บทที่ 306 – ฉันคือพ่อของพวกนาย (7)
การยั่วยุของเขาได้ผลมากๆ สายพันธ์มังกรต่างมี่กำลังสงสัยกับตัวตนของตัวเองหลังจากได้เห็นมังกรนับแสนกำลังบินอยู่ และในตอนนี้ยูอิลฮานก็ได้พูดคำพูดกระตุ้นเข้าไปอีกทำให้พวกมันทั้งหมดได้เริ่มกำลังมารวมตัวกัน
[กรรรรรรรรรร!]
จากทั้งภูเขาและป่าไม้
[ก๊าซซซซซซซซซ]
จากเบื้องบนหมู่เมฆ
[กรรรรรรรรรร!!]
จากถ้ำ ใต้น้ำ หรืออุโมงค์ต่างๆ สายพันธ์มังกรต่างก็เร่งรีบออกมาจากทีต่างๆเพื่อเข้าไปในที่ที่ยูอิลฮานอยู่
[ท่านผู้ปกครองโลกกำลัง… เรียกเรา!]
[ก๊าซซซซซซ! จ้างแห่งมังกรทั้งมวล ออร่านี่มันน่ารำคาญเหลือเกิน]
ภาพที่มังกรมารวมตัวกันนี่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่งแล้ว แต่ในท้ายที่สุดมังกรก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของสายพันธ์มังกรเท่านั้น และมีสายพันธ์มังกรนับสิบล้านตัวที่ได้เกิดขึ้นมาที่นี่ และแม้กระทั่งในตอนนี้จำนวนก็ยังกำลังเพิ่มขึ้นไปอีกจากการวิวัฒนาการ
“ยังไม่พอ พวกนายคงไม่ได้คิดจะเอาชนะฉันด้วยออร่ากระจอกๆแค่นี้สินะ!”
ยูอิลฮานได้จัดการใช้วงเวทย์เอลฟ์โบราณกระจายออร่ากับมานาของเขาออกต่อไปให้กลางยิ่งขึ้นอีกทำให้มีสายพันธ์มังกรมารวมตัวกันมากยิ่งขึ้นไปอีก แถมมานานี่ของเขายังได้กระตุ้นให้มีการเกิดของสายพันธ์มังกรเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย!
[เรามาตามที่นายเรียกแล้ว]
[นายเป็นอะไรกัน]
[แกว๊กกกกกกกก!]
[น่ารำคาญ! นายมันน่ารำคราญ!]
สายพันธ์มังกรนั้นต่างจากมังกรที่จะมีสติปัญญาสูงกว่ามนุษย์นับตั้งแต่เกิด เหล่าสายพันธ์มังกรนั้นจะมีสติปัญญาสูงต่ำแตกต่างกันไปตามแต่ล่ะตัว บางทีโอโรจินั้นอาจจะนับได้ว่าเป็นพวกมีสติปัญญาสูง
นี่ขนาดว่ายูอิลฮานเชี่ยวชาญสกิลภาษามาก่อน แต่ว่าในหมู่สายพันธ์มังกรทั้งหมดที่นี่มีแค่ 30% เท่านั้นที่สามารถจะส่งเสียงที่เป็นภาษามาได้ แน่นอนว่าส่วนใหญ่ทั้ง 30% นั่นต่างก็อยู่คลาส 4 กันหมด
“พวกนายทั้งหมดต่างก็มีหูมีตากันเพราะงั้นก็น่าจะได้ยินนะ ฉันก็คือจ้าวของโลกใบนี้และจ้าวแห่งมังกรทั้งมวล”
[เรารู้อยู่แล้ว กลิ่นของท่านมีเสน่ห์ดึดูดมากๆ เรารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มหาศาลจากท่าน ฉันยังรู้สึกได้ดึงพลังที่ดึงดูดและควบคุมพวกเราด้วย]
คนที่มีเลเวลสูงที่สุดในเหล่าสายพันธมังกรได้ตอบกลับมา สายพันธ์มังกรตัวมีผิวสีแดงพร้อมปีกที่เหมือนกับค้างคาวขนาดใหญ่ยักษ์และร่างกายที่เพรียวบางซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงธาตุที่มีตั้งแต่กำเนิดว่าคือธาตุเพลิงอย่างแน่นอน หากจำแนงสายพันธ์ดูแลนี่ก็นับได้ว่าเป็นมังกรบิน
