Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 337 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 337 ตอนที่ 337 Posted by , ? Views, Released on October 24, 2020 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest บทที่ 337 : ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว! ทันทีที่ได้เห็นหม้อทองแดงที่หลิงหยุนวางลงบนพื้น โทคุงาวะ ทาเคซุกะถึงกับรีบใช้มือเช็ดเลือดที่ไหลอาบดวงตาออกทันที และพยายามจะคลานเข้าไปแตะ! ส่วนเฉินเจี้ยนเหยิวนที่ถูกเข็มซัดของหลิงหยุนจี้จุดไว้จนไม่สามารถขยับตัวได้นั้น ก็พยายามดิ้นรนเช่นกัน แต่เมื่อเห็นสภาพของตนเองก็ได้แต่หมดหวัง ตู้กู่โม่ใช้เท้าเหยียบร่างของโทคุงาวะที่พยายามเอื้อมมือออกไปไว้ แต่ก็ไม่สามารถหยุดความตื่นเต้นในดวงตาของโทคุงาวะได้ “โอ้พระเจ้า!! นี่มันหม้อเสินหนงจริงๆด้วย ช่างเป็นบุญตาของข้าจริงๆ! ฮ่า.. ฮ่า..” โทคุงาวะร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจราวกับว่าตนเองได้เป็นเจ้าของหม้อเสินหนงใบนี้ ในเวลานี้.. แม้แต่ตู้กู่โม่เองก็ถึงกับตกใจสุดขีดเช่นกัน! นับแต่ที่เขาได้พบหลิงหยุนนั้น หลิงหยุนก็มีทั้งกระบี่ของนิกายมารอย่างกระบี่โลหิตแดนใต้ มีน้ำเต้าวิเศษ มียันต์ที่สามารถใช้รักษาอาการบาดเจ็บ มียันต์อัคนีที่น่ากลัว และยังมีสมบัติล้ำค่าที่สามารถเก็บสิ่งของเหล่านี้อีกด้วย ซ้ำยังเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องค่ายกลอย่างลึกซึ้ง! หลิงหยุนผู้นี้เป็นใครกันแน่? เขาเป็นศิษย์สำนักหมอสวรรค์จริงๆงั้นหรือ? เพราะแม้แต่เขาเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อสำนักนี้มาก่อนเช่นกัน? ตอนนี้หลิงหยุนมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งและน่ากลัวมาก.. แต่เท่าที่ตู้กู่โม่จำได้ เมื่อครั้งที่เขาพบกับหลิงหยุนที่ไนท์คลับคืนนั้น กำลังภายในของหลิงหยุนยังอยู่เพียงแค่ขั้นโฮ่วเทียน-5 เท่านั้น แต่ผ่านไปเพียงแค่ห้าหกวัน.. เมื่อเขาได้พบกับหลิงหยุนที่ก้นหลุมยักษ์อีกครั้ง กำลังภายในของหลิงหยุนกลับแข็งแกร่งขึ้นมาก จนแม้แต่เขาเองยังดูไม่ออกว่าตอนนี้หลิงหยุนอยู่ในขั้นใหนกันแน่ ในยามที่หลิงหยุนมีสีหน้าสงบนิ่ง.. เขาก็ดูไม่แตกต่างจากเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป ซ้ำยังมีใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างมาก อีกทั้งในยามที่เขายิ้มและหัวเราะก็มีเสน่ห์น่าดึงดูดอย่างมากเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นก็ดูไม่มีอะไรพิเศษ! ในยามที่เขาไม่โมโห.. แววตาของเขากลับยิ่งอ่อนโยน