเธอจะซื่อสัตย์หรือไม่

 

“ความจริงข้อนี้ จะหาเธอได้ที่ไหน หลังจากฉันจากไปวันนี้ฉันต้องกลับมาด้วยถูกแล้วบนเส้นทางกลับ ฉันจะขอให้เคนพาฉันไปหาเธอถ้าเขาไม่ให้ ฉันจะบังคับเขา”ลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับกําหมัดแน่น

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

ในที่สุด เขามีบางอย่างที่มั่นคงและมีแผนบางอย่างที่เขาสามารถใช้ได้ กุญแจสําคัญคือการตามหา เวราซิตี้และพาเธอกลับมาที่นี่

 

ด้วยแผนการในใจ ลูซิเฟอร์จึงออกจากห้องไปจากที่นี่ในที่สุดถึงเวลา แล้วที่จะดูว่าความฝันของเขาเกี่ยวกับอะไร

 

สถานที่ที่พ่อแม่ของเขาพูดถึงในความฝันตลอด 30 คืนที่ผ่านมาคือที่ใด! และหลังจากที่กลับมา เขาก็สามารถนําเวราซิตี้กลับมาได้

 

ทันทีที่ลูซิเฟอร์ออกจากห้อง เขาก็เห็นเดรโกออกมาจากลิฟต์ในระยะไกล 

 

“อา คุณออกมาแล้ว ฉันเพิ่งจะกลับมาเพื่อพาคุณกลับมาเซอร์เคนพร้อมและรอคุณอยู่ที่ชั้นบน”เดรโกบอกลูซิเฟอร์ซึ่งเพิ่งออกจากห้องไป

 

เขาพาลูซิเฟอร์ไปกับเขาที่ชั้นบน ซึ่งเคนรอเขาอยู่หน้าเฮลิคอปเตอร์แล้ว 

 

“นายอยู่นี่เอง” เคนพูดขณะเดินไปหาลูซิเฟอร์ ยังคงอยู่ในร่างของผู้หญิง

คนนั้น

 

เคลเลียนและยาลิซ่าก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วย แต่ไรอาไม่ปรากฏให้เห็นจนถึงตอนนี้ ลูซิเฟอร์ไม่เคยเห็นไรอาเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเหตุผลนั้นเขาไม่รู้เขา แค่พูดไม่ได้ว่าไรอาต้องมาเอง

 

จนกว่าเขาจะได้พบกับเวราซิตี้ก็ยังดีที่จะอยู่ห่างจากไรอา

 

“เอาล่ะ ลูซิเฟอร์ ตามที่สัญญา เราได้จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้วเคนจะพาคุณไปที่นั่น คุณจะใช้เวลาทั้งวันที่นั่น แล้วคุณจะกลับมาโดยไม่ชักช้าหลัง จากวันที่เราตกลงกันว่าเป็นวันสิ้นสุด คุณเข้าใจใช่ไหม”เคลเลียนถามลูซิ

เฟอร์

 

“ผมเข้าใจ ผมจะกลับมาโดยเร็วที่สุด” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่โกหกสําหรับ เขาทันทีที่เขาหมายความได้หลังจากพบและพบกับเวราซิตี้ซึ่งแตกต่างจากคนอื่นๆ

 

ตอนที่ 170: ค้นหาตัวเองในเน็ต

 

“ดี” เคลเลียนพูดก่อนจะหันไปมองเคน

 

“ปกป้องเขาและพาเขากลับมาอย่างปลอดภัย และหากนายเห็นสัญญาณอันตราย ออกไปทันทีและแจ้งให้เราทราบ ยิ่งกว่านั้นเก็บสิ่งนั้นไว้เพื่อให้ เราสามารถติดต่อนายได้หากมีเรื่องเร่งด่วน”เคลเลียนบอกเคน

 

“ฉันเข้าใจ” เคนตอบอย่างใจเย็นก่อนจะโบกมือให้ลูซิเฟอร์ไปด้วย

 

ลูซิเฟอร์และเคนเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ภายใต้สายตาที่จับจ้องของเคลเลียนและยาลิซ่า

 

หลังคาเหนือเฮลิคอปเตอร์เปิดออกเผยให้เห็นท้องฟ้าที่สดใสและสวยงาม ก่อนที่เฮลิคอปเตอร์จะเริ่มบินทันทีที่เคนปิดประตู

 

คราวนี้มีเพียง 2 คนเท่านั้นที่ออกจากฐาน-เคนและลูซิเฟอร์ เคนไม่ได้พาใครมาด้วยเพราะไม่ใช่ภารกิจสงคราม และในภารกิจเช่นนี้สิ่งสําคัญคือ ต้องพาคนให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ออกไป ช่องบนหลังคาก็ปิดลง เคลเลียนและยาลิซ่าเริ่มเดินกลับโดยพูดคุยกันเอง

 

“นายแน่ใจหรือว่าเราทําได้ดีโดยเชื่อในตัวของผู้ทํานายในครั้งนี้ แม้ว่าจะมีโอกาส 90 เปอร์เซ็นต์ที่ลูซิเฟอร์จะกลับมาอย่างปลอดภัยเพราะ APF จะ ยุ่งอยู่กับการควบคุมความเสียหาย ฉันคิดว่าเราควรไปด้วยเช่นกัน”ยาลิซ่า บอกเคลเลียนขณะที่เขาเดินเคียงข้างเขา

 

“เราพูดเรื่องนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ?” เคลเลียนถาม “อย่ากังวลกับเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะพูดถูกเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นแต่คําทํานายของเขาที่ว่าลูซิ เฟอร์จะไปกับเคนและเขาจะกลับมาอย่างปลอดภัยก็ควรจะถูกต้อง”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งที่แล้วเขาก็พูดถูกด้วย ไม่ต้องกังวลเรื่องลูซิเฟอร์เรา ควรทําตามคําทํานายของเขาและปล่อยให้ลูซิเฟอร์อยู่ลําพังกับเคน”เขา กล่าวต่อ “ให้โฟกัสไปที่ APF แทน การได้รับชมวิดีโอดังกล่าวจะต้องสนุก แน่ๆ เลยมาเถอะ”

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

เคนและลูซิเฟอร์นั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก

 

เคนที่เริ่มพูดก่อนในขณะที่เขาบอกลูซิเฟอร์ว่า “เราต้องใช้เวลา 6ชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่นั่น เราควรไปถึงที่นั่นในตอนบ่ายเราจะอยู่ที่เหลือของวัน และกลับมาเราจะกลับบ้านพรุ่งนี้เช้ามันช่างสั้นและหวานหอม” 

 

“อืม” ลูซิเฟอร์ไม่ตอบอะไรมากนอกจากคําเดียว

 

เขาได้รับแจ้งแล้วว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน เขาจึงไม่ถือสาเมื่อพูดถึงเวรา ซิตี้ เขาอยากจะทําอย่างนั้นเมื่อถึงเวลาต้องกลับมา

 

“แล้วการฝึกของคุณเป็นอย่างไรบ้าง ฉันได้ยินมาว่าคุณก้าวหน้าไปมาก” เคนถามและเริ่มการสนทนาอีกครั้งหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

 

“ก็ดี” ลูซิเฟอร์ตอบ “ผมต้องเรียนรู้อีกมาก”

 

“ดีขึ้นแล้ว หลังจากอยู่กับพวกเรามาหนึ่งเดือนแล้วคุณมีความคิดเห็นยัง ไงบ้างคุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้านไหม?”เคนถาม

 

“เหมือนบ้าน?” ลูซิเฟอร์พึมพําก่อนจะสายหัว

 

“ผมมีบ้านเพียงหลังเดียว และผมจะไม่รู้สึกแบบนั้นอีก” เขาตอบ

 

“ผมได้ยินเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมีคนบอกฉันว่าผมจะสอนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เหล่านี้หลังจากที่ผมกลับมา คุณรู้วิธีใช้มันไหม”ลูซิเฟอร์ถามเคนในที่สุดก็มีส่วนร่วมในการสนทนา

 

“ใช่ ฉันสงสัยว่าคงจะมีคนจํานวนมากที่ไม่รู้เรื่องนี้” เคนตอบ

 

“คุณสามารถหาใครจากที่นั่นได้หรือไม่ ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลใด ๆ “ลูซิ

เฟอร์ถาม

“ใช่ มันง่ายมาก มีสิ่งที่เรียกว่าอินเทอร์เน็ต มันมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้คนมา กมาย แต่ฉันพบได้เฉพาะข้อมูลที่เป็นสาธารณสมบัติโดยส่วนใหญ่เกี่ยวกับผู้ มีอิทธิพล” เคนตอบ

 

“ฉันแอ็คไม่เก่งเหมือนคนอื่นๆ ในองค์กร คนพวกนี้สามารถค้นหาข้อมูลลับที่ไม่ได้อยู่ในสาธารณสมบัติได้” เขากล่าวเสริม

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเขา ลูซิเฟอร์ก็พยักหน้าขณะที่เขาคิดกับตัวเองว่า “ความจริงน่าจะมีชื่อเสียงเพราะคนพวกนั้นดูเหมือนจะรู้เรื่องของเธอ

 

“ถ้าผมขอให้คุณหาใครสักคน คุณช่วยผมได้ไหม” เขาถามเคน

 

คําถามของเขาดูเหมือนจะทําให้เคนตกตะลึงเล็กน้อยลูซิเฟอร์อยากรู้ เกี่ยวกับใคร? ถ้ามันเกี่ยวกับพวกเขา มันคงจะเป็นข่าวร้ายเพราะไม่ค่อยมีอะไรดีๆ เกี่ยวกับพวกเขา นอกจากนี้ ลูซิเฟอร์สามารถอ่านตัวเองได้แล้วดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลอกเขาได้

 

“อยากรู้เรื่องของใคร” เคนถามพลางขมวดคิ้ว

 

“ผมอยากรู้เกี่ยวกับตัวเอง หลังจากสิ่งที่ผมทํา ต้องมีบางอย่างเกี่ยวกับผมบนอินเทอร์เน็ตใช่ไหม ผมอยากเห็น”ลูซิเฟอร์แสดงความปรารถนา

 

“โอ้ เกี่ยวกับตัวคุณ ฉันทําได้” เคนพยักหน้าขณะที่วางแล็ปท็อปไว้บนตก ก่อนเปิดและเปิดเครื่อง

 

เนื่องจากลูซิเฟอร์ต้องการทราบเกี่ยวกับตัวเขาเองสิ่งนี้จึงสมบูรณ์แบบ เขามั่นใจว่าลูซิเฟอร์จะเขียนแต่เรื่องแย่ๆเท่านั้นหลังจากที่เห็นแล้ว แม้ว่าลู ซิเฟอร์จะมองเห็นสิ่งเลวร้ายเกี่ยวกับพวกเขามันก็ไม่สําคัญ

 

เขาจะเข้าใจว่าไม่ใช่ทุกอย่างในเน็ตที่เป็นความจริงเนื่องจากสิ่งต่างๆส่วนใหญ่เขียนขึ้นโดยคนที่ส่วนใหญ่มักมีอคติส่วนตัวหรือมีทัศนะจํากัดในสิ่ง ต่างๆ นี่อาจเป็นบทเรียนสําหรับลูซิเฟอร์

 

เขาเปิดเบราว์เซอร์และค้นหา ลูซิเฟอร์ แอซเรล

 

ขณะที่เขาค้นหา เขาก็อดไม่ได้ที่จะตบหน้าผากของเขาเขาลืมไปแล้ว APE ปล่อยรูปของลูซิเฟอร์และการกระทําชั่วของเขาเท่านั้นพวกเขาไม่ได้ เอ่ยชื่อเขา นั้นเครือข่ายจะไม่แสดงเกี่ยวกับเขาหากค้นหาด้วยชื่อ

 

ดีที่สุดก็จะแสดงแต่ของเก่า

 

เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ซึ่งเขาเข้าใจเมื่อผลการค้นหาเปิดขึ้น

 

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ข้างๆ เขา ดังนั้นเขาจึงมองเห็นได้ เมื่อเขาดูผลลัพธ์เขาก็เห็นพาดหัวข่าวบางส่วน

 

“คู่สามีภรรยาที่แข็งแกร่งที่สุดให้กําเนิดลูกชายชื่อลูซิเฟอร์แอซเรล”

 

“วอร์ล็อค เซล เป็นพ่อของลูซิเฟอร์น้อยแล้ว”

 

“การกําเนิดของลูซิเฟอร์ ลูกชายของคู่รักแวเรียนท์แห่งศตวรรษ์จะกลาย เป็นวีรบุรุษเหมือนพวกเขาหรือไม่การวิเคราะห์เชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยว กับพลังที่เขาอาจมีได้”

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล…”

 

“ลูซิเฟอร์”

 

“ราชาวอร์ล็อคเซล และ”

 

ไม่ว่าลูซิเฟอร์จะอ่านพาดหัวข่าวมากแค่ไหนทุกคนต่างก็พูดถึงเขาและ ครอบครัวของเขายิ่งกว่านั้นพวกเขาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการเกิดของเขา หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงเขา

 

“นี่คือสิ่งที่มากับชื่อของคุณ อาจเป็นเพราะชื่อของคุณยังไม่เปิดเผยต่อ 

สาธารณะ แต่ให้ฉันแสดงให้คุณเห็นอย่างอื่น” เคนกล่าวโดยตระหนักว่าเขาจําเป็นต้องแสดงด้านมืดของลูซิเฟอร์ด้วย

 

เขาค้นหาอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาค้นหาด้วยภาพของลูซิเฟอร์ที่เผยแพร่โดย APE ขณะที่เขาค้นหา ผลลัพธ์ชุดใหม่ทั้งหมดก็เปิดขึ้น

 

ลูซิเฟอร์อ่านพาดหัวข่าวใหม่ ไม่รู้จะคิดอะไร

 

“แวเรียนท์ที่ทําลายสถานที่ราชการและสังหารผู้บริสุทธิ์!”

 

“ปีศาจเดินเป็นอิสระ ถ้าเจอติดต่อเจ้าหน้าที่!”

 

“ผู้กระทําความผิดของการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับแวเรียนท์ถูกเปิดเผยแวเรียนท์เด็กที่ฆ่ามนุษย์ไปมากมายยังไม่ถูกพบ”

 

“ระวังตัวไว้ และแจ้งเจ้าหน้าที่หากคุณพบเห็นวอร์ล็อคน้อยคนนี้”

 

“APE เตือนพลเมืองให้ตื่นตัวและอย่าเข้าใกล้เด็กคนนี้หากพบเห็นที่ไหน ติดต่อเจ้าหน้าที่ทันที”

 

ตอนที่ 168: กับดัก

 

“นี่น่าจะทําให้พวกเขายุ่งได้ พวกเขาสนุกกับการลงรูปของเราในช่องข่าวตลอดทั้งเดือนใช่ไหม พวกเขาทํางานอย่างหนัก เพื่อทําให้ลูซิเฟอร์กลายเป็นวายร้าย ในที่สุดก็ถึงคราวที่เราจะปล่อยภาพนี้และเปลี่ยนการรับรู้ของโลก”

 

“แวเรียนท์ทั้งหมดจะได้เห็นด้านที่แท้จริงของมนุษย์และ APF นี่คือสิ่งที่ฉันกําลังรอคอยลูซิเฟอร์เสร็จสิ้นการแก้แค้นของเขา และ APF และคนโง่ที่ชอบธรรมคนอื่น ๆ ก็ขุดหลุมลึกสําหรับตัวเอง ถึงเวลาที่จะผลักดันพวกเขาเข้าไปหลุมนั้น” ไรอา ยิ้มในขณะที่เขาจ้องมองที่ภาพซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูซิเฟอร์ถูกทรมาน

 

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เขายังมีภาพอีกชิ้นหนึ่ง! ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับ APF มากยิ่งขึ้น

 

“มันเป็นภาพแซนเดอร์โจมตี ลูซิเฟอร์ ก่อนใกล้โรงงานและฆ่าเด็กไร้เดียงสาที่อยู่เบื้องหลังเคนในกระบวนการ มันเน้นไปที่ใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ของแซนเดอร์โดยตรงแม้หลังจากทําเช่นนั้น ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกแย่กับการฆ่าแวเรียนท์ที่ไร้เดียงสา

 

ภาพดังกล่าวบันทึกโดยหนึ่งใน แวเรียนท์ที่ไรอามอบหมายให้บันทึกทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นมันเป็นเหมืองทองคํา

 

APF บอกว่าลูซิเฟอร์เป็นนักฆ่าที่ฆ่าทั้งแวเรียนท์และมนุษย์! แต่การจลาจลแบบแปรผันคือสิ่งที่มีภาพพิสูจน์เป็นอย่าง

 

พวกเขาได้ตัดภาพผลที่ตามมาจากการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งลูซิเฟอร์โจมตีและเก็บเพียงส่วนแรก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแซนเดอร์ผิดอย่างไร และ APF เองที่พวกเขาตําหนิลูซิเฟอร์ว่าเป็นอย่าง

 

ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังมีภาพที่จะพิสูจน์ว่าเขาเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ถูกทรมานโดยมนุษย์ที่มีอํานาจ

 

และเพื่อทําหน้าที่เป็นตะปูตัวสุดท้ายในโลงศพ พวกเขามีหลักฐานว่าลูซิเฟอร์เป็นบุตรชายของเซล แอซเรล และแคลรีส เซที่สละชีวิตเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์

 

มันเป็นเว็บที่ซับซ้อนที่ไรอาวางแผนไว้ และตอนนี้เว็บนี้กำลังพยายามกลืน APF ทั้งหมด

 

ในไม่ช้าทุกอย่างจะเปลี่ยนไป

 

“ม่านทุกบานจะเปิดออก และผู้คนจะได้เห็นด้านที่แท้จริง ของสิ่งต่าง ๆ ในไม่ช้าวารันท์จะปวดหัวอย่างมากในการพยายามควบคุมความเสียหาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่สามารถทําอะไรได้” ไรอา กล่าวพร้อมกับยิ้มกว้างขึ้น

 

ลูซิเฟอร์ผิดพลาดผนังห้องของเขาด้วยความขุ่นเคืองและ เห็นแล็ปท็อปวางอยู่บนเตียง

 

เขามองไม่เห็นหน้าจอแล็ปท็อปจากจุดที่เขานั่ง แต่ถ้าเขาเห็น เขาคงเห็นว่ามันกําลังฉายภาพสดของทางเดินด้านนอก

 

ยิ่งไปกว่านั้น ในภาพนั้น เดรโกสามารถเห็นกําลังเดินไปที่ห้องของลูซิเฟอร์

 

เมื่อเดรโกไปถึงประตูห้องของลูซิเฟอร์ เขาก็เคาะประตู

 

“ท่านลูซิเฟอร์ ผมเอาอาหารเช้ามาด้วย” เดรโกเรียก

 

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นและเดินไปที่ประตูโดยไม่สนใจรูในกําแพง

 

เขาเปิดประตูและอนุญาตให้เดรโกเข้ามา

 

ทันทีที่เดรโกเข้ามาในห้องพร้อมกับจาน ดวงตาของเขาก็ตกลงไปที่รูใหญ่ในกําแพง ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจนในห้องของเขา

 

“เอ่อ ท่านลูซิเฟอร์หรือนี่”

 

“ไม่เป็นไร ฉันฝันร้ายและมันเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่รู้สึกอายแม้แต่น้อย

 

“พวกเขาน่าจะซ่อมได้” เขากล่าวเสริม ” หรือนายอยากจะเลือกห้องอื่นที่ไม่มีรูในกําแพงก็ได้”

 

“อ๋อ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็ซ่อมได้ครับ” เดรโกพูดก่อนจะวางอาหารลงบนโต๊ะ

 

“กินให้หมด วันนี้คุณจะไปที่นั่นที่คุณพูดถึงอยู่เรื่อยๆ มีคนบอกฉันว่าคุณจะออกไปในอีก 1 ชั่วโมง ดังนั้นกินและเตรียมตัวให้พร้อม” เดรโกพูดก่อนจะเดินจากไป

 

“วันนี้ไม่ไปดูด้วยกันเหรอ” ลูซิเฟอร์ถามเมื่อเห็นเดรโกจากไป แปลกที่เห็นเขาจากไปเพราะเขาอยู่กับลูซิเฟอร์เสมอเมื่อเขากิน

 

“ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะผมต้องการให้ความเป็นส่วนตัวกับคุณในการแต่งตัว นอกจากนี้ ผมต้องแจ้งชั้นบนให้ซ่อมรูนั้น สนุกกับงานเลี้ยงของคุณครับ” เดรโกตอบก่อนจะจากไป

 

ลูซิเฟอร์เริ่มกินหลังจากเดรโกจากไป แต่ไม่เหมือนเมื่อก่อน เขาไม่ได้กินทุกอย่างด้วยมือเปล่า แต่ใช้ช้อนเหมือนคนมีมารยาทดีตามความเห็นของผู้คนในโลกนี้ เขาได้รับการสอนหลายสิ่งหลายอย่างในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ และส่วนใหญ่ติดอยู่กับเขา

 

“หลังจากที่ฉันกลับมา ฉันจะได้รับการสอนให้ใช้คอมพิวเตอร์และเรื่องทางเทคนิค ซึ่งน่าจะให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกภายนอก ฉันต้องเข้าใจทุกอย่างให้ดีขึ้นและหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น”

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์ทานอาหาร เขาก็พูดกับตัวเองเป็นครั้งคราว โดยตั้งตารอการผจญภัยเพื่อการเรียนรู้ครั้งต่อไปหลังจากกลับจากหาดออเรียน

 

ไรอา มอบฟุตเทจให้ทีมของเขาและบอกให้พวกเขาแอ็ค ความถี่ของช่องข่าวทั้งหมดเพื่อถ่ายทอดฟุตเทจนี้พร้อมคําอธิบายของพวกเขาเองที่ด้านบนเมื่อเขาสั่ง ทั้งประเทศจําเป็นต้องฟังสิ่งนี้และดู

 

เวก้าก็จะกลับมาในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงไม่ยากที่จะบรรลุความสําเร็จดังกล่าว เขาเชื่อ

 

ตรงกันข้ามกับการจลาจล แวเรียนท์เกิดใหม่ ที่มีแผนของ ตนเอง APF ยังคงไม่มีแผน อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ดูเหมือนจากภายนอก

 

เป็นเวลา 1 เดือนแล้ว แต่ไม่มีร่องรอยของลูซิเฟอร์ ยิ่งไปกว่านั้น มันเหมือนกับว่าการจลาจลของแวเรียนท์ เกิดใหม่ทั้งหมดได้มุดลงไปใต้ดินแล้ว ไม่มีการพบเห็น ดูเหมือนว่าครั้งนี้ APF จะรอเป็นเวลานาน

 

ในหัวข้อเดียวกัน การประชุมได้เกิดขึ้นระหว่าง 3 อันดับแรกของทีมอัลฟ่า เนื่องจากพวกเขากําลังจัดการกับเรื่องที่สําคัญอย่างยิ่งนี้

 

การประชุมรวมเฉพาะจักรพรรดิลอบสังหาร โรเว่น เก็นซี่, ราชาแห่งเงา เรียอาริ และ ราชาวอร์ล็อควารันท์ เท่านั้น

 

“ เซส และคนอื่นๆ ยังไม่มาอีกเหรอ?” โรเว่น ถามวารันท์

 

ในการตอบคําถามของโรเว่น วารันท์ได้แต่สายหัว

 

“เซสไม่อยู่ที่นั่น เขาอยู่ในดันเจี้ยนด้วยเหตุผลบางอย่างใกล้จะครบเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ออก เห็นได้ชัดว่าเขาไปหาบางอย่างแล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้” วารันท์ตอบ

 

” ติดต่อเขาไม่ได้ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เนื่องจากการติดต่อผู้คนในดันเจี้ยนแทบเป็นไปไม่ได้ แต่สําหรับเขาแล้วจะไม่ออกมาเป็นเวลา 1 เดือน เป็นไปได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาในดันเจี้ยน “ เรียอาริถาม

 

“ฉันหมายความว่า ถ้าเซลตายในดันเจี้ยนได้ มันก็เป็นไปได้ที่เซส… ยิ่งกว่านั้น มันผ่านมา 1 เดือนแล้ว มีทีมไหนเข้าไปหา เขาไหม?” เขาอธิบายเพิ่มเติม

 

“ไม่ เพราะ เซสเข้าไปใน ดันเจี้ยนลําดับที่ 1 ดังนั้นเซลจึงต้องเข้าไปใน ดันเจี้ยนลําดับที่ 4 ” ไรอาตอบ .. “ถ้าคนเชื่อว่าเซส สามารถตายในดันเจี้ยนลําดับที่ 1 และไปหาเขาได้ มันคงเป็นการดูถูกเกินไป ”

 

ตอนที่ 167: สิ่งที่ต้องคิด

 

“ถึงกระนั้น ฉันไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นกําลังโกหกเธอพูดความจริง ฉันเดาว่าสมมติฐานของฉันถูกต้องในกรณีนี้ที่จริงแล้วลูซิเฟอร์เป็นบุตรของ เซล และ แคลรีส”เวก้ากล่าวขณะที่เขาจากไป“จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้แล้วเพราะพลังของเขาพิสูจน์แล้วว่าเขาเป็นลูกชายของพวกเขา”

 

ต่างจากการเดินทางเพื่อค้นหาหญิงสาวการกลับไปที่ฐานกบฏนั้นเร็วกว่าสําหรับเวก้าแต่เขาก็ยังตัดสินใจที่จะล่าช้าเล็กน้อย

เขาไม่ได้ตรงไปที่ฐาน คราวนี้ ประการแรกเขาต้องการเห็นบ้านของเซล แอซเรล และสารวจสิ่งต่างๆที่มีอยู่สิ่งนี้ดูเหมือน จะสําคัญสําหรับเขา

 

“ตอนนี้ก็ 4 สัปดาห์แล้ว เวลาฝึกที่เราตัดสินใจและต้องบอกว่าคุณเก่งมาก ฉันคิดว่าคุณเป็นแค่แวเรียนท์ที่โชคดีที่ได้รับพลังที่แข็งแกร่ง แต่ไม่เลยความสามารถและศักยภาพของคุณคือยิ่งใหญ่ เพียงว่าคุณไม่เคยได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสม

 

เคลเลียนและยาลิซ่ายืนอยู่ต่อหน้าลูซิเฟอร์ ขณะที่เคลเลียนกําลังคุยกับเขา

 

เมื่อเคลเลียนพูดจบ ยาลิซ่าก็พูดแทรก

 

“ถูกต้อง คุณเรียนรู้ที่จะควบคุมลมด้วย ตอนนี้คุณไม่เพียงแต่บินได้ แต่ยังใช้ลมโจมตีในระดับหนึ่งด้วยดีพรุ่งนี้เราจะเปลี่ยนการฝึกของคุณเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือคุณพร้อมเพรียงกัน”

 

“พรุ่งนี้? พรุ่งนี้ผมต้องไปแล้ว วันนี้ 4 สัปดาห์หมดเวลาเวก้าบอกว่าเราจะฝึกแค่ 4 สัปดาห์แล้วหลังจากที่ผมกลับมาจากหาดออเรียน ผมรอมานานพอแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบปฏิเสธตรงๆ

 

“จริงๆ แล้ว เวก้าอยู่ข้างนอก เขาไม่ได้อยู่ในฐานแล้วเราจะฝึกจนกว่าเขาจะกลับมาไหม” ยาลิซ่าถามลูซิเฟอร์

 

“ไม่ เขาสัญญากับผมแล้ว ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่นี่หรือไม่ก็ตาม”ลูซิเฟอร์ตอบอย่างหนักแน่น

 

มันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ที่ถูกทรมานอย่างต่อเนื่องโดยความฝันเดียวกันกับที่พ่อแม่ของเขาพูดถึงการจากไป

 

4 สัปดาห์ของความฝันเดียวกัน ซึ่งมักจะจบลงเมื่อพ่อของเขากําลังจะพูดอะไรบางอย่าง เขาต้องการที่จะผ่านมันไปและเห็นสถานที่นั้น

 

ยิ่งเขาเห็นความฝันนั้นมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาต้องการไปถึงที่นั่นอย่างรวดเร็ว แต่เขาสัญญาแล้วว่าเขาจะรอเป็นเวลา 4 สัปดาห์ 4 สัปดาห์ผ่านไปถึงเวลาที่เขาจะจากไปเขาจะไม่รออีกต่อไป

 

“แต่ลูซิเฟอร์ พยายามเข้าใจเราหน่อย” เคลเลียนพูดแต่ลูซิเฟอร์ส่ายหัวอย่างหนักแน่น

 

“ไม่เข้าใจ พรุ่งนี้คุณจะพาผมไปที่นั่นพวกคุณรักษาสัญญาของคุณด้วยสิ! คุณอยู่ที่นั่นด้วยซ้ําตอนที่มันถูกตัดสิน!”ลูซิเฟอร์ได้ตอบกลับ

 

เมื่อเห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของลูซิเฟอร์เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่ยอมแพ้จนกว่าพวกเขาจะให้สิ่งที่เขาต้องการแก่เขา

 

“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่ชอบจัดการกับเด็ก เขาดื้อมาก”เคลเลียนคิดขณะถอนหายใจ

 

“ก็ได้ เราจะส่งคุณไปที่ชายหาดนั้น แต่คุณสามารถอยู่ที่นั่นได้ 1 วันเท่านั้น หลังจากนั้น คุณจะกลับมา และคุณจะฝึกกับเรา เรามีหลายอย่างที่ต้องปกปิดหากต้องการเพื่อให้คุณเป็นราชาวอร์ล็อค” เขากล่าวก่อนจะถามคําถาม “คุณยอมรับไหม”

 

“ผมยอมรับ” ลูซิเฟอร์พยักหน้า

“ดี กลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้เคนจะพาคุณไปที่นั่น”เคลเลียนพูดก่อนจะออกเดินทาง “เดรโกพาลูซิเฟอร์กลับไปที่ห้องของเขา”

 

เคลเลียนและยาลิซ่าลุกจากพื้นก่อนที่ยาลิซ่าจะถาม”เคลเลียน อย่างน้อยนายควรถามไรอาบ้าง”

 

“ฉันเคยถามไรอามาก่อนแล้ว ฉันจําได้ดีว่า 4 สัปดาห์นี้ผ่านไปแล้ว เนื่องจากเราสัญญาเราจําเป็นต้องรักษามันไว้ฉันแค่หวังว่าลูซิเฟอร์จะไม่จําเรื่องนี้แต่เขาจําได้ ยังไงก็ตามสักวันหนึ่งเขาจะไปที่นั่น และก่อนที่ใครจะรู้เขาจะกลับมา”เคลเลียนตอบ

 

“จริง ไม่ใช่ว่าหาดนั้นอยู่ใกล้ที่ที่มีคนพลุกพล่าน ไม่ควรมีวิญญาณอยู่เลยเวลานี้เพราะหาดนั้นบิดในช่วงเวลานี้ของปีและไม่ใกล้เมืองใดๆ ยิ่งกว่านั้นทั้งหมด เมืองต่างๆถูกล็อกดาวน์”ยาลิซ่าเห็นด้วย

 

“นายแน่ใจหรือว่าเคนเป็นคนที่เหมาะสมที่จะรับเขาเราควรส่งดออนไปไหมอย่างน้อยก็ยังดีกว่า?”ยาลิซ่าถาม

 

“ไม่จําเป็น เคนดีกว่า เขาจะเปลี่ยนหน้าตายิ่งกว่านั้นเขาเป็นคนเดียวที่หน้าตาที่แท้จริงไม่เป็นที่รู้จัก”

 

“ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นคนที่ระมัดระวังและระมัดระวังมากที่สุดสําหรับพวกเราทุกคนเขาใช้ชีวิตแบบนั้นมาตั้งแต่ต้นแล้วดิออนเป็นคนดี แต่เคนมีฝีมือในแผนกนั้นมากกว่า เขาสามารถจัดการเรื่องพวกนี้ได้ “เคลเลียนตอบ

 

วันนั้นก็จบลงเช่นกัน ลูซิเฟอร์ทานอาหารเย็นเสร็จก่อนที่เขาจะนอนบนเตียง พรุ่งนี้จะเป็นวันที่เขาได้เห็นสิ่งที่พ่อแม่ของเขาพูดถึงในที่สุด พระอาทิตย์ตก ณ ที่นั้นเป็นอย่างไร? อะไรคือสิ่งที่พ่อแม่ของเขาชอบมากเกี่ยวกับสถานที่นั้น?

 

เขาหลับตาลงในขณะที่เขาพยายามจะหลับโดยตระหนักว่าเขาคงจะฝันแบบเดียวกันอีกครั้งมากที่สุด

 

“พ่อของฉันพูดอะไรในท้ายที่สุด ถ้าเพียงแต่ฉันจําได้เขาพูดเกี่ยวกับฉันหรือเปล่า หรือเขาจะพูดเกี่ยวกับภารกิจของเขาหรือเกี่ยวกับชายหาดนั้น?”

 

เขาหวังว่าในที่สุดเขาจะได้ยินจุดจบของความฝันในคืนนี้แต่เขารู้ว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้ เขาเห็นความฝันเดียวกันมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว และไม่ได้ยินจุดจบในความฝัน

 

ขณะที่เขากําลังครุ่นคิด เขาไม่รู้ว่าเขาผล็อยหลับไปเมื่อใด

 

อย่างที่คาดไว้ ความฝันก็กลับมาอีกครั้งเหมือนกับครั้งที่แล้ว

 

สิ่งต่างๆ ดําเนินไปเหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่นานความฝันก็มาถึงส่วนที่สําคัญที่สุด

 

พ่อของเขาเปิดปากพูด แต่อย่างที่คาดไว้ความฝันก็หายไปอีกครั้งเมื่อลืมตาขึ้น บม!

 

ด้วยความหงุดหงิด ลูซิเฟอร์ชกกําแพง ทําให้เกิดรูขนาดใหญ่ในนั้น ซึ่งเขาสามารถมองเห็นห้องของเดรโกได้

 

ดูเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้อง แต่สามารถเห็นแล็ปท็อปวางอยู่บนเตียง

 

“ที่นี่ก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน ผิดหวังมาก บ้านดูเหมือนบ้านธรรมดาของคู่รัก ไม่มีของแปลก สมบัติหรือสถานที่ลับใดๆมาที่นี่ก็สูญเปล่า”

 

เวก้าได้ค้นหาบ้านของเซล เสร็จแล้ว แต่มีเพียงความผิดหวังที่เห็นบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาไม่พบอะไรเลย

 

เขาเริ่มออกเดินทาง

 

“ฉันจะหา ลูซิเฟอร์ เพิ่มเติมได้ที่ไหนถ้าไม่ใช่ที่นี่” เขาสงสัยเมื่อเขาจากไป

 

ไรอากําลังนั่งอยู่ในห้องของเขา จ้องมองที่ภาพบนแล็ปท็อป

ของเขา

 

“แล้วลูซิเฟอร์จะไปที่ชายหาดที่เขาพูดถึงอยู่หรือเปล่า”เขาถามเคลเลียนซึ่งนั่งอยู่ข้างหน้าเขา

 

“ใช่ ฉันคุยกับเคนด้วย เขาจะรับเด็กไป”เคลเลียนตอบ

 

“ดี.. ฉันเดาว่ามันถึงเวลาที่เราจะให้ APE คิดเรื่องต่างๆแล้ว”

ตอนที่ 166: ฮีโร่ แอซ์เรล

“มาสอนเขาถึงวิธีทําให้ความสามารถของเขาแข็งแกร่งขึ้นและวิธีใช้มันให้ดีขึ้นฉันคิดว่าการควบคุมลมของเขาต้องการความช่วยเหลือ นั่นคือความสามารถที่เขาควบคุมได้แย่ที่สุดจากสิ่งที่ฉันเห็น นี่ควรเป็นจุดสนใจของเรา” เคลเลียนกล่าว ยาลซ่าจึงพยักหน้าตอบ

 

“จริง ตอนที่ฉันฝึกเขา ฉันก็สังเกตเหมือนกัน เขาบินสูงหรือต่ําไม่ได้ แต่จะลอยไปรอบๆ หลังจากไปถึงระดับที่ตั้งไว้นั้นก็เพราะด้วยความช่วยเหลือจากการกระโดดเท่านั้น เขาไม่ได้ใช้ทักษะของเขาอย่างที่ควรจะเป็น ของเขา ความสามารถอื่น ๆนั้นควบคุมได้ดีกว่า” ยาลิซ่าเห็นด้วย

 

และด้วยเหตุนี้ แผนจึงถูกตัดสินใจ เพื่อช่วยลูซิเฟอร์ควบคุมลมของเขาเพื่อที่เขาจะได้ไม่เพียงแค่บินได้เท่านั้น แต่ยังใช้ลมของเขาในทางที่ไม่ชอบเพื่อเอาชนะ

 

ขณะที่เคลเลี่ยนและยาลิซ่าคิดตารางการฝึกสําหรับอนาคต เวก้านั่งอยู่ในบ้านธรรมดาในเมืองที่ห่างไกล

 

เขาใช้เวลานานกว่าที่เขาคาดไว้มากในการมาที่นี่ หลังจากที่เขาไปถึงเมือง ซึ่งถูกกล่าวถึงในฐานข้อมูล เขาก็พบว่าด็อกเตอร์มีร่าไม่อยู่ที่นี่

 

แต่เธอไปเมืองที่อยู่อีกฟากหนึ่งของประเทศ

 

ด้วยความผิดหวัง เวก้าเปลี่ยนจุดหมายปลายทางอีกครั้งและไปที่เมืองที่ 2 แต่เมื่อเขามาถึงที่นี่ เขาตระหนักว่าโชคของเขาไม่ดีอีกครั้ง

 

ผู้หญิงคนนั้นออกไปเมื่อ 2-3 วันก่อนเพื่อกลับบ้าน

 

เป็นครั้งที่ 3 ที่เขาไปที่เมืองเก่าด้วยความผิดหวังอย่างมาก แต่คราวนี้เขาโชคดีที่ได้พบหมอมีร่าในบ้านของเธอ

 

“คุณบอกว่าคุณมาจาก APF เหรอ?” หญิงชราคนหนึ่งถามเวก้าซึ่งนั่งอยู่ตรงหน้าเธอ

 

“ใช่ครับ คุณแม่ นี่คือบัตรของผม” เวก้าตอบในขณะที่เขาแสดงบัตรประจําตัว

ปลอม

 

“ขอถามหน่อยเถอะว่าใส่หน้ากากทําไม” ด็อกเตอร์มีร่าถามด้วยความสงสักว่าทําไมเวก้าถึงซ่อนใบหน้าของเขาไว้

 

เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะใบหน้าของเขาเป็นที่รู้จักมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ APF จะหาลูซิเฟอร์ได้ยาก

 

เขาซ่อนใบหน้าของเขาไว้เพราะเขาไม่ต้องการทําให้เกิดความโกลาหล ไม่ใช่ว่าเขากลัวแต่เพราะเขาอยากจะมาและจากไปอย่างเงียบๆ ไม่เสียเวลา

 

“แล้วคุณจะถามอะไรฉันล่ะ” หมอมีร่าถาม

 

“หมอมีร่า เรากําลังสืบสวนการตายของเซล แอซเรล ผมแน่ใจว่าคุณรู้จักเขาใช่

ไหม” เวกําถามในขณะที่เขาแสดงรูปของเซล

 

“ราชาวอร์ล็อคเซล?” ผู้หญิงคนนั้นถามโดยจําชายในภาพได้ “ฉันจําเขาได้เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ทั้งที่มีพลังมากมาย เขาก็ใจดีเช่นกัน”

 

เวก้าพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ถูกต้อง เรากําลังพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเขา เราได้ยินมาว่าคุณเป็นหมอที่ช่วยแคลร์ส และ เซล ในการคลอดบุตรใช่ไหม”

 

“ใช่ ฉันอยู่ที่นั่น ฉันยังจําได้ว่าเขาเครียดแค่ไหน เขาถามฉันทุก 2-3 วินาทีว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน มันช่างหวานซึ่งเหลือเกิน” หญิงสาวตอบราวกับว่าเธอกําลังหวนคิดถึงอดีต

 

“คุณแน่ใจหรือว่าคุณคลอดลูซิเฟอร์ออกมา และเขาก็ออกมาจากท้องของแคลรีส แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์หรือว่าลูซิเฟอร์เกิดที่โรงพยาบาล” เวก้าถามแม้ว่าคําถามเหล่านี้จะฟังดูงี่เง่า

 

“ลูซิเฟอร์ นั่นเป็นชื่อที่พวกเขาตัดสินใจให้เด็กคนนั้นหรือไม่ ก็ไม่เลว แต่พวกเขาเลือกได้ดีกว่า พวกเขาสับสนมากว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี ฉันยังเสนอชื่ออยู่ แต่พวกเขาบอกว่าพวกเขาจะคิดเกี่ยวกับมัน” หลังจากกลับบ้าน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะปฏิเสธชื่อที่ฉันแนะนํา

 

“แต่ใช่ คุณพูดถูก ลูกของพวกเขาเกิดที่โรงพยาบาลต่อหน้าต่อตาฉัน ฉันยังจําดวงตาสีฟ้าที่สวยงามของเด็กน้อยและความเรื่องแสงบนใบหน้าของเขาได้

 

“เมื่อฉันเห็นเขา ฉันรู้ว่าเขาจะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเหมือนพ่อของเขา อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์เป็นยังไงตอนนี้ เขาต้องเป็นนักเรียนแน่ๆ ใช่ไหม ใครดูแลเขาหลังจากที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิต?”

 

เมื่อเธอก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งความทรงจํา เธอไม่หยุดพูดเลยแม้แต่วินาทีเดียวจนกระทั่งเธอถามคําถามนั้น

 

“ตอนนี้เรากําลังดูแลเขาอยู่ อย่างไรก็ตาม ขอบคุณสําหรับการยืนยัน ดังนั้นเขาเกิดที่โรงพยาบาลจริงๆ และเขาเป็นลูกชายของ 2 คนนั้น” เวก้า สรุปในขณะที่เขาพยักหน้า

 

“ผมมีอีกหนึ่งคําถาม คุณช่วยลูซิเฟอร์ ให้กําเนิด แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณลาออก มีเหตุผลอะไร ถ้าผมอยากจะถามได้ไหม” เวก้าถาม

 

“นั่นน่ะเหรอ ฉันบอกเหตุผลไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัว” หญิงสาวตอบ

พร้อมกับส่ายหัว “แต่มันไม่เกี่ยวอะไรกับโรงพยาบาลและใครก็ตามจากเมืองนั้น”

 

“เข้าใจแล้ว ตราบใดที่มันไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ไม่เป็นไร ว่าแต่ วันที่ลูซิเฟอร์เกิด มีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นบ้าง จ่าอะไรได้บ้าง สภาพอากาศที่ไม่ธรรมดาหรืออย่างอื่นที่คุณพบว่าแปลก” เวก้าถาม

 

“ใช่ ฉันคิดว่ามีเรื่องแบบนั้น แต่ฉันเดาว่ามันน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าเรื่อง

อื่น” หญิงสาวตอบ

 

“เกิดอะไรขึ้น?”

 

“จริง ๆ ทันทีที่ลูซิเฟอร์เกิด เขาร้องไห้เป็นครั้งแรก และทันทีที่เขาร้องไห้ ฉันก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ส่วนที่แปลกคือท้องฟ้าแจ่มใส เมื่อฉันตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนั้น” ด็อกเตอร์มีร่าตอบ

 

“มีเมฆและฝน ฉันไม่พบอะไรแบบนั้นในฐานข้อมูลใด ๆ คุณแน่ใจหรือ” เวก้าถามด้วยความสงสัย

 

“ฉันแน่ใจว่านั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยิน ยิ่งกว่านั้นคุณพูดถูก วันนั้นไม่มีฝน มีเพียงเมฆมืดบนท้องฟ้าเท่านั้นที่ปรากฏขึ้น ทว่ามันเกิดขึ้น ก็ไม่แปลก บางครั้งธรรมชาติก็ลึกลับ ดังนั้น แค่เรื่องบังเอิญ” ด็อกเตอร์มีร่าพูดยิ้มๆ

 

“เรื่องบังเอิญเกิดขึ้น ฉันเดาว่าคุณคิดถูก” เวก้าพึมพําขณะลูบคาง แต่มีแวว

ตาคมกริบ

 

เขาไม่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ด้วย

เหตุผลบางอย่าง ลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์กับสภาพอากาศ มันเกิดขึ้น

หลายครั้งเกินกว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ

 

คราวที่แล้วเขาเห็นตัวเองว่าเมฆปกคลุมไปด้วยเมฆด่าเพราะลูซิเฟอร์

 

“ขอบคุณที่สละเวลาและตอบคําถามของผมทั้งหมด ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้” เวกยืนขึ้นในขณะที่เขากล่าวคําอําลาก่อนที่เขาจะเริ่มจากไป

 

“ถ้าคุณพบลูซิเฟอร์ ขออวยพรให้เขาจากฉันด้วย เด็กที่น่าสงสารเสียพ่อแม่ไปเร็ว ๆ สิ่งนี้อาจจะทําให้เขามีความสุข” ด็อกเตอร์มีร่าพูดกับเวก้าที่จากไป

 

เวก้ากําลังจะจากไป แต่เขาหยุดก่อนประตูขณะที่หันหลังกลับ

 

“ฉันจะบอกเขาอย่างนั้น แต่ด้วยความอยากรู้ เธอบอกว่าคุณเสนอชื่อให้เขา แต่พ่อแม่ของเขาปฏิเสธ ชื่ออะไรที่คุณเสนอให้ลูซิเฟอร์” เขาถาม

 

“โอ้ ชื่อนี้เหรอ เนื่องจากพ่อแม่ของเขาเป็นวีรบุรุษของมนุษยชาติ ฉันจึงเสนอชื่อฮีโร่สาหรับลูกชายของพวกเขา” ด็อกเตอร์มิราตอบ

 

“ฮีโร่แอซเรล?” เวก้าพึมพําในขณะที่เขายิ้มแหยๆ เขาส่ายหัวและจากไป

 

“ฉันต้องบอกว่าเซลมีความรู้สึกในการตั้งชื่อที่ดีกว่าผู้หญิงคนนั้น เวก้าคิดขณะก้าวออกจากบ้าน ฮีโร่แอซ์เรลฟังดูแย่จริงๆ นะ.. ฉันดีใจที่เซลไม่ได้เลือกมัน

 

ตอนที่ 165: มุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบลม

 

“ทําลายกําแพง 2 นิ้ว” ลูซิเฟอร์สะท้อนขณะที่เขามองดูเครื่องหมายดาบบนผนัง

 

“ถ้าฉันโจมตีแรงเกินไป กําแพงก็จะพัง ฉันไม่ควรตั้งเป้าที่จะทําลายกําแพงและเพียงแค่แตะต้องมันเท่านั้น” เขาคิด ขณะกําหมัดและชกกําแพง

 

แม้ว่าเขาจะพยายามโจมตีอย่างอ่อนแรงที่สุดเท่าที่จะทําได้ หลุมอุกกาบาตถูกทิ้งไว้บนกําแพงซึ่งมีความลึกอย่างน้อย 5 นิ้ว

 

“ลึกเกินไป อ่อนแอกว่านั้นอีก” ลูซิเฟอร์พูดซ้ําขณะโจมตี อีกครั้งหลังจากที่เขาเปลี่ยนจุด

 

น่าเสียดายที่คราวนี้การโจมตีของเขาอ่อนแอมากจน ทําให้เกิดรอยร้าวบนผนังเท่านั้น

 

ในระยะไกล เคลเลียนกําลังสังเกตลูซิเฟอร์และส่ายหัว

 

“ดูเหมือนว่าจะใช้เวลานาน แต่สิ่งนี้จะทําให้เขารู้สึกถึง ความแข็งแกร่งของเขา” เขาพูดขณะพับแขน

 

การโจมตีของลูซิเฟอร์ดําเนินต่อไปในขณะที่เขายังคงขยับ ตําแหน่งในห้องหลังจากทําลายกําแพงเป็นครั้งคราว

 

บางครั้งการโจมตีของเขาอ่อนแอเกินกว่าจะทิ้งรอยไว้ลึก 1 นิ้ว ในขณะที่บางครั้งมันก็รุนแรงมากเกินไป

 

เขาไม่สามารถหาจุดสมดุลที่สมบูรณ์แบบได้แม้จะพยายาม มากกว่า 50 ครั้งแล้วก็ตาม แต่เขาเข้ามาใกล้ เขาไม่ยอมแพ้ ในณะที่เขาเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเชื่อว่าเขา ทําได้ เขาสามารถบรรลุเป้าหมายของเขาได้ ความพ่ายแพ้ไม่เคยเป็นทางเลือกที่เขาคิดได้

 

4 ชั่วโมงผ่านไปเมื่อเดรโกมาถึงพื้นพร้อมรับประทานอาหา รกลางวันสําหรับลูซิเฟอร์และเคลเลี่ยน เพียงเพื่อจะตกใจ 

 

พื้นทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเครื่องหมาย ผนังทั้งหมดได้ รับความเสียหายเคลเลียนยืนอยู่ตรงกลางขณะที่ลูซิเฟอร์นั่งมองดูมืออย่างเหนื่อยล้า

 

เขาเดินไปหาพวกเขาพร้อมกับอาหารในมือของเขา

 

“ทําได้ดีมาก ในที่สุดคุณก็สําเร็จ ตอนนี้คุณเข้าใจแล้วว่ามัน ยากแค่ไหนที่จะควบคุมความแข็งแกร่ง คุณควรจําความรู้สึกนี้ และการควบคุมนี้ไว้เสมอในช่วงเวลาที่เหลือของวัน ฉันจะฝึกคุณให้มากกว่านี้ เมื่อถึงเวลาที่เราทํามันเสร็จแล้ว คุณก็จะควบคุมความแข็งแกร่งได้ดีขึ้นมาก”

 

“มากเสียจนแม้ว่าคุณจะต่อสู้ คุณจะสามารถต่อสู้ได้เหมือนมนุษย์ทั่วไปโดยไม่ปล่อยให้ความแข็งแกร่งของคุณไหลผ่าน เว้นแต่คุณต้องการ”

 

เมื่อเดรโกเข้ามาใกล้ทั้ง 2 คน เขาก็ได้ยินการสนทนาของพวกเขา

 

เคลเลียนเหลือบมองเดรโกก่อนบอกให้เขาวางอาหารต่อหน้าลูซิเฟอร์

 

“กินให้หมด เราจะฝึกต่อหลังจากพักครึ่งชั่วโมง”

 

การฝึกอบรมดําเนินต่อไปตลอดทั้งวันเมื่อเคลเลียนสอนลูซิ เฟอร์เพิ่มเติมเกี่ยวกับความแข็งแกร่งและวิธีที่เขาสามารถนําความสมบูรณ์แบบมาสู่การควบคุมของเขา

 

การฝึกวันแรกดูเหมือนจะประสบความสําเร็จ

 

วันที่ 2 ก็มาถึงในไม่ช้า ที่ยาลิซ่ามาเพื่อฝึกลูซิเฟอร์

 

ยาลิซ่าเป็นแวเรียนท์ แรงค์ S อีกคนหนึ่งของ แวเรียนท์เกิด ใหม่ แต่เขาแตกต่างจากเคลเลียนเล็กน้อย ขณะที่เคลเลียนใช้เงาและความมืดเข้าโจมตี ยาลิซาก็ออกต่อสู้กายภาพตามความต้องการ แม้ว่าเขาจะเป็นจ้าวแห่งการโจมตีระยะไกลก็ตาม

 

เมื่อยาลิซ่ามาถึง จุดเน้นของการฝึกอบรมเปลี่ยนจากการ ควบคุมเป็นการใช้การควบคุมนั้น

 

เขากําลังจะสอนลูซิเฟอร์ถึงวิธีต่อสู้เหมือนมนุษย์และวิธีฆ่าอย่างมีประสิทธิภาพ

 

การฝึกดําเนินต่อไปเป็นวันที่ 2 โดยยาลิซ่าสอนลูซิเฟอร์เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะการต่อสู้แบบโบราณและรูปแบบการต่อสู้สมัยใหม่

 

เขาสอนวิธีป้องกันตัวเองจากคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาและวิธีฆ่าพวกเขาโดยไม่ต้องใช้พลังของเขา

 

จุดสนใจที่นี่ไม่ใช่จุดแข็งของลูซิเฟอร์แต่เป็นทักษะของเขา ดังนั้นเขาจึงสามารถต่อสู้เมื่อจําเป็นโดยไม่ต้องเปิดเผยว่าเขาเป็นแวเรียนท์

 

วันที่ 2 ดูเหมือนจะผ่านไปในพริบตา ขณะที่ลูซิเฟอร์หมกมุ่นอยู่กับการฝึกพยายามซึมซับข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้รับ

 

นี่คือสิ่งที่เขาเพลิดเพลินจริงๆ แทนที่จะต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เขาสามารถหันเหความสนใจไปที่การฝึกฝนและแข็งแกร่งขึ้นได้

 

เขายังจําได้ว่าตอนที่เขามาจากการทดสอบครั้งสุดท้ายในโรงงาน เขาบอกว่าเขาล้มเหลว ในเวลานั้น เขารู้แล้วว่าเขาจะไม่มีวันกลายเป็นแวเรียนท์เขาร้องไห้ตลอดทั้งคืนก่อนที่เขาจะคิดอะไรได้ในที่สุด

 

เขาสัญญาว่าจะเป็นวีรบุรุษของมนุษย์เหมือนพ่อของเขา แล้วถ้าเขาไม่สามารถกลายเป็นแวเรียนที่ได้ล่ะ? มีมนุษย์จํานวนมากที่ต่อสู้โดยไม่มีอํานาจใดๆ

 

เขายังสามารถเรียนรู้ที่จะเป็นเหมือนพวกเขาได้หรือไม่? แล้วถ้าเขาไม่มีพลังของแวเรียนท์ล่ะ? เขาสามารถฝึกฝนและกลายเป็นนักสู้มนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา

 

โชคร้ายที่คืนที่เขาคิดว่านี่เป็นคืนสุดท้ายของเขาในสถานที่นี้ เนื่องจากเขาถูกฆ่าตายในวันรุ่งขึ้น โดยที่ไม่มีโอกาสรอดชีวิตเลย

 

ตอนนี้เขากําลังเรียนรู้ที่จะต่อสู้เหมือนมนุษย์ มีความตื่นเต้นในตัวเขาราวกับว่าเขาได้รับการเติมเต็มความปรารถนาอย่างใดอย่างหนึ่งของเขา

 

การฝึกของลูซิเฟอร์ดําเนินต่อไป เมื่อวันผ่านไปเป็นสัปดาห์ เขาได้รับการสอนวิธีใช้ปืน วิธีเล็ง วิธีบรรจุกระสุน วิธีใช้ดาบ และอื่นๆอีกมากมาย

 

ทั้งหมดนี้เสร็จสิ้นในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ดูน่าประหลาดใจก็คือลูซิเฟอร์เรียนรู้สิ่งต่างๆได้ดี

 

เขาเรียนรู้ทั้งหมดนี้เร็วเกินไป การฝึกอบรมซึ่งน่าจะใช้เวลา นานกว่านั้นใกล้จะสําเร็จแล้วเนื่องจากลูซิเฟอร์ทํางานได้ดีเกิน คาดและเรียนรู้เร็วเกินไป

 

เนื่องจากเคลเลี่ยนและยาลิซ่าไม่คาดคิดกับความเร็วนี้ พวกเขาจึงตกใจที่รู้ว่าตารางการฝึก 4 สัปดาห์ที่พวกเขาเตรียมไว้นั้นเสร็จสิ้นในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ และพวกเขามีเวลาเหลืออีก 1 สัปดาห์

 

ตลอดสัปดาห์เหล่านี้ ลูซิเฟอร์ยังได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม นอกเหนือจากที่เคลเลียนและยาลิซ่าจัดให้

 

เขาได้รับการสอนวิธีการอ่านและเขียนในเชิงลึก เขาได้รับการสอนมารยาทบนโต๊ะอาหาร และเขายังได้รับการสอนให้ประพฤติตัวเหมือนคนมีฐานะสูงและเป็นคนร่ํารวย

 

ราวกับว่าเขาได้รับการฝึกฝนให้เป็นเจ้าชาย

 

เคลเลียนและยาลิซ่านั่งอยู่ในห้องหนึ่ง กําลังคุยกันว่าควรก้าวหน้าในการฝึกที่ซับซ้อนกว่านี้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ จิตวิทยา และปัจจัยอื่นๆ ในสัปดาห์ที่แล้วหรือไม่หลังจากที่ตารางงานเก่าของพวกเขาหมดลง

 

“ฉันไม่คิดว่าเราควรจะทํา 1 สัปดาห์ไม่เพียงพอสําหรับเรื่องทั้งหมด และหลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เขาจะไปที่ชายหาดที่เขาพูดถึงอยู่เสมอ” ยาลิซ่าบอกเคลเลียน

 

“จริง เราควรเริ่มด้วยสิ่งที่ซับซ้อนหลังจากที่เขากลับมา เคลเลียนเห็นด้วย

 

“แล้วอาทิตย์ที่จะถึงนี้ เราควรสอนอะไรเขาดี” ยาลิซ่าถาม

 

“เราควรมุ่งเน้นไปที่องค์ประกอบลมของเขา เขาต้องการมันจริงๆ” เคลเลี่ยนพูดแทรก

 

ตอนที่ 164: ความแม่นยํา

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์ก้าวออกจากห้อง เขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตู ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะมาที่นี่ในที่สุดเพื่อพาเขาไป

 

เขาเดินไปที่ประตูและเปิดประตูให้เดรโกทักทายเท่านั้น เขาไม่ได้รําคาญที่จะถามในครั้งนี้เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเดรโกมาที่นี่เพื่ออะไร มาเมื่อไหร่ก็ต้องพาขึ้นไปชั้นบน

 

“ท่านลูซิเฟอร์ ผมเอาอาหารมา” เดรโกตอบ ทําลายการรับรู้ของลูซิเฟอร์เดรโกก้าวออกไปเผยให้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังเขาพร้อมกับถาด

 

“นายไม่ได้มาที่นี่เพื่อพาฉันไปฝึกใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ผมไม่กล้าพาท่านไปโดยไม่ให้อาหารก่อนได้หรอกครับ ผมทําผิดไปเมื่อวานและครั้งเดียวก็พอ แม้ว่าผมจะพาท่านไปฝึก ท่านก็จะต้องขออาหารที่นั่นก่อนจะเริ่มต้นอะไรและผมจะโดนดูว่าอีกครั้งในโทษฐานที่ผมลืมครั้งที่ 2” เดรโกตอบพร้อมกับยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

 

“ก็จริง” ลูซิเฟอร์พยักหน้าก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง

 

สาวๆวางถาดไว้ตรงหน้าลูซิเฟอร์และจากไปโดยทิ้งเดรโกไว้ข้างหลัง ซึ่งรอให้ลูซิเฟอร์กินเสร็จ 

 

แม้ว่าสมาชิกระดับ 5 กําลังรอลูซิเฟอร์ เขาก็ยังกินในขณะที่ทํางานเต็มเวลาดูเหมือนเขาจะไม่ได้รีบร้อนอะไร

 

หลังจากที่ดูเหมือนชั่วนิรันดร์ ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็กินเสร็จก่อนที่เขาจะลุกขึ้น

 

“เราจะออกไปตอนนี้เลยไหม?” เดรโกถามอย่างอดทน

 

“ใช่”

 

ลูซิเฟอร์และเดรโกออกจากห้องและขึ้นลิฟต์ไป ทว่าต่างจากเมื่อก่อน ทั้งสองเดินไปคนละชั้นมันเป็นพื้นที่ลูซิเฟอร์ไม่เคยเหยียบ

 

พื้นไม่มีอะไรเลยนอกจากกําแพงทั้งสี่ที่อยู่ห่างไกลจากกัน

 

ชั้นนี้ไม่มีห้อง สําหรับพื้นนั้น ดูเหมือนว่าจะได้รับการเสริมกําลังอย่างหนักในขณะที่ผนังดูเหมีอนกับผนังที่อยู่ในห้องฝึกหัดที่ลูซิเฟอร์เคยเห็นมาก่อน

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล ยินดีต้อนรับ

 

เคลเลียนเข้าหาลูซิเฟอร์ขณะทักทายเขา

 

ลูซิเฟอร์สงสัยว่าทําไมเขาถึงอยู่คนเดียว ยาลิซ่าอยู่ที่ไหน เขามองไปรอบๆแต่ไม่พบยาลิซ่าทุก

 

“คุณกําลังมองหายาลิซ่าอยู่หรือเปล่า เขาไม่อยู่ที่นี่ เราจะผลัดกันฝึกฝนคุณเพื่อไม่ให้ล้นหลาม วันนี้เป็นตาฉัน พรุ่งนี้เขาจะอยู่ที่นี่” เคลเลียนพูด นึกขึ้นได้ว่าลูซิเฟอร์พยายามจะสื่อถึงอะไรออกมา

 

“มาเถอะ มาเริ่มฝึกกันเถอะ” เขาพูดกับลูซิเฟอร์ก่อนจะเหลือบมองเดรโก “ออกไปได้แล้วกลับมาหลังจาก 4 ชั่วโมงนั้นนายก็กลับมาพร้อมอาหารกลางวันให้ลูซิเฟอร์ซะ”

 

“ครับผม” เดรโกหันหลังและเดินออกไป

 

“เอาล่ะ ลูซิเฟอร์ ให้ฉันเริ่มก่อน คุณคิดว่าอะไรที่สําคัญที่สุดสําหรับวอร์ล็อค?” เคลเลียนถามลูซิเฟอร์ว่ามีเพียงสองคนเท่านั้นที่อยู่ในห้องโถงใหญ่โตเช่นนี้

 

“ ความแข็งแกร่ง” ลูซิเฟอร์ตอบ

 

“ผิด” เคลเลียนพูดพร้อมส่ายหัว “ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสําคัญ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สําคัญที่สุดนักรบที่แข็งแกร่งหลายคนต้องพินาศในมือของผู้อ่อนแอตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

 

“สมอง?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย เขาพยายามจะพูดในสิ่งที่เคนพูดแผนการนั้นมีความ สําคัญสําหรับแวเรียนท์?

 

“เปล่า จริงๆ แล้วเราทุกคนมีสมอง แต่ก็ไม่ใช่ความพยายามที่แย่ เราจําเป็นต้องใช้สมองของเรา 2-3 ครั้งจึงจะประสบความสําเร็จ แต่นั่นก็ไม่ใช่คําตอบเช่นกัน ดังนั้นไม่” เคลเลียนตอบ

 

“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน” ลูซิเฟอร์ตอบ เขาเคยพูดในสิ่งที่เขาคิดได้

 

“สิ่งที่สําคัญที่สุดสําหรับวอร์ล็อคคือการควบคุมความแข็งแกร่งของเขาวอร์ล็อคที่หละหลวสามารถทําลายแม้กระทั่งตัวเขาเองในการต่อสู้หรือใช้พลังได้ถ้าเขาไม่รู้ว่าจะควบคุมความแข็งแก ร่งของเขาอย่างไร” เคลเลียนตอบ

 

“นั่นคือเหตุผลที่ วันนี้ คุณจะฝึกการควบคุมของคุณ” เขากล่าวเสริม

 

“การควบคุมของผม?” ลูซิเฟอร์ถามในขณะที่เขาเหลือบมองที่มือของเขา” ผมจะควบคุมการสลายตัวของผมและหยุดมันจากการทําให้ชีวิตผมลําบากได้หรือไม่”

 

“การสลายตัวแตกต่างกันเล็กน้อย ฉันไม่รู้มากเกี่ยวกับมัน แต่ฉันสงสัยว่าคุณสามารถหยุดมันได้อย่างสมบูรณ์ คุณสามารถลดหรือเพิ่มความเข้มข้นได้หากคุณควบคุมได้แต่คุณไม่สามารถหยุดมันจากการทํางานได้” เคลเลียนตอบ.

 

“ฉันแน่ใจว่าคุณใช้พลังแห่งการสลายตัวมาหลายครั้งแล้ว แต่คุณต้องเคยเห็นมันด้วยตัวเองบางครั้งสิ่งต่าง ๆผุพังเร็วขึ้นในขณะที่บางครั้งสิ่งเดียวกันก็สลายช้าลงใช่ไหม”เขาถาม.

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้าเป็นคําตอบ เขาเคยเห็นมาหลายครั้งแล้ว และเขาก็อยากรู้เรื่องนี้ด้วย

 

” นั่นเป็นเพราะการควบคุมของคุณ เนื่องจากคุณไม่สามารถควบคุมได้ คุณไม่สามารถควบคุมความเข้มข้นของมันได้ ความเข้มข้นของมันจะขึ้นอยู่กับจิตใต้สํานึกและอารมณ์ของคุณ”

 

“นั่นเป็นสาเหตุว่าทําไมสิ่งเหล่านี้ถึงเกิดขึ้น แต่ก็มีอีกปัจจัยหนึ่งคือพลังงานชีวิตภายในวัตถุที่ส่งผลต่อการสลายตัวเร็วหรือช้า”

 

“คุณไม่สามารถควบคุมพลังงานชีวิตภายในวัตถุได้ แต่คุณสามารถควบคุมความรุนแรงของการสลายตัวเพื่อช่วยคุณได้” เคลเลียนกล่าว“อย่างไรก็ตาม ไว้สําหรับที่หลังวันนี้ฉันจะเน้นที่ค วามแข็งแกร่งของคุณทั้งหมด”

 

“มากับฉัน” เขาบอกลูซิเฟอร์ขณะเดินไปที่กําแพง

 

เมื่อหยุดอยู่หน้ากําแพง เคลเลียนหันหลังกลับขณะเหลือบมองที่ลูซิเฟอร์

 

“ฉันแน่ใจว่าคุณเคยเห็นกําแพงนี้มาก่อนใช่ไหม มันยากกว่ากําแพงปกติมากและสามารถลดความรุนแรงของการโจมตีได้ในระดับหนึ่งเพื่อรักษาตัวเองให้ปลอดภัย”

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้าอีกครั้ง

 

“ถึงแม้ว่ากําแพงนี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถทําอะไรกับความแข็งแกร่งระดับ S ของคุณได้แต่เป็นการทดสอบที่สมบูรณ์แบบที่จะช่วยให้คุณควบคุมความแข็งแกร่งของคุณ” เคลเลียนกล่าวก่อนจะดึงดาบออกมา

 

“ 2 นิ้ว” เขาพูดกับลูซิเฟอร์ก่อนจะฟันดาบไปที่ผนัง

 

ขณะที่ดาบเคลื่อนตัว มันทิ้งรอยแผลเป็นไว้บนผนังซึ่งดูเหมือนลึกมาก

 

เคลเลียนเก็บดาบของเขาไว้ก่อนจะพูดกับลูซิเฟอร์ “คุณเห็นเครื่องหมายนั้นไหมจริงๆแล้ว ลึก 2 นิ้ว นั่นคือการควบคุมของฉัน ฉันสามารถทําเครื่องหมายให้ลึกขึ้นหรือเล็กลงได้แต่ฉันรู้แน่ชัดว่าฉันต้องการพละกําลังมากแค่ไหน และฉันต้องควบคุมมากแค่ไหนจึงจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการ จากคุณ.”

 

“ฉันต้องการให้คุณใช้กําลังของคุณชกกําแพงและทิ้งรอยลึก 2 นิ้วไว้บนผนัง 2 นิ้วพอดี! ไม่มากหรือน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว คุณทําได้ไหม” เขาถาม. “ถ้าคุณทําเช่นนี้ คุณจะก้าวไปข้างหน้าในการควบคุมความแข็งแกร่งของคุณไปสู่ระดับที่ยอดเยี่ยม”

 

ลูซิเฟอร์สังเกตกําแพงและรอยลึกที่เกิดจากดาบก่อนจะมองไปที่กําปั้น

เขารู้ว่าเขาสามารถใช้พลังพิเศษเพื่อทิ้งรอยไว้บนผนังได้ เขาสามารถทําลายมันได้แต่เขาสามารถควบคุมมันให้แม่นยําได้หรือไม่? เขาสงสัยว่าเขาจะทําได้แต่เขายังคงพยักหน้า

 

นี้เป็นสิ่งที่ดี เขาต้องการการควบคุม และหากสิ่งนี้สามารถช่วยเขาได้ มันก็ดี

 

เขาสามารถควบคุมความแข็งแกร่งของเขาได้ในระดับหนึ่งตามที่ต้องการแต่ถ้าเขาได้รับความแม่นยําเช่นนี้สิ่งต่างๆ ก็จะง่ายขึ้น

 

“ดีแล้ว ไปกันเถอะ คุณมีเวลา 4 ชั่วโมงและที่แห่งนี้ทั้งหมด .. ฉันไม่สนใจว่าคุณจะลองกี่ครั้งแต่ฉันต้องการความเสียหายที่ลึกล้ํานั้น”เคลเลียนพูดกับลูซิเฟอร์ก่อนจะก้าวถอยหลัง

ตอนที่ 163: ความลึกลับของการกําเนิดของลูซิ เฟอร์

 

“ยาลิซ่าและเคลเลียนเป็นคนแบบไหนกัน” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัยเกี่ยวกับคนที่กําลังจะฝึกเขา

 

“เซอร์ยาลิซ่าและเซอร์เคลเลียนคือหนึ่งในวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดของ แวเรียนท์เกิดใหม่พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทของ เซอร์ไรอา พวกเขาเก่งมาก แต่ที่นี่พวกเขาไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนมากมาย ดังนั้นผมไม่รู้ เกี่ยวกับพวกเขามากกว่านั้น” เดรโกตอบลูซิเฟอร์

 

“หนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่นี่งั้นเหรอ เซอร์ไรอาของนายแข็งแกร่งแค่ไหนต่อหน้าพวกเขา?”ลูซิเฟอร์ถาม

 

“ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ถ้าให้เดา เซอร์ไรอาควรจะแข็งแกร่งเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับพวกเขา หรืออาจจะน้อยกว่านี้สักหน่อย ผมไม่รู้จุดแข็งของพวกเขา”เดรโกตอบ

 

“แข็งแกร่งเป็น 2 เท่าเหรอ หม? ดังนั้นถ้าฉันแข็งแกร่งเป็น 2 เท่าของพวกเขา ฉันควรจะแข็งแกร่งเท่ากับไรอา และเนื่องจากไรอาเท่ากับวารันท์ ฉันควรจะเท่ากับเขาด้วย นั่นคือระดับของพลังสินะ” ลูซิเฟอร์ พึมพําในขณะที่เขากินต่อไป

 

เขากําลังจะไปฝึกกับพวกเขา ที่นั่น เขาเชื่อว่าเขาสามารถเห็นความแข็งแกร่งของพวกเขาในการตัดสินความแข็งแกร่งของเขาเอง

 

ในช่วงเวลานี้ เดรโกไม่ได้หนีไปไหนเพราะเขาไม่สามารถทิ้งลูซิเฟอร์ไว้ตามลําพังบนชั้นนี้ได้

 

หลังจากลูซิเฟอร์กินเสร็จแล้ว เขาก็ออกไปกับเดรโก โดยทิ้งจานไว้ข้างหลัง

 

เขาเข้าไปในลิฟต์ ซึ่งพาเขาลงไปที่ชั้นแขกอีกครั้ง ซึ่งมีเพียงเขาเท่านั้นที่ครอบครอง

 

ภายในห้องของเขา เคลเลี่ยนและยาลิซ่ากําลังพยายามวางแผนว่าจะฝึกลูซิเฟอร์ให้ดีที่สุดได้อย่างไร ในที่นี้พวกเขาใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงด้วยกัน

 

สําหรับเวก้า เขากําลังอ่านบันทึกทั้งหมดของลูซิเฟอร์ พยายามรู้จักเขาให้มากขึ้น

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล เกิดในโรงพยาบาลโฮลี ไพรม์” เวก้าพึมพําขณะพบสถานที่เกิดของลูซิเฟอร์ตามฐานข้อมูล

 

เมื่อเขาเจาะลึกลงไป เขาได้แฮคฐานข้อมูลทั้งหมดของโรงพยาบาลเพื่อดูภาพวันคล้ายวันเกิดของลูซิเฟอร์

 

“วิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล โรงพยาบาลบ้าๆ นี้ลบฟุตเทจที่เก่ากว่า 1 ปีทิ้งไปหมดแล้ว น่าเสียดาย” เวก้าสาปแช่งเมื่อเขาตระหนักว่าวันนั้นไม่มีภาพโรงพยาบาลในวันนั้น

 

เขาพยายามตรวจสอบสถานที่อื่นๆ ใกล้โรงพยาบาลเพื่อดูว่ามีสถานที่ใดบ้างในวันนั้น แต่ไม่มี ที่จัดเก็บภาพเก่าขนาดนั้น

 

“อย่างแรกฉันต้องแน่ใจก่อนว่าลูซิเฟอร์เป็นลูกแท้ๆของเซล แอซเรลหรือเป็นลูกบุญธรรมด้วยพลังของเขาที่เข้าคู่กับพลังของพ่อแม่ของเขา มีโอกาสสูงที่เขาจะตกเป็นลูกทางสายเลือดแต่ฉันก็ยังต้องค้นหามันให้แน่นอนกว่านี้”

 

“แต่ฉันจะแน่ใจได้อย่างไร? จากฐานข้อมูลและบันทึก ลูซิเฟอร์เกิดที่โรงพยาบาลโฮลีไพรม์แต่ไม่มีภาพใดที่ฉันสามารถใช้ยืนยันได้”

 

เขายังคงเคาะโต๊ะ ในขณะที่เขาครุ่นคิดอยู่ลึกๆ ก่อนที่เขาจะอุทานออกมาในทันใด “ถูกต้องหมอที่คาดว่าจะช่วยคลอดบุตร! ฉันต้องหาพวกเขาให้พบ”

 

เขาเริ่มตรวจสอบฐานข้อมูลเพื่อดูชื่อแพทย์

 

“หมอมิร่า เธอคือคนนั้น” เคนพึมพํา ในขณะที่เขาพบชื่อหลังจากการค้นหาสั้นๆ “หมอมิร่ามาดูกันว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน”

 

ผ่านไปพักหนึ่งก็พบสถานะของหมอคนนั้น

 

“แปลก เธอลาออกหลังจากลูซิเฟอร์เกิดได้ไม่กี่สัปดาห์ และย้ายไปอยู่เมืองอื่นน่าสนใจฉันต้องคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว” เวก้ากล่าว ลุกขึ้นก่อนจะออกจากห้อง

 

เขาไปพบไรอา

 

“ฉันต้องออกจากสถานที่สัก 2-3 วัน” เขาบอกไรอาโดยไม่ต้องเสียเวลานั่งทันทีที่เข้ามาในสํานักงาน

 

ไรอาเงยหน้าขึ้นมองลึกเข้าไปในดวงตาของเวก้า พลางขมวดคิ้ว

 

“ฉันแน่ใจว่าไม่มีใครที่นี่ที่รู้ดีไปกว่านายเกี่ยวกับความอันตรายภายนอกนั้น แต่นายต้องการออกไปทําไม? เขาถาม.

 

“เพื่อตรวจสอบว่าลูซิเฟอร์เป็นบุตรของเซล แอซเรลจริงหรือไม่” เวก้าตอบ

 

“ฉันเดาว่านายพยายามใช้ความสามารถของตัวเองแล้วไม่พบอะไรเลยในกรณีนี้?”ไรอาถามต่อ

 

“ไม่มี ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเขาเกิดในโรงพยาบาลนอกเหนือจากบันทึกของพวกเขาซึ่งสามารถปลอมแปลงได้ ดังนั้นฉันจึงต้องการถามแพทย์เป็นการส่วนตัวซึ่งอยู่ที่นั่นในเวลานั้น”เวก้าตอบ

 

ไรอานั่งตัวตรงและไม่พูดอะไรเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะอ้าปาก “ก็ได้ เจ้าออกไปได้แล้ว”

 

เวก้าหันหลังและจากไปหลังจากได้รับอนุญาตโดยไม่พูดอะไรอีกเลย

 

ค่ําคืนผ่านพ้นไปในความเงียบภายในสถานที่ของ แวเรียนท์เกิดใหม่ แต่โลกภายนอกนั้นวุ่น วายกว่ามาก

 

ภาพของลูซิเฟอร์ถูกฉายในทุกช่องข่าว โดยบอกให้ประชาชนแจ้งเจ้าหน้าที่หากใครพบเห็นเด็กคนนี้ที่ไหนที่นั้นจะมีคนเสียชีวิตจํานวนมาก

 

เมืองทั้งหมดถูกล็อกดาวน์เช่นกัน และไม่มีตํารวจคนเดียวที่ไม่มีรูปของลูซิเฟอร์ที่จะจดจําเขาได้หากเขาเคยเห็นเขา

 

นอกจากลูซิเฟอร์แล้ว ยังมีการแจกจ่ายรูปภาพของผู้อื่นอีกด้วย

 

แม้ว่า APF จะรู้ว่าลูซิเฟอร์น่าจะซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ของ VU(แวเรียนท์เกิดใหม่)มากที่สุดแต่พวกเขาก็ยังเชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะออกมา และวันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายของเขา

 

โดยไม่ทราบถึงความวุ่นวายในโลกภายนอก ลูซิเฟอร์ยังคงนอนอยู่ในห้องของเขาหลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ

 

คราวนี้เขาเห็นความฝันแบบเดิมๆ อีกครั้ง

 

พ่อของเขากําลังพูดถึงการจากไป และแม่ของเขาก็เห็นด้วย จากนั้นทั้งสองก็คุยกันเรื่องหาดออเรียน ครั้งนี้ก็เช่นกัน ความฝันสลายไปพร้อมๆ กับที่พ่อของเขากําลังจะพูดอะไรบางอย่างคราวนี้ไม่มีการเคาะรบกวนอีกต่อไป

 

ลูซิเฟอร์นอนอยู่บนเตียงโดยลืมตามองเพดาน

 

“ความฝันเดิม หยุดที่เดิมอีกแล้ว เกิดอะไรขึ้น” เขาพึมพําในขณะที่เขาขยี้ตาก่อนจะลุกขึ้นนั่ง

 

“ฉันไม่ได้ยินสิ่งที่พ่อพูดอีกแล้ว วันนั้นพ่อพูดว่าอะไรก่อนจากไป อะไรที่ฉันจําไม่ได้? ต่อให้พยายามจํามากแค่ไหนฉันก็ทําไม่ได้”

 

เขารู้สึกว่าคําพูดเหล่านั้นมีความสําคัญแต่เขาจําไม่ได้ ยิ่งเขาพยายามจําเขาก็ยิ่งปวดหัวมากขึ้นเท่านั้น ก่อนที่เขาจะทิ้งเรื่องทั้งหมดและหยุดคิด

 

เขาลุกจากเตียงไปอาบน้ําและเตรียมพร้อมสําหรับการฝึก วันนี้เขาจะเรียนรู้วิธีการต่อสู้โดยไม่ต้องใช้พลังของเขา เขาสงสัยว่ามันจะยากไหม เขาไม่เคยฝึกฝนและไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ทํางานอย่างไร

 

นี่จะเป็นก้าวแรกของเขาในขอบฟ้าใหม่

 

ตอนที่ 162: ข้อเสนอต้อนรับ

 

“ไรออน! นายยังใช้ดาวเทียมเพื่อเที่ยวชมอยู่ใช่ไหม”

 

ในสํานักงานขนาดใหญ่ ผู้หญิงคนหนึ่งกําลังดุผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเกียจคร้าน

 

ชายคนนั้นเห็นทิวทัศน์ของภูเขาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์แต่ก็ไม่ปกติเขาไม่ได้ใช้อินเทอร์เน็ตสาธารณะสําหรับเรื่องนี้ เขาใช้ดาวเทียมของรัฐบาลเพื่อทําสิ่งนี้

นี่คือสถานที่ราชการที่รัฐบาลใช้ดาวเทียมเพื่อจับตาดูสถานที่เป้าหมาย 2-3 แห่งที่น่าสนใจ

 

น่าเสียดายที่ไม่มีกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดมากมายที่นี่

 

“มาเถอะ ดูโรงอาวุธทหารเป็นเวลา 8 ชั่วโมงติดต่อกัน ฉันเบื่อแล้วฉันจะรีบกลับมา” ชายคนนั้นตอบ

 

“เฮ้อ นายทําแบบนี้ตลอดนะ รู้ไหม การใช้ของพวกนี้ของใช้ส่วนตัวอาจทําให้นายเดือดร้อนได้ ฉันเคยเห็นนายหลายครั้งแล้ว มองดูบ้านเรือน ภูเขา ป่าไม้ ฯลฯ เมื่อไหร่นายจะเรียนรู้?” ผู้หญิงคนนั้นดุผู้ชายอีกครั้ง

 

“อย่ากังวลไป นี่ไม่ใช่ของใช้ส่วนตัว นี่คือความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเพื่อที่ฉันจะได้ทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในภายหลังดังนั้นนี่คือการใช้งานในทางเทคนิคอย่างมืออาชีพ ยิ่งกว่านั้นฉันไม่ได้ใช้มันสําหรับสิ่งเหล่านี้ มากกว่า 10 นาทีใน 1 วัน” ชายคนนั้นตอบ

 

“ไม่เอาน่า ให้เวลาฉันบ้าง ไม่เหมือนว่าจะมีใครมาขโมยอาวุธภายใน 10 นาทีหรอก มันมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆด้วย”เขากล่าวต่อ

“ก็ได้ อย่ามาร้องไห้ เมื่อมีคนรู้แล้วกัน” หญิงสาวตอบก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ชายคนนั้นกลับไปเที่ยวชมสถานที่ผ่านคอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ว่างานอดิเรกของเขาจะกลายเป็นเรื่องยุ่งเหยิงสําหรับผู้คนจํานวนมาก

 

“ผมอยากไปที่หาดออเรียน” ลูซิเฟอร์บอกความปรารถนาของเขากับเวก้า

“หาดออเรียน ทําไม? มีอะไรเหรอ?”เวก้าถามด้วยความสงสัย

 

“ผมต้องการเติมเต็มความปรารถนาสุดท้ายของพ่อแม่ของผมพวกเขาต้องการให้ผมเห็นสถานที่นั้นและผมจะต้องได้เห็นสถานที่นั้น” ลูซิเฟอร์ตอบ

 

“แต่ลูซิเฟอร์ พยายามเข้าใจเราหน่อย ตอนนี้เราไปไหนไม่ได้แล้วหลังจากเกิดเรื่องขึ้น คนทั้งประเทศจะถูกจับตาอย่างเข้มงวด

 

“ชีวิตของคุณจะตกอยู่ในอันตรายถ้าคุณออกไปตอนนี้ คุณช่วยรอสัก 2-3 สัปดาห์ได้ไหม ฉันสัญญาว่าจะพาคุณไปที่นั่นเป็นการส่วนตัวหลังจาก 4 สัปดาห์นั้นผ่านไปแล้วได้ไหม?” เวก้าถามพลางแสดงความกังวล

“เราเป็นห่วงคุณเท่านั้น โปรดฟังฉันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น” เขายืนยัน

ลูซิเฟอร์มองไปที่เวก้าที่กําลังอ้อนวอน ไม่รู้จะพูดอะไรเขาต้องการไปที่นั่น แต่เขาไม่ได้หมายความอย่างนั้นในตอนนี้ มันไม่เร่งด่วนขนาดนี้เวก้าเข้าใจเขาผิด

 

เขาแค่บอกความปรารถนาของเขาให้เวก้าทราบ เพื่อที่เขาจะได้จัดการให้ลูซิเฟอร์ถูกพาไปที่นั่นด้วยเฮลิคอปเตอร์ในภายหลัง

“4 สัปดาห์มันมากเกินไป ฉันไม่สามารถนั่งเฉยๆ ได้นานขนาดนั้นเปลี่ยนเป็น 2 สัปดาห์แทน”ลูซิเฟอร์กล่าว

 

“ฉันลดเวลาไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้อง 4 สัปดาห์ที่เราควรจะระวังตัวไว้แต่ไม่ต้องกังวล คุณจะไม่นั่งเฉยๆ คุณจะมาฝึกที่นี่”เวก้าตอบในขณะที่ปฏิเสธข้อเสนอของลูซิเฟอร์ “เป็นเวลา 4 สัปดาห์เท่านั้น”

“การฝึกอบรมงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม “ฝึกอะไร”

“เอาล่ะ ฟังนะ เราทุกคนรู้ว่าคุณมีกําลัง แต่บางครั้งก็มีสถานการณ์ที่เราต้องต่อสู้อย่างไม่มีเรี่ยวแรง”

“บางที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่เราไม่สามารถเปิดเผยตัวตนของเราได้และเรายังต้องต่อสู้หรืออย่างอื่น แต่คน ๆ หนึ่งไม่สามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งของพวกเขาได้ตลอดเวลา”

 

เวก้าเริ่มแสดงความคิดเห็นของเขา ในขณะที่เขายืนขึ้น “ฉันเชื่อว่าคุณควรเข้ารับการฝึกนั้นด้วยจะเป็นการดีที่สุดถ้าคุณกลายเป็นวอร์ล็อคที่สามารถฆ่าได้โดยไม่ต้องใช้ความสามารถใด ๆคุณต้องสามารถป้องกันตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้กําลัง”

“คุณเข้าใจที่ฉันพูดหรือเปล่า” เขาถาม “ในอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้าเราจะฝึกคุณในการต่อสู้ทุกรูปแบบ รวมถึงศิลปะของดาบฉันรู้ว่า 4 สัปดาห์นั้นน้อยเกินไปสําหรับเรื่องทั้งหมดนี้ แต่การฝึกจะดําเนินต่อไป หลังจากที่คุณกลับมาคุณจะได้ไปชายหาดแล้ว เป็นยังไงบ้าง? “

 

“ฝึกการต่อสู้งั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์คิดในขณะที่เขาขมวดคิ้ว ฉันต้องการสิ่งนั้นหรือไม่

เขามองที่มือของเขา สงสัยว่าเขาต้องการมันหรือไม่เขาต้องการ ที่จะเรียนรู้ที่จะวางแผน สําหรับการต่อสู้โดยปราศจากความแข็งแกร่ง นั่นไม่มีประโยชน์สําหรับเขามากนัก แต่ถึงกระนั้น มันก็ไม่เลวเช่นกันเพราะมันจะมีประโยชน์ในอนาคต

“ลูซิเฟอร์ ไม่ต้องห่วงเราไม่ได้บังคับคุณ เราจะผ่านมันไปได้ก็ต่อเมื่อคุณยอมรับมันด้วยความตั้งใจของคุณเอง ถ้าคุณปฏิเสธเราจะยกเลิกแผนนี้ และไม่ต้องกังวล มันไม่มีผลอะไรหรอก เราจะยังคงพาคุณไปที่ชายหาดหลังจาก 4 สัปดาห์ได้เช่นกัน” เวก้าบอกกับลูซิเฟอร์ด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูจริงจัง

 

ไรอาบอกเขาว่าลูซิเฟอร์ไม่ควรรู้สึกอึดอัดกับมันเวก้าทําให้เป็นข้อเสนอที่น่ายินดีซึ่งลูซิเฟอร์มีตัวเลือกให้เลือก

ลูซิเฟอร์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตกลงในที่สุด “ฉันตกลงฉันจะฝึก”

“ดีมาก 2 คนนี้จะเป็นครูของคุณในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า” เวก้าพูดพร้อมยิ้มขณะชี้ไปที่ยาลิซ่าและเคลเลียน ”คนอื่นๆจะมีส่วนช่วยในการฝึกของคุณบ้างเป็นบางครั้ง ฉันแน่ใจว่าคุณจะต้องสนุกแน่ๆ”

เคลเลียนลุกขึ้นและก้าวเข้าไปใกล้ลูซิเฟอร์ก่อนจะเอื้อมมือออกไป

 

“คราวที่แล้วเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อต้อนรับคุณ แต่ฉันดีใจที่เราจะได้ใช้เวลาร่วมกันอีกมากในอนาคต ยินดีต้อนรับสู่ทีม” เขากล่าวอย่างใจเย็น

ลูซิเฟอร์มองที่มือของเขาอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเขาสวมถุงมืออยู่ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไป ในที่สุดก็จับมือคนๆ หนึ่ง

 

“ผมกลับมาพร้อมกับอาหารแล้วครับ” เสียงของเดรโกเข้ามาในห้องผสมกับเสียงเคาะ

“เอาล่ะ ลูซิเฟอร์ สนุกกับงานเลี้ยงของคุณเราจะไปกันเดี๋ยวนี้ การฝึกจะเริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้”เคลเลียนพูดขณะออกไปเปิดประตู

 

“ยินดีต้อนรับสู่ทีม เจ้าตัวเล็ก” ยาลิซ่ายังทักทายลูซิเฟอร์ก่อนจะเดินตามเคลเลี่ยนไป

“ขอให้โชคดีในการฝึกซ้อม”เวก้ากล่าวก่อนจะจากไป

เดรโกวางอาหารลงบนโต๊ะต่อหน้าลูซิเฟอร์ซึ่งเริ่มกิน

“เดรโก”ลูซิเฟอร์พูดขณะทานอาหาร

 

“ครับท่านลูซิเฟอร์?” เดรโกถาม

 

“บอกฉันเกี่ยวกับยาลิซ่าและเคลเลียน พวกเขาเป็นคนแบบไหน.. และพวกเขาจะเก่งในการต่อสู้ไหม?”ลูซิเฟอร์ถามเดรโก

 

ตอนที่ 161: ความต้องการกะทันหัน

“ไม่รู้ ฉันไม่รู้สึกดีที่ทิ้งลูซิเฟอร์ไว้ข้างหลัง”

 

“ไม่ต้องกังวล พี่เลี้ยงจะดูแลเขา เราต้องควบคุมดันเจี้ยนนั้น เซสยุ่งอยู่ เราต้องช่วยกัน มิฉะนั้นหลายคนจะตาย”

 

“คุณพูดถูก แต่ก็ยังยากที่จะหายห่วงจากเขาได้ เราจะต้องออกไปกันหลายสัปดาห์ แต่ฉันคิดว่าคุณคิดถูก เธอน่าจะดูแลลูซิเฟอร์ได้”

 

ชายและหญิงกําลังคุยกันอยู่

 

ผู้หญิงคนนั้นเหลือบมองในระยะทางที่เด็กวัย 5 ขวบนั่งอยู่ เธอเดินเข้าไปหาเด็กน้อยก่อนจะแตะแก้มอันน่ารักของเขา

 

“แม่ขอโทษนะลูซิเฟอร์ แต่ป้ากับมาต้องไปแล้ว เราจะกลับมาเร็วๆนี้ ลูกจะอยู่โดยไม่มีเราได้ไหม ลูกของแม่ตอนนี้โตแล้วใช่ไหม” ผู้หญิงถามลูก

 

“แน่นอน เขาเป็นลูกชายของผม” ชายคนนั้นหัวเราะขณะเดินเข้ามาใกล้ “ขอโทษนะลูก แต่โลกต้องการเรา เราจะอยู่ไม่นาน และเมื่อเรามา เราจะชดเชยให้”

“พี่เลี้ยงจะคอยดูแลลูก” ผู้หญิงถามชายคนนั้น

“แล้วเราจะไปเที่ยวกันต่อดีมั้ย? ลูซิเฟอร์ไม่เคยเห็นชายหาดออเรียนมาก่อนเลยใช่มั้ย? แม้จะไกลหน่อยแต่ก็เป็นสถานที่ที่สวยงาม ทั้งพระอาทิตย์ตก ลม น้ํา ทุกอย่างก็ราวกับสวรรค์ พ่อของผมเคยพาไป ท่านพ่อพาผมไปที่นั่น ผมคิดว่าเราควรไปเที่ยวพักผ่อนที่นั่น มันจะเป็นวันหยุดที่ดีที่สุด” ชายคนนั้นบอกกับผู้หญิง “ผมอยากให้เขาเห็นที่นั่น”

“หาดออเรียนน่ะเหรอ ดีเลยสิ สถานที่นั้นสวยดี ฉันกําลังคิดจะพาลูซิเฟอร์ไปที่นั่นด้วย เรายังไม่ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันมากนัก” หญิงสาวตอบพร้อมกับพยักหน้า

 

เธอหยิบชามซุปขึ้นมาและเริ่มให้อาหารเด็กด้วยช้อน

 

ชายคนนั้นเปิดปากพูด

 

ก๊อก ก๊อก! ก๊อก!

 

ทันทีที่ชายคนนั้นเปิดริมฝีปาก เสียงเคาะก็ดังขึ้นแทนคําพูด

 

ชายคนนั้นพูดต่อไป แต่ไม่มีคําพูดใดออกมา มีเพียงเสียงเคาะเท่านั้น

 

เด็กชายมองอย่างสับสน เกิดอะไรขึ้น? ทําไมเสียงเคาะนี้ถึงมา? ขณะที่เด็กหนุ่มกําลังคิด ทุกอย่างก็เริ่มพร่ามัว

 

“ท่านพ่อ เกิดอะไรขึ้น!” เด็กชายพูด แต่ดูเหมือนไม่มีใครได้ยิน

 

” พ่อ!” เด็กชายเรียกอีกครั้ง แต่ทุกอย่างกลายเป็นสีดํา

 

“ท่านพ่อ รอเดี๋ยว!” ลูซิเฟอร์พูดขณะยื่นมือออกมา

 

ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เมื่อเขาตระหนักว่าเขาเป็นเพียงความฝัน เขายังอยู่ในห้องที่คนของแวเรียนท์เกิดใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความฝัน แต่ไม่ใช่ความฝันปลอมๆแน่นอน..

 

ในที่สุดเขาก็จําได้ว่ามันเกิดขึ้นจริง เขาเพิ่งเห็นเหตุการณ์ย้อนหลังในความทรงจําในนาทีสุดท้ายกับพ่อแม่ของเขา

เมื่อลืมตาขึ้นจากการนอนหลับ เขาก็ตระหนักว่าเสียงเคาะยังคงมา มันมาจากประตูเมื่อมีคนมาเคาะซ้ําแล้วซ้ําอีก

“คนพวกนี้… ทําลายความฝันของฉัน ในที่สุดฉันก็ได้เจอพ่อแม่อีกครั้ง และตอนนี้พวกเขาก็จากไปแล้ว” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะพยายามจําความฝันนั้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้ส่วนใหญ่ก็พร่ามัว

เขาจําได้เพียงไม่กี่เรื่องเกี่ยวกับความฝัน

“หาดออเรียน… ฉันควรจะดูสถานที่ที่พวกเขาต้องการพาฉันไป ความปรารถนาสุดท้ายของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะมากับฉันไม่ได้ ฉันก็จะไป พวกเขาต้องการให้ฉันเห็น และฉันจะทํายังไงก็ตาม” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะลุกจากเตียงและเดินไปที่ประตู

 

เขาเปิดประตูและถามว่า “อะไร?”

 

เดรโกยืนอยู่อีกด้านของประตู

 

“เซอร์ลูซิเฟอร์ เซอร์เวก้าเรียกหาคุณ” เดรโกบอกกับลูซิเฟอร์

“ตกลง ฉันจะไป” ลูซิเฟอร์พูด ขณะเดินออกไป เขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว และเขาไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

 

เขาเดินตามเดรโก ซึ่งพาเขาเข้าไปในลิฟต์ พวกเขาขึ้นไปด้วยลิฟต์

เดรโกพาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องที่เวก้ารออยู่ ทั้งสองเข้าไปในห้องก็พบว่าเคลเลี่ยนและยาลิซ่านั่งอยู่ที่นั่นด้วย

นี่เป็นครั้งแรกที่ลูซิเฟอร์เห็นพวกเขา ดังนั้นเขาจึงดูสงสัยเล็กน้อย

 

“ลูซิเฟอร์ เชิญนั่งก่อน” เวก้าบอกกับลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์ก้าวไปข้างหน้าและนั่งต่อหน้าเวก้า

“งั้นลูซิเฟอร์ พวกเรา”

 

เวก้าเพิ่งเริ่มพูดก่อนที่ลูซิเฟอร์จะตัดบทเขา “รอก่อน”

 

” เกิดอะไรขึ้น?” เวก้าถาม

“ผมต้องการอาหารก่อนที่จะพูด” ลูซิเฟอร์ตอบ

 

คําตอบของเขาเพียงพอที่จะทําให้ทุกคนในห้องว่างเปล่า เขาหมายความว่าเขาต้องการอาหาร? มันเป็นการประชุมที่สําคัญ

 

“คุณต้องการอาหารอะไรไหม” เวก้าถาม

 

“ฉันเพิ่งตื่น เมื่อถูกเรียกมาประชุมครั้งนี้ ฉันยังหิวอยู่เพราะไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลานาน” ลูซิเฟอร์ตอบ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เวก้าหัวเราะออกมาและพบว่าตัวเองรู้สึกขบขัน

เขามองไปที่เดรโกก่อนจะพูดต่อ ”เอาล่ะ เดรโก เอาอาหารมาให้แขกตัวน้อยของเราด้วย”

เดรโกออกจากห้องไป ยังคงประหลาดใจกับลูซิเฟอร์ เขาเป็นเด็ก แต่เขาเป็นเหมือนเจ้านายที่นี่ เขาสามารถพูดอะไรและทําอะไรก็ได้ต่อหน้าผู้นํา และไม่มีใครทําอะไรเขาได้

เขาเชื่อว่าถึงแม้ลูซิเฟอร์จะฆ่าเขา แต่พวกที่สูงกว่าจะไม่ดุลูซิเฟอร์ด้วยซ้ํา นับประสาลงโทษเขา

 

เห็นได้ชัดว่าลูซิเฟอร์เป็นผู้นําอย่างไม่เป็นทางการในแวเรียนท์เกิดใหม่ เช่นเดียวกับเคน และเขาอาจจะเป็นมากขึ้นในอนาคต

“ในขณะที่เขานําอาหารของคุณมา เรามาคุยกันไหม” เวก้าถาม ลูซิเฟอร์ยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

“ได้”

 

“ดังนั้น ลูซิเฟอร์ ก่อนอื่น ให้ฉันแนะนําคุณให้รู้จัก 2 คนนี้ก่อน เขาคือเคลเลียน” เวก้าพูด ขณะที่เขาชี้ไปที่สุภาพบุรุษที่เหมือนอัศวินทางด้านซ้าย

เขายังชี้ไปที่ชายชุดดําที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ในขณะที่เขาแนะนํา “เขาคือยาลิซ่า พวกเขาเป็นนักสู้ที่ดีที่สุด 2 คนและสมาชิกระดับสูงของครอบครัวเรา”

ลูซิเฟอร์เหลือบมองทั้ง 2 คน และยังคงสับสน จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คืออะไร? เกี่ยวข้องกับดวงตาของเขาที่ทําให้ตกใจแม้กระทั่ง APF หรือไม่? คนเหล่านี้จะทําร้ายเขาหรือไม่?

“ผมอยากคุยกับคุณเรื่องบางอย่างด้วย” ลูซิเฟอร์ตอบเวก้า แสดงความคิดของเขาด้วย

” คือ? แน่นอน. คุณเริ่มก่อน” เวก้ากล่าว

 

ตอนที่ 160: หนึ่งความฝัน

 

“นายจะฆ่าลูซิเฟอร์เมื่อได้ตัวเขามางั้นเหรอ?” ไอย์ถามวารันท์

 

“ฉันไม่ใช่แซนเดอร์ที่ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ แต่ถึงกระนั้น เมื่อก่อนฉันจะลบแต่พลังของเขา แต่ตอนนี้ ด้วยข้อมูลเกี่ยวกับดวงตาของเขา เขาต้องตาย” วารันท์ตอบ ในที่สุดเขาก็สงบลง เมื่อเขาเดินกลับเข้าไปในห้องที่แซนเดอร์ถูกกักตัวไว้

“แล้วพลังการรักษาของเขาล่ะ ฉันเห็นมันในเหตุการณ์วันนี้ การรักษาของเขาแข็งแกร่งมาก มันรักษาร่างกายของเขาด้วยการทําลายร่างกายของเขาด้วยเปลวเพลิงของแซนเดอร์ การรักษาของเขา อย่างน้อยก็มีความสามารถระดับ S นายจะฆ่าเขาได้อย่างไร? ” ไอย์ถามด้วยความสงสัย

 

“ฉันมีวิธีของฉัน” วารันท์กล่าว ขณะที่เขาจ้องมองที่แซนเดอร์ เขาดูเศร้าเล็กน้อยที่เห็นแซนเดอร์เป็นแบบนี้

 

“เก็นซี่ ติดต่อรัฐบาลและขอคุยกับประธานาธิบดี ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเขา” วารันท์บอกกับผู้ชายคนหนึ่งของเขา ขณะที่มีแผนอยู่ในหัวของเขา

 

ภายในสถานที่แห่งหนึ่ง แวเรียนท์เกิดใหม่ ไรอาก็กลับมาเช่นกัน ทีมของเขาดูเหนื่อยเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

 

สําหรับทริสตันจักรพรรดิกระบี่คลั่ง เขายังคงดูตื่นเต้น

“น่าสนุกจัง! อยากทําอีกจัง! เมื่อไหร่การโจมตีเมืองอื่นจะมาถึงอีก” เขาพูดขณะกอดคาตานะไว้ใกล้ๆหัวใจ

“เราจะไม่ทําอะไรเลย ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เราจะไม่ทําอะไรเลย โฟกัสของเรานั้นเรียบง่าย นั่นคือลูซิเฟอร์และทําให้เขาเป็นราชาแห่งวอร์ล็อคโดยการฝึกเขา” ไรอาตอบ

“งั้นฉันฝึกเขาได้ไหม ได้โปรด ได้โปรด” ทริสตันถามอย่างอ้อนวอน ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

 

“ไม่จําเป็น ถ้าฉันให้นายฝึกเขา สิ่งต่างๆจะบานปลายมาก เกินไป” ไรอาตอบขณะที่เขาส่ายหัว

“แล้วนายจะเลือกใครฝึกเขาล่ะ” ทริสตันถาม “ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญ ฉันสามารถสอนวิชาดาบและอะไรหลายๆอย่างให้เขาได้”

 

“นายยังสามารถสอนให้เขาเป็นบ้าได้อีกด้วย” เคลเลียนตอบอย่างใจเย็น “เจ้าหนูนั่นน่ะะบ้าพอแล้ว เราไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้แล้ว”

 

“ชิ พวกนายแค่ไม่ชื่นชมพรสวรรค์” ทริสตันพูดพลางกลอกตา

“ว่าแต่ แล้วใครจะฝึกเขาล่ะ” ทริสตันถาม

“เขาจะได้รับการสอนจากคนมากมาย แต่โดยหลักแล้วเคลเลียน และยาลิซ่า”

“เคลเลียนสามารถสอนการต่อสู้แบบประชิดตัวและทักษะอื่นๆแก่เขาได้ สําหรับยาลิซ่านั้น เขาสามารถสอนทักษะอื่นๆ ที่จะช่วยให้ลูซิเฟอร์ชนะการต่อสู้โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังของเขา” ไรอาตอบ

 

มีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งมี เวก้า, อิโซน่า, เคนและดิออนเข้า

ร่วม

 

“งั้น ช่วยบอกฉันเกี่ยวกับดวงตาคู่นั้นหน่อยได้ไหม ทั้งหมดที่ฉันรู้คือมันเป็นข่าวร้าย และการปรากฏตัวของดวงตาเหล่านั้นเป็นหายนะที่รอโลกอยู่ ทําไมล่ะ? ดวงตาเหล่านั้นคืออะไร? เรื่องราวเบื้องหลังมันคืออะไร? ” เคนถามเวก้าเพื่อพยายามหาคําตอบสําหรับความอยากรู้ของเขา

เขารู้ว่าดวงตาคู่นั้นไม่ดี และเขาก็ได้ยินข่าวลือที่คนอื่นได้ยินเช่นกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เขารู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับดวงตาคู่นั้น แต่เมื่อดวงตาเหล่านั้นได้ปรากฏขึ้นแล้ว เขาต้องการได้ยินเพิ่มเติมเกี่ยวกับดวงตาเหล่านั้น

 

“แม้แต่ฉันก็ไม่รู้เรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับพวกมัน ไรอาและอีก 5 คนเท่านั้นที่เห็นพวกมันมาก่อนและรู้เกี่ยวกับพวกมันจริงๆ” เวก้าตอบอย่างใจเย็น

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เวก้า นายโกหกได้แย่มาก ไรอาบอกนายทุกอย่างแล้วใช่ไหม ไม่เอาน่า เราจะไม่บอกคนอื่น” อิโซน่าตอบ “แม้แต่ไรอาก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ถ้านายบอกเรา”

 

“โอ้ ฉันจะไปไม่รู้อะไร” เสียงที่สงบแต่ทรงพลังเต็มห้องเมื่อประตูเปิดออก

 

ไรอา, เคลเลียน และ ยาลิซ่า เข้ามาในห้องประชุม

 

เมื่อเห็นไรอามาที่นี่ ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ยืนขึ้นอย่างตกใจ

 

“ไม่ต้องแปลกใจ นั่งก่อน” ไรอาบอกกับทุกคนก่อนจะนั่งลงที่

เก้าอี้

“ก็ฉันได้ยินมาว่าภารกิจสําเร็จแล้ว พวกนายกําลังพูดถึงเรื่องอะไรกัน? ไรอาถามอย่างขบขัน

” พวกเขาต้องการรู้เกี่ยวกับตํานานของดวงตาสีฟ้าและสีม่วง” เวก้ากล่าวอย่างแผ่วเบา

 

ทันทีที่ไรอาได้ยินก็ขมวดคิ้วปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“เกี่ยวกับเรื่องนั้น ทําไม?” เขาถาม

”เพราะพวกมันปรากฏตัวออกมา และ APF ก็เห็นด้วยเช่นกัน” เวก้าตอบ

 

“นายกําลังพูดเรื่องบ้าอะไร? ดวงตาคู่นั้นถูกมองเห็นอีกครั้งได้อย่างไร” ไรอาพูดอย่างหนักแน่นขณะที่เขายืนอยู่

 

“พวกมันทําได้ในลูซิเฟอร์” เวก้ากล่าวก่อนจะเริ่มอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่โรงงาน

“นี่… ทําไมฉันไม่รู้เรื่องนี้เลย เซล แอซเรล เขาเป็นคนลับๆล่อๆ ที่จะซ่อนเรื่องนี้จากทุกคน ฉันประหลาดใจมากที่แม้จะรู้เรื่องดวงตาคู่นี้แล้ว เขาก็ยังคง…”

 

ไรอาลูบคางในขณะที่เขาคิดกับตัวเอง

“เอาล่ะ การประชุมนี้ถูกยกเลิกแล้ว อิโซน่า, เคน, ดิออน, ออกไปได้แล้ว” เขากล่าวขณะสังเกตทั้งสามคน

” ครับ/ค่ะ”

 

ทั้ง 3 ออกจากห้องไปโดยไม่คิดที่จะถาม

 

“เอาล่ะ เวก้านายรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร” ไรอาบอกเวก้า

 

“ฉันจะไม่ทํา” เวก้าตอบ

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

“ดี กลับมาที่หัวข้อของลูซิเฟอร์ หน้าตาแบบนี้เปลี่ยนอะไรนิดหน่อย ตอนนี้ APE จะกลายเป็นเหมือนหมากระหายเลือดจริงๆ และถ้าวารันท์เข้าใกล้เซส เขาก็สามารถช่วยกันได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ฉันต้องการการแยกการจลาจลออกจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์”

“แล้วลูซิเฟอร์ล่ะ เราควรจัดการกับเขาอย่างไร” เวก้าถาม

“ทําตามแผนเก่า ทําให้เขาแข็งแกร่ง แต่ยังขึ้นอยู่กับเรา เขาต้องคิดถึงเราเหมือนครอบครัว และบางทีเราอาจทําได้มากกว่าที่วางแผนไว้ ลูซิเฟอร์ แอซเรลไม่ได้รับอนุญาตให้ตาย” ไรอาบอกเวก้าก่อน เขายืนขึ้น “ไม่ว่ากรณีใดๆ”

“เข้าใจแล้ว”

ไรอาเริ่มออกเดินทาง แต่เขาหยุดห่างจากประตูเพียงไม่กี่นิ้ว

 

“โอ้ ใช่แล้ว เคลเลียนและยาลิซ่าจะฝึกลูซิเฟอร์ บอกเรื่องนี้กับเด็กอย่างกรุณาที่สุดเท่าที่จะทําได้ เขาควรจะพร้อมสําหรับความตั้งใจของเขาเอง ไม่ต้องบังคับเขา” ไรอากล่าวก่อนจะจากไป

 

ลูซิเฟอร์หลับไปแล้ว และผ่านไปกว่า 5 ชั่วโมง หลังจากเวลาผ่านไปนาน เขาก็ได้รับการนอนหลับอย่างสงบสุข

ขณะที่เขาหลับไป เขาก็ยังมีความฝันที่น่ารื่นรมย์, ไม่มีใครรู้ แต่ความฝันเดียวนี้กําลังจะเปลี่ยนอนาคตของทุกคน

 

ตอนที่ 159: ด้านที่มองไม่เห็นของวารันท์

 

ลูซิเฟอร์กินเสร็จแล้ว และตอนนี้เขากําลังนอนอยู่บนเตียง พยายามจะนอนหลับอย่างสงบสุข หลังจากกินอิ่มแล้ว ในที่สุดเขาก็รู้สึกเหมือนมีชีวิต มิฉะนั้น ความอ่อนแอเล็กน้อยก็เริ่มเข้ามา

เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่ความหิวของเขาค่อยๆเพิ่มขึ้นตามเวลาที่เขารู้สึกได้เท่านั้น เขาสงสัยว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเขาหรือไม่ หรือเป็นเรื่องปกติของการเติบโตขึ้นมา?

ความคิดมากมายผุดขึ้นในหัวของเขาก่อนที่ลูซิเฟอร์จะผล็อยหลับไป โดยไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นจริงเมื่อไร

เฮลิคอปเตอร์ลงจอดใกล้กับศูนย์วิจัยดิลเลี่ยน ซึ่งกลุ่มวอร์ล็อค 7 คนก้าวออกมา บางคนดูบาดเจ็บเพราะเสื้อผ้าเปื้อนเลือด แม้จะมีทั้งหมดนั้น ออร่าที่อยู่รอบตัวพวกเขาก็เป็นของสัตว์ร้ายที่น่าสะพรึงกลัว

เมื่อเห็นกลุ่มคนทั้งเจ็ดกําลังเข้ามาใกล้พวกเขา แวเรียนท์ของ APE ก็ประหลาดใจก่อนที่จะคุกเข่าลงและตะโกนพร้อมกันว่า ” กัปตันสูงสุด วารันท์!”

 

วารันท์มองไปทางแวเรียนท์ที่อยู่ที่นี่ก่อนที่เขาจะถามอย่างใจเย็น “แซนเดอร์อยู่ที่ไหน พาฉันไปหาเขา”

“ครับผม

หนึ่งในแวเรียนท์ก้าวไปข้างหน้าและเริ่มพาวารันท์เข้าไปในสถานที่ไปยังสถานที่ที่แซนเดอร์ถูกเก็บไว้

หลังจากผ่านไปไม่กี่ครั้ง วารันท์ ก็จบลงที่หน้าห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของสถานที่ ซึ่งมีทุกสิ่งที่โรงพยาบาลสมัยใหม่อาจต้องการเพื่อช่วยชีวิต

วารันทผลักประตูเปิดและก้าวเข้าไปข้างในเพื่อดูแวเรียนท์ 2-3 คนยืนอยู่ที่นี่แล้ว ไอย์ก็อยู่ในสถานที่นี้เช่นกัน จ้องมองไปที่ชายผมแดงที่นอนอยู่บนเตียง

 

ชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแซนเดอร์ที่ยังหลับตาอยู่ การหายใจของเขาอ่อนลง แต่มีหน้ากากออกซิเจนอยู่บนใบหน้าของเขา มีลวด 2-3 เส้นติดอยู่ที่ร่างของเขาเพื่อวัดสภาพของเขาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่เหลือของร่างกายเขาถูกคลุมด้วยผ้าห่มสีขาว

“ไอย์ ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง” วารันท์ถามไอย์ ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

 

“อาการของเขาไม่ค่อยดี ร่างกายของเขาเสียหายมากเกินไป แม้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าความตาย” ไอย์กล่าวพร้อมถอนหายใจ

 

” ทําไมถึงเกิดเรื่องขึ้น?” วารันท์ถามพลางขมวดคิ้ว

“แซนเดอร์อยู่ในอาการโคม่า ฉันไม่รู้ว่าเขาจะตื่นเมื่อไหร่และเมื่อไหร่ แต่ฉันสงสัยว่าอีกไม่นานคงอีกไม่นาน เขาอาจตายได้ในขณะที่อยู่ในอาการโคม่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะถึงเป็นสิ่งสําคัญ เพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ “ไอย์ตอบ

เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้น วารันท์ก็ตกตะลึง เขาก้าวไปข้างหน้า เข้าไปใกล้แซนเดอร์ก่อนจะถอนหายใจ

 

เขาแตะแก้มของแซนเดอร์เบาๆขณะที่เขาพูด “แซนเดอร์ ไอ้โง่ ทําไมนายถึงอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ตื่นเร็ว ฉันจะได้ดุนายอีกครั้งที่นายชอบทําตัวเป็นคนงี่เง่า”

“ใครทําเขา?” วารันท์ถามโดยมองย้อนกลับไปที่ไอย์ “เวก้าหรีอดิออน?”

 

“ไม่มีเลย ลูซิเฟอร์เป็นคนทํา” ไอย์ตอบขณะจ้องมองแซนเดอร์

“เจ้าเด็กนั่น? ตอนนี้เขาสามารถเอาชนะแซนเดอร์ได้แล้วเหรอ? เขาโตเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?” วารันท์ถาม

“นั่นเป็นเพราะเขาไม่ใช่เด็กธรรมดา เรารู้แล้วตั้งแต่เห็นมันในการต่อสู้ เราเห็น…. ตาสีฟ้าหนึ่งดวงและตาสีม่วงหนึ่งดวงของเขา” ไอย์บอกวารันท์ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะช็อคมากที่สุดในชีวิตของเขา

“เซล ไอ้สารเลว! เขาทําอย่างนี้ได้ยังไง! อ๊าก!” วารันท์ดูเหมือนจะโกรธตัวเองจนได้ตะโกนออกมาในที่สุด

 

มีคนไม่มากที่เคยเห็นวารันท์โกรธเคืองขนาดนี้เพราะเขาเป็นมืออาชีพมาตลอด แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะมีอีกด้านหนึ่งของเขา

“บอกฉันทีว่าเธอกําลังโกหก!” เขาพูดกับไอย์

“ไม่ใช่ เมื่อลูซิเฟอร์กําลังจะโจมตีแซนเดอร์ ตาข้างหนึ่งของเขากลายเป็นสีม่วง” ไอย์ตอบ

“ท้องฟ้าในขณะนั้นเป็นอย่างไร?” วารันท์ถามอย่างไม่ใส่ใจ

“มันถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดําและสายฟ้าฟาด” ไอย์ตอบ

” เซล ไอ้สารเลวนั่น! เขาทํามันจริงๆ! เขาทําอะไรที่ง่เง่าจริงๆ! เขาทําได้ยังไง! เขาเป็นคนงี่เง่า! เป็นคนงี่เง่ามาก ยิ่งกว่านั้น เขายังซ่อนมันไว้นานมาก!” วารันท์พูดด้วยความหงุดหงิด ขณะออกจากห้องไปทุบผนังห้องอีกด้านหนึ่งจนพัง

“ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ฉันจะฆ่าเขาเองที่ทําแบบนี้! ฉันจะฆ่ามันอย่างบ้าคลั่ง!” เขาคําราม

ไอย์ยังก้าวออกจากห้องขณะที่เธอวางมือบนไหล่ของวารันท์ ก่อนที่เธอพูดว่า “วารันท์ โปรดควบคุมตัวเอง เราต้องการผู้นําในเวลาเช่นนี้ ไม่ใช่คนโกรธ ความสงบของคุณคือความแข็งแกร่งของคุณ”

วารันท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดว่า “ลูซิเฟอร์คนนี้! ฉันต้องการเขาไม่ว่ายังไงก็ตาม! และฉันต้องการให้เขาตาย เขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้! เขาไม่ได้รับอนุญาตให้เติบโต! หรือ…”

“ไม่ต้องกังวล เราจะจับเขา ฉันจะจัดการคดีนี้ให้แซนเดอร์เดี๋ยวนี้” ไอย์ตอบวารันท์

“ไม่ เธอไม่ต้อง! ตอนนี้ฉันจะจัดการกับคดีนี้เป็นการส่วนตัว พวกเธอไม่ต้องทําอะไรเลย ฉันจะทําทุกอย่างที่ต้องทํา แวเรียนท์เกิดใหม่ตอนนี้มันกลายเป็นเรื่องเหลวไหลแล้ว ลูซิเฟอร์จะเป็นสิ่งเดียวที่สําคัญที่สุดสําหรับฉัน ” วารันท์พูดพร้อมเผยอีกด้านของตัวเองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ไม่มีใครเคยเห็นเขาสาปแช่งมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เกิดขึ้นในวันนี้

นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com

“เฮ้อ ไม่เป็นไร” ไอย์ตอบ “แต่ฉันขอถามได้ไหมว่าทําไมนายมาที่นี่ช้าจัง ถ้านายมาตรงเวลา นายจะสามารถพบลูซิเฟอร์ได้”

“ฉันทําไม่ได้” วารันท์ตอบ “ไรอาและทีมของเขาได้โจมตีเมืองอีลันต้าฉันต้องไปที่นั่นเพื่อหยุดเขา และตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทําไมพวกเขาถึงโจมตีสถานที่นั้น พวกเขาต้องการให้ฉันไปจากที่นี่ ไอ้สารเลว”

“ตอนนี้อีลันต้าปลอดภัยไหม” ไอย์ถามด้วยความเป็นห่วง

“ใช่ ปลอดภัยแล้ว” วารันท์ตอบ ” อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่ง”

“แล้วอีกครึ่งล่ะ?” ไอย์ถาม

“มันถูกทําลาย” วารันท์ตอบ

“ผลการต่อสู้ของนายกับไรอาเป็นอย่างไรบ้าง ตายไปกี่คน?” ไอย์ถาม เธอไม่ได้ถามว่าสมาชิกในทีมเสียชีวิตไปกี่คนตั้งแต่พวกเขาทั้งเจ็ดอยู่ที่นี่

 

“ไม่มีผลลัพธ์ ไอ้สารเลวพวกนั้นถอยกลับอีกครั้ง” วารันท์ตอบ “ฉันคิดว่ามันเป็นแผนของพวกมัน ให้เราไปถึงที่นั่น ให้เรามีส่วนร่วมในการต่อสู้ แล้วก็จากไป

 

ตอนที่ 158: ครั้งแรก

 

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่บนเตียง มองขึ้นไปบนเพดาน

เขายังคงหลงอยู่ในความคิด ในสนามรบ หลายอารมณ์วนเวียนอยู่ในใจ เขาไม่คิดอะไรมาก ก็แค่ทําในสิ่งที่เขาเชื่อว่าใช้ในตอนนั้น แต่ตอนนี้พอพอมีเวลา เขาก็รู้ว่ายังมีคําถามอีกมากมายที่ยังหลงเหลืออยู่ยังไม่ได้ตอบ

 

“ตาสีฟ้าและสีม่วงหมายความว่าอย่างไร ดวงตาทั้งสองของเขาเป็นสีฟ้าตั้งแต่จําความได้ แล้วทําไมแซนเดอร์ถึงพูดอะไรที่ต่างออกไป?”

 

และถึงแม้เขาจะพูดสีตาผิดๆ ทําไมเขาและคนอื่นๆ ถึงได้ตกใจกันขนาดนี้? มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้? เขาเคยเห็นคน จํานวนไม่น้อยที่มีสีตาต่างกัน บางคนมีสีแดง บางคนมีสีดํา และบางคนมีสีเขียว

ทําไมสีตาของเขาถึงสําคัญนัก?

 

แต่นั่นไม่ใช่คําถามที่ใหญ่ที่สุดในหัวของเขา คําถามที่ใหญ่ที่สุดยังคงเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา? เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาจริงๆ?

 

เขารู้ว่าเขาจะไม่ได้คําตอบที่ถูกต้องที่นี่ และถึงแม้เขาจะทําเช่นนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าพวกเขากําลังโกหกหรือพูดความจริง เพราะพวกเขาจะไม่พูดความจริงหากพวกเขาผิด

 

สําหรับ APE พวกเขากระหายเลือดของเขา แต่เขาไม่สนใจ เขายังสามารถลักพาตัวสมาชิก APE 2-3 คนได้หากต้องการ แต่แล้วอะไรล่ะ? โอกาสที่สมาชิกระดับล่างจะรู้เรื่องพ่อของเขานั้นไม่มีอยู่จริง

คนเดียวที่รู้ได้คือ วารันท์ และนั่นด้วย ถ้าเขาเกี่ยวข้องจริงๆ แต่การไปถึงวารันท์ ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถหาคําตอบเพื่อแลกกับชีวิตของสมาชิก APF ได้ เขาเคยลองสิ่งนี้มาก่อน และถึงกระนั้นแซนเดอร์ก็สามารถโกหกเขาได้ คนพวกนี้ไม่มีจิตสํานึก ดังนั้นนี่จะเป็นความพยายามที่สูญเปล่า

“ฉันต้องการเวลาและแผน เช่นเดียวกับเคนพูด สิ่งที่ไม่สามารถบรรลุได้ด้วยความแข็งแกร่งนั้นสามารถบรรลุได้ด้วยอุบาย ฉันต้องวางแผนเหมือนพวกเขาและเริ่มคิดเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรง มีแต่สมอง” ลูซิเฟอร์พิมพ์ขณะนอนลงบนเตียงและเอามือปิดตา

“คิดว่า…. ฉันจะทําอย่างไรเพื่อให้ได้คําตอบ” เขาพูดขณะที่เขาพยายามคิด

 

แต่ไม่มีแผนใดเข้ามาในความคิดของเขา สมองทั้งหมดของเขาถูกปรับให้ใช้กําลังของเขาเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการและไม่ได้วางแผน

 

” แวเรียนท์เกิดใหม่งั้นเหรอ พวกเขามีแผนอย่างไร? พวกเขาใช้คําทํานายของผู้ทํานาย เพื่อให้ได้แผน เมื่อพวกเขารู้ว่าศัตรูจะทําอะไร พวกเขาก็มาถึงแผน”

“ฉันยังต้องรู้ปฏิกิริยาของการกระทําของฉันด้วยเพื่อที่ฉันจะได้วางแผนได้ ต้องมีการวางแผนที่ละเอียดถี่ถ้วนโดยไม่มีช่องโหว่ บางสิ่งที่จะช่วยฉันได้อย่างมาก”

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังพูดกับตัวเองก็มีเสียงเคาะประตูห้องของเขา

เขายืนขึ้นและเปิดประตูเพื่อพบเดรโกที่นั่น เดรโกกําลังถือเสื้อผ้าให้เขา ขณะที่ผู้หญิงข้างหลังเขากําลังถืออาหารอยู่

“ท่านลูซิเฟอร์ นี่เสื้อผ้าสําหรับท่าน ท่านสามารถแต่งตัวได้ ส่วนอาหารควรวางไว้ที่ไหน ในห้องของท่านหรือในสวนเหมือนเมื่อก่อน?” เคนถามพลางขมวดคิ้ว

 

“ห้องเรียบร้อยดี วางมันลงบนเตียงแล้วออกไป” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะหยิบเสื้อผ้าจากเคน

เสื้อผ้าที่เดรโกนํามานั้นมีเสื้อเชิ้ตสีดําและกางเกงสีขาว

 

ลูซิเฟอร์วางกางเกงสีขาวไว้ด้านข้างก่อนจะสวมเสื้อยืด เขาไม่ต้องการกางเกงแบบอื่นเพราะกางเกงที่ทําจากอนุภาคคาร์ดินัลก็เพียงพอแล้วสําหรับเขาในตอนนี้ พวกเขาเป็นกางเกงที่สมบูรณ์แบบสําหรับเขา เขาจึงไม่ต้องการถอดออก พวกเขาไม่ได้สกปรกอยู่แล้ว

เดรโกวางอาหารลงบนโต๊ะ เดรโกและพวกสาวๆ เริ่มออกเดินทาง แต่ก่อนที่เดรโกจะก้าวออกไป เขาก็หยุดและหันหลังกลับ

“ฉันเป็นคนงี่เง่า ฉันลืมสิ่งนี้ได้อย่างไร” เขาพึมพําในขณะที่เขาถอนหายใจ

เขาหยิบขวดหนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วเดินกลับเข้าไป ข้างในขณะที่วางมันลงบนโต๊ะ

 

“ขวดอะไร” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“มันคือแชมพู คุณสระผมด้วยแชมพูเพื่อให้มันอยู่ในสภาพดีระหว่างอาบน้ํา คุณจะอาบน้ําแล้วใช่ไหม ฉันคิดว่าคุณน่าจะต้องการมัน” เดรโกพูดก่อนจะหันหลังเดินจากไป

“แชมพู?” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะจ้องไปที่ขวด เขาจําไม่ได้ว่าเคยใช้อะไรแบบนี้มาก่อน เขาอาบน้ําตอนที่เขาอยู่ที่โรงงาน แต่เขาได้รับแค่สบู่ขาวธรรมดา ไม่มีแชมพู

 

เขาสงสัยว่ามันถูกใช้งานอย่างไร

เขาบอกว่าฉันว่าให้สระมันลงบนผมของฉัน วันนี้ฉันน่าจะลองมัน ลูซิเฟอร์คิดขณะหยิบขวดขึ้นมา

เขาปิดประตูหลังจากที่แขกออกไปก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้าไปในห้องอาบน้ําหลังจากถอดเสื้อผ้าออก

 

เขาเปิดฝักบัวก่อนจะเปิดขวด

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เปิดขวด เขาก็ตระหนักว่าเขายังคงสวมถุงมืออยู่ แต่เขาก็ถอดออกไม่ได้เช่นกัน เว้นแต่เขาจะต้องการทําลายแชมพูนี้

เขาตัดสินใจอาบน้ําด้วยถุงมือ

เมื่อเปิดขวด เขาพลิกของเหลวทั้งหมดที่อยู่ในขวดบนหัวของเขา ก่อนที่จะเริ่มถู

เขาไม่รู้ว่าเขาควรจะใช้เท่าไหร่ เขาจึงใช้มากเกินไปหน่อย

ขณะที่เขาถูผม เขาไม่ได้ปิดฝักบัวเหนือศีรษะ ทําให้ทุกอย่างล้างออกก่อนที่เขาจะสามารถกู้ได้อย่างถูกต้อง แต่เศษที่เหลือกลายเป็นฟอง คลุมทั้งศีรษะและผมยาวของเขา

บางส่วนเข้าไปในดวงตาของเขา ทําให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตาของเขากําลังไหม้ เขารีบล้างตาของเขาก่อนที่จะหยุดถูแชมพูที่มีฟองและปล่อยให้ผมของเขาถูกล้างด้วยน้ํา

 

“นี่มันแย่จริงๆ ทําไมคนถึงใช้มันล่ะ ตาฉันร้อนเป็นไฟ! นี่เป็นแผนการของพวกเขาที่จะทําร้ายฉันเหรอ?” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะมองดูขวดแชมพู เขาสาบานกับตัวเองว่าจะไม่ใช้สิ่งนี้

เขาใช้สบู่ล้างร่างกายก่อนออกจากห้องน้ําและเช็ดตัวให้แห้ง ก่อนจะแต่งตัวอีกครั้ง

 

ตอนที่ 157: ความลึกลับเรื่องการตายของเซล

โอ้พระเจ้ามันฟังดูแย่มาก เขาคิด

ลูซิเฟอร์มองกลับไปที่เคนราวกับว่าเขากําลังเฝ้าดูคนแปลกๆเต้นและร้องเพลง? คนๆนี้คิดจริงๆ เหรอว่าเขาสามารถเล่น เต้นรํา และร้องเพลงได้หลังจากอดีตของเขาได้ผ่านไปแล้ว?

เขาไม่ได้เล่นเกมแม้แต่เกมเดียวในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สําหรับการร้องเพลง เขาร้องแค่ไม่กี่ครั้งตอนที่เขายังเด็กมาก เมื่อแม่ร้องเพลงร่วมกับเขา เต้นงั้นเหรอ? ไม่มีทาง! นั่นเป็นเรื่องน่าอายมาก

“ไม่ต้องสนใจคําถามของฉัน ฉันรู้ว่ามันงี่เง่า แต่ใช่ งานอดิเรกของคุณคืออะไร? เคนถาม

“ผมไม่มีงานอดิเรก เว้นแต่คุณจะนับดูประตูในห้องเล็กๆที่ผมเคยถูกเก็บไว้เป็นเวลา 5 ปี” ลูซิเฟอร์ตอบเบาๆ ขณะที่เขามองออกไปนอกหน้าต่าง

 

“เคน คุณรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อและแม่ของผม” ในที่สุด ลูซิเฟอร์ก็ถามคําถามที่อยู่ในใจของเขามาเป็นเวลา 5 ปีในที่สุด หลายคนให้คําตอบแก่เขา แต่ไม่มีคําตอบใดที่น่าพอใจเพียงพอสําหรับเขา

“พวกเขาไม่ควรตายอย่างนั้น เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา” เขาถามต่อ

“ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา ฉันไม่คิดว่าจะมีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แต่เรามีทฤษฎีอยู่” เคนกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว

“ทฤษฎีอะไร?” ลูซิเฟอร์ถาม

“ดันเจี้ยนที่พ่อแม่ของคุณเข้าไปพร้อมกับทีมของพวกเขา เห็นได้ชัดว่ามีคนคนหนึ่งออกจากดันเจี้ยนนั้นทั้งเป็น นั่นคือสิ่งที่รอยเท้าที่ทิ้งไว้ของคนคนหนึ่งพิสูจน์ได้จากสิ่งที่เราเห็น”

 

“ตอนนี้ เราเชื่อว่าบุคคลนั้นคือคนที่อยู่ในทีมของพ่อแม่ของคุณ และเข้าไปข้างในกับพวกเขา” เคนตอบ

 

“เซล แอซเรลแข็งแกร่งเกินไป ฉันสงสัยว่าเขาจะถูกสัตว์ประหลาดฆ่า เว้นแต่จะมีสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนพิเศษจริงๆออกมา…” เคนกล่าว ขณะเหลือบมองที่ลูซิเฟอร์ แต่เขายังพูดไม่จบประโยค

“เราเชื่อว่าหนึ่งในสมาชิกในทีมของเขาทรยศเขาและฆ่าเขา เมื่อเขาถูกสัตว์ประหลาดเข้าโจมตีทันที เราคิดว่าเพื่อนร่วมทีมคนนั้นคือคนเดียวที่รอดชีวิต เราคิดว่าแบบนั้น” เขากล่าวต่อ

“ตอนนี้องค์กรและ APF ต้องการตําหนิเราในเรื่องนี้ เพราะเราเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในเส้นทางของพวกเขา พวกเขาต้องการเปลี่ยนแวเรียนท์ให้เราโดยใช้การตายของพ่อแม่ของคุณ แต่เรารู้ว่าเราไม่ได้ทํามัน”

“คนเดียวที่ได้รับประโยชน์จากการตายของพ่อของคุณคือ วารันท์ เขาเป็นผู้นําของ APE เขาถูกพ่อของคุณทําให้เขาพ่ายแพ้และนั่นทําร้ายความมั่นใจของเขาอย่างแน่นอน”

 

“ตราบใดที่พ่อของคุณยังมีชีวิตอยู่ ตัวเตือนความพ่ายแพ้นั้นยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ฉันคิดว่าแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงวางแผนการตายของพ่อคุณโดยใช้เซสเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นผู้นําขององค์กร ฮันเตอร์!”

 

| ”องค์กรฮันเตอร์เป็นคนขอให้พ่อคุณเข้าไป และเป็นคนส่งสมาชิกไปพร้อมกับพ่อของคุณด้วย”

“สําหรับเหตุผลที่พวกเขาถามพ่อของคุณ มีคนบอกว่าเซสอยู่ในดันเจี้ยนอื่น แต่นั่นดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญอย่างมาก เมื่อองค์กรนักล่าต้องการวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งเซสไม่อยู่ที่นั่นเหรอ มันน่าสงสัยเกินไป”

“มันอาจจะเป็นแผนโดยพวกเขาที่จะให้เหตุผลกับพ่อของคุณที่จะเข้าไปข้างในเพื่อที่เขาจะถูกทรยศและถูกฆ่า” เคนกล่าว

“เซสและวารันท์” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะที่เขาจําชื่อทั้งสองนี้

มีสองด้านและแต่ละด้านก็มีเรื่องราวที่แตกต่างกัน เขาต้องตามหาความจริงด้วยตนเอง เขาต้องเข้าใจว่าพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างไร เขาต้องการรู้ว่าใครรับผิดชอบและใครต้องตายตอนนี้

เขาไม่พูดอะไรอีกและเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง

เฮลิคอปเตอร์ยังคงบินผ่านเส้นทางที่ไม่รู้จักก่อนที่พวกเขาจะไป ถึงทะเลทรายที่ไม่รู้จักในที่สุด ช่องเปิดปรากฏขึ้นอีกครั้งในพื้นดิน ภายในที่เฮลิคอปเตอร์เข้าไป

ทันทีที่เฮลิคอปเตอร์เข้าสู่ช่องเปิด มันก็ปิดตัวลง กลับสู่ทะเลทรายอีกครั้ง หากมีใครบินจากเบื้องบน พวกเขาจะไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในทะเลทรายแห่งนี้

 

เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอดในฐานของ APE ทุกคนก็ก้าวออกมาจากพวกมัน

 

อิโซน่าก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์และเห็นลูซิเฟอร์ กําลังเดินอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอจําไม่ได้ว่าเคยเห็น เธอใช้เวลาไม่นานในการรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

 

อิโซน่าเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นและลูซิเฟอร์ ก่อนที่เธอจะบอกว่า “เคน นายเปลี่ยนลุคอีกแล้วเหรอ ฉันต้องบอกว่านายดูเหมือนผู้หญิงเซ็กซี่เลยนะในตอนนี้” อิโซน่า หัวเราะคิกคักขณะที่เธอล้อเลียนเคน

 

“ให้ฉันไปส่งคุณที่ห้อง คุณต้องพักผ่อน” เคนละเลยอิโซน่า และพูดคุยกับลูซิเฟอร์ซึ่งยืนอยู่ข้างเขาแทน

 

เขาพาลูซิเฟอร์ไปด้วย ทิ้งไอโซน่าไว้ข้างหลังก่อนจะเข้าไปในลิฟต์

อิโซน่า จ้องไปที่แผ่นหลังของ ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขากําลังจะจากไปก่อนที่เธอจะยิ้ม

“จริงๆ แล้วเขาคล้ายกับเธอนิดหน่อย ไม่เพียงแต่จากรูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติอื่นๆด้วย” เธอกล่าวอย่างนุ่มนวลก่อนจะจากไปพร้อมกับเวก้าและดิออน

ทุกคนจะได้พักผ่อนก่อนที่จะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อทบทวนการต่อสู้

“คุณลูซิเฟอร์ คุณกลับมาแล้ว”

ทันที่ที่ลูซิเฟอร์และเคนก้าวออกจากห้อง พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับจากชายหนุ่มผมสีเขียว

“เดรโก ไปเอาอาหารมาให้ลูซิเฟอร์ เขามาจากการต่อสู้ เขาคงจะเหนื่อย โอ้ แล้วก็เอาเสื้อผ้ามาให้เขาด้วย” เคนบอกชายผมเขียว ในขณะที่เขาเดินต่อไปโดยไม่หยุด

“เอ่อ คุณคือท่านเคน?” เดรโกถามด้วยความแปลกใจ เขาสงสัยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร

 

“ใช่ อย่ารอช้า” เคนตอบอย่างเกียจคร้าน

“ครับผม” เดรโกพยักหน้าก่อนจะเข้าไปในลิฟต์และขึ้นไปชั้นบน

 

เคนพาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องของเขา แต่เขาไม่ได้เข้าไป

 

“เดรโกจะมาที่นี่เร็วๆ นี้ ทานอาหารและพักผ่อน ฉันจะมาคุยกับคุณทีหลัง” เคนพูดก่อนจะจากไป โดยไม่แม้แต่จะเปิดประตูให้ลูซิเฟอร์

ลูซิเฟอร์เหลือบมองกลับไปที่เคน มองดูเขาคันโยกก่อนจะเปิดประตูและก้าวเข้าไปในห้อง

เขานั่งลงบนเตียง ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น จนในที่สุดเขาก็มีเวลาอยู่คนเดียวที่เขาจะคิดได้ชัดเจน

 

ตอนที่ 156: จุดอ่อนของเคน

หลังจากการตายของเซล บ้านก็ถูกรัฐบาลยึดครองเช่นกัน มีคนยากจนที่อาศัยอยู่ที่นั่นได้รับคําสั่งให้ขับไล่ เนื่องจากสถานที่นี้ถูกปิดผนึกตลอดไปด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

หลังจากนี้ ย่านของเซล แอซเรลก็ว่างเปล่าด้วยการตายของเขา และไม่เห็นวิญญาณที่นั่น จนกระทั่งลูซิเฟอร์กลับมา

 

เวก้ารู้บางสิ่งเช่นนั้น แต่ตอนนี้เขาต้องการเจาะลึกอดีตของลูซิเฟอร์ ก่อนที่เขาจะถูกพาตัวไปตั้งแต่เกิดจนสิ้นชีวา

“เวก้า เราอยู่ที่ปลายอุโมงค์แล้ว เราต้องไปแล้ว” เคนเตือนเวก้า ผู้ซึ่งยังคงจมอยู่กับความคิด

เวก้าออกมาจากความคิดของเขาและกระโดดออกไปข้างนอก ลูซิเฟอร์ เคน และคนอื่นๆตามมาขณะที่พวกเขาจากไป

ขณะที่ลูซิเฟอร์เข้าไปในเฮลิคอปเตอร์กับเคนและทีมของเขาเหมือนเมื่อก่อน เวก้าและคนอื่นๆ เข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ก่อนที่พวกเขาจะเริ่มออกเดินทาง

แม้กระทั่งตอนออกเดินทาง เฮลิคอปเตอร์ลําสุดท้ายก็คือของดิออน ซึ่งคอยดูด้านหลังอยู่

สมาชิก APE มองดูเฮลิคอปเตอร์ของศัตรูที่ปล่อยออกไป ขณะที่หมอกเริ่มรอบเฮลิคอปเตอร์ ทําให้พวกเขามองไม่เห็น

 

สิ่งที่เหลืออยู่ในสนามรบคือกลุ่มสมาชิก APF ที่ผิดหวังซึ่งกําลังเฝ้าดูศัตรูจากไป ขวัญกําลังใจของพวกเขาก็ลดลงเช่นกัน

 

พวกเขายังเห็นศพจํานวนมากนอนอยู่รอบสนามโดยไม่ขยับเขยี้อน ศพบางส่วนเป็นสมาชิกของ APE ที่เสียชีวิตในการสู้รบ ในขณะที่ศพอื่นๆ เป็นของสมาชิก แวเรียนท์เกิดใหม่ ที่ร่างของถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง

ผู้นําคนหนึ่งของพวกเขาต่อสู้กับความตายเพราะเขาถูกเด็กทําร้าย หัวหน้าคนที่สองของพวกเขาก็ถอยออกจากการต่อสู้โดยไม่สนใจศัตรูเพราะแซนเดอร์ สําหรับผู้นําหลักของพวกเขา วารันท์ เขาไม่แม้แต่จะปรากฏตัว

“แซนเดอร์! อย่าหลับตา! นายจะไม่เป็นไร! แค่ลืมตาขึ้น! มีสถานพยาบาลอยู่ข้างใน! เราจะช่วยนายเอง! อย่าสิ้นหวัง! จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับนาย!” ไอย์ บอกแซนเดอร์ ขณะที่เธอมารับเขา ก่อนที่เธอจะเริ่มอุ้มเขาไปที่โรงงานข้างหน้า

 

“มิตาลี! แจ็คสัน! เรโอ! มากับฉัน!” เธอตะโกนเสียงดัง เมื่อเสียงตะโกนของเธอ แวเรียนท์ทั้งสามในทีมของเธอก็เริ่มตามเธอไป คนเหล่านี้เป็นคนที่มีความรู้ทางการแพทย์

 

ขณะที่เฮลิคอปเตอร์กําลังบินอยู่ เคนนั่งลงข้างๆ ลูซิเฟอร์ ซึ่งยังคงปลอมตัวเป็นแซนเดอร์

 

“คุณจะเปลี่ยนรูปลักษณ์นั้นหรือไม่” ลูซิเฟอร์ถามเคน

 

“ฉันลืมเรื่องนั้นไปหมดแล้ว” เคนพูดขณะยืนขึ้น เขาถอดเสื้อคลุมออกก่อนจะวางนิ้วลงบนแก้มทั้งสองข้างและเริ่มเปลี่ยนใบหน้าอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คราวนี้เขาเปลี่ยนไปดูเหมือนผู้หญิงที่ลูซิเฟอร์ไม่เคยเห็นมาก่อน

“ผู้หญิงคนหนึ่ง ทําไมคุณถึงปลอมตัวเป็นอย่างนั้นตอนนี้ กลับไปสู่รูปลักษณ์ที่แท้จริงของคุณ” ลูซิเฟอร์บอกเคนขณะที่เขามองผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยความสับสน

ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนนางแบบที่อายุ 20 ปลายๆ เอวของเธอผอมเพรียว ในขณะที่มือของเธอดูผอมลง ขนาดหน้าอกของเธอยังเล็ก ทําให้เธอดูแตกต่างจากไอย์ และ อิโซน่า ซึ่งทั้งคู่มีหน้าอกขนาดพอเหมาะพอดี

“หน้าตาแบบนั้นเหรอ ไม่ต้องกังวล นั่นไม่ใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉัน” เคนตอบขณะนั่งข้างลูซิเฟอร์

“นี่คือรูปลักษณ์ที่แท้จริงของคุณ?” ลูซิเฟอร์ถามอย่างสับสน

“ไม่ใช่หรอก จริงๆนี่ไม่ใช่รูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉันเช่นกัน น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถกลับไปเป็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของฉันได้ เนื่องจากพลังของฉันไม่ปล่อยให้ฉันทําแบบนั้น”

 

“ยิ่งกว่านั้น ฉันสามารถอยู่ในรูปลักษณ์ได้เพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น รูปลักษณ์นั้นใกล้จะหมดอายุแล้ว นี่คือรูปลักษณ์ใหม่ที่ฉันจะมีสักระยะหนึ่ง” เคนกล่าว ซึ่งตอนนี้เป็นผู้หญิง

 

ลูซิเฟอร์ยังดูสับสนในตอนนี้ ความจริงเคนคืออะไร?

“หน้าตาคุณคือผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“ฉันจําไม่ได้จริงๆนะ ครั้งแรกที่ฉันใช้พลังนี้ ฉันลืมว่าตัวเองเคยเป็นอะไรมาก่อน ฉันเคยมีความทรงจํา แต่จําอะไรเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเองไม่ได้แล้ว” เคนตอบพลางถอนหายใจ

 

ทว่าครั้งนี้เขากําลังโกหก เขารู้เกี่ยวกับรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา และเขาสามารถกลับไปดูได้ด้วยซ้ํา เขาแค่ไม่อยากทํา ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วเขาหน้าตาเป็นอย่างไร และเขาก็ไม่อยากให้ใครรู้เช่นกัน

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาต้องการให้ลูซิเฟอร์เลิกขอให้เขาดูตัวจริงของเขา เขาจึงสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา

 

มากกว่าครึ่งที่เขาพูดกับลูซิเฟอร์ในครั้งนี้เป็นเรื่องโกหก

นอกจากนี้ เขาสามารถกลับไปเป็นลุคเก่าที่เขามีก่อนแซนเดอร์ได้อย่างแน่นอน แต่เขาต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อทําให้ลูซิเฟอร์คุ้นเคยกับลุคที่เปลี่ยนไปของเขา ตั้งแต่เขาเริ่มเบื่อในลุคเดียวนั้น

“ผมเข้าใจ” ลูซิเฟอร์ตอบขณะที่เขาหยุดพูด เขาเริ่มมองไปอีกด้านหนึ่ง ไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาควรปฏิบัติต่อมันอย่างไร เคนรู้สึกเหมือนเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

เมื่อเคนบอกเขาเกี่ยวกับครอบครัวครั้งสุดท้าย ลูซิเฟอร์รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง เขายังไม่รู้สึกว่าเขากําลังโกหก เมื่อเขาพูดไม่ดีเกี่ยวกับ APE แต่คราวนี้ ลูซิเฟอร์รู้สึกว่าเคนไม่ซื่อสัตย์

 

ความรู้สึกนี้รุนแรงมากในตัวเขา และนี่ทําให้เขาอารมณ์เสีย เขาจําได้อีกครั้งว่าทุกคนมีเป้าหมายของตัวเอง ไม่มีใครจะทําอะไรเพื่อคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล ไม่เหมือนกับว่าเขาเกี่ยวข้องกับเคนและการจลาจลที่หลากหลาย

 

เคนนั่งเงียบไม่พูดอะไร เพราะเขาไม่เชื่อว่าจะพูดอะไรที่มีคุณค่า

 

แต่ถ้าเขาพูดให้ร้ายกับ APF มันก็จะเหมือนว่าเขาพูดมากเกินไป จนทําให้ลูซิเฟอร์จะรําคาญและจะทําให้เขาอารมณ์เสีย ถามเขาว่ารู้สึกอย่างไร? เขาได้ทําไปแล้ว

ผ่านไป 10 นาที ในที่สุด เคนคิดอะไรบางอย่างและตัดสินใจถามลูซิเฟอร์

 

“คุณชอบทําอะไร คุณมีงานอดิเรกไหม ชอบเล่น ร้องเพลง หรือเต้นรํา” เคนถาม แต่ในไม่ช้าเขาก็ปิดปากของเขา

 

Inhuman Warlock จอมเวทย์ไร้มนุษยธรรม

ตอนที่ 155: ความขัดแย้ง 4 กษัตริย์

มหาสงครามกับคนในดันเจี้ยน ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ ว่ากันว่าไม่มีความเสี่ยงจากดันเจี้ยนที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ทุกคนใช้ชีวิตอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวดันเจี้ยน

จากนั้นทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน เมื่อมหาสงครามเกิดขึ้น โชคดีที่หลังจากนั้นเล็กน้อย มหาสงครามก็จบลงด้วยชัยชนะของพวกเขา

หลังจากนั้น สิ่งต่างๆเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อไรอาเริ่มมองเห็นจุดสิ้นสุดของสงครามและวิธีที่แวเรียนท์จะเหนือกว่า

 

เครื่องจักรทั้งหมดของมนุษย์ล้มเหลว เพียงเพราะแวเรียนท์เท่านั้นที่มนุษย์ชนะ ดังนั้น แวเรียนท์จึงเหนือกว่า เขาควรได้รับมอบหมายให้ดูแลรัฐบาลและมีอํานาจ

 

เขาแสดงความปรารถนานี้และเรียกร้องให้ แวเรียนท์ ได้รับการควบคุมของประเทศและว่าพวกเขาจะทําให้มนุษย์ปลอดภัย แต่มนุษย์ปฏิเสธ แม้แต่ วารันท์ และ เซส ก็เข้าข้างมนุษย์

 

ตามที่พวกเขากล่าวไว้ แวเรียนที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ดังนั้น เพื่อให้เกิดความสมดุล จึงเป็นสิ่งสําคัญที่มนุษย์จะต้องควบคุมบางอย่างเช่นกัน

 

สําหรับเซลเขาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสนทนา เพราะเขาไม่สนใจว่าใครตั้งรัฐบาล เรื่องการเมืองนี้น่าเบื่อสําหรับเขา และเขาก็ออกจากที่ประชุม

 

แม้แต่เซลก็ไม่รู้ว่าการประชุมจะแย่ขนาดนี้ ด้วยความโกรธไรอา ได้สังหารตัวแทนที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งในที่ประชุมด้วยความโกรธของเขา และนั่นทําให้เกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่

เซสและวารันท์เผชิญหน้ากับไรอาที่อยู่คนเดียวและเสียเปรียบ ดังนั้นไรอาจึงจากไป

 

และด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงยังคงมีอํานาจ

ไรอาสร้างองค์กรของตัวเองด้วย แวเรียนท์ที่มีความคิดเหมือนกัน ซึ่งเชื่อในเป้าหมายเดียวกัน

 

มนุษย์รักษารัฐบาลและสร้างองค์กรฮันเตอร์ ซึ่งได้รับคําสั่งจากเซส หลังจากนั้นไม่นาน AFF ก็ถูกสร้างขึ้นเช่นกัน เมื่อเห็นปัญหาที่ไรอาสร้างและคําสั่งนั้นมอบให้วารันท์

และสภาพที่เป็นอยู่ของวันนี้ก็เกิดขึ้น แม้แต่ในตอนนั้น ไรอาก็ยังอยู่ตามลําพังกับราชาวอร์ล็อคทั้งสอง แม้แต่ตอนนี้ เขาก็อยู่ตามลําพังกับราชาวอร์ล็อคทั้งสองที่เชื่อว่าเขาคิดผิด

 

มีเพียงคนเดียวที่สามารถเปลี่ยนข้อเสียนี้เป็นข้อได้เปรียบสําหรับไรอา นั่นคือเซล แอซเรล ถ้าเพียงเซลเข้าร่วมกับเขา

 

เขาได้ส่งคําเชิญไปยังเซล เพื่อเข้าร่วมแวเรียนท์เกิดใหม่ ในฐานะผู้นําที่ 2 ในตําแหน่งที่เท่าเทียมกับไรอา เขายังไปที่นั่นเป็นการส่วนตัว ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่เซสยังได้เชิญเซลให้เข้าร่วมองค์กรฮันเตอร์ด้วย และกลายเป็นผู้นําคนที่ 2 เช่นกัน

เซลปฏิเสธทั้งคู่อย่างใจดี โดยบอกว่าเขาต้องการเป็นอิสระและไม่เข้าร่วมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เขากําลังจะทําสิ่งที่เขาเชื่อว่าถูกต้องในทุกจุดที่เขาชอบ

 

สําหรับวารันท์เขาแตกต่างออกไปเล็กน้อย เขาไปหาเซลด้วยความเย่อหยิ่งเล็กน้อย เมื่อเขาเสนอ เขาไม่ได้เสนอให้เซลเป็นหัวหน้าคนที่ 2 ของ APF แต่เขาเสนอให้เซลเข้าร่วมทีมอัลฟ่าของเขา ในขณะที่วารันท์ยังคงเป็นผู้นําเพียงคนเดียวและรักษาอํานาจไว้

เซลปฏิเสธอีกครั้ง แต่คราวนี้ เขาก็อารมณ์เสียเล็กน้อย โชคดีที่เขาไม่ได้โต้เถียงกับวารันท์และปฏิเสธทันที

 

แต่นั่นยังไม่เพียงพอเนื่องจากคําพูดที่เฉียบขาดจากวารันท์ ทําให้เกิดการปะทะกันระหว่างทั้งสองซึ่งวารันท์ พ่ายแพ้ในการปะทะกันครั้งแรกของเขา! มันเป็นความพ่ายแพ้เพียงอย่างเดียวที่เขาได้รับจนถึงตอนนั้น และแม้กระทั่งตอนนี้ มันก็ยังคงเป็นความพ่ายแพ้เพียงอย่างเดียวของเขา

เขาไม่ได้ต่อสู้กับเซลอีกแม้ว่า เขายังไม่ได้เสนอให้เซลเข้าร่วมทีมของเขาอีกและจากไป

 

ทุกคนเชื่อว่าเซลไม่ได้เข้าร่วมองค์กรใดๆ เพราะเขาต้องการสร้างองค์กรของตัวเอง และนี่เป็นข่าวที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากความนิยมของเซล แอซเรลนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ หลังจากชัยชนะเหนือวารันท์ยิ่งกว่านั้น เขาเป็นไอดอลของแวเรียนท์มากมาย

เห็นได้ชัดว่าถ้าเขาสร้างองค์กร ผู้คนจํานวนมากจะเข้าร่วม และมันจะกลายเป็นหนึ่งในมหาอํานาจที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ

แม้แต่รัฐบาลก็ดูกังวลเล็กน้อย เซลไม่ได้เข้าร่วมกับพวกเขา หากเขาทําแนวรบที่ 3 และหากพวกเขาเข้าร่วมกับไรอา ทุกอย่างก็จะ

จบลง

ความกังวลของทุกคนคงอยู่เป็นเวลานาน แต่ไม่มีอะไรเช่นนั้นเกิดขึ้น เซลไม่ได้สร้างองค์กรใดๆ เขาอาศัยอยู่กับภรรยาและลูกอย่างมีความสุขเหมือนพ่อปกติทั่วไป เขาออกมาช่วยเหลือเมื่อมีความจําเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น

 

ความต้องการอย่างหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลแจ้งให้เขาทราบถึงกิจกรรมในดันเจี้ยนระดับสูงระดับ 4 เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และเซลต้องไปที่นั่นเพื่อฆ่ามอนสเตอร์เพื่อลดดัชนีการเกิดมอนสเตอร์ให้น้อยที่สุด

 

ส่วนไรอาและวารันท์ต่างก็ยุ่งกันเอง และเซสหัวหน้าองค์กรฮันเตอร์อยู่ในดันเจี้ยนอื่น

ไม่มีใครมีเวลารอให้เซสออกมา ดังนั้นรัฐบาลและองค์กรฮันเตอร์ จึงขอร้องให้เซล แอซเรล ช่วยพวกเขาและเข้าไปในพื้นที่ที่ยังไม่ได้สํารวจก่อนหน้านี้

 

แวเรียนท์อันดับต้นๆขององค์กรฮันเตอร์ถูกส่งไปพร้อมกับเซล สําหรับภรรยาของเขา เธอก็ไปกับเขาด้วย โดยทิ้งลูซิเฟอร์ตัวน้อยไว้กับพี่เลี้ยงเด็กที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านใกล้ๆ

 

นั่นเป็นวันสุดท้ายที่โลกเห็น เซล แอซเรล และ แคลรีส ขณะที่ทั้งสองไม่กลับมา สิ่งที่กลับมาคือข่าวการเสียชีวิตของพวกเขา

 

หลังจากพวกเขาเสียชีวิต ลูซิเฟอร์ก็ถูกนําตัวไปที่สถานพยาบาล

 

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด หลังจากการตายของเซล ความมั่งคั่งและทรัพย์สินทั้งหมดของเขาอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล

เซล แอซเรลรวยมาก อันที่จริง เขายังเป็นเจ้าของละแวกบ้านทั้งหมดที่เขาเคยอยู่ด้วยซ้ํา ถ้าเขาต้องการ เขาอาจจะอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่มีทรัพย์สมบัตินั้น แต่เขาก็ยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิมที่เขาได้รับมรดกมาจากบิดาของเขา

 

สําหรับบ้านหลายร้อยหลังในละแวกบ้านที่เขาเป็นเจ้าของนั้น เขาได้อนุญาตให้ผู้เคราะห์ร้ายที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัยได้ฟรีตราบเท่าที่พวกเขาต้องการ

 

ตอนที่ 154: มหาสงครามครั้งสุดท้าย

 

สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่เข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ ในขณะที่บางคนอยู่ข้างนอกเพื่อจับตาดูศัตรูจนกระทั่งเวก้า และคนอื่นๆมาถึง

 

ผ่านอุโมงค์ที่เฮนริกสร้างขึ้น ลูซิเฟอร์ เคน และคนอื่นๆ เริ่มมุ่งหน้าไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่รอพวกเขาอยู่ที่ปลายอีกด้านของอุโมงค์

 

“เคน” เวก้าพูด ขณะยกมือซ้ายไปทางเคนขณะที่เดินอยู่ข้างๆเขา

 

เคนที่เข้าใจท่าทางนั้น ได้คืนหนังสือ 2 เล่มและไดอารี่ให้เวก้า

 

“ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้าง ขาของคุณ”

 

หลังจากได้รับหนังสือ เวก้ามองไปที่ลูซิเฟอร์และถามคําถาม 2-3 ข้อเกี่ยวกับสุขภาพของลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์เคลื่อนไหวโดยไม่ใช้ขาของเขา ดูเหมือนว่าเขากําลังลอยอยู่ในอากาศ ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า ส่วนขาของเขาก็หายเป็นปกติเช่นกัน

 

สําหรับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อของเขา พวกมันก็หายเป็นปกติเป็นส่วนใหญ่ และตอนนี้เขาดูเหมือนมนุษย์มากกว่า และไม่เหมือนซอมบี้ในตอนนี้

 

ผมสีเงินยาวของเขาก็โตขึ้นเป็นขนาดปกติ

 

“ผมสบายดี” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่เขาเหลือบมองที่ขา และร่างกายของเขา

 

“ดีขึ้นแล้ว แม้ว่าฉันต้องบอกว่าอนุภาคคาร์ดินัลทํางานได้ตามที่คาดไว้ อย่างอื่นถูกทําลายหมด แจ็กเก็ตนั้น เสื้อยืด และทุกอย่างยกเว้นกางเกงยังคงไม่บุบสลายและดูเหมือนใหม่” เวก้ากล่าวพร้อมยิ้ม

 

ลูซิเฟอร์เปลือยอก แต่กางเกงยังคงไม่บุบสลาย ซึ่งเขาตระหนักได้ แม้ว่ากางเกงจะรอดจากการถ่ายโอนความเสียหายให้เขา แต่ก็ไม่เลว

 

ไม่ว่าในกรณีใด หากกางเกงไม่ส่งความเสียหายไปที่ขาของเขา กางเกงของเขาจะถูกทําลาย และความเสียหายจะยังคงส่งผลต่อขาของเขาหลังจากนั้น

 

ดังนั้นการไม่ถูกทําลาย ในขณะที่ลดความเสียหายลง ก็ยังดีกว่าถูกทําลายเพื่อหยุดความเสียหายทั้งหมดชั่วขณะหนึ่ง แล้วปล่อยให้เขาไม่มีการป้องกันใดๆ

 

“ใช่ ดีมาก ถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่อยู่ที่นี่ ถุงมือของผมก็คงถูกทําลายเช่นกัน” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะที่เขาใช้มือของเขาดึงถุงมือออกจากกระเป๋ากางเกงที่ยังคงสภาพเดิม

 

เขาสวมถุงมือในมือของเขาอีกครั้ง

 

“ใช่ เก็บถุงมือไว้ให้ปลอดภัย” เคนกล่าว

 

ตอนนี้ขาของลูซิเฟอร์หายดีแล้ว และเขาก็หยุดลอย ขณะที่เขาลงสู่พื้นและเดินต่อไป

 

เมื่อความสงบกลับมา เคนกลับไปใช้อิทธิพลอันละเอียดอ่อนของเขา

 

“อย่างไรก็ตาม คุณเห็นการกระทําของพวกเขาแล้วใช่ไหม พวกเขาอ้างว่าต่อสู้เพื่อความสมดุล แต่แซนเดอร์ไม่ได้คิดซ้ําสอง ก่อนที่เขาจะฆ่าเด็กไร้เดียงสาเหล่านั้นทั้งหมด ในขณะที่พยายามจะฆ่าคุณ และถึงแม้หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่แสดงความเสียใจออกมาบนใบหน้าเลย” เคนกล่าว

 

“เช่นนั้น ถ้าเกิดมีเด็กเป็นมนุษย์แทน เธอคงได้เห็นพวกเขาร้องไห้กันหมดแล้ว ฉันแน่ใจ แต่เพียงเพราะว่าคนที่เสียชีวิตเป็นพวกแวเรียนท์ จึงไม่มีใครสนใจ”

 

“นั่นเป็นสาเหตุที่ APF และสิ่งที่เรียกว่าแวเรียนท์อื่นๆ กลายเป็นทาสของมนุษย์ น่าเสียดายที่เราไม่สามารถช่วยแวเรียนท์รุ่นเยาว์เหล่านี้ได้ ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสได้รับอิสรภาพ แต่แซนเดอร์และ APE เอามันไปจากพวกเขา“

 

“คุณทําได้ดีที่ฆ่าเขา ฉันภูมิใจในตัวคุณ คุณเป็นคนใหม่ในครอบครัวของเรา แต่คุณยังฆ่าหนึ่งในผู้นํา APF อีกไม่นาน คุณจะกลายเป็นราชาแห่งวอร์ล็อค”

 

ขณะที่เคนเริ่มพูด สมาชิกในทีมก็พูดจาไม่ดีเกี่ยวกับ APE ขณะที่ยกย่องลูซิเฟอร์

 

ผิดที่จะบอกว่าลูซิเฟอร์ไม่ได้มีผลแม้แต่น้อย เขาเชื่อคําพูดของคนตรงหน้าจริงๆ และจากสิ่งที่เขาเห็น เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะสงสัยในคําพูดของพวกเขา

 

เวก้ามองดูลูซิเฟอร์เป็นครั้งคราว เห็นดวงตาสีม่วงของเขา ที่กลายเป็นสีน้ําเงินอีกครั้ง ตอนนี้สีม่วงดูบอบบางมากจนต้องมองจากระยะใกล้จึงจะมองเห็นได้

 

เขามีคําถามมากมายในใจ แต่เขารู้ว่าเขาจะไม่ได้คําตอบจากอากาศ

 

เขาจําเป็นต้องตรวจสอบตัวเอง ลูซิเฟอร์เกิดที่ไหน เกิดอะไรขึ้นในวันนั้น? และมีสิ่งแปลกประหลาดมากมายเกิดขึ้นรอบตัวเขาในช่วง 5 ปีแรกของชีวิต คําถามเหล่านี้ทั้งหมดสําคัญที่ต้องรู้ว่าถ้าตาสีฟ้าและตาสีม่วงหนึ่งดวงนี้มีความหมายพิเศษหรือเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่น่าสยดสยอง

 

เพราะหากมันเป็นเรื่องจริงและไม่ใช่เรื่องบังเอิญ พวกเขามีเพียง 2 ทางเลือก หนึ่งคือการฆ่าลูซิเฟอร์ตอนนี้ และอีกทางเลือกหนึ่งคือการทําให้เขาซาบซึ้งกับพวกเขามากจนเขาเริ่มคิดถึงพวกเขาเหมือนครอบครัวของเขาจริงๆ เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลา แวเรียนท์เกิดใหม่จะไม่สูญพันธุ์

 

ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดว่าลูซิเฟอร์เป็นเด็กธรรมดา แต่เขาปลุกพลังขึ้นมาได้เพราะพ่อแม่ของเขา เขามีความผิดปกติอยู่แล้วเพราะตื่นขึ้นมาด้วยพลังมากมาย แต่นั่นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้ทําให้เกิดความสงสัยใดๆบนใบหน้าของเวก้าก่อนหน้านี้

 

เขาไม่ได้ค้นคว้าเกี่ยวกับอดีตของลูซิเฟอร์นอกเวลาที่เขาอยู่ในโรงงาน ตอนนี้เขารู้ว่ามันเป็นสิ่งจําเป็นก่อนที่จะสายเกินไป

 

ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังต้องระวังให้มากขึ้นด้วย เนื่องจากตอนนี้ APF กําลังจะตามล่าลูซิเฟอร์เหมือนหมาล่าเนื้อ ไม่ใช่เพื่อจับเขา แต่เพื่อฆ่าเขา

 

และถ้าไม่ใช่เพราะลูซิเฟอร์ฆ่าแซนเดอร์หรือเพราะเขาทํางานให้กับแวเรียนท์เกิดใหม่ แต่เพราะการเปิดเผยเกี่ยวกับดวงตานี้

 

ดวงตาที่เห็นครั้งสุดท้ายในมหาสงครามเมื่อผู้อาศัยในดันเจี้ยนปรากฏตัวขึ้นเป็นครั้งแรก ตํานานดวงตาที่คนส่วนใหญ่มองว่าเป็นตํานาน แต่มีเพียงคนที่เห็นจริงในวันนั้นเท่านั้นที่รู้ความจริง

 

ในมหาสงคราม พวกเขาหลายคนเข้าร่วม แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้เห็นดวงตาเหล่านี้

สําหรับผู้ที่ได้เห็นมัน มีเพียง 6 คนในตอนนั้น วารันท์, เซล, แคลรีส, เซส, ไรอา และอีกหนึ่งแวเรียนท์

 

ในขณะที่ วารันท์, เซล, แคลรีส, เซส, ไรอา ไม่ได้พูดถึงสิ่งนี้ คนที่ 6 นั้นได้พูดออกมา และนั่นคือวิธีที่เรื่องราวนี้แพร่กระจายในหมู่คนบางกลุ่ม

 

ตอนที่ 153: สิ้นสุดแซนเดอร์

 

“ฉันคิดว่าเวก้าขโมยประสาทสัมผัสการมองเห็นของแซนเดอร์ไปชั่วขณะ แต่แซนเดอร์นั้นแข็งแกร่ง ฉันคิดว่าเอฟเฟกต์ไม่ควรคงอยู่นานกว่า 1 นาที” เขากล่าวเสริม

 

ขณะที่แซนเดอร์ตาบอด เขามองไม่เห็นลูซิเฟอร์ แต่เขายังคงจําวิถีการเคลื่อนไหวของลูซิเฟอร์ได้เมื่อเขาเข้าใกล้เขา

 

เขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์ตาบอดด้วยความโกรธจนจะเคลื่อนที่ตรงมา ในความคิดของเขา เขาทําการคํานวณเล็กน้อยและยื่นมือไปในทิศทางที่เขาตัดสินใจ

 

น่าแปลกที่เป้าหมายของเขาถูกต้องเพราะลูซิเฟอร์อยู่ที่นั่นจริงๆ มือของเขาแตะหน้าอกของลูซิเฟอร์ แต่ลูซิเฟอร์ก็จับมือของเขาเหมือนกันด้วยมือที่แข็งกระด้าง

 

ตอนนี้ไม่มีทางหลบเลี่ยงการโจมตีใดๆได้ แต่ลูซิเฟอร์ไม่ได้ยิงสายฟ้า เขาใช้การสลายตัวของเขาแทน เขาเริ่มรู้สึกเหนื่อย เขาต้องการใช้การสลายตัวของเขาเพื่อให้มีความแข็งแรงและทําให้เขาสามารถอยู่ได้นานขึ้น

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เริ่มใช้การสลายตัวของเขา แซนเดอร์ก็ใช้กําลังทั้งหมดของเขาเพื่อสร้างไฟที่พุ่งตรงผ่านหน้าอกของลูซิเฟอร์เผาเด็กน้อยให้เร็วขึ้น แม้แต่กระดูกของลูซิเฟอร์ก็เริ่มถูกทําลาย

 

ในเวลาเดียวกัน การสลายตัวของลูซิเฟอร์ก็เปิดใช้งาน ซึ่งส่งความเจ็บปวดอย่างมากในแซนเดอร์ ซึ่งทําให้เขาคร่ําครวญด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เขารู้สึกเหมือนร่างกายของเขากําลังถูกทําลาย เขาพยายามถอยกลับและปล่อยมือออก แต่กํามือแน่นของลูซิเฟอร์ทําให้เขาอยู่กับที่

 

ร่างกายของแซนเดอร์ค่อยๆแก่ลง ในขณะที่พลังงานชีวิตของเขาเข้าสู่ลูซิเฟอร์

 

การดูดซับพลังงานชีวิตของเวทที่แข็งแกร่งอย่างแซนเดอร์ทําให้เกิดปาฏิหาริย์ ในขณะที่ลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะสามารถรับมือกับความเสียหายได้ในตอนนี้

 

เขาสัมผัสได้ถึงการฮีลของเขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

 

ในที่สุด ความเสียหายของเปลวไฟก็ถูกรักษาโดยการรักษาของเขา ในขณะที่กระดูกของเขาฟื้นตัวด้วยความเร็วเท่ากันกับที่ถูกทําลาย

 

น่าเสียดายที่แซนเดอร์ไม่ได้รับการเยียวยา และดูเหมือนว่าเขาจะดิ้นรน ในขณะที่การหายใจของเขาช้าลง

 

เมื่อร่างกายของเขาอ่อนแอ เปลวเพลิงของเขาก็อ่อนลงเช่นกัน เนื่องจากเขาไม่สามารถใช้ศักยภาพได้เต็มที่ ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอยแล้ว

 

เมื่อเปลวเพลิงอ่อนลง การรักษาของลูซิเฟอร์ เริ่มดูดีกว่าเนื่องจากความเสียหายน้อยกว่าการรักษาในตอนนี้ ไม่เพียงแต่กระดูกของเขาฟื้นตัว แต่กล้ามเนื้อของเขาก็เริ่มหายดีแล้วในตอนนี้ เนื่องจากเขาดูเหมือนโครงกระดูกน้อยลง

 

ไอย์พบว่าแซนเดอร์ตกอยู่ในอันตรายขณะที่เขาถูกจับโดยลูซิเฟอร์ แต่สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อแซนเดอร์อ่อน

 

แอลงเท่านั้น

 

เธอเห็นว่าแซนเดอร์ถูกลูซิเฟอร์ครอบงํา เธอประหลาดใจกับทักษะของลูซิเฟอร์ในการเอาชนะแซนเดอร์ แต่เธอก็รู้ด้วยว่าเธอจําเป็นต้องเข้าไปยุ่ง ถ้าเธอไม่เข้าไปยุ่ง แซนเดอร์จะต้องตาย!

 

เธอกําหมัดแน่นอีกครั้ง ขณะที่เธอชกพื้น พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนอีกครั้ง

 

ภายในไม่กี่วินาทีจากการชกของเธอ ดาบน้ําแข็งยักษ์ 2-3 เล่มก็ออกมาจากใต้ร่างของลูซิเฟอร์ ซึ่งอยู่เหนือพื้นดินเพียงไม่กี่เมตร พวกเขามาจากจุดต่างๆ ทําให้มั่นใจว่าลูซิเฟอร์ไม่สามารถหลบไปทางแซนเดอร์ได้

 

ทางเดียวที่เหลืออยู่สําหรับเขาคือการหลบ ในขณะที่ปล่อยแซนเดอร์ถ้าเขาต้องการเอาชีวิตรอด

 

โชคดีที่ลูซิเฟอร์เห็นดาบและตระหนักว่าหากเขาถูกโจมตี เขาอาจถูกผ่าครึ่ง เขาจําเป็นต้องหลบ

 

เขาใช้การควบคุมลมเพื่อลอยกลับโดยไม่ต้องคิดถึง 2 ครั้ง ในขณะที่เขาหลบดาบที่เกือบจะถึงตัวเขา เขายังต้องปลดปล่อยแซนเดอร์ มิฉะนั้นมือทั้งสองของเขาจะถูกเฉือน

 

ดาบยักษ์ยังคงโผล่ออกมาจากพื้นดิน น่าเสียดายที่แม้หลังจากที่เขาหลบได้แล้ว ข้อเท้าของขาขวาก็ถูกตัด

 

ลูซิเฟอร์ไม่ทิ้งโอกาสนี้ไว้เพราะเขารู้ว่าสิ่งนี้ทําเพื่อช่วยแซนเดอร์ เขาจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นหลังจากทั้งหมดนี้

 

เขายกมือขวาขึ้นแม้ว่าเขาจะบินเกือบจะในแนวนอนโดยให้ท้องหันขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

เขาใช้สมองของเขา ในขณะที่เขามองไปทางดาบ และ หลังจากทํานาย เขาก็ยิงสายฟ้า ซึ่งมีความแข็งแกร่งสูงสุดที่เขาสามารถคิดในใจได้

 

ท้องฟ้าคํารามอย่างบ้าคลั่งอีกครั้งเมื่อสายฟ้าสีดําสนิทไปถึงดาบน้ําแข็ง มันทําลายน้ําแข็งที่แข็งแกร่งที่สุด ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนที่สายฟ้าจะเดินทางต่อไป

 

“ไม่!”

 

ไอย์ตะโกนเมื่อเห็นดาบน้ําแข็งแตก แต่ไม่ใช่เพราะลูซิเฟอร์หักดาบน้ําแข็งของเธอ เธอตะโกนเพราะเธอมองเห็นวิถีของสายฟ้า มันบินตรงไปทางแซนเดอร์

 

แซนเดอร์ยังมองไม่เห็น แต่ตอนนี้เขาว่างเปล่าแล้ว เขากําลังจะใช้เปลวเพลิงของเขาเพื่อโบยบิน แม้ว่าเปลวเพลิงและเขาจะอ่อนแอกว่ามาก แต่เขารู้ว่าเขาต้องทํา มิฉะนั้นเขาจะตกลงบนพื้น

 

โชคไม่ดี ก่อนที่เขาจะทันได้ทําอะไร เสียงของคริสตัลที่แตกละเอียดก็เข้ามาในหูของเขาในไม่ช้า ก่อนที่สายฟ้าจะทะลุผ่านหน้าอกของเขา

 

ลูซิเฟอร์ไม่มีเท้าขวา เพราะจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เท้าขวาของเขาได้ถูกตัดออกจากข้อเท้า ขณะที่เขาตกลงบนพื้น

 

เวก้าปรากฏตัวขึ้นใกล้กับลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาพูด “เราควรไปได้แล้ว คุณเองก็เจ็บเหมือนกัน นี่ไม่ใช่เวลาที่จะสู้ถึงตาย”

 

ลูซิเฟอร์มองไปที่เวก้าก่อนจะพยักหน้า

 

“เฮนริก! สร้างอุโมงค์!” เคนสั่ง

 

เฮนริกฟังเขาและสร้างอุโมงค์ภายในที่ลูซิเฟอร์เข้าไป เนื่องจากลูซิเฟอร์ไม่มีเท้าขวา เขาจึงใช้ลมเพื่อเคลื่อนที่โดยไม่ล้ม

 

การต่อสู้ได้หยุดลงกะทันหันเมื่อ ไอย์เริ่มวิ่งไปทางแซนเดอร์ซึ่งกําลังนอนไม่ขยับ

 

เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของเขา ในขณะที่ดวงตาสีดําของเขากลับมาเป็นปกติในที่สุด ผลของพลังของเวก้าสิ้นสุดลงแล้ว ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปเล็กน้อย

 

สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ก็เริ่มออกเดินทางในทิศทางตรงกันข้าม แม้แต่ดิออนก็ไม่ได้โจมตีไอย์ ซึ่งเขาหันหลังกลับมาและเริ่มจากไป

 

แม้ว่าเขาจะได้เปรียบ แต่เขาก็รู้ว่าต้องเหลือความได้เปรียบสั้นๆ เพื่อให้มีความได้เปรียบที่ใหญ่กว่าในอนาคต เขาต้องยึดติดกับแผน

 

สมาชิก APF ก็หยุดการต่อสู้เช่นกัน ดูเหมือนว่าการหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการจะเกิดขึ้นโดยที่แซนเดอร์ได้รับบาดเจ็บและเวก้าและลูซิเฟอร์จากไป

 

ไอย์ยังแยกตัวเองออกจากการต่อสู้ด้วยความกังวลเรื่องความปลอดภัยของแซนเดอร์

 

ตอนที่ 152: ผู้ขโมยความรู้สึก

 

เวก้ามองไปที่เคนและพูดเบา ๆ “เคน เอาหนังสือของฉัน มาให้ฉันสิ”

 

เคนตะลึง เมื่อได้ยินเสียงของเวก้าที่อยู่ข้างหลังเขา แต่เขาตอบกลับและหยิบหนังสือออกจากมือ

 

ในที่สุดเวก้าก็มีอิสระที่จะเข้าไปยุ่ง

 

เด็กๆ ถูกแซนเดอร์ฆ่าตาย และเขายังไม่หยุด ในขณะที่เขาใช้ความสามารถของเขาอีกครั้งเพื่อสร้างพายุไฟที่พุ่งออกมาจากพื้นดินและกระจายไปทุกทิศทุกทาง ทําให้ลูซิเฟอร์หลบเลี่ยงไม่ได้

 

ในที่สุด ลูซิเฟอร์ก็ตัดสินใจหลบเลี่ยงและเลือกที่จะเชื่อการรักษาของเขา ในขณะที่เขาบินไปทางแซนเดอร์พร้อมกับยิงสายฟ้าดาร์คสายฟ้ามาทางเขา

 

สายฟ้าเคลื่อนตัวเร็วกว่าพายุเพลิงและไปถึงแซนเดอร์

 

แซนเดอร์ไม่หวั่นไหวกับการโจมตีที่เข้ามา แต่เขากลับบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ทําให้ทุกคนตะลึง

 

“ห้ะนั่นอะไรนน่ะ เขาสามารถใช้พลังของเขาเพื่อบินได้ด้วยเหรอ ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย” เฮนริกกล่าวด้วยความประหลาดใจ

 

เคนดูจะมึนงงเล็กน้อยแต่ก็ตอบกลับเฮนริก ในขณะที่เขาพูดว่า “มันน่าประหลาดใจ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เขาใช้เปลวเพลิงเพื่อช่วยให้เขาบินได้จริงๆแล้วฉลาดมาก แต่ฉันต้องยกย่องการควบคุมและประสิทธิภาพของเขาด้วย เรื่องนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นง่ายๆ”

 

แซนเดอร์หลบสายฟ้า แต่ลูซิเฟอร์แตกต่างออกไป พายุไฟไม่ได้หลบหลีก ซึ่งกลืนลูซิเฟอร์ไปทั้งตัว

 

แม้จะถูกพายุไฟที่แผดเผากลืนกิน ลูซิเฟอร์ก็ไม่หยุดบิน แม้ว่าผิวหนังของเขาจะไหม้เกรียมก็ตาม

 

การรักษาของเขาก็เริ่มมีผล ทํางานอย่างดุเดือดเพื่อให้ทันกับการเผาไหม้ น่าเสียดายที่ดูเหมือนว่ามันจะยากต่อการตามให้ทัน เนื่องจากการทําลายผิวของลูซิเฟอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามเวลา

 

เสื้อกันไฟของลูซิเฟอร์ยังไม่ทันกับเปลวไฟ ขณะที่มันมอดไหม้ในทางกลับกัน กางเกงของเขายังคงไม่บุบสลาย แต่ไม่ใช่เพราะว่าพวกมันต้านทานไฟ

 

เปลวไฟนั้นแรงเกินไปสําหรับแม้แต่อนุภาคคาร์ดิแกน นั่นเป็นสาเหตุที่เปลวไฟทั้งหมดไหลผ่านไปยังลูซิเฟอร์ด้วยความเข้มที่ลดลงเล็กน้อย

 

เนื่องจากกางเกงของลูซิเฟอร์ลดความเสียหายของเปลวไฟลงอย่างต่อเนื่อง ความเสียหายที่ขาของเขาจึงน้อยกว่าครี่งบนของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทําให้ส่วนล่างของเขามีเวลาได้ง่ายขึ้น ในขณะที่การรักษาของเขายังคงรักษาอยู่

 

ผิวหนังของลูซิเฟอร์ดูไหม้ไปหมดแล้ว และในบางจุด กระดูกของเขายังมองเห็นได้

 

โดยไม่สนใจความเสียหายทั้งหมดที่มีต่อเขา ลูซิเฟอร์มีแผน เขาต้องการเข้าใกล้แซนเดอร์เพราะเขาได้เปรียบในเรื่องความเร็ว ตราบใดที่เขาตามทัน เขาจะต้องทําให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนี้ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่ว่าในกรณีใด เขาได้ถอดถุงมือที่ปลอดภัยในกระเป๋าของเขาแล้ว

 

ในไม่ช้าลูซิเฟอร์ก็ออกมาจากพายุเพลิงด้วยความเร็วของเขา แต่มีพายุไฟอีกลูกปรากฏขึ้นระหว่างเขากับแซนเดอร์ ซึ่งเขาก็เข้ามาโดยไม่คิดอีกเลย

 

เขาต้องการใช้เส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อไปยังแซนเดอร์ เพราะมันไม่อนุญาตให้แซนเดอร์รักษาระยะห่างระหว่างคนทั้งสอง

 

ลูซิเฟอร์ก็ผ่านพายุไฟลูกที่ 2 เช่นกัน เมื่อถึงจุดนั้นเขาดูเหมือนไม่มีอะไรมากไปกว่าโครงกระดูกที่มีมวลเพียงเล็กน้อยบนร่างกายของเขา

 

เนื้อเยื่อของร่างกายของเขาสามารถบิดและหมุนได้เมื่อกล้ามเนื้อของเขาหายดี ความเร็วในการรักษาของเขาเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย หลังจากที่เขาเข้าไปในพายุเพลิง ซึ่งพิสูจน์ทฤษฎีของเขาต่อไป

 

ยิ่งเขาได้รับความเสียหายมากเท่าใด การฮีลของเขาก็ยิ่งทํางานหนักขึ้นเท่านั้น ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในการรักษาของเขา

 

มันก็เหมือนกับที่แคนเคยพูดไว้ แวเรียนที่จําเป็นต้องเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังของตน ไม่ได้หมายความว่าความสามารถของพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นจากแกนกลางของพวกเขา แต่นี่หมายความว่าพวกเขาสามารถดึงศักยภาพทั้งหมดออกมาเป็นส่วนๆได้มากขึ้น

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่ากันว่ายิ่งแวเรียนท์ใช้พลังของพวกมันมากเท่าไร ประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งของพวกมันก็เพิ่มขึ้นตามศักยภาพและเกรดของพวกมัน

 

ไม่เหมือนกับพลังโจมตีหรือพลังป้องกัน การรักษาเป็นทักษะติดตัวที่ไม่สามารถใช้ได้

 

มันทํางานด้วยตัวของมันเองทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพและทําให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้นคือต้องผ่านความเสียหายอย่างหนัก นั่นเป็นวิธีเดียวที่เขาเชื่อว่าเขาสามารถรักษาให้หายขาดได้

 

และแผนงานนั้นได้ผล ในขณะที่การรักษาของเขาดีขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้มันกําลังรักษาเขาเร็วขึ้น

 

แต่เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้เพราะเขากําลังยุ่งอยู่กับการพยายามฆ่าคนที่อยากจะฆ่าเขา

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ไม่หยุด แม้หลังจากการโจมตีทั้งหมดนี้ แซนเดอร์ยังคงเดินถอยหลัง ในขณะที่เขานําพายุไฟมาเพิ่ม แต่เขารู้อยู่แล้วว่าเขาใช้เปลวเพลิงที่แรงที่สุดของเขา

 

ถ้าลูซิเฟอร์ยังไม่ตายแม้หลังจากนั้น แสดงว่ามีบางอย่างผิดปกติจริงๆ การรักษาของเขาเป็นอุปสรรคที่นี้

 

แซนเดอร์รู้อยู่แล้วว่าการรักษาของลูซิเฟอร์จะสร้างปัญหาขึ้น แต่ไฟของเขาแรงเกินไป เขาไม่เชื่อว่าการรักษาใดๆ จะสามารถรักษาและหยุดเปลวไฟของเขาจากการทําให้ลูซิเฟอร์กลายเป็นเถ้าถ่าน

 

เห็นได้ชัดว่าเปลวไฟของเขาทําลายลูซิเฟอร์และด้วยความเร็วที่เร็วกว่าการรักษาของเขา แต่ก็ยังใช้เวลานานกว่าที่ควร

 

ถ้ามันยังเป็นอย่างนั้นต่อไป ในไม่ช้าลูซิเฟอร์ก็จะกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่อีกไม่นานก็ยังอยู่ห่างออกไปไม่กี่นาที เขารู้ว่าเขาต้องอยู่ห่างๆ และโจมตีต่อในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

 

โชคร้ายที่การโจมตีของลูซิเฟอร์ทําให้เขาเคลื่อนไหวได้ยาก เขาแทบจะหลบสายฟ้าที่ยิงทีละนัด

 

ระยะห่างระหว่างลูซิเฟอร์และแซนเดอร์ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในที่สุดลูซิเฟอร์ก็อยู่ห่างจากแซนเดอร์ไม่เกิน 2 เมตร

 

น่าเสียดาย ในเวลานี้มีบางอย่างเกิดขึ้น แซนเดอร์เพิ่งจะหลบหลีกไปพร้อมกับนําพายุไฟอีกลูกหนึ่งมา เมื่อเขาตระหนักว่าทุกอย่างกลายเป็นสีดํา

 

เขามองไม่เห็นอะไรเลย! ราวกับว่าเขาตาบอดในทันใด ขณะที่ดวงตาของเขามืดไป

 

“ทําไมดวงตาของเขาถึงดําคล้ํา เขาดูเหมือนแกะหลงทางที่สับสน” เฮนริกถามเคน ซึ่งตอนนี้มีหนังสือ 2 เล่มและไดอารี่อยู่ในมือ

 

“มันเป็นงานของเวก้า” เคนตอบ “ระดับ A ของเขา (นักขโมยความรู้สึก) สามารถขโมยความรู้สึกใดๆของบุคคลที่เขาเลือกได้ แม้ว่าผลกระทบจะเป็นเพียงชั่วคราว แต่ก็น่าจะเพียงพอแล้วสําหรับตอนนี้”

 

ตอนที่ 151: ความลับของโรงงาน

 

สําหรับเด็กๆ พวกเขาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ดังนั้นจึงถูกไฟฟาดเข้าใส่

 

ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องชั่วขณะเท่านั้น ซึ่งไม่นานพอร่างกายของพวกเขาถูกแผดเผาเป็นเถ้าถ่าน

 

ลูซิเฟอร์เหลือบมองกลับไปที่เด็กๆ ที่ไม่มีอะไรมากไปกว่าเถ้าถ่านในตอนนี้ เด็กๆที่เป็นเหมือนเขาและได้รับความเดือดร้อนจากความโหดร้ายในสถานที่นี้

 

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือพวกเขาสามารถกลายเป็นแวเรียนท์ได้ ซึ่งแตกต่างจากลูซิเฟอร์ที่ล้มเหลวทุกครั้งที่เขาอยู่ในสถานที่แห่งนี้

 

เมื่อเห็นเด็ก ๆ ตายแทน แซนเดอร์ก็ตกตะลึง แต่ [การควบคุมอารมณ์] ของเขาเริ่มเข้ามา ในขณะที่เขาเข้าใจว่านี่ไม่ใช่เวลามาคิด เขาจําเป็นต้องฆ่าลูซิเฟอร์ มิฉะนั้น ปัญหาที่ใหญ่กว่าอาจเกิดขึ้น

 

“แกนี่ช่างเป็นคนดี” ลูซิเฟอร์พูดอย่างประชดประชัน ขณะมองกลับมาที่แซนเดอร์

 

แซนเดอร์ไม่ตอบ ในขณะที่เขาโจมตีอีกครั้ง แต่คราวนี้การโจมตีของเขาไม่ธรรมดา

 

เขาใช้หมัดเปลวเพลิงชกพื้น เหมือนกับที่ไอย์ทําก่อนหน้านี้เพื่อดึงกําแพงน้ําแข็งออกมา

 

พายุไฟขนาดมหึมาจํานวนมากออกมาจากพื้นดินและบินไปทุกทิศทุกทางในท้องฟ้า ทําให้แน่ใจว่าลูซิเฟอร์ไม่มีที่หลบภัยในตอนนี้

 

ด้านนอกอาคารมีเสียงดังมาก เมื่อการต่อสู้ระหว่างคน 2 คนเริ่มต้นขึ้น ลูซิเฟอร์และหัวหน้าหน่วยเดลต้า

 

ภายในอาคารมีเสียงดังน้อยกว่ามาก มีเพียงเสียงของการพลิกหน้ากระดาษเท่านั้นที่ได้ยิน ขณะที่ชายคนหนึ่งพลิกดูไดอารี่ที่ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักลับในห้องทํางานของหมอราว

 

สําหรับผู้ชายที่พลิกดูหน้ากระดาษ เขาก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเวก้า ผู้นําคนที่ 2 ของแวเรียนท์เกิดใหม่

 

“อย่างที่ฉันคาดไว้ มีบางสิ่งที่เขาไม่ได้เก็บไว้ในรูปแบบดิจิทัล เขาอาจไม่ต้องการให้สิ่งนี้ถูกเปิดเผยโดยคนที่แทรกซึมได้”

 

ในการมาที่สถานที่นี้ เขามีจุดประสงค์ลับนอกเหนือจาก การช่วยลูซิเฟอร์

 

เป็นเพราะเขาอยากรู้เกี่ยวกับหมอราว เมื่อเขาเจาะเข้าไปในโรงงาน เขาได้รับภาพทั้งหมด และเขาเห็นการทดลองทั้งหมดที่หมอราวทํากับแวเรียนท์ แต่บางการทดลองก็ดูแปลก

 

สําหรับเหตุผลที่เขาทําการทดลองเหล่านั้นและจุดประสงค์ใดที่จัดขึ้นนั้น ไม่มีบันทึกในฐานข้อมูล โชคดีที่ในไม่กี่ภาพนั้น เขาได้เห็นหมอราวเขียนอะไรบางอย่างในไดอารี่เล่มหนา

 

ขณะช่วยลูซิเฟอร์ เวก้าก็อยากเห็นสิ่งที่อยู่ในไดอารี่เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นในโรงงาน

 

มีอีกอย่างที่แปลกประหลาดที่เขาเห็น ดร.ราวมักจะเดินเข้าไปในทางเดินที่ไม่มีกล้อง และตามแผนที่ของสถานที่นั้น สถานที่นั้นเป็นทางตัน

 

เขาพบว่ามันแปลก ถ้านั่นเป็นทางตัน ทําไมหมอเราถึงใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงที่นั่นเป็นครั้งคราว?

 

บางสิ่งบางอย่างไม่ได้เพิ่มขึ้น เขาเชื่อว่ามีสิ่งแปลกปลอมเกิดขึ้นในสถานที่นี้ ซึ่งเป็นมากกว่าการค้นคว้าเกี่ยวกับแวเรียนท์

 

เขาหยิบสมุดบันทึกและเริ่มเดินไปที่ทางเดินที่มีปัญหา

 

ขณะที่เขาเดินผ่านทางเดิน เขาก็จบลงที่ห้องแล็บที่ลูซิเฟอร์ฆ่าหมอ 2 คน ประตูยังคงเปิดอยู่ ทําให้มองเห็นภายในได้เต็มตา

 

เวก้ายังเห็นร่างทั้งสองนอนอยู่ในห้อง ขณะที่เขาเดินผ่าน

 

“ฉันเดาว่าเขาคงสนุกกับเวลาที่นี่มาก” เขาคิดขณะยิ้ม

 

หลังจากเลี้ยวไป 2-3 ทางข้างหน้า เขาก็ไปถึงทางเดินสุดท้ายก็พบกําแพงที่นั่น

 

เขาวางมือบนคาง เขาครุ่นคิด ขณะเดินเข้าไปใกล้กําแพง และเริ่มสังเกตมัน

 

“น่าสนใจ นั่นเป็นความลับ ระบบรักษาความปลอดภัย กวางไว้ที่นี่ด้วย 2 ช่วงตึก คนหนึ่งต้องการลายนิ้วมือของเขา และอีกคนหนึ่งต้องการการสแกนม่านตาของเขา รหัสผ่านจําเป็นด้วย”

 

“โชคไม่ดีที่ฉันเห็นแค่ระบบที่นี่แต่ไม่สามารถแฮกมันได้ มีมาตรการที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ในการทําแบบนี้ ฉันก็ไม่เห็นสิ่งที่อยู่อีกด้านของกําแพงเช่นกัน” เขากล่าวขณะที่เขาขมวดคิ้ว

 

“สําหรับเขาที่จะใช้ความระมัดระวังมากมาย สิ่งล้ําค่าจะต้องอยู่อีกด้านของห้อง บางทีไดอารี่อาจจะให้ข้อมูลเชิงลึกได้บ้าง ถึงเวลานั้นฉันควรออกไป”

 

“ฉันจะกลับมา หลังจากเตรียมการ ยังไงก็ตาม โรงงานจะปิด หลังจากวันนี้ และคนที่รู้เรื่องนี้ก็ตายไปแล้ว” เขากล่าวขณะหันหลังกลับจากไป

 

“นี่มันน่ารําคาญจริงๆ ลายนิ้วมือปกติน่าจะไม่เป็นไรเพ ราะมือของเขาไม่บุบสลาย ฉันสามารถใช้ร่างกายของเขาได้ แต่รูม่านตามันไม่ปกติ มันต้องการให้เขามีชีวิตอยู่จากวิธีที่ เขาตั้งค่าความปลอดภัย จําเป็นต้องมีการเตรียมการบางอ ย่าง ฉันไม่รีบ ไม่อย่างนั้นเรื่องทั้งหมดจะระเบิดออกมา”

 

“ฉันยังต้องการรหัสผ่านของเขา มันจะเป็นอะไรไหม ถ้าฉันผิด อะไรที่อยู่อีกด้านก็จะระเบิด”

 

เวก้าเริ่มเดินไปทางออกพร้อมกับนมอยู่ในมือ นอกจากไดอารี่แล้ว ยังมีหนังสืออีก 2 เล่มอยู่ในมือของเขา

 

คราวนี้หนังสือในมือของเขามีสีเทาและสีเขียว ที่น่าแปลกใจคือ เขาแทบจะไม่ได้อ่านหนังสือหลายเล่มด้วยซ้ํา แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เขาสามารถเห็นหนังสือ 2 เล่มอยู่ในมือได้

 

เมื่อใดก็ตามที่เขาว่าง เขาสามารถเห็นอ่านหนังสือ 2 เล่มพร้อมกันได้ น่าเสียดายที่หนังสือว่างเปล่าจากปก ไม่มีชื่อบนหนังสือ มีแต่หน้าปก จึงไม่มีใครรู้ว่าหนังสือเหล่านี้คืออะไร

 

เมื่อเวก้าจากไป ที่อีกด้านหนึ่งของทางเดินลับ ภาชนะคริสตัลลับยังคงทํางานอยู่ คนที่อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ยังคงลอยอยู่โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

 

ในที่สุด เวก้าก็เข้าใกล้ทางออกของสถานที่ที่มีการต่อสู้เกิดขึ้น เมื่อเขาจากไป เขาเห็นขี้เถ้าบนพื้นและมีรอยไหม้เล็กน้อย

 

ส่วนเคนและคนอื่นๆยังคงยืนอยู่ด้านข้าง

 

เขามองไปข้างหน้าเพียงเพื่อจะประหลาดใจ

 

ตอนที่ 150: ทางลัดสู่ความพ่ายแพ้

 

ไอย์, ดิออน และแม้แต่ อิโซน่า ก็แปลกใจที่รู้เกี่ยวกับ สีของตาของลูซิเฟอร์พวกเขาไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้

 

พวกเขาอยู่กับลูซิเฟอร์นานมาก แต่ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เมื่อพวกเขาพูดด้วยตาของพวกเขาเองพวกเขาพบว่ามันยากที่จะเชื่อ

 

“หลังมหาสงคราม นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นดวงตาเหล่านั้นน่าสนใจ” ดิออนพึมพํา ขณะลืมการต่อสู้ที่เขาต้องเผชิญ สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเขาน่าสนใจกว่า

 

ในที่สุดดวงตาของลูซิเฟอร์ก็กลับคืนสู่สภาพที่แท้จริง ดูเหมือนว่าเขาจะซ่อนมันไว้ นั่นคือสิ่งที่เขาคิดอย่างน้อย

 

คนที่รู้เกี่ยวกับมหาสงครามครั้งสุดท้ายและดวงตาคู่นี้ต่างตกตะลึงส่วนพวกที่ไม่รู้ก็ยืนงงสงสัยว่าทําไมทุกคนถึงตกตะลึง

 

ดวงตาคู่นี้มีความพิเศษอย่างไร? มีคนมากมายที่มีดวงตาสีต่างกันดวงตาของลูซิเฟอร์มีความพิเศษอย่างไร?

 

ในขณะที่สนามรบใกล้กับโรงงานกําลังเผชิญกับการเปิดเผยที่น่าตกใจ เมืองเอลันต้า ก็ถูกทําลายลงเช่นกันเนื่องจากแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศนี้กําลังต่อสู้เพื่อให้ได้พื้นที่ที่สูงขึ้น

 

วารันท์มาถึงอาคารที่ไรอายืน เขามองลงไปที่วารันท์

 

ทั้งสองมีจุดประสงค์ที่ตรงข้ามกัน คนหนึ่งเชื่อในความสมดุล อีกคนเชื่อในความเหนือกว่า คนหนึ่งเชื่อในการปกป้องอีกคนเชื่อในการทําลายล้าง

 

ยิ่งกว่านั้น พลังของทั้งคู่เป็นสิ่งที่สามารถสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ในโลกนี้ได้ นั่นคือเหตุผลที่พวกเขาเป็น 2 ใน 4 ราชาของวอร์ล็อค

 

วารันท์มีความสามารถค่อนข้างน้อย หนึ่งในนั้นคือความสามารถในการลบพลังของแวเรียนท์อื่นๆ พลังนี้เองที่ทําให้แวเรียนท์อื่นๆกลัวเขา

 

ในทางกลับกัน ไรอายังมีความสามารถระดับ S อยู่ 2-3 อย่างซึ่งหนึ่งในนั้นคือความสามารถของการจัดการความทรงจํา นอกจากนี้ยังเป็นความสามารถที่น่ากลัวสําหรับ แวเรียนท์เนื่องจากพวกเขามีความเสี่ยงที่จะตก เป็นทาสของไรอา เมื่อใดก็ตามที่เขาใช้ความสามารถของเขากับพวกเขาได้สําเร็จ

 

เช่นเดียวกับราชาวอร์ล็อคทั้งสอง อีก 2 คนมีความสามารถพิเศษบางอย่างเช่นกัน แต่เมื่อพูดไป ทุกความสามารถมาพร้อมกับข้อจํากัดในโลกนี้

 

แม้ว่าจะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับจุดอ่อนเหล่านี้นอกจากตัวแวเรียนท์เองแต่ก็มีบางส่วนที่เดาได้ง่ายหลายคนพยายามคาดเดาจุดอ่อนของผู้อื่นเมื่อต่อสู้เพื่อชัยชนะ

 

นั่นคือเหตุผลที่การต่อสู้ครั้งก่อนของวารันท์และไรอาไม่ได้ส่งผลให้ใครได้รับชัยชนะแม้ว่าทั้งคู่จะมีความแข็งแกร่งสูง

 

ยิ่งกว่านั้นเซล แอซเรลเคยเอาชนะวารันท์ทั้งที่ความสามารถของวารันท์ที่สามารถลบพลังของแวเรียนท์ได้ นั่นคื อการต่อสู้เดียวที่วารันท์แพ้

 

ไม่มีใครรู้ว่าเซลประสบความสําเร็จได้อย่างไรแต่สิ่งนี้ทําให้เขาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางเนื่องจากเซลไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ 4 ราชาแห่งวอร์ล็อค เมื่อเขาทําเช่นนี้

 

ความนิยมและการเพิ่มขึ้นของเขาเริ่มต้นหลังจากชัยชนะครั้งนี้และในไม่ช้าเขาก็กลายเป็นชื่อในครัวเรือนและแข็งแกร่งที่สุดใน 4 ราชาแห่งวอร์ล็อคเซลนั่นเองแข็งแกร่ง และทรงพลังอยู่แล้ว แต่นี่คือจุดเปลี่ยนของเขา

 

วารันท์มองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่ด้านบนสุดของอาคารจ้องไปที่ไรอาก่อนที่เขาจะกระโดด

 

การกระโดดของเขาทําให้ดูเหมือนว่าเขากําลังบินขณะที่เขาขึ้นไปถึงชั้นที่ 50 ของตึกสูงโดยไม่มีอะไรอื่นนอกจากการกระโดดเพียงครั้งเดียว

 

ไรอาก้าวกลับด้วยใบหน้าที่สงบ ในขณะที่เขาให้ที่ว่างสาหรับวารันท์ในการลงจอด ยิ่งกว่านั้นเขาไม่อยากอยู่ใกล้วารนท์ตามที่เขาได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ การเข้าใกล้วารันท์เป็นทางลัดในการเอาชนะของเขา

 

และถ้าเขามาหาคุณ มันจะยากกว่ามากที่จะชนะ

 

วารันท์ลงจอดบนอาคารอย่างง่ายดายก่อนจะมองไปที่ไรอา

 

“ไรอา โอ้ ไรอา ทําไมเมืองนี้” วารันท์ถามราวกับ เพราะเขาเบื่อที่จะได้เห็นการทําลายล้างทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขา

 

“ลองเดาสิ” ไรอาถามอย่างใจเย็นไม่ตอบตรงๆ เขาไม่รีบร้อนเลยเพราะเขามาที่นี่เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไม่ใช่เพื่อต่อสู้จริงๆ

 

“เมืองไม่ได้ทําอะไรเลย ในเมืองนี้แทบไม่มีแวเรียนท์เลยทําไมต้องทําร้ายคนที่อ่อนแอและไร้เดียงสาในเมื่อนายสามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งได้ มาที่เมืองหลวงสักครั้ง ถ้านายต้องการแสดงความแข็งแกร่งของนายจริงๆ” วารันท์บอกไรอา

 

“ไม่ต้องห่วง เวลานั้นไม่ไกลเกินไป ฉันจะไปที่นั่นเร็วๆนี้และฉันจะไม่อยู่คนเดียวในตอนนั้น” ไรอาตอบ “และนั่นจะเป็นวันที่เมืองหลวงล่มสลายและวันที่นายและเซสจะต้องเสียชีวิตลง” ไรอาตอบ

 

“จริงเหรอ ให้ฉันเดา นายกําลังวางไฟให้ลูซิเฟอร์กลายเป็นราชาวอร์ล็อคเพื่อช่วยนายเหรอ นายคิดว่าลูซิเฟอร์สามารถเอาชนะฉันได้ตั้งแต่พ่อของเขาทําใช่ไหม” วารันท์ ถามอย่างเย้ยหยัน “น่าเสียดาย ที่ไม่เกิดขึ้นนายจะตายที่นี่ส่วนลูซิเฟอร์ฉันจะลบพลังของเขาก่อนที่เขาจะถึงขั้นคุกคามด้วยซ้ํา”

 

บูม!

 

เมฆคําราม เมื่อฟ้าร้องแวบวาบบนท้องฟ้า

 

โดยไม่ทราบถึงการสู้รบที่เกิดขึ้นในเอลันต้า การสู้รบใกล้กับสถานที่นั้นดูเหมือนจะหยุดลงราวกับเวลาได้หยุดลง

 

แซนเดอร์โจมตีลูซิเฟอร์ด้วยเปลวเพลิงที่รุนแรงที่สุดของเขาเนื่องจากเขาเห็นดวงตาของลูซิเฟอร์เขาจึงลืมทุกสิ่งทุกอย่างเขาไม่สนใจแม้แต่เด็กที่ยืนอยู่ด้านหลังขณะที่เขาโจมตี

 

เมื่อเห็นเปลวไฟพุ่งเข้ามาหาเขา ลูซิเฟอร์ก็กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าหลบเปลวไฟ ขณะที่เขายืนอยู่กลางอากาศราวกับเป็นเทพเจ้ามองลงมาที่แซนเดอร์

 

“หลบ!” เคนตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

 

พวกเขาไม่มีพลังแห่งลม ไม่เหมือนกับลูซิเฟอร์ดังนั้นพวกเขาจึงทําได้เพียงหลบเท่านั้นขณะที่พวกเขาหลบเลี่ยงอย่างเร่งด่วนพวกเขาคิดแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้น

 

พวกเขาลืมแม้กระทั่งเด็กที่อยู่ข้างหลัง ขณะที่พวกเขากระโดดไปด้านข้างหนีไฟ

 

แม้ว่าอุปกรณ์ต่อสู้บางชิ้นของพวกเขาจะทนไฟได้แต่ก็ไร้ประโยชน์กับเปลวไฟของแซนเดอร์.. ไม่มีใครอยากถูกโจมตี

 

ตอนที่ 149: ตํานานแห่งดวงตา

 

ยิ่งเขาพูดเสียงของเขายิ่งดังขึ้นจนเขากรีดร้อง เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเหนื่อยและเจ็บปวดทางอารมณ์

 

“ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือฆ่าคนที่ฆ่าฉัน! แต่แกพยายามจะหยุดฉันจากสิ่งนั้น! ไปกับแกด้วย? กับคนของแกที่วางฉันไว้ในกรงเหมือนนักวิทยาศาสตร์พวกนั้นเหรอ!”

 

“พวกมันสมควรตาย และฉันจะฆ่าพวกมันอีกพันเท่า หากฉันอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ไม่เพียงแต่พวกมันเท่านั้น ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่เข้ามาขวางทางฉัน!” ลูซิเฟอร์คําราม เมื่อฟ้าร้องลั่นรอบกําปั้นของเขา

 

สําหรับท้องฟ้านั้นมันมืดไปแล้วเพราะความสามารถในการควบคุมสภาพอากาศของดิออน แต่จู่ๆ มันก็มีดลงเรื่อยๆ เมื่อมีเมฆปรากฏขึ้น ราวกับว่ากําลังตอบรับเสียงคํารามของลูซิเฟอร์ นี่เป็นครั้งที่ 3 ที่เมฆปรากฏตัว เมื่อเขาอารมณ์เสีย

 

ฟ้าร้องยังสามารถเห็นเสียงแตกในท้องฟ้า น่าเสียดาย เพราะพวกเขาอยู่ในอุโมงค์น้ําแข็ง จึงมองไม่เห็นท้องฟ้า ทั้งลูซิเฟอร์และแซนเดอร์ก็มองไม่เห็นท้องฟ้า

 

ผู้คนที่อยู่นอกสุสานน้ําแข็งสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของท้องฟ้า

 

ไอย์ยังคงพยายามจะฆ่าดิออน แต่เธอสังเกตเห็นเมฆสีดําที่หนาแน่นเป็นพิเศษเหนือสุสานน้ําแข็ง เธอพบว่ามันแปลก เมื่อดิออนใช้พลังของเขา เมฆก็หนาแน่นเหนือพวกเขา ทําไมพวกมันถึงไปหนาแน่นที่นั่นกันล่ะ?

 

มีแวเรียนท์ ที่แข็งแกร่งในหลุมฝังศพที่มีพลังพิเศษหรือไม่?

 

ดิออนยังดูประหลาดใจกับท้องฟ้าและฟ้าที่กําลังร้อง

 

เขารู้ว่าเคนได้เข้าไปในสุสานน้ําแข็งกับลูซิเฟอร์ แต่ไม่มีสักคนเดียวในทีมของเคนที่มีความสามารถแบบนั้น แล้วเมฆพวกนี้ล่ะ? เป็นเพราะลูซิเฟอร์หรือเปล่า เขาสงสัย

 

ไอย์มีความรู้สึกไม่ดี แซนเดอร์อยู่คนเดียวในสุสานน้ําแข็ง และตอนนี้ก็มีเมฆเหล่านี้ ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ของเขาจะถูกต้อง เธอยังต้องตรวจสอบสถานการณ์ภายในด้วย

 

เธอกระโดดกลับโดยเว้นระยะห่างจากดิออนที่กําลังโจมตี เธอด้วยลมหมุนและฟ้าร้องจากฟากฟ้า

 

หลังจากที่เธอทําระยะทางได้เพียงพอแล้ว เธอก็กําหมัด

 

และชกพื้น

 

ทันทีที่หมัดของเธอแตะพื้น พื้นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน กําแพงน้ําแข็งที่ติดอยู่กับสถานที่นั้นเริ่มหายไปจนกระทั่งพวกมันหายไปในที่สุด นําโรงงานออกจากสุสานน้ําแข็ง

 

ในที่สุด ทุกคนก็สามารถมองเห็นภายในสุสานน้ําแข็งได้

 

ทุกคนเหลือบมองไปทางโรงงานเพียงชั่วครู่ก็เห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ต่อหน้าแซนเดอร์ สายฟ้าสีดําทมิฬกําลังรวมตัวกันที่กําปั้นของลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนว่าจะสามารถทําลายโลกทั้งใบได้หากปล่อยทิ้งไว้

 

ในทางกลับกัน เปลวไฟสีแดงลุกโชติช่วงอยู่รอบๆ กําปั้นของแซนเดอร์ ซึ่งดูเหมือนจะมีศักยภาพที่จะเผาไหม้ทุกสิ่งที่ขวางหน้าวอร์ล็อคตัวน้อยที่มีสายฟ้าสีดําทมิฬกําลังเผชิญหน้ากับ วอร์ล็อคแห่งเปลวเพลิงที่มีประสบการณ์และใช้งานเปลวเพลิงนั้นจนแข็งแกร่งที่สุด

 

” พวกเขาถูกจับได้จริงๆ” ดิออนคิดและขมวดคิ้ว แต่ทําไมเวก้า ถึงไม่ปรากฏตัวออกมาตอนนี้? เขากําลังรอที่จะเห็นลูซิเฟอร์ ดําเนินการอะไรบางอย่างอยู่หรือไม่? เขาต้องการให้สิ่งต่าง ๆ ไปไกลเกินไปหรือไม่?

 

พลังของสายฟ้าสีดําทมิฬเพิ่งปรากฏขึ้นรอบๆ ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาปล่อยให้อารมณ์ของเขาเสียไป ปล่อยให้ความคิดที่แท้จริงของเขาเกี่ยวกับการที่ APF ยืนอยู่บนเส้นทางของเขา และเขาก็ไม่ผิด

 

“ลูซิเฟอร์! ฉันเตือนคุณแล้ว! เหตุผลเดียวที่ฉันยังช่วยคุณอยู่ก็เพราะว่าคุณเป็นลูกของเซลแอซเรล! ได้โปรดหยุดเดี๋ยวนี้!” แซนเดอร์พูดอย่างหนักแน่น

 

เขาเพิ่งพูดจบ เมื่อเห็นกําแพงน้ําแข็งหายไป เผยให้เห็นท้องฟ้ามืดครึ้มฟ้าร้อง

 

“แล้วถ้าฉันไม่หยุดล่ะ แกจะทําอย่างไร ลองขังฉันด้วยกําลังเหมือนครั้งที่แล้ว” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“ลูซิเฟอร์! ถ้าคุณไม่ฟัง ฉันสาบานต่อพระเจ้า ฉันจะฆ่าคุณ! คุณอาจได้รับการรักษา แต่การรักษาของคุณก็ไม่สามารถคืนชีวิตคุณจากเถ้าถ่านได้! หยุดซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกบังคับให้ฆ่าคุณ!” แซนเดอร์กล่าว ในที่สุดก็เพิ่มระดับ เสียงของเขา

 

“แกจะฆ่าฉันเหรอ ฉันอยากรู้ว่าแกทําแบบนั้นได้อย่างไร” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขากําหมัดแน่น

 

เขาเสร็จสิ้นภารกิจของเขา เขาได้เสร็จสิ้นการแก้แค้นของ เขาไม่ว่าในกรณีใด ชีวิตของเขาก็ไม่มีค่าสําหรับเขาอีกต่อไป แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่เขาถูกฆ่าได้ก็ตาม

 

การคุกคามชีวิตเป็นภัยคุกคามที่ไร้ประโยชน์ที่สุดสําหรับเขา ในทางกลับกัน เขาไม่มีครอบครัว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวคนเหล่านั้นเช่นกัน เขาไม่มีจุดอ่อนที่ทําให้เขาต้องกลัวในตอนนี้

 

สิ่งที่ลูซิเฟอร์ไม่ได้ตระหนักก็คือสีม่วงเล็กน้อยในดวงตาสีฟ้าอันสวยงามของเขาเริ่มมองเห็นได้ชัดเจน ขึ้นเล็กน้อยในขณะนี้ ครั้งนี้ไม่ละเอียดเท่าครั้งที่แล้ว แซนเดอร์ก็สามารถเห็นได้เช่นกัน

 

“หนึ่งตาสีม่วง หนึ่งตาสีฟ้า เป็นไปไม่ได้” แซนเดอร์พึมพํา เมื่อสังเกตเห็น “พลังมากมายและสิ่งนี้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไม! เขาไม่ใช่มนุษย์ เขาเป็น…”

 

แซนเดอร์ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นโดยไม่คิด 2 ครั้งแล้วยิงไฟอันร้อนแรงใส่ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาตะโกนใส่ไอย์ว่า “ไอย์! เขามีตาสีฟ้าหนึ่งข้างและม่วงหนึ่งข้าง! เราต้องฆ่าเขาให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม!”

 

“ตาสีฟ้าและสีม่วง จริงเหรอ ทําไมฉันถึงไม่สังเกตล่ะ เด็กคนนี้คือ…” แม้แต่เคนก็ยังแปลกใจเมื่อได้ยินคําพูดนั้น

 

“ความลับของตาสีฟ้าหนึ่งข้างกับสีม่วงหนึ่งข้างคืออะไร ฉันไม่เข้าใจมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง” เฮนริกถามเคน

 

“ฮะๆ นายไม่เข้าใจหรอก แต่ฉันเชื่อว่า APE จะไม่หยุดยั้ง ก่อนที่จะฆ่าลูซิเฟอร์ ถ้ากิลด์ฮันเตอร์รู้ พวกเขาก็จะกระโดดเข้ามาด้วย ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ส่วนโลก… ฉันไม่รู้ ไม่อยากจินตนาการเลยมันคงวุ่นวาย” เคนพูดในขณะที่เขา สงสัยว่าเขาควรทําอย่างไร

 

“ถ้าเขามีสัมภาระเช่นนี้ เราควรหยุดเข้าใกล้เขาไหม?” เฮนริกถาม “ปล่อยเขาไปเถอะครับ”

 

“เราทําไม่ได้ เขาเป็นคนพิเศษจริงๆ ฉันคิดว่าเราต้องถนอมเขาให้มากกว่านี้ เพราะเขาสามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบได้จริงๆ อนาคตเปลี่ยนไปด้วยรูปลักษณ์ของลูซิเฟอร์” เคน กล่าวขณะขมวดคิ้ว .

 

“แล้วเราควรช่วยเขาไหม” เฮนริกถาม

 

“เราจะช่วยได้ไหม เปลวเพลิงหรือสายฟ้าสีดําทมิฬนั่น พวกมันจะทําลายเราทั้งคู่ถ้าเราเข้าไปใกล้ อย่าทําอะไรเลย และเพียงแค่นั่งลง” เคนกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว “ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าถึงเวลาฉันแน่ใจว่าจะต้องมีการรบกวน”

 

..

ตอนที่ 148: เผชิญหน้ากับแซนเดอร์

 

ลูซิเฟอร์จ้องไปที่เคน เพราะเขาสงสัยเกี่ยวกับคําพูดของเขา ดูเหมือนว่าทุกอย่างน่าจะจริงที่มีโรงงานมากมายเช่นนี้ทั่วโลก และเด็กจํานวนมากเช่นเขาจะต้องทนทุกข์ทรมาน

 

เขาไม่ได้คิดเรื่องนี้นานนัก ในขณะที่เขาเริ่มจากไป เขาต้องการทิ้งความคิดทั้งหมดไว้ในภายหลัง เมื่อเขาเป็นอิสระจากอิทธิพลทั้งหมดและอยู่ตามลําพังกับตัวเอง

 

แซนเดอร์วิ่งไปที่สุสานน้ําแข็งและวางมือบนกําแพง สร้างช่องเปิดอีกครั้งด้วยไฟของเขา ก่อนที่เขาจะก้าวเข้าไปในสุสานน้ําแข็ง

 

“ยามทั้งหมดอยู่ที่ไหน”

 

ทันทีที่เขาเข้าไปในสุสานน้ําแข็ง เขาสังเกตเห็นว่าไม่มีทหารยามอยู่ที่นี่ เหมือนเมื่อก่อน สิ่งนี้เพิ่มความสงสัยของเขามากยิ่งขึ้น

 

เขาแน่ใจว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ลูซิเฟอร์อยู่ที่นี่ และเขาไม่ได้อยู่คนเดียวอย่างแน่นอน ถ้าเขาอยู่คนเดียวยามทั้งหมด คงนอนตายอยู่ที่นี่ไม่หายไป

 

เขาวิ่งไปที่โรงงาน อย่างไรก็ตาม เขาเพิ่งเดินไม่กี่ก้าว เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ออกมาจากสถานที่ข้างหลังเขา เคนก็ออกมาเช่นกัน แต่เคนในตอนนี้มีใบหน้าของแซนเดอร์แทน

 

เมื่อเห็นใบหน้าของเขา แซนเดอร์ก็ใช้เวลาไม่นานเพื่อทําความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“เคน นายอยู่ที่นี่ด้วย ฉันน่าจะเข้าใจตั้งแต่แรก เมื่อเห็นคุณและลูซิเฟอร์ไม่อยู่” แซนเดอร์กล่าว ขณะที่มีไฟลุกโชนรอบๆ กําปั้นของเขา

 

เคนรู้สึกประหลาดใจที่เห็นแซนเดอร์ที่นี่ เขาได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้อย่างไร? เขาควรจะมีส่วนร่วมในการต่อสู้ภายนอกที่กําลังเกิดขึ้นหรือไม่?

 

“แซนเดอร์ เบลค นายยังคงสนับสนุนด้านอยุติธรรมเพราะกฎของนายหรือเปล่า” เคนถาม ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

 

“ออกไปจากความมืดบอดของนายซะและเห็นความเป็นจริง! มองข้างหลังฉันและแวเรียนท์รุ่นวัยเยาว์เหล่านี้! พวกเขาถูกคุมขังและถูกทรมานที่นี้ และเช่นเดียวกับพวกเขา แวเรียนท์รุ่นเยาว์จํานวนมากกําลังทุกข์ทรมานอยู่ทุกหนทุกแห่ง เป้าหมายของเราคือเกียรติ ภารกิจของนายที่จะขัดขวางเราคือ ความชั่วร้ายแทนต่างหาก!” เขาพูดออกมา

 

“งั้นก็ถอยออกมาเถอะ อย่ามีส่วนทําให้ชีวิตของแวเรียนท์ต้องตกนรกเลย” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อปกป้องลูซิเฟอร์

 

“ฉันทําอย่างนั้นเหรอ นายพูดถึงนรกเหรอ นายฆ่ามนุษย์ ผู้บริสุทธิ์มากี่คนตลอดหลายปีที่ผ่านมา นายทําลายเมืองไปกี่เมือง นายฆ่าเด็กไปกี่คน นายกําลังพูดว่านายสนใจเด็ก ๆ งั้นเหรอ” แซนเดอร์โต้กลับ

 

“ขณะนี้มีความสมดุล ฉันรู้ว่ามีความอยุติธรรมบางอย่าง และมนุษย์บางคนก็แย่ แต่นายไม่สามารถลงโทษมนุษย์ทุกคนได้! เรามีพลัง และเราจําเป็นต้องรับผิดชอบ!” เขาพูดออกมา

 

“สําหรับการสร้างนรก นรกที่แท้จริงจะถูกมองเห็นได้ ถ้าพวกนายเข้ามามีอํานาจ เพราะผู้อ่อนแอจะไม่มีทางเลือกแล้ว!” เขากล่าวเสริม

 

“นายนี่มันดื้อจริงๆ” เคนบอกแซนเดอร์ขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“เอาล่ะ อิโซน่า จัดการเลย!” เขายิ้มออกมา

 

“ฮะ?” แซนเดอร์ตะลึงงันมองย้อนกลับไปเพียงเพื่อสังเกตว่าอิโซน่าที่อาจจะอยู่ไกลมากในก่อนหน้านี้และวิ่งเข้ามาหาเขา เธอยังไม่มาถึงที่นี่ด้วยซ้ํา

 

เคนเคยโกหก เมื่อแซนเดอร์หันกลับมามองเคน เขาเห็นมีดพุ่งเข้ามาหาเขาและลอยด้วยความเร็วที่รวดเร็ว

 

“ลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ !” แซนเดอร์พูด ขณะที่ยกมือขวาไปทางมีดที่ยื่นเข้ามา คลื่นเปลวไฟปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา และลอยไปทางมีด มีดไปไม่ถึงเขาก่อนที่มันจะละลาย

 

เคนยังคงยืนอยู่กับลูซิเฟอร์ จ้องมองแซนเดอร์ เขามั่นใจว่าแซนเดอร์มีกําลังที่จะโจมตีพวกเขาทั้งหมด

 

ยกเว้นลูซิเฟอร์ พวกเขาที่เหลือคงตายไปแล้ว แต่เขาไม่ได้โจมตี อาจเป็นเพราะแซนเดอร์ไม่ต้องการฆ่าเด็กที่ยืนอยู่ใกล้เคน

 

“ดูเหมือนว่าการนําเด็กเหล่านั้นมา จะช่วยสร้างปาฏิหาริย์” เคนคิด

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล ฟังฉันนะ” แซนเดอร์พูด ขณะที่เขาเริ่มเดินไปทางลูซิเฟอร์ “ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณ และฉันก็รู้ว่ามันผิด นั่นเป็นเหตุผลที่เรานําหมอราวคนนั้นมาสู่ กระบวนการยุติธรรม แต่เส้นทางที่คุณกําลังเดินไม่ถูกต้อง”

 

“นานมาแล้ว ฉันได้พบกับพ่อของคุณ เขาเป็นคนที่ดีและมีจิตวิญญาณที่ดี ฉันยังคุยกับเขาในเวลานั้น เขาเป็นไอดอลของฉันเสมอกับวิธีที่เขาคิดและวิธีที่เขาใช้พลังของเขา เพื่อทําให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น”

 

“ในฐานะที่คุณเป็นลูกชายของเขา ฉันก็ไม่ต้องการสิ่งเลวร้ายสําหรับคุณเช่นกัน ได้โปรดมอบตัว ฉันสัญญาว่าจะไม่มีใครทําร้ายคุณ” เขากล่าวต่อ พยายามดึงลูซิเฟอร์ ออกจากสมการ ในขณะที่บอกความรู้สึกที่แท้จริงของเขา

 

“ฉันจะไม่ทําตามที่แกพูด” ลูซิเฟอร์พูด ก่อนจะเดินไปข้างหน้าเช่นกัน ไปทางช่องเปิดอุโมงค์

 

นอกจากนี้ เขายังถอดถุงมือและใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง เนื่องจากเขาไม่ต้องการให้ถูกทําลายในกรณีที่เกิดการต่อสู้ขึ้น

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ถอดถุงมือ แซนเดอร์ก็เชื่อว่านั่นเป็นเพราะเขาต้องการต่อสู้

 

“ลูซิเฟอร์ ได้โปรดฟังฉันนะ คุณข้ามเส้นไปแล้ว อย่าทําผิดอีก เราอยู่ในจุดที่เรายังกอบกู้สถานการณ์ได้” แซนเดอร์กล่าว

 

“คุณฆ่าทีมของฉันไปครึ่งหนึ่ง! แวเรียนท์บริสุทธิ์ แวเรียนท์ที่ต้องการช่วยชีวิตผู้คนเท่านั้นเหมือนที่พ่อของคุณทํา! ใช่ คุณฆ่าพวกเขา”

 

“คุณฆ่าพ่อของลูกๆ หลายคน แล้วคุณเอาสามีของภรรยาหลายคนไป ส่วนใหญ่มีครอบครัวที่พวกเขาต้องการกลับไป และคุณก็พรากพวกเขาไปจากครอบครัวของพวก เขา!”

 

“อาชญากรรมของคุณร้ายแรง และคุณสมควรได้รับการ ลงโทษที่เข้มงวดที่สุดสําหรับเรื่องนั้น แต่ฉันเข้าใจว่าคุณถูกเข้าใจผิดเช่นกัน อย่างที่ฉันพูดไว้อย่าทําผิดอีกและฉันยังสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้ยอมจํานนและมากับเรา !” เขาตะโกนออกมา

 

“อย่างที่ฉันพูดไป ฉันจะไม่ไปไหนกับแก ส่วนการฆ่าคนของแก ทําไมแกถึงคิดอย่างนั้น ฉันเคยทําร้ายแกหรือเปล่า ฉันฆ่าแต่คนที่ประพฤติตัวไม่ดีกับฉัน ส่วนพวกแวเรียนท์ แวเรียนท์ของแก คนพวกนั้นมันมาเพื่อจับฉัน!”

