King propose 2 อุทยาน Part 2

ตอนที่ 2 อุทยาน Part 2

ตั้งแต่ตอนนี้ขอหั่นตอนให้เล็กกว่าเดิมแบบพวกเว็บโนเวลแล้วลงให้บ่อยขึ้นดีกว่า

 

 

「……………」

 

หลังจบโฮมรูมคาบเช้า

มุชิกิปิดปากเงียบนั่งเท้าศอกบนโต๊ะนักเรียน นิ้วมือก่ายที่หน้าผาก

เหตุผลนั้นง่ายมาก ทั้งที่เมื่อวานคุโรเอะเตือนขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่พอเอาเข้าจริงดันเผลอตัวไปถ่ายรูปเล่นตั้งแต่ก่อนเริ่มเรียน

แน่นอนว่าระวังตัวอยู่แล้ว มุชิกิน่ะตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงเรียน ก็วางตัวด้วยพฤติกรรมของคุโอซากิ ไซกะมาตลอด

แต่พอรูริเข้ามาขอถ่ายรูป ใจมันดันส่งเสียงว่า「อ๊ะ อยากได้ไอ้นั่นจัง」จากนั้นก็โพสท่าอย่างเอาเป็นเอาตาย ให้พูดตามตรงแม้แต่ตอนนี้ที่นั่งสำนึกอยู่ ก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอรูปถ่าย

 

อ๊ะ แต่ช้าก่อน ความสัมพันธ์ของรูริคือศิษย์ของไซกะ แถมยังสังกัดอยู่หน่วยงานภายใต้ไซกะโดยตรงด้วย 

จะปฏิเสธคำขออย่างไร้หัวใจแบบนั้นก็ดูไม่สมเป็นไซกะ จริงๆแล้วพอคิดย้อนดูอีกทีก็ไม่คิดว่าไซกะจะปฏิเสธเรื่องถ่ายรูปนะ งั้นแปลว่าตัวเลือกตอนนั้นก็ไม่ได้แย่อะไรละมั้ง 

ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ  แต่แบบไอ้ตอนถ่าย『คุโอซากิ ไซกะที่ผมพัดสไวกับสายลมเฉียบ』เนี่ย เล่นถ่ายจนกว่าจะหาวิธีทำผมปลิวแบบเด็ดๆได้ก็ออกจะเกินไปหน่อย

 

「……ไม่สิ」

 

มุชิกิคิดหนักจนเผลอพึมพำออกมา ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ในหัวคงได้ถูกพวกมุชิกิตัวน้อยจัดประชุมตีความไซกะกันแน่ๆ

จริงอยู่ว่ามีหลายจุดที่สมควรแก้ไข แต่การมานั่งเสียใจภายหลังแบบนี้ก็ดูไม่สมเป็นไซกะเหมือนกัน สิ่งที่สำคัญคือต่อจากนี้ต่างหาก มุชิกิจัดการกับความคิดตัวเองได้ก็กลับมานั่งหลังตรง

 

「ท่านแม่มด!」

 

พอมุชิกิกำลังจะตกลงใจแน่วแน่ ก็ได้ยินเสียงนั้นดังขึ้น ──รูริล่ะ

 

「อา รูริ」

 

พอมุชิกิหันไป รูริก็วางของในมือลงบนโต๊ะ

 

「เจ้านี่คือ ?」

「รูปที่ถ่ายเมื่อสักครู่นี้ค่ะ! เพราะท่านแม่มดต้องการ เลยพยายามเร่งให้เร็วที่สุดเลยค่ะ!」

「โห… เร็วใช้ได้เลยนี่」

 

มุชิกิแกล้งทำเป็นใจเย็นแล้วรับรูปถ่ายมา

ใจจริงแทบจะกระโดดโลดเต้นอยู่แล้ว แต่ก็ต้องอดทนทนไว้

 

