นิยาย กําเนิดดาบปีศาจ กําเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 51 – พ่ายแพ้
กําเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 51 – พ่ายแพ้
เออร์วินลุกจากพื้น เนื้อหนังของเขาดูซีดเซียวละมีหยดเลือดไหลออกมาจากปากเล็กน้อย การโจมตีเมื่อครู่ทําให้เขาเกิดการบาดเจ็บขึ้นภายในร่างกาย
เควินไม่รอช้าขณะพุ่งตรงเข้าใส่ยังจุดที่เขายืนอยู่ทันทีแต่ครั้งนี้ความเร็วของเขาต่ําลงกว่าครั้งก่อนชัดเจนว่าเคล็ดวิชาของเขาทําให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลงแต่ได้ความแข็งแกร่งและการป้องกันที่มากขึ้นแทน
เออร์วินหลบการโจมตีที่ตรงเข้ามาและเหวี่ยงแส้ในมือฟาดตอบอย่างไม่ลดละ แส้ฟาดลงบนผิวหนังของเควินหลายต่อหลายครั้งทิ้งรอยลึกและรอยแตกเอาไว้
ดูเหมือนเควินจะไม่ได้สนใจเลยและไล่ตามจอมเวทย์ที่เอาแต่ถอยห่างต่อ
กลยุทธิ์ของเออร์วินดูจะได้ผลเนื่องจากรอยแตกค่อยๆสะสมบนร่างกายของเควินมากขึ้นเรื่อยๆแต่จากนั้นเควินก็ขว้างก้อนของเขาใส่จอมเวทย์ ค้อนหนักลอยตรงเข้ามาด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อและเกือบจะโดนเออร์วินเนื่องจากเขายังคงหลบได้จนวินาทีสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้อนร่วงแตะพื้นก็เกิดแรงสั่นสะเทือนทําให้เออร์วินเสียการทรงตัวเขาจึงต้องหยุดการหลบหนี
เควินใช้โอกาสนี้เข้าถึงตัวเออร์วินและปล่อยการโจมตีอันหนักหน่วงใส่แต่แส้ของจอมเวทย์กลับเปลี่ยนเป็นโล่เพื่อป้องกันการโจมตีไว้ได้
เออร์วินกระเด็นออกไปไกลเนื่องจากแรงกระแทกครั้งนี้เขาใช้เวลาในการลุกขึ้นยืนนานขึ้นอาการบาดเจ็บภายในระลอกสองทําให้ทั่วทั้งร่างกายของเขาอ่อนล้าเต็มที่เมื่อเขาลุกขึ้นยืนได้ก็เห็นร่างยักษ์ของเควินตรงหน้ายกมือข้างหนึ่งขึ้นมาพร้อมโจมตี
“เจ้าแพ้แล้วเออร์วิน”
กําปั้นของเขากําลังจะโจมตีจอมเวทย์แต่แล้วจู่ๆก็มีสายฟ้าฟาดเข้าที่กึ่งกลางหน้าอกของเควินทําให้เขาลอยกระเด็นออกไปและเมื่อร่วงสู่พื้น ร่างกายของเขาก็กลับมาสู่รูปร่างปกติเคล็ดวิชาของเขาหมดเวลาแล้ว!
เกิดรอยไหม้สีดําบนผิวหนังที่ถูกย่างสดมีควันลอยออกมาก่อให้เกิดบาดแผลฉกรรจ์บนหน้าอกของเขาเควินไอและพยายามลุกขึ้นยืนแต่ดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะไม่เหลือเกี่ยวแรงอยู่เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเขายกแขนขึ้นมาและมันก็ร่วงไปบนพื้นอีกครั้ง
เออร์วินรู้สึกผ่อนคลายและนั่งลง จากนั้นก็มองไปข้างหลังและตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
“เพราะความชักช้าของเจ้า! เกือบทําให้ข้าแย่ไปแล้วไหมล่ะ!”
ชายร่างสูงในชุดผ้าคลุมสีเขียวปรากฏตัวขึ้นมาจากหลุมบนเทือกเขา ผิวหนังของเขาซีดเซียวและมีเม็ดเหงื่อเย็นๆไหลลงมาจากหน้าผากแต่รอยยิ้มของเขานั้นบ่งบอกถึงความสุขกว่าสิ่งอื่นใด
“ข้าขออภัยนายท่านเออร์วิน ท่านก็รู้ว่าข้าต้องใช้เวลานานกว่าจะร่ายเวทมนตร์สําเร็จ”
ชายร่างสูงเดินเข้ามาใกล้เออร์วินและยื่นขวดที่บรรจุน้ําสีขาวให้เขา เออร์วินรับไว้และกระดกของเหลวลงคอทันทีจากแก้มซีดๆ ของเขาเริ่มกลับมามีสีสันมากขึ้น
“ชิ ตระกูลให้ความสําคัญกับเจ้ามากขนาดนี้ก็เพราะเจตคติของเจ้าเป็นธาตุสายฟ้า ช่างน่าสงสารที่พวกเขาให้มอบให้เจ้าได้เพียงแค่คาถาที่ร่ายช้าเช่นนี้”
เออร์วินส่ายหน้าแต่ความสนใจของเขาเบนไปหาเควินที่ดินรนจะลุกขึ้น
“จูเลี่ยน อย่าไปรบกวนเจ้านั่น เคล็ดวิชาที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ทําให้เขาหมดแรงเพราะฉะนั้นตอนนี้หมอนั่นก็ไม่เป็นภัยอีกต่อไปแล้ว” เขาหลับตาลงครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง“อาการเจ็บของข้าสาหัสนัก ข้าช่วยในการต่อสู้ครั้งนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ส่วนที่เหลือของภารกิจขายกให้เป็นหน้าที่เจ้าแล้วกันนะ”
