ตอนที่ 99 จูเลียน่า (4)
“กียอง ตรงนั้นเขียนว่าอะไรคะ?” ซันฮียองถาม
“ฮียอง นี่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเกดริกและจูเลียน่านะ ….ผมคิดว่าตัวเองควรรู้มากขึ้น เพราะดาบเล่มนี้” ผมตอบ
“อ๊ะ! คุณกําลังพูดถึงของที่คุณพบในห้องชั้นล่างหรือเปล่าคะ?” เธอถาม.
“ครับ ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าคุ้มค่าที่จะดู มันฟังดูเหมือนตํานาน… แต่ก็น่าสนใจมากเช่นกัน” ผมตอบ
“มันคงสนุกไม่น้อย คุณช่วยบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมคะ?”
การแสดงออกที่อยากรู้อยากเห็นของซันฮียองนั้นชัดเจนเธอคอยสอดส่องผมตลอดทั้งวัน ขณะที่เราเตรียมตัวกลับไป ยังลินเดล
อันที่จริงมันเป็นโอกาสดีที่จะพูด เพราะเราไม่ได้พูดคุยอ ย่างจริงจังเว้นแต่ช่วงงานอาสาที่ทําร่วมกัน
ในขณะเดียวกันจองฮายันที่เกาะแขนผมแน่นขึ้น เธอเพ่งมองใส่ซันฮียองอย่างระมัดระวัง ซึ่งดูเห มือนเธอก็ต้องการรู้เรื่องนี้
“อืม มันคงใช้เวลาไม่มากนัก”
คงจะดีถ้ามีอะไรพูดกัน ในเมื่อเรามุ่งหน้าไปยังจุดหมายต่อไปอยู่แล้ว
“เรื่องราวนี้เริ่มต้นเมื่อ 10,000 ปีก่อนครับ” ผมเริ่ม
“10,000 ปีเหรอคะ?” ฮียองถามอย่างไม่เชื่อ
“ครับ นี่เป็นเรื่องราวก่อนการกําเนิดของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เบนิกอร์ที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันระบุว่ามีการต่อสู้ที่เลวร้ายเกิดขึ้น มันยังกล่าวถึงสงครามศาสนาที่มีจุดศูนย์กลางระหว่างผู้ศรัทธาเทพเจ้าแห่งคําสาปกับผู้ที่ติดตามเทพเจ้าแห่งความสุข”
“ค่ะ…” ฮียองพยักหน้า
“คุณเคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างไหม?” ผมถาม
” ค่ะ สงครามทางศาสนาที่สร้างอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา นี่เป็นเรื่องราวฉันสนใจ” เธอตอบ
” ในเวลานั้น มีการกล่าวกันว่าจูเลียน่าเป็นนักบุญผู้รับใช้เทพเจ้าแห่งคําสาปและเกดริกเป็นนักบุญที่รับใช้เทพ เจ้าแห่งความสุขทั้งสองไม่ได้ปะทะกันโดยตรง แต่พวกเขา มักจะยืนอยู่ในแนวหน้ามีการเขียนไว้ว่า 15 ปีหลังสงคราม ในที่สุดทั้งสองจึงปะทะกัน ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม นั่นเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่ทหารเกือบทั้งหมดถูกส่งไปประจําการ” ผมเล่า
“การต่อสู้ที่ผาเบอร์แมน” เธอกล่าวเสริม
ผมรู้สึกประหลาดใจกับการตอบสนองอย่างกะทันหันนี้ ผมจึงเอียงศีรษะถาม
“คุณรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอครับ?”
