The Divine Nine Dragon Cauldron 333

ตอนที่ 333

“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าเราอยู่ในอาณาจักรทมิฬงั้นรึ? ถ้าไม่ใช่เพราะตำแหน่ง เจ้าก็ได้แค่ร้องไห้ทั้งน้ำตา…”

 

นายน้อยตระกูลตู่หัวเราะและชี้ดัชนีไปทางจ่าฝูงสัตว์อสูร

 

ที่นี่คือเมืองอันยี่ ดินแดนของตระกูลตู่ สำหรับพวกเขา…แค่รองเจ้าตำหนักนั้นไม่ควรค่าแก่การพูดถึง

 

“อรหันต์แปดอักษร หลิน!”

 

ซือหยูตะโกนเบาๆ

 

โฮก—

 

เสียงคำรามลั่นสั่นคลอนพลังวิญญาณจากทั้งจักรวาลส่งพลังอันยิ่งใหญ่มาจากสวรรค์

 

นายน้อยตระกูลตู่ที่กำลังจะโจมตีหัวหน้าฝูงสัตว์อสูรหยุดนิ่ง ร่างของเขาแข็งทื่อ

 

“เจ้า…”

 

หลังจากที่ซือหยูได้เป็นอำมฤตระดับสองขั้นกลาง แม้ว่านั่นจะเป็นวิชาระดับตำนานแบบเดิม พลังของมันก็ยิ่งใหญ่กว่าเดิมมาก

 

ครืน—

 

ครืน—

 

คลื่นเสียงโอบล้อมทุกทิศทาง คลื่นพลังวิญญาณพุ่งทะลวงออกไป

 

พลังนั้นยิ่งใหญ่ราวกับจะทำให้แผ่นดินถล่ม

 

นายน้อยตระกูลตู่เบิกตากว้าง เจ้าตำหนักหยินหยูมีพลังระดับนี้แล้ว!

 

“อาวุธจักรพรรดิ!”

 

เขาตะโกนเสียงดัง ร่างของเขาเปล่งแสงสีมรกตพร้อมกับกระบี่เก้าเล่มที่ออกมาจากร่างกาย!

 

ที่ทำให้ทุกคนตกใจก็คือกระบี่ทุกเล่มนั้นเป็นสมบัติเทพระดับต่ำ!

 

มีสมบัติเทพเก้าชิ้น และมันยังถูกควบคุมโดยนายน้อยตระกูลตู่อย่างง่ายดาย!

 

สมกับที่เป็นคนตระกูลตู่ เขาครอบครองสมบัติเทพเก้าชิ้นที่ยอมรับเขาเป็นเจ้าของ!

 

เมื่อดูจากฐานพลัง ไม่มีใครที่ฐานพลังเทียบเท่าจะเอาชนะเขาได้!

 

กระบี่ทั้งเก้าล่องหนหายไป

 

ฟึ่บ–

 

ทันใดนั้นกระบี่ก็พุ่งเข้าไปตัดคลื่นเสียงที่สาดเต็มนภา

 

จากนั้นกระบี่อีกแปดเล่มก็ทำตามกัน คลื่นเสียงถูกหั่นเป็นชิ้นๆ

 

ฟึ่บ ฟึ่บ–

 

กระบี่ทั้งเก้ากลับมา นายน้อยตระกูลตู่สีหน้าเคร่งเครียด

 

แม้เขาจะขจัดพลังของซือหยูได้สำเร็จ เขาก็มิอาจเชื่อว่าหลังผ่านไปครึ่งเดือน เจ้าตำหนักหยินหยูที่บาดเจ็บสาหัสในตอนนั้นจะมีพลังเทียบเท่ากับเขา!

 

ความจริงเช่นนี้ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก

 

รองเจ้าตำหนักที่เขาดูถูกมาตลอดกลับมีพลังเทียบเท่าเขา!

 

แววตาซือหยูเยือกเย็น

 

“ถ้าเจ้าอยากจะได้คะแนน เจ้าก็ต้องผ่านข้าไปก่อน!”

 

สัตว์อสูรที่ชาญฉลาดใช้จังหวะที่ทั้งสองสู้กันรีบบินหนีอย่างบ้าคลั่งและหายไปในขอบนภา

 

ไม่มีใครได้เหยื่อเลย!

 

นายน้อยตระกูลตู่จ้องมองสัตว์อสูรที่จากไปไกล สีหน้าของเขาหม่นหมอง

 

คะแนนที่กำลังจะเป็นของเขาถูกคนอื่นชิงเอาไป!

