บทที่ 319 – ฉันจะเป็นคนปิดม่านครั้งนี้เอง (3)
ยูอิลฮานรู้สึกอึดอัดใจเล็กๆเพราะทุกๆเรื่องเป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้ นี่มันไม่ถูกต้องมาเกินไปหรอกหรอ?! นี่ก็นับเป็นพลังของการทำนายหรือยังไงกัน? – ระหว่างเขากำลังคิดเรื่องพวกนี้อยู่ ยูเรียลก็พูดขึ้นมา
[นายไม่มีอะไรต้องกลัวหรอกนะ กาเบรียลได้ทำนายไว้แล้วว่านายจะปลอดภัยไปจนท้ายที่สุด แต่แน่นอนว่าพลังในการทำนายของเขาไม่ได้ถูกต้องเสมอไป… แต่ว่าเราจะช่วยนายทำให้มันเป็นแบบนั้นเอง!]
“เธอได้ทำมันตลอดมาจนถึงตอนนี้…”
[ใช่แล้ว พวกเราได้ทำอะไรหลายอย่างเลยล่ะ ยังไงก็ตามยูอิลฮานนายคงไมได้คิดจะไปทุกๆโลกหรอกนะ?]
“อ่า ถูกแล้วล่ะ… มันไม่มีทางที่ฉันจะได้เห็นในทุกๆอย่างอยู่แล้ว ฉันไม่ใช่พระเจ้านี่นา”
[ขอบคุณนะที่… เริ่มเข้าใจกันบ้างแล้ว]
ถึงจะน่ารำคาญแต่ยูอิลฮานก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้เลย
ยังไงก็ตามยูเรียลยังพูดไม่จบ
[ยังไงก็ตามนายก็พูดถูก พวกเราเป็นฝ่ายที่ผิดเอง ฉันจะไม่ปฏิเสธมัน ฉันขอรับความผิดทั้งหมดเอง หากว่าชีวิตที่อ่อนแอของฉันสามารถจะทำอะไรตรงๆได้ ฉันก็คงจะทำมันไปแล้ว แต่ก็เพราะว่าทำไมนั้นไม่ได้ไงฉันถึงได้ดิ้นรนอยู่แบบนี้ และในตอนนี้ท้ายที่สุดแล้วฉันก็ได้มาเจอกับนายที่นี่]
“ก็แน่นอนสิ”
ถึงแม้ระหว่างฟังยูเรียลพูดออกมา ยูอิลฮานก็ยังคงไม่หยุดบ่น เป้าหมายสูงสุดในชีวิตของยูอิลฮานก็คือการกวนบาทาทุกๆคนที่เขาไม่ชอบ
“ฉันรู้สึกยินดีสุดๆเลย สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนกำลังต่อสู้อยู่เพื่อสิทธิประโยชน์ของฉันงั้นสินะ? นี่มันฟังดูโหดร้ายจังเลยนะ”
[เฮ้ พ่อก็บอกไปแล้วนี้พลังในการทำลายมันไม่ได้ทรงพลังขนาดนั้น ยูเรียลเธอลำบากเอามากๆเลยนะ]
[กาเบรียล… ฉันไม่ได้ลำบากเลยแม้แต่นิด คนที่ลำบากที่สุดมันนายต่างหาก]
ยูเรียลได้อาจนิดๆจากคำพูดของยูยงฮาน ไม่สิจากคำพูดของกาเบรียลต่างหาก ยูอิลฮานที่เคยมองว่ายูเรียลแต่ต่างไปจากสี่ยอดเทวทูตและคิดว่าเธอเป็นพวกพิเศษในหมู่ทั้งสี่คน ในตอนนี้เขารู้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่แบบนั้น…
“นอกใจสินะ? ระหว่างลูกชายกำลังมีปัญหาอยู่ พ่อก็ทิ้งแม่แล้วก็ไปเที่ยวกับสาวาวยสินะ?”