 

ลูซิเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

 

“ทั้งหมดที่ฉันถามจากแกคือที่ตั้งของโรงงานที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมาน! ฉันบอกแกไปแล้ว! แต่แกกก็ยังให้ที่อยู่ปลอมกับฉัน! แกส่งฉันไปยังเมืองอื่นที่แวเรียนท์ของแกรออยู่กับกับดักของพวกแก!”

 

ตอนที่ 147 : ออกเดินทาง

 

เขายกเท้าขวาขึ้นและกระทืบศีรษะของดอกเตอร์ราวด้วยกําลังมหาศาล

 

ความแข็งแกร่งของเขามีมากจนกระโหลกศีรษะถูกบดขยี้เป็นผง เมื่อเลือดกระจายไปทั่ว เลือดบางส่วนตกบนกางเกงของเขา แต่นั่นเป็นเวลาที่อนุภาคคาร์ดินัลในกางเกงของเขาเริ่มตอบสนอง พวกมันทั้งหมดูดเลือดและทําความสะอาดกางเกงสีดําอีกครั้ง

 

พายุน้ำแข็งขนาดมหึมาปกคลุมสนามรบเพราะไอย์เผชิญหน้ากับดิออน ซึ่งใช้การควบคุมสภาพอากาศระดับ S ของเขาเพื่อต่อสู้กับการควบคุมน้ำแข็งระดับ S ของ

ไอย์

 

เมื่อพลังระดับทั้งสองที่อยู่ในระดับ S ปะทะกัน การทําลายล้างครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นทุกที่ ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาใกล้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้นจึงไม่มีใครขัดขวางการต่อสู้ของพวกเขาได้

 

ในทางกลับกัน แซนเดอร์กําลังเผชิญหน้ากับอิโซน่า และดูเหมือนว่าเขาจะได้เปรียบอยู่บ้าง เมื่อเขาหยุดกะทันหันและกระโดดกลับมา ในขณะที่เขาเหลือบมองไปทางสุสานน้ำแข็ง

 

เขาไม่รู้ว่าทําไม แต่จู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนมาจากทิศทางของสุสาน ซึ่งเขารู้สึกแปลกๆ สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีการสู้รบเกิดขึ้นในสุสานน้ำแข็งแห่งนั้น เพราะมีการต่อสู้อยู่ข้างนอก

 

ขณะที่เขาคิดมากขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในไม่ช้าเขาก็นึกขึ้นได้บางอย่าง

 

“ลูซิเฟอร์ไม่อยู่ที่นี่! สุสานน้ำแข็ง! พวกแกหลอกพวกเรา! แซนเดอร์อุทาน ในขณะที่เขาคํารามด้วยความโกรธ

 

“ไอย์! ลูซิเฟอร์ น่าจะอยู่ในสุสานน้ำแข็ง แน่นอน! ฉันจะเข้าไป!” แซนเดอร์ตะโกนเสียงดังเตือนไอย์ให้เข้ายึดครองพื้นที่

 

“ไม่ได้หรอกๆ!” อิโซน่ายิ้ม ขณะที่เธอปรากฏตัวอีกครั้งต่อหน้าแซนเดอร์เพื่อหยุดเขา

 

“ไปให้พ้นทางของฉัน!” แซนเดอร์พูดอย่างหนักแน่นขณะที่ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิง

 

เขาโบกมือ ทําให้เกิดพายุเปลวเพลิงกระทบ อิโซน่าทําให้เธอลอยกลับไปและล้มลงกับพื้น

 

“น่าประหลาดใจมาก นายได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ 2-3 อย่างเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว” อิโซน่า กล่าวขณะที่เธอยืนขึ้นปัดฝุ่นเสื้อผ้าของเธอ

 

เธอมองไปทางแซนเดอร์เพื่อตระหนักว่าเขาไปแล้ว แซนเดอร์กําลังวิ่งไปที่โรงงาน

“ฉันไม่ให้นายไปหรอก” อิโซน่า กล่าวขณะที่เธอเริ่มวิ่งไปที่โรงงาน

 

ในความโกลาหลทั้งหมดนี้ ทั้งสองฝ่ายลืมไปว่าเวก้าไม่ได้อยู่ที่นี่เช่นกัน เขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่ในระหว่างการต่อสู้ เขาได้หายตัวไป

 

ลูซิเฟอร์ได้ทําลายกะโหลกศีรษะของด็อกเตอร์ราว โดยไม่ทิ้งร่างของเขาไว้

 

เมื่อวางร่างของเรย์แมนบนเครื่องจักรแล้ว ลูซิเฟอร์ยังบอกให้เคนเริ่มดําเนินการตามขั้นตอน

 

ดังนั้น กระบวนการที่เจ็บปวดจึงเริ่มต้นขึ้น ซึ่งทําให้ดอกเตอร์เรย์แมนต้องพบกับนรกแบบเดียวกับที่ลูซิเฟอร์และดอกเตอร์ราวเคยประสบมา

 

ดอกเตอร์เรย์แมนใช้เวลาไม่นาย และถึงแม้จะสั้นกว่าเขาเสียชีวิตเมื่อดัชนีความเจ็บปวดมีเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ เคนไม่มีโอกาสได้เพิ่มเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ต่อไป

 

“เฮ้อ ผู้ชายคนนี้ยิ่งอ่อนแอลงไปอีก ช่างน่าผิดหวังจริงๆ” เคนกล่าวขณะที่ถอนหายใจ เขาปิดแล็ปท็อปเครื่องนั้นและยืนขึ้น

 

“เอาล่ะ ลูซิเฟอร์ ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง” เคนถามลูซิเฟอร์ “ในที่สุด คุณก็ทําทุกอย่างเสร็จสิ้น และการแก้แค้นของคุณก็จบลง คุณได้รับความอุ่นใจที่คุณหวังไว้หรือไม่”

 

“ผมรู้สึกยังไงหรอ” ลูซิเฟอร์ทวนคําถามอีกครั้ง ในขณะที่เขาเหลือบมองร่างของดอกเตอร์เรย์แมนและดอกเตอร์ราว “ผมไม่รู้ว่าผมรู้สึกยังไง”

 

“คุณมีเวลาคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนั้น สําหรับอนาคต ฉันแน่ใจว่าเราสามารถพูดถึงเรื่องนั้นเมื่อเรากลับบ้าน มาเถอะ” เคนบอกกับลูซิเฟอร์ โดยบอกให้เขาออกไป

 

ลูซิเฟอร์เริ่มออกจากห้องแล็บ ในที่สุดก็จบชีวิตบทนี้มันจบลงแล้ว จุดประสงค์ในชีวิตของเขาเสร็จสมบูรณ์แล้วและตอนนี้เขาเป็นอิสระแล้ว แต่เขาสงสัยว่าอิสระของเขาจะสําคัญอีกต่อไปหรือไม่?

 

การรักษาที่เหลือเชื่อของเขาทําให้เขาเป็นอมตะ แต่ความเป็นอมตะนี้มีประโยชน์อะไรกับเขาเมื่อภารกิจของเขาสิ้นสุดลง? เขาไม่มีครอบครัวหรือใครก็ตามที่เขาห่วงใย สําหรับมนุษย์แล้ว เขาไม่ไว้ใจใครเลย

 

เขามีชีวิตที่ยืนยาว แต่เขาเริ่มรู้สึกว่าชีวิตของเขาไม่มีจุดหมายแล้ว เขาแค่จะคิดเกี่ยวกับอนาคตของเขาคนเดียว

 

เขามีความคิดบางอย่างในใจอยู่แล้ว ออกจากประเทศไปตลอดกาลและเดินทางไปทั่วโลกเพื่อค้นหาสถานที่ที่จะให้ความสุขแก่เขา? หรือทํางานร่วมกับ แวเรียนท์เกิดใหม่เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในอนาคตที่ทั้งคู่จะตกลงกันได้? หรืออยู่อย่างโดดเดี่ยวและใช้ชีวิตโดยไม่ได้ทําอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิต

 

มีคําถามมากมายที่เขาไม่เคยคิด เขารู้ว่าเขาต้องการคําตอบสําหรับคําถามเหล่านี้เมื่อนานมาแล้ว แต่เขาทิ้งมันไว้ในภายหลังเนื่องจากเขายังมีจุดประสงค์ในขณะนั้น

 

ตอนนี้เขาไม่มีแล้ว เขารู้ว่ามันจะเป็นกระบวนการคิดที่ยาวนาน

 

เคนและลูซิเฟอร์ก้าวออกจากห้องแล็บและเริ่มเดินไปที่ทางออก ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงจุดที่พวกเขาควรจะพบกับคนอื่นๆ ในทีม

 

เฮนริกและคนอื่นๆ กําลังรอพวกเขาอยู่ที่นั่นแล้ว

 

“เด็กพวกนั้น?” เคนถามในขณะที่เขาเหล่ตาเมื่อเห็นเด็กหลายคนที่อยู่ข้างหลังเฮนริก

 

“เราพบพวกมันที่อีกฟากหนึ่งของห้องทดลอง เห็นได้ชัดว่าพวกมันถูกเก็บไว้ที่นั่น และพวกมันก็ไม่ชอบสถานที่นี้ด้วย ฉันเชื่อว่าเราสามารถช่วยแวเรียนท์เล็กๆ เหล่านี้ได้เช่นกัน” เฮนริกกล่าวพร้อมชี้ไปที่เด็กๆ ที่ด้านหลัง

 

“นอกจากพวกเขาแล้ว เราเห็นแค่ผู้พิทักษ์บางคนที่เราสังหารที่นั่น” เขากล่าวเสริม

 

ลูซิเฟอร์ชําเลืองมองดูเด็กๆ เช่นกัน ซึ่งต่างวัยกัน แต่ทุกคนก็แก่กว่าเขา

 

“ชิ ฉันจะไม่รับภาระเช่นนี้ในเวลาเช่นนี้ เราอยู่ในภาวะฉุกเฉินและจําเป็นต้องจากไปโดยเร็ว เฮนริกคนนี้! เขาตัดสินใจโง่ ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร? เคนคิด

 

แต่ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เช่นกัน ลูซิเฟอร์อยู่ข้างหลังความประทับใจของเราจะตกอยู่ในใจเขาก่อนถ้าฉันทําอย่าง นั้น”

 

“นายทําได้ดี” เคนพูดกับเฮนริกในที่สุดขณะที่เขาพยักหน้า

 

“เราสามารถช่วยเด็กเหล่านี้ได้เช่นกัน จากเงื้อมมือของมนุษย์ชั่วร้าย แต่นั่นก็ทําให้ฉันสงสัยเช่นกัน” เขากล่าวเสริม “ถ้าเด็กจํานวนมากต้องทนทุกข์ทรมานในสถานที่แห่งเดียวนี้ จะมีเด็กอีกกี่คนที่ต้องทนทุกข์ในสถานที่อื่นๆ ในเมืองนี้ มีกี่คนในประเทศนี้ มีกี่คนในโลกนี้”

 

ขณะที่เขาพูด ดูเหมือนว่าเขาจะแสดงความกังวลของเขาอย่างแท้จริง แต่ในความเป็นจริง เขาพยายามทําให้ลูซิเฟอร์ได้ยินคําพูดของเขา

 

“มนุษย์ได้ทําลายชีวิตของ แวเรียนท์ไปทุกหนทุกแห่งในขณะที่ยังคงใช้ แวเรียนท์เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับพวกมัน! และมันสามารถหยุดได้ก็ต่อเมื่อเรากลับสถานะเดิมและรับพลังกลับคืนมาให้เรา .. หากเราไม่ทํา แวเรียนท์ จํานวนมากจะตาย “เคนกล่าว

 

ตอนที่ 146: เก็บความลับของคุณ

 

ดอกเตอร์เรย์แมนมองไปทางลูซิเฟอร์ เพื่อดูการแสดงออกของเขา แต่ลูซิเฟอร์ดูเหมือนไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิงในทางกลับกัน เคนมีรอยยิ้มบนใบหน้าราวกับว่าเขาสนุกกับมันมากขึ้น

 

“ไปต่อ! เพิ่มดัชนีความเจ็บปวดอีก 20 เปอร์เซ็นต์!” ลูซิเฟอร์สั่งการ โดยที่เขาไม่มีความลังเลแม้แต่น้อยในน้ำเสียงของเขา

 

ดอกเตอร์ราวยังคงกรีดร้องเป็นเวลา 10 นาที น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง นัยน์ตาแดงก่ําด้วยน้ําตายังคงไหลอาบแก้ม และร่างกายของเขาก็สันสะท้านด้วยความเจ็บปวด ทุกอย่างดูคล้ายกับที่ลูซิเฟอร์ประสบ

 

น่าเสียดายที่ความเจ็บปวดไม่ได้หยุดลง มันรู้สึกเหมือนกับว่าเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งทนไม่ได้

 

“หยุดนะ!” เขาตะโกนเหมือนคนวิกลจริต ดวงตาที่เปื้อนเลือดของเขาจ้องมองไปที่คนอื่นๆ ในห้องแล็บ

 

“เขายังพูดได้ ไม่เลว ฉันเดาว่าความเจ็บปวดยังไม่เพียงพอ เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ ใช้ดัชนีความเจ็บปวดเป็น 50 เปอร์เซ็นต์!” ลูซิเฟอร์พูดกับดอกเตอร์เรย์แมนผู้ปฏิบัติตามคําสังของเขาโดยไม่มีคําถามใดๆ และเพิ่มดัชนีความเจ็บปวด

 

ดอกเตอร์เรย์แมน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับคําสั่งนี้ ลูซิเฟอร์ใช้คําที่เกือบจะคล้ายกับคําที่ดร.ราวเคยใช้ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขากําลังเยาะเย้ยดอกเตอร์ราว

 

“การเต้นของหัวใจช้าลงอย่างรวดเร็ว ดัชนีความเจ็บปวดถึงร้อยละ 50 การทําลายเซลล์ได้ถึงร้อยละ 90” ดอกเตอร์ เรย์แมนกล่าว

 

เขายังคงจําได้ว่าเซลล์ของลูซิเฟอร์ถูกทําลายเพียงประมาณร้อยละ 70 เมื่อดัชนีความเจ็บปวดของเขาอยู่ที่ร้อยละ 90 แต่กับด็อกเตอร์ราว มันแตกต่างไปจากเดิมมาก ลูซิเฟอร์เป็นเด็กที่ใจแข็งแกร่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“เพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ในครั้งนี้ ใช้ดัชนีความเจ็บปวดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์” ลูซิเฟอร์กล่าว

 

“เราไม่จําเป็นต้องเพิ่มขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เขาอยู่ที่ดัชนีความเจ็บปวด 50 เปอร์เซ็นต์และการทําลายเซลล์ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว การเพิ่มขึ้นเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอที่จะฆ่าเขาได้” ดร.เรย์แมนเตือนลูซิเฟอร์

 

“ฉันไม่สน ฉันอยากให้เขาเจ็บปวดแบบเดียวกับที่ฉันเป็นฉันอยากให้เขาตายด้วยความเจ็บปวด 100 เปอร์เซ็นต์! ทําตามที่ฉันบอก!” ลูซิเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น

 

เขาไม่ต้องการให้ดอกเตอร์ราวเสียชีวิต แต่เขาต้องการความตายแบบเดียวกับที่เขาได้รับความทุกข์ทรมาน ประสบกับทุกสิ่งที่ลูซิเฟอร์ทําเพราะการกระทําของเขา

 

ดอกเตอร์เรย์แมน เพิ่มดัชนีความเจ็บปวดและปรับให้สูงสุดตามคําสั่ง

 

“อ๊าาาากกกกก หยุด!”

 

ร่างกายของดอกเตอร์ราวปั่นปวนด้วยความเจ็บปวดในขณะที่เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างที่สุดเท่าที่จะทําได้ เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากําลังจะระเบิดจากภายในสู่ภายนอก

 

“ไม่นะ”

 

เขากรีดร้องเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก่อนที่เขาจะไม่ทันจบ ลมหายใจของเขาก็หยุดลง น้ำตาที่เปี่ยมไปด้วยเลือดสามารถเห็นบนแก้มของเขา

 

สําหรับร่างกายทั้งหมดของเขา ในตอนนี้นอนนิ่งไม่ไหวติงดูซีดเซียวราวกับว่าเลือดแห้งไปจากร่างกายของเขา

 

ดวงตาที่เปื้อนเลือดของเขายังคงเปิดอยู่ แต่ไม่มีจิตวิญญาณอีกต่อไป

 

“การเต้นของหัวใจหยุดลง ดัชนีความเจ็บปวดถึง 100 เปอร์เซ็นต์ เซลล์ถูกทําลาย 100 เปอร์เซ็นต์” ดอกเตอร์เรย์ แมนประกาศ

 

“ดังนั้น เขาจึงตาย เขาเป็นผู้ถูกทดลองที่ดี ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ฉันเดาว่าร่างกายมนุษย์ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่ฉันคิด หากมันสามารถอยู่รอดได้นานภายใต้ความเจ็บปวด เช่นนี้ มันคงไม่มีอะไรแน่นอนนอกจากคําว่าไร้ประโยชน์” ลูซิเฟอร์พึมพํา ในขณะที่เขาดูข้อมูลบนหน้าจอ

 

แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจข้อมูลอย่างน้อย เขาก็กําลังทําซ้ําสิ่งที่ดอกเตอร์ราวทํา

 

สิ่งที่เขาจําไม่ได้ก็คือเขาตายไปแล้วตอนที่ดอกเตอร์ราวพูดคํานั้น? โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่ควรจําคําเหล่านั้นในตอนท้าย แต่คําพูดเหล่านี้ยังคงอยู่ในหัวของเขาด้วยเหตุผลบางอ ย่าง

 

“ท่านครับ ผมควรทําอย่างไรกับร่างกายของเขา” ดอกเตอร์เรย์แมนถามลูซิเฟอร์ ซึ่งมองกลับไปที่เคนเป็นการตอบ แทน

 

“คุณเห็นปุ่มที่เขากดไหม” ลูซิเฟอร์ถามเคน ขณะเดินไปหาดอกเตอร์ราว

 

เขาถอดสายไฟและแถบคาดศีรษะที่ติดอยู่กับดอกเตอร์ราวออกก่อนจะจับมือดอกเตอร์ราวและดึงเขาลงจากเตียงทําให้เขาล้มลงกับพื้น

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่ ฉันเห็น” เคนพูดพร้อมยิ้ม

 

เขาไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะสนุกกับมันมากขนาดนี้ ตอนแรกเขาอารมณ์เสียที่ติดอยู่กับเด็กในฐานะพี่เลี้ยงเด็ก แต่ตอนนี้เขาเริ่มชอบเด็กคนนี้แล้วจริง ๆ และสมองของเขาทํางานอย่างไร เขายังพบความคล้ายคลึงกันมากมายระหว่างพวกเขา

 

“ดี” ลูซิเฟอร์พยักหน้าก่อนจะก้าวเข้าไปใกล้ดอกเตอร์ เรย์แมน ทิ้งร่างซีดของดอกเตอร์ราวไว้เบื้องหลัง

 

ดอกเตอร์เรย์แมนสงสัยว่าลูซิเฟอร์กําลังขออะไร แต่เขาหวังให้ดีที่สุด

 

“ท่านครับ ท่านชอบงานของทาสของท่านหรือไม่” เขาถามลูซิเฟอร์ด้วยใบหน้าประจบประแจง

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบและเดินต่อไปหาดอกเตอร์เรย์แมน โดยหยุดห่างจากเขาเพียงเมตรเดียว

 

“ทะท่าน” ดอกเตอร์เรย์แมนพูดอีกครั้งแต่ถูกตัดบทก่อนที่จะได้เปิดปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะทันพูดคําแรก ลูซิเฟอร์ก็ยิ่งสายฟ้าอีก 2 ลูก ที่ละลูกที่ละข้างเหมือนกับที่เคยทํากับดอกเตอร์ราว

 

“อ๊าก! ท่าน! ท่านกําลังทําอะไร! หยุด!” ดอกเตอร์เรย์ แมน กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มือของเขาถูกทําลาย “ข้าเป็นทาสของท่าน! ได้โปรดอย่า!”

 

“ฉันไม่ต้องการทาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่คนอย่างแก” ลูซิเฟอร์พูดกับดอกเตอร์เรย์แมนก่อนจะยิงสายฟ้าไปที่ขาของดอกเตอร์เรย์แมนอีก 2 ลูก ก่อนที่เขาจะพาเขาไปที่ร่างของดอกเตอร์ราว

 

ลูซิเฟอร์วางร่างของ ดอกเตอร์เรย์แมน ไว้บนเตียงแล้วสวมผ้าโพกศีรษะไว้บนศีรษะของเขาก่อนที่จะติดสายไฟ ทั้งหมดเหมือนกับที่ติดอยู่กับ ดอกเตอร์ราว

 

“ไม่! ไม่! ไม่! ไม่ไม่ไม่! ได้โปรด! อย่า! ผมไม่ได้ทําอะไรเลย! อย่าฆ่าผมแบบนี้! ผมช่วยท่านได้! ผมช่วยท่านได้มาก! ผมรู้ความลับมากมาย! ผมช่วยได้ท่าน!” ดอกเตอร์ เรย์แมนตะโกนอย่างบ้าคลังเมื่อรู้ว่าเขากําลังจะถูกฆ่าเหมือนดอกเตอร์ราวเช่นกัน

 

“ฉันไม่สนใจความลับของแก ฉันไม่สนใจเกี่ยวกับ แกหรือเกี่ยวกับโลกนี้…เก็บความลับของแกไว้กับแกซะ” ลูซิเฟอร์พูด ขณะมองลงไปที่ร่างของดอกเตอร์ราว ซึ่งนอนอยู่บนเท้าของตนเอง

 

ตอนที่ 145: การแก้แค้น

 

หมอเรย์แมนพาด็อกเตอร์เราไปที่ห้องแล็บเดียวกันกับที่ลูซิเฟอร์ถูกฆ่าตายครั้งสุดท้ายดอกเตอร์ราวที่ไร้หนทางไม่สามารถแม้แต่จะขยับแขนและขาของเขาเพื่อต้านทานแต่เขาก็ยังคงขอร้องเคนซึ่งเขายังคงเชื่อว่าเป็นแซนเดอร์ต่อไป

 

“มาสเตอร์แซนเดอร์! ฉันรู้ว่าฉันเคยหยาบคายกับนายมาก่อนแต่นายทําไม่ได้หรอกใช่ไหม นายไม่สามารถทําร้ายมนุษย์ที่อ่อนแอได้!โปรดช่วยฉันด้วยให้รัฐบาลจัดการกับ ฉัน! อย่าช่วยให้เกิดความอยุติธรรมที่นี่!”ดอกเตอร์ราวขอร้องเคน

 

“อย่ากังวล ฉันไม่ได้ช่วยให้เกิดความอยุติธรรมที่นี่ตรงกันข้ามความอยุติธรรมกําลังขอความช่วยเหลือจากฉันและฉันกําลังปฏิเสธ”เคนตอบในขณะที่เขาเพิกเฉยต่อคํา วิงวอนขอความช่วยเหลือ

 

ไม่นานนักก่อนที่ดอกเตอร์เรย์แมนจะมาถึงห้องแล็บลูซิเฟอร์ยังจําสถานที่แห่งนี้ได้นี่เป็นห้องสุดท้ายที่เขาเห็นในโรงงานแห่งนี้และเขาไม่มีวันลืมมันได้

 

“ฉันขอวางเขาลงเพื่อเปิดประตูนี้สักครู่ได้ไหม” ดอกเตอร์เรย์แมนถามลูซิเฟอร์

 

“ไม่จําเป็น” ลูซิเฟอร์พูด ขณะก้าวไปข้างหน้าและทุบประตูด้วยการเตะก่อนจะเข้าไปข้างใน

 

เคนเข้าไปในห้องแล็บด้วย แต่เขาไม่ได้ลืมที่จะบอกอะไรบางอย่างกับหมอเรย์แมนก่อนจะเข้าไป

 

“แกน่าจะอยู่ที่ประตูนั้นได้ ดังนั้นอย่าทําอะไรโง่ๆและฟังเขา”เคนกล่าว

 

ดอกเตอร์เรย์แมนเหงื่อตกเพราะความกลัวแต่คราวนี้เขายิ่งกลัวมากขึ้นไปอีกเมื่อก้าวเข้าไปในห้องแล็บ พลาง สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล็บ เขาสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ใกล้เตียงจ้องมองไปที่มัน

 

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะแตะเตียงนั้น ดูเหมือนทุกอย่างเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองตอนที่เขาถูกพามาที่นี่และบอกให้นอนบนเตียง

 

เขามองไปที่ดอกเตอร์เรย์แมนและกล่าวว่า “วางมัน ไว้บนเตียง”

 

ดอกเตอร์เรย์แมน รีบก้าวไปข้างหน้าและวาง ดอกเตอร์ราวไว้บนเตียง

 

ด็อกเตอร์ราวเริ่มมีความรู้สึกไม่ดีอย่างมากในขณะที่เขาถูกวางลงบนเตียงเขาเชื่อว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ลูซิเฟอร์กําลังจะทําอะไรและความคิดนั้นก็น่ากลัว

 

“อ๊ะ! ลูซิเฟอร์! ฟังฉันนะ! ได้โปรดหยุด! ถ้านายทําเช่นนี้จะไม่มีการย้อนกลับมาอีก! อย่ากลายเป็นคนชั่วมิฉะนั้นมรดกของพ่อแม่ของนายจะถูกทําลาย!เราสามารถแก้ไขความแตกต่างของเราได้ด้วยการพูดคุย!ฉันจะทําทุกอย่างที่นายต้องการพูดยกโทษให้ฉันครั้งนี้ครั้งเดียวก็ได้!นายยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นไม่มีอะไรสูญหาย!อย่าทําผิดพลาดแบบนี้!”ดอกเตอร์ราวกรีดร้องด้วยความกลัว

 

ไม่เพียงแต่ลูซิเฟอร์เท่านั้น แต่เขายัง อ้อนวอนเคนอื่นๆต่อไป “แซนเดอร์! โปรดช่วยฉันด้วย! ฉันสาบานต่อพระเจ้าว่าฉันจะเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง! ฉันจะไม่ทําอะไรผิดอีก!”

 

น่าเสียดายที่ไม่มีคนเดียวที่นี่ที่จะฟังเขา มีเพียงดอกเตอร์เรย์แมนเท่านั้นที่มีแนวโน้มจะฟังเขาแต่ถึงกระนั้นเขาก็กลัวเกินกว่าที่ชีวิตจะต่อสู้กับลูซิเฟอร์

 

“ติดสายไฟและเครื่องจักรทั้งหมดที่เขาผูกกับฉันในวันนั้นให้เขาด้วย”

 

เมื่อดอกเตอร์ราวถูกวางอยู่บนเตียง ลูซิเฟอร์จึงออกคําสั่งต่อไปนี้แก่ดอกเตอร์เรย์แมน

 

เมื่อถึงจุดนี้ แม้แต่เคนก็เข้าใจสิ่งที่ลูซิเฟอร์ต้องการทํา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! บราโว่า ฉันชอบอันนี้!” เคนพูดพลางหัวเราะเสียงดัง ”นี่เป็นความคิดที่ดีทีเดียว!”

 

ดอกเตอร์เรย์แมนก็เข้าใจเช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เขายังคงหวังว่าตั้งแต่ที่เขาช่วยลูซิเฟอร์ เขาจะปลอดภัย

 

ยิ่งไปกว่านั้น ดอกเตอร์ราวที่ทําทุกอย่าง คราวที่แล้วเขาแค่ฟังคําสั่งเท่านั้นไม่ใช่ว่าอาชญากรรมของเขาจะร้ายแรงขนาดนั้น

 

เขาติดเครื่องไว้กับร่างของดอกเตอร์ราว รวมทั้งสายไฟทั้งหมดด้วยนอกจากนี้เขายังหยิบวัตถุคล้ายแถบคาดศีรษะที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรที่อยู่ด้านหลังเขาและวางไว้รอบศีรษะของดอกเตอร์ราว

 

“วันนี้ฉันเป็นผู้ควบคุมสถานที่นี้! เริ่มการทดสอบ! ฉันต้องการดูว่าเขาสามารถรับมือกับความเจ็บปวดได้มากแค่ไหนหากฉันจําไม่ผิดทุกคนเรียกมันว่าดัชนีความเจ็บปวดใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆ” ลูซิเฟอร์ถามขณะยืนอยู่ใกล้แล็ปท็อปซึ่งดอกเตอร์เรย์แมนเคยควบคุมทุกอย่างไว้เป็นครั้งสุดท้าย

 

ดอกเตอร์เรย์แมน เตรียมพร้อมสําหรับสิ่งนั้นแล้ว เพราะมันเดาได้ไม่ยากหลังจากที่ลูซิเฟอร์ ขอให้วางร่างของดอกเตอร์ราว ไว้บนเตียงที่นี่

 

เขาเปิดแล็ปท็อปและกดปุ่ม 2-3 ปุ่ม ก่อนจะมองไปที่ลูซิเฟอร์และพูดว่า “ทุกอย่างพร้อมแล้วครับท่าน”

 

“ดี ทําตามที่ฉันบอก” ลูซิเฟอร์พูดย้ําคําที่หมอราวพูดเมื่อดอกเตอร์เรย์แมนบอกเขาว่าเขาพร้อมที่จะเริ่มแล้ว

 

 

เมื่อได้ยินการนับ ความกลัวความตายเริ่มมีผลมากขึ้นเมื่อหัวใจของหมอราวปั่นปวนด้วยความเจ็บปวด

 

“ได้โปรดหยุดเพื่อประโยชน์ของพระเจ้า!” ดอกเตอร์ราวตะโกน

 

“วันนี้ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพื่อฉัน วันนี้ฉันเป็นพระเจ้าองค์เดียวของแก”ลูซิเฟอร์บอกหมอราว ก่อนที่เขาจะเริ่มการนับต่อ

 

“1. เริ่ม!”

 

ดอกเตอร์เรย์แมนกดปุ่มบนแล็ปท็อปทันทีที่ลูซิเฟอร์นับเสร็จและเสียงเบา ๆ กระบวนการก็เริ่มขึ้น

 

“อ๊าาาากกกก!” ด็อกเตอร์ราว กรีดร้องออกมาดังที่สุดเท่าที่จะทําได้ด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวหัวใจที่ไหลผ่านร่างกายของเขา เขารู้สึกว่าร่างกายของเขากําลังถูกฉีกเป็ นชิ้นเล็กชิ้นน้อยและทุกเซลล์ในร่างกายของเขาก็แตกสลายอย่างรวดเร็ว

 

เขายังคงกรีดร้อง แต่การทรมานไม่หยุด กลับดําเนิ นต่อไปและดําเนินต่อไปในสิ่งที่ดูเหมือนชั่วนิรันดร์

 

“การเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วดัชนีความเจ็บปวดถึง 10 เปอร์เซ็นต์การทําลายเซลล์ได้เริ่มขึ้นแล้ว” ดอกเตอร์เรย์แมนประกาศขณะอ่านข้อมูลบนหน้าจอ

 

ในใจเขารู้สึกประหลาดใจ

 

“เมื่อเราทดสอบกับลูซิเฟอร์ การทําลายเซลล์เริ่มต้นที่ดัชนีความเจ็บปวด 60 เปอร์เซ็นต์ แต่กับดอกเตอร์ราวมันเริ่มต้นที่ดัชนีความเจ็บปวดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”

 

” หยุดเดี๋ยวนี้! การทําลายเซลล์ของฉันได้เริ่มขึ้นแล้ว!ฉันขอร้องนายล่ะนะ!โปรดช่วยฉันด้วย!ช่วยชีวิตฉันด้วย!”

 

“ถ้าไม่หยุด การตายของฉันมันจะไร้ประโยชน์! ฉันขอเถอ นะอภัยให้ฉันด้วยอ๊ากกกกก! หยุด! มันเจ็บมาก!” ด็อกเตอร์ราวกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดขณะที่เขาขอร้องให้ค นตรงหน้าหยุดการทรมานนี้โดยลืมไปว่าเขาได้ทรมานลูซิเฟอร์ไปรุนแรงมากกว่านี้

 

ดอกเตอร์อยู่ที่ดัชนีความเจ็บปวดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในขณะนี้

 

ตอนที่ 144: ความปรารถนาของหมอราว

 

ผู้นํา APE ยืนอยู่ข้างหลังลูซิเฟอร์ นี่หมายความว่าเขาได้จับลูซิเฟอร์และฆ่าศัตรูหรือไม่?เขาเชื่อ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เซอร์แซนเดอร์! คุณยอดเยี่ยมมาก คุณจับลูซิเฟอร์ได้! น่าทึ่งมากฉันขออะไรคุณอย่างหนึ่งได้ไหมฉันรู้ว่าพรุ่งนี้ฉันจะถูกคุมขังโดยรัฐบาลฉันเหลือเวลา เพียงวันเดียวในวันนี้คุณช่วยเติมเต็มความปรารถนาของฉันได้ไหม ได้โปรด สิ่งนี้จะช่วยมนุษยชาติได้อย่างมาก” ดร.ราวกล่าว

 

“ช่วยอะไร?” เคนถามยิ้มๆ “ถ้าฉันเห็นว่ามันคุ้มค่า ฉัน จะฟัง”

 

ลูซิเฟอร์ยังยืนมองด็อกเตอร์ราว จดจําทุกสิ่งที่เขาผ่านมามีความโกรธมากมายในตัวเขา เขาต้องการฆ่าหมอเราตอนนี้ แต่เขาควบคุมตัวเองได้ เขามีแผนที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ เขายังต้องการได้ยินว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไร?

 

“ได้โปรดให้ตัวลูซิเฟอร์กับฉันสักวันหนึ่ง ฉันแค่อยากจะทําการทดสอบกับเขาสัก 2-3 ข้อเพื่อดูว่าเราจะสามารถหาวิ ธีรักษาของเขาได้หรือไม่หรืออะไรเป็นสาเหตุที่เขารอดมา ได้! ได้โปรดให้ฉันทําเถอะ! ลองนึกดูว่ามันจะกี่ชีวิตประหยัดจากการต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ในดั้นเจี้ยน!” หมอราวพูดกับเคน

 

“โอ้ หลังจากนี้คุณยังต้องการจะทดสอบเขาอีกหรือ” เคนถามก่อนจะหัวเราะออกมา

 

เขาหันไปมองทางลูซิเฟอร์ ในขณะที่เขายิ้ม “ลูซิเฟอร์ เด็กน้อย เธอเห็นความไร้ยางอายของชายผู้นี้หรือไม่ นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของมนุษย์ ”

 

“ท่านแซนเดอร์ คุณกําลังพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ” หมอราวถามพลางขมวดคิ้ว

 

“โอ้ แกจะเข้าใจในไม่ช้า และความอยากรู้ของฉันก็จะจบลงด้วยเพราะฉันก็รอดูว่าเขาจะทําอะไร” เคนกล่าว

 

ลูซิเฟอร์เริ่มเดินไปหาหมอราวอย่างช้าๆ

 

“เธอ หยุดตรงนั้น! ลูซิเฟอร์ ฟังฉันนะ! เธอไม่อยากช่วยผู้คนเหรอ ฉันรู้ว่าการทดสอบครั้งล่าสุดของเราผิ ดพลาดเล็กน้อยและฉันเสียใจเสมอที่เธอเสียชีวิตใน การทดสอบครั้งนั้น เราเลยพลาดไปหน่อยเธอไม่รู้หรอ กว่าฉันดีใจแค่ไหนที่เห็นเธอตื่น!”

 

“กลับมาหาเราเถอะ! เราสามารถทํางานเพื่อค้นหาการใช้ความสามารถของเธอให้ดีที่สุด และเธอสามารถเป็นเห มือนพ่อของเธอ เธอสามารถเป็นฮีโร่ของมนุษย์อย่างที่เขา เป็นได้! มาหาฉันสิ” หมอราวกล่าวเขาขว้างปืนที่อยู่ ในมือแล้วกางแขนออก

 

เขารู้ว่าลูซิเฟอร์รักษาได้และปืนนั้นก็ไม่มีประโยชน์สําหรับเขาดังนั้นเขาจึงต้องการใช้ความไร้เดียง สาของลูซิเฟอร์ช่วยตัวเองเขายังคงจําได้ว่าลูซิเฟอร์ตั้งใจแน่ วแน่ที่จะเป็นเหมือนพ่อของเขา ตราบใดที่เขาจําได้เขาก็แน่ใจว่าจะเห็นด้วยกับการทดสอบ เขาคิด

 

ลูซิเฟอร์เดินไปรอบๆ โต๊ะซึ่งหมอเรายืนอยู่

 

“มาเถอะ ลูซิเฟอร์ ลืมอดีตและตั้งตารออนาคตที่สดใสหมอราวกล่าว

 

“อนาคตที่สดใส? อนาคตของฉันมีเพียงความมืดเพราะแกและตอนนี้แกจะได้สัมผัสกับความมืดแบบเดียวกับ ที่แกให้ฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบขณะยกมือขึ้นและยิงสายฟ้าอ่อน ที่เข่าขวาของด็อกเตอร์ราว

 

“อ๊ากกกกก!” สายฟ้าฟาดเข้าที่เข่าขวาของด็อกเตอร์เราทิ้งหลุมไว้บนเข่าของเขา ในขณะที่ทําให้เขากรีดร้องะลางล้มลงกับพื้น

 

“อ๊าาาา!”

 

เสียงกรีดร้องของเขาดังขึ้น เมื่อเข่าซ้ายของเขาถูกโจมตีเช่นกันเขาดึงขาทั้งสองข้างของเขาออก เขามั่นใจว่าตอนนี้ เขาจะเดินไม่ได้แล้ว

 

“ไอ้สารเลว! เราปฏิบัติต่อแกอย่างดีตอนแกอยู่ที่นี่มาตั้ง5 ปี!เราเลี้ยงแกและเราพยายามที่จะช่วยแก! นี่คือวิธี ที่แกตอบแทนเรางั้นเหรอ!หยุดเดี๋ยวนี้!”หมอราวกรีดร้อง

 

สําหรับหมอเรย์แมนเขาไม่แม้แต่จะเคลื่อนไหว ในขณะที่เขาถูกแช่แข็งด้วยความกลัว

 

“ตอบแทนแกเหรอ ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น แกจะได้เงินคืนเต็มจํานวน” ลูซิเฟอร์พูดก่อนจะยิ่งสายฟ้าอีก 2 ลูกใส่ ข้อศอกแต่ละอันของด็อกเตอร์ราวทําให้เขากรีดร้อง มากขึ้นไปอีก

 

เสียงของหมอเราแหบแห้ง ขณะที่ใบหน้าของเขา เต็มไปด้วยน้ําตาใบหน้าของเขาได้สูญเสียสีไปทั้งหมด เมื่อมันกลายเป็นสีซีด

 

“แปลก เขาบอกว่าเขาจะไม่ฆ่าด้วยสายฟ้าเขาโกหกเหรอ?”ขณะยืนอยู่ด้านหลัง เคนสงสัยว่าลูซิเฟอร์กําลังทําอะไรอยู่เมื่อเขาถามว่าลูซิเฟอร์จะใช้พลังของเขาเพื่อฆ่า หรือไม่เขาก็ตอบว่าไม่

 

นั่นคือเหตุผลที่เคนสงสัยว่าลูซิเฟอร์จะใช้วิธีการใด หากต้องการเห็นเขาใช้สายฟ้า เคนรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

 

หลังจากที่ลูซิเฟอร์ทําลายความสามารถของหมอราวในการใช้แขนและขาของเขา เขาก็หันไปมองหมอเรย์แมน 

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์มองมาที่เขา เข่าของหมอเรย์แมนก็อ่อนแรงขณะที่เขาล้มลงกับพื้น

 

” ฉันขอร้อง! อย่าฆ่าฉัน! ฉันสาบานต่อพระเจ้าว่าฉันจะทําทุกอย่างที่คุณพูด! ฉันจะเป็นทาสของคุณและแม้แต่สุ นัขของคุณถ้าคุณต้องการอย่าฆ่าฉัน!” หมอเรย์แมน เริ่มขอร้องให้ลูซิเฟอร์ช่วยชีวิต แต่ดูเหมือนลูซิเฟอร์ไม่ประทับใจ

 

“จะทําอะไรก็พูดมาสิ” เขาถามหมอเรย์แมน

 

“ฉันจะทํา! ฉันสาบานต่อพระเจ้า ฉันจะทํา! คุณจะไม่ได้รับคําถามจากฉันซ้ําสอง! อย่าเพิ่งฆ่าฉันเลย!” หมอเรย์แมนได้ตอบกลับ

 

“เอาล่ะ สิ่งที่ฉันต้องการง่ายๆ ถ้าอย่างนั้น หยิบมันขึ้นมาในอ้อมแขนของแก” ลูซิเฟอร์พูด ขณะที่เขาชี้ไปทางหมอราว

 

“ใช่ ๆ ฉันจะทําเดี๋ยวนี้!” ด็อกเตอร์เรย์ แมนรีบลุกขึ้นยืนก่อนที่เขาจะหยิบร่างของด็อกเตอร์ราว ที่ ยังคงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดน่าเสียดายที่ด็อกเตอร์ราวไม่ สามารถขยับแขนหรือขาของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถต้านทานได้ในตอนนี้

 

เขาเป็นเหมือนคนอัมพาตที่ยังรู้สึกเจ็บปวด

 

“พาเขาไปที่ห้องที่ฉันถูกฆ่า ฉันต้องการเห็นสถานที่นั้น” ลูซิเฟอร์สั่ง

 

หมอเรย์แมนได้ยินคําพูดของเขา ซึ่งตามที่เขาสัญญาไว้เขาไม่ได้ถามถามซ้ําสอง

 

หมอเรย์แมนเริ่มเดินนอกสํานักงานโดยมีหมอราวอยู่ในอ้อมแขนลูซิเฟอร์ตามหลังพวกเขาด้วยเคน

 

“ฉันเดาว่าฉันตัดสินเร็วเกินไป เขาไม่ได้ฆ่าด็อกเตอร์คนนั้นด้วยสายฟ้าฉันสงสัยว่าเขาจะแก้แค้นได้สําเร็จ แค่ไหน” เคนคิดขณะลูบมือด้วยความตื่นเต้น

 

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเขาเขาลืมไปว่าพวกเขาต้องจากไปให้เร็วที่สุดเพราะมีการต่อสู้เกิดขึ้นข้างนอก 

 

ตอนที่ 143: ความตายอย่างง่ายดาย

 

หัวหน้าหน่วยเบต้าของ APF อยู่ที่นี่พร้อมกับหมอ 2 คน ในขณะนี้ ดูเหมือนเขาจะดูโทรศัพท์ของเขา แต่โทรศัพท์กลับไม่มีสัญญาณใดๆ

 

“เฮ้อ น่าเบื่อเกินไป จะไม่มีใครโจมตีสถานที่แห่งนี้โดยมีหน่วยเบต้าคอยคุ้มกันทางเข้า ฉันแค่เสียเวลาอยู่ที่นี่ ฉันเกลียดมันมาก!” เยลกล่าว อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาพูดคําดังกล่าว ความเงียบในห้องก็ถูกทําลายลงโดยเสียงยิงภายนอกอย่างต่อเนื่อง

 

ยังสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องจากภายนอก

 

“ดูเหมือนฉันจะพูดเร็วเกินไปนะ นาย 2 คน อยู่ที่นี่ อย่ากล้าออกไปข้างนอก ฉันจะจัดการทุกอย่าง!” เยลพูดอย่างมั่นคงในขณะที่เขายืนขึ้นและวิ่งไปที่ประตู

 

เมื่อผลักประตูออกไป เขาก้าวออกไปข้างนอกเพียงเพื่อรับการต้อนรับด้วยสายตาที่สยดสยอง ซึ่งทหารยามทั้งหมดนอนตายอยู่ และสายฟ้าก็พุ่งเข้ามาหาเขา

 

เขายกมือขึ้นไปข้างหน้าและทําให้บาเรียกึ่งโปร่งแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

 

สายฟ้าฟาดกับบาเรียจนหายไปในที่สุด

 

“ฉันเดาว่าแกคงเป็นลูซิเฟอร์ ห้ะ งั้นแกก็ลอบผ่านแนวรับได้ กัปตันไอย์ก็มองการณ์ไกลอยู่บ้าง ฉันอารมณ์เสียโดยไม่มีเหตุผลเลยแฮะ” เยลพูดอย่างเกียจคร้าน ขณะที่เขาจ้องไปที่ลูซิเฟอร์

 

ในไม่ช้า สายตาของเขาจับจ้องไปที่เคน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังลูซิเฟอร์ ซึ่งยังคงปลอมตัวเป็นแซนเดอร์

 

“แซนเดอร์ ทําไมนายถึงอยู่กับเขา” เขาถามอย่างแปลกใจ “เดี๋ยวนะ เสื้อผ้าของนาย! แกไม่ใช่แซนเดอร์ใช่ไหม”

 

“ให้ฉันเดาว่าแกคือเคน?” เขาถามต่อไปโดยเดาเอา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า แกเดาถูกแล้ว ดูเหมือนว่าฉันจะโด่งดังไปหน่อย” เคนพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา

 

“ใช่ แกค่อนข้างมีชื่อเสียงเพราะความสามารถของแกที่น่ารําคาญนี้ ไม่ต้องกังวล ฉันจะทําให้แน่ใจว่าแกมีชื่อเสียงในคุกของเราด้วย” เยลตอบ

 

“ฉันคิดว่าแกทําไม่ได้ แกต้องมีชีวิตอยู่เพื่อทําเช่นนั้น และกับเจ้าตัวเล็กนี้ ฉันคิดว่าแกทําไม่ได้” เคนกล่าวพร้อมยิ้มทันทีที่ลูซิเฟอร์ยิงสายฟ้าอีกลูกหนึ่ง

 

“ฮะๆ นี่มันไม่มีอะไร บาเรียของข้าสามารถหยุดมันได้

 

เมื่อเห็นสายฟ้าลูกต่อไปพุ่งเข้าหาเขา เยลไม่ตอบสนองเพราะความเย่อหยิ่งของเขา สายฟ้าแรกที่ตกลงบนบาเรียของเขาไม่สามารถทําอะไรได้

 

เขาเชื่อว่าบาเรียของเขาเหนือกว่าสายฟ้าของลูซิเฟอร์เพราะความไร้ประสิทธิภาพของเขา และความพึงพอใจนั้น ทําให้เขามืดมนเมื่อเห็นความเป็นจริง

 

“ฮะ?”

 

ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าเขาผิดอย่างไรทันทีที่สายฟ้าสีดํากระทบกับบาเรีย

 

บาเรียที่ต้านทานสายฟ้าลูกแรกแตกเป็นเสี่ยงๆ ราวกับกระจกต่อหน้าสายฟ้าลูกที่ 2 นี้ และถึงกระนั้น สายฟ้าก็ยังไม่หยุดเมื่อมันทะลุผ่านกระโหลกศีรษะของเยล ซึ่งยังคงตื่นตระหนกด้วยความตกใจ

 

รองกัปตันหน่วยเบต้าเสียชีวิตอย่างง่ายดาย ทั้งหมดเป็นเพราะความประมาทของเขา

 

เยลเป็นพ่อมดที่มีความสามารถ 2 อย่าง หนึ่งในนั้นคือความสามารถหลักของเขาที่แข็งแกร่งที่สุดและมีความสามารถประเภทการโจมตี สําหรับวันที่ 2 ของเขา บาเรียนี้คือความสามารถในการป้องกันของเขา

 

เมื่อเขาออกมาจากห้อง เขาไม่สามารถหลบการโจมตีด้วยสายฟ้าอย่างกะทันหันได้ ดังนั้นเขาจึงใช้บาเรียของเขาโดยไม่รู้ตัว และความสําเร็จของบาเรียของเขานั้นอันตรายสําหรับเขา

 

ตามที่เขาได้ยินมา ลูซิเฟอร์มีความสามารถระยะไกลเพียงหนึ่งเดียว สําหรับเคน เขาไม่มีความสามารถระยะไกล

 

เยลเชื่อว่าเขาปลอดภัยเพราะไม่มีความสามารถระยะไกลอยู่ที่นี่เพื่อทําร้ายเขาและทําลายบาเรียของเขา เขาไม่รีบเร่งในการโจมตี ทําให้ลูซิเฟอร์มีโอกาสฆ่าเขา

 

เขาไม่รู้ว่าเหตุผลเดียวที่บาเรียของเขาดูไร้เทียมทานกับสายฟ้าของลูซิเฟอร์ในครั้งล่าสุดก็เพราะว่าลูซิเฟอร์ใช้พลังเพียงเศษเสี้ยวของเขาตั้งแต่เขาเผชิญหน้ากับมนุษย์

 

เขาโจมตีเยลโดยคิดว่าเขาเป็นมนุษย์ด้วย สายฟ้าอ่อนเพราะเหตุนั้น ทันทีที่ลูซิเฟอร์เห็นว่าเป็นแวเรียนท์ สายฟ้าตัวที่ 2 ของเขาก็เข้าโจมตีเยลราวกับลูกบอลทําลายล้าง เพื่อทําลายความเชื่อของเยล

 

สายฟ้าที่แรงที่สุด ซึ่งทะลุผ่านอนุภาคคาร์ดินัลได้ทําลายบาเรียอย่างง่ายดาย นําศัตรูที่แข็งแกร่งคนสุดท้ายออกไปทําให้การปะทะรุนแรงขึ้นเล็กน้อย

 

“ฉันบอกแกล่วงหน้าแล้ว กับเจ้าตัวเล็กที่อยู่ แกจะต้องลําบากในการมีชีวิตอยู่ การดูถูกเขาต่ำไปเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่แกสามารถทําได้” เคนกล่าว ขณะมองดูศพของเยล

 

“ฉันแปลกใจที่พวกแกไม่ได้เรียนรู้บทเรียนใดๆ จากสมาชิก APF ที่ถูกเขาฆ่า”

 

“หรือเพราะแกมาจากหน่วยเบต้ากันนะ แกประเมินสมาชิกหน่วยเดลต้าต่ำไป โดยคิดว่าการตายของพวกเขาหมายความว่าพวกเขาอ่อนแอ ไม่ใช่ว่า ลูซิเฟอร์ แข็งแกร่ง อะไรก็ตาม ฉันเดาว่ามันจะดีกว่าสําหรับเราที่แกดูถูกเขาต่ำไป” เขาเสริมก่อนจะยิ้ม

 

“เมื่อถึงเวลาที่แกเข้าใจความผิดพลาดของแก เราก็คงจะทําให้เขาเป็นหนึ่งในวอร์ล็อค ที่แข็งแกร่งที่สุดที่โลกนี้เคยเห็นมา” เขาคิดขณะเดินตาม ลูซิเฟอร์ ซึ่งเริ่มเดินไปที่ห้องทํางานของหมอราว

 

“ศัตรูกําลังอยู่ข้างนอก แต่ฉันไม่ได้ยินเสียงแล้ว ผู้ชายคนนี้ฆ่าพวกเขาเหรอ หรือเขาถูกฆ่าแทน ถ้าเขาตาย เรากําลังจะตายในไม่ช้านี้” หมอเรย์แมนกล่าวด้วยความกังวลในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ประตู

 

แม้แต่หมอราวก็ดูกังวลเล็กน้อยในครั้งนี้ ถ้าศัตรูได้ฆ่าทหารยามอย่างง่ายดายและหากเขายังมีชีวิตอยู่ เขาก็เป็นแวเรียนท์อย่างแน่นอน ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง

 

เขาเปิดลิ้นชักของโต๊ะและหยิบปืนที่เก็บไว้ข้างในขึ้นมาก่อนที่เขาจะเริ่มรอในขณะที่ยกปืนขึ้นและเล็งไปที่ประตู

 

ลูซิเฟอร์หมุนลูกบิดประตู ขณะที่เขาเปิดประตูช้าๆ ในที่สุดเขาก็อยู่ที่นี่ ในที่สุดเขาก็ได้เห็นใบหน้าที่กําลังยิ้มขณะที่ลูซิเฟอร์ตาย ในที่สุดเขาก็จะเสร็จสิ้นการแก้แค้นของเขา

 

เด็กชายเปิดประตู พลางก้าวเข้ามา เคนเข้ามาข้างหลังเขาด้วย

 

แม้ว่าเคนจะอยู่เบื้องหลังลูซิเฟอร์ แต่สําหรับหมอราวเคนในตอนนี้ดูเหมือนแซนเดอร์

 

ความเจ็บปวดรุนแรงยิ่งกว่าถูกฟ้าผ่าเสียอีกโชคดีที่ความเจ็บปวดนั้นไม่นานนัก ตั้งแต่ร่างกายของเขากลายเป็นเถ้าถ่านในขณะที่เสียงกรีดร้องของเขาเงียบลง

หลังจากทําทุกอย่างเสร็จแล้วลูซิเฟอร์ก็ยืนขึ้นขณะที่เขาเริ่มเดินไปในทิศทางที่ยามคนนั้นบอกเขา

เคนตามหลังลูซิเฟอร์ เท้าของเขาเหยียบเถ้าถ่านของทหารรักษาการณ์คนนั้นขณะเดินผ่านจุดนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะจับมือของเขาเอง

ความสามารถในการเน่าเปื่อยของลูซิเฟอร์นี้ช่างน่ากลัวจริงๆ

ไม่น่าแปลกใจเลยที่แคลรีสถูกเรียกว่านักเวทย์ที่น่ากลัวที่สุดความสามารถนี้น่ากลัวจริงๆ” เขาคิดขณะยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมเขาไม่ต้องการที่จะอยู่คนละฝั่งกับลูซิเฟอร์ อ ย่างน้อยเมื่อเขาอยู่ใกล้ลูซิเฟอร์

“โชคดีที่เขาอยู่ข้างเรา” เขาคิด ขณะเดินตามหลังลูซิเฟอร์

เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ห้องโถงที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบรรยายไว้พวกเขาก็เริ่มพบผู้คุ้มกันมากขึ้นเรื่อยๆตลอดทาง

เคนคาดไว้แล้ว และเขาก็พร้อมที่จะต่อสู้ แต่เขารู้ว่าเขากลายเป็นผู้ชมแล้ว

ทันทีที่เห็นแม้แต่ยามคนเดียว ลูซิเฟอร์ก็ยิงสายฟ้าของเขาสําหรับการเล็งของเขา มันสมบูรณ์แบบมากจนโดนตรงกลางหน้าผากของทหารรักษาการณ์ไม่เคยพลาดเลย แม้แต่ครั้งเดียว

“แปลก เป้าหมายที่สมบูรณ์แบบในวอร์ล็อคที่เพิ่งตื่นขึ้นเมื่อเร็วๆนี้?เขาฝึกฝนเป้าหมายมากจนสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้เลยงั้นหรือ?หรืออาจเป็นไปได้ว่าเขามีความสามารถอีกอย่างที่เราไม่รู้สิ่งที่ช่วยให้เป้าหมายของเขาสําเร็จได้ไว?เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นวอร์ล็อคที่ถูกปลุกด้วยความสามารถทั้งหก? หรือจะเป็นมากกว่านี้?”

ยิ่งเคนเห็นลูซิเฟอร์ฆ่ามากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้นความสมบูรณ์แบบดังกล่าว

ตลอดทางลูซิเฟอร์ได้สังหารทหารยามไปแล้วกว่า 20 คนก่อนที่พวกเขาจะยกปืนขึ้นที่เคนและลูซิเฟอร์

ไม่นานก่อนที่พวกเขาจะไปถึงห้องโถงที่นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่

“ด้วยความยินดี สนุกกับมันอย่างเต็มที่ ฉันจะจับตาดูมันเป็นการแก้แค้นของคุณ”เคนบอกลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาหยุดอยู่ที่ทางเข้าห้องโถง

เขาหันหลังกลับและยืนโดยให้หลังหันเข้าหากําแพงและกอดอก

ลูซิเฟอร์มองไปที่ประตูด้านหลัง ซึ่งนักวิทยาศา สตร์ส่วนใหญ่ถูกขังไว้นักวิทยาศาสตร์ของสถานที่โหดร้ายแห่งนี้ซึ่งฆ่าเขาและคนบริสุทธิ์อีกมากมาย

เขายกขาขวาขึ้นทุบประตู ทุบประตูให้แตกขณะที่เขาเข้าไปข้างใน

เคนยืนรออยู่ที่หน้าประตูด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องออกมาจากห้องโถง

“ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กคนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะรู้วิธีสนุกกับตัวเองจริงๆ”เคนพูดขณะรอต่อไป

หลังจากผ่านไป 5 นาที เสียงกรีดร้องทั้งหมดก็หยุดลงไม่ได้ยินเสียงภายในห้องโถง

“เขาทําเสร็จแล้วเหรอ?” เคนคิด ขณะหันหลังกลับและเข้าไปในห้องโถง

ทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็เห็นผลของการสังหารหมู่มีศพอยู่รอบๆมีรูที่หน้าผากของพวกเขา บางคนยังสามารถมองเห็นคอที่หักไปแล้วได้

สําหรับส่วนที่เหลือ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกเป็นเหยื่อของพลังแห่งการเน่าเปื่อยนั้นเนื่องจากสามารถมองเห็นขี้เถ้าได้ทั่วห้องโถง

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่บนพื้น หน้าเถ้าถ่าน มองดูมัน

“มีอะไรบางอย่างผิดปกติหรือ?” เคนถามด้วยความสงสัย ทําไมเขามองไปที่ขี้เถ้านั้น?

“ดูเหมือนมีบางอย่างขาดหายไป ฉันรู้สึกไม่พอใจเลย” ลูซิเฟอร์พูดขณะยืนขึ้นพร้อมส่ายหัว

“ผู้กระทําผิดหลักไม่อยู่ที่นี่ แน่นอนว่าคุณจะไม่รู้สึกพึงพอใจที่นี่มาเถอะมานําความพอใจนั้นมาให้คุณ”เคนกล่าวขณะชี้ให้ลูซิเฟอร์ตามเขาไป

ทั้งสองเดินผ่านโถงทางเดินขณะที่พวกเขาก้าวไปสู่จุดหมายสุดท้ายซึ่งก็คือสํานักงานของหมอราว

“ลูซิเฟอร์ บอกฉันอย่างหนึ่ง” เคนถาม

“เรื่องอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามกลับ

“หมอราวคนนั้นคือผู้ร้ายหลักและเป็นศัตรูที่คุณเกลียดที่สุดคุณวางแผนจะฆ่าเขาอย่างไรให้ถูกใจคุณมากขึ้น”เคนถาม

“คุณต้องการที่จะทําลายร่างกายของเขาด้วยความแข็งแกร่งของคุณทําลายเขาจากสายฟ้าของคุณหรือไม่หรีอคุณต้องการใช้ความสามารถของการเน่าเปื่อยของคุณและ ดูเขาคร่ําครวญด้วยความเจ็บปวด?

“ไม่มีเลย” ลูซิเฟอร์ตอบ

“ไม่มีงั้นเหรอ? คุณไม่ต้องการที่จะฆ่าเขาโดยใช้พลังของคุณ? แล้วคุณต้องการจะฆ่าเขาอย่างไร”เคนถาม ก็ยิ่งแปลกใจกับคําตอบมากขึ้น

“คุณจะได้รู้ในไม่ช้านี้” ลูซิเฟอร์ตอบโดยไม่พูดอะไรอีก

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณต้องการเก็บเป็นความลับ”เคนหัวเราะเมื่อได้ยินคําตอบของลูซิเฟอร์ “ตื่นเต้นที่ได้เห็นอะไรแบบนี้มันดูน่าสนุกดีนะ”

ทั้ง 2 คนไปทางซ้ายสุดท้ายและจบลงที่ทางเดินสุดท้ายสมมุติว่าห้องสุดท้ายที่นี่คือห้องทํางานของหมอราว

พวกเขามองเห็นปลายทางเดินแล้ว และเห็นยามอยู่ข้างนอกด้วยมียาม 6 คนอยู่นอกสํานักงานคอยจับตาดู

ทันทีที่ทหารยามเห็นลูซิเฟอร์ พวกเขาก็ยกปืนขึ้นแต่ในระหว่างนี้พวกเขา 2 คนตายไปแล้วเพราะสายฟ้าจากลูซิเฟอร์

ส่วนที่เหลือ พวกเขาสามารถยกปืนขึ้นและยิงได้กระสุนส่วนใหญ่มุ่งเป้าไปที่หน้าอกของลูซิเฟอร์ขณะที่บางนัดก็เล็งมาที่ศีรษะของเขา

แม้ว่าจะมีความสามารถในการรักษาที่มีประสิทธิภาพลูซิเฟอร์ก็มีเสื้อกันกระสุนและกางเกงที่ทําจากอนุภาคคาร์ดิ นัล ซึ่งกันกระสุนได้อยู่แล้วดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเกี่ยวกับก ระสุน

สําหรับกระสุนที่เล็งไปที่ศีรษะของเขา เขาใช้มือและส่วนต่อของเสื้อเกราะกันกระสุนเพื่อปกป้องศีรษะของเขา จากกระสุนเขาพยายามเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้จากแบบ บ้าๆไปเป็นแบบมีเหตุมีผล

แม้ว่าเขาจะรักษาได้ แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ได้รับบาดเจ็บ

ใช้มือซ้ายป้องกันศีรษะจากกระสุน จากมือขวาของเขาเขายังคงยิ่งสายฟ้าสังหารทหารยามจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ

สํานักงานของหมอราวอยู่ในความเงียบตลอดทั้งวันเนื่องจากมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่อยู่ที่นี่และพวกเขาไม่ได้พูดอะไรมากในขณะนี้

 

ตอนที่ 141: ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ

 

ลูซิเฟอร์และเคนยังคงเดินผ่านโถงทางเดินที่ว่างเปล่าเป็น เวลานานก่อนที่จะเห็นวิญญาณที่มีชีวิตในที่สุด

 

คนที่พวกเขาเห็นคือยามปกติที่ดูประหลาดใจเมื่อเห็นลูซิเฟอร์กลับมา ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับว่าเขาได้เห็นผี

 

ลูซิเฟอร์ยังจํายามได้ตั้งแต่เมื่อก่อน เขาเคยเห็นผู้ชายคนนี้ไม่กี่ครั้ง นอกจากนี้เขายังไม่ชอบผู้ชายคนนี้

 

เขายังคงจําตอนที่เขาเพิ่งออกมาจากการทดสอบ เขาเห็นถาดที่มีแก้วน้ำวางอยู่บนหิ้ง

 

เนื่องจากเขารู้สึกเหมือนกําลังจะตายจากความกระหาย เขาจึงหยิบแก้วน้ำขึ้นมาและกําลังจะดื่มเมื่อยามคนนี้ฉวยน้ำจากมือของเขา

 

“นี่สําหรับลูกชายของด็อกเตอร์ราว! คุณดื่มไม่ได้ ฉันวางน้ำแกวนี้ไว้ให้เขาครู่หนึ่งแล้ว และใครก็ตามที่สุ่มคิดว่าตนเองนั้นดื่มได้งั้นหรือ? พยาบาลอยู่ไหน พามันออกไปเดี๋ยวนี้”

 

ยามดุลูซิเฟอร์อย่างรุนแรงเป็นอย่างมากในวันนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่ใช่คนเดียวที่ถูกตําหนิเพราะพยายามดื่มน้ำเท่านั้นแต่พยาบาลก็ถูกดุด้วยเหตุนี้ด้วย

 

เพราะนางพยาบาลถูกดุว่าไม่ดูแลลูซิเฟอร์ เธอจึงรู้สึกรําคาญกับเขา ส่งผลให้เธอประพฤติตัวแย่กว่าปกติ

 

ผู้คุมจ้องที่ลูซิเฟอร์เบิกตากว้าง เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เขาเห็น เด็กที่ตายแล้วกลับมาแล้ว?

 

หมอราวและคนอื่นๆ ที่รู้เรื่องนี้ยังไม่ได้บอกเขาว่าลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่

 

“คุณยังมีชีวิตอยู่ไหม?” ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป เพราะเขาไม่เชื่อเรื่องผี คําอธิบายเดียวที่เป็นไปได้คือลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่

 

ไม่ว่าในกรณีใด เขาเคยได้ยินเพียงเกี่ยวกับการตายของลูซิเฟอร์และไม่ได้เห็นมัน

 

“ฉันยังมีชีวิตอยู่” ลูซิเฟอร์พูด ขณะยกนิ้วเข้าหาผู้คุมและยิงสายฟ้าอ่อนๆ

 

“อ๊ากกกกก!”

 

เสียงกรีดร้องออกจากริมฝีปากของผู้พิทักษ์ทันทีที่สายฟ้าฟาดกระทบเขา

 

แม้ว่าสายฟ้าของเขาจะอ่อนสําหรับลูซิเฟอร์ แต่สําหรับคนอื่นๆ มันน่ากลัวเพราะมันทิ้งรูไว้ที่หัวเข่าของทหารรักษาการณ์ ซึ่งทําให้เขาล้มลงกับพื้น แผดเสียงด้วยความเจ็บปวด

 

ลูซิเฟอร์เริ่มเดินไปหายาม ที่กําลังกรีดร้องเหมือนสัตว์ใกล้ตายด้วยความเจ็บปวด

 

“ลูซิเฟอร์ อย่าฆ่าเขา เราต้องขอคําแนะนําจากเขา”

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์เดินเข้าหาทหารยาม เคนเตือนเขาว่าพวกเขาต้องการยามที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างน้อยก็จนกว่าพวกเขาจะได้คําตอบ

 

“หลังจากผ่านไปนาน เราพบคนที่สามารถถามคําถามได้ อย่าให้โอกาสนี้เสียเปล่า” เคนกล่าว

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้าตอบแต่ไม่ได้พูดอะไรในขณะที่เขาหยุดอยู่ตรงหน้าทหารรักษาการณ์

 

ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ตรงหน้าทหารรักษาการณ์แล้วในตอนนี้ “วันนี้ไม่พกน้ำให้คนอื่นแล้วหรือ”

 

“คุณฟื้นแล้ว! เป็นไปได้ยังไง! พวกเขาบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้!” ยามอุทานออกมา ขณะที่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลอาบแก้มของเขา

 

“แกควรถามคําถามนั้นกับคนที่บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องกังวล ฉันจะส่งพวกเขาไปหลังจากแกเอง” ลูซิเฟอร์พูดขณะที่เขานั่งคุกเข่า

 

เขาค่อยๆ ถอดถุงมือสีดําออกจากมือขวาแต่ไม่ได้สัมผัสผู้คุม เขาเพียงนํานิ้วมาใกล้ใบหน้าของทหารรักษาการณ์ทําให้เขาดูเหมือนว่าเขาจะยิ่งสายฟ้า

 

เมื่อเห็นนิ้วนั้นที่เพิ่งยิงลูกศรมองมาที่ใบหน้าของเขา หัวใจของทหารยามก็เต้นรัวด้วยความกลัว

 

เขามองไปที่เคน ซึ่งยังคงดูเหมือนแซนเดอร์

 

“คุณ! ยืนดูทําไม! คุณมาจาก APE! เป็นหน้าที่ของคุณที่จะช่วยฉันจาก แวเรียนท์! ได้โปรดช่วยฉันเดี๋ยวนี้!” เขาพูดอย่างหนักแน่น

 

“ช่วยเจ้าให้รอดจาก แวเรียนทั้งั้นเหรอ ฮ่า มันเป็นเรื่องตลกดี แวเรียนท์ควรจะให้ความปลอดภัยกับพวกแกไหม หลังจากสิ่งที่แกได้ทํากับพวกเขาที่นี่” เคนตอบอย่างเกียจคร้าน ในขณะที่เขาเหยียดแขนออกและหาว

 

“ชีวิตของแกขึ้นอยู่กับลูซิเฟอร์ตอนนี้ เขาเป็นพระเจ้าของแกและเขาเป็นมารของแกเช่นกัน ทําตามที่เขาพูดแล้วแกอาจจะมีชีวิตอยู่ ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งไม่ว่ากรณีใด ๆ ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับแก” เขา กล่าวพร้อมรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

“ค-คุณต้องการอะไร ฉันจะทําตามที่คุณพูด อย่าฆ่าฉัน!” ยามบอกลูซิเฟอร์เพื่อขอชีวิต

 

“มันเป็นเรื่องน่าขัน” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมส่ายหัว “บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ปฏิบัติกับฉันเหมือนเป็นทาสกําลังร้องขอชีวิตจากฉัน มันคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับตัวแกใช่ไหม ถ้าเรื่องแค่นั้นมันทําให้แกรู้สึกสบายใจ แกสามารถฆ่าคนได้แท้ๆ แต่พอแกหมดหนทางสู้ แกก็ทําได้แค่ขอร้องเขาชีวิตงั้นเหรอ”

 

“ฉันไม่ได้ทําอะไรคุณ ฉันบริสุทธิ์ อย่าฆ่าฉัน ฉันเป็นแค่ผู้พิทักษ์ ฉันจะทําทุกอย่างที่คุณพูด!” ยามบอกลูซิเฟอร์พลางขอร้องเขา

 

“จะทําอะไรก็ได้งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นบอกฉันสิ นักวิทยาศาสตร์นั่นอยู่ที่ไหน ฉันจะหาพวกมันได้ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“พวกนักวิทยาศาสตร์? ทั้งหมดอยู่ในห้องโถง! เลี้ยวที่ 3 จากข้างหน้าและที่ 2 จากตรงนั้น ประตูที่ 2 ทางซ้ายมือคือห้องโถงที่นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดจะถูกกักไว้จนกว่ารัฐบาลจะมารับพวกเขา “ ยามแจ้งลูซิเฟอร์

 

“นักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดอยู่ที่นั่นหรือไม่ แม้แต่หมอราวด้วยไหม” เคนถามจากด้านหลัง

 

เมื่อถามคําถามของเคน ผู้คุมดูสับสน ทําไมแคนถามแบบนั้น? เขาไม่ได้พบหมอราวและรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน? มีบางอย่างดูแปลกมากที่นี่ เขายังไม่รู้จักชายคนนั้นก่อนจะไม่ใช่แซนเดอร์

 

“ตอบ!” ลูซิเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น

 

“หมอราวกับหมอเรย์แมนเป็นหมอเพียง 2 คนที่ไม่อยู่ในห้องโถง พวกเขาอยู่ในห้องทํางาน ในการไปที่สํานักงาน ให้เดินตรงไปข้างหน้าในโถงทางเดิน ซึ่งคุณจะพบห้องโถงนั้น แล้วเลี้ยวซ้ายห้อง ท้ายสุดคือห้องทํางานของหมอราว” ผู้คุมตอบ

 

“ดี” ลูซิเฟอร์พูด ขณะวางนิ้วลงบนใบหน้าของทหารรักษาการณ์อย่างนุ่มนวล

 

เขาตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าเป็นไปได้ เขาจะใช้การสลายตัวของเขา เพราะมันให้พลังงานแก่เขา

 

“อ๊ะ! เจ็บ! ทําอะไร! ไม่ “

 

ทันทีที่นิ้วของลูซิเฟอร์สัมผัสผู้คุ้มกัน เสียงกรีดร้องของเขาก็รุนแรงขึ้น เมื่อร่างกายของเขาเริ่มสลายไป

 

ตอนที่ 140: ยาเกินขนาด

ลูซิเฟอร์และเคนก้าวเข้ามาในห้อง ซึ่งดูเหมือนจะว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง มีเพียงเครื่องจักรไม่กี่เครื่องที่นี่

ดูเหมือนว่าจะมีตู้เก็บแฟ้มเอกสารที่มีเอกสารอยู่ 2-3 แฟ้ม

“ฉันว่ามันว่างเปล่า เราไปกันเถอะ” เคนพูด ขณะที่เขาก้าวกลับและออกจากห้องไป

“เราน่าจะหามันเจอได้ในเร็วๆ นี้ ตอนนี้พวกมันเหมือนหนูติดกับดัก ไม่ต้องกังวลไป” เขาพูดต่อเมื่อหันกลับมามองลูซิเฟอร์ และได้รู้ว่าลูซิเฟอร์ไม่ได้อยู่ที่นั่น

“ฮะ?”

เขาเดินกลับไปที่ห้องด้วยความสับสน ซึ่งเขาเห็นลูซิเฟอร์ครั้งสุดท้าย เมื่อเขาก้าวเข้าไปข้างใน เขาเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่หน้าแฟ้ม พลางใช้นิ้วแตะมัน

ความทรงจํามากมายเกี่ยวข้องกับเอกสารเหล่านี้ไหลเข้าหัวของเขา

ทุกวันหลังการทดสอบทุกครั้ง เอกสารเหล่านี้ถูกนําเข้ามาจากเอกสารเหล่านี้ ผลการทดสอบของเขาได้รับวันแล้ววันเล่า ทําให้เขาผิดหวังมากยิ่งขึ้นไปอีก

เขาหยิบเอกสารที่อยู่ด้านบนขึ้นมาแล้วเปิดออก

ในหน้าแรกมีบางอย่างที่คล้ายกับรูปแบบที่มีภาพติดอยู่บนนั้น ซึ่งเป็นของเด็ก

ลูซิเฟอร์จําได้ว่าเห็นเด็กคนนี้ในโรงงาน 2-3 ครั้ง เด็กคนนั้นค่อนข้างคล้ายกับเขา เด็กผู้ชายที่รอดูว่าพลังของเขาจะตื่นขึ้นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เด็กคนนั้นไม่เหมือนกับลูซิเฟอร์ โชคของเขาดีกว่าเพราะเขามีพลังที่ตื่นขึ้นก่อนการทดสอบครั้งสุดท้ายของลูซิเฟอร์เพียง 1 วันก่อน

เคนก้าวเข้ามาข้างลูซิเฟอร์และมองดูแฟ้มที่เขากําลังดูอยู่

“ขอฉันดูได้ไหม” เขาถามลูซิเฟอร์ว่าใครเป็นคนให้แฟ้มเอกสารแก่เขา

“แฟ้มเอกสารนี้เขียนว่าอะไร” ลูซิเฟอร์ถาม

“นี่คือผลการทดสอบ หน้าแรกเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กที่ปลุกพลังและพลังที่เขามี” เคนกล่าวก่อนจะพลิกหน้ากลับ

“สําหรับหน้าที่ 2 เป็นรายงานการชันสูตรพลิกศพของเขา” เขากล่าว ขณะที่อ่านหน้าถัดไปจบ

“เห็นได้ชัดว่าเขาเสียชีวิตหลังจากคุณถูกฆ่าที่นี่ 2 วั สําหรับสาเหตุการตายดูเหมือนว่าจะเป็นการได้รับยาเกินขนาด” เขาอธิบายเพิ่มเติม

“ยาเกินขนาด อะไรนะ!” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย

“ฉันไม่รู้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังใช้ยาเพิ่มประสิทธิภาพบางอย่างอยู่ สิ่งนี้ฆ่าเด็กชายคนนั้น อาจเป็นเพราะพวกเขาทดสอบยานี้กับเด็กคนนั้น จากสิ่งที่ฉันเห็น มันทําให้หัวใจของเด็กล้มเหลว” เคนตอบลูซิเฟอร์

“การผ่าพลิกศพเพิ่งเกิดขึ้นเพียงเมื่อวานนี้จากเอกสารข้อมูลที่ระบุ” เขากล่าวเสริม

“พวกเขาผ่าพลิกศพเด็กคนนั้นงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม

“ใช่ เด็กชายคนนั้นเป็นแวเรียนท์ตอนที่เด็กคนนั้นถูกฆ่า แน่นอนว่าพวกเขาจะผ่าเด็กคนนั้น ส่วนคุณคุณเป็นเด็กธรรมดาในสายตาของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทําการผ่าพิสูจน์ศพกับคุณ ฉันเดาเอานะ นั่นมันช่างโชคดีจริงๆ” เคนตอบก่อนจะวางแฟ้มเอกสารกลับ

“ไปกันต่อเถอะ เราไม่สามารถเสียเวลาที่นี่ได้ เราต้องเร่งหน่อยแล้ว ส่วนเรื่องเอกสาร ฉันแน่ใจว่าคุณจะพบเอกสารดังกล่าวมากมายที่นี่ เนื่องจากแวเรียนท์และมนุษย์จํานวนมากเสียชีวิตในสถานที่นี้ ไม่ต้องสนใจสิ่งเหล่านี้ สําหรับตอนนี้” เคนกล่าวขณะที่เขาชี้มือไปที่ประตู

ลูซิเฟอร์ตามเขาต่อไปแล้วในคราวนี้ แต่เขายังคงคิดเกี่ยวกับคําเหล่านี้

เขาหมายความว่าอย่างไรเมื่อเขากล่าวว่ามีคนจํานวนมากถูกฆ่าตายที่นี่? เขาคิดว่าเขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่ทนทุกข์ทรมาน ยังมีใครถูกฆ่าอีก? เขาไม่เคยมีความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้

ทั้งสองเดินไปตามทางเดิน ตรวจดูทุกห้องตลอดทาง ซึ่งส่วนใหญ่ว่างเปล่า

ในทางกลับกัน เฮนริกและสมาชิกอีก 2 คนของทีมเคนกําลังเดินอยู่ฝั่งตรงข้าม

โชคของพวกเขาดูดีกว่าเคนและลูซิเฟอร์เล็กน้อย เนื่องจากพวกเขาพบคน 2-3 คนระหว่างทาง พวกเขาพบยาม 2-3 คนระหว่างทาง

พวกเขาพบทหารยามที่พวกเขาฆ่าได้ง่ายๆ ไม่นานพวกเขาก็พบอย่างอื่นเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจบลงในที่ที่เด็ก ๆ ถูกเก็บไว้ในโรงงาน

มีหลายห้องในทางเดินที่ซึ่งพวกเขาสิ้นสุด และแต่ละห้องเหล่านี้มีเด็ก สภาพของห้องนั้นดีกว่าห้องของลูซิเฟอร์เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์อยากจะอยู่อาศัย

“พวกนี้คือแวเรียนท์ พวกที่ถูกเก็บไว้ในโรงงาน พวกเราควรทําอย่างไรกับคนพวกนี้?” เฮนริกถามพวกสาวๆ พยายามแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม

“มาทดสอบกันก่อน ถ้าคนพวกนี้เกลียดสถานที่นี้ด้วย เราจะพาพวกเขาไปด้วยเพราะว่าเราใช้พวกเขาได้ แต่ถ้าเป็นในทางกลับกัน ถ้าพวกคนเหล่านี้ชอบสถานที่นี้” มิสซี่พูดแต่ยังพูดไม่จบประโยค

“ฉันเข้าใจ”

เฮนริกก้าวเข้าไปในห้องแรก ในขณะที่เขาถามคําถาม 2-3 ข้อจากเด็กชาย

ไม่ว่าเขาจะถามกี่ครั้ง เด็กชายเพียงแต่ยกย่องสถานที่นั้น แต่เฮนริกเห็นความกลัวในดวงตาของเด็กชาย

ดูเหมือนว่าเด็กชายจะคิดว่าเฮนริกเป็นพนักงานของโรงงาน ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพูดจาไม่ดี

“เด็กฉลาด นายรู้วิธีโกหกเพื่อช่วยชีวิตนาย แต่ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ได้มาจากที่นี่ ฉันมาจากกลุ่มของแวเรียนท์เกิดใหม่ ที่นี่เพื่อปลดปล่อยคุณทั้งหมดและพาคุณไปสู่ที่ที่ดีกว่า มาพร้อมกับ ฉันไปกันเถอะ” เฮนริกพูดกับเด็กหนุ่ม

แม้ว่าเฮนริกจะอธิบาย แต่เด็กชายก็ยังดูลังเลเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เฮนริกยืนกรานมากขึ้น เขาก็ลุกขึ้นพร้อมที่จะจากไป

สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ดําเนินการต่อไปในกระบวนการนี้ ในขณะที่เขาพาเด็กๆ ทั้ง 10 คนไปด้วย พวกเขาบอกให้เด็ก ๆ ยืนข้างหลังพวกเขา ในขณะที่พวกเขาเดินหน้าต่อไปเพื่อตรวจสอบสถานที่เพิ่มเติม

ตลอดช่วงเวลานี้ พวกเขาไม่พบนักวิทยาศาสตร์เลย

“ฉันเดาว่านี่คือส่วนหนึ่งของสถานที่สําหรับเลี้ยงเด็ก ๆ นักวิทยาศาสตร์น่าจะอยู่อีกฟากหนึ่งของโรงงาน ฉันเชื่อว่าพวกเขาจะไปถึงพวกเขาในไม่ช้า” เฮนริกกล่าวขณะที่เขาตระหนักว่าเขามาถึงสุดทางแล้ว พวกเขาเลือกแล้ว ไม่มีที่ไหนให้ค้นหาอีกแล้วที่นี่

“จริงสิ กลับไปรอพวกเขากลับมากัน…พวกเขาน่าจะเสร็จเร็ว” มิสซี่ตกลงขณะที่เธอเริ่มเดินกลับ

ตอนที่ 139. วารันท์ และ ไรอา

 

“ฉันจะพาเขาออกไป!” อาร์เน่พูดด้วยน้ําเสียงหนักแน่นก่อนจะเริ่มเคลื่อนตัวไปทางยาลิซ่าที่มีเจตนาอยากที่จะฆ่า

 

ในไม่ช้า การปะทะกันครั้งสุดท้ายเริ่มต้นขึ้นเมื่อสมาชิกอัลฟ่าปะทะกับสมาชิก แวเรียนท์เกิดใหม่อันดับต้น ๆ

 

ในที่สุด ดูเหมือนว่าสมาชิก แวเรียนท์เกิดใหม่จะมีคู่ต่อสู้ที่คู่ควรไม่เหมือนกองทัพมนุษย์ที่เล่นอยู่

 

ได้ยินเสียงดังกังวาลไปทั่วบริเวณ ขณะที่กลุ่มฝุ่นเริ่มลอยขึ้นในสถานที่ต่างๆ

 

มีเพียง 2 คนที่ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ แต่คนสองคนนี้ดูเหมือนจะแข็งแกร่งที่สุดในทั้งสองทีม

 

แวเรียนท์ทั้งสองนี้เป็น 2 ใน 4 ราชาแห่งวอร์ล็อคการต่อสู้ของพวกเขามีศักยภาพที่จะทําลายทุกสิ่งรอบตัวพวกเขา

 

ทั้ง 2 คนสบตากันราวกับสบตากัน แม้จะห่างหายกันไปนาน

 

ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของวารันท์ ในทางกลับกันไรอามีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขามองไปที่วารันท์ 

 

ไรอาค่อยๆ ยกมือขึ้นไปข้างหน้าก่อนที่เขาจะขยับนิ้วไปมาราวกับว่าเขากําลังชี้ให้วารันท์เข้ามาโจมตี

 

วารันท์ยังเห็นท่าทางเยาะเย้ยนี้ เขายังสามารถสังเกตเห็นริมฝีปากของไรอาที่กําลังเคลื่อนไหวเนื่องจากอยู่ไกลกันเขาไม่ได้ยินสิ่งที่ไรอาพูดแต่เขาสามารถคาดเดาได้อย่างมีการศึกษาจากการเคลื่อนไหวของริมฝีปากของไรอา

 

ดูเหมือนไรอากําลังพูดว่า “มาเถอะ มาทําให้เสร็จกันเถ อะ”

 

วารันท์รับความท้าทาย ในขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ไรอาด้วยก้าวเดินที่สงบ ดูเหมือนไม่รีบร้อนใดๆเขาต้องการที่จะสนุกกับการต่อสู้ครั้งนี้เพราะเขาวางแผนจะออกไปและ กวาดล้างไรอาตลอดเวลา

 

ในสถานที่อื่น นอกสุสานน้ําแข็งการต่อสู้ที่แตกต่างกันระหว่าง APE และ VU กําลังจะเริ่มต้นขึ้น

 

แซนเดอร์เป็นผู้นําในการต่อสู้ ขณะที่เขาโบกมือในแนวนอนนําคลื่นไฟขนาดใหญ่ออกจากมือของ เขาซึ่งพุ่งเข้าหาศัตรูในระยะไกลราวกับว่าไม่ใช่การโจมตีจากแวเรียนท์แต่เป็นสนามิแห่งไฟ

 

ไอย์ไม่ได้โจมตีเพราะเธอไม่ต้องการให้น้ําแข็งของเธอส่งผ ลต่อการโจมตีของแซนเดอร์แต่แวเรียนท์เกิดใหม่ ตอบสนอ งต่อการโจมตีนั้น คนที่ก้าวไปข้างหน้าไม่ใช่ใครอื่นนอกจา กตัวเธอเอง อิโซน่า

 

ในขณะเดียวกัน ลูซิเฟอร์และเคนก็ก้าวเข้าไปในโรงงานโชคดีที่ทางเข้าภายในอาคารว่างเปล่า

 

นักวิทยาศาสตร์ของโรงงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนถูกสั่งไม่ให้ออกจากห้องจนกว่าทีมรัฐบาลจะมาถึงที่นี่มีเพียงยามของโรงงานเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เดินเตร่

 

และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่กําลังสัญจรไปมาอยู่ข้างนอกหรือพยายามจะออกจากสถานที่ ยามก็ได้รับอนุญาตให้ยิ่งพวกเขาตามคําสั่งของผู้นํานั่นเป็นสาเหตุที่ไม่มีพนักงานออกจากห้องที่พวกเขาเก็บไว้

 

แม้แต่ หมอราว และ หมอเรย์แมน ยังไม่ออกจากที่ทํางานโดยที่พวกเขานั่งเงียบๆ กับ เยลโดยไม่รู้ถึงภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา

 

เมื่อพวกเขาเดินไปจนสุดทางเดิน มันมี 2 ทางที่ให้เลือดเพื่อที่จะเดินไป นั่นคือทางซ้ายหรือทางขวา

 

* ซ้ายหรือขวา?” เคนถามลูซิเฟอร์ “คุณรู้จักสํานักงานของคนที่ทรมานคุณหรือเปล่า”

 

ลูซิเฟอร์ส่ายหัวแทนคําตอบ เขาไม่ได้เห็นสถานที่แห่งนี้มากนักยกเว้นทางเดินไม่กี่แห่ง ไม่ต้องพูดถึงการเห็นสํานักงานของผู้มีอํานาจสูงสุด

 

“ไม่เป็นไร ออกไปได้แล้ว ฟิโอน่า มิสซี่และเฮนริกพวกเธอเลี้ยวซ้าย ฆ่าทุกคนที่ขวางทางพวกเธอ แต่อย่าฆ่านักวิทยาศาสตร์ที่นี่ฉันไม่อยากให้พวกเธอฆ่า คนของลูซิเฟอร์โดยไม่ได้ตั้งใจ”เคนบอกกับสมาชิกในทีมของเขา

 

“พยายามหาหมอราวไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม และหากพบว่าเขากําลังมาทางฉันและลูซิเฟอร์ ให้ปล่อยเขาไปและไปตามทางของคุณต่อไปและฆ่าใครก็ได้ที่ขวาง เราจะ ฆ่าหมอราวและคนอื่นๆที่เหลือที่นี่อย่ารอช้าฉันต้องการพบพวกเธอทุกคนที่นี่ภายใน 30 นาที”เขากล่าวเสริมก่อนจะเดินไปทางที่ถูกต้อง

 

ลูซิเฟอร์ใช้เส้นทางเดียวกับเคน

 

ขณะที่พวกเขามุ่งหน้าไปยังทางเดินด้านซ้ายในที่สุดลูซิเฟอร์ก็เริ่มจําได้ มันถูกต้อง เขาเคยเดินอยู่ในทางเดินนี้มาก่อนความทรงจําของเขายิ่งสั่นคลอนมากขึ้นเมื่อเขาต ระหนักว่ามีเพียงประตูเดียวในทางเดินยาวนี้เขาพูดถูกเขาเคยมาที่นี่

 

“นี่เป็นครั้งแรกของคุณใช่ไหม ไม่ต้องกังวลไป คุณคือฮีโร่ของเรา เราจะทดสอบตัวอย่างเลือดของคุณที่นี่ มันจะไม่ เจ็บแม้แต่น้อย

 

ลูซิเฟอร์จําครั้งแรกที่เขาถูกพามาที่นี่ มันเป็นวันที่ 2 ที่เขามาที่สถานที่นี้เขาถูกนําตัวมาที่แห่งนี้และเก็บตัวอย่างเลือดของเขาหลังจากจุดนั้นเขาถูกพามาที่นี่ทุกสัปดาห์ และเก็บเลือดหนึ่งขวดจากเขาทุกครั้ง

 

มันดําเนินระยะเวลาต่อไปในอีก 5 ปีข้างหน้าว่ากันว่าพวกเขาใช้เลือดของลูซิเฟอร์เพื่อทดสอบว่าพลังของเขาตื่นขึ้นหรือไม่

 

ขณะที่เขาเดินผ่านทางเดินนี้อีกครั้งเขาก็อดแปลกใจไม่ได้ สถานที่นี้อยู่ใกล้ทางออกมาก และเขาไม่เคยรู้มาก่อนเหลือตัวเดียวจากด้านหน้าและเขาคงเห็นทาง ออกในครั้งนั้น

 

“เกิดอะไรขึ้น คุณจําอะไรได้ไหม” เคนถามลูซิเฟอร์เมื่อเห็นเขามองไปทางประตูที่ไกลออกไปซึ่งพวกเขาใกล้เข้ามา

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้า “ผมเคยมาที่นี่หลายครั้ง หลายครั้งพวกมันเอาเลือดผมไปทุกครั้ง”

 

“อ่า แค่นั้นเอง ไม่ต้องกังวล เราแน่ใจว่านี่คือสถานที่ที่คุณถูกเก็บไว้ คุณจะเห็นสิ่งที่คุ้นเคยมากมาย” เคนกล่าวขณะที่เขาไปถึงประตูห้องแล็บ

 

เมื่อหมุนลูกบิด เขาพยายามเปิดประตูเพียงเพื่อจะรู้ว่าประตูถูกล็อค

 

“มันถูกล็อค ฉันเดาว่าเราจะต้อง”

 

เคนยังคงพูดอยู่เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ชกประตูและทุบให้แตก

 

” -ทําลายมัน” เคนจบประโยคโดยตระหนักว่ามันสายเกินไปแล้ว

 

ขณะที่ประตูฟัง ลูซิเฟอร์และเคนก้าวเข้าไป

 

ตอนที่ 138: การมาถึงของอัลฟ่า

 

“และในขณะที่เซสและทีมของเขาทําให้เราวุ่นวาย วารันท์ก็ได้มาถึงเช่นกัน 2 ราชาแห่งวอร์ล็อคต่อหนึ่ง นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากลําบากที่จะชนะ” เขากล่าวเสริม ในขณะที่ เขาถอนหายใจ

 

“จริง นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันต้องการสร้างราชาแวเรียนท์รุ่นที่ 5 ลูซิเฟอร์ แอซเรล รุ่นที่แข็งแกร่งกว่าของเซล แอซเรล ตราบใดที่เขาบรรลุศักยภาพเต็มที่และกลายเป็นราชาแห่งวอร์ล็อค ความสมดุลของพลังจะเอียงไปในทางของเรา” ไรอาพูดในขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายคาดหวังอนาคต

 

“จริง ตราบใดที่เรารักษาลูซิเฟอร์ให้อยู่กับเรา เอาชนะความภักดีและการสนับสนุนจากเขา อีกไม่นานเราจะประสบความสําเร็จ เนื่องจากเรามั่นใจว่าเขาจะเป็นราชาแห่ง วอร์ล็อคด้วยพลังของเขา” เคลเลียนกล่าวพร้อมพยักหน้าเห็นด้วย

 

“ถูกต้อง เขาได้รับความสามารถระดับ S ทั้ง 2 ความสามารถโดยตรงจากราชาแห่งวอร์ล็อค และความสามารถระดับ S อื่นจากแม่ของเขา ซึ่งเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด สําหรับการรักษาของเขา ความสามารถนั้นลึกลับมาก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันคืออะไร มันอาจจะดีก็ได้ แต่มันวิเศษมาก” ยาลิซ่าพูดเสริม

 

“การรักษาของเขาส่วนใหญ่น่าจะเป็นแรงค์ S เช่นกัน ฉันสงสัยว่าการรักษาของเขามีจุดอ่อนหรือไม่ หากมีจุดอ่อนอะไร ฉันสงสัยว่าเขาอาจจะรู้มัน แต่น่าเสียดายที่เราไม่สามารถทดสอบได้ จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าความสามารถนั้น จะดีมากจริงๆ ” ไรอาพูด ขณะมองไปทางซ้าย

 

“อ่า อยู่นี่แล้ว พวกเขาให้เรารอนานพอสมควร” จู่ๆ เขาก็ร้องออกมา เมื่อสังเกตเห็นเฮลิคอปเตอร์ลําหนึ่งอยู่ไกลๆ และเคลื่อนตัวตรงเข้ามาหาพวกเขา

 

“ฉันควรต้อนรับพวกเขาไหม” เคลเลียนถามขณะหักข้อ

 

“ไปเถอะ ฉันสงสัยว่า ณ จุดนี้เราจะทําอะไรได้บ้าง แค่ทําให้แน่ใจ” ไรอาตอบในขณะที่เขาอนุญาต

 

หลังจากได้รับอนุญาต เคลเลียนก็เหยียดแขนออก ขณะที่ก้าวไปข้างหน้าไรอา

 

เขายืนอยู่บนขอบของอาคาร เขาขยับเท้าซ้ายไปด้านหลังสองสามนิ้วเพื่อวางตําแหน่งตัวเอง ขณะที่วางเท้าขวาไปข้างหน้า

 

จักรพรรดิแห่งเงาเคลเลียนกางแขนทั้งสองข้างออก เงาดําเริ่มแผ่ออกมาจากตัวเขาที่เคลื่อนผ่านพื้นดิน เงาของเขายาวขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันเคลื่อนเข้าหาเฮลิคอปเตอร์ ถึงแม้ ว่าตัวเขาเองจะยังยืนอยู่ที่เดิม

 

ในไม่ช้า เงาก็เคลื่อนตัวเป็นระยะทาง 10 กิโลเมตรเพื่อไปถึงสถานที่ด้านบน ซึ่งดูเหมือนเฮลิคอปเตอร์ของ APE กําลังจะผ่านไป

 

เมื่อเงานั้นยาวพอควร เคลเลียนก็ขยับมือทั้งสองไปข้างหน้า ในขณะที่เขาปรบมือด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ เสียงปรบมือดูมีพลังมากจนเสียงของมันก้องกังวานไปในวงกว้าง

 

กระนั้นจุดสนใจของคนอื่นๆ ไม่ใช่เสียงปรบมือ แต่เป็นคลื่นแห่งความมืดมหึมาที่ออกมาจากพื้นดินจากใต้เฮลิคอปเตอร์ ดูเหมือนพร้อมที่จะกลืนกินไปทั้งหมด

 

คลื่นแห่งความมืดมหึมาเข้าใกล้เฮลิคอปเตอร์ของ APF เนื่องจากระยะห่างระหว่างทั้งสองลดลงในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป

 

น่าเสียดาย เมื่อคลื่นแห่งความมืดอยู่ห่างจากเฮลิคอปเตอร์เพียง 5 เมตร ชายคนหนึ่งก็กระโดดออกมาจากเฮลิคอปเตอร์

 

ดูเหมือนว่าร่างกายของชายคนนั้นจะส่องแสงสีเงินลึกลับ สําหรับผิวของเขา ดูเหมือนจะมีจุดสีดําแปลก ๆ บนผิวหนังของเขา ซึ่งดูน่าทิ้งอย่างยิ่งผ่านแสงสี่เงินที่ส่องประกาย

 

ผมยาวของเขาปลิวไสวไปตามลม ขณะที่เขาลอยลงมา ดูเหมือนตั้งใจจะชกต่อยความมืดที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

 

สําหรับร่างของชายคนนั้น มันเทอะทะมาก ซึ่งเข้ากับรูปลักษณ์ของเขา กลับทําให้เขาดูเหมือนไวกิ้ง เขายังเป็นสมาชิกของ APF หรือที่รู้จักในชื่อ อาร์เน่ราชาแห่งการทําลายล้าง

 

ความมืดของเงาปะทะกับแสงของอาร์เน่ ในที่สุดก็พ่ายแพ้ เมื่อเงาดําถูกทําลาย ก่อนที่มันจะไปถึงเฮลิคอปเตอร์

 

อาร์เน่ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนที่ของตนเองที่จะลงพื้นดินได้ ในขณะที่กําปั้นของเขาแตะพื้น ทําให้เกิดหลุมลึกขึ้น เนื่องจากการปะทะกัน

 

“เคลเลียน ปล่อยฉันเถอะ ดูเหมือนนายจะพ่ายแพ้ในการปะทะ” ชายผมแดงผมดําที่รู้จักกันในชื่อยาลิซ่า ก้าวไปข้างหน้า วางมือลงบนไหล่ของเคลเลียน

 

“เฮอะ ขนาดนี้ไม่เป็นอะไรหรอก นายก็รู้ดีว่าพลังของฉันได้รับผลกระทบ เพราะระยะทาง เขาต่อสู้กับเงาอันห่างไกลและอ่อนแอของฉัน และได้ชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ เท่านี้ก็ไร้ค่า ให้ฉันไปหาเขาและจัดการกับเขาเป็นการส่วนตัว” เคลเลียน พูดอย่างสงบ ในขณะที่เขากลายเป็นเงาและหายตัวไป

 

น่าแปลกที่ราชาแห่งดาบ ทริสตัน ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ด้วย ริมฝีปากของเขามีรอยยิ้มที่หน้าด้านใน ขณะที่เขาวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์ด้วยความตื่นเต้น ออกจากอาคารที่กําลังจะถูกทําลายโดยสมบูรณ์

 

“ฉันควรไหม?” ยาลิซ่าถามไรอาที่พยักหน้าอย่างเรียบเฉย

 

“เอาล่ะ ไปสู้กับพวกเขา ปล่อยให้มันมาหาเราดีกว่า ไม่เป็นไร” ไรอา กล่าว ขณะมองดูเฮลิคอปเตอร์ APF ลงจอดบนพื้น

 

เมื่อเฮลิคอปเตอร์อัลฟ่าร่อนลงบนพื้น ทั้งทีมก็ก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์

 

วารันท์ ยืนอยู่ตรงกลางทีม ขณะที่คนอื่นๆ ยืนอยู่ข้างๆ มองไปรอบๆ กับการทําลายล้างที่เกิดขึ้นที่นี่

 

“พวกเขาสร้างความวุ่นวายได้ในเวลาอันสั้น ฉันไม่อยากคิดเลยว่าจะมีคนตายที่นี่กี่คน” รองกัปตันเรียอาริกล่าวในขณะที่ถอนหายใจ

 

ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นเงาที่เคลื่อนเข้ามาหาพวกเขาจากระยะไกล

 

“ฉันจะไปดูแลผู้ชายคนนั้น คุณจัดการส่วนที่เหลือ” ราชาแห่งเงา เรียอาริ กล่าวขณะที่เขากลายเป็นเงาและหายตัวไปเมื่อเขาเห็นเคลเลียนในระยะไกล

 

ราชาแห่งการลอบสังหาร เก็นซี่ ของหน่วยอัลฟ่าก็หายตัวไปเมื่อเขาเห็นราชาแห่งดาบทริสตัน ในระยะไกล

 

สมาชิกที่เหลือของหน่วยอัลฟ่าก็กระจายออกไปเช่นกัน โดยเลือกศัตรูสําหรับตนเองที่พวกเขาจะกําจัดได้ เหลือเพียง อาร์เน่ ราชาแห่งการทําลายล้าง และวารันท์ หัวหน้า APF

 

ทั้ง 2 คนกําลังมองไปยังอาคารที่อยู่ห่างไกล ซึ่งอยู่บนยอดของไรอาและยาลิซ่า

 

ยาลิซ่าดูเหมือนจะคุยกับไรอาราวกับว่าเขากําลังขออะไรบางอย่าง.. ในการตอบสนอง ไรอาพยักหน้าของเขาหลัง จากนั้นยาลิซ่าก็กระโดดลงจากอาคารและลงบนพื้น

 

ตอนที่ 137: เมืองหลวง

 

ขณะที่เคนส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสถานที่นั้นไปที่ปลายอีกด้านของสุสานน้ำแข็ง เขาร้องเรียกสมาชิกในทีมของเขา เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรมาขวางกั้นอีกต่อไป

 

เนื่องจากเฮนริกอยู่ใกล้จุดเบิดมากที่สุด เขาจึงกระโดดออกมาก่อนทันทีที่ได้ยินคําพูดของเคน

 

ลูซิเฟอร์บินออกไปตามเฮนริก ตามด้วยมิสซีและฟิโอน่า

 

เมื่อคนทั้งสี่ก้าวออกจากอุโมงค์ ในที่สุดพวกเขาก็มองไปรอบๆ ได้

 

สิ่งที่พวกเขาเห็นคือพื้นที่ว่างเปล่าที่ไม่มีใครมองเห็น ยกเว้นเคน ซึ่งดูเหมือนแซนเดอร์

 

“ทําได้ดีมากหัวหน้า”

 

เฮนริกและพวกสาวๆ เริ่มชื่นชมเคนที่พาผู้คุมออกไปได้สําเร็จ สําหรับลูซิเฟอร์ เขากลับจ้องมองไปที่ทางเข้าอาคารสถานที่

 

เขาจําทางเข้านี้ไม่ได้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานที่จริงมีลักษณะอย่างไร ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าเป็นสถานที่ที่ถูกต้องหรือไม่โดยเพียงแค่มองจากรูปลักษณ์ภายนอก

 

เขาถูกพามาที่นี่เมื่อ 5 ปีที่แล้วด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่ลงจอดที่ด้านบนของโรงงานในขณะนั้น จากนั้นเขาก็ถูกพาเข้าไปข้างใน

 

เขายังคงจําคืนที่หนาวเหน็บได้ราวกับเพิ่งเมื่อวานนี้เอง ตอนที่เขาถูกนําออกจากเฮลิคอปเตอร์ซึ่งพาเขามาที่นี้โดยทหารยาม

 

หลังจากจุดนั้น เขาก็ไม่มีอิสระ และไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวออกจากสถานที่นั้นแม้แต่วินาทีเดียว

 

อิสรภาพของเขาลดลงทุกปีที่ผ่านไปจนกระทั่งถึงจุดที่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ก้าวออกจากห้องของเขา เว้นแต่จะเป็นการทดสอบ

 

ครั้งเดียวที่เขาได้รับอนุญาตให้ออกจากสถานที่นี้คือ หลังจากที่เขาเสียชีวิต เมื่อเขาถูกมองว่าไร้ประโยชน์อย่างแท้จริงจากคนเหล่านั้น

 

พวกคนเหล่านั้นยังคงล็อคประตูจากด้านนอกราวกับว่าเขาเป็นนักโทษ พวกมันปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นนักโทษพิเศษที่จะใช้สําหรับการทดลองและการทดสอบหลายครั้งเท่า

 

“เข้าไปกันเถอะ เราอยู่ห่างจากจุดหมายของคุณเพียงไม่กี่ก้าว มาเถอะ” เคนบอกกับลูซิเฟอร์ขณะที่เขายิ้ม

 

เขายังรู้สึกตื่นเต้นที่ภารกิจนี้จะจบลงในไม่ช้า หลังจากนั้นพวกเขาสามารถกลับไปสู่สิ่งสําคัญที่แท้จริงได้

 

ลูซิเฟอร์กําหมัดแน่น พลางเริ่มก้าวไปที่ทางเข้าสถานที่ซึ่งห่างจากเขาเพียงไม่กี่เมตร

 

ในเวลาไม่นาน เขาก็มาถึงทางเข้าอาคารสถานที่ เขาใช้มือแตะประตูกระจก ซึ่งสวมถุงมือสีดําแล้วผลักประตูออก

 

ในที่สุด เขาได้ก้าวแรกในสถานที่ที่เขาใช้เวลา 5 ปีในชีวิต… 5 ปีของชีวิตที่โดดเดี่ยวและทรมาน

 

ในขณะเดียวกัน ที่ห่างไกลจากโรงงานที่เกิดการปะทะกันระหว่างสองฝั่งตรงข้ามสุดขั้วของแวเรียนท์ ที่มีเมืองเอลันต้าอยู่เป็นศูนย์กลาง ซึ่งกําลังประสบกับความโกลาหลของตัวเองเช่นกัน

 

แวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดของการจลาจลกําลังทํา ายล้างที่นี่ ยานเกราะทหารได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์ในการต่อต้านการจลาจลแบบแปรผันระดับ 5

 

แม้แต่รถถังที่ถูกส่งไปที่นั่นเพื่อการป้องกันก็ยังถูกผ่าครึ่งด้วยดาบของทริสตัน เพียงครั้งเดียว ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามราชาแห่งดาบ

 

สามารถมองเห็นถังขนาดใหญ่ 2 ถังวางอยู่ทั่วเมืองทั้งหมดจัดการโดยคนเพียงคนเดียว

 

สําหรับแวเรียนท์อื่นๆ พวกมันไม่ได้ล้าหลังมากนักเมื่อพูดถึงการทําลายเมือง

 

โดยพื้นฐานแล้ว มนุษย์กําลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อป้องกันไม่ให้แวเรียนท์ต่างทําร้ายพวกเขา สําหรับนักรบพิเศษพวกเขากําลังเดินทางเช่นกัน แต่ทุกคนรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาคนเหล่านี้ไว้โดยปราศจาก APF ที่กําลังมาถึงที่นี่

 

พลเมืองทั้งหมดของเมืองเอลันต้า ซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกเขา อธิษฐานขอให้สถานที่แห่งนี้ไม่ตกเป็นของแวเรียนท์ทมิฬเหล่านั้น

 

“มนุษย์อ่อนแอกว่าที่ฉันจําได้ คราวที่แล้วพวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญมากขึ้น แต่คราวนี้ พวกเขาเป็นเหมือนสัตว์บนเขียง กองทัพของพวกเขาล้าหลังหรือเปล่า?” ไรอาพึมพำในขณะที่เขามองไปรอบ ๆ เห็นเลือดและการทําลายล้างทุกที่

 

ขณะที่ไรอากําลังสงสัย เงาก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขากลายเป็นร่างมนุษย์

 

“หรืออาจเป็นเพราะการป้องกันเมืองนี้ขาดหายไป คนขี้ขลาดในรัฐบาลอาจให้พวกชนชั้นสูงทั้งหมดอยู่ในเมืองหลวงให้เรากลัวหรือเปล่า?”

 

ชายผมสีบลอนด์ที่ปรากฏตัวด้านหลังไรอา ดูเหมือนเขาเป็นอัศวินแห่งราชวงศ์ตั้งแต่สมัยโบราณ สวมเสื้อคลุมสีเทาและกางเกงสีขาว เขาสวมถุงมือสีขาวด้วย

 

รูปร่างที่เพรียวบางแต่แข็งแรงของเขาดูชัดเจนกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสร้างของไรอา

 

เขาเป็นราชาเงา เคลเลียน ซึ่งเป็นรองกัปตันของการจลาจลแวเรียนท์ระดับ 5

 

ตําแหน่งของเขาคล้ายกับรองกัปตันของ APF ทีมอัลฟ่า เรียอาริผู้ซึ่งถูกเรียกว่า ราชาแห่งเงา เนื่องจากความสามารถของทั้งสองมีความคล้ายคลึงกันเล็กน้อย แต่แตกต่างกัน ทั้งสองต้องการฉายาของผู้ปกครองแห่งเงา

 

ชายอีกคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเรียอาริ

 

“จริงสิ เมืองหลวงแข็งแกร่งมาก เมื่อเทียบกับการปกป้องที่นี่ ดูเหมือนเด็กๆเล่นกัน เมืองนี้สําคัญ แต่สําหรับมนุษย์ในโลภ เขาสนใจแค่ว่าตนเองสําคัญกว่า แน่นอน พวกเขาจะให้ความคุ้มครองมากขึ้น ไปยังสถานที่ที่พวกเขาอยู่แทนที่จะกระจายออกไปอย่างเท่าเทียมกัน” ชายที่เพิ่งมาถึงกล่าว ขณะที่เขามองไปที่ไรอา

 

ชายผมดําเป็นหนึ่งในเจ็ดสมาชิกระดับห้าที่มาที่นีพร้อมกับไรอา หรือที่รู้จักในชื่อยาลิซ่า

 

“จริง เมืองหลวงวุ่นวาย ทันที่ที่ตกลงมา เกมก็จะจบลงสําหรับมนุษย์ น่าเสียดายที่พวกเขารักษาไว้อย่างแน่นหนา นอกจากนี้สํานักงานใหญ่ขององค์กรนักล่า ก็อยู่ในเมืองด้วย” ไรอากล่าว ในขณะที่เขา แหงนมองท้องฟ้า สงสัยว่าเมื่อไรพวกเขาจะสําเร็จตามเป้าหมาย

 

“นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องการลูซิเฟอร์ใช่ไหม” ยาลิซ่าพูดยิ้มๆ ”วารันท์ผู้นําของ APF และ เซส ผู้นําขององค์กรนักล่า ทั้งสองคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเรา”

 

“จริง เราสามารถทําลายองค์กรการป้องกันของมนุษย์ได้ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เซสและองค์กรยูเนี่ยน ของเขา จะไม่อยู่เฉย หากเราโจมตีเมืองหลวง แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยน แต่ยังไงคนเหล่านั้นก็จะกระโดดเข้าสู่การต่อสู้ ถ้าเราโจมตีเมืองหลวง” เคลเลียนกล่าว

 

ตอนที่ 136: กลายเป็นแซนเดอร์

 

เคนสัมผัสใบหน้าของเขาและเริ่มใช้การแปลงร่างของเขา

 

ด้วยการใช้ความสามารถของเขา ใบหน้าของเขา เริ่มเปลี่ยนไปก่อนหน้านี้เขามีใบหน้าที่โค้งมนยาวแต่ด้วยการแปลงร่างใบหน้าของเขาเรียวขึ้นมากเหมือนกับใบหน้าของแซนเดอร์ผิวของเขาก็เรียบเนียนขึ้นมากเช่นกัน

 

สีผมของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปตามความยาวของพวกมันผมที่ยาวขึ้นเล็กน้อยของเขาเริ่มสั้นลงและกลายเป็นสีแดงเพลิงกลางผมของเขาเป็นสีแดงเข้มส่วนผมด้านบนนั้นกลายเป็นสีแดงอ่อนกว่า

 

สําหรับดวงตาของเขา พวกมันยังเริ่มเปลี่ยนสีเพื่อให้ดูเหมือนเป็นสีส้มและสีม่วงผสมกัน

 

ร่างกายของเขาก็เริ่มที่จะแกะสลักออกมาและแข็งแรงมากขึ้น

 

“ไม่เลวเลย” เคนพูดขณะวางมือบนท้องเพื่อสัมผัสหน้าท้อง “ผู้ชายคนนี้ดูแลร่างกายของเขาอย่างมากอย่างแน่นอน”

 

เขาหันกลับมามองไปทางผู้หญิงคนที่ 2 ที่เขาพามากับ เขา “คุณผู้หญิงขอเสื้อคลุมให้ฉันด้วย”

 

หญิงผมสีเข้มเปิดด้านหลังที่เธอถืออยู่และนําเสื้อคลุมสีแดงที่เธอมอบให้เคนออกมา

 

เคนสวมเสื้อคลุมยาวที่คลุมทั้งตัวจนถึงข้อเท้าเสื้อคลุมซ่อนเสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่เผยให้เห็นเพียงใบหน้าของเขาเท่า

 

“เอาล่ะ เปิดช่องตรงนี้แล้วทุกคนถอยกลับ” เขาสั่งเฮนรัก

 

เมื่อฟังคําสั่ง เฮนริกวางมือบนพื้นดินก่อนที่เขาจะเริ่มใช้ความสามารถของเขาอีกครั้ง

 

ผู้หญิง 2 คนและลูซิเฟอร์ก้าวถอยหลังตามคําแนะนํา

 

เมื่อการเปิดอุโมงค์นี้เสร็จสิ้น เฮนริกก็ก้าวถอยหลัง

 

เคนกางแขนออก ขณะเตรียมจะจากไป

 

“อะแฮ่ม อะแฮ่ม! ฉันแซนเดอร์ เบลค!”

 

เขาเริ่มการทดสอบเพื่อดูว่าความสามารถของเขาประสบความสําเร็จหรือไม่ ตามความคาดหวังมันถูกต้อง เสียงของเขาเข้ากับแซนเดอร์อย่างสมบูรณ์แบบ

 

“สมบูรณ์แบบ

 

หลังจากทําทุกอย่างเสร็จแล้ว เคนกระโดดออกจากอุโมงค์และร่อนลงกับพื้น

 

เมื่อเห็นชายคนหนึ่งออกมาจากพื้นดิน ยามที่อยู่รอบๆก็รีบเล็งปืนไปทางเคน

 

“นั่นใคร! อย่าขยับและระบุตัวตน!” ยามคนหนึ่งตะโกนใส่ผู้มาใหม่ที่ไม่รู้จักและเตือนเขา

 

“เจ้าโง่เง่า ลดอาวุธลง เว้นแต่ว่าพวกนายต้องการให้ฉันตัดสมองของนายทันที! ฉันมาจาก APE” เคนพูดอย่างเย่อหยิ่ง

 

เนื่องจากแสงน้อยเกินไปและสลัวเพราะกําแพงน้ําแข็งยามคนหนึ่งเข้าไปข้างในเพื่อเปิดไฟภายนอก

 

พวกเขาต้องการแสงเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนว่าใครคือผู้มาใหม่ซึ่งจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นจากที่ไหนก็ไม่รู้

 

เขายังไม่ได้เปิดไฟดังนั้นยามจึงมองเห็นได้ยากพวกเขาต้องหรี่ตาเพื่อที่จะมองเห็น

 

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาพบความคล้ายคลึงกันเล็กน้อยระหว่างผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าพวกเขากับหนึ่งในผู้นําของ APE ที่ดูเหมือนจะมีตําแหน่งที่สูงมาก

 

ตอนนี้เมื่อเปิดไฟขนาดใหญ่เท่านั้น ในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นสภาพแวดล้อมได้ชัดเจนขึ้น เพราะบริเวณด้านนอกมีแสงสว่างเพียงพอแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม แสงที่ส่องมาอย่างกะทันหันยังคงทําให้เกิดความรู้สึกไม่สบายบางอย่างเนื่องจากพวกเขารู้สึกเหมือนถูกแทงเข้าตาของทุกคนเนื่องจากพวกเขาเกือบจะ เริ่มปรับให้เข้ากับความมืดแล้วพวกเขาต้องกระพริบตา 2-3 ครั้งเพื่อช่วยปรับการมองเห็น

 

“คุณ” หัวหน้าหน่วยรักษาการณ์พูด “ท่านครับกลับ มาทําไม แล้วคุณมาจากไหน”

 

เขายังสังเกตเห็นสิ่งที่ดูเหมือนเป็นช่องเปิดบนพื้นใกล้ ๆ

 

“คุณไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระ สถานการณ์ภายนอกเริ่มแย่เราอยู่ในสถานะที่กําลังแย่แล้ว ดูเหมือนว่าแนวรบจะ เคลื่อนตัวถอยกลับศัตรูกําลังเข้ามาใกล้ ฉันต้องได้รับควา มช่วยเหลือหนึ่งในคนของฉันที่จะสร้างอุโมงค์นี้ เพื่อที่ฉันจะได้กลับมาที่นี่โดยไม่ทําลายกําแพงน้ําแข็ง” เคนกล่าวพร้อมเสนอข้อแก้ตัวที่ดี

 

“ยิ่งกําแพงเหล่านี้อยู่นานเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น! แต่สิ่งเหล่านี้จะอยู่ได้ไม่นานดังนั้นคุณต้องกลับไป! เราไม่ต้อง การให้หลักประกันเสียหายเมื่อพวกเขามาที่นี่ในที่สุด! ดังนั้นให้เรามีพื้นที่มากขึ้นในการต่อสู้และอยู่เบื้องหลังโรงงาน!”

 

“ด้วยวิธีนี้ พวกนายจะออกจากเขตสงครามและไม่รบกวนเรา และนายก็จะรอดเช่นกันเพราะพวกเขาไม่ได้ไปข้างหลังโรงงาน!ไปกันเถอะ!”

 

ด้วยข้ออ้างในการเอาชีวิตรอด เคนพยายามทําให้พวกเขาออกไปโดยไม่ต้องต่อสู้ การต่อสู้กับทหารยามทั้งหมดจะลํา บากและใช้เวลานานพวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่ สุด

 

” แต่! เราไม่สามารถวิ่งหนีออกไปได้! เราจะอยู่ที่นี่และต่อสู้กับคุณ!” เราพร้อมที่จะนําชีวิตของเราไปสู่ความยุติธรรม!” หัวหน้าหน่วยการ์ดกล่าวด้วยความ มั่นใจในคําพูดของเขา

 

“จริงเหรอ พูดน่ะมันง่ายแต่เมื่อนายต้องเผชิญหน้ากับผู้คนที่สามารถฆ่านายได้ด้วยการสะบัดนิ้วความกล้าหาญทั้งหมดก็ไร้ประโยชน์ออกไป! การอยู่ที่นี่ของนาย จะเป็นอุปสรรคสําหรับเราเท่านั้น!” เคนกล่าวว่ายังคงพยายามเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาออกไป

 

เขาก็เริ่มหงุดหงิด ซึ่งน้ําเสียงของเขาชัดเจน

 

“และถ้านายสนใจที่จะตายจริง ๆ ฉันจะฆ่านายเองหรืออย่างน้อยเราก็มีสิ่งรบกวนน้อยลง” เขาพูดประชดประชั้นคุกคามเขา

 

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อเห็นทหารยามตกตะลึง

 

“พยายามเข้าใจฉัน เรามีโอกาสดีกว่า ถ้านายไม่อยู่ที่นี่ฉันไม่ต้องการให้นายมาทิ้งชีวิตของนาย มิฉะนั้นเราจะยุ่งกับการพยายามช่วยนายมากกว่าต่อสู้กับศัตรู นั่นเป็นเหตุผลที่ไอย์สร้างสุสานน้ําแข็งเพราะเราไม่ต้องการที่จะฟุ้งซ่าน!”

 

“ฟังฉันแล้วไปข้างหลังโรงงาน อย่ามายุ่งกับมัน!” เคนกล่าวออกไปทันที

 

เมื่อได้ยินเสียงความเศร้าโศกในเสียงของเขา หัวหน้าทหารก็ประหลาดใจเมื่อรู้ว่าคําพูดของเขามีน้ําหนักอยู่บ้าง

 

วัตถุประสงค์ของ APE คือการช่วยชีวิตมนุษย์จากแวเรียนท์ทมิฬ การปรากฏตัวของพวกเขาที่นี้จะมีแต่สร้างความปั่นปวนที่นี่และเพิ่มภาระให้กับสมาชิกของ APE

 

“ก็ได้ เราจะทําตามที่ท่านบอก!” หัวหน้ายามเห็นด้วย “มีคนอยู่ในโรงงานด้วยเราควรพาพวกเขาไปด้วยไหม”

 

“มีเวลาไม่มาก! สําหรับตอนนี้ ทุกคนออกไป! ฉันไม่ต้องการเห็นมนุษย์ที่นี่ใน 5 นาที!” เคนพูดอย่างจริงจังภายในใจของเขาเขามีความสุขที่แผนนี้ได้ผล

 

เมื่อเขาโน้มน้าวหัวหน้ายามที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดําเนินไปอย่างราบรื่นมากขึ้น หัวหน้ายามดูแลส่วนที่เหลือในขณะที่เขาพาทหารยามทั้งหมดไปกับเขาที่หลังสถานที่ ซึ่งไม่สามารถเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นทางด้านทิศเหนือของโร งงาน

 

เขาไม่รู้ว่าเขากําลังเล่นอยู่ในมือของศัตรู ในทางกลับกันเขาก็โชคดีเช่นกัน ถ้าเขาไม่ฟังหรือพยายามต่อสู้ เขาและทหารยามคนอื่นๆคงตายไปแล้ว

 

เคนมองดูทหารออกจากมือไปข้างหลัง เฉพาะเมื่อยามหายตัวไปจากสายตาของเขาเท่านั้นเขาก็มองไปยังพื้นที่เปิดโล่

 

“ออกไปได้ทุกคน ที่นี่ปลอดภัย!”เขาพูดออกมาทันที

 

ตอนที่ 135: การเปลี่ยนแปลง

 

แม้ว่าโรงงานจะอยู่ภายในสุสานน้ําแข็ง ซึ่งปิดกั้นไม่ให้ทุกสิ่งเข้ามา ยามของสถานที่ยังคงอยู่ที่นี่ พร้อมอาวุธครบมือ

 

คนเดียวที่ออกจากสุสานน้ําแข็ง คือคนของ APE โดยทิ้งมนุษย์ไว้เบื้องหลัง

 

“คิดว่าวันนี้เราจะรอดไหม” ยามคนหนึ่งถามขึ้น “สงครามของแวเรียนท์ขนาดใหญ่กําลังเกิดขึ้นข้างนอก ชีวิตของเราอยู่ในความเสี่ยง”

 

“ฉันไม่รู้ว่าเราจะรอดหรือไม่ การอยู่รอดของเราขึ้นอยู่กับชัยชนะของ APF หากอีกฝ่ายชนะ ฉันไม่อยากจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา” ยามอีกคนตอบ ขณะมองไป ทาง ทางเหนือที่มองเห็นแต่ก้อนน้ําแข็งก้อนใหญ่เท่านั้น

 

เนื่องจากสถานที่ทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยสุสานน้ําแข็ง แสงของดวงอาทิตย์ไม่ได้มาถึงที่นี่เช่นกัน ทําให้สถานที่นี้มืดกว่าปกติ

 

“ฉันได้ยินมาว่า แวเรียนท์เกิดใหม่โหดร้ายมาก พวกเขาจะไม่ปล่อยให้พวกเรามีชีวิตอยู่ได้อย่างแน่นอน หากพวกเขาชนะ เราสามารถอธิษฐานขอให้ APF ชนะและพร้อมที่จะดําเนินการหากจําเป็น” ยามอีกคนแบ่งปันความคิดของเขาโดยหวังว่า APF จะทําให้พวกเขาปลอดภัยด้วยการเอาชนะศัตรู

 

กลับไปที่อุโมงค์ใต้ดิน การทําอุโมงค์ในที่สุดก็หยุดลง

 

“ฉันเดาว่ามันนานพอแล้ว เราสามารถออกไปจากที่นี่ได้หรือนายจะเลือกสถานที่เอาเองได้เลย” เฮนริกกล่าว ขณะที่เขาหยุดสร้างอุโมงค์อีกต่อไป

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเฮนริก เคนมองย้อนกลับไปที่ผู้หญิงคนหนึ่งใน 2 คนที่เขาพามาด้วย

 

เมื่อมองไปที่ผู้หญิงผมสีน้ําตาล เขาพูดว่า “ฟิโอน่า ถึงตาเธอแล้ว บอกเราหน่อยว่าสถานการณ์ข้างนอกเป็นอย่างไร”

 

ผู้หญิงที่สวมชุดโค้ตและกางเกงขายาวกําลังก้าวไปข้างหน้า ขณะที่เคนเรียกเธอ

 

เธอเอียงศีรษะขึ้น ขณะมองดูพื้นผิวดินในอุโมงค์นั้น ดวงตาสีเข้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงสด เมื่อเธอเริ่มใช้ความสามารถของเธอ ซึ่งทําให้เธอมองทะลุวัตถุได้

 

ด้วยพลังของเธอ เธอสามารถมองทะลุพื้นดิน ตรวจสอบสภาพภายนอกได้ ดวงตาของเธอเหมือนเครื่องสแกนและ ดีพอๆ กับอุปกรณ์สอดแนม

 

“ทหารยามทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว พวกมันกระจายไปทั่วแล้ว ฉันมองไม่เห็นที่ที่เราจะก้าวออกไปโดยไม่ถูกจับได้” ฟิโอน่า กล่าว ขณะที่ดวงตาของเธอกลับเป็นสีปกติ

 

“เราสามารถใช้เส้นทางยาวไปเรื่อยๆและลองออกมาจากด้านหลัง ท่านคิดอย่างไร” เธอแนะนํา

 

“นั่นจะทําให้พวกเราล่าช้าโดยไม่จําเป็น” เคนพึมพําในขณะที่เขาถอนหายใจ

 

เขาลูบคาง ขณะกําลังครุ่นคิด

 

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง พยายามดูว่าแผนใดเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่สามารถทําได้สําหรับข้อกังวลนี้

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนจะมีทางเลือก 2 ทางก่อนหน้าเขา หนึ่งคือการใช้เส้นทางที่ยาวและล่าช้า เขาไม่ชอบตัวเลือกนั้นเพราะยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี

 

ตัวเลือกที่ 2 ที่เขาเห็นคือออกจากอุโมงค์โดยไม่สนใจอะไร แต่จํานวนผู้พิทักษ์ก็มากเกินไป อาจมีเสียงรบกวนโดยไม่จําเป็น และยังต้องใช้เวลาอีกมากในการฆ่าพวกเขา ทั้งหมด

 

เขาเหลือบมองกลับมาที่ลูซิเฟอร์ สงสัยว่าการออกไปต่อสู้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดหรือไม่สถานที่แห่งนี้อยู่ภายในสุ สานน้ําแข็งขนาดใหญ่ โอกาสที่เสียงจะออกไปจากที่นี่และไปถึง APE แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยัง… เขามีข้อสงสัยอยู่บ้าง

 

“เอาล่ะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันมีแผน” เคนพูดพร้อมกับยิ้ม

 

“ลูซิเฟอร์ ให้ฉันบอกคุณบางอย่างก่อนที่ฉันจะเริ่มทํา คุณจะไม่สับสน ฉันไม่ต้องการให้คุณโจมตีฉันโดยคิดว่าฉันเป็นศัตรูของคุณเพราะความเข้าใจผิด” เขากล่าวกับลูซิเฟอร์

 

คําพูดของเขาทําให้ลูซิเฟอร์สับสน เขากําลังจะทําอะไร? ทําไมเขาถึงโจมตีเคนที่นี่? เขาจะทรยศเขาหรือไม่?

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังคิดอยู่ เคนก็เป็นผู้นําและอธิบายเพิ่มเติมว่า “พลังของฉัน ทําให้ฉันแปลงร่างและปลอมตัวเป็นมนุษย์อีกคนหนึ่ง ทําให้คนจําฉันไม่ได้ ฉันกําลังจะใช้ความสามารถนั้นอีกครั้ง ดังนั้นจําไว้นะ และอย่าโจมตีฉัน เพราะฉันจะปลอมตัวเป็นคนพิเศษ”

 

‘แอบอ้างงั้นเหรอ?’ ลูซิเฟอร์คิดอย่างประหลาดใจ ความสามารถนี้ หากเขาเข้าใจถูกต้องก็น่ากลัวมาก ถ้ามันมีอยู่จริง เขารู้ว่าเขาไม่อยากเชื่ออะไรอีกแล้ว ความสามารถแบบนี้ก็มีด้วย?!

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ลูซิเฟอร์ได้ยินเรื่องนี้ เคนมีใบหน้าเหมือนเดิมตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาได้พบกับลูซิเฟอร์

 

ใครๆ ก็แสร้งทําเป็นว่าเป็นใครก็ได้ที่มีความสามารถนี้ ถ้าเคนต้องการ เขาก็สามารถแกล้งทําเป็นพ่อของเขาได้เช่นกัน นัยยะของสิ่งนี้ในอนาคต ลูซิเฟอร์ไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ํา

 

พลังของเคนเป็นประโยชน์อย่างมากสําหรับเขา มันเป็นรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวง โดยรู้ว่าเขาสามารถเป็นนักต้มตุ้นที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยการปลอมตัวเป็นใครบางคน

เขาสามารถหลอกล่อศัตรูได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นศัตรูที่สามารถแทงและฆ่าพวกมันได้ทุกเมื่อ

 

ลูซิเฟอร์จําช่วงเวลาที่เขาได้เห็นผู้หญิงที่ดูเหมือนแม่ของเขา แม้ว่าเขาจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ของเขา แต่เขาก็รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนั้น

 

“อย่ากังวลไป ฉันจะไม่ใช้ความสามารถนี้กับคุณ ถ้าคุณกังวลเรื่องนั้น ได้โปรดจําไว้คุณยังคงมีคําพูดของฉันอยู่” เคนตอบสังเกตเห็นความกังวลบนใบหน้าของลูซิเฟอร์

 

เขารู้ว่าพลังของเขานั้นน่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สําหรับคนที่แทบไม่ไว้ใจใครเลย ตอนนี้ลูซิเฟอร์กําลังคิดมากขึ้น ก่อนที่จะเปิดเผยความลับต่อผู้อื่น

 

แม้ว่าเขาจะเชื่อใจใครซักคน เขาก็จะไม่บอกทุกอย่าง เพราะมีความเสี่ยงที่คนก่อนหน้าเขาจะเป็นคนอื่นที่แอบอ้างเป็นคนใกล้ชิดเขาได้

 

การดํารงอยู่ของพลังดังกล่าวได้ทําลายการรับรู้ และตรรกะของความเป็นจริงที่ลูซิเฟอร์ทิ้งไว้

 

เขาเชื่อว่ามันยังคงดีแม้ว่า เขาไม่มีครอบครัวหรือเพื่อนแล้ว ใครบางคนสามารถบรรลุอะไรได้จากการแอบอ้างบุคคลอื่น มันจะเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งที่ แอบอ้างเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคย

 

ด้วยความคิดนั้น เขาพยายามโน้มน้าวตัวเองว่าเขาไม่มีอะไรต้องกังวล

 

“คุณจะปลอมตัวเป็นใคร” ลูซิเฟอร์ถาม “ถ้าปลอมตัวเป็นพ่อของผม คุณอาจจะต้องเสียใจ”

 

เมื่อเห็นความกังวลของลูซิเฟอร์ เคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า อย่ากังวลไป ฉันรู้ถึงความสําคัญของครอบครัว และฉันก็เคารพพ่อแม่ของคุณมากเกินกว่า จะกล้าแกล้งทําเป็นพวกเขาสบายใจได้”

 

“ฉันจะปลอมตัวเป็นแซนเดอร์ เบลค หัวหน้าหน่วย APE หน่วยเดลต้า ฉันแน่ใจว่ายามที่จะฟังฉัน ฉันแค่ไม่ต้อง การให้คุณโจมตีฉันโดยคิดว่าฉันคือแซนเดอร์ เบลกตัวจริงนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันบอกคุณ” เขากล่าวต่อไป

 

“ไม่เป็นไร ผมจะไม่ทําร้ายคุณ ผมไม่ได้โง่” ลูซิเฟอร์พูดพร้อมพยักหน้า

 

“แล้วคุณจะทําอะไรกับเสื้อผ้า” เฮนริกถามเคน โดยตระหนักว่าถึงแม้เขาจะปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ แต่เขาก็ไม่สามารถปลอมตัวเป็นเสื้อผ้าของคนเหล่านั้นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาเตรียมตัวล่วงหน้าเสมอ เมื่อต้องการปลอมตัวเป็นใครบางคน

 

แต่ตอนนี้มันกะทันหัน เขาจัดเสื้อผ้าไม่ได้

 

“อย่ากังวลเรื่องเสื้อผ้า เราไม่มีเวลา ดังนั้นฉัน แค่ต้องปรับตัวและสร้างเรื่องราว” เคนกล่าวก่อนจะแตะแก้มขวาด้วยมือขวา

 

สําหรับนิ้วมือซ้าย เขาวางมันไว้บนแก้มซ้ายของเขาก่อนที่เขาจะเริ่มใช้การแปลงร่างของเขา

 

ตอนที่ 134: ปกป้องหนู

 

เคนเดินต่อไปในอุโมงค์ใต้ดิน ตามเฮนริกที่เดินนําหน้าพวกเขา ผู้หญิง 2 คนที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมเดินตามหลังพวกเขาโดยปิดปากเงียบ

 

ตลอดการเดินทาง มีเพียงลูซิเฟอร์และเคนเท่านั้นที่พูดคุยกัน อีก 3 คนยังคงนิ่งเงียบ และแม้แต่ลูซิเฟอร์ก็พูดได้ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

เฮนริกยกมือขึ้นไปข้างหน้า แตะพื้น ซึ่งทําให้อุโมงค์ใหญ่ขึ้นและก้าวหน้าต่อไป สําหรับดิน มันเป็นเรื่องลึกลับและเป็นปริศนาที่ใหญ่ที่สุดสําหรับลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์อยากรู้เรื่องดิน เมื่ออุโมงค์ยาวขึ้น เกิดอะไรขึ้นกับดินที่ถูกรื้อออกไป? ราวกับว่ามันยังคงหายไปเรื่อยๆ

 

เขาสงสัยว่าความสามารถของเฮนริก นั้นคล้ายกับพลัง แห่งการเน่าเปื่อยของเขาหรือไม่ ความสามารถของ เฮนริก สามารถทําลายดินให้กลายเป็นความว่างเปล่าเพื่อสร้างอุโมงค์ใช่หรือไม่? ลูซิเฟอร์ประหลาดใจกับความคิดนั้น ขณะ ที่พวกเขาเดินต่อไป

 

ในอีกด้านหนึ่ง โรงงานทั้งหมดถูกปกปิดโดยไอย์ ภายในสุสานน้ำแข็งปิดกั้นจากมุมมองของศัตรู เธอทําเพื่อปกป้องมนุษย์ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในสถานที่นั้น

 

อย่างไรก็ตาม เธอรู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะที่ศัตรูได้ข้ามการป้องกันที่เธอเคยใช้ไปแล้ว เธอไม่รู้และไม่รู้เรื่องนี้เลย

 

ในความเป็นจริง ด้วยการสร้างสุสานน้ําแข็ง เธอทําให้สถานที่นั้นไม่มีการป้องกันและเปราะบางต่อศัตรูมากยิ่งขึ้น

 

สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะเธอไม่ได้คาดหวังว่าศัตรูจะสร้างเส้นทางอื่นโดยขุดอุโมงค์ใต้ดินเพื่อเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นโดยไม่มีใครสังเกตเห็น

 

ภายในสุสานน้ําแข็งมีแวเรียนท์ APE เพียงคนเดียวคือเยล

 

แม้ว่าเยลจะเป็นเพียงแวเรียนท์เพียงคนเดียวที่นี่ แต่เขาก็ยังมั่นใจในความแข็งแกร่งของเขาตั้งแต่เขาเป็นรองกัปตันของหน่วยเบต้า

 

เขาไม่ได้อยู่นอกอาคาร ขณะที่เขากําลังเดินผ่านทางเดินพยายามไปหาหมอราวและหมอเรย์แมนตามคําสั่งของไอย์

 

แม้ว่าเขาจะทําตามคําสั่งของกัปตัน เขาก็เกลียดมัน

 

“ฉันโชคร้ายที่ต้องติดอยู่กับหน้าที่คุ้มกัน น่ารําคาญจริงๆ! ศัตรูตัวฉกาจของเราอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของกําแพงน้ําแข็ง และฉันจะนั่งอยู่ในสถานที่ปลอดภัยแห่งนี้”

 

หมัดของเขากําแน่น ขณะที่เขากระแทกผนังด้านข้างของเขา เขาไม่สามารถซ่อนความหงุดหงิดที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้

 

“มันน่ารําคาญ! ฉันเกลียดมัน! ฉันเกลียดมันมาก!”

 

เขาก้าวเดินต่อไปอย่างยาวนาน ในขณะที่เขาพยายามควบคุมความคับข้องใจของเขา แต่ยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น

 

“โรงงานแห่งนี้ก็ติดขัดเช่นกัน! ไม่มีการสื่อสารจากภายในออกไปและไม่มีการสื่อสารจากภายนอกเข้ามา! ฉันไม่สามารถรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู้ได้!” เยลยังคงบ่นต่อไป

 

ขณะที่เขากําลังเดินผ่านทางเดิน เขาก็เห็นยามที่เป็นมนุษย์

 

“นายน่ะหยุด!” เขาเอื้อมมือออกไปแล้วชี้ให้ชายคนนั้นหยุด

 

ผู้คุมทุกคนได้รับแจ้งว่า APF อยู่ที่นี่และรับคําสั่งอยู่ครู่หนึ่ง ดังนั้นยามจึงไม่แปลกที่เขาเห็นหนึ่งในพวกเขาที่นี่

 

มีตราสัญลักษณ์อยู่ที่หน้าอกของเยล ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องของเขากับ APE

 

“ครับ?” ยามถาม

 

“พาฉันไปที่ห้องทํางานของหมอราวตอนนี้” เขาสั่ง พลางมีร่องรอยของการระคายเคืองอยู่ในน้ําเสียงของเขา

 

ยามไม่ถามอะไรมาก และตกลงตามคําเรียกร้อง เขาพาเยลไปที่สํานักงานของหมอราว

 

เยลก็เหมือนแซนเดอร์และไอย์ เขาไม่มีการเคาะห้องแม้ แต่น้อยในขณะที่เขาก้าวเข้าไปในสํานักงาน

 

“เฮ้อ เหลือ 2 คนและคนที่ 3 ก็มาแล้วสินะ” ด็อกเตอร์ ราวพูด ขณะถอนหายใจเมื่อเยลมาถึง

 

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเยล แต่ก็เดาได้ไม่ยากว่าเขาเป็นใคร

 

เยลก้าวไปข้างหน้าและนั่งบนเก้าอี้ที่ว่างเปล่า ในขณะที่เขาตอบอย่างประชดประชันว่า “ฉันไม่สนใจที่จะอยู่ที่นี่และปกป้องหนู 2-3 ตัวเช่นกัน”

 

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม อารมณ์ของฉันก็แย่อยู่แล้ว เพราะฉันไม่สามารถออกไปต่อสู้ข้างนอกได้ อย่าทําให้ฉันเสียใจอีกต่อไป ฉันไม่ต้องการอธิบายให้คนอื่นฟังว่าทําไมฟัน 64 ของแกถึงหายไป” เขาแถมขู่หมอด้วย

 

“ 64 ซึ่งั้นเหรอ? เขามีฟันแค่ 32 ซี่” หมอเรย์ แมนพูดขึ้นอย่างสับสน ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรู้เรื่องวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์หรือไม่? เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามนุษย์มีฟันกี่ซี่?

 

“อย่ากังวลกับวิชาคณิตศาสตร์ของฉัน ฉันนับได้ 32 ฉันจะหักห้ามใจที่จะโจมตีแกทั้งสองไม่ได้ ถ้าพวกแกไม่หุบปาก” เยลตอบ ในขณะที่เขาจ้องไปที่หมอเรย์แมน “งั้นก็เป็นเด็กดี อย่ากวนฉันอีก”

 

เมื่อได้ยินการคุกคามอันละเอียดอ่อน ดร.เรย์ แมนก็ปิดปากของเขาทันทีและหยุดพูด

 

“นายพูดถึงการทะเลาะวิวาทข้างนอก การสื่อสารทั้งหมดที่นี่ติดขัด และเราไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปด้วย เกิดอะไรขึ้นข้างนอก? มีคนโจมตีเราหรือเปล่า” หมอราวถามโดยไม่ต้องกังวลกับภัยคุกคาม

 

“มีใครบ้างงั้นเหรอ? กองทัพ แวเรียนท์เกิดใหม่ทั้งหมด มาที่นี่เพื่อทําลายสถานที่นี้และฆ่าแก แกทําให้พวกเขาโกรธแล้วจริงๆ” เยลตอบอย่างเกียจคร้าน

 

“ลูซิเฟอร์อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?” หมอราวถามอย่างตื่นเต้น

 

“นี่แกเป็นมาโซคิสม์เหรอ? ฉันกําลังพูดถึงศัตรูที่มาฆ่าแกและแกก็กําลังรู้สึกตื่นเต้นใช่ไหม” เยลถามด้วยสีหน้าไม่พอใจ

 

“นายยังไม่ได้ตอบฉันเลย! ลูซิเฟอร์อยู่กับพวกเขาด้วยหรือ” หมอราวถามอีกครั้งโดยไม่สนใจคําเย้ยหยันของเยล

 

“เฮ้อ ฉันคิดว่าฉันคิดถูกเกี่ยวกับแก แกปวยจริงๆ” เยลพูดขณะถอนหายใจ

 

เขาวางขาข้างหนึ่งไว้บนอีกข้างหนึ่ง ขณะที่เขานั่งอย่างสงบมากขึ้นก่อนจะพูดต่อ “อย่างไรก็ตาม ฉันไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์อยู่ที่นี่หรือไม่ ฉันถูกบอกให้มาที่นี่และปกป้องแกก่อนที่ฉันจะมองเห็นได้อย่างถูกต้อง ฉันว่าพวกแกพูดมาพอแล้ว หุบปากแล้วอย่ามารบกวนฉันอีก”

 

เขาไม่อยากพูดเพราะยิ่งพูดถึงมันมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้อยู่นอกอาคาร ต่อสู้กับศัตรูที่ทําให้เขาหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก

 

ตอนที่ 133: ใกล้แต่ไกล

 

“โรงงานที่รายล้อมไปด้วยน้ําแข็ง และการต่อสู้จะเกิดขึ้นนอกน้ําแข็งนั้น ในขณะเดียวกัน เราจะเข้าไปในโรงงานผ่านอุโมงค์ เมื่อนั้นเราจะเสร็จสิ้นภารกิจของเรา และออกไปก่อนที่ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สนุกมากใช่ไหม?”

 

ใบหน้าของเคนมีรอยยิ้มที่น่าขบขัน ในขณะที่เขาอธิบายแผนการให้ลูซิเฟอร์ฟัง ซึ่งเขายังไม่ได้บอกเขา เขาต้องการทําให้ลูซิเฟอร์ประหลาดใจในเวลาที่เหมาะสมเมื่อทุกชิ้นอยู่ในตําแหน่ง

 

คงจะน่าอายถ้าพวกเขาบอกเขาและไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามแผนของพวกเขา

 

“แผนดีมาก” ลูซิเฟอร์ตอบ ขณะพยักหน้า เขารู้สึกถึงกับ งานขององค์กรนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาก็เริ่มระแวดระวังมากขึ้นด้วย

 

กลอุบายและอุบายของพวกเขา เขาสงสัยว่าพวกเขากําลังใช้สิ่งดังกล่าวกับเขาหรือไม่ ถ้ามันเหมือนกันสําหรับเขา เขาต้องระวังให้มากกว่านี้

 

ในขณะเดียวกัน ที่ด้านข้างของ APF ไอย์ เริ่มออกคําสั่งให้สมาชิกของเธอ

 

“เยล! เราจะออกไปข้างนอก ต่อสู้กับศัตรูและกําจัดพวกมันออกไป คุณอยู่ในสถานที่พร้อมกับดร. ราวและดร. เรย์แมน ทําให้พวกเขาปลอดภัย” ไอย์ บอกเยลให้เข้าไปข้างในโรงงานขณะที่เธอออกไป

 

แม้ว่าเธอเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครผ่านพ้นไป แต่ เธอก็ยังส่งสมาชิกที่มีอํานาจในทีมของเธอเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน

 

“แต่กัปตัน! เราก็ส่งคนอื่นได้เช่นกัน ให้ฉันอยู่กับคุณตอนสู้กับพวกเขา ฉันรับเลี้ยงเด็กไม่ได้!” เยลประท้วง

 

“ไม่ใช่หน้าที่พี่เลี้ยงเด็ก มันเป็นงานที่สําคัญ เป้าหมายของพวกเขาคือหมอ 2 คนนั้น หากพวกเขาบางคนผ่านพ้นเราไปและฆ่าหมอ เราจะสูญเสียความเคารพทั้งหมดรวมทั้งใบหน้าและความน่าเชื่อถือของเรา ทุกคนจะบอกว่าเราทําไม่ได้” แม้จะปกป้องมนุษย์เพียงคนเดียวจาก การจลาจล เราจะปกป้องคนนับล้านได้อย่างไร” ไอย์ ถามเยลพลางขมวดคิ้ว

 

“และที่สําคัญกว่านั้น เมื่อพวกเขาฆ่าหมอ พวกเขาจะออกไป! เราต้องให้พวกเขาอยู่ที่นี่นานพอที่จะฆ่า หรือจับพวกเขาทั้งหมด!” เธอเสริม

 

“และสุดท้ายนี้! เป็นคําสั่งของฉัน! นายจะต้องทํามัน! หยุดบันได้แล้ว! ภารกิจของนายคือภารกิจที่สําคัญที่สุดที่นี่!” ไอย์พูดก่อนจะหันหลังกลับ

 

“รับทราบครับกัปตัน!” เยลตอบทันที ในที่สุดก็เชื่อฟังคําสังของเธอ

 

ไอย์ยังสั่งคนอื่นๆ ให้ติดตามเธอและเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้ที่ยาวนานและหนักหน่วง

 

ผู้ชายของ APE ตื่นเต้นมาก เมื่อได้ยินคําพูดของเธอ พวกเขาต้องการต่อสู้กับแวเรียนท์ทมิฬ ที่พวกเขาถือว่าคนเหล่านั้นชั่วร้ายมาโดยตลอด นี่คือจุดประสงค์หลักของ APE และในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาส

 

ยิ่งกว่านั้น ในสถานที่นี้ พวกเขาสามารถต่อสู้อย่างเต็มที่และใช้พลังของพวกเขาอย่างสุดความสามารถ ไม่เหมือนการต่อสู้ในเมืองที่แออัด เป็นโบนัสเพิ่มเติม ยิ่งพวกเขา ใช้พลังได้อย่างอิสระมากเท่าไรประสิทธิภาพก็จะยิ่งดีขึ้น เท่านั้น

 

ไอย์เดินตามแซนเดอร์ ซึ่งกําลังเดินไปทางทิศเหนือของกําแพง เขาเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้เพื่อทําลายทุกคน กําปั้นของเขากําแน่น ขณะที่ไฟเริ่มลุกไหม้รอบๆ

 

เขาไปถึงกําแพงน้ําแข็งทางทิศเหนือและวางมือที่ลุกไหม้อยู่บนพื้นผิว ทันทีที่มือของเขาถูกวางบนกําแพงน้ำแข็ง ผนังก็เริ่มละลายและระเหยไป

 

แต่มันไม่ง่ายเลย บริเวณที่เขาวางมือไม่ใช่ที่เดียวที่ระเหยไป แต่พื้นที่ที่ใหญ่พอที่จะให้เขาผ่านไปได้ง่ายกลับเริ่มละลาย

 

ในไม่ช้า กําแพงน้ําแข็งก็ถูกเปิดเป็นรูปประตู ซึ่งแซนเดอร์สามารถผ่านเข้าไปเพื่อดูศัตรูทั้งหมดในระยะไกลได้ในที่สุด

 

ไอย์ยังก้าวออกจากช่องเปิด ซึ่งสร้างโดยแซนเดอร์

 

เมื่อเธอก้าวออกจากพื้นที่ปิด เธอจ้องไปที่แซนเดอร์

 

“แทนที่จะเปิดด้วยตัวนายเอง นายอาจรอให้ฉันเปิดก่อนก็ได้” ไอย์ บอกกับแซนเดอร์

 

แซนเดอร์ตอบอย่างเกียจคร้านว่า “ฉันว่ามันยากที่จะรอ”

 

สมาชิก APF ที่เหลือก็ก้าวออกจากพิธีเปิดโดยแซนเดอร์

 

ไอย์เหลือบมองกลับไปที่ช่องเปิดและวางมือบนกําแพง ปิดช่องว่างในผนังของเธออีกครั้ง เมื่อทุกคนออกไปแล้ว ก็ไม่จําเป็นต้องเปิดไว้

 

“ฉันไม่เห็นลูซิเฟอร์ มันแปลก ฉันคิดว่าพวกเขาจะพาเด็กคนนั้นมาด้วย” แซนเดอร์กล่าว พลางมองไปรอบๆ ตัวเขาขณะที่เขาค้นหาลูซิเฟอร์

 

“ฉันก็ไม่เห็น ไรอาเหมือนกัน ทําไมวารันท์ยังไม่มาอีกเขาบอกว่าเขาจะมาที่นี้ในไม่ช้าหลังจากเรา ทําไมผู้นําใหญ่ๆ ถึงหายไป?”

 

เธอสงสัยว่านี่เป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือไม่ อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกรู้ว่ามีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้

 

“เธอพูดถูก มีบางอย่างดูแปลก ๆ” แซนเดอร์เห็นด้วย “มีบางอย่างผิดปกติ ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าอะไร”

 

“ไม่เป็นไร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้พาลูซิเฟอร์มาที่นี่ พวกมันก็เป็นศัตรูของเราให้จับพวกมันก่อนแล้วค่อยถามคําถาม” ไอย์กล่าวขณะที่เธอลูบมือของเธอ

 

เธอต้องมุ่งความสนใจไปที่ศัตรูที่อยู่ข้างหน้า นี่ไม่ใช่เวลาที่จะทําให้จิตใจของเธอยุ่งอยู่กับการหาสิ่งอื่น

 

ในทางกลับกัน ทีมของลูซิเฟอร์และเคนยังคงเดินผ่านอุโมงค์ต่อไป อุโมงค์เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันบิดเข้าในสิ่งอํานวยความสะดวก

 

ไม่นานพวกเขาก็เดินทางเกือบครึ่งทางแล้ว บังเอิญว่าพวกเขาอยู่ใต้ ไอย์ ในขณะนี้ซึ่งยืนอยู่บนพื้นดินนอกสุสานน้ําแข็ง

 

โชคดีที่ระยะห่างของพื้นดินจากอุโมงค์นั้นใหญ่พอที่จะไม่ทําให้พื้นสั่นสะเทือน ไอย์ และ แซนเดอร์ ไม่รู้สึกอะไรเลย

 

พวกเขาไม่ทราบว่าเด็กชายที่พวกเขาตามหานั้นกําลังอยู่ใต้เท้าของพวกเขาในขณะนี้ เด็กชายที่อยู่ไกลเกินไปแต่ก็ยังใกล้เกินไป

 

เคนบอกลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ แล้วว่าอย่าส่งเสียงดังเมื่อนานมาแล้ว จึงไม่มีใครพูด แม้ว่าตัวเคนจะพูดอะไรก็ตามเขาก็กระซิบ

 

เนื่องจากกําแพงน้ำแข็งไม่ได้ผ่านพื้นดินที่ระดับความลึก ดังกล่าว เฮนริกจึงไม่มีปัญหาในการทําให้อุโมงค์ของเขายาวขึ้น…พวกเขาเข้าไปในสถานที่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของกําแพงน้ำแข็งหนาได้อย่างง่ายดาย

 

ตอนที่ 132: ผู้ทํานาย

 

ไอย์เห็นขีปนาวุธพุ่งเข้าหาพวกเขา และเธอก็ลงมือโดยไม่ได้คิดอะไร เธอไม่สนใจทิศทางของขีปนาวุธ ทั้งหมดที่เธอสนใจคือดูเหมือนว่าจะกําลังพุ่งเข้ามาหาพวกเขา

 

เยลยังได้เห็นขีปนาวุธที่ถูกยิง เมื่อเขากําลังจะโจมตี เขายังคงสับสนกับเป้าหมายที่ชั่วร้าย แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงแผนการนี้

 

‘พวกเขาอาจจะใช้เทเลเคเนซิสเพื่อเปลี่ยนทิศทาง มันเป็นเพียงการเบี่ยงเบนความสนใจเราออกไป’

 

เมื่อตระหนักถึงแผนการของพวกเขา เยลก็ปรับเปลี่ยนแผนของเขาด้วยการป้องกันตัวเองเป็นสิ่งสําคัญที่สุดสําหรับเขา แต่ก่อนที่เขาจะทันทําอะไร เขาเห็นกําแพงน้ําแข็งขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นตรงกลางพวกเขาและขีปนาวุธ

 

กําแพงน้ําแข็งดูเหมือนจะหนาเกือบ 5 เมตรและสูง 50 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และปกป้องสถานที่ทั้งหมดและอีกมากมาย

 

เยลสังเกตเห็นกําแพงน้ําแข็งและเข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร

 

เขายิ้มและหันหลังกลับพร้อมกับพูดอย่างตื่นเต้น “กัปตัน คุณออกโรงแล้วสินะครับ”

 

“แน่นอน ฉันออกโรงแล้ว แต่ขอถามได้ไหมว่าพวกคุณกําลังทําอะไร แทนที่จะไล่ศัตรูออกไป คุณปล่อยให้พวกมันเข้ามาใกล้ คุณทํางานแบบนี้หรือเปล่า” ไอย์ ดุเยลขณะที่เธอจ้องมองเขา

 

ขีปนาวุธที่พุ่งเข้าหาพวกเขาชนกับกําแพงน้ําแข็ง ระเบิดขึ้น น่าแปลกที่กําแพงน้ําแข็งยังคงไม่บุบสลาย นอกจากหลุมเล็กๆ บนกําแพงที่ขีปนาวุธไปชน ดูเหมือนว่าจะไม่มีความเสียหายมากนัก

 

ดิออนที่ยังหลับตาอยู่ในเฮลิคอปเตอร์เริ่มลืมตาอย่างเกียจคร้าน ในขณะที่เขาพึมพํา “ไอย์”

 

“ฉันจะทําให้พวกเขายอมแพ้และทําสิ่งที่คุณต้องทําด้วยตัวเอง” แซนเดอร์พูด ขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่กําแพงน้ําแข็ง

 

“ไอย์ ครอบคลุมสถานที่ทั้งหมดด้วย กําแพงน้ําแข็งของเธอซะ และแยกสนามรบออกจากโรงงาน” เขาบอกไอย์

 

เยลประหลาดใจที่เห็นแซนเดอร์สั่งไอย์ แต่เขาไม่เห็นไอย์บ่น

 

ไอย์ทําตามที่แซนเดอร์บอกกับเธอแทนเพราะเธอเชื่อว่า นี่เป็นขั้นตอนที่ถูกต้องที่ควรทําในขณะนี้ เมื่อสนามรบเกิดความโกลาหล จะเป็นการยากที่จะปกป้องโรงงาน ดังนั้น การปกป้องตอนนี้จึงดูเหมือนเป็นความคิดที่ดีที่สุด

 

เธอวางมือลงบนพื้นอีกครั้ง ขณะที่เธอเริ่มใช้การควบคุมน้ําแข็งของเธอ

 

กําแพงน้ําแข็งหนาทึบปรากฏขึ้นทางทิศเหนือของจุดที่เฮลิคอปเตอร์กําลังมา แต่ตอนนี้มีกําแพงน้ําแข็งหนา อีกก้อนปรากฏขึ้นทางด้านทิศใต้ของอาคารด้วยเช่นกัน

 

กําแพงน้ําแข็งหนาอีกแห่งก็ปรากฏขึ้นจากด้านตะวันออกและด้านตะวันตก ปิดพื้นที่ทั้งหมดด้วยกําแพงน้ําแข็ง 4 ด้าน ทําให้ไม่มีใครออกจากสถานที่นี้หรือเข้ามาไม่ได้ ทางเดียวที่เหลืออยู่คือบนท้องฟ้า

 

น่าแปลกที่เธอยังปกคลุมท้องฟ้าและหลังคาหิมะหนาปรากฏขึ้นบนยอดกําแพงน้ําแข็งสี่ก้อน ปิดช่องเปิดสุดท้ายเช่นกัน ไม่มีทางเข้าออก

 

“เจ้านาย ดูเหมือนว่าเขาจะพูดถูกในคําทํานาย ไอย์ปิดพื้นที่จริงๆแล้ว!” หนึ่งในสมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่ บอกกับดอนน ขณะที่เขายิ้ม

 

“สมบูรณ์แบบ พวกเขาสามารถย้ายออกไปได้แล้วลงไปเลย” ดิออนสั่ง ขณะที่เขาลุกขึ้นในที่สุด “ฉันเดาว่าคําทํานายของเขาได้ผลในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะมีอัตราความสํา เร็จเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น”

 

เฮลิคอปเตอร์ลําแรกเริ่มลงและลงจอด ข้างหลังนั้น เฮลิคอปเตอร์ลําที่ 2 ก็เริ่มลงจอดเช่นกัน ตามด้วยลําที่ 3

 

ในท้ายที่สุด เฮลิคอปเตอร์กับลูซิเฟอร์ก็เริ่มร่อนลงและร่อนลงบนพื้น อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับเฮลิคอปเตอร์ 3 ลําแรกตรงที่มันไม่ได้ลงจอดโดยหันไปทางทิศใต้

 

แต่กลับลงจอดโดยหันไปทางทิศตะวันตก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทางออกของเฮลิคอปเตอร์อยู่ฝั่งตรงข้ามของอาคารบังทัศนวิสัย

 

“ฉันเดาว่าในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็มีประโยชน์ คราวนี้คําทํานายของเขาถูกต้อง” เคนกล่าวขณะยืนขึ้น “มาเถอะ ลูซิเฟอร์ ไปกันเถอะ ได้เวลาไปให้ถึงเป้าหมายแล้ว”

 

เคนและลูซิเฟอร์ก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์

 

“เฮนริก ฟิโอน่า และมิสซี่ คุณ 3 คนมากับเรา พวกคุณที่เหลืออยู่ที่นี่และช่วยเหลือคนอื่นๆ” เคนบอกกับสมาชิกในทีมของเขา

 

สมาชิกในทีมของเขาส่วนใหญ่เดินไปรอบๆ เฮลิคอปเตอร์เพื่อพบกับคนอื่นๆ สําหรับ 3 คนที่เคนเรียกชื่อนั้น พวกเขายืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับเขา

 

“เฮนริก ไปทํางานเร็ว” เคนสั่ง

 

เมื่อได้ยินคําสั่งจากเคน ชายร่างผอมที่เรียกว่าเฮนริกก็ก้าวไปข้างหน้าและวางมือลงบนพื้นซึ่งเริ่มหายไป

 

อุโมงค์ได้เริ่มก่อตัวขึ้นบนพื้นดิน มันลึกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป หลังจากนั้นไม่กี่วินาที อุโมงค์กว้างพอให้คนอื่นๆ เข้าไปได้

 

เฮนริกอยู่ในอุโมงค์แล้ว เดินไปทางทิศใต้ และสร้างอุโมงค์เพิ่มขึ้นเมื่อเขาไป

 

เคนกระโดดเข้าไปในอุโมงค์ ข้างหลังเขา ลูซิเฟอร์ก็กระโดดเข้าไปข้างในด้วย ผู้หญิง 2 คนที่อยู่ข้างหลังเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไป

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินไปพร้อมกับเคนในอุโมงค์ เขารู้สึกทิ้งกับแผนการนี้ แทนที่จะต่อสู้และเดินทางผ่านเส้นทางที่ยากลําบาก พวกเขากลับฉลาดแกมโกงจนต้องเดินทางผ่า นอุโมงค์

 

เขาค่อยๆ เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าแผนการในบางครั้งมีประโยชน์มากกว่าความแข็งแกร่งมันถูกต้อง

 

คนชอบธรรมอาจชนะสงครามด้วยกําลังของเขา แต่คนฉลาดแกมโกงสามารถชนะสงครามได้โดยไม่ต้องใช้กําลังเพียงลําพัง แต่ใช้สมอง และเมื่อชายผู้เฉลียวฉลาดนั้นมีพละกําลังเช่นกัน นั่นเป็นส่วนผสมที่มีพลังไม่แพ้ใคร

 

เขาตระหนักว่านั่นคือสิ่งที่เขาต้องกลายเป็นนักปราชญ์ เขามีความแข็งแกร่ง สิ่งที่เขาต้องการคือจิตใจที่ฉลาดแกมโกง และเขาจะอยู่ยงคงกระพัน

 

อย่างไรก็ตาม มีคําถามอื่นในใจของเขาซึ่งเกี่ยวกับการทํานาย เคนได้พูดถึงการคาดการณ์บางอย่างที่ถูกต้องนั้นเกี่ยวกับอะไร?

 

นอกจากนี้ แผนการสร้างอุโมงค์นี้ขึ้นกับปัจจัยที่ไม่แน่นอนหลายประการ

 

ด้วยความสงสัยจึงตัดสินใจถามออกไป

 

“คุณพูดบางอย่างเกี่ยวกับการทํานายของใครบางคนถูกในครั้งนี้ หมายความว่าอย่างไร” เขาถามเคนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยอุบาย

 

“โอ้ นั่นน่ะเหรอ มันไม่ซับซ้อน จริงๆ แล้ว มีใครบางคนใน แวเรียนท์เกิดใหม่ของเราที่เรียกว่า ผู้ทํานาย แม้ว่าชายคนนั้นจะตาบอด แต่เขาสามารถมองเห็นได้มากกว่าคนอื่นผ่านความสามารถระดับ A ของเขาที่เรียกว่า คําทํานายจากสวรรค์” เคนตอบ

 

“นานๆ ที่เขาจะได้ลางสังหรณ์ที่บอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ลางสังหรณ์นั้นสั้นเสมอ และส่วนใหญ่ก็ผิด”

 

“จนถึงตอนนี้ เขาทํานายถูกเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ถึงกระนั้น เขาก็เป็นส่วนสําคัญของพวกเรา และเป็นผู้ช่วยใกล้ชิดของไรอา” เขากล่าวเสริม ในขณะที่ใบหน้าของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาเขาดวงตา ถูกคลุมด้วยผ้าสีดํา

 

“อย่างไรก็ตาม คราวนี้ ก่อนที่เราจะออกเดินทาง บังเอิญเขามีคําทํานาย ในการทํานายของเขา เขาบอกว่าเขาเห็นหลุมศพน้ําแข็งขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมโรงงานทั้งหมดเมื่อเรามาถึงที่นี่ และการสู้รบเกิดขึ้นนอกโรงงานที่ปกคลุมด้วยน้ําแข็งนั้น”

 

“ดังนั้นเราจึงปรับแผนของเราด้วย แม้ว่าโอกาสที่เขาจะพูดถูกจะหายาก แต่เราตัดสินใจเสี่ยงในครั้งนี้ ดังนั้นเราจึงวางแผนทุกอย่างตามนั้น โชคดีที่ครั้งนี้เขาถูก” เคนกล่าวพลางยิ้ม….

 

ตอนที่ 131: จุดมุ่งหมายของหมัด

 

“ความล้มเหลวในการควบคุมความโกรธของคุณ และคุณจะกลายเป็นทาสของมัน” เคนบอกกับลูซิเฟอร์ โดยแนะนําให้เขาควบคุมตนเองจากความอ่อนแอเพียงอย่างเดียวที่เคนพบว่าชัดเจนเกินไป

 

เขาเชื่อว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่สามารถเดาเรื่องนี้ได้ อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อถึงเวลาศัตรูของลูซิเฟอร์สามารถใช้เคล็ดลับนี้ เพื่อทําให้เขาตกกับดักของพวกเขาได้และเมื่อถึงเวลานั้น มันจะสายเกินไป

 

เขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์เป็นส่วนหนึ่งของทีมของพวกเขาและหลังจากช่วยเด็กคนนี้ในวันนี้ เขามั่นใจว่าลูซิเฟอร์จะเข้าร่วมทีมของพวกเขาและช่วยให้พวกเขาบรรลุเป้าหมาย

 

เนื่องจากเขามั่นใจว่าในที่สุดสิ่งนี้จะเกิดขึ้นและลูซิเฟอร์จะกลายเป็นพันธมิตรของพวกเขาเคนเชื่อว่าพวกเขาจะไม่ต่อสู้กับลูซิเฟอร์ ด้วยความคิดนั้น เขาจึงแนะนําเขาเกี่ยวกับจุดอ่อนของเด็กน้อยอย่างแท้จริง

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคําพูดของเขาและตระหนักว่าชายคนนี้กําลังพยายามจะพูดอะไร เขายังรู้สึกว่ามีบางอย่างเกี่ยว กับสิ่งนี้ที่เขาต้องคิดถ้าเขาฟังความต้องการในหัวของเขา ครั้งสุดท้ายเขาอาจจะไม่ได้ติดกับดักนั้น

 

“ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันไม่มีใครให้คําแนะนําแบบนี้ฉันต้องเรียนรู้ทุกอย่างอย่างยากลําบากก่อนที่จะพบกับองค์กรนี้” เคนกล่าวขณะที่เขาเหลือบมองลูซิเฟอร์

 

“แต่คุณแตกต่าง คุณมีพวกเราทุกคน และคุณสามารถพึ่งพาเราได้มากขึ้นคาดหวังให้เราอยู่ข้างหลังคุณเป็นกําลังใจเสมอเหมือนคุณจะอยู่ข้างหลังเราเพื่อช่วยเราเพราะนั่นคือสิ่งที่ครอบครัวทํา”

 

เขายังคงพูดอย่างสงบ แต่คราวนี้ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่จริงใจเกี่ยวกับตัวเขา ราวกับว่าเขาหมายความตามที่เขาพูดจริงๆ

 

“ผมเข้าใจผมจะระวังในครั้งต่อไปที่มีคนลองท้าทาย” ลูซิเฟอร์กล่าวพร้อมพยักหน้า

 

ในขณะเดียวกัน กลุ่มควันขนาดมหึมาที่ปกคลุมอากาศก็ เริ่มบางลง ทําให้ทัศนวิสัยของทั้งสองฝ่ายดีขึ้น

 

ยังสามารถมองเห็นเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลํา พวกมันทั้ง 4 ลําบินเป็นเส้นตรงไปยังศูนย์ปฏิบัติงาน

 

“เขามีเทเลคิเนซิส นั่นเป็นปัญหาเพราะวัตถุแข็งอย่างขีป นาวุธนั้นไร้ประโยชน์ เราจะต้องทําสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง” เยลกล่าวพร้อมมองไปในทิศทางของเฮลิคอปเตอร์

 

เขาหันไปทางซ้ายและจ้องไปที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ขณะ ที่รอยยิ้มซุกซนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

“เอเลียน่า พาพวกมันลงมา” เขาบอกกับผู้หญิงที่อายุ ราวๆ 20 ต้นๆ ของเธอ ผมสีน้ําตาลยาวของเธอลดหลั่นลงมาถึงเข่า ขณะที่ผมหน้าม้าปิดหน้าผากทั้งหมด

 

ผู้หญิงในชุดมินิเดรสสีขาวก้าวไปข้างหน้าขณะที่เธอพย กหน้า

 

เธอยกมือขึ้นในทิศทางของเฮลิคอปเตอร์ลําแรก ขณะที่ด วงตาของเธอเริ่มส่องแสงสีฟ้า

 

เคนมองออกมาจากเฮลิคอปเตอร์อีกครั้งเพื่อดูว่าศัตรูพยา ยามจะทําอะไรเมื่อเขาเห็นผู้หญิงคนนั้นมองมาทางเขา

 

เขาโบกมือเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มเจ้าชู้บนใบหน้าของเขา และขยิบตาให้เธอ

 

“มันไม่ได้ผล มีคนกําลังขัดขวางไม่ให้ความสา มารถของฉันทํางานบนเฮลิคอปเตอร์” เอเลียน่าบอกกับเยลดวงตาของเธอกลับมาเป็นปกติ

 

เธอพยายามใช้พลังของเธอ และพวกเขาถึงกับคิดว่ามัน ด้ผลแต่ผลของมันก็เล็กน้อยมาก

 

เอเลียน่ามีความสามารถ 2 อย่าง ทั้งสองเป็นธาตุ ความสามารถอย่างหนึ่งของเธอเกิดขึ้นจากการหยุดชะงักทาง กลไก

 

แม้ว่าจะไม่ใช่ความสามารถระดับสูง แต่ก็หลากหลายมากด้วยการใช้ทักษะหยุดชะงักทางกลไกเธอสามารถจัดการเครื่องจักรใดๆจากหน้าที่ของมัน ทําให้พวกมันทั้งหมดหยุดทํางานในช่วงระยะเวลาหนึ่งความสามารถนี้ใช้ได้ก็ต่อเมื่อเครื่องจักรนั้นอยู่ในระยะที่กําหนดของเธอเท่านั้น

 

หลังจากตอบเยลด้วยความผิดหวังเธอเหลือบมองอีกครั้งไปทางเคนซึ่งขยิบตาให้เธออีกครั้งขณะที่เขาเคาะหัวใจราวกับว่าเขากําลังบอกเธอว่าเขาตกหลุมรักเธอ

เขาไม่ลืมส่งจุมพิตโบยบินให้เธอด้วย

 

“ไอ้เวรนั่น!” เอเลียน่าสาปแช่งภายใต้ลมหายใจของเธอขณะที่เธอจ้องมองที่เคน หากการจ้องเขม็งฆ่าได้เคนคงตายไปหลายร้อยครั้งแล้ว

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า การหยอกล้อคนเหล่านี้สนุกมาก” เคนพูดขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ

 

“พวกเขาคิดจริงๆ ว่า พวกเขาเป็นคนเดียวที่มีไฟล์เกี่ยวกับศัตรูน่าเสียดายสําหรับพวกเขาการที่เรารู้เกี่ยวกับพวกเขาง่ายกว่าการที่พวกเขารู้เกี่ยวกับเรามาก นั่นเป็นข้อเสีย ของการอยู่ในที่เปิดเผยเสมอ ” เขาเสริม

 

“เคน เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเล่นโฟกัสที่ศัตรู” ดิออน เตือนเคนอย่างสงบโดยไม่สนใจที่จะลืมตาด้วยซ้ํา

 

“ก็ได้ ไม่เป็นไร ฉันแค่สนุกนิดหน่อย ยังไงก็เถอะ นายพูดถูก ได้เวลาไปทํางานแล้ว” เคนพูดพร้อมสีหน้าขี้เล่นหายไปแทนที่ด้วยสีหน้าที่จริงจังและครุ่นคิด

 

“ก็ได้ เนื่องจากเราไม่สามารถทําให้พวกเขาล้มลงได้ง่ายๆฉันจะทําลายพวกมันเอง ถึงเวลาทํางานแล้วแสดงให้พวกเขาเห็นว่าเรามีความสามารถอะไร” เยลก็พูดในสิ่งเดียวกันในขณะที่เขากําหมัดแน่น

 

เขากําลังจะลงมือเองเพราะมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่มีการโจมตีระยะไกลในหมู่ผู้ที่อยู่ที่นี่

 

และมีเพียงการโจมตีของเขาเท่านั้นที่สมเหตุสมผล

 

รองหัวหน้าหน่วยเบต้าเยลก้าวไปข้างหน้า ในขณะที่เขาถอดแจ็กเก็ตหนา ๆ ออกแล้ววางลงบนพื้นเผยให้เห็นมือเปล่าที่ไม่เทอะทะมาก

 

ดูเหมือนจะมีรอยสักสีดําบนแขนขวาของเขา ซึ่งมีอักขระแปลก ๆ 3 ตัวที่อ่านไม่ได้ ดูเหมือนเส้นขยุกขยิกแบบสุ่มของใครบางคนไม่เหมือนตัวอักษรที่เหมาะสม

 

เขาเพิ่งจะลงมือ เมื่อรู้ว่าเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ข้างหน้าได้ยิงขีปนาวุธไป 2-3 ลูก

 

น่าแปลกที่ทิศทางของขีปนาวุธดูแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงราวกับว่าคนที่ยิงพวกมันไม่รู้ว่าจะเล็งอย่างไรดี ที่วิถีของขีปนาวุธ พวกมันกําลังเดินผ่านโรงงานไปเรื่อยๆ

 

นั่นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่ไอย์ และแซนเดอร์ก้าวออกมา

 

 

ตอนที่ 130: จุดอ่อนของลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์เหลือบมองกลับไปที่เคน ยังคงสงสัยว่าคําพูดของเขาถือเป็นบุญหรือไม่ แต่เขาพยักหน้าเดินกลับไปที่ที่นั่งของเขา ไม่ว่าในกรณีใดเขาต้องสูญเสียอะไรไป? แม้ว่าเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดจะถูกระเบิด แต่ผู้ที่กําลังจะตายไม่ใช่เขา

 

ถ้าคนเหล่านี้มีศรัทธามากมายในยามที่ชีวิตของพวกเขาตกอยู่ในอันตราย แล้วทําไมเขาจะต้องสงสัยในเมื่อเขาไม่มีความเสี่ยง

 

เขานั่งลงและรอให้มีการดําเนินการบางอย่างเกิดขึ้น

 

 

“นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย! ถ้าพวกคุณไม่หยุด พวกเราจะโจมตี!” เจนเนอร์ตะโกนอีกครั้งด้วยความช่วยเหลือจากความสามารถของเขา เพราะเขาไม่เห็นความสูงของเฮลิคอปเตอร์ลดลงเลย

 

“เอาล่ะ ระเบิดมันซะ” เขาพูดเสียงแข็ง ขณะที่คําเตือนครั้งที่ 2 ของเขาดูเหมือนจะหูหนวกเหมือนกัน พวกเขารอไม่ไหวแล้ว มิฉะนั้นเฮลิคอปเตอร์จะเข้ามาถึงพวกเขา

 

เมื่อได้ยินคําสั่งของเขา ยามของสถานที่ก็กลับไปที่เครื่องจักรที่วางไว้ที่นั่นเพื่อป้องกันศัตรู

 

เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปที่ยานยิงจรวด เพื่อโจมตีเฮลิคอปเตอร์ของศัตรูที่ไม่ตอบสนองต่อคําเตือน

 

ใช้เวลาไม่นานในการเล็งและยิงจรวด จรวดหลายสิบลูกพุ่งเข้าหาเฮลิคอปเตอร์ที่เข้ามาพร้อมกัน ทั้งหมดมีวิถีทางที่แตกต่างกันเพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ลําไม่สามารถหลบหนีได้

 

ทีมของดิออนอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ชั้นนํา เฝ้าดูการโจมตีที่เข้ามา เนื่องจากทีมที่อยู่ในระดับ 3 ในองค์กรก็ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว

 

ถ้าจะให้เดา ทีมของดิออนก็เกือบจะแข็งแกร่งพอๆ กับ ทีมของไอย์ที่รู้จักกันในนามทีมเบต้า

 

เมื่อเห็นจรวดพุ่งเข้าหาพวกเขา ดิออนมีสีหน้าผิดหวัง

 

“พวกมันขว้างของเล่นพวกนี้ใส่เราจริงๆ เหรอ?” เขาถามในขณะที่เขาส่ายหัว

 

“เคน ไปจัดการพวกมันซะ” เขาพูด เหลือบมองสมาชิกผมดําคนหนึ่ง ซึ่งผมมัดเป็นหางม้า

 

เคนยืนขึ้นหลังจากได้รับคําสั่งและเดินไปที่ประตูด้านซ้าย ซึ่งเขาเลื่อนเปิดออก

 

เขาจับที่จับใกล้ประตูด้วยมือซ้าย ขณะวางเท้าซ้ายบนพื้นอย่างมั่นคง ก่อนที่เขาจะนําร่างกายที่เหลือของเขาออกไปข้างนอก เอียงไปด้านข้างราวกับว่าเขา กําลังเพลิดเพลินกับลมแรง

 

ขณะที่เคนก้าวลงจากเฮลิคอปเตอร์ไปครึ่งก้าว เกือบทุกคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับสถานที่นั้นสามารถมองเห็นเขาได้

 

เคนยกมือขวาไปทางสมาชิก APF ที่ยืนอยู่ใกล้อาคารสถานที่ ขณะที่เขาโบกมือด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสราวกับว่า เขากําลังทักทายเพื่อนที่หายไปนาน

 

เยลรองกัปตันหน่วยเบต้า จ้องเคนด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว สงสัยว่าชายคนนี้กําลังพยายามจะทําอะไร

 

นัยน์ตาสีแดงสวยงามราวกับแวมไพร์ของเขากําลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ ขณะที่ผมสั้นสีเงินปลิวไสวตามสายลม เขาแต่งกายด้วยชุดธรรมดาแต่ดูทันสมัย โดยสวมเสื้อยืดสีขาวใต้แจ็กเก็ตสีเขียว ซึ่งดูเหมือนทําขึ้นสําหรับฤดูหนาว

 

เขาจําใบหน้าไม่ได้ แต่เขาเชื่อว่าเขาเคยเห็นเคนอยู่ในแฟ้มเอกสารเล่มหนึ่งมาก่อน

 

หลังจากวางความเครียดบนหัวของเขาอีกเล็กน้อย เขาก็รู้ว่าใบหน้านี้เป็นของใคร

 

“ฉันเดาว่าเราคิดถูก ฉันจําได้แล้ว นี่คือเคน จากแวเรียนท์เกิดใหม่ ถ้าจําไม่ผิด ความสามารถของเขาคือ…”

 

ผ่านไปไม่นาน ก่อนที่เขาจะจําได้ในที่สุด เขาได้อ่านเกี่ยวกับเขาในแฟ้มและรู้ถึงความสามารถของเขาด้วย แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดถึงเรื่องนี้ เขาก็ตระหนักว่าไม่มีความจําเป็นอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเคนได้ใช้มันต่อหน้าทุกคนโดยไม่ปล่อยให้เขาพูดจบ

 

….

 

เมื่อเยลพยายามจําได้ว่าเขาเป็นใคร เคนค่อยๆ ยกมือไปทางขีปนาวุธที่เข้ามา

 

ดวงตาสีดําสนิทของเขาเริ่มส่องแสงเป็นสีฟ้า ในขณะที่เขากําหมัดแน่นอย่างฉับพลันก่อนจะขยับมือเป็นวงกลม

 

น่าแปลกที่ขีปนาวุธครึ่งหนึ่งตามการเคลื่อนไหวของมือและเริ่มเคลื่อนที่

 

หลังจากที่ดูเหมือนว่าจะควบคุมขีปนาวุธได้แล้ว เคนก็สะบัดข้อมือเบา ๆ และเปลี่ยนวิถีของขีปนาวุธเพื่อที่แทนที่จะพุ่งเข้าหาพวกมัน มิสไซล์เริ่มบินไปยังอีกครึ่งหนึ่งของขีปนา

 

ขีปนาวุธทั้งหมดปะทะกัน ทําให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ แต่เนื่องจากขีปนาวุธยังอยู่ห่างจากเฮลิคอปเตอร์ การระเบิดจึงไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา

 

ควันขนาดใหญ่กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่งแม้ไฟจะดับลงในไม่ช้า

 

เนื่องจากเมฆ สมาชิกของ APF มองไม่เห็นเฮลิคอปเตอร์หรือใบหน้าของเคน แต่ถ้าพวกเขาเห็นเคน พวกเขาคงจะโกรธจัดเพราะเคนเอานิ้วกลางชี้ไปที่สมาชิก APF จากอีกด้านหนึ่งของ เมฆของควัน

 

ในทางกลับกัน เมื่อเห็นกลุ่มควัน เยลก็จบประโยคของเขาในที่สุด “….เทเลคิเนซิส”

 

เขาจําได้ว่ากําลังอ่านไฟล์ ซึ่งมีรูปเคนอยู่ด้วย มันพูดถึง เขามีเทเลคิเนซิสระดับ A เนื่องจากความสามารถนี้ เคนจึงถูกจัดประเภทเป็นแวเรียนท์ที่อยู่ในข้อกังวลโดย APF

 

เขายังไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องการตัวมากที่สุด มีเพียงสมาชิกระดับ 5 เท่านั้น ได้แก่ เวก้า, อิโซน่า, ดิออน, เคน และคนอื่นๆ อีก 2-3 คนที่อยู่ในรายชื่อ ซึ่งรวมถึงสมาชิก แวเรียนท์เกิดใหม่ที่ APF ต้องการจะจัดการไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เคนยังค่อนข้างสั้นจากการทํารายการ

 

เมื่อเห็นเคนที่นี่ยืนยันความสงสัยของเยล แวเรียนท์เกิดใหม่อยู่ที่นี่แล้ว และสงครามกําลังจะเกิดขึ้น

 

“เห็นไหม นี่มันไม่มีอะไรมาก คุณแค่นั่งลงและเพลิดเพลินกับการแสดง ทิ้งความรับผิดชอบในการพาคุณเข้าไปในสถานที่ของเรา คุณคือครอบครัวของเรา ไม่มีอะไรมาก” เคนบอกกับลูซิเฟอร์ ในขณะที่เขาทําให้เขาอุ่นใจด้วยรอยยิ้ม

 

“ในขณะที่เรากําลังทําอยู่ ให้ฉันสอนคุณ 2-3 อย่าง เราต้องการฝึกคุณอย่างเหมาะสม แต่เนื่องจากเวลาจํากัด เราทําไม่ได้ ดังนั้นเราจะต้องทําบทเรียนสั้นๆ 2-3 บทเรียน” เขากล่าวเสริม

 

“ประการแรก สิ่งที่ฉันสังเกตเห็นคือพ่อแม่ของคุณเป็นจุดอ่อนของคุณ” เขากล่าว

 

ลูซิเฟอร์มองเขาอย่างสับสน เขาหมายความว่าอะไร พ่อแม่ของเขาเป็นจุดอ่อนของเขา?

 

“คุณคิดผิดแล้ว พ่อแม่คือพลังของฉัน” ลูซิเฟอร์พูดอย่างหนักแน่น

 

“ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น แน่นอนว่าพ่อแม่ของคุณเยี่ยมมาก คุณแข็งแกร่งได้เพราะพวกเขา และพวกเขาเป็นแรงจูงใจของคุณที่จะยังคงยืนหยัดแม้หลังจากที่คุณผ่านทุกอย่างมา แต่พวกเขาก็เป็นจุดอ่อนของคุณด้วย” เคนตอบกลับ

 

“ฉันเคยเห็นมาแล้วเช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่มีคนต้องการทําให้คุณมองไม่เห็นเป้าหมาย พวกเขาแค่ต้องพูดไม่ดีเกี่ยวกับพ่อแม่ของคุณและมันได้ผล” เขากล่าวเสริม

 

“นั่นคือเหตุผลที่คุณควรจําไว้เสมอ จะไม่มีใครพูดถึงพ่อแม่ของคุณแย่ๆ โดยไม่มีเหตุผล และเมื่อมีคนทํา แทนที่จะเสียสติและหยุดคิด คุณต้องระวังให้มากขึ้น” เขากล่าว พร้อมให้คําแนะนําที่มีความหมายแก่เขา

 

“สิ่งสําคัญคือต้องมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับเป้าหมายของคุณและไม่ตกหลุมพราง จําคําพูดของฉันไว้เสมอ พวกเขาจะมีประโยชน์สักวันหนึ่งตราบเท่าที่คุณตระหนักถึงแก่นแท้ ของคําพูดของฉัน”

 

“ควบคุมความโกรธ แล้วคุณจะอยู่ยงคงกระพัน แต่ถ้าคุณล้มเหลวในการควบคุมความโกรธ คุณจะกลายเป็นทาสของความโกรธของคุณ ซึ่งมันจะเริ่มกินคุณจากภายใน”

 

ตอนที่ 129: ความตั้งใจของหมอราว

 

“ทุกคน! เตรียมสกัดกั้น!” เจนเนอร์ตะโกนสุดเสียง “มีคนไม่รู้จักกําลังเข้ามา! อาจเป็นศัตรู!”

 

เสียงของเขาดังมากจนไปถึงสมาชิกทุกคนที่อยู่นอกอาคาร ทั้งหมดเป็นเพราะความสามารถของเขา ซึ่งทําให้เขามีเสียงอัลตราโซนิกดังพอที่จะบรรลุผลสําเร็จ

 

ตามคําเตือนของเขาทุกคนได้รับการแจ้งเตือน พวกเขาไปยังป้อมยามตามลําดับ เตรียมพร้อมที่จะป้องกัน หากศัตรูเปิดการโจมตี

 

“ฉันจะไปแจ้งกัปตันทั้งสอง!” สมาชิกหน่วยเบต้า บอกทุกคนก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าไปในโรงงาน

 

เนื่องจากเมื่อเร็วๆนี้ทั้งสถานที่แออัด พวกเขาจึงไม่สามารถโทรหรือสื่อสารกับผู้คนภายในผ่านอุปกรณ์สื่อสารได้ พวกเขาต้องไปและแจ้งให้ทุกคนทราบด้วยตนเอง

 

“เสียงของคุณมีค่า! เตือนพวกเขาและทําให้พวกเขานําเครื่องลงมา บอกพวกเขาว่าถ้าพวกเขาไม่ลงและระบุตัวตน เราจะระเบิดพวกเขาโดยไม่ถามคําถาม!” รองหัวหน้าหน่วยเบต้าพูดกับเจนเนอร์

 

เจนเนอร์พยักหน้า ขณะที่เขาจ้องไปที่เฮลิคอปเตอร์ 4 ลําที่เข้ามา

 

เขาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนเปิดปากและใช้เสียงอัลตร้าโซนิก เพื่อถ่ายทอดข้อความไปยังคนที่ไม่รู้จัก ซึ่งกําลังเข้าใกล้พวกเขา

 

“นี่คือข้อความและคําเตือนสําหรับเฮลิคอปเตอร์ทั้ง 4 ที่ เข้ามา! โปรดลงจอดและระบุตัวตนของคุณ! ถ้าคุณไม่ลงไปภายใน 5 วินาที เราจะโจมตี! นี่เป็นคําเตือนครั้งสุดท้าย!”

 

เสียงของเขาดูดังมากจนสะท้อนไปทุกที่ เสียงของเขาสามารถทะลุผ่านอาคารที่เปิดอยู่ได้ดังก้องอยู่ในสถานที่ ซึ่งแซนเดอร์และไอย์กําลังนั่งอยู่

 

“หม นี่ดูเหมือนเป็นงานของเจนเนอร์ เขากําลังเตือนใครบางคน ฉันเดาว่าแขกคงอยู่ที่นี่” แซนเดอร์พูด ขณะยืนขึ้นและเหลือบมองไปทางประตู

 

“ลองดูกัน” ไอย์กล่าวเสริม ไม่ต้องเสียเวลาอีกต่อไปขณะที่เธอเดินตามแซนเดอร์

 

แต่ก่อนที่ไอย์จะเดินมาถึงประตู เธอหันกลับมามองหมอทั้งสองแล้วสั่งพวกเขาว่า “ทั้งสองคน เข้าไปข้างในกันเถอะ คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนทั้งนั้น มิฉะนั้น คุณอาจจะทรมาน พวกเราเตือนแล้ว”

 

แพทย์ทั้งสองได้แต่ส่ายหัวอย่างไม่ใส่ใจ ยังคงตกใจกับการเปิดเผยที่พวกเขาค้นพบในวันนี้

 

เมื่อได้รับคําตอบไอย์และแซนเดอร์ก็ก้าวออกจากสํานักงานและเดินไปที่ประตูทางออกของอาคาร

 

ดร.ราวและหมอเรย์แมนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง หลงอยู่ในห้วงความคิด

 

“เป็นเรื่องน่าทั้งที่รู้ว่าเด็กคนนี้ยังมีชีวิตอยู่จริงๆ น่าฟังมาก ฉันเดาว่าเราค่อนข้างจะรีบไปในการทดสอบและทดลองกับเขา เราควรจะรออีกสักหน่อย” หมอราวกล่าว ขณะที่นิ้วเคาะโต๊ะที่วางอยู่หน้าเขา

 

“น่าทึ่ง! คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง?! ฉันไม่น่าสนใจมันเลย มันน่ากลัว! ถ้าข่าวว่าเขายังมีชีวิตอยู่เป็นความจริง ข่าวลือว่าเขาฆ่าสมาชิก APE ก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน” หมอเรย์แมนแก้ไขคําพูดของหมอราว ความกังวลปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขากังวลเกี่ยวกับชีวิตของเขา

 

“ถ้าเขาทําอย่างนั้นได้ เขาก็แข็งแกร่งมาก มันน่ากลัว เพราะเขาอาจจะตามเรามาเพื่อแก้แค้น!” เขาพูดต่อ “ถ้าเด็กคนนั้นอยู่ที่นี่จริง ชีวิตเราอาจจะตกอยู่ในอันตราย!”

 

“คุณต้องกังวลโดยไม่จําเป็น แม้ว่า APF จะทําให้แผนของฉันยุ่งเหยิงโดยการค้นหาโรงงานนี้และการรั่วไหลของข้อมูล แต่ก็ยังมีประโยชน์อยู่ดี ทั้ง 2 ทีมอยู่ที่นี่ ไม่มีทางที่ลูซิเฟอร์สามารถทําร้ายเราได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ก็ตาม” ดร.ราวตอบอย่างเกียจคร้าน

 

“ในทางกลับกัน จะดีกว่าถ้าลูซิเฟอร์มาที่นี่” เขากล่าว

 

” ทําไม?” หมอเรย์แมนถาม “ทําไมเขาถึงมาที่นี่ดีกว่า”

 

ดร.ราวมองดูหมอเรย์แมนก่อนจะถอนหายใจ ” บางครั้งคุณก็เข้มแข็งได้”

 

เขาหยุดชั่วคราว สั่นศีรษะ ขณะพลิกลิ้นราวกับว่าเขาผิดหวังเล็กน้อยกับความคิดที่ช้าของดร.เรย์แมน

 

“แค่มองเป็นภาพที่ใหญ่ขึ้นแล้วคุณจะเข้าใจ” เขากล่าว “ถ้าลูซิเฟอร์มาที่นี่ เขาจะเผชิญหน้ากับ APE เนื่องจากเขาไม่สามารถถูกฆ่าได้ เขาจะถูกจับและจําคุก”

“ว่าไงนะ?” หมอเรย์แมนถามยังคงไม่เข้าใจ “มันมีประโยชน์กับเราอย่างไร”

 

“พระเจ้า คุณช้าจริงๆ” ดร.ราวพูด ขณะที่เขากลอกตา

 

“เขาเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบสําหรับการทดสอบและวิวัฒนาการของมนุษย์ ถ้าเขาถูกคุมขัง เราสามารถมีโอกาส ทําการทดลองกับเขาอีกครั้ง เมื่อเราว่าง เราสามารถใช้รัฐบาลเพื่อขอให้ APF ส่งลูซิเฟอร์ไปทําการทดสอบ เพียงแค่คิดถึงการทดสอบกับผู้ชายคนนี้ทําให้ฉันน้ําลายสอ การค้นพบนี้ช่างน่าอัศจรรย์มาก” เขากล่าวต่อด้วยดวงตาที่เหมือนฝัน

 

เขาจินตนาการถึงความสําเร็จของการทดลองอยู่แล้ว หากลูซิเฟอร์จะกลายเป็นผู้ทดลองของเขาอีกครั้ง เขาจะสร้างความก้าวหน้าอีกครั้งในโลกแห่งวิทยาศาสตร์

 

“นั่นเป็นเรื่องจริง” ดร.เรย์แมนกล่าว “แต่ฉันไม่รู้ว่าทําไม ฉันยังรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้”

 

“ฉันรู้สึกว่าเรากําลังเล่นเกมที่เสี่ยงจริงๆที่นี่ ถ้ามีอะไรผิดพลาดเราจะตาย ฉันสงสัยว่าหมอมินออกไปตรงเวลาที่เหมาะสมหรือไม่? เขาคิดไม่แสดงออกอย่างเปิดเผย

 

ระหว่างนั้นแซนเดอร์และไอย์กําลังวิ่งไปที่ทางเดิน พยายามจะออกจากโรงงานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

พวกเขาหยุดชะงักเมื่อเห็นสมาชิกในทีมคนหนึ่ง

 

“กัปตัน! ฉันพบคุณแล้ว!” สมาชิกในทีมเบต้าพูดกับ ไอย์ด้วยความหอบหายใจแรง

 

“บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก”

 

ไอย์และแซนเดอร์หยุดวิ่งแต่พวกเขายังคงเดินต่อไป

 

“เฮลิคอปเตอร์ไม่ทราบชื่อ 4 ลํากําลังเข้ามาหาเรา! เราเชื่อว่าพวกมันอาจเป็นของศัตรู แต่เราไม่แน่ใจ นั่นคือเหตุผลที่เราเตือนพวกเขาให้ลงจอดก่อน” ชายคนนั้นบอกไอย์

 

ไอย์และแซนเดอร์ชําเลืองมองอย่างมีความหมายเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่ศัตรูของพวกเขาจะปรากฏตัวในที่สุด

 

เพื่อความแน่ใจ พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อยืนยันความสงสัย มีทางเดียวเท่านั้นที่จะค้นพบ พวกเขาควรเห็นหน้ากัน

 

ด้านนอกอาคารมีคําเตือนที่เข้มงวดแก่ผู้มาใหม่ คือการลงและระบุตัวเองหรือมีความเสี่ยงที่จะถูกระเบิด

 

ไม่เพียงแต่ ดิออน, อิโซน่า และเวก้าเท่านั้น แต่ลูซิเฟอร์และเคน ยังได้ยินคําเตือนด้วยแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ ในเฮลิคอปเตอร์ลําสุดท้าย ซึ่งตามหลังอีก 3 ลําที่เหลือ

 

เมื่อได้ยินคําขู่ ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินไปที่ประตูเพื่อลงมือ เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้กําลังจะถูกโจมตี จึงเป็นการดีกว่าที่จะโจมตีล่วงหน้า

 

เมื่อเขาเห็นลูซิเฟอร์ยืนขึ้น เคนก็ยืนขึ้นเช่นกัน

 

“ไม่ต้องทําอะไรทั้งนั้น นั่งพักก่อนเถอะ, ที่เหลือเป็นหน้าที่ของเรา”

 

ตอนที่ 128: ศัตรูอยู่ที่นี่!

 

“ใช่ สมาชิกแวเรียนท์เกิดใหม่กําลังบ้าคลั่งในเอลันต้าทําลายเมือง เราต้องหยุดพวกเขา” วารันท์ ตอบ

 

“หม? หมายความว่าพวกเขาไม่ได้โจมตีโรงงานงั้นหรือ สมมติฐานของเราผิดหรือเปล่า?” เก็นซี่ถาม

 

“ใช่ ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น หรืออาจจะมีอะไรมากกว่านั้น ให้ทีมอื่นอยู่ในโรงงาน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ใช่กลลวงเราทีมเดียวที่จะไปที่เอลันต้า ฉันคิดว่ากําลังของเราเพียงพอแล้ว เพื่อหยุดพวกเขา” วารันท์ตอบ

 

“เข้าใจแล้ว” เก็นซีหลับตาลง เขาหยุดพูดเพราะไม่มีคําถามเพิ่มเติม

 

“ไรอาและคนอื่นๆเหรอ ผ่านมาปีกว่าแล้วที่เรามีโอกาสได้เผชิญหน้ากันครั้งสุดท้าย ฉันสงสัยว่าพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นแล้ว” เรียอาริพูด ขณะที่เขาทุบสนับมือ

 

“ฉันแน่ใจว่าพวกเขาพัฒนาขึ้นในทางใดทางหนึ่ง มิฉะนั้น พวกเขาคงไม่กล้าที่จะเหยียบย่ำเอลันต้า ทําให้เกิดการทําลายล้างและสร้างความหายนะครั้งใหญ่ การกระทําของพวกเขาดูเหมือนเป็นการท้าทายให้เราเผชิญหน้ากันเพื่อการต่อสู้ที่เต็มกําลัง” วารันท์ กล่าวว่าการแสดงออกของเขาไม่สามารถอ่านได้

 

เขายังคงพยายามคิดว่าคราวนี้ แวเรียนท์เกิดใหม่กําลังวางแผนและวางแผนอะไรอยู่

 

“อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีรอดไปได้” วารันท์พูดด้วยความมั่นใจในคําพูดของเขา

 

เรียอาริและเก็นซี่ยิ้ม เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นจากวารันท์ตามที่คาดไว้ของหัวหน้าพวกเขา เขามีความมั่นใจในตัวเองมาก

 

เฮลิคอปเตอร์ของกลุ่มอัลฟ่าหันหลังกลับและเริ่มบินไปในทิศทางที่ต่างไปจากเดิมไปยังเมืองอื่นโดยสิ้นเชิง

 

แผนการของ แวเรียนท์เกิดใหม่ค่อยๆ ตกลงไป สิ่งแรกที่พวกเขาต้องการทําคือให้ วารันท์ อยู่ห่างจาก ลูซิเฟอร์ เพราะพวกเขาโจมตีเมืองหนึ่ง แผนทํางานได้อย่างสมบูรณ์เมื่อวารันท์ล้มเลิกแผนตอนแรกและเริ่มไปที่เอลันต้า

 

ตอนนี้ส่วนแรกและส่วนที่สําคัญที่สุดของแผนประสบความสําเร็จแล้ว สนามรบจะยิ่งวุ่นวายน้อยลงและเสียงสําหรับลูซิเฟอร์

 

ส่วนที่ 2 ของแผนตอนนี้เรียบง่าย เป็นการครอบงำกองกําลัง APF ที่เหลือ ซึ่งจะอยู่ที่โรงงานและช่วยลูซิเฟอร์แก้แค้น

 

ชิ้นส่วนทั้งหมดตกอยู่ในที่ที่ถูกต้องตามแผนการของแวเรียนท์เกิดใหม่และ APF ก็เล่นอยู่ในมือของพวกเขา

 

น่าเสียดายที่ APF ไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้เอลันต้าถูกทําลายได้ ความสําคัญหลักของพวกเขาคือการช่วยชีวิตและปกป้องผู้คน

 

นั่นคือปัญหากับพวกเขา แวเรียนท์เกิดใหม่ต้องการทําลายเมืองทั้งหมด ซึ่งง่ายกว่าเป้าหมายของ APF ซึ่งก็คือการปกป้องทุกคน

 

ในขณะเดียวกัน เมื่อเห็นการทําลายล้างในเอลันต้า ไม่เพียงแต่ APF เท่านั้น แต่กองทัพก็เริ่มเคลื่อนตัวออกไปเพื่อปกป้องพลเมืองของพวกเขาด้วย

 

เอลันต้ามีกองกําลังตํารวจที่กําลังดําเนินการอยู่แล้ว นอกจากนั้น ทรัพยากรและบุคลากรทางทหารยังถูกส่งไปที่เมืองเพื่อช่วยพวกเขา

 

ในอีกทางหนึ่ง ไกลจากเมืองเอลันต้า เฮลิคอปเตอร์ที่ขนส่งลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ ได้ไปถึงจุดหมายปลายทางในที่สุด

 

“เราควรไปถึงที่นั่นในอีก 5 นาที เตรียมตัวให้พร้อม!” เคนแจ้งทุกคน ขณะที่เขายืนขึ้น

 

เขาเดินไปที่ประตูและมองเข้าไปในระยะไกล

 

ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืนด้วยความรู้สึกเร่งรีบในหัวใจ ในที่สุดเขาก็จะกลับไปที่นั่น! ในที่สุด เขาจะไปดูนักวิทยาศาสตร์ที่ทําให้เขากลายเป็นสิ่งที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ นั่นคือตุ๊กตาที่ไร้อารมณ์ ในที่สุด เขาก็สามารถเอามือโอบคอพวกเขาและเฝ้าดูพวกเขาทรมาน

 

ยามของศูนย์วิจัยดิลเลี่ยน กําลังเฝ้าสถานที่นั้นสัญจรไปรอบๆ บริเวณใกล้เคียง

 

พวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในครั้งนี้ พวกเขามีสมาชิกของ APF ก็จับตาดูและเฝ้าระวัง

 

“ ฟิกซ์ คุณรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น ทําไมคนเหล่านี้ถึงมาที่นี่” ยามผมดําถามเพื่อนผมแดง ขณะที่พวกเขาเดินลาดตระเวนไปด้วยกัน

 

“ฉันไม่รู้ ฉันรู้แค่ว่าเราได้รับคําสั่งให้ปิดสถานที่นั้นไว้ และไม่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่คนใดออกไปจนกว่าทีมรัฐบาลจะมา บางทีหมอของที่นี่อาจทําอะไรผิด ใครจะรู้ ฉันรู้สึกแย่มาตลอด ตอนที่พวกเขามาที่นี่” เจ้าหน้าที่ผมแดงตอบพลางถอนหายใจ

 

“เฮ้อ จริง บางทีโรงงานอาจถูกปิดผนึก และเราจะถูกมอบหมายให้ไปที่อื่น ฉันสามารถใช้ความสามรถพิเศษที่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของฉันที่รวดเร็วได้อย่างแน่นอน หลังจากทํางานที่นี้เป็นเวลา 5 ปี” ยามผมดําพยักหน้าในขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“ฉันสงสัยว่านานแค่ไหนก่อนที่ทีมเขาจะมาถึง” เขากล่าวเสริม ขณะมองเข้าไปในระยะไกล

 

“ฮะ?”

 

การแสดงสีหน้าประหลาดใจกระจายไปทั่วใบหน้าของเขา เมื่อเขาเห็นเฮลิคอปเตอร์ 4 ลําในระยะไกลเคลื่อนเข้ามาหาพวกเขา

 

“ทีมรัฐบาลมาแล้วเหรอ!” เขาอุทาน

 

“เป็นไปไม่ได้ พวกระดับสูงบอกว่าทีมจะใช้เวลามากกว่า 1 วันกว่าจะมาที่นี่ พวกเขามาที่นี้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง” ชายผมแดงพึมพําอย่างไม่เชื่อ

 

“หือ? ถ้าเฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่ของรัฐบาล แล้วใครล่ะ” ยามผมดําถามด้วยความสงสัย

 

“อาจมีคนจาก APF มามากกว่านี้ ให้ฉันถามพวกเขาเถอะ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผมแดงที่รู้จักกันในชื่อฟิกซ์กล่าว ขณะเดินไปหาสมาชิก APF ที่ใกล้ที่สุด

 

“เฮลิคอปเตอร์ที่กําลังมา นั่นเป็นของนายหรือเปล่า” ฟิกซ์ถามสมาชิกของเดลต้าที่รู้จักในชื่อเจนเนอร์

 

ใบหน้าของเจนเนอร์ดูสับสนปรากฏขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น

 

“เฮลิคอปเตอร์?” เจนเนอร์ออกมา ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ท้องฟ้า เขาเห็นเฮลิคอปเตอร์ 4 ลํามาทางพวกเขา

 

“เฮลิคอปเตอร์ของเราจะมาพร้อมกับทีมอัลฟ่า แต่ไม่ใช่ 4 ลําแน่นอน พวกเขาไม่ใช่ของเรา”

 

เจนเนอร์มั่นใจว่าพวกเขากําลังรอเฮลิคอปเตอร์เพียงลําเดียวที่จะมาในวันนี้ ซึ่งกําลังขนส่งทีมอัลฟ่ามาที่ศูนย์แห่งนี้

 

“ถ้าไม่ใช่ของคุณและไม่ใช่ของเรา แล้วใครเป็นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้ ใครส่งพวกเขามาที่นี่” ฟิกซ์ถามรู้สึกกังวลเล็กน้อย

 

เจนเนอร์คิดเกี่ยวกับคําพูดของเขาก่อนที่เขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“ศัตรูอยู่ที่นี่!”

 

ตอนที่ 127: หวังว่าคุณจะเป็นแวเรียนท์

 

“ไม่ใช่เพราะเขา คุณสูญเสียทุกอย่างเพราะการกระทําของคุณ ปกติฉันไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องเหล่านี้ง่ายๆ แต่หลังจากเห็นสิ่งที่คุณทํากับเด็กคนนั้นและมนุษย์ทดลองคนอื่นๆ แม้แต่ฉันก็ถูกรบกวนจากคุณ ” ไอย์ กล่าวขณะที่เธอดึงเก้าอี้กลับและนั่งบนนั้น

 

“คุณควรดีใจจริงๆ ที่แซนเดอร์ควบคุมตัวเองและพยายามปกป้องคุณที่นี่ เพราะคุณอาจตายไปแล้วถ้าไม่ใช่เพราะเขา” เธอกล่าวเสริมหลังจากนั่งลง

 

“ฉันมีคําถามจริงๆ ฉันหวังว่าคุณจะสามารถตอบฉันได้” เธอกล่าว “คุณไม่ได้รู้สึกสงสารจริงๆ เหรอที่ฆ่าเด็กพวกนั้น การกระทําของคุณเองไม่เพียงแต่จะหลอกหลอนคุณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนอื่นๆ ด้วย”

 

“ฉันไม่ได้ฆ่าใคร ฉันแค่ทําการทดลองที่จําเป็นต่อการเติบโตของวิทยาศาสตร์ ส่วนการตายของพวกเขา นั่นก็เกิดขึ้นเป็นผลลัพธ์ที่โชคร้าย” ดร.ราว ตอบโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ บนใบหน้าของเขา

 

“เฮ้อ แซนเดอร์พูดถูก มันจะง่ายกว่ามากสําหรับเราถ้าคุณ ถ้าคุณเป็นแวเรียนท์แทนที่จะเป็นมนุษย์” ไอย์ ตอบขณะที่เธอหลับตา “คุณนี่มันอัปยศต่อมนุษยชาติจริงๆ”

 

“คุณมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นของตัวเอง ฉันจะไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้” ดร.ราวตอบ “ว่าแต่ ทําไมคุณถึงมาเจอมนุษย์ที่กําลังทําตัวสูญเปล่าแบบนี้ล่ะ”

 

“เราไม่ได้มาพบคุณ เรามาเพื่อจับตัวลูซิเฟอร์ ที่อาจมาที่นี่” แซนเดอร์ตอบ

 

“ลูซิเฟอร์เหรอ เดี๋ยวก่อน คุณกําลังพูดว่า คุณพูดโกหกหรือเปล่า มันไม่ใช่เรื่องโกหก ที่ทําให้คนอื่นเชื่อว่าลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่หรอกเหรอ เพื่อที่จะได้ทําให้สถานที่นี้ถูกสอบสวนอย่างถี่ถ้วน” หมอราวอุทานด้วยความไม่เชื่อ “เขามีชีวิตอยู่จริงหรือ”

 

สีหน้าตะลึงงันปกคลุมทั่วทั้งใบหน้าของเขา ขณะที่เขายืนขึ้น แม้แต่หมอเรย์แมนก็ยังตกใจ

 

ทั้งสองคนพยายามโน้มน้าวตัวเองว่าลูซิเฟอร์ตายแล้ว และข่าวลือที่ APF แพร่ระบาดว่าเขายังมีชีวิตอยู่นั้นเป็นเพียงแผนการของพวกเขาที่จะได้รับอนุญาตให้ตรวจสอบสถานที่

 

ถ้าพวกเขายังพูดเหมือนเดิมทั้งๆ ที่ทุกอย่างเผย แพร่ออกไปแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ใช่เรื่องโกหก? พวกเขาชนะไปแล้ว ทําไมพวกเขาถึงยังติดตามเรื่องโกหกอยู่?

 

“คุณไม่ใช่คนที่เฉียบแหลมที่สุดใช่ไหม” แซนเดอร์ถามอย่างเย้ยหยัน

 

“คุณพูดถูก เขายังมีชีวิตอยู่และถูกต้องแล้ว สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือความเกลียดชังที่เขามีต่อคุณ นั่นทําให้เขากลายเป็นศัตรูของโลกทั้งใบ ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ เราจึงสูญเสียวอร์ล็อคที่สดใสเช่นนี้ไป” ไอย์ตีระฆังให้หมอราวรู้ตัว

 

“เดี๋ยวก่อน.. เขารอดมาได้ แม้ดัชนีความเจ็บปวดจะถึง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เขาฟื้นคืนชีพขึ้นมาเป็นวอร์ล็อค แม้ว่าหัวใจจะหยุดเต้น นี่มีผลกระทบอย่างมาก! หากเราได้รับอนุญาตให้ค้นคว้าและทดลองกับเขา เราก็จะช่วยมนุษยชาติได้ มาก !”

 

แม้ว่าหมอราวจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่เขาก็มีดวงตาที่เปล่งประกายในขณะที่เขาคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด

 

ฟื้นจากความตาย? ความหมายดีมาก! อาจเป็นกุญแจสําคัญในการวิวัฒนาการของมนุษยชาติและชีวิตนิรันดร์! เขาสามารถเห็นตัวเองได้ทดลองกับลูซิเฟอร์เพื่อค้นหาความลับ

 

ทั้งไอย์และแซนเดอร์ต่างผิดหวังและรังเกียจกับสิ่งที่พวกเขาเห็น ต่อจากนี้ไป ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เสียใจเลย เขาต้องการให้เด็กคนนี้ทําการทดลองมากขึ้นแทน? แม้ทุกอย่างที่เขาทํากับเด็กคนนี้ เขาก็ยังต้องการใช้เขาอีกครั้ง! ใจของชายผู้นี้มืดมนเพียงใด

 

“ราว คุณไม่ควรคิดเกี่ยวกับการทดลองกับลูซิเฟอร์ คุณควรอธิษฐานว่าเขาจะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณ เพราะถ้าเขาทํา คุณจะไม่ใช่คนที่ทดลองกับเขา มันจะตรงกันข้าม” แซนเดอร์ตอบ เข้าใจว่าลูซิเฟอร์แข็งแกร่งเพียงใด

 

ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีและการรักษา เขาสามารถจัดการกับกองทัพได้อย่างง่ายดาย

 

เฮลิคอปเตอร์ของแวเรียนท์เกิดใหม่บินต่อไปไม่หยุด ขณะที่เคลื่อนตัวไปยังโรงงานดิลเลี่ยน ซึ่งกําลังจะกลายเป็นสมรภูมิของผู้แข็งแกร่งที่สุด

 

การต่อสู้ของดิลเลี่ยนกําลังจะเริ่มต้น แต่มีที่อื่นที่การทําลายล้างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

เมืองเอลันต้ากําลังเผชิญกับความโกรธแค้นของแวเรียนท์ทมิฬ ที่ก่อให้เกิดการทําลายล้างอย่างกว้างขวางทุกที่

 

ผ่านไปเพียง 3 นาทีนับตั้งแต่การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นที่อาคารหลังหนึ่ง ตึกระฟ้า 17 แห่งถูกทําลายไปแล้ว เศษหินหรืออิฐของพวกมันวางอยู่รอบๆ เมฆฝุ่นขนาดมหึมาปกคลุมในอากาศ ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลเช่นกัน

 

ทุกคนมีส่วนร่วมในการทําลายล้างและทําลายทุกอย่างราวกับว่าเป็นการเฉลิมฉลองที่พวกเขาสนุกสนาน ท่ามกลางแวเรียนท์ทมิฬ มีเพียงคนเดียวที่ยืนอยู่ข้างหลังไม่เข้าร่วม

 

นั่นคือไรอา ที่ยืนสงบเงียบพลางกอดอก ในขณะที่เขามองดูสภาพที่วุ่นวายของเมือง ในขณะที่ได้ยินเสียงกรีดร้อง ดังก้องกังวานอยู่รอบตัวเขา

 

เขายังคงยืนอยู่บนอาคารสูงที่เฮลิคอปเตอร์ของพวกเขาลงจอดเมื่อนานมาแล้ว อาคารส่วนใหญ่ในพื้นที่ถูกทําลาย ยกเว้นอาคารที่เขายืนอยู่

 

เขาอดไม่ได้ที่จะแหงนมองท้องฟ้าราวกับเบื่อหน่าย สงสัยว่าเมื่อไรแขกของเขาจะมาถึง

 

“ถึงตอนนี้ พวกเขาน่าจะได้รับข้อมูลแล้ว อย่างดีที่สุดพวกเขาจะใช้เวลา 1 ชั่วโมงกว่าจะถึงที่นี่ ทีมของฉันจะใช้เวลาเท่ากันในการไปถึงสถานที่นั้น…”

 

ในขณะที่ไรอากําลังมีบทสรุปของตัวเอง ทีมอัลฟ่าของ APF กําลังนั่งอยู่บนเฮลิคอปเตอร์ที่ยังคงมุ่งหน้าไปยังศูนย์วิจัยดิลเลี่ยน

 

ถึงเวลานั้นเองที่โทรศัพท์ของวารันท์เริ่มดังขึ้น เขารับสาย และวางโทรศัพท์ไว้ใกล้หู โดยตระหนักว่าเป็นการโทรจากฐานของพวกเขา

 

“มีอะไร?”

 

“คุณแน่ใจไหม?”

 

“ก็ได้ ฉันจะไปที่นั่น”

 

พูดสั้นๆ เพียง 3 บรรทัด เขาก็ตัดสาย

 

“คุณกําลังจะไปไหน?” เรียอาริถามวารันท์ด้วยความสงสัย

 

“เราต้องไปที่เอลันต้าบอกนักบินให้เปลี่ยนจุดหมายปลายทาง” วารันท์บอกเรียอาริ ขณะที่เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ครุ่นคิด

 

เรียอาริเดินไปหานักบินโดยไม่ถามถึง 2 ครั้งและบอกให้เขาเปลี่ยนทิศทาง ก่อนที่เขาจะกลับมาหาวารันท์

 

“มีอะไรเกิดขึ้นในเอลันต้า?” ในที่สุด เขาก็ถามคําถามที่อยู่ในใจของเขา

ตอนที่ 126: ปล่อยวาง

 

วอร์ล็อคหนุ่มเหยียดแขนของเขา ในขณะที่เขาหาว เขาเป็นหนึ่งในวอร์ล็อคที่อายุน้อยที่สุดในระดับ 5 เขาอายุเพียง 19 ปี

 

เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงยีนส์สีดําแบบสบายๆ ซึ่งเข้ากับผมสีดําของเขา

 

ดวงตาสีเหลืองอําพันของเขามองดูทุกสิ่งอย่างเกียจคร้าน ขณะที่มือขวาของเขาถือคาตานะที่เก็บไว้ในฝึก

 

แม้จะอายุน้อยที่สุดที่นี่ แต่เขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคนอื่นๆ เขามีชื่อเสียงมากใน APF

 

ภายใน APE เขาเป็นที่รู้จักในนามนักดาบโรคจิต แต่ชื่อที่ตนเองได้รับคือจักรพรรดิแห่งดาบสําหรับชื่อจริงของเขานั้นคือทริสตัน

 

“ฉันขอไปสนุกหน่อยได้ไหม” เขาถามไรอา ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

 

ทริสตันแทบรอไม่ไหวที่จะทําลายทุกสิ่งที่นั่น ในขณะที่เขาเป็นที่รู้จักในนามนักดาบโรคจิต เขาปรารถนาการนองเลือด เขาชอบดูผู้คนที่อาบเลือด เมื่อเขานําดาบคาตานะของเขาออกจากผัก

 

“ได้สิ เมืองทั้งเมืองเป็นของนายแล้วทําให้พังพินาศ พวกนายทุกคนเริ่มสนุกได้ ไม่มีใครห้ามนาย ไม่ให้ทําเช่นนั้น” ไรอาตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

วันนี้ไม่ใช่วันที่เขาจะหยุดพวกเขา เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการ เขาต้องการทําลายเมืองเพื่อที่เขาจะได้ลากวารันท์และคนอื่นๆมาที่นี้

 

การทําลายล้างทั่วทั้งเมืองจะดึงดูดความสนใจของวารันท์และสมาชิก APE คนอื่นๆ อย่างแน่นอน พวกเขาจะให้ความสําคัญกับการช่วยชีวิตและปกป้องชีวิตของพลเรือน

 

ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถป้องกันวารันท์ให้ห่างจากลูซิเฟอร์ได้ เขารู้ว่ายิ่งเขาเก็บผู้ชายคนนั้นให้ห่างจากลูซิเฟอร์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี

 

“สุดยอด! ในที่สุด!” รอยยิ้มชั่วร้ายก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของทริสตัน ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

 

ด้วยมือซ้ายของเขา เขาถือฝักดาบคาบาน่า ในขณะที่มือขวาของเขา เขาจับด้ามดาบ

 

วอร์ล็อคคนอื่นๆ ต่างก็มีสีหน้าขบขัน ขณะที่พวกเขาดูทริสตัน โดยคาดว่าจะมีการแสดงครั้งใหญ่ที่จะเริ่มต้นขึ้น

 

ดูเหมือนว่าเขาจะหยุดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ทริสตันจะขยับมือขวาและดึงคาตานะออกมา

 

ด้วยความเร็วสูง เขาดึงคาตานะออกมา แต่ไม่มีใครมองเห็นดาบได้ ก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าดาบคาตานะนั้นกลับเข้าไปในฝักแล้ว

 

สิ่งที่ทิ้งไว้ข้างหลังคือส่วนโค้งของแสงสีดําในแนวนอนยาว ซึ่งเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสายฟ้าแลบ มันใหญ่ขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป

 

เมื่อส่วนโค้งของแสงสีดําไปถึงอาคาร 50 ชั้นที่ใกล้ที่สุด มันก็กว้างกว่าความกว้างของอาคารนั้นแล้ว

 

ส่วนโค้งของแสงส่องผ่านตัวอาคารและหายไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“ฉันเดิมพัน 2 วินาที?” นักเวทย์คนหนึ่งพูดพร้อมหัวเราะ

 

“ไม่ บาดแผลเรียบเกินไป ฉันให้เวลา 5 วินาที” วอร์ล็อคอีกคนพูดพร้อมยิ้ม

 

อาคารสูง 50 ชั้นถูกตัดออกจากตรงกลาง และทุกคนเริ่มเดิมพันว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก่อนที่ครึ่งบนจะตกลงมา

 

ใช้เวลาไม่นานนักที่ครึ่งบนของอาคารพังทลายลงอย่างแท้จริง ทําให้เกิดการทําลายล้างอย่างใหญ่หลวง คนที่อยู่ในอาคารถูกฆ่าตาย รวมทั้งคนที่อยู่รอบๆอาคารและพื้นที่ใกล้เคียง

 

“ฉันเดาว่านายคิดถูก มันใช้เวลา 5 วินาที”

 

ขณะที่คนอื่นๆ ยังคงพูดคุยกันอยู่ ทริสตันก็เริ่มโจมตีอีกครั้ง แต่คราวนี้ไปที่อาคารอื่น ต่างจากเมื่อก่อน คนอื่นๆไม่ได้ยืนดูเฉยๆ พวกเขายังเข้าร่วมในการดําเนินการ ก่อให้เกิดและสร้างความหายนะในวงกว้างทั่วเมือง

 

แซนเดอร์และทีมของเขามาถึงสถานที่แล้ว อย่างน้อยก็ยังมีคนในทีมของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่เพราะทีมของเขาส่วนใหญ่ตายไปแล้ว

 

เขาไปกับทีมของไอย์ที่มาเป็นกองหนุนด้วย

 

“ทุกอย่างดูสงบที่นี่ นายคิดว่าลูซิเฟอร์จะโง่พอที่จะมาที่นี่จริงหรือ เห็นได้ชัดว่าเราจะรอเขาอยู่ที่นี่” ไอย์ถามแซนเดอร์ ขณะที่เธอเดินอยู่ข้างเขาภายในโรงงาน

 

แซนเดอร์ก็พยักหน้าเช่นกัน “จริงสิ เขาจะต้องรู้สึกเหมือนมาฆ่าตัวตายถ้าเขาจะมาที่นี่ แต่ลองคิดดูแล้ว ถ้ามีคนอยากฆ่าตัวตายจริงๆสักคนเดียว นั่นล่ะคือเด็กคนนั้น”

 

ทั้ง 2 คนได้ทิ้งสมาชิกในทีมที่เหลือไว้นอกโรงงานเพื่อจับตาดูสภาพแวดล้อมและเฝ้าระวัง พวกเขาไม่เคยรู้เวลาที่แน่ชัดว่าเป้าหมายจะปรากฏตัวเมื่อใด พวกเขารู้ว่าต้องตื่นตัวตลอดเวลา

 

ก๊อกๆ!

