สามเดือนต่อมา
ณ บ้านเช่านอกชานเมืองหมอนนท์เดินตรงเข้าไปหามุกกับลูกชายในบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อย มุกที่กำลังป้อนนมลูกจากขวดเห็นสีหน้าชายหนุ่มไม่ค่อยจะสู้ดีนักก็อดที่จะเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้
“หมอเป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้น
“เปล่า”ตอบพลางนั่งลงข้างๆ เธอ
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจระบายให้มุกฟังบ้างก็ได้นะคะ”
“สำหรับผมมีอยู่เรื่องเดียว คือเมื่อไหร่มุกยอมเปิดใจให้ผมสักที”
“มุกขอโทษค่ะ มุกทำไม่ได้จริงๆ ”
“มุกคงรักเขามากสินะ ถึงขนาดนี้แล้วก็ยังตัดใจไม่ได้สักที”
“หมอก็รู้ว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา คนที่เหมาะสมกับหมอยังมีอยู่อีกมากมาย อย่ารอผู้หญิงที่มีพันธะติดตัวอย่างมุกเลยนะคะ”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่มุกยังคงอยู่กับเขาอย่างเต็มใจผมยังพอเข้าใจ ว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่ตอนนี้มุกตัดขาดจากเขาไปแล้ว มุกก็ควรเปิดโอกาสให้ตัวเองบ้างนะ”
“มุกเข้าใจค่ะ และก็รู้ดีว่าเรื่องระหว่างเขากับมุกไม่มีทางเป็นไปได้อีกแล้วเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้ แต่ตอนนี้มุกขอเลี้ยงลูกไปก่อนนะคะ”
“ครับ ผมเข้าใจ” หมอนนท์รับคำด้วยความเป็นกังวลใจเขากลัวว่าเธอจะถูกตามเจอจากภพเข้าสักวัน ถึงตอนนั้นเขาอาจจะรั้งเธอเอาไว้ไม่อยู่ เขาหวังว่ามันจะไม่ใช่เร็วๆ นี้เพราะบ้านเช่าที่เธอพักอาศัยอยู่มันค่อนข้างจะซับซ้อนอยู่ในซอยลึกห่างไกลผู้คนอยู่พอสมควร
ในระหว่างที่มุกกำลังเข้าครัวทำมื้อเย็นหมอนนท์ก็ช่วยดูมิคลูกชายของเธอแทน มุกแอบยืนมองหมอหนุ่มที่กำลังพูดคุยเย้าแหย่กับลูกชายก็เกิดเห็นภาพภพทับซ้อนหมอหนุ่มขึ้นมาแทนที่เสียดื้อๆ ด้วยอาการเผลอไผลไป
“กับข้าวเสร็จแล้วนะคะ” ร่างบางเดินเข้าไปหาหมอหนุ่ม
“ครับ กลิ่นหอมขนาดนี้คงจะอร่อยน่าดู”
“อร่อยแน่นอนค่ะ”
“ครับผมรู้ อย่าเพิ่งงอแงนะครับ หมอขอทานข้าวกับคุณแม่ก่อนนะครับ คนเก่ง” หมอหนุ่มเอ่ยกับเด็กน้อย
“มิคเขารู้ค่ะ”
“จะว่าไปผมว่ามิคเขาก็เลี้ยงง่ายดีนะ”
“ค่ะ มุกก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน สงสัยคงจะรู้ว่าแม่เหนื่อยมั้งค่ะ”
“ครับ”
ทางด้านภพกำลังนั่งเคลียร์งานอยู่ในห้องทำงานบนตึกสูงด้วยสีหน้าเคร่งเครียดจริงจัง เขาพยายามทำงานให้หนักขึ้นเพื่อไม่ให้คิดฟุ้งซ่านจนไม่เป็นอันทำอะไรอีกเหมือนที่ผ่านมา หลังจากเคลียร์งานตรงหน้าเสร็จชายหนุ่มก็ออกไปพบลูกค้าต่อ จากนั้นก็แวะเข้าไปยังโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และโรงงานผลิตผ้าไหมของมารดา เขาทำวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจนไม่มีแม้แต่เวลาทานข้าวหรือดูแลตัวเองเลย จึงทำให้เขาซูบผอมลงไปเล็กน้อย
ร่างหนาพาตนเองไปยังผับชื่อดังกลางดึกเพื่อใช้ฤทธิ์แอลกอฮอล์เป็นตัวช่วยให้เขานอนหลับง่ายและสบายขึ้นในคืนนี้ ระหว่างนั้นก็มีสาวสวยมากหน้าหลายตาเข้ามาทักทายยั่วยวนเชื้อเชิญให้เขาสนใจอยู่ตลอดเวลา เขายอมรับว่าพวกเธอมีเสน่ห์ดึงดูดให้อยากเข้าหา แต่เขากลับมองว่าพวกเธอเหล่านั้นมันไม่ได้มีอะไรให้น่าสนใจสำหรับเขาเลย แต่กลับนึกถึงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่เคยใช้มารยาพวกนี้กับเขาเลยสักครั้งแต่กลับทำให้เขาลืมเธอไปจากใจไม่ได้เลย
“เมื่อไหร่ฉันจะได้เจอเธอสักทีมุก จะทรมานฉันไปถึงไหนกัน เอาเป็นว่าคืนนี้ฉันจะฝันถึงเธอก็แล้วกันนะ” ภพยิ้มกับแก้วแอลกอฮอล์ในมือแล้วกระดกลงคอไป
ภพพาร่างที่เริ่มมีอาการมึนเมากลับไปยังคอนโดหรูที่เขากับมุกเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ร่างแกร่งค่อยๆ ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพลางคึดถึงใบหน้ามุกไปด้วยแล้วหลับตาลงสู่ห้วงนิทราด้วยความเจ็บปวดใจ
หลายวันต่อมา
