มองเฉิงจื่อเซียวที่กำลังเดินไปไกลแล้ว หร่วนซือซือก็รีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว เธอถามขึ้นว่า " คุณจะไปหาอวี้อี่มั่วจริงหรอ? "
เฉิงจื่อเซียวยักคิ้ว " ไม่อย่างนั้นล่ะ "
เมื่อเห็นท่าทีที่มุ่งมั่นของเขา หร่วนซือซือเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่เดินตามเขาไปยังทิศทางของบริษัท
เมื่อเห็นว่าใกล้จะเดินไปถึงประตูหน้าบริษัทแล้ว หร่วนซือซือก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เลยถามเขาไปอีกครั้งว่า " ที่คุณมาหาอวี้อี่มั่วมีเรื่องอื่นจริงหรอ? "
เฉิงจื่อเซียวพยักหน้าเล็กน้อย " สบายใจเถอะ ฉันรู้ว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด "
พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ หร่วนซือซือเองก็ค่อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย
ถึงบริษัท กำลังรอลิฟต์ เฉิงจื่อเซียวมองหร่วนซือซือที่อยู่ข้างๆ เขาพูดขึ้นว่า " เดี๋ยวฉันเธอกลับแผนกก่อน "
หร่วนซือซือปฏิเสธทันที " ไม่ต้องหรอก "
ถ้าเพื่อนร่วมงานในแผนกเห็นว่าเธออยู่กับเฉิงจื่อเซียว ไม่รู้ว่าพวกเธอจะพูดอะไรอีก
" ทำไมไม่ต้อง? " เฉิงจื่อเซียวก้มมองหน้าเธอและถามเธอกลับว่า " รู้สึกว่าฉันมันน่าอายหรอ? "
"ไม่ใช่แบบนั้น เอาเป็นว่าฉันกลับไปคนเดียวได้ "
ในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังโต้เถียงกันอยู่ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เพื่อนร่วมงานข้างๆต่างก็กระซิบกันว่า " ดูสิ ประธานอวี้มาแล้ว! "
พอได้ยินคำว่า " ประธานอวี้ " หร่วนซือซือก็รีบหันหน้าหลบทันที และแล้วกลุ่มคนพวกนั้นที่นำโดยอวี้อี่มั่วก็เดินมาทางนี้
อวี้อี่มั่วยืนอยู่ตรงกลาง เขาเอียงศีรษะและกำลังสั่งงานตู้เยี่ย คิ้วโก่งตาคม ออร่าฟุ้งกระจาย
เฉิงจื่อเซียวเองก็เห็นเขาแล้ว ในแววตาของเขามีความเย็นยะเยือกมาก เขาพูดอย่างเย็นชาว่า " คนที่มีการกระทำเยี่ยงหมา "
เขายังไม่ทันพูดจบ อวี้อี่มั่วก็หันหน้ามามอง
พออวี้อี่มั่วเห็นเฉิงจื่อเซียว เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และกวาดสายตาไปทั่วจนสะดุดกับหร่วนซือซือที่อยู่ข้างๆเขา สีหน้าเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ทำไมพวกเขาถึงอยู่ด้วยกัน?
อวี้อี่มั่วรีบก้าวเดินเข้าไปหาพวกเขาโดยไม่สนใจการรายงานของลูกน้อง
เว้นระยะประมาณครึ่งเมตรเขาก็หยุดเดิน มองเฉิงจื่อเซียวและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา " ประธานเสี่ยวเฉิง ไปดีมาดีนะ "
เฉิงจื่อเซียวยิ้มมุมปากอย่างไม่จริงจัง เขาเชิดคางตัวเองขึ้น " ประธานอวี้ พอมีเวลาไหม? จะไม่เชิญฉันไปนั่งดื่มกาแฟที่ห้องทำงานคุณหน่อยหรอ? "
สายตาของอวี้อี่มั่วเย็นชา สีหน้าเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลง " ถ้าประธานเสี่ยวเฉิงต้องการ ผมสะดวกเสมอ "
เฉิงจื่อเซียวหัวเราะ " ดีเลย อย่างนั้นก็ขึ้นไปดื่มสักแก้วแล้วกัน "
สายตาของอวี้อี่มั่วหยุดลงที่หร่วนซือซือ เขาเลยพูดขึ้นว่า " ในเมื่อผู้ช่วยหร่วนกับประธานเสี่ยวเฉิงสนิทกันขนาดนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกันเลยสิ "
ในขณะที่พูดเขาก็ก้าวเข้าไปในลิฟต์ที่สำหรับผู้บริหารโดยเฉพาะ
จู่ๆหร่อนซือซือก็ถูกเอ่ยถึง เลยทำให้เธอตื่นตระหนกเล็กน้อย
อวี้อี่มั่วให้เธอเข้าไปด้วย มันหมายความว่ายังไงกันแน่?