 

เสียงเคาะดังขึ้นภายในห้องทํางานของหมอราว ซึ่งเขานั่งอยู่กับหมอเรย์แมน

 

ประตูเปิดออกเมื่อชายคนหนึ่งก้าวเข้ามา

 

“หมอครับ พวกเขามาแล้ว”

 

ชายผมสีเข้มเข้าไปในห้องทํางานของหมอราว โดยแจ้งว่าพวกเขามีแขกอยู่

 

“ทีมรัฐบาลมารับเราแล้วเหรอ เร็วจัง” หมอเรย์แมนอุทานด้วยความประหลาดใจ

 

“ไม่ใช่พวกเขา ผู้คนจาก APP อยู่ที่นี่ 2 คนกําลังมาที่นี่ เพื่อพบคุณ” ชายผมสีเข้มตอบ

 

“ฉันพนันได้เลยว่าพวกเขาเป็นคนที่รับผิดชอบทุกอย่าง พวกเขามาเพื่ออะไร เรากําลังจะถูกจับกุมในไม่ช้า พวกเขามาเพื่อหัวเราะเยาะเราเหรอ?” หมอราวถาม ขณะที่เขาขมวดคิ้ว มีคําใบ้ของการเสียดสีและความรําคาญอยู่ในน้ําเสียงของเขา

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ถอนหายใจแรงๆ และพูดว่า “เอาล่ะ ไม่เป็นไรแล้ว พวกเขาสามารถทําทุกอย่างที่ต้องการได้ที่นี่ ปล่อยให้พวกเขามา”

 

ชายผมดําผงกหัวออกจากสํานักงาน

 

แซนเดอร์และไอน์ถูกนําตัวไปที่ห้องทํางานของหมอราว ทั้งสองไม่แม้แต่จะเคาะก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง

 

” แซนเดอร์ เบลค ชายผู้ทําลายทุกสิ่ง อะไรนําคุณมาที่นี่ ตอนนี้ คุณยังไม่พอใจกับทุกสิ่งที่คุณทําหรือไม่” ดร.ราวถามขณะมองแซนเดอร์ที่เพิ่งเข้ามาในห้องอย่างจริงจัง

 

เขาไม่สนใจแม้แต่จะลุกขึ้นต้อนรับแซนเดอร์และไอย์

 

“พอใจไหมล่ะ?” แซนเดอร์ถามกลับโดยเดินไปที่โต๊ะของหมอราว

 

เมื่อไปถึงโต๊ะของเขา แซนเดอร์ก็ตบมือลงบนโต๊ะ ในขณะที่เขาจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของหมอราว “ฉันหวังว่า ฉันจะทําสิ่งที่ทําให้ฉันพอใจได้บ้าง แทนที่นายจะควบคุมตัวเองให้ได้ซักหน่อย ถ้าเพียงแค่นายมีความเป็นมนุษย์ นายก็จะได้ในสิ่งที่ดีกว่านี้”

 

“แซนเดอร์ ควบคุมตัวเองหน่อย” ไอย์บอกแซนเดอร์และวางมือบนไหล่ของเขา

 

แซนเดอร์ยืดตัวขึ้น เมื่อเขาเอามือออกจากโต๊ะไม้

 

เมื่อแซนเดอร์ถอยมือออกมา หมอเรย์แมนสังเกตเห็นรอยไหม้ลึกตรงจุดที่เคยวางมือของเขาไว้ก่อนหน้านี้

 

“ผู้ชายคนนี้ ฉันไม่อยากรู้เลยว่าอะไรจะทําให้เขาพอใจ เขาดูน่ากลัว” เขาคิด ขณะก้มหน้าลงและยืนขึ้น

 

หมอเรย์แมนเดินไปที่โต๊ะข้างหมอราว โดยปล่อยให้เก้าอี้ว่างสําหรับแซนเดอร์ มีเก้าอี้อีกตัววางอยู่ข้างๆซึ่งเป็นของไอย์

 

“มันสําคัญหรือ? ฉันจะถูกลงโทษโดยรัฐบาลเพราะคุณแล้ว ฉันสูญเสียทุกอย่างไปแล้ว และคุณต้องรับผิดชอบมัน” ดร.ราวกล่าว ขณะที่เขาถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้

 

โดยพื้นฐานแล้วเขาแค่แกล้งทําเป็นอ่อนแอและยอมแพ้ต่อหน้าพวกเขา เพื่อให้แซนเดอร์และไอย์รู้สึกว่ารัฐบาลกําลังจะลงโทษเขาจริงๆ

 

เขารู้ว่าเมื่อ APE เชื่อว่ามนุษย์จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างยุติธรรมและสามารถลืมเรื่องนี้ได้เร็วขึ้น

ตอนที่ 125: ลงจอดในเอลันต้า

 

นี่เป็นโอกาสสําหรับเขาที่ไม่เพียงแต่จับลูซิเฟอร์เท่านั้น แต่ยังจับสมาชิกของแวเรียนท์ที่เกิดใหม่อีกด้วย ถ้าลางสังหรณ์ของเขาถูกต้อง เขาจะต้องได้ทุกอย่างที่เขาต้อ งการในจังหวะเดียว เขาสามารถสร้างความเสียหายต่อ แวเรียนท์เกิดใหม่เกินกว่าจะรับรู้ได้

 

โดยคํานึงถึงเรื่องนี้ เขาได้ส่งทั้งทีมเดลต้าและทีมเบต้าไปจับลูซิเฟอร์ ทั้ง 2 ทีมจะอยู่ในสถานที่เพื่อรอการมาถึงของลูซิเฟอร์

 

แม้ว่าเขาจะส่งทั้ง 2 ทีม เบต้าและเดลต้า นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เขายังวางแผนที่จะนําอัลฟ่าไปที่นั่นด้วย ทั้งหมดเป็นเพราะความรู้สึกของสัญชาตญาณของเขา

 

เหตุผลเดียวที่เขาไม่ออกไปพร้อมๆ กับอีก 2 ทีม เพราะ เขาต้องรอสมาชิกในทีม ซึ่งใช้เวลานานกว่าเล็กน้อยกว่าจะมาถึงจากภารกิจก่อนหน้าที่เขาส่งคนเหล่านั้นไป

 

ผ่านไป 3 ชั่วโมงแล้วที่อีก 2 ทีมจากไป และวารันท์ยังคงรออยู่

 

วารันท์กําลังนั่งอยู่ในห้องทํางานของเขาพร้อมกับทีมระดับสูงอีกกลุ่มหนึ่งที่รู้จักกันในชื่อ เรียอารหรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อราชาแห่งเงา

 

หลังจากวารันท์, เรียอาริ เป็นวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดใน APF และเป็นรองกัปตันของทีมอัลฟ่า

 

แตกต่างจากวารันท์ที่ดูสงบและดูเป็นมืออาชีพ เรียอาริดูเหมือนนักรบที่เหมาะสมด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งของเขา ดวงตาสีน้ําตาลแดงของเขาไม่เข้ากับผมสีชมพูสั้นของเขา แต่มีบางอย่างที่มีเสน่ห์ในตัวเขา เขาดูมีอายุไม่เกิน 30 ปี

 

ใบหน้าของเขามีรอยสักแปลก ๆ 3 แบบ อันหนึ่งที่แก้มซ้าย อันหนึ่งที่ด้านขวา และอีกอันบนหน้าผากของเขา

 

“นายคิดว่าคนเหล่านั้นจะไปที่นั่นเพื่อช่วยลูซิเฟอร์จริง ๆ เหรอ?” เรียอาริถามวารันท์ ขณะที่เขาเล่นปากกาที่อยู่ในมือ ปากกากําลังหมุนมันบนนิ้วของเขาเอง

 

“ฉันเชื่อว่าเขาจะมีส่วนร่วม หากฝ่ายของเขาช่วยลูซิเฟอร์ เขาก็คงจะได้ผลประโยชน์อะไรซักอย่าง” วารันท์ตอบ

 

“ฉันหวังอย่างนั้นแน่นอน หากเป็นเรื่องจริง เราสามารถบดขยี้หัวงูตัวนั้น และทําลายองค์กรที่ชั่วร้ายนั้นได้ในครั้งเดียว” เรียอาริกล่าว ขณะที่เขายิ้ม

 

“และถ้ามันไม่เป็นความจริง ฉันเดาว่าเราน่าจะเรียกมัน ว่าการพักร้อนช่วงสั้นๆ สําหรับหน่วยอัลฟาของเรา” เขาพูดต่อในขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ

 

“นายกับมุกตลกบ้าๆ บอๆ ของนาย เหอะ” วารันท์ออกความเห็น กลอกตามองขึ้นไปบนฟ้า “ส่วนใหญ่ฉันไม่เข้าใจพวกเขาด้วยซ้ํา”

 

“นี่ก็เพราะนายไม่มีอารมณ์ขัน” เรียอารถ่มน้ําลายใส่เขา พลางหยอกล้อวารันท์

 

“จริงเหรอ ในกรณีนั้น ไม่มีใครในโลกนี้ที่มีอารมณ์ขัน โลกรู้จักนายในฐานะราชาแห่งเงา แต่ทุกคนที่นี่เรียกนายว่า ราชาผู้ไม่มีอารมณ์ขัน” วารันท์กล่าว ขณะที่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้

 

“หม ใครกล้าเรียกฉันอย่างนั้นเล่า บอกชื่อแล้วดูพวกเขา เรียกฉันตลกๆ ต่อหน้าต่อตานายหน่อยไหม” เรียอาริประกาศ ขณะที่เขายืนขึ้น ทุบฝ่ามือบนโต๊ะ

 

วารันท์เปิดริมฝีปากของเขาเพื่อพูดรายชื่อยาว ๆ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดคําแรก พวกเขาได้ยินเสียงเคาะประตู

 

ประตูเปิดออก และชายคนหนึ่งเข้ามาในห้อง

 

ชายผมสีเงินที่ก้าวเข้ามาในห้องดูเด็กมาก เมื่อมองจากใบหน้าของเขา ซึ่งไม่มากนัก เขาดูเหมือนเขาอายุ 20 กลางๆ

 

ชายคนนั้นสวมเสื้อแจ็คเก็ตยาว ซึ่งปลอกคอถูกใช้เป็นหน้ากากที่ซ่อนใบหน้าครึ่งล่างของเขาไว้

 

“โอ้ เก็นซี่ นายกลับมาแล้ว คนอื่นๆ ก็ควรจะกลับเหมือนกัน ดี เราไปกันได้แล้ว” วารันท์พูดพร้อมกับยืนขึ้น

 

“เก็นซี่! นายบอกฉันสิ มีใครในที่นี้เรียกฉันว่าราชาผู้ไม่มีอารมขันไหม”

 

เมื่อเห็นชายผมสีเงิน เรียอาริก็เดินไปหาเขาและเอื้อมมือไปวางไว้บนไหล่ของเก็นซี่

 

มือของเรียอาริกําลังจะแตะไหล่ของเก็นซี เมื่อร่างของเก็นซี่สั่นไหวและหายไปในพริบตาในเสี้ยววินาทีนั้น เขาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างวารันท์

 

“นายหยุดใช้ทักษะราชาลอบสังหารกับฉันได้ไหม และ อย่าวิ่งหนี! ตอบฉันมา!” เรียอาริปน เมื่อเขาหันกลับมามองเกนซี่

 

“ฉันไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธคําพูดนั้นได้” เกนซี่ตอบด้วยน้ําเสียงที่สงบ

 

ดูเหมือนเขาจะพูดออกมาโดยที่ไม่มีอารมณ์อยู่ในน้ําเสียงของเขาเลย แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการบอกความจริงเพราะจะทําให้เรียอาริไม่พอใจ เนื่องจากในบรรดารายชื่อยาวเหยียดของคนที่เรียกผู้ชายคนนี้ว่าราชาผู้ไม่มีอารมณ์ขันเป็นเรื่องตลกคือชื่อของเขาเช่นกัน

 

เกนซี่เป็นวอร์ล็อคผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหารที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นราชาลอบสังหาร

 

เขามีทักษะที่ยอดเยี่ยม ซึ่งหนึ่งในนั้นทําให้เขา เป็นหนึ่งในนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

 

เขายังเป็นสมาชิกอันดับต้น ๆ ของทีมนี้

 

“เอาล่ะ พูดมากแล้ว ไปกันเถอะ ฉันไม่อยากไปสายแล้ว” วารันท์พูดโดยตระหนักว่าการโต้เถียงระหว่างสองคนนี้จะยืดเยื้อไปหลายชั่วโมง ถ้าเขาไม่คุยกัน

 

วารันท์, เกนซี่ และ เรียอาริ ออกจากสํานักงานและเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ ซึ่งกําลังรอให้พวกเขาออกไป

 

ทีมงานกําลังรออยู่ด้านนอกสําหรับพวกเขาที่จะมาถึง แม้ว่าครึ่งทีมเพิ่งกลับมาจากภารกิจ พวกเขาพร้อมจะจากไปโดยไม่มีปัญหา

 

เมื่อวารันท์และคนอื่นๆ เข้าไปในเฮลิคอปเตอร์พิเศษ มันก็เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ และเริ่มบินไปยังศูนย์วิจัยดิลเลียน

 

ผู้คนในประเทศนี้ไม่รู้ว่าตอนนี้ทุกคนต่างออกไปทําศึกกับผู้แข็งแกร่งที่สุด ทั้งหมดเป็นเพราะเด็กหนุ่มและนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าเขากําลังทําอะไรอยู่

 

เหตุการณ์เดียวได้ทําให้หลายสิ่งหลายอย่างเคลื่อนไหว ซึ่งมีศักยภาพที่จะทําลายชีวิตจํานวนมากได้

 

ท้องฟ้าแจ่มใส มีเมฆไม่มากที่มองเห็นได้เมื่อแสงจ้า ของดวงอาทิตย์มาถึงพื้นดินโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง

 

ผู้คนเริ่มออกจากบ้านไปทํางาน เมืองทั้งหมดเริ่มคึกคัก เนื่องจากมีการเปิดร้านค้าและสํานักงานจํานวนมากหนึ่งในเมืองดังกล่าวคือเมืองเอลันต้าที่ยิ่งใหญ่

 

เอลันต้าเป็นหนึ่งในหลาย ๆ เมืองของประเทศเอลิเซียม แต่มีตําแหน่งพิเศษในประเทศ

 

เอลันต้าเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางข้อมูลของเมือง สํานักงานใหญ่และเซิร์ฟเวอร์กระจายเสียงส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมือง ซึ่งทําให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ถูกต้องจะเกิดขึ้นได้

 

ไม่มีใครสามารถจินตนาการถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้หาก เมืองเอลันต้าหยุดทํางานเพียงวันเดียว

 

น่าเสียดายที่มันเป็นไปได้สูงที่โลกจะค้นพบมันในวันนี้ ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ที่เต็มไปด้วยวอร์ล็อคของกลุ่มแวเรียนท์เกิดใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดลงจอดบนอาคารหลังหนึ่ง

 

จากเฮลิคอปเตอร์ไรอาและคนอื่นๆ ก็ก้าวออกมา

 

“เย้! ในที่สุดเราก็ถึงฝั่ง! ฉันรู้สึกง่วงจัง”

ตอนที่ 124: การกระทําของรัฐบาล

 

ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อวิดีโอนี้ได้ เนื่องจากผู้ที่ส่งวิดีโอให้พวกเขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก วารันท์ 1 ใน 3 ของวอร์ล็อคอันดับต้นๆของประเทศ

 

พวกเขาไม่สามารถเมินเฉยและเพิกเฉยต่อข้อความที่ได้รับจากพวกเขา มิฉะนั้น พวกเขาจะเดือดร้อน วารันท์นั้นทรงพลังและมีอิทธิพลมาก พวกเขาไม่สามารถทําให้เขาขุ่นเคืองได้

 

เนื่องจากสถานที่นี้อยู่ภายใต้เขตอํานาจของนายพลแมกซ์เวลล์ รัฐบาลยังได้แจ้งเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

 

มีการจัดตั้งการไต่สวนขึ้นเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ หนึ่งในนั้นคือนายพลแมกซ์เวลล์เอง

 

จนกว่าทีมจะมีรายงานที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงงานจะต้องแยกตัวออกไป

 

รัฐบาลได้ส่งทีมไปเรียกเจ้าหน้าที่ของโรงงานแล้วจับกุมพวกเขา

 

ไม่ว่ารัฐบาลจะดําเนินการเร็วแค่ไหน พวกเขาก็ยังต้องใช้เวลามากกว่า 1 วันในการตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัตินี้ โดยไม่ทราบว่าวันหนึ่งจะต้องมีความสําคัญจริงๆ และอาจนํามาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญสําหรับทุกคน

 

หมอราวกําลังนั่งอยู่ในห้องทํางานของเขากับหมอเรย์แมน สําหรับหมอมิน เขาขอย้ายออกจากสถานที่แห่งนี้และจากไปนานแล้ว

 

จาก 3 คนที่อยู่ในห้อง ในขณะที่ลูซิเฟอร์เสียชีวิต เหลือเพียง 2 คนในโรงงาน ทั้งสองอยู่ในสํานักงานในขณะนี้ โดยไม่รู้ถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นในวันนี้

 

การแสดงออกของพวกเขาดูไม่ดี หลังจากได้รับข้อมูลบางอย่าง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความกลัว

 

“คุณแน่ใจหรือว่าข้อมูลถูกต้อง นี่เป็นเพียงข่าวลือและความเข้าใจผิดหรือข้อมูลชิ้นนี้มาจากแหล่งที่เชื่อถือได้” ดร.เรย์แมนถาม ในขณะที่มองเข้าไปในดวงตาของดร.ราว พยายามดูว่ามีความหวังที่จะหลบหนีหรือไม่

 

“จริง นายพลเอกแมกซ์เวลล์โทรมาแจ้งฉันเมื่อเร็วๆนี้จะมีทีมรัฐบาลมาจับพวกเรา” หมอราวพูดพร้อมกับครางออกมาอย่างหมดกําลังใจ

 

“แต่ทําไมเราถึงถูกจับกุม เราก็แค่ทํางานของเรา ไม่ว่าในกรณีใด เราในฐานะนักวิทยาศาสตร์จะได้รับอนุญาตให้มีผู้เสียชีวิตจากการทดลองในมนุษย์ตามแนวทางนี้ไม่ใช่หรือ โดยเฉพาะหากเป็นการค้นพบใหม่” หมอเรย์แมนถาม

 

“ตอนนี้พวกเขาต้องการใช้พวกเราเป็นแพะรับบาปหรือไม่ ที่วารันท์มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแบบนี้?” เขาถาม.

 

ดร.ราวส่ายหัว หายใจเข้าลึกๆ เขานับไม่ถ้วนว่าเขาถอนหายใจกี่ครั้งในวันนี้ หลังจากได้ยินข้อมูลจากนายพลแมกซ์เวลล์

 

“ไม่ ฉันได้รับการยืนยันจากนายพลแม็กซ์เวลล์ นี่คือทั้งหมดสําหรับข้อมูล เราจะได้รับการปล่อยตัว หลังจากเรื่องนี้จบลง ก่อนหน้านั้น เราจะถูกกักตัวไว้อย่างโดดเดี่ยว”เขาตอบ

 

“หือ? หมายความว่าเราจะไม่ถูกลงโทษนั้นหรือ เหตุใดคุณจึงคิดแบบนั้น?” หมอเรย์แมนออกมาอย่างร่าเริง ในขณะที่เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“เราจะไม่ถูกลงโทษ มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาและเราจะถูกปล่อยตัวในท้ายที่สุด เราสามารถรอและอดทนกับการแยกตัวได้สักพัก” เขากล่าวเสริมพร้อมยิ้มอย่างสดใส

อย่างไรก็ตาม ด็อกเตอร์ราวยังคงกังวลกับเหตุการณ์ที่พลิกผันนี้ไม่ได้ แม้ว่านายพลแมกซ์เวลล์ให้ความมั่นใจกับเขาแล้วว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม เขายังคงมีความกังวลอื่นอยู่ในใจ

 

“เราจะไม่โดนลงโทษ คุณพูดถูก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันผิดหวัง สิ่งที่ฉันกังวลคือฉันจะไม่สามารถค้นคว้าต่อไปได้ในระหว่างที่ฉันถูกกักตัวอยู่ และที่แย่กว่านั้นคือสถานที่นี้จะปิดตัวลง” ดร.ราวกล่าว

 

“โรงงานนี้จะปิดตัวลงเหรอ?! เดี๋ยวก่อน ฉันยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอยังไม่ตื่นเลย” หมอเรย์แมนร้องออกมา รู้สึกมีปัญหานิดหน่อย

 

ดร.ราวถอนหายใจอีกครั้งขณะนวดขมับ

 

“เฮ้อ ฉันเป็นห่วงเรื่องนั้นด้วย ฉันพาเธอไปด้วยไม่ได้หรือ ปล่อยให้ส่วนนั้นของสถานที่นี้ถูกเปิดเผย มิฉะนั้น เราจะวุ่นวายกันใหญ่ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตัดสินใจทิ้งเธอไว้ข้างหลัง แม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะปิด หลังจากที่ฉันถูกปล่อยตัว ฉันจะกลับมาและดําเนินการทุกอย่าง” หมอราวบอกวิธีแก้ปัญหาเดียวที่เขาคิดได้ในตอนนี้

 

“แล้วการวิจัยของเราทั้งหมดเป็นอย่างไร แม้ว่าจะเป็นการแสดงบังหน้าเท่านั้น แต่ทีมรัฐบาลอาจพยายามทําการวิจัยเพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ทําอะไรเพิ่มเติม พวกเขาอาจค้นพบเกี่ยวกับการดําเนินการวิจัยที่เป็นความลับของเรา หากทีมของคนพวกนั้นสอบสวนเรา” หมอเรย์แมนพูด พร้อมบอกข้อกังวลของเขา

 

“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่ต้องกังวล ฉันทําลายข้อมูลการวิจัยทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นออกจากระบบแล้ว สําหรับเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น ฉันได้เก็บไว้ในห้องแล็บที่เธออยู่ หมอราวตอบ

 

“จะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับห้องปฏิบัติการนั้น ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถค้นหาเอกสารเหล่านั้นได้” เขากล่าวเสริม

 

“ฉลาดดีนี่ คุณคิดไปหมดแล้ว” หมอเรย์แมนพูดพร้อมยิ้ม

 

“แน่นอน ฉันเดินนําก่อน 2 ก้าวเสมอ” ดร.ราวตอบด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ

 

“สิ่งเดียวที่ฉันไม่เข้าใจคือคลิปวิดีโอในห้องแล็บของเรารั่วไหลได้อย่างไร APF แฮ็คฐานข้อมูลของรัฐบาลจริงๆ หรือมีคนจากทีมของเราที่นี่ให้ฟุตเทจแก่พวกเขา?” เขาสงสัย “ฉันสงสัยว่าคนพวกนั้นจะแฮ็ค ยังไงก็ตาม ถ้ามันถูกแฮ็กมันก็จะออกมาในไม่ช้า”

 

“คุณคิดว่าหมอมินจะทําให้คลิปวิดีโอรั่วไหลหรือไม่ เขาออกไปหลังจากเหตุการณ์นั้น และดูเหมือนเขาจะอารมณ์เสียมากที่เราไม่ได้ฟังเขา” หมอเรย์แมนกล่าว ทําให้เกิดความสงสัยต่อหมอมิน

 

“ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่ถ้าพบว่าเป็นเขา ฉันจะทําให้แน่ใจว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมาน” ดร.ราวกล่าว ขณะที่แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของเขา เขาจะไม่ยกโทษให้ใครก็ตามที่พยายามหักหลังเขา

 

วารันท์ส่งข้อความถึงรัฐบาลเกี่ยวกับวิดีโอนั้นเพื่อบังคับ ให้พวกเขาดําเนินการ แม้ว่าเขาจะทําทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่เขาก็ตระหนักว่าการกระทํานั้นต้องใช้เวลา

 

เขายังจัดการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันและเข้าใจว่าแม้ว่าลูซิเฟอร์จะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของพวกมัน แต่ต้องใช้เวลาสักพักและพวกเขาจะมาพบกับเขาอีกครั้ง

 

เขารู้เป้าหมายของลูซิเฟอร์ เป้าหมายของเขายังคงเหมือนเดิม- โจมตีโรงงานและแก้แค้นนักวิทยาศาสตร์ที่ทําให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานถึงตาย

 

นั่นเป็นเบาะแสที่ดีที่สุดที่พวกเขามีในตอนนี้ว่าพวกเขา สามารถติดตามและหาตัวลูซิเฟอร์ได้อย่างไร เขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์จะปรากฏตัวขึ้นในสถานที่นี้อย่างแน่นอน

 

วารันท์ยังสันนิษฐานว่าลูซิเฟอร์จะไม่ได้อยู่คนเดียว เมื่อเขามาถึงที่นั่น เขารู้สึกว่าศัตรูเก่าของเขากําลังช่วยเขา ความกังวลหลักของเขาในตอนนี้คือศัตรูของเขาจะพยายามใช้ลูซิเฟอร์เพื่อผลประโยชน์และผลประโยชน์ของตนเอง

 

เนื่องจากเขาเชื่อว่า แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่จะช่วยลูซิเฟอร์ เขาจึงต้องใช้ความพยายามมากขึ้นในการจับลูซิเฟอร์ ก่อนที่แผนการของพวกเขาจะบรรลุผล

 

 

ตอนที่ 123: จุดอ่อนของวารันท์

 

“ใช่ ผู้ชายคนนั้นไม่อยู่ยงคงกระพัน” แวเรียนท์คนหนึ่งแบ่งปันความคิดเห็นของเขากับพวกเขา

 

“ไรอา รู้ไหมว่าขีดจํากัดของเขาคืออะไร” แวเรียนท์ผมสีเข้มถามไรอาอย่างสงสัย

 

“ฉันรู้อยู่บ้างแล้ว และฉันก็บอกคุณไปแล้ว ตราบใดที่คุณปล่อยให้เขาเข้าใกล้คุณ คุณก็หายไป ระหว่างการต่อสู้ระยะประชิด คุณเสียเปรียบอย่างแน่นอน ดังนั้นอย่าปล่อ ยให้เขาเข้าใกล้ในขณะที่ต่อสู้กับเขารักษาระยะห่างจาก เขาให้มากที่สุด” ไรอาพูดพร้อมให้คําแนะนําในการต่อสู้กับวารันท์

 

“ยังไงก็ตาม ฉันจะเผชิญหน้ากับเขา ถ้าเขามา ดังนั้นเธอ ไม่ต้องเป็นห่วงแค่ให้แน่ใจว่าแมลงอื่นๆ ไม่รบกวนฉัน ฉัน ไม่ต้องการให้คนอื่นมาขวางทางฉันเมื่อฉันต่อสู้กับวารันท์” ไรอา เตือนพวกเขาขณะที่เขาหลับตาอย่างเกียจคร้าน

 

แวเรียนท์อื่นๆ เพียงพยักหน้าโดยคํานึงถึงคําพูดของเขาพวกเขาไม่รบกวนไรอาอีกต่อไป

 

เฮลิคอปเตอร์ยังคงบินอยู่บนท้องฟ้าที่ว่างเปล่า เคลื่อนตัวไปยังเมืองอีลันต้า ซึ่งเป็นเมืองสําคัญในเอลิเซียม เป็นสถาน ที่ซึ่งศูนย์กลางส่วนใหญ่ตั้งอยู่และยังเป็นสถานที่ที่มีสถานีข่าวส่วนใหญ่อยู่ด้วย

 

การโจมตีเมืองนี้จะทําให้พวกเขาได้เปรียบมากมาย เมื่อพวกเขาทําสําเร็จการนําเอลันต้าออกหมายถึงการนําศูนย์ข้อมูลของเอลิเซียมออก

 

ในขณะเดียวกัน ที่สํานักงานใหญ่ของพวกเขา ลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ กําลังเตรียมที่จะจากไป

 

“ไม่ใช่ตรงนั้น นายมากับฉัน เราจะเคลื่อนไปด้านหลัง!”

 

ลูซิเฟอร์กําลังจะก้าวเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ หลังเวก้าเมื่อเขาได้ยินเสียงของเคน

 

“อืม?” เขาหันกลับมารู้สึกสับสนเล็กน้อย “พวกนั้น หมายความว่ายังไงกัน?” ลูซิเฟอร์พึมพํา

 

“คุณและฉันจะแยกย้ายกันไปและลงจอดโดยตรงทันที เหนือโรงงานสําหรับคนอื่น ๆ พวกเขาจะไปข้างหน้าและทําลายแนวป้องกันรอบโรงงาน เพื่อให้เราสามารถลงจอดได้อย่างง่ายดาย” เคนอธิบายกับลูซิเฟอร์

 

เมื่อได้ยินคําพูดของเคน เวก้าก็หันหลังกลับและพยักหน้า

 

“ถูกต้อง ไปกับเขา เรามั่นใจว่าแขกบางคนจะรอเราอยู่ ที่นั้น ดังนั้นเราจะรอคุณทําการปรับเปลี่ยนมันบนพื้นดินคุณจะไปถึงที่นั่น หลังจากที่เราลงมือทํา เราจะสร้าง เส้นทางที่ชัดเจนสําหรับคุณ”

 

เขาเอื้อมมือไปตบไหล่ลูซิเฟอร์เบาๆ อย่างไรก็ตาม ลูซิ เฟอร์ก้าวถอยหลังอีกครั้ง สร้างระยะห่างระหว่างพวกเขา

 

ผ่านมานานแล้วและเขายังไม่พร้อมที่จะให้ใครแตะต้อง ตัวเขา

 

เวก้าไม่สนใจปฏิกิริยาของลูซิเฟอร์ เขาเข้าใจว่าต้องใช้ เวลามากขึ้นกว่าที่ลูซิเฟอร์จะสบายใจและสบายใจกับพวกเขา เขาแค่หวังว่าหลังจากภารกิจนี้ สิ่งต่างๆ จะดีขึ้น

 

เวก้าหันหลังกลับและเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ หลังจากเข้า ไปแล้ว เขาก็หันกลับมามองลูซิเฟอร์และพูดว่า “โชคดีนะ วันนี้การแก้แค้นของนายจะจบลง ฉันตั้งตารออนาคต” เขา พูดก่อนจะนั่งลงที่ที่นั่ง

 

“มา”

 

เคนเรียกลูซิเฟอร์อีกครั้ง ซึ่งฟังอย่างเชื่อฟังและตามเขา ไปยังเฮลิคอปเตอร์เครื่องอื่นที่รอพวกเขาอยู่ที่ด้านหลัง

 

เฮลิคอปเตอร์ของเวก้าเป็นลําแรกที่บินขึ้น สมาชิกในทีม ของเขานั่งอยู่ข้างในล่วงหน้าแล้วสําหรับลูซิเฟอร์ พวกเขาก็ ไม่รอช้าเช่นกัน

 

หลังจากที่เฮลิคอปเตอร์ลําแรกบินขึ้น ลําที่ 2 ก็เริ่มลอย ขึ้นไปในอากาศ ดิออนเป็นคนเดียวที่นั่งอยู่กับทีมของเขา

 

เฮลิคอปเตอร์ลําที่ 3 เป็นของ อิโซน่า ซึ่งบินขึ้นด้วย

 

เฮลิคอปเตอร์ลําสุดท้ายที่มีลูซิเฟอร์บรรจุเคนและทีมของ เขา

 

ทีมของพวกเขาจะไม่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพแนวหน้าที่ จะเข้าร่วมการรบหลัก พวกเขาได้รับมอบหมายให้ติดตามลู ซิเฟอร์และช่วยเขาจากงานอดิเรกเท่านั้น เคนมีจุดประสงค์อื่นเช่นกัน

 

มันคือการจับตาดูลูซิเฟอร์และไม่ให้เขาแพ้เพื่อที่พวกเขา จะได้ออกไปตรงเวลาหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ

 

หลังจากนั้นไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ของเคนก็เริ่มลอยขึ้น ไปในอากาศและออกจากฐาน หลังจากรอไม่กี่นาทีในที่สุด พวกเขาก็ออกมาจากฐานใต้ดิน ตามเฮลิคอปเตอร์ลําอื่นที่อยู่ด้านหลัง

 

อีกครั้งที่ลูซิเฟอร์มองเห็นดินแดนรกร้างซึ่งเป็นที่ตั้งของ ฐานทัพ เขาไม่รู้ว่าสถานที่นี้อยู่ที่ไหนหรือสถานที่นี้เรียกว่าอะไร แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจเช่นกัน

 

ไม่ว่าในกรณีใดเขาจะกลับมาพร้อมกับคนเหล่านี้หากเขา ต้องการอยู่ที่นี่

 

เคนจ้องไปที่ลูซิเฟอร์เพื่อดูสีหน้าของเด็กชาย เขาสามารถ เห็นเขามองออกไปข้างนอกอย่างใจเย็นราวกับชื่นชมสถานที่ภายนอกธรรมชาติ

 

ใบหน้าของเขาดูสงบและผมยาวของเขาทําให้เขาดูเป็นผู้ ใหญ่มากขึ้น เขายังไม่ได้มัดผมหรือตัดผมให้สั้นทั้งๆที่ได้รับคําแนะนําจาก อิโซน่า ก่อนหน้านี้

 

แม้ว่าภายนอกจะดูสงบนิ่ง แต่ภายในเขาก็ยังสับสนอ ลหม่าน เคนมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้มีอารมณ์ที่หลากหลายตั้งแต่ในที่สุดเขาก็จะได้สิ่งที่เขามีชีวิตอยู่เพื่อมัน

 

มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาและดอกเตอร์ที่ทําให้เขารู้ สึกหมดหวัง นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ดอกเตอร์คนนั้นจะต้องอยู่ในความเมตตาของเขา นี้แน่นอนว่าลูซิเฟอร์ทําลายประสาทสําหรับทุกคน

 

เขายังสามารถเห็นหมัดของลูซิเฟอร์กําแน่น

 

“อดใจรอที่จะบีบคอเขาไม่ไหวหรือ” เคนถามลูซิเฟอ ร์ด้วยรอยยิ้ม

 

ลูซิเฟอร์ตอบสนองด้วยการโบกมืออย่างอ่อนโยน เขา ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

 

“รู้ไหม ฉันเคยผ่านสิ่งที่คล้ายกันมาก่อนเช่นกัน แต่คนที่ ฉันฆ่าคือลุงของฉันเอง และฉันสามารถพูดได้อย่างแน่นอนว่ารู้สึกดีที่ได้ทํา ฉันเกลียดที่ฉันฆ่าเขาในระยะเวลาสั้นๆ แบบนั้นแหละ “เคนพูดพลางหวนนึกถึงอดีตของเขา

 

คําพูดของเขาทําให้ลูซิเฟอร์ซึ่งอดไม่ได้ที่จะมองย้อนกลับ ไป ฆ่าลุงตัวเอง? ทําไม?

 

หลังจากได้ยินคําพูดเหล่านั้นจากเคน คําถามมากมายก็ เริ่มผุดขึ้นในใจเขาในตอนนี้ เขาก็เลยอยากถามต่อ

 

“ไอ้สารเลวนั่นสมควรตายแม้กระทั่งความตายที่เจ็บปวด ยิ่งกว่านี้ การตายอย่างรวดเร็วเป็นความเมตตาต่อเขาฉันหวังว่าฉันจะฆ่าเขาซ้ําแล้วซ้ําเล่า” เคนกล่าวเพิ่มเติม

 

ลูซิเฟอร์ควบคุมความอยากรู้ไม่ได้ในที่สุดจึงถามว่า ”เขา ทําอะไรลงไป”

 

เมื่อได้ยินคําถาม ก็ถอนหายใจลึกๆ ออกจากริมฝีปาก ของเคน แววตาเย็นเยียบแวบผ่านดวงตาของเขาขณะที่เขามองไปทางหน้าต่าง

 

“ชายคนนั้นพรากทุกอย่างไปจากฉัน เขาเอาแสงสว่าง งหมดไปจากชีวิตฉัน ทําให้ทุกอย่างในชีวิตของฉันมืดมิด”เขาตอบพลางกัดฟัน

 

“เขาทําอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง ไม่เข้าใจว่าเขา หมายถึงอะไร

 

“เขาฆ่าพ่อของฉันที่เป็นน้องชายของเขา ส่วนแม่ของฉันเขา…”

 

เคนหยุด ในขณะที่เขาไม่สามารถพูดคําต่อไปได้ เขามีช่ วงเวลาที่ยากลําบาก ในขณะที่เขานึกถึงความทรงจําอันเจ็บปวดนั้น

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันแน่ใจว่าคุณจะสนุกกับการแก้แค้นของ คุณมาก” เขาพูดจบการสนทนาเกี่ยวกับอดีตของเขา

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคําพูดของเขาและรู้สึกเหมือนมีบางอย่าง เกิดขึ้นกับแม่ของเขา ซึ่งเขาไม่อยากพูดถึง

 

ลูซิเฟอร์สามารถเข้าใจความรู้สึกของเขาได้ ดังนั้นเขา จึงตัดสินใจไม่ถามเขาอีก

 

ศูนย์วิจัยดิไลออน สถานที่ซึ่งเป็นหนึ่งในหลาย ๆ แห่งที่ อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลแต่โรงงานแห่งเดียวนี้อยู่ ในใจกลางของความโกลาหลครั้งใหญ่

 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลได้รับข้อความที่รบกวนส ถานที่ ซึ่งบังคับให้พวกเขาดําเนินการอย่างน้อยก็เพื่อรักษา ภาพลวงตาว่าพวกเขาจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

ตอนที่ 122: วารันท์จะพ่ายแพ้หรือไม่

 

สายฟ้าออกจากนิ้วของเขา ซึ่งดูเหมือนจะมืดพอๆ กับความมืดมิด พวกเขามองเห็นสายฟ้าสีดําและความแรงของมันจากสายฟ้า แต่มันก็สายเกินไปที่จะหยุดเขา

 

บางคนยังสงสัยว่ากางเกงจะหยุดการโจมตีได้จริงหรือไม่ ดังนั้นพวกเขาจึงดีใจที่ลูซิเฟอร์กําลังทดสอบประสิทธิภาพของมัน ที่เหลือตกใจกับเด็กบ้าที่พยายามทําร้ายตัวเอง

 

สายฟ้านั้นทรงพลัง และเห็นได้ชัดว่ามันมีพลังเกินกว่าที่กางเกงจะรับไหว อย่างไรก็ตาม อนุภาคคาร์ดินัลสามารถลดความแรงของสายฟ้าลงได้เก้า 10 เปอร์เซ็นต์ก่อนที่สายฟ้าจะผ่านเข้าไป

 

“อื้อ!”

 

เสียงเจ็บปวดเบา ๆ ออกจากริมฝีปากของลูซิเฟอร์ ก่อนที่เขาจะควบคุมเสียงของเขา ขาของเขามีเลือดออก เมื่อมองเห็นรูที่ขาของเขาตอนนี้ ขาของเขาอ่อนแรงลงเพราะ บาดแผลจากการกระแทก

 

เขายังคงไม่เสียการทรงตัวเพราะเขาใช้ขาอีกข้างและ ลมให้เกิดประโยชน์

 

“มันได้ผล” เขาพูดพร้อมมองที่เฮนนี้

 

“ผู้ชายคนนี้ เขาโตมาแบบนี้ได้ยังไง? เขาแตกต่างออกไปมาก” เฮนนี่คิด ขณะจ้องไปที่ใบหน้าที่สงบของลูซิเฟอร์ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา

 

กางเกงก็ยังคงไม่บุบสลาย แม้ว่าจะมีรูที่ขาของลูซิเฟอร์ แต่พวกเขาไม่เห็นความเสียหายในกางเกง

 

รอยเลือดไหลลงที่ขาของเขา บาดแผลของเขาเริ่มสมานตัว เมื่อพลังการรักษาของเขามีผล

 

“อ้อ ใช่ ฉันลืมบอกคุณอีกอย่างเกี่ยวกับกางเกง มันกันกระสุนด้วย ยิ่งกว่านั้น กางเกงก็ไม่ได้รับผลกระทบจากเลือด”

 

“คุณสามารถโยนแก้วที่เต็มไปด้วยเลือดหรือโคลนใส่มัน และนั่นจะถูกดูดซึม เมื่อกางเกงทําความสะอาดตัวมันเอง เจ๋งจริงๆ ใช่ไหม”

 

รอยยิ้มอันชาญฉลาดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฮนนี้ ในขณะที่เขาพูดถึงเรื่องนี้มากขึ้น

 

“เอ้ ในเมื่อสิ่งเหล่านี้สามารถใช้เป็นเกราะกันกระสุนได้ ทําไมคุณไม่ทําเสื้อกั้กแจ็กเก็ตด้วยล่ะ และอุปกรณ์การต่อสู้ของเรา คุณจะเปลี่ยนมันเป็นอนุภาคคาร์ดินัลเมื่อไหร่” เคน ถาม

 

เฮนนี่มองไปที่เคนอย่างว่างเปล่า เคนจ้องกลับมา สงสัยว่าชายคนนี้กําลังคิดอะไรอยู่ ทําไมเขาถึงจ้องมองที่เขา?

 

“คุณถามคําถามที่ดี คําถามที่ยอดเยี่ยม ซึ่งมาจากคุณ อย่างน่าประหลาดใจเลยล่ะ” เฮนนี่อธิบาย ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

“เรื่องตลกของคุณแย่ลงเฮนนี่ ตอนนี้ตอบมาซะ” เคนกล่าว รู้สึกรําคาญเล็กน้อย

 

“คําตอบสําหรับคําถามของคุณค่อนข้างง่าย เพราะนั่นคือที่มาของข้อจํากัดของอนุภาคคาร์ดินัล แต่ละชิ้นใช้เวลานานในการสร้าง อย่างที่บอกสินค้าชิ้นนี้เป็นสิ่งแรกที่เราทําจากสต็อกที่เรามี แม้ว่าเราสามารถสร้างอนุภาคดังกล่าวได้ ไม่จํากัดจํานวน ซึ่งต้องใช้เวลามาก”

เฮนนี่พูดอย่างเป็นธรรมชาติ ขณะที่เขาอธิบายให้พวกของเขาฟัง

 

“ตามสมมติฐานของฉัน ใน 1 สัปดาห์ เราสามารถสร้างการถ่ายเลือดแบทเทิลเกียร์ไปยังอนุภาคคาร์ดินัลได้ กางเกงของลูซิเฟอร์เป็นการทดสอบอนุภาคคาร์ดินัล เพื่อดูว่า เราสามารถสร้างบทความเกี่ยวกับเสื้อผ้าได้หรือไม่”

 

“ตอนนี้การทดสอบเสร็จสิ้น เราสามารถเริ่มสร้างอุปกรณ์ การต่อสู้สําหรับท่านไรอา หลังจากนั้นเราจะสร้างให้กับคนอื่นๆ ที่อยู่ในแถวถัดไป ดังนั้นหมายเลขของคุณจึงค่อ นข้างช้า แต่คุณจะได้มาอย่างแน่นอน”

 

“ไม่ต้องกังวล และเมื่อคุณได้รับแล้ว ก็ไม่จําเป็นต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซม ดังนั้นเราจึงมีอิสระที่จะย้ายไปที่อื่น ภายในเวลาหนึ่ง ทุกคนที่นี่จะมีอย่างใดอย่างหนึ่ง” เฮนนี่กล่าวเสริมเพื่อให้พวกเขามั่นใจ

 

“ไม่เป็นไร ฉันไม่รีบร้อน เพราะฉันไม่มีแผนที่จะโดนโจมตีเลย ฉันแค่สงสัย” เคนตอบอย่างเกียจคร้านก่อนจะเบนความสนใจไปที่เวก้า

 

“เสร็จแล้ว เราไปกันเลยไหม” เขาถาม

 

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ ฉันแน่ใจว่าไรอาก็ออกไปด้วยเหมือนกัน” เวก้าพึมพํา ขณะมองดูนาฬิกา

 

“เขาไปแล้วหรือ เขาจะไปไหน” เฮนนี้ถามอย่างตกใจ “เจ้านายใหญ่มาด้วยหรือเปล่า ยากนักที่เขาจะออกไป พระเจ้า ฉันสงสารศัตรูของคุณ”

 

“ไม่หรอก เขาไม่ได้มากับเรา เขาจะดึงดูดพวกหมาป่าผู้ชอบธรรม” เวก้าตอบก่อนจะหันหลังกลับ

 

เขาเริ่มออกเดินทาง

 

ลูซิเฟอร์ตามเวก้าและคนอื่นๆ ตามมาด้วยกางเกงขายาว สีดํา รองเท้าบู๊ท และแจ็กเก็ตของเขาดูธรรมดามาก แต่มันทําให้พวกเขาดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งไม่ได้ดูแย่เลยแม้แต่น้อย

 

เฮนนี่ถูกทิ้งไว้ในห้องแล็บ เฝ้าดูการถอยกลับของเวก้า จนกระทั่งเขาหายตัวไปจากสายตาของเขา

 

“เขาจะดึงดูดพวกหมาป่าผู้ชอบธรรมด้วยงั้นหรอ ฉันสงสัยว่าเมืองใดจะถูกทําลายในวันนี้ อย่างน้อยไรอาจะต้องสนุกในวันนี้” เขาพึมพํา ในขณะที่เขาส่ายหัวเบา ๆ ก่อนที่ เขาจะกลับมาทํางาน

 

….

 

ช่องว่างเปิดออกมันมีขนาดใหญ่มาก พวกมันปรากฏขึ้น ท่ามกลางสิ่งที่ดูเหมือนทะเลทราย ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ออกมาจากมันและโบยบินไปในทิศทางที่แน่นอน

 

ภายในเฮลิคอปเตอร์ กลุ่มคนกําลังนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์มีเพียง 7 คน แต่มีออร่าแปลก ๆ ล้อมรอบพวกเขาทั้งหมด ทําให้รู้สึกเหมือนว่าพวกเขามีพลังมหาศาลซ่อนอยู่ ภายในร่างกายของพวกเขา

 

“แล้วเราจะไปเมืองไหนล่ะไรอา” ชายคนหนึ่งถามขึ้น ขณะที่เขาจ้องมองไปยังชายที่มีสีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

 

“เมืองไหน คือ ศูนย์กลางข้อมูลของพวกเขา เอลันต้า เราจะไปที่นั่น นั่นจะทําให้พวกเขามาแน่นอน” ไรอาตอบขณะมองออกไปนอกหน้าต่าง

 

ผมสีเงินสั้นของเขาเข้ากับดวงตาสีน้ําตาลแดงที่สวยงามของเขา สําหรับผิวซีดของเขา นั่นทําให้เขาดูเหมือนแวมไพร์

 

นอกจากนี้เขายังสวมเสื้อคลุมที่ดูเหมือนเสื้อคลุมของ ราชวงศ์ด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม แทนที่จะเป็นเสื้อคลุมที่กษัตริย์ใช้ มันทําจากอนุภาคคาร์ดินัลเช่นกัน

 

อันที่จริง เฮนนี่ไม่ได้โกหก เมื่อเขาบอกว่ากางเกงของลูซิเฟอร์เป็นสินค้าชิ้นแรกที่เขาทํากับอนุภาคคาร์ดินัล เสื้อคลุมนี้เป็นสิ่งที่เขาทําหลังจากนั้น ในขณะนี้ มีบทความเกี่ยวกับเสื้อผ้า 2 ชิ้นที่ทําจากอนุภาคคาร์ดินัล

 

แต่อันนี้ดูมีเอกลักษณ์มากกว่า เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้น โดยการถ่ายเลือดของอนุภาคคาร์ดินัลด้วยชุดรบของ ไรอา ที่มีอยู่

 

“เอลันต้า? ฟังดูน่าสนุก ฉันสงสัยว่าวารันท์จะปรากฏตัวหรือไม่ อืม ฉันเดาว่าเขาจะไปที่นั่นทันทีที่เขารู้ว่าคุณอยู่ที่นั่นด้วย เขาจะทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและวิ่งไปหาคุณ” หนึ่งในนั้นพูดพลางลูกน้องทั้ง 7 หัวเราะ ขณะที่เขายักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

 

“นั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก ฉันยังต้องการจะสู้กับเขาอีกครั้ง” ไรอา ตอบในขณะที่เขาพูดถึงผู้นําของ APF นั่นคือวารันท์

 

“ความสามารถของเขาน่ารําคาญจริงๆ” แวเรียนท์ ผมสีเข้มกล่าว ” ความสามารถที่สามารถเอาชนะ แวเรียนท์ใดก็ได้ เขาต้องตายก่อนจริงๆ”

 

“ความสามารถของเขาไม่สามารถเอาชนะ แวเรียนท์ทั้งหมดที่มีข้อจํากัดบางอย่างได้ เรายังไม่รู้เลยว่า เขามีข้อจํากัดอะไร” แวเรียนท์คนอื่นๆตอบ ในขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ

 

ตอนที่ 121: อนุภาคคาร์ดินัล

 

จากสิ่งที่ลูซิเฟอร์รู้สึก เสื้อผ้าเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุด สองสิ่งถูกกําหนดเป้าหมายอย่างต่อเนื่องเมื่อเขาอยู่ในการต่อสู้

 

อย่างแรกคือเสื้อผ้าของเขา ซึ่งไม่เคยออกมาสมบูรณ์ หลังจากการต่อสู้ ส่วนใหญ่เสื้อผ้าของเขาอาจถูกทําลายและ หายไปปล่อยให้เขาเปลือยเปล่าโดยส่วนใหญ่

 

เป้าหมายที่ 2 คือมือของเขา ซึ่งเขาเสียถุงมือไป 2 ครั้งแล้ว เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมือของเขาเพราะพวกมันสามารถงอกออกมาได้อีกครั้ง

 

แต่มันเป็นเรื่องที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เมื่อพูดถึงเสื้อผ้าของเขา เพราะพวกมันไม่สามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ในอากาศราวกับว่าการต่อสู้ไม่ได้เกิดขึ้น

 

“โอ้ เชื่อฉันเถอะเวลาที่ฉันพูดแบบนี้ แต่นี่เป็นกางเกงที่ล้ำสมัยที่สุด ซึ่งฉันเชื่อว่ามีประโยชน์มากที่สุดสําหรับคุณหลังจากสวมถุงมือเหล่านั้น” เฮนนี่พูดพร้อมยิ้มจากหูถึงหู มีความภาคภูมิใจในเสียงของเขา

 

เขาหันกลับมาและเดินไปที่โต๊ะ หยิบรีโมทขึ้นมา ซึ่งเขาไปที่ทีวี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดปัจจุบันเพียงไม่กี่เมตร

 

เมื่อกดปุ่ม ทีวีจะเปิดขึ้นและเริ่มแสดงการนําเสนอ ทุกคนหันเหความสนใจไปที่หน้าจอทีวี ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความน่าฉงนและสนุกสนาน

 

“พระเจ้า คุณกําลังรอการนําเสนอของคุณสําหรับช่วงเวลานี้หรือไม่ ฉันไม่อยากเชื่อเลย” เคนแสดงความเห็นขณะที่เขากลอกตา

 

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเฮนนี่ได้เตรียมการนําเสนอสําหรับเรื่องนี้ อิโซน่าก็ส่ายหัว มองดูเฮนนอย่างช่วยไม่ได้

 

“เฮ้ เรื่องพวกนี้ต้องพูดให้ถูกวิธีที่จะเข้าใจ” เฮนนี่ตอบขณะที่เขาหัวเราะ

 

ขณะที่ทุกคนดูหน้าจอ พวกเขาเห็นวิดีโอไม่มีเสียงใด ๆ ที่ได้ยินออกมาจากทีวี แต่สําหรับเรื่องนั้น เฮนนี้อยู่ที่นั่น เพื่อให้ความเห็นโดยอธิบายสิ่งที่พวกเขาเห็นในวิดีโอด้วย

 

“สิ่งที่คุณเห็นบนหน้าจอคือองค์ประกอบอนุภาคคาร์ดินัล เราสร้างมันขึ้นมาเอง น่าเสียดายที่เราไม่สามารถอวดให้โลกเห็นได้ ดังนั้นฉันรู้สึกว่านี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะอวด” เฮนนี่กล่าวกับพวกเขาเบื้องต้น

 

“กางเกงที่ลูซิเฟอร์ถืออยู่ตอนนี้ เป็นสิ่งแรกที่เราทํา โดยใช้อนุภาคคาร์ดินัล ฉันแน่ใจว่าเราจะทําเพิ่มในอนาคต” เขาอธิบาย

 

ภาพบนทีวีเปลี่ยนไป เผยให้เห็นกางเกงที่บินอยู่บนท้องฟ้าในรูปการ์ตูนอวตาร ลูกบอลไฟกําลังบินไปทางกางเกง ทันทีที่ลูกบอลกระทบกางเกง ลูกบอลนั้นก็หายไป

 

“จริงเหรอ ตอนนี้เรามีการ์ตูนแอนิเมชั่นด้วยเหรอ?”

 

เคนมีความปรารถนาที่จะเอามือปิดหน้า หลังจากได้เห็นการนําเสนอแบบเด็กๆ ของเฮนนี้ เขารู้ว่าพวกเขามีเด็กอยู่ท่ามกลางพวกเขา แต่ถึงกระนั้นการใช้การ์ตูนในที่ที่จริงจังนี้ เขาเสียสติไปแล้วหรือ?

 

“อนุภาคคาร์ดินัลเป็นการค้นพบพิเศษของเราด้วยสิ่งนี้ เราสามารถปรับปรุงอุปกรณ์การต่อสู้ทั้งหมดได้ สําหรับความพิเศษนั้น มันไม่สามารถทําลายได้ ตราบใดที่การโจมตียังอยู่ในขอบเขต มันจะดูดซับการโจมตีโดยไม่มีแม้แต่ครั้งเดียว ” เฮนนี่อธิบาย น้ําเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ และความมั่นใจ

 

“หืม แล้วถ้าการโจมตีเกินขีดจํากัดล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น” ดิออนถามอย่างสงสัย

 

“หากการโจมตีอยู่นอกขอบเขตอนุภาคคาร์ดินัลจะกระจายตัว ทําให้มองไม่เห็นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แทนที่จะถูกทําลาย พวกมันจะปล่อยให้การโจมตีผ่านไป ดังนั้นเสื้อผ้า จะไม่ถูกทําลาย” เฮนนี้ตอบ

 

“จริงเหรอ ดังนั้นหากมีการโจมตีที่รุนแรงเกินขีดจํากัด เสื้อผ้าจะไม่ให้การป้องกันใดๆ และปล่อยให้การโจมตีกระทบกับผู้สวมใส่เพื่อไม่ให้ถูกทําลาย?” เคนถามอย่างโกรธเคือง ขณะที่ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นอย่างไม่เชื่อ

 

“ถูกต้อง ผู้สวมใส่อาจตายและหายไป แต่เสื้อคาร์ดินัล และเสื้อผ้าจะยังคงอยู่ที่นั่น แต่ไม่ต้องกังวล สําหรับการโจมตีที่จะอยู่นอกขอบเขตการป้องกัน การโจมตีจะต้องรุน แรงมาก” เฮนนี่ตอบ

 

“ฉันเข้าใจ นั่นเป็นเหตุผลที่คุณบอกว่ามันมีประโยชน์สําหรับลูซิเฟอร์มากกว่า ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดที่เขามีคือเสื้อผ้าของเขาถูกทําลาย คุณเพิ่งค้นพบความก้าวหน้า!”

 

“การค้นพบของคุณครั้งนี้เป็นวิธีแก้ปัญหาสําหรับความกังวลหลักของลูซิเฟอร์ คุณค่อนข้างโชคดีที่ได้พบคนที่ต้องการเสื้อผ้าที่ไม่มีวันแตกสลาย แม้ว่าร่างกายของเขาจะถูกทําลาย” อิโซนา กล่าวขณะที่เธอเข้าใจการใช้งาน

 

หากการโจมตีอยู่ภายในขีดจํากัด กางเกงจะไม่ถูกทําลาย และถ้ามันอยู่นอกขอบเขต มันจะช่วยตัวเองในขณะที่ปล่อยให้ลูซิเฟอร์ถูกโจมตี ลูซิเฟอร์สามารถรักษาตัวเองได้ ดังนั้นจึงไม่เป็นอันตราย

 

“แม้ว่าการโจมตีจะเกินขอบเขต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากางเกงจะไม่ปกป้องผู้ใช้ แต่จะลดผลกระทบของการโจมตีให้มากที่สุดและปล่อยให้ผ่านไป ก็ต่อเมื่อมีการจัดการมากเกินไปเท่านั้น” ฮันนี่ ได้ตอบกลับ

 

หลังจากอธิบายทุกอย่างแล้ว เฮนนี่ก็หันไปหาลูซิเฟอร์ และพูดว่า “เอาล่ะ ลูซิเฟอร์ สวมกางเกงสร้างลุคให้ครบชุด ให้ฉันดูว่าคุณหน้าตาเป็นอย่างไร”

 

“ทุกคน หันหลัง! ให้ความเป็นส่วนตัวกับแขกของเราใน การเปลี่ยนเสื้อผ้า!” เขาร้องเรียก ก่อนจะหันกลับมาเพื่อหลีกเลี่ยงการมองไปทางลูซิเฟอร์

 

คนอื่นๆ ก็ทําตามเมื่อพวกเขาหันหลังกลับเช่นกัน

 

เมื่อไม่มีใครมอง ลูซิเฟอร์ถอดกางเกงตัวเก่าที่เขาสวมอยู่ และสวมกางเกงสีดําสนิทที่ทํามาจากอนุภาคคาร์ดินัล

 

จากการสัมผัส ความหนา และน้ําหนัก เขาไม่พบความแตกต่างระหว่างกางเกงตัวใหม่กับกางเกงตัวเก่า เขาถึงกับสงสัยว่าสิ่งที่เฮนนี่พูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่

 

เพื่อทดสอบ เขาตัดสินใจทําสิ่งที่โง่เขลา ความสงสัยของเขาเริ่มใหญ่ขึ้นที่นี่เกี่ยวกับกางเกง

 

เขาวางนิ้วห่างจากกางเกง 2-3 นิ้วแล้วยิงสายฟ้าที่ขาของเขา ในขณะที่ทุกคนยังคงมองย้อนกลับไป พวกเขาสงสัยว่าลูซิเฟอร์เปลี่ยนกางเกงของเขาเสร็จแล้วหรือไม่

 

ที่เลวร้ายที่สุด เขากําลังจะเจาะรูที่ขา ซึ่งจะหายภายในไม่กี่นาที ดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะทดสอบ

 

เมื่อสายฟ้าออกจากนิ้วของเขา มันก็กระทบกับเนื้อผ้าของกางเกงและหายไป มันไม่ชัดเจนว่ามันไปที่ไหน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับกางเกง และเขาก็ไม่ได้รับอันตรายเช่นกัน

 

เขาตั้งใจทําให้สายฟ้าอ่อนที่สุดเพื่อดูคุณสมบัติการป้องกันของกางเกง เมื่อได้เห็นแล้ว เขาจึงตัดสินใจตรวจสอบและทดสอบว่าการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขานั้น แข็งแกร่งพอที่จะทําเครื่องหมายและข้ามขีดจํากัดหรือไม่

 

ครั้งนี้ เขาได้ตัดสินใจที่จะใช้ 50% ของความเข้มสายฟ้าของเขากับสิ่งที่เขาได้รับอนุญาตให้ใช้

 

“นายพร้อมหรือยัง?”

 

ไม่สามารถรอได้นานนักอิโซน่า หันหลังกลับ ขณะที่เธอ จ้องมองที่ลูซิเฟอร์ เมื่อได้ยินคําพูดของเธอคนอื่นๆ ก็ทําแบบเดียวกัน เพียงเพื่อจะพบนิ้วของลูซิเฟอร์ โดยชี้ไปที่ใต้เขาเล็กน้อย

 

 

ตอนที่ 120: ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดได้รับการแก้ไข

 

“มันดีกว่า”

 

“เมื่อคุณทดสอบรองเท้าแล้ว ให้ฉันบอกคุณเกี่ยวกับข้อจํากัดของรองเท้าด้วย โปรดจําไว้เสมอว่ารองเท้าเหล่านี้ไม่สามารถต้านทานพลังแห่งการเน่าเปื่อยของคุณได้ ดังนั้น อย่าแตะต้องพวกมันด้วยมือเปล่า”

 

“ฉันจะทําให้มันทนทานต่อการผุกร่อน แต่น่าเสียดายที่การค้นหาวัสดุที่ถุงมือทํานั้นยากพอๆ กับการค้นหาหินจันทรา” เฮนนี่บอกกับลูซิเฟอร์ พลางถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็ย้ายสิ่งประดิษฐ์กลับไปที่ทิ้งอีกครั้ง

 

คราวนี้เขานําเสื้อกักออกมาจากชั้นวางที่ดูคล้ายกับแจ็คเก็ตที่มีสไตล์มาก นอกจากนี้ยังทําขึ้นตามขนาดของลูซิเฟอร์

 

“นี่คือไอเทมชิ้นต่อไปในอุปกรณ์ต่อสู้ของคุณ” เฮนนี่ประกาศ “สําหรับความพิเศษของมัน ฉันคิดว่าพวกคุณทุกคนสามารถบอกคุณสมบัติหลักของเสื้อกักนี้ได้ ตามปกติแล้ว มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต้านทานกระสุนในระดับหนึ่ง”

 

“แต่กระสุนไม่กระทบเขา มันไม่มีประโยชน์สําหรับเขาหรอกเหรอ?” เคนถามโดยจําได้ว่าลูซิเฟอร์ไม่ได้รับผลกระทบจากกระสุน

 

การรักษาของเขามีพลังมากเกินไป

คลิปหลุด
“ท่านไม่เข้าใจ อาจารย์เคน ตามข้อมูลของเรา ความสามารถแต่ละอย่างมีข้อจํากัด แม้ว่าการรักษาของเขาจะเกินกําลัง เราไม่ควรเสียมันไปเพื่อรักษาบาดแผลกระสุนปืน นอกจากนี้ การสวมเสื้อกักนี้ไม่ได้มีไว้สําหรับสิ่งนั้นเท่านั้น สิ่งที่กันกระสุนเป็นเพียงหนึ่งในวัตถุประสงค์” เฮนนี่อธิบาย

 

“นอกจากจะสามารถต้านทานกระสุนแล้ว เสื้อตัวนี้ยังสามารถดูดซับเปอร์เซ็นต์ของการโจมตีส่วนใหญ่ได้ดี อีกทั้งยังกันไฟได้อีกด้วย น้ําหนักเบามากไม่หนักกว่าเสื้อทั่วไป ส่วนความหนาของมันก็แค่ ส่วนที่หนาที่สุดมันหนาเพียง 2 มิลลิเมตร” เขากล่าวเสริม

 

“นอกจากนี้ เราได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับ APE ที่กําลังพยายามทําให้กระสุนอันตรายมากขึ้นสําหรับแวเรียนท์ ดังนั้น สิ่งนี้จึงมีประโยชน์ในเวลาที่ไม่คาดคิด”

 

“และสุดท้าย มันดูมีสไตล์ เฮ้ ฉันทํางานอย่างหนักเพื่อค้นหาเทรนด์แฟชั่นล่าสุดเพื่อทําให้ลุคนี้ดูมีสไตล์สําหรับลูชิเฟอร์ ให้เครดิตฉันบ้าง อย่างน้อยมันก็สามารถเป็นเครื่องประดับแฟชั่นได้!”

 

ทุกคนเห็นด้วยกับการใช้งานส่วนใหญ่ แต่การใช้มันเป็นอุปกรณ์เสริม พวกเขาพบว่ามันน่าขบขัน แต่มันไม่ใช่เรื่องโกหก เสื้อกแจ็กเก็ตดูมีสไตล์

 

“นี่ ลองใส่ดูสิ” เฮนนี่พูด ขณะโยนเสื้อบิ๊กไปทางลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์จับเสื้อกักแจ็กเก็ตและสวมมันด้วย

 

“ใช่แล้ว มันมีข้อจํากัดเช่นเดียวกับข้อที่แล้ว อย่าแตะต้องมันด้วยมือเปล่า” เฮนนี่เตือนเขาอีกครั้ง

 

“ไม่ต้องกังวล ฉันรู้แล้วว่าคุณไม่มีไอเท็มที่ใช้ทําถุงมือของฉัน คุณไม่จําเป็นต้องบอกฉัน 2 ครั้ง” ลูซิเฟอร์กล่าว รู้สึกรําคาญ เขาพูดซ้ําแล้วซ้ําเล่าราวกับว่าเขายังเป็นเด็ก

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ขอโทษ เรียกมันว่าติดเป็นนิสัยเถอะครับ” เฮนนี่ตอบพร้อมกับเกาหัวตัวเองก่อนจะเดินกลับไปที่ชั้นอีกครั้ง

 

“ฉันจะวางแผนสร้างและจัดหาอาวุธให้คุณเช่นกัน ฉันคิดว่าดาบน่าจะเหมาะกับคุณ เมื่อเห็นว่าคุณเร็วและว่องไวแค่ไหน แต่แล้วฉันก็รู้ว่าคุณดีเท่าที่คุณจะทําได้แม้ไม่มี อาวุธด้วยอาวุธ สายฟ้าและความแข็งแกร่งของคุณที่เต็มไปด้วยการโจมตีรุนแรงจะไร้ประโยชน์ดังนั้นฉันไม่ได้สร้างมันขึ้นมา “เขาพูดก่อนจะหยุดพัก

 

“แต่ฉันทําบางอย่างเพื่อคุณ เป็นเรื่องพิเศษ” เขากล่าวเสริมก่อนจะหันหลังกลับ โดยชูกําปั้นที่เต็มไปด้วยลูกบอลเล็กๆ ให้ลูซิเฟอร์

 

ลูกบอลมีขนาดเล็กมาก ขนาดของลูกหนึ่งลูกเล็กกว่าลูกกอล์ฟธรรมดาถึง 5 เท่า

 

ในมือของเขามีลูกบอลกึ่งโปร่งแสงประมาณ 10 ลูก ซึ่งเขาค่อยๆ เข้าใกล้ลูซิเฟอร์อย่างระมัดระวัง

 

“ยกมือขึ้นแล้วเปิดกําปั้น”

 

“ลูกบอลพวกนี้คืออะไร” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย เขาไม่ทําตามที่บอก เขาต้องการรู้ว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไรก่อนจะถือมันไว้ในมือ

 

“อย่ากังวล นี้จะเป็นอาวุธของคุณ สิ่งเหล่านี้ได้ประโยชน์ แต่ฉันสร้างมันขึ้นมาโดยคํานึงถึงพลังสายฟ้าสีดําของคุณ คุณสามารถบีบอัดสายฟ้าสีดําของคุณและถ่ายโอนพลังงาน ภายในลูกบอลก่อนที่จะโยนเหล่านี้ไปที่ศัตรู “

 

“สิ่งเหล่านี้จะทําหน้าที่เป็นระเบิดที่ทรงพลังมากที่สามารถทําให้เกิดการทําลายล้างในวงกว้าง ส่วนการทําลายล้างนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าคุณสามารถใส่พลังงานเข้าไปมากแค่ไหนใน 1 วินาที เพราะคุณต้องโยนมันทิ้งในวินาทีถัดไป หากคุณไม่ทํา มันอาจจะโอเวอร์โหลดและระเบิดใกล้ตัวคุณ” เฮนนี่อธิบายการใช้งาน

 

“ฉันไม่ต้องการที่จะเตือนซ้ําแล้วซ้ําอีก แต่ได้โปรดอย่าแตะต้องพวกเขาโดยไม่สวมถุงมือ” เฮนนี่กล่าวกับลูซิเฟอร์

 

“เอามือของคุณมาให้ฉันแล้วรับมันไป ไม่ต้องกังวล สิ่งเหล่านี้จะไม่เปิดใช้งานจนกว่าคุณจะเริ่มส่งพลังงาน ก่อนหน้านั้น คุณสามารถพกมันไว้ในกระเป๋าของคุณเหมือน ของเล่น

 

ลูซิเฟอร์ยกมือขึ้นช้าๆ แล้วหยิบลูกแก้วในมือ สังเกตดูอย่างระมัดระวัง

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ประเมินลูกแก้วกึ่งโปร่งใสขนาดเล็ก เคนอดไม่ได้ที่จะเหงื่อออก สิ่งนี้ทําให้เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ที่แล้ว เมื่อลูซิเฟอร์สังเกตรองเท้าก่อนจะทดสอบ

 

“อา ลูซิเฟอร์ โปรดอย่าทดสอบพวกมัน ฉันขอ…” เคนเตือนลูซิเฟอร์ด้วยน้ําเสียงกังวล

 

“ใช่แล้ว อย่าทดสอบพวกมันในพื้นที่ปิดนี้ การทําลายล้างจะมากเกินไป หากคุณต้องการ คุณสามารถทดสอบได้โดยการโยนมันทิ้งระหว่างภารกิจที่คุณกําลังจะไป” เฮนนี่กล่าวเสริมข้อคิดเห็นของเคน

 

เมื่อได้ยินการเตือนความจําของพวกเขา ลูซิเฟอร์ก็เพียงพยักหน้า ไม่ว่าในกรณีใด เขาจะไม่ทดสอบที่นี่ เขาไม่ได้บ้า เขาคิด

 

เขาวางลูกแก้วไว้ในกระเป๋าเสื้อสักครู่หลังจากที่เขาสังเกตได้เล็กน้อย

 

“มีอะไรอีกไหม” เวก้าถามเฮนนี้

 

“มีอีกอย่างหนึ่ง ตามที่ฉันได้ยินมา เพื่อนตัวน้อยของเรามีปัญหาใหญ่ นั่นคือเสื้อผ้าของเขาถูกทําลายในการต่อสู้เสมอ” เฮนนี่กล่าว พร้อมเดินตามหลังกลับไปที่ชั้นวาง “และการวิ่งเปลือยกายเป็นสิ่งที่ไม่น่าดูจริงๆ”

 

“ฉันทําเสื้อแจ็คเก็ตที่สามารถต้านทานการโจมตีส่วนใหญ่ แล้วและสามารถอยู่ได้นานขึ้นโดยไม่ถูกทําลาย แต่นั่นไม่ได้ครอบคลุมทั้งหมด” เขากล่าวเพิ่มเติมก่อนจะหันหลังกลับ

 

ครู่ต่อมา เขากําลังถือของบางอย่างอยู่ในมือขณะที่เขากลับมายังที่เดิม

 

“นี่ ฉันไม่ต้องอธิบายอะไรมาก นี่เป็นกางเกงสําหรับคุณ และนี่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์สําหรับคุณมากที่สุดจากสิ่งที่ฉันเห็น” เขาพูดขณะโยนกางเกงไปทางลูซิเฟอร์ที่จับได้

 

“อันนี้พิเศษยังไงครับ?” ลูซิเฟอร์ถาม คราวนี้เขาเข้าร่วมการสนทนาโดยตอบคําถามของเขา เขาสงสัยว่าทําไมเขาถึงใส่มัน

 

เขาสนใจเรื่องพวกนี้จริงๆ เนื่องจากชายผู้นี้พูดถึงสิ่งที่ลูซิเฟอร์มีในใจจริงๆ

 

ตอนที่ 119: อุปกรณ์ต่อสู้

 

“เห็นไหม ตอนนี้เรากําลังคืบหน้า จริงๆแล้วอุปกรณ์การต่อสู้นี้ไม่มีอะไรพิเศษ มันเป็นแค่อุปกรณ์พิเศษที่สร้างขึ้นสําหรับพวกเราทุกคนโดยทีมสร้างอุปกรณ์เฉพาะของเรา เพื่อใช้ในกรณีของการต่อสู้กับศัตรู พวกเขาออกแบบทุกอย่างตามที่เราแต่ละคนเป็นรายบุคคล” เธอบอกลูซิเฟอร์

 

“พวกเราส่วนใหญ่มีอุปกรณ์การต่อสู้อยู่แล้ว มีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังไม่มี เพราะเธอเดินทางเพิ่งมาที่นี่ แต่โชคดีที่เรารู้เรื่องของเธอทั้งหมด เราจึงได้เตรียมอุปกรณ์การต่อสู้ของเธอไว้ด้วย ถึงเวลาที่เธอจะได้รับ ถือว่ามันเป็นขั้นตอนเริ่มต้นของเธอกับครอบครัวของเรา” เธออธิบายเพิ่มเติมด้วยเสียงร่าเริงของเธอ

 

“เรามาแล้ว” เวก้าพูด ขณะที่หยุดอยู่หน้าประตูโลหะ

 

เขาวางฝ่ามือเหนือเซ็นเซอร์ที่ประตูด้วยเสียงบี๊บเปิดประตู

 

ไม่ว่าลูซิเฟอร์จะเห็นการสแกนเหล่านี้กี่ครั้ง เขาก็มักจะรู้สึกหงุดหงิดอยู่เสมอเพราะเขาไม่สามารถทําสิ่งนี้ได้ เขาไม่สามารถสัมผัสอะไรได้เลย หากไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่างมือกับพื้นผิว ตราบใดที่เขาไม่ต้องการทําลายสิ่งนั้น

 

มันเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ แต่มันก็เป็นคําสาปที่ยิ่งใหญ่กว่า สําหรับเขา เขาสงสัยว่าเขาจะรู้สึกแตกต่างกับพลังนี้หรือไม่

 

เป็นเวลานานตั้งแต่ที่เขาตื่นขึ้น แต่เขาก็ยังไม่ได้รับการปรับให้เข้ากับพลังของเขาอย่างเต็มที่

 

ประตูโลหะเปิดออกหลังจากเสียงปั้บ เผยให้เห็นมุมขนาดใหญ่ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง สามารถเห็นเครื่องจักรจํานวนมากวางอยู่ทั่วห้อง

 

ผู้ชาย 2 คนในชุดคลุมสีดํากําลังคุยกันอยู่ ทุกคนมองไปที่ประตูทันทีที่เปิดออก

 

“อ๊ะ อาจารย์เวก้า ยินดีต้อนรับ คุณมาที่นี่เพื่อซื้ออุปกรณ์ต่อสู้ของเด็กน้อยไหม เราเพิ่งทําการปรับปรุงมันครั้งสุดท้ายเสร็จ”

 

ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเวก้าด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา

 

ชายคนนั้นมีผมยาวสีดําสวยงามลดหลั่นลงมาถึงเอวของเขา ผิวของเขาดูเรียบเนียนจนมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง ถ้าเขาไม่มีหนวดเครา ลูซิเฟอร์คงคิดว่าเขาเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ

 

“ฉันเดาว่าเรามาถูกเวลาแล้ว แสดงให้เราเห็นสิ่งที่คุณทํา” เวก้าพยักหน้า เมื่อเขาเข้าไปในห้องแล็บ ดิออน, อิโซน่า, เคน และลูซิเฟอร์ ก็ก้าวเข้ามาเช่นกัน

 

“นี่คือเฮนนี่ เขาเป็นหัวหน้าห้องแล็บของเรา ซึ่งดูแลแบทเทิลเกียร์ทั้งหมดที่นี่” อิโซน่าบอกกับลูซิเฟอร์ โดยพูดถึงชายผมดํา

 

“เดี๋ยวก่อน” เฮนนี่ตอบเวก้า ขณะที่เขาเดินไปที่ชั้นวางของตรงมุมห้องหนึ่ง ซึ่งปิดไว้

 

ราวกับว่ามันเป็นความตั้งใจที่จะทําให้ลูซิเฟอร์หงุดหงิดใจ ที่ไม่สามารถใช้มือของเขาในลักษณะดังกล่าวได้ แต่ทุกอย่างที่นี่ต้องการการสแกน

 

แม้แต่ประตูชั้นวางก็ยังต้องสแกนฝ่ามือของเฮนนี่ก่อนที่จะเปิดออก

 

“เอาล่ะ นี่เป็นรายการแรก รองเท้าต่อสู้ของวอร์ล็อคคนใหม่ของเรา” เฮนนี่ประกาศ ขณะที่เขานํารองเท้าคู่สีดําออกจากชั้นวาง

 

รองเท้าดูเหมือนรองเท้าปกติ ลูซิเฟอร์ไม่พบอะไรพิเศษกับรองเท้าแบบนี้ อุปกรณ์ต่อสู้นี้มีแค่นั้นเหรอ? รายการที่ได้รับการปรับปรุงขนาดสําหรับเขา? นั่นคือสิ่งที่อิโซน่าหมายถึง?

 

“บอกคุณสมบัติพิเศษในตัวพวกเขาหน่อย พวกเขาสร้างมาเพื่อลูซิเฟอร์ได้อย่างไร” เวก้าถามคําถามที่เขาเชื่อว่าอยู่ในหัวของลูซิเฟอร์ เขายังถามคําถามเดิมในใจ

 

“เท่าที่เรารู้ ลูซิเฟอร์ตัวน้อยมีพลังมากมาย เขาเป็นวอร์ล็อคที่ถูกปลุกด้วยพลังทั้ง 5 ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อน เรารู้อยู่แล้วเกี่ยวกับความสามารถในการควบคุมลมของเขา”

 

“ดังนั้นเราจึงสร้างรองเท้าให้ทนทานต่อการวิ่งมากเกินไป ในขณะที่ยังต้านทานอากาศได้น้อยกว่า นอกจากนี้ รองเท้าเหล่านี้ยังสามารถต้านทานไฟได้โดยไม่ถูกทําลาย”

 

“แต่ยังมีอีกมาก จากสิ่งที่เราได้ยินจากอาจารย์เคน ลูซิเฟอร์ตัวน้อยใช้กําลังของเขาทําให้เขากระโดดสูง เพราะเขาใช้พลังพิเศษของเขาที่เพียงพอที่จะทิ้งปล่องภูเขาไฟไว้บนพื้น จึงไม่มีรองเท้าทั่วไปใดที่จะปลอดภัยได้หลังจากนั้น แต่รองเท้าเหล่านี้ทําได้”

 

“สิ่งเหล่านี้สามารถถ่ายโอนโมเมนตัมและความแข็งแกร่งทั้งหมดไปยังพื้นได้อย่างเพียงพอโดยไม่เกิดความเสียหาย”

 

เมื่อเฮนนี้บรรยายเกี่ยวกับรองเท้าเสร็จแล้ว ทําให้พวก เขาได้ไอเดียเกี่ยวกับคุณสมบัติพิเศษของรองเท้าเฉพาะตัวของลูซิเฟอร์

 

“คุณใช้คําที่ยิ่งใหญ่ๆ เหล่านั้นเพื่อบอกว่ารองเท้าคู่นี้ทนทานกว่าสินะ” อิโซน่า พูดด้วยเสียงหัวเราะที่สวยงามดังลั่นห้องแล็บ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าคุณต้องการทําให้มันเป็นคําง่ายๆแบบนั้นล่ะก็ใช่ คุณอิโซน่าพูดถูก รองเท้าคู่นี้ทนทานกว่า” เฮนนี่พยักหน้าขณะที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

เขารู้ว่าเธอทําให้เข้าใจง่ายเกินไป แต่เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ เขารู้จักนิสัยขี้เล่นของเธอดีอยู่แล้ว ยิ่งเขาโต้ตอบมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกถึงรสชาติแห่งชัยชนะมากขึ้นเท่านั้น

 

เฮนนี่ก้าวไปข้างหน้าและหยุดเมื่อเขาอยู่ห่างจากลูซิเฟอร์ประมาณ 5 ก้าว

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

ลูซิเฟอร์ไม่ละสายตาจากเขา ขณะมองดูเฮนนี้โน้มตัวไปข้างหน้าและวางรองเท้าลงบนพื้น

 

“ลองสวมมันดูสิ ฉันแน่ใจว่าพวกมันจะพอดีแต่ก็ยังคงเหลือพื้นที่บ้าง” เฮนนี่บอกกับลูซิเฟอร์ก่อนจะก้าวกลับ

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆก้าวไปข้างหน้าและถอดรองเท้าเก่าออก เขานั่งลงบนพื้นก่อนที่จะหยิบรองเท้าข้างซ้ายใหม่ด้วยมือ

 

เขาสวมรองเท้าซ้ายก่อน ตามด้วยรองเท้าขวา

 

“พอดีเลย” เขาพูดออกมาหลังจากยืนขึ้น

 

โดยไม่รอคําตอบ เขายกเท้าขวาขึ้นเหนือพื้น 2-3 นิ้วแล้ว กระแทกลง เขาต้องการดูว่าทฤษฎีการถ่ายโอนกําลังนั้นถูกต้องหรือไม่

 

“โอ้พระเจ้า ไม่!” เฮนนี้ร้องออกมา เมื่อรู้ว่าลูซิเฟอร์กําลังพยายามทําอะไร แต่เขาก็สายเกินไป ก่อนที่คําพูดที่ 2 จะ ออกจากปาก เท้าของลูซิเฟอร์ก็แตะพื้นแล้ว ซึ่งเริ่มสั่นจากแรงกระแทก

 

แม้แต่หลุมอุกกาบาตก็ถูกสร้างขึ้นในสถานที่นั้น

 

“พระเจ้า เพื่อนตัวน้อย ได้โปรดอย่าทําอย่างนั้นที่นี่ ฉันไม่ต้องการให้พื้นแตก เราไม่ได้อยู่ที่ชั้นล่าง ฉันไม่อยากให้พวกเราทุกคนล่วงลงไป หลังจากที่พื้นพังไปแล้ว เฮนนี่พูดกับลูซิเฟอร์อย่างขุ่นเคือง ดวงตาของเขามองมาที่ลูซิเฟอร์อย่างช่วยไม่ได้

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไร

 

“ดีที่แต่ละชั้นเสริมการป้องกันอย่างหนัก ดังนั้นแรงกระแทกแบบนี้ก็รับได้” ดิออนกล่าวเสริม “แต่ถึงกระนั้น ก็ยังดีที่จะไม่ทดสอบเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่นี่”

 

“ลูซิเฟอร์เป็นคนใหม่ ฉันแน่ใจว่าเขาตื่นเต้นกับรองเท้าใหม่ ไม่ต้องกังวล สิ่งนี้จะได้รับการซ่อมแซม” เวก้ากล่าว “ยังไงก็เถอะ ลูซิเฟอร์ รองเท้าเป็นไง คุณลองแล้ว มันเป็นไปตามที่อธิบายไว้ไหม”

 

“พวกมัน เอ่อ คือ.. ฉันไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในตัวพวกมัน แม้หลังจากใส่เข้าไป” ลูซิเฟอร์โต้ตอบ

 

ตอนที่ 118: แผนการทําลายล้าง APF?

 

ประตูลิฟต์เปิดอีกครั้งหลังจากหยุดลง

 

“เมื่อก้าวออกจากลิฟต์ เดรโกก็พูด” ออกมาสิ”

 

ลูซิเฟอร์เดินตามเดรโกไปข้างหลัง เดินผ่านโถงทางเดินที่พื้นปูด้วยกระเบื้องเคลือบรูปเพชรซึ่งไร้ที่ติราวกับเพิ่งทําความสะอาด

 

เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของโถงทางเดินสีเงิน เดรโกและลูซิเฟอร์ก็หยุดที่หน้าประตูเหล็กสีทองขนาดใหญ่

 

เดรโกเปิดประตูและแจ้งผู้คนภายในว่าเขาพาลูซิเฟอร์มา

 

“ส่งเขาเข้ามาได้ แล้วนายก็ออกไปได้” ได้ยินเสียงเผด็จการมาจากข้างใน

 

“เข้าไปข้างในเถอะครับ” เดรโกบอกลูซิเฟอร์ก่อนจะก้าวถอยหลัง ปล่อยให้เด็กหนุ่มเข้าไป

 

เมื่อลูซิเฟอร์เข้ามาในห้อง เขาเห็นโต๊ะกลมขนาดใหญ่ที่ว่างเปล่า รอบโต๊ะมีเก้าอี้ 5 ตัววางอยู่ แต่มีเพียง 4 ตัวเท่านั้นที่มีคนนั่งอยู่ในนั้น

 

เขาจําทั้ง 4 คนได้ตั้งแต่เขาเคยเจอคนเหล่านี้มาก่อน พวกเขาไม่ใช่ใครอื่น 

นอกจากเคน อิโซน่า ดิออน และเวก้า

 

“ขอโทษที่เรียกหาคุณอย่างกะทันหัน แต่มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น เรารอไม่ไหวแล้ว หากคุณต้องการแก้แค้น เราต้องลงมือเดี๋ยวนี้ ถึงเวลาที่ต้องลงมือแล้ว” เวก้าบอกกับลูซิเฟอร์

 

“APF ทําอะไรบางอย่าง รัฐบาลจะดําเนินการและกําลังเข้าไปยุ่งกับนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น หากเป็นเช่นนั้น เราจะพบคนเหล่านั้นได้ยากในภายหลัง ดังนั้นเราต้องดําเนินการก่อนหน้าพวกเขา” เขากล่าวเสริม

 

“พวกเขาทําอะไร?” ลูซิเฟอร์ถามเวก้า

 

การได้เห็นคนเหล่านี้กังวลมากก็ค่อนข้างแปลกใจ เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า APF ทําอะไร

 

“พวกเขาได้ทําอะไรบางอย่างที่อาจทําลายแผนของเราก่อนหน้านี้ เนื่องจากการกระทําของพวกเขา แพทย์ที่คุณต้องการฆ่าจะถูกลบออกจากสถานพยาบาลนั้นและจะถูกพาไปที่อื่น ซึ่งเราจะยากขึ้นมาก แม้ว่าเราจะไปถึง และทําการจัดการเพื่อค้นหามัน” เคนบอกลูซิเฟอร์

คลิปหลุด

“เฮ้อ ให้ฉันอธิบายรายละเอียดเพราะมันอาจทําให้คุณหนักใจ ฉันเดาว่าเราอาจจะต้องใช้เวลามาก เพราะคนของเราก็จะใช้เวลาในการเตรียมการเช่นกัน” เวก้ากล่าวขณะที่เขายืนขึ้น

 

เขาเดินไปที่หน้าจอและเริ่มเล่นวิดีโอที่เกือบทุกคนในที่นี้เคยดูมาแล้ว

 

คนเดียวที่ไม่เห็นมันคือลูซิเฟอร์ แต่เขาไม่จําเป็นต้องเห็นมันเพราะเป็นวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเขา

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เหลือบมองที่หน้าจอ ซึ่งกําลังฉายวิดีโอ เขากํามือแน่นโดยไม่รู้ตัว ขณะที่มันกระตุ้นให้เขาจําความทรงจําที่เลวร้ายบางอย่างได้

 

ลูซิเฟอร์กําลังดูตัวเองที่ถูกวางลงบนเตียงและทรมาน.. มันเป็นสิ่งที่ประทับอยู่ในความทรงจําของเขาแล้ว แต่ตอนนี้เขายังสามารถเห็นมันจากมุมมองของบุคคลที่ 3

 

เวก้าไม่ได้เล่นวิดีโอนั้นนาน เขาแสดงให้เขาเห็นเพียงแวบเดียวเท่านั้นก่อนที่เขาจะปิดหน้าจอ

 

“ฉันขอโทษที่แสดงสิ่งนี้ให้คุณเห็น แต่การกระทําของ APF เกี่ยวข้องกับวิดีโอนี้ เรามีวิดีโอนี้มานานแล้ว แต่เราเก็บเป็นความลับเพราะเราไม่ต้องการให้มันมาถึงความสนใจของรัฐบาล เพราะพวกเขาจะเปลี่ยนนักวิทยาศาสตร์คนนั้นไปยังที่ปลอดภัยกว่ามาก” เวก้ากล่าวทําลายความเงียบที่ตามมาหลังจากปิดหน้าจอ

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่า APF ได้แสดงวิดีโอนี้แก่รัฐบาลแล้ว หากพวกเขาไม่ทํา เราอาจทําตามแผนเดิมของเราเพราะเราจะมีเวลาเพียงพอ น่าเสียดายที่ APF เข้ามาแทรกแซง ดังนั้นตอนนี้ เราทําได้แค่ลงมือทําเร็วขึ้นก่อนที่จะสายเกินไป”

 

ลูซิเฟอร์ก้าวไปข้างหน้า เข้าไปใกล้เวก้า ขณะที่เขาถาม “แล้วแผนเดิมของคุณคืออะไร”

 

“แผนเดิมของเราคือฝึกคุณสักพัก คุณจะได้ประสบการณ์การต่อสู้และเข้าใจวิธีใช้พลังของคุณได้ดีขึ้น”

 

“ 2 วันถัดมาสงวนไว้สําหรับเรื่องนั้น ส่วนที่เหลือก็ง่ายๆ โจมตีสถานที่นั้นและให้คุณแก้แค้น” เวก้าตอบด้วยรอยยิ้มสบายๆ

 

“ตอนนี้เราต้องข้ามการฝึกไป ซึ่งผมไม่คิดว่าจะส่งผลอะไรกับคุณมากนัก เนื่องจาก APF ส่วนใหญ่จะถูกจัดการโดยเรา ส่วนคนในโรงงานนั้น คุณสามารถฆ่าแต่ละคนได้เป็นพันครั้งโดยไม่จําเป็น ไม่ว่าจะฝึกอะไรก็ตาม” เขาพูดต่อขณะเดินกลับไปที่ที่นั่ง หยิบแฟ้มที่วางอยู่ที่นั่น

 

เขาเปิดไฟล์เพื่อแสดงแผนที่ของเอลิเซียม

 

“นี่คือเอรีกัส สถานที่ที่คุณถูกจับโดย APF และนี่คือโรงงานนั้น ความจริงแล้ว คุณค่อนข้างห่างไกลจากสถานที่จริงเมื่อครั้งที่แล้ว” เขากล่าว พร้อมชี้นิ้วไปยังจุดต่างๆ บนแผนที่

 

“ฉันพร้อมแล้ว ไปกันเถอะ ฉันปล่อยให้พวกเขาหนีไปไม่ได้อีกแล้ว” ลูซิเฟอร์รับข้อเสนอโดยไม่มีคําถามใดๆ อีก

 

รอยยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเวก้า

 

ดูเหมือนว่าพวกเขาจะก้าวไปอีกขั้นในการเอื้อมมือไปหาลูซิเฟอร์ และถึงแม้จะช้า ความสัมพันธ์เล็กน้อยก็พัฒนาระหว่างคนทั้งสอง

 

หลังจากที่พวกเขาช่วยเขาก็จะเป็นตะปูตัวสุดท้ายในโลงศพ

 

“ดี เราจะไปใน 1 ชั่วโมง มาเถอะ ให้ฉันให้อุปกรณ์การต่อสู้ของคุณแก่คุณ”

 

เวก้าเริ่มเดินไปที่ประตู

 

คนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นตามเขาไปด้วย เสียงเก้าอี้เลื่อนดังข7hนทั่วทั้งห้องครู่หนึ่ง ซึ่งกลับมาเงียบอีกครั้งหลังจากที่ทุกคนออกจากห้องไป

 

พวกเขายังพาลูซิเฟอร์ไปด้วย ซึ่งกําลังสงสัยว่าอุปกรณ์ต่อสู้นี้คืออะไร

 

ขณะที่ทุกคนเดินผ่านทางเดินยาว อิโซน่าก็ค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้ ลูซิเฟอร์

 

เมื่อมองดูเธอเข้าใกล้ ลูซิเฟอร์ก็เริ่มก้าวออกห่างจากgธอมากขึ้น ความใกล้ชิดมากเกินไปเป็นสิ่งที่เขาไม่ต้องการ

 

“น้องชายคนเล็ก เธอยังคงกังวลว่าฉันจะกินเธอจนหมดอยู่สินะ เธอขยับตัวออกไปทําไม ปฏิบัติกับฉันเหมือนครอบครัวด้วยสิ” อิโซน่าบอกลูซิเฟอร์ ขณะที่ยิ้มอย่างซุกซน

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันคิดว่าเธอคงสงสัยเกี่ยวกับอุปกรณ์ต่อสู้นี้ใช่ไหม” เธอถาม พยายามชวนเขาคุย

 

ลูซิเฟอร์เหลือบมองไปทางอิโซน่า เธอพูดถูก. เขาเพียงพยักหน้าเป็นคําตอบสําหรับคําถามของเธอ

 

ตอนที่ 117: ให้พวกเขาพูดกับฉัน

 

“ฉันไม่คิดว่าคุณอยู่ที่นั่นและจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ฉันคิดว่าเราไม่ยุติธรรมกับแซนเดอร์ณตอนนี้” ไอย์พูดแทรก

 

ผมสีเงินของเธอผสมกับดวงตาสีน้ําตาลแดงของเธอทําให้เธอดูอบอุ่นซึ่งขัดกับความสามารถของเธอที่เย็นชาที่สุดเท่าที่จะทําได้เธอดูเหมือนเจ้าหญิงน้ําแข็งในชุดกระโปรงสีดําที่ไม่มีไหล่ซึ่งค้ํายันด้วยเสื้อคลุมสีเงิน

 

“เป็นอย่างนั้นได้อย่างไร” วารันท์ถามโดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่หัวหน้าหน่วยเบต้า

 

“ก่อนที่พวกเขาจะพบกับลูกชายของเซล แซนเดอร์อยู่กับทีมของเขาแต่เนื่องจากมอนสเตอร์ที่หลุดจากดันเจี้ยนได้โจมตีอิเครโก้ฉันจึงบังคับให้เขาไปที่นั่นเพื่อปกป้องมนุษย์นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่ได้อยู่ที่นั่นกับทีมของเขาเมื่อพวกเขาต่อสู้ลูกชายของเซล ถ้าเขาอยู่ที่นั่น เราต่างก็รู้ดีว่าจะไม่มีใครถูกฆ่าตาย” ไอย์กล่าวปกป้องแซนเดอร์

 

“เขาเป็นวอร์ล็อคที่รู้ว่าต้องทําอย่างไร หากจําเป็น ฉันไม่คิดว่าเขาจะก้าวถอยหลังแม้ว่าจะมีความจําเป็นที่ต้องฆ่าเด็กเหตุผลเดียวที่ทีมของเขาแพ้ก็เพราะฉันและเพื่อช่วยมนุษย์ถ้าฉันอยู่ที่นั่นฉันจะไปช่วยมนุษย์ด้วย คุณคงจะทําเช่นเดีย วกัน เป็นไปได้มากที่สุด การตําหนิเขาถือเป็นความผิด ฉัน เข้าไปยุ่งในภารกิจของเขานั่นเป็นความผิดของฉันส่วนหนึ่ง”

 

ไอย์เริ่มสนับสนุนแซนเดอร์จริงๆ เพราะเธอเชื่อว่าเป็นความผิดของเธอถ้าเธอไม่บังคับให้เขาไป เขาก็คงไม่เสียคนไปครึ่งทีม

 

ตลอดการสนทนานี้ แซนเดอร์ไม่ได้พูด

 

“เฮ้อ พวกคุณนี่มันจริงๆเลย. ได้ ฉันจะมองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นไปครั้งหนึ่ง”

 

เมื่อได้ยินไอย์สนับสนุนแซนเดอร์ วารันท์ ก็ไม่โทษเขา มากเกินไปเพราะเป็นความจริงที่ว่าแผนของเขาได้รับผลกระทบเพราะมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน

 

“เอาล่ะ บอกฉันเกี่ยวกับลูซิเฟอร์นี้ นายรู้อะไรไหม” วาร นท์ถามแซนเดอร์ด้วยอุบาย

แซนเดอร์หยิบโทรศัพท์ออกมา เมื่อปลดล็อกแล้ว เขาเริ่มเล่นวิดีโอก่อนวางโทรศัพท์ต่อหน้าวารันท์

 

วารันท์จ้องไปที่วิดีโอด้วยความสงสัย

 

เป็นวิดีโอที่แสดงภาพเด็กหนุ่มถูกทรมานจนถูกจัดการและตายลง

 

“เด็กชายในวิดีโอคือลูกชายของ เซล แอซเรล ฮีโร่ของมนุษยชาติอย่างที่คนส่วนใหญ่รู้จักเขา ฉันแน่ใจว่าเมื่อดู วิดีโอนั้นแล้วเดาได้ไม่ยากว่าทําไมเด็กคนนั้นถึงเกลียดมนุษย์ และทําไมเขาถึงได้บิดเบี้ยวมากขนาดนี้”

 

“พวกเขาทําการทดลองอันเจ็บปวดกับเด็กคนนั้น ซึ่งสิ่งนั้นฆ่าเขา เด็กชายคนนั้นฟื้นคืนชีพขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ และฉันเชื่อว่าเขาเป็นแบบนั้นเพราะนักวิทยาศาสตร์ที่ทรมานเขาฉันวางกับดักเพื่อจับเขาโดยไม่ทําร้ายเขา ซึ่งรู้ ไหม มันล้มเหลว”

 

” หลังจากนั้นเด็กก็หายตัวไปพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ของ เราลําหนึ่งดังนั้นเขาจึงบังคับให้นักบินพาเขาไปที่ใดที่หนึ่ง แล้วปิดการติดตามหรือไม่ก็แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่ นํามือออกจากเงามืดเพื่อกลืนเด็กคนนั้นเข้าไปแล้ว” แซนเดอร์กล่า

 

“เกิดการจลาจลแบบต่างๆ เหรอ เรื่องนี้ซับซ้อนมาก แต่สิ่งที่คนพวกนี้ทําก็กลับบิดเบือน ไม่ว่าฉันจะเกลียดเซล มากแค่ไหนแต่การที่ปฏิบัติกับลูกชายของเขาแบบนั้น ตอนที่ เขาไร้เดียงสานี่มันน่ารําคาญใจที่สุด” วารันท์ บ่น พลาง มองไปที่วิดีโอ

 

“ตกลง ฉันจะจัดการเรื่องนี้ ส่งวิดีโอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และบอกพวกเขาว่าฉันต้องการดําเนินการกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง” เขากล่าวเพิ่มเติม

 

“แต่วิดีโอนี้ ไม่ได้มาจากแหล่งที่ชอบธรรม” ไอย์พูดพร้อมกับยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

 

“คุณหมายความว่าอย่างไร คุณได้มันมาจากไหน?” วารันท์ถามพวกเขาด้วยความสงสัยจ้องมองไปมาระหว่างแซนเดอร์กับไอย์

 

“เราแฮกฐานข้อมูลของพวกเขา เราจะมีส่วนเกี่ยวข้องและอาจต้องเผชิญกับผลที่ตามมา เมื่อแหล่งที่มาของคลิปนี้ ได้รับการตรวจสอบเพิ่มเติมเนื่องจากพวกเขาจะรู้ว่าเรา แฮ็คฐานข้อมูลของรัฐบาล” แซนเดอร์กล่าวพร้อมแสดงค วามกังวลเล็กน้อยที่เขามีตั้งแต่ความจริงก็ออกมาแล้ว 

 

“ไม่เป็นไร ถ้าพวกเราแอ็คพวกเขาจะทําอะไรได้ปล่อยให้พวกเขามาคุยกับฉันถ้ามีปัญหา ฉันจะจัดการทุกอย่างให้หมอคนนั้นทําการทดลองในนามนักวิทยาศาสตร์” วารันท์พูดอย่างเฉยเมย.

 

“ พรุ่งนี้เราจะไปที่โรงงานนั้นด้วย เนื่องจากเด็กพยายา มจะพุ่งเป้าไปที่มันไม่สําคัญว่าใครจะช่วยเขา เมื่อเขาไปก็ที่นั่น เราจะอยู่ที่นั่นเพื่อรอเขา” เขากล่าวเพิ่มเติมโดยให้ แผนสั้นๆ

 

“เข้าใจแล้ว”

 

ค่ําคืนมาถึง คืนนี้ช่างเงียบสงบ สําหรับคนส่วนใหญ่แต่ช่องข่าวก็คึกคักตลอดทั้งวันทั้งคืนครอบคลุมข่าว

 

ข่าวความล้มเหลวขององค์กรฉันเตอร์ การโจมตีพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน มีผู้บริสุทธิ์ที่มีความสําคัญมากกว่าข่าวใดๆข่าวของแวเรียนท์ที่ไม่ทราบชื่อ ที่กวาดล้างกิลด์อินทรีย์แดงไปครึ่งหนึ่งกําลังจมอยู่ในข่าวใหญ่เกี่ยวกับกิลด์ฮันเตอร์ โดยมีเพียงไม่กี่คนที่กล่าวถึงมัน

ตลอดทั้งคืน ลูซิเฟอร์ไม่ได้นอน เขานอนไม่หลับ ความคิดที่หนักใจของเขาทําให้เขาตื่นตัวตั้งแต่เขาอยู่ในที่ใหม่ เขา เพียงได้พักผ่อนหลังจากหลับตาเพียงงีบหลับสั้นๆ จิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับความคิดตลอดเวลา

 

เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าค่ําคืนนั้นได้ผ่านไปแล้วพร้อมกับวันใหม่มาถึง

 

ความเงียบของสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นและหนาวเย็นถูกรบกวนด้วยเสียงเคาะที่ประตู

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆลืมตาขึ้น ขณะที่เขาลากตัวเองขึ้นอย่างเกียจคร้านเขาเลื่อนรองเท้าไปข้างเตียงก่อนจะเดินตามไปที่ ประตู

 

เขาไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จะถูกทําลายหรือควบคุมระยะเวลาของการสัมผัสด้วยถุงมือของเขา เขาบิดลู กบิดเพื่อเปิดมัน

 

“อรุณสวัสดิ์ ขอโทษที่รบกวนคุณแต่เช้า แต่พวกผู้ใหญ่เรียกคุณขึ้นไปชั้นบนฉันคิดว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น”

 

เดรโกยืนอยู่นอกประตูบอกลูซิเฟอร์ถึงจุดประสงค์ที่เขาจะมาที่นี่

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้าอย่างใจเย็นก้าวออกจากประตูและเดิน ตามหลังเดรโกซึ่งพาเขาขึ้นไปชั้นบน

 

เดรโกกดนิ้วลงบนเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ หลังจากนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออกสิ่งนี้ทําให้ลูซิเฟอร์รู้ว่าเหตุใดเขาจึงไม่สามา รถเปิดลิฟต์ได้

่ ่

เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองที่มือ ซึ่งสวมถุงมือสีดําไว้ การสั่นศีรษะเล็กน้อยก็เพียงพอที่จะแสดงว่าเขาตระหนักว่าเขาไม่มีวันทําอย่างนั้นได้แม้ว่าเขาจะถามคนเหล่านี้ก็ตาม 

 

“เข้ามาสิ” เดรโกบอกลูซิเฟอร์ ซึ่งยังคงยืนอยู่นอกลิฟต์และจ้องไปที่มือของเขา

 

วอร์ล็อคหนุ่มก้าวเข้าไปในลิฟต์เช่นกันโดยปล่อยให้ประตูปิดลง, ลิฟต์เริ่มขึ้นไปหยุดบนพื้นที่ไม่รู้จัก

 

ตอนที่ 116: แซนเดอร์วุ่นวาย

 

“พ่อของฉันผิดเหรอ” คําถามของลูซิเฟอร์กลายเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่เดรโกจะตอบออกมาได้

 

เขารู้ว่าเขาต้องโกหก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องบอกเป็นนัยว่าการช่วยเหลือมนุษย์นั้นไม่เป็นไรใช่หรือไม่ นั่นก็ผิดเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาต้องการให้ลูซิเฟอร์ต่อต้านมนุษย์

 

“ฉันไม่คิดว่าเขาทําผิด พ่อของคุณไม่เคยต่อสู้กับ แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่นี้เพื่อมนุษย์ เขาช่วยคนเหล่านั้นจากสัตว์ป่าและภัยพิบัติเท่านั้น” เดรโกตอบพลางโกหกเล็กน้อย 

 

ไม่เป็นความจริงเลยที่พวกเขาไม่เคยต่อสู้กับเซล แอซเรลมาก่อน พวกเขาปะทะกับเขาเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่จะเอาชนะเขาได้

 

แต่เขาไม่สามารถบอกลูซิเฟอร์เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เขาต้องทําให้เขาเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนดี ที่แม้แต่พ่อของลูซิเฟอร์ก็ไม่เคยพยายามต่อต้าน

 

“พ่อของคุณปกป้องพวกเขาเท่านั้น บางทีอาจเป็นเพราะเขามีความเชื่อว่ามนุษยชาติจะดีขึ้น และเขาก็ไม่ผิดศรัทธาก็มีความสําคัญเช่นกัน”

 

“น่าเสียดายที่แม้หลังจากที่เขาเสียสละเพื่อพวกคนเหล่านั้น มนุษยชาติก็ทําร้ายลูกชายของเขาแทน ดังนั้นไม่ใช่ว่าพ่อของคุณผิด แต่เป็นที่มนุษย์นั้นต่างหากที่ผิดทั้งหมด พวกเขาไม่สมควรได้รับสภาพที่เป็นอยู่ พวกเขาใช้มันในทางที่ผิดเสมอ เป็นเวลาสําหรับความสมดุลของโลกที่จะเปลี่ยน” เขากล่าวอย่างเต็มที่ราวกับว่าเขากําลังพูดจากใจของเขา 

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบแต่เน้นไปที่การกิน

 

เมื่อเขากินเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นยืน

 

“คุณฟังดูคล้ายกับคนที่ฉันเคยพบมาก่อนมาก เขายังบอกฉันด้วยว่าทําไมมนุษย์ถึงสามารถปกครองได้ มีเพียงแนวทางเท่านั้นที่แตกต่างกัน เขาบอกว่าเป็นเพราะสมองของพวกเขา พวกเขาไม่ได้ใช้กําลังมากเท่ากับสมองของพวกเขา คุณยังพูดในสิ่งเดียวกันแต่แตกต่างออกไป” ลูซิเฟอร์บอกเดรโกพลางเห็นด้วยกับเขา

 

“ใช่แล้ว พวกเขามีความคิดที่เฉียบแหลม นั่นเป็นสาเหตุที่เราไม่โจมตีโดยสุ่มสี่สุ่มห้าโดยไม่มีแผน แม้ว่าจะมีความแข็งแกร่งมาก” เดรโกตอบ

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์ไม่ได้พูดอะไร แต่เมื่อได้ยินคําพูดเหล่านั้นก็อธิบายว่าทําไมคนเหล่านี้จึงต้องการช่วยลูซิเฟอร์ในแผน แต่เขายังต้องฟังคนเหล่านี้ก่อน

 

หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ เขาเดินกลับไปที่ห้องโดยทิ้งผู้ชายคนนั้นไว้ข้างหลัง

 

“บอกฉันถ้าคุณต้องการอะไร ฉันจะอยู่ที่นี่” เดรโกเรียกก่อนจะเข้าไปในห้องของเขาซึ่งอยู่ใกล้ ๆ นี้เป็นงานของเขา

 

มีกล้องอยู่ที่โถงทางเดิน ซึ่งมีฟิดอยู่ในแล็ปท็อปของเขา เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูซิเฟอร์ก้าวออกมา เขาจะรู้ว่าเพราะงานทั้งหมดของเขาคือการเฝ้าติดตามและเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของลูซิเฟอร์

 

“แล้วแซนเดอร์… คุณมีอะไรจะบอกตัวเองไหม”

 

ภายในอาคารที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา กําลังมีการประชุม ซึ่งมีผู้นํา APF 3 คนเข้าร่วม

 

แซนเดอร์, ไอย์ และ วารันท์ เป็นเพียง 3 คนในการประชุมครั้งนี้

 

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าไม่ใช่การประชุมแต่น่าจะเป็นการสอบสวนมากกว่า เนื่องจากแซนเดอร์เป็นเพียงคนเดียวที่ตอบคําถามของวารันท์

 

“ทีมของคุณ… ล้มเหลวในการควบคุมเด็กนั่น! ไม่เพียงแค่นั้น แต่ครึ่งหนึ่งเสียชีวิต นอกจากนี้ คุณใช้ทรัพยากรของเรามากมายโดยไม่ปรึกษาฉัน คุณจะให้เหตุผลกับตัวเองอย่างไร ฉันต้องการคําอธิบายที่สมเหตุสมผลสําหรับเรื่องนี้!”

 

วารันท์เป็นคนที่อยู่ในจุดสูงสุดของ APF เขาไม่เพียงแต่เป็นหัวหน้าหน่วยอัลฟาเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวหน้า APF ทั้งหมดด้วย นอกจากนั้นเขายังเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดในขณะนี้

 

เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ว่ากันว่ามีราชาเวททั้ง 4 คนของประเทศนี้

 

เซล แอซเรลแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาราชาวอร์ล็อค ทั้งสี่วารันท์ ซึ่งเป็นผู้นําของทีม APP อัลฟา เซอีส ผู้นําฮันเตอร์และสุดท้าย ไรอา ผู้นําการป้องกันการก่อจลาจล

 

ไม่มีการจัดอันดับอย่างเป็นทางการ แต่ทุกคนรู้ว่าเซล แอซเรล นั้นแข็งแกร่งที่สุด สําหรับอีก 3 คนที่เหลือ พวกเขาได้รับการกล่าวขานว่าเกือบจะเทียบเท่ากัน เมื่อพูดถึงพลังและความสามารถของพวกเขา

 

แม้ว่าวอร์ล็อคเซล แอซเรลจะหายไปแล้ว แต่ตําแหน่งของราชาวอล็อคทั้ง 4 คนยังคงอยู่ และมีสามาชิกใหม่เพิ่มเข้ามานั่นคือ ซัลลาซา ลูเซีย

เขาเพิ่งเติบโตขึ้นมา 1 ปี หลังจากการหายตัวไปของเซล แอซเรล แต่ในตอนนี้เขาถือว่าเทียบเท่ากับ วารันท์, เซอีส และ ไรอา แล้ว

 

ความแข็งแกร่งของเขาได้รับการกล่าวขานว่าแข็งแกร่งมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์กรใดๆก็ตาม

 

แม้จะมีข้อเสนอที่ดึงดูดใจจากทั้ง 3 ฝ่าย แต่เขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับพวกเขา ในแผนกนั้น เขาก็เหมือนกับ เซล แอซเรล ที่ไม่เกี่ยวข้องด้วยกับองค์กรต่างๆ

 

หลายคนเห็นความคล้ายคลึงกันระหว่างอารมณ์ของซัลลาซาและเซล มีคนกล่าวไว้ว่าซัลลาซาเป็นแฟนคลับตัวยงของ เซล และนั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลือกที่จะไม่ผูกพันเหมือนไอดอลของเขา ไม่ว่าในกรณีใด ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังการตัดสินใจของเขา

 

สิ่งเดียวที่แน่นอนก็คือประเทศนี้ยังคงมีราชาวอล็อคทั้ง 4 และ วารันท์ ก็เป็นหนึ่งในนั้นและอาจเป็นคนที่มีพลังพิเศษเฉพาะตัวที่สุดที่สามารถทําให้วอร์ล็อคใด ๆ ไร้ประโยชน์ในการต่อสู้ตราบเท่าที่ตรงตามเงื่อนไขบางประการ

 

แม้จะมีชื่อและบุคลิกของเขาก็ตาม ใครก็ตามที่พบเขายังคงสงสัยว่าเขาคือ วารันท์ จริงๆไหม เพราะการแต่งกายของเขา

 

วารันท์มักจะสวมสูทราวกับว่าเขาเป็นหัวหน้าขององค์กรวิชาชีพบางแห่ง เขาไม่ลืมผูกเนคไทด้วย ผมและดวงตาสีเข้มของเขาเข้ากับรูปลักษณ์ของ CEO ทําให้เขาดูเหมือนคนเย็นชา

 

คนส่วนใหญ่จะถูกข่มขู่เมื่อถูกสอบสวนโดยเขา แต่แซนเดอร์สงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ มันไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะความสามารถของเขาหรือเพราะว่าเขาสงบกว่าวารันท์ เพราะพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเดียวกัน

 

“ถูกต้อง ฉันใช้ทรัพยากรของสถานที่ของเราแทนการบอกคุณโดยตรง และนั่นเป็นเพราะฉันอยากช่วยลูกชายของเซล ฉันไม่ต้องการให้เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์หรือถูกฆ่าซึ่งอาจจะเกิดขึ้น ถ้าคุณได้เกี่ยวข้องด้วย” แซนเดอร์ตอบโดยให้เหตุผลกับการตัดสินใจของเขา

 

“มันจะเป็นเช่นนั้น แต่นั่นก็หมายความว่าเราจะไม่สูญเสียคนของเราไปมากมายขนาดนี้” วารันท์กล่าว พลางจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาของแซนเดอร์ ราวกับว่ากําลังพยายามดูว่าชายผู้นี้มีความสํานึกผิดแม้เพียงเล็กน้อยหรือไม่

 

 

ตอนที่ 115: เขาผิดหรือเปล่า

 

ลูซิเฟอร์เข้าไปในทางเดิน ออกจากห้องไปมองหาใครสักคน

 

สถานที่ทั้งหมดดูน่าสยดสยองเพราะไม่มีใครอยู่ในสายตา เขาเริ่มเดินไปที่ลิฟต์จากจุดที่เขาออกมาพร้อมกับเคน

 

ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน อย่างน้อยตอนนี้เขามีเสื้อผ้าที่เหมาะสมที่คนส่งมาให้ น่าเสียดายที่ลูซิเฟอร์พลาดโอกาสที่จะขออาหาร เมื่อชายคนนั้นอยู่ที่นี่ตอนนี้

 

คนระดับบนกําลังยุ่งอยู่กับการประชุม โดยไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์ออกจากห้องของเขาแล้ว

 

เมื่อไปถึงลิฟต์ ลูซิเฟอร์ก็กดปุ่มเดียวที่อยู่ตรงนั้น แต่ลิฟต์ไม่เปิด เขาลืมไปว่ามีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออยู่ใกล้ ๆ ที่สแกนลายนิ้วมือ เฉพาะรุ่นต่างๆ ขององค์กรนี้เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ลิฟต์

 

ข้อมูลของ ลูซิเฟอร์ ยังไม่อยู่ในระบบดังนั้นลายนิ้วมือ ของเขาจึงไม่ทํางาน และถึงแม้ว่ามันจะใช้ได้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้โดยเนื้อแท้สําหรับเขาที่จะใช้สิ่งนี้ นิ้วของเขาจะทําให้ที่แสกนนิ้วมือผุตามที่เขาได้สัมผัส ดังนั้นการสแกนลายนิ้วมือของเขาจึงเป็นไปไม่ได้

 

เขาพยายามทําให้ลิฟต์ทํางานแต่ล้มเหลว โชคดีที่เขาจําลายนิ้วมือนั้นไม่ได้ หรือเขาอาจทําลายเซ็นเซอร์นั้น ทําให้ไม่มีใครใช้ลายนิ้วมือนั้นได้

 

ขณะที่เขารู้สึกหงุดหงิดกับลิฟต์นี้ เขาก็ได้ยินเสียง

 

ติ้ง

 

ประตูลิฟต์เปิดออกด้วยเสียงแผ่วเบา

 

แต่มันไม่เปิดเพราะเขา มันเปิดออกเพราะมีคนมาจากข้างบนโดยใช้ลิฟต์ตัวนั้น

 

ลูซิเฟอร์เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ในลิฟต์ ถือถาดที่มีถุงมืออยู่

 

หญิงสาวสองคนข้างหลังเขากําลังถืออาหารอยู่

 

“ท่านลูซิเฟอร์ ท่านมาทําอะไรที่นี่ ท่านรอเราอยู่หรือ?” ชายหนุ่มถาม

 

ใบหน้าของชายผู้นี้แสดงท่าทีที่น่านับถืออย่างยิ่ง ขณะที่พูดคุยกับลูซิเฟอร์ ทําให้ดูเหมือนลูซิเฟอร์เป็นรุ่นพี่

 

นั่นคือสิ่งที่คนเบื้องบนบอกให้ทํา

 

“เราขออภัยในความล่าช้า การหาถุงมือและการเตรียมอาหารต้องใช้เวลา เรามาทันที่ที่ทําอาหารเสร็จ” เขากล่าวเสริม

 

เมื่อมองไปที่ถุงมือ ลูซิเฟอร์ก็รู้สึกประหลาดใจ ถุงมือเหล่านี้เหมือนกับถุงมือที่เป็นของแม่ของเขา แม้แต่สี่ก็เหมือนกัน

 

“เอานั่นมา” เขาพูดขณะยกมือขึ้นช้าๆ ซึ่งดูไม่เหมือนมือของนักรบที่สามารถทุบกําแพงทั้งหมดได้ด้วยหมัดของเขา

 

ในทางกลับกัน ใครก็ตามที่เห็นมือของเขาจะถือว่าเขา เป็นเด็กผู้ชายที่ไม่เคยทํางานหนักเลยแม้แต่วันเดียวในชีวิต และใช้ชีวิตแบบเจ้าชายเท่านั้น

 

“ได้ครับ”

 

ชายหนุ่มหยิบถุงมือขึ้นมาแล้ววางไว้ในมือของลูซิเฟอร์

 

“ผู้อาวุโสกล่าวว่าถุงมือเหล่านี้หายากมาก และเรามีคู่นี้เพียงคู่เดียว ดังนั้นพวกเขาจึงขอให้ฉันบอกให้คุณเก็บมันไว้อย่างปลอดภัย ในระหว่างนี้พวกเขาจะพยายามค้นหา สิ่งเหล่านี้ให้มากขึ้น”

 

ชายหนุ่มแสดงข้อความของผู้ที่อยู่ในระดับสูงถึงลูซิเฟอร์ ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนหัวข้อ โดยไม่ให้โอกาสลูซิเฟอร์คิด 

 

“คุณต้องการให้เราวางอาหารไว้ที่ไหน โรงอาหารหรือห้องของคุณ”

 

สาวๆ ออกจากห้องพร้อมกับอาหาร รวมทั้งถามลูซิเฟอร์ว่าอยากกินที่ไหน

 

เมื่อได้ยินคําถามของพวกเขา ลูซิเฟอร์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ในสวน เอาไปที่นั่น”

 

พูดจบเขาก็หันหลังเดินไปที่สวน

 

‘ฮะ? เขาต้องการปิกนิกหรือไม่? กินในสวนแทนกินในโรงอาหารแบบอารยะงั้นเหรอ? ยังไงฉันก็ไม่ต้องสนใจหรอก’ ชายหนุ่มคิดขณะเดินตามพวกสาวๆ

 

หลังจากวางอาหารและน้ําไว้ในสวนแล้ว พวกผู้หญิงก็จากไป

 

ชายหนุ่มยังคงถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

 

“คุณไม่ไปเหรอ” ลูซิเฟอร์ถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ขณะสวมถุงมือใหม่และนั่งลงบนพื้นหน้าอาหาร

 

“ฉันถูกสั่งให้อยู่บนชั้นนี้ เพื่อจะได้ช่วยทุกอย่างที่คุณต้องการ ห้องที่อยู่ข้างๆ คุณก็เป็นของฉันแล้ว” ชายหนุ่มตอบ

 

“คุณชื่ออะไร?” ลูซิเฟอร์ถามขณะเริ่มกิน

 

“ฉันเป็นที่รู้จักในนามเดรโก” ชายหนุ่มผมเขียวตอบด้วยความเคารพ

 

“งั้นเดรโกบอกฉันอย่างหนึ่งสิ คนเหล่านั้นบอกอะไรเกี่ยวกับฉันบ้าง ฉันสงสัย”

 

“เกี่ยวกับคุณ? ไม่มากหรอก เราได้รับแจ้งเกี่ยวกับต้นกําเนิดที่มาของคุณและคุณเป็นลูกชายของวอร์ล็อกที่เก่งที่สุด เซลแอชเรล เรายังรู้ด้วยว่ามนุษย์ที่ทรยศหักหลัง คุณและทรมานคุณอย่างไร คนเหล่านั้นเป็นขยะของโลกนี้จริงๆ นั่นคือเหตุผลที่ฉันดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแวเรียนท์ ที่เกิดขึ้นใหม่”

 

“โอ้? และทําไมคุณถึงดีใจกับเรื่องนี้?” ลูซิเฟอร์ถามทั้งๆ ที่ยังไม่หยุดกิน

 

“เพราะเป้าหมายของเรา! แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่นี้ ต้องการความเป็นอยู่ที่ดีของ แวเรียนท์ ทั้งหมด เราต้องการความปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองของ แวเรียนท์ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ตราบเท่าที่มนุษย์ปกครอง”

 

“ทําไมจะเป็นไปไม่ได้? แวเรียนท์ไม่แข็งแกร่งหรือ แล้วทําไมมนุษย์ถึงได้ปกครองโลกนี้ล่ะ? คุณไม่สามารถทําลายพวกเขาทั้งหมดได้งั้นหรือ”

 

“เราทําได้ แต่ปัญหาคือมนุษย์ไม่ค่อยจะซื่อสัตย์ พวกเขาแสร้งทําเป็นอ่อนแอเพื่อให้แวเรียนท์ที่เป็นกลางสงสารพวกเขา พวกเขาใช้แวเรียนท์เหล่านั้นเพื่อรักษาความปลอดภัย และในนามของความสมดุลของโลกนี้ พวกเขาได้ปกครองทุกอย่างกับรัฐบาลของตน”

 

“และที่แย่ที่สุดคือ แวเรียนท์ บางตัวก็ช่วยพวกเขาในเรื่องนี้ เช่นเดียวกับไอ้เลวที่ APF ถ้าพวกเขาไม่อยู่ที่นั่น แวเรียนท์ จะถูกปกครองโดยมนุษย์แบบนี้หรอ และมันก็คงไม่มีมนุษย์ที่น่ารําคาญคนไหนกล้าทําร้ายคุณหรอก”

 

“ไม่มีมนุษย์ที่น่ารําคาญคนไหนกล้าทําร้ายฉันฮะ…”

 

เมื่อการสนทนามาถึงที่นี่ ลูซิเฟอร์พบความจริงบางประการสําหรับคําเหล่านี้

 

“เอาล่ะ บอกฉันอีกอย่างหนึ่งว่า พ่อของฉันผิดหรือเปล่าที่ช่วยเหลือมนุษย์?” ลูซิเฟอร์ถามด้วยความสงสัย 

 

นั่นเป็นคําถามยากที่เดรโกไม่รู้ว่าจะรับมืออย่างไร เขาได้รับแจ้งว่าลูซิเฟอร์รักครอบครัวของเขาจะเกิดอะไรขึ้นถ้า เขากล่าวหาว่าพ่อของเขาผิด? เขาไม่อยากเห็นสิ่งนั้น ทั้งที่เชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริงที่เซล แอซเรล คิดผิดในการช่วยเหลือ มนุษย์ แต่เขารู้สึกว่าไม่ควรพูดออกมาดังๆ

 

“เกิดอะไรขึ้น บอกฉันที่…พ่อของฉันผิดหรือเปล่าที่ช่วยเหลือมนุษย์?” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

 

ตอนที่ 114: การจัดการกับควาทรงจํา

 

เคนเข้ามาในห้องที่ดูเหมือนจะมีการประชุมระหว่างเวก้า อิโซน่า และดิออน แต่ละคนนั่งรอบโต๊ะไม่พูดคุยกัน ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังรอใครสักคนอยู่ที่นี่

 

“ในที่สุด ฉันทํางานพี่เลี้ยงเด็กเสร็จแล้ว เฮ้อ ทําไมฉันถึงติดอยู่กับมัน รู้ไหมว่าการเข้าสังคมมันยากแค่ไหน” เคนบ่นในขณะที่เขาหยิบเก้าอี้ตัวหนึ่งขึ้นมานั่ง

 

“ไม่ใช่เพราะคุณบังเอิญโชคดีและได้รับมอบหมายให้อยู่ในที่ที่เขาปรากฏตัวใช่หรือไม่” อิโซน่าได้ตอบกลับ

 

“ในทางกลับกัน เราสะกดรอยตามสถานที่นั้น มันน่าเบื่อมาก รู้ไหมว่าที่นั้นแย่แค่ไหน อย่างน้อยคุณก็ลงมือบ้าง ในทางกลับกัน พวกเราเบื่อแทบตาย” เธอกล่าวเสริม ขณะที่ เธอเริ่มหัวเราะ

 

“สรุปว่าโชคไม่ดีของผม” เคนสรุป ในขณะที่ถอนหายใจ

 

“นั่นไง เขาเป็นอย่างไรบ้าง ฉันได้ยินมาว่านายทะเลาะกับ APE?” เวก้าพูดแทรก เปลี่ยนหัวข้อได้อย่างง่ายดาย “พลังการต่อสู้ของเขาเป็นอย่างไร?”

 

“พลังการต่อสู้ของเขา? ในเรื่องนี้ ฉันสามารถพูดได้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น เขาเป็นเครื่องจักรสงครามแบบเบ็ดเสร็จ และในบางครั้งความคิดของเขาก็ค่อนข้างดี” เคนต อบ “แต่ในด้านบุคลิกภาพเขาค่อนข้างแย่ เขาเป็นคนที่น่าสงสัยมาก”

 

“ฉันแน่ใจว่าเขาจะทําตามสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับเขา นั่นคือเหตุผลที่เราต้องเอาชนะความภักดีของเขาก่อน ด้วยการช่วยเหลือเขา” เวก้ากล่าวพร้อมเห็นด้วยกับคําพูดของเคน

 

“เราต้องไปไกลขนาดนั้นเพื่อเขาจริง ๆ เหรอ ฉันรู้ว่าเขามีค่า แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่แล้ว ทําไมไม่ให้ไรอาเข้าไปยุ่งกับความทรงจําของเขาล่ะ ทําให้เขาเป็นหุ่นเชิดของเรา เรา ไม่ต้องทํางานหนักอีกต่อไปแล้ว ” ดิออนแทรกแซงความคิดของเขา เขาพบว่าความพยายามทั้งหมดนี้เป็นการสิ้นเปลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขามีทางเลือกที่ดีกว่า

 

“ถูกต้อง บอสไรอาสามารถเปลี่ยนความทรงจําของเขาเพื่อให้เขาภักดีต่อเราได้ นั่นเป็นทางเลือกที่เร็วกว่ามาก เมื่อพิจารณาทุกอย่างแล้ว” เคนเห็นด้วย

 

“ไม่”

 

คนแรกที่ปฏิเสธไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอิโซน่า

 

“ทําไมบอกว่าไม่ล่ะ” ดิออนถามด้วยความสงสัย “เธอไม่เชื่อว่านั่นเป็นความคิดที่ดีกว่าเหรอ?”

 

“ไม่ใช่ เพราะไม่ใช่แค่ตัวเลือกที่ง่ายกว่า แต่ยังเป็นตัวเลือกที่แย่ที่สุดใน 2 ตัวเลือกด้วย” อิโซน่าตอบ

 

เวก้าเงียบในเรื่องนี้ เพียงมองไปยัง อิโซน่า ด้วยท่าทาง ขบขัน สงสัยว่าเธอจะพูดอะไร แต่ดูเหมือนว่าเขาเองก็คงจะรู้สึกขัดกับคําแนะนํานั้นที่ต้องใช้ไรอา โดยใช้พลังของการจัดการความทรงจํา

 

“เอาล่ะ ให้ฉันอธิบายให้ง่ายหน่อย ไรอาใช้พลังของเขา และยุ่งกับความทรงจําของลูซิเฟอร์ เธอคิดว่ามันจะคงอยู่นานแค่ไหน” อิโซน่าถาม

 

เมื่อเธอตอบ เวก้าก็ยิ้มออกมา ในขณะที่เขาพยักหน้า ดูเหมือนว่า อิโซน่า จะเข้าใจว่าทําไมพวกเขาไม่ใช้วิธีนั้นตั้งแต่เริ่มต้น

 

“ลูซิเฟอร์มีพลังการรักษาที่แปลกประหลาด เราไม่รู้ว่ามันใช้ได้เฉพาะกับร่างกายหรือสมองของเขาด้วยหรือไม่ แม้ว่าไรอาจะเข้าไปยุ่งกับความทรงจําของเด็กๆ พวกนายจะแน่ ใจได้อย่างไรว่าความทรงจําเก่าๆ ของเขาจะไม่กลับมาเพราะ การรักษานั้น และนั่นมันเสี่ยงมาก ถ้าเราลองและถ้าเราล้มเหลวเราจะทําให้ ลูซิเฟอร์ หมดความไว้วางใจในเรา เขาจะกลายเป็นศัตรูของเราด้วย” อิโซน่าอธิบาย

 

เธอพูดต่อโดยไม่หยุด “แล้วทางเลือกไหนดีกว่ากันเสียง และทําให้เด็กเป็นศัตรูของเราหรือแค่ช่วยเขาทําลายโรงงานของมนุษย์เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจจากเขา”

 

“จริงสิ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย นั่นคือปัญหาสินะ” ดิออนเห็นด้วย ขณะที่เข้าใจสิ่งที่เธอพยายามจะพูด

 

ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เวก้าเริ่มพูด

 

“ถูกต้อง ฉันกับไรอา ได้พูดคุยเกี่ยวกับแผนนี้แล้ว และ ท้ายที่สุดก็ตกลงกันว่าแผนนี้ไม่ดี” เวก้ากล่าว “นอกจากนี้ สิ่งที่อิโซน่า พูดเป็นเพียงเหตุผลเดียวที่จะไม่ทํามันยังมี เหตุผลอีกมาก”

 

“อะไรอีกล่ะ” ดิออนถามด้วยความสงสัย

 

“เหตุผลเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่นายจะรู้” เวก้าปฏิเสธที่จะตอบทันที

 

การปฏิเสธของเขาตามมาด้วยความเงียบที่ยาวนาน เกือบทุกคนเข้าใจสิ่งที่เขาปฏิเสธที่จะตอบโดยนัย มันน่าจะเกี่ยวกับข้อจํากัดของความสามารถของไรอา ซึ่งไม่มีใครรู้เช่ นกัน

 

แวเรียนท์ทุกคนมีความสามารถที่มาพร้อมกับข้อจํากัดที่พวกเขาเก็บเป็นความลับหรือแบ่งปันกับคนที่อยู่ใกล้ที่สุดเท่านั้น

 

พวกเขาเชื่อว่าเวก้ารู้ข้อจํากัดของไรอา

 

“พอพูดถึงเรื่องนั้นแล้ว ฉันแน่ใจว่านายคงรู้สวนต่อไปของแผนใช่ไหม” เวก้ากล่าว

 

“ใช่แล้ว เรากําลังจะไประเบิดโรงงาน นั่นเป็นสาเหตุที่เราไม่ปล่อยภาพที่เราน่าจะใช้ให้เกิดประโยชน์ในการทําให้ แวเรียนท์ เกลียดมนุษย์ใช่หรือไม่” เคนพยักหน้าในขณะที่เขาพูด

 

“ใช่แล้ว เรามีวิดีโอที่ลูซิเฟอร์ถูกทรมาน เขาเป็นลูกชายของเซล แอซเรล ที่แวเรียนท์ ทั้งหมดมองว่าเป็นไอดอลของตน การปล่อยฟุตเทจเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเราได้อย่างแน่นอน แต่สําหรับ ลูซิเฟอร์ เราไม่สามารถทําได้” เวก้า เห็นด้วย

 

“หากเราปล่อยภาพดังกล่าว รัฐบาลจะเข้าสู่โหมดควบคุมความเสียหาย สถานที่นั้นจะถูกปิด และผู้คนที่ลูซิเฟอร์ ต้องการฆ่าจะถูกลบออกจากที่นั่น” เขากล่าวเสริม “แผนท์ งหมดของเราที่จะเอาชนะความจงรักภักดีของเขาขึ้นอยู่กับการช่วยล้างแค้นของเขา การปล่อยวิดีโอนั้นจะทําให้เรื่องต่างๆยากขึ้นมาก”

 

“แต่ตอนนี้เขาอยู่ที่นี่แล้ว เราสามารถเริ่มแผนได้ ส่วนคลิปวิดีโอนั้นแน่นอน พวเขาทั้งหมดจะได้เห็นแสงแห่งวันใหม่ หลังจากที่เราทําลายสถานที่นั้นไปแล้ว”

 

ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในห้องของเขาจ้องมองที่มือของเขาที่ เปลือยเปล่า ครั้งที่แล้วเขาทําถุงมือหาย และตอนนี้เขาไม่มี แล้วเขาไม่สามารถสัมผัสสิ่งที่เขาไม่ต้องการทําลายได้

 

เขายังคงสงสัยว่าคนเหล่านี้จะมีถุงมือหรือว่าพวกเขา แค่บลัฟเพื่อให้ลูซิเฟอร์สบายใจ

 

เขาก็เริ่มรู้สึกหิวเช่นกัน

 

เขาลุกขึ้นยืน วางเท้าบนพื้นเย็น ขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ประตู

 

เขาต้องหาอาหาร เขาไม่สามารถนั่งที่นี้ได้ เขายังต้องการดูด้วยว่าคนเหล่านี้ล็อกประตูของเขาเหมือนที่เคยทําที่โรงงานหรือไม่

 

โชคดีที่ประตูยังเปิดอยู่ลูกบิดประตูเล็กน้อย เมื่อเขาเปิดประตู แต่เขาดึงมือออกทันเวลา

 

เขาก้าวออกจากห้อง เข้าสู่ทางเดินยาว ซึ่งดูเหมือนว่างเป

 

 

ตอนที่ 113: บางอย่างของเขาเอง

 

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวด้วยความผิดหวัง กําแพงนี้ได้ประโยชน์จริงๆ ถ้ามันโจมตีได้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเขาใช้กําลังเต็มที่ล่ะ?

 

และแม้แต่ 50 เปอร์เซ็นต์นี้ก็ไม่ใช่ 50 เปอร์เซ็นต์ของความแข็งแกร่งระดับ S มันเป็นเพียง 50 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่ลูซิเฟอร์สามารถใช้ได้ ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของศักยภาพของเขาแล้ว

 

นอกจากนี้ ถ้ากําแพงรับกําลังของเขาไม่ได้ แล้วพลังของการเน่าเปื่อยของเขาล่ะ?

 

เขาเปลี่ยนการจ้องมองระหว่างมือกับผนังด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

ดังที่เคนกล่าวไว้ เขาไม่ได้ใช้พลังการเน่าเปื่อยของเขากับส่วนที่เสียหายแล้วของกําแพงเขาย้ายไปด้านข้างแทน 

 

เขาค่อยๆยกมือขวาขึ้น

 

เคนรู้อยู่แล้วว่าลูซิเฟอร์พยายามจะทําอะไร เขาเองก็อยากรู้เช่นกัน พวกเขาไม่ได้ทดสอบกําแพงกับพลังของการเน่าเปื่อย จริงๆมันจะต่อต้านหรือถูกทําลายทันที?

 

ลูซิเฟอร์วางนิ้วลงบนกําแพงโดยใช้เวลาไม่นาน ปล่อยให้การสลายตัวของเขามีผลเต็มที่

 

ผลลัพธ์ค่อนข้างเป็นไปตามความคาดหวังของเขา กําแพงเริ่มถูกทําลายอย่างช้าๆ ภายใต้ความแข็งแกร่งของเขากําแพงไม่สามารถต้านทานความสามารถของลูซิเฟอร์นี้ได้

 

ลูซิเฟอร์ถอดนิ้วออกโดยไม่ทําอันตรายมากนัก

 

“ดูเหมือนว่าพลังของการเน่าเปื่อยของคุณจะมีพลังมากเกินไปสําหรับการป้องกันกําแพง แต่ไม่ต้องกังวล คุณสามารถฝึกความสามารถนั้นกับอย่างอื่นได้” เคนพูดแทรกรู้สึกเหมือนกับว่าลูซิเฟอร์อาจจะผิดหวัง

 

สิ่งที่เขาไม่รู้คือตอนนี้ลูซิเฟอร์รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว หากกําแพงต้านทานความสามารถของเขาได้เขาจะรู้สึกแย่กว่านี้มากเพราะนั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้สามารถหยุดเขาได้

 

“อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเริ่มฝึกที่นี่ได้ถ้าต้องการ ฉันจะส่งคนไปซ่อมกําแพง” เคนกล่าว “ไปกันเถอะ ฉันจะพาไปดูที่อื่น”

 

เคนและลูซิเฟอร์ก้าวออกจากสถานที่

 

เช่นเดียวกับชั้นที่แล้ว ชั้นนี้ก็ใหญ่มากเช่นกัน มีห้องเป็น 10 ห้อง แต่มีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นที่เปิดให้ลูซิเฟอร์เห็นเนื่องจากห้องที่เหลือเป็นเพียงห้องนอนสําหรับแขกที่ไม่ได้อยู่ที่นี่

 

หลังจากการทัวร์ที่กินเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงในที่สุด เคนก็พาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องนอนของเขา

 

เมื่อเปิดห้องนอนก็เผยสถานที่

 

“คุณจะพักที่นี่ มีห้องน้ําในตัว คุณสามารถอาบน้ําข้างในได้เช่นกัน ส่วนเสื้อผ้า คุณไม่จําเป็นต้องกังวลเรื่องพวกนี้ เรามีคนที่จะไปส่งเสื้อผ้าให้คุณ เช่นกัน พวกเราจะคอยตรวจตราคุณอยู่เป็นประจําว่าต้องการอะไรหรือเปล่า ต้องการอะไรหรือขาดอะไรบอกได้นะ”

 

เคนพูดหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับห้องนี้และสิ่งที่ต้องทําในภายหลัง แต่ลูซิเฟอร์ไม่ได้ให้ความสําคัญกับพวกเขามากนัก เขากลับจ้องมองไปที่ห้อง ซึ่งดูเหมือนเป็นห้องในโรงแรมระดับเจ็ดดาวมีทุกสิ่งที่บุคคลต้องการ มันเหมือนกับห้องสําหรับราชา ซึ่งไม่เหมือนกับที่เขามีในโรงงานโดยสิ้นเชิง

 

คนเหล่านี้แสดงความจริงใจออกมาบ้าง แต่ก็ทําให้ลูซิเฟอร์สงสัยพวกเขามากขึ้นเช่นกัน

 

‘มันไม่สําคัญ ฉันกําลังใช้มันอยู่ไม่ใช่พวกเขา’ ลูซิเฟอร์คิดขณะพยายามโน้มน้าวตัวเองก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง

 

“คุณจะบอกฉันเรื่องที่ตั้งของโรงงานและพาฉันไปที่นั่นเมื่อไหร่ คุณบอกว่าคุณจะช่วยฉันถ้าฉันมากับคุณ ฉันมาตอนนี้ช่วยฉันบรรลุเป้าหมาย ฉันต้องการที่ตั้งของโรงงานนั้น” ลูซิเฟอร์บอกเคนเตือนว่าเขามาที่นี่เพื่ออะไร

 

“แน่นอน ฉันจําได้ เราไม่เคยโกหก ดังนั้นเราจะช่วยคุณอ ย่างแน่นอน แต่อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้การโจมตีอย่างสุ่มสี่สุ่มห้านั้นไร้ประโยชน์ คุณรู้จัก APE ใช่ไหม พวกที่คุณต่อสู้นั้นอ่อนแอที่สุด”

 

“ที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาจะอยู่ที่นั่น ปกป้องศัตรูของคุณ เราต้องการแผน ดังนั้นเพียงแค่อยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 วัน เราจะให้รายละเอียดทั้งหมดแก่คุณให้การฝึกอบรมและความรู้แก่คุณ เพื่อให้เราสามารถทําลายสถานที่นั้นได้อย่างง่ายดาย” เคนอธิบาย

 

“เรามีแผนอยู่แล้ว แต่ต้องใช้เวลา ดังนั้นเราต้องการ 2 วัน หลังจากนั้น คอยดูว่าเราทําลายสถานที่นั้นอย่างไร” เขากล่าวเสริม

 

“เรา?” ลูซิเฟอร์ถามพลางขมวดคิ้ว เขาหมายถึงอะไร คําว่า ‘เรา’?

 

“แน่นอน ฉันหมายถึงเรา พวกเรา แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่อย่างที่ฉันบอกไป คุณเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา เราจะไปกับคุณเพื่อช่วยคุณในการแก้แค้น” เคนตอบยิ้มๆ

 

“การแก้แค้นของฉันเป็นของฉันเท่านั้น ฉันจะฆ่าพวกเขาเอง ไม่มีใครอื่น”

 

เมื่อได้ยินคําตอบของเคน ลูซิเฟอร์ก็อารมณ์เสียชีวิตของ เขาไม่มีความหมาย เขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขาจะตายหรือไม่ ครอบครัวของเขาจากไปแล้ว เขาอยู่คนเดียวในโลกนี้ที่เขาไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นของตัวเอง

 

สิ่งเดียวที่เขามีเพื่อตัวเองคือการแก้แค้นของเขาไม่มีใคร ได้รับอนุญาตให้นําสิ่งนั้นไปจากเขา เขาต้องฆ่าหมอราวด้วยมือของเขาเอง

 

เมื่อเข้าใจข้อกังวลของลูซิเฟอร์ เคนพยายามอธิบาย

 

“ฉันรู้ว่าคุณคิดอย่างไร แต่ไม่ต้องกังวล ฉันไม่ได้หมายความว่าเราจะแก้แค้นคุณ เรารู้ว่าการแก้แค้นพิเศษของบุคคลนั้นเป็นอย่างไร เราจะให้คุณทําอย่างสมเกียรติ”

 

เขาค่อย ๆ ก้าวกลับไปที่ประตูในขณะที่เขาอธิบายต่อไป

 

“เราจะยึด APE ไว้เท่านั้น ดังนั้นพวกเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการแก้แค้นของคุณ อย่างที่ฉันพูด เราจะอธิบายกอย่างใน 2 วัน สําหรับตอนนี้ คุณควรพักผ่อน” เขากล่าวขณะที่ก้าวออกจากประตู

 

“แบบนั้นเป็นการดีกว่า” ลูซิเฟอร์พยักหน้า

 

“เดี๋ยวก่อน ถุงมือของฉัน!” เขาจําได้ทันใด ขณะยกมือขึ้น เขาไม่มีถุงมือพิเศษ เขาจะนอนบนเตียงได้อย่างไรโดยไม่ทําลายมันในตอนกลางคืนเพราะพลังของเขา? 

 

“อื้ม รออีกนิด ฉันจะจัดการให้” เคนบอกกับลูซิเฟอร์ก่อนจะปิดประตู

 

เมื่อเดินกลับก็เข้าไปในลิฟต์อีกครั้งซึ่งพาเขากลับขึ้นไป

 

ขณะที่เคนยืนอยู่ในลิฟต์ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“เฮ้อ ทําตัวดีๆ ยากจัง ฉันรู้สึกอยากอาเจียนแล้ว” เขาพึมพําขณะลูบหัว “ฉันคงไม่ทําแบบนั้นหรอก ถ้าเวก้าบอกให้ทํา ยิ้มมากๆที่ไรฉันรู้สึกไม่สบาย”

 

“แต่อย่างน้อยตอนนี้เรามีลูซิเฟอร์ อีกหน่อย ตราบใดที่ เราสามารถทําให้เขาชื่นชมเราและเป็นส่วนหนึ่งของเรา มันก็คุ้มค่า” เขากล่าวเสริม

 

เมื่อก้าวออกจากลิฟต์ เขาเดินไปที่ห้องที่มีการประชุมระหว่าง เวก้า อิโซน่า และ ดิออน

 

ตอนที่ 112: ห้องฝึก

 

ลูซิเฟอร์อยู่ที่ฐานของ แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่ เต็มไปด้วยใบหน้าใหม่ๆ แต่เขาก็ยังเป็นคนเดิม เขาไม่ได้ใกล้ชิดกับใครและไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เขา

 

“เคน พาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องพักหมายเลข 7 ฉันจะส่งเสื้อผ้าชุดใหม่ให้เขาที่นั่นด้วย” เวก้าบอกเคน

 

“แต่…. ฉันทําได้” อิโซน่าบอกเวก้าผู้ซึ่งปฏิเสธอย่างง่ายดาย

 

“ฉันไม่คิดว่าเจ้าตัวเล็กจะรู้สึกสบายใจกับเธอ ให้เคนพาเขาไป เขาเหนื่อย เรามีเวลาอีกมากที่จะทําความรู้จักกัน” เวก้าตอบอิโซน่า.. “จนกว่าจะถึงตอนนั้น เธออยู่กับดิออนกับฉัน. เรามีงานต้องทํา”

 

“เฮ้อ ไม่เป็นไร” อิโซน่า ตอบขณะที่เธอจ้องที่เคนด้วยความหึงหวง

 

“อย่ากังวลไปเลย น้องชายคนเล็ก เราจะพบกันอีกครั้ง” อิโซน่าบอกกับลูซิเฟอร์ ยิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะก้าวกลับไปที่เวก้า

 

“มานี่” ด้วยเหตุนั้น เคนเริ่มเดินจากไปพร้อมกับชี้ให้ลูซิเฟอร์เดินตามหลังเขา

 

พวกเขาเข้าไปในลิฟต์อีกครั้ง ซึ่งพาพวกเขาไปที่ชั้นล่าง แม้ว่าลูซิเฟอร์จะอยู่ใต้ดิน แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่าตกอยู่ในอันตราย เขาสงบและเงียบ แต่เขาก็พร้อมที่จะดําเนินการหากต้องการ เขาไม่ได้ลดการป้องกันของเขาลง

 

ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง คราวนี้อยู่คนละชั้น

 

ชั้นนี้ดูแตกต่างไปจากชั้นก่อนหน้า ดูไม่เหมือนเวทีใหญ่แต่ดูเหมือนเป็นอาคารที่มีทางเดินยาว

 

ภาพวาดที่สวยงามหลายภาพแขวนอยู่บนผนังสีเงินทําให้สถานที่นี้ดูเหมือนบ้านมากขึ้น

 

“นี่คือชั้นสําหรับพักผ่อน ไม่ต้องกังวลอะไร เรามีเชฟส่วนตัวที่จะนําอาหารมาให้คุณที่นี่ นอกจากนี้ คุณจะได้ทุกอย่างที่คุณต้องการเช่นกัน นอกจากนี้ ทั้งชั้นนี้มีไว้สําหรับ “แขก” เคนบอกลูซิเฟอร์ขณะก้าวออกจากลิฟต์

 

“ในขณะนี้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่เป็นแขกของเรา ดังนั้นสถานที่ทั้งหมดนี้จึงเหมาะสําหรับคุณ” เขากล่าวเสริม “เดี๋ยวผมพาคุณไปดูรอบๆนะครับ”

 

ลูซิเฟอร์เดินตามเคนอย่างใจเย็นและเดินผ่านทางเดิน 

 

“ห้องนี้เป็นห้องทานอาหาร ไว้สําหรับทานอาหารร่วมกัน ในกรณีที่เราเคยมีแขกจํานวนมาก เนื่องจากคุณเป็นคนเดียวคุณไม่จําเป็นต้องมาที่นี่ คุณสามารถทานอาหารในห้องของคุณได้ แต่ถ้าคุณอยากกินที่นี่ไม่มีใครหยุดคุณได้เช่นกัน”

 

“ห้องนี้เป็นสวน เรามีสวนที่เหมาะสมที่นี่ ซึ่งค่อนข้าง ใหญ่ด้วย ถ้าคุณอยากจะเดินเล่น คุณสามารถทําได้ที่นี่ นอก จากนี้ยังมีนกน่ารัก 2-3 ตัวที่คุณน่าจะชอบ”

 

ขณะที่เคนเดินไปกับลูซิเฟอร์ เขาก็พาเขาดูรอบๆห้องแต่ละห้อง เขาแสดงห้องอาหารขนาดใหญ่และสวน ซึ่งดูใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น ภายในสวนเต็มไปด้วยดอกไม้ พืชพรรณ และแม้แต่ต้นไม้หายากมากมาย

 

มีน้ําพุและสระน้ําภายในสวนด้วย

 

“ที่นี่สําหรับฝึกซ้อม” เคนกล่าวขณะที่พาลูซิเฟอร์ไปที่ห้องที่สาม ซึ่งดูแปลกมาก ห้องก็ไม่มีอะไร มันเป็นห้องว่างๆที่มีกําแพงหินที่มีเครื่องหมายแปลกๆอยู่บนนั้น

 

“คุณอาจสงสัยว่านี่คืออะไรหรือทําไมเราถึงต้องฝึกฝน? เนื่องจากคุณยังใหม่กับการเป็นแวเรียนท์ คุณคงไม่รู้เกี่ยวกับมัน เพราะคุณคือส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา ฉันจะบอกคุณ” เคนกล่าวว่า

 

“ในฐานะแวเรียนท์ เราปลุกพลังของเราก่อนอายุ 10 ขวบ จากจุดนั้น เราสามารถใช้พลังของเราได้ แต่ถึงอย่างนั้น เราก็ใช้ศักยภาพของเราอย่างเต็มที่ไม่ได้”

 

“ถึงเราจะใช้พลังของเราได้ แต่เราใช้ได้เพียงเศษเสี้ยวของพวกมัน และเนื่องจากพลังของเราและเกรดของมันถูกกําหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว วิธีเดียวที่จะแข็งแกร่งขึ้นก็คือการเพิ่ม ประสิทธิภาพของเราในการใช้พลังของเรากับพวกมัน ดี ที่สุด” เขาอธิบาย

 

“แวเรียนท์ที่สามารถใช้พลังระดับ A ได้ 10 เปอร์เซ็นต์ นั้นอ่อนแอกว่าแวเรียนท์ที่สามารถใช้พลังเดียวกันได้ 11 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น”

 

“และวิธีเดียวที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของคุณคือการใช้ พลังของคุณเป็นประจําเพื่อทําให้ร่างกายของคุณสบายใจ กับพวกมันมากขึ้น” เขากล่าวเสริม ขณะเดินเข้าไปในห้องว่

 

ลูซิเฟอร์เข้ามาข้างหลังเคนด้วย

 

“แต่แวเรียนท์ส่วนใหญ่ในครอบครัวของเรานั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หากพวกเขาใช้พลังของพวกเขาแบบสุ่ม พวกเขาจะทําลายสถานที่ทั้งหมดในที่สุด นั่นคือเหตุผลที่เราสร้างห้องฝึกอบรมเหล่านี้ในแต่ละชั้น ห้องเหล่านี้สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากบางส่วนของแวเรียนท์ ที่ชาญฉลาด และมีความสามารถมากที่สุดของเรา ห้องเหล่านี้ไม่ปกติ อย่างที่คุณอาจเดาได้อยู่แล้ว”

 

“สิ่งเหล่านี้ต้านทานพลังได้ดีกว่ามาก ที่นี่ คุณสามารถใช้พลังของคุณได้ และความเสียหายจะน้อยกว่ามาก”

 

“และหลังการฝึก แวเรียนท์ของเราทุกวันจะซ่อมแซมห้องที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด เพื่อให้ห้องพร้อมสําหรับเซสชันอื่นในวันถัดไป คุณสามารถฝึกที่นี่ได้หากต้องการ ไม่ต้องกังวลกับการทําลายห้อง เราจะซ่อมมันในภายหลัง” เคนบอกกับลูซิเฟอร์

 

“ทําไมคุณไม่ลองดูล่ะ ฉันได้ยินมาว่าคุณมีพลังพิเศษไปต่อยกําแพงเลย” เขายิ้มออกมา

 

ด้วยความสงสัย ลูซิเฟอร์พยักหน้า เขาต้องการที่จะลอง ถ้ามันเป็นจริง

 

เขาเดินเข้าไปใกล้กําแพงด้านหนึ่งและกําหมัดแน่น เนื่องจากเคนบอกว่าเขาสามารถใช้พละกําลังได้มากเท่าที่ต้องการ เขาก็ไม่ต้องการอยู่ข้างหลัง แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ไม่ต้องการเปิดเผยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา

 

เขาตัดสินใจที่จะใช้เพียง 50 เปอร์เซ็นต์ของสิ่งที่เขาสามารถใช้ได้

 

หลังจากตัดสินใจแล้ว ลูซิเฟอร์ก็กําหมัดแน่นและชกกําแพง

 

บึ้มมม!

 

หมัดเล็กๆ กระแทกเข้ากับกําแพง ทําให้ทั้งห้องสั่นสะเทือน รอยแตกเกิดขึ้นบนผนัง แต่ก็ยังไม่หัก กําแพงส่วนใหญ่รับการโจมตี

 

ในทางกลับกัน ถ้ามันเป็นกําแพงที่ต่างไปจากเดิม มันคงพังไปแล้ว แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

“เห็นไหม กําแพงมีความต้านทานมากกว่า แต่ฉันยังคงแนะนําคุณว่าอย่าโจมตีที่เดิมเพราะมันเป็นเพียงการต้านทาน แต่ไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้ เปลี่ยนเป้าหมายของคุณเป็นประจํา” เคนบอกลูซิเฟอร์เกี่ยวกับข้อจํากัดของกําแพง

 

ตอนที่ 111: ยินดีต้อนรับ

เวก้ายืนยิ้มบางๆ บนใบหน้าของเขา ทันทีที่เขาเห็นลูซิเฟอร์ออกมาจากลิฟต์ เขาก็เริ่มเดินไปหาเขา

 

“ยินดีต้อนรับ ลูซิเฟอร์ แอซเรล ยินดีต้อนรับสู่บ้านที่แท้จริงของคุณ สถานที่ที่คุณจะไม่ต้องกังวลกับการทรยศเหมือนที่ต้องทําท่ามกลางมนุษย์” เวก้ากล่าวอย่างสนุกสนานเมื่อเขาไปถึงลูซิเฟอร์

 

เขาเอื้อมมือไปจับมือลูซิเฟอร์

 

“อา ฉันจะไม่ทําอย่างนั้นถ้าฉันอยู่ในที่ของคุณ อย่างน้อยก็จนกว่าฉันจะฆ่าตัวตาย” เคนยิ้มออกมาพร้อมกับเห็นเวก้าทําในสิ่งที่เขา เคยพยายามโดยไม่รู้ตัวก่อนหน้านี้

 

“ลูซิเฟอร์ตัวน้อยไม่สามารถควบคุมพลังการเน่าเปื่อยของเขาได้ หากคุณจับมือเขา คุณจะอยู่ในจุดสิ้นสุดของความสามารถระดับ S ของเขา และฉันคิดว่าคุณคงไม่ต้องการอย่างนั้น” เขากล่าวต่อใน ขณะที่เขาเตือนเวก้า

 

.

 

“โอ้ อย่างนี้นี่เอง” เวก้าพึมพําขณะดึงมือออก

 

“ฉันคิดว่าเขาสามารถควบคุมพลังของเขาได้ ฉันคิดผิดแล้ว” เวก้าคิดขณะมองไปยังมือของลูซิเฟอร์

 

“อย่างที่ฉันพูด ยินดีต้อนรับ… สู่ครอบครัวที่แท้จริงของคุณ” เวก้าทักทายลูซิเฟอร์อีกครั้งในขณะที่เขาจับมือกันเพื่อทักทายในแบบที่ต่างออกไป

 

“ฉันมีครอบครัวเพียงครอบครัวเดียว พ่อและแม่ของฉัน ไม่มีใครอีกแล้ว” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเคร่งขรึม

 

“อ่า แน่นอน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะสื่อว่าเราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ของพวกเขา ฉันแค่หมายความว่าเราจะอยู่ที่นี่เพื่อคุณเหมือนเป็นครอบครัวจริงๆ เหมือนพี่น้อง…” เวก้า ด้นสด

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้าเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร แม้ว่าคําพูดจะดูจริงใจ แต่เขาก็ตระหนักว่ามนุษย์เป็นนักแสดงที่ดี ไม่ใช่ทุกถ้อยคําที่ฟังดูจริงใจเป็นความจริง

 

“เขาไม่อยู่ที่นี่เหรอ?” เคนถามเบาๆ

 

“ไรอา? เขาอยู่ข้างนอก กําลังจัดการกับเรื่องสําคัญบางอย่างกับทีมของเขา ไม่มีทางที่เขาจะพลาดการต้อนรับสมาชิกใหม่ให้กับครอบครัวของเรา โดยเฉพาะเรื่องที่เขาตื่นเต้นมาก” เวก้าตอบ

 

ดูเหมือนลูซิเฟอร์จะไม่สนใจคําพูดของเวก้าเลยแม้แต่น้อย แต่เขากังวลเรื่องเสื้อผ้ามากกว่า เขายังคงเปลือยท่อนบนของเขา

 

เขามองไปทางเคนและพูดว่า “เสื้อเชิ้ต”

 

คําพูดเดียวของเขาเตือนเคนว่าเขาสัญญากับเด็กว่าจะหาเสื้อผ้าให้เขา ในทางกลับกัน เวก้าสงสัยว่ามันเกี่ยวกับอะไร

 

“คาร์ล!” เคนยกมือขึ้นขณะที่เขาเรียกชายที่ยืนอยู่ด้านหลัง

 

“ครับหัวหน้า” ชายผมยาวตอบ

 

“นําเสื้อผ้าใหม่จากที่เก็บของในขนาดเท่าลูซิเฟอร์มาให้ เร็วเข้า” เคนสั่งคาร์ลซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมของเขา

 

ชายผมยาวไม่ถามเป็นครั้งที่สองและจากไปในทันที

 

“เสื้อผ้าของเขาถูกทําลายในการต่อสู้กับเดลต้า ฉันสัญญาว่าจะมอบเสื้อผ้าให้เขาที่นี่” เคนบอกเวก้า

 

“หืม ได้เสมอ เรามีเสื้อผ้ามากมายทุกขนาด” เวก้าพูดออกมา ในขณะที่เข้าใจทุกอย่าง “ตอนนี้สิ่งนั้นเป็นของเขาหมดแล้ว”

 

“หัวหน้า ทําไมไม่แนะนําให้เรารู้จักกับน้องชายคนเล็กด้วยล่ะ” ชายร่างใหญ่ที่ด้านหลังตะโกน

 

เวก้าหันกลับมามองชายที่พูด มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเวก้าอยู่ดี เขาได้บอกทุกคนว่าพวกเขาควรทําตัวอย่างไรเพื่อสร้างความประทับใจที่ดีและดูเหมือนเป็นมิตรมากขึ้น

 

ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น ผู้ชายคงไม่กล้าพูดต่อหน้าเวก้า อย่าว่าแต่ตะโกนเลย

 

“ใช่แล้ว น้องชาย ในขณะที่เสื้อผ้าของคุณกําลังถูกนํามาที่นี่ให้ ฉันแนะนําคุณให้ทุกคนรู้จัก”

 

“ฉันจะเริ่มจากตัวเอง ฉันคือเวก้า ออซบอร์น ฉันเป็นผู้บังคับบัญชาอันดับ 2 ในสถานที่นี้ต่อจากไรอา” เวก้ากล่าวขณะที่เขาแนะนําตัวเอง

 

“สั่งการงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์พึมพําเบาๆ

 

“อย่างที่คาดไว้ สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างกัน พวกเขายังมีลําดับชั้น และคําสั่งที่พวกเขาปฏิบัติต่อส่วนที่เหลือเป็นทาสและปกครองผู้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา” เขาคิดขณะจ้องมองไปที่ผู้คนหลายร้อยคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง

 

พวกเขาไม่แตกต่างกัน แต่เขาไม่แปลกใจ แม้ว่าจะไม่มีคําสั่งใด ๆ เขาก็จะไม่เชื่อถือพวกเขา เขาได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไว้ใจใคร แม้ว่าเขาเห็นยูโทเปียหรือพระเจ้ามาก่อนหน้าเขา เขาก็จะไม่วางใจหรือลดความระมัดระวังของเขา

 

“โอ้ คุณอาจเข้าใจผิดเมื่อฉันพูดคําสั่ง มันหมายถึงความรับผิดชอบเท่านั้น ไม่อยู่ในลําดับชั้น ในฐานะผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่า เป็นความรับผิดชอบของฉันที่จะต้องแน่ใจว่าคนที่อ่อนแอกว่าจะปลอดภัย” เวก้าตอบด้วยรอยยิ้มที่สงบ ใบหน้าของเขาในขณะที่เขาสังเกตเห็นความรู้สึกไม่สบายเล็กน้อยบนใบหน้าของลูซิเฟอร์

 

เขารู้ดีถึงความยากลําบากที่ลูซิเฟอร์ต้องเผชิญและผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับจิตใจของเขา เขาต้องการแยกการรับรู้ของ VU ออกจากสถานที่ให้มากที่สุด

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้าโดยไม่เชื่ออะไรเลย

 

“ฉันเชื่อว่าคุณเจอเคนแล้ว” เวก้าพูดต่อในขณะที่เขาชี้ไปทางเคนซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง

 

“เคนเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก เขาอยู่ในความรับผิดชอบอันดับที่ 5” เขากล่าวต่อเพื่อให้แน่ใจว่าเขาใช้คําที่ถูกต้องในครั้งนี้

 

หลังจากแนะนําเคน เวก้าก็เปลี่ยนโฟกัสไปที่ อิโซน่า ซี่งกําลังเดินเข้าหาพวกเขา “และเธอคือ-“

 

ก่อนที่เขาจะได้จบประโยค อิโซน่า ก็เป็นผู้พูดขัดออกมาก่อน และตัดประโยคของเวก้าออก “ฉันคือ อิโซน่า ในความรับผิดชอบ ฉันเป็นคนที่ 4 ของที่นี่” เธอกล่าว

 

“และเวก้า ลูซิเฟอร์เพิ่งมาที่นี่ คุณแนะนําตัวที่หลังไม่ได้หรือ โปรดเมตตาเด็กน้อย ปล่อยให้เขาไปที่ห้องและพักผ่อน เขาสามารถทําความรู้จักกับผู้อื่นอย่างเป็นธรรมชาติในภายหลัง อย่าทําให้เขายืน สําหรับการแนะนําคนหลายร้อยคน” เธอกล่าวต่อขณะที่เธอยิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

 

เธอเอื้อมมือไปหาลูซิเฟอร์และเอื้อมมือไปทางศีรษะของเขาเพื่อถูมันเหมือนพี่สาวที่ห่วงใย

 

ลูซิเฟอร์มองมือเข้ามาหาเขาช้าๆ เขาหรี่ตาขณะที่ต่อต้านความอยากที่จะทอดหัวของ อิโซน่า ด้วยสายฟ้าสีดําของเขา

 

เขาถอยกลับเพราะเขาไม่ต้องการให้เธอแตะต้องเขา เขายังใช้การควบคุมลมเพื่อช่วยในการเคลื่อนไหว

 

ภายในไม่กี่วินาที เขาเอื้อมมือจากมือของ อิโซน่า ไปจนห่างจากเธอ 10 เมตร

 

“การเคลื่อนไหวแบบนั้นช่างสวยงาม” เวก้าชมการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของลูซิเฟอร์

 

เคนชอบที่จะตอบโต้กลับ อิโซน่า ด้วยความเห็นประชดประชันของเขาแทน “เห็นไหม เธอน่ารําคาญ เธอทํากับเขา เหมือนกับที่ทํากับทุกคนในที่นี้” รอยยิ้มอ่อนโยนทําให้ใบหน้าของเขาสว่างขึ้น

 

“เป็นไปได้ยังไง พี่สาวคนโตแค่ต้องการรักน้องชายคนเล็กและกอดรัดเขา” อิโซน่า พูดพร้อมกับทําหน้าบึ้ง “มันต้องเป็นอุบายของนาย! นายเป่าหูของน้องชายคนเล็กด้วยการโกหกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับฉัน ทั้งๆที่ฉันทั้งอ่อนหวานและไร้เดียงสา”

 

“แน่นอน สิ่งที่เธอพูด เราทั้งคู่รู้ความจริง” เคนกล่าวขณะที่เขากลอกตา

 

“น้องเล็ก ฉันทําอะไรผิดหรือเปล่า” อิโซน่า ถาม ลูซิเฟอร์ ด้วย ใบหน้าที่เหมือนร้องไห้

 

เคนรู้สึกอยากจะอาเจียนเมื่อเห็นการแสดงที่ไร้เดียงสาของอิโซน่า แม้แต่ดิออนก็ยังรู้สึกเหมือนเอามือตบหน้าตัวเอง ในทางกลับกัน เวก้าไม่รู้ว่าเขาควรหัวเราะหรือร้องไห้กับกลยุทธ์ของอิโซน่า อย่างน้อยเธอก็นําความสนุกมาสู่สถานที่แห่งนี้ต่อหน้าลูซิเฟอร์

 

“ฉันไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องตัวฉัน” ลูซิเฟอร์ตอบอย่างเคร่งขรึม

มีคนมากมายที่แตะต้องเขา แต่ไม่มีใครสัมผัสได้เหมือนพ่อแม่ของเขา แพทย์ นักวิทยาศาสตร์ ต่างก็สัมผัสเขาเพื่อใช้เขา หลังจากที่เขาออกจากโรงงานแล้ว ก็ยังคงเหมือนเดิม

 

อย่างแรก พนักงานเสิร์ฟจับเขาและโยนเขาทิ้งด้วยความขยะแขยงเพียงเพราะเขาต้องการอาหาร ในขณะที่สภาพของเขาอาจจะดูยากจน จากนั้นศัตรูที่แตะต้องเขาระหว่างการต่อสู้ก็ตายอย่างน่าอนาถ

 

เขาไม่เคยได้รับความรักเลยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เขารู้สึกว่ามันดีกว่าการได้รับความรักจอมปลอมอย่างที่เขากําลังจะได้รับ อย่างน้อยก็ความรักที่แสนหลอกลวง

 

 

ตอนที่ 110: ความล้มเหลว

 

แซนเดอร์โทรหาหมายเลขบนโทรศัพท์เพื่อขอความช่วย เหลือด้านเทคนิคของ APE

 

“ใช่ ไม่ต้องสนใจกับคําทักทาย ทําสิ่งหนึ่งให้ฉัน ฉันต้องการให้คุณติดตามตําแหน่งของเฮลิคอปเตอร์ลําหนึ่งที่ทีมเดลต้าของฉันใช้หมายเลขของมันคือ 356772552” เขาบอกกับบุคคลนั้นทางโทรศัพท์

 

เขามีความทรงจําที่ดี ดังนั้นเขาจึงไม่จําเป็นต้องอธิบาย ลักษณะของเฮลิคอปเตอร์และรายละเอียดอื่นๆ เขาจําหมายเลขประจําตัวได้

 

“ถูกต้อง”

 

“ไม่ ไม่ต้อง ป้อนคําถามภายใต้ชื่อของฉันไม่เป็นไร”

 

มีหลายสิ่งที่ต้องทําเพื่อให้สามารถติดตามอุปกรณ์ของ APF ได้ และสิ่งหนึ่งที่จําเป็นต้องกรอกรายละเอียดว่า ใครต้องการข้อมูลผู้มีอํานาจ ฯลฯ

 

แซนเดอร์ให้รายละเอียดทั้งหมดที่เขาต้องการก่อนที่จะถามว่า “ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”

 

“ไม่กี่นาที? ไม่เป็นไรฉันรอได้” เขาเก็บโทรศัพท์ไว้ใกล้ หูขณะเริ่มรอ

 

เขาเดินไปมาระหว่างรอ ขณะทําเช่นนั้น เขาได้ตระหนักว่าสมาชิกหน่วยเดลต้ายืนนิ่งและมองมาที่เขา

 

“พวกนายทําอะไรกันอยู่ เริ่มเก็บศพส่งไปนิติเวช” เขาสั่งพวกของเขาหลังจากเห็นว่าเสียเวลาไปเปล่าๆ

 

ขณะที่เขากําลังรับสาย คนในสํานักงานก็ได้ยินเสียงตะโกนของแซนเดอร์ด้วย

 

“เอ่อ ท่านกําลังพูดกับข้าหรือ” เขาถาม

 

“ไม่ ฉันกําลังพูดคุยกับทีมของฉัน ไม่ต้องสนใจคําพูดของฉัน” แซนเดอร์ตอบ

 

ความเงียบเป็นเวลานานเพื่อรอคําตอบ ในขณะที่ชาย คนนั้นกลับไปติดตามโดยใช้ระบบ เขาใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก่อนที่เขาจะพูดอะไร

 

“เอาล่ะ ฉันเสร็จแล้ว และฉันมีข่าวร้ายสําหรับคุณ” ชายคนนั้นตอบ

 

แซนเดอร์รู้สึกไม่ดีเมื่อเขาได้ยินเสียงที่ตกต่ําของชายผู้นั้น

 

“ข่าวร้ายอะไร” เขาถามชายคนนั้นอย่างเคร่งขรึม

 

“เราไม่สามารถระบุตําแหน่งเฮลิคอปเตอร์ที่คุณต้องการสอบถาม อาจมีสาเหตุ 2-3 ประการที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าเฮลิคอปเตอร์จะตกที่ไหนสักแห่งและอุปกรณ์ติดตาม ได้รับความเสียหาย หรือมีคนจงใจถอดอุปกรณ์ติดตามออกและทําลายมัน” ชายคนนั้นตอบ

 

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า “ทางเลือกที่ 2 ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากบุคคลนั้นต้องการความรู้สูงเกี่ยวกับระบบในเฮลิคอปเตอร์เพื่อให้สามารถถอดอุปกรณ์ติดตามออกได้โดยไม่ทําให้เกิดสัญญาณเตือนในระบบของเราที่ฐาน ดังนั้นผมคิดว่าอย่างแรก ความเป็นไปได้คือสิ่งที่เกิดขึ้น”

 

“คุณบอกได้ไหมว่ามันเห็นที่ไหนครั้งสุดท้ายและกําลังจะไปที่ไหน เพื่อที่ฉันจะได้จัดกลุ่มคนเพื่อออกค้นหาเพื่อค้นหาชิ้นส่วนของมัน” เขาถาม

 

“มันกําลังมาถึงฐานของเราจากเมืองเอรีกัส พร้อมนักโทษ คุณสามารถจัดกลุ่มคนเพื่อออกค้นหาได้งั้นส่งออกไปซะ” แซนเดอร์ตอบขณะที่เขายกเลิกการรับสาย

 

เขาจ้องไปที่โทรศัพท์ของเขาในขณะที่เขาพึมพําเบา ๆ “ฉันสงสัยว่าคุณจะพบมันในกรณีใด ๆ คุณคิดว่าความเป็นไปได้แรกเป็นจริง แต่ฉันเชื่อว่าเป็นสิ่งที่ 2 เป็นไปไม่ได้ที่จะหามันตอนนี้”

 

“อย่างที่ฉันคาดไว้ นี่ไม่ใช่งานของลูซิเฟอร์ เขาไม่มีความรู้ว่าจะปิดการใช้งานสิ่งนั้นได้อย่างไร มีคนอื่นที่เกี่ยวข้องที่ช่วยเขา และนั่นเป็นเพราะคนนั้นที่เราสูญเสียลูซิเฟอร์ไป” เขายอมรับ เขามองไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้น

แฟนเพจ : novelza

“ใครกันที่จะเป็นได้?” เขาพึมพํากับตัวเอง นั่นคือตอนที่เขาจําอะไรบางอย่างได้ เขาจําคําพูดของไอย์ได้

 

ก่อนมาที่นี่ เขาได้คุยกับเธอ ซึ่งเธอบอกเขาเกี่ยวกับสมาชิก แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่ ที่สะกดรอยตามสถานที่ต่างๆ ซึ่ง เป็นเป้าหมายของ ลูซิเฟอร์ เมื่อเขาได้ยินว่าพวกเขาจากไปโดยไม่ได้ทําอะไร เขาก็พบว่ามันแปลกไป ตอนนี้เขา เข้าใจทุกอย่างแล้ว

 

เขาหลับตาขณะสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

“พวกเขาไม่ได้บุกเข้าไป เพราะพวกเขารู้ว่าทีมของเรา พบร่องรอยแล้ว พวกเขาจากไปเพราะพวกเขาพบลูซิเฟอร์แล้ว ไอ้สารเลวพวกนั้น ฉันน่าจะเข้าใจแล้ว!” 

 

“เมื่อพวกเขารู้เรื่องโรงงาน พวกเขาอาจจะรู้เรื่องเอรีกัสและแผนของเราแล้ว ไอ้สารเลว!” เขาปล่อยมือขณะที่กัดฟัน

 

“ตอนนี้ แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านั้นมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย สิ่งนี้เข้าสู่เขตอํานาจของวารันฉันต้องการช่วย ลูซิเฟอร์ แต่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของฉัน” เขาพึมพําภายใต้ลมหายใจขณะเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ที่เขาเคยมาที่นี่

 

เขาเสียใจกับการกระทําของเขามาก ความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดคือของเขา เมื่อฟลูเรน แจ้งให้เขาทราบเกี่ยวกับการจับตัวลูซิเฟอร์ เขาควรจะตรงไปหาพวกเขาแทนที่จะบอกให้พวกเขากลับไปที่ฐานเพียงลําพังเพื่อประหยัดเวลา

 

ถ้าเขาไม่ทําอย่างนั้น เขาจะอยู่กับพวกของเขา เขาจะสามารถช่วยพวกของเขาได้ เพียงช่วงเวลาเดียวคือสิ่งที่เขาตําหนิมากที่สุดสําหรับเหตุการณ์นี้

 

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าลูซิเฟอร์ฆ่าพวกของเขา แต่เขารู้ว่าความผิดพลาดของเขาสําคัญพอๆ กัน โทษของการตายของคนของเขาอยู่บนบ่าของเขามากพอๆ กับที่ลูซิเฟอร์ ร์ 

 

ประตูลิฟต์เปิดออก เผยให้เห็นห้องโถงใหญ่ตรงหน้า ลูซิเฟอร์ พื้นปูด้วยหินอ่อนอย่างดี และผนังดูเหมือนทํามาจากโลหะ อย่างน้อยก็จากพื้นผิวที่ปรากฏ

 

มีฝูงชนจํานวนมากปรากฏตัวอยู่ในห้องโถงแล้ว ดูเหมือนกําลังรอพวกเขาอยู่

 

ดูเหมือนว่ามีหลายร้อยคน แม้จะมีผู้คนมากมาย แต่ห้องโถงก็ดูว่างเปล่าเป็นหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันใหญ่แค่ไหน

 

ผู้คนต่างแต่งกายด้วยเสื้อผ้าหลากหลาย ดูเหมือนว่าจะไม่มีการแต่งกายในสถานที่นี้ ผู้ชายบางคนถึงกับยีนตัวเปล่าเลย

 

ผู้ชาย 2 คนและผู้หญิงหนึ่งคนกําลังยืนอยู่ต่อหน้าผู้คนหลายร้อยคนเช่นผู้นํา

 

“ยินดีต้อนรับสู่ฐานของเรา” เคนกล่าวเบาๆ ในหูของลูซิเฟอร์ก่อนจะก้าวออกจากลิฟต์และยืนนิ่ง

 

ลูซิเฟอร์ก็ก้าวออกไป

 

คน 3 คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้รับผิดชอบที่นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก ไดออน  อิโซน่า และ เวก้า

 

อิโซน่า เป็นผู้นําระดับ 2 ของ แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่ และเป็นผู้หญิงคนเดียวใน 5 ผู้นําของ VU (แวเรียนท์ ที่เกิดขึ้นใหม่)

 

เธอสวมชุดสีเทาเผยให้เห็นสัดส่วนโค้งเว้าของเธออย่างเต็มที่ ผมสีแดงเข้มของเธอยาวกว่าไหล่แต่ไม่ถึงเอวของเธอ พวกมันยาวปานกลาง

 

ดวงตาของเธอดูเหมือนเป็นส่วนผสมของสีน้ำเงินและสีเขียว ซึ่งบางครั้งก็ดูเหมือนสีฟ้าอ่อนและบางครั้งก็เป็นสีเขียว มีสร้อยคออยู่ที่คอของเธอซึ่งมีอัญมณีกึ่งโปร่งแสงคล้ายไข่มุกสามเม็ด

 

คนที่สองที่ยืนอยู่ข้าง อิโซน่า คือ ไดออน ซึ่งเป็นตําแหน่งที่สูงกว่าเธอในการเป็นผู้นํา เขาเป็นผู้นําระดับ 3 เขามีผิว เถ้าถ่านเหมือนคนตาย

 

ดวงตาของเขาเป็นสีทองสวยงามที่เข้ากับรูปลักษณ์ของเขาในขณะที่ทําให้เขาดูมีเสน่ห์ที่อันตราย เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวภายใต้เสื้อคลุมสีดํา เขายังสวมกางเกงสีดําเพื่อให้ดูเป็นมืออาชีพ

 

บุคคลที่สามคือบุคคลที่มีอํานาจสูงสุดในทางเทคนิคที่นี่ อย่างน้อยในหมู่คนที่อยู่ที่นี่

 

ชายคนที่ 3 คือเวก้า ซึ่งเป็นผู้นําระดับ 4 ในการเป็นผู้นํา เขาอยู่ภายใต้การนําของแวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่

 

เวก้าดูเหมือนบรรณารักษ์จากวิธีที่เขานําเสนอตัวเอง มีหนังสือสองเล่มอยู่ในมือ เล่มหนึ่งเป็นสีน้ำเงินอีกเล่มเป็นสีสิ้ม

 

 

ตอนที่ 109: กัปตัน

 

โทรศัพท์ของแซนเดอร์เริ่มดังขึ้นเมื่อเขาอยู่ระหว่างการสนทนากับไอย์

 

เขานําโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อและมองไปที่หน้าจอเพื่อดูว่าใครกําลังโทรหาเขา

 

“คาเดน ทําไมเขาถึงโทรหาฉันแทนฟลูเรนล่ะ” เขาสงสัยเมื่อเห็นว่าเป็นใคร

 

คาเดนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมของแซนเดอร์ อย่างไรก็ตาม ที่แปลกก็คือคาเดนอยู่กับ ฟลูเรนในกลุ่มที่คุ้มกัน ลูซิเฟอร์ มันแปลกสําหรับเขาที่จะโทรมาแทน ฟลูเรน ซึ่งอยู่ ในความดูแลของทีมนั้น

 

เขารับสายทันที สงสัยว่ามันเกี่ยวกับอะไร

 

“ว่าไง คาเดน”

 

คําพูดนั้นตามมาด้วยความเงียบอันยาวนานของแซนเดอร์..

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ไอย์ได้เห็นแซนเดอร์หน้าตาแบบนี้ แซนเดอร์ซึ่งควบคุมได้ตลอด ดูเหมือนจะหลงทางจริงๆ ในตอนนี้ พลังอย่างหนึ่งของเขาทําให้เขาควบคุมอารมณ์ได้ แต่เขาไม่ได้ใช้พลังนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ต้องการควบคุมความรู้สึกในสถานการณ์และพยายามต้านทานความสามารถของเขา

 

ไม่นานโทรศัพท์ก็ตกลงมาจากมือของเขาตกลงบนพื้น แต่แซนเดอร์ไม่ขยับราวกับว่าเขาไม่สนใจ

 

เขากําหมัดแน่นประสาทในมือของเขาปรากฏให้เห็น และดูเหมือนว่าเขาจะกรีดร้อง อุณหภูมิของห้องเริ่มสูงขึ้น

 

แม้ว่าแอร์จะเปิด แต่ไอย์ก็เริ่มเหงื่อออกเพราะความร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านไป

 

“แซนเดอร์?” ไอย์เรียกออกมาเบาๆ “มีอะไรบางอย่างผิดปกติ?”

 

เสียงของเธอทําท่าเหมือนรังสีของแสงในความมืดที่พยายามกลืนแซนเดอร์ทั้งหมด

 

แซนเดอร์ออกจากสภาวะจิตใจชั่วครู่และใช้การควบคุมอารมณ์ พลังที่สองของเขาทําให้เขาสามารถควบคุมอารมณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใด

 

เมื่อเขาใช้พลังของเขา เขาก็กลับมาเป็นปกติ

 

“อืม ฉันสบายดี”

 

“นายดูไม่ค่อยสบาย” ไอย์กล่าวขณะที่เธอจ้องที่แซนเดอร์ด้วยความเป็นห่วง “บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น?”

 

“ฉันจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอจดจ่อกับ ภารกิจของเธอ และปล่อยให้งานของฉันเป็นของฉัน” แซนเดอร์พูดพาดพิงเบาๆ ขณะหยิบโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนพื้น เขาวางโทรศัพท์ไว้ที่หูอีกครั้ง “ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนแล้ว?”

 

เขาเปิดประตูห้องแล้วออกไป

 

เขาก้าวเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับพูดว่า “คาเดน ทําอย่างหนึ่ง ส่งพิกัดมาให้ฉันแทน”

 

หลังจากตรวจสอบลายนิ้วมือแล้ว เขาก็ขึ้นไปบนหลังคา

 

เขาก้าวเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีนักบินอยู่ข้างในแล้ว เขาให้พิกัดกับนักบิน

 

เฮลิคอปเตอร์เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ

 

เฮลิคอปเตอร์ลงจอดในที่ห่างไกลมีเพียงทรายที่มองเห็น ได้ไกลสุดสายตา

 

คนสองคนก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งไม่ใช่ใครอื่นนอก จากลูซิเฟอร์และเคน

 

ลูซิเฟอร์มองไปรอบ ๆ เพียงเพื่อตระหนักว่าพวกเขาอยู่ ในทะเลทราย เขาคิดว่าเขาจะถูกพาไปที่ฐานของพวกเขา แต่พวกเขามาที่ทะเลทรายแทน?

 

เขาอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เราอยู่ที่ไหน”

 

“เราอยู่ที่ฐานของเรา รอสักครู่ คุณจะเห็น” เคนเดินออกมา ขณะที่รอยยิ้มลับๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

“คนของคุณไม่ได้มากับเรา” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

 

เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นและออกคําขู่พร้อมกันด้วย “ถ้านี่เป็นกลอุบาย มันจะไม่จบลงด้วยดีสําหรับคุณ”

 

“อย่ากังวล เราไม่หลอกลวง เราไม่เหมือนมนุษย์ที่น่ารังเกียจเหล่านั้นและพวกทรยศที่รับใช้มนุษย์ เราจะไม่ทรยศ ต่อสมาชิกในครอบครัวของเราเหมือนที่พวกเขาทํา” เค นตอบ “สําหรับคนอื่นๆ พวกเขาจะมาที่นี่โดยรถยนต์ พวกเขาจะหยิบของระหว่างทาง”

 

ลูซิเฟอร์พยักหน้า นั่นคือเมื่อเขาเห็นพื้นดินสั่นสะเทือน ทรายเริ่มเคลื่อนตัวไปด้านข้างขณะที่พื้นเริ่มสูงขึ้น

 

ในไม่ช้า ลิฟต์รูปทรงกระบอกก็โผล่ออกมาจากพื้นซึ่งดูเหมือนจะใหญ่พอที่จะรองรับคนได้หลายสิบคน หากมองจากด้านบนจะเห็นว่าเป็นลิฟต์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เมตร

 

“ลิฟต์นี้จะพาเราไปยังจุดหมาย” เคนพูดพาดพิงถึง ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาก้าวไปที่ลิฟต์

เขาวางฝ่ามือลงบนพื้นผิวของลิฟต์

 

“การสแกนเสร็จสมบูรณ์ ยินดีต้อนรับ ท่านผู้นําเคน” 

 

เสียงคอมพิวเตอร์ออกมาจากลิฟต์ขณะที่ประตูเริ่มเปิด 

 

“เข้ามาข้างในสิ สมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ของเรากําลังรอพบคุณอยู่” เคนร้องออกมา ขณะที่เขามองกลับมาที่ลูซิเฟอร์ เขาขยับนิ้ว โบกมือให้เขารีบไป

 

แม้ว่าเคนจะดูเหมือนอยากให้ลูซิเฟอร์รีบ แต่ ลูซิเฟอร์ก็เดินด้วยความเร็วปกติ ดูเหมือนไม่รีบร้อน

 

ในไม่ช้าเขาก็มาถึงลิฟต์และก้าวเข้าไปข้างในพร้อมกับเคน

 

ประตูลิฟต์ปิดลง และลิฟต์ก็จมลงสู่พื้นดินอีกครั้งหายไปจากสายตา

 

เฮลิคอปเตอร์สีเขียวลงจอดบนพื้น เฮลิคอปเตอร์ อีกลํากําลังยืนอยู่ข้างหน้าสามารถเห็นร่างจํานวนมากกระจายไปทั่ว ดูเหมือนจุดตกของเฮลิคอปเตอร์ซึ่งชิ้นส่วนต่างๆ สามารถมองเห็นได้ในบริเวณใกล้เคียง

 

กลุ่มคนก็ยืนอยู่ใกล้ศพเช่นกัน

 

ประตูเฮลิคอปเตอร์สีเขียวเปิดออก และชายคนหนึ่งก้าวออกมาจากมัน

 

ชายคนนั้นมีผมสีแดงเพลิงและเสื้อคลุมยาวสีเทาเข้ม เขาสวมถุงมือสีดําสองใบในมือ

 

“กัปตัน” ชายผมสีน้ําเงินจากกลุ่มนั้นเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ลําล่าสุดที่มาถึง

 

“ลูซิเฟอร์…?” แซนเดอร์ถามชายผมสีฟ้า

 

“เขาหายไป เราเชื่อว่าเขาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้” คาเดนตอบ

 

“บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากที่นายจับเขาได้” แซนเดอร์ถาม

 

คาเดนเริ่มอธิบายทุกอย่างตั้งแต่แรกว่าพวกเขา จับลูซิเฟอร์ได้อย่างไรและแบกเขาอย่างไร จากนั้นเขาก็พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่พวกเขาพบว่าลูซิเฟอร์หายไปและวิธีที่พวก เขาแยกตัวเป็นทีม

 

“ดังนั้น ทีมของนายจะเริ่มค้นหาจากเอร์กัส และทีมของเขากําลังจะสแกนจากที่นี่ เมื่อนายมาที่นี่ นายก็เห็นสิ่งนี้” แซนเดอร์สรุป

 

“ใช่” คาเดนตอบ

 

“แล้วนายไม่เห็นลูซิเฟอร์ทํามันเหรอ”

 

“เรา… อ่า เราไม่ได้เห็นเองกับตา แต่เราเดาว่านี่เป็นฝีมือเขา”

 

แซนเดอร์เดินไปใกล้ศพและเริ่มสังเกตพวกมัน “นี่ดูเหมือนจะเป็นงานของสายฟ้าของเขา”

 

“เฮลิคอปเตอร์ลําที่ 2 ที่นํากรงไปอยู่ที่ไหน ฉันต้องดูว่ามันหลุดออกจากกรงได้อย่างไร” เขาถามคาเดน

 

คําถามของเขาถูกตอบด้วยความเงียบเท่านั้น

 

“ทําไมนายไม่ตอบ” แซนเดอร์ถามดูเหมือนสับสน “ฉันอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว อย่าทําให้แย่ลงไปอีก”

 

“เฮลิคอปเตอร์ลําที่ 2…มันหายไป” คาเดนยอมรับ

 

“มันหายไปหรือ มันถูกทําลายด้วยหรือมันควรจะติดตามได้ง่ายถ้ามันไม่เป็นไร” แซนเดอร์ตอบ “มีเครื่องติดตามอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ทุกลํา”

 

“เรามองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นชิ้นส่วนของมันเลย ดูเหมือนว่ามันจะไม่ฟัง เราพยายามโทรหานักบินแล้ว แต่โทรศัพท์ปิดอยู่” คาเดนอธิบาย

 

“น่าสนใจ มีคนเอาไปและอาจจะเป็นลูซิเฟอร์ด้วย มีคนช่วยลูซิเฟอร์ออกจากกรงด้วย” แซนเดอร์เดาขณะจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

 

“ทางนั้นดีกว่า เฮลิคอปเตอร์จะพาเราไปหาผู้ร้ายตัวจริง”

 

เขานําโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าและโทรไปที่หมายเลข หมายเลขผึ้ง

 

ตอนที่ 108: สิ่งที่ขาดหายไป

 

“ข้อมูลอะไร?” แซนเดอร์ถามด้วยความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“ฉันได้พบปะกับวารันเมื่อเร็วๆ นี้ในการประชุมครั้งนั้น เขาให้ภารกิจกับฉัน” ไอย์อธิบายให้แซนเดอร์ฟัง ทําลายความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วห้อง

 

แซนเดอร์รู้ว่าไอย์โทรหาเขาเพื่อพูดถึงลูซิเฟอร์ ตอนที่เธอกําลังพูดถึงภารกิจของเธอ 2 สิ่งนี้มีอะไรที่เหมือนกันหรือไม่? เขาสงสัย

 

วางฝ่ามือทั้งสองลงบนพื้นผิวเรียบของโต๊ะ เขาถามว่า “ภารกิจของเธอเกี่ยวข้องกับลูซิเฟอร์หรือไม่”

 

“ไม่ ภารกิจของฉันเกี่ยวข้องกับอย่างอื่น เพียงแค่วารันพูดถึงสิ่งที่น่าสนใจ เมื่อฉันอยู่กับเขา” ไอย์ อธิบายหลังจากปฏิเสธข้อสันนิษฐานของแซนเดอร์

 

“ได้ยินอะไรมา” แซนเดอร์ถาม ในขณะที่เขาพุ่งไปข้างหน้าในที่นั่ง พลางมองขึ้นไปในดวงตาที่สวยงามของ ไอย์อย่างรวดเร็ว..

 

“มันเป็นเรื่องของ แวเรียนที่เกิดขึ้นใหม่” ไอย์ตอบโดยบอกเป็นนัยถึงบางสิ่งที่คลุมเครือ

 

“แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่? พวกเขาเกี่ยวข้องกับ ลูซิเฟอร์ อย่างไร” แซนเดอร์ถามโดยไม่เข้าใจว่าทําไมองค์กรขนาดใหญ่ถึงเชื่อมโยงกับลูซิเฟอร์ ในเมื่อเป้าหมายของพวก เขาแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

คลิปหลุด

“ฉันคิดว่านายสามารถเดาได้ จากเรื่องนั้น เห็นได้ชัดว่า นายช้า” ไอย์สรุป ขณะที่เธอเริ่มหัวเราะ เธอหัวเราะเบา ๆ เจื่อไปด้วยความสนุกสนานในการสังเกต

 

“ฉันไม่ได้คาดเดาไว้ บอกฉันว่าเกี่ยวกับอะไร” แซนเดอร์ตอบ ขณะที่เขากลอกตา เขาไม่รู้สึกเขินอายที่ไอย์ หัวเราะเยาะเขาตั้งแต่เธอเป็นเพื่อน เขารู้ว่าเธอแค่ล้อเลียนเขา

 

แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาจะไม่คาดเดา แต่หัวของเขาพยายามค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสองอยู่ตลอดเวลา

 

เขาถามทันที ขณะคิดอะไรบางอย่าง “พวกเขาตามหาลูซิเฟอร์ด้วยเหตุผลบางอย่างหรือเปล่า”

 

“บิงโก ดูเหมือนว่านายยังกระตือรือร้นอยู่” ไอย์ยอมรับขณะที่เธอยิ้ม

 

“พวกเขาตามลูซิเฟอร์เหรอ พวกเขารู้เกี่ยวกับคนๆนั้นได้ยังไง และฉันไม่คิดว่าเรามีสายลับอยู่เคียงข้างพวกเขา เธอรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาตามล่าลูซิเฟอร์ ทั้งที่ฉันก็ไม่รู้เรื่องเลย” แซนเดอร์ถามด้วยความสงสัย สิ่งที่พวกคนเบื้องบนรู้แต่ตันเขาเองไม่ได้?

 

“นายรู้เรื่องโรงงานที่นายกําลังสืบสวนเกี่ยวกับ ลูซิเฟอร์หรือเปล่า” ไอย์ถามคําถามกลับ

 

“ใช่ ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้สํารวจสถานที่นั้น แม่ทัพ แมกซ์เวลล์ผู้นั้นมีอํานาจในสถานที่นั้น เขาไม่ได้ให้ฉันเห็นสถานที่นั้นด้วยซ้ํา แล้วเรื่องนี้ล่ะ?” แซนเดอร์จําสถานที่ที่ไอย์พูดถึงได้

 

หลังจากพบว่าเด็กที่ฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์คือลูกชายของ เซลแอซเรล และ แคลรีส เขาได้ไปที่โรงงานด้วยตัวเองเพื่อค้นหาว่าทําไมลูกชายของคนที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ถึงเป็น แบบนั้นและเขาควรจะตายภายในโรงงานได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะหวังที่จะตรวจสอบสถานที่นี้ แต่เขาไม่ได้รับอนุญาต

 

เขาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการขออนุญาต และ ถึงอย่างนั้น โอกาสที่เขาจะประสบความสําเร็จก็ต่ําเกินไป นั่นคือเหตุผลที่เขาตัดสินใจใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย 

 

เขาใช้ความช่วยเหลือของไอย์ เพื่อให้นักโทษของเธอแช็ค ระบบเฝ้าระวังของสถานที่นั่นคือวิธีที่เขาได้ภาพการทรมานของลูซิเฟอร์เพื่อรู้ว่าเหตุใดเขาจึงเกลียดมนุษย์

 

เขายังคงมีภาพที่เขาไม่ได้แชร์กับใครเลยเพราะเขาอาจถูกลงโทษ เนื่องจากมีภาพที่ได้รับโดยใช้วิธีการที่ผิดกฎหมาย เขาไม่เพียงแต่ถูกจับกุมในเรื่องนี้เท่านั้น แต่ยังถูกปลดออกจากตําแหน่งหัวหน้าหน่วยเดลต้าด้วย

 

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด แม้แต่ไอย์ก็อาจถูกลงโทษสําหรับ การช่วยเหลือเขานั่นเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้เผยแพร่ภาพ นั้นให้ผู้อื่นทราบ

 

“วารันพยายามจับสมาชิกทั้งหมดของ แวเรียนท์ ที่เกิดขึ้นใหม่ เขาพบว่ามีสมาชิกที่รู้จักกันดีของ แวเรียนท์ ที่เกิดขึ้นใหม่ อยู่ใกล้ๆ สถานที่นั้น” ไอย์อธิบาย ขณะที่เธอพลิกแล็ปท็อปซึ่งมีภาพสถานที่นั้นอยู่

 

“เมื่อทีมของเขาไปที่นั่น พบว่าสถานที่นั้นว่างเปล่า แต่มีคําใบ้บางอย่างที่ทําให้เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นตั้งค่ายอยู่ใกล้โรงงาน” เธอกล่าวต่อ

 

มีซองและแก้วพลาสติก 2-3 ชิ้นเตร็ดเตร่ไปมา รูเสาบางรู สามารถเห็นได้ในภาพที่ไอย์แสดง

 

“นายรู้ไหมว่านี่หมายความว่าอย่างไร” เธอถามอย่างจริง

 

“ใช่ นั่นคือ…” แซนเดอร์เริ่มตอบ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ไอย์ ก็เริ่มพูด

 

“พวกเขาอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน คําถามยังคงอยู่ว่าทําไมพวกเขาถึงอยู่ที่นั่น และทําไมพวกเขาถึงออกไปโดยไม่ทําอะไรเลย คําตอบสําหรับคําถามนั้นขึ้นอยู่กับสมมติฐานของเรา เนื่องจากเราไม่สามารถอ่านความคิดของพวกเขาได้ แต่ฉันมีความคิดบางอย่างว่าทําไมพวก” ไอย์ตอบ

 

“ลูซิเฟอร์…” แซนเดอร์พึมพํา

 

“ใช่ ฉันเชื่อว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นเพื่อลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์เป็นเด็กที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพมหาศาล สําหรับอนาคต องค์กรใด ๆ ก็ตามที่ต้องการตามเขา โดยเฉพาะองค์กรชั่วร้ายของแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อครอบครองโลก ผู้สมัครสําหรับพวกเขาจะมีอะไรดีไปกว่า ลูซิเฟอร์ ผู้ซึ่งเกลียดชังมนุษย์เหมือนกับที่พวกเขาทํา” ไอย์บอกเป็นนัย

 

“พวกเขาคงรู้ว่าลูซิเฟอร์เป็นสาเหตุของการสังหาร ท้ายที่สุด การค้นหาตัวตนของเขาเป็นเรื่องง่าย พวกเขามีแวเรียนท์ที่ทรงพลังมากมาย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขา ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การค้นหาเกี่ยวกับลูซิเฟอร์ไม่ได้ต่ําไปกว่าความสามารถของพวกเขา” หลังจากพูดจบเธอก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง ที่นั่งขยับขึ้นเล็กน้อย และเมื่อ ไอย์ยืนขึ้น เธอหันกลับมาและเดินไปที่หน้าต่างข้างหลังเธอ

 

เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง เธอพูดเบา ๆ ว่า “เด็กที่ใช้ ชีวิตครึ่งชีวิตในสถานที่นี้…หัวใจของเขาแผดเผา ด้วยเปลวเพลิงแห่งการแก้แค้น…สังหารทุกคนที่เข้ามาในเส้นทางของเขา…มันไม่ยากที่จะค้นหาว่าเขาจะไปที่ไหน”

 

“ถ้าฉันอยู่ในที่ของพวกเขา ฉันก็คิดว่าเขาจะไปที่โรงงานเพื่อทําลายมัน จะมีวิธีใดที่ดีไปกว่าที่จะพาเด็กที่เกลียดทุกคนมาอยู่เคียงข้างพวกเขามากกว่าช่วยเขาใน การแก้แค้น ฉันเชื่อว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึง อยู่ที่นั่นโดยคิดว่าลูซิเฟอร์จะมา” เธอกล่าว

 

“พวกเขาออกจากที่นั่น ถ้าสิ่งที่เธอพูดถูกต้อง แสดงว่าพวกเขารู้ว่าลูซิเฟอร์จะไม่มาที่นั่นใช่หรือไม่” แซนเดอร์ปล่อยตัวออกมา ขณะที่เขายืนขึ้นเช่นกัน เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติที่นี่

 

เขายังไม่ได้ประกอบชิ้นส่วนข้อมูลทั้งหมด และรอฟลูเรนพาลูซิเฟอร์ ที่ถูกจับโดยพวกเขาและพวกเขากําลังกลับมา

 

เขาไม่คิดว่าจะมีอะไรผิดพลาดกับพวกเขาเพราะเขา มั่นใจว่า ฟลูเรน จะโทรหาเขาถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

 

ความรู้สึกตอนนั้นคืออะไร? เขาพลาดอะไรไป? อะไรที่เขาไม่สามารถวางมือได้? คําถามมากมายผุดขึ้นในหัวของเขา

 

“อาจจะ แต่ฉันมีทฤษฎีที่แตกต่างออกไป ฉันคิดว่าพวกเขาตระหนักว่าเราพบตําแหน่งของพวกเขา หลักฐานพื้นดิน แสดงให้เห็นชัดเจนว่าพวกเขาจากไปไม่นานก่อนที่ทีมของเราจะไปถึงที่นั่น พวกเขาคงรู้เรื่องการจู่โจมของเราและ จากไปก่อนหน้านี้ เราไปถึงที่นั่นได้” ไอย์ คิดตามทฤษฎีเมื่อเธอเหลือบมองแซนเดอร์

 

“ใช่…ต้องเป็นอย่างนั้น” แซนเดอร์พึมพําภายใต้ลมหายใจ คิดว่าคําพูดของเธอมีคุณธรรมอยู่บ้าง

 

คําตอบของเธอมาพร้อมกับความเงียบชั่วขณะ เมื่อไม่มีใครพูดอะไร

 

วืดดดด! วืดดดดด!

 

“อะ-” แซนเดอร์กําลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาหยุดลงเมื่อโทรศัพท์เริ่มดังขึ้น

 

เขาหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ เขามองดูชื่อ

 

ตอนที่ 107: พบกับไอย์

คลิปหลุด

“ท่านอาจารย์แซนเดอร์ ยินดีต้อนรับกลับมา”

 

มีอาคารสูงหลายชั้น มันถูกปกคลุมไปด้วยกระจกที่สะท้อนแสงอาทิตย์สดใสอยู่รอบตัว อาคารมีมากกว่า 40 ชั้น ทําให้สูงมาก

 

แม้ว่าอาคารจะสูง แต่ก็ยังไม่มีที่ไหนใกล้กับอาคารที่สูงที่สุดในเอลิเซียม

 

มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านบนของอาคาร เฮลิคอปเตอร์ทหารยืนอยู่บนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ใบพัดของมันยังคงแกว่งไปมา ตอกย้ําความจริงที่ว่าไม่นานนักตั้งแต่เฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่นี่

 

ชายผมแดงก้าวออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ซึ่งได้รับการต้อนรับจากยามที่ปกป้องทางเข้าลิฟต์

 

ชายผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผู้นํากลุ่มเดลต้า แซนเดอร์ เบลก เขาเพิ่งกลับไปที่ฐานของ APE

 

สมาชิกในทีมที่ออกไปกับเขาที่อิเครโก้ก็กลับมากับเขาด้วย พวกเขาถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องเมืองจากพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนที่ยึดครองเมือง

 

แซนเดอร์มองไปรอบๆ แต่ไม่พบเฮลิคอปเตอร์ลําอื่นที่ทีมของเขายึดไป

 

“ฉันไม่เห็นทีมของฉันที่นี่ พวกเขายังไม่กลับมาเหรอ?” เขาถามผู้คุม “แปลก อะไรทําให้พวกเขาใช้เวลานานขนาดนี้ พวกเขาน่าจะกลับมาแล้ว”

 

“ขอโทษครับท่าน ตอนนี้ท่านกลับมาแล้ว คนอื่นๆยังอยู่ ข้างนอกเท่าที่ผมทราบ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตอบแซนเดอร์แล้วส่ายหัว

 

“เอาล่ะ ขอบคุณสําหรับข้อมูล” แซนเดอร์พูดขณะเดินไปที่ลิฟต์ สมาชิกในทีมของเขาตามเขาไป

 

มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือวางอยู่ใกล้ลิฟต์ มีเพียงสมาชิกของ APE เท่านั้นที่สามารถใช้ลายนิ้วมือเพื่อใช้ลิฟต์ได้

 

“ลายนิ้วมือได้รับการยอมรับ ยินดีต้อนรับ เซอร์แซนเดอร์”

 

เมื่อลายนิ้วมือตรงกัน ระบบในลิฟต์ก็ประกาศก่อนประ ตูลิฟต์จะเปิดออก

 

แซนเดอร์และคนอื่นๆ ก้าวเข้ามา

 

แซนเดอร์แตะ 2 ปุ่ม หนึ่งสําหรับชั้น 36 ในขณะที่อีกชั้นหนึ่งสําหรับชั้นที่สิบ

 

สํานักงานใหญ่ของ APE มีโครงสร้างที่แปลกประหลาด

 

มันมีมากกว่า 40 ชั้น 10 ชั้นแรกได้รับมอบหมาย ให้เป็นหน่วยเดลต้า 10 ชั้นถัดไปถูกกําหนดไว้สําหรับทีมเบต้า ชั้นที่ 21 ถึง 35 สงวนไว้สําหรับหน่วยอัลฟ่า แต่ละหน่วยควรแยกชั้นหนึ่งออกจากชั้นที่ได้รับมอบหมายให้กักขังนักโทษที่พวกเขาจับได้

 

ชั้นที่ 36 สงวนไว้สําหรับแซนเดอร์หัวหน้าหน่วยเดลต้า ชั้นถัดไปสําหรับหัวหน้าหน่วยเบต้า และชั้นที่ 38 สําหรับหัวหน้าหน่วยอัลฟ่า วารันท์

 

“พวกเขากําลังแบกกรงหนัก นั่นคือสิ่งที่ทําให้พวกเขาช้ามาก เห็นได้ชัดว่าความเร็วในการบินของพวกเขาจะได้รับผลกระทบด้วยน้ําหนักที่มากขนาดนั้น” สมาชิกหน่วยเดลต้าอ้างในขณะที่เขาเห็นแซนเดอร์ดูเป็นกังวล

 

“ใช่ ฉันก็คิดแบบเดียวกัน” แซนเดอร์ยอมรับ มันสมเหตุสมผลแล้วที่พวกเขาเคลื่อนไหวช้ากว่าเขา

 

ลิฟต์หยุดที่ชั้น 36

 

แซนเดอร์ก้าวออกจากลิฟต์ เขาหันกลับมาและสังเกตผู้ชายที่อยู่ในลิฟต์

 

“พักผ่อนเสีย คุณทํางานหนักในการต่อสู้” เขาพูดขณะมองประตูลิฟต์ปิดลง

 

ในไม่ช้าเขาก็เดินกลับไปที่สํานักงาน ซึ่งมีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมืออีกอันวางอยู่

 

เขาวางนิ้วโป้งบนเซ็นเซอร์ซึ่งเปิดประตู

 

แซนเดอร์ก้าวเข้าไปในห้องและเดินไปรอบๆโต๊ะเพื่อนั่งบนเก้าอี้

 

“เฮ้อ… ในที่สุด มันก็จบลงแล้ว ในไม่ช้า ลูซิเฟอร์จะถูกพามาที่นี่ จากนั้นจะเป็นความพยายามอย่างหนักอีกครั้งที่จะพาเขาไปยังที่ที่ถูกต้อง ฉันต้องพาเขามาอยู่เคียงข้างเรา และทําให้เขาเห็นความผิดที่เขาทํา”

 

“ถ้าเขาเข้าร่วมฝ่ายดีและต่อสู้กับเรา เขาอาจจะเป็นแวเรียนท์อีกคนในอนาคต” เขาพึมพําขณะเคาะโต๊ะไม้ข้างหน้าเขาด้วยนิ้ว

 

“ว่าแต่พวกเขาไปถึงไหนแล้ว”

 

เขานําโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเพื่อโทรหาฟลูเรน เพื่อขอข้อมูลอัปเดตอีกครั้ง

 

เขากดหมายเลขและเลื่อนนิ้วโป้งไปที่ตัวเลือกการโทร อย่างไรก็ตาม ก่อนที่นิ้วหัวแม่มือของเขาจะสัมผัสได้ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

 

“ไอย์? เวลาของเธอมันแย่มาก” แซนเดอร์คิดขณะที่เขายิ้มอย่างเหน็บแนม เขารับสาย

 

“ไอย์ เธอต้องการอะไรไหม” เขาถามทันที

 

ในสํานักงานของเธอบนชั้น 37 ไอย์กําลังดูบางอย่างในตู้นิรภัยของเธอ

 

“นายหมายความว่าอย่างไร นายกลับมาแล้ว แต่นายไม่มาหาฉันเลย ฉันต้องการถามนายเกี่ยวกับภารกิจเฉพาะของนาย” เธอตอบแซนเดอร์ขณะที่เธอกลอกตา “เร็วเข้า ฉันจะรีบไป”

 

“ก็ได้ ฉันจะไปที่นั่น”

 

แซนเดอร์ยกเลิกการรับสายและออกจากสํานักงานอีกครั้งเพื่อไปหาไอย์

 

เขาอยากรู้ว่าเธอต้องการอะไร ความกังวลนี้ทําให้เขาหันเหความสนใจ เขาลืมโทรหาฟลูเรน เพื่อถามเขาว่าเขาและคนอื่นๆไปถึงไหนแล้ว

 

“ถึงแล้ว” ไอย์อุทานเมื่อพบสิ่งที่ต้องการ มันเป็นเพนไดรฟ์ที่ถูกเก็บไว้ในตู้เซฟ

เธอนําเพนไดรฟ์ออกมาและปิดตู้นิรภัยอีกครั้งขณะที่เธอเดินกลับไปที่เก้าอี้

 

หลังจากเสียบเพนไดรฟ์ลงในแล็ปท็อปแล้ว เธอก็เปิดเครื่องขึ้นมาขณะที่เธอเริ่มรอให้แซนเดอร์มาถึง

 

เธอเพิ่งใส่รหัสผ่านของแล็ปท็อปเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู

 

“เข้ามา

 

ประตูห้องเปิดออก และแซนเดอร์ก็เข้ามาข้างใน

 

เขาเดินตรงไปที่เก้าอี้ที่วางอยู่อีกด้านของโต๊ะตรงหน้าไอน์

 

เขานั่งบนเก้าอี้โดยไม่ขออนุญาตเพิ่มเติม “เธอโทรมาหาฉัน”

 

“ใช่ มันเกี่ยวกับภารกิจของนายที่เกี่ยวข้องกับลูซิเฟอร์ เด็กที่นายกําลังไล่ตาม” ไอย์ตอบ

 

“แล้วเขาล่ะ มันเป็นภารกิจของฉัน ฉันไม่เชื่อว่าวารันท์จะพาเขาไปจากฉันตอนนี้ที่ฉันจับเขามา ถ้าฉันพยายามบ้าง ฉันควรจะได้ความปรารถนาของฉัน นอกจากนั้น ฉันทําไม่ได้ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร” แซนเดอร์เน้นย้ํา

 

“มันไม่เกี่ยวกับเขา แต่เกี่ยวกับลูซิเฟอร์ในอีกทางหนึ่ง ฉันมีข้อมูลบางอย่าง” ไอย์กล่าวพลางถอนหายใจ

 

จากรูปลักษณ์ของเธอ ดูเหมือนว่าเรื่องจะร้ายแรง

 

 

ตอนที่ 106: เขาทํา

 

ลูซิเฟอร์ตัดสินใจที่จะยอมรับข้อเสนอของเคนและค่อย ๆ ลอยลงมาจนเขาตกลงบนพื้น

 

เขาเดินไปทางเคนด้วยก้าวเล็กๆ ไม่รีบร้อนใดๆ

 

“ฉันจะไปกับคุณ” ลูซิเฟอร์พูดโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ในน้ำเสียงของเขา

 

“ก็ดี” เคนพูดออกมา ในขณะที่เขายิ้ม เขายื่นมือไปทางลูซิเฟอร์ราวกับว่าตั้งใจจะจับมือ “ยินดีต้อนรับสู่ทีม”

 

ลูซิเฟอร์ยืนนิ่งโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาเหลือบมองที่มือของชายคนนั้น ซึ่งไม่มีถุงมือใด ๆ ก่อนที่จะมองที่ใบหน้าของเขาราวกับว่าเขากําลังมองคนงี่เง่า

 

เคนสงสัยว่าทําไมเขาถึงมองเขาแบบนั้นก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าเขาทําอะไรผิด เขาตบหน้าผากของเขาในขณะที่เขาพูด “ใช่ ฉันจะลืมเรื่องที่คุณมีพลังแห่งการเน่าเปื่อยไปได้อย่างไร คุณไม่สามารถควบคุมมันได้”

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบ

 

“อย่ากังวลไป เรามีทรัพยากรดีๆ อยู่บ้าง เรารู้จักถุงมือที่ทําขึ้นโดยคํานึงถึงความสามารถของแม่คุณ ซึ่งจะคงอยู่ได้ 1 วันโดยไม่เสื่อมสลาย”

 

“เรากําลังพยายามใช้เทคโนโลยีนั้นอยู่แล้ว หลังจากได้สิ่งนั้น เราก็สามารถสร้างถุงมือดังกล่าวให้คุณได้หลายร้อยชิ้นเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ตามปกติตามที่คุณต้องการ ดังที่คุณทราบ เราใส่ใจสมาชิกในทีมของเรา เนื่องจากคุณกลายเป็นหนึ่งในพวกเรา คุณจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่ของเราเช่นกัน”

 

เคนพูดต่อไป ขณะที่พยายามบอกลูซิเฟอร์ถึงความจริงใจของพวกเขา รอยยิ้มของเขาไม่เคยหายไปจากใบหน้าของเขา

 

โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่ค่อยยิ้ม แต่ในภารกิจ เขาสามารถใช้บุคลิกใดก็ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีปัญหาในการแกล้งทําเป็นแสดงอารมณ์

 

ลูซิเฟอร์ยังพบว่าคําพูดของเคนว่ามันก็น่าสนใจเช่นกัน เขารู้สึกถึงกับผลประโยชน์ แต่เขายังคงสงสัย เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกโน้มน้าวเพราะเขารู้ว่าพวกเขามีแรงจูงใจซ่อนเร้นเช่นกัน

 

“ถูกต้อง เราควรไปได้แล้ว ไปกันเถอะ” เคนพูดออกมาขณะที่หันหลังกลับ เขาเดินกลับไปที่เฮลิคอปเตอร์

 

ลูซิเฟอร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินตามเขาไป โดยไม่รู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาตัดสินใจอย่างหนึ่ง เขาจะไม่คิดว่ามันเป็นมากกว่าหุ่นเชิดที่เขาจะใช้

 

เขาจะไม่ไปหาเพื่อน เขาจะไม่ปล่อยให้คนเหล่านั้นควบคุมเขาหรือใช้เขาเหมือนที่นักวิทยาศาสตร์ทํา แม้ว่าเขาจะต้องเผาโลกทั้งใบในการตัดสินใจนี้เช่นกัน

 

เขาเดินออกไปเพียง 2 ก้าวก่อนจะหยุด คิ้วที่ขมวดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาค่อยๆ หันหลังกลับ

 

เคนหยุดและมองย้อนกลับไปในขณะที่เขาได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังพวกเขา

 

เสียงเหมือนเครื่องยนต์ของรถยนต์ที่มีเสียงดัง

 

ลูซิเฟอร์จ้องมองไปในระยะไกลและเห็นรถออฟโรด 2-3 คันวิ่งเข้าหาพวกเขา รถด้านหน้าไม่มีหลังคาในขณะที่รถคันอื่นมี

 

ในรถคันแรก ลูซิเฟอร์เห็นชายร่างใหญ่ยืนอยู่ ชายคนนั้นมีสิ่งที่ดูเหมือนเครื่องยิงจรวดอยู่ในมือ ซึ่งเขาถือด้วยไหล่ขวาพยุงไว้ รถยังมีคนขับและผู้ชายอีก 2-3คน

 

“มีมากกว่านั้น” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะจ้องมองพวกเขา

 

ไฟฟ้ากระพริบอีกครั้งใกล้แขนของเขาขณะที่เขาเริ่มใช้พลังของเขา เขาทุบขาขวาของเขากับพื้นและใช้แรงกระแทกเพื่อขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า

 

เท้าของเขาทิ้งรอยลึกไว้เบื้องหลัง แต่ไม่มีฝุ่นผงใดๆ กับการบินไปในครั้งนี้ เนื่องจากพื้นดินเพิ่งมีฝนตกชุก ดินยังเปียกอยู่ หรือการกระทืบของเขาอาจทําให้มีฝุ่นฟุ้งกระจาย

 

“รออยู่นี่ก่อน!” เมื่อเห็นลูซิเฟอร์บินไปที่รถด้วยความตั้งใจที่จะโจมตีพวกเขา เคนตะโกน ” พวกเขาเป็นคนของฉัน พวกเขามาช่วยเรา!”

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคําพูดของเคนและหยุด เท้าของเขาตกลงบนพื้น แต่เขาไม่หันหลังกลับ หมัดของเขายังคงกําแน่นขณะที่ดวงตาของเขายังคงสังเกตการมาถึงใหม่

 

เคนเดินไปหาลูซิเฟอร์ ในขณะที่เขาอธิบายต่อไปว่า “ฉันบอกคุณว่าพวกเขากําลังรอให้เราระเบิดเฮลิคอปเตอร์ลําอื่นอยู่ข้างหน้า ในขณะที่หน่วยเดลต้าพบว่าคุณหายตัวไป พวกเขาหยุดและตัดสินใจย้ายกลับ เนื่องจากแผนเดิมล้มเหลว ฉันเรียกพวกเขามาที่นี่เพื่อสนับสนุนคุณในการต่อสู้ น่าแปลกใจ ที่คุณจัดการกับศัตรูได้ก่อนที่พวกเขาจะมา”

 

“ก็ได้” ลูซิเฟอร์พึมพําในขณะที่เขาหันหลังกลับและเดินต่อไปยังเฮลิคอปเตอร์ต่อไป

 

ในไม่ช้าเขาก็เข้าไปใกล้เคนและหยุดลง เมื่อเขาอยู่เคียงข้างเคนแล้ว พลางมองเข้าไปในดวงตาของเคนอย่างจริงจัง

 

เคนไม่รู้ว่าทําไม แต่เขามักจะรู้สึกหวาดกลัวทุกครั้งที่มองเข้าไปในดวงตาของลูซิเฟอร์ ครั้งนี้ก็เหมือนกัน เขาถามว่า “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”

 

เขาสงสัยว่าเขาทําอะไรผิดหรือเปล่า เขาไม่เห็นสิ่งที่เขาทําแบบนั้น

 

“ฉันต้องการเสื้อผ้า” ลูซิเฟอร์พูด มองลงมาที่หน้าอกของเขา เขาไม่มีเสื้อ เขาเปลือยอกเป็นเวลานาน

 

“นั่นสินะ” เคนหัวเราะ ในขณะที่เขาพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง เราจะซื้อโรงงานเสื้อผ้าให้คุณ”

 

“ดี” ดูซิเฟอร์พึมพําขณะเดินผ่านเขาไป เขาเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์และนั่งลงพับแขนของเขา

 

รถหยุดอยู่ตรงหน้าเคน ขณะที่พวกพวกผู้ชายก้าวออกไป

 

“อะไรนะ เจ้านาย! คุณโทรหาเพื่อเรียกเรามาที่นี่ แต่คุณจัดการกับพวกเขาแล้ว อย่างน้อย คุณอาจจะทิ้งมันไว้ให้เราบ้าง” ชายร่างใหญ่ที่ถือเครื่องยิงจรวดกล่าวด้วยหน้าตาผิดหวัง “ฉันอยากจะระเบิดพวกมันสัก 2-3 ตัว” 

 

“ฉันไม่ได้แตะเลยแม้แต่นิดเดียว” เคนตอบขณะที่เขาส่ายหัวเบาๆ

 

เขาเหลือบมองกลับไปที่เฮลิคอปเตอร์ก่อนจะพูดต่อ “ก็…ในทางเทคนิคแล้ว เขาไม่ได้แตะต้องพวกมันด้วย แต่ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของเพื่อนใหม่ของเรา”

 

“ฝีมือเด็กคนนั้นเหรอ”

 

“จริงเหรอ เขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

“ห่าเอ้ย! เขาฆ่าพวกมันทั้งหมดโดยลําพังโดยไม่ตายหรือเขาเป็นสัตว์ประหลาดแบบไหนกัน?”

 

ผู้ชายทุกคนตะลึงเมื่อรู้เกี่ยวกับลูซิเฟอร์

 

“เขาเป็นสัตว์ประหลาดชนิดใด นั่นคือสิ่งที่ข้าอยากรู้เช่นกัน” เคนพึมพําภายใต้ลมหายใจขณะที่เขาขมวดคิ้ว

 

ตอนที่ 105: การตัดสินใจเพื่ออนาคต

 

แซนเดอร์ เบลกเป็นหัวหน้าหน่วยเดลต้าของ APE ไม่มีสักคนเดียวใน APE ที่ไม่รู้ว่าแซนเดอร์เป็นใคร 

 

เขาเป็นจอมเวทระดับ S แม้ว่าเขาจะเป็นผู้นําเพียงหน่วยเดลต้า ซึ่งเป็นทีมที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่ม APE ทั้งสาม แต่ก็ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเขา เขาเป็นวอร์ล็อคที่น่าเคารพนับถือ ซึ่งเป็นที่รู้จักแม้นอก APE

 

ผู้มีอิทธิพลหลายคนรู้จักเขา ในขณะที่เขาเป็นสมาชิกของกลุ่มเดลต้า เขามักจะจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแวเรียนท์ ของประชาชนทั่วไป ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มระดับสูงที่วางความพยายามแก้ปัญหาส่วนใหญ่ในองค์กรแวเรียนท์ ที่เกิดขึ้นใหม่

 

ด้วยเหตุนี้ แซนเดอร์จึงเป็นที่รู้จักในหมู่คนทั่วไป ชื่อเสียงของเขาเป็นที่นิยมอย่างมากในที่สาธารณะ

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อ 10 วอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ แต่เขาก็ยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นวอร์ล็อค ที่น่าสะพรึงกลัว เป็นที่รู้กันว่าเปลวไฟของเขาเผาผลาญทุกอย่างให้เป็นเถ้าถ่าน มีการกล่าวกันว่าร้อนพอที่จะหลอมโลหะได้

 

แม้จะแข็งแกร่งขนาดนี้ แซนเดอร์ก็ไม่สามารถช่วยสมาชิกทีมส่วนใหญ่ได้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่แข็งแกร่งพอ แต่เพียงเพราะเขาไม่รู้ด้วยซ้ำ

 

ตามที่เขาพูด ทีมของเขาจับลูซิเฟอร์ ซึ่งอยู่ในกรงที่หนีไม่พ้นแล้ว เขาไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์หนีไปแล้วและฆ่าทีมของเขาไปครึ่งหนึ่ง

 

ฟลูเรน ไม่มีเวลาพอที่จะแจ้งแซนเดอร์ เขาต้องการจับตัวลูซิเฟอร์เอง หลังจากที่ลูซิเฟอร์หนีไปแล้ว หรืออย่างน้อยก็พยายามจับตัวเองให้ได้ก่อนที่จะบอกแซนเดอร์เกี่ยวกับความล้มเหลวของเขา เพราะเขามั่นใจในความสามารถในการจับลูซิเฟอร์

 

น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่ากําลังรออะไรอยู่ เมื่อลูซิเฟอร์เผชิญหน้ากับเขา เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะลงยืนบนพื้นดินอย่างปลอดภัย ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่จะแจ้งแซนเดอร์

 

ดังนั้นซากเฮลิคอปเตอร์ที่ตกจึงถูกเผาบนพื้นดิน ขณะที่ร่างที่มีรูขนาดใหญ่อยู่บนพื้นโดยไม่ขยับเขยื้อน ศพกระจายไปทั่ว

 

ร่มชูชีพแบบเปิดยังคงติดอยู่กับร่างกายส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ลมไม่รุนแรงอย่างที่เคยเป็นมา ร่างกายจึงไม่ถูกลากไปทั่ว ศพบางร่างถึงกับห้อยลงมาจากต้นไม้เมื่อตก ลงมา

 

หญ้าสีเขียวบนพื้นเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้ม ซึ่งไม่เพียงแต่ในบริเวณที่ศพนอนเท่านั้น กลับถูกโปรยปรายออกไปแม้ห่างไกลออกไป

 

ลูซิเฟอร์ยังคงลอยอยู่ในอากาศ ขณะที่เขามองลงไปที่พื้นอย่างไม่แสดงออก

 

แม้ว่าเฮลิคอปเตอร์เครื่องหนึ่งจะพังทั้งหมด ในขณะที่ระเบิด แต่อีกเครื่องหนึ่งยังคงไม่บุบสลาย มันอยู่บนพื้นใบพัด ของมันยังคงเคลื่อนที่ แม้ว่าจะช้ามาก

 

เคนก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์ด้วยรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาปรบมือช้าๆ “ไชโย! นั่นเป็นการแสดงที่ดี”

 

ลูซิเฟอร์จ้องมองที่เคนขณะที่ยังคงจมอยู่ในความคิด เขายังคงสับสนกับเจตนาของเคน แม้ว่าสิ่งที่เคนพูดจะดูเหมือนความจริง แต่ลูซิเฟอร์ก็ไม่รู้สึกอยากวางใจเขาทั้งหมด

 

เขาเคยเห็นมนุษย์ที่ทรยศ แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ที่แสร้ง ทําเป็นห่วงใยมนุษย์และชีวิตของพวกเขาก็แสดงให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของพวกเขา เมื่อลูซิเฟอร์ไม่มีประโยชน์อะไรกับพวกเขา

 

“มันเป็นโลกแห่งความสนใจในตนเอง คนจะดีก็ต่อเมื่อเรามีประโยชน์กับพวกเขา พวกเขาล้วนแต่เป็นคนหน้าชื่อใจคดที่คิดแต่ตัวเองเหนือคนอื่น พวกเขาทั้งหมดเหมือนกัน แก่น แท้ของพวกมัน พวกมันเป็นเพียงสัตว์ประหลาดที่รู้วิธีทําตัวให้ดีขึ้นเล็กน้อย

 

“เขาคงไม่ต่างกัน เขาและองค์กรของเขาจะเหมือนกัน พวกเขาต้องการแค่ฉันในตอนนี้เพราะฉันมีประโยชน์สําหรับพวกเขา แต่เมื่อฉันไม่อยู่ พวกเขาจะลืมทุกอย่างที่ฉันทําและโยนฉันทิ้งไปเหมือนไอ้สารเลวในห้องทดลองที่ทํา หลังจากที่พ่อแม่ของฉันเสียชีวิต เขาคิดขณะจ้องมองที่เคนที่กําลังปรบมืออยู่บนพื้น ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน

 

เขายังคงคิดว่าเขาควรใช้เคนแทนหรือว่าเขาควรจะฆ่าเคนทิ้งและดําเนินภารกิจต่อไปเพื่อทําลายโรงงาน ถ้าเขาตัดสินใจอย่างแรก เขาจะได้รับการสนับสนุนจากองค์กรใหญ่ในภารกิจของเขา แต่ส่วนใหญ่เขาอาจจะต้องทําสิ่งต่าง ๆ เพื่อแลกกับพวกเขาเช่นกัน

 

ถ้าเขาเลือกอย่างหลัง เขาจะอยู่คนเดียว แต่เขาจะมีอิสระมากกว่านี้ มันไม่ดีทั้งหมดเพราะเขารู้ว่าอิสระที่มากขึ้นจะมีความเสี่ยงมากขึ้นเช่นกัน เพราะเขาอาจเผชิญกับสถานการณ์เช่นวันนี้เมื่อโจมตีโรงงาน

 

ถึงตอนนี้ เขามั่นใจว่าคนอื่นๆ รู้ว่าเป้าหมายของเขาคืออะไร เขารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะรู้ แต่เขาไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาวางกับดักโดยให้ข้อมูลปลอมเกี่ยวกับที่ตั้งของโรงงาน

 

เขาทําผิดพลาดอีกครั้งในการไว้วางใจมนุษย์ โดยคิดว่าพวกเขาสามารถบอกความจริงได้ เมื่อชีวิตของคนที่พวกเขารักมีปัญหา แต่แซนเดอร์ยังคงโกหกเขา นั่นพิสูจน์ได้เพียงว่าพวกเขาฉลาดแกมโกงและไม่สนใจพวกเขาแค่ไหน

 

เนื่องจากคนเหล่านั้นรู้เป้าหมายของเขา คนเหล่านั้นจะไม่ยอมให้เขามีวิธีการโดยไม่ได้คิดแผนอื่นอย่างแน่นอน เนื่องจากเขาได้ฆ่าคนส่วนใหญ่ที่นี่ เขาจึงมั่นใจว่าการโจ มตีครั้งต่อไปจะมีขนาดใหญ่กว่ามาก

 

ถ้าเขาปฏิเสธเคน องค์กรของเขาอาจจะไล่ตามเขาเช่นกัน ดังนั้นผลลัพธ์ของการปฏิเสธจึงแย่กว่าการตอบว่าใช่มาก ถึงกระนั้น เขาก็ไม่อยากเห็นมันด้วยซ้ำ

 

เขาไม่ต้องการที่จะลืมทุกสิ่งทุกอย่างและปะปนกับมนุษย์อีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นการหาข้อมูลก็ตาม

 

“ฉันว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทํา หลังจากฉันได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ฉันจะจากไป แม้ต้องทําลายพวกมันไปตลอดทาง เรื่องนี้คงจะดี ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาควบคุมฉัน แม้ว่ามันคือเทพเจ้าก็ตาม” เขาพึมพําเบาๆ ขณะตัดสินใจว่าจะทําอย่างไร

 

มันเหมือนกับว่าเขาตัดสินใจอยู่กับหญิงสาวที่เขาพบระหว่างทาง เพื่อเรียนรู้ศิลปะการล่าสัตว์และการทําอาหารจากเธอ.. เขาจําเป็นต้องใช้คนเหล่านั้น ก่อนจะจากไปโดย ไม่ให้โอกาสคนเหล่านั้นหักหลังเขา

 

ตอนที่ 104: ความโกรธเกรี้ยวของทวยเทพ

 

“ฉันได้ตัวแกแล้ว” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะจับกําปั้นของฟลูเรน ก่อนที่มันจะแตะหน้าอกของเขา

 

“ดูเหมือนว่าฉันพูดถูก แกไม่สามารถอยู่แบบนั้นได้เสมอไป อย่างที่แกพูด บางครั้งการใช้สมองอาจดีกว่านี้” เขากล่าวต่อ ในขณะที่เขาจ้องมองฟลูเรนอย่างไร้ความรู้สึก 

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์พูด เขามองดูสีหน้าเจ็บปวดของฟลูเรน ซึ่งเกือบจะกรีดร้อง

 

ฟลูเรนรู้สึกถึงความสามารถของลูซิเฟอร์นั่นคือพลังแห่งการเน่าเปื่อย ขณะที่ลูซิเฟอร์จับมือของเขา ซึ่งออกจากพื้นที่ของการใช้พลังแห่งการควบคุมพื้นที่ พลังแห่งการเน่าเปื่อยของลูซิเฟอร์ก็เริ่มมีผล ซึ่งส่งผลต่อร่างกายของฟลูเรนทั้งหมด แม้แต่ส่วนของร่างกายที่อยู่ในพื้นที่อื่นก็ได้รับผลกระทบ

 

เซลล์ของเขาเริ่มตาย เมื่อร่างกายของเขาแก่ลง การอักเสบเริ่มขึ้นในร่างกายของเขา ในขณะที่เลือดของเขาเริ่มระเหย ผิวของเขาเริ่มแห้งและแตกสลาย

 

ด้วยความฟุ้งซ่านและการเน่าเปื่อยของร่างกายของเขาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว พลังแห่งการควบคุมพื้นที่ของเขาก็แตกสลาย เมื่อร่างกายทั้งหมดของเขากลับสู่พื้นที่จริง

 

“อ๊าก! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!!” ฟลูเรนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เขาพยายามจะปล่อยมือ แต่ความแข็งแกร่งของเขาเทียบไม่ได้เลยกับลูซิเฟอร์

 

ราวกับว่ามือของเขาถูกจับโดยเทพผู้ยิ่งใหญ่ เนื่องจากเขาอยู่ในอากาศ เขาจึงไม่สามารถใช้พื้นดินเพื่อขับเคลื่อนตัวเอง และถอยหลังเพื่อปลดปล่อยตัวเองได้

 

เกรทและโอเอนก็ตกตะลึงเช่นกัน เมื่อเห็นฟลูเรน ซึ่งเริ่มดูเหมือนโครงกระดูก เสียงกรีดร้องของเขาไม่เคยหยุด อย่างน้อยก็จนกว่าร่างกายของเขาจะกลายเป็นขี้เถ้าที่โปรยลงบนพื้น

 

เมื่อนําน้ําหนักมนุษย์ออกจากร่มชูชีพ มันก็ลอยไปกับลม

 

อีก 2 แวเรียนท์เฝ้าดูรองหัวหน้าของพวกเขาตาย เหงื่อท่วมหน้าเพราะเหลือกันแค่ 2 คน หลังจากการตายของฟลูเรน ไม่มีใครดึงดูดความสนใจของลูซิเฟอร์ ยกเว้นคนทั้ง 2 คน

 

ยังมีเวลาอีกสักระยะ ก่อนที่พวกเขาจะลงบนพื้นและสามารถต่อสู้หรือวิ่งได้ ก่อนหน้านั้น พวกเขาอยู่ในความเมตตาของลูซิเฟอร์ ทั้งสองมองลงไปที่พื้นขณะที่เหงื่อออกมากขึ้น

 

“ถ้าเขาโจมตีตอนนี้ พวกเราคนหนึ่งจะตาย มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดได้เพราะเราอยู่ใกล้พื้นดิน” เกรทชี้ให้เห็น ขณะสูดหายใจเข้าลึกๆ

 

โอเอนเข้าใจถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ หัวใจของเขาเต้นเหมือนกลองเมื่อเห็นความตายต่อหน้าเขา

 

เขายังคงรักษาความกล้า ในขณะที่พูดว่า “ใครก็ตามที่รอดชีวิตต้องวิ่งเข้าไปในปาลึกและซ่อนตัว เราไม่สามารถต่อสู้กับเขาได้ การเสียสละของเราไม่ควรสูญเปล่า”

 

เกรทจ้องมองเพื่อนของเขา ซึ่งเป็นคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่กับเขา เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

 

คิ้วของเขาลดต่ําลง ในขณะที่เขาพูดอย่างสิ้นหวัง “ฉันอยู่ใกล้เขาดังนั้นเขาจะโจมตีฉันอย่างแน่นอน ดีเช่นกัน นายมีลูกสาวและภรรยา ในทางกลับกันฉันเป็นโสดไม่มีใคร ไม่มีใครคิดถึงฉัน หลังจากที่นายลงถึงพื้นแล้ว ได้โปรดวิ่งไป อย่าหันหลังกลับ ทําเพื่อให้ตนเองรอดตายจากทุกวิถีทาง”

 

“หลังจากที่นายหลบหนี กลับไปที่ฐานและบอกวารันท์ว่า เกิดอะไรขึ้น กัปตันแซนเดอร์แข็งแกร่ง แต่เรากําลังรับมือกับสัตว์ประหลาดที่นี่ เราจําเป็นต้องใช้กําลังทั้งหมดของเรา เพื่อบดขยี้เขา มิฉะนั้นเราอาจต้องทนทุกข์กับเหตุการณ์เช่นวันนี้ ทําทุกอย่างให้แน่ใจว่านายจะเอาตัวรอดไปได้และบอกทุกอย่าง!” เขากล่าวต่อ

 

“อะไร นายกําลังพูดอะไร แน่นอน นายจะเป็นซู-” โอเอนกําลังจะพูดตอบกลับ แต่เขาก็ต้องหยุด ขณะที่เขาเห็นลูซิเฟอร์หันกลับมา

 

ลูซิเฟอร์กําลังมองกลับมาที่พวกเขา ใบหน้าของเขาได้ ความรู้สึกเช่นเคย เขายังสามารถเห็นได้ว่าไม่มีเวลามากพอที่จะโจมตีเพราะพวกเขากําลังจะถึงพื้นในไม่ช้า ถ้าเขาโจมตีหนึ่งในนั้นตอนนี้ อีกคนหนึ่งจะรอดชีวิตและวิ่งหนีไปตั้งแต่เขาอยู่บนพื้น

 

เขาเคยโจมตีทีละคนจนถึงตอนนี้ตั้งแต่เขาไม่มั่นใจว่าเขาจะโจมตีคน 2 คนพร้อมกันได้อย่างแม่นยําหรือไม่

 

เขาตัดสินใจที่จะทํามันแม้จะเสี่ยงต่อการหายไป ในขณะที่เขายกแขนทั้งสองข้างไปทางทั้ง 2 แวเรียนท์

 

“อะไรนะ! เขาจะโจมตีเราทั้งคู่เหรอ!” ทั้งสองตะโกนพร้อมกันอย่างตกตะลึง ทั้งสองเข้าใจสิ่งที่ลูซิเฟอร์พยายามทํา

 

“เขายังทําอย่างนั้นได้หรือ”

 

“เขาไม่ได้ทําอย่างนั้นตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้น อย่างน้อยก็ไม่ประสบความสําเร็จในการฆ่า 2 คนในเวลาเดียวกัน เขากําลังลองสิ่งใหม่ๆ หรือไม่ เราจะตายถ้าเขาสามารถทําเช่นนี้ได้”

 

ไม่มีแวเรียนท์ใดในทั้ง 2 คนที่เชื่อว่าลูซิเฟอร์จะทําได้ หากลูซิเฟอร์ทําสิ่งนี้ได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงทําไปแล้ว

 

ลูซิเฟอร์ต่อสู้กับฟลูเรน ในเอรีกัส เขาได้ต่อสู้กับศัตรูหลายคนที่นี่เช่นกัน ทําไมเขาถึงไม่โจมตีพร้อมๆกันในเมื่อเขาสามารถเล็งได้ขนาดนั้น?