“ใครก็ตามที่รับใช้ในพระเจ้าควรจะเรียนรู้มันมาบ้าง ฉัน ไม่เคยได้ยินคนที่ชื่อจูเลียน่าหรือเกดริกค่ะ แต่ถ้าหนัง สื่อของกียองเป็นเรื่องจริงเราก็จะสามารถเพิ่มมันเข้าไปในห นังสือประวัติศาสตร์ที่เรามีอยู่ได้”ฮียองอธิบาย
“อืม ผมไม่แน่ใจว่ามันเกี่ยวข้องกับอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ไหม มันอาจเป็นแบบนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตามผู้ศรัทธานับไม่ ถ้วนเสียชีวิตเกดริก -จูเลียน่าที่ต่อสู้กันจนวินาทีสุดท้ายตกลงจากหน้าผาครับ” ผมบอกอีกครั้ง
“แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อคะ?” เธอถามด้วยความสงสัย
“ที่จริงบันทึกของช่วงเวลานั้นไม่ได้ถูกอธิบายไว้ในหนังสือมีการกล่าวเพียงจูเลียน่าและเกดริกกลับไปยังวิหารของตนในอีกหนึ่งปีต่อมาแน่นอนว่าบันทึกของจูเลียน่ามีความแม่นยําแต่มันน่าอายที่จะระบุรายละเอียดเพิ่มเติม”
นี่เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ หลังจากเรื่องราวทั้งหมด
เกดริกและจูเลียน่าอยู่ด้วยกันมาเกือบหนึ่งปีในถ้ําบนหน้าผาอันห่างไกล และในที่สุดก็พัฒนาความรู้สึกที่มีต่อกัน
ผู้คนพยักหน้าตอบรับ ขณะฟังสิ่งที่ผมอธิบายมันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจจริง ๆ
ถ้าใครจะเพิกเฉยต่อเนื้อหาที่แน่นอนในระหว่างนั้น
“ตั้งแต่นั้นมา ดูเหมือนว่าจูเลียน่าและเกดริกจะเริ่มพบปะด้วยสงครามที่เข้าสู่ภาวะชะงักงันจึงมีโอกาสมากมายที่ทั้งสองจะได้พบกันความเสียหายมหาศาลเกิดขึ้น กับทั้งสองฝ่ายระหว่างการสู้รบที่หน้าผาเบอร์แมน แน่นอนว่าในตอนแรกพระเจ้าพยายามที่จะแยกทั้งสองออก แต่พวกเขาก็รักกันมากเกินไป” ผมเล่าราวกับว่ามันเป็นประสบ การณ์ของตัวเอง
“นั่นคือเหตุผลที่เธอกลายเป็นแบบนี้” ฮียองแสดงความคิดเห็นและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง
“ครับ แน่นอน ทั้งสองโกรธพระเจ้าของกันและกันภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เกดริกยังได้สร้างศาลเจ้าเล็ก ๆ ในวิหารของเทพเจ้าแห่งความสุขและนั่นคือดันเจี้ยนที่เราไป ศาลเจ้าต้องสาปทั้งสองตัดสินใจพักที่นั่นทวยเทพจึงโกรธและผูกพวกเขาไว้กับศาลเจ้านั่น” ผมเล่า
“อา..”
เทพเจ้าแห่งคําสาปสาปแช่งจูเลียน่าและขังเธอไว้ในห้องนั้นตลอดไป
ส่วนเทพเจ้าแห่งความสุขสาปให้เกดริกกลายเป็นคนหลงทาง
แน่นอนว่าเทพเจ้าแห่งความสุขไม่อนุญาตให้เกดริกพบกับจูเลียน่า
กับจูเลื่อนเทพเจ้า
“ฉันขอโทษค่ะ”
จากคําพูดของจองฮายัน
ซันฮียองพยักหน้าและพูดขึ้นอีกครั้ง
“มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ศาลเจ้าจะถูกสาป การสร้างศาลเจ้าที่อุทิศให้กับเทพเจ้าองค์อื่นในห้องใต้ดินของวิหารเป็นความผิดใหญ่บางที่กองทัพอันเดดที่อยู่ด้านนอกก็อาจ ได้รับผลกระทบจากคําสาปนั้นด้วยเช่นกัน”
“ในไดอารี่ของเกดริกว่าวว่า เทพเจ้าแห่งความ สุขอวยพรพวกเขาด้วยชีวิตนิรันดร์แต่จากมุมมองของพวก เขา มันเป็นคําสาป เรื่องราวจบลงตรงนี้ สรุปแล้วจูเลียน่ากําลังรอเกรดริกอยู่และเกรดริกก็เดินทางไปตลอดกาลเพีอค้นหาจูเลียน่า ซึ่งเขาไม่น่าหาเธอพบ”
ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
อย่างไรก็ตามจองฮายันดูเหมือนจะเคลื่อนไหว
“น่าเศร้าจัง เธอรอคนที่ไม่มีวันมาถึง…”
ผมอดไม่ได้ที่จะลูบหัวเธอ
เมื่อเห็นว่านี่เป็นโอกาส ฮายันก็สวมกอดผมแน่นขึ้น
“แล้วคุณหมายความว่าคนตายที่พบในห้องทางซ้ายคือเกดริกหรือเปล่าคะ?”
