เลขากลีบฉ่ำ 11

ตอนที่ 11

ไม่ว่าจะพยายามลืมยังไง แต่ความรู้สึกยามถูกท่อนเอ็นของราฟาเอลทิ่มแทงก็ยังคงไม่ยอมหายไปไหน หล่อนเจ็บปวดในครั้งแรกที่เขาชำแรกเข้ามา แต่หลังจากนั้น… หลังจากที่เขาวกกลับไปดูดเลียหัวนมคู่แฝด และสอดนิ้วไปสะกิดเม็ดสวาทของหล่อนหนักๆ ความเสียวที่ต้านทานไม่ไหวก็บังเกิดขึ้น และก็เป็นหล่อนเองที่ร่อนขึ้นหา จนเขาเสียบแทงเข้ามาจนมิดด้าม

“บ้า บ้า บ้า… อย่าคิดสิ พราว…”

หล่อนสะบัดหน้าไปมาจนแว่นแทบหลุดออกจากใบหน้า ขณะก้าวออกจากลิฟต์เมื่อประตูเปิด

พราวฟ้าสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ เพื่อควบคุมความคิดน่าอับอาย จากนั้นก็เดินไปหยุดที่หน้าห้องทำงานเป้าหมายทันที

ป้ายบอกชื่อและตำแหน่งถูกจัดทำขึ้นมาใหม่ แต่หญิงสาวไม่ทันได้สังเกต มือเล็กยกขึ้นเคาะบานประตูไม้สองครั้ง

“ขออนุญาตค่ะ”

“เข้ามา”

หล่อนชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเสียงที่ได้ยินคุ้นหูแปลกๆ แต่ก็ไม่คิดจะใส่ใจ มือเล็กกุมลูกบิดประตู ก่อนจะดันให้มันเปิดกว้าง พร้อมกับก้าวเข้าไป

“ปิดประตูด้วย”

เสียงทรงอำนาจคุ้นหูจากผู้ชายที่นั่งหันหลังให้กับหล่อนอยู่ดังขึ้นอีก

“ค่ะ”

พราวฟ้ารีบหันไปดึงประตูปิดตามคำสั่ง ก่อนจะเดินมาหยุดที่ตรงหน้าโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ และมองน้องชายของคริสเตียโน

ทำไมถึงรู้สึกคุ้นตานักนะ?

คำถามนี้เกิดขึ้นในใจ และก็ยังไม่ทันจะได้เล็ดลอดออกจากปาก เขาคนนั้นก็หมุนตัวกลับมาเผชิญหน้า และแน่นอนว่าหล่อนช็อกค้างจนทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นพรมเลยทีเดียว

“สวัสดี… พราวฟ้า”

“คุณ…?!”

รอยยิ้มแบบนี้ สายตาแบบนี้ และหน้าตาหล่อจัดแบบนี้ จะเป็นใครไปได้ล่ะ นอกจาก…

“ราฟาเอล…”

หล่อนครางชื่อของเขาออกมาอีก แต่มันแผ่วเบาราวกับเสียงของลมหายใจ

“ขอบคุณครับที่ยังจำผมได้”

หล่อนจะไปลืมเขาได้ยังไงล่ะ ในเมื่อลีลาสวาทของเขาดุดัน และน่าหลงใหลแบบนั้น

บ้าจริง… ทำไมในหัวของหล่อนตอนนี้ ถึงมีแต่เรื่องใต้สะดือนะ

“คุ… คุณ… มาได้ยังไงคะ”

น้ำเสียงของหล่อนตะกุกตะกักจนน่าสงสาร ในขณะที่พยายามยันกายลุกขึ้นยืน แต่แข้งขาสั่นเหลือเกิน ทำให้ต้องคว้าขอบเก้าอี้ตรงหน้าเอาไว้เพื่อพยุงตัว

“แล้วทำไมผมถึงจะมาไม่ได้ล่ะ”

“ก็… ที่นี่ห้องทำงานของน้องชายบอสฉันนะคะ”

“แล้วคุณคิดว่าผมเป็นใครล่ะ”

เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ ใช้สองแขนล่ำๆ ที่เมื่อคืนใช้ขยำเต้านมและบั้นท้าย รวมถึงโหนกอูมของหล่อนกับโต๊ะ และโน้มหน้าเข้ามาหาหล่อน ดวงตาของเขาแพรวพราวและเจ้าเล่ห์

หัวใจของหล่อนสั่นระริก จังหวะการเต้นก็โครมครามจนแทบจะกระดอนทะลุอกออกมา

นี่หัวใจของหล่อนมันเต้นแรงกว่าตอนเจอหน้าคริสเตียโนเมื่อก่อนนี้เสียอีก

นี่หล่อนคงไม่…?