 

“ทําไมเขาจะต้องพยายามทําแบบนั้น ในเมื่อเขาทําไม่ได้ ดูเหมือนว่าฉันจะกลับไปบอกอาจารย์วารันท์หรือกัปตันแซนเดอร์ไม่ได้แล้ว เราทั้งคู่จะต้องตายที่นี่” โอเอนพึมพํา ขณะจ้องมองไปที่ท้องฟ้า เขาหลับตาลงอย่างนุ่มนวลราวกับว่า เขายอมแพ้ไปแล้ว

 

“ภรรยาและลูกสาวของฉัน ฉันหวังว่า APF จะสามารถจับผู้ชายคนนี้และกําจัดมันได้ ดังนั้นมนุษย์จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความโกรธของสัตว์ประหลาดตัวนี้” เขาคร่ําครวญ ขณะสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าที่เขาเชื่อ

 

ขณะนั้นท้องฟ้าก็ฟ้าร้องราวกับว่าพระเจ้ากําลังตอบสนองต่อเขาโดยบอกเขาว่าพวกเขากําลังเฝ้าดูทุกอย่าง 

 

รอยยิ้มที่พึงพอใจแผ่ขยายไปทั่วริมฝีปากของโอเอน ขณะที่เขาได้ยินเสียงฟ้าร้องที่โหมกระหน่ําของธรรมชาติ

 

“อื้อ!”

 

เขากระอักเลือดออกมาในขณะที่สายฟ้าสีดําของลูซิเฟอร์โจมตีเขา

 

ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายของเขา

 

เขามองไปด้านข้างและเห็นรูขนาดใหญ่ในอกของเกรท เสื้อผ้าของเขาเต็มไปด้วยเลือดเช่นกัน ริมฝีปากของเขามีเลือดออกราวกับน้ําตาหยดเดียวที่หางตาไหลลงมา ดวงตาของเขาสูญเสียความแวววาว แต่ก็ยังเปิดอยู่แม้ว่าเขาจะเสียชีวิต

 

โอเอนเฝ้าดูเพื่อนคนสุดท้ายของเขาตายเช่นกัน แต่เขารู้ว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นานเช่นกัน ร่างกายของเขาได้รับความเสียหายเกินกว่าจะซ่อมแซมได้

 

เขาจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาพูดคําสุดท้ายว่า “แกคิดว่าคุณคือพระเจ้า ใช้ชีวิตในภาพลวงตานั้นให้นานที่สุดเท่าที่จะทําได้ วันหนึ่งแกจะต้องทนทุกข์กับความพิโรธของพระเจ้าที่แท้จริง”

 

ดวงตาของเขาปิดลง ในขณะที่เขาสูญเสียช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต

 

ตอนที่ 103: ค้นพบความอ่อนแอ

 

“ฮ่าๆๆๆ!” ฟลูเรนเยาะเย้ยลูซิเฟอร์อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพักเพราะเขาไม่ต้องการเสี่ยง เขาตระหนักว่าการปล่อยให้ลูซิเฟอร์โจมตีร่มชูชีพนั้นแย่กว่าสําหรับเขา

 

ลูซิเฟอร์ที่โกรธจัดดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสําหรับเขาในตอนนี้

 

“ฉันอธิบายไม่ได้ว่าดีใจแค่ไหนที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอตายไปแล้ว แต่น่าเสียดายที่พวกเขาพาคนไปตายกับพวกเขามากขึ้นแต่ข้อดีกับการตายของพวกเขาก็ยังเด่นกว่าความเลวที่มากับความตายของผู้อื่น”

 

“แล้วหยุดการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์นี้ได้ไหม หยุดต่อต้านและยอมรับความตายของเธอซะ ทําความดีกับพ่อแม่ของเธอพวกเขาจะคิดถึงเธอในนรก”

 

“แค่ยอมรับความตายของตัวเองและไปรวมเป็นหนึ่งกับพวกเขา”

 

ขณะที่ฟลูเรนคุยกับลูซิเฟอร์ เขาค่อยๆ เหลือบมองที่พื้นเพื่อคิดคร่าวๆ เกี่ยวกับเวลาที่เขาต้องการลงไปยืนบนพื้น 

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคนเยาะเย้ยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเขาจะรู้ว่าฟลูเรนพยายามทําอะไร เขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ของเขากลับเป็นจุดอ่อนของเขา และเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ทุกครั้งที่พ่อแม่ของเขาถูกพูดถึงในทางไม่ดี

 

นี่เป็นเหตุผลเดียวที่เขาฆ่าชายคนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ทําอะไรที่เลวร้ายยกเว้นการเยาะเย้ยพระบิดาของเขา 

 

ลูซิเฟอร์ก็เหมือนกันในครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะรู้ว่าการโจมตีร่มชูชีพเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการฆ่าฟลูเรนอย่างมีประสิทธิ์ภาพแต่เขาไม่ทํา

 

เขาต้องการลงโทษฟลูเรนด้วยตัวเองไม่ว่าเขาจะพบว่า การตัดสินใจของเขาโง่แค่ไหน

 

เขากําลังจะโจมตีฟลูเรนแต่เมื่อเขาเปลี่ยนแผนในนาที สุดท้าย เขาก็เปลี่ยนเป้าหมายด้วยแทนที่จะโจมตีร่มชูชีพของฟลูเรนเขาลดมือลง 2-3 นิ้วแล้วเคลื่อนไปทางซ้ายก่อนที่พลังสายฟ้าจะถูกยิง

 

สายฟ้ากระพริบและล้อมรอบตัวเองขณะที่มันพุ่งไปข้าง หน้า

 

เวย์โจมตีต่อไปเมื่อเขาเห็นลูซิเฟอร์กําลังจะโจมตีฟลูเรน แต่ใบหน้าของเขาซีดราวกับว่าเขาสูญเสียเลือดทั้งหมดจากร่างกายเมื่อเห็นการเล็งไปที่ตัวเขา

 

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มเดลต้าคือพวกเขาอยู่ในความเมตตาของร่มชูชีพมันไม่มีประสิทธิภาพสําหรับพวก เขาที่จะหลบหากไม่มีข้อจํากัดดังกล่าว พวกเขาคงไม่ตาย ง่ายๆ

 

เวย์ยังมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในการหลบเลี่ยง เขาเริ่มดิ้นรนที่จะหลบแต่เขาล้มเหลวเมื่อสายฟ้าพุ่งทะลุหน้าผากของเขาทําให้เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ดวง ตาของเขาจะว่างเปล่าดวงตาของเขาสูญเสียแสงไป

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะฆ่าแวเรียนท์คนอื่นๆเขาก็ไม่รอแม้แต่จะดูชายคนนั้นตายเลือดของเขาเดือดแล้วขณะที่เขาบินตรงไปยังฟลูเรน

 

ฟลูเรนมองลูซิเฟอร์บินมาหาเขา แต่แทนที่จะดูกังวลมีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา แผนของเขาได้ผล

 

“อย่างที่คาดไว้ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งหรือดุร้ายแค่ไหนเขายังเด็กและมีแนวโน้มแบบเด็ก ๆ เขาอาจต้องเผชิญกับบางสิ่งที่สร้างความเชื่อในโลกของเขา แต่เขาก็ยังไม่มีวุฒิภาวะ ที่แท้จริง” เขาคิด ขณะที่เขาจ้องมองที่ลูซิเฟอร์โกรธที่กําลังพุ่งเข้ามาหาเขา

 

เกรทและ โอเอน อยู่ข้าง ๆ ทําตัวเหมือนผู้ชมเพราะพวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ วกเขาไม่สามารถโจมตีในระยะไกลได้และพวกเขาก็ไม่ต้องการทําเช่นนั้นเช่นกัน

 

พวกเขาเคยเห็นเพื่อนตายไปแล้ว พวกเขาไม่ต้องการเข้าร่วมกลุ่มโดยไม่สามารถสู้กลับได้ แต่พวกเขาต้องการอยู่ เงียบๆและถูกเพิกเฉย

 

ฟลูเรนสามารถเห็นลูซิเฟอร์กําหมัดของเขา ซึ่งดูเหมือนจะเต็มไปด้วยพละกําลังมหาศาลซึ่งลูซิเฟอร์พุ่งเข้าหาหน้าอกของเขา

 

“ดี, โจมตีฉัน, อีกไม่กี่นาทีฉันก็อยู่ในเขตปลอดภัยที่จะลงจอดได้แม้จะไม่มีร่มชูชีพ” ฟลูเรน คิดขณะที่เขาใช้ความสามารถในการเคลื่อนที่เชิงพื้นที่ของเขา

 

หมัดของลูซิเฟอร์ทะลุผ่านหน้าอกของฟลูเรนไปแต่มันไม่สามารถสัมผัสเขาได้ ฟลูเรนยังคงอยู่ที่นั่น ค่อยๆ ลดลง เขา ดูสมจริงเหมือนที่เคยทําแต่ร่างกายของเขาได้เปลี่ยนไปเป็ นพื้นที่แยกต่างหากชั่วคราวซึ่งทําให้เขาไม่สามารถโจม ตีได้ทั้งหมด

เขารอให้ลูซิเฟอร์ดึงมือกลับอย่างไรก็ตามนั้นไม่ได้เกิดขึ้น ลูซิเฟอร์เก็บมือของเขาแทงเข้าที่หน้าอกของฟลูเรน ขณะที่เขาลอยลงมาอย่างช้าๆกับเขา

 

ความมั่นใจบนใบหน้าของฟลูเรนหายไปเมื่อเขาเห็นเช่นนั้น ความสามารถในการเคลื่อนตัวของเขาเป็นเพียงชั่วคราวดังนั้นเขาจึงต้องกลับไปยังพื้นที่จริงแต่เนื่องจากลูซิเฟอร์ไม่ได้ปล่อยมือของเขาไปนั่นทําให้มันยากสําหรับเขา

 

ถ้ามือของลูซิเฟอร์ยังคงอยู่ในขณะที่ความสามารถของเขาหยุดทํางานเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียงไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับข้อจํากัดนี้เนื่องจากเขาไม่เคยปล่อยให้มันเป็ นที่รู้จักเขาทําให้แน่ใจว่าผู้คนรู้จักแต่ด้านที่แข็งแกร่งของ เขาเท่านั้น

 

เพียงเพราะข้อจํากัดนี้ เขาจึงแพ้ในการต่อสู้กับแซนเดอร์เบลก ในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาทําได้ดีอยู่แล้ว เขาตามทันแต่นั่นเป็นเพียงตราบเท่าที่แซนเดอร์กําลังเล่นอยู่

 

เมื่อเขาเห็นแซนเดอร์จริงจัง เขาก็ยอมจํานนทันทีเพียงเพ ราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยข้อจํากัดของเขา

 

แซนเดอร์เป็นหัวหน้าหน่วยเดลต้า ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อนักเวทย์แห่งเปลวไฟเขาเป็นนักเวทที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่พลังของเขาดูเหมือนไม่ค่อยจริงจังในการต่อสู้ แต่ไฟของเขาบอกว่าสามารถเผาไหม้ทุกอย่างเมื่อเขาทํา

 

ฟลูเรนรู้ว่าแซนเดอร์จะเผาทั้งทุ่ง และเปลวไฟของเขาสามารถเผาไหม้เป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยไม่หายไป ดังนั้นความสามารถการจัดการพื้นที่ชั่วคราวของเขาจึงไม่มีประ โยชน์ด้วยการยอมจํานน เขาได้ปกป้องขีดจํากัดของร่างกา ยจากการถูกเปิดเผย

 

คนเดียวที่สามารถคาดเดาเกี่ยวกับข้อจํากัดนี้คือแซนเดอร์ แต่เขาไม่ได้เปิดเผย

 

สิ่งเดียวกันกําลังเกิดขึ้นที่นี่ ถ้าลูซิเฟอร์ไม่ปล่อยมือฟลูเรนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

โดยไม่เสี่ยงและรู้สึกถึงความเร่งรีบของเวลา ฟลูเรนจึงตัดสินใจดําเนินการ

 

เขาเอามือขวาออกจากพื้นที่คู่ขนานของเขา และชกไปที่หน้าอกของลูซิเฟอร์เพื่อเหวี่ยงเขากลับ

 

ตอนที่ 102: แผนการหลบหนี

 

เวย์โจมตีด้วยมีดลวงตาที่แทงหน้าอกของลูซิเฟอร์ อย่างไรก็ตาม มันหายไปในทันที ทิ้งบาดแผลไว้ที่หน้าอกของเขา

 

ลูซิเฟอร์มองลงมาและเห็นเลือดไหลออกจากอก ขณะที่มีดหายไป มีบาดแผลลึกที่หน้าอก ซึ่งเริ่มรักษาอย่างช้าๆ

 

แม้ว่าบาดแผลจะเริ่มสมานแล้ว ก่อนที่ความเสียหายจะหายสนิท มีดลวงตาอีกเล่มหนึ่งก็บินมาแทงตรงบริเวณที่ได้ รับบาดเจ็บครั้งก่อนแล้วเปิดออกอีกครั้ง

 

ขณะที่มีดหายไป มีดอีกเล่มก็บินมาชนที่เดิม บาดแผลลึกและลึกขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีมีดจํานวนมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่ช้า มีดก็สามารถสร้างรูทะลุที่หน้าอกของเขาได้

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้เคลื่อนไหว แม้แต่น้อย ในขณะที่เขาเฝ้าดูมีดที่ถูกขว้างมาที่เขา การโจมตีด้วยมีดจํานวนมากขึ้น

 

พร้อมกันมุ่งไปที่ศีรษะและหัวใจของเขา แต่เขาใช้มือของเขาเพื่อหยุดการโจมตี มีดมาที่ศีรษะของเขายังคงกระทบมือ ขวาของเขา

 

ลูซิเฟอร์เพียงแค่เฝ้าดู ไม่ได้ทําอะไรกับเวย์ เวย์อาจเป็นศัตรูที่อันตรายสําหรับคนอื่นๆ แต่สําหรับลูซิเฟอร์ เขา เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดเนื่องจากการโจมตีของเขาไม่ได้มาก ไปกว่าการโจมตีของมนุษย์ปุถุชนที่เพิ่งใช้อาวุธ

 

การรักษาของเขามีมากกว่าที่จะช่วยให้เขารักษาตัวได้ในขณะเดียวกัน ลูซิเฟอร์ก็จดจ่ออยู่กับการฆ่าผู้อื่นมากขึ้น 

 

เวย์อายมากที่เห็นเขาถูกเพิกเฉย เขาถูกเรียกว่าเป็นผู้ลอบสังหารของหน่วยเดลต้า ซึ่งเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับ 3 ในกลุ่ม แต่เขาถูกเมินเฉยเหมือนเขายังเป็นเด็ก

 

สําหรับการโจมตีของเขา ถึงแม้ว่าพวกมันจะทําร้ายลูซิเฟอร์ พวกเขาไม่ได้พิสูจน์อะไรที่สําคัญในแผนการใหญ่ของ สิ่งต่าง ๆ เนื่องจากลูซิเฟอร์ยังคงฆ่าเพื่อนร่วมทีมของเขา ใน ขณะที่ทําการโจมตีแบบตัวต่อตัว

 

ลูซิเฟอร์โบกมือ ยิงสายฟ้าออกไป ซึ่งเล็งไปที่แวเรียนที่นของหน่วยเดลต้า

 

แวเรียนท์สามารถสร้างหินจากอากาศบาง ๆ เพื่อโจมตีศัตรูของเขาได้ แต่หินนั้นอ่อนแอเกินกว่าจะทําร้าย ลูซิ เฟอร์ได้ในขณะที่เขาสามารถทําลายคนเหล่านั้นได้ ในหมัดเดียว

 

ความสามารถของเขายังมีจํากัด และเขาสามารถสร้างหินก้อนใหญ่ที่ใช้เวลานานในการสร้างเท่านั้น ดังนั้น เขาไม่ได้ คุกคามมากเมื่อสายฟ้าฟาดเข้าใส่เขา ชายคนนั้นก็ตายเช่น

กัน

 

ด้วยเหตุนี้ ลูซิเฟอร์จึงได้สังหารสมาชิกหน่วยเดลต้า 10 คนจนเหลือเพียง 4 คนเท่านั้น

 

คนที่รอดชีวิตคือ ฟลูเรนเวย์และอีก 2 คนที่ชื่อ เกรทและโอเอน

 

ฟลูเรนมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายเชิงพื้นที่ ในขณะที่เวย์มีความสามารถในการใช้มีดลวงตา เกรทและ เพนก็มี พลังที่ดีเช่นกันแต่ทั้งสองคนเป็นนักสู้ระยะใกล้ ดังนั้นคนเดี ยวที่สามารถโจมตีลูซิเฟอร์ได้ในเวลานี้คือเวย์

 

ลูซิเฟอร์จัดการกับผู้โจมตีระยะไกลส่วนใหญ่แล้วโดยไม่สนใจเวย์

 

เมื่อทุกคนได้รับการจัดการแล้ว เหลือเพียงเวย์ผู้เป็นกังวล

 

เวย์ยังคงโจมตีอยู่ แต่ตอนนี้เขาก็ยอมแพ้แล้วเช่นกันราวกับว่าเขาขว้างการโจมตีไปที่กําแพงที่ไม่เจ็บและไม่แสดง อารมณ์ใดๆ เมื่อเพื่อนของเขาตายแล้วเขารู้ว่าเป้าหมายต่อ ไปเป็นของเขา

 

ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็ชนกับพื้นและระเบิด ทําให้เกิดการระเบิดขนาดมหึมาที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนในชั่วขณะ หนึ่ง

 

ลูซิเฟอร์รู้ว่าเหลือแวเรียนท์ระยะไกลเพียงคนเดียว และนั่นคือเวย์แต่เขายังคงเพิกเฉย ในขณะที่เขาเปลี่ยนโฟกัสไป ที่ฟลูเรน

 

จากสิ่งที่เขาเข้าใจฟลูเรน คือหัวหน้าทีมที่จับตัวเขาไว้แม้ว่าฟลูเรนจะไม่สามารถโจมตีระยะไกลได้ แต่ก็ยังดีที่จะให้ เขาตายก่อนเมื่อเขาอยู่ในอากาศแต่ลูซิเฟอร์ไม่ได้โจมตี ตามปกติ

 

หลังจากต่อสู้กันมานาน เขาได้ตระหนักถึงความสา มารถของฟลูเรนซึ่งช่วยให้เขารอดพ้นจากการโจมตีในทันที

 

“คุณสามารถหนีการโจมตีได้ แต่ถ้าพลาดแล้วนั้นมันจะไม่เหมือนเดิม” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะจ้องมองไปที่ ฟลูเรน ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

 

เขายกมือซ้ายขึ้นอีกครั้ง กระแสไฟฟ้ากระทบแขนเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

ฟลูเรนเห็นจุดมุ่งหมายของลูซิเฟอร์และเขารู้ว่าจะเกิดอะ ไรขึ้นเขามองลงไป เห็นว่าการตกลงไปนั้นจะเลวร้ายเพียง ใดหากเขาถูกโจมตีในตอนนี้

 

การตกลงไปมันไม่ได้ดูแย่ แต่เขามั่นใจว่ามีโอกาสดีที่ขาของเขาจะหักตอนล่วงลงไป

 

เขาปล่อยให้ลูซิเฟอร์โจมตีไม่ได้ แต่เขาทําอะไรอย่างอื่นไม่ได้เช่นกัน เวย์โจมตีได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว สําหรับ เกรท และ โอเอน พวกมันก็ไร้ประโยชน์เช่นกันเพราะพวกเขาเป็น แวเรียนท์ คลาสนักรบ ที่ไม่มีความสามารถในการโจมตีระยะไกล

 

ฟลูเรนจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เพราะว่าเขามีแผน

 

“ฉันเดาว่าฉันสามารถใช้ธรรมชาติของเขาให้เป็นประโยชน์เท่านั้น เขาเป็นเหมือนสัตว์ป่า ตราบใดที่ฉันเยาะเย้ย เขา เขาจะโจมตีฉันต่อไปและจะไม่โจมตีร่มชูชีพ ฉันต้องทํา ให้เขาหมั้นหมายจนกว่าฉันจะลงจอด”เขาคิด

 

“ฮ่าๆๆๆ!”

 

ฟลูเรนเริ่มหัวเราะออกมาดัง ๆ ดึงดูดความอยากรู้ของลูชิเฟอร์

 

“ฉันต้องบอกว่าคุณแข็งแกร่งมาก เช่นเดียวกับพ่ อลูกครึ่งของคุณ!เขาก็เป็นเหมือนคุณ บดขยี้ทุกคน”

 

“เราคิดว่าเขาเป็นสิงโต แต่เขากลับกลายเป็นกระต่ายเมื่อเขาเผชิญกับภัยคุกคามที่แท้จริง ฮ่าฮ่า ไอ้สารเลวนั่นไม่ สามารถแม้แต่จะเคลียร์ดันเจี้ยนได้โดยไม่ตาย ฮ่าฮ่า มาก สําหรับสิ่งที่เรียกว่าเวทที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นชื่อพวกนั้น มันจอมปลอม!”

 

“ไอ้สารเลวนั่นช่วยภรรยาของเขาไม่ได้ด้วยซ้ํา นังตัวนั้นตายไปพร้อมกับเขาแล้ว! ตลกชะมัด ทั้งคู่สมควรที่เรียกตัวเองว่าแข็งแกร่งที่สุดโดยไม่มีกําลังเลย! ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

ฟลูเรนยังคงเยาะเย้ยพ่อแม่ของลูซิเฟอร์ เพื่อให้เขาโกรธเพราะเขารู้ว่าจําเป็น

 

เขาแน่ใจว่าถ้าเขาไม่ได้ทําให้ลูซิเฟอร์หยุดคิด ร่มชูชีพของเขาจะต้องตกเป็นเป้าหมาย เขาเพียงแต่ต้องเลื่อนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นออกไปอีกเล็กน้อยจนกว่าพวกเขาจะลงจอด 

 

ฟลูเรนเยาะเย้ยลูซิเฟอร์อย่างบ้าคลั่ง ขณะที่สมาชิกในทีมคนอื่นมองเขาด้วยความประหลาดใจ พวกเขาไม่รู้ว่าคนดีๆ อย่างฟลูเรนพูดแบบนั้นได้ เขาคลั่งไคล้ความกลัวจริงๆ หรือเป็นอย่างอื่น? พวกเขาคิดว่าแบบนั้น

 

ตอนที่ 101: ต่อสู้กลับ

 

ฟลูเรนมีทักษะพิเศษมาก แต่ก็มีข้อจํากัดบางประการที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก

 

ประการแรก มันสามารถใช้ได้เพียงวินาทีเดียวก่อนที่จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ ปัญหาที่ใหญ่กว่าในตอนนี้คือข้อจํากัดที่สองของความสามารถนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟลูเรนกังวลจริงๆ เพราะนั่นเป็นจุดอ่อนที่แท้จริงของเขาในสถานการณ์นี้

 

ข้อจํากัดที่ 2 คือวัตถุที่เขาถืออยู่ไม่ได้รับผลกระทบจาก ความสามารถนี้ ที่ทําให้ร่มชูชีพยังเปราะบาง

 

แม้ว่าเขาจะรอดจากการโจมตีได้ แต่ถ้าร่มชูชีพของเขาถูกโจมตี ผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม นั่นจะส่งผลให้เขาล้มลงกับพื้น เผชิญหน้า และตาย

 

เมื่อเขากังวลเรื่องนี้ เขาก็ปล่อยให้คนอื่นๆ ออกไปก่อนเพื่อที่เขาจะได้กระโดดได้ หลังจากที่ลูซิเฟอร์ยุ่งอยู่กับสมาชิกในทีมของเขาแล้ว ไม่น้อยไปกว่าการใช้ทีมของเขาเป็นเหยื่อล่อเพื่อความอยู่รอดของเขา

 

สิ่งที่เขาต้องการก็คือการลงสู่พื้นสําเร็จ เขาสามารถจัดการส่วนที่เหลือหลังจากนั้น

 

หลังจากที่ไม่พบฟลูเรนท่ามกลางฝูงชนที่กระโดดออกมา ลูซิเฟอร์จึงตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดอันดับ 2 ซึ่งก็คือการฆ่าให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้

 

เขายกมือทั้งสองของเขาไปทางด้านหน้าและยิ่งสายฟ้าเข้าหาตัวที่เขาพบว่าแข็งแกร่งพร้อมกัน

 

“อ๊ากกกก!”

 

คนที่ถูกสายฟ้าของลูซิเฟอร์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่ร่างกายของพวกเขาถูกไฟฟ้าดูด ไม่เพียงเท่านั้น แต่สายฟ้ายังทิ้งรูขนาดใหญ่ไว้ในร่างกายของพวกเขาด้วย 

 

ลูซิเฟอร์เข้าใจว่าคนเหล่านี้จะฆ่าเขาหรือจําคุกเขาตลอดไป ดังนั้นเขาจึงต้องพาพวกเขาออกไปเพื่อหนีจากชะตากรรมนั้น

 

เนื่องจากทุกคนเข้าใกล้พื้น ทุกคนจึงดึงเชือกร่มชูชีพเปิดออก

 

ในช่วงเวลาที่ร่มชูชีพเปิดออก ลูซิเฟอร์สามารถฆ่าคนได้เพียง 4 คนเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 คนนี้เป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มเดลต้า

 

ฟลูเรนรักษาทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเฮลิคอปเตอร์ลําแรกที่เขาเดินทาง คนที่อ่อนแอกว่ากําลังเดินทางไปกับเฮลิคอปเตอร์ลําที่ 3 ดังนั้น คนที่ลูซิเฟอร์ได้ฆ่าไปทั้งหมดนั้นล้วนแต่ อยู่ในอันดับต้นๆ ของหน่วยเดลต้า

 

แซนเดอร์เป็นผู้นําของหน่วยเดลต้าที่เจ็บปวด เมื่อถ้าเขา พบว่ามีแวเรียนท์ 2 คนถูกฆ่าในการจับลูซิเฟอร์ เขาไม่รู้ว่านี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ตอนนี้มีเกือบ 8 คนแล้วที่ถูกฆ่าตายไป

 

ฟลูเรนไม่มีเวลาโทรและแจ้งแซนเดอร์เกี่ยวกับภัยพิบัติที่พวกเขาเผชิญ

 

คน 8 คนถูกเขาฆ่า ขณะนี้เหลือเพียง 6 คนเท่านั้น ทั้ง 6 คนนั้นรับมือได้ยากกว่า เนื่องจากพวกเขาเป็นคนที่มีอํานาจโจมตีจากระยะไกล พวกเขามีเวลาเพียงพอที่จะสร้างสมดุลในตัวเองเช่นกัน เนื่องจากลูซิเฟอร์เสียสมาธิในการฆ่าผู้อื่น

 

ตลอดเวลาที่ลูซิเฟอร์ได้รับก่อนที่ทั้ง 6 คนจะเริ่มโจมตีลูซิ เฟอร์ การโจมตีทั้งหมดมาพร้อมกันราวกับว่าพวกเขา ทั้งหมดประสานกัน

 

นี่ก็เป็นตอนที่ฟลูเรนกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ ทําให้ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างใน เขายังเปิดร่มชูชีพโดยไม่ชักช้าแม้ แต่วินาทีเดียว

 

เมื่อเห็นคนของเขาโจมตีพร้อมกัน เขาชมพวกเขา

 

“ทําได้ดีมาก โจมตีเขาต่อไป” เขากล่าว “เราแค่ต้องเอาชีวิตรอดจนกว่าเราจะลงจอด อีก 1 นาที!”

 

“พวกมันมา ฉันรู้ว่ามันจะไม่คงอยู่นาน พวกเขากําลังต่อสู้กลับ การเป็นอิสระของลูซิเฟอร์กําลังจะสิ้นสุดลง ฉันสงสัยว่าเขาจะฆ่าพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะลงบนพื้นได้หรือไม่ การต่อสู้จะรุนแรงขึ้นหากพวกเขาลงจอดได้” เคนพึมพําในขณะที่เขาสังเกตการเปลี่ยนแปลงของการต่อสู้

 

จากการเข่นฆ่าอยู่ฝ่ายเดียว มันดูเหมือนการต่อสู้ที่เหมาะสมมากกว่าเมื่อสมาชิกหน่วยเดลต้าต่อสู้กลับ

 

มีโทรศัพท์อยู่ในมือของเขา เขาคาดไว้แล้วว่าพวกเขาจะสู้กลับ เขารู้ว่าสิ่งต่างๆ จะไม่จบลงอย่างรวดเร็ว เพราะเขามีประสบการณ์มากกว่าลูซิเฟอร์

 

เขาเข้าใจดีว่า APE มีความยืดหยุ่นเพียงใด นั่นคือเหตุผลที่เขาเรียกสมาชิกในทีมของเขาแล้ว

 

พวกเขาทั้งหมดรออยู่ห่างจากพวกเขาพอสมควร พร้อมที่จะระเบิดเฮลิคอปเตอร์ เคนบอกพวกเขาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแผนและสั่งให้พวกเขามาที่นี่เพื่อเตรียมพร้อมสําหรับการต่อสู้

 

เขายังไม่ได้แจ้งเวก้าว่าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกเวก้าว่าเขารับตัวเด็กคนนั้นมาแล้ว และกําลังจะพาเขากลับมาในไม่ช้า

 

เขาไม่ต้องการที่จะอธิบายว่าสิ่งต่าง ๆ ผิดพลาดได้อย่างไร นอกจากนี้ เขาไม่เห็นประเด็นใดในเรื่องนี้ เนื่องจากไม่เหมือนกับว่า เวก้า ไดออน หรือ อิโซน่า สามารถมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเขาได้

 

“แม้ว่าสมาชิกจะเหลือเพียง 7 คน แต่ฉันก็เห็นว่าพวกเขาแข็งแกร่งทั้งหมด ฉันต้องมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้หรือไม่ หรือฉันควรปล่อยให้เด็กจัดการจนกว่าทีมของฉันจะมาถึง?” เคนพึมพํา

 

เขาเห็นการโจมตีจํานวนมากพุ่งเข้าหาลูซิเฟอร์ ซึ่งหลบเลี่ยงการโจมตีส่วนใหญ่ได้

 

แม้ว่าเขาจะหลบ แต่เขาก็ยังโดนสิ่งที่ดูเหมือนมีดลวงตาที่แทงด้านขวาของหน้าอกของเขามันพุ่งเป้าไปที่หัวใจของเขา อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์เคลื่อนไหวในนาทีสุดท้าย ทําให้โดนโจมตีที่หน้าอก

 

มีดลวงตาแทงเข้าที่หน้าอกของเขา แต่มันหายไป ทิ้งบาดแผลไว้ที่หน้าอกของเขา

เป็นการโจมตีของชายผมแดงที่เรียกว่าเวย์

 

เวย์ถูกนับให้เป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ กลุ่มเดลต้าตั้งแต่เขาเริ่มแสดงความแข็งแกร่งซึ่งเป็นที่รู้กัน ว่าความสามารถของเขาค่อนข้างแปลก

 

มันเป็นความสามารถธาตุระดับ A ที่ทําให้เขาสามารถสร้างอาวุธลวงตา เช่น มีดหรือดาบ ที่เขาสามารถใช้ต่อสู้ได้ น่าเสียดายที่อาวุธเหล่านี้หายไปหลังจากการโจมตีหรือการปะทะเพียงครั้งเดียว ทําให้ความสามารถของเขามีประโยชน์น้อยลง

 

แม้จะมีข้อจํากัด ความสามารถนี้ก็ยังทรงพลังเพราะเขาสามารถสร้างอาวุธแบบใช้ครั้งเดียวได้ไม่จํากัดจํานวนที่เขาสามารถขว้างใส่ศัตรูได้ เป้าหมายของเขาใกล้จะสมบูรณ์แบบแล้ว ทําให้ศัตรูหนีจากการโจมตีของเขาได้ยาก

 

หลังจากแซนเดอร์และฟลูเรน เวย์เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเดลต้า .. แม้แต่แซนเดอร์ก็ชื่นชมในความสามารถของเขา

 

ตอนที่ 100: การเสียสละเล็กน้อย

 

เมนเดินไปข้างหน้าและนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้านายพลแม็กซ์เวลล์

 

“งั้น เมน คุณพบสิ่งที่ฉันขอให้คุณหรือไม่ ลูซิเฟอร์มีชีวิตอยู่จริงหรือไม่” นายพลแมกซ์เวลล์ถามโดยไม่ชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว

 

“เขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า” แม่ทัพแมกซ์เวลล์ถามเมนอย่างไม่ใส่ใจ

 

เมนนิ่งอยู่ 2-3 วินาทีก่อนที่เขาจะอ้าปากและพูดด้วยความไม่แน่ใจเล็กน้อย “ฉันไม่รู้”

 

“คุณไม่รู้ได้อย่างไร ฉันอนุญาตให้คุณใช้ทรัพยากรทั้งหมดและอํานาจที่จําเป็น คุณยังคงไม่รู้ว่าพวกเขากําลังพูดความจริงหรือไม่” แม่ทัพแมกซ์เวลล์ถามด้วยสีหน้าไม่ประทับใจ

 

“ฉันพบบางสิ่ง แต่ไม่มีสิ่งใดเพียงพอที่จะยืนยันความถูกต้องของการอ้างสิทธิ์เหล่านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันไม่สามารถพูดได้อย่างแน่ชัดว่าพวกเขากําลังโกหกหรือพูดความจริง” เมนคร่ําครวญ

 

นอกจากนี้ เขายังต้องการรับใช้ท่านนายพลและช่วยเขาด้วยการให้ข้อมูลที่เขาต้องการ แต่เขาไม่สามารถให้ข่าวที่ไม่ได้รับการยืนยันได้ เนื่องจากเป็นการเอาชนะจุดประสงค์ทั้งหมดของมัน

 

“โอ้? แม้แต่คุณก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างเต็มที่เหรอ?” แม่ทัพแมกซ์เวลล์ถามด้วยความประหลาดใจ

 

เมนพยักหน้า ในขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“ฐานข้อมูล APF แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเจาะเข้าไป สําหรับคําพูดของพวกเขา นั่นเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถวางใจได้” เขากล่าว “สิ่งที่ฉันพบทําให้ดูเหมือนว่าคําพูดของพวกเขาเป็นความจริง แต่ฉันไม่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่จะพิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้โกหก เป็นไปได้ทั้งหมดที่พวกเขาใช้สถานการณ์ต่อเนื่องเพื่อประกอบเรื่องทั้งหมด”

 

“สถานการณ์อะไร บอกฉันทุกสิ่งที่คุณพบ” นายพลแม็กซ์เวลล์สั่งด้วยน้ําเสียงหนักแน่น

 

“มีการฆาตกรรมเกิดขึ้น 2-3 ครั้ง ไม่ใช่การฆาตกรรมเพียงเล็กน้อยแต่เป็นการฆ่าแบบเต็มรูปแบบ เห็นได้ชัดว่าผู้ใช้ที่มีความสามารถเข้ามาเกี่ยวข้อง นั่นเป็นสาเหตุที่ APE มีอํานาจ”

 

“พวกเขาไม่ได้เปิดเผยภาพของผู้กระทําความผิดหรือวิดีโอใดๆ ของสถานที่สังหาร ฉันไม่แน่ใจว่าพวกเขามีวิดีโอหรือไม่ เนื่องจากสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์นี้ไม่มีกล้อง” เมนเริ่มอธิบาย

 

“อย่างไรก็ตาม เท่าที่ฉันได้ยินมา มันทําโดยเด็กอายุ 11 ขวบ ซึ่งตรงกับคําอธิบายของเด็กชายคนนั้นเลย อาจจะมีความจริงบางอย่างเกี่ยวกับมัน แต่ไม่มีหลักฐานวิดีโอ ฉันไม่สามารถยืนยันข้อมูลชิ้นนี้ได้ ” เขากล่าวต่อ

 

“จริงสิ ถ้าเป็นแผนของ APE จริงๆ พวกเขาน่าจะแค่ให้พยานทําเหมือนว่าเด็กเป็นคนทํา ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับพวก เขา ฉันก็จะไม่พูดเกินเลยหากจุดมุ่งหมายพวกเขาคือการสอบสวนฉัน” นายพลแมกซ์เวลล์พึมพํา ในขณะที่เขาครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

 

“หากไม่มีหลักฐาน ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ คนของฉันมั่นใจว่ามันเป็นเรื่องโกหกตั้งแต่เห็นเด็กตาย ฉันมีแนวโน้มที่จะเชื่ออย่างนั้นมากขึ้นเช่นกัน แต่ฉันก็ยังทําให้คุณ ตรวจสอบข้อเรียกร้องเพื่อความพึงพอใจของฉัน” เขากล่าวต่อ “ใครจะรู้ว่ามันจะทําให้เกิดคําถามมากขึ้นขนาดนี้”

 

“ฉันควรค้นหาต่อไปไหม” เมนถาม

 

แม่ทัพแมกซ์เวลล์ส่ายหัวขณะตอบ “ไม่จําเป็นแล้ว ถ้าคุณไม่พบสิ่งใด ฉันมั่นใจว่าคุณจะไม่พบในภายหลังเช่นกัน ไปพักผ่อนกันเถอะ”

 

“เด็กคนนั้นตายแล้วอย่างแน่นอน หากเขายังมีชีวิตอยู่ อย่างที่พวกเขาพูด APF สามารถจัดการกับเขาได้ ไม่จําเป็นต้องเป็นห่วงตัวเองมากนัก” เขากล่าวต่อ

 

“อย่างที่คุณพูด” เมนพูดขณะที่เขายืนขึ้น “ฉันจะไปพักผ่อน”

 

เขาหันหลังกลับและเดินออกจากประตู

 

หลังจากที่เมนจากไป นายพลแมกซ์เวลล์ก็หันศีรษะกลับ ขณะมองดูหลังคา

 

เขาพึมพําเบาๆ “พวก APE ไม่เป็นไรถ้าเป็นเพียงหน่วยเดลต้าของพวกเขาที่พยายามสอดแนม ฉันจัดการได้ ถ้าหน่วยเบต้าเข้าร่วม อย่างไรก็ตามวารันเป็นอีกข้อตกลง หนึ่ง ถ้าเขากระโดดลงไปในส่วนผสมและพยายามขุดลึกลงไป สิ่งต่างๆอาจยุ่งเหยิง”

 

นายพลแม็กเวลล์มีความคิดที่ซับซ้อนปรากฏบนหน้าของเขา

 

กลับมาที่สนามรบ มันวุ่นวาย แวเรียนท์ที่กระโดดออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ที่ตกลงมาถูกลูซิเฟอร์ฆ่า พวกเขาไม่ได้รับโอกาสที่จะวางตัวเองในอากาศเพื่อตอบโต้ก่อนที่พวกเขาจะถูกฆ่า

 

เมื่อสังเกตเห็นเสียงกรีดร้องของคนที่กระโดดออกมา คนในนั้นก็ตระหนักว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอก พวกเขามองออกไปเพียงเห็นศพนอนอยู่บนพื้น

 

“อย่ากระโดดออกไปข้างนอก! ยมทูตคนนั้นกําลังฆ่าทุกคนที่ละคน ถ้าคุณกระโดดออกไป เขาจะฆ่าคุณด้วย”

“คุณคิดว่าเราจะอยู่ข้างในและตายหลังจากการชนหรือไม่ เราไม่มีโอกาสรอดถ้าเราไม่กระโดดออกไปข้างนอก!”

 

“ใช่! เราต้องออกไป ไม่อย่างนั้นเราจะต้องรอความตายข้างใน!”

 

“พวกเจ้าทุกคน หยุดเสียเวลาเสียที!” Fฟลูเรนตะโกนจบ การสนทนาของเพื่อนร่วมทีม “พวกเจ้าทุกคนกระโดดออกไปทันที! เขาไม่สามารถฆ่าทุกคนได้ในคราวเดียว ผู้โจมตีระยะไกลสามารถวางตําแหน่งตัวเองและยิงใส่เขาเพื่อให้เขาไม่ว่าง!”

 

“นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเรา 2-3 คนที่กระโดดออกมาจะตายไม่ใช่เหรอ?” หนึ่งในแวเรียนท์ถาม

 

“ไม่มีทางเลือกอื่น เราสามารถเสี่ยงและเสียสละบางอย่าง หรือเราทุกคนสามารถตายได้! ฉันไม่เห็นทางเลือกอื่น” ฟลูเรนตอบอย่างเป็นกลาง

 

แม้ว่าเขาไม่ต้องการให้ผู้คนเสียสละตัวเอง แต่นี่เป็นทางเลือกเดียว หากพวกเขาทั้งหมดกระโดดออกมาทันที เห็นได้ชัดว่าพวกเขาบางคนจะถูกฆ่าโดยลูซิเฟอร์ แต่นั้นจะทําให้คนอื่นมีโอกาสวางตําแหน่งตัวเองเพื่อตอบโต้

 

ดีกว่าตายทีละคนหลังจากกระโดดออกไปข้างนอกหรือตายในอุบัติเหตุของการชน

 

“ลงมือเดี๋ยวนี้ อย่าคิดมาก!” เขาตะโกนด้วยน้ําเสียงสั่งการ

 

คนอื่นๆ ก็ตระหนักว่าไม่มีทางเลือกอื่นเหลือแล้ว หลังจากรวบรวมความกล้าและตัดสินใจแล้ว พวกเขาก็กระโดดออกไปข้างนอก

 

ลูซิเฟอร์สงสัยว่าเหตุใดจึงไม่มีใครกระโดดออกมา ในขณะที่เฮลิคอปเตอร์ยังคงก้มหน้า บิดตัวและหมุนไปอย่างควบคุมไม่ได้ เขากําลังคิดที่จะเข้าไปใกล้ๆเพื่อดูด้วยซ้ํา แต่ในตอนนั้นเองที่เขาเห็นผู้คนกระโดดออกมา

 

น่าแปลกที่ไม่ใช่คนหรือ 2 คนที่กระโดดออกมา แต่ทุกคนก็เช่นกัน พวกเขาทั้งหมดกระโดดออกมาพร้อมกัน

 

ลูซิเฟอร์พยายามหาฟลูเรน ในหมู่พวกเขาเพื่อกําหนดเป้าหมายเขาก่อน แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น แม้ว่าทุกคนจะกระโดดออกไป แต่ฟลูเรนก็ไม่ได้อยู่ในพวกเขา

 

ทุกคนกระโดดออกไปพร้อมกับร่มชูชีพ ยกเว้นฟลูเรน 

 

ฟลูเรนต้องการออกไปคนสุดท้ายเพราะเขามั่นใจว่าเขาจะเป็นคนแรกที่ลูซิเฟอร์จะฆ่าถ้าเขาออกไปก่อน

 

แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสามารถการควบคุมพื้นที่ใน โลกคู่ขนานของเขา แม้กระทั่งการโจมตีที่อันตรายที่สุด ความสามารถนั้นมีข้อจํากัด

 

ตอนที่ 99: เขารู้

 

“เราจะกลับกันงั้นเหรอ ทําไม ฉันยังไม่พบเด็กคนนั้นที่เราตามหา” ไอโซน่า ถามอย่างสงสัยว่าทําไมพวกเขาถึงกลับมาเร็วจัง

 

ไม่นานเธอก็นึกถึงบางสิ่ง ขณะที่เธอถาม “นั่นอาจเป็นเพราะเคนสินะ….”

 

“ใช่ เด็กคนนั้นไปที่เอรีกัสแล้ว เคนบอกว่ามีเด็กคนนั้น เขากําลังพาเด็กคนนั้นกลับไปที่ฐาน” ไดออนตอบจบประโยคของอิโซน่าทันที

 

“ชิ ฉันว่าเคนโชคดีนะคราวนี้ ยังไงก็ตาม เราคงจะได้เจอเด็กที่ฐานด้วย ส่วนโรงงานนี้ เราระเบิดมันได้ เมื่อเรามาที่นี่กับเด็กคนนั้นเพื่อแสดงความปรารถนาดีของเรา” อิโซน่าพูดออกมาอย่างสบายๆขณะที่เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้

 

ทั้งสองออกไปและรวบรวมทีมของพวกเขา หลังจากแจ้งทีมของพวกเขาแล้ว พวกเขาก็ออกจากสถานที่และกลับไปอย่างเงียบๆ

 

โรงงานที่ลูซิเฟอร์เสียชีวิตได้รับการคุ้มครองโดยกองทัพแห่งเอลิเซียม ตัวโรงงานอวดดีบอกว่ามีการป้องกันที่ดีที่สุด แต่พวกเขาล้มเหลวที่จะรู้ถึงภัยคุกคามที่ซุ่มซ่อนอยู่ตรงมุมของที่ๆหนึ่ง

 

สมาชิกกลุ่มแวเรียนท์ที่พึ่งเกิดขึ้นมานั้นได้มาที่นี่และตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆ และจากไปโดยไม่ให้กองทัพหาเบาะแสแม้แต่น้อย เกี่ยวกับการมีอยู่ของพวกเขา มันแสดงให้เห็นว่า กลุ่มแวเรียนท์ที่พึ่งเกิดขึ้นมาได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และความปลอดภัยของโรงงานนั้นหละหลวมเพียงใด

 

กองทัพจับตาดูโรงงานเท่านั้น ไม่สนใจแม้แต่จะออกลาดตระเวนข้างนอกเลยแม้แต่คราวเดียว

 

พวกเขาคิดว่าจะไม่มีใครโจมตีพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่าที่นี่ มีคนอยู่ คนที่ออกจากสถานประกอบการในซากปรักหักพัง… คนที่สามารถทําให้แม่น้ําของเลือดไหลทุกที่ที่พวกเขาไป

 

ถ้าลูซิเฟอร์ไม่ได้รับที่อยู่ที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาน่าจะตายไปแล้วเพราะไม่เพียงแต่ลูซิเฟอร์จะโจมตีพวกเขาเท่านั้น แต่ไดออนและอิโซน่าก็จะมาช่วยด้วยเช่นกัน พวกเขาแทบไม่รอดจากภัยพิบัติ

 

ภายในโรงงาน หมอราวกําลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องของเขา เขากําลังดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงข้อมูลการทดลองบางอย่างของมนุษย์

 

“ไม่เลว ถ้าเธอเป็นเช่นนี้ จริงๆ แล้วเธออาจจะตื่นขึ้นในไม่ช้า เธอไม่เหมือนเด็กไร้ประโยชน์คนนั้นที่ไม่สามารถตื่นได้แม้ว่าจะมีสายเลือดที่เหนือชั้นเช่นนี้” ดร.ราวพึมพํา ขณะยิ้มเยาะบนใบหน้าของเขา

 

“อีกไม่นานก็จะถึงเวลา” เขากล่าวต่อ “ฉันว่าฉันควรจะข อบคุณลูซิเฟอร์สําหรับความช่วยเหลือของเขา ไม่ว่าเขาอา จจะดูไร้ประโยชน์แค่ไหน อย่างน้อยเขาก็ช่วยในเรื่องนี้”

 

“หมอราว เราจะไม่มีปัญหาถ้าคนอื่นรู้เกี่ยวกับเธอเหรอ จนถึงตอนนี้มีเพียงเราเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้” ดร.เลย์แมน แสดงความกังวลเสียงของเขา “เราจะเก็บเป็นความลับได้นานแค่ไหน”

 

“ไม่ใช่เราคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ ยังมีอีกคนหนึ่งที่รู้มากเท่าๆกัน ทั้งที่เป็นความลับ แต่เธอเคยสงสัยไหมว่าทําไมเราถึงเก็บมันไว้เป็นความลับได้นานขนาดนั้น?” หมอราวถามด้วยรอยยิ้มขบขันบนใบหน้าของเขา

 

“ทําไม ใครจะรู้ ฉันคิดว่ามีเพียงเราสองคนที่รู้เรื่องเธอ” หมอเลย์แมนถาม

 

ดร.ราวส่ายหัวขณะตอบว่า “ไม่ใช่เราคนเดียว นายพลแมกซ์เวลล์ก็รู้เช่นกัน เพียงเพราะอํานาจสูงของเขาเท่านั้นที่เราสามารถเก็บเป็นความลับได้นานขนาดนี้”

 

“อ่า นั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ให้ APP อนุญาตให้ค้นหาโรงงานของเรา เมื่อพวกเขามาครั้งล่าสุดเพื่อค้นหาเกี่ยวกับ ลูซิเฟอร์งั้นเหรอ?” หมอเลย์แมนถาม เขาเข้าใจความลับที่เขาไม่รู้มาจนถึงตอนนี้

 

“ใช่แล้ว หากกองกําลัง APE ค้นโรงงาน พวกเขาอาจจะพบเธอแล้ว เราไม่สามารถปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้ มันเหมือนกันสําหรับนายพลแม็กซ์เวลล์ นั่นเป็นสาเหตุที่เขาดื้อรั้นมาก” ดร.ราวตอบ

 

“โอ้ ชัดเจนแล้ว” หมอเลย์แมนพึมพํา

 

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งขณะนั่งตัวตรง

 

“นั่นทําให้ฉันนึกถึง พวก APF มาที่นี่พร้อมกับอ้างว่าลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่ จะมีความจริงในเรื่องนี้ไหม” เขาถาม.

 

“มันจะเป็นจริงได้อย่างไร เราทุกคนต่างเฝ้าดูลูซิเฟอร์ตาย เรามีข้อมูลทั้งหมดที่จะพิสูจน์ว่าเขาตายแล้ว” ดร.ราวปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ไม่มีทางที่บุคคลที่ถูกทําลายเซลล์ไปแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์จะอยู่รอดได้ เขาตายไปแล้ว แม้แต่เทพเจ้าก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้”

 

“ทําไมพวกเขาถึงอ้างว่าเด็กนั่นยังมีชีวิตอยู่ในตอนนั้น?” หมอเลย์แมนถามอีกครั้ง ยิ่งเขาถามมากเท่าไหร่ คําถามของเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

 

ดร.ราวยิ้มอย่างมั่นใจในขณะที่เขาตอบว่า “เห็นได้ชัดว่า พวกเขาต้องการใช้สิ่งนั้นเป็นข้ออ้างในการค้นโรงงานของเรา พวกเขากังวลเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ และมีข่าวลือเล็กน้อยเกี่ยวกับโรงงานของเรา”

 

” เป็นที่แน่ชัดว่าทําไมพวกเขาต้องการสอบสวนเรา พวกเขาอาจพบศพของลูซิเฟอร์ พวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถค้นหาเราตามกฎหมายได้ พวกเขาจึงใช้ข้ออ้างของการที่ลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่ ข้ออ้างของการคุกคามระดับชาติเป็นข้ออ้างที่ถูกต้องในการค้นหาพวกเราหลังจากทั้งหมด ”

 

“นั่นก็จริง เป็นเรื่องดีที่นายพลแมกซ์เวลล์ดูแลปัญหา และไม่อนุญาตให้พวกเขาทําการค้นหา” หมอเลย์แมนถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

 

ในสถานที่อื่น ชายในเครื่องแบบทหารก้าวออกจากรถของเขา เขาเดินเข้าไปในคฤหาสน์ที่สวยงาม

 

ขณะที่เขาก้าวเข้าไป เขาก็ได้รับการต้อนรับจากพ่อบ้าน

 

พ่อบ้านถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ธุระอะไรพาคุณมาที่

 

“ฉันอยากพบนายพลแมกซ์เวลล์ ฉันมีนัดกับเขา” ทหารบกกล่าว

 

“ขอทราบชื่อคุณได้ไหม” พ่อบ้านถาม

 

“ฉันชื่อเมน” ชายวัยกลางคนตอบโดยไม่หมดความอดทน

 

“ดีมาก มิสเตอร์เมน อาจารย์ของผมกําลังรอคุณอยู่ข้างใน” พ่อบ้านตอบหลังจากแน่ใจว่าชื่อตรงกัน

 

เขาพาชายวัยกลางคนไปยังห้องที่นายพลแม็กซ์เวลล์นั่งอยู่บนโซฟา เขากําลังดูข่าวทางทีวี

 

“ท่านอาจารย์ คุณเมนมาเพื่อพบท่าน” พ่อบ้านบอกนายพลแมกซ์เวลล์ก่อนจะจากไปโดยให้ความเป็นส่วนตัวแก่พวก เขา

 

นายพลแม็กเวลล์ ปิดทีวีอย่างเกียจคร้านโดยใช้รีโมท

 

“นั่งก่อนสิ” เขาพูดโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

 

 

“นั่นเป็นเพราะฉันกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูซิเฟ อร์ ไม่ว่ายังไง เขาเป็นลูกชายของแครรีสและแซล แอซเรล ทั้งสองคนยอมสละชีวิตเพื่อรักษาเราและประเทศของเรา ให้ปลอดภัย” แซนเดอร์เริ่มอธิบาย

“ไม่ใช่ความผิดของลูซิเฟอร์ที่เขาเข้าใจผิด รัฐบาลและโรง งานเองต่างหาก ที่ทําให้เขาต้องผ่านประสบการณ์ที่น่าสะ พรึงกลัว จึงก่อตัวเป็นบุคลิกที่มืดมิดแบบนี้” แซนเดอร์ กล่าว ขณะจําเนื้อหาในคลิปที่เขาเห็นได้ในคลิปเห็นได้ชัด ว่าลูซิเฟอร์ถูกทรมานในห้องแล็บอย่างไร

น่าเสียดายที่ภารกิจและงานของเขาทําให้เขาไม่สามารถ ทําในสิ่งที่เขาต้องการจะทํากับคลิปนี้ได้

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้านายบอกวารัน?” ไอย์ถาม “มัน จะส่งผลกระทบอย่างไร? ไม่ใช่ว่าเขาจะไปจับเด็กเป็นการ ส่วนตัว แม้ว่านายจะบอกความจริงกับเขาก็ตาม” 3604

“ไม่ใช่อย่างนั้น นายรู้พลังของเขาใช่ไหม เขาสามารถล บพลังของผู้คนได้ ถ้าเขารู้ว่าลูซิเฟอร์อันตรายมาก เขาอาจ จะขอให้ฉันหยุดการใช้จ่ายทั้งหมดในห้องขังและของเหลว ต่อต้านการสลายตัว”

“แต่เขาจะบอกให้ฉันพาลูซิเฟอร์มาหาเขา หลังจา กการจับกุม เพื่อที่เขาจะได้สามารถลบพลังของลูซิเฟอร์ได้” แซนเดอร์อธิบาย

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพูดต่อ “นั่นเป็นสาเหตุที่ฉัน รายงานอันตรายของลูซิเฟอร์ให้เขาฟังน้อยไป ดังนั้นเขาจึง ไม่ใส่ใจที่จะใช้พลังของเขากับเด็ก”

“จะดีเหรอ หากไม่มีพลังของเขา ลูซิเฟอร์ก็สามารถใช้ชี วิตได้ตามปกติ เราคงประหยัดทรัพยากรได้มากเช่นกัน” ไอย์ถาม โดยไม่พบแง่ลบในสิ่งที่เขาพูดอาจเกิดขึ้น

แซนเดอร์ส่ายหัวก่อนจะอธิบายอย่างละเอียด “ฉันไม่ ต้องการอย่างนั้น เด็กคนนี้แค่หลงทาง เราสามารถพาเขาไป ในทางที่ถูกต้องด้วยการนําทางที่เหมาะสม เขาสามารถใช้ พลังของเขาเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติได้”

“ ถ้าเราเอาพลังของเขาออกไป เราจะไม่เพียงแค่เอาสิ่งที่ เขาสามารถใช้เพื่อไถ่ตัวเองเท่านั้น แต่เรายังจะเอามรดกของ เขาไปด้วย พ่อแม่ของเขาตายไปแล้ว สิ่งเดียวที่เขาได้จาก พวกเขาคือพลังนั้น มันไม่ยุติธรรมที่จะเอาสิ่งนั้นไปจากเขา โดยพิจารณาจากการกระทําที่ไม่ดีบางอย่าง” เขากล่าวเสริม

“เฮ้อ บางครั้งฉันก็ไม่เข้าใจกระบวนการคิดของนายเลย ทําไมนายถึงแคร์เด็กคนนี้มากด้วยล่ะ ยังไงก็ตาม มันเป็นภารกิจของนาย ฉันไม่สามารถเข้าไปยุ่งได้เลย ฉันได้แต่ขอให้ นายโชคดีและหวังว่านายจะ ประสบความสําเร็จในการได้ ผลลัพธ์ตามที่นายต้องการ” ไอย์กล่าวขณะที่ใบหน้าของเธอ ดูซับซ้อน

 

“ขอบคุณ” แซนเดอร์ขอบคุณไอย์ สําหรับความกังวล ของเธอ

เขาดีใจมากที่มีคนอย่างไอย์ที่เขาไว้ใจได้ แม้ว่าเธอจะอยู่ ในตําแหน่งรุ่นพี่ แต่เธอก็เป็นเหมือนเพื่อนของเขามากกว่าค นที่มาจาก APE

เธอยังแหกกฏอยู่ 2-3 ครั้งเพื่อช่วยเขา เช่นเดียวกับครั้งที่ แล้วที่เธอช่วยเขาพบนักโทษในห้องขังของ APE เพื่อที่เขา จะได้แฮ็คสถานที่ราชการและถ่ายวิดีโอที่ลูซิเฟอร์ถูกทรมาน

 

“ใช่ ขอบคุณที่รับฟังฉันและไปอิเครโก้เพื่อช่วยกิลด์ฮันเต อร์ เราได้รับจดหมายขอบคุณอย่างเป็นทางการจากพวก เขา” ไอย์บอกกับแซนเดอร์ “ช่างเป็นการทํางานที่ดี” 360

“ไม่มีอะไรหรอก ฉันดีใจที่สามารถช่วยพลเมืองได้ ฉันไม่ ต้องการคําขอบคุณจากพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทีมที่พวกเขา ส่งไปนั้นค่อนข้างเย่อหยิ่ง” แซนเดอร์จําวิธีปฏิบัติของสมา ชิกจากกิลด์ฮันเตอร์ได้

ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ยุ่งกับพวกเขา แต่ตอนนี้เขาพบว่ามัน น่าขันที่พวกเขาส่งจดหมายขอบคุณถึงพวกเขา

 

ไอย์รู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาประพฤติตัว ไม่ดีกับเขาหรือไม่? สมาชิกสหภาพฮันเตอร์เป็นที่รู้กันว่า เป็นคนหยิ่ง

200 ล้าน

เธอเริ่มจริงจังขึ้นเรื่อยๆ หากพวกเขาประพฤติตัวเช่นนั้น กับหัวหน้าหน่วยเดลต้าของ APF จริง ๆ แล้วมันเป็นปัญหา ร้ายแรงที่เธอต้องแจ้งกับพวกเขาและเรียกร้องคําขอโทษจา กกิลด์ฮันเตอร์

พวกเขาไม่สามารถประพฤติผิดกับ APF และไปอย่างอิส ระเมื่อพวกเขาเรียก APF เพื่อขอความช่วยเหลือ อย่าว่าแต่ แซนเดอร์เลย แม้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับสมาชิกระดับ ล่างของ APE เธอก็คงจะโกรธเหมือนกัน

เธอถามอย่างเคร่งขรึม “มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนายกับ พวกเขาหรือเปล่า”

“ไม่มีอะไรหรอก ได้โปรดอย่าไปยุ่งกับพวกเขาเลย ก็แค่ เด็กที่ไม่มีประสบการณ์ ซึ่งไม่รู้ว่าโลกนี้ใหญ่แค่ไหน” แซนเด อร์ตอบพร้อมส่ายหัว

 

“ถ้านายพูดอย่างนั้น” ไอย์พูดขณะที่เธอทิ้งหัวข้อไปอย่าง ไม่เต็มใจเพราะแซนเดอร์ไม่ต้องการระเบิดมัน

 

ขณะที่ไอย์กําลังคุยกับแซนเดอร์ ก็มีการสนทนาอื่นเกิด

 

อย่างไรก็ตาม คราวนี้ การสนทนาระหว่างผู้นํา 2 คนขอ งกลุ่มแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่

เวก้าผู้นําระดับ 4 แห่งกลุ่มแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่กํา ลังคุยกับไดออนผู้นําระดับ 3 แห่งกลุ่มแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิด ขึ้นใหม่

 

เนื่องจากพวกเขาไม่แน่ใจว่าลูซิเฟอร์จะปรากฏตัวที่ไหน พวกเขาจึงส่งเคนและทีมของเขาไปยังเอรีกัส เวก้า ผู้นําระ ดับ 1 ผู้นําระดับ 3 ดิออน และผู้นําระดับ 2 อิโซน่า ถูก ส่งไปยังศูนย์วิจัยดิลเลียน ซึ่งเป็นเป้าหมายของลูซิเฟอร์ 20

เมื่อแน่ใจแล้วว่าเคนพบลูซิเฟอร์ไดออนและอิโซน่าถูก บอกให้กลับมา

“เฮ้อ ฉันเตรียมช่วยเด็กและได้ทําระเบิดนั่นที่นี่แล้ว แต่ โชคร้ายที่เขาอยู่ผิดที่ ฉันคิดว่านายคิดถูก APE หลอกเด็ก และทําให้พวกเขาคิดว่าโรงงานอยู่ในเอรีกัส” ไดออนบอก ค วามผิดหวังปรากฏชัดในดวงตาที่พร่างพรายของเขา

“ใช่ นายก็ไม่จําเป็นต้องอยู่ที่นั่นแล้ว กลับมาเดี๋ยวนี้ พาอิ โซน่าไปด้วย” เวก้าสั่ง

ไดออนพยักหน้ายอมรับคําสั่งก่อนจะวางสาย

 

เขาเดินไปหาอิโซน่า

 

พวกเขาได้ตั้งฐานชั่วคราวไว้ใกล้กับโรงงาน ซึ่งถูกซ่อนไว้ อย่างสะดวกเพื่อให้พวกเขาปลอดภัย

 

ไดออนเดินเข้าไปในกระท่อมของอิโซน่า หลังจากเคาะ หนึ่งครั้ง

“เฮ้ ไม่คิดว่านายควรรออยู่ข้างนอกแล้วอย่าเพิ่งเข้าไปใน ห้องของหญิงสาวโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเธอหน่อยงั้น เหรอ” อิโซน่าถาม ขณะที่เธอจ้องไปที่ไดออน ริมฝีปากสี แดงเชอร์รี่ของเธอโค้ง เพื่อสร้างรอยยิ้มที่สวยงามบนใบหน้าของเธอ

รอยยิ้มของเธอสวยมากจนเพียงพอที่จะทําให้ผู้ชายคน ไหนๆ ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่ไดออน นั้นไม่ได้รับ ผลกระทบอย่างชัดเจน

“เตรียมตัวให้พร้อม เราจะกลับแล้ว” ไดออนบอกอิโซ น่า นั่นทําให้เธอตะลึง

แฟนเพจ : novelza

ตอนที่ 97: การแยกจากกัน

 

เคนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ตามล่าสมาชิกหน่วยเดลต้า เขาพบว่าสิ่งนั้นค่อนข้างฉลาด เขากําลังโจมตีพวกกลุ่มคนจากเดลต้ากลางอากาศ เมื่อคนเหล่านั้นไม่มีทางออก

 

“ฉันคิดว่าเขาเป็นแค่เด็กไร้สมองที่มีกําลังดุร้าย ดูเหมือนว่าเขามีสมองอยู่บ้าง” เขาคิดว่าแบบนั้น

 

“แต่เด็กคนนี้ก็ยังไร้เดียงสาเกินไป” เขาพึมพําขณะถอนหายใจ “โชคดีที่ทีมในเฮลิคอปเตอร์ลําที่ 3 ได้ออกไปแล้ว มิฉะนั้นสิ่งต่างๆ จะยุ่งยากเมื่อเขาตกเป็นเป้าหมายของพวกมัน”

 

“เขาโชคดีในครั้งนี้”

 

 

เฮลิคอปเตอร์ลําที่ 3 กําลังบินไปทางเอรี่กัส ซึ่งพวกเขาเคยจับลูซิเฟอร์มาก่อน

 

“ทําไมเรายังไม่เริ่มกันอีก” หนึ่งในแวเรียนท์ถามชายกล้ามผมแดง พลางไม่เข้าใจว่าทําไมพวกเขายังไม่เริ่มค้นหา

 

ชายผมแดงเป็นคนที่ฟลูเรนบอกแผนเป็นการส่วนตัว ตอนนี้เขาเป็นผู้นําทีม ขณะที่ฟลูเรนเป็นผู้นําทีมหลัก เขาเป็นที่รู้จักในนามเคนริกคูบาล ซึ่งบังเอิญเป็นนักเวทย์ระดับ A

 

“ ง่าย ๆ เราไม่รู้ว่าชายคนนั้นหนีไปที่ไหนและเมื่อไหร่ เรารู้แค่ว่าระหว่างที่ที่เราขึ้นบินกับที่ที่เราค้นพบ ดังนั้นเราจึงมี 2 ประเด็น เราจะค้นหาจากจุดเริ่มต้นและรองกัปตันจะค้นหาจากจุดสิ้นสุด” เคนวิกตอบ

 

“จะดีกว่าไหม ถ้าเราทั้งคู่มาค้นหาตั้งแต่เริ่มต้นเพราะเราสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้นเร็วขึ้น”

 

เคนริกได้ยินความกังวลของเพื่อนร่วมทีมของเขาและส่ายหัว ในขณะที่เขาชี้แจงว่า “ไม่จริง ถ้าเราค้นหาจากจุดสิ้นสุด ผู้ชายคนนั้นสามารถวิ่งหนีไปทางเอรีกัสได้ เราจะต้องไปให้ช้าลง หากเราเข้าไปค้นหาตั้งแต่จุดเริ่มอย่างเดียวเขาจะหนีไปอย่างง่ายดาย

 

“แทนที่จะเป็นเช่นนั้น เราจะตรงไปที่เอรีกัส หากเราบังเอิญผ่านเด็กคนนั้นไปบนเส้นทาง เขาคงเข้าใจผิดว่าเราไม่เห็นเขาและเขาปลอดภัย นั่นจะทําให้เขาพอใจมากขึ้น และเขาไม่มีทางหนีรอดไปได้ หลังจากที่ทั้ง 2 ทีมมาจากทั้งสองฝ่าย” เขากล่าวต่อพร้อมยิ้ม

 

“อ่า แผนฉลาด ตามที่คาดไว้จากแผนของรองกัปตัน ฉันกังวลโดยไม่จําเป็น”

 

ด้วยคําอธิบายของเคนริก สมาชิกในทีมก็สงบลง พวกเขาทั้งหมดเข้าใจแผนดีขึ้นและนั่งลง ขณะที่พวกเขาเริ่มรอจุดหมายปลายทางของพวกเขา นั่นคือเอรีกัส

 

พวกเขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับทีมหลักในตอนนี้

 

ย้อนกลับไปที่สํานักงานใหญ่ของ APE หัวหน้าหน่วยเบต้า ไอย์กําลังนั่งอยู่ในห้องของเธอ เธอกําลังศึกษารายละเอียดของภารกิจที่แวเรียนท์ หัวหน้าหน่วยอัลฟามอบให้เธอ

 

แวเรียนท์เป็นหน่วยงานที่ไม่มีปัญหาใน APE ทีมอัลฟ่าของเขาคือกลุ่มชนชั้นสูง ซึ่งประกอบด้วยตัวแปรระดับ S เท่านั้น เขายังเป็นคนที่แม้แต่กิลด์ฮันเตอร์ ต้องคิดก่อนที่จะพูดอะไรออกไปถึง 2 ครั้ง เพราะกลัวว่าพวกเขาจะขุ่นเคือง

 

พลังของเขาน่ากลัวมาก

 

ถ้าเขาไม่เปิดเผยในที่สาธารณะ เขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในขุนพลชั้นยอดในประเทศโดยประชากรทั่วไป

 

คนเดียวที่เขาควรระวังคือ เซล แอซเรล นักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคของเขา ด้วยการตายของเซล ไม่มีใครที่แวเรียนท์พึงระวัง เขาสามารถต่อสู้ได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งเขาเชื่อว่าอ่อนแอกว่าเซล แอซเรลที่เคยมีมา

 

คําพูดของแวเรียนท์คือกฎหมายของแผ่นดิน ซึ่ง APE ปฏิบัติตามโดยไม่มีเงื่อนไข เห็นได้ชัดว่าภารกิจของไอย์นั้นจริงจังเพียงใด ตั้งแต่หัวหน้าทีมอัลฟ่ามอบภารกิจลับให้เธอ หลังจากที่เขาเรียกเธอไปที่สํานักงานของเขา

 

เธอกําลังศึกษารายละเอียดของภารกิจ เมื่อโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น

 

เธอรับสายแล้วตอบว่า “ใช่แซนเดอร์ ว่าไง”

 

แซนเดอร์นั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ที่บินตรงไปยังฐาน เขาไม่รู้ถึงความโกลาหลที่เกิดขึ้นกับทีมที่กําลงพาลูซิเฟอร์มา

 

ฟลูเรนไม่ได้โทรหาเขาตั้งแต่เขาส่งข้อมูลการจับกุมของลูซิเฟอร์ให้เขาฟัง ดังนั้น เขาไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์หนีไปแล้ว

 

“ฉันเพิ่งโทรมาแจ้งว่าจับลูซิเฟอร์ แอซเรลได้แล้ว” แซ นเดอร์บอกกับไอย์

 

“โอ้ ทําได้ดีมาก นายจับเขาได้แล้ว” ไอย์ตอบยิ้มๆ ไม่นานเธอก็ถามว่า “นายโทรมาเพื่อยืนยันว่าการเตรียมการเสร็จสิ้นหรือไม่ ใช่ไหม”

 

“ถูกต้อง เนื่องจากเราจะไปถึงที่นั่นในไม่ช้า ฉันต้องการทราบว่าการจัดเตรียมห้องขังของเขาเสร็จสิ้นหรือไม่” แซนเดอร์ยืนยัน “เราไม่สามารถปล่อยให้เขาหนีออกจากห้องขัง ด้วยพลังการเน่าเปื่อยได้”

 

“ไม่ต้องห่วง เซลล์สร้างเสร็จแล้ว เราเคลือบทุกจุดในห้องขังด้วยสารต่อต้านการเสื่อมสลาย เขาไม่สามารถหลบหนีจากที่นั่นได้” ไอย์ตอบ ขณะที่เธอเริ่มหัวเราะ เสียงหัวเราะของเธอก้องอยู่ในห้อง

 

แซนเดอร์อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเธอรู้สึกตลกอะไร เขาถามว่า “เธอหัวเราะทําไม”

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของไอย์ ขณะที่เธออธิบายเหตุผลเบื้องหลังเสียงหัวเราะของเธอ ” APE ใช้ทรัพยากรจํานวนมากเพื่อซื้อของเหลวเพื่อปกป้องเด็กคนหนึ่ง นายจะต้องให้คําอธิบายกับวารันด้วยตัวนายเอง”

 

เมื่อได้ยินคําพูดของไอย์ ใบหน้าของแซนเดอร์ก็กระตุกอย่างไม่เต็มใจ

 

“เขารู้ได้ยังไง” เขาถาม. “ฉันใช้ทรัพยากรจากงบประมาณของหน่วยเดลต้า”

 

“ฉันจะรู้ได้อย่างไร เขาเรียกฉันเพื่อทําภารกิจ นั่นเป็นตอนที่เขาถามคําถามว่าทําไมเงินของนายถึงถูกใช้ทําเรื่องแบบนี้” ไอย์ตอบ

 

“เฮ้อ ฉันไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้องกับเขาในเรื่องนี้” แซนเดอร์พึมพํา ขณะถอนหายใจออกจากปากของเขา ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจกับข้อมูลชิ้นนี้

 

“ทําไมไม่อยากให้เขารู้” ไอย์ถามแซนเดอร์

 

“ฉันไม่ได้บอกเขาว่าลูซิเฟอร์อันตรายแค่ไหน เธอรู้ไหมว่าทําไม?” แซนเดอร์ถาม กระตุ้นความอยากรู้ของไอย์

 

ไอย์ยังสงสัยเกี่ยวกับคําถามนี้ เธอถามว่า “ทําไม” 

 

“เป็นเพราะนายคงไม่อยากให้เด็ตัวแค่นั้นมาข่มขู่หรอกเหรอ? นายคิดว่าเขาจะรับมันไป ในขณะที่เธอพูดเกินจริงถึงอันตราย ซึ่งนั่นทําให้ชื่อเสียงของนายลดลงในสายตาของเขาเหรอ?” เธอคร่ําครวญ

 

“ไม่เลย”

 

 

ตอนที่ 96: ทอยอิ่ง

 

พวกเขาต้องโจมตีลูซิเฟอร์ ก่อนที่เขาจะโจมตีพวกมันได้ มิฉะนั้น มันจะเป็นอันตราย

 

“นายนะ เริ่มยิงใส่เด็กนั่นเดี๋ยวนี้!” เขาพูดกับนักบิน เขาสั่งให้นักบินคนนั้นใช้อาวุธของเฮลิคอปเตอร์ด้วย

 

เฮลิคอปเตอร์มีระบบจรวด เนื่องจากเป็นเฮลิคอปเตอร์ทหาร นอกจากนี้ยังมีปืนยิงเร็วที่ด้านล่าง เนื่องจากขีปนาวุธใช้เวลาในการยิงมากกว่าการยิงอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าจากปืนที่ยิงเร็ว ฟลูเรนจึงเลือกปืน

 

ในบรรดาเฮลิคอปเตอร์ 3 ลําที่บิน มีเพียงเฮลิคอปเตอร์ของเคนเท่านั้นที่ไม่มีระบบอาวุธ เนื่องจากเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่นํามาใช้เพื่อบรรทุกกรงหนักโดยเฉพาะ

 

เฮลิคอปเตอร์ลําแรกและลําที่ 3 มีอาวุธ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เคนค่อนข้างระวังตัว

 

ฟลูเรนไม่ต้องการชะลอการโจมตีแม้แต่วินาทีเดียว แต่ด้วยตัวมันเองก็สายเกินไปแล้ว ก่อนที่สิ่งที่อยู่ภายในเฮลิคอปเตอร์จะขยับได้ สายฟ้าขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า ลูซิเฟอร์และบินตรงไปยังเฮลิคอปเตอร์

 

มันเป็นหนึ่งในสายฟ้าที่ใหญ่ที่สุดที่ลูซิเฟอร์สามารถเสกได้ ตั้งแต่เขาตื่นขึ้นด้วยพลังของสายฟ้าสีดํา และมันก็มาในเวลาที่เหมาะสม

 

สายฟ้าสีดําบิดเบี้ยวและพุ่งออกไป เมื่อสายฟ้าพุ่งตรงไปยังโรเตอร์หลักของเฮลิคอปเตอร์ทหาร

 

สายฟ้าฟาดอันทรงพลังกระทบใบมีดโรเตอร์ แม้ว่าเฮลิคอปเตอร์จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต้านทานสายฟ้าจากปรากฏการณ์สภาพอากาศบ้าง แต่สายฟ้าสีดําจากลูซิเฟอร์ก็มีพลังทําลายล้างมากกว่าฟ้าผ่าธรรมดามาก

 

ขณะที่ฟ้าผ่าธรรมดาสร้างความเสียหาย มันไม่มีประโยชน์อะไรกับเฮลิคอปเตอร์ที่ APE ใช้อยู่ แม้แต่ระบบในเฮลิคอปเตอร์ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อต้านทานจากฟ้าผ่า อย่างไรก็ตาม นักออกแบบไม่เคยคิดเกี่ยวกับพลังสายฟ้าสีดําของลูซิเฟอร์

 

แทนที่จะกระทบโรเตอร์หลักของเฮลิคอปเตอร์และหายไป สายฟ้าสีดําได้ทําลายโรเตอร์หลักของเฮลิคอปเตอร์อย่างสิ้นเชิง แม้แต่ระบบส่วนใหญ่ของเฮลิคอปเตอร์ก็ถูกทอดทิ้ง ซึ่งรวมถึงระบบอาวุธด้วย

 

ปั้บ! ปั้บ! ปั้บ!

 

เสียงเตือนดังเต็มเฮลิคอปเตอร์ และควันเริ่มลอยขึ้นบนท้องฟ้า เฮลิคอปเตอร์เริ่มล่วงลงบนพื้น ค่อยๆ เพิ่มแรงขึ้นในขณะที่สูญเสียการควบคุม

 

ความสมดุลของเฮลิคอปเตอร์ก็พังลงเช่นกัน เนื่องจากผู้คนพบว่ามันยากที่จะอยู่นิ่งๆ บางคนหาสิ่งของเพื่อยึดไว้ใน ขณะที่ผู้เคราะห์ร้ายบางคนตกอยู่ข้างนอกและไม่สามารถช่วยตัวเองได้

 

เสียงกรีดร้องของคนที่ตกลงไปก้องอยู่ในหูของคนอื่นๆ ทําให้พวกเขาหวาดกลัว พวกเขาจับแน่นยิ่งขึ้น

 

“เราจะตายไหม”

 

“เฮ้อ หลังจากต่อสู้กับแวเรียนท์ที่ชั่วร้ายและทรงพลังมากมาย ฉันไม่รู้ว่าฉันจะตายเพราะเด็กอายุ 10 ขวบ”

 

“ฉันก็เหมือนกัน”

 

เหล่าแวเรียนท์เริ่มพูดคุยกันเอง ในขณะที่ความโศกเศร้า และความไม่แน่นอนเข้ามาเติมเต็มหัวใจของพวกเขา

 

บางคนอธิษฐานเพื่อตัวเองให้รอด ในขณะที่คนอื่นๆ เริ่มจดจําช่วงเวลาแห่งความสุขที่พวกเขาได้ใช้ไปกับครอบครัว

 

“ฉันขอโทษ ลูกสาวที่รักของฉัน ดูเหมือนว่าพ่อจะกลับบ้านไม่ได้” หนึ่งในแวเรียนท์คิด ขณะนึกถึงลูกสาววัย 9 ขวบของเขา

 

“ถ้าฉันจะต้องตาย ฉันดีใจที่ได้อยู่กับพวกนายในช่วงเวลา สุดท้ายของฉัน” แวเรียนท์คนอื่นๆกล่าว “ขอบคุณที่เป็นเพื่อนในชีวิตนี้ ฉันหวังว่าเราจะได้พบกันในชีวิตหน้าเช่นกัน”

 

“นายบ้าหรือเปล่า นายมีความสุขที่พวกเราทุกคนจะตายไปพร้อมกับนาย ถ้าพวกเราไม่ตาย ฉันจะฆ่านายเอง” ชายอีกคนหนึ่งพูดติดตลกซ่อนความกลัวตาย

 

“โอ้ พระเจ้าผู้บริสุทธิ์ โปรดยกโทษให้กับบาปทั้งหมดที่ เราได้ทําลงไป เราจะเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของคุณ” หนึ่งในนั้นเริ่มพูดพิธีกรรมครั้งสุดท้ายของเขา

 

ใบหน้าของฟลเรนกระตุก เมื่อได้ยินคําพูดที่ไม่เป็นมงคลของสมาชิกในทีม

 

“เรารวบรวมคนโง่อะไรในทีมเดลต้าบ้าง” เขาคิดพลางรู้สึกท้อแท้

 

เขาเดินไปที่ทิ้งด้านข้างแล้วเปิดออก

 

“หุบปาก ไอ้โง่! แกคิดว่าเราจะไม่มีร่มชูชีพได้ยังไง หยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วเอาไป” ฟลูเรนบอกกับทุกคน ขณะที่เขาเริ่มนําร่มชูชีพออกมา

 

เขาโยนให้ทุกคน “เรามีเพียงพอแล้วที่นี่ นําสิ่งเหล่านี้และกระโดดออกไป ไม่มีใครในการบังคับบัญชาของฉันต้องตาย!” ฟลูเรนบัญชา

 

น้ำตาแห่งความกตัญญปรากฏขึ้นในดวงตาของสมาชิก บางคนขณะที่พวกเขาถือร่มชูชีพ พวกเขาไม่เคยรู้สึกขอบคุณฟลูเรนมากเท่ากับตอนนี้

 

“ขอบคุณ…” พวกเขาทั้งหมดขอบคุณหลูเรน ขณะสวมร่มชูชีพและกระโดดออกไปข้างนอกที่ละคน

 

ผู้ชายคนแรกกระโดดออกไปพร้อมกับร่มชูชีพโดยคิดว่า เขารอดแล้ว

 

“ขอบคุณพระเจ้าที่ช่วยชีวิตฉัน ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่หยุดเชื่อในตัวคุณ” เขาพูดพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

ใบหน้าของเขาซีดทันที เมื่อเห็นสายฟ้าสีดําพุ่งเข้ามาหาเขา

 

“พระเจ้าที่ไร้ประโยชน์! แกช่วยฉันเพียงเพื่อให้ฉันตายอย่างเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม?” เขาตะโกนโกรธ

 

“อ๊าาาก!” เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดออกจากริมฝีปากของเขา ขณะที่เขาถูกสายฟ้าฟาด เขาเสียชีวิตทันที เมื่อแสงในดวงตาของเขาหายไป ร่างกายที่ไร้ชีวิตที่มีเลือดออกของเขายังคงตกลงมา

 

ด้วยความซาบซึ้งใจที่หาทางเอาตัวรอดจากการชน แวเรียนท์คนอื่นๆ ได้ลืมไปว่าศัตรูที่แท้จริงยังอยู่ข้างนอก รอคอยที่จะฆ่าพวกเขาเหมือนเป็นการล่าของเขาและเขาก็เป็นนักล่า

 

ลูซิเฟอร์กําลังโบยบินอย่างไร้ความรู้สึก ขณะที่เขาเห็นเหล่าแวเรียนท์กระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ที่ละคน มันเหมือนกับการฝึกเล็งสําหรับเขามากกว่าเพราะเขามีการ โจมตีระยะไกลที่สามารถฆ่าศัตรูได้ทันที

 

เฮลิคอปเตอร์ลําที่ 3 ได้หันหลังและออกค้นหาแล้ว เนื่องจากฟลูเรนได้สั่งการให้ค้นหาโดยอิสระ พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเบื้องหลังพวกเขา

 

มีเพียงเคนเท่านั้นที่อยู่เบื้องหลัง เฝ้าดูลูซิเฟอร์เล่นกับหน่วยเดลต้า

 

มีใบหน้าที่หลงใหล ในขณะที่เขามองทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ราวกับว่าลูซิเฟอร์กําลังเล่นกับกลุ่มเดลต้าที่ทรงพลังจริงๆ

 

มีเพียงคําเดียวที่หลุดจากปากเขา “อัศจรรย์”

แฟนเพจ : novelza

 

ตอนที่ 95: การเปลี่ยนแปลงแผน

 

“ตกลง ผมจะทําตามคําสั่งของท่าน” เคนตอบก่อนที่จะตัดสาย

 

แต่ดูเหมือนเขาจะหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่เขากังวลคือสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขากําลังหันหลังกลับ ตอนนี้แผนทั้งหมดของเขาไร้ประโยชน์

 

เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าโชคของเขาจะเลวร้ายเพียงใด ถ้าคนงี่เง่าคนนี้ไม่ได้รู้อีก 5 นาที อะไรๆ ก็อาจจะแตกต่างออกไป

 

…..

 

ฟลูเรนไปหานักบินที่กําลังบินเฮลิคอปเตอร์ที่เขาอยู่และออกคําสั่งด้วยตนเอง

 

กลางอากาศ เฮลิคอปเตอร์ 3 ลําหันหลังกลับทีละลํา

 

“พวกเขาพบว่าคุณไม่ได้อยู่ในกรง พวกเขาขอให้กลับไปค้นหาคุณโดยคิดว่าคุณกระโดดลงมาระหว่างทาง ดูเหมือนว่าเราจะต้องเปลี่ยนแผนของเรา เนื่องจากเราไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้ ” เคนบอกลูซิเฟอร์เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้ากังวลใจ

 

ลูซิเฟอร์เห็นเฮลิคอปเตอร์กลับมาและเข้าใจว่าเคนไม่ได้โกหก

 

ลูซิเฟอร์มองไปที่เคน สงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

 

คําถามนี้ได้รับคําตอบจากเคนเช่นกัน

 

“เราจะต้องต่อสู้หลังจากได้รับโอกาสที่เหมาะสม เพราะพวกเขาจะถามอย่างแน่นอนว่าทําไมคนที่ 2 ในเฮลิคอปเตอร์ลํานี้จึงหายไประหว่างการค้นหา เราต้องต่อสู้ก่อนที่พวกเขาจะฆ่าเราเอง” เคนบอกกับลูซิเฟอร์ในขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“เดี๋ยวก่อน ฉันจะบอกพวกของฉันให้มาที่นี่ เนื่องจากสิ่งนี้กําลังจะเกิดขึ้น เราจึงควรวางแผนสํารองด้วย” เขากล่าวเสริม แต่ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เขาก็เห็นลูซิเฟอร์หันหลังกลับ

 

ลูซิเฟอร์เดินไปที่ประตูเฮลิคอปเตอร์แต่ไม่ได้กระโดดออกมา เขาหันกลับมามองเคนในขณะที่เขาพูดว่า “เดียวฉันจัดการเอง”

 

“คุณคิดจะทําอะไร” เคนถามด้วยความสงสัย

 

“ฉันจะทําแบบเดียวกับที่คุณทํา ฉันจะระเบิดพวกมัน ในขณะที่พวกมันอยู่ในอากาศ” ลูซิเฟอร์กล่าวขณะที่สายฟ้าสีดําแวบผ่านแขนของเขา

 

“เดี๋ยวก่อน ฉันมีความคิดที่ดีกว่านี้” เคนร้องออกมา

 

ลูซิเฟอร์หยุดและเหลือบมองก็อง รอคอยสิ่งที่เขาจะพูด

 

“ฉันสามารถพยายามปลอมตัวหัวหน้าของพวกเขาออกมาได้เมื่อเราลงจอด ฉันจะฆ่าเขาด้วยความสามารถในการแปลงร่าง” เคนแนะนํา “เขาจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่เข้าใกล้ เขาไม่ใช่เพื่อนร่วมทีม แต่เป็นฉัน เมื่อถึงเวลาที่เขารู้ มันจะสายเกินไปแล้ว”

 

“สําหรับส่วนที่เหลือ คุณสามารถเอามันออกไปได้ง่ายกว่ามากเมื่อพวกมันอยู่คนเดียว”

 

ลูซิเฟอร์มองมาที่เขาครู่หนึ่ง แต่เขาไม่ได้พูดอะไร

 

“คุณเห็นด้วยกับฉันไหม” เคนถาม

 

เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขา ผู้นําแวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่นั้นต้องมาคุยกับเด็กด้วยความเคารพ ถ้าไม่ใช่เพราะความต้องการของสถานการณ์ เขาคงไม่ทําแบบนั้นหรอก

 

วิธีที่เขาพูดกับลูซิเฟอร์ราวกับว่าพวกเขาทั้งสองอยู่ในตําแหน่งเดียวกัน นับว่าเป็นคนแปลกหน้า เมื่อพิจารณาว่าลูซิเฟอร์อายุเพียง 11 ปีในขณะนั้น

 

เคนยอมรับความเงียบของลูซิเฟอร์เป็นการยอมรับ เขากลับไปจดจ่อกับการบินเพื่อที่คนอื่นๆ จะได้ไม่พบว่ามีอะไรน่าสงสัย

 

“ถ้าเราทําตามแผน อาจใช้เวลานานกว่านี้ แต่เราสามารถฆ่าล้างพวกมันได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น” เคนกล่าว ขณะที่เขาเหลือบมองไปทางลูซิเฟอร์อย่างไม่ตั้งใจ และเขาก็ต้องตกตะลึง

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้อยู่ที่นั่น สถานที่นั้นว่างเปล่า เคนมองไปรอบๆ ห้องโดยสาร แต่ก็ต้องผิดหวังเพราะลูซิเฟอร์ไม่อยู่แล้ว

 

“ไอ้เวรนั่นน่ารําคาญมาก เขาไม่ฟังฉันเลยกระโดดออกไป” เคนด่าออกมา ในขณะที่เขาเริ่มรําคาญมาก “ฟลูเรนนั้นคงได้เห็นเขาแล้ว มันคงเป็นเรื่องยากมากในตอนนี้

 

ตามที่เขาคิดไว้ ลูซิเฟอร์กระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ แม้จะได้ยินความคิดของเคน

 

เขารู้ว่าการนําพวกเขาออกไปที่ละคน หลังจากที่ผู้นําของพวกเขาตายไปแล้ว อาจเป็นทางเลือกที่ดีสําหรับพวกเขา แต่ก็ไม่ได้ดีที่สุด

 

ทุกคนอยู่ในอากาศ อากาศเป็นอาณาเขตของเขา ในขณะที่เขามีพลังลมระดับ A แม้ว่าเขาจะไม่สามารถดึงเอาความสามารถที่พลังนี้อนุญาตออกมาได้แม้แต่เสี้ยวเดียว แต่เขาก็ยังบินได้ เขาไม่สามารถบินขึ้นไปได้ แต่เขาสามารถบินในแนวนอนได้ สําหรับแผนการของเคนที่จะระเบิดคนพวกนั้น เมื่อพวกมันอยู่ในอากาศ เขารู้สึกว่านี่มีประโยชน์อยู่บ้าง

 

โดยทั่วไปแล้วเขาใช้พละกําลังอันน่าเหลือเชื่อในการกระโดดให้สูงอย่างไม่น่าเชื่อ ต่อมาใช้พลังลมเพื่ออยู่บนที่สูงและเคลื่อนไปข้างหน้า ทําให้ดูเหมือนว่าเขาจะบินได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป เฮลิคอปเตอร์ทั้งสามลําอยู่ในอากาศแล้วและเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่จําเป็นต้องกระโดดขึ้นไป เขาสามารถก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์และพบว่าตัวเองกําลังบินอยู่ระดับนั้น

 

นี่เป็นข้อได้เปรียบของเขาเนื่องจากแวเรียนท์อื่น ๆ ส่วนใหญ่สามารถต่อสู้บนบกได้ในอากาศเขาเป็นราชา

 

นอกจากนี้ เนื่องจากพวกมันทั้งหมดอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ แล้วเขาจึงสามารถดูแลพวกมันได้ง่ายขึ้นมาก แทนที่จะเสียโอกาสนี้ไป เขาต้องการใช้มัน

 

โดยทั่วไปแล้ว เขาอยากจะออกไป และฆ่าพวกเขาอย่างไร้ความปราณี แต่เขาก็ตระหนักว่าเขาจําเป็นต้องฉลาด แม้ว่าเขาจะคิดว่ามนุษย์เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน แต่คนๆ หนึ่งจําเป็นต้องบดขยี้สัตว์ร้าย ในขณะที่พวกมันทําได้

 

“ฟ-ฟลูเรน!” นักบินของเฮลิคอปเตอร์ลําแรกก็ร้องออกมา

 

ฟลูเรนเดินเข้าไปหาเขาและถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

 

นักบินไม่พูดอะไรเพียงแต่ชี้ไปข้างหน้า

 

ฟลูเรนจ้องไปที่ที่ชายคนนั้นกําลังชี้และเห็นเด็กหนุ่มบินอยู่ข้างหน้าพวกเขา

 

ลูซิเฟอร์เอามือชี้ไปทางพวกเขาราวกับว่าเขากําลังส่งสัญญาณให้หยุด แต่ฟลูเรนรู้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น เขาเห็นสายฟ้าแวบๆ รอบๆ แขนของลูซิเฟอร์

 

“มันกําลังจะโจมตี!” ฟลูเรนออกตะลึง “ทําอะไรบางอย่า

 

เขาหันกลับมามองคนของเขาอย่างเร่งรีบและพูดว่า “เกรย์! เขาอยู่ข้างหน้าเรา! โจมตีเขาตอนนี้ก่อนที่เขาจะโจมตี!”

 

“ทํามันตอนนี้!” ฟลูเรนพูดอย่างโกรธจัด

 

เขาไม่มีพลังโจมตีระยะไกล ดังนั้นทางเลือกเดียวของเขาคือพึ่งพาพลังที่มีพลัง

 

ตอนที่ 94: เปิดเผย

 

“ฉันแอบเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ลํานี้และเข้ายึดครอง พวกเขายังไม่รู้ว่าศัตรูของพวกเขาอยู่ข้างในนี้”

 

เคนต้องการให้แน่ใจว่าไม่มีความเข้าใจผิดระหว่างคนทั้งสอง เนื่องจากชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมือของลูซิเฟอร์ 

 

“ทีมของฉันรออยู่ข้างหน้า ทันทีที่เราไปถึงจุดที่ตัดสินใจ พวกเขาจะยิงโดยใช้เครื่องยิงจรวดเฮลิคอปเตอร์ 2 ลําที่บรรจุสมาชิก APF จะถูกระเบิด”

 

“ศัตรูจะถูกฆ่าโดยไม่แม้แต่จะสู้รบ หลังจากนั้นก็ง่าย ๆ เราจะพาคุณไปที่ฐานของเราและปลดปล่อยคุณ คนที่มีตําแหน่งสูงกว่าฉันจะอธิบายให้คุณฟังในสิ่งเดียวกับที่ฉันทําเราไม่ได้เป็นศัตรูของคุณ”

 

“ฆ่าพวกมันโดยไม่ต่อสู้ ศัตรูที่เงียบงันนั้นแย่กว่าศัตรูที่ใช้กําลังดุร้าย” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะนึกถึงคําพูดของฟลูเรน ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทําไมฟลูเรนถึงพูดอย่างนั้นระหว่างการต่อสู้

 

แผนนี้ดีมาก หากปราศจากการต่อสู้ศัตรูจะต้องตาย 

 

…..

 

ด้านหนึ่ง ลูซิเฟอร์และเคนกําลังคุยกัน ในทางกลับกันฟลูเรนก็กําลังเล่นเกมงูบนโทรศัพท์ของเขา โดยไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นลับหลังเขา

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ปิดเกมและเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง ขณะเหยียดแขนออก หาวหนีจากริมฝีปากของเขา

 

เขามองออกไปข้างนอกผ่านประตูที่เปิดอยู่ ขณะที่เขาสงสัยว่า “เพื่อนตัวน้อยของเราคงจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะฝ่าออกมาและได้เป็นอิสระ ฉันสงสัยว่าเขาจะโกรธหรือผิดหวังหรือเขามีความรู้สึกผิดและเสียใจบ้างหรือเปล่า?”

 

เขาลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู

 

เขาอยากเห็นสีหน้าของลูซิเฟอร์และเห็นว่าชายคนนั้นกําลังทําอะไร

 

เขาโผล่หัวออกมาและหันกลับมามองเพียงเพื่อจะตกตะลึง

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เขาสาปแช่งเสียงดังเมื่อเห็นกรงว่างเปล่า อย่าว่าแต่ลูซิเฟอร์เลย แม้แต่เงาของเขาก็ไม่สามารถมองเห็นได้

 

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของเขา สมาชิกในทีมคนอื่นๆ ก็วิ่งไปที่ประตูและมองออกไปข้างนอก พวกเขาส่วนใหญ่หน้าซีดเมื่อเห็นกรงว่างเปล่า

 

“เด็กคนนั้นหนีออกมา! เขางอลูกกรงง่ายขนาดนี้ได้ยังไง!”

 

“เราประเมินกําลังของเขาต่ำไปจริงๆ หรือ?”

 

“แท่งเหล็กนั้นถูกหลอมละลายเป็นบางจุด! เขาอาจใช้ความร้อนเพื่อทําให้อ่อนลง!”

 

“เป็นไปได้อย่างไร เขาสามารถใช้เปลวไฟเหมือนกัปตันแซนเดอร์ได้หรือไม่ ทําไมจึงไม่มีข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ”

 

“เด็กคนนี้มีพลังมากแค่ไหน เขาเป็นมนุษย์หรือพลังทั้งหมดรวมกัน?

 

“บางทีเราอาจจะเข้าใจเขาผิด พลังของเขาอาจเหมือนกับความสามารถในการใช้พลังของคนอื่นที่เขาเคยเห็น?”

 

“แม้ว่าเราจะเชื่อคุณ แต่ความเป็นจริงของสถานการณ์ก็คือเขาไม่ได้พบหรือเห็นกัปตัน! เขาจะใช้เปลวไฟเพื่อทําให้โลหะอ่อนลงได้อย่างไร?”

 

“คุณกําลังลืมอะไรบางอย่าง ทีมแรกที่ถูกส่งไปจับเขาที่ บ้านของเขามีผู้ใช้พลังไฟ เขาต้องเรียนรู้จากเขาแน่!” 

 

สมาชิกหน่วยเดลต้าทั้งหมดเริ่มสนทนากันเอง ขณะที่พวกเขาสงสัยว่าลูซิเฟอร์หนีไปได้อย่างไร

 

เมื่อได้ยินความโกลาหลจากพวกของเขาเอง ฟลูเรนก็ยิ่งโกรธมากขึ้น

 

“เงียบ! พลังของเขาสําคัญยังไง! สิ่งสําคัญคือเราต้องตามหาเขาอีกครั้ง! ไอ้สารเลวนั่นหนีไป! แทนที่จะพูดถึงว่ามัน เกิดขึ้นได้อย่างไรให้โฟกัสที่มันเกิดขึ้น!”

 

“เด็กคนนั้นสามารถใช้พลังแห่งลมได้ เขาสามารถกระโดดลงมาได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่เราอยู่บนเส้นทาง เราต้องหาเขาให้พบ!” เขาพูดต่อ “ฉันต้องการให้ทั่วทั้งพื้นที่ตามหาเขา!”

 

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดหมายเลข “ฉันจะคุยกับชุยเอง เขามัวทําอะไรอยู่! มีกล้องอยู่ตรงนั้นเพื่อให้เขาจับตาดูนักโทษได้ เขาจะปล่อยให้เด็กนั่นหนีไปได้ยังไง”

 

เคนเพิ่งอธิบายเสร็จ เมื่อมีโทรศัพท์ดังขึ้นเป็นโทรศัพท์ เครื่องเดียวกับที่เขาหยิบมาจากชายคนหนึ่งที่นอนตายอยู่ด้านหลัง

 

“เป็นคนที่จับคุณได้ เขาชื่อฟลูเรน อย่าส่งเสียงดัง ฉันจะคุยกับเขาในฐานะหนึ่งในลูกน้องของเขา” เคนพูดขณะรับสาย

 

“ครับ” เคนพูดเบาๆ เขาเปลี่ยนเสียงของเขาแล้วเพื่อให้เสียงเหมือนเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้

 

“บ้าจริง! บอกฉันสิว่าลูซิเฟอร์อยู่ที่ไหน นายขี้เกียจถึงกับจับตาดูกรงไม่ได้เหรอ!” เสียงโกรธของฟลูเรน ดังขึ้นในหูของเคน ทําให้เขาประหลาดใจ

 

“บอกฉันที่ว่าลูซิเฟอร์ แอซเรลอยู่ที่ไหน!” ฟลูเรนกล่าวอย่างเคร่งขรึม “หรือฉันควรที่จะลืมไปว่าเจ้าทํางานให้เรา และฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าเอง!”

 

เคนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อรู้ว่าฟลูเรนรู้ว่าลูซิเฟอร์หายตัวไป ถ้าเพียงแต่เขาไม่รู้ตัวอีกสัก 2-3 นาที ทุกอย่างก็จะสมบูรณ์แบบ

 

ความผิดหวังปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาตระหนักว่าแผนของเขาจะยุ่งเหยิง หากพวกเขาตัดสินใจหันหลังให้เฮลิคอปเตอร์ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงตําแหน่งที่กําหนด

 

สมาชิกแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ รออยู่ข้างหน้าแล้ว พร้อมที่จะระเบิดเฮลิคอปเตอร์ของ APE พวกเขาทําไม่ได้ถ้าฟลูเรนและคนอื่นๆ หันหลังกลับตอนนี้

 

“เขาหนี้ไปแล้วงั้นเหรอครับ?” เคนทําท่าประหลาดใจ ราวกับไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“โอ้พระเจ้าเท่านพูดถูก ผมไม่เห็นเขาในกรง ผมเพิ่งลืมตาดูกรง ผมเสียใจอย่างสุดซึ้ง ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะหนีไป ผมจึงไม่ได้โทรหาท่านเพื่อเป็นการแจ้งเตือน” เคนกล่าวขอโทษ “ผมพร้อมที่จะรับโทษใดๆ หลังจากที่เรากลับ

 

ความฟุ้งซ่านรู้สึกหงุดหงิด แต่เขาก็สงบสติอารมณ์ลงเมื่อรู้ว่าความโกรธไม่มีประโยชน์ ตอนนี้มันเสียเวลาเพราะไม่สามารถทําอะไรได้สําเร็จ

 

“ยังไงก็ตาม เนื่องจากนายไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดูเหมือนว่าเราจะต้องค้นหาทั่วทั้งพื้นที่ หันเฮลิคอปเตอร์กลับเดี๋ยวนี้” ฟลูเรนสั่ง

แฟนเพจ : novelza

ตอนที่ 93: พิสูจน์มัน

 

ลูซิเฟอร์ยังเห็นศพ 2 ศพนอนอยู่ด้านหลังเฮลิคอปเตอร์ด้วย

 

“ในที่สุดเราก็ได้เจอหน้ากัน ลูซิเฟอร์” เคนพูดเบาๆ เหลือบมองลูซิเฟอร์ “ตอนนี้ฉันรู้ว่าเธอกําลังคิดที่จะโจมตีฉัน แต่ได้โปรดฟังฉันก่อน ฉันไม่ใช่ศัตรูของเธอ”

 

เขาชี้ไปที่ศพที่วางอยู่บนพื้น “พวกนั้นเป็นศัตรูของเธอ และฉันฆ่าพวกเขา”

 

“ฉันอยู่กับคนที่ต่อต้านพวกเขา ฉันบุกเข้าไปฆ่าคนเพื่อช่วยให้เธอหลบหนี ถ้าเธอรอแค่ 5 นาทีฉันก็พิสูจน์ได้ เธอสามารถดูหลักฐานด้วยตาของเธอเองได้เช่นกัน ศัตรูทั้งหมดผู้ที่ต่อสู้กับเธอจะต้องถูกฆ่า”

 

ลูซิเฟอร์ไม่ขยับหรือโจมตี เขาสับสนอย่างเห็นได้ชัดกับคําพูดของชายคนนั้น มันดูไม่ค่อยชัดเจน เขาไม่ใช่ศัตรู? คนอื่นจะถูกฆ่า?

 

“เธอจะไม่สูญเสียอะไรใน 5 นาที ถ้าฉันไม่สามารถพิสูจน์คําพูดของฉัน เธอสามารถฆ่าฉันได้ นอกจากนี้ ถ้าฉันเป็นศัตรู ฉันจะฆ่าคนเหล่านั้นทําไม เชื่อฉันสักหน่อย แค่ที่นี่ก็ได้” เคนกล่าว “มันเหมือนกับการเล่นของเด็กที่ยังไง เธอก็สามารถฆ่าฉันได้อยู่ดี”

 

“คุณคือใคร?” ลูซิเฟอร์ถาม ในขณะที่เขาเริ่มก้าวเข้าไปใกล้เคน ซึ่งยังคงขับเครื่องบินอยู่

 

“ก่อนที่จะรู้ว่าฉันเป็นใคร ให้ฉันอธิบายว่าใครโจมตีเธอ นั่นจะช่วยให้เธอเข้าใจเราดีขึ้น” เคนกล่าว

 

เขาค่อนข้างกังวลเช่นกัน เนื่องจากลูซิเฟอร์เป็นเหมือนคนโรคจิตมากกว่าจากสิ่งที่เขาเห็น เขาไม่แน่ใจว่าลูซิเฟอร์จะฆ่าเขาที่นั่นจริงหรือไม่

 

ความสามารถในการต่อสู้ของเขานั้นดี แต่ความสามารถหลักของเขาคือการแปลงร่าง เขาไม่ได้เกิดมาเพื่อต่อสู้ โดยเฉพาะกับคนอย่างลูซิเฟอร์ นอกจากนี้ เขาไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้เป็นเวลานานตั้งแต่เขาขับเฮลิคอปเตอร์

 

“คนที่โจมตีเธอมาจาก Awakened Protection Force หรือเรียกสั้นๆ ว่า APE พวกเขาเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่สร้างขึ้นจากแวเรียนท์ทั้งหมด จุดประสงค์ทั้งหมดของ พวกเขาคือเพื่อจับคนเช่นเธอที่ไม่เล่นตามเกมของพวกเขา ที่เรียกว่ากฏเกณฑ์ที่พวกเขาตั้งขึ้น”

 

” พวกเขาจับคนเช่นเธอ พาคนที่จับไปที่คุก และทดลองกับคนพวกนั้น หลังจากที่พวกเขาใช้แวเรียนท์ที่พวกเขาจับได้เหมือนสินค้าใช้แล้ว พวกเขาก็ดําเนินการตามนั้น”

 

เคนยังคงอธิบาย พูดเกินจริงบางสิ่งโดยเจตนา

 

“ กล่าวโดยสรุป พวกเขาเป็นองค์กรชั่วร้ายที่ต่อต้านพวกเราแวเรียนท์ผู้บริสุทธิ์ ในขณะที่ปลอมตัวเป็นวีรบุรุษแห่งความยุติธรรมที่ทํางานเพื่อปกป้องมนุษย์ธรรมดา” เคนให้คําอธิบาย ซึ่งปรับเปลี่ยนบ้างเพื่อสร้างความเกลียดชังในหัวใจของลูซิเฟอร์ที่มีต่อพวกเขา

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคําอธิบาย แต่เขาไม่ได้หยุดเดินไปทางเคน เมื่อจบประโยคลูซิเฟอร์ยืนห่างจากเขาเพียงไม่กี่นิ้ว

 

มือของเขาอยู่เหนือหัวเคน มีช่องว่างระหว่างมือของลูซิเฟอร์กับศีรษะของเคนเพียงไม่กี่เซนติเมตร โชคดีที่เขาไม่ได้สัมผัสหัวของเขาหรือพลังที่เน่าเปื่อยที่จะฆ่าเคน

 

บึ้ม! บึ้ม!

 

หัวใจของเคนเต้นเร็ว เหงื่อไหลหยดลงมาบนใบหน้า ขณะที่กังวลเรื่องชีวิต เขาไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์กําลังทดสอบ เขาเพื่อดูว่าเคนจะโจมตีเขาตอนนี้หรือไม่ หรือเขาจะฆ่าเขาอย่างจริงจัง

 

เขาทําได้เพียงเสี่ยงและหวังว่าจะเป็นการทดสอบศรัทธาของเขาเอง

 

“พวกเขามาจาก APF เหรอ” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะมองตรงไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่กําลังบินอยู่ด้านหน้า ลูซิเฟอร์เห็นฟลูเรนเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ลํานั้น

 

เขาเปิดริมฝีปากเล็กๆของเขาถามว่า “แล้วนายเป็นใคร”

 

“ฉันไม่คิดว่าคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับเรา เราเป็นกลุ่มคนที่ต่อสู้กับรัฐบาลฟาสซิสต์และแล็ปด็อก เช่น APF เพื่อสิทธิของแวเรียนท์ เธอสามารถคิดว่าเราเป็นองค์กรที่คล้ายกับ APE เราคล้ายกันแค่ว่าพวกเราก็เป็นแวเรียนท์เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันมากระหว่างพวกเขากับเรา” เคนตอบ

 

“นาย 2 คนมีความแตกต่างกันอย่างไร” ลูซิเฟอร์ถาม

 

“แทนที่จะต่อสู้เพื่อกดขี่แวเรียนท์ เราต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิของพวกเขา เราไม่ต้องการให้แวเรียนท์มีชีวิตอยู่และตายตามความปรารถนาของมนุษย์ที่ด้อยกว่าจํานวนหนึ่ง เราหวังว่าแวเรียนท์จะปกครองและได้รับตําแหน่งที่ถูกต้องเพื่อที่เราจะได้… จะไม่ถูกนํามาใช้เพื่อสนองความโลภของมนุษย์อีกต่อไป” เคนตอบ

 

“เราเชื่อว่าเธอรู้เกี่ยวกับมนุษย์ที่ด้อยกว่าแล้ว พวกเขาปฏิบัติต่อแวเรียนท์เสมือนของเล่น พวกเขาทดลองกับเราและฆ่าเรา นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องการแสดงจุดยืนที่ถูกต้องให้พวกเขาเห็น” เขากล่าวต่อ

 

“เป้าหมายของเราค่อนข้างคล้ายกับเธอ แต่ในระดับที่ใหญ่กว่า ฉันเชื่อว่าเราสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้” เขากล่าวเสริม “เธอมีความแข็งแกร่ง แต่เธอขาดความรู้ เรามีความรู้และความแข็งแกร่ง แต่เราต้องการความแข็งแกร่งมากกว่านี้ เราทั้งคู่ต้องการกันและกัน”

 

เมื่อได้ยินคําพูดนั้น ลูซิเฟอร์ก็ครุ่นคิด มันเป็นความจริงที่เขาขาดความรู้ แต่การเชื่อใจใครสักคนนั้นยาก

 

“เอาล่ะ พิสูจน์ว่าคําพูดของนายว่ามันเป็นความจริงและแสดงให้ฉันเห็นว่านายสามารถทําอะไรเพื่อฉันในอีก 5 นาทีข้างหน้า แล้วฉันจะพิจารณา ถ้านายพิสูจน์ไม่ได้ ฉันจะฆ่านายก่อนจะจัดการกับพวกมัน” ลูซิเฟอร์ขู่เคน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไปเพื่อช่วยให้เคนโล่งใจบ้าง

 

“แน่นอน ได้ในทันที” เคนยอมรับในขณะที่เขายิ้ม

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะให้เวลาเขา แต่เขาก็ไม่ถอยกลับ เขายังคงยืนอยู่ที่นั่นราวกับรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น

 

“ตั้งแต่เราเป็นเพื่อนกัน ฉันจะบอกเธอว่าแผนของเราคืออะไร เราค้นพบเกี่ยวกับเธอผ่านแหล่งข้อมูลของเราและรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เรารู้ว่าเธอจะโจมตีศูนย์วิจัยดิลเลี่ยน ดังนั้นเราจึงส่งทีมที่ทรงพลังกว่าไปที่นั่น เพื่อช่วยเธอให้รอดพ้นจากการโจมตีของ APE”

 

“ ทีมรองถูกส่งมาที่นี่ เนื่องจากเราสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของ APF ที่นี่ ฉันเป็นผู้นําของทีม ฉันชื่อเคน” เคนแนะนําตัวเอง ในขณะที่เขาอธิบายความคืบหน้าของเหตุการณ์ต่อไป

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันรู้เกี่ยวกับแผนของ APE เพื่อจับตัวเธอ ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่ดีกว่านี้เพื่อช่วยเธอโดยไม่ต่อสู้กับพวกเขาอย่างเปิดเผย

 

ตอนที่ 92: เผชิญหน้ากับเคน

ขณะที่แท่งเหล็กเริ่มละลาย โลหะเหลวร้อนก็หยดลงมา มือของเขาไหม้ โลหะร้อนที่แผดเผาที่มือของเขานั้นเจ็บปวด

อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์หมกมุ่นอยู่กับการพยายามออกจากคุกไม่ว่าจะด้วยค่าใช้จ่ายใดก็ตามที่เขายอมสละมือ วางใจ ว่าการรักษาของเขาจะช่วยเขาได้ในภายหลัง

ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาคงหมดสติไปจากความเจ็บปวดของโลหะหลอมรอบฝามือ อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์ไม่ได้สูญเสียสติ เขาไม่เคยแม้แต่ตอนที่เขาถูกทรมานในโรงงาน

ความเจ็บปวดที่เขาเผชิญในตอนนี้ไม่มีอะไรเทียบได้กับ เมื่อก่อน นั่นคือขีดจํากัดของมนุษย์ปุถุชน ถ้าเขาสามารถอยู่ ได้จนตายในคราวที่แล้ว การมีสติอยู่ตอนนี้ก็เป็นการเล่นของเด็ก

เมื่อแท่งเหล็กเริ่มร้อนขึ้น พวกมันก็มีแนวโน้มที่จะงอมา กขึ้นเช่นกันแท่งเหล็กเริ่มงออย่างช้าๆ เมื่อความแข็งแรงลดลงทุกวินาที

ระยะห่างระหว่างแท่งทั้งสองเริ่มค่อยๆ เพิ่มขึ้นเมื่อลูซิ เฟอร์ดึงมันออกจากกันเพื่อให้มีที่ว่างสําหรับเขา

หลังจากที่ดูเหมือนช่วงเวลาสั้นๆ ช่องว่างระหว่างเหล็ก 2 แท่งที่ต่อเนื่องกันก็กว้างพอที่เขาจะผ่านไปและหลบหนีได้

เขาเอามือออกจากบาร์หลังจากที่พื้นที่กว้างพอที่เขาจะ ออกไปและปล่อยลูกกรงออกมา

เขามองไปที่ฝามือ ซึ่งแทบไม่มีเนื้อเลย มีเพียงกระดูกที่เปลือยเปล่าของเขาเท่านั้นที่มองเห็นได้ ซึ่งทําให้มือของเขาดู น่ากลัวและสยดสยอง

ก่อนหน้านี้เหล็กหนา 2 นิ้ว อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ แถบกว้างเพียงไม่กี่มิลลิเมตรที่เหลืออยู่ในที่ที่เขาถืออยู่ เนื่อง จากแถบที่เหลือที่จุดนั้นละลายไปหมดแล้ว

มันคงจะหายไปหมดถ้ามือของเขาอยู่ที่นั่นอีก 2-3 วินาที

เมื่อทําลายกรงเสร็จแล้ว เขาตัดสินใจว่าถึงเวลาต้องออกไปแล้ว ขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าโดยหันร่างของเขาไปด้า นข้าง

ถุงมือสายฟ้าสีดําก็หายไปจากมือของเขา ในขณะที่เขาเดินผ่านช่องว่าง

เมื่อเขาออกจากกรง เขาจับลูกกรงและเริ่มปีนขึ้นกรงจากภายนอก

ในไม่กี่วินาที เขาก็ยืนอยู่บนกรง จ้องมองที่เฮลิคอปเตอร์

ที่ยกมันอยู่

ฝนหยุดแล้ว แต่ท้องฟ้ายังไม่สดใส ลมยังคงเย็นยะเยือก ซึ่งสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนเมื่อกระทบกับหน้าอกเปล่า ของเขา

ใบหน้าของเขาดูมุ่งมั่นที่สุด ในขณะที่ผมสีเงิยาวของเขา โบกมือตามกระแสลม ตอนนี้ใบหน้าของเขาดูซีดมาก ซึ่งดูแปลกไปหน่อย

ลูซิเฟอร์มองขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ที่ยกกรงอยู่ ตอนนี้ เขาสามารถหลบหนีได้ด้วยความช่วยเหลือจากการควบคุมลม

เขาจะต้องปลอดภัย แม้ว่าเขาจะกระโดด อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจต่อต้านมัน

แม้ว่าเขาจะได้เรียนรู้ว่าการหุนหันพลันแล่นไม่ดี เขาก็ไม่รู้ว่าเขายังคงปล่อยให้แรงกระตุ้นควบคุมเขาอยู่

เขาต้องการฆ่าคนที่ทําให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานและกักขังเขาไว้ ที่สําคัญกว่านั้น เขาต้องการถูกพาไปที่โรงงานเพื่อที่เขาจะได้ทําลายทุกสิ่ง

เขาต้องการที่ตั้งของโรงงาน และมีเพียงคนเหล่านี้เท่านั้น ที่สามารถบอกเขาได้ ถ้าเขาโดดตอนนี้ การหาสถานที่นั้น ที่หลังคงยาก

เขามองไปที่ลวดสลิงที่ผูกไว้กับกรงและเฮลิคอปเตอร์ สงสัยว่าเชือกสามารถต้านทานการผุของเขาได้หรือไม่ เขาคว้ามันและเริ่มปีนขึ้นไป

ขณะที่ลูซิเฟอร์ถือลวดสลิงที่ติดอยู่กับกรงและเฮลิคอปเตอร์ เขาก็ตระหนักว่าเขาคิดผิด

เชือกลวดรู้สึกเย็น เมื่อสัมผัส แต่ทันทีที่เขาสัมผัสเชือกก็ เริ่มผุแทนที่จะอยู่ในสภาพเดิม

น้ํายาป้องกันการผุกร่อนที่ใช้ทํากรงไม่ได้ใช้ในลวดสลิง ดังนั้นจึงไม่สามารถต้านทานพลังของการเน่าเปื่อยของลูซิเฟอร์ได้

ลูซิเฟอร์มั่นใจว่าถ้าเขารอช้ากว่านี้ เชือกลวดจะขาด และกรงก็จะตกลงมา ซึ่งอาจเตือนศัตรูได้ แทนที่จะยึดจุดใดจุดหนึ่งตลอดเวลาหรือปืนช้าๆ เขาเริ่มปีนขึ้นไปด้วยความเร็วที่เร็วขึ้นก่อนที่เชือกทั้งหมดจะสลายไป

ที่ที่เขาถือเชือกนั้นกําลังผุพัง แต่ก่อนที่พวกมันจะเสียหายมากเกินไป ความเร็วของเขานั้นก็มากกว่า

ภายในไม่กี่วินาทีเขาก็ไปถึงจุดสูงสุด

ลวดสลิงเชื่อมต่อกับตะขอ ซึ่งอยู่ด้านล่าง เขาจับเชื่อกด้วยมือข้างหนึ่ง ขณะที่เขาจ้องมองไปยังลานจอดเฮลิคอปเตอร์

เขาทําให้เท้าทั้ง 2 ข้างของเขาจับเชือก ในขณะที่เขากระโดดเพื่อดันตัวเองไปทางไถลซ้ายของเฮลิคอปเตอร์

ด้วยพลังแห่งลม เขาสามารถไปถึงและลื่นไถลพลางลงจอดได้อย่างง่ายดาย

ขณะที่ลูซิเฟอร์จับตะขอและกําลังไถลเพื่อลงจอด เคยรู้สึกบางอย่าง เขารู้สึกถึงการสั่นของเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมาพร้อมกับเสียงที่แผ่วเบา

“เอาล่ะเวก้า ฉันจะโทรหานายทีหลัง” เคนพูดกับเวก้าก่อนจะตัดสาย

เขามองไปทางหน้าจอในแผงหน้าปัดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งกําลังแสดงภาพกรงขัง

“อะไรนะ? เขาไปไหนมา” เขาอุทานด้วยความประหลาด

เขาสามารถเห็นแถบโค้งบนหน้าจอที่ละลายเล็กน้อยเช่ นกัน

“น่าทึ่ง” เขาพึมพําขณะยิ้ม

เขามีความคิดทั่วไปว่าลูซิเฟอร์อาจจะอยู่ที่ไหน ในขณะนี้เนื่องจากความรู้สึกของเขาค่อนข้างดี เขาได้ยินเสียงบางอย่างดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าลูซิเฟอร์ยังอยู่ใกล้เขาจึงไม่ผิดหวัง เขากลับประหลาดใจที่เห็นว่าลูซิเฟอร์สามารถหลบหนีได้แม้กระทั่งจากสิ่งนี้

เขามองไปทางประตูเฮลิคอปเตอร์ที่เขาเปิดทิ้งไว้ก่อนหน้านี้

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เมื่อเขาเห็นเด็กห นุ่มยืนอยู่ตรงนั้นเด็กชายมีผมสีเงินสวยงามที่เปียกและเกาะติดกับร่างกายของเขา ผมยาวของเขาตกลงมาถึงเอวของเขา

ใบหน้าของเขายังคงไร้ความรู้สึก ในขณะที่เขาจ้องมองไป ที่เคนดวงตาสีฟ้าของเขาจ้องมาที่เคนมองเขาเป็นศัตรู

ตอนที่ 91: การเปลี่ยนแปลง

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีใครขวางทางเราได้ ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มของกิลด์ฮันเตอร์เลย แม้แต่หัวหน้าหน่อยอัลฟ่าของแวเรียนท์ จากAPF ก็ไม่สามารถยืนขวางทางเราได้” เวก้ายอมรับ

 

แม้ว่าเคนจะไม่เห็นสีหน้าของเวก้า แต่เขามั่นใจว่าตอนนี้มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเวก้า

 

เคนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่เขาจะอ้าปากแล้วถามว่า “นายไม่กลัวเด็กคนนั้นเหรอ ถ้าเขาเก่งกาจขึ้นมาแบบนั้นจริง ๆ มันจะไม่หมายความว่าจะมีคน 2 คนอยู่เหนือนายหรอกเหรอ?”

 

“ตําแหน่งของนายน่าจะตก ในทางหนึ่ง ดูเหมือนว่าเราจะไม่ใช้เด็กคนนี้ แต่เขาจะใช้เราให้ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดเพื่อปกครององค์กรของเราและโลกนี้ นายกังวล?”

 

“กังวลเหรอ? นายไม่มีเหตุผลที่จะต้องกังวล มันเป็นเพราะจุดประสงค์ร่วมกันของเรา ฉันพร้อมที่จะเสียสละทุกอย่าง” เวก้าตอบ “เรื่องเจ้าตัวเล็กไม่ต้องห่วง เรารู้วิธีจัดการกับเขาทั้งในปัจจุบันและอนาคต แค่พาเขามาหาเรา”

 

ลมหนาวพัดปะทะใบหน้าของลูซิเฟอร์พร้อมกับหยดน้ำฝน ทําให้เขากะพริบตามากกว่าปกติเพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน

 

กรงกรงนั้นเย็นเฉียบเมื่อสัมผัส อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์ไม่สนใจมันในตอนนี้ ทั้งหมดที่เขาสนใจคือการเป็นอิสระจากคุกที่ไม่มีวันแตกสลายนี้

 

แม้ว่าลูกกรงไม่ได้ป้องกันไม่ให้อากาศเข้ามา แต่ลูซิเฟอร์รู้สึกราวกับว่าเขาหายใจไม่ออก เขาหายใจไม่ออกและเริ่มกระสับกระส่าย

 

การถูกขังอยู่ในกรงทําให้เขานึกถึงวันเก่าๆ ของเขาตอนที่เขาถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ ในเวลานั้น เขาคิดว่ามันเป็นห้องที่จะช่วยให้เขาปลุกพลังของเขาได้เร็วขึ้น เขาบอกว่ามันเป็นเพื่อประโยชน์ของเขา

 

เขาบอกว่ามันเป็นห้องของเขา เมื่อเขาถูกฆ่าตายเท่านั้น เขาจึงรู้ว่าโรงงานไม่ได้ช่วยเขา ที่ที่เขาเชื่อว่าเป็นบ้านใหม่ของเขานั้นไม่มีอะไรมากไปกว่าคุกขนาดยักษ์ที่เขาถูกคุมขัง

 

การติดอยู่ในกรงทําให้เขานึกถึงสิ่งอํานวยความสะดวกและเขาก็พบว่ามันหายใจไม่ออก เขาไม่สนใจแล้ว ทั้งหมดที่เขาต้องการคือการออกจากกรงนั้น แม้ว่าเขาจะต้องเสี่ยงชีวิตก็ตาม

 

เมื่อความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม ดวงตาข้างหนึ่งของเขาเริ่มเปลี่ยนสีที่ละน้อย

 

ดวงตาซึ่งเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงอย่างช้าๆ ทีละนิด ทําให้มันเร็วขึ้น

 

ตาขวาของลูซิเฟอร์ค่อยๆ เปลี่ยนสี มันกลายเป็นสีม่วงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังถูกครอบงําด้วยดวงตาสีฟ้าดั้งเดิมของเขา คนอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในดวงตาของเขาจากระยะไกล

 

ลูซิเฟอร์ยังรู้สึกได้ถึงกระแสที่ไหลผ่านร่างกายของเขาราวกับว่าเลือดของเขาเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้า เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

การหายใจของเขารวดเร็วเมื่อความทรงจําของการทรมานของเขาในวินาทีสุดท้ายแวบเข้ามาในหัวพร้อมกับความทรงจําก่อนหน้านี้ทั้งหมด

 

เขารู้สึกเหมือนเขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันเป็นความกลัวที่เขารู้สึก? หรือมันเป็นความเกลียดชัง? หรือเป็นแนวโน้มที่จะอาละวาดและทําลายทุกสิ่งที่ขวางทางเขา? เขาไม่สนใจว่ามันคืออะไร ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือเขาไม่สามารถอยู่ภายในได้แม้แต่วินาทีเดียว

 

เขาจับลูกกรงอีกครั้งโดยไม่ต้องรอแม้แต่วินาทีเดียว กล้ามเนื้อของเขาโป่งขึ้นอีกครั้ง เมื่อเส้นเลือดของเขามองเห็นได้ทางผิวหนัง แม้แต่เส้นเลือดในคอก็มองเห็นได้

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์ใช้ความพยายามทั้งหมดของเขาในการฝ่าฟัน ไม่มีใครสามารถเห็นเขาได้ แม้แต่เคนก็ไม่ได้จดจ่ออยู่กับลูซิเฟอร์ในขณะนั้น ขณะที่เขากําลังจดจ่ออยู่กับการสนทนากับเวก้า

 

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใต้จมูกของเขา ทุกคนคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่ลูซิเฟอร์จะฝ่าฟันด้วยพละกําลังของเขา แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาประเมินเขาทําไปมาก โดยคิดว่าเขาเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ไม่สามารถทําอะไรได้

 

พวกเขาลืมไปว่าเขาเป็นวอร์ล็อคที่มีความสามารถบางอย่างที่ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้

 

แท่งกรงทําด้วยวัสดุที่แข็งแรงที่สุดชิ้นหนึ่งที่คนรู้จักในขณะนี้ เคลือบเพิ่มเติมด้วยวัสดุป้องกันการผุกร่อนที่ทําขึ้นจากการวิจัยโดยอิงจากมารดาของลูซิเฟอร์เอง

 

แคลรีสแม่ของลูซิเฟอร์เป็นที่รู้จักว่าเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก แม้ว่านางจะเป็นวีรบุรุษที่ต่อสู้เพื่อฝ่ายชอบธรรม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกที่พลังของการเน่าเปื่อยของเธอนั้นน่ากลัว

 

ผู้คนรู้ว่าถ้าเธอสามารถปลุกพลังนี้ได้ ก็มีโอกาสที่คนอื่นจะทําได้เช่นกัน ถ้าคนที่ปลุกพลังนี้ขึ้นมาหลังจากเธอเป็นคนดีแบบเธอ มันก็ดี แต่ถ้าคนๆ นั้นเป็นคนชั่ว พวกเขาต้องการบางสิ่งบางอย่างที่จะหยุดพวกเขา

 

พวกเขาไม่สามารถปล่อยให้คนๆ นั้นเดินเตร่ได้อย่างอิสระ แคลรีสเข้าใจข้อกังวลนี้เช่นกัน และเธอก็แชร์เรื่องนี้ด้วย เธอไม่ต้องการให้คนเลวใช้พลังนี้เพราะเธอรู้ว่าพลังนี้น่ากลัวแค่ไหน

 

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมีส่วนร่วมในการวิจัยและช่วยให้พวกเขาสร้างสิ่งที่สามารถต้านทานพลังของการเน่าเปื่อยได้ 

 

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือของเหลวนี้สามารถใช้ได้กับสิ่งของที่ไม่มีชีวิตเท่านั้น มนุษย์ไม่สามารถถูสิ่งนี้บนผิวหนังของพวกเขาเพื่อปกป้องตนเองได้

 

ของเหลวนี้ทําหน้าที่เหมือนกรด หากนําไปใช้กับผิวหนังของมนุษย์ จึงใช้เฉพาะกับโลหะและสิ่งของอื่นๆ นอกจากนี้ยังหายากเกินไป เนื่องจากมีราคาแพงเกินไปแม้จะทําของเหลวนี้เพียงเล็กน้อย

 

แม้ว่าพลังของการเน่าเปื่อยของลูซิเฟอร์จะไม่ทํางานบนแถบโลหะ พลังอื่น ๆ ของเขาก็มาช่วย

 

ถุงมือสายฟ้าสีดําลึกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งรอบมือของเขาซึ่งกระทบกับการเคลือบของแท่ง สารเคลือบและแม้กระทั่งแท่งเหล็กเริ่มละลาย เนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการปะทะกันของสารเคลือบและฟ้าผ่ามีมากเกินไปที่จะรับมือได้

 

ตอนที่ 90: แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่ลงมือ

 

เขาสงบสติอารมณ์และให้เหตุผลตั้งแต่เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถฝ่าฟันไปได้ด้วยกําลังของเขาเพียงอย่างเดียว เวลาที่ใช้ในการทําลายบาเรียโดยใช้พลังสลายตัวของเขายังทําให้เขามีเวลาคิดเรื่องอื่นๆ

 

“การสลายตัวไม่ได้ผล สายฟ้าจะไร้ประโยชน์ ลมช่วยฉันไม่ได้ที่นี่เช่นกัน การรักษาก็ไม่มีประโยชน์ที่นี่เช่นกัน นั่นเป็นเพียงความแข็งแกร่งของฉันเท่านั้น”

 

เขาหยุดใช้พลังแห่งการสลายตัวของเขาและมุ่งความสนใจไปที่ความแข็งแกร่งของเขาเอง เขาจับลูกกรง 2 อัน และเริ่มพยายามงอพวกมันออกจากกันเพื่อให้เขาออกไป อย่างไรก็ตาม เขาพบว่ามันท้าทาย แม้ด้วยกําลังทั้งหมดของเขา เขาก็ไม่สามารถขยับพวกมันได้แม้แต่นิ้วเดียว

 

กรงนั้นที่ลูซิเฟอร์ติดอยู่นั้นถูกแขวนไว้กับเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ตรงกลางด้วยลวดสลิง

 

หน่วยเดลต้าเชื่อว่ามีเพียง 2 คนในเฮลิคอปเตอร์ลํานั้น พวกเขาคิดว่าชุย และนักบินเป็นเพียง 2 คนในนั้น โดยไม่รู้ว่าพวกเขาคิดผิดแค่ไหน

 

ที่เบาะหลังของเฮลิคอปเตอร์ ศพของชายหนุ่มกําลังนอนอยู่ มีดถูกแทงที่หน้าอกของเขา ราวกับว่ามีใครมาเจาะหัวใจของเขาอย่างใกล้ชิด และเขาไม่สามารถต้านทานได้ในขณะที่เขาตาย

 

ห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าวก็วางศพอีกศพหนึ่งศพที่ 2 ดู เหมือนจะเป็นชายวัยกลางคนที่มีหนวดเครานอนอยู่บนพื้น

 

คอของเขาถูกเชือดและมีเลือดออก พื้นเต็มไปด้วยเลือดของชายผู้สวมเครื่องแบบสีขาวที่ปกคลุมไปด้วยเลือด

 

จากข้อมูลของเดลต้ามีเพียง 2 คนในทีมของพวกเขาเท่านั้นที่อยู่ในเฮลิคอปเตอร์ลํานี้ อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ทําให้เกิดคําถามขึ้น ใครเป็นคนบังคับเครื่องบิน?

 

บนที่นั่งของนักบิน มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ ชายคนนั้นยังมีเคราสีดํา และดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในวัยกลางคนเช่นกัน 

 

น่าแปลกที่ชายคนนี้ดูเหมือนชายวัยกลางคนที่นอนตายอยู่บนพื้น อันที่จริง ทั้งคู่มีไฝที่แก้มขวาในตําแหน่งเดียวกันทุกประการ ใบหน้าของพวกเขาก็เหมือนกัน

 

ชายที่ขับเฮลิคอปเตอร์มีรอยยิ้มบนใบหน้า ขณะมองหน้าจอที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นภาพของกรง

 

“ฉันคิดว่าเขาจะเป็นเด็กที่ไม่รู้ว่าจะใช้พลังของเขาอย่างไร และฉันก็คิดถูก เขาต้องการการฝึกฝนจริงๆ ความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมานั้นไม่เลว ถ้าเขาเป็นแบบนั้นตอนที่เขายังเด็กและไม่มีประสบการณ์ เขาก็จะเป็นคนที่น่ากลัวได้อย่างแน่นอน”

 

ชายคนนั้นดูเหมือนจะพูดกับตัวเอง

 

“ถ้าเขาโตขึ้นและได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม เขาสามารถเป็นสัตว์ร้ายได้ไม่น่าแปลกใจที่เวก้า ให้ความสําคัญกับเด็กมาก แม้จะส่งทีมระดับ 1 ของเรามาที่นี่เพื่อพาเขากลับมาจากเงื้อมมือของ APF” เขาพูดขณะที่เขามองไปที่หน้าจอ ซึ่งมองเห็นลูซิเฟอร์กําลังดิ้นรนที่จะงอลูกกรง

 

รอยยิ้มที่ฉลาดเจิดจ้าที่ริมฝีปากของเขา ในขณะที่เขาพูดออกมา “ฉันรู้สึกเหมือนหัวเราะเยาะเยาะเย้ยไอโซน่าและคนอื่นๆ ที่รออยู่ที่โรงงาน คิดว่าเด็กจะโจมตีที่นั่น ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะมาที่นี่จริง ๆ แทนที่จะไปที่นั่น เพื่อแก้แค้น ไม่ว่าเขาจะไม่รู้ทิศทางหรือมีคนโกหกเขาเกี่ยวกับสถานที่นี้”

 

“เอาล่ะ ได้เวลากลับไปทํางานแล้ว เดินทางมาไกลไม่ง่ายเลย ถึงเวลาลงมือจริงแล้ว”

 

ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเคราของเขาเริ่มหายไป ใบหน้าที่กลมของเขาเริ่มเรียวขึ้น ในขณะที่ผมสวยเริ่มงอกขึ้นบนศีรษะล้าน ความสูงของเขาก็เริ่มลดลงเช่นกัน สัดส่วนร่างกายของเขาเรียวขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อเริ่มหดตัว 

 

ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก่อนที่เขาจะดูเหมือนเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

“ฉันเกลียดการพรางตัวเป็นคนมีหนวดมีเครา ตอนนี้สบายขึ้นมากแล้ว” ชายคนนั้นครุ่นคิด ขณะลูบคางที่สะอาดหมดจด

 

เขานําโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าด้านบนแล้วโทรไปที่หมายเลข

 

“เรากําลังไปทางนั้นแล้ว ทุกอย่างพร้อมหรือยัง?”

 

“ครับกัปตัน เราอยู่ในตําแหน่งแล้ว ทุกอย่างพร้อม เราจะระเบิดเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลําให้เหลือเพียงตัวกลางเท่านั้น ทุกอย่างจะเป็นไปตามแผน”

 

“ดี เราควรไปถึงที่นั่นในอีก 10 นาที เตรียมเครื่องยิงจรวดและดําเนินการอย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะพบคุณ ฉันไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาด”

 

“ครับท่านหัวหน้า”

 

ปี๊บ ปี๊บ

 

เสียงปี๊บดังก้องในหูของผู้ชายในขณะที่สายถูกตัด

 

เขากดหมายเลขอื่น

 

“เวก้า” เขาพูดหลังจากรับสาย

 

หลังจากหยุดชั่วครู่ คนที่อยู่อีกฝั่งก็ตอบว่า “ใช่ เคน มีอะไร”

 

“ฉันได้เด็กที่นายต้องการแล้ว ฉันจะพาเขากลับไปที่ฐาน” เคนตอบขณะที่นิ้วของเขาแตะที่ด้านหลังโทรศัพท์ของเขา ทําให้เกิดเสียงขึ้นเล็กน้อย

 

“หยุดทําเสียงน่ารําคาญนั่นได้ไหม” เวก้าพูดเบาๆ

 

“อย่างไรก็ตาม นายทําได้ดี ผลงานของนายมีความสําคัญมาก ในฐานะผู้นําระดับ 1 ของการจลาจลแวเรียนท์ นายและทีมของนายจะได้รับรางวัลมากมายสําหรับความสําเร็จนี้ เพียงให้แน่ใจว่านายจะพาเด็กกลับมาอย่างปลอดภัย เราไม่อยากให้คนแบบนั้นไม่ชอบเรา”

 

เวก้าดูระมัดระวังมากขึ้น เมื่อพูดถึงลูซิเฟอร์ โดยเข้าใจว่าเขามีความสําคัญต่อองค์กรเพียงใด

 

เคนเริ่มเข้าใจด้วยว่าเหตุใดผู้สูงวัยต้องการเด็กคนนี้ หลังจากที่ได้เห็นการแสดงของเขา

 

“ฉันรู้ ฉันเห็นการต่อสู้ของเด็กคนนั้นแล้ว เขามีศักยภาพจริงๆ ถ้าเขาสามารถเติบโตได้อย่างเหมาะสม เขาสามารถแข็งแกร่งเท่ากับไรอาและยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนี้” เคนอธิบายในขณะที่เขาพยักหน้าเห็นด้วย

 

“เขาทําได้จริงๆ แม้แต่พ่อของเขาก็ยังแข็งแกร่งจนสามารถทําให้เกิดแผ่นดินไหวได้ด้วยพลังของเขา สายฟ้าของเขาสามารถฆ่าแม้กระทั่งสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายที่สุด มันเป็นฝันร้ายอย่างยิ่งที่จะเผชิญหน้ากับเขา”

 

“เด็กคนนี้มีพลังมากกว่าพ่อของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดอีกตัวหนึ่ง ตราบใดที่เราจัดการกับเขาด้วยความระมัดระวัง เราก็สามารถใช้เขา ราวกับว่าเซลแอซเรลได้ทํางานให้เรา”

 

ตอนที่ 89: ออกเดินทางจากเอรีกัส

 

กลับมาที่เมืองอิเครโก้ทีมกิลด์ฮันเตอร์ได้จัดการกวาดล้างพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนที่ฆ่าพลเมืองทั้งหมด พวกเขารับเครดิตทั้งหมดจากพลเมืองก่อนที่จะออกจากกิลด์

 

ประชาชนยกย่องพวกเขาสําหรับการดําเนินการที่รวดเร็วในการช่วยชีวิต ไม่มีใครรู้ถึงการมีส่วนร่วมของ APE ในการช่วยชีวิตพวกเขา

 

….

 

“กัปตันพูดว่าอะไรนะ?” แวเรียนท์คนอื่นๆ ถามฟลูเรน

 

“เขาบอกว่าถ้าเราเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถกลับได้” ฟลูเรนตอบพร้อมกับยิ้ม

 

เฮลิคอปเตอร์ทหารอีก 2 ลําลงจอดใกล้พวกเขา

 

“เข้าไปข้างใน เรากําลังจะต้องออกไปแล้ว” เขาสั่งคนอื่น

 

“ไม่ควรมีใครอยู่ที่นี่หลังจากนี้งั้นเหรอครับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหากับกรงและเขาจะไม่หนี?” แวเรียนท์ถาม “ฉันเชื่อว่าพวกเราบางคนควรขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ที่ยกกรงนี้อยู่ มีเพียงนักบินและ ชุย เท่านั้นที่อยู่ข้างใน

 

“ไม่จําเป็นหรอก ไม่ใช่ว่าเด็กนั่นจะหักกรงได้ ราวกรงนี้เคลือบด้วยวัสดุพิเศษที่ป้องกันการผุกร่อน ดังนั้นพลังของเด็กนี่ จึงไม่มีประโยชน์”

 

“และกรงก็แข็งแรงพอที่จะรองรับการโจมตีแบบเต็มกําลังของแวเรียนท์ประเภทความแข็งแกร่ง แม้ว่าความสามารถของเด็กจะมีศักยภาพที่จะเป็นแรงค์ S เหมือนพ่อของเขา แต่เขาไม่สามารถดึงพลังนั้นออกมาได้แม้แต่เศษเสี้ยวของพลังนั้น”

 

“ ความแข็งแกร่งของเขาแทบจะไม่เทียบเท่านักรบ ประเภทความแข็งแกร่งระดับ B จากสิ่งที่ฉันทดสอบ ไม่ต้องกังวล แม้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น เรายังมีชุยที่จะอัปเดตเรา” ฟลูเรนตอบพลางสั่นศีรษะ

 

“นอกจากนี้ เฮลิคอปเตอร์ลํานั้นจะอยู่ตรงกลาง ดังนั้นในความเป็นจริง ครึ่งหนึ่งของทีมสามารถจับตาดูลูซิเฟอร์จากด้านหลังได้ดีกว่าที่พวกเขาจะทําได้จากภายในเฮลิ คอปเตอร์” เขากล่าวต่อ “อย่ารอช้า เข้าไปข้างในกันเถอะ”

 

ทุกคนของทีมเดลต้าเดินเข้าสู่เฮลิคอปเตอร์

 

เฮลิคอปเตอร์ที่บรรทุกกรงนั้นลอยขึ้นไปในอากาศแล้ว หลังจากนั้นไม่นานเฮลิคอปเตอร์อีก 2 ลําก็เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ เฮลิคอปเตอร์ทั้ง 3 ลําเข้าประจําตําแหน่งก่อนจะออกเดินทาง

 

เฮลิคอปเตอร์ทหาร 3 ลําบินเป็นเส้นตรงออกจากน่านฟ้า ของเมืองเอริกัส

 

เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ตรงกลางกําลังยกกรง ซึ่งมีลูซิเฟอร์ติ อยู่ข้างใน เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ด้านหลังบรรทุกคน ของหน่วยเดลต้า ลําข้างหน้ามีฟลูเรนพร้อมกับสมาชิกที่มีอิทธิ พลมากที่สุด 2-3 คนของหน่วยเดลต้า

 

ฟลูเรนนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์เพื่อพักผ่อน

 

“แม้ว่าเขาจะยังเด็ก แต่ก็เหนื่อยมากที่จะจับเขาได้ โชคดีที่ทุกอย่างจบลงแล้ว” ฟลูเรนคร่ำครวญ ในขณะที่ถอนหายใจ

 

เขานําโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ ปลดล็อกแล้วเปิดเกมเล็กๆ ในโทรศัพท์และเริ่มเล่นเกม

 

งูตัวใหญ่ขึ้นและกินของมากขึ้น แต่มันตายเมื่อโดนขอบของหน้าจอหรือผิวหนังของมันเอง เกมดังกล่าวเป็นกราฟิก 3 มิติทั้งหมด

 

ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าฟลูเรนยอมรับว่า “เกมเก่าแล้ว แต่ก็ยังผ่อนคลายเหมือนเดิม”

 

พวกแวเรียนท์ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ฟลูเรนสังเกตว่าเขากําลังเล่นเกม พวกเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้ม ในขณะที่คิดว่า “ฮ่า รองกัปตันก็เหมือนเด็กในเรื่องนี้ หลังจากทําภารกิจทุกครั้ง เขาจะเล่นเกมสุดคลาสสิก”

 

ในเฮลิคอปเตอร์ลําสุดท้าย สมาชิกกลุ่มเดลต้าก็เริ่มผ่อนคลายและหยุดจับตาดูลูซิเฟอร์ ขณะที่พวกเขาเริ่มพึงพอใจ

 

หลังจากได้ยินคําพูดของฟลูเรน และมั่นใจแค่ไหนว่าลูซิเฟอร์ไม่สามารถทําลายกรงได้ พวกเขาก็เลิกใส่ใจ

 

“ชุยอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ระดับกลางแล้ว เขาจับตาดูกรงได้ ยังไงก็เป็นงานที่ไร้ประโยชน์อยู่ดีเพราะเด็กไม่สามารถออกจากที่นั่นได้” หนึ่งในนั้นพึมพําให้เหตุผลกับตัวเองว่าจะผ่อนผันการจับตาดู ในขณะที่เขาเริ่มพักผ่อนและเอนหลัง

 

…..

 

ลูซิเฟอร์อยู่ภายในบาเรียกึ่งโปร่งแสง ซึ่งตัวมันเองอยู่ภายในกรงโลหะอีกที่ อย่างไรก็ตาม บาเรียเริ่มอ่อนลงและอ่อนลงเพราะพลังที่เสื่อมสลายของเขา

 

“อีกไม่กี่วินาทีเท่านั้น เมื่อบาเรียหยุดทํางาน ฉันสามารถทําลายกรงและหลบหนีได้ ฉันประเมินทรัพยากรของมนุษย์ต่ำไปจริงๆ”

 

“ฉันน่าจะฟังหัวใจตัวเองตอนที่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่อีกแล้ว ฉันจะเอาคืนมันทุกๆคนทันทีที่เป็นอิสระ” ลูซิเฟอร์ประกาศด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ขณะที่มือทั้งสองของเขาวางอยู่บนบาเรียที่สลายเร็วขึ้น

 

ตามที่เขาคาดไว้ ไม่นานบาเรียก็หยุดทํางานและหายไป 

 

ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็สามารถก้าวออกจากบาเรียได้ เขาสามารถสัมผัสลูกกรงกรงได้แล้ว

 

เขารู้สึกโล่งใจบ้างเมื่อสัมผัสลูกกรงกรง โดยคิดว่าในที่สุด เขาก็สามารถก้าวออกไปและเป็นอิสระได้ แต่ทันทีที่เขาสัมผัสลูกกรงกรง ใบหน้าของเขามีสีหน้างุนงง

 

“แท่งไม้ไม่ผุเหรอ? มันไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย วัสดุนี้คืออะไรเหรอ?”

 

เวลาผ่านไป ในขณะที่เขาพยายามมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่มีอะไรทํางาน

 

“ชายคนนั้นพูดถูกจริงหรือที่ฉันไร้เดียงสา? ฉันไม่รู้อะไรมากเกี่ยวกับโลกภายนอกและเทคโนโลยีของพวกเขา ฉันมักจะอยู่ในสถานที่นั้นและเฝ้าดูการต่อสู้จําลองระหว่างผู้ที่มีอํานาจและการต่อสู้กับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนเท่านั้น”

 

“ฉันน่าจะรู้ว่านั่นไม่ใช่ความสามารถของพวกเขาทั้งหมด กรงนี้วัสดุ… หากสิ่งเหล่านี้ไม่เน่าเปื่อย สิ่งเหล่านี้อาจจะจับแม่ของฉัน ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุด” เขาพึมพําขณะที่เขาขมวดคิ้ว พลางนึกถึงความล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง

 

เมื่อถูกขังอยู่ในกรง เขาก็สงบอย่างน่าประหลาด เขาเคยคิดเกี่ยวกับคําพูดของฟลูเรน ที่เขาเคยพูดเมื่อทั้งคู่อยู่ในพายุหมุน – สัตว์ร้ายที่สงบนั้นน่ากลัวกว่าสัตว์ร้ายที่โกรธแค้น

 

เขาตระหนักว่าเขาจะไม่ทําท่าไร้เดียงสาขนาดนั้น…. ถ้าเขาฟังคําเหล่านั้นและเข้าใจมันอย่างถี่ถ้วน เขาจะไม่ติดกับดักถ้าเขาไม่หมดสติในการหาเหตุผล

 

นั่นเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทําให้ลูซิเฟอร์สงบลงมากหลัง จากถูกขังอยู่ในบาเรีย เขาตระหนักถึงข้อบกพร่องของเขาอย่างช้าๆ

 

เขาต้องการความโกรธ แต่เขาต้องใช้สมองมากพอ เขาแข็งแกร่ง แต่พ่อของเขาแข็งแกร่งกว่า ถ้าพ่อของเขาสามารถตายได้ แล้วทําไมเขาถึงเชื่อว่าเขาไม่สามารถเอาชนะได้? ทําไมเขาจึงพอใจและไร้เดียงสา?

 

ตอนที่ 88: กับดัก

แม้ว่าบาดแผลแบบนี้จะไม่ได้ทําอะไรสําหรับเขา แต่เขาก็อยากจะอยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่สุดเมื่อไปถึงฟลูเรน เพื่อฆ่าเขาให้ได้ทันที

 

เขาหลบการโจมตีโดยไม่หยุด

 

“3 วินาทีก่อนที่เขาจะอยู่ที่จุด 0”

 

“2 วินาที

 

ฟลูเรนเริ่มนับย้อนกลับ ในขณะที่เขาเฝ้าดูลูซิเฟอร์เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

 

“1 วินาที” เขาพึมพําเบาๆ

 

ในที่สุดก็เกิดขึ้นลูซิเฟอร์มาถึงจุดที่พวกเขาต้องการเขา

 

ลูซิเฟอร์อยู่ห่างจากฟลูเรนเพียงไม่กี่เมตร ดูเหมือนว่าเขาจะกระซิบอะไรบางอย่าง

 

แม้ว่าเขาจะสงสัย แต่เขาก็พร้อมที่จะฝาอุปสรรคทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้าเขา

 

ลูซิเฟอร์กําหมัดแน่น สร้างถุงมือสายฟ้าอีกอันหนึ่งรอบหมัดของเขาขณะที่เขาชกด้วยกําลังเต็มที่

 

“ยินดีต้อนรับสู่กับดัก เจ้าหนูตัวน้อย” ฟลูเรนกล่าวพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

หมัดของลูซิเฟอร์อยู่ห่างจากฟลูเรนเพียงไม่กี่เซนติเมตร เมื่อดูเหมือนว่าจะกระทบกับกําแพงที่มองไม่เห็น ซึ่งเขาไม่สามารถทําลายได้

 

เมื่อหมัดของเขาชนกําแพงที่มองไม่เห็น ระลอกคลื่นก็ถูกสร้างขึ้น ซึ่งทําให้ลูซิเฟอร์มองเห็นบาเรียกึ่งโปร่งแสงได้ ระลอกคลื่นกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง เผยให้เห็นสิ่งกีดขวางทรงกระบอกรอบตัวเขา ซึ่งมีความกว้าง 3 เมตร

 

ฟลูเรนอ้าแขนออกหาว “ฮะ ในที่สุดก็เสร็จสักที”

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์กระแทกบาเรียครั้งแล้วครั้งเล่า ฟลูเรนก็เริ่มหัวเราะ

 

“ฮึ ไอ้หนู พยายามแค่ไหนก็แหกคุกไม่ได้ แกไม่รู้หรอกว่าของล้ําค่าอะไรที่เราตั้งไว้ที่นี่ พยายามเท่าไหร่ก็หักไม่ได้” ฟลูเรนบอกลูซิเฟอร์ผู้ซึ่งโจมตีเหมือนสัตว์ป่าโดยใช้กําลังเต็มที่

 

ฟลูเรนหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาหมายเลข

 

“ซามูเอล หนูอยู่ในกับดัก กับดักจะอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากพลังงานของมันถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แน่ใจว่าบาเรียทํางาน รีบเริ่มส่วนที่ 2 ของแผนของเรา เรามีเวลา 10 นาที”

 

ฟลูเรนยกเลิกการรับสายและเริ่มรอขณะที่เขาพับแขน 

 

ไม่กี่นาทีต่อมา เฮลิคอปเตอร์ทหารก็บินขึ้น ซึ่งดูเหมือนว่ามันคือกรงทรงกระบอกที่กว้างพอๆ กับบาเรียที่ลูซิเฟอร์ ติดอยู่ไม่มีก้นในกรง

 

“อย่ากังวล อีกไม่นานเธอจะอยู่ในบ้านที่เธอจะอยู่ตลอดชีวิตที่เหลือของเธอ” ฟลูเรน กล่าวขณะที่เขาเฝ้าดูกรงที่ถูกนําโดยเฮลิคอปเตอร์ทหาร

 

แซนเดอร์และคนอื่นๆ ยังอยู่ในเฮลิคอปเตอร์ สงสัยว่าสถานการณ์ในเมืองเอรีกัสจะคลี่คลายได้อย่างไร

 

“ยังไม่มีข้อมูลอัปเดต เกิดอะไรขึ้น มีฟลูเรนอยู่ที่นั่น มันน่าจะจบไปนานแล้ว แต่ฟลูเรนก็ไม่รับสายจากฉัน และเขาไม่โทรมาด้วย” แซนเดอร์พึมพําขณะยืนขึ้น

 

เขาเดินไปที่ประตูและมองออกไปข้างนอก

 

“มันอาจจะใช้เวลานาน มีหลายปัจจัยในการเล่นที่นั่น ฉันแน่ใจว่าฟลูเรนจะทําสิ่งต่าง ๆ ช้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการสูญเสียชีวิต เราควรจะได้รับข่าวดีในไม่ช้านี้” สมาชิกอีกคนของเขา ทีมถอนหายใจขณะที่เขายืนอยู่ด้านหลัง

 

“บาเรียกําลังอ่อนลง แต่มันช้าจริงๆ ฉันทําได้แค่เร่งกระบวนการ” ลูซิเฟอร์คิดขณะที่เขาชะลอการโจมตีหลังจากรู้ว่าการโจมตีไม่ได้ผลเท่า

 

เขายืนสงบในขณะที่เขาหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะจ้องมองไปที่ฟลูเรน

 

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะไม่เห็นวันของวันพรุ่งนี้” เขาพึมพําเบาๆ

 

เขาค่อยๆ ยกมือซ้ายขึ้นและปล่อยให้พลังแห่งการเน่าเปื่อยเข้าครอบงํา ซึ่งเพิ่มการพร่องของบาเรียขึ้นหลายเท่า

 

“ฮะ คิดว่าเราไม่รู้เกี่ยวกับพลังของการเน่าเปื่อยที่คุณมีเหรอ เรารู้เช่นกันว่าบาเรียนี้จะอยู่ได้ไม่นาน” ฟลูเรน ยิ้มขณะดูกลอุบายของลูซิเฟอร์ ” นั่นเป็นเหตุผลที่เราเตรียมไว้สําหรับเรื่องนี้เช่นกัน”

 

เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและขยับนิ้วขึ้นและลง ชี้บางอย่างให้นักบินทราบ

 

กรงโลหะขนาดยักษ์ที่เฮลิคอปเตอร์ถืออยู่เริ่มลดระดับลงอย่างช้าๆ และในไม่ช้าก็ร่อนลงบนพื้น ดักลูซิเฟอร์ไว้ข้างใน

 

กรงไม่มีฐาน แต่ปัญหานั้นก็แก้ไขได้ด้วยใบมีดโลหะหลายอันออกมาจากแท่งกรงแล้วแทงลงไปที่พื้นในไม่ช้าพวกเขา ก็เชื่อมต่อกับแผ่นโลหะขนาดยักษ์ที่ฝังอยู่ใต้ดินจนเสร็จในกรง

 

กรงเริ่มตกลงมาอีกครั้งในอากาศ ขณะที่เฮลิคอปเตอร์ทหารดึงสายไฟที่เชื่อมต่อกับกรงขึ้น

 

“ฉันควรแจ้งเขาตอนนี้ว่าเราเสร็จแล้ว” ฟลูเรนพึมพําขณะดึงโทรศัพท์ออก

 

แซนเดอร์หันกลับมาและเปิดริมฝีปากเพื่อพูดอะไรบางอย่างเมื่อโทรศัพท์ของเขาเริ่มดังขึ้น

 

ดึงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ เขาเห็นหมายเลขผู้โทร

 

“ดูเหมือนคุณจะพูดถูก” แซนเดอร์พิมพ์ขณะรับสาย

 

“เราได้ตัวชายคนนั้นแล้ว เขาอยู่ในกรง เราควรพาเขาไปที่ฐานหรือรอให้คุณมา” ฟลูเรน ถามแซนเดอร์หลังจากบอกข่าวดีแก่เขา

 

“ถ้านายจับเขาได้แล้ว ก็ไม่จําเป็นต้องรออีกต่อไป พาเขาไปที่ฐาน ฉันจะไปที่ฐานเช่นกัน” แซนเดอร์ตอบอย่างใจเย็น แม้ว่าเขาจะได้ยินข่าวดี แต่การควบคุมอารมณ์ของเขาก็เหมือนเดิมเพราะความสามารถของเขา

 

“เราสูญเสียคนในภารกิจหรือไม่” เขาถาม

 

ฟลูเรนหยุดนิ่งในขณะที่เขาถอนหายใจ “ใช่ เราเสียคนไป 4 คนก่อนที่เราจะจับเขาได้”

 

“ชาย 4 คน…ได้นําร่างของพวกเขากลับมาด้วย ฉันจะพบนายที่ฐาน นายนําภารกิจได้ดีมาก แม้ว่าเราจะเสียคนไป 4 คน แต่เราอาจจะสูญเสียมากกว่านี้ ดังนั้นอย่าโทษตัวเองเลย ” แซนเดอร์ปลอบประโลมฟลูเรน โดยเข้าใจว่าการเสียคนของเขาไปในภารกิจที่คุณเป็นผู้นํานั้นรู้สึกแย่เพียงใด

 

หลังจากถ่ายทอดคําสั่งของเขาแล้ว เขาก็ยกเลิกการรับสาย

 

“เรากําลังจะกลับฐาน บอกนักบิน” เขาบอกกับคนของเขาโดยไม่หันกลับมามอง

 

พวกผู้ชายทําตามที่เขาพูดและบอกนักบินเกี่ยวกับคําแนะนําใหม่ที่ต้องปฏิบัติตามในตอนนี้

 

เฮลิคอปเตอร์เปลี่ยนทิศทางและเริ่มเคลื่อนไปยังฐาน APF

ดู HENTAI ได้ที่ hanimeza.com

ตอนที่ 87: การเข้าถึงจุดศูนย์

ดู HENTAI ได้ที่ hanimeza.com

ด้วยวิธีนี้ ลูซิเฟอร์ยิงปืนนัดเดียวแต่ได้นกมาถึง 2 ตัว เขาไม่เพียงแต่ฆ่าศัตรูโดยใช้พลังแห่งความเสื่อมสลายเท่านั้น แต่เขายังเติมพลังงานที่เขาใช้ไปอีกด้วย

 

เขาเพิ่งรู้ว่าเมื่อเขาใช้พลังการสลายตัวของเขากับสิ่งมีชีวิตด้วยวิธีนี้ เขาจะได้รับพลังงาน และสามารถเติมเต็มพลังงานที่เขาสูญเสียไปในการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

เขายังตระหนักด้วยว่าสัตว์ประหลาดที่เน่าเปื่อยให้พลังงานน้อยกว่ามนุษย์ที่เน่าเปื่อยมาก

 

“แกจะต้องเป็นฝ่ายตายต่างหากเล่า” ลูซิเฟอร์พูดด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึม เมื่อเขาเห็นร่างที่กําลังจะตายของเดรย์ที่ดูเหมือนโครงกระดูก ผ่านไปไม่กี่วินาทีตั้งแต่เขาเริ่มใช้พลังของเขากับเดรย์

 

เดรย์พยายามขัดขืน แต่ก็ไม่เป็นผล เขาหนีความตายไม่ได้ เขามาที่นี่เพื่อปราบลูซิเฟอร์และช่วยรองหัวหน้า แต่สุดท้ายเขากลับช่วยลูซิเฟอร์ด้วยการช่วยให้เขาฟื้นตัวมากกว่าเดิม

 

ไม่นานร่างของเดรย์ก็กลายเป็นเถ้าถ่านผสมกับน้ําที่อยู่บนถนนคอนกรีต

 

หลังจากจัดการกับเดรย์ ลูซิเฟอร์ก็เริ่มเดินไปทางที่เขา เห็นฟลูเรนที่กําลังบินอยู่

 

ในไม่ช้าเขาก็ก้าวออกจากลมบ้าหมู

 

เมื่อเขามองไปรอบๆ ในไม่ช้าเขาก็พบตําแหน่งของบุคคลที่เขาตามหา เขาสามารถเห็นฟลูเรน ซึ่งยืนอยู่หน้าสมาชิกกลุ่มเดลต้าคนอื่นๆ

 

“ฉันต้องบอกว่าฉันประเมินพลังของเธอต่ําไป แต่แล้วยังไงล่ะ เธอเป็นแค่ไอ้สารเลวที่มีจุดแข็งเพียงเล็กน้อย แล้วยังไงล่ะ ความแข็งแกร่งของคนคนหนึ่งไม่สามารถเอาชนะคนอื่นๆ ได้”

 

“พ่อของเธอก็คงไม่มีเรี่ยวแรงด้วยสินะ เพราะแบบนั้นเขาถึงได้ต้องตายเหมือนคนอ่อนแอใช่ไหม หืม เราคิดว่าเขาแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไร้ประโยชน์เหมือนกับเธองั้นสินะ”

 

ฟลูเรนเริ่มหัวเราะเมื่อเขาล้อเลียนลูซิเฟอร์ พยายามทําให้เขาบ้าคลั่งมากขึ้น เพื่อที่เขาจะไม่เข้าใจแผนการของพวกเขา

 

“ฉัน…. จะ…จะ…ฆ่าแกทั้งหมด!” ลูซิเฟอร์คํารามราวกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่เขาเริ่มบินไปทางฟลูเรนโดยไม่ต้องรอแม้แต่วินาทีเดียว

 

“ฮะๆ มาเถอะไอ้ลูกหมา! โปรดแสดงความบ้าคลังของเธอ ทันทีที่เธอมาที่นี่ มันจะเป็นจุดจบของเธอ” ฟลูเรนคิดขณะที่เขาเห็นลูซิเฟอร์บินมาหาเขาราวกับสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่ง

 

ด้วยความโกรธแค้นกับคําพูดของฟลูเรน ลูซิเฟอร์จึงพุ่งเข้าหาพวกเขา เขาไม่สนใจว่าอนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร แต่ในตอนนี้ เขาเพียงต้องการสังหารทุกคนที่ขวางทางเขา

 

เท้าของเขาแทบไม่แตะพื้น ขณะเคลื่อนไหว ทําให้เขาดูเหมือนกําลังบินอยู่จริงๆ เท้าของเขาแตะพื้นเป็นครั้งคราวในขณะที่เขาใช้กําลังเพื่อเพิ่มโมเมนตัมของเขาให้มากขึ้น

 

ขณะที่เขาวิ่ง เขาได้เก็บกระแสไฟฟ้าในร่างกายของเขาก่อนที่จะยิงสายฟ้าอีกอันไปที่ฟลูเรน ซึ่งตามมาด้วยสายฟ้า อีกลูกหนึ่งในทํานองเดียวกัน เขายังคงยิงสายฟ้ามากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกัน

 

ในขณะนั้น สายฟ้ามากกว่าห้าลูกกําลังบินเข้าหาฟลูเรน

 

สายฟ้าสีดําทั้งหมดมาถึงฟลูเรนที่ละนัด สิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง สายฟ้าแลบผ่านเขาไปโดยไม่ทําร้ายเขาเลย

 

“ฮ่าๆ ไอ้โง่นั่นคิดจริงๆ ว่าการจู่โจมของเขาอาจทําร้ายรองหัวหน้าได้”

 

“มันเป็นคนงี่เง่าจริงๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา มันยังไม่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะทําร้ายเขาเพราะความสามารถของเขา”

 

สมาชิกหน่วยเดลต้าหัวเราะ เมื่อเห็นความพยายามอันไร้ผลที่จะทําร้ายฟลูเรน

 

“แสดงให้เขาเห็นว่านายมีความสามารถอะไร ทําให้เขาโกรธมากขึ้น” ฟลูเรนพึมพําเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา

 

“เขาคลั่งไคล้ด้วยความโกรธ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะออกมาจากมันไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ จนกว่าเขาจะถึงจุดศูนย์ เราต้องทําให้เขาโกรธ” เขาคิด

 

“ครับ รองหัวหน้า”

 

ทั้งสองตอบพร้อมกัน

 

“รองหัวหน้า ผมควรใช้พลังของผมด้วยไหม” อีกคนถามฟลูเรน

 

ฟลูเรนส่ายหัวช้าๆ “ไม่ พลังของคุณเกี่ยวข้องกับแรงโน้มถ่วง แม้ว่ามันจะไม่ทํางานกับเขา แต่ก็ทําให้เขาช้าลงได้ เราไม่ต้องการทําให้เขาช้าลง ยิ่งเขามาที่นี่เร็วเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเสร็จเร็วขึ้นเท่านั้น” เขารีบปฏิเสธคําแนะนํา

 

คน 2 คนที่เขาสั่งเริ่มโจมตีลูซิเฟอร์

 

หนึ่งในนั้นคือคนเดียวกับที่เคยยิงสายฟ้าสีน้ําเงินมาก่อน ฟลูเรน เลือกเขาเพราะเขาเพียงต้องการทําให้ลูซิเฟอร์โกรธ แต่ไม่ได้ทําร้ายเขาจริงๆ

 

ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกอีกคนหนึ่งคือ แวเรียนท์ ประเภทน้ําที่สามารถใช้น้ําในบริเวณโดยรอบเพื่อทําร้ายศัตรูของ เขาหรือดักศัตรูของเขาไว้ในฟองน้ําที่เป็นของแข็งซึ่งยากต่อการออกจากแวเรียนท์ทั่วไป

 

เขาไม่ได้สร้างเรือนจําฟองน้ํารอบๆ ลูซิเฟอร์ เพราะเขาแน่ใจว่ามันจะพังทันที เขารู้ด้วยว่ามันจะได้ผลเพียงเพื่อ ชะลอลูซิเฟอร์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ใช้มัน 

 

เขารู้ว่าฟลูเรนต้องการอะไร เขาแค่สร้างมีดน้ําที่พุ่งเข้าหา ลูซิเฟอร์

 

แม้ว่าเขาจะเป็นจ้าวแห่งการเล็งที่ไม่ค่อยพลาดเป้า แต่เขาตั้งใจเล็งผิดเพื่อไม่ให้การโจมตีของเขากระทบใบหน้าหรือหน้าอกของลูซิเฟอร์ เขาเล็งไปที่มือขวาของลูซิเฟอร์ ซึ่งเขาคิดว่าเป็นมือเดียวที่สามารถยิงสายฟ้าสีดําได้

 

ตลอดการต่อสู้ ลูซิเฟอร์ใช้สายฟ้าจากมือขวาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งทําให้ผู้คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับพลังของเขา พวกเขาทั้งหมดสันนิษฐานบางอย่างเกี่ยวกับเขา

 

ทุกคนคิดว่าเขาสามารถใช้งานได้มากขึ้นจากมือขวาเท่านั้น ไม่มีใครรับรู้ถึงความเป็นจริง พวกเขารู้แค่พลังของเขา ไม่รู้ว่าเขาจะใช้มันอย่างไร ข้อมูลอื่น ๆ ที่พวกเขามีคือ สิ่งที่พวกเขาเห็นในการต่อสู้ครั้งนี้

 

ลูซิเฟอร์เห็นสายฟ้าพุ่งเข้ามาหาเขา ซึ่งเขาไม่ได้เพิกเฉยเพราะมันทํางานเพียงเพื่อเติมพลังงานของเขาเท่านั้น เขาปล่อยให้สายฟ้าฟาดเข้าที่หน้าอกของเขา

 

ทันที่ที่เขาถูกโจมตี ความรู้สึกสดชื่นก็เติมเต็มร่างกายของเขา ทําให้เขารู้สึกเหมือนได้พักผ่อนสักระยะหนึ่ง

 

เขาไม่ผ่อนคลายเมื่อเห็นมีดสีน้ําเงินบินมาหาเขา

 

“ไม่อีกแล้ว!” ลูซิเฟอร์คําราม ขณะที่เขาบิดตัวไปด้านข้าง เพื่อหลบมีด

ตอนที่ 86: เจตนาโกรธ

 

‘ไม่! ฉันไม่กล้าเสี่ยง! ฉันต้องหลบการโจมตีนี้ให้ได้!’ เขาคิดขณะกระโดดกลับโดยไม่สนใจอะไร 

 

เขาใช้พลังเสริมความแข็งแกร่งเพื่อช่วยให้การเคลื่อนไหวของเขาเร็วขึ้น ในขณะเดียวกัน เขาก็พร้อมที่จะใช้การควบคุมพื้นที่ของเขาในทันที หากการโจมตีของลูซิเฟอร์ เข้าใกล้พอที่จะโจมตีเขา

 

เขาจับตาดูลูซิเฟอร์ เขามั่นใจว่ามันจะเป็นการตัดสินใจโจมตีที่เขาไม่สามารถประมาทได้

 

ทั้งสองอยู่ใกล้กําแพงลมหมุนอย่างมาก ในขณะนั้นเอง มีคนปรากฏตัวขึ้นมาจากด้านข้างนั้น

 

รูค นักรบหน่วยเดลต้ากระโดดลงไปในลมบ้าหมูโดยคิดจะช่วยฟลูเรน ในการต่อสู้ แต่เขาไม่รู้ว่าเวลาที่เขาปรากฏตัวของเขาออกมานั้นผิดแค่ไหน ตําแหน่งของเขาก็แย่เห มือนกัน

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

เขามองไม่เห็นอีกฟากหนึ่งของลมหมุน ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เขาบังเอิญกระโดดไปกลางวงของฟลูเรน และลูซิเฟอร์ หมัดของลูซิเฟอร์ที่เล็งไปที่ฟลูเรนโจมตีรูค ซึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงกลางวง

 

“หืม”

 

รูคไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่เขากระโดดเข้าไป สิ่งแรกและสิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นคือหมัดของลูซิเฟอร์ที่ตกลงมาบนใบหน้าของเขา

 

นั่นคือจุดจบ จุดจบของชีวิตเขา พลังโจมตีของลูซิเฟอร์นั้นสูงมากจนทันทีที่มันกระทบหน้ารูค หัวของเขาก็ระเบิดขึ้น

 

ศีรษะที่เหลืออยู่กระจายไปทั่ว บางส่วนก็ตกลงมาที่ใบหน้าของฟลูเรนเช่นกันตอนนี้ใบหน้าของฟลูเรน ปกคลุมไปด้วยเลือดและสิ่งอื่น ๆ

 

ลูซิเฟอร์ก็ประสบเช่นเดียวกัน หน้าอกและใบหน้าของเขา เต็มไปด้วยเลือดมันไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น แม้ว่าการโจมตีจะระเบิดหัวของรูค ร่างกายของเขาก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตี

 

ส่วนที่เหลือของร่างกายของรูค กระแทกฟลูเรนและเหวียงเขากลับไปด้วย ฟลูเรนลอยออกมาจากลมบ้าหมูและ ตกลงบนพื้นร่างไร้ศีรษะของรูคนั้นกําลังนอนทับเขา

 

“เอ่อ..” ฟลูเรนขยับร่างกายไปด้านข้างขณะที่เขายืนขึ้น

 

ก่อนที่ฝนจะเบาบางลง แต่ตอนนี้กลับแรงขึ้นอีก

 

เขาใช้สายฝนเช็ดเลือดออกจากใบหน้าของเขา

 

“ดูเหมือนว่าฉันจะประเมินคนๆนั้นต่ําไป ยังไงก็ตาม ฉันไม่ควรเสี่ยงอีกต่อไป การรักษาของเขามีพลังมาก ฉันเอาชนะเขาไม่ได้ง่ายๆหรอก ฉันคิดว่าแผนของฉันใช้ได้ดีพอๆกับที่เป็นอยู่

 

“ฉันทําให้เขาโกรธมากจนลืมความสงสัยทั้งหมดที่เขา อาจมีตอนนี้ถึงเวลาสําหรับส่วนหลักของแผนแล้ว ฉันต้องพาเขาไปยังสถานที่ที่กําหนดไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”

 

“สมาชิกหน่วยเดลต้า 3 คนตายแล้ว ฉันสูญเสียมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” ฟลูเรนพึมพํา ขณะที่เขาเริ่มวิ่งไปหาสมาชิกหน่วยเดลต้าที่เหลือซึ่งยืนอยู่อีกด้านของถนนข้างจุด 

 

“เขาจะตามฉัน เพื่อมาฆ่าฉันแน่นอน หลังจากที่เห็นฉันที่นั่น เขาโกรธมาก ฉันคิดว่าครั้งนี้เราได้ตัวเขาแล้วแน่ๆ แผนของเราเริ่มออกนอกลู่นอกทางเล็กน้อย แต่เรากลับมาถูกทางแล้ว เราทํามันได้”

 

สมาชิกหน่วยเดลต้าที่เหลือกําลังเฝ้าดูลมหมุน รอให้ผู้คนออกมา

 

“เกิดอะไรขึ้น? อะไร ทําไมเขาถึงใช้เวลานานขนาดนั้น?” หนึ่งในนั้นถามหลังจากรอสักครู่

 

“อย่าโง่! เขาต้องล้อเล่นกับเด็ก และนั่นคือเหตุผลที่เขาใช้เวลานาน อย่าคิดมาก” แวเรียนท์อีกคนหนึ่งตอบปฏิเสธอย่างแรง

 

“ถูกต้อง ไม่มีทางที่เขาจะไม่สามารถเอาชนะเด็กได้เมื่อเด็กไม่สามารถแม้แต่จะแตะต้องเขาได้”

 

สมาชิกที่เหลือก็เห็นด้วย พวกเขาล้วนมีศรัทธาในตัวของฟลูเรน

 

นั่นคือเมื่อพวกเขาเห็นฟลูเรน ออกมาด้วยร่างกายที่ไร้ศีรษะ กระแทกกับพื้น

 

“ขะ- เขาพ่ายแพ้หรือ เด็กนั่นโยนเขาทิ้งงั้นเหรอ?” 

 

“อย่าพูดจาไร้สาระเลย ดูเหมือนเขาจะสบายดีมีเพียงรูค เท่านั้นที่ตายแล้ว ยังไม่มีใครออกมาจากที่นั่นอีก เด็กคนนั้นคงตายไปแล้ว”

นั่นคือสิ่งที่พวกเขาคิดเมื่อเห็นฟลูเรนวิ่งเข้าหาพวกเขา ซึ่งทําให้พวกเขาสับสนมากยิ่งขึ้น พวกเขาตัดสินใจที่จะฟังสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้นจากฟลูเรน

 

ฟลูเรนยังคงวิ่งไปทางอื่น

 

เขาเหลือบมองกลับเพียงรู้สึกแปลกใจที่ลูซิเฟอร์ยังไม่ออกมาพ้นลมหมุน เพื่อไล่ตามเขามาหลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เขาก็เข้าใจเหตุผล

 

“ฉันเข้าใจ ฉันจําได้ว่าเห็นอีกคนกระโดดลงไปในลมบ้า หมูตามรูค เขาอาจจะเป็นคนที่ทําให้ลูซิเฟอร์ล่าช้า แต่ฉันหยุดไม่ได้ เขาเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดตัวนั้นไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่ฉันกลับไปช่วย เขาจะ…ให้ตายเถอะ วันนี้ฉันได้ทําให้สมาชิก 4 คนตาย” เขาถอนหายใจ

 

“ฉันทําได้แค่ใช้การเสียสละของเขาเป็นโอกาส เขาสามารถถ่วงเวลาเขาได้ เมื่อถึงเวลาที่ลูซิเฟอร์ออกมา ฉันจะอยู่ที่นั่น ฉันกังวลว่าลูซิเฟอร์จะเห็นฉันเดินเข้าโค้งและเดินตามทางเดิม สิ่งนั้นจะล้มเหลว ฉันเลยโกรธเขามาก มันจะดีกว่านี้ถ้าเขาไม่เห็นว่าฉันไปถึงที่นั่นมันปลอดภัยกว่ามาก”

 

ภายในลมบ้าหมู ลูซิเฟอร์เพิ่งฆ่ารูคเมื่อมีคนอื่นกระโดดเข้าไปในลมบ้าหมู ร่างของรูคและฟลูเรน ถูกโยนออกจากใจกลางของพายุหมุน เหลือเพียงเดรย์และลูซิเฟอร์เท่านั้นที่อยู่ภายใน

 

“เลือด? แกฆ่ารูคงั้นเหรอ! ไอ้สารเลว! ฉันจะฆ่าแก!” เดรย์คําราม ขณะที่เขาวิ่งเข้าไปใกล้ลูซิเฟอร์และเตะ

 

ลูซิเฟอร์จ้องมองที่เดรย์ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เมื่อลูกเตะกําลังจะกระทบเขา เขาก็ทําแบบเดียวกับที่ทํากับฟลูเรน

 

เขาเตะออกไปเช่นกัน อย่างไรก็ตามผลที่ได้นั้นแตกต่างกัน เดรย์เป็นนักรบที่ไม่ถอยกลับในคราวที่แล้ว ไม่เหมือนกับฟลูเรนที่ตื่นตัวมากกว่า

 

ขาของทั้งสองปะทะกันส่งผลให้คนคนหนึ่งกรีดร้อง 

 

เดรย์ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ขณะที่กระดูกขาหักจากการปะทะ

 

ก่อนที่เขาจะกระพริบตา เขาก็พบว่าคอของเขาอยู่ในมือของลูซิเฟอร์ พลังชีวิตของเขาถูกดูดออกไป ในขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มสลายตัว

 

ตอนที่ 85: ต่อสู้กับทุกสิ่ง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะฆ่าเธอในตอนนี้ น่าเสียดายที่แซนเดอร์ต้องการให้เราจับเธอทั้งเป็น” ฟลูเรนตอบลูซิเฟอร์ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

 

นักรบ 2 คนของหน่วยเดลต้าที่ออกจากทีม และเดินไปที่ จุด 0 อีกด้านจากด้านข้าง เข้าใกล้ลมกรดที่อยู่รอบๆ ลูซิเฟอร์และฟลูเรนมากขึ้น พวกเขายังสับสนกับสิ่งที่พวกเขาสา มารถทําได้ในสถานการณ์นี้

 

สองคนนี้เป็นนักรบของหน่วยเดลต้า ทั้งคู่มีพลังกายภาพระดับ A

 

“รูค เราเข้าไปข้างในกันดีไหม” หนึ่งในนั้นถาม

 

“นายคิดอะไรอยู่ เดย์ เรามาขนาดนี้แล้ว เราออกไปไม่ได้หรอก” รูคตอบอย่างหนักแน่น

 

“ฉันจะเข้าไปข้างใน กระโดดตามฉันมา!” เขาปล่อยมือก่อนจะกําหมัดแน่นก่อนจะกระโดดลงไปในลมบ้าหมู

 

“กลับไปที่สิ่งที่เราทํากัน ฉันคิดว่าเธอยังมีบางสิ่งที่ทําให้เธอเชื่อว่าเธอสามารถเอาชนะฉันได้”

 

“โดยทั่วไปแล้ว ฉันคงไม่ให้โอกาสเธอได้ทําแบบนั้นหรอก และอีกอย่างฉันไม่พบว่าเธอกําลังคุกคามฉันอยู่เลย เธอเป็น เหมือนลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ ที่สามารถถูกบดขยี้ได้ทุกเมื่อที่ฉันต้องการ” ฟลูเรน เยาะเย้ยลูซิเฟอร์ เมื่อเขาเห็นเขายังคงควบคุมอารมณ์ได้

 

เขาแปลกใจที่ลูซิเฟอร์ไม่ได้โจมตีเขาเหมือนสัตว์ป่า

 

อย่างที่เขาพูดเขาระวังความสงบมากกว่าวุ่นวาย

 

“ฉันไม่เคยพบพ่อแม่ของเธอ แต่ฉันได้ยินคําชมมากมายเกี่ยวกับพวกเขา ฉันเคยคิดว่าพวกเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของการวิวัฒนาการของมนุษย์จริงๆ แต่ฉันไม่สามารถคิดแบบเดียวกันได้หลังจากเห็นเธอ พวกเขาต้องไม่ใช่อะไรที่ พิเศษ ถ้าพวกเขาสามารถให้กําเนิดคนที่ไร้ประโยชน์อย่างเธอได้” เขากล่าวต่อพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

ไม่ว่าลูซิเฟอร์จะพยายามมากแค่ไหน การดูถูกพ่อแม่ของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้เขาคลั่งเหมือนคนบ้า

 

ความกระหายเลือดเต็มดวงตาของเขา ในขณะที่ตาซ้ายของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จาง ๆ เท่านั้น สีม่วงในดวงตาของเขาจางจนแทบมองไม่เห็นออร่าที่อยู่รอบตัวเขาเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

ท้องฟ้าคํารามและเริ่มฟ้าร้องราวกับส่งสัญญาณสงครามให้กับลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์หายตัวไปจากตําแหน่งของเขา ปล่อยให้หยดน้ํากระเซ็นไปทั่วด้านหลังเขา ขณะที่เขาบินราวกับสายฟ้า

 

มือของเขาไม่มีถุงมือ ดังนั้นการคว้าส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไว้อย่างเหมาะสมก็สามารถฆ่าฟลูเรนได้ แต่เขาทําไม่ได้ด้วยซ้ําเพราะพลังที่น่ารําคาญของฟลูเรนที่ไม่ปล่อยให้เขาแตะต้องคนๆนั้นได้

 

มันเป็นเรื่องท้าทายที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ลูซิเฟอร์ไม่สนใจ เขาโกรธมากกว่าที่เคยเป็นมา

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนพูดถึงพ่อแม่ของเขา ผู้ครอบครองพื้นที่และความรักในหัวใจที่อ้างว้างของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อมนุษย์

 

พ่อและแม่ของเขาเป็นเพียง 2 คนในโลกนี้ที่เขาดูแล แต่ตอนนี้พวกเขาตายแล้ว เขาไม่สามารถให้อภัยคนที่พูดถึงพ่อแม่ของเขาแบบนั้นได้

 

เขาไม่เคยแสดงความโกรธด้วยคําพูดของเขามาก่อน เขาไม่ได้พูดถึงพ่อแม่ของเขาต่อหน้าใครตั้งแต่เขาเสียชีวิตในสถานที่นั้น เขาร้องไห้คนเดียว แต่เขาไม่เคยขอไหล่หรือความช่วยเหลือจากใครเลย พ่อแม่ของเขาเป็นคนเดียวของเขา พวกเขาเป็นทุกอย่างของเขาแม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้วก็ตาม

 

เขาเปิดริมฝีปากและคํารามอย่างบ้าคลั่ง ปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่ฝังอยู่ภายในเป็นเวลานาน

 

“พ่อแม่ของฉันทําเพื่อโลกนี้มากกว่าที่แกเคยทําได้! พวกเขาตายเพื่อแก ไอ้สารเลว! พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อแกทั้งหมด! พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะติดตามลูกชาย ของพวกเขาในวันสุดท้ายได้เพราะพวกเขาต่อสู้เพื่อพวกแกทั้งหมด!”

 

“หลังจากนั้น แกยังทรยศต่อความไว้วางใจของพวกเขาได้อีก! พวกแกมันเป็นคนชั่วร้าย ไม่ใช่ฉันซักหน่อย! ความตายของพวกแกทั้งหมดได้พิสูจน์แล้ว! การตายของพวกเขาเป็นเพราะแก! แม้ว่าทุก ๆ คนจะถูกกวาดล้างในโลกนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องชอบธรรม! พวกแกต้องรับผิดชอบ! แกคือสัตว์ประหลาด! แกสมควรตาย!”

 

ลูซิเฟอร์ระบายความโกรธและอารมณ์ทั้งหมดผ่านคําพูดของเขา แต่เขาไม่ต้องการจํากัดสิ่งนั้นไว้เพียงคําพูดของเขาเท่านั้น เขาตัดสินใจฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา

 

“ต่อให้เทพมาขวางทางฉัน วันนี้ฉันก็จะฆ่าแก! ฉันจะทําลายทุกคนที่ขวางทางฉัน! ฉันจะฆ่าทุกคนที่ต่อต้านฉัน!” 

 

“ ฉันจะไม่เสียสละอะไรเพื่อแกหรอกนะ ไอ้สัตว์ประหลาด! ฉันจะเอาทุกอย่างที่ฉันต้องการ! ฉันจะแก้แค้น! พวกแกทุกคนจะต้องตาย!” ลูซิเฟอร์คํารามในขณะที่เขา กําหมัดและชกไปทางฟลูเรน

 

พลังแห่งการสลายตัวของเขาถูกเปิดใช้งาน แต่สายฟ้าสีดําก็ล้อมรอบกําปั้นของเขาด้วย ทําให้เกิดถุงมือที่ทําจากสายฟ้าที่ดูลึกลับอย่างยิ่ง

 

เขายังใช้พลังเหนือมนุษย์ในหมัดนี้ เสริมด้วยพลังลมที่ช่วยให้เขาเคลื่อนไหว

 

ลูซิเฟอร์ยังไม่รู้ตัว แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้เพียงแค่ใช้พลัง 2 หรือ 3 อย่างพร้อมๆ กัน

 

ในตอนนี้ เขาใช้พลังทั้ง 4 พร้อมกัน ยกเว้นการรักษาที่พร้อมจะทํางาน เมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับบาดเจ็บ

 

ในตอนนี้ เขากําลังต่อสู้อย่างแท้จริงในฐานะวอร์ล็อค ที่ถูกปลุกด้วยพลังทั้งห้า ผู้ซึ่งออกไปทําลายโลกทั้งใบหากมันยืนอยู่ในเส้นทางของเขา

 

ฟลูเรนมีพลังของการควบคุมพื้นที่ ซึ่งช่วยให้เขาเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่คู่ขนานเมื่อการโจมตีมาถึงตัวเขา ทําให้เขาเกือบจะรอดพ้นจากการโจมตีในช่วงเวลานั้น ถึงกระนั้น เขารู้สึกว่าถูกคุกคามต่อหน้าการโจมตีที่กําลังเข้ามาหาเขา

 

“ทําไมฉันถึงรู้สึกกลัวการโจมตีครั้งนี้? มันไม่สามารถทําร้ายฉันได้! มันไม่สามารถ! ทําไมฉันรู้สึกว่ามือของฉันสั่น? ความรู้สึกเสียวซ่านทั่วร่างกายของฉันคืออะไร?

 

“ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้แม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับแซนเดอร์! ทําไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้กับเด็ก?” ฟลูเรนคิดในขณะที่เขารู้สึกกลัว เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรเสี่ยง

ตอนที่ 85: ต่อสู้กับทุกสิ่ง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

“ถ้าเป็นฉัน ฉันจะฆ่าเธอในตอนนี้ น่าเสียดายที่แซนเดอร์ต้องการให้เราจับเธอทั้งเป็น” ฟลูเรนตอบลูซิเฟอร์ด้วยสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

 

นักรบ 2 คนของหน่วยเดลต้าที่ออกจากทีม และเดินไปที่ จุด 0 อีกด้านจากด้านข้าง เข้าใกล้ลมกรดที่อยู่รอบๆ ลูซิเฟอร์และฟลูเรนมากขึ้น พวกเขายังสับสนกับสิ่งที่พวกเขาสา มารถทําได้ในสถานการณ์นี้

 

สองคนนี้เป็นนักรบของหน่วยเดลต้า ทั้งคู่มีพลังกายภาพระดับ A

 

“รูค เราเข้าไปข้างในกันดีไหม” หนึ่งในนั้นถาม

 

“นายคิดอะไรอยู่ เดย์ เรามาขนาดนี้แล้ว เราออกไปไม่ได้หรอก” รูคตอบอย่างหนักแน่น

 

“ฉันจะเข้าไปข้างใน กระโดดตามฉันมา!” เขาปล่อยมือก่อนจะกําหมัดแน่นก่อนจะกระโดดลงไปในลมบ้าหมู

 

“กลับไปที่สิ่งที่เราทํากัน ฉันคิดว่าเธอยังมีบางสิ่งที่ทําให้เธอเชื่อว่าเธอสามารถเอาชนะฉันได้”

 

“โดยทั่วไปแล้ว ฉันคงไม่ให้โอกาสเธอได้ทําแบบนั้นหรอก และอีกอย่างฉันไม่พบว่าเธอกําลังคุกคามฉันอยู่เลย เธอเป็น เหมือนลูกสุนัขตัวเล็ก ๆ ที่สามารถถูกบดขยี้ได้ทุกเมื่อที่ฉันต้องการ” ฟลูเรน เยาะเย้ยลูซิเฟอร์ เมื่อเขาเห็นเขายังคงควบคุมอารมณ์ได้

 

เขาแปลกใจที่ลูซิเฟอร์ไม่ได้โจมตีเขาเหมือนสัตว์ป่า

 

อย่างที่เขาพูดเขาระวังความสงบมากกว่าวุ่นวาย

 

“ฉันไม่เคยพบพ่อแม่ของเธอ แต่ฉันได้ยินคําชมมากมายเกี่ยวกับพวกเขา ฉันเคยคิดว่าพวกเขาอยู่ที่จุดสูงสุดของการวิวัฒนาการของมนุษย์จริงๆ แต่ฉันไม่สามารถคิดแบบเดียวกันได้หลังจากเห็นเธอ พวกเขาต้องไม่ใช่อะไรที่ พิเศษ ถ้าพวกเขาสามารถให้กําเนิดคนที่ไร้ประโยชน์อย่างเธอได้” เขากล่าวต่อพร้อมรอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

ไม่ว่าลูซิเฟอร์จะพยายามมากแค่ไหน การดูถูกพ่อแม่ของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้เขาคลั่งเหมือนคนบ้า

 

ความกระหายเลือดเต็มดวงตาของเขา ในขณะที่ตาซ้ายของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จาง ๆ เท่านั้น สีม่วงในดวงตาของเขาจางจนแทบมองไม่เห็นออร่าที่อยู่รอบตัวเขาเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

ท้องฟ้าคํารามและเริ่มฟ้าร้องราวกับส่งสัญญาณสงครามให้กับลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์หายตัวไปจากตําแหน่งของเขา ปล่อยให้หยดน้ํากระเซ็นไปทั่วด้านหลังเขา ขณะที่เขาบินราวกับสายฟ้า

 

มือของเขาไม่มีถุงมือ ดังนั้นการคว้าส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายไว้อย่างเหมาะสมก็สามารถฆ่าฟลูเรนได้ แต่เขาทําไม่ได้ด้วยซ้ําเพราะพลังที่น่ารําคาญของฟลูเรนที่ไม่ปล่อยให้เขาแตะต้องคนๆนั้นได้

 

มันเป็นเรื่องท้าทายที่จะเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถสัมผัสได้ แต่ลูซิเฟอร์ไม่สนใจ เขาโกรธมากกว่าที่เคยเป็นมา

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนพูดถึงพ่อแม่ของเขา ผู้ครอบครองพื้นที่และความรักในหัวใจที่อ้างว้างของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อมนุษย์

 

พ่อและแม่ของเขาเป็นเพียง 2 คนในโลกนี้ที่เขาดูแล แต่ตอนนี้พวกเขาตายแล้ว เขาไม่สามารถให้อภัยคนที่พูดถึงพ่อแม่ของเขาแบบนั้นได้

 

เขาไม่เคยแสดงความโกรธด้วยคําพูดของเขามาก่อน เขาไม่ได้พูดถึงพ่อแม่ของเขาต่อหน้าใครตั้งแต่เขาเสียชีวิตในสถานที่นั้น เขาร้องไห้คนเดียว แต่เขาไม่เคยขอไหล่หรือความช่วยเหลือจากใครเลย พ่อแม่ของเขาเป็นคนเดียวของเขา พวกเขาเป็นทุกอย่างของเขาแม้ว่าพวกเขาจะตายไปแล้วก็ตาม

 

เขาเปิดริมฝีปากและคํารามอย่างบ้าคลั่ง ปลดปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่ฝังอยู่ภายในเป็นเวลานาน

 

“พ่อแม่ของฉันทําเพื่อโลกนี้มากกว่าที่แกเคยทําได้! พวกเขาตายเพื่อแก ไอ้สารเลว! พวกเขายอมสละชีวิตเพื่อแกทั้งหมด! พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะติดตามลูกชาย ของพวกเขาในวันสุดท้ายได้เพราะพวกเขาต่อสู้เพื่อพวกแกทั้งหมด!”

 

“หลังจากนั้น แกยังทรยศต่อความไว้วางใจของพวกเขาได้อีก! พวกแกมันเป็นคนชั่วร้าย ไม่ใช่ฉันซักหน่อย! ความตายของพวกแกทั้งหมดได้พิสูจน์แล้ว! การตายของพวกเขาเป็นเพราะแก! แม้ว่าทุก ๆ คนจะถูกกวาดล้างในโลกนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องชอบธรรม! พวกแกต้องรับผิดชอบ! แกคือสัตว์ประหลาด! แกสมควรตาย!”

 

ลูซิเฟอร์ระบายความโกรธและอารมณ์ทั้งหมดผ่านคําพูดของเขา แต่เขาไม่ต้องการจํากัดสิ่งนั้นไว้เพียงคําพูดของเขาเท่านั้น เขาตัดสินใจฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา

 

“ต่อให้เทพมาขวางทางฉัน วันนี้ฉันก็จะฆ่าแก! ฉันจะทําลายทุกคนที่ขวางทางฉัน! ฉันจะฆ่าทุกคนที่ต่อต้านฉัน!” 

 

“ ฉันจะไม่เสียสละอะไรเพื่อแกหรอกนะ ไอ้สัตว์ประหลาด! ฉันจะเอาทุกอย่างที่ฉันต้องการ! ฉันจะแก้แค้น! พวกแกทุกคนจะต้องตาย!” ลูซิเฟอร์คํารามในขณะที่เขา กําหมัดและชกไปทางฟลูเรน

 

พลังแห่งการสลายตัวของเขาถูกเปิดใช้งาน แต่สายฟ้าสีดําก็ล้อมรอบกําปั้นของเขาด้วย ทําให้เกิดถุงมือที่ทําจากสายฟ้าที่ดูลึกลับอย่างยิ่ง

 

เขายังใช้พลังเหนือมนุษย์ในหมัดนี้ เสริมด้วยพลังลมที่ช่วยให้เขาเคลื่อนไหว

 

ลูซิเฟอร์ยังไม่รู้ตัว แต่ในตอนนี้เขาไม่ได้เพียงแค่ใช้พลัง 2 หรือ 3 อย่างพร้อมๆ กัน

 

ในตอนนี้ เขาใช้พลังทั้ง 4 พร้อมกัน ยกเว้นการรักษาที่พร้อมจะทํางาน เมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับบาดเจ็บ

 

ในตอนนี้ เขากําลังต่อสู้อย่างแท้จริงในฐานะวอร์ล็อค ที่ถูกปลุกด้วยพลังทั้งห้า ผู้ซึ่งออกไปทําลายโลกทั้งใบหากมันยืนอยู่ในเส้นทางของเขา

 

ฟลูเรนมีพลังของการควบคุมพื้นที่ ซึ่งช่วยให้เขาเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่คู่ขนานเมื่อการโจมตีมาถึงตัวเขา ทําให้เขาเกือบจะรอดพ้นจากการโจมตีในช่วงเวลานั้น ถึงกระนั้น เขารู้สึกว่าถูกคุกคามต่อหน้าการโจมตีที่กําลังเข้ามาหาเขา

 

“ทําไมฉันถึงรู้สึกกลัวการโจมตีครั้งนี้? มันไม่สามารถทําร้ายฉันได้! มันไม่สามารถ! ทําไมฉันรู้สึกว่ามือของฉันสั่น? ความรู้สึกเสียวซ่านทั่วร่างกายของฉันคืออะไร?

 

“ฉันไม่ได้รู้สึกแบบนี้แม้แต่ตอนที่เผชิญหน้ากับแซนเดอร์! ทําไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้กับเด็ก?” ฟลูเรนคิดในขณะที่เขารู้สึกกลัว เขารู้สึกว่าเขาไม่ควรเสี่ยง

ตอนที่ 84: บทเรียน

 

“เธอเป็นเหมือนสัตว์ป่าที่พยายามจะฆ่าใครก็ตามที่เธอเห็น หากมีเพียงกําลังดุร้ายเป็นกุญแจสําคัญ มนุษย์จะไม่สามารถปกครองโลกนี้เป็นเวลาหลายศตวรรษได้ เมื่อมี ภัยคุกคามที่มีพลังและอันตรายยิ่งกว่าเดิม”

 

เธอทิ้งสิ่งหนึ่งไว้เบื้องหลัง ซึ่งทําให้มนุษย์ได้เปรียบนั่นคือ สมอง เธอไม่สามารถใช้พลังที่เธอมีได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยซ้ํา” ฟลูเรนกล่าวกับลูซิเฟอร์ ด้วยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าขณะที่เขายกตัวเด็กน้อยขึ้นอีกครั้ง

 

“ฉันดีใจที่พ่อและแม่ของเธอไม่อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องรู้สึกอับอายขนาดไหนที่เห็นเธอทําแบบนี้” เขากล่าวต่อโดยไม่รู้ถึงความผิดพลาดที่เขาได้ทําลงไป

 

เมื่อได้ยินว่าพ่อแม่ของเขาถูกพูดถึงแบบนั้น ลูซิเฟอร์ก็ควบคุมความโกรธไม่ได้ สายฟ้ารอบๆ ตัวเขารุนแรงขึ้น โดยมีพายุหมุนประหลาดกลืนพวกเขา 2 คนอยู่ตรงกลาง

 

พายุหมุนสร้างกําแพงล้อมรอบพวกเขา ปกป้องพวกเขาจากมุมมองของผู้อื่น

 

“โอ้ย” ฟลูเรนดึงมือของเขา ในขณะที่เขารู้สึกว่ามีกระแสไฟฟ้ารุนแรงเกิดขึ้น

 

“เธอยังไม่ยอมแพ้อีกเหรอ!” เขาพูดขณะที่ยกขาขวาขึ้น และเตะไปทางลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์ขยับการทรงตัวไปด้านข้าง เขาเหวี่ยงขาขวาเช่นกัน ปะทะกับเท้าที่กําลังจะชนเขา

 

พลังของฟลูเรนพิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์ต่อหน้าลูซิเฟอร์ เนื่องจากเขาเป็นคนที่เดินโซเซกลับแทน

 

“เจ็บจริงๆเลย แฮะ ถ้าฉันไม่ตอบสนองเร็วกว่านี้ขาของฉันคงหักไปแล้ว เธออาจจะเป็นแค่สัตว์เดรัจฉานก็จริง แต่เธอก็ยังแข็งแรงอยู่”

 

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องจริงจังหน่อยแล้ว” เขาพึมพําพร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ ที่ริมฝีปากของเขา

 

ฟลูเรนยกมือขวาไปทางลูซิเฟอร์ เขาทําท่าทางอ่อนโยนราวกับว่าเขากําลังเชิญให้ลูซิเฟอร์โจมตีก่อน

 

“มาเถอะ ได้โปรดแสดงให้ฉันดูหน่อยว่าเธอได้อะไรมาบ้าง ให้ฉันทําลายภาพลวงตาของความแข็งแกร่งที่ดูเหมือนว่าเธอจะมีมันอยู่ภายใต้ร่างกายนั้น”

 

ลูซิเฟอร์เห็นการเยาะเย้ย แต่เขาไม่ได้เคลื่อนไหว เขามองเข้าไปในดวงตาของฟลูเรน ขณะที่เขาปล่อยใบหน้าอย่างไรอารมณ์ “ฉันจะฆ่าแก”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า พูดมากจริงๆ สําหรับเด็กที่หน้าเคยอยู่บนพื้นดิน เมื่อไม่กี่นาทีก่อน” ฟลูเรนเยาะเย้ยลูซิเฟอร์โดยไม่ถูกข่ม

 

“ลมบ้าหมูนั่นอะไรนะ เรายังควรโจมตีอีกไหม ฉันมองไม่เห็นอะไรจากอีกฝัง”

 

“นายบ้าเหรอ? รองหัวหน้าฟลูเรนยังอยู่ข้างๆผู้ชายคนนั้น ถ้าเราโจมตีสุ่มสี่สุ่มห้า เราอาจจะโจมตีเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ?”

 

“งั้นเราควรนั่งเฉยๆงั้นเหรอ? นายไม่กังวลว่ารองหัวหน้าจะเป็นอะไรหรือไง? เขาต่อสู้กับผู้ชายคนนั้นคนเดียวเลยนะ?”

 

“แล้วไง? นายประเมินรองหัวหน้าต่ําไปหรือเปล่า นายไม่รู้ถึงพลังของเขาเหรอ เขาเป็นคนที่เด็กไม่มีทางเอาชนะได้ ฉันเชื่อว่าเด็กคนนั้นจะถูกทุบตีอยู่ข้างในนั้น”

 

“เฮ้อ พลังของเขานี่มันดีจริง ๆ เขาเป็นคนที่เก่งกาจที่สุด และสามารถต่อสู้กับหัวหน้าแซนเดอร์ได้เป็นเวลานานโดยไม่ถูกปราบ เราไม่ควรประมาทเขา”

 

“จริงเหรอ เขาต่อสู้กับหัวหน้าแซนเดอร์ได้จริงๆหรือเปล่า ทําไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้เลย เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?”

 

“ฮ่าฮ่า ฉันคิดว่านายน่าจะออกไปทําภารกิจ มันเป็นแค่การซ้อมรบ แม้ว่าท่านแซนเดอร์จะอ่อนข้อให้ในระหว่างการต่อสู้เพราะเป็นการฝึกฝน แต่ก็ยังไม่ง่ายเลยที่จะต่อสู้กับท่านแซนเดอร์ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่รองหัวหน้าเป็นที่รู้จักกันว่า แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับ 2 ในหน่วยเดลต้าของเรา”

 

“ใช่ พลังธาตุระดับ A ของการควบคุมพื้นที่โดยรอบนั่น มันทําให้เขาเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยาก”

 

“แข็งแกร่งงั้นเหรอ? ไม่มีใครทําร้ายเขาได้! เขาสามารถนําตัวเองไปยังพื้นที่คู่ขนานในชั่วขณะหนึ่งพร้อมกับหลบการโจมตี ไม่มีทางที่ใครจะโจมตีเขาที่พื้นที่คู่ขนานได้ นอกจากพลังเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพระดับ B ของเขาแล้ว เขายังมีพลังในการเอาชนะอีกด้วย เด็กคนนั้นไม่มีโอกาสชนะแน่นอน”

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์และฟลูเรนซ่อนอยู่ในดวงตาของลมหมุน สมาชิกหน่วยเดลต้ายืนอยู่อีกด้านหนึ่งของจุด 0 คร่ําครวญถึงสถานการณ์ในพายุหมุน

 

ลูซิเฟอร์เหวี่ยงหมัดไปที่ใบหน้าของฟลูเรน ซึ่งยืนอยู่ ที่นั่นอย่างมั่นใจ

 

” บทเรียนที่ 2 สัตว์ร้ายที่ร้ายกาจยิ่งกว่าสัตว์ร้ายที่สงบในทางกลับกัน สัตว์ร้ายที่สงบสามารถคุกคามได้มากกว่าสัตว์ร้ายที่บ้าคลั่งที่โจมตีในรูปแบบเดียวกัน” ฟลูเรนพิมพ์ ขณะสังเกตหมดของลูซิเฟอร์

 

หมดของลูซิเฟอร์เอื้อมไปหน้าชายผู้นั้นแต่เขาไม่หลบและ ปล่อยให้ลูซิเฟอร์ทําตามต้องการ

 

หมัดของลูซิเฟอร์เอื้อมถึงฟลูเรน แต่ก็ไม่ได้แตะต้องเขาด้วยซ้ํา มันผ่านฟลูเรนไปราวกับว่าเขาเป็นภาพลวงตาที่ไม่มีอยู่จริง

 

“ถึงตาฉันแล้ว” ฟลูเรนพูดออกมาพลางเพลิดเพลินกับ ใบหน้าที่ตกตะลึงของลูซิเฟอร์ เขากําหมัดแน่น เพื่อต่อยลูซิเฟอร์

 

หมดของฟลูเรน สัมผัสที่หน้าอกของลูซิเฟอร์ นั่นจึงทําให้เขากระอักเลือดออกมา ลูซิเฟอร์ลอยกลับเหมือนก้อนหินกระแทกแอ่งน้ํา น้ํากระเซ็นขึ้น ในขณะที่เขาล่วงลงก่อนที่เขาจะตกลงสู่พื้น

 

“บทเรียนที่ 3 หากการโจมตีล้มเหลว เธอควรติดตามการโจมตีครั้งต่อไปทันทีหรือถอยกลับแทนที่จะคิดว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เช่นนั้น นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น” ฟลูเรนบอกกับลูซิเฟอร์ ขณะที่เขายิ้ม

 

เขาก้าวไปทางลูซิเฟอร์ ในขณะที่เพลิดเพลินกับฉากนั้นต่อหน้าต่อตา

 

“เฮ้อ เราประเมินเธอสูงเกินไป ถ้าฉันรู้ว่านี่เป็นทักษะที่แท้จริงของเธอ ฉันจะแนะนําให้แซนเดอร์ไม่ใช้ทรัพยากรมากมายที่นี่”

 

“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยด้วยซ้ําว่าคนอย่างเธอสามารถฆ่าสมาชิกทั้งสี่ที่เราส่งไปเพื่อจับเธอในเมืองลีเจี้ยน และสมาชิก 2 คนของเราที่นี่ พวกเขาถูกเธอฆ่าตายจริงๆงั้นเหรอ ช่างน่าผิดหวังจริงๆ” เขาถอนหายใจขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้ลูซิ เฟอร์ต่อไป

 

แค่ก! แค่ก!

 

ลูซิเฟอร์พยุงตัวเองขึ้นในขณะที่เขาตอบว่า “แกคาดหวังให้ฉันขอบคุณสําหรับบทเรียนแบบนี้ไหม”

 

การเสียดสีปรากฏชัดในน้ําเสียงของเขา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่ต้อง ฉันไม่ได้สอนเธอ ฉันแค่ชี้ให้เห็นว่าเธอนั้นโง่แค่ไหนที่คิดว่าเธอสามารถรับมือกับผู้ที่มีประสบการณ์ทางอาชีพอย่างเราหลายปี เธอคิดว่าการฆ่าคน 2-3 คนทําให้เธอแข็งแกร่งขึ้นงั้นหรือ”

 

“เธอคิดว่าเธอเป็นคนสําคัญที่สามารถทําลายหน่วยงานของรัฐเพียงลําพังได้งั้นหรือ ห้ะ! เธอกําลังทําให้ฉันอยากจะหัวเราะ ฉันเกลียดคนแบบเธอที่สุดที่ใช้พลังของตน เองในทางที่ผิด”

 

ตอนที่ 83: ศัตรูลวงตา

 

“ทําไมเขาไม่รับ มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นอย่างแน่นอน! พาพวกเรากลับไวกว่านี้!” แซนเดอร์พูดอย่างหมดความอดทน ในขณะที่การโทรไปหาฟลูเรนของเขาไม่ได้รับคําตอบ

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

“เรากําลังจะไปให้เร็วที่สุด ใจเย็นๆ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยดี ฟลูเรนรู้ดีว่าเขาต้องทําอะไร” ชายที่นั่งใกล้แซนเดอร์ปลอบเขาเพราะตอนนี้พวกเขาทําอะไรไม่ได้อีกแล้ว 

 

…..

 

ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ท่ามกลางระหว่างฟลูเรนและพวกของเขา ลูซิเฟอร์รู้สึกเหมือนเป็นกับดักที่คนพวกนั้นไม่ได้โจมตีราวกับว่าพวกเขากําลังรอลูซิเฟอร์อยู่

 

เขาจึงตัดสินใจโดยไม่ใช้เวลาไตร่ตรองอีกต่อไป นั่นคือโจมตีสิ่งที่ไม่ค่อยน่าสงสัยสําหรับเขา เขาตัดสินใจโจมตีฟลูเรน

 

ฝนเริ่มซาลงแล้ว แต่ยังคงมีฝนโปรยปรายอยู่ในบรรยากาศที่หนาวเย็น ทําให้เกิดเสียงท่วงทํานองที่สงบสุขเมื่อหยด น้ำตกลงมาบนน้ำที่สะสมอยู่ตามท้องถนน

 

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศอันเงียบสงบนี้เต็มไปด้วยความเงียบแปลกๆ จากทุกคนที่อยู่ที่นั่น ราวกับว่าเป็นความเงียบก่อนเกิดพายุ

 

ลูซิเฟอร์รวบรวมกําลังของเขาไว้ที่เท้าขวา เขายกเท้าขึ้น ทุบพื้น ขณะที่ผลักตัวเองไปข้างหน้าโดยใช้กําลังที่รุนแรง ซึ่งถูกขยายด้วยพลังลม ซึ่งเขาใช้เพื่อประโยชน์ของเขาแม้ในช่วงเวลาเช่นนี้

 

แม้ว่าแอ่งน้ำบนพื้นจะพยายามทําให้แรงกระแทกอ่อนลง แต่แรงก็ยังมีพลังมากพอที่จะทิ้งปล่องภูเขาไฟไว้เบื้องหลัง

 

“เขากําลังโจมตีรองหัวหน้าของเรา!”

 

“หยุดเขา!”

 

สมาชิกหน่วยเดลต้า 2 คน เริ่มวิ่งไปทางลูซิเฟอร์ ซึ่งกําลังไปไกลกว่าพวกเขา เพราะลูซิเฟอร์กําลังไปในทิศทางของฟลูเรน

 

ทั้งสองก้าวไปในทิศทางของเขาเพียงก้าวเดียว แต่พวกเขาก็หยุดลง เมื่อชายร่างใหญ่ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาทั้งสอง

 

“หยุดนะ! นาย 2 คนงี่เง่าเหรอ? ถ้านายก้าวไปอีก 2-3 ก้าว นายก็จะเหยียบที่จุด 0!” ชายร่างใหญ่พูดพร้อมกับหรี่ตาลง

 

“เราอยู่ผิดด้านของสนาม เราไม่สามารถไปหาเขาได้ เราต้องพาเด็กโง่คนนั้นมาหาเรา! นายไม่ได้ฟังคําสั่งของรองกัปตันเหรอ?” เขาพูดต่อ

 

“ใช่แล้ว! ทุกคน! เฉพาะการโจมตีระยะไกลเท่านั้น มาร์ค กับ เล่ย นาย 2 คนเป็นนักรบระยะประชิด พวกนายไปต่อสู้กับเข้าระยะใกล้ได้ เพราะเขาน่าจะไม่รู้ตัว แต่ไปจากด้า นข้างแล้วถอยกลับทันที่ที่เขาเริ่มไล่ล่า ” อีกคนสั่ง

 

ทั้งสองตกลงกันทันที เมื่อพวกเขาเคลื่อนย้ายจากมุมถนน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้เหยียบจุดต้องห้ามโดยบังเอิญ

 

ลูซิเฟอร์กําลังบินไปทางฟลูเรน เมื่อเขารู้สึกถึงอันตรายสายฟ้าภายในร่างกายของเขามีปฏิกิริยารุนแรงสั่นไหวไปทั่วร่างกายของเขา

 

เขาไม่ได้ละสายตาจากเป้าหมาย ฟลูเรนที่ยืนอยู่ที่นั่น แต่เขาเปลี่ยนการเคลื่อนไหวของเขา

 

แทนที่จะบินตรงไปยังฟลูเรน เขาเริ่มเคลื่อนที่เป็นซิกแซก เพื่อหลบการโจมตีที่อาจมาจากด้านหลัง

 

ลูซิเฟอร์ยกมือขวาของเขาขึ้น เขายิงสายฟ้าโดยหันเหความสนใจของเขาระหว่างการโจมตีและการเคลื่อนไหว ในขณะที่ใช้พลังสองอย่างพร้อมกัน

 

ในขณะนี้ เขาสามารถใช้พลังได้เพียง 2 พลังพร้อมกันได้ ในขณะที่พยายามควบคุมความสามารถทั้ง 3 อย่างในเวลาเดียวกัน

 

เขายิงสายฟ้าที่พุ่งเข้าหาฟลูเรน ซึ่งยืนอยู่ที่นั่นโดยกอดอก

 

เมื่อสายฟ้าเข้ามาใกล้ฟลูเรน มันก็ผ่านร่างของเขาไป แต่ไม่ทําอันตรายเขาเลยแม้แต่น้อย

 

แม้แต่ลูซิเฟอร์ก็ยังตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าฟลูเรนจะหลบไม่พ้น การโจมตีแต่การโจมตีนั้นเพียงแค่ผ่านเข้าไป

 

สายฟ้ามาจากด้านหลังและโจมตีลูซิเฟอร์พร้อมกัน 

ดูซีรีย์ ฟรีได้ที่ series-max.com

“อืม?”

 

ดูเหมือนว่าเขาได้เติมพลังงานแทนที่จะได้รับบาดเจ็บ เขาหันกลับมามองด้วยความสงสัย

 

ทันทีที่เขาหันหลังกลับ สายฟ้าอีกลูกก็พุ่งเข้ามาหาเขา คราวนี้ตรงไปที่หน้าอกของเขา ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม แทนที่จะทําร้ายเขา มันเติมเต็มพลังงานที่เขาใช้ในการต่อสู้ ทําให้เขารู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้น

 

“สายฟ้าสีน้ำเงินเติมพลังงานให้ฉัน ฉันรู้ว่าสายฟ้าไม่ทําร้ายฉันหลังจากที่ฉันปลุกพลังสายฟ้าสีดําให้ตื่น แต่สิ่งนี้ก็เช่นกัน ฉันไม่รู้เกี่ยวกับพลังของฉันอีกมาก”

 

เขาจ้องมองที่สมาชิกหน่วยเดลต้า ในไม่ช้าก็จําผู้ใช้สายฟ้าของพวกเขาได้

 

“อะไรนะ? ฉันรู้ว่าสายฟ้าของฉันเป็นเพียงพลังระดับ B ทําไมพลังสายฟ้าที่มีระดับสูงกว่าถึงทําอะไรเขาไม่ได้เลยล่ะ และตอนนี้เขาไม่ได้แสดงสีหน้าเจ็บปวดแม้แต่น้อย?” เบนผู้ใช้พลังสายฟ้าของหน่วยเดลต้า รู้สึกไม่สบายใจ

 

“มันอาจจะเกี่ยวข้องกับข้อเท็จจริงที่ว่าเขาเป็นผู้ใช้พลังสายฟ้าสีดําด้วยหรือไม่ มันเป็นพลังระดับ S ที่มีส่วนอย่างมากในการทําให้ท่านเซล แอซเรลผู้ยิ่งใหญ่เป็นวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุด”

 

“ถึงแม้เด็กน้อยจะยังเด็กและไม่สามารถดึงพลังออกมาได้ แม้แต่เศษเสี้ยวของพลังที่ท่านเซลแสดงออกมา แต่ร่างกายของเขายังคงมีสายฟ้าสีดําระดับ S เป็นที่เข้าใจได้ว่าสายฟ้าระดับต่ำของนายจะไม่สามารถทําร้ายเขาได้” แวเรียนท์ อีกคนตอบหลังจากสังเกตสถานการณ์

 

“ดังนั้นฉันจึงไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้ครั้งนี้” เบนถอนหายใจ ขณะที่เขาก้มศีรษะลงและหยุดการโจมตีด้วยความอับอาย มีเพียงสมาชิกคนอื่น ๆ เท่านั้นที่โจมตี

 

“เฮ้อ เขาหยุดโจมตี ฉันคงปล่อยให้เขาโจมตีฉันอยู่แบบนี้ ไม่ได้” ลูซิเฟอร์พึมพําอย่างไม่แสดงออก ในขณะที่เขายังคงหลบการโจมตีที่เหลือ

 

“มาจัดการกับนายก่อนแล้วกัน” เขาสละความคิดนั้นทิ้ง ขณะที่หันกลับไปทางฟลูเรน สิ่งหนึ่งทําให้เขาต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าจุดนั้นว่างเปล่า

 

เขาได้ยินเสียงจากข้างหลังเขาราวกับว่ามีใครบางคนกําลังกระซิบอยู่ในหูของเขา ”นั่นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อคุณละสายตาจากศัตรู บทเรียนที่หนึ่ง อย่าละสายตาจากศัต

 

ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ มีมือหนึ่งคว้าคอของเขาจากด้านหลัง ยกเขาขึ้นไปในอากาศก่อนที่จะทุบเขาลงกับพื้น ใบหน้าของลูซิเฟอร์เป็นสิ่งแรกที่กระแทกพื้น ขณะที่จมูกของเขาหักและเริ่มมีเลือดออก

 

“เด็ก ๆ จะไร้เดียงสาอยู่เสมอ ฉันไม่เข้าใจว่าทําไมแซนเดอร์ถึงเป็นห่วงเธอมาก เธออาจมีความแข็งแกร่งและพลังนอกรีต แต่เธอไม่มีประสบการณ์การต่อสู้ที่เหมาะสมเลย ”

 

ตอนที่ 82: ความสงสัย

 

“คุณอาจถูกคุมขัง แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณทนทุกข์ นั่นคือสิ่งที่ลูกชายของเซล แอซเรล สมควรได้รับน้อยที่สุด” แซนเดอร์พึมพําก่อนจะกดหมายเลขของฟลูเรนเพื่อรับข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์

 

……

 

ฟลูเรนวิ่งผ่านถนนที่เป็นแอ่งน้ำ ซึ่งมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในการจัดการกับน้ำที่ไหลเข้าอย่างหนักจากฝนตกหนัก

 

เสื้อผ้าของเขาเปียกโชกไปแล้ว แต่เขาไม่สนใจ หลังจากอัพเดทสถานการณ์ของแซนเดอร์แล้ว ไม่นานเขาก็มาถึงสถานที่ที่ลูซิเฟอร์ยืนอยู่

 

เมื่อเขาไปถึงที่นั่น เขาเห็นคน 2 คนเสียชีวิต นอนอยู่ใกล้ลูซิเฟอร์ สมาชิกที่เหลือยืนห่างจากเขารักษาระยะห่าง อันที่จริงพวกเขายืนห่างจากเขามากกว่า 100 ก้าว

 

“ดี พาพวกเขาไปที่นั่น เพื่อไปหาคุณ เขาต้องไปที่นั่น” ฟลูเรนพึมพําเมื่อเห็นสถานการณ์

 

ลูซิเฟอร์จ้องไปที่แวเรียนท์รอบๆเขา ที่อยู่ห่างไกลจากเขา เมื่อแตะเท้าไปที่กลุ่มในไม่ช้าเขาก็เริ่มบินเข้าหาพวกเขา 

 

เมื่อมองไปที่ลูซิเฟอร์ที่บินหนีไปฟลูเรนก็ยิ้ม “ได้! ไปที่นั่น ทุกอย่างจะจบลงอีกนิดเดียว”

 

วืดดดด! วืดดดด!