“ฮะ? ใช่ครับ…”
ในกระบวนการค้นหาศพและผู้รอดชีวิตที่เราไม่รู้จักเกดริกและกลุ่มผู้ตายที่ถูกพบเราไม่ต้องตรวจสอบด้วยซ้ําว่านั่นคือใคร
เพราะผมยังได้ของที่น่าสนใจติดมา
[แหวนแต่งงานของเกดริก – ระดับฮีโรอิค]
[คุณสามารถต้านทานคําสาปของจูเลียน่า]
เมื่อผมเหลือบดูไอเทมในมือ ผมรู้สึกเหมือนสามารถเข้าใจกระบวนการดั้งเดิมของดันเจี้ยนนี้
นอกจากนั้นเหตุผลที่คิมฮยอนซองออกลาดตระ เวนจนดึกดื่นและลักษณะของคนตายที่กลุ่มก่อนหน้า เห็นเป็นเช่นไร
บางที่วิธีเดียวในการโจมตีศาลต้องคําสาปก็คือการที่เจอดริกที่หลงทางอยู่ที่นี่ การจับเขาได้ หมายถึงการได้รับไอเทม ที่จําเป็นในการต่อต้านคําสาปของจูเลียน่า
อย่างไรก็ตาม นั่นจะเป็นบททดสอบที่ยุ่งยาก มันเป็นศาล เจ้าขนาดใหญ่ ที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบเกดริกได้สํา เร็จ ในทางกลับกัน การไม่ได้รับการต่อต้านคําสาปก็หมายถึงการแบกรับความโกรธของจูเลียน่าอย่างเต็มที่
ในกรณีของเรา เราพบวิธีที่จะต้านคําสาปก่อนที่จะ ค้นพบเกดริก
เมื่อเวลาผ่านไปเพียงเล็กน้อย คิมฮยอนซองก็สา มารถพบเกดริกได้แต่ผลการสํารวจโดยรวมก็ไม่ได้แย่นัก
“ความรักนี่น่ากลัวจริง ๆ ” ฮียองกล่าว
” ครับ”
ผมเข้าใจกับสิ่งนั้นมากกว่าใคร ก่อนสายตาของผมจะจับจ้องไปที่จองฮายัน
แต่ในระหว่างนี้ผมต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเกดริกให้มากที่สุดจูเลียน่ายังคงหลับใหลอยู่ในดาบ และผมไม่รู้ว่าเธอจะตื่นเมื่อไหร่ ดังนั้นผมจึงต้องเตรียมตัวให้พร้อม
“อีกอย่าง ผมรู้ว่าเราไม่ได้ไปนานนัก แต่ผมไม่เห็นแววของกําลังเสริมที่เขาสัญญาว่าจะส่งมาเลย” ผ มตั้งข้อสังเกต
“ใครเหรอคะ?” ฮียองถาม
“ลีซอลโฮ หนึ่งในพวกผู้บริหารนั่น” ผมตอบ
“เอ่อ นั่นอาจเป็นเพราะเมอร์เซนนารีควีนยังไม่กลับมาหรือมีปัญหาบางอย่างอื่นเกิดขึ้น แต่เราก็เคลียร์ดันเจี้ยนนี้ด้วยความเร็วมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยค่ะ”ลีซังฮีแทรก
“โอ้ โชคดีที่มีคิมฮยอนซองอยู่กับเราครับ ถ้าไม่ใช่เช่นนั้นเราอาจจะตายกันหมดแล้ว” ผมกล่าว
