บทที่ 13 ที่มาของกลิ่นเหม็น
“ นี่มันกลิ่นศพ !” จางหลานปิดปากปิดจมูก จ้องมองไปที่ด้านบนสุดของห้องครัว
“ ศพ ? กลิ่นศพ ? ศพอะไร ? ศพหนูเหรอ ?” หญิงวัยกลางคนงง คิดว่าเป็นหนูตาย
สีหน้าของจางหลานดูมืดมน พูดเสียงเย็นว่า “มันเป็นกลิ่นศพคน”
“ คน…” หญิงวัยกลางคนพอได้ยินสิ่งที่จางหลานพูดก็ถึงกับอึ้งตะลึงงัน
จางหลานไม่สนใจหญิงวัยกลางคน เดินจากห้องออกไปหาเย่ปิน
“ หัวหน้าเย่ ! มีเรื่องแล้ว”
“ เกิดอะไรขึ้น ?” เมื่อเห็นความตื่นตระหนกของจางหลาน เย่ปินก็สงสัย
“ กลิ่นศพมาจากชั้นบน”
“ กลิ่นศพ !” สีหน้าของเย่ปินดูหนักอึ้งขึ้นทันทีที่ได้ยิน “ซุนสี่เทา !” เย่ปินเอ่ยอุทานพร้อมกับมองไปยังที่อยู่ของซุนสี่เทา
“ เฉินฮุ่ย ติดต่อหาคนมาปลดล็อคประตูเร็ว !”
“ โอเค !”
ประมาณ 10 นาทีหลังจากนั้น คนปลดล็อคประตูก็มาถึง พอเปิดประตูบ้านของซุนสี่เทาได้ กลิ่นเหม็นก็ทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นทั้งหมดต้องรีบถอยห่างออกไป
“ นี่มันกลิ่นอะไรกัน ! เหม็นมาก !”
“ ท่อระบายน้ำบ้านใครมันรั่วฟ๊ะ !”
“ สวรรค์ ! เหม็นอะไรอย่างนี้ !”
ผู้อยู่อาศัยหลายคนเปิดประตูออกมาดู อย่างไรก็ตามเมื่อเปิดประตูออกมาได้เพียงครึ่งเดียว กลิ่นเหม็นก็ทะลักมาถึง เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้อยู่อาศัยหลายคนก็รีบปิดประตูบ้าน เพราะกลัวว่ากลิ่นเหม็นจะเข้ามาภายในบ้านของตัวเอง
พวกเย่ปินทั้งสามคนกับคนปลดล็อคประตูกลับมายืนหน้าประตูบ้านของซุนสี่เทา และมองเข้าไปในบ้าน ทุกอย่างภายในบ้านถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และดูเหมือนจะไม่มีใครอาศัยอยู่ภายในบ้าน
“ ไม่มีใครอยู่เลยเหรอ ?” เฉินฮุ่ยปิดปากปิดจมูก มองไปยังห้องนอนทั้งสองห้องภายในบ้าน แต่นอกจากกลิ่นเหม็นแล้ว เขาก็ไม่พบอะไรเลย
เย่ปินสวมถุงหุ้มรองเท้าและถุงมือ จากนั้นก็ก้าวเข้าไปในบ้าน
บ้านของซุนสี่เทามีขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 70-80 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอนกับ 1 ห้องนั่งเล่น
เย่ปินตรวจสอบภายในห้องนอนทั้งสองห้องก่อนอย่างคร่าวๆเป็นอันดับแรก สิ่งของภายในห้องนอนทั้งสองถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ และมีชั้นฝุ่นบางๆบนโต๊ะ เห็นได้ชัดว่า ไม่มีใครอาศัยอยู่มาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว จากนั้นเย่ปินก็เดินเข้าไปในครัว นอกจากกลิ่นเหม็นแล้ว ก็ไม่มีกลิ่นอื่นใดอีก สุดท้ายเย่ปินก็เดินไปเปิดประตูกระจกของห้องน้ำซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่นัก และสิ่งของที่อยู่ในห้องก็จัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบเช่นกัน หลังจากตรวจค้นเย่ปินก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