 

เมื่อเขาพูดจบ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น

 

ใบหน้าของเขาซีดเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เสียงของมันไม่ดังเกินไป แต่ก็ไม่ต่ำพอที่จะจมตามด้วยเสียงฝน

 

ฟลูเรนเห็นลูซิเฟอร์หยุด เขารู้ว่ามันไม่ดี ลูซิเฟอร์กําลังได้ยินเสียงนี้

 

…….

 

“แซนเดอร์อยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ

 

“เขาออกจากเมืองไปแล้ว ใช่” มาร์เคลโพล่งออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่กว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว

 

ใบหน้าของเขาซีด เมื่อรู้ว่าเขาทําอะไรลงไป แต่มันก็สายเกินไป แม้ว่าฟลูเรนจะสั่งให้เขาทําอะไรต่อไป แต่เขาทําไม่ได้เพราะปลอกคอของเขาถูกลูซิเฟอร์คว้ามา ลูซิเฟอร์ลากเขาออกมาจากอีกฟากหนึ่งของเคาน์เตอร์ แล้วทุบเขาที่ถนน

 

“แกวางกับดักให้ฉันที่นี่?” ลูซิเฟอร์พูดอย่างเคร่งขรึม ขณะยกเท้าขึ้นทุบหัวของชายวัยกลางคนแล้วทุบให้แหลก

 

ชายผมบลอนด์ที่อยู่ในร้านที่ใกล้ที่สุดกรีดร้อง ขณะที่เห็นเพื่อนของเขาตาย ”มาร์เคล!”

 

เขาออกมาจากร้านและวิ่งไปหาลูซิเฟอร์เพื่อฆ่าเขาด้วยความโกรธ คนๆนี้ทําโดยไม่สนใจคําสั่งของฟลูเรน

 

“ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าเป็นใคร! ใครก็ตามที่ขวางทางข้าจะต้องพบกับชะตากรรมเดียวกัน” ลูซิเฟอร์ประกาศโดยไม่สนใจเสียงกรีดร้องของชายที่วิ่งเข้ามาหาเขา

 

“แกต้องตาย!” ชายผู้นั้นส่งเสียงกรีดร้อง ขณะที่เขาหายตัวไป กลายเป็นเงา

 

เมื่อเห็นชายคนนั้นหายตัวไป ลูซิเฟอร์ก็ตกตะลึง แต่ในไม่ช้าเขาก็สังเกตเห็นเงาที่เคลื่อนตัวอยู่บนพื้น

 

“เขากลายเป็นเงา? หรือเขาล่องหนแต่ควบคุมเงาไม่ได้? ไม่สิ บนท้องฟ้าไม่มีดวงอาทิตย์จะเป็นเงาธรรมดาไม่ได้ เขากลายเป็นเงา!?”

 

เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์อย่างเร่งรีบ เขาก็ตระหนักได้ ในทันทีว่าพลังของชายผู้นี้คืออะไร

 

ชายผมบลอนด์ชื่อ เทรสตัน นักรบแวเรียนท์ ที่มีพลังทางกายภาพของการเปลี่ยนแปลง พลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของเขาแตกต่างจากเคน

 

ในขณะที่ผู้นําระดับแรกของแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เคนสามารถแปลงร่างเป็นรูปร่างมนุษย์ใดๆ ก็ได้ ซึ่งช่วยให้เขาปลอมตัวเป็นใครก็ได้ เทรสตันทําได้เพียงแปลงร่าง เป็นเงาเท่านั้น

 

ความสามารถในการแปลงร่างของเขาถูกจํากัดมากขึ้นเช่นกัน เพราะเขาสามารถอยู่ในร่างเงาของเขาได้ครั้งละ 20 วินาทีก่อนที่เขาจะกลับมาเป็นปกติโดยไม่เต็มใจ

 

แม้จะมีข้อจํากัดนี้ เทรสตันใช้ความสามารถนี้ในขณะที่ เขาเชื่อว่า 20 วินาทีก็เพียงพอแล้วสําหรับเขาที่จะฆ่าลูซิเฟอร์สําหรับสิ่งที่เขาทํากับเพื่อนของเขา

 

“มาเถอะ” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะมองดูเงาที่ใกล้เข้ามา

 

เขายกเท้าขึ้นเล็กน้อยแล้วทุบลงบนพื้น ขณะที่บินไปทางเงาแทน

 

เทรสตันตกตะลึง เมื่อเห็นลูซิเฟอร์เคลื่อนตัวเข้ามาหาเขา ขณะที่เขาสงสัยว่าเขาได้ตระหนักถึงพลังของเขาหรือไม่

 

“ไม่ เขาไม่รู้” เทรสตันโน้มน้าวตัวเอง ขณะเตรียมมีดพร้อมที่จะโจมตีลูซิเฟอร์

 

ทันทีที่ลูซิเฟอร์เข้าใกล้เทรสตัน ชายคนนั้นก็กระโดดออกมาจากเงามืด พลางแทงมีดเข้าหาตัวเขา

 

“ช้าเกินไป” ลูซิเฟอร์ตอบราวกับว่าเขาคาดไว้อยู่แล้ว 

 

เขาบิดตัวไปมากลางอากาศ หลบคมมีดขณะจับคอของชายวัยกลางคน เขากําหมัดแน่น เขาขย้ำคอของชายคนนั้น

 

ดวงตาของชายผู้นั้นเบิกกว้าง เมื่อลําคอของเขาถูกบดขยี้ เขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเร็วแค่ไหน ทันทีที่เขาออกมาจากเงามืด เพื่อโจมตีลูซิเฟอร์ทุกอย่างก็มืดลง

 

เมื่อเขาตกลงลงสู่พื้น ลูซิเฟอร์เหวี่ยงร่างของเขาไปด้านข้า

 

ศพ 2 ศพอยู่รอบๆ ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาเหลือบมองไปทางซ้ายไปยังกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่เพิ่งไปถึงที่นั่น

 

แม้จะเฝ้าดูเทรสตันที่ตาย แต่ก็ไม่มีใครวิ่งเข้าหาเขาเพื่อโจมตี ลูซิเฟอร์พบว่ามันแปลก

 

เขาแน่ใจว่าผู้คนรู้ว่าเขาสามารถใช้สายฟ้าเพื่อฆ่าศัตรูของ เขาได้ในตอนนี้บางทีนั่นอาจเป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงรักษาระยะห่าง? เขาสงสัย

 

ลูซิเฟอร์กําหมัดของเขา เขายกเท้าขวาขึ้นเหนือพื้น เมื่อแตะลงบนพื้น เขาเริ่มบินไปหาศัตรู

 

วืดดดดด!

 

ลูซิเฟอร์บินไปได้ไม่กี่ฟุตเมื่อเขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ท่ามกลางเสียงฝนที่มาจากข้างหลังเขา

 

ขณะหยุดเดิน เขามองไปข้างหลังก็พบว่าฟลูเรนยืนอยู่ตรงนั้น

 

เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นฟลูเรน เขาจําฟลูเรนไม่ได้ แต่เขารู้สึกได้ว่าชายผู้นี้แตกต่างจากคนอื่นดูเหมือนเขาจะสามารถข่มขู่และมีประสบการณ์มากกว่าคนอื่นๆ

 

ลูซิเฟอร์มองไปทางขวาของเขาเพื่อมองดูฟลูเรน ก่อนที่จะมองไปทางซ้ายของเขาไปยังผู้ชายจํานวนมากที่ยืนอยู่ตรงนั้น ราวกับว่าพวกเขากําลังรอเขาอยู่

 

เขาสงสัยว่าเขาต้องฆ่าใครก่อนมีบางอย่างดูแปลก ๆ ที่นี้เช่นกัน ทําไมไม่มีใครโจมตีเขาเลย?

 

“มันเป็นกับดักอย่างนั้นหรือ? พวกเขาจะเป็นคนที่ไม่ได้เด็ดขาด พวกเขาต้องพยายามทําร้ายฉัน มีบางอย่างไม่ถูกต้อง” เขาคิด

 

เขาหันไปทางฟลูเรนและตัดสินใจเลือกเป้าหมาย

 

“โจมตีเขา ดึงดูดความสนใจของเขาตอนนี้ เป้าหมายแรกของคุณคือทําให้เขาไปที่จุด 0! เขาเริ่มสงสัยแล้ว โจมตีเขาเดี๋ยวนี้” ฟลูเรนพึมพําเสียงเบา ๆ ทําให้แน่ใจว่ามีเพียงคนของเขาเท่านั้นที่จะได้ยินเขาผ่านการสื่อสาร

 

ตอนที่ 81: สหภาพนักล่าผู้หยิ่งผยอง

 

“ว่า?” แซนเดอร์พึมพําด้วยความขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อผู้โทร “ลูซิเฟอร์เข้าไปในเมืองหรือเปล่า”

 

เขารับสาย

 

“ลูซิเฟอร์มาเหรอ” เขาถามทันทีโดยไม่รอให้อีกฝ่ายพูดก่อน

 

“เขามา ไม่เพียงแต่เขามา แต่ยังพบว่าเราอยู่ที่นี่ เขาถามถึงคุณ และมาร์เคล ไอ้โงคนนั้น โพล่งว่าคุณเพิ่งออกจากเมือง เขารู้ดีว่าทีมเดลต้าอยู่ที่นี่ ฟลูเรนตอบแซนเดอร์ ความเร่งด่วนชัดเจนในน้ำเสียงของเขา เห็นได้ชัดว่าเขากําลังวิ่งอยู่

 

“เฮ้อ มาร์เคลทําผิดพลาดไปจริงๆ”

 

โดยปกติแซนเดอร์จะโกรธเคืองในสถานการณ์นี้ เนื่องจากทีมของเขาทําแผนสําคัญผิดพลาด แต่เขาเป็นเวทที่ความสามารถที่สองคือการควบคุมอารมณ์ของเขา เขาสามารถควบคุมอารมณ์และคิดได้อย่างชัดเจนแม้ในสถานการณ์ที่ยากลําบาก นั่นช่วยให้เขาสงบสติอารมณ์ได้แม้ในตอนนี้

 

“เขาอยู่ห่างจากจุดที่กําหนดมากแค่ไหน?” แซนเดอร์ ถาม

 

“เขาอยู่ห่างออกไปเพียง 100 ก้าว เราจะพยายามทําให้เขาไปที่จุด 0” ฟลูเรนตอบ เขาไม่ได้หยุดวิ่งแม้แต่วินาทีเดีย

 

“ระวังตัวให้ดี สายฟ้าของเขาน่าจะกําหนดเป้าหมายผู้คนในระยะไกลได้เช่นกัน พยายามอย่าสูญเสียใครถ้าทําได้ ฉันจะออกจากเมืองนี้ในไม่ช้า หลังจากทําให้แน่ใจว่าไม่มีพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นฉันจะไปช้า นายน่าจะทําทุกอย่างเสร็จทัน คอยอัพเดทสถานการณ์ให้ฉันฟังเรื่อยๆด้วย” แซนเดอร์กล่าว

 

รอววววว์!

 

ขณะที่แซนเดอร์กําลังพูดอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงคํารามดังมาจากข้างหลังเขา

 

“ฉันจะโทรหาคุณที่หลัง บัํกบางตัวต้องถูกบีบอัดที่นี่เช่นกัน ระวังตัวและทําให้ภารกิจนี้สําเร็จสําหรับเรา แม้ว่าฉันจะไม่อยู่ที่นั่น” แซนเดอร์ยืนยันก่อนจะตัดการเชื่อมต่อ

 

เขามองย้อนกลับไปและเห็นกอริลลาหุ้มเกราะและพยัคฆ์เงิน 2 ตัวยืนอยู่ตรงนั้น

 

เขาเริ่มวิ่งไปหาสัตว์ร้าย แต่เขาก้าวไปได้เพียง 2 ก้าวเมื่อเห็นสัตว์ร้ายระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

แซนเดอร์หยุดเดิน ในขณะที่ใบหน้าขมวดคิ้วปรากฏขึ้น เมื่อเห็นสัตว์ร้ายที่ตายแล้ว เขาไม่ได้โจมตี แต่สัตว์ร้ายถูกฆ่าตาย มีคนอื่นอยู่ที่นี่ เขาเข้าใจว่าแบบนั้น

 

ขณะที่เขามองไปรอบ ๆ เขาเห็นกลุ่มคนที่มาจากด้านหลังสัตว์ร้าย ทุกคนถือร่มด้วยมือซ้ายเพื่อป้องกันตัวเองจากฝน

 

พวกเขาทั้งหมดสวมเสื้อคลุมสีทองทับเสื้อผ้าสีดํา ของพวกเขาเสื้อคลุมของพวกเขามีตราสัญลักษณ์อยู่ใกล้ส่วนหน้าอก ซึ่งดูเหมือนคันธนูที่มีดาบอยู่ตรงกลาง ถูกใช้เป็นลูกศรของคันธนู

 

“สมาคมฮันเตอร์อยู่ที่นี่” แซนเดอร์พึมพําเมื่อเห็นเสื้อคลุมสีทองและตราสัญลักษณ์บนหน้าอกของคนเหล่านั้น เขารู้ว่าพวกเขาเป็นใคร

 

ไฟที่เผาไหม้รอบกําปั้นของเขาหยุดลงขณะที่เขาเดินไปหาผู้คน

 

“แซนเดอร์ จากกลุ่ม APE เดลต้า คุณต้องมาจากกิลด์ฮันเตอร์” แซนเดอร์ปล่อยมือ ขณะที่เอื้อมมือไปจับมือกับคนตรงกลาง แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ

 

“เราจะจัดการส่วนที่เหลือเอง พวกคุณไม่จําเป็นอีกต่อไป คุณออกไปได้แล้ว” แฟรคเกอร์หัวหน้าหน่วยเล็กกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง ไม่มีความกตัญญในน้ำเสียงของพวกเขา

 

หยิ่งยโสสินะ ฉันเคยได้ยินว่าพวกเขาเป็นแบบนั้น สมาชิกกิลด์ฮันเตอร์มีปัญหาเรื่องความเย่อหยิ่งอะไรก็ตาม… ฉันไม่มีเวลาเล่นเหมือนกัน” แซนเดอร์คิดขณะหันหลังเดินจาก ไป

 

“คราวหน้าพวกนายควรทําหน้าที่ของตัวเองให้ดีกว่านี้ มอนสเตอร์ที่อยู่ในดันเจี้ยนเป็นความรับผิดชอบของคุณ หากคุณไม่สามารถควบคุมพวกมันและหยุดพวกมันจากกา รออกจากดันเจี้ยนได้ แม้จะค้นพบอะไรมากมายเกี่ยวกับพวกมัน แต่ก็ยังขาดคุณสมบัติหลายอย่างอยู่จริงๆ” เขากล่าวโดยไม่หันกลับไปมอง

 

“แก!” หนึ่งในสมาชิกของกิลด์ฮันเตอร์โกรธกับน้ำเสียงที่เหยียดหยามของแซนเดอร์

 

“อย่ารบกวนเขาเลยเรย์ เรามีเรื่องสําคัญต้องทําตอนนี้” สมาชิกอีกคนแนะนําและทําให้เพื่อนของเขาสงบลง

 

“เดี๋ยวก่อน แซนเดอร์… ฉันได้ยินชื่อนั้น โอ้ใช่ เขาเป็นวอร์ล็อคระดับ S และเป็นผู้นําของหน่วยเดลต้า!” จู่ๆ กิลด์ของสมาคมฮันเตอร์ที่เป็นแวเรียนท์ที่มีผมสีแดงก็ร้องออก มา

 

เมื่อเขาได้ยินชื่อแซนเดอร์ เขารู้สึกเหมือนเคยได้ยินมาก่อน ตอนนี้เขาจําได้ว่าใครคือแซนเดอร์

 

“อะไรนะ ADF ส่งหัวหน้าหน่วยที่ 3 มาที่นี่ ฉันคิดว่าพวกเขาจะส่งสมาชิกธรรมดาไปเพื่อเรื่องเล็กน้อย แน่ใจนะซันนี่?” เฟร็กเกอร์ถามด้วยความสงสัย

 

“บางทีเขาอาจอยู่ใกล้ ๆ เมื่อข่าวการโจมตีนี้มาถึงและ เขามาช่วย? เฮ้อ เราคงถูกบุกโจมตีครั้งใหญ่” ซันนี่ตอบพร้อมกับถอนหายใจ

 

“แล้วไง กิลด์ฮันเตอร์ของเราไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถรุกรานได้ ” แฟรกเกอร์แสดงความคิดเห็นอย่างไม่รู้เท่าทัน

 

“คุณไม่สามารถดูถูก APE ได้ พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับสมาคมฮันเตอร์ของพวกเรา ถ้าพูดถึงในแง่ของความสําคัญ แม้ว่าพวกเขาจะขาดความแข็งแกร่งและจํานวนที่ตรงกับเรา”

 

“นอกจากนี้แวเรียนท์ หัวหน้าหน่วยอัลฟาของพวกเขาก็น่ากลัวเช่นกัน เขาเป็นวอร์ล็อคระดับ S ที่ไม่กลัวอะไรเลย พลังทั้งหมดล้มเหลวต่อหน้าพลังของเขาฉันได้ยินมาว่าแม้แต่ผู้นําสมาคมฮันเตอร์ของเราก็ ระมัดระวังเขา ดังนั้น เราไม่ควรสร้างความขัดแย้งที่ไม่จําเป็นกับ APE” ซันนี่เตือนเฟร็กเกอร์

 

“ฮะๆ ฉันไม่ได้ทําอะไร แค่บอกให้เขาทิ้งที่เหลือไว้ให้เรา แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าหน่วยเดลต้า เขาก็ไม่ควรขุ่นเคืองกับเรื่องนั้น” เฟร็กเกอร์พูดพลางส่ายหัว

 

“ยังไงก็ตาม เขาไปแล้ว หยุดพูดถึงเขาแล้วตามล่าสัตว์ประหลาด” เขาพูดต่อในขณะที่เปลี่ยนเรื่อง

 

“ยังมีมอนสเตอร์เหลืออยู่บ้าง”

 

“อย่ากังวลไปเลย สมาคมฮันเตอร์มาแล้ว พวกเขาจะจัดการกับมัน เราต้องกลับไปที่เอรีกัสลูซิเฟอร์อยู่ที่นั้นแล้ว”

 

แซนเดอร์และคนของเขาสนทนากันขณะเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์

 

ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เริ่มแกว่งเมื่อเฮลิคอปเตอร์เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ

 

“ลูซิเฟอร์ อีกหน่อย ฉันจะจับคุณไว้ ฉันรู้ว่าคุณทนทุกข์ทรมานมาก และคุณต้องการแก้แค้น แต่ฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณฆ่าคนได้”

 

“คุณอาจเกลียดมนุษย์ แต่คุณคิดผิด มนุษย์ก็มีด้านดีเช่นกัน ฉันจะจัดการทุกอย่าง แค่อย่าสร้างปัญหาอีกต่อไป”

 

แซนเดอร์ดูราวกับว่าเขากําลังพูดกับตัวเองในขณะที่เขานั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์

 

ตอนที่ 80: จับ

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฟลูเรน ขณะที่เขาทุบมือลงบนโต๊ะ ”นั่นแหล่ะ! เราได้ตัวเขาแล้ว! ลูซิเฟอร์ แอซเรล – ลูกชายของวอร์ล็อคเซล แอซเรลที่แข็งแกร่งที่สุด!” 

 

“ทุกคนโปรดทราบ เป้าหมายของเราเพิ่งเข้ามาในเมือง เราไม่ได้คาดหวังว่าฝนจะตก แต่แผนจะเหมือนเดิม! ฉันไม่ต้องการความผิดพลาดใดๆ เขาไม่ได้ระแวงอะไรเลย คนที่ทําผิดจะไม่ได้รับการให้อภัย!” ฟลูเรน บอกคนของเขาอย่างจริงจัง

 

….

 

ลูซิเฟอร์เดินไปตามถนนในเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ว่างเปล่า เขาคิดว่ามันว่างเปล่าเพราะฝนตก ไม่รู้ว่ามันว่างเปล่าเพราะเมืองถูกทิ้งร้างโดยสิ้นเชิง

 

ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในเมืองได้รับคําสั่งให้อพยพออกไปด้านนอกชั่วขณะหนึ่ง คนเดียวที่ยังคงอยู่ในเมืองคือสมาชิก APE

 

เขามองเห็นร้านค้าเพียงไม่กี่แห่งที่ยังคงเปิดอยู่โดยรอบ

 

“เป้าหมายได้ออกจากจุดที่ 7 เขากําลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่ 6 “

 

ร้านค้าที่ยังคงเปิดอยู่ไม่มีสามัญชน พวกเขามีสมาชิกทีมเดลต้าปลอมตัว ซึ่งกําลังอัปเดตเกี่ยวกับตําแหน่งของลูซิเฟอร์ให้ผู้อื่นทราบ

 

“ใช่ ทันทีที่เขาไปถึงจุดที่ 0 มันจะจบลง เตรียมตัวให้พร้อม เขาน่าจะเข้าใกล้คุณคนใดคนหนึ่งในไม่ช้า เป้าหมายของคุณคือพาเขาไปที่จุด 0”

 

ฟลูเรนออกคําสั่งกับทุกคน ชี้นําพวกเขาว่าต้องทําอะไรจากห้องเฝ้าระวัง

 

ตามที่เขาอธิบายไว้ ลูซิเฟอร์กําลังคิดจะทําเช่นเดียวกัน

 

“ฉันต้องถามใครสักคน” ลูซิเฟอร์คร่ำครวญ ขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ร้านค้าแห่งหนึ่งที่ยังคงเปิดอยู่

 

เขาเข้าไปในร้านและเข้าหาเจ้าของร้าน

 

“น่าจะมีศูนย์วิจัยขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆนะ อยู่ที่ไหน?” เขาถามเจ้าของร้านวัยกลางคนที่ปลอมตัวเป็นหน่วยเดลต้า

 

“โอ้ สถานที่วิจัยนั่นใช่ อยู่ใกล้ๆ กัน ตรงไป..” ชายวัยกลางคนเริ่มบอกทางไปยังที่แห่งนั้นแก่ลูซิเฟอร์

 

หลังจากได้รับรายละเอียดเส้นทางแล้ว ลูซิเฟอร์ก็ออกจากร้านไป

 

หลังจากที่ลูซิเฟอร์จากไป ชายวัยกลางคนก็อัพเดตสถานการณ์ให้ฟลูเรน

 

“เป้าหมายเพิ่งเข้ามาหาฉัน ฉันบอกทิศทางของจุดที่ 0 ให้เขา ทุกอย่างเป็นไปตามแผน”

 

“ดี อีกไม่นานเขาก็อยู่ในกํามือของเรา เราจะจับเขาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บ” ฟลูเรนตอบพร้อมรอยยิ้มที่เฉียบแหลมปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

ลูซิเฟอร์เดินไปที่ใจกลางเมืองตามทิศทางที่เขาได้รับ

 

ขณะที่เขาเดินต่อไป เขาสังเกตเห็นเจ้าของร้าน 2-3 คน มองมาที่เขาเป็นครั้งคราว

 

เขามองลงมาและตระหนักว่าเขาเปลือยเปล่า เขาไม่ได้รู้สึกแปลกที่ผู้คนต่างจ้องมองมาที่เขา แต่เขาพบว่ามันแปลกที่พวกเขาเพียงชําเลืองมองเพียงครั้งเดียว อย่างระมัดระวังเช่นกัน เพื่อพยายามไม่ให้ใครสังเกตเห็น

 

“เป้าหมายอยู่ห่างจากจุด 0 เพียงไม่กี่ก้าว สายตาจับจ้องไปที่เป้าหมาย ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มสงสัย”

 

“เขาอาจจะสังเกตเห็นบางอย่างแปลก ๆ ทุกคนแกล้งทําเป็นไม่รู้ อย่าไปมองที่เขา” สมาชิกหน่วยเดลต้าคนหนึ่งสังเกตเห็นสีหน้าของลูซิเฟอร์ขมวดคิ้ว เขาบอกให้ทุก คนตื่นตัว

 

ฟลูเรนยิ่งจริงจังมากขึ้น เมื่อเขาได้ยินการสังเกตของลูกน้องของเขา พวกเขาเข้าใกล้เป้าหมายมาก ถ้าลูซิเฟอร์ทําอะไรโง่ๆ ในตอนนี้ แผนของพวกเขาอาจจะล้มเหลว

 

ลูซิเฟอร์อดสงสัยไม่ได้อีกต่อไป เขาหยุดเดินไปข้างหน้าแล้วเลี้ยวซ้าย เขาเริ่มเดินไปที่ร้านทางด้านซ้าย ซึ่งยังเปิดอยู่

 

“ท่านผู้นํา เป้าหมายกําลังเลี้ยวซ้าย เขากําลังมุ่งหน้าไปยังมาร์เคล”

 

เจ้าของร้าน ซึ่งลูซิเฟอร์กําลังเดินไปทางนั้น หยุดพูดและเปลี่ยนโฟกัสไปที่โทรทัศน์เพื่อให้ดูน่าสงสัยน้อยลง เจ้าของร้านทางด้านขวาของลูซิเฟอร์ ได้อัพเดทให้ฟลูเรนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“มาร์เคล ระวัง จําไว้ คุณไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์เป็นใคร สําหรับคุณ เขาเป็นแค่เด็กธรรมดาที่น่าสงสาร ทําตามนั้น เราใกล้จะสําเร็จ ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ” ฟลูเรนแนะนําอย่างจริงจัง

 

มาร์เคลหยุดดูทีวีและหันไปมองทางลูซิเฟอร์ ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

“หืม คุณต้องการอะไรไหม คุณไม่มีเสื้อเลย ดูจากสภาพของคุณแล้ว ฉันคิดว่าคุณคงซื้ออะไรในร้านฉันไม่ได้แล้ว ลองไปที่อื่นสิ อย่าเสียเวลาในร้านของฉันเลย” มาร์เคลพูดกับลูซิเฟอร์อย่างวางตัว

 

หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็หยุดมองลูซิเฟอร์และเริ่มดูโทรทัศน์อีกครั้ง

 

ลูซิเฟอร์สังเกตชายคนนั้นครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า เขาพบว่าปฏิกิริยานี้เป็นไปตามคาด

 

“แซนเดอร์อยู่ที่ไหน” ลูซิเฟอร์ถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ

 

“เขาออกจากเมืองไปแล้ว ใช่” มาร์เคลโพล่งออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร แต่กว่าจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว

 

“ไอ้โง่!” ฟลูเรนสาปแช่ง ได้ยินการแลกเปลี่ยนของพวกเขาผ่านการสื่อสาร เขาเข้าใจว่าลูซิเฟอร์รับรู้ทุกอย่างแล้ว

 

” ทุกหน่วยเคลื่อนออกไปทันที! เป้าหมายรู้ทุกอย่าง เป้าหมายของเรายังคงทําให้เขาไปที่จุด 0 แต่ตอนนี้มันคงจะเกิดเหตุการณ์ของการนองเลือดมากขึ้น เตรียมพร้อมสําหรับสงคราม!” ฟลูเรน ฟ้าร้องดังขึ้น ขณะที่เขาวิ่งออกจากห้องเฝ้าระวัง เขาออกจากอาคารและวิ่งไปหาลูซิเฟอร์ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก

 

ขณะที่เขาวิ่ง เขาเรียกแซนเดอร์ผู้นําที่แท้จริงของหน่วยเดลต้า ซึ่งอยู่ในเมืองอิเครโก้ที่กําลังต่อสู้กับมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน

 

ลูกแก้วแสงสีขาวพุ่งเข้าหาแซนเดอร์ด้วยความเร็วราวสายฟ้า

 

แซนเดอร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว กระโดดไปด้านข้าง หลบลูกแก้วแสงได้สําเร็จ ลูกแก้วแสงตกลงบนพื้น ทําให้เกิดการระเบิดอันทรงพลังที่ทิ้งปล่องภูเขาไฟไว้บนพื้น ควันลามไปทั่วทุกหนทุกแห่งขณะที่ฝนพยายามดับเปลวเพลิงของการระเบิด

 

เสือสีเงินเดินผ่านหมอกหนาทึบ พยายามหาแซนเดอร์

 

“มองหาฉัน?”

 

เสียงผู้ชายดังมาจากบริเวณใกล้เคียง

 

เสื้อเงินมองไปทางซ้ายและเห็นเงาปรากฏขึ้นภายในห มอก

 

มีมือหนึ่งออกมาจากหมอก ซึ่งนําฝนแห่งเปลวไฟร้อนที่ลุกโชนจนเผาพยัคฆ์เงิน

 

พยัคฆ์เงินคํารามด้วยความเจ็บปวด เมื่อเนื้อของมันไหม้ เสื้อเงินเริ่มหนีจากเปลวเพลิงที่พยายามจะรักษาตัวมันเอง แต่เปลวเพลิงไม่ได้ปล่อยมันไว้จนกว่ามันจะตาย

 

“นี่เป็นครั้งแรก ฉันสงสัยว่ามีอีกกี่ตัวที่นี่” แซนเดอร์พึมพํา เมื่อโทรศัพท์ของเขาเริ่มดังขึ้น

 

 

ตอนที่ 79: ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

ฝูงบินเดลต้าเดินผ่านปาไป โดยไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มที่พวกเขาตามหานั้นอยู่ข้างใต้พวกเขา

 

เสียงเฮลิคอปเตอร์ลดต่ําลงเรื่อยๆ เมื่อเฮลิคอปเตอร์ออกห่างออกไป ในไม่ช้าเสียงก็หายไปอย่างสมบูรณ์

 

ลูซิเฟอร์กินต่อเพื่อสนองความหิวของเขา

 

หลังจากเสร็จสิ้น เขาก็เดินทางต่อไปโดยไม่พักผ่อนขณะออกจากป่า

 

พายุฝนฟ้าคะนองเริ่มต้นประมาณ 9 โมงเช้าและทําลายความเงียบของธรรมชาติอันเงียบสงบ

 

เสียงฝนอันน่ารื่นรมย์เปรียบเสมือนเสียงเพลงของคนที่อยู่ในบ้าน แต่สายฝนก็โปรยปรายผู้ที่ไม่ได้หลบภัย หนึ่งในนั้นคือเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนเขาอายุ 10-11 ขวบ

 

เด็กหนุ่มมีดวงตาสีฟ้าที่สวยงามและใบหน้าที่น่ารัก อย่างไรก็ตาม สีหน้าที่สวยงามของเด็กชายนั้นไม่ใช่สิ่งที่เด็กหนุ่มควรมี ใบหน้าของเขาไม่มีความสุข

 

หยาดฝนตกลงมาบนเส้นผมของเขา ซึ่งหยดลงมาบนใบหน้าของเขาขณะที่เขาเคลื่อนตัวผ่านสายฝนโดยไม่หลบภัย

 

แม้ว่าเขาต้องการจะหลบภัย เขาก็ทําไม่ได้ ในขณะที่เขาอยู่ในที่แห้งแล้ง ไม่มีต้นไม้ใดที่สามารถเห็นได้ไกลสุดสายตา ซึ่งสามารถปกป้องเขาได้

 

หน้าอกเปลือยเปล่าของเขาเปียกไปหมด ขณะที่เขาวิ่งท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ขณะใช้ลมเพื่อเร่งความเร็ว

 

เฮลิคอปเตอร์ลงจอดภายในเมืองอิเครโก้ ซึ่งถูกรบกวนโดยมอนสเตอร์ที่ทําการสังหารทุกที่ ฝนตกลงมากระทบพื้นทําให้ทัศนวิสัยลดลงไปอีก

 

ประตูเฮลิคอปเตอร์เปิดออกเมื่อกลุ่มแวเรียนท์ 7 คนก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์นําโดยแซนเดอร์

 

“มีสัตว์ประหลาดในระยะไกลอยู่ 2-3 ตัว และทัศนวิสัยที่ลดลงอาจเป็นศัตรูของเรา ระวังตัวไว้ใช้สภาพแวดล้อมให้ เป็นประโยชน์! เราจําเป็นต้องกําจัดสัตว์ประหลาดทุกตัวโดยเร็วที่สุด” แซนเดอร์บอกกับทุกคนโดยไม่สนใจสายฝน ที่เปียกโชกเสื้อผ้าของเขาในไม่กี่วินาที

 

“เราแยกกันเป็นกลุ่มละ 2 คน เพราะมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนถูกกระจายออกไป เราสามารถครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น ฉันจะไปคนเดียว แสดงว่าจะมี 4 ทีม” เขาประกาศ 

 

“อา ฉันไม่มั่นใจกับแผนการกระจายคนนี้ มันอาจจะอันตรายสําหรับคุณ เราไม่สามารถปล่อยให้คุณไปคนเดียวได้อย่างแน่นอน” โอลิเวอร์กล่าว ซึ่งบังเอิญเป็นสมาชิกหน่วยเดลต้า ซึ่งทํางานภายใต้แซนเดอร์

 

“ถูกต้อง เราไม่สามารถปล่อยให้คุณไปคนเดียวได้” เฟลิสอีกคนพูดแทรก

 

” พวกนายคิดว่าฉันไม่สามารถจัดการพวกมอนสเตอร์ใน ดันเจี้ยนด้วยตัวคนเดียวได้ ใช่หรือไม่” แซนเดอร์เย้ยหยัน

 

เขาเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมและเป็นหนึ่งใน วอร์ล็อคของ APE ที่มีพลังธาตุระดับ S ของไฟ ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเปลวไฟที่แรงที่สุดที่สามารถเผาไหม้อะไรก็ได้

 

แซนเดอร์ไม่อยากเชื่อเลยว่าสมาชิกในทีมของเขาสงสัยเขา

 

“ไม่ใช่ว่าเราสงสัยในตัวคุณ แต่สภาพไม่เอื้ออํานวยต่อคุณในสถานการณ์นี้ คุณเป็นผู้ใช้ไฟมองไปรอบๆ ตัวเรา คุณคิดว่าเปลวไฟของคุณสามารถมีประสิทธิภาพในพายุฝนที่รุนแรงนี้หรือไม่ คุณกําลังเผชิญกับธรรมชาติของคุณ ศัตรู! มันไม่เกี่ยวกับความสามารถของคุณ”

 

“ถ้าฝนไม่ตก คุณอาจเผาทั้งเมืองได้ แต่ตอนนี้ฝนตกหนักแล้ว ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่คุณจะเสี่ยง เราไม่สามารถสูญเสียคุณไปได้” สมาชิกคนที่ 3 เมลดอน อธิบายให้แซ นเดอร์ฟัง เหตุผลก็คือไม่เห็นด้วยกับคําแนะนําของแซนเดอร์

 

“ถูกต้อง เราควรจะมี 3 ทีม ทีมที่มีสมาชิก 3 คนรวมคุณได้ด้วย” โอลิเวอร์ตอบโดยเห็นด้วยกับเมลดอน

 

“ฝนนี้งั้นเหรอ?” แซนเดอร์หัวเราะ เมื่อเขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆ ปล่อยให้ฝนตกบนใบหน้าของเขา

 

เขายกมือขวาขึ้น เปลวไฟเล็ก ๆ เริ่มลุกไหม้ในมือของเขาโดยไม่ทําร้ายเขาแม้แต่น้อย

 

“เจ้าคิดว่าสายฝนเล็กๆ นี้สามารถดับไฟของข้าได้หรือไม่” เขาถาม

 

คนอื่นๆ มองดูเปลวไฟในมือของเขา ฝนตกลงมาบนมือของเขา แต่ละอองที่ไหลเข้ามาใกล้มือของเขากลับกลายเป็นไอก่อนที่พวกเขาจะสัมผัสเปลวไฟของเขาได้ เปลวเพลิงของเขาแผดเผายิ่งกว่าเดิม

 

“หยุดคิดเรื่องไร้สาระได้แล้ว เปลวเพลิงของข้าไม่สามารถดับได้ขนาดนี้ ถ้าไฟแรงค์ B หรือไฟต่ํากว่า มันอาจจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่อันนี้”

 

“ฉันไม่ได้ได้ตําแหน่งผู้นําของคุณมาโดยเปล่าประโยชน์ แผนของฉันถือเป็นที่สิ้นสุด ดังนั้นอย่าเสียเวลา ทุกวินาทีที่คุณเสียเวลาที่นี่อาจส่งผลให้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียไป” แซนเดอร์กล่าวอย่างเคร่งขรึม

 

“เฟลิส เจ้าจะไปกับไลน์ไปทางทิศใต้ คอร์แมคกับเดนพวกเจ้าจะไปทางเหนือ เมลดอนกับโอลิเวอร์ พวกเจ้าไปทางตะวันออก ข้าจะไปทางตะวันตกสัตว์ประหลาดเหลืออยู่ ไม่มากนักมีเพียง 7 ตัวหรือ 8 ตัวถ้าเป็นไปตามข้อมูล”

 

“พวกมันควรจะกระจายออกไปด้วย ถ้าไม่ใช่และถ้าพวกคุณเห็นพวกมันอยู่ด้วยกัน อย่ามีส่วนร่วมแจ้งให้เราทราบ และรอที่นั่น” เขาประกาศก่อนจะหันไปทางด้านข้างและซ้าย

 

ทุกคนตกลงและจัดตั้งทีมตามที่อธิบายไว้โดยแซนเดอร์ และจากไปในทิศทางที่ได้รับมอบหมาย

 

ฝนก็ยังตกอยู่ มันยังเริ่มฟ้าร้อง แม้จะเป็นเวลาเช้า พื้นดินก็ปกคลุมไปด้วยความมืดมิดราวกับเป็นเวลากลางคืนแสงของดวงอาทิตย์ถูกแสงมืดบดบัง ทําให้แทบมองไม่เห็น

 

ลูซิเฟอร์หยุดวิ่งและชะลอตัวลงเมื่อเขาเห็นเมืองอยู่ไกลๆ

 

“นั่นควรเป็นเมืองเอรีกัสใช่ไหมนะ อีกสักพัก ฉันจะได้อยู่ในสถานที่นั้น ฉันจะจบทุกอย่างเกี่ยวกับอดีต ครอบครัวของฉันที่ได้ตายแล้ว และฉันก็ตายแล้วด้วยเช่นกัน”

 

“ทําไมคนที่ทรมานฉันถึงมีชีวิตอยู่ได้ การตายของพวกเขาจะดับไฟในใจฉัน ก่อนที่ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ห่างไกลจากสัตว์ประหลาดทั้งหมด…” เขาพึมพําขณะกําหมัดแน่น

 

ลูซิเฟอร์วางเท้าบนพื้นเปียกเขาเริ่มเดินไปที่เมือง คราวนี้เขาดูไม่รีบร้อน เขาเดินด้วยความเร็วปกติโดยไม่ต้องใช้ความสามารถใดๆ

 

เมื่อไปถึงทางเข้าเมือง ลูซิเฟอร์ก็เดินเข้าไปในเมือง โดยไม่ทราบว่ามีสายตามากมายจับจ้องเขาอยู่ทันที่ที่เขาวางเท้าเข้าไปในเมือง

 

กล้องที่ซ่อนอยู่จํานวนมากถูกวางไว้ภายในเมือง ซึ่งย้ายฉากไปยังฟลูเรน ซึ่งนั่งอยู่ในห้องเฝ้าระวัง

 

“เด็กหนุ่ม…ผมสีเงิน…” ฟลูเรนพึมพํา ขณะที่เขาเหลือบมองจอมอนิเตอร์เครื่องแรกที่ฉายภาพจากทางเข้า มันแสดงให้เห็นเด็กหนุ่มหน้าอกเปลือยเข้ามาในเมือง

 

 

ตอนที่ 78: ทางแยก

 

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ ในขณะที่เขารู้สึกแย่มากที่ไม่มีกําลังพอที่จะสร้างบาเรีย 2 อัน ถ้าเขามี คอนเนอร์อาจจะรอดแล้ว

 

“เวสตัน ออกไป! คอนเนอร์ตายแล้ว การเชื่อมโยงจิตใจใช้งานไม่ได้ คุณไม่สามารถลดละความตั้งใจได้นะ เราต้องทํางานให้หนักขึ้น ดังนั้นเอาชีวิตรอด ชนะและแก้แค้นให้ เขา!” เคนตะโกนมาแต่ไกล

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

ในขณะที่การระเบิดครั้งหนึ่งทําให้สมาชิกกิลด์อินทรีแดง สั่นสะเทือน ลูซิเฟอร์มีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เนื่องจากมีการระเบิดหลายครั้ง สังหารศัตรูของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

 

จํานวนสัตว์ร้ายรอบๆ ตัวเขาค่อยๆ ลดลงเหลือเพียงพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนเพียงตัวเดียวที่อยู่รอบตัวเขา

 

ตัวนิ่มที่มีหนามแหลมยังปลอดภัย มันอยู่ห่างจากมอนสเตอร์ลูกแก้ว ดังนั้นจึงไม่ติดไฟ ลูซิเฟอร์ไม่ได้สนใจที่จะฆ่าเขาเลย เพราะเขาต้องการฆ่ามอนสเตอร์มากขึ้นในการโจมตีครั้งแรกของเขา

 

เมื่อมีมอนสเตอร์เพียงตัวเดียวที่อยู่ข้างหน้าเขา ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็หยุดลอยและผ่อนคลายเล็กน้อย

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆ เดินเข้าหาตัวนิ่มที่มีหนามแหลม เขาก็ยิ่งสายฟ้าสีดตัวสุดท้ายออกไป

 

สายฟ้าสีดําเจาะร่างกายของตัวนิ่มที่มีหนามและฆ่ามันได้ในทันที

 

“สําเร็จแล้ว” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะเดินไปที่ศพของสัตว์ร้าย

 

“สิ่งมีชีวิตที่ผุพังควรให้กําลังแก่ฉัน แม้แต่พวกที่ตายไปแล้ว ฉันสงสัยว่ามันทํางานอย่างไร?” เขาสงสัยขณะหยุดอยู่ตรงหน้าร่างของตัวนิ่มที่มีหนามแหลมคม เขามองดูศพที่เน่าเปื่อยของตัวนิ่มที่ตายไปแล้ว ซึ่งในไม่ช้าก็กลายเป็นฝุ่น

 

“มันรู้สึกไม่เหมือนเดิม บางอย่างดูแตกต่างออกไป” ลูซิเฟอร์ได้ข้อสรุปในขณะที่เขายืนขึ้น

 

เขามองย้อนกลับไปในระยะไกลไปยังกิลด์อินทรีแดง ซึ่งยังคงติดต่อกับผู้อาศัยในดันเจี้ยนส่วนใหญ่อยู่ ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังมีปัญหาในการจัดการกับสัตว์ร้ายมากมาย

 

เขาเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้า ในขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“ท่านพ่อ ถ้าท่านอยู่ที่นี่ท่านจะช่วยพวกเขาใช่ไหม” ลูซิเฟอร์พึมพําพลางกําหมัดแน่น

 

“แต่มันไม่ใช่ผม! ไม่มีใครสมควรได้รับความช่วยเหลือจากเรา! พวกเขาทั้งสองประเภทเป็นผู้ล่า พวกมันทั้งหมดเคยล่าฉันมาก่อน และตอนนี้พวกมันกําลังจัดการกับสัตว์ประหลาดรูปแบบอื่น ผมจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกนั้นอีก ท่านเข้าใจใช่ไหม” เขามีรอยยิ้มเศร้าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

เขาค่อยๆหันหลังให้กับมอนสเตอร์และกิลด์อินทรีแดง ขณะที่เขาเริ่มเดินจากคนพวกนั้น

 

เขาได้ตัดสินใจที่จะไม่ช่วย เป้าหมายเดียวของเขาคือทําลายโรงงาน เขาไม่ต้องการที่จะล่าช้าและไม่ต้องการต่อสู้เพื่อคนที่กําลังจะทรมานครอบครัวของเขาเหมือนในวัยเด็ก

 

เขาเพิ่มความเร็วและเริ่มบินไปยังเมืองเอรี่กัส

 

“ซาเล่! เขาฆ่าพวกมัน! เขาฆ่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ข้างๆ เขา! เขาออกไปแล้ว! เราต้องการความช่วยเหลือจากเขา! เราสามารถชนะได้หลังจากความช่วยเหลือของเขา!” เวส ตันเรียกซาเล่ขณะที่เขาเห็นลูซิเฟอร์จากไป

 

ซาเล่ก็สังเกตเห็นเช่นกัน เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เขาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือแม้ว่าเขาจะต้องขอทานก็ตาม 

 

“เฮ้ หยุด! โปรดช่วยเราฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้ที! พวกเขาเป็นศัตรูของมนุษยชาติทั้งหมด! แม้ว่าคุณจะเป็นศัตรูของเรา คุณไม่สามารถปล่อยให้พวกมันมีชีวิตอยู่ได้! เข้าร่วมกับเรา! เราสามารถฆ่าล้างพวกมันได้ทั้งหมด!” ซาเล่กรีดร้องเหมือนชีวิตของเขาขึ้นอยู่กับมัน

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะอยู่ไกล แต่เขาก็ยังได้ยินเขาหันกลับมาหลังจากหยุด

 

เมื่อมองไปที่ซาเล่ เขาก็พูดอะไรบางอย่าง

 

” พวกเขาเป็นศัตรูของมนุษยชาตินั้นหรอ แล้วอะไรล่ะ ฉันไม่ใช่เพื่อนของมนุษยชาติซักหน่อย!” ลูซิเฟอร์พูดเบาๆ เสียงของเขาเบาและไปไม่ถึงซาเล่แต่ลูซิเฟอร์ไม่สนใจ

 

หลังจากพูดในสิ่งที่เขาต้องการแล้วเขาก็หันหลังกลับและจากไป

 

ซาเล่มองดูลูซิเฟอร์ออกไป ในขณะที่เขายังคงอ้อนวอนต่อไป ไม่สําคัญว่าเขาขอความช่วยเหลือมากแค่ไหน ลูซิเฟอร์ไม่หยุด ในที่สุดลูซิเฟอร์ไปไกลจนหายจากมุมมองของซาเล่

 

“เร็วเข้า! นี่มันเรื่องจริงจัง! เราต้องทําให้สิ่งนี้เป็นจริง ในที่สุดก็เกิดขึ้นแล้ว!”

 

“เราได้เตรียมการตั้งค่าแล้ว! เริ่มได้ทุกเมื่อ!”

 

“เอาล่ะ ฉันพร้อมแล้ว! นับสาม”

 

หลายคนกําลังเดินไปมาในสํานักงานแห่งใดแห่งหนึ่ง พร้อมที่จะตั้งค่าบางอย่างตั้งแต่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาราวกับว่า พวกเขาได้รับข่าวที่น่าตกใจอย่างกะทันหัน

 

“3… 2…1…..”

 

“อรุณสวัสดิ์ และยินดีต้อนรับสู่ข่าวใหม่เช้านี้ เราต้องตัดตารางกําหนดการเพื่อนไลฟนี้มาให้คุณ”

 

ผู้ประกาศข่าวหญิงเริ่มพูดหน้ากล้องอ่านจาก เทเลพรอมเตอร์

 

“เมื่อคืนนี้ เมืองอิเครโก้ได้เผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ที่สุดตามแหล่งข่าวของเรา เมืองนั้นถูกโจมตีโดยมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนที่สามารถออกจากดันเจี้ยนเกรด 1 ที่อยู่ใกล้ เคียงได้ และก่อนหน้านั้นตามแหล่งข่าวของเรามันถูกโจมตี โดยแวเรียนท์ที่ทิ้งมันไว้ การป้องกันนั้นค่อนข้างอ่อนแอ”

 

“ดันเจี้ยนอยู่ภายใต้การคุ้มครองของกิลด์อินทรีแดง ซึ่งถูกกําจัดไปแล้วเช่นกัน ตามสิ่งที่เรารู้จนถึงตอนนี้”

 

“พวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนกําลังโจมตีพลเมืองผู้บริสุทธิ์ของเมืองอิเครโก้ และไม่มีใครอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องพวกเขา เราอยากจะถามสมาคมนักล่าว่าพวกเขาปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อจุดประสงค์ทั้งหมดของพวกเขาคือ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนจะไม่หลุดออกมาเด็ดขาด”

 

” นี่ดูเหมือนจะเป็นการกํากับดูแลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากกิลด์นักล่า สิ่งที่ออกมาจากสถานการณ์นี้จะต้องถูกจับตามอง เราจะอัปเดตสถานการณ์ให้คุณทราบต่อไป”

 

ผู้ประกาศข่าวอธิบายสถานการณ์ แต่คนดูช่องไม่เยอะเพราะยังเช้าอยู่

 

ขึ้น! วิน!

 

“หืม? ใครโทรมาเวลานี้? อาจเป็นเสียงเรียกจากคนของ ฉัน? ลูซิเฟอร์เข้ามาในเมืองนี้หรือไม่?”

 

แซนเดอร์หัวหน้าหน่วยเดลต้าของ APE กําลังนอนอยู่บนเตียงพร้อมที่จะงีบหลับสั้น ๆ เมื่อโทรศัพท์ของเขาเริ่มดังขึ้น

 

“หมอ ไอซ์งั้นเหรอ? หัวหน้าทีมเบต้าต้องการอะไรจากฉัน” เขาคร่ำครวญ เมื่อดูหมายเลขบนโทรศัพท์ของเขา

 

“ใช่ ไอซ์ ทําไมคุณถึงโทรมาเร็วขนาดนี้” เขาถามขณะรับสาย

 

“แซนเดอร์ คุณอยู่ในเอรีกัสใช่ไหม ฉันหวังว่าคุณจะพาทีมของคุณไปที่เมืองอิเครโก้! นี่เป็นเรื่องด่วน” เสียงผู้หญิงดังขึ้นจากอีกฝั่ง

 

“ฉันไปไม่ได้ ฉันอยู่ในภารกิจสําคัญที่นี่” แซนเดอร์ตอบพร้อมส่ายหัว ในใจของเขา การจับลูซิเฟอร์มีความสําคัญมากกว่างานอื่นๆ ทีมอื่นก็อยู่ที่นั่นเพื่อจัดการกับพวกเขาอยู่ดี

 

“ไม่มีอะไรสําคัญไปกว่านี้แล้ว! พวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนใกล้เมืองอิเครโก้ได้ออกมาแล้ว กิลด์อินทรีแดง ถูกกวาดล้าง เมืองอิเครโก้กําลังตกอยู่ในอันตราย”

 

“พวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนกําลังทําลายล้างเมือง! คุณต้องไปที่นั่นเพื่อหยุดพวกเขาและช่วยชีวิตผู้คน!” ไอย์ ฟูมฟายราวกับว่าเธอไม่อยากเชื่อว่าแซนเดอร์ปฏิเสธ

 

“เราอยู่ที่นี่เพื่อจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับแวเรียนท์ กิลด์ฮันเตอร์ควรจัดการมัน ทําไมพวกเขาถึงไม่จัดการกับมันล่ะ?” แซนเดอร์ถามขณะที่เขายืนขึ้น เขาเดินไปที่ทางออกของห้อง “ถึงจะไม่ใช่เขตอํานาจของเรา แต่ฉันก็ยังจะไปช่วย คุณไม่จําเป็นต้องกังวล การช่วยชีวิตคนสําคัญกว่า”

 

เขาก้าวออกจากห้อง

 

“ดี นั่นคือสิ่งที่ฉันคาดหวังจากคุณไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่ทําให้ภารกิจของคุณตกอยู่ในอันตรายตามแหล่งข่าวของ ฉันสมาชิกกิลด์อินทรีแดงฆ่ามอนสเตอร์ส่วนใหญ่ก่อนที่ พวกเขาจะถูกฆ่าตาย”

 

“คุณไม่จําเป็นต้องให้ทั้งทีมไปฆ่าพวกมัน คุณสามารถไปกับอีก 2-3 ทีมและปล่อยให้ที่เหลือทําภารกิจให้เสร็จ” ไอย์ แนะนาให้แซนเดอร์ที่ไม่เต็มใจให้เขาละทิ้งเป้าหมายเพื่อเธอ

 

“สําหรับสมาคมนักล่าพวกเขากําลังส่งความช่วยเหลือ แต่คนของพวกเขาไม่อยู่ในพื้นที่นั้น พวกเขาขอความช่วยเหลือจากเรา เพื่อดูว่าคนของเราอยู่ที่นั่นเพื่อให้ความช่วยเหลือจนกว่าพวกเขาจะมา เนื่องจากคุณอยู่ในเมืองใกล้ๆกัน มันจึงสมบูรณ์แบบสําหรับงานนี้” เธอกล่าวต่อ

 

“เอาล่ะ ฉันกําลังตัดการเชื่อมต่อ ฉันจะไปที่นั่นโดยเร็วที่สุด” แซนเดอร์ประกาศก่อนจะตัดสาย

 

เขาเดินไปหาผู้ช่วยที่ใกล้ที่สุดเพื่ออธิบายทุกอย่าง

 

” ฟลูเรน ฉันจะออกจากเมืองนี้สักพักแล้ว พวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนได้โจมตีเมืองอิเครโก้ ฉันจะนําคนไปช่วยพวกเขา 2-3 คน นายอยู่ที่นี่กับคนอื่น ๆ ในขณะที่ฉันจัดการกับสิ่งต่างๆ ที่นั่น”

 

“นายต้องรับผิดชอบทุกอย่าง นายต้องจับลูซิเฟอร์ เมื่อเขามาถึงที่นี่! ทุกอย่างควรเป็นไปตามแผนของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครเสียชีวิต” แซนเดอร์อธิบายก่อนจะจาก

 

เขาเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์พร้อมกับคน 7 คนของเขา ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เริ่มหมุน เมื่อเฮลิคอปเตอร์เริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ

 

แซนเดอร์และทีมเล็กๆ ของเขาออกจากเอรีกัสโดยทิ้งคนอื่นๆ ในทีมไว้ข้างหลัง เขาใช้เวลาเพียงเศษเสี้ยวของทีมในขณะที่ทิ้งพวกเขาส่วนใหญ่ไว้

 

เขายังทิ้งฟลูเรนไว้ข้างหลัง ซึ่งเป็นแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดอันดับ 2 ใน ทีมเดลต้า เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด ในขณะที่เขาออกไป

 

โดยไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้น ลูซิเฟอร์จึงบินไปทางเอรี่กัส เขาบินตลอดทั้งคืน และหยุดลงเมื่อใกล้รุ่งอรุณเท่านั้น

 

เขารู้สึกหิวตลอดทั้งคืน แต่เขาไม่สามารถหาป่าใด ๆ ให้ล่าสัตว์ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถกินได้ในเวลาเช้าตรู่เมื่อเขาไปถึงป่าระหว่างทาง

 

เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเขาถูกไฟไหม้ เขาเปลือยเปล่า” โชคดีที่กางเกงครึ่งบนของเขายังคงไม่บุบสลาย

 

เขานั่งใกล้สระน้ําเล็ก ๆ ในป่าและจับปลา

 

เขาเผาไฟด้วยวิธีที่เขาถูกสอนโดยเอมิเลีย เมื่อเขาอยู่ที่บ้านของเธอ หลังจากที่เธอเกือบขับรถชนเขา

 

หลังจากทําอาหารปลาได้เพียงพอแล้ว เขาก็นั่งอยู่ใต้ต้นไม้และเริ่มกิน

 

ขณะที่เขากําลังรับประทานอาหารอยู่นั้น เสียงชัฟฟ์ ชัฟฟ์ที่ดังก้องของเฮลิคอปเตอร์ก็ดังขึ้นรอบๆ

 

ลูซิเฟอร์มองขึ้นไปด้านบนและเห็นเฮลิคอปเตอร์สีดําบินผ่านรอยแตกระหว่างใบไม้ของต้นไม้

 

 

ตอนที่ 77: ศัตรูที่กลายเป็นพันธมิตร

 

เนื่องจากความสามารถเดียวของเขาคือสร้างความเชื่อมโยงทางจิตใจระหว่างสมาชิกกิลด์อินทรีแดงทั้งหมดที่อยู่ที่นั่น เขาไม่ได้ต่อสู้ เขาไม่มีความสามารถเช่นนั้น แต่เขากําลังดูการต่อสู้ทั้งสองที่เกิดขึ้นแทน

 

นั่นคือตอนที่เท้าของกอริลล่าเกราะกระแทกกับพื้น ทําให้เกิดสิ่งที่ดูเหมือนแผ่นดินไหวภายในระยะที่กําหนด 

 

แผ่นดินไหวทําให้สมาชิกกิลด์อินทรีแดงเสียการทรงตัว มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนครึ่งหนึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซาเล่ที่เพิ่งค้นพบจุดอ่อนของกอริลล่าเกราะ กําลังจะยิงลูกกระสุนน้ําเพื่อฆ่ากอริลล่าเกราะ เมื่อเขาสูญเสียการทรงตัว

 

เป้าหมายของเขาถูกรบกวน และการระดมยิงของกระสุนที่กําลังจะโดนกับกอริลล่าเกราะได้โจมตีทหารโครงกระดูก แทนการทําลายร่างกายของพวกมัน

 

หลังจากที่ได้สมดุลแล้ว เขาก็ตัดสินใจเล็งอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนสายเกินไป

 

กอริลลาหุ้มเกราะอยู่ใกล้เขามากเกินไป และหมัดของมันพุ่งเข้าหาใบหน้าของซาเล่เพื่อขยี้เขา

 

เมื่อพบว่าสายเกินไป ซาเล่ก็หลับตาลงราวกับยอมแพ้ ความตายที่เขาไม่ได้คาดหวังนั้นกําลังจะมาถึง สิ่งที่มาถึงคือเสียงอันทรงพลัง

 

เมื่อลืมตาขึ้น เขาเห็นสิ่งกีดขวางกึ่งโปร่งใสอยู่รอบตัวเขา บาเรียกําลังปกป้องเขาจากการถูกบดขยี้

 

เมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นเวสตัน

 

“เล็งซะ! เมื่อนับถึงสาม ฉันจะถอดบาเรียออก! คุณต้องฆ่าเขาทันที!” เวสตันส่งข้อความถึงซาเล่ที่มีรอยยิ้มขอบคุณบนใบหน้าราวกับว่าขอบคุณเวสตันโดยไม่มีคําพูดใด ๆ

 

“3… 2… 1.”

 

เมื่อนับถึงสาม เวสตันก็ทําตามที่เขาบอก เขาถอดบาเรียออก 3 วินาทีก็เพียงพอแล้วที่ซาเล่จะเล็งไปที่กอริลล่า 

 

ทันทีที่บาเรียกึ่งโปร่งใสหายไป กระสุนสีน้ำเงินเข้มที่ทําจากน้ำก็พุ่งออกมาจากมือของซาเล่ พุ่งเข้าหาส่วนบนของคอของกอริลล่าหุ้มเกราะ

 

มือของกอริลล่าหุ้มเกราะลอยขึ้นไปในอากาศ ในขณะที่มันกําลังจะทุบอีกครั้ง แต่นั่นคือตอนที่บาเรียกึ่งโปร่งใสหายไป ในชั่วพริบตากระสุนหลายนัดก็ทะลุเข้าที่คอ ของกอริลลาที่หุ้มเกราะ

 

มือของกอริลล่าหุ้มเกราะล้มลงเมื่อกระสุนเข้าคอ มือของมันกําลังจะทุบลงไปที่ซาเล่ แต่คราวนี้ซาเลไม่กลัว

 

บาเรียกึ่งโปร่งใสปรากฏขึ้นอีกครั้งรอบๆซาเล่เพื่อปกป้อง เขาจากการจู่โจมครั้งสุดท้ายของกอริลลาหุ้มเกราะ

 

กอริลลาหุ้มเกราะคุกเข่าลง ขณะที่มือเลื่อนลงมาบนพื้นผิวของบาเรีย ตาของมันปิดลง เมื่อมันตกลงสู่พื้นในที่สุดก็ตาย

 

กอริลลาหุ้มเกราะล้มลงกับพื้นตาย อย่างไรก็ตามกอริลล่า ตัวอื่นเข้ามาโจมตีซาเล่มันมาพร้อมกับพยัคฆ์เงินที่ล้อมรอบซาเล่ ด้วยการป้องกันระดับเดียวที่ปกป้องเขา ซึ่ง เป็นบาเรียที่เวสตันจัดหาให้

 

ขณะที่เวสตันกําลังยุ่งอยู่กับการปกป้องซาเอเล่ สมาชิกกิลด์อินทรีแดงคนอื่นๆ ก็ไม่ได้รับการคุ้มครอง

 

“เวสตัน! เราต้องรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบนาบาเรียออกจากจุดที่ฉันบอกเท่านั้น! เราต้องจัดการพวกมันทีละตัว อย่างไรก็ตาม ฉันทําไม่ได้โดยที่คุณไม่ปกป้อง ฉันจากการโจมตีที่เหลือ!” ซาเล่สั่งเวสตันซึ่งพยักหน้ารับทราบ

 

“ฉันต้องการการปกป้อง! พวกทหารโครงกระดูกกําลังเข้า มาหาฉัน! ฉันสามารถปกป้องได้ที่ละคนด้วยบาเรียของฉัน! ซาเล่ต้องการบาเรียของฉันโดยด่วน!” เวสตันร้องออกมา สังเกตเห็นกลุ่มทหารโครงกระดูกเดินเข้ามาหาเขาด้วยดาบ ของพวกมัน

 

เขารู้ว่าหากพวกเขาเข้ามาใกล้ เขาจะต้องถอดการป้องกันจากซาเล่เพื่อให้สามารถป้องกันตัวเองได้ ซึ่งหมายความว่าซาเล่จะตายอย่างมีประสิทธิผล เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาจึงร้องขอความช่วยเหลือจากสมาชิกคนอื่นๆ ในเชิงรุก

 

ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืน จับหน้าอกที่เปื้อนเลือด ผิวที่ไหม้เกรียมของเขากําลังฟื้นตัวด้วยความเร็วที่ตาเห็น

 

เขามองดูสัตว์ประหลาดลูกแก้วที่ตอนนี้มันมีลูกแก้วอยู่เพียง 2 ลูกบินเข้าหาเขาอีกครั้ง

 

“มันจะไม่เกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน!” ลูซิเฟอร์พึมพําอย่างเคร่งขรึม ขณะที่ยกมือขึ้นเล็งไปที่สัตว์ประหลาดลูกแก้ว

 

สายฟ้าแลบออกจากมือของเขา มันพุ่งเข้าหาสัตว์ประหลาดที่บินเข้าหาเขา

 

สายฟ้าที่ประกอบด้วยสายฟ้าสีดําพุ่งเข้าใส่สัตว์ประหลาด ลูกแก้วทําให้เกิดการระเบิดอันทรงพลังอีกครั้ง

 

การระเบิดครั้งนี้มีระดับความรุนแรงเท่ากับครั้งที่แล้ว อันที่จริงมันกําลังถูกขยายด้วยสายฟ้า มันดูน่าเหลือเชื่อยิ่งกว่าเดิมเมื่อสายฟ้าสีดําส่องประกายผ่านเปลวเพลิงที่ ร้อนระอุ

 

มอนสเตอร์ลูกแก้วออกมาจากเปลวเพลิงอีกครั้ง มันพุ่งกลับไปทางลูซิเฟอร์ คราวนี้มันเหลือลูกแก้วเพียงลูกเดียวเท่านั้น

 

“ดังนั้นเขาจึงสามารถสร้างระเบิดได้ 3 ครั้งและมี 3 ชีวิต พร้อมๆ กัน ไม่เป็นไรฉันจะฆ่าพวกมันให้มากเท่าที่ฉันต้องการ ฉันอาจใช้มันเพื่อประโยชน์ของตัวเองด้วยซ้ำ”

 

” การระเบิดจะไม่แยกความแตกต่างระหว่างคนที่มันฆ่ามอนสเตอร์ลูกแก้วอาจจะคงกระพันกับไฟของมันเอง แต่มอนสเตอร์ที่อยู่รอบๆ นั้น…” ลูซิเฟอร์ยอมรับ ขณะมอง ปยังมอนสเตอร์ลูกแก้ว เขายิงสายฟ้าอีกลูกหนึ่งในที่สุดก็ฆ่าสัตว์ร้ายได้ทันที

 

โดยไม่มีการพักผ่อน เขาเริ่มบินไกลจากฝูงมอนสเตอร์ที่ เล็งมาที่เขาโดยไม่หันหลังให้กับพวกมัน เขาพบว่าตัวเองมีช่วงเวลาได้ง่ายขึ้น เนื่องจากอินทรีคิเมร่ากําลังยุ่งอยู่ กับการจัดการกับกิลด์อินทรีแดง มอนสเตอร์ระยะไกลส่วนใหญ่กําลังต่อสู้กับกิลด์อินทรีแดง

 

อินทรีคิเมร่า, พยัคฆ์เงินเป็นมอนสเตอร์โจมตีระยะไกลที่ดุร้าย อย่างไรก็ตาม กลุ่มของพวกเขากําลังต่อสู้กับกิลด์อินทรีแดง มอนสเตอร์ระยะสั้นเพียงตัวเดียวที่อยู่ใกล้ สมาชิกกิลด์อินทรีแดงคือทหารโครงกระดูก

 

สัตว์ร้ายเพียงตัวเดียวที่ลูซิเฟอร์เหลือให้จัดการคือตัวนี้ ที่มีหนามแหลมที่สามารถยิงหนามของมันออกมาได้ มันเป็นสัตว์ประหลาดตัวเดียวที่ไม่ใช่สัตว์ประหลาดระยะสั้นที่ เผชิญหน้ากับลูซิเฟอร์ อย่างไรก็ตาม มันถูกจัดเป็นมอนสเตอร์ระดับกลางเท่านั้น เนื่องจากหนามแหลมของมันสามารถลอยออกไปได้ในระยะ 2 เมตรเท่านั้น

 

เนื่องจากลูซิเฟอร์อยู่ไกลกว่านั้น เขาไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับพวกมัน มอนสเตอร์ตัวอื่นๆ ที่เล็งไปที่เขา คือมอนสเตอร์ต้นไม้และมอนสเตอร์ลูกแก้ว ซึ่งไม่มีสิ่งใดที่ เป็นภัยคุกคามตราบใดที่พวกมันไม่ไปถึงเขา

 

ลูซิเฟอร์พุ่งออกไปอีกครั้งหนึ่ง

 

คราวนี้เขารู้ว่าใครที่เขาต้องการกําหนดเป้าหมาย สายฟ้าสีดําลอยผ่านอากาศ ทิ้งร่องรอยมีดไว้เบื้องหลัง ไม่ว่าสายฟ้าสีดําจะผ่านไปที่ใด มันจะเหลือพื้นที่ที่ไม่มั่นคง ซึ่งดูเหมือนจะแตกออก

 

สายฟ้าฟาดเข้าใส่สัตว์ประหลาดลูกแก้วที่บินอยู่ตรงกลางของสัตว์ประหลาดต้นไม้ ทําให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ เปลวเพลิงลุกลามไปทั่วทุกหนทุกแห่งจับสัตว์ประหลาดต้นไม้สูง 7 ฟุตไว้ในกํามือ

 

ต้นไม้ที่มาจากดันเจี้ยนนั้นอ่อนแอต่อเปลวไฟ นับประสาเปลวเพลิงที่รุนแรงยิ่งกว่าไฟปกติเสียอีก

 

ทันทีที่เกิดการระเบิด เขาจับสัตว์ประหลาดต้นไม้ 4 ตัวในระยะของเขาทันที สัตว์ประหลาดต้นไม้เริ่มส่งเสียงกรีดร้อง เมื่อเสียงเจ็บปวดดังก้องไปทั่วบริเวณ

 

สัตว์ประหลาดต้นไม้เริ่มลุกไหม้และเคลื่อนที่ไปมา โจมตีมอนสเตอร์ต้นไม้ที่กําลังลุกไหม้ตัวอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวพวกมันเอง

 

เสียงกรีดของสัตว์ประหลาดต้นไม้กําลังทําร้ายหัวของลูซิเฟอร์ ซึ่งน่าปวดหัวอยู่แล้ว เขารู้สึกเหมือนกลองกําลังที่อยู่ในหัวของเขา

 

ลูซิเฟอร์เพิกเฉยต่ออาการปวดหัวของเขา เขาได้เล็งอีกเป้าหมายหนึ่งโดยเล็งไปที่มอนสเตอร์ลูกแก้วตัวอื่น เขาเริ่มที่จะค้นหามอนสเตอร์ลูกแก้วมาเป็นพันธมิตรของเขาแทนที่จะเป็นศัตรู เนื่องจากเขาสามารถฆ่าศัตรูได้หลายตัวด้วยสายฟ้าเพียงลูกเดียวโดยใช้การระเบิด

 

ในขณะที่การระเบิดเกิดขึ้นในส่วนอื่นของสนาม กิลด์อินทรีแดงกําลังยุ่งอยู่กับการจัดการปัญหาของพวกเขาเอง

 

นักเวทย์เวสตันกําลังสร้างบาเรียให้กับซาเล่ เขามองไปรอบๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถช่วยได้ เนื่องจากสมาชิกกิลด์อินทรีแดงส่วนใหญ่กําลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้เพื่อชีวิตของตนเอง 

 

เมื่อโครงกระดูกทหารไปถึงใกล้เวสตัน เขากําหมัดแน่น

 

“ฉันขอโทษนะซาเล่ แต่ฉันต้องป้องกันตัวเอง บาเรียกําลังจะหายไป เตรียมตัวให้พร้อม” เวสตันเตือนซาเล่ ขณะที่เขาเตรียมที่จะถอดบาเรียออกจากซาเล่ เมื่อมองดูดาบของทหารโครงกระดูกที่พุ่งเข้ามาหาเขา เขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ

 

โจมตี!

 

เขาอยู่ห่างจากการระลึกถึงสิ่งกีดขวางเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเขาได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ดังขึ้น

 

ในวินาทีต่อมา เขาเห็นรถหุ้มเกราะมาจากที่ไหนสักแห่งรถหุ้มเกราะปะทะกับทหารโครงกระดูก และโยนพวกมันทิ้งไปอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทหารโครงกระดูกส่วนใหญ่ถูกทําลาย อย่างไรก็ตาม พวกเขายังสามารถเคลื่อนไหวได้รถหุ้มเกราะก็ไม่หยุดเช่นกัน มันเดินหน้าต่อไปและปืนข้ามโครงกระดูกบดขยี้มันด้วยรถหุ้มเกราะรุ่นเฮฟวีเวท

 

กระจกหน้ารถลดต่ำลงเผยให้เห็นคนอยู่ข้างใน

 

“คอนเนอร์?” เวสตันอุทานด้วยความประหลาดใจ เมื่อเห็นบุคคลนั้น

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่แล้วถ้าฉันไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ละจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันสามารถช่วยด้วย การเชื่อมโยงจิตใจด้วยพลังของฉันเท่านั้นได้! ฉันยังสามารถช่วยเหลือด้วยวิธีอื่นได้อีก” คอนเนอร์ตอบ ในขณะที่เขาหัวเราะ

 

เขาย้ายรถหุ้มเกราะไปข้างหลัง

 

“ขอบคุณที่ช่วยฉัน” เวสตันขอบคุณด้วยรอยยิ้มขอบคุณบนใบหน้าของเขา

 

ทันใดนั้น เมื่อสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเขาก็ซีด แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไร รังสีของแสงสีขาวก็มาจากท้องฟ้ากระทบยานเกราะ

 

“ออกไปเดี๋ยวนี้!” เวสตันร้องเรียก อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไป

 

ลําแสงที่สว่างจ้ากระทบจุดอ่อนของยานเกราะ ซึ่งหนึ่งในนั้นสามารถโจมตีจุดอ่อนที่สุดได้

 

ประกายไฟมาใกล้ถังน้ำมันของรถทําให้เกิดปัญหาใหญ่

 

บูม!

 

ก่อนที่ใครจะเข้าใจอะไรได้ พวกเขาเห็นยานเกราะลอยขึ้นไปในอากาศ ติดอยู่ในเปลวเพลิง

 

“คอนเนอร์!” เวสตันคําราม อย่างไรก็ตาม มันก็สายเกินไป

 

เขาตระหนักว่าเขาไม่สามารถทําอะไรได้ ถ้าเขาสามารถสร้างบาเรียรอบคอนเนอร์ได้ทันเวลา เขาอาจจะรอดแล้วก็ได้ แม้ว่าเขาจะใช้บาเรียเพื่อรักษาซาเล่ ให้ปลอดภัยแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกเสียใจที่เขาไม่สามารถช่วยคอนเนอร์ที่เสียชีวิตหลังจากช่วยเขาไว้ได้

 

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

 

 

ตอนที่ 76: ลูกแก้ว 3 ลูก

 

“ผิวของมันแข็งเกินไป! ฉันต้องโจมตีจุดอ่อน! ราสตัน! วิเคราะห์ กอริลล่าตัวนี้และบอกส่วนที่อ่อนแอที่สุดในร่างกายของพวกมัน!” ซาเล่ร้องออกมา ในขณะที่เขาหันกลับมามองทางผู้ชายคนหนึ่งของเขา

 

นักเวทย์ผมสีฟ้าชื่อราสตัน เป็นวอร์ล็อคที่มีพลัง 2 อย่าง หนึ่งในนั้นคือความสามารถทางกายภาพระดับ B ที่เสริมดวงตาของเขาชั่วคราว ทําให้พวกเขาสามารถมองเห็นส่วนที่อ่อนแอที่สุดของร่างกายของคู่ต่อสู้ได้

 

ถ้าเขามีพลังแบบนั้น เขาก็จะเป็นแวเรียนท์ ประเภทนักรบ อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของพลังระดับ B ทําให้เขากลายเป็นแวเรียนท์ ประเภทวอร์ล็อคได้ในทันที

 

พลังธาตุของเขาทําให้เขาสามารถสร้างความสับสนให้ศัตรูโจมตีเพื่อนของพวกเขาได้ มันเป็นความสามารถที่เอาชนะได้ ซึ่งจะทําให้เขาเป็นนักเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ อย่างไรก็ตามมันมาพร้อมกับข้อจํากัดที่ทรงพลังเช่นกัน ทําให้ความสามารถของเขาสามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งทุกนาที และผลของมันจะคงอยู่เพียงวินาทีเดียว ซึ่งไม่เพียงพอสําหรับศัตรูที่จะโจมตีศัตรูตัวอื่น

 

แม้ว่ามันจะมีจํากัด ทําให้การใช้งานที่ดีที่สุดเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังเพียงพอสําหรับการช่วยชีวิตด้วยการทําให้ศัตรูสับสนในวินาทีเดียว

 

ราสตันมองไปทางกอริลล่า ซึ่งกําลังยกขาขวาขึ้นเหนือพื้น ดวงตาของเขาเปลี่ยนสีและเปลี่ยนเป็นสีเขียว เมื่อสังเกตสัตว์ร้าย

 

“เล็งไปที่บริเวณใต้คางของมัน!” ราสตันบอกกับซาเล่ ซึ่งดูเหมือนจะเข้าใจว่าราสตันหมายถึงอะไร

 

“ดังนั้นส่วนบนของคอของเขาจึงปลอดภัยน้อยที่สุด!” ซาเล่ตะโกน ในขณะที่เขาจ้องไปที่คอของกอริลล่ายักษ์

 

เขากําลังจะยิงออกไป แต่กอริลล่าก็ได้ทุบเท้าขวาของมันลงบนพื้นในที่สุด

 

ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้น พื้นที่ทั้งหมดในระยะ 500 เมตรก็เริ่มสั่นสะเทือน

 

ลูซิเฟอร์นอนอยู่บนพื้น เขาตกจากที่สูงหลังจากได้รับบาดเจ็บจากอินทรีคิเมร่า เขาบังเอิญตกลงมากลางร่างของสัตว์ร้ายที่เขาฆ่า

 

สัตว์ร้ายที่เหลือเริ่มเข้าใกล้เขามากขึ้น

 

สัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนตัวแรกที่เข้าใกล้ลูซิ เฟอร์คือสัตว์ประหลาดต้นไม้ สัตว์ประหลาดสูง 7 ฟุตยื่นมือที่เหมือนลําต้นไม้ไปทางลูซิเฟอร์ซึ่งพันรอบเท้าของเขา

 

เถาวัลย์เริ่มออกมาจากมือของสัตว์ประหลาดต้นไม้ ซึ่งกําลังจับขาของลูซิเฟอร์

 

เถาวัลย์พันรอบเท้าของลูซิเฟอร์และขยายออกไป ปกคลุมร่างกายของเขามากขึ้นเรื่อยๆ

 

หนามขนาดเล็กขนาดเล็กเริ่มออกมาจากเถาวัลย์ที่เจาะ ผิวหนังของลูซิเฟอร์และเริ่มดูดเลือดของเขาราวกับกระหายเลือดของเขาชั่วนิรันดร์

 

ลูซิเฟอร์ยังคงรักษาตัวอยู่ เขาสามารถเคลื่อนไหวได้ อย่างไรก็ตาม เขาตัดสินใจไม่ทําอะไรโดยปล่อยให้ร่างกายของ เขารักษาตัว แต่ในขณะที่เขารู้สึกว่าสัตว์ร้ายกําลังดูดเลือดของเขา เขาก็พยายามลุกขึ้นนั่ง

 

เขาผลักร่างของเขาขึ้น เขานั่งโดยไม่แตะพื้น

 

ร่างกายของเขายังมีรูทะลุรอบตัวมัน ใบหน้าของเขาก็ ซีดลงเช่นกัน แต่เขาไม่ได้ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

 

เขาเอื้อมมือขวาไปวางไว้รอบเถาวัลย์ที่พันรอบขาของเขาอย่างอ่อนแรง

 

“คุณต้องการทําอาหารให้ฉันทําไหม ให้ฉันทําแบบเดียวกันด้วยสิ! มาเป็นกําลังของฉันซะสิ” ลูซิเฟอร์ประกาศอย่างอ่อนแรง ขณะที่เขารู้สึกเจ็บปวดที่จะพูด

 

ขณะที่นิ้วของเขาสัมผัสเถาวัลย์ของมอนสเตอร์ต้นไม้ก็คํารามด้วยความเจ็บปวดราวกับว่ามันกําลังจะตาย

 

เถาวัลย์ของมันกลายเป็นสีเหลืองซีดจากสีเขียว เข็มเล็กๆ ที่อยู่ในร่างของลูซิเฟอร์ก็เริ่มตายลง กลายเป็นสารอาหารของลูซิเฟอร์

 

เมื่อมองดูสัตว์ประหลาดต้นไม้สลายตัว รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของลูซิเฟอร์

 

“ฉันพูดถูก การเน่าเปื่อยนี้ช่วยฉันได้!” ลูซิเฟอร์พึมพํา เมื่อเห็นบาดแผลของเขาหายเร็วขึ้น

 

พวกสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนตัวอื่นๆ ได้ยินเสียงกรีดร้องของมอนสเตอร์ต้นไม้ที่กลายเป็นฝุ่นที่ปลิวไป

 

สัตว์ประหลาดเริ่มกระสับกระส่าย หลังจากเห็นความตายอันเจ็บปวด แต่พวกมันส่วนใหญ่มีสติปัญญาต่ําซึ่ง ทําให้พวกมันไม่สามารถเข้าใจได้ว่าสิ่งที่พวกมันรู้สึกเรียกว่า ความกลัวกลัวความตาย

 

ในความรู้สึกกระสับกระส่ายนี้ สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งเริ่มบินตรงไปยังลูซิเฟอร์

 

สัตว์ประหลาดนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่มีลูกแก้วกลม 3 ลูกติดกัน มันไม่มีหน้าหรือปาก จึงไม่ง่ายที่จะเข้าใจว่ามันเห็นและได้ยินอย่างไร ลูซิเฟอร์ไม่สนใจ

 

เมื่อเอื้อมมือออกไป ลูซิเฟอร์ตัดสินใจสลายมอนสเตอร์ตัวนี้เพื่อช่วยรักษา อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็รู้ว่าเขาผิดแค่ไหน เขาไม่รู้ถึงความสามารถแปลก ๆ ของสัตว์ประหลาดตัวนี้

 

ทันทีที่สัตว์ประหลาดตัวนี้สัมผัสมือของลูซิเฟอร์ การระเบิดที่ลุกเป็นไฟก็เกิดขึ้น ก่อนที่ลูซิเฟอร์จะเข้าใจอะไรก็ตาม เขาก็ติดอยู่ในระเบิด

 

ใบหน้าและผิวหนังของเขาไหม้เกรียมด้วยเปลวไฟที่ลุกโชน ขณะที่ร่างกายของเขาถูกเหวี่ยงกลับ ผลกระทบนั้นทรงพลังมาก มันเหวี่ยงลูซิเฟอร์กลับไปร้อยเมตร แม้ว่ามันจะทําให้เขาบาดเจ็บ แต่มันก็ช่วยให้เขารอดพ้นจากฝูงสัตว์ร้าย ในขณะที่เขาพุ่งชนสัตว์ตัวอื่นๆ

 

“อ๊ะ” ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นนั่ง ขณะจับหน้าอก

 

ผมของเขาถูกไฟไหม้อีกครั้งพร้อมกับใบหน้าของเขา อย่างไรก็ตาม เขายังสามารถมองเห็นได้ ร่างกายของเขาก็ถูกไฟไหม้อย่างรุนแรงเช่นกัน

 

เสื้อผ้าของเขาเปื้อนเลือดและรูพรุนแล้ว แต่ตอนนี้กลับอยู่ในสภาพที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมเพราะเปลวเพลิง

 

เมื่อมองไปทางเปลวเพลิง เขาเห็นสัตว์ประหลาด ลูกแก้วปรากฏขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม สัตว์ประหลาดที่ปะทะกับเขาตอนนี้มีลูกแก้ว 2 ลูก แทนที่จะเป็น 3 ลูกที่เขา เคยเจอมาก่อน

 

“ฮ่าๆ ไอ้โง่นั่นยอมให้อสูรลูกโลกแตะต้องมันงั้นเหรอ! คน โง่เอ๋ย เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสัตว์ประหลาดที่อันตรายที่สุดในดันเจี้ยนระดับ 1 อยู่ด้วยซ้ํา แม้แต่นักล่า ดันเจี้ยนมือใหม่ก็ยังถูกสอนเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ เป็นอย่างแรก!”

 

“ เด็กคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ําว่าหัวของมันแต่ละหัวมันสามารถเกิดระเบิดเมื่อสัมผัส ลูกแก้วกลมทั้ง 3 ลูกที่ติดกันเป็น เหมือนระเบิด 3 ลูกที่สามารถทําให้เกิดการระเบิดได้ 3 ครั้งโดยแต่ละครั้งที่มันสัมผัสเราได้” คอนเนอร์สมาชิกกิลด์ อินทรีแดง ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังดูลูซิเฟอร์ คร่ําครวญขณะที่เขาส่ายหัวราวกับว่าเขาละอายใจที่ลูซิเฟอร์ขาดความรู้

 

เนื่องจากความสามารถเดียวของเขาคือสร้างการเชื่อมโยง ของจิตใจระหว่างสมาชิกกิลด์อินทรีแดงทั้งหมดที่นั่น เขาไม่ได้ต่อสู้ เขาไม่มีความสามารถเช่นกัน แต่เขากําลังดูการต่อสู้ทั้งสองเกิดขึ้นแทน

 

นั่นคือตอนที่เท้าของกอริลล่ายักษ์กระแทกกับพื้น ทําให้เกิดสิ่งที่ดูเหมือนแผ่นดินไหวภายในระยะที่กําหนด 

 

แผ่นดินไหวทําให้สมาชิกกิลด์อินทรีแดงเสียการทรงตัว มอนสเตอร์ในดันเจี้ยนครึ่งหนึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว ซาเล่ที่เพิ่งค้นพบจุดอ่อนของกอริลล่ากําลังจะยิงกระสุนน้ําเพื่อฆ่ากอริลล่า แต่เมื่อเขาสูญเสียการทรงตัว

 

เป้าหมายของเขาถูกรบกวน และการระดมยิงของกระสุน ที่กําลังจะชนกับกอริลล่ายักษ์ก็ได้โจมตีทหารโครงกระดูก ทําลายร่างกายของพวกมันแหลกออก

 

หลังจากที่ได้สมดุลของการทรงตัวกลับมาแล้ว เขาก็ตัดสินใจเล็งอีกครั้ง อย่างไรก็ตามดูเหมือนสายเกินไป

 

กอริลลาหุ้มเกราะอยู่ใกล้เขามากเกินไป และหมัดของเขา พุ่งเข้าหาใบหน้าของซาเล่เพื่อขยี้เขา

 

เมื่อพบว่าสายเกินไป ซาเล่ก็หลับตาลงราวกับยอมแพ้ ความตายที่เขาไม่ได้คาดหวังไว้

 

 

ตอนที่ 75: ลง

 

“การโจมตีไม่ได้ทําร้ายเราเลย อย่างน้อยก็ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด อย่างไรก็ตาม มันทําอะไรที่แย่กว่านั้นอีก มันดึงดูดความสนใจของพวกในดันเจี้ยนมาที่เรา”

 

“เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเข้าร่วมการต่อสู้ในตอนนี้ อย่างน้อยถ้าเราไม่ต้องการที่จะถูกล้อมรอบด้วยสัตว์ร้ายนะนะ” เวสตันกล่าวก่อนจะก้าวออกไปเช่ นกัน

 

นักรบส่ายหน้าราวกับว่าเขารู้สึกอับอายที่ไม่สามารถเข้าใจสิ่งพื้นฐานดังกล่าวได้ ในขณะที่คนอื่นเข้าใจ เขาก้าวลงจากรถด้วย

 

ทันทีที่กลุ่มแวเรียนท์ของกิลด์อินทรีแดงก้าวออกจากยานเกราะ พวกเขาเห็นสัตว์ร้ายมากกว่าร้อยตัวเข้ามาหาพวกเขา

 

กอริลลาหุ้มเกราะ พยัคฆ์เงิน และทหารโครงกระ ดูกกําลังวิ่งไปที่กิลด์อินทรีแดง ขณะที่สัตว์ที่เหลืออยู่ด้านหลัง

 

ลูซิเฟอร์ได้ยิงสายฟ้าเพื่อดึงดูดความสนใจของสัตว์ร้ายต่อกิลด์อินทรีแดง ซึ่งทําให้อินทรีย์คิเมร่ามีโอกาสโจมตีลูซิเฟอร์กรอบเวลาเล็ก ๆ นั้นก็เพียงพอแล้วสําหรับพวกมันที่จะโจมตีลูซิเฟอร์

 

อินทรีคิเมร่าเปิดปากของพวกมันและยิงแสงจ้าไปทางลูซิเฟอร์

 

เลเซอร์ที่สว่างจ้าซูมผ่านอวกาศและเวลาขณะที่มันเคลื่อนเข้าหาลูซิเฟอร์ ซึ่งเพิ่งหันกลับมามองทางอินทรีหลังจากโจมตียานพาหนะกิลด์อินทรีแดง

 

ร่างกายของลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะหยุดนิ่งในเวลาที่เขารู้สึกว่าความเร็วของเขาช้ากว่าการโจมตีที่พุ่งเข้ามาหาเขาจากทุกทิศทุกทาง

 

เมื่อการโจมตีมาจากอินทรีคิเมร่า รังสีของแสงสีขาวก็กระจายไปทั่ว ทําให้ลูซิเฟอร์หลบเลี่ยงไม่ได้ด้วยการขยับไปทางซ้ายหรือขวา

 

หลังจากประสบกับการโจมตีเหล่านี้แล้ว ลูซิเฟอร์ก็รู้ว่าเลเซอร์เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จะเข้าใจได้ง่าย อย่างไรก็ตาม เขากําลังมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาสามารถทําได้ในตอนนี้ เวลาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นศัตรูของเขาในการพยายามช่วยตัวเองให้รอด

 

“ฉันต้องควบคุมลม! ฉันต้องขึ้นไป! นั่นเป็นทางเดียวที่จะอยู่รอด!” เขาอุทานกําหมัดของเขา เขาตระหนักว่าการหลบซ้ายหรือขวาไม่ใช่ทางเลือก วิธีเดียวที่เขาสามารถอยู่รอดได้คือการขึ้นไป

 

โดยเพ่งความสนใจไปที่ธาตุลม เขาพยายามดันร่างกายให้สูงขึ้นทั้งๆ ที่ควบคุมพลังงานลมได้ไม่เพียงพอ

 

แม้ว่าเขาจะพยายามทุกวิถีทาง เขาก็ไม่สามารถควบคุมสิ่งนั้นได้ แม้แต่ตอนนี้ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้อีกแล้ว หลังจากพยายามอยู่นาน เขาก็สามารถบินได้เหนือพื้นดินเพียงเล็กน้อย

 

ด้วยความช่วยเหลือของความแข็งแกร่งของเขาในการกระโดด เขาสามารถขึ้นมาได้สูงมาก การก้าวไปข้างหน้าโดยไม่ล้มในทันทีได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นข้อจํากัดในการควบคุมของเขา

 

ลูซิเฟอร์ล้มเหลวในการขึ้นไป เขารู้สึกเหมือนเหลือเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น ตัวเลือกที่เขาพบว่าใช้ได้คือลงไป 

 

ลูซิเฟอร์หยุดใช้ความสามารถของเขาเพื่อรักษาสมดุลในอากาศ เขายกมือขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาพยายามช่วยแรงโน้มถ่วงด้วยการควบคุมเพียงเล็กน้อยที่เขามี

 

ร่างกายของเขาเริ่มล้มลง เขาเริ่มเข้าใกล้พื้นมากขึ้นทุกวินาที อย่างไรก็ตาม เขาช้าเกินไป

 

แสงเลเซอร์ที่เจิดจ้าออกมาจากปากของอินทรีคิเมร่าแทงร่างกายของเขา หน้าอกของเขาถูกเจาะด้วยเลเซอร์หลายอันที่เจาะร่างกายของเขา ทําให้มีรูในร่างกายของเขาที่ยอมให้ใครคนหนึ่งมองทะลุผ่านเข้าไปได้

 

“อื้อ!” เลือดไหลออกมาจากริมฝีปากของลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาเปล่งเสียงคํารามอย่างเจ็บปวด เขามีการควบคุมความเจ็บปวดที่น่าสะพรึงกลัว ซึ่งช่วยให้เขารับมือกับความเจ็บปวดได้จนถึงตอนนี้ ทําให้ประสาทสัมผัสของเขาตื่นตัวในสถานการณ์ที่คนปกติจะสูญเสียสติไปแล้ว

 

เขาไม่แม้แต่จะกรีดร้อง ขณะที่ร่างกายของเขาถูกแทงทะลุ ในขณะที่เขาปล่อยให้แรงโน้มถ่วงทํางานโดยไม่ต่อต้านร่างกายของเขาตกลงบนพื้นท่ามกลางสัตว์ร้ายทั้งหมดบนพื้น

 

หลังจากจัดการกับลูซิเฟอร์แล้ว อินทรีคิเมร่า ยังคงบินไปยังกลุ่มสมาชิกกิลด์อินทรีแดงที่กําลังยุ่งอยู่กับการจัดการกับสัตว์ร้ายครึ่งหนึ่งที่โจมตีพวกเขาแล้ว

 

“ไอ้สารเลวนั่น! เขาล้มลงแล้ว! นับประสาเขาจัดการกับสัตว์ร้ายส่วนใหญ่ มันกําลังเกิดขึ้นตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง เรากําลังใช้ความรุนแรงของการโจมตีมากที่สุด!” เวสตันผู้วิเศษของกิลด์อินทรีแดงอุทาน ขณะที่เขาสร้างบาเรียกึ่งโปร่งใสรอบ ๆ เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของเขา เพื่อปกป้องพวกเขาจากลูกแก้วเงินระเบิดที่ออกมา จากปากของพยัคฆ์เงิน

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

“ไอ้เวรนั้นตายไปไม่ได้! อีกไม่นานมันก็คงจะฟื้นแล้ว! เราได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นมากพอที่จะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!” สมาชิกอีกคนหนึ่งของกิลด์อินทรีแดงตอบ

 

เขายืนอยู่ข้างหลังทุกคน ในขณะที่เขาเป็นคนที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้

 

เขาเป็นพ่อมดที่มีพลังธาตุของของการเชื่อมโยงจิตใจ เขาสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเพื่อนร่วมทีมของกิลด์อินทรีแดงเพื่อให้แต่ละคนสามารถพูดคุยกันโดยใช้ความคิดของพวกเขาแม้จะอยู่ห่างไกลกัน

 

เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกกิลด์สามารถต่อสู้พร้อมกันได้ ซึ่งจําเป็นเมื่อต้องต่อสู้กับฝูงสัตว์ร้าย

 

เขาถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะเขาอาจจะตายก่อนด้วยความสามารถของเขา ถ้าเขานําหน้าคนอื่น

 

“มันสําคัญอะไร! สัตว์ร้ายที่อยู่รายรอบร่างกายของเขา จะไม่ให้โอกาสเขาร่างกายของเขาจะถูกกินก่อนที่เขาจะรักษาได้!”

 

“แม้ว่าเขาจะรักษาและเริ่มต่อสู้ มันก็ไม่ได้ช่วยเรา ด้วยสัตว์ร้ายที่เผชิญหน้ากับเรา โปรดมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้าเรา! เราทําได้เพียงหวังว่าเขาจะชะลอสัตว์ร้ายที่เหลือได้ และไม่ถูกกินได้ง่ายๆ” ซาเล่ รักษาการหัวหน้ากิลด์กล่าวขณะยิงกระสุนน้ําจากฝ่ามือเข้าหากอริลลาเกราะยักษ์

 

กระสุนน้ําทํามาจากน้ํา อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถเจาะร่างกายมนุษย์ธรรมดาๆ ได้ และฆ่าพวกมันในทันที อย่างไรก็ตาม กระสุนน้ําก็ไม่สามารถเจาะร่างกายของกอริลล่ายักษ์ด้วยเกราะที่หุ้มอยู่รอบ ๆ ผิวหนังได้

สัตว์ร้ายยังไม่เริ่มโจมตี เมื่อเห็นสายฟ้ามาทางพวกมัน ก่อนที่พยัคฆ์เงินจะตอบสนอง สายฟ้าก็พุ่งทะลุหัวของมัน ทําให้มันตายอย่างเจ็บปวดและรวดเร็ว

 

สัตว์ร้ายทั้งหมดเริ่มคําราม เมื่อเห็นพวกมันตัวหนึ่งถูกฆ่าพวกมันทั้งหมดโกรธจัด พวกมันจึงเริ่มวิ่งอย่างดุเดือดยิ่งขึ้น

 

อินทรีคิเมร่าที่บินอยู่บนท้องฟ้าได้เปิดปากของพวกมัน ลําแสงสีขาวจํานวนมากออกมาจากปากของพวกมันไปทางลูซิเฟอร์

 

กลุ่มพยัคฆ์เงินยังเปิดปากของพวกมัน พลางยิงลูกแก้วแสงสีขาว 

ซึ่งเต็มไปด้วยพลังงานแปลก ๆ ไปทางลูซิเฟอร์ ดูเหมีอนว่าลูกแก้วแสงจะเต็มไปด้วยพลังงานจํานวนมหาศาลที่อาจเพียงพอที่จะหลอกหลอนใครก็ตามด้วยสติปัญญาของพวกมัน แต่ลูซิเฟอร์ไม่ถอยกลับ

 

เขาเฝ้าดู อินทรีย์คิเมร่าและ พยัคฆ์เงินโจมตีเขา อย่างไรก็ตาม สัตว์ร้ายตัวอื่นไม่ได้ทําตามนั่นจึงทําให้เขารู้สึกเหมีอนกับว่าสัตว์อื่นไม่มีพลังที่จะโจมตีในระยะไกล

 

เมื่อมองดูลําแสงสีขาวหลาย 10 ลําและทรงกลม 6 ลูกที่ เต็มไปด้วยพลังงานอันน่าสะพรึงกลัวที่พุ่งเข้ามาหาเขา ลูซิเฟอร์ตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการที่จะถูกโจมตีโดยการโจมตีใด ๆ เหล่านี้เพราะเขาไม่ต้องการเสียเปรียบสัตว์หลายร้อยตัวจากการได้รับบาดเจ็บ

 

เขารู้ว่าเขาไม่สามารถใช้วิธีการอื่นๆกับพวกมันได้ เนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้แตกต่างจากการต่อสู้กับแวเรียนท์อย่างชัดเจน

 

สัตว์ร้ายจะไม่ยอมให้เขาได้รับการรักษา ถ้าพวกมันสามารถจับตัวเขาได้ เขาไม่ต้องการเสี่ยงที่จะเสียชีวิตระหว่างการต่อสู้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะความประมาทของเขาเอง

 

“ฉันต้องฆ่าสัตว์ที่บินได้ก่อน มันน่าจะง่ายกว่าถ้าพวกมันหายไป” เขาพึมพํา ขณะที่เขากําลังจะโจมตี

 

ลูซิเฟอร์กระทืบเท้าของเขาบนพื้นอีกครั้ง เขาใช้การเสริมความแข็งแกร่งระดับ S ทั้งหมดของเขาเพื่อกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้า ครั้งนี้เขาไม่ได้เน้นที่การก้าวไปข้างหน้า แต่เพียงขึ้นเท่านั้น

 

เขากระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างง่ายดายด้วยความสูง 20 เมตร ในขณะที่การโจมตีตกลงบนพื้น กระแทกกับฝุ่นที่ว่างเปล่าทําให้เกิดหลุมอุกกาบาตลึก 5 เมตรที่ดูเหมือนจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2 เมตร

 

“ฮะ-เขากําลังบินเหรอ!” เวสตันอุทานด้วยความตกใจ เมื่ เห็นลูซิเฟอร์บินขึ้นฟ้าจากกระจกหน้ารถของเขา

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

“เขาไม่ได้บิน เขากําลังกระโดด ฉันหมายความว่าเขาบินได้นิดหน่อย ในขณะที่เขากําลังวิ่งจากสิ่งที่ฉันเห็น แต่นั่นคือทั้งหมด เขาไม่สามารถบินได้สูงขึ้นกว่านี้ เขาควรจะบินสูงตั้งแต่เริ่มต้นถ้าเขาบินได้ ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้สําหรับเขา” ซาเล่พึมพําพร้อมส่ายหัว

 

“อ่า นั่นสินะ ทําไมเขาถึงกระโดดได้สูงขนาดนั้น มันจะไม่ เป็นการยากกว่าที่จะเล็งเป้าหมาย ในขณะที่เขาตกลงมาจากการกระโดดที่สูงขนาดนั้นเหรอ?” เวสตันถาม เขา เป็นแวเรียนท์คลาสนักเวทย์ ไม่ใช่นักรบ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจ อะไรหลายๆอย่าง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

“เขาอาจจะตกเป็นเป้า หรือเขาอาจจะระวังสถานการณ์นี้และใช้มันเพื่อประโยชน์ของเขา เรามาสนุกกับความบันเทิงกันเถอะ ศัตรูของเรา 2 คนกําลังต่อสู้กันเอง” ซาเล่ตอบพร้อมรอยยิ้มขบขันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

 

ซาเล่วางมือไว้ด้านหลัง เขาอยู่ในตําแหน่งที่สบายขึ้นเพื่อสนุกกับการต่อสู้

 

ลูซิเฟอร์เหวี่ยงมือขวาของเขา พลางยิ่งสายฟ้าอีกลูกหนึ่ง เพื่อเล็งเป้าไปที่สัตว์ร้าย แต่คราวนี้ เขารู้ว่าตัวที่เขาต้องการจะเล็งเป้าหมายนั้น สัตว์ร้ายที่สามารถโจมตีในระยะไกลได้ดูเหมือนจะเป็นสัตว์ที่เขาต้องกําจัดก่อน

 

เป้าหมายหลักของเขาดูเหมือนจะอยู่ที่อินทรีย์คิเมร่าที่เป็นผู้นำ เขาโจมตีด้วยสายฟ้า เขาใช้ความสามารถของธาตุลม เพื่อเร่งตัวเองไปข้างหน้าและหยุดตัวเองจากการล้มลง

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้เชี่ยวชาญการบินในระดับความสูง แต่ตอนนี้เขาสามารถกระโดดได้สูงมากด้วยความช่วยเหลือจาก การกระโดดเขาสามารถใช้ธาตุลมเพื่อบินในระยะทางสั้นๆ ได้

 

สายฟ้าพุ่งเข้าหานกอินทรีคิเมร่าที่บินไปด้านข้างและหลบหลีก น่าเสียดายที่นกอินทรีคิเมร่าที่อยู่ข้างหลัง ดูเหมือนว่าจะไม่ทราบว่าตัวที่อยู่ข้างหน้าจะหลบในวินาทีสุด ท้ายอินทรีคิเมร่าที่อยู่เบื้องหลังเป้าหมายหลักถูกสังหาร แทนในขณะที่มันตกลงมา

 

“อย่างที่คาดไว้ นี่คือนกที่ฉลาด” 

 

ลูซิเฟอร์ยอมรับขณะบินไปข้างหน้า

 

เนื่องจากอินทรีคิเมร่ากําลังเคลื่อนที่ไปในทิศทางของเขา ระยะห่างระหว่างทั้ง 2 จึงลดลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น จนกระทั่งลูซิเฟอร์อยู่ตรงหน้าอินทรีคิเมร่าโดยตรง

 

ปากของอินทรีคิเมร่าที่เหมือนสิงโตเปิดออกทันทีที่มันไปถึง ลูซิเฟอร์หลังจากที่มันหลบสายฟ้าก่อนหน้านี้ได้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว

 

ลูซิเฟอร์จับอินทรีคิเมร่าที่คอและเริ่มลอยลงมาเรื่อยๆพร้อมกับอินทรีคิเมร่า เขาทุบมันเหนือหัวของพยัคฆ์เงิน ซึ่งดูเหมือนจะอยู่ด้านล่างของเขา

 

ลูซิเฟอร์ใช้กําลังทั้งหมดของเขาทุบอินทรีคิเมร่าลงบนพื้น พลังดูเหมือนจะรุนแรงมาก จนไม่เพียงแต่ฆ่าอินทรีคิเมร่าเท่านั้น แต่พยัคฆ์เงินก็ตายทันทีเมื่อกระดูกของมันถูกบดขยี้ 

 

เมื่อยกร่างของอินทรีคิเมร่าที่เริ่มสลายตัวแล้ว เขาหมุนร่างของเขาเป็นวงกลม ทุบสัตว์ร้ายทั้งหมดที่อยู่ใกล้เขาก่อนที่จะปล่อยร่างของอินทรีคิเมร่า ไปทางทหารโครงกระดูกตัวหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง

 

ขณะที่เขาโจมตีสัตว์ทุกตัวที่อยู่รอบตัวเขา เขาก็สามารถมองเห็นยานเกราะยืนอยู่ด้านหลังได้

 

เมื่อจําคนในนั้นได้ ใบหน้าก็ขมวดคิ้ว

 

“คุณก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน” เขาพึมพําด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ฉันไม่ให้คุณดูหรอก คุณอาจจะเข้าร่วมด้วยก็ได้”

 

โดยไม่ทิ้งโอกาสให้ฝูงสัตว์โจมตีเขา เขาทุบเท้าลงบนพื้นอีกครั้งแล้วกระโดดขึ้นไปข้างบน แต่แทนที่จะโจมตีนกอินทรี เขาได้หันร่างกลับมา ก่อรูปสายฟ้าอีกอันหนึ่ง ซึ่งเขาขว้างไปทางยานเกราะ

 

เมื่อสายฟ้าฟาดไป มันดึงดูดความสนใจของสัตว์ร้ายบนพื้นให้ห่างจากลูซิเฟอร์ เนื่องจากไม่ได้มุ่งเป้าไปที่พวกมัน

 

สายฟ้าฟาดเข้าใส่ยานเกราะโดยไม่สร้างความเสียหายแม้แต่น้อย

 

“ฮ่าๆ เขาเห็นเรา แล้วไงล่ะ เขาคิดว่าเขาจะทําร้ายเราได้จริง ๆ เหรอ เราไม่ได้รับอันตรายจากฟ้าผ่าตราบเท่าที่เราอยู่ในยานพาหนะของเรา เขาไม่สามารถทําร้ายเราได้เลย” หนึ่งในนั้น นักรบในรถหัวเราะเมื่อเขาเห็นสายฟ้าสีดําหายไปหลังจากโดนรถหุ้มเกราะของพวกเขา

 

อย่างไรก็ตามคนอื่นๆ ไม่ได้หัวเราะ ดูเหมือนพวกเขาจะขมวดคิ้ว

 

“ทําไมพวกนายดูตกใจขนาดนั้น” นักรบถามคนอื่นด้วย ความสงสัยไม่เข้าใจว่าทําไมพวกเขาถึงจริงจัง “ยานของพวกเราทนสายฟ้าได้ใช่ไหม”

 

“ ยานพาหนะของเราสามารถรับมือกับสายฟ้าได้ แต่ไม่สามารถจัดการพวกในดันเจี้ยนหลายร้อยตัวที่โจมตีเราได้” เวสตันพึมพํา ในขณะที่ถอนหายใจ

 

“ความเสียหายได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ดูเหมือนว่าเราจะต้องเข้า ร่วมการต่อสู้ในตอนนี้” ซาเล่ประกาศขณะเปิดประตูรถหุ้มเกราะที่อยู่ด้านข้างของเขา

 

นักรบยังคงดูสับสน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เวสตันตัดสินใจอธิบายเพราะเขาไม่แน่ใจว่าชายคนนั้นจะคิดออกเองได้หรือไม่

 

ตอนที่ 73: ไม่ช่วยเหลือ

 

รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่แปลกประหลาดบนพื้น ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นยืนและหันหลังกลับ การสั่นสะเทือนทําให้ดูเหมือนกองทัพใหญ่กําลังเคลื่อนเข้ามาหาเขา แต่เมื่อเขาหันหลังกลับเท่านั้น เขาก็รู้ว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร

 

เขาแปลกใจที่เห็นว่าจริง ๆ แล้วไม่ใช่กองทัพ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือไม่ใช่กองทัพของมนุษย์ แต่เป็นกองทัพของสัตว์ประหลาด

 

เขาเห็นสัตว์ประหลาดมากมายพุ่งเข้ามาหาเขาจากระยะไกล

 

ผู้อาศัยในดันเจี้ยนหลายร้อยคนที่ควรจะอยู่ในดันเจี้ยนได้ก้าวออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่เพียงแต่อยู่ข้างนอกเท่านั้น แต่พวกมันกําลังรุดเข้าหาเขา

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

เขายังสามารถเห็นสัตว์หลายชนิดที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

 

จํานวนสูงสุดของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้คือโครงกระดูกที่วิ่งอยู่ในกลุ่ม โครงกระดูกสวมสิ่งที่ดูเหมือนหมวกไม้และถือดาบสีเงินไว้ในมือขณะที่พวกมันวิ่งเข้าหาเขา

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

นอกจากนี้ยังมีอินทรีคิเมร่าเหมือนกับที่เขาฆ่าอินทรีคิเมร่าหลายสิบตัวกําลังบินอยู่ในอากาศราวกับราชาแห่งสายลม

 

เขายังสามารถเห็นสิ่งที่ดูเหมือนกอริลล่าสูง 9 ฟุตที่สวมชุดเกราะที่ทําจากทองคําทั้งหมดมีกอริลลาหุ้มเกราะอยู่ 9 ตัวในกลุ่มสัตว์ร้าย แต่เนื่องจากขนาดมหึมา พวกมันจึงมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นแม้ว่าจะมีจํานวนน้อย

 

นอกจากนี้ยังมีพยัคฆ์ผิวเงิน 7 ตัวที่ดูเหมือนจะมีฟันขาวแหลม 2 ที่ออกมาจากปากของพวกเขาเหมือนฟันกระบี่

 

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เนื่องจากลูซิเฟอร์ยังเห็นสิ่งแปลก ๆ ที่เขาพบว่ายากที่จะอธิบาย เขาสามารถเห็นลูกแก้วคริสตัล 3 ลูกเกาะติดกันและบินเข้าหาเขา มันไม่มีใบหน้าหรือฟันในลูกแก้วเหล่านี้ทําให้เขาสงสัยว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสัตว์ร้ายจริงหรืออย่างอื่น

 

มีวัตถุลักษณะคล้ายลูกแก้วมากกว่า 20 ชิ้นที่ลูซิเฟอร์ตัดสินใจไม่เต็มใจที่จะพิจารณาว่าพวกมันเป็นสัตว์ร้าย

 

นอกจากนี้ยังมีสัตว์ร้ายที่ดูเหมือนอาร์มาดิลโล แต่แทนที่จะมีสิ่งคล้ายเปลือกหอยที่หลัง พวกมันกลับมีหนามแหลมสีเหลืองออกมาจากด้านหลัง ที่มีหนามแหลมก็ดูเหมือนจะมีขาเหมือนโครงกระดูกทําให้พวกมันดูแปลกไปกว่าเดิม

 

ลูซิเฟอร์ยังสามารถเห็นสิ่งที่ดูเหมือนต้นไม้ด้วยมือและขาไม้ โดยเดินช้าๆ ข้างหลังกลุ่ม

 

โดยรวมแล้วเขาเห็นสัตว์ร้ายจากดันเจี้ยนมากกว่า 200 ตัวอยู่ข้างหน้าเขา

 

“เฮ้อ พวกมันมีมากมาย เสื้อผ้าของฉันอาจจะถูกทําลายอีกครั้ง มากกว่าที่เคยเกิดขึ้นมาอีก” ลูซิเฟอร์พึมพําขณะมองดูเสื้อผ้าของเขาที่เปลี่ยนไป หลังจากที่เสื้อผ้าชุดก่อนของเขาถูกทําลายในการต่อสู้กับกิลด์ แม้แต่เสื้อผ้าใหม่ก็มีรูกว้าง 3 นิ้ว เนื่องจากการชุลมุนกันล่าสุดกับอินทรีคิเมร่า

 

เขากังวลเกี่ยวกับเสื้อผ้าของเขามากกว่าสัตว์ร้ายหลายร้อยตัวที่เข้ามาทางเขา

 

“ไม่มีทางที่จะเก็บเสื้อผ้าได้ ฉันจะต้องผ่านพวกสัตว์ร้ายให้ได้ ถ้าฉันอยากไปต่อ สําหรับการกลับไป นั่นไม่ใช่ทางเลือก” เขาพึมพําขณะจ้องไปที่สัตว์ร้ายที่วิ่งเข้ามาหาเขา หัวใจของเขาดูเหมือนจะสงบเป็นส่วนใหญ่

 

“ก็ได้ ถ้าเสื้อผ้าถูกทําลายก็ปล่อยไปเถอะ ฉันจะไปเมืองต่อไปทันทีแล้ว” เขาสรุป ขณะหักข้อนิ้วพลางจ้องไปที่สัตว์ร้าย

 

เขายกเท้าขวาขึ้นเหนือพื้นเล็กน้อย

 

เขาทุบขาขวาลงกับพื้น ใช้แรงกระแทกเพื่อมุ่งไปข้างหน้าเข้าหาสัตว์ร้ายที่กําลังวิ่งเข้ามาหาเขา

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังบินไปหาสัตว์ร้ายเพื่อการปะทะครั้งสุดท้าย มียานเกราะ 2-3 คันหยุดอยู่ข้างหลังเขา ดูเหมือนจะมีระยะห่าง 500 เมตรระหว่างพวกเขากับลูซิเฟอร์ ทําให้พวกเขาอยู่ในระยะที่ปลอดภัย

 

“เดี๋ยว ตาฉันกําลังหักหลังฉันเหรอ ฉันเห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์จากดันเจี้ยน นายเห็นสิ่งเดียวกันไหม” เวสตัน นักเวทย์แห่งกิลด์อินทรีแดง ถามซาเล่ที่มีหน้าที่รักษาการหัวหน้า

 

“คุณไม่ใช่คนเดียว มันเกิดขึ้นจริงๆ” ซาเล่ตอบอย่างจริงจัง

 

“ทําไมผู้ชายคนนั้นถึงพยายามกอบกู้เมืองกันล่ะ?” เวสตันถามซาเล่ด้วยความสงสัย “เขาเป็นคนเลวไม่ใช่เหรอ?”

 

“เขาเป็นคนเลว แต่เขาก็ดูบ้าๆ เหมือนกัน ใครจะรู้ว่าเขาทําไปทําไม” ซาเล่พึมพํา ขณะขมวดคิ้ว “บางที่เขาต้องการทําสิ่งที่ดีหรือบางทีเขาแค่ต้องการฆ่า? ตัวเขาเองเป็นสัตว์ประหลาดที่โหดเหี้ยมนี้”

 

“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ยังเป็นโอกาสที่ดีสําหรับเรา กองกําลังของเราอ่อนแอลง เราไม่สามารถฆ่าพวกสัตว์ร้ายได้ตามปกติโดยไม่ถูกฆ่าออกไปได้”

 

“ดูเหมือนจะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสําหรับเราในตอนนี้ หลังจากเข้าร่วมกับเขาแล้ว เราจะสามารถชนะและกอบกู้เมืองได้!” เวสตันพูดด้วยรอยยิ้มตื่นเต้นบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพยายามเปิดประตูเพื่อออกไปช่วย

 

“นั่งต่อไป!” ซาเล่ตะคอกพลางจ้องไปที่เวสตัน “จะไม่มีใครออกไปทั้งนั้น”

 

“แต่ทําไม? ถ้าเขาตายโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเรา เราคงรู้สึกแย่มากที่จะชนะ! เราต้องทําอะไรซักอย่าง นี่คือพวกสัตว์ประหลาดจากดันเจี้ยนที่เลยนะ ชีวิตของชาวเมืองอิเครโก้ ทั้งเมืองตกอยู่ในอันตราย!” เวสตันประท้วง เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทําไมพวกเขาถึงถูกหยุด

 

“พวกนายทุกคนจะไม่มีใครออกไป เด็ดขาด เขาเป็นเครื่องจักรที่ไม่มีวันตาย ปล่อยให้เขาต่อสู้เพื่อเราและตาย เขาควรจะสามารถกําจัดสัตว์ร้ายได้ครึ่งหนึ่งอย่างน้อยก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เราควรจะดูแลสิ่งที่เหลืออยู่ได้ “ ซาเล่พึมพําพลางพับแขนของเขา

 

“ใช่! ด้วยวิธีนี้ ศัตรูของเราทั้งหมดจะตาย เมืองจะได้รับการช่วยเหลือ และด้วยการตายของเด็กคนนี้ เราจะแก้แค้นสมาชิกกิลด์ของเราที่เสียชีวิตจากการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดตัวนี้” แวเรียนท์อีกคนหนึ่งที่ นั่งบนเบาะหลัง สนับสนุน

 

“อืม!”

 

เมื่ออธิบายทุกอย่างอย่างชัดเจนแล้ว ทุกคนก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องทํา พวกเขาทั้งหมดเห็นด้วยกับแผนการของซาเล่และตัดสินใจไม่เข้าร่วมการต่อสู้

 

พวกเขาทั้งหมดนั่งลงและเริ่มดูสิ่งที่กําลังจะเกิดขึ้นโดยไม่เข้าร่วม

 

ในขณะที่หัวหน้ากิลด์อินทรีแดงนั่งลง ลูซิเฟอร์ยังคงมุ่งหน้าไปยังฝูงสัตว์ร้าย ครอบคลุมระยะทางมหาศาลในแต่ละวินาที

 

กระแสไฟฟ้าหมุนไปรอบๆ มือของเขา ขณะที่เขาลอยผ่านอากาศไปยังฝูงสัตว์ร้าย

เขาเล็งฝ่ามือขวาไปที่ฝูงมอนสเตอร์ ลูซิเฟอร์ทําการโจมตีครั้งแรก

 

สายฟ้าปรากฏขึ้นใกล้มือของเขาและพุ่งเข้าหาพยัคฆ์เงินที่กําลังวิ่งอยู่ข้างหน้าทันที!

 

ตอนที่ 72: ความลึกลับของพลังแห่งการ สลายตัว

 

ลูซิเฟอร์มีมือเพียงข้างเดียว ในขณะนั้นที่มืออีกข้างของเขาถูกตัดขาดออก เนื่องจากการโจมตีของอินทรีย์คิเมร่า มือของเขาดูเหมือนจะงอกขึ้นใหม่ เนื่องจากการหายของตัวเขา

 

ลูซิเฟอร์ใช้มือที่เหลือของเขายิงสายฟ้าไปทางอินทรีย์คิเมร่าโดยตั้งใจจะฆ่ามันในทันที

 

อินทรีย์คิเมร่ากระพือปีกต้านลมพลางเคลื่อนที่ไปด้านข้าง เพื่อหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย ความเร็วมันดูเร็วกว่ามาก สายฟ้าสีดําพุ่งผ่านอินทรีย์คิเมร่าโดยพากผ่านปีกไปเพียงไม่กี่นิ้ว

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันเหลือเชื่อของสายฟ้าที่เพิ่งผ่านพาดไป อินทรีย์คิเมร่าก็กรีดร้องด้วยความโกรธ

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

เสียงของมันคมมากจนทําให้หูของลูซิเฟอร์เจ็บ

 

ลูซิเฟอร์มั่นใจว่าถ้าเขาอยู่ใกล้อินทรีย์คิเมร่ามากกว่านี้ หูของเขาคงจะมีเลือดออกเพราะเสียงที่แหลมคมนั้น โชคดีที่ตอนนี้มือของเขาหายดีแล้ว ทําให้เขารู้สึกสมบูรณ์อีกครั้ง

 

เมื่อมองดูอินทรีย์คิเมร่าอ้าปากอีกครั้ง เขาก็รู้ว่ากําลังจะเกิดอะไรขึ้น มันจะเป็นการโจมตีอีกครั้งของลําแสงเลเซอร์สีขาวนั่น

 

เขาไม่อยากถูกโจมตีในการโจมตีครั้งนี้อีก ลูซิเฟอร์ชี้มือทั้ง 2 ข้างไปทางอินทรีย์คิเมร่าและยิงสายฟ้า 2 ลูกพร้อมกัน

 

อินทรีย์คิเมร่าก็โจมตีเช่นกัน โดยยิงลําแสงสีขาวไปทางลูซิเฟอร์

 

สายฟ้าทั้งสองปะทะกับลําแสงสีขาว ขณะที่พวกมันเดินหน้าต่อไปราวกับพลังธรรมชาติที่ไม่มีใครหยุดยั้ง ในที่สุดก็กระทบกับปีกของอินทรีย์คิเมร่าที่พยายามจะหลบในนาทีสุดท้าย

 

หลุมขนาดใหญ่ 2 รูถูกทิ้งไว้ที่ปีกซ้ายของอินทรีย์คิเมร่า ขณะที่มันตกลงมาที่พื้นและสูญเสียการควบคุม

 

แม้ว่าสายฟ้าฟาดกระทบกับอินทรีย์คิเมร่า แต่ก็ไม่ได้หยุดลําแสงสีขาวจากนั้นมันก็กระแทกเข้าที่ท้องของลูซิเฟอร์ด้วย หลุมกว้าง 3 นิ้วถูกทิ้งไว้ในท้องของเขา ขณะที่ลําแสงส่องผ่าน

 

ลูซิเฟอร์ก็คุกเข่าลง ในขณะที่เลือดไหลบนพื้นสกปรก ก่อนที่ร่างกายของเขาจะเริ่มกระบวนการรักษา

 

เขารู้สึกอ่อนแอไปทั้งร่างกาย เมื่อเลือดไหลออกจากร่างกาย การมองเห็นของเขาพร่ามัวทําให้เขามองไม่เห็นอย่างชัดเจน เขาเห็นเพียงความพร่ามัวตกกระทบพื้นเบื้องหน้าเขา

 

ลูซิเฟอร์วางฝ่ามือลงบนพื้น เขาพยายามดันร่างกายของเขาให้ลุกขึ้นยืน แต่เขาตระหนักว่ามือของเขาสั่นเพราะความอ่อนแอ เป็นเพราะเขาไม่ได้กินอาหารอย่างถูกต้องหรือไม่? หรือเขาใช้พลังของเขามากเกินไปเมื่อเร็ว ๆ นี้? เขาไม่เข้าใจ

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจมันอีกต่อไป เขากัดฟันขณะดันตัวขึ้นและยืนขึ้น

 

ท้องของเขายังมีรูอยู่ แต่ตอนนี้มันเล็กลงมาก ดูเหมือนว่าพลังของการรักษาของเขาจะได้ผลเต็มที่ และเขาจะหายเป็นปกติภายในไม่กี่วินาที

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจบาดแผลของเขา เขาเดินไปทางอินทรีย์คิเมร่า การมองเห็นของเขายังคงพร่ามัว แต่เขาสามารถเดาได้ว่าอินทรีย์คิเมร่าอยู่ข้างหน้าเขา

 

อินทรีย์คิเมร่ายังยืนขึ้นด้วย 2 เท้าที่เหมือนนกอินทรีย์ของมัน หัวสิงโตของมันได้จ้องไปทางลูซิเฟอร์ ขณะที่อ้าปากกว้าง เสียงคํารามอันยิ่งใหญ่ออกจากปากของมัน ดูเหมือนมันกําลังพยายามข่มขู่ลูซิเฟอร์ แต่ก็ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย

 

เมื่อต้องเผชิญกับความตายหลายครั้ง ลูซิเฟอร์ได้พัฒนาจิตใจของเขาดั่งสิงโต เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อยขณะเดินไป หาอินทรีย์คิเมร่า

 

เมื่อเห็นนกอินทรีย์คิเมร่าไม่โจมตีด้วยเลเซอร์นั้นอีก เขาก็ตระหนักว่ามันอาจไม่สามารถโจมตีได้ในตอนนี้ ลูซิเฟอร์โจมตีโดนเส้นประสาทของมันหรือไม่? เขาไม่ทราบสาเหตุ แต่เขาแน่ใจว่ามันจะถูกโจมตีในตอนนี้ หากทําได้

 

อินทรีย์คิเมร่าเริ่มวิ่งเข้าหาลูซิเฟอร์ด้วยขาเล็กๆของมัน ปากของมันอ้ากว้างราวกับรอที่จะผ่าเนื้อของลูซิเฟอร์เมื่อมันเข้ามาใกล้เขา

 

อย่างไรก็ตามลูซิเฟอร์ไม่ยอมให้อินทย์รีคิเมร่าเข้าใกล้ ในขณะที่เขายกมือขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยถูกฟันมาก่อนในการโจมตีครั้งแรกของอินทรีย์คิเมร่า

 

“แกสมควรตาย” เสียงที่ฟังดูเหมือนมาจากส่วนลึกของนรก เล็ดลอดจากปากของลูซิเฟอร์ขณะที่เขาประกาศโทษประหารชีวิตแก่มัน

 

มันฟังดูเหมือนบทกวีที่ยุติธรรมที่จะทําลายนกอินทรีย์ด้วยมือที่อินทรีย์นั้นทําลายโดยไม่มีเหตุผลเลย

 

ทันทีที่เขาพูด สายฟ้าสีดําก็ออกจากมือของเขาและเข้าไปในร่างกายของอินทรีย์คิเมร่าทางปากที่เปิดอยู่ของมัน

 

อินทรีย์คิเมร่าเสียชีวิตอย่างเจ็บปวด เนื่องจากร่างกายของมันถูกไฟไหม้และถูกไฟฟ้าดูดจากภายใน ร่างของมันล้มลงกับพื้น ขณะที่เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวหยุดลง

 

ท้องของลูซิเฟอร์หายเป็นปกติแล้ว และการมองเห็นของเขาก็กลับมาเป็นปกติเช่นกัน แต่เขาก็ยังรู้สึกอ่อนแอด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

เมื่อเห็นอินทรีย์คิเมร่าที่ได้ตายแล้ว ลูซิเฟอร์ก็เดินเข้าไปใกล้และ นั่งลงตรงหน้ามัน

 

เขาค่อยๆ เอื้อมมือขวาของเขาไปแตะหัวของอินทรีย์คิเมร่า

 

เมื่อนิ้วของเขาสัมผัสร่างกายของอินทรีย์คิเมร่ามันเริ่มสลายตัวและสลายตัว ซึ่งลูซิเฟอร์สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามทําความเข้าใจกับพลังของการเสื่อมสลายของเขาให้ดีขึ้น

 

ลูซิเฟอร์มองดูร่างของอินทรีย์คิเมร่าที่เสื่อมสลายลงต่อหน้าต่อตาเขา เขาสังเกตเห็นร่างของอินทรีย์คิเมร่าที่กําลังกลายเป็นเถ้าถ่าน แต่แม้หลังจากกระบวนการทั้งหมดนี้เสร็จสิ้น เขาก็ยังไม่ลุกขึ้นยืน

 

“ฉันพูดถูก ฉันรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นทุกครั้งที่ใช้พลังของการเน่าเปื่อยกับใครบางคน ราวกับว่าพลังชีวิตของพวกเขาถูกดูดซับ โดยร่างกายของฉัน นี่เป็นความจริงหรือเป็นเพียงความเข้าใจผิดของฉัน” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะมองดูขี้เถ้าที่อยู่ข้างหน้าเขา “ฉันไม่รู้สึกอ่อนแออีกต่อไปแล้ว”

 

เขาสัมผัสได้ถึงพลังใหม่ที่พุ่งทะยานอยู่ภายในร่างกายของเขา แม้ว่าจะดูเหมือนเพียงเล็กน้อย ซึ่งยากต่อการสังเกตหากบุคคลนั้น ไม่ได้ดูอย่างระมัดระวังเพียงพอ ลูซิเฟอร์เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน 2-3 ครั้ง

 

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามันเป็นความเข้าใจผิด แต่ตอนนี้เขาใช้พลังของการเน่าเปื่อยของเขากับอินทรีคิเมร่า ในขณะที่เขายังคงสงบสติอารมณ์ เขาสามารถเห็นมันเกิดขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ดูเหมือนว่าลูซิเฟอร์จะมีความเข้าใจผิดน้อยลง แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจ

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์กําลังคิดเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประหลาดที่เกี่ยวข้องกับพลังของเขา เขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนบนพื้น ซึ่งขี้เถ้าที่อยู่บนพื้นยังสามารถเห็นการสั่นสะเทือนของมันได้เช่นกัน

 

ด้วยใบหน้าขมวดคิ้วลึก เขาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ขณะที่หันหลังกลับ และมองไปยังทิศทางที่อินทรีย์คิเมร่ามาจากไหน

 

 

ตอนที่ 71: ที่มืออีกครั้ง

 

อินทรีย์บินไปทางลูซิเฟอร์พลางคํารามเหมือนสิงโต มันยังคงอยู่ห่างจากเขาอยู่บ้าง

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

เมื่อเห็นนกอินทรีย์ประหลาดกําลังขวางอยู่บนเส้นทางของเขา ลูซิเฟอร์ก็หยุดบินและลงมายืนอยู่บนพื้นตามเดิม ลมพัดผมของเขาเป็นคลื่น ขณะที่เขามองดูสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนนกอินทรีย์

 

เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามันคืออะไร ต่อให้พยายามคิดมากเพียงใด เขาก็จําไม่ได้ว่าเคยได้ยินสัตว์แบบนี้เมื่อครั้งยังเด็ก

 

ริมฝีปากของเขาแยกจากกันเมื่อคํา 2 คําออกมาจากปากของเขา หลังจากครุ่นคิดบางอย่าง

 

“พวกมอนสเตอร์เหรอ?”

 

เขาสามารถประกอบชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกันได้ ถ้าไม่ใช่สัตว์ อาจเป็นได้เพียงพวกที่อยู่ในดันเจี้ยนที่ซุกซ่อนอยู่

 

เขาได้รับการสอนบางอย่างเกี่ยวกับพวกมัน เมื่อเขาอยู่ในสถานที่กักกัน เขายังเคยดูรายการ Dungeon Dwellers ทางโทรทัศน์เมื่อตอนที่เขาเคยอยู่กับครอบครัวของเขา

 

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาดูรายการ Dungeon Dwellers เพราะเขาค่อนข้างหลงใหลในมัน และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยิน เกี่ยวกับการตายของครอบครัวของเขาและพบว่าพวกเขาถูกฆ่าโดยพวกสัตว์ในดันเจี้ยนที่พวกเขาไปสํารวจ

 

เขาเกลียดพวกสัตว์ในดันเจี้ยน และเมื่อเขาอยู่ในสถานที่กักกัน ความฝันของเขาคือการเป็นเหมือนพ่อแม่ของเขาและทําลายสัตว์ในดันเจี้ยนทั้งหมด

 

เมื่อเขาอาศัยอยู่ในสถานที่นี้ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะเกลียดใครซักคนมากเท่ากับพวกสัตว์ในดันเจี้ยน น่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นจริง เขาเริ่มเกลียดมนุษย์มากพอๆ กันกับพวกมัน

 

เขามองดูนกอินทรีย์คิเมร่าบินอยู่เหนือหัวของเขาและจากไปคิเมร่าไม่แม้แต่จะมองเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจที่จะตามมันไปเช่นกัน เขาได้ตัดสินใจที่จะปฏิบัติต่อมนุษย์และพวกสัตว์ในดันเจี้ยนเหมือนกัน เขาจะไม่ไปตามพวกมันไปจนกว่าเขาจะรู้สึกเช่นนั้น เป้าหมายปัจจุบันของเขาคือการทําลายโรงงาน และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการมุ่งเน้นไปกับมัน

 

เท้าของเขาแตะพื้น ขณะที่ร่างกายของเขาเริ่มลอยขึ้นไปในอากาศ

 

เขาเริ่มบินไปข้างหน้า และเมื่อเขาเริ่มออกตัว เขารู้สึกเหมือนกําลังตกอยู่ในอันตราย

 

เมื่อหันหลังกลับอย่างกะทันหัน เขาสังเกตเห็นว่า ขณะนี้อินทรีย์มีท่าทีแปลก ๆ กําลังบินมาหาเขา เห็นได้ชัดว่ามันหันกลับมาทางเขา

 

อินทรีย์คิเมร่าเปิดปากของมันและมีลําแสงออกมาจากปากของมัน

 

ใบหน้าของลูซิเฟอร์ที่กําลังตกตะลึง ขณะที่เขาเริ่มหลบการโจมตีของมัน แต่ลําแสงนั้นเร็วเกินไป เขาไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ทั้งหมด แม้ว่าเขาจะสามารถรักษาหน้าอกของเขาที่ถูกกําหนดเป้าหมายไว้ได้ แต่ลําแสงก็พุ่งเข้าชนข้อศอกของเขา โดยผ่ามือซ้ายของเขาออกเป็น 2 ส่วน ครึ่งล่างของมือซ้ายของเขาตกลงบนพื้นแยกจากเขา

 

“อีกแล้วงั้นเหรอ!”

 

ลูซิเฟอร์ร้องด้วยความหงุดหงิด เมื่อเห็นมือของเขาวางอยู่บนพื้น มันเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 2 วันที่เขาสูญเสียมือข้างหนึ่งไป เขาไม่เข้าใจ ทุกคนมีความเป็นปฏิปักษ์อะไรกับมือของเขา?

 

ด้วยความโกรธแทนที่จะวิ่งหนี เขาเริ่มบินไปทางคิเมร่า แววตาอาฆาตปรากฏอยู่ในสายตาของเขา เขาไม่ได้รําคาญที่จะรอให้มือของเขาหายดีเพราะความอยากที่จะทําลายสิ่งนั้นได้เข้าครอบงําเขา

 

 

เฮลิคอปเตอร์ทหารลงจอดในพื้นที่ว่างเปล่าภายในเมืองที่สวยงาม

 

มีคน 2-3 คนที่ก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราที่ดูมีประโยชน์เช่นกัน มีสัญลักษณ์อยู่บนหน้าอกของทุกคน ทําให้ดูเหมือนมาจากองค์กรเดียวกัน

 

ชายผมสีน้ำเงินในชุดพลเรือนเดินไปที่กลุ่มคนเพื่อต้อนรับพวกเขา

 

“ยินดีต้อนรับ มาสเตอร์แซนเดอร์” ชายผมสีฟ้ากล่าวทักทายแซนเดอร์หัวหน้าหน่วยเดลต้า

 

แซนเดอร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อนบนใบหน้าของเขา

 

“ทีม ทุกคนพร้อมมั้ยเบลค?” เขาถาม

 

“ทุกอย่างพร้อมแล้ว สมาชิกหน่วยเดลต้าของเราเข้ารับตําแหน่งแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะรู้ว่าเมืองนี้ไม่มีผู้คนและเต็มไปด้วยสมาชิกหน่วยเดลต้าหน่วยนอกเครื่องแบบ” เบลคตอบ

 

แซนเดอร์มองไปรอบๆ สนามกีฬาและเห็นสิ่งที่ดูเหมือนผู้ใหญ่สองสามคนกําลังวิ่งจ็อกกิ้ง ดูเหมือนคนธรรมดา แต่เขารู้ว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นคนของเขา

 

“ดี ถ้าเราจําไม่ผิด ลูซิเฟอร์น่าจะมาเร็วๆ นี้ เราต้องจับเขาและยุติระเบิดเวลานี้” แซนเดอร์พึมพํา ขณะหันหลังกลับ

 

“เอาเฮลิคอปเตอร์มาและคลุมมัน ฉันจะไปรอบๆ เมืองและดูการเตรียมตัวสําหรับตัวเอง” เขากล่าวพร้อมเดินจากไป

 

เบลคเริ่มติดตามเขา

 

“คุณอยู่ที่นี่—ไม่ต้องพาเราไปไหน เบลค แค่ให้แน่ใจว่า เส้นทางของเราถูกปิด ฟลูเรนและฉันจะไปเอง” แซนเดอร์กล่าวโดยไม่หันหลังกลับ เขาออกจากสังเวียนไปพร้อมกับผู้บังคับบัญชาอันดับ 2 คือ ฟลูเรน

 

 

แซนเดอร์และฟลูเรนออกจากสถานที่จอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปดูการเตรียมการที่ทีมของพวกเขาทําเสร็จแล้วในเมือง

 

พวกเขาต้องการทราบว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่ มันเป็นภารกิจที่สําคัญ พวกเขาต้องล่อลูซิเฟอร์เข้ามาในเมืองก่อนที่จะจับตัวเขา ในสายตาของแซนเดอร์ ลูซิเฟอร์เป็นศัตรูตัวฉกาจ เขาไม่รู้เกี่ยวกับความสามารถของลูซิเฟอร์มากนัก แต่ความสามารถที่เขารู้จักนั้นเพียงพอที่จะข่มขู่ใครก็ได้

 

ลูซิเฟอร์มีพละกําลังสูงสุดจากพ่อ—วอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุด เซล แอซเรล เขามีสายฟ้าของพ่อด้วย มันเห็นได้ชัดจากการที่ได้เห็นร่างของเพื่อนร่วมทีมของเขาที่ไปจับลูซิเฟอร์ที่บ้านของเขา

 

เพื่อให้เหมาะสมกับความเร็วของนักรบของพวกเขา ซึ่งสามารถใช้ความสามารถทางกายภาพของความเร็ว เขามั่นใจว่าลูซิเฟอร์อาจมีพลังแห่งลมเหมือนแม่ของเขาเช่นกัน สมมติว่าลูซิเฟอร์มีความสามารถในการเน่าเปื่อย แรงค์ S ของแม่ของเขา ลูซิเฟอร์จึงกลายเป็นตัวตนที่น่ากลัว แม้ว่าเขาจะอายุน้อยและขาดประสบการณ์ อย่างน้อยเขาก็เป็นวอร์ล็อคที่สามารถปลุกพลังได้หลายอย่าง

 

คนแบบนั้นสามารถพาคนจํานวนมากออกไปได้อย่างง่ายดาย แซนเดอร์ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับลูซิเฟอร์โดยตรงถ้าเขาสามารถหลีกเลี่ยงได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เขาวางกับดักที่ซับซ้อนนี้ไว้สําหรับลูซิเฟอร์ มันเป็นเรื่องยาก แต่เขาสามารถได้รับอนุญาตให้เข้ายึดครองเมืองทั้งเมืองเพื่อรอศัตรูที่มีศักยภาพมาได้

 

 

ขณะที่แซนเดอร์กําลังตรวจสอบการเตรียมการในเอรีกัส ลูซิเฟอร์กําลังเผชิญหน้ากับอินทรีย์คิเมร่าใกล้เมืองใกล้เคียงเพียงลําพัง

ตอนที่ 70: อินทรีย์ประหลาด

 

“มอนสเตอร์ออกจากดันเจี้ยนและพวกมันอาจจะมาที่นี่? เป็นไปได้ยังไง! ดัชนีมอนสเตอร์ไม่ควรสูงพอที่บาเรียจะหยุดทํางาน!”

 

เดียร์ดูตกใจ เมื่อได้ยินข่าว เขาปิดปากของเขา ในขณะที่คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของการโทรเริ่มพูด

 

“แล้วคนที่ปกป้องดันเจี้ยนล่ะ? พี่ชายของฉันก็ได้รับมอบหมายที่นั่นเช่นกัน! บอกฉันว่าพวกเขาปลอดภัย!” เขาตะโกนขณะที่เขาคุกเข่าลง

 

เขาแน่ใจแล้วว่าน้องชายของเขาตายแล้ว หากสัตว์ประหลาดจากไป แต่เขายังมีความหวังอยู่บ้าง

 

“พวกเขาตายกันหมดแล้ว? คุณรู้ได้ยังไง! คุณไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ! ฉันจะไปที่นั่นเพื่อตามหาพี่ชายของฉัน!”

 

“ไม่ ฉันรอไม่ไหวแล้ว เขาเป็นครอบครัวเดียวที่ฉันมี! ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาตายแบบนี้!” เขาพูดขณะตัดสาย

 

เขายืนขึ้นและเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อขณะที่เขาเริ่มวิ่ง

 

ไม่นานเขาก็มาถึงทางออกของเมืองและข้ามไป

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้เดินเร็วขึ้นมาก ในขณะที่เขายังคงครุ่นคิดบางอย่างอยู่ เขาเดินทางมาจากชายแดนเมืองเพียง 15 เมตรจนถึงขณะ

 

ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงจากข้างหลังเขา

 

เขามองย้อนกลับไปและเห็นชายผมสีเข้มกําลังวิ่งมาทางเขา

 

ใบหน้าของลูซิเฟอร์ขมวดคิ้ว เมื่อเขาเห็นสัญลักษณ์อินทรีย์แดงบนเสื้อผ้าของเขา เห็นได้ชัดว่าชายผู้นี้มาจากกลุ่มเดียวกับที่โจมตีเขา

 

“คนพวกนี้ไม่เคยเรียนรู้เลย” ลูซิเฟอร์พึมพํา ขณะยกมือขึ้นและชี้นิ้วไปทางชายผมสีเข้ม

 

เดียร์กําลังวิ่งไปที่ดันเจี้ยนเมื่อเขาเห็นลูซิเฟอร์ชี้นิ้วมาที่เขา เขาได้เห็นการต่อสู้ของลูซิเฟอร์มากพอที่จะเห็นว่าเขาอาจจะโจมตีเขา

 

“เดี๋ยวก่อน! ฉันไม่ได้ตามคุณ! ฉันกําลังพยายามไปที่ดันเจี้ยนเพื่อช่วยชีวิต”

 

เดียร์พยายามอธิบายลูซิเฟอร์อย่างเร่งรีบ แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ สายฟ้าสีดําก็พุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความเร็วราวสายฟ้า

 

เขาไม่สามารถแม้แต่จะกระพริบตา เมื่อสายฟ้าสีดําพุ่งทะลุหน้าอกของเขา ทิ้งช่องว่างที่หัวใจของเขาควรจะเป็น

 

ชายคนนั้นโพล่งออกมาเป็นเลือดเต็มปาก เขาหยุดลงคุกเข่าขณะที่เลือดไหลอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าของเขาซีดอยู่แล้ว

 

“… ช่วยพี่ชายฉันด้วย” เดียร์พูดจบก่อนจะล้มลง เผชิญหน้าก่อนจะตาย

 

“ปกป้องพี่?” ลูซิเฟอร์ทวนคําพูดของชายผู้นั้นด้วยสีหน้าสับสนแต่เขาไม่ได้คิดนาน ไม่สําคัญหรอกว่าชายคนนั้นต้องการให้เขาทําอะไร เขาจะไม่มีวันเป็นหุ่นเชิดของใครอีก

 

เขาใช้เวลา 5 ปีที่ผ่านมาในชีวิตเพื่อฟังผู้คน ทั้งการได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในที่สุด ความตายคือสิ่งที่เขาได้รับจากการรับฟังคนอื่น จึงทําให้เขาจะไม่ทําในสิ่งที่คนอื่นต้องการให้เขาทําเว้นแต่เขาจะต้องการ

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจชายคนนั้น เขาก็เดินไปตามทางของเขา

 

รถหุ้มเกราะประมาณ 10 คันกําลังแข่งกันทั่วเมือง พวกเขากําลังมุ่งหน้าไปยังลูซิเฟอร์ ในขณะนี้แต่ไม่ได้ไปเพื่อจับตัวเขาไว้

 

รถเหล่านี้เป็นรถหุ้มเกราะที่กิลด์อินทรีย์แดง เก็บไว้ในกรณีที่พวกเขาต้องการเผชิญหน้ากับฝูงชนในคุกใต้ดิน

 

ซาเล่ รักษาการหัวหน้ากิลด์อินทรีย์แดงกําลังนั่งอยู่ในรถที่นํากองคาราวาน

 

รถวิ่งไปที่ทางออกของเมืองแข่งกับเวลาเพื่อหยุดสัตว์ประหลาดก่อนที่พวกมันจะมาถึงเมือง หากพวกมันไปถึงเมือง ความหายนะจะมหาศาล

 

“ฉันหวังว่าชายคนนั้นจะเดินทางต่อไปและจะไม่มาขวางทางเราฉันไม่อยากเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายนั้นอีกในขณะที่ต้องเผชิญหน้ากับคนและสัตว์ในคุกใต้ดินพร้อมๆ กัน” นักเวทย์ที่ขับรถอยู่พูดขึ้น พลางถอนหายใจ

 

เขาได้เห็นการต่อสู้ที่คนครึ่งหนึ่งเสียชีวิต เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่ไม่ยอมตาย แม้หลังจากถูกลูกแก้วพลังงานของรองหัวหน้ากิลด์โจมตี เขาก็ยังสามารถยืนตัวตรงและฆ่าทุกคนได้

 

ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาอาจจะต้องตายหลายครั้ง เมื่อเผชิญหน้ากับกิลด์ แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนสัตว์อมตะที่ไม่เคยตาย

 

“ไม่เอาน่า เวนสัน จะดีกว่าถ้าผู้ชายคนนี้ไม่มีความสามารถในการรักษาที่ลึกลับเช่นนี้ เราน่าจะทุบเขาแทนที่จะกลัวเขา” อีกคนพูดแทรก

 

“ไม่ใช่แค่การรักษา ถ้าจําไม่ผิด สายฟ้าสีดําของเขาก็เป็นความสามารถระดับ S เช่นกัน สําหรับการบินของเขานั่นน่าจะเป็นระดับ A อย่างน้อยเขาก็เป็นนักเวทย์ที่

สามารถปลุกพลัง 3 อย่างออกมาได้ ตอนนี้ที่ฉันนึกถึง ดูเหมือนว่าสายฟ้าสีดํานั้นจะมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่มีพลังนั้น คนๆนั้นคือวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา เซล แอซเรล” ซาเล่พึมพําด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม

 

“สุดยอดวอร์ล็อคเซลน่ะเหรอ? เมื่อคุณพูดถึงมัน ใช่แล้ว เขามีสายฟ้าสีดํา” ถอนหายใจ “นี่ไม่ได้หมายความว่าเด็กชายคนนั้นมีศักยภาพที่จะเป็นวอร์ล็อคเหมือนสุดยอดวอร์ล็อคเซลหรือเปล่า” นักเวทย์เวนสันถามซาเล่

 

“ไม่ ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นสุดยอดวอร์ล็อคเซลได้” ซาเล่ส่ายหัวตอบ เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “ด้วยความสามารถที่เด็กคนนี้แสดงออกมา เขาสามารถเป็นวอร์ล็อคที่ยิ่งใหญ่กว่าได้ หากเขาไม่หยุดยั้ง”

 

หมัดของเขากําแน่นด้วยความหงุดหงิดเพราะเขาเองก็ไม่ชอบสิ่งที่เขาพูด สุดยอดวอร์ล็อคเซลเป็นไอดอลของเขาในขณะที่ลูซิเฟอร์นั้นไม่สามารถเป็นอย่างอื่นไปได้มากกว่าคําว่าศัตรูของเขา

 

การวางศัตรูไว้บนแท่นที่สูงกว่าไอดอลของเขาเป็นสิ่งที่ยากที่สุดสําหรับเขา แต่เขากําลังบอกว่าเขารู้สึกอย่างไรจริงๆ

 

ลูซิเฟอร์มีความสามารถของสุดยอดวอร์ล็อค ในขณะที่เขามีความสามารถที่ไม่เคยมีมาก่อน ความสามารถในการรักษาบาดแผลไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหน นั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าเย้ยหยัน

 

ในโลกนี้มียาเม็ดและสิ่งอื่น ๆ ที่สามารถเร่งการรักษาได้ แต่ราคาแพงที่สุดเท่าที่จะทําได้ แม้แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถรักษาใครสักคนได้เร็วเท่ากับที่ลูซิเฟอร์รักษาตัวเอง

 

ยังมีหมอบางคนที่สามารถรักษาคนอื่นได้ แต่ต้องแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บของตัวเอง มันเหมือนกับการรักษาให้บาดแผลมีความอันตรายน้อยลงและเหมือนการถ่ายบาดแผลของคนอื่นให้ตนเองบนร่างกายของพวกเขา และถึงแม้จะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงก็ตาม ไม่มีความสามารถเช่นการรักษาของลูซิเฟอร์ที่เคยเห็นในโลกนี้

 

ด้วยความสามารถแบบนั้น การต่อสู้กับกองทัพของแวเรียนท์ในสายตาของซาเล่จึงไม่น่าแปลกใจ

 

หลังจากฆ่าชายคนนั้นแล้ว ลูซิเฟอร์ก็หมดความงุนงงและความคิดที่น่าเศร้าของเขาแล้ว ราวกับว่าการฆ่าใครสักคนทําให้อารมณ์ของเขาดีขึ้น

 

เขาหยุดเดินเหมือนหอยทากและบินต่อไปยังเมืองถัดไป

 

เขายังคงบินไปโดยสูงกว่าพื้นดินไม่กี่เมตร แต่การควบคุมของเขาดีขึ้น การต่อสู้ครั้งสุดท้ายคือการต่อสู้ที่เขาใช้การบินอย่างเต็มที่ ซึ่งเพิ่มการควบคุมความสามารถของเขาในระดับ 1

 

“หืม? นั่นอะไรนะ?”

 

ลูซิเฟอร์บินตรงไปข้างหน้า เมื่อเขาสังเกตเห็นบางสิ่งกําลังมาทางเขา

 

ดูเหมือนนกอินทรีย์ แต่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ มันค่อนข้างใหญ่กว่าลูซิเฟอร์ สิ่งที่ทําให้เขาตกใจจริงๆ ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เป็นความจริงที่ว่านกอินทรีย์ตัวนี้มีหัวเป็นสิงโต

 

ตอนที่ 69: สัญญาณแห่งความหวัง

 

ฝนที่ตกหนักได้หยุดลงแล้ว ท้องฟ้าเพิ่งเริ่มแจ่มใสปล่อยให้แสงแดดส่องผ่าน

 

ลูซิเฟอร์กําลังเดินผ่านเมือง และเขาเกือบจะใกล้ทางออกแล้วเขาไม่ต้องการใช้เวลาที่นี่มาก ไปกว่านี้แล้วเขากินอาหารไปบ้างแล้ว เพื่อสนองความหิวของเขาเสื้อผ้าของเขายังใหม่ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน

 

ขณะที่เขาเดินไปตามถนน เขาไม่เห็นใครเลยไม่ชัดเจนว่าประชาชนได้รับคําเตือนจากกิลด์อินทรีย์แดงหรือผู้คนกลัวความโกลาหลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีใครออกจากบ้านแม้ฝนจะหยุดตก

 

แม้แต่คนที่อาศัยอยู่ห่างไกลจากความวุ่นวายก็ยังซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกเขา

 

พระอาทิตย์ที่ส่องแสงจ้ารังสีของแสงแดดสะท้อนจากน้ําที่รวบรวมไว้บนพื้นดินเป็นประกายในที่สุด

 

เสื้อผ้าใหม่ของลูซิเฟอร์ยังเปียกอยู่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกมันกําลังจะแห้งเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่น

 

“อย่ากังวลไป มันเป็นแค่น้ําเล็กน้อยถ้าสวมเสื้อผ้าเปียกๆ ก็ไม่ตายหรอก!”

 

“อย่ากังวลไปเลย เด็กน้อย เราทําเพื่อประโยชน์ของคุณเรากําลังพยายามปลุกพลังแฝงของคุณ ในการทดสอบของเราบางคนปลุกพลังของพวกเขาหลังจากยืนอยู่กลางสายฝน เราเคยไปมาแล้ว คิดว่ามันอาจใช้ได้ผลกับคุณเช่นกัน แค่ยืนอยู่กลางสายฝนเทียมนี้อีก 12 ชั่วโมง เราจะหยุดถ้ามันไม่ได้ผล

 

“ฉันรู้ว่ามันยากสําหรับคุณ แต่คิดถึงพ่อและแม่ของคุณพวกเขาต่อสู้เพื่อมนุษยชาติและช่วย ชีวิตคนมากมายก่อนที่จะเสียชีวิตคุณไม่ต้องการเป็นฮีโร่เหมือนพวกเขาเหรอ ไม่อยาก ให้พ่อแม่ภูมิใจไหม คุณไม่ต้องการที่จะช่วยมนุษย์ผู้บริสุทธิ์และอ่อนแอที่พึ่งพาคุณเหรอ?”

 

“คุณรู้ว่ามนุษย์เป็นสายพันธุ์ที่ดีที่สุด พวกเขาอ่อนโยนและเอาใจใส่คุณไม่ต้องการให้พวกเขา ถูกกําจัดออกจากการดํารงอยู่ใช่หรือไม่ เราต้องการฮีโร่เช่นคุณมากกว่านี้ เพื่อเป็นสัญญาณแห่งความหวังสําหรับเรา โปรดอดทนกับความไม่สบายนิดหน่อย ฉันแน่ใจว่าอีกไม่นาน คุณจะปลุกพลังของคุณได้”

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินผ่านถนนที่เปียกโชกในเมืองด้วยเสื้อผ้าเปียกเขาก็อดนึกถึงอดีตของเขาไม่ได้

 

เขาใช้เวลา 5 ปีในศูนย์วิจัย เขาอยู่ที่นั่นมาครึ่งชีวิตแล้วนานกว่าเวลาที่เขาจําได้กับพ่อแม่เสียอีก

 

เมื่อเขาอยู่ที่บ้าน แม่ของเขามักจะทําให้เขาสบายใจเหมือนสมบัติชิ้นเล็กๆ อันล้ําค่า เธอไม่ เคยปล่อยให้เขาอึดอัดอย่าว่าแต่ให้เขาสวมเสื้อผ้าเปียก เธอไม่ปล่อยให้เขาอยู่ในห้องเย็นเพราะกลัวว่าเขาจะป่วย พ่อของเขายังห่วงใยเขามากและปกป้องเขาจากทุกสิ่ง

 

ครั้งแรกที่เขาจําได้ นั่นคือการที่เขาได้สวมเสื้อผ้าเปียกๆครั้งแรกในปีที่ 2 ที่เขาอยู่ในโรงงาน

 

ปีแรกของเขาในโรงงานนั้นสงบสุขกว่ามาก เนื่องจากทุกคนเชื่อว่าเขากําลังจะฟื้นขึ้นมาในไม่ช้านี้ เขาเป็นลูกชายของวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์ แม้ว่ามันจะไม่เหมือนกับบ้าน แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างเลวร้าย

 

ปีที่ 2 เป็นช่วงที่สิ่งต่างๆ เริ่มเปลี่ยนไป และพวกเขาก็เริ่มพยายามทําสิ่งต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นศักยภาพของเขาและช่วยให้พลังของเขาตื่นขึ้น

 

มันเป็นปีที่ 2 ของเขาที่นั่น และเขาอายุแค่ 7 ขวบ ตอนนั้นเขาถูกบังคับให้ต้องอยู่กลางสาย ฝนเทียม 18 ชั่วโมง เขาถูกบังคับให้ยืนตลอดทั้งวัน พวกเขาบอกเขาว่าเพื่อมนุษยชาติพวกเขาบอกว่าเพื่ออนาคต

 

ลูซิเฟอร์ทนทุกข์เพียงลําพังท่ามกลางสายฝนในขณะที่เขาหวังว่าวันหนึ่งเขาจะช่วยให้มนุษยชาติต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่เริ่มปรากฏขึ้นภายในโลก

 

มันกลับมาเมื่อเขายังมีศรัทธาในมนุษยชาติ เมื่อเขามีศรัทธาในการเลือกพ่อแม่ของเขาที่ จะปกป้องมนุษย์ ย้อนกลับไปตอนที่เขายังเชื่อว่ามนุษย์เป็นคนดีและพวกเขาดูแลกันและกันอย่างดี เป็นตอนที่เขายังเชื่อว่าเขาสามารถไว้วางใจผู้คนได้

 

เขาไม่รู้ว่าเพียง 3 ปีหลังจากนั้น คนเหล่านี้จะฆ่าเขาในห้องทรมานเพราะเขาไร้ประโยชน์ สําหรับเป้าหมายของพวกเขา เขาถูกฆ่าโดยมนุษย์คนเดียวกันที่ต้องการให้เขาช่วยมนุษยชาติ มันเป็นเรื่องน่าขัน

 

” คุณต้องการให้ฉันช่วยมนุษยชาติ งั้นเหรอด็อกเตอร์ ที่นั้นคือแสงแห่งความหวัง ที่นั้น คือที่ที่ฉันฝันถึงอนาคตและที่ที่ความฝันของฉันพังทลาย ที่นั้นคือที่ที่ฉันอาศัยอยู่ครึ่งชีวิต ที่นั้น ก็คือ ที่ที่ฉันตาย”

 

เท้าของลูซิเฟอร์สาดน้ําบนพื้น ขณะที่เขาเดินไปข้างหน้า ดูเหมือนเขาจะพูดกับตัวเอง ใบหน้า ของเขาไม่มีความสุขหรือเศร้า

 

“ตั้งแต่ฉันตายที่นั่น ทําไมสถานที่นั้นถึงยังมีชีวิตอยู่ ตั้งแต่ฉันถูกทิ้งทําไมสถานที่นั้นถึงยังยืนอยู่ได้ ตั้งแต่ฉันถูกฆ่า ทําไมพวกคุณถึงยังมีชีวิตอยู่?” เข้าพิมพ์

 

“ไม่ยุติธรรม ไม่ยุติธรรมเลย! พวกเจ้าทุกคนก็ต้องตายเหมือนกัน! ถ้าทําได้ก็กลับมา ถ้าทําได้ ก็จงมาทรมานแบบฉัน!

 

แม้ว่าเสื้อของเขาจะดูแห้ง แต่ก้นกางเกงของเขายังคงเปียกและขึ้น ยิ่งเขาเดินผ่านแอ่ง น้ําบนถนนโดยไม่สนใจที่จะเดินไปรอบๆ

 

จิตใจของเขาหมกมุ่นอยู่กับการคิดแก้แค้น ดังนั้นเขาจึงไม่สนเรื่องอื่นใด นับประสานกระเซ็น 2-3 หยด

 

ลซิเฟอร์ใช้เวลาไม่นาน ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากเมืองอิเคร์โก้ในที่สุด

 

สมาชิกกิลด์อินทรีย์แดงที่คอยจับตาดูลูซิเฟอร์เห็นเขาออกไปเขาเรียกผู้สูงศักดิ์ให้มาหาทันที

 

“เขาเพิ่งก้าวออกจากเมือง” เขากล่าว “เขาไปแล้ว”

 

เขารอฟังคําตอบและเสียงเชียร์แห่งความสุขจากอีกฝ่ายหนึ่งแต่สิ่งที่เขาได้ รับการต้อนรับกลับเป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คาดหวังเลย

 

“อะไรนะ คุณหมายความว่ายังไงที่คุณกําลังไป ห้ะ?” เขาอุทานออกมาด้วยความตกใจซึ่งมัน ทําให้เขาตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเขาได้ยิน

 

ตอนที่ 68: อีกไม่นาน..

 

เมื่อต้องเผชิญกับวอร์ล็อค APE นั้นความคุกคามจึงเพิ่มขึ้นมากกว่าสมาชิกกิลด์ปกติธรรมดา นอกจากนี้กิลด์อินทรีย์แดงยังเป็นกิลด์ที่ต่ำที่สุดในรายชื่อกิลด์อันดับสูงสุดในประเทศนี้ และนั่นก็เนื่องมาจากผู้นําที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา

 

หัวหน้าของพวกเขาบังเอิญอยู่นอกเมือง ในภารกิจสํารวจ ถ้าไม่มีกิลด์มาส เตอร์ พวกเขาก็อ่อนแอกว่ามาก

 

ในทางกลับกัน กิลด์ 2 อันดับแรกไม่เพียงแต่มีผู้นําที่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่ยังมีสมาชิกที่แข็งแกร่งอีกด้วย ไม่มีอะไรมากที่จะบอกว่าลูซิเฟอร์ค่อนข้างโชคดี ที่เขาเผชิญหน้ากับกิลด์อินทรีย์แดงก่อน และไม่ใช่ 2 กิลด์ชั้นนําของสมาคมฮันเตอร์หรือกลุ่มของ APE

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินผ่านเมือง มีคนจับตาดูเขาอยู่แต่ไกล

 

บุคคลนั้นสวมชุดของกิลด์อินทรีย์แดง เขาอยู่ห่างจากลูซิเฟอร์มากกว่า 100 เมตร กําลังซ่อนตัวอยู่หลังอาคาร แต่เขามองเห็นลูซิเฟอร์ได้ชัดเจน เป็นชายผมดําที่ดูมีรอยแผลเป็นบนใบหน้า

 

ชายผู้นี้เป็นแวเรียนท์เช่นกัน แต่เขาไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ เขาเป็นนักรบที่มีความสามารถในการมองเห็นทางกายภาพ ดวงตาของเขาสามารถทําหน้าที่เหมือนกล้องส่องทางไกล ทําให้เขามองเห็นได้ไกลและกว้าง เขาสามารถมองเห็นในเวลากลางคืน

 

ส่วนใหญ่เขาใช้มันเพื่อสอดแนม

 

“ดูเหมือนว่าเขาจะออกไปจากที่นี่ ถ้าเขายังคงอยู่บนเส้นทางนี้ ในอีกครึ่งชั่วโมง เขาจะออกจากเมือง” เดียร์ชายผมดํากล่าวกับใครบางคนทางโทรศัพท์

 

เขาถูกส่งมาที่นี่เพื่อจับตาดูลูซิเฟอร์และบอกชายที่ทําหน้าที่เป็นหัวหน้ากิลด์อินทรีย์แดงชั่วคราวเกี่ยวกับที่อยู่ของลูซิเฟอร์

 

หัวหน้าชั่วคราวคนใหม่ของกิลด์อินทรีย์แดงคือผู้วิเศษที่มีพลังธาตุระดับ A ชื่อของเขาคือซาเล่

 

“เขาจะไปแล้วเหรอ ดีแล้ว ในที่สุดสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็จะจากไป ตราบใดที่เขาไม่มาที่นี่เพื่อฆ่าเรา เราน่าจะโอเค จับตาดูเขาไว้ บอกฉันว่าเขาทําอะไรลงไป ที่สําคัญกว่านั้น อย่าให้เขาเจอคุณ” ซาเล่บอกเดียร์ก่อนจะตัดสาย

 

ซาเล่หันกลับมามองชายผมสีฟ้าที่ดูเหมือนจะรับสายเช่นกัน

 

“ซาเล่! ดูเหมือนฉันจะโทรหากิลด์มาสเตอร์ไม่ได้ เขาต้องอยู่ในดันเจี้ยนแน่ๆ! เราควรทํายังไงดี?” ชายผมสีฟ้าถามซาเล่

 

“ลืมมันไปเถอะ ไปโทรหา APE แล้วบอกพวกเขาว่าเราทําผิดพลาด เราจะถูกลงโทษที่ไม่บอกพวกเขาตั้งแต่แรก แต่ดีกว่าปล่อยให้เด็กคนนั้นเป็นอิสระ!” ซาเล่พูดพร้อมกับถอนหายใจ

 

“ขอหมายเลข APE มาให้ฉัน” เขาบอกชายผมสีฟ้า

 

ตามที่ซาเล่พูด โทรศัพท์ที่ฐานก็เริ่มดังขึ้น

 

เขาเดินเข้าไปใกล้โทรศัพท์และรับสาย

 

“ฮัลโหล?”

 

“ส่งความช่วยเหลือ! เราคิดผิด! ดัชนีสัตว์ประหลาดข้ามระดับอันตรายแล้ว! สัตว์ประหลาดออกมา! พวกมันกําลังฆ่าทุกคนที่นี่! อ้า “

 

คนที่อยู่อีกฝั่งของสายดูหวาดกลัวราวกับว่าเขากําลังตกอยู่ในอันตราย ก่อนที่เขาจะพูดได้มากกว่านี้ สายนั้นก็ถูกตัดไป

 

“เกิดอะไรขึ้น ทําไมมันดูจริงจัง”

 

ชายผมน้ําเงินเห็นซาเล่มองโทรศัพท์อย่างตกใจ เขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ใครอยู่ในสาย?

 

“ซาเล่ บอกฉันที! ใครโทรมา?” เขาถามอีกครั้ง

 

“ทหารยามที่เราทิ้งไว้นอกดันเจี้ยนใกล้เมืองของเรา พวกเขาอาจจะตายแล้ว ระดับดัชนีสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยนข้ามระดับวิกฤต บาเรียในดันเจี้ยนหายไปแล้ว” ซาเล่กล่าวอย่างเฉยเมย “สัตว์ประหลาดออกมา!”

 

“นั่นไม่ควรเป็นอย่างนั้น เรารู้ความเร็วของการสืบพันธุ์ของดันเจี้ยน เราควรจะมีเวลามากกว่า 1 เดือนกว่าที่ดัชนีมอนสเตอร์จะถึงระดับอันตราย นั่นคือตอนที่เราควรเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อล่าสัตว์ เป็นไปได้อย่างไร ทําไมมันเร็วขนาดนี้?!” ชายผมสีน้ำเงินอุทานด้วยสีหน้าไม่เชื่อ

 

“ไม่รู้ ทั้งหมดที่ฉันรู้คือเราต้องไปที่นั่นและล่าสัตว์ประหลาด ก่อนที่พวกมัน จะมาถึงเมืองและเริ่มต้นการฆ่าพลเรือน!” ชาเล่กล่าว

 

“แต่… นายรู้ว่าดันเจี้ยนอยู่ที่ไหน! เราจะต้องละเลยเด็กคนนั้นเพื่อไปที่ดันเจี้ยน แต่ถ้าเขากลับมาเขาจะฆ่าพวกเราทั้งหมดก่อนที่เราจะออกจากเมืองได้” ชายผมสีฟ้าพูด ขณะจับศีรษะที่กําลังปวดหัวอยู่ในขณะนี้

 

เขาคิดอะไรไม่ออก มันเป็นสิ่งสําคัญสําหรับพวกเขาที่จะจากไป หากไม่เป็น เช่นนั้น สัตว์ประหลาดจะรุมล้อมเมืองภายในครึ่งชั่วโมง

 

แต่ถ้าพวกเขาจากไป พวกเขามีความเสี่ยงที่จะถูกฆ่าโดยลูซิเฟอร์ ซึ่งกําลังเดินไปทางดันเจี้ยนเช่นกัน

 

ในส่วนอื่นของประเทศยูลิเซียม มีศูนย์วิจัยที่มีความสําคัญอย่างสูงต่อรัฐบาล

 

มันคือศูนย์วิจัยดิลเลียน ซึ่งไม่มีที่ไหนใกล้กับเมืองเอรีกัสที่ลูซิเฟอร์กําลังจะไป

 

ภายในสถานที่นั้น ชายในชุดคลุมสีขาวกําลังเดินอยู่ในทางเดินที่ว่างเปล่า

 

ไม่นานเขาก็มาถึงสุดทางเดิน ซึ่งมีเซ็นเซอร์ฝ่ามือ เขาวางฝ่ามือลงบนมัน

 

หลังจากสแกนฝ่ามือเสร็จแล้ว ผนังโลหะที่กั้นทางเดินก็เลื่อนไปด้านข้าง เผยให้เห็นเส้นทาง

 

ชายคนนั้นก้าวไปข้างหน้าก่อนที่กําแพงจะกลับสู่ตําแหน่งเดิม

 

หลังจากนั้นไม่กี่เมตร เขาก็ถึงจุดสิ้นสุดอีกครั้ง ซึ่งมีเซ็นเซอร์ที่สแกนดวงตาของเขา

 

เขาผ่านการสแกนอีกครั้งและเดินต่อไปในเส้นทางของเขา

 

หลังจากเจอสิ่งกีดขวางเช่นนี้อีก 3 ครั้ง ในที่สุดชายคนนั้นก็มาถึงห้องใหญ่

 

ห้องนั้นว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง ที่นี่ไม่มีมนุษย์… อย่างน้อยก็ไม่มีใครที่เดินอยู่

 

ภายในห้องนี้ มีค่าเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น นอกเหนือจากเครื่องจักรทั้งหมด

 

มันคือภาชนะแก้วทรงกระบอกขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของเหลวกึ่งโปร่งใส

 

ภายในภาชนะนั้น มีคนลอยอยู่ หลับตาลง

ชายชุดขาวเดินเข้ามาใกล้ภาชนะแล้วลูบไล้แก้วเบา ๆ ขณะที่เขายิ้ม

 

“เร็วๆ นี้ ฉันจะทําสําเร็จ ไม่มีใครหยุดฉันได้ ขอบใจเธอมากนะ”

 

มันเป็นช่วงเวลานั้น โทรศัพท์ของเขาเริ่มดังขึ้น

 

“สวัสดี?”

 

ชายคนนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

 

“หมอราว นายพลแมกซ์เวลล์ต้องการคุยกับคุณ ผมควรต่อสายไหม” คนที่ อยู่ปลายสายถาม

 

“ก็ได้” ชายชุดขาวพูดอย่างใจเย็น

ตอนที่ 67: ออกจากกับดัก

 

ลูซิเฟอร์เพียงแค่นั่งอยู่ที่นั่นเพื่อสิ่งที่ดูเหมือนชั่วนิรันดร์ เขาไม่ขยับเขยื้อนขณะหลับตา เขาเป็นเหมือนรูปปั้นที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ความคิดแง่ลบกลืนกินเขาไปทั้งตัว และเขาพยายามทำให้จิตใจสงบและความคิดของเขากระจ่าง

 

 

บางคนออกมาจากบ้านของพวกเขา หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง แต่กลับมาอีกครั้งหลังจากเห็นว่าลูซิเฟอร์ยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น พวกเขากลัวที่จะออกมาต่อหน้าเขา เมื่อแม้แต่อินทรีย์แดงก็ไม่มีประโยชน์ต่อเขา พวกมันก็ไม่มีความหมาย ไม่มีใครออกจากบ้านของพวกเขา ปล่อยให้ทั้งเมืองที่น่าเบื่อหน่ายและร้างเปล่า

 

สำหรับสมาชิกกิลด์อินทรีย์แดงที่เคยหลบหนีมาก่อน พวกเขาตรงไปที่สำนักงานใหญ่ของกิลด์เพื่อซ่อนตัว

 

….

 

แม้ว่าจะดูเหมือนชั่วนิรันดร์ เพียง 20 นาทีผ่านไปตั้งแต่ลูซิเฟอร์นั่งลงท่ามกลางสายฝน

 

เขายืนขึ้นขณะที่เช็ดน้ำออกจากใบหน้าและขยับผมที่ปิดตาไปด้านหลัง

 

ตอนนี้เขารู้สึกดีขึ้น ดีกว่าเป็นการพูดเกินจริงแม้ว่า ตอนนี้เขารู้สึกสูญเสียน้อยลง และในที่สุดเขาก็คิดได้เล็กน้อย

 

เขาเริ่มมองไปรอบๆ ราวกับว่าเขากำลังพยายามหาอะไรบางอย่าง แต่น้ำที่ปกคลุมพื้นดินเป็นสีแดง ทำให้มองเห็นได้ยาก

 

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพบจุดที่เขาทำของสำคัญตกหล่น

 

เขาเดินขึ้นไปที่จุดนั้นและเริ่มสัมผัสพื้นเพื่อค้นหาสิ่งที่เขาทำหาย

 

หลังจากค้นหาไม่กี่นาที ในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่เขากำลังมองหา เขาเอามือออกจากน้ำ

 

เขามีชิ้นแก้วอยู่ในมือ ซึ่งเป็นชิ้นสุดท้ายของร่างแก้วเล็กๆ ของบิดาของเขา ซึ่งเคยถูกทำลายโดยกิลด์อินทรีย์แดงมาก่อน มันพังทลายในการต่อสู้ และตอนนี้เขาเหลือเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ นี้เท่านั้น

 

เมื่อเขาหยิบมันขึ้นมา เขาก็ต้องตกใจที่เห็นชิ้นแก้วกลายเป็นฝุ่นภายในพริบตา

 

เขาลืมไปว่าถุงมือของเขาถูกทำลาย และเขาไม่สามารถควบคุมพลังที่เสื่อมสลายของเขาได้ ทุกสิ่งที่เขาสัมผัสถูกทำลาย และสิ่งเดียวกันก็เกิดขึ้นกับชิ้นแก้ว

 

เศษแก้วกลายเป็นฝุ่นและเลื่อนลงมาที่มือของเขา ในที่สุดก็ผสมกับน้ำ เขากำหมัดแน่นเพื่อรักษาสิ่งที่ทำได้ แต่ก็ไร้ประโยชน์

 

ลูซิเฟอร์มองดูเศษชิ้นส่วนหลุดออกจากกำปั้นของเขาอย่างว่างเปล่า

 

เขาค่อย ๆ เปิดกำปั้นของเขาเพียงเพื่อจะพบว่าไม่มีอะไรอยู่ในมือของเขาอีกต่อไป

 

ดูเหมือนเขาจะผิดหวัง แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย

 

เขาสูญเสียหลายสิ่งหลายอย่างไปแล้ว ดังนั้นจะเกิดอะไรขึ้นหากเพิ่มอีกหนึ่งรายการเข้าไปในรายการ เขาคิดขณะที่พยายามปลอบใจตัวเอง แต่เขาก็ยังรู้สึกเศร้า

 

-อ่านได้ที่ www.thai-novel.com-

 

เขาหันหลังกลับและเดินไปที่แผงขายของใกล้ๆ ที่ยังคงสภาพเดิมไว้ ที่นั่นเขาพบถุงพลาสติก เขาหยิบถุงพลาสติก 2-3 ใบแล้วใส่ลงในกระเป๋าของเขา

 

เสร็จแล้วก็กลับไปที่ร้านที่เคยเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อครั้งก่อน เสื้อผ้าส่วนใหญ่ของเขาถูกทำลาย และเขาไม่ต้องการจากไปโดยไม่มีเสื้อผ้า

 

 

เขาเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าอีกครั้ง ซึ่งยังมีศพของคนที่เขาเคยฆ่าที่นี่มาก่อน น่าแปลกที่ร่างของเฟรย์หายไป เขาไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในขณะที่เขาเริ่มพยายามหาเสื้อผ้าให้ตัวเอง

 

ในไม่ช้าเขาก็พบเสื้อผ้าอีกคู่หนึ่งที่เหมาะกับเขา

 

เขาห่อถุงพลาสติกในมือของเขาก่อนที่จะเริ่มสวมเสื้อผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าจะไม่ถูกทำลายในการเปลี่ยนเสื้อผ้าครั้งนี้

 

หลังจากแต่งตัวเสร็จ เขาก็ออกจากสถานที่แห่งนั้นและเดินทางต่อไปที่ทางออกของเมือง

 

เขามีจุดหมายที่เขาต้องไป เขาไม่อยากรอช้าเกินไป เขายังห่างไกลจากสถานที่ที่เขารู้จักสถาบันวิจัยอยู่พอสมควร เมื่อจิตใจของเขาแจ่มใสขึ้นอีกครั้ง เขารู้จุดประสงค์ของเขาแล้ว มันคือการทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ

 

 

ลูซิเฟอร์เดินผ่านถนนที่เปียกโชกของเมือง อิเครโก้และในไม่ช้าเขาก็มาถึงที่ซึ่งเขาเพิ่งก่อเหตุสังหาร

 

ร่างกายยังดูสดอยู่ แต่น้ำสีแดงเลือดแดงน้อยลงเล็กน้อยในตอนนี้ เนื่องจากมีน้ำผสมกันมากขึ้นเรื่อยๆ

 

เขาเหลือบมองดูศพเพียงครั้งเดียวก่อนจะเดินผ่านพวกเขาและเดินต่อไปที่ทางออกของเมืองอิเครโก้

 

เขาเดินต่อไปในทิศทางของเอรีกัส ซึ่งเป็นเมืองถัดไปและเป็นเมืองที่อยู่ใกล้กับศูนย์ปฏิบัติการ DRF ซึ่งลูซิเฟอร์ต้องการจะทำลาย

 

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นความจริงนั้นเป็นเรื่องโกหก DRF ไม่ได้อยู่ใกล้เมืองเอริกัส

 

แซนเดอร์หัวหน้าทีม APF เดลต้า โกหกเขา DRF ที่แท้จริงอยู่ในทิศทางตรงกันข้าม

 

ไม่เพียงแต่ลูซิเฟอร์เท่านั้นที่ไม่รู้ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วอะไรรอเขาอยู่ที่เอรีกัส

 

ทีมงานเดลต้าทั้งหมดวางกับดักขนาดใหญ่ในเมืองเอรีกัสเพื่อเขา เมืองเอรีกัสในตอนนี้นั้นว่างเปล่าจากพลเรือน มีเพียงสมาชิก APF เท่านั้นที่อยู่ที่นั่นและกำลังปลอมตัว เพื่อรอเขามาถึง

 

ไม่เพียงแค่นั้น ทุกคนยังไม่มีใครรู้จัก ทีมเล็กๆ จากแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ก็อยู่ที่นั่นด้วย โดยมีแผนการของพวกเขาเองอยู่ พวกเขายังต้องการตามหาลูซิเฟอร์และพาเขามาร่วมองค์กรต่อต้าน APF ด้วย

 

หัวหน้าทีมระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามราชาผู้เปลี่ยนร่างก็อยู่ที่นั่นในเมืองเอรีกัสด้วยและใช้เวลาของเขาอย่างลับๆ

 

ลูซิเฟอร์กำลังเดินไปยังกับดักที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเผชิญ แม้ว่ากิลด์อินทรีย์แดงจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่ได้รับการฝึกฝนให้ต่อสู้กับรูปแบบอื่น พวกเขาส่วนใหญ่ได้รับการฝึกฝนเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยน

 

สำหรับ APF การค้นหาและทำลายแวเรียนท์ที่หลงทางเป็นงานทั้งหมดของพวกเขา พวกเขามีเครื่องมือ อุปกรณ์ และประสบการณ์ที่จำเป็นทั้งหมดที่จำเป็น ยิ่งกว่านั้น พวกเขาเก่งที่สุดในด้านความแข็งแกร่งและทักษะ เหนือกว่ากิลด์เล็กๆ อย่างกิลด์อินทรีย์แดง

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 66: ลูซิเฟอร์หลงทาง

 

ตำรวจส่วนใหญ่หวาดกลัวสิ่งที่พวกเขาเห็นอยู่แล้ว พวกเขายังคงพยายามจะต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของจ่า พวกเขาไม่ได้คิดแม้แต่วินาทีเดียวก่อนที่จะเริ่มวิ่งหนี

 

พวกเขารู้ว่าอาวุธของพวกเขาไม่มีประโยชน์สำหรับมอนสเตอร์ตัวนี้ และตอนนี้พวกเขาได้รับอนุญาตแล้ว ก็ยังดีกว่าที่จะวิ่งหนี หากพวกเขาอยู่ อีกไม่นานพวกเขาก็จะถูกฆ่า

 

พวกเขาเริ่มวิ่งไปที่รถของพวกเขา พร้อมที่จะจากไป ขณะที่ลูซิเฟอร์กำลังยุ่งอยู่กับตำรวจที่โชคร้ายที่มาสาย

 

คนที่ถูกจับได้ถูกฆ่าตายทั้งซ้ายและขวา

 

มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถขึ้นรถได้ คนที่เข้ามาในรถสามารถนับได้ด้วยมือเดียว มีตำรวจเพียง 5 คนเท่านั้นที่สามารถเข้าไปในรถได้

 

พวกเขาทั้งหมดขึ้นรถคันเดียวกัน แต่ก่อนที่พวกเขาจะสตาร์ทรถได้ พวกเขาเห็นคนบินตรงมาทางพวกเขา

 

ลูซิเฟอร์ได้ฆ่าตำรวจส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างนอกในช่วงเวลาสั้นๆ และตอนนี้เขากำลังบินไปที่รถ

 

ตำรวจสตาร์ทรถแล้วขับกลับ ฝนตกทำให้กระจกหน้ารถเบลอ พวกเขาไม่เห็นสิ่งใดที่ด้านหน้าหรือด้านหลัง นั่นเป็นสาเหตุที่ตำรวจเอาหัวของเขาออกไปนอกหน้าต่าง และเขากำลังบอกคนขับว่าจะไปที่ไหน

 

“เร็วเข้า เขาใกล้เข้ามาแล้ว!” ตำรวจบอกคนขับ

 

รถกำลังถอยหลัง และคนขับได้กดน้ำมันเพื่อเคลื่อนรถให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ก่อนที่เขาจะไปได้ไกลเกินไป ลูซิเฟอร์ก็เข้ามาใกล้พวกเขาแล้ว

 

ลูซิเฟอร์ตกลงบนฝากระโปรงรถ และทุบมัน ส่วนท้ายของรถถูกยกขึ้นในอากาศ เนื่องจากการกระแทกที่รุนแรง

 

รถหยุดเคลื่อนที่ถอยหลัง เนื่องจากล้อหน้าแยกออกจากกันและค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไป

 

ในขณะที่ลูซิเฟอร์จดจ่ออยู่กับตำรวจมากขึ้น เขาไม่ได้สังเกตว่าสมาชิกกิลด์อินทรีย์แดงบางคนเริ่มถอยกลับ ส่วนใหญ่หยุดโจมตีเขาแล้ว เนื่องจากพวกเขาพบว่าพวกเขาไม่มีประสิทธิภาพพอ พวกเขาต้องการวิ่งหนีแทน

 

ลูซิเฟอร์ก้าวลงจากฝากระโปรงรถที่จอดอยู่ ลูซิเฟอร์เดินไปที่ประตู

 

เขาดึงประตูออกจากรถแล้วโยนไปทางอื่น 1 ในสมาชิกกิลด์อินทรีย์แดงที่ยังคงโจมตีเขาด้วยกระสุนน้ำ

 

กระสุนน้ำเป็นความสามารถของชายที่เป็นแวเรียนท์คลาสนักเวทย์ เขาสามารถสร้างกระสุนน้ำจากอากาศ สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ฝนเป็นบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาที่จะใช้ความสามารถของเขา น่าเสียดายที่กระสุนไม่มีประโยชน์สำหรับลูซิเฟอร์

 

ไม่สำคัญว่ากระสุนจะทำจากตะกั่วหรือน้ำ พวกมันทั้งหมดไม่มีประโยชน์สำหรับเขา อย่างน้อยก็จนกว่าการรักษาของเขาจะหมดลง ทุกคนเชื่อว่าความสามารถในการรักษาไม่สามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัด เช่นเดียวกับความสามารถอื่นๆ นั่นเป็นเหตุผลที่คนที่อยู่ข้างหลังก็ยังไม่จากไป พวกเขายังคงหวังที่จะฆ่า ‘มอนสเตอร์‘ และประสบความสำเร็จ

 

มีเพียงบางแวเรียนท์เท่านั้นที่วิ่งหนี โดยตระหนักว่านี่เป็นความพยายามที่เปล่าประโยชน์

 

-อ่านได้ที่ www.thai-novel.com-

 

สำหรับลูซิเฟอร์ แม้ว่าการโจมตีจะเจ็บเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ความสนใจของเขาถูกเบี่ยงเบนไป เขาต้องการจดจ่อกับสิ่งที่เขาทำก่อน แต่นั่นไม่ได้หยุดเขาจากการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน

 

ด้วยมือขวาของเขา เขาดึงตำรวจออกจากรถและบีบคอพวกเขา ในขณะที่เขาใช้มือซ้ายของเขากำลังยิงสายฟ้าสีดำไปทางสมาชิกกิลด์อินทรีย์แดง

 

หลังจากจัดการผู้ชายทั้งหมดในรถเสร็จแล้ว ในที่สุดเขาก็หันหลังกลับขณะที่เขาหักข้อนิ้ว

 

“อืม?”

 

เมื่อเขาหันหลังกลับ เขาประหลาดใจที่เห็นว่ามีคนอยู่ที่นี่น้อยกว่าที่เขาคาดไว้มาก

 

มันไม่สำคัญแม้ว่า ถ้ามี 10 คนอยู่ที่นี่ เขาจะฆ่าคนทั้ง 10 คน หากมี 1000 อยู่ที่นี่ เขาจะฆ่าคนเป็น 1000 คนนั้นทิ้ง

 

….

 

การสังหาร… นั่นคือสิ่งที่ใครบางคนจะบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปในสถานที่นั้น มันเป็นการเข่นฆ่าเต็มรูปแบบที่เกิดจากคนที่ผ่านพ้นมันไปไม่ได้

 

การฆ่ากินเวลาเพียง 20 นาที ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลง ความเงียบและความสงบกลับคืนมา เสียงกรีดร้องและเสียงครวญครางอันเจ็บปวดทั้งหมดหยุดลง

 

ไม่มีใครยืนอยู่ได้นอกจากลูซิเฟอร์

 

สถานที่ทั้งหมดดูแห้งแล้ง มีอาคารและซากปรักหักพังอยู่ทุกหนทุกแห่ง

 

ฝนยังคงตกต่อเนื่อง ถ้าใครจะเพ่งมอง ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเรียบร้อยดีแล้ว แต่ถ้ามีคนยืนอยู่ในบริเวณนั้นและหรี่ตาลง พวกเขาจะเห็นว่าพื้นดินทั้งหมดเต็มไปด้วยร่างกาย ฝนกำลังล้างเลือดของร่างกายและผสมกับเลือด

 

น้ำนั้นผสมกับเลือด ขี้เถ้าลอยอยู่ทุกที่

 

พื้นดินทั้งหมดดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยน้ำเลือด

 

 

เมื่อทุกอย่างจบลง ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็มีโอกาสหายใจ เขารู้สึกเหนื่อยและหิวมากด้วย แต่เขาไม่สนใจความหิวของเขา สติของเขาหายไป

 

เขายืนอยู่ที่นั่นดูทุกอย่างว่างเปล่า มันเป็นช่วงเวลาแห่งความสงบ ซึ่งในที่สุดเขาก็สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ก่อนหน้านี้ ในหัวของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความคิดเดียว นั่นคือการฆ่า ทั้งหมดที่เขาคิดได้คือการฆ่า ยิ่งเขาฆ่ามากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นเท่านั้น

 

ตอนนี้เขาได้ฆ่าทุกคนแล้ว เขารู้สึกค่อนข้างว่างเปล่า ไม่มีอะไรจะทำอีกแล้วที่นี่

 

เขานั่งลงบนพื้นในน้ำที่เต็มไปด้วยเลือดและมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า พยายามรวบรวมความคิดของเขา

 

เขากำลังทำอะไรอยู่? จุดประสงค์ของเขาคืออะไรกันแน่? ทำไมเขาถึงมีอยู่จริง? ความคิดเชิงลบมากมายลอยอยู่ในหัวของเขา ในขณะที่เขาสูญเสียตัวเองในความคิดของเขา

 

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็คุกเข่าและโอบแขนทั้ง 2 ข้าง ขณะที่เขาวางศีรษะลงบนเข่า

 

“พ่อ ผมคิดถึงพ่อ…แม่…ผมหลงทางโดยไม่มีพ่อและแม่ ได้โปรดกลับมาเถอะ มัน… น่ากลัว…”

 

เขาพึมพำอะไรบางอย่างเบา ๆ ขณะที่หยดน้ำตกลงมาที่เขา บางครั้งก็ดูเหมือนเขากำลังร้องไห้ ไม่ชัดเจนว่าหยดน้ำที่ออกมาจากดวงตาของเขาเป็นน้ำตาหรือน้ำฝน

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 65: วิ่ง

 

ลูซิเฟอร์ยกมือซ้ายไปทางเทย์

 

สายฟ้าสีดำสนิทออกจากมือของเขาและเคลื่อนเข้าหาเทย์

 

ลูซิเฟอร์ไม่รอดูเทย์ตาย แต่เขากลับกระโดดกลับและใช้ลมเพื่อบินไปหาผู้หญิงที่เป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของเขา ผู้หญิงคนเดิมที่ใช้ความสามารถของเธอดึงหรือผลักเขาก่อนหน้านี้

 

การเคลื่อนไหวของเขาเป็นข้อได้เปรียบของเขา และถ้าเขาต้องการจะรักษาไว้ เขาต้องพาผู้หญิงคนนั้นออกไป

 

ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่มาขวางทางเขา เขาคงไม่สูญเสียมือไป เขาคงไม่โดนระเบิดนั่นแน่

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์เดินเข้ามาหาเธอ หญิงสาวตาสีฟ้ายกมือขึ้นอีกครั้ง ขณะที่ผมเปียกของเธอปลิวไปตามสายลม หยาดฝนยังคงไหลลงมาตามใบหน้าของเธอ

 

ความสนใจทั้งหมดของเธอยังคงอยู่ที่ลูซิเฟอร์ แม้ว่าหลังจากเห็นรองหัวหน้ากิลด์เสียชีวิต เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ เธอตัดสินใจต่อสู้แทน เธอตัดสินใจต่อสู้เพื่อเพื่อนและเพื่อนร่วมกิลด์เพื่อปกป้องพวกเขา

 

ในความคิดของเธอ เธอกำลังต่อสู้กับอาชญากรที่ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เธอรู้ว่าถ้าเธอลังเลในตอนนี้ ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนจะต้องตายด้วยน้ำมือของปีศาจตัวนี้

 

ลูซิเฟอร์ถูกจับอีกครั้งในการควบคุมกำลังของเธอ เขาก้าวไปข้างหน้าไม่ได้

 

ปัญหาที่เขามีคือการควบคุมลม เป็นความสามารถด้านธาตุระดับสูงที่บุคคลสามารถปลุกพลังได้ อย่างน้อยก็เท่ากับหรือสูงกว่าความสามารถของผู้หญิงคนนี้ในเรื่องความแข็งแกร่ง แต่นี่เป็นองค์ประกอบที่อ่อนแอที่สุดของลูซิเฟอร์เช่นกัน

 

ลูซิเฟอร์เรียนรู้ที่จะใช้มันในระดับต่ำสุดเท่านั้น เขาไม่สามารถควบคุมแรงเต็มที่ในการบินได้ ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะสามารถเอาชนะพลังของเธอได้ด้วยองค์ประกอบลมเพียงอย่างเดียวได้

 

ขณะที่เขาติดอยู่ตรงกลางและกำลังลอยอยู่ สายฟ้าที่เขาเคยยิงไปก่อนหน้านี้ได้ทะลุเข้าไปในกะโหลกศีรษะของปรมาจารย์แห่งดาบอย่างเทย์ และฆ่าเขาในทันที

 

ตำรวจและนักล่าคนอื่นๆ เริ่มโจมตีลูซิเฟอร์โดยรักษาระยะห่าง พวกเขาไม่ต้องการทำผิดพลาดแบบเดียวกับเอลิซี พวกเขาไม่ต้องการให้ลูซิเฟอร์เข้าใกล้

 

เนื่องจากลูซิเฟอร์ไม่สามารถขยับออกหรือถอยหลังได้ เขาจึงตัดสินใจขยับไปด้านข้างเพราะเธอไม่สามารถหยุดสิ่งนั้นได้

 

เขาย้ายไปด้านข้างในทิศทางของนักล่าที่โจมตีเขาจากทางซ้าย

 

ลูซิเฟอร์ยกมือขึ้น ยิงสายฟ้าสีดำอีกอันหนึ่งซึ่งเคลื่อนที่ไปในทิศทางของนักล่าหนวดขาว

 

ลูซิเฟอร์รู้ว่าเขากำลังทำอะไรและเกิดอะไรขึ้นเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ โล่ทรายปรากฏขึ้นต่อหน้าชายมีเครา ปกป้องเขาจากฟ้าร้องด้วย

 

แต่นี่เป็นสิ่งที่ลูซิเฟอร์ต้องการอย่างแม่นยำ ในขณะที่เขาใช้โอกาสนี้โจมตีผู้หญิงที่บังคับเขา เขารู้ว่าโล่จะช่วยเธอได้อีกครั้ง และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจะทำ

 

เขารู้สึกเหมือนกับว่าคนที่ใช้โล่ทรายมาถึงขีดจำกัดแล้ว และการสร้างโล่ทรายขึ้น 2 อันก็อาจเป็นระดับสูงสุดที่เขาสามารถทำได้ในคราวเดียว

 

โล่ทรายปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นตามที่เขาคาดหวัง

 

“ข้าจะปกป้องเจ้า!” ผู้ชายคนหนึ่งพูดกับผู้หญิงคนนั้น ในขณะที่เขายิ้ม หน้าผากของเขามีเหงื่อออกเมื่อใบหน้าของเขาซีด แต่เขายังคงยืนหยัดขึ้นเพื่อปกป้องผู้หญิงคนนั้น

 

“ขะ ขอบคุณ” ผู้หญิงคนนั้นพูด ขณะยิ้ม แต่รอยยิ้มของเธอเปลี่ยนไปเป็นท่าทางน่ากลัว เมื่อเห็นสายฟ้าสีดำพุ่งทะลุหน้าอกของชายผู้นั้น ทิ้งรูขนาดใหญ่ไว้เบื้องหลัง

 

ชายคนนั้นอาเจียนออกมาเป็นเลือด ในขณะที่เขาคุกเข่าลง แสงสว่างในดวงตาของเขาเริ่มหรี่ลงเมื่อเขาล้มลง จนหน้าของเขาหันเข้าหาพื้นก่อน

 

-อ่านได้ที่ www.thai-novel.com-

 

ผู้หญิงคนนั้นทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง ขณะที่เธอวิ่งไปหาชายคนนั้น แต่ก่อนที่เธอจะแตะต้องเขา สายฟ้าก็พุ่งทะลุศีรษะของเธอเช่นกัน

อ่านนิยาย novelza.com

เธอตกลงบนร่างของชายคนนั้น รวมกันเป็นความตาย

 

ลูซิเฟอร์เป็นอิสระจากพลังของเธอ ขณะที่เขาตกลงบนพื้น ผู้หญิงที่ขวางทางเขาตายแล้ว

 

“ตอนนี้ไม่มีสิ่งกีดขวางแล้ว” ลูซิเฟอร์พึมพำ ขณะมองไปยังชายและหญิง

 

แผนของเขาได้ผล แผนของเขาไม่ใช่เพื่อฆ่าผู้หญิง แต่เพื่อฆ่าผู้ชายก่อน เขาทำให้แน่ใจว่าผู้ชายคนนั้นเครียดกับการช่วยชีวิตคนอื่นมากเกินไป เพื่อที่เขาจะได้ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ โดยไม่รู้ว่าลูซิเฟอร์กำลังมุ่งเป้าไปที่เขา

 

การแท็กทีมนี้เป็นเหมือนชุดที่แย่ที่สุดสำหรับเขา คนหนึ่งทำให้เขาอยู่ในที่ของเขา การป้องกันไม่ให้เขาเข้าใกล้มากพอที่จะใช้ความแข็งแกร่งระดับ S  และอีกคนที่กำลังช่วยชีวิตคนๆแรกที่บังคับเขาด้วยการป้องกันจากสายฟ้าระดับ S ด้วยโล่ทราย ซึ่งค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการต่อต้านสายฟ้าของเขา ซึ่งลูซิเฟอร์ยังไม่เชี่ยวชาญแม้แต่ 5 เปอร์เซ็นต์

 

หลังจากที่ชายคนนั้นตาย ลูซิเฟอร์ก็ฆ่าผู้หญิงคนนั้นได้ง่ายขึ้น

 

 

สายฟ้าสีดำวูบวาบไปทั่วร่างของลูซิเฟอร์ ท้องฟ้ายังคงปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำ สายฟ้าแลบสีน้ำเงินสามารถมองเห็นได้บนท้องฟ้าที่ดูน่ากลัวน้อยกว่าสายฟ้าสีดำที่แวบอยู่รอบๆ ลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์มีอิสระที่จะฆ่า แต่ก็รู้สึกรำคาญเช่นกัน เนื่องจากเขาถูกยิงตลอดเวลา

 

การโจมตีของนักล่าไม่ได้รบกวนเขามากเท่ากับกระสุนนัดเล็กๆ เนื่องจากกระสุนมีจำนวนมากกว่ามาก

 

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจฆ่าตำรวจก่อน

 

เขายกเท้าซ้ายขึ้นทุบพื้น หลุมอุกกาบาตลึกถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ขณะที่เขาใช้แรงผลักดันเพื่อช่วยให้เขาบินไปข้างหน้า เขาบินไปในทิศทางของตำรวจ

 

เนื่องจากไม่มีใครในกลุ่มนี้มีอำนาจ พวกเขาจึงไม่สามารถหยุดเขาได้ นักเวทย์และนักรบคนอื่นๆ มีความสามารถเฉพาะตัวในเชิงรุกหรือป้องกันเท่านั้น พวกเขาไม่มีความสามารถในการควบคุมฝูงชนเพื่อหยุดเขา

 

สำหรับความสามารถในการโจมตีนั้น พวกเขาไร้ประโยชน์ต่อหน้าลูซิเฟอร์ ซึ่งใช้การเคลื่อนไหวที่ว่องไวของเขาเพื่อหลบการโจมตีส่วนใหญ่ การโจมตีที่สามารถโจมตีลูซิเฟอร์ก็ไม่แรงพอที่จะทำให้เขาล้มลง อินทรีย์แดงที่แข็งแกร่งที่สุดได้ตายไปแล้ว

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจความเจ็บปวด ในขณะที่เขาถูกโจมตีด้วยเปลวเพลิง ทราย ใบมีดลม และการโจมตีที่ทรงพลังอีกมากมาย ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่เขากังวลน้อยที่สุด เขาเพียงเพิกเฉยต่อความเจ็บปวด ในขณะที่เขาปล่อยให้ความสามารถในการรักษาดูแล

อ่านนิยาย novelza.com

เขาไปถึงจ่าแทรฟฟอร์ด และไปหาคอของเขาทันที

 

เขาคว้าคอของจ่าแทรฟฟอร์ดที่ยิงหน้าอกของลูซิเฟอร์ต่อไป แต่ก็ไม่ได้ผล

 

จ่าแทรฟฟอร์ดรู้ว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นาน

 

“หนีไปและเรียก APF มาเดี๋ยวนี้!” เขาส่งเสียคำสั่งสุดท้ายแก่คนของเขา ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน

 

การต่อสู้ที่เคยเป็นเรื่องหลักของพวกเขากำลังหายไป เขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถชนะและบอกให้ทุกคนหนีออกจากตรงนั้นทันที

———————————————————————————-

ตอนที่ 64: ฉันคือปีศาจ

 

ชายคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหลังในชุดดำทั้งหมด ดาบคมวางอยู่บนหลังของเขาในฝัก

 

เขาบังเอิญเป็นคนที่เอลิซีเรียกว่าเทย์ และเขาเป็นที่รู้จักในนามปรมาจารย์ดาบแห่งอินทรีย์แดง

 

เทย์ไม่มีความสามารถด้านธาตุใดๆ แต่เขาได้ปลุกความสามารถทางกายภาพที่ทำให้เขาเชี่ยวชาญเรื่องดาบ ว่ากันว่าเขาสามารถฟันศัตรูได้ในพริบตาด้วยดาบของเขาเป็นชิ้นเล็ก ๆ นับพันชิ้น

 

เทย์พยักหน้า ในขณะที่เขาเดินไปหาเอลิซี

 

“เจ้าปีศาจที่น่ารำคาญ เจ้าสร้างปัญหาให้กับข้ามาก เจ้าฆ่าคนของเรามากมาย เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะรอดออกไปได้จริงหรือ พวกเราคือ อินทรีย์แดง แม้จะไม่มีหัวหน้ากิลด์อยู่ในเมืองก็ตาม เรายังไม่อ่อนแอพอที่เจ้าจะเดินเตร่ไปทั่วได้หรอก”

 

เอลิซีกำลังเยาะเย้ยลูซิเฟอร์ ซึ่งนอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน

 

“เด็กอย่างเจ้า นึกไม่ถึงว่าจะมาเปรียบเทียบกับพวกเรา ถึงเจ้าจะมีทักษะดีเพียงเล็กน้อย เจ้าก็ยังเป็นมดอยู่เสมอ และมดอย่างเจ้ากล้าทำร้ายลูกของข้า เจ้ายังน่าสงสารอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่สมควรที่จะถูกฆ่าทิ้ง” เอลิซีกล่าว “เจ้าควรขอบคุณฉันแทนสำหรับการสิ้นสุดการดำรงอยู่ที่น่าสมเพชของเจ้า หึ”

 

เธอยกเท้าขึ้นพลางเหยียบลงบนหน้าอกของลูซิเฟอร์

 

เธอไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากลูซิเฟอร์ ในใจของเธอ ลูซิเฟอร์ตายไปแล้ว เขาหลับตา การหายใจของเขาอ่อนแอ แม้แต่การรักษาของเขาก็แทบไม่มีเลย มันทำงานช้ามากเป็นพิเศษ

 

“เฮ้อ ฉันไม่อยากจะนึกถึงไอ้พวกที่ให้กำเนิดสัตว์ประหลาดเช่นเจ้า พ่อของเจ้าจะต้องเป็นสัตว์ประหลาดและด้วยตัวพ่อของเจ้า เขาเองที่อาจทำบาปนับพัน”

 

“สำหรับแม่ของเจ้า เธอควรจะเป็นคนที่นอนกับผู้ชายหลายพันคน หนึ่งในนั้นคือสัตว์ประหลาดที่เป็นพ่อของเจ้าคงจะถูกใช่ไหม แม้แต่เธอก็ยังทิ้งเจ้าไป ใช่ไหม เจ้าถึงอยู่คนเดียวถูกไหม? “

 

“เจ้าคนน่าสมเพช เจ้าและทุกคนในครอบครัวควรตาย” เธอพูดต่อขณะมองดูใบหน้าที่ไหม้เกรียมของลูซิเฟอร์ โดยไม่รู้ว่าเธอเพิ่งทำผิดพลาดร้ายแรงที่สุดในชีวิต

 

เธอพึ่งได้สัมผัสกับคนในระดับที่เธอไม่ควรยุ่งด้วย ด้วยความโกรธและความอับอายจากการล้อเลียนครั้งก่อนของลูซิเฟอร์ จึงทำให้เขารู้สึกตัวอีกครั้ง

 

ดวงตาของลูซิเฟอร์เปิดขึ้นอย่างกะทันหันราวกับปีศาจเพิ่งตื่นจากการหลับใหล เขาทนได้ทุกอย่าง แต่การดูถูกพ่อแม่ของเขานั้นคล้ายกับบาปที่ใหญ่ที่สุดในจิตใจของเขาที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย

 

หมัดของลูซิเฟอร์เปิดออก เมื่อเศษแก้วที่เขาเก็บไว้ตลอดการต่อสู้ก็ตกลงมาจากมือของเขา

 

เขามีมือเพียงข้างเดียว และนั่นเคยใช้จับชิ้นส่วนนั้น แต่ในขณะนั้น จิตใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่สนใจหรือคิดอะไร

 

เอลิซีตกตะลึง เมื่อเห็นดวงตาของลูซิเฟอร์เปิดขึ้นอย่างกะทันหัน เธอพยายามถอยหลังอย่างเร่งรีบ แต่ก็ทำไม่ได้ เธอพบว่าข้อเท้าของเธอจับโดยลูซิเฟอร์

 

แม้ว่ามือข้างหนึ่งของลูซิเฟอร์จะถูกทำลาย แต่มืออีกข้างของเขาก็ยังปลอดภัย แต่ถุงมือของมือนี้ก็ถูกทำลายเช่นกัน

 

มือเปล่าของเขาจับผิวหนังที่เปลือยเปล่าของข้อเท้าของเอลิซี

 

ไม่มีอะไรหยุดพลังแห่งการสลายตัวของเขาได้อีกต่อไป ความทรงจำชิ้นสุดท้ายของแม่ที่เขาเก็บไว้ใกล้ตัวก็ถูกทำลายเช่นกัน ถุงมือหายไปซึ่งทำให้เขาเศร้ามากขึ้น

 

เขาโกรธ เขาต้องการที่จะฆ่าโดยไม่สนใจอะไรเลย เขาต้องการที่จะหลวมตัวและจัดการทุกคนที่นี่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่

 

ครั้งนี้เขาไม่ได้ควบคุมความแข็งแกร่งของเขา เขากำมือของเขาแน่นมากจนข้อเท้าของเอลิซีถูกบีบจนแทบแตกทันที

 

“อ๊าาาา!”

 

เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดไปทั่วบริเวณโดยรอบ ซึ่งดังมากจนไม่มีใครที่นี่ไม่ได้ยินเลย

 

ข้อเท้าของเอลิซีถูกบดแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซึ่งทำให้เธอกรีดร้อง แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมด เธอรู้สึกเหมือนเซลล์ของเธอกำลังจะตาย เมื่อร่างกายของเธอเริ่มสลายตัว ความเจ็บปวดอันน่าสยดสยองเริ่มแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ เธอรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะตายอย่างช้าๆ และนี่คือการตายอย่างช้าๆ ซึ่งเลวร้ายยิ่งกว่าความตายเสียอีก ความเจ็บปวด… ความเจ็บปวดสุดขีดนั้นเหลือทนสำหรับเธอ

 

-อ่านได้ที่ www.thai-novel.com-

 

เธออยากจะวิ่งแต่เธอทำไม่ได้ ขาของเธอถูกจับ

 

“ปล่อยฉัน!”

 

เธอตระหนักว่ามันเป็นความสามารถของลูซิเฟอร์ เธอไม่รู้ว่าเขามีพลังแบบนี้ที่สามารถใช้วิธีนี้ได้ แต่ตอนนี้เธออยู่ฝ่ายรับแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะกรีดร้องออกมาดังๆ ขณะที่เธอขอให้ลูซิเฟอร์ปลดปล่อยเธอ

 

น่าเสียดายที่ทุกคนที่นี่รู้ว่าเธอเป็นคนสุดท้ายที่นี่ที่เด็กคนนี้อาจจะฟัง

 

ร่างกายของเธอซีดเผือด เมื่อเธอเริ่มตาย เธอรู้ว่าถ้าเธอทำอะไรกับเขาเพื่อหยุดเขาไม่ได้ และเธอก็กำลังจะตาย เธอไม่อยากตายแบบนี้

 

เธอไม่สามารถใช้ความสามารถของเธอได้เช่นกัน เธอรู้ว่าถ้าเธอทำ เธอจะต้องตายเร็วขึ้น

 

ถ้าเธอใช้ลูกบอลพลังงานของเธอกับลูซิเฟอร์จากระยะใกล้เช่นนั้น เธอก็จะตายในการระเบิดที่เกิดขึ้นเช่นกัน

 

“หยุดเขาซะ! ตัดมืออีกข้างของเขา!” เธอกรีดร้อง ขณะที่เธอมองไปที่เทย์

 

แม้ว่าจะดูเหมือนเวลาผ่านไปนาน แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีตั้งแต่ลูซิเฟอร์ลืมตาขึ้น

 

ตอนนี้ผมของเอลิซีเป็นสีขาวแล้ว ราวกับว่าเธอแก่ขึ้นไปอีก 50 ปีแล้ว ตอนนี้เธอผอมมากจนมองเห็นกระดูกของเธอ รอยย่นปกคลุมใบหน้าของเธอ ทำให้เธอดูเหมือนผู้หญิงในวัย 80 ปี

 

เทย์เริ่มวิ่งไปทางลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาดึงดาบออกมา แต่ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นและบินกลับไปพร้อมกับเอลิซีที่กำลังถูกลากลงไปที่พื้นเพราะเขาจับขาเธอไว้

 

ลูซิเฟอร์หลบดาบ ตอนนี้เขามีมือเพียงข้างเดียว และเขาไม่สามารถจัดการกับดาบได้ หากไม่ปล่อยเอลิซี เขาไม่ต้องการปล่อยเธอเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสนใจไปที่เธอเล็กน้อย การตายของเธอสำคัญกว่าสิ่งใด! ผู้หญิงคนนี้กล้าใช้คำหยาบคายกับพ่อแม่ของเขา เธอสมควรตาย

 

แม้ว่าเวลาเพียงเล็กน้อยนี้ก็เพียงพอแล้ว ร่างของเอลิซีถูกทำลายจนหมดและกลายเป็นเถ้าถ่านต่อหน้าต่อตาของทุกคน

 

ภายในเวลาไม่ถึง 4 วินาที หลังจากที่ลูซิเฟอร์จับตัวเธอ เธอก็ตาย ขี้เถ้าของเธอลอยอยู่บนน้ำที่เป็นสีแดงอยู่แล้วจากเลือดที่หลั่งออกมาในการต่อสู้ครั้งนี้

 

มือซ้ายของลูซิเฟอร์ก็เริ่มรักษาตัวแล้ว อันที่จริง การรักษาของเขาดูดีขึ้นในตอนนี้ ซึ่งเขาพบว่าแปลก

 

ตามสมมติฐานของเขา ในเวลาไม่กี่นาที มือของเขาจะหายสนิท

 

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นเห็นเนื้อเยื่อมนุษย์ออกมาจากไหล่ของลูซิเฟอร์ ก่อตัวเป็นมืออีกครั้ง พวกเขาแทบไม่เชื่อสายตา

 

“จะ-เจ้าเป็นสัตว์ประหลาดอะไร!” เทย์ถามออกมา ในขณะที่เขาไล่ตามลูซิเฟอร์ออกไป

 

“ฉันไม่ใช่สัตว์ประหลาด” ลูซิเฟอร์ตอบ “ฉันคือปีศาจ ปีศาจที่จะฆ่าแกในวันนี้”

 

เสียงของเขาดูเหมือนจะมาจากส่วนลึกของนรกนั่นเอง เขาจำได้ว่าเอลิซีเรียกเขาว่าปีศาจ และตอนนี้เขาก็ยอมรับตำแหน่งนั้น ‘พวกเขาเรียกเราว่าปีศาจ? ดี! เรากำลังจะเป็นที่ 1 ’

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 63: หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

 

ลูซิเฟอร์หุนหันพลันแล่น แต่เขาไม่ได้โง่ แรงกระตุ้นของเขาทำให้เขาดีขึ้นในสถานการณ์ส่วนใหญ่ แต่เขาเข้าใจพลังของเขาดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ณ จุดนี้ และเขารู้วิธีใช้ประโยชน์จากมันในการต่อสู้เพื่อประโยชน์ของเขา

 

เมื่อเขาเห็นโล่ทรายปรากฏขึ้น เขารู้ว่ามีใครบางคนกำลังขวางทางเขาอยู่

 

ไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นและเธอก็ได้รับการปลุกพลัง 2 ครั้ง เหตุผลที่เธอกรีดร้องด้วยชื่อคนอื่นก็เพื่อไล่ลูซิเฟอร์ไปผิดทาง

 

อีกทางเลือกหนึ่งก็คือมันเป็นอีกคนหนึ่งจริงๆ เขามองไปรอบๆ และใช้เวลาไม่นานในการพบบุคคลนั้น

 

ชายหนุ่มผมดำยืนอยู่ตรงนั้น เขามีฝ่ามือชี้ไปที่โล่ทราย อาจเป็นความสามารถของเขาที่ช่วยเธอได้

 

ลูซิเฟอร์รู้ว่าการต่อต้านพลังของหญิงสาวจะทำให้สิ่งต่างๆ ซับซ้อนขึ้น เขาคิดอะไรบางอย่างและเลิกต่อสู้กับพลังของเธอ เขาเริ่มบินเข้าหาเธอแทน โดยได้รับการสนับสนุนจากแรงเดียวกัน

 

เขาวางแผนที่จะใช้พลังนี้เพื่อไปหาหญิงสาวให้เร็วขึ้นและฆ่าเธอ น่าเสียดายที่สิ่งนี้ไม่ได้ผลเช่นเดียวกับสิ่งแปลก ๆ เกิดขึ้น

 

ขณะที่เขาอยู่ตรงกลางของเอลิซีและหญิงสาวคนนั้น พลังก็เปลี่ยนทิศทาง ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าต่อหญิงสาวได้ในตอนนี้ ราวกับว่ากำลังของเธอกำลังดึงเขากลับมาแทน

 

ไม่ยากเลยที่จะตระหนักว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นสามารถดึงคนเข้ามาใกล้หรือผลักพวกเขาออกไปให้ไกลได้ มันเป็นความสามารถของเธอ

 

เขาจดจ่ออยู่กับผู้หญิงคนนั้นมากขึ้น พยายามหาวิธีกำจัดเธออย่างรวดเร็ว และไม่ทราบว่าเอลิซีได้สร้างลูกบอลพลังงานขึ้นมาอีกลูกอยู่ข้างหลังเขา

 

ก่อนที่เขาจะนึกถึงสิ่งที่ควรทำในสถานการณ์นี้เพื่อจัดการกับเด็กสาว ระเบิดพลังงานแห่งเอลิซีก็ตกลงมาที่เขา และโจมตีเขาโดยไม่ได้เตรียมตัวไว้

 

เกิดระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นพร้อมๆ กัน ซึ่งเลวร้ายมากจนทุกอย่างถูกไฟไหม้ การโจมตีที่น่ากลัวของเอลิซีได้มาถึงลูซิเฟอร์แล้ว

 

ผู้คนมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะไฟและควัน แต่ลูซิเฟอร์จะมีชีวิตอยู่ไม่ได้ ผู้คนต่างมั่นใจว่าร่างกายของเขาถูกระเบิดเป็นชิ้นๆ จากการระเบิดครั้งนั้น เว้นแต่ร่างกายของเขาจะทำมาจากไททาเนียมหรืออะไรที่หนักกว่านั้น เขาไม่ควรจะมีร่างกายที่เสียหาย

 

และการรักษาร่างกายเพียงเล็กน้อยก็เป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่เขายังรักษาไม่ได้ เขาก็ตาย พวกเขาคิดแบบนั้น

 

หลังจากนั้นไม่นานไฟก็หยุดลงและควันก็หายไป

 

ทุกคนมองบนพื้นเพื่อค้นหาซากของลูซิเฟอร์ พวกเขาใช้เวลาไม่นานในการหาเขาเช่นกัน

 

เขานอนอยู่บนพื้น ร่างกายส่วนใหญ่ของเขาถูกไฟไหม้ แต่ร่างกายของเขาก็ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

 

แขนซ้ายของเขาหายไปแม้ว่าทุกคนจะตกตะลึงที่เห็นเขายังคงมีร่างกายส่วนใหญ่อยู่ ร่างกายของเขาแข็งกระด้างขนาดนั้นจริงหรือ?

 

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือลูซิเฟอร์ทำบางอย่างในตอนท้าย ขณะที่เขารู้สึกถึงอันตราย

 

เขาใช้มือซ้ายเพื่อหยุดการโจมตีในวินาทีสุดท้าย ถุงมือข้างซ้ายของเขาถูกเผาไหม้ทันทีที่สัมผัสกับลูกบอลพลังงาน แต่ความสามารถในการสลายของเขามีผลเนื่องจากถุงมือไม่ได้หยุดการทำงานอีกต่อไปหลังจากถูกทำลาย

 

ความสามารถระดับ S ของการเน่าเปื่อยทำงานแม้กระทั่งความสามารถของเอลิซี เมื่อมันเริ่มสลายลูกบอลพลังงานของเธอ ทำให้มันอ่อนแอลง

 

ลูกบอลพลังงานสลายตัว และอ่อนแรงลงมากก่อนที่จะระเบิด นั่นเป็นสาเหตุที่ความเสียหายของลูซิเฟอร์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ทุกคนคิด

 

ไม่ใช่ว่าการโจมตีนั้นอ่อนแอ แต่ความแข็งแกร่งของการโจมตีนั้นน้อยกว่าที่ควรจะเป็น

 

ลูซิเฟอร์ถูกเผาในบางแห่งเท่านั้นและสูญเสียมือซ้ายไปในการโจมตีก่อนหน้านี้

 

มือขวาของเขายังสบายดี และชิ้นแก้วยังคงอยู่ในมือขวา เขายังคงปกป้องสิ่งนั้นด้วยทุกสิ่งที่เขาได้รับ

 

ผมของเขาถูกไฟไหม้เช่นกัน ทำให้เขาดูแปลกไป ตอนนี้ไม่มีผมอยู่บนหัวของเขาแล้ว

 

“เขาเอาตัวรอดได้ด้วยเหรอ สัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นใครกัน!” จ่าแทรฟฟอร์ดอุทานด้วยความไม่เชื่อบนใบหน้าของเขา ในขณะที่เขาก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ

 

เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเอลิซีและข่าวลือ เด็กชายได้รับการรักษา นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจ แต่ก็ยังเข้าใจได้ แต่สำหรับเขาแล้วร่างกายส่วนใหญ่ของเขายังคงไม่บุบสลาย หลังจากการโจมตีครั้งนั้น? มันเป็นไปได้ยังไง? นั่นไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขา

 

ทุกคนที่อยู่ที่นั่นมองกลับไปกลับมาระหว่างเอลิซีกับลูซิเฟอร์ รอคอยคำสั่งของเธอว่าจะทำอย่างไรต่อไป

 

แม้แต่เอลิซีก็ยังตะลึงเมื่อเห็นลูซิเฟอร์รอดจากการโจมตีโดยตรงของเธอ คนที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร?

 

เธอเริ่มก้าวไปข้างหน้าโดยตั้งใจจะทำอะไรบางอย่าง

 

“เขาอาจจะรอดมาได้ แต่ก็ไม่ได้ดีไปกว่าความตาย การรักษาของเขาอาจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงในการรักษาเขาให้หาย และถึงอย่างนั้นเขาก็จะไม่อยู่ในสภาพที่จะต่อสู้ได้อีก” เธอกล่าวขณะเดินเข้าไปใกล้ลูซิเฟอร์

 

เสื้อผ้าเปียกของเธอแนบชิดกับร่างกายของเธอมากขึ้น เน้นรูปร่างของเธอ ซึ่งไม่เลวเลยแม้แต่น้อย น่าเสียดายที่รูปลักษณ์และสีหน้าของเธอทำให้เธอดูน่าสนใจไม่น้อย

 

“ไม่มีทางที่มือของเขาจะหายจากอาการนี้ได้ แต่ฉันจะไม่ให้เวลาเขามากขนาดนั้น ไม่จำเป็นที่เด็กผู้ชายสารเลว คนนี้จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป”

 

ด้วยความมุ่งมั่นจะฆ่า เธอจึงเดินไปหาลูซิเฟอร์ โดยไม่รู้ว่าคำพูดของเธอเฉียบขาดเพียงใด ถ้าเธอรู้ว่าใครเป็นแม่ของลูซิเฟอร์ เข่าของเธออาจจะสั่นด้วยความกลัว

 

ความสามารถของนักเวทย์แวเรียนท์แคลรีสเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่น่ากลัวที่สุดที่ผู้คนรู้จัก เธอเป็นชื่อที่เกือบทุกคนรู้จัก เธอได้รับการยกย่องในความงามของเธอ แต่เธอก็เคารพในความแข็งแกร่งของเธอ ซึ่งไม่ใช่ความลับเช่นกัน

 

ขณะที่จ่าแทรฟฟอร์ดและคนอื่นๆ อยู่ข้างหลัง เอลิซีเดินเข้ามาใกล้ลูซิเฟอร์

 

เธอหยุดอยู่เหนือเด็กชายที่บาดเจ็บสาหัส ซึ่งนอนอยู่บนพื้นไม่ขยับเขยื้อน สายตาที่เหยียดหยามของเธอมองลงมาที่เขาราวกับว่าเขาเป็นสามัญชนที่คู่ควรกับเธอ และเธอก็เป็นราชินี

 

เธอหันกลับมามองชายคนหนึ่งของเธอและพูดว่า “เทย์ เข้ามาใกล้กว่านี้ ฉันอยากเห็นร่างของเขาถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย จนแม้แต่พระเจ้าก็จับเขาไม่ได้ ไปทำงานเถอะ”

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 62: ข้อจำกัดของการรักษา

 

“ด้วยการโจมตีที่ไร้ประโยชน์ที่สามารถทำร้ายแกได้มากพอๆ กับที่ทำร้ายฉัน… แกไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นใช่ไหม?” ลูซิเฟอร์ถามเอลิซีด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว “และแกก็คงคิดว่าแกสามารถเรียกฉันว่าหมาได้มากขนาดนั้นเลยสินะ มันช่างน่าผิดหวัง”

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะพูดอย่างสงบ แต่เอลิซีก็รู้สึกราวกับว่าเขากำลังเยาะเย้ยเธอ เธอรู้สึกถึงการถูกเหน็บแนมในคำพูดของเขา

 

“หยุดทำไม! โจมตีอีกสิ! ไม่มีพลเรือนอยู่ที่นี่แล้ว! ฆ่าไอ้สารเลวนั่น!”

 

การทิ้งระเบิดของการโจมตีเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งตามคำสั่งของเธอ แต่คราวนี้การเคลื่อนไหวของลูซิเฟอร์เร็วขึ้นมาก

 

เขาบินไปทางเอลิซีอีกครั้ง เพื่อหลบการโจมตี

 

ชายอีกคนหนึ่งวิ่งเข้าหาเขาด้วยหมัดเปลวเพลิง น้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้าไม่เพียงพอที่จะหยุดไฟในมือของเขาได้ เนื่องจากไม่ใช่ไฟธรรมชาติ แต่เป็นความสามารถของเขา ลูซิเฟอร์ที่ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ในขณะที่เขายกนิ้วเดียวจากมือขวา เล็งไปที่ชายที่เดินเข้ามา

 

สายฟ้าสีดำสนิทเล็ดลอดนิ้วของเขาไปกระทบที่ศีรษะของชายคนนั้น

 

เจาะเข้าไปในกะโหลกศีรษะของชายคนนั้น ทะลุผ่าน ทิ้งรูขนาดใหญ่ไว้ในหัวของเขา เลือดไหลออกจากศีรษะของเขาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ร่างที่อ่อนล้าของชายคนนั้นล้มลง

 

ชายคนนั้นล้มลงกับพื้น แต่เนื่องจากเขาเคลื่อนไหวเร็วมาก แม้ว่าเขาจะล้มลง ร่างกายของเขายังคงเลื่อนไปข้างหน้าเพราะโมเมนตัมไปข้างหน้า ความเสียดทานที่ลดลงเนื่องจากฝนตกทำให้เขาไถลตัวไปกับพื้นได้นานกว่าที่จะเป็นไปได้

 

ไฟในมือของเขาดับลง แต่เลือดไม่หยุด มันไหลออกมาจากหัวของเขา ซึ่งผสมกับน้ำเรื่อยๆ จนกลายเป็นสีแดง

 

ลูซิเฟอร์ไม่หยุดท่ามกลางการโจมตี เขาจับตาดูการโจมตีทั้งหมดในขณะที่เขาหลบการโจมตีของคนพวกนั้นทั้งหมดราวกับว่าเขากำลังเต้นรำอยู่ในการโจมตี เขาอยู่ห่างจากเอลิซีเพียง 5 เมตร และพร้อมที่จะจับคอเธอไว้ในขณะที่ยื่นมือออกมา

 

น่าเสียดายที่ระยะ 5 เมตรสุดท้ายนั้นพิสูจน์แล้วว่ายากที่จะปกปิดในขณะที่เขาพบว่าตัวเองติดอยู่กับบางอย่าง

 

ต่อให้พยายามเท่าไรก็ก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ กลับถูกดึงกลับโดยพลังลึกลับบางอย่าง

 

เขาหันกลับไปหาสิ่งที่ดึงเขากลับมา มันเป็นพลังของแวเรียนท์หรือไม่? ทำไมพลังนี้จึงแปลกมากจนทำให้เขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้?

