Home › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร › Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 325 Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร 325 ตอนที่ 325 Posted by , ? Views, Released on October 9, 2020 Prev All Chapter Next Options Facebook Twitter WhatsApp Pinterest บทที่ 325 : หมอที่เปี่ยมด้วยเมตตา หลิงหยุนรีบวางเจ้าขาวปุยลงที่พื้น จากนั้นก็เรียกยันต์อัคนีออกมาจากแหวนพื้นที่ แล้วโน้มตัวไปพูดกับตงฟางถิงว่า “พี่ตงฟาง.. ท่านบาดเจ็บตรงใหน ข้าจะรักษาให้!” “น้องหลิงหยุน.. ข้าขอบใจเจ้ามาก แต่ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก! หลังกับขาของข้าถูกกระบี่ศิลาแทงเข้าหลายจุด ตอนนี้ข้าไม่สามารถขยับเขยื้อนได้!” หลิงหยุนไม่สนใจฟังคำพูดไร้สาระของตงฟางถิง เขาใช้ยันต์บำบัดแปะเข้าไปที่บาดแผลของตงฟางถิง จากนั้นก็ร้องสั่งยันต์อยู่ในใจ ตงฟางถิงไม่รู้ว่าหลิงหยุนทำอะไรกับเขา แต่เขารับรู้ได้ถึงความความเย็นที่แปลกประหลาดบนบาดแผล จากนั้นบาดแผลตามร่างกายก็หายไปเองได้อย่างน่าอัศจรรย์ ตงฟางถิงทั้งตกใจและดีใจ! “น้องหลิงหยุน.. นี่เจ้า..” ตงฟางถิงร้องออกมาด้วความดีใจและประหลาดใจ หลิงหยุนตอบกลับยิ้มๆ “อย่าเพิ่งพูดอะไรกันตอนนี้เลย พวกเราทั้งหมดต้องรีบยืนเอาหลังแนบกำแพงไว้ก่อน หากข้าเดาไม่ผิด.. ครั้งนี้กระบี่ศิลาจะพุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง!” หลังจากนั้น หลิงหยุนก็อุ้มเจ้าขาวปุยขึ้นมา และพาตู้กู่โม่กับตงฟางถิงกระโดดไปยืนอยู่ข้างผนังหิน แล้วจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง “พายุกระบี่ในครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของค่ายกลกระบี่สังหารแล้ว หากพวกเราสามารถเอาชีวิตรอดไปได้ ค่ายกลก็จะหยุดทำงานเอง!” ตู้กู่โม่สวนขึ้นมาทันที “แต่ครั้งนี้กระบี่ศิลาจะพุ่งขึ้นจากพื้นดิน แล้วพวกเราจะหลบได้ยังไง?” หลิงหยุนกัดฟันตอบกลับไปว่า “ไม่มีวิธีอื่นแล้ว.. นอกจากต้องพยายามรักษาส่วนสำคัญของร่างกายไม่ให้ได้รับบอันตราย..” ตู้กู่โม่รู้สึกหวาดกลัวมากอย่างมาก.. และรีบใช้มือขวากุมน้องชายของเขาไว้ ส่วนมือซ้ายก็ปิดก้นของตนเองไว้ทันที หลิงหยุนเห็นท่าทางของตู้กู่โม่แล้วถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “นี่นายทำบ้าอะไร!? เอามือปิดไว้แบบนั้นจะช่วยอะไรได้ ต้องใช้อาวุธปัดป้อง!” ตู้กู่โม่ถามขึ้นมาทันทีเช่นกัน “เจ้าใช้กระบี่มารในมือเจาะเข้าไปในผนังให้เป็นรู แล้วพวกเราก็เข้าไปหลบในนั้นไม่ได้รึยังไง?” หลิงหยุนยิ้มพร้อมตอบกลับไปว่า “นี่นายพูดอะไรไม่คิดเลย! ขืนใช้กระบี่นี่ทำลายกำแพง ไม่ยิ่งเป็นการกระตุ้นกลไกให้ทำงานรุนแรงกว่าเดิมหรือยังไง!” หลิงหยุนรู้แล้วว่าค่ายกลมรณะแห่งนี้มีทั้งค่ายกลกระบี่สังหาร และค่ายกลลวงตา