และสงบนิ่งอย่างเหลือเชื่อ ในยามที่เขาแย้มยิ้มหรือหัวเราะ ก็มีแต่ความบริสุทธิ์สดใส จนทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นต่างก็อยากจะเข้าใกล้ หากเปรียบเทียบการพบกันของเขากับหลิงหยุนครั้งนี้กับครั้งแรก ตู้กู่โม่ก็ไม่สามารถสรรหาคำพูดใดมาบรรยายความพิเศษของหลิงหยุนได้ และในยามนี้เขาก็รู้สึกดีกับหลิงหยุนมากกว่าครั้งแรกที่ได้พบกันมาก! ยิ่งไปกว่านั้น ความเป็นเลิศของหลิงหยุนในหลายๆด้าน ก็ทำให้ตู้กู่โม่ถึงกับอึ้ง และได้แต่ยอมรับหลิงหยุนโดยที่เขาเองก็ไม่อาจอธิบายได้ เขารู้แต่ว่าตนเองต้องยอมรับคำสั่งของหลิงหยุนไปเองโดยปริยาย ‘นี่มันอะไรกัน..? ข้าตู้กู่โม่ก็เป็นยอดคนแห่งตระกูลตู้กู่ แต่เหตุใดจึงไม่สามารถเทียบหลิงหยุนได้ในทุกๆด้าน?’ “หลิงหยุน.. ถ้าคุณปล่อยผมไป และมอบหม้อเสินหนงนั่นให้กับตระกูลโทคุงาวะของเรา ผมรับปากว่าความบาดหมางของพวกเราในวันนี้เป็นอันจบกัน และไม่ว่าคุณต้องการสิ่งใด ตระกูลโทคุงาวะของเราจะหามาให้ อีกทั้งเรายังจะให้ทรัพย์สินเงินทอง ให้ความร่ำรวย และสาวสวยกับคุณ! คุณคงไม่รู้สิว่าสาวญี่ปุ่นสวยๆนั้นบริการผู้ชายดีขนาดใหน!?” โทคุงาวะ ทาเคซุกะยังคงกระสันอยากจะได้หม้อเสินหนง สายตาของเขาที่จ้องมองหม้อเสินหนงนั้น ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มอายุสิบแปดปีที่กำลังเห็นนางฟ้าของตนเองเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้า หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับชูภาพถ่ายของโทคุงาวะขึ้นมา “แกไม่มีคุณสมบัติพอที่จะต่อรองกับฉัน! ถ้าฉันเดาไม่ผิด นี่คงจะเป็นฝาของหม้อเสินหนงสินะ? ถูกใช่ไม๊ล่ะ? และตอนนี้มันก็อยู่กับตระกูลของแกใช่ไม๊? ตอบ!!” หลิงหยุนใช้มังกรคำรามสะกดจิตโทคุงาวะ และโทคุงาวะที่ใกล้จะตายก็พยักหน้าและตอบกลับมากว่า “ใช่!!” หลิงหยุนถามต่อ “แล้วบ้านของแกอยู่ที่ใหน?” โทคุงาวากำลังจะเอ่ยปากพูด แต่จู่ๆเขาก็ได้สติขึ้นมา! และยกมือขึ้นชี้หน้าหลิงหยุนพร้อมกับส่ายหน้า “หลิงหยุน.. แกเป็นปีศาจ! นี่แกใช้เวทย์มนต์อะไรสะกดจิต?” หลิงหยุนแอบคิดว่าชายญี่ปุ่นผู้นี้ช่างมีกำลังจิตที่แข็งแกร่งนัก ขนาดเขาใช้มังกรคำรามสะกดจิต แต่ชายผู้นี้กลับรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว หลิงหยุนแสยะยิ้ม “จัดการกับปีศาจอย่างพวกแก ฉันก็ต้องใช้วิธีของปีศาจสิ! บอกมา.. พวกแกได้แผนที่มาได้ยังไง? ถ้าแกตอบอะไรที่เป็นประโยชน์ ฉันจะปล่อยแกไป!” นี่เป็นสิ่งที่หลิงหยุนกังวลมากที่สุด ในเมื่อโทคุงาวะมีแผนที่ที่เข้าใกล้หุบเขาแห่งนั้นมาก