 

เมื่อเขาหันหลังกลับ เขาสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ด้วยมือขวาของเธอ ซึ่งเล็งมาที่เขา นัยน์ตาสีฟ้าสวยงามของเธอส่องประกายอย่างสวยงาม เห็นได้ชัดว่าเธอใช้ความสามารถของเธอเพื่อดึงเขากลับมาด้วยแรงของเธอ

 

“มากเกินไปแล้ว” ลูซิเฟอร์พึมพำราวกับสั่งคนรับใช้พร้อมยกมือตอบพร้อมกัน เขาพยายามใช้การโจมตีด้วยสายฟ้าระยะไกลเพื่อฆ่าเธอ

 

สายฟ้าสีดำปรากฏขึ้นอีกครั้งและพุ่งเข้าหาผู้หญิงคนนั้น แต่เธอไม่ได้ดูกลัวด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

“แจ็คเดี๋ยวนี้!” ผู้หญิงคนนั้นอุทานเมื่อเห็นการโจมตีของลูซิเฟอร์เข้ามาใกล้

 

สายฟ้าเข้ามาใกล้เธอและกำลังจะชนเธอเมื่อมีเกราะทรายหนาปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ ซึ่งหยุดสายฟ้าของลูซิเฟอร์และช่วยชีวิตเธอไว้

 

ลูซิเฟอร์ภายใต้สิ่งที่เกิดขึ้น เขาเข้าใจความหมายของคำสั่งของเธอ

 

มันคงเป็นคำสั่งอีกรูปแบบหนึ่งที่ใช้ความสามารถของเขาเพื่อช่วยเธอ

 

นี่เป็นสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม เนื่องจากผู้คนสามารถมีบทบาทได้หลายอย่าง ซึ่งทำให้พวกเขาได้เปรียบเหนือตัวบุคคล

 

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเหล่าฮันเตอร์จึงเข้าไปในดันเจี้ยนพร้อมกับทีมของพวกเขา มันช่วยให้พวกเขาเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดได้ เมื่อพวกเขาอ่อนแอกว่า เนื่องจากจุดอ่อนของพวกเขาสามารถถูกเพื่อนร่วมทีมปกปิดได้

 

ลูซิเฟอร์อยู่ที่นี่คนเดียว เขาไม่มีทีมหรืออะไรเลย เขาไม่ต้องการทีมเช่นกัน เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครเข้าใกล้เขาในฐานะเพื่อนร่วมทีม เขาไม่คิดว่าเขาต้องการทีมเพราะเขาเชื่อมั่นในความสามารถของเขา

 

เขาคิดน้อยลงเกี่ยวกับอันตรายต่อชีวิตของเขาและวิธีที่เขาสามารถสร้างทีมและเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำลายศูนย์วิจัยและฆ่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหมดที่ทำลายชีวิตของเขาและทำลายวัยเด็กของเขาแม้หลังจากที่พ่อแม่ของเขาทำเพื่อมนุษย์มากมาย

 

เขาได้สร้างความเกลียดชังให้กับมนุษย์ แต่ความเกลียดชังที่แท้จริงของเขามีต่อนักวิทยาศาสตร์ เขาไม่ได้ฆ่าคนโดยประมาท เขาฆ่าเฉพาะคนที่อาจเป็นอุปสรรคต่อเขาหรือคนที่เขาเห็นว่าน่ารำคาญ จนถึงตอนนี้ เขาได้ฆ่าคนบริสุทธิ์ไป 2-3 คนด้วย แต่เขาไม่เสียใจเลย

 

สำหรับเขา ชีวิตมนุษย์ก็เหมือนมด เขาไม่ได้จงใจจะบดขยี้พวกเขา แต่เมื่อเขาบดขยี้พวกเขา เขาก็ไม่สนใจ เขาแยกตัวออกจากการคิดถึงคนอื่นเหมือนคนอย่างเขา สำหรับเขา สัตว์ประหลาดก็คือสัตว์ประหลาด และมนุษย์ก็คือสัตว์ประหลาด ทุกคนเป็นสัตว์ประหลาด

 

นอกจากนี้ เนื่องจากเขาสูญเสียความกลัวความเจ็บปวดและความรู้สึกกลัว เขาจึงเลิกสนใจชีวิตของเขาเช่นกัน เขาคิดว่าตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์เช่นกัน ลูซิเฟอร์รู้สึกว่าตอนนี้เขาเป็นแค่หุ่นเชิด เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่มีเหตุผลที่จะรู้สึกมีความสุขหรือเศร้า

 

อารมณ์เดียวที่เขามีคือความเกลียดชัง… ความเกลียดชังและความรังเกียจต่อผู้คน เขาเกลียดคนที่ทำลายชีวิตของเขา และเขาเกลียดคนที่พยายามจะหยุดเขา เขาเกลียดทุกคนที่ยืนอยู่ในทางของเขาราวกับว่าพวกเขาเป็นศัตรูของเขา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคนที่ถูกเรียกว่าคนดีก็ตาม

 

คนรอบข้างก็เป็นศัตรูของเขาเช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นมนุษย์ แต่ในสายตาของเขา เขากำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาด เขาเป็นนักล่าเดี่ยวที่เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดของมนุษยชาติ เขาเป็นคนที่เผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่แข็งแรงพอที่จะครองเมือง แต่เขารู้ว่าเขามีศักยภาพที่จะฆ่าพวกเขาทั้งหมด

 

หากพวกมันเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่ง ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือการเป็นมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่า ทั้งหมดที่เขาต้องทำคือกำจัดทุกคนที่ขวางทางเขา

 

ไม่สำคัญว่าเขาจะต้องตายอีกกี่ครั้ง ไม่ว่าร่างกายของเขาจะถูกทำลายไปกี่ครั้งก็ตาม เนื่องจากเขาได้รับร่างกายอมตะด้วยความช่วยเหลือของ Infinite Healing (การฮีลที่ไม่จำกัด) สิ่งที่เขาต้องการคือความมุ่งมั่น ความมุ่งมั่นในการต่อสู้ และเขาสามารถทำได้ เขาเป็นเหมือนนักรบอมตะที่สามารถตื่นขึ้นมาได้หลังจากที่ล้มลง แต่พลังของเขาก็ยังมีขีดจำกัด

 

การรักษาของเขาไม่เหมือนที่คนอื่นคิด ความสามารถทั้งหมดมีข้อจำกัด การรักษาของเขาเป็นไปตามหลักธรรม แต่ก็มีข้อจำกัด โชคดีที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่ลูซิเฟอร์ยังไม่รู้ข้อจำกัดของเขาเลย

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 61: เหล็กกับสายฟ้า

อ่านนิยาย novelza.com

“เจ้าหนู ในเมื่อเจ้ากล้ามาก มาสู้กับข้าอย่างลูกผู้ชาย! เจ้าหนีไม่พ้นหรอก!” ชายคนนั้นพูดอย่างเย่อหยิ่ง โดยไม่รู้ว่าเป็นเรื่องน่าขันขนาดไหนที่จริง ๆ แล้วเขากำลังบอกให้เด็กอายุ 10 ขวบต่อสู้อย่างคนที่เหมาะสม

 

โดยไม่ต้องรอ สตีลแมนชกต่อยหน้าลูซิเฟอร์อย่างเย่อหยิ่งอีกครั้ง หลังจากที่เขาเข้าไปใกล้ลูซิเฟอร์

 

ผลลัพธ์ครั้งนี้แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มันไม่เป็นไปตามที่เขาคาดไว้เลย

 

“มันจะไม่ทำงานอีกครั้ง”

 

ลูซิเฟอร์พูดอย่างสงบ ในขณะที่ยกมือซ้ายขึ้น คว้าหมัดของชายเหล็ก

 

“ยะ-ยังไง!?” สตีลแมนอุทานด้วยความตกใจบนใบหน้าของเขา เขาไม่เชื่อ เด็กอายุ 10 ขวบจับมือเขาไว้ แต่เขาไม่สามารถแม้แต่จะก้าวไปข้างหน้าได้? ทำไมเขารู้สึกเหมือนถูกภูเขาจับตัวไว้?

 

คนอื่นๆ ที่อยู่ในสถานที่นั้นเห็นเพียงว่าการโจมตีของเขาหยุดลงแล้ว แม้ว่ามันจะทำให้พวกเขาตกตะลึง แต่พวกเขาก็ไม่ตกใจเท่าสตีลแมน

 

มีเพียงชายผู้นั้นเท่านั้นที่รู้ว่าการโจมตีของเขาทรงพลังเพียงใด

 

เด็กชายที่อยู่ข้างหน้าเขาหยุดการโจมตีเต็มกำลังอย่างง่ายดาย และเขาไม่ได้ถอยแม้แต่นิ้วเดียว

 

สตีลแมนพยายามดึงมือกลับ แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ราวกับว่ามือของเขาถูกจับโดยสัตว์ประหลาดที่ไม่ยอมปล่อยเขา

 

“แกมันเลว!” ชายคนนั้นคำรามด้วยความโกรธ ขณะที่เขาโจมตีด้วยมือซ้ายเช่นกัน

 

ลูซิเฟอร์สามารถหยุดการโจมตีด้วยวิธีเดียวกันโดยใช้มืออีกข้างหนึ่ง แต่เขาไม่ได้ทำเพราะมือซ้ายของเขาถือสิ่งที่สำคัญสำหรับเขา ชิ้นส่วนของร่างของพ่อของเขา เขาไม่ต้องการที่จะทำมันหล่นหรือหักไปมากกว่านี้

 

“ไปตายซะ” ลูซิเฟอร์พึมพำ ขณะที่สายฟ้าสีดำกะพริบอยู่รอบตัวเขา

 

ก่อนที่หมัดของชายคนนั้นจะแตะใบหน้าของเขา เขาใช้สายฟ้าทมิฬของเขา โดยสายฟ้าผ่านมือของเขาที่จับสตีลแมนอยู่และทำให้มันเข้าสู่ร่างกายของเขา

 

เนื่องจากเหล็กเป็นตัวนำไฟฟ้าที่ดี มันจึงไม่ต้านทานสายฟ้าที่เริ่มทำลายร่างกายของชายร่างสูง

 

เสียงกรี๊ดดังเล็ดลอดออกมาจากปากของชายคนนั้น ขณะที่เขาถูกไฟฟ้าดูด

 

แม้ว่าภายนอกร่างกายของเขาจะเป็นเหล็ก แต่ภายในก็ยังเหมือนเดิมและเปราะบาง เขาไม่สามารถต้านทานสายฟ้าสีดำดุร้าย ซึ่งเป็นรูปแบบสายฟ้าที่วุ่นวายที่สุดได้

 

ไม่นานก่อนที่เสียงกรีดร้องของเขาก็หยุดลง ในขณะที่หัวใจของเขาหยุดเต้น อวัยวะสำคัญทั้งหมดของเขาถูกทอด

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นในทันที เขาเสียชีวิต ก่อนที่เขาจะสามารถชกต่อยลูซิเฟอร์ได้ ดวงตาของเขาสูญเสียความเงางาม

 

ลูซิเฟอร์ปล่อยมือของชายคนนั้น ทำให้เขาล้มลงกับพื้น

 

ผู้คนที่ยืนอยู่ไกลๆ ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่จู่ๆ ชายเหล็กก็นอนอยู่บนพื้น เขาไม่ได้เคลื่อนไหว

 

สตีลแมนไม่สวมรองเท้า ดังนั้นเมื่อสายฟ้าสีดำผ่านร่างของเขา มันก็วิ่งไปตามน้ำที่นองอยู่บนพื้น

 

มันคงจะฆ่าคนจำนวนมากที่ยืนอยู่บนน้ำที่นองอยู่บนถนน แต่ทุกคนปลอดภัย ไม่มีใครรู้สึกอะไรเลยเพราะรองเท้าพิเศษของพวกเขาปกป้องพวกเขาจากกระแสไฟฟ้า

 

ลูซิเฟอร์มองดูทุกคนที่อยู่ที่นี่ หลังจากที่เขาจัดการกับชายร่างยักษ์เสร็จแล้ว

 

เขาสามารถเห็นได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากเกิดขึ้นที่นี่ และพวกเขาทั้งหมดรายล้อมเขาโดยรักษาระยะห่าง พร้อมที่จะโจมตี

 

จู่ๆ ลูซิเฟอร์ก็เปิดปากถามออกมาดังๆ

 

“ใครเป็นคนยิงการโจมตีครั้งแรกตอนที่ฉันยืนอยู่ตรงนั้น” เขาถาม ขณะชี้ไปที่แผงขายของที่ตอนนี้พังยับเยินอยู่ในซากปรักหักพัง

 

คนส่วนใหญ่ที่มาสายมองเขาด้วยความสับสน สงสัยว่าทำไมจู่ๆ เขาถึงถามคำถามนั้น แต่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้เหตุผล

 

เป็นเพราะการโจมตีครั้งนั้นได้ทำลายร่างอันล้ำค่าที่เขารู้สึกผูกพัน นั่นทำให้เขาโกรธมากกว่าถูกโจมตีจริงๆ เขามีความรู้สึกว่าเป็นเอลิซี ​​แต่เขายังคงถามเพราะเขาต้องการฆ่าคนๆ นั้นด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด แม้ว่าจะหมายถึงการปล่อยให้ทุกคนหนีไปได้ก็ตาม

 

คนที่อยู่ตรงนั้นตอนที่เอลิซียิงออกไปอดไม่ได้ที่จะมองมาทางเธอ ขณะที่ชายที่ยิงการโจมตีครั้งแรกจริงๆ ยืนอยู่ด้านหลัง พวกเขาไม่ได้มองที่เอลิซีเพราะเธอโจมตีก่อน แต่เพราะพวกเขาต้องการฟังคำสั่งของเธอ

 

ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นปฏิกิริยาของผู้คนและสันนิษฐานว่าเป็นเพราะเอลิซีเป็นผู้กระทำความผิด เขาได้รับคำตอบแล้ว และความสงสัยของเขาได้รับการยืนยันแล้ว

 

“เป็นแกสินะ” เขาพูดขณะที่เขาเหลือบมองเอลิซี สมมติฐานของเขาถูกต้อง

 

“ฉันไม่คุยกับหมาหรอก!” เอลิซีตอบอย่างเย่อหยิ่ง ขณะที่เธอเริ่มใช้ความสามารถของเธอเพื่อโจมตีลูซิเฟอร์อีกครั้งด้วยลูกบอลพลังงาน

 

ลูกบอลพลังงานขนาดเล็กเริ่มก่อตัวขึ้น

 

ลูซิเฟอร์ไม่ยอมให้เธอโจมตีในครั้งนี้ เขายกหินก้อนเล็กๆ ที่วางอยู่บนพื้นและโยนไปที่ลูกบอลพลังงานที่กำลังก่อตัวเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง เขาสังเกตเห็นว่าลูกบอลพลังงานจะระเบิดทุกครั้งที่สัมผัสอะไรบางอย่าง นั่นคือจุดอ่อนของมันหรือไม่? เขาต้องการทดสอบ

 

เอลิซียกเลิกความสามารถของเธอทันที เมื่อเธอรู้ว่าเขากำลังพยายามทำอะไร เธอยังหลบไปด้านข้างเพื่อหนีหิน

 

ลูกบอลพลังงานทำหน้าที่เหมือนขีปนาวุธ มันสร้างการระเบิดเมื่อใดก็ตามที่มันตกลงบนใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่าง แต่มันก็มีข้อจำกัดเช่นกัน ตราบใดที่มีบางอย่างกระทบกับมัน ในขณะที่กำลังลอยอยู่ มันจะถือว่าเป็นการลงจอด และการโจมตีก็จะระเบิดขึ้น นั่นคือจุดแข็งของมัน ในขณะเดียวกันก็เป็นจุดอ่อนของมันในเวลาเดียวกัน

อ่านนิยาย novelza.com

ถ้าหินตกลงบนลูกบอลพลังงาน เมื่อมันอยู่ใกล้เธอ มันจะทำให้พวกเขาบาดเจ็บแทน

 

นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการหลีกเลี่ยง

 

เธอยังแปลกใจที่ลูซิเฟอร์สามารถเดาจุดอ่อนของเธอได้ ซึ่งสามารถใช้กับเธอได้หากเธอโจมตี

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 60: ชิ้นส่วนล้ำค่า

 

ลูกบอลพลังงานสีน้ำเงินขนาดเล็กปรากฏขึ้นต่อหน้าเอลิซี ซึ่งเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลา ในไม่ช้ามันก็ใหญ่เท่ากับฟุตบอล

 

เธอกระพือนิ้วเบา ๆ ทำให้ลูกบอลพลังงานพุ่งเข้าหาลูซิเฟอร์ราวกับว่ามันเป็นสายฟ้าที่ซุส ในตำนานขว้างออกไป

 

เมื่อลูกบอลพลังงานกำลังจะโจมตีโดนลูซิเฟอร์ ในที่สุดเขาก็ขยับ

 

โดยไม่หันกลับมามอง ลูซิเฟอร์ก้าวไปด้านข้าง หลบลูกบอลพลังงานนั้น

 

เขาเร็วมากจนสามารถหลบการโจมตีได้โดยไม่มีปัญหาแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งทำให้ทุกคนที่เห็นมันและตกตะลึง

 

ลูกบอลพลังงานพลาดจากตัวลูซิเฟอร์ไป แต่มันกระแทกแผงลอยที่อยู่ข้างหน้าไปอีก

 

ทันทีที่ลูกบอลพลังงานสัมผัสกับแผงลอย การระเบิดครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น เปลวไฟขนาดใหญ่กระจายไปทั่วทุกทิศทางราวกับว่าลูกบอลพลังงานเป็นขีปนาวุธที่ทำให้เกิดมัน

 

แรงระเบิดนั้นรุนแรงมาก แม้ว่าฝนจะตกหนัก แต่ไฟก็ยังลุกลามไปได้ไม่กี่เมตร

 

ลูซิเฟอร์เห็นเปลวไฟพุ่งเข้าหาเขา ผสมกับควันเพราะฝนปะทะกับไฟ

 

ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ ในที่สุดเขาก็หันกลับมามองทางเอลิซีแทน

 

เขาสัมผัสได้ว่าเอลิซีโจมตีเขาตั้งแต่เธอยกมือขึ้นไปในอากาศแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาก็ให้เครดิตกับการโจมตีครั้งก่อนกับเธอเช่นกัน ซึ่งทำลายร่างของพ่อของเขา

 

เขาค่อยๆเปิดริมฝีปากของเขา ในขณะที่เขาพูดออกมา 3 คำ

 

“แกจะต้องตาย!”

 

เสียงของเขาไม่ดังเกินไป และเอลิซีกับคนของเธอก็ไม่ได้ยินคำพูดของเขาเช่นกัน แต่พวกเขายังคงรู้สึกหนาวเหน็บไหลลงมาตามกระดูกสันหลังด้วยเหตุผลบางประการ

 

ไม่นาน เปลวไฟก็มาถึงลูซิเฟอร์ กลืนเขา ทำให้ร่างของเขาหายไปจากสายตาของทุกคน

 

“ตอนนี้เขาจะตายไหม” จ่าแทรฟฟอร์ดถาม ในขณะที่เขามองไปที่เอลิซีแต่เขาได้รับคำตอบเมื่อเห็นเอลิซียกมือขึ้นเพื่อโจมตีอีกครั้ง

 

มันเป็นความพิเศษของเธอ ลูกบอลพลังงานเป็นความสามารถธาตุระดับ A มันเป็นเหมือนระเบิดจากสิ่งที่จ่าแทรฟฟอร์ดเข้าใจ

 

ว่ากันว่าถ้าลูกบอลพลังงานของเธอตกลงไปที่บุคคล พวกมันจะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“มองอะไร! พวกแกทุกคนโจมตี! เขามีสิ่งที่ช่วยรักษาเขาอยู่บ้าง นั่นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ตาย หลังจากถูกยิงและหลังจากการโจมตีครั้งก่อน! เราต้องทำลายร่างกายของเขาเกินกว่าที่เขาจะรักษาได้!” เอลิซีประกาศ “ไฟดวงน้อยนี้คงไม่เพียงพอ”

 

“พวกเจ้าทุกคน ยิงต่อไป อย่าหยุด!” จ่าแทรฟฟอร์ดยังออกคำสั่งตำรวจ ในขณะที่เขาได้ยินคำพูดของเอลิซี เขากลัวสิ่งที่เขาเผชิญอยู่ แต่เขายอมทำทุกอย่างทั้งๆ ที่เขารู้สึกว่ามันผิด เขายังคงมีความเห็นว่าพวกเขาควรจะแจ้ง APF อีกด้วย

 

ทุกคนพร้อมที่จะโจมตีอย่างสุดความสามารถ แต่ก่อนที่พวกเขาจะโจมตีได้ พวกเขาเห็นร่างหนึ่งบินเข้าหาพวกเขา

 

ดูเหมือนเด็กหนุ่มที่เสื้อผ้าถูกไฟไหม้ในที่ต่างๆ และดูเหมือนเด็กที่ไร้ความรู้สึก

 

ลูกบอลพลังงานของเอลิซียิงออกไปอีกครั้ง แต่ก่อนที่มันจะกระทบกับลูซิเฟอร์ เขาก็ขยับไปทางซ้าย หลบการโจมตี

 

กระสุนจำนวนมากถูกยิงใส่เขา แต่เขาไม่สนใจและปล่อยให้มันตีเขา เขาเพียงหลบเลี่ยงการโจมตีของกิลด์ฮันเตอร์แห่งอินทรีย์แดงเนื่องจากเขาโกรธจัด และเขาไม่ต้องการที่จะล่าช้า

 

มีรถมาถึงที่เกิดเหตุมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีนักล่าจากกิลด์อินทรีย์แดง มาถึงที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ

 

กองกำลังตำรวจและนักล่าส่วนใหญ่ของเมืองได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เพื่อสังหารลูซิเฟอร์

 

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขาทั้งหมด

 

 

ลูซิเฟอร์ยังคงหลบกระสุนไปทางซ้ายและขวา ในขณะที่เขาเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยความช่วยเหลือของลม เขาหลบระเบิดพลังงานอีกอัน เขากำลังจะไปถึงเอลิซีในที่สุด เมื่อมีชายคนหนึ่งกระโดดไปข้างหน้าเขาทันทีและต่อยออกไป

 

หมัดของชายคนนั้นกระทบหน้าของลูซิเฟอร์ ทำให้เขาลอยกลับไปไกล

 

เขากระแทกกับพื้นที่ปกคลุมไปด้วยน้ำที่กระเซ็นไปทุกที่หลังจากการล้มของเขา มีเลือดบนเสื้อผ้าของเขาที่เป็นเพราะเขาถูกยิงหลายครั้ง โลหิตถูกชะล้างด้วยสายฝนทำให้แอ่งน้ำเป็นสีแดง

 

ลูซิเฟอร์ดันตัวเองขึ้นและเห็นคนที่โจมตีเขาเมื่อกี้

 

เป็นชายที่สูง 7 ฟุตและมีร่างกายเป็นโลหะ ดูเหมือนว่าเขาทำมาจากเหล็กทั้งหมด เขาเป็นอัศวินของอินทรีย์แดงที่เรียกว่าสตีลแมน เขามีความสามารถที่เปลี่ยนร่างของเขาเป็นเหล็กแข็ง และยังเพิ่มขนาดของเขาอีกเล็กน้อย

 

ชายคนนั้นสูง 7 ฟุตในร่างที่เปลี่ยนไปของเขาในขณะที่สูงน้อยกว่า 5 ฟุตในสภาพที่แท้จริงของเขา

 

“รองหัวหน้ากิลด์! ไอ้สารเลวนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญในการหลบหลีกการโจมตี และการรักษาของเขาก็แข็งแกร่งเกินไป ฉันคิดว่ามันจะดีกว่า ถ้าให้ฉันต่อสู้กับเขา ฉันจะฉีกเขาออกเป็น 2 ส่วน ไม่มีทางที่เขาจะรักษาได้ หลังจากนั้น!” สตีลแมนมองย้อนกลับไปที่เอลิซีและแนะนำ

 

เอลิซีจ้องที่ลูซิเฟอร์ ก่อนที่จะมองไปที่สตีลแมนและพยักหน้าในที่สุด

 

“คุณพูดถูก เขาเป็นเหมือนแมลงสาบที่หลบทุกอย่างได้” เธอออกคำสั่ง “ไปเถอะ ฉีกเขาออกเป็น 2 ส่วนด้วยกำลังที่ดุร้ายของคุณ”

 

คนร่างเหล็กหัวเราะ ในขณะที่เขากระแทกหมัดทั้งสองเข้าหากัน พร้อมยิ้มให้กับโอกาส ได้ยินเสียงโลหะขณะที่หมัดของเขาปะทะกัน

 

“ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” เขาสัญญาก่อนจะเดินไปหาลูซิเฟอร์

 

จ่าแทรฟฟอร์ดยังบอกให้พวกผู้ชายที่กำลังยิงอยู่นั้นหยุดยิง เขาไม่ต้องการให้กระสุนโดนชายร่างเหล็กคนนั้น แต่ยังไงกระสุนเหล่านั้นมันก็ไม่ทำงานอยู่ดี ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเก็บกระสุนไว้

 

 

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้น ขณะที่เขามองที่มือของเขา เขายังคงมีเศษแก้วจากร่างของพ่อที่หักอยู่ในมือ เขายังไม่ได้ทำมันตก

 

เขาไม่ได้ถอดถุงมือออกเพราะเขาไม่ต้องการให้มันถูกทำลายเพราะพลังของเขา ไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาต้องการปกป้องชิ้นส่วนนั้น

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 59: ทำลาย

 

“ท่านครับ ผมขอแนะนำว่าอย่าใช้พลังของคุณได้ไหม ถ้าคุณใช้มัน มันจะทำให้เกิดการระเบิด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้คนที่อยู่ใกล้เคียง” จ่าแทรฟฟอร์ดบอกกับเอลิซี

 

“ก็ได้”

 

เอลิซีเห็นด้วยกับแทรฟฟอร์ดซึ่งทำให้เขาหวังว่าบางทีเธออาจจะไม่นำอารมณ์เหนือกฎหมาย แต่น่าเสียดาย ในไม่ช้าเขาก็รู้ว่าเขาคิดผิด เมื่อเอลิซีมองไปยังสมาชิกอีกคนในทีมของเธอและสั่งการ

 

“คุณทำได้ พลังของคุณค่อนข้างเชื่องเมื่อเทียบกับของฉัน และพวกมันจะไม่ทำให้เกิดการระเบิด อย่าทำอะไรมาก แค่ระเบิดสมองของเขา”

 

ชายผู้ยืนอยู่ข้างเอลิซีพยักหน้า ขณะที่ยกมือขึ้นและเล็งไปที่ลูซิเฟอร์

 

 

ลูซิเฟอร์เดินเข้าไปใกล้แผงขายของเล็กๆ ที่ขายร่างของวีรบุรุษผู้โด่งดัง แต่มีเพียงร่างเดียวที่ดึงดูดความสนใจของเขา มันเป็นร่างของพ่อของเขา

 

เจ้าของแผงลอยดูเหมือนชายหนุ่มที่ดูเหมือนเขาอายุ 30 ต้นๆ

 

ชายคนนั้นสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ใกล้แผงขายของ มองดูร่างเหล่านั้น เขายังสังเกตเสื้อผ้าหรูหราของลูซิเฟอร์

 

‘เขาคงเป็นเด็กในตระกูลที่ร่ำรวยแน่ๆ’ ชายคนนั้นคิด เขาเข้าใจผิดเพราะเสื้อผ้าของลูซิเฟอร์

 

“สนใจตัวไหนล่ะพ่อหนุ่ม” ชายคนนั้นถามลูซิเฟอร์ด้วยรอยยิ้มที่ห่วงใย

 

“ฉันต้องการอันนั้น” ลูซิเฟอร์ปล่อยมือขณะที่ชี้ไปที่ร่างหนึ่ง

 

“โอ้ ร่างของวอร์ล็อค เซล แอซเรล ที่ล้มลง ทางเลือกที่ดี หนุ่มน้อย” ชายคนนั้นชมเชยทางเลือกของลูซิเฟอร์

 

“คุณรู้ไหม เขาเป็นหนึ่งในวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดที่มนุษย์รู้จัก น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หุ่นนี้ทำจากแก้วทั้งหมดแล้วทาสี คุณจะเห็นคุณภาพของมันแล้ว มันเป็นหุ่นหายากที่ปัจจุบันไม่มีแล้ว ไม่คิดว่าจะหาได้จากที่ไหน”

 

ชายคนนั้นยังคงชมเชยรูปนั้นเพื่อขายมัน

 

“แม้ว่าจะมีราคาแพง แต่ฉันสามารถให้ส่วนลดแก่คุณได้ ที่นี่ คุณสามารถสัมผัสได้ถึงเนื้อสัมผัสของตัวคุณเอง” ชายหนุ่มกล่าวขณะหยิบร่างนั้นและส่งให้ลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์เอื้อมมือไปจับร่างนั้น

 

เด็กคนนั้นจับร่างนั้นไว้ในมือ ลูบไล้มันอย่างระมัดระวัง ขณะที่มองดูมันด้วยสายตาที่ชวนให้นึกถึง ความสูญเสียตัวเองไปในความทรงจำนับพันในอดีตของเขา

 

“ฟั-“

 

เขาพูดอยู่ แต่จู่ๆ เขาก็หยุดลงเมื่อรู้สึกบางอย่าง เขากำลังจะหันหลังกลับ แต่เขาทำไม่ได้ ก่อนที่ลูกแก้วแสงเล็กๆ จะบินมาทางเขา

 

ลูกกลมไม่ใหญ่กว่ากระสุนขนาดเล็กมากนัก แต่มีพลังงานอยู่เป็นจำนวนมาก

 

ลูซิเฟอร์ไม่สามารถตอบสนองได้ก่อนที่ลูกแก้วแสงจะทะลุผ่านด้านหลังศีรษะของเขา มันผ่านเข้าไปในสมองของเขาและออกมาทางด้านหน้า ทิ้งช่องว่างในหัวของเขาไว้

 

ลูกแก้วนั้นไม่ได้หยุดแม้ว่า ซึ่งตอนนี้มันเต็มไปด้วยเลือด และมันยังคงบินอยู่บนวิถีของมัน และกระแทกร่างแก้วของพ่อของลูซิเฟอร์อย่างรุนแรง ซึ่งอยู่ในมือของเขา ทำให้มันแตกเป็นชิ้นๆ ไม่นานลูกแก้วก็กระทบกำแพงก่อนที่มันจะหายไปในที่สุด

 

 

ช่วงเวลาแห่งความเงียบงันเกิดขึ้น ซึ่งตามมาด้วยความโกลาหล เมื่อประชาชนตระหนักว่ามีคนถูกฆ่าตาย ประชาชนเริ่มวิ่ง

 

 

แม้ว่าจะมีรูในหัวของลูซิเฟอร์ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจมัน แต่เขาสามารถเห็นน้ำตาในดวงตาของเขา ขณะที่เขามองดูชิ้นแก้วในมือของเขา ร่างนั้นแหลกสลายเหลือเพียงชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

รูในหัวของเขาเริ่มหาย และในไม่ช้า มันก็หายเป็นปกติ เหลือเพียงเลือดบางส่วนที่หน้าผากและหลังศีรษะของเขา แต่ลูซิเฟอร์ดูเหมือนเขาตายไปแล้ว เขาไม่ขยับเขยื้อน จ้องเขม็งไปที่เศษแก้วที่แตกสลาย ซึ่งเป็นร่างของพ่อของเขาจนกระทั่งเมื่อครู่ที่แล้ว

 

เจ้าของแผงลอยทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความกลัว ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นการรักษาที่ไร้มนุษยธรรมของลูซิเฟอร์

 

….

 

น้ำตาหยดเดียวไหลออกมาจากดวงตาของลูซิเฟอร์ ไหลผ่านแก้มของเขาอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะตกลงสู่พื้น

 

สายฟ้าสีดำเริ่มกะพริบรอบๆ ลูซิเฟอร์ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวก็ตาม แสงสว่างยังคงเข้มข้นราวกับว่ามันตั้งใจจะทำลายโลกทั้งใบด้วยความโกรธและความเศร้า

 

อย่างไรก็ตาม ก็มีปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

 

ท้องฟ้าที่เคยมีเมฆเพียงเล็กน้อยก่อนหน้านี้ก็ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำทั้งหมด มันเริ่มฟ้าร้องราวกับว่ากำลังแสดงความโกรธด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับอารมณ์ของลูซิเฟอร์

 

ใช้เวลาไม่นานก่อนที่หยดน้ำจะเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้า

 

ภายในไม่กี่วินาที ฝนโปรยปรายกลายเป็นฝนตกหนัก

 

คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ได้เริ่มวิ่งหนีไปนานแล้ว พวกที่อยากจะอยู่ข้างหลังเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นก็เริ่มวิ่งหนีเพราะพวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าพายุฝนฟ้าคะนองกำลังมา และมันก็ไม่คุ้มที่จะอยู่ที่นี่

 

เอลิซี ​​คนของเธอ และตำรวจยังคงยืนอยู่ที่นั่น มองดูแผ่นหลังของลูซิเฟอร์ด้วยความตกใจบนใบหน้าของพวกเขา

 

หยดน้ำกำลังทำให้ร่างกายของพวกเขาเปียก แต่ฉากก่อนหน้านั้นช่างน่าทึ่งยิ่งกว่า

 

เอลิซีไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูซิเฟอร์ยังคงยืนอยู่ได้อย่างไร เมื่อลูกแก้วทะลุเข้าไปในสมองของเขา เธอได้เห็นกับตาของเธอเอง

 

ทุกคนต่างจ้องมองไปที่ร่างของลูซิเฟอร์ที่เปียกโชกไปด้วยน้ำ แต่ไม่มีใครเห็นใบหน้าของเขา

 

หากพวกเขามองหน้าเขา พวกเขาจะได้พบเด็กที่ดูเหมือนหลงทาง ละอองหลายหยดไหลลงบนใบหน้าของเขา ทำให้ยากต่อการรู้ว่าจริง ๆ แล้วมันคือน้ำฝนหรือน้ำตาแห่งความโศกเศร้า

 

ผมสีเงินยาวของเขาเปียกโชก แนบชิดกับร่างกายของเขามากขึ้น เลือดที่ปกคลุมหน้าผากของเขาก็ถูกชำระล้างไปแล้วเช่นกัน

 

“เขาหายดีแล้ว… จากการโจมตีครั้งนั้น เขาเป็นแวเรียนท์แบบไหนกัน?” เธอพึมพำ “ก็ได้ ฉันจะทำเอง”

 

เอลิซีตั้งใจที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ให้เสร็จด้วยตนเองยกมือขึ้น เธอได้ตัดสินใจที่จะใช้พลังของเธอในตอนนี้ เธอต้องการเป่าร่างของลูซิเฟอร์ให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพื่อดูว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 58: ไม่ใช่เด็ก

 

ทั้ง 5 คนเข้ามาในโชว์รูม มีความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของพวกเขาที่ทำให้พวกเขาดูเหมือนราชวงศ์

 

เสื้อคลุมยาวของพวกเขามีตรานกอินทรีย์แดงที่หน้าอก ปลายเสื้อคลุมของพวกมันเคลื่อนไหวไปตามลมขณะเดิน

 

คนที่เป็นผู้นำเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนเธออายุ 40 ต้นๆ

 

“รองหัวหน้ากิลด์ มาดามเอลิซี” จ่าแทรฟฟอร์ดทักทายผู้หญิงที่เป็นผู้นำด้วยความเคารพอย่างสูง ในขณะที่เขาจำได้ว่าเธอเป็นรองหัวหน้ากิลด์อินทรีย์แดง เอลิซี ​​มิไค

 

เอลิซีเพิกเฉยต่อคำพูดของหัวหน้าตำรวจ ขณะที่เธอเดินไปหาเฟรย์ ซึ่งนอนอยู่บนพื้นอย่างไม่ขยับเขยื้อน เธอแตะข้อมือเขาแล้ววางนิ้วใกล้จมูกของเขาเพื่อตรวจสอบบางอย่างก่อนจะพยักหน้า

 

“เขาบาดเจ็บและอ่อนแอมาก แต่เขายังมีชีวิตอยู่ พาเขาไปที่โรงพยาบาลกิลด์เพื่อรับการรักษา” เธอพูดอย่างใจเย็น ขณะที่เธอมองย้อนกลับไปที่ผู้ชายของเธอ

 

ชายคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้า ยอมรับคำสั่งของเธอ ขณะที่เขายกเฟรย์และออกจากร้านค้า

 

“จากสิ่งที่ฉันได้ยินจากการเป็นพยาน อาจารย์เฟรย์ ได้ต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องประชาชน แต่สำหรับ แวเรียนท์ที่สามารถทำร้ายเขาได้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นภัยต่อเมือง” เอลิซีบอก

 

“ใช่ เมืองกำลังตกอยู่ในอันตราย ล็อคเมืองไว้” เอลิซีบอกหัวหน้าตำรวจ “บอกพลเมืองทุกคนให้ซ่อนตัวอยู่ในบ้านของพวกเขา”

 

เธอหยิบโทรศัพท์ออกมากดหมายเลข

 

“ดูเหมือนว่ามีแวเรียนท์เด็กอายุ 10 ขวบที่สูญเสียการควบคุมพลังของเขาหรือใครบางคนจากพวกแวเรียนท์เกิดใหม่ ที่ส่งตัวมาก่อความโกลาหลในเมืองของเรา” เธอบอกกับใครบางคนทางโทรศัพท์

 

เธอพูดต่อโดยไม่หยุด “ส่งมีอาและทีมของเธอไปที่ทางออกหนึ่งของเมือง และส่งฮานไปที่ทางออกอื่น บอกคนของเราให้ค้นหาทั่วทั้งเมืองและระวังให้ดี ฉันต้องการข้อมูลอัปเดตทุกครั้งที่พบผู้ร้าย”

 

“รีบไปตามหาเขาซะ! ฉันจะเอาหัวของนายใส่จานถ้าเราหาฆาตกรไม่เจอ!”

 

เธอยกเลิกการรับสาย

 

 

ชายจากอินทรีย์แดง เดินเข้ามาใกล้เอลิซี เขาเป็นสมาชิกอีกคนหนึ่งในทีมที่ชื่อสตราโต

 

“เราควรแจ้ง APF ด้วยหรือไม่” สตราโตถามเอลิซี

 

“ไม่ APF เต็มไปด้วยกลโกงอันชอบธรรมมากมาย ถ้าพวกมันมา พวกมันจะจับฆาตกรแต่จะไม่ฆ่าเพราะเป็นเด็กเล็กที่อาจเพิ่งถูกปลุกพลังขึ้นและไม่รู้ถึงพลังของเด็กคนนั้น”

 

จ่าแทรฟฟอร์ดมองเอลิซีอย่างตกตะลึง คำพูดของเธอหมายความว่าเธอไม่ต้องการให้เขาถูกจับตัวเป็นๆ หรือไม่?

 

“ฉันอยากให้เด็กนั่นตายเพราะสิ่งที่มันทำ ไม่สำคัญว่ามันทำอย่างที่มันได้ทำไปทำไม!”

 

สตราโตพยักหน้าเห็นด้วย

 

….

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจถึงความโกลาหลที่เขาก่อขึ้นโดยสิ้นเชิง ขณะที่เขาเดินผ่านถนนในเมือง มองดูแผงลอยและร้านค้าต่างๆ ตลอดทาง

 

เขาไม่ได้สนใจอะไรเลยจริงๆ เขารู้สึกทึ่งกับความหลากหลายของสิ่งต่าง ๆ ที่โลกมี มีสินค้าทุกประเภทขายตั้งแต่อาหารไปจนถึงของเล่นเชิงพาณิชย์ไปจนถึงเสื้อผ้า

 

น่าเสียดายที่เขาไม่สนใจอะไรเลย

 

เขาเดินต่อไป พยายามจะออกจากเมือง เมื่อเขาหยุดกะทันหัน

 

เหมือนเขาหยุดเดินไปแล้วและเหมือนเท้าของเขาหยุดเคลื่อนไหวเองมากกว่า เมื่อเขาสังเกตเห็นแผงลอยเล็ก ๆ ในระยะไกล

 

สถานที่เล็ก ๆ มีหุ่นจำลองจำนวนมากวางอยู่ที่นั่น พวกเขาเป็นร่างของวีรบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ต่างๆ

 

มีหลายบริษัทที่ทำแอ็คชั่นฟิกเกอร์ของนักล่าและแวเรียนท์ที่มีชื่อเสียง และที่นี่ขายสิ่งของพวกนั้น แต่ลูซิเฟอร์ไม่สนใจตัวเลขส่วนใหญ่ สิ่งที่เขาดูนั้นคือหนึ่งเดียวที่อยู่ที่นั่น

 

เขาสังเกตเห็นร่างที่ดูเหมือนร่างของเซล แอซเรล พ่อของเขา เมื่อเขายังเด็ก เขามักจะเห็นพ่อของเขาในทีวี ช่วยชีวิตผู้คน หุ่นจำลองสวมเสื้อผ้าชุดเดียวกันและมีผมสีเดียวกัน

 

สิ่งที่เขามองอยู่ดูเหมือนแบบจำลองของพ่อของเขาในร่าง

 

เมื่อเห็นร่างนั้นทำให้หัวใจของลูซิเฟอร์เต้นช้าลง เมื่อความทรงจำมากมายแล่นเข้ามาในหัว

 

เขาไม่สนใจสิ่งอื่นใด ทั้งหมดที่เขารู้คือเขาต้องการมัน

 

เขาเริ่มเดินไปที่แผงลอย

 

ข้างหลังเขามีตำรวจคนหนึ่งที่เห็นลูซิเฟอร์

 

เขาตรงกับคำอธิบายของเด็กหนุ่มที่พวกเขากำลังมองหา เขายังสังเกตเห็นเลือดหยดเล็กน้อยบนถุงมือของลูซิเฟอร์ เห็นได้ชัดว่าลูซิเฟอร์เป็นเด็กที่พวกเขากำลังมองหา

 

เขาเรียกจ่าแทรฟฟอร์ดในทันทีเพื่อแจ้งให้เขาทราบและรับคำสั่งเพิ่มเติม

 

****

 

เอลิซีและจ่ายังคงอยู่ในร้านค้า กำลังดูภาพจากกล้องวงจรปิดของถนนในช่วง 20 นาทีที่ผ่านมา

 

พวกเขาเห็นเด็กชายและเสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่ พวกเขายังเห็นใบหน้าของลูซิเฟอร์ ในภาพขณะที่เขากำลังเดินอยู่บนถนน

 

จ่ากำลังจะส่งรูปให้ทุกคน เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์

 

เขาหยิบโทรศัพท์มาวางไว้ใกล้หู

 

“ฮัลโหล?”

 

“คุณจริงจังไหม เขาสวมอะไรอยู่”

 

“ใช่แล้ว นั่นมันผู้ชายคนนั้น! ไม่ต้องทำอะไร เราจะไปที่นั่น” เขาอุทานเมื่อดวงตาเป็นประกายเมื่อคำอธิบายตรงกัน เขายกเลิกการรับสาย

 

เขามองย้อนกลับไปที่เอลิซีที่มองไปรอบๆ ร้าน

 

“ผมคิดว่าเราได้ตัวเขาแล้ว! เด็กคนนั้นอยู่ที่ถนน 17” จ่าแทรฟฟอร์ดบอกกับเอลิซี

 

เอลิซีกำหมัดของเธอ ขณะที่รอยยิ้มนักฆ่าก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของเธอ “หึดีมาก”

 

“ไปกันเถอะ” เธอปล่อยตัว ขณะหันหลังกลับ เสื้อคลุมของเธอโบกมือไปทางด้านหลังอย่างกะทันหัน ทำให้เธอดูสง่างามยิ่งขึ้นไปอีก

 

เธอก้าวออกไปและขึ้นรถที่จอดอยู่นอกโชว์รูม แล้ววิ่งไปที่ถนนสายที่ 17 คนอื่นๆ ก็เดินตามหลังรถของเธอ รวมทั้งตำรวจด้วย

 

 

ใช้เวลาไม่นานนัก เอลิซีก็มาถึงถนน 17 และก้าวออกจากรถ

 

ในไม่ช้าเธอก็เห็นตำรวจบนถนนและมองไปในทิศทางที่เขากำลังมอง เธอเห็นเด็กชายในชุดแจ็กเก็ตสีแดงยืนอยู่ตรงนั้น เสื้อผ้าและรูปลักษณ์ของเขาเข้ากับคนที่เห็นในคลิป เธอแน่ใจว่าเขาเป็นฆาตกร—รอยยิ้มก่อตัวขึ้นบนริมฝีปากสีแดงของเธอ

 

คนอื่นๆ ก็ก้าวลงจากรถและยืนอยู่ข้างหลังเธอ

 

“เราจะจัดการกับมันอย่างไรนายหญิง เราควรไปจับเขาไหม” จ่าแทรฟฟอร์ดถามเอลิซี เนื่องจากเธอได้รับแจ้งมากขึ้นเกี่ยวกับมนุษย์ที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น “ฉันรู้ว่าคุณไม่ต้องการจับ แต่เขาก็ยังเด็ก APF จะโกรธที่เราฆ่าเขา”

 

“ไม่จำเป็นต้องจับเขา เขาไม่ใช่เด็กแต่เป็นสัตว์ร้าย” เอลิซีพูดขณะยกมือขึ้น เธอดูเหมือนไม่สนใจสิ่งที่ แทรฟฟอร์ด กล่าว “และฉันจะปฏิบัติต่อเขาให้ดูว่าเราควรปฏิบัติต่อสัตว์เดรัจฉานอย่างไร”

 

จ่าแทรฟฟอร์ดเข้าใจความหมายของเธอ แต่เธอเป็นรองหัวหน้ากิลด์ของกิลด์อินทรีย์แดง เธอเป็นเหมือนราชินีที่นี่ เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากไปพร้อมกับสิ่งที่เธอสั่ง

 

เขาเข้าใจว่าเธอต้องการประหารชีวิตเขา เขาไม่ได้พยายามที่จะหยุดเธอ เขาแค่ดีใจที่เธอไม่ได้ใช้พลังของเธอในการฆ่าเด็ก เพราะนั่นอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริสุทธิ์คนอื่นๆ เช่นกัน

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 57: การป้องกันตัว

 

“เมื่อพวกมันแข็งแกร่ง พวกมันก็ล้อเล่นกับชีวิต และเมื่อพวกมันอ่อนแอ พวกมันก็จะร้องขอชีวิต นี่คือสิ่งที่โลกนี้กลายเป็นแบบนั้น” ลูซิเฟอร์กล่าว ขณะที่เขาเริ่มเข้าหาเฟรย์ “วันนี้ฉันจะทำความสะอาดที่นี่”

 

หัวใจที่กระสับกระส่ายและแตกสลายเล็กน้อยของเขากำลังหยุดเขาไม่ให้เห็นความเป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาที่ห้องแล็บและร้านอาหารทำให้เขาตาบอด

 

เขาคิดว่าทุกคนที่พยายามจะหยุดเขานั้นแย่มาก เขาไม่เห็นว่าเฟรย์ไม่ได้จะทำร้ายเขาเลย ในทางกลับกัน เฟรย์พยายามจะหยุดเขาเพื่อช่วยผู้คนของเขา

 

เฟรย์ร่ายบาเรียอีกอันโดยใช้ความสามารถของเขาในการดักจับลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์ติดกับดักอีกครั้ง แต่เฟรย์ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เขาโยนพลาสม่าบาเรียอีกอันไว้บนอันที่มีอยู่แล้ว หลังจากนั้นเขาก็โยนพลาสม่าบาเรียอีกอัน

 

เขายังคงร่ายบาเรียต่อไปจนกระทั่งลูซิเฟอร์อยู่ภายในบาเรียพลาสม่าที่มีอยู่ 10 ชั้น

 

แม้ว่าเฟรย์จะร่ายพลาสม่า 10 ชั้น แต่เขาก็ยังลำบากที่จะรักษามันไว้ เขาได้ถอนพลังของเขาออก ซึ่งมีผลเสียต่อร่างกายของเขาอย่างหนัก

 

“ไปเร็วไปเรียกคนอื่นๆ มานี่! ฉันรั้งเขาไว้นานไม่ได้แล้ว” เขาเตือนพนักงานของร้านอีกครั้ง เมื่อเห็นพวกเขายืนอยู่ตรงนั้น แต่พวกเขาไม่ได้ขยับ

 

พวกเขาเริ่มชี้ไปที่บาเรียด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า

 

เฟรย์มองไปที่บาเรียนั้นและสังเกตว่าบาเรียสีเขียวนั้นกลายเป็นสีดำและเน่าเสีย

 

“หนีไป ไอ้พวกโง่!” เฟรย์ดุพวกผู้ชาย ซึ่งในที่สุดก็ฟังและเริ่มวิ่งไปที่ประตู

 

พนักงานร้านวิ่งออกจากร้านเป็นฝูง ส่วนใหญ่เริ่มวิ่งไปที่สถานีตำรวจ ในขณะที่บางคนวิ่งไปที่กิลด์อินทรีย์แดง

 

ภายในบาเรียนั้น ลูซิเฟอร์ไม่ได้ทำอะไรเลย เขาแค่ใช้นิ้วแตะบาเรียแล้วปล่อยให้พลังแรงค์ S ของเขาจัดการที่เหลือ พลาสม่าบาเรียกำลังแตกสลายจากภายในสู่ภายนอก และในไม่ช้า บาเรียทั้ง 10 อันก็ถูกทำลายเช่นกัน

 

นั่นคือตอนที่เฟรย์ล้มลงกับพื้น หลังจากกระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขาได้รับฟันเฟืองอีกครั้งหลังจากมีคนทำลายบาเรียของเขา ซึ่งเขาทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างมัน ดวงตาของเขาปิด ในขณะที่เขายังคงนิ่งราวกับว่าเขาตายไปแล้ว

 

ลูซิเฟอร์เดินไปหาเฟรย์ ซึ่งกำลังนอนอยู่บนพื้นหลังจากที่เป็นอิสระ แต่เขาทำได้เพียงมองดูเฟรย์ ไม่ขยับเขยื้อนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

เขาตายแล้ว? หรือยังไง? มันเป็นวิธีการที่ชายชราคนนั้นเสียชีวิต หลังจากใช้พลังของเขา เมื่อเขาตะโกนเกินพิกัดครั้งสุดท้าย? เขาอดไม่ได้ที่จะคิดตามเมื่อเห็นเฟรย์

 

เขาส่ายหัวหันหลังและสวมถุงมืออีกครั้ง ขณะที่เขาเริ่มมองไปรอบๆ ร้านเพื่อเลือกเสื้อผ้าสำหรับตัวเอง

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เลือกเสื้อผ้าที่เขาชอบ

 

เขาเลือกกางเกงยีนส์สีดำ เสื้อยืดสีเขียว และแจ็คเก็ตสีแดง เขาได้เลือกรองเท้าแล้วด้วย เสื้อผ้าทั้งหมดนี้เป็นขนาดของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกเลยในตอนนี้

 

แต่งตัวเสร็จก็จากไป

 

 

ลูซิเฟอร์ก้าวออกจากร้านและเริ่มเดินออกไป

 

เขาเดินห่างจากร้านมาเพียงไม่กี่เมตร มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินผ่านเขาไปที่ร้านค้า

 

เธอเดินเข้าไปใกล้ร้านค้านั้น ขณะที่เธอกำลังจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ เธอก็ไม่สนใจ

 

เธอเอื้อมมือไปใกล้ประตูที่เปิดออก ลูซิเฟอร์ปล่อยให้เธอเข้าไป แต่เธอรู้สึกแปลกๆ ราวกับว่ารองเท้าของเธอจมน้ำหรืออะไรบางอย่าง เธอสัมผัสได้ถึงน้ำกระเซ็น

 

เธอละสายตาจากโทรศัพท์และมองลงไป มีเพียงของเหลวสีแดงใต้เท้าที่ดูเหมือนเลือด

 

ใบหน้าของเธอซีดลง เมื่อเธอเริ่มมองไปรอบๆ เธอเห็นศพไม่ขยับเขยื้อน

 

เสียงกรีดร้องหลุดออกมาจากปากของเธอ

 

เธอกำลังจะโทรหาตำรวจด้วยมือที่สั่นคลอน แต่เธอได้ยินเสียงไซเรนข้างนอก

 

ตำรวจได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ที่หนีไปแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่ที่นี่แล้ว

 

ตำรวจเพิ่งมาถึง

 

รถตำรวจจำนวน 6 คันหยุดอยู่หน้าร้านค้า และตำรวจประมาณ 20 นายก้าวออกจากรถพร้อมอาวุธ

 

พวกเขาเข้าไปในสถานที่และชี้ปืนไปทางผู้หญิงคนนั้น

 

“ชูมือไปในอากาศ!” พวกเขาบอกผู้หญิงคนนั้นเมื่อเห็นเธอยืนหันหลังให้กับพวกเขา

 

ผู้หญิงคนนั้นยกมือขึ้นเมื่อเธอหันหลังกลับ

 

ตำรวจเห็นว่าใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา

 

“ขะ-ขอบคุณพระเจ้า คุณมานี่แล้ว เจ้าหน้าที่ ฉันกำลังจะโทรหาพวกคุณ ดูมันสิ! ในเมืองของเรามีฆาตกรอยู่!” ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกไป

 

คนที่นำทีมตำรวจคือจ่าแทรฟฟอร์ด ซึ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ

 

“เอ่อ… ท่านครับ พวกเขาบอกว่ามีเด็กคนหนึ่งกำลังฆ่าคน เธออาจเป็นพยานอีกคน” ตำรวจอีกคนหนึ่งกล่าว

 

จ่าแทรฟฟอร์ดมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นโดยไม่ลดปืนลง

 

“คุณเห็นฆาตกรไหม” เขาถาม

 

“ไม่ ฉันมาแค่ไม่กี่วินาทีก่อนที่คุณมาถึง ที่นี่เคยเป็นแบบนี้แล้ว ฉันยังไม่ได้แตะต้องอะไรเลยนอกจากประตู” ผู้หญิงคนนั้นตอบ

 

“เอาล่ะ เราจะต้องพาคุณไปที่สถานีเพื่อฟังคำชี้แจงของคุณ คาร์ล พาเธอเข้าไปในรถแล้วพาเธอขึ้นรถ”

 

จ่ามองไปที่ตำรวจอีกคนหนึ่งและสั่งเขา

 

ผู้หญิงคนนั้นถูกใส่กุญแจมือและถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจ

 

ตำรวจคนอื่นๆ มองไปที่ที่เกิดเหตุและถอนหายใจ

 

“ผู้คนอ้างว่าอาจารย์เฟรย์กำลังกักขังบุคคลนั้นไว้ ฉันยังแจ้งให้กิลด์อินทรีย์แดงทราบด้วยเหตุนี้” จ่าแทรฟฟอร์ดพึมพำ ขณะมองดูใบหน้าของศพทั้งหมดในโชว์รูม

 

ทันใดนั้น ตาของเขาก็ก้มลงมองชายคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นคว่ำหน้าลง ชายคนนั้นมีผมสีแดงซึ่งทำให้เขานึกถึงเฟรย์

 

ก่อนที่เขาจะก้าวไปข้างหน้า เขาก็ได้ยินเสียงจากด้านหลังของพวกเขา ประตูกระจกของร้านค้าก็ถูกเปิดออก

 

เขามองย้อนกลับไปและเห็นคน 5 คนเข้าไปในร้านค้า ทั้ง 5 คนสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเดียวกับกิลด์อินทรีย์แดง

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 56: กอบกู้สถานการณ์

 

“ถอยไปซะ เขาเป็นคนที่ถูกปลุกพลังมา! ถอยไป เขากำลัง…”

 

ชายผมแดงเตือนแต่ก็สายเกินไป

 

ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เขาเห็นลูซิเฟอร์จับที่คอของชายคนนั้นและทุบมันจนแหลก

 

การ์ดอีกคนตกใจเมื่อเห็นคนขายถูกฆ่า พวกเขายกปืนขึ้นและเล็งไปที่ลูซิเฟอร์

 

มีการ์ด 2 คนในโชว์รูม และทั้ง 2 คนกำลังเล็งปืนไปที่ลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา

 

“หยุด ไม่งั้นเราจะยิง!” การ์ดพยายามตะโกนเตือน

 

“ไม่ อย่ายิงเด็ก!” ชายผมแดงบอกกับการ์ดเหล่านั้น เขาพยายามจะหยุดการ์ดทั้งสอง

 

เนื่องจากที่นี่เป็นที่เคารพนับถือ ทหารจึงฟังเขาและไม่ยิง แต่พวกเขายังคงเล็งไปที่ลูซิเฟอร์

 

ชายผมแดงมองกลับมาที่ลูซิเฟอร์อย่างใจเย็น

 

“อย่าทำอะไรเลยที่คุณจะต้องมานั่งเสียใจในภายหลังเลย เด็กน้อย ฉันรู้ว่าคุณคือเด็กที่ปลุกพลังขึ้นมาได้ ฉันเดาว่าคุณได้ปลุกพลังของคุณมาเมื่อไม่นานมานี้ และเธอไม่รู้ว่าจะควบคุมมันอย่างไร แต่การใช้มันทำร้ายใครซักคนคือ อาชญากรรม ถอยกลับและอย่าขยับ”

 

ชายผมแดงมาจากกิลด์อินทรีย์แดง เขาเป็นสมาชิกระดับสูงเช่นกัน ชื่อเฟรย์

 

เฟรย์สันนิษฐานว่าลูซิเฟอร์เพิ่งปลุกพลังของเขาขึ้นมา และเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เขาไม่ต้องการให้ลูซิเฟอร์ถูกยิง เขาจึงบอกให้เขาอยู่นิ่งๆ

 

เขาหวังว่าจะพาลูซิเฟอร์ไปที่กิลด์โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ส่วนจะทำอะไรต่อไป พวกเขาสามารถตัดสินใจได้ในภายหลัง ดีกว่าทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเสี่ยงที่นี่

 

ลูซิเฟอร์ไม่ฟังแม้ว่า แต่เขามองไปทางการ์ดทั้งสองคน ซึ่งทั้งสองยืนอยู่ใกล้ ๆ จับตาดูลูซิเฟอร์

 

เฟรย์มองเห็นการกบฏในดวงตาของลูซิเฟอร์ และเขาเข้าใจว่าเด็กที่อยู่ข้างหน้าเขากำลังจะทำสิ่งที่โง่เขลาจริงๆ

 

เฟรย์เป็นนักเวทย์ ที่มีความสามารถด้านธาตุระดับ A ที่เรียกว่า พลาสม่าแบริเออร์

 

เขาสามารถใช้พลาสม่าแบริเออร์ทรงกลมรอบตัวใครก็ได้เพื่อกักขังพวกเขาไว้ข้างในหรือเพื่อปกป้องตัวเอง

 

ทันทีที่เขาสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์กำลังจะขยับ เขาก็ยกมือขึ้น

 

“ขอโทษนะ ฉันให้คุณทำอะไรโง่ๆ ไม่ได้” เฟรย์ปล่อยตัวออกมา ในขณะที่เขาเริ่มใช้ความสามารถของเขา “เพื่อประโยชน์ของตัวเจ้าเอง เจ้าหนู”

 

เขาสายเกินไปแม้ว่า

 

ก่อนที่เขาจะร่ายบาเรียได้ ลูซิเฟอร์ก็ขยับตัว

 

ลูซิเฟอร์ใช้การควบคุมลมเพื่อเพิ่มความเร็วของเขา เท้าของเขาไม่ได้แตะพื้นเลยด้วยซ้ำ ขณะที่เขาเดินไปหาการ์ดทั้ง 2 คน

 

เฟรย์ใช้บาเรียสายไปเพียงเสี้ยววินาที

 

ขณะที่เขามองไปทางบาเรียที่ถูกทิ้งในที่ว่างเปล่า เขาก็ต้องตกใจกับความเร็วที่ลูซิเฟอร์เคลื่อนที่ไป การ์ดที่ตะลึงงันยิงเข้ามาหาเขาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้า

 

ก่อนที่เฟรย์จะยกเลิกบาเรียของเขาเสียด้วยซ้ำ เขาได้ยินเสียงกรีดร้องของทหารยามคนหนึ่งที่อยู่ในกำมือของลูซิเฟอร์ เป็นคนที่อยู่ใกล้ตัวเขามากที่สุด

 

ลูซิเฟอร์โยนการ์ดคนนั้นไปทางกำแพง

 

ปืนของการ์ดหล่นลงขณะที่ศีรษะของเขาชนกำแพง หัวของการ์ดเปิดออกเพราะแรงกระแทก ผนังถูกปกคลุมไปด้วยเลือด

 

การ์ดคนที่ 2 ตกตะลึง เขายิงปืนออกไป 6 นัดใส่ลูซิเฟอร์โดยไม่คิดอะไร

 

กระสุนทั้ง 6 นัดกระทบหน้าอกของลูซิเฟอร์

 

เฟรย์มองดูมันเกิดขึ้นและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เขาโทษตัวเอง ถ้าเขาเร็วขึ้นเพียงไม่กี่วินาที เขาก็จะสามารถหยุดลูซิเฟอร์ไม่ให้เคลื่อนไหวได้ ลูซิเฟอร์จะไม่ถูกยิง และการ์ดก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกเสียใจที่ล่าช้า

 

ความเสียใจของเขาเปลี่ยนไปในไม่ช้า เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์ยังคงเคลื่อนไหว

 

ลูซิเฟอร์เดินไปหาการ์ดอีกคนที่แข็งอยู่กับที่

 

การ์ดคนนั้นกำลังบ้าคลั่งคิดว่าเขากำลังฝันอยู่ ไม่มีทางที่เด็กจะขยับตัวได้ หลังจากที่เขาเทกระสุนทั้งหมดลงในอกของเด็กแล้ว

 

เขาเพิ่งเห็นมือของลูซิเฟอร์กำลังเคลื่อนตัวมาที่คอด้วยสีหน้าว่างเปล่า ในไม่ช้าคอของเขาก็ถูกบดขยี้เช่นกัน

 

เฟรย์ดูราวกับว่าเขากำลังเห็นผี ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือสิ่งที่เขาพบว่ายากที่จะเชื่อ แต่เขาก็ยังใช้ความสามารถของเขาอีกครั้ง

 

ลูซิเฟอร์หันกลับมามองเฟรย์แต่นั่นเป็นช่วงที่มีบาเรียสีเขียวล้อมรอบเขา คราวนี้เฟรย์ไม่ได้ทำมันสายเกินไปอีกแล้ว เนื่องจากบาเรียกลืนลูซิเฟอร์ไปได้สำเร็จ ซึ่งพบว่าตัวเองติดอยู่ในทรงกลมสีเขียว เขามองไม่เห็นสิ่งใดนอกบาเรียนี้

 

พนักงานคนอื่นๆ ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ แต่พวกเขาก็ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขาไม่ถูกฆ่า และ เฟรย์ จับสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้

 

“อาจารย์เฟรย์ปกป้องพวกเรา!”

 

“สมาคมอินทรีย์แดงจงเจริญ!”

 

“เราโชคดีมากที่มีกิลด์ปกป้องเรา!”

 

“ขอบคุณครับอาจารย์เฟรย์!”

 

ทุกคนขอบคุณ เฟรย์ที่หยุดฆาตกร

 

ในทางกลับกัน เฟรย์ไม่ฟังพวกเขาด้วยซ้ำ กลับตกอยู่ในห้วงความคิด

 

‘ไม่มีทางที่ใครบางคนจะไม่ตายหลังจากถูกยิง เว้นแต่พวกเขาจะมีความสามารถบางอย่างที่ป้องกันกระสุนไม่ให้เข้าไปในร่างกายของพวกเขาได้เหมือนกับพวกตัวใหญ่ๆ พวกนั้น’ เขาพึมพำเมื่อนึกถึงบางรุ่นที่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานแม้แต่ขีปนาวุธ

 

‘ฉันเห็นชัดเจนว่ากระสุนเข้าร่างเด็กคนนี้แล้วออกมาจากอีกด้านหนึ่ง เขายังคงเคลื่อนไหวได้อย่างไร เป็นการเร่งรีบบางอย่างที่สามารถทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่วินาที นั่นแหละ เขาควรจะตายไปแล้ว’

 

เฟรย์พยายามทำความเข้าใจสถานการณ์และในที่สุดก็ได้ข้อสรุป

 

เขาเชื่อข้อสรุปของเขา แต่นั่นก็ไม่นานเท่าที่เขารู้สึกตัวสั่น

 

เขามองไปทางพลาสม่าบาเรียที่อยู่ตรงหน้าเขาและรู้สึกได้ว่ามันสั่น บาเรียสั่นสะท้านราวกับว่ามีสัตว์ประหลาดกำลังโจมตีเขาด้วยพลังที่สั่นสะเทือนโลก

 

เขากำลังมีความรู้สึกไม่ดี

 

“พวกเจ้าออกไปซะ!” เฟรย์บอกกับพนักงานคนอื่นๆ ของร้าน “ไปที่กิลด์และแจ้งพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่!”

 

พนักงานเริ่มวิ่งไปที่ทางออก แต่ทันใดนั้น บาเรียก็พัง

 

เฟรย์อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง ในขณะที่เขาเห็นสายฟ้ากะพริบรอบๆ ลูซิเฟอร์ ซึ่งยืนอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า

 

เขายังรู้สึกถึงการปราบปรามบางอย่าง ซึ่งเขาพบว่าแปลก ทำไมเด็กที่เพิ่งปลุกขึ้นใหม่จึงข่มขู่ตนได้มากขนาดนี้?

 

ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ที่นั่นและไม่ทำอะไรเลย คนที่กำลังจะวิ่งก็หยุดลงเมื่อเห็นบาเรียแตก พวกเขาไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียว

 

“คุณไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เรายังคงสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้” เฟรย์แนะนำโดยหวังว่าข้อความเหล่านั้นจะผ่านเข้าไปหาลูซิเฟอร์ “หยุดโจมตีผู้คน แล้วผมจะช่วยคุณแก้ปัญหาทุกอย่างที่คุณมี”

 

อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์เพิกเฉยต่อคำพูดของเขาและเริ่มถอดถุงมือโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเขาเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ

 

(… ยังมีต่อ )

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 55: ไม่ไร้ประโยชน์

 

“อย่าหัวเราะเยาะเขา เขาอาจจะเป็นเด็กกำพร้าเร่ร่อนที่เจอเสื้อผ้าเก่าๆ ของใครบางคนในถังขยะหรืออะไรสักอย่าง” ผู้หญิงคนนั้นตอบลูกชายของเธอ “มีคนเหมือนเขามากมาย เพียงเพิกเฉยเขา”

 

เธอเดินต่อไปพร้อมกับจับแขนลูกชายของเธอ

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคำพูดของเด็กและมองไปที่เสื้อผ้าของเขา มันถูกต้อง เขาคิดว่าเขาดูแปลก เขาเปลี่ยนสายตาที่ว่างเปล่าของเขาไปยังหุ่นจำลองขนาดเท่าเด็กอีกครั้ง ซึ่งสวมเสื้อผ้าที่จะพอดีกับตัวเขาอย่างสมบูรณ์

 

เขาเริ่มเดินไปที่ร้านแทน

 

ขณะที่เขากำลังเดินไปที่ประตู อีกคนกำลังเดินมาทางเขา

 

เป็นชายหนุ่มผมแดงที่สวมเสื้อยืดสีเขียวและกางเกงขายาวสีดำ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำทับเสื้อผ้าที่มีสัญลักษณ์อินทรีย์แดงอยู่ที่หน้าอก ชายผู้นี้ดูเหมือนจะอายุ 20 กลางๆ เท่านั้น

 

ลูซิเฟอร์เดินเข้าไปใกล้ร้านและเอื้อมมือไปเปิดประตู แต่เขาแปลกใจที่ประตูเลื่อนไปด้านข้างทันทีที่เขาเข้ามาใกล้

 

เขาเอียงศีรษะเล็กน้อย สงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร? มันเป็นสิ่งที่เขาพบว่าน่าสนใจ

 

ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาก้าวถอยหลัง ประตูปิดอีกครั้ง เขาก้าวเข้ามาใกล้อีกครั้ง และประตูก็เลื่อนเปิดออกอีกครั้ง เขาลองอย่างน้อย 3 ครั้งเพราะมันดูน่าสนใจ มันทำงานอย่างไร? ไม่มีใครเปิดประตู มีคนล่องหนยืนอยู่เพื่อเลื่อนเปิดหรือไม่?

 

เขาไม่เคยเห็นประตูแบบนี้ที่ใช้เซ็นเซอร์เพื่อให้รู้ว่ามีคนยืนใกล้ประตูเปิดโดยอัตโนมัติได้

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์ยืนอยู่ที่ทางเข้า ชายผมแดงก็เข้ามาใกล้เขาและเดินผ่านเขาเพื่อก้าวเข้าไปในร้าน

 

ชายหนุ่มดึงดูดความสนใจของพนักงานทุกคนที่รีบเข้าไปช่วยเขาในทันทีราวกับว่าเขาเป็นราชา

 

ความโกลาหลทำให้ลูซิเฟอร์ตื่นจากความงุนงง เมื่อเขาตระหนักว่าเขามาที่นี่เพื่อซื้อเสื้อผ้าและไม่เห็นประตู เขายังก้าวเข้าไปข้างใน

 

“ไม่เป็นไร ฉันแค่มองไปรอบๆ ฉันจะเลือกบางอย่างให้เอง” ชายผมแดงพูดอย่างสบายๆ เขาปฏิเสธความช่วยเหลือจากพนักงานในร้านทั้งหมด

 

ลูซิเฟอร์เดินเข้าไปใกล้มุมร้านและยืนต่อหน้าหุ่นของเด็ก เขาเอื้อมมือไปแตะเสื้อผ้าที่หุ่นนั้นสวมอยู่

 

เขารู้ว่าถ้าพ่อแม่ของเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้เขาสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เขาอาจจะใส่แบบที่หุ่นตัวนี้ใส่ แม่ของเขารักเขามาก แน่นอน เธอจะต้องซื้อเสื้อผ้าที่ดีที่สุดให้เขา

 

แม้แต่ในวัยเด็ก ลูซิเฟอร์ยังได้รับเสื้อผ้าที่แพงที่สุดจากแม่ของเขา หลังจากที่เขาถูกพาไปที่สถานที่เลวร้ายแล้วเท่านั้นเขาก็สูญเสียสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด

 

พนักงานชายของร้านสังเกตเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ใกล้นางแบบและพยายามจะสัมผัสมัน

 

“เฮ้ เจ้าหนู! เจ้าแตะไม่ได้นะ เจ้าจะทำให้เสื้อผ้าสกปรก และเมื่อมองดูเสื้อผ้าที่สกปรกของเจ้า ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ เจ้าไม่มีเงินจ่ายอะไรที่นี่ ออกไปซะ”

 

เขาวิ่งไปหาเขาและบอกให้เขาออกไป เนื่องจากการมาถึงของชายผมแดง เขาไม่เคยสังเกตเห็นลูซิเฟอร์มาก่อน

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้จับตาดูสิ่งรอบข้าง ความสนใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่เสื้อผ้า ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงประหลาดใจเมื่อได้ยินคนตะโกนข้างหลังเขา

 

เขาหันกลับมามองคนขาย

 

ลูซิเฟอร์ไม่ทำหรือพูดอะไรและมองดูชายคนนั้นต่อไป

 

พนักงานขายอดไม่ได้ที่จะเหงื่อออกเมื่อลูซิเฟอร์จ้องมาที่เขา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลัว เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากรู้สึกกลัว ในขณะที่เขาเห็นลูซิเฟอร์จ้องมองมาที่เขา

 

ชายผมแดงที่มีตราสัญลักษณ์อินทรีย์แดงบนหน้าอกของเขาไม่ได้มองไปทางพวกเขาเช่นกัน เขาจดจ่อกับการดูเสื้อผ้าในรายการ

 

“ออกจากร้านนี้ไป มันไม่ใช่ที่ที่คนเร่ร่อนสามารถเดินเข้ามาได้” พนักงานขายไม่ปล่อยให้ความรู้สึกแปลก ๆ ของเขาส่งผลต่อเขาในขณะที่เขาตำหนิลูซิเฟอร์อีกครั้ง “เสื้อผ้าหรูหราเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนไร้ประโยชน์อย่างเจ้าที่จะสามารถครอบครองได้”

 

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ขณะที่เขาได้ยินคำพูดของคนขาย ซึ่งทำให้อาการปวดหัวกลับมา

 

 

มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเขาอายุ 10 ขวบ เพียง 1 วันก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตในโรงงาน

 

ลูซิเฟอร์ออกมาจากห้องทดสอบ และพบว่าเขายังไม่ฟื้นพลังของเขา

 

ว่ากันว่าไม่มีใครสามารถปลุกพลังใด ๆ ได้หลังจากอายุ 10 ขวบ ดังนั้นจึงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าลูซิเฟอร์จะไม่มีวันปลุกพลังขึ้นมาได้ เป็นที่ยอมรับว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ทำลายมรดกของพ่อของเขา และไม่มีใครต้องระมัดระวังอีกต่อไปเพราะไม่มีโอกาสที่เขาจะได้ตื่นขึ้นและลุกขึ้นได้

 

วันนั้นลูซิเฟอร์กำลังเดินอยู่บนทางเดิน เมื่อเขาเห็นรถของเล่นอยู่บนพื้น

 

เขาเดินเข้ามาใกล้รถของเล่น เขาหยิบมันขึ้นมา น่าเสียดาย ก่อนที่เขาจะทันได้สังเกต รถของเล่นถูกกระชากออกจากมือของเขา

 

เขามองตรงไปข้างหน้าและสังเกตเห็นว่าเป็นหนึ่งในนักวิจัยของโรงงานแห่งนี้ที่ได้เอาของเล่นจากมือของเขาไป

 

“เลิกขโมยของเล่นของคนอื่นได้แล้ว ของเล่นชิ้นนี้เป็นของรูย่าตัวน้อย ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์อย่างแกที่จะสามารถครอบครองได้”

 

นักวิจัยมองลูซิเฟอร์ด้วยความรังเกียจราวกับว่าลูซิเฟอร์เป็นขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ไม่สมควรได้รับความสุขใดๆ

 

ผู้วิจัยได้มอบของเล่นให้เด็กชายอายุ 9 ขวบที่ยืนอยู่ใกล้เขา

 

“ขอโทษค่ะท่าน ฉันควรจับตาดูเขาไว้ ฉันจะพาเขาไปที่ห้องของเขา” พยาบาลที่เดินอยู่ข้างหลังลูซิเฟอร์กล่าวขอโทษ

 

พยาบาลเริ่มพาลูซิเฟอร์ออกไป

 

เมื่อเดินจากไป ลูซิเฟอร์ก็ได้ยินเสียงจากข้างหลังเขา

 

“โอ้ นี่ใช่รูย่า ลูกชายของหมอราวหรือเปล่า เขามาทำอะไรที่โรงงานนี้?”

 

“หมอราวพาเขามาที่นี่เพื่อทดสอบว่าเขาเป็นแวเรียนท์หรือไม่ เขากำลังแสดงคำแนะนำว่าเป็นแวเรียนท์ยังไง ดังนั้นหมอราวจึงพาเขามาที่นี่เพื่อทดสอบ ฉันกำลังพาเขาไปที่ห้องแล็บ”

 

นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ลูซิเฟอร์ได้ยินก่อนที่เขาจะอยู่ห่างจากพวกเขามากเกินไป

 

เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความผิดหวังที่ตอนนั้นมันไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้ เขาแตกต่างออกไป

 

ก่อนหน้านี้เขาเชื่อว่าตัวเองไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้เขาเชื่อว่าคนอื่นไร้ประโยชน์ ไม่ใช่เขาที่เป็นคนเสียเปล่า แต่คนอื่น ๆ ที่ดูถูกเขา

 

 

เมื่อความทรงจำนี้กลับมาที่ลูซิเฟอร์ เขาก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

 

“การ์ด! เด็กคนนี้ไม่ฟัง พาเด็กไร้ประโยชน์คนนี้ออกไป!” พนักงานขายพูดขณะที่มองไปทางการ์ดที่อยู่ในร้าน

 

“ฉันไม่ได้ไร้ประโยชน์!”

 

ลูซิเฟอร์คำรามในทันใด ขณะที่เขาถูกเรียกอีกครั้งว่าไร้ประโยชน์ สายฟ้าฟาดสีดำทมิฬ เริ่มแตกร้าวรอบตัวเขา ทำให้การ์ดตกใจแม้กระทั่งพนักงานขาย เสียงของเขาดูเหมือนจะมีพลังลึกลับที่ทำให้มันน่ากลัวราวกับเสียงคำรามของสิงโต

 

ไม่เพียงแต่พนักงานขายเท่านั้นแต่แม้แต่ชายผมแดงก็ต้องตกใจเมื่อหันกลับมามอง

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 54: วีรบุรุษทั้ง 3 คน

 

พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าบนท้องฟ้า ให้ความอบอุ่นแก่โลก ลมที่สดชื่นพัดผ่านเมืองอิเครโก้ปะทะใบหน้าของ ลูซิเฟอร์ เมื่อเขาไปถึงเมืองใหม่

 

เมืองนี้ดูใหญ่โตกว่าสิ่งใดๆ ที่เขาเคยเห็นมาก่อนเล็กน้อย อันที่จริง มันบังเอิญใหญ่กว่าเมืองลีเจี้ยน ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นมาก่อน

 

มีบ้านที่สวยงามทุกที่ แม้ว่าลูซิเฟอร์จะไม่ได้ก้าวเข้าไปในเมือง แต่เขาก็ยังเห็นโครงสร้างที่สวยงามของเมือง

 

มีรูปปั้นสูง 2 รูปวางอยู่ที่ทางเข้าเมืองอิเครโก้ ซึ่งดูเหมือนมนุษย์

 

ลูซิเฟอร์ไม่รู้เรื่องนี้ แต่รูปปั้นนั้นเป็นของหัวหน้าคนก่อนของกิลด์อินทรีแดง ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมือง

 

อินทรีย์แดง เป็นกิลด์ที่ประกอบด้วย ฮันเตอร์ ที่เข้าไปใน ดันเจี้ยน เพื่อควบคุมจำนวนของพวกมอนสเตอร์ แม้ว่าจะเป็นกลุ่มใหญ่และเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมนักล่า แต่ก็ไม่ใช่องค์กรเสมอไป

 

อันที่จริง มันไม่มีอยู่จริงก่อนปี 2028

 

ปี 2028 เป็นช่วงที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่มอนสเตอร์ออกมาจากดันเจี้ยนและเริ่มโจมตีทุกคนที่พวกมันเจอ มนุษย์หลายคนเสียชีวิตในหายนะครั้งใหญ่ในปี 2028 ก่อนที่มันจะถูกควบคุม

 

 

ก่อนหน้านี้ ผู้อยู่อาศัยในดันเจี้ยนไม่สามารถออกจากดันเจี้ยนได้ แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2028 เมื่อสัตว์ประหลาดตัวแรกก้าวออกจากดันเจี้ยนระดับ 2 หลังจากนั้นก็เหมือนโลกทั้งใบตกอยู่ในความโกลาหล

 

สัตว์ประหลาดเริ่มออกมาจากดันเจี้ยนทั้งหมดที่ถูกจัดเป็นดันเจี้ยนระดับ 1 และระดับ 2 และเริ่มโจมตีทุกสิ่งมีชีวิตที่พวกมันได้เห็น มนุษย์ถูกฆ่าตายทั้งซ้ายและขวา

 

มีเลือดและความโกลาหลอยู่ทุกที่ ว่ากันว่ามีผู้เสียชีวิตกว่าพันล้านคนในหายนะครั้งใหญ่ในปี 2028

 

นั่นคือสิ่งที่ทำให้แวเรียนท์ต้องออกมาช่วยเหลือรัฐบาลในการปกป้องพลเมือง

 

หลังจากความพยายามและการเสียสละครั้งสำคัญมากมาย ในที่สุดมนุษย์ก็ได้รับชัยชนะ

 

เมืองหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติครั้งใหญ่คือเมืองอิเครโก้

 

ต่างจากเมืองอื่นๆ เมืองอิเครโก้ นั้นด้อยกว่ามากและมีทรัพยากรไม่มาก และมีองค์กรขนาดใหญ่ไม่มากนักอาศัยอยู่ที่นี่

 

กองกำลังรักษาความปลอดภัยในพื้นที่นี้ก็อ่อนแอที่สุดเช่นกัน แต่เนื่องจากมันมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ประชากรจึงค่อนข้างสูง

 

มีดันเจี้ยนอันดับ 2 ใกล้เมืองอิเครโก้ ในเวลานั้นซึ่งมอนสเตอร์เข้ามาในช่วงมหาสงครามแห่งการเริ่มต้น

 

รัฐบาลไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้ที่สัตว์ประหลาดจะออกมาจากดันเจี้ยน ดังนั้นพวกเขาจึงวางผู้พิทักษ์ประจำที่นี่ไว้เพียงแค่ 2 คนให้พวกเขาอยู่ด้านนอกดันเจี้ยนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปในดันเจี้ยน

 

มันน่าตกใจสำหรับทุกเมืองที่ได้รับความเดือดร้อนในวันนั้น แต่อิเครโก้ อยู่ในตำแหน่งที่แย่กว่านั้นมากเพราะพวกเขาเป็นเมืองที่สงบมากๆอยู่ก่อนแล้ว

 

ตามที่คาดไว้ ยามทั้งสองไม่สามารถต้านทานมอนสเตอร์ที่น่าสะพรึงกลัวได้ และพวกเขาก็ถูกฆ่าตายทันที

 

จากนั้นมอนสเตอร์ก็เริ่มโจมตีเมืองอิเครโก้ที่อยู่ใกล้กับดันเจี้ยนนั้นมากที่สุด

 

โชคดีสำหรับเมืองนี้ที่มีผู้พิทักษ์ผ่านมาในเมืองนี้อยู่ 3 คน

 

คนทั้ง 3 ตัดสินใจที่จะช่วยเหลือ เมื่อพวกเขาเห็นผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าโดยสัตว์ประหลาดเหล่านี้

 

พวกเขาเข้าแถวต่อสู้กับสัตว์ประหลาดหลายร้อยตัวเพื่อให้ผู้คนปลอดภัย

 

พวกเขาสามารถกักขังมอนสเตอร์ไว้ได้จนกว่ารัฐบาลจะส่งกำลังเสริม หลังจากที่แวเรียนท์มาถึงมากขึ้น การต่อสู้ก็ง่ายขึ้น และมอนสเตอร์ทั้งหมดถูกฆ่าตาย

 

พลเมืองกว่า 20,000 คน ทหาร 800 นาย และมีคน 7 คนที่ถูกสังหารระหว่างการสู้รบครั้งนั้นในเมืองอิเครโก้เพียงแห่งเดียว เมืองถูกปกคลุมไปด้วยเลือดเมื่อถึงเวลาสิ้นสุด และโชคดีที่ประชาชนส่วนใหญ่รอดชีวิต

 

ทุกคนรู้ดีว่าถ้าไม่ใช่ว่าในเมืองนี้มีแวเรียนท์ทั้ง 3 คนที่บังเอิญอยู่ในเมืองในตอนเริ่มต้น ซึ่งถือแนวป้องกันไว้ ความสูญเสียคงจะแย่กว่านี้มาก

 

น่าเสียดาย 2 ใน 3 คนของแวเรียนท์ที่รั้งมอนสเตอร์ไว้เพื่อรอการเสริมกำลังได้เสียชีวิตในสนามรบ พวกเขาเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องชาวอิเครโก้

 

รูปปั้นที่ลูซิเฟอร์เห็นนั้นเป็นของคน 2 คนที่สร้างขึ้นในความทรงจำของพวกเขา

 

บุคคลที่ 3 จากกลุ่ม 3 คนตัดสินใจที่จะอยู่ในเมืองที่เพื่อนของเขาเสียชีวิต เขาก่อตั้งสมาคมอินทรีย์แดงที่นี่เพื่อควบคุมจำนวนมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้นอีก

 

นั่นเป็นเหตุผลที่สมาคมอินทรีย์แดงได้รับความเคารพอย่างมากที่นี่ ผู้ก่อตั้งของพวกเขาคือวีรบุรุษที่ช่วยชีวิตผู้คนนับไม่ถ้วน หากไม่มีพวกเขา เมืองนี้อาจไม่มีอยู่จริงในทุกวันนี้

 

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ประวัติเบื้องหลังรูปปั้น แต่เขาสามารถเห็นความภาคภูมิใจบนใบหน้าของผู้คนที่รูปปั้นสามารถพรรณนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ

 

ดันเจี้ยนระดับ 2 ยังคงอยู่ใกล้เมือง แต่ตอนนี้ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนาโดยสมาคมนักล่าของกิลด์อินทรีย์แดง

 

ลูซิเฟอร์เดินผ่านรูปปั้นและเข้าไปในเมืองอิเครโก้

 

 

ลูซิเฟอร์เข้าสู่เมืองอิเครโก้และเดินไปตามถนนที่สร้างมาอย่างดีของเมือง เขามองไม่เห็นสิ่งผิดปกติบนถนน

 

ไม่มีคำใบ้แม้แต่น้อยในเมืองที่สามารถเน้นการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวที่ต้องเผชิญในช่วงภัยพิบัติครั้งใหญ่แห่งการเริ่มต้น แต่กลับดูเหมือนเมืองที่สวยงามที่ไม่เคยได้รับความเดือดร้อน

 

อาคารส่วนใหญ่ดูเหมือนใหม่ ถนนและเมืองสะอาด เขาสามารถเห็นคนเดินที่นี่และที่นั่นในเมือง

 

ร้านค้าหรูหราหลายแห่งก็อยู่ที่นั่นด้วย

 

ลูซิเฟอร์เดินไปตามถนนอย่างสบายๆ เมื่อเขาสังเกตเห็นร้านขายเสื้อผ้า

 

เขามองลงไปที่เสื้อผ้าของเขา ซึ่งดูหลวมและไม่พอดีกับตัวเขาเลยแม้แต่น้อย เขาแค่สวมเสื้อผ้าพวกนั้นเพราะเขาไม่มีเสื้อผ้าที่เหมาะกับขนาดในบ้านของเขา

 

เสื้อผ้าที่เขาสวมเป็นเสื้อผ้าเก่าของแม่ แต่แม้กระนั้นก็หลวมให้เขา

 

ลูซิเฟอร์หยุดหน้าร้านและมองดูเสื้อผ้าที่จัดแสดงอยู่ข้างใน ผ่านหน้าต่างกระจก

 

ตัวร้านเป็นเหมือนโชว์รูมที่มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ที่ด้านหน้ามีหุ่นโชว์เสื้อผ้าแฟชั่นล่าสุด

 

นอกจากนี้ยังมีหุ่นจำลองซึ่งเป็นของเด็กที่มีรูปร่างคล้ายกับลูซิเฟอร์ เขามีความรู้สึกว่าสิ่งนี้จะเข้ากับเขาอย่างสมบูรณ์แบบ

 

เมื่อลูซิเฟอร์มองเข้าไปข้างใน ประตูกระจกของร้านก็เปิดออก และหญิงวัยกลางคนก็ก้าวออกมาจากที่นั่นพร้อมกับเด็กอายุ 12-13 ปี

 

“แม่ ดูเสื้อผ้าของเด็กนั่นสิ เขาดูตลกมาก” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ ขณะที่ชี้ไปทางลูซิเฟอร์

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 53: การควบคุมอารมณ์

 

แซนเดอร์และฟลูแรนซ์ตกใจเมื่อเห็นภาพการทรมานที่ไร้มนุษยธรรมของเด็กอายุ 10 ขวบ พวกเขาเห็นร่างของเด็กชายบิดไปมาอย่างเจ็บปวดก่อนที่เขาจะหยุดเคลื่อนไหวในที่สุด

 

แซนเดอร์กำหมัดแน่นอย่างควบคุมไม่ได้ ฟลูเรนก็ตกใจเช่นกัน

 

“นี่เป็นการทรมาน! พวกเขาไร้มนุษยธรรมสำหรับเด็กน้อยได้อย่างไร” ฟลูเรนแสดงความคิดเห็น

 

“ดังนั้น พวกเขาจึงฆ่าเด็กชาย และตอนนี้เขากลับมาเพื่อแก้แค้น ไม่มีมุมของพวกแวเรียนท์ทมิฬ ในเรื่องนี้อีกต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นโศกนาฏกรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น” เขากล่าวเสริม ยังคงโกรธจัด “เพราะความโง่เขลาของพวกเขา พวกเขาทำให้โลกทั้งใบตกอยู่ในอันตราย”

 

แซนเดอร์ไม่ได้พูดอะไร แต่ใบหน้าของเขากำลังบอกทุกอย่าง เขาดูโกรธจัดราวกับว่าเขาต้องการทำลายบางสิ่งบางอย่าง

 

อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างแปลกเกิดขึ้น ความโกรธทั้งหมดของเขาหายไปพร้อมกับใบหน้าที่สงบและเงียบสงบกลับมาราวกับว่าไม่มีอะไรน่าตกใจ

 

ความสามารถอื่นของเขาได้เริ่มแสดงแล้ว มันคือการควบคุมอารมณ์ของเขาที่ควบคุมอารมณ์ของเขาและป้องกันไม่ให้เขาสูญเสียอารมณ์ เมื่อใดก็ตามที่เขากำลังจะสติแตก

 

ตอนนี้ความสามารถกำลังแสดงอยู่ ราวกับว่าเขาไม่มีอารมณ์

 

“นั่นทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้น ฉันได้คุยกับลูซิเฟอร์ตัวจริง วิธีที่เขาพูดถึงสถานที่นี้ ฉันสัมผัสได้ถึงความรังเกียจของเขา และตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทำไม” เขาพูดอย่างใจเย็น

 

“แน่นอน ฉันไม่โทษเขา ฉันก็เกลียดพวกเขาเหมือนกัน เรามาสนุกกับพวกเขากันไหม เรามีหลักฐานอยู่แล้ว เรามาระเบิดที่นั่นกันเถอะ” ฟลูเรนแนะนำให้พูดถึงการใช้ความรุนแรงต่อโรงงาน

 

อารมณ์ของเขายังคงไม่ถูกตรวจสอบ ต่างจากแซนเดอร์ ซึ่งตอนนี้เขาตัดสินใจอย่างล้นหลาม

 

“ไม่ เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ คุณลืมจุดประสงค์ของ APF เราต้องปกป้องผู้คนและหยุดพวกแวเรียนท์ที่ทำผิด จากการใช้พลังของพวกเขาในทางที่ผิด เราไม่สามารถมีส่วนร่วมเมื่อมนุษย์กับมนุษย์หรือมนุษย์กับแวเรียนท์ได้”

 

แซนเดอร์พูดอย่างสงบ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าคำพูดของเขาจะเหมือนเดิมหรือไม่หากไม่มีการควบคุมอารมณ์

 

“ไม่ใช่ คุณไม่ได้พูดออกมาจากใจหรอก แต่มันมาจากการควบคุมอารมณ์ คุณคิดแต่เรื่องกฎหมาย คุณก็รู้ว่ามันผิดเหมือนกัน” ฟลูเรนกล่าว

 

แซนเดอร์ไม่ตอบและเพิกเฉยต่อคำพูดนั้น ราวกับว่าเขาไม่สนใจ เขาจะไม่ฝ่าฝืนกฎหมายของ APF

 

“เฮ้อ คุณนี่มันดื้อจริงๆ บางครั้งฉันก็เกลียดการควบคุมอารมณ์ของคุณ” ฟลูเรนพูดพลางถอนหายใจ เขารู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาพูดจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

 

“อย่างน้อยเราก็สามารถใช้ฟุตเทจนี้ได้ จริงไหม ให้คลิปนี้กับคนที่สามารถทำอะไรได้บ้าง มีองค์กรที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์มากมาย” เขากล่าวเสริม โดยพยายามใช้แนวทางที่แตกต่างออกไป

 

“เราทำไม่ได้ ฉันได้ภาพนี้มาอย่างผิดกฎหมาย ฉันใช้สิ่งนี้ไม่ได้ และถึงแม้ว่าฉันจะทำได้ ปัญหาสำหรับเราคงจะใหญ่กว่าที่พวกเขาคิด” แซนเดอร์พูดพร้อมส่ายหัว

 

แม้ว่าฟลูเรนจะได้ยินคำพูดของเขา เขาก็ไม่เข้าใจ ปัญหาจะมีมากขึ้นสำหรับพวกเขาได้อย่างไร?

 

“ยังไง?”

 

ฟลูเรนตัดสินใจถาม

 

“อย่างที่บอกไปมันเป็นคลิปที่ได้มาอย่างผิดกฎหมาย ปล่อยมันอย่างเปิดเผยแล้วต้นทางจะถูกสืบหาเรา ฉันไม่สนหรอกว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร แต่ทีมเบต้าและไอย์ก็จะพบว่าตัวเองเข้าไปพัวพันเพราะพวกเราด้วย แต่นั่นไม่ใช่เหตุผล “แซนเดอร์กล่าว “เราสามารถเปิดเผยได้โดยไม่เปิดเผยตัวเช่นกัน เหตุผลที่แท้จริงนั้นแตกต่างออกไป”

 

“แล้วเหตุผลล่ะ?”

 

“พวกแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ หากเราปล่อยคลิปนี้โดยไม่ระบุชื่อ พวกเขาจะใช้เป็นข้ออ้างในการเยาะเย้ยพวก แวเรียนท์ที่กระทำกับมนุษย์ พวกเขาสามารถอ้างได้ว่าพวกเขาปล่อยคลิปนี้และมนุษย์และเราซ่อนมันไว้ เนื่องจากมันไม่ระบุตัวตน เราจึงสามารถ พิสูจน์อะไรไม่ได้ พวกเขาจะมีคุณธรรมสูงส่ง และถ้าเราบอกว่าเป็นเราที่ปล่อยมัน ไอย์จะเดือดร้อน”

 

“ในระยะยาว เป็นสิ่งที่สามารถทำให้โลกต้องต่อสู้ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย สงครามระหว่างแวเรียนท์ที่เป็นกลางกับมนุษย์… ความไม่ไว้วางใจ… คุณรู้ว่ามันจะเลวร้ายได้อย่างไร”

 

จิตใจที่สงบของแซนเดอร์ไม่ได้รับผลกระทบจากอารมณ์ของเขาในขณะนี้ ดังนั้นเขาจึงคิดได้แต่ข้อดีและข้อเสียอย่างมีเหตุผล ในขณะนี้ ข้อเสียของการปล่อยฟุตเทจนั้นมีมากกว่าข้อดี

 

“โดยพื้นฐานแล้วมันไร้ประโยชน์ใช่ไหม” ฟลูเรนออกมาด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “เราไม่สามารถทำอะไรกับพวกเขาได้”

 

หลังจากได้ยินทุกอย่างแล้ว เขาเชื่อว่าภาพดังกล่าวไม่มีประโยชน์มากนัก หากพวกเขาไม่สามารถใช้มันเพื่อให้ใครรับผิดชอบได้ เขาแค่ส่ายหัวด้วยความผิดหวัง

 

“ไม่จริง มันไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิง มันให้ความกระจ่างเกี่ยวกับสถานการณ์และบอกฉันว่าฉันต้องโฟกัสที่ใด ฉันยังไม่ต้องมอบคดีนี้ให้อัลฟ่าในตอนนี้” แซนเดอร์พึมพำ

 

แซนเดอร์ยังคงดูฟุตเทจต่อไปเพื่อดูว่าคนอื่นๆ ทำอะไรในห้องแล็บ เขาสังเกตเห็นพวกเขาทำสิ่งเดียวกันกับที่พวกเขาทำกับลูซิเฟอร์กับเด็กคนอื่นๆ ด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีผู้ทดลองรอดชีวิต

 

เด็ก ๆ เข้ามาในห้องนั้นด้วยเท้าของพวกเขา แต่มีเพียงศพของพวกเขาเท่านั้นที่ออกจากห้องโดยพยาบาล

 

“พวกมันเป็นมนุษย์ด้วยเหรอ ไม่ใช่แค่ลูซิเฟอร์ พวกเขายังทำสิ่งเดียวกันกับคนอื่นด้วย ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เห็นอกเห็นใจชีวิตมนุษย์เลย” ฟลูเรนแสดงสีหน้ารังเกียจ ในขณะที่เขาดูวิดีโอต่อ

 

“แต่เราจะปล่อยให้สัตว์ประหลาดเหล่านี้มีชีวิตอยู่เพราะกฎได้ยังไง ฉันสงสัยว่าลูซิเฟอร์ผิดหรือเราคิดผิด” ฟลูเรนถามอย่างเย้ยหยัน

 

“ตอนนี้คุณค่อนข้างมีอารมณ์ ใช้เวลาในการสงบสติอารมณ์” แซนเดอร์ตอบ “ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไร ไม่ต้องกังวล พวกเขาจะถูกลงโทษ พวกเขาจะไม่เป็นอิสระ มันจะแตกต่างออกไปเล็กน้อย จงมีศรัทธา”

 

เฮลิคอปเตอร์เริ่มบินแล้ว และกำลังบรรทุกแซนเดอร์และคนอื่นๆ ไปยังเอรีกัส

 

แม้ว่าศูนย์วิจัยดิไลออนจริงจะตั้งอยู่ในที่อื่น แซนเดอร์ก็โกหกลูซิเฟอร์และบอกเขาว่าสถานที่นั้นอยู่ในเอรีกัส

 

แซนเดอร์เชื่อว่ามีโอกาสมากกว่าร้อยละเก้าสิบที่ลูซิเฟอร์จะไปที่เอรีกัสเพื่อค้นหาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อแก้แค้น

 

เขาได้วางกับดักไว้รอบๆ เอรีกัสสำหรับลูซิเฟอร์แล้ว เขายังสั่งคนของเขาให้พาพลเมืองออกจากเมืองและใช้สถานที่แถวนั้นเป็นเหยื่อล่อ ซึ่งคนของทีมเดลต้าแสดงเป็นประชาชนแทนเพื่อรอที่จะจับลูซิเฟอร์โดยไม่รู้ตัว

 

ทีมของเขาอยู่ที่นั่นแล้ว กำลังเตรียมการ และตอนนี้แซนเดอร์ก็ไปที่นั่นเช่นกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ครั้งสุดท้าย

 

… ยังมีต่อ

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 52: แฮ็ครัฐบาล

 

แดร็คลืมตาขึ้นทันทีและมองไปที่แซนเดอร์ ขณะที่เขาได้ยินคำพูดนั้น ราวกับว่าเส้นประสาทที่เจ็บปวดของเขาถูกกดทับ

 

เขายังสังเกตเห็นภาพในมือของแซนเดอร์ที่เป็นของน้องสาวและแม่ของเขา

 

“คุณขู่ฉัน?” แดร็คถามพลางขมวดคิ้ว “คุณจะอยู่ในจุดที่ต่ำเพียงใด? ถึงได้มายุ่งกับครอบครัวของฉัน?”

 

“คุณบอกว่าคุณไม่สนใจว่าโลกจะถูกทำลาย ฉันแค่เตือนคุณ หากโลกถูกทำลายอย่าลืมว่าครอบครัวของคุณเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ด้วย มันจะไม่เพียงส่งผลกระทบต่อคุณและ ฉันก็มีคนสำคัญเหมือนกัน” แซนเดอร์ตอบอย่างใจเย็น

 

“ฉันอ่านไฟล์ของคุณแล้ว และรู้เรื่องครอบครัวของคุณแล้ว ทีมเบต้ายังสามารถหาครอบครัวของคุณเจอ เมื่อพวกเขาพยายามตามหาคุณ” เขากล่าวต่อ โดยไม่สนใจคำถามขณะเดินเข้าไปใกล้แดร็ค เพื่อช่วยให้เขามองเห็นรูปภาพได้ดีขึ้น

 

แดร็คเอื้อมมือไปจับรูปนั้น แต่ก่อนที่มือของเขาจะสัมผัสรูปนั้น มันก็ถูกเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่านในเปลวเพลิงที่ปรากฏในมือของแซนเดอร์อย่างไม่รู้สาเหตุ

 

“คุณอยากรู้เรื่องครอบครัวคุณไหม” แซนเดอร์ถาม “คุณคิดว่าตอนนี้พวกเขาเป็นยังไงบ้าง”

 

แม้ว่าเขาจะถามคำถาม เขาไม่ได้รอคำตอบก่อนจะตอบตัวเอง

 

“ครอบครัวคุณช่วงนี้ไม่ค่อยสบาย พวกเขาถูกตั้งข้อหาช่วยเหลือและสนับสนุนอาชญากรอย่างคุณ พวกเขายังต้องเผชิญกับการลงโทษและต้องติดคุก แต่เนื่องจาก APF ไม่ได้จัดการเรื่องของพวกเขา ฉันอาจจะได้รับ ข้อหาลดลง เป็นไปได้ก็ต่อเมื่อคุณช่วยฉัน “

 

เสียงของเขาสงบลงเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ

 

“คุณอาจไม่สนใจเกี่ยวกับตัวเอง แต่ฉันรู้ว่าคุณห่วงใยครอบครัวของคุณ และฉันเคารพในสิ่งนั้น ฉันสัญญากับคุณว่าไม่เพียงแต่พวกเขาจะเป็นอิสระ แต่พวกเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับ ในเงื่อนไขที่คุณช่วยฉัน “

 

แดร็คมองดูขี้เถ้าของภาพบนพื้นอย่างว่างเปล่า

 

“คุณมีเวลาไม่มาก หลังจากที่ฉันไปวันนี้ ฉันจะไม่กลับมา คิดให้รอบคอบ” แซนเดอร์เตือนแดร็ค แม้แต่การบลัฟก็ฟังดูเหมือนความจริงตั้งแต่เขามีประสบการณ์

 

“ฉัน… จะทำ” แดร็คพยักหน้าในที่สุด ไม่มีทางเลือกอื่น

 

“เด็กดี.”

 

แซนเดอร์วางแล็ปท็อปต่อหน้าแดร็คทันที

 

“ฉันต้องการให้คุณแฮ็คเข้าไปในฐานข้อมูลของโรงงานวิจัยดิไลออน ดาวน์โหลดฟุตเทจล่าสุด 1 เดือนจากกล้องในห้องปฏิบัติการของพวกเขา” แซนเดอร์บอกกับแดร็ค “แค่นั้น”

 

แดร็คพยักหน้าขณะแตะแล็ปท็อป ในที่สุด เขาก็ใช้แล็ปท็อปหลังจากผ่านไปนาน มันทำให้เขารู้สึกคุ้นเคย

 

แซนเดอร์ยืนอยู่ข้างหลังเขาและเฝ้าดูทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าแดร็ค ไม่ได้วางแผนอะไรไว้

 

เขาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจกับความเร็วของนิ้วของแดร็ค บนแป้นพิมพ์ของแล็ปท็อป แซนเดอร์ไม่เข้าใจการทำงานภายในของสิ่งที่แดร็คทำ แต่เขาเข้าใจว่าแดร็ค ไม่ได้พยายามโกง

 

 

แดร็คทำงานต่อเป็นเวลา 4 ชั่วโมงติดต่อกัน

 

แซนเดอร์สงสัยว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหน แต่เขาไม่ได้ถามเดรคเพื่อจะได้ไม่รบกวนเขา

 

“ใช่ สำเร็จแล้ว เราอยู่ข้างใน ฉันกำลังเริ่มดาวน์โหลด” แดร็คอุทานด้วยความตื่นเต้น

 

“ความเร็วกำลังดีแต่ไม่ได้ยอดเยี่ยม ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนที่การดาวน์โหลดจะเสร็จสิ้น” แดร็ค กล่าวขณะมอบแล็ปท็อปให้แซนเดอร์

 

“ดี ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือ ฉันจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้สำเร็จเช่นกัน นอกจากนี้ ฉันจะพยายามลดโทษของคุณถ้ามันได้ผล” แซนเดอร์บอกกับแดร็ค ขณะที่เขานั่งข้างเขา

 

แซนเดอร์รออยู่ในที่นั่นเพื่อให้การดาวน์โหลดเสร็จสิ้น

 

หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง การดาวน์โหลดก็เสร็จสิ้น

 

แซนเดอร์พยายามเล่นฟุตเทจเล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่ามาจากสถานที่นั้น มีวิดีโอหลายพันชั่วโมงเนื่องจากมาจากกล้องหลายตัวภายในสถานที่ หลังจากการพิสูจน์ตัวตนสั้น ๆ เขาปิดแล็ปท็อป

 

เขาขอบคุณแดร็คอีกครั้ง และเดินออกไปจากห้องขัง

 

ชายชุดดำยังคงยืนอยู่ข้างนอก ทันทีที่แซนเดอร์ออกจากห้องขัง เขาก็ล็อกห้องขังและพาแซนเดอร์กลับไปที่ชั้นบนสุด

 

แซนเดอร์ได้โอนวิดีโอทั้งหมดไปยัง เพนไดรฟ์ แล้วและลบฟุตเทจออกจากแล็ปท็อป และล้างส่วนที่เหลือทั้งหมด

 

เขาเข้าไปในห้องของไอย์และคืนแล็ปท็อปให้กับเธอ

 

“ได้ผลเหรอ?” ไอย์ถามขณะที่แซนเดอร์คืนภาพ

 

“มันได้ผล โอ้ ใช่แล้ว ฉันสัญญากับผู้ชายคนนั้นว่าจะไม่ตั้งข้อหาครอบครัวของเขาในคดีช่วยเหลือและสนับสนุน”

 

“ตกลง ฉันจะจัดการกับมัน ฉันจะคุยกับหัวหน้าตำรวจ คดีจะคลี่คลาย” ไอย์กล่าวขณะที่เธอพยักหน้า

 

แซนเดอร์ขอบคุณเธอก่อนจะจากไป

 

เขาเดินออกจากอาคารและเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ที่รอเขาอยู่ข้างนอกพร้อมกับทีมของเขา

 

“คุณดูมีความสุข การประชุมสำเร็จไหม”

 

ทันทีที่แซนเดอร์เข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ เขาได้รับการต้อนรับจากฟลูเรน ซึ่งแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสีหน้าของแซนเดอร์ทันที

 

“ใช่ พวกเขาคิดจริงๆ เหรอว่าฉันจะไม่ได้คลิปนั้นเลยถ้าพวกเขาไม่ให้ฉัน? ฉันมีวิธีการต่างๆ นับพันวิธีที่จะได้มันมา ฉันแค่ไม่อยากยุ่ง ฉันเลยต้องเลือกวิธีนี้” แซนเดอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน

 

เขาวาง เพนไดรฟ์ไว้ในแล็ปท็อปเครื่องอื่น

 

“ถึงเวลาดูว่าพวกเขากำลังพยายามซ่อนอะไร”

 

หลังจากคลิกไม่กี่ครั้ง เขาก็เริ่มเล่นวิดีโออย่างรวดเร็ว ฟลูเรนก็นั่งข้างๆเขาและดูภาพนั้นข้างๆ สงสัยว่ามีประโยชน์อะไรหรือเสียเวลาเปล่า

 

เขาเริ่มดูภาพของกล้องทั้งหมด หนึ่งในนั้นคือกล้องที่อยู่ในห้องของลูซิเฟอร์

 

ภายในนั้น พวกเขาเห็นสภาพความเป็นอยู่ของลูซิเฟอร์ เขาถูกกักขังไว้เป็นเชลย พวกเขาไม่เข้าใจ พวกเขาปฏิบัติต่อเด็กคนนั้นราวกับเป็นนักโทษจริงหรือ?

 

ห้องของเขาไม่ต่างจากห้องขังของพวกเขา

 

“เฮ้อ คนพวกนั้นเป็นไอ้เลวที่ใหญ่ที่สุดในโลกจริงๆ ใช่ไหม” ฟลูเรน แสดงความคิดเห็นเมื่อเห็นสภาพของห้องที่ลูซิเฟอร์ถูกขังไว้ “พวกเขาเก็บลูกชายของเซล ไว้ราวกับเป็นสัตว์ร้ายจริงๆ”

 

แซนเดอร์ไม่ได้แสดงความคิดเห็น เขามองดูภาพนั้นอย่างใจเย็น

 

เขาใช้ฟุตเทจของกล้องนั้นเพื่อค้นหาการประทับเวลาสุดท้าย หลังจากนั้นลูซิเฟอร์ก็ไม่กลับมาที่ห้องของเขา และใช้จุดนั้นเป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อตรวจสอบฟุตเทจของกล้องอื่นๆ ในไม่ช้า พวกเขาพบวิดีโอของลูซิเฟอร์ในช่วงเวลาสุดท้ายของเขา

 

เมื่อทั้งสองได้ดูภาพ สีหน้าของพวกเขาก็บิดเบี้ยว แม้แต่แซนเดอร์ก็ยังกำหมัดด้วยความโกรธในสิ่งที่เขาเห็น สำหรับฟลูเรนเขาก็ดูตกใจไม่แพ้กัน

 

———————————————————————————-

ตอนที่ 51: ปฏิเสธ

 

ความเงียบในห้องทำงานของไอย์ ถูกทำลายในที่สุดด้วยการถอนหายใจของเธอเอง

 

“ได้ ฉันจะอนุญาตให้คุณไปพบเขา ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาออกจากห้องขัง แต่คุณสามารถนำแล็ปท็อปไปที่ห้องขังของเขาและให้เขาช่วยคุณได้”

 

เธอหยุดใช้พลังของเธอ แซนเดอร์ก็หยุดในเวลาเดียวกัน

 

“แม้ว่าเขาจะไม่ช่วยคุณโดยไม่มีเหตุผล” เธอพึมพำขณะที่เธอวางนิ้วลงบนคางของเธอ

 

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉัน ฉันจะจัดการเรื่องนั้นเอง สิ่งที่คุณต้องทำคือให้ฉันเข้าไปในห้องขังของเขาและปิดกล้องตราบเท่าที่ฉันอยู่ข้างใน” แซนเดอร์กล่าวด้วยรอยยิ้มที่ละเอียดอ่อนบนใบหน้าของเขา

 

“ไม่เป็นอะไร.”

 

ไอย์เคาะปุ่มที่อยู่บนโต๊ะของเธอ ในขณะที่เธอเปิดลิ้นชักพร้อมๆ กัน นำแล็ปท็อปออกมา

 

“คนของฉันคนหนึ่งจะพาคุณไปที่ห้องขัง ฉันจะปิดกล้องจากที่นี่หลังจากที่คุณเข้าไปในห้องขัง ที่นี่คุณสามารถใช้แล็ปท็อปเครื่องนี้ได้ มันมี ID ที่สวมหน้ากาก ทหารจะไม่สามารถติดตามได้ แม้ว่าพวกเขาจะพบตัวแฮ็คก็ตาม” เธอกล่าว ขณะมอบแล็ปท็อปให้แซนเดอร์

 

“ฉันรู้สึกทราบซึ้งจริงๆ”

 

จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตู

 

“เข้ามาเลย”

 

ประตูเปิดออกเผยให้เห็นชายชุดดำ

 

“คุณเรียกหาฉันเหรอกัปตัน” ชายคนนั้นถามไอย์เมื่อเข้ามา

 

“ใช่ พากัปตันแซนเดอร์ไปที่ห้องขังของแดร็ก เขาต้องการคุยกับคนๆนั้นเป็นการส่วนตัว จะไม่มีใครรบกวนเขาภายในห้องจนกว่าเขาจะออกมาจากห้องขัง” ไอย์ สั่งชายคนนั้น ซึ่งพยักหน้าเป็นการตอบแทน

 

แซนเดอร์ออกจากห้อง ตามหลังชายชุดดำคนนั้น

 

 

หลังจากเดินผ่านทางเดินยาวของพื้น แซนเดอร์ก็มาถึงลิฟต์และเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับชายชุดดำที่กดตัวเลขในลิฟต์

 

ลิฟต์เริ่มลงและหยุดเมื่อถึงชั้นหนึ่งเท่านั้น

 

เมื่อประตูเปิดออก ทั้งสองก็ก้าวออกจากลิฟต์พร้อมกัน

 

ชายชุดดำพาแซนเดอร์ไปที่ห้องขังซึ่งมีคนรู้จักในชื่อแดร็คที่ถูกกักตัวไว้ ห้องขังมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่ไม่มีช่องเปิดเพื่อห้ามไม่ให้ใครมองภายนอกหรือภายใน

 

ชายชุดดำกดรหัสบนแป้นตัวเลข วางไว้ข้างประตูพร้อมกับใช้มืออีกข้างให้ลายนิ้วมือบนเครื่องอื่นพร้อมกัน

 

บี๊บ…

 

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ประตูก็ปลดล็อคด้วยเสียงบี๊บ

 

“เข้าไปได้แล้ว ฉันจะรอข้างนอก” ชายผมดำบอกกับแซนเดอร์

 

เมื่อผลักประตูโลหะเปิดออก แซนเดอร์ก็ก้าวเข้าไปข้างใน

 

ประตูปิดอยู่ข้างหลังเขาเพื่อให้แซนเดอร์มีความเป็นส่วนตัว

 

 

ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนเขาอายุเพียง 20 ปีกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยให้ขาข้างหนึ่งวางอยู่เหนืออีกข้างหนึ่ง เขามีหนังสืออยู่ในมือและมีแว่นอ่านหนังสืออยู่บนใบหน้า ซึ่งทำให้เขาดูเหมือนเด็กที่ขยันหมั่นเพียร

 

เด็กหนุ่มเหลือบมองแซนเดอร์แต่ไม่ลุกขึ้นยืน

 

เมื่อมองดูใบหน้าและแววตาไร้เดียงสาที่เขามี คงไม่มีใครคาดเดาได้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นอัศวินรุ่นแวเรียนท์ที่ปลุกพลังด้วยความสามารถทางกายภาพที่สร้างความรำคาญให้กับ APF กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

 

หลังจากที่เขาตื่นขึ้น ชายที่ชื่อ แดร็ค ก็ตระหนักว่าเขาสามารถแฮ็คสิ่งต่างๆ ได้ตราบเท่าที่เขามีแล็ปท็อปอยู่ในมือ เขาแฮ็คฐานข้อมูลขององค์กรรัฐบาลหลายแห่งและเปิดเผยต่อสาธารณะเพียงเพื่อความสนุกสนาน ไม่มีการเข้ารหัสใดที่สามารถกีดกันเขาออกไปได้

 

ในตอนแรก ผู้คนเคยคิดว่าแฮ็กเกอร์เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีสมองดี แต่ต่อมากลับพบว่าจริงๆ แล้วว่าเขาคือแวเรียนท์

 

เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลที่มีชื่อเสียง ทีมเบต้าของ APF จึงจัดการด้วยตนเอง หลังจากใช้ความพยายามอย่างมากและใช้เวลาพอสมควรกับคดีนี้ ไอย์และทีมของเธอก็จับแดร็ค ได้สำเร็จ ผ่านไปได้เพียง 1 เดือนนับตั้งแต่แดร็ค ถูกจับได้

 

“คุณเป็นใคร? นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคุณ” แดร็กถามอย่างเกียจคร้าน “คุณเป็นคนส่งอาหารคนใหม่เหรอ?”

 

“ฉันคือแซนเดอร์ เบลคจากทีมเดลต้า ฉันมาที่นี่เพราะต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันต้องการให้คุณแฮ็คข้อมูลในฐานข้อมูลของรัฐบาลให้ฉันแล้วเอาวิดีโอมาให้ฉัน” แซนเดอร์บอกกับ แดร็ค ขณะที่เขายืนอยู่ต่อหน้าเขา

 

“นี่ล้อเล่นเหรอ พวกคุณกักขังฉันเพราะฉันแฮ็คข้อมูลพวกนั้น และตอนนี้คุณต้องการให้ฉันทำแบบเดียวกันให้กับคุณงั้นเหรอ” แดร็คถามอย่างไม่เชื่อ “ฉันตกใจเหลือเกินกับความหน้าซื่อใจคดนี้”

 

แดร็คกลอกตาขณะที่เขาสูดลมหายใจ เขาไม่ได้มองแซนเดอร์ด้วยซ้ำ

 

“มันสำคัญมาก อนาคตของโลกอาจขึ้นอยู่กับการแฮ็กของคุณ” แซนเดอร์ยืนยัน

 

แดร็ค มองไปทางแซนเดอร์อีกครั้ง สังเกตเห็นความจริงจังในดวงตาของเขา

 

“ได้ ฉันจะทำ แต่มีเงื่อนไขหนึ่ง” เขากล่าว “คุณต้องทำอะไรเพื่อฉันเพื่อแลกเปลี่ยน”

 

“คุณต้องการอะไรเป็นการแลกเปลี่ยน”

 

ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดแดร็คก็ลุกขึ้นนั่งและเลื่อนไปที่ขอบที่นอนแข็ง

 

ขาของเขาห้อยลงมาจากเตียง เขาพูดว่า “คุณต้องทำให้พวกเขาเลิกกล่าวหาฉัน และปล่อยให้ฉันเดินออกไปจากที่นี่เหมือนคนไร้เดียงสา”

 

“APF น่าจะทำเช่นนั้นได้ หากพวกเขาต้องการกอบกู้โลก” เขากล่าวเสริม

 

แซนเดอร์ไม่ได้ใช้เวลาสักครู่ก่อนที่เขาจะส่ายหัวปฏิเสธคำขอนั้นทันที

 

“ฉันทำไม่ได้ นี่ไม่ใช่ภายใต้การควบคุมของเรา อย่างที่ฉันพูด ฉันมาจากทีมเดลต้า และคุณอยู่ในความดูแลของ ทีมเบต้า ได้ยื่นฟ้องไปแล้ว และสิ่งนี้ก็คือ ในสายตาของผู้สูงศักดิ์แล้ว เป็นไปไม่ได้ ที่จะปลดภาระของคุณ และ เป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำที่จะให้คุณเดินออกไปจากที่นี่”

 

“แล้วทำไมฉันต้องไปสนใจด้วยล่ะ ถ้าฉันจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในห้องขัง ฉันอาจจะทำให้มันจบลงในไม่ช้าและปล่อยให้โลกถูกทำลาย” แดร็คหัวเราะในขณะที่เขาส่ายหัว “ออกไปซะ ฉันไม่อยากช่วยคุณ”

 

แซนเดอร์ไม่ชอบคำตอบของเขา แต่แซนเดอร์ก็ไม่ได้โกรธ เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าและนำภาพออกมา

 

“จริงเหรอ ไม่สนใจพี่สาวกับแม่เหรอ”

 

————————————————————–

ตอนที่ 50: พ่อแม่ภูมิใจ

 

หลังจากนั้นไม่กี่นาที ลูซิเฟอร์หยิบชิ้นสุดท้ายขึ้นมาในขณะที่เขาขยับตัวในที่สุด เขาเริ่มเดินไปหาชายที่พยายามลากร่างที่บอบบางและบาดเจ็บของเขาให้ห่างจากลูซิเฟอร์ โชคไม่ดีที่แม้ลูซิเฟอร์จะให้เวลาเขามากขนาดนั้น แต่เขาก็ยังไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้อีก

 

เขาสามารถลากตัวเองได้เพียงไม่กี่เมตร ลูซิเฟอร์เข้าใกล้ได้ง่ายในระยะไกล

 

“ยกโทษให้ฉัน! โปรดยกโทษให้ฉันด้วย! ฉันจะเป็นคนดี ฉันจะไม่ทำอีก ฉันสาบานด้วยชีวิตของฉัน”

 

ลูซิเฟอร์มองลงไปที่ชายที่จับมือเขา ขอร้องให้ลูซิเฟอร์ปลดปล่อยเขา

 

ตอนนี้เราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของลูซิเฟอร์ ม้ายผู้นั้นจะขอร้อง แล้วก็ตาม ชายผู้นั้นจึงตัดสินใจบางอย่างขึ้นมา

 

‘เขายังเด็ก เด็กทุกคนรักพ่อแม่ของพวกเขา’ เขาคิดขณะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร

 

“คิดถึงพ่อแม่ของเธอสิ พวกเขาจะคิดยังไงถ้ารู้ว่าลูกชายเป็นฆาตกร ปล่อยฉันไปเถอะ เดินบนทางที่ชอบธรรมและทำให้พ่อแม่ภูมิใจ!”

 

แม้ว่าคำพูดของเขาจะไม่กระทบกับลูซิเฟอร์ก็ตาม

 

ลูซิเฟอร์ต้องการทำแบบเดียวกัน เนื่องจากชายผู้นี้ต้องการใช้เท้าของเขาเพื่อแสดงด้านที่หยาบกระด้างของเขา ลูซิเฟอร์ค่อยๆ ยกเท้าขวาของเขาขึ้น กระทืบลงอย่างหนัก ทุบกะโหลกศีรษะของชายผมสีบลอนด์ เลือดทะลักไปทุกหนทุกแห่ง บางส่วนปกคลุมรองเท้าของเขา

 

ลูซิเฟอร์จ้องไปที่ชายคนนั้น ชายผู้นั้นนอนอยู่ใต้เท้าของเขา ขณะที่เขาสงสัยว่าพ่อแม่ของเขาจะพูดอะไร หากพวกเขาเห็นเขาเป็นแบบนั้น

 

เขาสามารถรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่ตอบสนอง แต่คำพูดของชายคนนั้นเป็นสิ่งที่เขาคิด พ่อแม่ของเขาจะว่าอย่างไรหากพวกเขายังมีชีวิตอยู่?

 

“ฉันสบายดี ฉันสบายดี” ลูซิเฟอร์พูดซ้ำขณะที่เขาส่ายหัว

 

เขาทิ้งศพไว้ข้างหลัง ขณะที่เขาเดินต่อไปยังเมืองอิเครโก้ พลางกินเนื้อชิ้นสุดท้ายในมือ

 

 

ลูซิเฟอร์ย้ายไปที่เมืองอิเครโก้ ซึ่งเต็มไปด้วยนักล่า ในขณะที่แซนเดอร์มาถึงสำนักงานใหญ่ของ APF

 

เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานของหัวหน้าทีมเบต้าของ กองกำลังพิทักษ์ของคนที่สามารถปลุกพลังได้

 

หญิงสาวสวยคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ดูเหมือนจะเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษ เมื่อแซนเดอร์เข้าไป

 

เมื่อแซนเดอร์เข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นมองชายที่เพิ่งมาถึง ผมสีเงินของเธอและดวงตาสีเทาของเธอผสมกับรูปลักษณ์ที่สงบและเงียบเชียบของเธอ

 

ผู้หญิงคนนั้นดูอ่อนกว่าแซนเดอร์ด้วยซ้ำ เป็นที่รู้จักในนามไอย์เธอเป็นกัปตันทีมเบต้าของ APF

 

เธอเป็นวอร์ล็อคที่ถูกปลุกพลังให้ตื่นถึง 2 ครั้ง น่าเสียดาย ที่มีเพียงพลังเดียวของเธอเท่านั้นที่จัดอยู่ในอันดับ S

 

เธอมีความสามารถในการคูณทางกายภาพระดับ A ซึ่งทำให้เธอสามารถสร้างร่างแยกของตัวเองได้ในจำนวนจำกัด ร่างแยกของเธอไม่สามารถใช้กับพลังทางกายภาพได้ แต่พวกมันสามารถใช้พลังที่ 2 ของเธอได้ ซึ่งก็คือการควบคุมน้ำแข็งระดับ S มันเป็นพลังธาตุที่อนุญาตให้เธอควบคุมน้ำแข็งและแช่แข็งทุกสิ่งที่ขวางทางเธอ

 

โดยพื้นฐานแล้ว เธอสามารถมีร่างโคลนของตัวเองได้ ซึ่งทั้งหมดมีความสามารถระดับ S ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าขีดจำกัดพลังของเธอคืออะไร

 

“แซนเดอร์ ฉันได้ยินมาว่าคุณมีเรื่องจะคุย เกี่ยวกับคดีที่คุณกำลังรับมืออยู่หรือเปล่า” เธอถามแซนเดอร์

 

“ใช่ ฉันคิดว่ามันเป็นกรณีของการปลุกพลังอันธพาล แต่การพัฒนาใหม่ชี้ให้เห็นว่าการจลาจลของพวกแวเรียนท์ทมิฬอาจอยู่เบื้องหลัง แม้ว่าฉันจะยังสงสัยอยู่ แต่ฉันก็ไม่สามารถละเลยความเป็นไปได้ได้” แซนเดอร์ตอบเธอ

 

“เกี่ยวข้องกับการจลาจลงั้นเหรอ?”ไอย์ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเกี่ยวกับการอัปเดตในคดีนี้ “คุณไม่ควรไปที่อื่นหรอกหรือ? เพราะด้วยข้อมูลพวกนี้ทีมอัลฟ่าของเขามีแนวโน้มที่จะจัดการกับเรื่องเหล่านี้มากกว่าฉันนะ”

 

“ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันไม่ต้องการให้คดีนี้กับเขา นอกจากนี้ โอกาสที่แวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่นั้น จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็น้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ตามที่ฉันพูด ฉันยังคงเชื่อว่ามันเป็นคนเดียวที่ทำ นี่เป็นการแก้แค้น” แซนเดอร์อธิบายเหตุผลของเขา

 

“แล้วคุณต้องการอะไรจากฉัน” ไอย์ถามด้วยใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็น “คุณไม่ต้องการไปที่สำนักงานหลัก และมาหาฉันโดยเฉพาะ คุณต้องการให้ฉันช่วยสินะ คำถามคือสิ่งที่คุณต้องการให้ฉันช่วยนั่นคืออะไร”

 

“ฉันต้องการคนที่คุณจับได้ เขาอยู่ในคุกของทีมเบต้า” แซนเดอร์พูดออกมา ขณะที่หยิบกระดาษออกมาจากกระเป๋า

 

เขาเขียนชื่อลงบนกระดาษแล้วเลื่อนไปทางไอย์

 

ไอย์หยิบกระดาษขึ้นมาอ่านสิ่งที่แซนเดอร์เขียน

 

“เขา ทำไมคุณถึงต้องการเขา”

 

“ฉันต้องการให้บุคคลนั้นแฮ็คเข้าสู่ฐานข้อมูล DRF และค้นหาวิดีโอให้ฉัน” แซนเดอร์กล่าวอย่างใจเย็น

 

“คุณคงรู้ว่าสิ่งที่คุณขอให้ฉันทำเป็นความผิดทางอาญาใช่ไหม คุณต้องการให้ฉันให้คุณไปพบอาชญากรเพื่อที่คุณจะใช้เขาแฮกฐานข้อมูลของรัฐบาลได้”ไอย์ ขมวดคิ้วมากขึ้น เมื่อได้ยินคำขอของเขา “เธอรู้ดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นนี่? สำนักงานใหญ่นั่นจะกินฉันทั้งเป็น ถ้าเขารู้ว่าฉันทำ”

 

แซนเดอร์รู้สึกได้ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวเริ่มเย็นลง เขาตระหนักว่าไอย์คงไม่พอใจจริงๆ หรือเธอกำลังพยายามเตือนเขาเกี่ยวกับความร้ายแรงของเรื่องนี้ แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้

 

“ก่อนอื่นฉันได้ถามพวกเขาก่อน ฉันไปที่ DRF และถามพวกเขาเป็นการส่วนตัวถึง 2 ครั้ง ฉันยังคุยกับนายพลแม็กเวลล์อีกด้วย คุณรู้ไหมว่าฉันจะไม่แนะนำเรื่องนี้ หากเป็นไปได้ด้วยวิธีการทางกฎหมาย” แซนเดอร์อธิบาย

 

เขาเสริมว่า “ตอนนี้ผมมีทางเลือกแค่ 2 ทาง ทางแรกคือผมทุบโรงงานของพวกเขาและบังคับให้พวกเขาส่งมอบมันมา แต่อย่างที่คุณบอกสำนักงานใหญ่จะต้องจะกินเราทั้งเป็นเพราะความยุ่งเหยิงนั้น ตัวเลือกนี้ดีกว่าไม่ใช่หรือ?”

 

เขายังเริ่มใช้ความสามารถของเขาในการควบคุมอุณหภูมิของห้องให้เป็นปกติด้วยความร้อนของเขา ร้อนปะทะเย็นเพื่อรักษาอุณหภูมิปกติของห้อง

 

พลังของแซนเดอร์ขัดกับพลังของไอย์ เนื่องจากการควบคุมน้ำแข็งระดับ S ของเธอตรงกันข้ามกับการควบคุมเปลวไฟระดับ S ของแซนเดอร์ ทั้ง 2 คนอยู่ในชั้นเดียวกัน

 

ทั้งคู่เป็นวอร์ล็อคที่ถูกปลุกให้ตื่นถึง 2 ครั้ง ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือพลังที่ 2 ของไอย์ มีประโยชน์ในการต่อสู้มากกว่าพลังที่ 2 ของแซนเดอร์ ซึ่งทำให้เธอดูน่ากลัวมากขึ้น

 

ไอย์จ้องไปที่แซนเดอร์ ความเงียบกินเวลาไม่กี่นาทีเมื่อไม่มีใครพูดอะไร…

 

————————————————————–

ตอนที่ 49: ลำดับความสำคัญด้านอาหาร

 

แม้ว่าเขาจะมีความสามารถระดับ S แต่ก็ไม่ง่ายอย่างนั้น

 

แม้จะมีความแข็งแกร่งระดับ S เหมือนกัน แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นไม่มีที่ไหนใกล้ระดับของพ่อของเขาเลย เขาไม่มีความแข็งแกร่ง แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียวของพ่อเพียงเพราะขาดการควบคุมและประสบการณ์

 

มันเป็นพลังที่ได้รับใหม่ โดยทั่วไปแล้ว เขาไม่ควรใช้พลังนี้แม้แต่เศษเสี้ยวของพลังนี้โดยไม่ได้ฝึกฝน แต่น่าประหลาดใจที่เขาทำได้

 

มันไม่ชัดเจนว่าเหตุใดจึงเป็นอย่างนั้น อาจเป็นเพราะเขาเคยเห็นพ่อแม่ใช้พลังมาก่อนตอนที่พวกเขาฝึก หรืออาจจะเป็นอย่างอื่น ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย

 

แม้จะมีความแข็งแกร่งเพียงเศษเสี้ยวของพ่อของเขา แต่พลังเวทย์มนต์ ของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าที่มนุษย์ทั่วไปจะเข้าใจได้ ซึ่งแสดงให้เห็นเพียงว่าพ่อของเขาแข็งแกร่งเพียงใด นั่นคือเหตุผลที่พ่อของเขาถูกเรียกว่าจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุด เขาอยู่ในอาณาจักรที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

 

ลูซิเฟอร์ยังคงนั่งอยู่ในป่า ทำอาหารจากสัตว์ที่เขาล่า ยังมีระยะทางอีกครึ่งวันระหว่างเขากับเมืองอิเครโก้ ไฟแช็กที่เอมิลี่มอบให้เขาวางหมอบอยู่บนพื้นใกล้ ๆ

 

ไม่นาน เขาทำอาหารเสร็จและกำลังจะเริ่มกินเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหวข้างหลังเขา

 

แกร๊บ!

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินเสียงกิ่งไม้แตกอยู่ใต้ฝ่าเท้าเมื่อมีคนเดินเข้ามาใกล้

 

“ผู้ชายอย่างฉันโชคดีจริงๆที่ได้พบหญิงสาวที่สวยเช่นนี้แค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว หึๆ”

 

“ชิ นายต้องพอใจแน่ๆ แต่ฉันไม่ใช่กับฉัน ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย ผู้หญิงคนนี้มันตายด้วยความพยายามของมันเอง ฉันไม่ได้แตะต้องเธอเลยด้วยซ้ำ ฉันได้ยินแต่เสียงร้องของเธอมาแต่ไกล  ฉันเดานี่ก็คงเป็นวันที่โชคร้ายของฉันจริงๆ “

 

“หืม? ฉันไม่คิดว่านายควรตำหนิฉันในเรื่องนี้ ฉันบอกแล้วว่าให้นายตามฉันมา? ฉันไม่ผิดเลยนะเว้ย”

 

“นายบอกให้ฉันมาหาศพไม่ใช่เหรอ? ไอ้สารเลว! นายพาฉันไปเป็นเหยื่อล่อ เพราะนายก็จะได้ทำอะไรๆให้มันง่ายขึ้นน่ะสิ ไม่งั้นฉันคงได้มีความสุขอยู่กับเธอบ้างแล้ว”

 

“เฮ้อ ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้ามีโอกาสแบบนี้ นายก็ไปก่อนเลย”

 

ลูซิเฟอร์ยังสามารถได้ยินเสียงของชาย 2 คนคุยกันขณะที่ฝีเท้าเข้ามาใกล้

 

เขาค่อยๆ หันหลังกลับ เขาพบชาย 2 คนกำลังเดินมาทางเขา คนหนึ่งเป็นชายผมสีเข้ม ส่วนอีกคนเป็นผมบลอนด์

 

ชายทั้งสองยังสังเกตเห็นว่าลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในระยะไกล แต่ดวงตาของพวกเขาก็ดึงดูดสายตาของลูซิเฟอร์ไปในทันที

 

“โอ้ ว้าว มีอาหารด้วย เราโชคดีจริงๆ ดูเหมือนพระเจ้าจะรักเราจริงๆ” ชายผมดำยิ้ม เลียริมฝีปากแห้ง ขณะที่ตาเป็นประกาย

 

“จริงสิ ฉันก็รู้สึกหิวเหมือนกัน อย่างน้อยฉันก็กินได้ ทั้งๆ ที่ทำไม่ได้…” ชายผมบลอนด์พูดขึ้น

 

เขายกมือขึ้นไปทางลูซิเฟอร์เพื่อชี้นิ้วมาที่เขาก่อนจะสั่ง “เจ้าหนู วางสิ่งนั้นลงและออกไปจากที่นี่ซะ ถ้าเจ้ารู้ว่าอะไรดีสำหรับเจ้า”

 

ลูซิเฟอร์ไม่สนใจพวกเขาและกัดเนื้อครั้งแรกเพราะเขาหิวมาก คน 2 คนนี้ไม่คุ้มพอที่เขาจะเอาความหิวของเขาไปเสียเวลาด้วย

 

พวกผู้ชายโกรธจัด เมื่อเห็นลูซิเฟอร์กินโดยไม่สนใจพวกเขา เด็กชายคนนี้หูหนวกหรือไม่?

 

“เฮ้ เด็กน้อย ไม่ได้ยินฉันเหรอ?”

 

ชายผมสีบลอนด์วิ่งไปทางลูซิเฟอร์และเตะด้วยความโกรธ ต้องการให้เขาล้มลงจากอาหาร

 

โชคร้ายสำหรับเขา เขาไม่รู้ว่าเท้าของเขาไม่ได้เคลื่อนไปทางลูซิเฟอร์ แต่มุ่งไปที่เด็กชายที่ได้รับการพิจารณาจากแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดบางคนว่าเป็นปีศาจ

 

ก่อนที่เท้าของเขาจะแตะต้องลูซิเฟอร์ เขาพบว่ามันไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ เพราะมีมือมาจับข้อเท้าของเขาไว้

 

ตาซ้ายของเขากระตุก เมื่อเขามองลงไปเห็นลูซิเฟอร์จับขาของเขาด้วยมือซ้าย ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถปล่อยขาได้

 

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่ดี ทำไมเด็กคนนี้ถึงแข็งแกร่งนัก? เด็กนี่มันก็เป็นเด็กไม่ใช่เหรอและเขาก็เป็นผู้ใหญ่ เด็กตัวแค่นี้จะมาหยุดเขาได้อย่างไร?

 

ก่อนที่เขาจะอ้าปากได้ เขารู้สึกเหมือนกับว่าขาของเขากำลังไหม้อยู่ในเปลวเพลิงแห่งนรก ความเจ็บปวดที่ลุกโชติช่วงนั้นเพิ่มขึ้นเมื่อมันลามไปทั่วร่างกายของเขาซึ่งเริ่มสลายไป

 

ชายคนนั้นอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่มีเพียงเสียงกรีดร้องที่เล็ดลอดออกมาจากปาก ขณะที่เท้าของเขาถูกเหยียบย่ำพร้อมๆ กัน

 

ลูซิเฟอร์ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเน่าเปื่อย แทน เขาก็กำมือแน่น บดขาของชายผมสีบลอนด์

 

เขายังมีเนื้อในมือขวาที่เขาปรุงเมื่อไม่นานมานี้ เขากัดอีกคำ ขณะที่เขายืนขึ้นอย่างไม่ระมัดระวัง

 

ไม่มีอารมณ์ใดปรากฏบนใบหน้าของเขา

 

“อ๊ะ!”

 

ชายผมสีบลอนด์กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ขณะที่หลอดเลือดสามารถมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นรอบๆคอของเขา

 

“อะ- ไอ้เวร!”

 

ชายผู้นั้นอึ้งกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ชายผมดำจึงชักปืนออกมาทันทีและยิงโดยไม่คิดอะไรเลย

 

กระสุนกระทบไหล่ของลูซิเฟอร์ แต่เขาก็ไม่ได้ยินว่าลูซิเฟอร์ส่งเสียงใดๆ ไม่มีความเจ็บปวดปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของลูซิเฟอร์

 

เนื่องจากมือขวาของเขาถืออาหารอยู่แล้ว เขาจึงต้องปล่อยให้ชายผมบลอนด์ใช้มือซ้ายของเขา

 

ตอนนี้ด้วยมือของเขาว่าง ลูซิเฟอร์ยกมันขึ้นและชี้นิ้วไปทางชายผมดำ

 

ชายผมบลอนด์ทรุดตัวลงกับพื้น ครางด้วยความเจ็บปวด

 

สายฟ้าสีดำขนาดเล็กปรากฏขึ้นต่อหน้านิ้วของลูซิเฟอร์ และเดินตรงไปยังชายผมดำ สว่างวาบอย่างรวดเร็ว

 

สายฟ้าสีดำพุ่งทะลุกลางลำคอของชายคนนั้นและออกมาจากอีกด้านหนึ่ง โดยเหลือรูเล็กๆ ไว้ที่คอของชายคนนั้น

 

ลูซิเฟอร์จับคอของเขาหายใจไม่ออกชายคนนั้นก็ล้มลงกับพื้นเช่นกัน

 

ชายคนนั้นหน้าซีดเพราะหายใจไม่ออก ในไม่ช้า ดวงตาของเขาก็สูญเสียแสงไป ขณะที่เขาหยุดเคลื่อนไหว

 

โดยไม่สนใจคนตาย ลูซิเฟอร์ยังคงกินต่อไป ในขณะที่เขาเปลี่ยนไปโฟกัสไปที่ชายผมบลอนด์ที่คร่ำครวญราวกับกำลังจะตาย

 

ใบหน้าของชายผมบลอนด์มีสีหน้าสยดสยองอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาตระหนักถึงความผิดพลาดที่เขาทำขึ้นจากการเข้าไปพัวพันกับเด็กคนนี้

 

เมื่อเสร็จสิ้นสิ่งที่อยู่ในมือของเขา  ลูซิเฟอร์ก็หยิบอีกเนื้ออีกชิ้นหนึ่งขึ้นมาจากด้านข้างและกินต่อไป ขณะที่เขามองดูชายคนนั้นขอการอภัยโทษจากเขา

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้สนใจ และชายคนนั้นก็ไม่มีค่าพอที่จะดึงดูดความสนใจทั้งหมดของลูซิเฟอร์จากอาหารของเขาได้

 

————————————————————–

ตอนที่ 48: กิลด์นักล่า

 

“ใช่ เดลต้า ฟอร์ซของ AFP กำลังมอบหมายสมาชิกจำนวนมากใน เอรีกัส ฉันเชื่อว่ามันควรจะเป็นที่ที่ลูซิเฟอร์กำลังมุ่งหน้าไป” เวก้าอธิบายกับก็อง

 

“หากพวกเขาคิดว่าลูซิเฟอร์อาจปรากฏตัวที่นั่น ก็อาจมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง ฉันต้องการให้คุณและทีมของคุณไปที่เอรีกัสและคอยดูที่นั่น และพาลูซิเฟอร์มาที่นี่ให้ได้ ไม่ว่าในกรณีใด เขาไม่ควรถูก AFP จับได้ “

 

ไดออนอ่านไฟล์ของเขาเสร็จแล้ว

 

“ฉันต้องไปที่ DRF หรือไม่ ฉันเข้าใจ ฉันจะจัดการทุกอย่าง” เขาให้ความเห็น และเห็นด้วยโดยไม่มีคำถามใดๆ

 

“ใช่ ลูซิเฟอร์ถูกทรมานใน DRF เขาอาจจะไปที่นั่นเพื่อแก้แค้น เราไม่สามารถเพิกเฉยต่อความเป็นไปได้ เนื่องจากสถานที่นั้นจะเป็นเขตสงครามถ้าลูซิเฟอร์ไปที่นั่น ฉันต้องการกองกำลังที่แข็งแกร่งของเราเพื่อช่วยเหลือเขา คุณจะต้องรอและเตรียมพร้อมอยู่ที่นั่น” เวก้าพยักหน้า “นี่อาจเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความปรารถนาดีกับเขา”

 

อิโซน่าค่อนข้างเงียบขณะที่กำลังอ่านไฟล์ของเธอ เธอไม่พูดอะไรเพียงแต่พยักหน้า

 

“ดี แค่นี้เองสำหรับวันนี้ ไฟล์มีทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อปฏิบัติภารกิจ อ่านให้ละเอียดแล้วไปยังตำแหน่งของคุณ” เวก้ากล่าวขณะยืนขึ้น “หากอ่านจบแล้วมีข้อสงสัยประการใด สามารถมาหาฉันเพื่อขอคำตอบได้”

 

เวก้าเดินไปที่ประตูและจากไปโดยทิ้งทุกคนไว้ข้างหลัง

 

เคนยืนขึ้นและจากไปพร้อมกับแฟ้มของเขา ไดออนเป็นคนที่ 3 ที่ไป

 

มีเพียงอิโซน่าเท่านั้นที่นั่งอยู่ข้างหลัง ดูภาพของลูซิเฟอร์ในแฟ้ม

 

“ลูกของแคลรีสงั้นเหรอ… เราจะได้เจอกันเร็วๆ นี้ ฉันคิดว่าแบบนั้น” เธอพึมพำก่อนจะลุกขึ้นและจากไปเช่นกัน

 

….

 

ในขณะที่ทั้ง 3 ฝ่ายกำลังมีการวางแผนจำนวนมาก รวมทั้ง APF, DVU และรัฐบาล ลูซิเฟอร์กลับไม่รู้อะไรเลย

 

เขาออกจากเมืองเล็กๆ ที่เขาได้พบกับเอมิลี่และเดินทางต่อไปยังเอรีกัส สถานที่ที่เขาถามกับแซนเดอร์

 

เขายังต้องผ่านเมืองใหญ่แห่งหนึ่งของอิเครโก้ ก่อนจึงจะสามารถไปถึงเอรีกัสได้

 

อิเครโก้เป็นเมืองที่สวยงาม ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าบ้านเกิดของลูซิเฟอร์ ซึ่งเป็นแค่เมืองเล็กๆ

 

อิเครโก้มีขนาดใหญ่เป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับเมืองลีเจี้ยน ที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ เมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร ถึงกระนั้น ส่วนใหญ่ก็มีความโดดเด่นเพราะเป็นสถานที่ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของกิลด์อินทรีแดง

 

กิลด์อินทรีย์แดงเป็นกิลด์นักล่าที่เป็นส่วนหนึ่งของสมาคมนักล่า พวกเขาจัดการกับเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการล่ามอนสเตอร์ภายในดันเจี้ยนทั่วประเทศ เพื่อควบคุมจำนวนของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน

 

พวกเขาตั้งสำนักงานใหญ่ในอิเครโก้ เพราะมีคุกใต้ดินใกล้กับอิเครโก้ ซึ่งพวกเขาต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ดันเจี้ยนอยู่ภายใต้คำสั่งของพวกเขา และมันเป็นความรับผิดชอบของพวกเขาที่จะต้องแน่ใจว่ามอนสเตอร์จะไม่ออกมา

 

แม้ว่าอินทรีย์แดงจะไม่ใช่กิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในการจัดอันดับกิลด์ของสมาคมนักล่า แต่ก็ยังอยู่ใน 10 อันดับแรกของทั้งประเทศ โดยอยู่ในอันดับที่ 10

 

ลูซิเฟอร์ไม่มีความคิดเกี่ยวกับกิลด์นี้ และเขาไม่รู้ว่าเมืองนี้มีกิลด์พวกนักล่าอยู่ภายใน แต่เขาจะไม่สนใจแม้ว่าเขาจะรู้

 

เขาเกือบจะเลิกสนใจเรื่องความตายของเขาแล้ว และเมื่อมันมาถึงความเจ็บปวด มันก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลน้อยลงไปอีก ทั้งหมดที่เขารู้คือจุดหมายปลายทางของเขา

 

หากใครรู้แรงจูงใจและการกระทำของเขา พวกเขาอาจจะเรียกเขาว่าไร้เดียงสา น่าเสียดายที่ไม่มีใครแนะนำเขาได้ และถึงแม้ว่าจะมีคนคอยแนะนำ เขาคงไม่ไว้ใจคนพวกนั้น

 

หลังจากทนทุกข์กับความเจ็บปวดอันสุดแสนสาหัสในศูนย์วิจัยดิไลออน เขาเกือบจะไม่มีภูมิคุ้มกันต่อความเจ็บปวดแล้ว บางครั้งเขาสงสัยว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเป็นเพียงศพที่มีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้น

 

และแม้ว่าเขาจะทำภารกิจล้างแค้นสำเร็จ แต่หลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร? เขาจะอยู่ในโลกที่โหดร้ายนี้ในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีวันตาย ผ่านความเจ็บปวดของชีวิตหรือไม่? มีแม้กระทั่งปลายอุโมงค์สำหรับเขาหรือไม่?

 

ความคิดนี้เข้ามาในหัวของเขาหลายครั้ง แต่เขาแค่ส่ายหัวและหยุดคิดเกี่ยวกับมัน เขาไม่สามารถยอมสละความตั้งใจของเขาได้

 

เนื่องจากเขาไม่รู้ว่าสิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่ทำงานอย่างไร เขาก็เลยเมินเฉย เขาไม่รู้วิธีซ่อนตัวจากกล้องอย่างเหมาะสมหรือต้องระมัดระวังอะไรเพื่อความปลอดภัย

 

โชคดีที่โชคของเขาที่เกิดขึ้นมาเป็นอย่างดี เขาบังเอิญผ่านสถานที่ที่มีกล้อง เพียงครั้งเดียวหรือ 2 ครั้งเท่านั้นที่เขาถูกกล้องจับได้

 

เขายังคงสวมชุดเก่าที่ปกคลุมไปด้วยฝุ่นและสิ่งสกปรก มันเป็นของแม่ของเขา แต่เนื่องจากเขาไม่มีเสื้อผ้าสำรอง เขาจึงไม่เปลี่ยน

 

เขาเรียนรู้วิธีการทำอาหาร ดังนั้นเขาจึงไม่ทรมานจากความหิว

 

การล่าสัตว์เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับเขาเพราะพลังสายฟ้าสีดำของเขา ความเร็วของเขายิ่งเหลือเชื่อ ส่วนไฟนั้น เขาใช้ไฟแช็ก หลังจากล่าสัตว์เพื่อทำอาหาร

 

เขายังทำอาหารไม่เก่ง ส่วนใหญ่เขาทิ้งอาหารดิบไว้หรือบางครั้งเขาก็ปรุงสุกเกินไป แต่รสชาติคือสิ่งที่เขาไม่สนใจ เขาไม่เคยกินอาหารที่ล่าอย่างถูกต้องมาก่อน สำหรับเขา นี่เป็นรสชาติปกติของอาหารที่ถูกล่า

 

ขณะที่เขาใช้พลังของลมตลอดการเดินทางเพื่อเพิ่มการควบคุมในขณะที่ลองสิ่งใหม่ๆ ความเชี่ยวชาญในการควบคุมลมของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เช่นกัน เขาสามารถควบคุมมันได้มากขึ้นเล็กน้อย

 

ก่อนหน้านี้เขาสามารถเคลื่อนที่ได้เร็วเพราะเวทมนตร์แห่งสายลม แต่ตอนนี้เขาเร็วยิ่งกว่าเดิม

 

เขายังตระหนักว่าเขาสามารถกระโดดได้ไกลมากด้วยความช่วยเหลือจาก พลังเวทย์มนต์ และ การควบคุมลม

 

ขณะที่เขาเดินทาง เขายังคงฝึกฝนการผสมผสานความสามารถของเขาด้วย เพื่อที่เขาจะได้เพิ่มพละกำลังให้ดียิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าความสำเร็จของเขาจะไม่ดีเท่าที่เขาคาดไว้

 

————————————————————–

ตอนที่ 47: ภารกิจ

 

เคน,อิโซน่าและ ไดออน จ้องไปที่หน้าจอ สงสัยว่าทำไมเวก้าต้องแสดงอะไรให้พวกเขาดูเมื่อวิดีโอเริ่มเล่น

 

ในวิดีโอสามารถมองเห็นเด็กหนุ่มผมสีเงินได้ เด็กชายดูเหมือนจะอายุไม่เกิน 10 หรือ 11 ปีเท่านั้น

 

เด็กชายสวมชุดคลุมธรรมดานอนอยู่บนเตียง เครื่องจักรเชื่อมต่อกับเขา

 

พวกเขาสังเกตวิดีโอและสังเกตว่าเด็กชายดูเหมือนถูกทรมานอย่างไร มีอีก 3 คนในห้องที่ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์

 

วิดีโอจบลงเมื่อเด็กชายหยุดเคลื่อนไหวราวกับว่าเขาตายแล้ว

 

นักวิทยาศาสตร์ออกจากห้อง มีสาวใช้บางคนมา ห่อเด็กชายด้วยผ้าปูที่นอน และพาเขาออกไปข้างนอก

เวก้าเอามือออกจากหน้าจอเมื่อวิดีโอจบลง

 

เมื่อมองย้อนกลับไปที่ผู้คนของเขา เขาถามอย่างใจเย็นว่า “คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับวิดีโอนั้น”

 

“วิดีโอนั้นคืออะไร นักวิทยาศาสตร์บางคนทำการทดลองกับเด็ก หรือเป็นการทรมานกันแน่” เคนถาม

 

เขากล่าวต่อ “เรารู้อยู่แล้วว่ามนุษย์โหดร้าย ไม่มีอะไรใหม่ ทำไมเราต้องสนใจว่าเด็กถูกฆ่าตายหรือไม่ เว้นแต่… มีบางอย่างที่เรายังขาดหายไป”

 

ในทางกลับกัน ตอนนี้อิโซน่ากำลังขมวดคิ้ว

 

“คุณจะไม่แสดงวิดีโอนั้นให้เราเห็นจนกว่าจะมีสิ่งสำคัญซ่อนอยู่ในนั้น เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์หรือเด็กชายคนนั้น จริงๆ แล้วเด็กคนนั้นเป็นใครกันแน่คะ” อิโซน่าถาม น้ำเสียงของเธอดูเคร่งขรึมเล็กน้อย

 

ไดออนไม่พูดอะไรและมองดูเวก้าเพื่อรอคำตอบ เขาขี้เกียจเกินกว่าจะถาม และเขาก็ไม่สนใจที่จะตอบเมื่อเขาไม่มีความคิดใดๆ

 

“เด็กคนนั้นเป็นคนพิเศษจริงๆ” เวก้าตอบพร้อมกับรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา “คุณต้องจำวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุด เซล แอซเรลได้ใช่ไหม”

 

“ใช่ ใครล่ะจะไม่ชอบ ผู้ชายคนนั้นช่างน่าสงสารจริงๆ” เคนพึมพำขณะถอนหายใจ

 

เมื่อมองไปที่เวก้า เขาถามว่า “แล้วเขาทำไมล่ะ?”

 

“เด็กคนนี้เป็นลูกชายของ เซล แอซเรล และ แคลรีส เขาคือ ลูซิเฟอร์ แอซเรล ลูกชายของวอร์ล็อค ที่แข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้นและเป็นนักเวทย์ ที่ทรงพลังที่สุด” เวก้าตอบ ทำให้เกือบทุกคนในห้องตะลึง

 

ไม่มีใครคาดคิดว่าตัวตนของลูซิเฟอร์จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ชายคนนั้น เขาเป็นลูกชายของพวกเขาเหรอ?

 

“เป็นไปได้ไหมว่านักวิทยาศาสตร์ในวิดีโอไม่ใช่มนุษย์ ” อิโซน่าถามเวก้า

 

“ไม่ นักวิทยาศาสตร์ที่ทรมานเขาไม่ได้มาจากองค์กรของเรา อย่างที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ พวกเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์จากสถานประกอบการของรัฐบาล”

 

อิโซน่า, เคน และ ไดออน ต่างมองเวก้าอย่างประหลาดใจ

 

“ทะ-ทำไมพวกเขาถึงฆ่าลูกชายของผู้ที่แข็งแกร่งขาดนั้น?” อิโซน่าถามเวก้า

 

มันไม่สมเหตุสมผล มันสมเหตุสมผลกว่าที่จะคิดว่าเด็กคนนั้นเป็นคนของพวกเขา ทำไมมนุษย์ถึงฆ่าเขา? เธอสงสัย

 

“นั่นคือมนุษย์ พวกมันโหดร้ายและชั่วร้าย พวกเขาอาจไม่อยากเห็นวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งคนอื่นๆเข้ามา คุณคาดหวังอะไรจากพวกเขาอีก ฉันรู้ว่าพวกมันโหดร้ายแค่ไหน และนั่นคือเหตุผลที่ฉัน เข้าร่วมองค์กรนี้ตั้งแต่แรก” เคนกล่าวโดยไม่แปลกใจที่มนุษย์ฆ่าเขา

 

“เราสามารถใช้วิดีโอนั้นเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่ารัฐบาลปฏิบัติต่อพวกเขาและสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาอย่างไร แม้ว่าเด็กจะตาย แต่นั่นก็สามารถเป็นแคมเปญที่ดีสำหรับเรา เราสามารถสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลได้อย่างแน่นอน ด้วยภาพนั่น”

 

ไดออนเป็นคนที่มีเหตุผลที่สุดที่นี่ เนื่องจากเขาไม่ได้เน้นเนื้อหาและเรื่องราวเบื้องหลังมากเท่ากับที่เขาทำกับวิธีที่เขาใช้ฟุตเทจให้เป็นประโยชน์

 

“เราจะทำอย่างนั้น แต่มีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าสำหรับเราที่จะมุ่งเน้น” เวก้ากล่าวพร้อมส่ายหัว “เด็กคนนั้นยังไม่ตาย”

 

“เขายังไม่ตาย?”

 

ทั้งสามพูดพร้อมกันขณะที่การแสดงออกของพวกเขารุนแรงขึ้น

 

เวก้าสัมผัสหน้าจออีกครั้งที่แสดงวิดีโอของลูซิเฟอร์กำลังเดินอยู่ในเมืองลีเจี้ยน มันเป็นภาพเดียวกันกับที่ APF มีเช่นกัน

 

“เขายังมีชีวิตอยู่ และเป็นอิสระหรือไม่ เขาทำทั้งหมดเพื่อหลอกพวกเขาและหลบหนี หรือก็คือเขาฉลาด” อิโซน่า หัวเราะคิกคักเมื่อเห็นวิดีโอ “ไม่เป็นไรแล้วสินะ”

 

“ฉันไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นทำอะไรและหลอกพวกเขาจริง ๆ หรือเปล่า แต่ความจริงก็คือเขาเป็นอิสระ และไม่เพียงเท่านั้น ฉันเชื่อว่าตอนนี้เขาเกลียดมนุษย์มากๆ เขาได้ฆ่าฟันคนไปจำนวนมากหลายๆครั้งตั้งแต่เขา เป็นอิสระตามข้อมูลที่ฉันสามารถรวบรวมได้”

 

เวก้าเริ่มพูดถึงการสังหารครั้งแรกของเขาที่ถูกกล่าวหาว่าเกิดขึ้นในร้านอาหาร ที่บ้าน และที่ร้านอาหารอื่น

 

“เหลือเชื่อ เขาสามารถสร้างความพินาศได้มากมายโดยไม่ถูกจับได้ ฉันเริ่มชอบเขามากขึ้นเรื่อยๆ” อิโซน่า หัวเราะออกมา “APF จะต้องบ้าไปแล้ว”

 

“ระดับของเขาคืออะไร? เขาปลุกพลังอะไรมาบ้าง?” ไดออนถามอย่างใจเย็น

 

“เขาเป็นวอร์ล็อคที่ปลุกพลังมาแล้ว 3 ครั้งเขามีพลังแรงค์ S  2 อย่างจากพ่อแม่ของเขา” เวก้าอธิบาย

 

“ปลุกพลัง 3 ครั้ง?  2 ครั้งนั้นอยู่ในระดับ S?”

 

ทุกคน รวมทั้งเคน อิโซน่า และไดออน ยืนขึ้นด้วยความตกใจที่เขียนบนใบหน้าของพวกเขา เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าเดิมที่ได้เห็นสีหน้าของไดออนนั้นเปลี่ยนไป ในขณะที่เขาสงบนิ่งเป็นส่วนใหญ่ นั่นเป็นเพียงการแสดงให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่เพียงใด

 

“นั่นเป็นข้อสันนิษฐานพื้นฐานที่สุดจากศพที่เขาทิ้งไว้หลังจากการสังหาร แต่ข้อสันนิษฐานของฉันก็คือมีความเป็นไปได้ว่าเขาจะเป็นวอร์ล็อคที่ปลุกพลังทั้งหมด 4 ครั้ง” เวก้ากล่าว ขณะที่เขาเดินเข้าไปใกล้เก้าอี้และนั่ง

 

คนอื่นๆ ก็นั่งลงเช่นกัน ยังคงวางใจไม่ได้ ผู้ชายคนนี้เป็นสัตว์ประหลาดมากแค่ไหน?

 

“ระดับอันตรายของเขาดูจะสูงกว่าพวกเราทุกคนรวมกัน ถ้าเราดูที่พลัง อนิจจาเขายังเด็ก เขาขาดประสบการณ์และคงไม่สามารถต่อสู้กับแวเรียนท์ที่มีประสบการณ์ของ AFP ได้ ถ้าเขาเจอคนพวกนั้นเขาอาจจะตาย หรือเขาถูกจับไปแล้ว ใช่ไหม?” เคนถาม

 

“ใช่ AFP กำลังติดตามเขา ทีมเดลต้าของพวกเขากำลังจัดการกับคดีของลูซิเฟอร์ แต่ตอนนี้เขายังไม่ถูกจับได้ สมาชิก AFP เดลต้าพบเขาแล้ว แต่ลูซิเฟอร์ฆ่าสมาชิกทั้ง 4 คนที่ไปจับตัวเขาและหลบหนี” เวก้า ได้ตอบกลับ

 

“เขาทำอย่างนั้นเหรอ ฮ่าฮ่าฮ่า เยี่ยมมาก ฉันหวังว่าฉันจะอยู่ที่นั่นเพื่อดูใบหน้าของพวกเขาตอนที่เด็กคนนั้นกำลังฆ่าพวกเขา” อิโซน่าเริ่มหัวเราะเมื่อได้ยินข่าว “ถ้าเด็กคนนั้นโตกว่านี้หน่อย ฉันยินดีจะให้รางวัลอันแสนหวานแก่เขา อนิจจา เขายังเด็กเกินไปสำหรับฉัน ฉันสามารถเป็นได้แค่พี่สาวของเขาเท่านั้น”

 

เวก้ามองที่อิโซน่าอย่างประหลาดก่อนจะส่ายหัว

 

“กลับมาที่เรื่องนี้ ฉันเรียกหาคุณทุกคนให้มาที่นี่ ฉันต้องการให้คุณทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อค้นหาลูซิเฟอร์และทำให้เขาเข้าร่วมองค์กรของเราให้ได้”

 

“ให้ทุกอย่างที่เขาต้องการ แต่เราไม่สามารถปล่อยให้ AFP จับเขาได้ เราต้องหาเขาและพาเขามาที่นี่ โอกาสนั้นใหญ่เกินไปที่จะพลาดได้” เวก้ากล่าว ขณะที่เขาให้ไฟล์ทั้งหมดมอบให้แก่พวกเขา “ไฟล์เหล่านี้มีภารกิจของคุณที่เกี่ยวข้องกับการค้นหาลูซิเฟอร์และพาเขามาที่นี่”

 

เคนและคนอื่นๆ หยิบแฟ้มของตนขึ้นมาและเริ่มดำเนินการแก้ไข

 

“ฉันต้องไปที่เอรีกัสงั้นเหรอ?” เคนถามด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว ขณะอ่านหน้าแรกของไฟล์

 

————————————————————–

ตอนที่ 46: วิดีโอ

 

ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาในห้องที่เคนนั่งอยู่แล้ว

 

ดูเหมือนผู้หญิงในวัย 20 ปลายๆ ของเธอ ผู้หญิงคนนั้นจ้องมองที่เคน ซึ่งดูแตกต่างไปจากเดิมอีกครั้ง

 

แม้ว่าเคนจะแตกต่างกัน แต่สร้อยข้อมือบนมือของเขากำลังเปิดเผยตัวตนของเขา

 

ผู้หญิงคนนั้นเตี้ยกว่าเคนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยมีความสูง 5 ฟุต 10 นิ้ว

 

ผมสีน้ำตาลแดงที่สวยงามของเธอยาวพอที่จะลงมาที่หน้าอกของเธอเท่านั้น ชุดของเธอเผยให้เห็นถึงส่วนโค้งเว้าของเธอที่สามารถดึงดูดสายตาของผู้ชายหลายคนได้อย่างง่ายดาย แต่ดูเหมือนเคนไม่สนใจเธอ

 

“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน อิโซน่าดีใจที่คุณมาทันและไม่สาย” เคนกล่าวอย่างประชดประชัน ขณะที่เขาจ้องมองไปที่ดวงตาสีฟ้าที่สวยงามของอิโซน่า

 

“ผู้หญิงต้องการเวลาเตรียมตัวให้พร้อม คนอื่นๆ มาช้ากว่าฉันอีก ดังนั้นเก็บการเสียดสีของคุณไว้เพื่อพวกเขา” อิโซน่าหัวเราะคิกคัก ขณะที่เธอตอบ เมื่อก้าวไปข้างหน้า เธอนั่งในที่นั่งซึ่งอยู่ติดกับเคน

 

อิโซน่าเป็นผู้นำระดับ 2 ที่นี่ เธอเป็นจอมเวทย์แรงค์ S ที่มีความสามารถในการควบคุมแรงโน้มถ่วง

 

พลังของเธอดูคล้ายกับเอนฟอร์ซเซอร์จาก APF ที่ลูซิเฟอร์ได้สังหารไปเล็กน้อย แต่เนื่องจากความสามารถของเธอคือแรงค์ S เธอจึงค่อนข้างทรงพลังกว่า

 

เคนไม่ชอบเธอโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่อิโซน่าสนุกกับการพูดคุยกับเคนและทำให้เขารำคาญ

 

“คุณรู้ไหมว่าการประชุมครั้งนี้เกี่ยวกับอะไร” อิโซน่าถามพลางเหลือบมองไปทางเคน

 

“อิโซน่า คุณอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าผม คุณคิดจริงๆ เหรอว่าผมจะรู้เรื่องนี้ในเมื่อคุณเองก็ยังไม่รู้” เคนพ่นลมอย่างเกียจคร้าน

 

“ไม่เอาน่า คุณเป็นคนโปรดของเวก้า เขาเป็นคนที่เรียกประชุมครั้งนี้ด้วย คุณมีโอกาสสูงที่จะรู้ข้อมูลวงใน บอกมาเถอะ ฉันจะไม่บอกใครทั้งนั้น ฉันสัญญา” อิโซน่ายังคง กล่าว ขณะที่เธอวางมือบนไหล่ของเคนและเริ่มเขย่าเขา

 

“คุณทำตัวเหมือนอายุตัวเองหน่อยได้ไหมและทำตัวน่ารำคาญให้มันน้อยลงด้วย ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่รู้อะไรเลย นอกจากนี้ เราจะได้รับฟังการบรรยายสรุปเร็วๆ นี้ อดทนไว้” เคนตอบ ขณะที่เขาจ้องไปที่อิโซน่า “ยิ่งไปกว่านั้น เอามือออกจากไหล่ของผมด้วย คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบให้ใครมาแตะตัวผม”

 

“หืม คุณมันก็อารมณ์เสียอยู่เสมอเหมือนกัน” อิโซน่าหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เธอดึงมือของเธอออก แทนที่จะทำให้ผู้ชายรำคาญ เธอเริ่มดูวิดีโอตลกๆ ในโทรศัพท์ของเธอ

 

ประตูเปิดออกอีกครั้ง และอีกคนก็เดินเข้ามา

 

คราวนี้เป็นผู้ชายที่มีสีหน้าครุ่นคิดราวกับว่าเขาตายไปแล้ว ผิวสีซีดของเขาให้ความรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นแวมไพร์ที่ไม่ได้ดื่มเลือดมาเป็นเวลานาน ผมสีเข้มและดวงตาสีทองสวยของเขาทำให้เขาดูมีเสน่ห์เช่นกัน

 

ชายที่สวมเสื้อคลุมสีดำก้าวไปข้างหน้าและนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

“ไดออน คุณคือคนที่ 3 ที่จะมา ฉันเดาว่าเวก้าจะต้องเป็นคนสุดท้ายอีกครั้ง *ถอนหายใจ* ผู้ชายคนนั้นมาประชุมไม่เคยจะตรงเวลา” อิโซน่าพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มบิดเบี้ยวบนใบหน้าของเธอ

 

ไดออนเป็นผู้นำระดับ 3 ในกลุ่มแวเรียนท์ทมิฬที่เกิดขึ้นใหม่เขาเป็น นักเวทย์ธาตุระดับ S ที่มีความสามารถในการ ‘ควบคุมสภาพอากาศ’ ว่ากันว่าเขาสามารถใช้สภาพอากาศให้เกิดประโยชน์ ทำให้เกิดพายุหมุน ใช้พายุ และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ไม่มีใครเคยเห็นเขาใช้ความสามารถของเขาจริงๆ เขาเป็นหนึ่งในผู้นำที่ต่ำต้อยที่สุดที่นี่

 

เขาเป็นนักรบระยะไกล ตามข้อมูลของ APF แต่เขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้แบบประชิดตัวมากมายที่ทำให้เขาน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก

 

“เขาจะมาที่นี่เร็วๆ นี้” ไดออนพึมพำก่อนจะกอดอกและหลับตา

 

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ วินาทีกลายเป็นนาที แต่ประตูก็ไม่เปิดอีก

 

เกิน 20 นาทีแล้วตั้งแต่ทุกคนมาถึงห้อง แต่คนที่เรียกประชุมยังไม่มา

 

“เขาจะมาหรือเปล่า ฉันมีเรื่องต้องทำอีกมาก” อิโซน่าพูดออกมา ขณะที่เธอยืนขึ้น เธอเริ่มเหนื่อยกับการรอคอย

 

เคนเองก็ยืนขึ้นเช่นกัน เขาต้องการไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นจริง

 

ขณะนั้นเองที่ประตูเปิดออก

 

ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้อง เขาดูจะอายุ 20 ต้นๆ เขาสวมชุดเดรสยาวสีดำยาวจรดข้อเท้า ขณะสวมผ้าพันคอสีเทายาว

 

ผมหงอกของเขาดูมีสีเขียวอ่อนๆ ทำให้ดูเป็นนักวิชาการ แว่นตาทรงกลมบนใบหน้าของเขายิ่งทำให้ลุคนี้ดูดีขึ้นเท่านั้น แม้จะสวมแว่น แต่ชายคนนี้ก็ดูจะเป็นหนึ่งในผู้ชายที่มีเสน่ห์ที่สุดที่นี่

 

ดูเหมือนว่าเขาจะถือหนังสือ 2 เล่มอยู่ในมือ เล่มหนึ่งสีน้ำเงินและอีกเล่มหนึ่งสีแดง

 

ไม่มีใครรู้เหตุผลของมันจริงๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นชายคนนี้ เขาจะพกหนังสือ 2 เล่มนี้ติดตัวไปด้วยเสมอ ก่อนหน้านี้มีคนไม่กี่คนที่พยายามถามถึงสาเหตุ แต่เขาตอบด้วยรอยยิ้มและไม่พูดต่ออีก

 

“ขอโทษที่ให้รอนะทุกคน การประชุมที่ชั้น 5 ใช้เวลานานกว่าที่ฉันคาดไว้ ขอบคุณที่รอนะ” ชายคนนั้นพูดก่อนจะเดินไปที่เก้าอี้หลัก

 

ผู้ชายคนนี้ชื่อเวก้า เขาเป็นผู้นำระดับ 4 ของกลุ่มแวเรียนท์ที่เกิดขึ้นใหม่ เขายังอยู่ใน 5 อันดับแรกในรายการที่ต้องการตัวมากที่สุดของ APF

 

เวก้าเป็นวอร์ล็อค นอกจากเขาแล้ว ไม่มีใครในห้องนี้ที่เป็น Warlock เขาเป็นแวเรียนท์ที่มีพลังหลายอย่าง ทั้งกายภาพและธาตุ

 

ว่ากันว่าเวก้าเป็นจอมเวทที่ถูกปลุกพลังถึง 3 ครั้ง แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถยืนยันคำกล่าวอ้างเหล่านี้ได้

 

คนส่วนใหญ่รู้เพียงพลังอำนาจหนึ่งของเขาเท่านั้น อีก 2 พลังของเขานั้น ถ้ามีอยู่ก็ยังคงเป็นปริศนา

 

สำหรับสิ่งที่ทำให้เวก้า การคุกคามเป็นพลังเดียวของเขาที่เป็นที่รู้จักจริงๆ

 

พลังที่เขารู้จักคือความสามารถทางกายภาพระดับ A ที่เรียกว่า ไซเบอร์มายด์

 

พลังนี้ทำให้เขาสามารถอ่านข้อมูลใดๆ ที่มีอยู่บนอินเทอร์เน็ตได้จากความคิดของเขาโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใดๆ เขายังสามารถได้รับข้อมูลลับจากการถ่ายโอนที่เข้ารหัส นี่คือสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ในสายตาของ APF เนื่องจากเขาสามารถแฮ็คข้อมูลจำนวนมากได้

 

แม้ว่า APF ได้อัพเกรดระบบของพวกเขาในลักษณะที่เวก้าไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่เวก้า ยังคงเป็นภัยคุกคามใหญ่สำหรับพวกเขา เนื่องจากพลังของเขาที่พวกเขาไม่เข้าใจอย่างถูกต้องนั้นยังเป็นปริศนา

 

 

“เราไม่จำเป็นต้องรู้ว่าอะไรทำให้คุณล่าช้า คุณช่วยเริ่มการประชุมและบอกเราหน่อยได้ไหมว่าทำไมเราถึงมาที่นี่ ฉันกำลังทำงานบางอย่างอยู่ และฉันต้องทิ้งสิ่งนั้นไว้ก่อนเพื่อรออยู่ที่นี่”

 

เคนเป็นคนแรกที่แสดงความคิดเห็น ในขณะที่เขายืนยันว่าเวก้าต้องเริ่มการประชุมแทนที่จะเสียเวลา

 

“ฮี่ฮี่ คุณเป็นคนขี้ขลาดจริงๆ ใจเย็นๆน่า เคน เรามีชีวิตอีกยาวที่ต้องทำงาน” อิโซน่า ตอบกลับเคนขณะที่เธอหัวเราะ

 

เวก้าเพิกเฉยต่อพวกเขา ขณะที่เขาเดินไปที่หน้าจอด้านหน้าและวางนิ้วไว้ข้างหลัง

 

“เงียบ ฉันกำลังเริ่มการประชุมนี้ แต่ก่อนที่ฉันจะพูดอะไร ฉันต้องการให้คุณดูอะไรบางอย่าง” เวก้ากล่าว ขณะที่เขาดึงดูดความสนใจของทุกคน “มันเป็นสิ่งที่ฉันเพิ่งพบในเซิร์ฟเวอร์ของสถานที่ที่เรียกว่าโรงงานวิจัยดิลเลี่ยน “

 

“ฉันคิดว่าสิ่งนี้มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดความสมดุลของอำนาจในความโปรดปรานของเรา” เขากล่าวเสริมในขณะที่เขาจ้องมองคนอื่น ๆ

 

เคน อิโซน่า และไดออนเริ่มมองไปทางหน้าจอ พลางสงสัยว่าเวก้าต้องแสดงอะไรให้พวกเขาดู

 

————————————————————–

ตอนที่ 45: การจลาจล

 

“มีอีกทฤษฎีหนึ่งที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ ซับซ้อน ถ้าเราไปในทางที่ผิด เราจะอยู่ในมือของแวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่พวกนั้น เราเก็บภาพนั้นไว้กับตัว และอย่าบอกใคร”

 

แซนเดอร์ยกเลิกสิ่งที่เคยสั่ง หลังจากนั้นเขาก็วางสายและก้าวเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ที่รอพวกเขาอยู่

 

ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เริ่มเคลื่อนที่เมื่อมันลอยขึ้นไปในอากาศและจากไป

 

ฟลูเรนนั่งข้างแซนเดอร์ เขาเหมือนอยากรู้อะไรบางอย่าง

 

“คุณคุยกับแม็กเวลล์เรื่องอะไร คุณดูเปลี่ยนไปเล็กน้อยหลังจากคุยกับเขา”

 

เมื่อมองย้อนกลับไปที่ฟลูเรน แซนเดอร์ตอบเขา

 

“ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสที่แวเรียนท์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่จะมีส่วนเกี่ยวข้อง เราไม่สามารถสรุปได้ว่ามันคือ ลูซิเฟอร์จริงๆหรือไม่ จนกว่าเราจะได้หลักฐานวิดีโอหรือพยานที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาต่อสู้กันจริงๆ” แซนเดอร์พูดพร้อมส่ายหัวก่อนจะเริ่มอธิบายทุกอย่าง พลเอกแม็กเวลล์กล่าว

 

“คุณต้องการกลับไปที่ฐานหรือไปยังตำแหน่งที่เราได้สั่งให้คนของเราคุมไว้หรือไม่” ฟลูเรนถามแซนเดอร์

 

“เฮ้อ ฉันไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้ว หากมีการจลาจลของพวกแวเรียนท์ทมิฬที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ นี่มันอาจเป็นแผนการที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเราจากแผนจริงของพวกมัน ฉันจะต้องปรึกษากับไอย์”

 

“เฮ้อ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องได้รับความช่วยเหลือจากทีมเบต้าในภารกิจนี้ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็มีข้อแก้ตัวให้ทำในสิ่งที่ฉันกำลังจะทำเพราะฉันถามดีๆไปถึง 2 ครั้ง เธอไม่สามารถตำหนิฉันได้ในเรื่องนี้ และฉันจะทำมันเดี๋ยวนี้” แซนเดอร์พึมพำ “ตอนนี้พาฉันกลับไปที่ฐานก่อน”

 

“เข้าใจแล้ว.”

 

ฟลูเรนเดินกลับมาแจ้งนักบิน

 

 

ในมุมที่ไม่มีใครรู้จักของประเทศ มีองค์กรลึกลับและทรงพลังที่เป็นที่รู้จักว่าเป็นหนึ่งในพลังที่น่ากลัวที่สุดในประเทศ เป้าหมายหลักขององค์กรนี้คือโค่นล้มลำดับชั้นตามธรรมชาติและนำกฎของแวเรียนท์เข้ามา

 

อุดมการณ์อันสุดโต่งของพวกเขาคือการปลุกให้พลังตื่นขึ้นและนั่นเป็นของขวัญจากเหล่าทวยเทพ และเหล่าผู้ถูกปลุกพลังขึ้นนั้นก็เป็นผู้ที่เหล่าทวยเทพเลือก

 

พวกเขาเชื่อว่าผู้ถูกปลุกจะต้องได้รับการปฏิบัติในลักษณะที่ยุติธรรมกับตำแหน่งของพวกเขาแล้ว แต่ตอนนี้ผู้ที่ถูกปลุกพลังขึ้นมานั้น จะได้รับการปฏิบัติเหมือนตัวประกัน เพื่อจัดการกับสัตว์ประหลาด ในขณะที่รัฐบาลปกครองทุกอย่าง

 

เป้าหมายของพวกเขาคือการล้มล้างการปกครองของรัฐบาลและสร้างกฎแห่งการจลาจลแห่งความมืด พวกเขาต้องการนำยุคทองของสายพันธุ์มนุษย์และนำมนุษย์มาอยู่ภายใต้พวกเขา

 

แม้ว่าการเกิดขึ้นของแวเรียนท์ทมิฬจะมีพลังมาก แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าเป็นเพราะไม่มีความสามัคคีระหว่างแวเรียนท์พวกนั้น

 

แวเรียนท์บางคนยังคงเข้าข้างรัฐบาลและสนับสนุนสิทธิที่เท่าเทียมกันและประชาธิปไตย นั่นคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดและอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา

 

ส่วนใหญ่มี 2 องค์กรที่สร้างขึ้นจากแวเรียนท์ที่หยุดการจลาจลของแวเรียนท์ทมิฬจากการบรรลุเป้าหมายของพวกเขา

 

แม้ว่าการจลาจลแห่งความมืดอาจก่อให้เกิดการทำลายล้างในวงกว้างได้ หากพวกเขาต้องการ แต่ก็ยังไม่สามารถโค่นล้มรัฐบาลได้เพราะ 2 องค์กรนี้

 

องค์กรที่ชอบธรรมทั้ง 2 นี้คือกองกำลังพิทักษ์การปลุกพลังและสมาคมนักล่า

 

ในขณะที่ APF ที่ต่อต้านการจลาจลของแวเรียนท์ทมิฬได้โดยตรง มากเสียจนทีมอัลฟ่าของพวกเขาตามล่าอยู่เสมอ สมาคมนักล่าได้จัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุกใต้ดินและสัตว์ประหลาด อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงมาช่วย APF เมื่อใดก็ตามที่แวเรียนท์ทมิฬ ดำเนินการตามแผนขนาดใหญ่

 

ตอนนี้ทั้ง 3 องค์กรเหล่านี้ก็คงจะอยู่ในภาวะทางตันแล้ว APF และสมาคมนักล่าไม่สามารถทำลายแวเรียนท์ทมิฬที่เกิดขึ้นใหม่ได้ ในขณะที่แวเรียนท์ทมิฬที่เกิดขึ้นใหม่นั้นก็ยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้เช่นกัน

 

แวเรียนท์ทมิฬที่เกิดขึ้นใหม่นั้นมี 5 ระดับในองค์กรของพวกเขาสำหรับสมาชิกทุกคน

 

สมาชิกระดับ 5 นั้นแข็งแกร่งที่สุดและน่ากลัวที่สุด ในขณะที่สมาชิกระดับ 1 นั้นอ่อนแอที่สุดในองค์กร

 

แม้ว่าสมาชิกระดับ 1 จะอ่อนแอกว่าสมาชิกระดับสูงขององค์กร แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอพอที่จะถูกมองข้าม

 

แต่ละระดับทั้งหมด 5 ระดับนี้มีผู้นำเช่นกัน

 

เคนเป็นผู้นำระดับ 1 เขาไม่ได้แข็งแกร่ง เมื่อพูดถึงอำนาจ แต่พลังของเขาเป็นหนึ่งในพลังที่พิเศษที่สุดในองค์กร

 

เขาเป็นอัศวินที่มีพลังกายภาพแห่งการเปลี่ยนรูป

 

เขาสามารถเปลี่ยนรูปร่างและปลอมตัวเป็นคนอื่นได้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะค้นหาความแตกต่างระหว่างคนจริงกับเคนที่ปลอมตัวมาได้

 

เขาสามารถเปลี่ยนเสียงของเขาได้ ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวของพลังของเขาคือเขาไม่สามารถเปลี่ยนลายนิ้วมือของเขาได้ และเขาไม่สามารถปลอมตัวได้นาน

 

 

ในขณะนั้น เคนกำลังก้าวหน้าไปยังระดับที่สูงขึ้นขององค์กร เขาถูกเรียกประชุมระหว่างผู้นำทั้ง 4 ระดับแรกขององค์กร ผู้นำระดับ 5 จะไม่เข้าร่วมการสนทนาครั้งนี้

 

เขาไปถึงชั้น 4 ของฐานใต้ดินและเข้าไปในห้องประชุม ซึ่งเขาพบโต๊ะสี่เหลี่ยมยาววางอยู่ตรงกลางห้องและมีเก้าอี้จำนวนมากอยู่รอบๆ

 

มีหน้าจอสีขาวอยู่หน้าห้อง

 

เคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

 

เขาเป็นคนแรกที่มาที่นี่ เขามองดูนาฬิกาและพบว่ามีคนอื่นมาสาย

 

เขาเลือกเก้าอี้และนั่งลงอย่างสบาย ๆ

 

เคนดูเหมือนผู้ชายที่หล่อเหลา เขามีผมสีบลอนด์ยาวและสูงประมาณ 6 ฟุต เขายังมีร่างกายแข็งแรง เขาไม่ได้ดูเทอะทะเกินไปหรือดูอ่อนแอเกินไป ดวงตาสีฟ้าเข้มมองไปรอบๆ ห้องด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย

 

แม้ว่าเขาจะหน้าตาแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ใบหน้าหรือร่างกายที่แท้จริงของเขา ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้ว เคน หน้าตาเป็นอย่างไร นอกจากผู้นำระดับ 4 และระดับ 5

 

ผู้คนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าในความเป็นจริงเขาเป็นชายหรือหญิง

 

ทุกสัปดาห์เขาใช้รูปลักษณ์ที่แตกต่างสำหรับตัวเองในองค์กร บางสัปดาห์เขามาเป็นผู้หญิง ในขณะที่บางสัปดาห์เขาเป็นผู้ชาย ตัวตนของเขาเป็นเรื่องลึกลับสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มีเพียงไม่กี่คน

 

แม้แต่ APF ก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาหน้าตาเป็นอย่างไร สิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับเขาคือพลังและชื่อของเขา

 

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง ประตูห้องก็เปิดออก และหญิงสาวสวยคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในห้อง

 

“เคน คุณเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกแล้ว ทำไมไม่เลือกสักอันแล้วยึดไว้ล่ะ มันน่าสับสนมาก” เธอถามเคนขมวดคิ้ว

 

————————————————————–

ตอนที่ 44: วิธีการอื่น

 

“แม่ทัพแม็กเวลล์ ถ้าคุณคิดว่าเป็นเขา แสดงว่าคุณไม่รู้สถานการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน คุณเป็นถึงผู้บัญชาการสาขาการจลาจลแวเรียนท์ระดับ 1 ตามข้อมูลของเรา” แซนเดอร์โต้กลับทันที

 

เขาวางมือลงบนโต๊ะต่อหน้าเขา แล้วถามต่อว่า “เขาไม่ใช่ วอร์ล็อค เขามีพลังกายภาพเพียงพลังเดียวในการเปลี่ยนรูปร่าง เขาไม่สามารถใช้พลังอื่นใดได้อีก เขาสามารถอธิบายรูปลักษณ์ของเด็กชายได้ แต่จะทำได้อย่างไร คุณอธิบายเด็กที่สามารถใช้พลังของเซล แอซเรล และ แคลรีส ได้หรือไม่”

 

แซนเดอร์รู้ว่ามันเป็นข้อแก้ตัวที่โง่เขลา บุคคลที่สามารถใช้พลังมากกว่า 2 พลังพร้อมกันและส่วนใหญ่คล้ายกับพลังของพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดและนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงลูกชายของพวกเขาเท่านั้นที่สามารถทำได้

 

“คุณเห็นเขาใช้พลังของเขาไหม มีวิดีโอที่ฉันเห็นมันได้หรืแไม่” นายพลแม็กเวลล์ถามด้วยรอยยิ้มขบขันบนใบหน้าของเขา

 

นายพลแม็กเวลล์ก็มีส่วนร่วมในคดีนี้เช่นกัน เขากำลังรวบรวมข้อมูลด้วย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีวิดีโอใดที่ลูซิเฟอร์ใช้พลังของเขา

 

“เราไม่มีวิดีโอการต่อสู้ของเขา แต่เรามีสมาชิกที่เสียชีวิตแล้ว 4 คนและพลเมืองที่เสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้เรายังมีวิดีโอของเขา ซึ่งอยู่ห่างจากที่ที่คนของเราถูกสังหารไปไม่ไกล การสืบสวนศพมีเบาะแส ของพลังที่พวกเขาอาจถูกสังหารด้วย” แซนเดอร์ตอบ

 

“ฉันจะถือว่ากรณีนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเหตุผลที่ฉันถาม เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นจะมาเป็นทีมที่มีมากกว่า 1 คน คนหนึ่งแกล้งทำเป็นลูซิเฟอร์ ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆ เป็นคนที่ฆ่าคนจริงๆ มันคือ ทั้งหมดที่พวกคุณกำลังทำตอนนี้คือพวกคุณกำลังไล่ล่าห่านป่า “

 

“ถ้าเป็นลูซิเฟอร์จริง ๆ ทำไมเขาถึงฆ่ามนุษย์ในร้านอาหารที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขาด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้ตัวเองถูกองค์ประกอบด้านมืดขององค์กรโรล์กหลอกล่ะ”

 

นายพลแม็กเวลล์ให้สมมติฐานที่มั่นคง ซึ่งท้าทายแม้กระทั่งแซนเดอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาไม่มีหลักฐานว่าลูซิเฟอร์เป็นคนๆ เดียวกับที่ฆ่าคนของเขา ไม่มีวิดีโอการต่อสู้ของลูซิเฟอร์

 

จนถึงตอนนี้ แซนเดอร์จดจ่ออยู่กับผู้นำคนหนึ่งที่เขาคิดว่าถูกต้อง แต่การให้เหตุผลของนายพลแม็กเวลล์ทำให้เขาสับสนเช่นกัน

 

หากมีมากกว่า 1 คน นั่นหมายความว่าเป็นการจลาจลของแวเรียนท์ทมิฬ ซึ่งกำลังวางแผนบางอย่าง นั่นหมายความว่านายพลแม็กเวลล์พูดถูก และเขากำลังไล่ตามสิ่งที่ผิด

 

มันยังทำให้สิ่งต่าง ๆ ซับซ้อนขึ้น ประการแรก เขาคิดว่าเขาจะได้รับหมายค้นจากระดับสูง ถ้านายพลแม็กเวลล์ปฏิเสธที่จะให้การเข้าถึงเจ้าหน้าที่ของโรงงาน แต่ตอนนี้มันไม่ง่าย

 

เขาต้องการโน้มน้าวให้ผู้ที่อยู่ในระดับสูงเชื่อว่าโอกาสที่ทฤษฎีของเขาจะเป็นจริงนั้นมีมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์และโรงงานนั้นทำอะไรผิดพลาด แต่ตอนนี้กับทฤษฎีใหม่ของนายพลแม็กเวลล์ นั่นเป็นเรื่องที่ยาก

 

อันที่จริง นั่นทำให้ทฤษฎีของเขาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย และมันยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโน้มน้าวให้คนที่สูงกว่าให้หมายค้นแก่เขา ตอนนี้ความหวังเดียวที่เหลืออยู่คือการได้รับอนุญาตจากนายพลแม็กเวลล์จากเขาโดยตรง

 

“ฉันยังสามารถดูวิดีโอของช่วงเวลาสุดท้ายของลูซิเฟอร์ได้หรือไม่ เพียงเพื่อสนองความอยากรู้ของฉัน หรือให้ฉันคุยกับเจ้าหน้าที่” แซนเดอร์ถามนายพล

 

“ฉันขอโทษ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกกำลังดำเนินการในบางโครงการที่เราไม่สามารถแสดงให้ผู้อื่นเห็นได้ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่เป็นความลับอยู่ด้วย นั่นเป็นสาเหตุที่ฉันไม่สามารถอนุญาตให้คุณพูดคุยกับเจ้าหน้าที่หรือปล่อยให้คุณดูวิดีโอรักษาความปลอดภัยนั้นได้” นายพลแม็กเวลล์ปฏิเสธที่จะอนุญาตแซนเดอร์

 

นี่เป็นผลลัพธ์ที่แย่ที่สุดสำหรับแซนเดอร์ที่เขาหวังว่าจะหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากทฤษฎีใหม่ของนายพลแม็กเวลล์ปรากฏขึ้น เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย มิฉะนั้นจะถูกมองว่าเป็นการล่วงละเมิด ณ จุดนี้

 

 

“แม่ทัพแม็กเวลล์ คุณรู้ไหมว่าฉันไม่ได้ตามข้อมูลที่ละเอียดอ่อนใด ๆ ฉันแค่ต้องการพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับลูซิเฟอร์และการตายของเขา ฉันไม่ต้องการสิ่งอื่นหรือภาพอื่นใด มันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาตั้งแต่ที่เขาเสียชีวิตจากผลข้างเคียงของยา แล้วนี่นา”

 

“ไม่ใช่ว่าสิ่งสำคัญจะถูกเปิดเผยโดยการดูเขาตายแบบนั้น ฉันอยากเห็นทั้ง 2 มุม มันคงเป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้ามีคนฟื้นจากความตาย แค่คิดถึงโอกาสในการพัฒนามนุษยชาติที่สามารถทำได้”

 

แซนเดอร์พยายามโน้มน้าวให้นายพลแม็กเวลล์ในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพราะเขาไม่สามารถใช้กำลังได้ที่นี่

 

“ฉันขอโทษกัปตันแซนเดอร์ แต่กฎก็คือกฎ ฉันไม่สามารถทำลายมันได้ ฉันไม่อนุญาตให้ใครซักถามคนของฉัน คุณสามารถไปขอคนที่มีขั้นที่สูงกว่าฉันที่เกี่ยวข้องกับคุณๆด้ ถ้าคุณต้องการบังคับฉัน แต่ฉันบอกได้เลย ว่ามันใช้ไม่ได้ผล คุณน่าจะรู้อยู่แล้ว” นายพลแม็กเวลล์ปฏิเสธอีกครั้ง

 

“ยังไงก็เถอะ ถึงเวลานัดพบของฉันแล้ว ยินดีที่ได้คุยกับคุณนะ ลาก่อน” เขาเสริมขณะที่ตัดสายหลังจากหาข้ออ้างที่ชัดเจน

 

แซนเดอร์ค่อนข้างโกรธ แต่เขายังคงสงบ

 

เขายืนขึ้นและเริ่มเดินไปที่ทางออก

 

“เรากำลังจะกลับ”

 

 

ขณะที่หน่วยเดลต้าจากไป มีเพียงด็อกเตอร์ราวเท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังและกำลังยิ้มเยาะ

 

“พวกเขาคิดจริง ๆ เหรอว่าคนตายสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้? ไอ้โง่! เป็นไปไม่ได้ที่คนบางคนจะพัฒนาพลังหลังจากอายุ 10 ขวบ ไม่มีทางที่จะเป็นลูซิเฟอร์ได้หรอกเว้ย”

 

 

แซนเดอร์ออกจากห้องและเดินกลับไปที่เฮลิคอปเตอร์

 

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและโทรหาสมาชิกในทีมที่อยู่ใน APF

 

“ช่องข่าวเริ่มออกอากาศเกี่ยวกับลูซิเฟอร์แล้วเหรอ?” เขาถามคนที่รับสาย โดยสอบถามเกี่ยวกับคำสั่งก่อนหน้า ซึ่งเขาบอกให้ส่งภาพของลูซิเฟอร์ไปยังช่องข่าว

 

“ยังครับท่าน เรากำลังเตรียมของบางอย่าง เพิ่งทำเสร็จ ยังไงก็จะรีบส่งไปให้ไวที่สุดครับ”

 

“ยังอีกรึ? เอาล่ะ ดีแล้ว แผนมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ดังนั้นอย่าทำมัน” แซนเดอร์สั่ง

 

‘ เนื่องจากทางตรงใช้ไม่ได้ ฉันจึงต้องใช้วิธีอื่น แม่ทัพแม็กเวลล์ คุณคิดว่าจะหยุดฉันไม่ให้ได้รับสิ่งที่ต้องการจริงๆ ใช่ไหม’ ใบหน้าของแซนเดอร์ดูครุ่นคิดอย่างหนัก ขณะที่เขาเหลือบมองกลับไปที่โรงงาน

 

————————————————————–

ตอนที่ 43: คลิปวีดีโอ

 

เฮลิคอปเตอร์ของเดลต้า สควอต ยังคงบินอยู่และไม่นานก็มาถึง โรงงาน ดิลเลี่ยน รีเสิร์ช  ซึ่งดูแลโดย หมอราว

 

พวกเขาก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์และเข้าไปในอาคาร โดยนำโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงงานอีกครั้ง พวกเขาถูกนำตัวมาหาหมอราว

 

 

“คุณแซนเดอร์ คุณกลับมาแล้ว คราวนี้ฉันขอถามเกี่ยวกับเหตุผลที่พาคุณมาที่นี่ได้ไหม” หมอราวถามเมื่อเห็นแซนเดอร์ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

“เอเย่นต์ของเรา 4 คนตายแล้ว” แซนเดอร์ตอบอย่างเกียจคร้าน

 

“อ่า น่าเศร้าที่รู้ แต่ฉันจะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้บ้าง” หมอราวถามด้วยความสงสัย “ฉันไม่สามารถทำให้พวกเขากลับมามีชีวิตได้ ไม่ว่าวิทยาศาสตร์จะก้าวหน้าไปมากแค่ไหนก็ยังไม่มีอะไรที่สามารถทำแบบนั้นได้”

 

“คุณจะรู้ หลังจากที่ฉันบอกคุณว่าใครทำสิ่งนี้ พวกเขาถูกเด็กผู้ชายที่คุณอ้างว่าเสียชีวิตไปฆ่า สิ่งนี้ทำให้หลอดไฟในใจคุณกระจ่างหรือเปล่า คุณหมอ?” แซนเดอร์ถาม

 

“ลูซิเฟอร์?!” หมอราวอุทานด้วยความประหลาดใจ

 

ประการแรก พวกเขาอ้างว่าลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่ จากนั้นพวกเขาก็อ้างว่าเด็กคนนั้นได้ฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ และตอนนี้พวกเขาอ้างว่าลูซิเฟอร์ได้ฆ่า แวเรียนท์ จาก APF แล้ว? พวกเขากำลังยุ่งกับใครกัน? ณ จุดนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังโกหก เด็กคนนั้นไม่มีวันฆ่าเจ้าหน้าที่ APF ได้

 

“ใช่ เขายังมีชีวิตอยู่ และเขากำลังค้นหาการแก้แค้น จากสิ่งที่ฉันเชื่อ คุณและสิ่งอำนวยความสะดวกของคุณตกอยู่ในอันตราย และฉันสามารถช่วยคุณได้ก็ต่อเมื่อ ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ”

 

แม้ว่าหมอราวจะประหลาดใจ แต่แซนเดอร์ก็ยังสงบในขณะที่เขาพูด

 

“นั่นคือเหตุผลที่บอกความจริงกับฉัน ยิ่งกว่านั้น ฉันต้องการค้นหาสิ่งอำนวยความสะดวก หากคุณต้องการความช่วยเหลือจากเรา โปรดแสดงสถานที่ที่ลูซิเฟอร์ถูกกักตัวไว้ก่อนหน้านี้ด้วย” แซนเดอร์ถามหมอราว

 

แซนเดอร์รู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะให้หมอราวปฏิบัติตาม แต่เขาอยากจะลอง

 

เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ หมอราวปฏิเสธที่จะทำตามที่เขาพูด

 

“ฉันทำไม่ได้ คุณแซนเดอร์ สถานที่นี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายพลแมกซ์เวลล์ ฉันอนุญาตให้คุณทำสิ่งที่คุณต้องการได้ ก็ต่อเมื่อฉันเห็นหมายค้นหรือถ้านายพลแมกซ์เวลล์สั่งฉัน”

 

แซนเดอร์นำโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าทันทีโดยไม่สนใจที่จะโต้แย้ง เขากดหมายเลข

 

“ขอเบอร์ของนายพลแมกซ์เวลล์ ซึ่งอยู่ในศูนย์วิจัยแห่งนี้มาเดี๋ยวนี้” เขาพูดกับใครบางคนทางโทรศัพท์ก่อนจะตัดสาย

 

 

ผ่านไปเพียงไม่กี่นาที แต่เวลาดูเหมือนหยุดลง ไม่มีใครพูด

 

หมอราวนั่งสงบนิ่ง จ้องมองแซนเดอร์ และสงสัยว่านายพลแมกซ์เวลล์จะยอมจำนนต่อแรงกดดันของ APF หรือไม่

 

ติ้ง!

 

เสียงแจ้งเตือนดังมาจากโทรศัพท์ของแซนเดอร์ ทำลายความเงียบภายในห้อง

 

หลังจากปลดล็อคโทรศัพท์แซนเดอร์สังเกตเห็นข้อความที่มีตัวเลข

 

เขาโทรไปที่หมายเลขโดยไม่คิด 2 ครั้ง

 

 

“สวัสดีครับกัปตันแซนเดอร์ อะไรที่ทำให้ผมต้องรับโทรศัพท์คุณกัน”

 

นายพลแมกซ์เวลล์รับสาย หลังจากที่สายไปแล้ว 1 นาที เขาไม่ต้องถามด้วยซ้ำว่าใครโทรมา

 

“น่าสนใจ ฉันคิดว่าคุณมีทรัพยากรที่ดีที่รู้ว่าเป็นฉัน” แซนเดอร์ชมนายพลแม็กซ์เวลล์

 

“ฉันมักจะอยากรู้อยากเห็นและถามคุณว่าคุณได้รับหมายเลขของฉันมาได้อย่างไร แต่ฉันเดาว่าคุณได้รับแจ้งจากหมอราวเกี่ยวกับการมาถึงของฉันก่อนหน้านี้แล้ว นั่นจึงเป็นไปได้ที่คุณจะหาหมายเลขของฉันเจอ” เขากล่าวเสริม

 

นายพลแมกซ์เวลล์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ในขณะที่ได้ยินคำตอบ

 

“มันไม่ได้ยากเป็นพิเศษ แม่ทัพของกองกำลังทั้งสามของ APF ค่อนข้างมีชื่อเสียง ยังไงก็ตาม อะไรดลใจให้คุณโทรหาฉันล่ะ” นายพลแมกซ์เวลล์ถามทันที

 

“แม่ทัพแมกซ์เวลล์ ฉันคิดว่าคุณรู้เกี่ยวกับลูซิเฟอร์ใช่ไหม ลูกชายของวอร์ล็อค เซล แอซเรล?” แซนเดอร์ถามนายพล

 

“แน่นอน ฉันรู้จักเขา ฉันเป็นคนสั่งให้ส่งเขาไปที่ศูนย์วิจัยของเราเพื่อปกป้องเขาจากศัตรูของเซล แอซเรล และคอยจับตาดูการพัฒนาพลังของเขา มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่พบว่า ว่าเขาเสียชีวิตในโรงงาน”

 

นายพลแมกซ์เวลล์ตอบแซนเดอร์ด้วยน้ำเสียงที่เป็นกลาง ดูเหมือนว่าเขาจะเห็นอกเห็นใจเด็กคนนั้นอยู่บ้าง

 

“เขายังไม่ตาย เขายังมีชีวิตอยู่ และต้องขอบคุณสถานที่นี้ เขาจึงกลายเป็นศัตรูกับคนทั่วโลก ฉันต้องการซักถามเจ้าหน้าที่ในโรงงานของคุณเพื่อค้นหาความจริงของสิ่งที่เขาเคยประสบมาที่นี่ เราต้องเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาจริง ๆ หากเราต้องการจัดการกับเขาอย่างเหมาะสม” แซนเดอร์ออกตัวอย่างรุนแรง

 

นายพลแมกซ์เวลล์ไม่ตกใจ หลังจากได้ยินคำกล่าวอ้างดังกล่าว ขณะที่ดร.ราวได้ถ่ายทอดคำพูดของแซนเดอร์ให้เขาฟังจากการมาครั้งก่อน

 

“ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนั้น และเชื่อฉัน ฉันตรวจสอบเรื่องนี้ทั้งหมดเป็นการส่วนตัว ฉันเห็นภาพวิดีโอและเห็นข้อมูล เขาเสียชีวิตจากผลข้างเคียง เมื่อเราพยายามช่วยเขา” นายพลแม็กเวลล์ ตอบซ้ำคำพูดของหมอราว.

 

“เขาเสียชีวิตไปนานกว่า 2-3 นาทีก่อนที่ร่างของเขาจะถูกกำจัด ไม่มีทางที่เขาจะมีชีวิตอยู่ได้ นั่นควรจะเป็นคนที่แกล้งทำเป็นเขาเพื่อทำลายชื่อเสียงของหน่วยงานของรัฐ”

 

เขาปฏิเสธอีกครั้งกับการอ้างว่าลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่ เขาไม่เชื่อว่าจะมีคนฟื้นขึ้นมาหลังจากตาย ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์อันยาวนานของการปลุกพลัง

 

“คุณกำลังอ้างว่ามีคนใช้ลูซิเฟอร์เป็นข้ออ้างในการก่อความวุ่นวาย?” แซนเดอร์ถามนายพลแม็กเวลล์ ขณะที่เขากลอกตา

 

“ใช่ ฉันคิดว่าคุณต้องรู้เรื่องกล้องแล้ว จากข่าวที่มีการเกิดขึ้นใหม่ของแวเรียนท์ คุณมีข้อมูลเกี่ยวกับเขาเช่นเดียวกับฉัน เป็นที่รู้กันว่าเขาสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์คนอื่นได้ มันควรจะเป็นเขาที่ปลอมตัวเป็นลูซิเฟอร์แม้ว่า ที่คุณพูดเป็นความจริง”

 

“ใครจะไปรบกวนกฎหมายและระเบียบอื่น ถ้าไม่ใช่พวกแวเรียนท์ที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่นั่น เป้าหมายทั้งหมดของพวกเขาคือทำลายรัฐบาลและเปลี่ยนลำดับชั้น พวกเขาควรจะเป็นคนที่พยายามใช้ข้ออ้างนี้ เพื่อให้ดูเหมือนชอบธรรม ปล่อยมันให้เป็นไปตามธรรมชาติเถอะ” แม่ทัพแม็กเวลล์พูดพลางส่ายหัว

 

————————————————————–

ตอนที่ 42: การโกหก

 

พยาบาลวางมันไว้ตรงหน้าเด็กหนุ่มผมสีเงิน

 

“นี่ กินเถอะ”

 

เด็กหนุ่มมองไปที่อาหาร สงสัยว่าช้อนอยู่ที่ไหน เมื่อก่อนที่บ้านเคยกินด้วยช้อน

 

“ช้อน?” เขาถามหญิงสาวด้วยสายตาที่คาดหวัง

 

“ไม่มีช้อน กินด้วยมือของคุณเอง นั่นคือวิธีที่คุณควรกินตอนนี้” ผู้หญิงบอกเขา ขณะที่เธอจากไป

 

เด็กหนุ่มที่ไม่เห็นทางเลือกอื่นจึงเริ่มกินด้วยมือ ซึ่งเขาทำต่อไปอีก 5 ปีจนติดเป็นนิสัย

 

 

เมื่อลูซิเฟอร์อยู่ในศูนย์วิจัย เขาได้รับอาหารพื้นฐานที่สุด แต่ไม่มีช้อนส้อมมาด้วย นี่คือวิธีที่เขาเติบโตขึ้นมา ซึ่งฝังตัวอยู่ในนิสัยของเขา เขาไม่ได้คิดว่ามันแปลก แต่คนอื่นๆ ที่มาจากสังคมอารยะพบว่าเขาแปลกไปหน่อย

 

ไม่นานเขาก็กินเสร็จราวกับว่าเขาหิวมานานหลายปี

 

“ไม่เคยได้กินข้าวมาก่อนเหรอ?” เอมิลี่ถาม ขณะที่เธอเหลือบมองลูซิเฟอร์ ซึ่งทานอาหารเสร็จภายในไม่กี่นาที รอยยิ้มที่บิดเบี้ยวยังคงอยู่บนใบหน้าของเธอ

 

เธอเคยเห็นคนมากมายกิน แต่จากวิธีที่ลูซิเฟอร์กิน เธอรู้สึกราวกับว่าเขาไม่เคยกินมาก่อน ผู้ชายคนนั้นหิวมากแค่ไหน?

 

“ผมเคยกินมาก่อน” ลูซิเฟอร์ตอบเธอ โดยไม่ได้อธิบายว่าครั้งสุดท้ายที่เขากินคือเมื่อหลายวันก่อน

 

“คุณดูแข็งแกร่ง นอกจากนี้ คุณอาจจะเป็นมนุษย์ที่ถูกปลุกพลังให้ตื่นขึ้นอีก หากคุณไม่มีอะไรจะกินจริงๆ คุณสามารถล่าสัตว์และทำอาหารเองได้ คุณไม่ควรมีปัญหากับเรื่องของอาหารเลย” เอมิลี่ตอบเขา ปกติแล้วพวกแวเรียนท์ไม่คค่อยหิวแบบนี้ เพราะพวกเขามีพลังในการล่าและกินเมื่อไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ

 

ลูซิเฟอร์มองเธอ ขณะที่เขาคิดอะไรบางอย่าง เขาต้องการให้ใครสักคนสอนเขาทำอาหาร และผู้หญิงคนนี้คงรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

“คุณรู้วิธีทำอาหารสัตว์ป่าหรือไม่” เขาถามเธอ

 

“แน่นอน ฉันตั้งแคมป์กับเพื่อน ๆ ข้างนอกหลายครั้ง ฉันรู้วิธีทำหลาย ๆ อย่าง” เอมิลี่ตอบอย่างภาคภูมิใจ

 

“บอกมาสิว่าทำยังไง!” ลูซิเฟอร์อุทาน ขณะที่เขายืนขึ้น ถ้าเขารู้ความลับนี้ เขาก็จะไม่หิวอีกเลย

 

“มันง่ายมาก สิ่งที่คุณต้องมีคือไฟในการปรุงอาหารเพื่อให้นุ่ม ส่วนวิธีการทำให้เกิดไฟ คุณสามารถใช้วิธีการแบบเก่า ซึ่งยากต่อการควบคุมมาก หรือคุณสามารถใช้ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็กก็ได้ ” เอมิลี่พูดยิ้มๆ

 

“เดี๋ยวก่อน ฉันจะแสดงให้คุณดู” เธอเสริม ขณะที่เธอลุกขึ้นและเดินเข้าไปในครัว

 

เธอกลับมาพร้อมกับไฟแช็กและกระดาษแผ่นหนึ่ง

 

“ลองนึกภาพกระดาษแผ่นนี้เป็นไม้ คุณใช้ไฟแช็คจุดไฟแล้ววางสัตว์ที่คุณล่าไว้ด้านบนเพื่อทำอาหาร เมื่อเสร็จแล้ว คุณสามารถกินมันได้” เธอบอกกับลูซิเฟอร์ ขณะสาธิตโดยการเผาไฟ

 

ลูซิเฟอร์เอื้อมมือไปหยิบไฟแช็คจากเธอ และพยายามจุดไฟ มันเป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้

 

ตอนนี้เขารู้แล้ว เขาต้องการทดสอบของจริง

 

เขาทานอาหารที่นี่เสร็จแล้ว ดังนั้นเขาจึงทำสิ่งที่ต้องการเสร็จแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่และทิ้งไฟแช็กไว้ทันที

 

“เฮ้ เดี๋ยวก่อน!”

 

เอมิลี่ยังคงเรียกหาเขา เมื่อเห็นเขาจากไป เธอวิ่งตามเขาไปด้วย แต่เมื่อออกจากบ้าน ลูซิเฟอร์ก็หายตัวไป เธอไม่เห็นเขาที่ไหนอีกเลย

 

เธอพยายามตามหาเขาแต่ก็ล้มเหลว

 

 

แซนเดอร์ เบลค เป็นผู้นำของทีมเดลต้า ของ APF และเป็นผู้รับผิดชอบกรณีของลูซิเฟอร์

ในขณะนั้น เขากำลังนั่งอยู่ในเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่กำลังเคลื่อนไปยังศูนย์วิจัยดิลเลี่ยน ซึ่งเป็นที่ตั้งของลูซิเฟอร์ เป็นเวลา 5 ปีในชีวิตของเขา

 

ชายผมบลอนด์เดินเข้ามาใกล้แซนเดอร์และถ่ายรูปให้เขา เขาคือ ฟลูเรน รองกัปตันหน่วยเดลต้า

 

“ฉันเชื่อว่าเราพบภาพล่าสุดของลูซิเฟอร์ หลังจากดูภาพกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่เรารวบรวมมา เขาถูกจับในกล้องวงจรปิดตัวใดตัวหนึ่ง นี่คือสิ่งที่เขามองหาอยู่ในตอนนี้”

 

แซนเดอร์เหลือบมองภาพถ่ายและเห็นลูซิเฟอร์ออกจากเขตที่อยู่อาศัยก่อนจะไปถึงที่นั่น

 

“เราควรจะให้สิ่งนี้กับช่องข่าวหรือไม่” ฟลูเรนถามแซนเดอร์ “พวกเขาสามารถแพร่ภาพและทำให้ประชาชนตระหนักถึงเขา เราจะได้รับข้อมูลเร็วขึ้นด้วย”

 

“เอาล่ะ ให้สิ่งเหล่านี้แก่ตัวแทนของเราและตำรวจก่อน พวกเขามีภาพลักษณ์ของเขาอยู่แล้ว แต่จะดีกว่า ถ้าพวกเขามีสิ่งนี้ด้วย” แซนเดอร์ตอบ “หลังจากนั้น ส่งภาพไปยังสื่อ บอกพวกเขาให้ระวัง ในขณะที่ออกอากาศ และอย่าบอกชื่อจริงของเด็กคนนี้กับพวกเขา ฉันไม่ต้องการให้ชื่อแอซเรลเสียหาย”

 

“เข้าใจแล้ว ฉันจะบอกพวกเขาให้ใส่รายละเอียดและสาเหตุที่เด็กคนนี้เป็นอันตราย พวกเขาจะแนะนำผู้คนอย่างถูกต้องว่าต้องทำอย่างไรหากเห็นเขา” ฟลูเรน พยักหน้า ขณะหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ

 

“แล้วคุณส่งตัวแทนของเราไปที่ที่ฉันบอกหรือยัง” แซนเดอร์ถาม

 

“ใช่ พวกเขากำลังปลอมตัวรออยู่ที่สถานที่นั้น ตราบใดที่เด็กชายไปถึงที่นั่น เขาจะถูกจับได้” ฟลูเรนตอบ

 

“ดี ฉันรู้ว่าเขาต้องการไปที่โรงงาน มันค่อนข้างชัดเจน เขาเป็นเหมือนเด็กที่อาจไม่ได้คิดอะไรนอกจากการแก้แค้น เขาไม่สนเรื่องชีวิตของเขาหรือความพังพินาศที่เขาจะทำได้” แซนเดอร์พึมพำ ขณะที่เขาจ้องไปที่ภาพในมือของเขา

 

“นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันให้ที่อยู่ปลอมๆแก่เขาไป และปล่อยให้เขาไปที่ที่ห่างไกลใน เอรี่กัสเพียงเพื่อจะพบคนของเราที่นั่น” เขากล่าวเสริม พลางจ้องไปที่ผมสีเงินรุงรังของลูซิเฟอร์ในภาพ ซึ่งดูเหมือนผมของ แม่ของเขา แคลรีส

 

“ถ้าการคาดการณ์ของเราถูกต้อง เด็กคนนั้นจะไปที่นั่นภายใน 1 สัปดาห์ นั่นคือเมื่อเกมของเขาจบลง” ฟลูเรนเห็นด้วย

 

“เราเก็บปัจจัยด้านความปลอดภัยไว้ ปฏิบัติราวกับว่าเขาจะอยู่ที่นั่น 2 วัน เราไม่สามารถรอนานกว่านั้นได้” แซนเดอร์กล่าวพร้อมส่ายหัว

 

“เราควรจะไปที่โรงงานดีอาร์แทนที่จะไปที่เอรี่กัส หรือไม่” ฟลูเรนถาม พลางสงสัยว่าทำไมพวกเขาไม่ไปที่ ที่ลูซิเฟอร์จากมา แทนที่จะส่งแค่ทีมของพวกเขาไป

 

“ฉันต้องการคำตอบ ใช้เวลาไม่นาน หลังจากถามถามคำถามและได้คำตอบแล้ว เราจะเข้าใจดีขึ้น นอกจากนี้ เราสามารถไปถึงเอรีกัสได้หลังจากนี้ไม่นาน” แซนเดอร์ตอบ

 

————————————————————–

ตอนที่ 41: เกิน

 

ลูซิเฟอร์พยายามหาช่องโดยการกดปุ่มทั้งหมดที่เขาทำได้ และตอนนั้นเองที่เอมิลี่ออกมาจากห้องด้านหลัง

 

มีผ้าพันแผลอยู่บนหน้าผากของเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ แต่อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจริงของเธอมีเพียงเล็กน้อยและไม่ต้องการการรักษามากนัก

 

เนื่องจากห้องที่เธอออกมาอยู่ด้านหลัง เธอจึงมองเห็นแต่ด้านหลังของโซฟาเท่านั้น เธอมองไม่เห็นขี้เถ้าที่วางอยู่หน้าโซฟา

 

“แม่จะไปข้างนอกพร้อมกับอาหาร ขอเวลาอีกไม่กี่นาที” เธอบอกลูซิเฟอร์ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องโถง

 

เธอประหลาดใจเมื่อเห็นเพียงลูซิเฟอร์นั่งอยู่บนโซฟา ไม่เห็นน้องชายของเธอ

 

“หืม? ผู้ชายคนนั้นไปไหน” เธอถามดูเหมือนสับสน

 

แม่ของเธอก็ออกมาจากห้องในขณะนั้นด้วย

 

“ไอ้โง่นั่นออกไปอีกแล้วเหรอ เขาไม่เคยอยู่ในบ้าน วิ่งออกไปข้างนอกตลอด แม้ว่าน้องสาวของเขาจะกลับมา หลังจากผ่านไปนาน เขาก็ยังตัดสินใจออกไป รอให้เขากลับมาก่อนเถอะ วันนี้เขาจะไม่ได้กินข้าวอะไรเลย!” หญิงวัยกลางคนบ่น โดยไม่รู้ว่าชายที่เธอกำลังสาปแช่งนั้นไม่เพียงแต่ออกจากบ้านของเธอเท่านั้น แต่ยังจากโลกนี้ไปโดยสิ้นเชิง

 

“ช่างเถอะ ไปนั่งที่โต๊ะอาหารเย็นได้แล้ว อาหารพร้อมแล้ว”

 

ลูซิเฟอร์หันกลับมามองพวกเขา ความกังวลปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา เขาต้องการดูบทสัมภาษณ์นั้น แต่เขารู้ว่าตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว เขาหาช่องไม่เจอ

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เอมิลี่ถามลูซิเฟอร์หลังจากสังเกตเห็นท่าทางกังวลของเขา

 

“ผมต้องการดูการสัมภาษณ์นั้น” ลูซิเฟอร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่ง “ทำให้มันเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้!”

 

เอมิลี่มองไปทางทีวีและเริ่มหัวเราะ

 

“สัมภาษณ์อะไรคะ เธอกำลังเปิดช่องเพลงเปิดอยู่ ไม่มีสัมภาษณ์ที่อะไรในนั้นหรอก” เธอพูดขณะกลอกตา

 

“มันอยู่ที่นั่นมาก่อน แต่อยู่ต่างสถานที่!” ลูซิเฟอร์พูดอีกครั้ง

 

เอมิลี่มองไปทางนาฬิกาและส่ายหัวเบาๆ

 

“เป็นไปไม่ได้ ข่าวที่แสดงออกมา มีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น รายการก็ได้จบลงแล้ว การสัมภาษณ์จบลงแล้ว” เธอตอบ

 

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นโดยถือรีโมทอยู่ในมือและเดินเข้ามาใกล้เธอ ในขณะที่เขายกมือขวาของเธอขึ้นอย่างเร่งรีบ “ทำให้มันเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้!”

 

เขากำลังแสดงรีโมตให้ผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนช่องไปช่องเดิม

 

“ได้ ฉันจะลองดู แต่ฉันสงสัยว่าการสัมภาษณ์จะยังคงเปิดอยู่” เอมิลี่พึมพำ ขณะที่เธอหยิบรีโมทจากลูซิเฟอร์และเล็งไปที่ทีวี “มันเป็นการสัมภาษณ์ มันต้องอยู่ในช่องข่าว คุณจำชื่อพวกเขาได้ไหม”

 

ลูซิเฟอร์ส่ายหัวอย่างสับสนก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ “พวกเขากล่าวว่า ยินดีต้อนรับสู่ TV68”

 

“อ๋อ ช่องนั้นนี่เอง ทำได้ง่ายๆเลย”

 

หลังจากรู้จักช่องเอมิลี่กดหมายเลขช่องนั้น

 

ช่องต่างๆ เปลี่ยนไป และการสัมภาษณ์ก็กลับมาอีกครั้ง

 

“นั่นคือทั้งหมดที่เรามีในวันนี้ โปรดคอยติดตามข่าวเพิ่มเติม”

 

ผู้สัมภาษณ์ยังคงนั่งอยู่ แต่รองประธานสมาคมนักล่าไม่อยู่ที่นั่นแล้ว

 

“อย่างที่ฉันพูด มันจบแล้ว” เอมิลี่พึมพำขณะที่เธอส่ายหัว

 

ลูซิเฟอร์เปลี่ยนความสนใจระหว่างเธอกับทีวี เขาค่อนข้างเข้าใจสิ่งที่เธอใช้พูด และนั่นคือการสัมภาษณ์น่าจะจบลงแล้ว เขาไม่เคยจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจริง

 

เขาอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น โชคดีที่รีโมตไม่ได้อยู่ในมือเขาเพราะถ้าอยู่มันคงถูกทุบให้เป็นชิ้นๆ ในตอนนี้

 

“อย่าผิดหวังเลย เธอเพิ่งจะมีบาดแผลมานี่เมื่อไม่นานมานี้ สิ่งเลวร้ายที่สุดที่เธอเจอได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นการการรู้สึกเครียด” เอมิลี่พูดขณะที่เธอเอื้อมมือไปลูบหัวของลูซิเฟอร์

 

ในทางกลับกัน ลูซิเฟอร์ก้าวถอยหลัง ไม่ยอมให้เธอแตะต้องเขา

 

เอมิลี่พบว่ามันแปลกที่เขาอยู่ไกลมาก แต่เธอก็เข้าใจได้เช่นกัน เธอเกือบจะฆ่าเด็กคนนั้นแล้ว

 

แต่มีอีกอย่างในหัวของเธอ มันคือเด็กผู้ชายคนนั้นเป็นแวเรียนท์ เธอได้ตระหนักว่า

 

วิธีที่ลูซิเฟอร์เคลื่อนไหวเพื่อช่วยตัวเอง เมื่อเขากำลังจะโดนรถชน และอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นแวเรียนท์ น่าเสียดายที่เธอคิดว่าเขาเป็นเพียงเด็กที่เพิ่งปลุกพลังขึ้นมาและมาจากครอบครัวที่ดี

 

เธอไม่รู้ว่า APF เป็นหนึ่งในคนที่ต้องการตัวของเขามากที่สุดในประเทศนี้ ถ้าเธอรู้ เธอคงจะพยายามแจ้งให้พวกเขาทราบทันทีเกี่ยวกับที่อยู่ของเขา

 

“มาเถอะ ไปกินข้าวกันเถอะ อาหารพร้อมแล้ว” เธอบอกลูซิเฟอร์ก่อนจะเอื้อมมือออกไปและเริ่มเดินกลับไปที่โต๊ะอาหารค่ำในอีกห้องหนึ่ง

 

ลูซิเฟอร์เดินตามเธอไป ยังคงเหลือบมองทีวีอยู่ชั่วครู่

 

 

ลูซิเฟอร์เดินตามเอมิลี่ไปที่โต๊ะอาหาร ท้องของเขาร้องด้วยความหิว บางครั้งก็บอกให้เขากินเร็ว เสียงคำรามยังได้ยินโดยเอมิลี่ที่กำลังเดินอยู่ข้างหน้าเขา

 

ทั้งสองเดินไปที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งรอบๆ แม่ของเอมิลี่เสิร์ฟอาหารก่อนที่เธอจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่ง

 

“ให้ฉันแนะนำตัวเองก่อนเริ่ม ฉันชื่อเรลี่ และเธอเป็นลูกสาวของฉันเอมิลี่ คุณได้พบกับลูกชายที่ไร้ประโยชน์ของฉันแล้ว เขาชื่อออกัส” หญิงวัยกลางคนแนะนำตัวเอง

 

เธอกำลังรอให้ลูซิเฟอร์ทำแบบเดียวกันและพูดถึงตัวเอง แต่สิ่งที่เธอแปลกใจคือ สิ่งที่เธอเห็นคือเขาไม่สนใจเธอและเริ่มกินแทนที่จะแนะนำตัวเอง

 

แม้ว่าจะมีช้อนอยู่ใกล้ ๆ ลูซิเฟอร์ก็กำลังกินด้วยมือ ซึ่งดูแปลกสำหรับเธอ แต่เธอไม่ได้แสดงความคิดเห็น

 

 

เด็กชายอายุ 5 ขวบนั่งอยู่ในสถานที่ที่เขาเพิ่งพามา เขาถูกขังอยู่ในห้องที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเตียง

 

ทั้งหมดที่เขารู้คือที่นี่คือบ้านใหม่ของเขา และพ่อกับแม่ของเขาเสียชีวิตแล้ว เขาใช้เวลาทั้งคืนร้องไห้ เขาร้องไห้มากจนราวกับว่าน้ำตาของเขามีมากพอ

 

ผู้หญิงคนหนึ่งเข้าไปในห้องของเขา ในชุดพยาบาลและนำอาหารมาให้เขา

 

————————————————————–

ตอนที่ 40: การเยาะเย้ยโดยไม่มีการควบคุม

 

“คุณลาร์ค คุณช่วยอธิบายได้ไหมว่าคู่รักที่เหมือนพระเจ้าของเรา อย่าง เซล แอซเรลและคุณแครรีส สามารถตายในดันเจี้ยนระดับ 4 ได้อย่างไร” โฮสต์ที่รู้จักกันในชื่อลูซี่ถามลาร์ค ด้วยความเคารพอย่างเต็มที่

 

“ฉันหวังว่าฉันจะมีบางอย่างที่เป็นรูปธรรมที่จะบอกคุณได้บ้าง แต่ฉันทำไม่ได้ เราใช้ทรัพยากรทั้งหมดของเราในการสอบสวนครั้งนี้และพบเบาะแสบางอย่าง แต่ยังไม่เพียงพอ ณ จุดนี้ การสอบสวนยังคงดำเนินต่อไปและ ฉันขอยืนยันกับทุกคนว่าความจริงจะปรากฎ สิ่งเดียวที่เรารู้คือพวกเขาไม่มีชีวิตอีกต่อไปแล้ว” ลาร์คตอบพลางตอบคำถามอย่างคลุมเครือ

 

“มีรายงานจาก AFP ว่าอาจมี แวเรียนท์ทมิฬเกิดขึ้น รายงานนี้มีความจริงหรือไม่? สมาคมนักล่ามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” ลูซี่ถามอีกครั้ง ทำให้เกิดความกังวล

 

“มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การสืบสวนกำลังดำเนินอยู่ เรามีรายงานว่ามีคนเห็นเงาคนออกมาจากคุกใต้ดิน ในขณะนั้น เรากำลังติดตามเบาะแสทั้งหมด และเราน่าจะได้คำตอบเร็วๆ นี้” ลาร์คตอบอย่างไม่ใส่ใจ

 

“ใช่แล้ว AFP พูดถึงเงานั้น พวกเขากล่าวว่า แวเรียนท์ทมิฬที่เกิดขึ้นใหม่นั้นเป็นผู้ใช้เวทย์มนต์ที่มีความสามารถด้านเงาอยู่ ซึ่งมีไม่กี่คนเช่นกัน และมีรอยเท้าอยู่ 2-3 รอยที่มองเห็นได้ที่นั่น ตรงสถานที่ที่เขาใช้ออกจากคุกใต้ดิน” ลูซี่พูดแทรก

 

“ จากมุมมองทั่วไป ดูเหมือนว่าการก่อวินาศกรรมที่ทำให้พวกเขาเสียชีวิต เหตุการณ์นั้นผ่านไป 5 ปีแล้ว สมาคมนักล่าจะดำเนินการใด ๆ หรือพวกคุณจะต้องรอจนกว่าจะมีทุกอย่างก่อน พวกคุณถึงจะเคลื่อนไหวใช่ไหมคะ ?” เธอถาม ในขณะที่เขายืดหลังให้ตรงมากขึ้น ในขณะที่จ้องไปที่ใบหน้าที่สะอาดของลาร์ค

 

“เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ APF ในเรื่องนี้ แต่ในขณะนี้ เรามีเขตอำนาจจำกัดในเรื่องนี้” ลาร์คตอบ “ไม่ว่าในกรณีใด หากเรายืนยันว่าแวเรียนท์ทมิฬที่เกิดขึ้นใหม่นั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง เราจะมอบเขตอำนาจในการสอบสวนนี้ให้ APF ทันที”

 

“APF เป็นผู้มีอำนาจที่รับผิดชอบในการจัดการกับ แวเรียนท์มืด ดังนั้นหากได้รับการยืนยัน พวกเขาจะเข้าควบคุมคนพวกนั้นทันที” เขากล่าวเสริม “แต่สำหรับตอนนี้ เรามีคนในคดีนี้แล้ว เราไม่สามารถใช้ทรัพยากรมากเกินไปได้ เพราะเราต้องควบคุม จำนวนสัตว์ประหลาดในดันเจี้ยน ให้อยู่ภายใต้การควบคุมเพื่อไม่ให้บาเรียพัง  เราไม่ต้องการภัยพิบัติเช่นปี 2028 อีกครั้ง รับรองว่าจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน”

 

ลูซิเฟอร์ตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้คนในทีวีพูดคุยกันอย่างถี่ถ้วน เมื่อเขาได้ยินเสียงวางตัวจากใกล้ๆ ตัวเขา

 

“เหอะ คนตายตายแล้ว จำเป็นต้องพูดเรื่องไร้สาระในทีวีซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกปีจริง ๆ เหรอ ฉันเหนื่อยกับเรื่องนั้นมาก จอมเวทผู้แข็งแกร่งอะไรเล่า ถ้าเขาปกป้องภรรยาของเขาจนตายไม่ได้ . พวกเขาพูดเกินจริงเขามากเกินไป”

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์มองไปด้านข้าง เขาสังเกตเห็นว่าออกัสกำลังพูดแบบนี้

 

“ซัลลาซา ลูเซียคือวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุด และเขาจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป นั่นคือวิธีที่ฮีโร่ควรเป็น เซล แอซเรลเป็นเพียงผู้แพ้และไม่มีอะไรมากไปกว่านี้” ออกัสต์พูดต่อโดยไม่รู้ว่าควรหยุดเมื่อไร

 

สีหน้าของลูซิเฟอร์เปลี่ยนไป เมื่อเขาได้ยินชายผู้นั้นดูถูกพ่อแม่ของเขา คนเดียวที่เขารักในโลกนี้คือพ่อแม่ของเขา และเขาไม่ชอบให้ใครดูหมิ่นพวกเขา ผู้ชายคนนี้เขาดูหมิ่นพ่อแม่ที่เหมือนพระเจ้าของเขาที่ตายเพื่อคนอย่างเขาและเรียกพวกเขาว่าขยะ?