สำหรับค่ายกลมังกรหยินหยางแห่งนี้แล้ว นี่นับว่าเป็นเพียงค่ายกลเล็กๆน้อยๆเท่านั้น “ตอนนี้ต่างคนต่างก็สนใจป้องกันแต่ตัวเองก็พอ! เอาล่ะ.. พายุกระบี่ลูกที่สามกำลังจะมาแล้ว!” หลิงหยุนร้องเตือนทั้งสองคน และทันใดนั้นเองเสียงครืน.. ก็ดังขึ้น และก็เป็นอย่างที่หลิงหยุนบอกไว้จริงๆ ครั้งนี้กระบี่ศิลาพุ่งทะลุจากพื้นขึ้นมา ทำให้การปัดป้องยิ่งยากขึ้นไปอีก หลิงหยุนโคจรดารกะดายันไปทั่วร่าง ส่วนเจ้าขาวปุยก็ขดตัวแน่นอยู่บนหน้าอกของเขา จากนั้นกระบี่ศิลาก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังของหลิงหยุนทันที หลิงหยุนสามารถปัดป้องได้ถึงเพียงแค่ช่วงเข่าของเขาเท่านั้น และตอนนี้น่องและเท้าของเขากลับถูกกระบี่ศิลาแทงทะลุจนเลือดไหลออกมาเป็นทาง! หลิงหยุน ตู้กู่โม่ และตงฟางถิง.. ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสกันทุกคน! หลิงหยุนไม่สามารถทนได้อีกต่อไป หลังจากที่ยืนหยัดต่อสู้อยู่นาน กัดฟันทนต่อความเจ็บปวดฟาดฟันกระบี่หินมากมายที่พุ่งขึ้นมา และในที่สุดก็ล้มลงกับพื้นเสียงดังปัง! ปัง.. ปัง.. เสียงปังดังขึ้นอีกสองครั้งติดๆกัน ตู้กู่โม่และตงฟางถิงต่างก็ล้มลงพื้นเกือบจะพร้อมกัน เว้นแต่เจ้าขาวปุยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเพราะหลิงหยุนป้องกันมันไว้ และในเวลานี้ทั้งสามคนต่างก็นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ส่วนเจ้างูเหลือมยักษ์นั้น ตอนนี้นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นไม่ขยับเขยื้อน และไม่มีแม้แต่เสียงร้อง หลังจากที่พายุกระบี่ลูกที่สามผ่านไป กำแพงหินก็หายไปด้วย และหมอกสีขาวหนาก็จางหายไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นกัน ผนังถ้ำหินก็กลับไปอยู่ในสภาพเดิม และบรรยากาศภายในก็เต็มไปด้วยความมืดมิดเช่นเดิม หากไม่มีคนนอนตายอยู่กับพื้น และไม่มีบาดแผลตามร่างกาย สภาพภายในถ้ำก็แทบจะดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยซ้ำ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ และหลิงหยุนมั่นใจว่าค่ายกลได้หยุดทำงานแล้ว เขาจึงค่อยๆลืมตาขึ้น และวางเจ้าขาวปุยลงไปบนพื้นข้างๆอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ หลิงหยุนทำการรักษาบาดแผลตามร่างกายของตนเองด้วยยันต์บำบัด แล้วจึงค่อยลุกขึ้นเดินไปหาตู้กู่โม่กับตงฟางถิง และตอนนี้ทั้งคู่ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า หลิงหยุนได้ใช้ยันต์บำบัดทำการรักษาบาดแผลตามร่างกายให้กับพวกเขาทั้งคู่ และบาดแผลต่างๆก็ค่อยๆเลือนหายไป ตู้กู่โม่และตงฟางถิงต่างก็ยิ้มให้กันอย่างตื่นเต้นดีใจ และลุกขึ้นเกือบจะพร้อมกัน ตู้กู่โม่ถามขึ้นทันที “นี่เจ้าใช้ยันต์ของสำนักเหมาซานด้วยเหรอ? แล้วนี่ก็เป็นวิธีการรักษาคนไข้ของสำนักหมอสวรรค์ด้วยรึเปล่า?” ตงฟางถิงกำหมัดทั้งสองมือแน่นพร้อมกับสำรวจไปทั่วร่างกาย