ยูอิลฮานตกใจมากหลังจากได้รู้ว่าเจ้านี่มีเลเวลเกือบจะ 290 แล้ว เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีสิ่งมีชีวิตอะไรอีกที่เกิดขึ้นมามีเลเวลสูงกว่ารูบี้อีก
“งั้นหรอ พวกนายรู้สึกได้ถึงพลังของสกิลปกครองสินะ”
[แต่ว่ามันต่างออกไป ท่านคือจ้าวของหมู่มังกร แต่ไม่ใช่เราสายพันธ์มังกรทั้งหมด ท่านเป็นจ้าวแห่งเพลิง แต่ไม่ใช่ตัวฉัน]
“นายพูดถูกแล้ว”
ในฐานะจ้าวแห่งมังกรทำให้เขามีอำนาจในการควบคุมที่ส่งผลกับสายพันธ์มังกรเช่นกัน แต่ว่านั่นมันก็แค่ส่วนหนึ่ง เพราะแบบนี้สายพันธ์มังกรก็เลยยังลังเลอยู่ และสิ่งที่ทำให้พวกมันมารวมตัวกันนี่ก็มาจากการตัวสินใจของตัวเอง
“ถ้าพวกนายก็น่าจะรู้นะว่าทำไมฉันถึงเรียกพวกนายมา”
[เพื่อที่จะยกระดับความภาคภูมิใจของมังกรสินะ?]
[เพื่อที่จะทำให้เราเป็นทาสมังกรงั้นหรอ?]
[หรือว่าเพื่อที่จะทำให้เรากลายเป็นของเล่นของมังกร?]
เพราะความที่มังกรเป็นราชาแห่งสายพันธ์มังกรทั้งมวล เพราะแบบนี้พวกสายพันธ์มังกรก็เลยหวาดกลัวมังกร! ยูอิลฮานได้แสดงสีหน้าย้อนนึกกลับไปถึงในตอนที่มังกรยังปกครองดาเรย์แห่งนี้อยู่
พอมาคิดดูแล้วมังกรก็ยังเป็นผู้ปกครองเหนือกว่าสายพันธ์มังกรด้วยเช่นกัน ในเวลานั้นสายพันธ์มังกรก็ได้แต่ยอมจำนนพร้อมทั้งแสดงสีหน้าที่แสดงความหวาดกลัวออกมา ที่ชัดที่สุดในเวลานั้นเลยก็คือไม่มีสายพันธ์มังกรตนไหนที่มีคลาส 4 นอกเหนือจากมังกร
ในตอนนั้นยูอิลฮานได้คิดว่าพวกที่มีสายพันธ์มังกรทั้งหมดนั่นก็น่าจะวิวัฒนาการไปเป็นมังกรในตอนที่กลายเป็คลาส 4 แต่ว่าพอมาคิดดีๆดูนี่มันเป็นเรื่องที่โครตจะไร้สาระมากๆ
เขามาแก้ความเข้าใจผิดนี้ได้ตอนไหนกันล่ะ? นั่นมันก็คือในตอนที่เขาได้กลายเป็นจ้าวแห่งมังกร หลังจากที่เขาได้รับความสามารถในการปกครองมังกร ตัวเขาที่ได้รับบันทึกที่ลึกซึ้งกับมังกรมากยิ่งขึ้นก็ได้รู้ว่าโอโรจิไม่ใช่มังกรแต่ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสายพันธ์มังกร การที่โอโรจิปรับตัวเข้ากับร่างกายของอิชจาร์ได้ช้ามากๆก็น่าจะเพราะเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เพราะงั้นหากคิดตามปกติมังกรที่ใช้ชีวิตอยู่ในดาเรย์ก่อนหน้านี้ก็น่าจะฆ่าสายพันธ์มังกรไปเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะทำตนให้เป็นราชา จากนั้นก็จัดการทำให้คนที่เหลือรอดในจำนวนน้อยนิดกลายมาเป็นลูกน้อย นี่มันช่างน่าเศร้าจริงๆ
“ไม่”
แต่ยูอิลฮานไม่ต้องการจะทำแบบนั้นกับเหล่าสายพันธ์มังกรพวกนี้
“ฉันเรียกพวกนายมาเพื่อที่จะมอบโอกาสให้พวกนายได้เป็นมังกรที่แท้จริง
ในฐานะที่เขาคือหัวหน้าดราก้อนเนส จ้าวแห่งมังกร และในฐานะประชาชนของเอิร์ธ โลกของเขา เขาจำเป็นจะต้องเติมเต็มภารกิจนี้
[…ว่าไงนะ?]