หลังจากที่มุกแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกกับหมอนนท์ เธอก็เปิดประตูห้องออกเพื่อจะลงไปยังชั้นล่างแต่ก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเจอหมอนนท์ยืนรออยู่ตรงหน้าประตูพร้อมกับจ้องมองเธอตาเป็นมัน
“เอ่อ….หมอมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“เปล่า แค่อยากมองคนสวย” พูดพลางยื่นเข้าไปใกล้ๆ เธอ
“ลงไปข้างล่างกันเถอะค่ะ” มุกรีบหันเบี่ยงตัวไปอีกทาง
“ครับ” หมอนนท์ยิ้มมุมปาก
มุกตัดใจฝากลูกชายให้ป้าบุญดูแลแทนเพื่อที่จะออกไปซื้อข้าวของเครื่องใช้สำหรับเธอกับลูกเข้าบ้าน ซึ่งเธอคาดการณ์ว่าคงจะใช้เวลาไม่นานมากนัก หลังจากที่ซื้อข้าวของเครื่องใช้ครบแล้ว หมอหนุ่มก็พามุกไปนั่งทานอาหารในร้านแห่งหนึ่ง
“อร่อยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
“ค่ะ” ยิ้มรับ
“ทานเยอะๆ นะครับ นานๆ ทีจะได้ออกมานั่งทานข้าวนอกบ้านด้วยกัน”
“หมอก็เหมือนกันนะคะ ทานเยอะๆ จะได้มีแรงดูแลคนไข้”
“ครับ”
“เดี๋ยวหมอช่วยแวะตลาดนัดใกล้บ้านหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้สิครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
หลังออกจากร้านอาหารหมอนนท์ก็พามุกตรงไปยังตลาดนัดใกล้บ้านตามที่เธอต้องการ ทันทีที่รถจอดสนิทมุกก็รีบลงจากรถโดยให้หมอหนุ่มรออยู่ข้างในรถ ด้วยตลาดอยู่อีกฝั่งของถนนเธอจึงต้องข้ามถนนไปยังร้านค้าต่างๆ ที่เรียงรายกันอยู่เบื้องหน้าด้วยความเร่งรีบกลัวคนในรถจะรอนานเธอจึงไม่ทันได้ระวังรถมอเตอร์ไซด์ที่แล่นพุ่งมาทางเธอด้วยความเร็ว
โครม! ร่างบางถูกมอเตอร์ไซด์เฉียวชนจนร่างของเธอกระเด็นกระแทกลงกับพื้นถนนสลบหมดสติไปเลือดอาบเต็มศีรษะ ผู้คนที่เดินผ่านไปมาต่างพากันตกใจโดยเฉพาะหมอนนท์ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเต็มสองตา
“มุก!” หมอหนุ่มรีบเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้เธอพร้อมกับโทรเรียกรถพยาบาลด้วยความร้อนใจกลัวมุกจะเป็นอะไรไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
ทันทีที่รถพยาบาลมาถึงร่างบางที่ไร้สติเลือดอาบเต็มหน้าก็ถูกพาขึ้นรถส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดด้วยความรวดเร็ว หมอนนท์รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินไม่นานมากนักหมอเจ้าของไข้ก็เดินออกมาพร้อมกับบอกอาการของเธอกับเขา ซึ่งมันทำให้เขาคลายกังวลลงไปเป็นอย่างมาก มุกยังคงไม่ได้สติแต่อาการโดยรวมปลอดภัยพ้นขีดอันตรายแล้ว
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปมุกยังคงนอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงซึ่งหมอไม่สามารถบอกได้ว่าเธอจะฟื้นกลับคืนมาได้สติเมื่อไหร่ ในระหว่างนั้นหมอนนท์กับป้าบุญก็พามิคลูกชายมาเยี่ยมเธออย่างสม่ำเสมอไม่เคยขาด
“มุกผมพามิคมาเยี่ยมแล้วนะ ได้ยินไหม รีบๆ ตื่นขึ้นมานะ พวกเรารอมุกอยู่รู้ไหม” หมอนนท์อุ้มมิคพลางมองหน้ามุกที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงอย่างมีความหวัง
“แงๆ ” อยู่ๆ มิคก็ร้องไห้เสียงดังขึ้นมา
“โอ๋ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง” หมอหนุ่มเอ่ยปลอบเด็กน้อยวัยสามเดือนเศษ
“มาจ้ะ ป้าพาออกไปข้างนอกดีกว่า” ป้าบุญช้อนอุ้มมิคจากหมอหนุ่มมาอุ้มแล้วเดินออกไป
คล้อยหลังป้าบุญเดินออกไปหมอนนท์จึงถือโอกาสเข้าไปจัดแจงผ้าห่มให้ร่างบางบนเตียงด้วยความห่วงใย จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบหวีบนโต๊ะหัวเตียงมาสางผมให้เธออย่างเบามือที่สุด
“รีบกลับมานะมุก ผมกับลูกรออยู่รู้ไหม จะขี้เซาไปถึงไหนกัน ไม่คิดถึงลูกบ้างหรือไง”
มือหนาค่อยๆ สางผมยาวดำขลับไปอย่างช้าๆ ด้วยความเป็นกังวลใจ ถึงแม้ว่าอาการของเธอจะพ้นขีดอันตรายไปแล้ว แต่เมื่อยังไม่ได้สติกลับมาเหมือนเดิมเขาก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ยังคงเป็นห่วงเป็นใยเธอมากขึ้นทุกวัน เขาได้แต่หวังว่าเธอจะฟื้นคืนกลับมาในเร็ววันนี้