 

เขาที่เป็นนายน้อยของตระกูล ทุกสิ่งในตระกูลจะเป็นของเขาในอนาคต ดังนั้นคะแนนจึงไม่สำคัญนัก

 

แต่เรื่องสำคัญคือนายน้อยคนก่อนกลับมาแล้ว นั่นทำให้คนในตระกูลเริ่มมีปากเสียง

 

ถ้าเขาไม่ทำให้คนในตระกูลหวาดกลัวโดยเร็ว…ต่อไปจะต้องเกิดปัญหาแน่

 

ดังนั้นเขาจึงใช้คลื่นสัตว์อสูรครั้งนี้ในการแสดงพลังและคว้าเอาความเชื่อใจมาจากคนในตระกูล

 

ถ้าเขาได้คะแนนเป็นที่หนึ่งเหนือว่ายอดฝีมือทั้งหมด ใครกันจะมาแย่งตำแหน่งนายน้อยไปจากเขาได้

 

“เจ้าตำหนักหยินหยู! ให้ข้าชี้แนะเจ้าสักหน่อย อย่ามายุ่งเรื่องของข้าเลย ไม่งั้น…”

 

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

 

ฮั่วฉีหลานกับฉีหยุนเซี่ยงกลับไปแล้ว ถ้าเจ้าตำหนักหยินหยูตายในเมืองอันยี่ก็ยากที่ตระกูลตู่จะอ้างว่าพวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ครั้งนี้ หากอาณาจักรทมิฬถามว่าใครเป็นฝ่ายผิดก็ยากที่ตระกูลตู่จะรับความรับผิดชอบได้ไหม

 

อย่างน้อยในเวลานี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมในการต่อสู้กับอาณาจักรทมิฬอย่างเปิดเผย

 

ซือหยูกลับหัวเราะ

 

“ใครกันที่มายุ่งเรื่องของข้าก่อน? พอมาถึงคราวเจ้า เจ้าก็กลับขู่ไม่ให้คนอื่นมายุ่งงั้นรึ? ขออภัย ข้าจะต้องข้องแวะกับเรื่องของเจ้าแน่นอน!”

 

“เจ้าก็ควรจะรู้ว่าเมื่อไหร่ที่จะต้องหยุด!”

 

นายน้อยตระกูลตู่โกรธเกรี้ยว เขาโศกเศร้าเล็กน้อยที่เคยหาเรื่องซือหยูเมื่อเร็วๆนี้

 

โฮก—-

 

ในตอนนั้นเอง เสียงแหลมดังมาจากท้องนภาห่างไกล

 

สัตว์อสูรระดับสามสามตัว!

 

หนึ่งในนั้นเป็นวิหคที่หนีไปเมื่อครู่ อีกสองตัวคือตัวที่มาช่วย!

 

หนึ่งตัวเป็นอำมฤตระดับสามขั้นต้น ส่วนอีกตัวเป็นระดับสามขั้นกลาง!

 

นายน้อยตระกูลตู่สีหน้าเปลี่ยนไป แววตาของเขาเต็มไปด้วยความสุข

 

สัตว์อสูรอำมฤตระดับสามนั้นหายากมาก! แต่ทั้งสามตัวก็มาปรากฏที่ตรงหน้าเขาราวกับเตรียมเอาไว้!

 

เพราะอย่างไรพลังของสัตว์อสูรทั้งสามก็ยังอยู่ในระดับที่เขารับมือได้

 

แต่ซือหยูนั้นตอบสนองเร็วยิ่งกว่า เมื่อเสียงร้องคำรามดังขึ้นเขาก็ใช้พลังดวงตา จากนั้นจึงไล่ล่าพวกมันทันที

 

นายน้อยตระกูลตู่สีหน้าเย็นชาเล็กน้อย เขากัดฟันและไล่ตาม

 

“เจ้าไม่คู่ควรที่จะเอาคะแนนของข้าไปหรอก!”

 

แต่ซือหยูก็ไม่สนใจและเข้าใกล้เหล่าวิหคด้วยความเร็ว

 

แต่น่าเสียดายที่นายน้อยตระกูลตู่มีฐานพลังเหนือกว่าซือหยู ด้วยพลังวิญญาณที่น่ากลัว เขาเคลื่อนไหวได้เร็วกว่า

 

นายน้อยตระกูลตู่ยิ้มเยาะ

 

“ดูเหมือนเจ้าจะต้องบ่มเพาะวิชาเคลื่อนไหวใหม่ซะแล้ว ถ้าอยากจะตามข้าทัน!”