[ก๊าซซซซซซซซซซซ!]
[นั่นมันอะไรกัน? ขีดจำกัดทางสายพันธ์ไม่มีวันจะก้าวข้ามกันได้!]
ปฏิกิริยาตอบกลับนั้นรุนแรงมาก เสียงคำรามที่ดังวุนวายได้ลุกหือขึ้นมาในหมู่สายพันธ์มังกรนับล้านที่จำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา
แม้แต่หูของยูอิลฮานก็ยังเรื่มจะอื้อไปแล้วด้วย มังกรบินเลเวล 290 ได้ถามเขาขึ้นมา
[ทำให้เราเป็นมังกร แล้วก็บัญชาเรา?]
“ถูกต้องแล้ว ไม่สิ จริงๆแล้วพวกนายก็จะยอมรับในตัวฉันเองในตอนที่เป็นมังกร พวกนายก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีนี่”
มังกรบินได้พูดไม่ออกกับคำยอมรับตรงๆของยูอิลฮาน สายพันธ์มังกรตัวอื่นๆที่ดูจะมีสติปัญญาอยู่บ้างก็ได้เงียบรอคำตอบของมังกรบินเช่นกัน ในท้ายที่สุดมันก็ได้พูดออกมา
[เป็นจ้าวแห่งมังกรที่โลภซะจริง ทำไมไม่ปล่อยเราไว้ล่ะ? ปล่อยให้เรามีชีวิตกันแบบนี้?]
“ไม่มีทางหรอก สิ่งที่ไม่เชื่อฟังฉันมีแต่จะต้องกลายมาเป็นค่าประสบการณ์ให้กับลูกๆของฉัน ในตอนนี้ทุกๆแหล่งค่าประสบการณ์มันมีค่านายรู้ไหม?”
[ฮ่า…!]
คำพูดของยูอิลฮานไร้ซึ่งการหลอกล่อใดๆ เพื่อที่จะเอาชีวิตรอด เพื่อที่จะมีชีวิต เพื่อที่จะปกป้องตัวเอง ยูอิลฮานได้ตัดสินมานานแล้วว่าจะทำยังไง นับตั้งแต่แรกในตอนที่เขาได้ฉีกมอนสเตอร์ที่โผล่ขึ้นมาในมหาลัยเขาตอนแรกสุด การแก้ปัญหาด้วยการฆ่ามันไม่เคยทรยศเขา
[ถ้างั้น… ถ้าแบบนั้น!]
ออร่าพลังได้พวยพุ่งออกมา เพลิงนี้ได้ลุกขึ้นมาจากปีกที่เหมือนกับค้างคาวซึ่งดูคล้ายกับปีกเสียงเพรียกแห่งการล่มสลายของยูอิลฮาล บางทีความสามารถก็อาจจะคล้ายๆกันด้วยซ้ำไป เพราะว่าบันทึกของปีกเสียงเพรียกแห่งการล่มสลายก็เป็นส่วนหนึ่งที่ใช้วิวัฒนาการโลกใบนี้
[ถ้างั้นเราก็ไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากฆ่าท่าน!]
“…สุดท้ายก็เป็นแบบนั้นสินะ?”
สายพันธ์มังกรส่วนใหญ่ต่างก็มีปฏิกิริยากับคำพูดของมังกรบิน พวกมันทั้งหมดได้ปลุกเร้าพลังขึ้นมาคุกคามยูอิลฮาน และมีกระทั่งบางตัวได้พุ่งเข้ามาหายูอิลฮานแล้ว หลังจากเห็นแบบนี้ยูอิลฮานก็หัวเราะออกมาท่ามกลางเสียงถอนหายใจของอิชจาร์
[งั้นมันก็เป็นไปไม่ได้สินะ บาปของมังกรมากเกินไปจริงๆ]
“ใครจะรู้กัน? ฉันคิดต่างออกไปนะ ฉันไม่มั่นใจหรอกนะว่าสายพันธ์มังกรทั้งหมดจะเป็นแบบนี้ หากว่ามีสักตัวที่อยากจะกลายเป็นมังกร… มันจะต่างออกไป”
[นายท่าน…?]