“ค่ะ ฉันจะถามถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเอง หลังเรากลับไป”
“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเขาคงอยากให้เราตายในระหว่างการสํารวจนี้
ช่วงเวลายังไม่ชัดเจนนัก แต่ดูเหมือนลีซังฮีจะพยายามแก้ตัวกับพฤติกรรมของลีซอลโฮ
“พี่ใจดีจนผมเหนือย”
ด้วยเหตุนี้ปาร์คด็อกกูและจองฮายันก็พยักหน้า อย่างไรก็ตามการแสดงออกของซันฮียองดูไม่ดีนัก
“ผมเดาว่าเธอคงไม่ชอบเขาเหมือนกัน”
ตาแก่เหล่านั้นรวมทั้งลีซอลโฮก็ไม่ต่างจากคนเร่ร่อนในหมู่คนจนพวกเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ประโยชน์ ซึ่งปฏิเสธที่จะ เคลื่อนไหวด้วยตัวเองพวกเขาเหยียบย่ําคนอื่นและพยายาม ทํากําไรจากความทรมานของผู้คน
ผมเคยพูดไปแล้ว แต่ความแตกต่างระหว่างเขากับคนจน คือพวกเขาโชคดีกว่า อย่างไรก็ตามพวกมันเป็นเหมือนกันหมดแค่ก้อนมะเร็งร้ายในสังคม
โอ้… สิ่งนี้จะเป็นยังไงต่อ?”
เมื่อสิ่งที่ผมขอให้ลีจีฮเยทําผุดขึ้นมาในความคิด เธออาจจะทํามันเสร็จสิ้นแล้วแต่ผมยังต้องคิดถึงความเป็นไปได้ที่เราทํางานไม่สําเร็จด้วยเพราะช่วงเวลาเร็วกว่าที่คาดไว้
แล้วผมก็เห็นใครบางคนวิ่งเข้ามาจากระยะไกล
“ปาร์คกาฮยอน??
บุคคลที่อยู่ในสายตาคือปาร์คกาฮยอน ซึ่งลีซังฮีส่งไปที่กิลด์ล่วงหน้าเราหนึ่งวัน มันหมายความว่าน่าจะมีบางอ ย่างเกิดขึ้น
เมื่อเห็นท่าที่กังวลของเธอ ผมเริ่มรู้สึกทั้งตื่นเต้นและกังวลกับข่าวที่จะตามมา
และในที่สุดเธอก็มาถึงลีซังฮี โดยที่เธอกําลังหอบและพยายามหายใจ
“แฮก แฮก รองหัวหน้าคะ…”
“เกิดอะไรขึ้นคะ? ทําไมคุณถึงกลับมาคนเดียว”
“เราทําทุกอย่างตามที่สั่งแล้วค่ะ แต่ฉันมีข่าวจะมาบอกฉันกลัวที่จะ…”
“ใจเย็น ๆ ก่อนค่ะ แล้วค่อยบอกฉันมา”
ผมสังเกตว่าเธอไม่เต็มใจที่จะแบ่งปันข่าวนี้กับทุกคน อย่างไรก็ตามเธอไม่มีทางเลือก เมื่อฟื้นลมหายใจได้สําเร็จเธอก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“ หัวหน้าเสียชีวิตแล้วค่ะ”
“อะไรนะ?!”