 

ซือหยูนิ่งเงียบ ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาดีใจหรือโกรธแค้น เขาไล่ล่าวิหคทั้งสามต่อไปด้วยความเร็วสูงสุดอย่างเคย

 

ฟึ่บ–

 

สุดท้ายซือหยูก็ตามนายน้อยตระกูลตู่ทันอย่างง่ายดาย

 

“ฮ่าๆๆ คะแนนของเจ้าเป็นของข้า คะแนนยังคงเป็นของข้า!”

 

นายน้อยตระกูลตู่หันมายิ้มเยาะ

 

ในตอนนี้เขาอยู่ห่างกับสัตว์อสูรแค่พันศอก!

 

ด้วยพลังเช่นนี้ ยังไงสัตว์อสูรทั้งสามก็ต้องเป็นของเขา

 

แต่ในตอนที่เขาหันกลับไปมอง…สีหน้าเขาก็เคร่งเครียด!

 

เงาของซือหยูไม่ได้อยู่ข้างหลังเขา!

 

ซือหยูที่ไล่ล่ามาไม่นานนี้กลับล่าถอยอย่างรวดเร็ว เขาถอยไปแล้วสามลี้!

 

เทียบกับตอนที่นายน้อยตระกูลตู่ไล่ตามเขา ซือหยูเร็วกว่าเดิมสามเท่า!

 

“ถ้าเจ้าอยากจะจัดการพวกมันนักข้าก็ไม่แข่งขันกับเจ้าดีกว่า”

 

ซือหยูที่ถอยไปไกลสิบลี้ยิ้มเยาะ

 

แย่แล้ว!

 

เขารู้ทันทีว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

 

เหตุใดคนที่ไม่เคยยอมแพ้อย่างไร้เหตุผลอย่างหยินหยูถึงหนีไปเช่นนี้?

 

โฮก—-

 

ในตอนนั้น ที่สิบห้าลี้ห่างจากเขา พลังวิญญาณของจักรวาลสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง พลังความเยือกเย็นร่อนหล่นมาจากนภาดั่งทางช้างเผือก

 

แกร๊ก—-

 

ผืนปฐพีที่ถูกห่มโดยพลังความเย็นได้กลายเป็นน้ำแข็ง บุพผา ต้นไม้ แมลง มัจฉา วิหค และสัตว์ป่า และเหล่าสัตว์อสูรขอบเขตอำมฤตระดับสาม ทั้งหมดกลายเป็นน้ำแข็งโดยไม่มีโอกาสได้ขัดขืน

 

รูปปั้นวิหคยักษ์ปรากฏจากนภา มันตัวใหญ่นับหมื่นศอก

 

เมื่อสะบัดปีก พลังอันเยือกเย็นที่แช่แข็งจักรวาลได้ก็ถูกปลดปล่อย

 

แม้จะตอบสนองก็ยากที่จะหนีจากพลังนั้นได้ ร่างทั้งร่างของนายน้อยตระกูลตู่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ชีวิตของเขากำลังจะหมดไปด้วยความเร็วอันน่าใจหาย

 

ทั้งพลังและความสามารถในการควบคุมสมบัติเทพทั้งเก้า…ชีวิตของเขากำลังจะจบลงในพริบตา!

 

ยอดฝีมือที่ไล่สัตว์อสูรระดับสามหยุดไล่ล่าทันที แววตาเต็มไปด้วยความกลัว

 

“นั่นมัน…สัตว์อสูร..อำมฤตระดับสี่!”

 

อำมฤตระดับสี่!

 

ในทวีปแห่งนี้ อำมฤตระดับสี่นับว่าเป็นตำนาน

 

ที่ทวีปแห่งนี้มีน้อยคนนักที่จะประมือกับอำมฤตระดับสี่ได้!

 

ตามบันทึกประวัติศาสตร์ ในคลื่นสัตว์อสูร ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดมีพลังอำมฤตระดับสามขั้นสูง และนั่นคือขีดจำกัด

 

แต่ในครั้งนี้ ราชาสัตว์อสูรได้ปรากฏตัวขึ้น และตัวตนของมันอยู่ในขอบเขตอำมฤตระดับสี่!