แล้วรีบเอ่ยขอบคุณหลิงหยุน “น้องชาย.. ข้าขอบใจเจ้ามากที่ช่วยชีวิตของข้าไว้ จากนี้ไปเจ้าจะสั่งให้ข้าบุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของเจ้า!” หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า “เรื่องเล็กน้อยเองพี่ตงฟาง! ท่านอย่าได้เกรงใจไป อีกอย่างข้าก็ต้องขอบคุณที่ท่านเชื่อว่าข้าไม่ใช่คนของนิกายมาร ฮ่า.. ฮ่า..” ตู้กู่โม่ไม่ใช่คนสุภาพแบบตงฟางถิง เขาหันกลับไปหาหลิงหยุนอย่างตื่นเต้นพร้อมกับถามขึ้นว่า “นี่นายมาจากสำนักหมอสวรรค์จริงๆเหรอ? อีกอย่างยันต์ของเจ้าก็เยี่ยมมากเลย แบ่งให้ข้าบ้างสิ?!” หลิงหยุนไม่สนใจตู้กู่โม่ เขามองไปยังประตูศิลาอีกครั้ง และเห็นร่างไร้ลมหายใจของชางกวนเจี๋วยกับคนอื่นๆอีกสี่คนนอนเรียงรายอยู่บนพื้น แต่ละคนล้วนมีเลือดไหลออกตามร่างกายจำนวนมาก สภาพของพวกเขาตายอย่างน่าสมเพช “เจ้าพวกโง่นี่เกือบจะทำให้พวกเราทั้งหมดต้องตายอยู่ในนี้ด้วย!” หลิงหยุนสบถออกมาอย่างขุ่นเคือง และตงฟางถิงก็ขมวดคิ้วพร้อมกับส่ายหน้า ร่างของตู้กู่โม่ลอยขึ้นไปแตะที่กำแพง และแตะที่พื้น แล้วถามขึ้นว่า “กระบี่ศิลานี่ก็ไม่ใช่กระบี่จริงๆใช่ไม๊?” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ใช่แล้ว.. กระบี่พวกนี้ล้วนไม่ใช่กระบี่จริงๆ แต่มันคือค่ายกล ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเคลื่อนที่ หมอกสีขาว และแม้แต่กระบี่ศิลา ทุกอย่างล้วนไม่มีอยู่จริง..” ตู้กู่โม่ถามขึ้นอีกว่า “แต่กำแพงเคลื่อนที่ แล้วก็กระบี่ศิลาก็ทำให้พวกเราเจ็บปวดได้จริงๆ! เรื่องนี้จะอธิบายว่ายังไง?” หลิงหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อยและตอบกลับไปว่า “กำแพงเคลื่อนที่นั้นเป็นการทำงานของค่ายกลลวงตาที่มีผลต่อจิตใจของเรา เพราะนายจะคิดว่ากำแพงหินพวกนั้นกำลังบีบรัดร่างกายของนายอยู่ นายจึงพยายามที่จะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีต่อต้านมัน และแน่นอนว่าการทำแบบนั้น ย่อมทำให้เกิดการบาดเจ็บภายใน..” “แล้วกระบี่ศิลาล่ะ?” ตู้กู่โม่ยังคงคาใจ หลิงหยุนอธิบายต่ออย่างใจเย็น “นายไม่ได้ถูกกระบี่ศิลาทำให้บาดเจ็บหรอก.. หลังจากที่ค่ายกลเริ่มทำงาน พลังงานในค่ายกลแห่งนี้ก็ได้รวมตัวกันและมีรูปร่างคล้ายกระบี่ เพราะฉะนั้น พลังงานในค่ายกลแห่งนี้ต่างหากที่ทำร้ายทุกคนจนบาดเจ็บ ไม่ใช่กระบี่! กระบี่ศิลาเป็นของปลอม แต่พลังงานในค่ายกลต่างหากคือของจริง!” “ยอดคนจริงๆ! นี่นายรู้ได้ยังไงกัน? ที่สำนักหมอสวรรค์ของนายสอนเรื่องค่ายกลพวกนี้ด้วยเหรอ?” “เลิกไร้สาระได้แล้ว!” หลิงหยุนรู้สึกทนกับความหน้าไม่อายของตู้กู่โม่ไม่ได้อีก เขาหันไปมองเจ้างูยักษ์ที่นอนขดอยู่รอบบ่อน้ำลายมังกร และเดินถือกระบี่โลหิตแดนใต้เข้าไปยืนอยู่ตรงหน้ามัน