กําเนิดดาบปีศาจ กําเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 43 – ความประหลาดใจ
กําเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 43 – ความประ หลาดใจ
การพัฒนาร่างกายของโนอาห์เพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากการปลีกตัวออกห่างไปราวหนึ่งเดือนครึ่ง
อย่างแรกคือวัฏจักรที่ห้าของเขาสิ้นสุดลงแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากสารสกัดจากสัตว์ทั้งสิบสองขวดและยากําลังภายในสองขวดควบคู่กับการดูดซับจากจุดฝังเข็มตลอดเวลาหนึ่งเดือน วัฏจักรที่ห้าจึงสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึงสามเดือน!
อย่างที่สองได้เกิดขึ้นในวันเดียวกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เอง เขาฝึกฝนอักษรรูนคีเซอร์จนภาพที่ปรากฏในทะเลแห่งสตินั้นสมบูรณ์แล้ว หลังจากนั้นก็มีเสียงฮัมเพลงเบาๆ ดังออกมาจากข้างในและก้องกังวาลไปทั่วทรงกลมจิตใจของเขาทําให้มันสั่นและขยายวงกว้าง โนอาห์รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาในศีรษะของเขาและอดทนจนกระทั่งความเจ็บปวดนั้นหายไปและทรงกลมหยุดสัน
โลกที่เขาเห็นหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้กลับต่างไปจากเดิมแม้อยู่ในเวลากลางคืนเขามองเห็นหลายสิ่งเรียกได้ว่าเกือบจะชัดเจนเช่นตอนกลางวันและเห็นรายละเอียดบนสิ่งนั้นๆ ด้วย
เขาหยิบดาบขึ้นมาเล่มหนึ่งและตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนหน้านี้เขาเห็นใบดาบสีดํามีพื้นผิวที่เรียบเนียนมากแต่ตอนนี้เขากลับมองเห็นรอยปุ่มรอยเว้าตามจุดต่างๆ บนใบดาบ เขาวางดาบลงและตั้งสมาธิในการรับฟังและการรับรู้ เขารู้สึกถึงทุกคนในชั้นนี้! ถ้าเขาตั้งสมาธิได้มากพอเขาอาจได้ยินเสียงฝีเท้าคนรับใช้ที่เดินอยู่ห่างออกไป
เขารู้สึกถึงลมที่ไหลเข้าไปในปอด เลือดที่กําลังไหลเวียนไปทั่วร่างกาย และ “ลมหายใจ” ที่กําลังเติมเต็มร่างกาย เขาแม้แต่ความคิดของเขาเองก็ดูเหมือนจะเกิดขึ้นอย่างราบรื่นและรวดเร็วเช่นกัน
เขาลองเคลื่อน “ลมหายใจ” ตามศิลปะการต่อสู้ด้วยนิ้วมือและเขาสังเกตเห็นร่องรอยจางๆ เป็นสีรุ้งลอยอยู่ในอากาศ
“นั่นคือลมหายใจแห่งสวรรค์และโลกหรือ? ฉันมองเห็นด้วยงั้นหรือ?”
เขาประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่สิ นั่นมันความหนาแน่นของ “ลมหายใจ” ที่อยู่ในร่างกายไม่รู้ว่าคนอื่นก็รู้สึกได้ง่ายๆ เหมือนกับที่ฉันรู้สึกได้ไหม”
จากนั้นเขาก็นอนลงบนเตียงเพื่อพักผ่อนเนื่องจากจิตใจของเขายังคงสับสนเล็กน้อยจากการพัฒนาร่างกายนี้
“ปัญหาตอนนี้ก็คือ พรุ่งนี้จะบอกอาจารย์ยังไง…”
“อะไรนะ?! มันเป็นไปได้ยังไงที่เจ้าสําเร็จวัฏจักรที่ห้าแล้ว?” วิลเลียมอ้าปากค้างและกําลังยืนอยู่ตรงหน้าโนอาห์ ณห้องฝึกฝน
“มันเป็นไปได้ยังไง? แม้จะกินยากําลังภายในเข้าไปก็เถอะแต่นั่นอย่างน้อยก็อีกสองเดือน! กว่าวัฏจักรขั้นที่ห้าจะสมบูรณ์เจ้ามั่นใจว่าจุดฝังเข็มหยุดทํางานแล้วจริงๆ น่ะ?”
โนอาห์พยักหน้าจากนั้นก็หายใจเข้าออกแรงเพื่อสงบตัวเองเขาหยิบบางสิ่งออกมาจากข้างในเสื้อและชูให้อาจารย์ดู
วิลเลียมยังรู้สึกตกใจกับบทสนทนาเมื่อครู่ เขาเพียงจ้องมองมือของโนอาห์โดยนึกไม่ออกเลยว่าที่อยู่ในมือนั่นคืออะไรจากนั้นเขาก็สังเกตว่ามีบางอย่างแปลกไปจึงหยิบแผ่นกระดาษที่โนอาห์ยื่นให้เขา เขาคลี่กระดาษออกและมองอักษรรูนคีเซอร์ที่เขียนอยู่บนนั้น เขาขมวด คิ้วและสบตาโนอาห์ด้วยสีหน้าที่ดูสับสน
“เจ้าล้มเลิกความคิดที่อยากจะเป็นจอมเวทย์แล้วงั้นรึ?”