ในสถานการณ์แบบนี้เขาก็ไม่กล้าถามอะไรมาก รักษาชีวิตรอดสำคัญที่สุด ทำได้เพียงขึ้นลิฟต์ตามเฉิงจื่อเซียวไป
ลูกน้องที่เดิมทีเดินตามหลังอวี้อี่มั่วไม่ได้ตามเข้ามา ในลิฟต์นอกจากอวี้อี่มั่วและเฉิงจื่อเซียว ก็มีแค่เธอ
พอประตูลิฟต์ปิดลง ไม่มีเสียงพูดคุยกันทำให้บรรยากาศในลิฟต์อึดอัดสุดสุด
ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือเป็นเพราะอะไร ในตอนที่ความเงียบสงบเข้าครอบคลุมอย่างแท้จริง เฉิงจื่อเซียวก็หันไปมองหร่วนซือซือ จู่ๆก็ถามขึ้นว่า " เดี๋ยวเย็นนี้ฉันมารับเธอนะ? "
หร่วนซือซืออึ้ง คิดไม่ถึงว่าเฉิงจื่อเซียวจะกล้าหาญขนาดนี้ กล้าถามคำถามแบบนี้ต่อหน้าอวี้อี่มั่ว
ตอนนี้ถ้าเธอตอบก็ไม่ควร จะไม่ตอบก็ไม่ได้ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ
หร่วนซือซือจับชายเสื้อตัวเองแน่น และฝืนยิ้มให้เขา " ไม่ต้องหรอ……"
ในขณะที่พูด เธอไม่ลืมที่จะขยิบตาให้เฉิงจื่อเซียว
เมื่อเฉิงจื่อเซียวเห็นเข้า เขาก็หัวเราะเหมือนกับว่าไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอจะสื่อ ยกมือขึ้นลูบผมเธออย่างอ่อนโยน " ทำไมยิ้มได้น่าเกลียดแบบนี้ล่ะ? "
หร่วนซือซือรีบหลบหน้าเขาอย่างรวดเร็ว รอยยิ้มบนหน้าเธอเหมือนจะร้องไห้
และเป็นไปตามคาด อวี้อี่มั่วที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็หันหน้ามามอง สายตาสุดลึกล้ำของเขามีรังสีความเย็นชาแฝงอยู่ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเสียวสันหลังวาบ
ตอนนี้เธอแทบจะอยากฆ่าเฉิงจื่อเซียว!
ในที่สุด เสียง " ติ๊งตึ้ง ——-" ของลิฟต์ก็ดังขึ้น ถึงสักที
เมื่อเห็นอวี้อี่มั่วเดินนำออกจากลิฟต์ไป หร่วนซือซือก็สูดหายใจเข้าซ้ำๆหลายรอบ และเธอก็รีบเดินตามอวี้อี่มั่วไปอย่างรวดเร็ว
เฉิงจื่อเซียวเดินตามอวี้ิี่มั่วเข้ามายังห้องทำงาน และกวาดตาสังเกตการตกแต่งของห้องทำงานอย่างทั่วๆ และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา " จำได้ว่าครั้งที่แล้วที่มาอวี้กรุ๊ป ไม่สามารถเข้ามาดูแม้แต่ห้องทำงานของประธานอวี้ ในที่สุดครั้งนี้ก็ได้เข้ามาสักทีนะ"
ในคำพูดของเฉิงจื่อเซียวมันแฝงไปด้วยความหมายบางอย่าง แน่นอนว่าอวี้อี่มั่วฟังออก เขาเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเฉิงจื่อเซียว และมองไปที่หร่วนซือซือและออกคำสั่งว่า " ไปเตรียมกาแฟมาสองแก้ว "
หร่วนซือซือยืนลังเลอยู่ที่เดิมหนึ่งวิ ก่อนที่จะดึงสติกลับมาได้ เธอก็รีบตอบรับและเดินออกจากห้องไป
ถึงแม้ว่าการต้อนรับแขกที่มาเยือน ชงกาแฟ เสิร์ฟน้ำ เสิร์ฟชาจะเป็นหน้าที่ของเลขาหน้าห้องผู้บริหาร แต่ว่าในตอนนี้อวี้อี่มั่วสั่งให้เธอไปทำ ถ้าเธอจะไม่ทำมันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หร่วนซือซือก้าวเดินออกจากห้องทำงานอย่างเร่งรีบ สายตาที่อวี้อี่มั่วมองเฉิงจื่อเซียวก็เยือกเย็นมากขึ้น
เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่เขามองมา เฉิงจื่อเซียวกลับไม่โกรธและยิ้ม เขาถามขึ้นว่า " ไม่ทราบว่าวันนี้ประธานอวี้อยากคุยกับผมเรื่องอะไรครับ? เรื่องที่ดินในเขตตะวันตกหรือเรื่องหร่วนซือซือ? "
