“เสี่ยวหย่า ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ทำไมซ่งหวาเหว่ยถึงพูดว่าพี่ชายของลูกสั่งให้เพื่อนของเขาไปฆ่าซ่งหวาตงกันล่ะ?แถมยังบังคับให้ออกจากคลับหวงจินอีกต่างหาก”
หญิงวัยกลางคนถามด้วยความเป็นห่วง
ผู้หญิงคนนี้คือหลี่ไห่หรง แม่ของซ่งหวายี่และซ่งหวาหย่า
ซ่งหวาหย่ากัดริมฝีปากที่แดงฉานแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล หลังจากเมื่อคืนกลับมาที่ตระกูลซ่ง ซ่งหว่ายี่ก็ถูกเรียกตัวให้ไปพบนายท่านตระกูลซ่ง
ผ่านไปหนึ่งคืนแล้วแต่ซ่งหวายี่ก็ยังไม่ออกมา
หลี่ไห่หรงและซ่งหวาหย่าเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“แม่คะ พวกเรารู้จักคนที่ฆ่าซ่งหวาตงและคนที่บังคังให้ซ่งหวาเหว่ยให้ออกจากคลับหวงจินค่ะ แต่ถ้าพูดในแง่ของความสัมพันธ์แม้แต่เพื่อนก็ไม่ถือว่าไม่ได้เป็นนะคะ”
ซ่งหวาหย่ากล่าว
“ไม่ใช่เพื่อน?”
หลี่ไห่หรงตกตะลึงในทันใด “ถ้าไม่ใช่เพื่อนของลูกแล้วเขามาช่วยพี่ชายลูกทำไม?”
“ไม่เพียงแต่ฆ่าซ่งหวาตงแต่ยังไล่ซ่งหวาเหว่ยออกจากคลับหวงจินอีก นี่มันก็เห็นได้ชัดเลยนะว่ามันเป็นการช่วยพี่ชายของลูกอยู่!”
“ลูกคิดว่าพูดแบบนี้แล้วคุณปู่ของลูกจะยอมปล่อยพี่ชายของลูกงั้นเหรอ?”
นี่คือสิ่งที่ซ่งหวาหย่าเป็นกังวลว่าแม้แต่แม่ของตนเองก็ไม่เชื่อในสิ่งนี้ นับประสาอะไรกับนายท่านตระกูลซ่งล่ะ
“แม่ สิ่งที่หนูพูดเป็นความจริงทั้งหมด เดิมทีพี่หยางก็ไม่พอใจพี่ชายที่หลอกเขาให้ไปที่คลับหวงจินอยู่แล้ว”
ซ่งหวาหย่าพูดน้ำเสียงโทนต่ำ “เป็นซ่งหวาเหว่ยที่คอยยั่วยุให้พี่หยางลงมือต่างหาก ใครจะรู้ล่ะว่าการไปยั่วโมโหพี่หยางจะทำให้โดนพี่หยางเตะกระเด็นออกมา ใครจะรู้ล่ะว่าเท้าที่เตะมานั้นจะทำให้ซ่งหวาตงต้องตาย”
“แล้วเรื่องที่ซ่งหวาเหว่ยนั้นถูกขับไล่ออกจากคลับหวงจินนั้นก็เป็นเพราะซ่งหวาเหว่ยหาเรื่องใส่ตัว หากไม่ใช่ว่าพี่ชายขอร้องอ้อนวอนล่ะก็ซ่งหวาเหว่ยก็คงจะตายเช่นกัน!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งหวาหย่าพูด หลี่ไห่หรงก็รู้สึกตกใจ เธอเชื่อในคำพูดของลูกสาวแต่หากไปพูดให้คนตระกูลซ่งฟังล่ะก็คงไม่มีใครเชื่อเป็นแน่
“ลูกชอบพี่หยางไหม” หลี่ไห่หรงถามขึ้นในทันที
ซ่งหวาหย่าบอกความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแต่กลับไม่ทันคิดว่าตนเรียกหยางเฉินว่าพี่หยางมาโดยตลอด
เมื่อถูกแม่ถามอย่างกะทันหันเช่นนี้ ใบหน้าของซ่งหวาหย่าก็แดงก่ำพร้อมกับพูดอย่างเขินอาย “แม่ ไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นเสียหน่อย หนูกับพี่หยางเพิ่งเจอกันครั้งแรกจะให้ชอบได้ยังไงกันล่ะ?”
ในที่สุดใบหน้าของหลี่ไห่หรงก็ปรากฏรอยยิ้มที่น่าพึงพอใจออกมา ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะว่าลูกสาวของตนนั้นใจเต้นแรงเข้าให้แล้ว?
“เสี่ยวหย่า หากลูกกับหนุ่มน้อยนั่นได้อยู่ด้วยกัน แม่ก็คงตายตาหลับและหมดห่วงกับพวกลูกๆทั้งสอง” หลี่ไห่หรงจับมือซ่งหวาหย่าพร้อมกับพูดเบาๆ
ใบหน้าของซ่งหวาหย่ารู้สึกอายหนักกว่าเดิม ใบหน้าแดงยิ่งขึ้นไปอีก
หล่อนกำลังจะอธิบายก็ถูกหลี่ไห่หรงพูดตัดบทเข้าให้ “เอาล่ะ ไม่ต้องรีบอธิบายหรอก ลูกเป็นลูกของแม่ ลูกคิดอะไรอยู่มีเหรอที่แม่จะไม่รู้?”
“ตั้งแต่ที่พ่อเสียไปก็ไม่มีใครมาดูแลปกป้องเราตระกูลซ่งอีก ไม่เช่นนั้นพี่ชายของลูกก็คงไม่ต้องทุ่มเทและถูกกดขี่ข่มเหงอยู่ตลอดเวลาแบบนี้หรอก”
“หากลูกสามารถหาผู้ชายที่แข็งแกร่งที่คอยให้หนุนหลังได้ก็ออกจากตระกูลซ่งไปเสีย ว่ายังไงล่ะ?”
“แม่ไม่ได้ขอให้พวกลูกๆต้องร่ำรวยเงินทอง แค่ของให้พวกลูกทั้งสองมีชีวิตที่สงบและปลอดภัย แค่นั้นแม่ก็พอใจแล้ว”
เมื่อซ่งหวาหย่าฟังจบ ดวงตาของหล่อนก็แดงก่ำ หยางเฉินคือรักแรกพบของหล่อนแต่ก็รู้ดีว่าหยางเฉินนั้นแต่งงานแล้ว ดังนั้นในชั่วชีวิตนี้คงเป็นแค่มีบุพเพสันนิวาสแต่ไร้ซึ่งวาสนาให้เคียงคู่
ในขณะที่หล่อนต้องการจะอธิบายก็มีร่างของชายชราคนหนึ่งรีบเดินออกมาด้วยใบหน้าที่ดูกระวนกระวาย “คุณนาย ไม่ดีแล้ว นายท่านตระกูลซ่งจะขับไล่คุณชายยี่ออกจากตระกูลแล้ว!”
“อะไรนะ?”
ใบหน้าของหลี่ไห่หรงดูช็อก
แม้ว่าเธอจะไม่เคยสนับสนุนให้ซ่งหวายี่นั้นต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งของทายาทรุ่นที่สามมาแต่เธอก็รู้ดีว่าทำไมซ่งหวายี่ถึงทำเช่นนั้น
เพราะในตอนนั้นพ่อของซ่งหวายี่นั้นคาดหวังว่าสักวันหนึ่งซ่งหวายี่จะสามารถรับตำแหน่งเป็นนายท่านของตระกูลได้
เพียงแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงเลยก็คือเขาดันมาจากไปตั้งแต่ซ่งหวายี่อายุยังน้อย
“คุณนาย เมื่อคืนคุณชายยี่คุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูของผู้นำทั้งคืนพร้อมกับร้องขอโอกาสให้เขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ท่านผู้นำกลับจะไล่คุณชายยี่ออกจากตระกูลไปจริงๆ”
ชายชราพูดอย่างตื่นตระหนก “ท่านรีบไปขอร้องผู้นำเถอะ บางทีอาจจะยังไว้หน้าให้โอกาสคุณชายยี่ได้”
“ไปกันเถอะ!”
หลี่ไห่หรงหันหลังไปโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ ซ่งหวาหย่าเองก็รีบตามไปติดๆ
เมื่อสองแม่ลูกมาถึงที่หน้าประตูวิลล่าของผู้นำก็เห็นซ่งหวายี่คุกเข่าอยู่ที่หน้าประตูพร้อมกับพูดด้วยสีหน้าที่ยืนหยัดว่า “ท่านปู่ การที่ซ่งหวาตงต้องตายและการที่ซ่งหวาเหว่ยโดนไล่ออกนั้นเป็นการหาเรื่องใส่ตนเองทั้งนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคุณหยางเลยแม้แต่น้อย”
“ขอให้ท่านปู่ควบคุมอารมณ์โกรธและอย่าตามหาคุณหยาง ไม่เช่นนั้นหายนะจะมาสู่ตระกูลซ่งอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ก็เกิดเสียงโกรธจัดดังขึ้นมาจากในวิลล่า “แกมันมารผจญ ยังจะมากล้าอ้อนวอนแทนไอเด็กนั่นอีกเหรอ?เขาฆ่าน้องสามแถมยังทำให้พี่คนโตต้องอับอายต่อสาธารณชน นี่ถือเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตระกูลซ่ง!”