ตอนนี้ทุกคนต่างก็เห็นว่าเจ้างูยักษ์หมดเรียวแรงที่จะจู่โจมใครได้อีก แม้ว่ามันจะยังไม่ตาย แต่ก็ไม่สามารถทำอันตรายใครได้แล้ว เพราะตามลำตัวของมันนั้นถูกกระบี่ศิลาทิ่มแทงจนเป็นรูไปหมด ตามลำตัวของเจ้างูยักษ์ในตอนนี้ จึงมีแต่บาดแผลที่เกิดจากกระบี่เต็มไปหมด และเลือดก็ไหลออกมาจำนวนมาก! หลิงหยุนสังเกตุดูอย่างละเอียด เมื่อเห็นว่าเจ้างูยักษ์ยังไม่ตาย เขาก็หยิบยันต์บำบัดออกมา “ข้าว่าเจ้าอย่าช่วยมันจะดีกว่า!” ตู้กู่โม่ร้องขึ้นมาอย่างตกใจ ตงฟางถิงถึงกับยิ้มและเอ่ยออกมาอย่างชื่นชม “นึกไม่ถึงจริงๆว่าน้องหลิงหยุนจะมีจิตใจที่เมตตาสงสารผู้อื่นเช่นนี้.. ข้านับถือเจ้าจริงๆ!” หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อย “มันบาดเจ็บมาก.. จะช่วยได้หรือไม่ข้าก็ยังไม่รู้ แต่ข้าจะพยายามสุดความสามารถ จากนั้นก็แล้วแต่ชะตากรรมของมันแล้ว!” หลังจากพูดจบ หลิงหยุนก็เริ่มวางยันต์บำบัดไปตามบาดแผลฉรรจ์บนลำตัวของมันอย่างใจเย็น เจ้างูยักษ์ตัวนี้ใหญ่โตจนเกินไป พายุกระบี่ศิลาทั้งสามครั้ง จึงสร้างบาดแผลให้มันอย่างแสนสาหัส ยันต์บำบัดเป็นร้อยๆแผ่นของหลิงหยุนก็ยังไม่เพียงพอกับบาดแผลทั้งหมดตามลำตัวของมัน หลิงหยุนจึงต้องเลือกรักษาเฉพาะบาดแผลที่ฉกรรจ์ที่สุดเท่านั้น ตำแหน่งบาดแผลที่ใหญ่ ฉกรรจ์ และสาหัสที่สุดของเจ้างูยักษ์นั้นอยู่ที่หัว และอีกเจ็ดแห่งตามลำตัวของมัน.. หลิงหยุนหยิบยันต์บำบัดออกมาทีละแผ่น และค่อยๆวางไปตามบาดแผลของเจ้างูยักษ์ และทุกครั้งที่วางยันต์ลงไปตำแหน่งต่างๆ เขาก็ร้องสั่งยันต์ให้ทำงานอยู่ในใจเงียบๆ เจ้างูเหลือมตัวนี้ใหญ่มหึมามาก หากหลิงหยุนวางยันต์บำบัดไว้ที่เกล็ดของมัน ก็จะไม่ส่งผลอะไรต่อการรักษา เขาจึงจำเป็นต้องยัดยันต์บำบัดลงไปในบาดแผลทีละแผ่น และเลือกรักษาเฉพาะบาดแผลฉกรรจ์เท่านั้น แต่ในเวลานี้ เจ้างูเหลือมยักษ์ดูเหมือนลมหายใจจะอ่อนระทวยลงไปมาก เรียกว่าเข้าใกล้ความตายมากแล้ว เพราะบาดแผลที่เกิดจากกระบี่ศิลานั้นนับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นลำตัวหรือหัวใจ แต่หลิงหยุนนั้นมีจิตใจที่เป็นหมออย่างสมบูรณ์ เขายังคงรักษามันอย่างไม่ย่อท้อ ตู้กู่โม่และตงฟางถิงที่เห็นหลิงหยุนตั้งใจรักษาเจ้างูยักษ์อย่างจริงจัง ทั้งคู่จึงได้แต่มองหน้ากันแล้วร้องออกไปว่า “หลิงหยุน.. พวกเราจะช่วยเจ้าเอง..” หลิงหยุนส่ายหน้าพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “มันใกล้ตายแล้ว อีกอย่างพวกท่านก็ไม่รู้ว่าต้องวางยันต์บำบัดไว้ที่จุดใหนถึงจะเป็นผลดีกับการรักษา ข้าทำเองจะดีกว่า!” หลิงหยุนใช้เวลารักษาเจ้างูยักษ์ไปนานถึงสามชั่วโมง และใช้ยันต์บำบัดไปจนหมด.. ตู้กู่โม่และตงฟางถิงที่ยืนมองหลิงหยุนใช้ยันต์บำบัดในมือจนไปจนหมดทั้งมัดแล้ว แต่จู่ๆก็มียันต์มัดใหม่อยู่ในมือของหลิงหยุนอีก ทั้งคู่ต่างก็รู้สึกตกใจและประหลาดใจ แต่ก็ไม่คิดที่จะถาม.. ความสามารถของหลิงหยุนนั้นช่างน่าอัศจรรย์ เขาปรากฏตัวพร้อมกับกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือ และแสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วในแบบที่พวกเขาทั้งคู่ไม่สามารถเทียบได้ อีกทั้งยังช่วยพวกเขาทั้งคู่ให้รอดชีวิตจากค่ายกลมรณะที่น่ากลัวนี้ได้ และในตอนนี้เขากลับนั่งรักษาเจ้างูยักษ์ในสภาพที่ร่างกายยังคงเต็มไปด้วยเลือด หลังจากทำการรักษาให้กับเจ้างูยักษ์เรียบร้อยแล้ว หลิงหยุนก็เดินตรงไปที่บ่อน้ำลายมังกร หลิงหยุนหันไปทางตู้กู่โม่และตงฟางถิงพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ด้วยกำลังของพวกเราสามคน ไม่มีทางที่จะเปิดประตูศิลาได้แน่! ข้าได้ยินพวกท่านพูดถึงสมุดจักรพรรดิอะไรนั่น ข้าว่าอย่าไปคิดถึงมันเลยจะดีกว่า ตอนนี้พวกท่านมาดื่มน้ำนี่จะดีกว่า ดื่มเข้าไปเพียงนิดหน่อยก็จะทำให้การฝึกวิทยายุทธของพวกท่านทั้งสองก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว!” “นี่มันคืออะไร?!” ตู้กู่โม่และตงฟางถิงถามขึ้นมาพร้อมกัน ความจริงแล้วทั้งคู่ต่างเห็นน้ำลายมังกรนี้ตั้งแต่เข้ามาแล้ว พวกเขารู้ว่าสิ่งนี้ต้องเป็นของดีแน่ แต่ในใจของพวกเขาคิดแต่เรื่องสมุดจักรพรรดิเท่านั้น อีกทั้งยังมีเจ้างูยักษ์นี่คอยปกป้องไว้อีก จึงไม่มีใครกล้าที่จะแตะต้อง แต่ตอนนี้หลิงหยุนได้ช่วยชีวิตพวกเขาทั้งสองคนไว้ หลิงหยุนจึงกลายมาเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขาไปแล้ว แม้ทั้งคู่จะเป็นคนที่มีบุคลิกแตกต่างกัน แต่ก็เป็นคนเปิดเผยไม่ต่างกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะทำอะไรตามใจ และรอคอยให้หลิงหยุนเป็นผู้สั่งการ หลิงหยุนยิ้มบางๆ “ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ตำแหน่งหัวใจมังกรของค่ายกลมังกรหยินหยาง ข้าคิดว่านี่น่าจะเป็นน้ำลายมังกร บอกตามตรงข้ามาที่นี่เพราะสิ่งนี้..” “น้ำลายมังกรงั้นรึ.. มิน่าเจ้างูยักษ์นี่ถึงได้ปกป้องจนตัวตายก็ไม่ยอมให้พวกเราเข้าใกล้..” ตู้กู่โม่พึมพำออกมา “แต่พวกเราไม่ได้นำภาชนะอะไรเข้ามาด้วย แล้วจะดื่มน้ำลายมังกรนี่ได้ยังไง?” ตู้กู่โม่ถามขึ้นอย่างเสียดาย หลิงหยุนหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะเรียกขวดน้ำแร่ออกมาให้คนทั้งคู่ล้างมือ จากนั้นก็เรียกขวดน้ำดื่มออกมาอีกสองขวดแบ่งให้ทั้งคู่คนละขวด “พวกท่านไม่ได้ดื่มน้ำมานานมากเลยสินะ.. ดื่มน้ำนี่ให้หมดขวด แล้วค่อยเอาไปตักน้ำลายมังกร…” หลิงหยุนหัวเราะ เขารู้สึกภูมิใจที่ได้อวดแหวนพื้นที่ต่อหน้าทั้งสองคน ทั้งคู่รับขวดน้ำดื่มมาด้วยความดีใจ ตู้กู่โม่ดื่มน้ำจนหยดสุดท้ายแก้กระหาย พวกเขาไม่ได้ดื่มน้ำมาหนึ่งวันเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือขั้นใหน เมื่อถึงคราวกระหายน้ำขึ้นมา