การแสดงออกของอวี้อี่มั่วชัดเจนขึ้นมาก และมีความโกรธจุดประกายขึ้นในดวงตาสีเข้มอันลึกล้ำของเขา
สองวินาทีต่อมา เขาพูดขึ้นเสียงทุ้มและแฝงไปด้วยความเย็นชาว่า " ไม่ว่าจะเป็นที่ดินผืนนั้นหรือหร่วนซือซือก็เป็นของฉันทั้งนั้น "
พอเฉิงจื่อเซียวได้ยินแบบนั้น สีหน้าเขาก็เคร่งขรึมมากขึ้น และพูดอย่างเย็นชาว่า " แล้วถ้าผมบอกว่า ผมจะตามจีบเธอล่ะ? "
สายตาของอวี้อี่มั่วเยือกเย็นมากและเขาก็พูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า " คุณคิดว่าคุณจะมีโอกาสหรอ? "
เฉิงจื่อเซียวยิ้มมุมปาก ในแววตาของเขาเหมือนเป็นผู้ชนะ " ทำไมจะไม่มีโอกาส พวกคุณอย่ากันแล้วไม่ใช่หรอ? "
พอได้ยินคำว่า " หย่า " สีหน้าของอวี้อี่มั่วเศร้าหมองขึ้นทันที และเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียด " ถึงจะหย่ากันแล้ว คุณคิดว่าคุณจะมีโอกาสงั้นหรอ? "
เขาจะไม่ให้โอกาสใครหน้าไหนทั้งนั้น
ในตอนนี้เอง ประตูห้องก็ถูกเปิดออก หร่วนซือซือยกกาแฟเดินเข้ามา เธอมองไปที่ทั้งสองคนที่นั่งพูดคุยเจราจากันบนโซฟา เธอก็รู้สึกเย็นและตัวสั่นอย่างอธิบายไม่ถูก
ชายทั้งสองคนมองหน้ากัน ในความเงียบโดยไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใดๆก็สามารถทำให้คนรอบข้างรู้สึกได้ถึงความขัดแย้งระหว่างพวกเขา
หร่วนซือซือเดินเข้าไปข้างหน้าและวางกาแฟลงบนโต๊ะ เธอพูดเบาๆว่า " กาแฟได้แล้วค่ะ"
เธอเสิร์ฟกาแฟให้ทั้งคู่ อวี้อี่มั่วที่อยู่อีกด้านพูดขึ้นก่อนว่า " มาคุยเรื่องที่ดินทางเขตตะวันออกกันดีกว่า "
พอได้ยินเขาเปลี่ยนประเด็นในเรื่องที่คุย เฉิงจื่อเซียวก็ยิ้มมุมปาก และถามเกี่ยวกับประเด็นที่เปลี่ยนไปว่า " เกี่ยวกับเรื่องที่ดินผืนนั้น ประธานอวี้ก็คงทราบข้อมูลและรายละเอียดของที่นั่นไม่น้อยเลยแหละ "
อวี้อี่มั่วยกกาแฟขึ้นจิบหนึ่งคำ และพูดอย่างใจเย็นว่า " โครงการที่ใหญ่ขนาดนี้ คงปล่อยให้หลุดมือไปไม่ได้หรอก "
หร่วนซือซือที่อยู่ข้างๆ ได้ยินพวกเขากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องอสังหาริมทรัพย์ในเขตตะวันตก เธอลังเลว่าควรจะออกจากห้องนี้ดีรึเปล่า แต่อวี้อี่มั่วไม่ได้สั่งเธอเองก็ไม่กล้าออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
เธอยืนอยู่ข้างๆราวเกือบยี่สิบนาที เธอหาวไปหลายทีมากๆ ในที่สุด ทั้งคู่ก็คุยกันเสร็จสักที
ก่อนที่เฉิงจื่อเซียวจะออกไป เขาไม่ลืมที่จะขยิบตาให้หร่วนซือซือ เขายิ้มแล้วพูดว่า " รอฉันโทรมานะ "
หร่วนซือซืออึ้งไป มองดูเขาที่เดินออกจากห้องทำงาน พอดึงสติกลับมาได้ก็รู้สึกได้ว่าอวี้อี่มั่วกำลังจ้องตัวเองอยู่
เธออ้าปากค้าง " ประธานอวี้……ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันก็ขอตัวก่อนนะคะ "
อวี้อี่มั่วเอาแต่จ้องเธอและไม่พูดอะไรสักคำ ในที่สุดเขาก็ถามขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า
" เฉิงจื่อเซียวตามจีบเธออยู่หรอ? "