 

ว่ากันว่าสัตว์อสูรที่สำเร็จขอบเขตอำมฤตระดับสี่จะมีสติปัญญาสูงส่ง และพลังของมันไม่ต่ำต้อยไปกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์เลย

 

และยังว่ากันว่าเมื่อมันสำเร็จระดับนี้…มันจะพูดภาษามนุษย์ได้!

 

“อ๊าก! หนีเร็ว!”

 

เหล่ายอดฝีมือตะโกนร้อง ร่างกายของพวกเขาในตอนนี้ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

 

ต่อหน้าอำมฤตระดับสี่…ชะตาของพวกเขามีเพียงการถูกฆ่าเท่านั้น!

 

โฮก—-

 

วิหคน้ำแข็งบนนภาแสดงท่าทีเหยียดหยามราวกับมนุษย์ มันอ้าปากกรีดร้องเสียงแหลม

 

และเมื่อมันอ้าปาก พลังความเย็นก็ห่มทั้งฟ้าดินไปทุกทิศทาง!

 

ตลอดระยะสามสิบลี้ อุญหภูมินั้นเย็นกว่าเดิมเป็นสิบเท่า!

 

พลังวิญญาณของนักสู้ระดับต่ำมิอาจไหลเวียน พวกเขาเสียพลังในการบิน พวกเขาร่วงหล่นจากนภาและกรีดร้อง เพราะอย่างไรพวกเขาจะไม่ตกจนตาย แต่พวกเขาจะกลายเป็นอาหารของเหล่าสัตว์อสูร!

 

แค่ช่วงเวลาสั้นๆ มากกว่าร้อยคนเสียชีวิตลง! หลายคนบาดเจ็บ!

 

พลังที่น่ากลัวเช่นนี้ทำให้ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์ไร้จิตใจจะต่อสู้ พวกเขาล้มลงไปกับพื้น

 

ผนึกเพลิงเมฆาบนหน้าผากซือหยูเปล่งพลังอันเยือกเย็นมาคลุมร่างซือหยู

 

แม้กระนั้นซือหยูก็ยังรู้สึกหนาวเย็นอย่างมาก

 

“นี่คืออำมฤตระดับสี่รึ? เทียบกับระดับสาม นี่มันคนละขอบเขตกันเลย!”

 

ซือหยูตกใจ

 

แม้ความต่างระหว่างพลังจะมหาศาล แต่มันยังคงไม่สิ้นหวังไปเสียทั้งหมด

 

แต่อย่างไร พลังของระดับสามถึงห้าก็เหนือกว่ามนุษย์หลายต่อหลายคนแล้ว มันเทียบได้กับเทพเจ้า!

 

แล้วขอบเขตใดกันที่เหนือกว่าขอบเขตอำมฤต?

 

หรือจะเป็นขอบเขตของพระเจ้า?

 

ในตอนนั้น วิหคน้ำแข็งได้ก้มหัวมองเบื้องล่าง เมื่อมันเห็นนายน้อยตระกูลตู่ที่กำลังจะตาย มันก็แสดงใบหน้าเย้ยหยัน

 

เห็นได้ชัดเลยว่ามันวางกับดักเอาไว้!

 

วิหคอำมฤตระดับสามทั้งสามตัวคือกับดักในการหลอกล่อมนุษย์ที่มีพลังมหาศาลออกมา มันจะได้สังหารมนุษย์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย!

 

เมื่อซือหยูใช้พลังดวงตาเขาก็รับรู้ถึงตัวตนของราชาที่น่ากลัวตัวนี้

 

เพื่อที่จะล่อนายน้อยตระกูลตู่ออกไป ซือหยูแสร้งแข่งกับเขา นั่นทำให้เขาประมาทและพุ่งเข้าไปยังใจกลางระยะการซุ่มโจมตี

 

พลังชีวิตของเขาหายไปกว่าครึ่ง

 

“เป็นแค่สัตว์อสูรชั่วแต่กล้าทำเช่นนี้รึ!”

 

ในตอนนั้นเอง เสียงอันทรงพลังดังมาจากเมืองอันยี่

 

สิ่งที่ตามมากับเสียงคือพลังวิญญาณที่ก่อร่างยาวหมื่นศอก พลังวิญญาณนั้นเป็นดั่งศรคมกริบ มันทะลวงผืนนภากว้างใหญ่พุ่งตรงไปยังวิหคยักษ์น้ำแข็ง!