“หัวหน้ากิลด์ เขาเสียชีวิตแล้วค่ะ”
“ทําไม..? คําสาปควรจะถูกถอนออกไปแล้ว…”
“ฉันได้ยินมาว่า เมื่อสามวันก่อนที่คุณเสร็จสิ้นการสํารวจ…เขาตายอย่างเงียบ ๆ ขณะหลับ และฉันรู้ว่าต้องแจ้งให้คุณทราบทันทีค่ะ”
ลีซังฮีปิดปากของเธอโดยไม่พูดอะไร ในขณะเดียวกันปาร์คกาฮยอนก็ร้องไห้ออกมา
ผมไม่เคยเห็นหัวหน้ากิดล์บลู แต่ผมสามารถสรุปได้ว่าบุคลิกของเขาไม่ได้เลวร้ายนัก
พูดตามหลักเหตุผลแล้ว นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เลวร้ายสําหรับปาร์ตี้เรา
เราสามารถใช้ประโยชน์สิ่งนี้ เพื่อรับอิทธิพลและควบคุมกิลด์ได้มากขึ้น
แต่ถึงอย่างนั้น
“ทําไมมันถึงเกิดขึ้นอย่างกะทันหันล่ะ?”
ช่วงเวลาตอนนี้แน่นอนว่ามันแปลก แต่ในทางกลับกันมันสามารถบอกได้ว่าเป็นประโยชน์สําหรับบางคน
มันอาจจะเป็นผลลัพธ์จากการถูกคําสาปเป็นเวลานานก็ได้ แต่ว่า
“นี่คือสิ่งที่ลีซอลโฮทําเหรอ?”
มันเป็นเพียงการคาดเดา แต่ก็เป็นสิ่งที่น่าเชื่อมากกับเรื่อง Che
“ก่อนอื่น รีบกลับไปที่กิลด์ก่อนเถอะ รีบตามพวกเรามาให้ทันนะทุกคนเราจะไปถึงที่นั่นเร็วขึ้น เพื่อแก้ไขสถาน การณ์ในตอนนี้”
“รับทราบ
ดังนั้นสมาชิกจึงก้าวต่อไปด้วยความเร็วที่มากขึ้น บางทีอาจเป็นเพราะข่าวที่ไม่คาดคิด ลีซังฮี ผู้เป็นผู้นําการ สํารวจเงียบลงและสมาชิกในปาร์ตี้คนอื่นๆก็ก้าวเข้ามาเพื่อปลอบโยนลีซังฮี
ในไม่ช้านครอิสระ ลินเดลก็ปรากฏขึ้นสู่สายตา
นอกจากนี้เรายังเห็นลีจีฮเยและผู้อาวุโสของบลกิดล์รอ เราอยู่ที่ทางเข้า
เมื่อเห็นว่าแบล็คสวอนอยู่กับพวกเขาด้วย ผมก็รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นทันใดนั้นผมพบว่าสถานการณ์ทั้งหมดนี้ไร้สาระและผมก็กลั้นหัวเราะ
“ยินดีด้วยที่รอดมาได้ ลีซังฮี ผมกําลังจะไปหาคุณพอ ดี…”
“ยิ่งไปกว่านั้น ซอลโฮ เกิดอะไรขึ้นกับหัวหน้า? เขาเสียชีวิตแล้วจริงๆเหรอ?”
“ครับ แต่อย่างน้อยเขาก็จากไปอย่างสงบ”
“แล้วศพของเขาอยู่ที่ไหน?”
“เขาอยู่ในห้องใต้ดินของกิลด์ครับ มันผ่านมาสามวันแล้วแต่ผมยังไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงดี…”
“อา…”
การสนทนาของพวกเขาทําให้ผมเบื่อแล้วในตอนนี้ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันต่อผมก็มองเห็นลีจีฮเยที่ยิ้มและเคาะขาของตัวเอง
“อา นั่นสินะ
ผมรู้ว่าข้อมูลที่ละเอียดกว่าจะมาถึงในไม่ช้า