โลกที่สงบสุขนี้ ไม่จำเป็นต้องมีข้าบทที่ 1 1 ชายแปลกหน้า

บทที่ 1 ตอนที่ 1 ชายแปลกหน้า

 

 

 

จักพรรดิแห่งดาบ อักราธ..

 

 

นั่นเสียงใคร… 

 

 

ที่นี่.. คือที่ใด? มัน..หนาว

 

 

ผู้แข็งแกร่งที่ปราถนาในความตาย.. 

 

 

ผู้ที่กล้าหาญ และเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง

 

 

สตรีรึ? ใครกำลังพูดอยู่กัน!

 

 

เจ้าคิดว่านี่คือจุดสิ้นสุดของเรื่องราวของเจ้าแล้วรึ? 

 

 

ปล่อยข้าให้ไปอย่างสงบเถอะ!! ข้าไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว!!

 

 

ปีกแห่งแสงจักโอบอุ้มเจ้า 

 

 

เทพีแห่งความตายจักเปิดประตูต้อนรับเจ้า

 

 

ความเหน็บหนาวจะเข้าครอบงำ..

 

 

เจ้าพูดบ้าอะไรข้าไม่เห็นจะเข้าใจเลยสักนิด!!

 

 

เรื่องราวที่แท้จริงของเจ้า.. มันพึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

 

 

ข้า.. อีครอสจักโอบกอดเจ้าชั่วนิจนิรันดร์

 

 

ราวกับว่าตัวข้านั้นกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่ไร้จุดหมาย ไม่มีทั้งแสงและเส้นทางที่ข้าสามารถเดินต่อไปได้ ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นสีดำสนิด 

 

 

เส้นทางของข้านั้นมีแต่ความหนาวเหน็บที่เกินจะทนไหวคอยกัดกินร่างกายและจิตใจของข้าไปเรื่อยๆ 

 

 

และในท้ายที่สุดแล้ว.. ดวงจิตของข้าก็จะเหลือแค่เพียง ความว่างเปล่า.. ลืมไปซึ่งวิธีการแสดงออก และเรื่องราวของตนเอง..

 

 

ตลอดเวลาที่ข้าได้เดินอยู่บนเส้นทางนี้ ข้ามักจะถามกับตัวเองว่าข้านั้น เป็นใครกันแน่

 

 

 

.

 

.

 

.

 

.

 

..

 

 

….

 

 

 

ปีราชีนีภิเษกศักราชที่ 1010

 

 

 

อาณาจักรโร้ค – เมืองหลวง เซนน็อก

 

 

 

วันนี้เป็นวันพิเศษล่ะ เนื่องในโอกาสของการเฉลิมฉลองถึงพิธีลำรึกถึงเหล่าผู้กล้าหาญที่กำจัดจอมมารลงได้ ซึ่งอาณาจักรของเราจะจัดพิธีแบบนี้ทุกๆสิบปีเลยล่ะ

 

 

เป็นวันที่ข้าราชการทั้งหลายจะได้หยุดงานกัน เพื่อที่จะได้กลับไปหาครอบครัวของตนเอง

 

 

นั่นรวมถึงข้าด้วย ทว่า.. ข้าคงไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ล่ะนะ

 

 

” อรุณสวัสดิ์ครับหัวหน้า!! ” 

 

 

” อื้ม! ” ?

 

 

เพราะหากประเทศนี้ขาดข้าไปสักคน การก่ออาชญากรรมมันก็อาจจะมีโอกาสเพิ่มขึ้นสูงได้น่ะสิ

 

 

” สวัสดีครับผบ. ” 

 

 

” เคลื่อนย้ายอาวุธกันอยู่รึ? ” ?

 

 

” ครับ เป็นของจากที่กองอัศวินเราสั่งมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ! “

 

 

” ดีมาก ขอให้นายทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆนะ ” ?

 

 

” ครับผม! “

 

 

โอ๊ะ จริงสิ ทุกท่านคงจะสงสัยกันล่ะสินะว่าฉันเป็นใคร 

 

 

” มาแล้วหรอคะ ผบ.แองเจลิก้า ” ?

