วันต่อมา..
แสงแดดสีทองอ่อนของเช้าวันใหม่สอดส่องผ่านม่านเข้ามาทักทายโจรหนุ่มที่นอนตะแคงข้างทับแขนพับข้างหนึ่งของตัวเองและแขนอีกข้างพาดอยู่บนเอวคอด มองหน้าหญิงสาวสลับกับลูกสาวที่ยังนอนหลับอยู่บนเตียงอย่างสุขสบายใต้ผ้านวมผืนหนา รับความอุ่นหลบไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศที่เป่ารดลงมาเป็นระยะ
“อื้อ~” หญิงสาวครางอื้ออึงในลำคอเบาๆ ก่อนขยับตัวพลิกเข้าไปกอดเพลิงที่แอบมานอนซ้อนหลังอยู่อย่างงัวเงียประกอบกับไม่รู้ตัว ซุกพวงแก้มแดงระเรื่อเข้าคลอเคลียแผงอกแกร่งหาความอุ่น
“…..” คนถูกกอดชำเลืองมอง พลางคลี่ยิ้มอ่อนรีบดึงแขนที่ใช้หนุนนอนสอดเข้าไปใต้ลำคอของเธอขณะที่มืออีกข้างยกศีรษะทุยให้มาหนุนลงพร้อมกับลูบมันเบาๆ กดปลายจมูกโด่งคมหอมกระหม่อมบางทีหนึ่ง ตอนแรกเขาไม่ได้มานอนข้างเธออย่างงี้หรอกเพราะเมื่อคืนเจ้าตัวให้ลูกสาวตัวน้อยทั้งสองคนมานอนคั่นระหว่างกลางไว้ไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้แถมยังข่มขู่สารพัด ก็ได้แต่รอให้เธอหลับก่อนถึงจะยกลูกสาวคนพี่มานอนแทนที่ตนได้และขยับเธอไปนอนแทนที่ลูกสาว กว่าเขาจะได้มานอนกอดเล่นปาเข้าไปดึกดื่นอยู่เหมือนกัน
หลังจากได้กลับมานอนกอดเนเน่ตลอดทั้งคืนมันทำให้เขาได้หลับเต็มอิ่มกว่าทุกคืนที่ผ่านมา อ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นและสัมผัสนุ่มนวลจากเธอรวมไปถึงกลิ่นกายหอมกรุ่นดั่งดอกไม้ในทุ่งลาเวนเดอร์ ซึ่งออกฤทธิ์เหมือนกับยาเสพติดชนิดรุนแรงถ้าค่ำคืนไหนที่ไม่ได้สัมผัสเขาก็ทรมาน
เพลิงโน้มปลายจมูกลงหอมกระหม่อมบางอีกครั้ง แล้วค่อยๆดึงแขนข้างที่ให้เนเน่ใช้หนุนนอนเมื่อสักครู่ออกมาตามด้วยเลื่อนมาจับแขนของเธอที่กระชับกอดเขาอยู่ยกวางลงบนที่นอน ดันตัวลุกขึ้นอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอรู้สึกตัวตื่นจะได้ไม่รบกวนการพักผ่อนของลูกสาวทั้งสองคน
“อื้อ~” เนเน่ปรือตามองอย่างงัวเงียเมื่อสัมผัสได้ว่ามีมือหนาของใครบางคนแต่ก็พอจะรู้ว่าคือใคร ค่อยๆสอดเข้ามาใต้ลำคอ ยกศีรษะของเธอช้อนขึ้นพร้อมกับตัวในท่าเจ้าสาวแล้วเดินพาไปไหนสักแห่ง เธอยกหลังมือมาขยี้เปลือกตาบางเบาๆให้ได้เห็นใบหน้าคมคายชัดเจน “อื้อ..ปล่อยนะ นายจะพาฉันไปไหน” เสียงแหบแห้งร้องถามเขาออกไป ทั้งดีดดิ้นหวังให้ปล่อย และตวัดท่อนแขนเรียวขึ้นไปโอบรัดลำคอหนาไว้แน่นด้วยความกลัวตก