 

แววตาเย้ยหยันของมันได้เปลี่ยนไปทันที

 

มันกรีดร้องและหันหนี!

 

ปั้ง—

 

ครืน—

 

แต่ความเร็วของพลังวิญญาณนั้นเร็วเกินไป และพลังก็ยังมากเกินไปอีกด้วย!

 

แม้ว่ามันจะเป็นราชาสัตว์อสูร ร่างของมันก็ถูกพลังวิญญาณเจาะทะลวง โลหิตสีแก้วใสกระจายฉาบนภา สุดท้ายมันก็กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

 

ร่างยักษ์ราวกับขุนเขาของมันตกไปที่ขอบนภา

 

เหล่ามนุษย์ที่หนีด้วยความกลัวอ้าปากค้าง!

 

แค่การโจมตีเดียวก็ทำให้ราชาสัตว์อสูรปางตายได้เชียวรึ?

 

และคนที่โจมตีก็ไม่ได้แสดงตัวออกมางั้นรึ?

 

ซือหยูเบิกตากว้าง หัวใจของเขาเต้นแรง!

 

นี่คืออำมฤตระดับห้างั้นรึ? การโจมตีของเขาทำให้ราชาอสูรระดับสี่ปางตายในทันที!

 

และที่น่าตกใจที่สุดคือคนที่โจมตีนั้นไม่ได้ใส่พลังอย่างเต็มที่!

 

โฮก—-

 

วิหคน้ำแข็งที่กำลังจะร่วงหล่นนั้นขัดขืน มันบินขึ้นสู่นภาอีกครั้งด้วยความยากลำบากและหนีไปไกลอย่างรวดเร็ว

 

“เจ้าคิดว่าเจ้าจะรอดไปได้รึ?”

 

เสียงดังมาจากเมืองอันยี่

 

ฉั่วะ–

 

ภาพอันไม่มีวันลืมเกิดขึ้น!

 

ร่างของวิหคน้ำแข็งที่บินไปไกลหกสิบลี้ได้ระเบิดออก ราวกับว่าถุงน้ำที่อยู่ภายในระเบิดออกมาเพราะน้ำมากเกินไป มันระเบิดเป็นเสี่ยงและต ายลง!

 

พลังของเจ้าเมืองอันยี่น่ากลัวมาก!

 

ทุกคนขนลุกซู่

 

แม้ว่าจะมองไม่เห็น เขาก็สังหารคนที่อยู่ห่างออกไปสามสิบลี้ได้!

 

ถ้าเขามีจิตสังหาร สิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่เขามองก็คงต้องตกตาย!

 

แกร๊ก–

 

ในตอนนั้นเอง พลังความเย็นของนายน้อยตระกูลตูาได้หายไป หน้าของเขาซีดเผือด ร่างอันเย็นยะเยือกสลัดออกมาจากน้ำแข็ง

 

ก้อนพลังวิญญาณอันทรงพลังพุ่งออกจากเมือง มันโอบล้อมนายน้อยตระกูลตู่และพาเขากลับมา

 

ทุกคนมิอาจใจเย็นได้เลยแม้จะผ่านไปนาน

 

พลังของเจ้าตระกูลตู่ที่เป็นเจ้าเมืองอันยี่นั้นน่ากลัวเกินไป!

 

เขาเป็นมนุษย์จริงๆงั้นรึ?

 

ในตอนนั้น สายตาคมกริบมองไปยังที่ที่หนึ่ง

 

ไม่ว่าจะมองไปทางไหน นภาก็สั่นสะเทือนไปพร้อมกับพลังวิญญาณ

 

แค่การมองก็เกิดพลังมหาศาลเช่นนี้ นี่มันพลังอะไรกัน?

 

แววตาคู่นั้นจับจ้องมายังซือหยู!

 

เสียงแหบพร่าดังมาจากในเมือง

 

“วางแผนทำร้ายนายน้อยตระกูลตู่ เจ้ายังเห็นข้าอยู่ในสายตาหรือไม่…เจ้าตำหนักหยินหยู?”

 

ทุกสิ่งเงียบลงในทันที

 

ทุกคนกลั้นหายใจและไม่กล้าที่จะหายใจเสียงดัง

 

คลื่นสัตว์อสูรหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วครู่!

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

Score 10
Status: Completed

ตอนที่ 1 – 450 อ่านนิยาย


หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ

เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Options

not work with dark mode
Reset