“ เป็นกลิ่นท่อระบายน้ำรั่วจริงๆงั้นเหรอ ?” ถึงตอนนี้เย่ปินก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ จากทุกห้องที่ตรวจสอบ จึงทำให้เย่ปินคิดว่า มีความเป็นไปได้ที่กลิ่นเหม็นอาจมาจากการรั่วของท่อระบายน้ำ
“ ปินจื่อ เป็นไงบ้าง ?” เฉินฮุ่ยกับคนอื่นๆ ไม่ได้เข้ามาภายในบ้านด้วย พวกเขาจึงไม่รู้ว่าเย่ปินพบอะไรภายในบ้านบ้าง
“ ไม่พบสิ่งผิดปกติ” เย่ปินขมวดคิ้วและเดินกลับมาที่ประตูบ้าน
“ ไม่พบสิ่งผิดปกติ !” จางหลานย้อนคำพูด ตอนนี้เขารู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก “แค่ท่อระบายน้ำรั่วจริงๆงั้นเหรอ ?” ก่อนหน้านี้เขาได้ยินเพื่อนบ้านพูดถึงเรื่องท่อระบายน้ำรั่วอยู่เหมือนกัน ตอนนี้พอเย่ปินบอกว่าไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆในบ้าน จางหลานก็อดคิดไม่ได้ว่า เขาอาจจะผิดพลาดไปเอง
“ บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อย นอกจากชั้นฝุ่นบางๆ ที่เกาะอยู่นานแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ” พูดจบ เย่ปินก็กลับเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้มีบางสิ่งบางอย่างหลงหูหลงตา แต่หลังจากตรวจสอบเสร็จเขาก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
“ ดูเหมือนฉันจะพลาดไปจริงๆ มันอาจจะเป็นกลิ่นท่อระบายน้ำรั่วจริงๆก็ได้” จางหลานยิ้มเจื่อน ไม่คิดจะพูดเล่นกับทุกคน
“ กลิ่นในห้องมันแรงมากไป ฉันยังบอกไม่ได้ว่ามันมีต้นตอมาจากไหน” เย่ปินพยายามมองหาต้นตอของกลิ่น แต่เนื่องจากบ้านไม่ได้เปิดระบายอากาศมานาน กลิ่นเหม็นจึงอบอวลอยู่ภายในบ้าน ทำให้เย่ปินไม่สามารถระบุที่มาของกลิ่นได้
“ ให้ฉันลองหาดู” จางหลานสวมถุงหุ้มรองเท้าและถุงมือ แล้วเข้าไปในบ้านของซุนสี่เทา
หลังจากเข้าไปในบ้านและทำการตรวจสอบ จางหลานก็พบว่าสถานการณ์เป็นเช่นเดียวกับเย่ปิน นั่นก็คือไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ
“ กลิ่นแรงมากจริงๆ เปิดหน้าต่างให้กลิ่นระบายออกไปบ้าง แล้วค่อยหาต้นตอของกลิ่นกันอีกครั้งน่าจะดีกว่า” จางหลานกล่าวขณะเดินไปที่ระเบียง
“ อืม” เย่ปินพยักหน้าเห็นด้วย
เมื่อจางหลานเดินไปที่ระเบียง ขณะที่เปิดประตูระเบียงออก เขาก็ได้กลิ่นเหม็นที่แรงยิ่งกว่ากลิ่นภายในบ้าน
“ เฮ้ ! เย่ปิน มานี่หน่อย กลิ่นตรงนี้แรงมากเลย ต้นตออาจอยู่ที่นี่ก็ได้ !” จางหลานเรียกหาเย่ปิน
ได้ยินดังนั้น เย่ปินก็รีบวิ่งเข้าไปทันที พอมาถึงที่ระเบียงเขาก็รู้สึกว่ากลิ่นเหม็นตรงนี้แรงกว่าภายในบ้าน