“ชู่ว์ อย่าเสียงดังเดี๋ยวลูกตื่น” เพลิงก้มหน้าลงมาเอ็ดเธอโดยที่เท้าใหญ่ยังคงก้าวเดินผ่านบานประตูห้องออกมา แต่เนเน่ก็ไม่ได้เงียบหรือหยุดดิ้นในทันที สายตาที่มองอีกฝ่ายบงบอกว่าเธอไม่พอใจในการกระทำตามใจตัวเองของเขา
เพลิงก็ยังคงเป็นเพลิงอยู่วันยังค่ำ นิสัยเดิมๆไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด ไม่มีจริงๆ
“นายก็ปล่อยฉันลงสิ” เธอบอกออกไปด้วยน้ำเสียงเบาลง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพลิงหยุดฝีเท้าพอดีระหว่างทางไปห้องน้ำกับห้องครัว
“อยากให้ฉันปล่อยลงที่ไหน..หื้ม~ ในห้องน้ำหรือในครัวดี”
“…..” ใบหน้าสวยเบือนหนีเมื่อจู่ๆเขาโน้มริมฝีปากที่เหยียดยิ้มลงมาแตะข้างกกหูเธอ พร้อมกับเอื้อนถามออกมาอย่างเจ้าเล่ห์เหมือนกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่างอยู่
ไม่ต้องบอกเธอก็เดารู้ว่าเขาต้องการจะทำอะไร
“ไม่ตอบงั้นไปในครัวก็แล้วกัน” เมื่อเห็นอีกคนเงียบไปไม่ยอมเลือกออกมาสักที เพลิงจึงเลือกเองแล้วพาเดินต่อเลี้ยวไปยังห้องครัวตามที่ตนว่า
“ปล่อยฉันนะ! ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้นพากลับไปที่ห้องนอนเดี๋ยวนี้” ไม่ว่าเปล่าเนเน่ดิ้นพล่านอย่างไม่ยอมไป ยกมือข้างหนึ่งคลายพันธนาการจากลำคอหนามาฟาดเข้ากลางอกเขาเต็มแรงไม่ยั้ง ไม่เข้าใจโลกทำไมต้องสร้างผู้หญิงมาให้อ่อนแอกว่าผู้ชายด้วยดูไม่เท่าเทียมกันซะเลย
“…..” คำพูดของเธอเหมือนเป็นเพียงแค่ลมปากไม่ได้ทำให้เพลิงทำตามเลย กลับแสร้งเมินเฉยเป็นหูทวนลมรีบสาวเท้าเดินไปยังจุดหมายเร็วขึ้นอีก
“เอ๊ะ! นี่ไม่ได้ยินรึไงบอกให้ปล่อยเดี๋ยวนี้”
“เงียบ อยากให้ลูกตื่นนักรึไง”
“ก็ปล่อยสักทีสิ” แม้ตลอดทางเธอจะพยายามขัดขืนและทุบตีทำร้ายร่างกายเขา แต่ทว่านั้นดูเหมือนจะไม่เป็นอุปสรรคในความต้องการของเขาเลยสักนิดเดียว
“บอกให้ปล่อยไง”
“…..” ดวงตาคมนิ่งไม่ได้สะทกสะท้านเหลือบตาลงมองร่างที่ดีดดิ้นสุดแรงในอ้อมแขน เรี่ยวแรงเธอเท่ามดทำอะไรคนทึกอย่างเขาไม่ได้หรอก
พรึ่บ!
ขณะเดียวกันสองเท้าใหญ่มาหยุดหน้าเคาน์เตอร์พอดี เลยปล่อยเธอลงโดยที่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัว เท้าเล็กตะแคงลงแตะไม่เต็มพื้นทำให้เกือบเซจะล้มแต่ดีที่เขาได้ประคองตัวไว้ทัน
“อ๊ะ!” หญิงสาวเผลอร้องออกมาด้วยความตกใจคว้าจับไหล่แกร่งไว้แน่น ในนาทีต่อมาก็ผลักเพลิงออกห่างจนได้อิสระ แล้วสองขาเรียวรีบหมุนตัววิ่งไปยังช่องทางออกทันที
หมับ!