 

 

” อื้ม อรุณสวัสดิ์นะโรส ” แองเจ

 

 

ฉันคือผู้บัญชาการสูงสุดของกองอัศวินประจำเมืองหลวงล่ะ ชื่อแองเจลิก้านะ! ส่วนเธอคนนี้คือเลขาของฉันเอง โรสน่ะเป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สุดเท่าที่ฉันเคยรู้จักเลย

 

 

” ช่วงนี้มีข่าวอะไรใหม่ไหม? ที่นอกเหนือจากในหนังสือพิมพ์นี่น่ะ ” แองเจ

 

 

” .. ช่วงนี้ชอบข่าวนอกกระแสจังนะคะหัวหน้า”โรส

 

 

” ก็นะ จะให้ฉันตามแต่ข่าวดังๆไม่ได้หรอก หากมีคนอื่นเดือดร้อนในฐานะที่เป็นอัศวินก็ต้องช่วยเหลืออยู่แล้วสิ “แองเจ

 

 

” นั่นสินะคะ นอกจากการก่อจลาจลเล็กๆภายในเมืองแล้ว ก็มีอีกหนึ่งเรื่องอยากจะบอกค่ะหัวหน้า “โรส

 

 

” ว่ามาได้เลย “แองเจ

 

 

ขณะที่กำลังฟังที่โรสพูดอยู่ ฉันก็นั่งทำรายงานและเซ็นต์เอกสารของตัวเองไปด้วยเลย เพื่อไม่ให้เวลาที่เหลืออยู่ต้องปล่อยทิ้งไปอย่างเปล่าประโยชน์

 

 

” เร็วๆนี้พบว่ามีคนไร้บ้านทำตัวลับๆล่อๆอยู่แถววังหลวงกับรอบๆเมืองหลวงน่ะค่ะ “โรส

 

 

เมื่อฉันได้ยิน ก็ถึงกับต้องวางปากกาขนนกในมือแลเวกลับมาตั้งใจฟัง 

 

 

เพราะฉันจำได้ว่าไม่กี่ปีมานี้รัฐมนตรีกับกษัตริย์ได้จัดการเรื่องของคนไร้บ้านไปหมดแล้วทำให้เมืองหลวงนั้นปราศจากวี่แววของขอทาน 

 

 

ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว ฉะนั้นการที่อยู่ๆก็มีคนไร้บ้านปรากฏตัวขึ้นมาจึงเป็นเรื่องที่แปลก และน่าสงสัยเป็นอย่างมาก

 

 

” ขอทานหรอ? เขาได้ทำอันตรายชาวเมืองรึเปล่า? “แองเจ

 

 

” ไม่ค่ะ จากพยานที่พบเห็นแล้วพวกเขาต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า เขาเป็นแค่คนที่ไม่มีที่มาปละที่ไปก็เท่านั้น สภาพของเขาไม่ต่างจากผู้คนในสลัมในสมัยที่ยังมีมันอยู่เลยล่ะค่ะ “โรส

 

 

…คนไร้บ้านที่มาแค่อาศัยพักพิงตามถนนน่ะหรอ? น่าสังเวชอะไรแบบนี้

 

 

” เห็นเขาบอกกันด้วยนะคะว่าคนไร้บ้านคนนั้นพกดาบด้วย “โรส

 

 

” ดาบหรอ? แบบนี้เราก็ยิ่งปล่อยไว้ไม่ได้แล้วน่ะสิ “แองเจ

 

 

แต่มันติดปัญหาอยู่อย่างน่ะสิ

 

 

ถ้าเกิดว่าคนไร้บ้านที่โรสพูดถึงเป็นคนที่ไม่มีที่มา และที่ไปจริงๆ เราจะทำยังไงกันดีล่ะ?

 

 

ก๊อก- ก๊อก- ก๊อก-

 

 

ขณะที่ฉันกำลังครุ่นคิดอยู่ คนในหน่วยอัศวินกองหนึ่งที่มารายงานข่าวกับฉันก็ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนผิดกับกริยาของเขา

 

 

” ร- รายงานหัวหน้าครับ.. “

 

 

” ? “แองเจ

 

 

” มีเรื่องด่วนต้องให้ช่วยครับ.. “

 

 

” ไม่ใช่ว่าส่งอัศวินชั้นหนึ่งออกไปแล้วหรอกหรอ? “แองเจ

 

 

” ก็ใช่ครับท่าน.. แต่- แต่พวกเขาถูกคนคนเดียวเก็บเรียบเลยครับ!! “

 

 

!!?