ยูอิลฮานได้ยิ้มออกมา เขาได้พึมพัมคำพูดกับตัวเองออกมา
“ประจักษ์แจ้ง”
[สกิลประจักษ์แจ้งได้ถูกเปิดใช้งาน กำลังประกาศอาณาเขตปกครองของคุณ]
โลกดาเรย์แห่งนี้ได้มีผู้ปกครองและพัฒนาขึ้นมาจากยูอิลฮาลกับบันทึกของตัวเอง ประจักษ์แจ้งได้ปรากฏขึ้นมาที่แห่่งนี้เป็นครั้งแรกแล้ว ยูอิลฮานที่มีพลังมากอยู่แล้วได้ยกระดับพลังอำนาจมากยิ่งขึ้นไปอีกจนย้อมให้ทั้งโลกใบนี้กลายเป็นสีแดง
[ก๊าาา!?]
[นะ… นี่มันอะไรกัน?]
[มานามหาศาลกำลังลุกไหม้จากชั้นบรรยากาศ]
สกิลประจักษ์แจ้งคือสกิลในเวอร์ชั่นพัฒนาขึ้นมาของคลาสหลักของเขา สกิลร่วงหล่น ในเวลาเดียวกันมันยังได้เพิ่มผลของมังกรและเพลิงอีกด้วย หากว่ายูอิลฮานต้องการยูอิลฮานก็สามารถจะทำให้มานาในท้องฟ้ากลายมาเป็นของตัวเองได้ซึงภายในโลกใบนี้ก็ไม่มีส่วนไหนที่ไม่ใช่ของเขาอีกด้วย
สกิลประจักษ์แจ้งได้สำแดงพลังออกมาจากภายในดาเรย์แห่งนี้เป็นขอบเขตของมัน พลังเพลิงและมังกรภายในพื้นที่โลกดาเรย์แห่งนี้ต่างก็ถูกเพริมพลังขึ้น นี่ก็น่าจะเสริมพลังให้กับรูบี้และมังกรตนอื่นๆที่กำลังสู้อยู่ด้วย
[กรรรร….!]
[เพลิงไม่เชื่อฟังฉันเลย]
สายพันธ์มังกรทุกคนไม่ว่าจะอยู่บนดิน ใต้ดิน หรือบนท้องฟ้าต่างก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาลที่กดทับตัวพวกเขาอยู่ ยิ่งพวกที่มีพลังเพลิงต่างก็หายใจยากลำบากเป็นพิเศษ เพลิงทั้งหมดต่างก็จำนนต่อยูอิลฮานเพราะงั้นใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับยูอิลฮานก็จะถูกนับว่าเป็นศัตรูกับเพลิงเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ต่อให้เพลิงๆนั้นจะถูกคนอื่นๆสร้างขึ้นมาก็ตาม
[ไม่มีทางนี่มัน…!]
คนที่ลำบากที่สุดเลยก็แน่นอนว่าคือมังกรบิน เนื่องจากความตกตะลึงที่เพลิงทรยศตัวเองทำให้มันไม่อาจจะบินได้ถูกอีกต่อไปจนมันรู้สึกเหมือนกับจะร่วงลงมา สายพันธ์มังกรที่อ่อนแอบางตนก็กระทั่งถูกเผาจนตายโดยไม่อาจจะทำอะไรได้เลย
[แก นี่มัน… อะไรกัน!]
มันได้ฝืนเงยหน้าขึ้นมามองยูอิลฮาน และพูดคำพูดที่เต็มไปด้วยความเป็นศัตรูต่อจ้าวแห่งโลกใบนี้ ยังไงก็ตามยูอิลฮานก็แค่หัวเราะเบาๆและตอบกลับไป
“นายก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะ ทุกๆอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ต่างก็ก้มหัวให้รับใช้ตัวฉันที่เป็นเจ้านาย”
[อ๊าาา…. แกกกก….!]
ยอมรับไม่ได้ การที่จะต้องมาก้มหัวให้กับสัตว์ประหลาดที่น่ารังเกียจที่เป็นมังกรในร่างมนุษย์นั่น! ถึงแม้ว่าเพลิงจากในร่างของมันเองจะพยายามทำให้มันทำตามสัตว์ประหลาดนั่นก็ตาม
ยังไงก็ตาม
[แข็งแกร่ง… ให้ตายสิ แกแข็งแกร่ง…!]