“โอ้ย! เพลิงปล่อยนะ..จะทำบ้าอะไรของนาย” แต่ยังไม่ทันจะได้วิ่งก็ถูกมือหนามาจับแขนเอาไว้พร้อมกับกระชากผลักเธอให้หันหน้าเข้าแนบชิดกับขอบเคาน์เตอร์ ก่อนมือนั้นจะเลื่อนสอดเข้ามาเกลี่ยกลุ่มผมยาวดำเงาตรงซอกคอระหงข้างหนึ่งไปพาดไว้อีกฝั่ง
“ฉันรู้ว่าเธอรู้ว่าฉันพาเธอมาทำอะไร” สันจมูกโด่งคมโน้มลงมาคลอเคลียซอกคอระหง สูดดมกลิ่นหอมจากตัวเธออ่อนๆเข้าปอดฟอดใหญ่ แล้วค่อยๆดึงชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวของเนเน่ลงช้าๆ “เธอต้องชดเชยส่วนที่เหลือของเมื่อคืนให้ฉัน”
จุดประสงค์เดียวที่เขาอุ้มเธอมาก็เพราะหวังต้องการให้ชดเชยในส่วนที่เหลือจากเมื่อคืนที่ลูกมาพรากไป
“ชดเชยบ้าอะไรของนาย ปล่อยฉัน!” เนเน่พยายามรั้งชุดตัวเองไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างเอื้อมไปผลักศีรษะแกร่งออกจากหัวไหล่ขณะที่เขาเลื่อนริมฝีปากลงมาพรมจูบไปทั่วไหล่มน
แน่นอนว่าไม่เป็นผลเพราะตอนนี้ชุดของเธอร่วงไปกองอยู่ที่ปลายเท้าเรียบร้อบแล้ว เกลียดตัวเองที่อ่อนแอกว่าชะมัดเลย
“อย่ามาตีหน้าซื่อได้ปะ..”
เธอไม่ได้ตีหน้าซื่อสักหน่อยรู้แล้วแหละว่าเมื่อคืนเขาเสร็จไปรอบเดียวซึ่งมันไม่ใช่ตัวเขาไง ยังจำได้ขึ้นใจไม่เคยลืมแต่เธอไม่อยากทรมานกับรสเซ็กส์ของเขาที่ไม่เคยอ่อนโยนเลยสักครั้งแล้ว
“และก็เลิกขัดขืนได้แล้วยังไงก็ไม่รอด เดี๋ยวลูกตื่นจะไม่ทัน” ว่าจบโจรหนุ่มก็ผลักร่างเธอซบหน้าลงกับเคาน์เตอร์เย็นเฉียบ พร้อมกับจับรวบแขนเรียวทั้งสองข้างของเธอไพล่หลังโดยมือเพียงข้างเดียวอย่างไม่รีรอ
พรึ่บ!
“โอ๊ยยย! หยุดนะ”
เพลิงถอดกางเกงบ็อกเซอร์ของตัวเองออกอย่างรวดเร็วเมินเฉยต่อเสียงร้องบอกนั้น มือหนาชักรูดท่อนเอ็นตัวเองที่ผงาดแข็งชันมาตั้งแต่ตื่นนอนสองสามครั้ง แล้วดันมันเข้าไปในร่องสวาทคับแคบในคราวเดียวจนสุดความยาวของมัน
ปึก!
“อื้อ!!” ร่างกายสั่นเกร็งเมื่อความใหญ่โตรุกล้ำเข้ามาอย่างป่าเถื่อนโดยที่ไม่มีน้ำหล่อลื่นเป็นตัวเบิกทาง เนเน่หลับตาปี๋ พลางกัดฟันแน่นพยายามข่มความเจ็บปวดไว้
“รู้ไหมว่าเธอเป็นคนเดียวและคนแรกที่ทำให้ฉันคลั่ง จนขาดเธอไม่ได้ขนาดนี้” ริมฝีบางหนาโน้มลงจูบแผ่นหลังขาวเนียน ทั้งสะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ก่อนค่อยๆเปลี่ยนเป็นหนักหน่วงในเวลาต่อมาทันทีที่รู้สึกว่าภายในกายสาวเริ่มปลดปล่อยน้ำหล่อลื่นออกมาชโลมลำกายให้เปียกชุ่ม
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“อึก..” หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นส่ำกับคำพูดของเขา รวมไปถึงใบหน้าสวยเหยเกไปด้วยความจุกจากจังหวะรักหยาบโลนที่คนข้างหลังถาโถมเข้าใส่อย่างบ้าคลั่ง ไม่ปล่อยให้เธอได้หยุดหายใจเลย