 

 

มันไม่ใช่แค่เรื่องเล่นๆแล้ว

 

 

อัศวินชั้นหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งเป็นต้นๆในกองอัศวินเนี่ยนะจะแพ้ให้กับคนคนเดียว และเพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จตจริงนั้น ฉันจึงจะลงพื้นที่ตรวจสอบด้วยตัวเอง

 

 

 

สุสานชูเกียรติผู้กล้า

 

 

 

ดูเหมือนว่าการทะเลาะวิวาทจะเกิดขึ้นที่สุสานหลุมหนึ่ง ที่ถูกเว้นช่วงจากป้ายสุสานอันอื่นๆมากและมันยังตกแต่งไปด้วยดอดไม้หลากสีอีกด้วย

 

 

ต่อหน้าของฉันคือภาพที่อัศวินชั้นหนึ่งถูกทำร้ายจนต้องนอนกองลงไปกับพื้น ไม่สิคงจะใช้คำว่าทำร้ายไม่ได้เพราะบนตัวของอัศวินพวกนั้นไม่ได้มีรอยแผลใดๆอยู่เลย ไม่รู้ทำไมล่ะแต่เรื่องที่พวกนั้นนอนอยู่กับพื้นก็เป็นความจริงอยู่ดี

 

 

“ หัวหน้าคะ ดูชายคนนั้นสิ เขาพกดาบอยู่ ”โรส

 

 

“ อืม ฉันเห็นแล้ว ”แองเจ

 

 

เป็นเพราะว่าหนึ่งในกฏหมายของที่นี่คือชาวเมืองจะต้องไม่พกอาวุธตราบใดที่มันมีขนาดสั้นกว่าสามสิบเซนติเมตร หรือไม่มีใบอนุญาตในการครอบครอง ยกเว้นพวกนักสำรวจกับนักผจญภัยและกองทหารต่างๆที่สามารถพกอาวุธประจำตัวของตนได้เป็นกรณีพิเศษ

 

 

เพราะฉะนั้น หากกองอัศวินที่เป็นผู้รักษาความสงบในดินแดนได้พบเข้ากับผู้ที่ฝ่าฝืนกฏล่ะก็สามารถเตรียมอาวุธของตนขึ้นมาจับตัวชายคนนั้นไปสอบสวนได้ในทันที

 

 

แต่น่าแปลก แม้ว่าเขาจะพกดาบอยู่พวกอัศวินก็ไม่แม้แต่จะชักดาบของตนขึ้นมาเพื่อจับกุมตัวเขา มันเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีงั้นหรอ? หรือว่าเป็นการไม่เอาเปรียบกับชายน่าสงสัยคนนั้น?

 

 

จะอย่างไหนก็แล้วแต่ เห็นทีฉันคงต้องลงมือเอง-

 

 

“ … หวู้- ขอโทษทีนะที่ต้องชักดาบออกมา ” อัศวิน1

 

 

ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ก้าวเท้าเข้าไปยุ่ง อัศวินคนหนึ่งที่ทนกับการกระทำแบบนี้ไม่ไหวจึงจำใจที่จะต้องชักดาบของตนเองออกมาต่อหน้าพลเรือน เขาหายใจเข้าเล็กน้อยเพื่อตั้งสมาธิ

 

 

ก่อนที่จะหาจังหวะในการเข้าประชิดตัวชายคนนั้นทันที

 

 

ฉันมั่นใจว่าความเร็วของอัศวินชั้นหนึ่งนั้นรวดเร็วจนสายตาของคนธรรมดามองไม่ทัน ทว่า.. ฉันสังเกตเห็นได้ถึงบางอย่าง

 

 

ตั้งแต่ที่อัศวินคนนั้นชักดาบออกมา ชายคนนั้นมองไปที่ดาบของอัศวินตาไม่กระพริบราวกับว่าเขากำลังอ่านวิถีของวันอยู่เลย ความรู้สึกของฉันมันยิ่งชัดเจนมากขึ้นเมื่อได้เห็นชายคนนั้นมองไปที่อัศวินอย่างไม่ละสายตา ในความคิดของเขาคงจะมองว่าตนเองนั้นเริ่มจะมีอันตรายเข้าหาตัวแล้ว จึงได้เริ่มการตอบโต้ในทันที

 

 

ทันทีที่ชายคนนั้นวางมือซ้ายของเขาบนด้ามดาบของเขา สัญชาตญาณของฉันก็เริ่มกู่ร้องด้วยความไม่สบายใจ บรรยากาศรอบตัวของเขาที่ได้ปล่อยออกมาเพียงเล็กน้อยทำให้รู้ได้ในทันทีว่าเขาไม่ใช่คนที่อัศวินคนนั้นจะสู้ได้เลย

 

 

ด้วยความที่ฉันยังไม่อยากให้มีใครได้รับบาดเจ็บตอนนี้ จึงได้เข้าไปแทรกระหว่างกลางของทั้งสองในทันใด

 

 

“ ท- ท่านผบ.!! ” อัศวิน1

 

 

ฉันใช้ดาบของตนรับการโจมตีของทั้งสองคนได้ก่อนที่จะได้เข้าปะทะกัน.. เฮ้อ ค่อยยัง.. ชั่ว?