 

หลังจากฆ่าคนจำนวนมาก ลูซิเฟอร์ก็มีจิตใจที่เปลี่ยนไปเช่นกัน เขากลายเป็นคนอารมณ์ไม่ดีและมีภูมิคุ้มกันน้อยต่อเจตนาที่จะฆ่าคน นั่นคือความคิดที่เข้ามาในหัวของเขา ในขณะที่เลือดของเขากำลังเดือดพล่านหลังจากได้ยินทั้งหมดนั้น

 

ตาข้างหนึ่งของเขาเปลี่ยนสีอีกครั้ง กลายเป็นสีม่วงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่สังเกตเห็นได้ เว้นแต่จะมองด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

ลูซิเฟอร์ลุกขึ้นจากโซฟาและเริ่มเดินไปที่ออกัส ขณะที่เขาถอดถุงมือสีดำที่เขาสวมอยู่

 

“เกิดอะไรขึ้น?” ออกัสต์ถาม เมื่อเห็นลูซิเฟอร์มองเขาแปลกๆ เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้?” เขาสงสัย

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบสนองและเพียงแค่ยื่นมือไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น

 

นิ้วของเขาแตะหน้าผากของเด็กชาย ร่างกายของเด็กชายเริ่มทรุดโทรมและบางลง ลูซิเฟอร์ยังใช้มืออีกข้างปิดปากของออกัส

 

“เจ้าจะไม่พูด! เจ้าจะฟังเท่านั้น!” เขาพูดราวกับว่าไม่มีอะไร นอกจากความมืดอยู่ภายในตัวเขา

 

ออกัสต์ร้องไม่ออก เมื่อรู้ว่าตอนนี้เขาไม่สามารถพูดได้ แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม ปากของเขาถูกปิด ยิ่งไปกว่านั้น เขารู้สึกได้ถึงสิ่งแปลก ๆ ที่เกิดขึ้น ร่างกายของเขากำลังไหม้! มันเจ็บปวด! เขาได้รับบาดเจ็บและรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย! เกิดอะไรขึ้น? เขาไม่เข้าใจ ทั้งหมดที่เขารู้ก็คือมันมีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กชายคนนั้น

 

ไม่นานเขาก็ตาย เมื่อร่างกายของเขากลายเป็นเถ้าถ่าน

 

ลูซิเฟอร์จ้องมองเถ้าถ่านที่วางอยู่บนโซฟาและพื้นดินอย่างว่างเปล่า

 

“พ่อของฉันไม่ใช่คนขี้แพ้” เขาพึมพำอย่างใจเย็น “คุณนั่นแหละ คุณไม่สามารถเป็นเหมือนเขาได้ แม้ว่าคุณจะฟื้นคืนชีพมานับพันครั้งก็ตาม”

 

หลังจากพูดเสร็จ เขาก็สวมถุงมืออย่างสงบอีกครั้งและนั่งลงบนโซฟาอย่างใจเย็น เพราะเขาคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

เขาหยิบรีโมทขึ้นมาอีกครั้ง

 

ก่อนหน้านี้ออกัสได้เปลี่ยนช่อง ตอนที่เขาเริ่มสาปแช่งพ่อของลูซิเฟอร์ ตอนนี้เขาต้องการหาช่องทางนั้นเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพ่อของเขา อะไรกันแน่ที่เขาไม่รู้เกี่ยวกับการตายของพวกเขา?

 

เขากดปุ่มสุ่มบนรีโมทตลอดเวลา ขณะที่เขาพยายามหาช่องที่จะสัมภาษณ์ แต่เขาหาไม่เจอ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องใช้ปุ่มใดในการทำเช่นนั้น ทั้งหมดที่เขาเห็นคือเรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นในทีวี

 

เมื่อเขาอายุได้ 5 ขวบ จู่ๆ เขาก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลว่าทั้งพ่อและแม่ของเขาเสียชีวิตในดันเจี้ยน นอกจากนั้น เขาไม่ได้บอกอะไร เขาต้องการดูสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่พบช่องนั้น ทำไมมันจึงยากขนาดนี้?

 

อ๊ะ! เขาอยากจะกรีดร้องด้วยความโกรธและโยนรีโมทออกไป แต่เขาไม่ได้ทำ เขารู้ว่าถ้าเขาทำ เขาจะไม่มีวันหาช่องนั้นเจอ

 

————————————————————–

ตอนที่ 39: สมาคมนักล่า

 

ลูซิเฟอร์ได้รับคำสั่งให้เดินตามไป ทานอาหารเย็น และพักผ่อน

 

เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง เขารู้สึกตัวสั่นเล็กน้อย เมื่อเห็นผู้หญิงที่หน้าเหมือนแม่ และเธอก็เป็นมนุษย์ด้วย นั่นก็เพราะเขาได้เรียนรู้ที่จะไม่ไว้ใจมนุษย์

 

ภายในหัวของเขามีความคิดมากมายลอยอยู่ นี่เป็นแผนของใครบางคนหรือไม่? พวกเขากำลังพยายามดักจับเขาหรือไม่? บางคำถามของเขาดูไร้เดียงสาเล็กน้อย ในขณะที่เขาสงสัยว่ามีคนใช้หน้าแม่ของเขาหรือไม่?

 

เขาสามารถเห็นความจริงเล็กน้อยบนใบหน้าของผู้หญิงเหล่านั้นได้ แต่แล้วอีกครั้งหนึ่ง เจ้าของร้านอาหารก็เช่นเดียวกัน เขายังเข้าใจผิดคิดว่าคนพวกนั้นเป็นคู่รักที่ดี นั่นก็ได้พิสูจน์แล้วว่า แม้แต่คนที่ดูดีที่สุดก็สามารถเป็นสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดายจากภายในจิตใจของพวกเขา

 

แต่แล้วอีกครั้งหนึ่ง เขาก็รู้ว่าเขาหิว ไม่ว่าในกรณีใด เขาต้องหาอาหาร และที่นี่เขาได้รับมันได้ ไม่ว่าในกรณีใด เขาทำได้แค่กินและออกไปก่อนที่แผนการใดๆ จะเกิดขึ้นกับเขา

 

พวกเขาทำอะไรได้บ้าง? เขาตายไม่ได้ เขายังมีศรัทธาว่าการรักษาของเขาจะใช้ได้กับพิษ

 

เขายังเป็นเด็กที่เริ่มหมดความมั่นใจและพึ่งพาความสามารถของเขามากเกินไป ซึ่งเขาใช้มันได้ไม่เต็มศักยภาพด้วยซ้ำ เขาไม่รู้ว่าความมั่นใจที่มากเกินไปจะเป็นอันตรายกับคนที่แข็งแกร่งที่สุดเพียงใด

 

น่าเสียดายที่ไม่มีใครสอนเขา ไม่ชัดเจนว่าเขาจะมีเพื่อนหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการ

 

เขามองไปที่ผู้หญิง 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่อีกคนคงจะเป็นลุกสาวของเธอ แต่ไม่ไว้ใจพวกเขา ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะใช้อาหารพวกนั้นเพื่อเลี้ยงตัวเอง พวกเขามีอาหาร เขาต้องการอาหาร

 

เขาพยายามหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะยังสงสัยอยู่ก็ตาม

 

ในที่สุดเขาก็พยักหน้า โชคไม่ดีที่ท้องของเขาก็ร้องพร้อมกันและตอบตกลงไปพร้อม ๆ กันในแบบของตัวเอง

 

หญิงวัยกลางคนเห็นปฏิกิริยาของลูซิเฟอร์และยิ้ม

 

“ดี ตามเรามา” เธอบอกลูซิเฟอร์ ขณะเดินเข้าบ้านพร้อมพยุงลูกสาวของเธอ

 

ชายหนุ่มก็ทำเช่นเดียวกัน ลูซิเฟอร์ก็เดินเข้าไปตามหลังคนพวกนั้นไปเช่นกัน

 

ทุกคนเข้าไปในห้องนั่งเล่นที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เป็นเพียงห้องขนาดกลางที่มีทีวีติดผนัง

 

นอกจากนี้ยังมีโซฟา 5 ที่นั่งสีเทาวางอยู่ตรงหน้าทีวี

 

ผนังห้องนี้เต็มไปด้วยภาพครอบครัว ซึ่งลูซิเฟอร์เริ่มสังเกต

 

ขณะที่เขาดูรูปภาพต่างๆ เขาก็รู้ว่าผู้หญิงผมสีเงินคนนั้นไม่ใช่แม่ของเธอ เขาสามารถเห็นภาพของเธอกับครอบครัวตั้งแต่ตอนที่เธอกำลังจะไปเมื่อไม่นานนี้ เธอเติบโตขึ้นมาในบ้าน มันชัดเจน อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้โกหกเรื่องนั้น

 

เขายังสังเกตเห็นอีกสิ่งหนึ่ง ภาพครอบครัวมีชายคนหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนสามีของหญิงวัยกลางคน ชายคนนั้นอยู่ในภาพส่วนใหญ่ แต่ภาพที่เอมิลี่ดูแก่กว่า 15 ปีไม่มีเขาคนนั้นอยู่

 

ผู้หญิงคนนั้นสังเกตเห็นลูซิเฟอร์มองดูชายในภาพ

 

“นั่นคือสามีของฉัน เขาเสียชีวิตเมื่อเอมิลี่อายุเพียง 15 ปี” เธอบอกกับลูซิเฟอร์ “นั่งตรงไหนก็ได้ตามใจชอบ ฉันจะให้ยากับลูกสาว แล้วฉันจะเสิร์ฟอาหารให้”

 

โดยไม่โต้ตอบ ลูซิเฟอร์เดินไปที่โซฟาและนั่งบนนั้น

 

ชายหนุ่มก็นั่งใกล้เขาเช่นกัน

 

“ฉันชื่อออกัส เธอชื่ออะไร” เขาถามลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์เพิกเฉยต่อชายคนนั้นอย่างสมบูรณ์และเพียงแค่หลับตาลง ผู้ชายคนนี้ไม่สมควรได้รับความสนใจ

 

ออกัส ไม่ได้รับคำตอบ แต่เขาไม่สนใจ เขารู้ว่าบางคนไม่ชอบพูดเว้นแต่จะมีเหตุผลสำคัญ ไม่ว่าในกรณีใด เด็กที่ไม่สนใจเขานั้นก็ไม่สำคัญ เขาไม่สนใจแม้แต่เด็ก เขาแค่ขอให้เด็กคนั้นไม่ทำตัวเหมือนคนบ้าก็พอ

 

ออกัสหยิบรีโมทจากบริเวณใกล้เคียงและเปิดทีวี

 

 

ทันทีที่เปิดทีวี เพลงก็เริ่มเล่น เห็นได้ชัดว่าเปิดช่องเพลง ออกัสเปลี่ยนช่องเป็นช่องข่าวโดยไม่รอช้า

 

“สวัสดีและยินดีต้อนรับสู่ TV68 วันนี้เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่ภัยพิบัติของเกาะมาเลียเกิดขึ้น ในนั้น เราสูญเสียวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของเราไปหลายคน รู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมขึ้นเมื่อวานนี้เอง”

 

“วันนี้เราจะพูดถึงการสูญเสียมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงวันที่มืดมนนั้น เซล แอซเรล ผู้แข็งแกร่งที่สุด วอร์ล็อคและนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด แคลรีส แอ็กเนอร์ เสียชีวิตในภัยพิบัติครั้งนั้น พร้อมกับวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเรา เราสูญเสียคนไปทั้งหมด 10 คน ทั้งวีรบุรษและคนที่สำคัญหลายๆคน มันช่างน่าเศร้า”

 

ลูซิเฟอร์นอนอยู่อย่างสงบ เขาไม่ได้ดูทีวีด้วยซ้ำ แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อพ่อแม่ ดวงตาของเขาก็เหลือบมองดูทีวี เขารู้สึกได้ว่ามือของเขาเริ่มสั่น

 

“พวกเขาไปที่ดันเจี้ยนระดับ 4 เพื่อมนุษยชาติ แต่พวกเขาไม่เคยกลับมาอีกเลย เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา พวกเขาถูกสัตว์ประหลาดกินเข้าไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ที่ทีมที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะถูกกำจัดไปอย่างง่ายดาย?”

 

“ วันนี้เราจะพยายามหาคำตอบทั้งหมดที่เราทำได้ วันนี้มีรองประธาน องค์กรนักล่าของอเมริกา อยู่กับเราแล้ว คุณลาร์ค” นักข่าวกล่าวทักทายชายผมแดงที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆ เธอ

 

“ขอบคุณค่ะคุณลาร์ค ฉันชื่อลูซี่” ลาร์คพยักหน้าอย่างใจเย็น

 

————————————————————–

ตอนที่ 38: พี่สาว

 

“แม่?” ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็พูดออกมาหนึ่งคำด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา

 

ผู้หญิงตรงหน้าเขา นั่นคือแม่ของเขา แต่อย่างไร? เธอมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร? ยิ่งกว่านั้นทำไมเธอถึงไม่มารับเขาจากที่นั่นถ้าเธอยังมีชีวิตอยู่?

 

“ทำไมคุณไม่มาก่อนหน้านี้” ลูซิเฟอร์พูดอีก 2-3 คำ ขณะที่น้ำตาหยดเดียวไหลอาบแก้มขวาของเขา

 

“แม่งั้นเหรอ เอ๋ เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” หญิงผมสีเงินถาม ดูเหมือนสับสน “เดี๋ยวนะ ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ ความเจ็บปวดจากอุบัติเหตุสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้ ความทรงจำของเธอกำลังสับสน ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันจะให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ “

 

“เสียงนี้…”

 

ก่อนหน้านี้ ลูซิเฟอร์หมกมุ่นอยู่กับการได้เห็นแม่ของเขามากขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็น แต่เสียงของเธอแตกต่างออกไป มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจำได้ หน้าตาของเธออาจจะเหมือนกัน แต่เสียงของเธอไม่ตรงกัน

 

ลูซิเฟอร์ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมเสียงของเธอถึงแตกต่าง? ยิ่งกว่านั้นทำไมเธอถึงจำเขาไม่ได้?

 

ผ่านมา 5 ปีแล้ว ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ยังคง มีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล

 

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนจากด้านหลัง

 

“เฮ้ อยู่ให้ห่างจากพี่สาวฉัน!”

 

เมื่อมองย้อนกลับไป ลูซิเฟอร์เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกรีดร้องใส่เขา ปกติแล้วลูซิเฟอร์อาจจะโกรธ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดอะไรเลย เขาสับสนเกินไป

 

“ฉันขอโทษจริงๆ ฉันไม่เคยอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ฉันเพิ่งกลับมาที่เมืองของฉัน หลังจากอยู่ในเมืองมา 4 ปี ฉันพูดตามตรง ฉันไม่รู้ว่าเบรกของฉันจะพังเหมือนกัน ฉันสาบานว่าฉันจะให้ความช่วยเหลือที่ดีที่สุดสำหรับคุณ” ผู้หญิงคนนั้นบอกกับลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอขอโทษอีกครั้ง

 

“เธอมีเบอร์พ่อแม่ไหม ฉันจะโทรไปขอโทษพวกเขาเหมือนกัน”

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบแต่ เหมือนเขาไม่ได้ยินเธอ

 

เมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่มก่อนหน้านี้ เขาจึงเข้าใจว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แม่ของเขา เธอดูเหมือนกัน แต่การได้เจอแม่ของเขาอีกครั้ง… ความรู้สึกนี้ค่อนข้างพิเศษ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของเขา แต่เขาก็ยังสัมผัสใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน

 

“นี่ ฉันบอกแล้วไง อยู่ให้ห่างจากพี่สาวฉัน!” ชายหนุ่มดุลูซิเฟอร์อีกครั้ง “เก็บมือสกปรกของนายไว้สำหรับตัวนายเอง!*

 

“นี่ อย่าพูดเหลวไหล ฉันผิดเอง ใจเขาสั่นเล็กน้อย… สั่นเพราะบาดแผล อย่าดุเขา” หญิงผมสีเงินบอกกับชายหนุ่มที่กรีดร้องใส่เขาอีกครั้ง  “ยังไงก็เถอะ เธอรู้จักพ่อแม่ของเขาไหม มันเป็นเมืองเล็ก ๆ เธอน่าจะรู้”

 

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ฉันไม่เคยเห็นเขาในเมืองเลย เขาน่าจะยังใหม่อยู่ที่นี่” ชายหนุ่มตอบ ขณะส่ายหัว “เขาถามฉันเกี่ยวกับร้านอาหารที่นี่ก่อนที่พี่จะมา”

 

“ก็ได้ สิ่งแรกที่เราต้องทำคือให้เขาพักผ่อน ศีรษะของเขาต้องการการพักผ่อนเพื่อให้เขาจำได้มากขึ้น” ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้า

 

มันฟังดูน่าขันจากหญิงสาวที่ตอนนี้ตัวเองกำลังมีเลือดออก

 

ผู้หญิงคนนั้นมองไปทางลูซิเฟอร์อีกครั้ง ขณะที่เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน

 

เธอชี้ไปทางบ้านที่รถของเธอ ที่กำลังจะชนถ้าต้นไม้ถ้าไม่หยุดรถ

 

“นั่นเป็นบ้านของฉัน ฉันจะไม่พยายามทำลายบ้านของฉันเด็ดขาด มันเป็นอุบัติเหตุ ฉันคิดว่าเธอคงเข้าใจ แต่ได้โปรดมาพักผ่อนในบ้านเราหน่อยเถอะ”

 

ลูซิเฟอร์สังเกตผู้หญิงคนนั้นชั่วครู่ จากการแสดงออกของเธอ ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้โกหก เขาก็ยังไม่แน่ใจ  ว่าเธอไม่ใช่แม่ของเขาจริงๆเหรอ? หรือมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่อีก?

 

เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อประตูบ้านสีแดงเปิดออก หญิงวัยกลางคนก้าวออกจากบ้าน เธอออกมาหลังจากได้ยินความวุ่นวาย

 

ความช็อกปกคลุมใบหน้าของเธอ เมื่อเธอเห็นรถที่ชนกับต้นไม้ เธอจำรถไม่ได้ แต่เห็นได้ชัดว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ เธอมองไปรอบๆ และเห็นลูซิเฟอร์และคนอื่นๆ อยู่ใกล้ๆ

 

ทันทีที่เธอเห็นผู้หญิงที่บาดเจ็บ ใบหน้าของเธอก็ซีด เธอเริ่มวิ่งเข้าหาเธอ

 

“เอมิลี่ เกิดอะไรขึ้น สบายดีไหม”

 

เมื่อเธอเข้าใกล้ผู้หญิงคนก่อนหน้านี้ เธอเห็นหน้าผากของหญิงคนนั้นมีเลือดออก

 

“ลูกบาดเจ็บ! นั่นรถของลูกเหรอ สาวน้อย ลูกกลับมาหลังจาก 4 ปีผ่านไปแล้ว ”

 

เธอคุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่เธอเรียกว่าเอมิลี่และเริ่มตรวจดูบาดแผลของเธอ

 

“ไม่เป็นไรค่ะแม่ แค่บาดเจ็บนิดหน่อย” เอมิลี่ยิ้มอย่างไร้เดียงสาขณะตอบแม่ของเธอ

 

“แม่ดูไม่ดีเลย เข้ามาในบ้านเถอะ ให้แม่จัดการเอง” หญิงวัยกลางคนพูดพลางถอนหายใจ เธอช่วยเอมิลี่ลุกขึ้นและพาเธอไปที่บ้าน

 

“เดี๋ยวแม่ พาเขาไปด้วย รถของฉันเกือบจะชนเขา เขาอาจจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน นอกจากนี้ เขาช็อกและบอบช้ำ เขาต้องการความช่วยเหลือมากกว่านี้” เอมิลี่บอกกับแม่ของเธอ ขณะที่เธอชี้ไปที่ลูซิเฟอร์ซึ่งยืนอยู่ ข้างหลังยังมองเธออยู่

 

หญิงวัยกลางคนมองไปทางลูซิเฟอร์และเห็นด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะดูไม่เจ็บ แต่ถ้าลูกสาวของเธอพูดก็ต้องถูก ไม่ว่าในกรณีใด เธอก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อช่วยเขา

 

“โอ้ ฉันขอโทษสำหรับสิ่งที่เธอต้องพบเจอเพราะลูกสาวของฉัน มากับฉัน เข้าไปในบ้าน ฉันจะช่วยดูแลบาดแผลของเธอเช่นกัน” เธอบอกกับลูซิเฟอร์

 

‘มีแม่ด้วย. และน้องชาย เธอไม่ใช่’ ลูซิเฟอร์คิดอย่างผิดหวัง เขารู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย

 

เขากำหมัดแน่นแล้วส่ายหัว เขาทนความคิดที่จะเจอหน้าเธอไม่ได้อีกต่อไป ตอนนี้มันเจ็บปวดเหลือเกิน

 

“ผมไม่ได้รับบาดเจ็บ” เขาพูดแล้วหันหลังเดินจากไป

 

“รอก่อน!” เอมิลี่เรียกหยุดลูซิเฟอร์

 

เธอจ้องมองแม่ของเธอหลังจากแน่ใจว่าลูซิเฟอร์หยุด “แม่คะ เขาหาร้านอาหารอยู่ เขาอาจจะหิว เรามีอาหารเหลือไหม”

 

“โอ้ อย่างนั้นหรือ เข้าไปข้างในเถอะ ฉันเพิ่งเตรียมอาหารมา เธอสามารถกินได้มากเท่าที่ต้องการ ถือว่าเป็นคำขอโทษจากครอบครัวของเรา” หญิงวัยกลางคนพูดพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน “นอกจากนี้ ฉันสามารถให้การปฐมพยาบาลและช่วยเหลือเธอได้”

 

เธอยังก้มหน้าอย่างสุภาพ ขณะที่เธอถามลูซิเฟอร์

 

“ได้โปรดหยุด ฉันจะรู้สึกผิดเสมอถ้าเธอไม่หยุด” เอมิลี่พูดแทรก

 

เมื่อเห็นเอมิลี่เรียกเขาด้วยใบหน้าของแม่ เขาก็รู้สึกบางอย่าง เขาต้องการที่จะอยู่ เขาก็หิวเหมือนกัน แต่ที่สำคัญกว่านั้น เขายังต้องการทดสอบบางอย่างที่นี่

 

————————————————————–

ตอนที่ 37: การกลับมา

 

เมืองลีเจี้ยนทั้งหมดถูกปิดกั้น และทุกคนที่ออกจากเมืองจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด น่าเสียดายที่บุคคลที่พวกเขาพยายามตามหาได้ออกจากเมืองไปแล้วก่อนที่แซนเดอร์จะสั่งปิดกั้นเมือง

 

ไม่ว่าในกรณีใด แม้แต่แซนเดอร์ก็ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ในเมืองแม้ว่าจะถูกปิดกั้นก็ตาม

 

 

ในขณะนี้ ลูซิเฟอร์อยู่ห่างจากเมืองลีเจี้ยนไปแล้ว 300 กิโลเมตร ความเร็วของเขาเร็วขึ้นมากในขณะที่เขาใช้พลังลมเพื่อเคลื่อนที่และรักษาความเร็วของเขาไว้อย่างรวดเร็ว แต่มันก็ได้ใช้พลังงานของเขาไปมากและทำให้เขาหิว

 

เขาไม่มีอาหารติดตัวเลย และท้องของเขาก็เริ่มจะคำราม

 

ตลอดทั้งวันเขาไม่ได้กินอะไรเลย และมันก็เป็นเวลาเย็นแล้ว

 

เขาลดความเร็วลงอย่างมาก ในขณะที่เขาคิดจะหาที่พักผ่อน

 

ลูซิเฟอร์มองไปรอบๆ ก็เห็นต้นไม้ต้นหนึ่งอยู่ใกล้ๆ เขาเดินไปที่ต้นไม้และนั่งใต้ต้นไม้ ขณะที่เขาเอนหลังพิงต้นไม้

 

“อาหารกำลังกลายเป็นปัญหา ฉันทำอาหารไม่ได้ และฉันก็พกอาหารไปด้วยไม่ได้ในคราวเดียวด้วย ฉันต้องเรียนรู้วิธีทำ” ลูซิเฟอร์พึมพำ ขณะหลับตา

 

ท้องของเขายังคงคำราม แต่เขาเพิกเฉยและพักผ่อนต่อไป

 

เขาพักเป็นเวลา 6 ชั่วโมงและลุกขึ้นยืนกลางดึกก่อนจะเดินทางต่อไปอีกครั้ง พยายามเพิกเฉยต่อความหิวของเขา

 

เท่าที่ตาเขามองเห็น มีเพียงป่าเท่านั้น ไม่มีเมืองใดอยู่ในสายตา

 

 

เวลา 9 โมงเช้า ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็เห็นเมืองหนึ่ง เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีบ้านเพียงไม่กี่หลังเหมือนหลายๆ เมืองก่อนหน้านี้ มันยังดูว่างเปล่าเป็นส่วนใหญ่

 

ลูซิเฟอร์ลดความเร็วลงเมื่อเขาเข้าไปในเมือง

 

ลูซิเฟอร์เดินผ่านเมืองเพื่อค้นหาร้านอาหาร ไม่นานเขาก็รู้ว่าไม่มีสถานที่นั้น อย่างน้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาจำได้ทันทีว่าเป็นร้านอาหาร

 

ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจถามใครสักคนว่ามีอะไรแบบนั้นในเมืองนี้หรือเปล่า

 

ขณะที่เขาเดินไปตามถนนที่ว่างเปล่าเพื่อค้นหาคนที่จะถาม ในไม่ช้าเขาก็เห็นคนๆ หนึ่ง

 

เป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนเขาอายุ 20 ต้นๆ ชายผมดำมีรูปร่างผอมเพรียวราวกับไม่ได้กินอะไรมาก รอยคล้ำรอบดวงตามองเห็นได้แม้ในระยะไกล

 

ลูซิเฟอร์เดินไปหาชายคนนั้นด้วยท่าทางสงบ ไม่รีบร้อนแต่อย่างใด

 

หยุดก่อนชายคนนั้นถามว่า “มีโรงแรมหรือร้านอาหารอยู่ใกล้ ๆ หรือไม่”

 

ชายคนนั้นส่ายหัวอย่างเกียจคร้าน

 

“ที่นี่ไม่มีที่ไหนแบบนั้น ขอโทษด้วย” เขากล่าว

 

ลูซิเฟอร์เริ่มครุ่นคิดว่าจะทำอะไรต่อไปได้เมื่อได้ยินเสียงยางดังลั่น

 

เมื่อเขามองย้อนกลับไป เขาเห็นรถกำลังวิ่งมาทางเขาด้วยความเร็วที่รวดเร็ว

 

รถสีแดงสวยงามวิ่งตรงไปยังลูซิเฟอร์ ดูเหมือนตั้งใจจะชนเขาตอนที่เขาอยู่ตรงหน้ารถ และดูเหมือนรถจะไม่ช้าลง

 

ดูเหมือนว่ามันจะควบคุมไม่ได้ รถไม่ได้ลดความเร็วลง แม้จะเข้าใกล้ลูซิเฟอร์อย่างอันตราย

 

คนที่ยืนอยู่ข้างลูซิเฟอร์ก็กลัว เท้าของเขาติดอยู่กับที่ ไม่ยอมเคลื่อนไหว ขณะที่จิตใจของเขาว่างเปล่า ราวกับว่าเขาสามารถเห็นยมฑูตเดินเข้ามาหาเขาด้วยเคียวในมือเพื่อปลิดชีวิตเขา

 

โชคดีสำหรับเขา จากทางที่รถวิ่งเข้าหาพวกเขา ดูเหมือนว่ามันจะไม่ชนเด็กคนนั้น แต่ลูซิเฟอร์จะต้องโดนแน่นอน

 

รถไปถึงลูซิเฟอร์ แต่แทนที่จะกังวล จิตใจของเขาก็สงบนิ่งอย่างสมบูรณ์ เขาเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมากว่านี้ บางสิ่งเช่นนี้จะไม่ทำให้เขาหยุดสมองหรือกลัว

 

เขาก้าวไปด้านข้างโดยใช้พลังของลมและออกจากช่วงที่รถอาจจะชนเขา

 

รถแล่นผ่านเขาไปชนกับต้นไม้ตรงหน้าบ้านก่อนจะจอดในที่สุด

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆ ก้าวไปทางด้านคนขับของรถ โดยไม่คิดอะไร เขาต่อยกระจกหน้าต่างแตก และดึงปลอกคอของคนขับจากด้านหลัง ศีรษะของคนขับมีเลือดออก

 

คนๆนั้นดูเหมือนผู้หญิงที่หัวนอนอยู่บนพวงมาลัยทำให้ลูซิเฟอร์ไม่เห็นหน้าเธอ

 

เขาดึงผู้หญิงคนนั้นออกจากรถแล้วโยนเธอไปข้างหลังโดยไม่สนใจ แต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้น มันเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่เขาปล่อยเธอ

 

ใบหน้าซีดขาวราวกับเห็นผี โดยไม่ได้คิดอะไร เขาวิ่งตามผู้หญิงคนนั้นไปเพื่อจับเธอ และหลังจากนั้นเพียงวินาทีเดียวก่อนที่เธอจะล้มลงกับพื้น

 

ดูเหมือนผู้หญิงคนนี้จะดูเหมือนคนที่เพิ่งจะอายุ 20 ปี หน้าผากของผู้หญิงคนนั้นมีเลือดออก แต่เธอก็ยังมีสติอยู่

 

เธอจ้องที่ลูซิเฟอร์ด้วยดวงตาสีฟ้าที่สวยงามของเธอ ผมสีเงินของเธอยาวถึงเอวของเธอ

 

“ฉัน-ฉันขอโทษ ทุกคนสบายดีไหม” ผู้หญิงคนนั้นถามขณะมองไปทางลูซิเฟอร์

 

แม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ แต่เธอก็ยังดูเป็นห่วงความปลอดภัยของผู้อื่น

 

ลูซิเฟอร์มองไปที่ผู้หญิงคนนั้นโดยไม่สามารถตอบได้ ริมฝีปากของเขายังคงสั่นเมื่อพยายามจะพูด แต่ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของเขา

 

“ฉัน… ฉันรู้ว่าคุณอาจจะโกรธ แต่เชื่อฉันเถอะ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน พวงมาลัยของฉันอยู่ๆมันก็ขยับไม่ได้ และฉันสูญเสียการควบคุมรถ ฉันเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ฉันจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่ “ผู้หญิงคนนั้นบอกลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอขอโทษ

 

เลือดหยดลงมาบนใบหน้าของเธอ เธอได้รับบาดเจ็บจริงๆ

 

ลูซิเฟอร์ยกมือขวาขึ้นและนำไปที่ใบหน้าของหญิงสาว ขณะที่เขาพยายามเช็ดเลือด

 

ผู้หญิงคนนั้นมองกลับมาที่ลูซิเฟอร์ด้วยใบหน้าที่ทึ่ง

 

ลูซิเฟอร์เปิดริมฝีปากอย่างช้าๆ ขณะที่เขาโพล่งออกมาหนึ่งคำ “แม่?”

 

… ยังมีต่อ

 

————————————————————–

ตอนที่ 36: ไอดอล

 

สมาชิกหน่วยเดลต้าบางคนเริ่มเก็บศพ ขณะที่คนอื่นๆ ไปรอบๆบ้าน เพื่อค้นหาลูซิเฟอร์

 

ในทางกลับกัน ฟลูเรนได้ก้าวเข้าไปในบ้านของเซล แอซเรลเพื่อตรวจสอบ

 

แซนเดอร์เดินไปที่ศพของแซค ขณะที่เขาวางโทรศัพท์ไว้ใกล้หูหลังจากกดหมายเลข

 

“แจกจ่ายรูปภาพของ ลูซิเฟอร์ แอซเรล ให้กับตำรวจและกองทัพ และบอกฝ่ายบริหารของเมืองลีเจี้ยน ให้ปิดล้อมทั้งเมืองด้วย ฉันไม่ต้องการให้ใครออกไป”

 

แม้ว่าเขาจะออกคำสั่ง แต่เขาก็ยังคิดเรื่องอื่นๆไม่ออกได้ในทันที

 

“ไม่ เดี๋ยวก่อน อย่าเผยแพร่ภาพของเขาตอนนี้ รอฉันก่อน ฉันจะกลับมาบอกคุณว่าจะทำอย่างไรกับสิ่งนั้น สำหรับตอนนี้ แค่บอกฝ่ายบริหารของเมืองลีเจี้ยนพอ และให้พวกเขาปิดกั้นเมืองเพื่อไม่ให้ใครออกไป โดยเฉพาะเด็ก”

 

พูดจบเขาก็ตัดสายและวางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

 

“คุณพูดถูก ไม่มีใครอยู่ในบ้าน”

 

มีเสียงมาจากด้านหลังแซนเดอร์ ราวกับว่าเป็นเสียงของฟลูเรน

 

“ดูเหมือนว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นในบ้าน” ฟลูเรนกล่าวเพิ่มเติม ขณะที่เขายืนข้างแซนเดอร์

 

“พวกของเราประเมินเขาต่ำไป เราทุกคนประเมินเขาต่ำไป ตอนนี้ต้องปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ก่อนเพื่อให้เราได้ตรวจสอบ เขามีบางสิ่งที่เราไม่รู้อย่างแน่นอน” แซนเดอร์พึมพำ “เขาต้องมีอะไรที่ผิดปกติแน่นอน”

 

“ใช่ โชคดีที่แถวนี้ไม่มีคนอาศัยอยู่  ไม่งั้นอาจมีคนเสียชีวิตมากกว่านี้ได้” ฟลูเรนพยักหน้าเห็นด้วย

 

“ใช่ เห็นได้ชัดว่าย่านนี้เป็นของเซล แอซเรล” แซนเดอร์ตอบ

 

“จริงเหรอ ทำไมเขาถึงมาอยู่ในบ้านเส็งเคร็งนั่นล่ะ” ฟลูเรนถาม ในขณะที่เขาจ้องมองกลับไปที่บ้านของลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนบ้านคุณภาพต่ำ

 

“ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันได้ยินมาว่าบ้านหลังนี้เป็นของพ่อของเขา” แซนเดอร์ตอบ “บางทีเซล แอซเรลคงอยากมีฟีละครอบครัวกับคนในบ้าน เลยเลือกบ้านหลังนี้?”

 

เขาคุกเข่าลงแตะใบหน้าของแซค

 

“เราควรมอบคดีนี้ให้ผู้ที่มีอำนาจมากกว่านี้ไหม”  เขาแนะนำ “นั่นดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”

 

“ไม่ ทีมอัลฟ่ากำลังจัดการกับคดีที่เกี่ยวข้องกับ การก่อจราจลของแวเรียนท์” แซนเดอร์ตอบ “เบต้าก็ยุ่งเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคดีนี้ยังไม่ร้ายแรงพอที่จะเกี่ยวข้องกับพวกเขา”

 

“แค่นี้ยังไม่รุนแรงพอได้ยังไง คนของเรา 4 คนถูกเด็กคนนั้นฆ่า” ฟลูเรนพูดด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “สำหรับฉันมันร้ายแรงมากเท่าที่จะทำได้”

 

แซนเดอร์หันกลับมามองฟลูเรน

 

“ใช่ คนของเรา 4 คนถูกฆ่า แต่อย่าลืมว่าพวกเขาเป็นสมาชิกในทีมระดับล่าง ถ้าเรามอบคดีนี้ให้พวกเขาทำและด้วยเรื่องแค่นี้ล่ะก็ เราจะกลายเป็นคนที่ถูกหัวเราะเยาะแทน”

 

เขาหายใจเข้าอย่างสงบในขณะที่เขาพูดต่อ “คุณคิดว่าถ้ากองทัพไปจับคนร้าย เพื่อจะยุติคดีหรือมอบคดีนั้นให้ AFP แค่เพื่อทหารระดับล่างงั้นเหรอ?”

 

“คดีนี้จะถูกส่งต่อเมื่อเราล้มเหลวจริงๆ เท่านั้น มิฉะนั้นภัยคุกคามจะยิ่งใหญ่ขึ้นมาก” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เขาส่ายหัวเบาๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ฉันไม่ต้องการมอบคดีนี้ ฉันจะจัดการกับมันเอง”

 

“อย่างไรก็ตาม คุณพบสิ่งอื่นที่สำคัญภายในบ้านหรือไม่” เขาถาม

 

“ไม่มีอะไรอีกแล้ว รูปเหมือนของเซล และ แคลรีส ทั้งเฟอร์นิเจอร์และสิ่งของทั่วไป ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ลูซิเฟอร์เลย” ฟลูเรนตอบในขณะที่เขาอธิบายสิ่งที่เขาเห็น

 

“รู้ไหม ฟลูเรน ฉันเคยคิดว่าเซล อาซาเรลเป็นไอดอลของฉันมาตลอด ความยุติธรรมของเขาคือแรงบันดาลใจให้ฉัน” แซนเดอร์พูดออกมาเบาๆ “ฉันเคยพบเขาครั้งหนึ่ง และฉันจำช่วงเวลานั้นได้จนถึงทุกวันนี้”

 

“ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกชายของเขาจะเป็นคนที่ผมต้องตามหาในสักวันหนึ่ง” เขากล่าวเสริม

 

“ใช่ น่าเสียดาย ลูกชายของเขาคือคนที่ทำลายความยุติธรรมที่เขาทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้อง” ฟลูเรนพึมพำขณะจ้องมองไปไกลๆ

 

“เราจะพูดอะไรได้ล่ะ บางคนเกิดมาเพื่อเป็นโรคจิต แต่น่าเสียดายที่คนโรคจิตคนนี้เป็นลูกชายของชายผู้ยิ่งใหญ่” เขากล่าวต่อ

 

“ฉันเดาว่าหมอเองก็มีความผิดบางอย่างในเรื่องนี้ มีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในสถานพยาบาลที่เราไม่ได้บอกเล่า” แซนเดอร์กล่าว โดยนึกถึงคำพูดสุดท้ายของลูซิเฟอร์

 

“ฉันคุยกับเขาทางโทรศัพท์ และจากวิธีที่เขาพูด ฉันแน่ใจว่าพวกเขาโกหกเรา อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับเขา แน่นอนว่ามันไม่ง่ายอย่างที่ต้องทนทุกข์กับผลข้างเคียงบางอย่าง” เขากล่าวเสริม คำสั่งก่อนหน้านี้ ในขณะที่ขมวดคิ้วของเขาลึก

 

“จากสิ่งที่ฉันรวบรวมมา เขาเกลียดห้องแล็บอย่างแน่นอน”

 

“เป็นไปได้ แต่คนที่ฆ่าคนของเราจะเป็นลูซิเฟอร์เสมอ เราไม่สามารถให้อภัยได้” ฟลูเรนกล่าว

 

แซนเดอร์พยักหน้า

 

“ใช่ วอร์ล็อคที่ปลุกพลังควอตได้ และมีพลัง ระดับ – S ตั้ง 2 อย่างขึ้นไป พวกเขามีศักยภาพที่จะกลายเป็น วอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดในอนาคตได้ เราไม่สามารถปล่อยให้เขาท่องไปได้อย่างอิสระในระยะยาว มิฉะนั้น ภัยคุกคามก็จะเพิ่มขึ้น”

 

“คุณคิดว่าการปิดกั้นเมืองจะช่วยให้เราหาเขาเจอหรือไม่” ฟลูเรนถาม “บางทีเขาอาจจะออกจากเมืองไปแล้วก็ได้”

 

แซนเดอร์ยืนขึ้นขณะที่เขามองไปทางทิศใต้

 

“ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าเขาจะไปที่ไหน เรามีจุดหมายปลายทางร่วมกัน” แซนเดอร์พึมพำขณะมองไปทางทิศใต้

 

“ฉันต้องการไปที่นั่นเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม ในขณะที่เขาควรจะไปที่นั่นเพื่อทำลายสถานที่นั้น เราจะดูว่าเขาเติบโตมาจากอะไรกันแน่”

 

 

ศพถูกบรรทุกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ และการค้นหาพื้นที่ใกล้เคียงก็เสร็จสิ้นเช่นกัน และนั่นคือพวกเขาไม่พบสิ่งใด

 

ใบพัดของเฮลิคอปเตอร์เริ่มเคลื่อนที่เมื่อแซนเดอร์ และทีมของเขาเดินไปที่เฮลิคอปเตอร์ เสื้อคลุมของพวกเขาปลิวไปตามลม ขณะที่ประตูปิดตัวลง

 

พวกเขาเข้าไปในเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเริ่มบิน และไม่มีใครทราบจุดหมายปลายทาง

 

***

 

เมื่อฝ่ายบริหารของเมืองลีเจี้ยนได้รับโทรศัพท์จาก APF พวกเขารีบเร่งและปิดเมืองทั้งเมือง

 

ทุกคนหรือยานพาหนะที่ออกจากเมืองได้รับการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเด็กคนใดสามารถออกไปได้ บรรดาผู้ที่มีลูกได้ถ่ายภาพของพวกเขาซึ่งถูกส่งไปยัง APF หลังจากได้รับการยืนยันแล้วพวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้ออกไป

 

————————————————————–

ตอนที่ 35: วิ่งต่อไปเจ้าหนู

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์จ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์ เขาก็เห็นปุ่ม 2 ปุ่ม

 

เขากดปุ่มสีเขียวและวางโทรศัพท์ไว้ใกล้หู

 

“แซค สถานะเป็นอย่างไรบ้าง คุณพบเด็กคนนั้นที่นั่นหรือไม่ ฉันกำลังไป แต่จะใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง ถ้าคุณพบเขาตอบฉัน ถ้าคุณพบเขาช่วยตอบฉัน” ชายที่อยู่ปลายสายพูด ฟังดูสงบแต่ก็อยากรู้อยากเห็นในเวลาเดียวกัน

 

“แซครับโทรศัพท์ไม่ได้ในตอนนี้ เขาค่อนข้างจะยุ่ง” ลูซิเฟอร์ตอบ พลางจ้องไปที่ร่างไร้ชีวิตที่อยู่ใกล้เท้าของเขา

 

“คุณเป็นใคร แซคอยู่ที่ไหน” ชายคนนั้นถามเมื่อเสียงของเขาดังขึ้นเล็กน้อย

 

“ฉันเหรอ ฉันคิดว่าฉันคือคนที่คุณกำลังมองหา แซคนอนสลบอยู่ใต้เท้าของฉัน และถ้าคุณไม่ตอบฉัน เขาก็จะตาย” ลูซิเฟอร์พูด โกหกเพื่อเอาสิ่งที่เขาต้องการ

 

เขาไม่สนใจว่าเขาจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมหรือไม่ แซคเคยบอกว่ารุ่นพี่ของเขาอาจจะรู้เรื่องนี้ จากวิธีที่ชายคนนั้นพูด เขาน่าจะเป็นรุ่นพี่ของแซค เขาต้องรู้คำตอบ ลูซิเฟอร์สันนิษฐาน

 

***

 

ในส่วนต่าง ๆ ของประเทศ กลุ่มคนกำลังนั่งเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังบินอยู่

 

ชายผมแดงดูเหมือนจะคุยกับใครบางคนทางโทรศัพท์

 

เขาคือแซนเดอร์ เบลค หัวหน้าหน่วยเดลต้าและวอร์ล็อคระดับ S

 

“คุณคือ… ลูซิเฟอร์ แอซเรลงั้นเหรอ?” แซนเดอร์ถามลูซิเฟอร์

 

สมาชิกในทีมคนอื่นๆ ได้ยินคำพูดของเขาด้วย ทำให้ตกใจในทันที

 

***

 

“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ สิ่งเดียวที่สำคัญคือฉันต้องการอะไร คุณจะตอบคำถามของฉันหรือจะให้ฉันฆ่าเขาดีล่ะ? ฉันจะไม่รอคำตอบนั้เป็นชั่วโมงๆหรอกนะ” ลูซิเฟอร์เตือนแซนเดอร์เพราะพวกเขาจะมาที่นี่ภายใน 1 ชั่วโมง

 

“ตกลง ฉันจะตอบ อย่าฆ่าพวกเขา” แซนเดอร์เห็นด้วย สำหรับเขา ชีวิตคนของเขามีความสำคัญ

 

“ดี ฉันชื่ออะไร” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้งเพื่อทดสอบบางอย่าง

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล” แซนเดอร์ตอบ

 

“พ่อแม่ฉันตายยังไง” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง

 

“พวกเขาเสียชีวิตระหว่างภารกิจสำรวจดันเจี้ยน”

 

ลูซิเฟอร์ถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาและครอบครัวเป็น สิบๆ ข้อ ขณะที่เขาวนเวียนอยู่รอบๆ ก่อนที่เขาจะไปถึงประเด็นในที่สุด

 

“สถานที่ที่ฉันถูกเลี้ยงมา 5 ปีชื่ออะไร” ลูซิเฟอร์ถาม นี่เป็นคำถามเดียวที่เขาอยากรู้จริงๆ

 

เขาจงใจถามคำถามสุ่มหลายสิบข้อ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เข้าใจว่าเจตนาของเขาคืออะไรหรือต้องการทราบอะไรจริงๆ

 

“ศูนย์วิจัยดิไลออน” แซนเดอร์ตอบทันทีเหมือนทุกครั้ง

 

“มันตั้งอยู่ที่ไหน?” ลูซิเฟอร์ถามอีกครั้ง ในที่สุดก็รู้สึกเหมือนใกล้จะได้คำตอบที่ต้องการแล้ว

 

“มันตั้งอยู่ในเมืองเอรีกัส” แซนเดอร์ตอบอีกครั้ง

 

“ใครเป็นหัวหน้าของสถานที่นั้น?”

 

“เท่าที่ฉันรู้ หมอราวเป็นคนจัดการ”

 

“คุณชื่ออะไร?”

 

“แซนเดอร์ เบลค”

 

“ฉันจะโดนลงโทษอะไร ถ้าคุณจับตัวฉันได้”

 

“มันควรจะเป็นโทษตาย แต่ฉันสัญญากับคุณว่าฉันจะลงโทษคุณให้น้อยที่สุด และเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดนั้นคือ คุณจะถูกจำคุกตั้งแต่ยังเด็ก… อาจจะ 2-3 ปี”

 

“ฉันจะโดนลงโทษอะไร ถ้าฉันฆ่าคนของคุณตอนนี้”

 

“ข้าจะตามหาเจ้า และข้าจะฆ่าเจ้าซะ”

 

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะมองดูศพที่อยู่ใกล้เคียงอีกครั้ง เขาได้ฆ่าคนพวกนั้นไปแล้ว

 

“คำถามสุดท้าย” เขากล่าว “ทำไมฉันต้องผ่านเรื่องพวกนั้นมาทั้งๆที่พ่อแม่ของฉันต่อสู้เพื่อความปลอดภัยของพวกคุณทั้งหมดกันล่ะ?”

 

“ผ่านอะไรมา” แซนเดอร์ถามพลางขมวดคิ้วปิดหน้า จากที่หมอบอก มันเป็นผลข้างเคียงที่พวกเขาฆ่าลูซิเฟอร์ แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อเรื่องราวทั้งหมดก็ตาม

 

“คุณไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกับฉันงั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์ถาม ในขณะที่ลมหนาวพัดมากระทบผิวของเขา

 

“พวกเขาบอกฉันว่าคุณเสียชีวิตเพราะผลข้างเคียงของยา มีอย่างอื่นอีกไหมที่ฉันไม่ได้บอก”

 

เสียงของเฮลิคอปเตอร์ชัดเจนในพื้นหลังของการโทร ซึ่งพาแซนเดอร์และทีมของเขาไปยังตำแหน่งของลูซิเฟอร์

 

“ไม่ว่าคุณจะไม่รู้เรื่องการทรมาน หรือคุณทำเป็นไม่รู้ นั่นก็ ไม่เป็นไร” ลูซิเฟอร์พึมพำ ขณะโยนโทรศัพท์เข้าใกล้ร่างของแซค “สิ่งเดียวที่สำคัญคือฉันจำได้”

 

“ฮัลโหล ฮัลโหล?” แซนเดอร์พูดต่อ พยายามหาคำตอบ น่าเสียดายที่ไม่มีการตอบกลับ

 

ลูซิเฟอร์เดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งโทรศัพท์ไว้ข้างหลัง

 

เขาสวมชุดเสื้อยืดของแม่ เพราะเธอตัวเล็กกว่าพ่อและสวมกางเกงยีนส์ด้วย แม้ว่าเสื้อผ้าจะยังหลวมอยู่บ้าง แต่เขาก็สามารถจัดเสื้อผ้าให้อยู่ในตำแหน่งเดิมได้โดยใช้เข็มขัดช่วยก่อนที่เขาจะออกจากบ้าน

 

เมื่อมองย้อนกลับไปที่บ้านครั้งสุดท้าย เขาพยายามท่องจำที่แห่งนี้ ซึ่งเป็นบ้านของเขา เขาไม่แน่ใจว่าเขาจะกลับมาหรือเห็นสิ่งนี้อีกหรือไม่

 

เขาออกจากพื้นที่และเดินไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่เขาจะถามใครสักคนถึงทิศทางของเอรีกัส

 

“ผมยุ่งอยู่”

 

“คุยกับคนอื่นเถอะ”

 

“ฉันไม่รู้”

 

เขาพูดคุยกับคนมากกว่า 8 คน แต่นี่เป็นคำตอบเดียวที่เขาได้รับ

 

คนที่ 9 เป็นหญิงชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ในสวนสาธารณะ เธอเป็นคนที่ตอบคำถามของเขาได้จริงๆ

 

“เอรีกัสควรอยู่ทางนั้น” หญิงชราตอบเขา ขณะที่ชี้ไปในทิศทางที่เฉพาะเจาะจง “แต่อาจต้องใช้เวลา 6 วันถ้าคุณเดินทางโดยรถยนต์”

 

ลูซิเฟอร์ทิ้งเธอไว้ข้างหลังและเริ่มเดินไปทางที่เธอชี้ไป

 

*****

 

เฮลิคอปเตอร์ทหารลงจอดใกล้บ้านของลูซิเฟอร์ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากที่เขาจากไป

 

แซนเดอร์และคนของเขาก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์เพียงเพื่อดูศพของแซคและคนอื่นๆ

 

“เป็นการสังหารหมู่” เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของแซนเดอร์พึมพำเมื่อเห็นศพ

 

แม้ว่าสมาชิกใหม่จะเพิ่งเข้าร่วมเมื่อไม่นานนี้ แต่เมื่อเห็นพวกเขาตายไป มันไม่ใช่ความรู้สึกที่ดี

 

“แม้จะได้คำตอบแล้ว เขาก็ฆ่าคนพวกนี้งั้นเหรอ” แซนเดอร์พึมพำ ขณะจ้องไปที่ร่างของแซค

 

เขาเงยหน้าขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่เขาพูด “ฉันคิดว่าคุณเป็นเด็กผู้ชายที่มีสถานการณ์ที่ไม่ถูกต้อง แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคุณเป็นแค่สัตว์ประหลาดที่รักการฆ่า วิ่งต่อไปเถอะ เจ้าหนู วิ่งไปให้ไกลที่สุด ฉันจะได้เจอคุณแน่นอน”

 

“ฉันควรจะไปตรวจดูในบ้านไหม” ฟลูเรนถามแซนเดอร์

 

แซนเดอร์หันกลับมามองฟลูเรน ขณะที่เขาตอบ “ฉันจะแปลกใจ ถ้าคุณพบเขาในบ้านจริงๆ เขาน่าจะหนีไปให้ไกลมากที่สุด เขารู้ว่าเรากำลังจะมา”

 

“ยังดีกว่าที่จะตรวจสอบภายใน เราอาจต้องปฏิบัติตามระเบียบการ” ฟลูเรนแสดงความคิดเห็น

 

แซนเดอร์เพียงพยักหน้าเป็นการอนุมัติ

 

“ไรออน เอาศพไป มาดูกันว่าเราจะรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง เขาแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคาดไว้มากจริงๆ ยังมีบางสิ่งที่เราไม่รู้” แซนเดอร์บอกชายอีกคนหนึ่งก่อนที่เขาจะเดินไปหาร่างของแซค

 

————————————————————–

ตอนที่ 34: โอเวอร์ไดรฟ์

 

เปลวไฟยังคงแผดเผาผิวของลูซิเฟอร์ ซึ่งเขาก็ยังคงรักษาได้เร็วพอๆ กับที่เปลวไฟนั้นรุนแรงน้อยลง

 

“บอกชื่อสถานที่ที่ฉันถูกเก็บไว้มาหลายปีสิ” ลูซิเฟอร์สั่งแซค ขณะที่เขาอ้าปากที่ดูแปลกประหลาด และขณะที่เนื้อเยื่อของมันไหม้และรักษาไปพร้อม ๆ กัน

 

“คุณกำลังพูดบ้าอะไร! ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ทั้งหมดที่ฉันมีคือข้อมูลที่จะจับคุณ” แซคตอบกลับ “รุ่นพี่ของฉันจะรู้เรื่องมากกว่านี้ ถ้าคุณยอมจำนน ฉันจะช่วยคุณค้นหาข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการ”

 

เขาก้าวถอยหลังต่อไป ในขณะที่อุณหภูมิโดยรอบสูงขึ้น เนื่องจากเปลวเพลิงของเขา ในขณะที่ยังคงพยายามรักษาระยะห่างของเขาไว้

 

ลูซิเฟอร์เดินไปหาแซคและปล่อยให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บ เพื่อช่วยให้การรักษานั้นทำงานไวมากขึ้น และตอนนั้นเองที่เขาสังเกตเห็นเอนฟอร์ซเซอร์นำโทรศัพท์ออกมา

 

เมื่อเขาเห็นเอนฟอร์ซเซอร์หยิบโทรศัพท์ออกมา เขาก็ค่อยๆ ยกมือขวาขึ้นและชี้ไปที่เอนฟอร์ซเซอร์ทันที

 

แซคสงสัยว่าทำไมลูซิเฟอร์ถึงชี้ไปที่เอนฟอร์ซเซอร์ และเมื่อนึกขึ้นได้ใบหน้าของเขาซีดในทันใด

 

เขาสังเกตเห็นสายฟ้าสีดำสนิทออกจากนิ้วของลูซิเฟอร์และเคลื่อนเข้าหาเอนฟอร์ซเซอร์ทันที

 

สายฟ้าสีดำเจาะหัวของเอนฟอร์ซเซอร์และฆ่าเขาในทันที เขาล้มลงกับพื้นอย่างไร้ชีวิตชีวา โทรศัพท์ในมือก็ตกลงมาพร้อมกัน

 

“ผู้บังคับบัญชา!” ชายทั้ง 3 คนตะโกน ขณะที่พวกเขาเห็นเอนฟอร์ซเซอร์ตายด้วยใบหน้าที่เป็นไปไม่ได้

 

“เขาเป็นควอต อเวคเค่น! มันเป็นไปได้อย่างไร?” ในที่สุดแซคก็สูญเสียความสงบ

 

เขาคิดว่าตราบใดที่พวกเขาอยู่ห่างจากลูซิเฟอร์ พวกเขาจะปลอดภัย แต่เขาก็มีความสามารถเช่นนั้นด้วย? ยิ่งกว่านั้น คนที่มีความสามารถถึง 4 อย่างนั้นเขาก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

“เราไม่สามารถเอาเขาไปกับเราได้แล้ว ฉันจะดึงดูดความสนใจนั้น คุณช่วยพาเพอร์เฟคโตะไปกับคุณที แล้วหนีไปซะ!” แซคบอกซูมเพราะเขาอยู่ใกล้แซคมากที่สุด

 

เพอร์เฟคโตะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ซูมเป็นคนที่สามารถอุ้มเขาได้ พวกเขาจำเป็นต้องออกไปจากที่นี่ ข้อมูลที่พวกเขาได้รับไม่ถูกต้อง

 

แซคตัดสินใจเสียสละตัวเองเพื่อให้อีก 2 คนหนีไป

 

“ฉันไม่ไป! ฉันจะไม่ทิ้งคุณไว้ข้างหลัง ถ้าเราจะถูกฆ่า เราจะตายด้วยกัน!” เพอร์เฟคโตะ ยืนยันไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะ

 

“ไอ้งี่เง่า ออกไป! เราต้องการคนที่มีชีวิตอยู่เพื่อแจ้งคนอื่น ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่!” แซคพูดกับเพอร์เฟคโตะ “เห็นได้ชัดว่าเราไม่มีข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเขา เราต้องแน่ใจว่าทุกคนรู้เรื่องนี้!”

 

ลมพัดมาถึงจุดสูงสุด ทำให้เสื้อผ้าของทุกคนปลิวไปตามลม ประกายไฟก็ลอยออกไปรอบ ๆ นี่มันดูเหมือนจะไร้ประโยชน์

 

ตาของซูมเปียกเล็กน้อย ขณะที่เขาคิดถึงแซค ที่เสียสละตัวเองเพื่อพวกเขา

 

“ไม่ต้องห่วง ฉันจะพาเขาไป!” ซูมประกาศ ขณะที่เขาวิ่งไปทางเพอร์เฟคโตะ

 

น่าเสียดายที่ลูซิเฟอร์ได้ยินแผนการของพวกเขาเช่นกัน เขายกมือขวาขึ้นอีกครั้ง ยิงสายฟ้าออกไปอีกลูก

 

“ระวัง!” แซคตะโกนสุดปอด

 

สายฟ้าฟาดอีกครั้ง มันคร่าชีวิตคนไปอีกครั้ง สายฟ้าสีดำนั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างดี มันเป็นหนึ่งในความสามารถที่แข็งแกร่งที่สุด

 

ซูมกำลังวิ่งอยู่ตอนที่สายฟ้านั้นกระทบเขา แม้กระทั่ง หลังจากที่เขาล้มลง ร่างกายของเขายังคงเลื่อนไหวอยู่ เนื่องจากโมเมนตัมที่เคลื่อนตัวไปข้างหน้า

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาเริ่มวิ่งไปทางเพอร์เฟคโตะ ในที่สุดก็ออกมาจากพายุแห่งเปลวเพลิง

 

เขาเคลื่อนไหวตามสายลม เขาปรากฏตัวต่อหน้าเพอร์เฟคโตะ ผู้ซึ่งที่ค้นพบว่าการยืนนั้นยากมากเพียงใด

 

เพอร์เฟคโตะรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป เมื่อเห็นมือที่เดินทางมาที่ใบหน้าของเขา

 

ภายในชั่วพริบตา เขาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนถนนคอนกรีตด้วยมือที่เย็นชานั้น และมันก็กำลังปิดใบหน้าของเขา ร่างกายของเขาเริ่มสลาย และภายในไม่กี่วินาที เขาก็กลายเป็นฝุ่น

 

แซคไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาถูกแช่แข็งในสถานที่ เขาต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

“ไอ้สารเลว! ฉันจะส่งแกลงนรก!” แซคคำรามราวกับว่าเขาเกือบจะเป็นบ้าไปแล้ว “ฉันไม่สนว่าฉันจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไปหรือเปล่า!”

 

เปลวเพลิงรอบตัวเขาปรากฏขึ้น มันรุนแรงกว่าสิ่งใดๆ ก่อนหน้านี้มาก

 

กล้ามเนื้อของเขาเริ่มโปน เมื่อร่างกายของเขาใหญ่ขึ้น

 

“ฉันจะตาย หลังจากใช้สิ่งนี้ แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถนำสัตว์ประหลาดไปด้วยได้” แซคพึมพำขณะหลับตา

 

“โอเวอร์ไดรฟ์!”

 

เสียงแผ่วเบาออกจากริมฝีปากของเขา

 

เขาลืมตาขึ้น ซึ่งกำลังแดงระเรื่ออยู่ในขณะนี้ ร่างกายของเขายังเปลี่ยนเป็นสีแดง ทำให้เขาไม่เหมือนมนุษย์และเหมือนอย่างอื่นมากกว่า

 

“ตายเพื่อฉันซะ!” เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะยกมือขวาไปทางลูซิเฟอร์

 

คลื่นเปลวเพลิงออกมาจากมือของเขาพุ่งเข้าหาลูซิเฟอร์

 

เปลวเพลิงของเขาเป็นสีแดงดุจเปลวไฟแห่งนรกในตอนนี้และมีพลังมากกว่าเมื่อก่อนมาก เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขารับพลังแบบนี้ไม่ได้ และมันก็เริ่มแตกสลาย แต่แซคไม่สนใจ

 

“โอเวอร์ไดรฟ์งั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์รู้สึกสับสน

 

โอเวอร์ไดรฟ์คืออะไร? แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร แต่เขาก็เห็นได้ชัดเจนว่ามันทำให้แซคแข็งแกร่งขึ้น

 

“ตายซะ!”

 

เปลวไฟนรกเคลื่อนเข้าหาลูซิเฟอร์และเผาเขาให้เป็นชิ้นๆ ร่างกายของเขาเผาไหม้อย่างรวดเร็วจนกระโหลกศีรษะบางส่วนเผยออกมา

 

แม้ว่าการรักษาของเขาจะพยายามช่วยเขา แต่สถานการณ์ก็ดูเลวร้ายมาก เนื่องจากการทำลายล้างนั้นเร็วกว่าการรักษาในครั้งนี้มาก

 

โชคดีที่ไฟไม่ได้อยู่นาน

 

ลูซิเฟอร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อไฟหยุดลง ขณะที่แซคล้มลงกับพื้น

 

ร่างกายของเขายังคงอยู่บนพื้นแบบคนไม่มีชีวิตชีวา

 

เขาเสียชีวิตแล้ว สิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นก่อนตายคือคนที่ถูกไฟไหม้อย่างน่ากลัว ซึ่งร่างกายของเขาหายดีต่อหน้าต่อตาเขาอย่างช้าๆ

 

‘สัตว์ประหลาด’ เป็นคำพูดสุดท้ายที่หลุดจากปากของเขา ก่อนที่ลมหายใจของเขาจะหยุดลง

 

ลูซิเฟอร์ใช้เวลา 2-3 นาทีก่อนที่เขาจะหายเป็นปกติ

 

ลูซิเฟอร์ถอนใจออกจากริมฝีปากของเขา ขณะที่เขามองดูศพของแซค

 

“ฉันคิดว่าจะรักษาชีวิตของเขาไว้ได้สำหรับข้อมูลของฉันซะอีก แต่ฉันคิดว่าคงต้องรออีกนาน” เขาพึมพำด้วยความผิดหวัง

 

เหตุผลเดียวที่เขาไม่ได้โจมตีแซค ในท้ายที่สุดก็คือการขอข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่นี้จากเขา แต่เขาก็จากไปแล้วเช่นกัน

 

ลูซิเฟอร์มองไปที่บ้านและเริ่มเดินไปหาเสื้อผ้า ขณะที่สังเกตเห็นถุงมือสีดำคู่หนึ่งวางอยู่ไกลๆ

 

ขณะที่เสื้อผ้าของเขาถูกไฟไหม้ ถุงมือก็ตกลงมาและรอดชีวิตจากไฟได้เพราะทำจากวัสดุกันไฟ

 

เขาหยิบถุงมือและสวมมันขณะเดินไปที่บ้าน

 

ครืดด! ครืดดด!

 

ขณะที่เขาเดินไปที่บ้าน เขาได้ยินเสียงที่รู้สึกเหมือนโทรศัพท์ดังขึ้น

 

เขาหันกลับมาพบว่ามีเสียงมาจากร่างของแซค เขาเริ่มเดินไปที่ร่างของแซค

 

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา

 

————————————————————–

ตอนที่ 33: ความมืดโผล่ออกมา

 

ซูมหันกลับมา เมื่อเห็นแซคเดินผ่านเขาไป

 

พวกเขาทั้งสองควรจะอยู่ห่างจากผู้ชายคนนี้ ขณะที่พวกเขาต่อสู้ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงเข้ามาแทนที่? เขาเสียสติ หลังจากเห็นเด็กชายหายเป็นปกติหรือไม่?

 

“อะไรนะ-” ซูมกรีดร้องด้วยความรำคาญเล็กน้อย แต่ปากของเขาเปิดขึ้น เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

 

การแสดงออกที่น่าตกใจของเขาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอย่างรวดเร็ว

 

“ก็ใช่น่ะสิ ทำไมฉันถึงต้องกังวลล่ะ” เขาหัวเราะเยาะ เมื่อเห็นภาพที่ทำให้เขาพอใจ

 

เขาเห็นแซคยืนอยู่ข้างหน้าเขา ยกมือขวาไปทางลูซิเฟอร์

 

เขาได้สร้างพายุแห่งเปลวเพลิงที่โอบกอดลูซิเฟอร์ไว้ และเผาร่างกายของเด็กน้อยอย่างช้าๆ

 

“ความสามารถทุกอย่างไร้ค่า เมื่อคุณเป็นขี้เถ้า” เพอร์เฟคโตะบ่นอยู่ไกลๆ เมื่อเขาเห็นสิ่งที่แซคพยายามทำ

 

พวกเขาไม่เข้าใจความสามารถของลูซิเฟอร์ ในกระบวนการที่เขาสามารถรักษาตัวเองได้หรือข้อจำกัดของการรักษานั้นคืออะไร แต่สิ่งที่พวกเขารู้ก็คือไม่มีการรักษาใดที่สามารถทำได้ เมื่อคนๆ หนึ่งเป็นเถ้าถ่าน

 

นั่นคือสิ่งที่แซคใช้พลังของเขา เขาต้องการเผาลูซิเฟอร์ให้เป็นเถ้าถ่านทันที

 

สิ่งนี้ดำเนินไปนานเกินไป แม้ว่าพวกเขาจะมาที่นี่เพื่อจับลูซิเฟอร์ สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นก็ทำให้พวกเขารู้ว่าการฆ่าเด็กนั้นปลอดภัยกว่าการจับเขา ความสามารถแปลก ๆ ของลูซิเฟอร์ทำให้ความเชื่อมั่นของพวกเขาแข็งแกร่งมากขึ้น

 

พายุไฟที่รุนแรงล้อมรอบลูซิเฟอร์ ดูเหมือนจะมีเปลวไฟมากจนมองไม่เห็น แม้แต่เงาของลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์ถูกล้อมรอบด้วยเปลวไฟที่รุนแรงที่สุด ผิวของเขาไหม้แต่ก็หายเร็วขึ้น ที่จริงแล้ว แม้แต่ตาขวาของเขาก็หายเป็นปกติ

 

“ตอนนี้เขาน่าจะกลายเป็นเถ้าถ่านได้แล้ว” เพอร์เฟ็คโตะบอกกับแซค หลังจากนั้นไม่นาน “คุณควรหยุดเดี๋ยวนี้”

 

แซคพยักหน้า ขณะที่กำหมัดและก้มศีรษะลง

 

“เขาอันตรายกว่าที่เราคาดไว้ ความเร็วของเขาเกือบจะเร็วเท่ากับความเร็วของซูม ช่างเป็นตัวแปรที่แปลกจริงๆ…” แซคพึมพำ ขณะจ้องมองไปที่พายุที่เริ่มคลายตัวลง

 

“เขาไม่ใช่แวเรียนท์ปกติ… แต่เขาเป็นวอร์ล็อค” เอนฟอร์ซเซอร์แก้ไขให้แซค

 

บังเอิญเป็นช่วงที่เปลวเพลิงของพายุคลายออกมาเผยให้เห็นผลของการกระทำของแซคทันที

 

และสิ่งที่เปิดเผยนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

 

พวกเขาเห็นคนยืนอยู่บนจุดที่พายุไฟโหมกระหน่ำจนกระทั่งครู่หนึ่ง

 

เสื้อผ้าของเด็กชายถูกไฟไหม้จนหมด ไม่มีอะไรปิดบังเขา แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ

 

ดวงตาของเขายังคงจับจ้องที่แซค ซึ่งยืนอยู่ใกล้เขา

 

“ขะ- เขายังสบายดีอยู่เหรอ!” เอนฟอร์ซเซอร์อุทานด้วยใบหน้าที่หวาดกลัวของเขา “ผู้ชายคนนี้คืออะไร ใครก็ได้ ช่วยบอกทีว่าฉันกำลังฝัน”

 

“ไม่เว้นแต่เราทั้งคู่จะมีความฝันเดียวกัน” เพอร์เฟคโตะบ่น ขณะส่ายหัว เพราะเขาไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วควรรู้สึกอย่างไร ณ จุดนี้

 

“เขามีพลังของการรักษาที่เป็นไปไม่ได้ หรือเขาใช้การเอาตัวรอดอะไรกัน ไม่มีทาง เขาไม่ได้อยู่ยงคงกระพันใช่ไหม เขาเป็นพระเจ้าหรืออะไรทำนองนั้นหรือเปล่า?” ผู้บังคับบัญชาถาม ฟังดูจริงจังอย่างยิ่ง

 

“ฉันหวังว่าจะไม่” เพอร์เฟคโตะพูดออกมา ในขณะที่เขายิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

 

“เพราะถ้าเป็นเรื่องจริง เราก็แค่กำลังยุ่งกับเรื่องของพระเจ้า… หรือของปีศาจ” เขากล่าวเสริม

 

“ฉันกำลังคิดอะไรอยู่ เขาเป็นแค่วอร์ล็อคและเราทุกคนรู้ดีว่าทุกความสามารถต้องมีข้อจำกัดที่เราไม่เคยบอกคนอื่น ของฉันก็มีและของคุณเช่นกัน การรักษาของเขาควรมีข้อจำกัดเช่นกัน!” ผู้บังคับอธิบายเสริม

 

แซคกำลังจ้องมองเข้าไปในดวงตาของลูซิเฟอร์ รู้สึกเหมือนกำลังมองลงไปในเหวลึก

 

เขารู้สึกเหมือนกำลังหลงทาง เขาควรจะทำอะไร? เมื่อถึงจุดนั้นเองที่เขาได้ยินเกี่ยวกับข้อจำกัด

 

“ฉันเข้าใจแล้ว ทำไมฉันไม่คิดถึงมันเลย! ไม่มีความสามารถใดที่ไร้ข้อบกพร่องอย่างแท้จริง” แซคพูดออกมา ขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกาย

 

เขารีบสั่งเพอร์เฟคโตะ “ยิงทุกส่วนของร่างกายเขา มันต้องมีจุดอ่อนในร่างกายของเขาอยู่แน่ บางทีส่วนที่การรักษาของเขา อาจจะไม่ครอบคลุมหรือการรักษานั่นอาจจะมีจำนวนจำกัด?”

 

เมื่อเขากล่าวเช่นนี้ เขาก็ได้สร้างพายุแห่งไฟขึ้นอีกครั้ง เพื่อให้ลูซิเฟอร์โดนการโจมตีทั้งหมด

 

นั่นไม่ใช่จุดที่เขาหยุดด้วยคำสั่งของเขา เขายังสั่งคงบังคับบัญชา

 

“ผู้บังคับบัญชาครับ เรียกหัวหน้าที! บอกให้พวกเขามาที่นี่ด่วน เราไม่สามารถจัดการเขาคนเดียวได้”

 

เพอร์เฟคโตะปฏิบัติตามคำสั่งและเล็งปืนไปที่ลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาเริ่มทำการยิง

 

แม้ว่าเขาจะไม่มีกระสุนต้นแบบอีกต่อไป กระสุนที่เขามีอยู่ก็ควรจะมีประสิทธิภาพเช่นกัน ถ้าเขาสามารถหาจุดอ่อนของลูซิเฟอร์ที่ความสามารถของเขาไม่ครอบคลุมได้ ไม่ว่าในกรณีใด มันจะบังคับให้ลูซิเฟอร์ใช้การรักษามากขึ้น บางทีนั่นอาจจะทำให้เขาหมดแรง

 

เขาไม่ได้กำหนดเป้าหมายเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของลูซิเฟอร์ แต่มุ่งเป้าทุกส่วนอย่างน้อย 1 ครั้ง รวมทั้งข้อศอก เข่า หน้าอก ท้อง หัว และอื่นๆ

 

เพื่อให้แน่ใจว่าเพอร์เฟคโตะสามารถเห็นลูซิเฟอร์ได้ แซคจงใจรักษาเปลวเพลิงของเขาให้รุนแรงน้อยลงเล็กน้อย เพื่อทำให้ลูซิเฟอร์มองไม่เห็นเมื่อเขาอยู่ในกองเพลิง

 

ลูซิเฟอร์ไม่หลบกระสุนใด ๆ และปล่อยให้กระสุนทั้งหมดกระทบร่างกายของเขา แต่บาดแผลหายในทันที กระสุนธรรมดาก็ไร้ประโยชน์ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีการโจมตีอีกมาก

 

เขาสังเกตเห็นว่ายิ่งเขาได้รับความเสียหายมากเท่าไร เขาก็ยิ่งหายเร็วขึ้นเท่านั้น ราวกับว่าความสามารถในการรักษาของเขาดีขึ้นด้วยความเสียหาย นั่นคือเหตุผลที่เขายอมให้ตัวเองถูกโจมตีมากขึ้นไปอีก ถ้ามันเป็นวิธีที่จะรักษาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น มันก็คุ้มค่า

 

เขายังเริ่มเดินไปหาแซค ที่ก้าวถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่าง

 

“เอาเลย! เอาพลังที่น่ารำคญนั่นออกไปซะ!” แซคร้องออกมาด้วยความโกรธ

 

ในไม่ช้าเขาก็ก้าวออกจากบ้าน ขณะที่เขาก้าวถอยหลัง ลูซิเฟอร์ก็ก้าวออกจากบ้าน ตามเขาไป แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้รีบร้อนอะไร

 

ราวกับว่ามีบางส่วนของเขาที่สนุกกับมัน เขาใช้เวลาอันแสนหวานราวกับว่าเขากำลังพยายามทรมานจิตใจพวกเขา ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเขาเอง

 

มีความพึงพอใจที่แตกต่างกัน เมื่อได้เห็นการแสดงออกเหล่านี้บนใบหน้าของคนที่คิดว่าชีวิตของพวกเขามีค่ามากขึ้น พวกที่คิดว่าจะฆ่าใครก็ได้ มันน่าสนใจจริงๆ

 

… ยังมีต่อ

 

————————————————————–

ตอนที่ 32: ขัดกับคำสั่ง

 

“เฮ้อ ฉันมีกระสุนต้นแบบใหม่เพียงอันเดียวที่ห้องแล็บมอบให้เรา น่าเสียดายจริง ๆ ที่จะใช้กับเด็กคนนี้” เพอร์เฟคโตพึมพำด้วยความผิดหวัง ขณะจ้องมองไปที่ปืนในมือ

 

ห้องทดลองของ APF ได้สร้างกระสุนรูปแบบใหม่โดยคำนึงถึงรูปแบบต่างๆ

 

แวเรียนท์บางคนนั้นแข็งแกร่งและสามารถอยู่รอดได้นาน แม้จะถูกยิงก่อนที่จะตายจริงๆ เพราะอะดรีนาลีนและยีนแปรผันของพวกเขาเอง

 

กระสุนเหล่านี้ทำงานเพื่อฆ่าพวกเขาให้ได้โดยทันทีโดยที่ไม่ให้พวกเขายืนได้แม้แต่วินาทีเดียว มีการกล่าวกันว่ากระสุนนี้สามารถใช้งานได้ เพราะมันทำมาจากส่วนผสมของกระสุนธรรมดากับวัสดุพิเศษบางอย่าง ที่ทำงานเพื่อส่งความเจ็บปวดอย่างรุนแรงในเส้นประสาทของแวเรียนท์ทันทีเพื่อให้พวกเขาไม่สามารถยืนขึ้นได้ในทันที

 

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำงานแยกจากกัน แต่เมื่อรวมกันเป็นหนึ่ง พวกเขาสามารถฆ่าใครก็ได้ทันทีที่กระสุนเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าขนาดของพวกเขาจะใหญ่แค่ไหน

 

เฉพาะรุ่นต่างๆ ของ APF เท่านั้นที่สามารถใช้ปืนเท่านั้นที่ได้รับต้นแบบกระสุนเหล่านี้ ขณะที่ยังดำเนินการอยู่

 

“ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่ฉันจะได้รับกระสุนพวกนี้ มันจะอีกนานแค่ไหนกัน?” เขาสงสัย

 

เนื่องจากเขาใช้กระสุนพิเศษไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงกระสุนธรรมดาเท่านั้นที่อยู่กับเขา

 

****

 

ซูมเอื้อมมือไปแตะแขนของลูซิเฟอร์เพื่อลากเขา แต่ก่อนที่เขาจะทำได้ เขาเห็นมือของลูซิเฟอร์กระตุกเล็กน้อย

 

ด้วยความตกใจกับการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน เขาก้าวถอยหลังทันที แต่หยุดลง เมื่อเห็นว่ามันเป็นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย ลูซิเฟอร์ไม่เคลื่อนไหวหลังจากนั้น อาจเป็นเพียงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิตจริงๆ

 

ไม่ว่าในกรณีใด เขาเคยเห็นลูซิเฟอร์ถูกยิงเข้าที่ตา การอยู่รอดของเขาเป็นไปไม่ได้

 

เขายังคงรอสักครู่เพื่อให้แน่ใจว่าเขาคิดถูก

 

หลังจากแน่ใจว่าลูซิเฟอร์จะไม่ขยับอีก เขาก็ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ขณะที่เอื้อมมือไปทางเด็กที่ไม่เคลื่อนไหว

 

มือของเขากำลังจะแตะลูซิเฟอร์ เมื่อเขาเห็นลูซิเฟอร์เงยหน้าขึ้นทันที ใบหน้าที่ไม่มีตาขวาจ้องไปที่ซูม ซึ่งดูเหมือนเขาเห็นผีในทันใด

 

เขาก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็วจนเขาล้มลง

 

“เขายังมีชีวิตอยู่!” ซูมกรีดร้องอย่างสุดกำลัง

 

หลังจากที่เขากรีดร้อง เขาก็รู้ว่ามันน่าอายขนาดไหน เขากรีดร้องเพราะเด็กคนนั้น

 

เสียงกรีดร้องของเขาสามารถดึงดูดความสนใจของแซคและคนอื่นๆ ที่มองมาทางเขาเช่นกัน

 

*****

 

ลูซิเฟอร์วางฝ่ามือทั้งสองลงบนพื้น ขณะที่เขาดันตัวเองขึ้น

 

ขณะนี้เขามีตาเพียงข้างเดียว แต่ตาที่ 2 ของเขาก็ดูเหมือนจะหายเป็นปกติ อย่างน้อยก็ไม่มีรูทะลุผ่านแล้ว เส้นประสาทบางส่วนสามารถเห็นได้มันบิดเบี้ยวและกำลังจะเชื่อมต่อกับสถานที่ที่เหมาะสมของมันเองในขณะที่ศีรษะของเขาหายเป็นปกติ

 

ซูมยังคงตกใจ พลางอ้าปากกว้างกับสิ่งที่เห็น เขาไม่อยากเชื่อเลย เด็กคนนี้กำลังรักษาตัวอยู่จริงๆ

 

ไม่ใช่ว่าลูซิเฟอร์กำลังเผชิญกับอะดรีนาลีนที่มากเกินไปหรือว่าเด็กคนนี้กำลังดิ้นรนที่จะยืน แม้จะถูกยิง แต่เด็กคนนี้กำลังหายเป็นปกติต่อหน้าต่อตาพวกเขา

 

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่แซคและคนอื่นๆ ก็ไม่เชื่อเช่นกัน พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นไปได้เช่นนี้

 

สำหรับลูซิเฟอร์ สิ่งที่พวกเขารู้เกี่ยวกับเด็กคนนี้นั่นก็คือเขามีพละกำลังและพลังแห่งการเน่าเปื่อย นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาตัดสินใจที่จะรักษาระยะห่างและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น

 

ความแข็งแกร่งและการเน่าเปื่อยนั้นไร้ประโยชน์ตราบใดที่ลูซิเฟอร์ไม่สามารถเข้าใกล้ได้ แต่การได้เห็นเขารักษาตัวเองได้นั้นเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

“เอ่อ พวกนายเห็นอย่างที่ฉันเห็นด้วยเหรอ?” ริมฝีปากของผู้บังคับบัญชาขยับ ขณะที่เขาถามอย่างไม่เชื่อ

 

“ถ้าคุณเห็นดวงตาของเขาหายเป็นปกติ ฉันก็เห็นสิ่งที่คุณเห็น” เพอร์เฟคโตะพึมพำ โดยไม่รู้ว่าเขาควรจะประหลาดใจที่ได้เห็นสิ่งพิเศษเช่นนี้หรือไม่ หรือต้องเสียใจที่สิ่งนี้อยู่กับศัตรู

 

คนที่พวกเขาควรจะจับสามารถรักษาตัวเองได้ แม้หลังจากถูกกระสุนต้นแบบยิง นั่นไม่ใช่ข่าวดี

 

“นั่นไม่ใช่กระสุนธรรมดาใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถาม พลางมองไปทางเพอร์เฟคโตะที่ยืนอยู่ไกลๆ โดยไม่สนใจ ซูม “มันรู้สึกแตกต่างจากครั้งที่แล้วจริงๆ”

 

“ซูม! วิ่งกลับมาหาเราเดี๋ยวนี้!” แซคคำราม ออกคำสั่งให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ซูมอยู่ใกล้ลูซิเฟอร์ที่สุด นั่นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เขาจำเป็นต้องสร้างระยะห่างก่อนที่ลูซิเฟอร์จะตามเขาไป

 

เขาไม่ได้หยุดเพียงแค่การบังคับบัญชา เขาวิ่งเข้าไปในบ้านแทนซูม

 

ครั้งนี้ซูมไม่รอช้า ครั้งที่แล้วเขาได้เรียนรู้บทเรียนของเขาแล้ว และตอนนี้เขาก็เต็มใจที่จะฟังคำสั่ง

 

มันไม่ใช่เวลาที่ต้องออกโรงไปคนเดียว และลูซิเฟอร์ไม่ใช่ศัตรูที่เขาอยากจะอยู่ใกล้ เด็กอายุ 11 ปีที่ดูเหมือนสัตว์ประหลาดสำหรับเขา ซึ่งเขาไม่สามารถจัดการคนเดียวได้

 

ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่คือการฟังคำสั่งและต่อสู้ไปด้วยกัน

 

เขารีบหันหลังและเริ่มวิ่งโดยใช้ความสามารถของเขาอย่างเต็มที่

 

เพอร์เฟคโตะไม่ตอบลูซิเฟอร์ แต่ลูซิเฟอร์ไม่สนใจ ความสนใจของเขาเปลี่ยนไปที่ซูม ซึ่งกำลังวิ่งหนี

 

เขาเริ่มวิ่งตามซูมเช่นกัน และไม่ได้พยายามจะจับเขาจริงๆ เป้าหมายที่แท้จริงของเขายังคงเป็นแซค ซึ่งกำลังวิ่งไปในทิศทางของเขา ซึ่งคาดว่าจะช่วยซูม

 

แซคเป็นผู้นำและเป็นผู้ที่มีคำตอบที่เขาต้องการ

 

“คุณจะวิ่งไปหาเขาทำไม! เกิดอะไรขึ้นกับคำสั่งที่ให้อยู่ห่างจากเขา!” ซูมคำรามใส่แซค ขณะที่เขาเดินผ่านแซคไป

 

แซคเองได้บอกให้พวกเขาอยู่ห่างจากลูซิเฟอร์ และตอนนี้เขากำลังวิ่งไปหาผู้ชายคนนั้นเองงั้นหรือ?

 

ซูมหยุดลง เมื่อเขาหันหลังกลับ แซคเข้าใกล้ลูซิเฟอร์มากขึ้นในตอนนั้น

 

————————————————————–

ตอนที่ 31: การลงโทษ

 

แซคดูหมดหนทาง เมื่อเขามองซูมที่กำลังเข้าไปใกล้ลูซิเฟอร์

 

ทั้ง 4 คนเพิ่งเข้าร่วม APF ไม่มีใครเคยทำงานร่วมกันมาก่อน ดังนั้นนี่จึงเป็นภารกิจแรกของพวกเขาที่ต่อสู้ร่วมกัน น่าเสียดายที่มันไม่เป็นไปตามแผน

 

ความเย่อหยิ่งและความเขลาของซูม ทำให้เขาเพิกเฉยต่อทุกสิ่งที่พวกเขาได้รับการสอนระหว่างการฝึก และแซคทำอะไรไม่ได้นอกจากเฝ้าดู

 

ในทางกลับกันเอนฟอร์ซเซอร์ได้ออกไปช่วยเพอร์เฟคโตะแล้ว

 

****

 

หมัดของลูซิเฟอร์แตะหน้าอกของซูมพร้อมๆ กับที่การเตะของซูมสัมผัสลงบนใบหน้าของลูซิเฟอร์

 

น่าเสียดายสำหรับเขา คราวนี้ลูซิเฟอร์เตรียมพร้อมมากขึ้น พลังอันบริสุทธิ์ไหลผ่านร่างกายของเขา ซึ่งเขาใช้มันเพื่อให้เขาสามารถยืนอย่างมั่นคงบนพื้น

 

ทั้งขาและหมัดฟาดเข้าหาพร้อมๆกัน แต่ผลลัพธ์ก็ต่างกันสำหรับทั้งคู่ เนื่องจากซูม ถูกเหวี่ยงกลับเหมือนก้อนหิน เพราะความแข็งแกร่งอันโหดร้ายของลูซิเฟอร์

 

ในทางกลับกัน ลูซิเฟอร์ได้รับความเดือดร้อนเล็กน้อย ในขณะที่เขาสูญเสียการทรงตัวอีกครั้งแม้จะพยายามยืนให้มั่นคง แต่ความเสียหายที่ใบหน้าของเขานั้นน้อยลงมาก และได้รับการรักษาในทันที

 

ถึงกระนั้น แซคในตอนนี้ก็ไม่ยอมให้ซูมต้องทนทุกข์แบบเดียวกับเพอร์เฟคโต เขาก็ไม่อยากให้ตนเองถูกไล่ออกเช่นกัน ตอนนี้เขามีโอกาสแล้ว มันเป็นการดีกว่าที่จะฉวยโอกาส

 

เขาเริ่มวิ่งตามซูม ซึ่งถูกเหวี่ยงกลับมาอย่างควบคุมไม่ได้

 

“ไม่ทันแล้ว” ในที่สุดแซคก็ก้าวออกไปข้าง ๆ และปล่อยให้ซูมลอยผ่านไปก่อนจะล่วงลงกับพื้น

 

ซูมเพิ่งลอยผ่านแซคไป เขาโบยบินไปโดยไร้ซึ่งความประสงค์ของเขาเอง ลูซิเฟอร์ไล่ตามเขาไปต่อ เมื่อแซคตกลงสู่พื้น

 

กำแพงแห่งเปลวเพลิงออกมาจากจุดที่หมัดของแซคตกลงไป เพลิงนั้นกระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง

 

มันสร้างกำแพงเพลิงขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ลูซิเฟอร์ไล่ตามซูม ขณะที่เขาถอยห่างออกไปเล็กน้อย เพื่อสร้างระยะห่างจากลูซิเฟอร์ ซึ่งเข้ามาใกล้

 

ลูซิเฟอร์เห็นกำแพงเพลิง แต่เขาไม่ได้หยุดหรือดูกลัว แม้จะมีกำแพงเพลิงที่โหมกระหน่ำอยู่ในเส้นทางของเขา ความมั่นใจในการรักษาของเขาก็ยังท่วมท้น เมื่อเขาวิ่งเข้าไปในกำแพงแห่งเปลวเพลิงโดยไม่หยุดยั้ง

 

แซคผู้ไม่คาดคิดถึงสิ่งนี้ เป็นคนที่ใกล้ชิดกับลูซิเฟอร์มากที่สุด ขณะที่เขาเดินผ่านกำแพงแห่งเปลวเพลิง

 

ใบหน้าของเขาดูตกตะลึง เมื่อเขาไม่คาดคิดว่าลูซิเฟอร์จะไม่สนใจชีวิตของเขา ด้วยความตกใจ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาต้องวิ่งไปไหน

 

ลูซิเฟอร์สังเกตว่าแซคเข้าใกล้เขามากขึ้นและเปลี่ยนเป้าหมายเป็นเขา

 

ภายในชั่วพริบตา เขาจับแซคและเอื้อมมือซ้ายไปจับที่คอของเขา

 

เขากำลังจะจับคอของแซค เมื่อกระสุนพุ่งมาจากระยะไกลและทะลุเข้าไปในตาขวาของเขา ทิ้งรูไว้ตรงที่ดวงตาของเขาทันที

 

ลูซิเฟอร์คุกเข่าลง ในที่สุดก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แตกต่างจากที่เขาเคยรู้สึก มันเทียบไม่ได้กับสิ่งที่เขาเผชิญในโรงงาน แต่ก็ยังคงสูงกว่าที่เขาเผชิญ หลังจากออกจากสถานที่นั้น

 

กระสุนนี้คืออะไร? เขาเคยถูกยิงมาก่อน แต่ไม่มีกระสุนนัดใดที่ดูเหมือนจะเป็นอันตรายถึงชีวิตที่จะฉุดเขาลงมาได้

 

ร่างกายของเขาสูญเสียกำลังทั้งหมด ในขณะที่เขาล้มลงกับพื้น ขยับไม่ได้ เขานอนเหมือนศพอยู่บนพื้น ขณะที่เลือดไหลออกจากเบ้าตาของเขา

 

แซคจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ ซึ่งนอนอยู่บนพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว

 

“เฮ้อ ภารกิจแรกของเรา และเราไม่สามารถเอาชีวิตศัตรูของเราไปได้ แม้ว่าเขาจะยังเด็ก ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีหน้าไปแสดงให้พวกระดับสูงเห็นแล้ว” เขาพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เขาถอนหายใจ

 

เขาหันกลับมาดูว่าสมาชิกในทีมที่เหลือของเขาเป็นอย่างไร นอกบ้าน เขาเห็นเพอร์เฟคโตะ ยืนสนับสนุนอยู่กับเอนฟอร์ซเซอร์ซึ่งตอนนี้เขาได้ถือปืนอยู่ในมือของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนยิงมันออกมา

 

ในทางกลับกัน ซูมกำลังไอ ขณะที่เขาลุกขึ้นนั่ง ขณะจับหน้าอก

 

“คุณสบายดีหรือเปล่า?” แซคถามเพอร์เฟคโตะ

 

“อืม ฉันปกติดี ฉันคิดว่ากระดูกหน้าอกของฉันคงร้าวนิดหน่อย” เพอร์เฟคโตะบอกกับแซค ขณะที่เขาลูบหน้าอกด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด

 

“ใช่ ขอโทษที่ยิงเขา ฉันเห็นเขาพุ่งเข้าหาคุณ และดูเหมือนว่าชีวิตคุณอาจจะตกตกอยู่ในอันตราย นี่เป็นทางเลือกเดียวที่ฉันคิดได้” เขากล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงขอโทษ

 

“อย่ากังวลไปเลย คุณอาจช่วยชีวิตฉันได้ มันเป็นความผิดของฉันเองที่ยืนนิ่งแบบนั้น เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝัน ฉันจะอธิบายสถานการณ์ให้ท่านผู้นำทราบ” แซคตอบ

 

“แล้วคุณล่ะ?” เขาเลื่อนสายตาไปที่ซูมแล้วถาม “คุณเป็นอย่างไร?”

 

“ไม่ต้องทำหน้าเกรงใจขนาดนั้น ฉันรู้ว่าฉันทำพลาด ฉันขอโทษ” ซูมบอกกับแซค ขณะยืนขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดีกว่าเพอร์เฟคโตะ

 

“ไม่เป็นไร ฉันเดาว่าตอนนี้ยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ แต่คราวหน้าอย่าทำอีก” แซคพูดพาดพิงถึงซูม ขณะที่เขาส่ายหัว

 

“อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการลงโทษ คุณจะเป็นคนส่งศพของเขาไปที่รถ” เขากล่าวเสริม ขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ทางออก

 

ซูมลูบหัวด้วยความรำคาญเพราะเขาไม่อยากเคลื่อนย้ายศพ แต่แท้จริงแล้วเขาทำพลาด และความผิดพลาดของเขาอาจทำให้ใครบางคนเสียชีวิตได้

 

เขาทำได้แค่ทำโทษให้เสร็จและหวังว่าแซคจะเกรงใจมากพอ ที่จะไม่บอกหัวหน้าเกี่ยวกับความผิดพลาดของเขา

 

ซูมเข้าหาลูซิเฟอร์และเดินผ่านแซค ซึ่งกำลังเดินออกจากบ้านไป

 

ขณะที่แซคกำลังก้าวๆแรกออกจากบ้าน ซูมก็ไปถึงลูซิเฟอร์

 

เขาจ้องไปที่เด็กคนนั้น ในขณะที่เขาพูดด้วยความรำคาญ “เห็นไหม เจ้าหนู ถ้าเจ้าไม่หยิ่งยโสขนาดนี้ เจ้าคงไม่ตาย เจ้าควรฟังคำสั่งของเรา”

 

“ตอนนี้เจ้าสามารถตกนรกได้ เจ้าต้องขอบคุณตัวเองเท่านั้น” เขากล่าวเสริม ขณะที่เอื้อมมือไปจับแขนของลูซิเฟอร์เพื่อลากเขาออกไป

 

————————————————————–

ตอนที่ 30: ความไว้วางใจ

 

เพอร์เฟคโตะเอานิ้วเข้าไปใกล้ไกปืนเพื่อทำให้ลูซิเฟอร์สงบสติอารมณ์ น่าเสียดายที่สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

 

ก่อนที่เขาจะสัมผัสไกปืนได้ บางอย่างก็เปลี่ยนไป

 

ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ลูซิเฟอร์ ซึ่งได้เพิ่มความเร็วของตัวเองจนไปถึงประตูโดยที่เขาไม่ได้คาดคิด ซึ่งมนุษย์ปกติทำไม่ได้

 

ลูซิเฟอร์ไม่เพียงแต่ใช้พลังพิเศษเพื่อพุ่งเข้าไปเท่านั้น แต่เขายังใช้ลมเพื่อกระตุ้นความเร็วให้มากขึ้น

 

แม้ว่ามันจะไม่ได้ไร้ที่ติ แต่ก็ยังเพียงพอที่จะทำให้เขาเข้าใกล้ในระยะระหว่างเขากับเพอร์เฟคโตะ ภายในชั่วพริบตา

 

นิ้วของเพอร์เฟคโตะเพิ่งแตะไกปืน แต่ก่อนที่เขาจะดึงมันได้ เขาก็พบหมัดของลูซิเฟอร์ต่อหน้าต่อตาเขา

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จนไม่มีใครมีโอกาสที่จะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแม่นยำ และเมื่อหมัดแตะหน้าอกของเพอร์เฟคโตะ มันจึงทำให้เขาลอยกลับไปเหมือนตุ๊กตาที่หักออก

 

ขณะที่เพอร์เฟคโตะถูกโยนกลับอย่างช่วยไม่ได้ เขาก็ข้ามทางเข้าบ้านออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้ประตูได้เปิดทิ้งไว้ และเพอร์เฟคโตะกระแทกกับพื้นข้างนอก ขณะที่เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก

 

เขาสัมผัสได้ว่าหน้าอกของเขาแตกออก นั่นคือสิ่งที่เขารู้สึกได้ในตอนนี้

 

“หยุด!”

 

ซูมเป็นคนแรกที่ตอบสนองในสถานการณ์นี้ เมื่อเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น

 

โดยไม่ต้องรอคำสั่งใดๆ เขาวิ่งไปหาลูซิเฟอร์ด้วยความเร็วที่เร็วเกินกว่าที่มนุษย์จะทำได้

 

เขาปรากฏตัวต่อหน้าลูซิเฟอร์ในชั่วพริบตา ขณะที่เขาเตะไปที่คอของลูซิเฟอร์ เขาไม่สนใจว่าลูซิเฟอร์ยังเป็นเด็ก สำหรับเขาแล้ว พวกเขาถูกโจมตีก่อน และจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยกำลัง แม้ว่านั่นจะหมายถึงการทำร้ายเด็กก็ตาม

 

****

 

“คุณหมายถึงว่าคุณส่ง 4 คนนั้นไปดูแลเด็กคนนั้นเหรอ?”

 

ในเฮลิคอปเตอร์ที่บินไปในทิศทางของเมืองลีเจี้ยน สมาชิกชั้นนำของเดลต้า สควอตก็กำลังนั่งอยู่

 

ฟลูเรนมองแซนเดอร์ด้วยความไม่เชื่อ เมื่อเขาได้ยินว่าแซนเดอร์มีความคิดเกี่ยวกับที่อยู่ของลูซิเฟอร์ และเขาได้ส่งแซคและทีมของเขาเข้าไปที่นั่น

 

“ใช่ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?” แซนเดอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

 

“พวกเขาเป็นเด็ก! พวกเขาเพิ่งเข้าร่วมทีมของเราเอง พวกเขาไม่มีประสบการณ์จริงในการต่อสู้กับศัตรูตัวจริง!” ฟลูเรนแจ้งแซนเดอร์

 

“อย่ากังวล ฉันรู้ว่าพวกเขาเป็นสมาชิกใหม่และในหมู่สมาชิกที่อ่อนแอที่สุดของเรา แต่พวกเขาก็เป็นคนกลุ่มเดียวในเมืองนั้น เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ฉันต้องลงมือแล้ว นั่นคือเหตุผลที่ฉันส่งพวกเขาไป” แซนเดอร์ตอบ

 

“ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมของเรา พวกเขาควรจะสามารถจัดการกับลูซิเฟอร์ได้ อย่างน้อยพวกเขาก็ผ่านการฝึกฝนของเรา แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีประสบการณ์ แต่ศัตรูคนนั้นก็เป็นเพียงเด็กที่พึ่งเป็นแวเรียนท์เขาไม่มีประสบการณ์การต่อสู้เลยแม่แต่น้อย” เขากล่าวเสริม

 

สมาชิกกลุ่มเดลต้าคนอื่นๆ ก็เริ่มเข้ามาสนับสนุนการตัดสินใจดังกล่าว

 

“ถูกต้อง ไม่ต้องห่วง พวกเขาสามารถดูแลเด็กคนนั้นได้”

 

“พวกเราคือเดลต้า ถ้าเราไม่สามารถดูแลเด็กคนนั้นได้ เมื่ออยู่กัน 4 คน เราก็คงจะไร้ประโยชน์จนเกินไปแล้ว”

 

“ไม่จำเป็นต้องกังวล”

 

ฟลูเรนได้ยินคำตอบของพวกเขาและส่ายหัวเล็กน้อย

 

“แม้ว่าเด็กคนนั้นจะไม่มีประสบการณ์หรือการฝึกฝน เขาก็เป็นวอร์ล็อคที่มีความสามารถระดับ S ถูกที่ทีมที่เราส่งไปอาจจะเป็นถึงทีมเดลต้า แต่พวกเขาเป็นเด็กที่มีความสามารถเพียงระดับ B เท่านั้น” ฟลูเรนตอบ

 

“ในตอนแรกพวกเขาแทบจะไม่สามารถเข้าร่วมทีมเดลต้าของเราได้ด้วยซ้ำ ถ้าปีที่แล้วผู้สูงศักดิ์ไม่ได้เปลี่ยนนโยบาย เพื่ออนุญาตให้คัดเลือกแวเรียนท์ที่มีความสามารถระดับ Bแล้วล่ะก็ พวกเขาก็ไม่มีทางเข้ามาได้ด้วยซ้ำ” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ผู้คนที่พยายามจะสอนเขา

 

“พวกเราไม่มีใครมีความสามารถที่อ่อนแอก็จริง แต่คุณไม่สามารถเปรียบเทียบเขากับเราได้” เขากล่าวเสริม

 

“มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ถูกหรือผิด คุณไม่สามารถพูดได้ว่าเด็กคนนั้นมีความสามารถระดับ S ดังนั้นเด็กคนนั้นจะเอาชนะคนที่มีความสามารถระดับ B แม้ว่าเขาจะมีแรงค์ S ได้อย่างงั้นเหรอ เขาเป็นแค่เด็กที่เพิ่งปลุกพลังขึ้นมาได้ เขา ไม่สามารถใช้ความสามารถเหล่านั้นได้แม้แต่เสี้ยวเดียว” สมาชิกกลุ่มเดลต้าผมดำพูดพาดพิงถึงฟลูเรน

 

ฟลูเรนจ้องไปที่หน้าต่าง ขณะที่เขาบ่น “นั่นก็จริง แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย”

 

“คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?” ฟลูเรนตั้งคำถามกับแซนเดอร์

 

“ไม่ ฉันเป็นผู้นำ และในฐานะผู้นำ มันเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องเชื่อมั่นในทีมของฉันและการฝึกฝนของเรา คุณควรมีศรัทธาในตัวพวกเขาด้วย” แซนเดอร์ตอบทันทีโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

 

ดูเหมือนว่าเขาจะสงบนิ่งพอๆ กับที่คนๆ หนึ่งจะเป็นได้ ราวกับว่าเขาไม่สงสัยเลยว่าแซคและทีมของเขาจะดูแลลูซิเฟอร์ได้

 

*****

 

การเตะของซูมพุ่งไปที่คอของลูซิเฟอร์ ซึ่งตอบสนองอย่างรวดเร็วด้วยการยกมือขึ้นเพื่อป้องกันคอของเขา

 

ซูมเตะไปที่ปลายแขนของลูซิเฟอร์ ทำให้เขาเสียการทรงตัว เขาอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไป 2 ก้าว ก่อนที่เขาจะได้รับความสมดุลอีกครั้ง

 

“โอ้ย นั่นแขนหรือค้อนน่ะ ฉันเจ็บมากๆ” ซูมพึมพำ ขณะเหยียดขาเล็กน้อย

 

“ไม่ ซูม! รักษาระยะห่าง ถอยกลับ เขา-” แซคเตือนซูม ขณะที่เขาเข้าใจว่าการเข้าใกล้ลูซิเฟอร์เป็นทางเลือกที่แย่มากเพราะความสามารถของเขา

 

“คุณกังวลมากเกินไป ฉันรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเน่าเปื่อยของแคลรีส! มันขึ้นอยู่กับมือ ตราบใดที่เขาสัมผัสฉันไม่ได้ เขาก็ไร้ประโยชน์ ส่วนความเร็วของฉัน นับประสาอะไรกับการที่ยังสัมผัสฉันไม่ได้ ในตอนนี้เด็กคนนี้เขาเข้ามาใกล้เราไม่ได้ด้วยซ้ำ ” ซูมหัวเราะออกมา ในขณะที่เขาเพิกเฉยต่อคำสั่งและวิ่งไปทางลูซิเฟอร์อีกครั้ง

 

“ไม่ หยุดนะ ไอ้บ้า!” แซคคำราม แต่เขาสายเกินไป

 

ซูมเข้าใกล้ลูซิเฟอร์แล้วเตะอีกครั้ง แต่คราวนี้เป้าหมายของเขาคือใบหน้าของลูซิเฟอร์

 

เขาพยายามที่จะเร็วขึ้นกว่าเดิมเพื่อไม่ให้ลูซิเฟอร์มีเวลาคิด

 

ขณะที่ขาของซูมแนบเข้าหาใบหน้าของลูซิเฟอร์ ซึ่งตอนนี้ลูซิเฟอร์ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจที่จะรักษาใบหน้าของเขาในครั้งนี้ แต่เขากำหมัดและเล็งไปที่หน้าอกของชายคนนั้น ขณะที่เขาชกเข้าไป

 

ขาและมือเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยมุ่งเป้าไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายของคน 2 คนที่แตกต่างกัน และทั้งคู่ก็หยุดอยู่ที่เดียวกันพร้อมๆกัน

 

*****

 

“ฉันเดาว่าคุณพูดถูก แม้ว่าพวกเขาจะใหม่ แต่ก็ยังสามารถดูแลได้  แซคอยู่กับพวกเขา แม้ว่าเขาจะเป็นพ่อมดระดับ B ความสามารถของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอกว่าระดับ A มากนัก ” ฟลูเรน พยักหน้าตอบแซนเดอร์

 

“นอกจากนี้ พวกเขาจะไม่ทำให้การทำงานเป็นทีมขั้นพื้นฐานยุ่งเหยิง ทีมที่เหมาะสมของแวเรียนท์ระดับ B ทั้ง 4 คนนั้นเก่งกาจไม่น้อยกว่าแวเรียนท์ระดับ Aเลย” เขากล่าวเสริม “ฉันอาจจะกังวลโดยไม่จำเป็น ในฐานะรองหัวหน้า ฉันควรจะไว้วางใจในทีมด้วย”

 

….. ยังมีต่อ

 

————————————————————–

ตอนที่ 29: บดขยี้ใบหน้านั้น

 

ลูซิเฟอร์อยู่ในห้อง กำลังเดินไปที่ประตูห้องแล้ว แต่เมื่อเขาได้ยินเสียงเปิดประตูหลัก

 

เขาก็ขมวดคิ้ว สิ่งนั้นปรากฏบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขาพูดพึมพำ “พวกเขาอยู่ที่นี่แล้ว”

 

เขาเปิดประตูและก้าวออกจากห้อง

 

ทันทีที่ลูซิเฟอร์ก้าวออกจากห้อง เขาก็จบลงที่ทางเดินตรงหน้าประตูหลัก

 

กลุ่มชาย 4 คนเห็นลูซิเฟอร์และตาเป็นประกายเหมือนพบเหยื่อ ความระมัดระวังยังเต็มหัวใจของพวกเขา พวกเขาคิดว่าลูซิเฟอร์อาจอยู่ที่นี่ แต่การได้เห็นเขาที่นี่จริง ๆ แล้วค่อนข้างแตกต่างและน่าทึ่ง

 

“หยุดตรงนั้น!” แซคสั่งลูซิเฟอร์ทันที “อย่าขยับ ไม่งั้นเราอาจจะต้องฆ่าคุณ!”

 

เพอร์เฟคโตะได้เล็งอาวุธไปที่ลูซิเฟอร์แล้ว

 

“ยกมือขึ้นเหนือหัวแล้วนอนลงกับพื้น!” แซคสั่งต่อไป “ถ้าคุณฟังเรา เราสัญญาว่าเราจะไม่ทำร้ายคุณ”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของพวกเขา ลูซิเฟอร์ก็จ้องไปที่แซค เห็นได้ชัดว่าชายคนนี้เป็นผู้นำทีม นี่คือสิ่งที่เขาอยากรู้ในทุกกรณี

 

“คุณค้นประวัติผมแล้วใช่ไหม” ลูซิเฟอร์ถามแซคอย่างจริงจัง “คุณรู้ชื่อของผมและรายละเอียดอื่น ๆ ทั้งหมดเกี่ยวกับผมแล้ว ใช่หรือไม่”

 

“หุบปากแล้วทำตามคำสั่งของฉัน!” แซคยืนยันอีกครั้ง

 

“ตอบมาก่อนสิ!” ลูซิเฟอร์ประกาศ น้ำเสียงของเขาดังขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ขมวดคิ้วเข้มขึ้น

 

“ใช่ เรารู้ชื่อคุณแล้ว คุณคือลูซิเฟอร์ แอซเรล ลูกชายของเซล แอซเรล ทำตามที่พวกเราบอกเดี๋ยวนี้ นอนลงกับพื้น แล้วหยุดอยู่กับที่ อย่าพยายามบังคับให้เราใช้กำลัง!” แซคบอกลูซิเฟอร์

 

“ดี ในเมื่อคุณก็รู้เรื่องของผมแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณก็ควรจะตอบคำถามที่ผมอยากรู้มานานได้แล้ว…” ลูซิเฟอร์พึมพำ ขณะที่เขาเริ่มถอดถุงมือสีดำออก เขาวางถุงมือไว้ในกระเป๋าของเขา

 

“นี่เป็นคำเตือนครั้งที่ 3 ของเรา! ถ้าคุณไม่ฟัง ก็ไม่ต้องโทษเราอีก!” แซคเตือนลูซิเฟอร์อีกครั้ง

 

“บอกผมก่อนเรื่องที่ผมต้องการทราบน่ะ คุณรู้เกี่ยวกับผมแล้ว ดังนั้นคุณต้องรู้จักสถานที่ที่ผมเคยพักอยู่ด้วย” ลูซิเฟอร์ถามแซค ขณะที่เขาเริ่มก้าวเข้าไปหา “มันอยู่ที่ไหน?”

 

“ลูซิเฟอร์ อย่าเข้ามาใกล้ ฉันรู้เกี่ยวกับความสามารถของคุณ นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย หากคุณเข้ามาใกล้ เราอาจถูกบังคับให้ใช้กำลังสังหารคุณ!” แซคให้คำเตือนครั้งสุดท้าย ดูเหมือนว่าเขาจะจริงจังและอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน

 

“ฉันต้องการชื่อโรงงานและที่ตั้ง บอกฉันแล้วฉันจะฟัง” ลูซิเฟอร์พูดออกมาโดยไม่หยุด

 

“ฉัขอสั่งให้หยุดเด็กคนนั้นซะ!” เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ไม่หยุด แซคจึงตัดสินใจยอมแพ้ เขาสั่งคนใดคนหนึ่งโดยไม่มองดูคนของเขา

 

“ฉันเดาว่ามันจะไม่ราบรื่นอย่างที่คิด นี่เป็นความเมตตาอย่างน้อยที่ฉันจะทำได้เพื่อพาคุณออกไปโดยไม่ทำร้ายคุณ” เขาพึมพำขณะจ้องมองที่ลูซิเฟอร์ซึ่งเข้ามาใกล้

 

ทันทีที่แซคออกคำสั่ง ชายอ้วนเตี้ยที่รู้จักกันในชื่อเอนฟอร์ซเซอร์ก็ยกมือขวาไปทางลูซิเฟอร์ ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเล็กน้อย เมื่อความสามารถของเขาเริ่มแสดงขึ้น

 

ลูซิเฟอร์ยังคงเข้าใกล้แซค เมื่อเขารู้สึกถึงแรงกดบนร่างกายของเขาอย่างประหลาด ราวกับว่ามีของหนักกดทับ ซึ่งเขาค่อนข้างสับสน

 

เขาไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วงที่ถูกบังคับในสภาพแวดล้อมของเขา ส่วนใหญ่มีผลเฉพาะกับลูซิเฟอร์ ซึ่งความเร็วลดลงบ้างภายใต้แรงกดดันที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นเท่านั้น

 

“ยอมแพ้ซะ ภายใต้แรงโน้มถ่วงของฉัน อย่าว่าแต่เดินเลย คุณไม่สามารถยืนได้นาน ถ้าให้ตัวเลข แรงดึงดูดที่ส่งผลต่อคุณนั้นมีพลังมากกว่าตัวที่ส่งผลกระทบต่อเราอย่างน้อย 10 เท่า” ร่างท้วมตัวเตี้ย ชายคนนั้นเริ่มหัวเราะ เมื่อเขาจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ ซึ่งกำลังดิ้นรนที่จะเดินจากสิ่งที่เขาเห็นลูซิเฟอร์ทำ

 

“ฉันไม่สนใจว่าคุณมาทำอะไรที่นี่ ฉันมาที่นี่เพื่อหาคำตอบ นั่นคือเหตุผลที่ฉันรอคุณเช่นกัน ตอนนี้ฉันมีเป้าหมายในชีวิตอย่างหนึ่ง นั่นคือการบดขยี้ใบหน้านั่น” ลูซิเฟอร์ตอบในขณะที่เขาคิด เกี่ยวกับใบหน้าโหดเหี้ยมของหมอราวที่เคยเห็นตอนถูกฆ่า

 

น้ำเสียงของเขาฟังดูมืดมาก

 

ในที่สุดแรงกดดันที่มีต่อเขาก็เสถียรราวกับว่ามันถึงขีดจำกัดสูงสุดที่ผู้บังคับใช้จะสามารถใช้ได้ ขาของลูซิเฟอร์สั่น ขณะที่เขาพยายามจะเดิน

 

เขาจ้องไปที่แซคและคนอื่นๆ ขณะกำหมัดแน่น

 

“ถ้าคุณไม่ตอบผม ผมจะบังคับให้พวกคุณตอบเอง!”

 

ขณะที่เขาพูด พลังแปลกๆ เติมเต็มเขา—พลังพิเศษระดับ S ซึ่งเริ่มไหลผ่านเส้นเลือดของเขาที่มองเห็นได้เล็กน้อย

 

พลังระดับ S ความแข็งแกร่งขั้นสูงสุด  นี่เป็นความสามารถที่ทำให้บุคคลสามารถทะลุกำแพงได้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียวอย่างสบายๆ ซึ้งไม่ต้องพูดถึงการต้านทานแรงโน้มถ่วง 10 เท่าเลย

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะสามารถดึงความสามารถนี้ออกมาได้เพียงเสี้ยวเดียว เนื่องจากขาดความเข้าใจและประสบการณ์ แต่สิ่งที่เขาสามารถดึงออกมาได้ก็ดูจะเพียงพอแล้ว

 

การสั่นของขาของเขาหยุดลง หลังโค้งของเขาเหยียดตรงขึ้น เมื่อเขาเริ่มเดินไปหาแซคอีกครั้ง แต่คราวนี้ความเร็วของเขาเร็วขึ้นอีก

 

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องปกติมาก จนเหมือนกับว่าแรงโน้มถ่วงนั้นเป็นปกติสำหรับเขา

 

“คุณกำลังทำอะไร ทำไมคุณถึงหยุดพลังของคุณ” แซคร้องออกมา ขณะที่เขาจ้องไปที่เอนฟอร์ซเซอร์

 

“ฉันไม่ได้ เขายังอยู่ภายใต้ผลของความสามารถของฉัน!” เอนฟอร์ซเซอร์ ตอบกลับด้วยท่าทางไม่เชื่อที่ปิดใบหน้าของเขา

 

“ห๊ะ? คุณหมายถึงนั่นคือเขาที่อยู่ภายใต้แรงโน้มถ่วงขนาด 10 เท่าเหรอ?” แซคอุทานขณะที่ปากของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อย

 

“ก็ได้ ถ้าคุณยังคงหยุดเขาไม่ได้ งั้นเราไม่จำเป็นต้องพาเด็กที่มีสติสัมปชัญญะกลับบ้าน เพอร์เฟคโตะยิงเขาซะ” แซคเปลี่ยนคำสั่ง

 

เพอร์เฟคโตะดูเหมือนเขากำลังรอช่วงเวลานี้อยู่ ปืนของเขาเล็งไปที่ลูซิเฟอร์อยู่แล้ว ทันทีที่เขาได้รับคำสั่ง เขาวางนิ้วบนไกปืนเพื่อยิงลูซิเฟอร์

 

ปืนที่เขาใช้อยู่ตอนนี้มีกระสุนยากล่อมประสาท ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ม้าหลับได้ในทันที นับประสาอะไรกับเด็กกัน…..

 

————————————————————–

ตอนที่ 28: พวกเขาอยู่ที่นี่

 

รถSUVสีดำจอดอยู่หน้าบ้านของลูซิเฟอร์ ภายในรถ SUV มีชาย 4 คนนั่งอยู่ รวมถึงคนที่อยู่ด้านพวงมาลัยด้วย

 

หลังจากที่รถหยุดทั้งสี่ก็ก้าวออกไป

 

ชายผู้เป็นหัวหน้าสนับสนุนใส่แจ็กเก็ตหนังสีดำที่มีสัญลักษณ์เพลิงไหม้อยู่ที่ส่วนอก ผมสีบลอนด์ยาวของเขาเลื่อนลงมาที่ไหล่ของเขาและเข้ากับดวงตาที่สวยงามของเขา ซึ่งดูเหมือนสีทองอย่างช้าๆ

 

ชายคนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเดลต้า สควอตหรือที่รู้จักในชื่อแซค คาเว่น เขาไม่ใช่สมาชิกระดับสูงในหน่วย เดลต้า สควอต และเป็นเพียงพ่อมดที่มีความสามารถด้านธาตุระดับ B

 

โชคดีที่พลังของเขาไม่ได้อ่อนแอเลย แม้จะเป็นแรงค์ B เขายังสามารถควบคุมเปลวไฟได้เหมือนกับแซนเดอร์ เบลค ซึ่งเป็นนักเวทย์ระดับ S

 

แม้ว่าเขาจะมีพลังคล้ายกับหัวหน้าหน่วยเดลต้า แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

 

แม้ว่าแซนเดอร์จะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเดลต้า แต่แซคก็มีความแข็งแกร่งที่ต่ำกว่ามาก ความแข็งแกร่งและความรุนแรงของเปลวไฟของเขาไม่สามารถเทียบได้กับแซนเดอร์ที่สามารถเผาไหม้อะไรก็ได้

 

แม้จะเป็นหนึ่งในสมาชิกที่อ่อนแอที่สุดของหน่วย เดลต้า สควอต แต่เขาก็เป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทีมชายทั้ง 4 คนที่มาที่นี่

 

ทั้ง 4 คนนี้บังเอิญตั้งอยู่ในเมืองลีเจี้ยน เมื่อพวกเขาได้ยินเกี่ยวกับการฆาตกรรมในร้านอาหารที่อาจมีความเชื่อมโยงกับแวเรียนท์ที่อาจจะเป็นไปได้ พวกเขาไปที่นั่นและตระหนักว่ารูปแบบการฆาตกรรมตรงกับรายงานที่ได้ยินเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ของหน่วยเดลต้า สควอต

 

ทันทีที่พวกเขายืนยันได้ แซคก็โทรหาแซนเดอร์เพื่อแจ้งให้เขาทราบ

 

แซคมีพลังแรงค์ B คล้ายกับคนอื่นๆ ที่มาที่นี่ และมันก็เป็นเรื่องบังเอิญว่าทีมของเขาอยู่ที่นี่

 

นอกจากนี้แซนเดอร์ไม่คิดว่าลูซิเฟอร์จะแข็งแกร่งมาก เป็นความจริงที่ลูซิเฟอร์มีพลังระดับ S แต่มันก็เป็นความจริงเช่นกันที่เขาเพิ่งปลุกพลังของเขาให้ตื่นขึ้นมากได้ไม่นานมากนัก

 

เขายังเป็นเด็ก ดังนั้นแซนเดอร์จึงสันนิษฐานว่าลูซิเฟอร์ไม่สามารถดึงเอาความสามารถระดับ S ออกมาได้แม้แต่เสี้ยวเดียว

 

สำหรับการสังหารหมู่ พวกเขาทั้งหมดเป็นมนุษย์ธรรมดา ไม่ได้หมายความว่าลูซิเฟอร์เป็นแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุด แม้แต่แวเรียนท์ที่มีความสามารถระดับ D ก็อาจทำให้เกิดการสังหารหมู่ได้หากพวกเขาหลงทาง

 

แซนเดอร์ยังคงปฏิบัติต่อลูซิเฟอร์เหมือนกับว่าเขายังเป็นเด็ก ดังนั้นเขาจึงไม่คิดทบทวนก่อนส่งแซคและคนอื่นๆ ไปจับลูซิเฟอร์โดยไม่รอเขา

 

เขาอยู่ไกลจากเมือง การมาที่นี่ต้องใช้เวลา เขาไม่ต้องการเสียเวลามากขนาดนั้นและเสี่ยงที่จะปล่อยให้ลูซิเฟอร์ออกไปถ้าเขาอยู่ในบ้านจริงๆ ดังนั้นแซคและทีมของเขาจึงถูกส่งไปก่อน

 

ข้างหลังแซคมีชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่ ผู้ชายคนนั้นดูหล่อกว่าแซคมาก อันที่จริงเขาดูหล่อไม่น้อยไปกว่านายแบบ เขามีใบหน้าที่แกะสลักอย่างดีและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ผมสีดำเข้มของเขาสั้นแต่ไม่สั้นเกินไปและเข้ากับดวงตาสีเข้มของเขา

 

ชายคนนั้นถูกเรียกว่าแซนเดอร์ส บลังกิ้น ซึ่งมีฉายาว่า ‘เพอร์เฟคโตะ’

 

เขาเป็นนักรบคลาสแวเรียนท์ ที่มีความสามารถทางกายภาพระดับ B ของ ความชำนาญด้านอาวุธ เขาสามารถใช้อาวุธขนาดเล็กเกือบทั้งหมดได้ เขายังมีความรู้เกี่ยวกับอาวุธทั้งหมดที่มีอยู่

 

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความสามารถอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ต่อสู้ที่ต่อสู้กับเขาถึงตายได้ไวยิ่งกว่าเดิม ความเชี่ยวชาญด้านอาวุธยังทำให้เขามีจุดมุ่งหมายที่สมบูรณ์แบบอีกด้วย นั่นคือเหตุผลที่เขาถูกมองว่าเป็นแวเรียนท์ที่อันตรายและไม่เคยพลาดเป้า

 

คนที่ 3 ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ต่างจาก 2 คนแรก เขาตัวเล็กและอ้วนนิดหน่อย

 

เขาเป็นที่รู้จักในนาม เควนนี่ การ์แลนด์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ เอนฟอร์ซเซอร์ โดยเมื่อเขาอยู่ในทีม เขาเป็นนักเวทย์ระดับ B ที่มีความสามารถในการจัดการแรงโน้มถ่วง เขาสามารถเปลี่ยนแรงโน้มถ่วงในสภาพแวดล้อมของศัตรูและบังคับให้พวกเขาคุกเข่าลง

 

น่าเสียดายที่ความสามารถของเขามีข้อจำกัดบางประการ เนื่องจากมันมีผลกับเป้าหมายเดียวเท่านั้นเมื่อใช้ ยิ่งไปกว่านั้น เขาสามารถใช้ได้เมื่อศัตรูอยู่ในระยะที่กำหนดเท่านั้น

 

คนสุดท้ายในทีมคือชายผมสีเงินที่มีร่างกายแข็งแรง

 

เขาเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษที่ทำให้เขาค่อนข้างรู้จักในหน่วยของเดลต้า สควอต

 

เขาคือ ซูมิ แลนแคสเตอร์ หรือที่รู้จักในชื่อ ซูม

 

เขามีความสามารถทางกายภาพระดับ B ของความเร็ว เขาสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของตัวเอง เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งเร็วกว่าความเร็วของมนุษย์ทั่วไปหลายเท่า

 

ยกเว้น เพอร์เฟคโตะ ทั้ง 4 คนไม่มีใครถืออาวุธ

 

“ทุกคน ฉันได้รับแจ้งว่าลูซิเฟอร์ แอซเรลอยู่ที่นี่ เขาเป็นแวเรียนท์ที่น่าเป็นห่วง แต่เขายังเป็นเด็ก ตราบใดที่เราระมัดระวัง เราก็จะสามารถเอาชนะเขาได้” แซคกล่าวขณะที่เขาจ้องมอง ไปทางประตูบ้านของลูซิเฟอร์

 

“อีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าทุกคนจะรู้ ฉันควรเตือนคุณอีกครั้ง ตามรายงานของเรา เขามีความแข็งแกร่งของ เซล แอซเรล และ นักเวทย์แห่งการเน่าเปื่อย แคลรีส ฉันไม่คิดว่าฉันต้องบอกคุณว่าเขาอันตรายแค่ไหน เราสามารถอยู่ในระยะใกล้ได้ โปรดรักษาระยะห่างจากเขาเสมอและอย่าปล่อยให้เขาเข้าใกล้” เขากล่าวเสริม

 

“ไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนั้นจะเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมดนี้ คงจะน่าขบขันไม่น้อยถ้าเรื่องน่าเศร้านี้ เกิดจากลูกชายของเซล แอซเรล… เฮ้อ ผู้ชายคนนั้นเคยเป็นไอดอลของฉันมาก่อน และนี่คือ ลูกชายของเขา เด็กคนนั้นส่งชื่อพ่อของเขาลงท่อระบายน้ำโดยเลือกเส้นทางที่มืดมิดเช่นนี้ได้อย่างไร” เอนฟอร์ซเซอร์ พูดออกมาในขณะที่ถอนหายใจ

 

“อย่าคิดมาก สำหรับเรา ลูซิเฟอร์ แอซเรลเป็นเพียงนักฆ่าและไม่มีอะไรอื่น ทิ้งความเคารพทั้งหมดที่คุณมีต่อพ่อแม่ของเขาออกจากภารกิจนี้ ฉันไม่ต้องการความผิดพลาดใดๆ นี่คือเวลาที่จะแสดงให้เห็นว่าทีมเดลต้าของพวกเรานั้นมีประโยชน์ขนาดไหน เรื่องนี้จะผิดพลาดไม่ได้” แซคพึมพำในขณะที่เขาขมวดคิ้ว

 

“ฉันเข้าใจ” เอนฟอร์ซเซอร์พึมพำในขณะที่เขาพยักหน้า

 

“ดีแล้ว ไปกันเถอะ ยิ่งเราจบเรื่องนี้ได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี” แซคพึมพำ ขณะชี้ให้อีก 3 คนตามหลังเขา

 

เขาเริ่มเดินไปที่ประตู

 

แซคเดินไปที่ประตูและพยายามเปิดออก

 

“แม่กุญแจพังแล้ว ฉันเดาว่าเขาคงอยู่ข้างในจริงๆ ระวังตัวไว้ด้วย” แซคพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

 

*****

 

ลูซิเฟอร์อยู่ในห้อง และเมื่อเขาได้ยินเสียงลั่นดังเอี๊ยดของประตู เขาก็จ้องมองไปที่ประตูทันที

 

… ยังมีต่อ

 

————————————————————–

ตอนที่ 27: เปิดเผย

 

“ไม่ว่าในกรณีใด ความตายหรือชีวิตของเขาไม่เกี่ยวข้องกับ APF ทำไมพวกคุณถึงมาที่นี่เพื่อเขากัน” ดร.ราวถามแซนเดอร์ พลางขมวดคิ้วสงสัย

 

หมอเรย์แมนยังพูดอีกว่า “APF ของคุณควรเกี่ยวข้องกับเรื่องของแวเรียนท์อย่างเดียวนี่ ถ้าฉันจำไม่ผิด แม้ว่าพ่อแม่ของลูซิเฟอร์จะเป็นแวเรียนท์ แต่เขาก็ยังไม่ได้ปลุกพลังเลย แม้ว่าเขาจะอายุ 10 ขวบแล้วก็ตามหรือแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตแล้วด้วยเช่นกัน นั่นก็เป็นเรื่องที่พวกคุณไม่ต้องมาห่วง”

 

แซนเดอร์จ้องไปที่หมอเรย์แมน การจ้องมองเดียวของเขาเพียงพอที่จะทำให้ชายชุดขาวที่เพิ่งพูดนั้นปิดปากสนิท

 

เหงื่อปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเขา ในขณะที่เขาลดสายตาลง

 

แซนเดอร์ยังเปลี่ยนสายตามองดูหมอเรย์แมนต่อไป

 

“เป็นเรื่องที่เรากังวล ใช่ เราเกี่ยวข้องกับแวเรียนท์เท่านั้น แต่ลูซิเฟอร์ก็เป็นแวเรียนท์จากที่เรารู้  ไม่เพียงแต่เขายังไม่ตาย แต่เขายังฆ่าผู้คนมากมายอีกด้วย” แซนเดอร์บอกหมอราว

 

“เป็นไปไม่ได้!” ดร.ราวทุบโต๊ะด้วยสีหน้าไม่เชื่อ ในขณะที่เขายืนขึ้น “เขาไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ และถึงแม้เขาจะเป็น เขาก็ไม่สามารถเป็นแวเรียนท์ได้อย่างแน่นอน  ไม่มีใครสามารถปลุกพลังของพวกเขาได้ หลังจากที่พวกเขาอายุ 10 ขวบ มันเป็นความจริงที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว!”

 

แซนเดอร์ยังผลักเก้าอี้ของเขากลับไป ขณะที่เขายืนขึ้น

 

“ฟังนะ คุณหมอ ฉันไม่สนใจหรอกว่าคุณคิดว่าอะไรเป็นไปได้และสิ่งที่คุณคิดว่าไม่ใช่ ส่วนข้อเท็จจริงของคุณ คุณสามารถหยิบมันขึ้นมาและผลักพวกเขาไปที่ห้องนิรภัยของคุณที่ไหนสักแห่ง อย่าพูดถึงข้อเท็จจริงที่เคยมีมาก่อนหน้านี้เลย ฉันรู้เรื่องนี้มากกว่าที่คุณคิดว่าฉันรู้อีก” แซนเดอร์ตอบหมอด้วยท่าทีไม่พอใจ

 

ด็อกเตอร์ราวตกตะลึง เมื่อเห็นใครบางคนพูดกับเขาด้วยท่าทางที่เหยียดหยามเช่นนี้

 

กล้าดียังไงที่คนอายุครึ่งๆอย่างเขาพูดกับดร.ราวแบบนั้น? เขากำลังเดือดดาลอยู่ข้างใน แต่เขายังคงสงบและไม่ปล่อยให้อารมณ์แสดงออกมาบนใบหน้าของเขา

 

“แซนเดอร์ สำหรับฉัน มันดูเหมือนว่าคุณกำลังทำเกินขอบเขตของคุณอยู่นะ เมื่อคุณอยู่ที่นี่” ด็อกเตอร์ราวกล่าวขณะที่เขานั่งลงอย่างสงบอีกครั้ง

 

“เสียเวลาที่นี่มาพอแล้ว ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อสนทนากลับไปกลับมา ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมเด็กไร้เดียงสาที่ถูกพามาที่นี่ตอนที่เขาอายุเพียง 5 ขวบกลายเป็นฆาตกร คุณทำอะไรกับเด็กชายคนนั้นเมื่อเขาที่นี่? อะไรทำให้เขาเป็นฆาตกร?” แซนเดอร์ถาม

 

“ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ เราไม่ได้ทำอะไรผิดที่นี่ แม้ว่าฉันจะเชื่อคุณเพียงชั่วครู่ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย ได้โปรดกลับไปเถอะ” หมอราวได้ตอบกลับไปทันที

 

“เอาล่ะ ในเมื่อคุณไม่ตอบ ฉันจะไปหาคำตอบจากที่อื่น ฉันอยากคุยกับทุกคนในโรงงาน ถ้าคุณไม่ได้ทำอะไรผิดที่นี่ คุณก็ไม่น่าจะมีปัญหากับมัน” แซนเดอร์เดินออกมา ขณะที่เขาจ้องไปทางหมอเรย์แมน

 

เขามีความรู้สึกว่าชายผู้นี้สามารถให้คำตอบเขาได้ หากเขาอยู่กันเพียงตามลำพัง

 

“เป็นไปไม่ได้ ฉันเสียเวลาคุยกับคุณแล้ว มันเป็นสถานที่ที่มีข้อมูลลับมากมาย ฉันให้คุณทำตามที่คุณต้องการไม่ได้ ถ้ายังอยากทำอีก โปรดกลับมาพร้อมใบอนุญาตจากกองทัพหรือรัฐบาล” ดร.ราวปฏิเสธที่จะอนุญาตให้แซนเดอร์สอบปากคำใครก็ตาม

 

ครืดดด! ครืดดด!

 

แซนเดอร์อ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะพูดได้ เขาได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

 

เขารับสายและวางไว้ใกล้หูของเขา

 

“แซนเดอร์พูด” เขากล่าว

 

“ท่านครับ มีการสังหารหมู่อีกครั้ง คราวนี้พบศพมากกว่า 20 คน ดูเหมือนว่าเป็นผลงานของแวเรียนท์ครับ” บุคคลที่อยู่อีกด้านของการโทรแจ้งเขา

 

ทันทีที่แซนเดอร์ได้ยินข่าว เขาก็ขมวดคิ้ว

 

เขาเดินออกไปนอกห้องเพื่อให้แน่ใจว่าคนอื่นๆ จะไม่ได้ยินคำพูดของเขา

 

“การสังหารหมู่อีกแล้วหรือ ที่ไหนกัน?” เขาถามหลังจากก้าวออกไปข้างนอก

 

“คราวนี้มันอยู่ในร้านอาหารในเมืองลีเจี้ยน ทั้งคู่ที่เป็นเจ้าของร้านอาหารพร้อมกับคนอีก 20 คนถูกพบศพ ดูเหมือนว่าจะเป็นคนๆเดียวกัน กับเหตุการณ์ที่เราติดตามจากการสอบสวนครั้งแรก” คนอื่นตอบ

 

‘เมืองลีเจี้ยน? ลูซิเฟอร์เป็นฆาตกรแน่นอน เพราะมันตรงกับการฆาตกรรมก่อนหน้านี้ เหตุใดลูซิเฟอร์จึงเดินทางไกลขนาดนั้นเพื่อไปยังเมืองลีเจี้ยน?’ แซนเดอร์คิด ขณะที่เขาขมวดคิ้ว

 

‘เมืองลีเจี้ยน…เมืองลีเจี้ยน…ใช่แล้ว ฉันลืมไปได้ยังไง! เป็นที่ที่เซล แอซเรลเคยอาศัยอยู่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว! นั่นคือบ้านของลูซิเฟอร์! ถูกตัอง! เราจับเขาได้แน่ๆ ถ้าฉันคิดถูก’ เขาคิด ขณะเข้าใจสิ่งที่อยู่ในเมืองลีเจี้ยน

 

เขาเคยเป็นแฟนตัวยงของเซล แอซเรล เมื่อตอนที่เขาเคยมีชีวิตอยู่ เขารู้เรื่องบ้านของเขาแล้ว เมื่อหลายปีผ่านไป เขาก็หลงลืมมันไปบ้าง แต่เมื่อเขาได้ยินชื่อเมืองลีเจี้ยนมันทำให้เขานึกถึงอีกครั้ง

 

.

 

“แซค ทีมของคุณอยู่ในเมืองลีเจี้ยนใช่ไหม หาที่อยู่ของบ้านที่เซล แอซเรลเคยอยู่! พาทีมของคุณไปที่บ้านหลังนั้น ถ้าผมจำไม่ผิด นักฆ่าควรจะอยู่ที่นั่น” เขาสั่ง คนที่ชื่อแซค ซึ่งอยู่ปลายสาย

 

“ระวังด้วย เขาอาจจะดูเด็ก แต่เขาแข็งแกร่ง อย่าดูถูกเขาต่ำเกินไป ฉันจะพยายามไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ คุณควรจะสามารถจัดการกับเขาได้ตราบใดที่คุณระวังตัว” เขากล่าวเสริม

 

“เดี๋ยวผมจัดการเอง” แซคตอบก่อนจะตัดสาย

 

แซนเดอร์วางโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าเสื้อก่อนจะเปิดประตู

 

“พวกคุณทุกคน มากับฉัน เราจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้” แซนเดอร์บอกกับฟลูเรนและคนอื่นๆ ก่อนที่เขาจะหันไปหาหมอราว

 

“นี่มันยังไม่จบแค่นี้ ฉันจะไปเอาความจริงของเรื่องราวทั้งหมดนี้ออกมา คุณรอผมก่อนเถอะ”

 

เขาหันหลังกลับและออกไปพร้อมกับทีมของเขา

 

————————————————————–

ตอนที่ 26: ข้อเท็จจริงและตัวเลข

 

มีศูนย์วิจัยที่ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่ในสถานที่ที่ไม่รู้จัก

 

สถานที่ดังกล่าวเป็นสถานที่ราชการภายใต้การควบคุมของนายพลที่มีตำแหน่งสูงสุดคนหนึ่งในรัฐบาล

 

ในขณะนี้ ยามของสถานที่นี้กำลังวิ่งไปยังเฮลิคอปเตอร์ที่เพิ่งมาถึง ซึ่งกำลังจะลงจอดบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ในไม่ช้า

 

ยามคนนั้นมาถึงเฮลิคอปเตอร์ที่ไม่รู้จัก อาวุธของพวกเขายังคงอยู่ในมือของพวกเขา ขณะที่ยามพวกนั้นตื่นตัวเป็นพิเศษ แม้ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ทหาร แต่ก็ไม่ได้มาจากกองทัพ ยามคนนั้นจำเป็นต้องตื่นตัว

 

เฮลิคอปเตอร์สีเขียวเป็นของ APF ซึ่งไม่นานก็ลงจอดบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ประตูเฮลิคอปเตอร์เลื่อนเปิดออก ขณะที่ผู้ชาย 2-3 คนก้าวออกจากเฮลิคอปเตอร์

 

ชายผมแดงเป็นคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มเล็กๆ

 

หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยอยู่ท่ามกลางผู้คุม เมื่อเห็นชายผมแดง เขาก้าวไปข้างหน้า

 

“คาลิม นาเดอร์ส หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัย ฉันขอทราบได้ไหมว่าคุณเป็นใคร” หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยเอื้อมมือไปทางชายผมแดง

 

“แซนเดอร์ เบลก จาก APF” แซนเดอร์เอ่ยออกมา ขณะแสดงตราที่พิสูจน์ตัวตน

 

แม้ว่าเขาจะแนะนำตัวเอง แต่เขาก็ไม่ได้จับมือของคาลิมเลย เขาละเลยมันโดยสิ้นเชิง

 

คาลิมชักมือออก ดูเหมือนเขินอาย มันค่อนข้างเป็นการดูถูก แต่ชายคนนั้นมาจาก APF เขาไม่สามารถบ่นได้

 

“ฉันมาเพื่อพบผู้บังคับบัญชาที่นี่ พาฉันไปหาเขา” แซนเดอร์บอกกับคาลิม

 

“นั่นคงเป็นหมอราวสินะ ดูเหมือนคุณจะไม่มีนัดใช่ไหม” คาลิมถาม เห็นได้ชัดจากคำพูดของผู้ชายคนนั้น ผู้ชายที่ไม่รู้เกี่ยวกับการดูแลสถานที่แห่งนี้ไม่สามารถนัดหมายหมอราวได้อย่างแน่นอน

 

“ฉันไม่มีนัด” แซนเดอร์ตอบ ดวงตาของเขาหรี่ลงเมื่ออุณหภูมิใกล้ตัวเขาเริ่มอุ่นขึ้น

 

“และฉันไม่ต้องการมันแล้ว พาฉันไปหาเขาเดี๋ยวนี้” เขากล่าวเสริม

 

“อา คุณไม่มีนัด แต่คุณมาจาก APF ดังนั้นฉันแน่ใจว่าเขาจะพบคุณได้ กรุณารอสักครู่ ฉันจะแจ้งให้เขาทราบเดี๋ยวนี้”

 

คาลิมหันหลังกลับ ขณะนำโทรศัพท์ดาวเทียมออกมา

 

“หมอราว คุณแซนเดอร์จาก APF มาเพื่อพบคุณ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเร่งด่วน” คาลิมบอกหมอราว

 

“APF งั้นเหรอ?”

 

หมอราวขมวดคิ้วขมวด สงสัยว่าทำไม APF ถึงมาอยู่ที่นี่? สิ่งอำนวยความสะดวกนี้อยู่นอกเขตอำนาจศาลของพวกเขา อะไรพาพวกเขามาที่นี่ได้?

 

“ก็ได้ พาเขามาหาฉันที”

 

*****

 

คาลิมพาแซนเดอร์เข้าไปในโรงงาน

 

“ไม่ใช่ที่ที่แย่ ฉันเดาว่าพวกเขาใช้จ่ายเงินที่นี่เป็นจำนวนมาก การวิจัยเป็นพื้นที่ของคนร่ำรวยจริงๆ” ใครบางคนจากทีมของแซนเดอร์แสดงความคิดเห็น เมื่อเขาเห็นว่าโรงงานแห่งนี้เป็นอย่างไร

 

มันเทียบไม่ได้กับสำนักงานใหญ่ของ APF แต่ก็ไม่ได้ขาดความดแจ่มใสเช่นกัน

 

“คุณจำเป็นต้องใช้สมองในการทำงานที่นี่ เราเป็นคนที่ใช้กล้ามเนื้อมากกว่าสมอง” สมาชิกหน่วยเดลต้าอีกคนตอบชายคนนั้น ขณะที่เขาส่ายหัว

 

“ใช่แล้ว ที่ของเราดีกว่ามาก ส่วนเรื่องเงินก็เป็นแค่เรื่องชั่วขณะ หยุดคิดเรื่องนั้นเสียแล้ว เพราะพวกคุณได้เงินมากกว่าที่คุณจะใช้แล้ว” อีกเสียงหนึ่งของฟลูเรนผู้ซึ่งเป็นลำดับที่ 2 รองจากแซนเดอร์

 

แซนเดอร์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นในการสนทนานี้และติดตามคาลิมต่อไป

 

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงห้องที่หมอราวอยู่กับชายอีกคนหนึ่ง

 

หมอราวนั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะ ขณะที่หมอเรย์แมนยืนอยู่ข้างเขา

 

ทันทีที่แซนเดอร์เข้ามาในห้อง ด็อกเตอร์ราวก็ยืนขึ้นเพื่อต้อนรับเขา

 

“ยินดีต้อนรับสู่สถานที่เล็กๆ ของฉัน ฉันจะช่วยคุณได้อย่างไรบ้าง”

 

ด็อกเตอร์ราวเอื้อมมือไปจับมือแซนเดอร์เหมือนที่คาลิมเคยทำมาก่อน เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว แซนเดอร์เมินเฉยต่อมือของหมอราวอีกครั้ง

 

แต่เขานั่งบนเก้าอี้ต่อหน้าหมอราว

 

“คุณหมอราว คุณเป็นผู้รับผิดชอบสถานที่นี้ ฉันชื่อ แซนเดอร์ เบลค ฉันเป็นผู้นำทีมเดลต้า ของ APF ฉันต้องการให้คุณตอบคำถามซัก 2-3 ข้อของเราและมันจะต้องตรงไปตรงมามากที่สุด” แซนเดอร์แจ้ง หมอราว.

 

“ได้ ฉันจะพยายามช่วยเหลือให้มากที่สุดแล้วกัน” ดร.ราวยิ้ม ขณะที่เขาตอบขณะดึงมือกลับ

 

ภายในใจของเขานั้น เขาประหลาดใจกับความเย่อหยิ่งของแซนเดอร์

 

หมอราวเดินไปและนั่งลง

 

“บอกฉันเกี่ยวกับลูซิเฟอร์ แอซเรล เขาอยู่ในโรงงานของคุณมา 5 ปีแล้วใช่ไหม” แซนเดอร์ถามอย่างใจเย็น

 

“ใช่แล้ว เขาอยู่ที่นี่มา 5 ปีแล้ว แล้วเขาทำไมล่ะ?” หมอราวถามกลับ พลางคิดว่า ‘พวกเขามาที่นี่เพื่อลูซิเฟอร์เหรอ? ทำไมถึงมาตอนนี้?’

 

“ฉันเป็นคนถามคำถามนี้ บอกฉันทีว่าเขาตายยังไง” แซนเดอร์สอบปากคำหมอราวขณะที่เขาหรี่ตา

 

‘ทำไมการตายของเขาถึงเกี่ยวข้องกับ APF? เขาไม่ใช่แวเรียนท์ APF ควรเกี่ยวข้องกับแวเรียนท์เท่านั้นสิ  มีบางอย่างที่ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่? ดร.ราวคิดขณะลูบคาง

 

“เกิดอะไรขึ้น ตอบฉันมาสิ” แซนเดอร์ถามอีกครั้ง ขณะที่เขาดีดนิ้วเพื่อพาหมอราวออกจากความมึนงง

 

“เขาเสียชีวิตในอุบัติเหตุ เรากำลังทดสอบยาเพื่อช่วยให้เขาปลุกพลังของเขา แต่ร่างกายของเขามีปฏิกิริยาเชิงลบ และเขาก็ตาย” ดร.ราวโกหกโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเขา

 

“คุณแน่ใจหรือว่าเขาเสียชีวิต คุณตรวจสอบมันได้หรือไม่” แซนเดอร์ถามพลางขมวดคิ้ว

 

เขารู้ว่าฐานข้อมูลบอกว่าลูซิเฟอร์เสียชีวิตในสถานที่นี้ แต่นั่นไม่น่าจะเป็นไปได้ เด็กที่ตายแล้วไม่สามารถไปรอบ ๆ เพื่อฆ่าคนได้

 

นั่นอาจหมายถึงว่าข้อมูลการเสียชีวิตของเขาถูกปลอมแปลง คำถามเดียวที่เหลืออยู่คือทำไม? ทำไมสถานที่นี้ถึงโกหกเรื่องการตายของลูซิเฟอร์?

 

“คุณแซนเดอร์ ฉันเป็นนักวิทยาศาสตร์ เราทำงานกับตัวเลขและข้อเท็จจริง แน่นอนว่าฉันต้องแน่ใจก่อนจะพูดแบบนั้นออกไปเสมอ” หมอราวตอบอย่างมั่นใจ

 

————————————————————–

ตอนที่ 25: ค้นพบ

 

ลูซิเฟอร์เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าในห้องนอนแล้วเปิดออก

 

เขาสามารถเห็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับอื่นๆ ของพ่อแม่ของเขาในตู้เสื้อผ้าได้ และแม้แต่เสื้อผ้าเก่าบางชิ้นของเขาที่เล็กเกินไปสำหรับเขาในตอนนี้

 

ภายในตู้เสื้อผ้า เขายังพบสิ่งที่เขากำลังมองหา ที่นั่นมันมีถุงมือแห่งความมืดคู่หนึ่งวางอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า

 

ถุงมือนี้เป็นของแม่ของเขาที่เธอทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อตัวเธอเอง เพื่อที่เธอจะได้ใช้ชีวิตต่อไป โดยไม่ต้องกังวลว่าเธออาจจะทำลายทุกสิ่งที่เธอสัมผัส

 

วัสดุเหล่านี้เป็นสิ่งพิเศษที่ทำจากวัสดุที่หายากที่สุดในโลกนี้  มันเป็นสิ่งที่สามารถต้านทานพลังของการเน่าเปื่อยได้

 

น่าเสียดายที่มันไม่สามารถต้านทานได้ชั่วนิรันดร์ มันยังคงสามารถที่จะเน่าเปื่อยได้อยู่ แต่ก็สามารถต้านทานได้นานกว่าวัสดุต้านทานส่วนใหญ่หลายเท่า

 

ลูซิเฟอร์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะเก็บถุงมือไว้ใช้เองได้นานแค่ไหนโดยไม่ทำลายมัน จากสิ่งที่เขาเชื่อ เขาน่าจะใช้ถุงมือพวกนี้ได้ 1 ปี แต่นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานของเขาเท่านั้น

 

เขาสวมถุงมือทันทีและปิดประตูตู้เสื้อผ้าก่อนจะเดินกลับไปที่เตียง

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์นอนอยู่บนเตียง เขาก็มองขึ้นไปบนหลังคา พลางพูดคุยเหมือนกับว่าเขากำลังคุยอยู่กับใคร

 

“ผมสงสัยว่าคุณจะหาผมเจอได้อีกนานแค่ไหน”

 

ไม่นานเขาก็หลับตาลง

 

****

 

สำนักงานใหญ่ของ Awakened Protection Force – กองกำลังของผู้ที่ปลุกพลังแล้ว (APF) ซึ่งก่อตั้งขึ้นห่างไกลจากเมืองลีเจี้ยน

 

เป็นสถานที่ที่เป็นที่ตั้งของแวเรียนท์ที่ทำงานให้กับรัฐบาลเพื่อจับกุมอาชญากรที่มีอำนาจ  นอกจากนี้มันยังเป็นที่ทำงานของพวกเขาอีกด้วย พร้อมกับเป็นที่พำนักและคุกของพวกเขาเอง

 

พวกเขามีห้องปฏิบัติการเฉพาะในโรงงานและแผนกนิติเวชด้วย

 

ทีมที่ดูแลคดีของลูซิเฟอร์เป็นที่รู้จักในนามทีมเดลต้า แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในลำดับขั้นที่ค่อนข้างต่ำของ APF แต่พวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะผู้นำของพวกเขา แซนเดอร์ เบลค

 

แซนเดอร์ เบลคถูกนับให้เป็นหนึ่งในวอร์ล็อค ชั้นนำใน APF เขามีคุณสมบัติที่ดีและแข็งแกร่งพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งของทีมอัลฟ่า แต่เขาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าหน่วยเดลต้าแทน ซึ่งเขาก็ชอบเช่นกัน

 

เขาเป็น ไพโรแมนิแอ็ก แรงค์ S เขาสามารถควบคุมไฟได้ เขายังมีความสามารถอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นความสามารถทางกายภาพที่ทำให้เขาสามารถควบคุมอารมณ์ได้

 

 

ความสามารถที่ 2 ของเขาส่วนใหญ่ไร้ประโยชน์ แต่แซนเดอร์รู้ว่าใจที่สงบก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักรบเช่นกัน เขาชื่นชมความสามารถนั้น

 

นั่นทำให้เขาได้รับการจัดอันดับเป็นให้เป็นวอร์ล็อค  เนื่องจากเขาไม่เพียงแต่มีความสามารถด้านธาตุ แต่ยังมีความสามารถทางกายภาพอีกด้วย

 

ในขณะนั้นแซนเดอร์กำลังเดินเข้าไปในห้องทดลอง เขาอยู่ในเมืองเล็กๆ มาระยะหนึ่งแล้ว แต่กลับมาที่สำนักงานใหญ่

 

“คุณพบอะไรจากลายนิ้วมือและตัวอย่างเลือดไหม” เขาถามผู้หญิงที่ใส่เสื้อกาวน์สีขาวอย่างเกียจคร้าน

 

ผู้หญิงในเสื้อคลุมสีขาวเป็นที่รู้จักในหมู่ผู้คนใน APF ว่า เมลานี่ ไดร เธออยู่ในแผนกนิติเวชของ APF

 

เธอยังเป็นคนที่ผู้ชายหลายๆคนใน APF ชื่นชอบ

 

“ลายนิ้วมือที่คุณนำกลับมาเป็นของคนที่เสียชีวิต ไม่มีลายนิ้วมือของฆาตกรเลย” เมลานีตอบแซนเดอร์ ขณะที่เธอจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าเธอ

 

“แล้วตัวอย่างเลือดล่ะ? แซนเดอร์ถาม

 

” เราพบบางอย่างจากตัวอย่างเลือด มีตัวอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ของกลุ่มคนที่เสียชีวิตที่นั่น ฉันเชื่อว่ามันควรเป็นของฆาตกร ฉันยังสแกนระบบของเราเพื่อค้นหาบุคคลนั้น และ คุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพบ ลองดูสิ” เธอพูดพร้อมกับยิ้มแหยๆ

 

เธอชี้ไปที่หน้าจอซึ่งกำลังแสดงรูปเด็กหนุ่ม

 

มีรูปถ่ายของลูซิเฟอร์บนหน้าจอพร้อมสถิติที่ด้านข้าง ซึ่งแสดงให้เห็นการจับคู่ DNA 100%

 

“เด็กคนนี้คือคนที่ฆ่าพวกเขาทั้งหมดเหรอ?” แซนเดอร์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ปกติ “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือเปล่า”

 

“ใช่ อาจจะเป็นอย่างนั้น หรือว่าเขาอยู่ในร้านอาหารตอนที่มันเกิดขึ้น และทิ้งเลือดของเขาไว้ทุกที่” เมลานีตอบ ขณะที่เธอส่ายหัว “เสื้อคลุมที่คุณนำกลับมาก็มีตัวอย่างเลือดของเขาด้วย”

 

“นอกจากนี้ คุณอาจจำเด็กคนนี้ไม่ได้ แต่เขามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดูบันทึกสิ” เธอกล่าวเพิ่มเติม ขณะกดปุ่มบนแป้นพิมพ์ หน้าต่างบนหน้าจอเปลี่ยนไปเพื่อแสดงรายละเอียดเพิ่มเติม

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล? ลูกชายของเซล แอซเรลลกับแคลรีส? นี่มันสมเหตุสมผล พลังแห่งการเน่าเปื่อยและพละกำลังมหาศาลนั่น!” แซนเดอร์เอ่ยออกมาด้วยความแปลกใจ

 

เมื่อก่อนเขายังคงยังสงสัย แต่ตอนนี้เขาเชื่อแล้ว

 

“ใช่ ฉันตรวจสอบบันทึกของเขาแล้วพบว่าเขาเสียชีวิตในศูนย์วิจัยของรัฐบาล ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมในรายงานว่าเกิดอะไรขึ้นและเขาเสียชีวิตอย่างไร” เมลานี่บอกกับแซนเดอร์

 

“น่าสนใจ บอกที่อยู่ของโรงงานนั้นมา” แซนเดอร์ตอบขณะที่ลูบคาง

 

‘ดูเหมือนว่ากรณีนี้จะซับซ้อนกว่าที่ฉันคิด’ เขาคิดขณะจ้องไปที่หน้าจอและชื่อ “ลูซิเฟอร์ แอซเรล”

 

เมลานี่ให้ที่อยู่กับแซนเดอร์ หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องแล็บไป

 

“ฟลูเรน เตรียมทีมของเราให้พร้อม เราจะออกไปทันที” แซนเดอร์บอกกับใครบางคนทางโทรศัพท์ ขณะที่เขาเดินผ่านทางเดินยาว

 

————————————————————–

ตอนที่ 24: บ้าน

 

ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหนาทึบ ให้ร่มเงาที่จำเป็นมากแก่พื้นดิน

 

ภายใต้ร่มเงาของเมฆ เด็กชายอายุ 11 ปีกำลังเดินผ่านถนนในเมืองลีเจี้ยน

 

เด็กชายสวมเสื้อผ้าที่ดูสะอาดเรียบร้อย ซึ่งค่อนข้างใหญ่ เมื่อเทียบกับขนาดของเขา แต่พวกเขาไม่ได้สร้างความรู้สึกไม่สบายใดๆ

 

ขณะที่เด็กชายเดิน เขามองไปทางซ้ายและขวาราวกับว่าเขากำลังพยายามหาอะไรบางอย่าง

 

“ที่ไหนกันนะ…” เขาพึมพำด้วยสีหน้าสับสน ทำไมมันจึงยากที่จะหาบ้านของเขาเอง?

 

ลูซิเฟอร์ไม่ได้ไปที่บ้านของเขามาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว และก่อนหน้านั้นเขาไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นพิเศษในการพยายามหาบ้านของเขา

 

เขายังคงเดินผ่านเมืองจากถนนหนึ่งไปอีกถนนหนึ่ง เขาตรวจสอบถนนทุกสายและทุกตรอกเพื่อพยายามหาบ้านของเขาแต่ไม่เป็นผล

 

น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านของเขายังมีอยู่หรือไม่ มันนานมากแล้ว เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าบ้านจะถูกทำลายเพื่อให้มีอาคารอื่นเข้ามาแทนที่

 

เขาได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นความจริง บ้านเป็นสิ่งเดียวที่เขาเหลือจากพ่อแม่ของเขา มันมีความทรงจำมากมายในช่วง 5 ปีแรกในชีวิตของเขา ซึ่งเป็นปีที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา เขาทนไม่ได้กับความคิดที่ว่ามันจะพังทลายลงไปแล้ว

 

มือของลูซิเฟอร์เปลือยเปล่า เขาไม่ได้สวมถุงมือเพราะพวกมันถูกทำลายไปแล้วเพราะพลังของเขา เขาไม่สามารถแม้แต่จะกอบกู้พวกมันไว้ได้

 

เสื้อผ้าที่เขาสวมก็ต่างจากชุดก่อนของเขาแต่ก็คล้ายกันเช่นกัน โชคดีที่เขาได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดไปแล้ว

 

“ที่นั่น?”

 

เมื่อเขาคิดที่จะพักผ่อนอยู่พักหนึ่ง เขาก็สังเกตเห็นสถานที่แห่งหนึ่งที่ทำให้ดวงตาของเขาเป็นประกาย

 

ดวงตาของเขามีอารมณ์ขึ้นบ้าง ในขณะที่เขาหยุดอยู่หน้าบ้านที่ดูเก่าแต่ยังอยู่ในสภาพดี

 

มันเป็นบ้านของเขา บ้านที่เขาใช้เวลาครึ่งชีวิตกับพ่อแม่ของเขา ไม่เพียงแต่ปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังคล้ายกับที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ ดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

 

โชคดีที่ดูเหมือนว่ามีการสร้างประตูใหม่ที่นี่ เนื่องจากประตูก่อนหน้านี้ถูกทำลายโดยเจ้าหน้าที่

 

การได้เห็นบ้านทำให้ความทรงจำในอดีตของเขากลับคืนมามากมาย

 

ลูซิเฟอร์เดินไปที่บ้านหลังเล็กที่อยู่ตรงหน้าเขา

 

เขาเอื้อมมือไปใกล้ประตูและพยายามผลักมันให้เปิด

 

ประตูไม่เปิดเพราะถูกล็อค

 

ลูซิเฟอร์ไม่อยากเสียเวลาอยู่ข้างนอกนาน เขากำหมัดแน่นแล้วทุบประตูที่ล็อคอยู่ให้แตกหักออกอย่างง่ายดาย

 

เมื่อกุญแจแตก เขาสามารถผลักประตูเปิดออกได้อย่างง่ายดาย

 

เขาก้าวเข้าไปในบ้านที่เขาไม่ได้อยู่เลยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บ้านที่เป็นบ้านของเขา…บ้านที่แท้จริงของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเขาโชคร้ายแค่ไหน

 

เขามีทุกอย่าง เขามีบ้านที่เหมาะสม มีพ่อแม่ที่รัก และมีชีวิตที่ดี เขามาอยู่ในสถานที่นี้ได้อย่างไร? ใครกันที่สาปแช่งชีวิตที่ดีของพวกเขา?

 

แวเรียนท์มักจะรวยเพราะความสามารถและความแข็งแกร่งของพวกเขา โลกนี้ให้ความสำคัญกับแวเรียนท์ เป็นอย่างมาก

 

เนื่องจากพ่อของเขาเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดและแม่ของเขาเป็นแม่มดที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาก็ไม่ขาดเหลือเรื่องเงินเช่นกัน

 

ถึงกระนั้น พ่อแม่ของเขาก็ยังอยู่ในบ้านที่ดูธรรมดา ซึ่งเป็นของปู่ของเขา เป็นบ้านเล็กๆ ที่ไม่หรูหรา มันไม่ใหญ่เกินไปหรือเล็กเกินไป

 

*******

 

“ลูซิเฟอร์ อาหารพร้อมแล้ว! หยุดวาด แล้วมากินก่อน เที่ยงแล้วค่อยไปทำต่อได้”

 

“อย่าซนนะลูก อย่าทำให้แม่ต้องดุ!”

 

“เฮ้อ สมกับเป็นพ่อจริงๆ มานี่สิ”

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์เดินผ่านบ้าน ความทรงจำเก่าๆ มากมายก็เริ่มปรากฏขึ้น เขาได้ยินเสียงแม่ของเขาดุเขา

 

น้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบแก้มของเขาขณะที่เขานึกถึงช่วงเวลาดีๆ

 

“ผมขอโทษครับแม่ ผมรบกวนแม่ไว้มาก ได้โปรดกลับมาเถอะ ผมสัญญาว่าผมจะฟัง ผมจะไม่รบกวนแม่ตลอดไป” เขาพึมพำขณะจ้องมองไปที่เก้าอี้ ซึ่งยังวางอยู่ใกล้หน้าต่างอย่างว่างเปล่า .

 

เป็นสถานที่ที่แม่ของเขามักจะนั่งมองออกไปข้างนอก

 

แม้ว่าลูซิเฟอร์จะพูดแบบนั้น แต่เขารู้ว่ามันเป็นแค่ความปรารถนาที่เป็นไปไม่ได้ พ่อแม่ของเขาไม่มีวันกลับมา เขาอยู่คนเดียวในโลกนี้ ไม่มีใครดูแลเขาสักคนเดียว

 

เขาส่ายหัวด้วยความเศร้าโศกบนใบหน้าของเขา

 

เขาเดินไปที่ห้องครัว ทุกอย่างดูเหมือนจะเหมือนกับตอนที่เขาถูกรัฐบาลยึดครอง

 

อาหารเดิมยังคงอยู่ในตู้เย็น แต่มันเน่าเสียเพราะตู้เย็นหยุดทำงานไปนานแล้ว ไม่มีไฟฟ้าในบ้านเพื่อให้มันทำงาน

 

หลังจากตรวจดูห้องครัวแล้ว เขาก็เดินไปที่ห้องนอนและยิ้มเป็นครั้งแรกในระยะเวลานาน เมื่อเขาได้เห็นอะไรบางอย่าง

 

สิ่งที่เขาค้นพบคือภาพถ่าย เป็นภาพของเขาและพ่อแม่ของเขา แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ก็มีความเศร้าลึกซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มนั้น

 

เขาสังเกตภาพอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่กล้าหยิบขึ้นมา พลังที่โชคร้ายของเขาไม่ได้ปล่อยให้เขาแตะต้องของมีค่าขนาดนั้นโดยไม่ทำลายมัน เขาสงสัยว่าจะมีใครโชคร้ายกว่าเขาไหม

 

แม่ของเขาจัดการกับคำสาปแห่งความสามารถนี้ได้อย่างไร?

 

แม้แต่ถุงมือยางก็ไม่สามารถควบคุมพลังแห่งการเน่าเปื่อยของเขาได้นาน แม้ว่าจะสลายตัวช้ากว่ามาก

 

เขารู้คำตอบสำหรับคำถามของเขา แม้ว่าจะมีสิ่งที่ควบคุมพลังของแม่ของเขาไว้ได้และมันก็ปล่อยให้เธอมีชีวิตที่ปกติบ้าง สิ่งๆนั้นมันช่างเป็นของหายากและล้ำค่า

 

เขารู้ด้วยว่าแม่ของเขาเก็บอะไหล่ของชิ้นนั้นไว้ที่ไหน มันมี 2 คู่ คู่หนึ่งอยู่กับเธอ เมื่อเธอจากไป ในขณะที่อีกคู่อยู่ในบ้าน

 

“มันต้องยังคงอยู่ที่นี่ ตราบใดที่ไม่มีใครรับมันในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา”

 

————————————————————–

ตอนที่ 23: เหมือนกันทั้งหมด

 

ขณะที่การอภิปรายระหว่างผู้นำของ APF และผู้ให้ข้อมูลของเขากำลังเกิดขึ้นในสำนักงานใหญ่ของ APF ในเมืองที่ห่างไกล สิ่งอื่นก็เพิ่งเริ่มต้นขึ้น

 

เมืองลีเจี้ยนที่แสนสงบสุข ตอนนี้สามารถได้ยินเสียงนกร้องเจี๊ยก ๆ ผู้คนต่างออกไปทำงาน ขณะที่บางคนกลับจากทำงาน

 

ในเมืองเดียวกันนั้นมีร้านอาหาร ซึ่งมีกระดานเขียนว่า ‘ปิด’ แขวนอยู่ที่ประตู

 

เนื่องจากกระดานนี้จึงไม่มีใครพยายามเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ แต่มันก็เพราะว่าปกติแถวนั้นก็มีการจราจรที่ติดขัดอยู่พอสมควร

 

ภายในร้านอาหาร สามารถเห็นศพมากมายกระจายไปทั่วได้

 

ดูเหมือนว่าการเข่นฆ่าเคยเกิดขึ้นที่นี่เมื่อไม่นานนี้เอง ส่วนคนที่ก่อการเข่นฆ่านั้น เขาอยู่ชั้นบน

 

ชั้นล่างของอาคารหลังนี้เป็นร้านอาหาร ในขณะที่ชั้นบนสุดเป็นที่อยู่อาศัยของคู่สามีภรรยาที่เป็นเจ้าของร้านอาหาร

 

น่าเสียดายที่คู่เดียวกันนั้นยืนหน้าซีดต่อหน้าลูซิเฟอร์

 

ดูเหมือนว่ามีใครบางคนดูดเลือดออกจากใบหน้าของพวกเขา แต่เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเพราะความกลัวที่พวกเขาประสบ

 

พวกเขาเพิ่งพูดคุยเกี่ยวกับการแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเรื่องของลูซิเฟอร์ ไม่เพียงแค่นั้น พวกเขาถึงกับบอกว่าเป็นการดีกว่าที่เขาจะตาย ใครจะไปรู้ว่าเด็กชายที่พวกเขาคุยด้วยวาจาโผงผางอยู่ข้างนอกประตูบ้าน

 

ถ้าเอมิเลียรู้ว่าลูซิเฟอร์อยู่ตรงหน้าเธอ เธอคงไม่กล้าพูดถึงเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ ทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นเกี่ยวกับคนที่สามารถฆ่าคนจำนวนมากได้เหมือนพวกเขาเป็นของเล่น?

 

เหตุผลเดียวที่เธอขึ้นมาชั้นบนคือเธอต้องการทำให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ยิน แต่ทุกอย่างล้มเหลว พวกเขาถูกจับได้แล้ว

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ต่อหน้าเธอ มือของเธอก็เริ่มสั่นเทา

 

‘มันได้ยินไหม’ เธอคิดขณะภาวนาว่าเขาไม่ได้ยิน

 

แม้ว่าเธอหวังว่าลูซิเฟอร์จะไม่ได้ยิน แต่เธอก็รู้สึกว่าเขาได้ยิน ทำไมเขาถึงกรีดร้องแบบนั้นล้ะ? ทำไมเขาถึงดูไร้อารมณ์อีก?

 

เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยิน

 

“อ๊ะ เธออยู่นี่เองเหรอ ขอโทษ เรายังหาเสื้อผ้าไม่เจอ เราคิดว่าควรโทรแจ้งตำรวจและบอกพวกเขาว่ามีคนฆ่ากันเองที่ชั้นล่าง” เวสตันมีสภาพจิตใจที่ดีกว่าภรรยาของเขา

 

เขารู้ว่าความกลัวนั้นไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ไม่ว่าในกรณีใด พวกเขาจะตาย หากพวกเขาไม่จัดการกับสถานการณ์ด้วยความระมัดระวัง พวกเขาทรยศลูซิเฟอร์ไปแล้ว

 

เขาอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งตัวเองในหัว เพราะเขาไปเห็นด้วยกับภรรยาของเขา หากเพียงแต่เขายืนหยัดอย่างมั่นคง สิ่งเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

 

ไม่ว่าในกรณีใด ตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว การกังวลเกี่ยวกับสิ่งนั้น ไม่ได้จะแก้ปัญหาอะไร เขาตัดสินใจที่จะจัดการกับสถานการณ์นี้ในลักษณะที่แตกต่างออกไป

 

เขารู้ว่าลูซิเฟอร์คงได้ยินคำพูดของพวกเขาทั้งหมด เขาทำได้แค่ใช้ความคิดในการทำให้น้ำขุ่นมากกว่าเดิมและทำให้ลูซิเฟอร์คิดว่าเขาเข้าใจผิด

 

แม้ว่ามันจะยาก แต่ก็เป็นทางเลือกเดียวของเขา

 

“อย่ากังวล เราไม่ได้บอกพวกเขาเกี่ยวกับเธอ ใครจะสงสัยในตัวเด็กน้อยอย่างเธอกัน แต่เรายังต้องดูแลศพพวกนั้น เราเลยคิดว่าการแจ้งตำรวจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า เธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้? ” เวสตันกล่าวเพิ่มเติม โดยพยายามควบคุมอารมณ์

 

เขารู้ว่าเขาดูไม่กลัวเมื่อพูด มิฉะนั้นเขาจะไม่สามารถจับคำโกหกของเขาได้  วิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้การโกหกดูเหมือนเป็นความจริงก็คือการพูดด้วยความมั่นใจ

 

นั่นคือสิ่งที่เขาทำ น่าเสียดายที่มือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เพื่อซ่อนอาการสั่น เขาได้วางมือไว้ด้านหลังขณะพูด

 

“เราจะบอกตำรวจว่ามีคนแปลกหน้า ฆ่าผู้คนที่ชั้นล่างและวิ่งหนีไป ไม่มีกล้องในร้านอาหารของเรา เช่นเดียวกับตามท้องถนน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางตรวจสอบสถานการณ์ได้ มันเป็นการต่อรองแบ วิน-วิน เธอจะปลอดภัย แล้วเราจะปลอดภัยดี ถูกต้องไหม” เขาถามลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบ อันที่จริง เขาไม่ได้มองแม้แต่คนที่กำลังพูดด้วยซ้ำ สายตาของเขาเหลือบไปที่เอมิเลียแทน

 

สิ่งที่ทำร้ายเขามากที่สุดคือการทรยศของผู้หญิงที่เขาคิดว่าเธอคล้ายกับแม่ของเขา เขาอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งตัวเอง เขากล้าดียังไงมาเปรียบเทียบคนอย่างเอมิเลียกับแม่ของเขา?

 

ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็เปิดริมฝีปากของเขาในขณะที่เขาพูด “พวก…”

 

เขาเริ่มเดินไปหาเอมิเลียอย่างช้าๆ ความกระหายเลือดในตัวเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเขาเข้าใกล้ผู้หญิงคนนั้นมากขึ้น

 

“…คุณ…”

 

เขาพูดต่อทีละคำช้ามาก

 

แม้ว่าเขาจะพูดช้า ๆ แต่คำพูดแต่ละคำของเขาดูเหมือนจะมีเวทมนตร์บางอย่างที่ทำให้คนที่อยู่ที่นี่รู้สึกหนาวสั่น

 

ระยะห่างระหว่างลูซิเฟอร์กับเอมิเลียมีเพียง 10 ก้าว ซึ่งลดลงเหลือ 8 ก้าว เมื่อลูซิเฟอร์เข้ามาใกล้

 

“… ทั้งหมด … “

 

6 ก้าว ตอนนี้เหลือเพียง 6 ก้าว ระหว่างเอมิเลียและลูซิเฟอร์

 

“…มัน…”

 

4 ก้าว… หัวใจของเอมิเลียเต้นแรงราวกับเป็นบ้า ราวกับว่าหัวใจของเธอกำลังจะหลุดออกจากอก

 

ตอนนั้นเองที่เธอเริ่มก้าวถอยหลังด้วยความกลัว มือของเธอจับมือของเวสตัน ซึ่งเดินกลับไปพร้อมกับเธอด้วย

 

“เดี๋ยวก่อน ฟังเราก่อนนะ อาจมีการเข้าใจผิด” เวสตันร้องออกมา เขาพยายามอีกครั้ง

 

คำพูดของเขาดูเหมือนจะไม่เข้าหูคนหูหนวกอย่างลูซิเฟอร์ในตอนนี้แล้ว ในขณะที่ลูซิเฟอร์ยังคงพูดต่อไปอย่างเคร่งขรึม

 

“…ก็…” ลูซิเฟอร์ร้องเรียก

 

ไม่นานเอมิเลียและเวสตันก็มาถึงมุมห้อง ไม่มีที่ว่างสำหรับพวกเขาที่จะขยับอีก เมื่อกำแพงชิดกับหลังของพวกเขา

 

ลูซิเฟอร์หยุดห่างจากพวกเขา 2 ก้าว ขณะที่เขาพูดคำสุดท้าย “…เหมือนๆกัน”

 

… ยังมีต่อ

 

————————————————————–

ตอนที่ 22: เขตอำนาจ

 

“ถูกต้อง พวกเราไม่ได้เตรียมตัวไว้มาก มันเป็นการสังหารหมู่ มนุษยชาติจำนวนมากเสียชีวิตในวันนั้น กองทัพพิสูจน์แล้วว่า มันไร้ประโยชน์กับการจัดการมอนสเตอร์บางตัว โชคดีที่แวเรียนท์เข้าร่วมการต่อสู้กับกองทัพ  เราจัดการพวกมันได้ในที่สุด และเราก็ได้ฆ่าสัตว์ประหลาดทั้งหมด แต่ความสูญเสียที่เราได้รับนั้นมากเกินไป” ชายผมดำประกาศ ในขณะที่ถอนหายใจลึกๆ

 

“ใช่ แต่นั่นมันก็ทำให้เราหันไปสนใจที่ดันเจี้ยนอีกครั้ง  มันน่าทึ่งมากที่มนุษยชาติมีประสิทธิภาพ เมื่อเราเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์  นักวิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถค้นพบอะไรใหม่ๆได้เลย เป็นเวลาหลายปีที่พวกเขาได้เริ่มทำการค้นพบครั้งใหญ่ หลังจากเหตุการณ์นี้ สาเหตุของมันก็ได้ค้นพบแล้ว  เหตุใดมอนสเตอร์จึงสามารถออกมาได้อีก แนวโน้มของการออกมาจากดันเจี้ยนของพวกมอนสเตอร์พวกนั้นก็เพิ่มขึ้นมาอีก” เจมิสันพูดออกมาเบาๆ

 

“แนวโน้มของพวกมันที่จะออกมางั้นเหรอ หืม… จำนวนของพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน….” ชายผมดำนึกถึงแนวโน้มของพวกมันรวมถึงจำนวนของมอนสเตอร์

 

“ใช่ เมื่อใดก็ตามที่จำนวนมอนสเตอร์ในดันเจี้ยน ข้ามธรณีประตู พลังงานภายในดันเจี้ยนจะไม่เสถียร บาเรียที่หยุดไม่ให้มอนสเตอร์ออกมาหยุดทำงาน และมอนสเตอร์พวกนั้นก็ออกมา สิ่งนี้ทำให้เรามีความคิดที่จะหยุดเหตุการณ์ในปี 2028 ไม่ให้เกิดขึ้นอีกให้ได้” เจมิสันพูดแทรก

 

“ถูกต้อง หากฉันจำไม่ผิด สหภาพนักล่า ก่อตั้งขึ้น หลังจากการค้นพบครั้งนั้น เพื่อให้ค่าแนวโน้มของพวกมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนต่ำกว่าเกณฑ์  เนื่องจากมนุษย์และอาวุธของพวกเขา มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการต่อสู้กับพวกมอนสเตอร์ สหภาพนักล่าจึงถูกสร้างขึ้นจากแวเรียนท์เป็นส่วนใหญ่ หน้าที่ของพวกเขาคือควบคุมดันเจี้ยนให้ได้ในตอนนี้” ชายผมดำพึมพำ

 

“ใช่แล้ว กองกำลังปกป้องของเราถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งพวกแวเรียนท์ทมิฬ ที่ใช้พลังของพวกเขาในทางที่ผิด ส่วนองค์กรของนักล่านั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยน” เจมิสันตอบ

 

“เป็นการดีที่จะจดจำประวัติศาสตร์อีกครั้ง แต่ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับการตายของเซล แอซเรล เมื่อ 5 ปีก่อนอย่างไร” ชายผมดำถามเมื่อหรี่ตาลง

 

“มันมีบางอย่างที่ต้องทำ นั่นคือจุดเริ่มต้นของสิ่งนี้ ดันเจี้ยนระดับ 4 เป็นหนึ่งในดันเจี้ยนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยค้นพบมา  มีการกล่าวกันว่ามีมอนสเตอร์ที่สามารถทำลายเมืองได้อย่างง่ายดาย เหตุการณ์ในปี 2028 เกิดขึ้นเพราะดันเจี้ยนระดับ 2 ลองนึกดูว่ามันจะแย่แค่ไหน ถ้าดันเจี้ยนระดับ 4 ถูกปล่อยพวกมอนสเตอร์พวกนั้นออกมาได้”

 

“อย่างไรก็ตาม เมื่อ 5 ปีที่แล้วองค์กรของพวกนักล่าตระหนักว่าดันเจี้ยนระดับ 4 นี้ใกล้จะถึงเกณฑ์ที่พวกมันจะหลุดออกมาอย่างมาก เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้น พวกเขาไม่เพียงส่งสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาไปล่าสัตว์ในดันเจี้ยน แต่ พวกเขายังขอความช่วยเหลือจากพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุดเช่น เซล แอซเรล และภรรยาของเขา เขาไปในนั้นด้วย” เจมิสันได้ตอบกลับ

 

เขาหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “เซล แอซเรลเข้าสู่ดันเจี้ยนพร้อมกับวอร์ล็อคที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในเวลานั้น แนวโน้มของพวกมอนสเตอร์ที่ออกมาจากดันเจี้ยนก็ลดลง พวกเขาจัดการพวกมันและลดแนวโน้มของพวกมอนสเตอร์ที่จะออกมาจากดันเจี้ยนได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้เราปลอดภัยในปีต่อ ๆ ไป”

 

“น่าเสียดายที่คนเหล่านั้นไม่เคยได้ออกมาอีกเลย และได้รับการสรุปทันทีว่าพวกเขาได้เสียชีวิตแล้ว  ทีมค้นหาถูกส่งเข้าไปข้างใน แต่ไม่พบคนเหล่านั้นเลย ทุกคนเชื่อว่าพวกเขาทั้งหมดเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งและถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่มีใครรอด เราจึงตรวจสอบไม่ได้อีก” เจมิสันกล่าวเพิ่มเติม

 

“แล้วรอยเท้าล่ะ? นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ฉันอยากรู้ ถ้าความตายเกิดจากสัตว์ประหลาด เขตอำนาจของการสอบสวนนี้จะอยู่กับองค์กรของพวกฮันเตอร์(นักล่า) แต่ถ้าเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผลงานของแวเรียนท์ทมิฬ ที่วางแผนจะฆ่าเซล แอซเรล เราจะได้รับเขตอำนาจ  นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันบอกให้คุณสอบสวนต่อไปไงล่ะ” ชายผมดำกล่าว

 

“หยุดเสียเวลาของฉัน แล้วบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ซะ” เขากล่าวเสริม

 

“ถูกต้อง มีรายงานการพบรอยเท้าออกมาจากคุกใต้ดิน นี่เป็นรอยเท้าของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดคำถาม  ถ้าทุกคนตายภายในถ้ำนั้นจริงๆ แล้วรอยเท้าของคนที่ออกมานั้นมันคืออะไรกัน?”

 

“แล้วถ้ามีคนออกมา ทำไมพวกเขาไม่ไปที่องค์กรของพวกฮนเตอร์(นักล่า) ยิ่งกว่านั้นทำไมพวกเขาไม่เห็นว่ามีคนออกมา ความปลอดภัยภายนอกของดันเจี้ยนทั้งสองไม่หนาแน่นพอหรือไม่ สิ่งที่กิดขึ้นพวกนี้ขัดแย้งกันและทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันน่าสงสัยมากขึ้น ฉันถึงบอกว่าไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือพอเลยซักอย่าง”

 

“ฉันคุยกับทุกคนและค้นหาทุกที่ ฉันเห็นรอยเท้าและสอบสวนเรื่องนี้ด้วย  น่าเสียดายที่ไม่มีพยานที่อ้างว่าเคยเห็นใครออกมา เป็นไปได้ว่ามีคนที่เข้าไปในคุกใต้ดินและออกมาแล้วกลับไป แต่ทว่ากลับไม่มีหลักฐานใด ๆ หากเพียงเรามีพยาน ทุกอย่างก็จะคลี่คลายได้” เจมิสันถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

“สรุปคือ คุณกำลังบอกว่าการสอบสวน 5 ปีเสียเวลาเปล่า” ชายผมดำพึมพำขณะหรี่ตาลง

 

“เฮ้อ ถ้าฉันต้องการสอบสวนให้ลึกซึ้งกว่านี้ เราจะต้องใช้อำนาจของสถานที่นั้นโดยสมบูรณ์แบบให้ได้ก่อน” เจมิสันตอบ “ด้วยการอนุญาตจำนวนเล็กน้อยที่ฉันมี ฉันคิดว่าฉันจะไม่พบสิ่งใดเลย และจะไม่พบมันมากกว่านี้แล้ว”

 

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันบอกคุณให้หาหลักฐานมาให้ฉัน โดยไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็นแผนงานขององค์กรแวเรียนท์ทมิฬ เช่น VU ฉันไม่สามารถรับอำนาจศาลได้มากกว่านี้แล้ว” ชายผมดำพึมพำ ในขณะที่เขาส่ายหัว

 

“คุณไม่ได้รับเขตอำนาจจริงๆหรือ คุณคือ แวรัน— หัวหน้า APF และ อัลฟ่า สควอต  คุณถูกกล่าวว่าแข็งแกร่งกว่าผู้นำขององค์กรฮันเตอร์ และเป็นคนที่ถูกเปรียบเทียบกับมาสเตอร์เซล แอซเรล  เมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ ถ้าคุณคุยกับองค์กรฮันเตอร์และยืนกราน พวกเขาควรจะอนุญาตเรา” เจมิสัน อุทานด้วยความไม่เชื่อ

 

เขาไม่เชื่อว่าแวเรียนท์ทำไม่ได้ เขาเป็นคนที่เป็นหนึ่งในแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดในขณะนี้ สำหรับพลังของเขา พวกเขาถูกกล่าวว่าเขาสามารถขู่ได้แม้กระทั่งมาสเตอร์ขององค์กรฮันเตอร์ แล้วทำไมตอนนี้เขาถึงต้องการหาข้อแก้ตัว? เขาควรจะสามารถครอบครองอำนาจพวกนั้นได้อย่างง่ายดายสิ

 

“มันไม่ง่ายอย่างที่คิด มันมีระบบที่ซับซ้อน…” แวรันพึมพำขณะหยิบไฟล์ที่อยู่ตรงหน้าเขาและเริ่มอ่าน

 

“อย่างไรก็ตาม ฉันจะลองดูว่า ฉันจะทำอะไรได้บ้างไหมก่อน” เขากล่าวเสริม “ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี ฉันน่าจะเข้าถึงมันได้แบบไม่มีข้อจำกัด”

 

“นั่นจะเป็นเรื่องดีแน่นอนครับ” เจมิสันยอมรับ

 

“ออกไปได้แล้ว ฉันจะอ่านไฟล์ที่คุณเตรียมไว้” แวรันบอกเจมิสัน

 

เจมิสันพยักหน้า ขณะที่เขายืนขึ้น เขาหันหลังเดินจากไป

 

“เจมิสัน!”

 

ทันทีที่เจมิสันมาถึงประตู เขาได้ยินเสียงของแวรันดังขึ้น

 

“ครับท่าน?” เขาตอบกลับเมื่อเขาหันหลังกลับ

 

“ฉันจะให้สิทธิ์คุณเข้าถึงได้ แต่ถ้าคุณยังไม่พบสิ่งที่เป็นรูปธรรม คุณควรเตรียมพร้อมสำหรับผลที่ตามมา” แวรันเตือนเจมิสันอย่างเคร่งขรึม

 

เจมิสันรู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกครั้ง เมื่อได้ยินคำเตือน เขาทำได้แค่ทำให้ดีที่สุดเท่านั้น

 

เขาพยักหน้าขณะที่เขาจากไป

 

————————————————————–

ตอนที่ 21: มอนสเตอร์ออกมา

 

ชายในเสื้อคลุมสีดำและกางเกงสีขาวกำลังเดินอยู่ในทางเดินที่สวยงาม ซึ่งดูเหมือนนักออกแบบตกแต่งภายในราคาแพงจะประดิษฐ์ขึ้น

 

ชายคนนั้นมีผมสีเงินสวยยาวจรดคอ ผมหยักศกของเขาเข้ากับเคราเพียงเล็กน้อยที่เขาพยุงไว้

 

ดวงตาสีดำสนิทของชายผู้นี้อดไม่ได้ที่จะสังเกตสภาพแวดล้อมของเขา ซึ่งเต็มไปด้วยความงามที่มีระดับ

 

ที่นี่ทุกอย่างดูแพง ตั้งแต่เสาไปจนถึงแจกันที่วางอยู่ใกล้กำแพง แม้แต่ภาพที่แขวนอยู่บนผนังก็ดูเหมือนเป็นฝีมือของศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

 

น่าแปลกที่ภาพบุคคลเหล่านี้ทั้งหมดเป็นของขวัญ

 

ไม่นานชายคนนั้นก็มาถึงสุดทางเดินซึ่งเขาหยุด เขาหันไปทางซ้ายและพบกับประตูโลหะสีดำ

 

ชายคนนั้นเอื้อมมือออกไป พลางเคาะประตู

 

“ฉันเอง เจมิสัน” ชายผมสีเงินพูดเบาๆ เขาทำให้แน่ใจว่าเสียงของเขาเป็นน้ำเสียงที่แน่น แม้ว่าชายคนนั้นจะพูดเกี่ยวกับตัวเองเท่านั้น แต่น้ำเสียงของเขาก็ให้เกียรติอย่างเต็มที่ ราวกับว่าคนที่อยู่ในห้องสมควรได้รับความเคารพอย่างสูงสุด

 

“เข้ามาข้างในเถอะ” เสียงเรียบๆดังมาจากข้างใน

 

ชายผมสีเงินผงกหัว ในขณะที่เขาผลักประตูให้เปิดเพื่อก้าวเข้าไปข้างใน

 

ห้องค่อนข้างใหญ่ แต่ดูใหญ่ขึ้นเพราะความว่างเปล่า ภายในห้องมีโต๊ะเพียงโต๊ะเดียว ข้างหลังมีชายคนหนึ่งนั่งอย่างสงบ ชายคนนั้นนั่งแช่อยู่ในเอกสารที่อยู่ข้างหน้าเขา

 

ชายที่นั่งบนเก้าอี้ดูเหมือนจะอายุ 30 ปลายๆ เขาสวมเสื้อคลุมสีดำเช่นกัน แต่เสื้อคลุมนั้นเหมาะกับเขามากกว่าชายผมสีเงิน เพราะเขาดูเหมือนเป็นซีอีโอที่หล่อเหลาของบริษัทที่มีมูลค่าหลายพันล้านเหรียญ

 

แม้ว่าชายคนนั้นกำลังดูเอกสารของเขา แต่ดวงตาของเขาก็ยังมองเห็นได้ ดวงตาสีน้ำตาลแดงเข้มที่สวยงามของเขากำลังอ่านเอกสารในมืออย่างเกียจคร้าน

 

ชายคนนั้นมีผมสีเข้มสวยงามไม่สั้นหรือยาวเกินไป ผมของเขาดูเหมือนจะมีเฉดสีน้ำตาลเช่นกัน มันไม่ชัดเจนว่าเป็นเพราะแสงหรือเป็นอย่างที่มันเป็น

 

“คุณอยู่ตรงนั้น และนั่งลง” ชายคนนั้นบอกชายผมสีเงินโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง

 

แม้ว่าชายผมดำจะพูดอย่างเกียจคร้าน แต่เสียงของเขาดูเหมือนจะมีเวทมนตร์บางอย่างเพียงพอที่จะส่งความเย็นที่สั่นไปถึงกระดูกสันหลังของชายผมสีเงิน

 

ชายผมสีเงินพยักหน้าขณะที่เขาพูด “ครับท่าน”

 

เขาก้าวไปข้างหน้าและนั่งต่อหน้าชายผมดำ

 

“แล้วการสืบสวนของคุณเปิดเผยอะไรได้? เซล แอซเรล… เขาถูกมอนสเตอร์ฆ่าตายในดันเจี้ยนหรือพวกแวเรียนท์ทมิฬมีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน?” ชายผมดำถามอย่างเกียจคร้าน เขาไม่ได้หยุดอ่านเอกสารที่อยู่ในมือของเขา

 

เจมิ สันรู้สึกได้ว่าหัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนตอบ “ท่านแวรัน เราค้นพบเบาะแสบางอย่างแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์อะไร เราไม่แน่ใจว่านี่เป็นการกระทำของแวเรียนท์ทมิฬ หรือ มอนสเตอร์”

 

ในที่สุดชายผมดำก็เงยหน้าขึ้นมองเจมิ สัน

 

“คุณรู้ใช่ไหม ว่ามันสำคัญแค่ไหน? เซล แอซเรล เป็น วอร์ล็อค ที่แข็งแกร่งที่สุด เขาพร้อมกับภรรยาของเขาถูกกำจัดออกจากดันเจี้ยนที่พวกเขาไปสำรวจ ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น แต่แวเรียนท์คนอื่น ๆ ทั้งหมดก็ถูกฆ่าด้วย พวกนั้น ถ้าผ่านไป 5 ปีแล้ว คุณยังหาเบาะแสไม่ได้ แล้วพวกคุณจะมีประโยชน์อะไร” เขาถาม.

 

“ท่านครับ เรากำลังพยายามอย่างเต็มที่ แต่มันยากจริงๆ ไม่มีเบาะแสอะไรทิ้งไว้ ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นพวกมอนสเตอร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่มีบางอย่างไม่สมเหตุสมผล” เจมิสันตอบ อย่างระมัดระวัง

 

“ก็ได้ บอกฉันสิว่าคุณพบอะไร ให้ฉันตัดสินว่ามันคุ้มไหม” ชายผมดำกล่าว

 

เจมิสันเปิดกระเป๋าสีดำที่เขานำมาและดึงแฟ้มที่เขาวางไว้ข้างหน้าชายผมดำ

 

“อย่างที่คุณทราบ เมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว โลกนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล” เจมิสันกล่าวเบาๆ

 

“ใช่แล้ว มันเป็นเวลาแห่งการตื่นครั้งยิ่งใหญ่ ดันเจี้ยนเริ่มปรากฏขึ้นทั่วโลก ภูมิประเทศของโลกนี้เปลี่ยนไป ยิ่งกว่านั้น เด็กที่อายุน้อยกว่า 10 ขวบก็เริ่มปลุกพลังต่างๆขึ้นมาได้” ชายผมดำยอมรับ

 

“แน่นอน มันเป็นเหตุการณ์ลึกลับที่เปลี่ยนโลกทั้งใบ นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเริ่มสำรวจดันเจี้ยนเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมัน พวกเขาตระหนักว่าดันเจี้ยนนั้นเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ”

 

” โชคดีที่เราค้นพบว่ามอนสเตอร์ไม่สามารถออกมาจากดันเจี้ยนได้ มนุษยชาติปลอดภัยจากดันเจี้ยนเหล่านี้ ซึ่งดูเหมือนจะนำของขวัญแห่งพลังมาสู่มนุษยชาติ ดูเหมือนจะเป็นยุคทองของการวิวัฒนาการของมนุษยชาติ”

 

เจมิสันเริ่มพูดและนึกย้อนไปถึงอดีตอย่างช่วยไม่ได้

 

“คุณเรียกมันว่าโชคดี แต่ผมมองว่าโชคร้าย การค้นพบนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ของเราขี้เกียจและเกียจคร้าน เมื่อดันเจี้ยนไม่มีความเสี่ยง ก็ไม่จำเป็นต้องค้นคว้า พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในดันเจี้ยนได้ เนื่องจากพวกมอนสเตอร์นั้นแข็งแกร่งเกินไป และมันก็สามารถฆ่าทุกคนได้ พวกมอนสเตอร์พวกนั้น พวกมันออกมาจากดันเจี้ยนไม่ได้ สภาพที่เป็นอยู่นี้ไม่ดีต่อมนุษยชาติ เมื่อการวิจัยหยุดลง” ชายผมดำพึมพำขณะวางกระดาษที่อยู่ในมือลงบนโต๊ะ

 

“ใช่แล้ว ความดีทุกอย่างมาพร้อมความเลว การสำรวจดันเจี้ยนนั้นมีความเสี่ยง แม้แต่กองทัพของเราไม่สามารถควบคุมมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนได้ แต่เนื่องจากพวกมอนสเตอร์ออกมาไม่ได้ เราจึงไม่ควรเสี่ยง นักวิทยาศาสตร์ก็เริ่มพากันหยุดค้นคว้าด้วยความกระตือรือร้นเช่นเดิม มีเพียงกองทัพเท่านั้นที่ได้รับมอบหมายให้สำรวจแต่ละดันเจี้ยนเพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีมนุษย์คนใดเข้าไปภายในดันเจี้ยนพวกนั้นเพื่อฆ่าตัวตาย เราคิดว่านั่นคือทั้งหมด โอ้ เราผิดเพียงไรกัน…” เจมิสันพึมพำ

 

“จริงสิ ถ้าไม่ใช่เพราะเนื้อหานี้ โศกนาฏกรรมปี 2028 ก็คงไม่เกิดขึ้น” ชายผมดำออกความเห็น

 

“ถูกต้อง ฉันนึกได้แค่ว่ารัฐบาลต้องช็อค เมื่อในที่สุดมอนสเตอร์ก็เริ่มออกมาจากดันเจี้ยนแล้ว  และการนองเลือดมากมายก็จะเกิดขึ้น… แม้แต่ตอนนี้ ภาพในตอนนั้นก็ยังทำให้ฉันต้องสั่นสะท้าน” เจมิสัน ปล่อยมือ เมื่อรู้ว่ามือของเขาสั่น

 

————————————————————–

ตอนที่ 20: ควบคุมไม่ได้

 

“ฉันไม่ได้ทำเพราะอยากทำเหมือนกัน แต่เพราะเราต้อง มันอันตรายที่จะปล่อยให้เด็กคนนั้นเดินไปทั่วได้ เราต้องแจ้งตำรวจ เด็กนั่นต้องถูกขังไว้เพื่อคนอื่นๆจะได้ไม่เจอแบบนี้ เด็กนั่นจะทดแทนได้กี่ชีวิตกัน” เอมิเลียบอกกับสามีของเธอ ขณะที่เธอกดหมายเลขเจ้าหน้าที่

 

“แต่เด็กคนนั้น… เขาจะถูกขังเหมือนสัตว์เดรัจฉาน เราไม่รู้ว่าพวกมันจะทำอะไรกับเขา เขาอาจถูกฆ่าด้วยซ้ำ นี่มันโอเคจริงๆ หรือ ไม่ว่ายังไง เขาก็ช่วยชีวิตพวกเราไว้” เวสตันย้ำ เขาก้าวไปข้างหน้า

 

เขาจับมือซ้ายของเธอด้วยมือทั้ง 2 ข้างของเธอ ซึ่งทำให้เธอไม่รับสาย

 

เวสตันมองเข้าไปในดวงตาของภรรยาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ “ขอคิดดูอีกที”

 

*****

 

ลูซิเฟอร์ไปถึงชั้นที่สูงขึ้นและเดินไปที่ประตูที่ใกล้ที่สุด ซึ่งเขาได้ยินเสียงบางอย่างมาจากมัน

 

ภายในไม่กี่วินาที เขาก็ไปถึงประตู แต่เขาไม่ได้เปิดประตู ในขณะที่เขาอยู่ใกล้พอที่จะได้ยินสิ่งที่กำลังพูดคุยกันอยู่ข้างใน

 

สิ่งแรกที่เขาได้ยินคือเอมิเลียพูด

 

“ฉันคิดมาแล้ว เด็กคนนั้นต้องถูกขัง! ไม่ต้องสงสัยการติดสินใจของฉัน แล้วถ้าเจ้าหน้าที่ฆ่ามันล่ะ การตายของมันก็จะช่วยผู้คนได้ แค่นั้นมันก็คุ้มแล้ว!” เอมิเลียพูดพาดพิงถึงสามีของเธออย่างจริงจัง

 

เวสตันอดไม่ได้ที่จะยอมแพ้ต่อหน้าภรรยาของเขา เขาเห็นว่าคำพูดของเธอบางคำก็สมเหตุสมผล

 

เหตุผลเดียวที่เขาลังเลก็คือว่าลูซิเฟอร์ช่วยพวกเขา อย่างไรก็ตาม หากภรรยาของเขาพูดถูกและเขาทำอย่างนั้นเพียงเพราะเขาต้องการจะฆ่า การช่วยชีวิตลูซิเฟอร์ก็เหมือนกับการปกป้องฆาตกรฆ่าหมู่ที่จะฆ่าคนจำนวนมากอีกครั้ง

 

เขาทำได้เพียงหวังว่าทางการจะช่วยลูซิเฟอร์และดำเนินการด้วยความระมัดระวัง เขาเป็นเด็ก หลังจาก แจ้งเจ้าหน้าที่ในตอนนี้จะดีกว่า ถ้าให้พวกเขาจับลูซิเฟอร์ไว้ก่อนในระยะของการเจริญเติบโตของเขา

 

เขาคิดว่ามันจะดีกว่า ถ้าพวกเขาเรียกเจ้าหน้าที่ที่สามารถช่วยลูซิเฟอร์และพาเขาไปหาคนที่สามารถช่วยแวเรียนท์ ที่จัดการกับปัญหานี้ได้ มันก็ดีกว่าจริงๆ

 

แม้ว่าเขาจะพยายามนึกถึงประโยชน์ของการที่ลูซิเฟอร์ถูกจับ แต่ในความเป็นจริง เขาแค่พยายามหาเหตุผลและให้เหตุผลแก่การตัดสินใจของภรรยาของเขา ซึ่งตอนนี้เธอคิดไม่รอบคอบซักเท่าไหร่

 

“เฮ้อ ฉันว่าคำพูดของคุณบางคำก็สมเหตุสมผล เราควรแจ้งเจ้าหน้าที่” เขายอมรับ

 

น่าเสียดายที่ลูซิเฟอร์ได้ยินเพียงคำพูดของภรรยาของเขาและไม่ได้ยินอะไร หลังจากนั้น เขาไม่สนใจที่จะได้ยินอย่างอื่น หัวใจของเขาเริ่มคิด ในขณะที่มือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

 

ประโยคหนึ่งลอยอยู่ในหัวของเขา ซึ่งออกมาจากปากของผู้หญิงคนนั้น จากปากของผู้หญิงคนนั้นที่เขาตัดสินใจจะช่วย จากผู้หญิงที่เขาเคยเปรียบกับแม่ของเขาด้วยความเมตตาเล็กน้อย

 

“ถ้าการตายของมันช่วยผู้คนได้ก็คุ้มแล้ว!”

 

“ถ้าการตายของมันช่วยผู้คนได้ก็คุ้มแล้ว!”

 

“ถ้าการตายของมันช่วยผู้คนได้ก็คุ้มแล้ว!”

 

ประโยคเดียวกันนี้ยังคงลอยอยู่ในหัวของเขา ในขณะที่ใบหน้าที่โหดร้ายของเอมิเลียปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

 

เขาอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง ซึ่งมันอ่อนแรงลงอย่างกะทันหัน

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอน! หากความตายของมันช่วยมนุษยชาติได้ งั้นก็มาฆ่ามันกันเถอะ!”

 

เสียงของผู้ชายคนนั้นก็เข้าไปในหูของเขาเช่นกัน

 

ลูซิเฟอร์เงยหน้าขึ้นมองเห็นภาพของหมอราวต่อหน้าของเขา

 

“ใช่แล้ว ใครจะสนล่ะ สิ่งสำคัญคือเราต้องฆ่ามันซะ ยังไงซะ มันก็เป็นแค่ของเล่น”

 

อีกเสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในหูของลูซิเฟอร์ ซึ่งดูเหมือนจะมาจากข้างหลัง เขาหันหลังกลับเพียงพบหมอเรย์แมนยืนอยู่ตรงนั้น

 

“ฆ่ามัน!”

 

ได้ยินอีกเสียงหนึ่ง

 

ลูซิเฟอร์มองไปทางซ้ายและพบว่าเวสตันยืนอยู่ตรงนั้น

 

“ถูกต้อง! จับไอ้สารเลวนี้และฆ่ามันเพื่อพวกเรา!”

 

อีกเสียงหนึ่งมาจากทางขวาที่ลูซิเฟอร์พบเอมิเลียยืนอยู่

 

“ฆ่ามัน!”

 

“ฆ่ามัน!”

 

“ฆ่า!”

 

“ฆ่า!”

 

ทุกคนเริ่มตะโกนใส่หูของลูซิเฟอร์ ซึ่งเริ่มมีอาการประสาทหลอน

 

เหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะซ้ำซากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนักวิทยาศาสตร์ มากเสียจน แม้แต่คำพูดที่พูดในตอนนี้ก็ยังคล้ายกัน ความตายของเขามีไว้เพื่อมนุษยชาติ นั่นคือทั้งหมดที่เขามีค่า

 

ศีรษะของเขายังคงเต้นอยู่ด้วยความเจ็บปวด ขณะที่เขาคุกเข่า จับศีรษะไว้แน่น

 

เลือดไหลผ่านร่างของลูซิเฟอร์เร็วกว่าที่เคยเคลื่อนไหว คลื่นของความโกรธที่ควบคุมไม่ได้ก็เพิ่มขึ้นในหัวใจของเขา ซึ่งดูเหมือนจะผสมกับความเศร้าโศกและความเจ็บปวด

 

“ทำไม… ทำไม… ทำไม…”

 

ลูซิเฟอร์ยังคงพึมพำอย่างว่างเปล่า ขณะที่ดวงตาของเขาเปียกปอน

 

การเปลี่ยนแปลงอื่นเกิดขึ้นในดวงตาของเขา ซึ่งเขาไม่ทันสังเกต ก่อนหน้านี้ตาของเขาเป็นสีฟ้าที่สวยงาม แต่ตาขวาของเขาดูเหมือนจะเปลี่ยนสีเล็กน้อย

 

ตาขวาของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วงเล็กน้อย มันแทบจะสังเกตเห็นไม่ได้ ในขณะนี้แม้ว่า ตาขวาของเขายังคงเป็นสีน้ำเงินเป็นส่วนใหญ่และมีสีม่วงเพียงเล็กน้อย

 

“ทำไมฉันถึงโง่ที่จะเชื่อพวกมันกัน…” ลูซิเฟอร์หลั่งน้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบแก้ม

 

น้ำตาค่อยๆ ไหลอาบแก้ม ไม่นานน้ำตาก็ไหลออกจากแก้ม ขณะที่น้ำตาหยดนั้นแยกออกจากร่างกาย

 

น้ำตาเคลื่อนผ่านอากาศภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วง

 

แหมะ!

 

น้ำตาร่วงหล่นลงบนพื้น ทันใดนั้น เสียงกรีดร้องของความโกรธก็เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากของลูซิเฟอร์

 

“ทำไม!!!”

 

เสียงคำรามของลูซิเฟอร์ดังมากจนเต็มบ้านทั้งหลัง

 

*****

 

เอมิเลียกดหมายเลขโทรหาเจ้าหน้าที่เสร็จแล้ว และเธอก็กำลังจะแตะตัวเลือกการโทร เมื่อมีเสียงกรีดร้องดังเข้ามาในหูของเธอ

 

เสียงกรีดร้องดูน่ากลัวมากจนทำให้เธอหนาวสั่น ตัวสั่นลงมาที่กระดูกสันหลังของเธอ ขณะที่โทรศัพท์ตกลงมาจากร่างกายของเธอ

 

ปึ้ง!

 

โทรศัพท์ตกบนพื้น แต่เสียงการตกก็ถูกฝังไว้ด้วยเสียงประตูที่พัง

 

ทั้งเอมิเลียและเวสตันมองไปทางประตู และใบหน้าของพวกเขาซีดด้วยความกลัว

 

————————————————————–

ตอนที่ 19: สัตว์ประหลาด

 

เอมิเลีย ภรรยาของเวสตันอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง ในขณะที่ขาของเธอเริ่มสั่น

 

เธอไม่สามารถระงับความกลัวได้อีกต่อไป และเธอก็ล้มลงกับพื้นในขณะที่ความรู้สึกนั้นกำลังยุ่งเหยิง ขณะที่ความเศร้าโศกของเธอหลั่งไหลออกมาด้วยน้ำตาที่ควบคุมไม่ได้

 

ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน ขณะที่น้ำตายังคงไหลออกจากดวงตาของเธอ

 

เวสตันวิ่งไปหาภรรยาที่กำลังร้องไห้ของเขาและกอดเธอไว้

 

“ไม่เป็นไร ทุกอย่างเรียบร้อย ไม่มีอะไรต้องกังวล” เขาปลอบภรรยา “เราปลอดภัย”

 

แม้ว่าพวกเขาทั้งสองจะสั่นคลอนจากแก่นแท้ของหัวใจ เวสตันรู้ว่าเขาต้องรักษาความสงบเพื่อที่เขาจะได้ปลอบโยนภรรยาของเขา

 

เขาเพิ่งผ่านสถานการณ์ที่อันตรายถึงชีวิต แต่ภรรยาของเขากลับเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ชายคนหนึ่งถูกฆ่าตาย เมื่อเขาอยู่ห่างจากเธอเพียงไม่กี่นิ้ว ไม่เพียงแค่นั้น แต่ก่อนหน้านี้เธอยังถูกจับเป็นตัวประกัน เวสตันทำได้แค่จินตนาการถึงสิ่งที่เธอต้องเผชิญ

 

เอมิเลียเบิกตากว้าง ขณะกอดเวสตันแน่น เสียงร้องไห้ของเธอดูเจ็บปวดมาก

 

เวสตันยังคงเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเอมิเลีย ขณะที่เขาใช้มืออีกข้างลูบหลังเธอ

 

“ทุกอย่างเรียบร้อยดี มันจบแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย ร่างกายของเขารู้สึกเสียวซ่านด้วยความกลัว แต่เขาไม่ปล่อยให้มันปรากฏบนใบหน้าของเขาและรักษาใบหน้าที่แข็งแกร่ง

 

หลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที ในที่สุดเอมิเลียก็สงบลง เมื่อเธอผละออกจากเวสตัน

 

เธอมองไปด้านข้างของเขาและเห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ตรงนั้น สายตาอยากรู้อยากเห็นของลูซิเฟอร์อยู่ที่ใบหน้าของเธอ

 

ทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อจ้องมองที่ลูซิเฟอร์

 

แม้ว่าจะเป็นการช่วยเหลือพวกเขา ลูซิเฟอร์ก็ยังฆ่าผู้คน เขาเป็นฆาตกร พวกเขาไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองอย่างไรในตอนนี้

 

เวสตันยืนขึ้นและเผชิญหน้ากับลูซิเฟอร์ก่อนจะก้มศีรษะลงเล็กน้อย

 

“ข-ขอบคุณที่ช่วยพวกเรา” เวสตันขอบคุณลูซิเฟอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่สามารถตำหนิเด็กคนนั้นได้จริงๆ เมื่อลูซิเฟอร์ทำทุกอย่างเพื่อพวกเขา

 

“ใช่ ขอบคุณที่ช่วยพวกเราไว้ ถ้าไม่มีเธอ พวกเราคงตายไปแล้ว” เอมิเลียก็ทำเช่นเดียวกัน เธอโค้งคำนับด้วยความเคารพ

 

“เนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยเลือด เธอจะออกไปแบบนี้ไม่ได้ ตำรวจอาจจับเธอได้ เธอควรขึ้นไปบนชั้น 2 เรามีห้องพักอยู่ที่นั่น เธอยังสามารถอาบน้ำได้” เธอกล่าวเพิ่มเติม

 

ลูซิเฟอร์จ้องมองหญิงสาวอย่างว่างเปล่าและไม่โต้ตอบ มีบางอย่างดูแปลกไป เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่เขารู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นแตกต่างออกไป

 

ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเธอคล้ายกับแม่ของเขาจากวิธีที่เธอพูด แต่ตอนนี้เขาไม่เข้าใจความรู้สึกนั้น เธอกลับดูเหมือนตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เอมิเลียถามลูซิเฟอร์ด้วยความสงสัย

 

“ไม่อยากขึ้นไปข้างบนเหรอ?” เธอถาม เมื่อเห็นว่าลูซิเฟอร์ไม่ตอบสนอง

 

ลูซิเฟอร์ยังคงไม่พูดอะไรและยืนอยู่ในที่ของเขาเหมือนรูปปั้น

 

“ฉันว่าเธอคงไม่อยากขึ้นไปชั้นบน ไม่เป็นไรนะ ล้างหน้าในครัวของเราที่นี่ก็ได้ ระหว่างนี้ฉันจะเอาเสื้อผ้ามาให้เธอจากชั้นบน มันอาจจะใหญ่ไปหน่อยเพราะพวกมัน เป็นของลูกชายของเราที่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แต่ตอนนี้ เสื้อผ้าพวกนั้นควรจะทำหน้าที่นี้ได้ในตอนนี้แล้ว” เอมิเลียพูดกับลูซิเฟอร์ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป

 

“เวสตัน คุณพาเด็กไปที่ห้องครัวของเรา แล้วขึ้นไปชั้นบนเพื่อช่วยฉันจัดเสื้อผ้า” เธอบอกเวสตันก่อนที่เธอจะเริ่มเดินขึ้นบันได

 

แม้แต่เวสตันก็ยังแปลกใจกับเธอ แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ผู้คนรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป บางทีเธออาจพยายามเป็นแม่ที่ห่วงใยลูซิเฟอร์ แม้ว่าบุคลิกของเธอจะดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 

“อย่ากังวล เธอช่วยเราไว้ เราจะไม่ปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเธอแน่นอน มาล้างหน้ากันเถอะ” เวสตันพูดกับลูซิเฟอร์ก่อนที่เขาจะเปิดประตูห้องครัว

 

ลูซิเฟอร์จ้องไปที่ชายคนนั้น แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจฟัง เขาเดินเข้าไปในครัว

 

“ฉันจะไปช่วยเอมิเลีย เราจะกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้า จนกว่าจะถึงตอนนั้น เธอต้องแน่ใจว่าเธอล้างเลือดออกจากร่างกายของเธอหมดแล้ว” เวสตันพูดกับลูซิเฟอร์

 

“หลังจากนั้น เราจะเคลียร์ศพจากภายนอก ทุกอย่างจะเรียบร้อย ไม่ต้องกังวล เธอได้ช่วยเราไว้ ฉันจะไม่ปล่อยให้ตำรวจจับเธอได้” เขากล่าวเสริมก่อนจะหันหลังกลับ

 

ลูซิเฟอร์หันกลับมามองที่ประตู ความสงสัยยังคงอยู่ในตัวเขาแม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าเวสตันดูจริงใจ

 

นักวิทยาศาสตร์ยังดูจริงใจก่อนจะฆ่าเขา ความจริงใจนั้นเชื่อถือไม่ได้ เพื่อความสบายใจ เขาจึงตัดสินใจตรวจสอบสิ่งต่างๆ

 

เขาเดินออกจากครัวและเริ่มเดินไปที่บันได

 

เหน็บ! เหน็บ! เหน็บ!

 

ทุกครั้งที่ก้าวขึ้นบันไดมีเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เขาก็ไม่สนใจ เสียงไม่ใหญ่พอที่จะทำให้คนอื่นได้ยิน แม้แต่เขาแทบจะไม่ได้ยิน

 

*****

 

ภายในห้องบนชั้น 2 สามารถได้ยินเสียงกรีดร้องได้

 

“หมายความว่าไงจะแจ้งตำรวจ! บ้าไปแล้ว! เด็กผู้ชายคนนั้นช่วยเราไว้!”

 

เวสตันเป็นคนที่กรีดร้องใส่ภรรยาของเขาด้วยความไม่เชื่อ

 

“ถูกต้อง! มันเป็นฆาตกร! ฉันแค่ทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น!” เอมิเลียอุทาน เธอทำเสียงต่ำ

 

“พูดเบาๆ  ฉันไม่ต้องการให้เสียงของเราลงไปข้างล่างนั่น” เธอกล่าวเสริม

 

“ฉันรู้ว่าเธอกำลังเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอคิดอีกทีสิ เด็กคนนั้นฆ่าคนไปก็จริง แต่เขาทำอย่างนั้นเพื่อช่วยชีวิตเรา! ทำไมเธอไม่เข้าใจล่ะ! เราจะลงโทษเขาจริง ๆเหรอ เด็กนั่นทำไปเพื่อช่วยเรา?” เวสตันถาม ขณะถอนหายใจ

 

“อะไรทำให้คุณเชื่อว่ามันทำทุกอย่างเพื่อช่วยเรา มันทำทั้งหมดนี้เพราะมันต้องการจะฆ่าต่างหาก! มันเป็นสัตว์ประหลาด!” เอมิเลียตอบขณะที่เธอส่ายหัว

 

“มันไม่ได้พยายามช่วยเรา ถ้ามันตั้งใจจะช่วยเรา มันจะต้องคิดมากกว่านั้นถึง 2 ครั้ง ก่อนจะโจมตี ทำไมตอนที่ชายคนนั้นเอามีดจ่อที่คอของฉันเพื่อข่มขู่ มันก็ไม่ได้คิดเลยสักนิด! นั่นไง เด็กนั่นไม่ได้เป็นห่วงเราจริงๆ นะ ทำไมมันถึงต้องช่วยเราด้วยล่ะ” เธอพูดต่อ

 

เธอเดินไปที่โทรศัพท์แล้วหยิบขึ้นมา ขณะที่เธอเริ่มกดหมายเลข “อาจเป็นเพราะมันต้องการฆ่าก็ได้! เราบังเอิญโชคดีพอที่มีปัญหาพอดี ตอนที่มันกำลังคลั่งไคล้และอยากจะฆ่าคน”

 

… ยังมีต่อ

 

————————————————————–

ตอนที่ 18: การเริ่มต้น

 

ลูซิเฟอร์จับปืนของเปาโลด้วยมือเปล่า ด้วยการปิดปากปืน เปาโลยังคงยิงไม่หยุด  และกระสุนยังคงผ่านฝ่ามือของลูซิเฟอร์จนเป็นรูขนาดใหญ่

 

ต่อมาปืนก็เริ่มสลายไปพร้อมกับกระสุนที่กำลังเปลี่ยนเป็นเถ้าถ่าน น่าเสียดายที่กระสุนทั้งหมดที่เปาโลพยายามป้องกันนั้น ไม่ไดก้ทำความเสียหายอะไรแก่ลูซิเฟอร์เลย และมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขามากนัก

 

ยกเว้นรูที่มือของลูซิเฟอร์แล้ว นอกนั้นก็ไม่มีบาดแผลบนร่างกายของเขาเลย

 

“มะ-ไม่ อยู่ให้ห่างจากฉัน!” เปาโลพูดติดอ่าง ขณะที่ใบหน้าของเขาสีซีดจนไม่เหลือสีและเต็มไปด้วยความกลัว

 

เขาอดไม่ได้ที่จะถอยกลับเหมือนกระต่ายที่หวาดกลัว หัวใจของเขาเต้นเป็นบ้า และเขารู้สึกว่าสุขภาพของเขาแย่ลง

 

หัวของเปาโลก็เริ่มหมุนเมื่อเขาเริ่มรู้สึกไม่สบาย

 

‘นี่เป็นฝันร้าย มันไม่ใช่แวเรียนท์แต่เป็นยมฑูตที่น่าสยดสยอง’ เขารู้เรื่องเกี่ยวกับแวเรียนท์มา 2-3 คน  แน่นอนว่าไม่เคยมีใครน่ากลัวเท่านี้มาก่อน

 

หรือเป็นความรู้ของเขาเกี่ยวกับแวเรียนท์ที่ผิดพลาด? คำถามมากมายผุดขึ้นในหัวของเขา ขณะที่เปาโลลากร่างกายของเขากลับมา

 

ในท้ายที่สุด เขาเห็นทางเลือกเดียวเท่านั้น

 

“หยุดมันซะ!”

 

เขารีบสั่งคนของเขา เขาต้องการเหยื่อล่อที่สามารถดึงดูดความสนใจของลูซิเฟอร์ได้ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น เปาโลสามารถวิ่งหนีและเอาชีวิตรอดได้

 

น่าเสียดายที่แผนของเขาไม่ได้ผล คนของเขาหวาดกลัวยิ่งกว่าเขาเสียอีก ไม่ต้องพูดถึงการเคลื่อนไหวเพื่อหยุดลูซิเฟอร์ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดัง

 

การแสดงความแข็งแกร่งที่โหดเหี้ยม ซึ่งลูซิเฟอร์แสดงให้เห็น ทำให้ทุกคนหวาดกลัวอย่างทั่วถึง

 

พวกของเขาทิ้งเปาโลไว้ข้างหลังและเริ่มวิ่งไปที่ประตู สิ่งนี้สามารถดึงดูดความสนใจของลูซิเฟอร์ได้

 

เขามองไปทางผู้ชายที่กำลังวิ่งหนี คนเหล่านี้เคยเห็นลูซิเฟอร์แล้ว แม้ว่าเขาจะไม่สนใจคนที่รู้เรื่องของเขา แต่ก็มีคนอื่นๆ ที่ไม่โชคดีเท่า

 

เขามาที่นี่เพื่อช่วยคนบางคน หากชายเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็จะสร้างปัญหาให้กับคู่สามีภรรยาคู่นี้ในภายหลังได้แน่นอน

 

ใครๆ ก็คิดว่าลูซิเฟอร์รู้จักพวกเขา การแก้แค้นไม่สามารถเข้าใจได้ อะไรก็เป็นไปได้ในภายหลัง เขาไม่ต้องการที่จะช่วยชีวิตผู้คนเพียงเพื่อให้คนพวกนั้นถูกฆ่าในภายหลัง

 

เขาย้ายจากตำแหน่งของเขา ขณะที่เขาโฟกัสสายตาไปที่ประตู

 

ความเร็วของเขาช่วยให้เขาไปถึงประตูได้เร็วกว่ากลุ่มคนพวกนั้น พวกเขาคิดว่าพวกเขาจะวิ่งหนีได้ทันเพียงเพราะการดึงดูดความสนใจของเปาโลที่กำลังดึงดูดสายตาอันมืดมิดของเทพเจ้าแห่งความตายที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาในตอนนี้

 

ลูซิเฟอร์ยกนิ้วขวาเข้าหาชายที่อยู่ใกล้เขาที่สุด

 

สายฟ้าสีดำออกจากนิ้วของเขาและยิงตรงไปที่หัวของคนแรกที่วิ่งหนี

 

ลูซิเฟอร์ชกเข้าไปที่ชายอีกคนหนึ่งโดยไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว ชายคนนั้นลแยกลับมาเหมือนก้อนหิน ปละชนเข้ากับคนอื่นๆที่อยู่ข้างหลังเขา ผลกระทบของหมัดของลูซิเฟอร์พิสูจน์แล้วว่ามันทรงพลังมาก จนแม้แต่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังก็ถูกเหวี่ยงกลับเหมือนของเล่น

 

ในไม่ช้าเขาก็หยิบโต๊ะใกล้ ๆ และโยนมันก่อนที่มันจะปิดกั้นทางออก มันเป็นกลอุบายเดียวกับที่เขาเคยใช้มาก่อน

 

หลังจากขวางทางที่จะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว เขาก็ลงมือปฏิบัติการทันที

 

เขาปรากฏตัวต่อหน้าคนอื่นทีละคน และฆ่าพวกเขาทั้งหมดอย่างช้าๆ บางคนถูกฆ่าเพราะความสามารถของการเน่าเปื่อยของเขา ในขณะที่บางคนถูกฆ่าเพราะไม่สามารถทนต่อความแข็งแกร่งอันโหดร้ายของเขาได้

 

ภายใน 3 นาที การสังหารหมู่ครั้งที่ 2 ก็เสร็จสิ้น ผู้บุกรุกทุกคนถูกฆ่าอย่างไร้ความปราณี ยกเว้นเปาโลที่ยังมีชีวิตอยู่

 

เปาโลยังคงสั่นสะท้านด้วยความกลัว ทางออกถูกขวางไว้ และลูซิเฟอร์ยืนอยู่ระหว่างทางออกที่ปิดกั้นมันไว้กับตัวเขา ไม่มีทางที่จะออกไปจากที่นี่ได้ เพราะที่นี่มีทางออกเพียงทางเดียวเท่านั้น เปาโลมองไม่เห็นทางรอด

ในไม่ช้า เขาก็จ้องมองผู้หญิงผมดำ ความคิดผุดขึ้นในหัว เมื่อเขาเห็นแสงแวบหนึ่งที่ปลายอุโมงค์อันมืดมิด

 

เปาโลกระโดดเข้าหาผู้หญิงคนนั้นและคว้าคอเธอไว้ ในขณะที่เขาวางมีดที่คอของเธอพร้อมกัน

 

“ถะ-ถ้าแกไม่ปล่อยฉัน ฉันจะฆ่าเธอ!” เปาโลเตือนลูซิเฟอร์ “ฉันบอกไว้ก่อนว่าฉันจะฆ่าเธอแน่ๆ! หากแกต้องการช่วยเธอ ให้เคลียร์เส้นทางให้ฉันออกไปเดี๋ยวนี้!”

 

เขาเดาว่าลูซิเฟอร์มาที่นี่เพื่อช่วยทั้งคู่ และทั้งคู่ก็เป็นทางเลือกเดียวของเขาที่จะหลบหนี ถ้ามันเป็นจุดอ่อนของลูซิเฟอร์ เขาต้องการใช้มันเพื่อเอาชีวิตรอด

 

ลูซิเฟอร์จ้องไปที่มีดที่วางอยู่บนคอของผู้หญิงคนนั้น

 

เขาชี้นิ้วไปที่ชายคนนั้นแต่ไม่ได้ขยับ

 

ชายผู้นั้นได้เห็นพลังของลูซิเฟอร์และรู้ว่าเขามีความสามารถที่สามารถทำร้ายผู้คนจากระยะไกลได้ เขาเคยเห็นสายฟ้าสีดำที่ลูซิเฟอร์เคยฆ่าคนของเขามาก่อน

 

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าพลังสายฟ้าของลูซิเฟอร์ดูคล้ายกับพลังที่เซล แอซเรลจอมเวทที่แข็งแกร่งที่สุดเคยมี แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นพลังเดียวกัน

 

ความสามารถคลาส S ของ แบล็คไลท์นิ่ง ที่ทำให้พ่อของเขามีชื่อเสียง

 

เมื่อนับความสามารถนี้แล้ว เขามีถึง 5 ความสามารถแล้ว 2 อย่างจากพ่อของเขา—ระดับคลาส S- แบล็คไลท์นิ่ง และระดับคลาส S- ความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง ส่วนอีก 2 ความสามารถมาจากแม่ของเขา – การเน่าเปื่อยระดับ S และการควบคุมลมระดับ A สำหรับความสามารถสุดท้าย มันคือ เวทย์มนต์แห่งการรักษา ซึ่งไม่มีอันดับ

 

ตอนนี้ ลูซิเฟอร์สืบทอดพลังทั้งหมดที่พ่อแม่ของเขามี พ่อแม่ของเขาไม่มีพลังอื่นๆแล้ว หรืออาจจะมีบางสิ่งที่เขาไม่รู้หรือว่าเขาอาจจะได้รับความสามารถเพิ่มเติม ของพลังแห่งการรักษาที่ดูเหมือนว่ามันจะมาจากไหนก็ไม่รู้

 

ขณะที่ลูซิเฟอร์กำลังเดินอยู่บนดินแดนที่แห้งแล้ง ในขณะที่กำลังมุ่งหน้ามายังเมืองลีเจี้ยน เขาได้ฝึกฝน แบล็คไลท์นิ่งของเขา มันทำให้เขาสามารถควบคุมมันได้ในระดับหนึ่ง

 

“อย่ากล้าใช้สายฟ้านั่นกับฉัน! ก่อนที่แกจะยิงมันออกมา มีดของฉันจะ-”

 

เปาโลเริ่มเตือนลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาปิดระยะห่างระหว่างมีดกับคอของผู้หญิงคนนั้น เพื่อให้การคุกคามของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้น น่าเสียดายที่การคุกคามของเขาพิสูจน์แล้วว่าไร้ประโยชน์เพราะลูซิเฟอร์ไม่ปล่อยให้เขาพูดจนจบ

 

สายฟ้าฟาดออกจากนิ้วของลูซิเฟอร์ มันทะลุคอของเปาโล ทิ้งรูใหญ่ไว้ข้างหลัง

 

ตาของเปาโลยังคงเบิกกว้าง ในขณะที่เขาเสียชีวิตไปแล้ว เขาไม่มีแรง แม้แต่จะกดมีดลงที่คอของผู้หญิงคนนั้น เพื่อฆ่าเธอ ขณะที่เขาล้มลงกับพื้น

 

เมื่อเห็นชายคนนั้นตายโดยไม่ทำร้ายผู้หญิง ลูซิเฟอร์ก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขาคิดว่ามันจบแล้ว

 

น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์อันเจ็บปวดอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกของเขาต้องพังทลายมากขึ้นไปอีกในเวลาต่อจากนี้ต่อไป

 

…. ยังมีต่อ.