“อืม~ เพราะมันตอดแน่นอย่างงี้ไงฉันถึงคลั่ง..อ๊า” เพลิงครางลึกในลำคอบอกเสียงกระเส่า ก่อนเชิดหน้าคำรามลั่น ช่องทางรักของเธอคับแน่นทำเขาหลงใหลเกินจะหักห้ามใจ คลายมือออกจากแขนเรียวเล็กทั้งสองข้างของเธอ แล้วเลื่อนสอดเข้าไปบีบเคล้นเต้าอวบทั้งสองข้างสลับกับเขี่ยคลึงดุนยอดมัน
“อื้อ..อ๊ะ..ยะ..อย่าทำแรงเจ็บ..อ๊า” ทั้งเจ็บทั้งเริ่มเสียวซ่านในเวลาเดียวกันเมื่อถูกสัมผัสดุนอย่างแรงจนร่างกายสั่นเกร็งไม่หยุด เนเน่ใช้มือเท้าดันตัวขึ้นมาหอบหายใจถี่ๆ เผยอริมฝีปากอวบอิ่มเปล่งเสียงครางด้วยความลืมตัว
“ไม่อยากให้ทำแรงก็ให้อภัยผัวคนนี้เร็วๆสิ”
“มะ..ไม่มีทาง..อ๊ะ..อ๊า” คนอะไรเจ้าเล่ห์ที่สุดคิดว่าใช้แผนนี้มาทำให้เธอยอมงั้นเหรอฝันไปเถอะ คนอย่าเขาเลวเกินกว่าจะให้อภัย
“ก็ทนเจ็บไปนะ” เพลิงแสยะยิ้มร้ายกาจ ใช้เท้าดันเรียวขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน แล้วลูบไล้ฝ่ามือข้างหนึ่งลงไปคลี่อ้ากลีบเนื้อบดขยี้เม็ดติ่งอุ่นร้อนของเธอเบาๆ ไม่วายสอดนิ้วกลางแทรกเข้าไปในช่องทางรักคับแคบด้วย
“อึก..อ๊ะ..ไอ้เลว”
“จุ๊ๆ ว่าผัวแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะเดี๋ยวจะเจ็บหนักเอาเปล่าๆ” การที่เขากวนประสาทยิ่งสร้างความไม่พอใจให้เธอ และยิ่งเธอห้ามปรามมากเท่าไหร่ก็เหมือนบอกให้เขาทำรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น
ปั่ก! ปั่ก!
“อ๊าาา..อื้อ” ดวงตากลมโตตอนนี้หรี่ลงแทบจะปิดก้มมองมือหนากอบกุมเคล้นเต้าอวบบนหน้าอกใหญ่ที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะแรงกระแทกกระทั้น มองได้แป๊บเดียวกลับต้องเชิดหน้าขึ้นเพราะถูกคนข้างหลังสอดแขนเข้ามารั้งไหล่มนดันตัวขึ้นเร่งจังหวะ
“อืม~” ใบหน้าคมคายโน้มริมฝีปากเข้ามาใกล้ๆกกหูของคนข้างหน้า ตวัดเรียวลิ้นเลียกลีบหูขาวผ่องเบาๆ ทำเอาเจ้าของขนลุกซู่รีบเบือนหลบ
ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก!
“อึก..ฉะ..ฉัน..อ๊า..จะ..จุก” เนเน่กัดฟันแน่นอีกครั้ง สะโพกสอบอัดกระแทกเข้าใส่ถี่ๆไม่ยั้งจึงส่งผลให้ท้องน้อยจี๊ดขึ้นมา ทว่าอีกกลับฝ่ายไม่ได้สนใจเอาแต่บรรเลงบทรักเร่าร้อนตามใจตัวเอง
จนเวลาผ่านไปเรื่อยๆนานนับเกือบชั่วโมง กายสาวก็ยังคงรองรับลำกายที่โถมเข้าใส่ถี่ยิบสุดจะหนักหน่วง
“อ๊า..จะแตก” เพลิงสะบัดผมเปียกชุ่มเหงื่อที่ตกลงมาปรกหน้าผากขึ้น ปล่อยเสียงครางชัดถ้อยชัดคำก้องทั่วบริเวณเมื่อใกล้ถึงจุดหลั่งรำไร
กว่าจะได้ยินคำนี้คำที่เธอรอคอยให้เขาพูดออกมานานแสนนาน เล่นเอาเธอทรมานแทบทนไม่ไหวเกือบจะสลบคาเคาน์เตอร์อยู่แล้ว
“อ๊าสสสสส” โพรงอ่อนของเธอกระตุกตอดรัดท่อนเอ็นใหญ่ของเขา จนเริ่มกลั้นของเหลวในกายไว้ไม่ไหวกดตัวเนเน่อัดแรงกระแทกเข้าสุดแรงแล้วปล่อยน้ำสีขาวขุ่นพวยพุ่งเข้าไปในกายสาว