[พ่อไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลยนะ ไม่มีเลย]
ยูอิลฮานอยากจะพูดอะไรอีก แต่แล้วใบหน้าของผู้หญิงหลายๆคนก็ปรากฏขึ้นมาในใจของเขาทำให้เขาได้แต่เงียบเอาไว้ กาเบรียลได้พูดขึ้นมาราวกับลูกชายเขาเป็นที่นิยมมาก
[ยอมแพ้แล้วก็ยอมรับพวกเธอทุกๆคนเถอะนะ พ่อคิดว่าความรักระหว่างกันน่ะคือสิ่งที่งดงาม โดยเฉพาะคนที่สว่างสดใสเหมือนอย่างลูก เด็กสาวที่ได้รับพรจากเทพแห่งความรักก็น่าจะรู้แล้วก็เข้าใจเหมือนกันนะ]
“…หากพ่อบอกวาพ่อเห็นคืนแรกของผมกับเลียร่า ต่อให้เป็นพ่อ ผมก็จะคว่ำให้ดู”
[น่าเสียดายนะ พ่อไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรพวกนั้นเลย]
ยูอิลฮานได้เพิ่มความเป็นศัตรูกับพ่อเขาขึ้นมาหลายส่วนในทันที เมื่อได้เห็นพ่อกับลูกกำลังคุยเรื่องน่าอายกันอยู่ ยูเรียลได้เข้ามาแทกทั้งๆที่แก้มแดงอยู่
[เอาล่ะ! ก่อนจะถึงศึกสุดท้ายมันเหลือเวลาไม่มากแล้วนะ ถ้าเราคุยกันชัดแล้ว ถ้างั้นก็ได้เวลาลงมือทำแล้วนะ!]
“อย่างแรกเลยเธอต้องอยู่ในห่างจากพ่อฉัน 100 เมตร ทุกๆครั้งที่เธอยิ้มให้พ่อ ฉันจะสกัดเลือดมาจากเธอหนึ่งหยด”
[อ๊าา]
ถึงยูอิลฮานจะตั้งท่าระวังยูเรียล แต่เขาก็หยิบเอากับดักแห่งการฟื้นคืนกลับมาจากพ่อของเขาและส่งต่อให้มิสทิค มิสทิคได้รับมาอย่างไม่เต็มใจและหรี่ตามอง
“เอ๋ นี่มันนายท่านทั้งยิ่งใหญ่ สูงส่งมาตั้งแต่เกิดเลยนี่? ฉันไม่เคยคิดเลยนะว่านายท่านจะเป็นนายน้อยของหนึ่งในสี่ยอดเทวทูต!”
“แต่ว่านั่นมันก็ต่างจากคนที่เกิดขึ้นมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงอยู่ดี ฉันเกิดขึ้นมาเป็นเพียงมนุษย์เลเวลหนึ่งที่ใช้มานายังไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป”
“เลิกพูดเรื่องชาติกำเนิดแล้วเปิดใช้งานกับดักได้แล้ว”
ยูอิลฮานได้เปิดใช้งานความสามารถในการสร้างของเขาเพื่อเพิ่มบางสิ่งลงไปในกับดักแห่งการฟื้นคืน มิสทิคที่รับมารูสึกได้ถึงการเปลื่ยนแปลงและเบิกตากว้างขึ้นมา
“เอาจริงหรอ?”
“ก็จริงสิ”
“หากมีการสูญเสียโดยไม่จำเป็น ฉันจะบ่นนายท่านให้ตายเลย”
“ทำไปเถอะน่า”
มิสทิคได้โยนกับดักแห่งการฟื้นฟูออกไปใช้งานมัน ในตอนนี้เองได้มีคลื่นแปลกๆถูปล่อยออกมาและกลืนกินกับดักแห่งการทำลายทั้งหมดในโลกนี้
จากนั้นเองัมนก็ได้ปล่อยมอนสเตอร์ภายในทั้งหมดออกมา
[ยูอิลฮาน!?]
“นายท่าน นี่มัน!”
[ลูกพ่อ!?]