 

————————————————————–

ตอนที่ 17: สายพันธุ์ที่หยิ่งผยอง

 

บรรยากาศตึงเครียดเต็มห้อง เมื่อเปาโลสั่งให้ผู้ติดตามที่มีแผลเป็นของเขาหักขาภรรยาของเวสตัน

 

ขณะที่ผู้หญิงผมสีเข้มก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เวสตันก็เตรียมจิตใจที่จะต่อสู้ด้วยชีวิตเพื่อปกป้องภรรยาของเขา

 

“อ๊าาาา!

 

ชายที่หน้ามีแผลเป็นเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าว เขาหยุดลง ขณะที่เขาได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากด้านหลัง

 

เขาหันกลับมาอย่างเร่งรีบพร้อมกับเปาโลและคนอื่นๆ

 

เมื่อผู้คนมองย้อนกลับไป พวกเขาเห็นศพแห้งนอนอยู่บนพื้น ซึ่งเคยเป็นชายที่แข็งแรงสมบูรณ์มาก่อน

 

สามารถมองเห็นเด็กอายุ 11 ขวบยืนอยู่ใกล้ร่างนั้นได้ชัดเจน

 

ลูซิเฟอร์ถอดถุงมือออกแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ แต่ถุงมือบางส่วนยังคงห้อยอยู่ในกระเป๋าเสื้อของเขา เขายืนตัวสูงด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์

 

“นี่แกทำสิ่งนี้เหรอ!” เปาโลอุทานด้วยความตกใจ ขณะที่เขาจ้องไปที่ลูซิเฟอร์

 

น่าแปลกที่เขาไม่ได้รับคำตอบจากลูซิเฟอร์ซึ่งตอนนี้เขากำลังเคลื่อนไหวอีกครั้ง

 

ก่อนที่ใครจะเข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาเห็นลูซิเฟอร์สัมผัสมือของชายอีกคนหนึ่ง ซึ่งยืนอยู่ใกล้เขาที่สุด

 

เสียงกรีดร้องดังขึ้นทั่วห้อง ในขณะที่ชายคนนั้นรู้สึกว่าผิวของเขาไหม้ หลังจากลูซิเฟอร์จับมือเขา ผิวหนังของชายผู้นั้นเริ่มผุกร่อนและกลายเป็นเถ้าถ่านต่อหน้าผู้เห็นเหตุการณ์

 

“นั่นคือวิธีที่แกทำสินะ แกเป็นแวเรียนท์” เปาโลยอมรับ เมื่อเขาเห็นว่าลูซิเฟอร์ฆ่าชายคนนั้นอย่างไร “อย่าปล่อยให้มันแตะต้องพวกแกได้ แค่นั้นมันก็ไม่สามารถทำร้ายพวกแกได้แล้ว!”

 

“ฉันรู้บางอย่างเกี่ยวกับพวกมัน พวกมันมักจะมีพลังพิเศษบางอย่าง แต่มีเพียงพลังเดียวเท่านั้น ไม่มีทางที่คนที่อายุน้อยๆอย่างมันจะมีความสามารถมากกว่า 1 อย่าง สำหรับพลังของมันในตอนนี้  ดูเหมือนว่าจะเป็นความสามารถในการฆ่าพวกแกหลังจากสัมผัส พวกแกต้องอยู่ให้ห่างจากมัน!” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เขาเตือนทุกคนด้วยคำอธิบาย

 

เมื่อได้ยินคำเตือนของเปาโล คนของเขาก็รีบถอยกลับ ทุกคนต่างสร้างระยะห่างจากลูซิเฟอร์ในขณะที่ยังรายล้อมเขาอยู่พร้อมๆ กัน

 

เวสตันและภรรยาของเขาต่างตกตะลึงมากขึ้น ทั้งคู่ตกใจถึงแก่นของร่างกายเมื่อเห็นว่าลูซิเฟอร์ฆ่าชายคนหนึ่งได้ง่ายเพียงใด พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กคนนี้เป็นฆาตกรและเคยอยู่ตามลำพังกับเขามาก่อน

 

“ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ฆ่าแวเรียนท์ แต่ตอนนี้มันอยู่ที่นี่ต่อหน้าเราแล้ว ฉันเดาว่าวันนี้เป็นวันโชคดีของฉัน แกไม่เพียงแต่ฆ่าคนของฉัน แต่ยังเปิดเผยพลังของแกอีก ตอนนี้ฉันรู้วิธีฆ่าแกและวิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยแล้ว ” เปาโลพูด ขณะที่เขาเริ่มหัวเราะ

 

เสียงหัวเราะของเขาแพร่ระบาดและฟังดูเหมือนเสียงหัวเราะที่ชั่วร้ายมากกว่าการแสดงออกถึงความสนุกสนานราวกับว่าเขามีความสุข

 

“แกไม่ควรฆ่าคนของฉันเลย” เขากล่าวเสริม ในขณะที่เขาดึงปืนออกมาแล้วเล็งไปที่หัวของลูซิเฟอร์

 

“พวกแกคิดว่าพวกแกเป็นเทพเจ้าหรืออะไรสักอย่างหรือไง ฉันล่ะไม่ชอบความเย่อหยิ่งของพวกแกเลย สุดท้ายนี้เมื่อฉันได้มีโอกาสได้ฆ่าพวกแกสักคน ดูเหมือนว่าเหล่าทวยเทพจะต้องการตอบแทนความดีที่ฉันทำลงไปสินะ ฮ่า! ”

 

รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นเมื่อเขาเริ่มกดไกปืน

 

“ไปลงนรกอย่างปลอดภัยนะเจ้าหนู!”

 

ปัง

 

กระสุนออกจากปืน ซูมตรงไปที่หัวของลูซิเฟอร์ มันไม่ลืมที่จะทิ้งเสียงกระแทกหนักๆ เอาไว้ในยามตื่น

 

กระสุนเจาะหน้าผากของลูซิเฟอร์และทิ้งไว้จากด้านหลังศีรษะของเขา ทิ้งรูที่มองเห็นได้น่าสยดสยองอยู่ในหัวของเขา

 

เลือดเริ่มไหลออกจากศีรษะ ซึ่งปกคลุมหน้าผากและใบหน้าของเขาเป็นสีแดง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า แวเรียนท์นี่ไม่ได้มีอะไรพิเศษ รัฐบาลให้ความสำคัญกับพวกมันมากโดยเปล่าประโยชน์ ฉันไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงคิดว่าพวกมันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น” เปาโลหัวเราะเสียงดัง เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ถูกยิง

 

ลูซิเฟอร์เริ่มส่ายหัวเบาๆ โดยไม่สนใจคำพูดของเปาโล

 

“เฮ้อ… อีกครั้ง! ผมเกลียดการถูกยิงจริงๆ ตอนนี้ผมจะรู้สึกหิวอีกครั้งในไม่ช้าแล้ว” เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม ขณะที่เขาเริ่มลูบหน้าผากของเขา

 

เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทั่วร่างกาย ขณะที่แตะหน้าผาก แต่ไม่ยอมให้ปรากฏบนใบหน้า เขาไม่ได้ทำเสียงฮึดฮัดอย่างเจ็บปวด

 

เปาโลได้ยินคำพูดที่สงบของลูซิเฟอร์ ปากของเขาเบิกกว้าง เมื่อมองดูบาดแผลของลูซิเฟอร์ที่หายได้ด้วยตาเปล่า

 

สีหน้าของเขานั้นน่าจดจำมาก จนเขาไม่คิดว่าใบหน้าของเขาจะแสดงสีหน้าแบบนั้นได้ แม้ว่าจะมีคนจดจำใบหน้าของเขาไว้และแสดงให้เขาเห็นในภายหลังได้ก็ตาม

 

“หะ-หัวนาย นั่นมันอะไร!”

 

ในไม่ช้าเขาก็เห็นหลุมนั้นใกล้จะได้รับการรักษาจนหมดแล้ว และไม่เหลือแม้แต่รอยบนหน้าผากของลูซิเฟอร์ มีเพียงเลือดบนใบหน้าและหน้าผากของลูซิเฟอร์เท่านั้นที่ทำให้เปาโลเชื่อว่าฉากที่เขายิงลูซิเฟอร์ไม่ใช่ความฝัน ผู้ชายคนนี้หายจากอาการแบบนั้นจริงๆ

 

ไม่น่าเชื่อว่ามันคือความจริง

 

*****

 

ลูซิเฟอร์ถูกยิงที่ศีรษะ แต่เขาไม่ได้ล้มลง นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจ

 

สิ่งที่น่าตกใจกว่านั้นคือการเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป การดูรูในหัวของลูซิเฟอร์ที่ได้รับการรักษาอยากหมดจดนั่น และเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันต่อหน้าต่อตาก็ทำให้ทุกคนตกใจ

 

ภายในไม่กี่วินาที บาดแผลที่ศีรษะของลูซิเฟอร์ก็หายเป็นปกติ

 

“ปะ-ปีศาจ!” เปาโลตะโกน ขณะที่ใบหน้าของเขาซีด เมื่อเห็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นี้ เขาเริ่มยิงอย่างบ้าคลั่ง แต่คราวนี้ ลูซิเฟอร์ไม่หยุดนิ่ง

 

เขาไม่ได้รออยู่ที่นั่นเพื่อถูกยิง แทนที่ ลูซิเฟอร์จะย้ายจากที่เดิมไปปรากฏตัวต่อหน้าเปาโล เขาคว้าปืนในมือปิดปากปืนด้วยฝ่ามือ

 

เปาโลยังคงยิงต่อไป กระสุนเจาะทะลุฝ่ามือของลูซิเฟอร์ ทิ้งรูไว้ในฝ่ามือของเขา ปืนก็เริ่มสลายไปพร้อม ๆ กัน

 

————————————————————–

ตอนที่ 16: การตัดสินใจที่เปลี่ยนเขาไปตลอดกาล

 

ถึงแม้ว่าถุงมือยางไม่ได้หยุดพลังของการทำให้เน่าเปื่อยของเขาทั้งหมด แต่มันก็ช่วยให้การเน่าเผื่อยนั้นทำงานได้ช้าที่สุด มันทำให้เขายังคงสัมผัสสิ่งของต่างๆ เมื่อเขาสวมมันได้อยู่บ้าง

 

ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่เข้าใจยากเกี่ยวกับพลังของเขา ซึ่งเขาไม่สามารถเข้าใจได้

 

แม้ว่าทุกสิ่งที่เขาสัมผัสจะเน่าเปื่อยไป แต่บางสิ่งก็เน่าเปื่อยได้เร็วจนผิดปกติ ในขณะที่บางอย่างก็เน่าเปื่อยช้าลงเล็กน้อย ราวกับว่าจิตใต้สำนึกของเขากำลังเล่นกับเขาอยู่ ซึ่งเขาควบคุมมันไม่ได้

 

ลูซิเฟอร์หยิบชามและเริ่มดื่มซุปโดยไม่ใช้ช้อน

 

เขาไม่ได้รับมีดและช้อนส้อมอื่นๆ เมื่อเขาอยู่ในโรงงาน และเขาต้องกินอาหารพวกนั้นด้วยมือ ดังนั้นนี่จึงกลายเป็นนิสัยของเขาที่จะไม่ใช้ของเหล่านั้น

 

เขาทำซุปเสร็จในทันที ความหิวของเขาหมดลงแล้ว เขาหันกลับมาและเริ่มจากไปโดยไม่พูดอะไรกับคนที่ให้อาหารเขา

 

เขาอยากรู้ว่าพวกเขาจะขออะไรตอบแทนจากเขาไหม จริงหรือที่พวกเขาช่วยเขาเพราะพวกเขาเป็นคนดี? นั่นเป็นไปไม่ได้ ผู้คนมักจะทำดีเพราะความโลภของพวกเขาเท่านั้น นั่นคือสิ่งที่เขาคิด

 

เขาเดินช้าๆ เพื่อดูว่ามีอะไรอีกไหม จุดประสงค์ของพวกเขาในการช่วยเหลือเขาคืออะไร? เขาต้องการให้พวกเขาหยุดเขาไม่ให้ออกไป เขาต้องการให้พวกเขาแสดงให้เขาเห็นด้านที่แท้จริงของพวกเขา

 

“รอก่อน!” ลูซิเฟอร์กำลังจะเปิดประตูออก เมื่อได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น

 

‘มาแล้วสินะ พวกมันเหมือนกันหมด’ เขาคิดขณะกำหมัดแน่น เขาค่อยๆหันกลับมา

 

เมื่อเขาหันกลับมา เขาเห็นผู้หญิงคนนั้นมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่ห่วงใย

 

“ถ้าหิวก็กลับมาใหม่ได้นะ ประตูของเราเปิดรอเธออยู่เสมอ”

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบ แม้เขาจะตกใจ เขาฟังผิดไปหรือเปล่า? พวกเขาช่วยเขาโดยไม่มีความโลภจริงหรือ?

 

เขาหันหลังกลับและออกจากร้านอาหาร

 

*****

 

ลูซิเฟอร์ออกจากร้านอาหาร เขาเดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว และเห็นกลุ่มคนประมาณ 20 คนเดินผ่านเขาไป กลุ่มผู้ชายเข้าไปในร้านอาหาร

 

ลูซิเฟอร์มองกลับมาที่พวกเขาและเห็นพวกเขาบางคนถือไม้เบสบอลอยู่ในมือ

 

เขาหยุดเดิน ในขณะที่มองไปทางร้านอาหารด้วยความไม่แน่ใจ

 

เขาหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาส่ายหัว ‘ทำไม? พวกเขาเหมือนกันหมดนี่นา! แต่ทำไมกัน! ทำไมเขาถึงรู้สึกอยากจะตรวจสอบว่าทั้งคู่ตกอยู่ในอันตรายหรือไม่?! เขาไม่สามารถให้อาหารได้เพราะความเห็นอกเห็นใจหรอก เพราะข้างในของคนพวกนั้นมันเหมือนกันหมด’

 

เขากำหมัดแน่นขึ้น ในขณะที่หายใจเข้าลึกๆ เขาเริ่มออกเดินทาง น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถก้าวไปได้มากกว่า 2 ก้าวก่อนจะยืนขึ้น

 

“ไอ้บ้าเอ้ย!”

 

เขาสบถออกมาดัง ๆ ขณะที่เขามองไปที่ท้องฟ้า ใบหน้าของพ่อแม่ของเขาเป็นประกายต่อหน้าต่อตาเขา เหมือนกับว่าพวกท่านต้องการให้เขาช่วยคู่สามีภรรยาคู่นั้น เขาต้องการที่จะตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ อีกครั้ง

 

เป็นการดีจริง ๆ หรือไม่ที่จะให้มนุษย์ได้รับประโยชน์จากข้อสงสัย? บางทีคนพวกนั้นอาจจะใจดีจริง ๆ ? พ่อแม่ของเขาก็ใจดีเหมือนกัน เขาเริ่มคิดหาข้อแก้ตัว เพื่อให้เขามีเหตุผลที่จะกลับไป

 

เขารู้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่จะเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ถ้าเขาช่วยคนพวกนั้น เขาก็จะเปลี่ยนไป แต่ถ้าเขาถูกหักหลังอีกครั้ง นั่นจะทำให้ความรู้สึกและความเชื่อใจของเขาเสียหายยิ่งกว่าเดิม

 

เขายังเด็กอยู่ และตัดสินใจที่จะเชื่อในความกล้าของเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นการตัดสินใจที่แย่แค่ไหน และมันจะเปลี่ยนแปลงเขาไปได้อย่างไร ไม่ใช่เพื่อสิ่งที่ดีกว่าแต่ยิ่งแย่ลงไปอีก

 

****

 

หลังจากตัดสินใจแล้ว ลูซิเฟอร์หันหลังกลับและเดินกลับไปที่ร้านอาหาร

 

เมื่อผลักประตูเข้าไป เขาก็เข้าไปในสถานที่เดิมอีกครั้ง

 

เมื่อเขาเข้าไปในร้านอาหาร เขาเห็นกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ ทั้งคู่

 

“ผ่านมา 1 เดือนแล้ว แต่แกยังไม่ได้จ่ายเงินค่าคุ้มครองอีก เวสตัน! แกพยายามจะหนีไปจริง ๆ เหรอ?” ชายร่างใหญ่ในแจ็กเก็ตหนังบอกกับเจ้าของร้านวัยกลางคน

 

“เดือนนี้เราไม่สามารถจ่ายเงินให้คุณได้ เปาโล โปรดเข้าใจ เราเป็นธุรกิจขนาดเล็ก และเดือนนี้ธุรกิจก็แทบจะล่ม เรายังดิ้นรนเพื่อให้ธุรกิจอื่นๆเพื่อดำเนินต่อไป นับประสาอะไรกับการที่จะหาเงินมาจ่ายให้คุณ ขอเวลาให้เรามากกว่านี้ได้ไหม” เวสตันตอบขณะก้มศีรษะลง

 

เขาอดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นมือที่สั่นเทาของภรรยาของเขา ซึ่งดูเหมือนจะกลัว เขาจับมือเธออย่างอ่อนโยน

 

“ฉันไม่เห็นว่าแกดูท่าจะหิวตายเลย ทำไมล่ะ ถ้าแกมีเงินกินก็มีเงินจ่ายสิเว้ย! แต่ฉันเดาว่าแกคงไม่อยากจ่ายเรา คิดว่าเราจะไม่กล้าทำร้ายพวกแกงั้นเหรอ กระดูกทั้งหมดในร่างกายแกน่ะ?” เปาโลหัวเราะออกมาดังๆ ขณะลูบไม้เบสบอลเบาๆ

 

“ฉันจะจ่ายเงินให้คุณในเดือนหน้า” เวสตันตอบ “ฉันสาบานด้วยชีวิต ขอเวลาเราอีก 1 เดือน!”

 

เปาโลส่ายหัวเบา ๆ ขณะที่เขาถอนหายใจ

 

“บอกฉันอย่างหนึ่งสิ ถ้าฉันไปง่ายๆ  จะมีกี่ธุรกิจที่จะทำตามแบบอย่างของแกและให้ข้อแก้ตัวแบบเดียวกันกับแก ในธุรกิจนี้ ชื่อเสียงสำคัญกว่าเงินมาก และฉันจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงของฉันมันตกต่ำลงเพราะแกหรอกนะ”

 

เขาหันกลับมามองคนของเขาก่อนจะสั่งว่า “เฮ้! พวก หักขาของภรรยาของมันซะ นี่ควรเป็นเครื่องเตือนใจเขาและเป็นอุทาหรณ์แก่ธุรกิจอื่นๆ”

 

“ครับเจ้านาย” ชายคนหนึ่งตอบ ขณะที่เขาก้าวไปทางหญิงผมดำ ซึ่งซ่อนตัวอยู่หลังเวสตัน

 

…. ยังมีต่อ

ตอนที่ 15: อยู่ห่าง ๆ

 

ลูซิเฟอร์เดินในตัวเมืองเป็นเวลานานเพื่อค้นหาบ้านของเขา น่าเสียดายที่เขาไม่พบสถานที่ที่ดูเหมือนบ้านเก่าของเขา ไม่เพียงแค่นั้น แต่ร่างกายของเขาก็เริ่มหิวด้วย

 

ท้องของเขาส่งเสียงหนัก เมื่อลูซิเฟอร์เดินผ่านถนนที่อบอุ่น ซึ่งร้อนยิ่งกว่าเพราะแสงแดดจ้าเหนือศีรษะของเขา

 

ความหิวทำให้เขาฟุ้งซ่าน เขามีความอยากว่าการกินเป็นสิ่งที่เขาไม่ควรพลาด แต่สำหรับเรื่องนั้น เขาต้องหาสถานที่ที่มีอาหารทุกครั้งที่เขาพยายามหาอาหาร สิ่งต่างๆ ไม่ได้จบลงอย่างที่เขาหวังไว้

 

เขาสงสัยว่าตอนนี้สิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปหรือไม่ ในขณะที่เขาเปลี่ยนเป้าหมายการค้นหาจากบ้านเป็นที่ที่เขาสามารถหาของกินได้

 

เขาเดินไปรอบๆ อีกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเห็นสถานที่นั้นในที่สุด มันเป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่มีป้ายเก่าๆ ที่ด้านหน้าเขียนว่า “Home Food (โฮม ฟู้ด)”

 

“อาหารบ้านๆงั้นเหรอ?” เขาพึมพำ ในขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ทางเข้าร้านอาหาร

 

มีกระดิ่งที่เชื่อมต่อกับประตู ซึ่งแจ้งเตือนเจ้าของเมื่อมีคนเข้าไปในร้านอาหาร มันเริ่มดังขึ้นเมื่อลูซิเฟอร์ผลักประตูเปิดออก

 

ร้านอาหารดูเหมือนจะเล็ก ข้างในยังไม่ค่อยมีคนมากนัก

 

ชายวัยกลางคนนั่งอยู่หลังเคาน์เตอร์ ซึ่งยืนขึ้นโดยไม่รู้ตัว ขณะได้ยินเสียงกระดิ่ง ชายคนนั้นดูเหมือนเขาจะอายุ 40 นอกจากชายผู้นี้แล้ว เขาไม่เห็นใครเลย แม้แต่คนเดียวภายในร้าน

 

“วันนี้เราหยุดนะ” ชายคนนั้นโพล่งออกมาทันที ก่อนที่เขาจะรู้ว่าใครเข้ามาในร้าน

 

ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าเป็นเด็กตัวเล็กที่ก้าวเข้ามา

 

“ทำไมเธอถึงอยู่คนเดียว พ่อแม่ของเธออยู่ที่ไหน จากเสื้อผ้าของเธอ ดูเหมือนเธอจะไม่มีพ่อแม่ดูแลเธอนะ  คนที่อายุน้อยกว่าเธอไม่ควรได้รับอนุญาตให้เดินไปไหนมาไหนโดยไม่มีผู้ปกครองสิ” เขาถามลูซิเฟอร์

 

เขาไม่ได้คาดหวังว่าเด็กชายอายุ 10 ขวบจะเป็นคนที่เข้ามาในร้านอาหารของเขา

 

“ผมต้องการอาหาร” ลูซิเฟอร์พูดโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ

 

“ใครน่ะ?”

 

เสียงผู้หญิงดังมาจากด้านหลัง ขณะที่มีผู้หญิงคนหนึ่งก้าวออกจากห้องครัว ผู้หญิงผมสีเข้มมีดวงตาสีฟ้าที่สวยงาม ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่ในวัย 30 ปลายๆ ดวงตาที่อ่อนโยนของเธอทำให้ลูซิเฟอร์รู้สึกใกล้ชิด

 

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะส่ายหัว

 

‘อย่าล้ม! ไม่มีใครที่จะใจดีจริง ๆ หรอก!’ เขาย้ำในหัวเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ทำผิดพลาดแบบเดียวกับที่เขาทำกับนักวิทยาศาสตร์

 

หญิงผมดำเป็นภรรยาของชายวัยกลางคน

 

เธอกับสามีทำร้านอาหารด้วยกัน ภรรยาทำอาหาร ในขณะที่สามีให้บริการลูกค้าและจัดการการเรียกเก็บเงิน

 

ผู้หญิงคนนั้นกำลังล้างจานอยู่ ในขณะนี้ สำหรับร้านอาหารนั้น มีป้ายเล็กๆ ห้อยอยู่ที่ลูกบิดประตู ซึ่งบอกว่าวันนี้ร้านอาหารปิดทำการ ลูซิเฟอร์เพิกเฉยต่อป้ายนั้นอย่างเย็นชา

 

“เป็นเด็กผู้ชาย ดูเหมือนเขาจะหิว เขาอาจจะเป็นเด็กกำพร้าด้วย” ชายวัยกลางคนตอบภรรยา

 

“แค่นั้นเหรอ ไม่เป็นไร ฉันจะทำอาหารให้เขา” หญิงผมดำพูดขณะที่เธอพยักหน้า

 

เธอหันกลับมามองลูซิเฟอร์ก่อนจะพูดต่อ “เจ้าหนู รอเดี๋ยวนะ”

 

ผู้หญิงคนนั้นก้าวเข้าไปในครัว ทิ้งสามีและลูซิเฟอร์ไว้ข้างหลัง

 

“จริง แม้ว่าเราไม่สามารถช่วยเด็กกำพร้าหรือทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือได้ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถเลี้ยงข้าวให้เด็กที่มาถึงร้านของเราได้” ชายคนนั้นพึมพำในขณะที่เขายิ้มอย่างอ่อนโยน เขาเดินไปหาลูซิเฟอร์เพื่อลูบหัวของเขา

 

เมื่อมองดูชายผู้นั้นเดินเข้ามาหาเขา ลูซิเฟอร์ก็อดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลัง

 

“อยู่ให้ห่างจากผม!” ลูซิเฟอร์ตะโกน

 

“อืม ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่ห่างๆ” ชายหนุ่มหยุดนิ่ง เขาโบกมือเบา ๆ ขณะที่เขาก้าวถอยหลัง

 

เขาสงสัยว่าลูซิเฟอร์เกลียดเขาหรือเขามีบาดแผลที่ชายคนนั้นเผลอไปกระตุ้นเด็กชายคนนั้นหรือไม่ เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ ถ้ามันเป็นบาดแผล ผู้ชายไม่อยากทำให้เรื่องนี้เลวร้ายขึ้นสำหรับลูซิเฟอร์

 

ชายวัยกลางคนและลูซิเฟอร์ต่างก็อยู่ในตำแหน่งของตน โดยไม่มีใครเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย

 

ความเงียบดำเนินไปจนกระทั่งผู้หญิงคนนั้นออกมาพร้อมกับชามซุปในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

 

“หืม เด็กน้อย เธอกำลังทำอะไรอยู่ที่นั่น อย่างน้อยเธอก็สามารถนั่งก่อนได้” ผู้หญิงผมดำยิ้มออกมา

 

เธอมองดูสามีของเธอและอดไม่ได้ที่จะตำหนิเขาอย่างน่ารัก “คุณควรจะขอให้เขานั่งลงก่อน มานี่เลย ฉันจะตีคุณเดี๋ยวนี้!”

 

เมื่อมองดูผู้หญิงคนนั้นดุสามีของเธอ ลูซิเฟอร์ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงพ่อแม่ของเขา แม่ของเขามักจะดุพ่อของเขาบ่อยครั้ง เมื่อพวกเขายังมีชีวิตอยู่

 

ในใจเขารู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อเขานึกถึงพ่อแม่ของเขา เขากำหมัดแน่นจนเล็บเริ่มทะลุผิวหนัง

 

“มากินนี่ก่อนเถอะจ้ะ” หญิงผมดำพูดพาดพิงถึงลูซิเฟอร์ ขณะที่เธอวางชามซุปไว้บนโต๊ะ

 

“เขาไม่ไว้ใจฉันนี่นา ฉันไม่คิดว่าเขาจะไปนั่งตรงนั้น ตราบใดที่คุณยังยืนอยู่ตรงนั้น” ชายวัยกลางคนบอกภรรยาของเขา ทำให้เธอตะลึงงัน “กลับมานี่ๆ”

 

ผู้หญิงคนนั้นประหลาดใจ แต่เธอฟังสามีของเธอ เธอหันหลังเดินเข้ามาใกล้เขา

 

“เราจะไม่เข้าใกล้เธอหรอก เธอสามารถกินได้อย่างสบายใจเลย” ชายวัยกลางคนบอกลูซิเฟอร์ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้าของเขา

 

ลูซิเฟอร์มองทั้ง 2 คนครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปที่โต๊ะ เขายังคงสวมถุงมือยางในมือของเขา

 

————————————————————–

ตอนที่ 14: เมืองลีเจี้ยน

 

ชายผมแดงตระหนักว่าลูซิเฟอร์เป็นแวเรียนท์และไม่ใช่อาการประสาทหลอนของเขา หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่เขาสงสัยว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง

 

มีปืนอยู่ใกล้ตัวเขาตอนนี้ แต่เขาได้เห็นแล้วว่าปืนไร้ประโยชน์ต่อลูซิเฟอร์เพียงใด ราวกับว่ากระสุนไม่ได้ทำมาจากโลหะ พวกมันพุ่งเข้าไปในกะโหลกของลูซิเฟอร์และหายไปทันที

 

กระสุนเหล่านี้เป็นของจริงหรือไม่? หรือมีอะไรผิดปกติกับพวกมันหรือยังไง? กระสุนเข้าไปในกะโหลกของลูซิเฟอร์ และแทนที่จะฆ่าเขา สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะทำให้เขาดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก

 

เขามองไปทางประตู ซึ่งอยู่ด้านหลังลูซิเฟอร์ นั่นดูเหมือนจะเป็นหนทางเดียวที่จะหลบหนีได้

 

เขาวางหมัดลงบนโต๊ะและเติมยาที่เขาโยนไปทางลูซิเฟอร์ สารที่เป็นผงสีขาวลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งบางส่วนก็เข้าไปในดวงตาของลูซิเฟอร์

 

ชายคนนั้นใช้โอกาสนี้ เมื่อเขาเริ่มวิ่งไปที่ประตู

 

เขาเกือบจะไปถึงประตูได้แล้ว ดูเหมือนระยะห่างระหว่างเขากับอิสรภาพนั้นห่างกันเพียงไม่กี่เมตร น่าเสียดายที่ระยะไม่กี่เมตรนั้น สุดท้ายดูเหมือนเป็นไมล์ เมื่อชายคนนั้นเห็นลูซิเฟอร์ปรากฏตัวต่อหน้าเขา

 

เขาอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีคำพูดใดออกจากปากของเขา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ ขณะที่เขาเริ่มก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ

 

ลูซิเฟอร์วิ่งไปหาชายผมแดงและรีบกำหมัดแน่นก่อนจะต่อยออกไป

 

หมัดของลูซิเฟอร์พุ่งเข้าที่ท้องของชายคนนั้น ทำให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวด

 

ชายคนนั้นลอยกลับและชนเข้ากับกำแพง ความเจ็บปวดของร่างกายของเขาพุ่งขึ้นอย่างสุดขีด ในขณะที่ชายคนนั้นรู้สึกเหมือนร่างกายของเขากำลังตกเลือดภายใน เขายังสันนิษฐานว่ากระดูกทั้งหมดของเขาหัก อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่รู้สึก

 

ลูซิเฟอร์ปรากฏตัวอีกครั้งต่อหน้าชายผู้นั้น เขาเดินช้าๆ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ชายที่นอนอยู่บนพื้น ชายคนนั้นคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด

 

ชายผมแดงสามารถเห็นความตายต่อหน้าต่อตาเขาได้แล้วในตอนนี้ ความกลัวตายปรากฏชัดบนใบหน้าของเขา ขณะที่เขามองดูลูซิเฟอร์เข้าใกล้เขามากขึ้น

 

ขณะที่ชายผมแดงจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ราวกับว่าเขาเป็นยมทูต ลูซิเฟอร์ก็มองย้อนกลับไปเช่นกัน ดวงตาของเขามองไปที่ใบหน้าของชายคนนั้น เขาสามารถสังเกตเห็นความกลัวของชายคนนั้นได้ เขาอดไม่ได้ที่จะเพลิดเพลินไปกับความกลัวนี้

 

เขายังสงสัยว่า เมื่อใดที่เขาจะได้เห็นการแสดงออกนี้จากหน้าของพวกนักวิทยาศาสตร์เหล่านั้น เขาไม่รู้ว่าภายในตัวเขามีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ยิ่งเขาฆ่าคนไปมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเปลี่ยน นั่นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เขาไม่รู้ตัวโดยสิ้นเชิง

 

นั่นคือสิ่งที่ APF กังวล เมื่อพวกเขาวิเคราะห์ประวัติของลูซิเฟอร์

 

ความกลัวตายก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชายคนนั้นเป็นบ้า เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า “ไอ้เวรเอ้ย! ทำไมแกถึงต้องต่อยฉันด้วยล่ะ ฉันทำอะไรให้แก? อย่าบอกนะว่าฉันไปมีเพศสัมพันธ์กับแม่ของแกน่ะ!”

 

ดูเหมือนนั่นจะเป็นคำพูดสุดท้ายที่เขาสามารถพูดได้ เพราะสิ่งต่อไปที่เขาเห็นคือความมืดเท่านั้น ลูซิเฟอร์ชกหน้าของชายผู้นั้นด้วยความโกรธที่บังอาจมาล้อเลียนแม่ของเขา  หมัดของลูซิเฟอร์เพียงพอที่จะทำให้หัวของชายคนนั้นระเบิดเหมือนมะพร้าว

 

ฉากที่น่าสยดสยองปรากฏต่อหน้าลูซิเฟอร์ ซึ่งดูไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว เขาหันกลับไปทันทีเพื่อจากไป

 

ลูซิเฟอร์เดินเพียงไม่กี่ก้าว ขณะที่ท้องของเขาเริ่มคำราม

 

เขาไม่ได้กินอาหารมานานแล้ว นอกจากนี้การใช้ความสามารถของเขาทำให้เขาหิวอีกครั้งด้วยเช่นกัน ด้วยความหิวโหย เขาจึงตัดสินใจหาอะไรกิน มันเป็นบ้าน เขาจึงรู้สึกว่ามันต้องมีของกิน

 

เขาเดินเข้าไปในห้องครัว และพบถุงมือยางวางอยู่บนตู้เย็นอย่างน่าประหลาดใจ เขาสัมผัสถุงมือยางเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง

 

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลูซิเฟอร์ ขณะที่เขาตระหนักว่าถุงมือเหล่านี้ค่อยๆ สลายไปอย่างช้าๆ พวกมันสลายตัวเช่นกัน แต่ความเร็วของพวกมันช้ากว่ามาก

 

เขาสวมถุงมือทันทีก่อนเปิดตู้เย็น เขาเห็นว่าตู้เย็นส่วนใหญ่ว่างเปล่า มีน้ำ 1 ขวดพร้อมกับแอปเปิ้ล 2-3 ผลที่อยู่ในตะกร้าผลไม้ในตู้เย็น

 

เขาหยิบขวดน้ำขึ้นมาและดื่มน้ำ 1 ครั้งก่อนจะหยิบผลไม้ขึ้นมา เขาเริ่มกินผลไม้และทิ้งเศษซากไว้หลังจากกินหมด

 

ความหิวของเขาค่อนข้างอิ่มแบบพอดี ซึ่งทำให้เขารู้สึกดีขึ้น เขารู้สึกว่าเขาพร้อมสำหรับการเดินทางไกลแล้ว

 

ลูซิเฟอร์ไม่เสียเวลาอยู่ในเมือง เขาจากไปทันที หลังจากเดินมา 2 วันติดต่อกัน ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองลีเจี้ยน ซึ่งเป็นบ้านของเขา

 

บิลบอร์ดที่มีชื่อเมืองอยู่ที่ทางเข้าเมือง ซึ่งทำให้เขารู้ว่านี่คือเมืองลีเจี้ยนของเขา

 

ยังมีปัญหาหนึ่งที่เขาไม่รู้วิธีแก้ไข เขาไม่รู้ที่อยู่ของเขา สิ่งเดียวที่เขารู้เกี่ยวกับบ้านของเขาคือเมืองที่มันอยู่ แต่ไม่ใช่ที่อยู่

 

อันที่จริงเขาไม่ได้ออกจากบ้านหลายครั้งด้วยซ้ำ ครั้งเดียวที่เขาถูกพาออกไปคือตอนที่แม่ของเขาไปช้อปปิ้งตอนที่เขายังเด็กจริงๆ ที่ตอนนั้นมันป็นเรื่องแปลกสำหรับเขา

 

เขาไม่ได้หาคนช่วยแต่กลับเดินไปตามถนนเหมือนเด็กหลงทาง เขาพยายามหาบ้านของเขา แต่ทุกอย่างดูไม่คุ้นเคย

 

เขามองไปรอบๆ โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของเมืองขณะที่เขาเดินผ่านถนน

 

เมืองนี้ดูเหมือนจะมีอาคารที่ดูสวยงามมากมาย เขารู้สึกทึ่งกับความพิเศษของการออกแบบบางอย่าง

 

เขาชื่นชมอาคารที่ดูเหมือนซิกแซก เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าเขา

 

ผู้หญิงคนนั้นมองดูเสื้อผ้าของเขา การแสดงออกที่สับสนปรากฏชัดบนใบหน้าของเธอ

 

“เฮ้ เด็กน้อย เธอหลงทางหรือเปล่าจ้ะ” เธอถามลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์เงยหน้าขึ้นและมองไปยังหญิงสาวสวย

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบเธอและเริ่มผละออกจากเธอ เขาไม่มีอะไรจะคุยกับผู้หญิงคนนั้นเพราะเขาไม่เชื่อใจเธอ และถึงแม้จะเชื่อ เขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเธอ เพราะตัวเขาเองก็ไม่รู้ที่อยู่ของเขา

 

เขาเดินไปในตัวเมืองเป็นเวลา 2 วัน ความหิวโหยสุดขีดเริ่มเข้าจับเขาไว้ในกำมืออีกครั้ง  ท้องของเขายังคงส่งเสียงดัง

 

————————————————————–

ตอนที่ 13: ภาพหลอน

 

แม่น้ำแห่งความเดือดดาลไหลผ่านใจกลางของลูซิเฟอร์  แม้ว่าเขาจะฆ่าคนที่รับผิดชอบต่อความโกรธของเขาไปแล้ว แต่ความโกรธก็ไม่ลดลง

 

เขาโกรธผู้ชายที่แสดงให้เขาเห็นความเลวร้ายที่สุดของมนุษยชาติ ในขณะที่  ทำให้เขานึกถึงนักวิทยาศาสตร์ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะไม่ทำอะไรเลย แต่เขาในตอนนี้นั้นโกรธเคืองอยู่แล้ว

 

ความกระหายเลือดเพิ่มขึ้นภายในหัวใจของเขา ซึ่งดูเหมือนจะปกคลุมไปด้วยบางสิ่งบางอย่าง  ที่ไม่อาจเข้าเข้าใจได้ ซึ่งเขาไม่ค่อยเข้าใจตัวเอง มันเป็นครั้งแรกของเขาที่รู้สึกแบบนี้

 

สิ่งเดียวที่เขารู้คือเขาต้องการจะทำอะไรบางอย่าง… บางอย่างที่พ่อแม่ของเขา  ไม่เคยจะได้รับการอนุมัติ

 

ลูซิเฟอร์เหลือบมองไปทางบ้านหลังเก่า เขาได้เห็นชาย 2 คนจากกลุ่ม 3 คน เข้าบ้านไป

 

เขาเริ่มเดินไปที่บ้าน

 

ประตูยังปลดล็อคอยู่ เนื่องจากผู้ชายไม่กังวลว่าจะมีใครเข้ามา  คู่ของพวกเขายังคงออกไป อย่างน้อยก็ในสายตาของพวกเขา

 

เขาผลักประตูเปิดและเข้าไปในบ้าน

 

ชาย 2 คนกำลังนั่งอยู่บนโซฟาอย่างไม่เป็นทางการ มีโต๊ะไม้วางอยู่ข้างหน้า พวกเขา เทสารแป้งสีขาววางไว้บนโต๊ะ

 

ชายผมแดงผู้เป็นหัวหน้าของดูเหมือนกำลังจะผสมสารพวกนั้นอยู่  สารที่เป็นผง แววตาของความโลภเห็นได้ชัดเจนจากสายตาของเขา

 

“หืม? แกเป็นใคร?”

 

เสียงดังนั้นดึงดูดความสนใจของชายผมแดง เขามองไปทางซ้ายของเขาที่คู่หูเพิ่งจะถามออกไปเมื่อกี้

 

หลังจากที่สังเกตเห็นว่าคู่หูผมบลอนด์ของเขามองไปทางไหน เขาก็เปลี่ยนสายตาและ  เห็นลูซิเฟอร์ยืนอยู่ใกล้ประตู

 

ชายผมแดงผงกศีรษะกลับไป ในขณะที่เขาเริ่มหัวเราะออกมาดังๆ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันเข้าใจ ดูเหมือนเขาจะเป็นลูกนอกสมรสของชายชราคนนั้น ฉันไม่รู้มาก่อนเลย  ผู้ชายจะซ่อนลูกชายไว้ในบ้านของเขา!”

 

เขาเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวตนของลูซิเฟอร์และถือว่าเขาเกี่ยวข้องกับชายชราที่พวกเขาได้ฆ่า

 

“เฮ้ เด็กน้อย คุณเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นข้างนอกไหม” เขาถามลูซิเฟอร์ สงสัยว่า ลูซิเฟอร์เห็นพวกเขาฆ่าชายชราคนนั้นไหม

 

“พูดมากทำไม มัวแต่ยุ่งอยู่ได้ ฉันจะดูแลเด็กผู้ชายคนนี้เอง”  ชายผมบลอนด์พูดขึ้น ขณะหยิบปืนที่วางอยู่บนโต๊ะ

 

เขาเล็งปืนไปที่ลูซิเฟอร์และยิงโดยไม่เสียเวลาแม้แต่วินาทีเดียว กระสุน พุ่งทะยานไปในอากาศ ทิ้งเสียงอันทรงพลังเอาไว้

 

ชายผมแดงมองคนที่ยิงด้วยสีหน้าหงุดหงิด

 

“เฮ้ มาร์ลอน! ทำไมแกถึงฆ่ามันล่ะ! คงจะดีถ้ามีคนเอาไว้ใช้ทำงานบ้านของเรา” เขาบ่น “เพราะแก  เราจึงเสียโอกาสดีๆ เช่นนี้ไป”

 

“เอ๊ะ ทำไมฉันคิดไม่ถึง!” มาร์ลอนอดไม่ได้ที่จะเอามือตบหน้าตัวเอง

 

“เฮ้อ มันสายไปแล้ว ยังไงก็ดูแลร่างกายของเด็กนั่นด้วย” ชายผมแดง ผิดหวังเมื่อจ้องมองมาร์ลอน

 

เขาหันกลับมามองลูซิเฟอร์เพียงเพื่อให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

 

“อืม มาร์ลอน ทำไมเด็กผู้ชายคนนี้ถึงยังยืนนิ่งอยู่ล่ะ” เขาถามด้วยสีหน้าว่างเปล่า “นั่นก็เหมือนกัน  นี่แกยิงที่หัวของมันแล้วใช่ไหม”

 

แทนที่จะเห็นลูซิเฟอร์ล้มลง ทั้ง 2 คนกลับเห็นลูซิเฟอร์ยืนสูงขึ้น ไม่เพียงแค่นั้น, ลูซิเฟอร์เริ่มเดินไปหาพวกเขาอย่างช้าๆ

 

“บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง!” มาร์ลอนหอบหายใจขณะยืนขึ้น

 

ทั้ง 2 คนรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติที่นี่

 

“เรามีอาการประสาทหลอนอยู่แล้วหรือ? ชายผมแดงถาม ขณะขยี้ตาของเขา. เขาสงสัยว่ายาเข้าสู่ร่างกายของเขาหรือไม่ตอนที่เขาผสมมัน

 

“เราไม่ประสาทหลอนในเวลาเดียวกันหรอกน่า!” มาร์ลอนยืนยันในขณะที่เขาตระหนักว่า พวกเขาตกอยู่ในอันตราย

 

เขาเล็งปืนไปที่หัวของลูซิเฟอร์อีกครั้งก่อนเริ่มยิง

 

ทีละนัด กระสุนทั้งหมดว่างเปล่าในตัวลูซิเฟอร์

 

มาร์ลอนไม่ได้หยุดยิงในเวลานี้จนกว่าปืนของเขาจะว่างเปล่า น่าเสียดายสำหรับ เขา ลูซิเฟอร์ยังไม่ล้ม

 

ไม่เพียงเท่านั้น วิธีที่ลูซิเฟอร์จับกระสุนได้ง่าย มาร์ลอนรู้สึกเหมือนอยู่ใน นรก เขากำลังฝันร้ายที่ปีศาจได้แปลงร่างเป็นเด็กเพื่อทำให้พวกเขาหวาดกลัว

 

“ทำไมมันไม่ตายล่ะ!” มาร์ลอนคำราม ขณะขว้างปืนไปทางลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์โบกมือเบา ๆ โยนปืนออกข้าง ๆ โดยไม่ปล่อยให้มันกระทบเขา

 

มาร์ลอนรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า เขาเริ่มวิ่งไปทางลูซิเฟอร์ขณะที่เขาชก

 

เนื่องจากปืนไร้ประโยชน์ เขาจึงยอมปล่อยให้มือของเขาทำงานเพื่อผลักลูซิเฟอร์ออกไป

 

คราวนี้โชคไม่ดีที่เขาไม่ปล่อยมันไป เพราะมือของเขาจับมันได้ง่าย

 

ลูซิเฟอร์จับหมัดของมาร์ลอนที่พุ่งเข้ามาหาเขา

 

มาร์ลอนพยายามผลักลูซิเฟอร์แต่ล้มเหลว ราวกับว่ามือของเขาถูกจับโดยภูเขาที่กำลังสั่นคลอนไม่ได้

 

ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ขยับมือไม่ได้ ไม่เพียงแค่นั้น ในไม่ช้า เขา เริ่มรู้สึกราวกับว่ามือของเขากำลังไหม้อยู่ในเปลวเพลิงแห่งนรก

 

ไม่นานความรู้สึกนี้ก็ได้แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว ริ้วรอยเริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้า เมื่อร่างกายเริ่มหดตัว เขาเริ่มแก่ขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนผู้ชายคนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำยังไง  ต่อการตอบสนองก่อนที่เขาจะเสียชีวิต

 

ชายผมแดงมองลูซิเฟอร์ด้วยใบหน้าซีดเผือด ขณะที่เขาเห็นเพื่อนของเขาตาย  นั่นคือ ความตายที่น่าสยดสยอง

 

เขากลัวมากขึ้น เมื่อเห็นร่างแห้งของคู่หูของเขา

 

“ค-คุณคือแวเรียนท์เหรอ!” เขาตะกุกตะกัก เมื่อรู้ว่านั่นไม่ใช่ภาพหลอนของเขา  นั่นหมายความว่าเด็กที่อยู่ข้างหน้าเขามีความสามารถพิเศษ เขาเป็นแวเรียนท์

 

ตอนที่ 12: ตั๋วสู่นรก

 

“ฉันยินดีที่จะเป็นสุนัขของคุณ อย่าเอาบ้านของฉันไปจากฉัน นี่คือ .ของฉัน  ทุกอย่างเป็นของฉัน!” ชายชราอ้อนวอน น้ำตายังคงไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ชายผมแดงยิ้ม เมื่อเดินเข้าไปใกล้ชายชรา เขานั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง  ก่อนที่ชายคนนั้นจะแตะแก้มของชายชรา

 

“โอ้ย ฉันไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ฉันจะไม่รังแกคุณมากขนาดนี้ถ้าฉันรู้  ชีวิตคุณช่างเศร้าเหลือเกิน” เขาพูดขณะถอนหายใจ

 

ชายชราพยักหน้า เมื่อเห็นความกังวลบนใบหน้าของชายผมแดง เขาพบมัน ค่อนข้างสงสัย แต่เขาทำได้เพียงเชื่อ

 

ชายผมแดงตบหัวของชายชราเบาๆ ก่อนลุกขึ้นยืน

 

ปัง

 

ชายชราเพิ่งเช็ดตาที่พร่ามัวของเขา อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้ความชัดเจน เขาได้ยินเสียงปืน

 

กระสุนทะลุศีรษะของเขา ทิ้งรูขนาดใหญ่ไว้ในกะโหลกศีรษะของเขา  ดวงตาของเขายังคงเปิดอยู่ด้วยความตกใจ เมื่อชายชราล้มลงกับพื้น เสียชีวิตทันที

 

ลูซิเฟอร์หยุดมองไปยังที่เกิดเหตุ เขาไม่สนใจ สิ่งที่คนเหล่านี้ทำ แต่เสียงของปืนดึงดูดความสนใจของเขา

 

เขามองไปทางกลุ่มเล็กๆ เพียงเพื่อจะพบชายชรานอนอยู่บนพื้น  เลือดไหลออกจากหัวของเขา

 

ชายผมแดงกำลังหัวเราะอยู่ใกล้ๆ ปืนอยู่ในมือของเขา ซึ่งยังคงเล็งไปที่ชายชรา

 

ปัง ปัง ปัง

 

ชายผมแดงยิงอีก 3 นัดทั้งๆ ที่รู้ว่าชายชราคนนั้นตายไปแล้ว ราวกับว่าเขาโกรธมากจริงๆ

 

เขาไม่ได้หยุดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่เขายิงเสียงหัวเราะของเขาดังก้องไปรอบ ๆ เขาหัวเราะอย่างมีความสุขจนคนไม่รู้ตัวอาจเข้าใจผิดว่าเป็น วันแต่งงานของชายผมแดง

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าโง่! เจ้าคิดว่าเราจะปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่จริง ๆ ทำไมข้าจะต้องสนใจ  เกี่ยวกับชีวิตที่น่าสมเพชของเจ้าด้วย?” ชายคนนั้นพูดพลางหรี่ตาลง

 

“เราควรขายบ้านของเขาแล้วหาเงินเพิ่ม” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

 

“ใช่ ถึงจะเป็นบ้านที่ไร้ค่า เราก็ควรจะได้อะไรมาบ้าง” ชายผมแดงยิ้ม

 

นอกจากผู้ชายไม่กี่คนเหล่านี้แล้ว ยังไม่มีใครอยู่บนถนนอีกเลย

 

ไม่มีพลเมืองคนใดที่ต้องการมีส่วนร่วม พวกเขาไม่ต้องการ ที่จะนอนตาย ทุกคนขังตัวเองอยู่ในบ้านของพวกเขา

 

“ไอ้เลว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราขโมยเงินจากบ้านเขา มัน  สนุกมากที่ได้เห็นท่าทางของเขาตอนที่เขาตาย” ผู้ชายอีกคนเริ่มหัวเราะในขณะที่เขา เตะร่างของชายชรา

 

“เข้าไปในบ้านกันเถอะ ตอนนี้บ้านหลังนี้เป็นของเราแล้ว” ชายผมแดงปล่อยตัว   ขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่บ้าน ชาย 1 ใน 2 คนที่เหลือติดตาม ชายผมแดงอยู่ข้างใน

 

คนที่ 3 เป็นชายผมสีเข้ม ซึ่งอยู่ข้างนอก เขาดึงถุงออกมา บุหรี่จากกระเป๋าของเขา

 

เขาดึงบุหรี่ออกจากซองแล้ววางลงบนริมฝีปากก่อนจะจุดบุหรี่ขึ้น  โดยใช้ไฟแช็ก

 

“นี่แหละชีวิต” ชายผมดำยิ้มออกมาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม

 

ลูซิเฟอร์ชำเลืองมองดูศพเพียงครู่หนึ่ง แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในตัวเขา  เขาไม่ได้หยุดและเดินต่อไป

 

เขารู้สึกโกรธเล็กน้อยแม้ว่า ท่าทางพวกนั้นจะกำลังหัวเราะ เขาเหลือบเห็นมุมของนักวิทยาศาสตร์ที่บ้าอยู่ในนั้น มีแรงกระตุ้นในตัวเขาที่จะฆ่าสิ่งเหล่านี้ แต่มีอีกแรงกระตุ้นในตัวเขาที่จะไม่ใส่ใจ

 

พวกนี้คือมด ทำไมเขาต้องใส่ใจ? เขามีความขัดแย้ง แต่เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉย ราวกับว่าเขาต้องการจุดไฟเพียงจุดเดียวเพื่อระเบิด

 

น่าเสียดายที่ประกายไฟนั้นมาเร็วกว่าที่คาดไว้ เมื่อดวงตาของชายผมสีเข้มจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ เขาไม่รู้ว่าการกระทำต่อไปของเขาจะเป็นทางเดียวของเขา นั่นคือ ตั๋วไปนรก

 

*****

 

ดวงตาของชายผมสีเข้มจ้องไปที่ลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์สวมเสื้อผ้าหลวม ซึ่งดูค่อนข้างตลก

 

“เฮ้ โจ๊กเกอร์ มานี่!” เขาร้องเรียกลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์เพิกเฉยต่อคำพูดนั้นและไม่หยุด

 

เมื่อชายผมดำเห็นลูซิเฟอร์เมินเขา เลือดของเขาก็เริ่มเดือด เขาไม่สามารถควบคุมคำพูดของเขาได้ ซึ่งมันจะเป็นความเสียใจครั้งใหญ่ที่สุดของเขาในไม่ช้า

 

“แก ไอ้สารเลว! ฉันกำลังพูดกับแกอยู่ ฟังฉันนะ ไอ้ตัวเล็ก—”

 

เขายังไม่ทันจบประโยค เมื่อสายฟ้าสีดำพุ่งเข้าใส่กะโหลกของชายผู้นั้น

 

ร่างของเขาล้มลงกับพื้น และพบกับความตายทันที แต่นี่ยังไม่พอ!

 

ลูซิเฟอร์วิ่งไปหาชายผมดำที่กำลังนอนตายอยู่บนพื้น กระโหลกของเขา เป็นสีดำไหม้เกรียม หลุมยังปรากฏอยู่ในหัวของเขา

 

ลูซิเฟอร์หยุดอยู่ต่อหน้าศพ คำที่ชายคนนี้เพิ่งพูดไปตอนนี้ ยังคงก้องอยู่ในหัว  เขายกเท้าขวาของเขาและกระทืบบนหัวของชายผมสีเข้ม

 

เขาไม่ได้หยุด เขายังคงทุบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ความโกรธของเขาไม่หยุด มันยังไม่พอ เขาต้องการมากกว่านี้!

 

เขามองไปทางขวาของบ้านหลังเล็กที่ซึ่งคู่หูของชายผมเข้มผู้นี้เข้ามา

ตอนที่ 11: ขาหนึ่งข้างได้อยู่ในหลุมฝังศพแล้ว

 

“มีความเป็นไปได้มากเกินไป” แซนเดอร์พึมพำ ขณะที่เขาขมวดคิ้ว “แต่เราไม่ได้ต้องการความเป็นไปได้ เราต้องการคำตอบ”

 

เขาถามต่อไปว่า “คุณได้เก็บลายนิ้วมือและตัวอย่างอื่นๆ หรือไม่”

 

เมเน่พยักหน้าในขณะที่ตอบอย่างนุ่มนวล “ครับ กัปตัน เรารวบรวมลายนิ้วมือไว้แล้ว  เราสามารถจับคู่กับฐานข้อมูลได้ หากบุคคลนี้อยู่ในฐานข้อมูลของเรา เราจะหาเขาพบ”

 

เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้ง “แต่ผมมีความรู้สึกว่าเป็นคนหน้าใหม่ที่ทำ ถ้าสมมติฐานของผมถูกต้อง  เราจะไม่พบเขาในฐานข้อมูลของเรา และหากเป็นแผนของศัตรูที่จะโยนนี่มาให้เรา ผลลัพธ์ก็จะเหมือนเดิม”

 

เขาค่อนข้างแน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่เกิดผลใดๆ แต่เขาก็เชื่องด้วยคำพูดของเขา

 

แซนเดอร์วางมือบนไหล่ของเมเน่ เขายิ้มให้เมเน่ว่า “ทำดีที่สุดแล้ว”

 

เขามองไปทางชายในชุดคลุมสีขาว ชายผู้นี้เข้ามาในยานเกราะที่เพิ่งมาถึง

 

แซนเดอร์สั่งโดยมองไปที่ชายชุดขาว “ไมค์ ล็อกเมืองทั้งเมืองนี้ไว้  ห้ามใครออกหรือเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ทดสอบทุกคนในเมืองเพื่อดูว่าพวกเขามีอำนาจหรือไม่”

 

หลังจากหยุดครู่หนึ่ง เขาเสริมว่า “บางทีผู้ชายคนนั้นอาจมาจากเมืองนี้ ฉันต้องการการทดสอบให้เสร็จในวันนี้  พรุ่งนี้ผลลัพธ์น่าจะอยู่ต่อหน้าฉัน”

 

ไมค์ไม่ใช่แวเรียนท์และเขาไม่มีอำนาจ แต่เขามาจากทีมสนับสนุนของ APF

 

เขารับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร อุปกรณ์ การขนส่ง และการทดสอบ

 

“ครับท่าน” ไมค์รับคำในขณะที่พูดอย่างมั่นใจ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็จะรู้ผลครับ”

 

“นายจะกลับฐานทัพแล้วเหรอ” เขาถามเบาๆ

 

แซนเดอร์ยิ้มเล็กน้อย ในขณะที่เขาปฏิเสธ “ทำไมฉันจะจากไป  เราอาจเป็นศัตรูกับมอนสเตอร์ที่มีพลังคล้ายกับหนึ่งในแวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่บนโลกใบนี้  ฉันจะไม่ขี้เกียจและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของพวกคุณทุกคนหรอก”

 

เขากล่าวเสริมว่า “คุณคงตาย ถ้าคุณสามารถหาเขาเจอได้จริง ผมและทีมจะอยู่กับพวกคุณ  ถ้าเขาอยู่ในเมืองนี้จริงๆ เขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้หลบหนี เพื่อความปลอดภัยของคุณและเพื่อเมืองนี้”

 

คำพูดของเขาทำให้ไมค์ขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่าแซนเดอร์พูดถูก

 

*****

 

ขณะที่ APF กำลังมุ่งความสนใจไปที่เมืองมากขึ้น โดยยังคงโฟกัสไปที่การค้นหาลูซิเฟอร์ทั้งหมด  ลูซิเฟอร์กำลังเคลื่อนไปยังเมืองลีเจียนที่ซึ่งบ้านของเขาอยู่

 

เขาได้ปลุกพลังแห่งลมที่เขาได้รับจากแม่ของเขา พลังนี้ทำให้คนสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง  แต่สำหรับตอนนี้ ลูซิเฟอร์สามารถใช้มันเพื่อวิ่งได้เหมือนสายลมเท่านั้น

 

ร่างกายทั้งหมดของเขารู้สึกเบาราวกับขนนกขณะที่เขาวิ่งผ่านป่า

 

ลูซิเฟอร์รู้ว่าคนที่ปลุกพลังแห่งลมสามารถบินได้  แต่นั่นจะเป็นไปได้ ก็ต่อเมื่อความสามารถของพวกเขาอยู่ในระดับเดียวกับแม่ของเขา

 

แม่ของเขาเป็นแม่มดแห่งธาตุลมเพียงคนเดียวที่สามารถใช้พลังลมและบินได้อย่างเต็มที่

 

มีคนที่พลังตื่นขึ้นคนอื่นๆ ที่สามารถบินได้ แต่ทุกคนมีเวทมนตร์ที่แตกต่างจากเธอ

 

ไม่มีใครสามารถบินได้ หลังจากได้รับพลังแห่งลม ยกเว้นแม่ของเขา เนื่องจากพลังลมของเธอคือระดับ A  เธอจึงสามารถใช้มันเพื่อบินได้อย่างง่ายดาย

 

เธอเป็นแวเรียนท์เดียวที่เคยปลุกและควบคุมพลังลมระดับ A ได้อย่างเต็มที่

 

แต่พลังแห่งลมของเธอถูกบดบังด้วยพลังแห่งการสลายตัว ซึ่งเป็นความสามารถระดับ S

 

คนส่วนใหญ่รู้จักเธอในฐานะ “ราชินีแห่งการสลายตัว”

 

แต่มีเพียงคนที่มีความรู้จริงๆ เท่านั้นที่รู้ว่าพลังแห่งลมมีประโยชน์ต่อแม่ของเขาเพียงใด

 

มันไม่ได้น่ากลัวและทำลายล้างเท่าความสามารถของเธอในการสลายตัว แต่ในด้านอรรถประโยชน์  มันมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก แม้จะเป็นความสามารถระดับ A

 

จนถึงตอนนี้ ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถปลุกการควบคุมลมแรงค์ S แม้กระทั่งแม่ของเขา

 

เป็นเวลานานแล้วที่มนุษย์คนแรกปลุกความสามารถของเขา แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานมาก  ผู้คนก็ยังไม่เข้าใจความสามารถอย่างสมบูรณ์

 

คนส่วนใหญ่รู้แต่เรื่องพื้นฐานเท่านั้น  พวกเขารู้ว่าคนที่หายากบางคนปลุกพลังขึ้นมา เมื่อตอนที่พวกเขายังอายุน้อยกว่า  และพลังก็ถูกจัดลำดับจากช่วงเวลานั้นเองตามองค์ประกอบ ธรรมชาติ และความหายากของพวกเขา

 

พลังวิเศษของพ่อของเขาคือพลังกายภาพระดับ S มีพลังเสริมความแข็งแกร่งอื่น ๆ  แต่ไม่มีสิ่งนี้ ซึ่งเพิ่มความแข็งแกร่งอย่างมาก นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมมันถึงเป็นแรงค์ S

 

สายฟ้าสีดำของพ่อของเขายังเป็นแรงค์ S  เพราะมันเป็นหนึ่งในความสามารถที่หายากและทำลายล้างมากที่สุด เมื่อเชี่ยวชาญอย่างเต็มที่  มันน่ากลัวและอันตรายกว่ามาก เมื่อเทียบกับพลังสายฟ้าปกติที่แวเรียนท์ตื่นขึ้นมา

 

นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีที่ว่าผู้คนสามารถอัพเกรดอันดับพลังของพวกเขาได้ตามธรรมชาติโดยการทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นผ่านการฝึกฝน แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าไม่มีใครสามารถทำได้  มันเป็นเพียงทฤษฎีที่คนบ้าบางคนมี

 

ไม่เพียงแต่อัพเกรดพลังแรงค์ A เป็นแรงค์ S เท่านั้น ผู้คนไม่สามารถแม้แต่อัพเกรดจากพลังแรงค์ E เป็นแรงค์ D ได้

 

ลูซิเฟอร์โชคดีที่เขาสืบทอดพลังระดับ S ทั้งหมดจากพ่อแม่ของเขา พลังเดียวของเขาคือแรงค์ A และนั่นคือ  การควบคุมลม และการรักษาของเขาไม่มีอันดับ

 

แม้ว่าเขาจะมีความสามารถระดับ S แต่เขาก็ยังเป็นเด็กที่ไม่สามารถควบคุมพลังดังกล่าวได้  เขายังไม่มีใครสอนเขา ดังนั้นแม้ว่าพลังของเขาจะเป็นระดับ S  แต่เขาก็ไม่อาจใช้ประโยชน์จากพลังเหล่านั้นได้แม้แต่เสี้ยวเดียว ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเขาไม่สามารถบินได้

 

พลังของเขาคือแรงค์ S แต่มีศักยภาพและชื่อเท่านั้น พลังของเขาจะอ่อนแอลงมาก  ตราบใดที่เขาไม่ได้ควบคุมพวกมันทั้งหมด

 

ลูซิเฟอร์วิ่งเป็นเวลา 5 ชั่วโมงติดต่อกันและเขาจะหยุด เมื่อไปถึงเมืองถัดไปเท่านั้น

 

มันเป็นเมืองเล็กๆ อีกเมืองหนึ่ง แม้จะมีขนาดเท่าเมืองก่อน  แต่สถานที่นี้ดูแย่กว่านั้นมาก

 

บนถนนมีผู้คนไม่มากนัก เมืองนี้ดูเหมือนเมืองผีแทน ทางข้างหน้าเขาเห็นเพียงคน 3 คนเท่านั้น

 

พวกเขาทั้งหมดยืนอยู่ในที่เดียวกัน พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้ชายที่สวมแจ็กเก็ตหนังแขนกุดและเปิดซิป  ไม่มีอะไรในเสื้อแจ็กเก็ตที่เผยให้เห็นหน้าอกมีขนดกของพวกเขา  พวกเขาทั้งหมดเป็นคนร่างใหญ่ที่มีมวลในร่างกายดี ลูกหนูของพวกเขามีขนาดเท่ากับหัวของลูซิเฟอร์

 

ชาย 3 คนนี้ยืนอยู่หน้าบ้านหลังเล็กที่ดูเหมือนต้องการการซ่อมแซมอย่างมาก

 

ทั้ง 3 คนมีปืนอยู่ในมือ

 

ชายคนหนึ่งเดินไปที่ประตูบ้านหลังเล็กและเตะมันอย่างเต็มกำลัง

 

ประตูเปิดออกเมื่อตัวล็อคพังเพราะแรงกระแทก

 

ชายคนนั้นบุกเข้าไปในบ้านด้วยความรวดเร็วอย่างมาก

 

ลูซิเฟอร์สังเกตเห็นพวกเขา แต่เขาไม่ได้หยุดเดิน เขาสนใจแต่คนเหล่านี้เท่านั้น

 

ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายที่เข้าไปในบ้านก็ออกมา

 

ดูเหมือนว่าเขาจะลากชายชราไปพร้อมกับเขา ซึ่งมีคออยู่ในมือของชายคนนั้น ชายคนนั้นลากชายชราและโยนชายชราลงบนถนนต่อหน้าชายอีก 2 คน

 

ชายชราดูเหมือนเขาอายุ 70 ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยริ้วรอย และร่างกายของเขาดูอ่อนแอ  ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยผมสีขาวที่แก้ไม่หายและดูสกปรก

 

ชายผมแดงที่โยนชายชราออกไปบนถนนเริ่มหัวเราะอย่างโหดเหี้ยม ขณะที่เขาจ้องมองชายชรา

 

“นี่ ไอ้แก่สแตน! แกคิดจริงๆ เหรอว่าแกจะมีชีวิตอยู่ หลังจากกินเงินของเราไปแล้ว  แกกู้เงินไปแต่แกไม่จ่ายดอกเบี้ยด้วยซ้ำ แกอยากจะตายจริงๆ เหรอ?”

 

ชายผมแดงเดินเข้าไปใกล้ชายชราที่อ่อนแอ ชายชราพยายามจะลุกขึ้นนั่ง แต่ก่อนที่เขาจะทำได้  เท้าหนึ่งข้างก็เหยียบศีรษะเขาจนกระแทกพื้นอีกครั้ง

 

“อยู่บนพื้นเหมือนสุนัขที่เชื่อฟังซะ!”

 

ลูซิเฟอร์เหลือบมองพวกผู้ชายชั่วครู่หนึ่ง เขาสามารถเห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้น  ความสนใจที่อยากรู้อยากเห็นปรากฏอยู่ในสายตาของเขา

 

“ฉันอยากจ่ายเงินให้คุณ แต่มีขโมยอยู่ในบ้านของฉัน มีคนขโมยทุกอย่างของฉันไป! ฉันไม่มีอะไรจะจ่ายให้คุณแล้ว  โปรดให้เวลาฉันมากกว่านี้” ชายชราอ้อนวอน ขณะที่น้ำตาไหลรินจากดวงตาของเขา

 

“นั่นคือสิ่งที่เราควรสนใจหรือไม่ ถ้าแกจ่ายไม่ได้ เราจะขายบ้านของแกซะ” ชายผมแดงคำราม

 

“ไม่!! ได้โปรด อย่าทำเลย บ้านหลังนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่ข้าเหลืออยู่ มันมีความทรงจำของลูกๆ ที่ตายไปแล้ว  นี่เป็นสิ่งเดียวที่ข้าเหลืออยู่” ชายชราอ้อนวอน ขณะแตะเท้าของ ชายผมแดงคนนั้น

 

“ทำไมแกถึงสนใจบ้านล่ะ? แกอยู่นี่ได้ไม่นานหรอก! ยังไงแกก็ต้องตายอยู่แล้ว  ขาข้างหนึ่งของแกอยู่ในหลุมศพแล้วล่ะ หึ” ชายผมแดงส่ายหน้า และเปล่งเสียงหัวเราะอย่างไม่มีอารมณ์ขัน

 

ชายอีก 2 คนก็เข้าร่วมด้วย ในขณะที่เสียงหัวเราะอยู่รอบ ๆ เห็นได้ชัดว่าชายชรารู้สึกอาย แต่เขาไม่สนใจ

 

“ได้โปรด ฉันจะเป็นทาสของคุณไปตลอดชีวิต ฉันสาบานด้วยชีวิต!” ชายชราพูดขณะก้มหน้า

 

… ยังมีต่อ

ตอนที่ 10: การวิเคราะห์ข้อมูล

 

พระอาทิตย์กำลังตกดินอย่างช้าๆ แสงแดดยามเย็นส่องลงมาที่ถนนราวกับไวน์ชั้นดี

 

สมาชิกหน่วยเดลต้ายังคงสอบปากคำชาวเมืองโดยไม่หยุดพัก  พยายามค้นหาเบาะแสเล็กน้อยที่พวกเขาสามารถทำได้เกี่ยวกับที่อยู่ของผู้กระทำความผิด  พวกเขาจมอยู่ใต้น้ำเกินกว่าจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย

 

ทีมงานกระจายไปทั่วเมืองและถามทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้  น่าเสียดายที่ไม่มีพลเมืองคนใดสามารถให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่พวกเขาได้

 

ไม่มีใครเห็นคนมีเลือดติดอยู่แม้แต่น้อยหรือได้รับบาดเจ็บ ไม่มีใครเห็นใครที่พวกเขาคิดว่าน่าสงสัย

 

อย่าว่าแต่เห็นคนแบบนั้นเลย ไม่มีใครรับรู้ด้วยซ้ำว่าเห็นชายคนหนึ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในเมืองนี้

 

มีเพียงคนเดียวในเมืองทั้งเมืองที่ได้เห็นลูซิเฟอร์และยังมีชีวิตอยู่  เป็นคนที่บอกลูซิเฟอร์เกี่ยวกับที่อยู่ของเมืองลีเจียน  เขายังไม่ได้สอบปากคำ ในขณะที่เขานั่งสบายอยู่ในบ้านของเขา

 

ก๊อก! ก๊อก!

 

เสียงเคาะที่สงบดังก้องไปทั่วผนังบ้านไม้ของเขา เสียงเคาะเข้าที่หูของชายคนนั้น  ทำลายความเงียบอันเงียบสงบทั่วทั้งบ้าน

 

ชายคนนั้นลุกขึ้นจากที่นั่งและเดินไปที่ประตูอย่างเกียจคร้าน ใช้เวลาทั้งหมดของเขา

 

มันเป็นบ้านหลังสุดท้ายที่ยังไม่ได้สอบปากคำโดยทีมเดลต้า ดังนั้นจึงเป็นความหวังสุดท้ายที่จะหาข้อมูลใดๆ  เกี่ยวกับผู้กระทำความผิด

 

ฟลูเรนมาถามคำถามส่วนตัว ตามด้วยสมาชิกในทีมอีก 2 คน

 

แซนเดอร์ไม่ได้อยู่ที่นี่แม้ว่า แซนเดอร์กลับไปที่ร้านอาหารกับคนอื่นๆ โดยปล่อยให้ฟลูเรน  สอบปากคำบ้านหลังสุดท้าย

 

ชายผมสีเข้มเปิดประตูและเจอกับฟลูเรน

 

“เอ่อ คุณเป็นใคร” ชายคนนั้นถามฟลูเรน ซึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

หลังจากแนะนำตัวอย่างเป็นทางการแล้ว ฟลูเรน ก็ถามคำถามเดียวกันกับที่เขาเคยถามทุกคนอย่างสุภาพและอดทน ชายคนนั้นใช้เวลาคิดทบทวนเรื่องนี้  แต่คำตอบของเขาก็เหมือนกับคนอื่นๆ

 

เขายังส่ายหัวและอ้างว่าไม่รู้จักใครที่ตรงกับคำอธิบายนั้น

 

เขาไม่เคยเห็นคนที่เขาสามารถอธิบายได้ว่าได้รับบาดเจ็บ

 

แม้ว่าเขาจะพบว่าเสื้อผ้าหลวม ๆ ของลูซิเฟอร์แปลก ๆ  แต่เขาก็ไม่ได้สนใจมันมากนัก เนื่องจากคำถามไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้น เขายังคิดว่าคนเหล่านี้กำลังมองหาอาชญากร  ใครจะคิดว่าเด็กจะเป็นคนที่พวกเขากำลังมองหา?

 

คำอธิบายทำให้คนที่พวกเขากำลังมองหา  ดูเหมือนอาชญากรที่ชั่วร้ายที่ได้รับบาดเจ็บและเต็มไปด้วยเลือดหรือเดินผิดปกติหรือทำตัวน่าสงสัย  ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของผู้คนคือผู้ใหญ่ ดังนั้น  ลูซิเฟอร์จึงถูกแยกออกจากความคิดของพวกเขาโดยอัตโนมัติ

 

ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ต่างกันเลยในกรณีนี้ เขาเคยเห็นเด็กที่ไม่รู้จัก แต่เขาไม่เคยเห็นคนบาดเจ็บ  ชายคนนั้นปฏิเสธเพียงเพราะเขาบอกว่าเขาไม่เห็นใครแบบนั้น

 

ฟลูเรนถอนใจด้วยความหงุดหงิด ขณะที่ใบหน้าเศร้าหมองฝังลึกบนใบหน้าของเขา

 

“พวกคุณล้วนไร้ประโยชน์ ทั้งเมืองนี้ไร้ประโยชน์ ในตอนกลางวันแสกๆ ร้านอาหารถูกทำลาย   ผู้คนจำนวนมากถูกฆ่าตาย และไม่มีใครเห็นอะไรเลย!”

 

“ฉันไม่เคยเห็นเมืองที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ เต็มไปด้วยผู้คนที่ประมาท พวกคุณล้วนไร้ความรับผิดชอบ” ฟลูเรน บ่นด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันหลังกลับ

 

ชายคนนั้นเกาหลังศีรษะเมื่อเห็นฟลูเรนกระทืบเท้าของเขา

 

‘ช่างเป็นคนหยาบคายอะไรอย่างนี้!’ เขาคิด

 

****

 

ฟลูเรนกลับไปที่ร้านอาหารที่เขาพบแซนเดอร์และแจ้งเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เขาค้นพบ… หรือสิ่งที่เขาไม่พบ…

 

“มันแปลกมาก ผู้กระทำผิดเป็นแม้กระทั่งมนุษย์   เขาเป็นผีหรือใครก็ตามที่มองไม่เห็นหรืออาจเป็นได้ว่าเขามีพลังที่จะกระโดดเข้าไปในเงามืดแล้วหายตัวไป  นั่นอาจอธิบายได้ว่าทำไมไม่มีใครเห็นเขาเลย” ฟลูเรนบ่นหลังจากที่เขาจบประโยค   เขาค่อนข้างรำคาญและสิ้นหวังในตอนนั้น

 

“เรามีทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับพลังที่อาจมีของเขาอยู่แล้ว  สิ่งที่เราทำได้คือรอและหวังว่านิติเวชจะสามารถให้เบาะแสบางอย่างแก่เราว่าผู้ชายหรือผู้หญิงคนนี้เป็นใคร”  แซนเดอร์ยอมรับ ใบหน้าของเขามืดลงด้วยความคิด

 

“คนนี้เป็นใคร แล้วเขาหายไปไหนกันแน่” เขาสงสัยต่อไป

 

วันนั้นอากาศร้อนและอุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียสแล้ว แต่สมาชิกของเดลต้า สควอตไม่รู้สึกร้อน  พวกเขาฝึกฝนทั้งในสภาพอากาศที่ร้อนจัดและเย็นจัด

 

ทีมงานรวบรวมเบาะแสและหลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาหามาได้เสร็จสิ้นแล้ว  พวกเขายังรวบรวมศพและเตรียมการขนส่ง

 

มันเป็นช่วงเวลานั้น รถบรรทุกหุ้มเกราะ 3 คันเข้ามาในเมือง

 

รถบรรทุกหุ้มเกราะได้เคลื่อนตัวไปตามถนนที่ไม่เรียบของเมืองก่อนจะไปถึงร้านอาหารในที่สุด  พวกเขาหยุดตรงหน้าแซนเดอร์และคนอื่นๆ

 

เมแน่ก้าวออกไปพร้อมกับสมาชิกในทีมคนอื่นๆ ซึ่งเริ่มขนส่งศพไปยังรถที่เพิ่งมาถึง

 

“เมเน่” แซนเดอร์เรียกเมเน่ซึ่งยืนอยู่ใกล้เขา

 

“ครับกัปตัน?” เมเน่ตอบขณะที่เขาพยายามทำให้แน่ใจว่าร่างกายของเขาจะไม่เกร็งอีก

 

แซนเดอร์กำลังยืนพิงหลังพิงกำแพง  ดวงตาสีม่วงของเขาเฝ้าสังเกตทุกการเปลี่ยนแปลงในการแสดงออกของเมเน่

 

“คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับคดีนี้ คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลนี่  ลองวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้กับเราจากสิ่งที่คุณสังเกตเห็นที่นี่”

 

เมเน่กำหมัดของเขาในขณะที่เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ในที่สุดก็เป็นโอกาสที่เขาจะเปล่งประกาย

 

ก่อนหน้านี้ เขาเครียดมาก เมื่อแซนเดอร์ถามคำถามเขา ถึงเวลาไถ่ถอนตัวเองแล้ว และเขาไม่อยากทำมันพังอีก  เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเริ่มตอบ

 

“เราไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นคนทำ และไม่มีกล้องวงจรปิดด้วย แต่เรารู้แรงจูงใจของเขาดี  ผู้ชายคนนั้นกำลังมองหาอาหาร ผมเชื่อว่าเจตนาของเขาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า แต่มีความขัดแย้งบางอย่าง  เกิดขึ้นที่นี่ ซึ่งทำให้เขาต้องฆ่า” เมเน่พูดด้วยลมหายใจเดียว ประโยคของเขาออกมาราวกับว่าเขาจำได้

 

เมื่อเห็นว่าเขาตอบอย่างไร บางคนที่ไม่รู้ตัวอาจถึงกับคิดว่าเขาเตรียมที่จะตอบคำถามนี้มาโดยตลอด

 

“มันคงเป็นเรื่องยากที่จะหาเขาเจอ แต่ผมแน่ใจว่าเขาจะทำการสังหารหมู่แบบนี้อีกครั้ง  แม้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าคนในตอนแรก แต่วิธีที่เขาฆ่าพวกนั้นทั้งหมด ผมรู้สึกว่าเขาสนุกกับการเข่นฆ่า”

 

“ เขาได้ลิ้มรสผลไม้ต้องห้ามนี้ ถ้าเขาสูญเสียตัวเองในความปรารถนาที่จะรู้สึกแข็งแกร่งเหนือผู้อื่น   เขาจะทำมันอีกครั้ง ดังนั้นเราต้องตามหาเขาให้พบ ประสบการณ์นี้อาจสร้างสัตว์ประหลาดตัวจริง”

 

เมเน่เริ่มอธิบายว่าเขารู้สึกว่าจิตใจของผู้กระทำ ได้ทำงานผิดพลาดอย่างไร แม้ว่าเขาจะพูดด้วยน้ำเสียงปกติ  แต่คำพูดแต่ละคำของเขาดูเหมือนจะมีน้ำหนักมากและทำให้กระดูกสันหลังของทุกคนเย็นลง   ทำให้เกิดภาพที่น่ากลัวของสัตว์ประหลาดในจิตใจของพวกเขา

 

ดวงตาของเมเน่จับจ้องอยู่ที่แซนเดอร์ ซึ่งมีใบหน้าไร้อารมณ์  เขาลืมไปว่าการแสดงออกของผู้อื่นที่ได้ยินคำพูดของเขาชัดเจนเพียงใด

 

เมเน่ยังคงบรรยายต่อไปโดยไม่รอแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อหายใจ อย่างไรก็ตาม เขาหายใจสั้น ๆ เป็นระยะ ๆ  ราวกับกลัวว่าโอกาสในการพูดของเขาจะถูกพรากไปหากเขาหยุดนานเกินไป

 

“สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือเราไม่รู้เกี่ยวกับวาเรียนท์แบบนั้นได้อย่างไร เขาหรือเธอคนนั้นน่าจะอายุเกิน 20 ปีแล้ว  อย่างน้อยก็เท่าที่ผมคิดได้ แต่วาเรียนท์สามารถปลุกพลังของพวกเขาได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาอายุน้อยกว่า 10 ขวบ”

 

“ดังนั้น จึงไม่เหมือนกับกรณีของคนที่เพิ่งปลุกพลังของเขาและล้มเหลวในการควบคุมพวกเขา” เมเน่อธิบาย  “แต่นั่นก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นอีก เหตุใดจึงไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน”

 

ในท้ายที่สุด เมเน่ก็จบด้วยคำถามที่รบกวนจิตใจเขามานาน “ทำไมคนผู้นี้ถึงใช้เวลาอย่างสงบสุขกว่า 10 ปี และเพิ่งฆ่าเพื่ออะไรเล็กๆ น้อยๆ อย่างความหิวโหย?”

 

การแสดงออกของแซนเดอร์เปลี่ยนไปเล็กน้อยเป็นครั้งแรกตั้งแต่เมเน่เริ่มพูด

 

“บางทีเขาอาจจะเป็นฤาษีที่ไม่เปิดเผยพลังของเขาและใช้ชีวิตแบบอยู่ใรที่กำบัง?  มันค่อนข้างเป็นไปได้ไหม ที่มันเป็นครั้งแรกที่มีคนมากวนใจเขา ซึ่งทำให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้?” ฟลูเรนเดาเมื่อเขาเปลี่ยนสายตาจาก เมเน่ไปที่แซนเดอร์

 

เมแน่พยักหน้า “แน่นอน มันเป็นไปได้ทีเดียว”

 

“ไม่ว่าจะเป็นสิ่งนั้นหรือของกินก็เพียงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเรา”  แซนเดอร์พูดสอดรับกับข้อสันนิษฐานที่ยังไม่มีใครคิด

 

“ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่คล้ายกันเกี่ยวกับการฆ่าวาเรียนท์ที่หิวโหยอาหาร แต่อย่างที่เมน่กล่าว  บางสิ่งก็ไม่สมเหตุสมผลในเรื่องนั้น” เขากล่าวต่อ

 

ฟลูเรน,เมเน่ และคนอื่นๆ ต่างก็ครุ่นคิดอย่างหนัก เมื่อได้ยินถึงความเป็นไปได้นี้

 

เซลล์สมองของพวกเขาเต็มไปด้วยความเป็นไปได้และสาเหตุที่แตกต่างกัน  แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครพูดออกมาเป็นคำพูด

 

แซนเดอร์สังเกตเห็นการแสดงออกของเมเน่เปลี่ยนไปเล็กน้อย

 

สายตาของแซนเดอร์ไม่พลาดแม้เพียงเสี้ยววินาทีที่ริมฝีปากของเมเน่สั่นสะท้าน ดังนั้นเขาจึงพูดออกไปทันทีว่า  “คุณอยากจะพูดอะไรก็พูดได้ เมเน่ อย่ากลั้นไว้เลย”

 

เมเน่กระแอมในลำคอและบีบยางรัดผมยาวของเขาอย่างประหม่าก่อนจะพูดอีกครั้ง

 

“เป็นไปได้ไหมที่องค์กรวาเรียนท์อย่าง VU อยู่เบื้องหลัง   พวกเขาอาจพยายามทำให้เราเสียเวลาในกรณีนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง เพื่อกันเราออกจากหางของพวกเขา ในขณะที่พวกเขากำลังวางแผนสำหรับบางสิ่งที่ใหญ่และคุกคามมากขึ้น ความเป็นไปได้คือ ผมเชื่อว่าเราไม่สามารถเพิกเฉยได้”

ตอนที่ 9: ผู้ป่วยในโรงพยาบาล

 

“ฉันสงสัยว่าคนร้ายจะยังอยู่ข้างใน เขาอาจจะหายไปนานแล้ว คุณสอบปากคำคนข้างนอก  ฉันจะตรวจสอบข้างใน” แซนเดอร์บอกฟลูเรน สายตาของเขาไม่สั่นคลอน

 

ฟลูเรนรับทราบคำสั่งของหัวหน้าทีมและออกจากร้านอาหารพร้อมกับผู้ชาย 2-3 คน

 

เขาทิ้งทั้งเจ้าหน้าที่นิติเวชในทีมและแซนเดอร์ไว้ข้างหลัง

 

สมาชิกในทีมเดลต้าคนหนึ่งได้ตรวจสอบครัวแล้ว มันว่างเปล่าและไม่มีวี่แววว่าจะมีใครอยู่ที่นั่น

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขาตรวจสอบเฉพาะผู้คนเท่านั้น แต่ไม่ได้เจาะจงด้วยการกลั่นกรองทุกสิ่งเล็กน้อย

 

สำหรับการตรวจสอบอย่างละเอียดนั้นเริ่มที่ห้องโถงใหญ่ก่อน  พวกเขากำลังรวบรวมเบาะแสจากภายนอกและต้องการย้ายเข้าไปข้างในหลังจากเสร็จสิ้นที่นี่

 

เมื่อเวลาผ่านไป ศพมีโอกาสที่จะสึกกร่อนมากขึ้น ซึ่งจะขัดขวางการรวบรวมหลักฐาน  พวกเขายังไม่ได้สัมผัสอะไรในครัวเลย

 

แซนเดอร์ก็ทำตามรูปแบบเดียวกัน เขาแจกจ่ายงานให้กับทุกคน  ส่วนหนึ่งของทีมของเขาถูกนำไปสอบปากคำชาวเมือง โดยมี ฟลูเรนเป็นผู้นำ

 

ส่วนที่ 2 ของทีมถูกทิ้งให้เก็บตัวอย่างเลือดและลายนิ้วมือในห้องโถงใหญ่

 

หลังจากแจกจ่ายงาน แซนเดอร์เป็นคนเดียวที่ว่าง ในไม่ช้าเขาก็ตัดสินใจที่จะตรวจสอบภายในครัวด้วยตัวเอง

 

เขาเดินเข้าไปในครัว ประตูที่พังไปแล้ว

 

ดวงตาของเขากวาดไปทั่วทั้งห้องเล็ก ๆ พยายามหาสิ่งแปลก ๆ

 

เขาสังเกตเห็นประตูวางอยู่ที่ปลายอีกด้านของห้องครัว และมันก็ไม่ได้ทำให้เขาตกใจเลย  เขารู้แล้วว่าผู้กระทำผิดมีความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์และค่อนข้างหุนหันพลันแล่นเช่นเดียวกับความโกรธ

 

มิฉะนั้น พวกเขาไม่สามารถก่อความโกลาหลเช่นนี้ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ประตูทั้งหักและคับแคบมาก

 

‘มันต้องล็อกอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ผู้ชายคนนั้นรำคาญมากยิ่งขึ้น และด้วยเหตุนี้  เขาจึงระบายความโกรธที่ประตูนี้ทั้งหมด แต่ทำไมเขาถึงพยายามเข้าครัวขนาดนั้น?  เป็นไปได้ไหมว่าชายคนนั้นหิวและนั่นเป็นสาเหตุที่เขามาที่นี่? หรือมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับสถานที่นี้’  แซนเดอร์คิด ขณะขมวดคิ้ว

 

ฝีเท้าของเขาช้าแต่แม่นยำราวกับว่าเขากำลังก้าวอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ดวงตาสีฟ้าของเขาสแกนไปทุกหนทุกแห่ง

 

“นั่นดูเป็นไปได้และมีเหตุผล ฉันไม่เชื่อว่ากลุ่มวายร้ายกลุ่มใหญ่จะส่งเพื่อนร่วมทีมเพื่อฆ่ากลุ่มคนในร้านอาหาร   มันคงเป็นแวเรียนท์อารมณ์ร้ายปกติที่หิวโหยและเกิดความขัดแย้งอย่างใด กับคนที่นี่  ดูเหมือนว่าจะมีโอกาสสูงที่สุด” เขาสรุปในความคิดลึก ๆ นิ้วเรียวของเขาแตะคางเบา ๆ

 

เขาเดินไปที่กล่องใส่อาหารและหยุดลง เมื่อสังเกตเห็นวัตถุคล้ายแป้งผิดปกติกระจัดกระจายอยู่ที่นั่น ซึ่งดูเหมือนเศษของบางอย่าง

 

แซนเดอร์สังเกตอย่างระมัดระวังแต่ไม่ได้สัมผัสมันเพราะเป็นหลักฐานทั้งหมด และการสัมผัสอาจนำไปสู่การปลอมปน อาจทำให้หลักฐานเสียหายได้  เฉพาะนิติเวชเท่านั้นที่ควรสัมผัสด้วยเครื่องมือเฉพาะ

 

“มันเป็นพลังของเขา ฉันพูดถูก เขามาที่นี่เพื่อทานอาหารและกินจากที่นี่” แซนเดอร์ยอมรับก่อนจะหันหลังกลับ  เขาเดินไปรอบ ๆ ห้องครัวเพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมโดยจดจ่ออย่างเต็มที่

 

ขณะที่เดินไปรอบๆ ในไม่ช้าเขาก็พบเสื้อคลุมสีขาวนอนอยู่บนพื้น มันถูกปกคลุมไปด้วยเลือด  ส่วนใหญ่เป็นสีแดงเพราะคราบเลือด แต่สีขาวดั้งเดิมยังสามารถมองเห็นได้ในสถานที่ต่างๆ

 

“เสื้อคลุมนี้… ผู้ชายคนนั้นมาจากโรงพยาบาลเหรอ?” คิ้วของแซนเดอร์กลายเป็นขมวดคิ้ว

 

“มันดูเล็กเกินไปสำหรับผู้ชายที่โตแล้ว” เขาพึมพำ ขณะจ้องมองเสื้อคลุมด้วยความสับสน

 

“โรงพยาบาลมีขนาดของชายคนนั้นหรือไม่ หรือมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่นที่จะใส่ไซส์ที่เล็กลง?  หรืออาจจะเป็นผู้ชายที่มีส่วนสูงและขนาดที่เล็กกว่า?”

 

“เมเน่!” เขาเรียกด้วยเสียงอันดัง ขณะที่เขามองไปที่ประตู

 

ชายหนุ่มวิ่งเข้ามาทางประตูราวกับว่าหางของเขาติดไฟ ชายคนนั้นมีผมสีเงินสวยงามที่มัดเป็นหางม้า  ดูเหมือนว่าเขาจะอายุ 20 ต้นๆ และเขาค่อนข้างประหม่า เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าแซนเดอร์

 

เขาเป็นสมาชิกประจำของทีมเดลต้า ซึ่งอายุน้อยที่สุดเช่นกัน

 

“ครับท่าน” ชายผมสีเงินตอบ ขณะหยุดต่อหน้าแซนเดอร์

 

“โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากที่นี่เท่าไหร่” แซนเดอร์ถาม ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่เสื้อคลุมสีขาว

 

“อา นี่เป็นครั้งแรกของผมที่มาที่นี่ ผมจะไปตรวจสอบครับ” เมแน่ตอบด้วยใบหน้าเขินอาย  เขาดึงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าอย่างรวดเร็วและเริ่มดูแผนที่

 

ขณะที่เขารู้สึกประหม่า เขาอดไม่ได้ที่จะมองผิด 2-3 ครั้ง ความเงียบนั้นน่ากลัวสำหรับเขา และความรู้สึกของผู้บังคับบัญชาที่รอคำตอบนั้นยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาเป็นสมาชิกใหม่ล่าสุดของทีม

 

“คุณไม่ต้องเครียดมาก ใจเย็น ๆ คุณสามารถใช้เวลาของคุณได้เต็มที่”  แซนเดอร์พูดพาดพิง เมื่อเขาตระหนักว่าเมเน่ถูกข่มขู่

 

เขาหันหลังกลับและเดินไปที่ตู้ที่เปิดอยู่เพื่อตรวจสอบ ในขณะที่ให้พื้นที่แก่เมแน่และมีโอกาสให้เขาได้หายใจ

 

ตั้งแต่วินาทีที่แซนเดอร์เรียกหาเขา เมแน่ดูเหมือนไม่ได้หายใจเลย ขณะที่พยายามค้นหาโรงพยาบาลทางโทรศัพท์

 

ในที่สุดชายผมสีเงินก็ถอนหายใจออกมา เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขณะที่แซนเดอร์เดินจากไป  ในที่สุดเขาก็สงบลง ตอนนี้เขาสงบแล้ว ในที่สุดเขาก็สามารถค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ขณะที่เมแน่พยายามหาคำตอบสำหรับคำถามของแซนเดอร์ แซนเดอร์ก็ยุ่งกับการดูตู้

 

เมื่อสังเกตเห็นรอยบนตู้ แซนเดอร์สรุปว่า “เขาเปิดนี่ด้วย บางทีอาจจะมองหาอาหารเพิ่ม?”

 

“ฉันเข้าใจแล้ว ในเมืองนี้ไม่มีโรงพยาบาล แต่มีคลินิกอยู่ใกล้ๆ สำหรับโรงพยาบาลที่เหมาะสม  โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดคงอยู่ในเมืองลีเจียน” เมเน่บอกแซนเดอร์

 

“เมืองลีเจียนเหรอ?” แซนเดอร์มองกลับมาที่เมแน่ ใบหน้าของเขามืดมนด้วยความคิด

 

“เป็นไปได้ว่าผู้กระทำผิดของเราเป็นผู้ป่วยที่หนีไม่พ้น   แต่ก็เป็นไปได้เช่นกันที่เขาเพิ่งไปเอาเสื้อคลุมนั้นมาจากที่อื่น เขาสามารถได้มาจากเพื่อนหรือคนอื่นๆ  มันช่างไร้ประโยชน์เพราะไม่มีโรงพยาบาลอยู่ในเมืองนี้ รวบรวมเสื้อคลุมนั้นแล้วส่งไปที่นิติเวช”

 

แซนเดอร์เริ่มออกจากครัว แต่ในขณะที่เขากำลังจะก้าวออกจากประตู เขาก็หยุดเดิน “ในความคิดที่ 2  เพียงเพื่อประโยชน์ของมัน ติดต่อโรงพยาบาลและถามว่ามีผู้ป่วยที่ หนีไป ฉันแน่ใจว่าเราจะไม่ได้อะไรเลย   แต่มันก็เป็นแค่การโทรครั้งเดียว เราอาจจะพยายามระหว่างที่เรารอรายงานได้ด้วย”

 

หลังจากทำตามคำสั่งเสร็จแล้ว เขาก็ออกจากครัว

 

เมแน่อยู่ข้างหลังเพื่อเก็บเสื้อคลุมอย่างระมัดระวัง ในขณะที่ทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำของเลอะเทอะ  มันค่อนข้างยากแต่ก็ไม่ยากเท่ากับอุปสรรคที่เขาข้ามมาเพื่อมาอยู่ในทีมนี้ ตอนนี้เขาไม่สามารถทำอะไรยุ่งได้เลย

 

แซนเดอร์ก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ซึ่งทีมนิติเวชยังคงเก็บตัวอย่างและศพอยู่

 

“พวกคุณอยู่ที่นี่ รถบรรทุกหุ้มเกราะจะมาถึงในไม่ช้า อยู่ที่นี่และมองหาสิ่งที่เราอาจพลาด ทุกสิ่งมีความสำคัญ  ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ พวกคุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการนำศพกลับไปที่ฐานของเรา  พวกเราต้องการให้พวกเขาหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจริงๆ แล้วพวกเขาเสียชีวิตอย่างไร” เขากล่าวพร้อมหายใจ

 

“ฉันจะออกไปข้างนอกกับ ฟลูเรนถ้าคุณต้องการอะไร โทรหาฉันได้” เขาพูดต่อก่อนจะออกจากร้านอาหาร

 

“ครับกัปตัน!” พวกผู้ชายก็พูดออกมาพร้อมกัน

 

รวมถึงเมแน่ ทั้ง 5 คนยังคงอยู่ในร้านอาหาร

 

ชาวเมืองต่างสับสน เมื่อเห็นเฮลิคอปเตอร์หุ้มเกราะ 3 ลำบินอยู่เหนือหัวของพวกเขา

 

พวกเขาส่วนใหญ่ยังไม่ทราบเกี่ยวกับการสังหารหมู่อันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นที่นั่น  คนเดียวที่รู้เรื่องนี้คือคนที่ถูกสอบปากคำ

 

แซนเดอร์เดินผ่านถนนในเมือง และในไม่ช้าก็สังเกตเห็น ฟลูเรนในระยะไกล

 

เขาเดินเข้าไปใกล้ ฟลูเรนและได้ยินเขาสอบปากคำชาวเมืองคนหนึ่งว่า “คุณเคยเห็นคนที่ได้รับบาดเจ็บไหม  เสื้อผ้าของเขาต้องมีเลือดติดอยู่”

 

ฟลูเรนกำลังสอบปากคำชายวัยกลางคน

 

“คนในชุดเปื้อนเลือด? ฉันจำไม่ได้ว่าเคยเห็นใครแบบนั้น ทำไม? มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”  ชายวัยกลางคนถามด้วยความสงสัย สงสัยว่าทำไมจู่ๆ เขาก็ถูกถามคำถามแบบนั้น

 

‘มีใครหนีออกจากคุกหรืออะไรทำนองนั้นไหม’ เขาคิด ส่วนใหญ่ข่มขู่  คนส่วนใหญ่คิดอย่างไร เมื่อเห็นคนเหล่านี้ถามคำถาม

 

รู้สึกเหมือนกำลังตามหาใครสักคน ด้วยเฮลิคอปเตอร์ทหารที่อยู่บนท้องฟ้าก็ดูเหมือนว่าพวกเขามาจากรัฐบาล  ดังนั้น มันจึงได้แค่หมายความว่าพวกเขากำลังตามหาอาชญากรที่บาดเจ็บ

 

“ถ้าไม่เห็นใครเลย ไปได้ ถ้าเจออะไรหรือจำอะไรได้ ก็มาบอกเราได้  ความช่วยเหลือจะตอบแทนอย่างมากมาย” ฟลูเรนพาดพิงถึงพวกผู้ชายก่อนจะอนุญาตให้เขาออกไป

 

หลังจากที่ชายวัยกลางคนจากไป ฟลูเรนก็หันไปหาแซนเดอร์

 

“เราถามคนมามากเท่าที่จะมากได้ แต่ไม่มีใครอ้างว่าเห็นคนที่ตรงกับคำอธิบายของเรา  เป็นไปได้ไหมว่าผู้กระทำผิดไม่ได้รับบาดเจ็บ?” เขาคร่ำครวญ

 

แซนเดอร์ส่ายหัวเบา ๆ ปฏิเสธแนวคิดเรื่องฟลูเรน เขามองกลับไปที่ร้านอาหารก่อนจะตอบ  เสียงของเขาเบากว่าปกติเล็กน้อย แต่สงบ “ฉันไม่คิดอย่างนั้น”

 

เขาพูดต่อ “คนคนนั้นได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน เราพบเสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่  มีร่องรอยของเลือดที่ล้างอยู่ในอ่างล้างจาน เป็นไปได้ว่าเขาทำความสะอาดเลือดจากร่างกายของเขา  แต่ถึงกระนั้น บาดแผลแบบนี้จะ เลือดไหลอีกแล้ว มันต้องมีคนเห็นคนตกเลือดแน่ๆ”

 

“ฉันหวังว่ามันจะเป็นอย่างที่นายพูด  ไม่อย่างนั้นเราจะมีคนที่ปล่อยมือที่สามารถเช็ดใบหน้าของโลกใบนี้ได้เป็นพันๆ คนด้วยตัวเราเอง” ฟลูเรนพยักหน้าเบา ๆ ขณะที่เขาหวังว่าพวกเขาจะไม่ผิด

 

แต่เขาไม่สามารถบรรเทาความรู้สึกที่เป็นลางร้ายที่ตอกย้ำในหัวใจของเขาได้อย่างสมบูรณ์ ราวกับว่าพวกเขาพลาดอะไรบางอย่างไป และเมื่อดูสีหน้าของแซนเดอร์ เขาบอกได้เลยว่ารู้สึกมีกันและกัน

 

…ยังมีต่อ

ตอนที่ 8: การปลุกพลังที่ 3

 

มันเป็นวันที่มืดมนที่สุดในชีวิตของลูซิเฟอร์ อากาศค่อนข้างแย่ตั้งแต่เช้า ไม่มีแสงตะวันที่ส่องประกาย  ไม่มีเมฆสวยงามบนท้องฟ้า

 

เมฆดำทะมึนเหนือท้องฟ้าราวกับกำลังทำนายเหตุการณ์ที่เป็นลางร้ายในวันนั้น

 

พายุรุนแรงโหมกระหน่ำนอกบ้านของเขา เมื่อฟ้าแลบส่งเสียงฟ้าร้องกลับมา ทำให้เกิดเสียงคำรามดังลั่น

 

ฝนตกหนักมาพร้อมกับฟ้าร้อง อย่างไรก็ตาม ลูซิเฟอร์ไม่สนใจเรื่องนี้

 

เขากำลังดูทีวี ซึ่งกำลังออกอากาศรายการเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขา  และวิธีที่พวกเขาช่วยมนุษยชาติในการต่อสู้กับผู้อาศัยในคุกใต้ดิน

 

ดวงตาของเขาจับจ้องด้วยความชื่นชมยินดีและเปล่งประกายด้วยความสุขเป็นครั้งคราว ในขณะที่เขาชมวิดีโอต่างๆ ของพ่อแม่ของเขาต่อสู้กับสัตว์ประหลาดอย่างกล้าหาญ

 

เด็กผู้หญิงที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพี่เลี้ยงเด็กของลูซิเฟอร์อยู่ในครัวเพื่อเตรียมอาหารกลางวันให้เขา

 

บึ้ม!

 

ฉากแนะนำสิ้นสุดลง และรายการเพิ่งเริ่มต้นเมื่อลูซิเฟอร์ได้ยินเสียงดัง  ดวงตาที่อยากรู้อยากเห็นของเขาตามเสียงไปก็พบว่าประตูหน้าบ้านของเขาถูกเปิดออกอย่างแรง

 

ผู้ชายหลายคนบุกเข้าไปในบ้านโดยแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหาร ชายชุดดำ 2-3 คนก็พาพวกเขาไปด้วย

 

พวกเขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย เมื่อพวกเขาแจ้งลูซิเฟอร์ว่าพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตและเขาต้องไปกับพวกเขาเพื่อปกป้องเขา

 

ข้อมูลจมลงในตัวเขาอย่างช้าๆ ขณะที่เขามองดูพวกเขาด้วยดวงตาที่กลมโต

 

“ตายเหรอ?”

 

‘พวกเขาหมายความว่าอะไรเสียชีวิต?’

 

ลูซิเฟอร์ครุ่นคิดอย่างสับสน ไม่เข้าใจความร้ายแรงของสถานการณ์  แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจหรือเชื่อสิ่งที่คนเหล่านี้พูด ดวงตาของเขาก็ยังเปียกโชก

 

“ใช่ ทั้ง 2 คนถูกฆ่าตาย พวกเขาจะไม่กลับมา เธอต้องมากับพวกเรา” ชายชุดดำแจ้งลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์กัดฟันตะโกนใส่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาว่า “คุณโกหก! ไม่มีอะไรเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา!”

 

พวกนั้นไม่สนใจคำพูดของลูซิเฟอร์ เขาเริ่มลากเด็กน้อยออกไป

 

ลูซิเฟอร์เริ่มเหวี่ยงหมัดและเท้าของเขาไปในทุกทิศทาง ดิ้นรนอย่างสุดกำลัง  เมื่อทหารลากเขาออกจากบ้านของเขาเอง

 

แม้ว่าจะใช้กำลังทั้งหมดของเขา เขาก็ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้  ลูซิเฟอร์นั่งอยู่ในรถจี๊ปและมองดูบ้านของเขาห่างออกไปทุกวินาที

 

นั่นเป็นช่วงเวลาที่เขาตระหนักว่าเขาได้สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีใครมาหาเขาอีกแล้ว

 

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นบ้านของเขาก่อนที่เจ้าหน้าที่จะพาเขาไปที่โรงงาน  ซึ่งเขาใช้เวลาห้าปีถัดไปจนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้

 

ลูซิเฟอร์ส่ายหัวไปมา  พยายามล้างความทรงจำของวันที่เลวร้ายนั้นเพื่อที่เขาจะได้จดจ่ออยู่กับสิ่งที่สำคัญในตอนนี้

 

‘ฉันต้องการทิศทาง…’ เขาคิดขณะขมวดคิ้วมองไปรอบ ๆ ตัวเขา

 

เขาตรวจดูผู้คนรอบๆ ตัวอย่างระมัดระวังและเลือกผู้สัญจรไปมา เขาเดินเข้าไปหาชายคนนั้นทันที

 

“บอกทิศทางของเมืองลีเจียนมา” เขาสั่งเหมือนเจ้านาย

 

ถ้าผู้ใหญ่พูดอะไรด้วยน้ำเสียงที่ออกคำสั่ง ผู้ชายคนนั้นอาจจะขุ่นเคือง อย่างไรก็ตาม  คำพูดดังกล่าวถูกบอกโดยเด็กน่ารักที่ดูเหมือนอายุเพียง 10 ขวบเท่านั้น ชายคนนั้นไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ

 

เด็กที่มีผมสีเงินส่องแสงระยิบระยับภายใต้แสงแดดและดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลคู่หนึ่ง น่ารักจนหัวใจของเขาละลาย

 

“เมืองลีเจียนอยู่ทางนั้น เจ้าตัวเล็ก” ชายคนนั้นตอบ ขณะยิ้มพร้อมชี้นิ้วไปทางซ้าย

 

“พ่อแม่คุณอยู่ที่ไหน เด็กน้อย” เขาถามเพียงเพื่อตระหนักว่าลูซิเฟอร์ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ทันทีที่เขาบอกทิศทาง  ลูซิเฟอร์ก็จากไปโดยไม่ชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว  เขาไม่ได้ขอบคุณชายคนนั้นราวกับว่าคนสัญจรไม่ได้ช่วยเหลือเขา แต่เขาจำเป็นต้องช่วยเด็กคนนั้นแทน

 

ชายคนนั้นยิ้มแหยๆ ขณะที่เขาส่ายหัวไปมา “เด็กแปลก!”

 

***

 

ลูซิเฟอร์ออกจากทางออกทิศใต้ของเมืองไปยังเมืองลีเจียนโดยไม่หันกลับมามอง  เขาตั้งใจแน่วแน่ที่จะหาบ้านของเขาแม้ว่าเขาจะต้องค้นหาทั่วทั้งเมืองก็ตาม

 

เขาไม่รู้ว่าหลังจากนั้นไม่กี่นาที เฮลิคอปเตอร์ 3 ลำได้แทรกซึมเข้าไปในท้องฟ้า บินมาจากทางเหนือ

 

เฮลิคอปเตอร์หยุดใกล้ร้านอาหารและยังคงนิ่งอยู่ในอากาศ เหนือพื้นดิน 15 ฟุต

 

ประตูเฮลิคอปเตอร์เลื่อนเปิดออก เนื่องจากมีผู้คนราว 20 คนกระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์โดยไม่มีสายรัดใดๆ  พวกเขาลงจอดที่หน้าร้านอาหารอย่างง่ายดายราวกับว่าเป็นกิจวัตรประจำวันสำหรับพวกเขาที่จะกระโดดออกมา แบบนั้น

 

หนึ่งในนั้นยืนอยู่ข้างหน้าอีกไม่กี่ก้าว หันหน้าไปทางร้านอาหาร ด้วยรัศมีที่เปล่งออกมา  เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้นำ

 

ชายคนนั้นดูเหมือนจะอายุ 20 ปลายๆ ศีรษะของเขาเต็มไปด้วยผมหยักศกสีแดงเพลิงที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วหน้าผากของเขา   พวกเขาทำให้เขาโดดเด่นท่ามกลางฝูงชนมากที่สุดเพราะสีที่เป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา

 

เนื่องจากลมกระโชกเล็กน้อย ผมสีแดงของนกฟีนิกซ์จึงปลิวเล็กน้อย ทำให้เขาดูพร่างพรายยิ่งขึ้นภายใต้แสงแดด

 

คนพวกนั้นสวมเสื้อคลุมยาวสีดำทับกางเกงสีดำ เขามีออร่าที่แข็งแกร่ง ปลอกคอเสื้อโค้ตของเขายังคงตั้งตระหง่านอยู่  อาจเป็นเพราะตั้งใจ

 

ด้านหน้าด้านขวาของเสื้อของชายผู้นั้นมีรอยไฟลุกโชนเหมือนรอยสัก  และฝ่ามือทั้งสองของเขาถูกถุงมือสีดำคลุม ด้านซ้ายของเสื้อของเขามีตราโซ่สีทองห้อยอยู่ที่นั่น  และไหล่ทั้งสองของเขามีตราดาวสีทอง ตราเหล่านั้นเป็นเครื่องหมายยศของเขา

 

“ฟลูเรนที่นี่หรือเปล่า” ชายผมแดงถาม ขณะที่สายตาจ้องมองไปยังสถานที่ข้างหน้าราวกับนกอินทรี

 

ชายอีกคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลังชายผมแดงเพียงหนึ่งก้าว เขาผงกศีรษะขณะตอบยืนยัน  “นี่ควรจะเป็นที่ที่เราได้รับการบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องนั้น…”

 

ชายผู้ถูกเรียกว่าฟลูเรนดูเหมือนเป็นผู้บังคับบัญชาอันดับ 2 ของทีมนี้

 

ไม่มีใครใน 20 คนที่สวมเครื่องแบบทหาร แม้จะออกมาจากเฮลิคอปเตอร์ทหารเพราะพวกเขาไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ

 

ชาย 20 คนมาจากกองกำลังพิทักษ์ของผู้ที่ตื่นขึ้นแล้ว ซึ่งประชาชนรู้จักในชื่อ “APF”  พวกเขาเป็นองค์กรพิเศษของประเทศนี้ที่จัดการกับอาชญากรรมที่ก่อโดยแวเรียนท์มืด  ซึ่งใช้พลังของพวกเขาในทางที่ผิด พวกเขาเป็นองค์กรที่ประกอบด้วยแวเรียนท์เท่านั้น

 

พวกเขาเป็นแวเรียนท์ที่ดีที่สุด และยังได้รับการฝึกฝนภายใต้โปรแกรมที่เข้มงวด  และหล่อเลี้ยงเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด  หลังจากรอดชีวิตจากการทดสอบอันโหดร้ายเท่านั้น พวกเขาจึงได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของการทดสอบ

 

ผู้ชายทั้ง 20 คนเหล่านี้ได้รับเลือกให้เป็นรุ่นต่างๆ ของ APF

 

“เราไม่จำเป็นต้องมาที่นี่เองหรือ ตามรายงาน มีเพียงแวเรียนท์คนเดียวเท่านั้นที่สร้างความตื่นตระหนกในร้านอาหารนี้  เราสามารถปล่อยให้ทีมภาคพื้นดินทำงานของพวกเขาได้ใช่ไหม ?” ฟลูเรน ถามชายผมแดง ในขณะที่เขายิ้มอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

 

“ผู้คนจะว่าอย่างไร หากพวกเขารู้ว่าแซนเดอร์ เบลก หัวหน้าหน่วยเดลต้าของ APF  มาเพื่อจับผู้ก่อจลาจลตัวน้อยเป็นการส่วนตัว” เขายังคงส่ายหัว ในขณะที่คิ้วของเขาย่นเล็กน้อย

 

APF มี 3 ทีมซึ่งคล้ายกับ 3 สาขามากกว่า ทีมที่มีตำแหน่งสูงสุดคือทีมอัลฟ่า ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดเช่นกัน  ตำแหน่งที่สองเป็นของ เบต้า สควอต ด้วยเหตุนี้ หน่วยเดลต้าจึงได้รับตำแหน่งที่สาม และชายผมแดงคือแซนเดอร์ เบลก ผู้นำของตน

 

แม้ว่าเดลต้า สควอตจะอ่อนแอที่สุดใน APF แต่ในความเป็นจริง มันไม่ได้อ่อนแอเลย APF เองประกอบด้วยสิ่งที่ดีที่สุดของสายพันธุ์ที่ดีที่สุดที่ต้องการปกป้องประเทศของตนและไม่ลังเลเลยที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับสาเหตุนั้น

 

การเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า แวเรียนท์นั้นแข็งแกร่ง เฉียบคม และมีทักษะ  ในฐานะหัวหน้าหน่วยเดลต้า แซนเดอร์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เขาเป็นหนึ่งในแวเรียนท์ที่ทรงพลังที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่

 

“ไม่มีปัญหาในการตรวจสอบ ใช่ไหม?   เราบังเอิญผ่านมา เมื่อเราได้ยินข้อมูลจากฐานทัพภาคพื้นดินจะใช้เวลามากกว่านี้เพื่อไปถึงที่นี่  เนื่องจากเราอยู่ใกล้สถานที่แล้วจึงสมเหตุสมผล เพื่อให้เราตรวจสอบสิ่งต่างๆ ได้”  แซนเดอร์ตอบขณะที่เขาเริ่มเดินไปที่ร้านอาหารด้วยสีหน้าอดทนอดกลั้น

 

ดวงตาสีม่วงของแซนเดอร์จับจ้องอยู่ที่ร้านอาหารตลอดเวลาราวกับว่าเขาพยายามจะสแกนสถานที่ทั้งหมดผ่านกำแพงคอนกรีต

 

“อย่าเสียเวลาไปทำงานกันอีกเลย เรามีแวเรียนท์มืดให้จับอีก”  เขาสั่งขณะผลักประตูเปิดออกก่อนจะก้าวเข้าไปข้างใน

 

คนอื่นๆ ก็ก้าวเข้าไปในร้านอาหารตามแซนเดอร์

 

“ดูเหมือนเราจะมาช้าไปแล้ว”  ฟลูเรนพึมพำ ขณะที่ดวงตาของเขากวาดไปทั่วทั้งห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยศพอย่างน้อย 25ศพ

 

แซนเดอร์ยังสังเกตเห็นศพ และดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ ตามด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออกบนใบหน้าของเขา  ดูเหมือนจะไม่มีใครมีชีวิตอยู่ที่นี่

 

เฮ้อ…

 

เขาเดินไปหาศพ 1 ศพและสังเกตอย่างใกล้ชิด

 

“อย่างที่คาดไว้ มันเป็นผลงานของ แวเรียนท์—เป็นคนที่แข็งแกร่ง แค่มองไปที่การทำลายล้างที่เกิดขึ้นที่นี่ก็รู้ได้” แซนเดอร์พูด ขณะชี้ไปที่กรงซี่โครงที่หักของชายคนหนึ่ง

 

ฟลูเรนถามด้วยความสงสัย “แต่ทำไม แวเรียนท์ที่แข็งแกร่งถึงทำให้เกิดการสังหารหมู่ในร้านอาหารเล็กๆ  เช่นนี้ แม้แต่องค์กรที่ชั่วร้ายของ องค์กรก่อจลาจลของแวเรียนท์ ก็ไม่ส่งใครมาทำในสถานที่แบบนี้”

“ศพพวกนี้ ทำไมมันดูเหมือนกับเหยื่อของ พลังแห่งการสลายตัว ที่มีเพียง นักเวทย์ธาตุคู่แคลรีส  เท่านั้นที่ใช้งานได้   จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดก่อนหน้านี้ เธอยังไม่ตายหรือ  เป็นไปได้ไหมที่คนอื่นๆได้ตื่นขึ้นด้วยพลังนี้แล้ว พลังที่คล้ายกันนี่น่ะ?” สมาชิกหน่วยเดลต้าผมสีเข้มถามขณะที่ชี้ไปที่ร่างที่ผุพัง

 

มันคือร่างของคนสุดท้ายที่ถูกลูซิเฟอร์ฆ่า เขาได้โยนร่างทิ้งไปเสียก่อนที่ร่างกายจะกลายเป็นเถ้าถ่าน

 

แซนเดอร์เดินไปที่ร่างนั้นและสังเกตอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะพยักหน้ายืนยัน

 

พวกเขาสัญจรไปมารอบๆ ห้อง เขาพูดเสริมว่า “นั่นยังไม่หมด ดูความหายนะสิ เคาน์เตอร์อยู่ใกล้ประตู… คนๆ  นั้นคงมีพลังกายภาพที่ขยายกำลังได้เช่นกัน หรืออะไรที่ช่วยให้ขยับตัวได้ด้วยของหนักๆพวกนั้น”

 

“เดี๋ยวก่อน… พลังธาตุแห่งการสลายตัวและพลังกายด้วยเหรอ  ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นฝีมือของวอร์ล็อคเหรอ?” ฟลูเรนตั้งข้อสังเกต  ความตกใจแผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของเขาเมื่อค้นพบ

 

แซนเดอร์พยักหน้า “นั่นคือสิ่งที่ฉันเชื่อ”

 

เขาดำเนินการสอบสวนต่อไป พิจารณาวัตถุแต่ละชิ้นในที่เกิดเหตุ ในไม่ช้า  เขาสังเกตเห็นกระสุนที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นซึ่งเต็มไปด้วยเลือด

 

“นั่นยังไม่หมด ฉันคิดว่าชายคนนั้นมีพลังอย่างอื่นด้วย ปืนนี้ยิงไปบ้างแล้ว สำหรับผู้ชายที่จะหลบกระสุนได้  เขาต้องมีพลังธาตุแห่งลมหรือพลังทางกายภาพแห่งความเร็ว ” เขาพูดพาดพิงเพราะไม่พบศพใดๆ  ที่มีบาดแผลจากกระสุนปืน

 

แซนเดอร์เชื่อว่ากระสุนพุ่งเข้าใส่แวเรียนท์คนนั้นแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในส่วนสำคัญของเขา ตามที่เขาพูด  กระสุนอาจจะแค่เล็มผิวของเขาเท่านั้น  เนื่องจากเขาสามารถรอดชีวิตจากที่นี่ได้หลังจากทำการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ที่นี่

 

“แม้ว่าเขาจะเร็ว แต่เขาก็ยังถูกกระสุนเพราะกระสุนมีคราบเลือดอยู่ น่าเสียดายที่บาดแผลอาจไม่ถึงตาย  มิฉะนั้น เขาก็จะนอนอยู่ท่ามกลางศพเช่นกัน” เขากล่าวและกล่าวต่อ เสริมด้วยสีหน้าครุ่นคิด  “ฉันยังเชื่อว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส”

 

ฟลูเรนเห็นด้วยกับข้อสังเกต เขาคิดในสิ่งเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงแนะนำว่า  “เราต้องถามชาวเมืองว่าพวกเขาเห็นชายผู้บาดเจ็บอยู่บริเวณนี้ของเมืองหรือไม่  เราอาจพบคำอธิบายลักษณะที่ปรากฏของเขาในลักษณะนี้และระบุตัวเขา”

 

แซนเดอร์พยักหน้าให้ฟลูเรนเพื่อเป็นการอนุญาต

 

“พ่อมดปลุกพลัง 3 คนที่มีพลังระดับ S ของการสลายตัว อาจเป็นปัญหาได้ หากไม่พบบุคคลนั้นเร็ว ๆ นี้  ฉันหวังว่าเราจะหาเขาพบก่อนที่เขาจะสร้างปัญหาขึ้นอีก…” เขาพึมพำขณะกำหมัด  ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่การสังหารหมู่ที่น่ากลัวในห้อง

————————————————————–

ตอนที่ 7: ค้นหา

 

ลูซิเฟอร์ได้ยินคำพูดของชายผู้นี้ ซึ่งข่มขู่เขาเกี่ยวกับ APF  แต่เขาไม่ได้ใส่ใจกับพวกนั้น เขาไม่รู้เกี่ยวกับ  APF และไม่สนใจคนพวกนั้น

 

เขาเดินต่อไปยังชายผู้นั้นด้วยความเร็วเดียวกับที่เขาเดินตาม ขณะสังหารหมู่คนอื่นๆ

 

ทันทีที่ประโยคของชายผู้นั้นสิ้นสุดลง ลูซิเฟอร์ก็ยืนห่างจากชายคนนั้นเพียงไม่กี่นิ้ว

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆ เอามือไปโอบใบหน้าของชายคนนั้น  ลูซิเฟอร์สังเกตอย่างระมัดระวัง ขณะที่ผิวหนังของชายชราทรุดโทรมลงอย่างรวดเร็ว  ชายชราแก่ขึ้นต่อหน้าต่อตาเขา

 

ร่างกายที่อ่อนแอของเขายังคงดิ้นรน ไม่สามารถหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเขา

 

“แล้วคุณเป็นคนที่ฉันอยู่และตายเพื่องั้นเหรอ?” ลูซิเฟอร์หัวเราะเยาะภายใต้ลมหายใจของเขา “ไม่มีอีกแล้ว”

 

ลูซิเฟอร์เหวี่ยงร่างที่เหี่ยวเฉาไปด้านข้างโดยไม่ปล่อยให้กลายเป็นเถ้าถ่าน ผู้ชายคนนั้นตายไปแล้วแม้ว่า

 

ถ้าเขาจับร่างนั้นไว้นานกว่านี้อีกสัก 2-3 วินาที ร่างนั้นก็จะกลายเป็นเถ้าถ่านเช่นกัน  แต่ลูซิเฟอร์ไม่รู้สึกว่ามันคุ้มค่าแก่การรอคอย เมื่อชายคนนั้นตายไปแล้ว  เวลาของเขามีค่ามากกว่าที่จะใช้จ่ายกับคนเช่นนี้

 

สายตาของเขากวาดสายตาไปรอบๆ ภายในร้านอาหารทั้งหมด เท่าที่เห็นก็เหลือแต่ขี้เถ้าและศพ  มีเพียงสีแดงและสีเทาเท่านั้นที่สามารถเห็นได้ทุกที่ที่ดวงตาของเขาไล่ตาม

 

เขาก้มศีรษะลงและสังเกตเห็นเสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่ เป็นสิ่งเดียวกันกับที่เขาได้รับในโรงงานแห่งนี้  ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือตอนนี้เสื้อคลุมสีขาวส่วนใหญ่ถูกปกคลุมด้วยรูและคราบเลือด

 

เมื่อมองไปที่ศพที่อยู่รอบๆ ห้อง ดวงตาของลูซิเฟอร์ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกว่างเปล่าและไร้อารมณ์เช่นเดียวกัน  ไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อยที่แวบผ่านพวกเขาในขณะที่เขาจ้องมองที่ว่างเปล่านั้น

 

แม้หลังจากกวาดสายตาไปทั่วทั้งสถานที่แล้ว เขาก็ไม่เห็นเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ที่นั่นเลย  จิตใต้สำนึกของเขาได้จมลงในตัวเขาไปแล้ว ในขณะนั้นเองเขาคิดได้ว่าเขาต้องหาเสื้อผ้าใหม่

 

เขาไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นของโรงงานไอ้เวรนั่นได้  เขาไม่ต้องการอะไรจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ชั่วร้ายนั้น  มันไม่สำคัญหรอกว่าพวกเขาจะเป็นเสื้อผ้าชุดเดียวของเขาหรือไม่

 

เขาต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นั่นทันที แต่เสื้อผ้าบนศพก็เต็มไปด้วยเลือดและใหญ่เกินไปสำหรับเขา  ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาไม่ชอบความคิดที่จะเอาเสื้อผ้าสกปรกออกจากศพ

 

เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ ร้านอาหารอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นประตูสีฟ้าเล็กๆ  หวังว่ามันจะนำเขาไปยังสถานที่ที่อาจมีเสื้อผ้า เขาเริ่มเดินไปทางนั้น

 

เขาพยายามผลักประตูเปิดแต่พบว่ามันล็อค แต่ที่บนประตูที่เขาสัมผัสกลับทรุดโทรมลง

 

ความหงุดหงิดและความขุ่นเคืองผุดขึ้นในหัวใจของเขา ในขณะที่เขากำมือแน่นด้วยความโกรธ

 

เขายกเท้าขวาขึ้นเตะประตูแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้  ขณะที่เขาล้มเหลวในการควบคุมความแข็งแกร่งของเขาด้วยความโกรธ ประตูไม่เพียงแต่แตกออก  แต่ยังลอยกลับไปอีกด้วย มันหยุดลอยหลังจากที่มันชนเข้ากับผนังอีกด้านของห้องเล็ก

 

ลูซิเฟอร์ก้าวเข้าไปในห้องแล้วมองไปรอบๆ แต่ก็พบว่าเป็นเพียงครัวเล็กๆ ที่อยู่ติดกับร้านอาหาร  ผักวางอยู่ในตะกร้าเป็นแถวที่วางอยู่เหนือเคาน์เตอร์ นอกจากนี้ยังมีชุดมีดวางอยู่บนโต๊ะใกล้กับตะกร้า

 

ห้องครัวเป็นเหมือนครัวของครอบครัวที่ผู้คนมีอยู่ในบ้าน มีขนาดเพียง 100 ตารางฟุต  จึงไม่ใหญ่หรือใหญ่โตอย่างที่ใครๆ คาดคิดว่าจะมีห้องครัวของร้านอาหาร

เขาเดินไปที่มุมห้องที่วางเครื่องล้างจาน เมื่อเปิดก๊อกก็ปล่อยให้น้ำตกลงมาอย่างอิสระ  ไม่กี่วินาทีที่เขาไม่ขยับเลยในขณะที่จ้องมองไปที่น้ำไหล

 

เขาตกตะลึงเมื่อมองดูน้ำที่ตกลงมา ซึ่งมาพร้อมกับความทรงจำเก่าๆ มากมาย

 

เขาส่ายหัวเพื่อหลุดจากความงุนงงก่อนจะก้าวไปข้างหน้าและเอามือแช่อยู่ใต้ก๊อก

 

เติมน้ำระหว่างฝ่ามือของเขา เขาสาดน้ำนั้นลงบนใบหน้าเพื่อล้างคราบเลือดที่ปกคลุมผิวของเขา  เขาทำซ้ำขั้นตอนเดิม 2-3 ครั้ง

 

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด แต่ไม่มีแม้แต่หยดเดียวที่เป็นของคนอื่น  เลือดบนร่างกายส่วนใหญ่เป็นของเขาเอง ซึ่งหลั่งออกมาก่อนที่บาดแผลจะหายดี  เขาชำระร่างกายด้วยน้ำและล้างหน้าก่อนที่จะถอดเสื้อคลุมที่เปื้อนเลือดออกแล้วโยนไปด้านข้าง

 

ในไม่ช้า การค้นหาเสื้อผ้าใหม่ของเขาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง  เขาเดินผ่านห้องครัวอย่างเปลือยเปล่า ในขณะที่ตาของเขาค้นหาเหมือนเหยี่ยว

 

เขาเดินไปที่ตู้อีกด้านของห้องแล้วเปิดออก

 

ครึ่งล่างของตู้มีเครื่องใช้ในครัว ส่วนครึ่งบนมีบางอย่างที่เขากำลังมองหา

 

ดวงตาของลูซิเฟอร์เป็นประกายระยิบระยับเมื่อจับเสื้อผ้าที่พับไว้  เขาพบเสื้อเชิ้ตและกางเกงตัวหนึ่งพับพอสมควร

 

เขานำเสื้อผ้าออกจากตู้ก่อนจะสวมใส่

 

เสื้อผ้าใหม่ดูเหมือนเป็นของผู้ใหญ่ พวกมันใหญ่เกินไปที่จะพอดีกับร่างกายที่เล็กๆของเขา แต่เขาไม่สนใจ  เขาไม่มีทางเลือกอื่น เสื้อผ้าก็เสื่อมโทรมเล็กน้อย ในขณะที่เขาถือไว้ แต่เขาสวมให้เร็วขึ้นก่อนที่มันจะเสื่อมลงกว่าเดิม

 

เนื่องจากพลังแห่งความเสื่อมนั้นอยู่ในมือของเขาเท่านั้น เสื้อผ้าจึงหยุดเน่าทันทีที่เขาสวมและหยุดสัมผัสมัน

 

ลูซิเฟอร์สวมเสื้อผ้าหลวมๆ ดูตลกดี ก่อนจะหันกลับไปหาอาหาร เขาหิว นี่คือเหตุผลทั้งหมดที่เขาเข้ามาที่นี่

 

ถ้าเขาได้รับอาหารเท่านั้น เขาจะไม่ต้องต่อสู้และสร้างความหายนะเหมือนที่เขาทำที่นั่น เมื่อเขาได้ฆ่าทุกคนแล้ว  ไม่มีใครสามารถหยุดเขาไม่ให้กินหรือเยาะเย้ยเขาได้ เขารู้สึกพอใจ

 

เขาถอดฝาออกจากภาชนะบรรจุอาหารที่วางอยู่ใกล้เตา มีเพียงแพนเค้กเท่านั้นที่เขาพบ

 

ลูซิเฟอร์หยิบขึ้นมา 1 ชิ้นและเริ่มกิน อย่างไรก็ตาม เขาสามารถกัดได้เพียงคำเดียวเท่านั้นก่อนที่แพนเค้กจะหายวับไป  กลายเป็นฝุ่นผงเพราะพลังแห่งความเสื่อมสลายของเขา

 

เขาไม่สามารถควบคุมพลังนั้นที่ขัดขวางไม่ให้เขากินได้เช่นกัน เพราะเขาไม่สามารถถือของได้นาน

 

เขามองดูแพนเค้กอื่นๆ อย่างว่างเปล่า ขณะที่เคี้ยวคำ 1 คำที่เขาสามารถกินได้

 

เขาตระหนักว่ามันจะเป็นการสิ้นเปลืองมาก ถ้าเขากินเพียง 1 คำจากแต่ละคำก่อนที่พวกมันจะถูกทำลาย

 

“กินให้หมดคำเดียวคงไม่พอ” เขาพึมพำ ขณะมองแพนเค้กด้วยความสับสน

 

ลูซิเฟอร์ตกอยู่ในห้วงความคิดลึกๆ แต่ตระหนักว่าเขาไม่สามารถทำอะไรได้อีกเช่นกัน  เขาไม่มีทางควบคุมพลังนี้ที่ขัดขวางไม่ให้เขากินจนพอใจ

 

เขาวางนิ้วลงบนคาง ขณะจ้องไปที่แพนเค้ก คิ้วของเขาย่นเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดอยู่ลึกๆ

 

เขาตัดสินใจมองไปรอบๆ ห้องเพื่อค้นหาบางสิ่งที่อาจช่วยสถานการณ์ของเขาได้

 

เขาเดินไปรอบ ๆ ห้องครัว ขณะที่นิ้วมือของเขาเล็มหญ้าเพื่อทดสอบ

 

“ควรจะเป็นอย่างนั้น…” เขาพึมพำ ขณะสัมผัสโพลิธีน*มันสลายตัวช้ากว่าสิ่งของอื่นๆ มาก  เนื่องจากมันไม่แข็ง ลูซิเฟอร์สามารถใช้มันให้เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน

 

* โพลิธีน (Polythene) คือ พลาสติกอ่อนสีขาวขุ่น มักใช้ทำถุงพลาสติกใส่ของในปัจจุบัน

 

เขาหยิบโพลิธีนให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้และยัดมันลงในกระเป๋าของเขาก่อนจะนำมันห่อรอบๆมือขวาของเขา

 

เขาเดินกลับไปที่แพนเค้กแล้วหยิบขึ้นมาอีกอัน

 

เมื่อโพลิเอธิลีนทำหน้าที่เป็นกำแพงระหว่างนิ้วของเขากับแพนเค้ก  โดยแยกส่วนที่สัมผัสโดยตรงกับนิ้วทั้ง 2 ออกจากกัน

 

ในที่สุดลูซิเฟอร์ก็สามารถกินแพนเค้กได้โดยไม่ทำลายในกระบวนการ ขณะที่ท้องของเขาได้รับอาหารบางอย่าง  ในที่สุดเขาก็รู้สึกอิ่มใจ แต่ความหิวของเขายังไม่อิ่ม

 

โพลิธีนหายไป ในขณะที่เขากลืนแพนเค้กคำที่ 2 ลงไป ดังนั้นเขาจึงต้องคว้าโพลีเอทิลีนอีกชิ้นหนึ่ง

 

เขาทำซ้ำขั้นตอนเดิม ในขณะที่เขากินแพนเค้กทีละชิ้น เขาหยุดก็ต่อเมื่อเขาอิ่มแล้ว

 

เขาเก็บอาหารที่เหลือในครัวจนหมด เขาจึงตัดสินใจออกไป

 

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะก้าวออกจากห้อง  ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัว ขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่กรรไกรบนหิ้ง

 

เขาใช้เวลาในการตัดเสื้อแขนยาวและขอบกางเกงเพื่อให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น เนื่องจากโพลิธีน  เขาจึงสามารถทำสิ่งนั้นได้โดยไม่ทำให้กรรไกรเสียหาย

 

หลังจากที่ทุกคนพอใจกับงานของเขาแล้ว เขาก็ออกจากครัว

 

เขาผลักโต๊ะที่ขวางทางออกหลักไปด้านหนึ่งก่อนจะเปิดประตู เมื่อเขาออกไปแล้ว  เขาก็ปิดประตูตามหลังเขาและจากไปอย่างปกติ

 

ราวกับว่าเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมภายในนั้น และทำลายสถานที่นั้นไปแล้วครึ่งหนึ่ง

 

คนอื่นๆ ในเมืองยังคงหลงลืมเกี่ยวกับการสังหารหมู่ที่เกิดขึ้นในร้านอาหารในละแวกบ้านของพวกเขา

 

คนที่ใช้เวลาอยู่ในร้านอาหารก็อยู่ที่นั่นแค่ซักพัก ส่วนคนอื่นๆที่เหลือไม่ได้ไปร้านอาหารนั้นกันบ่อยนัก  เลยไม่แน่ใจว่าคนพวกนั้นจะใช้เวลานานเท่าไหร่เพื่อค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น…

 

*****

 

ลูซิเฟอร์ยืนอยู่กลางถนนมองไปรอบๆ เขาไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนตอนนี้ เขารู้ว่าเขาต้องการจะไปที่ไหน  แต่เขาไม่รู้ทิศทาง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่คนเดียวในโลกแห่งความเป็นจริงนอกโรงงาน

 

จุดหมายของเขาคือเมืองลีเจียน—สถานที่ที่ครอบครัวของเขาเคยอาศัยอยู่  มันยังเป็นสถานที่ ซึ่งบ้านของพ่อแม่ของเขาอยู่ด้วย เขายังคงจำครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นบ้านเมื่อ 2-3 ปีก่อนได้  แต่เขารู้สึกเหมือนกับว่าบ้านมันคงเก่าไปแล้ว

 

เขาอายุ 5 ขวบและอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กในบ้านของเขา ลูซิเฟอร์รู้ว่าพ่อแม่ของเขาออกไปทำงานเผยแผ่   และนั่นไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเขา

 

เขาคุ้นเคยกับการทิ้งเขาไว้ที่บ้านกับพี่เลี้ยงเด็ก เด็กสาวอายุ 18 – 19 ปีถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อดูแลเขา

 

เด็กหญิงคนนี้เป็นเพื่อนบ้านของเขา ซึ่งเคยทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กทุกครั้งที่พ่อแม่ไม่อยู่เพื่อทำงาน  ลูซิเฟอร์สนุกกับการเล่นกับเธอ แต่เขาตั้งตารอการกลับมาของพ่อแม่เสมอ

 

เขายังคงจำวันนั้นที่ทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อเจ้าหน้าที่ในชุดทหารกดกริ่งแทนพ่อแม่ของเขา

 

มันยังคงสดในความทรงจำของเขาราวกับว่ามันเพิ่งเมื่อวานนี้

 

————————————————————–

ตอนที่ 6: แวเรียนท์มืด

 

บิ๊กโจมั่นใจและยืนในท่าทางที่สบายกว่าใครๆ

 

เขาไม่ได้ตกใจเหมือนคนอื่นๆ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเห็นแวเรียนท์   เขาเคยต่อสู้กับแวเรียนท์มาก่อนในชีวิตของเขา และในระหว่าง 2 ครั้งนั้น เขาได้เห็นพวกนั้น  เมื่อเขาสามารถฆ่าแวเรียนท์ได้จริงๆ

 

แม้จะผ่านมาหลายปีแล้ว และ แวเรียนท์ที่ถูกฆ่าไม่ได้เป็นเพียงตัวที่อ่อนแอกว่าเท่านั้น แต่ยังเมาอยู่ด้วย   มันยังช่วยให้เขามีความมั่นใจในตัวเองอีกด้วย

 

นอกจากนี้ยังช่วยให้เขาได้รับความเคารพอย่างมากในหมู่ผู้อื่น เขามักจะเล่าเรื่องเหล่านี้ให้คนที่มาร้านนี้ฟัง  มันเพิ่มความภาคภูมิใจของเขาอย่างมาก เมื่อมีโอกาสอีกครั้งต่อหน้าเขา เขาจะปล่อยมันไปได้อย่างไร?

 

อันที่จริงเขารอแวเรียนท์อื่นที่จะมาร้านเขาหลายปีแล้ว เขามักจะพกปืนติดตัวมาด้วยเหตุนั้น เขายังฝึกยิงอยู่เป็นระยะๆ

 

บิ๊กโจยังคงนิ่งเงียบจนถึงตอนนี้เพื่อดึงดูดความสนใจให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้  เขาปล่อยให้ลูซิเฟอร์สร้างความเสียหายภายในร้านอาหารโดยเจตนา   เขาต้องการให้ผลงานของเขางดงามและน่าทึ่งมากที่สุด

 

เขายังต้องการให้คนอื่นมองว่าเขาเป็น “ผู้ช่วยให้พวกเขารอด”

 

เมื่อถึงเวลาที่เขาต้องการ เขาหยิบปืนออกมาจากใต้เคาน์เตอร์แล้วเล็งไปที่ลูซิเฟอร์

 

หลังจากที่เขาพร้อมแล้ว เขาก็ตะโกนว่า “ทุกคน ระวัง! เด็กคนนั้นเป็นแวเรียนท์ที่ทรงพลัง! เขาน่าจะเป็น ปีศาจแวเรียนท์มืด!”

 

คนที่รู้ว่า ปีศาจแวเรียนท์มืด หมายถึงอะไรก็ยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก   พวกมันเป็นแวเรียนท์ที่เกลียดชังมนุษย์และต้องการปกครองพวกเขา มีหลายองค์กรของแวเรียนท์เหล่านั้น   ว่ากันว่าพวกมันไม่ค่อยปรากฏในที่สาธารณะ

 

ลูซิเฟอร์หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองอยู่แล้ว   ดังนั้นเขาจึงใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยกว่าจะหลุดพ้นจากภวังค์

 

ในไม่ช้าเขาก็หันไปทางต้นกำเนิดของเสียงที่แหลมคม แต่เช่นเดียวกับที่เขาทำ กระสุนเจาะทะลุหน้าอกด้านซ้ายของเขา

 

เป็นอีกครั้งที่สถานการณ์ภายในร้านเปลี่ยนไป การกระทำของบิ๊กโจได้นำความหวังของทุกคนที่อยู่ที่นั่นกลับมา   ราวกับว่าวิญญาณของพวกเขาเกือบจะออกจากร่างแล้ว แต่ทันทีที่ผู้ช่วยให้รอดของพวกเขาปรากฏตัวในร่างของ  “บิ๊กโจ” วิญญาณก็กลับเข้ามาในร่างของพวกเขาในที่สุด

 

เสียงเชียร์ปะทุขึ้นภายในร้านอาหาร เมื่อกระสุนเจาะทะลุร่างของลูซิเฟอร์

 

ลูซิเฟอร์อดไม่ได้ที่จะคุกเข่าต่อหน้าต่อตาทุกคน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกยิง

 

“นี่สิ!”

 

“บิ๊กโจฆ่าสัตว์ประหลาดแล้ว!”

 

“ทำได้ดีมาก! ไม่ว่าแวเรียนท์เหล่านี้จะแข็งแกร่งแค่ไหน  พวกมันก็ไม่อาจรอดจากการถูกกระสุนปืนที่โจมตีโดยตรงได้!”

 

“เด็กคนนั้นตายแล้ว!”

 

คนที่เคยนิ่งเงียบเหมือนไก่เริ่มหัวเราะเยาะเย้ยเหมือนเสือ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า มันอวดดีเกินไป! กำจัดได้แล้ว! ฉันพูดถูก เขาเป็นขอทานที่มีพลังเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นขอทานอยู่ดี หึ”  ชายที่เคยทำร้ายลูซิเฟอร์ก่อนหน้านี้เยาะเย้ยเขาอีกครั้ง

 

“ตอนนี้มันสามารถชดใช้บาปของมันในนรกได้!  ฉันหวังว่าพระเจ้าจะให้อภัยเด็กคนนี้ที่หลงทางและกลายเป็นคนชั่ว” ผู้หญิงในวัย 40 กลางของเธอสงสารเด็กคนนั้น

 

ลูกค้าเริ่มหัวเราะ เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ถูกยิง ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาเคยกลัว  แต่ตอนนี้พวกเขาสงบลง เมื่อลูซิเฟอร์ตายไปแล้วในสายตาของพวกเขา

 

พวกเขาโล่งใจในที่สุดพลางหัวเราะอย่างมีความสุข

 

น่าเสียดายที่ความสุขของพวกเขาได้ไม่นาน ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มหุบปากช้าๆ   เมื่อพวกเขาตระหนักว่าลูซิเฟอร์ยังไม่ล้มลง แม้จะถูกยิง เขาก็ยังคุกเข่า ร่างกายของเขาไม่ได้ตกลงไปที่พื้น

 

มันยังคงอยู่ในท่าเดิม เมื่อหลับตา เขาไม่ได้ขยับ แม้แต่นิ้วเดียวราวกับว่าเขาเป็นรูปปั้น

 

สำหรับบาดแผลของเขา คนไม่กี่คนที่มองเห็นบาดแผลของเขาได้ชัดเจนสามารถเห็นว่าแผลหายดีแล้ว

 

พวกเขากำลังจะเล่าให้คนอื่นฟังเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประหลาดนี้ เมื่อพวกเขารู้สึกหนาวสั่นเมื่อเห็นลูซิเฟอร์ลืมตา

 

ในไม่ช้าลูซิเฟอร์ก็ลุกขึ้นยืน เขายืนสูงเหมือนเมื่อก่อน

 

คนที่ไม่ได้สังเกตว่าบาดแผลของเขาหายดีแล้ว ก็เห็นเขายืนขึ้นทันที  เสียงหัวเราะของพวกเขาถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัว

 

“อะ-อะไรนะ? มันสามารถรักษาบาดแผลจากสิ่งนั้นได้ยังไงกัน เป็นไปไม่ได้!”  มีคนพูดในนามของทุกคนในขณะที่โต๊ะหันกลับมาอีกครั้ง

 

เป็นอีกครั้งที่ความกลัวผูกมัดหัวใจของผู้คน เมื่อพวกเขาตระหนักว่าชายที่พวกเขาเผชิญหน้าไม่ใช่แวเรียนท์ธรรมดา แต่เป็นอย่างอื่นโดยสิ้นเชิง พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับแวเรียนท์ที่สามารถรักษาตัวเองได้

 

มันป็นตัวอะไรกันแน่? มันจะรักษาตัวเองได้อย่างไร? มันยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า?

 

คำถามต่างๆ ผุดขึ้นในจิตใจทำให้ความคิดยุ่งเหยิง แต่พวกเขาไม่พบคำตอบใด ๆ  ที่จะสนองความอยากรู้ที่ฉุนเฉียวของพวกเขาได้

 

ลูซิเฟอร์มองไปทางชายที่ยิงปืนและเริ่มก้าวเข้ามาไปหา

 

บิ๊กโจตะลึง เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ยังมีชีวิตอยู่และเคลื่อนไหวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!

 

ก่อนหน้านั้นเขาไม่รู้สึกกลัว แต่ตอนนี้ เขาไม่เพียงแค่รู้สึกกลัว  แต่เขายังรู้สึกหนาวเหน็บไหลลงมาตามกระดูกสันหลัง ขณะที่เท้าของเขาหยุดนิ่งอยู่กับที่

 

แต่เขาดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมแพ้ เขายังคงยิงต่อไป เมื่อระยะห่างระหว่างลูซิเฟอร์กับเขาลดลงทุกวินาที

 

ลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบเลย ในขณะที่เขาเข้าใกล้ชายคนนั้น  คราวนี้เขาไม่หยุดแม้แต่น้อยคุกเข่า ขณะที่กระสุนเจาะทะลุร่างกายของเขา  ลูซิเฟอร์รับกระสุนเหล่านั้นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

มันทำให้เขาเจ็บปวด แต่เขาได้ผ่านความเจ็บปวดมามากกว่าที่ใครจะจินตนาการได้ ความเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่ได้ทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยซ้ำ

 

เขาหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งเป็นสิ่งเดียวระหว่างเขากับชายคนนั้น

 

เขาใช้มือข้างหนึ่งจับเคาน์เตอร์ไม้แล้วโยนมันไปข้างหลัง ราวกับว่ามันไม่มีน้ำหนัก

 

ไม่ชัดเจนนักว่าจงใจหรือแค่บังเอิญ แต่เคาน์เตอร์บินไปข้างหลังเขาแล้วชนเข้ากับทางเข้าร้านอาหาร  ขวางทางทางออกเพียงทางเดียว ในทันทีนั้น ร้านอาหารทั้งหมดกลายเป็นคุกที่ไม่มีใครสามารถออกไปได้

 

ลูซิเฟอร์เดินอย่างเกียจคร้านไปทางชายที่ถือปืน ขณะที่เขาพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า  “พวกคุณเกลียดฉันเพราะอะไร หมอก็เกลียดฉัน แต่เพื่ออะไร มนุษยชาติไม่ใช่สิ่งที่ดีที่ควรค่าแก่การปกป้องหรือ ? ทำไมมันถึงกลายเป็นฝันร้ายสำหรับฉันกันล่ะ?”

 

ยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่ เสียงของเขาก็ยิ่งดังขึ้น ราวกับว่าเขาปล่อยคลื่นสึนามิแห่งความโกรธที่ก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา

 

“ทำไม? ทำไมพ่อแม่ของฉันถึงคิดว่ามนุษยชาติมีค่า? ทำไมพวกเขาถึงเสียสละเพื่อคนแบบพวกแก? เขาตะโกน และกำปั้นมือของตน  ดวงตาแดงก่ำ ในขณะที่เขาจ้องไปที่ทุกคน

 

“นั่นคือภาพลวงตาทั้งหมดใช่ไหม ภาพมายาที่ทำให้ผู้คนคิดว่ามนุษย์ดี แต่พวกแกเป็นสัตว์ประหลาดตัวจริงใช่ไหม  รอยยิ้มของแก ความเมตตาของแก ความกตัญญูของแก ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงเบื้องหน้าเรอะ”  น้ำเสียงของเขาไม่สั่นเลย ในขณะที่เขากรีดร้องด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้าย ทำให้ทุกคนสั่นสะท้านด้วยความกลัว

 

บิ๊กโจก้าวถอยหลัง ในขณะที่เขายังคงยิงต่อไป แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักว่าเขาไม่สามารถถอยกลับได้อีกต่อไป  หลังของเขาพิงกำแพงอยู่แล้ว

 

เมื่อเอื้อมมือออกไป ลูซิเฟอร์ก็จับปืน ซึ่งตอนนี้กระสุนหมด

 

ทันทีที่มือของเขาสัมผัสพื้นผิวแข็งของปืน มันก็เริ่มแย่ลง ภายในไม่กี่วินาที ปืนก็ถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง

 

บิ๊กโจตกใจและตกตะลึง ดวงตาของเขาหมุนเป็นจานรอง ในขณะที่จ้องมองที่ลูซิเฟอร์  แต่เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง เขามองเห็นยมฑูตสยองต่อหน้าต่อตาของเขา  และไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลูซิเฟอร์

 

เขาต้องการวิ่ง แต่ไม่มีเส้นทาง นอกจากนี้ เขารู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจรุกรานเทพเจ้าแห่งความตายองค์นี้!  ทำไมเขาถึงต้องเป็นพระเอก? เขารู้ดีว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ เขาจะเลือกหนีอย่างลับๆ  แทนที่จะพยายามเป็นฮีโร่แล้วยิงลูซิเฟอร์

 

“บอกฉันทีว่าทำไม?!” ลูซิเฟอร์คำรามอย่างโกรธจัดเมื่อเขาจับมือบิ๊กโจ

 

เนื่องจากความโกรธของเขา เขาไม่สามารถควบคุมความแข็งแกร่งของเขาได้แม้แต่น้อย

 

แคร็ก!

 

ขณะที่เขาจับมือของชายคนนั้น แรงนั้นรุนแรงมากจนกระดูกของมือของบิ๊กโจถูกบดขยี้ทันที

 

บิ๊กโจกรีดร้องด้วยความปวดร้าวราวกับหมูที่กำลังจะตายที่สูญเสียแขนขา อย่างไรก็ตาม  ความเจ็บปวดที่มือของเขาถูกทุบไม่ได้ทำให้เขากรีดร้อง

 

ร่างกายของเขาก็เริ่มทรุดโทรม ซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น ถ้า “การเผาไหม้ในนรก”  นั่นคือสิ่งที่บิ๊กโจรู้สึกถูกต้องแล้ว

 

ร่างของบิ๊กโจก็กลายเป็นเถ้าถ่าน หายสาบสูญไปจากโลกนี้ตลอดกาล  ร่างกายของเขาทรุดโทรมเร็วกว่าชายคนก่อน  ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของลูซิเฟอร์ในแต่ละวินาทีจะเพิ่มขึ้น 2-3 เท่า

 

“ทุกคน! วันนี้หนีไม่พ้นหรอก มันไม่ปล่อยเราไปหรอก! เราต้องร่วมมือกันฆ่ามัน!  ต่อให้ตายก็จะพามันไปลงนรกไปพร้อมกับเรา!” ชายคนหนึ่งติดอยู่ในร้านอาหาร  ยืนยันขณะที่เขาหยิบเก้าอี้และวิ่งไปหาลูซิเฟอร์เพื่อโจมตีเขา

 

เมื่อไม่เห็นความหวังอื่น คนอื่นๆ ก็ตัดสินใจที่จะมอบมันออกมาตลอดเวลา

 

ลูซิเฟอร์มองไปที่ชายคนนั้นที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา เขายังเริ่มเดินไปหาชายคนนั้น

 

ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างพวกเขาสองคนคือคนหนึ่งวิ่งเข้าหาอีกคนอย่างกังวล ในทางตรงกันข้าม  อีกคนเดินอย่างเกียจคร้านไร้อารมณ์ เกือบจะเหมือนหุ่นเชิดไร้อารมณ์ในภารกิจฆ่าคน

 

ชายคนนั้นเหวี่ยงเก้าอี้ไปทางใบหน้าของลูซิเฟอร์ ลูซิเฟอร์ไม่ได้พยายามหลบหรือหยุดมัน  ราวกับว่าเขาไม่ได้ใส่ใจกับการโจมตีเลย เก้าอี้กระแทกศีรษะของเขาและแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

หัวของเขาก็เริ่มมีเลือดออก เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่เขาไม่สนใจ เลือดหยุดไหลในทันที  และศีรษะของเขาก็หายเป็นปกติต่อหน้าต่อตาทุกคน แต่เลือดยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา

 

ลูซิเฟอร์ปิดหมัดของเขาชี้หมัดไปที่หน้าอกของชายคนนั้น หมัดเดียว…  หมัดเดียวก็ทุบกระดูกซี่โครงของชายผู้นั้นให้ยับ ขณะที่เขาลอยออกไปเหมือนเครื่องบินกระดาษ

 

ชายคนนั้นกระแทกผนังร้านอาหาร ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นจุดจบของเขา เขาเสียชีวิตทันที

 

หลังจากฆ่าชายคนนั้น ลูซิเฟอร์ไม่หยุด ในขณะที่เขาโจมตีต่อไปโดยไม่หยุด  เขาเป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่แท้จริงที่รู้เพียงสิ่งเดียวเท่านั้น และมันก็คือการ “ฆ่า” ในสายตา

 

คนที่อยู่ในร้านอาหารสามารถรังแกเด็กที่ไม่มีอำนาจได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าลูซิเฟอร์   พวกเขาเป็นเหมือนปลาบนเขียง

 

การสังหารยังคงดำเนินต่อไปภายในร้านอาหาร และร่างกายก็เริ่มกองกันทุกที่ที่ลูซิเฟอร์เดินไป  ไม่มีใครรอดชีวิตหลังจากการโจมตีจากเขา การโจมตีเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะยุติคนพวกนั้น

 

ในไม่ช้า ร้านอาหารก็เต็มไปด้วยศพและขี้เถ้า มันดูไม่เหมือนร้านอาหาร ตอนนี้เหมือนสนามรบมากกว่า

 

ทุกคนตายหมดยกเว้นคนเดียว เหลือเพียงคนเดียวในร้านอาหารทั้งหมด ซึ่งเต็มไปด้วยศพและขี้เถ้า

 

การสังหารที่ลูซิเฟอร์ทำนั้นน่ากลัว แต่เขาไม่ได้รู้สึกสำนึกผิดเลยแม้แต่น้อย เขาฆ่าคนมามากมาย  แต่เขาไม่เสียใจแม้แต่น้อย อันที่จริงเขาไม่ได้รู้สึกอะไร

 

ตอนนี้หัวใจของเขาไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง และใบหน้าของเขาก็แสดงให้เห็นเช่นเดียวกัน  เขาจ้องมองไปอย่างว่างเปล่า เขาสแกนสถานที่และหยุดที่คนสุดท้ายที่ยังคงอยู่

 

“หยุด! ฉันได้เรียกกองกำลังพิทักษ์ที่ปลุกพลังออกมาแล้ว! APF จะจับแกในไม่ช้า แกควรหลบหนี ในขณะที่ยังทำได้  ถ้าแกเสียเวลาฆ่าฉัน แกจะไม่สามารถหลบหนีได้ทันเวลา!” ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  แต่คำเตือนของเขาไม่ได้หยุดลูซิเฟอร์

 

เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ไม่หยุด ผู้ชายก็ยิ่งประหม่ามากขึ้น เขาไม่พบสิ่งใดที่สามารถปกป้องเขาได้  แต่เขาคิดว่าจะให้มันเป็นครั้งสุดท้าย

 

“บางทีแกอาจไม่รู้เกี่ยวกับ APF เพราะแกยังเด็ก! APF สร้างขึ้นจากแวเรียนท์ที่ทรงพลังที่สุดของประเทศนี้!  งานเดียวของพวกเขาคือจับแวเรียนท์มืด ที่ใช้พลังของพวกมันในทางที่ผิดและลงโทษพวกมัน!”

 

“แกอาจแข็งแกร่งต่อพวกเรา แต่แกไม่ใช่สิ่งใดที่จะแข็งแกร่งไปกว่าแวเรียนท์ของ APF ได้! แกยังมีโอกาส!  ปล่อยฉันและหนีไป! ฉันพยายามช่วยชีวิตแกอยู่นะ!” เขากรีดร้อง พลางหลับตาลง ในขณะที่เขาตัวสั่นทั้งภายในและภายนอก  โดยรู้ว่าลูซิเฟอร์ ซึ่งเขาเห็นการเข่นฆ่าทุกคนเมื่อนานมาแล้วราวกับยมทูตอยู่ใกล้เขา

 

————————————————————–

ตอนที่ 5: เด็กน้อยไร้เดียงสา

 

เมื่อเห็นบริกรเสียชีวิต ทุกคนที่นั่งอยู่ในร้านอาหารก็ตกตะลึง ทุกคนลุกขึ้นยืนอย่างตกใจ

 

ชั่วขณะหนึ่งภายในสถานประกอบการเงียบกริบ มันเงียบมากจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นของคนข้างๆ

 

พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาเพิ่งเห็นเด็กอายุ 9 ขวบโยนผู้ชายที่โตเต็มที่ทิ้งไปราวกับเป็นของเล่น  และมันก็ได้ฆ่าเขาทันที

 

ส่วนใหญ่ตระหนักดีว่านั่นหมายถึงอะไร เด็กที่ดูเหมือนขอทานไร้ประโยชน์ แท้จริงแล้วคือแวเรียนท์สำคัญนั่นเอง! เขาเป็นแวเรียนท์สำคัญที่กำลังบ้าคลั่ง!

 

ความหลากหลายคือกลุ่มคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดที่แท้จริงของการวิวัฒนาการของมนุษย์   พวกเขาเป็นมนุษย์ที่มีพลังอำนาจที่สามารถทำให้พวกเขากวาดล้างเมืองทั้งเมืองได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธแม้แต่ชิ้นเดียว

 

พวกเขาไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาเพิ่งคุยกับแวเรียนท์สำคัญที่พวกเขายังไม่เคารพ และยังจะเรียกเขาว่าขอทานอีกด้วย

 

ผู้ชายคนหนึ่งยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก ใบหน้าของเขาซีดอยู่แล้ว   เขาเป็นคนที่พูดถึงการไล่ลูซิเฟอร์ออกจากสถานที่นี้

 

เขายังบอกให้หักขาของลูซิเฟอร์  ในเวลานี้เขารู้สึกเสียใจกับคำพูดของเขาอย่างมาก จนเขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขามาถึงลำคอของเขา

 

เกือบทุกคนในที่นี้เคยพูดถึงการใช้ความรุนแรงกับลูซิเฟอร์   ส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็นเด็กกำพร้าธรรมดาที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ด้วยซ้ำ

 

พวกเขาไม่ได้เขินอายแม้แต่น้อย เมื่อสาปแช่งลูซิเฟอร์ ตอนนี้พวกเขารู้ว่าเขาเป็นแวเรียนท์สำคัญ หัวใจของพวกเขาก็เต้นช้าลง

 

ติ้ก…ติ้ก…

 

ความเงียบดูเหมือนจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ มีเพียงเสียงติ๊กของนาฬิกาเท่านั้นที่ได้ยิน ทำให้ความเงียบดูชัดเจนยิ่งขึ้น

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆ เพ่งมองไปยังผู้คนในร้านอาหารที่เคยสาปแช่งเขาก่อนหน้านี้

 

การจ้องมองเพียงครั้งเดียวก็รู้สึกหนักใจเกินกว่าจะรับไหว

 

พวกเขากลัว พวกเขากลัวการถูกทำร้าย

 

ผู้คนถูกข่มขู่

 

ในที่สุด พวกเขาก็ทนไม่ได้กับความกดดัน หนึ่งในนั้นรับไม่ได้อีกต่อไป ในขณะที่เขาอ้าปากแล้วตะโกนอย่างโกรธจัด “ไอ้บ้าเอ้ย! มันอาจจะเป็นแวเรียนท์สำคัญ แต่มันก็ยังเด็กอยู่! เราทำอะไรซักอย่างกับมันก็ได้ ดีกว่าปล่อยให้มันฆ่าเราโดยไม่ทำอะไรเลยเหรอไง   เราต้องร่วมมือกันฆ่าไอ้สารเลวนี้ก่อนที่มันจะคิดทำร้ายเรา!”

 

“ใช่! มันฆ่าคนไปแล้ว! และมันก็คงจะฆ่าพวกเราทุกคนเพื่อปิดปากเรา เพื่อไม่ให้ APF รู้ เราต้องสู้กลับ!”

 

“ใช่ โจมตีมันเลย!”

 

คนกลุ่มเล็กๆ พุ่งเข้าหาลูซิเฟอร์เพื่อทำร้ายเขา

 

คนแรกที่ไปถึงลูซิเฟอร์คือชายหัวโล้นที่ชกต่อยเต็มแรง หมัดมุ่งไปที่ใบหน้าของลูซิเฟอร์  ซึ่งเขาได้มองไปยังชายที่กำลังโจมตีเขาอย่างว่างเปล่า

 

“แกก็คงจะเป็นเพียงเด็กน้อยที่ไร้เดียงสาเสมอ! แกหลบไม่ได้ด้วยซ้ำ!” ชายหัวล้านหัวเราะเมื่อเห็นลูซิเฟอร์ไม่หลบ  เขาเชื่อว่าลูซิเฟอร์กลัวมากจนไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขาคิดว่าลูซิเฟอร์ถูกแช่แข็งด้วยความกลัว

 

อย่างไรก็ตาม ชายหัวล้านรู้ได้ทันทีว่าเขาคิดผิดอย่างไร เมื่อเห็นลูซิเฟอร์ยกมือขวาขึ้น  ซึ่งเขาจับหมัดของชายคนนั้นได้อย่างง่ายดาย

 

ชายคนนั้นตกตะลึง ราวกับว่าหมัดของเขาชนกำแพงและไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

 

เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเขาล้มเหลว ชายผู้นี้จึงพยายามปล่อยมือเพื่อหนีและโจมตีอีกครั้ง  แต่เขาตระหนักว่าการพูดนั้นง่ายกว่าการทำมาก

 

ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ชายคนนั้นก็ไม่สามารถปล่อยมือของเขาได้ นั่นไม่ใช่ทั้งหมด  เขาได้ตระหนักถึงสิ่งอื่นเช่นกัน ซึ่งทำให้ใบหน้าของเขาไม่มีสีไปทั้งหมด

 

ชายคนนั้นสังเกตเห็นว่าร่างกายของเขาเริ่มแก่ขึ้นราวกับว่าเขาสูญเสียแก่นแท้ของชีวิตอย่างรวดเร็ว

 

ก่อนที่ชายคนนั้นจะโจมตี เขาเคยดูเหมือนชายอายุ 30 ปีที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ในเวลาไม่ถึงนาที  เขาก็ดูเหมือนคนอายุ 90 ปี

 

ร่างกายของเขาเริ่มอ่อนแอ เขาเริ่มร้องขอความช่วยเหลือ “ช่วยฉันด้วย! ฉันขอร้องล่ะ! โปรดช่วยฉันด้วย!”

 

คนอื่นๆ ที่อยู่กับเขาเพื่อโจมตีลูซิเฟอร์ได้ยินคำวิงวอนขอความช่วยเหลือจากเขา  แต่ไม่มีใครก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียว แต่พวกเขาเริ่มย้ายกลับ

 

ภาพที่พวกเขาเห็นต่อหน้าพวกเขาช่างน่าสยดสยอง การดูผู้ชายคนหนึ่งที่แก่เร็วจนน่ากลัว  พวกเขาไม่ต้องการเป็นคนต่อไปที่จะได้สัมผัสกับสิ่งนั้น

 

ไม่มีใครออกมาช่วยชายคนนั้น ในขณะที่ร่างกายของเขาทรุดโทรมมากขึ้นเรื่อยๆ ในไม่กี่วินาที  ร่างของชายคนนั้นก็กลายเป็นเถ้าถ่าน

 

ขี้เถ้าตกลงบนพื้นและปกคลุมพื้น หากผู้คนที่นี่ไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง   พวกเขาจะไม่มีวันเชื่อเลยว่าขี้เถ้าที่วางอยู่บนเท้าของลูซิเฟอร์นั้นเป็นชายหนุ่มที่มีชีวิตจนกระทั่งนาทีที่แล้ว

 

โดยไม่สนใจผู้คน ลูซิเฟอร์จ้องที่มือของเขา ขณะที่เขาพึมพำ “เสริมกำลังงั้นเหรอ?”

 

เขารู้สึกว่าร่างกายของเขามีความแข็งแกร่งมากกว่าก่อนที่เขาจะเสียชีวิต  ไม่เพียงแต่เขาสามารถโยนบริกรออกไปได้เหมือนคนๆนั้นเป็นของเล่น  แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็พิสูจน์ในสิ่งเดียวกันด้วย

 

เขาตระหนักว่าความแข็งแกร่งของเขานั้นสูงกว่าชายคนนั้นมาก  เนื่องจากเขาไม่รู้สึกถึงการต่อต้านจากชายคนนั้นเลย

 

เขาไม่เคยทดสอบมาก่อน แต่ตอนนี้เขารู้อะไรบางอย่างแล้ว พลังแห่งความแข็งแกร่งนี้  ไม่ใช่สิ่งที่พ่อของเขาก็มีเช่นกันหรือ?

 

ถ้ามันเหมือนกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาได้รับพลังเสริมความแข็งแกร่งทางกายภาพระดับ S  จากพ่อของเขาด้วย

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขามีพลังธาตุระดับ S แห่งการสลายตัวที่เขาได้รับจากแม่ของเขา  เขายังมีพลังการรักษาที่ลึกลับอีกด้วย

 

‘ตอนนี้ฉันมี 3 พลังแล้วเหรอ’ ลูซิเฟอร์คิด ขณะเดินไปที่โต๊ะใกล้ๆ  เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของเขาให้มากขึ้น

 

เขาพยายามหยิบขึ้นมาเพียงเพื่อจะรู้ว่าโต๊ะนั้นเบากว่ามาก เขาหยิบโต๊ะได้อย่างง่ายดาย

 

โต๊ะรู้สึกเบาราวกับกระดาษที่ยืนยันความสงสัยที่เอ้อระเหยของเขา เขามีพลังความแข็งแกร่งระดับ S

 

ในขณะที่ลูกค้าของร้านอาหารกลัวและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความกลัว  แต่ก็มีคนหนึ่งที่สงบลงราวกับว่าเขาไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย

 

บังเอิญเป็นชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ของร้านอาหาร เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารที่รู้จักกันในชื่อบิ๊กโจ

 

บิ๊กโจเฝ้าสังเกตลูซิเฟอร์มาตั้งแต่ต้น แต่เขาไม่ได้เข้าไปยุ่ง

 

เขาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่เขาตัดสินใจทำบางอย่างในที่สุด มันเป็นที่ของเขา  เขาไม่สามารถปล่อยให้ใครมาวิ่งเล่นที่นี่ได้

 

————————————————————–

ตอนที่ 4: วอร์ล็อค

 

ลูซิเฟอร์ค่อยๆลืมตาขึ้นแต่กลับมองเห็นแต่ความมืดมิดเท่านั้น  เขาถูกห่อด้วยถุงซิปสีดำซึ่งทำให้เขามองไม่เห็นแสง

 

หลังจากต่อสู้ดิ้นรนในตอนแรก เขาก็สามารถออกมาจากถุงซิปล็อคได้

 

เมื่อเขาออกมา เขาพบว่าตัวเองอยู่กลางลานทิ้งขยะ มีขยะและของไร้ประโยชน์อยู่ไกลสุดสายตาของเขา  มีกลิ่นเหม็นเน่าอยู่ทุกที่ ทำให้เขาอยากอ้วกเมื่อยืนขึ้น

 

“ฉัน… ฉันยังมีชีวิตอยู่?” เขาพึมพำอย่างสับสนขณะมองดูมือและขาเพื่อดูว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือไม่

 

ไม่มีปัญหาใดที่เขาสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เขาพยายามขยับแล้วก็พยายามเดิน เขาไม่มีปัญหา  ทุกอย่างดูปกติ

 

“พวกเขาโยนฉันมาที่นี่เพราะพวกเขาคิดว่าฉันตายแล้วเหรอ?”  เขาเดาในขณะที่เขาเลือกทิศทางแบบสุ่มและเริ่มเดิน

 

คำถามนับร้อยผุดขึ้นในหัวขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า

 

ระหว่างทางมีโต๊ะไม้เก่าๆ ที่มีตะปูโผล่ออกมา เนื่องจากลูซิเฟอร์ไม่ได้สนใจมัน  เล็บจึงจัดการเล็มหญ้าที่มือของเขา ทำให้บริเวณที่บาดเจ็บมีเลือดออกทันที

 

“อื้อ!”

 

หายใจหอบออกจากลำคอของลูซิเฟอร์ขณะที่เขามองดูบาดแผลที่เริ่มมีเลือดออก  แต่ตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นบาดแผลหายเองในทันที ไม่เหลือแม้แต่รอยแผลเป็น  ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยได้รับรอยขีดข่วน แต่อย่างไร? ความสับสนของเขาเพิ่มขึ้นเท่านั้น

 

ไม่นานเขาก็คิดอะไรบางอย่าง

 

“ลองนึกภาพว่าสามารถรักษาบาดแผลได้ทันที

 

คำพูดของพ่อดังก้องอยู่ในหัว  บทสนทนานี้มีความหมายพิเศษในใจของเขาเมื่อเกิดขึ้นในวันที่พ่อแม่ของเขาจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

 

“นี่? ฉันปลุกพลังที่พ่อพูดถึงหรือเปล่า? การรักษา?” เขาอุทานด้วยความประหลาดใจ

 

คราวนี้เขาจงใจหยิบมีดเก่าที่วางอยู่ใกล้ ๆ และกดลงบนมือเล็กน้อย มีดแทงทะลุผิวหนังของเขา  และเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ บาดแผลก็หายเป็นปกติภายในพริบตา

 

“เวทมนตร์แห่งการรักษาทางกายภาพที่พ่อเคยพูดถึง ฉันมีพลังกาย ตอนนี้ฉันเป็นนักรบแล้วหรือ  ฉันจะเป็นฮีโร่เหมือนพ่อได้ไหม” รอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าของเขา เพียงเพื่อจะจางหายไปในวินาทีถัดมา  เมื่อความเศร้าโศกเข้ามาแทนที่รอยยิ้ม

 

“ฮีโร่? เพื่ออะไร? เพื่อช่วยพวกเขา? คนที่เรียกว่าทรมานฉันจนตาย ฉันควรช่วยพวกเขาจริง ๆ ไหม ไม่!  พ่อแม่ของฉันช่วยโลกมาก แต่ฉันต้องผ่านเรื่องนี้ทั้งหมด”

 

“ทำไมฉันถึงต้องช่วยพวกเขา? เพียงเพื่อให้คนรุ่นหลังของฉันตายด้วยมือของพวกเขา  ฉันจะไม่ไร้เดียงสาอีกต่อไป! ฉันจะไม่ใช้พลังของฉันเพื่อใครนอกจากตัวฉันเอง”  เขาพึมพำขณะเหลือบมองมือของเขา

 

เขาจ้องไปที่มีดอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจ

 

“พ่อบอกว่าการรักษาที่แท้จริงสามารถทำให้คนเป็นอมตะได้ แม้แต่แขนขาที่ถูกตัดก็รักษาให้หายได้  การรักษาของฉันเหมือนกันไหม?” เขาสงสัยว่ามีความคิดบ้าๆ ผุดขึ้นในหัว แต่เขาก็ยังลังเล

 

“ฉันเคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำไมฉันถึงกลัวจะสูญเสียแขนขา?”  เขาพึมพำในขณะที่เขาตัดสินใจที่จะผ่านการทดสอบ

 

เขาหยิบมีดและตัดนิ้วหนึ่งของเขา แม้ว่าเขาจะรู้สึกเจ็บปวด  แต่ก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับความเจ็บปวดที่เขาประสบเมื่อเขาตาย เขารู้สึกค่อนข้างจะทนได้

 

นิ้วของเขายังคงนอนอยู่บนพื้น แต่มีอีกนิ้วหนึ่งเติบโตมาแทนที่ ซึ่งเหมือนกับนิ้วเก่า ใช้เวลาเพียงนาทีเดียวก็เกิดขึ้น

 

“มันน่าทึ่งจริงๆ” เขาแสดงความคิดเห็นขณะที่ดวงตาของมหาสมุทรเป็นประกาย “ฉันต้องมีชีวิตอยู่  นี่ควรเป็นเหตุผลที่ฉันยังมีชีวิตอยู่”

 

เขากำลังจะทิ้งมีดเมื่อสังเกตเห็นว่ามีดเริ่มผุแล้ว เขารอจนกว่ามันจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ ในเวลาไม่นาน  มีดก็กลายเป็นฝุ่น

 

“นี่? พลังแห่งการสลายตัว? พลังของแม่?” ลูซิเฟอร์อุทานในขณะที่เขาจ้องมองที่ขี้เถ้าของมีด เขามีพลังอื่น?  เกิดอะไรขึ้น? ความตกใจของเขาแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น

 

“ฉันมีทั้งพลังกายภาพและพลังงานธาตุงั้นเหรอ? ฉันคือวอร์ล็อคหรอ?” ลูซิเฟอร์พึมพำแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่นุ่มนวล

 

มันเป็นความฝันของเขาที่จะเป็นวอร์ล็อค เขาอยากเป็นเหมือนพ่อตั้งแต่ได้ยินเรื่องราวจากเขา

เขายังคงจำช่วงเวลาที่เขาได้ยินเกี่ยวกับวอร์ล็อคเป็นครั้งแรก

 

เป็นแม่ของเขาที่สอนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้

 

เธอบอกเขาว่าในโลกนี้มีหลากหลายรูปแบบ แต่มีวอร์ล็อคเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

 

ในการเป็นวอร์ล็อค บุคคลนั้นจำเป็นต้องมีพลังมากกว่า 1 ชนิดทั้งทางกายภาพและธาตุ แม้แต่แม่ของเขาก็ไม่ใช่วอร์ล็อค เธอเป็นเพียงนักเวทย์มนตร์ เนื่องจากเธอมีพลังธาตุ 2 อย่างและไม่มีพลังกายภาพ

 

หลังจากได้ยินว่าพ่อของเขาเก่งแค่ไหนในการเป็นวอร์ล็อค เขาก็เริ่มปรารถนาเช่นเดียวกัน

 

ในที่สุดความฝันของเขาก็สำเร็จ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีใครให้แบ่งปันมันด้วยก็ตาม  คนที่เขาต้องการแสดงมันให้เห็นได้ตายไปแล้ว เขาไม่เหลือครอบครัวแล้ว

 

เขาอดไม่ได้ที่จะคุกเข่าลง ในขณะที่น้ำตาไหล เขาจ้องมองที่มือของเขาเป็นเวลานาน  การมองเห็นของเขาพร่ามัวเพราะน้ำตา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์

 

เขามองไปยังขอบฟ้าอันไกลโพ้นพร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณสำหรับของขวัญครับพ่อ แม่  แม้ว่าพ่อจะทำให้ผมสามารถอยู่ได้ แต่ขอโทษที่ผมจะไม่เดินบนเส้นทางที่คุณเลือก ผมแน่ใจว่าเป็นแบบนั้น”  ถ้าพวกคุณอยู่ที่นี่ในวันนี้ คุณก็ต้องการเหมือนกันสำหรับผมแล้ว”

 

เขาอยู่ในตำแหน่งนั้นประมาณ 10 นาทีก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ฉันต้องหาถุงมือของแม่ มิฉะนั้นทุกสิ่งที่ฉันสัมผัสจะถูกทำลายลงเรื่อยๆ” เขาตัดสินใจ ขณะเดินไปข้างหน้า

 

ลูซิเฟอร์เดินต่อไปอีกกว่า 7 ชั่วโมง ก่อนที่เขาจะเห็นเมืองที่ใกล้ที่สุด ท้องของเขาเริ่มคำรามมานานแล้ว  เมื่อมีเมืองหนึ่งอยู่ที่นี่ มันก็คำรามมากขึ้น ราวกับว่ามันกำลังบอกให้ลูซิเฟอร์กิน

 

เขาเข้าไปในเมือง  ยังคงมีเสื้อคลุมของผู้ป่วยในห้องแล็บบนร่างของเขา ซึ่งดูสกปรกยิ่งกว่าราวกับว่าเขาเป็นขอทาน

 

เขาพยายามหาที่กิน

 

เขาเห็นร้านอาหารเล็กๆ หลังจากค้นหาอยู่นาน เขาจึงตัดสินใจเข้าไปในร้าน

 

ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปในร้านอาหาร เขาก็ดึงดูดความสนใจจากบริกร

 

“แกต้องการอะไร เด็กน้อย ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับให้เด็กๆ เข้าไป ถ้าแกไม่มีเงินก็รีบออกไปจากที่นี่ซะ!”  บริกรของร้านอาหารเล็กๆ บอกกับลูซิเฟอร์ ขณะที่บริกรเดินไปหาลูซิเฟอร์

 

“ฉันต้องการอาหาร” ลูซิเฟอร์พูดกับผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายคนนั้นไม่ยอมฟังด้วยซ้ำ

 

“ขอทานอย่างแกจะมีเงินได้เหรอ ออกไปซะ ก่อนที่ฉันจะตัดขาแก!” พนักงานเสิร์ฟตะโกนอย่างฉุนเฉียว

 

“ขาของฉัน? แน่นอน ฉันจะคาดหวังอะไรจากมนุษย์ได้อีก ถ้าไม่ใช่แบบนี้” ลูซิเฟอร์เย้ยหยัน เมื่อเขาเหลือบมองบริกรราวกับว่าเขากำลังดูขยะที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ขอทานคนนั้นพูดมากจริงๆ พนักงานเสิร์ฟ นี่คือระดับของร้านอาหารนี้ใช่ไหม ขอทานคนใดก็ได้สามารถเข้ามาที่นี่ได้ สบายๆเรอะ”

 

“โยนเด็กนั่นออกไป ฉันกินอาหารที่นี่ไม่ได้ เสื้อสกปรกของเขาจะทำให้ฉันอาเจียน!”

 

“ใช่ โยนไอ้เด็กสารเลวนี้ออกไป ถ้ามันไม่ฟัง ก็หักขามันซะ!”

 

ทีละคนในร้านอาหารเริ่มเรียกร้องให้ไล่ลูซิเฟอร์ออกไป

 

ลูซิเฟอร์ไม่ตอบสนองแม้ว่า เขามองดูบริกรที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

 

เมื่อได้ยินความต้องการของผู้คน พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มพอใจ

“แกกล้ามองมาที่ฉัน ด้วยท่าทางที่เหยียดหยามอย่างนั้นหรือ กล้าดียังไงมาขึ้นเสียงใส่ฉัน!”  พนักงานเสิร์ฟคำรามด้วยความโกรธขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าเพื่อตบหน้าลูซิเฟอร์

 

เพี้ยะ!

 

ก่อนที่พนักงานเสิร์ฟจะรู้ตัว ลูซิเฟอร์จับมือเขาแล้วโยนมันทิ้งไปราวกับว่าเขาเป็นขนนกบางเบา พนักงานเสิร์ฟชนเข้ากับกำแพง คอของเขาหักทันที และเขาได้เสียชีวิตที่นั่นตรงนั้น…

ตอนที่ 3: มีชีวิตอีกครั้ง

 

“ในโลกนี้มีรูปแบบที่แตกต่างกัน 3 ประเภท นักรบที่สามารถใช้พลังกายภาพ หมอผีที่สามารถใช้พลังธาตุ และ วาร์ล็อกที่เหมือนกับพ่อของคุณที่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยทั้ง 2 ประเภท”

 

ชายหนุ่มรูปงามที่ดูอ่อนเยาว์ราวกับอายุ 20 กว่าๆ กำลังนั่งอยู่บนเตียง เขาพูดกับเด็กชายตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งนั่งบนตักของเขาและมองดูผู้ชายที่มีดวงตากลมโต

 

เด็กชายดูเหมือนเขาอายุเพียง 4 หรือ 5 ขวบ เขามองไปที่ชายคนนั้น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น

 

“ถ้าเธอปลุกพลังให้ตื่นแล้ว อยากเป็นอะไรล่ะหนุ่มน้อย” ชายคนนั้นถามเด็กชาย

 

“เมื่อผมโตขึ้น ผมอยากเป็นเหมือนพ่อ” เด็กชายรับสารภาพ

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ใช่พ่อเนี่ยดีที่สุดแล้วใช่ไหมล่ะ?” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับหัวเราะออกมาดังๆ

 

“นี่คุณกำลังพูดว่า ฉันไม่ใช่คนดีที่สุดเหรอคะ!” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินขึ้นไปหาพวกเขาและนั่งบนเตียงเช่นกัน  เธอดูเด็กกว่า 20 ปี แม้ว่าในความเป็นจริงเธอจะแก่กว่า ทั้งหมดเป็นเพราะพลังที่เธอมี

 

เธอสวมถุงมือทั้งสองข้าง ซึ่งดูเหมือนทำมาจากยาง

 

“แม่นี่แหละดีที่สุด!” เด็กชายกล่าวว่า

 

“เด็กดีของฉัน” หญิงสาวยิ้มขณะที่ลูบหลังเด็กชายตัวน้อย

 

“พ่อมีพลังกาย แล้วผมจะมีไหม” เด็กชายพูดออกไป

 

“ใช่ พ่อของเธอมีพลังแห่งความแข็งแกร่ง มันเป็นพลังที่แข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ยังไม่พอใจ”  ผู้หญิงคนนั้นอธิบาย ขณะที่เธอยิ้มแหยๆ “สำหรับเจ้า…เด็กน้อย เจ้าจะแข็งแกร่งกว่าพ่อของเจ้าเสียอีก”

 

“แน่นอน ฉันก็ยังไม่พอใจ ฉันมีพละกำลัง ซึ่งมันเยี่ยมมาก แต่ก็ยังไม่ดีเท่าพลังกายที่รักษาได้ไม่จำกัด” ชายคนนั้นทำหน้าบึ้ง ขณะมองดูภรรยาของเขา “ลองนึกภาพว่าสามารถรักษาบาดแผลได้ทันทีสิ”

 

“เราต่างก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงข่าวลือที่คุณสร้างขึ้น ยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพลังนั้น เท่าที่ฉันรู้  ยังไม่มีใครตื่นขึ้นด้วยพลังแบบนั้น” แม่ของเด็กชายเหล่ตาของเธอ ขณะที่เธอมองดูสามีของเธอ

 

“ไม่มีใครปลุกพลังแห่งการรักษา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีใครทำ มันเป็นไปได้ทั้งหมดที่จะมีพลังแบบนั้น ฉันนึกถึงพลังอีกนับพันที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน ซึ่งเรายังไม่เคยเห็นมันเลย” ชายคนนั้นยืนยัน

 

ฉันจำได้ว่าคุณยังมีนวนิยายในวัยเด็กของคุณเรื่อง “The Healer’s Journey to Immortality”  นั่นคือสิ่งที่คุณได้รับความคิดที่ไร้สาระมากจากมัน ไม่ใช่เหรอ?” ผู้หญิงคนนั้นตอบยิ้มๆ

 

ใบหน้าของชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ในขณะที่เขาถามว่า “คุณผู้หญิง คุณหาที่ซ่อนลับของผมได้อย่างไร”

 

****

 

ร่างกายอันเงียบสงบของลูซิเฟอร์นอนอยู่ในถังขยะในความเงียบชั่วนิรันดร์

 

ไม่มีการเต้นของหัวใจ ไม่มีการเคลื่อนไหว ผมสีเงินแวววาวของเขาดูหม่นหมองและสกปรก  สาวใช้คนหนึ่งปิดเปลือกตาของเขาก่อนที่จะใส่เขาลงในกระเป๋า  แต่ปากของเขายังคงอ้าออกราวกับว่าเขากำลังพยายามหายใจ ยกเว้นว่าเขาจะไม่หายใจอีกต่อไป

 

แต่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายและน่าเศร้านั้น สิ่งอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น…

 

แม้ว่าเขาจะถูกประกาศว่าตายแล้ว และหัวใจของเขาก็หยุดเต้น จิตใจของเขายังคงทำงานอยู่

 

ลูซิเฟอร์ได้รำลึกถึงวันเวลาที่มีความสุขของเขากับพ่อแม่เสมอ ซึ่งมันกำลังเล่นเหมือนเป็นภาพยนตร์ในหัวของเขา และรู้สึกว่ามันเหนือจริง

 

ทุกอย่างในชีวิตเขาดีจนวันเกิดครบ 5 ขวบเมื่อพ่อแม่ไปเป็นผู้สอนศาสนาแต่ไม่กลับมาอีก  ลูซิเฟอร์ตัวน้อยเฝ้ารอการกลับมาของพ่อแม่อย่างกระตือรือร้น แต่เขาไม่รู้ว่าไม่มีอะไรเหลือให้รออีกต่อไป

 

คนที่กลับมาคือผู้ชายในเครื่องแบบทหารที่พาเขาออกจากบ้านและทิ้งเขาไว้ในสถานที่ที่เรียกว่า “สิ่งอำนวยความสะดวก” นั่นคือที่ที่เขาใช้ชีวิตคนเดียวเป็นเวลา 5 ปีต่อไปในห้องเล็กๆ

 

เขายังคงจำความเจ็บปวดที่เขาเผชิญได้เมื่อได้รับแจ้งว่าพ่อแม่ของเขาเสียชีวิต รู้สึกเหมือนมีใครมาแย่งพื้นจากใต้ฝ่าเท้าของเขาและมีภาระมหาศาลตกใส่เขา

 

เขามักจะฝันถึงการจมน้ำในความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุดและไม่สามารถหายใจได้ เขาใช้เวลานานมากในการประมวลผลข้อมูลก่อนที่จะเชื่อจริงๆ เขาทำอย่างนั้นก็ต่อเมื่อได้เห็นการรายงานข่าวในสถานที่นั้น

 

ผู้ประกาศข่าวพูดถึงทีมนักล่าที่แข็งแกร่งที่สุดของเอลิเซียมที่ถูกกำจัดภายในดันเจี้ยนอันดับ 4 ที่เพิ่งค้นพบใหม่ใจกลางเกาะฟรีเซียที่ถูกทิ้งร้าง

 

ผ่านไป 2-3 วัน ลูซิเฟอร์ได้รับแจ้งว่านี่คือสถานที่ที่จะฝึกฝนและติดตามพลังของเขาที่อาจแข็งแกร่งเท่ากับพ่อแม่ของเขา

 

เขาได้รับการบอกเล่าว่าเขาสามารถช่วยมนุษยชาติได้เช่นเดียวกับพ่อแม่ของเขา และเขาก็เชื่ออย่างไร้เดียงสาในความฝันนั้น แต่หลายปีผ่านไปและพลังของเขาก็ไม่ตื่นขึ้น

 

แม้ว่าพนักงานของโรงงานจะไม่ได้ประพฤติตัวไม่เหมาะสม แต่พฤติกรรมของพวกเขาก็ไม่ดีเช่นกัน เขาไม่ได้รับการฝึกฝนแม้แต่น้อย เขากลายเป็นเหมือนนักโทษ แต่เขาไม่สิ้นหวังที่จะปลุกพลังของเขาให้ตื่นขึ้นและกลายเป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่เหมือนพ่อของเขา ดูเหมือนว่ามันเป็นเส้นทางที่จะทำให้เขารู้สึกใกล้ชิดกับพ่อแม่มากขึ้น

 

ความฝันของเขาพังทลาย เมื่อพวกเขาบอกเขาว่าเขาจะไม่มีพลังใดๆ เลย แต่ความทุกข์ยากของเขาไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เมื่อเขาถูกพาไปที่ห้องหนึ่งและถูกทรมานจนตาย

 

เสียงกรีดร้องของเขาก้องกังวานไปทั่วห้อง เขาทนไม่ไหวแล้ว มันรู้สึกเหมือนกับว่าทุกกระดูกและทุกเส้นเลือดในร่างกายของเขากำลังระเบิด แต่ไม่มีใครหยุดความเจ็บปวด ไม่มีใครสนใจการขอทานของเขาไม่หยุด ในขณะที่ความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นทีละเท่า ผลักเขาไปที่ประตูแห่งความตายอย่างนิจนิรันดร์

 

เขายังอดไม่ได้ที่จะสงสัยว่าเขาผิดพลาดอะไร ทั้งหมดที่เขาต้องการคือการช่วยเหลือผู้คนเช่นเดียวกับพ่อแม่ของเขา แต่เขาไม่ได้รับโอกาสนั้น

 

เขากลับถูกทรมานและสังหารโดยมนุษยชาติเช่นเดียวกับที่เขาต้องการช่วยเหลือ นี่คือสิ่งที่พ่อแม่ของเขาเสียชีวิตเพื่อมันหรอกเหรอ? ‘มนุษยชาติน่ะ’ แบบไหนที่พวกเขาพยายามจะช่วย คนที่ไม่เสียใจ แม้แต่น้อยในขณะที่คนพวกนั้นฆ่าลูกชายของพวกเขา?

 

ถ้าใช่… ถ้านี่คือสิ่งที่มนุษย์เป็น… เขาก็ไม่อยากเป็นวีรบุรุษที่ปกป้องสิ่งที่เรียกว่ามนุษย์เหล่านี้อีกต่อไป มนุษยชาติไม่คุ้มค่าพอที่จะรักษาไว้ มนุษยชาติไม่คุ้มกับการเสียสละใดๆ

 

สมองของเขาหมกมุ่นอยู่กับความคิดสุ่มมากมาย แม้ว่าหัวใจของเขาจะไม่เต้นเลยก็ตาม

 

อย่างไรก็ตาม ไม่นานสิ่งมหัศจรรย์อีกอย่างก็เกิดขึ้น

 

ตุ๊บ…ตุ๊บ…ตุ๊บ…

 

หัวใจที่หยุดเต้นอย่างสมบูรณ์ของลูซิเฟอร์เริ่มเต้นอีกครั้ง หน้าอกของเขาพองขึ้น เมื่อจมูกของเขาดูดออกซิเจนเข้าไป ทำให้เขามีชีวิตอีกครั้ง

 

ร่างกายของเขาที่ซีดเซียวเริ่มมีสีสันขึ้นอีกครั้งเมื่อเลือดไหลเวียนในร่างกายของเขากลับคืนมา ร่างกายของเขาฟื้นคืนความรู้สึกทั้งหมดที่เขาสูญเสียไป เขาได้ยินเสียงลมด้วย

 

————————————————————–

ตอนที่ 2: การเสียสละที่จำเป็น

 

แม้ว่าหมอราวจะไม่ได้ใกล้ชิดกับลูซิเฟอร์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เขาไม่ได้ดูถูกเด็กคนนั้นอย่างเปิดเผยเช่นกัน  เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ลูซิเฟอร์จะพัฒนาพลังของเขาได้  การกระทำของเขาที่มีต่อลูซิเฟอร์ดูเหมือนจะเป็นมืออาชีพจนถึงตอนนี้

 

เขาไม่เป็นมิตรเกินไปและไม่รุนแรงเกินไป แต่เพียงรักษาทัศนคติโดยเฉลี่ยต่อเด็ก

 

แต่ตอนนี้ลูซิเฟอร์อายุได้ 10 ปีแล้วและล้มเหลว ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะทำตัวดีอีกต่อไป

 

ใบหน้าของลูซิเฟอร์ซีด เมื่อได้ยินคำตอบจากหมอราว รู้สึกเหมือนกับว่าโลกของเขาพังทลายลง  และทุกคำในประโยคนั้นกระทบหัวใจเขาราวกับกระสุน

 

น้ำตาคลอเบ้าของเด็กชาย ทำให้ดวงตาของเขาเป็นประกายเพราะน้ำตา  และการมองเห็นของเขาพร่ามัว ในขณะที่เขาพยายามตอบโต้ด้วยความเจ็บปวดและความทรมานอย่างใหญ่หลวงที่เขารู้สึก

 

“แต่แกยังสามารถช่วยมนุษยชาติได้ ดังนั้นแกก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์แบบขนาดนั้น มากับเรา” หมอ ราวกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ชั่วร้าย ในขณะที่ดวงตาของเขาเปล่งประกายราวกับนกแร้งภายใต้แว่นตากรอบทองหนา

 

ลูซิเฟอร์ยืนขึ้นด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่าและเดินตามหลังพวกเขาไปพร้อมกับน้ำตาที่เงียบงัน เพียงไม่กี่หยดจากดวงตาของเขา

 

พวกเขาพาเขาไปที่ห้องที่ลูซิเฟอร์ไม่เคยไปมาก่อน มีเครื่องจักรแปลก ๆ อยู่ทั่วห้องโดยมีเตียงเดี่ยวอยู่ตรงกลาง

 

“ไปนอนบนเตียงซะ” หมอราวสั่ง

 

ลูซิเฟอร์ทำตามคำสั่งเงียบๆ และเดินไปที่เตียงด้วยก้าวเล็กๆ

 

เขานอนลงบนเตียงเรียบ สายตาของเขาวางไว้บนเพดาน โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เขาวางกำปั้นไว้ที่นั่น ขณะที่คำพูดของหมอราว วนเวียนอยู่ในหัวของเขา

 

“หมอมิน เตรียมตัวให้พร้อม” หมอราวพูดก่อนจะหันหลังและเริ่มทำงานบนแผงหน้าจอ ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

หมอมินเดินไปหาลูซิเฟอร์  เขาหยิบวัตถุคล้ายแถบคาดศีรษะที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรที่อยู่ข้างหลังเขาแล้ววางไว้รอบศีรษะของลูซิเฟอร์  หัวใจของเขาปั่นป่วน ในขณะที่ทำเช่นนั้น แต่เขาก็ยังทำ

 

มีสายไฟหลายสีที่เชื่อมต่อกับวัตถุคล้ายแถบคาดศีรษะนั้น ซึ่งเชื่อมโยงกับเครื่องจักรอื่นๆ รอบห้อง

 

‘ ฉันขอโทษ ลูซิเฟอร์ แม้ว่าฉันจะเคารพพ่อแม่และห่วงใยคุณแค่ไหน แต่ฉันช่วยคุณไม่ได้’ หมอมินคิดขอโทษ ขณะเดินกลับ ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก

 

“ทุกอย่างพร้อมแล้วหมอเรย์แมน?” หมอราวถามนักวิทยาศาสตร์คนที่ 3

 

“พร้อม รอคำสั่ง” หมอเรย์แมนตอบ

 

หมอราวกล่าวว่า “เอาล่ะ ฉันจะนับถอยหลัง!”

 

“3… 2…1… เริ่ม!”

 

หมอเรย์แมนกดปุ่มบนแล็ปท็อป และเริ่มดำเนินการด้วยเสียงเล็กน้อย

 

“อ๊าาาา!”  ลูซิเฟอร์กรีดร้องเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในขณะที่เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดที่บีบคั้นหัวใจผ่านร่างกายของเขา  เขารู้สึกเหมือนร่างกายของเขาถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

เขายังคงกรีดร้อง แต่การทรมานก็ยังคงไม่หยุด มันกลับดำเนินต่อไปและดำเนินต่อไปในสิ่งที่ดูเหมือนชั่วนิรันดร์

 

“การเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดัชนีความเจ็บปวดถึง 60 เปอร์เซ็นต์ การทำลายเซลล์ได้เริ่มขึ้นแล้ว”  หมอเรย์แมนประกาศ ขณะอ่านข้อมูลบนหน้าจอ

 

“หยุดเดี๋ยวนี้! การทำลายเซลล์ของเขาได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว! หากคุณไม่หยุด ร่างกายของเขาทั้งหมดจะไร้ประโยชน์!  นี่มันน่าจะมีข้อมูลเพียงพอสำหรับการใช้งานของเราแล้วนะ!” หมอมินอดไม่ได้ที่จะตะโกนดังๆ  เมื่อเขาได้ยินสถิติ

นั้นจากหมอเรย์แมน เขาก็มองไปทางหมอราวทันที

 

“ทำต่อไป! เพิ่มดัชนีความเจ็บปวดขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์!  ฉันต้องการดูว่าร่างกายของมนุษย์จะถูกทำลายด้วยความเจ็บปวดนานแค่ไหน” หมอราวสั่ง ในน้ำเสียงของเขาไม่มีความเศร้าโศกหรือลังเลเลยแม้แต่น้อย

 

“นี่ไม่ใช่การวิจัยอีกต่อไป แต่เป็นความบ้าคลั่ง! ฉันบอกให้หยุด!” หมอมินคำราม แต่ไม่มีใครสนใจเขา

 

ลูซิเฟอร์ยังคงกรีดร้องเป็นเวลา 20 นาทีติดต่อกัน น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง  ดวงตาแดงก่ำด้วยน้ำตาที่ยังคงไหลอาบแก้ม และร่างกายของเขาก็สั่นด้วยความเจ็บปวด

 

น่าเสียดายที่ความเจ็บปวดไม่หยุด รู้สึกเหมือนกับเวลา มันก็ยิ่งทนไม่ได้  ดวงตาของลูซิเฟอร์กวาดสายตามองจากหมอมินไปหาหมอเรย์แมน ขณะที่เขาขอร้องให้หยุด  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำตา ในขณะที่เขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหมอราว

 

“ทำไม?!” ลูซิเฟอร์ตะโกนอย่างคนบ้า ขณะที่เขาจ้องไปที่หมอราวด้วยดวงตาที่เปื้อนเลือด

 

“เขายังพูดได้ ไม่เลว ฉันเดาว่าความเจ็บปวดยังไม่เพียงพอ เพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ เอาดัชนีความเจ็บปวดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์!” หมอราวสั่งหมอเรย์แมนที่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาโดยไม่มีคำถามใด ๆ และเพิ่มดัชนีความเจ็บปวด

 

“การเต้นของหัวใจช้าลงอย่างรวดเร็ว ดัชนีความเจ็บปวดถึง 90 เปอร์เซ็นต์ การทำลายเซลล์ได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์” หมอเรย์แมนกล่าว

“ดี เพิ่มขึ้นอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ให้ดัชนีความเจ็บปวดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์” หมอราวกล่าว ขณะหัวเราะ “ดีแล้ว มาดูกันว่าร่างกายมนุษย์จะทนได้ 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่!”

 

หมอมินเฝ้าดูอยู่เงียบๆ จนถึงตอนนี้ แต่เขาทนไม่ไหวแล้ว  ขณะที่เขากระโดดขึ้นไปบนหมอเรย์แมนเพื่อป้องกันไม่ให้เขาเพิ่มดัชนีความเจ็บปวด

 

เขากรีดร้องใส่พวกเขา “นี่แกสองคนยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า หยุดนะ เขายังเด็กอยู่เลย! หยุดความบ้าคลั่งนี้ซะ!”

 

ดร.ราวเพิกเฉยต่อคำพูดแหลมคม ขณะที่เขาเรียกรปภ.และสั่งให้พาหมอมินออกไป

 

ในขณะเดียวกัน หมอเรย์แมนได้เพิ่มดัชนีความเจ็บปวดและเปลี่ยนเป็นระดับสูงสุด

 

ร่างกายของลูซิเฟอร์บิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เสียงกรีดร้องของเขาก็หยุดลง  ดวงตาที่เปื้อนเลือดของเขายังคงเปิดอยู่ แต่ไม่มีการเพ่งความสนใจไปที่มันอีกต่อไป  ร่างกายของลูซิเฟอร์เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน ในขณะที่เขานอนอยู่ตรงนั้น

 

“การเต้นของหัวใจหยุดลง ดัชนีความเจ็บปวดถึง 100 เปอร์เซ็นต์ เซลล์ถูกทำลาย 100%” หมอเรย์แมนประกาศ

 

“เขาตายแล้ว เขาเป็นหนูทดลองที่ดี อดทนได้นาน ฉันเดาว่าร่างกายมนุษย์คนนี้ไม่ได้ไร้ประโยชน์อย่างที่เราคิด  หากมันสามารถอยู่รอดได้นานภายใต้ความเจ็บปวดเช่นนี้ ไม่มีอะไรแน่นอน นอกจากไร้ประโยชน์” หมอราว พึมพำ ในขณะที่เขาดูข้อมูลบนหน้าจอ

 

เขาดูไม่กังวลกับความจริงที่ว่าพวกเขาเพิ่งฆ่าคนอย่างทารุณ นั่นเป็นเด็กอายุ 10 ขวบเหมือนกัน

 

“ไปกันเถอะ พยาบาลคนนั้นน่ะสามารถทำความสะอาดร่างกายเด็กนี่ แล้วโยนมันออกไปข้างนอกได้  เรามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ” หมอราวพูดขณะที่หันหลังเดินไปยังทางออก “จัดเรียงข้อมูลที่เราตัดสินใจในแผนภูมิที่เหมาะสม ฉันต้องการให้วางไว้บนโต๊ะของฉันในวันพรุ่งนี้”

 

 

หมอราวกำลังจะจากไป เมื่อหมอมินปรากฏตัวต่อหน้าเขา

 

“นี่แกฆ่าเขาเรอะ?!” หมอมินกรีดร้องใส่หมอราว ในขณะที่น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขาและเขาก็นั่งลงบนพื้น

 

“การเสียสละที่จำเป็นสำหรับการเติบโตของมนุษยชาติ”

 

หมอราวยิ้ม ขณะที่เดินผ่านหมอมินและออกจากห้องไป

“อย่ารู้สึกยึดติดกับเรื่องพวกนี้มากเกินไป คุณจะรู้สึกเจ็บปวดน้อยลง ถ้าคุณทำแบบนั้น”  หมอเรย์แมนวางมือบนไหล่ของหมอมิน ในขณะที่เขาปลอบโยน

 

“ถึงหมอราวจะเป็นโรคจิตเล็กน้อย แต่เขาก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ ยังไงก็เถอะ ไปกินข้าวกันเถอะ  ไม่มีประโยชน์ที่จะทะเลาะกันและร้องไห้ให้กับเด็กที่ตายไปแล้ว เขาจะไม่กลับมาอีก” เขากล่าวต่อ  เขาพาหมอมินออกไปข้างนอก

 

สาวใช้มาถึงห้องหลังจากผ่านไป 20 นาที และเห็นลูซิเฟอร์นอนอยู่บนเตียงอย่างไร้ชีวิตชีวา

 

“อืม เขาเป็นคนที่เสียชีวิตในวันนี้” สาวใช้พูดอย่างสบายๆ ขณะที่เธอเหลือบมองลูซิเฟอร์  พวกเขาเคยชินกับการเห็นสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นสิ่งนี้จึงไม่รบกวนพวกเขามากนัก

 

พวกเขาหยิบร่างของเขาขึ้นมาแล้วห่อด้วยถุงซิปล็อค จากนั้นพวกเขาก็นำศพออกไปแล้วโยนทิ้งในถังขยะ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในโรงงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ไม่มีความสำนึกผิด ไม่เสียใจ และไม่มีความเห็นอกเห็นใจต่อเด็กที่ตายแล้ว  หัวใจทั้งหมดของพวกเขาถูกผนึกและกลายเป็นหินเมื่อนานมาแล้ว

 

วันรุ่งขึ้น รถบรรทุกมาถึงที่เอาขยะทั้งหมดออกจากถังขยะและออกจากที่นั้น

 

ขยะทั้งหมดจากโรงงานถูกทิ้งในที่รกร้างห่างไกลจากสถานที่ เท่าที่ตามองเห็น มองเห็นแต่ของเสียเท่านั้น  รถบรรทุกออกไปตามปกติ หลังจากทิ้งทุกอย่างที่รวบรวมได้ในวันนั้น

 

ในดินแดนรกร้างอันกว้างใหญ่ ศพหนึ่งศพกำลังนอนอยู่ ดูเหมือนตายแต่ยังไม่ถึงที่สุด

 

————————————————————–

ตอนที่ 1: เด็กชายผู้ล้มเหลว

 

“ค่าลบ”

 

“เด็กคนนั้นไม่มีพลังอะไรเลย”

 

*ถอนหายใจ*

 

ทุกคนได้แต่ถอนหายใจหลายครั้งทั่วทั้งห้อง ขณะที่ผู้คนมีสีหน้าจริงจังบนใบหน้าของพวกเขา พลางส่ายหัวด้วยความผิดหวัง

 

“ตอนนี้เขาอายุได้ 10 ปีแล้ว หากเขายังไม่พัฒนาพลังใดๆ  เราทุกคนก็รู้ว่าไม่มีโอกาสสำหรับเขาในอนาคตเช่นกัน เขาเป็นคนที่น่าผิดหวังจริงๆ…(ถอนหายใจ)

 

“ฉันมีความคาดหวังอย่างมากจากเรื่องนี้จริงๆ ” หนึ่งในนั้นกล่าว

 

“น่าเสียดาย! เด็กที่พ่อเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งที่สุด  กลับกลายเป็นว่าไร้ประโยชน์? เขาไม่ใช่แวเรียนท์ด้วยซ้ำ  นับประสาอะไรกับพ่อแม่ของเขา” ชายวัยกลางคนในกลุ่มพูด ขณะที่มองไปยังเด็กชายที่นอนอยู่บนโต๊ะผู้ป่วย

 

มีการแสดงออกบนใบหน้าของชายคนนั้น ซึ่งไม่ได้แสดงถึงความผิดหวัง

 

“ดูเหมือนว่าเราจะเสียเวลากับเขาไปเปล่าๆ น่าสงสารจัง!”

 

นักวิทยาศาสตร์ 3 คนกำลังคุยกันอยู่นอกห้องกระจก ขณะที่อยู่ข้างใน เด็กชายอายุ 10 ขวบกำลังนอนอยู่บนเตียง

 

เข็มฉีดยายังคงอยู่ในมือของเขา ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง  มีหลอดหลายหลอดที่มีหมวกติดอยู่ที่หน้าอกของเขาด้วย

 

มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียง

 

เด็กชายลืมการสนทนาไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากพื้นที่ทดสอบที่สร้างด้วยกระจกนั้นกันเสียง  แต่เขามองเห็นแววตาของความผิดหวัง ดูหมิ่น และสยดสยองได้อย่างชัดเจนที่ชี้มาที่เขา

นิ้วก้อยของเขาประสานกันขณะที่เขารออยู่ที่นั่นอย่างใจจดใจจ่อ

 

เด็กผู้ชายคนนั้นมีผมสีเงินสวยงามกระจายอยู่รอบศีรษะ ซึ่งยาวมากจนถึงไหล่ของเขา  มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเขาไม่ได้ตัดผมมาเป็นเวลานาน

 

เด็กชายสวมชุดพยาบาลสีขาวยาวถึงกลางต้นขา

 

เช่นเดียวกับเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน เขาไม่ได้มีลักษณะที่เร้าใจและมีความสุข แต่เขาดูเครียดและกลัวแทน

 

ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขามองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความรู้สึกผสมปนเปกัน  รูม่านตาที่มืดมนของเขา กำลังสแกนทุกอย่างด้วยความกระวนกระวายและความขี้ขลาดที่มองเห็นได้ในตัวพวกเขา

 

“ไม่จำเป็นจะต้องเก็บเขาไว้ที่นี่อีกต่อไปแล้ว เราควรแจ้งให้นายพลแม็กเวลทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ของเขา   เราไล่เด็กออกจากที่นี่ เพื่อเราจะได้ย้ายไปทำงานที่สำคัญจริงๆ”  นักวิทยาศาสตร์วัยกลางคนพูดอีกครั้ง ขณะที่เขามองดู  กลุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกคน

 

“จริงสิ เด็กคนนี้มันไร้ประโยชน์”

 

“ฉันมีความหวังสูงสำหรับเขา”

 

อีก 2 คนส่ายหัวพร้อมกัน แสดงถึงการยืนยันต่อเรื่องนี้ ขณะที่พวกเขาถ่มน้ำลายออกมา 2 ประโยค

 

นักวิทยาศาสตร์เรียกพยาบาลก่อนออกจากห้องแล็บ  นักวิทยาศาสตร์ 2 คนเดินออกจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คนหนึ่งอยู่ข้างหลัง

 

เขามองดูเด็กชายที่นอนอยู่ในห้องกระจกและถอนหายใจ

 

ในใจเขารู้สึกสงสารเด็กคนนี้ โชคร้ายที่เขาเกิดมาไม่มีอำนาจใดๆ  เขารู้สึกหงุดหงิดใจ แทนเจ้าตัวเล็กที่น่าสมเพชตัวนั้น

 

 

“พยาบาล พาเขากลับไปที่ห้องของเขา”  นักวิทยาศาสตร์วัยกลางคนออกจากห้องแล็บด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายหลังจากพูดคำเหล่านั้น  ไม่มีใครสังเกตเห็นกำปั้นของเขา ขณะที่เขาจากไป

 

เมื่อเดินเข้าไปในห้อง พยาบาลก็เดินไปหาเด็กชายและถอดกระบอกฉีดยาออกจากมือ

 

“ไปกันเถอะ” เธอบอกเด็กชายด้วยน้ำเสียงที่ข่มขู่เขามากขึ้น

 

เด็กชายตัวสั่น เมื่อเขายืนขึ้นและเดินตามเธอไปอย่างเงียบๆ

 

พยาบาลพาเด็กชายไปที่ห้องเล็กๆ

 

ภายในห้องสีเทาทั้งหมด มีเพียงเตียงเล็กและไม่มีอะไรอื่น ไม่มีหน้าต่าง มันเหมือนกับช่องเล็กๆ  ในรถไฟที่ไม่มีหน้าต่างและที่นั่ง

 

พื้น เพดาน และประตูเป็นโลหะ และไม่ใช่โลหะธรรมดา สิ่งเหล่านี้ทำจากโลหะที่แข็งแกร่งที่สุดที่พบในโลก

 

พยาบาลทิ้งเด็กชายไว้ข้างใน ก่อนที่เธอจะล็อกห้องจากด้านนอก  และจากไปด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ราวกับว่าเธอเป็นหุ่นยนต์

 

***

 

“ท่านแม่ทัพ หมอราวอยู่ในสาย”

 

ทหารในเครื่องแบบทหารเดินเข้าไปหาคนที่สวมชุดทหารและยื่นโทรศัพท์ให้เขา

 

“หมอราว การทดสอบเป็นอย่างไรบ้าง เด็กคนนั้นได้พัฒนาพลังใดๆ หรือไม่ เขาเป็นแวเรียนท์ที่ดีหรือไม่”  นายพลแม็กเวลอดไม่ได้ที่จะถามคำถามอย่างรวดเร็ว ขณะที่วางโทรศัพท์ไว้ใกล้หู

 

หมอราวยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง ดวงตาของเขามองออกไปนอกอาคาร

 

เสื้อคลุมยาวสีขาวของเขาสะอาดมาก ราวกับว่ามันถูกซื้อมาในวันนั้น  เสื้อคลุมของเขาเข้ากับผมสีขาวของเขาที่ยุ่งเหยิง แต่ก็ยังดูสมบูรณ์แบบและควรจะเป็นแบบนี้เท่านั้น

 

“ผลลัพธ์เป็นลบ ท่านนายพล เด็กชายคนนั้นยังไม่มีพลังใดๆ  และฉันเกรงว่าเราทั้งคู่จะรู้ว่าเขาไม่มีวันทำอย่างนั้นได้” หมอราวกล่าว

 

“เขาอายุได้ 10 ขวบแล้ว และคุณก็รู้ว่าไม่มีใครสามารถพัฒนาพลังได้ หลังจากที่พวกเขาอายุครบ 10 ขวบ”  เขากล่าวต่อ เขาหยุดชั่วครู่หนึ่ง เพื่อประกาศคำตัดสินขั้นสุดท้ายโดยกล่าวว่า “มันเป็นความล้มเหลวสินะ”

 

ด็อกเตอร์ราวเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ 3 คนที่เพิ่งทำการทดสอบกับเด็กชาย

 

*ถอนหายใจ*

 

เกิดความเงียบงุ่มง่ามขึ้นก่อนที่ด็อกเตอร์ราว จะได้ยินนายพลแม็กเวล อีกครั้ง

 

“เราขังเขาไว้ในโรงงานเป็นเวลา 5 ปีโดยหวังว่าเขาจะมีพลังเหมือนพ่อแม่ของเขา  แต่ฉันเดาว่ามันเป็นแค่ความพยายามที่ไร้ประโยชน์” นายพลแม็กเวลกล่าว ขณะที่เขามองลงไป

 

“คุณต้องการพาเด็กคนนั้นไปหรือไม่ เขาไร้ประโยชน์แล้ว” ดร.ราวถามนายพล

 

นายพลคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เปิดปากอีกครั้งเพื่อเสนอแนะ

 

“ถ้าคุณไม่รังเกียจ เราก็มีเรื่องอื่นอีกที่ต้องทำ” ดร.ราวพูดและรอคำตอบจากนายพล  เขาแทบรอไม่ไหวที่จะข้ามหัวข้อนี้ไปแล้ว

 

“มันคืออะไร?” แม่ทัพแม็กเวลถามกลับแทบจะในทันที

 

“เราสามารถทำให้เขาเป็นตัวทดสอบสำหรับการวิจัยของเราที่นี่ได้ นั่นหมายถึงว่าถ้าคุณไม่ต้องการเขาอีก” ดร.   ราวแนะนำขณะจิบกาแฟของเขา

 

“ใช่ ทำตามที่คุณต้องการเถอะ เด็กคนนั้นไม่มีประโยชน์สำหรับเราแล้วล่ะ” นายพลแม็กเวลกล่าวก่อนจะตัดสาย

 

ความเงียบเกิดขึ้นในห้อง ซึ่งพังทลายลงหลังจากไม่กี่นาทีโดยนายพลแม็กเวลเอง

 

“มาร์ค คุณไม่มีลูกใช่ไหม” เขาถามทหารที่ยืนอยู่ข้างหลังเขาขณะส่งโทรศัพท์คืน

 

“เปล่าครับ ผมยังไม่ได้แต่งงานเลย” มาร์คตอบ เขาค่อนข้างสับสนว่าทำไมเขาถึงถูกถามคำถามแบบนั้น

 

“ถ้าลูกคุณไร้ประโยชน์ คุณอยากมีลูกไหม” นายพลแม็กเวลถามในขณะที่มองตรงมาที่มาร์ค

 

“ผมไม่เข้าใจครับท่าน” มาร์คตอบ ยิ่งสับสนมากขึ้นไปอีก

 

“เซล แอซเรล แวเรียนท์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติและเป็น วอร์ล็อค (นักเวทย์)  ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” นายพลแม็กเวลให้ความเห็น

 

“เขาเป็นผู้ครอบครองพลังธาตุทั้งสายฟ้า มืด และพลังทางกายภาพของการเสริมความแข็งแกร่ง  พลังทั้งสองของเขามีระดับ S” เขากล่าวเพิ่มเติม ในขณะที่เขาอธิบายเพิ่มเติม

 

มาร์คพยายามทำความเข้าใจว่าทำไมนายพลแม็กเวลถึงพูดถึงเซล แอซเรล  แต่จำเป็นต้องพูดถึงเขาด้วยเหรอ? คงไม่มีใครในโลกนี้ที่ไม่รู้จักเซล แอซเรลหรอก

 

โดยไม่สนใจความสับสนบนใบหน้าของมาร์ค นายพลแม็กเวล กล่าวต่อ “แคลรีส ภรรยาของเขา  จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในสมัยของเธอ และผู้ครอบครองพลังธาตุคู่ พลังระดับ A แห่งการควบคุมลม  และพลังระดับ S ของ การเสื่อมสลาย คุณคงรู้จัก 2 คนนี้ใช่ไหม”

 

“ครับท่าน พวกเขาเป็นวีรบุรุษของมนุษยชาติ น่าเสียดายที่พวกเขาเสียชีวิต เมื่อ 5 ปีก่อน”  มาร์คตอบพร้อมพยักหน้า

 

“ใช่ พวกเขาเป็นคนพิเศษ ฉันคิดว่าลูกชายของพวกเขาอาจมีพรสวรรค์เช่นกัน  นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันทุ่มเทให้กับเขามาก แม้ว่าฉันคิดผิด ถ้าเขามีความสามารถแม้แต่เศษเสี้ยวของพ่อแม่ของเขา   เขาก็คงจะเป็นสินทรัพย์ที่ดี แต่เขาไร้ประโยชน์นี่สิ” นายพลแม็กเวลอธิบาย

 

“ลูกชายของพวกเขากลายเป็นขยะที่ไม่มีอำนาจ ฉันคิดว่าถ้า เซล และ แคลรีส ยังมีชีวิตอยู่   พวกเขาก็คงจะไม่ต้องการลูกชายแบบนั้นเหมือนกัน” นายพลแม็กเวลกล่าว ขณะที่มองออกไปนอกหน้าต่าง  “ฉันพูดถูกใช่ไหม”

 

“ครับท่าน”

 

แม้ว่ามาร์คจะไม่เห็นด้วยกับทั้งการตัดสินและการสันนิษฐานเหล่านั้น แต่เขาก็ยังพยักหน้ายืนยัน  เขาไม่มีตัวเลือกอื่นให้ทำอย่างอื่น เนื่องจากนายพลแม็กเวลเป็นหัวหน้าของเขา  และมันคงไม่ดีถ้าเขาทำให้เขาขุ่นเคือง

 

*****

 

เป็นเวลาตี 4 และดวงอาทิตย์เพิ่งเริ่มขึ้นในขอบฟ้าอันไกลโพ้น ฉายแสงสีทองเพื่อขจัดความมืด

 

สิ่งอำนวยความสะดวกมีอยู่กลางไม่มีที่ไหนเลย มันได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาโดยกองทัพของสาธารณรัฐเอลิเซียม

 

นักวิทยาศาสตร์ 3 คนกำลังเดินไปด้วยกันในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง วันนี้พวกเขาทั้ง 2 คนอารมณ์ค่อนข้างดี   ในขณะที่คนที่ 3 ดูเหมือนเขาอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

 

“หมอราว เราควรทำการทดลองกับลูซิเฟอร์จริง ๆ ไหม เขาอยู่กับเรามานานมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นเด็ก  ฉันไม่รู้สึกว่าเราควรทำเช่นนี้กับเขา” นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ซึ่งเดินตามหลังอีก 2 คนมาพูดกับนักวิทยาศาสตร์ที่เป็นผู้นำ

 

“หมอมิน คุณไม่ควรเอาความรู้สึกส่วนตัวของคุณไปยุ่งกับงาน และเด็กคนนั้นก็ไม่มีอำนาจอยู่ดี  คุณควรมีความสุขที่คิดว่าเขาไม่ได้ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง” ดร.ราวตอบ

 

หมอเรย์แมน ซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 ในทีมเห็นด้วยกับหมอราว

 

“เรากำลังทำสิ่งนี้เพื่อปรับปรุงมนุษยชาติ ดังนั้นเขาจึงมีประโยชน์ต่อมนุษยชาติ นอกจากนี้  จะใช้เวลามากเกินไปในการรับวิชาทดสอบอื่นที่นี่” เขากล่าวเสริม

 

“แน่นอน ทำไมเราควรชะลอการทดลองวิจัยของเรา ในเมื่อเราสามารถเริ่มการทดลองได้ทันที” หมอราวยืนยัน

 

“แต่นี่เป็นเพียงการทรมาน  การทดลองนี้เป็นเพียงวิธีการดูว่าร่างกายมนุษย์สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้มากแค่ไหน   มันสามารถฆ่าเขาได้ หากเราไม่ระวัง!” หมอมินเถียง

 

“หมอมิน จงจำไว้สิ่งหนึ่งเสมอ เมื่อเรารู้เพียงข้อจำกัดของร่างกายเท่านั้น  เราก็สามารถหาวิธีทำลายข้อจำกัดเหล่านั้นได้ในอนาคต   ใครที่จะทดสอบมันได้ดีกว่าลูกชายของวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษยชาติ และถ้าเขาตาย  อย่างน้อยก็เป็นการตายที่มีประโยชน์” ดร.ราวให้ความเห็น  “ไม่ต่างจากพ่อแม่ของเขาที่ตายไปอย่างไร้ประโยชน์”

 

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของหมอราว แต่ไม่มีใครเห็นมัน ในขณะที่เขาเป็นผู้นำ

 

“คุณทำเพราะคุณเกลียดรุ่นก่อนหน้านี้ที่ไม่ช่วยภรรยาของคุณในช่วงภัยพิบัติครั้งใหญ่ในปี 2028 ใช่ไหม”  หมอมินถาม เมื่อน้ำเสียงของเขาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หมัดของเขาที่กำอยู่แน่นนั้นแน่นมากขึ้นเพื่อควบคุมความโกรธของเขา

 

ด็อกเตอร์ราวอดไม่ได้ที่จะกำหมัดของเขาทันที เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น ใบหน้าของเขากระตุกอย่างควบคุมไม่ได้

 

“หมอมิน! ฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณไม่ไปข่มเหงชีวิตส่วนตัวของฉัน  ฉันไม่ปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัวของฉันไปกระตุ้นการกระทำของฉันเหมือนคุณ  สิ่งที่ฉันทำอยู่เพื่ออนาคตของมนุษยชาติที่ดีขึ้นเท่านั้นและ ไม่มีอะไรอีกแล้ว!” หมอราวยืนยัน

 

หมอมินไม่ตอบเพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะไม่ผ่านไปยังชายคนนั้น

 

ดร.ราวเป็นผู้อาวุโสและรับผิดชอบที่นี่ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากสาปแช่งและสวดอ้อนวอนให้ลูซิเฟอร์ตัวน้อยตาย

 

หมอมินตามเขามาสักพัก ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นหมอราวหยุดอยู่หน้าประตูโลหะ

 

หมอราวเปิดประตูและเข้าไปข้างในพร้อมกับนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ

 

พวกเขาเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆ  เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองแม้จะรู้สึกถึงการมีอยู่ของพวกเขา ในห้องนี้ไม่มีอะไรให้เขาทำอีกแล้ว

 

“ลูซิเฟอร์ แอซเรล มากับพวกเรา” ดร.ราวกล่าว

 

“ผมจะถูกทดสอบอีกไหม? ผมสามารถพัฒนาพลังเหมือนพ่อของผมได้ใช่ไหม  ผมอยากจะเป็นเหมือนพ่อแม่และช่วยเหลือทุกคน” เด็กชายคนนั้นถ่มคำพูดออกมาอย่างพรั่งพรู  ทำเอานักวิทยาศาสตร์ทุกคนประหลาดใจ

 

เขาเหลือบมองนักวิทยาศาสตร์ด้วยรอยยิ้มที่ฉาบบนริมฝีปากและดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง

 

รอยยิ้มแทงทะลุหัวใจของหมอมินและทำให้เขาตั้งคำถามกับงานของเขา  แต่เขาก็แค่หลับตาลงและหายใจเข้าอย่างหนัก

 

“ไม่ แกจะไม่มีวันมีอำนาจ จะดีกว่าถ้าแกไม่พูดกับใครเลยว่าแกเป็นลูกชายของ เซล แอซเรล  และ แคลรีส” หมอราว กล่าว

 

เขาไม่รู้สึกเขินอายแม้แต่น้อยที่คุยกับเด็กแบบนั้น “ไม่อย่างนั้น คนที่ได้ยินแบบนั้นจะพากันหัวเราะเยาะให้กับฮีโร่ที่มีลูกชายที่ไร้ค่าเช่นนี้”

 

คำพูดของเขาค่อนข้างรุนแรงสำหรับคนตัวเล็กที่คำพูดเหล่านั้นดูเหมือนแหลมคม

 

ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตของเด็กชายจะเป็นอย่างไร  และการกระทำของพวกเขาจะสร้างฝันร้ายให้กับเขาได้อย่างไร

 

…..ยังมีต่อ

 

Inhuman Warlock จอมเวทย์ไร้มนุษยธรรม

Inhuman Warlock จอมเวทย์ไร้มนุษยธรรม

Score 10
Status: Completed

บทนำ

“เด็กชายที่ไร้ประโยชน์” พวกเขาอ้างว่าแบบนั้น ดังนั้นบุตรแห่งนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด จึงถูกประกาศว่าไร้ประโยชน์และถูกส่งตัวให้ไปตาย แต่เป็นไปได้จริงหรือที่ลูกชายของวีรบุรุษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์จะไร้ประโยชน์? หรือมันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ทำขึ้น ซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียทุกอย่างและขับไล่วอร์ล็อกผู้นี้ที่มีศักยภาพไปสู่ด้านมืด?

Options

not work with dark mode
Reset