[ก๊าซซซ….!]
[กี๊ซซซซซ!]
สายพันธ์มังกรทั้งหมดรวมไปถึงมังกรบินต่างก็ตัวแข็งทื่อในกันทั้งหมด พวกมันได้ถูกบังคับให้ได้แต่ก้มหัวให้กับยูอิลฮานที่กำลังเปิดใช้งานประจักษ์แจ้ง
ยูอิลฮานแข็งแกร่งมาก เขาเหมาะสมแล้วที่จะถูกเรียกว่าจ้าวแห่งมังกร เขาคือจ้าวแห่งโลกใบนี้ และจ้าวแห่งเพลิง ในทันทีที่พวกสายพันธ์มังกรได้ตัดสินใจจะต่อต้านเขาผลลัพธ์ที่ออกมาก็มีแต่พวกมันตัวแข็งเป็นหิน
[น่าหงุดหงุด… น่าหงุดหงิดจริงๆ]
มังกรบินได้กระอักเลือดออกมาด้วยความสิ้นหวัง
[ฉันอยากจะเป็นมังกร ฉันอยากจะแกร่งขึ้น!]
การแสวงหาความแข็งแกร่งไม่ได้มีแค่ในมังกรเท่านั้น แต่นี่ยังมีอยู่ในสายพันธ์มังกรทั้งหมดอีกด้วย
ไม่ว่าจะภายนอกหรือภายในพวกมันต่างก็แสวงหาและชื่ชมในพลัง นี่มันเห็นได้เลยจากสายตาของสายพันธ์มังกรทั้งหมดที่มองมาที่ยูอิลฮานที่เปลื่ยนจากความโกรธมาเป็นความกลัวและชื่นชม ยูอิลฮานได้ดึงเอาพลังของเขาออกมาก็เพราะรู้แบบนี้อยู่แล้ว
“พวกนายอยากจะแข็งแกร่งสินะ?”
[ใช่แล้ว! ฉันอยากจะแข็งแกร่งขึ้น! ถึงแม้ว่าฉันจะเกิดมามีร่างกายที่ทรงพลังแล้ว แต่ก็ต้องล้มลงเพราะการเกิดที่ไม่อาจจะยอมรับได้! ฉันไม่ยอมรับมัน]
มีทั้งเสียงตะโกนที่มีเหตุผลและไม่มีเหตุผลดังออกมา เสียงตะโกนส่วนมากดูเหมือนตะโกนออกมาอย่างสิ้นหวัง ยังไงก็ตามนี่มันเป็นเรื่องปกติเนื่องจากสายพันธ์มังกรทั้งหมดต่างก็มีเลเวลที่สูง พวกมันเกิดมาในระหว่างมหาภัยพิบิตขั้นที่ 6 หรือก็คือพวกมันเพิ่งจะแรกเกิดเท่านั้น! พวกมันยังเด็ก! มีอะไรให้พวกมันจะต้องลังเล? พวกมันทั้งยังเด็กและไร้ประสบการณ์!
และนี่ก็หมายความถึงเรื่องหนึ่งเช่นกัน
‘เจ้าพวกนี้หลอกได้ง่าย’
[…]
แม้แต่อดีตมังกรแห่งความสิ้นหวัง อิชจาร์ ก็ยังพูดไม่ออก ชายคนนี้เหมาะสมกับปีศาจจริงๆเลย! บางทีหากเขากลายเป็นผู้นำกองทัพปีศาจวิบัติเขาก็อาจจะทำได้ดีก็ได้!
“เยี่ยม ฉันจะทำให้พวกนายแข็งแกร่งเอง”
ยูอิลฮานได้ประกาศด้วยรอยยิ้ม
“สิ่งที่ฉันต้องการก็ง่ายมากๆ ยอมจำนงต่อฉันและใช้ชีวิตร่วมกันคนอื่นๆทุกคน”
น้ำเสียงของเขาได้ผสานเข้ากับวงเวทย์เอลฟ์โบราณจนกระจายออกไปทั่วทั้งดาเรย์ เสียงๆนี้ได้สะท้อนไปในใจของสายพันธ์มังกรทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาและตัวที่ยังไม่เกิดด้วย
“แล้วจากนั้นฉันจะทำให้พวกนายกลายมาเป็นมังกร”