ไม่ใช่แค่ยูเรียลกับโอโรจิเท่านั้น แม้กระทั่งกาเบรียลที่มีพลังในการทำนายก็ยังตกตะลึง ยังไงก็ตามยูอิลฮานส่งแค่เสียงหึออกมาและก้าวออกไปข้างหน้าก่อนจะเปิดใช้งานสกิลประกาศิตกับประจักษ์แจ้งออกมาพร้อมๆกัน แน่นอนว่าเขายังได้ยกเลิกการซ่อนตัวไปแล้วด้วย
[มองมาที่ฉัน]
ด้วยสกิลประจักษ์ได้ทำให้ระยะของสกิลประกาศิตครอบคลุมทั่วทั้งไฮเชีย น้ำเสียงของเขาได้ดังกังวาลไปทั่วทั้งโลกใบนี้ และมอนสเตอร์ที่ออกมาจากดันเจี้ยน มนุษย์ที่มองมาอย่างตกตะลึง รวมไปถึงเหล่าคนที่ใช้ชีวิตของตัวเองในพื้นที่สุขสงยต่างก็ถูกยูอิลฮานค้นพบ
[เหล่าผู้ที่มีความอาฆาตพยาบาตของมนุษยชาติ เหล่าผู้ที่เกลียดชังมนุษยชาติ เหล่าผู้ที่ปรารถนาในเลือดเนื้อของคนที่ฉันอยากจะปกป้อง]
ประกาศิตของเขายังคงดำเนินต่อไป มานาขนาดมหาศาลที่เขามีอยู่ได้แทบจะหมดลงไปในทันที แต่ว่าด้วยเครื่องดื่มลมหายใจที่สร้างขึ้นจากเลือดของอิชจาร์ได้ทำให้เขามีมานาพอที่จะจัดการจนจบลงได้
[พวกนายทุกคนจะต้องตาย]
แค่นี้ก็พอแล้ว มอนสเตอร์ทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ทั้งในภูเขา หุบเขา น่านฟ้า น่านน้ำ ภูเขาไฟ ถ้ำ หรือที่ไหนก็ตามในโลกใบนี้ พวกมันทั้งหมดต่างก็ทรุดตัวลงกับพื้นและ… ตายลงไปทั้งอย่างนี้
[สกิลประจักษ์แจ้งได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 32]
[สกิลประกาศิตได้เพิ่มเลเวลขึ้นเป็น 57]
[…]
[…]
“…”
“…”
ทุกๆคนที่มองดูอยู่ต่างก็พูดไม่ออกกันแล้ว ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด การฆ่ามอนสเตอร์ทั้งหมดของเขาได้ทำให้มานาเกิดขึ้นมาเต็มทั่วทั้งโลกในทันทีและกับดักแห่งการฟื้นคืนก็ได้ดูดมานาทั้งหมดไปกระจายให้กับกับดักแห่งการทำลายอื่นๆในเวลาอันสั้น
กับดักแห่งการทำลายทั้งหมดได้เปลื่ยนกลายมาเป็นกับดักแห่งการฟื้นคืนทั้งหมดในทันที ไม่มีทั้งการพังของดันเจี้ยนหรือการล้นของมานาเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่ ยังไม่หมดแค่นี้
[ฉันคือเทพที่พวกนายทุกคนกำลังรอคอยกันอยู่]
เสียงที่หน้าไม่อายของยูอิลฮานได้ดังออกมา
[จงเชื่อฟังฉัน]
มานาของเขาใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่ว่าก็ยังคงมีมานาสำรองที่ไม่สิ้นสุดเขามาเติมเต็มมานาที่ประกาศิตใช้ไป ในมุมมองของคนอื่นยูอิลฮานดูเหมือนจะมีแหล่งมานาที่ไม่จำกัด