“ กลิ่นนี่แหล่ะ ! ใช่แล้ว ! ต้นตออยู่ตรงนี้เอง” พูดจบ เย่ปินก็เปิดประตูระเบียงออกไปตรวจสอบทั้งตรงระเบียงและภายนอก “ไม่ ! ไม่มีท่อระบายน้ำตรงนี้ !” เย่ปินรู้สึกงง ตรงระเบียงไม่มีท่อระบายน้ำทิ้ง มีเพียงท่อพีวีซีที่ใช้ระบายน้ำฝนที่ไหลมาจากหลังคาเท่านั้น และท่อระบายน้ำฝนย่อมไม่อาจสร้างกลิ่นเหม็นรุนแรงแบบนี้ได้
จางหลานก็กำลังตรวจสอบอยู่เช่นเดียวกับเย่ปิน จู่ๆ จางหลานก็ส่งเสียงเรียกเย่ปินออกมา เพราะพบอะไรบางอย่าง “หัวหน้าเย่ ! ตรงนี้ !” จางหลานกำลังนั่งยองๆ มองดูแท่นปูนที่อยู่ตรงขอบระเบียง
แท่นปูนก่อด้วยปูนขาวทั้งหมด มีขนาดประมาณ 1 ตารางเมตร เหนือแท่นปูนแขวนเรียงรายไว้ด้วยกระถางกล้วยไม้ หากจางหลานไม่ได้ตั้งใจตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้วล่ะก็ เขาก็คงไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีแท่นปูนอยู่ภายใต้ราก , กิ่งก้านและใบของกล้วยไม้ที่ห้อยลงปกคลุมจนมิดแน่ๆ เพราะหากเพียงกวาดสายตามอง ก็ยากจะพบว่าที่ด้านล่างของกระถางกล้วยไม้ที่แขวนอยู่เหล่านี้จะมีแท่นปูนขนาด 1 ตารางเมตรซ่อนอยู่
เย่ปินกับจางหลานช่วยกันเคลื่อนย้ายกระถางกล้วยไม้ที่แขวนอยู่ออกไป จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มตรวจสอบแท่นปูน
“ กลิ่นมาจากที่นี่ !” ทั้งสองคนพูดออกมาเกือบจะพร้อมกัน โดยลงความเห็นอย่างเป็นเอกฉันท์ว่ากลิ่นเหม็นที่อบอวลอยู่ภายในบ้าน มาจากแท่นปูนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา
“ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างอยู่ในแท่นปูนด้วย” จางหลานเคาะแท่นปูนเบาๆ จากเสียงที่ได้ยินทำให้รู้ว่า แท่นปูนนี้กลวง ไม่ใช่แท่นทึบ
ได้ยินดังนั้น เย่ปินก็ก้าวเข้ามาลองเคาะดูอีกคน “จริงด้วย มันควรจะมีโพรงอยู่ข้างใน ลองเปิดดูกันดีกว่า ว่าข้างใน มันมีอะไรกันแน่”
เย่ปินกับจางหลานลุกขึ้นไปค้นหาเครื่องมือ พวกเขายืมค้อนขนาดเล็กและไขควงปากแบนมาจากเพื่อนบ้านที่อยู่รอบๆ จากนั้นก็กลับไปที่ระเบียง ด้วยความช่วยเหลือจากค้อนและไขควงปากแบน ทั้งคู่ค่อยๆสกัดแท่นปูนออก
แท่นปูนไม่ได้แข็งอย่างที่ทั้งคู่คิด เพียงแค่ตอกลงไปเบาๆ ก็เจาะแท่นปูนเป็นรูเล็กๆได้ทันที แล้วกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงก็พวยพุ่งออกมาอย่างฉับพลัน จนทำให้เย่ปินกับจางหลานต้องรีบถอยห่างออกมา
ทั้งคู่รีบเดินไปเปิดหน้าต่างและโผล่หัวออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอก หลังจากดีขึ้น พวกเขาก็นำไฟฉายไปส่องตรงรูที่เจาะไว้มองเข้าไปภายในแท่นปูน
“ นี่มัน !”
จางหลานรับผิดชอบส่องไฟ ส่วนเย่ปินรับผิดชอบดู พอเย่ปินเห็นสิ่งที่อยู่ภายในแท่นปูน สีหน้าของเขาก็ซีดลงทันที
“ มีอะไร !” จางหลานงงไป จากนั้นก็มองผ่านรูเล็กๆ เข้าไปข้างในแท่นปูน เมื่อได้เห็นสิ่งที่อยู่ภายใน ดวงตาของจางหลานก็เบิกกว้างตัวแข็งทื่อทันที