 

 

ซิบ-

 

 

“ ? ”แองเจ

 

 

แผล๊ะ-

 

 

“ !!!? ” แองเจ

 

 

อะไรน่ะ.. ทั้งๆที่ฉันคิดว่าฉันรับมันได้แล้วนะ..

 

 

“ ห- หัวหน้าคะ!! ”โรส

 

 

“ เดี๋ยวก่อนโรส!! อย่าพึ่งเข้ามา!! ”แองเจ

 

 

หากว่าเขาไม่ยั้งมือไว้ก่อนล่ะก็.. ฉันคงจะตายไปแล้ว

 

 

ชายคนนี้เป็นใครกันถึงได้เก่งขนาดนี้?

 

 

“ ฮา… ” ?

 

 

“ แกเองก็.. อยากตายอีกคน? ” ?

 

 

นี่เขาถามคำถามแบบนั้นขณะที่ดาบของเขาจี้คอฉันอยู่ได้อย่างน่าตาเฉยเนี่ยนะ.. เลือดเย็นเกินไปมั้ย?

 

 

ฉันค่อยๆขยับตัวช้าๆ ก่อนจะยกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วให้อัศวินที่เหลือถอยออกจากที่นี่ไปก่อนเพราะฉันอยากจะคุยกับเขาแค่สองคน จะเหลืออยู่แค่เพียงโรสที่เป็นเลขาก็เท่านั้น

 

 

“ ที่นี่เหลือกันอยู่แค่สามคนแล้วล่ะค่ะ โปรดใจเย็นก่อนเถอะ ”แองเจ

 

 

“ … ” ?

 

 

แล้วเขาก็เก็บดาบกลับเข้าฝักไปอย่างว่าง่าย.. เมื่อกี้นี้มันก็น่าหวาดเสียวดีเหมือนกันนะเพราะมันเป็นนาทีชีวิตฉันเลยว่าจะอยู่หรือตาย ถึงแม้ฉันจะมีฝีมือดาบดีที่สุดในประเทศนี้แล้วก็ตาม ฉันก็ยังมองวิถีดาบของชายคนนี้ไม่ออกอยู่ดี จะว่ายังไงดี เหมือนเขาเป็นปรมจารย์ดาบเลย

 

 

การที่เขาสามารถปัดดาบของฉันทิ้งได้อย่างง่ายดายและเอาดาบมาจี้คอฉันในระยะเวลาเพียงนิดเดียวได้เนี่ย ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสักนิด

 

 

“ … เฮ้อ ” ?

 

 

แล้วเขาก็ได้นั่งลงไปต่อหน้าสุสานของคนคนหนึ่งที่เป็นคนที่สำคัญระดับประวัติศาสตร์เลยล่ะ เขาทำอย่างไม่ให้เกียรติ แถมยังใช้หลังของตัวเองพิงกับป้ายหินแบบนั้นอีก มันทำเอาฉันที่ถือเป็นญาติห่างๆของคนที่ถูกจารึกอยู่เนี่ยรู้สึกไม่ชอบใจมากเลยล่ะ

 

 

แต่ฉันก็ไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ เพราะฉันรุ้ตัวดีว่าเขามีฝีมือมากกว่าที่เห็นเมื่อกี้เป็นไหนๆ

 

 

“ คุณทำแบบนั้นไปทำไม ” แองเจ

 

 

“ อะไร? ” ?

 

 

“ หมายถึง ทำไมคุณถึงไม่ให้เกียรติคนตายแบบนั้นล่ะ? ”แองเจ

 

 

“ หรอ.. แล้วชื่อไอ้คนที่อยู่บนป้ายหินนี่คือใคร? ” ?

 

 

“ เขาคือ อักราธ เอมเพอร์เรอร์ ค่ะ! เป็นวีรบุรุษของโลก! ” แองเจ

 

 

“ หึ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆๆ!! ” ?