แต่ยังไงก็ตามจริงๆแล้วยูอิลฮานได้เฝ้ามองมานาที่ใช้ไปจากสกิลทั้งสองอย่างอย่างเป็นกังวล แต่ไม่ว่าจะยังไงนี่ก็คือหลักฐานของการเป็นหัวหน้ากองกำลังของเขา
[ลูกนี่จริงๆเลย…]
“ทำไมพ่อถึงต้องตกใจด้วยล่ะ? พ่อก็ทำได้เหมือนกันนี่”
กาเบรียลคือหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงรวมไปถึงเป็นหนึ่งในสี่ยอดเทวทูตด้วยเช่นัน ยูอิลฮานได้คาดเดาเอาไว้ว่าการซ่อนตัวของพ่อเขาสามารถหลอกลวงได้ทุกๆอย่างและบุกเบิกไปสู่เส้นทางใหม่ถึงทำให้พ่อของเขาได้กลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูง และนี่ก็คือเรื่องจริง แต่ว่ามีอยู่เรื่องหนึ่งที่เขาคิดผิดนั่นก็คือขีดจำกัดความสามารถของกาเบรียล
[ถ้าเป็นสำหรับโลกภายใต้การปกครองของสวนอาทิตย์อัสดงพ่อก็ยังไม่แน่ใจ แต่ว่าหากเป็นในโลกระดับต่ำอื่นๆพ่อทำแบบนี้ไม่ได้แน่ นอกไปจากนี้การจะเปลื่ยนจากกาเบรียลไปเป็นหัวหน้าสวนอาทิตย์อัสดงมันยังใช้เวลานานอีกด้วย…]
“อย่าพูดเหมือนพ่อเป็นหุ่นยนต์แปลงร่างสิ”
ตอนนี้ทุกสายตาต่างก็จ้องมาที่ยูอิลฮาน เหล่าคนที่จ้องมาที่เขาต่างก็มีสายตาที่ดูจะเต็มไปด้วยความสับสน แต่ในท้ายที่สุดคนที่เคยเจอกับปาฏิหาริย์นี้มาก่อนต่างก็มีปฏิกิริยาขึ้นมา
“เขามาแล้ว”
“เขา? นี่เขามาหาเราจริงๆ!”
“เขาได้มาแล้ว! มาในที่ที่ทูตสวรรค์ได้ทิ้งเราไป! “
“ไม่สิ คนที่กำลังมองลงมาที่เราจากด้านบนคือพระเจ้า! เขามารับเราทุกๆแล้ว!”
แน่นอนว่าก็มีบางคนที่รู้สึกเป็นศัตรูเช่นกัน แต่ยังไงก็ตามคนส่วนใหญ่ก็ต่างมองยูอิลฮานตาเป็นประกาย ต่อให้เป็นคนที่ยังมีความไม่พอใจก็ยังไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าที่มอนสเตอร์ถูกกำจัดออกไปเพราะยูอิลฮาน
เพราะยูอิลฮานได้แสดงพลังที่มหาศาลและใช้คำพูดที่ชักจูงใจนี่เอง
[ฉันจะพาพวกนายไปสู่สถานที่ที่มีความหวังใหม่]
อารยธรรมอาจจะล่มสลายได้ทุกเมื่อ ทุกๆคนต่างก็ต้องเจอกับสงคราม พวกเขาต่างก็ได้เจอกับภัยใหญ่ที่กำลังคุกคามชีวิตอยู่
บางทีพวกเขาอาจจะได้เจอกับสภาพแวดล้อมที่น่าสะพรึงกลัวและน่าขกลุกยิ่งกว่าที่แห่งนี้ บางทีอาจจะเสียใจกับตัวเลือกที่เลือกในวันนี้และอยากจะกลับมา แต่ไม่ว่ายังไงยูอิลฮานก็ได้ให้โอกาสพวกเขาได้เลือก
ถึงยูอิลฮานจะอยู่ที่นี่ปกป้องทุกๆคนไม่ได้ แต่เขาสามารถจะพาคนพวกนี้ไปที่ดาเรย์ได้
[จะตามฉันมาไหม? เมื่อไหร่ที่จิตใจพวกนายเป็นหนึ่งเดียวกันฉันจะพาพวกนายทุกๆคนไป]