คนในตระกูลของเขาก็ต้องมีแผนที่ในหุบเขาเสินหนงเช่นกัน และนั่นล่ะคือปัญหาใหญ่! “หลิงหยุน.. แกฆ่าฉันไม่ได้หรอก! ฉันได้จัดการส่งข้อมูลทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้กลับไปให้คนในตระกูลของฉันแล้ว ถ้าแกฆ่าฉันตาย.. รับรองว่าตระกูลโทคุงาวะและนักรบในตระกูลของเรา จะต้องตามไล่ล่าแกแทบพลิกแผ่นดินเลยล่ะ!” โทคุงาวะข่มขู่หลิงหยุน แต่หลิงหยุนเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย และใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ในมือลูบศรีษะโทคุงาวะพร้อมกับพูดขึ้นว่า “แกอย่ามาขู่ซะให้ยากเลย! เราสองคนสู้กันอย่างดุเดือดมาตลอด แกจะเอาเวลาตอนใหนไปส่งข้อมูลพวกนั้นได้!?” แม้หลิงหยุนจะตอบไปเช่นนั้น แต่ในใจเขากลับคิดว่ามันมีความเป็นไปได้! เพราะเมื่อครั้งที่เขาสู้กับเหอซิงหยาน เหอซิงหยานยังสามารถส่งสัญญาณเรียกนักฆ่าสวรรค์ให้ตามมาได้ถึงสามคน โดยการใช้เครื่องมือสื่อสารขององค์กรนักฆ่าที่เขาพกติดตัวมา ทำให้หลิงหยุนต้องเผชิญหน้ากับบอันตรายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ดังนั้น.. เขาจึงไม่อาจที่จะไม่เชื่อคำพูดของโทคุงาวะได้! “ได้สิ.. ก็ตอนที่แกไปไล่จับไอ้สวะนั่นไง..” โทคุงาวะหันหน้าไปมองเฉินเจี้ยนเหยิวนที่ไม่สามารถขยับตัวได้ จากนั้นก็หันไปพูดกับหลิงหยุนอย่างจองหอง “เทคโนโลยีของประเทศญี่ปุ่นทุกวันนี้ก้าวหน้าไปมาก.. คนจีนล้าหลังอย่างพวกแกคงไม่เข้าใจหรอก!” หลิงหยุนยกมือชี้ไปที่ปืนลักษณะคล้ายอาวุธสงครามที่วางอยู่ข้างเต๊นท์ พร้อมกับหัวเราะและพูดขึ้นว่า “เทคโนโลยีชั้นสูงยังวางอยู่ที่เดิม และไม่ใช่เพราะคนจีนล้าหลังเหรอที่ทำให้แกต้องอยู่ในสภาพนี้?” หลิงหยุนมั่นใจว่าโทคุงาวะไม่น่าจะพูดโกหก แต่ก็คงจะไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มากเพราะเวลาของเขามีจำกัด.. ตอนนี้กำลังภายในของหลิงหยุนก็พัฒนาขึ้นมาก และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพลังชีวิตเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว และตอนนี้เขาเองก็มีของวิเศษอยู่ในมือมากมาย หลิงหยุนจึงไม่นึกหวาดกลัวตระกูลโทคุงาวะแม้แต่น้อย หลิงหยุนเดินเข้าไปหาร่างที่ชุ่มด้วยเลือดของโทคุงาวะพร้อมกับยิ้มอย่างเลือดเย็น “โทคุงาวะ.. ฉันจะบอกอะไรให้ ฉันไม่สนใจว่าโคตรเหง้าตระกูลของแกจะเป็นใคร? แต่จำไว้ว่าสมบัติของชาวจีนจะต้องไม่ตกไปอยู่ในมือของชาวญี่ปุ่นอย่างพวกแก.. แกมั่นใจได้เลยว่าฝาหม้อ..” หลิงหยุนหยิบรูปถ่ายขึ้นมาให้โทคุงาวะดู และพูดต่อว่า “ฝาหม้อใบนั้น.. ฉันจะไปเอามันกลับมาอย่างแน่นอน! แกตายตาหลับได้แล้ว!” พูดจบ.. หลิงหยุนก็ใช้กระบี่ในมือขวาตัดหัวของโทคุงาวะ ทาเกซูกะทันที! “นี่พ่อคนเก่ง.. เจ้าบ้าไปแล้วหรือยังไง? ไม่ให้ข้าฆ่ามัน แต่เจ้ากลับฆ่ามันซะเอง?!” ตู้กู่โม่เห็นหลิงหยุนใช้กระบี่ตัดหัวของโทคุงาวะก็ถึงกับตกใจจนต้องกระโดดถอยหลังออกมา แต่ก็ยังไม่พ้น เพราะเลือดของโทคุงาวะได้กระเด็นใส่ตัวของเขาจนเปื้อนไปหมด “ใครฆ่าก็เหมือนกัน..” หลิงหยุนตอบยิ้มๆ พร้อมกับหันไปมองเฉินเจี้ยนเหยิวน เขาเงื้อกระบี่ในมือขึ้นแล้วพูดว่า “ถึงตาแกแล้ว!” “ฉันไหว้ล่ะ.. อย่าฆ่าฉันเลย! ฉันเป็นแค่เศษสวะ ปล่อยฉันไปเถิดนะ!” เฉินเจี้ยนเหยิวนมองหลิงหยุนที่ดูเหมือนตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว จึงรีบร้องขอความเมตตาอย่างไม่อาย หากเขาขยับตัวได้ เขาคงมีลูกเล่นมากกว่านี้.. “ปล่อยแกงั้นรึ?!” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับพูดต่อว่า “ปล่อยแกก็เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่า แกก็จะเอาข้อมูลของฉันไปรับรางวัลจากตระกูลโทคุงาวะ? ฉันจะปล่อยแกให้ไปพาคนมาแก้แค้นฉันเพื่ออะไร?” “แต่นายบอกจะไว้ชีวิต ถ้าฉัน..” เฉินเจี้ยนเหยิวนทำหน้าเหมือนเด็กที่กำลังจะร้องไห้ หลิงหยุนหัวเราะอย่างมีความสุข “แกยังจำได้ดีนี่ เอาล่ะถ้างั้นก็พูดมา!” เฉินเจี้ยนเหยิวนต้องการรักษาชีวิตตัวเองจึงรีบตอบกลับไปว่า “ได้.. ได้.. ฉันพูดแล้ว..” เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นได้เข้ามาบุกรุกประเทศจีนในช่วงปลายสงครามนั้น พวกมันได้เผาเสินหนงเจี๋ย และปล้นสะดมภ์ชาวบ้านในเวลานั้นอย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อตามหาหม้อใบนี้ พวกมันรู้ว่าวัตถุที่ทำจากทองแดงสัมฤทธิ์นี้ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมเก่าแก่ที่มีมูลค่ามหาศาล พวกมันเสาะหานายพรานที่เคยเข้าไปในหุบเขาแห่งนั้น แต่ตอนนี้นายพรานเหล่านั้นก็อายุมากแล้ว แต่ก็ถูกพวกมันบังคับให้นำทางไปที่หุบเขาแห่งนั้นเพื่อตามหาตัวหม้อ แต่นายพรานที่พาพวกมันไปตอนนั้นมีอายุมากกว่าเจ็ดสิบปีแล้ว จึงไม่สามารถทนต่อการเดินทางระยะไกลได้ เพียงแค่สิบวันหลังจากนั้น เขาก็ได้เสียชีวิตลงจากความหนาวเย็นบนภูเขา แต่ในระหว่างนั้นสงครามก็สิ้นสุดพอดี คนญี่ปุ่นพวกนั้นจึงไม่มีเวลาที่จะไปสำรวจหุบเข้าแห่งนั้นอีก แต่ก็ได้เขียนแผนที่ไว้สำหรับเตรียมตัวที่จะขึ้นมาที่นี่ใหม่อีกครั้ง และตอนนี้.. ฝาหม้อใบนี้ก็ได้ตกไปอยู่ในมือของตระกูลโทคุงาวะ พวกเขาให้ผู้เชี่ยวชาญมากมายมาทำการตรวจสอบฝาหม้อใบนี้ ทุกคนต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าฝาหม้อใบนี้คือฝาหม้อเสินหนงในตำนานอย่างแน่นอน นอกเหนือจากหม้อเสินหนงใบนี้แล้ว ก็ยังมีความลับเกี่ยวกับสมุดจักรพรรดิอีกด้วย! เมื่อใดก็ตามที่หาหม้อเสินหนงพบ ก็จะมีโอกาสได้พบสมุดจักรพรรดิด้วยเช่นกัน! ดังนั้นตระกูลโทคุงาวะจึงเริ่มร่วมมือกับตระกูลใหญ่ในประเทศจีน และในที่สุดก็ได้ตกลงกับตระกูลเฉินในปักกิ่งที่จะทำภารกิจนี้ร่วมกัน หลังจากทำข้อตกลงกันแล้ว ทั้งสองฝ่ายพร้อมทีมติดตามต่างก็เดินทางเข้ามาในป่าเสินหนงเจี๋ยแห่งนี้ และเฉินเจี้ยนเหยิวนก็คือตัวแทนที่ตระกูลเฉินส่งมาร่วมสำรวจในทีมครั้งนี้! แน่นอนว่าโทคุงาวะ ทาเคซุกะนั้นไม่เชื่อใจเฉินเจี้ยนเหยิวนอยู่แล้ว และเฉินเจี้ยนเหยิวนเองก็รู้เพียงว่าครอบครัวของเขาส่งเขามาเป็นเพื่อนเดินทางของโทคุงาวะ เพื่อตามหาสิ่งของบางอย่าง และเขาจะได้รับผลประโยชน์อย่างมากมายเมื่อสำเร็จ.. หลังจากที่ได้ฟังเฉินเจี้ยนเหยิวนพูด หลิงหยุนก็เข้าใจทุกอย่างแจ่มแจ้ง เขายิ้มพร้อมกับถามว่า “แล้วตระกูลเฉินตกลงอะไรกับตระกูลโทคุงาวะ?” เฉินเจี้ยนเหยิวนรีบส่ายหน้า “นี่เป็นความลับสูงสุดของตระกูล ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? แต่ตอนนี้ตระกูลเฉินเป็นตระกูลที่ใหญ่เป็นอันดับสามในจำนวนเจ็ดตระกูล ฉันคิดว่านี่อาจจะเป็นเพียงก้าวแรกของการพาตระกูลขึ้นเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งก็ได้?!” หลิงหยุนพยักหน้าพร้อมกับพูดยิ้มๆ “เอาล่ะ.. คราวนี้ก็ตอบฉันมาว่า จะออกจากเสินหนงเจี๋ยได้เร็วที่สุดยังไง?” เฉินเจี้ยนเหยิวนหลงดีใจคิดว่าหลิงหยุนจะปล่อยเขาไปจริงๆ จึงรีบบอกทางออกให้กับหลิงหยุน หลิงหยุนฟังแล้วก็พยักหน้าและตอบไปว่า “แกทำดีมาก.. เอาล่ะ.. ถึงเวลาตายของแกแล้ว!” “อะไรกัน?! ใหนบอกว่าจะปล่อยฉันไปไง?” เฉินเจี้ยนเหยิวนตกใจสุดขีด! “แกโง่ที่เชื่อฉันเอง ฉันพูดเล่น!” หลิงหยุนหันไปมองตู้กู่โม่ ตู้กู่โม่ยกกระบี่ในมือขึ้นแทงลงไปที่ลำคอของเฉินเจี้ยนเหยิวนทันที! Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) Ch. บทที่ 468 เราคือจิ้งจอกสาว 10 จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ Ch. 901 รักคุณตลอดไป [จบบริบูรณ์] 10 เจ้าสาวใบ้:อยากจะบอกรักคุณ ลิขิตรักข้ามภพ Ch. 1-178+ตอนพิเศษ 10 ลิขิตรักข้ามภพ ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ Ch. 100 ไม่จำเป็นปรึกษาคุยกันอีก 10 ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ Rebirth of the Film Emperor’s Beloved Wife Ch. 65.1 10 Rebirth of the Film Emperor’s Beloved Wife