「ค่ะ! เพราะเครื่องปริ้นมือถือน่ะ เป็นหนึ่งในเจ็ดของคู่กายหญิงสาวค่ะ! พออาจารย์เริ่มพูดก็แอบปริ้นใต้โต๊ะทันทีเลยค่ะ!」

 

รูริพูดด้วยดวงตาเปล่งประกายและยืดอกอย่างภาคภูมิใจ

พอทำแบบนั้น เสียงหัวเราะแห้งๆก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

 

「รูริจัง….. โฮมรูมก็เป็นหนึ่งในหลักสูตรของอุทยานนะ แล้วก็…อย่าแกล้งอาจารย์นักสิ」

 

พอหันไปดู ก็เห็นเด็กผู้หญิงสวมชุดนักเรียนของอุทยานคนหนึ่งยืนอยู่ ผมที่ยาวเคลียไหล่ถูกถักเป็นเปียอย่างเรียบร้อย เป็นเด็กผู้หญิงท่าทางดูใจดี แต่ตอนนี้ที่ระหว่างคิ้วกลับมีรอยยับเหมือนกำลังลำบากใจอยู่

 

「อือ รู้แล้วน่า」

 

รูริก็พยักหน้ากลับแบบส่งๆ พอเห็นแบบนั้นเด็กสาวก็เหงื่อตก

 

「อ๊า… ทั้งที่รู้อยู่แล้วก็ยังทำแบบนั้น โธ่ ทั้งที่ปกติคนที่ถูกเตือนคือฉันแท้ๆ รูริจังเนี่ย พอเป็นเรื่องของท่านแม่มดก็เป็นซะแบบนี้…」

「ก็นี่มันท่านแม่มดในชุดนักเรียนเลยนะ? จะพูดอีกรอบ, ท่านแม่มด ในชุดนักเรียนนะ? ปาฏิหารย์ระดับที่ชั่วชีวิตก็อาจจะไม่ได้เห็นเลยนะ? นี่เธอโอเคหรือเปล่า? ให้พูดอีกรอบมั้ย?」

「อะ อื๋อ…ไม่ต้องหรอก ก็เล่นอธิบายอย่างออกรสซะขนาดนั้น」

 

การพูดอย่างเร่าร้อนของรูริ ทำเอาเด็กสาวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง มุชิกิที่เห็นแบบนั้นก็ผุดยิ้มเล็กๆออกมา

 

「ขอโทษทีนะ เพราะความนึกสนุกของฉันเหมือนจะไปทำให้เดือดร้อนเข้าซะแล้ว เอ่อ──」

「อ๊ะ…..! ขออภัยค่ะ ดิฉันชื่อ นาเงคาวะ ฮิซุมิ ค่ะ อยู่หอพักห้องเดียวกับรูริจัง… 」

 

เด็กสาวที่ชื่อฮิซุมิรีบก้มหัวให้อย่างลนลาน ส่วนมุชิกิก็ส่ายหน้าให้เบาๆ

 

「ไม่ต้องพูดสุภาพแบบนั้นก็ได้นะ ฉันในตอนนี้ไม่ใช่อาจารย์ใหญ่ เป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นคนนึงเท่านั้นเองล่ะนะ กลับกันถ้าช่วยสอนอะไรหลายๆอย่างให้คงช่วยได้มากเลย」

「คะ ค่ะ….」

 

พอมุชิกิพูดแบบนั้น ฮิซุมิก็หดไหล่ด้วยความเกร็ง

แล้วรูริที่มองการโต้ตอบของทั้งคู่อยู่ก็พองแก้มออกมา

 

「รูริ?」

「ฉันเอง ก็ทำได้นะคะ」

「เอ๊ะ?」

「ก็จริงอยู่ที่ฮิซุมิน่ะสอนเก่ง? แต่ฉันเองก็ทำประโยชน์ให้กับท่านแม่มดได้นะคะ? ถ้าต้องการละก็ จะให้อยู่เคียงข้างตลอด จะคอยพึ่งพาชีวิตในรั้วโรงเรียนทุกอย่างก็ยังได้นะคะ?」