เขาได้พูดคำพูดที่แสนจะเย็นชาที่เหมือนกับออกมาจากหนังสือเล่มไหนซักเล่ม มิสทิคกระทั่งคิดว่าเขาดูเหมือนกับพ่อค้ายา ส่วนโอโรจิคิดต่างออกไป เขาคิดว่ายูอิลฮานคือนักต้มตุ๋น
ในขณะเดียวกันยูเรียลได้ถอยออกมาเล็กน้อยจากการแสดงสกิลประกาศิตที่ยิ่งใหญ่ของยูอิลฮาน กาเบรีบลรู้สึกหดหู่เล็กน้อยที่ลูกชายได้ก้าวข้ามตัวเขาไปแล้ว
“เราจะตามท่าน”
ได้มีใครบางคนได้พูดออกมา เขาคือหนึ่งในนายพลที่ต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่แนวหน้าของมนุษยชาติ
“ฉันจะตามท่านไป”
ได้มีใครอีกคนหนึ่งพูดขึ้นมา เขาคือคนที่ยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวบนจุดสูงสุดของมนุษยชาติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด และเขาไม่อาจจะถูกเรียกว่าจักรพรรดิได้อีกต่อไปแล้ว
“ได้โปรดพาเราไป”
ได้มีอีกคนหนึ่งพูดขึ้นมา เธอเป็นหญิงชราที่ใช้ชีวิตเป็นทหารรับจ้างต่อสู้กับมอนสเตอร์มาทั้งชีวิตก่อนที่จะเกษียณออกมาเพราะเสียขาไปพร้อมกับคนสำคัญของเธอ
“ฉันเกลียดคนที่ยืนเหนือเรา… ให้ตายสิ แต่จะทำไงไดล่ะ”
และมีใครบางคนสิ้นหวัง เขาคือหัวหน้าอัศวินของประเทศที่ล่มสลายทำให้เขารู้สึกเกลียดชังในสิ่งมีชีวิตชั้นสูง แต่ว่าที่เขาทำได้ในนาทีนี้ก็คือคว้าความหวังที่ถูกมอบมาเอาไว้
[ได้สิ]
ยูอิลฮานได้หยักหน้าออกมาด้วยรอยยิ้ม ภายในดวงตาของมนุษยชาติในโลกใบนี้ต่างก็มีแต่รูปร่างของเขา
[ฉันจะพาพวกนายไปโลกของฉันเอง]
[คุณได้รับความเชื่อฟังจากมนุษยชาติที่เหลือรอดทั้งหมดของโลกระดับต่ำไฮเชีย โลกไฮเชียได้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของคุณ]
[โลกไฮเชียได้ผสานเข้ากับดาเรย์]
“เอาล่ะ ก่อนอื่นก็กลับดาเรย์กันเถอะ”
ยูอิลฮานได้มองกลับไปที่คนอื่นๆพร้อมกับโลกไฮเชียที่บิดเบี้ยว
“พ่อ เตรียมคำแก้ตัวกับแม่เอาไว้เลยนะ”
[อ๊าา… นี่มันดีแล้วสินะที่ฉันได้ทำให้เธอให้กำเนิดอิลฮานมาน่ะ? ฉันคิดไว้แล้วว่าการมีลูกสาวมันดีกว่าลูกชายแน่ๆ!]
[กาเบรียลสู้ๆนะ]
กำลังใจจากยูเรียลไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม้แต่นิด ระหว่างกาเบรียลถอนหายใจออกมา ในท้ายที่สุดแล้วการหลอมรวมของมิติก็ได้เกิดขึ้นมา
นี่ก็ยังเป็น ‘ระยะแรก’ ที่ยูอิลฮานเล็งเอาไว้ในการกระจายกับดักแห่งการฟื้นคืน ในเวลาเดียวกันนี้ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่คลายข้อสงสัยของเขาออกปด้วย แถมยังเป็นการรวมกลุ่มของสิ่งมีชีวิตชั้นสูงชั้นนำอีกด้วย