 

 

ไม่เพียงแต่เขาจะไม่เคารพหลุมศพแล้ว เขายังนั่งขำกับสิ่งที่ฉันพึ่งจะพูดไปอีก

 

 

นี่เขาจะบอกว่าฉันพูดอะไรผิดไปงั้นหรอ?

 

 

“ วีรบุรุษหรือ… ใครมันเป็นคนต้นคิดวะเนี่ย ฮ่ะฮ่ะ… ” ?

 

 

แต่เมื่ิอเขาได้หยุดหัวเราะ สีหน้าที่เศร้าหมองก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายคนนั้น คล้ายกับว่าเขากำลังอาลัยให้กับอะไรบางอย่าง ไม่นานนักเขาก็ได้หันมาหาฉัน

 

 

“ ปีนี้ปีที่เท่าไหร่แล้วรึ? ” ?

 

 

ถามอะไรแปลกๆแฮะ แต่ก็นะตอบให้สักหน่อยก็แล้วกัน

 

 

“ ร.ศ.ที่ 1010 ค่ะ ”แองเจ

 

 

“ 1010.. และยังเป็น ร.ศ.ที่ไม่รู้จัก.. ผ่านมาพันกว่าปีแล้วรึนี่ ” ?

 

 

“ คุณถามคำถามฉันเยอะแล้ว งั้นฉันจะถามคุณกลับบ้าง ” ?

 

 

“ อ่า ” ?

 

 

“ คุณเป็นใครกันแน่คะ? ” แองเจ

 

 

จริงๆสิ่งที่ฉันอยากถามคืออะไรทั่วๆไปอย่าง ชื่ออะไร มาเป็นคนไร้บ้านได้ยังไง ดาบนั่นมาจากไหน แต่ไม่รู้ทำไมฉันถึงพูดสิ่งที่ฉันคิดอยู่ภายในใจออกไปได้ ทั้งๆที่ฉันไม่เคยประหม่าแบบนี้มาก่อนเลยตั้งแต่ที่ได้ดำรงตำแหน่งเป็น ผบ.

 

 

ทว่า.. ในช่วงเวลาที่ฉันได้พูดคุยอยู่กับชายคนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าตัวของฉันนั้นกลายเป็นเด็กไปยังไงยังงั้น

 

 

“ หืม? ” ?

 

 

เขายิ้มขึ้นเล็กน้อยขณะที่กำลังมองฉันราวกับว่าฉันนั้นเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆคนหนึ่งเท่านั้น

 

 

ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเวลาที่ฉันมองเขาฉันถึงรุ้สึกคุ้นหน้าเขาชอบกล ระหว่างที่ฉํนกำลังคิดเล่นๆไปนั้นเขาก็กำลังจะตอบคำถามของฉัน ขณะเดียวกันขบวนพาเหรดของเทศกาลในวันนี้ก็ได้เคลื่อนผ่านมาพอดี แม้ฉันจะได้ยินเสียงเขาเบาไปนิด แต่คำตอบของเขานั้นทำเอาฉันถึงกับอึ้งเลย

 

 

“ ไม่รู้สิ แต่ในสมัยก่อนพวกเขาเรียกข้าว่าจักรพรรดิดาบ อักราธ เอมเพอร์เรอร์ ” ราธ

 

 

“ สวัสดีนะ หลานสาวที่น่ารักของข้าในอีก 1000 ปี ” ราธ

 

 

 

!!!???

 

 

 

 

 

 

ตัดจบตอน

 

 

 

 

 

เหลนของเหลนของเหลน….. ของเหลนล่ะ เรียกสั้นๆว่า หลาน ก็แล้วกัน

 

 

โลกที่สงบสุขนี้ ไม่จำเป็นต้องมีข้า

โลกที่สงบสุขนี้ ไม่จำเป็นต้องมีข้า

Score 10
Status: Completed
หลังจากที่ผู้กล้าราธได้บุกเดี่ยวเข้าฟัดกับกองทัพจอมมารด้วยตัวคนเดียว เขาถล่มกองทัพของจอมมารจนราบคาบทว่าตัวเขากลับถูกจอมมารสังหารซะเอง ในท้ายที่สุดเขาก็กลับมาจากการตาย ในโลกที่สงบสุขในอีก 1000ปีให้หลัง เขาได้กลับมาอีกครั้งในขณะที่ทุกสิ่งอย่างในอดีตของเขาต่างหายไปพร้อมกับกาลเวลา

Recommended Series

Options

not work with dark mode
Reset