จูเลี่ยนโค้งคํานับและหลับตาเพื่อตั้งสมาธิ
ขณะเดียวกันนั้นที่ขบวน กลุ่มของผู้ฝึกตนกําลังก่อความวุ่นวายกับแนวป้องกันของกลุ่มผู้คุ้มกันขบวน
โนอาห์กําลังเคลื่อนที่ไปมาระหว่างข้างบนรถม้าและต่อสู้กับศัตรูที่อยู่ข้างล่างขณะพยายามประคองการต่อสู้ให้ดีที่สุดแต่ผลลัพธ์ที่เกิดกลับไม่ใช่สิ่งที่น่าพอใจ
ทหารเริ่มระวังตัวเมื่อเห็นเขาฆ่าเพื่อนร่วมรบไปหนึ่งคนและเลือกที่จะชะลอการรุกเพื่อจํากัดความสูญเสียกําลังพลพวกเขามีจํานวนผู้ฝึกตนที่มากกว่า ฉะนั้นการต่อสู้ที่กินเวลานานจะทําให้พวกเขายิ่งได้เปรียบมากขึ้น
โนอาห์ไม่สามารถหาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะได้เลย
จากนั้นเควินก็แปลงร่างและสู้กับจอมเวทย์น้ําที่ช่วยเสริมสร้างขวัญกําลังใจให้แก่ทหารของเขาให้ต่อสู้ด้วยอย่างดุเดือดมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม อารมณ์ของโนอาห์เริ่มมืดมนขึ้นเรื่อยๆ เราอาจชนะการต่อสู้ครั้งนี้แต่จะไปไม่ถึงคฤหาสน์ ถ้าคนเหล่านี้อกองกําลังที่พวกเขาสามารถส่งมาทําได้ภารกิจได้ แล้วจะมีอีกเท่าไหร่ล่ะที่พวกเขาจะส่งเพื่อปกป้องคลังสมบัติ?” เขาเข้าใจว่าพวกเขาอาจประเมินความแข็งแกร่งของ โทเบียสลานเซย์ผิดพลาดไปอย่างไม่น่าให้อภัย
“ประมาทเกินไป ฉันไม่ควรรับภารกิจนี้แต่แรกพลังของฉันที่มีก็พอๆ กับผู้ฝึกตนเหล่านี้แถมยังถูกใช้ไม่ต่างอะไรกับเบี้ยตัวหนึ่งอีก! ตอนนี้ฉันได้แต่ติดแหง็กอยู่ที่นี่โดยหวังว่าเควินจะชนะการต่อสู้แล้วกลับมาช่วยเรา”
ความหงุดหงิดเล็กน้อยก่อตัวขึ้นในจิตใจของโนอาห์เนื่องจากสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ตอนนี้และอดไม่ได้ที่จะตําหนิความไร้ ประโยชน์ของตัวเองไม่มีทางให้หันหลังกลับ”
จากตําแหน่งของเขาบนหลังคารถม้า โนอาห์ฟันคลื่นลมไปยังทิศทางของศัตรู คลื่นลมสิบสี่คลื่นถูกปล่อยไปยังทิศทางผู้ฝึกตนทีละราย ผู้ฝึกตนถูกบีบบังคับให้ป้องกันหรือไม่ก็หลบการโมตีและสูญเสียสมาธิให้กับศัตรูที่อยู่รอบๆพวกเขา
ทหารบางคนของเควินคว้าข้อได้เปรียบของสถานการณ์นี้จนทําให้ผู้ฝึกตนเกิดบาดเจ็บและทําให้พวกเขาถอยร่นออกไป บ้างก็เอาชนะคนของเควินได้และพรวดพราดตรงมายังรถม้าของเบซิล
โนอาห์กระโดดลงมาจากรถม้าและฟันดาบปะทะดาบของชายที่ตรงเข้ามา เกิดเสียงโลหะกระทบกันมากกว่าสิบครั้งในการต่อสู้ที่โนอาห์และทหารคนดังกล่าวต่างไม่มีใครยอมใครเลย
จุดฝังเข็มของโนอาห์เติมเต็ม “ลมหายใจ” ในร่างกายจนเต็มอีกครั้งด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติเนื่องจากหน้าผาทวิลโบเรียนั้นมีความเข้มข้นของ “ลมหายใจ” ในปริมาณที่สูงมากดังนั้นเขาจึงต่อสู้อย่างเต็มกําลังได้ต่อเนื่องกว่าการแสดงพลังครั้งก่อน
นักดาบและเด็กผู้ชายต่อสู้กันทําให้เกิดเสียงโลหะกระทบกันกึกก้องไปทั่วสนามรบ จากนั้นก็มีเสียงดังสนั่นมาจากท้องฟ้าและสายฟ้าสายหนึ่งก็พุ่งลงมายังรถม้าที่เบซิลซ่อนตัวอยู่ ความรุนแรงของสายฟ้าทําให้รถม้าแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆคลื่นกระแทกที่แผ่กระจายอิทธิพลเป็นวงกว้างจากบริเวณทําลายล้างของคาถานั้นส่งผลให้ทุกอย่างบริเวณรอบจุดศูนย์กลางกระเด็นออกไปไกล
โนอาห์อยู่ใกล้รถม้าคันนั้นมากส่งผลให้เขาถูกแรงกระแทกจนลอยกระเด็นออกไปผ่านทางเดินที่เดินทางขึ้นมาและร่วงหล่นลงสู่หน้าผา โนอาห์ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรตัวเองได้แม้แต่น้อย สัมผัสได้เพียงแค่ความสิ้นหวังที่แผ่ออกจากก้นบึงของจิตใจ