“เขาต้องตายเพื่อชำระล้างความอัปยศให้ตระกูลซ่ง!”
“และแกที่เป็นทายาทสืบทอดโดยตรงของตระกูลซ่งแต่กลับไปยุยงให้คนภายนอกมาจัดการลงมือกับพี่น้องของแกเองก็ถือเป็นการกบฏอย่างแรง หากวันนี้ไม่ไล่แกออกจากตระกูลไปล่ะก็ในอนาคตก็คงจะอยากเอาตำแหน่งผู้นำของฉันไปด้วยล่ะสิ?”
คนที่พูดคือซ่งชิงซาน ผู้นำตระกูลซ่ง
หลี่ไห่หรงจึงรู้ว่าแท้จริงแล้วซ่งหวายี่นั้นกำลังอ้อนวอนให้กับชายหนุ่มที่ชื่อหยางเฉินอยู่ ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ลูกชายของเธอนั้นหยิ่งผยองแค่ไหน เธอรู้ดี
ในตอนนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาร้องขออ้อนวอนให้กับชายหนุ่มคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวของตนต่างก็ตกหลุมรักชายหนุ่มคนนั้นตั้งแต่แรกเห็นเลยสินะ
เธอล่ะอยากเห็นชายคนนั้นที่ชื่อหยางเฉินจริงๆ
ซ่งหวายี่นั้นไม่รู้ว่าแม่ของตนคิดเช่นนี้ เขาจึงไม่ได้ร้องขอให้ซ่งชิงซานเก็บเขาไว้ในตระกูลซ่งต่อไปแต่กลับร้องขอเพื่อนหยางเฉินแทน
ดูเหมือนว่าเขากำลังอ้อนวอนให้กับหยางเฉิน แต่เขานั้นรู้ตัวดีว่าเขาไม่ต้องการให้ตระกูลซ่งไปทำให้หยางเฉินต้องขุ่นเคือง
ตระกูลซ่งจะไปรุกรานชายหนุ่มผู้ซึ่งรักษาดินแดนเหนือได้อย่างไรกัน?
หากไปดึงให้ผู้รักษาแดนเหนือออกมาจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงตระกูลซ่ง ต่อให้เป็นแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูก็คงหายวับไปกับตา
“ท่านปู่ ท่านจะขับไล่ผมออกจากตระกูลก็ได้ ผมยอม!แต่การที่จะไปตามล้างแค้นกับคุณหยาง ผมยอมไม่ได้!” ซ่งหวายี่กล่าวอย่างหนักแน่น
“ซ่งหวายี่ แกนี่กล้าหาญมากนักนะถึงได้มาขอร้องท่านปู่ให้ไอ้สารเลวนั่น!”
“ที่ฉันอับอายก็แล้วไปแต่เรื่องการฆ่าหวาตงล่ะ หากไอ้เด็กหนุ่มนั่นไม่ตาย คนอื่นจะมองตระกูลซ่งของเราอย่างไร?”
“พวกเขาก็คงจะคิดว่าตระกูลซ่งนั้นไม่มีใครที่จะจัดการลงมือกับเด็กอายุยี่สิบกว่านั่นได้เลยเหรอ?”
ซ่งหวาเหว่ยเดินออกมาจากวิลล่าพร้อมกับพูดจาเยาะเย้ย
ดวงตาของซ่งหวายี่เต็มไปด้วยความโกรธ กัดฟันกรอดๆพร้อมกับพูดว่า “นี่นายไม่ได้รู้อยู่แก่ใจแล้วเหรอว่าหวาตงตายเพราะอะไรและที่นายโดนไล่ออกมามันเพราะอะไร?”
“ซ่งหวาเหว่ย ฉันยอมละทิ้งตำแหน่งทายาทรุ่นที่สามได้แต่ถ้าพวกนายจะไปทำอะไรคุณหยางล่ะก็ต่อให้ตายฉันก็จะหยุดมันไว้!”
“เพราะว่าคุณหยางไม่ใช่คนที่ตระกูลซ่งสามารถไปทำให้ขุ่นเคืองได้!”