หล่อนเบิกตากว้างมองผู้ชายที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ มองจ้องมาไม่วางตา ด้วยความตื่นตระหนก ก่อนจะรีบผละออกห่างจากโต๊ะไม้ทันที

“คุณ… คงไม่ใช่…”

หล่อนคาดหวังว่าคงไม่ใช่ แต่พ่อเจ้าประคุณดันพยักหน้าหงึกๆ ซะงั้น

งั้นก็หมายความว่า…???

“พี่ชายผมชื่อคริสเตียโนครับ”

ดวงตาของหล่อนไม่เคยเบิกกว้าง และลูกกะตาดำไม่เคยจะถลนออกมานอกเบ้าแบบครั้งนี้มาก่อนเลย

พราวฟ้าตกใจสุดขีด หล่อนถอยหลังออกไปจนห่างที่สุด ปากอิ่มที่ยังบวมช้ำอยู่เพราะถูกจุมพิตทั้งคืนสั่นระริก

“นี่… คุณกำลังล้อฉันเล่นใช่ไหมคะ”

ไม่มีทางจะบังเอิญขนาดนี้หรอก ไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่มีทางที่ผู้ชายคนแรกที่หล่อนพลั้งเผลอมีความสัมพันธ์ด้วย จะเป็นน้องชายของเจ้านาย

“อยากดูบัตรประชาชนผมไหมล่ะ”

นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วสินะ

พราวฟ้าแทบอยากจะมุดหายลงไปใต้พรมเสียให้รู้แล้วรู้รอด

“ฉัน… ขอ… ขอตัว…”

หล่อนต้องไปจากที่นี่ ต้องไปจากห้องนี้ และต้องหนีจากสายตาคมกริบของราฟาเอลให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น หล่อนคงต้องอับอาย และละลายกลายเป็นไอแน่ๆ

“พี่คริสสั่งให้คุณมาดูแลผมไม่ใช่หรือครับ”

เขาเดินอ้อมโต๊ะออกมา และเพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็สามารถมาหยุดขวางหน้าของหล่อนได้สำเร็จ

หล่อนถอยหลังหนีอีกครั้ง ในขณะที่เขาก้าวตามเข้ามาติดๆ ไม่ช้าด้านหลังก็ชนกับผนังห้องที่เย็นเยียบ แต่มันก็ยังเย็นยะเยือกสู้หัวใจสาวตอนนี้ไม่ได้หรอก

“ฉัน… ไม่ค่อยสบายค่ะ จะกลับบ้าน…”

“ไม่เอาน่า อย่าหนีหน้าผมสิ”

มืออบอุ่นตวัดกุมแขนของหล่อนเอาไว้ หล่อนมองหน้าเขาสลับกับมือแกร่งของเขาด้วยความตื่นตกใจ และพยายามดิ้นรน

“ปล่อย… ฉันเถอะค่ะ”

เขาระบายยิ้มหยอกเย้า ก่อนจะรั้งร่างสาวเข้าไปกอดแนบอก แม้หล่อนจะพยายามฝืนตัวแค่ไหน แต่ก็สู้แรงช้างสารของราฟาเอลไม่ได้

“ไม่ปล่อย”

“ปล่อยเถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า มันจะไม่ดีนะคะ”

“ถ้าปล่อย… คุณก็หนีผมไปแบบเมื่อคืนนี้อีกน่ะสิ”

คำพูดของเขาเตือนให้หล่อนระลึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้เป็นอย่างดี

แก้มนวลแดงระเรื่อราวกับผลตำลุกสุก ดวงตากลมโตเสมองที่แผ่นอกของเขาแทน

“ปล่อย… เถอะค่ะ”

“ก็บอกว่าไม่ปล่อยไง”

แล้วเขาก็ทำมากกว่ากอดด้วยการก้มลงมาจูบแก้มสาวฟอดใหญ่

“อืมมม หอมกว่าเมื่อคืนนี้อีก”

“อุ๊ย… อย่าทำแบบนี้นะคะ”

“อายหรือ”

นี่เขายังมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าหล่อนอายหรือเปล่า

อีตาบ้า!

“ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ ฉัน… ปวดหัว…”

เมื่อการดิ้นรนไม่ได้ผล หล่อนจึงเลือกที่จะใช้ไม้อ่อนกับเขาแทน

“นะคะ ราฟาเอล… ปล่อยฉันเถอะค่ะ”

เขาอมยิ้ม และรอยยิ้มแบบนี้มันก็มีผลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจเหลือเกิน

หล่อนร้อนวูบวาบไปทั้งตัว โดยเฉพาะที่ท้องน้อยมันปั่นป่วนรุนแรง

“เรียกผมว่าราฟก่อน”

“เอ่อ…”

“ราฟ… ไหนเรียกสิครับ มันออกเสียงง่ายจะตายไป”

หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง ลำบากใจที่จะเรียกเขาแบบสนิทสนมอย่างนั้น แต่ถ้าหล่อนไม่ทำ เขาก็ยังไม่ยอมคืนอิสรภาพให้เป็นแน่แท้

“ราฟ…”

เขาระบายยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ

“เก่งมากทูนหัว”

“คราวนี้… ปล่อยฉันได้หรือยังคะ”

เขาส่ายหน้าดิก และรั้งร่างอรชรเข้ามาแนบแน่นยิ่งขึ้น แน่นขนาดไหนน่ะเหรอ ก็แน่นถึงขนาดที่หล่อนรู้สึกได้ถึงอะไรแข็งๆ ทิ่มแทงหน้าท้องเลยทีเดียว

หล่อนรู้ดีว่ามันคืออะไร และมันก็ใหญ่โตแค่ไหนยามหลุดออกมาจากบ็อกเซอร์

โอ้… พระเจ้า หล่อนร้อนฉ่าไปหมดแล้ว

“ปล่อย.. ฉันเถอะนะคะ ฉันขอร้องล่ะ”

อ้อมแขนทรงพลังคลายออกจากเรือนร่างของหล่อนอย่างง่ายดาย จนหล่อนอดที่จะแปลกใจไม่ได้ ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ประตูห้อง หล่อนคิดว่าเขาจะเปิดประตูให้ แต่เขากลับกดล็อกประตูซะอย่างนั้น

หล่อนช็อก มองเขาที่กำลังเดินกลับเข้ามาหาหน้าตาตื่น

“คุณ… จะทำอะไรคะ”

“เล่นเกมผัวเมียกับคุณอีกไง”

“ไม่… ไม่ได้นะคะ”

หล่อนปฏิเสธเสียงสูงลิบ และถอยหลังหนี แต่เขาตามมาคว้าเอาไว้ทัน

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ในเมื่อมันสนุกออกจะตายไป จำได้ไหม”

“ไม่นะคะ”

“เมื่อคืนน่ะ คุณร้องครางไม่หยุดเลย แถมยังบอกให้ผมทำหลายๆ ครั้งด้วย”

หล่อนยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองด้วยความอับอายกับสิ่งที่เขาโยนใส่หน้า

“ไม่… ไม่จริง…”

“ไม่เชื่อหรือ”

“ฉัน… ไม่เชื่อหรอกค่ะ นี่ปล่อยนะคะ ปล่อยฉันนะคุณราฟ”

เขาอมยิ้ม หน้าหล่อๆ กระจ่างใสหน้าลุ่มหลงเป็นที่สุด

“เสียใจด้วยครับพราวฟ้า คุณทำให้ผมติดใจเกมผัวเมียแล้ว ดังนั้น ผมคงเลิกเล่นไม่ได้”

“แต่ว่า…”

“ไม่มีแต่… คุณต้องเล่นกับผม…”

รอยยิ้มพึงพอใจเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของราฟาเอล และแน่นอนว่าเขาพูดจริงทำจริง

Options

not work with dark mode
Reset