ต่อให้น้ำลายมังกรก็เทียบเท่าน้ำเปล่าไม่ได้ “อย่าดื่มมากจนเกินไป! เหลือท้องไว้ดื่มน้ำลายมังกรด้วย..” หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับร้องเตือน ตู้กู่โม่ดื่มน้ำจนเหลือก้นขวดโดยไม่หยุดหายใจ จากนั้นก็ร้องออกมาพร้อมกับกระทืบเท้าอย่างเสียดาย “นี่ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าจะลงมาที่นี่ด้วย ข้าก็คงจะรอเจ้าอยู่ที่ผาพยัคฆ์แล้วล่ะ..” หลิงหยุนเป็นคนที่ชอบยั่วโมโหคนอื่นอยู่แล้ว เขาจึงสมน้ำหน้าพร้อมกับยิ้ม “ นั่นสิ.. ความจริงฉันก็อยากลงมาที่นี่กับนายเหมือนกัน แต่ใครจะคิดว่านายมันจะเป็นพวกใจเร็วด่วนได้แบบนี้..?!” สีหน้าของตู้กู่โม่เต็มไปด้วยความเสียดายหนักขึ้น และผิดหวังมากขึ้น.. “เอาล่ะ.. ตอนนี้ก็รีบๆดื่มน้ำลายมังกรเข้าไปซะ! หลังจากดื่มเข้าไปแล้ว ก็ให้เดินลมปราณที่นี่เลย ข้าจะคุ้มครองเจ้าเอง! แต่อย่านานนักล่ะ!” แม้ว่าน้ำลายมังกรนี้จะมีมาก แต่มันก็เป็นสิ่งที่หลิงหยุนไม่สามารถนำไปเก็บไว้ในแหวนมังกรได้ น้ำลายมังกรมีจำนวนมากขนาดนี้ ต่อให้ทั้งสามคนดื่มครึ่งเดือนก็ไม่หมด หลิงหยุนจึงไม่รู้สึกหวงแหน! ตู้กู่โม่และตงฟางถิงต่างก็ดีใจมาก พวกเขารีบเข้าไปตักน้ำลายมังกรส่งให้กันและกัน และเริ่มดื่ม.. หลังจากที่ทั้งคู่ดื่มเข้าไปแล้ว พวกเขาก็พยักหน้าให้หลิงหยุนพร้อมกัน แล้วต่างคนต่างก็หาที่บริเวณนั้นนั่งเดินลมปราณอยู่เงียบๆ ทั้งคู่รู้ตัวดีว่าได้ฝากชีวิตไว้ในเงื้อมมือของหลิงหยุน แต่ชีวิตของพวกเขาทั้งคู่ก็เพิ่งจะถูกหลิงหยุนช่วยไว้ พวกเขาจึงไว้เนื้อเชื่อใจหลิงหยุนอย่างมาก หลังจากที่ทั้งคู่เริ่มเดินลมปราณ หลิงหยุนก็ยิ้ม และเรียกกล่องหยกวิญญาณออกมา! Favorite Prev Next Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร Score 10 Status: Completed นิยาย จีน นิยาย ดราม่า นิยาย ตลก นิยาย ผจญภัย นิยาย ศิลปะการต่อสู้ นิยาย ฮาเร็ม นิยาย แอคชั่น ตอนที่ 1 – 505 อ่านนิยาย (อ่านตอนต่อไปด้านล่าง) ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป.. ทำให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด จากนั้น.. หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลำดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร.. Recommended Series ข้าคือหงส์พันปี Ch. 750 ทุกสิ่งทุกอย่างคือการจัดสรรที่ดีที่สุดของพระเจ้า (ตอนจบ) 10 ข้าคือหงส์พันปี หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ Ch. 122 เธอมองด้วยความเสน่ห์หา 10 หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้ ใต้ชายคารัก 10 ใต้ชายคารัก อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย Ch. 459 ตอนจบ 10 อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์ Ch. ตอนพิเศษ 3-19 ชาน 10 วุ่นรักบุปผาร้อยเล่ห์