โนอาห์ทําได้เพียงเผยรอยยิ้มแปลกๆ พร้อมทั้งมองไปรอบๆเล็กน้อย จากนั้นก็เข้าไปใกล้อาจารย์และกระซิบเบาๆ
“จริงๆ แล้วข้าอยากได้รูนถัดไปน่ะขอรับเพ ราะข้ากลายเป็นจอมเวทย์แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา”
หลังจากนั้นก็เกิดเสียงตะโกนดังขึ้นจนทําให้กําแพงสั่นสะเทือนสนั่นไปทั่วตึกผู้พิทักษ์ แม้แต่ทหารที่อยู่ในลานก็ยังรู้สึกว่าเสียงนั่นคล้ายกับเสียงของรองสารวัตร
ในห้องฝึกฝน โนอาห์กําลังนั่งคุกเข่าพร้อมกับมือทั้งสองข้างที่ใช้ปิดหู เขากําลังรอให้อาจารย์ของเขาหลุดออกจากความประหลาดใจและรอเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่เปล่งเสียงอันน่าสะพรึงนั่นออกมาอีกเป็นครั้งที่สอง
วิลเลียมหายใจไม่เป็นจังหวะพร้อมกับดวงตาทั้งสองที่เบิกโพลง แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็สงบสติอารมณ์ลงและมองไปยังหน้าผากของโนอาห์ จ้องมองด้วยสายตาที่จริงจัง
โนอาห์รู้สึกถึงแรงกดดันที่ทะเลแห่งสติดังนั้นเขาจึงใช้พลังงานจิตเพื่อปกป้องทรงกลม การต่อสู้ระหว่างแรงกดดันภายในและภายนอกดําเนินต่อไปครู่หนึ่งก่อนที่วิลเลียมจะหยุดการตรวจสอบและนั่งลงตรงหน้าโนอาห์พร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความไม่เชื่อสายตา
“เจ้าทําสําเร็จแล้วจริงๆ”
โนอาห์เพียงพยักหน้า เขาไม่สามารถให้คําอธิบายเรื่องนี้ได้
“หากฉายาของข้าคืออัจฉริยะหาตัวจับได้ยากถ้าอย่างนั้นควรเรียกเจ้าว่ายังไงดีล่ะ?”
วิลเลียมครุ่นคิดก่อนที่เขาจะเข้าใจถึงปัญหาที่แท้จริงเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดนี้
“ข้าจะหาข้ออ้างเพื่อรับสําเนาของรูนที่สอง ต้องห้ามให้เขตในรู้ว่าเจ้าเป็นจอมเวทย์แล้ว มันอันตรายเกินไป”
เขายังคงไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากําลังทํานั้นคือการโกหกผู้บังคับบัญชาของเขาเอง
“จากนั้น หลังจากที่ผ่านการรักษาขั้นที่หกแล้ว มันคงดีกว่าหากเจ้าจะอยู่แต่นอกนอกคฤหาสน์เพื่อทําภารกิจ ความเป็นไปได้ที่ตระกูลจะมอบคัมภีร์เวทมนตร์ให้เจ้านั้นต่ํามากทางที่ดีคือสะสมคุณสมบัติไว้ให้มากก่อนที่เจ้าจะรู้ว่าตัวเองมีธาตุอะไร เจ้าไม่มีทางรู้หรอก พวกเขาอาจจะยอมรับเจ้าในฐานะทายาทที่แท้จริงก็เป็นได้เ”
วิลเลียมกําลังวางแผนหนทางที่ดีที่สุดให้กับลูกศิษย์โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคําพูดของเขาจะกลายเป็นการทรยศต่อพวกเดียวกันเอง
โนอาห์กําลังมองชายที่เอาแต่พึมพําอยู่ตรงหน้า มันทําให้เขาอดรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เกิดขึ้นภายในใจไม่ได้
“เขาเป็นอาจารย์ที่ดีมาก ถ้าฐานะของเขากับตระกูลไม่แน่นแฟ้นพอ… บางที ฉันอาจทําให้เขาเดือดร้อนตอนที่ฉันเลือกที่จะวิ่งหนีไป”
วิลเลียมหยุดการวางแผนเมื่อสังเกตเห็นลูกศิษย์จ้องมองมาที่เขาด้วยรอยยิ้มที่ธรรมดาและจริงใจบนใบหน้า
“มองอะไร?”
โนอาห์เพียงตอบกลับสั้นๆ “ขอบคุณนะขอรับ”
วิลเลียมงุนงงเล็กน้อยจากนั้นก็ยิ้มและส่ายหน้า เขาวางมือบนศีรษะของโนอาห์ ลูบผมเขาเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ําเสียงที่ร่าเริง
“เจ้าพยายามได้ดี ซึ่งเหมาะควรที่จะได้รับรางวัลตอบแทนและหากสรรค์และโลกไม่ยอมมอบให้เจ้า งั้นข้าเองที่จะเป็นคน ทํา ”
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายในใจของรองสารวัตรแห้งผู้พิทักษ์ที่มีก่อนหน้านี้ได้รับการคลายผ่อนแล้ว
“หากมนุษย์ไม่ยุติธรรม ก็ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น อย่างน้อยข้าก็ทําในส่วนที่ถูกต้องแล้ว”
โนอาห์ไม่อาจหยั่งรู้ความสงสัยของอาจารย์ได้ เช่นนั้นเขาจึงไม่เข้าใจประโยคดังกล่าว
วิลเลียมลุกขึ้นยืนและฮัมทํานองเพลงที่มีความสุขจากนั้นก็นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งในห้องเพื่อเรียบเรียงรายงาน แต่ หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังเด็กหนุ่มที่ยังคงยืนอยู่กลางห้อง
“มีอะไร?” เขายังคงยิ้มขณะถาม
“เอ่อ ท่านอาจารย์ เราเข้าสู่การรักษากันวันนี้เลยได้หรือไม่ขอรับ?”
ความสุขที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ของวิลเลียมถูกลบล้างไปและถูกแทนที่ด้วยความขุ่นเคืองอย่างเช่นที่เคยรู้สึก