 

พูดจบก็กอดอกแล้วเบือนหน้าหนี ดูเหมือนจะงอนเข้าซะแล้ว

 

「ฮ่ะฮ่ะ อย่างอนไปสิ ฉันน่ะ ก็หวังพึ่งรูริอยู่เหมือนกันนะ」

 

ท่าทางที่ดูออกง่ายทำเอามุชิกิเผลอยิ้มแห้งออกมา  ──เหมือนจะนึกเรื่องในอดีตขึ้นมาได้

คิดๆดูแล้ว ครั้งล่าสุดที่ได้คุยกันต่อหน้าแบบนี้ก็ตั้งกี่ปีแล้วนะ ในความทรงจำของมุชิกิ รูริยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ผมก็รู้สึกว่าจะสั้นกว่าตอนนี้พอสมควร

การที่ได้มาพบกันอีกครั้งในที่แบบนี้ด้วยร่างกายคนอื่น พูดตามตรงว่าแม้แต่ในฝันก็ยังไม่เคยคิด

 

「…..ท่านแม่มด? หน้าฉันมีอะไรติดเหรอคะ?」

 

รูริจ้องมุชิกิด้วยความสงสัย

ดูเหมือนจะเผลอจมกับความคิดนานไปหน่อย มุชิกิส่ายหน้ากลบเกลื่อน

 

「อ๊ะ คือว่า ──ผมล่ะนะ คิดว่าสวยดีน่ะ ตอนผมสั้นก็น่ารักดีหรอก แต่ผมยาวก็เหมาะมากเลยล่ะ」

「ท่ะ」

 

พอมุชิกิพูดออกไป รูริก็หน้าแดงแจ๋ขึ้นมาทันที

 

「ท่านแม่มดนี่ละก็เก่งจัง ใช่ค่ะ เมื่อก่อนเคยไว้ผมสั้น แต่เพราะท่านพี่บอกว่า 『ชอบเด็กผู้หญิงผมยาว』ก็เลยเริ่มไว้ยาว──」

 

พอถึงตรงนั้น รูริก็เอียงคอเหมือนเอะใจอะไรสักอย่าง

 

「อาเระ? ท่านแม่มด นี่ฉันเคยให้ดูรูปสมัยผมสั้นด้วยเหรอคะ?」

「อะ」

 

พอถูกถามมาแบบนั้น มุชิกิก็เผลอหลุดอุทานออกไป

──เอาอีกแล้ว ท่าทางเจ้านี่จะเป็นข้อมูลที่ไซกะไม่รู้

แต่ว่า จะมาร้อนเนื้อร้อนตัวเอาจังหวะนี้มันยิ่งไม่สมเป็นไซกะ มุชิกิเมินเสียงหัวใจที่กำลังตุบตับ แล้วขยิบตาให้อย่างโคตรสง่างาม

 

「หึ──ถ้าเป็นเรื่องของรูริละก็ ไม่ว่าอะไรฉันก็มองออกหมดนั่นแหละ?」

「ซุกี้——–ว!」

 

รูริยกมือขึ้นกุมหน้าอกเหมือนถูกคำพูดของมุชิกิปักเข้าที่หัวใจ แล้วเดินโซซัดโซเซหอบแฮ่กๆไปเท้าโต๊ะใกล้ๆ

 

「สะ สมเป็นท่านแม่มด ……เกือบจะเผลอเลียเข้าให้แล้ว….」

 

รูริยกหลังมือขึ้นมาเช็ดปาก ส่วนฮิซุมิที่ยืนมองอยู่ก็ยิ้มแห้งๆออกมาพร้อมกับเหงื่อตก

มุชิกิลูบอกด้วยความโล่งใจที่ทั้งสองคนไม่รู้ตัว ดูเหมือนจะหลอกได้สำเร็จ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณรูริด้วย 

Options

not work with dark mode
Reset